Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 35564

35564

Published by เลิฟ จุลินทรีย์, 2015-08-25 04:40:22

Description: 35564

Search

Read the Text Version

๒ { ธรรมวรรณศิลป์ มี ๒ นยั ยะสาคญั {หน่ึง วรรณศิลป์ ท่ีส่งมอบความดี ความงาม และความจริงแก่ผอู้ ่านและสงั คม สอง วรรณศิลป์ ที่ขดั เกลาจิตใจและชีวิตผปู้ ระพนั ธ์น้นั เอง } อนุสารธรรมวรรณศิลป์ จึงประกอบด้วย ข้อชวนคิด และ ข้อชวนเขยี น เผยแพร่โดย ศนู ยก์ ารเขียนเปลี่ยนชีวติ สถาบนั ธรรมวรรณศิลป์ www.facebook.com/khianpianchiwit www.youngawakening.org/write4life อ่านฉบบั ก่อนหนา้ ไดท้ ่ี http://youngawakening.org/write4life/?cat=50{ภาพปก การอบรมกองกฎหมายกระทรวงสาธารณสุข โดยบริษทั สูตรคูณสุข จากดัมีวิทยากรจากสถาบนั ธรรมวรรณศิลป์ ร่วมทีมงานนากระบวนการ}อนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ที่ ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๓ เสียงเพลงในแสงและเงา หากกล่าวถึงความทุกข์ ไมว่ า่ ใครกย็ อ่ มเคยสมั ผสั เป็นส่ิงสามญั ควบคู่กบั ความสุขราวกบั แสงและเงา อยู่ท่ีวา่ แสงหรือเงาน้นั จะเขม้ เพียงใด เงาท่ีเขม้ ท่ีสุดยอ่ มเกิดจากแสงท่ีสวา่ งท่ีสุด ดงั น้นั บางทีลึก ๆ แลว้ ฉนั จึงเช่ือ วา่ตวั เองจะสัมผสั ความสุขที่เท่าเทียมกนั กบั ความทุกขท์ ี่มีได้ ความทุกขค์ งไม่อาจเทียบไดด้ ว้ ยหน่วยวดั ใด หรือคงไม่อาจมีใครเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง หากไม่ไดเ้ ผชิญสถานการณ์น้นั ดว้ ยตนเอง มนั มืดสนิท ไม่ไดย้ นิ เสียงใด ไมร่ ู้ทิศทาง ไมร่ ู้วา่ ตอ้ งกา้ วไปทางไหน สมั ผสั ไดเ้ พยี งลมหายใจแผว่ ท่ีไม่รู้วา่ กาลงั หายใจดว้ ยเหตุผลใด ท่ามกลางกระแสชีวติ ที่ไหลไปดว้ ยจงั หวะเดิม ๆ กา้ วเดินตอ่ ไปขา้ งหนา้ บา้ งดิ้นรน บา้ งแขง่ ขนั ดว้ ยค่านิยมท่ีเราไม่ไดเ้ ตม็ ใจเลือกดว้ ยตนเองและไมอ่ าจเลือกได้ ราวกบั อยใู่ นกรงขงั สภาพจิตใจลึก ๆ กลบั อ่อนแอ ปิ ดไวด้ ว้ ยเปลือกนอกอนั เยน็ ชา พยายามไขวค่ วา้ ไปสู่จุดสูงสุด หากเพียงกระทบเบา ๆ ถูกจุด ความอ่อนแอท่ีซ่อนไวก้ ็จะไหลทะลกั ราวทานบแตก ความรู้สึกทว่ มทน้ ถอ้ ยคามากมายและเสียงดนตรีกอ้ งดงั ในใจฉนั คลา้ ยไวโอลินเสียงแหลมสูงเสียดหูไมม่ ีใครไดย้ นิ ปกปิ ดดว้ ยรอยยมิ้ ทวา่ ในบางครา ใครบางคนท่ีคลา้ ยกนั กลบั รับรู้ถึงมนั คลา้ ยวา่ เราเพ่งิ รู้จกั กนั จริง ๆในวนิ าทีน้นั หาใช่รู้จกั เพียงชื่อและใบหนา้ ฉนั กา้ วไปสู่อีกฟากฝั่งของโลก เพอื่ เรียนรู้และพบพาน แตใ่ นที่แห่งน้นั ส่ิงที่ฉนั สัมผสั ไดช้ ดั เจนท่ีสุดกลบั เป็นความโดดเดี่ยว เป็ นความผดิ ของผบู้ รรเลงบทเพลงง้นั หรือ ที่ผคู้ นในสถานท่ีแห่งน้นั ไม่ไดน้ ิยมชมชอบดนตรีแบบเดียวกนั ทวา่ กห็ าใช่ความผดิ ของคนเหล่าน้นั ท่ีไมไ่ ดช้ ่ืนชอบอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ท่ี ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๔ ในยามท่ีปรับจงั หวะของบทเพลงเพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความนิยมของคนรอบกาย ฉนั ก็พบวา่ ไม่มีท่ีแห่งไหนเลยท่ีจะยอมรับเสียงเพลงที่เป็นตวั ฉนั ท้งั หมด ราวกบั วา่ ฉนั ยนื อยกู่ ่ึงกลาง ระหวา่ งสถานที่แห่งน้นั กบั ประเทศบา้ นเกิด ในช่วงเวลาที่ไม่เหลือใคร ไม่มีทางใหห้ นั หลงั กลบั ไม่มีใครพร้อมรับฟัง ฉนั กลบั ใชค้ วามเจบ็ ปวดเพอ่ืดบั ความเจบ็ ปวดเช่นคนบา้ แน่นอนวา่ ความเจบ็ ปวดไมไ่ ดห้ ายไปไหน ไมอ่ าจจางไปจากหวั ใจ เพียงแคย่ ้าเตือนวา่ฉนั ยงั มีชีวติ ทิง้ รอยแผลเป็ นลึกบนผวิ กาย ที่ไมร่ ู้วา่ กาลเวลาจะลบเลือนมนั ไปไดห้ รือเปล่า แมก้ าลเวลาจะผา่ นไปเน่ินนาน นาไปสู่การพบพานใหม่ ๆ ในสถานท่ีแห่งใหม่ แมใ้ นยามท่ีมีความสุขบางคราความทรงจาในอดีตกลบั บีบรัดจนเจบ็ ปวด เป็ นเช่นโซ่ตรวนท่ีไม่อาจสะบดั ออก เช่นเดียวกบั รอยแผลท่ีไม่อาจลบ มนั โอบกอดฉนั ไวจ้ ากดา้ นหลงั แน่นจนไม่อาจหายใจ เปล่งเสียงกระซิบในหวั ที่แมย้ กมือปิ ดหูก็ยงั คงไดย้ นิ ทวา่ ฉนั กไ็ ดพ้ บใครบางคน และใครเลยจะรู้ วา่ การพบพานคร้ังใด จะกลบั กลายเป็นจุดเร่ิมตน้ ของความทรงจาท่ีจะติดอยใู่ นใจตราบนานเท่าน้นั ในยามค่าท่ีท้งั โรงเรียนแทบไม่เหลือใคร ฉนั ยนื รอเพ่ือนเพอื่ จะไปจากท่ีนนั่ พร้อมกนั แต่ใครคนหน่ึงกลบั โบกมือใหฉ้ นั พร้อมรอยยมิ้ ฉนั เมินเฉยกบั ท่าทางน้นั ดว้ ยคิดวา่ เธอคงทกั ทายใครสักคนที่อาจอยรู่ อบกายฉนัตอนน้นั ทวา่ เธอกลบั เรียกชื่อฉนั พร้อมบอกชื่อของเธอ มนั อาจเป็นปาฏิหาริย์ แตฉ่ นั รับรู้ไดใ้ นวนิ าทีน้นั ในแววตาร่าเริงของเธอ มีบางสิ่งท่ีคลา้ ยคลึงกบั ตวั ฉนั อยู่ ผา่ นไปอีกนานทีเดียว โดยท่ีเราแทบไม่ไดพ้ ดู คุยกนั ทวา่ ความรู้สึกประหลาดน้นั ติดอยใู่ นใจของฉนัตลอดมา จากวนั น้นั ฉนั รอมาตลอด จนกระทง่ั เราไดเ้ คียงขา้ งกนั ใกลช้ ิดกวา่ ใครในวนั น้ี โดยไมร่ ู้วา่ จะไดอ้ ยดู่ ว้ ยกนัจนวนั ไหน และใครอีกคนหน่ึง ท่ีเพียงเอ่ยพมึ พากบั ตนเองท่ีมุมหอ้ ง ฉนั เลือกที่จะทกั ทายโดยไม่รู้วา่ มีส่ิงใดมาดลใจฉนั มองเห็นบางสิ่งในแววตาของเธอ บทเพลงที่แตกต่างเด่นชดั เหน็บหนาวรุนแรงทวา่ เจือความออ่ นโยนเช่นกระแสธาร แมจ้ ะเยน็ เยอื กแต่กส็ ัมผสั ตวั ฉนั อยา่ งอบอุน่ เราไดพ้ บกนั เพียงคร้ังน้นั คร้ังเดียว อยหู่ ่างไกลเกินกวา่ จะพบเจอ ทวา่ ติดอยใู่ นใจฉนั เนิ่นนาน แมใ้ นวนิ าทีน้ี ถึงฉนั จะไดพ้ บคนท่ีตามหา แตบ่ างคร้ัง เส้นทางชีวติ ท่ีแตกตา่ ง กท็ าใหฉ้ นั ไมอ่ าจอยขู่ า้ งใครคนน้นั ได้อนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ท่ี ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๕ ฉนั อาจเฝ้ ารอใครสักคนที่อยดู่ ว้ ยกนั ในทุกช่วงเวลามาเน่ินนาน ทวา่ อีกมุมหน่ึงของหวั ใจ ในบางคร้ังฉนัก็รู้สึกไดว้ า่ ตวั เองปรารถนาการอยตู่ วั คนเดียว มนั เป็นส่ิงที่ฉนั ไม่อาจทาความเขา้ ใจ รู้เพยี งวา่ ฉนั ตอ้ งควบคุมทุกสิ่งในตวั เองไว้ เพ่อื ท่ีจะไมท่ าร้ายใคร เพราะฉนั รู้วา่ ทว่ งทานองที่แตกตา่ งในตนเอง กลบั ดึงดูดคนท่ีสามารถไดย้ นิ มนัไดอ้ ยา่ งน่าประหลาด จนบางที การรักษาระยะห่างเอาไวเ้ พ่ือท่ีตวั เองจะไม่ทาร้ายใครกลบั กลายเป็นส่ิงท่ีดีท่ีสุด ฉนั ไมอ่ าจอยเู่ คียงขา้ งใครหลายคนในเวลาเดียวกนั และรู้ดีวา่ ตวั เองคงมีรอยแผลท่ีลึกชดั ยง่ิ กวา่ น้ีหากทาร้ายคนสาคญั ขา้ งเคียงกาย ฉนั จึงทาไดเ้ พียงควบคุมความรู้สึกท่ีซบั ซอ้ นราวสายน้าวนในตน บางคร้ังการเลือกเดินจากใครสกั คนมา กาลเวลาที่เลยผา่ นไป ทาใหก้ ารกลบั ไปทกั ทายเช่นเก่าไม่ใช่เรื่องง่าย คงข้ึนอยกู่ บั ใจของกนั และกนั รวมท้งั โชคชะตา แมไ้ ม่อาจยอ้ นคืน แตค่ วามทรงจาอบอุ่น ยงั คงเด่นชดั ในใจ แมไ้ มอ่ าจเคียงขา้ งใครตลอดไป และโลกน้ียงั คงหมุนไปอยา่ งท่ีเคย ความโหดร้ายหรือความสวยงามของมนั ไมไ่ ดล้ ดลงในแต่ละวนั ที่ผนั เปล่ียน ทวา่ อยา่ งนอ้ ยฉนั กไ็ ดร้ ู้วา่ ฉนั ไม่ไดโ้ ดดเดี่ยว ถึงสุดทา้ ยอาจอยตู่ วั คนเดียว แต่เสียงเพลงของคนเหล่าน้นั ยงั คงกอ้ งดงั อยใู่ นใจ ไมม่ ีวนั เลือนไปไหน ฉนั คงไม่มีวนั โดดเดี่ยวอีกแลว้ ท่ามกลางกระแสของความเจ็บปวด ฉนั มองเห็นเศษเส้ียวของความสุข และแมว้ นั ที่มองไมเ่ ห็นส่ิงใด แต่การท่ียงั มีชีวติ อยู่ จะนาพาเราไปพบกบั บางสิ่ง แมต้ วั เราจะเจบ็ ปวด ไม่อาจหลีกหนีจากสิ่งท่ีถูกปลูกฝัง และยงั เผชิญอยทู่ ุกวนั ทวา่ สักวนั ไมว่ า่ ใครก็คงคน้ พบกบั ความหมายของการมีชีวติ อยู่ และคงพบกบั ความสุขได้ แมเ้ ป็นช่วงเวลาที่แสนส้นั แต่สาหรับฉนั มนั คุม้ คา่ แมไ้ มร่ ู้วา่ จะรู้สึกแบบน้ีไดอ้ ีกนานเทา่ ไหร่ ทวา่ ในวนั น้ีอยา่ งนอ้ ยฉนั ก็ดีใจท่ีตวั เองยงั มีชีวติ อยู่ โดย Reinforceอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ที่ ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๖___________________________________________________________________________________“ พามอื เธอวางท่ีสายธาร ” หายใจเขา้ ณ ปลายจมกู เราสมั ผสั กระแสแห่งชีวติ กลุ่มละอองลมหายใจ ไหลคลอ้ ยเขา้ มา ลึกยาวเพยี งใด ใหก้ ายใจสมั ผสั รับรู้ หายใจออก ร่างกายและลมหายใจ สัมผสั ออ่ นโยนก่อนลบั ลาจากกนั หากลมหายใจเรายงั คงมิอาจวางใจแขง็ เกร็งเกินผอ่ นคลาย หรือเร่งร้อนรน ลองสัมผสั ดว้ ยการรับรู้ ใหเ้ วลากบั การพบและพรากจาก ออ้ ยอ่ิงในปัจจุบนัสัมผสั ลมหายใจเขา้ ออกอยา่ งทะนุถนอมดว้ ยรัก ชีวติ เราเหมือนสายธารอยา่ งไร หากเรามีสมุดบนั ทึกส่วนตวั หรือมีสื่อสังคมออนไลนซ์ ่ึงตนไดจ้ ารึกการเดินทางของหวั ใจและชีวติ ลองยอ้ นไล่เรียงอ่านทวน จากวนั น้ีสู่วนั วาน จากช่วงน้ีสู่อดีต จากเดือนก่อนสู่ปี ก่อน ราวเดินยอ้ นสายน้าหาจุดเร่ิมตน้ ชีวติ เราเหมือนสายธารอยา่ งไร หายใจเขา้ ตรึกตรองไวใ้ นหวั ใจเรา สาหรับนกั เรียนการเขียนเยยี วยาหรือผสู้ นใจบนั ทึกดูแลตนเอง หยบิ อุปกรณ์ข้ึนมา เขียนใคร่ครวญ ชีวติ เราเหมือนสายธาร การเดินทาง การเปลี่ยนแปลงและความลื่นไหล หายใจออก ลมหายใจเราเหมือนกระแสน้าอยา่ งไร ใชก้ ายใชใ้ จอา่ นรับรู้ แลว้ ค่อยคลอ้ ยหายใจเขา้ อีกคราเขียนการทบทวนดว้ ยลมหายใจเขา้ สมั ผสั กระแสธารที่ไหลรินสู่ร่างกาย ลึกลง ลึกลง ก่อนอีกกระแสธารหน่ึงวกยอ้ นเดินทางออกมา สู่อากาศภายนอกและทอ้ งฟ้ าจรดไกล ส่ิงใดใดในจกั รวาล เป็นอยา่ งนอ้ ยสองลกั ษณะในตวั เอง อยทู่ ี่บริบทและการสงั เกต หน่ึงเป็นกอ้ น หรือเราอาจเรียกเป็นอนุภาค สองเป็นกระแสธาร หรือเราอาจเรียกวา่ เป็นคลื่น ลมหายใจเราน้ีก็เป็นละอองธุลีในอากาศล่องลอยอยใู่ นหอ้ ง ณ ธรรมชาติ ลมหายใจนอ้ ยๆ ท่ีสมั ผสั กบั ปลายจมกู เราขณะอา่ นยอ่ หนา้ น้ี อาจเดินทางมาไกลอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ท่ี ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๗จากมหาสมุทรอีกฟากฝ่ังโลก ผา่ นหมูม่ จั ฉา นกเป็ดน้า กอ้ นเมฆหลากรูป จนมาถึงท่ีน่ี ลมหายใจเรายงั เป็นเส้นสายแห่งการเดินทางและการแปรเปล่ียน เช่นตวั เรา ความเป็นตวั ตนมิใช่เป็นรูปร่างแบบเดียวกบั ท่ีเราเห็นตวั เองในกระจกเงา มิไดเ้ ป็นตวั ตนที่ตนัและแขง็ ทื่อ เราก็เป็นกระแสธาร มีการเกิดดบั มากมายในร่างกายและในจิตใจ วนั น้ีและเม่ือวานเราแปรเปล่ียน ตายและเกิดใหมท่ ุกวนิ าที ตวั ตนเราเป็นสายน้าแห่งการแปรเปล่ียน เป็นดงั่ น้าที่เคลื่อนคลอ้ ยไปตามกาลเทศะและการปรุงแต่ง งานเขียนหรือบนั ทึกก็มิใช่ส่ิงท่ีหยดุ นิ่ง เราอาจเห็นงานเขียนคือการประกอบของคา เกิดเป็นกลุ่มคากลายเป็นประโยค เกิดยอ่ หนา้ เป็นบทตอน เชื่อมโยงเป็นเร่ือง จดั แตง่ เป็นรูปเล่ม งานเขียนมิใช่ส่ิงท่ีเป็นตวั ตน แมม้ ีดา้ นที่เป็นตวั ตนแห่งถอ้ ยคา แต่ก็มีดา้ นท่ีเป็นกระแสธาร การแปรเปล่ียนของความรู้สึก พลงั งาน การเดินทางของเรื่องราว การเกิดและการเสื่อมไป หายใจเขา้ ณ วนิ าทีท่ีเรารับรู้การหายใจเขา้ เรากาลงั สัมผสั กระแสธาร รู้สึกในปัจจุบนั ขณะวา่ กระแสธารน้ีพดั พามาอยา่ งไร เรากาลงั เรียนรู้ท่ีจะใชช้ ีวติ อยา่ งไม่ยดึ กมุ และไม่ปล่อยปละ เพียงสมั ผสั ลมหายใจเขา้ รับรู้การเดินทางมา และรอตอ้ นรับลมหายใจคลี่คลายออกไป เราไม่พยายามใหล้ มหายใจหยดุ กบั ท่ี หรือปิ ดก้นั มิใหเ้ ขา้ หรือออก เพราะการหยดุ น่ิงไมเ่ ปลี่ยนแปลงคือความตาย ชีวติ ปกติที่ขาดการรู้เท่าทนั เราพยายามปิ ดก้นั หรือหลบหนีส่ิงที่เราไม่พอใจหรือไมต่ อ้ งการ และกลวั การเปล่ียนแปลงจากส่ิงท่ีเรายดึ ไวว้ า่ มน่ั คงและปลอดภยั หายใจออก เรากลวั จนไมไ่ ดใ้ ชช้ ีวติ การมีชีวิตคือการเดินทางเหมือนกระแสธารไหลคลอ้ ย เราอาจเคยมีช่วงเวลาอนั เปี่ ยมพลงั รู้สึกมนั่ คงกบั ส่ิงท่ีเป็นอยู่ ปลอดภยั กบั ฐานะทางการงานหรือการมีคนรัก รู้สึกไวว้ างใจยามมีสุขภาพท่ีแขง็ แรง กระน้นั เรามิอาจขวางโลกมิใหห้ มุน การก้นั ทางน้าเพราะความกลวั ทาใหอ้ ากาศผดิ ผนั และเกิดภยัพิบตั ิความแหง้ แลง้ และน้าท่วมเสียสมดุล การก้นั ทางลมหายใจดว้ ยการปล่อยปละตนเองและความเครียดท่ีมีบน่ัทอนพลงั กาย และบีบค้นั ตน การก้นั ทางชีวติ มิยอมเล่ือนไหลไปกบั ความเป็นจริง ทาใหเ้ ราสูญเสียชีวติ ขงั ตนไว้ดว้ ยกาแพงการยดึ ติดอนั น่ากลวั เมื่อเราปิ ดก้นั ความนึกคิดและสติปัญญาเราไว้ เรายอ่ มพลาดโอกาสเดินทางชีวติ บนเส้นทางแห่งการต่ืนรู้เรากลวั ความทุกขจ์ ึงพยายามสร้างปราการปิ ดก้นั ต่างๆ นานา ท้งั ท่ีภายในเรามีปัญญาที่สามารถหาทางออกจากทุกปัญหาได้ ลองยอ้ นกลบั หลงั มองอุปสรรคที่ผา่ นมาของชีวิต เรายอ่ มสามารถหาทางออกหรือรอดพน้ ไดใ้ นท่ีสุด เมื่อเราปิ ดก้นั หวั ใจและย้งั มือ ตวั อกั ษรบนหนา้ กระดาษยอ่ มติดขดั การเขียนหยดุ ชะงกั ความคิดจมจ่อมนิวรณ์ ความลงั เลและการคาดหวงั หรือติดปี กหนีจากความทุกขท์ ี่เกิดข้ึน เพยี งเปิ ดรับเพ่อื สมั ผสั ณ ปากกา โนม้ นาอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ท่ี ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๘ใจอยกู่ บั กระแสแห่งการเคล่ือนไหว เม่ือหวั คิดลงั เลลองฟังหวั ใจ เมื่อหวั ใจสบั สนเช่ือร่างกายนาทาง เราเขียนหนงั สือดว้ ยร่างกาย มิใช่สมอง หายใจเขา้ ณ วนิ าทีท่ีเรารับรู้การเขียน มือเราสัมผสั กระแสธาร ไมก่ ้นั ขวางหรือดึงมือหนี กวดั ไกววา่ ยไปกบั ทอ้ งน้า การเขียนจากน้ีจะเป็นส่วนหน่ึงของกระแสอนั หลากหลาย ภายใน ภายนอก และไกลกวา่ น้นั ไหลลงมาบรรจบและเดินทางต่อจากหนา้ กระดาษ แมค้ วามตายยงั มีการเดินทาง หายใจออก เราไมเ่ พิกเฉยตอ่ การหายใจ เพียงสมั ผสั รับรู้เพ่อื จะมีชีวติ อนัเตม็ เป่ี ยม ไม่ปล่อยวางดว้ ยการนึกคิดเอา เม่ือเราตกอยใู่ นร่อง เรายอ่ มไมอ่ าจปี นข้ึนได้ จนกวา่ จะรู้ตวั เราจะวางสิ่งใดไดอ้ ยา่ งไร หากไม่รับรู้การสัมผสั วา่ ตนกาลงั ยดึ ถืออยู่ การปล่อยวางอยา่ งขาดสติ ยอ่ มผลกั ดนั ความจริงลงไปใตน้ ้าหรือถ่วงหนกั เราไวใ้ นระหวา่ งการเดินทาง หรือส่งเสริมการขาดความรับผดิ ชอบ กระแสธารเพียงเกิดข้ึน ไหลคลอ้ ยระหวา่ งวนั เวลา เมื่อวานคนน้ีทากบั เราแบบน้ี วนั น้ีเราเจอคนอีกแบบหน่ึง เดี๋ยวดีเราก็รู้สึกเช่ือมน่ั มีพลงั ในตนเอง เดี๋ยวร้ายเราก็ประณามตน รู้สึกหมดเรี่ยวแรง คนในครอบครัวบางวนั ก็ยมิ้ ดูแลกนั และกนั บางวนั ก็ข่นุ มวั ปะทะวาจาหรือทุ่มโถมความเงียบประชดประชนั ตอนน้ีร้าย กลบั กลายเป็นดีในคราวหนา้ ชีวติ ล่ืนล่องไหล ดงั่ ลมหายใจ ดงั่ กระแสน้า ส่ิงสาคญั คือเรามีท่าทีอยา่ งไรตอ่ ส่ิงที่เกิดข้ึนหรือกระแสธารเหล่าน้ี ท่าทีของเราทาใหเ้ กิดทุกขย์ ง่ิ ข้ึน พาหนีความจริง หรือช่วยเราไดเ้ ติบโต เรามกั หวาดกลวั ท่ีจะยอมรับกระแสการเปล่ียนแปลงอยา่ งตรงไปตรงมา ใชช้ ีวติอยา่ งหลบั ตาและปล่อยวางไวซ้ ่อนลึก ความคิดยดึ ติดหรือปรุงแตง่ มกั ทาใหส้ ่ิงต่างๆ น่ากลวั เกินจริง ไม่เป็นไรหากเราจะหลบั ตาหรือรู้สึกหวนั่ ไหว สายธารท่ีกาลงั ร่ีไหล อาจดูเร็วแรงและเชี่ยว เพยี งลองสัมผสั แตะดว้ ยใจเบาๆ คอ่ ยคลอ้ ยพาใจรับรู้ อยกู่ บั มนั เทา่ ท่ีเราทาได้ ถอยห่างออกมาหากสนั่ คลอนภายในเกินทน เพอื่ จะคอ่ ยกา้ วกลบั ไปสัมผสัสิ่งที่เกิดข้ึนน้นั ใหม่ จบั มือเด็กนอ้ ยที่หวาดกลวั ในตวั เรา สมั ผสั กระแสธารแห่งชีวติ สายลมหายใจท่ีเดินทางมาเยอื น หายใจเขา้ เราอาจมองไม่เห็นหรือแลดูมีอนั ตราย เพียงสมั ผสั ดว้ ยกายรับรู้ เราอาจสัมผสั ไดถ้ ึงไออุ่นหรือความเยน็ ชื่นเมตตา สายน้าแห่งชีวติ อนั มิแน่นอน ยอ่ มปลอบโยนมือเดก็ นอ้ ยที่เร่ิมสัมผสั อยา่ งอ่อนโยน ตน้ ไมท้ ่ีทอดใบรับหยาดน้าฝนยอ่ มคลายไอร้อนทุรน รากไมท้ ี่หยงั่ ลงสมั ผสั มวลน้า ยอ่ มก่อเกิดการเติบโต หายใจออก จบั มือนอ้ ยๆ ของร่างกายเราน้ี สัมผสั ส่ิงรอบตวั มิวา่ แป้ นพิมพ์ โตะ๊ คอมพิวเตอร์ อากาศผนงั ใบหนา้ ลาตวั ส่ิงของขา้ งกาย สัมผสั ดว้ ยการรับรู้และใจอ่อนโยน อยกู่ บั สิ่งท่ีมีและเกิดข้ึนอยา่ งเมตตาอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ที่ ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๙ ก่อนหลบั ตาลง สัมผสั บางสิ่งรอบๆ ตวั เราอีกคราคร้ัง ทาใหช้ า้ ลง ทกั ทายดว้ ยการรับรู้ ก่อนยอ้ นกลบั มาสมั ผสั นิ้วมืออีกขา้ ง ทาบประทบั เบาๆ สมั ผสั สิ่งที่เกิดข้ึนระหวา่ งฝ่ ามือตนเอง หายใจเขา้ หายใจออก รับรู้ภายในการเกิดข้ึนและการเปลี่ยนแปลง ภายในร่างกายและจิตใจ เพยี งสัมผสั สิ่งเหล่าน้นั มิควบคุมหรือหลบเลี่ยง ใหก้ ารรับรู้เป็นเช่นกระแสธารคลอ้ ยมาและไหลลบั ความเป็นตวั ตนเกิดข้ึน ต้งั อยแู่ ลว้ เปล่ียนแปลง สาหรับนกั เรียนการเขียนเยยี วยาและผสู้ นใจการเขียนเพื่อพฒั นาตนเอง ใชเ้ วลาอยา่ งนอ้ ยยสี่ ิบนาทีบนั ทึกไหลเล่ือน ใหม้ ือและการเขียนนาทาง ไม่หยดุ เพอื่ ครุ่นคิด เพยี งพกั มือเป็นชวั่ คร้ังชวั่ คราว ดว้ ยการรับรู้มิใช่หลบเลี่ยง ต้งั ประเด็นไวว้ า่ เราจะเผชิญหนา้ กบั ส่ิงท่ีเคยหลบเล่ียงหรือหลีกหนี แลว้ เร่ิมตน้ เขียนไม่หยดุ ปากกาเหตุการณ์ เรื่องราวใด และสิ่งใด ซ่ึงเราเคยหลบเลี่ยง หรือกาลงั พยายามหลีกหนี ไมก่ ลา้ ยอมรับ ไมอ่ ยากเผชิญหนา้พยายามปล่อยวาง พยายามไม่ใส่ใจ ใหก้ ารเขียนพาเรารับรู้ จบั มือเราสัมผสั การเขียนเพ่ือเผชิญสิ่งท่ียากจะเผชิญตอ้ งอาศยั การทาซ้า ควรทาอยา่ งนอ้ ยสี่คร้ัง และสงบนิ่งเพอ่ืตระหนกั รับรู้ภายใน ท้งั ก่อน ระหวา่ ง และหลงั บนั ทึก หากเรารู้สึกเจบ็ ปวด ให้ดูแลตนเองดว้ ยการเขียนบนั ทึกหากเวลายงั ไม่หมด ไม่หลบหนีหรือหยดุ กลางคนั อาจถอยชวั่ คราวเพ่ือคอ่ ยพาเด็กนอ้ ยกลบั มาสัมผสั กระแสธารน้นั อยา่ งอ่อนโยน หากมีความรู้สึกตกคา้ งหลงั บนั ทึก ใหด้ ูแลตนดว้ ยตนเอง เรียนรู้ที่จะสัมผสั บาดแผล มิใช่ปล่อยทิง้ ไวใ้ ห้หนอนกดั แทะกิน การดูแลแผลยอ่ มตอ้ งเผชิญความเจบ็ เป็นโอกาสท่ีเราจะไดเ้ ผชิญหนา้ กบั ความทุกข์ เพ่ือแปรเปลี่ยนเป็ นการเติบโต ก่อนเราจะบนั ทึกประเดน็ เดิมอีกครา ศกั ยภาพในการรักษาแผลของตวั เราผลิเผยออกมาเราจะตอ้ งไมป่ ิ ดก้นั ตน ลึกๆ เรามีศกั ยภาพมากมายที่ยงั ไม่ไดพ้ สิ ูจน์ หากเรากลวั ความมืดจนเปิ ดไฟสวา่ งท้งั ราตรี ดวงตายอ่ มพลาดเห็นแสงดาราบนฟ้ า และดาวบนดินห่ิงหอ้ ยนอ้ ย หายใจเขา้ สญั ญาวา่ จะดูแลเธอดว้ ยใจเมตตา หายใจออก ฉนั จะสมั ผสั เธอเบาๆ เรียนรู้ท่ีจะอยรู่ ่วมกนัและพรากจากกนัอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ที่ ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๑๐___________________________________________________________________________________“ ในกงล้อมีเรา ” เลก็ ฉนั ไดอ้ ่านจดหมายและงานเขียนจากเธอหลายชิ้นทีเดียวนะ ตอ้ งขอบอกวา่ ฉนั วนุ่ วา้ ใจเพียงใดที่รู้วา่ เธอช่วงน้ี ป่ วยเกินกวา่ จะตอบจดหมายและเขียนสิ่งใดเพอื่ คนอ่ืนดว้ ยความรักที่เธอมี ฉนั จึงตดั สินใจลองเขียนบา้ งเพราะเม่ือคนตื่น ยอ่ มปลุกสิ่งตา่ งๆ ใหต้ ่ืนข้ึน เฉกเช่นดวงตะวนั พาดอกไมเ้ ปิ ดดวงตาแห่งความงดงาม เพราะเธอเขียน ฉนั จึงลงมือขีดเขียน วนั สาคญั ของศาสนาพุทธเพ่งิ ผา่ นไปอีกคร้ังแลว้ นะ แต่เธอรู้ไหมวา่ มีหลกั ธรรมล้ีลบั ขอ้ หน่ึง ซ่ึงใครๆมกั ไม่คอ่ ยกล่าวถึง และไมม่ องลึกลงไปถึงแก่นใจความสาคญั เรารู้ชื่อแตเ่ ราไมค่ น้ หาต่อวา่ สิ่งใดไดแ้ อบซ่อนอยู่ หลกั ธรรมขอ้ น้นั กล่าวถึงกงลอ้ กงลอ้ ท่ีหมุนวน เคล่ือนโลกและจกั รวาลไปพร้อมกบั หวั ใจของเรา แต่ไม่ใช่เพยี งการเวยี นวา่ ยตายเกิด และ ไม่ใช่เพยี งกงลอ้ ของจิตดว้ ย ท้งั สองกเ็ ป็ นส่วนหน่ึงในน้ีแหละ เป็นกงลอ้ ท่ีสาคญั มากทีเดียว เรารู้จกั กนั ในนาม กงลอ้ แห่งธรรมอนั เป็ นนิรันดร์ เรียกตามภาษาบาลีวา่ “ธมั มจกั กปั ปวตั ตน” กงลอ้ อนั น้ี ไมไ่ ดส้ าคญั เพราะมหาบุรุษไดก้ ล่าวหรอกนะ และมิใช่เพราะเป็นหน่ึงเทศนาแรกทา่ มกลางคืนเพญ็ เดือนแปด แต่เพราะวา่ ฉนั กบั เธอตา่ งอยใู่ นกงลอ้ น้ีนี่แล เช่นเดียวกบั พวกเขาและพวกเธอในโลกน้ี คือส่วนหน่ึงแห่งกงลอ้ ธรรม ผทู้ ่ีจะพาใหก้ งลอ้ น้ีหมุนเคล่ือนไปอยา่ งไร หมุนไปตามหวั ใจและโลกเรา ดูสิ พวกเราสาคญั มากเพยี งใด เราอาจเคยคิดแตว่ า่ พระสงฆค์ ือผเู้ ผยแพร่พระศาสนา หรือพระผเู้ ป็ นเลิศหรือผบู้ รรลุธรรมข้นั สูงคือมือท่ีจะผลกั กงลอ้ ธรรมเคลื่อนไป ท้งั ที่พวกเราคือส่วนหน่ึงในธรรมจกั รน้ีอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ที่ ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๑๑ ในธรรมจกั รอนั ยง่ิ ใหญ่ มีจกั รธรรมท้งั สี่อนั เป็ นทิศวถิ ีพาเราขบั ลอ้ หมุนในหนทางท่ีดีงาม อนั ไดแ้ ก่สิ่งที่อยภู่ ายนอกตวั เราและภายในตวั เรา ดงั น้ี ๑ อยใู่ นที่ที่ดี เหมาะสม และถูกกาละอนั เก้ือกลู ต่อชีวติ กบั การเติบโตมิติตา่ งๆของเรา ๒ อยรู่ ่วมกบั คนท่ีเหมาะสม เก้ือกลู หรือถูกวาระ ซ่ึงพวกเขาหรือเธอจะเป็นดงั่ มือหยบิ ยน่ื หรือฉุดดึงไปในทิศทางที่ควร ๓ คือการต้งั ตน ต้งั ใจ และต้งั การกระทาในทางที่เหมาะสมแก่ชีวติ บริบทตา่ งๆ รักษากาย วาจาและใจในทางท่ีเห็นคุณคา่ อยา่ งแทจ้ ริง ๔ เชื่อมน่ั ในความดีงามและเส้นทางแห่งการเรียนรู้เก่าก่อน ท้งั ในอดีตและอดีตชาติ เราต่างบ่มเพาะตนเองดว้ ยบทเรียนหลากหลายมาก่อนเก่า แมเ้ ราจะทาดีบา้ ง ไม่ดีบา้ งกต็ าม แต่ส่ิงดีงามและบทเรียนเดิมยงั มีอยเู่ ป็นแรงผลกั ดนั หนุนนาชีวิต เมื่อจกั รธรรมชีวติ เราแต่ละคนหมุนไป ธรรมจกั รอนั ยง่ิ ใหญก่ ็กาลงั หมุนตาม โลกหมุนไปพร้อมกบั หวั ใจของพวกเรา เม่ือเธอต้งั ตน ต้งั ใจ และต้งั การกระทาอยบู่ นพ้ืนฐานของขอ้ ส่ีแห่งจกั รธรรม สองขอ้ ทา้ ยน้นั คือเทา้ สองขา้ งหรือมือสองแขน จะพาเธอแปรเปลี่ยนสองขอ้ แรกแห่งจกั รธรรมชีวติ ไดอ้ ยกู่ าลเทศะท่ีเหมาะสมกบั การเรียนรู้และการเติบโตของเธอในแต่ละช่วงชีวติ และบทเรียนกรรม ไดเ้ จอหรืออยรู่ ่วมกบั บางคนบางใครที่ลึกเร้นในดวงวญิ ญาณ ปรารถนาสอนบทเรียนสาคญั แก่ชีวติ เธอ และผลกั ดนั ดวงใจนอ้ ยใหก้ า้ วหนา้ ไปในทางดีงามดว้ ยวธิ ีสอนหลายแบบ ท้งั ดว้ ยดอกไมแ้ ละกอ้ นหิน น้นั เอง เธออาจนึกถึงครูนะ ครูกม็ ีวธิ ีสอนเธอดว้ ยไมเ้ รียวบา้ ง ดว้ ยวาจาอ่อนหวาน หรือบางทีก็ใชส้ ื่อช่วยสอน ธรรมชาติก็สอนบทเรียนกรรมนานาแก่เราดว้ ยวธิ ีการหลากหลาย ใครคนน้นั ที่ทาร้ายเธออาจมอบบทเรียนความจริงท่ีเธอไมก่ ลา้ รับ ใครคนน้นั ท่ีพาน้าตาไหลริน อาจสอนความเมตตาและใจอ่อนโยน ขณะที่ความคิดจากสมองอาจทาใจเราแขง็ ท่ือต้ือตนั ใครเหล่าน้นั ท่ีทาร้ายกนั และกนั อาจกาลงั หมุนจกั รธรรมชีวติ ตนในรูปแบบแตกตา่ งจากเราผรู้ ักสงบ แตเ่ ช่ือเถอะนะ มิมีใครอยนู่ อกกงลอ้ ใหญ่เขาและเธอยอ่ มกาลงั เดินทางเพ่อื รู้จกั รักแทแ้ ละความสงบชวั่ กาลบนเส้นทางของตนเอง เม่ือสองขอ้ ทา้ ยแห่งจกั รธรรมต้งั มน่ั คือเธอทากายใจอยา่ งเห็นคุณคา่ ในตวั เอง และเช่ือมนั่ ในความดีงามและเส้นทางการเรียนรู้ท่ีผา่ นมา ดว้ ยศรัทธาและปัญญาของตน เธอยอ่ มพบวา่ ทุกๆคนท่ีผา่ นมาในชีวติ เธอคือเน้ือนาบุญของโลก ทุกสถานที่ที่เธอไปคือที่ท่ีเธอจะหวา่ นเมลด็ พนั ธุ์แห่งรัก ไมว่ า่ เธอจะตอ้ งอยใู่ นที่แบบใด ไม่วา่ เธอเรียนหรือทางานที่ไหน มิวา่ เธอกาลงั อยกู่ บั ใครกต็ าม เพียงเธอเช่ือมน่ั ในสองขอ้ ทา้ ย เม่ือเธอใชห้ วั ใจหยง่ั คิดถึงกงลอ้ แห่งเรา เธอยอ่ มไม่หลงทาง เพราะเธอคือกงลอ้ แห่งธรรมอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ท่ี ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๑๒ ระหวา่ งที่เธอกาลงั เดินทาง ทุกๆคนบนโลกกก็ าลงั ยา่ งกา้ ว กงลอ้ ธรรมอนั เป็นนิรันดร์ก็กาลงั เคลื่อนไปพร้อมกบั เธอ ระหวา่ งกา้ วยา่ งเธอสืบเทา้ ฉนั อยตู่ รงน้ีแลว้ ใกลเ้ พียงใจ กรุณา ๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ตีสามสามสิบสามอนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบบั ที่ ๘ แรม ๑๕ ค่า เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๕๘


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook