Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 75640_การตั้งคำถาม (1)

75640_การตั้งคำถาม (1)

Published by Am.my1994, 2020-05-12 22:00:34

Description: 75640_การตั้งคำถาม (1)

Search

Read the Text Version

ประเดน็ การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ 05/06/57 • ความสําคญั ของการส่งเสริมทักษะการคดิ ข้นั สูงของ 1 ผู้เรียนศตวรรษ ใน 21 ด้วยสื่อการสอนมิติใหม่ • แนะนํากระบวนการสร้างสื่อการสอนเพอ่ื ส่งเสริมทกั ษะ การคดิ ข้นั สูงเบือ้ งต้น • การต้งั คาํ ถามเพอื่ ส่งเสริมทกั ษะการคดิ ข้นั สูง การต้ังคาํ ถาม อาจารย์ ดร.ศยามน อนิ สะอาด คณผะ้ศูอึํากนษวายศกาสาwรตwศรูน์wมย.ห์เtทhาควeทิmโนยeโLาลgลยa/ยั Olสีรlาาeรม/rสGyค.นําcแ/เoทOหmศง การใช้คาํ ถาม • การใช้คาํ ถาม หมายถึง การใชป้ ระเภทของคาํ ถามเป็น และรู้จกั ลกั ษณะการถามท่ีดี การใชป้ ระเภทของคาํ ถาม ท้งั คาํ ถามง่ายและคาํ ถามยาก หรือท้งั คาํ ถามแคบและ คาํ ถามกวา้ ง หรือท้งั คาํ ถามระดบั ต่าํ และคาํ ถามระดบั สูง

การใช้คาํ ถาม 05/06/57 • แนวทางการถามคาํ ถาม 2 1) ครูเป็นผถู้ ามคาํ ถามใหผ้ เู้ รียนตอบ 2) ครูและนกั เรียนร่วมกนั ถามคาํ ถาม ร่วมกนั อภิปราย 3) นกั เรียนเป็นผถู้ ามคาํ ถาม ส่วนลกั ษณะการถามคาํ ถามทด่ี นี ้ันเป็ นศิลปะในการถาม คาํ ถามทีท่ าํ ให้สามารถกระตุ้นการคดิ ของผู้เรียน กระตุ้น ให้ผู้เรียนกล้าตอบสนองและกล้าถามย้อนกลบั ประโยชน์ของคาํ ถาม • เพื่อส่งเสริมทกั ษะทางการคิดใหแ้ ก่ผเู้ รียน • เพื่อกระตุน้ ความสนใจในการเรียน ทาํ ใหผ้ เู้ รียนต่ืนตวั สนใจ เรียนดีข้ึน • ช่วยขยายความคิดและแนวทางในการเรียนรู้แก่ผเู้ รียน • ช่วยใหผ้ เู้ รียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน • เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงความรู้เดิมกบั ความรู้ใหม่ • ปลูกฝังนิสยั รักการคน้ ควา้ เพ่ือหาคาํ ตอบจากคาํ ถามที่ไดร้ ับ • ใชว้ ดั ผลประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รียนไดด้ ี ประเภทของคาํ ถาม คาํ ถามทใี่ ช้ความคดิ พนื้ ฐาน ความจาํ การสังเกต คาํ ถามเพอ่ื การคดิ ค้น ความเข้าใจ การนาํ ไปใช้ การเปรียบเทยี บ เหตุและผล สรุปหลกั การ คาํ ถามทข่ี ยายความคดิ คะเน การวางแผน การวจิ ารณ์ การประเมินค่า

คาํ ถามทใี่ ช้ความคดิ พนื้ ฐาน 05/06/57 3 • เป็นคาํ ถามง่ายๆ ไมจ่ าํ เป็นตอ้ งใชค้ วามคิดสูงนกั - ใชค้ าํ ถามชนิดน้ีเพ่ือใหน้ กั เรียนระลึกถึงความรู้เดิม - เพื่อใหพ้ จิ ารณาจากประสบการณ์ที่เกิดข้ึนในขณะน้นั - เป็นคาํ ถามที่ครูสามารถถามไดง้ ่าย - ใชเ้ พอื่ ฝึกใหเ้ กิดความคล่องในการถาม - เป็นพ้ืนฐานท่ีสาํ คญั ท่ีจะพฒั นาความสามารถของผสู้ อน ไปสู่คาํ ถามท่ีใชค้ วามคิดสูงยง่ิ ข้ึน คาํ ถามทใ่ี ช้ความคดิ พนื้ ฐาน - ความจาํ • ความจํา - คาํ ถามท่ีจะไดค้ าํ ตอบจากความรู้ท่ีเรียนผา่ น มาแลว้ หรือจากประสบการณ์ของผตู้ อบ - คาํ ถามอาจเป็นขอ้ เทจ็ จริงโดดๆ หรือขอ้ เทจ็ จริง หลายอยา่ งท่ีสมั พนั ธ์กนั ไดแ้ ก่ ความรู้เกี่ยวกบั ศพั ท์ นิยาม กฎ ระเบียบ ลาํ ดบั ข้นั การจดั ประเภท เกณฑ์ วิธีการและหลกั วิชา - การเล่าเร่ือง หรือยกตวั อยา่ งประกอบโดยอาศยั ประสบการณ์ท่ีผา่ นมา คาํ ถามทใี่ ช้ความคดิ พนื้ ฐาน - ความจาํ • ความจํา ตวั อยา่ งคาํ ถามความจาํ • สิ่งมีชีวิตตอ้ งการก๊าซอะไรหายใจ • ในการปลกู ขา้ วชาวนาจะเร่ิมทาํ อยา่ งไรก่อน • จากช่ือสตั วท์ ่ีบอกมาน้ี อะไรเป็นสตั วป์ ่ า อะไรเป็นสตั วเ์ ล้ียง • อาหารโปรตีนใหค้ ุณค่าอยา่ งไร ฯลฯ

คาํ ถามทใี่ ช้ความคดิ พนื้ ฐาน -การสังเกต 05/06/57 4 • การสังเกต - คาํ ถามชนิดน้ีจะไดค้ าํ ตอบจากประสบการณ์ตรง โดย ผตู้ อบตอ้ งอาศยั ประสาทสมั ผสั - ลกั ษณะของคาํ ตอบจะเป็นการบอกถึงรูปร่าง ลกั ษณะ ส่วนประกอบหรือคุณสมบตั ิรวมถึงการเปล่ียนแปลงให้ กระบวนการที่สงั เกตเห็น คาํ ถามทใ่ี ช้ความคดิ พนื้ ฐาน -การสังเกต • การสังเกต ตวั อยา่ งคาํ ถามการสงั เกต • จากภาพน้ีนกั เรียนเห็นอะไร • นกั เรียนไดร้ ายละเอียดจากกอ้ นหินท่ีใหไ้ ปรวบรวม อยา่ งไรบา้ ง • จากการทดลองน้ี พชื เปลี่ยนแปลงปอยา่ งไร คาํ ถามเพอื่ การคดิ ค้น - เป็นคาํ ถามที่ผตู้ อบจะตอ้ งใชข้ ้นั ตอนของความคิด ซบั ซอ้ นข้ึนกวา่ ความคิดพ้ืน ฐาน - แนวทางที่จะคิดอาจแยกออกไปไดห้ ลายลกั ษณะ แลว้ แต่จุดหมายปลายทางท่ีตอ้ งการจะตอบ - อยา่ งไรกต็ ามจุดประสงคข์ องคาํ ถามตอ้ งการ คาํ ตอบที่ดีที่สุด หรือถูกตอ้ งท่ีสุดตามขอ้ เทจ็ จริง

คาํ ถามเพอ่ื การคดิ ค้น -ความเข้าใจ 05/06/57 5 • ความเข้าใจ เป็นคาํ ถามที่ผตู้ อบใชค้ วามรู้เดิมมาแกป้ ัญหาใหม่ ซ่ึงอาจเป็ นสถานการณ์ท่ีเลียนแบบของเก่าหรื อสถานการณ์ ใหม่ แต่ใชเ้ รื่องราวเก่าที่เคยรู้มาดดั แปลงเป็นรูปใหม่ รูปแบบของคาํ ถามความเขา้ ใจ มีลกั ษณะเป็นการแปลความ ตีความ และขยายความ คาํ ถามเพอื่ การคดิ ค้น -ความเข้าใจ • ความเข้าใจ ตวั อยา่ งคาํ ถามความเขา้ ใจ • ทาํ ไมประชาชนในภาคต่าง ๆ จึงมีอาชีพต่างกนั • “ไมง่ อมืองอเทา้ ” หมายความวา่ อยา่ งไร • ถา้ เธอเป็นกระป๋ องนมใบหน่ึง มีละอองน้าํ เกาะอยู่ ภายนอก น้าํ ในกระป๋ องเป็นอยา่ งไร (นกั เรียนผา่ นการทดลองท่ีเอาน้าํ แขง็ ใส่แกว้ แลว้ มีหยด น้าํ เกาะรอบแกว้ แลว้ ) คาํ ถามเพอื่ การคดิ ค้น -การนําไปใช้ • การนําไปใช้ เป็นคาํ ถามที่ผตู้ อบอาศยั ความคิดพ้ืนฐานและความเขา้ ใจ ความรู้ท่ีไดไ้ ปใชใ้ น เรื่องราวอื่น ๆ อยา่ งถูกตอ้ ง คาํ ถามของครูตอ้ งกาํ หนดสถานการณ์ใหม่ๆ ที่แปลจาก ตาํ ราใหน้ กั เรียนลองหาวิธีแกป้ ัญหา

คาํ ถามเพอ่ื การคดิ ค้น -การนําไปใช้ 05/06/57 6 • การนําไปใช้ ตวั อยา่ งคาํ ถามการนาํ ไปใช้ • ดินสอแทง่ ละหา้ สิบสตางค์ คร่ึงโหลเป็นเงินเท่าไร • นกั เรียนจะใชค้ าํ วา่ ขอโทษในเวลาใดบา้ ง • ถา้ เธอมีหมอ้ ดินและหมอ้ เคลือบ เธอจะเลือกใบไหน ใส่น้าํ จึงจะเยน็ กวา่ (จากหลกั การระเหย) คาํ ถามเพอื่ การคดิ ค้น -การเปรียบเทยี บ • การเปรียบเทยี บ เป็นคาํ ถามท่ีผตู้ อบตอ้ งวิเคราะห์เรื่องราวออกมาเป็น ส่วนยอ่ ย ๆ และพจิ ารณาวา่ สิ่งใดสาํ คญั ส่ิงใดไมส่ าํ คญั มีมูลเหตุหรือจุดมุ่งหมายอยา่ งไร เป็นการเปรียบเทียบ ที่ตอ้ งผา่ นการคิดหลกั เกณฑต์ ่างกบั การเปรียบเทียบที่ ตอ้ งใชเ้ ฉพาะการสงั เกต คาํ ถามเพอ่ื การคดิ ค้น -การเปรียบเทยี บ • การเปรียบเทียบ ตวั อยา่ งคาํ ถามการเปรียบเทียบ • ลมบกลมทะเลที่สิ่งใดท่ีคลา้ ยกนั • กบกบั คางคกต่างกนั อยา่ งไร • ทาํ ไมเส้ือผา้ ที่จากในหนา้ ร้อนจึงแหง้ เร็วกวา่ หนา้ ฝน

คาํ ถามเพอ่ื การคดิ ค้น -เหตุและผล 05/06/57 7 • เหตุและผล เป็นคาํ ถามท่ีผตู้ อบตอ้ งหาความสมั พนั ธ์ของเร่ืองราว หรือเหตุการณ์วา่ สอดคลอ้ งหรือขดั แยง้ กนั อยา่ งไร รูปแบบของคาํ ถามเหตุและผล อาจเป็นการถาม ความสมั พนั ธ์ของเร่ืองราว บุคคล ความคิด คาํ ถามเพอ่ื การคดิ ค้น -เหตุและผล • เหตุและผล ตวั อยา่ งคาํ ถามเหตุและผล • ทาํ ไมเราตอ้ งขา้ มถนนที่มีทางมา้ ลาย • ถา้ เรารับประทานอาหารโปรตีนไมพ่ อจะเกิดอะไรข้ึน • เพราะเหตุใดตน้ หญา้ ที่ถูกครอบจึงมีใบสีขาว คาํ ถามเพอื่ การคดิ ค้น - สรุปหลกั การ • สรุปหลกั การ เป็นคาํ ถามท่ีผตู้ อบมีการคิดวเิ คราะห์หามูลเหตุ หรือ ความสาํ คญั ของเรื่องราวน้นั แลว้ รวมท้งั เห็นความสมั พนั ธ์ ของเร่ืองราวหรือเหตุและผลเหล่าน้นั จึงจะสามารถสรุป หลกั การได้

คาํ ถามเพอื่ การคดิ ค้น - สรุปหลกั การ 05/06/57 8 • สรุปหลกั การ ตวั อยา่ งคาํ ถามการสรุปหลกั การ • นิทานที่จบลงไปน้ีใหค้ ติกบั เราอยา่ งไร • ตกลงเราจะหาพ้ืนที่ของรูปสี่เหล่ียมจตั ุรัสไดอ้ ยา่ งไร • เราจะมีวธิ ีป้ องกนั โรคไขเ้ ลือกออกโดยวิธีใด คาํ ถามทขี่ ยายความคดิ - ลกั ษณะของคาํ ถามประเภทน้ีส่งเสริมความคิด สร้างสรรคเ์ พราะเปิ ดโอกาสใหผ้ ู้ เรียนไดต้ อบ โดยใชค้ วามคิดเห็นส่วนตวั มากที่สุด - เป็นคาํ ถามท่ีไม่กาํ หนดแนวทางคาํ ตอบไว้ - เป็นจุดเร่ิมตน้ ใหผ้ เู้ รียนมีแนวความคิดกวา้ งขวาง ออกไปนอกเหนือจากการคิดเพอื่ ขอ้ เทจ็ จริง คาํ ถามทขี่ ยายความคดิ - คะเน • คะเน - เป็นคาํ ถามเชิงสมมุติฐานหรือสมมุติเหตุการณ์ - คาํ ตอบอาจเป็นไปไดห้ รือยงั เป็นไปไมไ่ ด้ - คาํ ตอบเป็นไปไดห้ ลายอยา่ ง - การที่ประมวลคาํ ตอบท่ีดีท่ีสุด ตอ้ งอาศยั การอภิปราย หรือหาขอ้ มลู เพม่ิ เติม

คาํ ถามทข่ี ยายความคดิ - คะเน 05/06/57 9 • คะเน ตวั อยา่ งคาํ ถามคาดคะเน • ถว่ั ท่ีเพาะไวท้ าํ ไมไมง่ อกทุกตน้ • ถา้ ไมม่ ีดวงอาทิตยเ์ ราจะเป็นอยา่ งไร • ถา้ ตน้ ไมใ้ นป่ าถูกโค่นลงหมด ประเทศเราจะมีผลอยา่ งไร คาํ ถามทข่ี ยายความคดิ - การวางแผน • การวางแผน เป็นคาํ ถามที่ผตู้ อบเสนอแนวคิด วางโครงการ หรือ เสนอแผนงานใหม่ แลว้ แต่จุดประสงคข์ องคาํ ถาม ผตู้ อบอาจประมวลขอ้ เทจ็ จริงจากประสบการณ์ผนวก กบั ความคิดของตนเอง แลว้ เสนอออกมาเป็นคาํ ถาม คาํ ถามทข่ี ยายความคดิ -การวางแผน • การวางแผน ตวั อยา่ งคาํ ถามเพือ่ วางแผน • ถา้ นศ.เป็นผแู้ ทนราษฎร จะทาํ ประโยชนอ์ ะไรให้ จงั หวดั ของเราบา้ ง • ถา้ ครอบครัวยากจน จะมีทางช่วยเหลืออยา่ งไรไดบ้ า้ ง • ทาํ อยา่ งไรจึงจะกาํ จดั ยงุ ใหห้ มดไปจากบา้ นได้

คาํ ถามทขี่ ยายความคดิ - การวจิ ารณ์ 05/06/57 10 • การวจิ ารณ์ - คาํ ถามท่ีตอ้ งการใหผ้ ตู้ อบพิจารณาเรื่องราวหรือ เหตุการณ์ในดา้ นความเหมาะสม ขอ้ ดี ขอ้ เสีย ซ่ึงผตู้ อบ ยอ่ มมีความคิดเห็นที่อาศยั ทศั นคติของตนเป็นรากฐาน - ลกั ษณะของคาํ ถามอาจก่อใหเ้ กิดการอภิปรายอยา่ ง กวา้ งขวาง คาํ ถามทขี่ ยายความคดิ - การวจิ ารณ์ • การวจิ ารณ์ ตวั อยา่ งคาํ ถามการวจิ ารณ์ • นศ.คิดวา่ นางลาํ หบั ในเรื่องเงาะป่ าเป็นคนอ่อนแอ หรือไม่ เพราะเหตุใด • นศ.คิดวา่ การท่ีเลือกกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง มีความเหมาะสมเพยี งไร • นศ.คิดวา่ รถยนตม์ ีส่วนดีและส่วนเสียอยา่ งไร คาํ ถามทข่ี ยายความคดิ - การประเมนิ ค่า • การประเมนิ ค่า - คาํ ถามเพือ่ ใหเ้ กิดการวินิจฉยั ตีราคาโดยสรุปอยา่ งมี หลกั เกณฑ์ - อาจเป็นการตีความคิดเห็น ผลงานต่าง ๆ วสั ดุสิ่งของ - แมจ้ ะตอ้ งการใหม้ ีอิสระในการประเมินคา่ แต่การ กาํ หนดเกณฑก์ ย็ งั เป็นสิ่งจาํ เป็น เช่น กาํ หนดเกณฑข์ อง ระเบียบแบบแผน เกณฑท์ ่ีสงั คมปัจจุบนั ยอมรับ

คาํ ถามทข่ี ยายความคดิ - การประเมนิ ค่า 05/06/57 11 • การประเมินค่า ตวั อยา่ งคาํ ถามประเมินค่า • จากเรื่องท่ีครูเล่ามาน้ี นศ.คิดวา่ บุคคลใดในเรื่องดีท่ีสุด • นศ.ชอบสตั วเ์ ล้ียงชนิดใดมากที่สุด (เพราะเหตุใด) เทคนิคการถามคาํ ถาม ผเู้ รียนจะเกิดการเรียนรู้ไดด้ ีหรือไม่มากนอ้ ยเพียงใด ข้ึนอยกู่ บั การถามคาํ ถามของผสู้ อนเป็นสาํ คญั ประการหน่ึง ถา้ ผสู้ อนมีทกั ษะและเทคนิคในการถามคาํ ถาม จะทาํ ให้ การเรียนการสอนมีคุณคา่ เทคนิคการถามคาํ ถาม 1. ในการถามไม่ควรเจาะจงผู้ตอบหรือถามผู้เรียนตามลาํ ดบั เพราะการรู้ตัวมาก่อนว่าจะตอบเม่ือใดน้ัน จะทําให้ผู้ตอบไม่ สนใจคาํ ถามอน่ื ๆ การเรียนรู้จึงไม่เกดิ ขนึ้ 2. ในการใช้คาํ ถามไม่ควรถามซํ้าผู้เรียนคนเดมิ บ่อยคร้ัง เพราะ การปฏบิ ัตดิ งั นีผ้ ู้เรียนคนอน่ื ๆ จะเกดิ ความน้อยใจทีผ่ ู้สอนไม่เห นความสําคญั ของตน จึงทําให้ไม่สนใจบทเรียน 3. ในการต้งั คาํ ถามไม่ควรเร่งรัดคาํ ตอบจากผู้เรียน เมอ่ื ถาม คาํ ถามไปแล้ว ควรเปิ ดโอกาสให้เดก็ หยดุ คดิ ค้นหาคาํ ตอบบ้าง

เทคนิคการถามคาํ ถาม 05/06/57 12 4. การใช้คาํ ถามควรใช้นํา้ เสียงเร้าใจผู้ตอบ เป็ นการกระตุ้นให้ ผู้เรียนอยากตอบมากขึน้ 5. ขณะท่ีผู้ตอบหยดุ คดิ หรือลงั เลในการที่จะตอบออกไป ครูควร ให้กาํ ลงั ใจส่งเสริมไม่คาดค้นั คาํ ตอบหรือแสดงความเบ่ือหน่าย หรือเรียกผู้อน่ื ตอบแทนเพราะจะทําให้ผู้เรียนเสียกาํ ลงั ใจ 6. ในการตอบคาํ ถามหนึ่ง ผู้สอนไม่ควรคดิ ว่าต้องให้ผู้เรียนคน เดยี วตอบ คาํ ถามน้ันควรเปิ ดโอกาสให้ผู้เรียนหลายๆ คนได้ตอบ เพราะจะเป็ นการกระจายความคดิ และทาํ ให้มขี ้อสรุปทีด่ ี เทคนิคการถามคาํ ถาม 7. ในการตอบคาํ ถามของผู้เรียนอาจได้คาํ ตอบทไ่ี ม่ตรงกบั ข้อเทจ็ จริง หรือไม่ค่อยมเี หตุผลนัก ผู้สอนควรหาวธิ ีท่จี ะทาํ ให้ ผู้เรียนเข้าใจ และสามารถหาคาํ ตอบท่ถี ูกต้องได้ ไม่ควรปล่อยให้ ผู้เรียนเข้าใจผดิ ต่อไป โดยอาจถามคาํ ถามใหม่ หรืออธิบาย เพมิ่ เติม 8. คุณค่าของการสอนโดยใช้คาํ ถามจะหมดไป ถ้าครูเป็ นผู้ ถามเองตอบเอง หรือถามคาํ ถามในลกั ษณะที่ทบทวนความจํา ผู้เรียนมากเกนิ ไป เทคนิคการถามคาํ ถาม 9. สร้างบรรยากาศทีเ่ ป็ นกนั เองในห้องเรียน เพอื่ ให้ผู้เรียนรู้สึก อยากจะมีส่วนร่วมในการตอบคาํ ถาม 10. ในการตอบคาํ ถาม ควรให้ผู้เรียนช่วยกนั หาคาํ ตอบในหลาย แนวทาง ไม่ควรจํากดั เฉพาะคาํ ตอบเดยี ว 11. ใช้คาํ ถามท่ีผู้เรียนมคี วามรู้และประสบการณ์เพยี งพอ 12. ควรวเิ คราะห์คาํ ถามทถี่ ามไปแล้วเพอ่ื นํามาปรับปรุงแก้ไขเพอ่ื ใช้ในโอกาสอนื่ ๆ ต่อไป

ข้อควรคาํ นึงถึงในการถามคําตอบ 05/06/57 13 1. เป็ นคาํ ถามทีต่ รงประเดน็ ควรถามให้เฉพาะเจาะจง กระชับ และชัดเจน 2. ใช้ภาษาท่ีง่ายแก่การเข้าใจ ทําให้ผู้เรียนเข้าใจได้ตรงกบั ความ ต้องการของผู้สอน 3. ถ้าผู้เรียนตอบถูก ควรมีการเสริมกาํ ลงั ใจ และถ้าตอบไม่ถูก ควรเสริมแรงกระตุ้นให้พยายามต่อไป 4. ถ้าไม่มคี าํ ตอบ ควรถามใหม่ ใช้คาํ ถามท่ีง่ายขนึ้ หรืออธิบาย ขยายความทําให้ผู้เรียนได้แนวทางในการตอบ ข้อควรคาํ นึงถึงในการถามคําตอบ 5. ใช้คาํ ถามให้สอดคล้องกบั เนือ้ หา วยั สติปัญญาของผู้เรียน 6. ควรกระตุ้นผู้ทไี่ ม่สนใจตอบคาํ ถาม ให้มสี ่วนร่วมในการคดิ ตอบด้วย 7. ใช้คาํ ถามให้กลมกลนื ในข้ันตอนของการสอนเป็ นการถาม ที่ถูกจังหวะและโอกาส การต้งั คาํ ถามแบบ R-C-A เป็ นคาํ ถามทฝี่ ึ กให้นักเรียนรู้จักใช้ทกั ษะชีวติ R reflect การสะทอ้ นกลบั C connect การเช่ือมโยง A apply การปรับใช้

การต้งั คาํ ถามแบบ R-C-A 05/06/57 R (Reflect) ใหผ้ เู้ รียนเปิ ดเผยตวั เอง ผา่ นการสะทอ้ นความรู้สึก 14 หรือมุมมอง C (Connect) ไดค้ ิดเชื่อมโยงความรู้ใหมก่ บั ประสบการณ์เดิมของ ผเู้ รียน A (Apply) ไดป้ ระยกุ ตค์ วามรู้น้นั ไปใชใ้ นชีวติ จริงของผเู้ รียน การต้งั คาํ ถามแบบ R 1. คาํ ถามเพอ่ื ผลการสะท้อน (R : Reflect) ● ถามถึงสิ่งที่สงั เกตเห็น มองเห็น หรือถามความรู้สึกที่เกิดข้ึน จากการร่วมกิจกรรม เช่น - นศ.มีความรู้สึกอยา่ งไร? หรือมองเห็นอะไรในพฤติกรรมของ บุคคลหรือในการทาํ กิจกรรมร่วมกนั - นศ. มีความรู้สึกอยา่ งไร กบั การขดั แยง้ หรือการมีความเห็นไม่ ตรงกนั ของนกั เรียนในกลุ่ม การต้งั คาํ ถามแบบ R 1. คาํ ถามเพอื่ ผลการสะท้อน (R : Reflect) ● ถามถึงส่ิงที่สงั เกตเห็น มองเห็น หรือถามความรู้สึกที่เกิดข้ึน จากการร่วมกิจกรรม เช่น - หลงั จากเกิดความขดั แยง้ ท่ีเกิดข้ึนระหวา่ งการทาํ กิจกรรมคร้ังน้ี นศ. คิดวา่ ทุกคนท่ีเก่ียวขอ้ งมีความรู้สึกอยา่ งไร -นศ. เคยสงั เกตตนเองหรือไม่วา่ ใชว้ ิธีการใดจดั การกบั ความ ขดั แยง้ ในระหวา่ งการทาํ กิจกรรมร่วมกนั หรือในกลุ่มทาํ อยา่ งไร ความขดั แยง้ ในกลุ่มเพือ่ นจึงยตุ ิลงได้

การต้งั คาํ ถามแบบ C 05/06/57 15 2. คาํ ถามเพอ่ื การเช่ือมโยง (C : Connect) ● ถามเพือ่ ใหเ้ กิดการเชื่อมโยงระหวา่ งประสบการณ์หรือความรู้ ที่เคยมีมาก่อนกบั ประสบการณ์หรือความคิดที่ไดจ้ ากการเรียนรู้ ใหม่ เช่น - ในช่วงท่ีผา่ นมานศ. เคยเห็น เคยมีความรู้สึก หรือเคยปฏิบตั ิมา อยา่ งไรบา้ ง? - ส่ิงท่ีสงั เกตหรือพบเห็นสอดคลอ้ ง เหมือนหรือคลา้ ยคลึงกบั สิ่ง ท่ีนศ. เคยปฏิบตั ิมาอยา่ งไรบา้ ง? การต้งั คาํ ถามแบบ C 2. คาํ ถามเพอื่ การเช่ือมโยง (C : Connect) ● ถามเพ่อื ใหเ้ กิดการเช่ือมโยงระหวา่ งประสบการณ์หรือความรู้ ท่ีเคยมีมาก่อนกบั ประสบการณ์หรือความคิดที่ไดจ้ ากการเรียนรู้ ใหม่ เช่น - นศ. เคยมีความขดั แยง้ กบั เพ่อื ระหวา่ งทาํ กิจกรรมที่ผา่ นมา หรือไม่ เกิดจากสาเหตุใด -นศ. เคยจดั การหรือสยบความขดั แยง้ ไมใ่ หล้ ุกลามบานปลายได้ อยา่ งไรบา้ ง? การต้งั คาํ ถามแบบ A 3. คาํ ถามเพอื่ การปรับใช้ (A : Apply) ● ถามถึงปัจจุบนั และการเผชิญเหตุการณ์ในอนาคต เช่น - ในอนาคต ถา้ นศ. พบเห็นหรือเจอเหตุการณ์ หรือมีความรู้สึก อยา่ งน้ี นศ. จะมีแนวทางปฏิบตั ิอยา่ งไร - ในการทาํ งานกลุ่มคร้ังต่อไป หากมีความขดั แยง้ เกิดข้ึนอยา่ งน้ี อีก นศ. จะทาํ อยา่ งไรหรือคลี่คลายสถานการณ์อยา่ งไร?

การต้งั คาํ ถามแบบ A 05/06/57 16 3. คาํ ถามเพอื่ การปรับใช้ (A : Apply) ● ถามถึงปัจจุบนั และการเผชิญเหตุการณ์ในอนาคต เช่น - นศ. ต้งั ใจจะทาํ อะไร ปฏิบตั ิอยา่ งไร หรือเปล่ียนแปลงอะไรบา้ ง เพ่ือการมีชีวติ ที่ดีในอนาคต หรือเพือ่ การเรียนที่ดีข้ึน หรือเพอื่ การทาํ งานใหส้ าํ เร็จ ประเภทของคาํ ถาม • ถา้ ใชค้ วามง่ายความยากเป็นเกณฑ์ กส็ ามารถจาํ แนกเป็นคาํ ถามง่ายและ คาํ ถามยาก คาํ ถามระดบั ต่าํ และคาํ ถามระดบั สูง • ถา้ ใชป้ ระเภทคาํ ตอบของคาํ ถามเป็นเกณฑ์ คือ คาํ ตอบที่แน่นอนกบั คาํ ตอบท่ีไม่ใช่คาํ ตอบท่ีแน่นอน กส็ ามารถจาํ แนกเป็นคาํ ถามแคบและ คาํ ถามกวา้ ง • ถา้ ใชแ้ นวคิด Benjamin Bloom กาํ หนดระดบั ข้นั การคิดในพุทธิพิสยั ก็ แบ่งประเภทคาํ ถามตามระดบั ข้นั ของการใชค้ วามคิดในพทุ ธิพิสยั • การใชแ้ นวคิดการสืบสอบดว้ ยทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กแ็ บ่งประเภทคาํ ถามตามแนวการสืบสอบดว้ ยทกั ษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์แต่ละทกั ษะ พุทธิพสิ ัย (Cognitive Domain) • ข้นั ของการใชค้ วามคิดในพทุ ธิพสิ ยั (Cognitive Domain) ตามแนวคิดของ Benjamin Bloom โดยแบ่งคาํ ถามเป็น 6 ประเภท 1. ถามความรู้ คาํ ถามที่มีคาํ ตอบแน่นอน ถามเน้ือหา เก่ียวกบั ขอ้ เทจ็ จริง คาํ จาํ กดั ความ คาํ นิยาม คาํ ศพั ท์ กฎ ทฤษฎีถามเกี่ยวกบั ใคร (who) อะไร (what) เมื่อไร (when) ท่ีไหน (where) รวมท้งั ใช่หรือไม่ เช่น มนุษยสมั พนั ธ์ หมายถึงอะไร ผคู้ น้ พบทฤษฎีสมั พนั ธภาพ คือใคร

พทุ ธิพสิ ัย (Cognitive Domain) 05/06/57 17 • ข้นั ของการใชค้ วามคิดในพทุ ธิพิสยั (Cognitive Domain) ตามแนวคิดของ Benjamin Bloom โดยแบง่ คาํ ถามเป็น 6 ประเภท 2. ถามความเข้าใจ คาํ ถามที่ตอ้ งใชค้ วามรู้ ความจาํ มา ประกอบเพื่ออธิบายดว้ ยคาํ พดู ของตนเอง เป็นคาํ ถามท่ีสูง กวา่ ถามความรู้ เช่น จงเปรียบเทียบความแตกต่างระหวา่ ง การแพร่และการออสโมซิส จงอธิบายลกั ษณะของผมู้ ี สุขภาพจิตดี พทุ ธิพสิ ัย (Cognitive Domain) • ข้นั ของการใชค้ วามคิดในพทุ ธิพิสยั (Cognitive Domain) 3. ถามการนําไปใช้ คาํ ถามท่ีนาํ ความรู้และความเขา้ ใจ ไปใชแ้ กป้ ัญหาในสถานการณ์ใหม่ เช่น ทา่ นจะมีวิธี ประหยดั น้าํ ในครอบครัวของทา่ นไดห้ รือไม่ อยา่ งไร เม่ือเขา้ ชมพพิ ิธภณั ฑท์ ่านควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไรบา้ ง พุทธิพสิ ัย (Cognitive Domain) • ข้นั ของการใชค้ วามคิดในพทุ ธิพิสยั (Cognitive Domain) 4. ถามการวเิ คราะห์ คาํ ถามท่ีใหจ้ าํ แนกแยกแยะ เร่ืองราวต่าง ๆ วา่ ประกอบดว้ ยส่วนยอ่ ยอะไรบา้ ง โดยอาศยั หลกั การ กฎ ทฤษฎี ท่ีมาของเรื่องราว หรือ เหตุการณ์น้นั เช่น สาเหตุสาํ คญั ใดบา้ งที่ทาํ ใหเ้ ยาวชน เสพยาเสพติด มูลเหตุสาํ คญั ที่ทาํ ใหส้ ถิติ การมีสุขภาพจิต ไม่ดีของคนในกรุงเทพฯ สูงข้ึนคืออะไร

พุทธิพสิ ัย (Cognitive Domain) 05/06/57 18 • ข้นั ของการใชค้ วามคิดในพทุ ธิพิสยั (Cognitive Domain) 5. ถามการสังเคราะห์ คาํ ถามที่ใชก้ ระบวนการคิด เพอ่ื สรุปความสมั พนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มูลยอ่ ย ๆ ข้ึนเป็น หลกั การ หรือแนวคิดใหม่ เช่น จงสรุปหลกั การถนอม อาหาร จากการศึกษา จงสรุปผลเก่ียวกบั สาเหตุการเกิด มะเร็ง พุทธิพสิ ัย (Cognitive Domain) • ข้นั ของการใชค้ วามคิดในพทุ ธิพสิ ยั (Cognitive Domain) 6. ถามการประเมินค่า คาํ ถามที่ให้ นศ.ตีคุณค่าโดย ใชค้ วามรู้ ความรู้สึก ความคิดเห็นในการกาํ หนดเกณฑ์ เพ่ือประเมินค่าส่ิงเหล่าน้นั เช่น ความคิดเห็นของเพอ่ื นคน ใด เหมาะสมท่ีสุด ผลการทาํ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ของ กลุ่มใดดีท่ีสุด ระดบั ของคาํ ถาม • คาํ ถามระดบั ตา่ํ เป็นคาํ ถามที่เกี่ยวขอ้ งกบั ขอ้ เทจ็ จริง ซ่ึงไดจ้ ากความจาํ และ การสงั เกต • คาํ ถามระดบั สูง เป็นคาํ ถามที่ส่งเสริมใหผ้ ตู้ อบใชค้ วามคิด นาํ ความรู้และ ประสบการณ์เดิมมาเป็นพ้ืนฐานสรุปหาคาํ ตอบ ส่งเสริมให้ เดก็ มีความคิดสร้างสรรคแ์ ละเกิดทกั ษะในการคิดอยา่ งมี ระบบ

คาํ ถามระดบั ตาํ่ 05/06/57 19 1. คาํ ถามใหส้ งั เกต เป็นคาํ ถามที่ตอ้ งการใชป้ ระสาทสมั ผสั คือ ตา หู จมกู ลิ้น และผวิ กาย เพียงส่วนใดส่วนหน่ึงหรือหลาย ส่วน รวบรวมขอ้ มูลในการตอบคาํ ถาม แต่ผตู้ อบตอ้ งไม่เพ่ิม ความรู้เดิม หรือความคิดเห็นส่วนตวั ลงไป - เห็นอะไรในภาพนีบ้ ้าง (ตา) - มะละกอท่ชี ิมมีรสเป็ นอย่างไร (ลนิ้ ) - ลองเอามอื เคาะโต๊ะ แล้วฟังซิว่ามเี สียงอย่างไร (หู) - ดอกไม้ท่ถี อื อยู่มีกลนิ่ หรือไม่ (จมูก) - ลองจับดูซิ ผวิ ของน้อยหน่าเป็ นอย่างไร (ผวิ กาย) คาํ ถามระดบั ตาํ่ 2. คาํ ถามใหท้ บทวนความจาํ เป็นคาํ ถามท่ีผตู้ อบสามารถนาํ ความรู้หรือประสบการณ์เดิมมาตอบคาํ ถาม - เดก็ ๆ ทราบไหม นกกนิ อะไรเป็ นอาหาร - ลองนึกดูซิ ไก่ทเี่ ดก็ ๆ เคยเห็นมลี กั ษณะอย่างไร - รุ้งกนิ นํา้ มกี ส่ี ี - สัตว์ปี กออกลูกเป็ นอะไรก่อน คาํ ถามระดบั ตา่ํ 3. คาํ ถามใหบ้ อกความหมายหรือคาํ จาํ กดั ความเป็นคาํ ถามท่ีใช้ ตรวจสอบประสบการณ์เดิมเก่ียวกบั ความรู้ ความเขา้ ใจ ใน เร่ืองคาํ ศพั ทแ์ ละความหมายของคาํ ก่อนการจดั ประสบการณ์ ใหมแ่ ก่ผเู้ รียน - รังนกหมายถงึ อะไร - บ้านของนักเรียนอกี อย่างหน่ึงว่าอะไร - ข้าวเปลอื กหมายถงึ ข้าวลกั ษณะอย่างไร

คาํ ถามระดบั ตา่ํ 05/06/57 20 4. คาํ ถามช้ีบ่งเป็นคาํ ถามที่กาํ หนดขอ้ มลู ไวห้ ลายอยา่ ง แลว้ ใหเ้ ลือกขอ้ มลู อยา่ งหน่ึงที่ผเู้ รียนตอ้ งการนาํ มาเป็นคาํ ตอบ - ตัวหนอน หญ้าแห้ง นํา้ หวานจากดอกไม้ ส่ิงใดคอื อาหารของนก - มะม่วง ส้ม และน้อยหน่า ผลไม้ชนิดใดท่มี ีเมลด็ ภายในผลเพยี ง เมลด็ เดยี ว - ระหว่างววั ช้าง และม้า สัตว์ชนิดใดวงิ่ เร็วทส่ี ุด - ปลาดุก ปลานิล และปลาทอง ปลาชนิดใดที่เลยี้ งไว้ดูเล่น คาํ ถามระดบั ตาํ่ 5. คาํ ถามถามนาํ เป็นคาํ ถามท่ีใชเ้ นน้ เร่ืองที่ครูพดู และ ดึงความสนใจของผเู้ รียน คาํ ถามประเภทน้ีมกั นาํ ไปสู่คาํ ตอบ ใช่ จริง ถูก เป็นส่วนใหญ่ - แก้วเป็ นเดก็ ท่ีเลยี้ งนก ใช่หรือไม่ - ต้นไม้ในภาพมีขนาดใหญ่ใช่ไหม - เดก็ ๆ คดิ ว่าการยงิ นกเป็ นสิ่งดหี รือไม่ คาํ ถามระดบั ตา่ํ 6. คาํ ถามเร้าความสนใจ เป็นคาํ ถามท่ีไม่ตอ้ งการคาํ ตอบอยา่ ง จริงจงั แต่ใชเ้ พ่ือดาํ เนินกิจกรรมในช้นั เรียนใหเ้ ป็นไปตามที่ได้ วางแผนไว้ - เดก็ ๆ คอยดูซิว่า เพอื่ นจะทําท่าอะไรต่อไป - เดก็ ๆ ลองคดิ ดูซิว่า ในกล่องนีม้ ีอะไรอยู่

คาํ ถามระดบั สูง 05/06/57 21 1. คาํ ถามให้อธิบาย เป็นคาํ ถามท่ีผตู้ อบจะตอ้ งนาํ ความรู้ และ ประสบการณ์เดิมมาเป็นพ้ืนฐานสรุปหาคาํ ตอบ - ถ้าอยากทราบว่า มดทีเ่ ลยี้ งไว้ชอบอาหารประเภทใดมาก ที่สุด เราจะทําอย่างไร - ทาํ ไมจึงบอกว่า มดชอบกนิ นํา้ หวาน ลองเล่าให้เพอ่ื น ๆ ฟังซิ - ทาํ ไมเดก็ ๆ เหล่านีจ้ ึงไม่สวมเสื้อในฤดูหนาว - ทาํ ไมมดแต่ละรังต้องมีนางพญามด คาํ ถามระดบั สูง 2. คาํ ถามให้เปรียบเทยี บ เป็นคาํ ถามท่ีมีจุดมุ่งหมายใหใ้ ช้ ความคิดเปรียบเทียบของสองส่ิงวา่ มีคุณสมบตั ิหรือลกั ษณะ คลา้ ยกนั หรือต่างกนั อยา่ งไร คุณสมบตั ิที่นาํ มาเปรียบเทียบน้นั ไดแ้ ก่ รูปร่าง ลกั ษณะ สี ขนาด น้าํ หนกั จาํ นวน ปริมาตร ความ สูง ความยาว ความหนา รสชาติ กล่ิน ฯลฯ - เสือกบั แมวมอี ะไรต่างกนั บ้าง - เสือกบั แมวมอี ะไรท่ีคล้ายกนั - ถ้าเราต้องช่วยกนั จัดผลไม้เหล่านีใ้ ส่กระจาด 2 ใบ เราจะจัดแบ่ง อย่างไร ลองคดิ และเล่าให้เพอื่ น ๆ ฟัง คาํ ถามระดบั สูง 3. คาํ ถามให้จําแนกประเภท เป็นคาํ ถามเพ่ือส่งเสริมใหร้ ู้จกั จดั กลุ่ม จดั หมวดหม่โู ดยใชเ้ กณฑข์ องตนเองหรือของผอู้ ่ืน หรือบอกเกณฑท์ ี่ใชใ้ น การจดั กลุ่มที่ผอู้ ื่นทาํ ไว้ เกณฑท์ ี่ใชใ้ นการจดั กลุ่มน้ีอาจไดแ้ ก่ สี ขนาด รูปร่าง ประโยชน์ หรือวสั ดุที่ใช้ หากเป็นภาพของสิ่งมีชีวิตอาจแบ่งตาม อาหาร ท่ีอยอู่ าศยั ลกั ษณะเช่น สตั ว์ 2 เทา้ สตั ว์ 4 เทา้ และประโยชน์ เช่น สตั วเ์ ล้ียงไวใ้ ชง้ าน เป็นตน้ - ครูแบ่งมดออกเป็ น 2 พวกอย่างที่เห็น บอกได้ไหมว่าทาํ ไม ครูจึงแบ่งเช่นนี้ - ลองคดิ ดูซิว่า เราจะแบ่งภาพสัตว์เหล่านีเ้ ป็ น 2 กล่มุ ได้ อย่างไรดี

คาํ ถามระดบั สูง 05/06/57 22 4. คาํ ถามให้ยกตัวอย่าง เป็นคาํ ถามที่ตอ้ งการใหผ้ ตู้ อบบอกช่ือ หรือยกตวั อยา่ งของส่ิงท่ีกาํ หนดให้ โดยอาศยั ทกั ษะการสงั เกต และมีความรู้ความจาํ เร่ืองต่าง ๆ เป็นพ้นื ฐานในการหาคาํ ตอบ - ให้ยกตัวอย่างผกั ที่ใช้เป็ นอาหารคนละ 1 ชื่อ - ให้บอกช่ือส่ิงของทบ่ี รรจุอยู่ในกระป๋ องมาคนละ 1 ชื่อ - บอกชื่อผลไม้ทม่ี ีรสหวานคนละ 1 ชนิด - มีสัตว์ชนิดใดบ้างทีเ่ ลยี้ งไว้ใช้งาน คาํ ถามระดบั สูง 5. คาํ ถามให้วเิ คราะห์ เป็นคาํ ถามท่ีใหค้ ิดคน้ หาความจริงหรือ แยกแยะเร่ืองราวเพื่อหาสาเหตุและผลต่าง ๆ ของปัญหาท่ีเกิดข้ึน หรือใหน้ กั เรียนไดค้ ิดคน้ หาความจริงต่าง ๆ ที่ประกอบข้ึนมา เป็ นเรื่ องราวหรื อเหตุการณ์ - แมวมปี ระโยชน์อย่างไร - แมวให้โทษอย่างไร - ถ้าจะเลยี้ งแมว จะต้องเตรียมอะไรบ้าง - ทําไมผ้าจึงแห้งได้ - จงช่วยกนั บอกช่ือส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ คาํ ถามระดบั สูง 6. คาํ ถามให้สังเคราะห์ สงั เคราะห์ หมายถึง การผสมรวมส่ิงต่าง ๆ ต้งั แต่สอง ส่ิงข้ึนไปใหเ้ กิดเป็นของใหม่ข้ึนมาเ ช่น การปรุงอาหาร การพดู การเขียนใหเ้ ป็นขอ้ ความหรือเรื่องราวที่เป็นแนวคิดใหม่ หรือ พฒั นาของเก่าใหด้ ีข้ึน ใชป้ ระโยชนไ์ ดม้ ากข้ึน คาํ ถามให้ สงั เคราะห์ เป็นคาํ ถามท่ีมีจุดมุง่ หมายใหผ้ เู้ รียนใชก้ ระบวน การคิด เพือ่ สรุปความสมั พนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มูลยอ่ ยข้ึนเป็น หลกั การ

คาํ ถามระดบั สูง 05/06/57 23 6. คาํ ถามให้สังเคราะห์ - อะไรเอ่ย นกมีหู หนูมีปี ก บินหลบหลีกอยกู่ ลางคืน - ถา้ ไมอ่ ยากใหฟ้ ันผุ คิดวา่ ควรทาํ อยา่ งไร - ถา้ มดง่ามตวั โตเทา่ ชา้ งจะเป็นอยา่ งไร - ถา้ คนบินไดอ้ ะไรจะเกิดข้ึน - ถา้ สตั วต์ ่าง ๆในโลกน้ีพดู ภาษาคนไดอ้ ะไรจะเกิดข้ึน คาํ ถามระดบั สูง 7. คาํ ถามให้ประเมนิ ค่า เป็นคาํ ถามที่มีจุดมุ่งหมายใหไ้ ดพ้ ิจารณา คุณค่าของสิ่งของก่อนตดั สินใจอยา่ งมีเหตุผล รู้จกั ประเมินค่า ของสิ่งต่าง ๆ โดยใชก้ ฎเกณฑท์ ี่เป็นจริง และเป็นท่ียอมรับของ สงั คมแลว้ มาสนบั สนุนความคิดเห็นของตนก่อนตดั สินใจ - อาหารจานนีห้ นูควรรับประทานหรือไม่ เพราะเหตุใด - เดก็ ๆ ควรเอาอย่างเดก็ ในภาพหรือไม่ เพราะเหตุใด ลกั ษณะการใช้คาํ ถามทด่ี ี • นอกจากผสู้ อนตอ้ งรู้จกั การใชค้ าํ ถามประเภทต่าง ๆ แลว้ ควรตอ้ งรู้จกั ใชท้ ้งั คาํ ถามระดบั ต่าํ หรือง่ายปนกบั คาํ ถาม ระดบั สูง หรือคาํ ถามยาก เพอื่ พฒั นาใหผ้ เู้ รียนคิดท้งั ง่ายและ ยากข้ึน เป็นลาํ ดบั เพื่อพฒั นาสู่การเป็นผมู้ ีความสามารถคิด อยา่ งมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) เพื่อท่ีจะสามารถ ตดั สิน จะทาํ จะเช่ือ หรือแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีหลกั การและถูก ทาง นอกจากการฝึกใชป้ ระเภทคาํ ถามแลว้ ยงั ตอ้ งฝึกการ ถามในลกั ษณะดี หลีกเล่ียงลกั ษณะไมด่ ี

ลกั ษณะการใช้คาํ ถามทด่ี ี 05/06/57 • เตรียมคาํ ถามล่วงหนา้ เพราะจะสามารถถามไดอ้ ยา่ ง 24 เรียงลาํ ดบั ตามความง่ายยาก ตามลาํ ดบั เน้ือหา และช่วยใหม้ ี ความมนั่ ใจในการถาม • ถามอยา่ งมนั่ ใจโดยใชภ้ าษาชดั เจน กะทดั รัด • ถามแลว้ ตอ้ งมีเวลารอคอย ประมาณ 3 วินาที เพ่ือเปิ ดโอกาส ใหผ้ เู้ รียนท้งั เก่งและไมเ่ ก่งไดค้ ิดอยา่ งทว่ั ถึง จากน้นั จึง เรียกชื่อผเู้ รียนใหต้ อบคาํ ถาม ไม่กาํ หนดผตู้ อบก่อนถาม คาํ ถาม ถามทีละคน และตอบทีละคน แต่ตอ้ งเปิ ดโอกาสให้ ผเู้ รียนตอบหลาย ๆ คน ในคาํ ถามเดียวกนั ลกั ษณะการใช้คาํ ถามทด่ี ี • ถามแลว้ ไม่ทวนคาํ ถาม และไมท่ วนคาํ ตอบ ควรใชท้ า่ ทาง เสียงประกอบการถามเพ่ือกระตุน้ ความสนใจ • ควรใชค้ าํ ถามปพู ้ืน เม่ือตอบคาํ ถามแรกไม่ได้ • ควรใชค้ าํ ถามง่ายและยากปนกนั • ในการสอนคร้ังหน่ึง ๆ ควรเปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนถามคาํ ถาม ผสู้ อน การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ • การระดมพลงั สมอง (Brainstorming) • เทคนิคกอร์ดอน (The Gordon Technique) • เทคนิคเช่ือมโยงสัมพนั ธ์โดยใช้การเปรียบเทียบ (Synection)

การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ 05/06/57 25 • การระดมพลงั สมอง (Brainstorming) • ให้โอกาสคดิ อย่างอสิ ระท่ีสุด โดยประวงิ การประเมิน ความคดิ ออกไป ไม่มีการวพิ ากษ์วจิ ารณ์ในระหว่างทีม่ ี การคดิ การวจิ ารณ์หรือการประเมินใดๆ กต็ ามท่ี เกดิ ขนึ้ ระหว่างการคดิ จะเป็ นส่ิงขดั ขวางความคดิ สร้างสรรค์ • จุดประสงค์ของการระดมพลงั สมองกเ็ พอื่ จะนําไปสู่ การทส่ี ามารถแก้ปัญหาได้ การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ • เทคนิคกอร์ดอน (The Gordon Technique) เปล่ียนแปลงวิธีการระดมสมองบางส่วน แลว้ เพ่มิ ความคิด สร้างสรรคข์ ้ึนมา วิธีน้ีแตกต่างจากวธิ ีระดมสมองตรงที่ ไม่มีการช้ีแจงปัญหาอยา่ งละเอียดก่อนล่วงหนา้ จะใหป้ ัญหา ในแนวกวา้ ง ๆ ในลกั ษณะนามธรรม • เทคนิคน้ีเหมาะสมท่ีจะนาํ ไปใชใ้ นช้นั เรียนเพื่อกระตุน้ ความคิด แบบอเนกนยั ของผเู้ รียนไดว้ ิธีหน่ึง การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ • เทคนิคเช่ือมโยงสัมพนั ธ์โดยใช้การเปรียบเทียบ (Synection) 1. การเอาตวั เองไปเปรียบเทียบกบั สิ่งอื่น (Personal Analogy) 2. การเปรียบเทียบทางตรง (Direct Analogy) 3. การเปรียบเทียบโดยใชค้ าํ คู่ท่ีมีความหมายขดั แยง้ กนั

การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ 05/06/57 26 เทคนิคเชื่อมโยงสัมพนั ธ์โดยใช้การเปรียบเทยี บ (Synection) 1. การเอาตวั เองไปเปรียบเทียบกบั ส่ิงอื่น (Personal Analogy) ผเู้ รียนตอ้ งทาํ ตนเสมือนเป็นสิ่งท่ีตอ้ งการเปรียบเทียบ และ บรรยายความรู้สึกท่ีเกิดข้ึนสิ่งที่เปรียบเทียบอาจเป็นคน พชื สตั ว์ หรือส่ิงของ การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ เทคนิคเชื่อมโยงสัมพนั ธ์โดยใช้การเปรียบเทียบ (Synection) 1. การเอาตวั เองไปเปรียบเทียบกบั ส่ิงอื่น (Personal Analogy) ตัวอย่าง ใหผ้ เู้ รียนสมมติวา่ เป็นเคร่ืองในรถยนตแ์ ลว้ บอกวา่ ผเู้ รียนรู้สึกอยา่ งไรเมื่อรถติดเครื่องในตอนเชา้ หรือเมื่อไฟ แบตเตอรี่หมด หรือเม่ือรถจอดติดไฟแดง การท่ีผเู้ รียนสมมติ ตวั เองเป็นส่ิงหน่ึงทาํ ใหล้ ืมความเป็นตวั เองชว่ั ครู่ และการตอ้ ง เปรียบเทียบจะทาํ ใหผ้ เู้ รียนเกิดความแปลกใหม่ และความคิด สร้างสรรคข์ ้ึนได้ การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ • เทคนิคเช่ือมโยงสัมพนั ธ์โดยใช้การเปรียบเทียบ (Synection) 2. การเปรียบเทียบทางตรง (Direct Analogy) ระหวา่ งของ 2 ส่ิงหรือมากกวา่ สิ่งท่ีนาํ มาเปรียบเทียบอาจเป็นคน สตั ว์ พชื หรือสิ่งของ โดยของท่ีนาํ มาเปรียบเทียบไมจ่ าํ เป็นตอ้ ง เหมือนกนั ทุกประการ หรือเพื่อใหเ้ กิดความใหม่ ซ่ึงอาจ นาํ มาใชแ้ กไ้ ขปัญหาท่ีตอ้ งการได้

การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ 05/06/57 27 เทคนิคเชื่อมโยงสัมพนั ธ์โดยใช้การเปรียบเทียบ (Synection) 2. การเปรียบเทียบทางตรง (Direct Analogy) ตัวอย่าง วศิ วกรคนหน่ึงเฝ้ าสงั เกตดูหนอนเจาะท่อนไมเ้ ป็นรู คลา้ ยอุโมงค์ ทาํ ใหว้ ศิ วกรผนู้ ้ีเกิด ความคิดสร้างทอ่ อุโมงค์ ทาํ งานใตน้ ้าํ ข้ึนมา การต้งั คาํ ถามพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ • เทคนิคเชื่อมโยงสัมพนั ธ์โดยใช้การเปรียบเทยี บ (Synection) 3. การเปรียบเทียบโดยใชค้ าํ คู่ที่มีความหมายขดั แยง้ กนั ใชค้ าํ เปรียบเทียบ 2 คาํ ที่มีความหมายขดั แยง้ กนั หรือตรงกนั ขา้ มมาอธิบายลกั ษณะของคน สตั ว์ พืช หรือส่ิงของที่ ตอ้ งการ ผู้เรียนจะตอบคาํ ถาม เมอ่ื ? 1. เข้าใจคาํ ถาม 2. จําคาํ ถามได้ 3. ทราบว่าจะได้ข้อมูลจากแหล่งใด 4. ทราบว่าเมอื่ ไหร่ข้อมูลทน่ี ํามาตอบจะเพยี งพอ

เทคนิคการต้งั คาํ ถามและการรอคาํ ตอบ 05/06/57 28 • การต้งั คาํ ถามของผู้สอน ร้อยละ 75 – 80 มักเป็ นคาํ ถามที่ ตรวจสอบระดบั ความจําของผ้เู รียน ซ่ึงถอื ว่าเป็ นการวัดระดบั สตปิ ัญญาข้นั ต่ํา ดงั น้ันควรเป็ นคาํ ถามทีผ่ ู้เรียนต้องใช้สติปัญญา ข้ันสูง นอกเหนือจากการระลกึ ความจํา กจ็ ะทําให้ ผ้เู รียนได้มีการ ฝึ กวิเคราะห์ สรุป และประเมินสิ่งท่ีเขาตอบได้ดกี ว่า การฝึ กตอบเฉพาะข้อเทจ็ จริง • โดยเฉลยี่ ผู้สอนจะคอยน้อยกว่า 1 วินาที ในการรอคาํ ตอบจาก ผู้เรียน แต่หากผู้สอนรอ 3 ถงึ 5 วนิ าที หรือมากกว่าในการคดิ จะมี ผลให้ผ้สู อนและผู้เรียนได้โอกาสพฒั นาความคดิ ในระดบั ท่สี ูงขนึ้ คาํ ถามท่สี ร้างพลงั ความคดิ มากกว่าความจาํ • คาํ ถามที่ข้ึนตน้ ดว้ ย “ทาํ ไม” “ทาํ อยา่ งไร” มากกวา่ ที่จะ ถามวา่ “อะไร” “ใคร” หรือ “เมื่อไร” • คาํ ถามที่ตอ้ งการคาํ ตอบเฉพาะคาํ นิยาม • คาํ ถามมีคาํ ตอบท่ีไดเ้ พียงหน่ึงคาํ ตอบหรือคาํ ตอบมีลกั ษณะ เฉพาะเจาะจงใช่หรือไม่ ถา้ ใช่แสดงวา่ ไมใ่ ช่คาํ ถามสร้าง พลงั คิด • ตอ้ งใชเ้ วลาในการทาํ ความเขา้ ใจและตอบคาํ ถาม Thank You! L/O/G/O www.themegallery.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook