“ ขอ้ มลู ทาง พฤกษศาสตร์ ต้นรวงผง้ึ
ชอ่ื ไทย : รวงผ้งึ ชื่อสำมัญคือ : Yellow star ลักษณะท่วั ไป: ไม้ยืนตน้ ขนำดกลำง – ใหญ่ หำกอยูก่ ลำงแจ้งจะเป็นพุ่มกลมขนำดใหญ่ 1 3 5 2 4 6 ช่อื ท้องถ่ิน : นำ้ ผ้งึ (กรุงเทพฯ) , ชอื่ วิทยำศำสตร์ : Schoutenia ถิน่ กำ้ เนดิ : ประเทศไทย สำยน้ำผง้ึ และดอกนำ้ ผ้ึง (ภำคเหนือ) glomerata King (พบมำกทำงภำคเหนือ) subsp.peregrina (Craib) Roekm. ช่ือวงศ์ : MALVACEAE
“ ลกั ษณะทาง พฤกษศาสตร์
ลำตน้ : ลำ่ ต้นแตกกงิ่ ตำ่ ก่งิ คอ่ นข้ำงเล็กเรอื นยอดเปน็ พุ่มมน ใบ : ใบเด่ยี วเรยี งสลบั รูปแผ่นใบสองขำ้ งไมเ่ ท่ำกนั ผวิ ใบดำ้ นบนเปน็ สีเขยี ว ดำ้ นลำ่ งสนี ่ำตำลอมนวล ดอก : ดอกมีกล่ินหอมตลอดทังวัน บำนได้นำน ๗-๑๐ วัน ช่อดอกดกเกิดตำมซอกใบเป็นช่อสัน โคนกลีบ เลียงเช่ือมติดกัน ปลำยแยกออกเป็น ๕ แฉกคล้ำยรูปดำว ไม่มีกลีบดอกมีเกสรตัวผู้จ่ำนวนมำกซ่ึงส่วนท่ี มองเห็นเป็นสีเหลืองเหมือนดอกนันเป็นเกสรตัวผู้รวมกันเป็นกระจุก เม่ือบำนเต็มท่ีดอกมีเส้นผ่ำศูนย์กลำง ๑.๕ ซม. มีกลน่ิ หอม เมอื่ ดอกบำนพร้อมกันทงั ต้น จะดสู วยงำมอร่ำมตำและสง่ กลิ่นหอมชน่ื ใจ ผล : เปน็ ผลแหง้ ทรงกลม มีขน เมอ่ื แกจ่ ะไมแ่ ตก ขนำด ๐.๕-๑ เซนติเมตร
ระยะติดดอก : ชว่ งเดอื นกรกฎำคม-สิงหำคม สภำพนิเวศวิทยำ: เปน็ ไมก้ ลำงแจ้ง ชอบขึนในท่แี ลง้ ไม่มีน่ำทว่ มขังจึงจะมีดอกสีเหลืองดกเต็มต้น แต่หำก ได้น่ำมำกหรอื ขนึ บนท่ชี ่มุ น่ำจะมดี อกประปรำย กำรปลูกและกำรขยำยพันธุ์ : กำรตอนกิ่ง และปักช่ำกิ่ง หรืออำจใช้กำรเพำะเมล็ดก็ได้ กำรตอนก่ิง เป็นวิธีกำรทเ่ี หมำะสมแต่ต้องใช้ฮอร์โมนในกำรเร่งรำกจึงจะไดผ้ ลดใี นกำรขยำยพันธ์ุ ประโยชน์ : น่ำมำปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสวยงำมออกเต็มต้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ร่มเงำ ปลูกเลียงง่ำย ทนแลง้ เป็นไมม้ งคลเหมำะสำ่ หรับคนธำตไุ ฟ
“ ข้อดีของพนั ธไ์ุ ม้
❖ ออกดอกคร้งั ละมำกๆ (เตม็ ต้น) เมื่อดนิ แห้งตำมธรรมชำติ ❖ ดอกไม้มีกลิน่ หอมอ่อนๆ ❖ เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีช่วงกำรปลูกกว้ำง สำมำรถขึ้นได้ดีท้ังท่ีแห้งแล้ง และทค่ี อ่ นข้ำงชื้น ❖ เป็นพันธ์ุไมท้ ท่ี นทำนตอ่ สภำพแวดลอ้ ม ไม่ต้องกำรกำรดแู ลมำก ใบไม่คอ่ ยรว่ ง ❖ เป็นพันธ์ุไม้ที่มีระบบรำกดีมำก ไม่มีกำรหักโค่นของต้นขนำดใหญ่ ถงึ แมว้ ่ำจะเปน็ กงิ่ ทไ่ี ด้จำกกำรตอน
“ ข้อแนะนา
❖ เน่ืองจำกมีกำรออกดอกคร้ังละมำกๆ และมีผึ้งตอมเป็นจำนวนมำก ผึง้ อำจเป็นอันตรำยต่อผ้ปู ลูก ❖ เป็นพันธ์ุไม้หอมทอ่ี อกดอกในระยะส้ันเพยี ง 7 – 10 วนั /ครง้ั /ปี เทำ่ นน้ั ❖ ในพ้ืนท่ีท่ีมนี ้ำมำก รวงผึ้งจะไม่ออกดอกพรอ้ มกันท้งั ต้น ❖ กำรเลื อ ก ต้น รวง ผ้ึ ง ท่ี ถูก ต้อ ง ค วรเป็ น กิ่ง ก ระโด ง ที่ ตรง จะท ำให้ กำรเจริญเติบโตดี ทรงต้นสวยงำมกวำ่ กิง่ ที่ตอนมำจำกส่วนอืน่ ๆ ของตน้ ❖ ผู้ทสี่ นใจจะอนรุ กั ษ์ ควรปลกู ไว้สกั 1 คน ในอนำคตอำจทำเงนิ ตอบแทนผูป้ ลูกได้
“ เหตผุ ลทต่ี น้ รวงผง้ึ ถึงเป็น พรรณไม้ ประจารชั กาลท่ี ๑๐
ต้นรวงผงึ มีดอกสเี หลือง :: สีเหลืองเปน็ สที ตี่ รงกบั วันพระรำชสมภพ (วนั จนั ทร์ 28 กรกฎำคม พุทธศกั รำช 2495 ) วันผลิดอกอยู่ในช่วงเดือนพระรำชสมภพ คือ ดอกรวงผึง ผลิดอก ออกสีเหลอื งบำนสะพรั่ง ในชว่ งเดอื น กรกฎำคม – สิงหำคม ต้นรวงผึงเป็นต้นไม้ทรงปลูกพระรำชทำน หำกครำใดท่ีพระองค์ท่ำน เสด็จฯ กอปรพระรำชกรณียกิจ ตำมสถำนที่ต่ำงๆ จะทรงปลูกต้น รวงผึง พระรำชทำนไว้เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์ท่ำน เพื่อเป็น สริ ิมงคลแก่รำษฎรเสมอ
https://lifestyle.campus- https://home.kapook.com star.com/knowledge/4378 /view162236.html 6.html https://panyayan.tnews.co.th/ https://www.sanook.com/ religion/216377 home/11809/
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: