Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช

ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช

Published by ปัญจรัศม์ ไชยพันธ์, 2021-11-15 08:25:38

Description: ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรียนรู้วิชาเลือกเสรี วิชาเพลงโคราช อช03309 หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ชุดการเรียนรู้ เร่ือง เพลงโคราช Korat folk song performance ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จังหวัดนครราชสีมา เอกสารประกอบการเรียนรู้วิชาเลือกเสรี วิชาเพลงโคราช อช03309 หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ชดุ การเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 1 Korat folk song performance

ชุดการเรียนรู้ เร่ือง เพลงโคราช Korat folk song performance ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดนครราชสีมา ชุดการเรียนรู้เร่อื งเพลงโคราช 2 Korat folk song performance

เรอื่ ง กาหนดการรบั และส่งงาน เร่ือง เพลงโคราช เรอ่ื งท่ี 1 . ภาษาโคราช รับงานวันที่ ลายมอื ชือ่ สง่ งานวันท่ี ลายมือชอื่ หมายเหตุ เรอื่ งท่ี 2 เพลงโคราช เรื่องที่ 3 ทักษะการร้องเพลงโคราช ตรงต่อเวลาดว้ ยนะครบั ชุดการเรยี นรู้เรอื่ งเพลงโคราช 3 Korat folk song performance

คานา ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช สาหรับนักศึกษา กศน. คณะผู้จดั ทาได้ศึกษาวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาปัจจบุ ัน จากการสารวจความต้องการของนักศึกษาหลกั สตู รการศึกษานอกระบบและการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยออกแบบการเรียนรู้ใหม้ ีความหลากหลาย เหมาะสมกับนักศึกษาและกรอบการจดั กิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น มีกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ONIE MODEI การวัดและประเมนิ ผลเปน็ ไปตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ซึง่ ชดุ การเรยี นรู้ นีม้ จี านวน 3 เรื่อง ประกอบด้วยเร่อื งท่ี 1 ภาษาโคราช เรื่องที่ 2 เพลงโคราช เรื่องที่ 3 ทักษะการร้องเพลงโคราช ชุดการเรียนรู้ชดุ นปี้ ระกอบด้วย คาช้แี จงสาหรบั นกั ศึกษา กศน. คาชแ้ี จงสาหรบั ครู บทบาทของครผู สู้ อน บทบาท ของนักศึกษา ผังความคดิ การใชข้ ุดการเรยี นรู้ ใบความรู้ ใบงาน และแบบทดสอบ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจท่ี สามารถตรวจความถูกต้องด้วยตนเองได้ ซึ่งครู กศน.สามารถนาไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนทง้ั ในการปกติ หรอื จัดกจิ กรรมการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น คณะผ้จู ัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชดุ การเรยี นรู้เล่มน้ี จะมีคุณคา่ ในการพฒั นาการเรียนรูข้ องนักศึกษา กศน. ให้เป็นไปตามจดุ มุ่งหมายของกรอบการจดั กจิ กรรมการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ตลอดจนมีประโยชนส์ าหรับครผู ้สู อน และผ้สู นใจ เพื่อนาไปพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน ให้มีคณุ ภาพการศึกษาสูงยิง่ ขน้ึ ไป ประสิทธ์ิ ตั้งประเสริฐ ชุดการเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 4 Korat folk song performance

สารบัญ หนา้ คานา สารบญั คาชแ้ี จงสาหรับนกั ศึกษา กศน. คาชีแ้ จงสาหรับครู บทบาทของครผู ูส้ อน บทบาทของนักศึกษา ผงั ความคดิ การใช้ขดุ การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ที่ 1. ภาษาโคราช…………………………………….. -บนั ทกึ สรุปการเรยี นรู้ -ใบงานท่ี 1. ใบความรทู้ ่ี 2 เพลงโคราช…………………………………………………………………………. -บันทึกสรุปการเรียนรู้ -ใบงานที่ 2 ใบความรู้ที่ 3 ทกั ษะการร้องเพลงโคราช…………………………………………………… -บนั ทึกสรปุ การเรียนรู้ -ใบงานท่ี 3 แบบทดสอบหลงั เรียน บรรณานกุ รม คณะทางาน ชดุ การเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 5 Korat folk song performance

คาชีแ้ จงสาหรบั นกั ศกึ ษา กศน. ชดุ การเรียนรู้เรอื่ ง เพลงโคราช สาหรบั นกั ศึกษา กศน.หลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษา ข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 วชิ าเลอื กเสรีวชิ า เพลงโคราช อช03309 ประกอบด้วย เนื้อหาทั้งหมด 3 เรือ่ ง ดงั นี้ เรอื่ งที่ 1 ภาษาโคราช เรื่องท่ี 2 เพลงโคราช เรอื่ งที่ 3 ทักษะการรอ้ งเพลงโคราช ชดุ การเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 6 Korat folk song performance

คาช้ีแจงสาหรับครู ขอ้ ปฏิบตั ใิ นการใชช้ ดุ การเรียนรู้ ชดุ การเรียนรู้เร่อื ง เพลงโคราช สาหรับนกั ศกึ ษา กศน.หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษา ขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 วชิ าเลือกเสรวี ชิ า เพลงโคราช อช03309 มจี ุดมงุ่ หมายเพื่อช่วยใหก้ ารดาเนินกิจกรรม การจดั การเรยี นการสอน ให้บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์การเรยี นรู้และมีประสิทธภิ าพ ครูผสู้ อน ควรดาเนนิ การดังนี้ 1. ขน้ั เตรียมการสอน 1.1 ศกึ ษาคาช้ีแจงในการใชช้ ดุ กิจกรรมใหเ้ ขา้ ใจก่อนอย่างละเอียดรอบคอบ 1.2 ศึกษาสาระสาคญั และจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ทจี่ ะดาเนินการจดั กจิ กรรม ใหเ้ ข้าใจชดั เจนเสยี กอ่ น 2. ขน้ั สอน/จดั กระบวนการ 2.1 ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามกระบวนการเรียนการสอนแบบ ONIE MODEL 4 ขน้ั คอื ขนั้ ที่ 1 กาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O: Orientation) เปน็ การเรยี นร้จู ากสภาพ ปญั หา หรือความต้องการของผเู้ รยี น และชมุ ชน สังคม โดยใหเ้ ช่ือมโยงกบั ประสบการณ์เดิม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ของ หลักสูตร ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning) การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ โดยศกึ ษา คน้ คว้าหาความรู้ และรวบรวม ข้อมลู ของตนเอง ข้อมลู ของชมุ ชน สงั คม และข้อมลู ทางวชิ าการ จากสอื่ และแหลง่ เรยี นรทู้ ห่ี ลากหลายมกี ารระดมความคิดเห็น วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล และสรปุ เป็นความรู้ ขน้ั ท่ี 3 ปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ใช้ (I: Implementation) นาความรู้ทไ่ี ด้ไปปฏบิ ตั ิ และประยกุ ต์ใช้ให้สอดคล้องกบั สถานการณ์ เหมาะสมกับ วัฒนธรรมและสังคม ขั้นที่ 4 ประเมนิ ผลการเรียนรู้ (E: Evaluation) ประเมนิ ทบทวน แกไ้ ขข้อบกพรอ่ ง ผลจากการนาความรู้ไปประยุกต์ใชแ้ ล้วสรปุ เป็นความรู้ใหม่ พร้อมกับเผยแพร่ผลงาน 2.2 ขณะที่นักศกึ ษาทากจิ กรรม ครูคอยใหค้ วามชว่ ยเหลอื แนะนากระตนุ้ ใหน้ ักศึกษาทากจิ กรรม อย่างกระตือรือรน้ และตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ระหวา่ งเรยี นพร้อมทง้ั สังเกตและประเมนิ พฤติกรรมการทางาน ของนักศึกษา 2.3 ประเมินผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน โดยใชแ้ บบทดสอบยอ่ ย ชุดการเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 7 Korat folk song performance

บทบาทของครูผู้สอน 1. ศึกษาชุดการเรียนรเู้ ร่ือง เพลงโคราช ใหเ้ ข้าใจก่อนทจ่ี ะนาไปใช้ 2. ครอู ธิบาย ชี้แจงเกย่ี วกับการศึกษาและปฏิบัติตามชุดการเรียนรเู้ รอ่ื ง เพลงโคราช และแจ้งจดุ ประสงค์ การเรยี นรูใ้ หน้ กั ศึกษาเข้าใจ 3. ครดู าเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรูต้ ามกระบวนการเรยี นการสอนที่กาหนดไว้ 4. ครกู บั ตดิ ตามการทาใบงาน และให้คาปรึกษาแนะนานักศึกษา 5. ครทู ดสอบนักศึกษาโดยใช้แบบทดสอบ หลังจาก เรยี นเน้ือหาจบ เพอ่ื วดั ความรู้ความเข้าใจของนกั ศึกษา ชุดการเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 8 Korat folk song performance

บทบาทนกั ศกึ ษา 1. รับทราบจดุ ประสงค์การเรียนร้จู ากครผู ู้สอน เพือ่ ให้ทราบวา่ เมอื่ จบกิจกรรมการเรียนรแู้ ล้ว นักศึกษา สามารถเรียนรอู้ ะไรได้บา้ ง 2. ต้ังใจศกึ ษาใบความรู้ และปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขั้นตอนหรอื คาชแ้ี จงของแต่ละเน้ือหา อย่างจรงิ จงั ตรงตอ่ เวลา และมีความซื่อสตั ย์ รบั ผิดชอบ ในการทากจิ กรรมแบบทดสอบ และส่งงานครู 3. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น เพอ่ื วัดความรคู้ วามเข้าใจ ให้ผา่ นเกณท์ร้อยละ 70 ข้นึ ไป หากทาไดไ้ ม่ถงึ เกณท์ ใหน้ ักศึกษากลับไปทบทวนเน้ือหา และใบงาน อีกครั้ง 4. ชดุ การเรยี นรู้เร่ือง เพลงโคราช นามาใช้ในการจัดกจิ กรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน หรอื หากไม่มีเวลา มาพบกล่มุ ทากิจกรรมสามารถนาไปเรยี นรู้ไดผ้ า่ นดจิ ิทลั โดย e-book นี้ ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 9 Korat folk song performance

ขน้ั ตอนในการเรียนด้วยชดุ การเรียนรู้ ศกึ ษารายละเอียดของชุดการเรียนร้แู ต่ละเร่ือง ศึกษาผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง/จุดประสงค์การเรียนรู้ ดาเนนิ การใชช้ ดุ การเรียนรู้ ๑. ข้ันนาเข้าส่บู ทเรียน - แจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ - บอกส่งิ ทนี่ ักศึกษาต้องปฏิบัติ - ทดสอบก่อนเรยี น ๒. ขน้ั เรยี นรู้ นักศกึ ษาปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามทร่ี ะบุไว้ในใบงาน ๓. ขัน้ สรุป สรปุ อภปิ ราย แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ทดสอบหลังเรียน ไม่ผา่ น ผ่าน ทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายเหตุ ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนทาใบงานครบ ทาแบบทดสอบได้ร้อยละ 70 และแบบฝกึ หดั ครบ ชุดการเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 10 Korat folk song performance

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คาช้ีแจง ให้ผเู้ รยี นอา่ นคาถามใหเ้ ขา้ ใจ และเลือกตอบเพียง 1 ขอ้ โดย ข้อที่ถกู ท่สี ุด 1.เชือ่ กันว่าบรรพบรุ ุษของขาวไทโคราชอพยพมาจากที่ใด ก.อยธุ ยา ข.นครศรธี รรมราช ค.นครสวรรค์ ง.สโุ ขทัย 2.ภาษาไทยกล่มุ หนงึ่ ทใี่ ช้พดู กันในจังหวัดนครราชสมี าเรยี กวา่ ก.ภาษาเขมร ข.ภาษาลาว ค.ภาษาอีสาน ง.ภาษาโคราช 3.ข้อใดหมายถงึ ชื่อเดมิ ของเมืองโคราช ก.โคปุตะระ ข.โคตรฆะปรุ ะ ค.โคมาฆะปุระ ง.ถูกทกุ ข้อ 4.ปราณเี ปน็ ผู้กะตุ้มหุ้มห่อต่อญาตพิ ่ีน้อง คาขดี เสน้ ใต้หมายถึงข้อใด ก.ขอรับความช่วยเหลอื จากญาตพิ น่ี อ้ ง ข.ชว่ ยเหลอื ญาตพิ นี่ อ้ งเปน็ อย่างดี ค.ไมช่ อบช่วยเหลือญาติ ง.ช่วยเหลอื ตนเอง 5.ข้อใดหมายถึงการมวี าสนาทีจ่ ะเป็นคู่ครองกนั ข.ถามขา่ วเอาเหย่ือ ก.บุญกึงถึงกนั ค.คิดออกซอกเหน็ ง.บญุ หลายสายยาว 6.งเู งียวเขยี่ วตะขาบ หมายถึงขอ้ ใด ข.อสรพษิ ทั้งหลาย ก.งแู ละตะขาบ ค.งู ง.ตะขาบ 7.จน่ แปลวา่ ข.งานมาก ก.ยุ่งมาก ค.ไม่มเี วลา ง.ไมว่ ่างเลย 8.สมใจแตง่ ตวั โกรกกรากจะไปฟังเพลงโคราช ขอ้ ความขา้ งตน้ หมายถงึ ข้อใด ก.สมใจรบี แตง่ ตัวเพอ่ื ไปฟังเพลงโคราช ข.สมใจบรรจงแตง่ ตวั เพอ่ื ไปฟังเพลงโคราช ค.สมใจคอ่ ย ๆ แตง่ ตวั เพื่อไปฟงั เพลงโคราช ง.สมใจแตง่ ตวั จะไปฟังเพลงโคราช 9.เงยี บ ๆ อย่าแซวหลาย ข.อยา่ ใชเ้ สียว ก.อยา่ หยดุ แซว ค.อยา่ งเสียงดงั ง.อย่าเอ็ดอึง 10.ไทยเบ้ิง หรือ ไทโคราช เป็นกลุ่มชาตพิ ันธของจังหวดั ใด ก.นครสวรรค์ ข.นครราชสมี า ค.นครศรอี ยธุ ยา ง.นครศรีธรรมราช 11.ประวตั เิ พลงโคราชเกดิ ข้นึ ในสมัยใด ข.สมเด็จพระนารายณม์ หาราช ก.พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ค.พระเจา้ ตากสินมหาราช ง.พระเจา้ อู่ทอง ชดุ การเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 11 Korat folk song performance

12.เพลงโคราชนยิ มเลน่ ในงานใด ก.ปใี หม่ ข.เรียกขวัญ ค.แก้บน ง.ผูกดวง 13.การแสดงพ้ืนบา้ นของชาวจงั หวัดนครราชสมี าเรียกว่า ก.เพลงฉ่อย ข.เพลงหมอลา ค.เพลงโคราช ง.เพลงลาตัด 14.ท่านทา้ วสรุ นารเี ดิมช่อื ก.แดง ข.โม ค.จิต ง.โม๋ 15.ผูท้ ่รี วมตัวกนั เปน็ คณะเพลงโคราชเจา้ แรกคือ ก.ทา้ วสรุ นารี ข.พระยาปลดั เมืองโคราช ค.นางสองเมือง อนิ ทรคาแหง ง.กาปนั บ้านแทน่ 16.เพลงโคราช หมายถึง ก.เป็นเพลงพ้ืนบ้านทางภาคเหนอื ข.เป็นเพลงพนื้ บ้านทางภาคกลาง ค.เปน็ เพลงพ้นื บ้านโคราช มลี ักษณะทีร่ ้องเปน็ เพลงฉ่อย ง.เป็นเพลงพืน้ บา้ นโคราช มลี กั ษณะทีร่ ้องเป็นเพลงก้อม 17.หมอเพลงโคราช หมายถึง ก.ผูช้ านาญการรอ้ งโตต้ อบ ข.ผูม้ ปี ระสบการณร์ อ้ งเพลง ค.ผมู้ ที ักษะการร้องเพลง ง.ผ้มู ปี ฏิภาณไหวพรบิ 18.กอ้ ม เปน็ ภาษาโคราชและภาษาอีกสานแปลวา่ ก.ยาว ข.ปานกลาง ค.สั้น ง.พอดี 19.รูปแบบการแสดงคลา้ ยกบั การแสดงของวงดนตรเี พลงลูกทุ่ง หมอลา ปจั จุบันเรียกวา่ ก.โคราชซิง่ ข.โคราชลาตดั ค.โคราชลูกทุ่ง ง.โคราชหมอลา 20.ผูป้ ระกอบอาชีพเพลงโคราชนเ้ี รียกวา่ ก.หมอลา ข.หมอแคน ค.หมอดู ง.หมอเพลง 21.ภาษาถ่ินที่เป็นเอกลกั ษณ์ของวถิ ชี ีวิตคนโคราช คือ ข.ภาษาพมิ าย ก.ภาษาอสี าน ง.ภาษาพื้นบา้ น ค.ภาษาโคราช ข.เวทีการแสดง 22.เวทีเพลงโคราชหมายถึง ง.เวทแี สดงลาตัด ก.เวทกี ารละคร ค.เวทแี สดงหมอลา ชดุ การเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 12 Korat folk song performance

23.ผ้มู ใี จรกั ในการท่ีจะเป็นหมอเพลงแลว้ มกั ไปฝากตัวเป็นศิษย์กบั ครเู พลงโดยตรง แลว้ จึงยกครู เปน็ การแสดงถึง เร่อื งใด ก.ความอดทน ข.ความซอื่ สัตย์ ค.ความเพยี ร ง.ความกตัญญู 24.การไหว้ครบู าอาจารย์กอ่ นขน้ึ ทาการแสดงทุกคร้ังเรียกว่า ก.การไหว้ครู ข.การยกครู ค.การไหวพ้ ่อแก่ ง.การเคารพครู 25.เป็นทา่ ที่ประกอบการแสดงตามบทกลอนท่รี ้องนัน้ ๆ เรียกว่า ก.ท่าราวง ข.ทา่ ราโทน ค.ทา่ ราเต้ย ง.ทา่ รา 26.การแต่งกายหมอเพลงโคราช แตง่ ลกั ษณะใด ก.นุ่งผ้าโจงกระเบน เปน็ ผ้าพื้นทอมือสีเขม้ ข.น่งุ ผา้ ซ่นิ เป็นผา้ พื้นทอมือสีเข้ม ค.น่งุ ผ้าโจงกระเบน เปน็ ผ้าพื้นทอมือสอี ่อนหวาน ง.นุ่งผา้ ซน่ิ เป็นผา้ พ้ืนทอมือสอี ่อนหวาน 27.คนโคราชสวมเสือ้ ตดั เย็บจากผ้าฝ้ายทอมือ เสือ้ ท่ีนิยมใชเ้ รยี กวา่ ก.เสอื้ “คอกระพุ่ม” และเสอ้ื “อีแปะ” ข.เสอื้ “คอกระโจม” และเส้ือ “อีแปะ” ค.เสื้อ “คอกระโจม” และเส้ือ “อีแมะ” ง.เสอื้ “คอกระดุม” และเส้ือ “คอจนี ” 28.ผา้ ขาวมา้ คาดเอว ภาษาโคราชเรยี กวา่ ก.ใชผ้ ้าขาวมา้ “คาดพงุ ” ข.ใชผ้ ้าขาวมา้ “เคยี นเอว” ค.ใชผ้ ้าขาวม้า “เคยี นพงุ ” ง.ใช้ผา้ ขาวมา้ “คาดเอว” 29.ขอ้ ใดคือการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมท้องถนิ่ ก.ฝึกร้องเพลงโคราช ข.พูดภาษาโคราช ค.ฝึกทา่ ราโคราช ง.ถกู ทกุ ข้อ 30.ข้อใดคือการแสดงออกถงึ ภาษามรดกทางวัฒนธรรมประจาชาติ ก.พดู ภาษาโคราช ข.พูดภาษาองั กฤษ ค.พดู ภาษาไทยปนอังกฤษ ง.พดู ภาษาพ้นื บ้าน @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ชุดการเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 13 Korat folk song performance

เรอื่ งที่ 1 ภาษาโคราช ชุดการเรียนรู้เร่อื งเพลงโคราช 14 Korat folk song performance

เรื่องท่ี 1 ภาษาโคราช จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายภูมหิ ลังประวัตคิ วามเปน็ มาของภาษาถ่ินโคราชจังหวดั นครราชสีมา 2. อธบิ ายพร้อมยกตัวอย่างความสาคญั ของภูมหิ ลังประวัติความเป็นมาของภาษาถ่นิ โคราชจังหวดั นครราชสมี า ภาษาโคราช ความเป็นมา จงั หวัดนครราชสมี าเป็นจังหวดั ท่ีมีกลมุ่ ชาติพนั ธ์ุหลากหลายแต่ไทยโคราชเป็นกลุ่มชาติพนั ธ์กุ ลุ่มใหญ่ท่ีมี วฒั นธรรมโคราชไดแ้ ก่ มีเพลงพ้นื บ้านท่เี รียกวา่ \"เพลงโคราช\" ใชด้ นตรพี น้ื บ้าน คือ มโหรีโคราชและท่เี ปน็ เอกลักษณ์ สาคญั คือใชภ้ าษาโคราชในชวี ติ ประจาวนั ไม่มีหลกั ฐานบ่งบอกว่ากลุ่มชาติพันธุ์โคราชมาจากทีใ่ ดแต่มหี ลักฐานทาง โบราณคดเี กี่ยวกบั ชุมชนโบราณบริเวณจงั หวัดนครราชสมี าจานวนมากซง่ึ กลุ่มชาติ-พันธุ์น้ีนอกจากจะอยทู่ ี่จงั หวดั นครราชสมี าแล้วยงั มอี ยู่ในจังหวัดบรุ ีรัมย์ชยั ภูมิ และบางสว่ นของจงั หวดั ลพบุรีบางครง้ั อาจเรียกกลุ่มชาติพันธน์ุ ้ีวา่ ไทยเบง้ิ หรือ ไทโคราช ไทโคราช ชาวโคราชจัดอยใู่ นกลมุ่ ชาตพิ ันธกุ์ ลุม่ ตระกลู ภาษาไต-กะได สาขาไตพบวา่ มกี ารตั้งถิ่นฐานในเขต จังหวัด นครราชสมี าตงั้ แต่สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ สมยั ทวารวดีจนถงึ สมยั อยุธยาและรตั นโกสินทร์ก็ไดร้ ับอทิ ธิพลวฒั นธรรม ไทยภาคกลางเป็นสาคัญและยงั ได้รบั วัฒนธรรมเขมรและวัฒนธรรมไทยลาวเข้ามาผสมผสานอกี ดว้ ยทาให้กลุ่มชาติ พันธุ์ ไทโคราชมีเอกลักษณเ์ ฉพาะ ทั้งภาษาพูด อาหาร รวมท้งั การละเล่น โดยเฉพาะเพลงโคราช ชาวไทโคราชต้งั ถนิ่ ฐานกระจายอยตู่ ามจังหวดั ต่าง ๆ เชน่ อาเภอปกั ธงชัย อาเภอหว้ ยแถลง อาเภอครบุรี อาเภอหนองบนุ นาก อาเภอ ดา่ นขนุ ทด ในจังหวดั บรุ รี มั ย์ เช่นท่อี าเภอนางรอง อาเภอละหานทราย อาเภอหนองก่ี อาเภอเมอื ง อาเภอ ลาปลายมาศ และจังหวดั ชยั ภูมิ ในเขตอาเภอจัตุรัส อาเภอบาเหน็จณรงค์ ชดุ การเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 15 Korat folk song performance

ต้นกาเนดิ เช่อื กนั วา่ บรรพบรุ ุษของชาวไทโคราชอพยพมาจากอยธุ ยา และแถบจังหวดั ชายทะเลตะวันออก ไดแ้ ก่ จนั ทบรุ ีระยองนครนายก เป็นตน้ เข้ามาในบริเวณจังหวัดนครราชสมี าและพ้นื ที่ใกล้เคียง และได้ผสมกลมกลนื กับกล่มุ คนพื้นเมืองเดิม ซ่ึงสันนิษฐานว่านา่ จะเป็น ไท-เสยี ม หรอื ไทสยามลมุ่ นา้ มูล เกดิ เป็นวัฒนธรรมไทโคราช เรียกตนเอง ว่า ไทโคราช ไทเบ้งิ หรือ ไทเดิ้ง ต่อมาได้มีการติดต่อค้าขายกับชาวลาว ชาวไทยอีสานและชาวเขมร และมีการอพยพย้ายถน่ิ ฐานของชาวลาว ชาวไทยอีสานและชาวเขมรเข้ามาทีหลัง ทาใหเ้ กิดการววิ ัฒนาการของภาษา โดนมีการยืมคาไทยอีสาน และคาเขมร ปะปนเขา้ มาใช้ เกดิ เปน็ คาไทโคราช ซึ่งแตกต่างจากภาษาไทยถ่ินอสิ านโดยท่ัวไป เพราะยังคงรักษารากศัพท์เดมิ ไวค้ ือ ภาษาไทยถน่ิ กลางนัน่ เอง ภาษาไทยสาเนียงโคราช เปน็ ภาษาไทยกลุ่มหนึ่งที่ใชพ้ ูดกันในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกลเ้ คียง เปน็ ภาษาที่ใกล้เคียงกบั ภาษาไทยกลาง ทอ่ี อกสาเนียงเหน่อ และมคี าศพั ท์รว่ มกบั ภาษาไทยกลาง และรับคามาใชจ้ าก ภาษาไทยถ่ินอีสาน ภาษาลาว และภาษาเขมร ลกั ษณะทางสัทศาสตร์ ภาษาไทยสาเนยี งโคราช เป็นภาษาไทยถนิ่ กลาง คาศัพท์ท่ัวไปตรงกับภาษาไทยถิน่ กลาง มสี าเนียงค่อนขา้ ง เหน่อและหว้ นสั้นแบบภาคกลาง แต่มกี ารผันคาต่า-สงู ทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์ของตนเองทแ่ี ตกต่างจากภาษาไทยถ่ินกลาง บ้าง โดยมักใชเ้ สยี งวรรณยกุ ต์เอก (เสียงต่า) แทนเสยี งวรรณยุกตโ์ ท (เสียงสูง) เชน่ \"โม\"่ แทน \"โม้\" หรือ \"เส่ือ\" แทน \"เส้อื \" เป็นต้น นอกจากน้ยี ังยืมคาในภาษาไทยถิ่นอีสานมาใชป้ ะปนกนั ดว้ ยเลก็ น้อย และเม่อื พูดจบประโยคจะลงท้าย ด้วยคาวา่ \"เบง้ิ , เหว๋ย, ดอ๊ ก\" วิถีชีวติ และภาษา กล่มุ ชาตพิ นั ธ์โุ คราชมีวิถีชีวิตแบบเรยี บง่ายเหมือนชาวชนบททั่วไปคืออยบู่ า้ นใต้ถนุ สงู แบบบา้ นโคราชซึ่งเปน็ เรอื นสามระดบั ใกล้ ๆบ้านปลูกพืชผักสวนครัวซ่ึงอาจมีท้ังอาหารและยาใชผ้ ้านุ่งโจงกระเบนซึ่งเป็นผา้ ไหมเรยี กวา่ ไหม หางกระรอกซึ่งเป็นผ้าทอทเ่ี ส้นพุ่งเปน็ ไหมควบสองเส้นทาให้ทอแล้วเกิดเป็นลูกลายเหมือนหางกระรอกและวฒั นธรรม ท่ีสาคญั คือภาษาโคราช ซึ่งมีวงศพั ท์ เสยี งและสานวนของตัวเอง เช่น จ่น แปลวา่ ไมว่ า่ งเลย เช่น วนั นจ้ี ่นมาก จน้ื แปลว่าจดื ชดื หรอื เซ็ง เชน่ ส้มตานีจ้ ืน้ แล้ว เซาะเยาะแปลวา่ ผอมโซไมม่ เี ร่ยี วแรง นอกจากนีอ้ าจเพีย้ นเสยี งวรรณยกุ ต์คาในภาษาไทยกลางได้แก่ เพยี้ นเสยี งเอกเปน็ เสยี งตรี เช่น กัด เปน็ กัด๊ ดัด เปน็ ดัด๊ เพ้ยี นเสียงสามัญเปน็ เสียงจัตวาเช่น ปลา เป็น ปลา๋ กา เปน็ กา๋ เกยี่ วกับสานวนภาษาโคราชมีสานวนมากมายท่ีใชใ้ นชวี ติ ประจาวันเชน่ คาเรยี กขวัญดังตวั อย่างเล็กน้อยดังน้ี \"ขวัญอนี างเอยมา......กู๊...ขอให่มาเขา่ โครงอย่าได้หลาบขอใหม่ าเขา่ คราบอยา่ ได้ถอยสบิ ปีอย่าไปอื่น หม่ืนปี อยา่ ไปไกลขอให่มาอยู่ซมุ พอ่ ซุมแม่ ซมุ พซ่ี ุมน่องให่มาอยเู่ รือนใหญห่ กกะไดสูง...\" หมายความว่าขวัญลูกเอยจงมาเถิดขอให้มาอยู่กับรา่ งกายสิบปหี มื่นปอี ยา่ ได้ไปไหนขอให้อยู่กับพอ่ แม่พนี่ อ้ ง บนเรอื นหลังใหญ่บันไดสูง ชดุ การเรียนรู้เรือ่ งเพลงโคราช 16 Korat folk song performance

การกระจายตวั เปน็ ภาษาที่ใช้มากในจังหวดั นครราชสมี าเกือบทุกอาเภอ ยกเวน้ บางอาเภอท่มี ชี าวไทยอีสานอยเู่ ป็นจานวนมากกว่า เช่น อาเภอบวั ใหญ่อาเภอสงู เนินอาเภอปักธงชยั เป็นตนั นอกจากนพี้ บวา่ มีการใช้ภาษาไทยสาเนียงโคราชในประชากร บางสว่ นของจังหวัดสระบรุ ีจังหวดั ลพบรุ ีจงั หวัดเพชรบูรณ์จังหวดั ชยั ภูมิจงั หวัดบุรรี มั ย์จังหวัดสระแกว้ อีกด้วย การปรับปรนในสังคมปจั จุบัน ปจั จุบันกลุ่มชาตพิ ันธ์ุโคราชมีความภาคภมู ิใจในความเปน็ คนโคราชร่วมกันสรา้ งสรรคส์ ังคม รกั ษา และสบื ทอดวฒั นธรรมโคราช ภาษาโคราช ภาษาโคราช เปน็ วฒั นธรรมท้องถน่ิ สาขาหน่ึงของชาวโคราช ซงึ่ มลี กั ษณะประสมประสานระหวา่ งภาษาอสี านและ ภาษาไทยกลาง แต่อยา่ งไรกต็ ามภาษาโคราชก็มีลักษณะเฉพาะตวั เกยี่ วกบั ศัพท์ สาเนียง และสานวนดังจะกลา่ วถึง ตอ่ ไปน้ี ๑ คาศพั ท์ คาศัพท์ภาษาโคราชที่ไม่ซ้ากับภาษาไทยกลางเม่ือเรยี งจากอักษร ก. ถึง ฮ. แลว้ พบวา่ มจี านวนมากมาย ถาวร สบุ งกช ได้รวบรวมไวม้ ีถงึ ๑,๐๖๕ คา สว่ นใหญ่เป็นคาศัพทท์ ใ่ี ชท้ าหนา้ ทีเ่ ป็นคานาม คากรยิ า และคา วเิ ศษณ์ ยกตวั อย่างโดยสงั เขปดงั น้ี คานาม เชน่ กาดน้ แปลวา่ ท้ายทอย ฟองของนา้ โสโครก กาเปือก แปลว่า ผลไม้หรอื ผกั ทยี่ ังเป็นลูกออ่ น ๆ อยู่ นา้ ครา กะดึ๊บ แปลวา่ ขา้ วตม้ ไส้กรอก ขี่สีก แปลวา่ ชักคะเย่อ ยงุ่ มาก, ประดงั เขา้ มา เขา่ เปยี ก แปลวา่ เช็ดก้น, ไม่แก้งก้น คือ ไม้เช็ดกน้ กนิ คาใหญ่ ๆ อย่างรวดเรว็ นา่ มต๊บั แปลวา่ นง่ั หรือยนื เปน็ วงชดิ ๆ กนั ศีรษะโนม้ เข้าหากนั นินทา ช่กั ชา แปลว่า ค่อย ๆ ลม้ ลง เป็นใบ้ เชน่ คนกืก เรยี กการเล่นต่ีชนิดหนงึ่ ท่ีไม่ออก คากรยิ า เช่น จน่ แปลว่า แก้งกน้ แปลว่า ขะโม่ม แปลวา่ กะจ้อบ แปลว่า พดู เด๋ิม แปลว่า โหงย่ แปลว่า คาวิเศษณ์ เชน่ กกื แปลว่า เสียงวา่ ต่ีกกื กะจ้อน แปลวา่ เล็ก แคระเชน่ มา้ กะจ้อนคือม้าแคระ เป็นนิดหน่อย กะต๊ะกะเติง้ แปลวา่ มไี ม่มากนัก มักใช้กับพชื ผักผลไม้ เช่น \"หว่าตน้ นีซ่ ุกพอ กะร่ะกะราย แปลวา่ กะร่ะกะราย\" แปลวา่ หว้าตน้ น้ีสุกเพียงนดิ หน่อย รรุ ะ แปลวา่ ส่งิ กอ่ สร้างท่ีดูเกา่ โทรม จวนพัง ฝนเม็ดใหญ่ตกหา่ ง ๆ และรวดเรว็ แล้วหายไป รุ่ระ่ แปลวา่ ชดุ การเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 17 Korat folk song performance

คาวเิ ศษณ์ภาษาโคราช จะมใี ช้เป็นจานวนมาก ทงั้ ขยายนามและขยายกริยา แตส่ ว่ นใหญม่ กั ขยายกริยา เช่น แผลเจ้อะเวอ่ ะ แปลว่า เปน็ บาดแผลท่ีใหญ่มาก ปากกะโผง่ แปลวา่ เปน็ คนทร่ี กั ษาความลบั ไม่ได้ หนา่ ระซอ่ ง แปลว่า มากมาย หน้าสลอน ฝนละลึม แปลว่า ฝนตกปรอย ๆ งอโลง่ โง่ง งอล่องงอ่ ง แปลวา่ ของที่ยาวแล้วโคง้ งอถา้ เป็นของใหญใ่ ช้ โลง่ โงง่ ถา้ เป็นของเลก็ ใช้ล่องง่อง ส่วนลา่ งง่าง มกั ใชก้ บั ผู้หญิง เชน่ เพลงโคราชบทหนงึ่ ว่า \"ทาหนุ หนั ๆวง่ิ ขน้ึ บนหอ ฉวยไดไ้ มส่ มอหมายจิโมน สมอง เหน็ เมยี เปิดอ๊กล่างง่าง เลยรีบ วางตะบอ๋ ง\" คาศัพท์ภาษาโคราชมี ๒ ลักษณะคือ คาศัพทท์ ี่ใช้รว่ มกบั ภาษาไทยกลาง กบั คาศัพทเ์ ฉพาะของภาษาโคราช คาศัพทท์ ีใ่ ช้รว่ มกบั ภาษาไทยกลาง มักเพ้ียนเสียงวรรณยกุ ตแ์ บบภาษาโคราช เช่น คาอักษรต่าเสยี งตรี จะเพยี้ นเปน็ เสียงโท เช่น มา้ เป็น มา่ ชา้ เป็น ช่า เชา้ เป็น เชา่ คาอกั ษรสงู อักษรกลาง คาตายเสียงส้นั เอกจะเพ้ียนเปน็ เสียงตรี เช่น สด เป็น ซด ขด เป็น คด จด เป็น จ๊ด ฯลฯ นอกจากนค้ี าอักษรกลางคาเป็นเสียงยาว เสียงสามัญ ภาษาโคราชยังเพีย้ นเปน็ จตั วา เช่น บาน เปน็ บ๋าน ดา เปน็ ด๋า ดาว เปน็ ดา๋ ว ปลา เปน็ ปล๋า กิน เป็น กนิ๋ ฯลฯ ในส่วนของคาศัพท์เฉพาะของภาษาโคราชนนั้ มมี ากมาย ต่อไปนเ้ี ปน็ ตัวอย่างคาศัพท์ดงั กล่าวเพยี งบางสว่ น คา ความหมาย ตัวอยา่ งการใช้ กะจ้อน แคระ, เล็ก ผู้ใหญ่ลีขีม่ ้ากะจ้อน กะเจิ้บ เหยียบ, ยา่ ฝนตกน้าขังอยา่ กะเจ้ิบนา้ คันจะกินตนี กระด๊บึ ผลไม้อ่อน ฟงั ทองกาลังเปน็ กระด๊ึบ กะด้ืบ คบื , คลาน เด็กน้อยกะด้ืบเปน็ แล้ว กะต้อนม่อนแม่น ขาดเป็นช้นิ เลก็ ชิ้นน้อย ตัดกระดาษจนกะต้อนม่อนแมน่ ทอ่ งโร ท่องโปง่ ท้องป่อง ท้องโต เดก็ อดนมมนั ท่องโร นกบ้าน ไปถ่ายอจุ จาระ ไปนกบา้ นดอกวา โนน ทีส่ งู ขนาดใหญ่กวา่ ตะโมน ใชท้ าไร่ได้ หนว่ ยแหน่ น้อยหน่า ในสวนมีทง้ั หน่วยแหน่หนว่ ยโหนง่ นี หรอื ไมไ่ ปนี นวั ขุ่น อร่อย นา้ ยาขนมจนี น้ีนวั ดี ชดุ การเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 18 Korat folk song performance

บหอ่ น ไม่เคย อยกู่ นั ใกล้ ๆ แค่น้ีบห่อนจะคุยกัน บแพ่ เช่นกัน, เชน่ น้นั ดชี วั่ ก็สอนมันบแพ่แต่มนั ไม่เอาคา บางทใี ชใ้ นความหายวา่ \"เมนิ เสยี เถอะ\" เช่น คนหนึ่งพูดวา่ วันนฝี้ นคอื จะตก อกี คนก็พูดว่า บแพ่แหละ บก๊ พรอ่ งไป กนิ ขา้ วไม่บ๊กชาม บา้ นเอง บ้านเรา โคราชบา้ นเอง ปรา้ ปล้าร้า กนิ ขา้ วกะปรา้ สะเอ๊อะ เป็นไข่ ปว่ ย เป็นไข้ อีนางมันเป็นไข่ โป้ะ ทับ ถม รวม เอาดนิ มาโป้ะไวต้ รงน้ี ปะขาง ผาลไถนา คือเหลก็ ท่ีใส่หวั หมู ลกู เขยไปซื้อปะขางไถนา แปว้ กว่ิ คอด แตงลูกนีม้ ันแปว้ เม่ียน เกบ็ งาไว้ หาเงนิ ไดก้ ็รจู้ ักเก็บ รจู้ ักเมี่ยนบ้าง แหม่น สอย เอาไมแ้ ขนบมาแหน่มฝรัง่ ที หมูสม่ หมแู หนม ทาหมูส่มขาย มก หมก หนา้ หนาวผงิ ไฟแล้วมกมนั กนิ กัน ยอ่ น เหตุว่า, เพราะว่า เพลงโคราชกลอนหนึ่งว่า \"นกจะตายยอ่ น ตัว โคคนื่ ยอ่ นตา่ ง สาวจะงามย่อนแต่ง แหวนจะซุกย่อนก้อย กนิ เข่าจะอรอ่ ย(เอย๋ ) ยอ่ นแกง\" ยงดนิ พรวนดิน เอาฝุ่นใส่พริกแล้วกต็ ้องยงดิน อย่างเดน อยา่ งเก่า, อยา่ งเดิม พูดแต่ไอ้อย่างเดนน่นั แหละ อยา่ งสวย สวยมาก ลกู สาวฉันไอ้อยา่ งสวยเลย โหย่นชงิ ช้า ไกวชงิ ช้า เดก็ นอ้ ยไปเล่นโหย่นชงิ ช้ากนั ย่ิบผา่ เย็บผา้ , ตดั เสื้อผา้ อนี างมนั ไปเรยี นย่บิ ผา่ เหยิ่ม เขย่า, สน่ั พุทรากาลังสุกเทครวั ขน้ึ เหย่ิมกร็ ว่ งรุ ๆ แย่ แย้ ยามอดอยากก็หากินแยก่ ินบ้ึงไป อตุ๊ ุ๊ อุ่นสบาย ยามหนาวไดห้ ่มนวมก็หลบั อุ๊ตุ๊ไปเลย อดู้ ลูด มอมแมม, เลอะเทอะ ดูเนอื้ ตวั ตดิ โคลนอู้ดลดู เอ้อเห่อ อทุ านอย่างประหลาดใจ เอ้อเห่อคนมาแตเ่ มอื งงามแท้ ๆ น้อ ออดหลอด สะอาด, บรสิ ุทธ,ิ์ หมดจด ลกู สาวใครหนองามออดหลอด อั๊วะ อวบ, อ๋ัน (ใช้กับคน) นา่ กนิ (ใชก้ บั พชื ) ตาลงึ ไดฝ้ น ยอดชา่ ง อัว๊ ะจริง ๆ เอชา, เอยา อทุ านอยา่ งดใี จระคนแปลกหนา้ เอยา!ใชอ่ นี างไหมน่ี สาเนียง ภาษาโคราชจะมีคาศัพท์ส่วนหนง่ึ ท่ีใช้คาศัพท์รว่ มภาษาไทยกลาง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ปัจจบุ ันนก้ี ารสื่อสาร คมนาคมสะดวกรวดเร็ว สอ่ื มวลชนชนดิ ต่าง ๆ แพร่เขา้ ไปสู่ชนบทได้ทุกรูปแบบ การศึกษาเจรญิ ข้นึ ทาให้ภาษาไทย กลางเข้ามาปะปนกับภาษาโคราชมากขนึ้ คาศพั ท์ภาษาโคราชแท้ ๆ ถูกลมื ไป คนโคราชสมยั ใหม่จึงใช้ภาษาโคราชโดย ใชศ้ ัพทภ์ าษาไทยกลางเพียงแต่ออกเสยี ง เปน็ สาเนียงโคราช คือเปลย่ี นระดับวรรณยกุ ต์เท่านนั้ เชน่ ทา้ ยทอย ออกเสยี งเป็น ท่ายทอย สระผม ออกเสียงเปน็ ซะผม กิน ออกเสียงเปน็ ก๋นิ , กิน ข้าว ออกเสียงเปน็ เขา่ ชุดการเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 19 Korat folk song performance

ไป ออกเสยี งเปน็ ไป๋, ไป เดิน ออกเสยี งเป็น เดิ๋น, เดนิ มด ออกเสียงเปน็ ม่ด น้า ออกเสยี งเป็น น่าม ขา้ วต้ม ออกเสียงเปน็ เข่าต้ม ไข้หวดั ออกเสียงเป็น ไขว่ ดั เป็นไข้ ออกเสยี งเป็น เป็นไข่ แจกการ์ด ออกเสียงเป็น แจกกา้ ด มนี กั ภาษาศาสตรไ์ ด้ศึกษาเสียงวรรณยุกต์ภาษาโคราชปจั จบุ นั เชน่ _ชลดิ า รินทร์พรหม_ ศึกษาเสียง วรรณยุกตภ์ าษาโคราช (ในเมอื ง) เม่อื พ.ศ. ๒๕๑๙ พบว่า มีเสียงวรรณยุกต์ ๔ หน่วยเสียง คอื ๑. หนว่ ยเสียงตา่ - ข้นึ เชน่ คาวา่ เฉย สวน เหลอื ง เห็น หนอง ขา ฝา หนู หมี ฯลฯ ๒. หน่วยเสียงตา่ - ตก เชน่ คาว่า ดอก หึ อิม่ เหล่น เดิน่ เส่น ผง่ึ ส่นเถ่า หมอบ ฯลฯ ๓. หนว่ ยเสียงกลาง - ระดับ มี ๒ เสยี ง คือ เสยี งกลางระดบั เช่น ชิม รมิ เย็น เต็ม ปึง เงนิ ไอ ดา เดยี ว มี ที เก ฯลฯ และหนว่ ยเสียงกลาง - ข้ึน เช่นป๊ดิ (ปิด) ดบ๊ิ (ดบิ ) แต๊ะ(แตะ) ฟกึ (ฝกึ ) เบ๊าะ(เบาะ) กก๊ั (กัก) ฯลฯ ๔. หนว่ ยเสยี งสูง - ต่า มี ๒ หน่วยเสยี ง คือ เสยี งสูง - ตก เช่น ดิ้น จิ้ม เต้น บึ้ง ใช่ คา่ ใกล้ ป้าย ป้า โง่ ฯลฯ และเสยี งสงู - ระดบั เช่น ซับ (สับ) ซดั (สัตว์) มด (หมด) ฯลฯ สว่ น วจิ ินตน์ ภาณุพงศ์ ได้ศกึ ษาเสยี งวรรณยุกต์ภาษาถ่ินโคราชเช่นเดียวกันโดยศึกษากระจาย ๑๖ อาเภอ เมือ่ พ.ศ. ๒๕๒๒ ด้วยการใชร้ ายการคาสาหรับทดสอบเสยี งวรรณยุกตข์ องวิลเลีย่ ม เจ เกด็ นี เป็นเครอ่ื งมือ ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลพบว่า สามารถแบง่ ภาษาโคราชดว้ ยเสียงวรรณยกุ ต์เป็น ๒ กลมุ่ ใหญ่ ๆ คือ กลมุ่ ตะวนั ออก และกล่มุ ตะวนั ตก โดยกลุ่มตะวันออกไดแ้ ก่ อาเภอชมุ พวง อาเภอบัวใหญ่ อาเภอห้วยแถลง อาเภอคง อาเภอพิ มาย อาเภอโนนสงู อาเภอจักราช จะมเี สียงวรรณยุกต์เหมอื นกัน ส่วนกล่มุ อาเภอตะวันตกได้แก่ อาเภอโนนไทย อาเภอด่านขนุ ทด อาเภอปากช่อง อาเภอปักธงชยั อาเภอโชคชยั อาเภอครบรุ ี และอาเภอเสิงสาง มเี สียง วรรณยุกตค์ ล้ายคลึงกัน รายการคาทน่ี าไปทดสอบเสียงวรรณยุกตม์ ีดังน้ี A BC DL DS ขา หู หัว ข่า เข่า ไข่ ผ้า เสื้อ ฆ่า ขาด หาบ สาก ๑. ขดั สตั ว์ หวดั ตา ปลา กา ปา่ ไก่ เตา่ กลา้ ปา้ กา้ ง ปาก ตาก กาด ๒. กัด ปดั ตัก บาน ดา ดาว บ่า อา่ ด่าง อ้า ด้าย บา้ บาด ดาบ อาบ ๓. คัด ดบั ดกั คาง มือ นา พ่อ ล่าง คา่ ม้า นา้ ค้า นาก ลาบ คราด ๔. วดั นบั คดั คาที่แยกภาษาโคราชดว้ ยเสียงวรรณยกุ ต์ออกเป็น ๒ กลุ่มอย่างชดั เจน คือ รายการคาในแถง A โดย กลุ่มตะวนั ออก จะออกเสียงแถวที่ ๑, ๒ และ ๓ เหมอื นกัน เป็น หู หวั ขาต๋าปลา๋ ก๋า บา๋ นด๋าด๋าว สว่ นกลุ่มตะวนั ตกจะออกเสยี งแถวท่ี ๒, ๓ และเหมอื นกัน เป็น ตา ปลา กาบาน ดา ดาว คา มือ นา สานวนภาษาโคราช สานวนภาษาเป็นคาพูดท่กี ล่นั กรองขึน้ มาเพือ่ ความสละลวยของภาษา มีความคมคายและซับซ้อนกว่า คาพูดธรรมดา สานวนภาษาโคราชมีลักษณะเฉพาะตวั คือ ส่วนใหญ่มีเสียงสัมผัสคล้องจองกนั อนั แสดงเพลง ชุดการเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 20 Korat folk song performance

โคราช เปน็ ต้น สานวนภาษาโคราชมีความผูกพันกับวิถชี วี ติ ตลอดจนสะท้อนให้เห็นคา่ นยิ ม จรยิ ธรรมความ เช่อื ประเพณี และทัศนคติของคนโคราชอยา่ งชัดเจน มคี ุณคา่ ทางวฒั นธรรมทงั้ ด้านรปู ธรรม คอื แสดงภาพ การดาเนินชีวติ ตั้งแตเ่ กิดจนตาย และดา้ นนามธรรมคือการอบรมสัง่ สอน ต่อไปน้จี ะยกตัวอยา่ งสานวนภาษา โคราชโดยสังเขป ๑ กลุ่มคาสานวนภาษาที่มีเสยี งสัมผัส เชน่ กะตมุ้ หุ่มหอ่ หมายถงึ การได้รบั ความชว่ ยเหลืออยา่ งอบอุน่ มาจาก \"ตมุ้ \" ซึ่งเป็นอาการของ แมไ่ ก่ ทีป่ กป้องลูก ไวใ้ ต้ปีกทั้งสองข้าง กะท่อมห่อมสะหนา หมายถงึ กระท่อมที่พักอาศัย เชน่ ไดก้ นั แลว้ ก็พากัน ไปย่กกะท่อมหอ่ มสะหนา อยไู่ ป กะหม่าบา้ บ๋นิ หมายถงึ ตกใจมาก เช่น เห็นไฟไหม่เลยกะหมา่ บ้าบ๋ินเมิด้ กวดกว๋ ยสวยเสีย หมายถึง ตายอย่างทนั ทีทนั ใด กน๋ิ นา่ มรอ่ นนอนไฟ หมายถงึ การอย่ไู ฟของหญิงแม่ลกู อ่อน แก๊ะหัวเลาเกาหวั หญ่า หมายถงึ หมดหนทางทจ่ี ะด้ินรนตอ่ ไป คนดต๋ี ่ายหน่าลายยัง หมายถงึ คนช่ัวยังลอยนวล เช่น น่แี หละเขาว่าคนดี๋ตาย หน่าลายยัง งเู ง่ยี วเข่ียวตะขาบ หมายถึง อสรพษิ ทั้งหลาย เช่น เขา่ ค่ากลางคืนใหเ่ ดนิ ระวังงเู ง่ยี วเข่ยี วตะขาบเดิ้ง อีลักอหี ลดู หมายถงึ ความลาบาก ทุลกั ทเุ ล เช่น กว่ั จะได้ทางานอีลัก อหี ลดู เจนวา่ หาอยู่หากนิ หมายถงึ การประกอบอาชพี เช่น เปน็ ยงั ไงหาอย่หู ากนิ ยังไง หวั หายตะพายขาด หมายถึง การไปไหนๆ โดยไม่บอกกลา่ วใหผ้ ู้ใดทราบมักใช้กบั คนชอบเทย่ี ว เชน่ ไปหวั หายตะพายขาด สานวน นมี้ าจากการเลี้ยงมา้ , ววั ทีต่ ะพายขาดแล้วจบั มา ผูกคืนได้ยาก ๒ กล่มุ คาสานวนทไ่ี ม่มีเสียงสัมผัส เช่น กด๊ั ฟนั ขยุม้ ตดู หมายถึง การทาสิ่งใดสิ่งหนง่ึ สดุ กาลัง เชน่ ป๊า...กั๊ดฟนั ขยุ้มตูดปานนี่ มันยงั ถอน ไมข่ ึ้นนอ กาข่ีไมท่ ันควย หมายถึง จบั ตวั คนทาผิดไม่ได้ทันทว่ งที เช่น มัวแต่เซ่ออยู่ ก๋าขไี่ มท่ ันควยนั่น กิ๋นเผ่ือหมา หมายถึง กินอยา่ งไมป่ ระมาณตน เชน่ รากแตกรากแตน๋ ยังงกี่ ็ยอ่ นมนั กิ๋นเผ่ือหมา ขซ่ี บร่อง หมายถงึ ทาอะไรได้จังหวะพอดี เช่น มันชนะเขาก็ยอ่ น ขี่ซบรอ่ งดอกนา ขื่นก๊กไมช่ ว่ ยแรงกะถา หมายถึง การหาหนทางชว่ ยใหผ้ นู้ นั้ พ้นทกุ ขพ์ ้นภยั เช่น ใควา่ อะไรด๋ี ก็ทาน่ันแหลว่ ขน่ึ กก๊ ไม่ช่วยแรงกะถาเอาละเด่ ๓ กลมุ่ คาสานวนทีเ่ ปน็ ความเปรียบ เสินขื่นยังกะเข่าคา่ งบี๋ หมายถึง คนท่ชี อบยอ ระซอ่ งยงั ก๊ะหน่างวั เกี๋ยน หมายถึง หน้าสลอนเหมือนหน้าวัวเทียมเกวียน มักใช้เปรยี บเดก็ ๆ เหนยี วยังก๊ะหนงั หัวเกี๋ยน หมายถงึ ความตระหนี่ถี่เหนียวน้ันเหมือนหนงั ทีใ่ ชผ้ กู อยู่ทห่ี ัวเกวียน ใชเ้ ปรยี บกบั คนท่ีตระหนี่มาก ๆ สนุ๊กพอปานเตะ๊ เฮ็ด หมายถึง ทาสง่ิ ต่าง ๆ ได้ง่ายดายเหมอื นการเตะเห็ดไม่ต้อง ใช้ความพยายามมาก คล่องพอปานใสไ่ ข หมายถึง มีความคลอ่ งตัวมาก สานวนน้เี ปรียบกบั ล้อเกวยี น ถา้ เอาไขใส่ (นา้ มันหล่อล่ืน) จะทาใหห้ มุนคลอ่ ง ไม่หนักแรงววั ควาย ใหก่ นิ๋ ไม่รบู่ ๊กใหจ่ ๊กไมร่ ู้เม้ิด หมายถึง หมายถึง ใหม้ ่งั มีศรีสุข ๔ กลมุ่ คาให้พร เป็นกลมุ่ คาทก่ี ล่าวออกมาจากความรสู้ ึกท่จี ริงใจทาใหผ้ ้รู ับพรมคี วามสุข อ่ิมเอิบใจ เชน่ ชดุ การเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 21 Korat folk song performance

- ขอใหอ่ ยู่เย็นเปน็ ซกุ สะนกุ สบ๋ายควมเจ็บอย่าได้ควมไข่อยา่ มี ของช่ัวอย่าให่เห็นของเหมน็ อย่าให่พบ ให่ อย่ดู ีก๋ น๋ิ ดน๋ี ึกอย่างไหนของให่ได้ อย่างปรารถนาเดอ - คาแปล ขอให้อยเู่ ย็นเปน็ สขุ สนุกสบาย ความเจบ็ อยา่ ได้ ความไขอ้ ยา่ งของชว่ั อยา่ ใหเ้ หน็ ของเหมน็ อย่าได้ พบ ให้อยู่ดีกินดี นึกอย่างไหน ขอให้ได้อยา่ งปรารถนา นะ - ขอให่ได้เป็นเจา้ คนนายคน ไปทางไหนขอให่มีคนเดินหนา่ ใหม่ ขี ี่ข่า เดน๋ิ ต๋าม ไป๋ทางไหนให่มีแตค่ นรัก ไมม่ ี คนชัง ให่อายุหมัน่ ข็วนยื๋นใหไ่ ด้ผัวคนรู้ ใหไ่ ด้ชูค่ นงาม เดอลกู เดอ - คาแปล ขอให้ได้เป็นเจา้ คนนายคน ไปทางไหนขอใหม้ ีคนเดนิ หน้า ให้มีข้ีขา้ เดินตาม ไปทางไหนขอให้มีแต่ คนรักไม่มีคนชัง ให้อายมุ ่นั ขวัญยนื ให้ได้ผัวคนรู้ ให้ได้ชคู้ นงามนะลูกนะ ๕ กลุ่มคาเรียกขวัญ เป็นกลุม่ คาสานวนท่คี นเฒา่ คนแกใ่ ช้เรยี กขวัญให้ลูกหลานทป่ี ว่ ยไขห้ รือคนที่จากบา้ นไปนาน แล้วกลับมา อย่างปลอดภัย เพือ่ เปน็ กาลังใจแกบ่ คุ คลน้นั เช่น -ขว็ นอีนาง (ไอ้นาย) เอย มากู๊.............. ให่มาเขา่ โครงอยา่ ได้หลาบ ให่มาเข่าคราบอย่าได้ถอย ซิบป๋ีอยา่ ไป่อนื่ หม่ืนป๋ีอย่าไปไ๋ กล๋ ให่มาอยู่เรือนพ่อเรือนแม่ ใหม่ าอยู่ซุมพ่ีซมุ น่อง ขว็ นพีจ่ ไิ ป๋ให่หน่องชัก่ ไว่ข็วนนอ่ ง จิไป๋ใหพ่ ่ีช่กั ไว่ ใหผ่ กู กัน๋ อยา่ งเครือมัน ใหพ่ นั กั๋นคือเครอื ถัว่ ใหม่ านอนฟูกถว่ มหนา่ ให่มานอนผา่ ถ่วมต๋วั อย่าไปกนิ เขา่ เด๋นผีราก อย่าไปกิน๋ หมากเดน๋ ผีคาย อยา่ ไปเอา๋ รากไมต่ า่ งหมอน อย่าไปเอา๋ ขอนต่างบา้ น อยา่ ไปนอนขว่ มกนิ๋ นา่ มลาย อย่าไปนอนหงายกน๋ิ น่ามคา่ ง อย่ามัวไปหลงในน่ามเป็นเพ่ือนปล๋า อยา่ มัวไปหลงในนาเป็นเพื่อนเขา่ ใหม่ าอย่เู รือนใหญ่ฮกกะได๋สงู มาเดอขว็ นเอย...มากู๊ มาอยซู่ ุมพ่อซุมแม่ซุมพีซ่ ุมนอ่ ง เดอข็วนเอย...มากู๊ คาแปล - ขวัญเอยมาเถดิ ขอให้มาเขา้ ร่างอย่าได้เขด็ หลาบหวาดกลัวเลย สิบปอี ย่าไปอืน่ หมืน่ ปีอย่าไปไกล ใหม้ าอยเู่ รือนพ่อเรือนแม่ท่ีมีญาติพ่นี ้องแวดลอ้ ม ถา้ ขวญั พ่ีจะไปให้น้องชกั ชวนไว้ ขวัญนอ้ งจะไปก็ให้พีช่ ักชวนไว้ ใหผ้ ูกพันกันเหมือนเครือถั่วเครอื มนั ใหม้ านอน ท่ีนอนซ่งึ หนานมุ่ และผา้ ห่มผืนหนาอย่าไปกนิ ขา้ วท่ีผอี าเจียนออกมา อย่าไปกนิ หมากเดนผคี าย อยา่ ไปเอารากไมต้ ่างหมอน อยา่ ไปเอาขอนไม้ตา่ งบ้าน อย่าไปนอนควา่ กนิ น้าลายอย่าไป นอนหงายกินน้าค้าง อย่ามัวไปหลงในนา้ เปน็ เพื่อนปลา อยา่ มัวไปหลงในนาเปน็ เพื่อนข้าว ใหม้ าอยู่เรอื นใหญ่ บนั ไดสงู มาเถิดขวญั เอย...มาอยกู่ ับพอ่ แม่พี่น้อง มาเถิดขวัญเอย... ๖ กล่มุ คาอธษิ ฐาน ใช้อธิษฐานในโอกาสทาบุญ ตกั บาตร เช่น - เขา่ ขา้ พ่ะเจา้ ขาวเหมือนดอกบว๋ั ยก่ ขื่นเหนอื หวั ถวายพร่ะพุ่ทธ ต้ังใจ๋ให่บรซิ ดุ ถวายพร่ะธรรม ขอให่ใจข้าพะ่ เจ้า จงนาถวายพร่ะสงฆ์ จดิ๊ ใจ๋จานงหมายทางซ่ายขวั กร๋งต่อพร่ะนิพพาน ขอให่ได้พบ่ ด๋วงแก้ว ขอให่แคลว่ บ่วงมาร ขอให่ทนั พระศรีอารยิ ป์ ะติโย โหตุ๊... คาแปล - ข้าวของขา้ พเจ้าขาวเหมือนดอกบัว ยกข้ึนเหนอื หัวถวายพระพทุ ธ ตง้ั ใจให้บริสทุ ธ์ิถวายพระธรรม ขอใหใ้ จข้าพเจ้าจงนาถวายพระสงฆ์ จติ ใจจานงหมายทางซ้ายขวา ตรงต่อพระนิพพาน ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้ แคล้วบว่ งมาร ขอให้ทนั พระศรอี าริย์ปะตโิ ยโหตุ... ชุดการเรียนรู้เรือ่ งเพลงโคราช 22 Korat folk song performance

คาลงท้าย ภาษาโคราช มคี าลงท้ายเฉพาะตวั ทงั้ ในประโยคปฏิเสธ ประโยคคาถาม และประโยคบอกเล่า เชน่ มาไอ๋เยอ หมายถงึ มาทาไม่หรือ ไม่ไป๋ดอกนี หมายถงึ ไม่ไปหรือ ไม่เป็นดอกวา หมายถงึ ไมเ่ ปน็ กระมัง ไม่ใชด่ อกแฮะ หมายถงึ ไม่ใชห่ รอก ไปแ๋ หละเดอ หมายถึง ไปละนะ ทาแล่วเด หมายถงึ ทาแลว้ นะ คาปฏิเสธ จก๊ั หมายถึง ปฏเิ สธแบ่งรบั แบง่ รู้ จ๊ักเด่ หมายถงึ ปฏิเสธเดด็ ขาด จั๊กแหล่ว หมายถึง ปฏเิ สธเชิงไมพ่ อใจ จก๊ั แหละ หมายถงึ ปฏเิ สธแบบให้พน้ ตัว นอกจากคาปฏิเสธแล้ว ภาษาโคราชยังมีลักษณะเฉพาะอนื่ ๆ เชน่ คาลกั ษณะนาม คาทักทาย คาสบถ สาบาน และการพดู ประโยคท่ีชวนฉงนสาหรับผู้ใชภ้ าษากลาง เชน่ ประโยค ความหมาย เป็นไข่ ไม่สบาย เปน็ ไข้ จะไปงา่ ยไหม จะกลับเร็วไหม จะยากไปไหม จะกลับชา้ ไหม ถนนนจ่ี ะไปไหน ถนนสายน้ไี ปถึงไหน, ผา่ นอะไรบ้าง ไม่อยากพูดหา ไมอ่ ยากพดู ดว้ ย ประโยค ความหมาย กินใหญก่ นิ น้อย กนิ มาก ไอแ้ นวนั่น สิ่งนน้ั วันนี้นา้ ลกึ ปานใด น้าขึ้นถงึ ไหนแลว้ ฝนก๊ะบา้ น ฝนตกทบ่ี า้ น เชิง ๆ จะเกง่ ดูเหมือนจะเก่ง ซง ๆ จะเป็นไข่ ดูเหมอื นจะเป็นไข้ ไปเล่นบ้าน ไปเที่ยวบา้ น พดู ดัดลา่ ง พูดแบบชาวลา่ ง (ชาวกรุงเทพฯ) ของอย่างกันนัน่ ของอยา่ งนนั้ เอาเมยี หรือยงั แตง่ งานหรือยัง ”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 23 Korat folk song performance

บันทึกสรุปการเรียนรู้ สรุปเนอ้ื หา ...................................................................................................... ........................................................................ .............................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... ......................................................................................... ..................................................................................... ................................................... ....................................................................................................................... .... ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั .................................................................................................................. ............................................................ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................... ............................... ..................................................................................................... ......................................................................... .............................................................................................................................................................................. การนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ........................................................................................................ ...................................................................... .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................... ....................................... ........................................................................................... ................................................................................... ............................................................................................................................................................................ .. ชดุ การเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 24 Korat folk song performance

ใบงาน ให้นกั ศกึ ษาตอบคาถามดังนี้ 1. ใหผ้ เู้ รยี นสรุปภูมิหลังประวัตคิ วามเปน็ มาของภาษาถนิ่ โคราช .................................................................................................................................................... ..................................... ................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ........................................................................................... .............................................................................................. ................................................ ......................................................................................................................... ................ ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................... .............................................................. ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... 2. ให้ผเู้ รยี นหาคาศัพทต์ ่างๆ(เช่นคานาม กริยา คาวเิ ศษณ์)ของภาษาถนิ่ โคราชท่ีใช้ในชวี ติ ประจาวัน ......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ............................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ........................ ......................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... .................................... ................................................................................................................... ...................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................. ...................................................... 3. ใหผ้ ู้เรยี นยกตัวอยา่ งสานวนภาษาโคราช ............................................................................................................................. ............................................................ .......................................................................................................................................... ............................................... ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................. ......................................................... ................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ชดุ การเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช 25 Korat folk song performance

.................................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................... .......................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................. ....................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...... ......................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ................................................... .................................................................................................................................. ....................................................... ......................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................... ................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................ . ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................ ......................................................... ............................................................................................................................... .......................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................. ........................... ................................................................................................................................................... ...................................... ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................ .................................................................... ชุดการเรยี นรู้เรอื่ งเพลงโคราช 26 Korat folk song performance

เรอ่ื งที่ 2 เพลงโคราช ชุดการเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 27 Korat folk song performance

เร่อื งที่ 2 เพลงโคราช จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของเพลงโคราชไดแ้ ละหมอเพลงโคราชได้ 2. บอกประวตั ิความเป็นมาของเพลงโคราชได้ 3. อธิบายและตระหนักเหน็ คุณค่าความสาคญั ของเพลงโคราช 4. ระบุแหล่งเรยี นร้ภู มู ิปัญญาทอ้ งถิ่นและเพลงโคราชได้ 5. วเิ คราะห์ความเปน็ ไปไดใ้ นการเข้าสู่อาชีพเพลงโคราชได้ 6. บอกชอ่ งทางการประกอบอาชีพเพลงโคราชได้ เพลงโคราช 1. ความหมายของเพลงโคราชและหมอเพลงโคราช 1.1 จากการศึกษาเอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง ช่ือผแู้ ตง่ ฯพณฯ สุวัจน์ ลปิ ตพัลลภ (2542 : 140) ได้ให้ความหมายของเพลงโคราช ไว้วา่ ตานานของเพลงโคราชน้ัน ผู้รู้และหมอเพลงเล่าให้ฟังวา่ มีนายพรานคนหน่งึ ชอื่ เพชรนอ้ ย ออกไปลา่ สตั ว์ในป่า เขตหนองบุญนาก อาเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสมี า คืนหนง่ึ แกไปพบลูกสาวพญานาคขน้ึ มาจากหนอง น้า มานง่ั ร้องเพลงคนเดียว พรานเพชรน้อย ไดย้ ินเสยี งจึงแอบเขา้ ไปฟังใกล้ ๆ แกประทบั ใจในความไพเราะและ เน้ือหาของเพลง จึงจาเนือ้ และทานองมาร้องให้คนอ่นื ฟงั ลักษณะเพลงทร่ี ้องเปน็ เพลงกอ้ ม หรือเพลงคู่สอง อีกตานานหน่ึงเล่าว่า ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอนิ เดียโดยพระยาเข็มเพชรเป็นผูน้ ามา พร้อม ๆ กบั ลิเก และลาตัด โดยให้ลเิ กอยู่กรงุ เทพฯลาตัดอยู่ภาคกลาง และเพลงโคราชอยู่ที่นครราชสีมา เพลงโคราชระยะแรก ๆ เป็นแบบเพลงกอ้ มคนทเี่ รยี นรู้เพลงโคราช จากพระยาเขม็ เพชร ชื่อตาจัน บา้ นสก อยู่ \"ซุมบา้ นสก\" ติดกบั สถานี รถไฟชมุ ทางถนนจริ ะตานานทงั้ สองถงึ แม้จะต่างกันในดา้ นกาเนดิ แตต่ รงกนั อย่างหนึง่ ท่ีกลา่ วว่าเพลงโคราชระยะแรก เลน่ แบบเพลงก้อม ก้อมเป็นภาษาโคราชและภาษาอีสาน แปลวา่ สนั้ เพลงก้อมหมายถึง เพลงสั้น ๆว่าโตต้ อบกลา่ ว ลอย ๆ ทงั้ ท่มี ีความหมายลึกซ้ึงหรอื ไมม่ ีความหมายเลยก็ได้วฒั นธรรมไทยในปจั จุบนั ถกู แทนทีด่ ้วยเพลงสมัยใหม่ เด็กและ เยาวชนหันไปสนใจเพลงสากลมากขึน้ ทาใหศ้ ลิ ปะของไทยอนั งดงามเริ่มจางหายไป แต่หากท่านใดทีม่ โี อกาสได้มายงั เมอื งนครราชสมี าหรอื เรยี กกันติดปากวา่ เมืองโคราช ทา่ นคงจะประจกั ษต์ ่อสายตาแล้ววา่ ความคิดที่กลา่ วในเบื้องต้น ไมถ่ ูกต้องเสมอไป การร่ายรา่ ของชาวชายหญงิ เหลา่ นน้ี อกจากจะไดย้ ินเสยี งหัวเราะและความเพลิดเพลินของผูค้ นทส่ี ัญจรผา่ น ไปมาจะสามารถสัมผัสไดแ้ ลว้ เน้ือเพลงยังแฝงไปด้วยคติธรรมในการดาเนินชวี ิตที่ดีงามแม้วา่ เน้ือ เพลงบางวรรค บางตอน จะขดั หเู พราะมีคาหยาบรวนไปบ้าง แตน่ ้ันกเ็ ป็นการบอกถึงการแสดงนี้ น้นั กค็ ือเพลงโคราช เด็กและเยาวชน ในปจั จุบนั ได้หันไปสนใจกับสิ่งท่ีเป็นสากลมากขนึ้ จนลืมไปวา่ ไปว่าศลิ ปะและวฒั นธรรมในท้องถนิ่ ตนเองทรงคุณค่า และงดงามเพียงใด ช่ือผู้แตง่ มนตรี ตราโมท (2497 : 45) ไดใ้ หค้ วามหมายของเพลงโคราช ไว้วา่ มีลกั ษณะเช่นเดยี วกับ เพลงพื้นเมอื งของท้องถิ่นอื่น ๆ คอื ประกอบดว้ ยลานา อันหมายถึงความสั้นยาวของเสียง ทานองหมายถึงเสยี งสูง ๆ ชดุ การเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 28 Korat folk song performance

ตา่ ๆ สลบั กันไป และจังหวะคือส่วนแบ่งย่อยที่เป็นระยะสม่าเสมอ ซง่ึ ได้แก่มาตรา ซงึ่ สว่ นประกอบทงั้ สามนเ้ี ป็น สว่ นประกอบสาคัญของเพลงพน้ื เมืองถา้ ขาดสวนใดส่วนหน่งึ ไปจะเรยี กวา่ เพลงไม่ได้ ชือ่ ผู้แต่ง วิเชียร โตราพิมาย (2521 : 140) ไดใ้ หค้ วามหมายของเพลงโคราช ไว้วา่ รปู แบบของเพลง โคราชน้นั มีลักษณะแปลกไหจากเพลงพื้นเมืองประเภทอ่นื ๆ ตรงที่บังคบั ทง้ั สัมผัสอักษรและสัมผสั สระ คณะของ เพลงโคราชไมจ่ ากัดแนน่ อน แตม่ ีการยดื หยุ่นได้ตามความเหมาะสมเพลงรนุ่ เก่า ชอื่ ผูแ้ ตง่ พระครโู สภติ ธรรมประยตุ ( อุดมอุตฺตมปญฺโญ / สงสุระ)ได้ใหค้ วามหมายของเพลงโคราช ไวว้ ่า เพลงโคราช(PhlengKorat or Korat Folksongs) หมายถึงเพลงโคราชทีข่ บั เปน็ ทานองท้องถิ่นเฉพาะท่ีเปน็ บทเพลง กลอนซึ่งประกอบดว้ ยเพลงก้อมเพลงคู่ 2 เพลงคู่ 4เพลงคู่ 6 เพลงคู่ 8 และเพลงคู่ 12 ทัง้ เพลงรนุ่ เก่าและเพลง สมัยใหม่.(2555).ความหมายเพลงโคราช//www.koratinfo.com/samapi/koratsong/index.htmไดใ้ หค้ วามหมาย ของเพลงโคราช ไวว้ ่า เพลงพ้ืนบา้ นของชาวนครราชสีมามีหลายอย่างเช่น เพลงกล่อมลูกเพลงกลองยาว(เถิดเทงิ ) เพลงเซิง้ บั้งไฟเพลงแหน่ างแมวเพลงปีแ่ กว้ เพลงหมง่ เหม่ง เพลงลากไมเ้ พลงเชดิ เพลงช้าเจา้ หงส์ดงลาไยแต่เพลงที่เล่น กนั แพร่หลายและมีอายุยนื ยาวมาจนถึงปจั จุบันนี้คือเพลงโคราช จะเหน็ ไดว้ ่าจากข้อมูลความหมายเพลงโคราชของเอกสารที่เกีย่ วขอ้ งท้ัง 5 เล่ม ดังกล่าว ทกี่ ล่าวไว้ สามารถสรุปไดว้ ่าเพลงโคราช เปน็ การร้องระหว่างชายหญงิ คล้ายกันตรึม และหมอลา แตไ่ มม่ ดี นตรีประกอบ ใช้วาทศิลป์เพียงอย่างเดยี ว และปรบมือเพ่ือกากับจงั หวะ1.1.2 จากการสัมภาษณ์ภูมิปญั ญา จานวน 5 คน ไดใ้ ห้ ขอ้ มูลความหมายของเพลงโคราชไว้ดงั นี้ กาป่นั บา้ นแทน่ (2555) ได้ใหข้ ้อมลู ความหมายของเพลงโคราชไว้ขณะทีส่ มั ภาษณ์ภูมปิ ัญญาเรอื่ ง ความหมายของ เพลงโคราช ในวันที่ 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บ้านเลขท่ี 334 ถนนจริ ะ ตาบลในเมอื ง อาเภอเมอื ง นครราชสมี า จงั หวดั นครราชสมี า เวลา 13.00 น. ไวว้ ่า “เพลงพ้นื บ้านโคราชมลี กั ษณะเพลงที่รอ้ งเป็นเพลงกอ้ ม หรือเพลงคู่สอง ของชาวนครราชสมี า มหี ลายอยา่ ง เชน่ เพลงกล่อมลูก เพลงกลองยาว (เถดิ เทงิ ) เพลงเซง้ิ บ้ังไฟ และเพลงแหน่ างแมว ” กาเหว่า โชคชัย (2555) ได้ให้ขอ้ มลู ความหมายของเพลงโคราชไว้ขณะทีส่ มั ภาษณ์ภมู ิ ปัญญาเรือ่ ง ความหมายของเพลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 334 ถนนจริ ะ ตาบลใน เมอื ง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา เวลา 13.00 น. ไวว้ า่ “ เปน็ เพลงของชาวบา้ นทรี่ ้องเลน่ กัน ในยามวา่ งงานเพือ่ ความสนกุ สนาน เชน่ ในงานลงแขกเก่ียวขา้ ว หรอื พบปะพดู คุยกนั ในวงสรุ า ชาวบ้านทว่ี ่าเพลงได้ จะวา่ เพลงเพอ่ื ความสนกุ สนานไมม่ ีพธิ รี ีตรอง ” เลาะ บา้ นแทน่ (2555) ไดใ้ ห้ข้อมูลความหมายของเพลงโคราชไวข้ ณะทสี่ มั ภาษณภ์ มู ิปัญญาเร่อื ง ความหมายของเพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนสุ าวรียท์ ้าวสุรนารถี นนราช ดาเนนิ ตาบลในเมือง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสมี า เวลา 16.00น. ไวว้ ่า “เป็นเพลงของชาวบา้ น ทร่ี อ้ งเล่นกนั ในยามว่างงานเพื่อความสนกุ สนาน เช่นในงานลงแขกเกยี่ วข้าว หรอื พบปะพดู คยุ กนั ในวงสุรา ชาวบา้ น ท่ีวา่ เพลงได้จะว่าเพลงเพื่อความสนกุ สนานไม่มีพธิ รี ตี รอง” ลาไย หนองมว่ ง (2555) ไดใ้ หข้ อ้ มูลความหมายของเพลงโคราชไว้ขณะท่สี มั ภาษณภ์ มู ปิ ัญญาเรื่อง ความหมายของ เพลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนสุ าวรยี ท์ ้าวสรุ นารีถนนราชดาเนนิ ตาบลใน เมอื ง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไว้วา่ “เป็นเพลงพ้ืนบ้าน เพลงก้อมหรือเพลงคู่ สอง ของชาวโคราช นิยมเล่นกันแพรห่ ลายและมีอายุยืนยาวมาจนถงึ ปัจจบุ นั ” สวา่ ง บ้านดอนผวา (2555) ได้ให้ข้อมลู ความหมายของเพลงโคราชไวข้ ณะท่สี ัมภาษณ์ภมู ิปญั ญาเรื่อง ความหมาย ของเพลงโคราช ในวันที่ 27 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรียท์ า้ วสุรนารีถนนราชดาเนิน ตาบลใน เมอื ง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสมี า เวลา 16.00 น.ไว้“เป็นเพลงกอ้ ม มหี ลากหลายรส ทง้ั คาสง่ั สอน คาดา่ กระทบกระเทียบเปรียบเปรย และกล่าวเป็นนยั ถงึ เรอื่ งเพศ บางคนฟังไมไ่ ด้เพราะเหน็ ว่าหยาบโลน เกินไป” ชุดการเรยี นรู้เรอื่ งเพลงโคราช 29 Korat folk song performance

จะเห็นได้วา่ จากข้อมูลความหมายเพลงโคราชของภมู ิปญั ญาท้ัง 5 คน ดงั กลา่ ว ทก่ี ล่าวไว้ สามารถสรปุ ได้ ว่า เพลงโคราช หมายถงึ เพลงรอ้ งโต้ตอบชายหญงิ เป็นเพลงพ้ืนบา้ นชนิดหน่ึงชองชาวไทยโคราช มรี ูปแบบ เน้ือหา และการเล่นเพลงเปน็ เอกลกั ษณ์ อันสะท้อนใหเ้ หน็ โลกทศั น์ ค่านยิ ม และวัฒนธรรมบางประการของชาวไทย โคราช 1.2. ความหมายของ หมอเพลงโคราช 1.2.1 จากการศกึ ษาเอกสารทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ช่อื ผูแ้ ต่ง พระครโู สภิตธรรมประยุต ( อุดมอตุ ฺตมปญฺโญ / สงสุระ)ไดใ้ ห้ความหมายขอ หมอเพลงโคราชไวว้ า่ หมอเพลงโคราช(The Singers) หมายถงึ ผูร้ อ้ งเพลงโคราชซึ่งประกอบด้วยฝา่ ยชายและฝา่ ยหญิง เพือ่ ขับร้องเพลงโคราชและบทกลอนอนั เกีย่ วกบั เพลงโคราช ชือ่ ผู้แต่ง ถาวร สบุ งกช ไดใ้ หค้ วามหมายของหมอเพลง ไว้วา่ หมอเพลงหมายถึง ผู้ท่ีมี ลกั ษณะรปู รา่ งสงา่ งาม มสี ติปญั ญา และเป็นผทู้ รี่ ่าเรงิ ชงั พูด กลา้ แสดงออก มีความสามารถเฉพาะตัวในด้านการจัด เพลง .(2555).ความหมายหมอเพลงโคราช www.stjohn.ac.th/Department/internet_rally/rally5_47/IT_cul/ ..ได้ใหค้ วามหมายของหมอเพลงโคราชวา่ ชายหญงิ ปะทะคารมกนั ในด้านสานวนโวหารสงิ่ สาคญั ของการรอ้ งคอื การด้นกลอนสด ร้องแกก้ นั ด้วยปฏิภาณไหว พริบทาใหเ้ กดิ ความสนกุ สนานทัง้ สองฝ่า เป็นเนื้อความของเพลงพ้นื เมืองที่นยิ มร้องกัน .(2555).ความหมายหมอเพลงโคราช .www.koratinfo.com/samapi/koratsong/koratsng1.htm ได้ให้ความหมายของหมอเพลงโคราชว่า ผูป้ ระกอบอาชีพเพลงโคราชท่ีเลน่ เปน็ อาชีพได้รบั การวา่ จา้ งเปน็ เงินตาม ราคาท่ีกาหนดเพลงจะเลน่ ในงานฉลองหรือสมโภชตา่ งๆ เช่น งานศพ งานบวชนาคทอดกฐินงานประจาปีหรอื เลน่ แก้บน .(2555).ความหมายหมอเพลงโคราช.www.koratinfo.com/samapi/koratsong/index.htmไดใ้ ห้ ความหมายของหมอเพลงโคราชวา่ เพลงโคราชท่เี ลน่ เปน็ อาชพี มีการว่าจา้ งเป็นเงินตามราคาทีก่ าหนด เพลงประเภท นจ้ี ะเลน่ ในงานฉลองหรอื สมโภชตา่ งๆ เช่น งานศพ งานบวชนาค ทอดกฐินงานประจาปี หรือเล่นแกบ้ น ผู้ ประกอบอาชีพเพลงโคราชนี้เรียกวา่ \" หมอเพลง\" การเลน่ จะเล่นเปน็ พธิ ีการ มเี วที การแตง่ กายตามแบบของหมอ เพลงและมกี ารยกครู จะเห็นไดว้ ่าจากข้อมูลความหมายหมอเพลงโคราชของเอกสารทีเ่ ก่ยี วขอ้ งท้ัง 5 เล่ม ดงั กลา่ ว ทก่ี ลา่ วไว้ สามารถสรปุ ไดว้ า่ หมอเพลง หมายถึงนักร้องเพลงโคราช ในอดีตหมอเพลงรนุ่ ใหญห่ รือหมอเพลงอาวุโส คอื หมอ เพลงอายุ 50 ปขี ้นึ ไปจะต้องเปน็ ผู้รู้และมคี วามสามารถในการเล่นเพลงอยา่ งมาก แต่ปัจจุบนั นยิ มใชเ้ รยี กผูท้ ี่ ประกอบอาชีพหมอเพลงร่นุ เล็กคือหมอเพลงที่อายุ 50 ปีลงมาเป็นนกั ร้องเพลงโคราชซงึ่ แบง่ ตามอายุและ ประสบการณ์ 1.3. ความหมายของหมอเพลงโคราช จากการสัมภาษณ์ กาปน่ั บ้านแทน่ (2555) ไดใ้ หข้ ้อมลู ความหมายของหมอเพลงโคราชไว้ขณะที่สัมภาษณ์ภมู ิปญั ญาเร่ือง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 334 ถนน จิระ ตาบล ในเมือง อาเภอเมอื งนครราชสมี า จงั หวดั นครราชสีมา เวลา 13.00 น. ไว้วา่ “ผู้ชายหรือผูห้ ญิงท่มี ีการฝึกฝนหดั รอ้ งกลอน เพลงด่น มปี ฏภิ าณไหวพริบในการต่อกลอนได้ และสามารถแต่งสดๆต่อเหตุการณ์ทเี่ กดิ ขนึ้ ” กาเหวา่ โชคชยั (2555) ได้ให้ขอ้ มูลความหมายของเพลงโคราชไวข้ ณะทสี่ ัมภาษณภ์ ูมิ ปญั ญาเรอื่ ง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 334 ถนนจริ ะ ตาบลในเมือง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวดั นครราชสีมา เวลา 13.00 น. ไว้วา่ “ เป็นผทู้ ี่มใี จรัก มคี วามอดทน ขยันในการฝกึ ร้อง และสามารถโต้ตอบกับคู่ในการรอ้ งเพลงโคราช” ชุดการเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 30 Korat folk song performance

เลาะ บา้ นแทน่ (2555) ได้ใหข้ ้อมูลความหมายของหมอเพลงโคราชไว้ขณะทสี่ ัมภาษณ์ภมู ิปญั ญาเรือ่ ง ความหมาย ของหมอเพลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรยี ท์ า้ วสุรนารถี นนราชดาเนิน ตาบลในเมือง อาเภอเมืองนครราชสมี า จงั หวดั นครราชสีมา เวลา 16.00น. ไวว้ า่ “เปน็ ชาวบ้านทมี่ ีใจรกั ที่ร้องเลน่ กันในยามว่างงานเพ่ือความสนกุ สนาน เช่นในงานลงแขกเก่ียวขา้ ว หรือพบปะพูดคยุ กันในวงสรุ า ชาวบ้านทวี่ า่ เพลง ได้จะว่าเพลงเพ่ือความสนกุ สนานไมม่ ีพิธรี ีตรอง ” ลาไย หนองม่วง (2555) ได้ให้ขอ้ มลู ความหมายของหมอเพลงโคราชไวข้ ณะทสี่ มั ภาษณ์ภูมปิ ญั ญาเรือ่ ง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวันที่ 27 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรียท์ ้าวสุรนารถี นนราช ดาเนิน ตาบลในเมอื ง อาเภอเมืองนครราชสมี า จังหวดั นครราชสมี า เวลา 16.00 น.ไว้วา่ “ ผู้ทร่ี กั ในการรอ้ งเพลง โคราชรอ้ งกลอน โต้ตอบได้ อดทน ขยันร้องกลอน ” สวา่ ง บา้ นดอนผวา (2555) ไดใ้ หข้ ้อมูลความหมายของหมอเพลงโคราชไวข้ ณะที่สมั ภาษณ์ภมู ิปญั ญาเรื่อง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวันท่ี 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรียท์ ้าวสุรนารีถนนราช ดาเนนิ ตาบลในเมอื ง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไว้หมอเพลงโคราช หมายถึงผู้ รอ้ งเพลงโคราชซึ่งประกอบด้วยฝ่ายชายและฝา่ ยหญงิ เพ่ือขับร้องเพลงโคราชและบทกลอนอนั เกี่ยวกบั เพลงโคราช จะเห็นได้ว่าจากข้อมลู ความหมายหมอเพลงโคราชของภูมิปัญญาท้งั 5 คน ดังกล่าว ทีก่ ล่าวไว้ สามารถ สรปุ ไดว้ ่า คนที่รู้เพลงโคราช ผู้ท่ีมคี วามรูเ้ รื่องเพลงโคราชหากใครได้มาศึกษาเพลงโคราช จะรักอยา่ งจบั จิตจบั ใจผมู้ ี ความรู้ เช่น หมอมวย หมอผี คนไหนอยากรเู้ รื่องเพลงโคราช ต้องไปช่วยครูเลยี้ งหมู ชว่ ยทานา 2-3 ปี 2 ประวตั ิความเปน็ มาของเพลงโคราช 2.1 จากการศึกษาเอกสารท่เี ก่ียวขอ้ ง ตานานของเพลงโคราชนน้ั ผรู้ ู้และหมอเพลงเลา่ ให้ฟังว่า มนี ายพรานคนหนึ่งช่อื เพชรนอ้ ย ออกไปล่าสตั ว์ ในป่า เขตหนองบญุ นาก อาเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสมี า คนื หนึ่งแกไปพบลูกสาวพญานาคขนึ้ มาจากหนองนา้ มานั่งร้องเพลงคนเดยี ว พรานเพชรนอ้ ย ได้ยินเสยี งจึงแอบเข้าไปฟังใกล้ ๆ แกประทบั ใจในความไพเราะและเน้ือหา ของเพลง จงึ จาเน้ือและทานองมาร้องให้คนอ่นื ฟงั ลักษณะเพลงทรี่ ้องเป็นเพลงกอ้ ม หรือเพลงคู่สอง (สวุ จั น์ ลิปต พลั ลภ. 2542 : 140) อกี ตานานหนึ่งเล่าว่า ชาวโคราชได้เพลงโคราชมาจากอินเดียโดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผู้ นามา พร้อม ๆ กับลิเก และลาตดั โดยให้ลิเกอยู่กรุงเทพฯลาตัดอยู่ภาคกลาง และเพลงโคราชอยทู่ ่นี ครราชสีมา เพลง โคราชระยะแรก ๆ เปน็ แบบเพลงก้อมคนที่เรยี นรเู้ พลงโคราช จากพระยาเข็มเพชร ชอ่ื ตาจัน บา้ นสก อยู่ \"ซุม บ้านสก\" ติดกบั สถานีรถไฟชมุ ทางถนนจริ ะตานานทั้งสองถึงแม้จะต่างกันในด้านกาเนิดแต่ตรงกันอย่างหน่ึงที่กล่าววา่ เพลงโคราชระยะแรกเล่นแบบเพลงก้อม(สุวัจน์ ลิปตพลั ลภ. 2542 : 140) .(2555).ความหมายประวตั ิเพลงโคราช http://www.geocities.com/koracha130/pako.htm ได้ให้ความหมายของประวัตเิ พลงโคราชวา่ ประวตั ิของเพลงโคราชนั้นมกี ารเลา่ ขานกันมาวา่ มีนายพรานคนหนง่ึ ช่ือ เพชรน้อย ออกไปลา่ สัตว์ ในเขตหนองบุนนากบา้ นหนองบุนนากอาเภอโชคชยั จงั หวดั นครราชสีมา คืนหนง่ึ แกไปพบ ลูกสาวพญานาคข้นึ มาจากหนองน้า มาน่ังร้องเพลงคนเดียว พรานเพชรนอ้ ยได้ยนิ เสียงจึงแอบเข้าไปฟังใกล้ ๆ แก ประทับใจ ในความไพเราะ และเนอื้ หาของเพลงจงึ จาเนื้อและทานองมาร้องให้คนอื่นฟงั ลักษณะเพลงท่ีร้องเปน็ เพลง ก้อมหรือเพลงคู่สอง อกี ตานานหน่ึงเลา่ ว่า ชาวโคราชได้เพลงโคราชมาจากอินเดียโดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผนู้ ามาพร้อมๆ กับลิเก และลาตัดโดยให้ลเิ กอยกู่ รงุ เทพฯ ลาตัดอยภู่ าคกลาง และเพลงโคราชอยทู่ น่ี ครราชสีมาเพลงโคราชระยะแรกๆ เป็น แบบเพลงก้อม คนท่เี รียนรู้เพลงโคราชจากพระยาเขม็ เพชร ชื่อตาจนั บ้านสก อยู่ \"ซุมบ้านสก\" ติดกับ สถานรี ถไฟชมุ ทางถนนจิระ ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช 31 Korat folk song performance

ตานานท้งั สองถงึ แมจ้ ะต่างกนั ในดา้ นกาเนิดแตต่ รงกนั อยา่ งหนึ่งทก่ี ล่าวว่าเพลงโคราชระยะแรกเลน่ แบบเพลง กอ้ ม ก้อมเป็นภาษาโคราชและภาษาอสี าน แปลวา่ ส้ัน เพลงก้อมหมายถึง เพลงสน้ั ๆว่าโต้ตอบกลา่ วลอย ๆ ทง้ั ท่ี มคี วามหมายลึกซ้ึง หรอื ไม่มีความหมายเลยก็ได้ เพลงโคราชจะเริม่ เลน่ ต้ังแตเ่ มอ่ื ใด ไม่ปรากฏหลักฐานท่แี น่ชดั หลกั ฐานจากคาบอกเล่าต่อ ๆ กันมา มีเพยี งว่า สมยั ทา้ วสรุ นารี ( คุณยา่ โม )ยังมีชวี ิตอยู่ ( พ.ศ. 2313 ถึง 2395 ) ท่านชอบเพลงโคราชมากเร่ืองราวของเพลงโคราช ไดป้ รากฏหลดั ฐานชดั เจน คอื ในปี พ.ศ. 2456 ทส่ี มเดจ็ พระศรีพชั รนิ ทราบรมราชนิ นี าถ พระราชชนนีพันปหี ลวงเสดจ็ มานครราชสมี าทรงเปิดถนนจอมสรุ างคย์ าตร์และเสด็จไปพิมายในโอกาสรับเสดจ็ ครั้งนน้ั หมอเพลงชายรุ่นเกา่ ช่อื เสยี ง โด่งดงั มากชือ่ นายหร่บี ้านสวนขา่ ได้มีโอกาสเลน่ เพลงโคราชถวาย เพลงท่ีเล่นใชเ้ พลงหลกั เชน่ กลอนเพลงทีว่ า่ \" ขา้ พเจ้านายหร่ีอยู่บรุ โี คราชเป็นนักเลงเพลงหดั บา่ วพระยากาแหง ฯ เจา้ คุณเทศาท่านตั้งให้เป็นขุนนาง ...ตาแหน่ง \" ความอกี ตอนเอ่ยถึงการรบั เสดจ็ วา่ \" ไดส้ ดับว่าจะรบั เสดจ็ เพื่อเฉลมิ พระเดชพระจอมแผ่นดนิ โห่สามลาฮาสามหลนั่ เสยี งสนั่น....ธานินทร์ \" ( สมเดจ็ พระพนั ปีหลวงทรงเป็นผู้บงั คับการพเิ ศษประจากรมทหารม้านครราชสีมา จนถึง พ.ศ. 2462 เม่ือเสด็จ นครราชสีมา นายหร่ี สวนข่า กม็ ีโอกาสเล่นเพลงถวาย ) เพลงโคราชมโี อกาสเล่นถวายหน้าพระท่ีนง่ั ในงานชุมนุม ลูกเสอื ครัง้ ที่ 1 ในนามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสีมา เกยี่ วกับกาเนดิ ของเพลงโคราชมที งั้ ที่เปน็ คาเลา่ และ ตานานหลกั ฐานจากคาบอกเลา่ ของหมอเพลงอีกจานวนหนง่ึ เล่าต่อ ๆกันมาวา่ ในสมัยรัตนโกสนิ ทรม์ สี งครามระหว่าง ไทยกับเขมรเม่อื ไทยชนะสงครามเขมรคร้ังไร ชาวบ้านจะมีการเฉลมิ ฉลองชัยชนะด้วยการขับรอ้ งและรา่ ยรากันในหมู่ สกทเี่ ขาเรียกว่า \"ซุมบา้ นสก \" ใกล้ ๆกับชุมทางรถไฟ ถนนจิระและเริ่มเลน่ เพลงโคราชกนั ท่หี ม่บู ้านนี้ ทา่ ทางการรารุก ราถอยและการป้องหู มผี สู้ นั นิษฐานว่าประยกุ ต์มาจากการเล่นเจรยี งทเี่ ป็นเพลงพืน้ บ้านของชาวสรุ ินทรผ์ สมผสาน กบั เพลงทรงเคร่ืองของภาคกลาง ชอื่ ผแู้ ต่ง ถาวร สบุ งกช ได้ให้ความหมายของประวัตเิ พลงโคราชไว้ว่า ประวตั ขิ องเพลงโคราชนน้ั มีการเลา่ ขานกันมาวา่ มนี ายพรานคนหนง่ึ ชอื่ เพชรน้อย ออกไปลา่ สัตว์ ในเขตหนองบุนนาก บ้านหนองบนุ นากอาเภอโชคชยั จังหวดั นครราชสีมา คืนหนึ่งแกไปพบลกู สาวพญานาค ขึน้ มาจากหนองน้ามานั่งร้องเพลงคนเดยี ว พรานเพชรน้อยได้ ยินเสียง จงึ แอบเข้าไปฟังใกล้ ๆแกประทบั ใจในความไพเราะ และเน้ือหาของเพลงจงึ จาเน้ือและทานองมาร้องให้คน อื่นฟังลักษณะเพลงท่รี ้องเปน็ เพลงก้อมหรอื เพลงค่สู อง อกี ตานานหน่ึงเลา่ ว่า ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอนิ เดียโดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผู้นามาพร้อมๆ กบั ลิเก และลาตัดโดยให้ลเิ กอยู่กรงุ เทพฯลาตดั อยู่ภาคกลาง และเพลงโคราชอยู่ทน่ี ครราชสมี าเพลงโคราชระยะแรกๆ เป็น แบบเพลงก้อมคนท่เี รียนรู้เพลงโคราชจากพระยาเข็มเพชร ชือ่ ตาจนั บ้านสก อยู่ \"ซุมบา้ นสก\" ติดกบั สถานีรถไฟชุม ทางถนนจิระ ตานานทงั้ สองถงึ แมจ้ ะต่างกันในดา้ นกาเนดิ แตต่ รงกันอยา่ งหน่งึ ที่กลา่ วว่าเพลงโคราชระยะแรกเล่นแบบเพลงก้อม กอ้ ม เปน็ ภาษาโคราชและภาษาอสี าน แปลวา่ สั้น เพลงก้อมหมายถึงเพลงส้ัน ๆว่าโต้ตอบกล่าวลอย ๆ ทัง้ ที่ มคี วามหมายลึกซึ้งหรอื ไม่มีความหมายเลยกไ็ ด้เพลงโคราชจะเร่มิ เล่นตัง้ แต่เมื่อใด ไม่ปรากฏหลักฐานที่แนช่ ัดหลักฐาน จากคาบอกเลา่ ต่อ ๆ กันมา มีเพียงว่า สมัยท้าวสุรนารี ( คุณยา่ โม )ยังมีชวี ติ อยู่ ( พ.ศ. 2313 ถึง 2395 ) ท่านชอบ เพลงโคราชมากเร่ืองราวของเพลงโคราชไดป้ รากฏหลัดฐานชัดเจน คือในปี พ.ศ. 2456 ที่สมเด็จพระศรพี ัชรินทราบรม ราชนิ นี าถ พระราชชนนีพันปีหลวงเสดจ็ มานครราชสีมาทรงเปิดถนนจอมสรุ างค์ยาตร์ และเสด็จไปพิมายในโอกาสรับ เสด็จครง้ั นนั้ หมอเพลงชายร่นุ เก่าชื่อเสียงโด่งดังมากช่ือนายหรี่บา้ นสวนข่าไดม้ ีโอกาสเลน่ เพลงโคราชถวาย เพลงที่เล่น ใช้เพลงหลัก เช่นกลอนเพลงทวี่ า่ \" ขา้ พเจ้านายหร่ีอย่บู ุรโี คราชเป็นนกั เลงเพลงหัดบา่ วพระยากาแหง ฯ เจ้าคุณเทศา ทา่ นตงั้ ให้เป็นขนุ นาง .....ตาแหนง่ \"ความอีกตอนเอ่ยถึงการรบั เสด็จว่า \" ได้สดับว่าจะรับเสด็จเพ่อื เฉลิมพระเดชพระ ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 32 Korat folk song performance

จอมแผ่นดนิ โห่สามลาฮาสามหลน่ั เสียงสนัน่ ....ธานนิ ทร์ \" ( สมเด็จพระพันปีหลวงทรงเป็นผ้บู งั คบั การพิเศษประจา กรมทหารม้านครราชสมี า จนถึง พ.ศ. 2462 เมื่อเสดจ็ นครราชสมี า นายหร่ี สวนขา่ กม็ โี อกาสเลน่ เพลง ถวาย )เพลง โคราชมีโอกาสเลน่ ถวายหนา้ พระที่น่ังในงานชมุ นุมลูกเสอื คร้ังที่ 1 ในนามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสมี า เกย่ี วกับกาเนิดของเพลงโคราชมที ง้ั ท่ีเปน็ คาเลา่ และตานานหลักฐานจากคาบอกเล่าของหมอเพลงอีกจานวนหน่งึ เล่า ต่อ ๆกันมาวา่ ในสมัยรัตนโกสนิ ทร์มีสงครามระหว่างไทยกับเขมรเม่ือไทยชนะสงครามเขมรครั้งไร ชาวบ้านจะมกี าร เฉลมิ ฉลองชัยชนะดว้ ยการขบั ร้องและรา่ ยรากนั ในหมสู่ กทเ่ี ขาเรยี กว่า \" ซุมบา้ นสก \" ใกล้ ๆกบั ชุมทางรถไฟ ถนนจริ ะ และเร่มิ เลน่ เพลงโคราชกันท่ีหมบู่ ้านนที้ ่าทางการรารุกราถอยและการป้องหมู ีผ้สู ันนษิ ฐานว่าประยกุ ตม์ าจากการเล่น เจรียงท่เี ปน็ เพลงพน้ื บ้านของชาวสรุ ินทร์ผสมผสาน กับเพลงทรงเครื่องของภาคกลาง ชอ่ื ผู้แต่ง พระครูโสภิตธรรมประยตุ ( อดุ มอุตฺตมปญฺโญ / สงสุระ)ไดใ้ ห้ความหมายของประวัตเิ พลงโคราชไว้ วา่ ตานานเพลงโคราชสมยั ก่อนน้นั เพลงโคราชเปน็ ทนี่ ิยมมากเพราะการแสดงมหรสพท่ีเปน็ หวั ใจของงานฉลอง สมโภชใดๆก็ตามจะมเี พลงโคราชเพยี งอย่างเดียวคนฟังเพลงกม็ เี วลามากฟังกันตงั้ แต่หวั ค่าจนรงุ่ เชา้ เมอ่ื หมอเพลงเล่น เพลงลาคือลาผ้ฟู ังลาเจ้าภาพและเพ่ือนหมอเพลงดว้ ยกนั จะมปี ี่พาทยฆ์ ้องกลองบรรเลงรับหมอเพลงจะราตามกันไปยัง บ้านเจา้ ภาพเจา้ ภาพก็นาเงนิ คา่ หมอเพลงมาใหพ้ ร้อมทง้ั เล้ียงขา้ วปลาอาหารและหอ่ ข้าวของกนิ ต่างๆใหเ้ ป็นเสบียงใน การเดินทางกลับคนฟงั จะอยู่ร่วมฟงั งานจนเสรจ็ สิ้นกระบวนการจงึ ทยอยกลบั เช่นกันเพลงโคราชสมยั กอ่ นไดไ้ ปเลน่ หลายจังหวดั เช่นบรุ ีรัมยเ์ พชรบรู ณพ์ ิษณุโลกสรุ ินทร์ตลอดจนถึงประเทศกัมพชู าสาหรบั จังหวดั ตา่ งๆในภาคกลางก็ไป เล่นเป็นครั้งคราวปจั จุบนั ค่านิยมของผฟู้ ังเปล่ียนแปลงไปมากแม้แตผ่ ู้ฟงั ในจังหวัดนครราชสมี าเองก็เสื่อมความนิยมลง มากบา้ งก็เห็นวา่ เพลงโคราชเปน็ เพลงหยาบคายและไม่นา่ สนใจแม้ทางราชการสง่ เสริมใหน้ าออกแสดงทาง วทิ ยุกระจายเสยี งแห่งประเทศไทยจงั หวดั นครราชสีมาก็ต้องผ่านการตรวจอยา่ งรดั กุมจะใชภ้ าษาตรงๆเหมือน สมยั ก่อนไม่ได้ถือว่าไม่เหมาะสมในการจดั งานฉลองสมโภชใดๆมกั จะมีมหรสพอ่ืนๆเป็นคู่แข่งมากมายเชน่ ภาพยนตร์ มวยเพลงลูกทุง่ ลิเกและราวงเพลงโคราชจึง เปน็ ท่ีสนใจสาหรบั ผูฟ้ งั ร่นุ เก่าที่มอี ายุค่อนขา้ งสูงแทบทงั้ นนั้ หมอเพลง โคราชได้รวมตัวกันเป็นคณะเพลงโคราชหลายคณะและเขา้ มาตัง้ สานกั งานคณะอย่ใู นอาเภอเมอื งเป็นส่วนใหญ่เพื่อ ความสะดวกสาหรับมาติดต่อหาเพลงไปเล่นหมอเพลงโคราชตอ้ งเล่นเพลงประยกุ ต์ตามใจผู้ฟังเชน่ เล่นเพลงหมอลา เลน่ เพลงลาตัดและเพลงลกู ทุ่งพดู ถึงท่าราแตกตา่ งกนั ไปมีเพลงโคราชของคณะทองสขุ กาปังทีป่ ระยุกต์เล่นแบบลา เพลินคอื นาเอาดนตรีสากลเข้ามาประกอบแตย่ ังไมเ่ ปน็ ที่แพรห่ ลายนักการรวมตัวกนั เป็นคณะเพลงโคราชปัจจุบนั นน้ั นางสองเมืองอินทรกาแหงเป็นผู้ริเริม่ ต้ังข้นึ เป็นคนแรกเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๙๙ตั้งอยู่ที่ถนนสรุ นารายณแ์ ละต่อมากม็ ีคณะ ตา่ งๆตัง้ ข้ึนอกี หลายคณะข้อดีคอื ทาให้สะดวกในการตดิ ต่อจ้างไปเลน่ ข้อไม่ดคี ือเม่ือหมอเพลงอยู่คณะเดียวกันก็รชู้ ้ัน เชิงและฝีปากกนั ทาให้ฟังไม่สนุกสนานมีผู้พยายามจะรวมคณะเพลงโคราชต่างๆก่อต้ังเป็นสมาคมเพลงโคราชแต่ยัง ไมไ่ ดร้ บั ความร่วมมือจากหมอเพลงเท่าทค่ี วรจากความเช่ือท่ีวา่ ท่านท้าวสรุ นารี ( คณุ หญิงโมหรือยา่ โมทชี่ าวบ้านเรยี ก ท่าน ) ชอบเพลงโคราชในสมัยที่ท่านมีชวี ติ อยู่จึงมีผูห้ าเพลงโคราชไปเลน่ ให้ท่านฟงั เป็นการแกบ้ นณ บริเวณใกล้ๆกับ อนสุ าวรยี ์ในตอนกลางคนื เปน็ ประจาอาจเปน็ ปจั จยั หนึง่ ทีท่ าใหค้ นร่นุ ใหม่ได้รจู้ ักเพลงโคราชและหมอเพลงมรี ายได้ ประจาแต่กม็ ีผู้สนใจไปฟังไม่มากนักพดู ถึงการดาเนินชวี ิตของหมอเพลงรุ่นปัจจบุ นั สว่ นใหญอ่ าชพี ทานาและเล่นเพลง เป็นอาชพี รองแตห่ มอเพลงที่มีชอื่ เสยี งเชน่ ลอยชายแพรกระโทก, ลาดวนจกั ราช, ทองสุขกาปงั , นกนอ้ ย วงั ม่วง, ราไพ หวั รถไฟตา่ งกล่าวเป็นเสียงเดียวกนั วา่ การประกอบอาชีพของหมอเพลงโคราชยังทารายได้ดียังเป็นอาชีพท่มี ่ันคงอยู่ หมอเพลงดังกลา่ วนีแ้ มจ้ ะประกอบอาชพี อน่ื เช่นทานาทาไร่เปน็ นกั ธุรกิจแต่อาชพี หลักคือเลน่ เพลงโคราช ชือ่ ผ้แู ต่ง วกิ พิ ีเดยี สารานุกรมเสรี ได้ให้ความหมายของประวตั ิเพลงโคราชไวว้ ่า เพลงโคราชจะเริ่มเล่น ตงั้ แตเ่ ม่ือใด ไม่ปรากฏหลกั ฐานทแี่ นช่ ดั หลักฐานจากคาบอกเลา่ ต่อ ๆ กนั มา มีเพียงว่า สมัยทา้ ว สุรนารี ( คณุ ย่าโม )ยังมีชีวติ อยู่ ( พ.ศ. 2313 ถึง 2395 ) ทา่ นชอบเพลงโคราชมากเรื่องราวของเพลงโคราชไดป้ รากฏหลัดฐานชัดเจน คือ ในปี พ.ศ. 2456 ท่ีสมเด็จพระศรพี ชั รนิ ทราบรมราชินนี าถ พระราชชนนพี นั ปหี ลวงเสดจ็ มานครราชสีมาทรงเปิดถนน ชุดการเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 33 Korat folk song performance

จอมสรุ างค์ยาตร์ และเสด็จไปพมิ ายในโอกาสรบั เสดจ็ ครัง้ นั้นหมอเพลงชายรุ่นเกา่ ช่อื เสียงโด่งดังมากช่ือนายหรี่ บ้าน สวนข่าไดม้ โี อกาสเลน่ เพลงโคราชถวาย เพลงที่เล่นใช้เพลงหลกั เช่น กลอนเพลงที่วา่ \"ข้าพเจา้ นายหร่ีอยบู่ รุ โี คราชเปน็ นกั เลงเพลงหัด บ่าวพระยากาแหง ฯเจา้ คุณเทศา ท่านตงั้ ให้เปน็ ขนุ นาง .....ตาแหนง่ \"ความอีกตอนเอย่ ถงึ การรบั เสด็จ ว่า \"ได้สดับว่าจะรบั เสดจ็ เพ่ือเฉลิมพระเดชพระจอมแผ่นดิน โห่สามลาฮาสามหล่นั เสยี งสน่ัน....ธานินทร์ \" ( สมเด็จ พระพนั ปหี ลวงทรงเป้นผู้บังคับการพเิ ศษประจากรมทหารมา้ นครราชสมี า จนถงึ พ.ศ. 2462 เมือ่ เสดจ็ นครราชสมี า นายหรี่ สวนข่า ก็มีโอกาสเลน่ เพลงถวาย )เพลงโคราชมีโอกาสเล่นถวายหน้าพระท่ีนั่งในงานชมุ นมุ ลกู เสือครัง้ ที่ 1 ใน นามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสีมา เกีย่ วกบั กาเนดิ ของเพลงโคราชมีท้ังที่เปน็ คาเลา่ และตานานหลกั ฐาน จากคาบอกเล่าของหมอเพลงอีกจานวนหนึ่งเลา่ ต่อ ๆ กันมาว่า ในสมัยรัตนโกสนิ ทรม์ สี งครามระหว่างไทยกบั เขมรเม่อื ไทยชนะสงครามเขมรคร้ังไร ชาวบา้ นจะมีการเฉลิมฉลองชัยชนะดว้ ยการขบั ร้องและร่ายรากนั ในหม่สู กท่ีเขาเรยี กว่า \" ซมุ บา้ นสก \" ใกล้ ๆกับชุมทางรถไฟ ถนนจิระและเร่ิมเลน่ เพลงโคราชกันทีห่ มบู่ ้านนี้ท่าทางการรารกุ ราถอย และการ ปอ้ งหูมีผูส้ นั นษิ ฐานวา่ ประยุกต์มาจากการเล่นเจรียงที่เปน็ เพลงพ้ืนบ้านของชาวสุรินทรผ์ สมผสาน กับเพลงทรงเคร่ือง ของภาคกลาง จะเห็นไดว้ ่าจากข้อมลู ประวตั ิเพลงโคราชของเอกสารท่เี กีย่ วขอ้ งทัง้ 5 เล่ม ดงั กล่าว ทกี่ ลา่ วไว้ สามารถ สรปุ ไดว้ า่ จากตานานของผูร้ ู้และหมอเพลงเลา่ ว่า มนี ายพรานคนหนึ่งช่ือเพชรน้อย ออกไปล่าสัตวใ์ นเขตหนองบุ นนาก บ้านหนองบนุ นาก อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสมี า คนื หนึง่ แกไปพบลูกสาวพญานาค ขนึ้ มาจากหนองนา้ มาน่งั รอ้ งเพลงคนเดยี ว พรานเพชรน้อยไดย้ ินเสียง จึงแอบเข้าไปฟังใกล้ๆแกประทับใจ ในความไพเราะและเน้ือหา ของเพลง จงึ จาเน้ือและทานองมารอ้ งใหค้ นอื่นฟังลักษณะเพลงทร่ี ้องเป็นเพลงก้อม หรอื เพลงค่สู อง อีกตานานหน่งึ เล่าว่า ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอนิ เดียโดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผู้นามาพรอ้ มๆกบั ลเิ ล และลาตดั โดยให้ลเิ ลอยู่ กรุงเทพฯลาตดั อยภู่ าคกลาง และเพลงโคราชอยู่ที่นครราชสีมา เพลงโคราชระยะแรกๆเปน็ แบบเพลงกอ้ ม คนท่ี เรียนรู้เพลงโคราช จากพระยาเขม็ เพชรชอ่ื ตาจัน บา้ นสก อยู่ซมุ บ้านสก ตดิ กับสถานรี ถไฟ ชมุ ทางถนนจิระ 2.2 จากการสมั ภาษณ์ ภมู ิปัญญาหมอเพลงโคราช กาป่ัน บา้ นแท่น (2555) ไดใ้ ห้ข้อมลู ความหมายของประวัตเิ พลงโคราชไว้ขณะท่ีสมั ภาษณ์ ภมู ปิ ัญญาเรอ่ื ง ความหมายของประวัตเิ พลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 336 ถนนจิระ ตาบลในเมอื ง เวลา 13.00 น. ไวว้ ่า “เกดิ ข้นึ ในสมยั สมเด็จพระนารายณม์ หาราชช่วงปลายกรงุ ศรอี ยธุ ยานนั้ ไม่มีศึก สงครามประเทศใดเมืองใดไม่มีศึกสงคามศลิ ปวฒั นธรรมพุ่งขนึ้ สมัยพระนารายณ์จะได้เหน็ นักกวีศรีปราชญเ์ ป็นเจ้า บทเจ้ากลอน สมเด็จพระนารายณ์มหารทรงรบั ส่ังให้พระยายมราชมาสรา้ งเมืองโคราช คนโคราชก็เลยตอ้ งเปน็ เจ้า บทเจา้ กลอน เหมือนสมยั กรุงศรอี ยุธยา ของสมเด็จพระนารายณม์ หาราช สมเดจ็ พระยมราชทรงสงั่ ใหม้ าสร้างเมอื ง ในการนัน้ มา ทาไมถงึ เกิดเพลงโคราชขึ้น ตามการอ้างอิงเอาไว้ในสมยั พ.ศ.2456 สมเด็จพันตรีหลวงในสมัยรัชกาลท่ี 5 พระองคเ์ สด็จมาทรงเปิดถนนจอมสุรางค์ยาตรแ์ ล้วกเ็ สด็จไปเมืองพิมายทรงรบั สงั่ ถามเจา้ เมืองสมยั น้ันว่าคนโคราช เวลาเสรจ็ สนิ้ ภาระกิจการทาไร,ทานา ยามว่างงานมีการละเลน่ บันเทงิ ใจผอ่ นคลายยามว่าง เจ้าเมอื งพมิ ายตรัสทูลว่า มีเพลงโคราชก้อมพะย่ะค่ะ เพลงโคราชกอ้ มน่ีมันก้อมมอย่างไร (ทรงตรัสถามเจ้าเมือง) ทรงสัง่ ให้หาหมอเพลง โคราชกอ้ มมาแสดงต่อหนา้ พระท่ีนั่งผู้ท่ีได้รบั เกรียตสิ ูงสดุ ในชีวติ ชือ่ นายหรี่ บ้านสวนขา่ ไดถ้ ูกแต่งตั้งจากเจ้าคณุ เท สา (เท่ากับเป็นนายกเทศมนตรีสมัยน)้ี ให้เป็นขุนนางตาแหน่งไพรี ทน่ี ายหรรี่ ้องไปนั้นเป็นการรอ้ งแนะนาตนเองต่อ หน้าพระท่นี ั่ง นายหรไี่ ดถ้ ูกบันทึกให้เปน็ หมอเพลงโคราชในพ.ศ.2456(ในสมัยรัชกาลท่ี5) แตผ่ มเช่อื วา่ เพลงโคราช เกิดขน้ึ ในสมัยสมเดจ็ พระนาราย์มหาราชเพราะมีนกั กวีศรปี ราชญเ์ กดิ ขนึ้ มากมายในสมัยน้นั และสมัยมักจะใชภ้ าษา ภาที เป็นกลอนถามไถ่กนั เวลาทเี่ จอกันหรอื ทักกัน ถามสารทุกข์สุขดิษกันเชน่ แหวนน้ีทา่ นไดแ้ ต่ใดไรมา ทน่ี ีค้ น โคราชก็เป็นเจา้ บทเจ้ากลอนคอื กนั ยงั เช่นยายคนหนง่ึ มีหลานถามยาย(ยายคนนชี้ ื่อยายยมคนอายุมากสมยั ก่อนมักไม่ ใส่เส้ือ)หลานร้องเป็นเพลงภาษาโคราชว่ายายยมนมย่านกลา้ ไดห้ ว่านหรอื ยงั แล้วยายยมก็แกห้ ลานสาววา่ ยายหว่านไว้ ชดุ การเรยี นรู้เรอื่ งเพลงโคราช 34 Korat folk song performance

ขา้ งบ่อกาลงั รดั หน่อเทา่ หน่ออีนาง สมัยต่อมาก็มกี ารละเล่นกนั ในบ้านต่างๆ ในยามเทศกาลเข้าพรรษา-ออกพรรษา หลังจากถวายพระตาหารพระสงฆ์ ก็มีการโต้วาทีกนั ในเร่ืองเพลงโคราชจากบ้านนึงทมี่ ีสตปิ ญั ญาในเร่ืองเพลงโคราช ให้มาโชวก์ นั และโตว้ าทีกนั ของแต่ละบา้ นโคราชมักจะพูดเป็นคาค่ดู ังเช่น กรงุ ทง-กรงุ เทพ ,ไปนงไปนา-ก๋ินขง่ กนิ เขา่ ,อยู่บง่ อยบู่ ้าน,ไดผ้ งไดผ้ วั ,ได้มง-ได้เมยี คาเหลา่ นั้นแหละเค้าเอามาประดิษฐเ์ ปน็ เพลงโคราชซึง้ สักษณะการสัมผสั มนั แยบยลลึกซึง้ กวา่ ลาตัด เพลงอีแซวลาตัดมนั แคเ่ ป็นการละเลน่ และมีหลักฐานอา้ งอิงไวแ้ ตก่ ็มคี นโบราณเล่าวา่ เพลง โคราชเกิดข้ึนในสมัยนงึ มพี รานคนนึงช่อื พญาเพชรน้อย ได้เข้าปา่ ล่าสัตว์ หลงทางไปถึงแม่น้าแห่งหนงี่ ไปเจอลกู สาว พญานาคกาลังน่งั ร้องเพลงกล่อมลูกทช่ี ายฝ่งั (หนอง)พรานพญาเพชรน้อยนั่นสาหรดี แอบฟังเพลงของหญงิ สาวนั้นมคี า พร่าพรรณาต่อวา่ สามีซงึ่ ไดเ้ สยี กันจนมีลูกคนหน่ึงกห็ นีหายไป บา้ งกลอนก็พรรณนาถึงความหวานช่นื บ้างกลอนก็ พรรณนาถึงการพลดั พรากจากกนั บางกลอนก็สาปแชง่ หกั กระดูกกัน พรานพญาเพชรน้อยก็พยายามจาไวท้ ุกบท กลอน แล้วกก็ ลับมาเมืองโคราชและเล่าให้ชาวเมอื งโคราชฟงั และร้องให้ชาวโคราชฟัง ก็เลยไดใ้ ชแ้ สดงเพลงโคราช ตัง้ แต่นนั้ เปน็ ต้นมา หนองใหญท่ ี่พรานพญาเพชรนอ้ ยไปพบมานั้น(เปน็ อาเภอหนองบญุ มากในปจั จบุ ัน) อกี ตานาน หนงึ่ พระพญาเขม็ เพชรเป็นคนนาศลิ ปะเหลา่ นีม้ าจากประเทศอนิ เดยี ทีเ่ ผยแพร่จากรังกาทวีปแลว้ นาศิลปะสาเนยี งจาก รังกาทวีปมาเผยแพรใ่ นประเทศไทย เช่น ลเิ ก เอาไว้ภาคกลาง นนั้ และจึงเปน็ ทีม่ าของการออกแขกทกุ ครั้งท่ีมีการ เล่นลเิ ก เพลงลาตดั เพลงอีแซว กเ็ อาไปจากเพลงโคราช เพราะเพลงโคราชเป็นแมแ่ บบแต่การสมั ผสั ของเพลงอีแซว ,ลาตัด ไดล้ ึกซ่ึงเท่าเพลงโคราชเพราะเปน็ การสมั ผัสทง่ี า่ ยเกินไป(แล้วกาป่ันก็ร้องเพลงโคราชให้ฟงั กาปน่ั เลา่ วา่ “เพลงโคราชสมัยนเ้ี กือบจะสญู ส้นิ ไปเม่ือปีพ.ศ.2539แลว้ ผมจงึ ลกุ ขึ้นไปตอ่ ต้านอีกครงั้ เพราะคนรุ่นใหม่สว่ นมากจะ หนั ไปฟังเพลงสตรงิ -ลูกท่งุ ผมเลยเกิดความคิดโดยการใหม้ ีจังหวะให้มนั สนกุ ขึ้นโดยการมีอีเลคโทน มีอยูว่ นั หนึ่งผม นอนไม่หลบั ก็เลยแต่งเพลงคนโคราชตกกระทอ่ ม เพลงโคราชจึงเป็นที่รูจ้ กั คนทว่ั ไปอีกครั้งหนึ่ง สว่ นลูกศษิ ย์ลกู หาของ ผมก็มสี ุนาร,ี ต้ักแตน,คามอสก็นาไปประยุกตใ์ ชก้ นั ลกู ศิษย์มีหลายประเภทบางคนก็นาไปใช้เป็นเพลงลกู ทุ่ง ลกู ศิษย์ เพลงโคราชกแ็ ยกไปตั้งคณะเอง ผมเองเกือบล้มเพราะเพลงโคราชเร่มิ เส่ือมคนรุน่ ใหมม่ ักไม่ชอบฟงั ตัง้ แต่นั้นมาเพลง โคราชก็กลายเป็นเชงิ ธุรกจิ ไปโดยปรยิ าย” กาเหวา่ โชคชัย (2555) ไดใ้ ห้ข้อมูลความหมายของประวัติเพลงโคราชไว้ขณะท่สี มั ภาษณ์ ภมู ิปัญญาเรือ่ ง ประวัติของเพลงโคราช ในวันท่ี 27 เดอื นสิงหาคม พ.ศ.2555 ณ บ้านเลขท่ี 336 ถนนจิระ ตาบลในเมือง เวลา 13.00 น. ไว้วา่ ”เกดิ ข้นึ ในสมัยสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชช่วงปลายกรงุ ศรีอยุธยานัน้ ไม่มศี ึกสงคราม ประเทศใดเมืองใดไม่มีศึกสงคามศลิ ปวัฒนธรรมพงุ่ ข้นึ สมัยพระนารายณ์จะได้เหน็ นกั กวศี รีปราชญ์เป็นเจ้าบทเจ้า กลอน สมเด็จพระนารายณม์ หารทรงรับส่งั ให้พระยายมราชมาสร้างเมอื งโคราช คนโคราชกเ็ ลยตอ้ งเป็นเจา้ บทเจ้า กลอน เหมือนสมยั กรุงศรีอยุธยา ของสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช สมเดจ็ พระยมราชทรงสั่งใหม้ าสรา้ งเมืองในการ น้ันมา ทาไมถงึ เกดิ เพลงโคราชขึ้น ตามการอ้างอิงเอาไวใ้ นสมยั พ.ศ.2456 สมเดจ็ พันตรีหลวงในสมัยรชั กาลที่ 5 พระองคเ์ สด็จมาทรงเปิดถนนจอมสุรางคย์ าตร์ แลว้ กเ็ สดจ็ ไปเมอื งพิมายทรงรบั ส่ังถามเจ้าเมอื งสมัยนั้นวา่ คนโคราช เวลาเสร็จสน้ิ ภาระกิจการทาไร,ทานา ยามว่างงานมีการละเลน่ บันเทงิ ใจผอ่ นคลายยามว่าง เจา้ เมอื งพิมายตรสั ทูลวา่ มเี พลงโคราชก้อมพะย่ะค่ะ เพลงโคราชก้อมนมี่ ันกอ้ มมอย่างไร (ทรงตรัสถามเจา้ เมอื ง) ทรงสั่งให้หาหมอเพลง โคราชก้อมมาแสดงต่อหน้าพระทนี่ ัง่ ผู้ที่ได้รับเกรียติสงู สดุ ในชวี ิตช่ือนายหรี่ บา้ นสวนขา่ ได้ถูกแต่งตัง้ จากเจา้ คุณเทสา (เท่ากบั เปน็ นายกเทศมนตรีสมัยน้ี)ใหเ้ ป็นขนุ นางตาแหน่งไพรี ที่นายหรร่ี อ้ งไปนน้ั เป็นการร้องแนะนาตนเองต่อหน้า พระท่นี ่ัง นายหรไ่ี ดถ้ ูกบนั ทึกให้เป็นหมอเพลงโคราชในพ.ศ.2456(ในสมยั รัชกาลที5่ ) แต่ผมเชอ่ื วา่ เพลงโคราชเกดิ ขน้ึ ในสมยั สมเดจ็ พระนาราย์มหาราชเพราะมีนักกวีศรีปราชญ์เกิดข้ึนมากมายในสมยั นนั้ และสมยั มักจะใช้ภาษาภาที เป็น กลอนถามไถก่ ันเวลาท่ีเจอกนั หรอื ทักกัน ถามสารทุกข์สุขดิบกันเช่น แหวนนท้ี ่านได้แต่ใดไรมา ท่นี ้ีคนโคราชก็เป็น เจ้าบทเจา้ กลอนคือกัน ยังเช่นยายคนหน่งึ มหี ลานถามยาย(ยายคนน้ชี อื่ ยายยมคนอายมุ ากสมัยก่อนมักไม่ใส่เสอ้ื ) หลานรอ้ งเปน็ เพลงภาษาโคราชว่ายายยมนมยา่ นกลา้ ได้หวา่ นหรอื ยังแล้วยายยมกแ็ กห้ ลานสาววา่ ยายหว่านไว้ขา้ งบอ่ กาลงั รดั หนอ่ เท่าหนอ่ อนี าง สมยั ตอ่ มากม็ ีการละเล่นกันในบา้ นตา่ งๆ ในยามเทศกาลเข้าพรรษา-ออกพรรษาหลงั จาก ชดุ การเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 35 Korat folk song performance

ถวายพระตาหารพระสงฆ์ ก็มีการโต้วาทีกันในเรื่องเพลงโคราช จากหม่บู ้านที่มีสตปิ ญั ญาในเร่อื งเพลงโคราชให้มาโชว์ กัน และโต้วาทกี ันของแต่ละบ้าน” เลาะ บา้ นแท่น (2555) ไดใ้ หข้ ้อมูลความหมายของประวัตเิ พลงโคราชไว้ขณะที่สัมภาษณ์ภมู ปิ ญั ญาเรื่อง ประวัติเพลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนสุ าวรยี ์ท้าวสรุ นารถี นนราชดาเนิน ตาบล ในเมือง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสมี า เวลา 16.00น. ไว้ว่า ”เพลงโคราชสมยั ก่อนเปน็ กลอนถามไถ่ กนั เวลาที่เจอกนั หรอื ทักกัน ถามสารทุกข์สุขดิบกนั เชน่ แหวนนที้ า่ นไดแ้ ตใ่ ดไรมา ท่ีนีค้ นโคราชก็เป็นเจ้าบทเจ้า กลอนคือกนั ยงั เช่นยายคนหนง่ึ มหี ลานถามยาย(ยายคนนี้ชือ่ ยายยมคนอายุมากสมยั ก่อนมักไมใ่ สเ่ สือ้ )หลานรอ้ งเป็น เพลงภาษาโคราชว่า ยายยมนมยา่ นกลา้ ได้หวา่ นหรอื ยงั แล้วยายยมกแ็ ก้หลานสาวว่ายายหว่านไวข้ ้างบอ่ กาลงั รัดหน่อ เทา่ หน่ออนี าง สมยั ต่อมาก็มีการละเล่นกันในบ้านต่างๆ ในยามเทศกาลเขา้ พรรษา-ออกพรรษาหลังจากถวายพระตา หารพระสงฆ์ ก็มกี ารโตว้ าทกี ันในเรอ่ื งเพลงโคราช จากหมู่บ้านทม่ี ีสตปิ ญั ญาในเรอื่ งเพลงโคราชใหม้ าโชวก์ นั และ โต้วาทกี ันของแต่ละบ้าน” ลาไย หนองม่วง (2555) ได้ให้ข้อมูลความหมายของประวัตเิ พลงโคราชไว้ขณะที่สัมภาษณ์ภูมปิ ญั ญาเรือ่ ง ความหมายของประวตั ิเพลงโคราช ในวันท่ี 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนสุ าวรีย์ท้าวสรุ นารถี นน ราชดาเนนิ ตาบลในเมือง อาเภอเมอื งนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไวว้ า่ “หลงั จากเสร็จสน้ิ สงคราม จะใชเ้ วลาว่างมาฝึกเพลงโคราชเนื้อกลอนท่ีร้องจะดูจากธรรมชาติของสตั ยเ์ ชน่ ปลาไหนท่ีเขาหามากจ็ ะนา ปลาไหลทไี่ ด้มาร้อยเปน็ พวง ปลาไหลกจ็ ะพนั กันไปมาตรงน้จี ะเรยี กกลอนเพลงโคราชวา่ ปลาไหลพันพวงเกิดจาก การถามไถ่ทุกข์สขุ กนั มกั จะเป็นกลอนเพราะคนไหนจะเป็นคนเจ้าบทเจา้ กลอน เช่นการถามขา่ ว การทานา จะร้องวา่ ยายยม นมยาน หว่านเข่าหรือยังเกิดจากการโตว้ าทกี่ นั ของเพลงโคราชในแต่ละหม่บู า้ นจะโตก้ นั คาท่ีโต้นน้ั มกั จะเปน็ คาคเู่ ช่นได้ผงได้ผวั ไดม้ งได้เมีย มหี ลักฐานทางประวตั ิศาสตร์อ้างอิงได้มาจกอินเดยี พระพุทธศาสนาจากรงั กาทวีป ลิเก- ภาคกลางออกแขกสาเนียงอินเดยี เพลงโคราชเปน็ แม่แบบสมั ผสั คา เช่น กลอนลงรี ตอ้ งหาคาที่มสี ระอีไว้ เพลง โดราชลงึ ซ้ึงเปน็ แม่แบบ มีสัมผัสบงั คบั เกาะกนั เป็นลูกโซ่ เชน่ มณฑา มณฑล มลทิน พ่อแมพ่ ่ีเปน็ เพลงโคราชฟังทุกวนั ก็ซมึ ซบั ต้องมใี จรักใจชอบผทู้ ี่รกั ในการร้องเพลงโคราชรอ้ งกลอน โตต้ อบได้ อดทน ขยันรอ้ งกลอน ” สว่าง บ้านดอนผวา (2555) ไดใ้ หข้ ้อมูลความหมายประวัติเพลงโคราชไว้ขณะท่ีสัมภาษณ์ภูมิปัญญาเร่ือง ความหมายประวัติเพลงโคราช ในวันท่ี 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนสุ าวรียท์ า้ วสุรนารีถนนราช ดาเนิน ตาบลในเมือง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไว้“ปี พ.ศ. 2456 ที่สมเด็จ พระศรีพชั รนิ ทราบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพนั ปหี ลวงเสดจ็ มานครราชสมี าทรงเปิดถนนจอมสรุ างค์ยาตร์ และเสดจ็ ไปพิมายในโอกาสรับเสด็จครั้งน้นั หมอเพลงชายรุ่นเกา่ ชือ่ เสยี งโด่งดงั มากช่ือนายหรบี่ ้านสวนขา่ ได้มีโอกาสเล่นเพลง โคราชถวาย เพลงท่เี ล่นใชเ้ พลงหลัก สมเด็จพระพนั ปหี ลวง ทรงเป้นผู้บงั คับการพิเศษประจากรมทหารมา้ นครราชสมี า จนถึง พ.ศ. 2462 เมอื่ เสดจ็ นครราชสมี า นายหร่ี สวนข่า กม็ โี อกาสเล่นเพลงถวาย เพลงโคราชมี โอกาสเลน่ ถวายหนา้ พระท่ีนง่ั ในงาน” จะเห็นได้วา่ จากข้อมูลความหมายหมอเพลงโคราชของภมู ปิ ัญญาทง้ั 5 คน ดงั กลา่ ว ที่กลา่ วไว้ สามารถ สรุปไดว้ ่าประวตั ขิ องเพลงโคราชน้นั มีการเลา่ ขานกันมาว่า มนี ายพรานคนหนง่ึ ช่ือ เพชรนอ้ ย ออกไปลา่ สัตว์ ในเขต หนองบุนนากบ้านหนองบนุ นากอาเภอโชคชยั จังหวดั นครราชสีมา คนื หนึง่ แกไปพบลูกสาวพญานาค ขนึ้ มาจากหนอง ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 36 Korat folk song performance

นา้ มานั่งร้องเพลงคนเดยี ว พรานเพชรนอ้ ยไดย้ นิ เสียง จึงแอบเข้าไปฟังใกล้ ๆ แกประทับใจในความไพเราะ และ เนอื้ หาของเพลง จงึ จาเนือ้ และทานองมาร้องให้คนอ่ืนฟงั ลักษณะเพลงทรี่ ้องเปน็ เพลงก้อม หรือเพลงค่สู องอีกตานาน หนึ่งเล่าวา่ ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอนิ เดยี โดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผนู้ ามาพร้อมๆ กับลเิ กและลาตดั โดยให้ ลิเกอยู่กรุงเทพฯ ลาตดั อยู่ภาคกลาง และเพลงโคราชอยู่ท่ีนครราชสมี าเพลงโคราชระยะแรกๆ เป็นแบบเพลงก้อม คน ทเ่ี รียนรูเ้ พลงโคราช จากพระยาเขม็ เพชรชอื่ ตาจัน บา้ นสก อยู่ \"ซุมบา้ นสก\" ตดิ กับสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ เพลงโคราชจะเร่มิ เล่นตั้งแต่เมอ่ื ใดไม่ปรากฏหลกั ฐานทีแ่ น่ชดั หลกั ฐานจากคาบอกเลา่ ต่อ ๆกันมา มีเพียงว่า สมยั ท้าวสรุ นารี ( คณุ ย่าโม ) ยังมชี วี ติ อยู่ ( พ.ศ. 2313 ถงึ 2395 ) ทา่ นชอบเพลงโคราชมากเร่ืองราวของเพลงโคราช ไดป้ รากฏหลดั ฐานชดั เจนคือในปี พ.ศ. 2456 ท่ีสมเดจ็ พระศรพี ัชรนิ ทราบรมราชินนี าถพระราชชนนพี นั ปีหลวงเสดจ็ มานครราชสีมาทรงเปิดถนนจอมสรุ างค์ยาตร์และเสดจ็ ไปพิมายในโอกาสรับเสดจ็ ครั้งนนั้ หมอเพลงชายรุ่นเกา่ ชอ่ื เสยี ง โด่งดงั มากชอื่ นายหรี่บา้ นสวนข่าได้มโี อกาสเลน่ เพลงโคราชถวาย เพลงท่ีเล่นใช้เพลงหลัก เชน่ กลอนเพลงทวี่ ่า \" ขา้ พเจ้านายหรี่อยู่บรุ ีโคราชเป็นนักเลงเพลงหัดบ่าวพระยากาแหง ฯ เจา้ คุณเทศาทา่ นตั้งใหเ้ ปน็ ขนุ นาง .....ตาแหน่ง \"ความอีกตอนเอย่ ถึงการรบั เสด็จวา่ \" ได้สดับว่าจะรบั เสด็จเพอื่ เฉลิมพระเดชพระจอมแผ่นดนิ โหส่ ามลาฮาสามหลัน่ เสียงสนน่ั ....ธานินทร์ \"( สมเดจ็ พระพนั ปหี ลวงทรงเปน็ ผู้บังคับการพเิ ศษประจากรมทหารมา้ นครราชสมี า จนถงึ พ.ศ. 2462 เมอื่ เสด็จนครราชสีมา นายหรี่สวนข่า กม็ โี อกาสเลน่ เพลงถวาย ) เพลงโคราชมโี อกาสเลน่ ถวายหน้าพระที่นั่งใน งานชมุ นุมลูกเสอื ครั้งท่ี 1 ในนามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสมี าเกี่ยวกับกาเนิดของเพลงโคราชมที ้ังท่ีเป็น คาเล่าและตานานหลักฐานจากคาบอกเลา่ ของหมอเพลงอีกจานวนหนงึ่ เล่าต่อๆกันมาว่าในสมัยรตั นโกสินทรม์ สี งคราม ระหวา่ งไทยกบั เขมรเมื่อไทยชนะสงครามเขมรครง้ั ไรชาวบา้ นจะมกี ารเฉลิมฉลองชัยชนะด้วยการขับรอ้ งและร่ายรากนั ในหมสู่ กท่ีเขาเรยี กวา่ \" ซมุ บ้านสก \" ใกล้ ๆกบั ชุมทางรถไฟถนนจริ ะและเร่ิมเล่นเพลงโคราชกนั ทีห่ มู่บ้านนี้ ท่าทาง การรารุกราถอยและการป้องหูมีผ้สู นั นิษฐานว่าประยุกต์มาจากการเล่นเจรียงท่ีเปน็ เพลงพ้นื บ้านของชาวสรุ ินทร์ ผสมผสานกับเพลงทรงเครอื่ งของภาคกลาง 3 ความสาคัญของเพลงโคราช 3.1 จากการศึกษาเอกสารทเี่ ก่ียวข้อง .(2555).ความหมายความสาคัญของเพลงโคราช www.koratinfo.com/samapi/koratsong/koratsng1.htm ไดใ้ ห้ความหมายของความสาคญั เพลงโคราชว่า สมยั ก่อนน้ัน เพลงโคราชเป็นทนี่ ยิ มมากเพราะการแสดงมหรสพ ท่ี เป็นหวั ใจของงานฉลองสมโภชใด ๆ ก็ตามมเี พลงโคราชเพียงอยา่ งเดียว คนฟงั เพลงก็มเี วลามาก ฟงั กนั ต้ังแตห่ วั ค่าจน รุ่งเช้าเมอื่ หมอเพลงเล่นเพลงลา คือลาผู้ฟังลาเจ้าภาพ และเพ่ือนหมอเพลงด้วยกนั จะมปี ี่พาทยฆ์ ้อง กลอง บรรเลงรับ หมอเพลงจะราตามกัน ไปยังบ้านเจา้ ภาพเจา้ ภาพกน็ าเงนิ ค่าหมอเพลงมาให้ พร้อมท้ังเลี้ยงข้าวปลา อาหาร และห่อ ข้าวของกินต่าง ๆ ใหเ้ ปน็ เสบยี ง ในการเดินทางกลับ คนฟังจะอยรู่ ว่ มฟงั งานจนเสร็จส้ินกระบวนการ จงึ ทยอยกลับ เช่นกันเพลงโคราชสมัยก่อนได้ไปเลน่ หลายจงั หวัด เชน่ บรุ ีรัมย์ เพชรบรู ณ์ พิษณโุ ลก สรุ ินทรต์ ลอดจนถึงประเทศ กัมพชู า สาหรบั จังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลาง ก็ไปเลน่ เปน็ ครั้งคราวปัจจบุ ันค่านิยมของผู้ฟัง เปลีย่ นแปลงไปมาก แมแ้ ต่ ผู้ฟัง ในจังหวดั นครราชสมี าเองก็เสือ่ มความนยิ มลงมาก บ้างกเ็ ห็นวา่ เพลงโคราช เป็นเพลงหยาบคาย และไมน่ า่ สนใจ แมท้ างราชการสง่ เสริม ให้นาออกแสดง ทางวทิ ยกุ ระจายเสยี งแหง่ ประเทศไทยจังหวดั นครราชสมี า กต็ ้องผ่านการ ตรวจ อย่างรดั กมุ จะใช้ภาษาตรง ๆเหมือนสมยั กอ่ นไม่ไดถ้ ือว่าไมเ่ หมาะสมในการจดั งานฉลองสมโภชใดๆมกั จะมี มหรสพอน่ื ๆ เปน็ คู่แข่งมากมาย เช่น ภาพยนตร์ มวย เพลงลูกทงุ่ ลเิ ก และราวงเพลงโคราชจงึ เป็นทสี่ นใจ สาหรับ ผู้ฟังรนุ่ เกา่ ทีม่ อี ายุค่อนข้างสูงแทบทั้งนน้ั หมอเพลงโคราช ไดร้ วมตวั กนั เป็นคณะเพลงโคราช หลายคณะ และเข้ามา ต้ังสานักงานคณะอยู่ในอาเภอเมอื งเปน็ ส่วนใหญ่ เพอื่ ความสะดวก สาหรบั มาตดิ ต่อ หาเพลงไปเล่นหมอเพลงโคราช ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 37 Korat folk song performance

ตอ้ งเล่นเพลงประยุกต์ ตามใจผู้ฟงั เช่น เลน่ เพลงหมอลา เล่นเพลงลาตัดและเพลงลูกทุ่ง พูดถงึ ท่าราแตกตา่ งกันไป มีเพลงโคราชของคณะทองสขุ กาปงั ท่ีประยุกตเ์ ล่นแบบลาเพลิน คอื นาเอาดนตรีสากล เขา้ มาประกอบ แตย่ งั ไมเ่ ปน็ ท่ีแพร่หลายนักการรวมตวั กันเป็นคณะเพลงโคราชปัจจุบนั น้นั นางสองเมือง อินทรกาแหงเป็นผ้รู ิเรมิ่ ตัง้ ขึน้ เป็นคนแรก เมื่อปี พ.ศ. 2499 ต้ังอย่ทู ่ี ถนนสุรนารายณแ์ ละต่อมากม็ ีคณะตา่ ง ๆ ต้ังขึ้นอกี หลายคณะ ข้อดคี ือ ทาใหส้ ะดวกใน การติดต่อจ้างไปเลน่ ขอ้ ไมด่ ีคือ เมอื่ หมอเพลงอย่คู ณะเดียวกันกร็ ชู้ ัน้ เชงิ และฝปี ากกนั ทาให้ฟงั ไม่สนกุ สนาน มผี ู้ พยายามจะรวมคณะเพลงโคราชต่าง ๆก่อต้ังเปน็ สมาคมเพลงโคราช แต่ยงั ไม่ได้รับความรว่ มมอื จากหมอเพลง เทา่ ทีค่ วร จากความเชือ่ ท่ีว่า ทา่ นท้าวสรุ นารี ( คณุ หญิงโม หรือย่าโมที่ชาวบา้ นเรียกท่าน ) ชอบเพลงโคราช ในสมัย ที่ทา่ นมีชวี ติ อยู่จงึ มผี ้หู าเพลงโคราชไปเลน่ ให้ท่านฟัง เป็นการแกบ้ น ณ บรเิ วณใกล้ ๆ กบั อนสุ าวรยี ใ์ นตอนกลางคนื เปน็ ประจา อาจเปน็ ปจั จัยหนึ่ง ทีท่ าให้คนร่นุ ใหม่ ไดร้ ูจ้ ักเพลงโคราชและหมอเพลงมรี ายได้ประจา แตก่ ็มผี สู้ นใจไปฟงั ไมม่ ากนักการประกอบอาชีพ ของหมอเพลงโคราชยังทารายได้ดี ยังเป็นอาชีพที่มัน่ คงอยหู่ มอเพลงดังกล่าวน้ี แม้จะ ประกอบอาชีพอน่ื เชน่ ทานา ทาไร่ เปน็ นักธรุ กิจแต่อาชีพหลกั คือเล่นเพลงโคราชสว่ นใหญห่ มอเพลงจะมคี วามเชอื่ ใน เรอ่ื งโชคลางพอสมควร เช่นในการก้าวขนึ้ โรงเพลง จะมีการดูทศิ ตามฤกษ์รับ ก้าวแรกที่ข้นึ จะตอ้ งเลือกดูตามทศิ ทาง โดยการหายใจ ถา้ ขา้ งซา้ ยคล่อง ก็ก้าวขาซ้ายข้ึนทานองเดียวกนั ถ้าข้างขวาหายใจสะดวก ก็กา้ วข้างขวาขน้ึ เปน็ ต้น เมื่อขนึ้ เวทีไปแลว้ กม็ ีการเปา่ คาถามหานยิ ม เพื่อให้ผู้ฟังชนื่ ชอบตนก็มี หมอเพลงบางคนเชอ่ื ว่าหลังคาโรงเพลงนนั้ ถา้ หากมกี ารมัดดว้ ยตอก หรือสง่ิ อ่ืนใดจะทาให้คาถาอาคม สติปัญญาในการว่าเพลงเสอื่ มลงไปดว้ ย ก็ขอรอ้ งใหแ้ ก้มดั ตอกออกก็มี .(2555).ความหมายความสาคัญเพลงโคราช.www.koratinfo.com/samapi/koratsong/index.htmได้ให้ ความหมายของความสาคญั เพลงโคราชวา่ ความสาคัญเพลงโคราชน้นั ส่วนใหญผ่ ู้มใี จรักในการท่จี ะเปน็ หมอเพลง แล้ว มักไปฝากตัวเป็นศิษย์ กับครเู พลงโดยตรง มบี างรายทบี่ ิดามารดาหรือผ้ปู กครองตอ้ งการใหล้ กู เป็นหมอเพลงก็ นาไปฝากกบั ครูเพลง และบางรายทค่ี รเู พลงเห็นวา่ มแี ววจะเป็นหมอเพลงทด่ี ี ก็มกั จะขอตัวไปอยูด่ ว้ ยครูจะดูหน่วย ก้านของผู้ทจ่ี ะเปน็ ศิษย์ ดูกิรยิ าท่าทาง เสยี งและปฏิภาณการทดสอบเพือ่ รับเปน็ ลูกศษิ ย์ อาจทาได้โดย ใหร้ ้องว่าเพลง ก้อมใหฟ้ งั ถา้ เห็นว่ามแี วว พอจะเป็นหมอเพลงได้ ก็รบั ไว้ ก่อนจะหดั ต้องมีการยกครูก่อน .(2555).ความหมายความสาคัญเพลงโคราช.http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=2543 ไดใ้ ห้ความหมายของความสาคัญเพลงโคราชวา่ ดา้ นคณุ คา่ 1.เนื้อหาของเพลงจะแสดงวิถีชีวิตของบคุ คลในสังคมในแง่มุมตา่ ง ๆรวมทั้งแทรกความสนุกสนานในรปู ความ บนั เทงิ อยา่ งดียิ่งหมอเพลงโคราชในอดีตได้ทาหนา้ ท่ีเป็นผู้แพร่ขา่ วสารจากทห่ี นึ่งไปยงั อีกท่ีหนงึ่ เปน็ ผู้มีประสบการณ์ กว้างไกล เพราะพบเหน็ เหตุการณแ์ ละผู้คนหลากหลายหมอเพลงโคราชและคนฟงั เพลงโคราชในอดตี จงึ มคี วามเปน็ อนั หนึง่ อันเดยี วกันเพราะเป็นคนในสงั คมเดยี วกัน จึงเข้าใจปญั หาของกันและกนั ตา่ งกเ็ ป็นปราชญ์ทางภาษา เชน่ เดียวกนั จึงสือ่ ความคิดผ่านเพลงโคราชออกมาสกู่ นั ได้ 2. เพลงพน้ื บ้านเป็นคติชนวิทยา ซง่ึ เป็นทรี่ วมความรเู้ ก่ยี วกับชาตพิ ันธุ์โคราช ทัง้ ภาษา ความรู้ ความคิด วฒั นธรรม ประเพณี ตลอดจนปรัชญาของชีวติ .(2555).ความหมายความสาคัญเพลงโคราช.www.baanmaha.com/community/thread24103.htmlได้ ให้ความหมายของความสาคัญเพลงโคราชว่า เพลงโคราช เปน็ ศลิ ปะ วฒั นธรรมพ้ืนบ้านของจงั หวัดนครราชสีมาหรือ โคราชซ่งึ ได้สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนานโดยเพลงโคราชน้ันมเี อกลักษณ์การร้องราเป็นภาษาโคราช ซงึ่ มคี วาม ไพเราะทาใหเ้ กิดความเพลิดเพลนิ และสนกุ สนานแตป่ จั จุบันเพลงโคราชคอ่ ยๆ ได้รบั ความนิยมและความสนใจน้อยลง พวกเราจึงควรที่จะชว่ ยกันอนุรักษ์ และสบื สานศลิ ปะวฒั นธรรมอันดงี ามนไ้ี ว้เพ่ือให้ลูกหลานของเราไดส้ มั ผสั ได้รบั ชม และรับความสนุกสนานเพลิดเพลนิ ดกี ว่าการเลา่ ขานเป็นตานาน จากการสัมภาษณ์ ภูมปิ ญั ญาหมอเพลงโคราช ไดใ้ หข้ ้อมูลความสาคัญของเพลงโคราช ดา้ นเศรษฐกจิ และ ดา้ นวฒั นธรรมและวถิ ีชวี ติ ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 38 Korat folk song performance

กาปั่น บ้านแท่น (2555) ได้ให้ขอ้ มลู ความสาคัญของเพลงโคราช ด้านเศรษฐกจิ และด้านวัฒนธรรม และ วิถชี วี ติ ไว้ขณะสมั ภาษณภ์ มู ปิ ัญญา เร่อื ง เพลงโคราช ในวนั ท่ี 17 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บ้านเลขที่ 336 ถนนจริ ะ ตาบลในเมอื ง เวลา 13.00 น.ไว้ว่า “ด้านเศรษฐกิจ แลว้ แตผ่ ู้ว่าจ้าง” และ “ดา้ นวฒั นธรรมและ วถิ ีชวี ติ ชุมชน คนโคราชมคี วามเชื่อ และศรทั ธาย่าโม เวลาไปขอพรหรือแกบ้ นมักจะใช้เพลงโคราชในการขอย่าโม” กาเหว่า บ้านแท่น (2555) ไดใ้ หข้ ้อมลู ความสาคัญของเพลงโคราช ด้านเศรษฐกจิ และด้านวัฒนธรรมและ วิถชี ีวติ ไวข้ ณะสัมภาษณ์ภมู ิปัญญา เรื่อง เพลงโคราช ในวันท่ี 17 เดือนสงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขท่ี 336 ถนนจิระ ตาบลในเมอื ง เวลา 14.00 น. ไว้ว่า “ด้านเศรษฐกจิ แล้วแตผ่ วู้ ่าจา้ ง” และ “ดา้ น วฒั นธรรมและวถิ ีชวี ิตชุมชน สว่ นใหญ่เป็นเร่ืองแกบ้ น และ เวลาไปขอพรยา่ โมให้ไดต้ ั้งสมปรารถนา มักจะใชเ้ พลง โคราชให้ย่าโมฟัง ซึ่งเกิดจากความเชื่อและศรทั ธา” บญุ สม สงขส์ ขุ (2555) ไดใ้ ห้ขอ้ มลู ความสาคัญของเพลงโคราช ดา้ นเศรษฐกิจและด้านวัฒนธรรมและวิถี ชวี ิต ไว้ขณะสมั ภาษณ์ภมู ิปัญญา เรือ่ ง เพลงโคราช ในวนั ที่ 24 เดือนสงิ หาคม พ.ศ.2555 ณ สมาคมเพลงโคราช เวลา 14.00 น. ไว้ว่า “ดา้ นเศรษฐกจิ และด้านวัฒนธรรมและวถิ ีชวี ติ ชุมชน สว่ นใหญเ่ ปน็ เรือ่ งแก้บน และ เวลาไป ขอพรยา่ โมใหไ้ ด้ตั้งสมปรารถนา มกั จะใชเ้ พลงโคราชใหย้ า่ โมฟงั ซ่ึงเกิดจากความเชื่อและศรัทธารักคุณยา่ โม ซง่ึ เป็น เรือ่ งของจิตใจ ความภาคภมู ใิ จตอ่ วีรกรรมของยา่ โม ” จากการสมั ภาษณ์ ภมู ิปญั ญาหมอเพลงโคราช ได้ใหข้ ้อมูลความสาคัญของเพลงโคราช ดา้ นเศรษฐกิจและ ด้านวฒั นธรรมและวิถชี วี ติ เพลงโคราช เป็นการรอ้ งเพลงโต้ตอบท่ีพัฒนาไป เปน็ การแสดงพื้นบา้ นของชาวจังหวัด นครราชสมี าหรือ โคราช ซึง่ ไดส้ บื ทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน มีเอกลักษณ์ อยู่ท่ีการร้องราเป็นภาษาโคราช ปรากฏ หลกั ฐานชัดเจน ในปี พ.ศ. ๒๔๕๖ เมือ่ สมเดจ็ พระศรีพชั รินทราบรมราชนิ นี าถ พระราชชนนพี นั ปหี ลวง เสด็จพระราช ดาเนินไปจังหวดั นครราชสีมาเพอ่ื ทรงเปดิ ถนนจอมสรุ างค์ยาตร์ และเสดจ็ ฯ พิมาย ในโอกาสรับเสดจ็ ครงั้ นน้ั หมอ เพลงชายรุ่นเกา่ ชื่อเสยี งโดง่ ดังมากชอ่ื นายหร่ี บ้านสวนข่า ไดม้ โี อกาส เลน่ เพลงโคราชถวาย ในสมัยก่อนเพลงโคราชเปน็ ที่นยิ มมาก เพราะการ แสดงมหรสพต่างๆ มีเพลงโคราชเพยี งอยา่ งเดียว คนฟงั เพลงกม็ ีเวลามาก ฟงั กนั ต้ังแต่หวั ค่าจนรงุ่ เชา้ เมอ่ื หมอเพลง เลน่ เพลงลา คอื ลาผูฟ้ ัง ลาเจ้าภาพ และเพ่ือนหมอเพลง ด้วยกนั จะมปี ี่พาทย์ ฆ้อง กลอง บรรเลงรับ หมอเพลง จะราตามกันไปยงั บา้ นเจ้าภาพ เจ้าภาพกจ็ ะนาเงนิ ค่า หมอ เพลงมาให้ พร้อมทงั้ เล้ียงขา้ วปลา อาหาร และห่อขา้ ว ของกินตา่ งๆ ใหเ้ ป็นเสบยี งในการเดินทางกลับ คนฟังจะอยู่ ร่วมฟังงานจนเสร็จส้ินกระบวนการจงึ ทยอยกลบั ปจั จบุ นั คา่ นิยมของผู้ฟังเพลงโคราชเปลยี่ นแปลง ไปมากทั้งด้านเนือ้ หา รปู แบบการแสดง และความนิยมของ คนโคราชเอง เนอื้ หาของเพลงโคราชขึ้นอยู่กบั โอกาสทจ่ี ะเลน่ หมอเพลงโคราชรนุ่ เก่าเนน้ การใช้ปฏภิ าณไหวพริบเลา่ เรื่อง นิทานชาดก และเครง่ ครัดมากในเร่อื งสอนศลี ธรรม หมอเพลงโคราชในอดตี ทาหน้าท่ีเป็นผ้แู พร่ขา่ วสาร เพราะ เปน็ ผู้ มปี ระสบการณ์กว้างไกล พบเหน็ เหตุการณแ์ ละผูค้ นหลากหลาย หมอเพลงโคราชและคนฟังเพลงโคราชในอดตี จงึ มี ความเปน็ อันหนึ่งอันเดียวกนั เพราะเป็นคนในสังคม เดยี วกัน จงึ เข้าใจปญั หาของกนั และกัน แต่หมอเพลงโคราช รุน่ ใหม่ มกั เลน่ ตามคาเรียกร้องของผู้ฟังเพ่ือความเพลิดเพลนิ และสนกุ สนาน ดว้ ยเหตนุ ี้ เพลงโคราชจึงค่อยๆ เสอ่ื มความนยิ มลง แตเ่ น่ืองจากในยคุ ปัจจบุ ันมคี วามเชือ่ ว่าท้าวสุรนารใี นสมยั ทย่ี งั มชี ีวติ อยู่ (พ.ศ. ๒๓๑๓-๒๓๙๕) ทา่ นชอบเพลง โคราชมาก จงึ มีผู้หาเพลงโคราชไปเล่นแกบ้ น ณ บรเิ วณ ใกล้ๆ กบั อนุสาวรยี ์ท้าวสรุ นารใี นตอนกลางคนื เปน็ ประจา จงึ เป็นปัจจยั หน่งึ ที่ทาให้หมอเพลงโคราช ซึง่ สว่ นใหญอ่ ยทู่ ่ี อาเภอเมือง จังหวดั นครราชสีมา ยงั คงสามารถประกอบอาชพี อยไู่ ด้ ตัวอยา่ งคณะเพลงโคราชที่โดดเดน่ อยู่ท่อี าเภอ เมือง จังหวัดนครราชสีมา 4. แหล่งเรยี นรใู้ นชุมชน แหลง่ เรียนรู้เพลงโคราช อยู่ในตาบลในเมือง อาเภอเมือง จังหวดั นครราชสมี า ประกอบด้วย 5 ชุมชน ตามลาดับดังนี้ ชุดการเรียนรู้เรือ่ งเพลงโคราช 39 Korat folk song performance

4.1 นายบญุ สม สังข์สขุ นายกสมาคมหมอเพลงโคราช 386/145 ม. 6 ต.บ้านเกาะ อ. เมือง จ. นครราชสมี า 30000 มอื ถอื 089 5792686 โทรสาร 044 276794 ดงั ภาพประกอบ ภาพประกอบ 1 4.2 เพลงโคราชกาป่นั บ้านแทน่ 344 จริ ะ ตาบลในเมือง อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ดงั ภาพประกอบ ภาพประกอบ 2 4.3 ชมุ ชนวดั ทุ่งสว่าง-ศาลาลอย บา้ นเลขที่ 1235 ตาบล ในเมอื ง อาเภอ เมอื ง จังหวดั นครราชสีมา โทร 081 – 5473 – 409 ดงั ภาพประกอบ ภาพประกอบ 3 ภาพประกอบ 3 4.4 ชุมชนหน้ายา่ โม บ้านเลขท่ี 1234 ตาบล ในเมือง อาเภอ เมือง จังหวัด นครราชสมี า โทร 081 – 5473 – 409 ดังภาพประกอบ ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 40 Korat folk song performance

ภาพประกอบ 4 4.5 หมอเพลงโคราช นายดน้ิ โคพันดงุ อายุ 66 ปี บา้ นเลขท่ี 7/1 หมู่ที่ 3บา้ นคลองแคใตต้ าบล โนนเมอื งพฒั นา อาเภอด่านขุนทด จงั หวดั นครราชสมี า ดงั ภาพประกอบ ภาพประกอบ 5 5. ความเป็นไปได้ในการเขา้ สอู่ าชีพเพลงโคราช 5.1 จากการศึกษาจากเอกสารทเี่ กีย่ วข้อง จากการศึกษารปู แบบการแสดงเพลงโคราชจากอดีตจนถึงปจั จบุ ัน แบ่งไดด้ ังน้ี เพลงโคราชแบบดัง้ เดมิ เพลง โคราชแก้บน และเพลงโคราชประยกุ ต์หรือเพลงโคราชซิ่ง 1). เพลงโคราชแบบด้งั เดิม เป็นเพลงที่สบื ทอดกันมาต้งั แตค่ รงั้ เป็นเพลงโตต้ อบ ลักษณะเปน็ การ แสดงแบบพื้นบ้านด้งั เดิมทง้ั รูปแบบ เนื้อหาและวธิ ีการเล่น ผู้ชมสว่ นใหญม่ กั เปน็ ผสู้ ูงอายเุ พราะมเี น้อื หาคอ่ นข้างฟงั ยาก ตอ้ งตีความโดยมีเนื้อหาจะแสดงถึงวิถชี วี ิตของคนในสังคมแง่มุมต่างๆ หลกั ธรรมคาสอนทางศาสนา มีการเล่น เปน็ เร่ืองราวและเปน็ ข้ันตอน รวมทง้ั แทรกความสนกุ สนานไว้ในรปู ความบันเทงิ ขึ้นอยปู่ ฏภิ าณไหวพรบิ ของหมอเพลง 2). เพลงโคราชแก้บน เร่ิมเป็นทนี่ ยิ มภายหลงั การสรา้ งอนุสาวรียท์ า้ วสุรนารี เม่ือปี พ.ศ.2477 จากความเช่ือ ท่วี า่ ทา้ วสุรนารีชอบฟังเพลงโคราช และถา้ บนท่านด้วยเพลงโคราชก็จะได้รบั ความส าเร็จตามที่บนไว้ รปู แบบการ แสดงเพลงโคราชแกบ้ นเหมือนเพลงโคราชแบบดั้งเดิม แต่มขี อ้ จากัดคือ เวลาท่ใี ช้ในการแสดงมจี ากัด เช่น คร่งึ ช่วั โมง ถงึ หน่ึงช่ัวโมง 3). โคราชประยกุ ตห์ รอื เพลงโคราชซง่ิ มีรูปแบบการแสดงคล้ายกับการแสดงของวงดนตรีเพลง ลูกทุ่ง หมอลา แตเ่ ป็นการผสมผสานการเล่นเพลงโคราชแบบดั้งเดิมเข้าดว้ ย ลกั ษณะคือจดั เวทคี ล้ายเวทแี สดงคณะ เพลงลูกทุ่งมีการจดั และตกแต่งเวทีให้สวยงาม มีการจัดระบบแสง สี เสียง ให้เป็นท่สี นใจของชม (ขนาดของเวทีและ อปุ กรณ์ประกอบอน่ื ๆ ขน้ึ อยู่กบั ข้อตกลงกบั ผูว้ า่ จ้าง) ใช้เครือ่ งดนตรสี ากลมาประกอบการแสดง จัดให้มีหางเครื่อง หรือนักเตน้ ประกอบการแสดงด้านหนา้ เวที มกี ารน าเพลงลูกทุ่งหรอื กลอนหมอลามาใชใ้ นการแสดง หรอื ประยุกต์ใช้ ภาษาโคราชในการรอ้ งสภาพการเปล่ยี นแปลงรูปแบบการแสดงเพลงโคราชจากอดีตจนถงึ ปจั จุบนั สภาพการ เปลีย่ นแปลงรปู แบบการแสดงเพลงโคราชนน้ั ในทนี่ ผ้ี ศู้ ึกษาแบง่ ออกเป็น 2 ชว่ ง กล่าวคอื ชว่ งที่ 1หมายถงึ ช่วงปีพ.ศ.2456-พ.ศ.2520 และชว่ งท2่ี หมายถงึ ชว่ งตัง้ แตป่ ีพ.ศ.2521 จนถงึ ปจั จบุ ัน ตลอดระยะเวลาของการดารงอยูข่ องเพลงโคราช นับตงั้ แต่สมยั ท้าวสรุ นารจี วบจนถึงปัจจบุ ัน เพลง โคราชผ่านการทา้ ทายจากบริบททางสังคมมาอย่างต่อเนื่อง จากปจั จยั ต่างๆ ทาให้เพลงโคราชมพี ลวตั รท้ังส่วนที่สญู หายไป ส่วนท่ยี งั ดารงอยูแ่ ละส่วนทม่ี คี วามเปลยี่ นแปลงไป (หน่งึ ฤทัย ขอผลกลาง, 2554) ชดุ การเรียนรู้เร่อื งเพลงโคราช 41 Korat folk song performance

6. การตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพเพลงโคราช 6.1 ศกั ยภาพของทรพั ยากรธรรมชาติ การสร้างอนสุ าวรยี ์ท้าวสรุ นารเี ม่ือปี พ.ศ.2477 ถือเปน็ จดุ เปลีย่ นสาคญั ทีท่ าใหเ้ พลงโคราชไดร้ ับความนิยม และพัฒนาสู่การเป็นธรุ กจิ บนั เทิงและสรา้ งศิลปนิ เพลงโคราชมาจนกระทั่งปจั จุบนั กล่าวคอื เพลงโคราชแก้บนเร่มิ เปน็ ท่ี นิยมภายหลงั การสรา้ งอนสุ าวรยี ท์ ้าวสรุ นารี เม่ือปี พ.ศ.2477 จากความเช่อื ทวี่ า่ ทา้ วสุรนารีชอบฟังเพลงโคราช และถา้ บนทา่ นด้วยเพลงโคราชกจ็ ะไดร้ ับความสาเรจ็ ตามท่ีบนไว้ รปู แบบการแสดงเพลงโคราชแกบ้ นเหมือนเพลง โคราชแบบดัง้ เดมิ แต่มีข้อจากัดคือ เวลาที่ใชใ้ นการแสดงมีจากดั เชน่ ครงึ่ ช่ัวโมงถงึ หนึง่ ช่ัวโมง การรวมตวั กันโดยการจัดตั้งเป็นคณะเพลงโคราช เพลงโคราชได้เข้าสู่กระบวนการทางธุรกิจเพื่อสร้างความ เขม้ แข็งและพลังต่อรอง มสี านักงานสาหรบั รับงานแสดงในสมโภชหรืองาน แก้บน มีหัวหน้าคณะซึง่ มักเปน็ หมอเพลง ทมี่ ชี อ่ื เสียง มีบทบาทในการประสานหมอเพลงโคราชและ ผ้มู าตดิ ตอ่ วา่ จา้ ง โดยการรวมตัวเป็นคณะเพลงโคราชน้นี าง สองเมือง อินทรกาแหง เป็นผูร้ เิ รม่ิ ตง้ั ขึน้ เปน็ คนแรก เม่ือปีพ.ศ. 2499 ตั้งอยูท่ ่ีถนนสรุ นารายณ์และต่อมาก็มีคณะ ต่างๆ ตง้ั ขน้ึ อกี หลายคณะ ข้อดคี ือ ทาใหส้ ะดวกในการตดิ ต่อจ้างไปเล่น ขอ้ ไมด่ ีคอื เมอื่ หมอเพลงอยคู่ ณะเดียวกันก็รู้ ชนั้ เชิงและฝีปากกันทาให้ฟังไม่สนุกสนาน 6.2 ศักยภาพของพืน้ ทต่ี ามสภาพภมู ิอากาศ การเปลย่ี นแปลงรปู แบบการแสดงเป็นเพลงโคราชประยุกตห์ รอื เพลง โคราชซิง่ มรี ปู แบบการแสดงคล้ายกบั การแสดงของวงดนตรีเพลงลูกทุง่ หมอลาแต่เป็นการผสมผสานการเล่นเพลง โคราชแบบดง้ั เดมิ เขา้ ดว้ ย ลักษณะคือจดั เวทีคลา้ ยเวทแี สดงคณะเพลงลูกทุ่ง มีการจดั และตกแตง่ เวทีให้สวยงาม มี การจัดระบบแสง สี เสียง ให้เป็นท่สี นใจของชม (ขนาดของเวทแี ละอปุ กรณ์ประกอบอน่ื ๆ ขึน้ อยกู่ ับข้อตกลงกับ ผู้ว่า จ้าง) ใชเ้ ครอื่ งดนตรีสากลมาประกอบการแสดง จดั ใหม้ หี างเครือ่ งหรือนกั เตน้ ประกอบการแสดงด้านหน้าเวที มีการน าเพลงลูกทุ่งหรอื กลอนหมอลามาใช้ในการ แสดง หรอื ประยุกตใ์ ช้ภาษาโคราชในการรอ้ งอย่างไรก็ตามปัจจุบนั เพลงโคราชแบบดัง้ เดิมไดร้ ับความสนใจโดยเฉพาะ เพลงโคราชแกบ้ นท้าวสรุ นารอี ันเป็นความเช่ือท่ถี ือปฏบิ ัตสิ ืบตอ่ กนั มา การแสดงในงานต่างๆ ผูว้ ่าจา้ งสว่ นใหญส่ นใจ จ้างคณะเพลงโคราชซิ่ง และมีบางงานให้แสดงเพลงโคราชแบบดั้งเดมิ ก่อนการแสดงเพลงโคราชซ่งิ ในเวทเี ดียวกนั ปจั จัยสาคญั ท่สี ง่ ผลทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงของเพลงโคราช คือ สภาพเศรษฐกจิ และอิทธิพลของสื่อตา่ งๆ ที่ส่งผลต่อรสนยิ มของกลุ่มผู้ฟังรนุ่ ใหม่ ประกอบกบั กระแสการเปล่ียนแปลงตามยคุ สมัยโลกาภวิ ตั น์ปจั จุบนั เพลง โคราชยงั ได้รับความนยิ มจากผ้ฟู ังท่สี งู อายุอยู่มากโดยเฉพาะในชนบท หมอเพลงโคราชยังคงมีรายไดจ้ ากการไปเล่น เพลงในงานกฐนิ ผา้ ปา่ บวชนาค และงานอืน่ ๆ อยู่เสมอๆ และมหี มอเพลงบางส่วนมีรายได้จากการเล่นเพลงแก้บนที่ อนุสาวรีย์ทา้ วสรุ นารีและที่วดั ศาลาลอย 6.3 ศกั ยภาพของภูมิประเทศและทาเลทต่ี ้ัง การรวมตวั กันกอ่ ตงั้ เปน็ สมาคมเพลงโคราช เพื่ออนรุ ักษแ์ ละสบื สานศิลปะการแสดงเพลงโคราช โดยเฉพาะการถา่ ยทอดให้กบั คนรนุ่ หลัง ได้แก่การสอนเพลงโคราชในสถานศึกษา ตา่ งๆ ตามหลักสูตรท้องถิน่ มีการปลกู จิตสานึกลูกหลานชาวโคราชใหห้ นั มาภาคภูมใิ จในวฒั นธรรมแขนงน้ีมากข้ึน และในปัจจบุ ันเทศบาลนครนครราชสีมาไดใ้ ห้การสนับสนุน เช่น ไดจ้ ดั สถานที่สาหรับเลน่ เพลงโคราชไวบ้ รเิ วณ อนสุ าวรียท์ า้ วสุรนารซี ่ึงในสมัยกอ่ นเพลงโคราชจัดแสดงบริเวณลานโล่งดา้ นในศาลเจ้าตรงข้ามอนุสาวรียท์ ้าวสุรนารีซงึ่ มีพื้นท่ีคอ่ นขา้ งจากดั และชาวโคราชจานวนไมน่ ้อยเหน็ ว่า สถานทไี่ มเ่ หมาะสมต่อการจัดแสดงเพลงที่เปน็ ที่โปรด ปรานของท้าวสุรนารแี ตเ่ มื่อมีการบูรณะพนื้ ท่ีบรเิ วณสานอนสุ าวรียแ์ ลว้ หมอเพลงโคราชจึงไดอ้ อกมาแสดงบรเิ วณเวที ดา้ นข้างอนุสาวรีย์ทา้ วสรุ นารีใหด้ สู มเกยี รติแก่การแสดงเพ่ือแก้บนท้าวสุรนารี 6.4 ศกั ยภาพของศิลปะ วฒั นธรรมประเพณแี ละวถิ ชี ีวิต เผยแพรเ่ พลงโคราชให้ดังไปไกลให้ มากท่สี ุดเท่าทจ่ี ะเปน็ ไปได้ เพลงชาวบา้ น สาหรับเล่นในยามว่างงานหรอื เพ่ือความสนุกสนานเช่นการลงแขกในการ ทานา ลักษณะคือไมต่ ้องมีพิธี ไม่ตอ้ งสรา้ งเวที หรือ “โรงเพลง” และไม่มีการแตง่ กายแบบหมอเพลงอาชีพ และเพลง ชดุ การเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 42 Korat folk song performance

อาชีพ เป็นการแสดงในงานฉลองหรอื สมโภชต่างๆ เช่น งานบวชนาคทอดกฐนิ งานประจาปีหรือเลน่ แกบ้ นโดยผู้ ประกอบอาชีพเพลงโคราชนเี้ รียกวา่ “หมอเพลง” ซง่ึ การแสดงจะเปน็ แบบพิธีการ มีเวทีการแตง่ กายตามแบบของ หมอเพลงและมกี ารไหวค้ รเู ป็นต้น รปู แบบในลักษณะนีห้ มอเพลงจะได้รับคา่ ตอบแทนและมีการวา่ จ้างใหแ้ สดง 6.5 ศกั ยภาพของทรัพยากรมนษุ ย์ ถา่ ยทอดให้คนรุ่นใหม่ เพือ่ ใหเ้ ขาไดเ้ ป็นศิลปินเพลงโคราชให้มากที่สุด แสวงหาและปลูกฝงั ให้คนหันกลบั มาชอบเพลงโคราชให้มากทสี่ ดุ การดารงอยู่ของเพลงโคราช ตลอดระยะเวลาที่ผา่ น มานบั ต้ังแตส่ มัยทา้ วสรุ นารีจวบจนถงึ ปัจจบุ ัน เพลงโคราชผ่านการทา้ ทายจากบริบททางสังคมมาอย่างตอ่ เนื่อง จาก ปจั จัยตา่ งๆ ทาให้เพลงโคราชมีการเปล่ยี นแปลง โดยมที ั้งสว่ นท่สี ญู หายไป สว่ นที่ยงั ดารงอยแู่ ละสว่ นที่มีการ เปลี่ยนแปลงไป ซ่ึงสอดคลอ้ งกับการศึกษาของ หนึ่งฤทัย ขอผลกลาง (2554) ท่ีศกึ ษาวถิ ีเพลงโคราช : มิตแิ ละพลวตั ร ของความเปลย่ี นแปลง พบวา่ มิติท่ียังดารงอยู่อย่างต่อเน่อื ง มติ ทิ ี่เกิดความเปลี่ยนแปลงคือ ขนบของการแสดง ภาษาที่ ใชร้ วมทั้งสถานภาพของหมอเพลงโคราช มิตทิ ่ียงั ดารงอยู่คือ สนุ ทรียะของบทเพลง การไหว้ครูและการแตง่ กาย ขนบของการแสดงไม่มีมิติใดที่สูญหายไป เพียงแต่มีการปรบั เปล่ียนรปู แบบไปบา้ งเพ่ือความอย่รู อดของเพลงโคราช สะทอ้ นให้เห็นความสามารถในการปรบั ตัวของเพลงโคราชเพอื่ ให้เขา้ กับสถานการณท์ างสังคมท่เี ปล่ียนไป เพื่อการ ดารงอยู่ และการสบื ทอดของศลิ ปวฒั นธรรมเก่าแก่ของจังหวัดนครราชสมี า หรือ เมืองโคราชสืบไป ชดุ การเรียนรู้เรือ่ งเพลงโคราช 43 Korat folk song performance

ใบงาน ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามดังนี้ 1. บอกความหมายของเพลงโคราชไดแ้ ละหมอเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. บอกประวัติความเป็นมาของเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 3. นักศึกษาอธบิ ายและตระหนักเห็นคุณค่าความสาคญั ของเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 4. ระบแุ หลง่ เรยี นรู้ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ และเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 44 Korat folk song performance

.................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 5. ถา้ นกั ศึกษาจะเลอื กประกอบอาชีพหมอเพลงโคราชจะมีอย่างไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 6. นักศึกษามีวิธีการตัดสินใจประกอบอาชีพเพลงโคราชอย่างไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ชดุ การเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 45 Korat folk song performance

เรอ่ื งที่ 3 ทักษะการรอ้ งเพลงโคราช ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 46 Korat folk song performance

เรื่องที่ 3 ทักษะการร้องเพลงโคราช จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายการยกครู การไหว้ครู การแต่งกาย อปุ กรณป์ ระกอบการร้องเพลง เวทีรอ้ งเพลงโคราช ทา่ รา และภาษาโคราช 2. ฝกึ การยกครู การไหวค้ รู การฝกึ เขยี นกลอนเพลงโคราช การฝกึ ร้องเพลงโคราช การฝกึ ท่าราเพลง โคราช และปฏบิ ตั ขิ ้ันตอนการร้องเพลงโคราช 3. บอกและยกตวั อยา่ งการอนรุ ักษร์ ้องเพลงโคราช ทักษะการร้องเพลงโคราช 1.ความรู้พนื้ ฐานในการร้องเพลงโคราช 1.1 การยกครูและการไหวค้ รู ผูม้ ีใจรักในการท่จี ะเป็นหมอเพลงแล้ว มกั ไปฝากตัวเปน็ ศิษย์ กบั ครเู พลงโดยตรง มบี างรายทบี่ ดิ ามารดาหรือผู้ปกครอง ต้องการให้ ลูกเปน็ หมอเพลงก็นาไปฝากกับครูเพลง และบางรายที่ครเู พลง เหน็ วา่ มี แววจะเปน็ หมอเพลงทด่ี ี กม็ กั จะขอตวั ไปอยู่ดว้ ย ครูจะดหู น่วยกา้ นของ ผ้ทู ี่จะเปน็ ศิษย์ ดูกิรยิ าท่าทาง เสยี งและปฏิภาณ การทดสอบเพอื่ รบั เป็นลูกศษิ ย์ อาจทาไดโ้ ดย ให้รอ้ งวา่ เพลงก้อมให้ฟัง ถ้าเหน็ ว่ามแี วว พอจะเป็นหมอเพลงได้ กร็ บั ไว้ ก่อนจะหัดต้องมีการยกครกู ่อน อุปกรณ์ที่จะใช้คอื 1. กรวย 6 กรวย ( ลักษณะเป็นกรวยก้นแหลม ) 2. ดอกไมข้ าว 6 คู่ 3. เทียน 6 เล่ม 4. ธปู 6 ดอก 5. ผ้าขาว 1 ผนื ยาวประมาณ 4 ศอก 6. เงนิ 6 บาท บางครูก็ 12 บาท เมอื่ รับไวเ้ ป็นศษิ ย์แลว้ ผทู้ ีจ่ ะหัดเพลง ก็จะพกั อยทู่ บี่ ้านครู ช่วยครูทางานในตอนกลางวนั ตอนกลางคนื จะต่อเพลงกบั ครู ซึง่ เปน็ การต่อเพลงแบบปากตอ่ ปาก ไม่มกี ารเขยี นหรือ จดไว้ เพราะคนในสมัยกอ่ น มีผรู้ ู้หนงั สือนอ้ ย หมอเพลงทีม่ ีชือ่ เสยี งมากในยคุ ก่อน บางคนไม่รู้หนงั สือ การต่อกลอนในลกั ษณะนจ้ี ะต่อกนั คืนละ 1 กลอนเทา่ นน้ั ศิษย์ จะต้องท่องจนข้ึนใจ และตอ้ งวา่ ให้ครฟู ังในตอนเช้า ก่อนที่จะออกไปทางานใหค้ รู ถ้า จาไม่ได้กจ็ ะตอ้ งต่อกนั ใหม่ในคนื ตอ่ ไป จนกว่าจะจาได้ นอกจากจะตอ่ กลอนแล้ว ครู ยังใหฝ้ กึ การเออ้ื นทานอง และออกเสยี งตัวกลา้ \"ร ล\" อีกด้วย ศษิ ย์คนใดมีความจาดี มีปฏิภาณ กอ็ าจจะใช้เวลาเรยี น ไมน่ าน 1 - 2 ปี กอ็ อกเลน่ ได้ แต่บางคนเรียนชา้ อาจใช้เวลาถึง 10 ปี เน้ือหาทเี่ รียน น้นั ถา้ เป็นผหู้ ญงิ จะเรียนเฉพาะกลอนเพลง ถา้ ผู้ชายจะเรียนคาถาอาคมด้วย ใน ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 47 Korat folk song performance

สมัยก่อนพวกผชู้ าย กอ่ นท่ีจะออกแสดง จะตอ้ งทาพิธเี ข้ากรรมในโบสถ์ เปน็ เวลา 7 วนั กินขา้ ววันละ 7 ป้ัน วันแรก ตอ้ งทาน้ามนต์ไวด้ ่ืม และต้องกนิ พริกไทพนั เม็ด เพราะเชือ่ ว่าจะทาให้ปัญญาดวี ่าเพลงออก ในระหวา่ งท่เี ข้ากรรม 7 วนั นหี้ า้ มว่าเพลง เพราะทาให้กรรมแตก เรียกวา่ ถ้าใครกรรมแตก มักจะมอี ันเป็นไป ผู้เขา้ กรรม แต่ละคนจะมีไก่สีขาว เรยี กว่าไกช่ ี ไว้เสีย่ งทาย ในระหว่างท่เี ข้ากรรมไก่ของใครคกึ เจา้ ของไก่ มักจะเปน็ หมอเพลงที่มชี ่อื ต่อไป ถ้าไกข่ องใคร หงอย เจ้าของมักจะไมป่ ระสบความสาเรจ็ ในอาชีพหมอเพลง 1.2 การแต่งกาย ผูห้ ญงิ นุ่งผา้ โจงกระเบน เปน็ ผา้ พนื้ ทอมือสเี ข้ม เชน่ สดี า สนี ้าตาล สกี รมท่า คาดเข็มขัดเงิน เขม็ ขัดทอง หรอื เขม็ ขัดนาก ไมน่ ิยมนุ่งซนิ่ สวมเสือ้ ตัดเยบ็ จากผ้าฝ้ายทอมือ เส้ือที่นยิ มใช้ เรยี กวา่ เส้ือ \"คอกระโจม\" และเส้ือ \"อแี ปะ\" หญงิ ชาวไทยเบ้ิงจะใช้เสื้อประเภทนีไ้ ปวัด แต่งงานใช้สไบเฉยี งห่มทับเสอ้ื หรอื สวมเสื้อแขน กระบอกหม่ สไบ ทับเสือ้ ถ้าอยู่บ้านมักใช้ผา้ คาดอกแทนการสวมเส้ือ ตัดผมทรงดอกกระทมุ่ ไม่นิยมดดั ผม และแต่งหน้าเพียงใช้แปง้ เมด็ บรรจุกระป๋องทาหนา้ กนิ หมากทาใหป้ ากแดง ใชส้ ีผงึ้ ทาปากเพ่ือไม่ใหป้ ากแห้ง การบารุงผวิ ใช้ขมิ้นผสมกบั ดินสอ พอง ทาตวั และทาหน้า สาหรับเคร่ืองประดับนยิ มใช้ทองมากกวา่ เพชรพลอย และนิยมใช้ตุ้มหูมากกวา่ สรอ้ ยและ แหวน สะพายย่ามแทนกระเป๋า ของท่ีใสใ่ นย่ามได้แก่ เครื่องใชส้ ่วนตวั เคร่อื งมือในการประกอบอาชีพ ขา้ วห่อและอน่ื ๆ ผชู้ าย ในอดีต ชายนงุ่ โจงกระเบน สวมเสื้อคอกลมไม่ผา่ อก น่งุ กางเกงขากว๊ ย กางเกงขาส้ัน กาง เกงขายาว หากอยู่ บ้านน่งุ ผ้าถงุ และไม่สวมเสือ้ เมอ่ื ออกนอกบา้ นสวมเสอื้ คอกลม ปกฮาวาย หรอื ปกเช้ิต มผี ้าขาวมา้ พาดบา่ เหมือนสไบ ตัดผมทรงดอกกระทุ่ม สะพายย่ามไมส่ วมรองเท้า ผ้ชู าย สว่ นใหญ่จะนงุ่ ผา้ โจงกระเบน ผ้าทีจ่ ะนามานุ่งส่วนใหญ่ จะเป็นผ้าไหมหางกระรอก ซึ่งเปน็ ผลติ ผลของ ชาวโคราชผลติ กนั ขน้ึ มาเอง หรอื บางทีกใ็ ช้ผา้ ม่วงแทนกม็ ี เส้ือท่ใี ชน้ น้ั เป็นเส้ือคอกลม แขนสนั้ สีไม่จากดั มผี า้ ขาวมา้ คาดเอว ภาษาโคราชวา่ ใชผ้ า้ ขาวม้า \"เคียนพุง\" เครื่องประดับอน่ื ๆ นอกจากนี้แล้ว สว่ นใหญไ่ ม่มี หมอเพลงบางคนก็ แขวนพระเคร่อื งบา้ ง ผ้หู ญิง นงุ่ ผา้ โจงกระเบน เหมือนหมอเพลงผชู้ าย ผ้าทใ่ี ช้น่งุ กเ็ ปน็ ผา้ ไหมหางกระรอกหรอื ผา้ มว่ ง เส้อื นิยมสวม เสอ้ื รัดรูป ไม่มีปก แขนสน้ั ในสมัยก่อนนั้นผหู้ ญงิ ไม่สวมเส้ือ มแี ต่ผ้ารัดอก และใชผ้ า้ สะไบเฉยี ง พาดไหล่ นอกจากน้ี บางคนนยิ มใช้พลูจีบทัดหู ทั้งน้ีเพราะผหู้ ญงิ ไม่รจู้ กั ชายหชู ายตา ครเู พลงเลยสอน ใหห้ ดั ชาเลืองดูพลจู บี ที่ทัดหู 1.3 อปุ กรณ์ประกอบการรอ้ งเพลง ในสมัยก่อนนั้นการเลน่ เพลงโคราชไม่จากดั สถานท่ี อาจเล่นบนบา้ นหรือลานบา้ นก็ได้ เพยี งแตน่ าครกตา ข้าว (ครกซ้อมมอื ) มาวางควา่ ลง แลว้ หาถังตักนา้ วางไว้บนครกน้ัน เพ่ือให้หมอเพลงไดด้ ื่มแก้คอแหง้ ในยคุ ที่ยังไม่มี ไฟฟ้าแสงสว่าง ชาวบา้ นมักจะทาไตช้ า้ ง หรอื ไตร้ ่งุ ให้แสงสว่างแทน ลักษณะของไตช้ ้างหรอื ไต้ร่งุ ทาดว้ ยไม้ไผย่ าว ประมาณ 5 ศอก ปลายขา้ งหนง่ึ จกั ด้วยมดี แผ่ออกสานดว้ ยไม้ไผ่เปน็ รปู กระทะใสด่ ินกรุ ใส่ชันผสมไม้ผุ ๆ หรือแกลบ จุดใหแ้ สงสวา่ ง ปลายอีกขา้ งหนึง่ ฝังดนิ ใกล้ ๆ กบั ครก ต่อมาใช้ตะเกยี งเจา้ พายุ หรอื ตะเกยี งลาน จดุ แทนไตร้ ่งุ เวที ก็ เปลย่ี นมาเปน็ ลาดับ คือ มเี สา 4 เสา ยกพน้ื ปูกระดาน สูงจากพนื้ ดนิ ประมาณ 1 เมตร หลังคามุงด้วยกา้ นมะพรา้ ว ท่ี กลางพน้ื เวทีกย็ ังมีถังใสน่ ้าตงั้ อยู่เช่นเดมิ เม่ือก่อน ท่ียงั ไมม่ ีเครื่องขยายเสียงน้นั หมอเพลงต้องเสียงดัง พอทจ่ี ะฟงั ได้ ยิน แตป่ ัจจุบันสงิ่ ที่ช่วยใหแ้ สงสวา่ ง ในการเล่นเพลงโคราชคอื ไฟฟา้ และมีเคร่ือขยายเสยี ง ท่ดี ังกวา่ เสยี งหมอเพลงใน ครง้ั ก่อน ๆ เปน็ ประโยชนท์ งั้ ผู้ฟงั และหมอเพลง พิธไี หว้ครู กอ่ นข้นึ เวที หมอเพลงจะไหว้ครูก่อน เคร่ืองไหวค้ รู ซ่ึงเจ้าภาพเปน็ ผู้หามาให้ประกอบด้วย ผา้ ขาว 1 ผืน กรวยพระ 6 กรวย ดอกไม้ ธูป เทยี น และเงินค่ายกครู 6 บาท สาหรบั งานธรรมดา สว่ นงานศพ 12 บาท ผา้ ขาวนั้น จะได้คนื จากหมอเพลง เม่ือเสรจ็ งานแลว้ หมอเพลงจะไหว้ครูทกุ วนั โดยหวั หน้าท่ไี ป จะเป็นผู้นาไหว้ หลังจากแต่งตวั ชุดการเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 48 Korat folk song performance

เสรจ็ กอ่ นขนึ้ เวที การไหว้ครู หมอเพลงจะไหว้บพุ การี และบางคนก็ไหว้พญามารด้วย คือขอให้พญามาร ทาลายฝา่ ย ตรงข้ามให้ย่อยยบั จากลอนไม่ได้ ในบทไหวค้ รูก็ดูไมจ่ ริงจงั และแทรกอารมณ์ขัน ไว้มาก 1.4 เวทเี พลงโคราช ลักษณะเวทเี พลงโคราช ในสมัยกอ่ นน้ันการเล่นเพลงโคราชไมจ่ ากัดสถานที่ อาจเลน่ บนบา้ นหรือลานบ้านกไ็ ด้ เพียงแต่นาครกตา ข้าว (ครกซ้อมมอื ) มาวางควา่ ลง แล้วหาถงั ตกั นา้ วางไว้บนครกน้ัน เพื่อให้หมอเพลงไดด้ ื่มแก้คอแหง้ ในยคุ ทีย่ ังไม่มี ไฟฟ้าแสงสว่าง ชาวบา้ นมกั จะทาไตช้ า้ ง หรือไต้ร่งุ ให้แสงสว่างแทน ลกั ษณะของไตช้ า้ งหรือไต้รุง่ ทาด้วยไม้ไผ่ยาว ประมาณ 5 ศอก ปลายข้างหนง่ึ จักด้วยมดี แผอ่ อกสานด้วยไมไ้ ผ่เปน็ รูปกระทะใส่ดินกรุ ใสช่ นั ผสมไม้ผุ ๆ หรือแกลบ จุดให้แสงสว่าง ปลายอกี ขา้ งหนงึ่ ฝงั ดนิ ใกล้ ๆ กับครก ต่อมาใชต้ ะเกยี งเจา้ พายุ หรอื ตะเกียงลาน จดุ แทนไตร้ ่งุ เวที ก็ เปลยี่ นมาเปน็ ลาดับ คือ มเี สา 4 เสา ยกพื้นปกู ระดาน สงู จากพน้ื ดนิ ประมาณ 1 เมตร หลงั คามุงดว้ ยกา้ นมะพร้าว ท่ี กลางพน้ื เวทีก็ยังมีถงั ใสน่ ้าต้งั อย่เู ช่นเดิม เมื่อก่อน ท่ยี ังไมม่ ีเครอื่ งขยายเสียงน้นั หมอเพลงตอ้ งเสียงดัง พอทจ่ี ะฟงั ได้ ยนิ แต่ปัจจบุ นั สง่ิ ทช่ี ว่ ยให้แสงสว่าง ในการเลน่ เพลงโคราชคอื ไฟฟ้าและมีเครื่องขยายเสียง ที่ดังกว่าเสยี งหมอเพลงใน ครงั้ ก่อน ๆ เปน็ ประโยชนท์ ง้ั ผฟู้ ังและหมอเพลง 1.5 ทา่ รา ท่ารา ทา่ ราพอจะจาแนกออกเป็น 2 ลักษณะ คอื 1.5.1 ท่าราชา้ ลกั ษณะการราผชู้ าย จะกางแขนทงั้ สองขา้ งออกพองาม มอื แบออกราขึ้นลงข้างต้น ส่วนขา ยา่ งตามจังหวะ ของกลอนเพลง สมัยก่อนผชู้ ายจะวาดวงแขนกวา้ ง ผูห้ ญงิ ราเหมือนฝา่ ยชาย ต่างกนั ทจ่ี ีบมือ และวง แขนแคบ 1.5.2. ทา่ ราเรว็ ฝ่ายชายจะราเหมือนทา่ ราชา้ แต่เรง่ จังหวะการราใหเ้ รว็ ข้ึนตามกลอนเพลง อีกท้ังตอ้ งรา รดุ หนา้ เขา้ หาฝา่ ยหญิง ทานองวา่ จะเข้าไปถูกเนื้อตอ้ งตวั ทา่ ราเหมอื นท่าราชา้ เมื่อฝ่ายชายรุกมา หญงิ ก็จะราถอย หนี มอื ทัง้ สอง ต้องคอยราปดั ป้อง มใิ หฝ้ า่ ยชายถูกเนื้อตอ้ งตัวได้ แต่อย่างไรกต็ ามมขี ้อหา้ มสาหรบั หมอเพลง ฝา่ ยชาย จะถูกเนื้อต้องตวั ฝา่ ยหญิงไม่ได้ปรัชญาเบ้ืองหลงั ท่ารา มวี า่ การทผ่ี ชู้ ายวาดวงแขนกวา้ ง เปน็ การแสดงการปกป้อง คุม้ ครองฝ่ายหญงิ ผหู้ ญิงวาดวงแขนแคบ แสดงการฉอเลาะ ตอนแรกชายจะรุกหญิงถอย และตอนหลงั หญิงจะรุก ชายถอย แสดงว่าหญิงจะชนะทกุ ครงั้ ในเรื่องเพศ ลาดบั ขนั้ ของการเลน่ เพลงโคราช การเลน่ เพลงโคราชซ่งึ กลอนเพลงมีชือ่ เรียกตามเนื้อหาต่างๆ แต่พอจะสรุปการเล่นเป็นขน้ั ๆ ไดด้ ังน้ี 1. เพลงเกริ่น ฝา่ ยชายจะข้นึ เวทีก่อน บอกเกรนิ่ ให้รู้ถงึ เหตุทจ่ี ัดให้มกี ารเลน่ เพลงขึ้นเพือ่ อะไร งานอะไร ใครเปน็ เจา้ ภาพ มีจุดประสงค์อยา่ งไร ใหผ้ ู้ทมี่ าฟังได้ทราบ และอาจมีการขออภัยผชู้ มกอ่ น ถ้าสุ้มเสยี ง หรือการแสดง บกพร่อง 2. เพลงเชิญ ฝา่ ยชายจะต้องร้องเชิญให้ฝ่ายหญิงลงจากเรอื นมาเพือ่ วา่ เพลงกับตน เพลงตัดเชิญ ฝ่ายหญงิ จะร้องแกว้ า่ การทีล่ งมาช้าเพราะเปน็ ผหู้ ญิงก็ตอ้ งแตง่ กายให้สวยงาม อาจล่าช้าไปบ้างต้องขออภยั 3. เพลงถามข่าว ฝา่ ยชายจะถามผู้หญิงวา่ ช่อื อะไร บ้านอยูท่ ี่ไหน มอี าชีพอะไร 4. เพลงเปรียบ เปน็ เพลงที่ทง้ั สองฝ่ายกระทบกระเทยี บเสยี ดสีซึง่ กนั และกนั 5. เพลงไหวค้ รู ร้องเพ่ือระลึกถึงครู อาจารยซ์ ่ึงนาความรู้ส่งั สอนมา ไหว้ท้งั คุณพระรัตนตรัย และพญามาร 6. เพลงปรึกษา หลงั จากไหวค้ รูแลว้ กจ็ ะปรกึ ษากนั วา่ จะเริม่ เลน่ เร่อื งอะไรก่อนดี 7. เพลงเกีย้ ว เพลงเก้ยี วนี้มีหลายอย่าง ทงั้ เกี้ยวธรรมดาและเกย้ี วหลอก ๆ 8. เพลงชวน เกีย้ วแล้วเมือ่ ชอบพอกัน กช็ วนกนั หนีหรือชวนไปชมนก ชมไม้ 9. เพลงชมธรรมชาติ พรรณนาความงามของธรรมชาติ 10. เพลงเรื่อง เปน็ เพลงที่เล่าเรอ่ื งใดเร่ืองหน่งึ โดยเฉพาะ เช่น เรอื่ งเวสสนั ดร สภุ มิต เกสินี เป็นต้น ชุดการเรียนรู้เรือ่ งเพลงโคราช 49 Korat folk song performance

11. เพลงลองปัญญา เปน็ การซกั ถามประวตั ขิ องบางสงิ่ บางอยา่ ง เพือ่ ทดสอบปัญญา 12. เพลงเกย้ี วแกมจาก ฝา่ ยหญงิ และชายสัง่ ลากันอวยชยั ให้พรฝา่ ยตรงกนั ขา้ ม บางทีกช็ วนไปอยู่ดว้ ยกัน 13. เพลงปลอบ เป็นเพลงทบ่ี อกอย่าใหเ้ สยี อกเสยี ใจเมื่อลา 14. เพลงจาก เปน็ เพลงที่บอกถึงความจาเปน็ ตอ้ งจากลา 15. เพลงครา่ ครวญ แสดงถึงความรันทดในการพลัดพรากจากกนั 16. เพลงให้พร เปน็ การใหพ้ รเจ้าภาพ ผ้ดู ู รวมถึงหมอเพลงดว้ ยกัน 17. เพลงลา กล่าวลาเจ้าภาพ ผดู้ ู และหมอเพลงทร่ี ว่ มเล่นดว้ ยกนั เพลงโคราชสมัยปจั จบุ ันอาจจะมกี ารแสดงอนื่ ๆ เข้าแทรกเพอื่ เปล่ียนบรรยากาศให้ผู้ฟังคลายความล้าจากการ ฟงั หรอื อาจเป็นการแทรกเพ่ือทาตามคาขอผชู้ มก็ได้ เชน่ แทรกลาตัด เพลงฉ่อย หมอลา เพลงลูกทุ่ง แหล่ ฯลฯ ในยคุ ก่อนนนั้ จะมีการแทรกเพยี งแหลโ่ คราชเทา่ นนั้ แตต่ ่อมา อาจจะเป็นเพราะอิทธพิ ลของการแสดงอืน่ ๆ เข้ามามี บทบาทขึ้น จงึ ทาให้มีการผสมผสานทางดา้ นการแสดงกันมากขน้ึ ความเชอ่ื ในการเลน่ เพลงโคราช สว่ นใหญ่หมอเพลงจะมีความเชอ่ื ในเรื่องโชคลางพอสมควร เช่นในการก้าวขนึ้ โรงเพลง จะมกี ารดูทิศ ตาม ฤกษร์ ับ ก้าวแรกท่ีขึน้ จะต้องเลือกดูตามทศิ ทาง โดยการหายใจ ถา้ ข้างซ้ายคล่อง ก็ก้าวขาซ้ายขึ้น ทานองเดียวกัน ถ้า ข้างขวาหายใจสะดวก ก็กา้ วข้างขวาขน้ึ เปน็ ตน้ เม่ือขึ้นเวทีไปแล้ว กม็ ีการเปา่ คาถามหานยิ ม เพ่ือใหผ้ ู้ฟงั ชื่นชอบตนก็ มี หมอเพลงบางคนเช่อื วา่ หลงั คาโรงเพลงน้นั ถ้าหากมีการมดั ด้วยตอก หรือสง่ิ อนื่ ใดจะทาใหค้ าถาอาคม สติปัญญาใน การว่าเพลงเสอื่ มลงไปด้วย ก็ขอร้องให้แกม้ ดั ตอกออกก็มี 2. การฝกึ และขนั้ ตอนการร้องเพลงโคราช เพลงโคราช ต้งั แต่ยุคแรกมาจนถึงยุคปจั จุบัน เร่ิมต้ังแต่เพลงสัน้ ๆ มาจนถึงเพลงยาว ๆ ทใี่ ชเ้ ลน่ กัน ในปจั จบุ นั นีแ้ บ่งได้ 5 ประเภท คอื 1.1 เพลงขดั อัน เป็นเพลงสน้ั ๆ มีสัมผัสอยู่แห่งเดียว คือ ระหวา่ งวรรคที่ 1 กับวรรคที่ 2 เทา่ นนั้ ส่วนวรรคที่ 3 และ 4 ไมม่ สี มั ผสั ( สัมผัสทใี่ ชเ้ ป็นสัมผัสสระ ) เช่น 2.1.1 เอ้อเอ่อ....สะรสุ ะระ อีแม่กะทะขวั่ ถั่ว เมิ้ดบุญผัวแล้ว เหมือนไข่ไกร่ ่างรัง 2.1.2 เอ้อเอ่อ....สะรุสะระ อแี ม่กระทะข่วั หมี่ ร้วู ่ากนิ ไม่เม้ิด มึงจิขั่วมากทาไม ( ในขอ้ 2.1.2 น้ี จะเห็นได้วา่ มกี ารเลน่ อักษรเพ่มิ เข้ามาแต่ยงั ไม่บงั คับ ลักษณะนจี้ ะกลายเป็นสัมผัสบงั คับในสมยั หลงั ) 1.2 เพลงก้อม เปน็ เพลงสน้ั ๆ เชน่ เดยี วกบั เพลงขัดอัน แต่เพิ่มสมั ผสั ในระหว่างวรรคท่ี 3 และ 4 ซ่งึ ไมม่ ีในในเพลงขัดอัน เชน่ ทากะต้องกะแต้ง อยเู่ หมอื นกะแต๋งคอกะติก ขอให่พ่ีซักหน่อย จะเอาไปฝากถว่ ยนา่ มพริก 1.3 เพลงหลัก เปน็ เพลงทเี่ พม่ิ จานวนวรรคจาก 4 วรรคในเพลง 2 ประเภทต้นมาเป็น 6 วรรค เพลงประเภทนจี้ ะเหน็ วา่ การเร่ิมใช้สมั ผัสประเภทอกั ษรเด่นชัดขึน้ เชน่ 2.3.1 อันคนเราทกุ วัน เปรยี บกนั กะโคม พอคนโห่ควนั โหม กล็ อยบนเวหา พอเม้ิดควนั โคมคนื ก็ต๊กลงพน้ื สุธา...ใหญ่ 2.3.2 เกษาว่าผม แกแ่ ล้วบานผเี มื่อผมดางามดี กล็ ับมาหายดา ไมเ่ ปน็ ผลดดี อกผม จะไม่นิยมมนั ทา...ไม 2.4 เพลงสมัยปัจจบุ นั คือเพลงท่ีใชร้ ้องเลน่ กนั ในปจั จุบัน มีขนาดยาวกว่าสมยั ก่อน ๆ แต่ถ้าร้องจะ รอ้ งช้าบางทีจังหวะไม่สม่าเสมอ ขน้ึ อยู่กบั ผูร้ อ้ ง ร้องชา้ หรือรอ้ งเร็วไมส่ ม่าเสมอเช่น โอโ้ อ่ ...... ประเทศของไทยเราถึงคราวแคบ มันตอ้ งมีคนแอบดอกนาพ่เี อย .......คนแฝงเพลงโคราช สมยั เจรญิ จ้างเป็นเงนิ มากแ็ พง .......เองจะว่ากนั ยังไงจะถูกใจคน ชดุ การเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 50 Korat folk song performance


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook