Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเขียนโครงงานวิทยาศาสตร์

การเขียนโครงงานวิทยาศาสตร์

Published by Supatsiri Somsup, 2021-09-26 03:20:57

Description: การเขียนโครงงานวิทยาศาสตร์

Keywords: การเขียนโครงงานวิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

ส่งเสริมการเรียนรดู้ ว้ ยโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 เรือ่ งโครงงานวิทยาศาสตร์ ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ ธีระชยั ปูรณะโชติ ไดใ้ หค้ วามหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ (Science Project)ไวว้ า่ โครงงานวิทยาศาสตร์ คือ การศึกษาเรื่องใดเร่ืองหน่ึงเก่ียวกบั วทิ ยาศาสตร์ดว้ ยตนเองโดยใชว้ ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ ภายใตค้ าแนะนาหรือ ขอ้ เสนอแนะของครูหรือผเู้ ชี่ยวชาญ กิจกรรมน้ีอาจทาเป็ นรายบคุ คลหรือทาเป็ นกลุ่ม และจะทาในเวลาเรียนหรือนอกเวลา เรียนกไ็ ดโ้ ดยไม่จากดั สถานที่ อาจกล่าวไดว้ า่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คอื งานวจิ ยั ทางวทิ ยาศาสตร์นน่ั เอง แตเ่ ป็ นลกั ษณะของงานวจิ ยั ข้นั พ้นื ฐาน มีการฝึกปฏบิ ตั ิการอยา่ งง่ายๆ เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนไดร้ ูจ้ กั การใชว้ ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์นน่ั เอง โดยจดั ใหม้ ีการศึกษา คน้ ควา้ ทดลอง เพอื่ ตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐานหน่ึงที่กาหนดไว้ โดยอาศยั วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ หลกั การของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ในการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์น้นั มีหลกั การทส่ี าคญั 4 ประการ ไดแ้ ก่ 1. เป็นกิจกรรมท่มี ีเก่ียวกบั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. เนน้ การแสวงหาความรู้โดยผเู้ รียนจะเป็ นผูร้ ิเริ่ม วางแผน และดาเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง โดยมีครูเป็น ผชู้ ้ีแนะแนวทางและใหค้ าปรึกษา 3. เนน้ กระบวนการแสวงหาความรู้ โดยใชว้ ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยเริ่มจากการกาหนดปัญหา และหวั ขอ้ ทีต่ น สนใจศึกษา ดาเนินการรวบรวมขอ้ มูล ทาการทดลอง และสรุปผลการศึกษาคน้ ควา้ 4. เนน้ การคิดเป็น ทาเป็ น และการแกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง จดุ ม่งุ หมายของโครงงาน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดก้ าหนดจดุ มุ่งหมายของการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ไวด้ งั น้ี 1. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนใชค้ วามรู้และประสบการณ์เลือกทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามที่ตนสนใจ 2. เพอื่ ใหน้ กั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ มูลจากแหล่งความรูต้ ่างๆ ดว้ ยตนเอง 3 เพอื่ ใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 4 เพอ่ื ใหน้ กั เรียนมีเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์และเห็นคุณคา่ ของการใชก้ ระบวนการวทิ ยาศาสตร์ในการแกป้ ัญหา 5 เพอื่ ใหน้ กั เรียนมองเห็นแนวทางในการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรูท้ างวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ตล่ ะทอ้ งถิ่น การรว่ มมอื ส่กู ารพัฒนาสง่ เสริมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครพู ิชติ ลิอนิ ทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรียนรดู้ ้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ 2 ความสาคญั และคณุ ค่าของการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การใหน้ กั เรียนทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ จะช่วยส่งเสริมใหจ้ ุดมุ่งหมายของหลกั สูตรสมั ฤทธ์ิผลโดยสมบูรณ์ ยงิ่ ข้ึน เพราะในการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ นักเรียนมีโอกาสทจ่ี ะศึกษาและลงมือปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเอง ออกแบบการ ทดลองและลงมือทดลองเพอื่ ตรวจสอบสมมตฐิ านตลอดจนเป็นผสู้ รุปผลการศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง จะไดร้ ับ ประสบการณ์ตรงทกุ ข้นั ตอน ฝึกทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และช่วยพฒั นาคุณลกั ษณะอื่นๆแก่นกั เรียน เช่น การ เป็ นคนช่างสงั เกต มีความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ มีวินยั ละเอียดรอบคอบ รับผดิ ชอบ รูจ้ กั แบง่ เวลาและการกระทากิจกรรม อื่นๆ ร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ นอกจากจะมีคุณค่าดา้ นการฝึกใหน้ กั เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีความมนั่ ใจในการนาเอาวธิ ีการทาง วทิ ยาศาสตร์ไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา และยงั มีคุณคา่ ดา้ นอื่นๆ ซ่ึงสรุปไดด้ งั น้ี 1.การสรา้ งความสานึกและรับผดิ ชอบในการศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ต่างๆ ดว้ ยตนเอง 2.ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ และเรียนรู้ในเรื่องท่ตี นเองสนใจไดล้ ึกซ้ึงไปกวา่ การเรียนในหลกั สูตรปกติ 3.ไดพ้ ฒั นาและแสดงความสามารถตามศกั ยภาพของตนเอง 4. ไดม้ ีโอกาสแสดงความสามารถของตนเอง 5. ไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็ นประโยชน์ 6. ช่วยสร้างความสมั พนั ธท์ ดี่ ีระหวา่ งครูกบั นกั เรียน และระหวา่ งนกั เรียนดว้ ยกนั 7. ช่วยสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งชุมชนกบั โรงเรียนไดด้ ีข้นึ 8.เพอื่ เป็นการสร้างช่ือเสียงแก่ตนเองและสถานศกึ ษา ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบ่งไดเ้ ป็ น 4 ประเภทไดแ้ ก่ 1. โครงงานประเภทสารวจ 2. โครงงานประเภทการทดลอง 3. โครงงานประเภทการพฒั นาหรือประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎีหรือการอธิบาย 1. โครงงานประเภทการทดลอง ลกั ษณะเด่นของโครงงานประเภทน้ีคอื เป็นโครงงานท่มี ีการออกแบบการทดลองเพอื่ ศกึ ษาของตวั แปรหน่ึงทมี่ ี ตอ่ ตวั แปรอีกตวั หน่ึงท่ตี อ้ งการศกึ ษา โดยควบคุมตวั แปรอ่ืนๆ ที่อาจมีผลต่อตวั แปรทีจ่ ะตอ้ งการศกึ ษาเอาไว้ หรือกล่าวอีก นยั หน่ึง โครงงานท่จี ะจดั เป็นโครงงานประเภทการทดลองได้ จะตอ้ งเป็ นโครงงานทีม่ ีการจดั กระทากบั ตวั แปรตน้ หรือ เรียกอกอยา่ งหน่ึงวา่ ตวั แปรอิสระ มีการวดั ตวั แปรตาม (ผลทต่ี อ้ งการ) และควบคุมตวั แปรอื่นๆ ทไ่ี มต้ อ้ งการศกึ ษา โดยทว่ั ไป ข้นั ตอนการดาเนินงานของโครงงานประเภทน้ีจะประกอบดว้ ย การกาหนดปัญหา การต้งั จดุ มุ่งหมาย สมมติฐาน การกาหนดตวั แปรต่างๆ การออกแบบการทดลอง การรวบรวมขอ้ มูล การดาเนินการทดลอง การแปรผลและ การสรุปผล การรว่ มมือสู่การพัฒนาส่งเสรมิ การเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครพู ิชติ ลิอนิ ทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรียนรูด้ ้วยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 3 เช่น ผลของความเขม้ ขน้ ของแสงท่ีมีต่อการสลายตวั ของวติ ามินซี ศกึ ษาช่วงเวลาทเ่ี หมาะสมในการกรีดยางพาราเพื่อใหน้ ้ายางออกมากทสี่ ุด ผลิตภณั ฑก์ ระดาษจากใยนุ่น ขงิ ชะลอการบูด การศึกษาอิทธิผลของฝนกรดเทียมทีม่ ีต่อผกั คะนา้ การศึกษาสารเคลือบเพมิ่ ความเหนียวจากธรรมชาติ การศึกษาสารกนั บดู จากเปลือกมงั คุด กระดาษสาจากเปลือกผลไม้ สารกาจดั แมลงจากเมลด็ ละหุ่ง สบเู่ หลวสมุนไพร น้ายาบว้ นปากสมุนไพร 2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวม ลกั ษณะเด่นของโครงงานประเภทน้ี ไม่มีการจดั หรือกาหนดตวั แปรต่างๆ ท่ตี อ้ งการศกึ ษา โครงงานประเภท สารวจรวบรวมขอ้ มูลน้ี ผทู้ าโครงงานเพยี งตอ้ งการสารวจและรวบรวมขอ้ มูล แลว้ นาขอ้ มูลน้นั มาจาแนกเป็ นหมวดหมู่ และนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เพอ่ื ใหเ้ ห็นลกั ษณะหรือความสมั พนั ธใ์ นเร่ืองทต่ี อ้ งการศึกษาไดช้ ดั เจนยงิ่ ข้นึ การสารวจและรวบรวมขอ้ มูลน้ีอาจทาไดใ้ นหลายรูปแบบ เช่น การออกไปเกบ็ ขอ้ มูลในภาคสนาม ซ่ึงในบางคร้ัง บางเร่ือง กส็ ามารถเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลต่างๆ ท่ตี อ้ งการในทอ้ งถิ่น หรือในสถานที่ตา่ งๆ ที่ตอ้ งการศกึ ษาคน้ ควา้ ในขณะทอ่ี อกไป ปฏบิ ตั ิการน้นั โดยไม่ตอ้ งนาวตั ถุตวั อยา่ งกลบั มาวเิ คราะหใ์ นหอ้ งปฏิบตั ิการอีก ตวั อยา่ งโครงงานประเภทน้ีไดแ้ ก่ - การสารวจประชากรและชนิดของสิ่งตา่ งๆ เช่น สตั ว์ พืช หิน แร่ ฯลฯ ในทอ้ งถิ่น หรือในบริเวณท่ตี อ้ งการศึกษา - การสารวจพฤตกิ รรมดา้ นต่าง ๆ ของสตั วใ์ นธรรมชาติ - การสารวจทศิ ทางและอตั ราเร็วลมในทอ้ งถ่ิน - การสารวจการผกุ ร่อนของส่ิงก่อสร้างทที่ าดว้ ยหินอ่อนในแหล่งตา่ งๆ ในบางคร้ังการออกภาคสนามกเ็ พอ่ื ไปเกบ็ วสั ดุตวั อยา่ งมาวเิ คราะห์ในหอ้ งปฏิบตั ิการ เพราะไม่สามารถทจี่ ะ วเิ คราะหแ์ ละรวบรวมขอ้ มูลไดท้ นั ที ในขณะออกไปปฏิบตั ิการภาคสนาม ตวั ยา่ งโครงงานประเภทน้ี ไดแ้ ก่ - การสารวจคุณภาพน้า เช่น ความขนุ่ ความเป็ นกรด – เบส คา่ BOD ฯลฯ แหล่งน้าตา่ งๆ ท่ีตอ้ งการศึกษา เช่น บริเวณใกลๆ้ โรงงานน้าอดั ลม โรงงานผลิตสุรา ฯลฯ - การศกึ ษาสมบตั ิ เช่น จดุ เดือด จดุ หลอมเหลว ความหนาแน่น ของสารตา่ งๆ ทส่ี กดั ไดจ้ ากวสั ดุหรือพชื ชนิดใดชนิดหน่ึงท่ตี อ้ งการศกึ ษา - การสารวจคุณภาพของดิน เช่น ความช้ืน ปริมาณสารอินทรีย์ ความเป็ นกรด เบส จากแหล่งตา่ งๆ ทตี่ อ้ งการศกึ ษา - การศึกษาสารวจมลพษิ ของอากาศในแหล่งตา่ งๆ การรว่ มมือสูก่ ารพฒั นาส่งเสรมิ การเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครูพชิ ิต ลิอินทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ 4 ในการสารวจรวบรวมขอ้ มูลบางอยา่ งแทนทจี่ ะตอ้ งอออกไปสารวจตามธรรมชาตบิ างคร้งั ก็อาจจาลองธรรมชาติ ข้ึนในหอ้ งปฏิบตั กิ ารแลว้ สงั เกต และศึกษารวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ ในธรรมชาติจาลองน้นั ๆ เช่น - การศึกษาวงจรชีวติ ไหมที่เล้ียงในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร - การศกึ ษาพฤติกรรมของมดที่เล้ียงในหอ้ งปฏบิ ตั ิการ 3. โครงงานประเภทส่ิงประดษิ ฐ์ ลกั ษณะเด่นของโครงงานประเภทน้ี เป็นโครงงานที่เก่ียวกบั การประยกุ ตท์ ฤษฎีหรือหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์มา ประดิษฐ์ เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ หรืออุปกรณ์ เพอ่ื ประโยชนใ์ ชส้ อยต่างๆ ซ่ึงอาจเป็ นการคิดประดิษฐ์สิ่งของใหม่ หรือ ปรับปรุงเปล่ียนแปลงของเดิมท่ีมีอยแู่ ลว้ ใหม้ ีประสิทธิภาพสูงข้ึนก็ได้ โครงงานประเภทน้ีรวมไปถึง การสรา้ งแบบจาลอง เพอ่ื อธิบายแนวความคดิ ต่างๆ โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ไปแกป้ ัญหาตา่ งๆ ตวั อยา่ งโครงงานเช่น เครื่องปรับอากาศปราศจากมลพษิ เครื่องโรยป๋ ยุ ยางพารา เคร่ืองอบมนั สาปะหลงั พลงั งานแสง หุ่นยนตใ์ ชง้ านในบา้ น แบบจาลองบา้ นพลงั งานแสงอาทิตย์ เคร่ืองป้ัมน้าสุดประหยดั เครื่องบดิ ขวด เครื่องเพม่ิ ออกซิเจนจากวสั ดุเหลือใช้ 4. โครงงานประเภททฤษฎี เป็ นโครงงานเก่ียวกบั การนาเสนอ ทฤษฎี หลกั การ หรือแนวความคิดใหม่ๆ ซ่ึงอาจอยใู่ นรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบายโดยผเู้ สนอไดต้ ้งั กติกาหรือขอ้ ตกลงเอง แลว้ เสนอทฤษฎี หลกั การแนวความคดิ หรือ จนิ ตนาการของตนเองตามกตกิ า หรือขอ้ ตกลงน้นั หรืออาจใชก้ ติกา หรือขอ้ ตกลงอนั เดิมมาอธิบายสิ่งหรือ ปรากฏการณ์ตา่ งๆ ในแนวใหม่ ทฤษฎี หลกั การ แนวความคิดหรือจนิ ตนาการทเี่ สนอน้ีอาจจะใหม่ไม่มีใครคดิ มา ก่อน หรืออาจขดั แยง้ กบั ทฤษฎีเดิม หรือเป็ นการขยายทฤษฎีหรือแนวความคดิ เดิมก็ได้ การทาโครงงานประเภทน้ี จดุ สาคญั อยทู่ ผี่ ตู้ อ้ งมีพน้ื ฐานความรู้ในเรื่องน้นั ๆ เป็ นอยา่ งดี จึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทน้ีไดอ้ ยา่ งมี เหตุผล และน่าเช่ือถือ หรืออาจทาไดโ้ ดยสร้างเครื่องมือข้นึ ประกอบการอธิบาย โดยทว่ั ไปโครงงานประเภทน้ี จดั เป็นวทิ ยาศาสตร์บริสุทธ์ิหรือโครงงานทางคณิตศาสตร์ ตัวอย่างโครงงาน โดยครพู ิชิต ลิอินทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย การรว่ มมือสกู่ ารพัฒนาสง่ เสริมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์

สง่ เสรมิ การเรียนรู้ด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ 5 - ทฤษฎีของจานวนเฉพาะ - ทฤษฎีสมั พนั ธภาพ (E = mc2) - การอธิบายอวกาศแนวใหม่ - กาเนิดของทวปี และมหาสมุทร - การกาเนิดของแผน่ ดินไหวในประเทศไทย - การอธิบายเรื่องราวการดารงชีวติ ในอวกาศของมนุษย์ ข้นั ตอนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็ นกิจกรรมท่ีตอ่ เนื่องและมกี ารดาเนินงานหลายข้นั ตอนต้งั แตเ่ ร่ิมตน้ จนถึงข้นั สุดทา้ ย ดงั น้ี 1. การคิดและเลือกหวั ขอ้ เรื่องทีจ่ ะทาโครงงาน 2. การศึกษาเอกสารทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 3. การจดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน 4. การลงมือทาโครงงาน 5. การเขียนรายงาน 6. การแสดงผลงาน การคดิ และเลือกหัวข้อเรื่องทจ่ี ะทาโครงงาน ขอ้ ควรพจิ ารณาในการเลือกทาโครงงานเร่ืองใดๆ มีดงั น้ี 1. ผทู้ ามีความรูแ้ ละทกั ษะในการใชอ้ ุปกรณ์ 2. มีแหล่งความรู้เพยี งพอ 3. วสั ดุอุปกรณ์ที่จาเป็นสามารถจดั หาหรือจดั ทาได้ 4. มีเวลาเพยี งพอ 5. มีครูรับเป็นทป่ี รึกษา 6. มีความปลอดภยั 7. มีงบประมาณเพยี งพอ การศึกษาเอกสารทเี่ กี่ยวข้อง การศกึ ษาเอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ ง รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผทู้ รงคุณวฒุ ิและการสารวจอุปกรณ์ดว้ ย นกั เรียนตอ้ ง รู้จกั จดบนั ทกึ ศกึ ษาหาความรู้ การรว่ มมอื สกู่ ารพัฒนาส่งเสริมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครพู ชิ ติ ลิอินทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

ส่งเสริมการเรยี นรดู้ ้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ 6 การทาเค้าโครงของโครงงาน หลงั จากที่นกั เรียนไดห้ วั ขอ้ เรื่องทาโครงงานทพี่ อใจ และไดศ้ กึ ษา เอกสารอา้ งอิงตา่ ง ๆ อยา่ งเพยี งพอแลว้ ข้นั ตอนต่อไปคอื การเขยี นเคา้ โครงสาหรับการทาโครงงานเสนอต่อครูผสู้ อน เพอื่ ขอความเห็นชอบก่อนดาเนินการข้นั ตอนตอ่ ไป เคา้ โครงของโครงงานโดยทวั่ ๆ ไป จะเขียนข้นึ เพอ่ื แสดงแนวความคิด แผนงาน และข้นั ตอนของการทาโครงงาน น้นั ซ่ึงควรประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี 1. ช่ือโครงงาน ควรเป็นหวั ขอ้ ท่ีกะทดั รดั ชดั เจน สื่อความหมายตรง และความเฉพาะเจาะจงวา่ ศึกษาอะไร 2. ชื่อผู้ทาโครงงาน 3. ช่ือครูที่ปรึกษาโครงงาน 4. ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน นกั เรียนตอ้ งอธิบายวา่ เหตุใดจึงเลือกทาโครงงานน้ี โครงงานเรื่องน้ีมีความ สาคญั อยา่ งไร เรื่องท่ีทาเป็นเร่ืองใหม่ หรือมีผอู้ ื่นไดเ้ คยศึกษาคน้ ควา้ เรื่องทานองน้ีมาแลว้ มีผเู้ คยศกึ ษาไวบ้ า้ งแลว้ ไดผ้ ลเป็นอยา่ งไร เร่ืองทที่ าน้ีไดข้ ยายเพมิ่ เติม ปรับปรุงจากเรื่องทผี่ อู้ ื่นทาไวอ้ ยา่ งไร 5. จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า นกั เรียนควรบอกจุดมุ่งหมายของการทาโครงงานใหเ้ ฉพาะเจาะจง และเป็ นสิ่งทส่ี ามารถทาไดเ้ ป็ นการบอก ขอบเขตของงานที่จะทาไดช้ ดั เจนข้นึ 6. สมมตุ ฐิ านของการศึกษาค้นคว้า(ถ้าม)ี สมมุติฐานเป็นคาตอบ หรือคาอธิบายท่ีคาดไวล้ ่วงหนา้ ซ่ึงอาจจะถูกหรือไม่กไ็ ด้ การเขยี นสมมุติฐานนกั เรียนควร มีเหตุผล คอื มีทฤษฏหี รือหลกั การมารองรับและท่ีสาคญั คือ เป็นขอ้ ความทมี่ องเห็นแนวทางในการทดลองหรือสามารถ ตรวจสอบได้ โครงงานในบางรายวชิ า เช่น ภาษาไทย และสงั คม ไม่มีสมมุติฐานก็ได้ 7. วิธีการดาเนินงาน ควรระบุ วสั ดุอุปกรณ์ที่ตอ้ งใช้ นกั เรียนจะตอ้ งระบวุ า่ วสั ดุอุปกรณ์ท่จี าเป็ นตอ้ งใชม้ ีอะไรบา้ ง จะไดว้ สั ดุอุปกรณ์ เหล่าน้นั มาจากไหน วสั ดุอุปกรณอ์ ะไรบา้ งที่ตอ้ งจดั ซ้ือ อะไรบา้ งทีต่ อ้ งจดั ทาเอง อะไรบา้ งที่ขอยมื ไดแ้ นวการศึกษา คน้ ควา้ นกั เรียนจะตอ้ งอธิบายวา่ จะดาเนินการอยา่ งไร เกบ็ ขอ้ มูลอะไรบา้ ง เก็บขอ้ มูลอยา่ งไรและเม่ือใด 8. แผนปฏบิ ตั ิงาน นกั เรียนจะตอ้ งอธิบายเกี่ยวกบั กาหนดเวลาเริ่มตน้ และเวลาเสร็จของการดาเนินงานในแต่ละข้นั ตอนตลอดถึง งบประมาณท่ีใชใ้ นการทาโครงงาน 9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ นกั เรียนตอ้ งเขยี นผลท่คี าดวา่ จะไดร้ ับจากการทาโครงงานวา่ มีอะไรบา้ ง 10. เอกสารอ้างองิ /แหล่งศึกษาค้นคว้า นกั เรียนตอ้ งระบุหนงั สือ วารสารตา่ ง ๆ และแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีใชป้ ระกอบการทาโครงงานน้ี โดยตอ้ งเขียนให้ ถูกตอ้ งตามหลกั การเขียนเอกสารอา้ งอิงดว้ ย การรว่ มมอื สกู่ ารพัฒนาสง่ เสริมการเรียนรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครูพชิ ิต ลอิ ินทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรียนรดู้ ว้ ยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 7 แบบเสนอเค้าโครงของโครงงาน ชื่อโครงงาน ......................................................................................................................................................................... ช่ือผู้ทาโครงงาน 1. ................................................................................................................................................................................ 2. ................................................................................................................................................................................ 3. ............................................................................................................................................................................... ชื่อครูที่ปรึกษา 1. ................................................................................................................................................................................ 2. ............................................................................................................................................................................... ท่มี าและความสาคญั ของโครงงาน ………………………………………………………………………………………………………………….. จุดม่งุ หมายของการศึกษาค้นคว้า 1. ................................................................................................................................................................................. 2. ................................................................................................................................................................................. 3. …………………………………………………………………………………………………………………… สมมตุ ฐิ านของการศึกษาค้นคว้า (ถ้าม)ี 1. ................................................................................................................................................................................ 2. …………………………………………………………………………………………………………………… 3. …………………………………………………………………………………………………………………… วธิ ีการดาเนินงาน 1.วัสดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ 1.1.............................................................................................................................................................................. 1.2............................................................................................................................................................................. 2. แนวการศึกษาค้นคว้า (วธิ ีการทดลอง) 2.1.............................................................................................................................................................................. 2.2.............................................................................................................................................................................. 2.3............................................................................................................................................................................. แผนปฏิบัตงิ าน ระยะเวลาดาเนินงาน ……………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………... การรว่ มมือส่กู ารพฒั นาสง่ เสรมิ การเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครูพชิ ติ ลิอนิ ทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย

ส่งเสรมิ การเรียนรู้ด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ 8 งบประมาณทใี่ ช้ในการทาโครงงาน ................................................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………… ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ............................................................................................................................................................................ 2. …........................................................................................................................................................................ . เอกสารอ้างอิง/แหล่งศึกษาค้นคว้า ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... การรว่ มมือส่กู ารพัฒนาสง่ เสริมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครูพชิ ิต ลอิ ินทร์ โรงเรยี นบ้านหนองเพรางาย

สง่ เสรมิ การเรียนรู้ดว้ ยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 9 รูปแบบการเขยี นรายงานของโครงงาน รูปแบบของรายงานโครงงาน ควรมีลาดบั ดงั น้ี 1. ปกนอก มีช่ือเรื่อง ชื่อคณะผจู้ ดั ทาโครงงาน ระดบั ช้นั ภาคเรียน ปี การศกึ ษา ชื่อวทิ ยาลยั 2. ปกรอง จะคลา้ ยหรือเหมือนปกนอก (ดงั แบบฟอร์ม) 3. กิตติกรรมประกาศ เป็ นการเขยี นขอบคุณผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งหรือผใู้ หก้ ารสนบั สนุนท่ที าใหไ้ ดร้ บั ความสาเร็จจากการ ทาโครงงาน 4. บทคดั ย่อ เป็ นการสรุปยอ่ ๆ ของส่ิงท่ที าได้ โดยมีขอ้ ความประมาณ 300-350 คา ทเี่ ป็ นเน้ือความ และควรมีส่วน สาคญั คอื ช่ือเรื่อง จุดมุ่งหมาย วธิ ีศึกษาคน้ ควา้ สรุปผลการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งยอ่ ๆ ( ฝึกเขียนใหถ้ ูกตอ้ งเพราะ ส่วนน้ีสาคญั มาก ) และบอกประโยชน์ 5. สารบัญเร่ือง 6. สารบญั ตาราง (ถา้ มี) 7. สารบัญกราฟ หรือ รูปภาพ ( ถา้ มี ) 8. ส่วนเนื้อหา ควรแบ่งเป็ นบทดงั น้ี บทที่ 1: บทนา มี 2 ส่วนทสี่ าคญั คอื ส่วนท่ี1 ประกอบดว้ ยแนวคดิ ทีม่ าและ ความสาคญั ของเร่ือง และส่วนที่2 กล่าวถึงจดุ มุ่งหมายของการศกึ ษาคน้ ควา้ บทที่ 2: เอกสารที่เก่ยี วข้อง เป็ นส่วนทน่ี กั เรียนจะตอ้ งไปศกึ ษาเอกสารโดยเป็นส่วนทอ่ี าจจะเป็นหลกั การ หรือ ทฤษฎี หรือรายงานการศึกษาคน้ ควา้ ในส่วนทผ่ี ูอ้ ื่นไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ คลา้ ย ๆ กบั เรื่องท่ีเราศกึ ษา (เป็ นการบอกวา่ เราทา ไม่ซ้ากบั ของเขา) หากไปศึกษาและคดั ลอกขอ้ ความจากหนงั สืออะไรจะตอ้ งระบุช่ือหนงั สือไวใ้ นส่วนทา้ ยเล่ม โครงงาน ท่ีเรียกวา่ หนงั สืออา้ งอิงหรือบรรณานุกรม เพอ่ื เป็ นการใหเ้ กียรติแก่ผทู้ น่ี ามาอา้ งอิง บทท่ี 3: วิธีการดาเนินงาน บทที่ 4: ผลการศึกษาค้นคว้า โดยจะตอ้ งกาหนดรูปแบบการนาเสนอผลการศกึ ษาคน้ ควา้ อาจเป็ นตารางหรือความ เรียงหรือรูปภาพ แต่ละส่วนจะมีการวเิ คราะห์ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ไวด้ ว้ ย บทที่ 5: สรุปผลและข้อเสนอแนะ รวมท้งั ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการทาโครงงาน 9. บรรณานุกรม ( หนงั สืออา้ งอิง ) ตอ้ งเขยี นใหถ้ ูกหลกั การอา้ งอิง 10. ภาคผนวก เป็นขอ้ มูลเพอื่ ประกอบความเขา้ ใจ เช่น ภาพ ตารางผนวค แบบสอบถาม วธิ ีการคานวณ วธิ ีการทดสอบมาตรฐานทอี่ า้ งถึง เป็นตน้ การรว่ มมือสู่การพัฒนาส่งเสริมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครพู ิชติ ลอิ นิ ทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสรมิ การเรียนรดู้ ้วยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 10 (ปกนอก) โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง .................................................................... โดย 1 ........................................................................................................... 2………………………………………………………………………. 3………………………………………………………………………. โรงเรียน…………………………………. สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานนทบรุ ีเขต 2 รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนประกอบของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภท ทดลอง ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4-6 เนื่องในงานการร่วมมอื สู่การพฒั นาส่งเสริมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์กลมุ่ เพรางายวฒั นา คร้ังท่ี 1 22 สิงหาคม 2558 (ปกใน) โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรื่อง .................................................................... 1............................................................................... ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี … 2............................................................................... ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี … 3............................................................................... ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี … ครูทปี่ รึกษา 1. ............................................................................. 2. ............................................................................. การร่วมมอื ส่กู ารพฒั นาสง่ เสริมการเรียนรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครูพชิ ติ ลอิ ินทร์ โรงเรยี นบ้านหนองเพรางาย

ส่งเสรมิ การเรียนรู้ดว้ ยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 11 กิตตกิ รรมประกาศ (เป็นการเขยี นขอบคุณผทู้ ่เี ก่ียวขอ้ งหรือผใู้ หก้ ารสนบั สนุนทท่ี าใหไ้ ดร้ ับความสาเร็จจากการทาโครงงาน) ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................... 1 คณะผจู้ ดั ทา บทคดั ยอ่ 1. เขยี นเป็นความเรียงโดยใช้ 5 คาถาม 1.1 โครงงานเรื่องอะไร บทคดั ยอ่ 1.2 มีวตั ถุประสงคอ์ ยา่ งไร 1. เข1ยี.3นทเปา็อนยคา่ วงาไมรเรียงโดยใช้ 5 คาถาม 1.41ไโดคผ้รลงงอายนา่ เงรไ่ือรงอะไร 1.52นมาีวไตั ปถใุปชรป้ ะรสะงโคยอ์ ชยนา่ ์ไงไดรอ้ ยา่ งไร 2. เข1ยี .น3บทรารอยยาา่ ยงไรไม่เกิน 350 คา 1.4 ไดผ้ ลอยา่ งไร 1.5 นาไปใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งไร 2. เขยี นบรรยาย ไม่เกิน 350 คา การร่วมมือสูก่ ารพัฒนาส่งเสริมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครูพิชติ ลิอนิ ทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย

ส่งเสริมการเรียนรดู้ ้วยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 12 หน้า สารบัญ เร่ือง กติ ตกิ รรมประกาศ บทคดั ย่อ สารบัญเรื่อง สารบัญตาราง (ถ้าม)ี สารบญั ภาพ (ถ้ามี) บทที่ 1 บทนา 1.1 ทม่ี าและความสาคญั 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.3 สมมตฐิ าน 1.4 ตวั แปรทศี่ กึ ษา 1.5 นิยามเชิงปฏบิ ตั ิการ(ถา้ มี) 1.6 ขอบเขตทศ่ี กึ ษา บทท่ี 2 เอกสารและงานทเี่ ก่ียวข้อง บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน 3.1 อุปกรณ์ 3.2 วธิ ีการศกึ ษา (ทดลอง) บทท่ี 4 ผลการศึกษา บทท่ี 5 สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ อ้างองิ ภาคผนวก การรว่ มมือส่กู ารพฒั นาสง่ เสรมิ การเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครูพชิ ิต ลอิ ินทร์ โรงเรียนบ้านหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรียนรดู้ ว้ ยโครงงานวิทยาศาสตร์ 13 สารบัญตาราง ตารางเร่ือง หน้า ตารางที่ 1 แสดง............................................................ ตารางที่ 2 แสดง............................................................ ตารางท่ี 3 แสดง............................................................ ตารางที่ 4 แสดง............................................................ ตารางที่ 5 แสดง............................................................ สารบญั ภาพ หน้า ภาพ ภาพที่ 1 แสดง............................................................... ภาพท่ี 2 แสดง............................................................... ภาพที่ 3 แสดง............................................................... ภาพท่ี 4 แสดง............................................................... ภาพที่ 5 แสดง............................................................... การร่วมมือสู่การพฒั นาส่งเสริมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครพู ิชิต ลิอนิ ทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

ส่งเสรมิ การเรียนรดู้ ว้ ยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 14 บทท่ี 1 บทนา 1. ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................................ 1.2 วตั ถุประสงค์ 1 ...................................................................................................................................... 2 ...................................................................................................................................... 3 ...................................................................................................................................... 1.3 สมมตุ ิฐาน 1 ...................................................................................................................................... 2 ...................................................................................................................................... 3 ...................................................................................................................................... 1.4 ตวั แปรที่ศึกษา การทดลองท่ี 1 ศกึ ษา.................................................................................................................... ตวั แปรตน้ .............................................................................................................................. ตวั แปรตาม............................................................................................................................. ตวั แปรควบคุม....................................................................................................................... การทดลองที่ 2 ศึกษา.................................................................................................................... ตวั แปรตน้ .............................................................................................................................. ตวั แปรตาม............................................................................................................................. ตวั แปรควบคุม....................................................................................................................... การร่วมมือสกู่ ารพัฒนาส่งเสรมิ การเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครูพิชิต ลิอนิ ทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรยี นรูด้ ว้ ยโครงงานวิทยาศาสตร์ 15 การทดลองที่ 3 ศกึ ษา.................................................................................................................... ตวั แปรตน้ .............................................................................................................................. ตวั แปรตาม............................................................................................................................. ตวั แปรควบคุม....................................................................................................................... 1.5 นิยามเชิงปฏบิ ัตกิ าร (ถ้าม)ี ………………………………………………………………………………........................................................... …………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………........................................................... …………………………………………………………………………………………………………………….. 1.6 ขอบเขตการศึกษา (ถ้าม)ี ………………………………………………………………………………........................................................... …………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………........................................................... …………………………………………………………………………………………………………………….. การรว่ มมอื สู่การพฒั นาส่งเสริมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครูพชิ ติ ลิอินทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรียนรดู้ ้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ 16 บทที่ 2 เอกสารและงานที่เก่ียวข้อง 1. …………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. …………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. …………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. การร่วมมอื สกู่ ารพฒั นาส่งเสริมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครพู ิชติ ลิอินทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ด้วยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 17 บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน 3.1 วสั ดุ-อุปกรณ์ ................................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. 3.2 วิธีการทดลอง/ศึกษา การทดลองท่ี 1 ศกึ ษา.................................................................................................................... ตวั แปรตน้ .............................................................................................................................. ตวั แปรตาม............................................................................................................................. ตวั แปรควบคุม....................................................................................................................... วธิ ีการทดลองที่ 1 1…………………………………………………………………………………….. 2……………………………………………………………………………………………........ 3…………………………………………………………………………………………............ การทดลองท่ี 2 ศึกษา.................................................................................................................... ตวั แปรตน้ .............................................................................................................................. ตวั แปรตาม............................................................................................................................. ตวั แปรควบคุม....................................................................................................................... วธิ ีการทดลองที่ 2 1…………………………………………………………………………………….. 2……………………………………………………………………………………………........ 3…………………………………………………………………………………………............ การทดลองที่ 3 ศกึ ษา.................................................................................................................... การร่วมมอื ส่กู ารพัฒนาสง่ เสรมิ การเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครูพิชติ ลอิ ินทร์ โรงเรยี นบ้านหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรียนรดู้ ้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ 18 ตวั แปรตน้ .............................................................................................................................. ตวั แปรตาม............................................................................................................................. ตวั แปรควบคุม....................................................................................................................... วธิ ีการทดลองท่ี 3 1…………………………………………………………………………………….. 2……………………………………………………………………………………………........ 3…………………………………………………………………………………………............ การร่วมมือสกู่ ารพฒั นาส่งเสรมิ การเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครพู ิชติ ลิอนิ ทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรยี นรดู้ ว้ ยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 19 บทท่ี 4 ผลการศึกษา ตารางบนั ทึกผล ตารางท่ี 1 แสดง................................................................................................................................................................... ชนิด ความยาว(ซ.ม.) น้าหนกั (ก.ก.) 1 2 3 จากตารางที่ 1 แสดง.......................................................................................................................................................... (อภิปรายผล)……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ตารางที่ 2 แสดง...................................................................................................................................................................... ความเขม้ ขน้ ความยาว(ซ.ม.) น้าหนกั (ก.ก.) 1 2 3 จากตารางที่ 2 แสดง.............................................................................................................................................................. (อภิปรายผล)……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………..…………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………. การรว่ มมือสู่การพัฒนาส่งเสรมิ การเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครพู ิชิต ลิอินทร์ โรงเรยี นบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรียนรูด้ ้วยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 20 ตารางที่ 3 แสดง............................................................................................................................................................... ระยะเวลาการหมกั ความยาว(ซ.ม.) น้าหนกั (ก.ก.) 1 2 3 จากตารางท่ี 3 แสดง............................................................................................................................................................ (อภปิ รายผล)………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… การรว่ มมอื สู่การพฒั นาส่งเสรมิ การเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครพู ชิ ติ ลิอนิ ทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย

สง่ เสรมิ การเรยี นร้ดู ว้ ยโครงงานวิทยาศาสตร์ 21 บทท่ี 5 สรุปผลการศึกษา (ทดลอง)และข้อเสนอแนะ 1. สรุปผลการศึกษา ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. 2. ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ประโยชน์ท่ไี ด้รับ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… การร่วมมือสูก่ ารพฒั นาส่งเสรมิ การเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครูพชิ ติ ลอิ นิ ทร์ โรงเรยี นบ้านหนองเพรางาย

ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ดว้ ยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 22 บรรณานุกรม กองบรรณาธิการ ฐานเกษตรกรรม. รวมเร่ืองผัก. พิมพ์ครง้ั ท่ี 4. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์มิตรสยาม, 2534. ธนพนั ธ์ุ เมธาพทิ ักษ.์ ปลกู พชื เศรษฐกจิ ผกั ส่งออก. พิมพค์ รั้งท่ี 1. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พ์, หอสมุดกลาง, 2544. ภาณทุ รรศน.์ คู่มอื การปลกู สมุนไพร. พมิ พ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สานักพมิ พ์หอสมดุ กลาง, 2548. ศรานนท์ เจรญิ สุข. พืชผกั สวนครัว. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พ์ประสานมิตร, 2535. วกิ พิ เี ดีย สารานุกรมเสรี. ละหุ่ง.[ออนไลน์].เขา้ ถงึ ไดจ้ าก:http: //th.wikipedia.org/wiki/ละห่งุ (วันที่คน้ ขอ้ มลู :27กันยายน 2556). วิกพิ ีเดยี สารานกุ รมเสรี. ยูคาลิปตสั .[ออนไลน]์ .เขา้ ถึงได้จาก:http: //th.wikipedia.org/wiki/ยคู าลิปตัส (วันท่ีคน้ ข้อมลู :27กันยายน 2556). สรรพคณุ สมุนไพร200ชนิด.ละหงุ่ [ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก: http: //www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_200.htm (วนั ทคี่ น้ ข้อมลู :28กันยายน ) สรรพคณุ สมุนไพร200ชนิด.น้อยหน่า [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก: http: //www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_200.htm (วันท่ีคน้ ข้อมูล:29กันยายน) การร่วมมือสกู่ ารพฒั นาส่งเสริมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยครูพิชิต ลิอนิ ทร์ โรงเรยี นบ้านหนองเพรางาย

สง่ เสริมการเรยี นรูด้ ้วยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 23 ภาคผนวก •รูปภาพ (ถา้ มี) • เคา้ โครงร่างโครงงานวทิ ยาศาสตร์ • อื่น ๆ การร่วมมือสู่การพัฒนาสง่ เสรมิ การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยครูพชิ ิต ลิอินทร์ โรงเรียนบา้ นหนองเพรางาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook