หนังสืออ่านประกอบการเรียนการสอนวชิ าเลือกเสรี รายวชิ าเพลงโคราช รหัส อช 03309 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เร่ือง เพลงโคราช หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2554) ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั นครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ เอกสารทางวชิ าการลาดบั ท่.ี .........../....................... 1
หนังสืออ่านประกอบการเรียนการสอนวชิ าเลือกเสรี รายวชิ าเพลงโคราช รหัส อช 03309 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เร่ือง เพลงโคราช หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2554) ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั นครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ เอกสารทางวชิ าการลาดับท.ี่ .........../....................... 2
คำนำ ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอเมืองนครรำชสีมำ สำนักงำนส่งเสริม กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั จงั หวดั นครรำชสีมำ ได้มีนโยบำยใหค้ ณะครู กศน. จดั ทำหนงั สือ อ่ำนประกอบรำยวิชำเลือกเสรีเร่ืองเพลงโครำช ข้ึน เพ่ือใช้สำหรับกำรจดั กำรเรียนกำรสอนตำมหลักสูตร กำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2554) ท่ีมุ่งพฒั นำให้ ผูเ้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญำ มีคุณภำพชีวติ ท่ีดี มีศกั ยภำพในกำรกำรเรียนรู้อยำ่ งต่อเนื่อง โดยผเู้ รียน สำมำรถเรียนรู้จำกแบบเรียนทำแบบฝึกหดั เพื่อทดสอบควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ หำกไม่เขำ้ ใจใหก้ ลบั ไปทบทวนเน้ือหำ อีกคร้ัง นอกจำกน้ีผูเ้ รียนสำมำรถเรียนรู้ไดจ้ ำกแหล่งเรียนรู้ และส่ืออื่นๆ เพ่ือฝึ กปฏิบตั ิกำรร้อง รำ แต่งกลอน เพลงโครำช เพม่ิ เติม เพอ่ื เป็นทำงเลือกในกำรตดั สินใจประกอบอำชีพเพลงโครำช และเป็นกำรอนุรักษว์ ฒั นธรรม ใหส้ ืบทอดตลอดไป หนงั สืออ่ำนประกอบรำยวชิ ำเลือกเร่ืองเพลงโครำช หลกั สูตรกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2554) เล่มน้ีสำเร็จลุล่วงดว้ ยดี โดยไดร้ ับควำมร่วมมือจำก ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ิน ผทู้ รงคุณวฒุ ิ และผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งที่ร่วมกนั รวบรวมและเรียบเรียง เพ่อื ใหไ้ ดห้ นงั สืออ่ำนประกอบ รำยวชิ ำเลือกเสรีเรื่องเพลงโครำช ท่ีสอดคลอ้ งตำมหลกั สูตรกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2554) และเกิดประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียนอยำ่ งแทจ้ ริง ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบ และกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอเมืองนครรำชสีมำ ขอขอบพระคุณ คณะท่ีปรึกษำ คณะผจู้ ดั ทำ ตลอดจน ทุกทำ่ นที่มีส่วนเก่ียวขอ้ งมำ ณ โอกำสน้ี หนงั สืออ่ำนประกอบรำยวชิ ำเลือกเสรีเร่ืองเพลงโครำช เล่มน้ีคงเป็นประโยชน์ตอ่ กำรจดั กำรเรียนรู้วชิ ำ เลือกเสรีท่ีสถำนศึกษำจดั ทำข้ึน หำกมีขอ้ บกพร่องหรือขอ้ เสนอแนะ ผจู้ ดั ทำ ยนิ ดีนอ้ มรับและพฒั นำหนงั สือ อ่ำนประกอบรำยวชิ ำเลือกใหม้ ีคุณภำพยงิ่ ข้ึน กศน.อำเภอเมืองนครรำชสีมำ 3
สำรบญั หน้า คานา 1 สารบัญ 7 คาแนะนาการใช้หนังสืออ่านประกอบรายวชิ าเลือกเสรีเพลงโคราช 11 โครงสร้างรายวชิ าเพลงโคราช 36 บทที่ 1 ภูมิหลงั ประวตั ิควำมเป็นมำของภำษำถ่ินโครำช 48 49 กิจกรรมที่ 1 73 กิจกรรมที่ 2 75 กิจกรรมท่ี 3 88 บทที่ 2 เพลงโครำช กิจกรรมท่ี 4 บทที่ 3. ทกั ษะกำรร้องเพลงโครำช กิจกรรมที่ 5 บรรณานุกรม คณะผู้จัดทา 4
1 คาแนะนาการใช้หนังสือเรียน หนงั สืออ่ำนประกอบวชิ ำเลือกเสรี รำยวชิ ำเพลงโครำช ประกอบกำรเรียนกำรสอน ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย กลุ่มเป้ำหมำยของผใู้ ชห้ นงั สืออ่ำนประกอบคือผเู้ รียนหลกั สูตร กำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2554) โดยมี เน้ือหำจำนวน 3 เร่ืองดงั น้ี 1. ภูมิหลงั ประวตั ิควำมเป็นมำของภำษำถ่ินโครำช 2. เพลงโครำช 3. ทกั ษะกำรร้องเพลงโครำช ผเู้ รียนควรทำแบบทดสอบก่อนเรียนจำกสื่อคอมพิวเตอร์ เช่นหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Book) คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน CAI ก่อนกำรศึกษำเน้ือหำหนงั สืออ่ำนประกอบวชิ ำเลือกเสรี รำยวชิ ำเพลงโครำช ประกอบกำรเรียนกำรสอน เมื่อศกึ ษำเน้ือหำแลว้ ควรทำแบบทดสอบหลงั เรียน เพอ่ื เป็นกำรตรวจสอบควำมรู้ของผเู้ รียน และศกึ ษำหำควำมรู้เพ่ิมเติมจำกแหล่งเรียนรู้ต่ำงๆ เช่น ภูมิ ปัญญำทอ้ งถ่ิน หรือในอินเทอร์เนต็ หรือสื่อกำรเรียนรู้อ่ืนๆ 5
2 โครงสร้างรายวชิ าเพลงโคราช สาระสาคญั เพลงโครำชเป็นวฒั นธรรมของคนโครำช ที่มีภำษำผสมผสำนมีลกั ษณ์ก่ึงภำษำกลำงและภำษำอีสำน มี เอกลกั ษณ์เฉพำะตวั นิยมร้องเล่นในงำนประเพณีตำ่ งๆหรือใชใ้ นวถิ ีชีวติ เช่น ร้องเก้ียวสำว ร้องไหวค้ รูบูชำครู หรือร้องในกำรแกบ้ นอธิษฐำนถึงควำมเชื่อของบุคคล หนงั สืออ่ำนประกอบวชิ ำเลือกเสรีรำยวชิ ำเพลงโครำช เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในวฒั นธรรม ประเพณีของชุมชนทอ้ งถ่ิน เห็นควำมสำคญั คุณคำ่ ของเพลง โครำช และอนุรักษภ์ ำษำโครำชใหอ้ ยคู่ ู่กบั สงั คมโครำชต่อไป ผลการเรียนทคี่ าดหวงั 1 มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจภูมิหลงั ประวตั ิควำมเป็ นมำของภำษำถิ่นโครำช เพลงโครำช และฝึกทกั ษะ ร้องเพลงโครำช 2. เป็นทำงเลือกประกอบกำรตดั สินใจที่จะประกอบอำชีพเป็นหมอเพลงโครำช 2 ตระหนกั ถึงควำมสำคญั ของวฒั นธรรมในชุมชนทอ้ งถิ่นและภำษำโครำช มีคำ่ นิยมท่ีพ่งึ ประสงค์ ของสำคญั ชุมชนมำประพฤติปฏิบตั ิจนเป็ นนิสัย ข่ายขอบเนื้อหา 1. ภูมิหลงั ประวตั ิควำมเป็ นมำของภำษำถิ่นโครำช 2. เพลงโครำช 3. ทกั ษะกำรร้องเพลงโครำช การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 1. บรรยำย 2. ศึกษำคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเองจำกเอกสำร คอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI อินเทอร์เน็ต และแหล่งเรียนรู้ใน ชุมชน 6
3. สมั ภำษณ์ภูมิปัญญำ 4. พบกลุ่ม อภิปรำยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 5. สำธิตและฝึกปฏิบตั ิ ณ แหล่งเรียนรู้ในชุมชน 6. ฝึกปฏิบตั ิดว้ ยตนเองจนเกิดควำมชำนำญท่ีบำ้ นหรือ ณ แหล่งเรียนรู้ 7. ฝึกเขียนและตรวจสอบควำมเป็นไปไดข้ องกลอนเพลงโครำช 8. สรุปและนำเสนอเพลงโครำชที่ผเู้ รียนไปฝึกปฏิบตั ิในช่องทำงกำรสื่อสำรตำ่ งๆ สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. ส่ือเอกสำร 1.1. หนงั สือ โครำชของเรำ ผแู้ ตง่ สุวจั น์ ลิปตพลั ลภ ปี ท่ีพมิ พ์ 2542 โรงพิมพ์ บริษทั มงั กรกำร พมิ พ์ (1994) จำกดั 1.2. หนงั สือ เพลงโครำช : กำรศึกษำในเชิงวเิ ครำะห์และวจิ ำรณ์ ผแู้ ตง่ ถำวร สุบงกช และคณะ ปี ที่พิมพ์ 2536 โรงพมิ พ์ บริษทั ที.พ.ี พริ้นท์ จำกดั 2. สื่ออิเลคทรอนิกส์ 2.1 CD เร่ือง เพลงโครำช 2.2 CD เร่ือง ประวตั ิควำมเป็นมำของเพลงโครำช 3. สื่อภูมิปัญญำ 3.1 นำยกำป่ัน บำ้ นแทน่ บำ้ นเลขที่ 334 จิระ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ โทร 044- 264467 3.2 นำงกำเหวำ่ บำ้ นแท่น บำ้ นเลขท่ี 334 จิระ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ โทร 044- 264467 3.3 นำยใหญ่ วเิ ศษพลกรัง บำ้ นเลขท่ี 1235 ชุมชนวดั ทุ่งสวำ่ ง-ศำลำลอย ตำบลในเมือง อำเภอ เมืองนครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ โทร 081 – 5473 – 409 3.4 นำงเล็ก หวงั ตรงกลำง บำ้ นเลขท่ี 1234 ชุมชนหนำ้ ยำ่ โม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง นครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ โทร 081 – 5473 – 409 3.5 นำยชอบ หวงั ร่วมกลำง บำ้ นเลขที่ 1236 หมู่บำ้ นวรกำร ตำบลหวั ทะเล อำเภอเมือง นครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ โทร 081 – 5473 – 409 4. ส่ือแหล่งเรียนรู้ในชุมชน 4.1 ชุมชนวดั หวั สะพำน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ 4.2 ลำนอนุสำวรียท์ ำ้ วสุรนำรี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ 4.3 ชุมชนวดั ศำลำลอย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ 4.4 สมำคมเพลงโครำช ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครรำชสีมำ จงั หวดั นครรำชสีมำ 7
การวดั ผลประเมนิ ผล 1. กำรประเมินควำมกำ้ วหนำ้ 1.1 ซกั ถำม 1.2 สงั เกต 2. กำรประเมินผลรวม 2.1 ตรวจผลงำนเพลงโครำช ประกอบดว้ ย 2.1.1 กำรฝึกกำรยกครูและกำรไหวค้ รู 2.1.2 กำรร้องเพลงโครำช 2.1.3 กำรฝึกท่ำรำเพลงโครำช 2.1.4 บอกข้นั ตอนกำรร้องเพลงโครำช 2.2 ตอบแบบทดสอบ 2.3 ตอบแบบสอบถำม 2.4 สะทอ้ นผล 3. ประเมินผลกำรเรียนโดยใชข้ อ้ มูลของขอ้ 1 และ 2 มำเป็นฐำน แลว้ ประเมินผลกำรเรียนเป็น 8 ระดบั ไดแ้ ก่ ไดค้ ะแนนร้อยละ 80 – 100 ใหร้ ะดบั 4 หมำยถึง ดีเยย่ี ม ไดค้ ะแนนร้อยละ 75 – 79 ใหร้ ะดบั 3.5 หมำยถึง ดีมำก ไดค้ ะแนนร้อยละ 70 – 74 ใหร้ ะดบั 3 หมำยถึง ดี ใหค้ ะแนนร้อยละ 65 – 69 ใหร้ ะดบั 2.5 หมำยถึง คอ่ นขำ้ งดี ใหค้ ะแนนร้อยละ 60 – 64 ใหร้ ะดบั 2 หมำยถึง ปำนกลำง ใหค้ ะแนนร้อยละ 55 – 59 ใหร้ ะดบั 1.5 หมำยถึง พอใช้ ใหค้ ะแนนร้อยละ 50 – 54 ใหร้ ะดบั 1 หมำยถึง ผำ่ นเกณฑข์ ้นั ต่ำท่ีกำหนด ใหค้ ะแนนร้อยละ 0 – 49 ใหร้ ะดบั 0 หมำยถึง ต่ำกวำ่ เกณฑข์ ้นั ต่ำที่กำหนด 8
รายละเอยี ดคาอธิบายวชิ าเลือกเสรี รายวชิ าเพลงโคราช รหัส อช 03309 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน 4 หน่วยกติ (160 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจและเจตคติท่ีดีในงำนอำชีพ วิเครำะห์ลักษณะงำน ขอบข่ำยงำนอำชีพในชุมชน สังคม ประเทศและ ภูมิภำค 5 ทวีป ไดแ้ ก่ ทวีปเอเซีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกำ ทวีปยุโรป และทวีปอฟั ริกำ ท่ีเหมำะสมกบั ศกั ยภำพ 5 ดำ้ น ไดศ้ กั ยภำพของทรัพยำกรธรรมชำติในแต่ละพ้ืนที่ ศกั ยภำพของพ้ืนท่ีตำมลกั ษณะ ภูมิอำกำศ ศกั ยภำพของภูมิประเทศและทำเลที่ต้งั ของแต่ละพ้ืนท่ี ศกั ยภำพของศิลปะวฒั นธรรม ประเพณีและ วถิ ีชีวติ ของแต่ละพ้นื ที่ ศกั ยภำพของทรัพยำกรมนุษยใ์ นแตล่ ะพ้ืนท่ี เพ่อื กำรเขำ้ สู่อำชีพเพลงโครำช ท่ี หวั เร่ือง ตวั ชี้วดั เนื้อหา จานวนชั่วโมง 1. ภาษาโคราช 1.ควำมหมำยของภำษำโครำช 40 1.บอกควำมหมำยของภำษำ โครำชได้ 2.ประวตั ิควำมเป็นมำของเภำษำ 2.บอกประวตั ิควำมเป็นมำ โครำช ของภำษำโครำชได้ 3ควำมสำคญั ของภำษำโครำช 3.อธิบำยและตระหนกั เห็น 4.ฝึกพดู และออกสำเนียงโครำช คุณค่ำควำมสำคญั ของภำษำ โครำช 2. เพลงโคราช 1.บอกควำมหมำยของเพลง 1.ควำมหมำยของเพลงโครำชและ 40 โครำชไดแ้ ละหมอเพลง หมอเพลงโครำช โครำชได้ 2.บอกประวตั ิควำมเป็นมำ 2.ประวตั ิควำมเป็นมำของเพลง ของเพลงโครำชได้ โครำช 3.อธิบำยและตระหนกั เห็น 3ควำมสำคญั ของเพลงโครำช คุณค่ำควำมสำคญั ของเพลง โครำช 4.ระบุแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญำ 4.แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญำทอ้ งถิ่น ทอ้ งถิ่นและเพลงโครำชได้ ของเพลงโครำช 5.วเิ ครำะห์ควำมเป็นไปไดใ้ น 5.ควำมเป็นไปไดใ้ นกำรเขำ้ สู่อำชีพ กำรเขำ้ สู่อำชีพเพลงโครำชได้ เพลงโครำช 9
6.สำมำรถตดั สินใจประกอบ 5.1กำรลงทุน อำชีพเพลงโครำชได้ 5.2กำรตลำด 6.กำรตดั สินใจประกอบอำชีพเพลง โครำช 6.1 ศกั ยภำพของ ทรัพยำกรธรรมชำติ 6.2 ศกั ยภำพของพ้ืนท่ีตำมลกั ษณะ ภูมิอำกำศ 6.3 ศกั ยภำพของภูมิประเทศและ ทำเลท่ีต้งั 6.4 ศกั ยภำพของศิลปวฒั นธรรม ประเพณีและวธิ ีชีวติ 6.5 ศกั ยภำพของทรัพยำกรมนุษย์ 3. ทกั ษะการร้อง 1.อธิบำยกำรยกครู ไหวค้ รู 1.ความรู้พืน้ ฐานในการร้องเพลง 80 เพลงโคราช กำรแต่งกำย อุปกรณ์ โคราช 10 ประกอบกำรร้องเพลง เวที 1.1 กำรยกครูและกำรไหวค้ รู เพลงโครำช ทำ่ รำ ภำษำ 1.2 กำรแตง่ กำย โครำชได้ 1.3 อุปกรณ์ประกอบกำรร้องเพลง 1.4 เวทีเพลงโครำช 1.5 ท่ำรำ 1.6 ภำษำโครำช 2.สำมำรถฝึกกำรยกครูกำร 2. การฝึ กและข้ันตอนการร้องเพลง ไหวค้ รู กำรฝึกเขียนกลอน โคราช เพลงโครำช กำรฝึกร้องเพลง 2.1 กำรฝึกยกครูและกำรไหวค้ รู โครำช กำรฝึกทำ่ รำเพลง 2.2 กำรเขียนกลอนเพลงโครำช โครำชและข้นั ตอนกำรร้อง 2.3 กำรฝึกร้องเพลงโครำช เพลงโครำชได้ 2.4 กำรฝึกท่ำรำเพลงโครำช 2.5 ข้นั ตอนกำรร้องเพลงโครำช 3. สำมำรถอนุรักษเ์ พลง 3. ข้ันการอนุรักษ์เพลงโคราช โครำชได้ 3.1 ระดบั บุคคล 3.2 ระดบั ครอบครัว 3.3 ระดบั ชุมชน
บทท่ี 1 เรื่อง ภูมิหลงั ประวตั คิ วามเป็ นมาของภาษาถนิ่ โคราช จานวน 40 ชั่วโมง สาระสาคญั ภำษำถ่ินอีสำนที่โครำช มีสำเนียงแตกต่ำงจำกภำษำอีสำนในจงั หวดั อื่นๆอยำ่ งเห็นไดช้ ดั และเจำ้ ของ ภำษำในจงั หวดั อ่ืนๆก็ไม่ยอมรับวำ่ เป็ นภำษำอีสำน และเวลำคนโครำชพดู กไ็ มเ่ รียกวำ่ “เวำ้ ลำว” แต่เรียกวำ่ “พูด โครำช” ภาษาไทยสาเนียงโคราช เป็นภำษำไทยกลุ่มหน่ึงท่ีใชพ้ ูดกนั ในจงั หวดั นครรำชสีมำ และ จงั หวดั ใกลเ้ คียง เป็นภำษำท่ีใกลเ้ คียงกบั ภำษำไทยกลำง ที่ออกสำเนียงเหน่อ และมีคำศพั ทร์ ่วมกบั ภำษำไทยกลำง และรับคำมำใชจ้ ำกภำษำไทยถ่ินอีสำน ภำษำลำว และภำษำเขมร ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั 1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีควำมรู้เขำ้ ใจประวตั ิภูมิหลงั ประวตั ิควำมเป็นมำของภำษำถ่ินโครำชจงั หวดั นครรำชสีมำ 2. ตระหนกั ถึงควำมสำคญั ของประวตั ิภูมิหลงั ประวตั ิควำมเป็นมำของภำษำถิ่นโครำชจงั หวดั นครรำชสีมำ ขอบข่ายเนื้อหา 1. ควำมเป็นมำ ไทโครำช 2. ภำษำโครำช 3 สำเนียงโครำ 11
เร่ือง ภูมิหลงั ประวตั คิ วามเป็ นมาของภาษาถน่ิ โคราช ความเป็ นมา จงั หวดั นครรำชสีมำเป็นจงั หวดั ที่มีกลุ่มชำติพนั ธุ์หลำกหลำย แตไ่ ทยโครำชเป็ นกลุ่มชำติพนั ธุ์กลุ่มใหญท่ ่ี มีวฒั นธรรมโครำช ไดแ้ ก่ มีเพลงพ้นื บำ้ นท่ีเรียกวำ่ \"เพลงโครำช\" ใชด้ นตรีพ้ืนบำ้ น คือ มโหรีโครำช และท่ีเป็น เอกลกั ษณ์สำคญั คือใชภ้ ำษำโครำชในชีวติ ประจำวนั ไมม่ ีหลกั ฐำนบง่ บอกวำ่ กลุ่มชำติพนั ธุ์โครำชมำจำกท่ีใด แต่มี หลกั ฐำนทำงโบรำณคดีเกี่ยวกบั ชุมชนโบรำณ บริเวณจงั หวดั นครรำชสีมำจำนวนมำก ซ่ึงกลุ่มชำติ-พนั ธุ์น้ี นอกจำกจะอยทู่ ี่จงั หวดั นครรำชสีมำแลว้ ยงั มีอยใู่ นจงั หวดั บุรีรัมย์ ชยั ภูมิ และบำงส่วนของจงั หวดั ลพบุรี บำงคร้ัง อำจเรียกกลุ่มชำติพนั ธุ์น้ีวำ่ ไทยเบิง้ หรือ ไทโคราช ไทโคราช ชำวโครำชจดั อยใู่ นกลุ่มชำติพนั ธุ์กลุ่มตระกลู ภำษำไต-กะได สำขำไตพบวำ่ มีกำรต้งั ถิ่นฐำนในเขต จงั หวดั นครรำชสีมำต้งั แต่สมยั ก่อนประวตั ิศำสตร์ สมยั ทวำรวดีจนถึงสมยั อยธุ ยำและรัตนโกสินทร์ก็ไดร้ ับอิทธิพล วฒั นธรรมไทยภำคกลำงเป็นสำคญั และยงั ไดร้ ับวฒั นธรรมเขมรและวฒั นธรรมไทยลำวเขำ้ มำผสมผสำนอีกดว้ ย ทำใหก้ ลุ่มชำติพนั ธุ์ ไทโครำชมีเอกลกั ษณ์เฉพำะ ท้งั ภำษำพูด อำหำร รวมท้งั กำรละเล่น โดยเฉพำะเพลงโครำช ชำวไทโครำชต้งั ถ่ินฐำนกระจำยอยตู่ ำมจงั หวดั ตำ่ ง ๆ เช่น อำเภอปักธงชยั อำเภอหว้ ยแถลง อำเภอครบุรี อำเภอ หนองบุนนำก อำเภอด่ำนขนุ ทด ในจงั หวดั บุรีรัมย์ เช่นท่ีอำเภอนำงรอง อำเภอละหำนทรำย อำเภอหนองกี่ อำเภอ เมือง อำเภอลำปลำยมำศ และจงั หวดั ชยั ภูมิ ในเขตอำเภอจตุรัส อำเภอบำเหน็จณรงค์ 12
ต้นกาเนิด เช่ือกนั วำ่ บรรพบุรุษของชำวไทโครำชอพยพมำจำกอยธุ ยำ และแถบจงั หวดั ชำยทะเลตะวนั ออก ไดแ้ ก่ จนั ทบุรี ระยอง นครนำยก เป็ นตน้ เขำ้ มำในบริเวณจงั หวดั นครรำชสีมำและพ้ืนที่ใกลเ้ คียง และไดผ้ สมกลมกลืน กบั กลุ่มคนพ้นื เมืองเดิม ซ่ึงสนั นิษฐำนวำ่ น่ำจะเป็น ไท-เสียม หรือไทสยำมลุ่มน้ำมูล เกิดเป็นวฒั นธรรมไทโครำช เรียกตนเองวำ่ ไทโครำช ไทเบิ้ง หรือ ไทเดิ้ง ตอ่ มำไดม้ ีกำรติดต่อคำ้ ขำยกบั ชำวลำว ชำวไทยอีสำนและชำวเขมร และมีกำรอพยพยำ้ ยถิ่นฐำนของชำว ลำว ชำวไทยอีสำนและชำวเขมรเขำ้ มำทีหลงั ทำใหเ้ กิดกำรววิ ฒั นำกำรของภำษำ โดนมีกำรยมื คำไทยอีสำน และ คำเขมรปะปนเขำ้ มำใช้ เกิดเป็นคำไทโครำช ซ่ึงแตกต่ำงจำกภำษำไทยถิ่นอิสำนโดยทวั่ ไป เพรำะยงั คงรักษำรำก ศพั ทเ์ ดิมไวค้ ือภำษำไทยถิ่นกลำงนน่ั เอง ภาษาไทยสาเนียงโคราช เป็นภำษำไทยกลุ่มหน่ึงที่ใชพ้ ดู กนั ในจงั หวดั นครรำชสีมำ และจงั หวดั ใกลเ้ คียง เป็น ภำษำท่ีใกลเ้ คียงกบั ภำษำไทยกลำง ท่ีออกสำเนียงเหน่อ และมีคำศพั ทร์ ่วมกบั ภำษำไทยกลำง และรับคำมำใชจ้ ำก ภำษำไทยถ่ินอีสำน ภำษำลำว และภำษำเขมร ลกั ษณะทางสัทศาสตร์ ภำษำไทยสำเนียงโครำช เป็ นภำษำไทยถ่ินกลำง คำศพั ทท์ ว่ั ไปตรงกบั ภำษำไทยถิ่นกลำง มีสำเนียง คอ่ นขำ้ งเหน่อและหว้ นส้ันแบบภำคกลำง แตม่ ีกำรผนั คำต่ำ-สูงที่เป็นเอกลกั ษณ์ของตนเองที่แตกต่ำงจำก ภำษำไทยถ่ินกลำงบำ้ ง โดยมกั ใชเ้ สียงวรรณยกุ ตเ์ อก (เสียงต่ำ) แทนเสียงวรรณยกุ ตโ์ ท (เสียงสูง) เช่น \"โม่\" แทน \"โม\"้ หรือ \"เสื่อ\" แทน \"เส้ือ\" เป็นตน้ นอกจำกน้ียงั ยมื คำในภำษำไทยถ่ินอีสำนมำใชป้ ะปนกนั ดว้ ยเลก็ นอ้ ย และ เม่ือพูดจบประโยคจะลงทำ้ ยดว้ ยคำวำ่ \"เบิง้ , เหว๋ย, ด๊อก\" วถิ ีชีวติ และภาษา กลุ่มชำติพนั ธุ์โครำชมีวถิ ีชีวติ แบบเรียบง่ำยเหมือนชำวชนบททวั่ ไป คืออยบู่ ำ้ นใตถ้ ุนสูงแบบบำ้ นโครำช ซ่ึงเป็นเรือนสำมระดบั ใกล้ ๆ บำ้ นปลูกพืชผกั สวนครัวซ่ึงอำจมีท้งั อำหำรและยำ ใชผ้ ำ้ นุ่งโจงกระเบนซ่ึงเป็ นผำ้ ไหมเรียกวำ่ ไหมหำงกระรอก ซ่ึงเป็นผำ้ ทอที่เส้นพุง่ เป็นไหมควบสองเส้นทำใหท้ อแลว้ เกิดเป็นลูกลำย เหมือน หำงกระรอกและวฒั นธรรมท่ีสำคญั คือ ภำษำโครำช ซ่ึงมีวงศพั ท์ เสียง และสำนวนของตวั เอง เช่น จน่ แปลวำ่ ไม่วำ่ งเลย เช่น วนั น้ีจ่นมำก จ้ืน แปลวำ่ จืดชืด หรือ เซ็ง เช่น ส้มตำน้ีจ้ืนแลว้ เซำะเยำะ แปลวำ่ ผอมโซ ไม่มีเร่ียวแรง นอกจำกน้ีอำจเพ้ียนเสียงวรรณยกุ ตค์ ำในภำษำไทยกลำง ไดแ้ ก่ เพ้ียนเสียงเอกเป็ นเสียงตรี เช่น กดั เป็น กดั๊ ดดั เป็ น ดดั๊ เพ้ยี นเสียงสำมญั เป็นเสียงจตั วำ เช่น ปลำ เป็น ปล๋ำ กำ เป็ น ก๋ำ 13
เกี่ยวกบั สำนวนภำษำโครำชมีสำนวนมำกมำยที่ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เช่น คำเรียกขวญั ดงั ตวั อยำ่ งเลก็ นอ้ ยดงั น้ี \"ขวญั อีนำงเอยมำ......กู๊... ขอให่มำเข่ำโครงอยำ่ ไดห้ ลำบ ขอให่มำเขำ่ ครำบอยำ่ ไดถ้ อย สิบปี อยำ่ ไปอื่น หมื่นปี อยำ่ ไปไกล ขอให่มำอยซู่ ุมพอ่ ซุมแม่ ซุมพี่ซุมน่อง ให่มำอยเู่ รือนใหญ่ หกกะไดสูง...\" หมำยควำมวำ่ ขวญั ลูกเอยจงมำเถิดขอใหม้ ำอยกู่ บั ร่ำงกำยสิบปี หม่ืนปี อยำ่ ไดไ้ ปไหน ขอใหอ้ ยกู่ บั พอ่ แมพ่ ่ีนอ้ ง บน เรือนหลงั ใหญ่บนั ไดสูง การกระจายตวั เป็นภำษำที่ใชม้ ำกในจงั หวดั นครรำชสีมำเกือบทุกอำเภอ ยกเวน้ บำงอำเภอที่มีชำวไทยอีสำนอยเู่ ป็ นจำนวน มำกกวำ่ เช่น อำเภอบวั ใหญ่ อำเภอสูงเนิน อำเภอปักธงชยั เป็นตนั นอกจำกน้ีพบวำ่ มีกำรใชภ้ ำษำไทยสำเนียง โครำชในประชำกรบำงส่วนของจงั หวดั สระบุรี จงั หวดั ลพบุรี จงั หวดั เพชรบูรณ์ จงั หวดั ชยั ภูมิ จงั หวดั บุรีรัมย์ จงั หวดั สระแกว้ อีกดว้ ย การปรับปรนในสังคมปัจจุบัน ปัจจุบนั กลุ่มชำติพนั ธุ์โครำชมีควำมภำคภูมิใจในควำมเป็ นคนโครำช ร่วมกนั สร้ำงสรรคส์ งั คม รักษำและสืบทอด วฒั นธรรมโครำช 14
กจิ กรรมที่ 1 ผเู้ รียนสรุปภูมิหลงั ประวตั ิควำมเป็นมำของภำษำถิ่นโครำช ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 15
ภาษาโคราช ภาษาโคราช เป็นวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นสำขำหน่ึงของชำวโครำช ซ่ึงมีลกั ษณะประสมประสำนระหวำ่ งภำษำอีสำน และภำษำไทยกลำง แตอ่ ยำ่ งไรก็ตำมภำษำโครำชกม็ ีลกั ษณะเฉพำะตวั เกี่ยวกบั ศพั ท์ สำเนียง และสำนวนดงั จะ กล่ำวถึงต่อไปน้ี 1. คาศัพท์ คำศพั ทภ์ ำษำโครำชที่ไม่ซ้ำกบั ภำษำไทยกลำงเม่ือเรียงจำกอกั ษร ก. ถึง ฮ. แลว้ พบวำ่ มีจำนวนมำกมำย ถำวร สุบงกช ไดร้ วบรวมไวม้ ีถึง 1,065 คำ ส่วนใหญ่เป็นคำศพั ทท์ ่ีใชท้ ำหนำ้ ท่ีเป็ นคำนำม คำกริยำ และคำ วเิ ศษณ์ ยกตวั อยำ่ งโดยสงั เขปดงั น้ี คานาม เช่น กำดน้ แปลวำ่ ทำ้ ยทอย กำเปื อก แปลวำ่ ฟองของน้ำโสโครก กะด๊ึบ แปลวำ่ ผลไมห้ รือผกั ที่ยงั เป็นลูกอ่อน ๆ อยู่ ขี่สีก แปลวำ่ น้ำครำ เขำ่ เปี ยก แปลวำ่ ขำ้ วตม้ น่ำมตบ๊ั แปลวำ่ ไส้กรอก ชก่ั ชำ แปลวำ่ ชกั คะเยอ่ ก่ะดินหุน, กะแดนหุน, ดินหุน แปลวำ่ ปลวก - ตวั ปลวก สมอร่องแร่ง แปลวำ่ หยำกไยใ่ นครัวไฟ หน แปลวำ่ ทำง คากริยา เช่น จน่ แปลวำ่ ยงุ่ มำก, ประดงั เขำ้ มำ แกง้ กน้ แปลวำ่ เช็ดกน้ , ไมแ่ กง้ กน้ คือ ไมเ้ ช็ดกน้ ขะโมม่ แปลวำ่ กินคำใหญ่ ๆ อยำ่ งรวดเร็ว กะจอ้ บ แปลวำ่ นง่ั หรือยนื เป็นวงชิดๆ กนั ศีรษะโนม้ เขำ้ หำกนั 16
พูดเด๋ิม แปลวำ่ นินทำ โหง่ย แปลวำ่ คอ่ ย ๆ ลม้ ลง จำหืน แปลวำ่ จำใจ แกลง้ ทำ ค่ะมะ่ แปลวำ่ พบกนั โดยบงั เอิญ น่กบำ้ น แปลวำ่ ถ่ำยอุจจำระ ทะแหล แปลวำ่ ลำดเอียง ปะลมปะเล แปลวำ่ ปะปน ลบั ตำชงั แปลวำ่ ทำกิริยำคอ้ น สะเอี๋ย แปลวำ่ อำกำรอยำกกินของคนแพท้ อ้ ง เอ๊ียะ แปลวำ่ อำกำรท่ีเด็กทำรกแหวะ อว่ ย แปลวำ่ หนั ตื่ม แปลวำ่ เติม, เพม่ิ , แถม คาวเิ ศษณ์ เช่น กืก แปลวำ่ เป็นใบ้ เช่น คนกืก เรียกกำรเล่นต่ีชนิดหน่ึงที่ไม่ออกเสียงวำ่ ต่ีกืก กะจอ้ น แปลวำ่ เล็ก แคระเช่น มำ้ กะจอ้ นคือมำ้ แคระ กะตะ๊ กะเติ้ง แปลวำ่ เป็นนิดหน่อย กะร่ะกะรำย แปลวำ่ มีไม่มำกนกั มกั ใชก้ บั พชื ผกั ผลไม้ เช่น \"หวำ่ ตน้ น่ีซุกพอกะร่ะกะรำย\" แปลวำ่ หวำ้ ตน้ น้ีสุกเพยี งนิดหน่อย ก่วง แปลวำ่ สดใส กระจำ่ ง เช่น หน่ำใสก่วง คือใบหนำ้ สดใส เตอ๊ ะเติ๋น แปลวำ่ มำกมำย โมง แปลวำ่ ใหญ่ มกั ใชก้ บั ผลไมล้ ูกใหญแ่ ละกำลงั จะสุก เช่น ฝรั่งหน่วยโมง โตน้ แปลวำ่ ใหญ่ มกั ใชก้ บั อวยั วะเพศหญิง 17
ระโหงก แปลวำ่ มำกมำย เกล่ือนกลำด เช่น นอนระโหงก ระเหม็อแน แปลวำ่ มำกมำย เช่น นงั่ หวั ระหมอ็ น โกรกกรำก แปลวำ่ เร็ว ๆ รีบ ๆ ระยกึ ระยนื แปลวำ่ ขวกั ไขว่ รุระ แปลวำ่ สิ่งก่อสร้ำงท่ีดูเก่ำโทรม จวนพงั รุ่ร่ะ แปลวำ่ ฝนเมด็ ใหญต่ กห่ำง ๆ และรวดเร็วแลว้ หำยไป คาวเิ ศษณ์ภาษาโคราช จะมีใชเ้ ป็นจำนวนมำก ท้งั ขยำยนำมและขยำยกริยำ แตส่ ่วนใหญ่มกั ขยำยกริยำ เช่น แผลเจอ้ ะเวอ่ ะ แปลวำ่ เป็นบำดแผลที่ใหญ่มำก ปำกกะโผง่ แปลวำ่ เป็นคนท่ีรักษำควำมลบั ไมไ่ ด้ หน่ำระซ่อง แปลวำ่ มำกมำย หนำ้ สลอน ฝนละลึม แปลวำ่ ฝนตกปรอย ๆ ใจระเวอ่ แปลวำ่ จิตใจฟุ้งซ่ำน คนั ระยกี่ แปลวำ่ คนั ไปทว่ั จืดจ่องหล่อง แปลวำ่ จืดอยำ่ งไมม่ ีรสชำติ, ตกใจจนหนำ้ ซีดเผือด ใหญ่ระโอด้ แปลวำ่ โตเทำ่ ๆ กนั ดูสลำ้ ง ใหญโ่ อน้ โตน้ แปลวำ่ ใหญม่ ำก งำมออดหลอด แปลวำ่ งำมสะอำด เกล้ียงเกลำ พูดกะด๊กกะโด่ แปลวำ่ พดู ไมช่ ดั พูดสูง ๆ ต่ำ ๆ พดู ตอ่ นดั ต่อแนง แปลวำ่ พดู เกี่ยงงอน พูดเลอะเทอะเลิ่นเทิ่น แปลวำ่ พูดไม่ไดเ้ รื่อง 18
พดู เจอเลอจ้กั ลกั่ แปลวำ่ พูดแบบไม่รู้ตน้ สำยปลำยเหตุ พดู อีล่อมป้อมแป้ม แปลวำ่ พดู กลบเกล่ือนควำมจริง พูดอีล่อมกอั มแกม้ แปลวำ่ พูดแบบหำทำงเอำตวั รอด พดู ผวำ แปลวำ่ พูดเสียงแปร่งมีสำเนียงภำษำถ่ินปนอยดู่ ว้ ย ควำมเคยชิน พูดปะลมปะเล แปลวำ่ พดู ทึกทกั , โมเม พูดแอบอำ้ งวำ่ เป็นของตน พูดผลอ แปลวำ่ พูดสอด พดู ขอ่ หล่อแขแ่ หล่ แปลวำ่ พูดเรื่องไร้สำระ พูดลงั แปลวำ่ พดู แซม เดินระเวกิ แปลวำ่ เดินกนั ขวกั ไขว่ เดินหร่ำย ๆ แปลวำ่ เดินกรีดกรำยไปมำ เดินโหง่ม ๆ แปลวำ่ เดินเห็นตวั อยำ่ งชดั เจน เดินแหนแฮะแหนแห่ แปลวำ่ เดินไปเร่ือย ๆ อยำ่ งไมม่ ีจุดหมำยปลำยทำง คุยบบ้ แปลวำ่ พดู มำก เสียงดงั นงั่ โต่งโหมง่ แปลวำ่ นง่ั เห็นอยำ่ งชดั เจน นง่ั โซ่โม่ แปลวำ่ นง่ั เหมือนคนสิ้นคิด นงั่ ต้ึกม่ึก แปลวำ่ นง่ั อยำ่ งคนด้ือดำ้ น นง่ั จะ้ วะ่ แปลวำ่ นงั่ อยำ่ งไมเ่ รียบร้อย นอนอ้ืดลืด แปลวำ่ นอนเหมือนหมู นอนระเหงก นอนระโหงก แปลวำ่ นอนเรียงกนั ตำมสบำย นอนระชุดระชิด แปลวำ่ นอนไม่เตม็ ต่ืน 19
ยนื สะเหงิม แปลวำ่ ยนื อยำ่ งใจลอย ยนื สะหวงึ แปลวำ่ ยนื อยำ่ งครุ่นคิด มำกโพด แปลวำ่ มำกจริง ๆ น่อยเจน แปลวำ่ นอ้ ยจริง ๆ วงิ่ ตะระตะรุน แปลวำ่ วงิ่ กลบั ไปกลบั มำอยำ่ งรีบร้อน วง่ิ ต้กั ๆ แปลวำ่ ต้งั ท่ำวง่ิ อยำ่ งสุดกำลงั ควงร่ะ ๆ แปลวำ่ ท่ำทำงของไก่ตวั ผทู้ ี่กำลงั ติดกบั ไก่ตวั เมีย บำงคร้ังใชเ้ ปรียบเทียบกบั คน ร้องกะเบะ้ กะบะ้ แปลวำ่ ร้องไป คร่ำครวญไป ร้องกะเซ่ะกะซ่ะ แปลวำ่ ร้องไหม้ ีน้ำตำหยดออกมำ ร้องกะซูดกะซำด แปลวำ่ ร้องแลว้ มีเสียซูดซำด มีน้ำหมูกออกมำดว้ ย ร้องระหืนระเหือย แปลวำ่ ร้องไม่หยุดจนอ่อนแรง, พิธ้ีพิไร ท่ำทำงระเงำะระเหงิบ แปลวำ่ ท่ำทำงเหมือนคนเมำ ทำ่ ทำงพะยอพะแย แปลวำ่ ท่ำทำงอมโรค, เจบ็ ออด ๆ แอด ๆ ทำ่ ทำงขะยกึ ขะยอื แปลวำ่ ท่ำฮึดฮดั เอำจริงเอำจงั ท่ำทำงอีหล่อยป่ อยแอ แปลวำ่ ท่ำงไมเ่ อำงำนเอำกำร ทำ่ ทำงละหมุนละเหมีย แปลวำ่ ทำ่ ทำงออ่ นเพลียตลอดเวลำ ท่ำทำงหลีลู่หลีเหลอ แปลวำ่ ท่ำทำงแสดงควำมวำ้ เหว่ ท่ำทำงระออ้ งระแอง้ แปลวำ่ ท่ำทำงของคนเอวบำงร่ำงนอ้ ย ท่ำทำงกอ็ กลอ้ กแก็กแลก้ แปลวำ่ ทำ่ ทำงไมอ่ ยนู่ ่ิง หลุกหลิก ทำ่ ทำงปะอบั ปะเอ๋อ แปลวำ่ ทำ่ ทำงเหมือนคนจะอำเจียน แต่ไม่อำเจียน 20
ท่ำทำงกะต๊ิกกะเต๋ียว แปลวำ่ ทำ่ ทำงผหู้ ญิงที่จะเป็นแมบ่ ำ้ นท่ีดี ทำ่ ทำงหง็อนเงำะหง็อนหง่อ แปลวำ่ ทำ่ ทำงเหมือนคนแก่ผอม ๆ ทำ่ นทำงตก๊ กะเหมินเถินเถ่อ แปลวำ่ ท่ำทำงตกตะลึงพรึงเพริด ท่ำทำงกะลิกกะเหลิม แปลวำ่ ท่ำทำงลบั ๆ ล่อ ๆ ท่ำทำงระหึนระเหือย แปลวำ่ ทำ่ ทำงพิธ้ีพิไร ทำ่ ทำงบกั โกรกบกั อำน แปลวำ่ ท่ำทำงอ่อนระโหยและชอกช้ำ ท่ำทำงจุก้ จ้ีจุก้ จ้กั แปลวำ่ ท่ำทำงไม่อยนู่ ิ่ง ทำ่ ทำงระเฮอะระเฮอะ แปลวำ่ ทำ่ ทำงสนุกสนำน, เฮไหนเฮนน่ั หน่ำจะหลึน, หน่ำหล่ึม แปลวำ่ หนำ้ ทะเลน้ หน่ำเบิดเถ่อเหล่อ แปลวำ่ ทำหนำ้ เชิด หน่ำสะหวอก แปลวำ่ หนำ้ ขำวซีดแบบคนอดนอนหรือป่ วยหนกั ส่ันข่อหล่อ แปลวำ่ ส้นั มำก ยำวระยดื แปลวำ่ ยำวมำก ตก๊ เป้ะ แปลวำ่ ตกลงมำเสียงดงั พอสมควร ยอ่ ยระเซ่ะ แปลวำ่ น้ำหยดตำมทำงมำเรื่อย ๆ, น้ำตำไหลพรำก ๆ ร่องระเบะ๊ ระบะ๊ แปลวำ่ ร้องไหไ้ ปคร่ำครวญไป โซโจก้ โกร้ก แปลวำ่ ผอมผดิ รูปผดิ ร่ำง โซแซะแยะ แปลวำ่ ผอมมำกเหมือนหนงั หุม้ กระดูก แขง็ จก๊ ดก๊ แปลวำ่ แขง็ รำวกบั กอ้ นหิน เลนเอด้ เลด แปลวำ่ อ่อนนิ่มอยำ่ งไม่มีรูปร่ำง 21
ขำวกุ๊ แปลวำ่ ขำวโพลน แดงแจด้ แปลวำ่ แดงสด เพด็ จว้ ด แปลวำ่ เผด็ มำกชิมเพยี งคำเดียวกร็ ู้วำ่ เผด็ มำก ร่อนจุก้ แปลวำ่ ร้อนมำก ตำซ่นโป้โล่ แปลวำ่ ตำเหลือกถลน ตำโลป้กล่ก แปลวำ่ ตำโปน งอโล่งโง่ง งอล่องง่อง แปลวำ่ ของที่ยำวแลว้ โคง้ งอถำ้ เป็นของใหญ่ใช้ โล่งโง่ง ถำ้ เป็นของเล็กใชล้ ่อง ง่อง ส่วนล่ำงง่ำง มกั ใชก้ บั ผหู้ ญิง เช่น เพลงโครำชบทหน่ึงวำ่ \"ทำหุนหนั ๆ วงิ่ ข้ึนบนหอ ฉวยไดไ้ มส่ มอ หมำยจิโมน สมองเห็นเมียเปิ ดอก๊ ล่ำงง่ำง เลยรีบ วำงตะบ๋อง\" คาศัพท์ภาษาโคราชมี 2 ลกั ษณะคือ คำศพั ทท์ ่ีใชร้ ่วมกบั ภำษำไทยกลำง กบั คำศพั ทเ์ ฉพำะของภำษำโครำช คำศพั ทท์ ่ีใชร้ ่วมกบั ภำษำไทยกลำง มกั เพ้ยี นเสียงวรรณยกุ ตแ์ บบภำษำโครำช เช่น คำอกั ษรต่ำเสียงตรี จะเพ้ยี นเป็นเสียงโท เช่น มำ้ เป็น ม่ำ ชำ้ เป็น ช่ำ เชำ้ เป็น เช่ำ เทำ้ เป็น เท่ำ น้ำ เป็น น่ำ นก เป็น น่ก ซด เป็น ซ่ด คำอกั ษรสูง อกั ษรกลำง คำตำยเสียงส้ันเอกจะเพ้ียนเป็นเสียงตรี เช่น สด เป็น ซด 22
ขด เป็น คด จด เป็น จด๊ ปด เป็น ป๊ ด หด เป็น ฮด หมด เป็น มด ติด เป็ น ติ๊ด ปัก เป็น ป๊ัก แตะ เป็น แตะ๊ ฯลฯ นอกจำกน้ีคำอกั ษรกลำงคำเป็นเสียงยำว เสียงสำมญั ภำษำโครำชยงั เพ้ยี นเป็ นจตั วำ เช่น บำน เป็น บ๋ำน ดำ เป็น ด๋ำ ดำว เป็น ด๋ำว ปลำ เป็น ปล๋ำ กิน เป็น ก๋ิน ฯลฯ ในส่วนของคำศพั ทเ์ ฉพำะของภำษำโครำชน้นั มีมำกมำย ตอ่ ไปน้ีเป็นตวั อยำ่ งคำศพั ทด์ งั กล่ำวเพียงบำงส่วน คา ความหมาย ตวั อย่างการใช้ กะจอ้ น แคระ, เล็ก ผใู้ หญล่ ีขี่มำ้ กะจอ้ น กะเจิ้บ เหยยี บ, ยำ่ ฝนตกน้ำขงั อยำ่ กะเจิบ้ น้ำคนั จะกินตีน 23
กระด๊ึบ ผลไมอ้ ่อน ฟังทองกำลงั เป็นกระด๊ึบ กะด้ืบ คืบ, คลำน เดก็ นอ้ ยกะด้ืบเป็ นแลว้ กะตอ้ นม่อนแมน่ ขำดเป็นชิ้นเล็กชิ้นนอ้ ย ตดั กระดำษจนกะตอ้ นม่อนแม่น กะแป้ะ รำบ, เรียบ, แตะ อยำ่ นง่ั กะแป้ะผำ้ นุ่งจะเป้ื อน กะลอ เกรำะ ผใู้ หญ่บำ้ นตีกะลอ กะตุด๊ ตะกรุด กะตุด๊ กนั ผี กะโดน ชน เดก็ วง่ิ ไปกะโดนตอไม้ กะแดง้ แคระแกร็น ปลูกผกั ไม่มีน้ำรดมนั เลยกะแดง้ กะเติด กระตำ๊ ก พอไขอ่ อกแม่ไก่ก็กะเติด กะต๊ิกตะเตี๋ยว กระฉบั กระเฉง ลูกฉนั มนั ไม่กะติ๊บกระเต๋ียวเอำซะเลย กะทกั่ กะเทิน ไม่พอดี มกั ใชก้ บั กำรกระทำเช่น ขดุ บอ่ ไม่แลว้ พอกะทก่ั กะเทิน กะโสบ อำกำรท่ีหมูกินขำ้ ว หมูกินขำ้ วดี๊ดีกะโสบเอำ ๆ โกรกกรำก รีบด่วน แต่งตวั โกรกกรำกจะไดไ้ ปฟังเพลง กดุ๊ ตดั , ดว้ น คนขำกุ๊ด, เอำโจรไปกุด๊ หวั แกร๊ะ ที่เก็บขำ้ วเปลือก เอำเข่ำไปใส่แกร๊ะ ก่งุ ขี่หลงั กุ่งนอ้ งไปนำ กืก ใบ้ คนกืก, เล่นต่ีกืก กำดน้ ทำ้ ยทอย ผชู้ ำยตดั ผมส้ันดูกำดน้ ขำวก่วง กำพวม กำลงั ซกั ผำ้ กำพวมจะเสร็จ,เส้ือตวั น้ีฉนั ใส่กำพวมดี กำป้ื ด พ้ืนเพ, ภูมิหลงั เขำรู้กำป้ื ดหมดแลว้ 24
กะโถก รวบเขำ้ หำกนั ใส่ของในน้นั ทำกะโถกใหญถ่ วั ะ เรียกชำยพก ก่วง กระจ่ำง, งดงำมมีสง่ำ หนำ้ ออกใสก่วง กะจำ กลำงแก่กลำงอ่อน กระถินฝักกะจำจิม้ น้ำพริกไมอ่ ร่อย กะแตะ้ บดใหล้ ะเอียด เด็กนอ้ ยตอ้ งกะแตะ้ ขำ้ วใหก้ ิน แกง้ กน้ เช็ดกน้ ไมแ้ กง้ กน้ กะตอ้ ด เอำกน้ ถดั ไปทีละนิด เด็กนอ้ ยเดินไม่ไดก้ ็กะตอ้ ดเอำ กอง กำไลเทำ้ เดก็ ๆ ใส่กองน่ำรักดี กำรอ ถนอม ยง่ิ มีลูกคนเดียวยง่ิ กำรอ โกรด ววั หนุ่ม, ควำยหนุ่ม ไอโ้ กรดวงิ่ ออกคอกแลว้ ขะโมม่ กินคำใหญ่,กินอยำ่ งตะกละ มนั ขะโม่มเอำขะโมม่ เอำใครจะไปกินทนั ขะยำบ กดั ,ฟัด,ดึง ท้ึงเป็นกำรกระทำของสุนขั ระวงั หมำมนั ขะยำบเอำ ขี่สีก น้ำครำ เหมน็ น้ำข่ีสีก ขี่สูด ข้ีของแมงชนิดหน่ึงคลำ้ ยข้ีผ้งึ ขดุ ได้ เตำ้ แคนตอ้ งปิ ดดว้ ยข่ีสุด ตำมจอมปลวก ข่ีแต้ ดินที่แตกระแหงในนำหนำ้ แลง้ , กอ้ นข่ีแตต้ ำตีนเจบ็ แท้ ๆ กอ้ นข้ีไถหนำ้ แลง้ ขะเหนิก,ผะเหนิก ทำนบก้นั น้ำชวั่ ครำว ช่วยกนั ปิ ดขะเหนิกเถอะพวกเรำ ขอฉำย ขอเก่ียวฟำงเวลำนวดขำ้ วทำดว้ ย เอำขอฉำยมำ ไมไ้ ผ่ เขียม กระเหมด็ กระแหม่ รำยไดน้ อ้ ยตอ้ งใชจ้ ่ำยเขียม ๆ หน่อย ขำง องั , ปิ้ ง เอำปลำยำ่ งขำงไฟมนั จะกรอบดีข้ึน โข่โหล่ ไมเ่ หลือ, หมดรูป เกล้ียงโข่โหล่ หมดโข่โหล่ ขอ่ หล่อแข่แหล่ ไมเ่ ป็นแก่นสำร จะมำพูดข่อหล่อแขแ่ หล่เวลำกำรงำนจะดีหรือ 25
เขมง็ ขยนั , ฟั่นเชือกตีเกลียวใหเ้ หนียวแน่น คนเขมง็ จิรวย, บิดจนเชือกเขมง็ เกลียว ขมวน แมลงที่เกิดกบั ปลำยำ่ ง ปลำนี่มนั เก่ำเลยเกิดข่ีขมวน เขำ่ แพะ ขำ้ วตม้ ชนิดหน่ึงใส่ผกั ฟักทอง ใบโหระพำ ใบแมงลกั ขำ้ วโพด ยำมอดอยำกตอ้ งกินเขำ่ แพะ เข่ำเปี ยก ขำ้ วตม้ เป็นไข่ตอ้ งกินเข่ำเปี ยก ขี่ตะขำง ไขแ่ มลงวนั ปำกไหปร้ำมีแต่ขี่ตะขำง ขยอน, ขะหยอน แสดงควำมแปลกใจ, อศั จรรย์ มนั ขะยอนทำจนได้ เขิน สูงเต่อ, ส้ัน นุ่งกระโปรงเขิน, นุ่งซิ่นเขิน ขะยกึ เร่งจงั หวะ กลวั เดินไมท่ นั เลยขะยกึ ใหญ่ ขอน ขำ้ ง ครุหำบหน่ึงมีสองขอน ตุม้ หูสองขอน คือ เหมือน, เขำ้ ทำ่ คนคือกนั , เขำแตง่ ตวั คือ คกั เตม็ ท่ี เห็นไออ้ ยำ่ งคกั ควดผี ปัดรังควำน เด็กร้องไหน้ กั ลองควดผดี ูที เคียน มดั , พนั , คำด ผำ้ เคียนพงุ ผำ้ ขะมำ้ เคียนเอว เงก้ ๆ หมำร้องเอ๋ง ๆ ไอด้ ่ำงถูกน้ำร้อนร้องเงก้ ๆ งึด ประหลำด, อศั จรรย์ จิใหเ้ ขำงึดนี เขำไม่งึดดอ๊ ก โหง่ย โงนเงน, ลม้ เสำไฟฟ้ำโหง่ย, นงั่ อยดู่ ี ๆ ก็โหง่ย งวม ควำ่ , ครอบ ลำ้ งชำมแลว้ งวมไว้ แงน งอน คนตูดแงน แงด็ งดั ขอนไมใ้ หญย่ กไม่ข้ึนก็หำไมม้ ำแงด็ เอำ เงำะ สรรพนำมแทนคนท่ีน่ำสงสำร เวทนำเงำะซะจิตำยกไ็ ม่คือเขำ 26
จะหลึน ทะเลน้ ผใู้ หญ่วำ่ กล่ำวยงั มำทำหนำ้ จะหลึน จะบูน มดลูก แม่ลูกออ่ นกินของผดิ จะบูน จำหืน จำใจทำ, แสร้งทำ, ดดั จริต ไม่อยำกทำกอ็ ยำ่ มำจำหืน จำโอ อำเจียน, อว้ ก เหมน็ หมำเน่ำเลยจำโอ จกั๊ เด่, จกั๊ แหล่ว ไมร่ ู้, ไมท่ รำบ จก๊ั เด่ฉนั ไม่เห็นดอก จกั๊ กะเดียม บำ้ จ้ี, เส้นต้ืน จก๊ั กะหลี มนั จก๊ั กะเดียม จ้ืน ไมอ่ อกรส ตำส้มตำไวน้ ำนมนั จ้ืน แจบ แนบรำบ, สนิท, หมดตวั ขำดทุนเลยแจบ พำยพุ ดั นำเอำหลงั คำแจบ, เล้ียงเป็ด เจอ้ ะเวอ่ ะ บำดแผลฉกรรจ์ แผลถูกฟันดูออกเจอ้ ะเวอ้ ะ เจอเลอ พบกนั โดยไมร่ ู้ตวั วง่ิ มำเจอเลอกนั , วง่ิ มำค่ะม่ะกนั กใ็ ช่ จอบ เสียม ไปเอำจก๊ เอำจอบมำขดุ เขำ้ จก๊ จอบ ไปเอำจก๊ เอำจอบมำขดุ เขำ้ จก๊ ลว้ ง (กริยำ) อยำ่ มำจก๊ กะเป๋ ำไมม่ ีอะไรดอก จอย, จ่อย ผอมซีดเซียว พ่ึงหำยไขใ้ หม่จึงยงั จอ่ ยอยู่ จ่อมเจำ้ ะ จำเพำะ, คบั แคบ ที่มนั จ่อมเจำ้ ะยกเรือนใหญ่ ๆ ไม่ไดด้ อก จุง๊ จ่ำ, จุง๊ ก่ำ สำธุ, สวสั ดี นน่ั หลงป่ ูมำแลว้ จุง๊ ก่ำซะลูก จ่น งำนมำก, ประดงั มวั แต่จ่นอยเู่ ลยไมไ่ ดม้ ำหำซกั ที เจ่น เหลือเกินละ เมืองโครำชนะอยำ่ ไปอยูเ่ ลย ยำมร้อนก็ ร้อนเจ่น ยำมหนำวก็หนำวเจน่ จก๊ั กะเหลน จิง้ เหลน จกั๊ กะเหลนกะจกั๊ กะหรีดมนั ไมค่ ืนกนั ดอกเด จก๊ั กะหรีด จิง้ หรีด จกั๊ กะเหลนกะจกั๊ กะหรีดมนั ไม่คือกนั ดอกเด 27
จอ้ ย หำยไปเลย หำยจอ้ ย, เงียบจอ้ ย จ่ง กนั เอำไว,้ แบ่งเอำไว้ ของแพงตอ้ งกินจ่งกินหยอม จีม ติด ๆ กนั นง่ั จีมกนั จกั๊ วำย แท้ ๆ เกินไป มำสำยไอจก๊ั วำย, (บำงทีใชไ้ อซะปำย) จอด อุด, เชื่อม เอำตะกว่ั จอดสังกะสี โจก้ โกร้ก ผอม, โทรม ๆ ดูดุโซโจก้ โกร้ก จกั๊ กะลนั ตำขำ้ วดว้ ยครกกะเดื่องอยำ่ งเร็ว เสียงเขำจก๊ั กะลนั เข่ำออกโครม ๆ ฉำก เฉียดกรำย เดินฉำกคนใหญก่ ม้ หวั ลงเดิ้ง ชู่ คูร่ ัก ไอน้ ำยมนั เป็ นชู่กะ๊ อีนำง ชะมุดน่ำม ดำน้ำ ชะมุดน่ำมซะจนตำแดงโร่ ชวดโมะ่ ไม่ได,้ พลำดโอกำส มนั เลือกหลำยเลยชวดโม่ะ ชกั ชำ ชกั คะเยอ่ ยำมสงกรำนตก์ ็เล่นชกั ชำกนั โซ ผอม มนั เป็นไข่นำนเลยโซเซำะเยำะ ซ่ะ ๆ ลว้ น ๆ ขนำดโตเท่ำ ๆ กนั ดกั ไซวนั น้ีไดก้ งุ้ ตวั ซ่ะ ๆ เซือบ งีบหลบั ตอนกลำงวนั ไดเ้ ซือบไปนิดหน่ึง เซิบ ซึม หมอ้ ดินใหม่ใส่น้ำเลยเซิบออกมำขำ้ งนอก ซบั ปะปิ๊ ,สัมมะปิ๊ สำรพดั ในตลำดมีของขำยสัมมะปิ๊ แซว เอด็ อึง เงียบ ๆ อยำ่ แซวหลำย ซำมือ คำยมือ หมอ้ ทองลื่นมือ แตห่ มอ้ ดินซำมือ ซบวดิ ขำดมือ อยำกใหย้ มื อยดู่ อกเงินน่ะ พอดีซบวดิ นนั่ เด่ 28
ซุม กลุ่มคน, เทือกแถวเดียวกนั ที่พมิ ำยซุมตะวนั ตกวดั เดิมนน่ั เด่เขำทำหมี่ ซ่น ถลน, ทะลกั แขนหกั กระดูกซ่นออกมำ, ออกแรงดนั จนตำ ซ่นโป้โล่ ซบที ถำ้ หำกวำ่ ลองขอดูเถอะซบทีจะได้ ซุ่ เห็ด, แตงโมที่ใกลจ้ ะเสีย แตงนี่ซุ่หมดเลย ซุด จบ, เสร็จ ข้ียงั ไม่ซุดกต็ อ้ งไป ดึน ตบั เหล็ก สำหรับไก่ ดึนไก่มนั จะทำหนำ้ ที่บดอำหำร เด่ิน ลำนดินที่รำบเตียนโล่ง พำนอ้ งไปเล่นเดิ่นบำ้ นไป ดอกเด่ ต่ำงหำก อนั น้ีของฉนั ดอกเด่ ดำด ลวก, ไปถูกส่ิงร้อน ๆ หมอ้ ขำ้ วร้อนอยำ่ ไปใกลม้ นั จะดำดเอำ ดูทว่ั ะ ดูซิเอำ้ ! อุทำนเม่ือไมพ่ อใจ ดูทวั่ ะ! ทำไมมำเทน้ำตรงน้ี ดูดยำ สูบบุหร่ี ดูดยำใบตองแหง้ มนั หอมดี โดย ไก่ผสมพนั ธุ์กนั ไก่มนั โดยกนั ดำ้ น ซน, ตลกคะนอง เด็กคนน้ีดำ้ นจริง ๆ ไมอ่ ยสู่ ุขเลย ดำ, เดิ้ง, เบิ้ง ดว้ ย ฉนั ไปดำวะ่ , ฉนั ไปเบิ้งวะ่ (ฉนั ไปดว้ ยนะ ดอง พอ่ แมค่ ู่บ่ำวสำว พอ่ ดองแม่ดอง ดำงแห ร่ำงแห (ใชเ้ ป็นลกั ษณนำม) แหดำงน้ีดี, ไปซ้ือแหมำสองดำง ดุ๊ด อำกำรของหมู่ท่ีใชจ้ มูกดนั สิ่งของ ไอห้ มูตวั น้ีมนั ดุด๊ ดีโพด หรือขดุ ดิน เดินโหง่ม ๆ เดินดุ่ม ๆ พอเดือนหงำย ๆ เดินไปโหง่ม ๆ ดินหุน ปลวก หนงั สือหลำยแต่ดินหุนกินหมด ดงเข่ำ เม่ือรินน้ำขำ้ วออกแลว้ เอำหมอ้ - ดงเขำ่ ดีจิไดส้ ุกทว่ั ขำ้ วมำองั ไฟใหข้ ำ้ วสุกระอุ 29
ตะมอย ฝีหวั เดือน, หม่ินเหม่ อยำ่ นง่ั ตะมอยหลำย ตะกดุ๊ คลองขำด คลองหลง จระเขช้ อบอยตู่ ำมตะกุด๊ ตะโมน มูลดินที่สูง ตำบลโพธ์ิกลำงแตก่ ่อนเรียกหวั ตะโมน ตะก๊ึด เดินจิกปลำยนิ้วเทำ้ ทำงมนั ลื่นตอ้ งเดินตะก๊ึด บำงทีใชก้ บั ฟัง เช่น ตะก๊ึดฟัง แปลวำ่ ต้งั ใจฟัง ตะมิด สุดยอด ยอดตะมิดของตน้ ไม้ ตะลบป๊ บโป่ ทำงำนอยำ่ งไมไ่ ดห้ ยดุ หยอ่น วงิ่ ตะลบป๊ บโป่ ปำนนี่ยงั ไม่รวย ตำปุ้ก ตุก๊ ตำฟำงทำไว้ เฝ้ำยงุ้ ขำ้ ว ตำปุ้กฟำง ตำแป โรคตำกงุ้ ยงิ เป็นตำแปเพรำะไปดูหมำติดโป้ง (ติดโป้ง คือสุนขั ผสมพนั ธุ์กนั ) ตำลอ ตำถว่ั ไอค้ นตำลอพูดไมเ่ อำเหมือดคน (เหมือด คือ เอำแตใ่ จ) ตอ่ น ชิ้นเน้ือ ชิ้นผกั น่ีแกงอะไร เห็นแต่น้ำไม่มีต่อน ตด๊ หมำ เถำวลั ยช์ ่ือตูดหมูตูดหมำ หรือ ขนมตด๊ หมำอร่อยแท้ ๆ เถำกระพงั โหม ตื่ม เติม, แถม น้ำแกงนอ้ ยไปใส่น้ำตื่มลงไปอีก ตุม้ เครื่องมือดกั ปลำ เพลงบอกวำ่ \"แทแรกะแทแ่ ร่ สำวนอ้ ยบอกแม่วำ่ จะไปดกั ตุม้ พอกลบั มำแม่ แถแรเข่ำพมุ้ \" โตง่ น้ำ รองน้ำฝนจำกชำยคำ ฝนตกแลว้ ตอ้ งโตง่ น้ำไว้ ต่ึง บวม อืด พอง กวำ่ จะมีคนพบศพ ก็ต่ึงแลว้ เต่ียว ใบมะพร้ำวใชค้ ำดทบั ห่อขนม ใบตองส้นั ห่อขนมไมไ่ ดต้ อ้ งใชเ้ ต่ียว สอดไส้หรือขนมตำล ตำ่ ว ซอ้ มซ้ำอีก ขำ้ วมนั ยงั ไม่ขำวเอำไปตำ่ วอีก บำงทีตำ่ วใชเ้ ป็นคำปฏิเสธ ในควำมหมำย \"เปล่ำ\" เตอ๊ ะเติน มำกมำย ดูของกินเตอ๊ ะเติน ตอด ต่อย ผ้งึ ตอด แมงป่ องตอด ตะลุก หลุมเล็ก ตก๊ ตะลุม 30
ตำโล ตำโปน คนตำโล ตำโลออกป้ักล่ก ตะเหลว ตะกร้ำ หลวั ที่สำนใส่หมู เขำหำบหมูตะเหลวมำขำย เป็ด หรือไก่ เตง็ ทบั เทิน กล่องน่ีอยำ่ เอำของหนกั มำเตง็ ต้ึกม่ึก ท่ือ ช้ีตำไม่กระพริบ ใชข้ ยำย \"มืน\" เป็ นคนมืนต้ึกม่ึก นงั่ ต้ึงม่ึก ตะป๊ัด ปัดออกไป คอยเอำมือตะปั๊ดแมงวนั ถะแหล ที่ลำดชนั ที่มนั ถะแหล ๆ ถวั่ ดิน ถวั่ ลิสง ตม้ ถว่ั ดินกินมนั ดี ถำนวำ่ ประหน่ึงวำ่ สมมุติ ถำนวำ่ เองมีเงิน เถ่ำ คนเฒ่ำ คนแก่ มีแตค่ นเถ่ำเฝ้ำบำ้ น ทะม่ก, ชะม่ก ผกี ระสือ ผที ะม่กเขำ้ ร้องเหวงิ่ ๆ ทิศปะตีน ทิศเหนือ บำ้ นพอ่ เองอยทู่ ำงทิศปะตีน ทิศหวั นอน ทิศใต้ เรือนป่ ูเองอยทู่ ำงทิศหวั นอน ทำแนว ทำพนั ธุ์ ขอเมด็ บวบสกั หน่อยเถิด จิเอำไปทำแนว ทำเพศ ดดั จริต ยงั เล็กอยกู่ ็ทำเพศเป็นแลว้ ทะวำยท่อง คลื่นไส้ อยำ่ พูดหลำยทะวำยทอ้ งวะ่ ทอ่ งโร ท่องโป่ ง ทอ้ งป่ อง ทอ้ งโต เด็กอดนมมนั ทอ่ งโร นกบำ้ น ไปถ่ำยอุจจำระ ไปนกบำ้ นดอกวำ โนน ที่สูงขนำดใหญ่กวำ่ ตะโมน ใชท้ ำไร่ได้ หน่วยแหน่ นอ้ ยหน่ำ ในสวนมีท้งั หน่วยแหน่หน่วยโหน่ง นี หรือ ไม่ไปนี 31
นวั ข่นุ อร่อย น้ำยำขนมจีนน้ีนวั ดี บห่อน ไมเ่ คย อยกู่ นั ใกล้ ๆ แค่น้ีบห่อนจะคุยกนั บแพ่ เช่นกนั , เช่นน้นั ดีชว่ั ก็สอนมนั บแพแ่ ตม่ นั ไมเ่ อำคำ บำงทีใชใ้ นควำมหำยวำ่ \"เมินเสียเถอะ\" เช่น คนหน่ึงพูดวำ่ วนั น้ีฝนคือจะตก อีกคนก็พดู วำ่ บแพแ่ หละ บก๊ พร่องไป กินขำ้ วไม่บก๊ ชำม บำ้ นเอง บำ้ นเรำ โครำชบำ้ นเอง ปร้ำ ปลำ้ ร้ำ กินขำ้ วกะปร้ำสะเออ๊ ะ เป็นไข่ ป่ วย เป็นไข้ อีนำงมนั เป็นไข่ โป้ะ ทบั ถม รวม เอำดินมำโป้ะไวต้ รงน้ี ปะขำง ผำลไถนำ คือเหล็กท่ีใส่หวั หมู ลูกเขยไปซ้ือปะขำง ไถนำ แป้ว กิ่ว คอด แตงลูกน้ีมนั แป้ว ป้ะวะ ปลีกเวลำทำงำน เล้ียงลูกอ่อนตอ้ งป้ะวะไปหำบน้ำ ปอมก่ำ ก่ิงก่ำ ทำคอยกึ ยกั่ คือปอมก่ำ พกั กะตู ประตู ปิ ดพกั กะตูร้ัวงวั จะเขำ้ สวน ฝ่ นุ ป๋ ุยคอก ปลูกพริกตอ้ งใส่ฝ่ นุ ฝอย คำอธิบำยสรรพคุณ วธิ ีใชย้ ำ อำ่ นดูฝอยซิยำเขียวน้ีกินกบั อะไร ฝนมีด ลบั มีด มีดมืน ๆ ตอ้ งเอำไปฝน พรุ่กน่ี พรุ่งน้ี พรุ่กนี่จะไปเมือง โพด เหลือหลำย มำกโพด ไกลโพด ปะเลำะ เอำอกเอำใจ ปลอบ นอ้ งร้องไห้ปะเลำะใหห้ ยดุ ซิ ป๊ ะ พบ สองเกลอมำป๊ ะกนั กลำงทำง 32
เปี ยกสะะบุก๊ สะบูด เปี ยกโชก เดินตำกฝนเลยเปี ยกสะบุก๊ สะบูดมำ โพง พอง เดินกลำงแดดร้อน ๆ เลยตีนโพง พดู ผวำ พดู ไมช่ ดั เขมรพดู ไทยไม่ชดั เรียกวำ่ พดู ผวำ พอ่ เถ่ำ แมเ่ ถ่ำ ตำ ยำย ไปบำ้ นพอ่ เถ่ำ พดู เดิม พูดนินทำ ลบั หลงั ก็พูดเดิมกนั พะยอพะแย ข้ีโรค อมโรค ต้งั แต่เจบ็ หนกั เยพะยอพะแยเรื่อยมำ โม่ คุดทะรำด คือ เป็ นโรคแผลเป่ื อย คนเป็ นโม่เดินไม่ได้ เน่ำรักษำหำยยำก ไมใ่ หญ่ ป่ วยหนกั คงไมร่ อดชีวติ ไอน้ ำยคือจะไม่ใหญ่ดอก พ่อเป็นหลำย คือจิไม่ใหญ่ดอก ไมส่ ะนุก ไมส่ บำยเป็นกำรป่ วยเลก็ ๆ วนั น่ีเจบ็ เน่ือเจบ็ ตวั คือจิไมส่ ะนุก นอ้ ย ๆ แมงฟ่ ำ แมลงปอ ไอน้ ำยจบั แมงฟ่ ำเล่น มอด ลอด เปิ ดประตูร้ัวไม่ไดก้ ็มอดเอำ มีดโม่ะ มีดพร้ำโต้ ไปเอำมีดโม่ะมำ หมวง ขอ้ งสำหรับใส่ปลำ เอำปลำไปขงั ในหมวง เมิด้ หมด น้ำมนั เมิด้ เลยตะเกียงดบั หมำน โชคดี รวย หำปลำวนั น้ีไม่หมำน ม่อ จวน ใกล้ ม่อถึงหรือยงั มุ่น แหลกละเอียด ตำขำ้ วจนมุ่นกะเตอ้ ะ โมน ตี เด๋ียวเถอะจะโมนใหห้ วั แตก เม่ียน เก็บงำไว้ หำเงินไดก้ ็รู้จกั เก็บ รู้จกั เม่ียนบำ้ ง แหมน่ สอย เอำไมแ้ ขนบมำแหน่มฝร่ังที 33
หมูส่ม หมูแหนม ทำหมูส่มขำย มก หมก หนำ้ หนำวผงิ ไฟแลว้ มกมนั กินกนั ยอ่ น เหตุวำ่ , เพรำะวำ่ เพลงโครำชกลอนหน่ึงวำ่ \"นกจะตำยยอ่ น ตวั โคคื่นยอ่ นต่ำง สำวจะงำม ยอ่ นแต่ง แหวนจะซุกยอ่ นกอ้ ย กินเขำ่ จะอร่อย(เอ๋ย) ยอ่ นแกง\" ยงดิน พรวนดิน เอำฝ่ นุ ใส่พริกแลว้ ก็ตอ้ งยงดิน อยำ่ งเดน อยำ่ งเก่ำ, อยำ่ งเดิม พดู แต่ไออ้ ยำ่ งเดนนนั่ แหละ อยำ่ งสวย สวยมำก ลูกสำวฉนั ไออ้ ยำ่ งสวยเลย โหยน่ ชิงชำ้ ไกวชิงชำ้ เดก็ นอ้ ยไปเล่นโหยน่ ชิงชำ้ กนั ยบ่ิ ผำ่ เยบ็ ผำ้ , ตดั เส้ือผำ้ อีนำงมนั ไปเรียนยบ่ิ ผำ่ เหยมิ่ เขยำ่ , สนั่ พุทรำกำลงั สุกเทครัวข้ึนเหยมิ่ ก็ร่วงรุ ๆ แย่ แย้ ยำมอดอยำกกห็ ำกินแยก่ ินบ้ึงไป ยำกซำ ยำกเยน็ ใหท้ ำงำนแค่น้ีคือมนั ยำกซำแท้ ๆ เหยดิ เขยง่ , โหยง่ , อำกำรเดิน ไม่เตม็ ฝ่ ำเทำ้ แดดมนั ร่อนตอ้ งเดินเหยดิ ตีนเอำ หยอม กระเหมด็ กระแหม่, มธั ยสั ถ์ ของมนั นอ้ ยกินจง่ กินหยอมเบิ้ง หร่ึม สม่ำเสมอ, เท่ำกนั เข่ำทง่ น่ีงำมออกเสมอหร่ึม เรำะแระ เล็กนอ้ ย ฝนท่ีนี่แรงนะ ทำงบำ้ นฉนั ตก๊ เรำะแระ ระเอิม สะอิดสะเอียน เดินลุยข่ีสีก มนั ระเอิมตีน หร่ำย ยำ่ งกรำย แตง่ ตวั แลว้ กอ็ อกเดินหร่ำย ระเวกิ่ ขวกั ไขว่ ดูหมำดุว๊ ง่ิ ออกระเวก่ิ ระเงียว ใจหงุดหงิด ไดย้ นิ เสียงเดก็ ร้องมนั ให้ระเงียวหู ระง่ึด เงียบ กินอิ่มแลว้ ก็พำกนั นอนหลบั ออกระง่ึด 34
ระเง่อะระเงย ไมม่ น่ั ใจในตวั เอง คนระเง่อะระเงยยงั งนั จิไดเ้ รื่องนี ระโอด้ สลำ้ งสลอน ดูลูกสำวบำ้ นน่ีซิเป็นสำวงำมออกระโอด้ ระกอ้ มระแกม้ ตำมกนั ไปอยำ่ งไมส่ ง่ำ เดินตำมกนั ระกอ้ มระแกม้ ระฮิดระเหียน ฟังเรื่องท่ีไม่ชดั เจน ฟังเขำมำระฮิดระเหียน ระอ๊ึกระอ๋ึน มำกมำย ดูดูพ๊ ำกนั นอนระอ๊ึกระอ๋ึน ระแบ๋ม เกลื่อนกลำด มะมว่ งหล่นระแบ๋ม ระเฮอะ สนุกตำมกนั พำกนั ไประเฮอะ ๆ โหรน โกร๋น ผมร่วงเลยหวั โหรน โรม รวม จะทำบุญเล้ียงผตี อ้ งบอกพ่นี ่องมำระมำโรมกนั รอก เคร่ืองผกู คอควำยหรือววั เพอ่ื บอกสญั ญำณวำ่ ควำยหรือววั ไป กินหญำ้ ท่ีไหนคู่กบั โปงเหล็ก ซ่ึง หมำยถึงกระด่ิง ร่อยเขม็ สนเขม็ ไม่เห็นร่อยเขม็ ให่ที รังเร่ือ ไมไ้ ผซ่ ีกถกั เป็นเปลใชห้ ่อศพ ไม่มีไมท้ ำโลงทำรังเรื่อเอำเถอะ คนจนไปฝังในสมยั ก่อน หรอง ๆ น้ำข้ึนทีละนอ้ ย น้ำปี กำลงั มำ พอฝนตกน้ำตำมลำคลองข้ึน หรอง ๆ รำก อำเจียน คนเมำเหลำ้ รำกแตกรำกแตน ละล่ำ ทะล่ึง เห็นพูดหำดี มนั ทำละล่ำ ละลืม ฝนตกปรอย ๆ ตำกฝนละลืมเดี๋ยวก็เป็นหวดั ลืนตำ ลืมตำ อยำ่ ลบั ตำดูพดู หลำย ลืนตำดูเดิ้ง เล่ิม ไล่, ตอ้ น เลิ่มเป็ดไปเขำ้ เลำ้ ลิกลอ็ ก ล่อกแล่ก, รุกร้ีรุกรน เขำ้ บำ้ นคนอื่นอยำ่ ไปทำลิกล็อก 35
หล่ืม ตลกคะนองแบบหนำ้ ดำ้ น คนหน่ำหลื่ม ด่ำยงั ไงก็ไมเ่ จบ็ ละหลูด หลุดไปไมร่ ู้ตวั , ไข่ลม, เรียกอำกำรแทง้ ลูก ไข่ละหลูด ลำเลิก กล่ำวเรื่องเดิมวำ่ เคยช่วยเหลือ แลว้ มำเนรคุณ อยำ่ มำลำเลิกเบิกกระเชอเลย ไมอ่ ยำกฟัง เลน เหลว, ยำน ออ่ น คนนมเลน, คนไมม่ ีฟันตอ้ งกินขำ้ วเลน ๆ ไล เหล็กไนของสตั วม์ ีพิษ เช่น ผ้งึ ผ้งึ , แตน, ตอ่ ผ้งึ ตอดไลมนั คำอยเู่ ลยปวดใหญ่ ลวง ทำง, ดำ้ น เรือลำน้ีมีลวงยำว ลวงขวำงเทำ่ ไร ลนั เคร่ืองมือดกั ปลำไหล ทำดว้ ย ไมไ้ ผท่ ่อนยำว เอำลนั ไปดกั ปลำ เหลือใจ อิจฉำ ถึงเขำจะร่ำรวยก็ไม่เหลือใจเขำดอก วะ่ สร่ำงไข,้ สร่ำงทุกข,์ โล่งอก สร่ำงเมำ วะ่ หนำ้ วะ่ ตำ หวองน่ำม พชื น้ำเมื่อฝนตกน้ำข้ึนจะชะลูด (สูด) ยำวข้ึนตำมน้ำ ผกั บุง้ หวองน้ำ, ผกั แวน่ หวองน้ำ สะออน น่ำรัก, น่ำชื่นชม มีลูกสำวงำมเป็นหนำ้ สะออน สะเออ๊ ะ หลน, ตุ๋น สะเออ๊ ะกุง้ , สะเออ๊ ะปร้ำ สะเอีย แพท้ อ้ ง คนกำลงั สะเอียเลยกินไดม้ ำก สะเหงิม ซึมเซำ, เหมอ่ ลอย เลขมนั ยำกคิดไมอ่ อกเลยนง่ั สะเหงิม สำหรีด กรีดกรำย, ทำจริต, หยบิ หยง่ อยำ่ มำทำสำหรีดหลำย สีหยดื , ใสหยดื หวำดเสียว, น่ำเกลียด น่ำขยะแขยง ข้ึนตน้ ไมส้ ูง ๆ มองลงมำแลว้ สีหยดื โสน (อ่ำนโสน) เหี่ยว, เฉำ กลว้ ยตน้ น้ีไฟลนจนใบโสนหมด สำวแวง ๆ สำววยั รุ่น (คูก่ บั หนุ่มตะกอ) อีนำงมนั กำลงั เป็นสำวแวง ๆ สะหวอก ซีดเซียว หนำ้ สะหวอก 36
สมอร่องแร่ง หยำกไย,่ เขม่ำไฟในครัว คนตกเลือดใหก้ ินสมอร่องแร่งก็หำย เสิงสำง ฟ้ำสำง, ใกลร้ ุ่ง พอเสิงสำงชำวนำกเ็ ตรียมออกไปนำ เห่ียว เหยย่ี ว เหยยี่ วมนั โฉบมำกินลูกไก่ หืน ขื่น มะเขือขื่น เรียกมะเขือหืน แห่น แทะ, และเลม็ หมำชอบแห่นกระดูก หวั ซำ เอำเรื่อง อยำ่ หวั ซำมนั เลย โห่ง ขงั ฝนตกน้ำโห่งบิ้งนำ หุย ไอน้ำ เปิ ดฝำหมอ้ เขำ้ ร้อน ๆ หุยมนั พลุ่งใส่หนำ้ เหี่ยน ส้ัน, เกรียน, สึกหรอ หญำ้ มนั รก ถำกใหม้ นั เห่ียนลง อึน ช้ืน, อบั ผำ้ ผนื น่ียงั อึนอยู่ เอก เข, ตำเข คนตำเอกอยำ่ ไปหลบั ตำเอำ (เพลงโครำช) อีนำง เรียก เดก็ หญิงอยำ่ งปรำนี ไอน้ ำย เรียก เดก็ ผชู้ ำยอยำ่ งปรำนี อุต๊ ุ๊ อุน่ สบำย ยำมหนำวไดห้ ่มนวมกห็ ลบั อุต๊ ุไ๊ ปเลย อูด้ ลูด มอมแมม, เลอะเทอะ ดูเน้ือตวั ติดโคลนอูด้ ลูด เออ้ เห่อ อุทำนอยำ่ งประหลำดใจ เออ้ เห่อคนมำแต่เมืองงำมแท้ ๆ นอ้ ออดหลอด สะอำด, บริสุทธ์ิ, หมดจด ลูกสำวใครหนองำมออดหลอด อว๊ั ะ อวบ, อน๋ั (ใชก้ บั คน) น่ำกิน (ใชก้ บั พชื ) ตำลึงไดฝ้ น ยอดช่ำง อวั๊ ะจริง ๆ เอชำ, เอยำ อุทำนอยำ่ งดีใจระคนแปลกหนำ้ เอยำ!ใช่อีนำงไหมนี่ อ้งั พดู ติดอ่ำง คนพดู อ้งั 37
อว่ ย เล้ียว ขบั รถไปถึงทำงเล้ียวก็อ่วยไปตำมน้นั ไอส้ ่ำน่ี ไอข้ นำดน้ี ไอส้ ่ำนี่จำ้ งก็ไม่งึด (ไมอ่ ศั จรรย)์ อีนุน ผกั ชนิดหน่ึงตม้ จิ้มน้ำพริก หรือแกงก็ได้ ตม้ ผกั อีนุนจิม้ น้ำพริก 38
กจิ กรรมที่ 2 ใหผ้ เู้ รียนหำคำศพั ทต์ ่ำงๆ(เช่นคำนำม กริยำ คำวิเศษณ์)ของภำษำถิ่นโครำชที่ใชใ้ นชีวิตประจำวนั ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 39
สาเนียง ภำษำโครำชจะมีคำศพั ทส์ ่วนหน่ึงท่ีใชค้ ำศพั ทร์ ่วมภำษำไทยกลำง โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ ปัจจุบนั น้ีกำรสื่อสำร คมนำคมสะดวกรวดเร็ว สื่อมวลชนชนิดต่ำง ๆ แพร่เขำ้ ไปสู่ชนบทไดท้ ุกรูปแบบ กำรศึกษำเจริญข้ึน ทำให้ ภำษำไทยกลำงเขำ้ มำปะปนกบั ภำษำโครำชมำกข้ึน คำศพั ทภ์ ำษำโครำชแท้ ๆ ถูกลืมไป คนโครำชสมยั ใหม่จึงใช้ ภำษำโครำชโดยใชศ้ พั ทภ์ ำษำไทยกลำงเพียงแต่ออกเสียง เป็นสำเนียงโครำช คือเปล่ียนระดบั วรรณยกุ ตเ์ ท่ำน้นั เช่น ทำ้ ยทอย ออกเสียงเป็ น ท่ำยทอย สระผม ออกเสียงเป็น ซะผม กิน ออกเสียงเป็น ก๋ิน, กิน ขำ้ ว ออกเสียงเป็น เขำ่ ไป ออกเสียงเป็น ไป๋ , ไป เดิน ออกเสียงเป็ น เดิ๋น, เดิน มด ออกเสียงเป็น ม่ด น้ำ ออกเสียงเป็น น่ำม ขำ้ วตม้ ออกเสียงเป็ น เข่ำตม้ ไขห้ วดั ออกเสียงเป็ น ไขว่ ดั เป็นไข้ ออกเสียงเป็น เป็นไข่ แจกกำร์ด ออกเสียงเป็น แจกกำ้ ด ฯลฯ มีนกั ภำษำศำสตร์ไดศ้ ึกษำเสียงวรรณยกุ ตภ์ ำษำโครำชปัจจุบนั เช่น _ชลิดำ รินทร์พรหม_ ศึกษำเสียง วรรณยกุ ตภ์ ำษำโครำช (ในเมือง) เม่ือ พ.ศ. 2519 พบวำ่ มีเสียงวรรณยกุ ต์ 4 หน่วยเสียง คือ 40
1. หน่วยเสียงต่ำ - ข้ึน เช่นคำวำ่ เฉย สวน เหลือง เห็น หนอง ขำ ฝำ หนู หมี ฯลฯ 2. หน่วยเสียงต่ำ - ตก เช่นคำวำ่ ดอก หึ อ่ิม เหล่น เด่ิน เส่น ผ่งึ ส่น เถ่ำ หมอบ ฯลฯ 3. หน่วยเสียงกลำง - ระดบั มี 2 เสียง คือ เสียงกลำงระดบั เช่น ชิม ริม เยน็ เตม็ ปึ ง เงิน ไอ ดำ เดียว มี ที เก ฯลฯ และหน่วยเสียงกลำง - ข้ึน เช่นปิ๊ ด (ปิ ด) ด๊ิบ (ดิบ) แตะ๊ (แตะ) ฟึ ก (ฝึก) เบำ๊ ะ (เบำะ) กก๊ั (กกั ) ฯลฯ 4. หน่วยเสียงสูง - ต่ำ มี 2 หน่วยเสียง คือ เสียงสูง - ตก เช่น ดิ้น จิม้ เตน้ บ้ึง ใช่ ค่ำ ใกล้ ป้ำย ป้ำ โง่ ฯลฯ และเสียงสูง - ระดบั เช่น ซบั (สับ) ซดั (สตั ว)์ มด (หมด) ฯลฯ ส่วน วจิ ินตน์ ภำณุพงศ์ ไดศ้ ึกษำเสียงวรรณยกุ ตภ์ ำษำถ่ินโครำชเช่นเดียวกนั โดยศึกษำกระจำย 16 อำเภอ เมื่อ พ.ศ. 2522 ดว้ ยกำรใชร้ ำยกำรคำสำหรับทดสอบเสียงวรรณยกุ ตข์ องวลิ เล่ียม เจ เกด็ นี เป็นเคร่ืองมือ ผลกำร วเิ ครำะห์ขอ้ มูลพบวำ่ สำมำรถแบ่งภำษำโครำชดว้ ยเสียงวรรณยกุ ตเ์ ป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มตะวนั ออก และ กลุ่มตะวนั ตก โดยกลุ่มตะวนั ออกไดแ้ ก่ อำเภอชุมพวง อำเภอบวั ใหญ่ อำเภอหว้ ยแถลง อำเภอคง อำเภอพมิ ำย อำเภอโนนสูง อำเภอจกั รำช จะมีเสียงวรรณยกุ ตเ์ หมือนกนั ส่วนกลุ่มอำเภอตะวนั ตกไดแ้ ก่ อำเภอโนนไทย อำเภอด่ำนขุนทด อำเภอปำกช่อง อำเภอปักธงชยั อำเภอโชคชยั อำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสำง มีเสียง วรรณยกุ ตค์ ลำ้ ยคลึงกนั รายการคาทนี่ าไปทดสอบเสียงวรรณยุกต์มดี ังนี้ A B C DL DS ขำ หู ข่ำ เขำ่ ผำ้ เส้ือ ขำด ๑. ขดั สตั ว์ หวั ไข่ ฆ่ำ หำบ หวดั ๒. กดั สำก ปัด ตกั ตำ ป่ ำ ไก่ กลำ้ ป้ำ ปำก ๓. คดั ดบั ดกั ปลำ กำ เต่ำ กำ้ ง ตำก ๔. วดั กำด นบั คดั บำน บำ่ อำ้ ดำ้ ย บำด ดำ ดำว อ่ำง บำ้ ดำบ ด่ำง อำบ คำง พอ่ มำ้ นำ้ นำก มือ นำ ล่ำง ค่ำ คำ้ ลำบ ครำด 41
คำที่แยกภำษำโครำชดว้ ยเสียงวรรณยกุ ตอ์ อกเป็น 2 กลุ่มอยำ่ งชดั เจน คือ รำยกำรคำในแถง A โดยกลุ่ม ตะวนั ออก จะออกเสียงแถวท่ี 1, 2 และ 3 เหมือนกนั เป็ น หู หวั ขำต๋ำ ปล๋ำ ก๋ำ บ๋ำน ด๋ำ ด๋ำว ส่วนกลุ่มตะวนั ตกจะออกเสียงแถวท่ี 2, 3 และเหมือนกนั เป็ น ตำ ปลำ กำบำน ดำ ดำว คำ มือ นำ สานวนภาษาโคราช สำนวนภำษำเป็นคำพูดท่ีกลน่ั กรองข้ึนมำเพือ่ ควำมสละลวยของภำษำ มีควำมคมคำยและซบั ซอ้ น กวำ่ คำพูดธรรมดำ สำนวนภำษำโครำชมีลกั ษณะเฉพำะตวั คือ ส่วนใหญม่ ีเสียงสมั ผสั คลอ้ งจองกนั อนั แสดง เพลงโครำช เป็นตน้ สำนวนภำษำโครำชมีควำมผกู พนั กบั วถิ ีชีวติ ตลอดจนสะทอ้ นใหเ้ ห็นค่ำนิยม จริยธรรมควำมเชื่อ ประเพณี และทศั นคติของคนโครำชอยำ่ งชดั เจน มีคุณคำ่ ทำงวฒั นธรรมท้งั ดำ้ น รูปธรรม คือ แสดงภำพกำรดำเนินชีวติ ต้งั แตเ่ กิดจนตำย และดำ้ นนำมธรรมคือกำรอบรมสั่งสอน ต่อไปน้ีจะ ยกตวั อยำ่ งสำนวนภำษำโครำชโดยสงั เขป 1. กลุ่มคำสำนวนภำษำท่ีมีเสียงสัมผสั เช่น กะตุม้ หุ่มห่อ หมำยถึง กำรไดร้ ับควำมช่วยเหลืออยำ่ งอบอุน่ มำจำก \"ตุม้ \" ซ่ึงเป็นอำกำรของแม่ ไก่ ที่ปกป้องลูก ไวใ้ ตป้ ี กท้งั สองขำ้ ง กะท่อมห่อมสะหนำ หมำยถึง กระทอ่ มที่พกั อำศยั เช่น ไดก้ นั แลว้ ก็พำกนั ไปยก่ กะทอ่ มห่อมสะ หนำอยไู่ ป กะหมำ่ บำ้ บ๋ิน หมำยถึง ตกใจมำก เช่น เห็นไฟไหม่เลยกะหม่ำบำ้ บิ๋นเมิด้ กวดก๋วยสวยเสีย หมำยถึง ตำยอยำ่ งทนั ทีทนั ใด ก๋ินน่ำมร่อนนอนไฟ หมำยถึง กำรอยไู่ ฟของหญิงแมล่ ูกออ่ น แกะ๊ หวั เลำเกำหวั หญ่ำ หมำยถึง หมดหนทำงท่ีจะดิ้นรนต่อไป คนดี๋ต่ำยหน่ำลำยยงั หมำยถึง คนชวั่ ยงั ลอยนวล เช่น นี่แหละเขำวำ่ คนด๋ีตำย หน่ำลำยยงั งูเงี่ยวเขี่ยวตะขำบ หมำยถึง อสรพิษท้งั หลำย เช่น เข่ำค่ำกลำงคืนให่เดินระวงั งูเง่ียวเข่ียวตะขำบเดิ้ง แจง้ ต๋ำมำช่ำว หมำยถึง สวำ่ งแลว้ มองเห็นอะไรชดั เจน เช่น ด๊ึกแล่ว คอยให่แจง้ ต๋ำมำช่ำวก่อนยงั คอ่ ยไป 42
ถำมข่ำวเอำเหยอื่ หมำยถึง ถำมขำ่ วคนที่อยไู่ กล ๆ กำรมีควำมสัมพนั ธ์กนั อยู่ เช่น ไปแล่วกถ็ ำมขำ่ ว เอำเหยอื่ กนั เดิ้งเดอ บุญก่ึงถึงกนั หมำยถึง กำรมีวำสนำที่จะไดค้ รองคู่กนั เช่น ถำ้ บุญก่ึงถึง กนั ก็คือจิไดก้ นั อยดู่ อก บุญหลำยสำยยำว หมำยถึง หำกยงั มีวำสนำ อำยยุ นื ยำว เช่น ถำ้ บุญหลำย สำยยำวชำตินี่จิทอดกฐิน ให่เลย คิดออกซอกเห็น หมำยถึง มีควำมคิดมีสติปัญญำท่ีจะทำกำรสิ่งใดสิ่งหน่ึง เช่น คิดออกซอกเห็น ยงั ไงก็ทำไปเทอะ เคด็ หลำบตะขำบตอด หมำยถึง เขด็ จริง ๆ เช่น เค็ดหลำบตะขำบตอดแล่ว จิไม่ ทำอีก น่อยอก๊ ตก๊ ใจ หมำยถึง นอ้ ยใจ เช่น น่อยอก๊ ตก๊ ใจอะไรยงั มำนงั่ ร่องอยนู่ ้ี ฟ่ักแฟงแต๋งร่ำน หมำยถึง พืช ผกั ต่ำง ๆ เช่น ทำบุญน่ีจิเอำฟ่ักแฟงแต๋งร่ำน ก๊ะไหนมำแก๋ง มูลมงั สังขยำ หมำยถึง มรดก หรือสมบตั ิตำ่ ง ๆ เช่น มูลมงั สงั ขยำของพอ่ ของแม่นี่หำไวใ้ ห่ลูกนนั่ แค่ ไดป้ ล๋ำตอ่ นใหญ่ หมำยถึง มีเน้ือชิ้นหนำมีปลำชิ้นใหญ่ รวมควำมวำ่ อุดมสมบูรณ์ เช่น ลูกคนนี่มนั รักแมห่ ลำยไดเ้ นื่อต่อนหนำไดป้ ล๋ำ ต่อนใหญ่กเ็ อำมำให่ ไม่ที่สู่งกวั่ แมจ่ ะแพล่ มบน หมำยถึง คนที่ไมย่ อมเชื่อฟังผใู้ หญ่มจั ะไดร้ ับหำยนะในภำยหลงั เช่น คอยดูเดอ้ คนใหญพ่ ดู ไม่ฟัง ไอไ้ ม่ที่ สูงกว่ั แม่นี่มนั จิแพล่ มบนจนได้ มีลูกให่ประกอบตว๋ั - มีผวั ให่ประกอบใจ หมำยถึง ใหม้ ีลูกและสำมีที่ดี มกั เป็นคำใหพ้ รมีลูกหญิงให่ไดส้ ืบสำย- มีลูกชำยให่ไดส้ ืบศำสนำ หมำยถึง มีลูกสำวของใหไ้ ดแ้ ตง่ งำน มีลูกชำยใหไ้ ดบ้ วชเรียน แสดงคำ่ นิยมวำ่ ถำ้ ลูกสำวไม่ไดแ้ ต่งงำนหรือลูกชำย ไม่ไดบ้ วชเรียนยอ่ มเป็นที่ รังเกียจ ตวั สนั่ บ้นั งอ หมำยถึง อำกำรอยำกไดอ้ ยำ่ งเตม็ ที่ ตวั เลวเอวเปล่ำ หมำยถึง ผหู้ ญิงไมม่ ีลูก \"เลว\" มำจำกชื่อ กระเชอไมม่ ีหู เรียกวำ่ กระเชอเลว ซก่ั ผำ่ ขี่ตี๋ผำ่ เยยี่ ว หมำยถึง เล้ียงดูฟูมฟักโดยไมร่ ังเกียจ ผดู่ ๋ีเด๋ินกรอกข่ีครอกเดิ๋นท่ะลำ หมำยถึง คนเลวมีเกียรติในสังคม \"ท่ะลำ\" คือ ถนน น่ำมจิก๋ินอยำ่ เอำต๋ีนลงคน หมำยถึง ใหร้ ู้ควำมควรไมค่ วร 43
ไมเ่ หงิบไมเ่ งย หมำยถึง ยงั ตกทุกขไ์ ดย้ ำกอยู่ คำ่ เข่ำเผำนำ หมำยถึง ไดค้ ่ำจำ้ งรำงวลั สำนวนน้ีมำจำกกำรเสียภำษี ที่ใครเสียแลว้ จะเผำฟำงใหเ้ ป็น ที่สงั เกต ผมไมต่ ด๊ั วด่ั ไมเ่ ขำ่ เหล่ำไม่ขำด หมำยถึง เป็นคนไมม่ ีศีลธรรม บำ้ นเหลืองเมืองร่อน หมำยถึง บำ้ นเมืองกำลงั เดือดร้อน เช่น นำแล่งทีไร บำ้ นเหลืองเมืองร่อนทุกที พอสมมำพำควร หมำยถึง พอดี เช่น สนุก้ กนั กเ็ อำพอสมมำพำควร ลุ่กแต่ด๊ึกซึกแตห่ นุ่ม หมำยถึง ใหร้ ีบกระทำกำรตำ่ ง ๆ เสียแต่เนิ่น ๆ เช่น ลุ่กแต่ด๊ึกซึกแตห่ นุ่มมนั่ ยงั จิหำก๋ินทนั เขำ ลูกผวั ตวั หมอ่ หมำยถึง สำมี เช่น เรำเป็ นหญิงทำอะไรให่ถำมลูกผวั ตวั หม่อก่อน อุม้ ลูกผกู อู่ หมำยถึง แม่ลูกออ่ นเช่น เป็นแมล่ ูกออ่ นนี่ไปไหนกอ็ ุม้ ลูกผกู อู่ไป อีลกั อีหลูด หมำยถึง ควำมลำบำก ทุลกั ทุเล เช่น กว่ั จะไดท้ ำงำนอีลกั อีหลูดเจนวำ่ หำอยหู่ ำกิน หมำยถึง กำรประกอบอำชีพ เช่น เป็นยงั ไงหำอยหู่ ำกินยงั ไง หวั หำยตะพำยขำด หมำยถึง กำรไปไหนๆ โดยไมบ่ อกกล่ำวใหผ้ ใู้ ดทรำบมกั ใชก้ บั คนชอบเท่ียว เช่น ไปหวั หำยตะพำยขำด สำนวน น้ีมำจำกกำรเล้ียงมำ้ , ววั ท่ีตะพำยขำดแลว้ จบั มำ ผูกคืนไดย้ ำก 2. กลุ่มคำสำนวนที่ไม่มีเสียงสัมผสั เช่น กดั๊ ฟันขยมุ้ ตูด หมำยถึง กำรทำส่ิงใดส่ิงหน่ึงสุดกำลงั เช่น ป๊ ำ...กด๊ั ฟัน ขยมุ้ ตูดปำนนี่ มนั ยงั ถอน ไมข่ ้ึนนอ กำข่ีไมท่ นั ควย หมำยถึง จบั ตวั คนทำผดิ ไม่ไดท้ นั ท่วงที เช่น มวั แต่เซ่ออยู่ ก๋ำข่ีไม่ทนั ควยนนั่ กิ๋นเผอ่ื หมำ หมำยถึง กินอยำ่ งไม่ประมำณตน เช่น รำกแตกรำกแต๋น ยงั งี่ก็ยอ่ นมนั กิ๋นเผอื่ หมำ ข่ีซบร่อง หมำยถึง ทำอะไรไดจ้ งั หวะพอดี เช่น มนั ชนะเขำกย็ อ่ น ขี่ซบร่องดอกนำ ข่ืนกก๊ ไมช่ ่วยแรงกะถำ หมำยถึง กำรหำหนทำงช่วยใหผ้ นู้ ้นั พน้ ทุกขพ์ น้ ภยั เช่น ใควำ่ อะไรดี๋กท็ ำนน่ั แหล่วข่ึนก๊กไมช่ ่วยแรงกะถำเอำละเด่ 44
ตีนส่ันมือยำว หมำยถึง เป็นคนไวใ้ จไมไ่ ด้ ตด๊ ให่หมำชะงก่ั หมำยถึง หลอกใหด้ ีใจแลว้ ไมไ่ ดด้ งั หวงั คล่องพอปำนใส่ไข หมำยถึง คล่องแคล่ววอ่ งไว มำจำกกำรใส่ไขที่ ลอ้ เกวยี นทำใหห้ มุนไดค้ ล่อง เมิด้ กลำ้ ก็แล่วนำ หมำยถึง กำรทำงำนใดก็ตำมหมดอุปกรณ์ก็จำเป็นตอ้ ง เสร็จสิ้น ม่ำไม่มีทำเล หมำยถึง คนจรไมม่ ีจุดหมำยปลำยทำง สำนวนน้ีมำจำก กำรเล้ียงมำ้ ผวั ควยเมียควย หมำยถึง หญิงชำยที่อยรู่ ่วมกนั โดยไมไ่ ดแ้ ตง่ งำน เหยย่ี บรอยโจ๋รรอยขโมย หมำยถึง ถูกชกั ชวนใหท้ ำชวั่ โดยไม่รู้เท่ำไม่ถึงกำรณ์ ระซ่องยงั ก๊ะหน่ำงวั เก๋ียน หมำยถึง งำมและอยใู่ นวยั เสมอกนั มำจำกกำรใชเ้ กวยี น เป็ นพำหนะ สะนุก้ พอปำนเตะ๊ เฮด็ หมำยถึง งำนที่ทำน้นั เบำสบำยและสนุกสนำนเหมือนเตะเห็ด ผวั หำบเมียคอน หมำยถึง ช่วยกนั ทำมำหำกิน เช่น เออช่วยกนั หำกิ๋นผวั หำบ เมียคอนก็ช่วยกนั ไป ตีนสั่นมือยำว หมำยถึง ลกั ขโมย เช่น ไปอยกู่ ะ๊ ไหนอยำ่ ฮดั เป็นคนตีนสนั่ มือยำวให่อยมู่ ุ ๆ มิ ๆ เดอ งวั ใครเข่ำดอกคนนน่ั หมำยถึง ใครทำส่ิงใดไวย้ อ่ มไดร้ ับผลตอบสนอง เช่น อยำ่ ไปเหลือใจเขำเลย เร่ืองอยำ่ งนี่งวั ใคร มนั เข่ำคอกคนนน่ั แหละ บ่อนอยบู่ ่อนกิน หมำยถึง ท่ีพกั อำศยั เช่น ลูกชำยไปทำงำนกรุงเทพฯ แม่มนั เลยตำมไปดู๋บ่อนอยู่ บอ่ นกิ๋น 3. กลุ่มคำสำนวนท่ีเป็นควำมเปรียบ เสินข่ืนยงั กะเขำ่ ค่ำงบี๋ หมำยถึง คนที่ชอบยอ ระซ่องยงั กะ๊ หน่ำงวั เกี๋ยน หมำยถึง หนำ้ สลอนเหมือนหนำ้ ววั เทียมเกวยี น มกั ใชเ้ ปรียบเด็ก ๆ เหนียวยงั กะ๊ หนงั หวั เก๋ียน หมำยถึง ควำมตระหน่ีถ่ีเหนียวน้นั เหมือนหนงั ที่ใชผ้ กู อยทู่ ี่หวั เกวยี น ใช้ เปรียบกบั คนที่ตระหนี่มำก ๆ สนุ๊กพอปำนเตะ๊ เฮด็ หมำยถึง ทำส่ิงต่ำง ๆ ไดง้ ่ำยดำยเหมือนกำรเตะเห็ดไม่ตอ้ ง ใชค้ วำมพยำยำมมำก 45
คล่องพอปำนใส่ไข หมำยถึง มีควำมคล่องตวั มำก สำนวนน้ีเปรียบกบั ลอ้ เกวยี น ถำ้ เอำไขใส่ (น้ำมนั หล่อล่ืน) จะทำใหห้ มุนคล่อง ไม่หนกั แรงววั ควำย ให่เยน็ อยำ่ งฟ่ักให่นกั อยำ่ งหิน หมำยถึง ใหเ้ ป็นคนใจคอหนกั แน่น มกั ใชใ้ นคำให้พร ให่อ่อนอยำ่ งกบ๊ - ให่น่บอยำ่ งเขียด หมำยถึง ใหเ้ ป็นคนอ่อนนอ้ มถ่อมตน ใชใ้ นคำใหพ้ ร คำสอน ให่อยเู่ รือนอยำ่ ง กอ้ นเส่ำ- ให่เฝ่ ำเรือนอยำ่ งแมวลำย หมำยถึง ใหร้ ู้หนำ้ ท่ีควำมรับผดิ ชอบของตนเอง มกั ใชใ้ น คำสอน ของชว่ั อยำ่ ให่เห็น- ของเหมน็ อยำ่ ให่พบ หมำยถึง ใหไ้ ดอ้ ยใู่ นแวดวงของคนดี มกั ใชใ้ นคำสอนและ คำใหพ้ ร ให่กิ๋นไมร่ ู่บก๊ ให่จก๊ ไม่รู้เมิ้ด หมำยถึง หมำยถึง ใหม้ ง่ั มีศรีสุข 4. กลุ่มคำใหพ้ ร เป็นกลุ่มคำท่ีกล่ำวออกมำจำกควำมรู้สึกที่จริงใจทำใหผ้ รู้ ับพรมีควำมสุข อิ่มเอิบใจ เช่น - ขอให่อยเู่ ยน็ เป็ นซุกสะนุกสบ๋ำย ควมเจบ็ อยำ่ ไดค้ วมไขอ่ ยำ่ มี ของชวั่ อยำ่ ให่เห็นของเหมน็ อยำ่ ให่ พบ ให่อยดู่ ๋ีกิ๋นดี๋นึกอยำ่ งไหนของให่ได้ อยำ่ งปรำรถนำเดอ - คำแปล ขอให้อยเู่ ยน็ เป็นสุขสนุกสบำย ควำมเจบ็ อยำ่ ได้ ควำมไขอ้ ยำ่ งของชวั่ อยำ่ ใหเ้ ห็นของเหมน็ อยำ่ ไดพ้ บ ใหอ้ ยดู่ ีกินดี นึกอยำ่ งไหน ขอใหไ้ ดอ้ ยำ่ งปรำรถนำ นะ - ขอให่ไดเ้ ป็นเจำ้ คนนำยคน ไปทำงไหนขอให่มีคนเดินหน่ำ ให่มีข่ีข่ำ เดิ๋นต๋ำม ไป๋ ทำงไหนให่มีแต่ คนรัก ไมม่ ีคนชงั ให่อำยหุ มนั่ ขว็ นยนื๋ ให่ไดผ้ วั คนรู้ ให่ไดช้ ู่คนงำม เดอลูกเดอ - คำแปล ขอใหไ้ ดเ้ ป็นเจำ้ คนนำยคน ไปทำงไหนขอใหม้ ีคนเดินหนำ้ ใหม้ ีข้ีขำ้ เดินตำม ไปทำงไหน ขอใหม้ ีแตค่ นรักไม่มีคนชงั ใหอ้ ำยมุ นั่ ขวญั ยนื ใหไ้ ดผ้ วั คนรู้ ใหไ้ ดช้ ูค้ นงำมนะลูกนะ 5. กลุ่มคำเรียกขวญั เป็นกลุ่มคำสำนวนท่ีคนเฒำ่ คนแก่ใชเ้ รียกขวญั ใหล้ ูกหลำนที่ป่ วยไขห้ รือคนท่ีจำกบำ้ นไปนำน แลว้ กลบั มำอยำ่ งปลอดภยั เพอื่ เป็ นกำลงั ใจแก่บุคคลน้นั เช่น -ขว็ นอีนำง (ไอน้ ำย) เอย มำกู๊.............. ให่มำเข่ำโครงอยำ่ ไดห้ ลำบ ให่มำเขำ่ ครำบอยำ่ ไดถ้ อย 46
ซิบป๋ี อยำ่ ไป่ อื่น หม่ืนปี๋ อยำ่ ไป๋ ไกล๋ ให่มำอยเู่ รือนพอ่ เรือนแม่ ให่มำอยซู่ ุมพซ่ี ุมน่อง ขว็ นพีจ่ ิไป๋ ให่หน่องชกั่ ไว่ ขว็ นน่องจิไป๋ ให่พีช่ ก่ั ไว่ ให่ผกู กน๋ั อยำ่ งเครือมนั ให่พนั กนั๋ คือเครือถว่ั ให่มำนอนฟูกถ่วมหน่ำ ให่มำนอนผำ่ ถ่วมตว๋ั อยำ่ ไปกินเขำ่ เด๋นผีรำก อยำ่ ไปกิ๋นหมำกเด๋นผคี ำย อยำ่ ไปเอ๋ำรำกไม่ตำ่ งหมอน อยำ่ ไปเอ๋ำขอนต่ำงบำ้ น อยำ่ ไปนอนข่วมกิ๋นน่ำมลำย อยำ่ ไปนอนหงำยกิ๋นน่ำมคำ่ ง อยำ่ มวั ไปหลงในน่ำมเป็นเพื่อนปล๋ำ อยำ่ มวั ไปหลงในนำเป็นเพอ่ื นเข่ำ ให่มำอยเู่ รือนใหญ่ฮกกะได๋สูง มำเดอขว็ นเอย...มำกู๊ มำอยซู่ ุมพอ่ ซุมแมซ่ ุมพี่ซุมน่อง เดอขว็ นเอย...มำกู๊ คำแปล - ขวญั เอยมำเถิด ขอใหม้ ำเขำ้ ร่ำงอยำ่ ไดเ้ ขด็ หลำบหวำดกลวั เลย สิบปี อยำ่ ไปอื่น หม่ืนปี อยำ่ ไปไกล ใหม้ ำอยเู่ รือนพอ่ เรือนแม่ที่มีญำติพี่นอ้ งแวดลอ้ ม ถำ้ ขวญั พ่จี ะไปใหน้ อ้ งชกั ชวนไว้ ขวญั นอ้ งจะไป กใ็ หพ้ ชี่ กั ชวนไว้ ใหผ้ กู พนั กนั เหมือนเครือถว่ั เครือมนั ใหม้ ำนอน ท่ีนอนซ่ึงหนำนุ่มและผำ้ ห่มผนื หนำอยำ่ ไปกินขำ้ วที่ผอี ำเจียนออกมำ อยำ่ ไปกินหมำกเดนผคี ำย อยำ่ ไปเอำรำกไมต้ ำ่ งหมอน อยำ่ ไปเอำขอนไมต้ ำ่ ง บำ้ น อยำ่ ไปนอนควำ่ กินน้ำลำย อยำ่ ไป นอนหงำยกินน้ำคำ้ ง อยำ่ มวั ไปหลงในน้ำเป็ นเพอื่ นปลำ อยำ่ มวั ไป หลงในนำเป็นเพื่อนขำ้ ว ให้มำอยเู่ รือนใหญ่บนั ไดสูง มำเถิดขวญั เอย...มำอยกู่ บั พอ่ แม่พี่นอ้ ง มำเถิดขวญั เอย ... 6. กลุ่มคำอธิษฐำน ใชอ้ ธิษฐำนในโอกำสทำบุญ ตกั บำตร เช่น - เข่ำขำ้ พะ่ เจำ้ ขำวเหมือนดอกบวั๋ ยก่ ข่ืนเหนือหวั ถวำยพร่ะพทุ่ ธ ต้งั ใจ๋ให่บริซุด ถวำยพร่ะธรรม ขอให่ใจ ขำ้ พะ่ เจำ้ จงนำถวำยพร่ะสงฆ์ จิ๊ดใจ๋จำนงหมำยทำงซ่ำยขวั กร๋งตอ่ พร่ะนิพพำน ขอให่ไดพ้ บ่ ด๋วงแกว้ ขอให่ แคล่วบ่วงมำร ขอให่ทนั พระศรีอำริยป์ ะติโย โหตุ๊... 47
คำแปล - ขำ้ วของขำ้ พเจำ้ ขำวเหมือนดอกบวั ยกข้ึนเหนือหวั ถวำยพระพุทธ ต้งั ใจใหบ้ ริสุทธ์ิถวำยพระ ธรรม ขอใหใ้ จขำ้ พเจำ้ จงนำถวำยพระสงฆ์ จิตใจจำนงหมำยทำงซำ้ ยขวำ ตรงตอ่ พระนิพพำน ขอใหพ้ บดวง แกว้ ขอใหแ้ คลว้ บ่วงมำร ขอใหท้ นั พระศรีอำริยป์ ะติโยโหตุ... คาลงท้าย ภำษำโครำช มีคำลงทำ้ ยเฉพำะตวั ท้งั ในประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถำม และประโยคบอกเล่ำ เช่น มำไอ๋เยอ หมำยถึง มำทำไม่หรือ ไม่ไป๋ ดอกนี หมำยถึง ไม่ไปหรือ ไมเ่ ป็นดอกวำ หมำยถึง ไมเ่ ป็นกระมงั ไมใ่ ช่ดอกแฮะ หมำยถึง ไม่ใช่หรอก ไป๋ แหละเดอ หมำยถึง ไปละนะ ทำแล่วเด หมำยถึง ทำแลว้ นะ อำบน่ำมเนำะ หมำยถึง อำบน้ำนะ (กล่ำวเชิงชกั ชวน) ใครจิไป๋ เบิ้ง หมำยถึง ใครจะไปบำ้ ง ใครจิไป๋ เดิ้ง หมำยถึง ใครจะไปดว้ ย ฮึ อ้ื ไมแ่ ม่นดอ้ ก หมำยถึง เปล่ำไมใ่ ช่ กิ๋นไหมเหวย่ หมำยถึง จะกินหรือเปล่ำ (พูดกบั เพือ่ นท่ีสนิทสนมกนั ) มิเอ๋ำดอ้ กเฮย หมำยถึง ไม่ตอ้ งกำร (ผพู้ ูดแสดงควำมไม่พอใจ) ทำเงินหำยล่ะวำ หมำยถึง ทำเงินหำยกระมงั ทำแล่วแหละ หมำยถึง เสร็จแลว้ (แสดงควำมไม่พอใจขณะพูด) ยงั งน่ั ดอกหน่ำ หมำยถึง อยำ่ งน้นั หรือ 48
คาปฏิเสธ จก๊ั หมำยถึง ปฏิเสธแบง่ รับแบ่งรู้ จก๊ั เด่ หมำยถึง ปฏิเสธเด็ดขำด จกั๊ แหล่ว หมำยถึง ปฏิเสธเชิงไม่พอใจ จก๊ั แหละ หมำยถึง ปฏิเสธแบบใหพ้ น้ ตวั นอกจำกคำปฏิเสธแลว้ ภำษำโครำชยงั มีลกั ษณะเฉพำะอ่ืน ๆ เช่น คำลกั ษณะนำม คำทกั ทำย คำสบถ สำบำน และกำรพดู ประโยคที่ชวนฉงนสำหรับผใู้ ชภ้ ำษำกลำง เช่น ประโยค ความหมาย เป็นไข่ ไม่สบำย เป็นไข้ จะไปง่ำยไหม จะกลบั เร็วไหม จะยำกไปไหม จะกลบั ชำ้ ไหม ถนนนี่จะไปไหน ถนนสำยน้ีไปถึงไหน, ผำ่ นอะไรบำ้ ง ไม่อยำกพดู หำ ไม่อยำกพดู ดว้ ย กินใหญก่ ินนอ้ ย กินมำก ไอแ้ นวนน่ั สิ่งน้นั วนั น้ีน้ำลึกปำนใด น้ำข้ึนถึงไหนแลว้ ฝนกะ๊ บำ้ น ฝนตกที่บำ้ น เชิง ๆ จะเก่ง ดูเหมือนจะเก่ง ซง ๆ จะเป็นไข่ ดูเหมือนจะเป็ นไข้ ไปเล่นบำ้ น ไปเท่ียวบำ้ น พูดดดั ล่ำง พูดแบบชำวล่ำง (ชำวกรุงเทพฯ) 49
ของอยำ่ งกนั นนั่ ของอยำ่ งน้นั เอำเมียหรือยงั แต่งงำนหรือยงั “””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” กจิ กรรมที่ 3 ใหผ้ เู้ รียนยกตวั อยำ่ งสำนวนภำษำโครำช ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 50
Search