แนวข้อสอบ สค21001 60 ข้อ

บทท่ี 4 การเมืองการปกครอง

เรอ่ื งท่ี 1 การเมอื งการปกครองที่ใช้อยู่ในปจั จบุ นั ของประเทศไทย ประเทศไทยไดย้ ดึ หลกั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษัตรยิ เ์ ปน็ ประมขุ มีรฐั ธรรมนูญการปกครองแผน่ ดนิ มาตั้งแต่พทุ ธศักราช 2475 จนถงึ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เป็นแนวทางสาคัญตลอดมา 1.1 การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย หมายถงึ การปกครองทปี่ ระชาชนมีอานาจสูงสดุ หรือแบง่ การ ปกครองของประชาชนโดยประชาชนและเพอ่ื ประชาชนอันมพี ระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุขและทรงอยใู่ ต้ รัฐธรรมนญู หลกั การสาคญั ของการปกครองระบอบประชาธิปไตย เปา้ หมายของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยเพ่ือจดั ระเบียบการอย่รู ว่ มกนั ของผู้คนใน ลกั ษณะทเี่ อื้ออานวยประโยชน์ตอ่ ประชาชนทกุ คนในรฐั ให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรภี าพ อย่างเสมอภาคและยุตธิ รรม

รปู แบบของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รปู แบบของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แบง่ อานาจในการบรหิ ารประเทศออกเปน็ 3 ส่วน รวมเรยี กว่า “อานาจอธปิ ไตย” ประกอบดว้ ย 1. อานาจนติ บิ ญั ญัติ ไดแ้ ก่ รัฐสภา ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และใหถ้ อื ว่า รฐั สภาเปน็ ตัวแทนของประชาชนท้งั ประเทศและเป็นผูร้ ักษาผลประโยชนข์ องประชาชน 2. อานาจบรหิ าร ได้แก่ รฐั บาลหรือคณะรัฐมนตรี มีหนา้ ทใี่ นการวางนโยบาย กาหนด เปา้ หมายดาเนนิ กิจการต่างๆของรฐั เพื่อบาบดั ทกุ ขบ์ ารุงสุขของประชาชน 3. อานาจตลุ าการ ได้แก่ ศาล มีอานาจหนา้ ที่รกั ษาความยตุ ธิ รรมตามท่ีกฎหมายกาหนด รักษาเสรีภาพของบุคคลป้องกันและแกไ้ ขมใิ ห้บุคคลลว่ งล้าเสรภี าพต่อกัน ตลอดจนคอย ควบคมุ มิให้เจา้ หน้าทีข่ องรฐั ใชอ้ านาจเกินขอบเขต

1.2 รัฐธรรมนูญของไทย รฐั ธรรมนญู หมายถงึ กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ท่ีออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติ คอื รฐั สภา ซ่ึงมีบทบัญญตั ิกาหนดหลักการสาคัญต่างๆ เช่น รปู แบบการปกครองการใช้อานาจอธปิ ไตย ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสถาบันการปกครอง ตลอดจนสิทธเิ สรภี าพและหนา้ ที่ของประชาชน ความสาคัญของรฐั ธรรมนูญ รัฐธรรมนญู เป็นกฎหมายหลกั ที่สาคญั ทีส่ ดุ มรี ปู แบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทเี่ รยี กว่า อานาจอธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุข ปกครองในระบบรัฐสภา การบริหาร ประเทศหรอื การออกกฎหมายยอ่ มต้องดาเนินการภายในกรอบของบทบัญญัติในรัฐธรรมนญู บทบัญญัตแิ ห่งกฎหมายใดถ้าขัดแย้งกบั รัฐธรรมนูญย่อมไม่มผี ลบงั คับใช้

ประเภทของรฐั ธรรมนูญ 1. รฐั ธรรมนูญลายลกั ษณ์อักษร เปน็ รัฐธรรมนูญทเ่ี ขียนไว้เป็นลายลกั ษณอ์ ักษรท่ชี ัดเจน ดงั เช่น รัฐธรรมนญู ของประเทศไทยและประเทศสหรฐั อเมริกา 2. รัฐธรรมนูญจารตี ประเพณี เปน็ รัฐธรรมนูญทไี่ ม่ไดเ้ ขียนไวเ้ ปน็ ลายลักษณอ์ กั ษรอย่างชัดเจน ครบถ้วนในเอกสารฉบบั เดียวและไม่ไดบ้ ญั ญัตไิ ว้ในรปู ของกฎหมาย เช่นขนบธรรมเนยี มประเพณีในการ ปกครองต่างๆ ประเทศอังกฤษ เปน็ ประเทศหน่งึ ทีม่ ีรัฐธรรมนูญประเภทน้ี

ววิ ฒั นาการรฐั ธรรมนญู ของประเทศไทย นับตง้ั แตป่ ระเทศไทยได้มีการเปลย่ี นแปลงการปกครองจากระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ ต้งั แตพ่ ุทธศกั ราช 2475 มาเป็นการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์เป็นประมุข จนถึงปัจจุบนั มีการเปลยี่ นแปลงแกไ้ ขและประเทศใช้รฐั ธรรมนญู และรัฐธรรมนูญการปกครองแลว้ รวม 18 ฉบบั ทกุ ฉบับมีหลักการสาคญั เหมือนกนั คอื ยึดมน่ั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มี พระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุข รฐั ธรรมนญู ของไทยทป่ี ระกาศใช้อยู่ในปจั จบุ ันเปน็ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ฉบับท่ี 18 โดยรฐั ธรรมนูญฉบับน้ไี ด้ยึดตามแนวทางและแกไ้ ขจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช 2540 เพ่ือให้ประชาชนได้รับประโยชนจ์ ากรฐั ธรรมนญู น้ีรวม 4 ประการ คือ 1. คมุ้ ครอง ส่งเสริม ขยายสทิ ธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างเต็มท่ี 2. ลดการผกู ขาดอานาจรัฐและเพิ่มอานาจประชาชน 3. การเมืองมีความโปร่งใส มคี ณุ ธรรมและจริยธรรม 4. องคก์ รตรวจสอบมีความอิสระ เขม้ แข็งและทางานอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2550 ประกาศใช้เมื่อวนั ที่ 24 สิงหาคม 2550 ประกอบดว้ ยหมวดตา่ งๆ ดังนี้ หมวดท่ี 1 บททั่วไป มาตรา 1 - 7 หมวดท่ี 2 พระมหากษตั รยิ ์ มาตรา 8 - 25 หมวดที่ 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย มาตรา 26 - 69 หมวดท่ี 4 หนา้ ท่ีของชนชาวไทย มาตรา 70 - 74 หมวดท่ี 5 แนวนโยบายพื้นฐานแหง่ รัฐ มาตรา 75 - 87 หมวดท่ี 6 รฐั สภา มาตรา 87 - 162 หมวดท่ี 7 การมีสว่ นร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชนมาตรา 163 - 165 หมวดที่ 8 การเงินการคลังและงบประมาณ มาตรา 166 - 170 หมวดท่ี 9 คณะรัฐมนตรี มาตรา 171 - 196 หมวดท่ี 10 ศาล มาตรา 197 - 228 หมวดที่ 11 องค์กรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 229 - 258

หมวดที่ 12 การตรวจสอบการใชอ้ านาจรฐั มาตรา 259 – 278 หมวดที่ 13 จริยธรรมของผู้ดารงตาแหนง่ ทางการเมอื งและเจา้ หนา้ ทีข่ องรฐั มาตรา 279 - 280 หมวดที่ 14 การปกครองส่วนท้องถนิ่ มาตรา 281 - 290 หมวดที่ 15 การแก้ไขเพม่ิ เตมิ รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 บทเฉพาะกาล มาตรา 292 - 309

1.3 กฎหมายและหน้าทข่ี องพลเมอื ง กฎหมาย คอื ขอ้ บงั คบั ทง้ั หลายของรฐั หรอื ประเทศทใ่ี ชบ้ ังคับความประพฤติของบคุ คล ซง่ึ ผู้ใดจะฝา่ ฝืนไม่ปฏบิ ัตติ ามจะต้องมคี วามผิดและต้องถูกลงโทษ กฎหมายจึงมคี วามสาคญั ต่อ บทบาทของทกุ ๆ สงั คม ทงั้ ในดา้ นให้ความค้มุ ครองและถกู ลงโทษตามเหตุการณ์ ความสาคัญของกฎหมาย แยกได้เป็น 2 ประการหลกั คือ 1. กฎหมายเปรียบเสมือนเปน็ เครอ่ื งมอื บรหิ ารประเทศโดยตรง เชน่ กฎหมายรัฐธรรมนญู เป็น หลกั เกณฑ์สาคัญในการวางรูปแบบโครงสรา้ งและกลไกการบรหิ ารงาน และกฎหมายปกครองเปน็ กฎหมายทีจ่ ัดระเบียบการปกครองประเทศหรือการบรหิ ารรัฐ เป็นตน้ 2. กฎหมายเปน็ เครือ่ งมือในการรักษาความสงบเรยี บร้อยในสังคมใหส้ มาชิกในสังคม สามารถอยู่รว่ มกันไดด้ ้วยความสงบสุข เช่น กฎหมายอาญา กฎหมายแรงงาน กฎหมาย คมุ้ ครองผู้บริโภค เปน็ ต้น

คณุ ค่าของประชาธปิ ไตย 1. คุณคา่ ทางการเมอื งการปกครอง เช่น ประชาชนสามารถเลือกบคุ คลท่ีเปน็ ตัวแทนปกครอง ตวั เองได้ดว้ ยการใชส้ ทิ ธิลงคะแนนเสียงเลือกผู้แทนราษฎร 2. คุณค่าทางเศรษฐกิจ เชน่ มสี ทิ ธเิ สรภี าพในการซื้อขายจากการผลิต การบรกิ าร โดยได้รับการ คุ้มครองจากรฐั อยา่ งเปน็ ธรรม 3. คณุ ค่าทางสงั คม เชน่ ไดร้ ับความคุม้ ครองจากรัฐทง้ั ชีวติ และทรัพย์สินภายใตก้ ฎหมายเทา่ เทยี มกนั การปกครองระบอบประชาธิปไตยเปน็ ลักษณะการปกครองเพ่อื ความสงบสุขของ ประชาชนโดยแท้จริง การดาเนนิ ชวี ติ ของบุคคลจะเป็นไปอยา่ งสงบสุขไดน้ ั้น ต้องมีความ เข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญและเหน็ คุณค่าของประชาธปิ ไตยเปน็ แนวทางดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั

เรื่องท่ี 2 เปรยี บเทยี บรปู แบบทางการเมอื งการปกครองระบอบประชาธิปไตย และระบอบอืน่ ๆ ระบอบการเมอื งการปกครอง หมายถึง การจัดระบบให้คนส่วนใหญ่ในสงั คมสามารถดาเนินชวี ิต อยู่ร่วมกันไดอ้ ย่างมรี ะเบยี บแบบแผน มคี วามสัมพนั ธ์กันอนั กอ่ ใหเ้ กดิ ขอ้ ตกลงอนั ดงี ามร่วมกนั บังเกิด ความผาสุกและความสามคั คีในสังคม ซึง่ แบง่ ออกเป็น 2 รปู แบบคอื 1. ระบอบการเมอื งการปกครองแบบประชาธปิ ไตย แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท 1. ระบอบประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษตั รยิ ์เปน็ ประมขุ 2. ระบอบประชาธิปไตยแบบมีประธานาธิบดเี ป็นประมุข 2. ระบอบการเมอื งการปกครองแบบมีประธานาธบิ ดเี ป็นประมขุ

ระบอบการเมืองการปกครองแบบเผด็จการ การปกครองแบบเผดจ็ การ เป็นระบบการเมอื งที่รวมอานาจแบบเบ็ดเสรจ็ ไวท้ ่ี ผ้นู าคนเดยี วหรอื คณะเดยี ว ให้อานาจการตัดสนิ ใจทร่ี ฐั การปกครองและการบริหาร ประเทศใหค้ วามสาคัญกับรฐั มากกว่าประชาชน รวมท้งั ประโยชน์ที่รฐั จะไดร้ บั ประชาชนเปรียบเสมือนเป็นส่วนประกอบ ของรัฐเทา่ น้นั และท่ีสาคัญรัฐจะต้องสูงสุด และถูกต้องเสมอ การปกครองแบบเผดจ็ การ แบง่ ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบอานาจ นยิ ม และแบบเบ็ดเสร็จนยิ ม

เปรยี บเทยี บขอ้ ดี ของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยและการปกครองระบอบเผดจ็ การ ขอ้ ดขี องการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ข้อดีของการปกครองระบอบเผด็จการ 1. ประชาชนทกุ คนมคี วามเทา่ เทยี มกันในด้านกฎหมาย 1. รัฐบาลมคี วามเข้มแขง็ 2. ประชาชนทกุ คนมสี ทิ ธิเสรีภาพในทกุ ๆด้านเพราะทุกคนต้อง 2. รัฐบาลมคี วามมัน่ คงเป็นปกึ แผ่น ปฏบิ ัติตามกฎหมายเชน่ เดียวกัน 3. การตัดสินใจในกิจการตา่ งๆ เป็นไปอยา่ งรวดเรว็ 3. รัฐบาลไม่สามารถผูกขาดอา นาจได้เนือ่ งจากประชาชนเป็นผู้ คดั เลือกรฐั บาลและหากไม่พอใจยงั สามารถถอดถอนรฐั บาลได้ 4. การแก้ไขปัญหาต่างๆ ยดึ ถอื แนวทางสันตวิ ิธีมีการเจรจาอยา่ งมี เหตผุ ลและมหี นว่ ยงานรองรบั กรณพี ิพาทระหวา่ งรฐั และเอกชน เชน่ ศาลปกครอง

เปรยี บเทยี บขอ้ เสีย ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยและการปกครองระบอบเผดจ็ การ ข้อเสียของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ขอ้ เสียของการปกครองระบอบเผด็จการ 1. การแกไ้ ขบ้านเมอื งบางคร้ังมีความลา่ ช้า เนอ่ื งจากมี 1. ประชาชนไม่มีส่วนรว่ มในการปกครอง กระบวนการหลายขัน้ ตอนท่ตี อ้ งผ่านความเห็นชอบ ซ่งึ 2. ไมค่ านึงถึงความตอ้ งการของประชาชน บางครั้งอาจแก้ไขได้ไมท่ ันเวลา 3. รฐั บาลและประชาชนไม่มีความสมั พันธ์กนั อยา่ งใกลช้ ิด 2. ในบางประเทศประชาชนส่วนใหญย่ งั ขาดความรใู้ น 4. ประชาชนไมไ่ ด้รั้บความเป็นธรรมเทา่ ทีค่ วร ดา้ นการเมอื งการปกครอง ในกรณคี ัดเลอื กผแู้ ทนบริหาร 5. ผนู้ าอาจใช้อานาจเพือ่ ประโยชนสว่ นตนและพวกพ้องได้ อาจไมเ่ หมาะสม จะส่งผลกระทบต่อรฐั บาลได้ 6. การบรหิ ารประเทศอยู่ที่ผนู้ าหรอื คณะเพียงกล่มุ เดยี ว 3. ในการเลือกต้ังแตล่ ะคร้ังจาเป็นตอ้ งใชเ้ งินเปน็ จานวน การตัดสนิ ใจ การแกไ้ ขปญั หาอาจผิดพลาดไดง้ ่าย มาก ดงั นน้ั ประเทศยากจนจงึ เห็นวา่ เปน็ การเสียเงนิ โดยไม่ 7. ประชาชนไมม่ อี สิ ระในการประกอบอาชีพอย่างเตม็ ที่ ส่ง ก่อให้เกดิ ประโยชนแ์ ละควรนาเงนิ ไปใช้ในการพัฒนา ผลใหค้ วามเป็นอยขู่ องประชาชนไมค่ ่อยดแี ละอาจทาให้ไมม่ ี ประเทศ ส่งเสริมให้ประชาชน มีงานทาหรือช่วยเหลอื ความสขุ ประชาชนที่ยากจน

แนวข้อสอบ วิชา สค21001 สงั คมศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น

1.ทวีปเอเชยี มอี าณาเขตติดกบั ทวีปใด ก. ทวปี ยโุ รป ข. ทวปี อเมริกา ค. ทวปี แอฟรกิ า ง. แอนตรากติการ์ เฉลย ก. ทวปี ยโุ รป อธิบาย แผ่นดนิ ของทวีปยโุ รปกับทวปี เอเชยี มคี วามตอ่ เน่อื งกนั เรียกรวมว่า ยูเรเชีย บทที่ 1 ภูมิศาสตร์กายภาพทวปี เอเชยี เรื่องท่ี 1 ลักษณะทางภูมศิ าสตร์กายภาพของ ประเทศในทวเี อเซยี 1.1.1 บอกทตี่ ง้ั และอาณาเขตของประเทศในทวปี เอเซยี ได้ ( พฤตกิ รรม การวัด : ความรู้-ความจา)

2.ทวีปใดท่ีมขี นาดใหญท่ ่สี ุดในโลก ก. ทวีปยุโรป ข. ทวปี เอเชีย ค. ทวปี แอฟรกิ า ง. แอนตรากตกิ าร์ เฉลย ก. ทวปี เอเชยี อธิบาย ทวีปเอเชยี เปน็ ทวีปทม่ี ขี นาดใหญ่ทส่ี ุดในโลก มีพน้ื ทีป่ ระมาณ 44,648,953 ลา้ น ตารางกิโลเมตร บทที่ 1 ภูมิศาสตร์กายภาพทวปี เอเชีย เรอื่ งท่ี 1 ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์กายภาพของ ประเทศในทวเี อเซยี 1.1.1 บอกที่ตั้งและอาณาเขตของประเทศในทวปี เอเซียได้ ( พฤติกรรมการวดั : ความร-ู้ ความจา)

3.ทิเบตเขตปกครองตนเองของสาธารณรฐั ประชาชนจีน ซ่งึ ตง้ั อยู่ บนเทือกเขาหมิ าลัยมลี กั ษณะภูมิประเทศแบบใด ก. ท่รี าบสงู ข. ป่าดิบชืน้ ค. ทะเลทราย ง.ท่รี าบลุ่มแมน่ ้า เฉลย ก.ทรี่ าบสงู อธิบาย เป็นลกั ษณะทรี่ าบสูงขนาดใหญแ่ ละสูงท่สี ุดในโลก บทท่ี 1 ภมู ิศาสตรก์ ายภาพทวีปเอเชีย เรอ่ื งท่ี 1 ลกั ษณะทางภมู ศิ าสตรก์ ายภาพของ ประเทศในทวีเอเซีย 1.1.2 บอกลกั ษณะภมู ิศาสตรท์ างกายภาพของประเทศในทวปี เอเชียได้ ( พฤตกิ รรมการวดั : ความรู-้ ความจา)

4.ประเทศอินโดนีเซยี มสี ภาพภูมอิ ากาศแบบใด ก. ปา่ ดบิ ชืน้ ข. ทะเลทราย ค. เมดเิ ตอร์เรเนยี น ง. ทงุ่ หญ้ากึ่งทะเลทรายแถบอบอุ่น เฉลย ก.ปา่ ดบิ ชื้น อธบิ าย ภูมอิ ากาศแบบปา่ ดิบชนื้ เขตภูมิอากาศแบบป่าดบิ ช้ืน อย่รู ะหวา่ งละติจูดที่ 10 องศา เหนือ ถงึ 10 องศาใต้ ได้แก่ ภาคใตข้ องประเทศไทย มาเลเซีย อนิ โดนีเซีย และฟิลิปปินส์ บทท่ี 1 ภูมศิ าสตร์กายภาพทวีปเอเชยี เรื่องที่ 1 ลกั ษณะทางภูมิศาสตรก์ ายภาพของประเทศ ในทวเี อเซยี 1.1.3 บอกลักษณะภมู อิ ากาศของประเทศในทวีปเอเชยี ได้ ( พฤติกรรมการวัด : ความร-ู้ ความจา)

5.ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุของการเปลยี่ นแปลงสภาพทาง ภูมิศาสตร์ กายภาพ ของทวีปเอเชีย ก. การเกิดคล่นื สึนามิ ข. การลา่ สัตวท์ ่ีมากเกินความพอดี ค. การเพม่ิ ข้นึ ของจา้ นวนประชากรมนุษย์ ง. การใชท้ รัพยากรทเ่ี พม่ิ มากขน้ึ ของมนษุ ย์ เฉลย ก. การเกิดคล่นื สนึ ามิ อธบิ าย สาเหตเุ กิดจากการเคลือ่ นตัวของเปลอื กโลกใต้ทะเลอย่างฉับพลัน ทาให้มนี า้ ทะเลใน ปริมาณมหาศาลถูกดันข้ึนหรือทรุดตวั ลงอย่างฉับพลบั บทที่ 1 ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพทวีปเอเชยี เรื่องที่ 1.2 การเปลีย่ นแปลงทางสภาพภูมศิ าสตร์ทาง กายภาพในทวปี เอเชยี 1.2.1 บอกสาเหตุของการเปลย่ี นแปลงสภาพภูมศิ าสตรท์ างกายภาพใน ทวีปเอเชียได้ ( พฤตกิ รรมการวัด : ความร-ู้ ความจา)

6. ผลกระทบทเี่ กิดจากการเปลยี่ นแปลง สภาพทางภูมิศาสตร์ กายภาพของทวปี เอเชีย คอื ขอ้ ใด ก. ทีอ่ ยอู่ าศัยของมนุษย์ถกู ทาลาย ข. ผลผลิตทางการเกษตรสามารถผลิตไดน้ ้อยลง ค. อตั ราการเกดิ ของประชากรมนษุ ยล์ ดนอ้ ยลง ง. สัตวบ์ างสายพันธุ์มจี านวนเพม่ิ ขึ้นจนส่งผลเสียตอ่ ระบบนเิ วศ เฉลย ก. ท่ีอยูอ่ าศยั ของมนุษยถ์ กู ทาลาย อธบิ าย เกดิ จากการเปล่ียนแปลงสภาพทางภูมศิ าสตร์ กายภาพของทวปี เอเชยี ท่สี ่งกระทบตอ่ ชวี ิตความเป็นอย่ขู องมนุษย์ เกดิ ความเสียหายทงั้ ชีวิตและทรัพย์สินที่เกดิ จากการทาลายของภัย ธรรมชาติ บทท่ี 1 ภูมศิ าสตรก์ ายภาพทวปี เอเชีย เรื่องที่ 1.2 การเปลยี่ นแปลงทางสภาพภูมศิ าสตรท์ างกายภาพในทวปี เอเชีย 1.2.2 ผลกระทบทเี่ กดิ จากการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมิศาสตร์ทางกายภาพในทวปี เอเชียได้ ( พฤติกรรมการวัด : ความร-ู้ ความจา)

7.การเกิดแผน่ ดินไหว สนึ ามหิ รอื พายไุ ซโคลนส่งผลตอ่ การ ดารงชีวิตของมนุษยอ์ ย่างไร ก. มพี นื้ ที่แห้งแลง้ ไมเ่ หมาะกบั การอยู่อาศยั ข. เกิดการโยกยา้ ยถ่ินฐานเพ่ือความอยรู่ อด ค. มนุษย์อดอยากและลม้ ตายเป็นจ้านวนมาก ง. พนื้ ทป่ี า่ ลดนอ้ ยลงจนขาดทรัพยากรอย่างรุนแรง เฉลย ข.เกิดการโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อความอย่รู อด อธิบาย เกิดความเสยี หายและการสูญเสียทงั้ ชวี ิตและทรพั ยส์ นิ และทาให้เกดิ การอพยพยา้ ยถน่ิ เพื่อวามอยูร่ อด บทที่ 1 ภมู ศิ าสตร์กายภาพทวีปเอเชยี เรือ่ งที่ 1.3 กรณีตวั อยา่ งการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิศาสตรท์ าง กายภาพทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ วิถีชวี ิตความเป็นอยู่ของประชากรไทยและทวีปเอเชยี ได้ 1.3.1 ยกตวั อยา่ งการเปลย่ี นแปลงสภาพ ภูมิศาสตร์ทางกายภาพทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ วิถีชวี ติ ความเปน็ อยูข่ องประชากรไทยและทวีปเอเชียได้ ( พฤติกรรมการวัด : ความ เขา้ ใจ)

8.การเดนิ ทางในป่าควรนาเคร่อื งมือทางภมู ศิ าสตร์ ชนดิ ใดไปด้วย ก. เข็มทิศ ข. ลกู โลก ค. รปู ถา่ ยทางอากาศ ง. รูปถา่ ยจากดาวเทียม เฉลย ก.เขม็ ทศิ อธบิ าย เปน็ เครือ่ งมอื สาหรบั ใชใ้ นการหาทศิ ทางของจุดหรอื วตั ถุ โดยมีหนว่ ยเปน็ องศามีประโยชน์ในการเดินทาง ได้แก่ การเดินเรือ การเดินป่า เครอ่ื งบนิ เป็นตน้ บทท่ี 1 ภูมิศาสตร์กายภาพทวปี เอเชีย เรือ่ งที่ 1.4 บอกวธิ ใี ชเ้ คร่ืองมอื ทาง ภูมิศาสตร์ แผนที่ ลกู โลก Website ดาวเทยี ม GIS GPRSได้ 1.4.1 บอก ประโยชนข์ องเคร่ืองมอื ทางภมู ศิ าสตร์แตล่ ะชนิดได้ ( พฤติกรรมการวดั : ความเขา้ ใจ)

9. อภชิ า ตอ้ งการแขง่ ขนั รถยนต์แรลล่ีจาก กรงุ เทพฯถงึ สกลนคร ควรนาอปุ กรณใ์ ดตดิ ไปด้วย ก. เขม็ ทิศ ข. ลูกโลก ค. แผนทโ่ี ลก ง. เคร่อื งจีพีเอส เฉลย ง.เคร่ืองจีพเี อส อธบิ าย เป็นเครอื่ งมือรับสญั ญาณพิกดั บนพน้ื ผวิ โลกอาศัยระยะทางระหวา่ งเคร่อื งรบั ดาวเทียมGPSบนพื้นผวิ โลกกบั ดาวเทยี มจานวนหนง่ึ ทีโ่ คจรอยใู่ นอวกาศและระยะทาง ระหว่างดาวเทยี มแตล่ ะดวง บทท่ี 1 ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพทวีปเอเชีย เร่ืองท่ี 1.4 บอกวิธีใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ แผนท่ี ลกู โลก Website ดาวเทียม GIS GPRSได้ 1.4.2 เลอื กใช้เครอื่ งมอื ทางภูมศิ าสตรไ์ ด้เหมาะสมกับสถานการณ์ ( พฤติกรรมการวดั : นาไปใช้)

10.เพราะเหตุใดภาคกลางจึงเป็นแหลง่ เพาะปลูกทส่ี าคัญของ ประเทศไทย ก. อยตู่ ิดกับทะเล ข. เป็นพ้นื ท่ีราบสูงฝนตกชกุ ตลอดปี ค. มที วิ เขาเปน็ แนวกา้ แพงกนั ลมมรสมุ ทั้งสองด้าน ง. มคี วามอุดมสมบูรณจ์ ากดินตะกอนแมน่ ้าพดั พามาทบั ถม เฉลย ง.มคี วามอดุ มสมบรู ณ์จากดนิ ตะกอนแม่นาพัดพามาทับถม อธบิ าย ลักษณะภูมิประเทศสว่ นใหญเ่ ปน็ ท่ีราบลุ่มแมน่ ้ากวา้ งใหญเ่ ปน็ ที่ราบมคี วามอดุ ม สมบูรณม์ ากทส่ี ดุ เพราะเกดิ การทับถมของตะกอน เป็นแหลง่ ทีเ่ หมาะกบั การทการเกษตรทานา ทใี่ หญ่ที่สดุ บทท่ี 1 ภูมศิ าสตร์กายภาพทวีปเอเชยี เรื่องที่ 1.5 ภูมิศาสตร์ทางกายภาพของประเทศไทย ของประเทศไทย ท่สี ง่ ผลต่อทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มตา่ งๆ เชน่ ลาคลอง หนองบงึ ทะเล อ่นื ๆ 1.5.1 อธิบายความสาคญั ของสภาพภูมศิ าสตร์ทางกายภาพของประเทศไทยที่สง่ ผลตอ่ สง่ิ มชี วี ติ ได้ ( พฤตกิ รรมการวดั : ความเข้าใจ)

11.เหตุใดพืนท่ใี นแถบทเิ บตถงึ แห้งแล้งและไมค่ อ่ ยมีพืชพรรณเติบโต ก. ฝนไมค่ ่อยตก ข. อยู่ไกลจากแหล่งนา้ ค. อยู่ในแถบเสน้ ศนู ย์สูตร ง. เปน็ พื้นท่รี าบสงู ลมมรสมุ พดั พาความชนื้ จากทะเลเขา้ มาไม่ได้ เฉลย ง.เป็นพนื ทร่ี าบสูง ลมมรสมุ พดั พาความชนื จากทะเลเข้ามาไม่ได้ อธบิ าย ภมู อิ ากาศของทิเบตมลี ักษณะหลากหลาย เช่น ในเขตท่ีราบสูงทางตอนเหนอื ของทิเบตมีสภาพภูมอิ ากาศหนาวเย็นและ แห้งแลง้ ฤดูหนาวมีอุณหภูมเิ ฉลยี่ ลบ 10 ถึง 20 องศาเซลเซยี ส ขณะทีฤ่ ดูรอ้ นมีอณุ หภูมิต่ากว่า 10 องศา ความชืน้ ในอากาศ ตลอดปีตา่ กว่า 200 มิลลิเมตร ส่วนในเขตเทือกเขาทางตอนใต้และตะวนั ออกของทิเบต มีอากาศอบอุ่นและชืน้ เชน่ เมืองลาซา หลินจอื เป็นต้น ในชว่ งฤดูหนาวมอี ุณหภูมิลบ 2 ถึง 8 องศาเซลเซยี ส ขณะทฤี่ ดูรอ้ นจะอยูท่ ่ี 15 ถงึ 20 องศาเซลเซยี ส ความช้นื ในอากาศประมาณ 438 ถึง 1000 มิลลิเมตร บทท่ี 1 ภูมิศาสตร์กายภาพทวีปเอเชยี เรือ่ งที่ 1.5 ภูมศิ าสตร์ทางกายภาพของประเทศไทยของ ประเทศไทย ทสี่ ง่ ผลตอ่ ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อมต่างๆ เช่นลาคลอง หนองบงึ ทะเล อ่นื ๆ 1.5.2 อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของสภาพภูมศิ าสตรท์ าง กายภาพทม่ี ีต่อการเกิดทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมในทวปี เอเชยี ได้ ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเข้าใจ)

12.หากอยากลงทุนทาเหมอื งพลอย ควรหาสภาพพืนทีใ่ นลักษณะใด ก. ป่าดบิ ชื้น ข. ภูเขาไฟ ค. ภูเขาไฟเก่า ง. ทะเลทราย เฉลย ค.ภูเขาไฟเก่า อธบิ าย ลักษณะภูมิประเทศสว่ นใหญเ่ ป็นทร่ี าบลมุ่ แม่น้ากวา้ งใหญ่เปน็ ทีร่ าบมคี วามอดุ มสมบูรณ์มากท่ีสดุ เพราะเกดิ การทับถมของตะกอน เป็นแหลง่ ท่เี หมาะกับการทการเกษตรทานาทใ่ี หญท่ ่สี ดุ บทที่ 1 ภมู ศิ าสตร์กายภาพทวปี เอเชยี เร่อื งที่ 1.5 ภมู ศิ าสตร์ทางกายภาพของประเทศไทยของประเทศไทย ท่สี ง่ ผลตอ่ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมตา่ งๆ เช่นลาคลอง หนองบงึ ทะเล อ่นื ๆ 1.5.1 อธิบายความสาคัญของสภาพภมู ิศาสตร์ทางกายภาพของประเทศไทยที่ส่งผลตอ่ สิ่งมชี วี ติ ได้ ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเขา้ ใจ)

13.ปัจจยั พ้นื ฐานลาดับแรกท่ีมผี ลต่อการต้งั ถิ่นฐานของมนษุ ย์ คืออะไร ก. ลกั ษณะสงั คม ข. ภาพภูมศิ าสตร์ ค. ภาวะเศรษฐกจิ ง.แนวทางการปกครอง เฉลย ก. ลกั ษณะสงั คม อธบิ าย ลกั ษณะภูมปิ ระเทศส่วนใหญเ่ ป็นที่ราบล่มุ แมน่ ้ากว้างใหญ่เปน็ ท่รี าบมีความอดุ มสมบรู ณ์มากท่ีสดุ เพราะเกิดการทบั ถมของตะกอน เปน็ แหล่งที่เหมาะกับการทการเกษตรทานาท่ีใหญ่ท่สี ุด บทท่ี 1 ภมู ศิ าสตร์กายภาพทวีปเอเชยี เร่ืองท่ี 1.5 ภูมิศาสตรท์ างกายภาพของประเทศไทยของประเทศไทย ท่สี ง่ ผลตอ่ ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ มต่างๆ เชน่ ลาคลอง หนองบึง ทะเล อ่นื ๆ 1.5.1 อธิบายความสาคญั ของสภาพภูมศิ าสตรท์ าง กายภาพของประเทศไทยทสี่ ่งผลต่อสงิ่ มชี วี ติ ได้ ( พฤติกรรมการวัด : ความเข้าใจ)

14.ประเทศมองโกเลียอยู่ในภูมิภาคใด ก. เอเชียใต้ ข. เอเชียกลาง ค. เอเชยี ตะวันออก ง. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เฉลย ค.เอเชียตะวนั ออก อธบิ าย ลกั ษณะภูมปิ ระเทศสว่ นใหญเ่ ปน็ ทร่ี าบลมุ่ แมน่ ้ากวา้ งใหญเ่ ป็นทรี่ าบมีความอุดมสมบรู ณ์มากทีส่ ุด เพราะเกดิ การทับถมของตะกอน เป็นแหล่งท่เี หมาะกบั การทการเกษตรทานาท่ใี หญท่ ส่ี ดุ บทท่ี 1 ภูมศิ าสตร์กายภาพทวีปเอเชยี เรอ่ื งท่ี 1.5 ภมู ิศาสตรท์ างกายภาพของประเทศไทยของประเทศไทย ที่สง่ ผลต่อ ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมต่างๆ เช่นลาคลอง หนองบึง ทะเล อ่ืนๆ 1.5.1 อธิบายความสาคญั ของสภาพภมู ศิ าสตร์ทางกายภาพของประเทศไทยทส่ี ่งผลตอ่ ส่ิงมชี วี ติ ได้ ( พฤตกิ รรมการวดั : ความ เข้าใจ)

15.ภูมภิ าคใด เคยเปน็ ส่วนหนง่ึ ของประเทศรสั เซียมากอ่ น ก. เอเชียใต้ ข. เอเชียกลาง ค. เอเชียตะวันออก ง. เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เฉลย ข.เอเชยี กลาง อธบิ าย ภูมอิ ากาศของทเิ บตมลี กั ษณะหลากหลาย เชน่ ในเขตทีร่ าบสงู ทางตอนเหนอื ของทิเบตมสี ภาพภูมอิ ากาศหนาวเย็นและ แหง้ แลง้ ฤดูหนาวมีอุณหภมู ิเฉล่ยี ลบ 10 ถึง 20 องศาเซลเซียส ขณะทฤ่ี ดูร้อนมอี ุณหภูมติ า่ กวา่ 10 องศา ความช้ืนในอากาศ ตลอดปตี า่ กว่า 200 มิลลิเมตร ส่วนในเขตเทือกเขาทางตอนใต้และตะวันออกของทเิ บต มอี ากาศอบอุน่ และชนื้ เชน่ เมอื งลาซา หลินจือ เปน็ ตน้ ในช่วงฤดหู นาวมีอณุ หภูมลิ บ 2 ถึง 8 องศาเซลเซยี ส ขณะที่ฤดรู อ้ นจะอยู่ท่ี 15 ถงึ 20 องศาเซลเซยี ส ความช้นื ใน อากาศประมาณ 438 ถึง 1000 มลิ ลเิ มตร บทที่ 1 ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพทวปี เอเชีย เรือ่ งท่ี 1.5 ภมู ศิ าสตรท์ างกายภาพของประเทศไทยของ ประเทศไทย ท่สี ่งผลต่อทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมต่างๆ เชน่ ลาคลอง หนองบงึ ทะเล อืน่ ๆ 1.5.2 อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของสภาพภมู ิศาสตรท์ าง กายภาพท่มี ีต่อการเกดิ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในทวีปเอเชียได้ ( พฤติกรรมการวดั : ความเข้าใจ)

16.เทอื กเขาหมิ าลยั เป็นพรมแดนธรรมชาตทิ ่ีก้นั ระหว่างภูมิภาคใด ก. เอเชียใต้ – เอเชยี กลาง เฉลย ข.เอเชยี ตะวนั ออก – เอเชยี ใต้ อธบิ าย เทอื กเขาทแี่ ยกไปทางทิศตะวนั ออก ได้แก่ เทอื กเขาหิมาลยั ข. เอเชียตะวันออก – เอเชยี ใต้ เทอื กเขาอาระกันโยมาและเทือกเขา ที่มแี นวต่อเนื่องลงมาทางใต้ มีบางส่วนท่ี จมหายไปในทะเลและบางส่วนโผลข่ ึน้ มาเปน็ เกาะในมหาสมุทรอินเดีย และ มหาสมุทรแปซฟิ ิก ถดั จากเทือกเขาหิมาลยั ขน้ึ ไปทางเหนอื มีเทอื กเขาทแ่ี ยก ค.เอเชยี กลาง – เอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต้ ไปทางตะวันออก ได้แก่ เทือกเขาคุนลนุ เทอื กเขาอลั ตินตกั เทอื กเขานานซาน และแนวท่แี ยกไปทางทิศตะวันออกเฉยี งเหนือ ไดแ้ ก่ เทือกเขาเทียนชาน ง. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – เอเชยี เทือกเขาอลั ไต เทอื กเขาคินแกน เทอื กเขายาโบลนอย เทอื กเขาสตาโนวอย และเทอื กเขาโกลี มา เทอื กเขาที่แยกไปทางทศิ ตะวันตกแยกเป็นแนวเหนือ และแนวใต้ แนวเหนอื ไดแ้ ก่ เทอื กเขาฮนิ ดูกชู เทอื กเขาเอลบูชร์ สว่ นแนวทิศ ใต้ ไดแ้ ก่ เทือกเขาสุไลมาน เทือกเขาซากรอส ซึง่ เม่ือเทือกเขาทัง้ 2 นี้ มา บรรจบกัน ทอ่ี ารเ์ มเนียนนอตแลว้ ยงั แยกออกอีกเป็น 2 แนวในเขตประเทศ ตุรกี คอื แนวเหนือเป็นเทอื กเขาปอนติกและ แนวใตเ้ ปน็ เทือกเขาเตารสั ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเข้าใจ)

17.เขตท่เี หมาะสมในการตง้ั ถ่ินฐานของภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออก คือบริเวณใด ก. ทีร่ าบสูงและหมู่เกาะ ข. เทือกเขาและทร่ี าบสูง ค. ที่ราบลุม่ แม่น้าและเทือกเขา ง. ท่ีราบลุ่มแมน่ ้าและชายฝ่ังทะเล เฉลย ค. ท่ีราบลมุ่ แมน่ า้ และเทือกเขา อธิบาย เทอื กเขาทแ่ี ยกไปทางทิศตะวนั ออก ได้แก่ เทอื กเขาหิมาลัย เทือกเขาอาระกันโยมาและเทอื กเขา ทมี่ ีแนว ต่อเน่ืองลงมาทางใต้ มบี างสว่ นท่ีจมหายไปในทะเลและบางส่วนโผลข่ ึน้ มาเป็นเกาะในมหาสมุทรอินเดยี และ มหาสมทุ รแปซิฟกิ ถดั จากเทอื กเขาหิมาลัยขนึ้ ไปทางเหนือมเี ทอื กเขาทีแ่ ยกไปทางตะวนั ออก ได้แก่ เทอื กเขาคนุ ลุน เทือกเขาอัลตินตกั เทอื กเขานานซานและแนวท่แี ยกไปทางทิศตะวันออกเฉยี งเหนอื ไดแ้ ก่ เทอื กเขาเทยี นชาน เทอื กเขาอลั ไต เทือกเขาคินแกน เทอื กเขายาโบลนอย เทือกเขาสตาโนวอยและเทอื กเขาโกลี มา เทือกเขาทีแ่ ยก ไปทางทิศตะวันตกแยกเปน็ แนวเหนอื และแนวใต้ แนวเหนอื ไดแ้ ก่ เทือกเขาฮินดูกชู เทือกเขาเอลบูชร์ ส่วนแนว ทศิ ใต้ ได้แก่ เทือกเขาสุไลมาน เทือกเขาซากรอส ซ่ึงเมอื่ เทอื กเขาทั้ง 2 นี้ มาบรรจบกนั ทีอ่ ารเ์ มเนียนนอตแล้ว ยงั แยกออกอีกเป็น 2 แนวในเขตประเทศตรุ กี คือ แนวเหนอื เป็นเทอื กเขาปอนติกและ แนวใต้เปน็ เทอื กเขาเตารัส ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเข้าใจ)

18.การมีภูเขาสูงทางใตแ้ ละทางตะวันตก ประกอบกับมที ะเลทรายกวา้ งใหญ่ ทางเหนือ ก่อให้เกดิ ผลดตี ่อภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกอย่างไร ก. ไมม่ ีศตั รมู ารกุ ราน ข. เปน็ แหล่งกาเนดิ วีรบุรษุ ค. เปน็ แหลง่ ตงั้ ถิ่นฐานยุคเรมิ่ แรก ง. เปน็ แหลง่ เกษตรกรรมทสี่ าคัญ เฉลย ก. ไมม่ ีศัตรูมารุกราน อธิบาย เอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ดนิ แดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คอื ประเทศ บนคาบสมทุ รมลายู คาบสมทุ รอินโดจนี เกาะตา่ ง ๆ ในมหาสมุทรอนิ เดยี และ มหาสมุทรแปซิฟกิ เอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ประกอบด้วย – ประเทศต่าง ๆ ใน แผน่ ดินใหญ่ ได้แก่ สาธารณรฐั แหง่ สหภาพพม่า ไทย สาธารณรฐั ประชาธิปไตย ประชาชนลาว กมั พชู าและเวยี ดนาม – ประเทศต่าง ๆ ในทะเล ไดแ้ ก่ มาเลเซีย ฟลิ ปิ ปินส์ สงิ คโปร์ อินโดนีเซีย บรไู นและติมอร์ ตะวนั ออก (ตมิ อร์ - เลสเต) ประเทศอินโดนเี ซยี แยกได้เป็น 2 ส่วน โดยมที ะเลจีนใตค้ ั่นกลาง ทงั้ สองสว่ นมที งั้ พน้ื ทท่ี เ่ี ปน็ แผ่นดนิ ใหญ่และเกาะ ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเข้าใจ)

19.ชนกลุ่มใดที่สนั นษิ ฐานว่า เป็นเจา้ ของอารยธรรมดง้ั เดิมในเอเชียใต้ ก. พวกอารยนั ข. พวกสิงหล ค. พวกอาหรับ ง. พวกดราวิเดยี น เฉลย ง.พวกดราวเิ ดยี น อธิบาย เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ดินแดนในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ คอื ประเทศบนคาบสมทุ รมลายู คาบสมุทรอินโดจนี เกาะตา่ ง ๆ ในมหาสมทุ ร อนิ เดียและมหาสมุทรแปซิฟกิ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ประกอบดว้ ย – ประเทศต่าง ๆ ในแผน่ ดินใหญ่ ไดแ้ ก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพมา่ ไทย สาธารณรัฐ ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว กมั พูชาและเวียดนาม – ประเทศ ตา่ ง ๆ ในทะเล ไดแ้ ก่ มาเลเซีย ฟลิ ปิ ปนิ ส์ สงิ คโปร์ อินโดนีเซีย บรูไนและ ติมอร์ ตะวนั ออก (ติมอร์ - เลสเต) ประเทศอนิ โดนีเซยี แยกได้เป็น 2 สว่ น โดยมที ะเลจนี ใต้ค่นั กลาง ท้งั สองส่วนมีท้งั พ้ืนทที่ ่เี ปน็ แผน่ ดนิ ใหญ่และ เกาะ ( พฤตกิ รรมการวดั : ความเข้าใจ)

20. ภยั ธรรมชาติในขอ้ ใด ท่ีประชาชนในเอเชยี ใตต้ อนลา่ งประสบอยเู่ สมอ ก.พายไุ ตฝ้ ่นุ ข.พายุไซโคลน ค.พายุเฮอรเิ คน ง.พายุทอรน์ าโด เฉลย ข. พายุไซโคลน อธิบาย พายุไซโคลน (cyclone) เปน็ ชือ่ พายหุ มนุ ทเี่ กิดในมหาสมุทรอนิ เดยี เหนือ เชน่ บรเิ วณอ่าว เบงกอล ทะเลอาหรับ เปน็ ตน้ แตถ่ า้ พายนุ ้เี กิดบริเวณ ทะเลตมิ อร์และทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศ ออสเตรเลยี จะเรยี กวา่ พายวุ ลิ ลี - วิลลี (willy-willy) ( พฤติกรรมการวดั : ความเขา้ ใจ)

21.เพราะเหตใุ ดปจั จยั ทางภูมิศาสตรจ์ งึ ส่งผลทาให้ดนิ แดนเอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต้เต็มไปดว้ ยปญั หา ก. การมีหลายเชอื้ ชาติ ศาสนา ข. การมีอาชีพเรร่ ่อนไปตามที่ต่างๆ ค. การแกง่ แยง่ ดนิ แดนท่อี ุดมสมบรู ณ์ ง. การหลบหนีไปจากดนิ แดนทรุ กนั ดาร เฉลย ค. การแกง่ แย่งดินแดนท่ีอดุ มสมบูรณ์ อธิบาย ภูมิอากาศของทิเบตมลี กั ษณะหลากหลาย เช่น ในเขตทีร่ าบสูงทางตอนเหนือของทเิ บตมสี ภาพภมู อิ ากาศหนาวเยน็ และแหง้ แล้ง ฤดูหนาวมี อณุ หภมู ิเฉล่ยี ลบ 10 ถงึ 20 องศาเซลเซียส ขณะทฤ่ี ดูรอ้ นมอี ณุ หภมู ิต่ากวา่ 10 องศา ความชื้นในอากาศตลอดปีต่ากว่า 200 มิลลิเมตร ส่วนในเขต เทอื กเขาทางตอนใตแ้ ละตะวันออกของทิเบต มีอากาศอบอ่นุ และชน้ื เชน่ เมอื งลาซา หลินจือ เปน็ ต้น ในช่วงฤดูหนาวมีอุณหภมู ิลบ 2 ถึง 8 องศา เซลเซยี ส ขณะทฤ่ี ดรู ้อนจะอย่ทู ี่ 15 ถึง 20 องศาเซลเซียส ความช้นื ในอากาศประมาณ 438 ถึง 1000 มิลลิเมตร บทท่ี 1 ภมู ศิ าสตร์กายภาพทวีป เอเชีย เรอ่ื งท่ี 1.5 ภูมศิ าสตรท์ างกายภาพของประเทศไทยของประเทศไทย ทสี่ ง่ ผลต่อทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มตา่ งๆ เชน่ ลาคลอง หนองบงึ ทะเล อืน่ ๆ 1.5.2 อธบิ ายความสมั พนั ธ์ของสภาพภมู ศิ าสตร์ทางกายภาพท่ีมตี อ่ การเกดิ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทวีปเอเชียได้ ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเข้าใจ) ( พฤติกรรมการวัด : ความเขา้ ใจ)

22.เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เป็นภมู ิภาคทีม่ คี วามสาคัญด้านสงั คมวฒั นธรรม ตรงกบั ข้อใด ก. เปน็ จดุ เชอื่ มตอ่ ของ 3 ทวีป ข. เป็นแหลง่ ทรัพยากรนา้ มัน ค. เป็นแหล่งกาเนิดศาสนาอิสลาม ง. เป็นจุดเรม่ิ ต้นอารยธรรมท่เี ปน็ เฉลย ค.เปน็ แหลง่ กาเนิดศาสนาอิสลาม อธบิ าย เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ดนิ แดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คอื ประเทศบนคาบสมทุ รมลายู คาบสมทุ รอิน โดจีน เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซฟิ ิก เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ประกอบด้วย – ประเทศตา่ ง ๆ ในแผ่นดินใหญไ่ ดแ้ ก่ สาธารณรัฐแหง่ สหภาพพม่า ไทย สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว กมั พชู าและ เวยี ดนาม – ประเทศต่าง ๆ ในทะเล ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลปิ ปินส์ สิงคโปร์ อนิ โดนเี ซีย บรไู นและติมอร์ ตะวนั ออก (ติมอร์ - เลสเต) ประเทศอนิ โดนีเซยี แยกไดเ้ ปน็ 2 ส่วน โดยมีทะเลจีนใตค้ ั่นกลาง ทัง้ สองส่วนมีทั้ง พน้ื ทที่ ่ีเปน็ แผ่นดนิ ใหญ่และเกาะ ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเขา้ ใจ)

23. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ปจั จัยสาคัญท่ีทาให้เอเชียกลางประสบปัญหา ในดา้ นการพฒั นาเศรษฐกจิ ก.มพี น้ื ท่ไี ม่ตดิ ทะเล ข.ขนาดพน้ื ท่ีกวา้ งใหญ่เกนิ ไป ค.ไม่มีสินค้าเป็นทตี่ ้องการของตลาดโลก ง.อยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางเศรษฐกจิ เฉลย ข.ขนาดพ้ืนท่ีกวา้ งใหญ่เกินไป อธิบาย เรื่องท่ี 1 ลกั ษณะทางภูมศิ าสตรก์ ายภาพของประเทศในทวปี เอเชีย 1.1 ท่ีตง้ั และอาณาเขต ทวีปเอเชียเป็นทวีปท่ีมขี นาดใหญ่ทีส่ ดุ ในโลก มีพ้ืนทีป่ ระมาณ 44,648,953 ลา่ นตาราง กโิ ลเมตร มีดนิ แดนท่ีต่อเน่ืองกับทวปี ยโุ รปและทวีปแอฟริกา แผ่นดนิ ของทวีปยุโรปกบั ทวีปเอเชีย ทตี่ ่อเนือ่ งกนั เรียก รวมว่า ยูเรเชยี พ้นื ที่ส่วนใหญอ่ ยเู่ หนอื เส่นศูนย์สูตรมที าเลท่ตี ั้งตามพิกดั ภมู ิศาสตร์ คอื จากละตจิ ูด 11 องศาใต้ ถงึ ละติจูด 77 องศา 41 ลิปดาเหนือ บรเิ วณแหลมเชลยูสกนิ (Chelyuskin) สหพันธรฐั รัสเซยี และจากลองจิจดู ที่ 26 องศา 04 ลิปดาตะวันออก บรเิ วณแหลมบาบา (Baba) ประเทศตรุ กี ถึงลองจิจดู 169 องศา 30 ลิปดาตะวนั ตก ที่ บริเวณแหลมเดชเนฟ (Dezhnev) สหพันธรฐั รสั เซีย โดยมอี าณาเขตติดต่อกบั ดนิ แดนต่าง ๆ ( พฤติกรรมการวัด : ความเขา้ ใจ)

24. เอเชยี กลาง มีความผูกพนั ด้านวฒั นธรรมกบั ภูมภิ าคใดมากท่สี ุด ก. เอเชียใต้ ข. เอเชียกลาง ค. เอเชยี ตะวันออก ง. เอเชยี ตะวนั ตกเฉยี งใต้ เฉลย ง.เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ อธิบาย การแบ่งภูมิภาค ทวปี เอเชยี นอกจากจะเปน็ อนภุ มู ิภาคของทวีปยเู รเชีย ยงั อาจแบ่งออกเปน็ ส่วนยอ่ ย ดังนี้ เอเชียเหนือ หมายถงึ รัสเซยี เรยี กอีก อยา่ งวา่ ไซบีเรีย บางครง้ั รวมถึงประเทศทางตอนเหนอื ของ เอเชยี ดว้ ย เช่น คาซัคสถาน ( พฤติกรรมการวัด : ความเขา้ ใจ)

25.แหล่งอารยธรรมในทวปี เอเชยี ส่วนใหญ่ตงั้ อยบู่ ริเวณใด ก. แม่น้า ข. ภูเขาสูง ค. ท่ีราบเชงิ เขา ง. ที่ราบชายฝั่งทะเล เฉลย ก.แมน่ า้ อธบิ าย การแบง่ ภูมิภาค ทวปี เอเชียนอกจากจะเป็นอนภุ มู ิภาคของทวปี ยเู ร เชยี ยงั อาจแบ่งออกเป็นส่วนยอ่ ย ดงั น้ี เอเชยี เหนอื หมายถงึ รัสเซยี เรยี ก อีกอย่างวา่ ไซบีเรีย บางครงั้ รวมถงึ ประเทศทางตอนเหนือของ เอเชยี ด้วย เชน่ คาซคั สถาน ( พฤติกรรมการวัด : ความเข้าใจ)

26. หากแหล่งอารยธรรมในภมู ิภาคเอเชียยังคงดารงอยู่ อารยธรรมใดทจี่ ะแพรห่ ลายท่สี ดุ ก. อารยธรรมเมโสโปเตเมีย ข. อารยธรรมอสิ ลาม ค. อารยธรรมอินเดีย ง. อารยธรรมจนี เฉลย ง. อารยธรรมจนี อธิบาย การแบง่ ภูมภิ าค ทวปี เอเชียนอกจากจะเปน็ อนภุ ูมภิ าคของทวปี ยูเร เชีย ยงั อาจแบ่งออกเปน็ ส่วนยอ่ ย ดงั นี้ เอเชียเหนอื หมายถงึ รสั เซยี เรยี ก อกี อยา่ งวา่ ไซบีเรีย บางคร้งั รวมถึงประเทศทางตอนเหนือของ เอเชยี ด้วย เช่น คาซัคสถาน ( พฤติกรรมการวัด : ความเข้าใจ)

27.ประเทศไทยไดร้ บั อารยธรรมจากแหลง่ ใดมากทส่ี ุด ก. อารยธรรมจีน ข. อารยธรรมอิสลาม ค. อารยธรรมอินเดยี ง. อารยธรรมเมโสโปเตเมีย เฉลย ค.อารยธรรมอินเดยี อธบิ าย การแบ่งภูมภิ าค ทวปี เอเชียนอกจากจะเปน็ อนุภมู ภิ าคของทวปี ยเู ร เชยี ยงั อาจแบง่ ออกเป็นสว่ นย่อย ดังนี้ เอเชียเหนอื หมายถึง รัสเซยี เรียก อกี อย่างวา่ ไซบีเรีย บางคร้งั รวมถึงประเทศทางตอนเหนอื ของ เอเชยี ดว้ ย เช่น คาซคั สถาน ( พฤติกรรมการวดั : ความเขา้ ใจ)

28.ปญั หาท่อี ารยธรรมในเอเชียใตต้ ้องเผชญิ กบั การสูญเสยี คอื อะไร ก. ภยั ธรรมชาติ เฉลย ค.ภัยจากการขัดแยง้ ทางศาสนา ข. ภัยจากการก่อการรา้ ย ค. ภัยจากการขดั แย้งทางศาสนา อธบิ าย เร่ืองที่ 1 ลกั ษณะทางภมู ิศาสตร์กายภาพของประเทศในทวีป ง. ภัยจากจานวนประชากรมากเกินไป เอเชีย 1.1 ท่ตี งั้ และอาณาเขต ทวีปเอเชียเปน็ ทวีปทม่ี ีขนาดใหญท่ ีส่ ุดในโลก มี พน้ื ที่ประมาณ 44,648,953 ล่านตารางกิโลเมตร มีดินแดนท่ตี ่อเนอื่ งกับ ทวีปยุโรปและทวปี แอฟริกา แผ่นดินของทวีปยโุ รปกับทวีปเอเชีย ท่ี ต่อเนอื่ งกนั เรยี กรวมวา่ ยเู รเชีย พื้นที่สว่ นใหญ่อยเู่ หนือเส่นศนู ย์สูตรมที าเล ที่ตงั้ ตามพิกัดภูมิศาสตร์ คือ จากละตจิ ูด 11 องศาใต้ ถึงละตจิ ูด 77 องศา 41 ลปิ ดาเหนือ บรเิ วณแหลมเชลยสู กนิ (Chelyuskin) สหพันธรัฐรัสเซีย และจากลองจิจดู ที่ 26 องศา 04 ลปิ ดาตะวนั ออก บริเวณแหลมบาบา (Baba) ประเทศตุรกี ถงึ ลองจจิ ดู 169 องศา 30 ลปิ ดาตะวันตก ท่บี ริเวณ แหลมเดชเนฟ (Dezhnev) สหพันธรฐั รสั เซยี โดยมอี าณาเขตตดิ ตอ่ กบั ดินแดนต่าง ๆ ( พฤติกรรมการวัด : ความเขา้ ใจ)

29.ภูมอิ ากาศแบบใดของทวปี อเมรกิ าใต้ท่คี ลา้ ยคลงึ กบั บรเิ วณ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือของประเทศ ไทย ก. แบบท่สี ูง เฉลย ง. แบบทุ่งหญา้ เขตรอ้ น ข. แบบเมดิเตอรเ์ รเนยี ค. แบบทงุ่ หญา้ สเตปป์ อธิบาย เร่อื งท่ี 1 ลกั ษณะทางภมู ิศาสตรก์ ายภาพของประเทศในทวีป ง. แบบทุ่งหญ้าเขตร้อน เอเชยี 1.1 ที่ต้ังและอาณาเขต ทวีปเอเชียเปน็ ทวปี ท่ีมีขนาดใหญท่ สี่ ุดในโลก มี พนื้ ทีป่ ระมาณ 44,648,953 ล่านตารางกิโลเมตร มดี ินแดนท่ีตอ่ เนอื่ งกับ ทวีปยุโรปและทวปี แอฟรกิ า แผ่นดินของทวีปยโุ รปกับทวีปเอเชยี ที่ ต่อเน่อื งกัน เรยี กรวมวา่ ยูเรเชยี พ้นื ที่สว่ นใหญอ่ ยเู่ หนือเส่นศนู ยส์ ูตรมที าเล ทตี่ ั้งตามพกิ ัดภมู ิศาสตร์ คือ จากละติจูด 11 องศาใต้ ถงึ ละตจิ ดู 77 องศา 41 ลิปดาเหนอื บริเวณแหลมเชลยูสกิน (Chelyuskin) สหพนั ธรฐั รัสเซีย และจากลองจิจูดท่ี 26 องศา 04 ลิปดาตะวันออก บรเิ วณแหลมบาบา (Baba) ประเทศตุรกี ถงึ ลองจิจูด 169 องศา 30 ลิปดาตะวนั ตก ที่บริเวณ แหลมเดชเนฟ (Dezhnev) สหพันธรฐั รสั เซีย โดยมีอาณาเขตติดตอ่ กับ ดนิ แดนต่าง ๆ ( พฤติกรรมการวดั : ความเขา้ ใจ)

30.ภูมอิ ากาศแบบอบอุน่ ชนื้ มลี กั ษณะอากาศเป็น อย่างไร ก. อากาศเย็นสบายตลอดปี ข. มีอากาศร้อนและฝนตกชุก ค. ฝนตกมากในฤดรู อ้ นและอบอุ่นในฤดูหนาว ง. ฝนตกชกุ ในฤดูร้อนและแหง้ แล้งในฤดูหนาว เฉลย ค. ฝนตกมากในฤดรู อ้ นและอบอ่นุ ในฤดหู นาว อธบิ าย การเปล่ียนแปลงทางภมู ิศาสตร์ก่อใหเ้ กดิ ความเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ ทั้ง ภมู ิประเทศและ ภมู อิ ากาศในประเทศไทยและประเทศในทวีปเอเชยี สว่ นมากเกิด จากปรากฏการณต์ ามธรรมชาตแิ ละเกิดผล กระทบต่อประชาชนท่อี าศัยอยู่ รวมทัง้ สงิ่ ก่อสรา้ งปรากฏการณต์ า่ ง ๆ ( พฤติกรรมการวัด : ความเข้าใจ)

31. การเกิดแผ่นดินไหวแต่ละครัง้ ทเ่ี กดิ ความ เสียหายมากจะเปน็ บริเวณใด ก. ตามผิวโลก ข. บริเวณใกล้จดุ ศนู ย์ เฉลย ง. บรเิ วณที่เหนอื จุดศนู ย์หรือจุดกาเนดิ ผิว ค. บรเิ วณจุดศูนย์กลางโลก ง. บริเวณทเี่ หนอื จดุ ศนู ย์หรอื จดุ กาเนิดผวิ อธิบาย การเกิดแผน่ ดนิ ไหว แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณธ์ รรมชาตทิ เ่ี กดิ จากการเคล่อื นทข่ี อง แผน่ เปลอื กโลก (แนวระหวา่ งรอยต่อธรณีภาค) ทาให้ เกิดการเคลื่อนตัวของชน้ั หนิ ขนาดใหญ่เล่อื นเคลื่อนที่ หรอื แตกหกั และเกดิ การโอนถ่ายพลังงานศกั ย์ผา่ นในชน้ั หนิ ทอี่ ยู่ตดิ กนั พลังงานศกั ยน์ ี้อยใู่ นรูป เคลื่อนไหว สะเทือน จดุ ศนู ย์กลางการเกิดแผน่ ดินไหว (focus) มกั เกดิ ตาม รอยเลอ่ื น อยู่ในระดบั ความลึกตา่ ง ๆ ของ ผวิ โลก สว่ นจดุ ทอี่ ยูใ่ นระดบั สูง กว่า ณ ตาแหน่งผวิ โลก เรยี กว่า “จดุ เหนอื ศนู ยก์ ลางแผ่นดนิ ไหว” (epicenter) การสน่ั สะเทือนหรือแผ่นดินไหวนจี้ ะถูกบนั ทกึ ดว้ ยเครอ่ื งมอื ท่ี เรยี กวา่ ไซส์โมกราฟ ( พฤตกิ รรมการวดั : ความเข้าใจ)

32.ในอดีตทผ่ี า่ นมาประเทศใดตอ่ ไปนท้ี ีเ่ กิด แผ่นดินไหวรุนแรงมผี ู้คนเสยี ชวี ติ จานวนมากที่สดุ ก. อินเดยี ข. องั กฤษ เฉลย ก. อนิ เดยี ค. ออสเตรเลีย ง. อินโดนีเซีย อธิบาย การเกิดแผน่ ดินไหว แผ่นดินไหวเปน็ ปรากฏการณ์ ธรรมชาติทีเ่ กดิ จากการเคลื่อนทขี่ อง แผน่ เปลือกโลก (แนว ระหวา่ งรอยตอ่ ธรณภี าค) ทาใหเ้ กดิ การเคลื่อนตัวของช้นั หนิ ขนาด ใหญ่เล่อื นเคลอื่ นที่ หรือแตกหักและเกิดการโอนถ่ายพลังงานศักย์ ผ่านในชนั้ หนิ ทอี่ ยู่ตดิ กนั พลงั งานศักยน์ อ้ี ยู่ในรปู เคล่อื นไหว สะเทอื น จุดศูนยก์ ลางการเกิดแผน่ ดินไหว (focus) มักเกดิ ตาม รอยเลอื่ น อยูใ่ นระดับความลึกตา่ ง ๆ ของ ผิวโลก ส่วนจดุ ทีอ่ ยใู่ น ระดบั สูงกวา่ ณ ตาแหนง่ ผวิ โลก เรยี กว่า “จดุ เหนอื ศูนยก์ ลาง แผน่ ดินไหว” (epicenter) การส่ันสะเทือนหรือแผน่ ดินไหวนี้จะ ถกู บันทกึ ดว้ ยเครอื่ งมือทเี่ รียกวา่ ไซสโ์ มกราฟ ( พฤติกรรมการวดั : ความเข้าใจ)

33.ผลจากการท่ีโลกรอ้ นขนึ้ เปน็ ต้นเหตุให้น้าแขง็ ข้ัวโลกละลายและจะส่งผลใดตามมา ก. ฝนตกมากข้นึ ข. พันธป์ุ ลาจะหายไป1 ใน 3 ค. นา้ ท่วมชายฝ่ัง ง. ปา่ ไมถ้ กู ทาลาย เฉลย ค. น้าทว่ มชายฝ่ัง อธบิ าย การเกิดแผน่ ดินไหว แผน่ ดินไหวเปน็ ปรากฏการณ์ธรรมชาตทิ ี่เกิดจากการเคล่อื นที่ ของ แผ่นเปลือกโลก (แนวระหวา่ งรอยต่อธรณีภาค) ทาใหเ้ กิดการเคล่อื นตัวของชัน้ หินขนาด ใหญเ่ ล่ือนเคล่ือนที่ หรือแตกหกั และเกดิ การโอนถ่ายพลังงานศักยผ์ า่ นในช้ันหินท่อี ยู่ตดิ กัน พลงั งานศักยน์ ีอ้ ยใู่ นรูปเคลือ่ นไหว สะเทอื น จุดศนู ย์กลางการเกิดแผ่นดนิ ไหว (focus) มกั เกิดตามรอยเล่อื น อย่ใู นระดบั ความลกึ ตา่ ง ๆ ของ ผิวโลก สว่ นจดุ ท่ีอย่ใู นระดบั สงู กวา่ ณ ตาแหนง่ ผิวโลก เรยี กวา่ “จดุ เหนือศนู ยก์ ลางแผน่ ดินไหว” (epicenter) การส่นั สะเทือน หรอื แผ่นดินไหวนีจ้ ะถกู บนั ทกึ ดว้ ยเครอ่ื งมือท่ีเรยี กวา่ ไซสโ์ มกราฟ ( พฤตกิ รรมการวดั : ความเขา้ ใจ)

34.ปัจจัยใดทไี่ ม่ไดช้ ว่ ยส่งเสรมิ ความรุนแรงของ แผ่นดินถลม่ ก. ความลาดชันของภูเขา ข. ความสมบูรณ์ของปา่ ไม้ ค. โครงสรา้ งทางธรณวี ทิ ยา ง. จานวนบ้านเรอื นในพน้ื ที่ประสบภยั เฉลย ง. จานวนบา้ นเรอื นในพนื้ ท่ีประสบภยั อธบิ าย การเกิดแผน่ ดนิ ไหว แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณธ์ รรมชาตทิ ีเ่ กิดจากการ เคลอ่ื นทีข่ อง แผน่ เปลอื กโลก (แนวระหวา่ งรอยต่อธรณภี าค) ทาใหเ้ กิดการเคล่อื นตวั ของชน้ั หนิ ขนาดใหญเ่ ล่ือนเคลอื่ นท่ี หรอื แตกหักและเกดิ การโอนถ่ายพลังงานศกั ย์ผ่านในชน้ั หินท่ีอยู่ ตดิ กัน พลงั งานศกั ยน์ อี้ ย่ใู นรปู เคล่ือนไหว สะเทอื น จดุ ศนู ย์กลางการเกดิ แผน่ ดินไหว (focus) มกั เกดิ ตามรอยเลอื่ น อยู่ในระดบั ความลึกต่าง ๆ ของ ผวิ โลก สว่ นจุดทอ่ี ย่ใู นระดบั สงู กวา่ ณ ตาแหนง่ ผิวโลก เรยี กว่า “จุดเหนอื ศูนย์กลางแผน่ ดนิ ไหว” (epicenter) การส่ันสะเทือนหรือ แผน่ ดนิ ไหวนจี้ ะถูกบันทึกดว้ ยเครอื่ งมือทเ่ี รียกว่า ไซส์โมกราฟ ( พฤตกิ รรมการวัด : ความเขา้ ใจ)

35.เครอ่ื งมือและเทคโนโลยีทางภูมิศาสตรข์ อ้ ใดมี ความจาเปน็ นอ้ ยทสี่ ดุ ในการ พยากรณ์ลมฟา้ อากาศ ประจาวัน ก. แผนที่รฐั กิจ, ซสิ โมมเิ ตอร์ เฉลย ก. แผนทร่ี ัฐกจิ , ซิสโมมิเตอร์ ข. บอลลนู , บาโรมิเตอร์ ค. ภาพถ่ายจากดาวเทียม , เรดาร์ อธบิ าย การเกิดแผน่ ดนิ ไหว แผน่ ดินไหวเปน็ ปรากฏการณ์ธรรมชาตทิ ่เี กิด จากการเคล่ือนท่ีของ แผ่นเปลือกโลก (แนวระหว่างรอยตอ่ ธรณีภาค) ทาให้ ง. เคร่ืองบินตรวจอากาศ, แอนนโิ มมิเตอร์ เกดิ การเคลือ่ นตัวของช้ันหนิ ขนาดใหญ่เลื่อนเคลื่อนที่ หรอื แตกหกั และเกิด การโอนถา่ ยพลังงานศกั ย์ผา่ นในชน้ั หินที่อยตู่ ิดกนั พลงั งานศักยน์ ้อี ยูใ่ นรูป เคลอื่ นไหว สะเทือน จดุ ศูนย์กลางการเกดิ แผน่ ดนิ ไหว (focus) มักเกิดตาม รอยเลอ่ื น อย่ใู นระดับความลกึ ตา่ ง ๆ ของ ผวิ โลก สว่ นจดุ ที่อยู่ในระดบั สงู กว่า ณ ตาแหนง่ ผวิ โลก เรียกว่า “จดุ เหนือศูนยก์ ลางแผ่นดินไหว” (epicenter) การสนั่ สะเทือนหรือแผ่นดินไหวน้จี ะถกู บันทึกด้วยเครือ่ งมอื ที่ เรยี กว่า ไซสโ์ มกราฟ ( พฤตกิ รรมการวดั : ความเขา้ ใจ)