Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคนิคการขยายพันธ์พืช

เทคนิคการขยายพันธ์พืช

Published by อุดมศักดิ์ ชูยิ้ม, 2022-06-14 08:06:44

Description: เทคนิคการขยายพันธ์พืช

Search

Read the Text Version

เทคนิคการขยายพนั ธพุ์ ชื ศูนยเ์ รยี นร้ปู รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจาตาบลบา้ นหลมุ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งสโุ ขทยั สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั สโุ ขทยั

การทาบกิง่ การทาบกงิ่ คือ การนาตน้ พชื 2 ต้นเปน็ ตน้ เดยี วกนั โดยส่วนของตน้ ตอทน่ี ามา ทาบก่งิ จะทาหนา้ ทเี่ ปน็ ระบบรากอาหารใหก้ บั ตน้ พนั ธด์ุ ี โดยมขี น้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1. เลือกกงิ่ กง่ึ แกก่ ง่ึ ออ่ นทส่ี มบรู ณเ์ พศปราศจากโรคและแมลง 2. เฉือนกิ่งพนั ธดุ์ ใี หเ้ ปน็ รปู โลย่ าวประมาณ 1 - 2 นิ้ว 3. เฉือนตน้ ตอเปน็ รปู ปากฉลาม 4. ประกบแผลตน้ ตอเขา้ กบั กงิ่ พนั ธ์ุดี พันพลาสตกิ ใหแ้ น่น แล้วมดั ตน้ ตอ กับก่งิ พนั ธุ์ด้วยเชอื กหรอื ลวด 5. ประมาณ 6 - 7 สปั ดาห์ แผลจะตดิ กนั ดี รากตมุ้ ตน้ ตอจะงอกแทงผา่ นวสั ดุ และเรมิ่ มสี นี ้าตาล ปลายรากมสี ขี าว และมจี านวนมากพอ จงึ จะตดั ได้ 6. นาลงถุงเพาะชา พรอ้ มปกั หลงั คา้ ยนั ตน้ เพอื่ ปอ้ งกนั ตน้ ลม้

การตดิ ตา คือ การเชอ่ื มประสานสว่ นของตน้ พชื เขา้ ดว้ ยกนั เพื่อใหเ้ จรญิ เปน็ พชื ตน้ เดียวกนั โดยการนาแผน่ ตาจากกงิ่ พนั ธด์ุ ี ไปติดบนตน้ ตอ การตดิ ตาจะมี วธิ ีการทา 2 วธิ ี คอื วธิ กี ารตดิ ตาแบบลอกเนือ้ ไม้ และแบบไมล่ อกเนื้อไม้ ซ่งึ ในทนี ้ี จะแนะนาเฉพาะขน้ั ตอน การตดิ ตาแบบลอกเนื้อไม้ ดังนี้ 1. เลอื กตน้ ตอในสว่ นทเ่ี ปน็ สเี ขยี วปนนา้ ตาล แล้วกรดี ตน้ ตอจากบนลงลา่ ง 2 รอย หา่ งกนั ประมาณ 1 ใน 3 ของเสน้ รอบวงของตน้ ตอ ความยาวประมาณ 6 - 7 เซนติเมตร 2. ตัดขวางรอยกรดี ดา้ นบน แล้วลอกเปลอื กออกจากดา้ นบนลงดา้ นลา่ ง ตัดเปลอื ก ที่ลอกออก ใหเ้ หลอื ดา้ นลา่ งยาวประมาณ 1 เซนติเมตร 3. เฉอื นแผน่ ตายาวประมาณ 7 - 10 เซนตเิ มตร ลอกเนอ้ื ไมอ้ อกแลว้ ตัดแผน่ ตา ดา้ นลา่ งทงิ้ 4. สอดแผน่ ตาลงไปในเปลอื กตน้ ตอ โดยใหต้ าตงั้ ขนึ้ แล้วพนั ดว้ ยพลาสตกิ ใหแ้ นน่ 5. ประมาณ 7 - 10 วัน จงึ เปิดพลาสตกิ ออก แลว้ พนั ใหม่ โดยเวน้ ชอ่ งใหต้ าโผล่ ออกมา ท้ิงไว้ ประมาณ 2 - 3 สปั ดาห์ จงึ ตดั ยอดตน้ เดมิ แลว้ กรดี พลาสตกิ ออก

การเสยี บยอด การเสยี บยอด คอื การเชอื่ มประสานเนอื้ เยอ่ื ของตน้ พชื 2 ต้นเขา้ ดว้ ยกนั เพ่อื ให้ เจริญเตบิ โต เป็นตน้ เดยี วกนั โดยมีขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ตดั ยอดตน้ ตอใหส้ งู จากพนื้ ดนิ ประมาณ 10 เซนตเิ มตร แล้วผา่ กลางลาตน้ ของ ต้นตอใหล้ กึ ประมาณ 3 - 4 เซนตเิ มตร 2. เฉือนยอดพนั ธดุ์ เี ปน็ รปู ลม่ิ ยาวประมาณ 3 - 4 เซนติเมตร 3. เสยี บยอดพนั ธุ์ดลี งในแผลของตน้ ตอ ใหร้ อยแผลตรงกนั แล้วใชเ้ ชอื กมดั ดา้ นบน และลา่ งรอยแผลตน้ ตอให้แน่น 4. คลมุ ต้นทเี่ สยี บยอดแลว้ ดว้ ยถงุ พลาสตกิ หรือนาไปเกบ็ ไว้ในโรงอบพลาสตกิ 5. ประมาณ 5 - 7 สัปดาห์ รอยแผลจะประสานกนั ดี และนาออกมาพกั ไว้ใน โรง เรือนเพอ่ื รอการปลกู ตอ่ ไป

การตัดชา การตดั ชา คอื การนาสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื พนั ธด์ุ ี เชน่ ใบ และ ราก มาตดั และ ปักชาในวสั ดเุ พาะชา เพ่อื ใหไ้ ดพ้ ชื ตน้ ใหมจ่ ากสวนทนี่ ามาตดั ชา แต่ในทน่ี จ้ี ะขอ แนะนาขั้นตอนการตดั ชากงิ่ ซงึ่ มขี ้นั ตอน ดงั น้ี 1. ตัดโคนกงิ่ ใหช้ ดิ ข้อยาวประมาณ 15 - 20 เซนติเมตร โดยตดั เฉยี งเปน็ รปู ปากฉลาม และตดั ปลายบนใหเ้ หนอื ตาประมาณ 1 เซนตเิ มตร 2. ใชม้ ดี ปลายแหลมกรดี บรเิ วณรอบโคนยาว 1 - 1.5 เซนติเมตร ประมาณ 2 - 3 รอย 3. ปกั ก่ิงชาลงในวสั ดเุ พาะชา ลึกประมาณ 2.5 - 5 เซนติเมตร 4. นาเขา้ โรงอบพลาสตกิ หรอื ถุงพลาสตกิ ขนาดใหญ่ 5. ประมาณ 25 - 30 วัน ก่งิ ตัดชาจะแตกยอกออ่ น พรอ้ มออกราก เม่ือมี จานวนมากพอ จงึ ยา้ ยปลกู ตอ่ ไป

การตอนกงิ่ การตอนกง่ิ คอื การทาใหก้ ง่ิ หรอื ตน้ พชื เกดิ รากขณะตดิ อยกู่ ับตน้ แม่ จะทา ใหไ้ ดต้ น้ พชื ใหม่ ท่ีมลี กั ษณะทางสายพนั ธุ์ เหมอื นกบั ตน้ แมท่ กุ ประการ โดยมี ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. เลือกกง่ิ กงึ่ แก่กงึ่ อ่อนทส่ี มบรู ณป์ ราศจากโรคและแมลง 2. ควั่นกิง่ ลอกเอาเปลอื กออก แลว้ ขดู เยอ่ื เจรญิ ทเี่ ปน็ เมอื กลนื่ ๆ ออก 3. นาตมุ้ ตอน (ขยุ มะพรา้ วทแี่ ชน่ า้ แลว้ บบี หมาด ๆ อัดลงในถงุ พลาสตกิ ผูกปากถงุ ใหแ้ นน่ ) มาผา่ ตามความยาวแลว้ นาไปหมุ้ บนรอยแผลของกงิ่ ตอน มัดด้วยเชอื กทงั้ บนและลา่ งรอยแผล 4. เม่อื กิ่งตอนมรี ากงอกแทงผา่ นวสั ดุ และเรมิ่ แกเ่ ปน็ สเี หลอื ง สนี ้าตาล ปลายรากมสี ขี าว และมจี านวนมากพอจงึ ตดั กง่ิ ตอนได้ 5. นากิ่งตอนไปชาในภาชนะ กระถางหรอื ถงุ พลาสตกิ เพ่ือรอการปลกู ตอ่ ไป

การขยายพนั ธมุ์ ะนาว แบบควบแนน่ องคป์ ระกอบในการควบแน่นมะนาว มดี ังนี้ - ยอดมะนาว ความแกอ่ อ่ น 40 – 60 % - น้าสะอาด - แก้วพลาสตกิ ขนาดบรรจุ 10 ออนซ์ (หรือภาชนะทขี่ นาดใหญก่ วา่ ดู ตามขนาดของยอดหรอื ก่งิ มะนาว) - ถุงพลาสตกิ ใสขนาด 6 x 11 นว้ิ (หรอื ขนาดใหญก่ ว่า ) - ยางวงเสน้ เลก็ หรอื เชอื ก

วธิ ที า - เกบ็ ดินจากบรเิ วณทม่ี อี ินทรวี ตั ถุน้อย ทาดินใหร้ ว่ นซุย - พรมน้าคลกุ เคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั แลว้ ปั้นดู พอติดมอื (กาพอเปน็ กอ้ น) - นาดนิ ใสใ่ หเ้ ตม็ แกว้ พลาสตกิ หรอื ภาชนะกระถางทจี่ ะใช้ โดยแบง่ ใส่ 3 ครั้ง แตล่ ะครง้ั กดดนิ ใหแ้ นน่ ระดบั 80% - ใช้ไม้แหลมหรอื กรรไกรเสยี บตรงกลางภาชนะทใี่ สด่ นิ ใหล้ กึ ไมเ่ กิน 3 ใน 4 สว่ นของแกว้ - ใชก้ รรไกรคม ตัดยอดมะนาวตามทต่ี อ้ งการ ตดั ใหย้ าวประมาณ 12 – 18 ซม. ขอ้ สาคญั อยา่ ใหแ้ ผลทต่ี ดั เปลอื กฉกี จะออกรากไมด่ ี - ใช้กรรไกรตดั หนามออกใหห้ มด ป้องกันหนามแทงถงุ ถา้ อากาศเข้าจะออก รากยาก - นายอดมะนาวเสยี บลงในรทู เี่ สยี บไว้ ใหส้ ดุ - กดดินรอบกงิ่ มะนาวใหแ้ น่น อยา่ ใหห้ ลวม จะออกรากยาก - นาถงุ พลาสตกิ ครอบลงแลว้ รดั ดว้ ยยางวงจานวน 2 เสน้ แลว้ ดึงกน้ ถงุ ให้ ยางไปรดั อยทู่ ข่ี อบปากแกว้ - นาไปเกบ็ ไวใ้ นทรี่ ม่ ราไร หลังจากนน้ั 15–20 วัน ใหต้ รวจดรู าก พอพบราก ใหป้ ลอ่ ยจนรากมสี นี า้ ตาลค่อยกลบั ถุง การกลบั ถุง มีวิธีดังตอ่ ไปน้ี 1.ใหน้ าถุงออกจากแกว้ ช่วงประมาณ 18.00 น. เพ่อื ปอ้ งกนั ความรอ้ น 2.นาถงุ ออกแลว้ นาแก้วมะนาวทอี่ อกรากแลว้ ใสก่ ลบั ลงไปในถงุ (เปิดปาก ถงุ ไว้ ไมต่ ้องใชย้ างวงรดั ) 3.ทง้ิ ไวใ้ นรม่ ราไร ประมาณ 5–7 วนั ค่อยนาแกว้ มะนาวออกจากถงุ เพอื่ ให้ มะนาวปรบั ตวั เขา้ กบั สภาพแวดลอ้ ม

ทป่ี รึกษา นางสาวจิรวรรณ จนั ทไชย ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอเมอื งสโุ ขทยั นางมารศรี ศรมี ่วง ปราชญ์ชาวบ้าน นางสาวชรินทร สรรพลกั ษณ์ ปราชญ์ชาวบ้าน นายเฉลมิ พรี ี ปราชญ์ชาวบา้ น จดั ทาโดย ครู กศน.ตาบลบ้านหลมุ นายอุดมศกั ดิ์ ชูยมิ้

กศน.ตาบลบา้ นหลมุ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสโุ ขทยั สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั สโุ ขทยั เปดิ รบั สมคั รนกั ศกึ ษา ระดับประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และมธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรยี นที่ 1 วันท่ี 1 – 30 เมษายน ของทกุ ปี ภาคเรยี นที่ 2 วนั ท่ี 1 – 31 ตุลาคม ของทกุ ปี หลกั ฐานการสมคั รเรยี น 1.สาเนาวฒุ กิ ารศึกษา ( พรอ้ มฉบบั จรงิ ) จานวน 2 ฉบบั 2.สาเนาทะเบยี นบา้ น จานวน 2 ฉบบั 3.สาเนาบตั รประชาชน จานวน 2 ฉบบั 4.รปู ถา่ ย 1 นิ้ว จานวน 2 รูป 5.เอกสารอนื่ ๆ ถา้ มี จานวน 2 ฉบบั คาขวญั ตาบลบา้ นหลมุ ชมุ นมุ แหลง่ ปลาสรอ้ ย หยดยอ้ ยนา้ ปลาดี ร้อยถ้อยสามคั คี วฒั นธรรมดมี นี า้ ใจ หลวงพอ่ สามพ่ีนอ้ งคูบ่ า้ น ลานสบื สานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ปลายา่ งลมควนั อรอ่ ยล้ิน ถิน่ รน่ื รมอดุ มอาไพ ต้นไมใ้ หญศ่ รีมหาโพธ์ิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook