ฉบับปรบั ปรุง 1 เมษายน 2559 www.facebook.com/ThaiEduPlan
(รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแห่งชาต ิ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ สำนักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนึกษการไศทึกยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ คำนำ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา มีภารกิจหลักในการจัดทำ นโยบายและแผนการศกึ ษาแห่งชาติ ท่บี ูรณาการศาสนา ศิลปะ วฒั นธรรม กีฬากับการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท และได้จัดทำแผนการศึกษา แห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๙) ซ่ึงจะส้ินสุดระยะเวลา ของแผนในปี ๒๕๕๙ ดงั นน้ั เพื่อให้ทนั เวลาในการประกาศใชแ้ ผนการศกึ ษา แห่งชาตฉิ บับต่อไปในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษาจงึ ไดด้ ำเนนิ การจัดทำแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ ซึง่ เปน็ แผนระยะยาว ๑๕ ปี เพื่อเป็นแผนแม่บทสำหรับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง นำไปใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการศึกษาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ในการดำเนินการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเน้นการให้ความสำคัญกับการมี ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพ่ือให้เกิดความครอบคลุม และเป็นที่ยอมรับ ของผู้ท่ีเกีย่ วข้อง อนั จะทำใหส้ ามารถขับเคลอื่ นแผนไปสกู่ ารปฏิบัติได้อยา่ ง มีประสิทธิภาพ และสภาการศึกษาได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการ สภาการศึกษาเฉพาะกิจ ด้านจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ ดำเนินการ ซง่ึ มผี ู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนสุ รณ์ ธรรมใจ เปน็ ประธาน สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา โดยคณะอนุกรรมการ สภาการศึกษาเฉพาะกิจ ด้านจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ ได้ดำเนิน การศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมท้ัง ประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิและประชุมเชิงปฏิบัติการ
(รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง แล้วยกร่างกรอบทิศทางแผนการศึกษา แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ ซงึ่ หลงั จากนี้ จะไดน้ ำไปรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ท้ังในกรุงเทพฯ และใน ๔ ภูมิภาค เพื่อนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ มาปรับแก้เพิ่มเติมสาระใน (ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติฯ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งข้ึน พร้อมทั้งจัดทำรายละเอียดของแผนการศึกษา แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ ตอ่ ไป สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ขอขอบคุณคณะอนุกรรมการ สภาการศึกษาเฉพาะกิจ ด้านจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีย่ิง ซึ่งทำให ้ “(ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔” ฉบับนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเบ้ืองต้น และหวังเป็นอย่างย่ิงว่าทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันผลักดันให้การจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาต ิ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ เสรจ็ สมบูรณ์บรรลตุ ามเป้าหมายตอ่ ไป (นายกมล รอดคล้าย) เลขาธิการสภาการศึกษา
(ร่าง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนึกษการไศทึกยษในาแเวหท่งสีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ สารบญั หน้า คำนำ ● (ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ๑. วสิ ยั ทศั น์ของแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (Vision) ๖ ๒. จุดมุง่ หมายของการจดั การศึกษา (Goals) ๗ ๓. ความคาดหวังของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ (Aspiration) ๘ ๔. เปา้ หมายสดุ ท้ายของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ (Ends) ๑๐ ๕. หลกั การ/แนวคิดการจัดการศึกษา (Conc eptual Design) ๑๒ ๖. แนวทางการจัดการศึกษา (Means) ๑๙ ๗. ปจั จัย/เงอื่ นไขความสำเรจ็ (Key Success Factors) ๒๘ ๘. ยุทธศาสตร์ มาตรการ ตัวช้วี ัด และหน่วยงานรับผิดชอบ ๒๙ ● ภาคผนวก ก. สภาพปญั หาและความท้าทาย และผลท่ีเกิดขึ้น ๔๕ ของระบบการศกึ ษา ข. สภาพบริบททางเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศไทย ๕๕
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนกึ ษการไศทึกยษในาแเวหทง่ สีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 1 (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแห่งชาต ิ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ๑ (ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ ฉบับนี้ ได้จัดทำข้ึนมาเพ่ือทดแทนแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๙) ซ่ึงจะส้ินสุดในปี ๒๕๕๙ สำนักงานเลขาธิการ สภาการศกึ ษาในฐานะหนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบการจดั ทำแผนการศกึ ษาแหง่ ชาต ิ จึงได้เสนอคณะกรรมการสภาการศึกษา เพ่ือแต่งต้ังคณะอนุกรรมการ สภาการศึกษาเฉพาะกิจ ด้านจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งม ี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ เป็นประธานอนุกรรมการฯ เพ่ือ จดั ทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ๒ ๑ คณะกรรมการสภาการศึกษา ในการประชมุ ครงั้ ท่ี ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๑๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๙ ไดม้ ี มติเห็นชอบหลักการของ (ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ ตามท่ีสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเสนอ และให้รับข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไป พิจารณาปรบั แก้ไขตามความเหมาะสม ๒ คณะกรรมการสภาการศึกษา ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เม่ือวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ ได้มีมติเห็นชอบแต่งต้ังคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาเฉพาะกิจด้านการจัดทำแผนการศึกษา แห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามคำส่ังแต่งต้ังคณะอนุกรรมการฯ เมือ่ วันท่ี ๔ สงิ หาคม ๒๕๕๘
2 (รา่ ง) กรอบทิศทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ เพอื่ ใหก้ ารจดั ทำ (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ดงั กลา่ ว มีความละเอียดรอบคอบ และครอบคลุมทุกมิติ สำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการฯ จึงได้ดำเนินการ ติดตามประเมินผลแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๙) รวมท้งั ดำเนนิ การศกึ ษาวจิ ยั เพอื่ พัฒนาองคค์ วามรูใ้ นประเดน็ สาระ สำคัญที่มีผลกระทบต่อระบบการศึกษา ในช่วงปี ๒๕๕๕ – ๒๕๕๘ อาทิ การปฏิรูปการเรียนรู้ การกระจายอำนาจไปสู่สถานศึกษาตามแนวทาง การบริหารจัดการท่ีใช้โรงเรียนเป็นฐาน การปฏิรูประบบการผลิตและ พัฒนาครู การปฏิรูประบบทรัพยากรและการเงินเพ่ือการศึกษา รวมทั้ง การศึกษาวิจัยประเด็นเก่ียวกับ “แนวทางการพัฒนาการศึกษาไทยกับ การเตรียมความพร้อมสู่ศตวรรษท่ี ๒๑” ซ่ึงผลการศึกษาดังกล่าวได้นำมา เป็นข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอนโยบายด้านการศึกษาของคณะกรรมการ อำนวยการปฏิรูปการศึกษา ตลอดจนข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในช่วง ปี ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘ และนำมาเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำ (ร่าง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔ อกี ทางหนงึ่ ดว้ ย นอกจากการศึกษาสภาพปัญหาและข้อเท็จจริงของระบบ การศึกษาที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง ยังได้ศึกษาบริบทแวดล้อมด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาด้วย รวมทั้งผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรท่ีส่งผลต่อระบบการศึกษา โดยการ รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารท่ีเก่ียวข้อง อาทิ การติดตามผล แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙ กรอบทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนึกษการไศทกึยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 3 พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ และกรอบแนวทางการดำเนินงานแผนยทุ ธศาสตร์ ชาติ ๒๐ ปี เพอ่ื เปน็ ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาจดั ทำ (รา่ ง) กรอบทศิ ทาง แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ ให้มีการบูรณาการเชื่อมโยงและสอดคล้อง ในทิศทางเดียวกัน ภายใต้บริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่มีความเป็น พลวตั และเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาตฉิ บบั น้ี ซงึ่ จะเรมิ่ ดำเนนิ การ ในปี ๒๕๖๐ จะเป็นแผนยทุ ธศาสตรร์ ะยะยาวสำหรบั หนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ ง กบั การศกึ ษา ทงั้ ทอี่ ยใู่ นกระทรวงศกึ ษาธกิ ารและนอกกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ได้นำไปเป็นกรอบและแนวทางการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับ พลเมืองทุกช่วงวัย ต้ังแต่เกิดจนตลอดชีวิต ให้บรรลุผลตามเป้าหมายของ แผนฯ โดยจุดมงุ่ หมายท่สี ำคญั ของแผนคือ การมุ่งเน้นการประกนั โอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษา การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน การศกึ ษา และการศกึ ษาเพื่อการมีงานทำและสร้างงานได้ ภายใต้บรบิ ท เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกท่ีขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ รวมท้ังมีความเป็นพลวัต ภายใต้สังคมแห่ง ปัญญา (Wisdom-Based Society) สังคมแห่งการเรียนรู้ (Lifelong Learning Society) และการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ (Supportive Learning Environment) เพ่ือให้พลเมืองสามารถแสวงหา ความร้แู ละเรยี นรูไ้ ด้ดว้ ยตนเองอย่างต่อเนอื่ งตลอดชีวติ เพื่อให้ประเทศไทย สามารถก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศ ที่พัฒนาแลว้ ในอีก ๑๕ ปีข้างหนา้ นอกจากปัญหาวิกฤตของการศึกษาไทยที่สะสมมานาน ไม่ว่าจะ เป็นปัญหาความแตกต่างของคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาระหว่าง สถานศึกษา ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ปัญหาความเหล่ือมล้ำใน
4 (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ปัญหาสถานศึกษาขนาดเล็ก ในชนบท ปัญหาการรวมศนู ยอ์ ำนาจเข้าสู่สว่ นกลาง แม้กระท่ังการกระจาย อำนาจไปสู่สถานศึกษาแต่ก็บริหารและจัดการที่ขาดความรับผิดชอบต่อ ผเู้ รยี น มงุ่ ผลติ ในเชงิ ปรมิ าณมากกวา่ คณุ ภาพ และผลติ กำลงั คนไมส่ นองตอบ ความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ ผู้สำเร็จการศึกษา ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ การใชเ้ หตุผล และทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษ ที่ ๒๑ และสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ซ่ีงส่งผลกระทบต่อผลิตภาพของ กำลังแรงงานภายใต้ระบบเศรษฐกิจและสังคมท่ีประเทศไทยกำลังเผชิญ ในขณะน้ี ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายที่เป็นพลวัตของโลก ศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งเป็นแรงกดดันภายนอกจากกระแสโลกาภิวัตน์ อาทิ กระแสการเปล่ียนแปลงจากศตวรรษแห่งอเมริกาสู่ศตวรรษแห่งเอเชีย แรงขบั เคลอ่ื นในระดับภมู ิภาคซง่ึ เกิดจากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ภายใต้ กรอบความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคี อาทิ การรวมกลุ่มของประชาคม อาเซียน การรวมกลุ่มของเอเชียตะวันออก รวมท้ังกระแสการเปลี่ยนแกน อำนาจจากภาครัฐและเอกชนสู่ภาคประชาชน ซ่ึงเป็นการเปลี่ยนแปลงท่ี สำคัญที่เกิดข้ึนบนโลก ภายใต้ทุนนิยมโลกท่ีประเทศไทยไม่สามารถ หลีกเลี่ยงได้ รวมท้ังแรงกดดันจากภายในประเทศที่เป็นปัญหาวิกฤต เช่นกัน อาทิ ความเหลื่อมล้ำของโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ท่ีส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้ ปัญหาวิกฤตด้าน ความมั่นคง ปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและครัวเรือน รวมท้ังปัญหาการก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ตลอดจนการ เปลี่ยนแปลงไปตามพลวัตแบบก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสารสนเทศและ นวัตกรรมใหม่ ทส่ี ามารถยกระดับการพัฒนาการศกึ ษาแบบก้าวกระโดดซง่ึ เสมือนหน่ึงเป็นสะพานเชื่อมและนำพาองค์ความรู้อันมากมายมหาศาลมา
(ร่าง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนกึ ษการไศทกึยษในาแเวหทง่ สีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 5 ใช้เป็นเครื่องมอื ในการพัฒนาการศึกษาไดอ้ ย่างรอบดา้ น ที่ทุกภาคสว่ นของ สงั คมตอ้ งรว่ มมอื กันคน้ หาทางออก ปัญหาของการศึกษาที่เกิดข้ึนดังกล่าวเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง และระบบการบริหารจัดการท่ีขาดประสิทธิภาพ ติดยึดกับระบบความคิด แบบเดิม ไม่คิดออกนอกกรอบ ทำให้โครงสร้างและระบบการศึกษาก้าว ไม่ทันกับการเปล่ียนแปลงของโลกที่เป็นพลวัต และไม่สามารถวิวัฒน์ ตนเองให้พัฒนาไปสู่ระบบการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม (Inclusive Growth) ท่ีพลเมืองส่วนใหญ่มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง และ บริบทของการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียมและท่ัวถึง (Inclusive Education) เพื่อให้พลเมืองสามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้ด้วย ตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต รวมทั้งสามารถยกฐานะและชนชั้นทาง สังคม อันนำไปสู่การสร้างความผาสุกร่วมกันในสังคมของชนในชาติ และ ลดความเหล่ือมล้ำในการกระจายรายได้ของชนชั้นต่าง ๆ ในสังคมให้มี ความทัดเทียมกันมากข้ึน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวพ้นกับดัก ประเทศรายไดป้ านกลางไปสูป่ ระเทศพฒั นาใน ๑๕ ปีขา้ งหน้า (ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ จะเป็นเสมือน หน่ึงแผนที่นำทางให้ระบบการศึกษาไทยสามารถพัฒนาศักยภาพและ ขีดความสามารถของทุนมนุษย์ท่ีมีอยู่ในตัวตนของแต่ละบุคคลให้เต็ม ตามศักยภาพสำหรับประชากรทุกช่วงวัย ตั้งแต่เกิดจนตลอดชีวิต ทป่ี ระชาชนสามารถแสวงหาความรแู้ ละเรยี นรไู้ ดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตลอดชีวิต โดยมีเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษา ๕ ประการ ได้แก ่ การเข้าถึง (Access) ความเท่าเทียม (Equity) คุณภาพ (Quality)
6 (รา่ ง) กรอบทิศทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ประสิทธิภาพ (Efficiency) และการตอบโจทย์บริบทท่ีเปล่ียนแปลง (Relevancy) ภายใต้บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกที่ เป็นพลวัต ซึ่งกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมาย ความคาดหว้ง เป้าหมาย สุดท้ายของแผน หลักการ/แนวคิด และยุทธศาสตร์/มาตรการเพื่อการ บรรลุเปา้ หมาย ดังน้ี ๑. วสิ ยั ทศั น์ของแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (Vision) ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการศึกษาท่ีมีคุณภาพและ มีประสิทธิภาพ เพ่ือเป็นกลไกหลักของการพัฒนาศักยภาพและขีดความ ทสาเ่ี ปม็นารพถลขวอตั งขทอนุ งมโลนกุษศยต์ วแรลระษรทอี่ง๒ร๑ับ๓ก ารศกึ ษา การเรยี นรู้ และความทา้ ทาย ๓ ประกอบดว้ ย ๑) แนวโน้มการเปล่ียนแปลงท่ีสำคัญท่ีเกิดข้ึนบนโลก อาทิ กระแสการเปล่ียนแปลงจาก ศตวรรษแห่งอเมริกาสู่ศตวรรษแห่งเอเชีย กระแสการเปลี่ยนแปลงจากยุคแห่งความมั่งคั่ง สู่ยุคแห่งความสุดโต่งทั้งธรรมชาติ การเมืองและธุรกิจ และกระแสการเริ่มเปล่ียนแกน อำนาจจากภาครัฐและเอกชนส่ภู าคประชาชน ๒) แรงขับเคล่ือนในระดับภูมิภาค (Regional Force) ซ่ึงเกิดจากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ของภูมิภาค ภายใต้กรอบความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคี ได้แก่ การรวมกลุ่มของ ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) การรวมกลุ่มของเอเชียตะวันออก (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ๓) ประเด็นภายในประเทศ (Local Issue) อาทิ ความเหล่ือมล้ำ วิกฤตด้านความมั่นคง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและครัวเรอื น รวมท้ังการก้าวข้ามกับดกั ประเทศรายได้ ปานกลาง ๔) ยุทธศาสตร์ของประเทศ (Country Strategy) อาทิ ยุทธศาสตร์การสร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ (Growth & Competitiveness) ยุทธศาสตร์การสร้างโอกาส บนความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม (Inclusive Growth) ยุทธศาสตร์การเติบโต บนคณุ ภาพชวี ติ ท่เี ป็นมิตรกบั สิง่ แวดลอ้ ม (Green Growth) และยุทธศาสตร์การปรบั สมดลุ และพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ซึ่งเป็นประเด็นท้าทายในการยกระดับคุณภาพ การศึกษา
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนกึ ษการไศทึกยษในาแเวหทง่ สีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 7 ๒. จดุ ม่งุ หมายของการจดั การศกึ ษา (Goals) ค วามเป็นกพารลศเึกมษือางเ๔ป็น(เปเค็นรคื่อนงมดือี ม/กีวลินไัยกใเนปก็นาพรลพเัฒมือนงาทท่ีดรีแัพลยะามกีครุณมนภุษาพย์ใขหอ้มงี สังคม ประเทศ และของโลก) มีทักษะ ความรู้ความสามารถ และ สมรรถนะในการปฏิบัติงานท่ีตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศ (สามารถเรียนรู้ได้ตามความถนัดความสนใจ) และ ดำรงชีวิตในสังคมอย่างเป็นสุข (มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ รวมท้ัง สามารถปรับตัวและดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลง ของเศรษฐกิจและสังคมพหุวัฒนธรรมท่ีเป็นพลวัตในโลกศตวรรษท่ี ๒๑ ดว้ ยปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง) ๔ ประกอบดว้ ย ๑) คุณลักษณะนิสัย/พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ : เป็นพฤติกรรมที่พลเมืองพึงปฏิบัติให้เป็นนิสัย ทตี่ ิดตัวไปตลอดชวี ิต ประกอบดว้ ย การดแู ลรักษาสขุ ภาพอนามยั ของร่างกายใหเ้ จริญเตบิ โต อย่างเหมาะสมตามวัย การสร้างลักษณะนิสัยในการใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีสมรรถนะท่ีพึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ มีความกระตือรือร้น (Active Citizen) ในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และมีคา่ นยิ มของความเปน็ พลเมอื ง ๒) มีองค์ความรู้ที่สำคัญในศตวรรษท่ี ๒๑ : เป็นความรู้เบ้ืองต้นท่ีสำคัญของการดำรงชีวิต อย่างรอบด้านในสังคมอย่างเป็นสุข ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ระบบ เศรษฐกจิ และสงั คมทม่ี ีการแข่งขนั อย่างเสรี และไรพ้ รมแดน ๓) มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ (21th Century Skills) เป็นทักษะการเรียนรู้ของ พลเมืองท่ีต้องติดตัวไปตลอดชีวิต ตั้งแต่อยู่ในวัยเรียนและเข้าสู่กำลังแรงงาน ประกอบด้วย ทักษะ ความรูค้ วามสามารถและสมรรถนะตามมาตรฐานหลักสูตร ซ่งึ เปน็ ความร้ขู ั้นพ้นื ฐาน (Basic Literacy) ตามระดับและประเภทการศึกษา และ ๔) มที ักษะการดำรงชีวติ (Life Skill) : เปน็ ทกั ษะท่บี ่งบอกถงึ ศกั ยภาพ ความสามารถ และ สมรรถนะท่ีเพียงพอต่อการดำรงชีวิตในสังคมอย่างเป็นสุข โดยไม่เป็นภาระกับสังคม ประกอบด้วย ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skill) ทักษะการแลกเปล่ียนเรียนรู้และทักษะ ทางสังคม ทักษะในการสร้างจินตนาการ ทักษะการทำงานและความก้าวหน้าในอาชีพ (Career Progress) ทักษะในการสร้างทรัพย์สินทางปัญญา และทักษะการสร้างงาน สร้างอาชพี ด้วยตนเอง
8 (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ๓. ความคาดหวงั ของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ (Aspiration) n ลดความแตกต่างในคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ระหว่างสถานศกึ ษา - สถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนสามารถจัดการศึกษาท่ีมี คุณภาพไม่ต่ำกว่ามาตรฐานข้นั ต่ำทีร่ ัฐกำหนด - สถานศึกษามีความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศในการผลิต และพัฒนากำลังคนท่ีสนองตอบความต้องการของตลาดแรงงานและ การพัฒนาประเทศ รวมท้ังความท้าทายทเี่ ป็นพลวตั ของโลกศตวรรษที่ ๒๑ n เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงบริการ การศกึ ษาทีม่ ีคณุ ภาพและมาตรฐาน - ประชากรทุกคนท่ีอยู่ในวัยเรียนได้รับการศึกษาไม่ต่ำกว่า การศึกษาภาคบังคับ ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพ่ือพัฒนาขีดความ สามารถใหเ้ ต็มตามศกั ยภาพทมี่ ีอยู่ในตวั ตนของแตล่ ะบคุ คล - ประชากรท่ีอยู่ในกำลังแรงงานได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะที่ตอบสนองความต้องการของตลาด แรงงานและการพัฒนาประเทศ ผ่านระบบการทดสอบ วัดและประเมิน ผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcome) ทั้งการเรียนรู้จากการศึกษาใน ระบบโรงเรียน การศึกษานอกระบบโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย และประสบการณ์จากการทำงาน ผ่านการสะสมหน่วยการเรียน และ การเทยี บโอน เพื่อยกระดบั คุณวุฒติ ามกรอบคุณวุฒแิ ห่งชาต ิ
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนึกษการไศทึกยษในาแเวหท่งสีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 9 n กระจายอำนาจและความรับผิดชอบไปสู่สถานศึกษา เพือ่ การพฒั นาท่ีย่งั ยืน - สถานศกึ ษาทม่ี คี ณุ ภาพมาตรฐาน มศี กั ยภาพและความพรอ้ ม สามารถเปล่ียนสถานะเป็นสถานศึกษานิติบุคคลในกำกับ เพื่อความเป็น อิสระคล่องตวั และรบั ผิดชอบตอ่ คณุ ภาพการศึกษาของผู้เรียน - สถานศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน แต่ขาดศักยภาพและ ความพร้อม ได้รับการพัฒนาและเตรียมความพร้อมในการเปล่ียนสถานะ เป็นสถานศึกษานิติบุคคลในกำกับ เพื่อความเป็นอิสระคล่องตัว และ รบั ผิดชอบต่อคณุ ภาพการศึกษาของผเู้ รียน n เพ่ิมประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าของการบริหาร จัดการ เพอ่ื รองรบั การแข่งขันอยา่ งเปน็ ธรรม ภายใต้การกำกับของรัฐ - ลดบทบาท อำนาจหน้าท่ีความรับผิดชอบและขนาดของ หน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จากการเป็นผู้จัดการศึกษาเป็นหลัก มาเป็นผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ส่งเสริม สนับสนุน ติดตาม ประเมนิ ผล ควบคู่กบั การกระจายอำนาจการจดั การศึกษาไปสสู่ ถานศึกษา - ควบรวมสถานศึกษาที่มีขนาดและจำนวนผู้เรียนต่ำกว่า เกณฑม์ าตรฐาน และไมอ่ ยใู่ นสภาพและสถานะของความเปน็ โรงเรียน มีครู ไม่ครบชั้น ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานและประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เพ่ือให้มีจำนวนและขนาดสถานศึกษาท่ีเหมาะสม ภายใต้บริบทของ โครงสร้างประชากรที่ลดลงอย่างต่อเน่ืองในอีก ๓๐ ปีข้างหน้า โดยเปลี่ยน สถานภาพเป็นแหล่งเรยี นรูข้ องชุมชนตามความตอ้ งการจำเปน็ - ส่งเสริมสนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาผลิตบัณฑิตในคณะ/ สาขาวิชาท่ีสถาบันมีความเชี่ยวชาญเพื่อความเป็นเลิศ หรือเป็นความ
10 (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ และลดการผลิตบัณฑิต ในคณะ/สาขาวิชาท่เี กนิ ความตอ้ งการของตลาดแรงงาน - ควบรวมสถาบันอุดมศึกษาเพ่ือให้มีจำนวนและขนาดที่ เหมาะสมกับการผลิตกำลังคนเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด แรงงานและการพฒั นาประเทศในอนาคต n สร้างการมีส่วนร่วมในการระดมทุนและการสนองทุนเพื่อ การศกึ ษาจากทกุ ภาคสว่ นของสงั คม - ส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมท่ีมีศักยภาพและ ความพร้อม เข้ามามีส่วนร่วมในการระดมทุนและสนองทุนเพื่อการศึกษา โดยเฉพาะสถานประกอบการ สถาบนั /องค์กรตา่ ง ๆ ในสงั คม และผู้เรยี น ๔. เป้าหมายสดุ ทา้ ยของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ (Ends) n ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถเป็น ก ล ไ ก ใ น ก า ร พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ ขี ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง ทุ น ม นุ ษ ย์ (Productivity) ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและ การพัฒนาประเทศ เพ่ือให้ประเทศสามารถก้าวข้ามกับดับของประเทศที่มี รายไดป้ านกลางไปสปู่ ระเทศทีพ่ ฒั นาแล้วอยา่ งยัง่ ยืน ภายใตพ้ ลวตั ของโลก ศตวรรษที่ ๒๑ n ประชากรทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึงโอกาสและความเสมอภาค ทางการศึกษาและการเรียนรู้ จากระบบการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่น หลากหลาย และสนองตอบความต้องการของผู้เรียน เพื่อยกระดับ
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนึกษการไศทึกยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 11 ชนชั้นของสังคม๕ ภายใต้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge Based Economy) ที่เอ้ือต่อการสร้างสังคมแห่งปัญญาและการสร้าง สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อื้อตอ่ การเรียนรู้ ทีป่ ระชาชนสามารถแสวงหาความรแู้ ละ เรียนร้ไู ดอ้ ยา่ งต่อเน่อื งตลอดชวี ติ n ผู้เรียนแตล่ ะระดับการศึกษา ได้รบั การพัฒนาขีดความสามารถ เต็มตามศักยภาพท่ีมีอยู่ในตัวตนของแต่ละบุคคล และมีคุณลักษณะนิสัย/ พฤติกรรมที่พึงประสงค์ มีองค์ความรู้ที่สำคัญและทักษะการเรียนรู้ใน ศตววรษท่ี ๒๑ รวมทั้งทักษะการดำรงชีวิต และทักษะ ความรู้ความ สามารถ และสมรรถนะในการปฏิบัติงานท่ีตอบสนองความต้องการของ ตลาดแรงงานและการพฒั นาประเทศ n ภาคการศึกษามีทรัพยากรและทุนที่เพียงพอสำหรับการจัด การศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐานจากการมีส่วนร่วมในการระดมทุนและ สนองทุนเพ่ือการศึกษาจากทุกภาคส่วนของสังคม ผ่านการเสียภาษีตาม สิทธิและหน้าที่ของพลเมือง การบริจาค และการร่วมรับภาระค่าใช้จ่าย ทางการศกึ ษา n สถานศึกษามีระบบการบริหารและการจัดการศึกษาที่มี ประสิทธิภาพ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล สามารถให้บริการ การศึกษาท่ีตอบสนองความต้องการของบริบทเชิงพ้ืนที่ ระดับประเทศ และระดับภูมิภาค ในฐานะท่ีเป็นศูนย์กลางของการบริการด้านการศึกษา ในภมู ภิ าคอาเซียน (Hub for Education) และเปน็ ภาคเศรษฐกจิ หน่ึงของ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศและของภมู ภิ าคทส่ี รา้ งรายไดใ้ หก้ บั ประเทศไทย ๕ ผ่านกระบวนการศึกษาและการเรียนรู้ โดยมีระบบการทดสอบ วัดและประเมินผลลัพธ ์ การเรยี นรู้ (Learning Outcome) ทั้งการศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ การศกึ ษาตาม อัธยาศัย และการเรียนรู้จากประสบการณ์การทำงาน เพ่ือยกระดับคุณวุฒิตามกรอบคุณวุฒ ิ แหง่ ชาต ิ
12 (รา่ ง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ๕. หลักการ/แนวคิดการจัดการศึกษา (Conceptual Design) n รัฐมีหน้าที่จัดการ๖ ให้พลเมืองทุกคนได้รับการศึกษาที่มี คุณภาพและมาตรฐาน สามารถพัฒนาขีดความสามารถที่มีอยู่ในตัวตนของ แสังตค่ลมะ๗บุคเพคื่อลยใหก้ฐเตา็มนตะแามละศชักนยชภ้ันาใพนสจังาคกมกาอรันมนีสำ่วไนปรส่วู่กมารขลอดงคทวุกาภมาเหคสล่่ือวนมลใน้ำ ในการกรnะจ ารยฐั รจาะยปไรดะ ้ กันโอกาสและความเสมอภาค๘ ในการเข้าถงึ บรกิ าร การศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามศักยภาพและความสามารถของ แต่ละบุคคล โดยไม่คำนึงถึงเพศ ผิวสี ชนช้ัน เช้ือชาติ ศาสนาและ วัฒนธรรม ๖ หมายถึง รัฐมีหน้าท่ีกำกับดูแลและบริหารจัดการให้มีบริการการศึกษาท่ีเพียงพอกับความ ต้องการของผู้เรียน เพ่ือเป็นหลักประกันให้กับพลเมืองในการได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีมี คุณภาพและมาตรฐาน เพ่ือพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะในการทำงาน ของแต่ละบุคคลให้ไปได้ไกลท่ีสุดเท่าท่ีศักยภาพและความสามารถของแต่ละบุคคลพึงมี ท้ัง การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย ด้วยระบบการศึกษาที่ม ี ความยืดหยุ่น หลากหลาย สนองตอบความต้องการของผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่ เกิดจนตลอดชีวิต ภายใต้ระบบเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้ สังคมแห่งปัญญา และการสร้าง สภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ ที่พลเมืองสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ภายใต้ ระบบเศรษฐกจิ และสังคมท่เี ป็นพลวัตของโลกศตวรรษที่ ๒๑ ๗ รัฐสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา แต่รัฐไม่จำเป็นต้องเป็นผู้จัดการศึกษาทั้งหมด เพ่ือให้ทุกภาคส่วนของสังคมท่ีมีศักยภาพและความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ภายใตก้ ฎ กตกิ าการแขง่ ขันอยา่ งเป็นธรรม ๘ โอกาสและความเสมอภาคของพลเมอื งในการได้รับบริการการศกึ ษาทด่ี ีและมีคุณภาพด้วยความ เสมอภาคและเป็นธรรม มิได้หมายความว่า ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการศึกษาจากสถานศึกษาที่มี คุณภาพและมาตรฐานสูงเท่ากันทุกคน เน่ืองจากคุณภาพและมาตรฐานของแต่ละสถานศึกษามี ความแตกต่างกันอย่างมาก และรัฐก็ไม่สามารถดำเนินการให้ทุกสถานศึกษามีคุณภาพและ มาตรฐานเท่าเทียมกัน แต่รัฐสามารถประกันคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ให้มีคุณภาพและมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำท่ีรัฐกำหนด ซ่ึงผู้เรียนทุกคนสามารถเข้าถึง
(ร่าง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนกึ ษการไศทึกยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 13 โอกาสเหล่านั้นด้วยความเสมอภาคและเป็นธรรม อันเป็นการสร้างความเสมอภาคในแนวนอน (horizontal equity) สำหรับพลเมืองทุกคน โดยไม่จำกัดเพศ ผิวสี เช้ือชาติ ศาสนา และ วฒั นธรรม อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างในคุณภาพและมาตรฐานระหว่างสถานศึกษาน้ัน รัฐสามารถ ดำเนินการเพื่อลดช่องว่างของความแตกต่างเหล่านั้นให้ลดลงได้ แต่ไม่ควรทำให้คุณภาพและ มาตรฐานของสถานศึกษาท่ีดีมีคุณภาพมาตรฐานคงทห่ี รอื ลดลง สำหรบั สถานศกึ ษาที่มีคุณภาพ และมาตรฐานต่ำกว่ามาตรฐานข้ันต่ำที่รัฐกำหนด รัฐควรยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของ สถานศึกษาเหลา่ น้ันใหม้ คี ุณภาพและมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขน้ั ต่ำท่ีรฐั กำหนดหรอื สูงกว่า นอกจากนี้ ภายใต้บริบททางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ย่อมส่งผลให ้ ผู้เรียนมีศักยภาพและขีดความสามารถท่ีแตกต่างกัน กลุ่มคนท่ีมีศักยภาพและขีดความสามารถ สูงกว่าย่อมมีโอกาสเข้าศึกษาในสถานศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐานสูง แต่มิได้หมายความว่า กลุ่มคนที่ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมท่ีด้อยโอกาส ยากจน จะไม่สามารถเข้าศึกษาใน สถานศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐานสูง หากบุคคลเหล่านี้มีศักยภาพและขีดความสามารถสูง เช่นเดียวกัน โดยรัฐจะให้การส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลเหล่าน้ันได้เข้าศึกษาในสถานศึกษาท่ีมี คุณภาพและมาตรฐานสูง ตามศักยภาพและความสามารถของแต่ละบุคคล โดยไม่มีข้อจำกัด ด้านการเงิน ด้วยการให้ทุนการศึกษา รวมท้ังค่าใช้จ่ายในการเรียน ค่าครองชีพระหว่างเรียน ตามความต้องการจำเป็นของแต่ละบุคคล เพื่อเพิ่มโอกาสและความเสมอภาคท่ีเท่าเทียมและ เป็นธรรม ซ่ึงเป็นการสร้างความเสมอภาคในแนวตั้ง (vertical equity) เพื่อให้ผู้ที่เสียเปรียบ ด้อยโอกาส ยากจน สามารถเข้าศึกษาในสถานศึกษาที่ดีและคุณภาพทัดเทียมกับผู้เรียนปกติ ทวั่ ไป ดว้ ยวธิ กี ารดงั กลา่ ว แมว้ า่ คณุ ภาพและมาตรฐานของแตล่ ะสถานศกึ ษาจะมคี วามแตกตา่ งกนั แต่รัฐสามารถประกันคุณภาพและมาตรฐานของสถานศึกษาทุกแห่งให้มีคุณภาพมาตรฐาน ไม่ตำ่ กว่ามาตรฐานขนั้ ต่ำทร่ี ฐั กำหนด ซ่งึ เปน็ หลักประกันคุณภาพและมาตรฐานข้ันต่ำที่รัฐพึงให้ กับผู้เรียนทุกคน และผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาและเรียนรู้ในสถานศึกษาที่มีคุณภาพและ มาตรฐานแตกต่างกันตามศักยภาพและความสามารถของแต่ละบุคคล เพื่อพัฒนาศักยภาพและ ขีดความสามารถท่ีมีอยู่ในตัวตนของแต่ละคนให้ไปได้ไกลท่ีสุดเท่าที่ความสามารถของแต่ละคน พึงม ี ท่ีกล่าวมาข้างต้นจึงเป็นที่มาของความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันในการได้รับโอกาส ทางการศึกษาตามศักยภาพและความสามารถของแต่ละคน โดยไม่มีปัจจัยด้านการเงินมาเป็น อุปสรรคในการเข้าศึกษาในสถานศึกษาท่ีดีและมีคุณภาพ ด้วยเหตุน้ี ภาระของรัฐท่ีมีต่อ พลเมืองจึงเป็นภาระท่ีต้องรับผิดชอบต่อโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาของคน ทุกกลุ่มให้สามารถเข้าถึงบริการการศึกษาท่ีดีมีคุณภาพ ตามศักยภาพและความสามารถ ของแต่ละบุคคล
14 (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ใก นาฐรศานึกะษผnาู้ก๑ ๒ำแกยผับกู้สน่งบโเยทสบรบิมาายทสแนลอับะำแสนผนานุนจ๑๑ห๐๓นผแ้าู้กลทำะี่แกผลับู้จะัดกคกาวราาศรมศึกึกรษับษาา๑ผ๑๑ิด๔ชผออู้ปอบรกะขจเอมางินกรกผัฐันล๙ เพ่ือมิให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน และนำมาซ่ึงการแข่งขันเพ่ือให้ได้มาซ่ึง คุณภาพและมาตรฐาน ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ภายใต้ความเป็น อิสระท่ีมาพร้อมกับความรับผิดชอบทต่ี รวจสอบได ้ ๙ บทบาท อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐที่ดำเนินการในปัจจุบันเป็นการจัดระบบ การศึกษาท่ีรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง ด้วยกฎ กติกา ระเบียบ วิธีปฏิบัติท่ีกำหนดโดย หน่วยงานส่วนกลางและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซ่ึงแบ่งโครงสร้างความรับผิดชอบการจัด การศึกษาตามระดับ/ประเภทการศึกษา โดยมีบทบาทอำนาจหน้าที่ท้ังในฐานะผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ติดตามประเมนิ ผล และส่งเสรมิ สนบั สนุน ภายในหน่วยงานเดยี วกัน เมอ่ื ระบบ การบริหารจัดการเป็นแบบรวมศูนย์อำนาจ รวมทั้งมีการจัดตั้งหน่วยงานส่วนกลางในส่วน ภูมิภาคเพื่อเป็นตัวแทนของหน่วยงานส่วนกลางขึ้นมา ย่อมส่งผลให้สายการบังคับบัญชามี ความยุง่ ยากและซับซ้อนมากข้ึน การบรหิ ารและจดั การศึกษาของสถานศึกษาจึงเปน็ การบริหาร และจัดการตามอำนาจทีไ่ ด้รับมอบจากหนว่ ยงานสว่ นกลาง และตอ้ งบรหิ ารและจดั การศกึ ษาให้ เป็นไปตามกฎ กติกา ระเบียบ วิธีปฏิบัติที่กำหนด (rule driven) โดยผู้บริหารสถานศึกษาไม่ สามารถใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจเชิงบริหารจัดการตามท่ีต้องการ (management driven) เพ่ือสนองตอบความต้องการของผู้เรียนที่มีความแตกต่างและหลากหลายตามบริบทของแต่ละ พ้นื ทไี่ ด ้ การดำเนินบทบาทของหน่วยงานส่วนกลางท่ีผูกขาดอำนาจการจัดการศึกษาไว้ที่หน่วยงาน ส่วนกลาง นอกจากจะทำให้การจัดการศึกษาของสถานศึกษาไม่ตอบสนองความต้องการของ ผู้เรียน ยังทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาขาดความรับผิดชอบต่อคุณภาพการศึกษาที่ให้กับผู้เรียน แต่กลับแสดงความรับผิดชอบต่อเขตพ้ืนท่ีการศึกษาและหน่วยงานส่วนกลางในฐานะผู้มีอำนาจ และสร้างภาระกับหน่วยงานส่วนกลางในการกำกับดูแลสถานศึกษาซึ่งกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ จำนวนมาก แตไ่ มส่ ามารถกำกับไดอ้ ย่างท่ัวถึง จนละเลยบทบาทและอำนาจหน้าทีใ่ นการกำกบั นโยบาย แผน มาตรฐาน ติดตามประเมินผล และส่งเสริมสนับสนุน ซึ่งเป็นบทบาทหลักของ
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนกึ ษการไศทกึยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 15 หน่วยงานส่วนกลางที่ควรให้ความสำคัญมากกว่า เนื่องจากบทบาทในการจัดการศึกษาควรเป็น บทบาทและความรับผิดชอบของสถานศึกษาในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับผู้เรียนมาก ทีส่ ุด การรวมอำนาจของหน่วยงานส่วนกลาง ทั้งในฐานะผู้จัดการศึกษา ผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ติดตามประเมินผล และส่งเสริมสนุบสนุนไว้ในหน่วยงานเดียวกัน โดยมีสถานศึกษา ในความรับผิดชอบของตนเอง จำแนกตามหน่วยงาน ย่อมมีผลให้การดำเนินนโยบายการศึกษา ของหน่วยงานหนึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของอีกหน่วยงานหน่ึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากข้อเสนอนโยบายของหน่วยงานหน่ึง ย่อมเอ้ือประโยชน์ให้กับสถานศึกษาในความ รับผดิ ชอบ ซึง่ นำมาซ่งึ ขอ้ เสนอนโยบายท่มี ีผลประโยชนท์ ับซอ้ น (conflict of interest) โดยรู้ เท่าไม่ถึงการณ์ และก่อให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด และสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ ระหวา่ งสถานศึกษาทจี่ ัดการศึกษาในระดบั /ประเภทการศกึ ษาเดยี วกัน (distortion) และนำมา ซ่ึงการผูกขาดในตลาดบริการการศึกษา ซึ่งไม่เป็นผลดีท้ังต่อผู้เรียน ผู้จัดการศึกษา รัฐ สังคม และประเทศชาต ิ การแยกบทบาทอำนาจหน้าท่ีระหว่างผู้กำกับ (Regulator) กับผู้จัดการศึกษา (Provider) ออกจากกัน เพ่ือมิให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้กำกับกับผู้จัดการศึกษา และทำให้ บทบาทของหน่วยงานผู้กำกับกับหน่วยงานผู้จัดการศึกษามีความรับผิดชอบตามบทบาทอำนาจ หน้าทีท่ ช่ี ัดเจน เพอื่ ความโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ และไมม่ ีผลประโยชนท์ ับซ้อน ๑๐ บทบาทของรัฐในการกำกับนโยบายและแผนการศึกษาให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ แนวทาง ภายใต้แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ท่ีส่งผลกระทบต่อการยกระดับ คุณภาพและมาตรฐานการศึกษา การเพ่ิมโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา การลด ความแตกต่างในคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาระหว่างสถานศึกษา การเพ่ิมประสิทธิภาพ การบรหิ ารและการจัดการ ฯลฯ ๑๑ บทบาทของรัฐในการกำกับการศึกษาให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานข้ันต่ำ อาทิ มาตรฐาน หลักสูตร มาตรฐานการจัดการเรียนการสอน มาตรฐานสถานศึกษา (ได้แก่ ด้านการบริหาร จัดการ การประกันคุณภาพภายใน การประเมินคุณภาพภายนอก มาตรฐานสมรรถนะวิชาชีพ ของผู้บริหารสถานศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา) มาตรฐานการวัดและ ประเมินผล ฯลฯ ภายใต้กฎ ระเบียบ กติกา ข้อบังคับ แนวปฏิบัติ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ระหวา่ งสถานศึกษาของรฐั องคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ เอกชน สถานประกอบการ มูลนิธิ วัด สมาคม ฯลฯ
16 (ร่าง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ n รัฐพึงปฏิบัติต่อสถานศึกษา (ทั้งสถานศึกษาของรัฐ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน สถานประกอบการ องค์กรเอกชน มูลนิธิ เป็นตน้ ) ภายใตก้ ฎ กติกา ระเบียบ วธิ ีปฏิบัติ ที่เปน็ มาตรฐานเดยี วกนั ๑๒ บทบาทของรัฐในการตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ท้ังด้านผลการ ดำเนินงาน (Performance Audit) การบริหารจัดการ (Management Audit) และการเงิน (Financial Audit) ท่ีบูรณาการและเช่อื มโยงกบั มาตรฐานการศกึ ษาแห่งชาติ ระบบการประกัน คณุ ภาพภายใน การประเมินคณุ ภาพภายนอก และการติดตามประเมินผลของหนว่ ยงานต่าง ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง ๑๓ บทบาทของรัฐในการส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในการให้บริการ การศึกษาท่ีมีคุณภาพมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการศึกษาโดยรัฐ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น เอกชน สถานประกอบการ มูลนิธิ วัด สมาคม เป็นต้น รวมทั้งการกำกับหรือ การแทรกแซงกลไกตลาดเพ่ือให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ผ่านมาตรการทางการคลัง (มาตรการทางภาษี) และมาตรการทางการเงิน (การจัดสรรเงินผ่านด้านอุปทานหรือ สถานศึกษา การจัดสรรเงินผ่านด้านอุปสงค์หรือตัวผู้เรียน ในรูปของทุนการศึกษา (Grants) การจัดสรรเงินสมทบ (Matching Fund) การให้เงินกู้อัตราดอกเบ้ียต่ำ (Soft Loan)) โดยมี ตัวชว้ี ดั (Key Performance Indicator) ท้งั ด้านผลผลติ (Output) ผลลพั ธ์ (Outcome) และ/ หรือผลกระทบ (Impact) เพ่ือกำกับการดำเนินงานของสถานศึกษาให้เป็นไปตามบทบาท อำนาจหนา้ ที่และภารกิจ ๑๔ บทบาทของรัฐในการจัดการศึกษา ภายใต้หลักการกระจายอำนาจไปสู่สถานศึกษา เพ่ือความ เปน็ อสิ ระคล่องตัว และสามารถตดั สินใจเชิงบริหารและจัดการศึกษาดว้ ยคณุ ภาพและมาตรฐาน การศึกษาท่ีแสดงความรบั ผดิ ชอบต่อผู้เรยี น
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนึกษการไศทึกยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 17 n ทุกภาคส่วนของสังคม๑๕ ซึ่งเป็นผู้ได้รับประโยชน์ท้ังทางตรง และทางอ้อมจากการได้รับการศึกษาของพลเมือง ต้องมีส่วนร่วมระดมทุน และร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา ผ่านการเสียภาษีตามหลัก ความสามารถในการจ่าย (Ability to Pay) ซึ่งเปน็ หน้าที่ของพลเมือง และ การบริจาค รวมท้ังมีส่วนร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายตามอัตราค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าบริการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอ่ืนที่ได้รับ เเกก็บิน๑ก๖ว่าตคาุณมหภลากัพปมราะตโรยฐชานนท์ ขไ่ี ้ันดต้รบั่ำท(ี่รBัฐeกnำeหfiนt ดPตrinามciอpัตleร)า๑ท๗ี่ส ถานศึกษาเรียก n สถานศกึ ษาตอ้ งบรหิ ารและจดั การศกึ ษาทแี่ สดงความรบั ผดิ ชอบ (Accountability) ต่อคุณภาพและมาตรฐานของบริการการศึกษาท่ีให้แก่ ผอธัู้เรยียานศัยท(้ังไกมา่ตรำ่ ศกึกว่าษมาาใตนรรฐะาบนบขั้นกตาำ่ รทศี่รึกัฐกษำาหนนอดก)ร๑ะ๘บ บ และการศึกษาตาม ๑๕ อาทิ ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน สถานประกอบการ บุคคล ครอบครัว ชมุ ชน องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ มูลนิธิ สถาบันศาสนา และสถาบันสงั คมอื่น ฯลฯ ๑๖ สถานศึกษาสามารถเรยี กเก็บคา่ เล่าเรียน ค่าธรรมเนยี มการเรียน ค่าบริการหรอื สิ่งอำนวยความ สะดวกอ่ืนที่สะท้อนต้นทุน ในอัตราท่ีแตกต่างกันตามคุณภาพมาตรฐานของบริการการศึกษาที่ ให้แก่ผ้เู รยี น ๑๗ อ้างแล้ว ตาม ๕ เพื่อให้ภาคการศึกษามีทรัพยากรเพียงพอในการจัดการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มาตรฐาน ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้เรียน จากการมีส่วนร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายในการได้รับ บรกิ ารการศกึ ษาทมี่ คี ณุ ภาพและสง่ิ อำนวยความสะดวกอน่ื ทผ่ี เู้ รยี นไดร้ บั จากบรกิ ารทส่ี ถานศกึ ษา จดั ใหแ้ กผ่ ้เู รยี น ๑๘ ความย่ังยืนและการดำรงอยู่ของสถานศึกษาต้องเป็นการแข่งขันเพ่ือให้ได้มาซ่ึงคุณภาพ มาตรฐาน ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ภายใต้กลไกตลาดที่กำกับของรัฐ (Regulated Market)
18 (รา่ ง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ n รัฐจะกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนากำลังคน จำแนกตาม ระดับ/ประเภทการศึกษา คณะ/สาขาวิชา ท่ีสนองตอบความต้องการของ ตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ เพ่ือใช้เป็นกรอบในการส่งเสริม สนบั สนนุ ทรพั ยากรและการเงินเพอ่ื การศึกษา n หลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอน ต้องมีความ ยืดหยุ่น หลากหลาย สนองตอบความต้องการของผู้เรียน ท้ังผู้ท่ีอยู่ใน วัยเรียน และผทู้ ่ีอย่ใู นกำลงั แรงงาน โดยไมจ่ ำกัดเวลา สถานที่ และเปน็ ไป เพ่ือสร้างคุณลักษณะนิสัย/พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ ทักษะการเรียนรู้ใน ศตววรษที่ ๒๑ องค์ความรู้ที่สำคัญในศตวรรษท่ี ๒๑ และทักษะการดำรง ชีวิต รวมท้ังพัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถ และสมรรถนะในการ ปฏิบัติงาน ที่ผู้เรียนสามารถทดสอบ วัดและประเมินผลลัพธ์การเรียน (Learning Outcome) เพ่ือสะสมหน่วยการเรียน และเทียบโอน ทั้งการ เรยี นรู้ผา่ นการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้จากประสบการณ์การทำงานเพื่อยกระดับคุณวุฒิตามกรอบ คุณวฒุ แิ ห่งชาติ
(ร่าง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนึกษการไศทึกยษในาแเวหทง่ สีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 19 ๖. แนวทางการจัดการศกึ ษา (Means) ค ล่องตัวใกnนา กรกาบารรรบหิ กราิรหระาแจรลจาะัดยกกอาาำรรนจทัดาี่แจกสไาปดรงส คู่สวถาามนรศับึกผษิดชาอเพบื่อตค่อวผาู้เรมียเนป๒็น๐อิสภราะย๑ใต๙้ การกำกับและการบริหารของคณะกรรมการสถานศึกษาที่มีความรู้ความ สามารถ และการแบ่งบทบาทอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบท่ีชัดเจน โดยให้สถานศึกษาที่มีศักยภาพและความพร้อมสามารถเปล่ียนสถานะเป็น สถานศึกษานิติบุคคลในกำกบั n สถานศึกษาที่มีสถานะเป็นสถานศึกษานิติบุคคลในกำกับ จะมี อิสระและความคลอ่ งตวั ในการบรหิ ารจดั การ ดงั น ้ี - การสรรหาและคัดเลือกกรรมการสถานศึกษา เป็นอำนาจ ของหน่วยงานที่เป็นเจ้าของสถานศึกษา (Owner) หากกรรมการ สถานศึกษาไม่สามารถบริหารและจัดการศึกษาให้บรรลุผลตามเป้าหมาย หน่วยงานทเ่ี ป็นเจ้าของสถานศกึ ษาต้องรับผิดชอบ - การสรรหาและคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษา เป็นอำนาจ ของคณะกรรมการสถานศึกษา หากผู้บริหารไม่สามารถบริหารจัดการให้ บรรลุผลตามเปา้ หมาย กรรมการสถานศึกษาต้องรับผิดชอบ ๑๙ เม่ือกระจายอำนาจไปสู่สถานศึกษา บทบาทอำนาจหน้าท่ีและความรับผิดชอบในการจัด การศึกษาของหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาคต้องลดลง และเพ่ิมบทบาทและอำนาจ หน้าท่ีในการกำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ส่งเสริมสนับสนุน ติดตามประเมินผล รวมท้ัง ส่งเสรมิ การทำงานของกลไกตลาดให้มีการแขง่ ขนั อย่างเปน็ ธรรม ๒๐ สายงานการบังคับบัญชาระหว่างหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาคกับสถานศึกษาที่สั้นลง จะช่วยลดความสูญเปล่าท่ีเกิดขึ้นจากความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการระหว่าง หน่วยงาน
20 (ร่าง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ - การสรรหาและคัดเลือกครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็น อำนาจของผู้บริหารสถานศึกษา หากครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่สามารถดำเนินงานให้บรรลุผลตามเป้าหมาย ผู้บริหารสถานศึกษาต้อง รบั ผิดชอบ n สถานศึกษามีหน้าท่ีรวบรวม บันทึกข้อมูล และรายงานผล การพัฒนาการ ศกึกาษราปรทะ่ีบเมูรินณคาุณกภาราพแลภะาเยชนื่ออมกโ๒ย๑งกผับ่ารนะรบะบบบกเาทรคปโรนะโกลันยี คุณภาพภายใน สารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจด้านการ บริหารจัดการของสถานศึกษา รวมทั้งการติดตามประเมินผล การกำหนด นโยบายและแผน การกำกับการจัดการศึกษา และการส่งเสริมสนับสนุน สขาอธงาหรณน่วชยนงไดา้รนับสท่วรนากบลทา้ังงฝแ่าลยะผสู้จ่วัดนกาภรูมศิภึกษาคาแลระวผมู้รทับั้งบเรปิกิดาเรผกยารขศ้อึกมษูลาใ๒ห๒้ ซ่ึงเป็นช่องทางหนึ่งของการส่งเสริมการทำงานของกลไกตลาดให้มี ประสิทธิภาพ ๒๑ ประกอบด้วย ผลการดำเนินงาน (Performance Audit) การบริหารจัดการ (Management Audit) และการเงิน (Financial Audit) ๒๒ ทั้งสถานศึกษาและผเู้ รียนสามารถรบั รถู้ ึงคุณภาพและมาตรฐานของบรกิ ารการศึกษา และราคา ของบริการที่สะท้อนผ่านอัตราค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าบริการและสิ่งอำนวย ความสะดวกอื่นที่ผู้เรียนได้รับ และสถานศึกษาเรียกเก็บจากผู้เรียน ซ่ึงแตกต่างกันตามคุณภาพ และบริการที่ได้รับ โดยผู้เรียน (ผู้ปกครอง) เป็นผู้ตัดสินใจเลือกเข้าเรียนในสถานศึกษาตามท่ี ต้องการ
(ร่าง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนึกษการไศทกึยษในาแเวหทง่ สีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 21 สกส นาถรบัาศนสึกนศษนุึกnเาษปเ าปน็ กผ็นา(ดู้ครผำบู้รบเูนใรรหิหนิิหญางาราร่)นแแลดเลปาะ้ ะน็นจจกัดผัดากู้บรการบาริหรศรหิาดึการ้าษรจนาจัดขบดั กอกรางิหาสรราแดถรล้าาทนะนั่วกศวไาึกิชปรษาบ๒กา๔รหิาใโราหด๒ร้ผยง๓าู้อมนำสีบทน่วุควั่วนลไยปผากู้๒จกา๕ัดรร n รฐั จะจัดให้มสี ถาบนั พฒั นากรรมการสถานศกึ ษา เพอื่ ทำหนา้ ท่ี อบรมและพัฒนาผู้ที่จะทำหน้าท่ีกรรมการสถานศึกษา และต้องผ่านการ ประเมิน เพ่ือเป็นหลักประกันว่า กรรมการสถานศึกษาสามารถกำกับ บริหาร และจัดการศึกษาด้วยคุณภาพมาตรฐาน เกิดประสิทธิภาพและ ประสทิ ธิผล หลักสตู ร การจัดการเรียนการสอน n สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ทั้งการศึกษา ในระบบโรงเรยี น การศึกษานอกระบบโรงเรยี น และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย เพื่อให้บริการการศึกษาและการเรียนรู้แก่พลเมืองท้ังผู้ที่อยู่ในวัยเรียนและ ผทู้ ่ีอยู่ในกำลงั แรงงาน ๒๓ อาทิ การกำหนดและพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การทดสอบ วัด ประเมินผล ผู้เรียน รวมทั้งการกำกับ ติดตามและประเมินผลการจัดการเรียนการสอนของครูให้เป็นไปตาม มาตรฐานและส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน ๒๔ อาทิ การบรหิ ารงานบุคคล การเงนิ บัญชแี ละพัสดุ การดูแล บำรุงรกั ษาครุภณั ฑแ์ ละสิ่งก่อสรา้ ง ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ รวมท้ังการบริหารงานทั่วไป ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค สาธารณูปการ การรายงานผลการดำเนินงาน การกำกับดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในที่บูรณาการและ เชื่อมโยงกับการประเมินคุณภาพภายนอก และการติดตามประมินผลของหน่วยงานส่วนกลาง ฯลฯ ๒๕ สถานศึกษาต้องมีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าขนาดท่ีเหมาะสม (optimum size) ท่ีสะท้อน ประสทิ ธิภาพอันเกิดจากการประหยัดเน่อื งจากขนาด (economy of scale)
22 (ร่าง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ n การพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนของ สถานศึกษาต้องเชื่อมโยงกับตลาดแรงงาน ผ่านการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล โดยความร่วมมือระหว่าง สถานศึกษา สถานประกอบการ สมาคมวชิ าชีพ เพื่อผลิตกำลงั คนทม่ี ีทักษะ ความรู้ความสามารถ และสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ตามกรอบคุณวุฒิ แห่งชาต ิ n ระบบการทดสอบ วัดและประเมิน ต้องสามารถเทียบโอน ผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcome) ของผู้ที่ผ่านการศึกษาในระบบ โรงเรียน การศึกษานอกระบบโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย และ การเรียนรู้จากประสบการณ์การทำงาน เพื่อสะสมหน่วยการเรียน และ การเทียบโอนเพอ่ื ยกระดับคุณวฒุ ิ ตามหลกั การของกรอบคุณวฒุ ิแหง่ ชาต ิ ครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา หลักสูตรn๒๖ สถาบันผลิตครูต้องผลิตบัณฑิตสาขาวิชาชีพครูตามมาตรฐาน และสอดคล้องกับความต้องการของสถานศึกษา (สถานศึกษา ขัน้ พนื้ ฐานและอาชีวศึกษา) ๒๖ สถาบันผลิตครู สถานศึกษา และสมาคมวิชาชีพครู ต้องร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตร การจัด การเรียนการสอน ตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เพ่ือให้ผู้สำเร็จการศึกษาวิชาชีพครูมีทักษะ ความรู้ความสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพครู ท้ังด้านการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลผู้เรียน มีจิตวิญญาณของความเป็นครู รวมท้ังสามารถจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะนิสัย/พฤติกรรมท่ีพึงประสงค ์ มที ักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ทักษะการดำรงชีวิต และมคี วามเป็นพลเมือง
(ร่าง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนึกษการไศทกึยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 23 n ระบบการคัดเลือกเข้าศึกษาในวิชาชีพครู ต้องเป็นไปตามหลัก เกณฑ์และคุณสมบัติท่ีกำหนดเพ่ือให้ได้ผู้เรียนท่ีมีศักยภาพและความ สามารถตรงตามความตอ้ งการ และมจี ติ วญิ ญาณของความเปน็ คร ู n การสรรหาคัดเลือกและบรรจุครูใหม่ ให้เปล่ียนสถานะเป็น พนักงานของรัฐ ด้วยระบบสัญญาจ้าง และได้รับเงินเดือนค่าตอบแทน รวมทั้งสทิ ธปิ ระโยชนไ์ ม่ต่ำกว่าการเปน็ ข้าราชการ n การดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ให้เปลี่ยนมาเป็นระบบ การสรรหาและคัดเลือกโดยกรรมการสถานศึกษา ซึ่งมีวาระการดำรง ตำแหน่งไม่เกิน ๔ ปี และมีสิทธิได้รับการแต่งต้ังเป็นผู้บริหารสถานศึกษา หากได้รับการคัดเลือก หากพ้นวาระการดำรงตำแหน่งหรือมิได้อยู่ใน ตำแหนง่ ผบู้ ริหารสถานศึกษา ให้กลบั มาเปน็ ครูผสู้ อนเชน่ เดิม n ระบบการพัฒนาผู้บริหาร ครู คณาจารย์และบุคลากรทาง การศึกษา ต้องเป็นไปตามความต้องการของผู้บริหาร ครู คณาจารย์และ บคุ ลากรทางการศกึ ษา และสามารถทดสอบ วดั และประเมินทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพครู เพื่อยกระดับ สมรรถนะของวชิ าชีพครใู ห้มีคณุ ภาพและมาตรฐานในระดบั ที่สงู ขึ้น n เงินเดือน ค่าตอบแทนของผู้บริหาร ครู คณาจารย์และ บุคลากรทางการศึกษา เป็นไปตามผลงานและความสามารถ และมีระบบ สัญญาจ้าง รวมท้ังสิทธิประโยชน์ต้องไม่น้อยกว่าที่ข้าราชการได้รับ ซึ่งมิได้ ข้ึนอยู่กับบัญชีเงินเดือนข้าราชการ เพ่ือให้สามารถเลือกครูที่เก่งเข้ามาสอน หรือเลอื กผู้บรหิ ารท่มี ีความสามารถเข้ามาบริหาร
24 (ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ระบบทรัพยากรและการเงนิ เพื่อการศึกษา n ปรับระบบการจัดสรรเงินจากเดิมที่จัดสรรผ่านด้านอุปทาน หรือสถานศึกษา ไปสู่ด้านอุปสงค์หรือตัวผู้เรียน เพื่อให้รัฐมีเครื่องมือ ทางการเงินในการกำกับบทบาท ภารกิจ และอำนาจหน้าท่ีของสถานศึกษา ให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และ แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ตลอดจนการผลิตและพัฒนากำลังคนท่ี ตนออกบเสหนนืออจงาคกวกาามรตใช้อ้เคงรก่อื างรมขอื อทงาตงกลาารดเงแนิ รผงา่ งนาดนา้ แนลอะุปกทาารนพ๒๗ัฒ นาประเทศ การเรยี นnห รใือหค้สา่ ถบารนกิ ศารึกแษลาะสสา่ิงมอาำนรถวยเรคียวกาเมกส็บะคด่าวเกลอ่าน่ื เรทีย่ีใหนก้ บัค่ผาธู้เรรยี รนม๒เ๘น,ีย๒ม๙ ซึ่งเกินกว่าคุณภาพและมาตรฐานขั้นต่ำท่ีรัฐกำหนด เพ่ือให้ผู้เรียน (ปผรู้ปะกโยคชรนอท์ ง่ไี)ดมร้ บัีส่ว(นBeรn่วeมfรitะดPrมinทcุนipแlลeะ)๓ส๐น องทุนเพ่ือการศึกษา ตามหลัก ๒๗ เพ่ือให้การปฏิรูประบบการจัดสรรเงินผ่านด้านอุปสงค์เป็นไปอย่างราบรื่น จำเป็นต้องกำหนด แผนและข้ันตอนการเปลี่ยนผ่านระบบการจัดสรรเงินจากด้านอุปทานไปสู่ด้านอุปสงค์ เพื่อมิให้ สถานศึกษาได้รับผลกระทบ และเป็นการเปิดโอกาสให้สถานศึกษาได้มีระยะเวลาในการปรับ ประสทิ ธิภาพการบริหารจัดการทค่ี ำนงึ ถงึ คณุ ภาพมาตรฐาน ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล ๒๘ เน่ืองจากผู้เรียนเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากบริการการศึกษาที่สถานศึกษาจัดให้แก่ผู้เรียน ซึ่งเกิน กว่าคณุ ภาพและมาตรฐานข้นั ต่ำท่รี ัฐกำหนด ผเู้ รยี นจงึ ควรมสี ่วนรว่ มรบั ภาระค่าใชจ้ ่ายที่เพิม่ ข้นึ ตามคุณภาพและบริการท่ีได้รับ เพ่ือให้สถานศึกษามีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอสำหรับนำมาใช้เพ่ือ การจัดการศึกษานอกเหนือจากเงินท่ีได้รับการอุดหนุนจากรัฐ เพื่อให้สถานศึกษาสามารถดำรง อย่แู ละรกั ษาคุณภาพและมาตรฐานให้คงอยู่ในระดบั เดิมและดขี ึน้ ในอนาคต
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนกึ ษการไศทกึยษในาแเวหทง่ สีชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 25 ๒๙ การศึกษาภาคบังคับเป็นบริการสาธารณะที่รัฐพึงให้กับพลเมืองตามสิทธิท่ีบัญญัติใน รัฐธรรมนูญ ซึ่งพลเมืองพึงได้รับบริการการศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ขั้นต่ำที่รัฐกำหนด โดยรัฐให้การสนับสนุนในรูปของเงินอุดหนุนรายหัวตามตัวผู้เรียน ที่สะท้อน คุณภาพมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำที่รัฐกำหนด และต้นทุนประสิทธิภาพต่อหน่วยของ การจัดการศึกษา อย่างไรก็ตาม สถานศึกษาสามารถให้บริการการศึกษาที่เกินกว่ามาตรฐาน ข้ันต่ำที่รัฐกำหนด และเก็บค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าบริการหรือสิ่งอำนวยความ สะดวกอ่ืนที่ให้แก่ผู้เรียนในอัตราที่สูงกว่าเงินอุดหนุนรายหัวที่รัฐให้การอุดหนุน ซึ่งผู้เรียนต้องมี ส่วนร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนเกินอันเนื่องจากการได้รับบริการท่ีเกินกว่าคุณภาพและ มาตรฐานขน้ั ต่ำท่รี ฐั กำหนด สำหรับผู้เรียนท่ีมีศักยภาพและความสามารถในการเรียนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เนื่องจาก เป็นผูด้ ้อยโอกาส/ยากจน สามารถรบั ทนุ การศกึ ษาแบบให้เปลา่ จากทกุ ภาคสว่ นของสงั คม อาทิ บคุ คล (ผบู้ รจิ าค) สถานประกอบการ ภาคเอกชน สถาบนั /องค์กรต่าง ๆ ในสังคม นอกเหนือ จากรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ที่พึงให้การช่วยเหลือเพ่ือให้ผู้เรียนเหล่านั้นสามารถเข้า ถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพ่ือพัฒนาขีดความสามารถให้เต็มตามศักยภาพ ท่ีมีอยใู่ นตวั ตนของแตล่ ะคน โดยไม่มขี อ้ จำกัดดา้ นการเงิน สำหรับการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (สามัญและอาชีพ) แม้จะมิใช่การศึกษา ภาคบังคับ แตร่ ฐั ก็สามารถให้การส่งเสริมสนับสนุนในรปู ของเงนิ อดุ หนุนรายหวั ตามตัวผเู้ รียน ที่ สะท้อนคุณภาพมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำท่ีรัฐกำหนด และต้นทุนประสิทธิภาพต่อ หน่วยของการจัดการศึกษา ท้ังนี้สถานศึกษาสามารถเก็บค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าบริการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอ่ืนท่ีให้แก่ผู้เรียนในอัตราท่ีสูงกว่าเงินอุดหนุนรายหัวท่ีรัฐ ให้การอุดหนนุ หากจดั การศึกษาท่ีเกนิ กว่าคุณภาพมาตรฐานขน้ั ต่ำที่รัฐกำหนด ซึ่งผู้เรียนทีด่ ้อย โอกาส/ยากจน แต่มีศักยภาพและความสามารถในการเรียน สามารถรับทุนการศึกษาแบบให้ เปล่าจากทกุ ภาคส่วนของสังคมนอกเหนือจากรฐั และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ เชน่ กนั สำหรับการศึกษาระดับอุดมศึกษาและการอาชีวศึกษาท่ีจัดการศึกษาสูงกว่าระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเป็นการศึกษาที่ผู้เรียนได้ประโยชน์จากการได้รับการศึกษามากกว่า ท่ีสังคมส่วนรวมได้รับ ผู้เรียนจึงควรมีส่วนร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายที่สะท้อนต้นทุน ซ่ึงรัฐอาจ ให้การช่วยเหลือผ่านการให้การอุดหนุนค่าใช้จ่ายการศึกษาเพ่ือแบ่งเบาภาระของผู้เรียน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้เรียนท่ีมีศักยภาพและความสามารถแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สามารถเข้า ถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน รัฐจะให้การช่วยเหลือผ่านกองทุนเงินให้กู้ยืม ที่ผูกกับรายได้ในอนาคต ท่ีผู้เรียนต้องชำระคืนในอัตราก้าวหน้าตามความสามารถในการหา รายได้ในอนาคตของผ้กู ู้ยมื เงนิ เมื่อมีงานทำ มรี ายได้ถึงเกณฑข์ นั้ ต่ำที่กำหนด ๓๐ ความแตกต่างของค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน หรือค่าบริการและสิ่งอำนวยความ สะดวกอื่นท่ีให้กับผู้เรียน ต้องสะท้อนคุณภาพและมาตรฐานของบริการการศึกษาที่ผู้เรียนพึง ได้รับ โดยมหี นว่ ยงานของรฐั เป็นผู้กำกับ
26 (ร่าง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ n ผู้เรียนท่ีมีศักยภาพและความสามารถในการเรียน แต่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ รัฐสามารถให้การช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษา ผ่าน กองทุนเงินให้เปล่าท่ีต้องดำเนินการจัดต้ังขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สำหรับค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าบริการและส่ิงอำนวย คกรบัาวรทาเมุนรียสกนะารด๓ศ๑วกึ กแษอลา่ืนะททคแ่ี ่ีส่าตใถกชาต้จนา่่างศยกึกในันษตกาาาเมรรคคียรวกอาเมกงชต็บีพอ้ จงรากะกาหผรวู้เจ่ารำงียเเปนร็นียนขรวอ๓ม๒งแทซต้ัง่ึงล่ คผะ่าู้เบรใชคุีย้จคน่าลจย๓ะ๓ใไนด ้ n สถานศกึ ษาท่เี กบ็ ค่าเลา่ เรยี นเกินกวา่ เงินอุดหนนุ รายหวั ทร่ี ัฐให้ ต้องแสดงให้เห็นว่าการบริหารและจัดการศึกษาของสถานศึกษาส่งผลต่อ คุณภาพมาตรฐานของบริการการศึกษาที่ผู้เรียนพึงได้รับจากสถานศึกษา เกนิ กวา่ คณุ ภาพและมาตรฐานขั้นตำ่ ที่รัฐกำหนด n การศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นการศึกษาสำหรับผู้ที่มีศักยภาพ และความสามารถ ซึ่งประโยชน์ตกกับผู้เรียนมากกว่าที่สังคมส่วนรวมได้รับ ผู้เรียนจึงต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการเรียน โดยให้สถานศึกษาเก็บ ๓๑ อาทิ คา่ เคร่ืองเขยี น แบบเรียน หนังสอื ตำรา อุปกรณก์ ารเรียน ค่าเครอื่ งแบบ เปน็ ต้น ๓๒ อาทิ คา่ ทพ่ี กั ค่าพาหนะเดนิ ทาง ค่าอาหารเสรมิ (นม) ค่าอาหาร ๓ มอ้ื คา่ เสยี โอกาสในการใช้ แรงงานเดก็ ของครอบครวั เป็นตน้ ๓๓ รัฐสามารถใช้มาตรการทางภาษีเป็นเคร่ืองมือในการส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการระดม ทุนและการสนองทุนเพื่อการศึกษา จากบุคคล ครอบครัว ชุมชน สถานประกอบการ ภาคเอกชน สถาบัน/องค์กรต่าง ๆ ในสังคม ในการบริจาคเงินเพ่ือเป็นทุนการศึกษาแก่ผู้เรียน ที่ด้อยโอกาส/ยากจน เพ่ือให้ผู้เรียนที่มีศักยภาพและความสามารถ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย ์ ได้รับการพัฒนาขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพที่มีอยู่ในตัวตนของแต่ละคน โดยไม่ม ี ขอ้ จำกดั ด้านการเงิน
(ร่าง) กสรมอรบรทถนศิ ทะกาางแรศผนกึ ษการไศทึกยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 27 ค่าเล่าเรียนตามต้นทุนของแต่ละสถานศึกษา๓๔ และให้ผู้เรียนเป็นผู้รับ ภาระค่าใช้จ่ายในการเรียน สำหรับผู้เรียนท่ีมีศักยภาพและความสามารถ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมท่ีผูกกับ รายได้ในอนาคต เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน และชำระคืนหลังสำเร็จการศึกษา มีงานทำ มีรายไดถ้ ึงเกณฑข์ นั้ ตำ่ ท่ีกำหนด n สถานศึกษาต้องมีส่วนช่วยเหลือผู้เรียนท่ีมีศักยภาพและ ความสามารถในการเรียน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้สามารถเข้าศึกษาใน สถานศึกษาท่ีมีคุณภาพมาตรฐาน โดยการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีงานทำ ระหวา่ งเรยี น ผา่ นการฝกึ งานในสถานศกึ ษา การทำงานในสถานประกอบการ ท่ีร่วมฝกึ ประสบการณ์การทำงานตามมาตรฐานวชิ าชีพกับสถานศึกษา เพอื่ ให้ผู้เรียนมีรายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนและค่าครองชีพระหว่างเรียน หรอื ใหท้ นุ การศกึ ษาจากการระดมทนุ จากทกุ ภาคสว่ นของสงั คม นอกเหนอื จากการได้รับเงินกยู้ ืมเพอื่ การศึกษาเพ่ือเป็นคา่ เลา่ เรยี นจากรัฐ ๓๔ รัฐสามารถใช้เคร่ืองมือทางการเงินผ่านด้านอุปสงค์ โดยการให้เงินอุดหนุนเป็นทุนการศึกษา เพือ่ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนของผ้เู รยี น สำหรับผ้เู รยี นในคณะ/สาขาวิชาทีต่ อบสนองความ ต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ รวมท้ังสามารถกำกับการผลิตและพัฒนา กำลังคนของสถาบันอุดมศึกษาให้เป็นตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนผลิตและพัฒนากำลังคน ของประเทศ
28 (ร่าง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ๗. ปจั จยั /เงือ่ นไขความสำเร็จ (Key Success Factors) n เปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการจัดการศึกษา จากการเป็นผู้จัด การศึกษาโดยรัฐ มาเป็นการจัดการศึกษาโดยทุกภาคส่วนของสังคม ท่ีมุ่ง การจัดการศึกษาเพ่ือความเท่าเทียมและทั่วถึง (Inclusive Education) ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับทุกคน ซ่ึงสอดคล้องกับ เปา้ หมายการพัฒนาท่ยี งั่ ยืน (Sustainable Development Goals) n ปรับระบบการบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดประสิทธิภาพ โดย ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ภายใต้กลไกตลาดที่กำกับโดยรัฐ (Regulated Market) รวมทั้งกระจายอำนาจและความรับผิดชอบไปสู่ สถานศึกษา เพ่ือรักษาคุณภาพมาตรฐาน และสามารถดำรงอยู่ได้อย่าง ย่งั ยืน n ระบบข้อมูลและสารสนเทศท่ีบูรณาการและเช่ือมโยงกับระบบ การประกันคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอกผ่านระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการรายงานต่อสาธารณชนจะเป็นกลไกใน การสร้างการรับรู้ของผู้จัดการศึกษาและผู้เรียน เพ่ือการปรับประสิทธิภาพ การบริหารจัดการ และความรับผิดชอบต่อผู้เรียน ผ่านระบบการกำกับ ตรวจสอบ ติดตามและประเมินผล
(รา่ ง) กสรมอรบรทถนิศทะกาางแรศผนึกษการไศทกึยษในาแเวหทง่ ีสชากตลิ พพ.ศ..ศ๒. 2๕5๖5๐8- ๒๕๗๔ 29 ๘. ยทุ ธศาสตร์ มาตรการ ตัวช้วี ดั และหน่วยงานรบั ผิดชอบ เพอ่ื ใหแ้ ผนการศกึ ษาแหง่ ชาตไิ ดร้ บั การตอบสนองจากทกุ ภาคสว่ น ของสังคม และนำไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายตาม เจตนารมณ์ของแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ จงึ ไดก้ ำหนดยุทธศาสตร์ มาตรการ ตัวชี้วัด และหน่วยงานรับผิดชอบ โดยแบ่งระยะเวลาการดำเนินงานของ แผนการศึกษาเป็น ๓ ระยะ ดงั นี ้ ระยะแรก : เป็นการวางระบบและกลไกการบริหารจัดการ โดยการกำหนดแผนและข้ันตอนการเปล่ียนผ่าน (transition period) ภายใต้แผนบริหารความเส่ียง (risk management) รวมทั้งการเปล่ียน กระบวนทศั น์ (paradigm/mind set) ของบคุ คลและหน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้อง กับการจัดการศึกษา และการนำร่องเพื่อเป็นตัวอย่างของความสำเร็จใน การขยายผลตอ่ ในระยะทสี่ อง ระยะท่ีสอง : เป็นการขับเคล่ือนและขยายผลตัวอย่างของความ สำเร็จให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้ระบบและกลไกการบริหาร จัดการท่ีเปลี่ยนไป และแผนบริหารความเสี่ยงท่ีรองรับปัญหา อุปสรรค ทไ่ี ม่สามารถคาดการณ์ลว่ งหน้าได ้ ระยะท่ีสาม : เป็นการติดตามและประเมินผลในเชิงระบบและ กลไกการบริหารจัดการ เพ่ือปรับปรุงแก้ไข และวางแนวทางการบริหาร จัดการในลักษณะเชิงพื้นที่ กลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างกัน และขยาย ผลให้ครอบคลุมทุกพื้นท่ี เพ่ือให้เกิดการขับเคล่ือนและนำไปสู่การปฏิบัติท่ี เปน็ รูปธรรม มผี ลผลติ ผลลพั ธ์ท่วี ัดได้
(ร่าง) ยุทธศาสตร์/แนวทางการพัฒนาการศึกษาตามแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕ ยทุ ธศาสตร/์ มาตรการ ๑) ยุทธศาสตรก์ ารบริหารจัดการระบบข้อมลู และสารสนเทศเพ่ือการศกึ ษา ๑.๑) ออกแบบและพัฒนาโครงสร้างระบบขอ้ มลู และสารสนเทศท่บี ูรณาการและ ● มโี เชอื่ มโยงระหว่างหนว่ ยงานสว่ นกลาง หนว่ ยงานสว่ นภมู ภิ าค และสถานศึกษา๑ ทบ่ี ูรณาก ภายในหน่วยงานและระหว่างหนว่ ยงาน เพอ่ื การกำกบั ตดิ ตามประเมนิ ผล การบรหิ าร รวดเรว็ ท จดั การ และการตัดสินใจเชิงนโยบายของผบู้ ริหาร ๑.๒) พัฒนาระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศทบ่ี รู ณาการและเชอ่ื มโยงกับระบบ ● จำ การประกันคุณภาพภายใน การประเมนิ คณุ ภาพภายนอก การติดตามประเมินผล และสารส ของหนว่ ยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค๒ สามารถเข ๑.๓) เตรียมการจัดตั้งหนว่ ยงานกลางดา้ นการบรหิ ารและการจดั การระบบขอ้ มูล ● แผ และสารสนเทศแบบบรู ณาการตลอดทุกชว่ งวยั ของทกุ หนว่ ยงาน หนว่ ยงาน ● ร่า ๒) ยุทธศาสตรก์ ารเพมิ่ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการระดบั สถานศึกษา ๒.๑) จดั ทำแผนทตี่ ้งั สถานศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน (สังกัด สพฐ. สช. และ อปท.) โดยใช ้ ● แผ ระบบ GIS เพ่อื กำหนดจำนวนและที่ต้งั สถานศกึ ษาทเ่ี หมาะสม สอดคลอ้ งกับ เลิกสถาน ความตอ้ งการของผู้เรยี น ๒.๒) จัดทำแผนและขน้ั ตอนการควบรวม หรือเลกิ สถานศกึ ษาข้นั พื้นฐาน (สงั กดั สพฐ. และ อปท.) ท่ีไมม่ ีประสิทธิภาพ ๑ หมายถงึ สถานศกึ ษาทีจ่ ดั การศึกษาระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย ( ๒ ระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศของสถานศึกษาต้องมีความถูกต้อง ครบถ้วน ตรงเวลา ง่ายและสะดวกในการจัดเก็บแล จดั การศึกษา ทั้งนี้ ตอ้ งสามารถรายงานผลการพัฒนาการศึกษา ทงั้ ด้านผลการดำเนนิ งาน (performance audit) การบ
(ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ 31 ๕๖๐ - ๒๕๗๔ ตัวชี้วัด เป้าหมาย หน่วยงานรบั ผิดชอบ ๖๐ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ หลกั /รอง โครงสรา้ งระบบข้อมลู สารสนเทศ n - - การ เชอ่ื มโยง มคี วามถูกต้อง สป.ศธ. สกศ. ทันเวลาและเขา้ ถึงได้ตลอดเวลา สพฐ. สอศ. สกอ. ำนวนสถานศกึ ษาที่มีระบบข้อมูล n n n ทส. สธ. พม. สนเทศท่คี รบถ้วน ถูกต้องและ สถานศึกษา เข้าถงึ ได ้ - ผนและขั้นตอนการจัดตั้ง n สกศ. สป.ศธ. นกลาง ทส. สธ. พม. างกฎหมายจดั ต้ังหนว่ ยงานกลาง ผนข้นั ตอนการควบรวม หรือ n - สพฐ. อปท. สช. นศึกษา (สามญั และอาชีพ) การอาชวี ศกึ ษา (ปวส. – ปริญญาตรี) และอดุ มศกึ ษา ละบันทึกอย่างเป็นระบบ ไม่สร้างภาระกับสถานศึกษาในการนำไปใช้ และเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตัดสินใจและบริหาร บรหิ ารจัดการ (management audit) และการเงิน (financial audit)
32 (รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ยุทธศาสตร/์ มาตรการ ๒.๓) แบง่ กลุ่มสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน (สงั กัด สพฐ. และ อปท.) ตามศกั ยภาพ ● จำนวนส และความพร้อม๓ ๔ เพอ่ื พัฒนาและลดความแตกตา่ งของคุณภาพและมาตรฐาน คณุ ภาพและมา ระหว่างสถานศกึ ษา กลุ่มที่ ๒ – ๔) - สถานศกึ ษากลุ่มท่ี ๑ ให้เปล่ยี นสถานะเป็นสถานศกึ ษานติ บิ ุคคลในกำกบั ● จำนวนส เพอื่ ความเปน็ อสิ ระคล่องตวั ในการบริหารจดั การ คณุ ภาพและมา - ส่งเสริม สนับสนนุ และพฒั นาศักยภาพสถานศกึ ษากลุ่มที่ ๒ ● จำนวนส เพือ่ รองรับการเปลี่ยนสถานะเปน็ สถานศกึ ษานติ บิ คุ คลในกำกบั เปน็ สถานศกึ ษา - ปรบั ประสิทธิภาพการบรหิ ารจัดการสถานศึกษากลมุ่ ท่ี ๓ ตามแผนและ ● จำนวนส ข้นั ตอนการควบรวม เลิก และเปลี่ยนสถานะเป็นแหล่งเรยี นร้ขู องชมุ ชน หรอื เลิกสถานศ - ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสถานศึกษากลุ่มที่ ๔ ● จำนวนส โดยอาศัยนวตั กรรมและเทคโนโลยเี พือ่ การจัดการเรยี นการสอนและรูปแบบ/ เปน็ แหล่งเรียน กระบวนการเรียนการสอนทสี่ อดคลอ้ งกับบริบทของพนื้ ท ี่ ๒.๔) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหส้ ถาบนั การศกึ ษา (สถาบนั อาชวี ศกึ ษา/สถาบนั อดุ มศกึ ษา) ● ยทุ ธศาส ผลติ และพัฒนากำลงั คนในสาขาทส่ี ถาบันฯ มีความเชีย่ วชาญ และลด/เลกิ การผลิต ทางการเงินผ่าน ในสาขาท่สี ถาบนั ฯ ขาดความพรอ้ ม/ผลิตไมส่ อดคล้องกับความต้องการของ ในการกำกับกา ตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ เพือ่ ใหส้ ถาบนั มขี นาดและจำนวนการผลติ การศึกษาให้สอ ทส่ี อดคล้องกบั จำนวนผเู้ รยี นทม่ี ีแนวโนม้ ลดลง ผ่านมาตรการทางการเงิน ความต้องการข โดยมแี ผนการปรบั ประสิทธิภาพการบรหิ ารจดั การระยะ ๕ – ๑๐ ปี ๕ ๓ หลักเกณฑ์การพิจารณาจัดกลุ่มสถานศึกษาตามศักยภาพและความพร้อม จะพิจารณาจากความพร้อมของสถานศึกษาด ขดี ความสามารถในการระดมทรัพยากร และระบบธรรมาภิบาลของสถานศึกษา ๔ แบ่งสถานศึกษาเป็น ๔ กล่มุ ไดแ้ ก่ ๑) กลมุ่ สถานศึกษาทม่ี ีศักยภาพและความพรอ้ ม ๒) กล่มุ สถานศกึ ษาทมี่ ีความพรอ้ มแตข่ การคมนาคมไม่สะดวก ๕ เครื่องมือทางการเงินผ่านด้านอุปทาน ได้แก่ การสนับสนุนงบประมาณด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน การพัฒนาคณาจารย์และบุค ท่ีตอบสนองความต้องการของประเทศ ควบคู่กับการลดงบประมาณสนับสนุนการผลิตกำลังคนในสาขาวิชาท่ีเกินความต้องกา ของสถาบันการศกึ ษาเพือ่ การดำรงอยใู่ นศาสตร/์ สาขาวิชาใหค้ งอยู่ตอ่ ไป) เครอ่ื งมอื ทางการเงนิ ผา่ นดา้ นอปุ สงค์ ไดแ้ ก่ กองทุนเ
ตัวช้วี ดั เป้าหมาย หน่วยงานรับผดิ ชอบ ๖๐ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ หลัก/รอง สพฐ. สถานศกึ ษาทไี่ ดร้ บั การพฒั นา n n n าตรฐาน (สถานศกึ ษา สถานศึกษาท่ผี ่านเกณฑ์ n n n าตรฐานตามทีก่ ำหนด สถานศกึ ษาที่เปลี่ยนสถานะ n n n านิตบิ ุคคลในกำกบั สถานศึกษาทีค่ วบรวม n n n ศกึ ษา สถานศึกษาท่ีเปล่ยี น n n n นรู้ของชมุ ชน สตร์แนวทาง/เคร่อื งมือ n n สอศ. สกอ. นดา้ นอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน สถานศึกษา ารดำเนนิ งานของสถาบัน อดคล้องและสนองตอบ ของประเทศ ด้านการบริหารจัดการ (การบริหารงานบุคคล งบประมาณ วิชาการ บริหารทั่วไป) ความพร้อมด้านบุคลากร รวมท้ัง ขาดศักยภาพ ๓) กลุ่มสถานศกึ ษาทข่ี าดศักยภาพและความพร้อม ๔) กลมุ่ สถานศกึ ษาขนาดเลก็ ในพนื้ ที่หา่ งไกล ทรุ กันดาร คลากรทางการศึกษา การวิจัยและพัฒนาในสาขาวิชาท่ีสถาบันมีความเชี่ยวชาญ เพ่ือสร้างความเป็นเลิศ หรือสาขาวิชา ารตามแผนการลด/เลิกการผลิตกำลังคน ระยะ ๕ ปี (ยกเว้นสาขาวิชาที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด แต่เป็นความต้องการ เงินใหก้ ยู้ มื ทผ่ี กู กับรายได้ในอนาคต (กรอ.) การจัดสรรเงนิ อุดหนุนรายหัวตามตวั ผ้เู รียน
ยุทธศาสตร/์ มาตรการ ๒.๕) ส่งเสรมิ สนับสนุนให้สถานศกึ ษา (ระดบั อดุ มศึกษา) ทง้ั ของรฐั และเอกชน ● กา เขา้ มามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยอาศัยกลไกทางการเงินดา้ นอปุ สงค์ จัดการกอ (demand side financing) ผา่ นกองทุนเงินใหก้ ูย้ ืมทผี่ ูกกบั รายได้ในอนาคต๖ มาเปน็ กอ ● จำ กองทุนเง ในอนาคต ตามแผนค ๒.๖) ผลกั ดนั ให้มกี ารจัดต้ังสถาบนั พฒั นากรรมการ เพื่อใหอ้ บรมและพัฒนา ● ร่า ผ้ทู ่ีทำหน้าทกี่ รรมการสถานศึกษา๗ ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจในบทบาท อำนาจหนา้ ท่ี จาก ครม และความรบั ผดิ ชอบทโ่ี ปร่งใสและตรวจสอบได้ เพ่อื ประก ๒.๗) สถาบนั พัฒนากรรมการสามารถดำเนนิ งานตามบทบาทและอำนาจหน้าท่ ี ● จำ ในการพัฒนาบคุ คลทส่ี ามารถทำหน้าทก่ี รรมการสถานศึกษา และพฒั น ● จำ และพฒั น ๓) ยทุ ธศาสตร์การกระจายอำนาจไปส่สู ถานศกึ ษา ๓.๑) ปรบั โครงสร้างการบริหารราชการสว่ นกลาง สว่ นภมู ิภาค และสถานศกึ ษา ● กา ตามแนวทางการกระจายอำนาจไปสสู่ ถานศกึ ษา ราชการส ๓.๒) ปรบั บทบาทของหนว่ ยงานส่วนกลาง หนว่ ยงานส่วนภูมภิ าคให้ทำหน้าที ่ สถานศึกษ เปน็ ผ้กู ำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ติดตามประเมนิ ผล สง่ เสริมสนับสนนุ และ การกระจ กระจายอำนาจใหส้ ถานศึกษาทำหน้าท่ีเปน็ ผ้จู ัดการศึกษา ๓.๓) จัดทำค่มู อื การดำเนนิ งานตามบทบาทอำนาจหนา้ ทแี่ ละความรับผิดชอบ ● คู่ม ของแต่ละหนว่ ยงาน ของหนว่ ย ๖ รัฐสามารถใช้กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) (Income Contingent Loan :ICL) ซ่ึงเป็นเครื่อง การพัฒนาประเทศ ซ่ึงมาทดแทนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพ่ือการศึกษา (กยศ.) ที่มีวัตถุประสงค์ด้านสังคม (การช่วยเหลือผ นอกเหนอื จากวัตถปุ ระสงคด์ ้านสังคม เพ่อื ใหเ้ ปน็ กองทนุ ของสังคมท่ีมคี วามยั่งยืนและดำรงอย่ไู ดโ้ ดยไมส่ ร้างภาระกับรัฐ ๗ หมายถงึ สถานศึกษาทกุ ระดับ/ประเภทการศกึ ษา
(ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ 33 ตวั ชวี้ ัด เป้าหมาย หนว่ ยงานรับผิดชอบ ๖๐ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ หลัก/รอง ารปรับประสทิ ธิภาพการบรหิ าร n n - องทุนจากกองทุน กยศ. สกศ. สกอ. องทนุ กรอ. สถานศึกษา ำนวนนกั ศึกษาที่กยู้ ืมเงินจาก n n n งินใหก้ ูย้ มื ท่ีผูกกบั รายได้ ต จำแนกตามสาขาวชิ า ความตอ้ งการกำลังคนระยะ ๕ ปี างกฎหมายผ่านความเห็นชอบ n - - ม. และผา่ นกระบวนการนติ ิบญั ญตั ิ กาศใช ้ กระทรวงศึกษาธกิ าร ำนวนบุคคลทเ่ี ข้ารับการอบรม n n n นา ำนวนบุคคลทผ่ี ่านการอบรม n n n นา ารจัดโครงสรา้ งการบรหิ าร n - - ส่วนกลาง ส่วนภูมภิ าค และ กระทรวงศกึ ษาธิการ ษา สอดคลอ้ งกบั แนวทาง จายอำนาจไปส่สู ถานศึกษา มือและแนวทางการดำเนนิ งาน n - - ยงานภายใต้โครงสรา้ งใหม ่ งมือทางการเงินผ่านด้านอุปสงค์ ในการกำกับการผลิตกำลังคนของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและ ผู้เรียนที่ด้อยโอกาส/ยากจนให้สามารถเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา) ซ่ึงต่างจากกองทุน กรอ. ซ่ึงมีวัตถุประสงค์ด้านการเงิน ฐ
34 (รา่ ง) กรอบทิศทางแผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ยทุ ธศาสตร์/มาตรการ ๓.๔) เตรียมความพรอ้ มของหน่วยงานและบุคลากร (หน่วยงานส่วนกลาง ● จำนวนห ส่วนภูมภิ าค และสถานศกึ ษา) เพือ่ รองรับบทบาทและอำนาจหน้าทที่ เ่ี ปลย่ี นไป การพฒั นาและ ● ระดบั คว และอำนาจหนา้ โครงสร้างใหม ่ ๓.๕) ผลักดันร่างกฎหมายการจัดต้งั สถานศกึ ษานติ ิบคุ คลในกำกบั รวมทั้งปรับปรงุ ● รา่ งกฎห แกไ้ ข กฎหมายท่เี กี่ยวขอ้ ง จาก ครม. และ เพอ่ื ประกาศใช ๓.๖) กำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ เงือ่ นไข และวิธีการประเมินความพร้อมของ ● หลกั เกณ สถานศกึ ษาของรฐั ในการเปล่ียนสถานะเป็นสถานศึกษานติ บิ คุ คลในกำกับ และวิธีการประ (ความพร้อมด้านวชิ าการ การบริหารงานบุคคล การบริหารทัว่ ไป และการเงิน) สถานศกึ ษา ผ่า ออกเปน็ กฎกระ ● จำนวนส ประเมนิ ความพ เปน็ สถานศกึ ษา ๓.๗) ผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. การอุดมศกึ ษา พ.ศ. …. และ พ.ร.บ. การอาชวี ศกึ ษา ● ร่าง พ.ร พ.ศ. …. เพอื่ ใหร้ ัฐมีเคร่อื งมอื /กลไกในการกำกับสถาบนั อดุ มศึกษาและสถาบนั พ.ศ. …. และ พ การอาชวี ศึกษา ให้ดำเนนิ บทบาทภารกจิ อำนาจหน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบตาม พ.ศ. …. ผ่านกร แผนพฒั นาอดุ มศกึ ษาระยะยาว แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ และแผนพฒั นาการศกึ ษาแหง่ ชาต ิ และมีผลบังคบั ๓.๘) ส่งเสริมสนับสนนุ สถาบนั การศึกษา (สถาบนั อาชีวศึกษาและ ● จำนวนส สถาบันอุดมศึกษา) ท่ีมศี ักยภาพและความพร้อมให้เปลย่ี นสถานะเป็นสถาบนั การศึกษา เปลี่ยนสถานะเ ในกำกับ ทแี่ สดงความรบั ผดิ รับชอบต่อผเู้ รียน ตามหลกั ธรรมาภบิ าล ในกำกบั ๓.๙) ปรบั ปรงุ แกไ้ ขกฎหมายสถาบนั อดุ มศึกษาในกำกับให้เปน็ สถาบันฯ ● จำนวนส ท่ีแสดงความรับผิดรบั ชอบต่อผูเ้ รียน ตามหลกั ธรรมาภบิ าล ทไี่ ดร้ ับการแกไ้ ๘ ร้อยละของความสำเร็จในการปรับเข้าส่โู ครงสร้างใหม่
ตัวช้วี ดั ๖๐ - ๖๔ เป้าหมาย ๗๐ - ๗๔ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ ๖๕ - ๖๙ n หลกั /รอง หน่วยงาน/บุคลากรทีไ่ ดร้ ับ - n ะเตรียมความพรอ้ ม n กระทรวงศึกษาธิการ วามสำเรจ็ ในการปรบั บทบาท รอ้ ยละ๘ n - าทีข่ องหน่วยงานตาม - - หมายผ่านความเห็นชอบ n - n ะผ่านกระบวนการนติ ิบญั ญตั ิ ช้ n - สกศ. ณฑ์ เงอื่ นไข คณุ สมบตั ิ - - n ะเมินความพรอ้ มของ n านการพจิ ารณาและ n ะทรวง สกศ. สถานศกึ ษาทีผ่ ่านเกณฑ์ คณะกรรมการตามกฎหมาย พร้อมและเปลี่ยนสถานะ านิตบิ ุคคลในกำกบั ร.บ. การอุดมศึกษา n พ.ร.บ. การอาชวี ศึกษา n ระบวนการนติ ิบญั ญัต ิ บใช ้ สถาบนั การศกึ ษาท่สี ามารถ สกอ. สอศ. เปน็ สถาบันการศึกษา สถาบนั อดุ มศกึ ษาในกำกับ n n n ไข
ยุทธศาสตร์/มาตรการ ๔) ยทุ ธศาสตรก์ ารส่งเสรมิ การมีส่วนร่วมจากทกุ ภาคสว่ นของสังคม ๔.๑) เปลยี่ นบทบาทของรัฐในการเป็นผจู้ ัดการศึกษาเปน็ หลัก มาเปน็ ผ้กู ำกับ๙ ● กา นโยบาย แผน มาตรฐาน ตดิ ตามประเมนิ ผล สง่ เสรมิ สนับสนนุ กฎ ระเบ ๔.๒) ปฏบิ ัติตอ่ ผ้จู ัดการศึกษา (สถานศึกษา) ภายใตก้ ฎ กตกิ า ทเ่ี ปน็ มาตรฐาน ● กา เดียวกัน โดยไม่เลอื กปฏบิ ตั ิ อาทิ การยกเวน้ การเกบ็ ภาษโี รงเรอื นสำหรับ และแนวก สถานศึกษาเอกชน เป็นต้น ทเี่ ป็นมาต ● จำ วธิ ีปฏบิ ตั ทง้ั ของรัฐ ๔.๓) ปรบั ระบบการจดั สรรเงินอดุ หนนุ รายหวั ของรัฐและเอกชนทีส่ ะท้อน ● ศึก คณุ ภาพมาตรฐาน ประสิทธิภาพ ประสิทธผิ ล ตามความแตกตา่ งของคุณลักษณะ ต้นทนุ ปร สถานศึกษาและคณุ ลกั ษณะของผูเ้ รียนด้วยความเปน็ ธรรม การศกึ ษา คณุ ภาพม สถานศึกษ ๔.๔) ส่งเสริมสนบั สนุนให้สถานศกึ ษาเอกชนเขา้ มามีสว่ นร่วมในการจดั การศึกษา ● จำ โดยการเขา้ รว่ มโครงการสถานศกึ ษาพันธะสัญญา (Chartered School)๑๐ หรือ ทเ่ี ขา้ รว่ ม การใหส้ มั ปทาน (Privatization) แก่ภาคเอกชนท่ีมศี ักยภาพและความพร้อม ● จำ ในการเขา้ มาบริหารและจดั การศึกษา๑๑ ท่ีสัมปทา และจัดกา ๙ การจัดการศึกษาเป็นของสังคมที่พลเมืองได้รับประโยชน์จากการศึกษา รัฐมิได้เป็นผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษา รัฐมีห ฐานะเป็นตัวอย่างหรือต้นแบบสถานศึกษาที่ดี หรือจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายหรือพ้ืนที่ที่ตลาดมีความต้องการแ หรือสถาบนั /องค์กรต่าง ๆ ในสังคม ดว้ ยกฎกตกิ าท่ีเป็นมาตรฐานเดียวกัน ๑๐ สถานศึกษาพันธะสัญญาเป็นสถานศึกษาที่มีสถานะเป็นนิติบุคคล มีอิสระและความคล่องตัวในการบริหารจัดการ สาม โดยรัฐให้การอุดหนุน ช่วยเหลือ เฉพาะผู้เรียนที่ด้อยโอกาส/ยากจนท่ีสามารถเข้าเรียนในสถานศึกษาพันธะสัญญา ตา จดั การ ๑๑ ท้งั การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอธั ยาศัย ซ่งึ ครอบคลมุ กลุม่ เป้าหมายผ้เู รียนปกติ ผ้เู รยี นด้อยโ
(รา่ ง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ 35 ตัวชี้วดั เปา้ หมาย หนว่ ยงานรับผดิ ชอบ ๖๐ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ หลัก/รอง ารปรบั ปรงุ แกไ้ ข กฎหมาย n - - กระทรวงศกึ ษาธิการ บยี บ วิธปี ฏิบตั ิ ารเตรยี มความพรอ้ มของบคุ ลากร n - - การปฏิบัตติ ่อสถานศึกษา n - - หน่วยงานทกี่ ำกับการจดั ตรฐาน การศึกษา ำนวนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ติทไี่ ดร้ บั การปรับปรุงแก้ไข ฐและเอกชน กษาวิจยั รปู แบบการคำนวณ n n - ระสิทธิภาพตอ่ หนว่ ยของการจัด า ท่สี ะท้อนความแตกต่างของ สกศ. สพฐ. สช. สอศ. มาตรฐาน และคณุ ลกั ษณะ ษาและผเู้ รียนดว้ ย ำนวนสถานศกึ ษาเอกชน n n n มโครงการฯ สกศ. สช. กค. สงป. ำนวนสถานศกึ ษาของรัฐ - n n านให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหาร ารศึกษา หน้าท่ีจัดการให้มีบริการการศึกษาท่ีมีคุณภาพมาตรฐาน และเพียงพอกับความต้องการของพลเมือง รัฐสามารถจัดการศึกษาได้ใน แต่ไม่มีผู้จัดการศึกษา หรือหากรัฐจะเป็นผู้จัดการศึกษาเสียเอง สถานศึกษาของรัฐก็ต้องแข่งขันกับสถานศึกษาของชุมชน เอกชน มารถคัดเลือกผู้เรียนเข้าศึกษาในสถานศึกษาตามท่ีสถานศึกษาต้องการ และเรียกเก็บค่าเล่าเรียนตามต้นทุนของแต่ละสถานศึกษา ามอัตราค่าเล่าเรียนท่ีสถานศึกษาเรียกเก็บ การดำรงอยู่ของสถานศึกษาขึ้นอยู่คุณภาพมาตรฐาน และประสิทธิภาพในการบริหาร โอกาส/ยากจน ผู้พกิ าร ผู้มคี วามสามารถพเิ ศษ รวมทั้งกลุ่มชนต่างภาษา วัฒนธรรม
36 (ร่าง) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ยุทธศาสตร/์ มาตรการ ๔.๕) พฒั นาระบบและเตรียมความพรอ้ มการจดั ต้ังหน่วยงานเฉพาะด้านสำหรับ ● มกี ารจดั การจ้างครู อาจารย์ นักวิจัยชาวตา่ งประเทศ เพ่ือทำหน้าท่เี ป็นคร/ู อาจารย์ (One Stop Se นกั วจิ ัยในสถานศึกษา เพอื่ รองรับการเปิดเสรบี ริการการศึกษาและการเปน็ ศูนย์กลาง ให้บรกิ ารและอ ดา้ นการศกึ ษาของภมู ภิ าค ชาวตา่ งประเทศ นกั วิจยั ในสถาน ๕) ยุทธศาสตรก์ ารปรับระบบและกลไกการบริหารงานบุคคล ๕.๑) กำหนดแผนความต้องการการผลิตครูใหม่ การพฒั นาครูประจำการ ● แผนควา จำแนกตามสาขาวิชาที่ขาดแคลน และการพฒั นาผู้บริหารสถานศึกษา และแผนความต และผู้บรหิ าร ๕.๒) กำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบตั ิของสถาบนั การศึกษาทม่ี ีความพร้อมในการผลิต ● หลักเกณ บัณฑิตสาขาครศุ าสตร/์ ศกึ ษาศาสตร์ จำแนกตามสาขาวชิ าทต่ี อ้ งการ สถาบนั การศึกษ ๕.๓) ปรบั ปรุงแก้ไขกฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกับระบบการบริหารงานบุคคลของครู ● จำนวนก ผู้บรหิ าร และบคุ ลากรทางการศึกษา๑๒ ประกาศ ทไ่ี ดร้ ๑๒ ได้แก่ ๑) สถานศึกษาต้องมีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่า ๓๐๐ คน จึงจะมีผู้บริหารสถานศึกษาได้ ๑ คน หากสถานศึกษาใดมีจำน เป็นไปตามเกณฑ์ (ยกเวน้ สถานศกึ ษาขนาดเลก็ ทต่ี ัง้ ในพนื้ ท่หี า่ งไกล ทุรกันดาร การคมนาคมไมส่ ะดวก) ๒) หน่วยงานท่ีกำกับดูแลสถานศึกษา มีอำนาจในการสรรหา คัดเลือก แต่งต้ัง และถอดถอนคณะกรรมการสถานศึกษา สถานศึกษาต้องรับผดิ ชอบ ๓) คณะกรรมการสถานศึกษา (ผ่านการอบรมและพัฒนาจากสถาบันพัฒนากรรมการ) มีอำนาจในการสรรหา คัดเลือก พันธะสญั ญา/ขอ้ ตกลง คณะกรรมการสถานศกึ ษาตอ้ งรบั ผดิ ชอบ ๔) ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษามอี ำนาจในการสรรหา คัดเลอื ก แตง่ ต้งั และถอดถอนครูในสถานศกึ ษา หากครูไม่สามารถสอนนกั เรียน ๕) คณะกรรมการสถานศกึ ษา มวี าระการดำรงตำแหนง่ หากพ้นวาระสามารถกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ หากไดร้ ับการคดั เล ๖) ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา มวี าระการดำรงตำแหน่ง หากพ้นวาระตอ้ งกลบั ไปเป็นครูผู้สอนตามเดิม และสามารถกลับเขา้ มาดำร ๗) อัตราเงินเดอื น คา่ ตอบแทนของผูบ้ รหิ ารและครใู นสถานศึกษา เปน็ ไปตามผลงาน ความสามารถ ๘) บทบาท อำนาจ หน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา เป็นไปตามข้อตกลง/พันธะสญั ญา และธรรมนูญสถา ๙) ตำแหน่งผบู้ รหิ ารทีเ่ กษียณ ลาออก พน้ จากตำแหน่ง ใหย้ บุ เลิก เพ่ือใหส้ อดคล้องกับแผนและข้ันตอนการควบรวม เลกิ สถา ๑ ๐) ตำแหนง่ ครูท่เี กษียณ ลาออก พน้ จากตำแหน่ง ใหเ้ ปลีย่ นเปน็ พนักงานราชการ (ไดร้ บั คา่ ตอบแทนท่สี ูง (รวมสิทธปิ ระโยช ผลงานและความสามารถโดยมสี ญั ญาจา้ ง) ทงั้ นี้ ใหเ้ รม่ิ ดำเนนิ การกบั ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทบี่ รรจใุ หม่ รวมทงั้ ใหส้ ทิ ๑๑) ตำแหนง่ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาโรงเรยี นขนาดเลก็ (ต่ำกว่า ๑๒๐ คน) เมอื่ ผู้บรหิ ารเกษยี ณ ลาออก หรือโอน ให้ตัดอตั ราตำแ ๑๒) ปรบั โครงสร้างเงินเดอื นและคา่ ตอบแทนพนกั งานราชการที่บรรจุเปน็ ครหู รอื บคุ ลากรทางการศกึ ษาใหส้ งู ข้นึ กวา่ อัตราเงนิ เ
ตัวชว้ี ดั เปา้ หมาย หน่วยงานรบั ผิดชอบ ๖๐ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ หลกั /รอง ดตั้งหน่วยงานเฉพาะ n - - ศธ. มท. กต. กค. สตช. ervice) เพ่ือทำหน้าท ่ี อำนวยความสะดวกกบั ศทเี่ ข้ามาเป็นครู/อาจารย ์ นศึกษา - ามตอ้ งการการผลิตครู n - ตอ้ งการพฒั นาครปู ระจำการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ณฑ์ คณุ สมบัตขิ อง n - ษาท่มี ีความพรอ้ ม n n n กฎหมาย กฎ ระเบยี บ รับการปรับปรุง แก้ไข สกอ. กระทรวงศกึ ษาธิการ นวนนักเรียนไม่ถึง ๓๐๐ คน ผู้บริหารสถานศึกษาต้องรับผิดชอบดูแลสถานศึกษาในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้มีจำนวนนักเรียน หากคณะกรรมการสถานศึกษาไม่สามารถกำกับการบริหารและการดำเนินงานของผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการ แต่งต้ัง และถอดถอน ผู้บริหารสถานศึกษา หากผู้บริหารสถานศึกษาไม่สามารถบริหารและจัดการศึกษาให้เป็นไปตาม นหรือขาดความรับผดิ ชอบ ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาตอ้ งรับผิดชอบ ลือก รงตำแหนง่ ได้ หากได้รับการคัดเลือก านศกึ ษา (Chater) านศึกษา ชน์และสวสั ดิการท่ไี ม่นอ้ ยกวา่ ข้าราชการ) การเข้า - ออกจากตำแหน่งมคี วามยดื หยุน่ และคล่องตัว ค่าตอบแทนเปน็ ไปตาม ทธแิ กผ่ บู้ รหิ าร ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาในปจั จบุ นั สามารถเปลย่ี นสถานะมาเปน็ พนกั งานราชการไดต้ ามความสมคั รใจ แหนง่ ยกเว้นโรงเรียนขนาดเล็กในพ้นื ท่หี ่างไกล ทรุ กนั ดาร การคมนาคมไม่สะดวก เดือนขา้ ราชการ ๑.๗ เทา่ เพื่อจงู ใจให้คนเกง่ คนดเี ขา้ มาเป็นครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา
ยทุ ธศาสตร/์ มาตรการ ๕.๔) พัฒนาครูประจำการใหม้ ที ักษะ ความรูค้ วามสามารถและสมรรถนะ ● จำ ในการจัดการเรยี นการสอน๑๓ รวมท้งั ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ การพฒั น และมคี วามเปน็ พลเมอื งใหแ้ ก่นกั เรยี น สมรรถนะ ๕.๕) พฒั นาผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาใหส้ ามารถบรหิ ารและจดั การศกึ ษาทง้ั ดา้ นบคุ ลากร ● จำ งบประมาณและการเงนิ การบรหิ ารจดั การ ที่มุง่ คุณภาพมาตรฐาน และประสิทธภิ าพ และผ่านก ของการจดั การศึกษา วิชาชีพ ๕.๖) การรบั นักศกึ ษาเข้าใหม่ในคณะครุศาสตร/์ ศึกษาศาสตรใ์ หเ้ ปน็ ระบบจำกัด ● จำ รบั ตามความต้องการของสถานศกึ ษา โดยผทู้ สี่ ำเร็จการศกึ ษาจะไดร้ บั การบรรจุ จำแนกตา เข้าเปน็ ครดู ้วยระบบสญั ญาจ้าง และได้รบั คา่ ตอบแทนในอตั ราสูง (เช่นเดียวกบั สถานศกึ ษ วชิ าชพี แพทย์ วศิ วกร ผสู้ อบบญั ชี เป็นต้น) พนักงานห ๖) ยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบทรพั ยากรและการเงินเพอื่ การศกึ ษา ๖.๑) ปรับเปลี่ยนระบบการจัดสรรเงินจากเดิมที่จัดสรรผา่ นด้านอปุ ทานหรอื ● ผ้มู สถานศกึ ษา (Supply Side Financing) มาเปน็ การจดั สรรผา่ นดา้ นอปุ สงคห์ รอื ตวั ผเู้ รยี น หลกั การแ (Demand Side Financing) ในสดั สว่ นทีเ่ หมาะสม การเงนิ เพ ๖.๒) กำหนดแผนและข้ันตอนการเปลีย่ นผา่ นระบบการจดั สรรเงินเพ่อื การศึกษา ● มหี เพอ่ื มิใหส้ ถานศึกษาไดร้ บั ผลกระทบจากการเปลีย่ นระบบการจัดสรรเงนิ และให ้ เพ่อื ออกแ สถานศึกษาไดร้ ับการพัฒนาและปรับปรงุ ประสทิ ธภิ าพทีแ่ สดงความรบั ผิดและรับชอบ การจดั สร ตอ่ การตดั สินใจเชงิ บรหิ ารจดั การ ๖.๓) ทดลองนำรอ่ งการเปล่ียนผา่ นระบบการจดั สรรเงนิ เพือ่ การศกึ ษา ● จำ จากด้านอปุ ทานไปสดู่ ้านอุปสงค์ เข้าส่รู ะบ ๖.๔) สนบั สนุนการจดั ตัง้ กองทนุ เงนิ ใหเ้ ปลา่ สำหรบั ผเู้ รยี นทีด่ อ้ ยโอกาส/ยากจน ● ร่า ใหส้ ามารถเขา้ ถงึ การศกึ ษาท่มี ีคุณภาพมาตรฐาน เพ่อื พฒั นาขดี ความสามารถท่ีมอี ย ู่ เงินให้เปล ในตัวตนใหเ้ ต็มตามศักยภาพ และประก ● หล ของผทู้ ม่ี ีส ● จำ ๑๓ โดยเฉพาะสาขาวชิ าทีข่ าดแคลน ไดแ้ ก่ วิชาคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และครชู ่าง เปน็ ตน้
(ร่าง) กรอบทศิ ทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ 37 ตัวช้วี ดั เป้าหมาย หน่วยงานรับผิดชอบ ๖๐ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ หลัก/รอง ำนวนครปู ระจำการท่ไี ดร้ ับ n n n กระทรวงศึกษาธิการ สกอ. นา และผ่านการประเมินมาตรฐาน n n สถานศกึ ษา ะวชิ าชพี ำนวนผบู้ รหิ ารทีไ่ ดร้ ับการพฒั นา n กระทรวงศึกษาธิการ การประเมินมาตรฐานสมรรถนะ ำนวนความตอ้ งการการผลติ คร ู n n n สกอ. สถานศึกษา ามสาขาวิชาท่ีสอน และ ษาทีต่ อบรับการบรรจเุ ปน็ หลงั สำเรจ็ การศึกษา มอี ำนาจในการตัดสินใจเหน็ ชอบ n - - และแนวคดิ การปฏิรูประบบ พือ่ การศึกษา หน่วยงานชวั่ คราวทจ่ี ดั ตัง้ ขนึ้ มา n - - สกศ. สพฐ. สอศ. สกอ. แบบและวางระบบการเปล่ียนผา่ น สถานศึกษา รรเงนิ เพื่อการศึกษา ำนวนสถานศึกษาท่สี ามารถปรับ n n n บบการจัดสรรเงนิ ผา่ นดา้ นอุปสงค ์ n - างกฎหมายจดั ตั้งกองทุน - สกศ. สป.ศธ. ล่าผา่ นกระบวนการนิตบิ ญั ญัติ n - กาศใช้ n n ลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และเง่ือนไข - สทิ ธไิ ด้รบั ทนุ การศกึ ษา ำนวนผเู้ รยี นท่ีได้รับทนุ การศกึ ษา n
38 (รา่ ง) กรอบทิศทางแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔ ยทุ ธศาสตร/์ มาตรการ ๖.๕) ออกแบบและพฒั นาระบบทรพั ยากรและการเงินเพอ่ื การศึกษาระหวา่ ง ● ระบบแล หนว่ ยงานส่วนกลาง องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ และทกุ ภาคสว่ นของสังคม การจัดสรรเงนิ ท ตามหลกั ความสามารถในการจา่ ย (Ability to Pay) และหลักประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั ทรัพยากรและก (Benefit Principle) ระหว่างหน่วยง องคก์ รปกครอง และทกุ ภาคส่วน ๖.๖) ออกแบบและพัฒนาระบบบญั ชสี ถานศึกษาตามเกณฑ์คงค้าง ● มรี ะบบบ เพ่อื การรายงานการเงนิ คงค้าง เพ่อื การ ของสถานศกึ ษา ● สถานศกึ ตามเกณฑค์ งคา้ ๖.๗) ผลกั ดันให้สถานศึกษาต้องมีระบบบัญชีตามเกณฑค์ งคา้ ง เพอื่ การรายงาน ● จำนวนส การเงนิ และแสดงความรบั ผดิ ชอบท่ีตรวจสอบได ้ ตามเกณฑค์ งคา้ ดา้ นการเงนิ ทถี่ ๖.๘) ผลกั ดันให้มกี ารจดั ตงั้ สำนกั งานบริหารจัดการทรพั ยากรและการเงนิ ● ผมู้ อี ำนา เพือ่ การศึกษา๑๔ หลกั การและแน ● ร่าง กฎห นติ บิ ญั ญตั ิและป ๑๔ เป็นหน่วยงานบรหิ ารจัดการทรพั ยากรและการเงินเพื่อการศึกษา มีหน้าที่ ๑) เสนอนโยบายและแนวทางการระดมทุนเพอ่ื การ ใหบ้ รรลผุ ลตามวัตถปุ ระสงค์และเป้าหมายของแผนการศึกษาแห่งชาติ แผนพัฒนาการศึกษาแหง่ ชาติ ๓) กำกบั ตดิ ตามและปร จากด้านอปุ ทานไปสู่ดา้ นอปุ สงค์ รวมทงั้ ปรบั ปรงุ แนวทางการสนองทุนเพื่อการศกึ ษา เพ่อื ใหก้ ารเปลีย่ นผา่ นสามารถดำเนนิ ไปไ ๑๕ มสี ำนกั งานฯ ที่ทำหนา้ ทีบ่ รหิ ารและจัดการทรพั ยากรและการเงนิ เพ่ือการศกึ ษา
Search