แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา งานเช่ือมและโลหะแผ่นเบอื้ งต้น รหัส 2100-1005 หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี พทุ ธศักราช 2556 ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2560 จดั ทาโดย วา่ ที่ร้อยตรปี ริญญา เตม็ รักษ์ ครู วทิ ยฐานะครชู านาญการ สาชาวิชา ช่างเชื่อมโลหะ วิทยาลัยเทคนคิ ชลบุรี สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 ชื่อวิชา งานเชือ่ มและโลหะแผ่นเบอ้ื งตน้ สอนคร้ังที่ 1 ชอื่ หน่วย ความรู้เบอ้ื งต้นในการเชอื่ มแก๊ส ช่วั โมงสอนรวม 1 - 4 ชื่อเรอื่ ง การประกอบและตดิ ต้ังชุดเชื่อมแก๊ส จานวนชั่วโมง 4 ชว่ั โมง หัวข้อเรอื่ ง 1. ความปลอดภยั ในงานเชอ่ื มแก๊สตามหลักอาชวี อนามัย 2. เครอื่ งมอื และอุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นงานเชื่อมแกส๊ 3. การประกอบ การตดิ ต้ังอุปกรณเ์ ช่อื มแก๊ส และการตรวจสอบรอยรัว่ สาระสาคัญ 1. ความปลอดภัยตามหลกั อาชีวอนามัย หมายถึง ความปลอดภยั ในการทางาน โดยคานงึ ถึง สุขภาพอนามยั ของผูป้ ฏิบตั ิงานให้ปลอดภยั จากอันตรายของมลพิษต่าง ๆ ในการเช่อื มแก๊ส จึงต้อง คานึงถึงความปลอดภัยในด้านอาชวี อนามยั ด้วยเช่นกนั 2. เครือ่ งมือและอปุ กรณใ์ นการเชื่อมแก๊ส ประกอบดว้ ย ทอ่ บรรจแุ ก๊ส อุปกรณ์ปรับความดนั ทอรช์ เชื่อม หัวทพิ สายเชื่อมและขอ้ ต่อ ทีจ่ ดุ เปลวไฟ ทีท่ าความสะอาดหวั ทิพ ประแจสาหรบั เปิดปดิ แกส๊ และอุปกรณป์ อ้ งกนั ร่างกาย 3. การประกอบและตดิ ตัง้ อุปกรณเ์ ช่ือมแก๊สเพอื่ พรอ้ มใช้งานไดจ้ ะต้องศกึ ษาขน้ั ตอนใหเ้ ขา้ ใจ และสามารถประกอบและตดิ ตง้ั ไดเ้ องโดยมี 5 ขนั้ ตอน คือ ประกอบมาตรวัดความดนั เข้ากับท่อบรรจุ แก๊สประกอบสายเชื่อมกับทอรช์ เชื่อม เปิดวาลว์ ทอ่ บรรจุแกส๊ และปรับมาตรวดั ความดนั ใช้งาน การ ตรวจสอบรอยร่วั หลงั จากการประกอบอปุ กรณ์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์ทัว่ ไป 1. เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจหลักการความปลอดภยั ตามหลกั อาชวี อนามยั ในงานเช่อื มแก๊ส 2. เพื่อใหเ้ ขา้ ใจหลักการเร่อื งอบุ ตั เิ หตุทีอ่ าจเกดิ ในงานเชื่อมแก๊สตามหลกั อาชีวอนามยั 3. เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ านในการเตรียมเครอ่ื งมืออปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นงานเชือ่ มแกส๊ 4. เพื่อใหเ้ ข้าใจขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านในการตดิ ตงั้ เครอื่ งมอื อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในงานเชอื่ มแกส๊ 5. เพอ่ื ใหส้ ามารถตรวจสอบการรว่ั ของแก๊ส 6. เพื่อใหม้ กี จิ นิสยั ในการทางานที่มีระเบยี บแบบแผน มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองและ ส่วนรวม
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธบิ ายความหมายของความปลอดภัยตามหลกั อาชีวอนามัยในการเช่ือมแกส๊ ได้ 2. อธบิ ายวธิ กี ารป้องกนั อันตรายตามหลักอาชวี อนามยั ท่เี กดิ จากการเชอ่ื มแก๊สได้ 3. อธบิ ายถึงคุณสมบตั ขิ องแก๊สทใี่ ช้ในการเช่ือมแกส๊ ได้ 4. อธิบายลักษณะการใชง้ านของเครือ่ งมือ อุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นงานเช่ือมแกส๊ ได้ 5. บอกชอ่ื และหนา้ ท่ขี องเครื่องมอื อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการเชอ่ื มแก๊สได้ 6. เตรยี มเคร่ืองมอื อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในงานเช่ือมแกส๊ ไดถ้ กู ตอ้ งตามขั้นตอนท่กี าหนดได้ 7. ประกอบ ติดต้งั ปรับ เครื่องมอื อุปกรณ์ท่ีใช้ในงานเชอื่ มแก๊สได้ 8. บอกวิธกี ารปรบั เครื่องควบคมุ ความดนั แก๊สและปรบั แรงดันใชง้ านได้ 9. ตรวจสอบและแกไ้ ขรอยร่ัวของแก๊สที่ใชใ้ นการเชอื่ มแก๊สได้ 10. ปฏิบตั ิงานด้วยความมีระเบยี บแบบแผน อดทน ปลอดภัยและรักษาส่ิงแวดล้อม เน้ือหาสาระ 1. ความปลอดภยั ตามหลกั อาชวี อนามัย 2. เคร่อื งมือและอุปกรณใ์ นการเชอื่ มแกส๊ 2.1 ทอ่ บรรจแุ กส๊ 2.2 อุปกรณป์ รับความดนั 2.3 ทอรช์ เชื่อม 2.4 หัวทิพ 2.5 สายเช่อื มและขอ้ ตอ่ 2.6 ทจ่ี ดุ เปลวไฟ 2.7 ที่ทาความสะอาดหวั ทพิ 2.8 ประแจสาหรบั เปิดปดิ แกส๊ 2.9 อุปกรณ์ปอ้ งกนั ร่างกาย 3. การประกอบและการติดตง้ั 3.1 การประกอบและการติดต้ังท่อออกซิเจน - ขนั้ ตอนการประกอบและการติดตัง้ - ขอ้ ควรระวังการประกอบและการตดิ ต้ัง 3.2 การประกอบและการติดตง้ั ทอ่ แกส๊ อะเซทิลนี - ขัน้ ตอนการประกอบและการตดิ ต้ัง - ข้อควรระวงั การประกอบและการตดิ ต้ัง 3.3 การการตรวจสอบรอยรว่ั หลังจากการประกอบอุปกรณ์
กิจกรรมการเรยี นการสอน ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของนกั เรียน ขน้ั ทดสอบก่อนเรียน ขั้นทดสอบก่อนเรียน ครทู าการทดสอบประเมินความรู้กอ่ นเรียน นักเรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียน ขั้นที่ 1 ขัน้ สนใจปญั หา ( Motivation ) ขน้ั ที่ 1 ขัน้ สนใจปัญหา ( Motivation ) ครใู ห้นักเรยี นรปู ภาพเกี่ยวกบั งานเช่อื มแกส๊ แลว้ นกั เรียนรบั ฟงั โตต้ อบ คิด คน้ หาคาตอบ และ ถามนักศึกษาวา่ ก่อนที่จะทาการเชื่อมแก๊สไดน้ ั้น เหตผุ ล ร่วมกันกับครผู สู้ อน เราจะต้องปฏบิ ัตอิ ยา่ งไรก่อนจงึ จะทาการเชอ่ื มได้ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ศกึ ษาข้อมูล ( Information ) ขั้นที่ 2 ข้นั ศึกษาข้อมูล ( Information ) ครูดาเนนิ การสอนโดยใชส้ อื่ โดยฉายวดิ โี อ แสดง นักเรียนต้งั ใจฟงั จดบนั ทึกใจความสาคญั และ แบบงานจรงิ ประกอบการบรรยาย โดยนักเรยี น ซักถามโตต้ อบกับครูเมื่อเกิดข้อสงสยั หรอื ไม่ ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยที่ครใู ชค้ าถาม เข้าใจ กระตุ้นเพอื่ ให้นักเรียนมสี ว่ นรว่ มในการเรยี นและ เกดิ ความเขา้ ใจอย่างคงทนถาวรตามเนื้อหาสาระ นักเรียนทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบทสุดท้าย การเรียนรทู้ ่กี าหนดไว้ ซ่ึงไดแ้ ก่ นักเรยี นและครูร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหัด นักเรียนดกู ารสาธิตจากครู ใบงานท่ี 1 1. ความปลอดภัยตามหลกั อาชวี อนามยั ขั้นท่ี 3 ขน้ั พยายาม 2. เครื่องมอื และอุปกรณ์ในการเช่อื มแก๊ส นักเรยี นลงมอื ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และใบ 3. การประกอบและการตดิ ตัง้ งานท่ี 1 4. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ขั้นท่ี 4 ขั้นสาเรจ็ ผล ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท นกั เรียนรว่ มกับครู เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ครูเฉลยแบบฝกึ หัดร่วมกบั นักเรยี น และตรวจใบงานที่ 1 เพ่ือทราบผลสาเรจ็ ของ ครูสาธิต ใบงานท่ี 1 นักเรียน และเพอื่ ปรับแก้ความเข้าใจท่ี ขัน้ ท่ี 3 ข้ันพยายาม ( Application ) คลาดเคลอื่ นของนกั เรยี น ครมู อบหมายให้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลัง เรยี นและใบงานท่ี 1 ขั้นท่ี 4 ขั้นสาเร็จผล ( Progression ) ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนและตรวจใบงานท่ี 1 รว่ มกบั นักเรียนเพอื่ ปรบั แกค้ วามเข้าใจท่ี คลาดเคล่อื นของนักเรยี น
งานท่ีมอบหมายหรือกิจกรรม 1. ก่อนเรยี น นักเรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรูก้ ่อนเรียน 2. ขณะเรยี น นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั นักเรยี นปฏบิ ัติงานใบงานที่ 1 3. หลงั เรยี น นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 1 สอื่ การเรยี นการสอน 1. สือ่ สิ่งพิมพ์ 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียนพรอ้ มเฉลย หน่วยท่ี 1 1.2 แบบฝกึ หดั พร้อมเฉลย หน่วยที่ 1 1.3 ใบความรู้ หน่วยท่ี 1 2. ส่อื โสตทัศน์ 2.1 เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจรงิ 3.1 อปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในงานเช่อื มแกส๊ การประเมินผล 1. ก่อนเรียน แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น 2. ขณะเรยี น แบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 1 ใบงานที่ 1 3. หลงั เรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 1 เอกสารอา้ งองิ ทรงวุฒิ เสมาคา. งานเชอ่ื มละโลหะแผน่ เบื้องต้น. กรงุ เทพฯ : จิตรวฒั น์, 2550. ทินกร มารงั ค์ และประยทุ ธ ทบั ทิมศรี. งานเชอื่ มและโลหะแผน่ เบ้ืองต้น กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ศนู ยส์ ่งเสรมิ อาชีวะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชอ่ื มและโลหะแผ่นเบือ้ งตน้ กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์, 2547 ประทีป ระงับทุกข,์ งานเช่ือมโลหะ1. กรงุ เทพฯ : สานักพมิ พเ์ อมพันธ์, 2547.
บันทกึ หลังการสอน หน่วยท่ี 1 เร่ือง ความรู้เบือ้ งตน้ ในการเช่ือมแก๊ส ผลการใชแ้ ผนการจดั เรียนรู้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ สามารถนามาปฏบิ ตั ิไดท้ ันตามเวลาที่กาหนดไว้ เป็นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............................................................................................................................. ........................... ผลการเรียนร้ขู องนักเรียน 1. ความสนใจของนักเรียน เปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเนอื้ หาไดค้ รบทกุ กระบวนการหรอื ไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครูผสู้ อนมีวธิ ีการกระตนุ้ นกั เรียนใหม้ สี ว่ นรว่ มในการเรียนการสอนอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปัญหาทีพ่ บ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแกไ้ ขปัญหา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 2 ช่ือวชิ า งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบอ้ื งต้น สอนคร้งั ที่ 2-6 ชอ่ื หน่วย กระบวนการเชื่อมแกส๊ ชวั่ โมงสอนรวม 24 ชอ่ื เรอ่ื ง กระบวนการเชื่อมแก๊ส จานวนชวั่ โมง 20 ชว่ั โมง หัวขอ้ เรอ่ื ง 1. หลักวิธกี ารในงานเชอ่ื มแก๊ส 2. ขั้นตอนการปรับเปลวไฟ และเปลวไฟในงานเชอ่ื มแกส๊ 3. ชนิด และรอยต่อทีใ่ ช่ในงานเชอ่ื มแกส๊ 4. ทา่ เชอื่ ม และเทคนิคในการเช่ือมแกส๊ 5. ชนดิ และลวดเชอ่ื มแกส๊ 6. งานปรบั เปลวไฟเช่อื มแกส๊ 7. งานเชอ่ื มเดนิ แนวทา่ ราบโดยไมเ่ ติมลวดเชื่อมแกส๊ 8. งานเช่ือมตอ่ ขอบโดยไม่เติมลวดเช่ือมแก๊ส 9. งานเช่อื มเดนิ แนวท่าราบโดยเติมลวดเชอ่ื มแก๊ส 10. งานเชื่อมตอ่ ชนท่าราบ 11. งานเช่อื มต่อเกยท่าราบ 12. งานเชื่อมตวั ทีท่าราบ สาระสาคญั การเชอื่ มแกส๊ หมายถงึ การทาใหโ้ ลหะหลอมละลายติดกนั โดยอาศยั ความรอ้ นทเี่ กดิ จากการ เผาไหมข้ องกา๊ ซเชื้อเพลิงและออกซิเจน ความร้อนของเปลวไฟที่เกิดจากสว่ นผสมของแกส๊ อะเซทิลีนกับ ออกซเิ จนจะใหค้ วามรอ้ นสูงที่สดุ โดยหลอมเหลวโลหะใหต้ ิดกันจะใชก้ ารเตมิ ลวดเชอ่ื มหรือไมเ่ ติมลวด เชื่อมก็ได้ สาหรบั เปลวไฟทใ่ี ช้ในการเชอื่ มแก๊สมี 3 ชนิด คือ เปลวคารบ์ ูไรซงิ่ เฟรม เปลวนิวตรัล เฟรม และเปลวออกซิไดซง่ิ เฟรม ซ่งึ มีการใชง้ านท่แี ตกต่างกนั ลวดเชื่อมแกส๊ ด้วยแก๊สออกซิอะเซทิลนี มี 2 ชนิด คอื ลวดเชอ่ื มท่ีเป็นเหล็กและลวดเชือ่ มท่ีไม่ใชเ่ หล็กมีการกาหนดมาตรฐานลวดเช่ือมแกส๊ เป็น รหสั เพอ่ื แบ่งความสามารถในการใช้งาน เช่น AWS RG 45 เปน็ ตน้ สาหรบั ท่าเชอื่ มท่ีใช้ในการเชื่อมแก๊ส ตามมาตรฐานม่ี 4 ทา่ เช่ือม และเทคนิควิธีในการเชื่อมมี 2 แบบ คือการเชือ่ มแบบเปลวไฟและลวดเชือ่ ม เดนิ ไปในทิศทางเดยี วกัน กับการเช่อื มแบบเปลวเชือ่ มกบั ลวดเช่อื มเดนิ สวนทางกนั โดยมปี ระเภทของ รอยตอ่ ท่ีใช้ในงานเชือ่ มแก๊สอยู่ 5 ชนดิ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์ทัว่ ไป 1. เพื่อให้มคี วามเขา้ ใจหลักการในการเชอื่ มแกส๊ 2. เพอ่ื ให้มีความเขา้ ใจข้นั ตอนการปรับเปลวไฟ และเปลวไฟในงานเชอื่ มแก๊ส 3. เพือ่ ให้มคี วามเขา้ ใจชนดิ และรอยตอ่ ทใี่ ชใ่ นงานเชอ่ื มแกส๊ 4. เพอ่ื ให้มคี วามเขา้ ใจประเภทของท่าเช่อื ม และเทคนิคในการเชือ่ มแก๊ส 5. เพื่อให้มีความเขา้ ใจชนดิ และประเภทลวดเช่ือมแกส๊ 6. เพื่อใหม้ ีความสามารถในการปฏิบัติงานปรบั เปลวไฟเช่ือมแก๊ส 7. เพอื่ ให้มีความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานเช่ือมเดินแนวทา่ ราบโดยไม่เตมิ ลวดเช่อื มแกส๊ 8. เพอื่ ให้มคี วามสามารถในการปฏิบตั ิงานเชื่อมต่อขอบโดยไมเ่ ตมิ ลวดเช่อื มแกส๊ 9. เพอื่ ให้มคี วามสามารถในการปฏบิ ัติงานเช่ือมเดนิ แนวท่าราบโดยเตมิ ลวดเชื่อมแก๊ส 10. เพอื่ ใหม้ ีความสามารถในการปฏิบัตงิ านเชื่อมต่อชนท่าราบ 11. เพื่อใหม้ ีความสามารถในการปฏบิ ตั งิ านเช่ือมตอ่ เกยท่าราบ 12. เพอ่ื ใหม้ คี วามสามารถในการปฏิบตั งิ านเชื่อมตวั ทที ่าราบ 13. เพอ่ื ให้มีกิจนิสยั ในการทางานทีม่ ีระเบียบแบบแผน มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและ ส่วนรวม จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. อธิบายหลกั การในการเชือ่ มแก๊สออกซิอะเซทิลีนได้ 2. ปฏิบตั ขิ ัน้ ตอนการปรับเปลวไฟ และบอกลักษณะเปลวไฟในงานเช่อื มแก๊สได้ 3. บอกชนิด และรอยตอ่ ที่ใชใ่ นงานเชอ่ื มแกส๊ ได้ 4. บอกประเภทของท่าเชื่อมแต่ละชนิดได้ 5. บอกเทคนิคและวธิ ีการในการเชื่อมแก๊สได้ 6. บอกชนิด และประเภทลวดเชอ่ื มแก๊สได้ 7. อ่านรหัสของลวดเชอ่ื มแก๊สตามมาตรฐาน AWS ได้ 8. จัดเตรยี มเครือ่ งมอื อปุ กรณ์ ในงานเชอื่ มแกส๊ พรอ้ มประกอบตดิ ต้ังได้อย่างถูกตอ้ ง 9. ปฏบิ ัติงานปรบั เปลวไฟเช่ือมแกส๊ ได้ 10. ปฏิบตั งิ านเชอ่ื มเดนิ แนวทา่ ราบโดยไมเ่ ติมลวดเชอื่ มแก๊สได้ 11. ปฏิบตั ิงานเชอื่ มตอ่ ขอบโดยไมเ่ ตมิ ลวดเชอ่ื มแก๊สได้ 12. ปฏิบตั งิ านเช่อื มเดินแนวท่าราบโดยเติมลวดเชอื่ มแกส๊ ได้ 13. ปฏิบัตงิ านเชื่อมตอ่ ชนทา่ ราบได้ 15. ปฏิบตั ิงานเชอื่ มตอ่ เกยทา่ ราบได้ 16. ปฏิบตั งิ านเชื่อมตวั ทที า่ ราบได้
เน้อื หาสาระ 1. หลกั การในการเชอ่ื มแกส๊ 2. เปลวไฟท่ีใชใ้ นการเชื่อมแกส๊ 2.1 เปลวลด ( Reducing Flame หรือ Carburizing Flame ) 2.2 เปลวกลาง ( Neutral Flame ) 2.3 เปลวเพม่ิ ( Oxidizing Flame ) 3. ข้ันตอนการปรับเปลวไฟ และการปรบั เปลวไฟในงานเชอื่ มแกส๊ 4. รอยตอ่ ทีใ่ ช้ในงานเชื่อมแก๊ส 4.1 รอยต่อชน ( Butt Joint ) 4.2 รอยต่อเกย ( Lap Joint ) 4.3 รอยตอ่ มุม ( Corner Joint ) 4.4 รอยตอ่ ขอบ ( Edge Joint ) 4.5 รอยต่อตวั ที ( T Joint ) 5. ท่าเช่ือม (Welding Postion) 5.1 ท่าราบ ( Flat Postion ) 5.2 ท่าระดับ ( Horizontal Postion ) 5.3 ท่าตั้ง ( Vertical Postion ) 5.4 ท่าเหนือศีรษะ ( Overhead Postion ) 6. ทา่ เชื่อมตามมาตรฐาน ISO 9606 7. เทคนคิ และวิธใี นการเช่ือมแกส๊ 7.1 การเชอื่ มจากขวามือไปซ้ายมือ ( Forehand Welding ) 7.2 การเชอื่ มจากซ้ายมอื ไปขวามอื ( Backhand Welding ) 8. ลวดเชอื่ มแกส๊ 8.1 ลวดเชอ่ื มแกส๊ ชนิดลวดเชือ่ มเหล็ก 8.2 ลวดเชอ่ื มแกส๊ ชนดิ ลวดเชื่อมนอกกลมุ่ เหล็ก
กิจกรรมการเรียนการสอน ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของนักเรยี น ขั้นตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ขัน้ ทดสอบก่อนเรยี น ข้นั ทดสอบก่อนเรียน นักเรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้กอ่ นเรียน ครูทาการทดสอบประเมินความรกู้ อ่ นเรยี น ขั้นท่ี 1 ข้ันสนใจปญั หา ( Motivation ) ขน้ั ท่ี 1 ข้นั สนใจปัญหา ( Motivation ) นักเรยี นรับฟงั โตต้ อบ คิด ค้นหาคาตอบ และ ครูให้นกั เรยี นดรู ูปภาพเกยี่ วกบั งานเปลวไฟเช่อื ม เหตุผล ร่วมกันกบั ครผู ู้สอน แกส๊ แล้วถามนักศกึ ษาว่าก่อนทีจ่ ะทาการเชอื่ ม แกส๊ ไดน้ ้ันควรปรบั เปลวไฟเชอ่ื มแก๊สเปน็ ลักษณะ แบบใด ข้นั ท่ี 2 ขั้นศึกษาข้อมูล ( Information ) ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ ศึกษาข้อมูล ( Information ) ครูดาเนนิ การสอนโดยใชส้ ่อื วดี โิ อ ของจรงิ นักเรยี นตัง้ ใจฟัง จดบนั ทึกใจความสาคญั และ ประกอบการบรรยาย โดยนักเรยี นร่วมแสดง ซกั ถามโตต้ อบกบั ครเู มือ่ เกิดขอ้ สงสัยหรอื ไม่เข้าใจ ความคิดเหน็ โดยทค่ี รใู ช้คาถามกระตนุ้ เพอ่ื ให้ นักเรยี นมีสว่ นร่วมในการเรยี นและเกดิ ความเข้าใจ อยา่ งคงทนถาวรตามเนื้อหาสาระการเรียนรทู้ ่ี กาหนดไว้ ซ่ึงได้แก่ 1. หลกั การในการเช่อื มแก๊ส 2. เปลวไฟทีใ่ ชใ้ นการเชือ่ มแก๊ส 2.1 เปลวลด ( Reducing Flame หรือ Carburizing Flame ) 2.2 เปลวกลาง ( Neutral Flame ) 2.3 เปลวเพ่ิม ( Oxidizing Flame ) 3. ขั้นตอนการปรบั เปลวไฟ และการปรับ เปลวไฟในงานเชอ่ื มแกส๊ 4. รอยตอ่ ทใี่ ชใ้ นงานเชือ่ มแกส๊ 4.1 รอยตอ่ ชน ( Butt Joint ) 4.2 รอยตอ่ เกย ( Lap Joint ) 4.3 รอยตอ่ มุม ( Corner Joint ) 4.4 รอยต่อขอบ ( Edge Joint ) 4.5 รอยตอ่ ตัวที ( T Joint )
5. ท่าเชื่อม (Welding Postion) 5.1 ทา่ ราบ ( Flat Postion ) 5.2 ท่าระดบั ( Horizontal Postion ) 5.3 ทา่ ต้ัง ( Vertical Postion ) 5.4 ทา่ เหนือศรี ษะ ( Overhead Postion ) 6. ท่าเชื่อมตามมาตรฐาน ISO 9606 7. เทคนิคและวธิ ีในการเชอื่ มแกส๊ 7.1 การเช่ือมจากขวามอื ไปซา้ ยมือ ( Forehand Welding ) 7.2 การเชือ่ มจากซ้ายมอื ไปขวามอื ( Backhand Welding ) 8. ลวดเชื่อมแกส๊ 8.1 ลวดเชื่อมแก๊สชนิดลวดเชือ่ มเหล็ก 8.2 ลวดเช่ือมแก๊สชนดิ ลวดเชอ่ื มนอกกลุม่ เหลก็ นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัดท้ายบทสุดท้าย ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัดท้ายบท นกั เรยี นและครูร่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หัด ครูเฉลยแบบฝึกหัดร่วมกบั นกั เรยี น นกั เรียนดกู ารสาธิตจากครู ใบงานที่ 2 - 8 ครูสาธติ ใบงานท่ี 2 - 8 ข้ันที่ 3 ขัน้ พยายาม ( Application ) ข้นั ท่ี 3 ข้นั พยายาม ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน นักเรยี นลงมือทาแบบทดสอบหลังเรยี น และใบ และใบงานท่ี 2 - 8 งานที่ 2 - 8 ขัน้ ที่ 4 ขั้นสาเรจ็ ผล ( Progression ) ขน้ั ท่ี 4 ขัน้ สาเร็จผล ครเู ฉลยแบบทดสอบหลังเรยี นและตรวจใบงานท่ี นักเรียนรว่ มกบั ครู เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 2 - 8 ร่วมกบั นักเรยี น เพ่ือปรับแกค้ วามเขา้ ใจที่ และตรวจใบงานท่ี 2 - 8 เพอ่ื ทราบผลสาเรจ็ ของ คาดเคล่อื นของนกั เรยี น นกั เรียน และเพ่ือปรับแก้ความเข้าใจท่ี คลาดเคลื่อนของนักเรียน
งานท่มี อบหมายหรือกิจกรรม กอ่ นเรยี น นกั เรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรียน ขณะเรยี น นกั เรียนทาแบบฝึกหดั นกั เรยี นปฏบิ ัตงิ านใบงานท่ี 2-8 3. หลังเรยี น นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 2 สื่อการเรียนการสอน ส่ือส่งิ พิมพ์ 1.1 แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี นพร้อมเฉลย หนว่ ยท่ี 2 1.2 แบบฝึกหดั พร้อมเฉลย หน่วยท่ี 2 1.3 ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 2 2. สื่อโสตทศั น์ 2.1 เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจรงิ 3.1 อปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นงานเชอ่ื มแก๊ส การประเมนิ ผล 1. ก่อนเรยี น แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้กอ่ นเรียน 2. ขณะเรียน แบบฝึกหัด หนว่ ยท่ี 2 ใบงานที่ 2 - 8 3. หลังเรียน แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยที่ 2 เอกสารอ้างองิ ทรงวุฒิ เสมาคา. งานเช่อื มละโลหะแผ่นเบื้องต้น. กรงุ เทพฯ : จิตรวฒั น์, 2550. ทินกร มารงั ค์ และประยทุ ธ ทบั ทิมศรี. งานเชอ่ื มและโลหะแผ่นเบอ้ื งตน้ กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พศ์ นู ย์ส่งเสรมิ อาชีวะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชือ่ มและโลหะแผ่นเบอื้ งต้น กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์เอมพนั ธ์, 2547 ประทปี ระงบั ทกุ ข,์ งานเชือ่ มโลหะ1. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์เอมพันธ์, 2547.
บนั ทึกหลังการสอน หนว่ ยที่ 2 เรื่อง กระบวนการเชอื่ มแกส๊ ผลการใชแ้ ผนการจดั เรยี นรู้ 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ สามารถนามาปฏิบตั ิได้ทนั ตามเวลาท่กี าหนดไว้ เป็นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. .......................................................................................... .............................................................. ผลการเรยี นรู้ของนกั เรียน 1. ความสนใจของนักเรยี น เปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลังเรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เปน็ อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเนอ้ื หาไดค้ รบทกุ กระบวนการหรือไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครผู สู้ อนมีวธิ กี ารกระตนุ้ นกั เรียนใหม้ ีส่วนรว่ มในการเรียนการสอนอย่างไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปัญหาที่พบ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแกไ้ ขปัญหา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 3 ชอ่ื วิชา งานเชื่อมและโลหะแผน่ เบือ้ งต้น สอนคร้ังท่ี 7 - 8 ชอ่ื หนว่ ย การแลน่ ประสาน ชัว่ โมงสอนรวม 1 - 4 ชื่อเรอื่ ง การแลน่ ประสาน จานวนช่วั โมง 4 ชวั่ โมง หวั ขอ้ เรอ่ื ง 1. หลกั วธิ กี ารในงานแลน่ ประสาน 2. ลวดประสาน หรือโลหะที่ใชใ้ นการแลน่ ประสาน 3. ฟลกั ซท์ ่ใี ชใ้ นการแล่นประสาน 4. แก๊สทใี่ ช้ในการแลน่ ประสาน 5. งานแล่นประสานเหล็กกลา้ ตอ่ ชน สาระสาคัญ การแล่นประสานการแล่นประสาน (Brazing) เป็นกระบวนการที่ทาใหโ้ ลหะติดกนั โดยใช้ความ รอ้ นจากเปลวไฟสูงกว่า 800 F ( 425 C ) หลอมละลายลวดเชื่อมใหแ้ ทรกประสานระหว่างผิวงาน โดย ใชฟ้ ลกั ซเ์ ปน็ ตัวชว่ ยในการไหลของลวดเชื่อม โดยใช้เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ลักษณะเดียวกบั การเชือ่ ม โลหะดว้ ยแก๊สทว่ั ไป วัสดุในการแล่นประสาน ได้แก่ เหลก็ เหนียว เหล็กหลอ่ ทองแดง เหลก็ ไร้สนิม ทองเหลือง เป็นตน้ โดยลักษณะรอยต่อส่วนใหญจ่ ะเป็นลกั ษณะตอ่ เกย ซง่ึ ข้อดใี นการแลน่ ประสาน คือ ทาได้รวดเรว็ สามารถตอ่ โลหะต่างชนิดและความหนาเข้าดว้ ยกนั ได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ทัว่ ไป 1. เพอ่ื ใหม้ คี วามเขา้ ใจหลักวิธกี ารในงานแลน่ ประสาน 2. เพอ่ื ใหม้ ีความเขา้ ใจชนดิ ของลวดประสาน หรือโลหะทใ่ี ช้ในการแล่นประสาน 3. เพือ่ ใหม้ คี วามเข้าใจถงึ ฟลักซ์ท่ีใชใ้ นการแล่นประสาน 4. เพือ่ ให้มคี วามเข้าใจแกส๊ ทใี่ ชใ้ นการแล่นประสาน 5. เพ่อื ใหม้ ีความสามารถในการปฏิบัติงานแล่นประสานเหล็กกลา้ ตอ่ ชน 6. เพอ่ื ให้มีกิจนิสยั ในการทางานทมี่ รี ะเบยี บแบบแผน มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองและ ส่วนรวม
จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายหลักวิธกี ารในงานแล่นประสานได้อยา่ งถูกต้อง 2. อธิบายถึงชนิดของลวดประสาน หรอื โลหะที่ใช้ในการแลน่ ประสานได้ 3. อธิบายเร่อื งฟลกั ซท์ ีใ่ ชใ้ นการแลน่ ประสานได้ 4. อธบิ ายถึงแกส๊ ท่ีใชใ้ นการแล่นประสานได้ 5. ปฏิบัติงานแลน่ ประสานเหลก็ กลา้ รอยต่อชนได้ 6. ทางานมีวนิ ยั ระเบียบแบบแผน มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสว่ นรวม เนือ้ หาสาระ 1. หลักการในการแล่นประสาน 2. ลวดประสาน หรอื โลหะทใี่ ชใ้ นการแลน่ ประสาน 3. ฟลกั ซ์ทใ่ี ช้ในการแลน่ ประสาน 4. แกส๊ ทใ่ี ชใ้ นการแล่นประสาน
กจิ กรรมการเรียนการสอน ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ขน้ั ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของนกั เรียน ขนั้ ทดสอบก่อนเรียน ข้นั ทดสอบก่อนเรยี น ครทู าการทดสอบประเมนิ ความรูก้ ่อนเรยี น นักเรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้กอ่ นเรียน ขนั้ ที่ 1 ขั้นสนใจปัญหา ( Motivation ) ข้ันที่ 1 ขั้นสนใจปัญหา ( Motivation ) ครใู หน้ กั เรียนดูวดี ิโอทเี่ กยี่ วกบั งานแล่นประสาน นกั เรยี นรบั ฟัง โต้ตอบ คดิ คน้ หาคาตอบ และ เมือ่ รบั ชมจบแล้ว ครถู ามนกั ศึกษาวา่ การแลน่ เหตุผล รว่ มกันกับครผู ู้สอน ประสานได้น้ัน มีความคลา้ ยหรือแตกต่างกบั งาน เชอ่ื มโลหะดว้ ยแกส๊ อย่างไร ขนั้ ที่ 2 ขัน้ ศึกษาข้อมลู ( Information ) ขั้นท่ี 2 ขัน้ ศึกษาขอ้ มลู ( Information ) ครดู าเนนิ การสอนโดยใช้สื่อ วดี โิ อ ของจรงิ นกั เรยี นตงั้ ใจฟัง จดบันทกึ ใจความสาคัญ และ ประกอบการบรรยาย โดยนักเรียนรว่ มแสดง ซกั ถามโตต้ อบกบั ครเู มอ่ื เกิดข้อสงสัยหรอื ไม่ ความคดิ เห็น โดยที่ครูใช้คาถามกระต้นุ เพ่อื ให้ เขา้ ใจ นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มในการเรยี นและเกิดความ เข้าใจอยา่ งคงทนถาวรตามเนอ้ื หาสาระการ เรียนรู้ท่ีกาหนดไว้ ซ่งึ ได้แก่ 1. หลกั การในการแล่นประสาน 2. ลวดประสาน หรอื โลหะที่ใชใ้ นการ แล่นประสาน 3. ฟลักซท์ ใี่ ช้ในการแลน่ ประสาน 4. แกส๊ ทใ่ี ช้ในการแล่นประสาน ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบท นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั ทา้ ยบทสุดทา้ ย ครูเฉลยแบบฝกึ หดั รว่ มกบั นักเรยี น นกั เรียนและครูรว่ มกันเฉลยแบบฝึกหดั ครูสาธิต ใบงานท่ี 9 - 10 นักเรียนดูการสาธิตจากครู ใบงานท่ี 9 - 10
ข้นั ท่ี 3 ข้ันพยายาม ( Application ) ขั้นท่ี 3 ขัน้ พยายาม ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลงั นกั เรียนลงมอื ทาแบบทดสอบหลังเรยี น และใบ เรยี น และใบงานท่ี 9 - 10 งานท่ี 9 - 10 ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ สาเร็จผล ( Progression ) ขน้ั ที่ 4 ขั้นสาเรจ็ ผล ครูเฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี นและตรวจใบงานท่ี นกั เรียนรว่ มกบั ครู เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 9 - 10 รว่ มกบั นักเรยี น เพอ่ื ปรบั แกค้ วามเขา้ ใจ และตรวจใบงานที่ 9 - 10 เพือ่ ทราบผลสาเร็จ ทคี่ าดเคลอ่ื นของนกั เรยี น ของนักเรยี น และเพ่อื ปรบั แกค้ วามเข้าใจที่ คลาดเคลอื่ นของนกั เรยี น งานท่มี อบหมายหรือกิจกรรม 3. กอ่ นเรียน นักเรยี นทาแบบประเมินผลการเรียนรู้กอ่ นเรียน 4. ขณะเรียน นักเรียนทาแบบฝกึ หดั นกั เรียนปฏบิ ตั งิ านใบงานท่ี 9 - 10 3. หลังเรยี น นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยที่ 3 สอ่ื การเรียนการสอน 2. สอ่ื สิง่ พิมพ์ 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนพร้อมเฉลย หน่วยท่ี 3 1.2 แบบฝกึ หดั พร้อมเฉลย หน่วยที่ 3 1.3 ใบความรู้ หน่วยที่ 3 2. ส่ือโสตทัศน์ 2.1 เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจริง 3.1 อปุ กรณ์ที่ใช้ในงานแล่นประสาน
การประเมินผล 1. ก่อนเรียน แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้กอ่ นเรียน 2. ขณะเรียน แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 3 ใบงานที่ 9 - 10 3. หลงั เรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 3 เอกสารอ้างอิง ทรงวฒุ ิ เสมาคา. งานเชอื่ มละโลหะแผ่นเบ้อื งต้น. กรุงเทพฯ : จิตรวัฒน์, 2550. ทินกร มารงั ค์ และประยทุ ธ ทบั ทิมศรี. งานเช่อื มและโลหะแผ่นเบ้อื งตน้ กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพศ์ ูนยส์ ่งเสริมอาชวี ะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชือ่ มและโลหะแผ่นเบ้อื งต้น กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพเ์ อมพันธ์, 2547 ประทปี ระงบั ทุกข,์ งานเชอ่ื มโลหะ1. กรุงเทพฯ : สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์, 2547.
บันทกึ หลังการสอน หนว่ ยท่ี 3 เรอ่ื ง การแลน่ ประสาน และการตดั โลหะดว้ ยแกส๊ ผลการใช้แผนการจัดเรยี นรู้ 1. แผนการจดั การเรียนรู้ สามารถนามาปฏบิ ตั ิได้ทันตามเวลาทีก่ าหนดไว้ เป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............................................................................................................................. ........................... ผลการเรยี นรขู้ องนักเรียน 1. ความสนใจของนักเรยี น เป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเน้อื หาไดค้ รบทุกกระบวนการหรอื ไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครผู ู้สอนมวี ิธีการกระตุ้นนกั เรียนให้มีส่วนรว่ มในการเรยี นการสอนอย่างไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปญั หาที่พบ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแก้ไขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 4 ช่ือวชิ า งานเชอ่ื มและโลหะแผน่ เบอ้ื งต้น สอนคร้งั ที่ 9 - 10 ชอ่ื หนว่ ย ความรเู้ บือ้ งต้นในงานเช่อื มไฟฟ้า ช่วั โมงสอนรวม 1 - 4 ชื่อเร่ือง ความรูเ้ บอ้ื งตน้ ในงานเชือ่ มไฟฟา้ จานวนชั่วโมง 4 ชวั่ โมง หวั ขอ้ เร่อื ง 1. ความปลอดภยั ในงานเชอ่ื มไฟฟ้าตามหลักอาชีวอนามัย 2. อันตรายทแี่ ฝงมากับงานเชอ่ื มไฟฟ้า 3. หลกั วิธีการในการเชื่อมไฟฟา้ 4. ชนิด และประเภทของเคร่อื งเช่ือมไฟฟ้า 5. กระแสไฟฟา้ ทใ่ี ชใ้ นงานเชอื่ มไฟฟา้ 6. รอบการทางานของเคร่อื งเชื่อมไฟฟา้ 7. เคร่ืองมือ และอุปกรณ์ ทีใ่ ช้ในงานเช่ือมไฟฟา้ สาระสาคญั ความปลอดภยั ในการเชื่อมไฟฟา้ ตามหลกั อาชีวอนามัย เป็นการจดั สภาพแวดลอ้ มในการ ทางานไมใ่ หเ้ กิดอนั ตราย หรือมลพษิ ต่อผู้ปฏบิ ตั ิงานในการเชื่อมไฟฟา้ มอี นั ตรายท่เี กดิ จากเสยี ง ฝนุ่ และแสงทีเ่ กดิ จากการอารค์ ดังน้นั จงึ ตอ้ งปฏบิ ัติตามกฎโรงงานและความปลอดภยั ตามหลกั อาชวี อนา มยั อย่างเครง่ ครัด สารับเครื่องเชื่อมไฟฟ้ามอี ยู่ 2 ชนิด เครอ่ื งเช่ือมชนดิ กระแสไฟฟา้ คงท่ี ( Constant Current ) และเคร่ืองเชื่อมชนดิ แรงเคล่ือนไฟฟา้ คงท่ี ( Constant Voltage ) ในสว่ นของ เนมเพลท ( nameplate ) ของเคร่อื งเชื่อมไฟฟา้ จะบง่ บอกประสิทธิภาพของเคร่อื งเชอื่ มไฟฟ้าเคร่อื ง น้นั ๆให้ผ้ใู ชง้ านทราบรายละเอยี ด กระแสไฟฟ้าท่ใี ช้ในการเชื่อมไฟฟ้ามี 2 ชนิดคือ กระแสไฟฟ้าสลบั ( Alternating current หรือ AC. ) และกระแสไฟฟา้ ตรง ( Direct current หรือ DC. ) รอบการทางาน ของเครือ่ งเชอื่ มไฟฟา้ ( Duty Cycle ) หมายถงึ ความสามารถของเคร่อื งเชอื่ มไฟฟา้ ในการอารค์ กบั เวลาทัง้ หมดท่ตี ้ังไวเ้ ปน็ มาตรฐาน 10 นาที เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ ในการเชอื่ มไฟฟ้ามีดังตอ่ ไปน้ี คอื หวั จับลวดเช่ือม หนา้ กากเช่ือม สายเชือ่ ม แปรงลวด คมี จบั งานรอ้ น คอ้ นเคาะสแลก ชดุ อุปกรณป์ ้องกันรา่ งกายและเครอื่ งเช่อื มเปน็ ต้น
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์ทว่ั ไป 1. เพื่อใหม้ คี วามเข้าใจหลักความปลอดภัยในงานเชอ่ื มไฟฟา้ ตามหลกั อาชวี อนามัย 2. เพื่อให้มีความเขา้ ใจอนั ตรายท่แี ฝงมากับงานเชือ่ มไฟฟ้า 3. เพื่อให้มีความเข้าใจหลกั และวิธีการในการเชื่อมไฟฟา้ 4. เพื่อให้มคี วามเขา้ ใจชนิด และประเภทของเครื่องเชือ่ มไฟฟา้ 5. เพื่อใหม้ คี วามเขา้ ใจกระแสไฟฟ้า ที่ใช้ในงานเชื่อมไฟฟา้ 6. เพือ่ ให้มคี วามเข้าใจรอบการทางานของเครือ่ งเชื่อมไฟฟา้ 7. เพื่อให้มคี วามเขา้ ใจในเคร่ืองมือ และอุปกรณ์ ทใ่ี ช้ในงานเช่อื มไฟฟ้า 8. เพอื่ ให้มีความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานประกอบ ตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ ปรับ เครือ่ งมือในงาน เชอื่ มไฟฟ้า 9. เพ่อื ใหม้ กี ิจนสิ ยั ในการทางานทีม่ ีระเบียบแบบแผน มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและ ส่วนรวม จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายหลักความปลอดภยั ในงานเชอื่ มไฟฟ้าตามหลักอาชีวอนามัยได้ 2. อธบิ ายอนั ตรายท่ีแฝงมากบั งานเชื่อมไฟฟ้าได้ 3. อธิบายหลกั และวธิ ีการในการเชอ่ื มไฟฟ้าได้ 4. บอกชนิด และประเภทของเครื่องเชอ่ื มไฟฟา้ ได้ 5. บอกกระแสไฟฟา้ ทีใ่ ชใ้ นงานเชอ่ื มไฟฟา้ ได้ 6. อธบิ ายรอบการทางานของเครอ่ื งเชื่อมไฟฟ้าได้ 7. จดั เตรียมเคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ ที่ใช้ในงานเชอ่ื มไฟฟ้าได้ 8. ปฏบิ ตั งิ านประกอบ ตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ ปรบั เคร่อื งมอื ในงานเชอื่ มไฟฟ้าได้ 9. ทางานมีวนิ ัย ระเบียบแบบแผน มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม เนื้อหาสาระ 1. ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้าตามหลักอาชวี อนามัย 2. อันตรายทแ่ี ฝงมากับงานเชือ่ มไฟฟา้ 3. หลักวธิ กี ารในการเช่ือมไฟฟา้ 4. ชนิด และประเภทของเครอื่ งเช่ือมไฟฟา้ 4.1 เคร่ืองเชอ่ื มชนิดกระแสไฟฟ้าคงท่ี ( Constant Current ) 4.2 เคร่ืองเช่ือมไฟฟา้ ชนดิ แรงเคลอื่ นไฟฟา้ คงท่ี ( Constant Voltage )
5. กระแสไฟฟา้ ที่ใช้ในงานเชอื่ มไฟฟา้ 5.1 กระแสไฟฟ้าสลบั ( Alternating current หรือ AC. ) 5.2 กระแสไฟฟ้าตรง ( Direct current หรือ DC. ) 6. รอบการทางานของเครื่องเชอื่ มไฟฟา้ 7. เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ ท่ีใช้ในงานเช่อื มไฟฟ้า 7.1 เคร่อื งเช่ือมไฟฟ้า 7.2 ลวดเช่ือม 7.3 หวั จับลวดเชอ่ื ม 7.4 หัวจับสายดนิ 7.5 ค้อนเคาะสแลก 7.6 แปรงลวด 7.7 หน้ากากเช่ือม 7.8 กระจกกรองแสง 7.9 แวน่ ตาเชอื่ มไฟฟ้า 7.10 เสอื้ หนัง 7.11 ถงุ มอื หนัง 7.12 ปลอกขา 7.13 ปลอกแขน 7.14 เบาะรอง 7.15 รองเท้าหัวเหล็ก
กิจกรรมการเรียนการสอน ขัน้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของนกั เรยี น ข้ันทดสอบกอ่ นเรียน ขัน้ ทดสอบก่อนเรยี น ครทู าการทดสอบประเมินความรูก้ อ่ นเรยี น นักเรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรกู้ อ่ นเรียน ขน้ั ที่ 1 ขัน้ สนใจปญั หา ( Motivation ) ขั้นที่ 1 ขัน้ สนใจปญั หา ( Motivation ) ครูใหน้ ักเรยี นดกู ารนาเสนอด้วย powerpoint นักเรยี นรับฟงั โต้ตอบ คิด คน้ หาคาตอบ และ เรอ่ื งความรู้เบอื้ งต้นของงานเช่อื มไฟฟา้ เม่อื เหตผุ ล รว่ มกันกับครผู สู้ อน รับชมจบแล้ว ครถู ามนกั ศึกษาวา่ การเช่อื มไฟฟ้า นนั้ สามารถเชือ่ มงานประเภทใดได้บ้าง และงาน ประเภทใดไมส่ ามารถเชอ่ื มด้วยไฟฟ้าได้ ขั้นท่ี 2 ขัน้ ศกึ ษาขอ้ มลู ( Information ) ขนั้ ท่ี 2 ข้ันศึกษาขอ้ มูล ( Information ) ครูดาเนินการสอนโดยใช้สอื่ powerpoint วีดิโอ นักเรยี นตั้งใจฟัง จดบนั ทกึ ใจความสาคญั และ ของจรงิ ประกอบการบรรยาย โดยนกั เรียนร่วม ซักถามโต้ตอบกบั ครเู มื่อเกดิ ข้อสงสัยหรือไม่ แสดงความคดิ เห็น โดยท่ีครูใชค้ าถามกระตุ้น เข้าใจ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการเรยี นและเกดิ ความเขา้ ใจอยา่ งคงทนถาวรตามเนือ้ หาสาระการ เรียนรทู้ ่กี าหนดไว้ ซึง่ ไดแ้ ก่ 1. ความปลอดภยั ในงานเช่ือมไฟฟา้ ตาม หลกั อาชีวอนามยั 2. อนั ตรายที่แฝงมากับงานเชอ่ื มไฟฟา้ 3. หลกั วธิ ีการในการเชอื่ มไฟฟา้ 4. ชนิด และประเภทของเคร่ืองเชื่อม ไฟฟา้ 5. เนมเพลท (nameplate) ของเคร่ือง เช่ือมไฟฟา้ 6. กระแสไฟฟา้ ท่ีใช้ในงานเชือ่ มไฟฟ้า 7. รอบการทางานของเคร่ืองเชอ่ื มไฟฟ้า 8. เครือ่ งมอื และอปุ กรณ์ ที่ใช้ในงาน เชือ่ มไฟฟ้า
ครูให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ท้ายบท นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบทสดุ ทา้ ย ครเู ฉลยแบบฝึกหดั รว่ มกบั นกั เรยี น นกั เรยี นและครูรว่ มกนั เฉลยแบบฝึกหัด ครูสาธติ ใบงานท่ี 11 นกั เรียนดูการสาธติ จากครู ใบงานที่ 11 ขั้นที่ 3 ข้นั พยายาม ( Application ) ขั้นที่ 3 ข้นั พยายาม ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลัง นกั เรียนลงมอื ทาแบบทดสอบหลังเรียน และใบ เรียน และใบงานท่ี 11 งานท่ี 11 ขั้นท่ี 4 ข้นั สาเร็จผล ( Progression ) ข้ันที่ 4 ข้นั สาเร็จผล ครูเฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี นและตรวจใบงานที่ นักเรียนรว่ มกบั ครู เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 11 ร่วมกบั นักเรียน เพอื่ ปรับแกค้ วามเขา้ ใจที่ และตรวจใบงานท่ี 11 เพอ่ื ทราบผลสาเรจ็ ของ คาดเคลอ่ื นของนกั เรียน นกั เรยี น และเพื่อปรับแก้ความเข้าใจท่ี คลาดเคล่อื นของนกั เรยี น งานทมี่ อบหมายหรือกิจกรรม 5. กอ่ นเรยี น นกั เรยี นทาแบบประเมินผลการเรียนรู้กอ่ นเรยี น 6. ขณะเรยี น นักเรยี นทาแบบฝึกหัด นกั เรยี นปฏิบตั งิ านใบงานที่ 11 3. หลงั เรียน นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 4 สอ่ื การเรยี นการสอน 3. สื่อสิง่ พมิ พ์ 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนพรอ้ มเฉลย หนว่ ยท่ี 4 1.2 แบบฝึกหดั พร้อมเฉลย หนว่ ยที่ 4 1.3 ใบความรู้ หน่วยที่ 4 2. สอื่ โสตทัศน์ 2.1 เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจรงิ 3.1 อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานเชอ่ื มไฟฟ้า
การประเมนิ ผล 1. กอ่ นเรียน แบบประเมินผลการเรยี นร้กู อ่ นเรียน 2. ขณะเรยี น แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 4 ใบงานที่ 11 3. หลังเรียน แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี 4 เอกสารอ้างองิ ทรงวฒุ ิ เสมาคา. งานเช่อื มละโลหะแผ่นเบ้อื งต้น. กรุงเทพฯ : จติ รวฒั น์, 2550. ทนิ กร มารงั ค์ และประยุทธ ทบั ทมิ ศรี. งานเชอ่ื มและโลหะแผน่ เบอ้ื งต้น กรุงเทพมหานคร : สานักพมิ พศ์ ูนยส์ ง่ เสรมิ อาชีวะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชอ่ื มและโลหะแผ่นเบือ้ งต้น กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพเ์ อมพันธ์, 2547 ประทีป ระงบั ทกุ ข,์ งานเช่ือมโลหะ1. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์, 2547.
บนั ทกึ หลังการสอน หนว่ ยท่ี 4 เรอื่ ง ความรู้เบอื้ งตน้ ในงานเชอื่ มไฟฟ้า ผลการใช้แผนการจัดเรียนรู้ 1. แผนการจดั การเรียนรู้ สามารถนามาปฏบิ ตั ไิ ดท้ นั ตามเวลาท่ีกาหนดไว้ เปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............................................................................................................................. ........................... ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น 1. ความสนใจของนกั เรยี น เป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เป็นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเนื้อหาไดค้ รบทุกกระบวนการหรือไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครูผสู้ อนมวี ธิ ีการกระต้นุ นกั เรียนใหม้ ีสว่ นรว่ มในการเรียนการสอนอย่างไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปัญหาทีพ่ บ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแกไ้ ขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5 ชอ่ื วิชา งานเช่อื มและโลหะแผ่นเบ้ืองตน้ สอนครัง้ ที่ 10 - 11 ช่ือหน่วย เทคนิควิธีในงานเชอ่ื มไฟฟ้า ชว่ั โมงสอนรวม 1 - 4 ชอ่ื เรอ่ื ง เทคนคิ วธิ ใี นงานเชอ่ื มไฟฟ้า จานวนช่วั โมง 8 ช่วั โมง หัวขอ้ เรื่อง 1. เทคนิควธิ ีเลือกลวดเชือ่ มไฟฟา้ ให้เหมาะสมกบั งาน 2. ระยะอารค์ ในงานเช่ือมไฟฟา้ 3. หลักวิธกี ารในการตง้ั กระแสไฟฟ้าในงานเช่ือมไฟฟ้า 4. หลกั วิธกี ารในการเดินลวดเช่อื มไฟฟ้า 5. เทคนิควิธกี ารเชือ่ มไฟฟ้า 6. งานเริ่มต้นอาร์ก 7. งานเดินรอยเช่อื มยาวสา่ ยและไม่สา่ ยลวดเช่อื ม สาระสาคัญ กระบวนการเชื่อมอารค์ โลหะด้วยมือ ( MMAW : Manual Metal Arc Welding หรือ SMAW: Shield Metal Arc Welding ) คือการเช่ือมอาร์คโลหะดว้ ยมอื ด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ คอื กระบวนการตอ่ โลหะให้ตดิ กนั โดยใช้ความร้อน ท่เี กิดจากการอาร์คระหวา่ งลวดเชื่อมหุ้มฟลกั ซ์ ( Electrode ) กับชิ้นงาน ซึ่งความรอ้ นทเ่ี กิดขึน้ ทป่ี ลายลวดเชอื่ มมีอณุ หภมู ิประมาณ 5,000 – 6,000 องศาเซลเซียส เพอ่ื หลอมละลายโลหะใหต้ ดิ กัน โดยแกนของลวดเชือ่ มทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ตัวนาไฟฟา้ และ เป็นโลหะเติมลงในแนวเชื่อมสว่ นฟลักซท์ ่หี ุ้มลวดเช่ือมจะไดร้ บั ความร้อน หลอมละลายปกคลมุ แนว เช่อื ม เอาไวเ้ พือ่ ป้องกนั อากาศภายนอกเขา้ ทาปฏิกิรยิ ากับแนวเช่อื ม พร้อมทงั้ ช่วยลดอตั ราการเยน็ ตัว ของแนวเชื่อมเม่อื เยน็ ตัวฟลกั ซจ์ ะแข็ง และเปราะเหมอื นแก้วเรยี กว่า สแลค ( slag ) เทคนคิ วธิ กี ารฝกึ เชือ่ มไฟฟ้ามีองคป์ ระกอบที่สาคญั 5 ประการ คือ การเลือกใช้ลวดเช่อื ม ระยะ อารก์ กระแสไฟฟ้าทใ่ี ช้ในการเชือ่ ม ความเรว็ ของการเดนิ แนวเชื่อม และมุมของลวดเช่ือม และยังมี เทคนคิ การต่อรอยตอ่ ของแนวเชอื่ ม เทคนิคการหยุดหรอื สิน้ สดุ แนวเช่อื ม รวมท้งั การสา่ ยลวดเช่ือม เพอ่ื เป็นพ้นื ฐานในการปฏิบตั ิงานเช่อื มไฟฟ้าในลาดบั ที่สูงตอ่ ไป
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ่วั ไป 1. เพ่อื ให้มีความเขา้ ใจเทคนิควิธเี ลอื กลวดเช่อื มไฟฟ้าให้เหมาะสมกับงานเช่อื มไฟฟ้า 2. เพ่ือให้มคี วามเขา้ ใจระยะอาร์คในงานเช่ือมไฟฟ้า 3. เพ่อื ใหม้ ีความเข้าใจหลกั วิธีการในการต้ังกระแสไฟฟา้ ในงานเชอื่ มไฟฟา้ 4. เพอ่ื ให้มีความเขา้ ใจหลักวิธีการในการเดินและการตั้งมุมของลวดเช่อื มไฟฟา้ 5. เพ่ือใหม้ คี วามเขา้ ใจเทคนคิ วธิ กี ารเชื่อมไฟฟ้า 6. เพ่อื ใหม้ คี วามสามารถในการปฏิบัติงานเริ่มตน้ อาร์ก 7. เพือ่ ให้มคี วามสามารถในการปฏบิ ัติงานเดินรอยเชอ่ื มยาวสา่ ยและไม่สา่ ยลวดเชอ่ื ม 8. เพอื่ ใหม้ กี จิ นสิ ยั ในการทางานท่ีมีระเบยี บแบบแผน มคี วามรับผิดชอบต่อตนเองและ ส่วนรวม จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. อธบิ ายเทคนคิ วธิ ีเลอื กลวดเช่ือมไฟฟ้าให้เหมาะสมกับงานเช่อื มไฟฟ้าได้ 2. อธบิ ายระยะอารค์ ในงานเช่ือมไฟฟ้าได้ 3. อธิบายหลักวธิ กี ารในการตงั้ กระแสไฟฟ้าในงานเชอ่ื มไฟฟา้ ได้ 4. บอกหลักวธิ กี ารในการเดนิ และการต้งั มุมของลวดเชอื่ มไฟฟ้าได้ 5. อธบิ ายเทคนิควิธีการเชอื่ มไฟฟา้ ได้ 6. อธบิ ายการต้ังมมุ ลวดเช่อื มไฟฟ้าในการเชื่อมได้ 7. อธบิ ายการเรมิ่ ตน้ แนวเชือ่ มและสน้ิ สดุ แนวเช่อื มได้ 8. อธิบายการเชือ่ มตอ่ รอยต่อได้ 9. อธิบายเทคนิควิธีการส่ายลวดเชอื่ มได้ 10. จดั เตรยี มเคร่อื งมือ และอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นงานเช่ือมไฟฟา้ ได้ 11. ปฏิบัติงานเร่ิมต้นอารก์ ได้ 12. ปฏบิ ตั ิงานเดนิ รอยเชื่อมยาวสา่ ยและไม่ส่ายลวดเชื่อมได้ 13. ทางานมวี ินยั ระเบียบแบบแผน มคี วามรับผิดชอบตอ่ ตนเองและส่วนรวม เนอื้ หาสาระ 1. เทคนิควธิ ีเลอื กลวดเชอ่ื มไฟฟา้ ใหเ้ หมาะสมกับงานเชอื่ มไฟฟา้ 2. ระยะอาร์คในงานเชื่อมไฟฟ้า 3. ในการตง้ั กระแสไฟฟา้ ในงานเชอ่ื มไฟฟา้ 4. การในการเดนิ และการต้งั มมุ ของลวดเช่อื มไฟฟา้ 5. เทคนิควิธีการเช่ือมไฟฟา้
5.1 การเริ่มต้นและการสน้ิ สดุ รอยเชอ่ื มไฟฟา้ 5.2 การต่อรอยเชื่อมไฟฟา้ 5.3 การส่ายลวดเชอ่ื มไฟฟ้า กิจกรรมการเรียนการสอน ขั้นตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ขั้นตอนการสอนหรือกจิ กรรมของนักเรยี น ขัน้ ทดสอบกอ่ นเรยี น ขนั้ ทดสอบก่อนเรยี น ครทู าการทดสอบประเมินความรู้ก่อนเรียน นักเรียนทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ก่อนเรยี น ขัน้ ที่ 1 ขนั้ สนใจปญั หา ( Motivation ) ขน้ั ที่ 1 ขั้นสนใจปญั หา ( Motivation ) ครใู หน้ ักเรียนดกู ารนาเสนอด้วย powerpoint นกั เรียนรบั ฟัง โตต้ อบ คิด ค้นหาคาตอบ และ และชม วิดโี อ เร่ือง เทคนคิ วธิ กี ารของงานเชอ่ื ม เหตุผล รว่ มกนั กบั ครผู สู้ อน ไฟฟ้า เมื่อรับชมจบแลว้ ครถู ามนักศึกษาวา่ การ เช่ือมไฟฟ้านัน้ มมี ีเทคนคิ ในการเดินแนวเชอ่ื ม อยา่ งไรบ้าง ขัน้ ท่ี 2 ขนั้ ศึกษาขอ้ มลู ( Information ) ขั้นท่ี 2 ขั้นศึกษาข้อมูล ( Information ) ครดู าเนินการสอนโดยใช้ส่ือ powerpoint วีดิโอ นกั เรียนตั้งใจฟงั จดบนั ทกึ ใจความสาคัญ และ ของจรงิ ประกอบการบรรยาย โดยนักเรยี นร่วม ซกั ถามโต้ตอบกับครูเม่ือเกิดข้อสงสัยหรือไม่ แสดงความคิดเหน็ โดยท่คี รใู ชค้ าถามกระตุ้น เข้าใจ เพื่อใหน้ ักเรียนมสี ่วนร่วมในการเรยี นและเกิด ความเขา้ ใจอย่างคงทนถาวรตามเนื้อหาสาระการ เรยี นรู้ทก่ี าหนดไว้ ซงึ่ ไดแ้ ก่ 1. เทคนคิ วิธเี ลอื กลวดเชือ่ มไฟฟ้าให้ เหมาะสมกับงานเช่อื มไฟฟ้า 2. ระยะอาร์คในงานเชอื่ มไฟฟ้า 3. ในการต้ังกระแสไฟฟ้าในงานเช่ือม ไฟฟา้ 4. การในการเดนิ และการตั้งมุมของ ลวดเชอื่ มไฟฟ้า 5. เทคนคิ วิธกี ารเช่ือมไฟฟ้า 5.1 การเรมิ่ ตน้ และการส้ินสุด รอยเช่ือมไฟฟ้า
5.2 การต่อรอยเชอ่ื มไฟฟา้ 5.3 การสา่ ยลวดเช่ือมไฟฟา้ ครูใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบท นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบทสดุ ท้าย ครูเฉลยแบบฝกึ หดั ร่วมกับนกั เรยี น นกั เรยี นและครรู ่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หดั ครสู าธิต ใบงานที่ 12 - 13 นกั เรียนดูการสาธิตจากครู ใบงานท่ี 12 - 13 ข้ันท่ี 3 ขน้ั พยายาม ( Application ) ขั้นที่ 3 ขัน้ พยายาม ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั นักเรยี นลงมอื ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น และใบ เรยี น และใบงานท่ี 12 - 13 งานท่ี 12 - 13 ข้ันที่ 4 ขั้นสาเร็จผล ( Progression ) ขั้นที่ 4 ขน้ั สาเรจ็ ผล ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนและตรวจใบงานท่ี นักเรยี นรว่ มกับครู เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 12 - 13 ร่วมกับนกั เรยี น เพ่ือปรบั แกค้ วาม และตรวจใบงานท่ี 12 - 13 เพือ่ ทราบผลสาเร็จ เข้าใจทีค่ าดเคล่ือนของนักเรียน ของนักเรียน และเพอื่ ปรบั แกค้ วามเข้าใจท่ี คลาดเคลื่อนของนกั เรียน งานที่มอบหมายหรอื กจิ กรรม 7. ก่อนเรียน นกั เรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรกู้ อ่ นเรียน 8. ขณะเรยี น นกั เรยี นทาแบบฝึกหัด นกั เรยี นปฏิบตั ิงานใบงานท่ี 12 - 13 3. หลงั เรยี น นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยท่ี 5 ส่ือการเรยี นการสอน 4. สือ่ ส่ิงพมิ พ์ 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียนพร้อมเฉลย หน่วยท่ี 5 1.2 แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย หนว่ ยที่ 5 1.3 ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 5 2. สอ่ื โสตทศั น์ 2.1 เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจรงิ 3.1 อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานเชอื่ มไฟฟา้
การประเมนิ ผล 1. กอ่ นเรียน แบบประเมินผลการเรียนร้กู ่อนเรยี น 2. ขณะเรียน แบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 5 ใบงานที่ 12 - 13 3. หลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 5 เอกสารอา้ งอิง ทรงวุฒิ เสมาคา. งานเชอื่ มละโลหะแผ่นเบือ้ งตน้ . กรุงเทพฯ : จติ รวฒั น์, 2550. ทนิ กร มารงั ค์ และประยุทธ ทับทมิ ศรี. งานเชอ่ื มและโลหะแผ่นเบื้องตน้ กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์ศนู ยส์ ่งเสรมิ อาชวี ะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชอื่ มและโลหะแผ่นเบ้ืองต้น กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์, 2547 ประทปี ระงบั ทุกข,์ งานเช่อื มโลหะ1. กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์เอมพนั ธ์, 2547.
บันทกึ หลังการสอน หนว่ ยที่ 5 เร่ือง เทคนิควธิ ีในงานเชือ่ มไฟฟ้า ผลการใช้แผนการจดั เรียนรู้ 1. แผนการจัดการเรยี นรู้ สามารถนามาปฏบิ ัตไิ ด้ทันตามเวลาที่กาหนดไว้ เป็นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............................................................................................................................. ........................... ผลการเรียนรู้ของนักเรียน 1. ความสนใจของนักเรียน เป็นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเน้อื หาไดค้ รบทกุ กระบวนการหรือไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครูผูส้ อนมวี ธิ ีการกระต้นุ นักเรียนใหม้ สี ่วนรว่ มในการเรียนการสอนอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปญั หาทีพ่ บ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแกไ้ ขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 6 ช่อื วชิ า งานเชอื่ มและโลหะแผ่นเบอื้ งตน้ สอนคร้ังท่ี 12 - 14 ชอ่ื หนว่ ย ลวดเชื่อมไฟฟา้ หมุ้ ฟลก้ั ซ์ ชวั่ โมงสอนรวม 1 - 4 ช่ือเรอ่ื ง ความหมายและเทคนิคการใช้ลวดเชอ่ื มไฟฟา้ หมุ้ ฟลกั้ ซ์ จานวนช่วั โมง 12 ช่วั โมง หวั ข้อเรอื่ ง 1. ความหมายของลวดเช่อื ม 2. ความหมายและเทคนคิ การใช้ลวดเชอื่ มไฟฟ้าหมุ้ ฟลั้กซ์ 3. มาตรฐานลวดเชอ่ื มไฟฟ้าหุ้มฟล้ักซ์ 4. งานเชื่อมไฟฟ้าทับรอยเชอื่ ม(เช่ือมพอก)ทา่ ราบ 5. งานเชอื่ มไฟฟา้ ตอ่ มมุ ท่าราบ 6. งานเช่ือมไฟฟา้ ต่อตัวทที บั รอยทา่ ราบ สาระสาคัญ ลวดเชอ่ื มไฟฟ้าหรอื อิเลก็ โทรดใชส้ าหรับการเชือ่ มด้วยกระบวนการเช่ือมไฟฟ้าดว้ ยลวดเชือ่ ม หมุ้ ฟลกั ซ์ลวดเชื่อมชนิดน้ีเรยี กกันหลายช่อื เช่นลวดเชือ่ หุม้ สารพอกหุ้ม ( Covered Electrode ) โครงสรา้ งของลวดเชอื่ มประกอบด้วยแกนลวดและฟลกั ซ์หมุ้ แกนลวดแกนลวดทาด้วยเหลก็ กล้า คารบ์ อนต่าในขณะอารก์ จะถูกหลอมเหลวเติมลงไปเป็นเน้ือแนวเชือ่ มฟลักซ์ห้มุ แกนจะห้มุ แกนลวดเหลก็ คารบ์ อนต่าเอาไว้ฟลักซม์ สี ่วนผสมต่างๆเพ่ือจุดประสงคพ์ ิเศษในการใช้งานและสมบัตพิ ิเศษฟลักซ์นีจ้ ะ ประกอบไปด้วยแรธ่ าตหุ ลายชนิดเชน่ ไทเทเนยี มไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ไมกา้ (Miga)แค ลเชียมคารบ์ อเนต (Calcium Carbonate) เป็นต้น ทง้ั นีเ้ พ่อื สมบตั ิทางอารก์ และสมบตั ิทางกลของเนื้อ แนวเชื่อมหรอื ตอ้ งการเพม่ิ เนื้อแนวเชือ่ มให้มากขึน้ ก็สามารถเตมิ ผงเหลก็ ไปใน ฟลักซไ์ ด้ ฟลักซจ์ ะห้มุ แกนลวดตลอดและเวน้ พ้นื ท่สี ว่ นหัวไวป้ ระมาณ 2 ซม มาตรฐานของลวดเชอื่ มทใ่ี ชง้ านแตล่ ะประเทศมมี าตรฐานทใ่ี ช้งานแตกต่างกนั ไป เชน่ มาตรฐานสากล ISO. ( International Standard Organization ) มาตรฐานการเชอ่ื มของประเทศ สหรัฐอเมริกา AWS. ( American Welding Society ) มาตรฐานอตุ สาหกรรมของประเทศญ่ีปุน่ JIS. ( Japanese Industrial Standard ) มาตรฐานอตุ สาหกรรมของประเทศเยอรมัน DIN. ( Deutch Industries Norms ) สาหรับมาตรฐานลวดเช่อื มของประเทศไทยจะใช้ TIS. ( Thailand Industrial Standard ) หรอื ทีเ่ รียกวา่ มอก. ซ่งึ เทยี บกับมาตรฐานของ AWS. ซง่ึ เป็นที่นยิ มใช้ในประเทศไทย
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ว่ั ไป 1. เพ่อื ให้มคี วามเขา้ ใจความหมายของลวดเชอื่ ม 2. เพื่อใหม้ คี วามเข้าใจความหมายและเทคนิคการใชล้ วดเชื่อมไฟฟา้ หุ้มฟลั้กซ์ 3. เพอ่ื ให้มคี วามเข้าใจมาตรฐานลวดเช่อื มไฟฟา้ หุ้มฟลัก้ ซ์ 4. เพื่อใหม้ คี วามสามารถในการปฏิบตั ิงานเชื่อมไฟฟา้ ทับรอยเชื่อม(เชอื่ มพอก)ท่าราบ 5. เพอื่ ใหม้ ีความสามารถในการปฏบิ ัตงิ านเช่อื มไฟฟา้ ต่อมมุ ทา่ ราบ 6. เพอ่ื ให้มีความสามารถในการปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟา้ ต่อตัวทีทับรอยทา่ ราบ 7. เพอ่ื ให้มกี จิ นิสัยในการทางานท่ีมรี ะเบยี บแบบแผน มคี วามรับผิดชอบต่อตนเองและ ส่วนรวม จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. อธบิ ายความหมายของลวดเชอ่ื มได้ 2. อธบิ ายความหมายและเทคนิคการใชล้ วดเช่ือมไฟฟา้ ได้ 3. อธบิ ายมาตรฐานลวดเชื่อมไฟฟา้ หมุ้ ฟล้ักซ์ได้ 4. อธบิ ายความหมายสญั ลกั ษณล์ วดเช่ือมไฟฟ้าห้มุ ฟลกั้ ซไ์ ด้ 5. จัดเตรียมเคร่ืองมอื และอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นงานเชื่อมไฟฟา้ ได้ 6. ปฏบิ ตั ิงานเช่ือมไฟฟ้าทับรอยเช่ือม(เช่อื มพอก)ทา่ ราบได้ 7. ปฏิบตั ิงานเชือ่ มไฟฟา้ ต่อมุมทา่ ราบได้ 8. ปฏบิ ัติงานเช่อื มไฟฟ้าต่อตวั ทที ับรอยท่าราบได้ 9. ทางานมวี นิ ยั ระเบยี บแบบแผน มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและส่วนรวม เนอื้ หาสาระ 1. ความหมายของลวดเชือ่ ม 1.1 อิเล็กโทรด ( Electrode ) 1.2 นอนอิเล็กโทรด ( Non Electrode ) 2. ความหมายและเทคนิคการใช้ลวดเชอื่ มไฟฟ้าหุ้มฟล้ักซ์ 3. มาตรฐานและสัญลักษณ์ลวดเชอ่ื มไฟฟา้ หมุ้ ฟล้กั ซ์
กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของนกั เรยี น ขน้ั ทดสอบก่อนเรยี น ข้ันทดสอบก่อนเรยี น ครูทาการทดสอบประเมินความร้กู อ่ นเรยี น นกั เรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรกู้ อ่ นเรยี น ข้นั ที่ 1 ข้นั สนใจปัญหา ( Motivation ) ข้ันท่ี 1 ขั้นสนใจปัญหา ( Motivation ) ครูให้นักเรียนดกู ารนาเสนอดว้ ย powerpoint นักเรยี นรับฟงั โตต้ อบ คดิ คน้ หาคาตอบ และ และชม วิดีโอ เรือ่ ง กรรมวิธีการผลติ ลวดเช่ือม เหตุผล ร่วมกนั กบั ครผู ู้สอน ไฟฟ้า เมือ่ รบั ชมจบแลว้ ครูถามนกั ศกึ ษาวา่ นกั เรียนเคยพบเหน็ หรอื รจู้ กั ลวดเชอื่ มไฟฟ้า อย่างไรบ้าง และทราบหรอื ไม่ลวดเชื่อมไฟฟา้ มี คุณสมบัตรแตกต่างกันอยา่ งไรบา้ ง ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ศึกษาข้อมลู ( Information ) ขน้ั ที่ 2 ขั้นศึกษาขอ้ มลู ( Information ) ครดู าเนินการสอนโดยใชส้ อ่ื powerpoint วีดิโอ นกั เรียนต้ังใจฟงั จดบันทกึ ใจความสาคญั และ ของจริง ประกอบการบรรยาย โดยนกั เรยี นร่วม ซักถามโต้ตอบกบั ครูเม่อื เกดิ ขอ้ สงสัยหรือไม่ แสดงความคิดเห็น โดยทค่ี รูใชค้ าถามกระตนุ้ เข้าใจ เพ่อื ใหน้ กั เรียนมีสว่ นรว่ มในการเรยี นและเกดิ ความเข้าใจอย่างคงทนถาวรตามเนอ้ื หาสาระการ เรียนรทู้ ี่กาหนดไว้ ซึ่งได้แก่ 1. ความหมายของลวดเชื่อม 1.1 อเิ ลก็ โทรด ( Electrode ) 1.2 นอนอิเลก็ โทรด ( Non Electrode ) 2. ความหมายและเทคนคิ การใชล้ วด เชอื่ มไฟฟา้ ห้มุ ฟลก้ั ซ์ 3. มาตรฐานและสญั ลักษณล์ วดเช่ือม ไฟฟา้ หุ้มฟลัก้ ซ์ นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบทสุดท้าย ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดทา้ ยบท นกั เรยี นและครรู ่วมกันเฉลยแบบฝกึ หัด ครเู ฉลยแบบฝกึ หัดรว่ มกบั นักเรยี น นกั เรียนดูการสาธิตจากครู ใบงานท่ี 14 - 16 ครสู าธติ ใบงานที่ 14 - 16
ข้ันท่ี 3 ขน้ั พยายาม ( Application ) ขนั้ ท่ี 3 ขน้ั พยายาม ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลัง นักเรียนลงมอื ทาแบบทดสอบหลังเรยี น และใบ เรียน และใบงานที่ 14 - 16 งานท่ี 14 - 16 ขัน้ ที่ 4 ขน้ั สาเรจ็ ผล ( Progression ) ข้นั ที่ 4 ขนั้ สาเร็จผล ครเู ฉลยแบบทดสอบหลังเรยี นและตรวจใบงานท่ี นักเรียนร่วมกบั ครู เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 14 - 16 รว่ มกับนักเรยี น เพื่อปรับแก้ความ และตรวจใบงานท่ี 14 - 16 เพื่อทราบผลสาเรจ็ เขา้ ใจทีค่ าดเคลอ่ื นของนกั เรยี น ของนักเรียน และเพื่อปรับแก้ความเขา้ ใจท่ี คลาดเคลื่อนของนักเรียน งานท่มี อบหมายหรือกจิ กรรม 9. กอ่ นเรียน นักเรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี น 10. ขณะเรียน นักเรยี นทาแบบฝึกหัด นกั เรยี นปฏิบัตงิ านใบงานท่ี 14 - 16 3. หลงั เรียน นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยท่ี 6 สือ่ การเรียนการสอน 5. สอื่ ส่งิ พมิ พ์ 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นพร้อมเฉลย หนว่ ยที่ 6 1.2 แบบฝกึ หดั พร้อมเฉลย หน่วยที่ 6 1.3 ใบความรู้ หน่วยที่ 6 2. ส่อื โสตทศั น์ 2.1 วิดโี อ 2.2 เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจรงิ 3.1 อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นงานเชอ่ื มไฟฟา้
การประเมนิ ผล 1. กอ่ นเรียน แบบประเมินผลการเรียนร้กู ่อนเรียน 2. ขณะเรียน แบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 6 ใบงานที่ 14 - 16 3. หลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 6 เอกสารอา้ งอิง ทรงวุฒิ เสมาคา. งานเชอื่ มละโลหะแผ่นเบ้ืองตน้ . กรงุ เทพฯ : จติ รวฒั น์, 2550. ทนิ กร มารงั ค์ และประยุทธ ทับทมิ ศรี. งานเชอ่ื มและโลหะแผ่นเบื้องตน้ กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์ศนู ยส์ ่งเสริมอาชวี ะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชอื่ มและโลหะแผ่นเบ้ืองต้น กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์, 2547 ประทปี ระงบั ทกุ ข,์ งานเช่อื มโลหะ1. กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์เอมพนั ธ์, 2547.
บนั ทกึ หลังการสอน หนว่ ยท่ี 6 เรือ่ ง ลวดเช่ือมไฟฟ้าหมุ้ ฟลก้ั ซ์ ผลการใช้แผนการจดั เรยี นรู้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ สามารถนามาปฏบิ ัติไดท้ นั ตามเวลาที่กาหนดไว้ เป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............................................................................................................................. ........................... ผลการเรียนรู้ของนักเรยี น 1. ความสนใจของนกั เรียน เปน็ อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเนอื้ หาไดค้ รบทกุ กระบวนการหรือไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครูผู้สอนมวี ิธีการกระตนุ้ นักเรียนใหม้ ีส่วนร่วมในการเรียนการสอนอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปัญหาทพี่ บ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแกไ้ ขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 7 ชื่อวิชา งานเชือ่ มและโลหะแผ่นเบ้อื งต้น สอนครัง้ ท่ี 15 - 16 ชื่อหนว่ ย ความรู้เบอื้ งต้นพน้ื ฐานงานโลหะแผน่ ชัว่ โมงสอนรวม 1 - 4 ชื่อเร่อื ง ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั งานโลหะแผน่ จานวนชั่วโมง 8 ชวั่ โมง หัวข้อเรื่อง 1. ความปลอดภัยในงานโลหะแผน่ ตามหลักอาชีวอนามยั 2. วสั ดุ และเครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ในงานโลหะแผน่ 3. ชนิดของตะเขบ็ และขอบงาน 4. เทคนิควธิ ีการเข้าขอบลวด 5. การถา่ ยแบบลงในชิน้ งานโลหะแผ่น 6. งานตดั ตรงดว้ ยกรรไกร 7. งานตดั โคง้ ดว้ ยกรรไกร 8. งานพบั ขอบและเขา้ ตะเขบ็ ดว้ ยมือ 9. งานเข้าขอบลวด สาระสาคัญ ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่นตามหลกั อาชวี อนามัยเป็นสง่ิ ทผ่ี ปู้ ฏิบัติงานโลหะแผ่นต้อง คานงึ ถึงให้ปลอดภยั จากอันตรายของมลพิษต่าง ๆ เช่น เสียงดังเกินไป แสงสว่างไมเ่ พยี งพอ หรือการ ระบายอากาศ ตลอดจนเครื่องจักรตอ้ งอย่ใู นสภาพที่พรอ้ มใชง้ าน ดงั น้นั ผู้ปฏิบตั งิ านตอ้ งปฏบิ ัติตาม กฎและหลกั การความปลอดภยั อย่างเคร่งครดั เคร่อื งมอื และอปุ กรณใ์ นงานโลหะแผ่น มีการใช้งานมากตามลักษณะประเภทของงาน ซง่ึ สามารถแบง่ ออกเปน็ 3 ลกั ษณะ คือ เครอ่ื งมือวดั และรา่ งแบบ เคร่ืองมอื เล็กทใี่ ชม้ อื และ เครอื่ งจกั ร เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ในงานโลหะแผน่ จะเปน็ เคร่ืองมอื ประเภทข้ึนรูปด้วยมือ ( Hand tools ) ซ่ึงมีขนาดเลก็ นา้ หนักเบา ไดแ้ ก่ กรรไกร เหลก็ ย้าตะเขบ็ เหลก็ ยา้ หัวหมดุ เหล็กเจาะรดู ว้ ยมือ คมี ย้าหมดุ คีมพบั ตะเขบ็ คอ้ น และเคร่ืองมอื ข้ึนรูป ส่วนเครอื่ งจักรในงานโลหะแผน่ จะเปน็ ประเภทเครอื่ งจกั รกล ( Machine tools ) ประกอบด้วยเครอ่ื งตัด เคร่อื งพับ เคร่อื งม้วนขึ้นรปู และเครอ่ื งข้ึนรปู
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ่วั ไป 1. เพอ่ื ใหม้ คี วามเขา้ ใจความปลอดภยั ในงานโลหะแผน่ ตามหลักอาชีวอนามยั 2. เพ่อื ให้มีความเข้าใจ วสั ดุ และเคร่อื งมือท่ใี ช้ในงานโลหะแผ่น 3. เพื่อให้มีความเข้าใจชนิดของตะเขบ็ และขอบงาน 4. เพ่อื ให้มีความเข้าใจเทคนคิ วธิ กี ารเขา้ ขอบลวด 5. เพ่อื ใหม้ ีความเข้าใจการถ่ายแบบลงในช้ินงานโลหะแผ่น 6. เพอ่ื ให้มีความสามารถในการปฏบิ ตั งิ านตัดตรงดว้ ยกรรไกร 7. เพือ่ ใหม้ ีความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานตัดโค้งด้วยกรรไกร 8. เพอื่ ใหม้ ีความสามารถในการปฏิบัตงิ านพบั ขอบและเข้าตะเข็บดว้ ยมือ 9. เพ่อื ใหม้ ีความสามารถในการปฏิบตั งิ านเข้าขอบลวด 10. เพือ่ ให้มกี จิ นสิ ัยในการทางานทมี่ รี ะเบยี บแบบแผน มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและ ส่วนรวม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. อธิบายหลักความปลอดภยั ในงานโลหะแผ่นตามหลักอาชีวอนามัยได้ 2. อธิบายถงึ วสั ดุ และเครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ้ นงานโลหะแผน่ ได้ 3. บอกหน้าทีก่ ารใช้งานของเครื่องมือในงานโลหะแผน่ ได้ 4. อธบิ ายชนิดของตะเข็บ และขอบงานได้ 5. อธิบายถงึ เทคนคิ วิธกี ารเขา้ ขอบลวดได้ 6. บอกเทคนคิ วิธีการถา่ ยแบบลงในช้นิ งานโลหะแผ่นได้ 7. จัดเตรียมเครอ่ื งมอื และอุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นงานโลหะแผ่นได้ 8. ปฏบิ ตั งิ านตัดตรงดว้ ยกรรไกรได้ 9. ปฏบิ ตั งิ านตดั โค้งดว้ ยกรรไกรได้ 10. ปฏิบตั ิงานพับขอบและเข้าตะเขบ็ ด้วยมือได้ 11. ปฏบิ ตั ิงานเข้าขอบลวดได้ 12. ทางานมวี นิ ยั ระเบยี บแบบแผน มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและส่วนรวม
เนื้อหาสาระ 1. ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่นตามหลักอาชวี อนามยั 2. ความหมายของโลหะแผน่ 3. วัสดุ และเครื่องมอื ท่ีใช้ในงานโลหะแผ่น 3.1 เครอ่ื งมือวัด 3.2 เครอื่ งมือร่างแบบ 3.3 เครื่องมอื ในงานโลหะแผ่นทใ่ี ชม้ อื 3.4 เครือ่ งจักร 4. ชนิดของตะเขบ็ ขอบงาน และการเข้าขอบลวด 5. วธิ ีการถ่ายแบบลงในชน้ิ งานโลหะแผน่ กจิ กรรมการเรยี นการสอน ข้ันตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ข้ันตอนการสอนหรือกิจกรรมของนกั เรียน ขนั้ ทดสอบกอ่ นเรยี น ขน้ั ทดสอบก่อนเรียน ครทู าการทดสอบประเมินความรู้ก่อนเรยี น นกั เรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรู้กอ่ นเรยี น ขั้นท่ี 1 ขนั้ สนใจปญั หา ( Motivation ) ขั้นท่ี 1 ข้นั สนใจปญั หา ( Motivation ) ครูให้นกั เรียนดกู ารนาเสนอดว้ ย powerpoint นักเรยี นรับฟงั โต้ตอบ คดิ คน้ หาคาตอบ และ และชมวดิ โี อ เร่อื ง กรรมวธิ กี ารผลติ โลหะแผ่น เหตผุ ล รว่ มกนั กับครูผ้สู อน เมอ่ื รับชมจบแลว้ ครูถามนกั ศึกษาวา่ นักเรียน ใน ชีวติ ประจาวันนักเรยี นเคยพบเหน็ โลหะแผน่ ใช้ งานเก่ียวกับอะไรบา้ ง และคิดว่าหน้าท่ีการใชง้ าน ของโลหะแผ่นกบั ปัจจุบนั เปน็ อย่างไร ข้ันที่ 2 ขัน้ ศึกษาข้อมลู ( Information ) ขนั้ ท่ี 2 ขั้นศึกษาขอ้ มลู ( Information ) ครดู าเนินการสอนโดยใชส้ ่ือ powerpoint วดี โิ อ นักเรยี นต้ังใจฟัง จดบันทึกใจความสาคัญ และ ของจริง ประกอบการบรรยาย โดยนักเรียนร่วม ซกั ถามโต้ตอบกบั ครเู มอ่ื เกิดขอ้ สงสัยหรือไม่ แสดงความคดิ เหน็ โดยทีค่ รูใชค้ าถามกระตุ้น เขา้ ใจ เพือ่ ให้นักเรียนมสี ่วนรว่ มในการเรียนและเกิด ความเข้าใจอยา่ งคงทนถาวรตามเนื้อหาสาระการ เรยี นร้ทู กี่ าหนดไว้ ซ่งึ ได้แก่
1. ความปลอดภยั ในงานโลหะแผน่ ตาม หลกั อาชวี อนามัย 2. ความหมายของโลหะแผน่ 3. วัสดแุ ละเคร่อื งมือทใ่ี ช้ในงานโลหะแผ่น 3.1 เครือ่ งมือวดั 3.2 เครือ่ งมอื ร่างแบบ 3.3 เครอื่ งมอื ในงานโลหะแผ่นที่ใช้มอื 3.4 เครอื่ งจกั ร 4. ชนดิ ของตะเขบ็ ขอบงาน และการ เขา้ ขอบลวด 5. วธิ กี ารถา่ ยแบบลงในชนิ้ งานโลหะแผ่น ครูให้นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั ทา้ ยบท นักเรียนทาแบบฝึกหดั ท้ายบทสดุ ทา้ ย ครูเฉลยแบบฝึกหดั รว่ มกบั นักเรยี น นกั เรยี นและครรู ่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หดั ครสู าธิต ใบงานท่ี 17 - 20 นักเรียนดกู ารสาธิตจากครู ใบงานที่ 17 - 20 ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ พยายาม ( Application ) ขั้นท่ี 3 ขนั้ พยายาม ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลัง นกั เรียนลงมือทาแบบทดสอบหลังเรียน และใบ เรยี น และใบงานที่ 17 - 20 งานท่ี 17 - 20 ขน้ั ท่ี 4 ขน้ั สาเร็จผล ( Progression ) ข้นั ท่ี 4 ขน้ั สาเร็จผล ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนและตรวจใบงานท่ี นักเรยี นรว่ มกับครู เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 17 - 20 รว่ มกบั นักเรยี น เพื่อปรับแกค้ วาม และตรวจใบงานท่ี 17 - 20 เพ่อื ทราบผลสาเร็จ เข้าใจท่คี าดเคลอื่ นของนกั เรียน ของนักเรียน และเพ่อื ปรบั แก้ความเข้าใจที่ คลาดเคลอ่ื นของนกั เรียน
งานทมี่ อบหมายหรือกิจกรรม 11. ก่อนเรยี น นกั เรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น 12. ขณะเรียน นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั นักเรยี นปฏบิ ตั ิงานใบงานท่ี 17 - 20 3. หลงั เรยี น นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 7 สื่อการเรียนการสอน 6. ส่อื ส่งิ พมิ พ์ 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นพร้อมเฉลย หนว่ ยท่ี 7 1.2 แบบฝึกหดั พร้อมเฉลย หนว่ ยที่ 7 1.3 ใบความรู้ หน่วยที่ 7 2. สอ่ื โสตทัศน์ 2.1 วดิ ีโอ 2.2 เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจริง 3.1 อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานเชือ่ มไฟฟา้ การประเมินผล 1. ก่อนเรียน แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น 2. ขณะเรียน แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 7 ใบงานที่ 17 - 20 3. หลังเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยที่ 7 เอกสารอ้างอิง ทรงวฒุ ิ เสมาคา. งานเชอื่ มละโลหะแผน่ เบ้อื งตน้ . กรุงเทพฯ : จิตรวัฒน์, 2550. ทนิ กร มารงั ค์ และประยุทธ ทบั ทิมศรี. งานเชอ่ื มและโลหะแผน่ เบ้ืองตน้ กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพศ์ นู ย์ส่งเสริมอาชีวะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชือ่ มและโลหะแผน่ เบื้องต้น กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์เอมพันธ์, 2547 ประทปี ระงบั ทกุ ข,์ งานเช่ือมโลหะ1. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์, 2547.
บันทกึ หลังการสอน หนว่ ยที่ 7 เรอ่ื ง ความร้เู บื้องตน้ เก่ยี วกบั งานโลหะแผน่ ผลการใชแ้ ผนการจัดเรยี นรู้ 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ สามารถนามาปฏบิ ัติไดท้ ันตามเวลาทีก่ าหนดไว้ เปน็ อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............................................................................................................................. ........................... ผลการเรยี นรู้ของนักเรยี น 1. ความสนใจของนกั เรียน เป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เป็นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้ รบทกุ กระบวนการหรือไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครูผูส้ อนมีวธิ กี ารกระตุน้ นกั เรยี นให้มีส่วนร่วมในการเรียนการสอนอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปญั หาทพ่ี บ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแก้ไขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 8 ชอื่ วิชา งานเชอ่ื มและโลหะแผน่ เบอ้ื งตน้ ชือ่ หน่วย เคร่อื งจักรในงานโลหะแผน่ สอนคร้งั ท่ี 17 ชอ่ื เรือ่ ง เคร่อื งจกั รทใ่ี ชใ้ นงานโลหะแผ่น และการบดั กรีออ่ น ชั่วโมงสอนรวม 1 - 4 จานวนช่ัวโมง 4 ช่วั โมง หัวข้อเรอ่ื ง 1. เครอ่ื งจกั รทีใ่ ช้ในงานโลหะแผ่น 2. การบดั กรอี อ่ น 3. อณุ หภูมิทีใ่ ช้ในการบดั กรอี ่อน 4. วัสดุ และเครื่องมือทีใ่ ช้ในงานบดั กรีอ่อน 5. นา้ ประสานท่ีใชใ้ นการบดั กรอี ่อน 6. หลักวิธีการในการเขยี นแบบแผน่ คลอ่ี ย่างง่าย 7. งานกลอ่ งสเ่ี หลีย่ ม สาระสาคญั การบัดกรีอ่อน (Soldering) คือกระบวนการเชื่อมตอ่ โลหะโดยอาศัยโลหะบดั กรี ซึง่ อณุ หภมู ิที่ ใชใ้ นการบดั กรอี ่อนมีอุณหภมู ิต่ากวา่ 425 C ( 800 F ) การบัดกรีออ่ น เปน็ การตอ่ โลหะให้ตดิ กนั โดยใช้ตะกัว่ ผสมดบี ุกหลอมละลายประสานให้โลหะตดิ กัน การบัดกรีอ่อนจะมคี วามแข็งแรงนอ้ ยกว่า การแลน่ ประสาน เครื่องมอื และอุปกรณใ์ นการบัดกรีออ่ นประกอบดว้ ยหวั แร้งบัดกรี โลหะบดั กรี น้า ประสาน และแหล่งความรอ้ น โดยมขี ั้นตอนคือ เผาหัวแรง้ ใหร้ อ้ น ใช้น้ายาประสานทาบรเิ วณท่จี ะ บดั กรี นาหัวแร้งท่รี อ้ นแดงถูกับตะกวั่ บรเิ วณรอยตอ่ จนสดุ แนว และทาความสะอาดชนิ้ งาน กอ่ นการขึ้นรูปงานผลิตภัณฑโ์ ลหะแผ่นนั้นตอ้ งมีการเขยี นแบบแผ่นคลขี่ องงานเสียก่อนเพื่อให้ การขึ้นรูปเป็นไปตามขนาดทก่ี าหนด ผู้ปฏิบัติงานจึงตอ้ งศึกษาวิธีการเขียนแบบแผน่ คลี่เสยี กอ่ นโดย วธิ กี ารเขียนแบบแผ่นคลม่ี ี 4 วธิ ี คือ วิธีการเขยี นแบบดว้ ยเส้นขนาน ( Parallel - line Method ) การ เขียนแบบแผน่ คล่ีดว้ ยเส้นรศั มี ( Radial - line Method ) และวธิ กี ารเขยี นแบบแผ่นคล่ีด้วยวธิ ีเส้น สามเหลย่ี ม ( Triangulation Method ) การเขยี นแบบแผ่นคล่ีไดส้ มบูรณด์ ีน้ัน ผ้ปู ฏบิ ัตจิ ะตอ้ งรูจ้ กั ตะเข็บต่างๆ ตลอดจนการเผ่อื ขอบโลหะงานของตะเขบ็ งานน้ันๆ รวมท้ังการพบั การเขา้ มุม นอกจากน้ีจะต้องร้จู ักนอต ( Notch ) คอื รอยบากภายในแผ่นคลี่ เช่น ครบี เพือ่ ต้องการพบั ขึน้ รปู กระทาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และชนิ้ งานทพ่ี บั ไม่เสยี รูปทรง ชนดิ ของตะเข็บในงานโลหะแผน่
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงคท์ วั่ ไป 1. เพอ่ื ใหม้ คี วามเข้าใจเครอื่ งจกั รทใ่ี ชใ้ นงานโลหะแผ่น 2. เพ่ือใหม้ ีความเข้าใจในการบดั กรอี ่อน 3. เพอ่ื ใหม้ คี วามเขา้ ใจอณุ หภูมทิ ีใ่ ชใ้ นการบัดกรีออ่ น 4. เพื่อให้มีความเขา้ ใจหัวแร้งบดั กรี ทีใ่ ชใ้ นงานบดั กรอี อ่ น 5. เพอ่ื ให้มคี วามเขา้ ใจโลหะบดั กรีท่ใี ชใ้ นการบัดกรีออ่ น 6. เพือ่ ใหม้ คี วามเขา้ ใจน้าประสานท่ใี ชใ้ นการบัดกรีอ่อน 7. เพอ่ื ใหม้ ีความเข้าใจหลักวธิ ีการในการเขียนแบบแผ่นคล่อี ยา่ งงา่ ย 8. เพือ่ ใหม้ ีความสามารถในการเขียนแบบแผน่ คลก่ี ลอ่ งสเ่ี หล่ียม 9. เพ่อื ให้มคี วามสามารถในการปฏบิ ัตงิ านกลอ่ งสเ่ี หลี่ยม 10. เพ่อื ใหม้ ีกิจนสิ ัยในการทางานท่มี รี ะเบียบแบบแผน มีความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและ ส่วนรวม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. อธิบายหลกั การของเครอ่ื งจกั รท่ีใชใ้ นงานโลหะแผ่นได้ 2. บอกชื่อของเคร่ืองจักรที่ใชใ้ นงานโลหะแผ่นได้ 3. อธิบายหลักการของการบัดกรีอ่อนได้ 4. อธบิ ายถึงอุณหภูมิทใี่ ชใ้ นการบดั กรอี อ่ นได้ 5. อธิบายถึงหัวแร้งบดั กรี ทใี่ ชใ้ นงานบัดกรีอ่อนได้ 6. อธบิ ายถงึ นา้ ประสานทใี่ ชใ้ นการบดั กรีอ่อนได้ 7. อธบิ ายหลักวธิ ีการในการเขียนแบบแผ่นคล่ีอย่างงา่ ยได้ 8. จดั เตรยี มเครอ่ื งมือ และอปุ กรณท์ ีใ่ ช้ในงานบัดกรีออ่ นได้ 9. ปฏิบตั งิ านเขยี นแบบแผน่ คลีอ่ ย่างง่ายได้ 10. ปฏบิ ตั งิ านกล่องสี่เหล่ียมได้ 11. ทางานมีวินยั ระเบียบแบบแผน มีความรบั ผิดชอบต่อตนเองและสว่ นรวม เน้อื หาสาระ 1. เคร่อื งจักรทใ่ี ช้ในงานโลหะแผน่ 2. การบัดกรีอ่อน 3. อณุ หภมู ิท่ีใช้ในการบดั กรีออ่ น 4. หัวแรง้ บัดกรีหัวแรง้ บดั กรี 5. น้าประสาน 6. การเขียนแบบแผ่นคล่ีอยา่ งงา่ ย
กิจกรรมการเรยี นการสอน ขัน้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของนกั เรยี น ขนั้ ทดสอบกอ่ นเรยี น ข้นั ทดสอบก่อนเรยี น ครูทาการทดสอบประเมนิ ความร้กู อ่ นเรียน นกั เรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น ขน้ั ท่ี 1 ข้ันสนใจปัญหา ( Motivation ) ขั้นท่ี 1 ข้นั สนใจปญั หา ( Motivation ) ครูให้นักเรยี นดูการนาเสนอด้วย powerpoint นักเรียนรบั ฟงั โตต้ อบ คิด ค้นหาคาตอบ และ หัวขอ้ เครอ่ื งจกั รที่ใช้ในงานโลหะแผน่ และการ เหตุผล ร่วมกันกบั ครผู ู้สอน บัดกรีออ่ น เม่อื รบั ฟงั จบแลว้ ครูถามนกั ศกึ ษาวา่ นักเรยี น ในชวี ติ ประจาวันนกั เรียนเคยพบเหน็ งานบัดกรอี ่อนใชง้ านเก่ยี วกบั อะไรบา้ ง ขนั้ ที่ 2 ขน้ั ศึกษาข้อมูล ( Information ) ข้ันท่ี 2 ขน้ั ศกึ ษาขอ้ มลู ( Information ) ครูดาเนนิ การสอนโดยใช้สือ่ powerpoint วีดโิ อ นกั เรียนต้ังใจฟงั จดบันทกึ ใจความสาคัญ และ ของจรงิ ประกอบการบรรยาย โดยนกั เรยี นร่วม ซกั ถามโต้ตอบกบั ครเู มื่อเกิดขอ้ สงสัยหรอื ไม่ แสดงความคิดเห็น โดยทีค่ รูใชค้ าถามกระตนุ้ เขา้ ใจ เพ่อื ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนและเกดิ ความเขา้ ใจอย่างคงทนถาวรตามเนือ้ หาสาระการ เรียนรทู้ ี่กาหนดไว้ ซ่ึงไดแ้ ก่ 1. เคร่ืองจกั รท่ใี ชใ้ นงานโลหะแผน่ 2. การบดั กรีอ่อน 3. อณุ หภูมทิ ี่ใชใ้ นการบัดกรีออ่ น 4. หวั แรง้ บัดกรหี วั แรง้ บดั กรี 5. นา้ ประสาน นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั ทา้ ยบทสุดท้าย 6. การเขยี นแบบแผ่นคลอ่ี ยา่ งงา่ ย นักเรียนและครูร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหดั นกั เรียนดูการสาธิตจากครู ใบงานท่ี 21 ครูให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัดท้ายบท ครเู ฉลยแบบฝึกหดั รว่ มกับนักเรียน ครสู าธติ ใบงานที่ 21
ข้ันที่ 3 ข้ันพยายาม ( Application ) ข้ันที่ 3 ข้ันพยายาม ครูมอบหมายให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั นกั เรียนลงมอื ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และใบ เรยี น และใบงานท่ี 21 งานที่ 21 ขน้ั ที่ 4 ขั้นสาเร็จผล ( Progression ) ขั้นที่ 4 ขนั้ สาเรจ็ ผล ครเู ฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี นและตรวจใบงานท่ี นกั เรียนร่วมกับครู เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 21 รว่ มกับนกั เรียน เพ่ือปรับแกค้ วามเข้าใจท่ี และตรวจใบงานที่ 21 เพ่อื ทราบผลสาเรจ็ ของ คาดเคลือ่ นของนกั เรียน นกั เรียน และเพ่อื ปรับแก้ความเขา้ ใจท่ี คลาดเคลอ่ื นของนักเรียน งานทมี่ อบหมายหรอื กจิ กรรม 13. ก่อนเรียน นักเรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรู้กอ่ นเรยี น 14. ขณะเรียน นกั เรียนทาแบบฝึกหัด นักเรยี นปฏิบัติงานใบงานที่ 21 3. หลังเรยี น นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยท่ี 8 สอื่ การเรยี นการสอน 7. สอื่ ส่ิงพมิ พ์ 1.1 แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นพรอ้ มเฉลย หนว่ ยท่ี 8 1.2 แบบฝกึ หดั พร้อมเฉลย หนว่ ยที่ 8 1.3 ใบความรู้ หน่วยท่ี 8 2. สื่อโสตทศั น์ 2.1 วดิ โี อ 2.2 เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 3. ของจริง 3.1 อุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นงานเชือ่ มไฟฟา้ การประเมนิ ผล 1. ก่อนเรียน แบบประเมินผลการเรยี นรู้ก่อนเรียน 2. ขณะเรียน แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 8 ใบงานที่ 21 3. หลงั เรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 8
เอกสารอ้างอิง ทรงวุฒิ เสมาคา. งานเชื่อมละโลหะแผน่ เบอื้ งต้น. กรุงเทพฯ : จิตรวฒั น์, 2550. ทินกร มารงั ค์ และประยทุ ธ ทบั ทิมศรี. งานเชอ่ื มและโลหะแผน่ เบือ้ งตน้ กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพศ์ ูนยส์ ง่ เสริมอาชีวะ, 2549 นรศิ ศรีเมฆ และพิชัย โอภาสอนนั ต์. งานเชื่อมและโลหะแผน่ เบ้ืองต้น กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์, 2547 ประทปี ระงับทกุ ข,์ งานเช่ือมโลหะ1. กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พเ์ อมพันธ์, 2547.
บันทกึ หลังการสอน หน่วยที่ 8 เรอ่ื ง เคร่อื งจักรทใ่ี ช้ในงานโลหะแผน่ และการบัดกรีอ่อน ผลการใช้แผนการจัดเรยี นรู้ 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ สามารถนามาปฏิบตั ิไดท้ ันตามเวลาทกี่ าหนดไว้ เปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............................................................................................................................ ............................ ผลการเรียนรู้ของนักเรียน 1. ความสนใจของนกั เรียน เปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………. 2. คะแนนการทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 เป็นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….. ............…………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการสอนของครู 1. สอนเนอื้ หาไดค้ รบทุกกระบวนการหรอื ไม่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. ครูผู้สอนมวี ธิ ีการกระตนุ้ นักเรียนให้มสี ่วนรว่ มในการเรียนการสอนอย่างไร …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 3. ปญั หาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………… 4. แนวทางแกไ้ ขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………….…………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………
Search