Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพูดโน้มน้าวใจ

การพูดโน้มน้าวใจ

Published by thanakit ritsri, 2020-01-20 00:12:39

Description: ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

Search

Read the Text Version

การพดู โฆษณา ความหมายการพดู โฆษณา การพดู โฆษณา หมายถึง การให้ขอ้ มลู ขา่ วสาร เป็นการสอ่ื สารจงู ใจผ่านสื่อโฆษณาประเภทตา่ ง ๆ เพ่ือจงู ใจหรือโนม้ นา้ วใจให้กลุ่มผู้บรโิ ภค มพี ฤติกรรมคล้อยตามเนื้อหาสารทีโ่ ฆษณา อันเออ้ื อานวยใหม้ ีการซ้ือ หรอื ใชส้ ินคา้ และบริการ องคป์ ระกอบของการโฆษณาจาแนกออกเปน็ 4 ประการ ไดแ้ ก่ 1. ผโู้ ฆษณา (advertiser) คือ เจ้าของสินคา้ เจ้าของบริการ 2. สง่ิ โฆษณา (advertisement) คือ ผลติ ภณั ฑห์ รือสนิ คา้ ท่ตี ้องการโฆษณา 3. สื่อโฆษณา (advertising) คือ สื่อทผ่ี ้โู ฆษณาเลือกใช้ในการเผยแพรง่ านโฆษณาไปยงั กลมุ่ ผู้บรโิ ภค เช่น โทรทศั น์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เปน็ ต้น 4. กลมุ่ ผ้บู รโิ ภค (consumer) คอื บคุ คลทั่วไปที่รบั สารเกยี่ วกบั งานโฆษณา ซ่งึ หากเกดิ ความร้สู กึ ถูกใจ หรือชน่ื ชอบสินค้าหรอื บริการจะนาไปสู่การตัดสินใจเลอื กซ้ือสนิ คา้ หรอื บริการได้

การใชภ้ าษาในการพดู โฆษณา 1. มีการใชป้ ระโยคทส่ี น้ั กะทัดรัด มีเสียงสมั ผสั คล้องจอง และจดจาไดง้ ่าย 2. ใช้ภาษาที่อ่าน หรอื ฟัง เข้าใจไดง้ า่ ย มีความชัดเจน ไม่กากวม 3. ใช้ถอ้ ยคา หรอื สานวนภาษาทแ่ี ปลกใหม่เพ่ือเรยี กร้องความสนใจจากผูบ้ รโิ ภค 4. ลักษณะของภาษามสี สี ัน เน้นอารมณ์ดว้ ยการใชภ้ าษาต่างระดับในขอ้ ความเดียวกนั หลกั การพดู โฆษณา 1. พดู ใหผ้ ู้บรโิ ภคเหน็ ประโยชนท์ จี่ ะไดร้ บั ไม่พดู โฆษณาเกินความเป็นจริง 2. ศกึ ษาหาข้อมูลของผูบ้ รโิ ภค 3. ควรหาจงั หวะเวลาในการพูดทเ่ี หมาะสม 4. พดู เสนอเนือ้ หาอย่างกระชบั และชดั เจน 5. ตอ้ งคานงึ อย่เู สมอว่าผู้บริโภคสาคัญท่สี ดุ

บทอา่ นเร่ือง หมู่บา้ นพอเพียง ผูเ้ พยี งพอ ณ หมบู่ า้ นแหง่ หนง่ึ ในภาคอสี าน ซึ่งมีชื่อวา่ หมบู่ ้านพอเพยี ง ตั้งอยู่ที่ตาบลขามเฒา่ พฒั นา อาเภอกันทรวิชยั จังหวัดมหาสารคาม เป็นหมูบ่ า้ นเล็ก ๆ ในเขตพน้ื ทชี่ นบท โดยชาวบา้ นส่วนใหญ่ ยงั คงประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร ทาไร่ ไถนาไปตามฤดกู าล ในช่วงเวลาหลายปที ี่ผา่ นมาผู้คนในหมู่บ้าน พอเพียงไดน้ ้อมนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ในหลวงในรชั กาลท่ี 9 มาปรับใช้ในการดารงชีวิต ซง่ึ เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรัชญาที่ไดช้ ้ีถงึ แนวการดารงอยู่ และปฏิบัตติ นของประชาชนในทุกระดับ ต้ังแต่ระดบั ครอบครวั ไปจนถึงระดบั ประเทศทยี่ ึดหลักทางสายกลาง อนั ประกอบไปด้วยหลกั 3 หว่ ง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี และอีก 2 เง่ือนไข น่ันก็คอื เงือ่ นไขความรู้และเงื่อนไขคุณธรรม หมู่บ้านแห่งน้ีจงึ กลายเปน็ หมู่บา้ นที่เข้มแข็ง ผูค้ นในชมชุน ตา่ งรักใคร่ปรองดองสามคั คีกัน มีการใช้ชวี ติ ประจาวันโดยการปลูกพืชผกั ผลไม้ และเลี้ยงสัตว์บางชนิด เช่น ไก่ ปลา หรือกบไว้ประกอบเป็นอาหาร เม่ือมีมากก็แบง่ ปนั หรอื นาไปขายเพื่อสร้างรายได้เสริมให้กบั ตนเอง มกี ารทาบัญชรี ายรบั รา่ ยจ่ายของครัวเรือน จนทาให้หมู่บ้านแหง่ น้ีเปน็ หมู่บา้ นทช่ี าวบา้ นไม่มีหนี้สนิ และสามารถพง่ึ พาตนเองได้ นอกจากน้แี ล้วหมู่บ้านพอเพียงยงั มีสนิ ค้าการเกษตรและสนิ คา้ ขนึ้ ชอ่ื ในชุมชน ซง่ึ เป็นท่ีรจู้ ักของคนทั่วไปในจังหวัดมหาสารคามและจงั หวัดใกล้เคียง น่ันคือ ขา้ วหอมมะลิปลอดสารเคมี ขนมเทียนแก้ว ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก และมนั แกว ซึ่งคนในชมุ ชนตา่ งก็มรี ายไดเ้ สริมจากการผลติ และจาหนา่ ยสินค้าเหลา่ นี้มาเล้ียงดคู รอบครัว แตด่ ว้ ยปจั จยั หลาย ๆ อยา่ งไมว่ า่ จะเปน็ การขาดความรู้ ในเรอ่ื งของการประชาสมั พันธ์สนิ คา้ หรือขาดการไดร้ ับการสนับสนุนจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ บวกกบั สภาพ เศรษฐกิจที่มแี นวโน้มไปในทิศทางที่แย่ลงทุกวัน จงึ ส่งผลกระทบทาใหส้ ินค้าขนึ้ ช่ือของหมู่บ้านพอเพียงแห่งน้ี มียอดจาหนา่ ยลดลงเร่ือย ๆ จนกลายเปน็ สาเหตุทาให้คนในชมุ ชนเรม่ิ มกี ารผลติ สินคา้ น้อยลงและมีรายได้ จากการจาหนา่ ยสินค้าลดน้อยลงเพิม่ ตามมาอกี ด้วย

กิจกรรมตอบคาถาม จากบทอ่านขา้ งต้น หากนักเรยี นเป็นบุคคลในหมบู่ ้านพอเพยี งนักเรียนจะมวี ธิ กี ารแก้ไขปญั หา เหล่าน้ไี ดอ้ ย่างไร กจิ กรรมด้านทกั ษะ ให้นักเรียนพูดโฆษณาสินค้าโดยเลอื กผลติ ภณั ฑ์ท่ีมีในชุมชนหมูบ่ า้ นพอเพียงมา 1 อยา่ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook