Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทเรียนสำเร็จรูป..เพศศึกษา

บทเรียนสำเร็จรูป..เพศศึกษา

Published by paranee siriwasethameta, 2019-11-26 23:43:05

Description: บทเรียนสำเร็จรูป..เพศศึกษา

Search

Read the Text Version

1

2 คำนำ บทเรียนสำเร็จรูปฉบับน้ี ได้สร้ำงขึ้นเพือ่ ใช้เป็นสื่อกำรเรยี นกำรสอนในกลุ่ม สำระกำรเรยี นรู้สุขศึกษำและพลศกึ ษำ ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 2 เล่มท่ี 4 เร่อื ง หญงิ ชำย เท่ำเทียมกนั มีเนือ้ หำสำระสอดคล้องกับหลกั สูตรกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน พุทธศักรำช 2551 ซงึ่ ได้ออกแบบกำรนำเสนอโดยกำรสรุปเนอ้ื หำและเป็นวิธกี ำรจัดกำรเรยี นกำร สอนท่เี รียนรู้ ในรูปแบบของตวั กำร์ตูนท่ีมสี ีสนั สวยงำมตรงตำมควำมสนใจของผู้เรยี น นักเรยี นคน้ พบควำมรู้ได้ดว้ ยตนเอง มีกำรบูรณำกำรไปยังสำระกำรเรียนรูอ้ ืน่ นกั เรียนได้ ปฏบิ ัติจริง ย่อมกอ่ ใหเ้ กดิ ควำมเข้ำใจอย่ำงถอ่ งแท้ นั่นคือ นกั เรยี นเกิดทักษะและใช้ ทกั ษะกำรเรยี นรู้ไดอ้ ยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ บทเรียนสำเรจ็ รปู นี้ ข้ำพเจ้ำไดจ้ ัดทำข้นึ จำกแรงจงู ใจ เมื่อประสบปญั หำใน กำรจัดกำรเรยี นกำรสอน เนื่องจำกเนื้อหำของแต่ละเรื่อง นักเรียนจะเรียนได้เพียง เลก็ นอ้ ยและไม่ตอ่ เนอ่ื งทำให้ลมื ได้งำ่ ย ขำ้ พเจ้ำจงึ สรำ้ งและพฒั นำขึน้ ตำมหลักกำร ทำงวชิ ำกำร โดยมผี ู้ท่มี ีประสบกำรณ์ทำงกำรศึกษำ และมีควำมเช่ียวชำญ เปน็ ผคู้ อย ใหค้ ำชี้แนะ แนะนำ ตรวจสอบควำมถกู ตอ้ งจนทำให้บทเรยี นสำเรจ็ รูป ฉบับน้มี ีควำม ถกู ตอ้ งและสมบรู ณ์ สำมำรถนำมำใช้เป็นสื่อกำรเรยี นของผู้เรียนท้ังในช่วั โมงเรียน และนอกเวลำเรยี นได้ ข้ำพเจ้ำหวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ บทเรียนสำเร็จรูปฉบับน้ี จะเป็นประโยชน์แก่ ผู้เรยี น รวมท้งั ครผู ู้สอนและผ้ทู ีส่ นใจทั่วไป สำมำรถนำไปใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียน กำรสอน และใช้เป็นแนวทำงในกำรสรำ้ งและพัฒนำสอ่ื กำรเรยี นกำรสอนในโอกำสตอ่ ไป นำงพศิ มัย บรรเลงรมย์ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำร

3 สารบัญ เนอื้ หา หน้า คำนำ สำรบัญ คำแนะนำสำหรบั คุณครู………………………………………………………………………. 1 คำแนะนำสำหรับนกั เรียน……………………………………………………………………. 2 ควำมสำคญั ของบทเรยี น……………………………………………………………………… 3 คำชแ้ี จงในกำรใช้บทเรยี นสำเรจ็ รปู ………………………………………………………. 5 แบบทดสอบก่อนเรียน………………………………………………………………………… 6 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น…………………………………………………………………. 7 กรอบนำ……………………………………………………………………………………………. 9 กรอบที่ 1……………………………………………………………………………................. 10 กรอบที่ 2………………………………………………………………………………………….. 17 กรอบท่ี 3…………………………………………………………………………………………… 18 กรอบที่ 4…………………………………………………………………………………………… 19 กรอบท่ี 5…………………………………………………………………………………………… 20 กรอบท่ี 6…………………………………………………………………………………………… 23 กรอบที่ 7…………………………………………………………………………………………… 24 กรอบสรุป…………………………………………………………………………………………. 29 แบบทดสอบหลงั เรียน…………………………………………………………………………. 30 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น…………………………………………………………………. 32 กระดำษแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น………………………………………… 33 แบบสรปุ ผลกำรเรยี น………………………………………………………………………….. 34 บรรณำนุกรม……………………………………………………………………………………… 35

4 คาแนะนาสาหรับครู 1. บทเรียนสำเร็จรปู ประกอบกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน รำยวิชำ พ22101 สขุ ศึกษำ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูส้ ุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ชดุ เพศศึกษำกบั คณุ ค่ำชวี ิตของวัยรุ่น มีจำนวน 7 เลม่ เลม่ ที่ 1 เร่ือง กำรเจริญเตบิ โตของวยั รนุ่ เลม่ ท่ี 2 เร่อื ง พฒั นำกำรของวยั รนุ่ เล่มที่ 3 เรอ่ื ง เพศพิศวง เล่มที่ 4 เรือ่ ง หญงิ ชำยเทำ่ เทียมกัน เลม่ ที่ 5 เรอ่ื ง พฤตกิ รรมเสยี่ งและปญั หำในวยั รุ่น เล่มท่ี 6 เรอื่ ง วัยรุน่ กบั กำรมเี พศสมั พนั ธใ์ นวัยเรียน เล่มท่ี 7 เรื่อง โรคตดิ ต่อทำงเพศสัมพนั ธ์ บทเรียนสำเร็จรปู น้ี ใชป้ ระกอบกำรเรยี นกำรสอนในกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำพลศึกษำ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 2 2. บทเรยี นสำเรจ็ รปู ชุดนี้ ใช้ประกอบกำรสอนในชัน้ เรียนหรือใชส้ อนเสริมสำหรับเด็ก ทเ่ี รียนดหี รอื สอนซ่อมเสริมนักเรยี นทเ่ี รยี นช้ำให้ทันเพอื่ น 3. ครูควรศึกษำบทเรยี นสำเรจ็ รูปในแต่ละเลม่ ต้งั แต่กรอบแรกจนถงึ กรอบสุดท้ำย ท้ังเนื้อหำและกจิ กรรมใหเ้ ขำ้ ใจก่อนทำกำรสอน เพอื่ ให้ทรำบว่ำกจิ กรรมในกรอบใดท่ีครูควร ใหค้ ำแนะนำชว่ ยเหลือหรอื ใหค้ ำปรกึ ษำบำ้ ง 4. ครูควรทำขอ้ ตกลงกับนักเรียนกอ่ น เช่น กำรมวี นิ ัยในกำรเรยี น ควำมซื่อสตั ย์ เวลำ ในกำรศึกษำ กำรปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ตลอดจนกำรประเมินผล 5. ครคู วรช้แี จงใหน้ ักเรียน อำ่ นคำแนะนำในกำรใชบ้ ทเรียนสำเรจ็ รูป และปฏบิ ัตติ ำม ทุกข้นั ตอน ทีละกรอบทุกรอบ ทง้ั เนือ้ หำ กจิ กรรม คำถำม คำตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรียน และหลงั เรียน

5 คาแนะนาสาหรบั นกั เรยี น บทเรยี นสำเร็จรูป เรอื่ ง หญงิ ชำยเท่ำเทียมกัน เล่มน้ี สรำ้ งข้ึนเพ่อื ใหน้ ักเรยี นใช้เรียน ด้วยตนเอง ตำมควำมสำมำรถของแตล่ ะบุคคล ใหน้ กั เรยี นปฏิบัติตำมข้นั ตอนดังน้ี 1. ใหน้ ักเรยี นศึกษำคำแนะนำในกำรใช้บทเรียนสำเรจ็ รูป รวมทั้งจุดประสงค์ กำรเรยี นรเู้ พ่อื ใหเ้ ข้ำใจกบั วธิ ีกำรก่อน 2. ศกึ ษำควำมสำคัญของบทเรยี น เพื่อให้ทรำบว่ำเม่ือศึกษำบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง หญงิ ชำยเท่ำเทยี มกนั เล่มนี้ จบแล้ว นกั เรยี นจะไดค้ วำมรู้อะไรบ้ำง 3. ศกึ ษำแผนภมู ลิ ำดบั ขนั้ ตอนกำรเรยี นโดยใช้บทเรยี นสำเรจ็ รูป 4. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน แล้วตรวจคำตอบจำกเฉลยท้ำยเล่ม 5. ทำกจิ กรรมโดยศึกษำบทเรียนสำเร็จรูปทลี ะกรอบ ไมข่ ำ้ มกรอบอำ่ นบทเรียน และคำถำมให้เขำ้ ใจ คดิ พิจำรณำก่อนแลว้ จงึ ตอบคำถำมลงในกระดำษคำตอบทคี่ รูแจกให้ หน้ำที่มีคำถำมจะมีเฉลยในหน้ำถัดไป 6. ถำ้ ตอบผดิ ใหน้ กั เรยี นย้อนกลบั ไปอ่ำนเนอื้ หำในกรอบท่ผี ำ่ นมำอกี ครงั้ หนึ่ง ทำควำมเขำ้ ใจและทบทวนอีกครง้ั แล้วจงึ ตอบคำถำมใหม่ 7. บทเรยี นนีไ้ ม่ใชแ่ บบทดสอบ นกั เรียนไม่ต้องกงั วลใจ พยำยำมทำไปทลี ะกรอบ นกั เรียนจะไดร้ ับควำมรจู้ ำกกำรศึกษำดว้ ยตนเอง หำกมีปัญหำหรือขอ้ สงสัยประกำรใดให้ สอบถำมครูผูส้ อนได้ 8. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เพอ่ื วดั ควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ีได้รับ 9. นกั เรียนท่ีดีจะต้องมีควำมซื่อสัตยต์ ่อตนเองอยู่เสมอ ดงั น้ันไมค่ วรเปิดดูคำตอบกอ่ น ทำเสร็จ 10. กำรวัดและประเมินผล ถำ้ นักเรยี นทำคะแนนจำกกำรทดสอบหลังเรยี นได้ ร้อยละ 80 ขึ้นไป ( 8 คะแนนขึ้นไป) แสดงว่ำนักเรยี นมคี วำมรใู้ นบทเรยี นสำเรจ็ รปู เรื่อง หญิงชำยเทำ่ เทยี มกนั เล่มนีแ้ ลว้ ใหศ้ กึ ษำบทเรียนสำเรจ็ รูปในเล่มตอ่ ไป

6 เลม่ ท่ี 4 เร่อื ง หญงิ ชายเทา่ เทยี มกัน ความสาคญั ของบทเรยี น สาระสาคญั ในวัยรุ่นมีกำรเปลี่ยนแปลงหลำยประกำร โดยเฉพำะฮอรโ์ มนในรำ่ งกำยมผี ล กระตนุ้ ให้มีควำมสนใจกับเพศตรงข้ำม รวมทงั้ แรงขบั ตำมธรรมชำติ ท่ีทำให้อยำกรู้ อยำกลองในเรือ่ งเพศ จงึ ทำให้วยั นี้เป็นวยั ที่ล่อแหลมต่อกำรตกอย่ใู นสถำนกำรณ์เส่ียง ตอ่ กำรมเี พศสมั พันธ์ในวัยเรยี น กำรรู้จักวำงตนต่อเพศตรงขำ้ ม อยำ่ งเหมำะสม รวมท้งั กำรร้จู ักหลีกเลีย่ งสถำนกำรณเ์ ส่ียงต่อกำรมีเพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรยี นจะชว่ ยปอ้ งกัน ผลกระทบและควำมเสียหำยทีจ่ ะเกดิ ข้ึนตำมมำ สาระการเรียนรู้ 1. ควำมเสมอภำคทำงเพศและกำรวำงตัวต่อเพศตรงข้ำม 2. สถำนกำรณเ์ ส่ยี งตอ่ กำรมเี พศสัมพันธใ์ นวัยเรียน 3. ปญั หำและผลกระทบจำกกำรมเี พศสัมพันธ์ในวัยเรยี น 4. กำรหลีกเลย่ี งสถำนกำรณ์เสี่ยงตอ่ กำรมีเพศสัมพนั ธใ์ นวัยเรียน

7 มาตรฐานการเรียนรู้ พ 2.1 เขำ้ ใจและเห็นคณุ คำ่ ตนเอง ครอบครวั เพศศึกษำ และมที กั ษะในกำรดำเนินชวี ติ ตวั ชี้วดั : ส่งิ ทีน่ กั เรยี นพงึ รู้และปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 วเิ ครำะหป์ ญั หำและผลกระทบที่เกดิ จำกกำรมีเพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรียน 4. อธิบำยควำมสำคญั ของควำมเสมอภำคทำงเพศและวำงตัวได้อย่ำงเหมำะสม จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกควำมสำคัญของควำมเสมอภำคทำงเพศและกำรวำงตวั ต่อเพศตรงขำ้ ม ได้อย่ำงเหมำะสม 2. อธบิ ำยสถำนกำรณเ์ สีย่ งตอ่ กำรมีเพศสัมพันธใ์ นวัยเรยี น 3. วเิ ครำะหป์ ัญหำและผลกระทบจำกกำรมเี พศสมั พนั ธใ์ นวัยเรยี น 4. ป้องกนั และหลีกเลย่ี งสถำนกำรณเ์ สีย่ งต่อกำรมเี พศสมั พนั ธ์ในวัยเรยี น

8 ลาดบั ขนั้ ตอนการเรยี น โดยใชบ้ ทเรยี นสาเร็จรปู ไม่ผา่ นการทดสอบ อ่านคาแนะนา ทดสอบก่อนเรียน ศกึ ษาบทเรยี น ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ทดสอบหลังเรียน ผา่ นการทดสอบ ศกึ ษาบทเรียนเรือ่ งใหม่

9 แบบทดสอบก่อนเรียน คำชีแ้ จง 1. ใหน้ ักเรียนทำเครอ่ื งหมำย × ลงบนตัวเลอื ก ก-ง ทเ่ี หน็ ว่ำถกู ท่ีสดุ เพยี งข้อเดียว ในกระดำษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีทงั้ หมด 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลำ 10 นำที 1. กฎหมำยในข้อใดที่แสดงให้เหน็ ว่ำสงั คมไทยให้ควำมเสมอภำคทำงเพศมากทีส่ ดุ ก. กำรกำหนดสทิ ธิเทำ่ เทยี มกนั ของชำยและหญงิ ในรัฐธรรมนญู ข. หญงิ ทีแ่ ตง่ งำนแล้วมสี ทิ ธิใชน้ ำมสกุลเดิม ค. หญงิ ทีจ่ ดทะเบียนสมรสแลว้ สำมำรถใชน้ ำงสำวได้ ง. หญิงที่แต่งงำนแล้วมีสทิ ธใิ ช้นำมสกุลของสำมี 2. ข้อใดไม่มีกำรกำหนดไว้ในกฎหมำย ก. หญงิ ทแ่ี ตง่ งำนแล้วมสี ิทธิใช้นำมสกุลเดิม ข. หญงิ ท่จี ดทะเบียนสมรสแลว้ สำมำรถใชน้ ำงสำวได้ ค. ชำยทีแ่ ปลงเพศแลว้ สำมำรถใชน้ ำงสำวได้ ง. หญงิ ทหี่ ยำ่ แล้วสำมำรถใชน้ ำงสำวได้ 3. กำรวำงตวั ต่อเพศเดียวกนั อย่ำงถกู ตอ้ งและเหมำะสมมคี วำมสำคัญอย่ำงไร ก. เพื่อสังคมที่ดี ข. เพื่อรักษำมติ รภำพให้ยำวนำน ค. เพ่ือเป็นแบบอย่ำงที่ดีแกค่ นอื่น ง. เพ่ือมใิ ห้เกดิ กำรทะเลำะเบำะแวง้ ระหวำ่ งเพ่ือน 4. ข้อใดให้ควำมหมำยของกำรวำงตัวต่อเพศตรงข้ำมท่ีถูกตอ้ ง ก. กำรกีดกนั กำรคบหำกันของชำยหญงิ ข. กำรลดควำมสมั พันธข์ องเพศชำยหญงิ ค. แนวทำงกำรส่งเสรมิ ควำมสัมพนั ธ์ของชำยหญิง ง. แนวปฏิบัติในกำรสรำ้ งควำมสัมพนั ธท์ ดี่ ขี องชำยหญิง 5. กำรวำงตัวของนกั เรียนหญงิ ในขอ้ ใดท่ีไม่เหมาะสมมำกท่ีสดุ ก. อยู่ลำพังกับฝำ่ ยชำยสองตอ่ สองในทลี่ บั ตำคน ข. แสดงกริ ยิ ำสนิทสนมกับเพ่อื นชำย ค. ปลอ่ ยให้ฝ่ำยชำยออกค่ำอำหำรให้ ง. แต่งกำยล่อแหลม

10 6. สถำนกำรณใ์ ดทล่ี อ่ แหลมเสี่ยงตอ่ กำรมีเพศสัมพันธท์ ่ีไมค่ าดคดิ มำกที่สุด ก. กำรแต่งตวั ลอ่ แหลมเดินตำมห้ำงสรรพสนิ ค้ำ ข. กำรไปดหู นังกบั เพื่อนชำย ค. กำรอยกู่ บั ชำยตำมลำพังในทีล่ บั ตำ ง. กำรออกเทีย่ วหรือเดินทำงตำมลำพงั 7. กำรเสมอภำคทำงเพศมขี อบเขตท่ีกำหนดด้วยเงื่อนไขทำงวัฒนธรรมไทย ควำมเสมอ ภำคจงึ ตอ้ งกำกับดว้ ยอะไร ก. กำรวำงตัวต่อเพศตรงข้ำม ข. กฎหมำยสทิ ธิมนุษยชน ค. พระรำชบัญญตั ิคำนำหนำ้ นำมหญงิ ง. พระรำชบัญญัตเิ กีย่ วกบั กำรใช้นำมสกลุ 8. ผลกระทบทเี่ ปน็ ปญั หำจำกกำรมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนที่เป็นปัญหำสังคมในปัจจุบัน มากท่สี ดุ คอื ขอ้ ใด ก. ปัญหำกำรเรยี นตกต่ำ ข. ปัญหำกำรหนเี รยี น ค. ปญั หำกำมโรค ง. ปัญหำกำรตง้ั ครรภ์อนั ไมพ่ งึ ประสงค์ 9. ขอ้ ใดกล่ำวถูกต้อง ก. ไม่ควรให้วยั รุน่ ชำยหญิงคบหำกันโดยเดด็ ขำด ข. ไมค่ วรใหว้ ยั รุน่ ชำยหญิงเรยี นรเู้ รื่องเพศ ค. ควรใหว้ ยั รุ่นคบหำกนั ตำมปกติ แต่ให้อยู่ในขอบเขต ง. ควรใหว้ ยั รนุ่ ชำยหญงิ คบหำกันอย่ำงเสรี 10. ผู้ท่ีมีส่วนสำคัญที่สุดในกำรดูแล ป้องกันและหลีกเลี่ยงสถำนกำรณ์เส่ียงต่อกำรมี เพศสัมพนั ธ์ในวยั เรยี นคือผูใ้ ด ก. ตวั นักเรยี นเอง ข. ครู ค. ผู้ปกครอง ง. เพ่ือนนักเรยี น ตรวจคาตอบ.......... หน้าถดั ไปนะคะ

11 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 1. ก 6. ค 2. ข 7. ก 3. ข 8. ง 4. ง 9. ค 5. ก 10. ค ทำถูกกขี่ อ้ ครบั ……? เตรียมตวั ไปศกึ ษำ กรอบควำมรู้ กนั เลยนะครับเด็กๆ

12 กรอบนา ความเสมอภาคของหญงิ และชาย เป็ นเรอ่ื งสาคญั มากในสงั คมโลก ยุคโลกาภวิ ตั น์ เพราะผูห้ ญงิ มคี วาม เท่าเทยี มกบั ผูช้ ายมากข้ึน ข้ึน ใช่แล้วล่ะค่ะ เพราะในยุค เ การรับรูข้ อ้ มลู ขา่ วสารส่อื ถึง กันเร็วแบบน้ี ผู้หญงิ ทาอะไร ท่ ได้เทา่ เทียมกับผู้ชาย า เ ที ย ม กั บ แต่ ถงึ จผะูเ้ ท่าเทยี ม อย่างไรกช็มีขอบเขตด้วย เงื่อนไขทาางวัฒนธรรม รดวว้ มยทนั้งะคคยวะามเหมาะสม ม า ก ข้ึ น

13 กรอบท่ี 1 สวสั ดเี ด็กๆ ...วันนพ้ี จ่ี ะพำศึกษำ เร่ืองควำมเสมอภำคของชำยหญงิ ว่ำมีควำมสำคญั อยำ่ งไรนะคะ่ ควำมเสมอภำคของเพศชำยและเพศหญงิ ความเสมอภาค หมำยถึง กำรที่หญิงและชำยมีควำมเท่ำเทียมกันในสังคม มีควำมเสมอภำคในสิทธิ หน้ำท่ี ควำมรับผิดชอบ และโอกำส โดยเงื่อนไขทำงสังคมเอ้ือต่อ กำรมีและใช้สิทธิควำมเป็นมนุษย์ที่เท่ำเทียมกัน รวมถึงกำรมีส่วนร่วมในกำรสร้ำงประโยชน์ ใหส้ ังคมทีไ่ ม่แตกตำ่ งกัน ในอดีตจะไม่ค่อยเสมอภำคกันระหว่ำงเพศชำยกับเพศหญิง อย่ำงกำรยกย่องให้ ผชู้ ำยเปน็ ช้ำงเทำ้ หนำ้ ผหู้ ญงิ เป็นชำ้ งเท้ำหลงั ก็แสดงถึงควำมไม่เสมอภำค เพรำะแต่ก่อนนั้น ผู้ชำยจะหำเล้ียงครอบครัว ผู้หญงิ มกั จะเป็นแม่บำ้ น ดูแลบำ้ นเรอื นและบุตร ผู้ชำยจงึ มีอำนำจ เหนอื กว่ำผู้หญิงตำมสถำนภำพ ในปัจจุบันผู้หญิงมีบทบำทต่ำง ๆ ท่ีผู้ชำยเคยมีบทบำท เช่น ในวงกำรเมือง มสี มำชิก วฒุ ิสภำสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร ตลอดจนรัฐมนตรีท่ีเป็นผู้หญิง ในวงรำชกำรก็มี ผู้หญิงเป็น ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด ในวงกำรธุรกิจก็มีผู้หญิงท่ีประสบ ควำมสำเรจ็ ทำงด้ำนธุรกิจมำกมำย ด้วยเหตผุ ลดังกลำ่ วจึงทำใหบ้ ทบำทของผู้หญงิ มมี ำกขึ้น

14 แต่ถ้ำพิจำรณำอย่ำงละเอียดแล้ว ก็ยังมีอยู่บำงส่วนท่ียังไม่เท่ำเทียมกัน เช่น กฎหมำย ระบุวำ่ กำรข่มขืน คอื กำรที่ฝำ่ ยชำยกระทำตอ่ หญงิ อ่นื ที่ไม่ใช่ภรรยำของตน แต่กับ ภรรยำของตน ไมถ่ ือวำ่ ข่มขนื แม้ว่ำภรรยำจะไมย่ นิ ยอม ซ่งึ ขณะน้ีได้มีกำรปรับปรุงกฎหมำย ข้อนี้ และกำรท่ีผู้ชำยแต่งงำนแล้วก็ยังใช้คำนำหน้ำว่ำ “นำย” แต่ผู้หญิงแต่งงำนแล้ว เปล่ียน จำก “นำงสำว ” มำเป็น “นำง” เป็นข้อกฎหมำยอีกประกำรหน่ึงท่ียังไม่เสมอภำคกัน แต่ ปัจจุบันได้เปล่ียนแปลงแล้ว ผู้หญิงท่ีแต่งงำนแล้วสำมำรถจะใช้คำนำหน้ำเป็น นำงหรือ นำงสำว ก็ได้ จะใช้นำมสกุลตำมสำมีหรอื นำมสกุลเดมิ ของตัวเองกไ็ ด้ ในด้ำนโครงสร้ำงทำงร่ำงกำยของหญิงก็ต่ำงจำกชำย เพรำะธรรมชำติสร้ำงมำ อย่ำงนั้น เช่น กล้ำมเนื้อและควำมแข็งแรงต่ำงกัน ผู้หญิงมีประจำเดือน มีกำรต้ังครรภ์ คลอดบุตร ให้นมบตุ ร จะเหน็ ได้วำ่ กำรทจี่ ะให้มีควำมเท่ำเทยี มกนั ในทกุ ๆ เรอื่ ง ระหว่ำงเพศ ชำยกับเพศหญิงคงจะเป็นไปไม่ได้ มีแต่ว่ำ เรื่องใดที่สำมำรถจะให้ผู้หญิงเสมอภำคได้ ควรใหโ้ อกำสผู้หญิงบ้ำง เพศ (SEX) คือสงิ่ ทแี่ สดงลักษณะควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งเพศชำยและเพศหญิง เพศชำย เพศหญงิ

15 ปัจจุบันน้ี นับได้ว่ำผู้หญิงมีควำมเสอมภำคกับผู้ชำยมำกกว่ำอดีตเป็นอย่ำงมำก ทำให้ เกิดคุณค่ำในทำงจิตใจและทำงสังคมแก่ผู้หญิง ทำงด้ำนจิตใจน้ันทำให้ผู้หญิง รู้สึกว่ำตนเองไม่ด้อยไปกว่ำผู้ชำย มีควำมสำคัญเท่ำเทียมกัน สำหรับทำงด้ำนสังคม ก็เป็นที่ยอมรับของสังคมว่ำผู้หญิงมีควำมเสมอภำคเท่ำเทียมผู้ชำย มีบำงเร่ืองท่ีเป็น ควำมเหมือนกันระหว่ำงผู้ชำยกับผู้หญิง ท่ีผู้หญิงในยุคปัจจุบันกระทำกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ ไม่สมควรกระทำ เช่น กำรซ้ือบริกำรทำงเพศจำกผู้ชำย เสพยำเสพติด กำรสูบบุหรี่ กำรดมื่ สรุ ำ เปน็ ต้น ซึง่ เปน็ กำรกระทำทไี่ ม่เหมำะสมและสงั คมไม่ยอมรบั บทบาททางเพศของชายและหญงิ นับเป็นควำมมหัศจรรย์อย่ำงมำกที่ธรรมชำติได้สร้ำงให้มนุษย์ มี 2 เพศ คือ เพศชำยและเพศหญิง แล้วสร้ำงให้ทั้งสองเพศมีฮอร์โมนเพศที่ทำให้สนใจเพศตรงข้ำม เมื่อถึงวยั รุน่ เป็นต้นไปจนถงึ วัยผูใ้ หญ่ และอำจถงึ วัยสงู อำยุ เม่อื คนทั้งสองเพศมีควำมสนใจ กัน คบหำสนิทสนมกัน ตกลงปลงใจท่ีจะใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันก็จะแต่งงำน ทำให้บทบำท ของสำมีภรรยำเกดิ ข้ึน เม่ือท้งั คู่ มบี ุตรก็จะมีหนำ้ ท่เี ปน็ พอ่ แม่เลี้ยงดูบุตร ให้กำรส่งเสียเล่ำ เรียนจนจบกำรศึกษำ สำมำรถประกอบ อำชีพได้ เม่ือบุตรของตนเองไปมีคู่ครองและมี บุตรขนึ้ มำ ตนเองกร็ บั บทบำทเปน็ ปยู่ ่ำ ตำยำย ปทู่ วด ย่ำทวด ตำทวด ยำยทวด ท่ีกล่ำว มำคือ บทบำททำงเพศของชำยและหญิง ซึ่งคนส่วนใหญ่จะต้องประสบ กับวัฏจักรเหล่ำนี้ บทบำททำงเพศของชำยและหญิงเกิดจำกกำรมีครอบครวั แล้วมลี กู หลำนสืบต่อวงศ์ตระกูล เมื่อตนเองมีบทบำทเป็นอย่ำงไรแล้ว ก็ต้องทำหน้ำที่น้ันให้ดีท่ีสุด ต้องเป็นสำมีท่ีดีเป็น ภรรยำทด่ี ี เปน็ พ่อแม่ที่ดี เป็นปยู่ ำ่ ตำยำยท่ีดี เปน็ ต้น แล้วครอบครัวจะอยู่ร่วมกันอย่ำงมี ควำมสุข

16 6  บทบาททางเพศ  ลกั ษณะทางเพศจะเป็ นแรงกระตนุ้ ใหว้ ยั รุน่ ชายและหญงิ สนใจกนั และ กนั มีการพบปะสงั สรรค์ รว่ มเรยี น เลน่ ทางาน พูดคุยกนั มากข้ึน เม่ือวยั รุน่ มีความสนใจกนั กจ็ ะประพฤตติ นตามบทบาท หนา้ ท่ใี หฝ้ ่ ายตรงขา้ มสนใจ ค่ะ คะ่ .. อยา่ งเช่นหนูจะสนิทกบั แม่และ พส่ี าว ซ่งึ เป็ นคนออ่ นหวานน่ารกั หนู กอ็ ยากน่ารกั และออ่ นหวานเหมือนกบั คุณแม่และพส่ี าวค่ะ

17 7 สว่ นผม..เขม้ แข็งและกลา้ หาญ เหมอื นพอ่ ครบั ...แตบ่ างที ผม สนิทกบั เพอ่ื น ผมกจ็ ะทาตาม อยา่ งเพอ่ื น..สนุกดีครบั ... สว่ นเด้ียน.. มกั จะถกู ทกุ คน ลอ้ เลยี นวา่ “กะเทย”มงั่ ไม่เป็ นลกู ผูช้ ายมงั่ ละ่ ...รบั ไม่ไดฮ้ ะ่ ..เพราะจติ ใจออ่ นไหวเกนิ ไป..คา้ ..

18 คำถำมกรอบท่ี 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนวิเครำะห์และหำคำตอบจำกคำถำมควำมเสมอภำคทำงเพศ และกำรวำงตัวตอ่ เพศตรงข้ำม ในเวลำ 5 นำที (10 คะแนน) 1. โครงสร้ำงทำงร่ำงกำยของหญงิ ทแ่ี ตกต่ำงจำกชำย ได้แกอ่ ะไรบ้ำง 1. ...................................................................................................................... 2. ...................................................................................................................... 3. ...................................................................................................................... 4. ...................................................................................................................... 5. ...................................................................................................................... 2. อธิบำยบทบำทของเพศชำยและเพศหญงิ เป็นอยำ่ งไรบ้ำง ฝำ่ ยชำย ฝำ่ ยหญิง คำตอบอยู่หนำ้ ต่อไปนะครบั

19 เฉลยกรอบท่ี 1 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวิเครำะห์และหำคำตอบจำกคำถำมควำมเสมอภำคทำงเพศ และกำรวำงตวั ตอ่ เพศตรงขำ้ ม ในเวลำ 5 นำที (10 คะแนน) 1. โครงสร้ำงทำงร่ำงกำยของหญงิ ท่แี ตกต่ำงจำกชำย ได้แกอ่ ะไรบ้ำง 1. .................ค..ว...ำ..ม..แ...ข..็ง..แ...ร..ง..ข..อ...ง..ก..ล...ำ้ ..ม..เ..น..อ้ื.......................................................... 2. .................ม..ปี...ร..ะ..จ...ำ..เ.ด..อื...น................................................................................. 3. .................ม..กี...ำ..ร..ต..ั้ง..ค...ร..ร..ภ...์ .............................................................................. 4. .................ค..ล...อ..ด...บ..ุต...ร...................................................................................... 5. .................ใ.ห...น้...ม..บ...ุต...ร...................................................................................... 2. อธบิ ำยบทบำทของเพศชำยและเพศหญงิ เป็นอยำ่ งไรบ้ำง ฝ่ำยชำย ฝ่ำยหญิง เป็นพอ่ เป็นแม่ เป็นปู่ เป็นย่ำ เปน็ ตำ เป็นยำย เป็นตำทวด เป็นยำยทวด คำตอบอยูห่ นำ้ ต่อไปนะครบั

20 กรอบท่ี 2 การวางตวั ต่อเพศเดียวกัน การวางตัวต่อเพศเดียวกัน หมำยถึง กำรท่ีชำยกับชำยหรือหญิงกับหญิง ประพฤตปิ ฏิบัติตอ่ กันเพอ่ื สรำ้ งสมั พันธภำพทีด่ รี ะหว่ำงกันในแบบเพอ่ื น หรือแบบพ่ีน้อง กำรวำงตัวตอ่ เพศ เดยี วกนั อำจแบ่งได้เปน็ 2 แบบ ดังน้ี 1. การวางตัวต่อเพศเดยี วกันแบบเพ่ือน กำรวำงตัวต่อเพศเดียวกันแบบเพ่ือนนี้ บุคคลควรปฏิบัติต่อเพ่ือนทั้ง ด้ำนกำรพูดกำรแสดงกิริยำท่ำทำงทเ่ี ปน็ มิตรไมตรีต่อกนั มกี ำรแบง่ ปันในส่ิงที่สำมำรถจะ แบ่งปันกันได้ พูดจำ สุภำพต่อกัน ไม่ทะเลำะกัน ถ้ำขัดแย้งกันหรือมีควำมเห็นไม่ ตรงกันก็พูดกันด้วยเหตุผล ไม่นินทำกันลับหลัง ให้ควำมช่วยเหลือเป็นคู่คิดให้กันและ กัน ไปเท่ียวด้วยกันตำมควรแก่โอกำส ไม่ชักชวนกันไปในส่ิงที่ไม่ดี ตักเตือน มคี วำมห่วงใยและเออื้ อำทรต่อกนั เป็นต้น ใหน้ ักเรียนบอกวิธกี ารวางตัว ตอ่ เพศเดยี วกนั แบบเพื่อนวา่ มี ลกั ษณะอยา่ งไร ?

21 เฉลยคาถามกรอบที่ 2 พูดจำ สภุ ำพต่อกัน ไม่ทะเลำะกนั ถ้ำขดั แย้งกนั หรือมีควำมเห็น ไมต่ รงกันก็พูดกันด้วยเหตุผล ไมน่ ินทำกันลับหลัง ใหค้ วำมช่วยเหลือเป็น คู่คดิ ใหก้ ันและกนั ไปเท่ียวด้วยกันตำมควรแก่โอกำส ไม่ชักชวนกนั ไปใน ส่ิงทไ่ี ม่ดี ตักเตอื น มคี วำมหว่ งใยและเอ้ืออำทรตอ่ กัน กรอบท่ี 3 การวางตัวตอ่ เพศเดียวกนั 2. การวางตวั ตอ่ เพศเดียวกันแบบพี่นอ้ ง กำรปฏิบัติโดยท่วั ไปก็เหมือนๆ กับกำรวำงตัวแบบเพื่อน แต่คนที่เป็นพี่ต้อง เสียสละมำกกวำ่ มีควำมเออื้ เอ็นดตู ่อนอ้ ง ปกปอ้ งน้อง ช่วยเหลือน้อง ให้คำแนะนำสั่งสอน น้องตำม สมควร ทำตัวเป็นแบบอย่ำงท่ีดีแก่น้อง วำงตัวให้เป็นที่เคำรพนับถือของน้อง สำหรับคนที่เปน็ น้องกต็ ้องใหค้ วำมเคำรพนับถือพ่ี เช่ือฟงั พ่ี ช่วยเหลอื พเี่ ม่อื มโี อกำส ให้นกั เรียนบอกวธิ กี าร วางตวั ต่อเพศเดียวกนั แบบพนี่ อ้ งว่ามีลักษณะ อยา่ งไร ?

22 เฉลยคาถามกรอบท่ี 3  คนที่เปน็ พ่ี ตอ้ งเสยี สละมำกกว่ำมีควำมเออื้ เอ็นดูต่อน้อง ปกป้องน้อง ช่วยเหลือน้อง ให้คำแนะนำส่ังสอนน้องตำม สมควร ทำตัวเป็น แบบอย่ำงท่ีดีแก่น้อง วำงตวั ใหเ้ ปน็ ทีเ่ คำรพนับถอื ของ  คนท่เี ป็นน้อง สำหรับคนท่ีเป็นน้องก็ต้องให้ควำมเคำรพนับถือพ่ีเช่ือ ฟังพ่ี ช่วยเหลอื พเ่ี ม่อื มีโอกำส กรอบท่ี 4 จดุ ประสงค์ของการวางตัวตอ่ เพศเดียวกัน กำรวำงตัวตอ่ เพศเดียวกัน มีจุดประสงคส์ ำคัญเพื่อให้เรำสำมำรถอยู่ร่วมกับ บุคคลอน่ื ได้อยำ่ งเปน็ สขุ ซึ่งในทำงปฏิบัติพบว่ำบุคคลแต่ละคนย่อมมีควำมชอบ หรือ ควำมไมช่ อบที่ แตกต่ำงกัน ดังนั้นจึงต้องควรจะมีกำรวำงตัวต่อกัน โดยยึดหลักสำคัญ ดังต่อไปนี้ 1. ตอ้ งมีควำมรบั ผิดชอบ 2. ต้องรจู้ ักปรบั ปรุงตนเอง 3. ตอ้ งร้จู ักยอมรบั ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบคุ คล 4. ตอ้ งรู้จักสรำ้ งมนุษยสมั พันธ์ 5. ต้องมีควำมจริงใจ และปรำรถนำดีต่อผู้อน่ื ใหน้ กั เรียนบอก จดุ ประสงค์ในวางตวั ต่อเพศเดียวกนั วา่ มี ไว้เพอ่ื อะไร ?

23 เฉลยคาถามกรอบที่ 4 1. ตอ้ งมคี วำมรับผิดชอบ 2. ตอ้ งรู้จักปรับปรุงตนเอง 3. ต้องรจู้ ักยอมรับควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งบคุ คล 4. ต้องรูจ้ ักสรำ้ งมนษุ ยสัมพันธ์ 5. ตอ้ งมีควำมจริงใจ และปรำรถนำดีต่อผู้อน่ื กรอบที่ 5 การวางตวั ตอ่ เพศตรงข้าม การวางตัวต่อเพศตรงข้าม หมำยถึง กำรที่ชำยหรือหญิงประพฤติ ปฏิบตั ิตอ่ กัน เพอ่ื สรำ้ งสมั พนั ธภำพทด่ี รี ะหว่ำงกันในแบบเพื่อน แบบพี่น้อง หรือแบบคู่รัก ภำยใต้สภำพแวดล้อมตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมในสังคม นั้น ๆ สำมำรถแบ่งได้เป็น 3 แบบดังน้ี 1. การวางตัวตอ่ เพศตรงข้ามในฐานะเพื่อน การปฏิบตั ติ นของฝ่ายชาย 1. ควรแต่งกำยให้สภุ ำพ สะอำดเรยี บร้อย ไม่ฟุ่มเฟอื ย และไมน่ ำสมัยจนเกนิ ไป ไมค่ วร แต่งกำย ตำมสบำยมำกนัก 2. ใช้วำจำทสี่ ภุ ำพ ไม่แสดงอำกำรกำ้ วร้ำว เสียดสดี ว้ ยวำจำ ใชค้ ำพูดตำมมำรยำทในกำรพดู ในสังคม 3. กำรแสดงกริ ยิ ำอำกำรต่ำง ๆ ต้องสุภำพเรียบรอ้ ย ทงั้ กำรน่งั ยืน เดิน และต้องมคี วำม องอำจสมควำมเปน็ ชำย แสดงถงึ บุคลกิ ภำพท่ีดี ควรให้เกียรตผิ ู้หญงิ ทำตัวเป็น สุภำพบุรุษ ชว่ ยเหลอื ผู้หญงิ ตำมสมควร 4. แสดงควำมห่วงใยในเร่อื งควำมปลอดภยั ตำ่ ง ๆ 5. กำรให้ควำมสนิทสนม ควรอยูใ่ นขอบเขตไม่คลุกคลมี ำกเกินไป ควรระลกึ เสมอว่ำตอ้ งให้ เกยี รติฝำ่ ยหญงิ ทกุ โอกำสแมว้ ำ่ จะสนิทสนมกนั มำกเพียงใด

24 การปฏบิ ตั ติ นของฝา่ ยหญิง 1. แต่งกำยให้สภุ ำพ สะอำดเรียบร้อย รัดกมุ ไม่ควรแต่งตวั ล่อแหลม นุง่ ห่มน้อยชิ้น ถำ้ พบโดยบังเอญิ ในขณะท่ีแต่งกำยไม่เรยี บร้อย ก็ไมค่ วรหยุดพดู คุยดว้ ยต้องขอตัวไป เปลีย่ นเสื้อผำ้ ใหเ้ รยี บรอ้ ยกอ่ นจึงมำพดู คุยดว้ ยในภำยหลัง 2. ใชว้ ำจำทส่ี ุภำพเหมำะสมให้สมกับเป็นกลุ สตรี ไมพ่ ูดหยำบคำย ส่งเสียงดงั แม้จะมีควำมสนิทสนมกับฝำ่ ยชำยมำกกต็ ำม 3. ควรแสดงกิรยิ ำทเ่ี หมำะสม สภุ ำพ ไมส่ บู บหุ ร่ี ด่มื สรุ ำ หรอื เสพส่ิงเสพติด ต้องสำรวม ตนใหด้ ูเรยี บรอ้ ยเป็นกุลสตรีรู้จักมำรยำทสังคม กำรเดิน กำรนง่ั กำรยืน ตอ้ งดู เรียบร้อยสงำ่ งำม เหมำะสมกับกำลเทศะ 4. ควรมีนำ้ ใจเอือ้ เฟื้อเผื่อแผ่ รู้จกั แสดงควำมขอบคณุ อยำ่ งจริงใจเม่ือไดร้ ับกำรชว่ ยเหลอื จำกฝำ่ ยชำย 5. ไม่ควรอยู่ลำพงั กับฝ่ำยชำยสองต่อสองในทีล่ บั ตำคน ไมแ่ สดงกิรยิ ำสนทิ สนมเกิน ขอบเขต น้องๆมีวธิ บี อก วิธกี ารวางตวั ต่อ เพศตรงข้าม อย่างไร ?

25 เฉลยกรอบที่ 5 การวางตัวต่อเพศตรงข้าม กำรวำงตัวของฝ่ำยชำย กำรวำงตัวของฝ่ำยหญิง 1. ควรแต่งกำยให้สภุ ำพ สะอำดเรียบรอ้ ย 1. ควรแต่งกำยให้สภุ ำพ สะอำดเรียบรอ้ ย 2. .ใหเ้ กียรติท้ังวำจำและกำรกระทำ 2. มีมำรยำททีด่ ี เหมำะสมกับกำละเทศะ 3. ใช้วำจำทีส่ ุภำพ เหมำะสม 3. ใชว้ ำจำท่ีสุภำพ เหมำะสมเป็นกลุ สตรี 4. ไมส่ ูบบหุ รี่ ดื่มสรุ ำหรอื สำรเสพตดิ 4. ไม่สูบบหุ รี่ ดืม่ สุรำหรอื สำรเสพติด 5. เป็นสภุ ำพบรุ ษุ หว่ งใย ปกปอ้ งตำมสมควร 5. ไม่ควรอยู่ลำพงั กบั ผชู้ ำยในทลี่ ับตำคน 6. ใหค้ วำมสนทิ สนมอยำ่ งมขี อบเขต 6. ใหค้ วำมสนทิ สนมอยำ่ งมีขอบเขต 7. มีน้ำใจเอ้ือเฟอื้ 7. มนี ้ำใจเอ้อื เฟื้อ หรอื อยู่ในดุลพินิจ ของผ้สู อนนะครับ น้องๆ ตอบถกู กนั มย๊ั ครับ ศกึ ษากรอบตอ่ ไปไดเ้ ลยครบั

26 กรอบท่ี 6 การวางตัวตอ่ เพศตรงขา้ มในฐานะพน่ี ้อง มีทง้ั ฝำ่ ยชำยเป็นพฝ่ี ่ำยหญงิ เปน็ น้อง และฝ่ำยชำย เปน็ น้องฝำ่ ยหญิงเปน็ พี่ ซ่ึงกำรปฏบิ ัติโดยท่ัวไปก็เหมอื น ๆ กนั กำรวำงตัวแบบเพ่อื น แต่คนทเี่ ป็นท่ีตอ้ งเสียสละ มำกกว่ำ มีควำมเอ็นดตู ่อน้อง ปกป้องน้อง ช่วยเหลอื น้อง ใหค้ ำแนะนำ สงั่ สอน้อง ทำตวั เป็น แบบอยำ่ งที่ดี เปน็ แบบอย่ำงท่ดี ีแก่น้อง วำงตัวเปน็ ที่เคำรพนับถอื ของน้อง สำหรับคนที่ เปน็ นอ้ งก็ตอ้ งให้ควำมเคำรพนับถือพ่ี เช่ือฟงั ชว่ ยเหลือพเ่ี มือ่ มโี อกำส นอกจำกน้ีแล้วยงั มกี ำรคบกันแบบครู่ กั ท่ีแฝงมำในครำบของพี่น้อง ซ่ึงฝ่ำยหน่ึงอำจไม่รู้ ว่ำอีกฝ่ำยหน่ึงไม่ได้คิดแบบพี่น้องหรืออำจจะรู้กันทั้งสองฝ่ำย แต่บอกว่ำเป็นพี่น้องเพื่อปิดบัง ผู้ใหญ่ แต่กำรคบกันแบบพี่น้องหรือแบบคู่รักน้ัน ผู้ใหญ่จะมองออก เพรำะพฤติกรรมท่ี แสดงออก ตอ่ กนั น้ันจะมคี วำมแตกต่ำงกนั อย่ำงชดั เจน ทบทวนกันสกั หน่อย นะค่ะ นอ้ งๆ ลอง บอกวิธกี ารวางตัวตอ่ เพศตรงขา้ มในฐานะ พนี่ อ้ งมีวา่ อยา่ งไร ?

27 เฉลยคาถามกรอบท่ี 6 ท้งั ฝำ่ ยชำยเปน็ พี่ฝำ่ ยหญิงเปน็ น้อง และฝ่ำยชำย เปน็ น้องฝ่ำยหญิง เป็นพีซ่ ึ่งกำรปฏบิ ัติโดยท่ัวไปกเ็ หมือนๆ กัน กำรวำงตัวแบบเพื่อน แตค่ นที่ เป็นท่ตี ้องเสียสละมำกกวำ่ มีควำมเอ็นดูต่อน้อง ปกป้องน้อง ช่วยเหลือน้อง ใหค้ ำแนะนำ สงั่ สอน้อง ทำตัวเป็นแบบอยำ่ งท่ดี ี เป็นแบบอยำ่ งที่ดีแก่น้อง วำงตวั เป็นท่ีเคำรพนับถอื ของน้อง สำหรับคนที่เป็นน้องก็ตอ้ งใหค้ วำมเคำรพ นบั ถือพี่ เชอ่ื ฟัง ช่วยเหลือพ่ีเมอ่ื มีโอกำส กรอบที่ 7 การวางตัวตอ่ เพศตรงข้ามในฐานะครู่ ัก กำรคบกันแบบคู่รักอำจจะเร่ิมต้นมำจำกกำรคบกันแบบเพ่ือให้กำรคบกัน แบบพ่ีน้องมำกอ่ นแล้วก็แปรเปลี่ยนมำเป็นแบบคู่รัก หรืออำจจะคบ กันแบบคู่รักเลยก็ได้ อำจจะชอบพร้อม ๆ กันหรือฝำ่ ยหน่ึงฝำ่ ยใดเป็นฝ่ำยชอบก่อน แต่ส่วนมำก ฝ่ำยชำยมักจะ แสดงออกก่อนเพรำะมคี วำมกล้ำมำกกว่ำฝ่ำยหญิง แต่ในสังคมปัจจุบันเร่ิมแปรเปล่ียนไป มำกแลว้ เพรำะฝ่ำยหญงิ มีควำมกล้ำมำกข้ึน ควำมเขินอำยน้อยลงซ่ึงถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพรำะเป็นกำรทำลำยจำรีตประเพณี อันดงี ำมของสังคมไทย

28 กำรวำงตัวของเพศหญิงจะต้องตัวให้เพศชำยยกย่องและให้เกียรติ โดยหญิง จะต้องเข้ำใจว่ำชำยท่ีดีหรือสุภำพบุรุษ จะต้องไม่ล่วงเกินหญิงที่วำงตัวเป็นสุภำพสตรีเป็น อันขำด กำรท่ีหญิงกล้ำเกินไปไม่ถือตัวและชอบสนิทสนมกับชำยมำกๆ น้ัน เท่ำกับเป็น กำรเปิดโอกำส ให้ฝำ่ ยชำยลว่ งเกนิ ได้ง่ำยขึ้น กำรวำงตัวต่อเพศตรงข้ำมท่ีฝ่ำยชำยและหญิง พงึ ปฏบิ ตั ิ มีดังนี้ 1. ฝ่ายชาย 1.1 ฝ่ำยชำยควรให้เกียรติแก่ฝ่ำยหญิง ไม่ทำให้ฝ่ำยหญิงต้องเสื่อมเสียช่ือเสียง ด้วยกำรทำตนเป็นสุภำพบุรุษ เช่น ไม่ควรล่วงเกินทำงกำยแก่หญิงในทุกโอกำส โดยกำรรู้จัก ยับยงั้ อำรมณ์ของตนเอง 1.2 ไม่ควรพูดจำเกี้ยวพำรำสีฝ่ำยหญิง หรือไม่ควรแสดงกิริยำอำกำรอ่ืน ๆ ท่ีแสดงว่ำตนชอบพอมำกเกนิ ไปจนเปน็ ที่นำ่ รังเกยี จแก่ผู้พบเหน็ 1.3 ไม่ควรพูดจำโอ้อวดหรือเยินยอเกินควำมเป็นจริงและหลอกลวงหญิง ทำให้ หญงิ หลงเชือ่ ตำมคำพูด และเกดิ ควำมเสียหำยขน้ึ 1.4 ควรแสดงกิริยำมำรยำทท่ีดีต่อหญิงอย่ำงเสมอต้นเสมอปลำย และควรวำงตัว ใหเ้ หมำะสม และเป็นท่นี ่ำไววำ้ งใจแก่หญงิ 1.5 ควรให้ควำมช่วยเหลือแก่สุภำพสตรีเท่ำท่ีโอกำสจะอำนวย และตนเอง สำมำรถจะกระทำได้

29 2. ฝา่ ยหญงิ 2.1 ฝ่ำยหญิงไม่ควรสนิทสนมกับฝ่ำยชำยโดยทำงวำจำ หรือไม่ควรแสดงกิริยำ หยอกล้อจนทำให้ฝ่ำยชำยเกิดควำมเข้ำใจผิดและหว่ันไหวได้ง่ำย พึงระลึกไว้เสมอว่ำ กำร เลือกใช้คำพูดทีเ่ หมำะสมน้นั เป็นเสนห่ อ์ ย่ำงหนง่ึ ของกุลสตรี 2.2 ไม่ควรปลอ่ ยให้ฝ่ำยชำยตอ้ งออกเงนิ ค่ำใช้จ่ำยแก่ตนฝ่ำยเดียว หรือไม่ควรรับ ของกำนัลจำกฝำ่ ยชำยบอ่ ย ๆ โดยไมม่ ีเหตุผล 2.3 ไม่ควรเข้ำไปในทีร่ โหฐำนกับฝำ่ ยชำยตำมลำพงั แม้ตนเองจะมีเจตนำ บริสุทธ์ิ ก็อำจเป็นสำเหตุใหห้ ำ่ งจำกผู้พบเหน็ ได้ 2.4 ไมค่ วรไปเทยี่ วเตรก่ บั ฝ่ำยชำยตำมลำพัง แต่ควรไปเป็นกลุ่มโดยมีเพ่ือนสนิท ของตนไปด้วย สำหรับกำรไปพักคำ้ งแรมรว่ มกนั นน้ั ถงึ จะไปเป็นกลุ่มก็ไม่ควรกระทำ นอกเสีย จำกจะมีผู้ปกครองหรือครูรว่ มไปด้วย 2.5 ไม่ควรยินยอมให้ฝ่ำยชำยถูกเน้ือต้องตัวโดยไม่จำเป็น เพรำะตำมประเพณี ไทย ยงั ไมเ่ ห็นด้วยกบั เรือ่ งเช่นน้ี 2.6 ในกำรวำงตัวต่อเพศตรงข้ำมโดยท่ัวไปน้ัน ฝ่ำยหญิงควรจะต้องยึดจำรีต ประเพณขี องกุลสตรีไทยเปน็ หลักเสมอ

30 คาถามกรอบท่ี 7 คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ช่วยกำรวิเครำะห์และหำคำตอบ โดยกำ เครอื่ งหมำย  หนำ้ ขอ้ ควำมท่ีเห็นว่ำถกู และกำเคร่ืองหมำย  หนำ้ ข้อควำมท่ีเห็นผิด ในเวลำ 5 นำที (10 คะแนน) 1. ควำมเสมอภำคทำงเพศเป็นเร่ืองของเพศหญงิ กับเพศชำยที่มีควำมเทำ่ เทียมกัน ในทำงเศรษฐกิจ 2. ในปจั จุบันควำมเสมอภำคทำงเพศทง้ั เพศชำยและเพศหญงิ มคี วำมเทำ่ เทยี มกัน ทกุ ประกำร 3. กำรวำงตวั ต่อเพศเดียวกนั หรือตอ่ เพศตรงข้ำม สำหรบั คนทเ่ี ป็นญำติพี่น้องไม่ จำเปน็ ตอ้ งมีกำรวำงตัวได้ 4. กำรทเี่ พศหญงิ สบู บหุ ร่ี ด่มื สรุ ำ เหมอื นกับเพศชำยถอื เป็นควำมเสมอภำคที่ สำมำรถทำได้ 5. กำรวำงตัวต่อเพศตรงขำ้ มแบบคู่รกั ปฏบิ ัตไิ ดย้ ำกกวำ่ กำรวำงตัวตอ่ เพศตรง ข้ำมแบบเพื่อน อยา่ ลมื ทาให้ครบ ทกุ ขอ้ นะคะ่

31 เฉลยกรอบท่ี 7 คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกำรวิเครำะห์และหำคำตอบ โดยกำ เครอ่ื งหมำย  หนำ้ ขอ้ ควำมทเ่ี ห็นว่ำถกู และกำเครือ่ งหมำย  หนำ้ ขอ้ ควำมที่เห็นผิด ในเวลำ 5 นำที (10 คะแนน)  1. ควำมเสมอภำคทำงเพศเป็นเรื่องของเพศหญงิ กบั เพศชำยทีม่ ีควำมเท่ำเทยี ม กันในทำงเศรษฐกิจ  2. ในปัจจุบันควำมเสมอภำคทำงเพศท้งั เพศชำยและเพศหญิงมีควำมเท่ำเทยี มกัน ทุกประกำร  3. กำรวำงตวั ต่อเพศเดียวกันหรือตอ่ เพศตรงขำ้ ม สำหรบั คนทเ่ี ป็นญำตพิ ่ีน้องไม่ จำเปน็ ตอ้ งมกี ำรวำงตวั ได้  4. กำรท่ีเพศหญงิ สูบบหุ รี่ ด่ืมสุรำ เหมือนกบั เพศชำยถอื เป็นควำมเสมอภำคท่ี สำมำรถทำได้  5. กำรวำงตวั ต่อเพศตรงข้ำมแบบคู่รกั ปฏิบัตไิ ด้ยำกกว่ำกำรวำงตัวต่อเพศ ตรงข้ำมแบบเพอื่ น อย่าลมื ทาให้ครบ ทุกขอ้ นะค่ะ

32 กรอบสรปุ ในวัยรุ่นมีกำรเปลี่ยนแปลงหลำยประกำร โดยเฉพำะฮอร์โมนในร่ำงกำย มีผลกระตุ้นให้มีควำมสนใจกับเพศตรงข้ำม รวมท้ังแรงขับตำมธรรมชำติ ท่ีทำให้ อยำกรู้ อยำกลองในเร่ืองเพศ จึงทำให้วัยน้ีเป็นวัยท่ีล่อแหลมต่อกำรตกอยู่ในสถำนกำรณ์ เสยี่ งต่อกำรมเี พศสัมพันธ์ในวัยเรียน กำรร้จู ักวำงตนต่อเพศเดียวกัน และกำรวำงตัวต่อเพศ ตรงขำ้ มอย่ำงเหมำะสม รวมท้ังกำรรู้จักหลีกเลี่ยงสถำนกำรณ์เส่ียงต่อกำรมีเพศสัมพันธ์ใน วยั เรยี นจะชว่ ยป้องกนั ผลกระทบและควำมเสยี หำยทจี่ ะเกดิ ข้ึนตำมมำ

33 แบบทดสอบหลงั เรียน คำชแ้ี จง 1. ใหน้ ักเรียนทำเครอื่ งหมำย × ลงบนตวั เลอื ก ก ข ค และ ง ทเี่ ห็นวำ่ ถกู ทีส่ ุดเพยี งขอ้ เดียว ในกระดำษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีทง้ั หมด 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลำ 10 นำที 1. ข้อใดให้ควำมหมำยของกำรวำงตวั ตอ่ เพศตรงข้ำมที่ถูกตอ้ ง ก. กำรกีดกนั กำรคบหำกันของชำยหญงิ ข. กำรลดควำมสมั พนั ธ์ของเพศชำยหญงิ ค. แนวทำงกำรสง่ เสริมควำมสัมพันธ์ของชำยหญิง ง. แนวปฏบิ ัติในกำรสร้ำงควำมสมั พนั ธ์ทด่ี ขี องชำยหญิง 2. ข้อใดกล่ำวถกู ต้อง ก. ไมค่ วรให้วัยรนุ่ ชำยหญงิ คบหำกนั โดยเดด็ ขำด ข. ไมค่ วรให้วยั รนุ่ ชำยหญงิ เรียนรเู้ ร่ืองเพศ ค. ควรให้วยั รนุ่ คบหำกันตำมปกติ แต่ใหอ้ ยูใ่ นขอบเขต ง. ควรให้วยั รนุ่ ชำยหญงิ คบหำกันอยำ่ งเสรี 3. กฎหมำยในขอ้ ใดทแ่ี สดงให้เห็นวำ่ สงั คมไทยให้ควำมเสมอภำคทำงเพศมากที่สุด ก. กำรกำหนดสทิ ธเิ ท่ำเทยี มกันของชำยและหญงิ ในรัฐธรรมนญู ข. หญงิ ที่แต่งงำนแลว้ มสี ิทธิใชน้ ำมสกุลเดิม ค. หญิงที่จดทะเบียนสมรสแลว้ สำมำรถใชน้ ำงสำวได้ ง. หญงิ ท่แี ตง่ งำนแล้วมีสทิ ธิใช้นำมสกลุ ของสำมี 4. กำรวำงตัวตอ่ เพศเดยี วกันอย่ำงถกู ตอ้ งและเหมำะสมมคี วำมสำคัญอย่ำงไร ก. เพือ่ สงั คมที่ดี ข. เพื่อรกั ษำมติ รภำพใหย้ ำวนำน ค. เพื่อเปน็ แบบอยำ่ งท่ดี ีแกค่ นอ่ืน ง. เพือ่ มใิ หเ้ กิดกำรทะเลำะเบำะแว้งระหว่ำงเพ่ือน 5. ผ้ทู ีม่ ีส่วนสำคัญท่สี ุดในกำรดแู ล ป้องกันและหลกี เล่ียงสถำนกำรณ์เสย่ี งต่อ กำรมีเพศสมั พันธใ์ นวัยเรยี นคือผใู้ ด ก. ตัวนักเรียนเอง ข. ครู ค. ผปู้ กครอง ง. เพอ่ื นนกั เรียน

34 6. ข้อใดไมม่ ีกำรกำหนดไว้ในกฎหมำย ก. หญงิ ที่แตง่ งำนแลว้ มสี ทิ ธิใชน้ ำมสกลุ เดิม ข. หญิงท่จี ดทะเบยี นสมรสแลว้ สำมำรถใชน้ ำงสำวได้ ค. ชำยท่แี ปลงเพศแลว้ สำมำรถใช้นำงสำวได้ ง. หญิงทห่ี ยำ่ แล้วสำมำรถใช้นำงสำวได้ 7. กำรเสมอภำคทำงเพศมีขอบเขตท่ีกำหนดด้วยเงื่อนไขทำงวัฒนธรรมไทยควำมเสมอภำค จงึ ต้องกำกับด้วยอะไร ก. กำรวำงตัวต่อเพศตรงขำ้ ม ข. กฎหมำยสทิ ธิมนุษยชน ค. พระรำชบญั ญัตคิ ำนำหนำ้ นำมหญงิ ง. พระรำชบญั ญตั เิ กี่ยวกบั กำรใชน้ ำมสกุล 8. กำรวำงตวั ของนักเรยี นหญิงในขอ้ ใดที่ไมเ่ หมาะสมมำกท่สี ดุ ก. อยู่ลำพังกับฝำ่ ยชำยสองตอ่ สองในท่ลี ับตำคน ข. แสดงกริ ิยำสนทิ สนมกบั เพ่อื นชำย ค. ปล่อยใหฝ้ ำ่ ยชำยออกค่ำอำหำรให้ ง. แตง่ กำยลอ่ แหลม 9. ผลกระทบท่ีเป็นปัญหำจำกกำรมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนท่ีเป็นปัญหำสังคมในปัจจุบัน มากท่สี ดุ คือขอ้ ใด ก. ปัญหำกำรเรยี นตกตำ่ ข. ปัญหำกำรหนีเรียน ค. ปญั หำกำมโรค ง. ปัญหำกำรตั้งครรภ์อันไม่พงึ ประสงค์ 10. สถำนกำรณ์ใดทล่ี อ่ แหลมเสยี่ งต่อกำรมเี พศสมั พนั ธ์ที่ไม่คาดคดิ มำกท่ีสดุ ก. กำรแตง่ ตวั ล่อแหลมเดินตำมหำ้ งสรรพสนิ ค้ำ ข. กำรไปดหู นงั กบั เพอ่ื นชำย ค. กำรอยู่กับชำยตำมลำพังในที่ลบั ตำ ง. กำรออกเทีย่ วหรือเดินทำงตำมลำพงั ตรวจคาตอบ.......... หนา้ ถดั ไปนะค่ะ

35 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 1. ง 6. ค 2. ค 7. ก 3. ก 8. ก 4. ข 9. ง 5. ก 10. ค ทำถูกกี่ขอ้ ครับ ……? เตรียมตัวไปศกึ ษำ กรอบควำมรู้ กนั เลยนะครบั เด็กๆ ถำ้ ทำถูก 8 - 10 ข้อ เพ่อื นๆ เกง่ มำกเลยค่ะ 5 - 7 ข้อ เพ่อื นๆ ทำไดด้ แี ล้วค่ะ 1 - 4 ขอ้ ต้องปรบั ปรงุ แลว้ นะคะ

36 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ชอ่ื ……………………………..…………........................................ชน้ั ……….…เลขท่ี………….….. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบหลังเรียน ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10

37 แบบสรุปผลกำรเรยี นรู้ เรือ่ ง หญิงชายเท่าเทียมกนั กำรประเมนิ ผล ทดสอบกอ่ นเรยี น ทดสอบหลงั เรยี น คะแนน 10 10 ควำมก้ำวหน้ำ คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ แลว้ พบกนั ใหมใ่ นเล่มตอ่ ไปนะค่ะ ……สวัสดีคะ………

38 บรรณำนุกรม กระทรวงศกึ ษำธิกำร. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์กำรเกษตรแห่งประเทศไทย. กติ ติ ปรมัตถผลและคณะ. (2554). หนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน สขุ ศึกษา 2. นนทบรุ ี : บรษิ ทั สำนักพมิ พ์เอมพันธ์ จำกัด. บญุ รบั ศกั ดม์ิ ณี. (2546). กจิ กรรมสุขศึกษาและพลศกึ ษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2. กรงุ เทพฯ : ประสำนมิตร. พรสุข ห่นุ นิรันดร์ และคณะ. (2548). หนังสอื สาระการเรียนรู้พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ม.2 ช่วงชน้ั ท่ี 3. กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทศั น.์ วชิ ำกำรและมำตรฐำนกำรศกึ ษำ,สำนกั กระทรวงศึกษำธกิ ำร.(2551).ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรู้ แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา. กรุงเทพฯ :โรงพมิ พช์ ุมชน สหกรณ์กำรเกษตรแหง่ ประเทศไทย. สมศักดิ์ สินธุระเวชญ์และคณะ. (2547). สือ่ การเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบรู ณแ์ บบ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2. กรุงเทพฯ : วัฒนำพำนชิ . . (2547). ชดุ ปฏริ ปู :วิธีการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษาสมบรู ณ์แบบ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 2. กรุงเทพฯ : วฒั นำพำนิช. สุจติ รำ สคุ นธทรพั ยแ์ ละคณะ. (2553). หนังสอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน สขุ ศกึ ษา ม 2. กรงุ เทพฯ : บริษทั สำนักพมิ พแ์ มค็ จำกัด. สุดำชำ วงศ์ใหญแ่ ละไพเรำะ แดงกอ้ . (2551). สมั ฤทธ์ิมาตรฐาน หลกั สูตรแกนกลางฯ สขุ ศึกษา ม 2. กรงุ เทพฯ : บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกัด. หฤยำ อำรีวงค์และคณะ. (2546). หนงั สอื สาระการเรยี นรู้พน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ช่วงชั้นที่ 3. กรงุ เทพฯ : บริษทั สำนักพิมพ์แมค็ จำกดั .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook