Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3 กฎของชาร์ล-กฎของเกย์ลูสแซก

3 กฎของชาร์ล-กฎของเกย์ลูสแซก

Published by Preeyapat Lengrabam, 2022-05-17 10:23:31

Description: 3 กฎของชาร์ล-กฎของเกย์ลูสแซก

Search

Read the Text Version

0854966848 Joy Preeyapat Lengrabam Joy Preeya ภาพพื้นหลัง https://wellesley.instructure.com/courses/19236/assignments/syllabus

การทดลองศึกษาความสัมพนั ธ์ระหวา่ งปริมาตรและอุณหภมู ิของอากาศ https://www.youtube.com/watch?v=k0dV84nPDns

การทดลองศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรและอุณหภูมิของ อากาศ

อภิปรายผลการทดลอง เมือ่ ผสม NaHCO3 กบั HCl มีแก๊ส CO2 เกิดข้นึ ดังสมการเคมี HCl(aq) + NaHCO3(s)→ NaCl(aq) + H2O(l) + CO2(g) เนือ่ งจากมวลของ NaHCO3 ซึ่งเป็นสารกาหนดปริมาณของปฏิกิริยาน้ี ใช้ในปริมาณที่ แตกต่างกัน โดยลูกโป่งหมายเลข 3 ใช้มวลมากกว่าหมายเลข 2 และ 1 ตามลาดับ ดังนั้น จานวนโมลของ CO2ที่เกิดข้ึนในลูกโป่งหมายเลข 3 จึงมากกว่าหมายเลข 2 และ 1 ตามลาดับ และจากผลการทดลองที่พบว่า ลูกโป่งหมายเลข 3 มีปริมาตรสุดท้าย มากกว่าหมายเลข 2 และ 1 ตามลาดับ แสดงว่า ปริมาตรแก๊ส CO2ที่เกิดข้ึนในลูกโป่ง หมายเลข 3 มากกว่าหมายเลข 2 และ 1 ตามลาดับ ดังนั้นปริมาตรแก๊สเพิ่มข้ึนตาม จานวนโมลของแก๊ส

สรปุ ผลการทดลอง ที่อุณหภูมิและความดันคงที่ ปริมาตรของแก๊สขึ้นอยู่กับ จานวนโมลของแก๊ส โดยแก๊สที่มีจานวนโมลมากกว่าจะมีปริมาตร มากกว่า

จ๊าค อเลก็ ซองดร์ เซซา ชารล์ (Jacques Alexandre César Charles, ค.ศ.1746 - 1823) นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวฝรงั่ เศส ทีม่ า:http://www.rmutphysics.com/charud/oldnews/0/285/22/gas1/charlelaw.htm

ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=QsmJcRD7N5U

กฎของชารล์ (Charle’s law) เมือ่ เขียนกราฟความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรกับอณุ หภมู ิในหน่วยเคลวินจะ ได้จดุ ตดั แกน X ของกราฟที่ 0 เคลวิน และเมื่อหาอัตราส่วนระหว่างปริมาตรและ อุณหภูมิของแก๊สในหน่วยเคลวินพบว่าได้ค่าคงที่ ดงั นั้น ปริมาตร(V) แปรผันตรง กบั อุณหภมู ิ(T) ในหน่วยเคลวิน เขียนแทนด้วยสมการได้ดงั นี้ V ������ T V = ค่าคงที่ x T ������= ค่าคงที่ ������

กฎของชารล์ (Charle’s law) ความสมั พันธ์ตามกฎของชาร์ล อาจเขียนอย่ใู นรปู ที่สามารถใช้ คานวณปริมาตรหรืออุณหภูมิของแก๊สที่สองสภาวะได้ดังนี้ =������1 ������2 ������1 ������2 เมื่อ V1 และ V2 คือ ปริมาตรของแก๊สทีม่ ีอณุ หภมู ิ T1 และ T2 ตามลาดบั ที่ความดันและจานวนโมลคงที่



การคานวณเกีย่ วกับกฎของชาร์ล(Charle’s law) ตวั อย่างที่ 1 แก๊สไนโตรเจน(N2)ในกระบอกสบู ปิด ปริมาตร 250 มิลลิลิตร ทีอ่ ุณหภูมิ 373 เคลวิน เมื่อทาให้อุณหภมู ิลดลงเป็น 273 เคลวิน โดยความดนั ของแก๊สไม่ เปลี่ยนแปลง ปริมาตรสดุ ท้ายของแก๊สเป็นเท่าใด

การคานวณเกีย่ วกับกฎของชารล์ (Charle’s law) ตวั อย่างที่ 1 แก๊สไนโตรเจน(N2)ในกระบอกสูบปิด ปริมาตร 250 มิลลิลิตร ทีอ่ ณุ หภูมิ 373 เคลวิน เมื่อทาให้อุณหภมู ิลดลงเป็น 273 เคลวิน โดยความดนั ของแก๊สไม่ เปลีย่ นแปลง ปริมาตรสุดท้ายของแก๊สเปน็ เท่าใด วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2

การคานวณเกี่ยวกับกฎของชาร์ล(Charle’s law) ตัวอยา่ งที่ 1 แก๊สไนโตรเจน(N2)ในกระบอกสบู ปิด ปริมาตร 250 มิลลิลิตร ที่อณุ หภูมิ 373 เคลวิน เมื่อทาให้อุณหภมู ิลดลงเปน็ 273 เคลวิน โดยความดนั ของแก๊สไม่ เปลี่ยนแปลง ปริมาตรสดุ ท้ายของแก๊สเป็นเท่าใด วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2 แทนค่าจะได้ 250 mL = V2 373 K 273 K

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของชารล์ (Charle’s law) ตัวอย่างที่ 1 แก๊สไนโตรเจน(N2)ในกระบอกสูบปิด ปริมาตร 250 มิลลิลิตร ที่อุณหภมู ิ 373 เคลวิน เมื่อทาให้อณุ หภูมิลดลงเปน็ 273 เคลวิน โดยความดันของแก๊สไม่ เปลีย่ นแปลง ปริมาตรสุดท้ายของแก๊สเปน็ เท่าใด วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2 แทนค่าจะได้ 250 mL = V2 373 K 273 K V2 = (250 mL)(273 K) (373 K)

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของชารล์ (Charle’s law) ตัวอย่างที่ 1 แก๊สไนโตรเจน(N2)ในกระบอกสูบปิด ปริมาตร 250 มิลลิลิตร ที่อุณหภมู ิ 373 เคลวิน เมื่อทาให้อณุ หภูมิลดลงเปน็ 273 เคลวิน โดยความดันของแก๊สไม่ เปลีย่ นแปลง ปริมาตรสุดท้ายของแก๊สเปน็ เท่าใด วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2 แทนค่าจะได้ 250 mL = V2 373 K 273 K V2 = (250 mL)(273 K) (373 K)

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของชารล์ (Charle’s law) ตัวอย่างที่ 1 แก๊สไนโตรเจน(N2)ในกระบอกสูบปิด ปริมาตร 250 มิลลิลิตร ที่อุณหภมู ิ 373 เคลวิน เมื่อทาให้อณุ หภูมิลดลงเปน็ 273 เคลวิน โดยความดันของแก๊สไม่ เปลีย่ นแปลง ปริมาตรสุดท้ายของแก๊สเปน็ เท่าใด วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2 แทนค่าจะได้ 250 mL = V2 373 K 273 K V2 = (250 mL)(273 K) (373 K)

การคานวณเกีย่ วกับกฎของชารล์ (Charle’s law) V2 = (250 mL)(273 K) (373 K) V2 = 68250 mL 373 V2 = 182.98 ดงั น้ัน แก๊สมีปริมาตร 183 มิลลิลิตร



การคานวณเกี่ยวกับกฎของชารล์ (Charle’s law) ตัวอย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ มีความดนั 1 บรรยากาศ อณุ หภูมิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ทีย่ ืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจแุ ก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลงั เดือด ทีค่ วามดันคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตัวจาก 70.0 มิลลิลิตร เปน็ 90.0 มิลลิลิตร ที่อณุ หภมู ิกี่องศาเซลเซียส

การคานวณเกี่ยวกับกฎของชารล์ (Charle’s law) ตัวอย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งมีความดนั 1 บรรยากาศ อณุ หภมู ิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ที่ยืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจุแก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลังเดือด ทีค่ วามดันคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตวั จาก 70.0 มิลลิลิตร เป็น 90.0 มิลลิลิตร ที่อุณหภูมิกีอ่ งศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของชาร์ล(Charle’s law) ตวั อยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ มีความดนั 1 บรรยากาศ อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ที่ยืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจแุ ก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลังเดือด ที่ความดนั คงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตัวจาก 70.0 มิลลิลิตร เป็น 90.0 มิลลิลิตร ที่อณุ หภมู ิกีอ่ งศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 70.0 mL ������1 = ������2 90.0 mL (2+273 K) T2

การคานวณเกี่ยวกับกฎของชารล์ (Charle’s law) ตวั อยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งมีความดัน 1 บรรยากาศ อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ทีย่ ืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจุแก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลังเดือด ที่ความดันคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตัวจาก 70.0 มิลลิลิตร เป็น 90.0 มิลลิลิตร ทีอ่ ุณหภูมิกี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 70.0 mL ������1 = ������2 90.0 mL (2+273 K) T2 T2 = (90.0 mL)(275 K) (70.0 mL)

การคานวณเกี่ยวกับกฎของชารล์ (Charle’s law) ตวั อยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งมีความดัน 1 บรรยากาศ อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ทีย่ ืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจุแก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลังเดือด ที่ความดันคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตัวจาก 70.0 มิลลิลิตร เป็น 90.0 มิลลิลิตร ทีอ่ ุณหภูมิกี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 70.0 mL ������1 = ������2 90.0 mL (2+273 K) T2 T2 = (90.0 mL)(275 K) (70.0 mL)

การคานวณเกี่ยวกับกฎของชารล์ (Charle’s law) ตัวอยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ มีความดัน 1 บรรยากาศ อุณหภมู ิ 2 องศาเซลเซียส บรรจุไว้ในภาชนะ ที่ยืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจุแก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลงั เดือด ที่ความดันคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตัวจาก 70.0 มิลลิลิตร เปน็ 90.0 มิลลิลิตร ที่อุณหภูมิกี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 70.0 mL ������1 = ������2 90.0 mL (2+273 K) T2 T2 = (90.0 mL)(275 K) (70.0 mL) T2 = 24,750 K 70

การคานวณเกี่ยวกับกฎของชาร์ล(Charle’s law) ตัวอย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ มีความดัน 1 บรรยากาศ อณุ หภูมิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ที่ยืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจแุ ก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวทีก่ าลงั เดือด ทีค่ วามดนั คงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตัวจาก 70.0 มิลลิลิตร เปน็ 90.0 มิลลิลิตร ที่อณุ หภูมิกีอ่ งศาเซลเซียส T2 = 24,750 K 70 T2 = 354 K

การคานวณเกี่ยวกับกฎของชาร์ล(Charle’s law) ตัวอย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ มีความดัน 1 บรรยากาศ อณุ หภูมิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ที่ยืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจแุ ก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวทีก่ าลงั เดือด ทีค่ วามดนั คงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตัวจาก 70.0 มิลลิลิตร เปน็ 90.0 มิลลิลิตร ที่อณุ หภูมิกีอ่ งศาเซลเซียส T2 = 24,750 K 70 T2 = 354 K

การคานวณเกีย่ วกบั กฎของชารล์ (Charle’s law) ตัวอยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งมีความดัน 1 บรรยากาศ อุณหภมู ิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ทีย่ ืดหย่นุ ได้ เมือ่ นาภาชนะบรรจแุ ก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลงั เดือด ทีค่ วามดันคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตวั จาก 70.0 มิลลิลิตร เปน็ 90.0 มิลลิลิตร ทีอ่ ณุ หภมู ิกี่องศาเซลเซียส T2 = 24,750 K 70 T2 = 354 K จากความสัมพันธร์ ะหว่างอณุ หภูมิในหน่วยองศาเซลเซียสและเคลวิน T(K) = 273.15 + T(℃) เพื่อสะดวกในการคานวณจะอุณหภมู ิศูนยส์ มั บรู ณเ์ ทา่ กบั – 273 องศาเซลเซียส

การคานวณเกีย่ วกับกฎของชาร์ล(Charle’s law) ตวั อย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ มีความดนั 1 บรรยากาศ อณุ หภมู ิ 2 องศาเซลเซียส บรรจไุ ว้ในภาชนะ ที่ยืดหย่นุ ได้ เมื่อนาภาชนะบรรจแุ ก๊สน้ไี ปจ่มุ ลงในของเหลวที่กาลังเดือด ที่ความดันคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะขยายตวั จาก 70.0 มิลลิลิตร เปน็ 90.0 มิลลิลิตร ที่อุณหภูมิกีอ่ งศาเซลเซียส T2 = 24,750 K 70 T2 = 354 K เปลีย่ นหน่วยอุณหภมู ิให้เป็นองศาเซลเซียสจะได้ T(℃) = 354 – 273 ℃ = 81 ℃ ดังนั้น แกส๊ มีอุณหภมู ิ 81 องศาเซลเซียส

ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=cNn7trEUmlE

โฌแซ็ฟ หลุยส์ แก-ลูว์ซกั (ฝรั่งเศส: Joseph Louis Gay-Lussac; 6 ธันวาคม 1778 - 9 พ.ค. 1850) เป็นนกั เคมีและนักฟิสิกส์ชาวฝร่งั เศส ทีม่ า:https://th.wikipedia.org/wiki/โฌแซ็ฟ_หลุยส์_แก-ลูว์ซัก

กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) จากตารางแสดง ความดัน อณุ หภมู ิ และอัตราส่วนความดนั ต่อ อณุ หภูมิ เม่อื ปริมาตรและจานวนโมลของแก๊สคงที่ ความดนั (P) อณุ หภมู ิ(T) ������ mmHg (℃) K ������ 703 0 273 753 20 293 mmHg/℃ mmHg/K 805 40 313 856 60 333 - 2.57 908 80 353 959 100 373 38 2.57 20 2.57 14 2.57 11 2.57 9.6 2.57

กฎของเกย์-ลูสแซก(Guy-Lussac’s law) เมื่อปริมาตรและจานวนโมลของแก๊สคงที่ อตั ราส่วนควมดันต่ออุณหภูมิใน หน่วยเคลวินเป็นค่าคงที่ ดงั น้ัน ความดัน(P)แปรผนั ตรงกบั อณุ หภมู ิ(T)ในหน่วย เคลวิน เขียนแทนด้วยสมการได้ดงั นี้ P ������ T P = ค่าคงที่ x T ������= ค่าคงที่ ������

กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ความสมั พนั ธ์ตามกฎของเกย์-ลสู แซก อาจเขียนอย่ใู นรปู ทีส่ ามารถ ใช้คานวณความดนั หรืออณุ หภมู ิของแก๊สที่สองสภาวะได้ดังนี้ =������1 ������2 ������1 ������2 เม่อื P1 และ P2 คือ ปริมาตรของแก๊สที่มีอณุ หภมู ิ T1 และ T2 ตามลาดบั ที่ความดนั และจานวนโมลคงที่

ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=N6DZRiSIK3s

การคานวณเกีย่ วกับกฎของเกย์-ลูสแซก(Guy-Lussac’s law) ตวั อยา่ งที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศซึ่งมีความดนั 103 กิโลปาสคาล ทีอ่ ณุ หภมู ิ 25 องศา เซลเซียส ถกู โยนใส่กองไฟจนมอี ณุ หภมู ิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดันกีก่ ิโล ปาสคาล

การคานวณเกีย่ วกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตวั อยา่ งที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศซึ่งมีความดนั 103 กิโลปาสคาล ที่อณุ หภูมิ 25 องศา เซลเซียส ถกู โยนใส่กองไฟจนมอี ณุ หภูมิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดนั กี่กิโล ปาสคาล วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของเกย์-ลูสแซก(Guy-Lussac’s law) ตวั อยา่ งที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศซึง่ มีความดัน 103 กิโลปาสคาล ทีอ่ ุณหภูมิ 25 องศา เซลเซียส ถกู โยนใส่กองไฟจนมอี ุณหภูมิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดนั กี่กิโล ปาสคาล วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 103 kPa ������1 = ������2 P2 (25+273) K (928+273) K

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอย่างที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศซึง่ มีความดัน 103 กิโลปาสคาล ที่อณุ หภูมิ 25 องศา เซลเซียส ถูกโยนใส่กองไฟจนมอี ุณหภมู ิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดันกี่กิโล ปาสคาล วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 103 kPa ������1 = ������2 P2 (25+273) K (928+273) K P2 = ( 103 kPa)(1,201 K) (298 K)

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอย่างที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศซึง่ มีความดัน 103 กิโลปาสคาล ที่อณุ หภูมิ 25 องศา เซลเซียส ถูกโยนใส่กองไฟจนมอี ุณหภมู ิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดันกี่กิโล ปาสคาล วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 103 kPa ������1 = ������2 P2 (25+273) K (928+273) K P2 = ( 103 kPa)(1,201 K) (298 K)

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอยา่ งที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรบั อากาศซึ่งมีความดัน 103 กิโลปาสคาล ทีอ่ ณุ หภูมิ 25 องศา เซลเซียส ถกู โยนใส่กองไฟจนมอี ณุ หภมู ิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดนั กีก่ ิโล ปาสคาล วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 103 kPa ������1 = ������2 P2 (25+273) K (928+273) K P2 = ( 103 kPa)(1,201 K) (298 K) P2 = 123,703 kPa 298

การคานวณเกี่ยวกับกฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอย่างที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรบั อากาศซึ่งมีความดนั 103 กิโลปาสคาล ทีอ่ ุณหภูมิ 25 องศา เซลเซียส ถูกโยนใส่กองไฟจนมอี ุณหภูมิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดันกี่กิโล ปาสคาล วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 103 kPa ������1 = ������2 P2 (25+273) K (928+273) K P2 = ( 103 kPa)(1,201 K) (298 K) P2 = 123,703 kPa = 415.11 kPa 298

การคานวณเกี่ยวกับกฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอย่างที่ 1 กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศซึง่ มีความดัน 103 กิโลปาสคาล ทีอ่ ณุ หภมู ิ 25 องศา เซลเซียส ถกู โยนใส่กองไฟจนมอี ุณหภูมิ 928 องศาเซลเซียส ภายในกระป๋องจะมีความดันกี่กิโล ปาสคาล วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 103 kPa ������1 = ������2 P2 (25+273) K (928+273) K P2 = ( 103 kPa)(1,201 K) (298 K) P2 = 123,703 kPa = 415.11 kPa 298 ดงั น้นั ภายในกระปอ๋ งจะมีความดนั 415 กิโลปาสคาล

การคานวณเกีย่ วกับกฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตวั อย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ บรรจอุ ย่ใู นภาชนะเหลก็ หนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ที่ความดนั 760 มิลลิเมตรปรอท อณุ หภูมิ 25 องศาเซลเซียส เมือ่ เพิม่ อุณหภูมิจนได้ความดนั เปน็ 1,500 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิสุดท้ายของแก๊สน้เี ปน็ กีอ่ งศาเซลเซียส

การคานวณเกีย่ วกับกฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตวั อย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งบรรจอุ ย่ใู นภาชนะเหล็กหนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ที่ความดัน 760 มิลลิเมตรปรอท อณุ หภมู ิ 25 องศาเซลเซียส เมือ่ เพิ่มอณุ หภมู ิจนได้ความดนั เป็น 1,500 มิลลิเมตรปรอท อณุ หภมู ิสุดท้ายของแก๊สน้เี ปน็ กี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 ������1 ������2

การคานวณเกีย่ วกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตวั อยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ บรรจุอย่ใู นภาชนะเหล็กหนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ทีค่ วามดัน 760 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เมือ่ เพิ่มอุณหภูมิจนได้ความดนั เป็น 1,500 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิสดุ ท้ายของแก๊สน้ีเปน็ กี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 750 mmH���g���1 = ������21,500 mmHg (25+273) K T2

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ บรรจอุ ย่ใู นภาชนะเหล็กหนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ทีค่ วามดนั 760 มิลลิเมตรปรอท อุณหภมู ิ 25 องศาเซลเซียส เมื่อเพิ่มอุณหภูมิจนได้ความดนั เปน็ 1,500 มิลลิเมตรปรอท อณุ หภูมิสุดท้ายของแก๊สน้เี ป็นกี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 750 mmH���g���1 = ������21,500 mmHg (25+273) K T2 T2 = (1,500 mmHg)(298 K) (760 mmHg)

การคานวณเกี่ยวกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอยา่ งที่ 2 แก๊สชนิดหนึง่ บรรจอุ ย่ใู นภาชนะเหล็กหนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ทีค่ วามดนั 760 มิลลิเมตรปรอท อุณหภมู ิ 25 องศาเซลเซียส เมื่อเพิ่มอุณหภูมิจนได้ความดนั เปน็ 1,500 มิลลิเมตรปรอท อณุ หภูมิสุดท้ายของแก๊สน้เี ป็นกี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 750 mmH���g���1 = ������21,500 mmHg (25+273) K T2 T2 = (1,500 mmHg)(298 K) (760 mmHg)

การคานวณเกีย่ วกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งบรรจอุ ย่ใู นภาชนะเหลก็ หนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ที่ความดัน 760 มิลลิเมตรปรอท อณุ หภมู ิ 25 องศาเซลเซียส เมือ่ เพิม่ อณุ หภมู ิจนได้ความดนั เป็น 1,500 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิสดุ ท้ายของแก๊สน้ีเป็นกี่องศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 750 mmH���g���1 = ������21,500 mmHg (25+273) K T2 T2 = (1,500 mmHg)(298 K) (760 mmHg) T2 = 447,000 K 760

การคานวณเกีย่ วกบั กฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตัวอย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งบรรจอุ ย่ใู นภาชนะเหล็กหนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ที่ความดนั 760 มิลลิเมตรปรอท อณุ หภมู ิ 25 องศาเซลเซียส เมือ่ เพิ่มอุณหภูมิจนได้ความดนั เปน็ 1,500 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิสดุ ท้ายของแก๊สน้ีเป็นกีอ่ งศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 750 mmH���g���1 = ������21,500 mmHg (25+273) K T2 T2 = (1,500 mmHg)(298 K) (760 mmHg) T2 = 447,000 K = 588.16 K 760

การคานวณเกี่ยวกับกฎของเกย์-ลสู แซก(Guy-Lussac’s law) ตวั อย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งบรรจุอย่ใู นภาชนะเหล็กหนาทรงกระบอกขนาด 2.0 ลิตร ที่ความดัน 760 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เมื่อเพิ่มอณุ หภูมิจนได้ความดันเปน็ 1,500 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิสดุ ท้ายของแก๊สน้เี ปน็ กีอ่ งศาเซลเซียส วิธีทา จาก =������1 ������2 แทนค่าจะได้ 750 mmH���g���1 = ������21,500 mmHg (25+273) K T2 T2 = (1,500 mmHg)(298 K) (760 mmHg) T2 = 447,000 K = 588.16 K 760 อุณหภูมิสดุ ท้ายของแก๊สนี้ เท่ากบั 588 K


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook