Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ไฟป่า ฉบับสมบูรณ์

ไฟป่า ฉบับสมบูรณ์

Published by konmanbong_k3, 2021-10-12 03:00:22

Description: ไฟป่าฉบับสมบูรณ์

Search

Read the Text Version

ท้ อ ง ถิ่ น เ กื้ อ ห นุ น พลังชุมชนดับไฟ นอกจากภาคีเครือข่ายองค์กรชุมชนที่อาศัยอยู่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ครอบคลุม ในพน้ื ทปี่ า่ ดอยสเุ ทพ-ปยุ จะเปน็ ก�ำลงั หลกั ในการ 3 อ�ำเภอ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินรอบ ป้องกนั และเขา้ ระงับเหตเุ มอ่ื เกดิ ไฟปา่ ลุกลามใน ผืนปา่ รวมทงั้ สนิ้ จ�ำนวน 10 แห่ง ประกอบไปด้วย พ้ืนที่ร่วมกับอุทยานฯ และสถานีควบคุมไฟป่า อ.หางดง 3 แห่ง ได้แก่ เทศบาลต�ำบลบ้านปง ภูพิงค์แล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินก็เป็น เทศบาลต�ำบลหนองควาย เทศบาลต�ำบล หนว่ ยสนบั สนนุ และก�ำลงั เสรมิ ทสี่ �ำคญั ในการขบั น�ำ้ แพรพ่ ัฒนา อ. เมอื ง 3 แหง่ ไดแ้ ก่ เทศบาล เคลื่อนการท�ำงานของชุมชนเช่นกัน  เพราะด้วย เมืองแมเ่ หยี ะ เทศบาลต�ำบลสเุ ทพ เทศบาลต�ำบล อ�ำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพ ชา้ งเผือก อ.แมร่ มิ 4 แห่ง ได้แก่ เทศบาลต�ำบล ส่ิงแวดล้อม  ไปจนถึงการเฝ้าระวัง ป้องกันและ แม่แรม องค์การบริหารส่วนต�ำบลดอนแก้ว ติดตามแก้ไขภาวะมลพิษที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด องค์การบริหารส่วนต�ำบลแม่สา และองค์การ ท�ำใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ มบี ทบาทส�ำคญั บริหารส่วนต�ำบลโป่งแยง ซึ่งองค์กรปกครอง ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ ส่วนท้องถ่ินมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาไฟป่า ส่งิ แวดล้อมในท้องถ่ินเปน็ อย่างมาก หมอกควันในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก เฉกเช่นที่ ห ล า ย ท ้ อ ง ถ่ิ น ร อ บ ด อ ย ไ ด ้ เ ริ่ ม ด�ำ เ นิ น ก า ร มานานแลว้ จนกลายเปน็ ต้นแบบใหก้ บั พน้ื ทีอ่ ่ืนๆ 51

¸¹Ò¤Òà ¡Ôè§äÁ ãºäÁ 52

ธนาคารก่ิงไมใ้ บไม้ : เทศบาลเมอื งแมเ่ หยี ะ บริเวณเจ่งดอยทางข้ึนพระธาตุดอยค�ำ ซ่ึงอยู่ ต่อมาเม่ือความเป็นเมืองขยายตัวมาถึงชุมชน ติดเชิงดอยสุเทพ เป็นท่ีตั้งของธนาคารก่ิงไม้ พ้ืนท่ีหลายจุดในเขตเทศบาลกลายเป็นแหล่ง ใบไม้ของเทศบาลเมืองแม่เหียะ ที่เกิดขึ้นเพราะ ท่องเท่ียวท่ีส�ำคัญ เช่น อุทยานหลวงราชพฤกษ ต้องแก้ไขปัญหาหมอกควันท่ีเกิดจากการเผา และสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ประกอบกับ เศษกิ่งไม้ใบไม้ของคนในชุมชน ในแต่ละวันมี สภาพแวดล้อมในต�ำบลแม่เหียะมีความงดงาม ขยะจากเศษก่ิงไม้ใบไม้มากถึง 3-5 ตัน ถ้า เป็นธรรมชาติ มีล�ำห้วยแม่เหียะไหลผ่าน จึงมี จัดการด้วยวิธีการเผาตามวิถีดั้งเดิมที่ชาวบ้าน โครงการบ้านจัดสรรผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด เคยท�ำมา ก็จะก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันเป็น ท�ำ ใ ห ้ มี ค น น อ ก พื้ น ที่ เ ข ้ า ม า อ ยู ่ อ า ศั ย เ ป ็ น อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของชาวบ้าน จ�ำนวนมาก จากเณดยิมงทยทุ่ีมธีชคุมณุ ชรานด้ังเดิมในเขต อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีข้อมูลท่ีน่าสนใจระบุว่า เทศบาลเพียง 5 หมู่บ้าน ปัจจุบันขยายเพ่ิมขึ้น ในพื้นท่ีต�ำบลแมเหียะ มีผูปวยดวยโรคระบบ เปน็ 10 หมบู่ ้าน ทางเดินหายใจสูงเปนอันดับ 3 ของโรคที่พบ บอยในพ้ืนท่ี เทศบาลเมืองแม่เหียะเป็นท้องถ่ินท่ีต้ังอยู่ในเขต ชานเมืองเชียงใหม่ ในอดีตชาวบ้านแถบน้ีมี วิถีชีวิตแบบคนชนบททั่วไป คือ ท�ำเกษตรกรรม และเก็บหาของป่า เพราะพื้นท่ีชุมชนอยู่ติดกับ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในชีวิต ป ร ะ จ�ำ วั น ข อ ง ช า ว บ ้ า น แ ถ บ นี้ จ ะ จั ด ก า ร กั บ เศษขยะจ�ำพวกก่ิงไม้ใบไม้แห้งด้วยการเผา 53

ปัญหาท่ีเกิดขึ้นท�ำให้ผู้น�ำชุมชนไม่อาจนิ่งนอนใจ จึงได้ปรึกษาหารือกับทางเทศบาล และมีการท�ำ ประชาคมร่วมกับคนในชุมชน เพื่อหาแนวทาง ร่วมกันในการแก้ไขปัญหากิ่งไมใบไมในพ้ืนที่ คุณธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมือง แมเ่ หยี ะ เลา่ ถึงเหตุการณ์ในครงั้ นัน้ วา่ “เมอ่ื จังหวัดมีมาตรการหา้ มเผาในทโ่ี ล่งแจ้ง เมื่อเทศกิจเจอชาวบ้านเผาก็ตอ้ งจับ ชาวบา้ น กไ็ ดร้ บั ความเดอื ดร้อน ก็เลยปรึกษาหารอื กนั ว่า ถา้ ไม่ใหเ้ ผาแลว้ จะท�ำอย่างไรกบั เศษกงิ่ ไมใ้ บไม้เหลา่ นี้ สดุ ทา้ ยเพอ่ื หาทางออกร่วมกัน กต็ ้องจดั ประชุม ประชาคมขึน้ ในชมุ ชน พ่นี ้องประชาชนเสนอทางออกว่า ทุกคนจะไม่เผา แต่เทศบาลกค็ วรทจ่ี ะเข้ามาด�ำเนินการ ส่งเสริมและสนบั สนุน โดยควรมีพ้นื ทส่ี �ำหรบั รวบรวม เศษก่ิงไมใ้ บไม้ แล้วก็หาวิธีการบรหิ ารจดั การ เศษกง่ิ ไมใ้ บไมเ้ หลา่ นน้ั หลงั จากท่ีประชมุ กนั สดุ ท้ายกเ็ กดิ เปน็ ธนาคารกิ่งไม้ใบไมข้ น้ึ ” 54

“ แตก่ อ่ นชมุ ชนบา้ นอุโบสถและบา้ นปา่ จี้ ซง่ึ เปน็ ชมุ ชนด้ังเดิม แนวคิดของธนาคารกิ่งไม้ใบไม้ ก็คือ ถ้าชาวบ้าน จะจดั การกบั เศษกงิ่ ไม้ใบไมแ้ หง้ ดว้ ยวธิ กี ารเผา พอเผากเ็ กิดหมอก น�ำเศษก่ิงไม้ใบไม้มาไวท้ ี่ธนาคาร ทางธนาคารกจ็ ะ ควันสร้างความเดอื ดร้อนร�ำคาญให้กับชมุ ชนขา้ งเคียง มปี ุย๋ หมกั หรอื ท�ำหมักชวี ภาพมอบให้ เช่น กิง่ ไม้ เกดิ เป็นการทะเลาะเบาะแวง้ กนั ในชุมชน และในชว่ งเวลาน้นั ใบไม้ 1 คนั รถสี่ลอ้ เลก็ ได้รับปุ๋ยหมัก 5 กโิ ลกรมั ทางจังหวดั ได้ออกประกาศห้ามเผา เพราะเชียงใหม่ หรือ น�้ำหมักชีวภาพ 2 ลิตร เทศบาลเมือง ก�ำลงั ประสบปญั หาไฟปา่ หมอกควันเขา้ ขน้ั วกิ ฤต ชาวบา้ น แ ม ่ เ หี ย ะ ไ ด ้ ข อ อ นุ ญ า ต ใ ช ้ พื้ น ท่ี ร ก ร ้ า ง ข อ ง เลยไม่รวู้ า่ จะจัดการกบั เศษกิ่งไมใ้ บไมท้ เี่ หลอื ตกค้างในชมุ ชน อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จัดต้ังเป็น ”เป็นจ�ำนวนมากอย่างไร จะเผากผ็ ดิ กฎหมาย ธนาคารก่ิงไม้ใบไม้ เพื่อชุมชนเมืองแม่เหียะ แตถ่ ้าเผาหมอกควันสง่ ผลกระทบกับชาวบา้ นเอง ซ่ึงต้ังอยู่บริเวณทางข้ึนวัดพระธาตุดอยค�ำ ปจั จุบันบริเวณลานกวา้ งของธนาคาร เต็มไปด้วย คณุ ยงยุทธ คณุ รา เศษกิ่งไม้และใบไม้แห้งจ�ำนวนมากที่ถูกจัดเรียง รองนายกเทศมนตรเี มอื งแม่เหยี ะ เป็นกองๆ ผึ่งแดดไว้ให้แห้ง เศษก่ิงไม้ใบไม้ เหล่าน้ีถูกขนมาจากชุมชน เพื่อน�ำมาแปรรูป เป็นปุ๋ยหมัก หากเป็นเศษผักผลไม้ก็จะน�ำไป ท�ำน้�ำหมักชีวภาพ หรือเล้ียงไส้เดือน ผลผลิต ท่ีได้จากเศษวัสดุเหล่าน้ีไม่ว่าจะป็น ปุ๋ยหมัก น�้ำหมักชีวภาพ หรือ ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน ก็น�ำ ไปแจกจ่ายให้สมาชิกและคนในชุมชน บางส่วน ก็จ�ำหน่าย หรือน�ำไปใช้ปลูกผักแปลงเกษตร อินทรยี ์ซง่ึ ต้งั อยู่ในบรเิ วณธนาคาร 55

ธนาคารกงิ่ ไมใ บไมเ พอื่ ชมุ ชนเมอื งแมเ หยี ะ เรม่ิ ขนึ้ ในป 2556 น�ำร่องในชุมชนอุโบสถและบ้านป่าจี้ มสี มาชิกท่เี ขา้ ร่วมโครงการเพยี ง 100 ครวั เรือน แต่การด�ำเนินงานในปัจจุบันครอบคลุมทุก พ้ืนที่ในเขตเทศบาล โดยมีสมาชิกประมาณ 12,000 ครัวเรือน และยังกลายมาเปนแหลง เ รี ย น รู  ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ แ ล ะ ก า ร ล ด ป  ญ ห า หมอกควัน ความส�ำเร็จที่เกิดขึ้นจากความมือ กันระหว่างชุมชนและท้องถิ่นในการจัดการกับ เชื้อเพลิงซ่ึงเป็นต้นเหตุของปัญหาหมอกควัน ท�ำให้โครงการธนาคารก่ิงไม้ใบไม้เพื่อชุมชน เมืองแมเหียะได้รับการคัดเลือกจากจังหวัด เชียงใหมให้เปนชุมชนตนแบบในการจัดการ กิ่งไมใบไมเพื่อปองกันหมอกควันของจังหวัด เชยี งใหม่ นอกจากบทบาทของเทศบาลในการสนับสนุนให้ เกิดธนาคารก่ิงไม้ใบไม้ ในอีกด้านหน่ึงยังได้ออก เทศบญั ญตั กิ ารควบคมุ ควนั ไฟและฝนุ ละอองจาก การเผา พ.ศ. 2556 โดยก�ำหนดโทษวา “ ”เมื่อเผาขยะก่งิ ไม ใบไม้ตอ งถกู ปรบั 2,000 บาท และยังออกเทศบัญญัติเกี่ยวกับการจัดการ พื้นที่รกร้างว่างเปล่า เพราะบ่อยคร้ังพบว่า ในเขตเทศบาล มีพ้ืนท่ีของเอกชนหลายจุดขาด การดูแลจนกลายเป็นพื้นที่รกร้างเต็บไปด้วย วัชพืช ซ่ึงจะกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี หากเกิด ไฟป่าลุกลาม จึงมีความจ�ำเป็นอย่างย่ิงที่จะ ต้องเขา้ ไปจดั การกับเช้อื เพลงิ เหลา่ น้ัน 56

“ในเขตเทศบาลมีพ้ืนที่รกร้างว่างเปลา่ อยู่เยอะ ทเี่ ป็นแบนนี้ก็เพราะว่า กิจกรรมต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นในเทศบาลเมืองแม่เหียะ เกิดจากการมองเห็นปัญหาร่วมกันของชาวบ้าน มคี นมาซื้อทดี่ นิ เพอ่ื เกง็ ก�ำไร สว่ นใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ ซื้อแลว้ กป็ ล่อยทิง้ และท้องถ่ิน และไม่เพิกเฉย ละเลยต่อปัญหา ให้รกร้าง เมอื่ ถึงฤดไู ฟปา่ ชาวบ้านก็กลวั วา่ จะลามมาไหม้บา้ นของตัวเอง ท่ีเกิดข้ึน แต่กับช่วยกันระดมสมองและ สรรพก�ำลังของทุกฝ่ายเข้ามาช่วยกันคลีคลาย เลยเปน็ เหตุให้เทศบาลตอ้ งเขา้ ไปแกไ้ ข สมมติวา่ นาย ก เป็นเจา้ ของที่ดินแปลง ปมปัญหาขัดแย้งในชุมชน ขณะเดียวกันก็ช่วย ที่รกรา้ ง แตว่ า่ ปจั จุบันอาศยั อยูท่ ่กี รงุ เทพ เทศบาลกจ็ ะถา่ ยรปู และท�ำจดหมาย จั ด ก า ร กั บ เ ช้ื อ เ พ ลิ ง แ ล ะ ล ด ก า ร เ ผ า ซึ่ ง เ ป ็ น แจ้งใหน้ าย ก มาจัดการวัชพชื ในทีด่ ินของตนเองภายใน 15-30 วัน หากเกดิ เหตไุ ฟ ต้นตอของไฟป่าหมอกควัน ที่สร้างมลพิษทาง ไหมเ้ จา้ ของทด่ี นิ ต้องรับผดิ ชอบ และถ้าไมม่ าด�ำเนินการ เทศบาลก็จะใช้อ�ำนาจของ อากาศให้กบั เมอื งเชยี งใหมด่ ้วย ทอ้ งถน่ิ เขา้ ไปจัดการ ค่าใชจ้ ่ายท่เี กดิ ขึ้นจะเรียกเกบ็ กบั เจ้าของทีด่ ินในภายหลงั 57 ซง่ึ เจา้ ของทด่ี ินกย็ นิ ดที จี่ ะจ่ายค่าบริหารจดั การตรงนี้ เพราะเขารสู้ ึกวา่ มีคนมาดูแลท่ดี ินให้ เราท�ำแบบนม้ี าตง้ั แต่ปี 2558 ”คุณยงยุทธ คณุ รา รองนายกเทศมนตรีเมอื งแมเ่ หยี ะ

ดแู ลปา่ ป้องกันไฟ : “แตก่ อ่ นพ้ืนทบ่ี นดอยแถวนี้เป็นเขาหัวโล้น พอทรัพยากรเรมิ่ รอ่ ยหรอชาวบ้านหัวก้าวหนา้ ในชมุ ชนบ้านแม่สากร็ วมตัวกนั เพอ่ื อนรุ ักษป์ ่ารอบๆ หมู่บ้าน คณะกรรมการหมบู่ ้าน อบต.โป่งแยง บางคนยอมสละที่ดินท�ำกนิ ของตนเองเพอื่ กันไวเ้ ป็นพื้นท่ปี ่า มีการออกกฎระเบียบตา่ งๆ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบลโปง่ แยง เปน็ อกี ทอ้ งถน่ิ ของหมูบ่ ้าน เช่น ในระยะ 100 เมตรจากบริเวณล�ำหว้ ย ห้ามไมใ่ หท้ �ำไร่ มกี ารปลกู ปา่ หนง่ึ ทเ่ี ขา้ มาสนบั สนนุ กจิ กรรมอนรุ กั ษท์ รพั ยากร ท�ำแนวกันไฟ ในตอนน้ันเกิดไฟไหมบ้ ่อยมาก ซ่ึงสมยั ก่อนชาวบ้านเขาดบั ไฟกันเอง ป่าไม้และการจัดการไฟป่าของชุมชนในพ้ืนที่มา อย่างต่อเนื่อง พ้ืนที่ของต�ำบลโป่งแยงมีลักษณะ เพ่ิงเริม่ มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสนบั สนนุ ประมาณปี 2540 อย่างการสนบั สนนุ ภมู ปิ ระเทศเปน็ ภเู ขาสงู สลบั กบั ทรี่ าบเชงิ เขา พนื้ ท่ี ของ อบต. เราใหค้ วามส�ำคัญกับเรื่องสงิ่ แวดล้อมมาก ชว่ งหลังมานี้ เราให้ชาวบ้าน บางสว่ นอยใู่ นเขตอทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยสเุ ทพ-ปยุ ท�ำแผนสิ่งแวดลอ้ มเขา้ มาเพ่อื ขอสนับสนนุ งบประมาณ ปีนี้ก็เปน็ ปีท่ี 8 แล้ว ท่ีเราตงั้ งบประมาณ ส่วนใหญ่เป็นป่ากว่าร้อยละ 70 ที่เหลือเป็น ด้านสิง่ แวดลอ้ ม ซ่ึงก็รวมถงึ เรื่องการดแู ลรักษาปา่ และการแก้ไขปญั หาหมอกควนั ไฟปา่ ด้วย พื้นท่ีเกษตรกรรม ในอดีตพ้ืนที่บริเวณดอยสูง ต้ังงบประมาณไว้ 2 แสนบาท เฉลี่ยแล้วทุกหมู่บ้านไดร้ บั งบอุดหนนุ กจิ กรรมปอ้ งกนั ไฟปา่ ในต�ำบลโป่งแยงเป็นพื้นท่ีปลูกฝิ่นของชาวม้ง หมู่บ้านละ 20,000 บาท นอกจากนย้ี งั สนับสนนุ งานประเพณที เี่ กยี่ วขอ้ งกับความเชือ่ เช่นเดียวกับหมู่บ้านม้งอื่นๆ ในเขตอุทยาน แห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แต่ภายหลังจาก ในการอนุรักษต์ ้นไม้ใหญข่ องชาวมง้ อย่างพธิ ีดงเซง้ ที่โครงการหลวงเข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านรู้จัก ท�ำเกษตรบนพื้นที่ที่สูง ชาวบ้านก็หันมายึด ”คุณประจักษ์ ภูสิริพฒั นานนท์ อาชีพปลูกพืชผักเมืองหนาว ชุมชนท่ีอาศัยอยู่ ในต�ำบลโป่งแยงมีท้ังคนไทยพื้นราบ 5 หมู่บ้าน รองนายกองคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบลโปง่ แยง และชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง 5 หมู่บ้าน ซึ่งเริ่ม อธบิ ายบริบทของพน้ื ที่ มีการอนุรักษ์ป่าและท�ำแนวกันไฟมาตั้งแต่ ปี 2530 เรอ่ื ยมาจนถงึ ปจั จบุ ัน 58

Pong Yaeng ปัจจุบันในเขตรับผิดชอบของ อบต. โป่งแยง ไว้ในเทศบญั ญตั ิ โดยเฉพาะการจัดท�ำแนวกนั ไฟ ครอบคลุมพ้ืนท่ี 52.25 ตารางกิโลเมตร ซ่ึงจะอุดหนุนให้แต่ละหมู่บ้านน�ำไปใช้ในการ โดยด�ำเนินการแบ่งพ้ืนที่รับผิดชอบให้แต่ละ จัดการไฟปา่ หมบู่ ้านละ 20,000 บาท หมบู่ า้ นดแู ล ซง่ึ ทงั้ 10 หมบู่ า้ น ไดจ้ ดั ท�ำแนวกนั ไฟ รวมระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ซึ่งแนว กรณีตัวอย่างข้างต้น คือ บทบาทของ องค์กร กันไฟของแตล่ ะหมบู่ า้ นจะเชอื่ มต่อกนั ปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีเข้ามาหนุนเสริมชุมชน ในการจัดการไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเข้ามา ทั้งการหนุนเสริมด้วยมาตรการทางกฎหมาย เป็นก�ำลังเสริมเมื่อเกิดไฟป่าข้ึน ท�ำให้สามารถ เช่น การออกเทศบัญญัติท่ีเก่ียวข้องกับ เขา้ ถงึ พน้ื ทเี่ กดิ เหตไุ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ อบต. โปง่ แยง การควบคุมควันไฟและฝุนละอองจากการเผา ยังเป็นศูนย์อ�ำนวยการคอยประสานงานในการ รวมถึงการอุดหนุนงบประมาณให้ชุมชนน�ำไปใช้ แก้ไขปัญหาในพื้นท่ีด้วย มีการน�ำเทคโนโลยี ในการป้องกันไฟป่า แน่นอนที่สุดว่าความส�ำเร็จ กล้อง CCTV ไปติดต้ังไว้ในป่า เพื่อใช้ใน ในการจัดการปัญหาไฟป่าหมอกควันท่ีเกิดข้ึน การเฝา้ ระวังการกระท�ำผดิ นอกจากนที้ าง อบต. ในพื้นท่ีอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ก็มา ยงั จดั ท�ำแผนการจดั การไฟปา่ และหมอกควนั ทกุ ๆ จากก�ำลังเสริมที่แข็งแกร่งขององค์กรปกครอง 3 ปี และได้บรรจุงบประมาณในการจัดการไฟป่า ส่วนท้องถิ่นทีอ่ ยรู่ อบผืนป่าเหลา่ น้ี 59

60

“ อาสาสมัครจะต้องระลึกอย่เู สมอวา่ ศรทั ธาในการอาสาสมัครเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผู้อื่นน้นั เกิดขึ้นดว้ ยตนเอง มีความรสู้ กึ เห็นชอบในงานอาสาสมคั ร มศี รทั ธาที่จะท�ำงาน มีเวลาทจ่ี ะปฏบิ ัติงาน และพร้อมที่จะเป็นอาสาสมัคร ” พระราชด�ำรัส พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช โ ซ่ ข้ อ ก ล า ง จุดเชื่อมความร่วมมือ 61

พระราชด�ำรัสข้างต้นของในหลวงรัชกาลท่ี 9 คุณเดชา เนียมกุล กลุ่มเครือข่าย ทสม. ต�ำบล เป็นแนวทางส�ำคัญในการด�ำเนินงานส่งเสริม สเุ ทพ เลา่ ถงึ เหตจุ งู ใจทที่ �ำใหม้ าสมคั รเปน็ ทสม. วา่ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ในรูปแบบของอาสาสมคั ร หรือ จิตอาสา ค�ำทเี่ รา คุ้นเคยกันดีในปัจจุบัน ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพ สิ่งแวดล้อมได้น้อมน�ำพระราชด�ำรัสมาใช้ใน การสร้างเครือข่ายภาคประชาชนให้เข้ามามี บทบาทในการดูแลและจัดการทรัพยากรร่วมกับ หนว่ ยงานภาครฐั ตง้ั แตป่ ี 2545 เปน็ ตน้ มา ในนาม ของเครือขา่ ยอาสาสมัครพทิ ักษส์ ่งิ แวดลอ้ ม และ ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. โดยได้ขยายเครือข่ายการท�ำงานให้ กวา้ งขวางออกไปทว่ั ประเทศ และยงั ไดเ้ ปดิ ประเดน็ การท�ำงานให้ครอบคลุมมติ ิตา่ งๆ มากขนึ้ รวมถึง พลังของจิตอาสาเหล่านี้ยังเข้ามามีบทบาท ในฐานะ “โซข่ อ้ กลาง” ทเ่ี ชอ่ื มรอ้ ยใหเ้ กดิ เครอื ขา่ ย ความรว่ มมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟปา่ “ ดอยสเุ ทพ-ปุย เปน็ พ้ืนทเ่ี ชิงสัญลกั ษณ์ ทีเ่ ราเรยี กกนั วา่ พื้นท่ีศกั ด์สิ ทิ ธ์ใิ นป่าวเิ ศษ เป็นพื้นท่สี �ำคญั ท้ังในแงข่ องประวตั ศิ าสตรแ์ ละศูนย์รวมจติ ใจของชาวเชยี งใหม่ ผมไม่อยากเห็นไฟไหม้ดอยสุเทพ ทผ่ี า่ นมาก็ไหมท้ กุ ปี แมว้ ่าในสมัยท่ใี นหลวงรชั กาลที่ 9 ยังเสด็จมาประทับท่ีพระต�ำหนกั ภพู งิ คราชนิเวศน์ ก็ยังเกิดไฟปา่ เปน็ ประจ�ำ ผมกเ็ ลยคดิ วา่ จะท�ำอยา่ งไร ท่จี ะให้ชมุ ชนเขา้ มามีสว่ นรว่ มดแู ลตรงน้ี นแี่ หละเปน็ มลู เหตุจงู ใจแรก มลู เหตจุ งู ใจ ประการที่สอง กเ็ ปน็ เร่อื งบทบาทของ ทสม. ก่อนทผี่ มจะสมคั ร ผมไดศ้ กึ ษารายละเอียดตา่ งๆ เกี่ยวกับ ทสม. ท่ผี มชอมมากกต็ รงทเี่ ขาบอกว่า ทสม. มีบทบาทเป็นโซข่ ้อกลาง พอไดย้ ินค�ำนี้ มนั ท�ำให้ผมฉุกคิดได้ว่า บทบาทในลกั ษณะนี้พวกเราสามารถท�ำได้ ผมประเมินศักยภาพของ ตนเองแลว้ คดิ วา่ ท�ำได้ ผมสามารถเปน็ โซ่ขอ้ กลางคอยประสานระหว่างชุมชนเมืองกับชมุ ชน บนดอย คอยเชอ่ื มระหว่างชาวบา้ นธรรมดากบั ขา้ ราชการ หรอื แม้แต่นกั การเมือง หรือกบั ท้องถิ่น ทอ้ งที่ ผมกค็ ดิ ว่า ผมท�ำได้ ผมกเ็ ลยมาสมคั ร ”62

เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม ว่าด้วยอาสาสมัครพิทักษ์ และส่ิงแวดล้อมหมู่บ้านเกิดข้ึนมานานแล้ว เพ่ือ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน เปิดช่องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหาร พ.ศ. 2558 ก็ย่ิงช่วยหนุนเสริมให้บทบาท จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาสาสมัครภาคประชาชนได้รับการยอมรับ แต่เมื่อไม่ก่ีปีที่ผ่านมา เม่ือมีการบูรณาการ และสามารถมายืนอยู่บนเวทีเดียวกันกับภาครัฐ เครือข่ายอาสาสมัครที่สังกัดอยู่ตามหน่วยงาน ส่งผลให้เกิดการส่ือสารเชิงบวกระหว่างเครือข่าย ต่างๆ ในกระทรวงทรัพยากรฯ ให้มาอยู่ภายใต้ ภาคประชาชน กับหน่วยงานภาครัฐ จนน�ำไป ทสม. โดยมีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สู่การร่วมกันแก้ปัญหาและสร้างสรรค์สิ่งท่ีเป็น เปน็ ผดู้ แู ลงานอาสาสมคั รของกระทรวงทรพั ยากร ประโยชนต์ อ่ การดแู ลจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และมีการออก และสง่ิ แวดลอ้ ม ร ะ เ บี ย บ ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ” 63

“ “ทสม. จะท�ำหน้าท่ใี นการสือ่ สารนโยบายไปสูป่ ระชาชนในพื้นท่ี และรายงานสถานการณ์ แจง้ เหตุ เตอื นภัยต่างๆ รวบรวมขอ้ มูล และข้อเสนอจากพ้นื ที่ เพอ่ื ประกอบการพัฒนาและวางแนวทางในการบรหิ ารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ของประเทศโดยเฉพาะในพ้ืนที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งเปน็ พื้นทวี่ ิกฤตไฟป่าหมอกควัน เครอื ข่าย ทสม. ไดเ้ ขา้ มาเป็น กลไกในการเฝ้าระวงั ไฟป่าหมอกควัน ในรูปแบบของ เครือขา่ ย ทสม. ลา้ นนา 9 จังหวดั ภาคเหนอื ซงึ่ มีส่วนช่วยในการแก้ไขปญั หา ไฟปา่ หมอกควันในพน้ื ที่ไดเ้ ป็นอยา่ งมาก และเมือ่ เราได้คดั เลือกอทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยสเุ ทพ-ปยุ เปน็ พ้นื ท่ีบูรณาการความรว่ มมือ ของภาคส่วนต่างๆ ในการแกไ้ ขปญั หาหมอกควนั ไฟปา่ ทสม. ในเขตพื้นที่ 3 อ�ำเภอ รอบดอยสทุ เพ-ปุย ก็กลายมาเป็นคนกลาง ในการประสานความร่วมมอื กับภาคสว่ นต่างๆ และยังท�ำหนา้ ท่ีเฝ้าระวังไฟป่า หมอกควนั และเป็นเร่ยี วแรงหลักในการดูแล สิ่งแวดล้อมในเร่อื งอ่นื ๆ นอกเหนอื จากประเดน็ ไฟป่าหมอกควัน เชน่ ขยะ การจดั การนำ�้ เสยี การอนรุ ักษป์ ่าไม้ ”คุณวฒั น์ ทาบึงกาฬ กรมส่งเสริมคณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ ม อธิบายถึงบทบาทของโซข่ ้อกลาง 64

จะว่าไปแล้วนอกจากจะมีบทบาทเป็นโซ่ข้อกลาง ในการท�ำงานจิตอาสาของเครือข่าย ทสม.ในการเฝ้าระวัง ไฟปา่ ลดหมอกควนั พน้ื ทีอ่ ุทยานแห่งชาตดิ อยสุเทพ-ปยุ ยงั ต้องอาศัยหลกั 4ป ในการท�ำงาน ไดแ้ ก่ 0 1 การประสานความร่วมมอื : 03 ประสานใหเ้ กิดความรว่ มมือระหวา่ งภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการจดั กจิ กรรมเฝ้าระวงั ไฟป่า ลดหมอกควัน ลดการเผา ปฏิบตั ิ : ในที่โลง่ และการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ทสม.ยังเป็นหน่วยปฏบิ ัตใิ นพื้นที่ เพื่อสนับสนุนใหเ้ กิด สง่ิ แวดล้อมในชุมชน รวมถึงสรา้ งจิตส�ำนึกใหก้ บั ประชาชนในทอ้ งถน่ิ เป็นการหาแนวร่วมท่จี ะ กิจกรรมอนรุ กั ษ์ตา่ งๆ ในท้องถน่ิ เช่น การจัดท�ำ มาชว่ ยกนั ในการท�ำงาน แผนงานระดับหมู่บ้าน ต�ำบล อ�ำเภอ จงั หวดั รว่ มกับชมุ ชนและหนว่ ยงานในพืน้ ท่ี การท�ำแนวกันไฟ จดั ต้ังเวรยามเฝา้ ระวัง ไฟป่าในพ้นื ท่เี สยี่ ง การจดั การขยะ และการจดั การน�ำ้ เสยี ฯลฯ 02 4ป ประชาสมั พันธ์ : 04 ข้อมลู ขา่ วสารจากภาครฐั ไปสู่ประชาชน อย่างถกู ตอ้ ง ประเมินผล : และรวดเร็ว เพิ่มประสิทธภิ าพ ทสม.จะท�ำหน้าทีใ่ นการติดตามประเมินผลการเฝ้าระวงั ไฟป่า ในการบงั คับใช้กฎหมาย ลดหมอกควนั รวมถึงการแจง้ เหตุ เตือนภยั และเฝา้ ระวังคุณภาพ ในการปอ้ งกนั การเผาปา่ ส่งิ แวดลอ้ ม คอยรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ผ่านชอ่ งทางต่างๆ การเผาในทีโ่ ลง่ ผา่ นชอ่ งทาง เช่น ไลนก์ ล่มุ และแอปพลเิ คชนั Arsa4thai รวมถงึ เข้าไปมีบทบาท การส่ือต่างๆ ในโครงสรา้ งกลไกดา้ นส่งิ แวดล้อมในระดบั พื้นท่ี 65

คุณกมลรัฐ ลมิ้ ไขแสง ประธาน ทสม. ต. สุเทพ หรือ คุณบญุ สง่ เกง่ ปา่ ประธาน ทสม. ต. แม่เหยี ะ บอกว่า พ่อหลวงอุ๋ย เล่าวา่ กลุ่ม ทสม. ต�ำบลแมเ่ หียะได้รว่ มกบั หน่วยงานในพน้ื ท่ี ผมอยู่บ้านสนั ลมจอย เปน็ บา้ นที่ติดกับดอยสเุ ทพ ผมมชี ีวิต ท�ำแนวกันไฟ และเนอ่ื งจากต�ำบลแม่เหยี ะมีชุมชนท่ีตัง้ บ้านเรอื น ผกู พนั กบั ดอยลกู นมี้ าตงั้ แต่เด็ก ผมรวู้ ่าดอยสุเทพมีประโยชน์ กับพวกเรา พอมีโอกาสได้มาเปน็ พอ่ หลวง ผมก็เริม่ ท�ำกิจกรรม อยู่ตดิ ดอยสเุ ทพ จงึ มีแนวคิดที่จะจัดการเชอ้ื เพลิงจ�ำพวก เศษกงิ่ ไม้ ใบไม้แห้ง โดยน�ำมาท�ำเป็นปุ๋ยหมกั แทนการเผา “ อนุรักษ์ เชน่ ท�ำแนวกนั ไฟ ท�ำฝายชะลอน�ำ้ และกป็ ลกู ปา่ ซึ่งถา้ น�ำไปเผาตามวถิ ีเดิมของชาวบ้านจะท�ำใหเ้ กิดหมอกควนั กอ่ นหนา้ น้ชี าวบา้ นกท็ �ำอยูแ่ ล้วนะครับ เม่อื มโี ครงการเชิญชวน ให้ชาวบา้ นท่ีมีจติ อาสาสมคั รเปน็ ทสม. ผมก็สมคั รเขา้ ร่วม ไฟปา่ ตามมา นอกจากนีย้ ังมกี ารจัดกิจกรรมปลกู ปา่ และเมื่อปี 2558 มรี ะเบยี บ ทสม. ออกมาท�ำใหก้ ารท�ำงาน เพือ่ เพิม่ จ�ำนวนต้นไม้บรเิ วณรอบดอย รวมถงึ ชว่ ยกัน มีความชัดเจนขน้ึ เพราะมกี ารวางโครงสร้างในการบริหารจัดการ ดูแล ปอ้ งกนั ไมใ่ หม้ ีการลักลอบตดั ไมท้ �ำลายป่า ซึง่ โครงการ เครอื ข่าย ทสม. ตง้ั แต่ การคดั เลือกประธาน ทสม. ระดับหมบู่ ้าน ตา่ งๆ เหล่านช้ี ่วยปลกู สรา้ งจิตส�ำนกึ ในการอนรุ กั ษ์ ระดับต�ำบล ระดบั อ�ำเภอ และระดับจังหวัด มันช่วยให้การท�ำงาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มให้ประชาชนไดอ้ ยา่ งกว้าง งา่ ยขึน้ และท�ำใหพ้ วกเราชาวบา้ นมีโอกาสไดน้ �ำเสนอสิ่งที่เราคดิ ขวาง จากการทช่ี าวบ้านช่วยกนั ปอ้ งกันไม่ให้มีการเผาปา่ และทเ่ี ราท�ำในเวทกี ารประชุมรว่ มกับ หนว่ ยงานของรัฐ ส�ำหรับ ในชว่ ง 2 ปี ที่ผา่ นมา สถานการณ์ไฟป่าใน ต. แมเ่ หียะ ดขี นึ้ มาก ต�ำบลสเุ ทพ เรากไ็ ดเ้ ขา้ มาช่วย เกิดไฟปา่ แค่ 2 ครง้ั เทา่ นั้น ท่ีท�ำไดแ้ บบน้ี เพราะชาวบา้ นให้ แก้ปญั หาหมอกควนั ไฟป่าบรเิ วณ ความรว่ มมือ แล้วอีกอยา่ งหน่ึงก็คอื เม่ือชาวบ้านเห็น ดอยสเุ ทพอยตู่ ลอด เชน่ เราเอาจริงเอาจงั ในเร่ืองนี้ ทัง้ ทสม. ผูน้ �ำชมุ ชน และ ในปที ผี่ า่ นมา เรารว่ มกบั เทศบาล ผู้ชว่ ยผใู้ หญ่บ้าน ช่วยกันออกตรวจลาดตระเวนและเฝ้าระวงั ชมรมก�ำนนั -ผใู้ หญบ่ า้ น ประชาชน ตลอดเวลา เมือ่ ชาวบา้ นเห็นเราท�ำ เขาก็เลยเขา้ มาช่วยกนั จิตอาสาในต�ำบล และหนว่ ยงาน ต่างๆ คอยดแู ลแก้ปัญหาการเผา ในชว่ งเวลาควบคมุ มกี ารจัด ทีมสายตรวจออกลาดตระเวนไฟป่า ป้องกันการเผาบริเวณพน้ื ทรี่ อบดอย นอกจากนท้ี าง ทสม. ต�ำบลสเุ ทพ ยงั จดั กิจกรรมเกี่ยวกับ การจดั การขยะในต�ำบลดว้ ย 66

หรือตัวอย่างของบ้านหว้ ยสม้ สกุ ต. สะลวง อ.แมร่ มิ เปน็ หมูบ่ ้านท่ตี งั้ อยใู่ นเขตป่าสงวนติดกับอทุ ยาน แห่งชาติดอยสเุ ทพ-ปุย ซง่ึ มีลักษณะเปน็ แอ่งกะทะ เมอ่ื เวลาเกดิ ไฟป่าหมอกควันชาวบ้านจะได้รับ ผลกระทบมาก ในขณะที่ คณุ ศิริวรรณ อริยานนท์ ทสม. อ.แมร่ ิม พ่อหลวงมนตช์ ยั ไชยมงั กร บอกวา่ อดตี ครดู อยผทู้ ่เี คยท�ำงานในโครงการพระราชด�ำริ บอกวา่ ชาวบ้านชว่ ยกันท�ำแนวกันไฟระยะทางประมาณ 20 กโิ ลเมตร รอบหมู่บ้าน และยังชว่ ยกนั ออกตรวจลาดตระเวนระวงั ไฟ กจิ กรรมทีท่ าง ทสม. อ.แมร่ ิม ได้ริเริม่ มี ในอนาคตยงั มีแผนทีจ่ ะสร้างฝายเพอ่ื เพิ่มความชมุ่ ชน้ื ให้กับพื้นท่ี หลายโครงการตง้ั แต่ น�ำรอ่ งอนรุ กั ษ์ตน้ ไมแ้ ละคืนผืนปา่ ให้กบั ชุมชน โดยการจดั กจิ กรรมปลูกต้นไม้ ในพ้นื ที่สาธารณะประโยชนท์ ี่บา้ นปางปา่ คา ต.แมแ่ รม อ.แมร่ มิ เนอ่ื งจากปัจจุบนั พื้นท่บี รเิ วณน้ัน เกิดปญั หาดินถลม่ ภยั แล้ง น�้ำอุปโภคบรโิ ภค ไมเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการ จงึ เกดิ แนวคิดทจี่ ะ น�ำธรรมชาตกิ ลบั คนื สชู่ มุ ชน 67

กำ�เนดิ เครือขา่ ยอาสาสมคั รพิทกั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มหม่บู ้าน ปี 2531-2532 ปี 2545 ปี 2548 เกดิ ภยั ธรรมชาตริ นุ แรง สง่ ผลกระทบ • ภายใต้ พ.ร.บ. ปรับปรงุ กระทรวง เครอื ขา่ ย อสว. มเี ครอื ข่ายเพิม่ ข้นึ ตอ่ ผคู้ นจ�ำนวนมาก ประกอบกบั โดยครอบคลุมพ้ืนที่ 54 จงั หวัด ในปี 2532 ในหลวงรชั กาลที่ 9 ทบวง กรม ท�ำใหก้ รมสง่ เสริมคณุ ภาพ และไดเ้ ปลีย่ นชือ่ เป็นเครือขา่ ย ทรงมพี ระราชด�ำรสั เกยี่ วกบั ปญั หา สง่ิ แวดล้อม เปล่ยี นมาสังกัดกระทรวง อาสาสมคั รพทิ ักษ์ทรพั ยากร ภาวะโลกรอ้ น จงึ ท�ำใหส้ งั คมไทย ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมหมบู่ ้าน เกดิ การตน่ื ตวั ในประเดน็ ปญั หา หรือ ทสม. ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มมากขน้ึ • เกดิ เครือขา่ ยอาสาสมคั รพิทักษ์ ปี 2550 ปี 2535 ส่ิงแวดลอ้ ม หรอื เครอื ขา่ ย อสว. น�ำร่อง 10 จงั หวัด เกดิ รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.​2550 และมรี ะเบยี บ มกี ารประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตสิ ง่ เสรมิ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม และรกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ วา่ ด้วยอาสาสมัครพทิ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ. 2535 และมกี ารจดั ตง้ั กรมสง่ เสรมิ และสง่ิ แวดล้อมหมู่บ้าน พ.ศ.​2550 เพือ่ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มกรมควบคมุ มลพษิ รองรับการท�ำงานของเครอื ข่าย และมีมติ และส�ำนกั งานนโยบายและแผนสง่ิ แวดลอ้ ม ให้ วันที่ 4 ธนั วาคมของทุกปี เป็นวัน ภายใตก้ ระทรวงวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี “ทสม. แห่งชาต”ิ และสง่ิ แวดลอ้ ม และเกดิ กลมุ่ อาสาสมคั ร ในระดบั ทอ้ งถนิ่ เรยี กวา่ กลมุ่ ผนู้ �ำสง่ิ แวดลอ้ ม และ กลมุ่ อาสาสมคั รพทิ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม ปี 2540 รฐั ธรรมนูญปี พ.ศ. 2540 ให้ความส�ำคัญกับ การมีสว่ นร่วมของ ประชาชน 68

ปี 2551 ปี 2557 เกิดคณะกรรมการเครือข่าย • เกดิ การบรู ณาการเครือขา่ ยอาสาสมคั รที่ ทสม. ระดับตา่ งๆ ตั้งแต่ ระดับหม่บู า้ น ต�ำบล อ�ำเภอ สงั กัดอย่ตู ามหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวง จงั หวัด และระดับประเทศ ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มให้เปน็ หนึ่งเดยี วภายใตช้ ่อื ทสม. โดยมี กรมสง่ เสริมคณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ มเป็น ผู้ประสานงานหลักงานอาสาสมคั รของ กระทรวงฯ • มีการยกย่องเชดิ ชบู ทบาทของ ทสม. และเครือข่าย (ทสม. ดีเดน่ แลเครือขา่ ย ทสม. ดีเดน่ ) ปี 2555 ปี 2558 มเี ครือขา่ ย ทสม. • ประกาศใชร้ ะเบยี บกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ครอบคลมุ ทกุ จงั หวดั ทั่วประเทศ ว่าด้วยอาสาสมัครพทิ กั ษธ์ รรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม พ.ศ. 2558 ท�ำใหบ้ ทบาทหน้าทีค่ วามรับผิดชอบของ ทสม. มคี วามชัดเจน ปี 2560 มากขึน้ • ทสม. ประชาชนจิตอาสา สบื สาน • สง่ เสรมิ บทบาท ทสม. ให้เข้ามาเปน็ กลไกส�ำคญั ในการแกไ้ ข พระราชปณธิ านสานใจรักษส์ ่งิ แวดล้อม ปญั หาไฟปา่ หมอกควัน ท�ำหน้าท่ีเป็นโซ่ขอ้ กลางประสาน ความร่วมมอื กับทุกภาคสว่ น • ทสม. ท�ำความดีด้วยหวั ใจ ลดรับ ลดให้ • เกดิ การเชอื่ มร้อยเครือขา่ ย ทสม. ลา้ นนา 9 จังหวัดภาคเหนอื ลดใช้ถุงพลาสติก เพื่อร่วมกันแก้ไขปญั หาหมอกควนั ไฟป่า 69

“ทำ�ความดี ดว้ ยหัวใจ ลดรบั ลดให้ ลดใช้ ถงุ พลาสติก” 70

04 จากไฟปา่ สู่การอนุรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม รอบดอยสเุ ทพ-ปยุ พัฒนาการของการท�ำงานโดยใชพ้ ื้นทเ่ี ปน็ ตัวตง้ั   และประสานความร่วมมอื จากทกุ ภาค ส่วนมาช่วยในการแก้ไขปัญหาหมอกควนั ไฟป่า  จนน�ำไปส่กู ารพดู คยุ กนั มากขึ้นระหว่าง ภาคีเครอื ข่ายตา่ งๆ จากเร่ืองของไฟปา่ สเู่ รื่องการจดั การสง่ิ แวดลอ้ มในประเดน็ อน่ื ๆ ได้ ท�ำให้ขอบเขตการท�ำงานอนรุ ักษร์ อบดอยสุเทพ-ปุย กวา้ งขวางข้นึ ตง้ั แต่ประเดน็ ใกลต้ วั อยา่ ง การจดั การขยะ ไปจนถึงการจัดการมลพษิ ในคลองแม่ขา่ เกิดเปน็ การท�ำงานในบริบท ใหม่ๆ รว่ มกัน โดยยงั คงใช้รูปแบบของการบรู ณาการความร่วมมอื และใช้พลงั ของ จิตอาสาเปน็ แรงขับเคลือ่ น 71

72

เสน้ ทางบญุ ปลอดขยะ ในอีกด้านหนึ่งงานบุญประเพณีบนความศรัทธา ของผู้คนนับหมื่นกลับสร้างขยะจ�ำนวนมหาศาล ทุกๆ ปี ในช่วงเทศกาลวันวิสาขบูชาที่จังหวัด ให้กับดอยลูกนี้ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวจะ เชยี งใหม่ พทุ ธศาสนกิ ชนหลายหมน่ื คนจะหลงั่ ไหล มีการจัดต้ังโรงทานเพ่ือแจกจ่ายอาหาร และ เดินทางมาร่วมงาน “ประเพณีเดินข้ึนดอย หรือ น้�ำดื่มตลอดสองข้างทางที่ประชาชนเดินข้ึนดอย ประเพณเี ตยี วขนึ้ ดอย” เพอื่ เดนิ เทา้ เปน็ ระยะทาง ในแต่ละปีภายหลังการจัดงาน ภาพขยะจ�ำนวน ประมาณ 11 กิโลเมตร ข้ึนไปสักการะบูชาพระ ม ห า ศ า ล จ ะ ป ร า ก ฎ อ ยู ่ ต ล อ ด ส อ ง ข ้ า ง ถ น น ธาตดุ อยสุเทพ ยอ้ นกลับไปเมื่อกวา่ 600 ปีก่อน และขยะเหล่าน้ีก็มีจ�ำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี จากการ ในสมยั พระเจา้ กอื นา กษตั รยิ แ์ หง่ ราชวงศเ์ มง็ ราย เก็บข้อมูลสถิติ เม่ือปี 2559 พบเศษขยะจ�ำพวก พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ถุงพลาสติก ขวดน�้ำ รวมท้ังขยะประเภทอ่ืนๆ มาบรรจไุ วใ้ นพระสถปู เจดยี ว์ ดั พระธาตดุ อยสเุ ทพ ไมต่ ำ่� กวา่ 19 ตนั โดยเมอ่ื ปี 2560 เพยี งชว่ั ขา้ มคนื เมอ่ื ปชี วด พทุ ธศกั ราช 1929 วิสาขมาส คืนเพ็ญ บนดอยสุเทพ-ปุย เต็มไปด้วยขยะ 27 ตัน วันพุธ นับแต่น้ันมาดอยสุเทพก็กลายเป็น ขยะที่พบมากท่ีสุด คือ น�้ำด่ืมและน�้ำหวาน สถานท่ีศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรล้านนามา ชนดิ ถว้ ย พลาสตกิ และกลอ่ งโฟม จากค�ำบอกเลา่ โดยตลอด และก่อให้เกิดประเพณีเดินขึ้น ของผู้เฒ่าผู้แก่ท่ีเคยร่วมงานประเพณีเตียว ดอยสุเทพ เพ่ือไปสักการะพระบรมธาตุในคืน ขึ้นดอย ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เม่ือ ก่อนวันวิสาขบูชา เพ่ือเป็นการปฏิบัติธรรม สมัยก่อนชาวบ้านแต่ละคนจะตระเตรียมข้าวปลา ถวายเป็นพุทธบูชา และยังเป็นการน้อมร�ำลึก อาหารน�ำติดตัวกันไปเอง ไม่ได้มีการต้ังโรงทาน ถึงครูบาศรีวิชัยผู้ที่น�ำชาวบ้านมาร่วมกันสร้าง แจกจ่ายอาหารจ�ำนวนมากเหมอื นในสมัยนี้ ท�ำให้ ถนนขึน้ สู่วดั พระธาตุดอยสเุ ทพ หลายคนท่ีเดินขึ้นดอยท้ิงขว้างอาหารและน้�ำด่ืม ทไี่ ดร้ บั แจกจนเกดิ เปน็ ขยะจ�ำนวนมากทอี่ ยรู่ มิ ทาง ว่ากนั ว่านำ้� ดม่ื บางขวดยังไมไ่ ดแ้ กะดมื่ เลยก็มี 73

ภาพขยะจ�ำนวนมากในวันรุ่งขึ้น หลังจากงาน นรศิ รา ฉตั รวัชรกลุ เจา้ หน้าทอ่ี ทุ ยานดอยสเุ ทพ-ปยุ เลา่ วา่ ประเพณีเดินขึ้นดอยท่ีเพิ่งผ่านไปเม่ือคืนก่อน ท�ำให้หลายภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องหา มาตรการจดั การกับขยะนบั สิบตนั ทเ่ี กิดขน้ึ “ในงานเตยี วขนึ้ ดอย มีการจัดการกบั ปญั หา ในเชิงตงั้ รบั มานานมากแล้วประมาณ “ ปกติผมถอื ว่าประสทิ ธิภาพในการเก็บขยะดีอยแู่ ล้ว ใช้เวลาไมเ่ กนิ คร่งึ วัน 10 ปี สว่ นใหญ่ทผี่ ่านมาจะเปน็ การระดม กส็ ามารถเกบ็ ขยะได้หมด แตว่ ันนี้ผมมองว่าท�ำไมเราตอ้ งท�ำใหม้ ขี ยะ มากมายกา่ ยกองขนาดน้ัน กเ็ ลยมีแนวคิดท่ีจะรว่ มกันบรู ณาการกบั หนว่ ยงานต่างๆ มีการพูดคยุ กันเร่อื งการจัดการขยะ อาสาสมคั รมาเก็บขยะตอนเช้า ท่ผี ่านมา ใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากข้นึ เป็นการจัดการขยะต้งั แตต่ น้ ทาง มนั ไมม่ กี ารวางแผน เพอ่ื จดั การกับขยะที่จะเกดิ ข้นึ นายกรชิ สยาม คงสตรี จากประเพณีเตยี วขน้ึ ดอย เราจึงอยากจะเปล่ียนจาก การตั้งรับ มาเป็นการท�ำงานเชิงรกุ เลยมาคดิ ร่วมกันว่า ”หัวหนา้ อทุ ยานแห่งชาติดอยสเุ ทพ – ปุย สาเหตขุ องปัญหาขยะ คือ ปรมิ าณของที่น�ำมาบรจิ าค และลกั ษณะของภาชนะตา่ งๆ ทีน่ �ำมาใสอ่ าหาร และขวดน�้ำด่ืม ถ้าเราสามารถลดได้ตัง้ แตต่ น้ ทาง หรือพยายามท�ำให้เปน็ สิง่ ทรี่ ไี ซเคลิ ไดม้ ากทีส่ ดุ ปัญหาขยะมนั กจ็ ะลด ” 74

ต้ังแต่ปี 2560 กลุ่มเครือข่าย ทสม.รอบดอย สุเทพ-ปุย ทั้งสามอ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอแมร่ มิ และ อ�ำเภอหางดง ไดเ้ ขา้ มามบี ทบาท ส�ำคัญในการจัดการขยะในงานประเพณีเตียว ขึ้นดอย ร่วมกับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดย ทสม. จะท�ำหน้าที่เป็นเสมือน “โซ่ข้อกลาง” ประสานและดึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความ ตระหนัก รวมถึง ให้ค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับการคัด แยกขยะและทิ้งขยะให้เปน็ ทีต่ ามจุดทไ่ี ดก้ �ำหนดไว้ เพ่ือง่ายต่อการจัดการ ตลอดจนรณรงค์ให้ทุก 2. เชิญชวนโรงทานงดแจกขวดน�้ำด่ืม 6. ขอความร่วมมือจากโรงทานงดบริการ ก คนน�ำขยะของตนเองลงจากดอย เพอื่ เปน็ การลด ใหก้ บั ผแู้ สวงบญุ โดยเปลย่ี นมาเปน็ การใหบ้ รกิ าร อาหารประเภทน้�ำ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งต้องใช้ ว่า ปริมาณขยะตามรายทาง แต่อย่างไรก็ตาม จุดเติมน�้ำดื่มแทน และรณรงค์ให้ทุกคนหันมา ภาชนะใส่ จึงเป็นการเพิม่ บริมาณขยะ ค ปริมาณขยะในปีนั้นก็ยังมีจ�ำนวนมาก ดังนั้น เติมน�้ำใส่ขวดแทนการรับเป็นขวดน�้ำด่ืมขวดใหม่ ในปี 2561 ภาคีเครือข่ายกลุ่มต่างๆ ไม่ว่า เพอื่ ลดปริมาณขยะจากขวดพลาสตกิ “เขาขอความร่วมมือ หา้ มใช้โฟม และหลอดดูด จะเป็นหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน เครือข่าย ทสม. เครือข่ายไทใหญ่ 3. ไม่อนุญาตให้ต้ังร้านขายของตลอด เพราะมนั ยอ่ ยสลายยาก ทางโรงทานของเรา ภาคเอกชน สถาบนั การศกึ ษา สถาบนั ทางศาสนา เส้นทางข้ึนพระธาตุดอยสุเทพ เพราะจ�ำนวน ก็เลยคดิ ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นการตัง้ คลู เลอรน์ ้ำ� แทน สอื่ มวลชน ประชาชนจติ อาสา และอทุ ยานแหง่ ชาติ โรงทานมีมากพอเพียงกับจ�ำนวนผู้แสวงบุญ ถา้ มาถงึ จุดทเ่ี ราแจกน�้ำ ผู้แสวงบญุ สามารถเตมิ น�้ำ ดอยสเุ ทพ-ปยุ จงึ หารอื รว่ มกนั เพอ่ื หามาตรการ ทงั้ น้เี พ่อื ลดปรมิ าณขยะทเี่ กดิ จากการขายของ ลดขยะตั้งแต่ต้นทางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้จากคลู เลอร์น้�ำทีเ่ ราเตรียมไวใ้ ห้ โดยมีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็น 4. ห้ามน�ำเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด คดิ ว่าแบบน้กี ช็ ่วยลดขยะไปได้เยอะนะ หน่วยงานสนับสนุนให้เกิดเวทีการพูดคุยอย่าง เข้ามาในเขตอทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยสเุ ทพ-ปยุ ต่อเน่อื งจนได้ขอ้ ตกลงรว่ มกนั ว่า 1. ควรมีการลงทะเบียนโรงทาน เพราะ 5. งดแจกจ่ายแก้วน�้ำพลาสติก (แบบ ” ปีท่ีผ่านมาโรงทานมีจ�ำนวนมากเกินไป เลยเป็น เจาะดม่ื ) เพราะจากสถติ ปิ ริมาณขยะในช่วงหลาย สาเหตุหนึ่งท่ีท�ำให้เกิดขยะเป็นจ�ำนวนมาก ท้ังนี้ ปีที่ผ่านมา พบว่า เป็นขยะท่ีมีจ�ำนวนมากและ ผทู้ ่ไี ม่ลงทะเบียนจะไมส่ ามารถขน้ึ ไปตัง้ โรงทานได้ จัดเก็บได้ยาก เน่ืองจากมีน�้ำหนักเบาจึงกระจาย และปลิวเกลื่อนกลาดได้ง่าย นอกจากน้ีมี จ�ำนวนมากท่ีถูกทง้ิ โดยไมไ่ ดเ้ ปิดดมื่ 75

สมาชิกโรงทานแห่งหนึ่งถ่ายทอดความรู้สึก ปรมิ าณขยะจาก ภายหลังรับทราบมาตรการใหม่ท่ีถูกน�ำมาใช้ใน เทศกาล เทศกาลเตียวขึ้นดอยวา่ เตยี วขน้ึ ดอย “ ในปี 2561 เราวางแผนร่วมกบั เครือข่ายต่างๆ ปี 2558 ปี 25ุ60 1ป1ี .2556ต1ัน และไดเ้ ครือขา่ ย ทสม. และจติ อาสาภาคประชาชน 29 ตัน 27 ตัน กวา่ 1,000 คน มาร่วมรณรงค์ประชาสมั พนั ธ์ ตามจุดทิง้ ขยะทง้ั 14 จดุ ที่เราจัดตง้ั ขนึ้ เริ่มตัง้ แต่ ปี 2559 ทท่ี �ำการอุทยานแหง่ ชาติ ไปจนึ ถึงวัดพระธาตดุ อยสุเทพ 19 ตัน เพอ่ื คอยบอกให้ทุกคนท้ิงขยะในจุดท่ีก�ำหนดให้ นอกจากนี้ ดว้ ยความที่คนส่วนใหญ่กวา่ 80 เปอรเ์ ซน็ ตท์ ่ีมารว่ ม ในเรอื่ งนี้ คุณกริชสยาม คงสตรี หัวหนา้ อทุ ยาน ในเทศกาลเตยี วขึน้ ดอย เปน็ คนไทใหญ่ ผมเลย แห่งชาตดิ อยสเุ ทพ-ปุย ในฐานะเจ้าของพ้นื ท่เี ปิด ขอความร่วมมอื จากพี่นอ้ งไทใหญใ่ ห้เขา้ มาเปน็ จิตอาสา เผยวา่ ช่วยกันประชาสมั พันธร์ ณรงค์ โดยใช้ภาษาไทใหญ่ ในการบอกใหท้ ุกคนชว่ ยกันจัดการกบั ขยะของตนเองด้วย ความส�ำเร็จท่ีเกิดขึ้นนอกเหนือจากปริมาณ และในสว่ นของอทุ ยานฯ เองกท็ �ำโครงการขยะคืนถนิ่ ขยะท่ีลดลงแล้ว กิจกรรมเตียวข้ึนดอยยัง เปน็ การรณรงค์ใหท้ ุกคนน�ำขยะของตนเองลงมาจากดอย ช่วยเปิดพ้ืนที่ให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยให้น�ำขยะมาช่ังนำ�้ หนักกบั เรา จากนัน้ ทางเราก็จะมี ได้เข้ามามีบทบาทในการจัดการสิ่งแวดล้อม สิ่งของเล็กๆ นอ้ ยๆ มอบใหจ้ ากการท�ำงานเชิงรกุ ในท้องถิ่นของตนเองร่วมกัน และท่ีส�ำคัญยิ่ง และความร่วมแรงร่วมใจกนั ของทกุ ภาคสว่ น คือ การท�ำให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานเกิด ท�ำให้ปริมาณขยะปี 2561ลดลงเหลอื แค่ 11.5 ตนั ความรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ”จากท่ีแต่เดิมในปีกอ่ นหนา้ นี้มีขยะมากถงึ 27 ตนั ร่วมกัน ความรู้สึกเช่นนี้จึงท�ำให้แต่ละคนช่วย กันคนละไม้คนมือ เพ่ือท�ำให้งานประเพณีเตียว 76

ขึ้นดอย กลายเป็น “เส้นทางบุญปลอดขยะ” “ในช่วงแรก ๆ น้นั ขยะเยอะมาก เยอะจนคนท่เี ขามีหนา้ ทท่ี �ำความสะอาดท�ำไม่ไหว ท่ีสะอาดและศักด์ิสิทธิ์ ท้ังภายในและภายนอก และท่จี อดรถกไ็ มม่ ีคนดูแล ตอนแรกผมพยายามรณรงค์ใหผ้ ู้ใหญม่ าช่วยกันท�ำ ซ่งึ จะแตกตา่ งจากทกุ ๆ ปที ผี่ า่ นมา BIG CLEANING DAY แตก่ ็ไมป่ ระสบความส�ำเร็จ เพราะผู้ใหญ่ที่อยู่ละแวกนี้ เขามอี าชีพค้าขาย ไม่คอ่ ยจะมีเวลา ผมกเ็ ลยลองชวนเดก็ ๆ เข้ารว่ ม ท�ำเป็นโครงการท�ำดเี พอื่ พอ่ อีกปรากฎการณ์ที่น่าสนใจซึ่งเกิดข้ึนเพ่ือแก้ พาเด็กๆ มาเกบ็ ขยะที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ กท็ �ำมาเร่ือย ๆ ส่วนเด็ก ๆ กช็ อบ เพราะวา่ ไดร้ ่วมท�ำ ปัญหาขยะบนดอยแห่งน้ี คือ การรวมตัวกัน ของเด็กๆ เยาวชนกว่า 40 คน จากหมู่บ้าน กิจกรรมกับเพื่อน ๆ แต่เราก็มีกจิ กรรมอีกหลายอย่างนะทที่ �ำร่วมกนั ไม่ไดม้ แี คก่ ารเก็บขยะ ดอยสุเทพ ท่ีช่วยกันเก็บขยะบริเวณจุด อย่างเชน่ วนั เสาร์กจ็ ะขนึ้ ไปท�ำกิจกรรมทางพทุ ธศาสนา คือ ไปท�ำวตั รเชา้ สวดมนต์ จอดรถ และสองข้างทางท่ีจะขึ้นไปนมัสการ พระธาตุดอยสุเทพ พอตอนเยน็ กจ็ ะไปออกก�ำลังกายเลน่ กีฬาตา้ นภัยยาเสพติด เด็ก ๆ ก็จะมกี จิ กรรมร่วมกัน บางครงั้ มผี ใู้ หญ่ใจดใี ห้เงินมา แล้วเด็ก ๆ อยากจะกินหมกู ระทะ ผมก็ท�ำให้เด็ก ๆ กนิ กนั เดก็ ๆ กช็ อบมาก ตอนนีเ้ ราตกลงกับเดก็ ๆ ว่าจะมาเก็บขยะทุกวนั อาทติ ยช์ ่วงเยน็ ๆ เดก็ คนหนง่ึ บอกว่า ทุกเย็นวนั อาทิตย์พอ่ หลวงขจร จะพาเดก็ มาเกบ็ ขยะแถวลานจอดรถ ต้งั แต่เวลา ประมาณ 16.00-18.00 น. เพยี งแค่ 2 ชั่วโมง ก็เกบ็ ขยะไดป้ ระมาณ 5-6 ถุงด�ำ ขยะสว่ นใหญ่ ทีเ่ ก็บไดเ้ ป็นถงุ พลาสตกิ แก้วน้�ำพลาสติก กล่องโฟม และกระป๋องน้ำ� ดื่ม ซง่ึ นกั ทอ่ งเท่ียว มักจะทงิ้ ไวต้ ามจุดท่ีลบั ตา ขยะที่เกดิ ข้ึนเหลา่ นี้ มาจากรถตูแ้ ละนกั เท่ยี วท่ีมานมสั การพระธาตุ ดอยสเุ ทพ หวั หน้ากริชสยามเล่าว่า กจิ กรรมเก็บขยะของเด็ก ๆ และพอ่ หลวงขจร เคยไปสมั มนาเรื่องการจดั การขยะ และในท่ปี ระชมุ ก็หารอื กันวา่ จะจดั การกบั เป็นส่วนหน่ึงของโครงการประชารัฐรว่ มใจเฝ้าระวัง และฟืน้ ฟทู รัพยากรธรรมชาตแิ ละภมู นิ เิ วศ ขยะทร่ี ถต้มู กั ท้ิงไวข้ า้ งรถอยา่ งไร ท�ำอยา่ งไรใหค้ นเหล่านี้ยอมน�ำขยะลงจากดอย ดอยสเุ ทพ–ปยุ และพนื้ ท่ีโดยรอบจงั หวดั เชียงใหม่ ซงึ่ มเี ปา้ หมายในการสร้างวินยั ของคนในชาติ ผมว่าเปน็ การกระท�ำทีม่ กั งา่ ย เราพดู คุยถกเถียงกนั เรื่องนี้เป็นชั่วโมง บ้างก็บอกวา่ มุ่งสู่การจัดการขยะและสง่ิ แวดล้อมท่ยี งั่ ยืน ส่งเสรมิ ให้เกดิ การจดั การขยะต้นทาง การเพ่มิ จะตอ้ งรณรงค์ ต้องเพมิ่ ถงั ขยะ หรือน�ำสตก๊ิ เกอร์ไปตดิ รถตู้ เพื่อบอกว่า พืน้ ท่ีสเี ขยี วในเขตเมอื งและชุมชน โดยอาศยั ความรว่ มมือจากหนว่ ยงานทกุ ภาคสว่ น รถคนั นไ้ี มท่ ง้ิ ขยะ เราคดิ กนั เยอะแยะมากมาย แต่สดุ ท้ายปรากฏวา่ ผใู้ หญบ่ า้ น ทั้งภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาชน บา้ นดอยสเุ ทพ เลอื กทจี่ ะพาเด็ก ๆ ในหมู่บา้ นมาเกบ็ ขยะ หลงั จากน้นั มาผมว่า ขยะนอ้ ยลงนะ ผมวา่ เม่ือหลายคนเหน็ เดก็ ๆ มาช่วยกนั เก็บขยะ คงรูส้ ึกละอายใจอยู่เหมอื นกนั เพราะต้องให้เดก็ ตวั เลก็ ๆ มารับผิดชอบ สง่ิ ที่ผู้ใหญ่เป็นคนท�ำ ผมว่าตรงน้มี นั เห็นผลมาก และอีกอยา่ งผมว่า ”77 เป็นกิจกรรมท่ดี ี ท่จี ะช่วยปลกู ฝงั จติ ส�ำนกึ ใหก้ บั เดก็ ๆ

คนื ชวี ติ คลองแมข่ า่ คลองแม่ข่า เป็นหน่ึงในชัยมงคลเจ็ดประการ ของการเลือกพ้ืนที่ในการสร้างเมืองเชียงใหม่ ของพญามังราย เมื่อปี 1839 มีความส�ำคัญ ทางยุทธศาสตร์ในฐานะเป็นคูเมืองช้ันนอก ของเมืองเชียงใหม่ทางด้านตะวันออกและด้านใต้ ในอดีตคลองแม่ข่าเอ้ือประโยชน์ในการระบายน้�ำ จากเขตเมืองลงสู่แม่น้�ำปิง เป็นแหล่งน�้ำใช้เพื่อ การอุปโภคบริโภค และเป็นเส้นทางสัญจร ของผู้คนในสมัยน้ัน เรียกได้ว่า เป็นสายน้�ำ ที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของชาวเมืองเชียงใหม่ มาชา้ นาน 78

คลองแมข่ า่ มแี หลง่ ก�ำเนดิ จากดอยสเุ ทพ ไหลผา่ น ต. ดอนแก้ว ในเขต อ. แม่ริม ไหลต่อไปยัง เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลต�ำบลป่าแดด เทศบาลต�ำบลแมเ่ หยี ะ ในเขต อ. เมอื ง เมอื่ เขา้ เขต อ.หางดง ไหลผ่านเทศบาลต�ำบลสันผักหวาน กอ่ นจะไปรวมกบั แมน่ ำ้� ปงิ ที่ ต. สบแมข่ า่ จากการ เติบโตของเมืองและตลอดล�ำน้�ำในช่วงท่ีผ่านเขต เทศบาลนครเชียงใหม่มีชุมชนอาศัยอยู่หนาแน่น กวา่ 20 ชุมชน ท�ำให้ในชว่ ง 20-30 ปี ทผ่ี ่านมา คลองแม่ข่าต้องประสบกับปัญหามากมาย มีการลุกล้�ำล�ำน�้ำ ทั้งการสร้างบ้านเรือนและ ถนนหนทางกดี ขวางทางนำ�้ เกดิ ปญั หานำ้� เนา่ เสีย จ า ก ก า ร ท้ิ ง ข ย ะ แ ล ะ ป ล ่ อ ย น้� ำ เ สี ย ล ง ค ล อ ง คลองแม่ข่าในปัจจุบันจึงมีสภาพเป็นแหล่ง รองรับน�้ำเสียจากเมืองเชียงใหม่ บางช่วง มีสภาพต้ืนเขิน ท�ำให้ไม่สามารถใช้เป็นเส้นทาง ระบายน�้ำหลาก ส่งผลให้เกิดน�้ำท่วมขังและ สร้างความเสียหายให้เมืองเชียงใหม่ชนั้ ใน ซงึ่ เป็น เขตเศรษฐกิจและท่ีอยู่อาศัย มาถึงทุกวันน้ี สายน�้ำท่ีเคยมีชีวิต และเป็นชีวิตของคนเชียงใหม่ ค่อยๆ เหือดแห้ง และตายลงอยา่ งช้าๆ 79

จากปัญหาท่ีเกิดข้ึนหลายภาคส่วนในจังหวัด คุณเชาวลิต ชูชาติ ประธาน ทสม. อ.เมือง เชยี งใหม่ไดร้ วมตัว เพ่อื “คืนนำ�้ ใส ฟืน้ ชยั มงคล จ.เชียงใหม่ และประธานกลุ่มพลเมืองจิตอาสา ใหน้ ำ�้ แมข่ า่ ” ดว้ ยเหตทุ คี่ ลองแมข่ า่ ไหลผา่ นชมุ ชน รกั ษ์น�้ำแม่ขา่ ต.ป่าแดด เลา่ ถงึ กิจกรรมของกลมุ่ หลายแหง่ ดงั นนั้ การมสี ว่ นรว่ มของภาคประชาชน ใหฟ้ งั วา่ ในการอนุรักษ์คลองแม่ข่าจึงเป็นสิ่งส�ำคัญที่จะ ท�ำใหค้ ลองแมข่ า่ กลบั มามชี วี ติ อกี ครงั้ จงึ เกดิ การ “บา้ นผมอยใู่ นลมุ่ นำ้� แม่ข่าอยู่แล้ว ก็เลยคิดท่จี ะช่วยแกป้ ญั หาทเ่ี กดิ ข้ึน จึงจดั ต้งั รวมตัวกันของประชาชนจิตอาสาท่ีมีส�ำนึกในการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในหมู่บ้านที่คลองแม่ข่าไหล เปน็ กลุ่มจิตอาสา และก็สมคั รเป็น ทสม.ดว้ ย เขา้ ไปท�ำกิจกรรมอนุรกั ษ์คลองแม่ข่า ผ่าน เข้ามาช่วยกันพัฒนาและแก้ปัญหาที่เกิด เช่น การท�ำตะแกรงเหล็กและแพไม้ไผ่ดักขยะ มีการปลูกต้นไม้เพ่ือปรับปรงุ ภมู ทิ ศั น์ ข้ึน เช่นเดียวกับ สมาชิก ทสม. กลุ่มรักษ์แม่ข่า สองฝัง่ คลองใหส้ วยงาม มกี ารเกบ็ ขยะและผักตบชวา ทกี่ ดี ขวางทางน้ำ� ขุดลอกคลอง ต. ป่าแดด จ�ำนวน 118 คน ที่เข้ามาช่วยกัน แก้ปัญหาขยะ วัชพืช และสิ่งปฏิกูลต่างๆ ท่ีมี ไมใ่ หต้ ื้นเขิน มกี ารประชาสัมพันธส์ รา้ งความเขา้ ใจกับชาวบา้ น รวมถงึ อยู่เต็มคลองให้ลดน้อยลง และจัดการกับน�้ำ มีการประชมุ หารือกันหน่วยงานตา่ ง ๆ เพ่อื วางแนวทางการแก้ไขร่วมกนั ดว้ ย ท่ีเน่าเสียในล�ำคลอง โดยกลุ่มรักษ์แม่ข่า ตั้งเป้า ปัจจุบันมหี ลายหน่วยงานเข้ามาชว่ ยกัน จนท�ำให้คลองแมข่ า่ สะอาดขนึ้ มาก ว่า คลองแม่ข่าจะตอ้ งไมม่ ขี ยะกดี ขวางทางน้ำ� และ ครัวเรือนส่วนใหญ่ในชุมชนที่อาศัยอยู่ริมคลอง ”ผลการท�ำงานของพลังจิตอาสา ทสม. ต. ปา่ แดด จะตอ้ งไม่ทิ้งขยะและปลอ่ ยน�้ำเสียลงคลองแม่ข่า ท่ีเป็นรูปธรรมชัดเจน นั้นก็คือ การท�ำตะแกรง 80 เพ่ือดักขยะมูลฝอย และวัชพืชต่างๆ โดยเฉพาะ ผกั ตบชวา ตลอดล�ำคลองแมข่ ่าในชว่ งทีไ่ หลผ่าน ต�ำบลป่าแดด ด�ำเนินการมาอย่างต่อเน่ืองเป็น ประจ�ำทุกเดือน ซึ่งทางเทศบาลต�ำบลป่าแดด ได้ให้การสนับสนุนรถขนขยะและส่งเจ้าหน้าที่มา ช่วยในการเก็บขน ร่วมกับ ทสม. จนท�ำให้ขยะ ในคลองแม่ข่าลดลง 90 เปอร์เซ็นต์ ทุกวันนี้ สามารถน�ำเรือยนต์ลงไปขับในคลองได้ และ ตลอดระยะเวลา 3 ปี ท่ีผ่านมา ยังสามารถใช้ คลองแมข่ า่ จัดกิจกรรมลอยกระทงไดด้ ้วย

คุณเชาวลิต ยังกล่าวอีกว่า ความส�ำเร็จท่ีเกิด ขนึ้ นนั้ มาจากการรว่ มแรงร่วมใจของอาสาสมคั ร ทุกคน และการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ไมว่ า่ จะเปน็ การสนบั สนนุ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ทจ่ี �ำเปน็ ตา่ งๆ ในการท�ำงาน นอกจากนย้ี งั มกี ารน�ำ ทสม. และชมุ ชนทอ่ี าศยั อยรู่ มิ คลองแมข่ า่ ไปศกึ ษา ดูงานการจดั การสิง่ แวดล้อมในชมุ ชน ซึง่ ช่วยเปดิ มุมมองและพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัคร ภาคประชาชนให้มีความพร้อมในการบริหาร จัดการสงิ่ แวดลอ้ มในชมุ ชนของตนเองไดม้ ากขึ้น พลงั ของ ทสม. กลมุ่ รกั ษแ์ มข่ า่ ต. ปา่ แดด ทไี่ ดค้ นื ชีวิตให้กับสายน้�ำคลองแม่ข่าอีกคร้ัง ได้รับการ ยกยอ่ งจากจงั หวดั เชยี งใหมใ่ หเ้ ปน็ “กลมุ่ พลเมอื ง จติ อาสา ต.ปา่ แดด เปน็ ชมุ ชนดเี ดน่ ในการอนรุ กั ษ์ และฟื้นฟูน�้ำแม่ข่า” และกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียน รู้การจัดการน้�ำเสีย และถอดประสบการณ์การ ท�ำงานของจติ อาสาภาคประชาชนดว้ ย 81

82

05 ค ว า ม สำ�เ ร็ จ จากเครือข่ายร่วมมือ ช่วง 3 ปี ทีผ่ ่านมา การเสริมสรา้ งเครือข่ายอาสาสมคั รเฝ้าระวงั ไฟปา่ ลดหมอกควัน ในพื้นทอี่ ทุ ยานแหง่ ชาติดอยสเุ ทพ-ปยุ และพนื้ ท่โี ดยรอบ โดยใช้กระบวนการมสี ่วนร่วม เพื่อนำ�ไปสู่การบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้องในการแก้ไขปัญหา ร่วมกนั ไดท้ �ำ ใหเ้ กดิ ผลผลิตและผลลัพธ์มากมาย สง่ ผลดีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ คนในพื้นทีเ่ ป็นอย่างมาก ซง่ึ มีรายละเอียดของความส�ำ เร็จทเ่ี ป็นรูปธรรมดังต่อไปนี้ 83

1มีแผนและทิศทาง 2 เกิดเครือข่าย 3 เกิดการขยาย การดำ�เนินงาน อาสาสมัคร เครือข่าย ร่วมกัน เฝ้าระวังไฟป่า สิ่งแวดล้อมม้ง ลดหมอกควัน ดอยสุเทพ-ปุย เร่ิมต้ังแต่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น เกิดกองทุน ภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคีความร่วมมือ สนับสนุน จากเดิมที่มีอยู่เพียง 5 หมู่บ้าน เพ่ิมเป็น ร่วมกันคิดวิเคราะห์ หาทางออก พัฒนาจุดร่วม การทำ�งาน 12 หมู่บ้านในพ้ืนท่ีดอยสุเทพ – ปุยและพื้นที่ ในการท�ำงาน ไปจนถึงการลงมือปฏิบัติ โดยรอบ นอกจากน้ียังกลายเป็นต้นแบบ และร่วมกันตัดสินใจ มีการท�ำแผนระยะสั้น ประกอบไปด้วย เครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวัง ชาวไทยเช้ือสายม้งที่ท�ำงานด้านสิ่งแวดล้อม และระยะยาว เช่น มีการประสานก�ำลังระหว่าง ไฟป่า ต้ังแต่ระดับหมู่บ้าน จ�ำนวน 24 หมู่บ้าน และผลักดันให้ประเด็นดังกล่าวกลายเป็น เจ้าหน้าท่ีรัฐ เครือข่ายอาสาสมัครและประชาชน ระดับเครือข่าย จ�ำนวน 3 เครือข่าย จนถึง วาระส�ำคัญของการประชุมสามัญประจ�ำปี ในพน้ื ที่ เพอื่ ท�ำแนวกนั ไฟ ออกตรวจลาดตระเวน ระดับพื้นที่พิเศษ 2 พ้ืนที่ กลายเป็นเครือข่าย สมัชชาม้งแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2557 การตั้งด่านสกัด และการเข้าดับไฟ นอกจากน้ี ที่เชื่อมร้อยการท�ำงานต้ังแต่ ต้นน�้ำ (เครือข่าย เป็นต้นมา และผู้แทนเครือข่ายสิ่งแวดล้อมม้ง ในช่วงฤดูไฟป่ามีการออกประกาศจากอุทยาน สงิ่ แวดลอ้ มมง้ ดอยสเุ ทพ-ปยุ ) กลางนำ�้ (เครอื ขา่ ย ดอยสุเทพ – ปุย ยังได้ด�ำรงต�ำแหน่งเป็น แห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ให้เครือข่ายอาสาสมัคร ชุมชนรอบป่า) ปลายน้�ำ (ชุมชนในเมือง เช่น เลขานุการ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและ ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการต้ังจุดสกัด เครือข่าย ทสม. 3 อ�ำเภอ รอบดอยสุเทพ-ปุย) ส่ิงแวดล้อมของคณะกรรมการเครือข่ายม้ง คอยตรวจตราการเข้าออกจากป่าของกลุ่มคน มีลักษณะการท�ำงานตามบริบทของพ้ืนที่และ แห่งประเทศไทย ต่างๆ เพ่อื เฝ้าระวังไฟปา่ ที่อาจจะเกดิ ข้ึน เป็นไปตามอัตลักษณ์ของเครือข่ายนั้น แต่มี จุดร่วมเดียวกัน นั้นก็คือ การเฝ้าระวังไฟป่า 84 ลดหมอกควันอย่างยั่งยืน นอกจากน้ียังมี กลไกสนับสนุนการด�ำเนินงานของเครือข่าย ในรปู ของกองทนุ เกิดข้ึนอีก 32 กองทนุ

ตนน้ำ กลางน้ำ 12 เครือขา ยสิง่ แวดลอมมง 18 ดอยสเุ ทพ-ปยุ หมูบา น 3 อำเภอ หมบู าน 3 อำเภอ อ.เมอื ง แมร มิ อ.เมอื ง แมร มิ และ อ.หางดง และ อ.หางดง 2 อำเภอ 2 ปลายนำ้ 3 3 อำเภอ อ.เมอื ง และ อ.แมร มิ พน้ื ทีพ่ ิเศษ อ.เมอื ง แมร มิ การสนบั สนนุ เครือขา ย และ อ.หางดง ทสม. 23 7 2 32รวมทั้งส้นิ กองทุน กองทนุ กองทุน กองทุน 24กระจายอยใู น หมบู าน ระดบั ชุมชน ระดับเครอื ขา ย ระดับพน้ื ทเี่ สย่ี งพเิ ศษ 3ใน อำเภอ 85

4 เกิดการสนับสนุน ชุมชนในการเฝ้าระวัง ไฟป่า ลดหมอกควัน ท้ังในระดับชุมชนและระดับเครือข่าย รวมถึง เกิดการสื่อสารแนวความคิดความรับผิดชอบ เครอื ขา่ ยตา่ งๆ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) ไปยังภาค เขา้ รว่ มเปน็ ธุรกิจเอกชน สถานประกอบการและประชาชน เครอื ขา่ ย ทุกกลุ่มในพื้นที่เป้าหมาย ท�ำให้คนเหล่านั้นเข้า อาสาสมคั ร มามีส่วนร่วมและสนับสนุนกองทุนชุมชนในการ พทิ กั ษท์ รพั ยากร เฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน เป็นตัวอย่างท่ีดี ธรรมชาตแิ ละ 5ในการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เช่นกรณี กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อน สง่ิ แวดลอ้ ม แจ่ม ที่เกิดจากการรวมตัวกันของผู้ประกอบการ หมบู่ า้ น (ทสม.) การทอ่ งเทย่ี วในหมบู่ า้ นหนองหอยเกา่ ต. แมแ่ รม อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ ท่ีได้จัดสรรเงินรายได้ จากการท่องเท่ียว เพ่ือสนับสนุนกองทุนไฟป่า เครือข่ายชุมชนรอบพื้นท่ีป่า เครือข่ายลุ่มน�้ำ ของหมบู่ ้าน แม่ตาช้าง และเครือข่ายส่ิงแวดล้อมม้ง ดอยสเุ ทพ-ปุย เข้าร่วมเปน็ เครือข่ายอาสาสมคั ร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) เป็นการยกระดับภาคประชาชน สู่เวทีความร่วมมืออย่างเป็นทางการร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ในการเฝ้าระวังปัญหา ป่าไม้ ไฟป่าและหมอกควัน และการจัดการขยะ รวมถึงสามารถสนับสนุนภารกิจของกระทรวง ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มทห่ี ลากหลาย มากข้ึน เพราะ ทสม. เป็นกลไกอาสาสมัครภาค ประชาชนที่มีระเบียบของกระทรวงทรัพยากร 86 ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มรองรับ

87

เกดิ การ บรู ณาการ อาสาสมคั ร ของหนว่ ยงาน ในสงั กดั กระทรวง 6 ทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายราษฎรอาสาสมัคร พิทักษ์ป่า อาสาสมัครไฟป่า เครือข่ายป่าชุมชน ให้เข้ามาเป็นเครือข่ายเดียวกัน ภายใต้ชื่อ ทสม. และร่วมกันเฝ้าระวังไฟป่าหมอกควัน และ สถานการณ์สิ่งแวดล้อม ในระดับพื้นที่และ ระดบั จงั หวัด 7เกิดเครื่องมือ 8 มีช่องทาง ไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในหลากหลายช่อง และกลไกในการ ในการสื่อสาร ทาง เช่น สื่อวิทยุ โทรทัศน์ แผ่นพับ โปสเตอร์ ขับเคลื่อน ประชาสัมพันธ์ รวมถึงเกิดช่องทางการส่ือสารของเครือข่าย การเฝ้าระวังไฟป่า ประเด็นไฟป่า อาสาสมคั ร เพอ่ื รายงานสถานการณส์ งิ่ แวดลอ้ ม ลดหมอกควัน หมอกควัน และเฝ้าระวังไฟป่าหมอกควัน ผ่านทาง แอฟพลิเคชัน Arsa4thai และติดต่อกัน ที่สอดคล้องกับบริบทพื้นท่ีและวิถีชุมชน เช่น ผ่านทางกลุ่มไลน์: อาสาจัดการไฟป่า และ มีแผนงานในระดับพื้นท่ี มีแผนความร่วมมือ เครือขา่ ยอาสาฯ ไฟปา่ มีเทศบัญญัติท้องถิ่น มีช่องทางการติดต่อ ประสานงาน (ศูนย์ประสานงานกลาง/ท�ำเนียบ เครือข่ายอาสาสมัครฯ) มีคณะกรรมการและ กองทุนไฟป่า ในระดับชุมชน ระดับเครือข่ายและ ระดับเครือข่ายรว่ ม เปน็ ต้น 88

10 9 การทำ�งานบน เกิดพื้นที่ เช่น ศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านต้นแบบปลอด ความร่วมมือของ รูปธรรม การเผา ในพ้ืนท่ีดอยสุเทพ – ปุย เป็นแหล่ง ภาคีเครือข่าย เ รี ย น รู ้ ก า ร จั ด ก า ร ไ ฟ ป ่ า ห ม อ ก ค วั น อ ย ่ า ง ความร่วมมือ มีส่วนร่วม ควบคู่ไปกับสร้างมูลค่าทาง ยังน�ำไปสู่การเปิดประเด็นการท�ำงานด้าน เศรษฐกิจจากการท่องเท่ียว เพื่อเป็นทางเลือก ส่ิงแวดล้อมที่กว้างขวางขึ้นนอกเหนือจาก ในการประกอบอาชีพให้กับชุมชน เปล่ียนจาก ป ร ะ เ ด็ น ก า ร จั ด ก า ร ไ ฟ ป ่ า แ ล ะ ห ม อ ก ค วั น การท�ำเกษตรกรรมท่ีต้องเผาวัชพืชในช่วงฤดู เช่น เร่ืองการจัดการขยะ (โมเดลการจัดการ เก็บเก่ียว เปล่ียนมาเป็นการพ่ึงพาธุรกิจการ ขยะในประเพณีเตียวดอย) การอนุรักษ์แม่น้�ำ ท่องเท่ียวชุมชน รวมถึงเป็นกรณีศึกษา คูคลอง (คลองแม่ข่า) การจัดการน�้ำเสีย ส�ำ ห รั บ ป ร ะ ช า ช น ท่ี ส น ใ จ น�ำ ก ลั บ ไ ป พั ฒ น า การจัดระเบียบและปรับภูมิทัศน์สิ่งแวดล้อม ชุมชนของตนเอง ท�ำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ รวมถึงการทอ่ งเทย่ี วเชิงอนุรกั ษ์ ครบวงจรและการถ่ายทอดอย่างเป็นระบบ และแหล่งเรียนรู้ จนน�ำไปสกู่ ารขยายผลไปยังพื้นที่อ่ืนๆ การเฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน 89

ผลลัพธท์ ส่ี ำ�คัญ ในการทำ�งาน 2559 3 ลดความขัดแย้งและสร้างทัศนคติที่ดี ที่สะทอ้ นออกมา ในการทำ� งานรว่ มกนั ลดลง 65% จากจุดความรอ้ นสะสม (Hotspot) ในเชงิ เศรษฐกิจ 31 จุด (ช่วงวันท่ี 15 ก.พ. – 5 เม.ย. 2558 ระหว่างชุมชนในพื้นท่ีและหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรณีการกล่าวโทษกันไปมาระหว่างคนบนดอย สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม เปรียบเทยี บกบั ช่วง 16 ก.พ. – 5 เม.ย. 2559) และคนพื้นราบถึงสาเหตุของการเกิดปัญหา 2560 ไฟป่าหมอกควัน นอกจากน้ียังเชื่อมร้อย ได้แก่ ก า ร ท�ำ ง า น ซึ่ ง กั น แ ล ะ กั น เ ป ็ น เ ค รื อ ข ่ า ย ภาคประชาชนของคนต้นน�้ำ กลางน้�ำ ปลายน�้ำ 1 คณุ ภาพอากาศในพืน้ ที่ดขี ้ึน ลดลง 80 % จากจุดความรอ้ นสะสม (Hotspot) ในรูปแบบเครือข่ายอาสาสมัครภายใต้ระบบ 6 จุด (ช่วงวันท่ี 1 ม.ค. – 31 พ.ค. 2559 ภูมินิเวศเดียวกัน ด้วยองค์ความรู้ และการมี จากรายงานตรวจวัดคุณภาพอากาศในพ้ืนท่ี เปรยี บเทยี บกบั ช่วง 1 ม.ค. – 3 พ.ค. 2560) ส่วนร่วมของประชาชน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย และพ้ืนท่ี คือ การท�ำให้คณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ มดีขึ้น เกิดเป็น โดยรอบ พบว่า จ�ำนวนวันท่ี ฝุ่นละอองเกิน จากสถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ กิจกรรมและการจัดการสิ่งแวดล้อมในประเด็น ค่ามาตรฐานลดลง และปริมาณจุดความร้อน ปัญหาไฟป่าหมอกควันในพ้ืนที่บูรณาการ ต่าง ๆ ตามมา เชน่ กจิ กรรมท�ำฝาย การจัดการ สะสม (Hotspot) บริเวณพ้ืนที่ด�ำเนินการ ความรว่ มมอื ลดลงอยา่ งเห็นไดช้ ดั 212,081 ไร่ ลดลง โดยเปรียบเทียบจากการเกดิ 4ขยะ การปลกู ต้นไม้ การอนรุ ักษ์แมน่ ำ�้ ล�ำคลอง จดุ ความร้อนของปี 2559 กบั ปี 2560 2 ประชาชนเกดิ ความตระหนกั และมจี ติ สำ� นกึ ชุมชนเข้มแข็ง 90 จ น น�ำ ไ ป สู ่ ก า ร ร ว ม ก ลุ ่ ม เ พ่ื อ ช ่ ว ย กั น ดู แ ล เพราะเศรษฐกิจชุมชน สังคม วัฒนธรรม และ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ิน สิ่งแวดล้อมดี เน่ืองจากเกิดการบูรณาการ ของตนเอง โดยประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และเชื่อมโยงความร่วมมือในทุกมิติ ด้วย ในสิทธิ หน้าท่ี และบทบาทของตนเองในการ กระบวนการมีส่วนร่วม เช่ือมร้อยการท�ำงาน อนุรกั ษ์ และใช้ประโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติ และเข้าใจบริบทการด�ำเนินงานซง่ึ กันและกัน และสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ินมากขึ้น และเกิด แรงบันดาลใจในการเข้ามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ไฟป่า ลดหมอกควัน ท้ังในระดับพื้นที่และระดับ เครือข่าย

ความสำ�เรจ็ ท่เี กดิ ขนึ้ มใิ ช่เพียงแค่ ลดปัญหาหมอกควนั ไฟปา่ และคืนฟ้าใสให้คนเชียงใหม่ แต่ยังไดเ้ ชื่อมร้อยความสัมพันธ์และประสานความรว่ มมอื ให้ภาคเี ครือข่ายต่างๆ สามารถ ทำ�งานรว่ มกันได้ โดยปราศจากมา่ นหมอกแหง่ มายาคตริ ะหว่างคนกลุ่มต่างๆ และยังต่อยอดไปสู่การทำ�งานดา้ นส่งิ แวดลอ้ มทก่ี ว้างขวางขน้ึ 91

06 ถอดรหัส ความสำ�เร็จ “ กรมส่งเสริมคุณภาพสิง่ แวดลอ้ มท�ำหนา้ ที่เป็นเหมอื นเป็นโซข่ ้อกลาง คือ เปน็ จดุ เชื่อมประสานงานในการทจ่ี ะน�ำชมุ ชนกับรฐั มาเจอกนั ถอื ว่าเป็นบทบาทท่ีส�ำคญั เมอ่ื ก่อนชาวบา้ นกับเจ้าหน้าท่ีอุทยานฯ เจอหนา้ กนั ยังไมอ่ ยากจะสบตากันดว้ ยซำ�้ ไป เหมอื นกบั วา่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นยักษ์มารจากไหนไมร่ ู้ จ้องจะจบั แต่ชาวบา้ น แต่เดี๋ยวนี้ มันเปลี่ยนไป ผมเองก็ให้นโยบายกับลกู นอ้ งว่าเราต้องเปลีย่ นภาพลักษณ์ ต้องท�ำงาน ในเชงิ รกุ และท�ำงานในเรอ่ื งของการประชาสมั พนั ธ์ สื่อสารกับสงั คม และสง่ เสรมิ ให้ภาคประชาชนเขา้ มามีส่วนรว่ มในการจดั การทรัพยากรใหม้ ากข้ึน เพราะนีเ่ ปน็ ส่ิงหนงึ่ ท่ีท�ำใหป้ ระชาชนไว้วางใจเจ้าหน้าท่ีของรฐั เป็นปจั จยั หน่งึ ในการท�ำงานท่ีจะน�ำไปสู่ความส�ำเรจ็ นายกริชสยาม คงสตรี หวั หน้าอุทยานแหง่ ชาติดอยสุเทพ-ปุย 92

จุดแข็งอยา่ งหน่ึงในการจดั การไฟป่าหมอกควนั ของดอยสเุ ทพ-ปยุ คอื เรามเี ครือข่าย ความรว่ มมือทม่ี าจากทุกภาคสว่ น ทีพ่ ร้อมจะเขา้ มาช่วยจดั การกับปัญหาไฟป่าหมอกควัน ทเี่ กิดข้นึ ซง่ึ กรมสง่ เสรมิ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ มจะคอยชีแ้ นะ และเขา้ มาท�ำหนา้ ทคี่ อยประสาน ระหวา่ งเครือขา่ ยต่างๆ ในพืน้ ที่ ท�ำให้สถานการณ์ไฟปาในพ้ืนทล่ี ดลงอยา่ งเห็นไดช้ ัด เพราะเครอื ข่ายน้แี หละท่ีเข้ามาช่วยกันเฝา้ ระวัง นายเศกรัฐ ไชยศิริ หวั หน้าสถานคี วบคุมไฟปา่ ภพู ิงค์ ทผี่ า่ นมาการท�ำงานเปน็ แบบตา่ งคนต่างท�ำ ไมม่ ีเวทที จี่ ะพูดคยุ และวางแผนการท�ำงานร่วมกัน แตใ่ นชว่ งหลงั ๆ เม่ือมกี ารน�ำแผนของแตล่ ะหนว่ ยงานมาน�ำเสนอในเวทีประชุม ท�ำให้แต่ละองคก์ รและภาคีเครอื ขา่ ยทราบวา่ แต่ละหน่วยงาน มแี ผนในการด�ำเนนิ งานเร่อื งไฟปา่ อย่างไรบ้าง จะช่วยเสริมเติมเตม็ กนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ท�ำให้เริ่มมีการบูรณาการ การท�ำงานร่วมกนั กจิ กรรมเหมือนกนั ท�ำด้วยกัน เชน่ ไฟปา่ มแี นวคดิ ท่ีจะสร้างอาสาสมคั รไฟปา่ ก็เริ่มมีการเชอ่ื มประสาน คนตน้ นำ�้ กลางน�ำ้ และปลายน�้ำ เข้ารว่ มเป็นเครอื ข่ายเดยี วกัน ภายใต้แนวคดิ ประชารัฐร่วมใจ เฝา้ ระวังไฟป่า ลดหมอกควนั นายวฒั น์ ทาบึงกาฬ กรมส่งเสรมิ คุณภาพสิง่ แวดล้อม กระบวนการทน่ี �ำไปสู่การหันหน้าเขา้ หากนั โดยมีกรมสง่ เสรมิ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มคนเชอ่ื มประสาน กค็ ือ การจัดเวทแี ลกเปล่ียนเรยี นรู้ร่วมกัน ระหว่างคนกลุ่มตา่ งๆ มีอยู่คร้งั หน่ึงทีม่ กี ารจดั งานประชารฐั รว่ มใจเฝ้าระวังไฟป่าลดหมอกควนั ที่ยอดดอยปยุ เป็นคร้งั แรกทีค่ นจากหลายภาคสว่ น ที่เกย่ี วขอ้ งมาร่วมงาน รวมถงึ เปน็ ครงั้ แรกที่คนชนช้นั กลางจากเมืองเชยี งใหมไ่ ดล้ งมอื ท�ำท�ำแนวกนั ไฟ การไดม้ โี อกาสแลกเปลย่ี นพูดคุยกบั พ่ีน้องมง้ ดอยปุย ท�ำใหเ้ ขามารับรู้ว่า พนี่ อ้ งชาวม้งช่วยกนั ท�ำแนวกันไฟเปน็ ระยะทางหลาย 10 กิโลเมตร มีกระบวนการในการจัดการไฟป่า ท�ำให้เกิดการแลกเปล่ยี นเรยี นรซู้ ง่ึ กนั และกนั ซ่ึงกระบวนการตรงนมี้ นั ท�ำใหเ้ กิดการรบั รู้ และเกดิ ความเข้าอกเข้าใจและเกดิ การเหน็ ใจกนั มากข้ึน เราไม่ไดบ้ อกให้เขามาเขา้ ใจ หรือเห็นอกเห็นใจกัน แตก่ ิจกรรมท่ีกรมสง่ เสรมิ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มสร้างเงอ่ื นไขใหค้ นกลุม่ ตา่ งๆ มาเจอกัน มันท�ำให้มายาคตทิ ีค่ นกลุ่มตา่ งๆ เคยมีต่อกนั มันหายไป ตอนน้ีพอเขารจู้ ักกันมากข้นึ มันกเ็ กดิ การท�ำงานร่วมกนั โดยธรรมชาติ ท�ำให้เกดิ ความสัมพันธ์ในเชิงสว่ นตัวและเชงิ องค์กรเครือข่ายมากขึน้ ผมมองว่า ลักษณะการท�ำงานแบบนมี้ นั จะท�ำใหเ้ กิดความย่งั ยนื มานพ ครี ีภูวดล ”มลู นธิ ิเพอ่ื การพฒั นาทย่ี ่งั ยืน (ภาคเหนอื ) 93

นี่คือนานาทัศนะเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อมที่เข้ามา ขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ในพ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในฐานะ คนกลางที่คอยเชื่อมประสานองค์กรต่างๆ จนเกดิ เปน็ ความรว่ มมอื ทจ่ี ะน�ำไปสกู่ ารแกป้ ญั หา ไฟป่าหมอกควันร่วมกัน ทั้งน้ีในรายละเอียด ของการด�ำเนินงานบนความร่วมมือกันของ ทุกภาคส่วนยังมีองค์ประกอบของเน้ืองาน อีกหลายด้านท่ีประกอบกันขึ้นจนกลายเป็น ความส�ำเร็จ ซ่ึงมีรายละเอียดและข้ันตอน การด�ำเนนิ งาน ดังนี้ 1สร้างแนวร่วม ภาคประชาชน หนนุ ชมุ ชน ในพ้ืนท่ีเป็นผู้ปฏิบัติ Participation 94

• ศกึ ษาขอ้ มลู และรปู แบบการพฒั นาเครอื ขา่ ย • สนับสนุนให้เกิดเครือข่ายอาสาสมัคร • หนุนเสริมบทบาทของชุมชน เครือข่าย อาสาสมัคร วางกรอบแนวทางการด�ำเนิน เฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน ในระดับ อาสาสมัครให้เป็นผู้ปฏิบัติ ซ่ึงต้องค�ำนึง โครงการ ลงพื้นท่ีประสานงาน รวบรวม ต่างๆ ซ่ึงในการท�ำงานได้แบ่งเครือข่าย ถึงความสอดคล้องกับอัตลักษณ์และ ข้อมลู ท่เี ก่ียวขอ้ ง เช่น ข้อมูลพื้นทป่ี ่า จ�ำนวน ส�ำคญั ออกเปน็ 3 ระดบั ได้แก่ บริบทของพ้ืนท่ี เช่น การเป็นนักสื่อสาร ชุมชน เครือข่ายอาสาสมัครและหน่วยงาน - เครือข่ายภาคประชาชนในพ้ืนที่ป่า ส่ิงแวดล้อมชุมชน การประชาสัมพันธ์ การ ที่เก่ียวข้อง วิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จัด (เครือข่ายสิ่งแวดล้อมม้งสุเทพ – ปุย รณรงค์ลดการเผา การเฝา้ ระวังและแจง้ เหตุ ล�ำดับความส�ำคัญ และก�ำหนดแนวทางการ จ�ำนวน 12 หมบู่ ้าน) เตือนภัย การลาดตระเวน การท�ำแนวกนั ไฟ คัดเลือกพ้ืนที่บูรณาการความร่วมมือ เพื่อ - เครือข่ายภาคประชาชนพ้ืนที่รอบป่า การประสานก�ำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตั้ง พัฒนาใหเ้ ปน็ พ้ืนที่เรยี นรู้อยา่ งเป็นรปู ธรรม (เครือข่ายลมุ่ น�้ำแมต่ าช้าง) ด่านสกัดและดับไฟ รวมถึง บทบาทใน - เครอื ขา่ ยภาคประชาชนนอกพื้นทีป่ า่ เช่น การเฝ้าระวังและจัดการสิ่งแวดล้อมใน ชุมชนเมือง เครือข่าย ทสม. 3 อ�ำเภอ ประเดน็ อน่ื ๆ เชน่ การจดั การขยะ การจดั การ (อ. เมอื ง อ. หางดง อ. แมร่ มิ จ. เชยี งใหม)่ มลพิษ และนำ�้ เสยี เป็นต้น ซงึ่ การเสรมิ สร้าง บทบาทเหล่านี้สามารถท�ำได้หลายวิธี เช่น ผ่านการฝึกอบรมให้ความรู้ การประชุม วางแผน การแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละถา่ ยทอด ประสบการณ์ในการท�ำงานระหวา่ งเครือขา่ ย 95

เสริมสรา้ ง บูรณาการ กระบวนการ มสี ่วนร่วมและ เครอื ข่าย 2 พัฒนากลไก อาสาสมคั ร ความรว่ มมอื 3 หนว่ ยงานและ • เสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและ ภาคีความร่วมมอื พัฒนากลไกความร่วมมือ ผ่านรูปแบบ ของเวทีพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาค • บูรณาการความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ประชาชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครอง ภายใต้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนท้องถ่ิน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และส่ิงแวดล้อม ได้แก่ กรมส่งเสริม และภาคีความร่วมมือต่างๆ และด�ำเนินการ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ ตัง้ แต่ระดับชมุ ชน ระดบั เครอื ขา่ ย และระดบั สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ ภาครี ่วมพัฒนา รวมถงึ หนว่ ยงานอน่ื ในสงั กดั ทดี่ �ำเนนิ งาน อยใู่ นพนื้ ท่ี • พัฒนากลไกการขับเคล่ือนภาคีเครือข่าย ทุกภาคส่วน โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ • สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมร้อยเครือข่าย ชุมชนและเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นท่ี อาสาสมัครต่างๆ เข้ามาเป็นเครือข่าย ได้แก่ ชุมชนในพื้นท่ีรอบพระต�ำหนัก ทสม. เชน่ การดงึ เครือข่ายส่ิงแวดล้อมมง้ ภูพิงคราชนิเวศน์ ชุมชนรอบพ้ืนท่ีอุทยาน ดอยสุเทพ-ปุย เครือข่ายลุ่มน้�ำแม่ตาช้าง แห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เครือข่าย ทสม เครือข่ายอาสาสมัครไฟป่า เครือข่าย จังหวัดเชียงใหม่ (อ.เมือง อ. หางดง และ กรมอุทยานฯ เข้ามาเป็นเครือข่าย ทสม. อ.แม่ริม) ผ่านการประชุม และกิจกรรม ที่ต้องด�ำเนินการเช่นนี้ เพราะเครือข่าย ชุมชนร่วมใจเฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน ทสม. เป็นอาสาสมัครภาคประชาชน โดยเน้น “การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ที่มีระเบียบของทางราชการรองรับ และ มากกว่าการแก้ไขปัญหา” และวางกรอบ ยังมีกลไกการท�ำงานต้ังแต่ระดับหมู่บ้าน การท�ำงานร่วมกัน ไปจนถงึ ระดบั จงั หวดั จึงเปน็ ชอ่ งทางทีจ่ ะ ดงึ ผแู้ ทนจากภาคประชาชนเขา้ มาอยใู่ นเวที 96 การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในระดับ จงั หวดั รว่ มกบั สว่ นราชการและหนว่ ยงาน ที่เกย่ี วขอ้ ง โดยในการเช่ือมรอ้ ยเครอื ข่าย ต่างๆ ให้มาอยภู่ ายใต้หมวก ทสม. จะตอ้ ง ไมท่ �ำลายอตั ลักษณข์ องเครือขา่ ยน้นั ๆ

4 • สนับสนุนการจัดท�ำแผนระดับชุมชน ระดับ เครือข่ายอาสาสมัคร และพ้ืนที่เสี่ยงพิเศษ พร้อมทั้งประชุมหารือ เพื่อร่วมกันวางแผน และหนนุ เสริมการท�ำงานซ่งึ กันและกัน เชื่อมโยง • จัดให้มีเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ การศึกษา และหนนุ เสรมิ ดูงาน เพ่ือเช่ือมโยงและพัฒนาศักยภาพ เครือข่ายอาสาสมัครและผู้น�ำชุมชน เพื่อน�ำ การทำ�งาน ความรูไ้ ปขยายผลตอ่ ในระดบั พนื้ ท่ี • สนับสนุนการจัดกิจกรรมตามแผนท่ีวาง รว่ มกนั และด�ำเนนิ การอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เชน่ การ ท�ำแนวกันไฟ การลาดตระเวน การเฝ้าระวัง พ้ืนที่เส่ียง การอบรมเครือข่ายอาสาสมัคร ไฟป่า เครือข่าย ทสม. การทอดผ้าป่าขยะ การคัดแยกขยะ การท�ำฝาย การอนุรักษ์ ล�ำน�้ำแม่ข่า เป็นต้น (บางพื้นท่ีสามารถ ยกระดับเป็นกองทุนชุมชนเฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน) 97

5 สอื่ สาร สู่สังคม • สนับสนุนส่ือเผยแพร่ สื่อประชาสัมพันธ์ รณรงค์การเฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน ลดการเผาในท่ีโล่ง ในรูปแบบที่หลากหลาย พรอ้ มสือ่ สารสูส่ าธารณะในหลายช่องทาง • เปิดตัวเครือข่ายอาสาสมัคร เฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน ส่ือสารให้สังคมภายนอก ไดร้ บั รู้ และปรบั ทศั นคติ มองเหน็ ภาพลกั ษณ์ ท่ีดีและเกิดความร่วมมือของเครือข่าย คนในป่า คนรอบป่าและคนในเมือง • เปิดช่องทางเชื่อมต่อกับภาคธุรกิจเอกชน และวสิ าหกจิ ชมุ ชนทตี่ อ้ งการสนบั สนนุ ชมุ ชน เครอื ข่ายเฝา้ ระวงั ไฟปา่ ลดหมอกควัน 98

นอกเหนือจากรายละเอียดการด�ำเนินงาน มสี ว่ นรว่ มของภาคประชาชนในการจดั การปญั หา นอกจากนี้ในการด�ำเนินงานยังได้น�ำแนวคิด ดังกล่าวข้างต้น แนวคิดส�ำคัญในการพัฒนา หมอกควันไฟป่าร่วมกับภาครัฐ และองค์กร เร่ือง “การตอบแทนคุณระบบนิเวศ” มาเป็น ง า น แ ล ะ แ ก ้ ไ ข ป ั ญ ห า ไ ฟ ป ่ า ห ม อ ก ค วั น ใ ห ้ ภาคีเครือข่ายต่างๆ จนเกิดเป็นการด�ำเนิน แ น ว ท า ง ใ น ก า ร ด�ำ เ นิ น ง า น ต ่ อ ย อ ด ใ ห ้ เ กิ ด เกิดประสิทธิภาพนั้น กรมส่งเสริมคุณภาพ งานระหว่างเครือข่ายท่ีหนุนเสริมซ่ึงกันและกัน ระบบสนับสนุนชุมชนและเครือข่ายอาสาสมัคร ส่ิงแวดล้อมได้น�ำ เป้าหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน ผลักดันกระบวนการมีส่วนร่วมในระดับชุมชน โ ด ย เ ฉ พ า ะ ก า ร ส นั บ ส นุ น แ ล ะ พั ฒ น า ร ะ บ บ ร ว ม กั บ แ น ว คิ ด เ ร่ื อ ง ก า ร มี ส ่ ว น ร ่ ว ม ข อ ง ระดับต�ำบล ระดับเครือข่าย ระดับภูมินิเวศ ก อ ง ทุ น ก า ร จั ด ก า ร ไ ฟ ป ่ า แ ล ะ ท รั พ ย า ก ร ผู้มีส่วนได้เสียมาใช้ในการท�ำงาน รวมถึงเน้น ร ว ม ถึ ง ผ ส า น พ ลั ง ข อ ง ผู ้ มี ส ่ ว น เ กี่ ย ว ข ้ อ ง ให้เกิดข้ึนอย่างย่ังยืน รวมถึงการพัฒนาระบบ การแก้ไขปัญหาโดยใช้พ้ืนที่เป็นตัวต้ังบน ทั้งเครือข่ายองค์กรชุมชน องค์กรพัฒนา ฐานข้อมูลและระบบรายงานสถานการณ์แจ้ง ฐานการจัดการความรู้ที่หลากหลาย เสริมสร้าง เอกชน ท้องถ่นิ ท้องที่ สถาบันการศึกษา สถาบัน เหตุเตือนภัย ด้วยการน�ำเทคโนโลยีสมัยใหม่ และบูรณาการเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวัง ทางศาสนา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มาใช้ ท�ำให้เกิดการสื่อสารเชิงรุก ซ่ึงเป็นการ ไฟป่าลดหมอกควัน หนุนชุมชนเป็นผู้ปฏิบัติ และภาคีอื่นๆให้มาช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่ือมโยงการท�ำงานระดับพื้นที่กับระดับนโยบาย ไปพร้อมกับการออกแบบระบบการจัดการ ในรูปแบบ “กลไกประชารัฐ เฝ้าระวังไฟป่า ท�ำให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันเป็นไป ให้เป็นไปในลักษณะของ “การจัดการร่วม” ซ่ึง ลดหมอกควนั ” อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และทันตอ่ สถานการณ์ มุ่งเน้นให้เกิดการบูรณาการการท�ำงานร่วมกัน ของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีการพัฒนากลไก การจัดการ การแบ่งหน้าที่ และความรับผิดชอบ ระหว่างผู้มีส่วนเก่ียวข้องกลุ่มต่างๆ เพื่อให้เกิด การเสริมประสิทธิภาพในการท�ำงานระหว่าง หนว่ ยงานต่างๆ โ ด ย ใ น ก า ร ท�ำ ง า น ก ร ม ส ่ ง เ ส ริ ม คุ ณ ภ า พ ส่ิ ง แ ว ด ล ้ อ ม จ ะ เ ริ่ ม จ า ก ก า ร ส ร ้ า ง แ น ว ร ่ ว ม ภาคประชาชน จากน้ันจึงหนุนเสริมให้ชุมชน เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ิ รวมถงึ สรา้ งบทบาทใหภ้ าคประชาชน เป็นที่ยอมรับในเวทีท่ีเป็นทางการ ซ่ึงในการ ด�ำเนินโครงการนี้ ได้ใช้โครงสร้างของ ทสม. เป็นกลไกในการขับเคล่ือนงานเพื่อสร้างการ 99

ปัจจยั ความสำ�เรจ็ ของโครงการ ปัจจัยความส�ำเร็จที่ส�ำคญั ของโครงการทจี่ ะมองขา้ มไม่ได้เลย คอื 3 มีการศึกษาข้อมูลที่เก่ียวข้องของพ้ืนท่ีอย่างละเอียดก่อนที่จะ ลงไปด�ำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ปฏิบัติการ 1 ทุกภาคส่วนเห็นความส�ำคัญของพ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาติ เชน่ ข้อมูลการเกิดไฟป่าในอดตี ขอ้ มูลชุมชน เมื่อมขี อ้ มลู เหล่านัน้ ดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกันจึงสามารถใช้เป็นประเด็นร่วมในการดึง แล้ว จะท�ำให้เม่ือลงไปท�ำงานในพ้ืนท่ีกับภาคประชาชนจะท�ำให้ ความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ท�ำให้การแก้ไข ผปู้ ฏบิ ัตงิ านสามารถเขา้ ใจบริบทของพ้นื ที่ได้อยา่ งรวดเร็ว ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งน้ีต้องท�ำให้ทุกภาคส่วนตระหนัก ร่วมกันว่าพื้นที่น้ันมีความส�ำคัญต่อคนในพื้นท่ีอย่างไร 4 ชมุ ชน เครอื ขา่ ยอาสาสมคั ร และ ทสม. ในพนื้ ทเี่ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มใน ไม่ใช่เพียงแค่น�ำเสนอแต่ประเด็นผลกระทบของไฟป่าท่ีจะ การด�ำเนินงานโครงการ โดยการหนุนเสริมให้ชุมชนเป็นผู้มี มีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเท่าน้ัน แต่จะต้องชี้ให้สังคม บทบาทหลัก เข้ามามีส่วนร่วมควบคู่กับการสร้างความตระหนัก เห็นว่าพื้นท่ีดังกล่าวยังมีคุณค่า ความส�ำคัญในมิติอื่นๆ 5จติ ส�ำนึก ร่วมกนั ท�ำงานแบบภาคีความร่วมมือ ด้วย เช่น มีคุณค่าความส�ำคัญในเชิงความหลากหลาย น�ำข้อมลู และสารสนเทศทางภูมศิ าสตรม์ าใช้ในการวางแผน ทางชีวภาพ และเป็นฐานทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวท่ีจะ สรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ท้องถิ่น เปน็ ตน้ 6 สร้างเวทีในการสื่อสารเชิงบวกระหว่างกลุ่มองค์กรต่างๆอย่าง ต่อเน่ือง เพ่ือสร้างการยอมรับและเป็นการเสริมก�ำลังใจ หนว่ ยงานรัฐท่เี กย่ี วข้อง ไดแ้ ก่ อุทยานแหง่ ชาติดอยสุเทพ-ปุย ระหว่างกนั สถานคี วบคมุ ไฟปา่ ภพู งิ ค์ และกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม 7การหนุนเสริมจากคนเมือง ท้ังความเข้าใจ และการสนับสนุน วัสดอุ ุปกรณท์ ีจ่ �ำเปน็ ในการป้องกันไฟปา่ 2มีการวางแผนและหาแนวทางในการท�ำงานร่วมกันก่อนที่จะ ลงไปพูดคุยกับชุมชน ท�ำให้การท�ำงานมีความเป็นเอกภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการท�ำงานในลักษณะน้ีจะช่วย ให้ภาคประชาชนเกิดความม่ันใจ และสร้างความเชื่อม่ันให้กับ ภาคสว่ นอื่นๆ ทจ่ี ะเข้ามาเปน็ ภาครี ว่ มพฒั นา 100


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook