การขนสง่ ในงานโลจิสติกส์
30214 – 2103 การขนสง่ ในงานโลจิสติกส์ บทท่ี 5 อาจารยผ์ ูส้ อน : สภุ าวดี กญั ญาภู (น้าผ้ึง) ID Line : Skn.honey Tell : 0928708494
วิธีการขนสง่ Transportation Modes • ประเภทของการขนส่ง • การขนสง่ ทางถนน หรือทางรถยนต์ • การขนส่งทางรถไฟ • การขนส่งทางนา้ • การขนสง่ ทางอากาศ • การขนส่งทางทอ่ • การขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์ • การขนส่งหลายรูปแบบ
ประเภทของการขนสง่ การขนสง่ โดยท่วั ไป สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การขนสง่ ทางบก การขนส่ง ทางนา้ และการขนสง่ ทางอากาศ ซง่ึ แบ่งตามลกั ษณะของเสน้ ทางอปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการขนส่งแลว้ เป็น 6 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ การขนส่งทางถนน การขนส่งทางรถไฟ การขนส่งทางนา้ การขนส่งทางอากาศ การขนสง่ ทางทอ่ และการขนสง่ ลกั ษณะอ่ืน ๆ การขนสง่ มีความเจรญิ กา้ วหนา้ และมีพฒั นาการมาก ย่ิงขึน้ มีวิธีการขนส่งใหผ้ ูป้ ระกอบธุรกิจเลือกหลายวิธี ผูป้ ระกอบธุรกิจตอ้ งเลือกวิธีการขนส่งให้ เหมาะสมกบั ธรุ กิจของตนเอง และประเภทของการขนสง่
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation)
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) • เป็นการขนสง่ ท่ีนิยมใชก้ นั มากท่ีสดุ ในการขนสง่ ภายในประเทศ • เป็นวิธีการขนสง่ ท่ีสะดวกท่ีสดุ เพราะสามารถสง่ ถึงจดุ หมายไดโ้ ดยไม่ตอ้ งมีการขนถ่ายสินคา้ จาก การเปล่ยี นพาหนะ • มีความยืดหย่นุ ในดา้ นเวลาค่อนขา้ งสงู รวดเรว็ และควบคมุ เวลาไดด้ ี • สามารถขนสง่ สนิ คา้ ไดห้ ลากหลายประเภท ตงั้ แตป่ รมิ าณนอ้ ยไปจนถงึ ปรมิ าณมาก • จานวนเท่ียวท่ีออกรถมีบอ่ ยครงั้ ตามตอ้ งการ • ครอบคลมุ พืน้ ท่ีการบรกิ ารขนสง่ ไดก้ วา้ งไกลกว่า ข้อเสีย คือ ถา้ ปริมาณสินคา้ มากหรือระยะทางไกลจะมีตน้ ทนุ ค่าขนส่งสงู กว่ารถไฟ ในระบบการ บริหารแบบทนั เวลาพอดีนิยมใชเ้ พราะตอ้ งขนส่งบ่อย ๆ แต่ละครงั้ จานวนไม่มาก และต้องมีความ เท่ียงตรงของเวลาค่อนขา้ งสงู บรษิ ัทชนั้ นาท่ีมีการขนส่งมากจะใชบ้ รษิ ัทผใู้ ห้บรกิ ารตามสญั ญาจาก ภายนอก (3PL) เช่น ซี.พี. เซเวน่ อีเลฟเวน่
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) • การขนส่งทางถนนเร่ิมมีมาตงั้ แต่เร่ิมของมนุษยส์ มยั โบราณกาล ซ่ึงอารยธรรมต่าง ๆ ตลอดจน ความเจรญิ ของมนษุ ยส์ ว่ นใหญ่ก็มาจากการขนสง่ • เร่ิมดว้ ยมนษุ ยเ์ รารูจ้ กั บกุ ป่ าฝ่าดงฆ่าสตั ว์ และหาอาหารเพ่ือการดารงชีพ รู้จกั การนาเอาอาหาร อปุ กรณต์ ่าง ๆ ติดตวั ไปดว้ ย เช่น ถือ หิว้ สะพาย แบกหรอื หาม • ต่อมารูจ้ ักการใชเ้ ล่ือน (Sledge) ในการขนสมั ภาระต่าง ๆ รูจ้ ักการนาเอาสัตวม์ าเลี้ยงเพ่ือเป็น อาหารและใชง้ าน โดยใหบ้ รรทกุ ส่งิ ของต่าง ๆ • ตอ่ มารูจ้ กั ใชใ้ หส้ ตั วเ์ ลยี้ งเหลา่ นนั้ ใหล้ ากเล่อื นไป • ตอ่ มารูจ้ กั การใชห้ ินหรอื ไมก้ ลม ๆ มารองใหส้ ตั วล์ ากเล่อื นใหผ้ า่ นไปบนหมอนท่ีรองไวเ้ ป็นทอด ๆ • จนรูจ้ กั ดดั แปลงมาใชล้ อ้ แทน ซง่ึ ในระยะแรกเรม่ิ นนั้ ก็มีสภาพงา่ ย ๆ เป็นเกวียน (Cart) • เม่ือมีเกวียนเกิดขึน้ ถนนหรือเสน้ ทางสาหรบั ใหเ้ กวียนหรือลอ้ เล่ือนต่าง ๆ สามารถว่ิงผ่านไปได้ นบั เป็นวิวฒั นาการเรม่ิ แรกของการขนสง่ ทางถนน
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) • ตอ่ มามีการคิดประดิษฐเ์ ครอ่ื งจกั รไอนา้ ขนึ้ (โดยเจมส์ วตั ต์ ค.ศ.1776) • นายนิโคลาส คโยต์ ไดน้ าเอาเครอ่ื งจกั รไอนา้ ไปประกอบเป็นรถยนต์ สามารถเคล่ือนท่ีไดด้ ว้ ยพลงั ของไอนา้ • ตอ่ มามีผคู้ ิดและประดษิ ฐเ์ คร่อื งจกั รกล และอปุ กรณต์ ่าง ๆ เพ่ิมมากขนึ้ ก็ได้ถกู นามาใชด้ ดั แปลง เป็นอปุ กรณใ์ นการขนสง่ • ต่อมามีการคิดคน้ ประดิษฐ์เคร่ืองจักรกลท่ีใช้นา้ มันขึน้ (ระหว่างปลายศตวรรษท่ี 19) จึงเกิด เคร่ืองยนตส์ ันดาปภายใน และถูกนามาใช้แทนรถยนตท์ ่ีใช้เคร่ืองจักรไอนา้ ทาให้รถยนต์ท่ี เคล่อื นท่ีดว้ ยเครอ่ื งยนตส์ นั ดาปภายในแพรห่ ลาย และนิยมใชม้ าจนถึงปัจจบุ นั
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) โดยสว่ นประกอบของการขนสง่ ท่ีสาคญั ของการขนสง่ ทางถนนมี 4 สว่ น 1.1 เส้นทางของการขนส่งทางรถยนต์ • เสน้ ทางสาหรบั การขนส่งทางรถยนตห์ รือถนนนั้น เป็นเสน้ ทางสาหรบั การขนส่งทางรถยนต์ รถยนตจ์ ะว่งิ บรกิ ารไปยงั ท่ีต่าง ๆ ได้ ถา้ มีถนนไปถงึ • ไดม้ ีววิ ฒั นาการมานานแลว้ ตงั้ แตส่ มยั อียิปตเ์ ป็นตน้ มา โดยรูจ้ กั การนาเอาวสั ดตุ า่ ง ๆ มาใชใ้ นการ สรา้ งเสน้ ทาง เชน่ ใชด้ นิ ใชห้ ิน ใชท้ ราย ใชก้ รวด ใชล้ กู รงั เป็นตน้ • ต่อมารูจ้ กั ใชถ้ นนท่ีลาดดว้ ยยาง และพฒั นามาเป็นถนนคอนกรตี ในท่ีสดุ • เสน้ ทางในการขนส่งทางรถยนตใ์ นปัจจุบนั นอกจากจะอย่บู นพืน้ ดินธรรมดาแลว้ ยงั มีการสรา้ ง เป็นสะพาน สรา้ งเป็นอโุ มงค์ อย่ใู ตพ้ ืน้ ดิน ใตน้ า้ และอย่เู หนือพืน้ ดินอีกดว้ ย
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) เสน้ ทางของการขนสง่ ทางรถยนตอ์ าจสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น • ถนนส่วนบุคคล เป็นถนนท่ีบุคคลใดบคุ คลหน่ึงหรือคณะบคุ คลใดคณะบคุ คลหน่ึงเป็นเจา้ ของ โดยไม่ไดเ้ ปิดใหบ้ คุ คลอ่ืนท่ีไม่ไดเ้ ก่ียวขอ้ งหรอื ไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตใช้ และในการก่อสรา้ งตลอดจนการ ดแู ลและบารุงรกั ษาถนนสว่ นบคุ คลนี้ ผเู้ ป็นเจา้ ของเป็นผรู้ บั ผิดชอบทงั้ สิน้ • ถนนสาธารณะ เป็นถนนท่ีบคุ คลทกุ ๆ คนสามารถใชไ้ ด้ โดยรฐั หรอื หน่วยงานของรฐั หรือเอกชน ท่ีไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ป็นผรู้ บั ผิดชอบในการก่อสรา้ ง ซ่อมบารุงและดแู ลรกั ษา ในการใชเ้ สน้ ทางนี้ อาจจะใหใ้ ชโ้ ดยไม่ตอ้ งจ่ายค่าธรรมเนียมใด ๆ หรืออาจจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้ เสน้ ทางกไ็ ด้ นอกจากนีเ้ ราอาจพิจารณาเสน้ ทางในอีกลกั ษณะหน่งึ ก็ไดโ้ ดยแบง่ ออกเป็น • ถนนในเมือง เป็นถนนท่ีอย่ใู นเขตชมุ ชน ใชต้ ดิ ตอ่ เพ่ือการขนสง่ ภายในเขตพืน้ ท่ีของเมืองนนั้ ๆ • ถนนนอกเมืองหรอื ระหว่างเมือง เป็นถนนท่ีอย่นู อกเขตชมุ ชน ใชต้ ิดต่อกันระหว่างเมืองต่อเมือง ชมุ ชนตอ่ ชมุ ชน
เส้นทางของการขนส่งโดยรถยนต์
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) 1.2 ยานพาหนะของการขนส่งทางรถยนต์ • มีวิวฒั นาการมานานแลว้ เช่นเดียวกนั กบั เสน้ ทาง โดยเร่มิ ตงั้ แตก่ ารใชเ้ ล่ือน ใช้เกวียน ใชร้ ถมา้ ซ่งึ ใชก้ าลงั สตั วเ์ ป็นเครอ่ื งชดุ แรกใหเ้ คล่อื นท่ีไปได้ • ต่อมานาเอาเครอ่ื งจกั รไอนา้ มาใชแ้ ทนกาลงั สตั ว์ และในท่ีสดุ ก็ใชเ้ คร่อื งยนตส์ นั ดาปภายในโดยใช้ นา้ มนั เป็นเชือ้ เพลิง • สาหรบั อุปกรณข์ องการขนส่งทางถนนก็มีมากมายหลายชนิด หลายประเภท เช่น รถจกั รยาน รถจกั รยานยนต์ รถยนต์ • สาหรับการขนส่งทางถนนในประเทศไทยเรานั้น เร่ิมมีการใช้รถเทียมม้าใน รัชสมัยของ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รชั กาลท่ี 4) • และไดท้ รงโปรดเกลา้ ใหส้ รา้ งถนนขนึ้ หลายสายทงั้ ในและนอกกาแพงพระนคร • ต่อมาในรชั สมยั ของพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั (รชั กาลท่ี 5) รถเทียมมา้ ก็มีมาก ขนึ้ และนิยมใชก้ นั มากย่ิงขนึ้ บา้ นเมืองเจรญิ ขนึ้ ตามลาดบั
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) • รถยนตค์ นั แรกท่ีเขา้ มาในเมืองไทยเป็นของเจา้ พระยาสรุ ศกั ดิ์ ต่อมากรมหลวงราชบรุ เี ป็นผนู้ าเขา้ มา แลว้ นอ้ มเกลา้ ถวายใหพ้ ระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี 5 หลงั จากนนั้ ไดม้ ี การส่งั เขา้ มาอีกเป็นจานวนมากและเป็นท่ีแพรห่ ลายนบั แตน่ นั้ มา • รถยนตก์ ็เรม่ิ มีการนามาว่งิ และใชก้ นั มากขนึ้ ในกรุงเทพฯ และเป็นเจา้ ถนนมาจนถึงปัจจบุ นั นี้ • ส่วนถนนท่ีสรา้ งนนั้ ถือไดว้ ่า ถนนเจริญกรุง เป็นถนนสายแรก และต่อมาก็มีถนนบารุงเมือง ถนนเฟ่ืองนคร และถนนสายอ่ืน ๆ อีก จนกระท่งั มีการถมคลองตา่ ง ๆ มาสรา้ งเป็นถนนจวบจนทกุ วนั นี้
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) ยานพาหนะซง่ึ เป็นอปุ กรณข์ องการขนสง่ ทางถนนแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ • รถยนตโ์ ดยสาร เป็นรถยนตท์ ่ีสรา้ งขึน้ เพ่ือใชง้ านดา้ นการขนส่งบคุ คล อปุ กรณเ์ พ่ือการขนส่งผู้โดยสาร สรา้ งขึน้ มา เพ่ือใชง้ านดา้ นการขนสง่ บคุ คล เชน่ รถยนตน์ ่งั รถจกั รยาน เป็นตน้ • รถยนตบ์ รรทุก เป็นรถยนตท์ ่ีใชใ้ นการบรรทกุ ขนส่งสินคา้ โดยเฉพาะอปุ กรณเ์ พ่ือการขนสง่ สินคา้ และบริการ สรา้ ง ขึน้ มาเพ่ือใชง้ านดา้ นการขนส่งสินคา้ และบริการโดยท่วั ไป หรือใชเ้ ฉพาะอย่าง เช่น รถบรรทกุ รถ นา้ มนั เป็นตน้
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) ยานพาหนะของการขนส่งทางถนนได้มีการพัฒนาและปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพท่ีดีอยู่ ตลอดเวลา พจิ ารณาตามลกั ษณะของการใชง้ าน แบง่ ออกไดเ้ ป็น รถยนตส์ าธารณะ หมายถงึ รถท่ีใชร้ บั จา้ งขนสง่ มีแบบรถยนตป์ ระจาทาง และรถยนตไ์ มป่ ระจาทาง รถยนตบ์ ริการ เป็นรถท่ีใหเ้ ช่าหรอื รบั จา้ ง เช่น รถบรกิ ารทศั นาจร รถเช่า รถยนตส์ ว่ นบคุ คล เป็นรถท่ีใชใ้ นกิจการสว่ นตวั เช่น รถเก๋ง รถบรรทกุ สนิ คา้ สว่ นบุคคล
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) 1.3 สถานีของการขนส่งทางรถยนต์ สาหรบั สถานีขนสง่ ทางถนนนนั้ ก็อาจแบง่ ออกไดเ้ ป็น • สถานีสาหรับขนส่งผู้โดยสาร • สถานีขนส่งสินคา้ และบริการ สถานีในการขนสง่ ทางถนนนี้ โดยท่วั ๆ ไป จะมีอย่แู พรห่ ลาย กระจายท่วั ไปตามเสน้ ทางท่ีการขนส่ง ทางถนนไปถึง โดยอาจจะมีสถานีท่ีเป็นจดุ ใหญ่ๆ หรือจดุ ศนู ยก์ ลาง หรือจดุ ตน้ ทาง ปลายทาง และ จะมีสถานีระหว่างเสน้ ทาง ซ่ึงอาจจะอยู่ในท่ีชุมชนหรือในตวั เมือง หรือตามทางแยก โดยภายใน สถานีขนส่งท่ีดีนนั้ จะมีเคร่อื งอานวยความสะดวกและเคร่อื งอปุ กรณต์ ่าง ๆ ไวค้ อยใหบ้ ริการผทู้ ่ีใช้ บรกิ ารตลอดเวลา เช่น หอ้ งพกั หอ้ งฝากส่งิ ของ รา้ นอาหาร โทรศพั ท์ เป็นตน้
สถานีของการขนส่งทางรถยนต์
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) 1.4 ผู้ประกอบการขนส่งทางรถยนต์ ผปู้ ระกอบการขนส่งทางถนนก็มีทงั้ ท่ีเป็นของรฐั และเอกชน โดยผูป้ ระกอบการขนส่งนั้น สามารถ แบง่ ออกไดห้ ลายประการ เชน่ 1. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ (Common Carrier) เป็นผรู้ บั จา้ งขนสง่ โดยท่วั ไป เพ่ือสนิ จา้ งรางวลั โดยไมจ่ ากดั เสน้ ทางและเวลา มีทงั้ ประจาทางและไม่ ประจาทาง 2. ผู้ประกอบการขนส่งตามสัญญา (Contact Carrier) เป็นผปู้ ระกอบการขนส่งเพ่ือบาเหน็จ รางวลั ตอบแทน โดยมีการทาสญั ญาตกลงกนั ก่อนท่ีจะทาการ ขนสง่ 3. ผู้ประกอบการขนส่งส่วนบคุ คล (Private Carrier) เป็นผปู้ ระกอบการขนสง่ เพ่ือกิจการการคา้ ของตนเอง สว่ นใหญ่เป็นกิจกรรมประเภทอตุ สาหกรรม
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) 4. ผู้ประกอบการขนส่งแบบรับจัดการขนส่ง (Freight Forwarder) เป็นผปู้ ระกอบการขนส่งท่ีเป็นผรู้ บั จา้ งจดั การรวบรวมเพ่ือใหม้ ีการขนส่งเกิดขึ้น โดยเม่ือรวบรวมได้ แลว้ ก็จะมอบใหผ้ ปู้ ระกอบการอ่ืนทาการขนส่งอีกต่อหน่ึง แต่ความรบั ผิดชอบโดยตรงยงั คงอย่กู ับ ผรู้ บั จดั การขนส่ง โดยในบางกรณีอาจจะมีลกั ษณะเป็นนายหนา้ หรอื ตวั แทน ซง่ึ จะไดร้ บั ค่าตอบแทน ในรูปของคา่ คอมมชิ ช่นั แตค่ วามรบั ผิดชอบจะไม่ตกอย่กู บั นายหนา้ หรอื ตวั แทน 5. ผู้รับประกอบสถานีขนส่ง หมายถึง การดาเนินงานใหร้ ถยนตเ์ ขา้ ไปจอดรบั ผโู้ ดยสารหรือขนถ่ายสินคา้ ในสถานีท่ีกาหนดไว้ โดยปกติรฐั บาลจะเป็นผดู้ าเนินการสถานีขนส่งเอง และจะประกาศกาหนดสถานีใหร้ ถยนต์เขา้ ไป จอดรบั สง่ สินคา้ และผโู้ ดยสาร
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) 6. การขนส่งในความรับผิดชอบของรัฐวสิ าหกจิ เชน่ องคก์ ารรบั สง่ สนิ คา้ และพสั ดภุ ณั ฑ์ (ร.ส.พ) ซง่ึ จดั ตงั้ ขนึ้ โดยพระราชกฤษฎีกา การจดั ตงั้ องคก์ าร รบั สง่ สนิ คา้ และพสั ดภุ ณั ฑ์ พ.ศ. 2496 ในปัจจบุ นั ผลประกอบการขาดทนุ ไดย้ กเลิกแลว้ นอกจากนนั้ ยงั มี การรถไฟแห่งประเทศไทย องคก์ ารขนสง่ มวลชน
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) 1.5 ข้อได้เปรียบเสียเปรียบของการขนส่งทางรถยนต์ ข้อได้เปรียบ 1. สามารถใหบ้ รกิ ารถงึ บา้ นได้ (Door to Door Service) บรกิ ารไดถ้ งึ ท่ีโดยไมต่ อ้ งมีการขนถ่าย 2. ขนสง่ สินคา้ ไดต้ ลอดเวลาตามความตอ้ งการของลกู คา้ 3. มคี วามคลอ่ งตวั สงู สะดวก รวดเรว็ และใหบ้ รกิ ารไดท้ กุ จดุ ตลอดระยะทาง 4. สามารถบริการไดต้ ลอดเวลาและทันเวลา ไม่จาเป็นตอ้ งมีหมายกาหนดการเหมือนรถไฟหรือ เครอ่ื งบนิ 5. ใชใ้ นการขนสง่ ไดท้ กุ ระยะทาง โดยเฉพาะระยะใกลแ้ ละปานกลาง 6. ใชเ้ ช่ือมโยงหรอื ประสานกบั การขนสง่ ประเภทอ่ืน ๆ ท่ีไมส่ ามารถไปถงึ จดุ หมายไดโ้ ดยตรง 7. สามารถลงทนุ ดว้ ยเงนิ จานวนนอ้ ยเม่ือเทียบกบั การขนสง่ แบบอ่ืน
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) 8. มีผปู้ ระกอบการมากราย สามารถเลอื กรบั บรกิ ารได้ 9. การเลิกกิจการทาไดง้ า่ ย ผลเสียหายมีนอ้ ย 10. ไม่จาเป็นตอ้ งใชผ้ ูท้ ่ีมีความรูค้ วามชานาญเฉพาะอย่าง จึงสามารถขยายกิจการไดง้ ่าย การ ดาเนินงานไม่ย่งุ ยาก บคุ คลท่วั ไปสามารถดาเนินการได้
1. การขนสง่ ทางถนนหรอื ทางรถยนต์ (Road Transportation) (ต่อ) ข้อเสียเปรียบ 1. บรรทกุ ไดเ้ ฉพาะของท่ีมีนา้ หนกั ไมม่ ากนกั และรถจะมีความจนุ อ้ ยเม่ือเปรยี บเทยี บกบั เรอื 2. ความปลอดภยั มีนอ้ ย เกิดอบุ ตั ิเหตไุ ดง้ ่าย 3. ไมส่ ามารถบรรทกุ ของหนกั หรอื มีปรมิ าณมากได้ หรอื การสง่ สินคา้ ไดป้ รมิ าณและขนาดจากดั 4. ตน้ ทนุ และคา่ ใชจ้ า่ ยในระยะไกลจะสงู ขนึ้ เรอ่ื ย ๆ หรอื คา่ ขนสง่ สงู เม่ือเทียบกบั การขนสง่ ทางรถไฟ 5. เป็นบริการท่ีเหมาะสมกับการขนส่งระยะใกล้และปานกลาง ไม่เหมาะสาหรบั การขนส่งใน ระยะไกล 6. มกี ารแข่งขนั กนั มาก เพราะมีผปู้ ระกอบการไดม้ าก 7. กาหนดเวลาแนน่ อนไม่ได้ ขนึ้ อยกู่ บั สภาพการจราจรและดนิ ฟา้ อากาศ
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation)
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) • การขนสง่ ทางรถไฟเป็นวธิ ีการหนง่ึ ท่ีสามารถเคล่อื นยา้ ยส่งิ ของและบคุ คลไปไดไ้ กลดว้ ยตน้ ทนุ การ ขนส่งต่า และมีความปลอดภัยจากอุบตั ิเหตุสูงกว่าการขนส่งประเภทอ่ืน เพราะเคร่ืองท่ีอยู่ใน เสน้ ทาง (ราง) ท่ีสรา้ งขนึ้ โดยเฉพาะน่นั เอง • ลกั ษณะเด่นของการขนส่งทางรถไฟคือ การท่ีขบวนรถไฟแต่ละขบวนสามารถพ่วงตบู้ รรทกุ หรือ ผโู้ ดยสารไดค้ ราวละมาก ๆ จึงสามารถใหบ้ ริการโดยประหยัด เหมาะสมกบั สินคา้ นา้ หนักมาก ปรมิ าณมาก กินเนือ้ ท่ีมากและบรรทกุ เป็นระยะทางไกล ๆ • สินคา้ ท่ีนิยมขนไดแ้ ก่ ปนู ซเี มนต์ ถ่านหิน นา้ มนั ตคู้ อนเทนเนอร์ เหมาะกบั การขนสง่ ระยะทางไกล เพราะถา้ ขนสง่ ระยะใกล้ จะถงึ ท่ีหมายชา้ กวา่ รถบรรทกุ และตอ้ งเคล่อื นยา้ ยเปล่ียนพาหนะ • แตร่ ถไฟมีขอ้ จากดั ท่ีตอ้ งว่ิงบนรางท่ีมีเสน้ ทางจากดั ตายตวั ทาใหม้ ีความยืดหย่นุ ในการขนสง่ นอ้ ย • นอกจากนนั้ ยงั มีขอ้ เสียคือมกั ลา่ ชา้ บอ่ ย ๆ คณุ ภาพของการบรกิ ารคอ่ นขา้ งต่า • เวลาออกรถกาหนดตายตวั ไม่สามารถเปล่ยี นแปลงตามความตอ้ งการได้
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) • การขนสง่ ทางรถไฟเรม่ิ มีมานานแลว้ ตงั้ แต่สมยั โบราณ เกิดขนึ้ หลงั จากยคุ ท่ีมนุษยเ์ รารูจ้ กั ใชว้ งลอ้ เขา้ มาช่วยในการขนสง่ • ในระยะเรม่ิ แรกใชแ้ รงสตั ว์ เช่น ชา้ ง มา้ ววั ควาย ลา เป็นตน้ ลากใหเ้ คล่ือนท่ีไปตามรางท่ีกาหนด ไว้ โดยวงลอ้ นนั้ ทาดว้ ยไม้ • ตอ่ มาก็มีวิวฒั นาการมาเรอ่ื ย ๆ รูจ้ กั ใชเ้ หลก็ แทนไม้ • และมีการนาเอาเครอ่ื งจกั รไอนา้ มาใชแ้ ทนกาลงั สตั ว์ • การขนส่งทางรถไฟนีเ้ ป็นการขนส่งประเภทท่ีถือว่า เป็นประเภทบกุ เบิกของการขนส่งเกือบทกุ ๆ ประเภท ก่อนท่ีการขนสง่ ประเภทอ่ืน ๆ จะเจรญิ • ประเทศองั กฤษ เป็นประเทศแรกท่ีมีการขนส่งทางรถไฟเกิดขึน้ ต่อมาไดแ้ พรห่ ลายไปยังประเทศ ตา่ ง ๆ ทงั้ ยโุ รป อเมรกิ า และท่วั โลก
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) ธนาคารโลกไดเ้ สนอใหร้ ฐั ปรบั ปรุงองคก์ รกรมรถไฟหลวงใหม้ ีอิสระกว่าท่ีเป็นอยู่ เพ่ือใหเ้ กิด ความคล่องตัวในการบริหารกิจการเชิงธุรกิจกรมรถไฟหลวง จึงเปล่ียนฐานะมาเป็นรฐั วิสาหกิจ ประเภทสาธารณปู การ ภายใตช้ ่ือวา่ การรถไฟแห่งประเทศไทย ตงั้ แตว่ นั ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2494 เป็นตน้ มา โดยดาเนินการอย่ภู ายใต้ พ.ร.บ. การรถไฟฯ ฉบบั พ.ศ. 2494 ซ่งึ ในหลกั การ รฐั คมุ การ แต่งตงั้ และปลดผบู้ รหิ าร คมุ อตั ราเงินเดือนพนกั งาน และค่าระวาง คมุ การเปิดปิดเส้นทางและการ บรกิ าร และคมุ การลงทนุ ทงั้ หมด แต่หากดาเนินงานขาดทนุ รฐั จะชดเชยใหเ้ ท่าจานวนท่ีขาด ตอ่ มา กิจการรถไฟไดม้ ีการขยายตวั โดยมีการเพ่ิมเสน้ ทางใหม้ ากขึน้ และเปิดเดินรถไฟในเสน้ ทางต่าง ๆ อย่ตู ลอดจนถึงปัจจบุ นั การรถไฟแหง่ ประเทศไทยไดม้ ีระบบการบรหิ ารจดั การองคป์ ระกอบทงั้ ระบบ การเดนิ รถไฟ
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 2.1 เส้นทางของการขนส่งทางรถไฟ • เสน้ ทางสาหรบั การขนสง่ ทางรถไฟไดม้ ีการพฒั นามาตงั้ แตเ่ รม่ิ มีรถไฟเกิดขนึ้ • โดยใชไ้ มท้ าเป็นรางเพ่ือใหร้ ถว่งิ ไปได้ • ต่อมาก็ดดั แปลงเป็นใชเ้ หลก็ แทน • ทางรถไฟตอ้ งมีการสรา้ งเฉพาะเป็นพิเศษของตวั เอง ไมส่ ามารถใชร้ ว่ มกบั การขนสง่ แบบอ่ืน ๆ ได้ • ทางรถไฟจะตอ้ งมีหมอนรองทางรถไฟไว้ ซ่ึงแต่เดิมก็ใชไ้ มเ้ ป็นหมอนรองรางรถไฟ แต่ปั จจุบนั ก็ เปล่ยี นมาใชว้ สั ดอุ ่ืนแทน คือ ใชค้ อนกรตี แทนหมอนไม้
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) • เสน้ ทางรถไฟแตล่ ะสายก่อสรา้ งขนึ้ ตามความตอ้ งการทางเศรษฐกิจการเมือง และสงั คม • ความยาวของแตล่ ะสายไมเ่ ท่ากนั • ส่วนทางดา้ นการเดินรถไฟมี 2 ระบบ คือ ระบบการเดนิ รถบนทางเด่ียว (Single Line) และระบบ การเดินรถบนทางคู่ (Double Line) ซ่งึ มีระบบท่ีแตกต่างกนั คือ ระบบการเดินรถบนทางเด่ียวนนั้ รถท่ีเดินสวนทางกนั จะตอ้ งมีการหลีกกันในสถานีใดสถานีหน่ึงซ่ึงมีทางหลีก หากรถไฟขบวนใด ขบวนหน่ึงเกิดความล่าชา้ เสียเวลา จาเป็นตอ้ งเปล่ียนทางหลีกกนั ใหม่ จะทาใหข้ บวนหน่ึงท่ีเดิน ตามกาหนดเวลาพลอยชา้ ไปดว้ ย ในประเทศไทยระบบรางเป็นแบบไม่เป็นมาตรฐานสากล เพราะ ความกวา้ งระหวา่ งรางมีเพียง 1 เมตร ซง่ึ มาตรฐานโลกประมาณ 1.45 เมตร
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 2.2 ยานพาหนะของการขนส่งทางรถไฟ ไดแ้ ก่ รถไฟหรอื ขบวนรถไฟ ซง่ึ ยานพาหนะของการขนสง่ ทางรถไฟประกอบดว้ ย • รถไฟ (หวั รถจกั ร) ใชเ้ พ่ือการขบั เคล่อื น ลากจงู ใหข้ บวนรถไฟว่งิ ได้ • ตรู้ ถไฟบรรทกุ ผโู้ ดยสาร ใชส้ าหรบั บรรทกุ ผโู้ ดยสาร • รถไฟบรรทกุ สินคา้ และบรกิ าร ใชส้ าหรบั บรรทกุ สินคา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ สาหรบั ขบวนรถไฟของไทยท่ีเราพบเห็นกนั อย่เู สมอ เช่น รถด่วน รถเรว็ รถธรรมดา รถดีเซลราง เป็น รถท่ีใชส้ าหรบั ขนสง่ ผโู้ ดยสาร สว่ นรถท่ีใชส้ าหรบั ส่งสินคา้ และบรกิ ารคอื รถสินคา้ นอกจากนีย้ งั มีรถ ประเภทหน่งึ ท่ีใชข้ นสง่ ผโู้ ดยสารและสนิ คา้ พรอ้ มกนั คอื รถรว่ ม ซง่ึ มีรายละเอียดต่อไปนี้
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 1. ขบวนรถดว่ นพเิ ศษ เป็นขบวนรถท่ีจดั เดินระยะทางไกล อย่สู ถานีท่ีสาคญั ๆ เท่านนั้ รถพ่วงสว่ น ใหญ่จะเป็นรถนอนธรรมดาและปรบั อากาศ 2. ขบวนรถด่วน เป็นขบวนรถท่ีจดั เดินระยะทางไกล อย่สู ถานีท่ีสาคญั ๆ เท่านนั้ รถพ่วงส่วนใหญ่ จะเป็นรถนอนธรรมดาและปรบั อากาศ โดยจะมีรถโดยสารชนิดน่งั รว่ มรวมอยดู่ ว้ ยในบางขบวน 3. ขบวนรถเร็ว เป็นขบวนท่ีจดั เดนิ ระยะทางไกลหยดุ เกือบทกุ สถานี รถพ่วงสว่ นใหญ่จะเป็นรถน่งั 3 ชนั้ 4. รถว่ิงระหว่างเมืองใหญ่ เป็นขบวนรถท่ีจัดเดินเพ่ือรบั /ส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะสถานีสาคญั ๆ เทา่ นนั้ 5. ขบวนรถทอ่ งเทยี่ ว เป็นขบวนรถท่ีจดั เดนิ เพ่ือใหบ้ รกิ ารนกั ท่องเท่ียวในช่วงวันหยดุ -เสารอ์ าทิตย์ และวนั หยดุ ราชการ หยดุ เฉพาะสถานีท่ีเป็นแหลง่ ทอ่ งเท่ียวเทา่ นนั้
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 6. ขบวนรถธรรมดา เป็นขบวนรถท่ีจดั เดินเพ่ือใหบ้ รกิ ารแก่ผโู้ ดยสาร จากกรุงเทพฯ ไปยงั จงั หวดั สาคญั ในแตล่ ะภมู ิภาค 7. รถชานเมือง เป็นขบวนรถท่ีจัดเดินเพ่ือใหบ้ ริการแก่ผูโ้ ดยสารในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รศั มีไม่เกิน 150 กิโลเมตร เพ่ือใชเ้ ดินทางไปทางาน ศกึ ษาเลา่ เรยี น และติดต่อคา้ ขาย หยดุ ทกุ สถานี และปา้ ยหยดุ รถ 8. ขบวนรถท้องถิ่น เป็นขบวนรถท่ีจดั เดนิ เพ่ือใหบ้ รกิ ารแก่ผโู้ ดยสารระหวา่ งจงั หวดั หยดุ ทกุ สถานี และปา้ ยหยดุ รถ 9. ขบวนรถรวม เป็นขบวนรถท่ีจดั เดินเพ่ือใหบ้ รกิ ารแก่ผโู้ ดยสาร หยดุ ทกุ สถานี และปา้ ยหยดุ รถ 10. ขบวนรถสินค้าปนู ซเี มนต์ มีลกั ษณะการขนสง่ จดั เดินเป็นขบวนรถปนู ซีเมนตผ์ ง 11. ขบวนรถสินคา้ ผลติ ภณั ฑน์ า้ มันเชือ้ เพลงิ สาเร็จรูป 12. ขบวนรถสินคา้ นา้ มันดบิ
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 13. ขบวนรถสินค้ากา๊ ซ แอลพจี ี 14. ขบวนรถสินค้าท่ัวไป ใหบ้ ริการดา้ นการขนส่งสินคา้ \"ประเภทเหมาทงั้ คนั \" ทงั้ ภายในประเทศ เพ่ือสง่ ออกตา่ งประเทศ ชนิดของรถท่ีใหบ้ รกิ ารแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท รถปิด ไดแ้ ก่ รถท่ีมีหลงั คาครอบคลมุ และประตปู ิดมิดชิดทกุ ดา้ น เหมาะสาหรบั การขนส่งสินคา้ ท่ี เสยี หายงา่ ยเม่ือถกู แดดถกู ฝน รถเปิด ไดแ้ ก่ รถท่ีไม่มีหลงั คา เหมาะสาหรบั การขนสง่ สินคา้ ท่ีไมเ่ สียหายเม่ือถูกแดดถกู ฝน 15. รถเฉพาะกิจ คือ รถไฟท่ีออกแบบสาหรบั ใช้เฉพาะงาน เช่น รถบรรทุกนา้ มัน รถบรรทุก ปนู ซเี มนต์
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 2.3 สถานีขนส่งทางรถไฟ การขนส่งทางรถไฟก็จาเป็นตอ้ งมีสถานีสาหรบั ขนส่งผูโ้ ดยสาร สินคา้ และบริการเช่นเดียวกันกับ การขนส่งประเภทอ่ืน ๆ ซ่ึงสถานีในการขนส่งทางรถไฟก็มีลกั ษณะคลา้ ยกบั การขนส่งทางรถยนต์ กลา่ วคือ สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น สถานีตน้ ทางและปลายทาง สถานีชมุ ทางและสถานีรายทาง ในการขนส่งทางรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นสถานีตน้ ทาง/ปลายทาง/ชมุ ทาง หรือสถานีรายทาง ต่างก็ตอ้ งมี ส่ิงอานวยความสะดวกไดเ้ ช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหอ้ งพัก รา้ นอาหาร รา้ นขายของใช้ และส่ิง อานวยความสะดวกอ่ืน ๆ อีก
สถานีขนส่งทางรถไฟ
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 2.4 ผู้ประกอบการขนส่งทางรถไฟ ผปู้ ระกอบการขนสง่ ทางรถไฟสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ลกั ษณะดงั นี้ 1. ผู้ประกอบการของรัฐ เป็นกิจการท่ีรฐั เป็นผลู้ งทนุ และดาเนินกิจการเองทงั้ หมด 2. รถไฟผู้รับอนุญาต หมายถึงกิจการรถไฟซ่งึ รฐั บาลอนญุ าตใหเ้ อกชนเป็นผดู้ าเนินการจดั สรา้ ง และบริการเดินรถภายใตก้ ารควบคมุ ของรฐั ในประเทศไทยรฐั บาลยงั ไม่ไดอ้ นุญาตใหเ้ อกชนทา อยา่ งเตม็ ท่ี แตม่ ีกรณีท่ีมีการรว่ มมือกบั เอกชน 3. รถไฟเฉพาะ หมายถึงกิจการรถไฟท่ีไดส้ รา้ งขนึ้ เฉพาะ เพ่ือใชก้ บั กิจการใดกิจการหน่งึ โดยไม่ได้ เก็บคา่ โดยสารหรอื คา่ ระวางบรรทกุ สนิ คา้
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) ซง่ึ ผปู้ ระกอบการใหก้ ารบรกิ ารรบั -สง่ สนิ คา้ 2 ประเภท คือ ประเภทเหมาหลัง หมายถึงการขนส่งสินคา้ โดยท่ีลกู คา้ เหมารถสินคา้ ทงั้ หลงั เพ่ือบรรจสุ ินคา้ ของ ตนสง่ ไปยงั สถานีปลายทางแห่งใดแห่งหน่งึ ผทู้ ่ีประสงคจ์ ะเหมารถสินคา้ ตอ้ งขอรถไวล้ ว่ งหนา้ ประเภทหบี ห่อวัตถุ หมายถึงการขนสง่ สินคา้ หีบห่อท่ีรวบรวมจากลกู คา้ หลายคน เพ่ือนาส่งไปยงั สถานีตา่ ง ๆ ในแตล่ ะวนั
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) 2.5 ข้อไดเ้ ปรียบเสยี เปรียบของการขนส่งทางรถไฟ ข้อไดเ้ ปรียบ 1. ประหยดั สามารถบรรทกุ ผโู้ ดยสารและสนิ คา้ ไดค้ รงั้ ละมาก ๆ 2. สามารถปรบั ตวั ตามปรมิ าณท่ีบรรทกุ ได้ โดยสามารถเพ่ิมหรือลดตไู้ ดง้ ่าย ทาใหส้ ามารถปรบั ตวั ตามปรมิ าณการขนสง่ ไดง้ ่าย 3. สะดวก เพราะมตี หู้ ลายชนิดใหเ้ ลือกเพ่ือความเหมาะสมกบั สินคา้ 4. มคี วามปลอดภยั มากท่ีสดุ ในแง่ปลอดภยั จากอบุ ตั เิ หตุ 5. เป็นบรกิ ารท่ีเหมาะสมสาหรบั ระยะทางปานกลางหรอื ไกล ๆ เพราะระยะทางท่ีไกล ๆ ท่ีทางรถไฟ สามารถไปถึงนนั้ ค่าขนส่งสินคา้ ต่อหน่วยจะต่าเม่ือเปรียบเทียบกบั การขนส่งทางรถยนตท์ ่ีคิดตาม ระยะทาง 6. ผลกระทบจากดนิ ฟา้ อากาศนอ้ ยกวา่ การขนสง่ แบบอ่ืน ๆ
2. การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroad Transportation) (ต่อ) ข้อเสยี เปรยี บ 1. มีความคล่องตวั นอ้ ยกว่าแบบอ่ืน มีขอ้ จากัดว่าการขนส่งสินคา้ ไม่สามารถขนส่งถึงบา้ นได้ ผรู้ บั สินคา้ ตอ้ งมารบั ท่ีสถานีรถไฟ จงึ สง่ สินคา้ และผโู้ ดยสารไดจ้ ากดั เพียงท่ีสถานี และตามเสน้ ทางท่ีราง รถไฟไปถงึ เท่านนั้ 2. ไม่สามารถบรกิ ารไดแ้ บบถึงประตบู า้ น (Door To Door Service) การขนถ่ายสินคา้ ไม่ค่อยสะดวก เพราะตอ้ งขนสินคา้ ไปยังสถานีรถไฟและรบั สินคา้ จากสถานีเองเช่นกัน จึงตอ้ งอาศยั การขนส่ง ประเภทอ่ืน ๆ ประกอบ หากสถานีตน้ ทางหรอื ปลายทางอย่หู า่ งจากแหลง่ ท่ีตอ้ งการขนสินคา้ 3. ไม่เหมาะสมกบั ผสู้ ง่ สินคา้ รายยอ่ ย ปรมิ าณนอ้ ย 4. เป็นกิจการท่ีตอ้ งลงทนุ มหาศาล ใชเ้ งินลงทนุ สงู เป็นกิจการขนาดใหญ่ 5. ความยืดหยุ่นมีนอ้ ย เพราะมีเสน้ ทางตายตวั ตอ้ งอาศยั การขนส่งชนิดอ่ืนเขา้ มาช่วย การเลิก กิจการทาใหเ้ สยี หายมาก
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation)
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) เป็นวิธีการขนส่งท่ีค่าใชจ้ ่ายต่าท่ีสดุ มกั ใชส้ ินคา้ ท่ีราคาต่อหน่วยไม่สงู มีปริมาณและนา้ หนัก มาก เช่น ไมซ้ ุง ขา้ ว ทราย เรือบรรทกุ สินคา้ มกั มีระวางความจสุ งู บรรทกุ ของไดม้ าก เหมาะกบั การ ขนส่งระยะไกล แต่มีขอ้ จากัดหลายประการคือ ค่อนขา้ งล่าชา้ มีเสน้ ทางขนส่งท่ีจากัด เป็นคลอง ทะเล แม่นา้ ท่ีเป็นแหล่งนา้ เท่านนั้ อย่างไรก็ดี การขนส่งโดยเรอื เป็นวิธีท่ีนิยมใชแ้ พรห่ ลายท่ีสดุ ใน การคา้ ระหวา่ งประเทศ • การขนสง่ ทางนา้ เรม่ิ ตงั้ แตม่ นษุ ยเ์ ราเรม่ิ วา่ ยนา้ ขา้ มลาธาร • ต่อมารูจ้ กั การใชแ้ พและขอนไมเ้ ป็นอปุ กรณใ์ นการขนสง่ ทางนา้ • หลงั จากนนั้ รูจ้ กั การขดุ ตน้ ไมใ้ หเ้ ป็นเรอื เพ่ือใชข้ นส่งคนและส่ิงของต่าง ๆ ข้ามลาธาร หรอื ล่องไป ตามลานา้ • เม่ือมีการคิดประดิษฐ์เคร่อื งจกั รไอนา้ ขึน้ ก็ถกู ดดั แปลงมาใชเ้ ป็นเรอื ท่ีเคล่ือนดว้ ยพลงั ไอนา้ หรือ เครอ่ื งจกั รแทนกาลงั ลมหรอื พาย
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) • นอกจากนนั้ ยงั รูจ้ กั การนาเอาวสั ดอุ ่ืน เช่น เหลก็ มาใชต้ ่อเรอื แทนไม้ • วิวฒั นาการของการขนส่งทางนา้ ไดม้ ีการพฒั นาอย่ตู ลอดเวลา มีการปรบั ปรุงสมรรถภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพดา้ นเวลา ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย โดยใช้พลังงาน รูปแบบตา่ ง ๆ ในการขบั เคล่อื น • การเดนิ เรอื ในสมยั ก่อนใชก้ ารสงั เกตจากทิวทศั นข์ องฝ่ังทะเลเป็นเคร่อื งหมายในการเดนิ ทาง และ ในเวลากลางคืนใชส้ ญั ลกั ษณข์ องดวงดาวบนทอ้ งฟ้าเป็นเครอ่ื งหมายในการสงั เกต • แตป่ ัจจบุ นั ไดม้ ีการคิดประดิษฐเ์ ข็มทิศขนึ้ มาใชส้ าหรบั การเดินเรอื เพ่ือใหเ้ กิดความสะดวกขนึ้ • การขนสง่ ทางนา้ มีมานานแลว้ เป็นการขนสง่ ในลานา้ หรอื ชายฝ่ังเท่านนั้ • ซ่งึ ในปี พ.ศ. 2035 ครสิ โตเฟอร์ โคลมั บสั กบั คณะไดแ้ ล่นเรอื ขา้ มมหาสมทุ รแอตแลนติกจากทวีป แอฟรกิ าฝ่ังตะวนั ตก ไปยงั ฝ่ังตะวนั ออกของทวปี และถือเป็นตน้ กาเนิดของการเดนิ เรอื ดว้ ย
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) • สาหรบั การขนส่งทางนา้ ในประเทศไทยก็มีมานานแลว้ เช่นเดียวกนั ตงั้ แตส่ มยั สโุ ขทยั สมยั กรุงศรี อยธุ ยา สมยั กรุงธนบรุ ี และตอ่ มาจนถงึ สมยั กรุงรตั นโกสนิ ทร์ • ในสมยั ก่อนนนั้ ไทยทาการตดิ ต่อคา้ ขายดว้ ยการขนส่งทางนา้ กบั ประเทศจีน และญ่ีป่นุ โดยใชเ้ รอื สาเภา • ต่อมาเปล่ียนเป็นใชเ้ รือกลไฟแทนเรือสาเภาในสมยั ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี 4 • ต่อมา พ.ศ. 2461 จอมพลเรอื สมเด็จเจา้ ฟ้ากรมพระนครสวรรคพ์ ิชิตไดท้ รงจดั ตงั้ บริษัทพาณิชย์ นาวีสยามขึน้ ถือว่าเป็นการเปิดศกั ราชพาณิชยน์ าวีสมยั ใหม่ขึน้ โดยใชบ้ ุคลากรซ่ึงเป็นคนไทย ทงั้ หมด • ต่อมา พ.ศ.2483 จึงจดั ตงั้ บริษัทไทยเดินเรือทะเล เพ่ือดาเนินธุรกิจเดินเรือภายในประเทศและ ต่างประเทศ
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) จนกระท่งั ทกุ วนั นีก้ ารขนสง่ ทางนา้ แยกออกเป็น 2 ลกั ษณะดงั นี้ • การขนส่งทางลานา้ เป็นการขนส่งโดยใชล้ านา้ ในประเทศไทย สมยั ก่อนการขนส่งทางนา้ เป็นการขนส่งท่ีมีความสาคญั ท่ีสดุ และยงั เป็นการขนสง่ ท่ีประหยดั ท่ีสดุ ในระยะหลงั นีก้ ารขนสง่ ประเภทอ่ืน เช่น การขนส่งทางบก หรอื ทางอากาศมีบทบาทมากขนึ้ การขนสง่ ทางนา้ จงึ ลดความสาคญั ลง • การขนส่งทางทะเล เป็นองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ระหว่างการคา้ ระหว่างประเทศ การขนส่งสินคา้ เขา้ และสินค้าออกจะใช้ การขนส่งทางทะเลประมาณรอ้ ยละ 90 การขนส่งทางทะเลจึงมีการพัฒนาขึน้ เร่ือย ๆ และมี ความสาคญั เพ่ิมขนึ้ เทา่ ๆ กบั การคา้ ระหวา่ งประเทศท่ีขยายตวั เพ่ิมขนึ้
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) 3.1 เส้นทางของการขนส่งทางนา้ เสน้ ทางของการขนสง่ ทางนา้ โดยสว่ นใหญ่ก็คอื แม่นา้ ลาคลอง ทะเล และมหาสมทุ รน่ันเอง โดยถา้ เราพิจารณาแบง่ ออกเป็นประเภทแลว้ จะไดด้ งั นี้ 1. เส้นทางเดนิ เรือภายในประเทศ ไดแ้ ก่ ในประเทศไทยมีแม่นา้ หลายสาย เช่น แม่นา้ เจา้ พระยา แม่นา้ แม่กลอง แม่นา้ ทา่ จีน เป็นตน้ 2. เส้นทางเดินเรือตามชายฝ่ังทะเล เป็นเสน้ ทางเลียบชายฝ่ังทะเลของประเทศนนั้ ๆ สาหรบั ประเทศไทยมีชายฝ่ังดา้ นมหาสมทุ รอินเดยี และอา่ วไทย 3. เส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ เป็นการเดินเรือตามเส้นทางการคา้ ของโลก เพ่ือขนส่ง ระหวา่ งประเทศต่าง ๆ หรอื ระหวา่ งทวีป
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) 3.2 อุปกรณส์ าหรับการขนส่งทางนา้ คือ เรือ แพ ซ่งึ เราใชก้ ันมาตงั้ แต่สมยั โบราณ โดยมีการพฒั นาใหเ้ กิดความสะดวก และรวดเรว็ เป็น สาคญั ทงั้ นีด้ ว้ ยการนาเอาเทคโนโลยีตา่ ง ๆ มาดดั แปลง เพ่ือใหเ้ หมาะสมกบั สภาวการณ์ แต่เดิมเรา ใชข้ อนไมเ้ ป็นอปุ กรณ์ นามาผกู รวมกนั เป็นแพ รูจ้ กั นาไมม้ าผกู ใหเ้ ป็นเรอื นาเอาเหลก็ มาทาเป็นเรอื แทนไม้ และใชเ้ คร่อื งจกั รเคร่ืองยนตต์ ่าง ๆ เป็นอปุ กรณช์ ่วยใหว้ ่ิงไดร้ วดเรว็ ฉะนั้นถา้ เราพิจารณา แลว้ สามารถแบง่ ประเภทของเรอื ออกไดเ้ ป็นประเภทใหญ่ ๆ 2 ประเภท คือ • เรือทีไ่ ม่ได้ใช้เคร่ืองจักรกล เป็นเรอื ท่ีเคล่ือนท่ีไปยงั จดุ หมายปลายทางโดยไม่ไดใ้ ชเ้ คร่ืองจกั ร หรอื เครอ่ื งกลใด ๆ ในการขบั เคล่อื นเลย เชน่ แพ เรอื ใบ เรอื สาเภา เรอื พาย เรอื แจว • เรือทใี่ ช้เคร่ืองจกั รกล เป็นเรอื ท่ีใชเ้ ครอ่ื งจกั รหรอื เครอ่ื งกลตา่ ง ๆ ในการขบั เคล่ือนใหเ้ คล่ือนท่ีไป ยงั จดุ หมายได้ เช่น หรอื ท่ีเราพบเห็นอยใู่ นปัจจบุ นั นี้
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) ถา้ พิจารณาในแง่ของลกั ษณะของการขนส่งแลว้ อปุ กรณส์ าหรบั การขนสง่ ทางนา้ สามารถแบ่งออก ไดเ้ ป็น 3 ประเภท คือ เรอื โดยสาร เรอื สนิ คา้ และเรอื เฉพาะกิจ 1. เรือโดยสาร เป็นเรือท่ีมีไวส้ าหรบั ขนส่งผูโ้ ดยสาร มีทงั้ ประจาเสน้ ทางและไม่ประจาเสน้ ทาง ซ่ึงอาจจะว่ิงเป็น ชว่ งเวลาหรอื ตลอดเวลา ว่งิ ภายในประเทศ หรอื ว่งิ ระหวา่ งประเทศก็มี 2. เรือสนิ คา้ เป็นเรอื ท่ีใชส้ าหรบั ขนส่งสินคา้ ซ่ึงปัจจบุ นั มีอยู่ 2 ประเภทคือ เรือสินคา้ ธรรมดา กบั เรือสินคา้ แบบ คอนเทนเนอร์ 3. เรือเฉพาะกจิ เป็นเรอื ท่ีสรา้ งไวเ้ พ่ือประโยชนใ์ ดประโยชนห์ น่งึ เฉพาะ เชน่ เรอื บรรทกุ นา้ มนั เป็นตน้
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) 3.3 สถานีสาหรับการขนส่งทางนา้ สถานีสาหรบั การขนส่งทางนา้ ก็คือ ท่าเรือ (Port) เป็นสถานท่ีสาหรบั จอดเรือเพ่ือทาการขนถ่าย สินคา้ และบริการ ตลอดจนผโู้ ดยสาร นอกจากนีย้ งั เป็นสถานท่ีท่ีตอ้ งอานวยความสะดวกใหท้ ่วั ถึง เรอื ท่ีมาเขา้ จอดดว้ ย ดงั นนั้ ทา่ เรอื จงึ มีหนา้ ท่ีสาคญั อยู่ 2 ประการคือ • การให้บริการแก่ผู้โดยสารและสินค้า เช่น บริการยกขนสินคา้ บริการเก็บรกั ษาสินคา้ การ คลงั สินคา้ ดา้ นบรกิ ารท่ีพกั การศลุ กากร และตรวจคนเขา้ เมือง เป็นตน้ • การให้บริการแก่เรือ เช่น บริการนารอ่ ง บรกิ ารเรอื ลากจงู บรกิ ารกเู้ รอื บรกิ ารนา้ บริการนา้ มนั การใหบ้ รกิ ารดา้ นเสบียงอาหาร บรกิ ารซอ่ มเรอื การซอ่ มบารุง เป็นตน้ ท่าเรือนั้นก็จะมีทัง้ ท่าเรือท่ัวไป ซ่ึงเรือขนาดเล็กจะใชท้ ่าเรือนีอ้ ยู่และจะอยู่ใกลส้ ถานท่ีสาคญั ๆ สาหรบั เรอื ขนาดใหญ่หรอื เรอื เดินทะเลนนั้ ก็จะใชท้ ่าเรอื นา้ ลกึ นอกจากนีก้ ็ยังมีท่าเรอื เฉพาะกิจ ซ่งึ ใชส้ าหรบั เรอื บางชนิดอีกดว้ ย
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) จากการท่ีท่าเรือตอ้ งคอยใหบ้ ริการแก่ผูโ้ ดยสาร สินคา้ และเรือแลว้ ควรพิจารณาว่าท่าเรือท่ีดีนนั้ ควรจะประกอบดว้ ยระบบอานวยความสะดวกดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ทา่ เทียบเรอื และท่ีจอดเรอื 2. บรกิ ารเรอื นารอ่ งและเรอื ลากจงู 3. โรงพกั สินคา้ หรอื คลงั เก็บสินคา้ 4. อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชใ้ นการยกสินคา้ 5. อบู่ รกิ ารซอ่ มและบารุงรกั ษาเรอื 6. บรกิ ารนา้ จืดและเชือ้ เพลิง 7. หนว่ ยงานดา้ นตรวจคนเขา้ เมืองและศลุ กากร 8. การขนสง่ ประเภทอ่ืนท่ีเช่ือมโยง เช่น ถนน ทางรถไฟ 9. การใหบ้ รกิ ารอ่ืน ๆ เชน่ สโมสร สถานท่ีพกั ผอ่ น อาคารท่ีพกั เป็นตน้
3. การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) (ต่อ) 3.4 ผู้ประกอบการขนส่งทางนา้ ผปู้ ระกอบการขนสง่ ทางนา้ สามารถแบง่ ออกไดด้ งั นี้ 1. ผู้ประกอบการเดนิ เรือประจาทาง (Lines Operation) เป็นการดาเนินธุรกิจเดนิ เรือท่ีมีเสน้ ทางเดนิ เรอื ประจา คลา้ ยกบั รถประจาทางแต่เป็นทางนา้ ดงั นนั้ การเดนิ เรอื แตล่ ะเท่ียวจะมีการกาหนดไวล้ ว่ งหนา้ คา่ บรกิ ารก็ถกู กาหนดไวล้ ว่ งหน้า ผปู้ ระกอบธุรกิจ เดินเรือประจาทางมกั จะมีเจา้ หนา้ ท่ี และท่ีทาการตามท่าเรอื ต่าง ๆ เพ่ืออานวยความสะดวกแก่ผทู้ ่ี จะใช้บริการ เพ่ือใหบ้ ริการแก่ผูโ้ ดยสารและสินคา้ ในเสน้ ทางประจา อาจจะเป็นผูป้ ระกอบการ ภายในประเทศ หรอื เสน้ ทางเดนิ เรอื ระหวา่ งประเทศก็ได้
Search