การตรวจระบบกระดูกและข้อ Musculoskeletal system อ.ศรีสุดา เอกลคั นารตั น์ อ.สิริกานต์ แรงกสกิ ร อ.ธนัชฌา ภัยพยบ
QUIZ 1. Axial malalignment :คืออะไร ......................................................................................... 2. การตรวจ active range of motion ของแขนมีท่าอะไรบา้ ง ......................................................................................... 3. จงยกตวั อยา่ งเสียงจากการฟังกระดูก เช่น …………………………………. แสดงถึงอะไร ........................................................................................... 2
QUIZ 4. Straight leg raising test(SLR) คือการตรวจอยา่ งไร ............................................................................................ เพอ่ื ประเมินอะไร .................................................................... 5. การตรวจ Muscle Power แบ่งเป็นกี่ระดบั ............................. อะไรบา้ ง ................................................................................ 6. McBurney’s point หมายถึงเส้นที่ลากจากจุดไหนถึงจุดไหน ............................................................................................ 3
ระบบกระดูกและข้อประกอบด้วย 1. กระดูก (Bone) 2. กระดูกอ่อน (Cartilage) 3. เอน็ (Ligament) 4. ขอ้ ตอ่ (Joint) 5. กลา้ มเน้ือ (Muscle) 4
กระดกู ในร่างกายมีทงั้ หมดก่ีชนิ้ ?แบ่งเป็ นก่ีประเภท? ▹ กระดูกยาว ▹ กระดูกส้ัน ▹ กระดูกแบน ▹ กระดูกที่มีรูปร่างไม่แน่นอน ▹ กระดูกท่ีฝังอยใู่ นเอน็ กลา้ มเน้ือ 5
การตรวจระบบกระดูกและกล้ามเนือ้ ใช้หลกั การ 4 ประการ 6
1 การดู(Inspection) 7
1. ลกั ษณะ ควรเปิ ดใหเ้ ห็นอวยั วะส่วนที่ตรวจใหห้ มด และเปรียบเทียบรูปร่างทาง กบั ดา้ นตรงขา้ มเสมอกายวภิ าค - เริ่มจากดูรูปร่างของอวยั วะ บิดเบ้ียวผดิ รูป ส้นั หรือผดิ สดั ส่วนหรือไม่ - มีกอ้ นผดิ ปกติหรือไม่ - สีผวิ หนงั ผดิ ปกติหรือไม่ 8
ปกตแิ ขนและขาจะมี malalignment 2 ประเภท2.Alignment - Axial malalignment : ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งความยาวของ ท่อนบนและท่อนล่างของรยางคซ์ ่ึงบอกเป็นมุมท่ี เปรียบเทียบกบั เสน้ ตรง เช่น มุมขอ้ เขา่ ที่เกิดข้ึนจากแนว กระดูกตน้ ขาและกระดูกหนา้ แขง้ ช้ีเขา้ หา midline ทาใหข้ า กางออก เขา่ เชิด เรียกวา่ genu valgum 9
2.Alignment - rotation malalignment : (ต่อ) : ความผดิ รูปที่เกิดจากการบิดหมุนในแนว Longitudinal axis 10
3. Gait - สังเกตต้งั แต่ผปู้ ่ วยเดินเขา้ มา โดยสังเกตลกั ษณะการเร่ิมเดิน การ วางเทา้ การกา้ วเทา้ และจงั หวะท่ีเทา้ เหวย่ี งผา่ นขาที่รับน้าหนกั อยู่ - Gait cycle เริ่มจากสน้ เทา้ สัมผสั พ้ืนตามดว้ ยส่วนของฝ่ าเทา้ และ หนา้ เทา้ วางบนพ้นื ท้งั หมด ขณะเดียวกนั ดา้ นตรงขา้ มกเ็ ร่ิมยกข้ึน และเหวย่ี งไปดา้ นหนา้ - จงั หวะท่ีเทา้ เหวยี่ งผา่ นขาท่ีรับน้าหนกั อยสู่ าคญั มากในการดู ความผิดปกติของ Gait cycle เนื่องจากน้าหนกั จะถกู ถ่ายมาขาดา้ น ท่ียนื อยู่ 11
https://www.youtube.com/watch?v=sWZLM1n55MM 12
4.Range ในส่วนของแขน ใหต้ รวจ active range of motion ใหด้ ูof motion การเคลื่อนไหวขอ้ ท้งั 3 แนว คือ(ROM) - Flexion (งอแขน)/Extension (เหยยี ดแขน) - Abduction (กางแขนออกจากลาตวั )/Adduction (หุบแขน เขา้ หาลาตวั ) - External Rotation(การหมุนแขนขาออกจากลาตวั เม่ือจาก ดา้ นหนา้ )/Internal Rotation (การหมุนแขนขาเขา้ หาแนว กลาง) 13
Range of Motion of Arm 14
Flexion/ ใชอ้ ธิบายการเคลื่อนไหวของขอ้ ในแนว Sagittal plane ขอ้ ที่Extension ต่างกนั อาจแปลความหมายต่างกนั -Flexion ข้อศอก ข้อเข่าและข้อมอื หมายถึง การงอขอ้ ส่วน Extension หมายถึง การเหยยี ดขอ้ ออก -ส่วนข้อไหล่และข้อสะโพก Flexion หมายถึง การเคล่ือนมา ดา้ นหนา้ ตอ่ coronal plane และ Extension หมายถึง เคล่ือนไป ดา้ นหลงั -สาหรับข้อมอื นิยมใชค้ าวา่ dorsiflexion และ volar flexion และ ขอ้ เทา้ ใชค้ าวา่ dorsiflexion และ plantar flexion 15
16
17
Abduction/ หมายถึง การเคลื่อนไหวของขอ้ ภายใน coronal plane โดยAdduction - Abduction หมายถึง การเคล่ือนไหวของแขนขาออกจาก แนวกลางของร่างกาย - ส่วน Adduction หมายถึง การเคล่ือนไหวของแขนขาเขา้ หาแนวกลางของร่างกาย - สาหรับ กระดูกสันหลงั การเคลื่อนไหวออกจากแนวกลาง เรียกวา่ right or left lateral bending 18
19
20
External / ใชอ้ ธิบายการเคล่ือนไหวในแนว transverse plane หรือการInternal เคล่ือนไหวรอบ longitudinal axisRotation - คาวา่ External rotation หมายถึง การหมุนแขนขาออก จากแนวกลางเม่ือดูจากดา้ นหนา้ - และ Internal rotation หมายถึง การหมุนเขา้ หาแนวกลาง - ส่วน กระดูกสันหลงั ใชค้ าวา่ right or left lateral rotation 21
22
2 การคลา(Palpation) 23
การคลา - คลาโดยใชป้ ลายนิ้วกดลงบนอวยั วะ ปฏิบตั ิร่วมกบั การ ดู เพ่ือประเมินอาการกดเจ็บ อาการปวด - อณุ หภูมขิ องอวยั วะ ถา้ ร้อนอาจเกิดจากการอกั เสบติด เช้ือ ถา้ เยน็ อาจเกิดจากการอุดตนั ของหลอดเลือด - การกดบริเวณเสน้ ประสาทส่วนปลายท่ีมีการบาดเจบ็ หรือกดทบั จะทาใหเ้ จ็บหรือชาเพม่ิ ขนึ้ 24
3 การขยบั(Manipulation) 25
การขยบั เป็นการตรวจการเคล่ือนไหวขอ้ และกลา้ มเน้ือ ทา ร่วมกบั การทา Range of motion https://www.youtube.com/watch?v=oDBep9XA1B0 26
4 การวดั(Measurement) 27
การวดั - การวดั ความยาวของแขน ขา เทา้ ขนาด เสน้ รอบวง โดยเปรียบเทียบกบั ขา้ งที่ปกติ อาจทาร่วมกบั การ เคล่ือนไหวขอ้ วา่ ทาไดก้ ่ีองศา - การวดั ความยาวของเสน้ รอบน่องเพ่อื ดูวา่ กลา้ มเน้ือ ลีบหรือไม่ วดั จากใตป้ ่ ุมกระดูก tibia tubercle ประมาณ 10 เซนติเมตร 28
5 การฟัง(Auscultation) 29
การฟัง - การฟังมีประโยชน์เมื่อขยบั ร่วมดว้ ย - อาจมี Crepitation เวลาขยบั มือ แสดงถึง ความเส่ือม หากมี Crepitation ของกระดูก แสดงวา่ กระดูกหัก https://www.youtube.com/watch?v=vzXJRwXA5gw 30
6การตรวจพเิ ศษการเคล่อื นไหว 31
1. Straight legraising test: SLR 32
Straight leg เป็นการตรวจการกดทบั ของเส้นประสาท ถา้ ผปู้ ่ วยมีอาการraising test: ปวดหลงั และปวดร้าวขาขา้ งใดขา้ งหน่ึง SLR การตรวจหาวา่ มีการกดของเส้นประสาทไขสนั หลงั (Lumbar nerve root) โดยใหผ้ ปู้ ่ วยนอนหงาย ยดื เข่าให้ ตรง จากน้นั ผตู้ รวจจบั ท่ีส้นเทา้ ผปู้ ่ วยแลว้ ยกข้ึน โดยมือ อีกขา้ งหน่ึงจบั ที่หวั เขา่ ของผปู้ ่ วย 33
การแปลผล - ตาม ปกติ จะสามารถยกไดถ้ ึง90 องศา หรือมากกวา่ โดยไม่ มีอาการเจบ็ ปวดSLR - ถา้ มีอาการปวดร้าวไปดา้ นหลงั ของตน้ ขา น่องและเทา้ โดย ยกขาไดอ้ ยรู่ ะหวา่ ง 30-70 องศา แสดงวา่ ให้ผลบวก - ถา้ ใหผ้ ลบวกนอ้ ยกวา่ 30 องศา มกั มีพยาธิสภาพที่ Sciatic nerve - ถา้ ใหผ้ ลบวกมากกวา่ 70 องศา แสดงวา่ อาการปวดเกิดจาก บริเวณ Lumbar หรือ Sacroiliac joint 34
2. Muscle tone and Muscle power 35
Muscle ความตึงตวั ของกล้ามเนือ้ (Muscle tone) tone ตรวจขณะที่ผปู้ ่ วยปล่อยแขนขาตามสบายในท่านงั่ หรือ นอน ผตู้ รวจทาการเคล่ือนไหวขอ้ มือ ศอก เข่า และ เทา้ ของผปู้ ่ วย เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่ วยคลายการเกร็ง ปกติจะมี ความตึงตวั พอรู้สึกได้ 36
Abnormalities - Spaticity คือการที่ความตา้ นทานเปลี่ยนแปลงตาม of ทิศทางและความเร็วของการเคล่ือนไหว เป็นความMuscle tone ผดิ ปกติของ corticospinal tract disease 37
Abnormalities - Rigidity จะมีความตา้ นทานจะเท่าๆกนั โดยตลอดใน of ทุกทิศทางของการเคลื่อนไหวเป็นความผดิ ปกติของMuscle tone extrapiramidal tract 38
Abnormalities - Cogwheel rigidity จะพบวา่ ในขณะจบั ใหผ้ ปู้ ่ วย of เคลื่อนไหวจะเกิดความตา้ นแบบกระตุกเป็นจงั หวะMuscle tone (jerky) ซ่ึงพบไดใ้ นการเคลื่อนไหวแบบ Parkinsonism 39
40
41
Muscle การตรวจกาลงั ของกล้ามเนือ้ (Muscle power)power เริ่มจากการสงั เกตการเดิน นง่ั หรือนอน ดูการอ่อนแรง ของผปู้ ่ วยและตรวจกาลงั ของกลา้ มเน้ือ ใหผ้ ปู้ ่ วยออก แรงตา้ นกบั ผตู้ รวจ 42
Muscle Power ระดบั 5 : สามารถตา้ นแรงท่ีใชก้ ดแขน-ขาไดเ้ ตม็ ท่ี (ภาวะปกติ) ระดบั 4 : สามารถตา้ นแรงได้ แต่ไม่เตม็ ท่ีคือ ยงั พอตา้ นไดบ้ า้ ง ระดบั 3 : ยกแขน-ขา ลอยสูงจากพ้นื ได้ แต่ตา้ นแรงไม่ได้ ระดบั 2 : เคลื่อนไหวแขน-ขา ไดบ้ นพ้ืนราบ แต่ไม่สามารถยกสูงข้ึนจาก พ้นื ได้ ระดบั 1 : มีการเกร็งของกลา้ มเน้ือแขน-ขา แต่เคลื่อนไหวแขน-ขาไม่ได้ ระดบั 0 : เคลื่อนไหวแขน-ขาไม่ได้ ร่วมกบั ไม่มีการเกร็งของกลา้ มเน้ือเลย 43
การตรวจระบบประสาท 44
1. ความรู้สึกตวั ได้แก่(Mentalstatus) 1.1 ระดับความรู้สึกตวั (Level of consciousness) สงั เกตการตอบสนองของผปู้ ่ วยต่อคาถามหรือคาสง่ั ไม่ควรบรรยายดว้ ยคาท่ีไม่ชดั เจน เช่น drowsy, stupor, semicoma แต่ควรบอกการตอบสนองต่อส่ิง เร้า หรือใช้ Glasgow coma score (E4V5M6) ดงั น้ี 45
Eye 1 = ไม่ลืมตา (ตาบวม = eye closed EC)Opening 2 = ลืมตาเมื่อถกู กระตุน้ ดว้ ยความรู้สึกเจบ็ ปวด (E) 3 = ลืมตาเมื่อถกู กระตุน้ ดว้ ยเสียง 4 = ลืมตาเองไม่มีไม่มีคาพดู 46
Verbal 1 = ไม่ส่งเสียง (ใส่ ET tube = VT)Response 2 = ส่งเสียงไม่เป็นคา (V) 3 = พดู คาไม่มีความหมาย 4 = สบั สน 5 = พดู รู้เร่ือง 47
Moter 1 = ไม่เคลื่อนไหวResponse 2 = ตอบสนองการกระตุน้ ดว้ ยความเจบ็ ปวดในท่าเหยยี ด (M) (decerebrate) 3 = ตอบสนองการกระตุน้ ดว้ ยความเจบ็ ปวดในท่างอ (decorticate) 4 = ตอบสนองการกระตุน้ ดว้ ยความเจบ็ ปวดโดยระบุตาแหน่ง ไม่ได้ 5 = ตอบสนองการกระตุน้ ดว้ ยความเจบ็ ปวดโดยระบุตาแหน่งได้ 6 = ทาไดต้ ามสั่ง 48
2. การพดู ▹ พดู ไม่ชดั พดู ผดิ หลกั ภาษา ไม่พดู เลย พดู คาซ้าๆ พดู เลียนแบบ 49
3. การเดนิ ▹ สงั เกตท่าเดิน การทรงตวั การอ่อนแรง ▹ https://www.youtube.com/watch?v=Q98WKpwI pkE 50
Search