เอกสารค�ำแนะนำ� ที่ 2/2560 การใชเ้ ช้อื จุลินทรีย์ (ชีวภณั ฑ์) ในการควบคมุ ศัตรพู ืช พิมพ์ครัง้ ที่ 1 : จำ� นวน 5,000 เลม่ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2560 จัดพิมพ ์ : กรมสง่ เสรมิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิมพ์ที ่ : บริษัท นวิ ธรรมดาการพมิ พ์ (ประเทศไทย) จำ� กดั
คำ� นำ� ศตั รพู ชื เปน็ ปญั หาทม่ี คี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ การเกษตร ท�ำให้ผลผลิตเสียหาย เพิ่มต้นทุนการผลิตด้านการป้องกันก�ำจัด หากมกี ารใช้สารเคมกี ำ� จัด ก็จะสง่ ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพของเกษตรกร ผู้ใช้ รวมท้ังมีพิษตกค้างในผลผลิตส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและ สง่ิ แวดลอ้ ม เมอื่ แมลงศตั รพู ชื มคี วามตา้ นทานตอ่ สารเคมี ทำ� ใหต้ อ้ ง ใช้สารเคมีในปรมิ าณท่สี งู ข้ึน ใช้บ่อยขึ้น หรือใช้สารท่ีมพี ิษมากขน้ึ ทผ่ี ่านมามีหลายหน่วยงาน ส่งเสรมิ ให้ควบคมุ ศัตรพู ชื โดยชีววธิ ี เชน่ การใช้ตัวห�้ำ ตัวเบียน ใช้สารสกัดจากพืช ใช้ชีวภัณฑ์ ตลอดจน รณรงค์ให้เกษตรกรมีการจัดการแปลงที่ดี โดยเฉพาะส่งเสริมให้ เกษตรกรผลิตและใช้เช้ือจุลินทรีย์ควบคุมศัตรูพืช จนได้รับความ นิยมจากเกษตรกรและบุคคลท่ัวไป ท�ำให้มีการผลิตและการใช้ จุลนิ ทรยี อ์ ยา่ งกวา้ งขวาง แต่ถ้ามกี ารผลิตและการใชเ้ ช้ือจุลินทรีย์ โดยขาดความรแู้ ละความเขา้ ใจ มกั ทำ� ใหเ้ กดิ การปนเปอ้ื น และเมอ่ื ใชจ้ ลุ นิ ทรยี ไ์ มบ่ รสิ ทุ ธิ์ นอกจากทำ� ใหใ้ ชค้ วบคมุ ศตั รพู ชื ไมไ่ ดผ้ ลแลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ กิดความเสียหายและอาจเป็นอันตรายได้ กรมสง่ เสรมิ การเกษตร จงึ ไดจ้ ดั ทำ� เอกสารคำ� แนะนำ� ความรู้ ทางการเกษตร เรื่อง “การใช้เช้ือจุลินทรีย์ (ชีวภัณฑ์) ในการ ควบคุมศัตรูพืช” เล่มนี้ขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อเจ้าหน้าท่ี สง่ เสรมิ การเกษตรในการถา่ ยทอดความรู้ เพอื่ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ ในการผลติ และใชส้ ารชวี ภณั ฑอ์ ยา่ งถกู ตอ้ ง ซงึ่ จะเกดิ ประโยชนโ์ ดยตรง ต่อเกษตรกรและการควบคมุ ศตั รพู ืชโดยชีววิธีในอนาคตต่อไป กรมสง่ เสรมิ การเกษตร 2560
สารบัญ หนา้ บทน�ำ 1 เชื้อจลุ ินทรีย์ (Micro-organism) 2 การควบคมุ ศัตรูพืชโดยชีววธิ ี (Biological Control) 3 การควบคุมศตั รพู ชื โดยวิธผี สมผสาน (Integrated Pest Management) 3 ชนดิ ของศัตรธู รรมชาตทิ มี่ กี ารใชเ้ พ่ือควบคมุ ศัตรูพชื 4 เชอื้ จุลินทรีย์(ชีวภัณฑ์)ทน่ี ยิ มน�ำมาใชใ้ นการควบคุมศัตรพู ชื 5 ควรใชก้ ารควบคมุ ศัตรพู ชื โดยชวี วิธี เมอ่ื ใด 7 ข้อดขี องการใช้ศตั รูธรรมชาติและชีวภณั ฑค์ วบคมุ ศัตรูพชื 7 ข้อควรปฏิบตั ใิ นการใชศ้ ัตรูธรรมชาตแิ ละชวี ภัณฑ์ควบคมุ ศัตรูพชื 8 การใช้เชอ้ื จลุ นิ ทรยี (์ ชวี ภณั ฑ์)ในการควบคุมศตั รพู ชื 9 เชอ้ื ราทำ� ลายแมลงศตั รพู ชื 10 • เชอ้ื ราบิวเวอเรยี บาสเซียนา (Beauveria bassiana) 13 • เชื้อราเมตตาไรเซียม แอนนิโซพลิอี (Metarhizium anisopliae) 17 เช้ือราทำ� ลายเชอื้ โรคพชื 21 • เชื้อราไตรโคเดอร์มา ฮาเซยี นมั่ (Trichoderma harzianum) 23 เชื้อแบคทีเรียทำ� ลายแมลงศตั รพู ชื และเชอื้ โรคพชื 24 • เช้อื แบคทเี รยี บาซลิ ลัส ทรู งิ ไจเอ็นซิส (Bacillus thuringiensis) หรอื Bt • เชื้อแบคทเี รยี บาซิลลสั ซบั ทิลสิ (Bacillus subtilis) หรือ Bs เชือ้ ไวรสั ทำ� ลายแมลงศัตรูพชื • เชือ้ ไวรสั เอน็ พวี ี หรอื NPV (Nuclear Polyhedrosis Virus) บรรณานกุ รม 28
บทนำ� เชอื้ จุลนิ ทรีย์ (Micro-organism) การควบคุมศตั รพู ืชโดยชีววธิ ี (Biological Control) การควบคุมศตั รพู ชื โดยวธิ ผี สมผสาน (Integrated Pest Management) ชนิดของศตั รธู รรมชาติทม่ี ีการใชเ้ พอ่ื ควบคมุ ศตั รูพืช เชอ้ื จุลนิ ทรยี (์ ชวี ภัณฑ)์ ทนี่ ิยมนำ�มาใชใ้ นการควบคุมศัตรพู ืช ควรใช้การควบคุมศัตรพู ืชโดยชีววิธี เมอื่ ใด ข้อดขี องการใช้ศัตรูธรรมชาตแิ ละชวี ภณั ฑค์ วบคุมศัตรูพืช ขอ้ ควรปฏบิ ัติในการใชศ้ ตั รธู รรมชาติและชวี ภณั ฑ์ควบคมุ ศัตรูพชื การใชเ้ ชือ้ จุลนิ ทรยี ์ (ชีวภณั ฑ์) ในการควบคุมศัตรพู ชื 1
บทนำ� จากกระแสความตอ้ งการ สินค้าที่มีคุณภาพของผู้บริโภคท่ี ค�ำนึงถึงสขุ ภาพอนามัย อนั นำ� มาซง่ึ การก�ำหนดเงื่อนไขและข้อจ�ำกัดของ ตลาดสินค้าเกษตร ท้ังตลาดภายใน ประเทศ และตลาดสง่ ออก ทไ่ี มต่ อ้ งการสนิ คา้ ท่ีมีศัตรูพืชและสารพิษตกค้างเกินมาตรฐาน ท่ีกำ� หนด ท�ำใหแ้ นวโน้มในการผลติ สนิ ค้าเกษตร มีความพยายามในการลดการใช้สารเคมีลง โดยใช้ วิธีควบคุมศัตรูพืชท่ีมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อผลผลิต และสิ่งแวดล้อม การควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธีจึงเป็นวิธีหนึ่งที่เข้ามา มีบทบาทและได้รับความนิยมมากข้ึน โดยมีการรณรงค์ส่งเสริมให้ใช้ศัตรูธรรมชาติ ในการควบคุมศัตรูพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เชื้อจุลินทรีย์ซึ่งมีการผลิต และ ใช้กนั อย่างแพร่หลายในระบบการผลติ ทางการเกษตรในปัจจุบนั เช้อื จุลินทรีย์ (Micro-organism) เปน็ สง่ิ มชี วี ติ ขนาดเลก็ มากมองดว้ ยตาเปลา่ ไมเ่ หน็ มอี ยทู่ วั่ ไปในสง่ิ แวดลอ้ ม ในดิน น�้ำ อากาศ บนสิ่งมชี วี ติ และสง่ิ ไมม่ ีชวี ติ มที ง้ั ชนดิ ที่เปน็ โทษเชน่ ท�ำใหเ้ กดิ โรค กับส่ิงมีชีวิต คน สัตว์ พืช เกิดการปนเปื้อนในอาหาร ในส่ิงแวดล้อม และชนิด ท่ีมีประโยชน์เช่นท�ำให้เกิดกระบวนการหมัก การย่อยสลาย และปัจจุบันมีการน�ำ เชอื้ จุลนิ ทรีย์มาใชป้ ระโยชน์ในการเกษตรไดห้ ลายอยา่ ง เช่น น�ำมาใช้ในการควบคุม และก�ำจัดศัตรูพืช โดยเฉพาะแมลงศัตรูพืชและโรคพืช โดยท�ำให้แมลงป่วย เป็นโรคตาย หรือท�ำให้เชื้อโรคตายก่อนอายุขัย การควบคุมศัตรูพืชโดยใช้ เชอ้ื จลุ นิ ทรีย์ (Microbial control) จึงเป็นสว่ นหนึง่ ในการควบคุมศตั รพู ืชโดยชวี วิธี 2 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
การควบคุมศตั รพู ืชโดยชีววธิ ี (Biological Control) การควบคมุ ศตั รพู ชื โดยชวี วธิ ี หมายถงึ การจดั การศตั รพู ชื ใหอ้ ยใู่ นปรมิ าณ ที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย โดยใช้ส่ิงมีชีวิตที่เป็นศัตรูของศัตรูพืช ท่ีเรียกว่า ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ ตัวห้�ำ ตัวเบียน และเช้ือจุลินทรีย์ ศัตรูธรรมชาติเหล่าน้ี เป็นองค์ประกอบส�ำคัญในห่วงโซ่อาหาร มีการด�ำรงชีวิตด้วยการเป็น ผู้ล่า (Predator) ผ้เู บยี ดเบยี น (Parasite) หรอื เป็นเชอ้ื โรค (Pathogen) ศัตรูธรรมชาติ เป็นส่ิงมีชีวิตที่เกิดและด�ำรงชีวิตอยู่ด้วยการกิน หรืออาศัยศัตรูพืชอ่ืนๆ หรือท�ำให้ ศัตรูพืชเป็นโรค ศัตรูพืชจะตายก่อนอายุขัยของมัน ศัตรูธรรมชาติจึงมีบทบาท ส�ำคัญในการควบคุมศัตรูพืช และถือเป็นกลไกที่ส�ำคัญย่ิงในการท�ำให้เกิดสมดุล ทางธรรมชาติ การควบคมุ ศตั รพู ชื โดยชวี วธิ ี เปน็ การควบคมุ ศตั รพู ชื วธิ หี นง่ึ ในหลายๆ วธิ ขี องการควบคมุ ศัตรพู ืชโดยวิธีผสมผสาน (ศัตรูพืช คือ สง่ิ มีชีวิต และส่ิงไม่มชี วี ิตทที่ ำ� ใหพ้ ืชเสียหาย เชน่ แมลงศตั รู พชื โรคพชื วัชพืช หรือสภาพแวดล้อม เชน่ ความรอ้ น เปน็ ตน้ ) การควบคุมศัตรพู ชื โดยวิธผี สมผสาน (Integrated Pest Management) การควบคมุ ศตั รพู ืช โดยวิธีผสมผสาน หรือเรียกย่อวา่ “IPM” (ไอพีเอม็ ) เป็นหลักการควบคุมศัตรูพืช โดยใช้วิธีการควบคุมหลายวิธีร่วมกันอย่างเหมาะสม ตามสถานการณ์ วิธีการเหล่าน้นั ไดแ้ ก่ วิธเี ขตกรรม วิธีกล วิธชี ีววิธี วิธีฟิสกิ ส์ การใช้ สารธรรมชาตจิ ากพชื และการใชส้ ารเคมี เปน็ ตน้ แตก่ ารใชส้ ารเคมแี มจ้ ะเปน็ วธิ หี นงึ่ ในการควบคุมศตั รพู ืชโดยวธิ ผี สมผสาน แต่กเ็ ปน็ วธิ ีสุดท้ายที่จะใชเ้ ม่ือจ�ำเปน็ เท่าน้นั โดยถ้าเลือกใช้สารเคมี สารเคมีจะท�ำลายกระบวนการห่วงโซ่อาหาร ธรรมชาติเสีย สมดลุ ยเ์ กดิ ความเสยี่ งต่อการกลับมาระบาดของศัตรพู ชื ในทางตรงกนั ขา้ มไม่วา่ จะ เลือกใช้วิธีใดในการควบคุมก็ตาม ชีววิธีหรือศัตรูธรรมชาติจะร่วมท�ำงานด้วยเสมอ ยกเว้นการใช้สารเคมีเท่าน้ันที่ศัตรูธรรมชาติจะถูกท�ำลายจนไม่สามารถช่วยควบคุม ศัตรพู ชื ได้ การใช้เชอื้ จุลินทรยี ์ (ชวี ภณั ฑ์) ในการควบคมุ ศัตรูพชื 3
ชนดิ ของศตั รูธรรมชาติท่มี ีการใชเ้ พ่อื ควบคุมศตั รูพืช ศตั รูธรรมชาติ คอื สงิ่ มีชวี ิตทม่ี อี ยใู่ นธรรมชาติ เปน็ องคป์ ระกอบในระบบ นเิ วศทที่ ำ� ลายศตั รพู ชื ใหต้ ายกอ่ นอายขุ ยั ตามกลไกของหว่ งโซอ่ าหาร ศตั รธู รรมชาติ ประกอบด้วย 1. ตวั ห�้ำ หมายถงึ สิ่งมชี วี ิตที่ดำ� รงชีวิตดว้ ยการกนิ ศัตรูพืชอ่นื เปน็ อาหาร เพื่อการเจริญเติบโตจนครบวงจรชีวิต ตัวห�้ำเป็นได้ทั้งสัตว์มีกระดูกสันหลัง เช่น นก งู ก้ิงก่า กบ และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจ�ำพวกแมลง ตัวห้�ำมักมีขนาดโตกว่า เหย่ือ เช่น มวนพิฆาต มวนเพชฌฆาต ด้วงเต่าตัวห้�ำ แมลงปอ แมลงช้าง แมลงหางหนีบ และแมงมมุ เปน็ ต้น ตัวอ่อนแมลงช้าง ไขแ่ ละตวั เต็มวยั แมลงชา้ ง 2. ตัวเบียน เป็นส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยในหรือบนส่ิงมีชีวิตอ่ืนๆ เม่ือตัวเบียน เพศเมียวางไข่ในหรือบนส่ิงมีชีวิตที่เป็นเหยื่อ ตัวเบียนจะฟัก กินอาหารในตัวเหยื่อ จนเหยอ่ื ตาย ตวั เบียนมกั มีขนาดตวั เล็กกวา่ เหย่ือ มีความเฉพาะเจาะจงต่อชนดิ ของเหย่ือ ท�ำลายสิ่งมีชีวิต เช่นแมลงระยะต่างๆ ชนิดที่ท�ำลายไข่แมลงเรียกแตนเบียนไข่ เช่น แตนเบียนไข่ทริคโคแกรมม่า ท�ำลายหนอนเรียกแตนเบียนหนอน เช่น แตนเบยี นหนอนใยผกั เป็นตน้ แตนเบียนไข่ทริคโคแกรมม่า 4 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
3. เช้ือจุลินทรีย์ เป็นส่ิงมีชีวิตขนาดเล็กมาก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เชอื้ จลุ ินทรียม์ อี ยู่ทว่ั ไปในธรรมชาติ มหี ลายชนดิ ทีท่ ำ� ให้ศตั รพู ืชเปน็ โรคตาย โดยจะ ท�ำลายศัตรูพืชเมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม และสามารถท�ำลายศัตรูพืชได้คร้ังละ มากๆ เชน่ เชอ้ื รา เชอื้ แบคทเี รยี เชอ้ื ไวรสั เปน็ ตน้ ปจั จบุ นั มกี ารนำ� เชอื้ จลุ นิ ทรยี เ์ หลา่ นน้ั มาผลิตขยายเพ่ิมปริมาณเพ่ือน�ำไปใช้ในการควบคุมศัตรูพืช โดยหน่วยงานต่างๆ ท้ังภาคราชการ เอกชนและระดับ เกษตรกร เช้อื จุลินทรีย์เปน็ ที่ยอมรับ ว่าใช้ควบคุมศัตรูพืชได้ผลดี และ อาจเรยี กอกี ชอ่ื หนง่ึ วา่ “ชวี ภณั ฑ”์ หมายถงึ ผลติ ภณั ฑท์ เี่ ปน็ สงิ่ มชี วี ติ ผลติ ภัณฑ์เช้อื จลุ ินทรีย์ทม่ี ีขายในท้องตลาด เชอ้ื จุลินทรยี ์ (ชวี ภัณฑ์) ทนี่ ยิ มนำ�มาใช้ในการควบคุมศตั รพู ืช 1. เช้อื ราทำ� ลายแมลงศัตรูพชื เป็นเชอ้ื ราทที่ �ำให้แมลงเป็นโรคตาย 1.1 เชอ้ื ราบวิ เวอเรีย บาสเซยี นา (Beauveria bassiana) ท�ำลาย แมลงศตั รูพืชหลายชนิด เช่น เพลี้ยกระโดดสีน�้ำตาล เพลย้ี ไฟ เพลี้ยออ่ น เปน็ ตน้ 1.2 เชอ้ื ราเมตตาไรเซยี ม แอนนโิ ซพลอิ ี (Metarhizium anisopliae) ท�ำลายแมลงศัตรูพชื หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยงิ่ สามารถทำ� ลายแมลงในดินไดด้ ี เชอ้ื ราทั้งสองชนดิ เป็นเชือ้ ราทำ� ลายแมลง ทำ� ลายแมลงโดยสปอร์ เชอื้ ราสมั ผสั กบั ผนงั ลำ� ตวั แมลง สปอรจ์ ะงอกแทงผา่ นผนงั ลำ� ตวั แมลง เชอ้ื ราจะเจรญิ เปน็ เสน้ ใยในตวั แมลงและทำ� ลายเนอื้ เยอ่ื จนทำ� ใหแ้ มลงแหง้ ตายใชเ้ วลาประมาณ 3-7 วนั 2. เชอื้ ราทำ� ลายเช้อื โรคพืช เชอื้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซียนัม่ (Trichoderma harzianum) เปน็ เชือ้ ราที่ทำ� ลายเชื้อสาเหตุโรคพืชหลายชนดิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อราทอ่ี ยใู่ นดนิ เช้ือราไตรโคเดอร์มา ฮาเซียนั่มเป็นเชื้อราปฏิปักษ์ (Antagonis fungicide) ท�ำลายเช้ือโรคที่เป็นสาเหตุโรคพืชหลายชนิด โดยเบียดเบียนแย่ง อาหารจากเชื้อโรคพืช สร้างเสน้ ใยแทงเสน้ ใยเช้ือโรคพืช สร้างสารพิษ และนำ้� ย่อย ฆ่าท�ำลายเชอื้ โรคพืช ท�ำใหเ้ ชอ้ื โรคพืชตาย การใชเ้ ชื้อจลุ นิ ทรีย์ (ชีวภณั ฑ)์ ในการควบคมุ ศตั รพู ืช 5
3. เช้อื แบคทีเรยี ท�ำลายแมลงศตั รพู ืช และเช้ือโรคพชื 3.1 เชอื้ แบคทเี รียบาซิลลสั ทรู ิงไจเอ็นซสิ (Bacillus thuringiensis) หรอื Bt ทำ� ลายแมลงศตั รพู ืช โดยแมลงต้องกนิ เช้อื เขา้ ไป เชอ้ื บที ีหรอื รจู้ กั และเรยี กกนั วา่ “ยาเชอื้ ”ทำ� ลายแมลงระยะหนอน โดยเมอื่ หนอนกนิ เชอื้ แบคทเี รยี เขา้ ไป ทำ� ใหห้ นอนเปน็ อมั พาต หยดุ กนิ อาหาร โลหติ เป็นพษิ ชกั กระตุกและตายภายใน 5-7 วัน 3.2 เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus subtilis) หรือ Bs ทำ� ลายเช้ือโรคพชื เชอ้ื บเี อส ทำ� ลายเชอื้ โรคพชื ไดห้ ลายชนดิ ทงั้ เชอ้ื ราและแบคทเี รยี โดยแย่งอาหารและแย่งพ้ืนท่ีในการเจริญเติบโต สร้างสารปฏิชีวนะและเอนไซม์ ท่ที �ำลายเชื้อโรคพืชทำ� ใหเ้ ชอ้ื โรคพชื ตายได้ 4. เช้ือไวรัสเอ็นพีวี หรือ NPV (Nuclear Polyhedrosis Virus) ทำ� ลายแมลงศัตรพู ชื เชื้อไวรัสเอ็นพีวี ท�ำลายแมลงศัตรูพืชระยะหนอน โดยเมื่อแมลง ในระยะหนอนกินเชื้อไวรัสเอ็นพีวีเข้าไป ไวรัสเอ็นพีวีจะท�ำลายอวัยวะต่างๆของแมลง ท�ำให้แมลงเป็นโรคตายภายใน 5-7 วัน เชื้อไวรัสเอ็นพีวี มีความเฉพาะเจาะจงสูง กับแมลงอาศัย เชน่ เชอื้ ไวรัสเอน็ พีวขี องหนอนกระท้หู อม จะทำ� ลายเฉพาะหนอน กระทู้หอม เชือ้ ไวรสั เอน็ พีวี หนอนกระทู้ผกั ทำ� ลายเฉพาะหนอนกระทูผ้ กั เทา่ นนั้ หนอนหวั ดำ�ศัตรมู ะพร้าวใชเ้ ชือ้ Bt ทำ�ลายได้ หนอนตายเพราะเช้ือไวรสั เอน็ พีวี 6 กรมสง่ เสริมการเกษตร
ควรใชก้ ารควบคมุ ศัตรพู ชื โดยชวี วธิ ีเมือ่ ใด 1. เมือ่ มีการปลกู พืชและเมือ่ เริ่มพบศตั รูพชื แต่ยังไมถ่ งึ ขน้ั ระบาด 2. ต้องมีการส�ำรวจแปลงปลูกอยา่ งสมำ่� เสมอเพ่ือ • ทราบสถานการณ์ ศตั รพู ชื ศตั รธู รรมชาติ และสภาพความแขง็ แรง ของพชื ท่ีปลกู • ทราบพฤตกิ รรมจรงิ ๆของแมลงศตั รพู ชื ศตั รธู รรมชาติ เพราะบางครงั้ เราวินิจฉยั โดยไมท่ ราบสาเหตทุ แ่ี ทจ้ รงิ ทำ� ให้เราตัดสินใจผิดพลาดในการควบคมุ • ถา้ ศตั รธู รรมชาตใิ นธรรมชาตมิ เี พยี งพอ กไ็ มจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งปลอ่ ยเพม่ิ เตมิ ลงไป • การส�ำรวจจะสามารถตัดสนิ ใจด้วยตนเองได้อยา่ งม่นั ใจ 3. การอนรุ กั ษศ์ ตั รธู รรมชาตโิ ดยใชห้ ลกั การควบคมุ ศตั รพู ชื โดยวธิ ผี สมผสาน หรือ IPM ศตั รธู รรมชาติใชร้ ่วมกับทกุ วิธใี นIPMได้ ยกเวน้ วิธเี ดียวคอื สารเคมี ข้อดขี องการใชศ้ ัตรูธรรมชาติและชีวภัณฑค์ วบคมุ ศัตรูพืช 1. ศัตรูธรรมชาติควบคุมศัตรูพืชไม่ให้ระบาดจนต้องใช้วิธีอ่ืน ท�ำให้ ประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ยเพราะศัตรธู รรมชาติมีอยู่มากมายในธรรมชาติ ไมต่ ้องเสยี เงินซื้อ ท�ำงานโดยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างและหลายชนิดเกษตรกรสามารถผลิตขยายใช้เอง ในราคาถูก ช่วยให้ต้นทุนด้านควบคุมศัตรูพืชถูกลง เกษตรกรได้ก�ำไรมากขึ้นได้รับ ผลตอบแทนทีค่ ้มุ คา่ ทัง้ ทางด้านเศรษฐกจิ สงั คม และสภาพแวดลอ้ ม 2. หากปล่อยให้ศัตรูธรรมชาติท�ำงานอย่างต่อเน่ืองจะให้ผลแบบย่ังยืน เพราะศัตรูธรรมชาติมีชีวิตสามารถขยายพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆตราบเท่าที่มีอาหารอยู่ และไม่มีความเส่ียงเม่ือมีศัตรูพืชระบาด ต่างกับสารเคมีท่ีต้องใช้บ่อยๆ ในปริมาณ มากขน้ึ และต้องระวังตรวจสอบมากขึ้นเพราะไมม่ ีศตั รูธรรมชาตชิ ่วยควบคุม 3. ศัตรูธรรมชาติไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่น และไม่เกิดพิษต่อ สภาพแวดลอ้ มเพราะเปน็ สง่ิ ทอ่ี ยใู่ นธรรมชาตอิ ยแู่ ลว้ ไมท่ ำ� ใหศ้ ตั รพู ชื ตา้ นทาน อกี ทง้ั ไมต่ กคา้ งอยใู่ นผลผลติ เพราะศตั รธู รรมชาติไมก่ นิ และไมอ่ าศัยในพืช การใช้เชื้อจุลนิ ทรยี ์ (ชีวภัณฑ์) ในการควบคุมศัตรูพืช 7
ข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการใช้ศตั รธู รรมชาติและชีวภณั ฑค์ วบคมุ ศัตรูพชื 1. ตรวจสอบประสิทธิภาพของเช้ือจุลินทรีย์ โดยใช้เชื้อจากแหล่งท่ีเชื่อถือได้ หรือซ้ือชีวภัณฑ์ท่ีข้ึนทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตรและตรวจสอบวันหมดอายุ ก่อนซื้อทกุ คร้ัง 2. อ่านฉลากบนภาชนะบรรจุให้เข้าใจ เลือกใช้ชนิดชีวภัณฑ์ให้ตรงกับ ชนดิ ของแมลงเป้าหมายและใช้ในอตั ราตามค�ำแนะน�ำ 3. หากต้องผสมน้�ำควรผสมน�้ำ น้อยๆ ให้เข้ากันก่อน จึงเพ่ิมน�้ำตามอัตราที่ ระบใุ นค�ำแนะน�ำ 4. ผสมสารจับใบทุกครั้งท่ีฉีดพ่น ไปท่ีพชื ไมร่ ดน�้ำหลังฉดี พ่นอย่างนอ้ ย 1 วัน เพอ่ื ให้เช้ือตดิ บนพชื ได้ดี 5. ปรับขนาดหัวฉีดให้ได้ละออง ขนาดเลก็ ทส่ี ดุ และฉดี พน่ คลมุ ทกุ สว่ นของพชื 8 กรมสง่ เสริมการเกษตร
การใชเ้ ชือ้ จุลินทรีย์ (ชวี ภณั ฑ์) ในการควบคมุ ศตั รูพืช เชื้อราทำ�ลายแมลงศตั รูพืช เชือ้ ราบวิ เวอเรีย บาสเซียนา เชื้อราเมตตาไรเซยี ม แอนนโิ ซพลอิ ี เชอื้ ราทำ�ลายเช้ือโรคพชื เชอ้ื ไวรัสทำ�ลายแมลงศตั รพู ชื เชอ้ื ราไตรโคเดอร์มา ฮาเซียน่ัม เชื้อไวรัสเอน็ พวี ี เช้อื แบคทเี รยี ทำ�ลายแมลงศัตรูพชื และเชอ้ื โรคพืช เชื้อแบคทเี รยี บาซลิ ลัส ทรู ิงไจเอน็ ซิส เชอื้ แบคทเี รียบาซลิ ลสั ซับทลิ สิ การใช้เช้อื จุลนิ ทรยี ์ (ชวี ภัณฑ)์ ในการควบคุมศัตรูพืช 9
การใชเ้ ชอ้ื จลุ นิ ทรยี (์ ชวี ภณั ฑ)์ ในการควบคมุ ศตั รพู ชื เชอื้ ราท�ำลายแมลงศัตรพู ชื เชื้อราบิวเวอเรยี บาสเซยี นา (Beauveria bassiana) เช้อื ราบวิ เวอเรยี บาสเซียนา เปน็ เชอ้ื ราสขี าวปกติเป็นเชอ้ื ราในดนิ อาศยั กนิ ซากทเ่ี นา่ เปอ่ื ยผพุ งั ในดนิ และจดั เปน็ พวกเชอ้ื ราทำ� ลายแมลง สามารถทำ� ลายแมลง ในดนิ ไดห้ ลายชนดิ เชน่ ดว้ งงวงมนั เทศ ปลวก ปจั จบุ นั นำ� มาผลติ ขยาย และใชใ้ นการ ควบคมุ แมลงศตั รพู ชื ไดห้ ลายชนดิ ทงั้ ระยะตวั ออ่ นและตวั เตม็ วยั ไดแ้ ก่ เพลยี้ กระโดด สนี ้ำ� ตาล เพล้ียจักจน่ั เพลีย้ อ่อน เพลย้ี แปง้ เพล้ยี ไฟ เพลีย้ ไก่แจ้ แมลงหว่ขี าว ไรแดง หนอนผีเสื้อชนิดตา่ งๆ รวมท้ังตวั อ่อน และตวั เตม็ วัยของดว้ งหรือแมลงปกี แข็ง เชอื้ ราบวิ เวอเรีย บาสเซียนา เพลย้ี จกั จน่ั สีเขียว เพลย้ี กระโดดสนี �ำ้ ตาล ลักษณะของเชอ้ื ราบิวเวอเรยี บาสเซยี นา เชื้อราบิวเวอเรีย บาสเซียนา เป็นเชื้อราท่ีมีเส้นใยสีขาว ขยายพันธุ์โดย ใช้สปอร์ สปอร์มีรูปร่างกลมหรือรูปไข่สีขาว ค่อนข้างใส ก้านชูสปอร์ต้ังขึ้นเป็น เส้นยาว เรยี งเปน็ สายเดียวหรือเปน็ กล่มุ เชอ้ื ราบิวเวอเรีย บาสเซียนาบนอาหารเลีย้ งเชื้อ สปอรเ์ ชือ้ ราบวิ เวอเรยี บาสเซยี นา 10 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
การเขา้ ทำ�ลายแมลงศตั รพู ืชของเชอื้ ราบิวเวอเรยี บาสเซยี นา สปอร์เชอื้ ราปลิว สปอรเ์ ชอื้ รา แพร่กระจาย สปอรเ์ ช้อื ราเขา้ สตู่ ัว หนอน/แมลงทางผนัง ลำ�ตัวที่มีความออ่ นบาง เมือ่ หนอน/แมลงตาย มีเส้นใย เชอื้ ราสร้างเส้นใยในตวั หนอน/แมลง แทงออกบอกตวั และ สรา้ งสปอรป์ กคลุมลำ�ตวั ดา้ นนอก วงจรการเข้าทำ�ลายหนอน/แมลงศัตรูพชื ของเชือ้ ราบิวเวอเรยี บาสเซยี นา 1. สปอรข์ องเชอื้ ราบวิ เวอเรยี บาสเซยี นา จะเขา้ สตู่ วั หนอน/แมลงทางผนงั ล�ำตัวสว่ นท่มี ีความออ่ นบาง เช่น รอยต่อระหวา่ งปลอ้ ง หรอื ระยางค์ ทางผนังล�ำตวั รหู ายใจ บาดแผล เมอื่ ความชน้ื เหมาะสมสปอรจ์ ะสรา้ งเสน้ ใยแทงทะลเุ ขา้ ไปภายใน หลังจากนั้นเชื้อราจะสร้างเส้นใยมากมายในตัวหนอน/แมลง และหนอน/แมลงจะ แสดงอาการเบื่ออาหาร อ่อนแอ ไม่เคลือ่ นไหว หนอน/แมลงจะตาย 2. เมื่อหนอน/แมลงตาย เส้นใยจะพัฒนาต่อไปโดยแทงผ่านผนังล�ำตัว ออกสู่นอกตัวหนอน/แมลงและสร้างเส้นใยและสปอร์สีขาวปกคลุมผนังล�ำตัวด้านนอก ระยะเวลาจากทฉ่ี ดี พน่ สปอร์จนเหน็ เป็นเสน้ ใยนอกตวั หนอน/แมลงใชเ้ วลา 3-7 วัน 3. สปอร์จะแพร่กระจาย ปลิวไป ตามลม ฝน นำ้� หรอื ตดิ ไปกบั ตวั เกษตรกรหรอื เครอื่ งมอื ทางการเกษตร รวมทงั้ สตั วห์ รอื แมลง ท่ีผ่านมา เพอื่ ขยายพันธุ์ต่อไปได้ เมื่อสภาวะ เหมาะสมก็จะท�ำลายแมลงศตั รพู ืชต่อไป การใช้เช้ือจลุ ินทรีย์ (ชีวภณั ฑ)์ ในการควบคุมศตั รพู ืช 11
วธิ ใี ชเ้ ช้ือราบิวเวอเรยี บาสเซียนา ควบคุมแมลงศัตรพู ชื 1. นำ� เชอื้ ราบวิ เวอเรยี บาสเซยี นาบรสิ ทุ ธิ์ ทเี่ ลย้ี งบนขา้ วสารหรอื ธญั พชื ผสมใหเ้ ชอ้ื เขา้ กบั นำ�้ กรองเอาเมลด็ ขา้ วหรอื ธญั พชื ออก นำ� นำ�้ ทผ่ี สมกบั เชอ้ื ใสถ่ งั พน่ และน�ำไปใชใ้ นเวลาบ่ายถงึ เย็น 2. กอ่ นฉดี พน่ ส�ำรวจแปลงใหท้ ัว่ ดูปริมาณศตั รพู ชื และศัตรธู รรมชาติ ถา้ ปริมาณศตั รูพืช 5 ตัว ปริมาณศัตรธู รรมชาติ 1 ตัว ไม่ตอ้ งพ่น หากปรมิ าณศัตรู พืชมากกว่า 5 ตัว ต่อศัตรูธรรมชาติ 1 ตัว และสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการ ระบาดของศตั รพู ชื ใหฉ้ ดี พน่ เชอ้ื ราบวิ เวอเรยี บาสเซยี นา ในอตั รา 107-10 สปอร์ หรอื ประมาณ 250-1,000 กรมั ผสมนำ้� 80 ลติ ร ฉดี พน่ ในพนื้ ท่ี 1 ไร่ (ปรมิ าณการใชข้ น้ึ กบั จำ� นวนสปอรท์ ไี่ ดจ้ ากการผลติ ควรนำ� เชอื้ ทจ่ี ะใชส้ ง่ ใหศ้ นู ยส์ ง่ เสรมิ เทคโนโลยกี ารเกษตร ดา้ นอารกั ขาพืช (ศทอ.) ตรวจนับสปอรก์ ่อนเพ่อื กำ� หนดปรมิ าณการใชใ้ หเ้ หมาะสม) 3. หลังพ่นเชอ้ื สำ� รวจแปลงหลงั การฉีดพ่น 3 วนั และ7 วัน ดูว่าศตั รูพืช ถกู ทำ� ลายดว้ ยเชอ้ื ราบวิ เวอเรยี บาสเซยี นา หรอื ไม่ โดยสังเกตตัวแมลงจะอยู่น่ิง และเริมมีอาการ ผิดปกติ หรืออาจมีเชื้อสีขาวเริ่มออกมาคลุมตัว แมลง 4. หากแมลงไม่ตายหรือมีแนวโน้ม เพิ่มมากข้ึน ฉีดพ่นเช้ือซ้�ำ และท�ำการส�ำรวจหลัง พ่น 3 วนั และ7 วัน และหากปรมิ าณศัตรูพชื ยังไม่ เพลี้ยกระโดดสีน้ำ� ตาลถกู เชอ้ื รา ลดปริมาณใหฉ้ ีดพ่นซ้ำ� อีก บิวเวอเรีย บาสเซียนาเขา้ ทำ�ลาย เพล้ยี จกั จ่นั สีเขยี วถกู เชอ้ื ราบิวเวอเรีย หนอนถูกเช้อื ราบวิ เวอเรีย บาสเซียนา เข้าทำ�ลาย บาสเซียนา เขา้ ทำ�ลาย 12 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
เชอ้ื ราเมตตาไรเซียม แอนนโิ ซพลอิ ี (Metarhizium anisopliae) เชอ้ื ราเมตตาไรเซียม แอนนโิ ซพลอิ ี เปน็ เชื้อราในดนิ สามารถท�ำให้แมลง หลายชนดิ เปน็ โรคตาย โดยเฉพาะแมลงในดิน เชน่ แมลงในกลุ่มด้วง เชน่ ดว้ งแรด ดว้ งกนิ รากพชื ปจั จบุ นั นำ� มาผลติ ขยายและใชใ้ นการควบคมุ แมลงศตั รพู ชื หลายชนดิ ไดแ้ ก่ แมลงในกลมุ่ หนอนดว้ ง แรดมะพรา้ ว หนอนดว้ งหนวด ยาว หนอนเจาะล�ำต้นอ้อย ต๊กั แตน เพลย้ี กระโดด เพลีย้ จักจั่น ปลวก โดยเข้าท�ำลาย ทั้ ง ตั ว อ ่ อ น แ ล ะ ตั ว เ ต็ ม วั ย พบว่าสามารถก�ำจัดดักแด้ หนอนท่อี ยู่ในดินได้ด้วย เชอ้ื ราเมตตาไรเซยี ม แอนพโิ ซพลิอี ลกั ษณะของเช้ือราเมตตาไรเซยี ม แอนนิโซพลิอี เช้ือราเมตตาไรเซียม แอนนิโซพลิอี เป็นเชื้อราสีเขียว รูปทรงกระบอก เส้นใยมผี นงั กนั้ เปน็ ปลอ้ ง สปอรเ์ ปน็ รปู ยาวรีคลา้ ยเมลด็ ขา้ ว เริ่มเกดิ ใหม่เปน็ สขี าว ตอ่ มาจะเปลย่ี นเปน็ สเี ขยี วคลำ�้ จะเจริญได้ดีในช่วงอุณหภูมิ 24–26 องศาเซลเซยี ส พบว่า เจรญิ เตบิ โตไดด้ ใี นสภาพความ เป็นกรดเป็นด่างที่ 4.7–10 และทเ่ี หมาะสมทสี่ ดุ คอื 6.9– 7.4 เช้ือราเมตตาไรเซียม แอนนโิ ซพลอิ ี มีชีวติ อยู่ในดนิ นาน 1 ปี สปอรเ์ ชื้อราเมตตาไรเซยี ม แอนนโิ ซพลิอี การใช้เชอื้ จุลนิ ทรีย์ (ชีวภณั ฑ)์ ในการควบคุมศตั รพู ืช 13
การเขา้ ทำ�ลายแมลงศัตรูพชื ของเชื้อราเมตตาไรเซยี ม แอนนิโซพลอิ ี เชอื้ ราเมตตาไรเซยี ม แอนนโิ ซพลอิ ี ทำ� ลายแมลงโดยการสมั ผสั โดยสปอร์ จะสัมผัสบนผนังล�ำตัวของแมลง ในสภาพที่มีความชื้นและอุณหภูมิเหมาะสม สปอร์จะงอกและแทงผ่านผนังล�ำตัวแมลงบริเวณท่ีมีผนังบาง เช่น รอยต่อระหว่าง ปลอ้ ง หรือบรเิ วณปาก ทวาร โดยจะท�ำลายชั้นไขมันและแพรเ่ ข้าสู่ชอ่ งว่างภายใน ล�ำตัวแมลง เส้นใยจะเจริญอัดแน่น และกินอาหารภายในตัวแมลงและเส้นใย จะท�ำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในของแมลง ท�ำให้แมลงตาย โดยมักจะตาย ในลักษณะแหง้ แข็ง เรียกวา่ “มมั ม”ี่ หลงั จากแมลงตายเชือ้ ราจะแทงทะลุผ่านผนัง ล�ำตัวแมลงออกมาภายนอก หากมีความชื้นเหมาะสมจะพบเส้นใยสีเขียวปกคลุม ล�ำตัวแมลง และจะสร้างสปอร์เพ่ือขยายพันธุ์ต่อไป ระยะเวลาตั้งแต่ฉีดพ่นเช้ือ จนเหน็ เส้นใยระยะเวลาประมาณ 5-7 วัน ลักษณะการเข้าทำ�ลายแมลงศตั รพู ืชของเชอื้ ราเมตตาไรเซียม แอนนิโซพลิอี 14 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
วธิ ใี ช้เชือ้ ราเมตตาไรเซยี ม แอนนิโซพลิอี ควบคมุ แมลงศัตรูพชื 1. การใช้เชื้อราเมตาไรเซียม แอนนิโซพลิอี ก�ำจัดแมลงในดิน เช่น ด้วงแรดมะพร้าว ซ่ึงชอบวางไข่ตามเศษซากพืชหรือกองปุ๋ยหมักในสวนมะพร้าวและ สวนปาลม์ นำ้� มนั จะใชว้ ธิ ีท�ำกองปุ๋ยหมักลอ่ ให้ด้วงแรดมะพรา้ ววางไข่โดย • เตรียมกองปุ๋ยหมักขนาด 2 x 2 x 0.5 เมตร ท้ิงไว้จนวัสดุใน กองปยุ๋ หมกั สลายตวั • โรยเช้ือราเมตตาไรเซียม แอนนิโซพลิอี ลงในกองปุ๋ยหมัก ใหล้ กึ จากผวิ หนา้ ประมาณ 15 เซนตเิ มตร โดยโรยเชอื้ ใหท้ ว่ั อตั ราเชอื้ เมตตาไรเซยี ม แอนนิโซพลอิ ี 1 กโิ ลกรมั ตอ่ ปยุ๋ หมัก 1 กอง ท�ำกองปุ๋ยหมกั จ�ำนวน 1 กอง ตอ่ แปลง ปลกู มะพรา้ ว 2 ไร่ • เพม่ิ ความชนื้ ในกองปยุ๋ เพอ่ื ใหเ้ ชอ้ื ราเมตตาไรเซยี ม แอนนโิ ซพลอิ ี สามารถเจริญเติบโตได้ดีโดยการรดน้�ำปิดด้วยทางมะพร้าว เพื่อเก็บความชุ่มช้ืนใน กองปยุ๋ หมัก ซึง่ เชอ้ื ราเมตตาไรเซยี ม แอนนโิ ซพลิอี จะมีประสทิ ธภิ าพในการกำ� จัด ดว้ งแรดได้นานประมาณ 6–12 เดอื น 2. ใช้ก�ำจัดแมลงท่ีอยู่เหนือดินหรือท�ำลายอยู่บนต้นพืช เช่น ต๊ักแตน เพล้ียกระโดดสีน้ำ� ตาล โดย • น�ำเช้ือบริสุทธิ์ท่ีเล้ียงบนข้าวสารหรือธัญพืชในถุงพลาสติก ผสม ให้เชื้อเข้ากับน้�ำ กรองเอาเมล็ดข้าวหรือธัญพืชออก น�ำน้�ำที่ผสมกับเชื้อใส่ถังพ่น และนำ� ไปใช้ในเวลาบา่ ยถงึ เย็น • กอ่ นฉดี พน่ สำ� รวจแปลงใหท้ ว่ั ดปู รมิ าณศตั รพู ชื และศตั รธู รรมชาติ ถ้าปริมาณศัตรูพืช 5 ตัว ปริมาณศัตรูธรรมชาติ 1 ตัว ไม่ต้องใช้อะไรหาก ปรมิ าณศัตรพู ชื มากกว่า 5 ตวั ตอ่ ศตั รูธรรมชาติ 1 ตวั และสภาพแวดล้อมเหมาะ สมตอ่ การระบาดของศัตรพู ืช ใหฉ้ ดี พน่ เชอ้ื ราเมตตาไรเซยี ม แอนนโิ ซพลิอี ในอตั รา 107-10 สปอร์ หรอื ประมาณ 250-1,000 กรมั ผสมนำ�้ 80 ลติ ร ฉดี พ่นในพน้ื ท่ี 1 ไร่ (ปริมาณการใช้ข้ึนกับจ�ำนวนสปอร์ท่ีได้จากการผลิต ควรน�ำเชื้อที่จะใช้ส่งให้ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) ตรวจนับสปอร์ก่อน เพอื่ ก�ำหนดปริมาณการใชใ้ ห้เหมาะสม) การใชเ้ ชือ้ จุลินทรยี ์ (ชวี ภัณฑ)์ ในการควบคมุ ศตั รูพืช 15
3. หลังพ่นเชื้อ ส�ำรวจแปลงหลังการฉีดพ่น 3 วันและ7 วัน ดูว่าศัตรู พืชถูกท�ำลายด้วยเชื้อเมตตาไรเซียม แอนนิโซพลิอีหรือไม่ โดยสังเกตตัวแมลง จะอยนู่ ิง่ และเรม่ิ มีอาการผิดปกติ หรอื อาจมเี ช้ือสีเขียวเรมิ่ ออกมาคลุมตวั แมลง 4. หากแมลงไมต่ ายหรอื มแี นวโนม้ เพมิ่ มากขนึ้ ฉดี พน่ เชอ้ื ซำ�้ และทำ� การ ส�ำรวจหลังพน่ 3 วันและ 7 วัน หากปริมาณศัตรูพืชยังไม่ลดปรมิ าณใหฉ้ ีดพน่ ซ้�ำอีก 5. ระหว่างฉีดพ่นควรใส่หน้ากาก และสวมเสื้อผ้ามิดชิด ป้องกันการ ระคายเคืองทีอ่ าจจะเกิดขึ้นได้ ! ขอ้ แนะนำ� และข้อควรระวงั ในการใช้เชอ้ื รากำ� จดั แมลงศตั รพู ืช 1. การใชเ้ ชอื้ ราก�ำจัดแมลง ให้ไดผ้ ลดเี ชอื้ ตอ้ งมีความบรสิ ทุ ธ์ิ และความ แข็งแรงในปริมาณสปอร์ท่ีเพียงพอ ต้องฉีดเชื้อในรูปสปอร์ให้ถูกตัวแมลงโดยตรง เพราะเชอ้ื จะทำ� ลายแมลงจากการสมั ผสั เชน่ การพน่ เชอื้ รากำ� จดั เพลย้ี กระโดดสนี ำ้� ตาล ตอ้ งพน่ ใต้ใบขา้ วเหนอื ระดับน้ำ� ซงึ่ เป็นบริเวณท่ีเพลีย้ กระโดดสนี ำ้� ตาลอยู่ 2. เช้ือราก�ำจัดแมลง (Entomopathogenic fungi) ออกฤทธ์ิ ในการก�ำจัดแมลงแบบไม่จ�ำเพาะเจาะจง จึงสามารถท�ำลายแมลงได้ทุกชนิดรวมท้ัง ศตั รธู รรมชาตทิ ม่ี ปี ระโยชนด์ ว้ ย ดงั นนั้ จงึ ควรใชเ้ มอ่ื จำ� เปน็ และควรสำ� รวจแปลงกอ่ น พ่นเชื้อ หากพบศัตรธู รรมชาติในแปลงมาก ไมค่ วรพ่นเชื้อรา ควรใชว้ ธิ ีควบคุมโดย วิธีอืน่ ทไ่ี ม่ทำ� ลายศตั รธู รรมชาติ 3. การฉีดพ่นเชื้อราก�ำจัดแมลง ควรท�ำในช่วงเวลาท่ีเหมาะสม คือ ชว่ งบา่ ยหรอื เยน็ เพราะเชอื้ ราจะออกฤทธท์ิ ำ� ลายแมลง ทอี่ ณุ หภมู ิ 25-27 องศาเซลเซยี ส แตต่ ้องไม่เกิน 38 องศาเซลเซยี ส และความชื้นประมาณ 80 เปอร์เซน็ ต์ อณุ หภูมิ และความชืน้ จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำ� ลายแมลง และความอยู่รอดของเชอื้ 16 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
4. เชอ้ื ราทใี่ ชก้ ำ� จดั แมลงไมเ่ ปน็ อนั ตรายตอ่ คน และสตั ว์ แตอ่ าจระคายเคอื ง ต่อระบบหายใจของผู้ใช้ จึงควรป้องกันด้วยการปิดจมูก และสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด ขณะฉีดพ่น 5. การตรวจสอบคณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพของเชอ้ื ในการควบคมุ ศตั รพู ชื ก่อนและหลังการใช้เป็นสิ่งจ�ำเป็นอย่างยิ่ง หากพบว่าเชื้อมีเชื้อชนิดอ่ืนปนเปื้อน ต้องทำ� ลายโดยใช้ความร้อนก่อนท้ิงทนั ที 6. ปจั จบุ นั มกี ารผลติ เชอื้ จลุ นิ ทรยี ใ์ ชเ้ อง และผลติ เปน็ การคา้ ในรปู แบบตา่ งๆ โดยบริษัทเอกชน เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร รวมท้ังมีการส่งเสริมให้เกษตรกร ผลติ เชอ้ื จลุ นิ ทรยี ใ์ ชเ้ อง ซง่ึ ประสทิ ธภิ าพในการควบคมุ ศตั รพู ชื ขนึ้ กบั ปจั จยั หลายอยา่ ง ที่ส�ำคญั คือ ความบริสุทธ์แิ ละความแขง็ แรงของเช้อื การใช้เชือ้ ในการควบคมุ ศตั รูพชื จึงต้องพิจารณาท้ังจากการซ้ือ หรือการผลิตใช้เองควรเป็นเชื้อท่ีมีคุณภาพ ซึ่งถ้า เป็นเช้ือที่ซื้อต้องเป็นเช้ือที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร และถ้าเป็นเชื้อ ท่ีผลิตใช้เองควรได้รับการตรวจคุณภาพและมาตรฐานจากหน่วยงานที่เช่ือถือได้ หรือหน่วยงานท่ีเป็นผู้ผลิตหัวเช้ือบริสุทธ์ิ เพราะถ้าใช้เชื้อท่ีไม่มีคุณภาพ นอกจาก จะท�ำให้การควบคุมศัตรูพืชไม่ได้ผลแล้วยังเป็นการเพ่ิมเชื้อท่ีปนเปื้อนสู่ธรรมชาติ ซ่งึ อาจเป็นอนั ตรายได้ เชอ้ื ราทำ� ลายเชื้อโรคพชื เชื้อราไตรโคเดอร์มา ฮาเซยี น่ัม (Trichoderma harzianum) เช้ือราไตรโคเดอร์มา ฮาเซียนั่ม เป็นเชื้อราช้ันสูงเจริญได้ดีในดินท่ีมี เศษซากพชื ซากของสง่ิ มชี วี ติ ตา่ งๆ และวสั ดอุ นิ ทรยี ต์ ามธรรมชาติ เชอ้ื ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซียน่ัม สามารถควบคุมโรคพืชในดินได้หลายชนิด เช่น เช้ือราพิเทียม การใชเ้ ชอ้ื จุลินทรีย์ (ชีวภัณฑ์) ในการควบคุมศตั รพู ชื 17
(Pythium spp.) เชอ้ื ราฟัยทอฟเทอร่า (Phytopthora spp.) สาเหตุโรครากเน่า- โคนเนา่ โรคเนา่ ระดบั ดนิ เชอ้ื ราสเคลอโรเทยี ม (Sclerotium spp.) เชอื้ ราไรซอกโทเนยี (Rhizoctonia spp.) เช้ือราคอลเลทโททริกัม (Colletotrichum spp.) เชื้อราอัลเทอนาเรยี (Alternaria spp.) เช้ือราฟิวชาเรยี ม (Fusarium spp.) เช้ือราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซียนม่ั ลักษณะของเชื้อราไตรโคเดอร์มา ฮาเซียนม่ั เชอื้ ไตรเดอรม์ า ฮาเซยี นมั่ เปน็ เชอื้ รา ในดนิ สร้างเสน้ ใยสีขาว สปอรส์ เี ขียว เส้นใย มีผนังกั้น ผลิตส่วนขยายพันธุ์ ท่ีเรียกว่า “โคนิเดีย” หรือ “สปอร์” เมื่อน�ำมาเพาะ เล้ียงจะเห็นเส้นใยสีขาวและสปอร์สีเขียว เช้ือราไตรโคเดอร์มา ฮาเซียน่ัม จัดเป็นเช้ือรา ปฏิปักษ์ (Antagonis fungicide) ท่ีก�ำจัด สปอรเ์ ชอื้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี น่มั เชื้อราอ่นื ๆ การเข้าทำ�ลายเชือ้ โรคพืชของเชือ้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี นมั่ เชอื้ ราไตรโคเดอร์มา ฮาเซยี นัม่ มคี ุณสมบัตใิ นการกำ� จดั เช้ือราอนื่ ๆ โดย • แข่งขันในการเจริญเติบโตได้ดีกว่า สามารถแย่งอาหาร และปัจจัย ในการเจริญเติบโตดกี ว่า 18 กรมส่งเสริมการเกษตร
• เสน้ ใยของเชอ้ื ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี นมั่ ฆา่ เชอื้ ราตวั อน่ื โดยใชเ้ สน้ ใย พันรัดเส้นใยเช้ือราตัวอ่ืนแล้วแทงทะลุเส้นใยเช้ือราอื่นเพ่ือแย่งน�้ำแย่งอาหารท�ำให้ เชอ้ื ราอ่ืนแหง้ ตาย • เชือ้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซียนั่ม ปลอ่ ยสารพษิ ไปยอ่ ยทำ� ลายเชือ้ รา ตวั อืน่ โรคแอนแทรกโนสของพริก โรคเหี่ยวของดาวเรอื ง ตวั อย่างโรคพชื ทีส่ ามารถใช้เชอื้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี น่มั กำ�จัดได้ วธิ ีใช้เชือ้ ราไตรโคเดอร์มา ฮาเซียนัม่ 1. ใช้คลุกเมล็ดพันธุ์หรือแช่เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก เพ่ือควบคุมเชื้อราที่ ติดมากบั เมล็ดพนั ธ์โุ ดยใช้เช้ือราไตรโคเดอรม์ า 10 กรมั หรอื ประมาณ 1 ชอ้ นแกงใสน่ ้�ำ 10 มลิ ลิลติ ร คลุกกบั เมลด็ พันธ์ุ 1 กโิ ลกรมั เช้ือราสามารถปอ้ งกนั เชอ้ื ราที่จะเขา้ มา ทำ� ลายรากพืชทเ่ี พงิ่ งอกใหม่ สำ� หรบั การใชเ้ ชื้อราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี นัม่ แชเ่ มล็ดพนั ธ์ขุ ้าว ใช้เชอื้ รา ไตรโคเดอร์มา ฮาเซียน่ัม 1 กิโลกรัมผสมน�้ำ 100 ลิตรกรองเอาเฉพาะส่วนที่เป็น น้�ำสปอร์ แชเ่ มลด็ ขา้ ว 100 กิโลกรัม ที่แช่นำ้� มาแล้ว 1-2 คืน เป็นเวลาคร่ึงชั่วโมง ก่อนน�ำไปหว่าน 2. ใช้หว่านและรองก้นหลุมในแปลงท่ีมีโรคเชื้อราระบาด น�ำเช้ือ ราไตรโคเดอร์มา ฮาเซยี นมั่ 1 กิโลกรมั ต่อรำ� 4 กิโลกรัม และป๋ยุ หมกั 100 กิโลกรัม ผสมใหเ้ ข้ากนั ใช้เป็นเชอ้ื ตั้งตน้ ในการควบคมุ โรคพืชท่มี แี หลง่ ก�ำเนิดในดิน การใชเ้ ชือ้ จลุ นิ ทรยี ์ (ชีวภณั ฑ์) ในการควบคุมศัตรพู ชื 19
• ใชร้ ว่ มกับวัสดุปลูกโดยใชเ้ ช้อื ท่ผี สมแลว้ จ�ำนวน 1 สว่ น ผสมกบั วัสดปุ ลกู 4 สว่ น ปลกู พืชในแหลง่ ทม่ี ีโรคเช้อื ราระบาด • รองก้นหลมุ ในแหล่งท่ีมีโรคเชอ้ื ราระบาด อตั รา 10-100 กรัมตอ่ หลุมขึน้ กบั ขนาดหลุม • หว่านในแปลงท่ีเป็นโรคท่ีเกิดจากเช้ือรา หรือใช้โรยรอบทรงพุ่ม อตั รา 80-100 กิโลกรมั ตอ่ ไร่ 3. ใช้ฉีดพ่น โดยใช้เชอื้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี นมั่ 1 กโิ ลกรัม ผสมนำ้� 80-100 ลิตร กรองเอาเฉพาะนำ้� ฉีดพ่นบนพชื หรอื รดลงดินหรือวสั ดุปลกู ใช้ในพื้นที่ 1 ไร่ 4. ใช้เชื้อทาบริเวณแผลที่ถากเปลือกแล้วบนล�ำต้นที่เป็นโรครากเน่า โคนเนา่ โดยใช้ส่วนผสมเชอื้ ราไตรโคเดอร์มา ฮาเซยี นม่ั 1 กิโลกรมั ผสมน้�ำ 1 ลติ ร และฝุ่นแดงคร่งึ กิโลกรัมคนใหเ้ ข้ากนั ก่อนทา 5. ควรใช้เม่ือแปลงมีความช้ืนก่อนหรือหลังให้น้�ำ แต่ไม่ใช้ในแปลงที่มี น้�ำท่วมขัง หลังหว่านเชื้อควรใช้เศษฟางหรือหญ้าแห้งคลุมเพ่ือกันไม่ให้ถูกแสงแดด โดยตรง และไมใ่ ชเ้ ชอื้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี นมั่ รว่ มกบั สารกำ� จดั เชอื้ รา สงิ่ สำ� คญั ทสี่ ดุ ทเ่ี กษตรกรตอ้ งคำ� นึงคอื • ถ้าไม่มีการระบาดของโรคเชื้อรา ก็ไม่มีความจ�ำเป็นใดๆ ที่จะใส่ เชอื้ ไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี นม่ั ลงไปและถ้าใส่ปุ๋ยหมกั ในแปลงเป็นประจำ� เชอื้ ราไตร โคเดอร์มา ฮาเซียนั่ม จะมีปริมาณเพ่ิมขึ้น และจะคอยควบคุมเชื้อราอ่ืนๆไม่ให้เข้า ทำ� ลายพชื ใหเ้ สยี หายได้ จงึ จำ� เป็นอยา่ งยงิ่ ทจ่ี ะต้องใส่ปุ๋ยหมกั ลงไปเป็นระยะๆ 6. ความเป็นกรดเป็นด่างของดินท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของ เช้อื ราไตรโคเดอร์มา ฮาเซยี นม่ั อยรู่ ะหวา่ ง 5.5-6.5 7. ควรใสเ่ ชอื้ ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซยี นม่ั กอ่ นหรอื หลงั การหวา่ นปยุ๋ เคมี 3-5 วนั 8. หากต้องฉีดพ่นสารเคมีฆ่าเช้ือราลงในดิน ควรจะทิ้งช่วงประมาณ อย่างนอ้ ย 1 สปั ดาห์ จึงสามารถใช้เชอ้ื ราไตรโคเดอรม์ า ฮาเซียนม่ั ได้ 9. เชื้อราไตรโคเดอร์มา ฮาเซียน่ัม สดท่ีเล้ียงขยายจนเต็มที่สามารถ เก็บไว้ในตู้เย็นได้ 1 เดือน 10. หากกรองเอาสปอร์ใส่ขวดผสมน�้ำแล้ว ถ้ายังไม่ได้ใช้ ควรเก็บไว้ใน ตเู้ ยน็ ไม่เกิน 7 วัน 20 กรมส่งเสริมการเกษตร
เชอื้ แบคทเี รยี ทำ� ลายแมลงศตั รพู ชื และเชอื้ โรคพชื เช้อื แบคทเี รียบาซิลลัส ทรู งิ ไจเอน็ ซสิ (Bacillus thuringiensis) หรอื Bt เชอ้ื แบคทเี รยี บาซลิ ลสั ทรู งิ ใจเอน็ ซสิ เปน็ เชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์ ชนิดหนึ่งในธรรมชาติเป็นเช้ือท่ีมีขนาดเล็กมากมองไม่เห็นด้วย ตาเปล่าต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ เชื้อแบคทีเรียท่ีน�ำมาใช้ในการควบคุมศัตรูพืช เรยี กยอ่ ๆ ว่า “บีที” หรือนยิ มเรียกว่า “ยาเชอ้ื ” เชอ้ื บที ีจะท�ำให้ศัตรพู ชื หลายชนิด ในระยะหนอนเปน็ โรคตายไดแ้ ก่หนอนของผเี สอ้ื หนอนดว้ งชนดิ ตา่ งๆเชน่ หนอนใยผกั หนอนเจาะสมอฝา้ ย หนอนกระทผู้ กั หนอนกระทหู้ อม หนอนคบื กะหลำ่� หนอนแกว้ สม้ หนอนชอนใบส้ม หนอนด้วงหมัดผัก เป็นต้น เช้ือบีทีเป็นจุลินทรีย์ที่มีการผลิตเพ่ือ จ�ำหนา่ ยมาเปน็ เวลานาน ส่วนมากจะน�ำเขา้ มาจากตา่ งประเทศ B t ลักษณะของเชอื้ แบคทเี รียบาซิลลัส ทรู ิงไจเอน็ ซิส เช้ือแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงไจเอ็นซิส หรือ เชื้อบีที เป็นเช้ือแบคทีเรีย แกรมบวก ท่ีมีอยู่ทั่วไปในสภาพแวดล้อม เช่น ในดินหรือปะปนอยู่กับเศษซากพืช ปะปนอยู่ในเมล็ดข้าวเปลือก ข้าวสาร ฝุ่นผงตามโรงสีข้าว ในแมลง บนใบพืช แม้กระทั่งในบ่อน้�ำ มีลักษณะรูปร่างเป็นท่อนตรง สร้างสปอร์ในเซลล์เรียกว่า “endospore” และสปอร์จะสร้างผลึกโปรตีน ซ่ึงผลึกโปรตีนนี้ เป็นสารพิษท่ี ท�ำให้แมลงตาย เชอื้ บที ี มมี ากมายหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธ์จุ ะสรา้ งผลกึ โปรตนี ทมี่ ี รปู รา่ งตา่ งๆ กนั มคี วามเปน็ พษิ ตอ่ แมลงมากนอ้ ยตา่ งกนั และมคี วามจำ� เพาะกบั แมลง ตา่ งชนดิ กันดว้ ย บที ีทีม่ ีใช้ เชน่ 1. Bacillus thuringiensis var. aizawai ใชก้ ำ� จัดยุง 2. Bacillus thuringiensis var. kurstaki ใชค้ วบคมุ หนอนหลายชนดิ เช่น หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม หนอนเจาะสมอฝา้ ย หนอนแปะใบส้ม เป็นต้น 3. Bacillus thuringiensis var. tenebrionis ใชค้ วบคุมด้วงหมดั ผกั การใช้เชือ้ จุลินทรยี ์ (ชีวภัณฑ)์ ในการควบคุมศตั รพู ืช 21
Bt การเข้าทำ�ลายแมลงศตั รพู ชื ของเชอื้ แบคทีเรียบาซิลลัส ทรู งิ ไจเอ็นสสิ เช้ือแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงไจเอ็นสิส หรือ เชื้อบีที ท�ำลายแมลง โดยแมลงกินเช้ือบีทีเข้าไป เช้ือบีทีจะท�ำลายกระเพาะอาหารของหนอน หนอน จะหยุดกินอาหาร เช่ืองช้าไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า เป็นอัมพาต เช้ือบีทีในกระเพาะ อาหารจะเข้าไปในระบบเลือด เมื่อเชื้อบีทีเพ่ิมปริมาณมากขึ้นแมลงจะเกิดอาการ โลหติ เปน็ พษิ แมลงชกั กระตุก เรม่ิ แสดงอาการ 30 นาที - 1 วันหลังกนิ เช้ือบีทีเข้าไป ล�ำตวั เป็นสีน�ำ้ ตาลด�ำ อ่อนนมุ่ และตายภายใน 5-7 วนั หนอนตายดว้ ยเชอ้ื บที ี วิธีใช้เช้อื แบคทีเรยี บาซลิ ลัส ทูรงิ ใจเอน็ ซสิ ควบคมุ แมลงศตั รูพชื 1. อัตราการใช้แบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงใจเอ็นซิส ใช้ตามค�ำแนะน�ำ ในฉลากเนื่องจากเชื้อบีทีที่มีขายมีจ�ำนวนเชื้อไม่เท่ากันในแต่ละแหล่งผลิต แต่จะมี ค�ำแนะน�ำเฉพาะจึงต้องใช้ตามท่ีระบุในฉลากไม่ใช้มากหรือน้อยเกินไป และควร เลือกซ้ือเช้ือที่มีคุณภาพโดยเลือกซ้ือเช้ือบีทีที่ข้ึนทะเบียนที่กรมวิชาการเกษตร และดวู ันเดือนปี ท่ผี ลิต และวนั หมดอายุ 2. ควรใชเ้ มอื่ มหี นอนศตั รพู ชื ในปรมิ าณสงู ทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หาย แม้เช้ือบีทีไม่เป็นอันตรายต่อส่ิงมีชีวิตอ่ืนและต่อมนุษย์ แต่การใช้โดยไม่จ�ำเป็นจะ เป็นการเพิ่มต้นทุนโดยเปล่าประโยชน์เพราะแม้ไม่ใช้เช้ือบีทีก็มีศัตรูธรรมชาติอ่ืนๆ ควบคุมอย่แู ลว้ 22 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
3. การใช้เชื้อบีทีต้องฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช เพราะเชื้อบีทีจะท�ำลายแมลง Bac เม่ือแมลงกินเข้าไป ควรใช้ในเวลาเย็นเพราะเช้ือบีทีมีโอกาสถูกหนอนกินเข้าไป มากกว่ากลางวันตามลักษณะนิสัยหนอนศัตรูพืชที่ชอบหากินในเวลากลางคืน และ เชอื้ บที เี องกเ็ ป็นส่งิ มชี ีวิตไม่ทนแสงแดด 4. การใช้เช้ือบที ี ควรใชใ้ นระยะหนอนเล็ก และควรฉดี ใหเ้ ปน็ ฝอยและ ตอ้ งผสมสารจบั ใบเพอ่ื ใหเ้ ชอื้ จบั ใบไดด้ หี ากพบการระบาดของหนอน ควรพน่ เชอ้ื บที ี ในอัตราตามค�ำแนะน�ำในฉลาก โดยพ่นติดต่อกัน 3 คร้ัง ทุก 3-4 วัน ควรพ่น ในเวลาเย็น แดดร่ม ลมสงบ เชื้อแบคทเี รียบาซิลสั สบั ทลี ิส (Bacillus subtilis) หรือ Bs เชอ้ื แบคทเี รยี บาซลิ ลสั สบั ทลี สิ หรอื เชอื้ บเี อส เปน็ เชอื้ จลุ นิ ทรยี ช์ นดิ หนง่ึ ในธรรมชาติเป็นเช้ือที่มีความสามารถในการท�ำลายเชื้อโรคพืชได้หลายชนิด ท้ังเชอื้ ราและเชอื้ แบคทเี รยี เปน็ จุลินทรยี ์ทมี่ ีการผลติ เพือ่ จำ� หนา่ ยแลว้ Bs การเข้าทำ�ลายเช้อื โรคพชื ของเชอ้ื แบคทีเรียบาซิลสั สับทลี ิส เช้ือแบคทีเรียบาซิลัส สับทีลิส หรือเช้ือบีเอสจะท�ำลายโรคพืชโดยการ แข่งขันแย่งอาหารและพื้นท่ีในการเจริญเติบโตครอบครองพ้ืนท่ีครอบคลุมกลุ่มเช้ือ สาเหตโุ รคพชื และสร้างสารหลายชนิด ประเภทสารปฎิชีวนะ เอนไซม์ และสารเคมีชนิดท่ี สามารถแย่งดึงธาตุอาหาร มีผลให้เช้ือสาเหตุโรคพืชได้รับอาหารไม่เพียงพอในการ เจรญิ เตบิ โต วิธีใชเ้ ช้อื แบคทีเรยี บาซลิ ลสั สับทีลิส ควบคุมเชอื้ โรคพืช 1. ใช้เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส สับทีลิส หรือเช้ือบีเอส อัตรา 100 กรัม ผสมนำ�้ 1 ลิตร ทาแผลท่ีเกดิ จากโรครากเนา่ โคนเนา่ ในไม้ผลจ�ำนวน 2 ครั้ง หา่ งกัน ประมาณ 2 สปั ดาห์ 2. ฉีดพน่ เชอ้ื บีเอส อัตรา 20-40 กรมั ตอ่ น�ำ้ 20 ลติ รจ�ำนวน 2 ครั้ง หา่ งกนั 1-2 สปั ดาห์ 3. ใชเ้ ช้ือบีเอส คลกุ เมลด็ พันธุ์ เพือ่ ควบคุมโรคท่ตี ิดมากบั เมลด็ พนั ธุ์ การใชเ้ ช้อื จุลินทรีย์ (ชีวภัณฑ์) ในการควบคมุ ศตั รพู ชื 23
เชอื้ ไวรสั ท�ำลายแมลงศตั รพู ชื เช้ือไวรสั เอน็ พีวี หรอื NPV: (Nuclear Polyhedrosis Virus) เชือ้ ไวรัส เอ็นพีวี เชอ้ื ไวรสั เอน็ พีวี หรอื NPV เป็นเชอ้ื จุลินทรีย์ในธรรมชาตขิ นาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือกล้องจุลทรรศน์ชนิดธรรมดา ต้องใช้กล้อง จุลทรรศน์อิเลคตรอนเท่านั้น เช้ือไวรัสเอ็นพีวี ท�ำให้เกิดโรคกับแมลงหลายชนิด และเป็นเชื้อโรคท่ีมีความเฉพาะเจาะจงต่อชนิดของหนอนศัตรูพืช เชื้อไวรัสเอ็นพีวี จะทำ� ใหห้ นอนศตั รพู ืชเปน็ โรคตาย เชื้อไวรสั จะเขา้ สู่ตัวหนอนได้ โดยหนอนจะตอ้ ง กนิ อาหารท่ีมีเชอื้ ไวรัสปนเปอ้ื นเขา้ ไป หนอนตายจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ข้ึนกบั ขนาดของหนอนและปริมาณเช้ือไวรัสท่ีหนอนกินเข้าไป เช้ือไวรัสที่มีการผลิต ขยายในปัจจุบันมี 3 ชนิด คือ เชื้อไวรัสก�ำจัดหนอนกระทู้หอม เช้ือไวรัสก�ำจัด หนอนเจาะสมอฝา้ ย และเชอื้ ไวรสั กำ� จดั หนอนกระทผู้ กั ซงึ่ ทงั้ 3 ชนดิ มจี ำ� หนา่ ยเปน็ การคา้ แล้ว และเฉพาะเจาะจงต่อหนอนแต่ละชนิดไมส่ ามารถใชแ้ ทนกันได้ ไขแ่ ละหนอนกระทหู้ อม 24 กรมส่งเสริมการเกษตร
หนอนเจาะสมอฝ้าย ไข่และหนอนกระทู้ผัก NPV การเข้าทำ�ลายแมลงศัตรูพืชของเช้ือไวรสั เอ็นพีวี เชอ้ื ไวรสั เอน็ พวี ี จะฆา่ แมลงศตั รพู ชื ได้ หนอนตอ้ งกนิ เชอ้ื เขา้ ไป หนอนทกี่ นิ เช้ือไวรัสเอ็นพีวี เข้าไปจะมีลักษณะเคล่ือนไหว ช้าลง ลดการกินอาหาร ล�ำตัว เปล่ียนเป็นสีขาวขุ่นหรือสีครีม ระยะสุดท้ายหนอนจะพยายามไต่ขึ้นส่วนยอด ของต้นพืชเกาะอยู่นิ่งๆ หยุดกินอาหาร และตายในลักษณะใช้ขาเทียม เกษตรกรฉีดพ่นเช้อื ไวรัสเอน็ พีวี การใช้เชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์ (ชีวภณั ฑ์) ในการควบคมุ ศตั รูพชื 25
เกาะใบพืช ห้อยส่วนหัว และท้ายลงมาเป็นรูปตัววีหัวกลับ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ ของหนอนท่ีตายโดยเชื้อไวรัสเอ็นพีวี เกษตรกรสามารถเก็บหนอนท่ีตายโดยเช้ือไวรัสเอ็นพีวี ใส่ขวดสีชาเก็บไว้ในท่ีเย็นแล้วน�ำไปใช้ต่อได้ หนอนที่ตายโดยเชื้อไวรัสเอ็นพีวี ผนังล�ำตัว บางเป็นมันเย้ิมเม่ือไปโดนผนังจะแตกง่าย ของเหลวภายในล�ำตัวจะไหลออกมา เป็นสขี าวขุ่น ซ่งึ จะเตม็ ไปดว้ ยเช้อื ไวรัสเอ็นพีวี มีกล่ินเหม็นมาก ซึ่งเชอื้ ไวรสั เอน็ พีวี เม่ือแตกจากหนอนก็จะกระจายไปในแปลง สามารถช่วยควบคุมศัตรูพืชได้ต่อไป การกระจายของเชื้อไวรัสเอ็นพีวี กระจายไปกับลม ฝน การให้น�้ำ วัสดุปลูก เครือ่ งมอื ทางการเกษตร และสิ่งมีชีวิตท่ีอย่ใู นบริเวณน้ัน หนอนกระทู้หอม หนอนเจาะสมอฝา้ ย หนอนกระทผู้ กั หนอนที่ใชเ้ ชื้อไวรัสเอ็นพีวี กำ�จดั ได้ หนอนตายเพราะเชอื้ ไวรสั เอน็ พวี ี วธิ ใี ช้เชือ้ ไวรัสเอน็ พวี ี ควบคุมแมลงศัตรูพืช 1. หนอนท่ีเก็บไว้ท�ำให้แตกละเอียดกรองด้วยผ้าขาวบางเอากากทิ้ง ส่วนของเหลวใส่ในถังพ่น อัตราหนอนที่ตายด้วยเชื้อไวรัสเอ็นพีวี 20-40 ตัวต่อน�้ำ 20 ลติ ร 26 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
2. ส�ำรวจชนิดและปริมาณหนอน ศตั รพู ชื เพอื่ เลอื กใชเ้ ชอื้ ไวรสั เอน็ พวี ี ใหถ้ กู ตอ้ ง ตรงตามชนิดหนอนและคมุ้ คา่ ตอ่ การใช้ เพราะ เช้ือไวรัสเอ็นพีวี มีราคาค่อนข้างแพงและจะ ออกฤทธิเ์ มอ่ื หนอนกินเช้อื เข้าไป จงึ ควรใช้เมือ่ มีหนอนในปริมาณสูงและต้องการก�ำจัด การสำ�รวจแปลงเพอ่ื ดูชนิด อย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพของเช้ือไวรัสเอ็นพีวี และการทำ�ลายของหนอน จะเหมือนสารเคมี แต่ดีกว่าสารเคมีตรงที่ เช้ือไวรัสเอ็นพีวี จะฆ่าเฉพาะศัตรูพืชชนิดที่ เฉพาะเจาะจงและไมท่ ำ� อนั ตรายศตั รธู รรมชาติ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆหนอนกินเชื้อไวรัสเอ็นพีวี จะตายภายใน 2-7 วนั 3. การใช้เช้ือไวรัสเอ็นพีวีให้ใช้เม่ือ การพ่นเช้ือไวรสั เอน็ พีวี เพอื่ ควบคุมหนอน พบกลุ่มไข่หนอนหรอื หนอนวยั 1-3 ในอตั รา 20-30มลิ ลลิ ติ รตอ่ นำ้� 20ลติ รพน่ ทกุ 7-10วนั หากการระบาดรุนแรงมาก ใช้พ่นในอัตรา 30 มลิ ลลิ ิตร ต่อน้�ำ 20 ลิตร พน่ ทุก 4 วัน ตดิ ตอ่ กนั 2 ครงั้ และตอ้ งผสมสารจบั ใบเพอื่ ให้ เชื้อไวรัสเอ็นพีวี สามารถอยู่บนพืชได้นาน รอให้ศัตรูพืชมากิน ควรฉีดพ่นในเวลาเย็น หนอนเร่ิมตายดว้ ยเชื้อไวรัสเอน็ พวี ี เพราะศตั รูพชื มกั ท�ำลายพชื ในเวลากลางคนื 4. เกษตรกรสามารถเก็บหนอน ท่ีตายจากเช้ือไวรัสเอ็นพีวี ไว้ใช้เองโดยเก็บ ไว้ในขวดสีชา เก็บไว้ในที่เย็นเมื่อจะใช้บดให้ แตกกรองกากทง้ิ นำ� สว่ นของเหลวไปผสมนำ้� และสารจับใบพน่ ลงบนสว่ นของพชื หนอนตายจากไวรสั เอน็ พีวี สามารถ เกบ็ ใสข่ วดสีชาไวใ้ ชต้ อ่ ไปได้ ชีวภัณฑท์ ุกชนิดที่บริสุทธ์แิ ละแขง็ แรงได้ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าถ้าใช้ อย่างถูกต้องตามคำ�แนะนำ�จะสามารถควบคุมศตั รพู ืชได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ไม่เปน็ อันตรายต่อผใู้ ช้ และไมเ่ ปน็ อันตรายตอ่ ผู้บริโภค การใช้เชื้อจลุ ินทรยี ์ (ชีวภัณฑ)์ ในการควบคุมศตั รพู ชื 27
บรรณานกุ รม กรมวิชาการเกษตร. 2540.การควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี เอกสารวิชาการ การอบรมหลักสตู รแมลง-สตั ว์ศตั รพู ชื และการปอ้ งกันก�ำจดั ครั้งที่ 9 กองกีฏและสัตววทิ ยา กรุงเทพฯ หน้า 31-32. กรมส่งเสริมการเกษตร. 2539. คู่มือโครงการควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี. สถาบันบรหิ ารศัตรโู ดยชีววิธี. กรมสง่ เสรมิ การเกษตร. 59 หนา้ . โกศล เจริญสม และววิ ฒั น์ เสือสะอาด, 2537. ศัตรธู รรมชาติของแมลงศัตรูพืช ในประเทศไทย.ศูนย์วิจัยและควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.กรุงเทพฯ 114 หน้า. จิระเดช แจ่มสว่าง. 2546. การควบคุมโรคพืชและแมลงศัตรูพืชโดยชีววิธี. เอกสารประกอบการฝึกอบรมโครงการเกษตรกู้ชาติ โครงการย่อย การถ่ายทอดเทคโนโลยีชีวภาพ และชีวภัณฑ์ในการจัดการศัตรูพืช เพอ่ื ทดแทนการใชส้ ารเคม.ี ภาควชิ าโรคพชื .คณะเกษตร.มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.วทิ ยาเขตกำ� แพงแสน. 196 หนา้ . พิมลพร นันทะ. 2545. ศัตรูธรรมชาติ หัวใจของ IPM. กองกีฏและสัตววิทยา กรมวชิ าการเกษตร. 215 หน้า. มณจันทร์ เมฆธน. 2552. ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูทางการเกษตรและสาธารณสุข. กรุงเทพฯ : โอ เอสพรน้ิ ติง้ เฮา้ ส์, 2552. 364 หนา้ . ลาวัลย์ จีระพงษ์. 2540. การใช้เช้ือราไตรโคเดอร์มาควบคุมศัตรูพืชชีววิธี กรมส่งเสรมิ การเกษตร กรงุ เทพฯ สุอาภา ดิสถาพร. 2537. การส่งเสริมการควบคุมศัตรพู ืชโดยชีววธิ ี กล่มุ งานชวี วธิ ี กองป้องกันและก�ำจัดศตั รพู ืช กรมสง่ เสริมการเกษตร หนา้ 70-75. อทุ ัย เกตุนตุ ิ. 2540. เอกสารคำ� แนะน�ำ เรื่องการควบคุมแมลงศัตรพู ืชด้วยไวรสั NPV. กลมุ่ งานวจิ ัยปราบศตั รพู ืชทางชีวภาพ, กองกฏี และสตั ววทิ ยา, กรมวชิ าการเกษตร. 72 หนา้ . 28 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
เอกสารคำ�แนะนำ�ท่ี 2/2560 การใช้เชื้อจุลนิ ทรีย์ (ชีวภณั ฑ์) ในการควบคมุ ศัตรพู ชื ทป่ี รกึ ษา อธบิ ดีกรมส่งเสรมิ การเกษตร www.doae.go.th รองอธบิ ดีกรมสง่ เสรมิ การเกษตร ฝา่ ยบริหาร นายสมชาย ชาญณรงค์กลุ รองอธิบดีกรมสง่ เสริมการเกษตร ฝ่ายวิชาการ นายสงกรานต์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ฝา่ ยสง่ เสรมิ และฝึกอบรม นายประสงค์ ประไพตระกลู ผอู้ �ำนวยการสำ� นักพฒั นาการถ่ายทอดเทคโนโลยี นายสุดสาคร ภทั รกลุ นษิ ฐ์ นางอัญชลี สวุ จติ ตานนท ์ เรยี บเรยี ง นางอารยี ์พันธ์ อปุ นิสากร ผอู้ ำ� นวยการกลุ่มส่งเสรมิ การควบคมุ ศัตรพู ืชโดยชวี วธิ ี นางสาวอารวี รรณ ใจเพช็ ร นักวชิ าการเกษตรชำ� นาญการพเิ ศษ นางสาววรนาฎ โคกเยน็ นักวชิ าการเกษตรปฏบิ ัตกิ าร นางสาวสณุ สิ า ผวิ รำ� ไพ นักวชิ าการเกษตรปฏิบัติการ กลมุ่ ส่งเสริมการควบคุมศตั รูพืชโดยชวี วธิ ี กองส่งเสริมการอารกั ขาพชื และจดั การดนิ ปยุ๋ กรมสง่ เสรมิ การเกษตร จัดทำ� ผูอ้ �ำนวยการกล่มุ พฒั นาส่อื ส่งเสรมิ การเกษตร นางอมรทิพย์ ภิรมย์บูรณ ์ นางสาวอำ� ไพพงษ์ เกาะเทียน นักวชิ าการเผยแพร่ชำ� นาญการ กลุ่มพฒั นาสอ่ื สง่ เสรมิ การเกษตร ส�ำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: