Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คะนิ้ง-20-กิจกรรม

คะนิ้ง-20-กิจกรรม

Published by siwakornfew22, 2019-10-13 14:49:09

Description: คะนิ้ง-20-กิจกรรม

Search

Read the Text Version

ผลทค่ี าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ บั ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. สง่ เสรมิ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างมือกบั ตา 1. คณุ ครูวาดภาพรูปทรงตา่ งๆบนพนื้ ที่ 2. กระตุ้นทกั ษะการจา ขนาด 1 ตารางเมตรดว้ ยชอลก์ หรอื สเี ทยี น 3. ใหเ้ ดก็ เรยี นรู้เร่อื งรูปทรง 2. ใหเ้ ดก็ ๆ มานง่ั ล้อมวงรอบพื้นทีท่ เ่ี ตรยี มไว้ 4. เรม่ ิ ต้นประสบการณก์ ารเขยี น 3. คุณครูชใ้ี หเ้ ดก็ ๆสงั เกตรูปทรงแตล่ ะรูป โดยบอกชอื่ รูปทรงเหลา่ นนั้ พร้อมทงั้ ใหเ้ ดก็ อุปกรณ์ พดู ตาม 2-3 เทย่ี ว 1. เชอื กไนลอนขนาดความยาว 1 เมตร 4. คณุ ครูสมุ่ เลอื กเดก็ ออกมาทากจิ กรรม 5-6 เสน้ มัดปลายใหเ้ ป็นวง ทลี ะคน โดยใหเ้ ดก็ นาเชอื กไปวางทรี่ ูปทรง 2. ชอลก์ หรอื สีเทยี น ต่าง ๆ ตามทค่ี ุณครู บอกใหถ้ กู ต้อง และ 3. พน้ื ทว่ี า่ งขนาด 1 ตารางเมตร ตอ้ งวางตามเส้นรูปทรงนน้ั ใหถ้ กู ตอ้ งดว้ ย 5. เดก็ ทท่ี าไมถ่ กู ตอ้ งออกมาแก้ตวั

ผลทค่ี าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ บั ข้ันตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เสรมิ สรา้ งสมาธิ 1. คณุ ครูให้เดก็ จบั กลมุ่ แล้วใหเ้ ดก็ ออกมา 2. ฝึกกลา้ มเนอ้ื มัดเลก็ เลน่ ทลี ะกล่มุ 3. ฝึกประสานสมั พันธม์ อื กบั ตา 2. คณุ ครูนาสไี มม้ าเรยี งเป็นแถวบนพน้ื เรยี บ 4. ฝึกการจาแนกสี แลว้ ไถลมอื กลง้ิ สไี ม้ ใหไ้ หลไปตามพน้ื ทเ่ี รยี บ 3. คุณครูสมุ่ เลอื กเดก็ มาทากจิ กรรม อปุ กรณ์ 4. คณุ ครูใหเ้ ดก็ ท่ีถกู เลอื ก หยบิ แทง่ สี 1. สไี มแ้ ท่งกลมแทง่ ใหญ่ 12 สี ตามสีทค่ี ุณครูบอก ซ่งึ ตอ้ งหยบิ โดยไมใ่ ห้ แทง่ สอี น่ื ขยบั 5. คณุ ครูร่วมเล่นเกมกับเดก็ และสลบั ใหเ้ ดก็ เลน่ ครบทกุ คน

ผลทค่ี าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ ข้ันตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย ใหเ้ ดก็ คนหนงึ่ อยกู่ บั ทเี่ ป็นคนหลบสายตา 2. ส่งเสรมิ ใหม้ คี วามกระฉบั กระเฉง และอกี คนหน่งึ เดนิ อยรู่ อบ ๆ เป็นคนจอ้ ง 3. ฝึกทกั ษะการสังเกต ใหเ้ ดก็ คนทอี่ ยกู่ ับทห่ี มนุ ตวั ไปทางซา้ ยหรอื 4. สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มปี ฏสิ มั พนั ธ์ ขวากไ็ ด้ และใหเ้ ดก็ อกี คนหนง่ึ เดนิ วนรอบ ๆ ระหวา่ งกนั เพอื่ หาทางไปจ้องตาเพอื่ นทย่ี นื อยใู่ ห้ได้ กอ่ นทเี่ พลงจะหยดุ เมอ่ื เพลงหยดุ ใหค้ รูเป่า อปุ กรณ์ นกหวดี เป็นสญั ญาณให้หยดุ ท้งั สองตอ้ ง 1. เคร่อื งเลน่ เพลง, นกหวดี หยดุ น่ิง ถา้ อยใู่ นทา่ จอ้ งตากนั คนจอ้ งชนะ ถา้ ไมไ่ ดจ้ อ้ งตากนั คนหลบชนะ

ข้นั ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทค่ี าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ บั 1. คณุ ครูกาหนดเสน้ ทีเ่ ป็นจดุ เร่มิ ตน้ 1. เสรมิ สร้างพัฒนาการดา้ นร่างกาย และเสน้ ชยั โดยใชพ้ น้ื ที่จากหนา้ ห้อง 2. เสรมิ สร้างทกั ษะความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ไปท้ายหอ้ งกไ็ ด้ มอื กบั ตา 2. คณุ ครูสมุ่ เลอื กเดก็ ออกมาเล่นเกม 3. ปลกู จติ สานกึ ในการรักการทาความ เทา่ กับจานวนไม้ถพู นื้ หรอื ผา้ ถพู ื้นทมี่ ี สะอาด 3. ใหเ้ ดก็ ทร่ี ่วมเลน่ เกม ยนื หลังเส้น ทเี่ ป็นจดุ เรม่ ิ ตน้ โดยใหย้ นื หา่ งกัน อปุ กรณ์ พอสมควร 1. ไมถ้ พู นื้ หรอื ผา้ ถพู น้ื 2-4 ชดุ 4. เม่อื ทกุ คนพรอ้ ม คุณครูจงึ เป่า นกหวดี แลว้ ให้เดก็ ทร่ี ่วมเลน่ เกมใชไ้ ม้ หรอื ผา้ ถพู ื้นจากจุดเร่มิ ตน้ จนมาถึง เสน้ ชยั โดยใครทมี่ าถงึ ก่อนจะเป็นผชู้ นะ

ผลทคี่ าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. เพือ่ กระตุ้นการประสานสมั พันธ์ ระหวา่ งมือกบั ตา 2. เพ่ือส่งเสรมิ ทกั ษะความสมั พนั ธ์ ระหว่างกลา้ มเนอ้ื เลก็ และใหญ่ 3. เพอื่ ฝึกใหเ้ ดก็ มสี มาธิ 4. เพอื่ สง่ เสรมิ ความสามคั คี อุปกรณ์ 1. ผา้ หม่ 1 ผนื หรอื เสอื่ 1 ผืน หรอื กระดาษแขง็ แผ่นใหญ่ 1 แผน่ 2. ลกู บอล 2-3 ลกู (ขนาดแตกตา่ งกนั ) 3. เคร่อื งกีดขวาง เชน่ กรวย รั้ว เป็น ตน้ ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. คณุ ครูเตรยี มสถานท่ี โดยการกาหนด 3. คุณครูเร่มิ ต้นโดยการสมุ่ เลือกเดก็ ๆ ทางเดนิ และวางสิ่งกดี ขวาง(ถา้ ม)ี ออกมาทากจิ กรรมทลี ะ 2 คนข้นึ ไป โดย 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ ช่วงแรก ๆ ใหค้ ุณครูรว่ มทากิจกรรมดว้ ย (แนวการพดู เพอ่ื เร่มิ กิจกรรม) เดก็ ๆ 4. ระหว่างเดก็ ๆทากจิ กรรม คณุ ครู วันนเี้ ราจะเลน่ เกม “เปลหามวบิ าก” กัน จับเวลา และเมือ่ เลน่ จน คณุ ครูใหร้ างวัล ใหเ้ ดก็ ๆ ชว่ ยกันถอื ผา้ น้ี และคณุ ครูจะ กับกลมุ่ ทีช่ นะ สว่ นกลมุ่ ทแี่ พใ้ หอ้ อกมา วางลกู บอลทลี ะลกู ลงไปบนผนื ผา้ ใหเ้ ดก็ ๆ แสดงตามเพลงท่ีกาหนด พาลกู บอลไปใสใ่ นตระกร้าทเี่ ตรยี มไว้ ทางดา้ นนน้ั (ชใี้ หเ้ ดก็ ๆเหน็ ตระกร้า ทเ่ี ตรยี มไว้) ระหวา่ งทาง ถา้ เดก็ ๆทาลกู บอลตกออกมานอกผนื ผา้ เดก็ ๆตอ้ งเดนิ กลบั มาเร่มิ ตน้ ใหม่ กลมุ่ ไหนเอาลกู บอลทง้ั สามลกู ไปใส่ตระกรา้ ไดเ้ ร็วทสี่ ดุ เปน็ ผู้ชนะ

ขั้นตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทค่ี าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ พร้อมสาธิตวธิ กี าร 1. เสรมิ สร้างพฒั นาการดา้ นรา่ งกาย เลน่ (แนวการพดู เพอ่ื เรม่ ิ กจิ กรรม) 2. ฝึกความกลา้ แสดงออก เดก็ ๆ วันนเี้ ราจะเลน่ เกม “หมวกของ 3. ฝึกความเป็นผนู้ าและผู้ตาม พระราชา” กนั ถา้ ใครสวมหมวกใครน้ี (ยกหมวกใหเ้ ดก็ ๆสังเกต) จะถอื เป็น อุปกรณ์ พระราชา ทุกคนต้องทาตามทพ่ี ระราชาส่งั 1. หมวก 1 ใบ ใครที่ทาผดิ หรอื ไมท่ าตามที่พระราชาสง่ั ถอื วา่ 2. ฮลู า่ ฮปู ใหญ่ 1 วง ผิดตอ้ งถกู กกั บรเิ วณ ในวงกลม (ชไี้ ปท่หี ว่ ง ฮปู ลา่ ฮปู ทวี่ างอยูท่ พ่ี น้ื ) 3. คุณครูเร่มิ ต้นโดยการเป็นพระราชากอ่ น จากนั้นจงึ คอยเอาหมวกไปใสใ่ ห้กบั เดก็ แตล่ ะ คน แลว้ ใหเ้ ปลย่ี นไปเร่อื ย ๆ 4. เมื่อเลน่ จนไดค้ นอยฮู่ ูปลา่ ฮูปจานวนหนงึ่ กใ็ หค้ นในฮปู ลา่ ฮปุ ทง้ั หมดออกมาแสดง ทา่ ทางตามเพลงทก่ี าหนด

ขนั้ ตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. คณุ ครูใชเ้ ชอื กทาเป็นรูปทรงตา่ งๆ เชน่ 1. เสรมิ สร้างพัฒนาการดา้ นร่างกาย วงกลม สเ่ี หลยี่ ม และสามเหลยี่ ม โดยใหม้ ี 2. ฝึกกล้ามเนอ้ื ใหญ่ ขนาดพอเหมาะกบั ระยะการว่งิ ของเด็ก 3. สรา้ งประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 2. คณุ ครูใชก้ รวยกาหนดจดุ เร่มิ ตน้ ว่งิ โดย เร่อื งรูปทรง รูปวงกลมกบั กาหนด 2 จุด รูปสามเหลยี่ ม กาหนด 2-3 จุด และรูปสเ่ี หลย่ี ม 2-4 จดุ อปุ กรณ์ โดยมรี ะยะหา่ งของแต่ละจุดเทา่ กนั 1. เชอื กไวส้ าหรับทาเสน้ ทางว่งิ 1 เสน้ 3. คณุ ครูสมุ่ เลอื กเดก็ ออกมาเลน่ เกม 2. กรวยสาหรับกาหนดจดุ เรม่ ิ ว่งิ 2-4 เทา่ จานวนจุดทก่ี าหนด ชดุ 4. ใหเ้ ดก็ ทรี่ ว่ มเลน่ เกม ยนื ตรงจดุ ทกี่ าหนด 3. ผา้ เช็ดหนา้ 2-4 ผืน โดยถือผา้ สีทแ่ี ตกตา่ งกันไว้ในมอื 5. เมอื่ ผเู้ ลน่ พรอ้ ม คณุ ครูจงึ เปา่ นกหวดี แลว้ ใหเ้ ดก็ ทร่ี ่วมเลน่ ว่งิ ตามเขม็ นาฬกิ า ไปตามทางทกี่ าหนด แลว้ เอาผา้ ไปตผี เู้ ลน่ คนอนื่ ใหท้ นั ใครที่โดนตตี อ้ งออกจากเกม สว่ นใครทเ่ี หลอื เปน็ คนสดุ ทา้ ยเป็นผชู้ นะ

ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทค่ี าดว่านกั เรยี นจะไดร้ บั 1. คณุ ครูเตรยี มสถานท(ี่ ขดี ชอล์กเปน็ วงกลม) 1. เสรมิ สร้างพัฒนาการดา้ นรา่ งกาย แลว้ เลอื กเด็กเพื่อร่วมเลน่ เกมจานวน 4-6 คน 2. ฝึกไหวพรบิ 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ พร้อมสาธติ วธิ กี ารเล่น 3. ฝึกประสาทรับรูแ้ ละความวอ่ งไว (แนวการพดู เพอ่ื เรม่ ิ กิจกรรม) “เดก็ ๆ วันนี้ เราจะเล่นเกม “ซูโม่เจา้ สงั เวยี นกนั ” กนั อปุ กรณ์ ซูโม่ เป็นกีฬาอยา่ งหน่ึงในประเทศญปี่ ุ่น 1. ชอลก์ วาดวงกลม ผแู้ ขง่ ขัน 2 คน จะเขา้ ไปอยกู่ ลางวง โดยมี กรรมการยนื ตรงกลาง เมื่อกรรมการบอกให้ เร่มิ ผแู้ ขง่ ขนั ทั้งสองจะพยายามผลกั ดนั คตู่ อ่ สู้ ใหอ้ อกนอกสนาม ใครออกนอกสนามกอ่ นจะ เป็นผแู้ พว้ ันนคี้ ุณครูจะใหเ้ ดก็ ๆ เลน่ เกมซโู ม่ เจา้ สังเวยี น โดยเดก็ ๆจะตอ้ งผลกั ดนั เพอื่ นๆให้ ออกนอกวงให้หมด ใครทเี่ หลอื ในวงเป็นคน สดุ ทา้ ยคอื ผ้ชู นะ ” 3. เมอื่ เด็กๆเขา้ ใจกตกิ าแลว้ คณุ ครูจงึ ให้ สญั ญาณเดก็ เร่มิ เลน่ เกม โดยคุณครูจะสั่งหยดุ เกมเป็นระยะเมอื่ มคี นโดนผลกั ออกหรอื ใน จงั หวะที่ไมป่ ลอดภยั

ข้ันตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ บั 1. ให้เดก็ นั่งเป็นวงกลมโดยคณุ ครูเขา้ ไปน่ังแทรก 1. เดก็ ไดเ้ ลน่ ร่วมกบั ผอู้ น่ื เป็นสมาชกิ คนหน่งึ ในวง 2. เดก็ พัฒนากลา้ มเน้อื ไหว 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ โดยบอกว่าเดก็ คนใดทน่ี ง่ั 3. ฝึกประสาทรบั รูแ้ ละความว่องไว อยรู่ ะหว่างช่องวา่ ง ใหจ้ ับมอื กนั แลว้ ว่งิ ไปดงึ เพอ่ื น ท่อี ยตู่ รงหนา้ มานงั่ ทชี่ ่องวา่ งซึง่ จะทาให้เกิด อุปกรณ์ ชอ่ งวา่ งใหม่ แล้วให้เดก็ ทนี่ ่ังอยรู่ ะหว่างชอ่ งว่าง 1. นกหวดี ใหมจ่ บั มอื กนั ว่งิ ไปดงึ เพอื่ นทม่ี านง่ั ที่ชอ่ งว่างต่อไป ทาเชน่ นจี้ นกว่าจะเปา่ นกหวดี ใหห้ ยุด 3. คุณครูทาการสาธติ โดยครูอธบิ ายเป็นขนั้ ๆ จนกระทง่ั เดก็ สามารถเร่มิ เล่นเกมสไ์ ด้ 4. คณุ ครูลกุ ออกจากวงเพม่ิ ให้เกิดช่องวา่ งแรก แลว้ ใหเ้ ดก็ ดาเนนิ กจิ กรรม โดยคณุ ครูใหค้ าแนะนา 5. เม่ือชานาญแลว้ คณุ ครูปล่อยใหเ้ ดก็ ดาเนนิ กจิ กรรมกลมุ่ ดว้ ยตนเอง

ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. คณุ ครูกาหนดขอบเขตของพ้ืนทโ่ี ดยใชช้ อลก์ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย วาดเปน็ กรอบสเ่ี หลย่ี มขนาดประมาณ 4×4 เมตร 2. ใหเ้ ดก็ ตน่ื ตวั กระฉบั กระเฉง 2. คณุ ครูชวนเดก็ ๆ ออกมาน่ังรอหนา้ พื้นท่ีท่ี เตรยี มไว้ อุปกรณ์ 3. คุณครูอธบิ ายเกม โดยจะเลอื กเดก็ 1 คน 1. กระดาษสขี นาดประมาณ ออกมาติดโพสอสิ ทห่ี ลัง แลว้ เลอื กเด็กอกี สอง 10×10 ซม. ตดิ ดว้ ยเทปกาว ถึงสามคนเป็นคนไลจ่ บั โดยใหว้ ่งิ ไลจ่ ับกนั ในพ้ืนที่ หรอื โพสอสิ ทเ่ี ตรยี มไว้ ถา้ คนไลจ่ บั สามารถดงึ โพสอสิ ทห่ี ลงั 2. ชอลก์ เพื่อนไดถ้ งึ ว่าชนะและจบเกม แต่ถา้ คนทตี่ ิด โพสอสิ สามารถหลบในพน้ื ที่นไี้ ดเ้ กนิ 1 นาที กจ็ ะเป็นชนะแทน 4. คณุ ครูสมุ่ เดก็ ออกมาสาธติ เกม 5. คณุ ครูสมุ่ เลอื กเดก็ ออกมาทากจิ กรรมทีละรอบ

ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. คณุ ครูหาพน้ื ทโ่ี ล่งๆ เพือ่ มใชใ้ นการเลน่ 1. ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ น 2. คณุ ครูชวนเดก็ ๆ ออกมานง่ั รอหนา้ พ้นื ท่ีท่เี ตรยี มไว้ รา่ งกาย 3. คุณครูอธิบายเกม โดยจะเลอื กเดก็ 5-6 คนออกมา 2. เดก็ ตน่ื ตวั กระฉบั กระเฉง สาธติ เกม โดยใหเ้ ดก็ 1 คนถือลกู บอลยาง 3. เดก็ จดจาชอื่ เพอื่ นได้ พอคณุ ครูบอกให้เรม่ ิ เกม ใหเ้ ดก็ ทถี่ อื ลกู บอลโยนลกู 4. ฝึกความสมั พันธร์ ะหวา่ ง บอลพรอ้ มบอกชื่อเพอ่ื นทยี่ นื อยู่ 1 คน คนคนน้ัน มือกบั ตา จะตอ้ งรบี ว่งิ มารับลกู บอลกอ่ นที่ลกู บอลจะกระดอน พืน้ สองคร้ัง ถา้ เดก็ คนนนั้ มาทนั ใหโ้ ยนลกู บอลและ อุปกรณ์ บอกชอื่ เพอื่ นคนอนื่ ตอ่ ไป ถา้ มาไม่ทัน ใหร้ บี มาควา้ 1. ลกู บอลยาง บอลแลว้ คะโกนบอกทกุ คนท่ีร่วมเลน่ เกมให้หยุด 2. พน้ื ท่ีโล่ง จากนน้ั คนทถี่ อื บอลต้องปาบอลไปใหโ้ ดนเพ่ือน ถา้ โดน คนทโี่ ดนต้องออกมาเต้นราแกต้ วั แตถ่ า้ ไมโ่ ดน คนทปี่ าตอ้ งออกมาเต้นราแทน 4. คณุ ครูสมุ่ เดก็ ออกมาสาธติ เกม 5. คณุ ครูสมุ่ เลือกเดก็ ออกมาทากจิ กรรมทีละรอบ

ขน้ั ตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ บั 1. ให้เดก็ น่งั เป็นวงกลมโดยคณุ ครูเขา้ ไปนั่งแทรก 1. เดก็ ไดเ้ ลน่ ร่วมกบั ผอู้ น่ื เป็นสมาชกิ คนหน่งึ ในวง 2. เดก็ พัฒนากลา้ มเน้อื ไหว 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ โดยบอกว่าเดก็ คนใดทนี่ ง่ั 3. ฝึกประสาทรบั รู้และความว่องไว อยรู่ ะหว่างช่องวา่ ง ใหจ้ ับมอื กนั แลว้ ว่งิ ไปดงึ เพอ่ื น ทอ่ี ยตู่ รงหนา้ มานงั่ ทชี่ ่องวา่ งซึง่ จะทาใหเ้ กิด อุปกรณ์ ชอ่ งวา่ งใหม่ แลว้ ให้เดก็ ทนี่ ่ังอยรู่ ะหว่างชอ่ งว่าง 1. นกหวดี ใหมจ่ ับมอื กนั ว่งิ ไปดงึ เพอื่ นทม่ี านง่ั ที่ชอ่ งวา่ งต่อไป ทาเชน่ นจี้ นกว่าจะเปา่ นกหวดี ให้หยุด 3. คุณครูทาการสาธติ โดยครูอธบิ ายเป็นขน้ั ๆ จนกระทง่ั เด็กสามารถเร่มิ เล่นเกมสไ์ ด้ 4. คณุ ครูลกุ ออกจากวงเพม่ิ ให้เกิดช่องวา่ งแรก แลว้ ใหเ้ ดก็ ดาเนนิ กจิ กรรม โดยคณุ ครูใหค้ าแนะนา 5. เม่อื ชานาญแลว้ คณุ ครูปล่อยใหเ้ ดก็ ดาเนิน กิจกรรมกลมุ่ ดว้ ยตนเอง

ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ บั 1. ครูกาหนดเสน้ ทางเป็นทางตรงหา่ ง 1-3 เมตร 1. ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ น 2. ครูอธบิ ายเกมครา่ วๆ ใหเ้ ดก็ ฟังวา่ จะเลอื กเดก็ รา่ งกาย ออกมาหนงึ่ คน ปิดตาและใหห้ มนุ ตวั สามรอบ 2. เรยี นรู้การใช้ประสาทสมั ผสั จากนั้นจะใหเ้ ดินจากจุดเรม่ ิ ตน้ ไปตีกลองที่อยอู่ ีก จดุ หน่ึง อปุ กรณ์ 3. ครูอธบิ ายกตกิ าเพมิ่ เติมวา่ สาหรบั คนท่ีปิดตา 1. กลอง ครูจะชว่ ยบอกทาง โดย ถา้ ครูตบไหลด่ า้ นไหนให้ 2. ผา้ ปิดตา เดก็ เดินไปดา้ นนัน้ และถา้ ครูวางมอื บนหวั แปลว่า ใหต้ รงไป ดึงคอเส้อื เบาๆแปลว่าใหย้ อ้ นกลับมา (ในกรณีทเ่ี ดก็ จดจาทศิ ทางไดแ้ ล้ว สามารถใช้ การพูดบอกซา้ ยขวาไดเ้ ลย) ถา้ ใครเปิดผา้ ปิดตา ก่อนทจ่ี ะตกี ลองไดถ้ อื วา่ ผดิ กตกิ า ใครเดนิ ไป ตีกลองสาเร็จถือเปน็ ผ้ชู นะ 4. ครูเลือกเด็กออกมาสาธิตการเลน่ 5. ครูและเดก็ รว่ มเลน่ เกมตามความเหมาะสมของ เวลาและสถานที่

ข้นั ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทค่ี าดว่านกั เรยี นจะไดร้ บั 1. แบ่งนกั เรยี นออกเป็น 5 แถว แถวละ 5 คน 1. นักเรยี นเกดิ ทกั ษะการฟัง 2. คนแรกของแตล่ ะแถวมารับกระดาษทเ่ี ขยี น เพื่อจับใจความ และทกั ษะ ข้อความที่กาหนดใหจ้ ากครูไปท่องจา โดย ในการเขยี นคาภาษาไทยให้ กาหนดเวลาใหท้ อ่ งจา 1 นาที แลว้ สง่ กระดาษ ถูกต้อง ขอ้ ความคนื ครู 3. คนแรกของแตล่ ะแถวกระซบิ บอกขอ้ ความคน อปุ กรณ์ ที่ 2 คนที่ 2 กระซิบบอกตอ่ คนที่ 3 คน 1. กระดาษขอ้ ความ ขนาดครง่ ึ ท่ี 3 กระซบิ บอกตอ่ คนท่ี 4 และคนท่ี 4 กระซบิ บอกคนสดุ ทา้ ย A4 5 แผน่ 4. ใหค้ นสดุ ทา้ ยของแตล่ ะแถวเขยี นขอ้ ความลง 2. กระดาษ A4 5 แผน่ ในกระดาษนาส่งครู 3. ดินสอ/ปากกา 5 ดา้ ม 5. ให้คนแรกของแตล่ ะแถวอา่ นกระดาษทเี่ ขยี น ข้อความท่ีครูกาหนดให้ และขอ้ ความทเี่ ขยี นโดย คนสุดทา้ ยของแตล่ ะแถวใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง 6. ใหเ้ พอ่ื นๆ ในชนั้ เรยี นตดั สนิ ว่าแถวใดท่ี ข้อความของคนแรกและคนสุดทา้ ยเขยี นข้อความ ไดต้ รงกันหรอื ใกล้เคยี งทีส่ ดุ ซ่งึ จะเปน็ ผชู้ นะ

ข้ันตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. ให้เดก็ ยนื จบั มอื กนั เป็นวงกลม 1. เสรมิ สร้างพฒั นาการดา้ น 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ พร้อมสาธติ วธิ กี ารเล่น ร่างกาย (แนวการพดู เพอื่ เร่มิ กิจกรรม) เดก็ ๆ วันน้ี 2. ฝึกความสามคั คี เราจะเลน่ เกม “ลกู บอลสามคั ค”ี กนั คณุ ครู 3. ฝึกประสาทรับรู้และความ จะใหเ้ ดก็ ๆสง่ ลกู บอลนี้ (ชลู กู บอล) ไปใหเ้ พอ่ื น ๆ ว่องไว โดยการใชเ้ ทา้ เตะ แลว้ เมอ่ื ลกู บอลถกู เตะไปหา ใคร คนคนนนั้ ต้องเตะลกู บอลนนั้ สง่ ไปใหเ้ พอื่ น อุปกรณ์ คนอื่น (สาธติ การเตะลกู ฟุตบอลใหเ้ ดก็ ดู 1. ลกู ฟุตบอล ประกอบ) โดยตอ้ งไม่ปลอ่ ยมอื จากเพอ่ื นและ หา้ มใช้มอื แตะตอ้ งลกู บอล ใครทาลกู บอลหลดุ ออกไปนอกวงหรอื ทาผิดกตกิ า ตอ้ งออกจากเกม 3. คณุ ครูทดลองเล่นกับเดก็ ๆ จนเดก็ เขา้ ใจ และสามารถทาไดเ้ อง

ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. ให้เดก็ ยนื รวมกันเป็นวงกลม 1. เสรมิ สรา้ งพฒั นาการดา้ น 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ พร้อมสาธิตวธิ กี าร รา่ งกาย เลน่ (แนวการพดู เพอ่ื เรม่ ิ กจิ กรรม) 2. ฝึกประสาทรับรูแ้ ละความ เดก็ ๆ วันนเี้ ราจะเลน่ เกม “ผง้ึ นอ้ ยทารัง” กนั ว่องไว ถา้ คณุ ครูพูดว่า “ผ้ึงทารัง” ใหเ้ ดก็ ๆทกุ คนว่งิ เขา้ มาลอ้ มรอบตวั คณุ ครู แตถ่ ้าคณุ ครูพดู วา่ อปุ กรณ์ “ผง้ึ แตกรัง” ใหเ้ ด็กๆทุกคนว่งิ ออกหา่ งจาก - ตวั คณุ ครู ใครท่ีทาผดิ ต้องออกจากเกม 3. คุณครูทดลองเล่นกับเดก็ ๆ จนเดก็ เขา้ ใจ และสามารถทาไดเ้ อง

ข้ันตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. ให้เดก็ นั่งเป็นวงกลมโดยคณุ ครูเขา้ ไปน่งั แทรก 1. เดก็ ไดเ้ ลน่ รว่ มกบั ผอู้ น่ื เป็นสมาชกิ คนหน่งึ ในวง 2. เดก็ พฒั นากลา้ มเนอื้ ไหว 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ โดยบอกว่าเดก็ คนใดทีน่ งั่ 3. ฝึกประสาทรับรูแ้ ละความ อยรู่ ะหว่างช่องวา่ ง ใหจ้ ับมอื กนั แลว้ ว่งิ ไปดงึ เพอ่ื น ว่องไว ท่อี ยตู่ รงหนา้ มานงั่ ทชี่ ่องวา่ งซึง่ จะทาให้เกิด ชอ่ งวา่ งใหม่ แลว้ ให้เดก็ ทนี่ ่ังอยรู่ ะหว่างชอ่ งวา่ ง อุปกรณ์ ใหมจ่ บั มอื กนั ว่งิ ไปดงึ เพอื่ นทม่ี านง่ั ที่ชอ่ งว่างตอ่ ไป 1. นกหวดี ทาเชน่ นจี้ นกว่าจะเปา่ นกหวดี ใหห้ ยุด 3. คุณครูทาการสาธติ โดยครูอธบิ ายเป็นขั้นๆ จนกระทง่ั เดก็ สามารถเร่มิ เล่นเกมสไ์ ด้ 4. คณุ ครูลกุ ออกจากวงเพม่ิ ให้เกิดช่องว่างแรก แลว้ ใหเ้ ดก็ ดาเนนิ กจิ กรรม โดยคณุ ครูใหค้ าแนะนา 5. เม่ือชานาญแลว้ คณุ ครูปล่อยใหเ้ ดก็ ดาเนิน กจิ กรรมกลมุ่ ดว้ ยตนเอง

ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทคี่ าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. เสรมิ สรา้ งพัฒนาการดา้ น 1. คณุ ครูเลอื กใช้หอ้ งทบี่ นพน้ื และผนงั โลง่ ปิดไฟ ร่างกาย ในหอ้ งใหม้ ืดเพยี งพอทจี่ ะเห็นแสงจากไฟฉาย 2. สรา้ งประสบการณก์ ารใช้ 2. คณุ ครูให้เด็กสงั เกตแสงจากไฟฉายทไี่ ปกระทบ ประสาทสมั ผสั ดา้ นการ ผนงั ว่า มรี ูปรา่ งอยา่ งไร มขี นาดเลก็ หรอื ใหญ่ มองเห็น 3. คุณครูอธิบายเกม “ใหเ้ ดก็ ๆ เอามอื ไปแตะในวง 3. ส่งเสรมิ สมั พันธภาพ ของแสงทค่ี ุณครูฉายไฟฉายไปให้เร็วที่สดุ ใครชา้ ระหว่างมอื กับตา ทสี่ ดุ จะตอ้ งออกมาเต้นรา” 4. คณุ ครูสมุ่ เลอื กเดก็ ออกมาสาธิตทากจิ กรรม อปุ กรณ์ โดยคุณครูฉายไฟไปสว่ นใดสว่ นหนง่ึ บนผนงั 1. ไฟฉาย 1 แลว้ ใหเ้ ดก็ ว่งิ เอามอื ไปแตะในวง 5. คณุ ครูและเดก็ ๆ ร่วมกันทากิจกรรมอยา่ ง สนกุ สนาน 4. ให้เดก็ ๆทช่ี า้ ทส่ี ดุ ออกมาเต้นรา โดยใหเ้ พอ่ื นคน อ่ืนรอ้ งเพลงประกอบ จากนัน้ คณุ ครูจงึ กลา่ ว ชมเชย

ผลทคี่ าดว่านกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. เสรมิ สรา้ งพัฒนาการดา้ นร่างกาย 2. ฝึกไหวพรบิ 3. ฝึกประสาทรบั รูแ้ ละความว่องไว 4. สง่ เสรมิ ดา้ นคณติ ศาสตร์ อุปกรณ์ - ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ให้เดก็ ยนื เป็นวงกลมโดยคณุ ครูยืนอยตู่ รงกลาง 2. คณุ ครูอธบิ ายการเลน่ พร้อมแสดงทา่ ทางประกอบ (แนวการพดู เพอ่ื เร่มิ กิจกรรม) เดก็ ๆ วันนเี้ ราจะเลน่ เกม “นกั แสดงจาเป็น” กนั คุณครูชใี้ คร คนนัน้ ตอ้ งแสดงทา่ ทางตามตัวเลขท่ีคณุ ครูบอก ถา้ คณุ ครูชท้ี ใ่ี ครแลว้ บอกวา่ “หนงึ่ ” ใหเ้ ดก็ คนนัน้ ยนื ตรง ถา้ คณุ ครูชท้ี ใี่ ครแลว้ บอกว่า “สอง” ใหเ้ ดก็ คนนัน้ กลบั หลงั หนั ถา้ คณุ ครูชท้ี ใี่ ครแลว้ บอกวา่ “สาม” ให้เดก็ คนนั้นนงั่ ลง” 3. คณุ ครูทดลองเล่นกบั เดก็ ๆ จนเดก็ เขา้ ใจและสามารถทาไดเ้ อง 4. เม่อื เดก็ สามารถเล่นไดค้ ลอ่ งแลว้ คณุ ครูสามารถเพม่ิ เงอื่ นไข ด้วยหมายเลขตอ่ ไป เช่น “ส่ี ใหท้ าทา่ …” “หา้ ให้ทาทา่ …” เปน็ ตน้ 5. การดาเนนิ กจิ กรรม ถา้ เป็นเดก็ อนบุ าล 4-5 ปี สามารถวางเงอ่ื นไขไดถ้ งึ เลข 5 ถา้ 5-6 ปี สามารถวางเงอื่ นไขไดถ้ งึ เลข 10 แลว้ แตส่ ภาพผเู้ รยี น

ขนั้ ตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทค่ี าดวา่ นกั เรยี นจะไดร้ ับ 1. คณุ ครูให้เด็กๆจบั คกู่ นั แลว้ แจกลกู บอล 1. เสรมิ สรา้ งพฒั นาการดา้ น ใหค้ ลู่ ะ 1 ลกู รา่ งกาย 2. คณุ ครูสมมตใิ หล้ กู บอลทแี่ จกเดก็ ๆ 2. ฝึกกล้ามเนอื้ ใหญ่ ไปมคี ณุ สมบตั เิ หนยี วหนึบ 3. สง่ เสรมิ กระบวนการคิด 3. อธบิ ายใหเ้ ดก็ ชว่ ยกนั กับคขู่ องตวั เองให้ 4. ส่งเสรมิ คณุ ธรรม ชว่ ยกันหนบี ลกู บอลตามสว่ นตา่ งๆดว้ ยกนั เร่อื งความสามคั คี ตามคาสงั่ เชน่ คาสงั่ วา่ “ติดหนบึ ทแี่ ขน” ใหเ้ ดก็ คนสองหนบี ลกู บอลไว้ทแ่ี ขน เป็นต้น อปุ กรณ์ 4. คณุ ครูสาธิตทากจิ กรรม 1. ลกู บอลลูกเลก็ 5. คณุ ครูและเดก็ ๆ ร่วมกนั ทากจิ กรรม เทา่ จานวนคูข่ องผเู้ ลน่ อยา่ งสนกุ สนาน 6. คใู่ ดสามารถหนบี ลกู บอลตามคาสั่งได้ โดยไมต่ กเป็นคู่สดุ ทา้ ยเป็นผชู้ นะ สว่ นคทู่ ที่ า ลกู บอลตก 5 คู่ แรกออกมาเตน้ ราเพอ่ื เป็น รางวัลใหผ้ ้ชู นะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook