กฏหมายทั่วไปเกี่ยวกับงานอาชีพ

หลกั เกณฑท์ ีผ่ ู้ทรงสทิ ธิบัตรจะยน่ื คาขอใชส้ ทิ ธติ ามสิทธบิ ัตรอนื่ ได้ มาตรา 47 ถ้าการใช้สิทธิตามข้อถือสิทธิในสิทธิบัตรใดอาจมีผล เป็นการละเมิดข้อถือสิทธิในสิทธิบัตรอื่น ผู้ทรงสิทธิบัตรซึ่งประสงค์จะใช้ สิทธิดังกล่าวจะย่ืนคาขอใช้สิทธิตามสิทธิบัตรอ่ืนต่ออธิบดีก็ได้ภายใต้ หลักเกณฑ์ดงั ต่อไปนี้ (1) การประดิษฐ์ของผู้ขอใช้สิทธิเป็นการประดิษฐ์ท่ีมี ความก้าวหน้าอย่างสาคญั ทางเทคโนโลยีซ่ึงเป็นผลดีทางด้านเศรษฐกิจเมื่อ เทยี บกบั การประดิษฐ์ของสิทธิบัตรท่ขี อใช้ (2) ผทู้ รงสทิ ธิบัตรมีสทิ ธิท่ีจะใช้สิทธิตามสิทธิบัตรของผขู้ อใช้สิทธิ ภายใตเ้ งอื่ นไขทเี่ หมาะสมในการขอใช้สิทธนิ นั้ (3) ผ้ขู อใชส้ ทิ ธิไมอ่ าจโอนการใชส้ ิทธิดงั กลา่ วใหแ้ ก่บุคคลอน่ื เว้น แต่จะเปน็ การโอนไปพรอ้ มกับสิทธิบตั รของตน

สิทธิบัตร หมายถึง หนังสือสาคัญที่รัฐออกให้เพ่ือ คุ้มครองการประดิษฐ์คิดค้นหรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มี ลกั ษณะตามทกี่ ฎหมายกาหนด กฎหมายสิทธิบัตรฉบับปัจจุบันได้คุ้มครองสิทธิบัตร 2 ประเภท คอื ➢ สิทธบิ ตั รการประดษิ ฐ์ และ ➢ สทิ ธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์

สทิ ธบิ ตั รการประดิษฐ์ การประดิษฐ์ท่ีขอรับสิทธิบัตรได้ตอ้ งประกอบดว้ ยลักษณะ 3 ประการ คอื ➢ ต้องเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ (มาตรา 6) ➢ มีข้นั ตอนการประดิษฐ์สงู ข้ึน (มาตรา 7) และ ➢ สามารถประยุกต์ในทางอุตสาหกรรม (มาตรา 8)

สิทธบิ ัตรการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ➢ การออกแบบผลิตภัณฑท์ ่ีจะขอรับสิทธิบัตรได้ต้องเป็นการ ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เพ่ืออุตสาหกรรมและหัตถกรรม (มาตรา 56–57) และไมต่ ้องหา้ มตาม ➢ มาตรา 58 ➢ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์มีอายุการคุ้มครอง 10 ปี นบั แตว่ นั ขอรบั สทิ ธบิ ัตรในราชอาณาจักร (มาตรา 62)

สรุป สิทธิบัตรเป็นเรื่องการอนุญาตให้ผทู้ รงสิทธิมสี ทิ ธิแต่ผเู้ ดียว ท่ีจะผลิตทาซ้า ใช้ จาหน่ายนาเข้า ส่งออก หรือกระทาด้วย ประการใด ๆ ตามท่กี ฎหมายกาหนดในผลิตภณั ฑท์ ีไ่ ดร้ บั สทิ ธิบัตร

อนุสิทธบิ ตั ร ➢ อนุสิทธิบัตรเป็นเรื่องใหม่ที่กฎหมายกาหนดขึ้น ในการแก้ไข เพิ่มเติมเมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยกาหนดองค์ประกอบลักษณะการ ประดิษฐ์ท่ีขอรับอนุสิทธิบัตรได้ คือ ไม่จาเป็นต้องมีข้ันการ ประดิษฐ์สูง แต่ต้องเป็นการประดิษฐ์ใหม่ และสามารถประยุกต์ ในทางอุตสาหกรรม (มาตรา 65 ทว)ิ ➢ อนุสิทธิบัตรมีอายุการคุ้มครอง 6 ปี นับแต่วันขอรับอนุสิทธิบัตร ในราชอาณาจกั ร และสามารถขอต่ออายุได้คราวละ 2 ปี (มาตรา 65 สตั )

หน่วยที่ 7 กฎหมายเกี่ยวกับ เครื่องหมายการคา้

แผนผงั ความคดิ (Mind Mapping) เครื่องหมายการคา้ ทนี่ ามาจดทะเบยี นได้ และไมไ่ ด้ กฎหมายเกย่ี วกับ เคร่ืองหมายการค้า การได้มาซง่ึ สทิ ธิและความ คาแนะนาในการเตรียมคาขอ คุม้ ครองตามกฎหมาย จดทะเบยี นเครื่องหมายการค้า

กฎหมายเครื่องหมายการคา้ ฉบับปจั จบุ นั คือ พระราชบญั ญัติเคร่ืองหมายการค้า พ.ศ. 2534 (แก้ไขเพ่ิมเตมิ พ.ศ. 2543) เหตุท่ีต้องมีเครื่องหมายการค้าก็เพ่ือให้ผู้บริโภค เลือกซื้อ สินค้าได้ถกู ต้องครบตามคณุ สมบตั ิของสินค้าและความตอ้ งการ

กฎหมายใหค้ วามคุ้มครอง เคร่ืองหมาย 4 ประเภท ➢ เครอ่ื งหมายการค้า ➢ เครือ่ งหมายบรกิ าร ➢ เครอื่ งหมายรบั รอง ➢ เคร่ืองหมายร่วม

“เคร่อื งหมายการค้า” หมายความวา่ เคร่ืองหมายท่ีใช้หรือจะใช้เป็นท่ีหมาย หรือเก่ียวข้องกับ สินค้า เพ่ือแสดงว่าสนิ ค้าที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมาย การค้าน้ันแตกตา่ งกับสนิ ค้าท่ใี ชเ้ ครือ่ งหมายการค้าของบคุ คลอ่ืน

“เคร่อื งหมายบรกิ าร” หมายความวา่ เครื่องหมายทเี่ จา้ ของเคร่ืองหมายรับรองใช้ หรือจะใช้เป็นท่ี หมาย หรือเก่ยี วข้องกบั สนิ ค้า หรือบริการของบุคคลอื่น เพือ่ เปน็ การ รับรองเก่ียวกับแหล่งกาเนิด ส่วนประกอบ วิธีการผลิต คุณภาพ หรือคุณลักษณะอื่นใดของสินค้าน้ัน หรือเพ่ือรับรองเกี่ยวกับสภาพ คณุ ภาพ ชนิด หรือคณุ ลักษณะอ่นื ใดของบริการน้นั

“เคร่ืองหมายรับรอง” หมายความว่า เคร่ืองหมายที่เจ้าของเคร่ืองหมายรับรองใช้หรือจะใช้เป็น ท่ีหมาย หรือเกีย่ วข้องกับสินค้า หรือบริการของบุคคลอื่น เพ่ือเป็น การรับรองเกี่ยวกับแหล่งกาเนิด ส่วนประกอบ วิธีการผลิต คุณภาพ หรือคุณลักษณะอ่ืนใดของสินค้านั้น หรือเพื่อรับรอง เกี่ยวกับสภาพ คุณภาพ ชนดิ หรือคณุ ลกั ษณะอ่ืนใดของบริการน้นั

“เครือ่ งหมายร่วม” หมายความว่า เครอ่ื งหมายการคา้ หรือเครอื่ งหมายบริการท่ีใช้ หรือจะใช้ โดยบริษัท หรือวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของ สมาคม สหกรณ์ สหภาพ สมาพันธ์ กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่นใด ของรัฐหรือเอกชน

ลกั ษณะของเครื่องหมายการคา้ ที่จดทะเบยี นได้ ตามมาตรา 6 เครื่องหมายการค้าอันพึงรับจดทะเบียนได้ ต้องประกอบดว้ ย (1) เป็นเคร่ืองหมายการคา้ ทม่ี ีลักษณะบง่ เฉพาะ (2) เป็นเคร่ืองหมายการค้าที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม พระราชบัญญตั นิ ้ี ( 3 ) ไ ม่ เ ป็ น เ ค ร่ื อ ง ห ม า ย ก า ร ค้ า ท่ี เ ห มื อ น ห รื อ ค ล้ า ย กั บ เคร่ืองหมายการค้าท่ีบคุ คลอื่นไดจ้ ดทะเบยี นไว้แล้ว

มาตรา 7 เคร่ืองหมายการค้าที่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ได้แก่ เคร่ืองหมายการค้าอันมีลักษณะที่ทาให้ประชาชน หรือผู้ใช้สินค้า นั้นทราบและเข้าใจได้ว่าสินค้าท่ีใช้เคร่ืองหมายการค้านั้นแตกต่าง ไปจากสนิ ค้าอนื่

ขนั้ ตอนการขอจดทะเบยี นเครอ่ื งหมายการค้าทก่ี ฎหมายกาหนดไว้ ตามมาตรา 9 “การขอจดทะเบียนเคร่ืองหมายการค้าจะขอจด ทะเบียนสาหรับสินค้าเฉพาะอย่างในจาพวกเดียวกันหรือต่างจาพวกกันก็ได้ แต่ต้องระบุรายการสินค้าที่ประสงค์จะได้รับความคุ้มครองแต่ละอย่างโดยชัด แจ้ง คาขอจดทะเบียนฉบบั หน่ึง จะขอจดทะเบียนสาหรับสินค้าต่างจาพวกกัน มิได้ การกาหนดจาพวกสนิ คา้ ใหเ้ ปน็ ไปตามทีร่ ัฐมนตรปี ระกาศกาหนด” ผู้ขอจดทะเบียนเคร่ืองหมายการค้า ต้องมีสถานที่ท่ีติดต่อได้ตามท่ี มาตรา 10 บัญญัติไว้ว่า “เครื่องหมายการค้าอันพึงรับจดทะเบียนนั้น ผู้ขอจด ทะเบียนเพื่อเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น หรือตัวแทน ต้องมีสานักงาน หรือสถานทีท่ น่ี ายทะเบียนสามารถตดิ ต่อได้ต้ังอยู่ในประเทศไทย”

ผ้มู สี ิทธิขอจดทะเบยี นเป็นบคุ คลที่กาหนด ดังน้ี ➢ บคุ คลธรรมดาหรือนิติบุคคล ➢ ผู้ขอจดทะเบียนหรือตัวแทนต้องมีสานักงาน หรือสถานท่ีท่ี นายทะเบยี นสามารถติดตอ่ ได้ ตั้งอยู่ในประเทศไทย

การอนญุ าตให้ใชเ้ ครือ่ งหมายการค้า เจ้าของเคร่ืองหมายการค้าท่ีจดทะเบียนแล้วจะ ทาสัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้าของ ตน สาหรับสนิ ค้าท่ไี ด้จดทะเบียนไว้ทัง้ หมดหรอื บางอย่าง ก็ได้ โดยจะต้องทาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนาย ทะเบยี น

คาขอจดทะเบยี นต้องแสดงรายการอยา่ งน้อย ดงั นี้ ➢ เงื่อนไขหรือข้อกาหนดระหว่างเจ้าของเครื่องหมายการค้านน้ั และ ผขู้ อจดทะเบียน เป็นผู้ไดร้ บั อนญุ าตทจ่ี ะทาให้เจา้ ของเคร่ืองหมาย การค้านั้นสามารถควบคุมคุณภาพของสนิ คา้ ของผู้ไดร้ ับอนุญาตได้ อยา่ งแท้จรงิ ➢ สนิ คา้ ที่จะได้รบั อนุญาตใหใ้ ชเ้ ครือ่ งหมายการค้าน้นั ➢ ให้แสดงว่าผู้ขอจดทะเบียนเป็นผู้ได้รับอนุญาต มีสิทธิใช้ เครื่องหมายการค้าน้ันแต่ผู้เดียว หรือเจ้าของเคร่ืองหมายการค้า อาจอนุญาตให้บคุ คลอน่ื ใช้เครือ่ งหมายนั้นอกี ได้

ดปู ระกอบตามหนงั สือ หน้า 212

จบบริบรู ณ์