หน่วย แผนการจดั การเรียนรู้ 3การเรียนรทู้ ่ี 5กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชั้น ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า ปี ท่ี ภ า ค เ รี ย น ที่ 1 ปี ก า ร ศึ ก ษ า 2 5 6 5 เรื่อง การนาเสนอข้อมูล นางสาวณฐั นันท์ พฒุ ยนื ครโู รงเรยี นบา้ นสไุ หงโก-ลก โรงเรี ยนบ้าน สุไ หงโก- ลก สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศกึ ษา 2565 ฉบับนี้ ผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) เอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์หลักสูตร จัดทำกำหนดการสอน โครงสร้างรายวิชา และหารูปแบบการทำแผนการจัดการเรยี นรู้โดยเน้นให้ผู้เรยี นได้เรียนผ่านกระบวนการคิด ดว้ ยตนเอง โดยคำนงึ ถงึ สภาพแวดลอ้ มของผู้เรียน โรงเรียนและชมุ ชนเป็นหลกั พรอ้ มทง้ั วดั ผลประเมินผลตาม สภาพจรงิ ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้จะช่วยให้การเรียนการสอนกลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดำเนินไปด้วยดี และทำให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ มีทักษะกระบวนการ และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตรงตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรต่อไป หากมี ข้อผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ทนี่ ด้ี ้วย นางสาวณัฐนันท์ พุฒยืน
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101 ปกี ารศกึ ษา 2565 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง การนำเสนอขอ้ มูล สพป.นราธิวาส เขต 2 เรื่อง เตรียมความพรอ้ ม ครผู สู้ อน นางสาวณัฐนันท์ พฒุ ยนื โรงเรียนบ้านสไุ หงโก-ลก มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความร้ทู างสถติ ิในการแก้ปัญหา ตวั ชี้วัด ค 1.1 ป.5/2 : เขียนแผนภูมิแทง่ จากขอ้ มลู ท่เี ป็นจำนวนนับ สาระสำคัญ 1. แผนภูมิแท่งเป็นการใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแสดงปรมิ าณของสิ่งต่าง ๆ โดยให้ความสูงหรือความ ยาวของรูปสี่เหลย่ี มมุมฉากแต่ละรูป แสดงจำนวนแตล่ ะรายการ รปู สีเ่ หล่ียมมมุ ฉากทกุ รูป มคี วามกว้างเท่ากัน และเรม่ิ ต้นจากระดับเดยี วกัน รปู สเ่ี หล่ยี มมมุ ฉากแตล่ ะรปู มีระยะห่างเทา่ กนั และรูปสี่เหลยี่ มมมุ ฉากนีอ้ าจเรยี ง ตามแนวตง้ั หรือแนวนอนกไ็ ด้ 2. ขอ้ มูลที่มีปริมาณมากหรือใกล้เคยี งกันนิยมใช้ แสดงการย่นระยะของเส้นแสดงจำนวนเพื่อละ การแสดงขอ้ มูลในชว่ งน้ัน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายวิธกี ารอา่ นแผนภูมิแท่งที่มกี ารย่นระยะได้ (K) 2. อ่านแผนภูมิแท่งท่มี ีการย่นระยะได้ (P) 3. นำความรูเ้ กี่ยวกับการอา่ นแผนภูมิแท่งทม่ี ีการย่นระยะไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การอา่ นแผนภูมิแทง่ ทมี่ ีการยน่ ระยะ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูทบทวนการนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยรูปแบบต่าง ๆ แผนภมู แิ ทง่ เปน็ การนำเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบหน่ึงทีใ่ ชส้ ีเ่ หล่ียมมุมฉากในการแสดงขอ้ มลู แผนภูมริ ูปภาพ เปน็ การใชร้ ปู ภาพในการนำเสนอขอ้ มลู โดยจะมขี ้อกำหนดว่า ภาพ 1 ภาพ แทนจำนวนหรือปรมิ าณเท่าใด การนำเสนอข้อมูลโดยใช้ตาราง มีทงั้ ตารางทางเดียว และตารางสองทาง
ข้ันสอน 2. ครูอธิบายการอา่ นแผนภมู แิ ท่ง และสว่ นประกอบต่าง ๆ ของแผนภูมิแท่ง แผนภูมิแท่งมีสว่ นประกอบ คือ ชื่อแผนภมู ิ และตัวแผนภูมิ โดยตัวแผนภมู ปิ ระกอบด้วย เสน้ แสดงจำนวน เส้น แสดงรายการ รวมถึงรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่แสดงจำนวนของแต่ละรายการ ซึ่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูป จะต้องมีความกว้างเท่ากัน เริ่มต้นจากระดับเดียวกันที่ 0 และระยะห่างระหว่างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรปู ควรเทา่ กัน 3. ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามจากแผนภมู ิแทง่ ที่ครขู ้ึนให้บนเพาเวอร์พอยด์ ดงั น้ี 4. ครูอธิบายการสรา้ งแผนภมู ิแท่งจากตารางที่กำหนดให้บนเพาเวอร์พอยด์ ดงั น้ี
5. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั ตอบคำถามจากแผนภูมิแทง่ ทคี่ รขู ึ้นให้บนเพาเวอร์พอยด์ ดังน้ี ขนั้ สรปุ 6. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปสิ่งท่ีได้เรยี นร้รู ่วมกัน ดงั นี้ แผนภูมแิ ทง่ เป็นการใช้รูปส่ีเหลี่ยมมุม ฉากแสดงปริมาณของสิง่ ต่าง ๆ โดยใหค้ วามสงู หรอื ความยาวของรูปสี่เหล่ียมมุมฉากแต่ละรูป แสดงจำนวนแต่ ละรายการ รูปสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉากทุกรูปมีความกว้างเท่ากนั และเร่มิ ต้นจากระดบั เดยี วกัน รปู ส่ีเหล่ียมมุมฉากแต่ ละรูปมีระยะห่างเท่ากนั รูปสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉากเหล่าน้ี อาจเรยี งตามแนวตัง้ หรือแนวนอนก็ได้ และในกรณีท่ีข้อมูล มีปริมาณมากหรือใกลเ้ คยี งกันนยิ มใช้แสดงการยน่ ระยะของเสน้ แสดงจำนวน เพ่ือละการแสดงข้อมลู ในช่วงนน้ั 7. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด 3.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝึกหดั รายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เลม่ 1 สสวท. 3. power point การสอน การวดั ผลและประเมินผล ส่งิ ที่ตอ้ งการวัด วิธีวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจความถกู ต้องของ แบบฝกึ หัด 3.1 ระดบั พอใชข้ ึ้นไป แบบฝกึ หดั 3.1 ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น ระดับพอใช้ข้นึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ การเขา้ เรยี น การทำงาน แบบสงั เกต พฤตกิ รรม ท่ีพึงประสงค์ ทไี่ ด้รับมอบหมาย และ การสง่ งานตรงเวลา
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ที่ 1 1. ผลการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายวิธกี ารอ่านแผนภมู ิแท่งที่มีการย่นระยะได้ 2. นกั เรียนสามารถอา่ นแผนภูมิแทง่ ทีม่ กี ารยน่ ระยะไดถ้ ูกตอ้ ง 3. นกั เรยี นมคี วามตง้ั ใจเรียนในเนือ้ หาทค่ี ุณครูอธบิ าย มีความกล้าแสดงออก ช่วยคณุ ครูตอบคำถาม และ เม่ือมขี ้อสงสัยนกั เรยี นกล้าทจ่ี ะซกั ถาม เพ่อื ให้ตนเองเข้าใจ 2. ปัญหา/อุปสรรคที่พบและแนวทางแกไ้ ข นกั เรียนบางสว่ นจำไมไ่ ดว้ า่ แผนภูมิแทง่ มีส่วนประกอบทีส่ ำคญั อะไรบา้ ง และมนี กั เรียนบางส่วนอา่ นแผนภมู ิ แทง่ ไม่ได้ จึงทำใหต้ อบคำถามไม่ถูกตอ้ ง 3. ขอ้ เสนอแนะ ครทู บทวนแผนภูมแิ ทง่ มสี ่วนประกอบ คือ ชื่อแผนภูมิ และตวั แผนภมู ิ โดยตวั แผนภมู ิประกอบดว้ ย เสน้ แสดงจำนวน เสน้ แสดงรายการ รวมถงึ รปู สี่เหลีย่ มมุมฉากที่แสดงจำนวนของแต่ละรายการ ซ่ึงรปู สเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากแต่ ละรูปจะตอ้ งมคี วามกว้างเทา่ กนั เร่ิมต้นจากระดับเดยี วกนั ท่ี 0 และระยะห่างระหวา่ งรูปส่เี หล่ยี มมมุ ฉากแตล่ ะรูปควร เทา่ กนั
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101 ปีการศกึ ษา 2565 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง การนำเสนอขอ้ มูล สพป.นราธิวาส เขต 2 เรื่อง การอา่ นแผนภูมแิ ท่งท่มี ีการยน่ ระยะ ครูผสู้ อน นางสาวณัฐนันท์ พุฒยนื โรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถติ ิในการแก้ปัญหา ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.5/2 : เขยี นแผนภูมแิ ทง่ จากข้อมูลท่เี ป็นจำนวนนับ สาระสำคญั 1. แผนภูมิแท่งเป็นการใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ โดยให้ความสูงหรือความ ยาวของรปู สี่เหล่ียมมมุ ฉากแต่ละรูป แสดงจำนวนแต่ละรายการ รปู สีเ่ หลยี่ มมุมฉากทุกรูป มคี วามกว้างเท่ากัน และเริ่มต้นจากระดับเดียวกัน รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูปมีระยะห่างเทา่ กัน และรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเหล่านี้ อาจเรียงตามแนวตัง้ หรือแนวนอนกไ็ ด้ 2. ข้อมูลทมี่ ปี ริมาณมากหรือใกลเ้ คยี งกนั นยิ มใช้ แสดงการยน่ ระยะของเสน้ แสดงจำนวน เพือ่ ละ การแสดงข้อมลู ในชว่ งน้ัน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายวธิ กี ารอา่ นแผนภูมิแทง่ ทม่ี กี ารย่นระยะได้ (K) 2. อ่านแผนภูมแิ ท่งท่ีมีการย่นระยะได้ (P) 3. นำความรู้เกยี่ วกับการอา่ นแผนภมู ิแทง่ ทม่ี กี ารย่นระยะไปใช้ในชวี ิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การอ่านแผนภมู ิแท่งที่มีการยน่ ระยะ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนการอ่านแผนภมู แิ ท่ง โดยครูขน้ึ แผน่ ภมู แิ ทง่ บนเพาเวอร์พอยด์ ดังน้ี จำนวนผู้ใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ ชมุ ชน ตั้งแตเ่ ดอื นมกราคม - เดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2561 แล้วครูถามคำถามต่อไปน้ี - แผนภูมิแท่งแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอะไร (จำนวนผู้ใช้บริการห้องสมุดชุมชนตั้งแต่เดือน มกราคม - เดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2561) - แผนภูมิแทง่ เปน็ การนำเสนอขอ้ มูลโดยใชร้ ปู สเี่ หลีย่ มอะไร (รปู สเี่ หลี่ยมมมุ ฉาก) - รปู ส่เี หลย่ี มมมุ ฉากแต่ละรปู มีความกว้างเท่ากนั หรือไม่ (เทา่ กนั ) และเริ่มต้นทใ่ี ด (เร่ิมต้น ท่ี 0) - รปู สี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูป มีระยะหา่ งเทา่ กนั หรอื ไม่ (เท่ากัน) - รปู ส่เี หล่ยี มมมุ ฉากแต่ละรูปแสดงอะไร (จำนวนผ้ใู ช้บรกิ ารหอ้ งสมุดชมุ ชนโดยให้ความสูง หรือความยาวของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูปแสดงจำนวนผู้ใช้บริการห้องสมุดชุมชนตั้งแต่เดือนมกราคม - เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561) ข้นั สอน 2. ครจู ดั กจิ กรรมเกยี่ วกับการอา่ นข้อมูลจากแผนภมู แิ ทง่ ย่นระยะดงั น้ี
จำนวนผเู้ สียชีวติ จากอุบัติเหตใุ นช่วง 7 วันอนั ตราย (เทศกาลสงกรานต)์ ประจำปี พ.ศ. 2561 แลว้ ครถู ามคำถามต่อไปน้ี - แผนภมู แิ ท่งนแ้ี สดงข้อมลู เกยี่ วกบั อะไร (จำนวนผู้เสยี ชวี ิตในชว่ ง 7 วนั อนั ตราย (เทศกาล สงกรานต์) ประจำปี พ.ศ. 2561) - เขตพื้นที่ใดมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนผู้เสียชีวิต มากทสี่ ดุ ) - เขตพืน้ ทใี่ ดมจี ำนวนผู้เสยี ชวี ิตน้อยที่สดุ (ภาคตะวนั ตก มีจำนวนผูเ้ สยี ชีวติ นอ้ ยทีส่ ุด) - ในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดกี่คน (553 คน) 3. ครูแบง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ แล้วครูข้นึ แผนภูมิแท่งย่น ระยะบนเพาเวอรพ์ อยด์ ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ตอบคำถาม และส่งตวั แทนมานำเสนอ
จำนวนผู้เข้าชมภาพยนตร์ทโี่ รงภาพยนตรศ์ รนี ครรามา ในสปั ดาหส์ ดุ ท้ายของเดอื นเมษายน พ.ศ. 2561 - วนั พุธมีผเู้ ขา้ ชมภาพยนตร์กคี่ น (1,843 คน) - จำนวนผู้เขา้ ชมภาพยนตร์ต้งั แตว่ นั จนั ทรถ์ ึงวันศกุ ร์ มากกว่าหรอื น้อยกวา่ จำนวนผู้เขา้ ชมในวันเสาร์และวันอาทิตย์กค่ี น (มากกว่าอยู่ 4,279 คน) - จำนวนผูเ้ ขา้ ชมภาพยนตร์ในวนั ศุกร์ นอ้ ยกวา่ จำนวนผูเ้ ขา้ ชมในวันพฤหัสบดกี ค่ี น (201 คน) และมากวา่ จำนวนผู้เข้าชมในวนั พุธกค่ี น (64 คน) - สปั ดาหน์ ีม้ ีผู้เขา้ ชมภาพยนตร์ทง้ั หมดกี่คน (13,321 คน) - สปั ดาห์นี้มีผูเ้ ขา้ ชมภาพยนตร์เฉล่ยี วันละกี่คน (1,903 คน) - ถ้าวนั พุธโรงภาพยนตรจ์ ัดรายการส่งเสรมิ การขาย โดยขายบัตรใบละ 80 บาท โรงภาพยนตร์จะมีรายได้ในวนั พธุ กี่บาท (147,440 บาท) ขัน้ สรุป 4. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้ร่วมกนั ดงั น้ี แผนภมู ิแท่งเปน็ การใช้รูปสี่เหล่ียมมุมฉาก แสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ โดยให้ความสูงหรือความยาวของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉากแต่ละรูป แสดงจำนวนแต่ละ รายการ รปู สีเ่ หล่ยี มมุมฉากทุกรูปมีความกวา้ งเท่ากนั และเรม่ิ ต้นจากระดับเดียวกัน รูปสี่เหล่ียมมุมฉากแต่ละ รูปมรี ะยะห่างเท่ากัน รปู สีเ่ หลยี่ มมุมฉากเหล่าน้ี อาจเรียงตามแนวตงั้ หรอื แนวนอนก็ได้ และในกรณีท่ีข้อมูลมี ปรมิ าณมากหรือใกล้เคียงกนั นยิ มใช้แสดงการย่นระยะของเส้นแสดงจำนวน เพ่ือละการแสดงขอ้ มูลในชว่ งนัน้ 5. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด 3.2
สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 เล่ม 1 สสวท. 3. power point การสอน การวัดผลและประเมินผล สงิ่ ที่ต้องการวัด วธิ วี ัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจความถกู ตอ้ งของ แบบฝึกหดั 3.2 ระดบั พอใชข้ ึ้นไป แบบฝึกหดั 3.2 ระดับพอใช้ขน้ึ ไป 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน ระดบั พอใชข้ ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ การเข้าเรียน การทำงาน แบบสังเกต พฤตกิ รรม ที่พงึ ประสงค์ ทไี่ ด้รับมอบหมาย และ การสง่ งานตรงเวลา
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ที่ 2 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายวิธีการอา่ นแผนภมู ิแทง่ ท่มี ีการย่นระยะได้ 2. นกั เรยี นสามารถอ่านแผนภมู แิ ทง่ ทม่ี ีการยน่ ระยะไดถ้ กู ต้อง 3. นักเรียนมีความตั้งใจเรียนในเนอ้ื หาท่ีคุณครูอธิบาย มคี วามกลา้ แสดงออก ช่วยคณุ ครูตอบคำถาม และ เม่อื มีข้อสงสยั นักเรียนกลา้ ทจ่ี ะซกั ถาม เพือ่ ให้ตนเองเข้าใจ และสามารถนำความร้เู ดิมมาใชไ้ ด้ 2. ปญั หา/อุปสรรคทพี่ บและแนวทางแกไ้ ข นกั เรยี นบางส่วนยังจำเสน้ แสดงจำนวนและเส้นแสดงรายการสลบั กัน และมนี กั เรียนบางส่วนอ่านแผนภมู ิ แท่งยงั ไมไ่ ด้ จึงทำใหต้ อบคำถามจากแผนภูมแิ ท่งที่มกี ารย่นระยะไมถ่ ูกต้อง 3. ข้อเสนอแนะ ครอู ธิบายแผนภูมิแทง่ เปน็ การใช้รปู สี่เหล่ียมมุมฉากแสดงปรมิ าณของสง่ิ ต่าง ๆ โดยใหค้ วามสงู หรอื ความยาว ของรปู สี่เหลยี่ มมมุ ฉากแต่ละรปู แสดงจำนวนแตล่ ะรายการ รูปส่เี หล่ยี มมมุ ฉากทกุ รูปมคี วามกวา้ งเทา่ กนั และเร่ิมต้น จากระดับเดียวกนั รปู ส่ีเหล่ียมมมุ ฉากแตล่ ะรูปมรี ะยะหา่ งเท่ากัน รปู สี่เหลย่ี มมุมฉากเหลา่ น้ี อาจเรยี งแนวตง้ั หรอื แนวนอนกไ็ ด้ และในกรณีทขี่ อ้ มลู มปี ริมาณมากหรอื ใกล้เคยี งกนั นยิ มใชก้ ารยน่ ระยะของเส้นแสดงจำนวน เพอื่ ละการ แสดงข้อมูลในช่วงนน้ั ครยู กตัวอย่างประกอบ พรอ้ มกบั ให้นักเรยี นช่วยกันตอบคำถามจากแผนภูมิแทง่ ท่ีมีการยน่ ระยะทก่ี ำหนดให้
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 15101 ปกี ารศกึ ษา 2565 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง การนำเสนอข้อมลู สพป.นราธิวาส เขต 2 เร่ือง การอา่ นแผนภูมิแท่งเปรียบเทยี บ ครูผสู้ อน นางสาวณฐั นันท์ พฒุ ยนื โรงเรียนบา้ นสไุ หงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรูท้ างสถิตใิ นการแกป้ ัญหา ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.5/2 : เขยี นแผนภูมิแท่งจากข้อมูลท่เี ปน็ จำนวนนบั สาระสำคญั แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบเป็นการนำเสนอข้อมูลรูปแบบหนึ่ง โดยแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบเป็นการ นำเสนอขอ้ มลู ของส่งิ เดยี วกันและมีลักษณะเหมอื นกันตง้ั แต่ 2 ชดุ ขึ้นไป จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายวธิ ีการอ่านแผนภูมิแท่งเปรียบเทยี บได้ (K) 2. อ่านแผนภมู แิ ท่งเปรยี บเทยี บได้ (P) 3. นำความรูเ้ ก่ยี วกบั การอ่านแผนภมู แิ ทง่ เปรยี บเทยี บไปใช้ในชีวติ จริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การอา่ นแผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทยี บ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครูทบทวนการอ่านแผนภูมิแท่งที่มีการย่นระยะ โดยครูขึ้นแผ่นภูมิแท่งบนเพาเวอร์พอยด์ ดังน้ี จำนวนคนต่างด้าวจาก 4 สัญชาติ ที่คงเหลอื ทั่วราชอาณาจักร และได้รบั อนญุ าตให้ทำงาน ประจำเดอื นมกราคม พ.ศ. 2561 แล้วครูถามคำถามตอ่ ไปนี้ - คนต่างด้าวสญั ชาตใิ ดทยี่ งั คงเหลอื มากทส่ี ุด เหลอื อยกู่ ี่คน (ญ่ีปนุ่ เหลืออยู่ 15,262 คน) - คนต่างดา้ วทยี่ งั คงเหลือสัญชาติอนิ เดีย มจี ำนวนนอ้ ยกว่าสัญชาติญป่ี ุ่นกี่คน (4,998 คน) - คนตา่ งด้าวที่ยงั คงเหลอื ของสัญชาติใดบา้ งท่ีมจี ำนวนน้อยกว่า 15,000 คน (อินเดียและ ฟิลปิ ปินส)์ - เรียงลำดับสัญชาติของคนต่างด้าวที่ยังคงเหลือ จากมากไปน้อยได้อย่างไร (ญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ อินเดีย) - จำนวนคนตา่ งดา้ วจาก 4 สัญชาตนิ ้ยี ังคงเหลือมีทงั้ หมดกี่คน (54,886 คน) ขนั้ สอน 2. ครจู ดั กิจกรรมเก่ยี วกับการอ่านขอ้ มลู จากแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบ ดังนี้
น้ำหนกั ของสัตวน์ ำ้ ทีช่ าวประมงจับได้ น้ำหนกั ของสัตวน์ ำ้ ที่ชาวประมงจบั ได้ ในเดอื นพฤศจกิ ายน ในเดอื นธนั วาคม ครูให้นกั เรยี นพิจารณาแผนภูมแิ ทง่ และถามนกั เรยี นวา่ “ถ้าต้องการเปรียบเทียบน้ำหนักของ สัตวน์ ำ้ ที่ชาวประมงจัดได้ในเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม โดยพิจารณาทลี ะแผนภูมแิ ท่งนักเรียนคิดว่า จะทำได้สะดวกหรอื ไม่ (ไม่สะดวก)” ครูอธิบายว่า “เพื่อให้เห็นการเปรียบเทียบน้ำหนักของสัตว์น้ำที่ชาวประมงจับได้ในเดือน พฤศจิกายนและเดือนธันวาคมอย่างชดั เจนและสะดวกขึ้น จงึ นำข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง มาเขียนในแผนภมู ิแท่ง เดียวกันและเรยี กว่า แผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทยี บ” แลว้ ครูขึ้นแผนภมู ิแท่งเปรยี บเทียบบนเพาเวอร์พอยด์ ดงั นี้ นำ้ หนักของสัตว์น้ำท่ีชาวประมงจบั ได้ ในเดอื นพฤศจกิ ายนและเดือนธนั วาคม
แล้วครถู ามคำถามต่อไปนี้ - ช่อื แผนภมู ิแทง่ นี้ (น้ำหนกั ของสัตว์น้ำท่ีชาวประมงจับได้ ในเดอื นพฤศจิกายนและเดือน ธนั วาคม) - แผนภูมิแทง่ นีแ้ สดงการเปรียบเทียบขอ้ มูลใด (น้ำหนักของสัตว์นำ้ ที่ชาวประมงจับได้ ใน เดอื นพฤศจกิ ายนและเดอื นธนั วาคม) - น้ำหนักของปลาที่ชาวประมงจบั ได้ในเดอื นพฤศจกิ ายนน้อยกว่าเดือนธนั วาคมกี่ตัน (20 – 15 = 5 ตัน) - นำ้ หนกั ของหอยที่ชาวประมงจับได้ในเดือนพฤศจิกายนมากกวา่ เดอื นธันวาคมก่ีตัน (8 – 6 = 2 ตนั ) - 3. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ แล้วครูขึน้ แผนภูมิแท่งย่น ระยะบนเพาเวอรพ์ อยด์ ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันตอบคำถาม และสง่ ตวั แทนมานำเสนอ จำนวนนกั เรยี นชน้ั ป.5 ทีช่ อบนำ้ ผลไมช้ นิดตา่ งๆ - น้ำผลไมช้ นิดใดที่นกั เรียนชอบมากที่สุด มนี กั เรียนชอบก่ีคน (นำ้ องุ่นกับน้ำสตรอเบอร์รี มนี กั เรียนชอบอยา่ งละ 8 คน) - นำ้ ผลไม้ชนิดใดท่มี ีจำนวนนักเรยี นชายและนักเรยี นหญงิ ชอบเท่ากนั (น้ำแอปเปลิ ) - น้ำผลไม้ชนิดใดที่มีจำนวนนักเรียนชายชอบมากกว่านักเรียนหญิง (น้ำองุ่น กับน้ำ สบั ปะรด) - ถ้าร้านค้าขายน้ำส้ม แก้วละ 8 บาท และนักเรียนที่ชอบน้ำส้ม ซื้อน้ำส้มคนละ 1 แก้ว รา้ นคา้ จะไดร้ บั เงนิ จากนกั เรียนทีซ่ ื้อน้ำส้มกี่บาท (56 บาท) - น้ำผลไมช้ นิดใดท่มี จี ำนวนนกั เรียนที่ชอบต่างกันอยู่ 2 คน (น้ำสตรอเบอรร์ ี)
ขั้นสรุป 4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบเป็นการ นำเสนอข้อมูลรูปแบบหนึ่ง โดยแผนภูมแิ ท่งเปรยี บเทยี บเป็นการนำเสนอข้อมูลของสิง่ เดียวกันและมลี ักษณะ เหมอื นกนั ต้งั แต่ 2 ชดุ ขน้ึ ไป 5. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัด 3.3 ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เลม่ 1 สสวท. 3. power point การสอน การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ท่ีตอ้ งการวดั วธิ วี ดั เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจความถกู ตอ้ งของ แบบฝกึ หดั 3.3 ระดับพอใช้ขึ้นไป แบบฝกึ หดั 3.3 ระดับพอใช้ขน้ึ ไป 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น ระดบั พอใช้ขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลักษณะ การเข้าเรียน การทำงาน แบบสังเกต พฤตกิ รรม ทีพ่ งึ ประสงค์ ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย และ การสง่ งานตรงเวลา
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายวิธกี ารอ่านแผนภมู แิ ท่งเปรียบเทียบได้ 2. นกั เรยี นสามารถอา่ นแผนภมู ิแทง่ เปรียบเทยี บได้ถูกต้อง 3. นักเรยี นต้ังใจเรยี นในเนือ้ หาที่คุณครูอธบิ าย มีความกลา้ แสดงออก ชว่ ยคณุ ครูตอบคำถาม เมื่อมีขอ้ สงสยั นักเรียนกล้าทจ่ี ะซกั ถาม เพ่อื ให้ตนเองเข้าใจ 2. ปัญหา/อุปสรรคทพ่ี บและแนวทางแกไ้ ข นกั เรียนบางสว่ นยังสับสนกบั การอา่ นแผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทยี บ มองข้อมูลที่กำหนดให้ และนำมาวิเคราะห์ยงั ไมถ่ กู ตอ้ ง จงึ ทำใหต้ อบคำถามจากแผนภูมแิ ทง่ เปรยี บเทยี บไมไ่ ด้ 3. ขอ้ เสนอแนะ ครอู ธบิ ายแผนภมู แิ ทง่ เปรยี บเทียบ เปน็ การนำเสนอขอ้ มูลของสิ่งเดียวกันและมีลกั ษณะข้อมลู เหมือนกัน ตงั้ แต่ 2 ชุดขนึ้ ไป โดยครยู กตัวอยา่ งแผนภมู ิแท่งเปรียบเทยี บประกอบ และใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตอบคำถาม ซึ่งดขู ้อมลู จากแผนภมู แิ ทง่ เปรยี บเทยี บทค่ี รกู ำหนดให้ และเปดิ โอกาสให้นกั เรียนซกั ถามข้อสงสัยได้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101 ปีการศกึ ษา 2565 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง การนำเสนอข้อมลู สพป.นราธวิ าส เขต 2 เร่อื ง การเขียนแผนภูมแิ ท่งทมี่ กี ารย่นระยะ ครผู สู้ อน นางสาวณัฐนันท์ พฒุ ยนื โรงเรยี นบา้ นสไุ หงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรูท้ างสถิติในการแกป้ ัญหา ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.5/2 : เขยี นแผนภูมิแท่งจากขอ้ มูลท่ีเปน็ จำนวนนับ สาระสำคัญ การเขียนแผนภูมิแท่งเป็นการใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ โดยให้ความสูงหรือ ความยาวของรปู สี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูปแสดงจำนวนแต่ละรายการ รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากทุกรูป มีความกว้าง เท่ากนั และเร่ิมต้นจากระดับเดียวกนั ที่ศนู ยร์ ปู ส่เี หลี่ยมมุมฉากแตล่ ะรูปมรี ะยะห่างเทา่ กนั การเขยี นแผนภูมิแท่งทมี่ ีแกนยน่ ระยะเป็นการนำเสนอข้อมูลท่ีมปี ริมาณมากหรือใกล้เคียงกัน นิยมใช้ แสดงการย่นระยะของเสน้ แสดงจำนวน เพอ่ื ละการแสดงข้อมลู ในชว่ งนั้น จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายวิธีการเขียนแผนภูมิแทง่ ทม่ี ีการย่นระยะได้ (K) 2. เขียนแผนภมู ิแทง่ ที่มกี ารยน่ ระยะได้ (P) 3. นำความรูเ้ ก่ยี วกบั การเขยี นแผนภมู ิแท่งทมี่ กี ารย่นระยะไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเขียนแผนภมู แิ ทง่ ทีม่ ีการย่นระยะ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสอื่ สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนการอ่านแผนภูมิแท่งที่มีการย่นระยะ โดยครูขึ้นแผ่นภูมิแท่งบนเพาเวอร์พอยด์ ดงั นี้ ปริมาณการใชน้ ้ำมนั ดเี ซลเฉล่ียต่อวนั ตง้ั แต่เดือนกรกฎาคม – เดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 - เดือนใดที่มีปริมาณการใชน้ ้ำมันดีเซลเฉลี่ยต่อวันน้อยกวา่ 60 ล้านลิตร (กรกฎาคมและ ตลุ าคม) - เดอื นพฤศจกิ ายน มปี ริมาณการใช้น้ำมันดเี ซลเท่าใด (64.98 ลา้ นลิตร) - เดือนธันวาคม มีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมเท่าใด (7.89 ล้านลติ ร) - ปรมิ าณการใชน้ ้ำมันดีเซลในชว่ ง 6 เดอื นหลังเป็นอย่างไร (มีแนวโน้มเพิ่มมากขน้ึ ) - ถา้ ในเดอื นตลุ าคม ราคานำ้ มันดีเซลเฉลย่ี ลติ รละ 25.90 บาท ในเดือนนจี้ ะมีมลู ค่าการใช้ น้ำมนั ดีเซลเทา่ ใด (1,506.344 ลา้ นบาท หรอื 1,506,344,000 บาท
ขนั้ สอน 2. ครูขึ้นตารางแสดงจำนวนนักเรียนชั้น ป.1-ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ปีการศึกษา 2561 บนเพาเวอรพ์ อยด์ ดงั น้ี ชั้น ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 จำนวน (คน) 250 242 238 247 233 240 แล้วครูถามนักเรยี น ดังนี้ - จากข้อมูลในตารางจำนวนนักเรียนชั้นที่น้อยที่สุดกี่คน และมากที่สุดที่คน (จำนวน นักเรยี นน้อยทสี่ ดุ คอื 233 คน และมากทส่ี ุด คอื 250 คน) - นักเรียนควรย่นระยะของแกนในช่วงใด (ตั้งแต่ 0 ถึง 230 คน) เพราะเหตุใด (จำนวน นักเรียนแต่ละชั้นทั้งหกชั้นมากกว่า 230 คน) แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกชื่อแผนภูมิและตัวแผนภูมิ ซ่ึง ประกอบด้วยแกนนอนแสดงระดับชนั้ และแกนตงั้ แสดงจำนวนนกั เรียน พรอ้ มกับที่มาโดยใหต้ อบทีละคน และ ครูเขียนแผนภูมิแท่งบนกระดานดงั น้ี จำนวนนักเรยี น ชน้ั ป.1-ป.6 ของโรงเรยี นแหง่ หนึง่ ปกี ารศึกษา 2561 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม พจิ ารณาตารางจำนวนผูต้ ้องหาคดียาเสพตดิ ประเภทเมทแอมเฟตามนี ทัว่ ประเทศ พ.ศ. 2551 – 2559
ปี จำนวน (ราย) พ.ศ. 2551 112,000 พ.ศ. 2552 131,273 พ.ศ. 2553 144,220 พ.ศ. 2554 184,513 พ.ศ. 2555 179,097 พ.ศ. 2556 218,779 พ.ศ. 2557 169,015 พ.ศ. 2558 119,127 พ.ศ. 2559 98,456 ทีม่ า : สำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ แล้วให้นักเรียนในแตล่ ะกลุ่มเขียนแผนภูมแิ ทง่ ท่มี ีแกนยน่ ระยะ เมอื่ นกั เรยี นทำเสรจ็ ครขู อ ตวั แทนกลมุ่ ออกมานำเสนอบนกระดาน ตัวอย่างเช่น จำนวนผตู้ ้องหาคดยี าเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามนี ท่ัวประเทศ พ.ศ. 2551 - พ.ศ. 2559 ทีม่ า : สำนักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ
ขั้นสรุป 4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ สิ่งทีไ่ ด้เรียนรรู้ ว่ มกัน ดงั นี้ 1. การเขียนแผนภูมิแท่งเป็นการใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ โดยให้ ความสูงหรือความยาวของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรปู แสดงจำนวนแต่ละรายการ รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากทุกรูป มคี วามกว้างเทา่ กนั และเร่ิมตน้ จากระดับเดียวกนั ท่ีศนู ย์ รูปส่เี หล่ียมมุมฉากแตล่ ะรปู มีระยะหา่ งเท่ากัน 2. การเขียนแผนภูมิแท่งที่มีแกนย่นระยะเป็นการนำเสนอข้อมูลที่มีประมาณมากหรือ ใกล้เคียงกนั นิยมใช้ แสดงการย่นระยะของเสน้ แสดงจำนวน เพอ่ื ละการแสดงขอ้ มลู ในชว่ งน้ัน 5. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั 3.4 สอื่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝึกหัดรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เลม่ 1 สสวท. 3. power point การสอน การวดั ผลและประเมนิ ผล ส่งิ ทต่ี อ้ งการวัด วธิ วี ัด เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ ตรวจความถกู ตอ้ งของ แบบฝกึ หัด 3.4 ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป แบบฝึกหัด 3.4 ระดับพอใช้ขน้ึ ไป 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ การเข้าเรยี น การทำงาน แบบสงั เกต พฤติกรรม ที่พงึ ประสงค์ ทไี่ ด้รบั มอบหมาย และ การส่งงานตรงเวลา
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ท่ี 4 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายวิธีการเขยี นแผนภมู ิแท่งทีม่ กี ารย่นระยะได้ 2. นกั เรียนสามารถเขียนแผนภมู ิแท่งทมี่ กี ารยน่ ระยะไดถ้ กู ต้อง 3. นักเรยี นต้ังใจเรยี นในเนอ้ื หาทค่ี ณุ ครอู ธิบาย มคี วามกลา้ แสดงออก ชว่ ยคณุ ครตู อบคำถาม เม่ือมีข้อสงสัย นกั เรยี นกลา้ ทจี่ ะซกั ถาม เพือ่ ให้ตนเองเขา้ ใจ และลงมอื เขยี นแผนภมู แิ ท่งทม่ี ีการยน่ ระยะอยา่ งตง้ั ใจ 2. ปญั หา/อปุ สรรคทพ่ี บและแนวทางแก้ไข นกั เรียนบางสว่ นไมเ่ ขยี นชือ่ แผนภูมิ เสน้ แสดงรายการ เส้นแสดงจำนวน ไม่ไดเ้ ขยี นเลข 0 ลืมเขียนการยน่ ระยะ แบ่งระยะห่างของข้อมลู ไม่เทา่ กนั ไมไ่ ด้เขียนที่มาของข้อมูล เว้นระยะหา่ งระหวา่ งรปู ส่ีเหล่ยี มแต่ละรปู ไม่ เท่ากัน เขยี นแผนภูมแิ ท่งท่มี กี ารยน่ ระยะไม่เรียบรอ้ ย 3. ข้อเสนอแนะ ครอู ธิบายการเขยี นแผนภมู ิแทง่ ที่มกี ารย่นระยะ โดยใชโ้ ปรแกรม GSP ซ่งึ อธิบายการเขียนแต่ละข้นั ตอน อยา่ งละเอียด พรอ้ มยกตัวอยา่ ง และใหน้ กั เรยี นฝึกเขยี นแผนภูมิแท่งทม่ี ีการย่นระยะไปพร้อมกนั แผนภูมแิ ทง่ ท่มี ีการ ย่นระยะ ประกอบดว้ ย ชื่อแผนภูมิ ตวั แผนภูมิ ตวั แผนภมู ิ ประกอบดว้ ย เส้นแสดงรายการ เสน้ แสดงจำนวน เลข 0 การยน่ ระยะ (ถา้ ข้อมูลนน้ั มปี รมิ าณมากหรอื ข้อมูลใกล้เคยี งกนั ) การเขียนรปู สเี่ หลยี่ มมมุ ฉากตอ้ งมีขนาดเท่ากัน เวน้ ระยะห่างเท่ากัน ถ้าข้อมูลมาก ๆ ให้เขียนตัวเลขกำกบั บนรูปส่ีเหลย่ี มมมุ ฉากนน้ั ๆ ไดเ้ ลย เพื่อจะไดอ้ ่านขอ้ มูลไดง้ า่ ย และถา้ มที ม่ี าให้เขยี นไวด้ ้านลา่ งขวาด้วย
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 15101 ปีการศึกษา 2565 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 12 ชั่วโมง เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การนำเสนอขอ้ มลู สพป.นราธวิ าส เขต 2 เรือ่ ง การเขยี นแผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทยี บ ครูผสู้ อน นางสาวณัฐนันท์ พุฒยนื โรงเรยี นบา้ นสุไหงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการแก้ปญั หา ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.5/2 : เขียนแผนภมู ิแท่งจากขอ้ มูลทเ่ี ป็นจำนวนนบั สาระสำคัญ การเขียนแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบเป็นการนำเสนอข้อมูลของสิ่งเดียวกันและมีลักษณะเหมือนกัน ตง้ั แตส่ องชุดข้นึ ไป โดยตอ้ งมกี ารกำหนดสัญลกั ษณเ์ พอื่ แสดงขอ้ มลู แตล่ ะชดุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวธิ ีการเขียนแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทียบได้ (K) 2. เขยี นแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทยี บได้ (P) 3. นำความร้เู กีย่ วกบั การเขียนแผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทยี บไปใช้ในชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การเขียนแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทยี บ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูทบทวนการอา่ นแผนภูมแิ ท่งเปรียบเทียบ โดยครูข้นึ แผ่นภูมิแทง่ บนเพาเวอร์พอยด์ ดงั นี้ ปรมิ าณนำ้ ในเขอ่ื น ปี พ.ศ. 2559 - พ.ศ. 2560 แล้วครูถามคำถามตอ่ ไปน้ี - เขือ่ นภมู ิพลมปี รมิ าณน้ำสูงสดุ ในปี พ.ศ. ใด (พ.ศ. 2560) - ปี พ.ศ. 2560 เขื่อนวชิราลงกรณ์มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าใด (เพิ่มขึ้น 1,100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 1,100,000,000 ลูกบาศก์เมตร) - เขื่อนใดบ้างที่มีปริมาณน้ำในปี พ.ศ. 2560 ลดลงจากปี พ.ศ. 2559 (เขื่อนสิรินธรและ เข่อื นรชั ชประภา) - เขื่อนใดบ้างที่มีปริมาณน้ำในปี พ.ศ. 2560 เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2559 มากกว่า 1,100 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร (เขอ่ื นภูมพิ ล) - เขอ่ื นใดที่มปี รมิ าณนำ้ ในปี พ.ศ. 2560 ตา่ งจากปี พ.ศ. 2559 มากท่สี ุด (เขือ่ นภมู พิ ล) ขนั้ สอน 2. ครูยกตัวอย่างตารางแสดงจำนวนนักเรียนช้ัน ป.1 - ป.6 ของโรงเรยี นดุสิตา ที่ไม่มาเรยี นใน วันท่ี 2 มกราคม พ.ศ. 2562 ดังน้ี
จำนวนนกั เรียนชั้น ป.1 - ป.6 ของโรงเรียนดสุ ติ า ท่ีไม่มาเรียนในวนั ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562 ช้นั จำนวน (คน) ชาย หญงิ ป.1 15 12 ป.2 8 10 ป.3 11 7 ป.4 9 11 ป.5 5 8 ป.6 2 3 แล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอกวิธีการเขยี นแผนภูมิแทง่ เปรยี บเทียบทลี ะคน โดยครูใชก้ ารถาม ตอบ ดงั น้ี - จากแผนภูมิชื่ออะไร (จำนวนนักเรยี นช้ัน ป.1 - ป.6 ของโรงเรียนดุสิตา ที่ไม่มาเรียนใน วันท่ี 2 มกราคม พ.ศ. 2562) - จากตารางแสดงการเปรียบเทียบอะไร (จำนวนนักเรียนเพศชายและเพศหญิง ของ โรงเรียนดสุ ติ า ทไี่ ม่มาเรยี นในวนั ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562) - การนำข้อเสนอข้อมูลจะต้องเขียนแผนภูมิประเภทใด (แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ) แกน นอนแสดงอะไร (นักเรียนชนั้ ป.1 - ป.6) และแกนต้งั แสดงอะไร (จำนวนนักเรียน) ครเู ขยี นแผนภมู ิแท่งโดยใช้โปรแกรม GSP ดงั น้ี จำนวนนกั เรยี นชัน้ ป.1 - ป.6 ของโรงเรยี นดสุ ติ า ทีไ่ ม่มาเรยี นในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562
3. ครูให้นักเรยี นพิจารณา ตารางรายรับ – รายจา่ ย ของ ด.ญ.ใบบวั ต้งั แตว่ นั จนั ทร์ – วันศุกร์ วัน จำนวนเงิน (บาท) รายรับ รายจา่ ย จนั ทร์ 20 15 อังคาร 25 10 พธุ 20 10 พฤหัสบดี 30 25 ศกุ ร์ 25 15 แล้วใหน้ ักเรยี นแต่ละคนเขียนแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทยี บ เมือ่ นกั เรียนเขียนแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทยี บเสร็จแล้ว ให้ช่วยกันบอกวธิ กี ารเขียนแผนภมู แิ ท่งเปรยี บเทียบจากขอ้ มูลทกี่ ำหนดให้ ขนั้ สรปุ 4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้รว่ มกนั ดังน้ี การเขียนแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบเป็น การนำเสนอข้อมลู ของส่งิ เดียวกัน และมีลกั ษณะเหมอื นกนั ต้งั แต่สองชดุ ขึน้ ไป โดยตอ้ งมกี ารกำหนดสัญลักษณ์ เพือ่ แสดงข้อมลู แต่ละชดุ 5. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด 3.5 หนา้ 104 เปน็ รายบุคคล ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝึกหดั รายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 เลม่ 1 สสวท. 3. power point การสอน
การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทีต่ อ้ งการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับพอใช้ขน้ึ ไป 1. ด้านความรู้ ตรวจความถูกตอ้ งของ แบบฝึกหดั 3.5 ระดับพอใช้ขน้ึ ไป แบบฝกึ หดั 3.5 หน้า 104 หน้า 104 ระดับพอใชข้ ึ้นไป 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ การเขา้ เรยี น การทำงาน แบบสงั เกต ทพ่ี งึ ประสงค์ ทีไ่ ด้รับมอบหมาย และ พฤติกรรม การส่งงานตรงเวลา
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ที่ 5 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายวิธีการเขียนแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบได้ 2. นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภูมิแทง่ เปรยี บเทียบได้ถูกต้อง 3. นกั เรยี นต้งั ใจเรียนในเนือ้ หาทค่ี ุณครอู ธบิ าย มคี วามกล้าแสดงออก ช่วยคณุ ครตู อบคำถาม เมือ่ มีข้อสงสยั นักเรียนกล้าทจี่ ะซักถาม เพอ่ื ใหต้ นเองเขา้ ใจ และลงมอื เขียนแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทยี บอยา่ งตัง้ ใจ 2. ปญั หา/อปุ สรรคทพ่ี บและแนวทางแก้ไข นกั เรยี นบางส่วนไม่เขยี นชื่อแผนภูมิ เสน้ แสดงรายการ เสน้ แสดงจำนวน ไมไ่ ด้เขยี นเลข 0 ลืมเขียนการยน่ ระยะ แบ่งระยะห่างของข้อมลู ไมเ่ ทา่ กัน ไม่ได้เขยี นท่ีมาของข้อมลู เวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งรปู ส่ีเหลย่ี มแตล่ ะรูป ไม่ เท่ากัน ไมไ่ ด้กำหนดสัญลกั ษณ์ เพ่ือแสดงข้อมลู แต่ละชุด เขยี นแผนภมู ิแทง่ เปรียบเทยี บไม่เรยี บรอ้ ย 3. ข้อเสนอแนะ ครอู ธิบายการเขยี นแผนภูมแิ ทง่ ที่เปรียบเทียบ โดยใช้โปรแกรม GSP ซึ่งอธบิ ายการเขียนแต่ละขัน้ ตอนอยา่ ง ละเอียด พร้อมยกตวั อยา่ ง และใหน้ กั เรยี นฝึกเขยี นแผนภมู แิ ท่งเปรยี บเทียบไปพรอ้ มกนั แผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบ ประกอบด้วย ช่อื แผนภมู ิ ตวั แผนภมู ิ ตัวแผนภูมิ ประกอบด้วย เส้นแสดงรายการ เส้นแสดงจำนวน เลข 0 การยน่ ระยะ (ถ้าขอ้ มูลน้ันมปี รมิ าณมากหรือขอ้ มูลใกลเ้ คยี งกัน) การเขียนรูปส่ีเหลีย่ มมมุ ฉากต้องมีขนาดเทา่ กนั เวน้ ระยะห่างเท่ากนั ถา้ ข้อมลู มาก ๆ ให้เขียนตัวเลขกำกบั บนรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉากนน้ั ๆ ได้เลย เพอ่ื จะได้อา่ นข้อมูลไดง้ า่ ย และถา้ มีทมี่ าใหเ้ ขียนไวด้ ้านลา่ งขวาดว้ ย การเขยี นแผนภูมแิ ทง่ เปรยี บเทียบเปน็ การนำเสนอข้อมลู ของสงิ่ เดียวกนั และ มลี ักษณะเหมือนกนั ต้ังแตส่ องชุดข้นึ ไป โดยต้องมกี ารกำหนดสญั ลกั ษณ์ เพื่อแสดงขอ้ มูลแต่ละชดุ ด้วย
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 15101 ปีการศึกษา 2565 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 12 ชั่วโมง เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การนำเสนอขอ้ มลู สพป.นราธวิ าส เขต 2 เรือ่ ง การเขยี นแผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทยี บ ครูผสู้ อน นางสาวณัฐนันท์ พุฒยนื โรงเรยี นบา้ นสุไหงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการแก้ปญั หา ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.5/2 : เขียนแผนภมู ิแท่งจากขอ้ มูลทเ่ี ป็นจำนวนนบั สาระสำคัญ การเขียนแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบเป็นการนำเสนอข้อมูลของสิ่งเดียวกันและมีลักษณะเหมือนกัน ตง้ั แตส่ องชุดข้นึ ไป โดยตอ้ งมกี ารกำหนดสัญลกั ษณเ์ พอื่ แสดงขอ้ มลู แตล่ ะชดุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวธิ ีการเขียนแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทียบได้ (K) 2. เขยี นแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทยี บได้ (P) 3. นำความร้เู กีย่ วกบั การเขียนแผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทยี บไปใช้ในชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การเขียนแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทยี บ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครูทบทวนการอ่านแผนภมู แิ ท่งเปรยี บเทียบ โดยครูข้ึนแผ่นภมู ิแท่งแสดงจำนวนประชากร 5 ประเทศ ในกลุ่มอาเซียน พ.ศ. 2560 บนเพาเวอรพ์ อยด์ ดงั นี้ จำนวนประชากร 5 ประเทศ ในกลุม่ อาเซียน พ.ศ. 2560 แล้วครถู ามคำถามต่อไปนี้ - ประเทศใดมจี ำนวนประชากรชายมากกวา่ ประชากรหญิง (ฟิลปิ ปนิ ส์และมาเลเซยี ) - ประเทศใดมีจำนวนประชากรชายและประชากรหญงิ ตา่ งกันมากที่สุด (ไทย) - ประเทศท่มี ีประชากรมากท่ีสดุ กบั ประเทศที่มปี ระชากรนอ้ ยทสี่ ดุ มปี ระชากรต่างกนั ก่ีคน (73,605,029 คน) - 5 ประเทศในกลุ่มอาเซียน มีประชากรชายมากกว่าหรือน้อยกว่าประชากรหญิงกี่คน (ประชากรชายนอ้ ยกวา่ ประชากรหญิง 2,290,675 คน) ข้ันสอน 2. ครูยกตวั อย่างตารางแสดงคะแนนสอบ O-NET 4 วิชา ของนักเรยี น 3 คน ดงั นี้
คะแนนสอบ O-NET 4 วิชา ของนกั เรยี น 3 คน วชิ า จินดา คะแนน จริ า 72 ภมี ม์ 80 คณติ ศาสตร์ 80 95 98 วทิ ยาศาสตร์ 97 86 99 ภาษาองั กฤษ 84 84 75 ภาษาไทย 90 ครถู ามนักเรยี นว่า - จากตารางมขี ้อมลู อะไรบา้ ง (คะแนนสอบ O-NET ของจนิ ดา ภีมม์ และจิรา) - ซึ่งแกนนอนแสดงอะไร (วิชา) และแกนตั้งแสดงอะไร (คะแนน) คะแนนสอบ O-NET น้อยทสี่ ดุ คอื เท่าไร (72 คะแนน) จงึ ควรมกี ารย่นระยะในชว่ งใด (ต้ังแต่ 0 ถงึ 60) แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกวิธีการเขียนแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบทีละคน ตั้งแต่ชื่อแผนภูมิ การเขียนแกนนอนแสดงวิชาตา่ ง ๆ และแกนตง้ั แสดงคะแนนแต่ละวิชามรี ูปสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก 3 รูป โดยรูปแรก แสดงคะแนนของจนิ ดา รูปทส่ี องแสดงคะแนนของภีมม์ และรปู ที่สามแสดงคะแนนของจริ า ดงั นี้ คะแนนสอบ O-NET 4 วิชา ของนักเรียน 3 คน 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม พจิ ารณาตารางจำนวนผตู้ อ้ งหาคดียาเสพตดิ ประเภทเฮโรอีน ยาไอซ์ กญั ชาแหง้ ทั่วประเทศ พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2559
จำนวนผ้ตู ้องหาคดยี าเสพติดประเภทเฮโรอีน ยาไอซ์ กญั ชาแห้ง ทั่วประเทศ พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2559 ปี เฮโรอนี จำนวนผ้ตู อ้ งหา (ราย) 1,054 ยาไอซ์ กัญชาแห้ง พ.ศ. 2555 1,205 12,938 29,882 พ.ศ. 2556 1,178 18,726 23,068 พ.ศ. 2557 1,064 16,620 14,367 พ.ศ. 2558 1,003 13,097 11,365 พ.ศ. 2559 10,121 13,378 ทม่ี า : สำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด แล้วใหน้ ักเรียนในแตล่ ะกล่มุ เขียนแผนภูมิแท่งเปรียบเทยี บ เมือ่ นกั เรียนทำเสร็จ ครขู อ ตัวแทนกล่มุ ออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรยี น ขัน้ สรปุ 4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ สิ่งที่ได้เรยี นรรู้ ว่ มกัน ดงั นี้ การเขียนแผนภูมแิ ท่งเปรียบเทียบเป็น การนำเสนอขอ้ มลู ของสิง่ เดยี วกนั และมีลักษณะเหมอื นกันตัง้ แต่สองชุดข้ึนไป โดยต้องมีการกำหนดสัญลักษณ์ เพ่อื แสดงขอ้ มลู แตล่ ะชดุ 5. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั 3.5 หน้า 105 เปน็ รายบุคคล
สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝกึ หัดรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 สสวท. 3. power point การสอน การวดั ผลและประเมินผล สง่ิ ทตี่ ้องการวดั วธิ วี ัด เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั พอใชข้ ้ึนไป 1. ด้านความรู้ ตรวจความถกู ตอ้ งของ แบบฝึกหดั 3.5 ระดบั พอใช้ขึน้ ไป แบบฝกึ หัด 3.5 หนา้ 105 หนา้ 105 ระดับพอใชข้ ้นึ ไป 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ การเขา้ เรียน การทำงาน แบบสงั เกต ที่พึงประสงค์ ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย และ พฤตกิ รรม การส่งงานตรงเวลา
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายวธิ ีการเขียนแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบได้ 2. นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภูมิแท่งเปรยี บเทยี บได้ถูกต้อง 3. นกั เรยี นต้งั ใจเรียนในเนือ้ หาที่คุณครอู ธิบาย มีความกล้าแสดงออก ช่วยคณุ ครตู อบคำถาม เมื่อมีขอ้ สงสยั นักเรียนกล้าทจี่ ะซักถาม เพอ่ื ใหต้ นเองเขา้ ใจ และลงมือเขียนแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทยี บอย่างตัง้ ใจ 2. ปญั หา/อปุ สรรคทพ่ี บและแนวทางแกไ้ ข นกั เรยี นบางส่วนไม่เขยี นชื่อแผนภูมิ เสน้ แสดงรายการ เสน้ แสดงจำนวน ไมไ่ ดเ้ ขียนเลข 0 ลืมเขียนการย่น ระยะ แบ่งระยะห่างของข้อมลู ไมเ่ ทา่ กัน ไม่ได้เขียนท่ีมาของขอ้ มลู เวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งรปู ส่ีเหลย่ี มแตล่ ะรปู ไม่ เท่ากัน ไมไ่ ด้กำหนดสัญลกั ษณ์ เพอื่ แสดงข้อมลู แตล่ ะชดุ เขียนแผนภมู ิแทง่ เปรียบเทียบไม่เรยี บรอ้ ย 3. ข้อเสนอแนะ ครอู ธิบายการเขยี นแผนภูมแิ ท่งท่ีเปรียบเทียบ โดยใช้โปรแกรม GSP ซึ่งอธบิ ายการเขียนแตล่ ะข้นั ตอนอยา่ ง ละเอียด พร้อมยกตวั อยา่ ง และให้นกั เรยี นฝกึ เขยี นแผนภูมิแทง่ เปรยี บเทียบไปพรอ้ มกัน แผนภูมแิ ท่งเปรียบเทียบ ประกอบด้วย ช่อื แผนภมู ิ ตวั แผนภมู ิ ตวั แผนภมู ิ ประกอบดว้ ย เส้นแสดงรายการ เสน้ แสดงจำนวน เลข 0 การยน่ ระยะ (ถ้าขอ้ มูลน้ันมปี รมิ าณมากหรือข้อมูลใกลเ้ คียงกนั ) การเขยี นรูปส่ีเหลีย่ มมมุ ฉากตอ้ งมีขนาดเทา่ กัน เว้น ระยะห่างเท่ากนั ถา้ ข้อมลู มาก ๆ ให้เขยี นตวั เลขกำกบั บนรปู สเ่ี หล่ียมมุมฉากนน้ั ๆ ไดเ้ ลย เพอ่ื จะไดอ้ า่ นข้อมูลไดง้ า่ ย และถา้ มีทมี่ าใหเ้ ขียนไวด้ ้านลา่ งขวาดว้ ย การเขียนแผนภมู แิ ท่งเปรยี บเทียบเปน็ การนำเสนอข้อมลู ของสิ่งเดียวกัน และ มลี ักษณะเหมือนกนั ต้ังแตส่ องชุดข้ึนไป โดยตอ้ งมีการกำหนดสญั ลกั ษณ์ เพื่อแสดงขอ้ มลู แต่ละชุดด้วย
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101 ปกี ารศึกษา 2565 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การนำเสนอขอ้ มูล สพป.นราธิวาส เขต 2 เรอ่ื ง การอา่ นกราฟเส้น ครูผสู้ อน นางสาวณัฐนนั ท์ พุฒยนื โรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปญั หา ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.5/1 : ใช้ข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา สาระสำคัญ กราฟเสน้ เป็นการนำเสนอขอ้ มูล โดยใช้จดุ และสว่ นของเส้นตรงที่ลากเชื่อมตอ่ จุด ซ่ึงจดุ แต่ละจุด จะ บอกจำนวนหรือปริมาณของข้อมูลแต่ละรายการ นิยมใช้กราฟเส้นกับข้อมูลที่แสดงการเปลี่ยนแปลงอย่าง ตอ่ เนอ่ื งตามลำดบั กอ่ นหลังของเวลา จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวิธีการอ่านกราฟเสน้ ได้ (K) 2. อา่ นข้อมูลจากกราฟเส้นได้ (P) 3. นำความร้เู กย่ี วกบั การอา่ นกราฟเสน้ ไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การอา่ นกราฟเส้น ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครทู บทวนการอา่ นแผนภูมิแทง่ โดยนำแผนภมู ิแทง่ ตอ่ ไปนี้ ขน้ึ บนเพาเวอร์พอยด์ให้นักเรียน อา่ น ดังน้ี อุณหภมู ิของอากาศบรเิ วณท้องฟ้าจำลอง กรงุ เทพมหานคร ในวันที่ 30 มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 จากนั้นครูถามว่าแผนภูมิแท่งแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอะไร แกนนอนและแกนตั้งของแต่ละ แผนภูมิแสดงอะไร (อุณหภูมิของอากาศบริเวณท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 แกนนอนแสดงเวลา แกนตั้งแสดงอณุ หภูมิ) จากน้นั ครแู นะนำนักเรยี นว่าแผนภมู ิแท่งตามทกี่ ำหนดสามารถนำเสนอไดโ้ ดยใช้กราฟเสน้ ขน้ั สอน 2. ครูกำหนดจุดกึ่งกลางด้านบนสุดของแต่ละแท่งของแผนภูมิ ซึ่งแสดงอุณหภูมิของอากาศ บริเวณทอ้ งฟา้ จำลอง กรุงเทพมหานคร ในวันท่ี 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ดังรูป 3. ครเู ขียนกราฟเส้นแสดงอุณหภูมิของอากาศบริเวณทอ้ งฟา้ จำลอง กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ดังนี้
จากกราฟเส้น ครถู ามคำถามตอ่ ไปน้ี - ต้ังแต่เวลา 12.00 น. ถงึ 16.00 น. ลักษณะอณุ หภมู ิของอากาศบรเิ วณทอ้ งฟา้ จำลอง เปน็ อย่างไร (ต้ังแต่เวลา 12.00 น. ถงึ 16.00 น. อุณหภูมลิ ดลงอยา่ งตอ่ เน่ือง) - เวลาใดท่ีอณุ หภูมิของอากาศบริเวณทอ้ งฟ้าจำลองสงู สุดและเทา่ ไร (เวลา 12.00 น. อณุ หภมู ิ 35 องศาเซลเซียส) - เวลาใดทอ่ี ณุ หภมู ิของอากาศบรเิ วณท้องฟ้าจำลองตำ่ สุดและเทา่ ไร (เวลา 08.00 น. และ 16.00 น. อณุ หภมู ิ 30 องศาเซลเซยี ส) - อุณหภูมิของอากาศบรเิ วณทอ้ งฟา้ จำลองเวลา 10.00 น. ต่างจากเวลา 12.00 น. เท่าใด (35 – 32 = 3 องศาเซลเซยี ส) - ช่วงเวลาใดทอี่ ณุ หภูมขิ องอากาศบริเวณท้องฟ้าจำลองมอี ุณหภมู เิ ทา่ กนั (เวลา 08.00 น. และ 16.00 น.) - ตง้ั แต่เวลา 08.00 น. ถงึ 12.00 น. ลักษณะอุณหภูมขิ องอากาศบรเิ วณท้องฟ้าจำลอง เปน็ อย่างไร (ตงั้ แต่เวลา 08.00 น. ถึง 12.00 น. อณุ หภูมิเพิม่ ขนึ้ อย่างตอ่ เน่ือง) แล้วครูถามนักเรียนว่า การนำเสนอข้อมูลทั้ง 2 รูปแบบ คือ แผนภูมิแท่งและกราฟเส้น รปู แบบใดที่เหน็ ได้ชดั เจนและอา่ นไดง้ ่ายกวา่ (กราฟเส้น) 4. ครูแบ่งนกั เรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ แล้วครูข้ึนกราฟเสน้ บน เพาเวอรพ์ อยด์ ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ พิจารณา ดงั นี้
ความสงู ของตน้ ถว่ั เขียวในเวลา 15 วัน แล้วครูถามคำถามต่อไปนี้ ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มตอบ เมื่อทำเสร็จตัวแทนกลุ่มมาเฉลยหนา้ ชั้นเรยี น - เส้นแสดงจำนวนและเส้นแสดงรายการแสดงข้อมูลใด (เส้นแสงจำนวน แสดงความสูง ของต้นถว่ั เขยี ว เสน้ แสดงรายการแสดงอายขุ องตน้ ถั่วเขยี ว) - ช่วงอายุใดที่ความสูงของต้นถั่วเขียวมีการเปล่ียนแปลงมากทีส่ ุด รู้ได้อย่างไร (อายุ 9 – 11 วัน เป็นช่วงที่ความสูงของตน้ ถั่วเขียวเปลี่ยนแปลงมากที่สุด สังเกตจากเส้นกราฟจะค่อนข้างชันมากกว่า ชว่ งอ่นื ) - ต้นถ่วั เขยี วอายุ 8 วนั มคี วามสงู เท่าใด (ประมาณ 5 เซนตเิ มตร) - ต้นถั่วเขียวอายุ 1 วัน กบั 15 วัน มีความสงู ต่างกนั เท่าใด (10.2 เซนติเมตร) ข้นั สรปุ 5. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกัน ดงั น้ี กราฟเสน้ เป็นการนำเสนอขอ้ มูลโดยใช้ จุดและส่วนของเส้นตรงท่ีลากเชือ่ มต่อจุด ซึ่งจุดแต่ละจุดจะบอกจำนวนหรือปรมิ าณของข้อมูลแตล่ ะรายการ นยิ มใช้กราฟเสน้ กับขอ้ มลู ทีแ่ สดงการเปลยี่ นแปลงอย่างต่อเนือ่ งตามลำดับก่อนหลังของเวลา 6. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั 3.6 เป็นรายบุคคล ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝึกหดั รายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 สสวท. 3. power point การสอน
การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ท่ตี ้องการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ตรวจความถูกต้องของ แบบฝกึ หัด 3.6 ระดบั พอใช้ข้นึ ไป แบบฝกึ หดั 3.6 ระดบั พอใช้ขึ้นไป 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น ระดับพอใชข้ น้ึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ การเขา้ เรียน การทำงาน แบบสังเกต พฤติกรรม ทีพ่ ึงประสงค์ ที่ไดร้ บั มอบหมาย และ การส่งงานตรงเวลา
บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ท่ี 7 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายวิธกี ารอา่ นกราฟเสน้ ได้ 2. นกั เรียนสามารถอ่านขอ้ มูลจากกราฟเสน้ ได้ถกู ตอ้ ง 3. นกั เรยี นตงั้ ใจเรียนในเน้ือหาท่คี ณุ ครูอธิบาย มีความกลา้ แสดงออก ชว่ ยคุณครตู อบคำถาม เมื่อมีขอ้ สงสัย นักเรยี นกลา้ ทจี่ ะซกั ถาม เพ่ือใหต้ นเองเขา้ ใจ 2. ปัญหา/อุปสรรคทพี่ บและแนวทางแกไ้ ข นกั เรยี นบางสว่ นยงั สับสนกับการอ่านขอ้ มูลจากกราฟเสน้ มองขอ้ มลู ท่กี ำหนดให้ และนำมาวิเคราะห์ยงั ไม่ ถูกตอ้ ง จึงทำให้ตอบคำถามจากกราฟเสน้ ไม่ได้ 3. ข้อเสนอแนะ ครอู ธิบายกราฟเส้น เปน็ การนำเสนอข้อมูล โดยใช้จดุ และสว่ นของเสน้ ตรงที่ลากเชือ่ มจดุ ซ่ึงจดุ แต่ละจดุ จะ บอกจำนวนหรือปริมาณของข้อมูลแต่ละรายการ นิยมใช้กราฟเสน้ กับขอ้ มูลท่แี สดงการเปล่ยี นแปลงอยา่ งต่อเนือ่ ง ตามลำดบั กอ่ นหลังของเวลา โดยครยู กตวั อยา่ งกราฟเสน้ ประกอบ และใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคำถาม ซงึ่ ดูข้อมลู จาก กราฟเสน้ ท่คี รูกำหนดให้ และเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามขอ้ สงสัยได้
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101 ปกี ารศึกษา 2565 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 12 ชั่วโมง เวลา 1 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การนำเสนอข้อมูล สพป.นราธวิ าส เขต 2 เรื่อง การเขียนกราฟเส้น ครผู สู้ อน นางสาวณัฐนันท์ พุฒยนื โรงเรียนบา้ นสไุ หงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแกป้ ัญหา ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.5/1 : ใช้ขอ้ มลู จากกราฟเสน้ ในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา สาระสำคัญ การเขยี นกราฟเส้นเป็นการนำเสนอข้อมลู โดยใชจ้ ดุ และสว่ นของเสน้ ตรงท่ีลากเชื่อมตอ่ จุด ซ่งึ จดุ แต่ละ จุดจะบอกจำนวนหรือปริมาณของขอ้ มลู แตล่ ะรายการ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวิธีการเขยี นกราฟเส้นได้ (K) 2. อ่านขอ้ มลู จากกราฟเส้นได้ (P) 3. นำความรูเ้ ก่ียวกบั การเขยี นกราฟเสน้ ไปใชใ้ นชวี ิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การเขยี นกราฟเส้น ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนการอา่ นกราฟเสน้ โดยครูขึ้นกราฟเสน้ บนเพาเวอรพ์ อยด์ ดังน้ี อณุ หภมู สิ งู สดุ ของจงั หวัดขอนแกน่ ในสัปดาหแ์ รกของเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 - กราฟนี้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องใด (อุณหภูมิสูงสุดของจังหวัดขอนแก่นในสัปดาห์แรก ของเดอื นมกราคม พ.ศ. 2561) - วนั องั คารมอี ณุ หภูมสิ งู สดุ เท่าใด (29 องศาเซลเซียส) - วันใดมีอุณหภูมิสูงสุด วันใดมีอุณหภูมิต่ำสุด (วันอาทิตย์มีอุณหภูมิสูงสุด วันพุธและวนั เสาร์มอี ณุ หภมู ติ ำ่ สุด) - อณุ หภมู สิ งู สดุ กับอุณหภมู ิตำ่ สดุ ในสปั ดาหน์ ีต้ ่างกันเทา่ ใด (ต่างกนั 5 องศาเซลเซยี ส) - วันใดบ้างที่อณุ หภมู ิสงู สุดเท่ากัน และมีอุณหภมู ิเท่าใด (วันจันทร์และวันศุกร์ 32 องศา เซลเซียส วันพุธและวนั เสาร์ 28 องศาเซลเซยี ส) - อุณหภูมิสงู สดุ โดยเฉล่ยี ในสัปดาห์นเ้ี ปน็ เทา่ ใด (30.3 องศาเซลเซียส) - ช่วงใดที่อุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด สังเกตจากอะไร (ช่วงวันเสาร์-วันอาทิตย์ โดยสังเกตจากการเปรยี บเทยี บความลาดเอียงของเส้นกราฟในแต่ละชว่ ง)
ขั้นสอน 2. ครูยกตัวอยา่ งตารางแสดงนำ้ หนกั ของ ด.ญ.แก้วตา ในช่วงคร่ึงปหี ลัง ดงั นี้ นำ้ หนักของ ด.ญ.แกว้ ตา ในช่วงคร่ึงปีหลงั เดอื น กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตลุ าคม พฤศจกิ ายน ธนั วาคม น้ำหนกั 33.0 32.5 33.2 35.1 34.7 35.4 (กก.) แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกวิธกี ารเขียนกราฟเสน้ ทีละคน โดยครใู ช้การถามตอบ ดังนี้ - จากตารางแสดงอะไร (น้ำหนักของ ด.ญ.แกว้ ตา ในชว่ งครึง่ ปีหลงั ) - เส้นแสดงจำนวนและเส้นแสดงรายการแสดงข้อมูลใด (เส้นแสดงจำนวนแสดงน้ำหนัก ของ ด.ญ.แกว้ ตา เส้นแสดงรายการแสดงเดือนในครึง่ ปหี ลงั ) ครูเขียนกราฟเส้น โดยใช้โปรแกรม GSP ดงั น้ี นำ้ หนกั ของ ด.ญ.แกว้ ตา ในชว่ งครึ่งปหี ลัง
3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม พจิ ารณาตารางปรมิ าณการใชน้ ำ้ ประปาของครอบครวั แกว้ ตา เดอื นพฤษภาคม-เดอื นตุลาคม ปริมาณการใชน้ ้ำประปาของครอบครวั แกว้ ตา เดือนพฤษภาคม-เดอื นตุลาคม เดอื น พฤษภาคม มถิ ุนายน กรกฎาคม สงิ หาคม กันยายน ตลุ าคม 34.7 35.4 น้ำหนกั 33.0 32.5 33.2 35.1 (ลูกบาศกเ์ มตร) แลว้ ใหน้ ักเรียนในแตล่ ะกลุม่ เขยี นกราฟเสน้ เมอ่ื นักเรียนทำเสรจ็ ครูขอตวั แทนกลุม่ ออกมา นำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น ขน้ั สรปุ 4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเขียนกราฟเส้นเป็นการนำเสนอ ข้อมูลโดยใช้จุดและส่วนของเส้นตรงที่ลากเชื่อมต่อจุด ซึ่งจุดแต่ละจุดจะบอกจำนวนหรือปริมาณของข้อมลู แตล่ ะรายการ 5. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั 3.7 เป็นรายบุคคล สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝกึ หัดรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 เลม่ 1 สสวท. 3. power point การสอน
การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ท่ตี ้องการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ตรวจความถูกต้องของ แบบฝกึ หัด 3.7 ระดบั พอใช้ข้นึ ไป แบบฝกึ หดั 3.7 ระดบั พอใช้ขึ้นไป 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น ระดับพอใชข้ น้ึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ การเขา้ เรียน การทำงาน แบบสังเกต พฤติกรรม ทีพ่ ึงประสงค์ ที่ไดร้ บั มอบหมาย และ การส่งงานตรงเวลา
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ท่ี 8 1. ผลการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวธิ ีการเขียนกราฟเส้นได้ 2. นักเรียนสามารถอา่ นขอ้ มูลจากกราฟเสน้ ได้ถูกต้อง 3. นกั เรียนตั้งใจเรียนในเน้ือหาท่ีคุณครอู ธิบาย มีความกล้าแสดงออก ชว่ ยคณุ ครตู อบคำถาม เมื่อมีขอ้ สงสัย นกั เรียนกล้าทจี่ ะซักถาม เพ่ือให้ตนเองเขา้ ใจ และลงมือเขยี นกราฟเส้นอย่างต้งั ใจ 2. ปญั หา/อุปสรรคท่ีพบและแนวทางแกไ้ ข นกั เรยี นบางสว่ นไม่เขียนชื่อกราฟเสน้ เสน้ แสดงรายการ เส้นแสดงจำนวน ไม่ไดเ้ ขยี นเลข 0 ลืมเขียนการย่น ระยะ แบ่งระยะห่างของข้อมูลไม่เท่ากนั ไมไ่ ด้เขยี นที่มาของข้อมลู เว้นระยะห่างระหวา่ งจุดไม่เท่ากัน ไม่ได้เขยี นขอ้ มลู กำกับท่จี ดุ และเขียนกราฟเสน้ ไม่เรยี บรอ้ ย 3. ข้อเสนอแนะ ครอู ธิบายการเขียนกราฟเสน้ โดยใช้โปรแกรม GSP ซึง่ อธิบายการเขียนแตล่ ะข้นั ตอนอย่างละเอยี ด พรอ้ ม ยกตัวอยา่ ง และใหน้ กั เรยี นฝกึ เขยี นกราฟเสน้ ไปพร้อมกัน กราฟเสน้ ประกอบดว้ ย ช่ือกราฟเสน้ ตวั กราฟเส้น ตัวกราฟเสน้ ประกอบด้วย เส้นแสดงรายการ เส้นแสดงจำนวน เลข 0 การย่นระยะ (ถ้าข้อมูลนน้ั มปี ริมาณมากหรือ ขอ้ มลู ใกลเ้ คียงกัน) การเขียนจดุ การเว้นระยะห่างตอ้ งเทา่ กนั ให้เขยี นตวั เลขกำกับบนจุดไดเ้ ลย เพือ่ จะไดอ้ ่านข้อมูล ได้งา่ ย และถา้ มที ม่ี าให้เขียนไว้ด้านล่างขวาดว้ ย การเขียนกราฟเสน้ เปน็ การนำเสนอข้อมูลโดยใชจ้ ุดและสว่ นของ เสน้ ตรงลากเชื่อมต่อจุด ซ่งึ จดุ แตล่ ะจดุ จะบอกจำนวนหรือปริมาณของข้อมลู แตล่ ะรายการ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101 ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การนำเสนอข้อมลู สพป.นราธวิ าส เขต 2 เร่อื ง โจทยป์ ัญหาแผนภมู ิแท่ง ครผู สู้ อน นางสาวณัฐนนั ท์ พฒุ ยนื โรงเรียนบา้ นสไุ หงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิตใิ นการแก้ปัญหา ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.5/2 : เขยี นแผนภมู ิแทง่ จากข้อมลู ทีเ่ ป็นจำนวนนับ สาระสำคัญ การแก้โจทย์ปัญหาเกีย่ วกับแผนภมู แิ ท่งจะต้องพิจารณาวา่ คำถามคอื อะไร แล้วนำข้อมูลจากแผนภูมิ แทง่ มาใช้ในการหาคำตอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ตรวจสอบวิธีการหาคำตอบโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั การอ่านแผนภมู ิแท่งได้ (K) 2. แสดงวิธหี าคำตอบจากแผนภมู ิแท่งได้ (P) 3. นำความรเู้ กี่ยวกับโจทย์ปญั หาแผนภมู แิ ท่งไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทย์ปัญหาแผนภูมแิ ท่ง ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสือ่ สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอื่ มโยง คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
Search