Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book วันวิสาขบูชา

E-book วันวิสาขบูชา

Published by aou.29112522, 2021-05-21 09:00:46

Description: E-book วันวิสาขบูชา

Search

Read the Text Version

กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น การเรยี นรู้ ออนไลน์ หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ : E-Book จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรสี าโรง

วันวิสาขบชู า เป็นวันท่สี มเดจ็ พระอรหันตสัมมาสมั พุทธเจ้า ประสูติ ตรสั รู้ และปรนิ ิพพาน ซึง่ เกิดขน้ึ ในวันและเดือนเดยี วกนั คือ ใน วนั เพ็ญ (ข้นึ 15 ค่า) เดือนหก หรือเดือนเวสาขะ พระจันทร์เสวยวิสาข ฤกษ์ เหตุการณด์ งั กลา่ วนไี้ ด้เกิดขึน้ เม่ือกว่าสองพันหา้ รอ้ ยปีมาแลว้ ในหว้ ง ระยะเวลาทตี่ ่างกัน คือ ครั้งแรก เมอ่ื พระพุทธเจ้าประสูตเิ ป็นเจ้าชายสิทธัตถะ โอรส พระเจา้ สทุ โธธนะ และ พระนาง สิริมหามายาแหง่ กรุงกบลิ พัสด์ุ โดย ประสตู ิที่ปา่ ลมุ พนิ วี ัน ณ เขตแดนรอยตอ่ ระหว่างกรุงกบิลพสั ดุ์ของฝา่ ย พระราชบิดากับกรงุ เทวทหะของฝา่ ยพระราชมารดา ครงั้ ที่สอง เกดิ เม่อื เจา้ ชายสทิ ธตั ถะ ออกทรงผนวชได้ 6 ปี พระชนมายุ 35 พรรษา ได้ตรสั รพู้ ระอนุตรสัมมาสัมโพธญิ าณ เปน็ อรหันตพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ณ รม่ิ ฝัง่ แม่น้่าเนรญั ชรา ประเทศมคธปัจจุบันคอื ท่ตี ั้งพุทธคยา คร้งั ทีส่ าม เกิดเมื่อพระอรหันตสัมมาสมั พทุ ธเจา้ เสด็จดบั ขนั ธ ปรนิ พิ พาน เมอ่ื พระชนมายุ 80 พรรษา ณ เมืองกุสนิ ารา จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรสี าโรง

ประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย วันวสิ าขบชู าน้ี ปรากฏตามหลกั ฐานว่า ได้มมี าตง้ั แตค่ รั้งกรงุ สุโขทัยเปน็ ราชธานี ซ่งึ สันนิษฐานว่า คงจะไดแ้ บบอย่าง มาจากลงั กา กล่าวคอื เม่อื ประมาณ พ.ศ. 420 พระเจา้ ภาติกุราช กษตั รยิ ์แห่งกรุง ลงั กา ได้ประกอบพิธีวสิ าขบูชาอยา่ ง มโหฬาร เพื่อถวายเป็นพทุ ธบูชา กษตั รยิ ล์ งั กาในรัชกาลต่อ ๆ มา กท็ รงด่าเนนิ รอยตาม แม้ปัจจบุ นั ก็ยัง ถอื ปฏบิ ัตอิ ยู่ สมยั สุโขทัยนน้ั ประเทศไทยกับประเทศลังกามคี วามสมั พนั ธด์ ้าน พระพุทธศาสนาใกล้ชิดกันมากเพราะพระสงฆ์ชาวลังกา ได้เดนิ ทางเขา้ มาเผยแพร่พระพทุ ธศาสนา และเช่อื ว่าไดน้ า่ การประกอบพธิ วี สิ าขบชู า มาปฏิบัตใิ นประเทศไทยดว้ ย จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรสี าโรง

ในหนงั สือนางนพมาศไดก้ ลา่ วบรรยากาศการประกอบพธิ วี ิสาขบูชา สมัยสโุ ขทัยไว้ พอสรปุ ใจความได้วา่ \" เมื่อถึงวนั วิสาขบชู า พระเจา้ แผ่นดิน ขา้ ราชบรพิ าร ทั้งฝา่ ยหน้า และฝ่ายใน ตลอดท้งั ประชาชนชาวสโุ ขทัยทวั่ ทกุ หม่บู ้านทกุ ตาบล ตา่ ง ช่วยกนั ทาความสะอาด ประดับตกแต่งพระนครสุโขทัยเป็นการพเิ ศษ ด้วยดอกไม้ของหอม จดุ ประทปี โคมไฟแลดูสวา่ งไสวไปทว่ั พระนคร เป็น การอุทศิ บูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน พระมหากษัตริย์ และ บรมวงศานวุ งศ์ ก็ทรงศีล และทรงบาเพญ็ พระราชกศุ ลตา่ งๆ ครัน้ ตก เวลาเยน็ กเ็ สดจ็ พระราช ดาเนนิ พรอ้ มด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และ นางสนองพระโอษฐต์ ลอดจนขา้ ราชการท้งั ฝ่ายหนา้ และฝา่ ยใน ไปยัง พระ อารามหลวง เพ่อื ทรงเวยี นเทียนรอบพระประธาน ส่วนชาวสุโขทัยชวนกันรกั ษาศีล ฟังธรรมเทศนา ถวายสลากภัต ถวายสงั ฆทาน ถวายอาหารบณิ ฑบาต แดพ่ ระภิกษุ สามเณรบรจิ าค ทรพั ย์แจกเป็นทานแก่คนยากจน คนกาพร้า คนอนาถา คนแก่ คน พิการ บางพวกก็ชวนกันสละทรัพย์ ปลอ่ ยสตั ว์ 4 เท้า 2 เทา้ และเตา่ ปลา เพอ่ื ชวี ิตสัตว์ใหเ้ ป็นอสิ ระ โดยเช่อื ว่าจะทาให้คนอายุ ยืนยาวตอ่ ไป \" จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง

ในสมยั อยธุ ยา สมัยธนบุรี และสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ ดว้ ย อ่านาจอทิ ธพิ ลของศาสนาพราหมณ์ เขา้ ครอบงา่ ประชาชนคนไทย และ มอี ทิ ธพิ ลสูงกว่าอ่านาจของพระพทุ ธศาสนา จงึ ไมป่ รากฎหลักฐานว่า ไดม้ ีการประกอบพิธบี ชู าในวนั วสิ าขบูชา จนมาถงึ รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลยั รชั กาลที่ 2 แห่งกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ (พ.ศ. 2360) ทรงด่ารกิ บั สมเด็จพระสังฆราช (มี) ส่านัก วดั ราชบรู ณะ มีพระราชประสงค์จะให้ฟนื้ ฟู การประกอบพระราชพิธี วนั วิสาขบชู าข้นึ ใหม่ โดย สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระพรให้ทรงทา่ ขึน้ เปน็ ครงั้ แรกในวนั ข้นึ 14 ค่า 15 คา่ และวันแรม 1 คา่ เดอื น 6 พ.ศ. 2360 และให้จัดท่าตามแบบอยา่ งประเพณเี ดมิ ทุกประการ เพือ่ มี พระประสงคใ์ หป้ ระชาชนประกอบการบญุ การกุศล เป็นหนทางเจริญ อายุ และอยเู่ ญน็ เปน็ สขุ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และอุปทั วนั ตราย ต่างๆ โดยทัว่ หนา้ กนั ฉะน้ัน การประกอบพธิ ีในวันวิสาขบชู าในประเทศไทย จงึ ได้รอ้ื ฟน้ื ให้มขี ้ึนอกี คร้งั หนง่ึ ในรัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้า นภาลยั รัชกาลท่ี 2 และถอื ปฏบิ ัตมิ าจวบจนกระท่ังปจั จุบัน จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง

1. เป็นวันที่พระพุทธเจ้า ประสตู ิ พระพทุ ธเจ้าพระมหา บรุ ษุ ของโลก ทรงเป็นเอกอัคร บุรุษประสตู มิ าในโลกเพอ่ื บา่ เพญ็ ประโยชนส์ ขุ และ เกื้อกลู แกป่ วงชนเปน็ จ่านวน มาก พระพทุ ธเจ้าประสูติมา เป็นแสงสวา่ งเป็นดวงประทปี ของโลก ในทางเผยแผ่ สัจธรรมเพ่ือความสงบรม่ เยน็ ของชาวโลก พระพทุ ธเจา้ ประสตู ขิ ้นึ มาเพอ่ื อนุเคราะหช์ าวโลกเพอื่ บา่ เพญ็ ประโยชน์เกอ้ื กลู และความสขุ สงบของเทวดาและมนษุ ย์ทัว่ ไป อนั มีประวัตวิ ่า เมอื่ พระนางสริ มิ หามายา พระมเหสขี องพระเจา้ สุทโธทนะ แหง่ กรงุ กบิลพัสด์ุ ทรงพระครรภ์แก่จวนจะประสูติ พระนางไดร้ บั พระบรม ราชานญุ าต จากพระสวามี ใหแ้ ปรพระราชฐานไปประทบั ณ กรุงเทวท หะ ซ่ึงเป็นพระนครเดมิ ของพระนาง เพือ่ ประสตู ใิ นตระกูลของพระนาง ตามประเพณีนิยมในสมัยน้ัน ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิรยิ าบถใต้ต้น สาละ ณ สวนลุมพินีวนั พระนางก็ได้ประสตู ิพระโอรส ณ ใต้ตน้ สาละ นัน้ ซ่งึ ตรงกับวันเพญ็ เดอื น 6 กอ่ นพุทธศกั ราช 80 ปี คร้นั พระกมุ าร ประสตู ิได้ 5 วนั ก็ได้รับการถวายพระนามว่า \"สิทธัตถะ\" จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรสี าโรง

2. เปน็ วันทพี่ ระพุทธเจา้ ตรสั รู้ อนตุ ตรสมั โพธิญาณ การตรัส อรยิ สจั ส่ี คอื ของจริงอนั ประเสรฐิ 4 ประการของ พระพุทธเจา้ เปน็ การตรัสรอู้ ัน ยอดเย่ยี ม ไม่มีผเู้ สมอเหมอื น วันตรสั ของพระพทุ ธเจา้ จึง จัดเป็นวันส่าคัญ เพราะเป็น วันทีใ่ ห้เกิดมีพระพุทธเจา้ ขน้ึ ในโลกชาวพทุ ธทัว่ ไป จงึ เรียก วนั วสิ าขบชู าว่า วันพระพุทธ (เจ้า) อันมีประวตั ิว่าพระมหาบุรษุ ทรง บ่าเพญ็ เพียรตอ่ ไป ทีใ่ ต้ตน้ พระศรีมหาโพธ์นิ ั้น ทรงเรมิ่ บา่ เพญ็ สมาธิให้ เกิดในพระทยั เรียกวา่ การเข้า \"ฌาน\" เพอื่ ใหบ้ รรลุ \"ญาณ\" จนเวลา ผา่ นไปจนถงึ ... ยามตน้ : ทรงบรรลุ \"ปพุ เพนิวาสานตุ ญิ าณ \" คอื ทรงระลกึ ชาตใิ น อดตี ท้งั ของตนเองและผู้อ่นื ยามสอง : ทรงบรรลุ \"จตุ ูปปาตญาณ \" คือการรู้แจ้งการเกดิ และ ดบั ของสรรพสัตว์ทัง้ หลาย ยามสาม : ทรงบรรลุ \"อาสวักขญาณ\" คอื รู้วิธีกา่ จัดกิเลสดว้ ย อริยสัจ 4 ( ทกุ ข์ สมทุ ัย นิโรธ มรรค )ไดต้ รสั รเู้ ป็นพระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า ในคนื วันเพญ็ เดือน 6 ซง่ึ ขณะนั้นพระพทุ ธองคม์ พี ระชนมายุได้ 35 พรรษา จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรสี าโรง

3. วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จ เข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสงั ขารไม่ กลับมาเกิดสรา้ งชาติ สรา้ งภพ อีกต่อไป) การปรินพิ พานของ พระพุทธเจา้ ก็ถอื เป็นวนั ส่าคัญของชาวพุทธท่ัวโลก เพราะชาวพทุ ธท่วั โลกได้ สูญเสยี ดวงประทีปของโลก เป็นการสญู เสยี ครัง้ ยิ่งใหญ่ และคร้งั สา่ คญั ชาวพุทธท่วั ไป มีความเศร้าสลดเสยี ใจและอาลัยสุดจะพรรณนา อนั มีประวตั วิ ่าเม่อื พระ พทุ ธองคไ์ ด้ตรสั รู้และแสดงธรรมมาเป็นเวลานานถึง 45 ปี ซงึ่ มี พระชนมายไุ ด้ 80 พรรษา ได้ประทบั จ่าพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมือง เวสาลี แควน้ วชั ชี ในระหว่างน้นั ทรประชวรอย่างหนัก ครน้ั เมอ่ื ถึงวัน เพญ็ เดอื น 6 พระพทุ ธองค์กบั พระภิกษสุ งฆ์ทงั้ หลาย ก็ไปรบั ภัตตาหาร บิณฑบาตทีบ่ า้ นนายจุนทะ ตามค่ากราบทูลนมิ นต์ พระองค์เสวย สกุ รมทั ทวะท่ีนายจุนทะตั้งใจทา่ ถวาย กเ็ กิดอาพาธลง แต่ทรงอดกลน้ั ม่งุ เสด็จไปยังเมืองกุสนิ ารา ประทับ ณ ปา่ สาละ เพอ่ื เสด็จดบั ขันธ์ุ ปรนิ ิพพาน ในราตรีนั้น ได้มีปรพิ าชกผหู้ นงึ่ ชื่อสภุ ัททะขอเขา้ เฝา้ และ ได้อปุ สมบทเปน็ พระพทุ ธสาวกองคส์ ุดทา้ ย เมื่อถงึ ยามสุดท้ายของคนื นั้น พระพทุ ธองคก์ ็ทรงประทานปัจฉมิ โอวาทว่า \"ดกู ่อนภิกษทุ ั้งหลาย อนั วา่ สังขารท้ังหลายย่อมมคี วามเสือ่ มสลายไปเป็นธรรมดา ท่าน ทงั้ หลายจงยังกิจทั้งปวงอนั เป็นประโยชนข์ องตนและประโยชนข์ องผ้อู ืน่ ให้บรบิ รู ณ์ด้วยความไม่ประมาทเถดิ \" หลังจากน้นั จกดั ็เทสาดโด็จยเข: ้ากดศนบั .อขาันเภธอ์ุ ศรสี าโรง ปรินพิ พาน ในราตรเี พ็ญเดอื น 6 น้ัน โดย หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง

แหลง่ ทีม่ า https://www.matichon.co.th/wp- content/uploads/2018/03/ภป-พระราชปจุฉา.jpg https://www.onab.go.th/th/content/category/deta il/id/73/iid/3401 https://www.facebook.com/proudbook/ http://www.dhammathai.org/day/visaka.php จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรสี าโรง

กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่าน การเรยี นรู้ ออนไลน์ หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ : E-Book จดั ทาโดย : กศน.อาเภอศรสี าโรง โดย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรสี าโรง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook