แผนการสอนม.ปลาย กศน.ตำบลบ้านโป่ง

ปลาย ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 มชี ีวติ รหัสวิชา สค 32036 บ้านโปง่ .....จังหวดั ........ราชบุรี.......... นยายน…… พ.ศ. …2565……. กระบวนการเรียนรู้ เวลา/นาที สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ การวัดผลและ ประเมนิ ผล ปัญหา 6 ชม. หนังสอื เรยี นวิชา ประสงค์และมาตรฐานการเรยี นรู้ ความหลากหลาย 1. แฟม้ สะสมงาน อหา ของส่งิ มชี ีวิต 2. แบบทดสอบ รายวชิ าเน้อื หาวเิ คราะหค์ วามยาก ก่อนเรียน เรยี นรู้ 3.ใบงาน มรู้ เรื่องกาเนิดสง่ิ มชี ีวิตและวิวฒั นาการ อดทางพันธกุ รรม การแปรผันทาง าไปใช้ รียนรรู้ ว่ มกนั กบั นักศกึ ษา ลการเรียนรู้ าใบงานการเรยี นรู้ด้วยตนเองและ ศึกษาค้นควา้ ในสปั ดาห์ต่อไป

แผนการเรยี นการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาตอน วิชา การป้องกันการทุจรติ กศน.ตาบล...บ้านโปง่ ............อาเภอ.......บ ครงั้ ที่ 19 วันที่ …11.... เดอื น……ก ครงั้ ท่ี รายวิชา/หัวเรอื่ ง ตวั ชีว้ ัด เนอ้ื หา 19 การปอ้ งกันการ 1. อธบิ ายสาเหตขุ องการ การคิดแยกแยะระหว่าง ข้นั ที่ 1 กาห ทุจรติ รหสั วิชา สค ทุจริตและทิตทางของการ ผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผล 1 ครแู ละผ้เู 32036 ป้องกันการทุจริตใน ประโยขนส์ ว่ นรวม เกย่ี วกบั ผล เร่ือง การคิด ประเทศไทย 1. สาเหตุของการทุจรติ และ 1.2 รวบ แยกแยะระหว่าง 2. อธบิ ายทฤษฎี ทติ ทางของการป้องกันการ 1.3 วาง ผลประโยชนต์ นและ ความหมายและรปู แบบ ทจุ ริตในประเทศไทย ขั้นที่ 2 แส สว่ นรวม ของการขดั กันระหวา่ ง 2. ทฤษฎี ความหมายและ 2.1 ครแู ละ ผลประโยชน์สว่ นตนและ รปู แบบของการขัดกัน ผลประโยช ผลประโยชน์สว่ นรวม(โลก) ระหว่างผลประโยชน์สว่ น 2.2 ครแู ละ ตนและผลประโยชน์ ทจุ ริตและท ส่วนรวม(โลก) 2. ทฤษฎี ค ผลประโยช 2.3 ครูแบ่ง มอบหมายใ ผ้สู อนแจก 2.4 ครูมอบ แบบทดสอบ

ปลาย ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ต รหสั วิชา สค 32036 บา้ นโปง่ .....จังหวดั ........ราชบุรี.......... กนั ยายน……… พ.ศ. …2565……. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ การวัดและ ประเมินผล หนดสภาพปัญหา 1. หนงั สอื 1. การสังเกต พฤติกรรม เรยี นร่วมกนั พูดคุยแลกเปล่ียนประสบการณท์ มี่ ี แบบเรียน 2. แบบทดสอบ ลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยขนส์ ว่ นรวม 2. ใบความรู้ (ใบงาน) บรวมปัญหาตา่ ง ๆ ทพ่ี บจากการพูดคุย งแผนการเรยี นรู้ 3. ใบงาน สวงหาความรู้ ะผเู้ รยี นร่วมกันศกึ ษาหาข้อมลู เก่ียวกบั ชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยขน์สว่ นรวม ะผเู้ รียนร่วมกนั กาหนด1. สาเหตขุ องการ ทติ ทางของการป้องกันการทุจริตในประเทศไทย ความหมายและรูปแบบของการขดั กนั ระหวา่ ง ชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม(โลก) งกลมุ่ ผู้เรียนออกเปน็ กลมุ่ ๆ ละ 3-5 คน และ ใหผ้ ้เู รยี นในแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สรุปจากใบงานท่ี ให้ผเู้ รียนศกึ ษาด้วยตนเองในหัวขอ้ กาหนดให้ บหมายใหผ้ ้เู รยี นศึกษาใบความรแู้ ละทา บ1. ครูใหผ้ ู้เรยี นดวู ีดที ศั น์เกีย่ วกบั พระราช

คร้งั ท่ี รายวชิ า/หัวเรอ่ื ง ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา กรณียกจิ ขอ 2. ครผู ้สู อน โดยใหแ้ ตล่ ะ พระมหากษ ข้ันที่ 3 การ 3.1 ผ้เู รยี นน เหตกุ ารณ์ใน 3.2 ครูและ และงานทมี่ ขน้ั ที่ 4 การ 4.1 ครูและ แบบทดสอบ 4.2 ครู ผเู้ ร การเรยี นรู้ 4.3 ครตู ดั ส การปอ้ งกันการ 2. อธิบายความละอาย ความละอายและความไม่ ขนั้ ท่ี 1 กาห ทุจริต รหสั วิชา สค และความไมท่ นตอ่ การ 32036 ทุจรติ ได้ ทนต่อการทจุ ริต 1 ครูและผู้เ เร่ือง การคิด แยกแยะระหว่าง 2. ความละอายและความไม่ เก่ียวกบั ผล ผลประโยชน์ตนและ ทนตอ่ การทจุ รติ 1.2 รวบ - ความหมายของความ 1.3 วาง ละอายและความไม่ทนตอ่

การจัดกระบวนการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ การวัดและ ประเมนิ ผล องพระมหากษตั ริยไ์ ทยสมัยรตั นโกสินทร์ นแบง่ กลมุ่ นกั ศึกษาออกเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 4-6 คน ะกลมุ่ นกั ศกึ ษาหวั ข้อพระราชกรณียกิจของ ษตั รยิ ไ์ ทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ รปฏบิ ัตินาไปใช้ นาความรทู้ ่ไี ดร้ ับไปปรบั ใช้ให้สอดคลอ้ งกบั นชีวติ ประจาวันได้ ะผเู้ รียนร่วมกนั สรปุ ความรู้จากแบบทดสอบ มอบหมาย รประเมนิ ผลการเรียนรู้ ะผเู้ รยี นนาผลงานทไ่ี ดจ้ ากการตอบ บมาใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ รียนและผู้เก่ยี วขอ้ งรว่ มกันสร้างเกณฑ์การวดั ผล สนิ ผลการเรยี นรตู้ ามเกณฑท์ ก่ี าหนด หนดสภาพปญั หา เรยี นรว่ มกนั พดู คุยแลกเปลี่ยนประสบการณท์ ม่ี ี ลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยขน์สว่ นรวม บรวมปญั หาตา่ ง ๆ ทพ่ี บจากการพดู คุย งแผนการเรียนรู้

ครง้ั ที่ รายวิชา/หัวเรอ่ื ง ตวั ชว้ี ัด เนือ้ หา 19 การทจุ รติ ขั้นที่ - ลักษณะของความละอาย 2.1 ค และความไม่ทนตอ่ การ ละอาย ทจุ ริต 2.2 ค - การลงโทษทางสังคม 1. ควา - กรณตี ัวอยา่ งความ ทุจรติ ละอายและความไมท่ นต่อ 2. ลกั การทุจริต 2.3 ค มอบห ความร นาเสน ขน้ั ที่ 3.1 ผ เหตุกา 3.2 ค มอบห ข้ันที่ 4.1 ค มาใชเ้ 4.2 ค การเร 4.3 ค

การจัดกระบวนการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ การวดั และ ประเมนิ ผล 2 แสวงหาความรู้ 1. หนงั สอื แบบเรยี น 1. การสังเกต พฤติกรรม ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั ศกึ ษาหาขอ้ มูลเก่ยี วกับความ 2. ใบความรู้ 2. แบบทดสอบ (ใบงาน) ยและความไมท่ นต่อการทจุ ริต 3. ใบงาน ครูและผเู้ รยี นรว่ มกนั กาหนด ามหมายของความละอายและความไม่ทนตอ่ การ ต กษณะของความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต ครูแบง่ กลมุ่ ผู้เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 3-5 คน และ หมายใหผ้ เู้ รยี นในแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สรุปความรู้จากใบ รแู้ ละใบงานทค่ี รูแจกใหพ้ รอ้ มสง่ ตัวแทนกลมุ่ ออกมา นอ 3 การปฏิบตั ินาไปใช้ ู้เรยี นนาความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปปรบั ใช้ใหส้ อดคล้องกับ ารณใ์ นชีวิตประจาวนั ได้ ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกันสรุปความรูจ้ ากใบงานและงานท่ี หมาย 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครูและผเู้ รียนนาผลงานทไี่ ด้จากการตอบจาก ใบงาน เปน็ ขอ้ มูลในการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครู ผเู้ รยี นและผู้เกี่ยวขอ้ งรว่ มกันสรา้ งเกณฑ์การวดั ผล รยี นรู้ ครูตดั สนิ ผลการเรยี นรตู้ ามเกณฑท์ ก่ี าหนด