Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปหน่วยการเรียนรู้ที่3

สรุปหน่วยการเรียนรู้ที่3

Description: สรุปหน่วยการเรียนรู้ที่3

Search

Read the Text Version

โตรเ ยม บท 4 START ทีลิป่ี

4.1การเ ดและแห ง โตรเ ยม โตรเ ยม ราก พ จากภาษาละ น อ Petra (เพทรา) แปล า น บ Oleum (โอ ม) แปล า น โตรเ ยม ง ความหมาย า น ไ จาก น โดย โตรเ ยมแ งออกเ น น บ และ แ สธรรมชา การ รวจ โตรเ ยมเ อ นมา ใ ประโยช นตอน ญ ง อ ทาง ธร ทยา ทางธร ก และ นเจาะ รวจ ีลิป่ลิกำส้ัข์สิสิฟีณีธิวิวีณีธิวืค้ีนัดัคำส่ีท้ัขีม์น้ช้ึขำน่ืพีลิปำสิต๊กิดัมำ้น็ป่บีลิปิห้ด่ีทัมำ้น่วีมึจีลิปัมำ้น่วุอิลักิห่วืคิต์ทัศีมีลิป

โตรเ ยมเ นสารผสมของสารประกอบไฮโดรคา บอน บสาร นท เ ด นตาม ธรรมชา ไ แ น บ แ สธรรมชา แ สธรรมชา เหลว โตรเ ยมเ ดจากการ บถม และสลาย วของ นท ยสารจาก ชและ ต งค กเค า บตะกอน และโคลนตมเ นเวลา บ าน ตะกอนเห า ก ด บแ น วยความ น และความ อน งในบ เวณ ป มาณ ออก เจน ด เ ดการสลาย วเ น น บ และแ สธรรมชา แทรกอ ใน พ นของ น น และเค อน วจาก น เ ดไป งแห ง กเ บ โตรเ ยม ีลิป็กัก่ลัยินำกิหัต่ืลิห้ัชุรูรู่ยิต๊กิดัมำ้น็ปัติกักำจิซิรีม่ีทิรูส้รัด้ด่นัทัอูถ้ีน่ลีป้ลัน็ปัก้ลุล่ึซ์วัสืพีริอัตัทิกีลิปิต๊กิต๊กิดัมำ้น่ก้ดิต้ึขิก่ีท์ยีริอัก์ร็ปีลิป

การ รวจแห ง โตรเ ยม ไ โดย 1. ทางธร ทยา แผน 2. ทางธร ก วยในการ 3. นเจาะ รวจ การเจาะ รวจจะ ภาพ ายดาวเ ยม ภาพ ายทาง ด าความเ มของสนามแ บอกความยาก ายของการ ดเจาะ อากาศ รายงานทางธร ทยา ป มาณ น บ และแ ส เ อเ น อ ลในการ รวจ เห กโลก งบอกใ ทราบ ง ธรรมชา อ ลจากการเจาะ ธร ทยา น ว โดยการเ บ ขอบเขต ความก างให ของ และ เคราะ น เ อคาดคะเน แ ง และความ กของ น น วย รวจจะ มาใ ในการ ด น โอกาส จะพบโครงส าง และ ในการตรวจ ด าความโ ม วง ใจ งความเ นไปไ ในเ ง ช ดของ น เ อ นวย อการ ของโลก ห บ หนดขอบเขต เศรษฐ จ โดย าห ม เจาะ รวจ และ ป างของแ งใ ว น กเ บ โตรเ ยม ความ นภายใน ง โตรเ ยมจะ ก นใ ไหลออกมาเอง ้หัดูถีลิปูสัดีมำส่ีทุล้ถิกิช้ด็ปึถิสัต้ชำนำสูม้ขิต๊กิดัมำ้นิรุข่งำสำส้ัขิดิผ้ต่อ่รูรำกัรำส่ถ้น่คัว่ชิห้ัชึล่อ่ญ้วึถ้ห่ึซ็ล่ม้ข่คัว่ช์สิสิฟีณีธิวีลิป็กัก่ตำอ้ือ่ีทิหิน้ร่ีท่ืพิห์หิว็กิผ้ืพิวีณำสูม้ข็ป่ืพิวีณ่ถีท่ถ่ีทำทิวีณีธิว้ดำทีลิป่ลำส

4.2การก น น บ และผ ต ณ จาก น บ น บ อ โตรเ ยม สถานะเ น 1.การก น น บ         การก น น บ เ น การก น บ วน อา ยห กการ า ของเหลวในธรรมชา วนมาก ห อ สารประกอบไฮโดรคา บอนช ด าง ๆ ผสมปนอ ใน น บ จะ ตาล กษณะเ นสารประกอบ ดเ อด แตก าง นไปตาม นวนคา บอนภายในโมเล ล (สาร นวนคา บอนมากจะ ง ดเ อด ง) ง นเ อ ง น บเ าไป ไฮโดรคา บอนช ด าง ๆ ปะปน นอ และ หอก น ณห ง 400 องศาเซลเ ยส น บจะเ อดแ วระเหย ในบางค งอาจ สาร น ๆ ประกอบอ วย กลายเ นไอลอย นไป วนบนของหอก น ง ณห ก า ดเ อด เ น มะ น (S), ไนโตรเจน (N), ออก เจน ของสาร สาร น จะควบแ นก บมาเ นของเหลวเห อนเ มไ วยเห (O) เ น น วยเห น บ ด นมาจะ งสามารถแยกสาร าง ๆ ผสม นอ ใน น บออกจาก นไ งไ สามารถ ไปใ ประโยช ไ น อง โดยสาร ดเ อด ง ( นวนคา บอนมาก) จะ การควบแ นออกมา การ มาแยกสารประกอบไฮโดรคา บอน าง อน วนสาร ดเ อด ( นวนคา บอน อย) จะ การควบแ น ๆ ออกเ นก ม ๆ อน งจะสามารถ ไปใ ออกมา ห งตาม บ ประโยช ตามช ดของสารไ โดยการ การ แยกสาร ปนอ ใน น บออกจาก น เ ยก า การก น น บ ัดำลัลีท่นีม้น์รำจ่ตืดุจีม่ีท่ส่ก่นีม์รำจูสืดุจีม่ีท้ดักิดัมำ้นู่ยัก่ีท่ตึจ้ีนุต้ด้ดิดืม็ปัล่น็ก้ันืดุจ่วำ่ติมูภุอีม่ึซ่ัล่ส้ึข็ป้ลืดิดัมำ้นีซูสิมูภุอีม่ีท่ัลู่ส้ขิดัมำ้น่ส่ืม้ันัดูสืดุจีม่ิย์รำจีม่ีทุก์รำจัก่ต่ีทืดุจีมิดัมำ้นู่ย่ีท่ติน์ร่วัลัศ่ีท่สัดำล่ัลีธิว็ปิดัมำ้น่ัล ิดัมำ้น่ัลิดัมำ้น่ัล่วีร้ีนักิดัมำ้นู่ย่ีทีธิว้ดิน์น้ชำนึจ่กุ่ล็ป่ต์รำนีม้ตีทัท้ด์น้ชำน่มัย้ึขุข่ีทิดัมำ้น้ีนุต้ด้ต็ปิซัถำก่ช้ดู่ย่ือีม้ัรู่ยัก่ติน์ร็ปัลีมำ้นืรำดีสีม่สิต็ปีม่ีทีลิปืคิดัมำ้นิดัมำ้น์ฑัภิลิดัมำ้น่ัล

ผ ต ณ ไ จากการก น น บ         1. าซ โตรเ ยมเหลว (Lique ed Petroleum Gas ; LPG) าซ โตรเ ยมเหลว ห อ าซ ง ม ห อแอล เ นผ ต ณ ไ จาก วนบน ดของหอก นในกระบวนการก น น ห อ ผ ต ณ ไ จากการแยก าซธรรมชา าซ โตรเ ยมเหลว ดเ อด มาก จะ สภาพเ น าซใน ณห และความ นบรรยากาศ ง น ในการเ บ กษา าซ โตรเ ยมเหลวจะ องเ มความ นห อลด ณห เ อใ าซ โตรเ ยมเหลวเป ยนสภาพจาก าซเ น ของเหลว เ อความสะดวกและประห ดในการเ บ กษา าซ โตรเ ยมเหลวใ เ นเ อเพ งไ และเวลา กไห ใ ความ อน ง และ เปลวสะอาด งโดยปก จะไ และก น แ ผ ตไ ใ ก นเ อ ใ งเกตไ ายในกร เ ด าซ ว นอาจ อใ เ ด นตรายไ การ ใ ประโยช อ การใ เ นเ อเพ ง ห บ ง ม เ นเ อเพ ง ห บเค องยน และรถยน รวม งเตาเผาและเตาอบ าง ๆ  ิดัมำ้น่ัล้ด่ีท์ฑัภิล่ต้ัท์ต์ต่ืรัรำสิล้ืช็ป้ตุหัรำสิล้ืช็ป้ชืค็ก์น้ช้ดัอิก้ห่กัอ่ัร๊กีมิก่ีทีณ่ง้ดัส้ห่ืพ่ิล่ส้ดิลู้ผ่ต่ิลีสีม่มิต่ึซีมูส้ร้ห้มุลีด้ดิล้ืช็ป้ชีลิป๊กัร็กัย่ืพ็ป๊ก่ีลีลิป๊ก้ห่ืพิมูภุอืรัด่ิพ้ตีลิป๊กัร็ก้ันัดัดิมูภุอ๊ก็ปีมำ่ตืดุจีมีลิป๊กิต๊ก้ด่ีท์ฑัภิลืรัมำ้น่ัล่ัลุส่ส้ด่ีท์ฑัภิล็ปีจีพืร้ตุห๊กืรีลิป๊กifีลิป๊ก

2. นเบน น (Gasolin) น 3. นเ อเพ งเค อง นใบ ด 4. นเ อเพ งเค อง น เ อเพ ง ห บเค องยน เบน น (Aviation Gasoline) ใ ห บ ไอ น (Jet Fuel) ใ เ นเ อ ห อเ ยก า นเบน น ไ จาก เค อง นใบ ด ณสม ค าย เพ งไอ นของสายการ น การป บแ ง ณภาพของ พา ช เ น วนให วง ผ ต ณ ไ จากการก น น บ นเบน นในรถยน แ ป ง โดยตรง และจากการแยก าซ แ ง ณภาพใ าออกเทน ง น ดเ อดเ นเ ยว บ น าด ธรรมชา เหลว นเบน นจะ ใ เหมาะสม บเค องยน ของเค อง แ องสะอาดบ ท ผสมสารเค เ ม ณภาพ เ อใ เหมาะ บการใ งาน น ง องใ ง บ นมาก ณสม บางอ าง ก า น าด ๊กัมำ้น่วีด่ขิตับุคีม์ิธุสิร้ต่ต๊กัมำ้นักีด่ชืดุจ่ชีม่ญ่ส็ป์ยิณิบ่พิล้ืช็ป้ช่พิบ่ืริล้ืชัมำ้นัดัขัลำก้ช้ต่ึซิบ่ืร์ต่ืรัก้ห้ึขูส่คีม้หุค่ตุร่ต์ติซัมำ้นัก้ลิตับุคีมัพิบ่ืรัรำส้ชัพิบ่ืริล้ืชัมำ้น้ชัก้ห่ืพุค่ิพีมิซัมำ้นิต๊กัมำ้น่ัล้ด่ีท์ฑัภิลุค่ตัร้ดิซัมำ้น่วีรืริซ์ต่ืรัรำสิล้ืชัมำ้นิซัมำ้น

6. น เซล (Diesel Fuel) 5. น าด (Kerosene) เค องยน เซล เ นเค องยน น ประเทศไทย กใ น ฐานการ งานแตก างจากเค องยน 7. นเตา (Fuel Oil) นเตา าด งแ ส ย ชกาล 5 เ นเ อเพ ง ห บเตา มห อ เบน น อ การ ดระเ ดของ และเตาเผาห อเตาหลอม ใ ใน แ เ มใ เ อ ดตะเ ยง โรงงาน ตสาหกรรม เค อง เ ด เค องยน เซลใ ความ อน งเ ด น ไฟ าขนาดให เค องยน เ อเ น แ จ น ใ ประโยช ส ทรและ น ๆ  จากการ ดอากาศอ าง งใน ก บ หลายประการ เ น เ น วน ใ เ นการ ดระเ ดของ วเ ยนเ น ผสม ห บยา าแมลง ทา น กเงา ฯลฯ  ในเค องยน ใ นเบน น จ นเราใ ประโยช ไ หลากหลาย กเ นเค อง อและ ปกร ความ ญทางเศรษฐ จ เ น รถบรร ก รถ โดยสาร รถแทรกเตอ เ น น ่ือุมิดืร์ต่ืร่ญ้ฟินำก่ืรุอ้ช่ีทืรำ้น้ม้ตัรำสิล้ืช็ปัมำ้นัมำ้น้ต็ป์รุท่ชิกัคำสีม่ีท์ณุอืม่ืร็ปัม้ด์น้ชับุจัปิซัมำ้น้ช่ีท์ต่ืร่ชีทัหิบุจ็ป่ชิมูสูลูส่ยัอ้ึขิก่ึซ้ร้ชีด์ต่ืริบุจืคิซ์ต่ืร่ตำท้ืพีม่ีท์ต่ืร็ปีด์ต่ืรีดัมำ้นัชัมำ้นีส่ฆัรำส่ส็ป่ช์น้ชับุจัป่ตีกุจ่ืพ้ชิด่ต่ีทัรัม่ต้ัต๊กัมำ้น้ชัจู้ร๊กัมำ้น

4.3การแยกแ สธรรมชา และผ ต ณ แ สธรรมชา เ นแห งพ งงาน ญ กช ดห ง ประเทศไทย รวจพบแห งแ สธรรมชา ในบ เวณ าวไทย โดยพบ า ป มาณมากพอในเ งพา ช นอกจาก น งพบแห งแ สบน แ น น เภอ พอง งห ดขอนแ น โดย อง านกระบวนการแยกแ สธรรมชา อน ไป ใ ประโยช แ สธรรมชา วนให ประกอบ วย แ สไฮโดรคา บอน นอกจาก นเ น ไอปรอท แ ส คา บอนไดออกไซ แ สไฮโดรเจน ลไฟ ไนโตรเจน และไอ การ แ สธรรมชา มาใ ประโยช อง ดเจาะ และ นมาจากใ น น ง งสาร เ น ของเหลวและแ สผสม น โดย กระบวนการแยก ง ้ีนัดีมัก๊ก็ป่ีท้ัทีม่ึซิด้ืพ้ต้ึขำนุข้ต์น้ชิต๊กำน้น์ดัซ๊ก์ด์ร๊ก็ป้ัน์ร๊ก้ด่ญ่สิต๊ก์น้ชำน่กิต๊ก่ผ้ต่กัวัจำ้นำอ่ีทิด่ผ๊ก่ลัย้ัน์ยิณิชิรีม่ว่อิริต๊ก่ลำส่ึนินีอัคำส่ีทัล่ล็ปิต๊ก์ฑัภิลิต๊ก

นตอนการแยกสารประกอบ ไ ใ สารประกอบไฮโดรคา บอน ง 1. ดปรอท เ อ อง นการ 3. ดความ น เ อ อง นการ ด นจาก แ ง โดยการกรอง าน ก อนของ อจากการรวม ว บ สาร พ นและสามารถ ด บ ออกจากแ สไ เ น กาเจล ปรอท นตอนการแยกแ สไฮโดรคา บอน ไ โดยลด ณห ของแ สใ เ นของเหลว แ ว ง อไป งหอก น เ อก นแยก โตรเ ยมเหลว (C3- C4) และแ สโซ นธรรมชา ห อแ สธรรมชา เหลว (C5 นไป) 2. ดแ สไฮโดรเจน ลไฟ (H2S) เ องจาก ษและ ดก อน ดแ สคา บอนไดออกไซ (CO2) เพราะ ใ เ ดการ ด นของ อ โดยใ โพแทสเ ยมคา บอเนต (K2CO3) ผสม วเ งป ยา วนคา บอนไดออกไซ แยกออกมาไ สามารถ ไป แ งแ ง ยา บเพ ง และฝนเ ยม ้ึขิต๊กืริตีล๊กีลิป่ัล่ืพ่ัลัย่ต่ส้ล็ป้ห๊กิมูภุอ้ดำท์ร๊ก้ัขิลิซ่ช้ด๊กำ้นัซูดุรูรีม่ีท่ผ็ขำ้นัตุอัก้ป่ืพ้ืชัจำกีทิลัดำ้น้ห็ขำ้นำทำน้ด่ีท์ด์ร่สิริกิฏ่รัต์รีซ้ช่ทัตุอิก้หำท์ด์ร๊กัจำก่รักิพีม่ืน์ดัซ๊กัจำกักัต่ท่รุผัก้ป่ืพัจำก้ีนัดีม์ร่ช่ม่ีท้ัข













อ 1. ธา เ นอง ประกอบของ นและแ สธรรมชา ออะไร วเ อก 1: คา บอนและไฮโดรเจน วเ อก 2 : คา บอน และออก เจน วเ อก 3 : ไฮโดรเจนและออก เจน วเ อก 4 : คา บอน ไฮโดรเจน และออก เจน อ 2. วเ อก การใด อไป ใ ตรวจสอบหาแห ง โตรเ ยมไ วเ อก 1 : การ ด าความเ มสนามแ เห กโลก วเ อก 2 : การตรวจ ด าความโ ม วงของโลก วเ อก 3 : การ รวจ วยการ ดค นไหวสะเ อน 4: ก ก อ อ 3. วเ อก อใดเ นการ รวจแห ง โตรเ ยมโดยอา ย ทางธร ทยา วเ อก 1: การ แผน ภาพ ายทางอากาศ วเ อก วเ อก 2 : การ ด าความเ มสนามแ เห กโลก 3 : การตรวจ ด าความโ ม วงของโลก 4 : การ รวจ วยการ ดค นไหวสะเ อน ืท่ืลัว้ดำสีทืลัต่ถ้น่คัวีทืลัต็ล่ม้ข่คัวีทืลัต่ถ่ีทำทีทืลัติวีณีธิวัศีลิป่ลำส็ป้ข่ีท้ข้ขุทูถีทืลัตืท่ืลัว้ดำสีทืลัต่ถ้น่คัวีทืลัต็ล่ม้ข่คัวีทืลัต้ดีลิป่ล้ช้ีน่ตีธิว่ีท้ขิซ์รีทืลัติซีทืลัติซ์รีทืลัต์รีทืลัตืคิต๊กัมำ้น์ค็ป่ีทุต่ีท้ข

อ 4. ไฮโดรคา บอนช ดใด อไป มวลโมเล ล ง ด วเ อก 1: นเตา วเ อก 2 : น เซล วเ อก วเ อก 3 : นเบน น 4 : ยางมะตอย อ 5. วเ อก การเผาไห ของ นเบน นใน อใด ใ เค องยน เ ดการ ดระเ ดไ าย ด วเ อก 1: นเบน น เลขออกเทน 90 วเ อก 2 : นเบน น เลขออกเทน 91 วเ อก 3 : นเบน น เลขออกเทน 95 4 : นเบน น เลขออกเทน 100 อ 6. วเ อก สารเค ช ดใด ใ ห บป บป ง ณภาพของ นเบน นไ วเ อก 1: เอทานอล วเ อก 2 : เมทานอล วเ อก 3 : เตตระเม ลเลด 4: ก ก อ ้ขุทูถีทืลัติทีทืลัตีทืลัตีทืลัต้ดิซัมำ้นุคุรัรัรำส้ช่ีทินีม่ีท้ขีม่ีทิซัมำ้นีทืลัตีม่ีทิซัมำ้นีทืลัตีม่ีทิซัมำ้นีทืลัตีม่ีทิชัมำ้นีทืลัตุส่ีท่ง้ดิบุจิก์ต่ืร้หำท่ีท้ขิชัมำ้น้ม่ีท้ขีทืลัติชัมำ้นีทืลัตีดัมำ้นีทืลัตัมำ้นีทืลัตุส่ีทูสุกีม้ีน่ติน์ร่ีท้ข

อ 7. การป บป ง ณภาพของ นเบน น วย การใน อใด งจะ ใไ น ไ สารตะ ว วเ อก 1: เตตระเอ ลเลด วเ อก 2 : เตตระเม ลเลด วเ อก วเ อก 3 : เม ลเทอ เ ย ว ล เทอ อ 8. 4 : อ ก และ ข วเ อก วเ อก อ ของการใ แ ส โตรเ ยมเหลว ออะไร วเ อก 1: ไ มล ษในอากาศ วเ อก อ 9. 2 : าเลขออกเทน งก า นเบน น วเ อก 3 : วยใ เค องยน เผาไห ไ อ างม วเ อก วเ อก 4: ก ก อ วเ อก อ 10. อใดเ นผล ไ จากการแยกแ สธรรมชา วเ อก 1: เมน วเ อก วเ อก 2 : แ ส เทน วเ อก 3 : นเตา 4 : นเบน น สาร ไ จากการเผาไห อ างสม ร ของแ สธรรมชา อสารใด 1: และแ สคา บอนไดออกไซ 2 : และแ สคา บอนมอนอกไซ 3: แ สออก เจนและแ สคา บอนไดออกไซ 4 : แ สออก เจนและแ สคา บอนไดออกไซ ์ด์ร๊กิซ๊ก่ีทืลัต์ด์ร๊กิซ๊ก้น่ีทืลัต์ด์ร๊กำ้น่ีทืลัต์ด์ร๊กำ้น่ีทืลัตืคิต๊ก์ณูบ่ย้ม้ด่ีท่ีท้ขิชัมำ้นีทืลัตัมำ้นีทืลัตีอ๊กีทืลัตูทิบีทืลัติต๊ก้ด่ีท็ป้ข่ีท้ข้ขุทูถีทืลัต่ย้ด้ม์ต่ืร้ห่ชีทืลัติชัมำ้น่วูส่คีมีทืลัติพีม่มีทืลัตืคีลิป็ก้ชีด้ข่ีท้ข้ขีทืลัต์รีอิทิบีรีช์ริทีทืลัติทีทืลัติทีทืลัต่ัก้ร่ีทัมำ้น้ด้หำทึจ้ขีธิว้ดิซัมำ้นุคุรัร่ีท้ข

อ 1 ตอบ 1 เฉลย อ 2 ตอบ 4 อ 3 ตอบ 1 อ 6 ตอบ 4 อ 4 ตอบ 4 อ 7 ตอบ 3 อ 5 ตอบ 4 อ 8 ตอบ 4 อ 9 ตอบ 2 อ 10 ตอบ 1 ่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข่ีท้ข




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook