Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือปฎิบัติการสอนให้ผู้บริหารครูพี่เลี้ยง

คู่มือปฎิบัติการสอนให้ผู้บริหารครูพี่เลี้ยง

Published by รัตนา อนันต์ชื่น, 2021-12-12 15:04:18

Description: คู่มือปฎิบัติการสอนให้ผู้บริหารครูพี่เลี้ยง

Search

Read the Text Version

สว่ นที่ 1 ข้อมลู ทว่ั ไป การผลิตครูเพ่ือให้ได้ครูท่ีดีมีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นครูนั้น ถ้าจะศึกษาหาความรู้ ภาคทฤษฎีแต่เพียงอยา่ งเดยี วคงจะไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการฝกึ ภาคปฏิบตั ิใหม้ ากเพียงพอจนสามารถปฏิบัติ หน้าท่ีครูได้เป็นอย่างดี มีความม่ันใจและเช่ือม่ันในการทำงาน อันจะนำไปสู่ความรัก ความศรัทธาในอาชีพครู อยา่ งแท้จริง การปฏบิ ัติการสอน 1 และ การปฏิบัติการสอน 2 เป็นกระบวนการภาคปฏบิ ัติ เปรียบเสมือนหวั ใจ ของการผลิตครู เปน็ ประสบการณ์ท่จี ำเปน็ และสำคัญอยา่ งยิง่ เพราะเปน็ ชว่ งสำคญั ที่นักศกึ ษาครูจะได้ตรวจสอบ ตนเอง โดยนำทฤษฎีท่ีได้จากการเรียนรู้ในรายวิชาต่าง ๆ ไปประยุกต์สู่ภาคปฏิบัติ ได้รู้จักเด็กนักเรียน ได้ฝึก การทำงานร่วมกับเพ่ือนนักศึกษาและบุคลากรที่เก่ียวข้องในสถานศึกษา ได้ฝึกความรับผิดชอบ ความอดทน ความมีมนุษย์สัมพันธ์กับผู้อ่ืน ตลอดจนสามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน ดังนั้นการปฏิบัติการสอน 1 และ การปฏิบัติการสอน 2 จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้างานฝึกประสบการณ์วิชาชีพของคณะศึกษาศาสตร์ ท่ีจะต้องกำหนดแผนการ ดำเนนิ งานให้เป็นไปด้วยความเรียบรอ้ ย มปี ระสิทธิภาพ และบรรลุเปา้ หมายท่ีกำหนดไว้ 1. จดุ ม่งุ หมายของการปฏบิ ตั ิการสอน การปฏิบัติการสอนเป็นหัวใจของการเรียนรู้ของวิชาชีพครู งานครูเป็นงานอาชีพเฉพาะหรือเป็นวิชาชีพ ช้ันสูง นักศึกษาควรจะได้ฝึกงานในหน้าท่ีครูอย่างเป็นระบบ ต่อเน่ือง และจริงจัง เพื่อหาประสบการณ์และเกิด ทกั ษะในวิชาชีพโดยแท้จริง จดุ มุ่งหมายของการปฏบิ ัตกิ ารสอน มีดงั น้ี 1.1 เพื่อให้นักศึกษานำทฤษฎีวิชาชีพท่ีได้ศึกษามาไปทดลองฝึกปฏิบัติการสอน จะทำโครงงานวิชาการ และทำการวิจัยในช้นั เรียน ตลอดจนปรับปรุงใช้ให้เหมาะสมกับนักเรยี น และปญั หาที่เกิดขึน้ 1.2 เพ่ือให้นักศึกษาได้ศึกษาและเรียนรู้งานการบริหารและการจัดการชั้นเรียน ตลอดจนปัญหาและ วธิ ีการแกไ้ ข 1.3 เพ่ือให้นักศึกษาปรับตัวเข้ากับสังคมในฐานะท่ีเป็นครู และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนักเรียน ครู อาจารย์ และบุคลากรอื่นๆ ในสถานศึกษา ตลอดจนนักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอนในสถาบันเดียวกัน และต่าง สถาบัน 1.4 เพอ่ื ใหน้ กั ศึกษารับผดิ ชอบตอ่ หน้าทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมายจากสถานศึกษา 1.5 เพ่ือให้นักศึกษาได้ฝึกการเป็นครูท่ีดี รู้จักการปฏิบัติตนตามระเบียบและกฎของสถานศึกษาท่ี นักศึกษาฝึกปฏิบัตกิ ารสอน 1.6 เพื่อสรา้ งความสัมพันธอ์ ันดีระหว่างสถานศึกษาที่นักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอนกับคณะศึกษาศาสตร์ ในวิทยาเขตตา่ งๆของสถาบนั การพลศกึ ษา 1.7 เพื่อให้นักศึกษามีเจตคติที่ดี และตระหนักถึงคุณค่าของวิชาชีพครู ซ่ึงเป็นวิชาชีพช้ันสูงและธำรงไว้ ซึ่งสถาบนั วิชาชีพครู ~1~

2. คำอธิบายรายวิชา กศ 025016 ปฏบิ ัตกิ ารสอน 1 6(360 ช่ัวโมง) การจัดทำแผนการเรียนรู้ตลอดภาคเรียน และปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามวิชาเอก การ จัดการเรียนรู้ในวิชาเอก การวัดและประเมินผลการเรียนรู้และนำผลไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียน การประเมิน ปรับปรุงและศึกษาวิจัยเพ่ือพัฒนาผู้เรียน การนำเสนอประสบการณ์เพือ่ แลกเปลีย่ นเรียนรหู้ รือแบ่งปันความรูใ้ น การสัมมนาการศึกษา การปฎิบัติงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย (วิชาที่ต้องสอบผ่านมาก่อน คือ ฝึกประสบการณ์ วิชาชีพครู 1 และ 2) กศ 025017 ปฏิบตั ิการสอน 2 6(360 ช่ัวโมง) การจดั ทำแผนการเรียนรตู้ ลอดภาคเรยี น และปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษาตามวิชาเอก การ จดั การเรยี นรูใ้ นวิชาเอก การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้และนำผลไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาผู้เรยี น การ ประเมนิ ปรับปรงุ และศึกษาวิจยั เพ่อื พัฒนาผู้เรียน การนำเสนอประสบการณ์เพ่อื แลกเปลยี่ นเรียนรู้หรอื แบ่งปนั ความรูใ้ นการสัมมนาการศึกษา การปฎิบตั งิ านอื่นทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (วิชาทต่ี ้องสอบผา่ นมาก่อน คือ ปฏิบตั ิการ สอน 1) 3. ความสำคัญของการปฏบิ ตั กิ ารสอน การปฏิบัติการสอนในหลกั สูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต (5ปี) คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา เป็น กระบวนการที่มีความสำคัญท่ีนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ จะได้เรียนรู้และพัฒนาการเรียนการสอน และงานใน หน้าที่ครูอย่างเข้มข้นและเป็นรูปธรรม เป็นโอกาสท่ีจะได้นำความรู้และทฤษฎี ไปประยุกต์ใช้ และสร้างองค์ ความรู้ทางการศึกษา เพ่ือสร้างสรรค์และแก้ปัญหาในกระบวนการทำงาน โดยมีครูพี่เลี้ยง อาจารย์นิเทศก์และ ผู้บริหารสถานศึกษา เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือ โดยใช้ระยะเวลาในการฝึกปฏิบัติการสอน ตามหลักสูตรศกึ ษาศาสตรบณั ฑิต (5ปี) เป็นระยะเวลา 1 ปี (2 ภาคเรียนต่อเน่ือง) ตามข้อกำหนดของคุรุสภา เพื่อ ยกระดับมาตรฐานการผลิตครใู ห้สูงขึ้น โดยมุ่งหวังว่านักศึกษาจะมีทักษะในการสอนและปฏิบัติงานในหน้าที่ครู อย่างมีประสิทธิภาพ ดังน้ันคณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขต พื้นท่ีการศึกษาและสถานศึกษาท่ีจัดการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี จึงได้รวมมือกันจัดให้มีการปฏิบัติการ สอนของนกั ศีกษาวิชาชพี ครูขนึ้ 4. การคดั เลอื กสถานศึกษาในการปฏบิ ัติการสอน เกณฑใ์ นการคดั เลือกสถานศึกษาในการปฏบิ ัติการสอน มดี งั นี้ 4.1 ตอ้ งเป็นโรงเรียนหรอื สถานศึกษาท่ไี ด้รบั การรับรองมาตรฐานสถานศกึ ษาจากสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา (สมศ.) ~2~

4.2 ต้องเป็นสถานศึกษาที่มีครูพี่เลี้ยงท่ีมีคุณสมบัติตามที่คุรุสภากำหนด คือ ต้องมีคุณวุฒิและมี ประสบการณ์ตรงกับการปฏิบัติการสอน มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือมีประสบการณ์ในการสอนไม่น้อย กวา่ 3 ปี และตอ้ งมคี ณุ ลกั ษณะของความเป็นครู 4.3 ตอ้ งเปน็ สถานศึกษาทนี่ กั ศกึ ษาและอาจารยน์ เิ ทศก์สามารถเดนิ ทางไดส้ ะดวกและปลอดภยั 4.4 เป็นสถานศึกษาที่สามารถจัดสวัสดิการให้แก่นักศึกษาได้ตามความเหมาะสม เช่น บ้านพัก ห้อง ทำงาน หรือส่งิ อื่นๆ ตามทสี่ ถานศึกษาจะจัดใหไ้ ด้ 4.5 เป็นสถานศึกษาท่ีให้ความร่วมมือในการพัฒนานักศึกษาและพัฒนาผู้เรียนในโรงเรียน เช่น การเข้าร่วม สัมมนาการปฏิบตั ิการสอนกับสถาบันการพลศึกษา และการจดั กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในโรงเรยี น เชน่ การใหค้ วามร่วมมือ ในการจัดทำโครงงานวชิ าการ งานวจิ ยั ในชั้นเรยี น หรอื กิจกรรมอน่ื ๆ ระหวา่ งการปฏบิ ัติการสอน 4.6 คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา จะคัดเลือกสถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับการศึกษาขั้น พ้ืนฐานและสถานศึกษาที่จัดการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรีเพ่ือเข้าร่วมโครงการฝึกปฏิบัติการสอนโดย พิจารณาจากคุณสมบัติของสถานศึกษาท่ีจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของคุรุสภา และดุลยพินิจของ คณะกรรมการฝึกประสบการณว์ ิชาชพี /ปฏบิ ัติการสอน ของสถาบันการพลศึกษา 5. หลกั สตู รคณะศกึ ษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา 5.1 หลักสูตรศกึ ษาศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาพลศึกษา (5ป)ี (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. 2556) 5.1.1 ปรชั ญา หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา(5ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556) เป็น การเตรียมครูพลศึกษาและบุคลากรวิชาชีพทางพลศึกษาตามความต้องการของสังคมให้เป็นผู้มีความรู้ เจตคติ และทักษะท่ีจำเป็นทางวิชาการ และวิชาชีพเพื่อพัฒนาตนเองและสังคมอย่างยั่งยืน 5.2.1 วตั ถุประสงค์ เพ่ือผลิตบัณฑิตทางพลศกึ ษา 1) ให้มีความรู้ เจตคติและทักษะที่ถูกต้อง มีความสามารถด้านความเป็นครูและผู้นำทาง พลศกึ ษา สามารถนำไปใช้ประกอบอาชพี และพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของตนเองและสงั คมได้ 2) ให้เป็นผู้ใฝ่รู้ รู้จักคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลทาง สงั คม และสง่ เสริมปฏิสมั พนั ธก์ ารทำงานรว่ มกนั 3) ให้มีมีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย น้ำใจนักกีฬา มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และสามารถ นำไปใชป้ ฏบิ ัตงิ านให้เกิดประโยชน์ตอ่ ชมุ ชนและสงั คม 4) ที่สามารถนำความรู้ ความเข้าใจ เจตคติและทักษะไปใช้ให้เอ้ืออำนวยต่อการพัฒนา ทอ้ งถิ่นและสอดคลอ้ งกับการพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศไทยในปจั จุบัน ~3~

5.2 หลักสตู รศึกษาศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาสขุ ศึกษา(5ปี) (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. 2556) 5.2.1 ปรชั ญา หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสขุ ศึกษา เป็นการเตรียมครูสุขศึกษา และบุคลากร วิชาชีพสุขศึกษาตามความต้องการของสังคม ให้เป็นผู้มีความรู้ เจตคติ และทักษะที่จำเป็นทางวิชาการ และ วิชาชีพเพื่อพัฒนาตนเองและสังคมอย่างย่ังยืน 5.2.2 วตั ถุประสงค์ เพอื่ ผลติ บณั ฑติ ทางสขุ ศกึ ษา 1) ที่มีความรู้ เจตคติ และทักษะที่ถูกต้อง มีความสามารถด้านความเป็นครูและนักวิชาการ สุขศึกษา สามารถนำไปใชป้ ระกอบอาชีพพฒั นาคณุ ภาพชีวิตของตนเองและสังคมได้ 2) ให้เป็นผู้ใฝ่รู้ รู้จักคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และ ส่งเสรมิ ปฏสิ มั พันธใ์ นการทำงานร่วมกนั 3) ท่ีมีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และสามารถนำไปใช้ปฏิบัติงาน ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสงั คม 4) ท่ีสามารถนำความรู้ ความเข้าใจ เจตคติและทักษะไปใช้ให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนา ท้องถิน่ และสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศไทยในปจั จบุ ัน 5.3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาพลศึกษาสำหรบั เดก็ พิเศษ (5ปี) (หลกั สูตรปรับปรงุ พ.ศ. 2556) 5.3.1 ปรัชญา หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ เป็นการเตรียมครู พลศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ และบุคลากรวิชาชีพทางพลศึกษาสำหรบั เด็กพิเศษตามความต้องการของสังคม ให้ เป็นผู้มีความรู้ เจตคติ และทักษะที่จำเป็นทางวิชาการ และวิชาชีพเพ่ือพัฒนาตนเองและสังคมอย่างยั่งยืน 5.3.2 วัตถุประสงค์ เพอื่ ผลิตบณั ฑิตทางพลศึกษาสำหรบั เด็กพเิ ศษ 1) ท่ีมีความรู้ เจตคติและทักษะที่ถูกต้อง มีความสามารถด้านความเป็นครู และผู้นำทางพล ศกึ ษาสำหรบั เด็กพิเศษ สามารถนำไปใชป้ ระกอบอาชพี และพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตนเองและสังคมได้ 2) ให้เป็นผู้ใฝ่รู้ รู้จักคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา อย่างเป็นระบบ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลทาง สงั คม และส่งเสรมิ ปฏิสัมพันธก์ ารทำงานรว่ มกนั 3) ท่ีมีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย มีน้ำใจนักกีฬา มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และสามารถ ปฏิบัตงิ านใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนและสงั คม 4) ที่สามารถนำความรู้ ความเข้าใจ เจตคติและทักษะไปใช้ให้เอ้ืออำนวยต่อการพัฒนา ท้องถ่ินและสอดคลอ้ งกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศไทยในปจั จบุ นั ~4~

5.4 หลักสตู รศึกษาศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาพลศกึ ษาและสขุ ศึกษา(5ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556) 5.4.1 ปรชั ญา หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา เป็นการเตรียมครูพลศึกษา ครูสุขศึกษา และบุคลากรวิชาชีพทางพลศึกษาและสุขศึกษา ตามความต้องการของสังคมให้เป็นผู้มีความรู้ มี เจตคติ และมีทักษะที่จำเป็นทางวิชาการ และวิชาชีพเพ่ือพัฒนาตนเองและสังคมอย่างยั่งยืน 5.4.2 วตั ถุประสงค์ เพ่อื ผลิตบัณฑิตทางพลศึกษาและสขุ ศกึ ษา 1) ท่ีมีความรู้ เจตคติและทักษะท่ีถูกต้อง มีความสามารถด้านความเป็นครูและผู้นำทาง พลศึกษาและสขุ ศึกษา สามารถนำไปใช้ประกอบอาชพี และพฒั นาคณุ ภาพชีวิตของตนเองและสงั คมได้ 2) ใหเ้ ป็นผูใ้ ฝ่รู้ รจู้ ักคดิ วิเคราะหแ์ ละแก้ปญั หาอย่างเป็นระบบ มีวสิ ัยทัศน์กว้างไกลทางสังคม และส่งเสริมปฏิสมั พนั ธก์ ารทำงานร่วมกัน 3) ท่ีมีคณุ ธรรม จริยธรรม มีวินยั นำ้ ใจนักกีฬา มีจรรยาบรรณในวชิ าชพี และสามารถ นำไปใชป้ ฏิบัติงานให้เกิดประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสงั คม 4) ท่ีสามารถนำความรู้ ความเข้าใจ เจตคติและทักษะไปใช้ให้เอ้ือต่อการพัฒนาท้องถ่ินและ สอดคล้องกบั การพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศชาติในปจั จบุ ัน 6. มาตรฐานประสบการณว์ ชิ าชีพ 6.1 การปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษาในสาขาวชิ าเฉพาะ 6.1.1 สาระการฝกึ ทกั ษะ 1) การบูรณาการความรทู้ ง้ั หมดมาใช้ในการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2) การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ท่ียดึ ผูเ้ รียนเปน็ สำคัญ 3) การจดั กระบวนการเรียนรู้ 4) การเลือกใช้ การผลิตส่ือและนวัตกรรมทส่ี อดคล้องกบั การจัดการเรียนรู้ 5) การใชเ้ ทคนิคและยทุ ธวธิ ใี นการจดั การเรียนรู้ 6) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 7) การทำวจิ ยั ในช้ันเรียนเพือ่ พฒั นาผู้เรียน 8) การนำผลการประเมินมาพัฒนาการจัดการเรียนรแู้ ละพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น 9) การบันทึกและรายงานผลการจดั การเรยี นรู้ 10) การสัมมนาทางการศึกษา 6.1.2 สมรรถนะ 1) สามารถจัดการเรียนร้ใู นสาขาวชิ าเฉพาะ 2) สามารถประเมินปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรใู้ หเ้ หมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียน 3) สามารถทำวจิ ัยในชน้ั เรียนเพื่อพัฒนาผเู้ รยี น ~5~

4) สามารถจดั ทำรายงานผลการจัดการเรียนรแู้ ละการพัฒนาผ้เู รียน 6.2 มาตรฐานการปฏิบัติงานผปู้ ระกอบวชิ าชพี ครู 1) ปฏบิ ัติกจิ กรรมทางวชิ าการเพอ่ื พัฒนาวชิ าชีพครูใหก้ า้ วหน้าอยู่เสมอ 2) ตดั สนิ ใจปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ โดยคำนงึ ถงึ ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กับผู้เรียน 3) มงุ่ มน่ั พัฒนาผู้เรียนให้เติบโตเต็มตามศกั ยภาพ 4) พฒั นาแผนการสอนให้สามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ ริงในช้ันเรยี น 5) พัฒนาสอ่ื การเรียนการสอนใหม้ ปี ระสิทธิภาพอย่เู สมอ 6) จดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนรู้จักคดิ วิเคราะห์ คิดอย่างสร้างสรรค์ โดยเนน้ ผล ถาวรท่เี กิดแกผ่ ูเ้ รยี น 7) รายงานผลการพฒั นาคุณภาพของผู้เรยี นได้อย่างมีระบบ 8) ปฏิบัตติ นเปน็ แบบอยา่ งท่ีดแี ก่ผู้เรียน 9) ร่วมมอื กับผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์ 10) รว่ มมอื กบั ผ้อู ืน่ อยา่ งสร้างสรรค์ในชมุ ชน 11) แสวงหาและใชข้ อ้ มูลขา่ วสารในการพัฒนา 12) สร้างโอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รียนรูใ้ นทกุ สถานการณ์ 7. จรรยาบรรณของวิชาชพี ข้อบังคับคุรสุ ภาวา่ ด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวชิ าชีพ พ.ศ. 2548 กำหนดจรรยาบรรณ ของวชิ พี ครไู ว้ 9 ข้อ ดงั นี้ จรรยาบรรณต่อตนเอง ข้อ 1 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพและ วสิ ยั ทัศน์ ใหท้ นั ต่อการพัฒนาทางวทิ ยาการ เศรษฐกจิ สงั คมและการเมอื งอยเู่ สมอจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ข้อ 2 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพและเป็น สมาชิกท่ีดีขององค์กรวิชาชีพ จรรยาบรรณต่อผรู้ บั บริการ ข้อ 3 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กาลังใจแก่ศิษย์ และผรู้ ับบรกิ ารตามบทบาทหน้าท่โี ดยเสมอหน้า ขอ้ 4 ผู้ประกอบวชิ าชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ ศิษย์และผรู้ บั บริการตามบทบาทหน้าที่อยา่ งเตม็ ความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขอ้ 5 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีท้ังทางกาย วาจา และ จิตใจ ข้อ 6 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จติ ใจ อารมณ์และสงั คมของศิษย์ และผู้รับบริการ ~6~

ขอ้ 7 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรยี กรับหรือ ยอมรบั ผลประโยชน์จากการใชต้ ำแหน่งหนา้ ท่โี ดยมชิ อบ จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชพี ข้อ 8 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเก้ือกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดม่ันใน ระบบคณุ ธรรม สรา้ งความสามคั คีในหมคู่ ณะ จรรยาบรรณต่อสังคม ข้อ 9 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นาในการอนุรักษ์และพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ส่ิงแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดม่ันใน การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข ~7~

สว่ นที่ 2 การดำเนินการปฏบิ ัตกิ ารสอน 1. หลกั เกณฑก์ ารปฏบิ ตั กิ ารสอนในโรงเรียน/สถานศึกษา หลักเกณฑ์ในการปฏิบตั ิการสอนในโรงเรียน/สถานศึกษาฯ มรี ายละเอียดดังน้ี 1.1 นักศกึ ษาเลอื กโรงเรียนเครอื ข่ายการจดั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐานหรือสถานศึกษาที่จัดการศึกษาต่ำ กว่าระดับปรญิ ญาตรีที่มคี ุณภาพท้ังกระบวนการจัดการเรียนการสอนและการบรหิ ารโรงเรยี นที่เป็นเเบบอย่างท่ี ดีแก่นักศึกษาตามมาตรฐานคุรุสภาและโรงเรียน ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาซึ่ง กำหนดโดยคณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตร 1.2 การออกปฏิบัติการสอนนักศึกษาจะต้องเรียนครบทุกรายวิชาตามแผนการเรียนท่ีกำหนดไว้ใน มคอ.2 และสอบผา่ นทุกรายวชิ าในหมวดวิชาชีพครู 1.3 ระยะเวลาการฝึกปฏิบัติการสอนวิชาเอก ไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ติดต่อกัน รวมท้ังมีเวลาปฏิบัติงานในหน้าท่ีครูและเรียนรู้งานอ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ไม่น้อยกว่า 120 ชั่วโมงต่อ ภาคเรียน รวมท้งั ส้นิ ไมน่ อ้ ยกว่า 360 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น 1.4 การนิเทศนักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอนต้องดำเนินงานร่วมกันระหว่างโรงเรียน/สถานศึกษาท่ีเป็น หน่วยปฏิบัตกิ ารสอนและสถาบันการพลศึกษา ประกอบด้วยอาจารย์นิเทศก์จากสถาบันการพลศึกษา ครพู ่ีเล้ียง ท่ีแต่งต้ังโดยโรงเรียน/สถานศึกษาที่เป็นหน่วยปฏิบัติการสอนโดยมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีตรงสาขา หรือเป็นไปตามเประกาศที่คุรุสภากำหนด ผู้อำนวยการโรงเรียน/สถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็น อาจารย์นิเทศก์ท่ัวไป จะต้องทำการนิเทศและดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิดทุกคนที่ปฏิบัติการสอนในโรงเรียนหรือ สถานศึกษาทเี่ ป็นหนว่ ยปฏิบัติการสอน 1.5 การประเมินผล ใช้หลักการประเมินผลร่วมกันระหว่างโรงเรียน/สถานศึกษาท่ีเป็นหน่วย ปฏิบัติการสอนกับสถาบันการพลศึกษา โดยใช้เกณฑ์ตามท่ีสถาบันการพลศึกษากำหนด ทั้งนี้การประเมินผล จะต้องดำเนินใหเ้ สร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนักศกึ ษาปฏบิ ตั ิการสอนเรยี บร้อยแล้ว ~8~

2. แนวปฏบิ ตั กิ ารสอนในโรงเรยี น/สถานศกึ ษา 2.1 การปฏิบัติการสอน 1 สปั ดาหท์ ี่ การปฏิบัติงานของนกั ศกึ ษา เอกสารหลกั ฐานในการนเิ ทศ 1 - ปฐมนิเทศปฏบิ ัตกิ ารสอน 1 - บนั ทกึ ประจำวนั 2 3-4 - รบั หนงั สอื สง่ ตัว - ตารางสอน 5-6 - นกั ศกึ ษาสำรวจสภาพความเปน็ อยูใ่ นโรงเรยี นของตนเอง - แฟม้ สะสมผลงาน 7 ชุมชน แหล่งเรยี นรู้ของโรงเรยี น - ใบลงเวลาปฏบิ ตั ิงาน - จดั ทำแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมายให้สอน - อื่นๆ ทเี่ ก่ียวข้อง - สำรวจตารางสอน - เตรียมการสอน - เร่ิมจดั ทำแฟม้ สะสมงาน - ปฏิบัตกิ ารสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ - บันทึกประจำวัน - ปฏบิ ตั ิงานอืน่ ๆ ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย - แผนการจัดการเรยี นรู้ - อน่ื ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง - ปฏิบัตกิ ารสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ - แนวทางการผลิตส่อื การสอน - ปฏิบตั งิ านอน่ื ๆ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย - หวั ข้อโครงการกจิ กรรมพิเศษ - ภาพถ่าย - บันทกึ ประจำวนั - อื่นๆ ท่เี กีย่ วข้อง - ปฏบิ ัติการสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ - บนั ทึกประจำวัน - ปฏิบัตงิ านอ่ืนๆ ตามท่ีได้รับมอบหมาย - แผนการจัดการเรยี นรู้ - วางแผนการเขียนโครงการทางวิชาการตามสาขาวิชา - อืน่ ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง - วางแผนการเขยี นโครงการวิจัยในชั้นเรียน - ปฏิบตั กิ ารสอนตามแผนการจดั การเรยี นรู้ - บนั ทกึ ประจำวนั - ปฏบิ ตั งิ านอื่นๆ ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย - แผนการจัดการเรียนรู้ - เสนอโครงการทางวชิ าการตามสาขาวิชา - โครงการทางวิชาการตาม สาขาวิชา ~9~

สัปดาหท์ ่ี การปฏิบัตงิ านของนักศกึ ษา เอกสารหลักฐานในการนเิ ทศ 8 สมั มนาระหวา่ งปฏิบตั ิการสอน 1 - แผนการจัดการเรยี นรู้ - โครงการทางวชิ าการตาม 9-13 - ปฏบิ ตั ิการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ สาขาวชิ า - ปฏบิ ัตงิ านอืน่ ๆ ตามท่ีได้รับมอบหมาย - โครงการวจิ ัยในชนั้ เรียน 14-16 - จัดทำโครงการทางวิชาการตามสาขาวิชา - บนั ทกึ ประจำวนั 17-18 - จัดทำรายงานผลการดำเนนิ งานโครงการทางวชิ าการตาม - แผนการจัดการเรียนรู้ 19 - อน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง 20 สาขาวิชา - ปฏบิ ัติการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรู้ - บันทกึ ประจำวัน - ปฏิบัตงิ านอน่ื ๆ ตามท่ีได้รับมอบหมาย - แผนการจัดการเรียนรู้ - จัดทำโครงร่างการวิจัยในช้ันเรียน - อ่ืนๆ ที่เกย่ี วข้อง - ปฏิบตั ิการสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ - บันทึกประจำวัน - ปฏิบัติงานอนื่ ๆ ตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย - แผนการจัดการเรยี นรู้ - จดั ทำโครงร่างการวิจัยในช้ันเรียน - อ่นื ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง - ปฏบิ ัตกิ ารสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ - บนั ทึกประจำวัน - ปฏิบตั ิงานอนื่ ๆ ตามท่ีได้รับมอบหมาย - แผนการจัดการเรียนรู้ - เตรียมส่งเอกสารที่เกย่ี วข้องกับการปฏิบตั กิ ารสอน 1 - อน่ื ๆ ท่เี ก่ียวข้อง ปัจฉิมสัมมนาปฏิบัติการสอน 1 - แผนการจดั การเรียนรู้ - รายงานสรุปผลการปฏิบตั ิ การสอน 1 - รายงานผลการดำเนินงาน โครงการวิชาการตาม สาขาวิชา - โครงรา่ งการวจิ ัยในชนั้ เรียน / รายงานการวจิ ัยในชัน้ เรียน / นวัตกรรมเพ่ือแก้ปญั หาหรือ พฒั นาผู้เรียน หมายเหตุ ระยะเวลาในการปฏบิ ัติการสอน 16 พฤษภาคม- 30 กนั ยายน ~ 10 ~

2.2 การปฏบิ ัตกิ ารสอน 2 สปั ดาห์ที่ การปฏบิ ัตงิ านของนักศึกษา เอกสารหลักฐานในการนเิ ทศ 1 - เอกสารท่เี กย่ี วข้อง - ปฐมนิเทศ - บนั ทกึ ประจำวนั 2-7 - รับหนังสือส่งตวั 8 - สภาพความเป็นอยู่ของนักศึกษา - บันทกึ ประจำวัน 9-16 - แผนการจัดการเรียนรู้ - แผนการจัดการเรียนรู้ 17-18 - ตารางสอน - อ่นื ๆ ที่เก่ยี วข้อง 19 - เตรียมการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ 20 - เริ่มแฟม้ สะสมงาน - บนั ทึกประจำวนั - แผนการจัดการเรียนรู้ - ปฏบิ ตั ิการสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ - อื่นๆ ที่เก่ียวข้อง - ปฏิบัติงานอ่นื ๆ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย - บันทึกประจำวนั - ดำเนนิ งานเกบ็ ข้อมูลวจิ ัยในชัน้ เรียน - แผนการจดั การเรียนรู้ - อืน่ ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง สมั มนาระหว่างปฏิบัติการสอน 2 - บันทกึ ประจำวนั - แผนการจัดการเรยี นรู้ - ปฏิบตั กิ ารสอนตามแผนการจัดการเรยี นรู้ - อืน่ ๆ ท่เี กี่ยวข้อง - ปฏบิ ัตงิ านอนื่ ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย - แผนการจัดการเรียนรู้ - ดำเนินงานเกบ็ ข้อมูลวจิ ยั ในชัน้ เรยี น - รายงานสรปุ ผลการปฏบิ ตั ิ การสอน 2 - ปฏบิ ัติการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ - รายงานการวิจัยในชั้นเรยี น - ปฏบิ ัติงานอ่นื ๆ ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย - อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง - จดั ทำรายงานการวิจยั ในชัน้ เรียน - ปฏิบตั กิ ารสอนตามแผนการจัดการเรยี นรู้ - ปฏบิ ตั งิ านอ่นื ๆ ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย - เตรียมสง่ เอกสารที่เก่ยี วข้องกบั การปฏิบตั กิ ารสอน 2 ปัจฉมิ สัมมนาปฏิบัติการสอน 2 หมายเหตุ ระยะเวลาในการปฏบิ ตั ิการสอน 1 พฤศจิกายน - 28 กุมภาพันธ์ ~ 11 ~

สว่ นที่ 3 บทบาทของผ้เู กยี่ วข้องในการปฏิบัติการสอน บทบาทของผู้เก่ยี วข้องในการปฏิบัตกิ ารสอนมีความสำคญั ต่อการพัฒนานักศึกษาในการปฏบิ ตั ิการ สอนเป็นอย่างมาก เพ่ือให้ผูท้ ี่เกี่ยวข้องเขา้ ใจ และสามารถปฏิบตั ไิ ด้ ดงั รายละเอยี ดต่อไปน้ี 1. บคุ ลากรในสถาบนั การพลศึกษา 1.1 รองคณบดคี ณะศึกษาศาสตร์ 1.1.1 ใหน้ โยบายในการดำเนินการปฏิบัติการสอน ใหเ้ ป็นไปตามหลักสูตรของสถาบนั การ พลศึกษา และขอ้ กำหนดของครุ สุ ภา 1.1.2 ใหค้ ำปรกึ ษาและเสนอแนะแนวทางในการจดั โรงเรยี นปฏบิ ตั กิ ารสอน การจดั อาจารยน์ ิเทศก์ 1.1.3 กำหนดแนวทางการปฏิบตั ิของอาจารย์นิเทศก์ของสถาบนั การพลศึกษา 1.1.4 ใหน้ โยบายในการจดั กิจกรรมเสริมทุกกจิ กรรมเพ่ือให้การปฏิบตั ิการสอนมคี ุณภาพ 1.2 หัวหนา้ งานฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู 1.2.1 จัดหาและติดต่อสถานศึกษาที่ใช้เป็นหน่วยฝึกปฏบิ ตั ิการสอน 1.2.2 ทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างบุคลากรท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งบุคลากรของสถานศึกษาและ สถาบันการพลศกึ ษาใหเ้ ข้าใจตรงกันถึงหลักการ วัตถปุ ระสงค์ แนวทางในการฝึกปฏิบัติการสอน และวิธีการ ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิการสอน 1.2.3 จัดนักศึกษาออกฝึกปฏิบัติการสอนตามสถานศึกษาที่กำหนด จัดปฐมนิเทศก่อนออกฝึก ปฏิบัตกิ ารสอน เพ่ือให้นักศึกษาได้เข้าใจวิธีการและงานในหน้าท่ีครูทีน่ ักศึกษาต้องมีหน้าท่ีรับผิดชอบ อธบิ ายให้ นักศึกษาเข้าใจถึงการปฏิบัติตนโดยเฉพาะการสร้างคุณลักษณะของครูท่ีดี เช่น การสร้างบุคลิกภาพ การแต่ง กาย กิริยามารยาท ตลอดจนการสร้างวินัยในตนเอง ช้ีแจงเอกสารต่างๆที่ต้องใช้ ตลอดจนวิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑก์ ารตัดสิน และแบบบันทกึ ต่าง ๆ ฯลฯ 1.2.4 จัดการสัมมนาระหว่างการปฎิบัติการสอนเพ่ือให้ทราบปัญหาต่างๆ และช่วยกันเสนอ แนวทางในการแก้ปัญหาเหลา่ น้ัน และจัดสัมมนาหลงั การฝึกปฏิบัติการสอน (ปัจฉมิ สัมมนา) ซึ่งนักศกึ ษาทุกคน ต้องเขา้ ร่วมสมั มนาตามปฏิทนิ ทก่ี ำหนด 1.2.5 ทำหน้าทรี่ วบรวมผลการประเมินจากแบบประเมินตา่ งๆ ของนักศึกษาฝึกปฏิบตั ิการสอน แตล่ ะคนจากทั้งสองหนว่ ยงาน คือ สถานศึกษาท่นี กั ศกึ ษาฝึกปฏิบตั กิ ารสอน และสถาบนั การพลศึกษา 1.2.6 ทำหน้าท่ีร่วมกับอาจารย์นิเทศก์ของสถาบันการพลศึกษา ในการตัดสินผลการประเมิน ครงั้ สดุ ทา้ ยของนกั ศึกษาฝึกปฏบิ ตั ิการสอน 1.3 อาจารย์นเิ ทศก์ คณุ สมบัติของอาจารย์นเิ ทศก์ ตอ้ งเปน็ ไปตามข้อกำหนดของครุ สุ ภา คอื ตอ้ งสำเร็จการศึกษา ไมต่ ำ่ กวา่ ปริญญาโท และตรงกบั สาขาวชิ าทที่ ำการนิเทศ หรือมีผลงานทางวิชาการตรงตามสาขาวชิ าท่นี เิ ทศการ ~ 12 ~

สอน โดยให้อยูใ่ นดุลยพินจิ ของรองคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ หรือ หัวหนา้ งานฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู หนา้ ท่ี ของอาจารยน์ เิ ทศก์มีดังต่อไปน้ี 1.3.1 ศึกษาความเข้าใจงานปฏิบัติการสอนของนักศึกษา เพื่อปฏิบัติงานนิเทศให้สอดคล้อง สมั พันธก์ ับงานในบทบาทหน้าท่ีของอาจารย์นเิ ทศก์ 1.3.2 รว่ มประชมุ วางแผนกับคณะกรรมการดำเนนิ งานจัดปฏิบตั กิ ารสอน 1.3.3 เข้าร่วมการปฐมนิเทศ การสมั มนาระหวา่ งการปฏบิ ัตกิ ารสอน และการปจั ฉิมสัมมนา 1.3.4 เสริมความรู้ในการสอนวิชาเอกให้กับนักศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษา ก่อนออกปฏิบัติการสอน 1.3.5 ใหค้ ำแนะนำเกย่ี วกบั การจัดการเรยี นการรู้ของนกั ศึกษา 1.3.6 ตรวจแผนการจัดการเรียนรู้และติดตามการพัฒนาการในการจัดทำแผนการจัดการ เรียนร้ขู องนกั ศกึ ษา 1.3.7 นเิ ทศการสอนอย่างน้อย 3 ครัง้ ตลอดการปฏบิ ตั ิการสอนในแต่ละภาคเรยี น 1.3.8 การนิเทศการสอนทุกครั้ง จะต้องบันทึกผลการนิเทศลงในสมุดบันทึกการนิเทศการ ปฏิบตั กิ ารสอนของนกั ศกึ ษา 1.3.9 ร่วมมือกับอาจารย์พี่เลี้ยง และผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อการพัฒนานักศึกษาและ โครงการปฏิบตั กิ ารสอน 1.3.10 ตรวจส่ือการสอนของนักศึกษาก่อนท่ีนักศึกษาจะนำส่งโรงเรียนเพื่อประกอบการ ประเมนิ ผลดา้ นการสอน 1.3.11 ทำหน้าทีป่ ระเมนิ นกั ศกึ ษาตามแบบประเมินทส่ี ถาบนั การพลศึกษากำหนด 1.3.12 ร่วมมือกับครูพ่ีเล้ียง และงานฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู เพ่ือการตัดสินผลการ ประเมนิ ครั้งสดุ ท้ายของนกั ศึกษาทฝี่ กึ ปฏบิ ตั ิการสอน 2. บคุ ลากรในโรงเรียน/สถานศึกษา 2.1 ผูบ้ ริหารโรงเรยี นหรือหัวหน้าสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย 2.1.1 ทำความเขา้ ใจกับการฝึกปฏิบัติการสอนของนักศึกษา 2.1.2 พบนักศึกษาและแนะนำนกั ศกึ ษากับบคุ ลากรภายในสถานศกึ ษา 2.1.3 ให้คำแนะนำแก่นักศึกษาในการปฏิบัตติ นตามคุณลักษณะของความเป็นครู 2.1.4 แก้ไขปัญหาของนักศึกษาร่วมกับครูพี่เล้ียงในกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างการฝึก ปฏิบัติการสอน 2.1.5 มอบหมายภาระงานให้กับบุคลากรในสถานศึกษาท่ีเก่ียวข้องกับนักศึกษาในการฝึก ปฏิบตั ิการสอน 2.1.6 ประสานงานกับสถาบันการพลศึกษาเกยี่ วกบั การดำเนนิ งานฝึกปฏบิ ตั กิ ารสอน ~ 13 ~

2.1.7 ติดตามงานฝกึ ปฏิบัตกิ ารสอนของนกั ศกึ ษารว่ มกับครูพเ่ี ล้ียง และอาจารย์นิเทศก์ รวมท้ัง สนับสนุนการทำงานของนักศึกษา ในการจัดกิจกรรมพัฒนาโรงเรียนหรือนักเรียน หรืออาจมอบหมายงาน ของโรงเรียนใหน้ กั ศึกษาไดด้ ำเนนิ การโดยมีสวัสดกิ ารสนับสนุน 2.1.8 ทำหนา้ ทป่ี ระเมนิ คุณลกั ษณะและการปฏบิ ตั ติ นของนักศึกษา หรือตามทสี่ ถาบันกำหนด 2.1.9 ลงนามรับรองการปฏบิ ัตกิ ารสอนของนักศึกษาตามท่ีสถาบนั การพลศึกษากำหนด 2.2 ครพู ่เี ลีย้ ง 2.2.1 ช้ีแนะใหน้ กั ศึกษาทราบและเขา้ ใจถึงขอบขา่ ยอำนาจหนา้ ที่ของครผู ูส้ อน 2.2.2 มอบหมายงานในหน้าที่ครู แผนการจัดการเรียนรู้ในช่วงของการปฏิบัติการสอนพร้อม ตรวจและให้คำแนะนำในการทำบันทึกการสอนก่อนนักศึกษาจะใชส้ อนในชน้ั เรยี น 2.2.3 ให้คำแนะนำในเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น ระเบยี บข้อบังคับของโรงเรยี น การปฏิบตั ิตนและการ ปฏบิ ตั งิ านในโรงเรียน การแต่งกาย ฯลฯ 2.2.4 สงั เกตการสอนของนกั ศึกษาในช้ันเรยี นอยา่ งน้อยเดือนละ 1 คร้งั พร้อมทัง้ บนั ทึก ข้อเสนอแนะในสมุดบนั ทึก และประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ัตกิ ารสอน 2.2.5 ร่วมมือกบั อาจารย์นเิ ทศกใ์ นเร่ืองการสอน การประเมนิ ผล และเร่ืองอืน่ ทเ่ี กดิ ขึน้ กับ นกั ศึกษาเป็นกรณีพิเศษ 2.2.6 ใหค้ ำปรึกษาแก่นักศึกษา ในการจดั กจิ กรรมต่าง ๆ เช่น จัดปา้ ยนเิ ทศ จัดนทิ รรศการ โครงงานวิขาการ งานวจิ ัยในชั้นเรยี น หรอื กจิ กรรมพิเศษอืน่ ๆ 2.2.7 ในกรณีที่มีปัญหาเกิดข้ึนกับนักศึกษา ครูพ่ีเล้ียงต้องแจ้งให้อาจารย์นิเทศก์ทราบเพ่ือ แกไ้ ขปญั หาทนั ที 2.2.8 ทำหนา้ ที่ประเมนิ นักศึกษาตามแบบประเมนิ ท่ีสถาบันการพลศึกษากำหนด 2.2.9 รวบรวมผลการประเมินนักศกึ ษาท่ีไดร้ บั การประเมินจากผูบ้ ริหารสถานศึกษา/ผู้ท่ไี ดร้ ับ มอบหมาย 2.2.10 สง่ แบบประเมินทุกแบบ พร้อมผลสรุปแจง้ ให้ผ้บู ริหารสถานศกึ ษาทราบ และนำสง่ สถาบันการพลศกึ ษาตามระยะเวลาท่กี ำหนด 3. หน้าที่ของนกั ศกึ ษาในการปฏบิ ัติการสอน 3.1 การเตรยี มตัวกอ่ นสอน ภารกิจของนกั ศึกษาในการเตรียมตวั ก่อนสอน คือ นักศึกษาจะต้องจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ สำหรับรายวชิ าทน่ี ักศกึ ษารบั ผดิ ชอบในการสอน ซงึ่ มรี ายละเอียนดังตอ่ ไปน้ี 3.1.1 เขียนแผนการจัดการเรยี นรใู้ ห้ถกู ต้องตามแบบทีส่ ถาบนั /สถานศึกษากำหนด 3.1.2 กำหนดสาระสำคญั ใหถ้ ูกต้อง 3.1.3 กำหนดจุดประสงค์ใหถ้ กู ตอ้ งและสอดคล้องกับสาระสำคญั 3.1.4 มเี นื้อหาทถ่ี ูกตอ้ งสอดคลอ้ งกับสาระสำคัญและจดุ ประสงค์ 3.1.5 กจิ กรรมการเรียนการสอนสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์และน่าสนใจ ~ 14 ~

3.1.6 เลอื กสอ่ื การเรยี นใหส้ อดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนการสอน 3.1.8 การวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์ 3.1.8 กำหนดเวลาสอนได้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมทกุ ขัน้ ตอน 3.2 การปฏิบัตกิ ารสอน นักศึกษาควรมพี ฤติกรรมการปฏบิ ตั กิ ารสอนตามรายละเอยี ดในแต่ละด้าน ดงั ต่อไปนี้ 3.2.1 การนำเข้าส่บู ทเรยี น 1) สถานการณ์ทพ่ี ร้อมจะสอน 2) เหมาะสมกับเวลา 3) สมั พันธ์กับเนือ้ หาและประสบการณ์เดมิ ของนกั เรียน 4) มเี ทคนคิ น่าสนใจ 3.2.2 การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 1) เลอื กวธิ สี อนและกิจกรรมได้เหมาะสมกับจุดประสงค์ 2) จัดได้ตามลำดับขนั้ และควบคุมใหด้ ำเนนิ ไปดว้ ยดี 3) นกั เรียนมีโอกาสร่วมกิจกรรม 4) ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รยี นรดู้ ้วยตนเอง เรยี นรู้ร่วมกัน 5) เร้าความสนใจและส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนอยากเรยี นรู้ 6) มีวธิ ีการสรุปบทเรียนได้เหมาะสม 7) มีการฝึกทักษะต่าง ๆ 3.2.3 การใชส้ ื่อ 1) มขี นาดเหมาะสมและถูกต้อง 2) เหมาะสมกบั บทเรียน ผ้เู รยี นและสภาพห้องเรยี น 3) นักเรยี นมีส่วนร่วมในการสร้าง ใช้ และเกบ็ รักษา 4) ใช้ได้ถูกตอ้ งตามข้นั ตอน 5) ใช้ได้อย่างคุม้ คา่ 3.2.4 ความรอบรู้ในเน้ือหา 1) การอธบิ ายหรือการเล่าเรื่อง 2) การขยายความหรือยกตัวอยา่ งประกอบการอธิบาย 3) การตอบคำถามของนกั เรยี น 4) การซักถามให้นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ หรอื ร่วมอภิปราย 5) การสรปุ ความคิดรวบยอด 6) ความเช่ือมนั่ ในการตอบปัญหาไดถ้ กู ต้อง 3.2.5 ทกั ษะการใชภ้ าษาและท่าทาง 1) การใช้ภาษาท่ีชดั เจน ถกู ต้องและเข้าใจง่าย 2) มีลำดับขั้นในการสือ่ สารตามลำดบั ก่อน-หลัง ~ 15 ~

3) พูดไดต้ รงประเดน็ 4) ใชค้ ำถามได้เหมาะสมและมีเทคนิคในการใช้คำถาม 5) ใชเ้ สยี งและสำเนยี งเหมาะสม 5) ใช้สหี นา้ และทา่ ทางประกอบได้เหมาะสม 6) ไหวพรบิ ในการตอบคำถาม 3.2.6 ทักษะการเสริมแรง 1) มีการให้กำลงั ใจแกน่ กั เรยี นด้วยวาจาหรือทา่ ทาง 2) ใช้วาจาและทา่ ทางไดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ 3) กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเหน็ ขยายคำตอบ 4) มีการเนน้ ให้นักเรยี นเหน็ สิง่ ควรสนใจและความสำคัญของบทเรยี น 5) ใชก้ ารเคลื่อนไหวและท่าทางอยา่ งมีจดุ หมาย 3.2.7 การควบคมุ อารมณ์การเรียนการสอน 1) วางแผนลว่ งหนา้ ในการจัดกจิ กรรมการเรียน 2) ใชว้ ธิ กี ารที่เหมาะสมในการจงู ใจนกั เรยี นเข้าร่วมกิจกรรม 3) ให้ความสนใจตอ่ นักเรียนอยา่ งทว่ั ถงึ 4) กระตุน้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั คิด 5) ปลกู ฝงั ให้นกั เรียนอดทนในการรอผลการทดลอง 6) ใช้วิธแี กป้ ัญหาได้เหมาะสมกบั สถานการณ์ 7) ความสามารถในการควบคมุ อารมณข์ องตนเอง 3.2.8 การวดั และประเมินผล 1) ตรงตามแผนทวี่ างไว้ 2) วิธีการเหมาะสม 3) เครอ่ื งมอื เหมาะสม 4) เวลาเหมาะสม 5) เกณฑเ์ หมาะสม ~ 16 ~

3.3 รูปแบบของแผนการจัดการเรียนรู้ 3.3.1 รูปแบบของแผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าพลศกึ ษา/พลศกึ ษาสำหรับเด็กพเิ ศษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ .......สปั ดาห์ท.ี่ ......ครงั้ ท่ี......เวลา.......น. ถงึ เวลา ..........น. สาระที่................................................................................................................................................... มาตรฐานท่ี .................................................................................................................. ......................... ตวั ชว้ี ดั ท่ี ....................................................................................................................... .................... หนว่ ยการเรียนร้/ู เรอื่ ง ที่ ....................................................................................................................... 1. สาระสำคญั 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3. สาระการเรียนรู้ 4. สอ่ื การเรียนรู้ 5. การวดั และประเมินผล 6. สัญลกั ษณ์ 7. กิจกรรมเสนอแนะ 8. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 8.1 กระบวนการจดั การเรียนรู้ 5 ขั้น ของแฮบาร์ต. 1. ข้นั เตรียมและอบอนุ่ ร่างกาย (เวลา 5-10 นาที) วิธสี อนแบบ.................................... 2. ขั้นอธิบายสาธติ (เวลา 10 นาที) วธิ ีสอนแบบ.................................... 3. ขั้นฝึกหดั (เวลา 20-25 นาที) 3.1 กิจกรรมท่ี 1 ธีสอนแบบ.................................... 3.2 กจิ กรรมที่ 2 วิธีสอนแบบ.................................... 3.3 กิจกรรมท่ี 3 วธิ ีสอนแบบ.................................... 4. ขัน้ นำไปใช้ (เวลา 10-15 นาที) 4.1 กจิ กรรมที่ 1 วิธีสอนแบบ.................................... 4.2 กิจกรรมท่ี 2 วิธีสอนแบบ.................................... 5. ขั้นสรปุ และสุขปฏิบัติ (เวลา 5-10 นาที) วธิ ีสอนแบบ.............. 8.2 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 7 ขั้น ของซิมพ์ซัน 1. ข้ันการรบั รู้ (เวลา 5 นาท)ี วธิ ีสอนแบบใช้เกม 2. ข้นั เตรยี มความพร้อม (เวลา 5-7 นาท)ี วธิ สี อนแบบอธิบายและสาธิต 3. ข้ันตอบสนองภายใต้การควบคมุ (เวลา 5-10 นาท)ี วธิ ีสอนแบบฝกึ หัดกระทำดว้ ยตนเอง 4. ขนั้ การให้ลงมือกระทำ (เวลา 5-10 นาท)ี วธิ ีสอนแบบรวม-แยก-รวม 5. ขั้นกระทำอยา่ งชำนาญ (เวลา 5-10 นาที) วิธสี อนแบบสำรวจการเคลอ่ื นไหว ~ 17 ~

6. ขั้นปรบั ปรงุ และประยกุ ต์ใช้ (เวลา 10-15 นาท)ี 6.1 กจิ กรรมท่ี 1 วธิ สี อนแบบแก้ปญั หา 6.2 กิจกรรมที่ 2 วธิ ีสอนแบบใชเ้ กม 7 ขน้ั ปรับปรุงและประยุกตใ์ ช้ (เวลา 5-10 นาท)ี 7.1 กจิ กรรมท่ี 1 วิธสี อนทดลอง 7.2 กิจกรรมท่ี 2 สรุปและสุขปฏบิ ตั ิ 8.3 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 3 ข้ัน ***ใช้กบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-3 และการสอนเกม**** 1. ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น (เวลา 5-10 นาที) วิธสี อนแบบ.................................... 2. ขัน้ สอน (เวลา 20-25 นาที) 2.1 กิจกรรมท่ี 1 วธิ สี อนแบบ.................................... 2.2 กจิ กรรมที่ 2 วิธีสอนแบบ.................................... 2.3 กิจกรรมท่ี 3 วธิ ีสอนแบบ.................................... 3. ขั้นสรุปและสขุ ปฏิบตั ิ (เวลา 5-10 นาท)ี วิธีสอนแบบ………………………. ใช้สอนได้ ใชส้ อนไมไ่ ด้ ใช้สอนไม่ได้เนื่องจาก........................................................................................................ ........ ลงชอ่ื ..........................................................ครพู เี่ ล้ียง (......................................................) .........../.........../............ บันทกึ ผลหลงั การสอน ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ ลงชอื่ .................................................ผู้บนั ทกึ (......................................................) ............./................/............ ~ 18 ~

3.3.2 รปู แบบของแผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าสุขศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้ัน......... สัปดาห์ท่ี.........ครั้งท่.ี .....เวลา.......น. ถึงเวลา .......น. สาระที่...................................................................................................................... ........................... มาตรฐานท่ี ......................................................................................................................................... ตัวชี้วดั ที่ ......................................................................................................................................... หน่วยการเรยี นรู/้ เรื่อง ท่ี ...................................................................................................................... 1. สาระสำคัญ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3. สาระการเรียนรู้ 4. สือ่ การเรียนรู้ 5. การวัดและประเมนิ ผล 6. กจิ กรรมเสนอแนะ 7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 7.1 ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น (เวลา 10-15 นาที) วิธีสอนแบบ…………….. 7.2 ขนั้ สอน (เวลา 20 นาที) วธิ ีสอนแบบ……………….. 7.3 ขนั้ สรปุ (เวลา 10-15 นาท)ี วธิ สี อนแบบ…………….. 8. ใบความร/ู้ ใบงาน 9. สื่อการสอน (นำเสนอโดยการถา่ ยภาพตดิ หรือเขยี นเปน็ แผนภมู ิภาพหรือแผนผงั ฯลฯ) 10. แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย 11. แบบประเมนิ (Rubrics) ใช้สอนได้ ใชส้ อนไม่ได้ ใชส้ อนไม่ได้เน่ืองจาก................................................................................................................ ลงช่ือ..........................................................ครูพี่เล้ยี ง (......................................................) .........../.........../............ บนั ทกึ ผลหลังการสอน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ลงช่อื .................................................ผ้บู ันทึก (......................................................) ............./................/........... ~ 19 ~

3.3.3 รูปแบบการเขยี นแบบประเมนิ (RUBRICS) วชิ าพลศกึ ษา-สุขศกึ ษา วชิ า..........................................................................เรอ่ื ง............................................................... แผนการเรยี นรู้ท.ี่ ........................ชั้น........... วนั ท.ี่ ..................เดือน..................พ.ศ.............................. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรแู้ ละทักษะกระบวนการ โดย............................................................................. ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม โดย............................................................................................. ลำดับ ช่อื – สกลุ รวม เกณฑ์ คำชีแ้ จง ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ลงชื่อ............................................................ผูบ้ ันทึก (........................................................) ~ 20 ~

ส่วนที่ 4 ระเบยี บการปฏิบัติตนของนักศกึ ษา 1. แนวทางการปฏิบัตติ นของนักศึกษาในสถานศึกษา ระเบยี บสถาบันการพลศึกษาวา่ ดว้ ยวินยั นกั ศึกษา พ.ศ. 2548 โดยท่เี ปน็ การสมควรกำหนดหลกั เกณฑเ์ กี่ยวกับวนิ ยั ของนักศกึ ษาในสถาบันการพลศกึ ษา เพอ่ื ส่งเสรมิ และธำรงไวซ้ ึง่ เกยี รติ ระเบยี บวนิ ัย ความประพฤติ จรรยามารยาท และความสงบเรยี บรอ้ ยในการประพฤติ ตนเปน็ พลเมืองที่ดีของสังคมและประเทศชาติต่อไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 (2) แห่งพระราชบญั ญัตสิ ถาบนั การพลศึกษา พ.ศ. 2548 สภา สถาบันการพลศึกษา จึงกำหนดระเบียบไว้ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนเ้ี รยี กว่า “ระเบียบสถาบันการพลศกึ ษา ว่าดว้ ยวินัยนกั ศึกษา พ.ศ. 2548” ขอ้ 2 ให้ใช้ระเบยี บน้ีตั้งแต่วันถดั จากวนั ประกาศเปน็ ตน้ ไป ขอ้ 3 ในระเบียบน้ี “สถาบัน” หมายความว่า สถาบนั การพลศึกษา “วิทยาเขต” หมายความวา่ วทิ ยาเขตแต่ละแห่งของสถาบนั การพลศึกษา “รองอธกิ ารบดีประจำวิทยาเขต” หมายความว่า รองอธกิ ารบดีประจำวทิ ยาเขตแต่ละวิทยาเขต “นกั ศึกษา” หมายความว่า นกั ศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรขี องสถาบันการพลศกึ ษา ข้อ 4 นกั ศึกษาต้องรักษาวนิ ัยโดยเครง่ ครัด ผู้ใดฝา่ ฝืนถือว่ากระทำผดิ ต้องได้รับโทษตามทก่ี ำหนดไว้ใน ระเบียบ ข้อ 5 นกั ศึกษาตอ้ งแต่งกายใหส้ ภุ าพเรียบร้อยในลกั ษณะสุภาพชน หรือตามแบบท่สี ถาบนั กำหนด ข้อ 6 นักศึกษาต้องปฏิบัติตนตามกฎหมายในฐานะพลเมืองดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง เคารพในสิทธิและหน้าท่ีของบุคคลอื่น มีศีลธรรมและจรรยามารยาทที่ดีงาม ไม่ปฏิบัติตนในทางท่ีจะนำมาซ่ึง ความเส่อื มเสยี ชื่อเสียงและเกยี รตคิ ณุ ของสถาบัน ข้อ 7 นักศึกษาต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตน แสดงความเคารพต่อบรรดาคณาจารย์ด้วยความสุภาพ มีสัมมาคารวะ ไม่แสดงอาการกระด้างกระเดื่อง ลบหลู่ดูหม่ิน รวมท้ังต่อเจ้าหน้าที่อ่ืนๆของสถาบันฯ ผู้ปฏิบัติ หน้าที่โดยชอบด้วยอำนาจและระเบียบแบบแผน ข้อ 8 ความผิดท่ีก่อให้เกิดความเส่ือมเสียชื่อเสียงและเกียรติคุณของสถาบันการพลศึกษาดังต่อไปนี้ ถือเปน็ ความผดิ ทางวนิ ยั อยา่ งร้ายแรง 8.1 ถูกศาลส่ังลงโทษทางอาญา เว้นแตม่ ีความผิดลหุโทษหรือฐานประมาท 8.2 เจตนากล่าวโจมตีหรอื ให้ร้ายสถาบันการพลศกึ ษาตามท่สี าธารณะ 8.3 เจตนาทุจรติ ในการสอบ 8.4 ลบหลดู่ หู มน่ิ หรือข่มขู่ครอู าจารย์หรอื บคุ ลากรของสถาบันการพลศกึ ษา ~ 21 ~

8.5 เจตนาทำลายทรัพย์สินของสถาบนั การพลศกึ ษา 8.6 ก่อการทะเลาะววิ าท ทง้ั ภายในและภายนอกสถาบนั การพลศึกษา 8.7 ครอบครอง พกพาอาวุธเข้ามาในสถาบนั การพลศึกษา เชน่ ปนื วัตถุระเบิด และอื่นๆ 8.8 เจตนากลน่ั แกล้ง หรือกระทำการใดๆ จนทำใหผ้ อู้ ่ืนเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง 8.9 เสพสารเสพติดใหโ้ ทษหรอื มอี ยู่ในครอบครอง หรอื มไี วเ้ พอื่ จำหนา่ ยจา่ ยแจก 8.10 ชกั นำผอู้ นื่ กอ่ ความไม่สงบ 8.11 ดื่มสุราและของมึนเมาทกุ ชนิด 8.12 เล่นการพนัน หรอื มว่ั สมุ ในวงการพนัน 8.13 คา้ ประเวณี 8.14 ประพฤติผิดทางชสู้ าว 8.15 ลักขโมย ขอ้ 9 ความผิดทีก่ ่อให้เกิดความเสียหายแก่ความเป็นนักศึกษาและสถาบันการพลศึกษาดงั ต่อไปน้ี ถือ เป็นความผดิ ทางวนิ ัยอย่างไมร่ า้ ยแรง 9.1 เข้าไปในสถานท่ที ไี่ มเ่ หมาะสม โดยมพี ฤติกรรมสอ่ ไปในทางเส่อื มเสยี 9.2 ก้าวรา้ ว ขม่ ขู่ ดหู ม่ิน กล่ันแกล้งเพือ่ นนักศึกษาดว้ ยกนั 9.3 ชกั นำผู้อ่นื หลงผิด กฎ ระเบยี บ และวนิ ยั ของสถาบนั 9.4 มพี ฤตกิ รรมสอ่ ไปในทางอนาจาร 9.5 สง่ เสียงดงั เป็นเหตุใหเ้ กิดความรำคาญแก่ผ้อู ่ืน 9.6 ประพฤตผิ ดิ ระเบียบ วา่ ด้วยการแตง่ กายนักศึกษา ขอ้ 10 การกระทำความผดิ ทางวินัยมโี ทษ 6 สถาน ดงั นี้ 10.1 ตักเตอื นด้วยวาจาหรือลายลักษณอ์ กั ษร แล้วแต่กรณี 10.2 มอบหมายให้ปฏิบตั งิ านอนั มคี ณุ ประโยชนต์ ่อส่วนรวม 10.3 การทำทณั ฑบ์ น 10.4 ใหพ้ ักการศึกษามกี ำหนดต้งั แต่ 1 ภาคการศึกษา ถงึ 2 ปกี ารศึกษา แลว้ แตก่ รณี 10.5 ระงบั การเสนอให้ได้รับปริญญาบัตร หรอื อนุปริญญา มกี ำหนดไม่เกนิ 2 ปีการศึกษา 10.6 ให้พน้ จากสภาพนักศกึ ษา ข้อ 11 การทำทัณฑ์บนใช้สำหรับนักศึกษาท่ีได้กระทำความผิดซ้ำ หรือทำนองเดียวกันกับท่ีเคยถูก ลงโทษวา่ กลา่ วตักเตอื น และถกู พิจารณาโทษใหป้ ฏิบตั ิกิจกรรมซ่อมเสริมมาแลว้ การทำทณั ฑ์บนให้ทำเป็น หนังสือลงลายมอื ชื่อนักศึกษาผู้กระทำความผิด และให้เชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครองโดยชอบธรรมมาบันทึก รับทราบความผิดและรบั รองทณั ฑบ์ น ข้อ 12 การสั่งพักการเรียน ใช้สำหรับนักศึกษาที่กระทำความผิดร้ายแรง หรือถูกลงโทษทำทัณฑ์บน มาแล้ว การลงโทษสั่งพักการเรียนให้พักการเรียนในภาคการศึกษาถัดไป ให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรและให้ เชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครองโดยชอบธรรมมารับทราบ ในกรณีภาคการศึกษาสุดท้ายให้ยับย้ังผลการเรียน จนกว่าจะสนิ้ ความผิดท่ีกอ่ ไว้ ~ 22 ~

ขอ้ 13 การใหพ้ ันจากสภาพนกั ศึกษาใช้สำหรับนักศึกษาทก่ี ระทำความผิดร้ายแรง และเคยถูกพักการ เรียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ภาคการศึกษา ให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครองโดย ชอบธรรมมารบั ทราบ ขอ้ 14 เม่ือปรากฏว่ามีนักศึกษากระทำความผิด ให้รองคณบดปี ระจำวิทยาเขตท่ีนักศึกษาผู้นั้นสังกัด อย่ดู ำเนินการใหม้ ีการสอบสวนเพ่ือเสนอรองอธิการบดปี ระจำวิทยาเขตเปน็ ผสู้ ง่ั ลงโทษ ข้อ 15 ให้รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ีและเป็นผู้วินิจฉัยใน กรณีทีเ่ กิดปัญหาจากการใช้ระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 (นายศักด์ิทพิ ย์ ไกรฤกษ)์ ปลดั กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา นายกสภาสถาบันการพลศกึ ษา ~ 23 ~

ข้อบังคบั สถาบนั การพลศึกษา ว่าดว้ ยเครอ่ื งแบบ เครอ่ื งหมายและเคร่ืองแต่งกายนกั ศึกษา พ.ศ. 2548 โดยท่ีเป็นการสมควรกำหนดให้มีข้อบังคับเกี่ยวกับการแต่งกายของนักศึกษาสถาบันการพลศึกษา เพอ่ื ใหม้ ีความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย เหมาะสมกับสภาพนักศึกษา และเปน็ เอกลกั ษณข์ องสถาบนั อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัตสิ ถาบนั การพลศึกษา พ.ศ. 2548 สภาสถาบัน การพลศกึ ษา จงึ กำหนดข้อบงั คับไว้ดังต่อไปน้ี ข้อ 1 ข้อบังคับนเี้ รียกวา่ “ข้อบังคับสถาบันการพลศกึ ษา ว่าด้วยเครื่องแบบ เคร่ืองหมาย และเครื่อง แตง่ กายนกั ศึกษา พ.ศ. 2548” ข้อ 2 ให้ใชข้ อ้ บังคับนตี้ งั้ แต่วนั ถัดจากวนั ประกาศเป็นต้นไป ขอ้ 3 ในข้อบงั คบั นี้ “สถาบัน” หมายถึง สถาบนั การพลศึกษา “อธิการบดี” หมายถึง อธกิ ารบดีสถาบนั การพลศกึ ษา “นกั ศกึ ษา” หมายถงึ ผ้ทู กี่ ำลงั ศึกษาอยู่ในสถาบันการพลศึกษา ข้อ 4 กำหนดให้มเี คร่อื งแบบสำหรับนักศึกษาสถาบนั การพลศกึ ษา จำนวน 3 แบบ คอื 4.1 เคร่อื งแบบปกติ 4.2 เครอ่ื งแบบในงานพธิ ี 4.3 เครอ่ื งแบบฝึก ขอ้ 5 เคร่อื งแตง่ กายของนกั ศึกษาหญิง ใหเ้ ปน็ ดังนี้ 5.1 เครื่องแบบปกติ ประกอบดว้ ย (1) เสอ้ื ใช้เสื้อเชติ้ แขนสัน้ สีขาวแบบธรรมดาทรงสภุ าพ ไมร่ ัดรูป ไม่มี กระเปา๋ ติดกระดมุ เครือ่ งหมายสถาบนั การพลศกึ ษา 4-6 เม็ด และติดเขม็ กลดั เครือ่ งหมายสถาบนั การพลศึกษาไว้ที่หน้าอก ดา้ นขวา ชายเสอ้ื อยภู่ ายในกระโปรง มองเห็นเขม็ ขัดไดช้ ัดเจน (2) กระโปรง ใชก้ ระโปรงสดี ำหรือสกี รมท่า ถ้าเปน็ กระโปรงส้นั ชายกระโปรงต้องคลุมเข่า ถ้าเป็นกระโปรงยาว ชายกระโปรงต้องยาวไม่ เกินข้อเทา้ ทรงกระโปรงจะเป็นแบบมจี ีบรอบเอว ไมร่ ัดรูป หรือทรงสุภาพ ก็ได้ ไมผ่ ่าชายกระโปรงสูงเกนิ กวา่ เข่า และหา้ มใชผ้ ้ายนี ส์ (3) เขม็ ขัด ใชเ้ ข็มขดั สดี ำไม่มีลวดลาย หวั เข็มขัดเปน็ โลหะมเี ครือ่ งหมาย สถาบันการพลศึกษา (4) รองเท้า ใชร้ องเท้าหุ้มสน้ ปดิ ปลายเทา้ หรือรัดสน้ โดยสายรัดส้นตอ้ งมี ขนาดความกว้างไมต่ ำ่ กวา่ 1 เซนตเิ มตร สรี องเท้าเปน็ สีดำ หรอื สนี ำ้ ตาลหรือสีขาว จะเปน็ รองเทา้ หนังหรือรองเทา้ ผ้าใบก็ได้ (5) ทรงผม ไว้ทรงสุภาพ ถา้ ไวผ้ มยาวใหผ้ กู หรือรดั ให้เรยี บรอ้ ย ~ 24 ~

5.2 เคร่ืองแบบปกติของนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 1 ใช้กระโปรงสีกรมท่าหรือสีดำทรงสุภาพ รองเทา้ ห้มุ สน้ ปิดปลายเทา้ สขี าวหรอื รองเทา้ ผ้าใบและสวมถุงเท้าสขี าวไม่มลี วดลาย 5.3 เครื่องแบบในงานพิธี ใช้กระโปรงสีกรมท่า รองเท้าหนังสีดำหุ้นส้นปิด ปลายเท้า เครื่องแบบอื่นๆ เหมือนเครอื่ งแบบปกติ 5.4 เคร่อื งแบบฝกึ ประกอบดว้ ย (1) เสื้อ เสื้อยืดคอปกแขนสั้น มีตราสถาบันการพลศึกษาติดที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย สอดชายเสื้อไวใ้ นกางเกงสตี ามคณะกำหนด (2) กางเกง กางเกงขายาวผา้ ยดื สีตามคณะกำหนด (3) รองเท้า รองเท้าหนุ้ สน้ สีขาว (4) ถงุ เท้า สีดำหรอื สีกรมท่า ขอ้ 6 การแต่งกายของนักศกึ ษาชาย ให้เป็นดังนี้ 6.1 เครือ่ งแบบปกติ ประกอบดว้ ย (1) เสอ้ื ใช้เสื้อเช้ิตแขนส้ันหรอื แขนยาวสขี าว ไมม่ ีลวดลาย ไม่มี อินทรธนู มกี ระเปา๋ ทีไ่ มม่ ฝี าปิดอยหู่ นา้ อกดา้ นซา้ ยเพยี งดา้ น เดียว ชายเส้ืออยู่ในขอบกางเกง มองเห็นเขม็ ขดั ไดช้ ดั เจน ไม่มว้ นหรอื พับ แขนเสือ้ (2) กางเกง ใชก้ างเกงสดี ำหรือสกี รมทา่ เน้อื ผา้ เปน็ สีเดยี วกนั ไม่มี ลวดลายทรงสุภาพ มีจีบหรอื ไม่มีจีบ กระเป๋าด้านข้างเป็น กระเป๋าเจาะ หา้ มใช้ผา้ ยนี สห์ รอื กางเกงยีนส์ (3) เข็มขัด ใชเ้ ข็มขัดสดี ำไม่มีลวดลาย หัวเข็มขัดเปน็ โลหะ มีเครื่องหมาย สถาบนั การพลศกึ ษา (4) เนคไท สีกรมท่า มีตราสถาบันการพลศึกษา (5) รองเท้า ใชร้ องเทา้ หนงั สดี ำแบบหุม้ ส้น ชนิดผูกเชอื ก (6) ถงุ เทา้ ต้องสวมถงุ เท้าท่มี ีสีดำหรือสกี รมท่า (7) ทรงผม ไวท้ รงสภุ าพและโกนหนวดเคราให้เรียบรอ้ ย 6.2 เครื่องแบบในงานพิธี ใช้กางเกงสีกรมท่า เสื้อเช้ิตแขนยาวผูกเนคไทสีกรมท่า ปักตรา สถาบันการพลศึกษา รองเทา้ หนงั สีดำแบบหุ้มส้น เครอ่ื งแบบอน่ื ๆ เหมอื นเครือ่ งแบบปกติตามขอ้ 6.1 6.3 เคร่ืองแบบฝึก ประกอบด้วย (1) เสอ้ื เส้ือยดื คอปกแขนสน้ั มีตราสถาบันการพลศึกษาตดิ ที่กระเปา๋ เสอ้ื ด้านซ้าย สอดชายเส้อื ไว้ในกางเกง สตี ามคณะกำหนด (2) กางเกง กางเกงขายาวผา้ ยดื สีตามคณะกำหนด (3) รองเทา้ รองเท้าหุ้มสน้ สีขาว (4) ถุงเทา้ สดี ำหรอื สกี รมทา่ ข้อ 7 ชุดฝึกกิจกรรมเฉพาะอยา่ งและชุดฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ให้เป็นไปตามทีว่ ทิ ยาเขตกำหนด ~ 25 ~

ข้อ 8 นักศึกษาที่มีความจำเป็นต้องใช้เคร่ืองแบบฝึกให้ใช้เคร่ืองแบบฝึกได้เฉพาะในช่วงปฏิบัติงาน ยกเว้นกรณที ่ีวิทยาเขตเห็นสมควรอนญุ าตเปน็ อย่างอืน่ ข้อ 9 ใหใ้ ชเ้ ครื่องหมายสถาบนั ประกอบเครื่องแบบนักศึกษาทั้งชายและหญิงดังตอ่ ไปนี้ (1) เขม็ เครอ่ื งหมายสถาบนั ใหน้ ักศกึ ษาหญิงใช้กลดั บนอกเส้อื ดา้ นขวา (2) เขม็ กลดั เนคไท ใชเ้ คร่อื งหมายเดียวกับข้อ 9 (1) (3) หัวเข็มขัด เคร่ืองหมายสถาบัน สำหรับนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง มีรูปลักษณะ ขนาด และสี ดังน้ี หัวเข็มขัดทำด้วยโลหะสีเงินเป็นรูปส่ีเหลี่ยมขนาดกว้าง 3.5 เซนติเมตร ยาว 5 เซนติเมตร ภายในส่ีเหลย่ี มมเี คร่อื งหมายสถาบัน ขนาด 2.5 เซนติเมตร ตดิ ตรงกลาง (4) กระดุมเส้ือนักศึกษาหญิงทำด้วยโลหะสีเงินหรือรมดำ มีลักษณะกลมมนขอบเกลี้ยง ขนาด 1.8 เซนตเิ มตร ปม๊ั นนู เป็นตราเครือ่ งหมายสถาบัน ข้อ 10 ให้อธิการบดีรกั ษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับน้ี และเป็นผู้วินิจฉัยช้ีขาด ในกรณีที่เกิดปัญหา จากการใช้ข้อบงั คับน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2548 (นายศักดท์ิ ิพย์ ไกรฤกษ์) ปลัดกระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกฬี า นายกสภาสถาบนั การพลศึกษา ~ 26 ~

ระเบียบว่าดว้ ยการปฏิบตั ขิ องนักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอน หลักสูตรศกึ ษาศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ า............................ สถาบนั การพลศกึ ษา วิทยาเขต............. 1. การแตง่ กาย 1.1 ขณะเดินทางไปกลับโรงเรียน และติดต่อราชการใดๆ ให้นักศึกษาแต่งกายตามแบบที่สถาบัน กำหนดโดยใชเ้ นคไทด์ เข็ม กระดมุ หวั เข็มขดั ตามแบบของสถาบันการพลศกึ ษา (ชดุ ไป–กลับ) 1.2 ในการฝึกปฏิบัติการสอน 1.2.1 ภาคทฤษฎี ให้แต่งกายชุดนักศึกษา หรือชุดท่ีสถาบันกำหนด (ชุดไป- กลับ, เส้ือฝึก ปฏิบัติการสอน) 1.2.2 ภาคปฏิบัติ หรือปฏิบัติงานทั่วไปในโรงเรียน ให้แต่งกายด้วยกางเกงวอร์ม สีเข้ม เส้อื ยืดสี เทา หรือสีกรมท่า หรอื เสื้อฝึกปฏบิ ัตกิ ารสอนทปี่ ักตราสถาบนั การพลศึกษา ที่กระเปา๋ เสื้อด้านซา้ ย 1.3 ขณะเดินทางไปกลับโรงเรียน และติดต่อราชการใดๆ ให้นักศึกษาแต่งกายตามแบบที่สถาบัน กำหนดโดยใช้เนคไทด์ เข็ม กระดมุ หวั เข็มขดั ตามแบบของสถาบนั (ชุดไป- กลับ,เสอ้ื ฝกึ ปฏบิ ัติการสอน) 1.4 ในกรณีท่ีนอกเหนือจากข้อ 1.1 และ 1.2 การแต่งกายให้อยู่ดุลยพินิจของอาจารย์นิเทศก์หรือ สถานศกึ ษา 2. การปฏิบัตงิ าน 2.1 นักศึกษาต้องมีเวลาฝึกปฏิบัติการสอน 2 ภาคเรียนต่อเนื่อง (โรงเรียน/สถานศึกษา) และต้องมี เวลาในการฝกึ ปฏิบัติการสอน ไม่ตำ่ กวา่ 80 % ของเวลาทัง้ หมด 2.2 นักศกึ ษาต้องฝกึ ปฏิบตั ิการสอนตามระยะเวลาทส่ี ถาบันกำหนด 2.3 นกั ศึกษาต้องสอนวชิ าเอกจำนวนไม่น้อยกวา่ 8-15 ชวั่ โมง / สปั ดาห์ 2.4 นักศึกษาต้องเตรียมการสอน ทำแผนการจัดการเรียนรู้ให้แล้วเสร็จล่วงหน้าก่อนทำการสอนและ ส่งให้ครูพ่เี ลีย้ งตรวจ อย่างน้อย 1 สปั ดาห์ 2.5 นักศึกษาจะต้องปฏิบัติงานสนับสนุนการเรียนการสอนตามท่ีสถาบันและสถานศึกษามอบหมาย อยา่ งน้อย 12 ช่ัวโมง / สปั ดาห์ 2.6 นักศกึ ษาต้องลงชือ่ ปฏบิ ตั ิงานทง้ั ไปและกลบั ตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศกึ ษานน้ั ๆ 3. การลาใช้ระเบียบของข้าราชการ 3.1 ลากิจ 3.1.1 ในกรณีท่ีลาไม่เกิน 2 วัน ให้นักศึกษาย่ืนใบลาต่อผู้บริหารสถานศึกษา และต้องได้รับ อนญุ าตแลว้ จงึ จะลาได้ 3.1.2 ถ้าลาเกิน 2 วนั ใหย้ น่ื ใบลาต่อผ้บู รหิ ารศึกษา และแจ้งใหอ้ าจารยน์ เิ ทศก์ทราบ 3.2 ลาป่วย 3.2.1 ในกรณีท่ีสามารถเขียนใบลาได้ให้ส่งใบลาต่อผู้บริหารสถานศึกษาในวันท่ีเริ่มลา แต่ถ้าไม่ สามารถเขยี นใบลาไดใ้ ห้สง่ ใบลาในวนั แรกที่กลบั มาปฏิบัตหิ นา้ ท่ี 3.2.2 ถา้ ลาเกนิ 3 วัน การส่งใบลาให้แนบใบรบั รองแพทยจ์ ากสถานพยาบาลใหอ้ าจารยน์ เิ ทศก์ทราบ ~ 27 ~

3.3 ลาชัว่ คราว เฉพาะบางชั่วโมงให้ขออนุญาตครูพ่ีเลี้ยง /อาจารย์ผู้ได้รับมอบหมาย /หัวหน้าสถานศึกษา และ ต้องได้รับอนุญาตแล้วจึงจะไปได้ 4. ความประพฤติรา้ ยแรง จากระเบียบสถาบันการพลศึกษาว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2458 ความประพฤติต่อไปนี้ ถือว่ามี ความผิดร้ายแรง 4.1 การกระทำความผิดในทางอาญาและคดีแพง่ 4.2 ความผิดด้านชู้สาว 4.3 ลกั ขโมย 4.4 เสพสรุ า ยาเสพตดิ และของมึนเมาจนครองสติไม่อยู่ 4.5 เกิดการทะเลาะววิ าทหรอื ยุยงให้เกิดการแตกแยกความสามคั คีไม่วา่ กรณีใดๆ 4.6 ไมป่ ฏบิ ตั ิตามระเบียบของสถานศกึ ษา 4.7 ทำลายทรัพยส์ มบตั ิสว่ นรวมหรอื ของบคุ คลอืน่ ใหเ้ สียหาย 4.8 เมามัวกับการพนนั หรือมั่วสมุ ในสถานศกึ ษาหรือในสถานทท่ี ่ีไม่เหมาะสม 4.9 กอ่ ให้เกดิ หนีส้ ินล้นพ้นตวั ในระหว่างฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครแู ล้วไม่ยอมใช้ 4.10 เป็นผปู้ ระพฤตชิ ่วั และทำการใดๆ อันอาจทำให้เสื่อมเกยี รตยิ ศและชอ่ื เสยี งของครู 5. การลงโทษ ในระหวา่ งการฝกึ ปฏิบัติการสอน นกั ศึกษาจะไดร้ ับโทษตามกรณดี งั นี้ 5.1 นักศึกษาท่ีขาดการฝึกสอนติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน โดยไม่มีเหตุผลจะให้พักการฝึกปฏิบัติการ สอนทันที 5.2 นักศึกษาท่ีขาดการฝึกสอนติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจะหมดสภาพ การเป็นนักศกึ ษา 5.3 นักศึกษาทม่ี ีเวลาฝึกสอนไม่ถงึ 80% ของเวลาฝึกสอนทั้งหมด อาจารย์นิเทศก์จะเสนอเร่อื งตอ่ รอง อธิการบดีหรือรองคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ โดยผ่านงานฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู เพ่ืออนุมัติสอบสวนและ พจิ ารณาลงโทษเปน็ กรณีไป 5.4 นักศึกษาท่ีไม่สนใจในการสอน ไม่ทำแผนการจัดการเรียนรู้หรือละเลยงานท่ีได้รับมอบหมายอื่นๆ อาจารย์นิเทศก์เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร รวม 3 ครั้ง แล้วส่งเรื่องและหลักฐานต่องานฝึกประสบการณ์ วิชาชีพครู เพือ่ พจิ ารณาลงโทษตามควรแก่กรณี 5.5 นักศึกษาทีม่ ีความผิดร้ายแรงอาจารยน์ ิเทศก์สง่ เร่อื ง และหลักฐานต่องานฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ครู เพื่อเสนอรองคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ และรองอธิการบดี ตามลำดับ พจิ ารณาโทษเป็นกรณไี ป 5.6 นักศึกษาที่แต่งกายไม่สุภาพเรียบร้อย ไม่ถูกระเบียบ มีการเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรรวม 3 ครงั้ ให้อาจารย์นิเทศก์ส่งเรอื่ งและหลกั ฐานตอ่ คณะกรรมการฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู เพ่ือพิจารณาโทษตาม ควรแกก่ รณี ~ 28 ~

5.7 นักศึกษาท่ีบกพร่องต่อหน้าที่ อาจารย์นิเทศก์ ครูพี่เลี้ยง และผู้บริหารโรงเรียนตักเตือนแล้ว 3 คร้ัง ไม่พยายามปรับปรุงให้ดีข้ึน ให้ส่งเรื่องและหลักฐานต่อคณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู เพื่อพจิ ารณาโทษตามกรณี 5.8 ในกรณีที่นกั ศึกษาไมร่ ับผดิ ชอบงานการฝึกปฏิบัติการสอนท่มี ิใช่เหตุสุดวสิ ยั เช่น ปล่อยปะละเลย หน้าท่ี คณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครพู ิจารณาให้ผลการเรียนได้ กรณีเจ็บป่วยหรือเหตุสุดวิสัย ให้ ฝึกสอนใหมไ่ ด้ แตท่ ้ังนี้ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บการวัดผลและประเมนิ ผล 5.9 ในกรณที ี่ทำใหเ้ ส่อื มเสียชื่อเสยี งของสถาบัน ว่าด้วยจรรยาบรรณครู 2539 ทางสถาบนั จะประชุม พิจารณาเพื่อหาข้อเท็จจริงและดำเนินการลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการปกครองนักศึกษา ร่วมกับระเบียบ สถาบนั การพลศกึ ษา วา่ ดว้ ยระเบียบการวัดผลและประเมนิ ผล เหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดข้ึนนอกเหนือจากที่ระเบียบนี้ระบุไว้ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าสถานศึกษา และอาจารยน์ เิ ทศก์เป็นผู้พจิ ารณา 6. แนวทางการปฏิบตั ิตนของนกั ศึกษา การปฏิบัติการสอนเป็นการมุ่งสรา้ งประสบการณ์ และฝกึ ฝนทักษะด้านตา่ ง ๆ ให้แกน่ ักศึกษาเพ่อื ให้มี ความสามารถท่จี ะปฏิบตั งิ านในหนา้ ท่ีครไู ด้อยา่ งมีประสิทธิภาพเมื่อออกไปเปน็ ครู จงึ มีแนวในการปฏิบตั ิตน ดงั น้ี 6.1 การปฏบิ ตั ิตนเพือ่ เตรียมการรบั การนเิ ทศ 6.1.1 งานด้านการสอน 1) ศกึ ษาหลกั สูตร และเอกสารหลักสูตรต่าง ๆ อาทิ หน่วยการเรียน แนวการสอน คู่มือครูแผนการเรียนรู้ หนังสือเรียน หนังสืออ่านประกอบ หนังสือเสริมประสบการณ์ ฯลฯ ในช้ันท่ีจะสอน ตลอดจนหลักการและระเบยี บต่าง ๆ ทเี่ กย่ี วกับการเรยี นการสอน 2) การวางแผนการสอน และการทำแผนการเรยี นรู้ ควรทำลว่ งหนา้ อย่างนอ้ ย 7 วนั และ ส่งใหค้ รูพี่เลี้ยงหรืออาจารย์นิเทศก์ตรวจกอ่ นสอนทุกคร้งั และเตรยี มสื่อ และสง่ิ สนบั สนนุ ใหพ้ รอ้ มทีจ่ ะสอน 3) การสงั เกตการณส์ อน ต้องสังเกตการณ์สอนของครพู ีเ่ ลยี้ ง หรือเพือ่ นของนักศึกษา เพอ่ื ศกึ ษาวธิ กี าร และกำหนดแบบแผนการเรียนรขู้ องตนเอง 4) การสอน นักศึกษาตอ้ งเขา้ สอนในชั้นใดชนั้ หน่งึ หรอื วิชาใดวชิ าหน่ึง ตามที่ไดร้ บั มอบหมายจากสถานศึกษา โดยมีช่ัวโมงสอน 12-15 ช่ัวโมง / สัปดาห์ โดยประมาณ (ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับภารกิจ ทีโ่ รงเรยี นจะมอบหมายด้วย) 6.1.2 งานปรบั ปรงุ ชัน้ เรยี น นกั ศึกษาต้องปรกึ ษาและมสี ่วนร่วมกับครูพีเ่ ล้ยี ง ในการปรับปรงุ ชั้นเรียนทีต่ นสอน หรือประจำชน้ั ตามความเหมาะสม ได้แก่ 1) จดั ทำป้ายนเิ ทศ ป้ายสถติ จิ ำนวนนกั เรียน ปา้ ยวิชาการหรือขอ้ มูล ขา่ วสาร ฯลฯ ใหเ้ ปน็ ปจั จุบนั และเหมาะสม 2) จดั ประดบั ตกแต่งห้องเรยี นใหม้ บี รรยากาศสง่ เสริมการเรยี นรู้ สวยงาม สะอาดตา สะอาดใจ 3) จัดวางส่งิ ของ อปุ กรณก์ ารเรียน หนงั สอื ฯลฯ อยา่ งเป็นระเบยี บและให้นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ ม ~ 29 ~

4) ดูแลความเป็นระเบยี บของห้องเรยี น โต๊ะเรียน กระดานเรยี น เพื่อให้อยใู่ นสภาพท่ี เรียบรอ้ ย เปน็ ระเบียบอยู่เสมอ 5) จัดมมุ ประสบการณ์ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 6) รักษาความสะอาดของห้องเรยี นและสถานท่ีฝึกปฏบิ ัติอยา่ งสม่ำเสมอ 6.1.3 งานปรบั ปรุงโรงเรยี น นักศึกษาต้องมีส่วนรว่ มในการปรับปรุงโรงเรียน ใหส้ อดคลอ้ งกับโครงการและความตอ้ งการ ของโรงเรียน โดยได้รับความเหน็ ชอบจากหัวหน้าสถานศึกษา ฯลฯ 1) จัดแตง่ ป้ายชอื่ โรงเรียน ปา้ ยห้องตา่ ง ๆ ป้ายคำขวัญ ฯลฯ 2) ดแู ลความสะอาด ความเปน็ ระเบียบของรว้ั โรงเรียน ถนน บริเวณโรงเรียน 3) ดแู ลแปลงไม้ดอก ไม้ประดับ ทีน่ ง่ั เลน่ พักผ่อน 4) ดแู ลสนามหญ้า สนามเด็ก สนามกฬี า 5) ชว่ ยดแู ลทรัพย์สนิ และความปลอดภยั ของโรงเรยี น นักเรียนและอื่น ๆ ตามสมควร 6.1.4 งานด้านปกครอง นักศกึ ษาต้องมสี ่วนร่วมในการปกครองชนั้ ตามควร เชน่ 1) ปกครองชน้ั ทส่ี อน ตลอดจนให้การอบรมนักเรยี นตามสมควร เชน่ ในชั้นเรียน หนา้ เสาธง และโอกาสต่าง ๆ 2) สอดส่องดูแลความประพฤตขิ องนกั เรยี นในโรงเรียน 3) หาโอกาสพบปะผปู้ กครองนักเรียนตามโอกาสสมควร 6.1.5 งานด้านธรุ การในโรงเรียน 1) ทำบญั ชเี รยี กชื่อนักเรียน สมุดประจำชน้ั สมดุ ประจำวชิ า ฯลฯ 2) ทำระเบยี นต่าง ๆ 6.1.6 งานดา้ นพฒั นาชมุ ชน 1) ศึกษาสภาพของชุมชนท่ีไปฝึกประสบการณอ์ ย่างเขา้ ใจและทราบข้อมลู ท่เี พยี งพอ 2) มสี ว่ นรว่ มหรอื ใหค้ วามรว่ มมือในการพัฒนาชมุ ชนในโอกาสต่าง ๆ 3) เสนอโครงการตา่ ง ๆ เพอื่ พฒั นาสนับสนุนหรือประสานงานในการพฒั นาชมุ ชนตามสมควร 6.1.7 งานอ่นื ๆ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย อาทิ 1) ทำหนา้ ที่ครูเวร และ / หรืองานอืน่ ๆ ตามทโ่ี รงเรียนมอบหมาย 2) ตรวจสุขภาพนักเรยี น 3) ดูแลให้ความช่วยเหลือในด้านความปลอดภยั แกน่ ักเรียน ขณะทอ่ี ยู่ในโรงเรยี น 4) ช่วยเหลือกจิ กรรมพเิ ศษของโรงเรยี น 6.2 แนวทางในการเตรยี มเอกสารเพอ่ื รับการนเิ ทศและสัมมนา นักศึกษาปฏิบตั ิการสอนเตม็ รูปแบบทกุ คนจะต้องเตรยี มเอกสารสำหรับการนเิ ทศและสัมมนา ดงั นี้ ~ 30 ~

6.2.1 ปฏิบตั กิ ารสอน 1 นอกเหนอื จากการสอนนักศกึ ษาจะต้องปฏบิ ตั ิงานเพม่ิ เติมดังนี้ 1) แผนการจดั การเรยี นรวู้ ิชาพลศกึ ษา 2) แผนการจดั การเรยี นรวู้ ชิ าสขุ ศกึ ษา 3) สมุดปฏบิ ตั งิ าน เชน่ สมดุ บนั ทกึ ประจำวัน สมุดลงเวลาปฏิบตั ิงาน 4) รายงานผลการจดั โครงการวชิ าการตามสาขาวิชา 5) โครงร่างงานวิจัยในชน้ั เรียน 6) ผลิตส่อื นวัตกรรมการเรียนการสอน 7) แฟม้ สะสมงาน (Portfolio) 6.2.2 ปฏบิ ัตกิ ารสอน 2 นอกเหนือจากการสอนนกั ศึกษาจะต้องปฏบิ ัติงานเพิ่มเตมิ ดังนี้ 1) แผนการจดั การเรยี นรู้วิชาพลศึกษา 2) แผนการจดั การเรียนร้วู ิชาสุขศึกษา 3) สมุดปฏบิ ัติงาน เช่น สมุดบนั ทึกประจำวัน สมดุ ลงเวลาปฏิบัตงิ าน 4) รายงานผลการจัดโครงการวชิ าการตามสาขาวชิ า 5) รายงานการวิจยั ในช้ันเรยี น 6) แฟ้มสะสมงาน (Portfolio) ~ 31 ~

สว่ นที่ 5 แฟม้ สะสมงาน แฟม้ สะสมงาน หมายถงึ สิง่ ที่เก็บรวบรวมตวั อย่าง หรือบางส่วนของหลกั ฐานที่แสดงถึงผลสัมฤทธิ์ ความสามารถ ความพยายาม หรอื ความถนัดของบคุ คล หรอื ประเด็นที่ต้องจัดทำแฟ้มสะสมงานไว้อย่างเป็น ระบบ 1. วัตถปุ ระสงค์ของแฟ้มสะสมงาน 1.1 เพอ่ื ใหเ้ จ้าของแฟม้ ได้ประเมินตนเองว่า ผลงานที่ทำเป็นอยา่ งไร ประสบผลสำเรจ็ ระดับใด มีระบบ หรอื ไม่ ควรจะปรบั ปรุงแก้ไขหรอื ไม่ 1.2 เพอื่ ให้ผู้อื่นที่เกี่ยวข้องได้ประเมินของแฟ้มวา่ มคี วามสามารถในการปฏบิ ตั งิ านเปน็ อย่างไร ประสบ ความสำเรจ็ ในระดับใด ควรจะพัฒนาหรือไมอ่ ยา่ งไร 2. องคป์ ระกอบของแฟ้มสะสมงาน 2.1 ปก 2.2 คำนำ 2.3 สารบญั เน้อื หาสระในแฟ้ม 2.4 วตั ถปุ ระสงค์ในการนำเสนอสาระในแฟ้ม 2.5 สาระต่างๆ (อาจจะอย่ใู นรปู ผลงานการเขียน ผลผลิตชิ้นงาน ฯ) 2.6 ผลการประเมินสาระต่างๆ และแหลง่ การประเมินพร้อมทั้งหลกั ฐานการประเมินเปน็ ระยะๆ 2.7 ภาคผนวก หรือแหล่งอ้างอิง *** การเกบ็ รวบรวมผลงาน หลักฐานที่แสดงถงึ การปฏิบัติงานและผลงานท่เี กิดขึน้ ควรประกอบดว้ ยบนั ทึก ข้อความท่แี สดงถึงความเป็นมาของงาน (อาจจะอา้ งคำสั่ง) การปฏบิ ัติหนา้ ที่หรอื กิจกรรม ผลทเี่ กดิ ขึ้น / ประโยชนท์ ี่ได้รับ ปญั หาอปุ สรรค ข้อเสนอแนะ เพราะฉะนั้นผลงานท่เี ก็บ 1 ช้ิน ควรประกอบด้วย 1. บนั ทกึ ข้อความ (สำหรบั เสนอผบู้ งั คบั บัญชา) 2. ภาพถ่ายกจิ กรรมหรอื ผลงาน เอกสารประกอบ ส่อื อุปกรณต์ า่ งๆ ของผลงานแต่ละช้ิน จดั แยกไว้เพื่อ ประกอบการอ้างองิ 3. สำเนาคำส่งั ใหป้ ฏิบตั ิงาน (ถา้ ม)ี หลกั ฐานที่เปน็ เอกสาร ควรใหผ้ ้บู ังคับบัญชาเป็นผลู้ งนามรับรองสำเนา / ความถูกต้อง / ความเป็นจริง (ทกุ หน้า) พร้อมลงวัน เดือน ปี กำกับด้วย ~ 32 ~

สว่ นท่ี 6 การประเมินผลการปฏบิ ตั ิการสอน 1. แนวทางในการประเมินผลการปฏบิ ัติการสอน 1.1 การประเมินผลการปฏบิ ัติการสอน 1 ลำดบั รายการประเมนิ คะแนน ผู้ประเมนิ ท่ี การประเมนิ ผูบ้ ริหารหรือ 1 ประเมินคุณลกั ษณะความเปน็ ครู 10 ผไู้ ดร้ บั มอบหมาย 10 อาจารย์นิเทศก์ 2 ประเมินคุณลักษณะความเปน็ ครู 20 และครูพเ่ี ลยี้ ง 20 อาจารยน์ เิ ทศก์ 3 ประเมินการเขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ 10 และครูพีเ่ ลยี้ ง อาจารยน์ เิ ทศก์ 4 ประเมินการปฏบิ ตั กิ ารสอน 10 และครูพ่ีเลี้ยง หัวหนา้ งานฝึกประสบการณ์ 5 ประเมนิ การเขา้ รว่ มปฐมนิเทศ สมั มนา และปัจฉมิ วิชาชีพ/อาจารย์ประจำวิชา สมั มนา และอาจารยน์ ิเทศก์ อาจารย์นิเทศก์ 6 ประเมนิ โครงการวิชาการตามสาขาวิชา และครูพ่เี ลี้ยง - โครงการวิชาการตามสาขาวิชา - รายงานผลการดำเนินงานโครงการวชิ าการตาม 10 หัวหน้างานฝกึ ประสบการณ์ สาขาวชิ า วิชาชพี /อาจารย์ประจำวิชา/ อาจารยน์ เิ ทศก์/ครูพี่เล้ียง 7 ประเมนิ งานวจิ ัยในชั้นเรียน - โครงรา่ งวิจยั ในช้ันเรยี น/รายงานการวิจยั ในชัน้ 10 หวั หน้างานฝกึ ประสบการณ์ เรยี น/นวัตกรรม วิชาชีพ/อาจารยป์ ระจำวิชา/ อาจารย์นิเทศก์ 8 รายงานสรปุ ผลการปฎบิ ัติการสอน 1 100 รวมคะแนน หมายเหตุ นกั ศึกษาตอ้ งเข้าร่วม และปฏบิ ัตทิ กุ กิจกรรม ~ 33 ~

1.2 การประเมินผลการปฏบิ ตั ิการสอน 2 ลำดบั รายการประเมนิ คะแนน ผปู้ ระเมนิ ท่ี การประเมิน ผู้บรหิ าร 1 ประเมินคุณลักษณะความเป็นครู 10 หรือผ้ไู ดร้ บั มอบหมาย 10 2 ประเมินคุณลกั ษณะความเป็นครู 20 อาจารยน์ เิ ทศก์ 30 และครูพเ่ี ลี้ยง 3 ประเมินการเขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ 10 อาจารย์นเิ ทศก์ และครูพ่ีเลี้ยง 4 ประเมินการปฏิบตั กิ ารสอน 10 อาจารยน์ ิเทศก์ และครูพี่เลี้ยง 5 ประเมนิ การเข้าร่วมปฐมนิเทศ สัมมนา และปัจฉมิ หวั หนา้ งานฝกึ ประสบการณ์ สมั มนา วชิ าชพี /อาจารย์ประจำวิชา และอาจารยน์ ิเทศก์ 6 ประเมนิ งานวิจัยในช้ันเรียน หวั หนา้ งานฝึกประสบการณ์ - รายงานการวจิ ยั ในชน้ั เรยี น/นวตั กรรม วิชาชพี /อาจารย์ประจำวชิ า/ - รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการวชิ าการตาม อาจารย์นเิ ทศก์/ครูพีเ่ ลยี้ ง สาขาวิชา 10 หวั หนา้ งานฝึกประสบการณ์ 7 รายงานสรปุ ผลการปฎบิ ตั ิการสอน 2 วชิ าชีพ/อาจารยป์ ระจำวิชา/ อาจารยน์ ิเทศก์ รวมคะแนน หมายเหตุ นกั ศึกษาตอ้ งเข้าร่วม และปฏบิ ัติทกุ กจิ กรรม 100 ~ 34 ~

2. เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิการสอน คะแนน ระดบั คะแนน ค่าคะแนน ความหมาย 80 - 100 A 4.00 ดีเย่ียม Excellent 75 - 79 B+ 3.50 ดมี าก Very Good 70 - 74 B 3.00 ดี Good ดพี อใช้ Fairly Good 65 - 69 C+ 2.50 พอใช้ Fair 60 - 64 C 2.00 อ่อน Poor 55 - 59 D+ 1.50 ออ่ นมาก Very Poor 50 - 54 D 1.00 ตก Fail 0 - 49 F 0.00 I การประเมินผลยงั ไมส่ มบรู ณ์ - (Incomplete) หมายเหตุ ถา้ นกั ศึกษา ไดร้ ะดับคะแนนตำ่ กวา่ C ถอื ว่าสอบตกจะต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำ และถ้าไดร้ ะดบั คะแนนตำ่ กวา่ C เป็นคร้ังที่ 2 ถือวา่ พ้นสภาพการเปน็ นักศกึ ษา 3. แบบประเมินผลการปฏบิ ตั ิการสอน 3.1 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะความเป็นครู (ป. 1 สำหรบั ผบู้ ริหารสถานศึกษา) 3.2 แบบประเมินผลการปฏิบัตกิ ารสอน 3.2.1 แบบประเมนิ ผลการนเิ ทศคุณลกั ษณะความเปน็ ครู ( ป. 2 สำหรบั อาจารย์นิเทศก์ และครูพีเ่ ลี้ยง) 3.2.2 แบบประเมนิ การเขียนแผนการจดั การเรยี นรู้ (ป. 3 สำหรบั อาจารย์นิเทศก์ และครพู ี่เลย้ี ง) 3.2.3 แบบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ ารสอน (ป. 4 สำหรับอาจารย์นิเทศก์ และครพู เ่ี ล้ยี ง) 3.3 แบบประเมินการเข้าร่วมปฐมนิเทศ การสมั มนา (ป. 5 สำหรบั หัวหน้างานฝึกประสบการณ์ วิชาชพี /อาจารย์ประจำวชิ า และอาจารย์นิเทศก์) 3.4 แบบประเมินผลโครงการวิชาการตามสาขาวิชา (ป. 6 สำหรับครพู เ่ี ลี้ยง อาจารย์นเิ ทศก์ หัวหนา้ งานฝึกประสบการณ์วิชาชพี /อาจารยป์ ระจำวชิ า) 3.5 แบบประเมนิ การผลติ สอ่ื การสอน/นวตั กรรม (ป. 7.1 สำหรับอาจารยน์ ิเทศก์ ครูพเี่ ลีย้ ง หวั หนา้ งานฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี /อาจารย์ประจำวชิ า) 3.6 แบบประเมนิ งานวิจยั ในชน้ั เรยี น (ป. 7.2 สำหรับอาจารย์นเิ ทศก์ ครูพเี่ ลีย้ ง หัวหนา้ งานฝกึ ) ประสบการณว์ ชิ าชพี /อาจารยป์ ระจำวชิ า 3.7 แบบประเมนิ ผลสรปุ รปู เล่มการปฏิบัตกิ ารสอนและการปฏิบัตหิ นา้ ที่อื่น ๆ (ป. 8 หัวหน้างานฝึก ประสบการณว์ ิชาชพี และอาจารย์นิเทศก์) ~ 35 ~

ป. 1 (สำหรบั ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา) แบบประเมนิ คณุ ลักษณะความเป็นครู ภาคการศึกษา...............................................ปกี ารศึกษา....................... ชอื่ นักศึกษาปฏบิ ัติการสอน(นาย/นางสาว)...................................................................................... โรงเรียน.............................................................อำเภอ.......................................จังหวัด.................. ลำดับท่ี รายการประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ 1 ความสามารถในการฝกึ งานข้ันพนื้ ฐานเกย่ี วกับงาน 4 สารบรรณ พัสดุ และงานอื่น ๆ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 2 ความสามารถในการจัดโครงการพลศึกษาในโรงเรยี นหรอื 4 โครงการสุขศึกษาในโรงเรียน 3 ความสามารถในการสอนวิชาพลศกึ ษา 4 4 ความสามารถในการสอนวชิ าสุขศกึ ษา 4 5 ปฏิบตั ติ นเปน็ นกั ศึกษาฝกึ สอนท่ดี ีตามระเบยี บของการฝกึ 4 ประสบการณว์ ิชาชีพ เชน่ ตรงเวลา แต่งกายถูกต้อง ตามระเบียบ ความประพฤติดี ฯลฯ 6 ปฏิบตั ิตนเป็นผรู้ บั ผิดชอบในการฝึกประสบการณ์วิชาชพี 4 เช่น มาทำงานสม่ำเสมอ ไม่ละท้งิ หนา้ ท่คี วามรับผดิ ชอบท่ี ได้รบั มอบหมาย 7 ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ที่มีมนุษยสัมพันธท์ ีด่ กี บั ทุกคน 4 8 ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มนี ำ้ ใจนักกีฬา เช่น เสียสละกำลงั กาย 4 กำลังความคดิ นอกเหนือจากงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 9 ปฏิบตั ติ นเปน็ ผนู้ ำทางด้านสุขภาพท่ีดี 4 10 ปฏบิ ัติตนในลกั ษณะที่อาจคาดหมายไดว้ า่ จะเป็นครู 4 พลศึกษาและครสู ุขศึกษาทด่ี ใี นอนาคต รวมคะแนน 40 หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ควร ปรบั ปรงุ (ลงชอ่ื ).......................................................... (..............................................................) ตำแหน่ง.................................................. หมายเหตุ กรณีเอกเด่ียว ความสามารถในการสอน จะมีคะแนนเต็ม 8 คะแนน ~ 36 ~

ป. 2 (สำหรบั อาจารย์นิเทศก์/ครูพเี่ ลีย้ ง) แบบประเมนิ คุณลักษณะความเป็นครู ช่อื นกั ศกึ ษาปฏบิ ตั ิการสอน นาย/นางสาว................................................................................ การประเมนิ โปรดทำเคร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งระดบั ความประพฤตแิ ตล่ ะรายการ ระดับพฤติกรรม รายการ ประเมินคร้งั ที่ 1 ประเมินครง้ั ที่ 1 ประเมนิ ครง้ั ที่ 1 …../…........../….. …../..........…./….. …../..........…./….. 43 2 1 4 3 21 43 2 1 1. แตง่ กายถูกตอ้ งตามระเบียบของสถาบนั และ เหมาะสมกับความเป็นครู 2. ประพฤติปฏบิ ัตติ นได้เหมาะสมและเป็นแบบอยา่ งที่ดี ทง้ั กาย วาจา ใจ 3. รกั และศรทั ธาในวิชาชพี ครู และพฒั นาตนเองใหท้ ัน ต่อการเปลีย่ นแปลงของสงั คมอยูเ่ สมอ 4. รบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่ และกระตือรือรน้ ต่องานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 5. มีความอดทน อารมณ์มน่ั คงและย้ิมแย้มแจม่ ใส 6. สง่ เสริมความเจรญิ ทางร่างกายสติปญั ญา จิตใจ อารมณ์ และสงั คมของศิษย์ 7. ประพฤตปิ ฏิบตั ิตนอยใู่ นระเบียบวนิ ัยของสถาบนั สถานศึกษา และไม่แสวงหาผลประโยชน์จากศิษย์ 8. ส่งเสรมิ และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ภมู ิปัญญา ไทย 9. มมี นษุ ยสมั พันธท์ ีด่ ี ช่วยเหลอื เกื้อกลู และทำงาน รว่ มกับผ้อู น่ื ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ 10. รักและเมตตา ให้ความเอาใจใส่ ชว่ ยเหลอื สง่ เสรมิ ให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรยี นแก่ศิษย์ทุกคน คะแนนรวมแตล่ ะช่อง คะแนนรวมการนเิ ทศแต่ละคร้งั (คะแนนเตม็ 40 คะแนน) หมายเหตุ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = ปานกลาง 1 = ควรปรับปรุง ~ 37 ~

ขอ้ คิดเห็นเพ่มิ เตมิ ครง้ั ที่ 1..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................. ..................................................................... ครั้งท่ี 2.................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................. ...................................................... ครง้ั ที่ 3...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................. ...................................................... .................................................................................................................................................................. .................. .................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ...............................................................ผู้ประเมนิ (..............................................................) วันที่..............เดอื น............................พ.ศ.................. ~ 38 ~

ป. 3 (สำหรบั อาจารย์นิเทศก์/ครูพเี่ ลีย้ ง) แบบประเมินผลการเขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ ช่อื นกั ศึกษาปฏบิ ตั กิ ารสอน นาย/นางสาว................................................................................ การประเมิน โปรดทำเครื่องหมาย / ลงในชอ่ งระดบั ความประพฤติแต่ละรายการ ระดับพฤติกรรม รายการ ประเมนิ คร้ังท่ี 1 ประเมินครั้งท่ี 2 ประเมินคร้งั ที่ 3 …../.......…./….. …../…........./….. …../…......../….. 432 1 43 2 1 4321 1. ทำแผนการจดั การเรียนรู้ได้ถกู ต้อง ตามรปู แบบและ ขนั้ ตอนท่ีเหมาะสม 2. สง่ แผนการจัดการเรียนรใู้ ห้ครพู ่เี ล้ยี ง/อาจารยน์ ิเทศ/ ตรวจให้ทนั ตามเวลาท่กี ำหนด 3. เขยี นสรุปสาระสำคญั ได้ถูกตอ้ ง 4. กำหนดจดุ ประสงค์ได้ถูกต้อง และสอดคล้องกับสาระ การเรียนรู้ 5. เขียนสาระการเรยี นรูไ้ ด้ถูกตอ้ งตามหลักสูตร และ ทนั สมัยอยเู่ สมอ 6. กำหนดกจิ กรรมการเรียนการสอน สอดคลอ้ งกับ จุดประสงคแ์ ละสาระการเรยี นรู้ 7. มกี ระบวนการและกิจกรรมทห่ี ลากหลายโดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ 8. กำหนดส่ือการเรยี นการสอนไดส้ อดคล้องเหมาะสม กับสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรยี นการสอน 9. กำหนดวิธีการวัดและประเมินผลไดส้ อดคล้องกับ จดุ ประสงค์ 10. แผนการจัดการเรยี นรู้สามารถนำไปปฏบิ ตั ิการสอน ได้จรงิ คะแนนรวมแต่ละชอ่ ง คะแนนรวมการนเิ ทศแต่ละครง้ั (รวม 40 คะแนน) หมายเหตุ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = ปานกลาง 1 = ควรปรับปรุง ~ 39 ~

ขอ้ คิดเห็นเพิม่ เตมิ คร้งั ท่ี 1........................................................................................................................................................ ...................................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. .......................................... คร้ังที่ 2........................................................................................................................................................ .................................................................................................................. .................................................... ........................................................................................................................................................ .............. ครั้งที่ 3....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... .............................................................................................................................. ........................................ ลงชือ่ ...............................................................ผู้ประเมิน (..............................................................) วันที.่ .............เดอื น............................พ.ศ.................. ~ 40 ~

ป. 4 (สำหรับอาจารยน์ เิ ทศก์/ครพู ่เี ล้ยี ง) แบบประเมินผลการปฏิบตั กิ ารสอนวชิ าพลศกึ ษาและสุขศึกษา (ประเมิน 3 ครั้ง/ ภาคเรยี น) ชอ่ื นักศึกษาปฏบิ ตั ิการสอน นาย/นางสาว.................................นามสกลุ ......................................... วชิ าพลศกึ ษา ช้ัน............. วิชาสขุ ศกึ ษา ชน้ั ............. รายการ ระดับการประเมิน 1. แผนการจัดการเรยี นรู้มอี งค์ประกอบครบถว้ นเหมาะสมและมรี ายละเอียด ครั้งท่ี 1 ครง้ั ท่ี 2 ครง้ั ที่ 3 ที่สอดคล้องสมั พนั ธ์กนั 2.สาระสำคัญในแผนกระชับครอบคลุมแก่นความรู้เรอ่ื งนนั้ ๆ เกณฑ์ =……………… 3. ตัวช้ีวัดหรือจุดประสงค์การเรยี นรู้มคี วามชัดเจนและครอบคลุมด้านความรู้ 1 = ควรปรับปรงุ ทักษะและพฤตกิ รรม 4. เนอ้ื หาหรอื กิจกรรมการสอนเหมาะสมกับชัว่ โมงที่กำหนด 5. เน้ือหาสาระในแผนถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ 6. ใช้ภาษาถูกต้องตามอักขระวิธี มจี งั หวะเหมาะสม น้ำเสยี งชดั เจน และได้ ใจความ 7. สามารถควบคมุ ชน้ั เรียน ให้การเรยี นการสอนดำเนินไปด้วยดี 8. สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ด้วยการเสริมแรงไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 9. กิจกรรมการเรยี นรหู้ ลากหลาย/เหมาะสมกับวัยของผเู้ รียน 10. กจิ กรรมการสอนตามแผนเน้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ 11. กิจกรรมการสอนเน้นกระบวนการคิด 12. กจิ กรรมการสอนเน้นผ้เู รียนมีสว่ นร่วม 13. ส่อื /นวัตกรรมการสอนเหมาะสมกบั กจิ กรรมและผูเ้ รยี น 14. มีการวัดผลประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 15. มกี ารบนั ทึกผลหลังการสอนครบถ้วนทุกแผน เช่น การ บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ของการสอน (อปุ สรรคและปัญหาการ สอน แนวทางแกไ้ ขและพัฒนา) รวมเปน็ รายข้อตามระดับการประเมิน ผลการประเมิน (คะแนนเต็ม 60 คะแนน) คะแนนทไ่ี ด้=………........ เกณฑ์การประเมนิ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ ~ 41 ~

ข้อคิดเห็นเพม่ิ เติม ครง้ั ที่ 1........................................................................................................................................................ .................................................................................................................. ..................................................... ........................................................................................................................................... ............................ ครั้งที่ 2........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ......................................... ........................................................................................................................................................ .............. ครั้งที่ 3....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ......................................................................................................................................... ............................. ลงชือ่ ...............................................................ผ้นู เิ ทศ (..............................................................) วนั ท.่ี .............เดือน...............พ.ศ............... ~ 42 ~

ป. 5 (สำหรับหวั หนำ้ งำนฝึกประสบกำรณ์/อำจำรยน์ ิเทศก)์ แบบประเมนิ ผลการปฐมนิเทศ กวรสมั มนา การปจั ฉมิ สมั มนา ภาคการศกึ ษา...............................................ปีการศึกษา....................... ชื่อนกั ศึกษาปฏิบัติการสอน (นาย/นางสาว)...................................................................................... โรงเรยี น........................................................อำเภอ..................................จังหวัด.............................. ลำดับท่ี รายการประเมิน คะแนน คะแนน เตม็ ท่ีได้ 1 การตรงต่อเวลานดั หมาย 4 2 ให้ความสนใจในการรว่ มแสดงความคิดเห็น 4 3 กล้าแสดงออกในการเปน็ ผู้นำ และผตู้ ามท่ดี ี 4 4 แตง่ กายสะอาดเรียบร้อย 4 5 วางตวั ได้เหมาะสมในบทบาททไี่ ด้รบั มอบหมาย 4 6 ร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรมดว้ ยความสนใจ 4 7 สามารถแสดงความคิดเห็นในการแก้ปัญหาสัมมนา 4 8 แสดงความกล้าในการนำเสนอให้สมาชกิ รว่ มแสดง 4 ความคิดเห็นในประเดน็ ใหม่ ๆ และเกดิ ขนึ้ จริง 9 แสดงออกถึงความเป็นผู้มีน้ำใจกับสมาชิกในกลุ่ม 4 10 ส่งงานตามที่ได้รบั มอบหมายตามกำหนดเวลา 4 รวมการประเมินการสมั มนา 3 คร้งั รวมคะแนน 40/120 หมายเหตุ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง (ลงชื่อ).......................................................... ผปู้ ระเมนิ (..............................................................) วันท่.ี .............เดอื น...............พ.ศ............... ~ 43 ~

ป. 6 (สำหรบั อาจารย์นิเทศก/์ ครพู ี่เลี้ยง) แบบประเมนิ ผลการจดั โครงการวิชาการ ส่งเสริมวิชาพลศึกษา สง่ เสริมวิชาสุขศึกษา ชอ่ื นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพ(นาย/นางสาว)...................................................................... โรงเรยี น......................................................อำเภอ.................................จงั หวัด.............................. ชื่อโครงการ................................................................................................................................... ลำดับท่ี รายการประเมนิ คะแนน คะแนน เตม็ ท่ไี ด้ 1 โครงการทีจ่ ดั นำเสนอผู้เกีย่ วข้องตามลำดับข้นั ตอน ก่อนเวลา 4 ดำเนินการอย่างถูกตอ้ ง 2 จดั ทำคำสั่งแต่งตัง้ คณะกรรมการดำเนินการได้ถูกต้องเหมาะสม 4 3 มเี ปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงคส์ อดคล้องกบั การจัดการเรยี นการ 4 สอนในโรงเรียน 4 ปฏิบตั ติ ามหนา้ ทีแ่ ละความรับผดิ ชอบตามคำสั่งในโครงการ 4 5 มกี ารประสานงานกับผู้เกย่ี วข้องตามลำดับขั้นตอน 4 6 ครอู าจารย์ นักเรียน และผู้มีส่วนเก่ยี วขอ้ ง มสี ่วนร่วมในการจัด 4 7 การดำเนินโครงการเปน็ ที่ประจักษแ์ กผ่ เู้ ขา้ รว่ ม และก่อให้เกิด 4 ประโยชนต์ อ่ กลุ่มปา้ หมาย 8 การดำเนินโครงการเหมาะสมทง้ั ดา้ นเวลา สถานท่ี ส่อื อุปกรณ์ 4 9 โครงการท่จี ัดมสี ว่ นสร้างชอื่ เสียงให้แก่โรงเรียน และสถาบันฯ 4 10 มกี ารสรปุ รายงานผลโครงการเสนอผู้เกย่ี วขอ้ งตามลำดบั ขน้ั ตอน 4 รวมคะแนน 40 หมายเหตุ (เลือกดำเนนิ การภาคเรยี นละ 1 โครงการ พลศกึ ษาหรอื สุขศกึ ษา) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถงึ ควรปรับปรุง (ลงชื่อ).......................................................... ผปู้ ระเมิน (..............................................................) วันที่..............เดือน...............พ.ศ............... ~ 44 ~

ป. 7.1 (สำหรับหวั หนำ้ งำนฝึกประสบกำรณ์/อำจำรยน์ ิเทศก)์ แบบประเมินผลการผลติ สื่อการสอน ภาคการศึกษา...............................................ปีการศึกษา....................... ช่ือนกั ศกึ ษาปฏบิ ตั กิ ารสอน (นาย/นางสาว)...................................................................................... โรงเรียน.....................................................อำเภอ.....................................จงั หวดั .............................. ลำดับที่ รายการประเมนิ คะแนน คะแนนทไ่ี ด้ เต็ม 1 สอื่ การสอนน่าสนใจ 4 2 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาการผลิตส่ือการสอน 4 3 วัตถุประสงค์ของการผลติ ส่ือการสอนครอบคลุมปัญหาการผลิต 4 4 ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รบั สอดคล้องและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ 4 5 วธิ ีดำเนินการผลิตสื่อการสอนถกู ต้องชัดเจน 4 6 เลอื กใชอ้ ุปกรณ์การผลิตสอื่ สื่อได้อย่างเหมาะสม 4 7 แหล่งข้อมลู หรือเอกสารอ้างองิ หรือ บคุ คลอา้ งองิ ได้ 4 8 นำเสนอไดช้ ดั เจน เข้าใจง่าย 4 9 นำสือ่ การสอนไปประยกุ ต์ใช้ในกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้ 4 10 สามารถนำไปแกป้ ัญหาการเรียนการสอนไดจ้ รงิ 4 รวมคะแนน 40 หมายเหตุ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ควรปรบั ปรุง (ลงชอ่ื ).......................................................... ผปู้ ระเมิน (..............................................................) วนั ท.ี่ .............เดือน...............พ.ศ............... ~ 45 ~

ป. 7.2 (สำหรับหวั หนำ้ งำนฝึกประสบกำรณ์/อำจำรยน์ ิเทศก)์ แบบประเมินผลโครงการวิจัยในช้ันเรียน ภาคการศกึ ษา...............................................ปีการศกึ ษา....................... ชื่อนักศึกษาปฏิบัติการสอน(นาย/นางสาว)...................................................................................... โรงเรยี น......................................................อำเภอ....................................จังหวดั .............................. ลำดับท่ี รายการประเมิน คะแนน คะแนนที่ได้ เต็ม 1 ช่อื เร่อื งวจิ ัยในช้นั เรียนน่าสนใจ 4 2 ความเป็นมาและความสำคญั ของปัญหาชัดเจน 4 3 วัตถุประสงค์ของการวจิ ัยครอบคลุมปญั หาการวจิ ยั 4 4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั สอดคล้องและเป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ 4 5 วิธดี ำเนนิ การวิจัยถูกตอ้ งชดั เจน 4 6 เลือกใชเ้ คร่ืองมือได้อยา่ งเหมาะสม 4 7 ใชส้ ถิติวเิ คราะห์ข้อมลู ไดถ้ ูกต้องเหมาะสม 4 8 วเิ คราะหข์ ้อมลู และอภปิ รายผลได้ชัดเจน 4 9 นำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนได้ 4 10 มีความถูกตอ้ งในการเขียน การพมิ พ์ รูปเล่ม 4 40 รวมคะแนน หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ (ลงชอ่ื ).......................................................... ผปู้ ระเมิน (..............................................................) วนั ที.่ .............เดือน...............พ.ศ............... ~ 46 ~

ป. 8 (สำหรับหวั หนำ้ งำนฝึกประสบกำรณ์/อำจำรยน์ ิเทศก)์ แบบประเมินผลรายงานสรุปผลการปฏิบตั กิ ารสอน ช่ือ-สกุล........................................................................รหสั ........................................หอ้ ง................ โรงเรยี นปฏบิ ัติการสอน....................................................................................................................... ลำดับ ผูป้ ระเมิน คะแนนเตม็ คะแนน หมายเหตุ ท่ี ทีไ่ ด้ 1 ภาพรวมของรูปเล่มท่ีนำเสนอ 4 2 การเขยี นการรายงานผลการปฏบิ ตั หิ นา้ ทด่ี า้ นการสอนพลศึกษา 4 3 การเขยี นการรายงานผลการปฏิบัตหิ น้าทด่ี ้านการสอนสขุ ศึกษา 4 4 การเขียนการรายงานผลการจัดโครงการวชิ าสุขศึกษาหรอื พลศกึ ษา 4 5 การเขยี นการรายงานการศึกษาผเู้ รียนเปน็ รายบคุ คลหรือวจิ ัย ในช้นั เรยี น 4 6 การเขยี นการรายงานผลงานท่ไี ด้รบั มอบหมายเกี่ยวกบั กีฬา/งาน 4 อ่นื ๆ 7 การเขียนการรายงานผลงานที่ได้รับมอบหมายเกย่ี วกับงานวชิ าการ 4 8 การเขยี นการรายงานผลงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายเก่ยี วกบั กจิ กรรม นกั เรียนและงานอ่ืน ๆ 4 9 รปู ภาพในการนำเสนอการปฏิบัตหิ นา้ ทใี่ นแตล่ ะงานตามสภาพจรงิ 4 10 .การเขยี นรายงานน่าสนใจถกู ตอ้ งตามหลักวชิ าการและสมบรู ณ์ 4 รวมคะแนนทั้งสนิ้ 40 ผลการประเมนิ (ลงชอื่ ).......................................................... ผปู้ ระเมิน (..............................................................) วันที่..............เดือน...............พ.ศ............... หมายเหตุ 1. ประเมนิ เม่ือสน้ิ สุดการปฏิบัติการสอนในแต่ละภาคเรียนโดยสรปุ เป็นงานเดีย่ วคนละ 1 เล่ม 2. กรณเี อกเดี่ยว รายงานผลการปฏบิ ัตหิ นา้ ทด่ี ้านการสอน จะมคี ะแนนเต็ม 12 คะแนน ~ 47 ~

ภาคผนวก ~ 48 ~

ภาคผนวก ก เอกสารที่เกย่ี วข้องกบั การปฏิบิติการสอน 1. แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าพลศกึ ษา/พลศกึ ษาสำหรับเด็กพเิ ศษ /และสุขศึกษา นักศึกษาต้องเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ เท่าจำนวนชั่วโมงท่ีกำหนดให้สอนในตารางสอน (บันทึกการ สอน) โดยเขียนตามแบบฟอร์มท่ีสถาบันกำหนด ในกรณีท่ีโรงเรียนใดต้องการเขียนแผนตามรูปแบบของ โรงเรียน ให้นักศึกษานำเสนออาจารย์นิเทศก์/หัวหน้างานฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูก่อน โดยให้ครูพี่เลี้ยงและ ผู้บริหารทีโ่ รงเรียนฝกึ สอนเปน็ ผ้อู นุญาตและรับรอง ในกรณีที่เขียนแผนไม่ครบตามตารางสอนที่กำหนด ให้เขียนหนังสือชี้แจงก่อนส่งแผนให้กับอาจารย์ นเิ ทศก์/หวั หน้างานฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู โดยมีการรับรองจากครูพี่เลยี้ งของโรงเรียน 2. รูปแบบของ สรปุ รายงานการปฏบิ ตั กิ ารสอนและการปฏบิ ตั ิงาน 2.1 หนา้ ปก 2.2 ปกใน 2.3 คำนำ 2.4 คำนยิ ม 2.5 สารบัญ 2.6 สรปุ งานที่ไดร้ ับมอบหมายเปน็ ตาราง (งานสอนวิชาพลศึกษา งานสอนวชิ าสุขศึกษา งานด้าน วชิ าการ งานกจิ กรรมนักเรยี น งานเกยี่ วกบั กจิ กรรมกีฬา งานโครงการและอืน่ ๆ ที่ไดร้ บั มอบหมาย) โดยระบุ รายละเอียดดังน้ี 2.6.1 โครงการเกี่ยวกับการสอนวชิ าพลศกึ ษา/สขุ ศกึ ษา (ประกอบดว้ ย โครงการ คำสง่ั ผล การดำเนินงานตามโครงการ เชน่ ผลการแข่งขัน รายละเอยี ดการแข่งขัน รปู ภาพพร้อมคำอธบิ าย) 2.6.2 งานด้านวิชาการได้รบั มอบหมาย ประกอบด้วยรายละเอยี ดดังนี้ 1) งานสอนวิชาพลศึกษา นำเสนอโดยเขียนอธิบายใตร้ ูปภาพเพียง 2 รูปภาพ 2) งานสอนวชิ าสขุ ศึกษา นำเสนอโดยเขียนอธิบายใตร้ ูปภาพเพียง 2 ภาพ 3) งานวิชาการอื่น ๆ ท่ีโรงเรียนมอบหมาย อย่างน้อย 3 งาน นำเสนอโดยเขียน อธิบายใตร้ ปู ภาพ/และ/หรือคำสัง่ และเอกสารอน่ื ๆ 2.6.3 งานกิจกรรมนักเรียน กิจกรรมที่ร่วมกับนักเรียนอย่างน้อย 3 งาน และกิจกรรมท่ี ร่วมกับบุคลากรในโรงเรียนอย่างน้อย 3 งาน นำเสนอโดยเขียนอธิบายใต้รูปภาพ/และ/หรือคำสั่งและเอกสาร อนื่ ๆ 2.6.4 งานเกี่ยวกับกิจกรรมกีฬา เช่น ผู้ฝึกสอน ผู้นำกีฬา ผู้ตัดสินกีฬา อ่ืน ๆ ที่เกี่ยวกับ กีฬาท่ีโรงเรียนมอบหมาย อย่างน้อย 3 งาน นำเสนอโดยเขียนอธิบายใต้รูปภาพ/และ/หรือคำสั่งและเอกสาร อ่นื ๆ 2.6.5 สื่อการเรยี นการสอน ประกอบด้วย 1) สื่อการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา จำนวน 2 รายการ นำเสนอโดยเขียนช่ือ เขียนรายละเอียดของการทำสื่อ รายละเอียดวิธีใช้สอื่ และผลท่ีได้จากการใช้สื่อ โดยถ่ายภาพสื่อ ๆละ 2 ภาพ คือ ภาพส่ือทสี่ ำเรจ็ แล้ว และภาพวิธกี ารใชส้ ่ือ ~ 49 ~

2) สื่อการเรียนการสอนวชิ าสุขศึกษา จำนวน 2 รายการ (เป็นส่ือท่ีจัดทำข้ึนมา ใน เนื้อหาวิชาท่ีสอนตามแผนฯ) นำเสนอโดยเขียนช่ือเขียนรายละเอียดของการทำส่ือ รายละเอียดวิธีใช้สื่อ (ใบ งาน) โดยถ่ายภาพสอื่ ๆ ละ 2 ภาพ คือ ภาพสือ่ ท่สี ำเร็จแล้ว และภาพวธิ ีการใช้สื่อ 2.7. ขอ้ มูลครูพเ่ี ล้ียง 2.8 ข้อมูลของนักศึกษาที่ปฏบิ ตั ิการสอน ~ 50 ~