Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ม.4 ปีการศึกษา 2562

แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ม.4 ปีการศึกษา 2562

Published by Titharat, 2019-05-01 07:00:23

Description: แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ม.4 ปีการศึกษา 2562

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การแก้ปัญหาและขน้ั ตอนวธิ ี แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 2 เรอื่ ง การออกแบบขน้ั ตอนวธิ ี รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) น้าหนกั เวลาเรียน 1.0 หน่วยกิต เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง / สัปดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจทีค่ งทน) การออกแบบขนั้ ตอนวิธใี นการแกป้ ญั หา โดยใช้รปู แบบการกา้ หนดเง่อื นไข และการทา้ ซ้า 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ดั ชัน้ ปี ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชิงค้านวณในการพฒั นาโครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอืน่ อยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเชื่อมโยง กบั ชีวติ จรงิ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอื้ หาสาระหลกั : Knowledge 1. ระบขุ อ้ มลู เข้า ขอ้ มูลออก และเง่อื นไขของปญั หา 2. ออกแบบขัน้ ตอนวิธีในการแกป้ ัญหา โดยใช้รูปแบบ การก้าหนดเงือ่ นไข และการท้าซ้า 3. เขียนข้ันตอนวิธีตามทีไ่ ด้ออกแบบไว้ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process - ทกั ษะการคิดเชิงค้านวณ - ทักษะการแก้ปัญหา - ทกั ษะการโปรแกรม คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งม่นั ในการท้างาน 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. ความร้เู ดิมท่ีนกั เรยี นต้องมี - 6. สาระสาคัญ ทักษะการคดิ เชิงคานวณ เปน็ ทักษะพน้ื ฐานของการคดิ แกป้ ญั หาทีส่ ามารถนาไปประยกุ ต์ในชีวิต ประจาวัน ไดแ้ ก่ การแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปัญหา การหารูปแบบ และการคดิ เชิงนามธรรม สามารถ นามาใชใ้ นการออกแบบขัน้ ตอนวธิ เี พือ่ แกป้ ัญหาต่าง ๆ การออกแบบขน้ั ตอนวธิ ีนมี้ ปี ัจจยั ทสี่ าคัญ คือ การ ออกแบบเงอื่ นไขทถี่ ูกตอ้ งและชัดเจน แต่ไมม่ ขี ้ันตอนทตี่ ายตวั เงอ่ื นไขทก่ี าหนดในขัน้ ตอนวิธอี าจเป็นเงื่อนไข อย่างงา่ ยหรอื เงือ่ นไขท่ซี บั ซ้อน โดยเง่อื นไขอย่างง่าย จะเปน็ การเปรียบเทียบ มากกวา่ น้อยกว่า หรือ ไมเ่ ทา่ กัน สาหรบั เง่ือนไขท่ซี บั ซ้อนประกอบด้วยเงอ่ื นไขตง้ั แตส่ องเงอื่ นไขขนึ้ ไป และเชอ่ื มดว้ ยตวั ดาเนนิ การตรรกะ “และ” (AND) “หรอื ” (OR) และ “นิเสธ” (NOT) การแก้ปัญหาอาจตอ้ งมกี ารทางานลกั ษณะเดยี วกนั ซ้าหลายรอบ โดยในแต่ละรอบจะตอ้ งกระทาการ อยา่ งใดอยา่ งหนึ่งกับขอ้ มลู ในรายการและตรวจสอบเงอื่ นไข ซง่ึ อาจระบเุ งอ่ื นไขในส่วนเรม่ิ ตน้ ของการทาซา้ หรือเงอ่ื นไขเพือ่ จบการทางาน ในการเขยี นขัน้ ตอนวธิ ีเพอ่ื แกป้ ญั หาลักษณะนสี้ ามารถเขียนได้โดยใชร้ ปู แบบ ขน้ั ตอนวิธีการทาซา้ 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : - ใบกจิ กรรมท่ี 5.1 ฝึกเขียนขั้นตอนวธิ ี - ใบกิจกรรมที่ 5.2 การออกแบบเงอ่ื นไข - ใบกิจกรรมท่ี 5.3 การท้าซ้า 8. กิจกรรมการเรียนรู้ - การจัดเตรียม 1. ใบกิจกรรมที่ 5.1 ฝึกเขยี นขัน้ ตอนวิธี 2. ใบกจิ กรรมท่ี 5.2 การออกแบบเงือ่ นไข 3. ใบกิจกรรมท่ี 5.3 การทา้ ซ้า - ขั้นตอนดาเนนิ การ ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนทบทวนวิธีการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ควรมีการระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออกและเงื่อนไขของปัญหาที่ ชัดเจน และทบทวนความร้เู ร่ืองตัวแปรเม่อื ใช้ในการแทนข้อมลู ส้าหรับการเขียนขั้นตอนวธิ ี 2. ผู้สอนยกตัวอยา่ งจากหนังสือเรียน ตัวอยา่ งท่ี 2.5 การตัดสนิ ใจรดน้าตน้ ไมข้ องระบบรดน้าต้นไม้อตั โนมตั ิ เพ่ือ อธบิ ายใหน้ กั เรยี นเห็นตวั อย่างของการเขียนข้นั ตอนวธิ ีแบบรหัสลา้ ลอง และผงั งาน รวมทั้งตวั อย่างของการใช้งานตวั แปร เพอ่ื แทนข้อมลู - ขนั้ ประยกุ ต์ใช้ ( 45 นาที )

1. ผู้เรียนศึกษาหนังสือเรียน หัวข้อท่ี 2.3 การออกแบบขั้นตอนวิธี จนถึงก่อนขึ้นหัวข้อที่ 2.3.2 พร้อมกับท้าใบ กิจกรรมที่ 5.1 ฝกึ เขียนขนั้ ตอนวิธี 2. ผู้เรียนศึกษาหนังสือเรยี น หัวข้อท่ี 2.3.2 การออกแบบและพิจารณาเงื่อนไข และให้นักเรียนผู้เรียนจับคกู่ ันท้า ใบกิจกรรที่ 5.2 การออกแบบเงือ่ นไข 3. ผ้สู อนและผู้เรยี นรว่ มกันเฉลยค้าตอบใบกจิ กรรท่ี 5.2 4. ผู้เรยี นศึกษาหนงั สอื เรยี น หัวขอ้ ที่ 2.4 การท้าซ้า และให้ผเู้ รยี นจับคกู่ นั ท้าใบกจิ กรรท่ี 5.3 การทา้ ซ้า 5. ผสู้ อนและผู้เรียนรว่ มกันเฉลยคา้ ตอบใบกจิ กรรท่ี 5.3 - ขนั้ สรุปและประเมินผล ( 10 นาที ) ผู้สอนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุปประโยชน์ทีไ่ ด้จากกจิ กรรมน้ี 9. ส่อื การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใช้ส่ือ รายการส่ือ ตามจ้านวน ขน้ั ประยุกต์ใช้ นร. ขัน้ ประยกุ ต์ใช้ 1. ใบกจิ กรรม - ใบกิจกรรมท่ี 5.1 ฝกึ เขยี นขั้นตอนวิธี - - ใบกิจกรรมที่ 5.2 การออกแบบเงือ่ นไข - ใบกจิ กรรมท่ี 5.3 การทา้ ซ้า 2. หนงั สอื เรยี น วชิ า วิทยาการค้านวณ ชั้น ม.4 10. การวัดและการประเมนิ ผล สง่ิ ท่ตี อ้ งวดั วธิ ีการวัดผลประเมินผล เคร่ืองมอื วัดผลประเมนิ ผล เกณฑ์การผ่าน การนา้ เสนอ ใบกจิ กรรมที่ ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่า 2 ด้านความรู้ (K) การบอกหรอื เขยี นวธิ กี ารการ 5.1 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ ตาม แกป้ ญั หาจากสถานการณ์ท่ี การประเมินเชงิ ปรมิ าณ - เพอ่ื ใหม้ ีความรูเ้ กยี่ วกบั ผ้สู อนสมมุติขึน้ มา โดย แบบบนั ทึกการประเมนิ วธิ ีการเขียนโปรแกรม อธิบายเปน็ ข้นั ตอน สังเกตการน้าเสนอผลงานใบ ได้คะแนน 7 คะแนนขึน้ ไป กิจกรรม ชวี ติ ประจา้ วันกับ ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ด้านทกั ษะ(P) สังเกตพฤตกิ รรมจากการ การแยกสว่ น พอใช้ ตามการประเมนิ เชิง ท้างานกลุ่ม การท้าใบ แบบสังเกตพฤตกิ รรมความ คุณภาพ - อธบิ ายหลักวิธีคิดเชงิ กจิ กรรมที่ 5.2 , 5.3 มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน (3 ไดค้ ะแนน 4 คะแนนขน้ึ ไป นามธรรม ระดับคณุ ภาพ) คะแนนเตม็ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 9 คะแนน พอใช้ ตามการประเมนิ เชิง ด้านจติ พิสัย(A) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี น คณุ ภาพ -มคี วามมงุ่ มั่นในการท้างาน รายบุคคลในดา้ นมคี วาม มงุ่ ม่ันในการท้างาน

11. จดุ เนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผ้เู รยี น 1. ความพอประมาณ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ 2. ความมีเหตผุ ล รู้จักใชเ้ ทคโนโลยมี าผลติ ส่ือท่เี หมาะสม มีจิตสา้ นกึ ที่ดี เออ้ื อาทร ประนีประนอม 3. มภี ูมคิ มุ กนั ในตัวทีด่ ี และสอดคลอ้ งเนือ้ หาเปน็ ประโยชนต์ อ่ นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม/กลุ่ม 4. เงอื่ นไขความรู้ ผเู้ รยี นและพัฒนาจากภมู ิปญั ญาของผ้เู รยี น 5. เงื่อนไขคณุ ธรรม - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถูกตอ้ ง ไมห่ ยุดนิ่งทหี่ าหนทางในชีวิต หลุดพน้ จาก สจุ ริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลน ใน ความทกุ ข์ยาก (การคน้ หาค้าตอบเพอ่ื ให้ การดา้ รงชวี ิต หลุดพน้ จากความไมร่ ู้) - ปฏิบตั ติ นในแนวทางท่ีดี ลด เลิก ส่ิงยั่ว กิเลสใหห้ มดส้ินไป ไมก่ ่อความชว่ั ให้ เป็น เครอื่ งทา้ ลายตัวเอง ทา้ ลายผู้อนื่ พยายาม เพมิ่ พูนรักษาความดี ทม่ี ีอยู่ให้งอกงาม สมบรู ณ์ย่ิงข้ึน ภมู ิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ ภูมธิ รรม : ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ขยนั อดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปัน ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปัน ความรอบรู้ เรื่อง การออกแบบขนั้ ตอนวธิ ี ความรอบรู้ เร่อื ง การออกแบบข้นั ตอนวธิ ี ทเ่ี กย่ี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบทจ่ี ะนา้ กรณที เ่ี กิดปัญหา สามารถนา้ ความรูเ้ หลา่ นั้น ความรู้เหล่านน้ั มาพจิ ารณาใหเ้ ชือ่ มโยงกัน มาพิจารณาให้เช่อื มโยงกนั สามารถประยุกต์ เพ่ือประกอบการวางแผน การดา้ เนินการจดั ใช้ในชีวติ ประจ้าวนั กิจกรรมการเรียนรู้ใหก้ ับผเู้ รียน มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม ซ่อื สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มีความเพียร ซื่อสตั ยส์ ุจรติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดา้ เนินชีวติ ใชส้ ตปิ ญั ญาในการดา้ เนินชีวติ กิจกรรม ครู ผู้เรียน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น การออกแบบข้นั ตอนวธิ ี การออกแบบขนั้ ตอนวิธี การออกแบบขนั้ ตอนวธิ ี - - การแกป้ ญั หาโดยใชก้ ารวิเคราะห์ - สามารถน้าหลักการทีไ่ ด้รบั ไปประยกุ ตใ์ ช้ - การแกป้ ัญหาโดยใช้การ แกป้ ญั หาในชวี ติ ประวันได้ และมีขั้นตอนในการแก้ปัญหา วเิ คราะห์ และมีข้ันตอนในการ แกป้ ัญหา ลงชื่อ..................................................ผ้สู อน ( นางสาวฐติ ารัตน์ คมั ภีระ )



















หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การแกป้ ญั หาและขนั้ ตอนวธิ ี แผนการเรยี นรู้ ที่ 3 เรอ่ื ง การจดั เรยี งข้อมลู รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลย)ี น้าหนักเวลาเรยี น 1.0 หน่วยกติ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง / สัปดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน) ข้นั ตอนวิธีในการจดั เรยี งข้อมูลมหี ลายวิธี เชน่ การจดั เรียงขอ้ มลู แบบเลอื ก และการจัดเรยี งขอ้ มลู แบบแทรก 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั ชัน้ ปี ประยุกตใ์ ชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการพฒั นาโครงงานทม่ี ีการบรู ณาการกบั วิชาอื่นอยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเชอ่ื มโยง กับชีวติ จรงิ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge 1. อธบิ ายวิธีการจัดเรียงข้อมูล 2. ออกแบบขนั้ ตอนวธิ ีการจดั เรยี งขอ้ มูลเพื่อใชแ้ กป้ ญั หาในชีวิตประจาวนั 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - ทักษะการแก้ปัญหา - ทกั ษะการส่อื สารและการร่วมมือ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 5. ความรเู้ ดิมที่นักเรยี นตอ้ งมี - 6. สาระสาคัญ การจัดเรียงข้อมูลเป็นสิ่งท่ีพบอยู่เสมอ โดยเฉพาะเม่ือต้องประมวลผลข้อมูลจานวนมาก การเรียงลาดับข้อมูล ด้วยเง่อื นไขท่ีเหมาะสมจะทาใหก้ ารคน้ หาข้อมูลทาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมท่ี 6.1 ข้นั ตอนวิธีจัดเรียงขอ้ มลู - ใบกิจกรรมที่ 6.2 จดั เรยี งข้อมูลตามใจฉนั 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ - การจัดเตรยี ม 1. ใบกิจกรรมท่ี 6.1 ขนั้ ตอนวิธจี ดั เรียงข้อมลู 2. ใบกิจกรรมท่ี 6.2 จัดเรยี งข้อมูลตามใจฉัน 3. ชดุ บตั รตัวเลขจานวน 5 ชดุ - ขน้ั ตอนดาเนินการ ( 45 นาที ) 1. ผ้สู อนนาเข้าสู่บทเรียนโดยให้ผู้เรียนยกตัวอย่างการจัดเรยี งข้อมูลที่เคยทา หรือทพี่ บในชีวิตประจาวัน จากนั้น ถามผเู้ รียนวา่ “ทาไมจึงตอ้ งมีการจัดเรียงข้อมูล” 2. ผู้เรียนทากิจกรรมที่ 2.8 เรียงลาดับจานวนเต็ม ในหนังสือเรียน จากน้ันจับคู่อภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เก่ียวกับวิธีการจัดเรียง - ขนั้ ประยกุ ต์ใช้ ( 45 นาที ) 1. ผู้เรยี นศึกษาหนงั สือเรียน หัวขอ้ ท่ี 2.5.1 การจัดเรยี งขอ้ มูล หลังจากนัน้ ใหแ้ ตล่ ะคู่ทา ใบกจิ กรรมท่ี 6.1 ข้นั ตอน วธิ ีจดั เรียงข้อมูล และนาเสนอคาตอบ 2. ผูส้ อนแบง่ ผเู้ รียนออกเป็น 5 กลมุ่ ใหต้ ัวแทนกลุม่ ออกมารบั ชุดบัตรตัวเลข 30 ใบ 3. ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มทาใบกิจกรรมที่ 6.2 จัดเรียงข้อมูลตามใจฉัน จากนัน้ ใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะกล่มุ ศึกษาวิธกี ารจัดเรยี ง ขอ้ มูลจากเวป็ ไซต์ VisuAlgo เพื่อตรวจสอบวิธีการจัดเรียงของกลุ่มว่าเหมือนหรือแตกต่างข้ันตอนวิธีจัดเรียงในเว็บไซต์ หรือไมอ่ ยา่ งไร - ข้นั สรปุ และประเมินผล ( 10 นาที ) ผสู้ อนและผเู้ รียนรว่ มกันสรุปขน้ั ตอนวธิ ีการจัดเรยี งข้อมลู 9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ่อื ขนั้ ประยุกต์ใช้ รายการสอื่ ตามจานวน ขนั้ ประยกุ ตใ์ ช้ นร. 1. ใบกิจกรรม - - ใบกิจกรรมที่ 6.1 ขน้ั ตอนวิธีการจัดเรียงข้อมูล - ใบกิจกรรมท่ี 6.2 จัดเรียงข้อมูลตามใจฉัน 2. หนงั สือเรียน วชิ า วทิ ยาการคานวณ ช้นั ม.4

10. การวัดและการประเมินผล ส่ิงท่ตี ้องวัด วธิ กี ารวัดผลประเมนิ ผล เคร่อื งมือวดั ผลประเมนิ ผล เกณฑ์การผ่าน การนาเสนอ ใบกจิ กรรมที่ ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ 2 ด้านความรู้ (K) การบอกหรือเขียนวิธีการการ 6.1 คะแนน ผ่านเกณฑ์ ตาม แก้ปญั หาจากสถานการณท์ ่ี การประเมินเชงิ ปรมิ าณ - เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้เกย่ี วกับ ผสู้ อนสมมุติขนึ้ มา โดย แบบบนั ทกึ การประเมิน วิธีการเขยี นโปรแกรม อธบิ ายเป็นขนั้ ตอน สงั เกตการนาเสนอผลงานใบ ไดค้ ะแนน 7 คะแนนขนึ้ ไป กจิ กรรม ชีวติ ประจาวันกับ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ดา้ นทกั ษะ(P) สงั เกตพฤติกรรมจากการ การแยกส่วน พอใช้ ตามการประเมนิ เชงิ ทางานกลุ่ม การทาใบ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ คณุ ภาพ - อธิบายหลักวิธคี ิดเชงิ กจิ กรรมที่ 6.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน (3 ไดค้ ะแนน 4 คะแนนขึ้นไป นามธรรม ระดบั คณุ ภาพ) คะแนนเตม็ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 9 คะแนน พอใช้ ตามการประเมนิ เชงิ ด้านจติ พิสัย(A) สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน คณุ ภาพ -มีความมงุ่ มน่ั ในการทางาน รายบุคคลในดา้ นมคี วาม มุ่งมั่นในการทางาน 11. จุดเนน้ ของโรงเรยี น การบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ผเู้ รียน 1. ความพอประมาณ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ 2. ความมีเหตุผล รจู้ กั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลติ สอ่ื ที่เหมาะสม มีจติ สานึกทด่ี ี เอือ้ อาทร ประนปี ระนอม นกึ ถึงประโยชนส์ ่วนรวม/กลุ่ม 3. มภี ูมคิ มุ กนั ในตัวทีด่ ี และสอดคล้องเนอื้ หาเปน็ ประโยชน์ต่อ ไมห่ ยุดน่ิงที่หาหนทางในชวี ิต หลดุ พ้นจาก ผเู้ รยี นและพัฒนาจากภูมปิ ญั ญาของผูเ้ รยี น ความทุกขย์ าก (การค้นหาคาตอบเพือ่ ให้ หลุดพ้นจากความไมร่ ู้) - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถกู ตอ้ ง สุจริต แมจ้ ะตกอยใู่ นภาวะขาดแคลน ใน ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ การดารงชวี ิต ระมัดระวัง สร้างสรรค์ - ปฏบิ ัติตนในแนวทางที่ดี ลด เลกิ สิ่งย่ัว กิเลสใหห้ มดสิ้นไป ไมก่ ่อความชว่ั ให้ เป็น ภมู ิธรรม : ซอื่ สตั ย์ สุจริต ขยนั อดทน เคร่ืองทาลายตัวเอง ทาลายผอู้ นื่ พยายาม ตรงต่อเวลา เสยี สละและ เพม่ิ พนู รักษาความดี ท่ีมีอยู่ใหง้ อกงาม แบ่งปัน สมบรู ณ์ย่ิงขึ้น ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ภูมธิ รรม : ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ ขยนั อดทน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปัน

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผู้เรียน 4. เงือ่ นไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง การจดั เรียงขอ้ มูล ความรอบรู้ เรื่อง การจัดเรยี งขอ้ มลู 5. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ที่เก่ยี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่จี ะนา กรณีท่ีเกดิ ปัญหา สามารถนาความรเู้ หล่านั้น ความรู้เหล่านัน้ มาพจิ ารณาใหเ้ ชื่อมโยงกัน มาพจิ ารณาใหเ้ ชือ่ มโยงกนั สามารถประยกุ ต์ เพือ่ ประกอบการวางแผน การดาเนินการจดั ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน กิจกรรมการเรียนรใู้ ห้กบั ผูเ้ รยี น มีความตระหนักใน คณุ ธรรม มคี วาม มีความตระหนักใน คณุ ธรรม มีความ ซื่อสตั ย์สุจรติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ซือ่ สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชีวติ ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต กิจกรรม ครู ผเู้ รียน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น การจดั เรียงขอ้ มลู การจดั เรียงขอ้ มลู การจัดเรยี งข้อมลู - - การแก้ปญั หาโดยใชก้ ารวิเคราะห์ - สามารถนาหลักการทีไ่ ด้รบั ไปประยุกต์ใช้ - การแกป้ ัญหาโดยใช้การ แกป้ ญั หาในชีวิตประวันได้ และมขี น้ั ตอนในการแกป้ ัญหา วิเคราะห์ และมีข้ันตอนในการ แก้ปญั หา ลงชอ่ื ..................................................ผสู้ อน ( นางสาวฐติ ารตั น์ คมั ภรี ะ )









หน่วยการเรยี นรู้ ท่ี 2 เรอ่ื ง การแก้ไขปัญหาและช้นั ตอนวธิ ี แผนการเรยี นรู้ ที่ 4 เรอื่ ง การค้นหาขอ้ มูล รายวิชา วิทยาการคานวณ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ (เทคโนโลย)ี น้าหนักเวลาเรียน 1.0 หน่วยกติ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง / สปั ดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจที่คงทน) ขน้ั ตอนวิธใี นการค้นหาข้อมูล เช่น การคน้ หาแบบตามลาดับ และการคน้ หาแบบทวิภาค 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั ชัน้ ปี/ผลการเรยี นรู/้ เป้าหมายการเรยี นรู้ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการพัฒนาโครงงานทมี่ ีการบูรณาการกับวชิ าอ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์และเชือ่ มโยง กับชีวติ จริง 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge 1. อธิบายวธิ กี ารค้นหาข้อมูลแบบตามลาดบั และแบบทวิภาค 2. ประยกุ ตว์ ิธกี ารคน้ หาเพ่อื แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวนั 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - ทักษะการแก้ปัญหา - ทกั ษะการส่อื สารและการรว่ มมือ คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทางาน 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5. ความร้เู ดิมท่ีนกั เรยี นต้องมี -

6. สาระสาคญั การค้นหาข้อมลู แบบตามลาดับ (sequential search) เป็นข้ันตอนวิธีที่จะพิจารณาข้อมูลทกุ ตวั ใน รายการทีละตัว ซง่ึ เปน็ ขั้นตอนวธิ ที ด่ี ีท่ีสุดทเ่ี ป็นไปได้ในกรณีที่ขอ้ มลู ไม่มีการเรียงลาดบั ในกรณที ่ขี อ้ มลู ในรายการมีการเรยี งลาดบั แล้ว วิธีการค้นหาแบบทวิภาค (binary search) จะมี ประสทิ ธภิ าพมากกว่า เน่ืองจากแต่ละขน้ั ของการคน้ หา จะแบง่ รายการข้อมลู ออกเปน็ สองส่วน ทาให้ขอบเขต ในการคน้ หาลดลงประมาณครึง่ หนึง่ จึงทาใหไ้ ม่จาเป็นตอ้ งพจิ ารณาข้อมลู จนครบทกุ ตัว 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมที่ 7.1 ตามหาตวั เลขแบบลาดับ - ใบกจิ กรรมท่ี 7.2 ตามหาตัวเลขแบบทวภิ าค - ใบกจิ กรรมที่ 7.3 คน้ ขอ้ มูล 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ - การจัดเตรียม 1. ใบกิจกรรมท่ี 7.1 ตามหาตัวเลขแบบลาดับ 2. ใบกจิ กรรมท่ี 7.2 ตามหาตวั เลขแบบทวภิ าค 3. ใบกจิ กรรมท่ี 7.3 คน้ ข้อมลู - ขนั้ ตอนดาเนินการ ( 45 นาที ) 1. ผ้สู อนจัดวางชดุ สื่อวสั ดุ 2 ชุด ไว้ทีม่ มุ ห้อง มมุ ละชุม ( ในท่นี ้ใี ช้หนังสือเปน็ ส่ือวัสดุ ) โดย - ชดุ ท่ี 1 จัดเรียงหนังสอื จากเล่มเลก็ ไปหาเลม่ ใหญ่ - ชุดที่ 2 จัดเรยี งหนงั สือโดยไม่เรียงลาดบั - ข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ( 45 นาที ) 1. ผ้สู อนสมุ่ นักเรยี น 6 คน แล้วแบง่ เปน็ 2 กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน 2. ผู้สอนอธิบายกตกิ าการทากจิ กรรม ดังน้ี - ตวั แทนกลุ่มเลือกชดุ หนังสอื ท่จี ะทากจิ กรรม - สมาชิกในกลุ่มไปหยิบหนังสือตามที่ผู้สอนกาหนด เพื่อสังเกตว่ากลุ่มไหนหาได้เร็วกว่า เช่น หาหนังสือที่หนา ทส่ี ดุ , หาหนังสือทีห่ นาเปน็ ลาดับทสี่ าม 3. เม่อื ทากิจกรรมเสร็จแลว้ ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นช่วยกันอภิปราย 4. ผ้เู รียนศกึ ษาหนังสือเรียน หวั ข้อที่ 2.5.2 การคน้ หาข้อมลู 5. ผู้สอนแบ่งผู้เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม และแจกชุดบัตรตัวเลขให้ผู้เรียนทุกกลุ่ม ผู้เรียนทาใบกิจกรรมที่ 7.1 และ 7.2 ผู้เรียนทุกกลุ่มส่งผลการบันทึกค่าเฉล่ีย จากการทาใบกิจกรรมที่ 7.2 ให้ผู้สอน ผู้เรียนทาใบกิจกรรมท่ี 7.3 ค้นข้อมูล และแลกกนั ตรวจคาตอบ - ขั้นสรุปและประเมินผล ( 10 นาที ) ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกบั การคน้ หาขอ้ มลู

9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จานวน สภาพการใชส้ อ่ื รายการสอื่ ตามจานวน ขั้นประยกุ ต์ใช้ นร. ขนั้ ประยุกต์ใช้ 1. ใบกิจกรรม - ใบกจิ กรรมที่ 7.1 ตามหาตวั เลขแบบลาดับ - - ใบกิจกรรมที่ 7.2 ตามหาตัวเลขแบบทวภิ าค - ใบกิจกรรมที่ 7.3 ค้นข้อมลู 2. หนังสอื เรยี น วิชา วิทยาการคานวณ ช้ัน ม.4 10. การวัดและการประเมินผล สง่ิ ทต่ี อ้ งวดั วิธีการวดั ผลประเมินผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารผา่ น ประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ (K) การบอกหรอื เขยี นวธิ ีการการ การนาเสนอ ใบกิจกรรมท่ี ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่า 2 - เพอ่ื ใหม้ คี วามรูเ้ ก่ยี วกบั แกป้ ญั หาจากสถานการณ์ที่ วธิ ีการเขยี นโปรแกรม ผ้สู อนสมมตุ ิขึ้นมา โดย 7.1 คะแนน ผ่านเกณฑ์ ตาม อธบิ ายเปน็ ข้ันตอน ดา้ นทกั ษะ(P) การประเมนิ เชงิ ปรมิ าณ - อธิบายหลักวธิ คี ดิ เชิง สงั เกตพฤตกิ รรมจากการ นามธรรม ทางานกล่มุ การทาใบ แบบบนั ทกึ การประเมิน ไดค้ ะแนน 7 คะแนนข้ึนไป กจิ กรรมท่ี 7.2 และ 7.3 สังเกตการนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ใบกจิ กรรม ชีวิตประจาวัน พอใช้ ตามการประเมนิ เชิง กับการแยกสว่ น คุณภาพ ด้านจิตพสิ ยั (A) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ไดค้ ะแนน 4 คะแนนขึ้นไป ความมุ่งมน่ั ในการทางาน ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ -มีความมงุ่ มั่นในการทางาน รายบคุ คลในด้านมคี วาม (3 ระดบั คุณภาพ) พอใช้ ตามการประเมนิ เชงิ คะแนนเตม็ 9 คะแนน คุณภาพ มุ่งมั่นในการทางาน

11. จดุ เน้นของโรงเรียน การบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ผเู้ รยี น 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจิตใจ 2. ความมเี หตุผล รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลิตสอ่ื ทีเ่ หมาะสม มีจิตสานกึ ทด่ี ี เออื้ อาทร ประนีประนอม 3. มภี มู ิคมุ กนั ในตวั ที่ดี และสอดคล้องเน้ือหาเป็นประโยชน์ต่อ นกึ ถึงประโยชนส์ ว่ นรวม/กลุ่ม 4. เงือ่ นไขความรู้ ผเู้ รียนและพัฒนาจากภูมิปัญญาของผู้เรยี น 5. เงื่อนไขคณุ ธรรม - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถูกตอ้ ง ไม่หยดุ นิ่งทีห่ าหนทางในชีวิต หลดุ พ้นจาก สุจริต แมจ้ ะตกอย่ใู นภาวะขาดแคลน ใน ความทุกข์ยาก (การคน้ หาคาตอบเพอ่ื ให้ การดารงชวี ิต หลดุ พน้ จากความไม่ร)ู้ - ปฏิบตั ติ นในแนวทางที่ดี ลด เลิก สิง่ ย่ัว กิเลสให้หมดสิ้นไป ไม่ก่อความช่ัวให้ เป็น เครอ่ื งทาลายตวั เอง ทาลายผอู้ ่ืน พยายาม เพิม่ พูนรักษาความดี ท่ีมีอย่ใู ห้งอกงาม สมบรู ณ์ยง่ิ ข้ึน ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์ ภูมธิ รรม : ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ ขยนั อดทน ภมู ธิ รรม : ซ่อื สัตย์ สจุ รติ ขยนั อดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปนั ตรงตอ่ เวลา เสียสละและ แบ่งปนั ความรอบรู้ เรือ่ ง การคน้ หาขอ้ มลู ความรอบรู้ เรือ่ ง การคน้ หาข้อมูล ทเี่ ก่ียวขอ้ งรอบด้าน ความรอบคอบทจี่ ะนา กรณีท่เี กิดปัญหา สามารถนาความรูเ้ หล่าน้ัน ความรเู้ หลา่ นน้ั มาพิจารณาใหเ้ ชอื่ มโยงกัน มาพิจารณาให้เช่อื มโยงกนั สามารถประยกุ ต์ เพอ่ื ประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้กบั ผเู้ รยี น มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ ซ่ือสัตยส์ จุ ริตและมีความอดทน มีความเพียร ซื่อสตั ย์สจุ ริตและมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการดาเนินชีวติ ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชีวิต กิจกรรม ครู ผ้เู รยี น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน การค้นหาขอ้ มลู การค้นหาขอ้ มลู การค้นหาขอ้ มูล - - การแก้ปัญหาโดยใช้การวิเคราะห์ - สามารถนาหลักการทไ่ี ด้รบั ไปประยุกตใ์ ช้ - การแกป้ ญั หาโดยใชก้ าร แก้ปัญหาในชีวติ ประวันได้ และมขี ั้นตอนในการแกป้ ัญหา วเิ คราะห์ และมีขั้นตอนในการ แก้ปัญหา ลงชอื่ ..................................................ผู้สอน ( นางสาวฐิตารตั น์ คัมภรี ะ )









หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การพฒั นาโครงงาน แผนการเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง โครงงานสรา้ งสรรค์ รายวิชา วทิ ยาการคานวณ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2561 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ (เทคโนโลย)ี น้าหนกั เวลาเรยี น 1.0 หนว่ ยกิต เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง / สปั ดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจทค่ี งทน) 1. การกาหนดปญั หา 2. การศกึ ษาและกาหนดขอบเขตของปัญหา 3. การนาแนวคดิ เชงิ คานวณไปพฒั นาโครงงานท่ีเกย่ี วกบั ชีวิตประจาวัน 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั ชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู/้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการพัฒนาโครงงานทม่ี กี ารบรู ณาการกบั วชิ าอืน่ อยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเชื่อมโยง กบั ชวี ิตจริง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลัก : Knowledge 1. ระบปุ ญั หาในชวี ติ ประจาวัน ทส่ี ามารถแกไ้ ขไดด้ ้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. เลอื กหวั ขอ้ โครงงานทีเ่ หมาะสมตอ่ การพัฒนา 3. กาหนดจดุ ประสงคแ์ ละขอบเขตของโครงงานไดอ้ ย่างเหมาะสม 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process - ทกั ษะการแกป้ ญั หา - ทักษะการสือ่ สารและการร่วมมือ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ - ทกั ษะการคิดสร้างสรรค์ คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุง่ มัน่ ในการทางาน

4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. ความรเู้ ดิมทีน่ กั เรยี นต้องมี - 6. สาระสาคญั การพัฒนาโครงงานเป็นกระบวนการ ที่สามารถใช้แนวคิดเชงิ คานวณ ในการแก้ปัญหา โดยเริม่ จาก การระบุปญั หาที่สนใจในชวี ิตประจาวนั วเิ คราะห์สาเหตุของปญั หา ศกึ ษาและหาแนวทางการแก้ปัญหา เพอ่ื ใหส้ ามารถแกป้ ญั หาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ การพฒั นาโครงงานท่ดี ีต้องมกี ารระบุปญั หาใหช้ ัดเจน โดยทม่ี าของปัญหาหรือการกาหนดปญั หา สามารถหาได้ จากแหลง่ ต่าง ๆ ท่ีอยู่ใกล้ตัว กิจกรรมทีท่ าในชวี ิตประจาวัน ข่าวสาร ส่อื ออนไลน์ รวมทัง้ การเข้าชมสถานท่สี าคัญหรือ นิทรรศการ และการประกวดแข่งขนั สง่ิ เหล่านีล้ ้วนแล้วแต่สามารถจุดประกายความคิดในการเรม่ิ คิดหัวข้อโครงงานที่ สนใจ จากนั้นให้ประเมนิ ความสามารถในการทาโครงงานจากความรแู้ ละทักษะพืน้ ฐานท่ีมี แหล่งค้นควา้ เพิ่มเตมิ งบประมาณและทรัพยากร เวลาท่ใี ช้ คุณคา่ และประโยชน์ของโครงงานในการนาไปใช้ 7. ชิน้ งาน/ภาระงาน : - ใบกจิ กรรมที่ 8.1 ร้จู ักปญั หา - ใบกิจกรรมท่ี 8.2 พฒั นาโครงงานกันเถอะ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ - การจัดเตรยี ม 1. ใบกิจกรรมท่ี 8.1 รู้จกั ปญั หา 2. ใบกิจกรรมที่ 8.2 พัฒนาโครงงานกนั เถอะ - ข้ันตอนดาเนนิ การ ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรยี น โดยต้ังประเดน็ อภิปรายร่วมกนั เกีย่ วกับปัญหาในชวี ิตประจาวัน ทสี่ ามารถแกไ้ ขได้ด้วย เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น เทคโนโลยีที่พบระหว่างทางมาโรงเรียนท่ีช่วยอานวยความสะดวกในชีวิตประจาวัน และ ยกตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในหนงั สอื เรียน บทท่ี 3 การพฒั นาโครงงาน

- ขั้นประยุกตใ์ ช้ ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน ผู้เรียนทากิจกรรมท่ี 3.1 ศกึ ษาโครงงาน ในหนังสือเรียน และ อภิปรายร่วมกันในกลุ่ม ผู้เรียนศึกษาหัวข้อที่ 3.1 ศึกษาโครงงานในหนังสือเรียน และอภิปรายร่วมกันในกลุ่ม ผู้เรียน กาหนดปัญหาในหนงั สือเรยี น และทาใบกจิ กรรมที่ 8.1 ร้จู กั ปัญหา จากนัน้ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั พิจารณาประเดน็ ปัญหาของ สมาชกิ ทุกคนในกล่มุ 2. ผู้สอนแจกประเด็นปัญหา เพื่อให้ผู้เรียนใช้เป็นเคร่ืองมือประกอบการตัดสินใจเลือกประเด็นปัญหาที่จะเป็น หัวข้อโครงงานของกลมุ่ 3. ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอประเดน็ ปัญหาทีเ่ ลอื กเป็นหัวขอ้ โครงงานและแนวทางการตดั สินใจ 4. ผู้เรียนศึกษาหัวข้อท่ี 3.2 การศึกษาและกาหนดขอบเขตของปัญหา ในหนังสือเรียน แล้วแต่ละกลุ่มทาใบ กิจกรรมที่ 8.2 พฒั นาโครงงานกนั เถอะ - ขั้นสรุปและประเมินผล ( 10 นาที ) ผู้สอนและผ้เู รียนรว่ มกนั สรุปผลการทากจิ กรรมในข้นั ตอนของการพฒั นาโครงงานทไ่ี ด้ดาเนินการเสรจ็ แลว้ 9. สื่อการเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ่อื ขน้ั ประยุกต์ใช้ รายการสื่อ ตามจานวน ขนั้ ประยุกต์ใช้ นร. 1. ใบกจิ กรรม - - ใบกิจกรรมท่ี 8.1 รู้จกั ปญั หา - ใบกิจกรรมท่ี 8.2 พฒั นาโครงงานกนั เถอะ 2. หนงั สอื เรยี น วิชา วิทยาการคานวณ ชั้น ม.4

10. การวัดและการประเมินผล สิง่ ทต่ี อ้ งวดั วธิ กี ารวัดผลประเมินผล เครอ่ื งมอื วดั ผลประเมินผล เกณฑก์ ารผ่าน การนาเสนอ ใบกิจกรรมท่ี ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ด้านความรู้ (K) การบอกหรอื เขยี นวธิ ีการการ 8.1 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ ตาม แก้ปัญหาจากสถานการณท์ ่ี การประเมินเชงิ ปริมาณ - เพื่อใหม้ ีความรู้เกย่ี วกับ ผสู้ อนสมมุติขึน้ มา โดย แบบบันทึกการประเมนิ วิธีการเขียนโปรแกรม อธบิ ายเปน็ ข้นั ตอน สงั เกตการนาเสนอผลงานใบ ได้คะแนน 7 คะแนนข้ึนไป กจิ กรรม ชวี ติ ประจาวันกับ ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ดา้ นทักษะ(P) สงั เกตพฤติกรรมจากการ การแยกส่วน พอใช้ ตามการประเมินเชงิ ทางานกลมุ่ การทาใบ แบบสังเกตพฤติกรรมความ คณุ ภาพ - อธบิ ายหลักวธิ คี ดิ เชงิ กิจกรรมท่ี 8.2 มุง่ มัน่ ในการทางาน (3 ไดค้ ะแนน 4 คะแนนขน้ึ ไป นามธรรม ระดบั คณุ ภาพ) คะแนนเต็ม ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 9 คะแนน พอใช้ ตามการประเมนิ เชิง ดา้ นจิตพสิ ัย(A) สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น คุณภาพ -มคี วามม่งุ ม่นั ในการทางาน รายบุคคลในดา้ นมีความ มงุ่ มั่นในการทางาน

11. จุดเน้นของโรงเรียน การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผู้เรยี น 1. ความพอประมาณ พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ 2. ความมเี หตุผล รูจ้ กั ใช้เทคโนโลยีมาผลติ ส่อื ท่ีเหมาะสม มจี ิตสานกึ ท่ดี ี เออื้ อาทร ประนปี ระนอม 3. มีภูมิคุมกันในตัวท่ดี ี และสอดคล้องเน้อื หาเปน็ ประโยชนต์ ่อ นึกถงึ ประโยชนส์ ว่ นรวม/กล่มุ ผู้เรยี นและพัฒนาจากภมู ปิ ัญญาของผู้เรียน 4. เง่ือนไขความรู้ - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถูกต้อง ไมห่ ยดุ นิ่งทห่ี าหนทางในชีวิต หลุดพ้นจาก 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม โครงงานสรา้ งสรรค์ สจุ ริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลน ใน ความทุกข์ยาก (การคน้ หาคาตอบเพอ่ื ให้ - การแกป้ ญั หาโดยใช้การ การดารงชวี ิต หลดุ พน้ จากความไม่รู)้ วิเคราะห์ และมขี ้ันตอนในการ แก้ปัญหา - ปฏบิ ัติตนในแนวทางท่ีดี ลด เลิก ส่ิงยั่ว กเิ ลสให้หมดสิน้ ไป ไมก่ ่อความชวั่ ให้ เป็น เครอ่ื งทาลายตวั เอง ทาลายผอู้ ื่น พยายาม เพม่ิ พูนรักษาความดี ท่ีมีอยู่ให้งอกงาม สมบูรณ์ย่ิงขึ้น ภูมปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมัดระวงั สร้างสรรค์ ภูมธิ รรม : ซ่ือสตั ย์ สุจรติ ขยนั อดทน ภูมิธรรม : ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ ขยันอดทน ตรงต่อเวลาและแบง่ ปนั ตรงตอ่ เวลา เสียสละและ แบ่งปนั ความรอบรู้ เรือ่ ง โครงงานสรา้ งสรรค์ ความรอบรู้ เรือ่ ง โครงงานสรา้ งสรรค์ ที่เกย่ี วขอ้ งรอบดา้ น ความรอบคอบท่ีจะนา กรณที ีเ่ กดิ ปัญหา สามารถนาความรเู้ หลา่ นน้ั ความรเู้ หล่าน้นั มาพจิ ารณาใหเ้ ชอื่ มโยงกัน มาพิจารณาใหเ้ ชือ่ มโยงกนั สามารถประยุกต์ เพือ่ ประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั กิจกรรมการเรยี นรู้ให้กบั ผเู้ รียน มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม ซ่ือสตั ย์สจุ ริตและมีความอดทน มีความเพียร ซือ่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน มคี วามเพียร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนินชีวติ ใชส้ ตปิ ญั ญาในการดาเนินชีวิต โครงงานสรา้ งสรรค์ โครงงานสร้างสรรค์ - - การแกป้ ัญหาโดยใชก้ ารวเิ คราะห์ - สามารถนาหลักการท่ไี ด้รับไปประยุกตใ์ ช้ แก้ปัญหาในชีวิตประวันได้ และมีขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหา ลงช่อื ..................................................ผสู้ อน ( นางสาวฐติ ารัตน์ คมั ภีระ )







หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง การพัฒนาโครงงาน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง วางแผนและออกแบบโครงงาน รายวิชา วทิ ยาการคานวณ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) นา้ หนักเวลาเรยี น 1.0 หน่วยกิต เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง / สปั ดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน) 1. แนวทางและขอบเขตของโครงงาน 2. ข้อเสนอโครงงาน 3. การนาแนวคิดเชิงคานวณชว่ ยในการพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกบั ชวี ติ ประจาวัน 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี/ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการพฒั นาโครงงานท่ีมกี ารบรู ณาการกับวชิ าอ่ืนอย่างสร้างสรรคแ์ ละเชอื่ มโยง กับชวี ติ จรงิ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลกั : Knowledge 1. วางแผนและออกแบบการพัฒนาโครงงาน 2. จดั ทาข้อเสนอโครงงานโดยใชแ้ หลง่ ขอ้ มลู ท่มี คี วามนา่ เชอื่ ถือและอ้างอิงอยา่ งถูกต้อง 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process - ทักษะการแกป้ ัญหา - ทกั ษะการสื่อสารและการรว่ มมือ - ทักษะการคดิ วิเคราะห์ - ทกั ษะการสังเคราะห์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

5. ความร้เู ดิมทน่ี ักเรียนต้องมี - 6. สาระสาคญั การวางแผนและออกแบบโครงงาน เป็นการดาเนินการหลงั จากกาหนดวัตถุประสงค์ ขอบเขต และแนวทางใน การพัฒนาโครงงาน ซ่ึงประกอบด้วย การศึกษาเอกสารเพิ่มเติมและความเป็นไปได้เบื้องต้นการกาหนดผลสาเร็จของ โครงงาน การแบ่งการดาเนินงานออกเป็นกิจกรรมย่อย และการกาหนดลาดับข้ันตอนท่ีถูกต้องในการทากิจกรรมย่อย ตา่ ง ๆ การจดั ทาข้อเสนอโครงงานเป็นเอกสารสาคัญทรี่ ะบุถงึ ชื่อโครงงาน ผู้จัดทา ทีป่ รึกษา สาระสาคัญของโครงงาน ที่มาและความสาคัญ วัตถุประสงค์ เป้าหมายและขอบเขตโครงงาน ทฤษฎี เทคนิค และโครงการ หรืองานชิ้นอื่น ๆ ท่ี เกี่ยวข้อง วิธีดาเนินงาน ขั้นตอนการดาเนนิ งาน ผลท่คี าดว่าจะได้รับ และแหล่งข้อมูล การจัดทาข้อเสนอโครงงานต้องมี การวางแผนเพ่ือช่วยใหก้ ารพฒั นาโครงงานประสบความสาเร็จอย่างมปี ระสิทธิภาพ การดาเนินการจัดทาจะต้องใช้การคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ศกึ ษาค้นคว้าและเรียบเรียงข้อมลู ตัดสินใจเลือก กาหนดการทางานตามเป้าหมายและขอบเขตของ ทรัพยากรทีม่ ีอย่างจากดั 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมท่ี 9.1 วางแผนโครงงาน - ใบกจิ กรรมที่ 9.2 ข้อเสนอโครงงาน 8. กิจกรรมการเรียนรู้ - การจัดเตรยี ม 1. ใบกจิ กรรมท่ี 9.1 วางแผนโครงงาน 2. ใบกิจกรรมที่ 9.2 ขอ้ เสนอโครงงาน - ขัน้ ตอนดาเนนิ การ ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนทบทวนข้ันตอนในการพัฒนาโครงงานทีไ่ ดท้ าไปแล้วในกจิ กรรมท่ี 8 ซึ่งเป็นการกาหนดปัญหาและแนว ทางการพฒั นาโครงงาน และชแี้ จงวา่ กิจกรรมนจ้ี ะเปน็ การวางแผนและออกแบบเพื่อพฒั นาโครงงาน 2. ผู้สอนคนื ใบกจิ กรรมที่ 8.2 พัฒนาโครงงานกันเถอะ ให้แตล่ ะกลมุ่ เพื่อเป็นขอ้ มลู สาหรับทบทวนรายละเอียด ของโครงงาน - ข้นั ประยกุ ต์ใช้ ( 45 นาที ) 1. ผู้เรียนศึกษาหัวข้อ 3.3 การวางแผนและออกแบบโครงงาน ในหนังสือเรยี น และทาใบกิจกรรมที่ 9.1 วางแผน โครงงาน 2. ผู้สอนแนะนาผู้เรียนเรื่องการสืบค้นข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องในการทาโครงงานท่ีต้องมีความน่าเชื่อและการอ้างอิง แหลง่ ข้อมลู ท่ีถูกตอ้ ง 3. ผ้สู อนแจ้งกาหนดการสง่ ข้อเสนอโครงงาน

- ขน้ั สรปุ และประเมนิ ผล ( 10 นาที ) ผ้สู อนประเมินขอ้ เสนอโครงงานตามแบบประเมนิ และส่งคนื ผูเ้ รียน 9. สื่อการเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ จานวน สภาพการใช้สอื่ ขนั้ ประยกุ ต์ใช้ รายการส่อื ตามจานวน ขน้ั ประยกุ ต์ใช้ นร. 1. ใบกจิ กรรม - - ใบกิจกรรมที่ 9.1 วางแผนโครงงาน - ใบกิจกรรมท่ี 9.2 ข้อเสนอโครงงาน 2. หนังสือเรยี น วชิ า วิทยาการคานวณ ช้นั ม.4 10. การวัดและการประเมินผล สง่ิ ทต่ี อ้ งวดั วธิ ีการวัดผลประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วดั ผลประเมินผล เกณฑก์ ารผา่ น การนาเสนอ ใบกจิ กรรมท่ี ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่า 2 ดา้ นความรู้ (K) การบอกหรอื เขยี นวธิ กี ารการ 9.1 คะแนน ผ่านเกณฑ์ ตาม แกป้ ัญหาจากสถานการณท์ ี่ การประเมนิ เชงิ ปริมาณ - เพื่อใหม้ ีความรู้เก่ียวกับ ผู้สอนสมมตุ ิข้นึ มา โดย แบบบนั ทึกการประเมิน วิธีการเขียนโปรแกรม อธิบายเปน็ ข้นั ตอน สงั เกตการนาเสนอผลงานใบ ไดค้ ะแนน 7 คะแนนขนึ้ ไป กิจกรรม ชีวติ ประจาวันกับ ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ด้านทกั ษะ(P) สังเกตพฤติกรรมจากการ การแยกส่วน พอใช้ ตามการประเมนิ เชงิ ทางานกล่มุ การทาใบ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมความ คุณภาพ - อธิบายหลักวิธคี ิดเชงิ กจิ กรรมที่ 9.2 ม่งุ มัน่ ในการทางาน (3 ไดค้ ะแนน 4 คะแนนขึ้นไป นามธรรม ระดับคุณภาพ) คะแนนเต็ม ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 9 คะแนน พอใช้ ตามการประเมินเชงิ ดา้ นจิตพสิ ยั (A) สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน คณุ ภาพ -มคี วามมุง่ มัน่ ในการทางาน รายบุคคลในด้านมคี วาม มงุ่ มนั่ ในการทางาน

11. จุดเนน้ ของโรงเรยี น การบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผู้เรยี น 1. ความพอประมาณ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ 2. ความมีเหตุผล รู้จกั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตส่อื ทเ่ี หมาะสม มีจติ สานึกที่ดี เอ้ืออาทร ประนปี ระนอม 3. มภี มู ิคุมกันในตวั ท่ีดี และสอดคล้องเนอ้ื หาเปน็ ประโยชน์ตอ่ นึกถึงประโยชน์สว่ นรวม/กลมุ่ ผเู้ รยี นและพัฒนาจากภูมปิ ญั ญาของผู้เรียน 4. เงอื่ นไขความรู้ - ยึดถอื การประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง ไม่หยุดนิ่งท่หี าหนทางในชีวิต หลดุ พน้ จาก 5. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม วางแผนและออกแบบโครงงาน สจุ ริต แม้จะตกอย่ใู นภาวะขาดแคลน ใน ความทุกขย์ าก (การคน้ หาคาตอบเพื่อให้ - การแกป้ ัญหาโดยใช้การ การดารงชีวิต หลดุ พน้ จากความไม่รู้) วเิ คราะห์ และมขี ั้นตอนในการ แก้ปัญหา - ปฏิบตั ติ นในแนวทางท่ีดี ลด เลิก สิง่ ย่ัว กิเลสใหห้ มดส้ินไป ไมก่ อ่ ความชว่ั ให้ เป็น เครือ่ งทาลายตวั เอง ทาลายผ้อู ืน่ พยายาม เพม่ิ พูนรักษาความดี ท่ีมอี ย่ใู หง้ อกงาม สมบรู ณย์ ง่ิ ขึ้น ภมู ปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมัดระวัง สรา้ งสรรค์ ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ภูมธิ รรม : ซอื่ สตั ย์ สุจรติ ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปนั ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปนั ความรอบรู้ เร่อื ง วางแผนและออกแบบฯ ความรอบรู้ เร่อื ง วางแผนและออกแบบฯ ทีเ่ กี่ยวขอ้ งรอบดา้ น ความรอบคอบทีจ่ ะนา กรณที ี่เกิดปัญหา สามารถนาความรู้เหลา่ น้ัน ความรู้เหล่าน้นั มาพิจารณาให้เช่ือมโยงกัน มาพจิ ารณาให้เช่ือมโยงกัน สามารถประยุกต์ เพื่อประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด ใชใ้ นชีวิตประจาวนั กิจกรรมการเรียนรใู้ ห้กับผ้เู รยี น มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มีความ ซ่อื สัตยส์ จุ ริตและมคี วามอดทน มคี วามเพียร ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ และมีความอดทน มีความเพียร ใชส้ ติปัญญาในการดาเนินชีวิต ใชส้ ติปญั ญาในการดาเนินชีวิต วางแผนและออกแบบโครงงาน วางแผนและออกแบบโครงงาน - - การแก้ปัญหาโดยใชก้ ารวเิ คราะห์ - สามารถนาหลกั การทไ่ี ด้รบั ไปประยุกตใ์ ช้ แก้ปญั หาในชีวติ ประวันได้ และมขี ั้นตอนในการแก้ปัญหา ลงช่ือ..................................................ผ้สู อน ( นางสาวฐติ ารตั น์ คัมภรี ะ )










Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook