โครงรา งวิจยัช่อื เร่อื งวจิ ัยนักเรยี นระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 รคู วามหมายคาํ ศพั ทภาษาองั กฤษไมถงึ 1,000 คาํความเปน มาและความสาํ คัญของปญ หาการเรยี นภาษาอังกฤษ ระดับชั้นใดกต็ าม นักเรยี นจาํ เปนตองเรยี นรูเก่ยี วกับภาษาองั กฤษทง้ั ในดานการออกเสยี ง การเขียน การสะกดคํา และคาํ ศัพท ซงึ่ การจดั การเรยี นการสอนในปจจุบนั น้ัน ยงั ไมประสบความสําเร็จโดยเฉพาะในระดับเรม่ิ ตน คอื ระดับประถมศกึ ษา จากสภาพปญหาในการเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ พบวา เร่ือง คําศัพท เสยี ง การเขียน การสะกดคํา จะเปนปญหาในการพัฒนาความรแู ละความเขา ใจในภาษาอังกฤษ ซึ่งนกั เรียนไทยสวนมากมกั มคี วามรูเกยี่ วกบั คําศัพทคอนขางนอ ยและไมเ พียงพอ ดังนนั้ จงึ อาจกลาวไดว าความรเู กย่ี วกบั การออกเสยี ง การเขียนและสะกดคาํ และคําศพั ทของภาษาเปน สิง่ หน่ึงทบ่ี งช้ใี หเห็นถึงความกาวหนาในการเรียนภาษาองั กฤษคําศัพทภาษาอังกฤษเปน พืน้ ฐานสําคญั ทจ่ี ะสงผลตอการพัฒนาการเรียนภาษาในดา นทกั ษะการฟง การพูดการอาน และการเขยี นไดดดี วย แตป ญ หาในเรือ่ งการเรียนรเู กยี่ วกบั คําศัพทภาษาอังกฤษของนกั เรยี นไทยยังคงมีอยูอกี มากมาย โดยเฉพาะนกั เรยี นในระดับประถมศกึ ษา ซึง่ มคี วามรเู กี่ยวกบั คาํ ศัพทค อ นขางนอ ยถึงปานกลาง แมจะมีการทอ งศัพททุกวัน แตก็ไมส ามารถชว ยใหน ักเรยี นจดจําคาํ ศพั ทไดดี เนอ่ื งจากความจาํกดั ของเวลา และปริมาณของคาํ ศัพทที่มีมากเกนิ ไป ดังนั้นผวู จิ ัยจงึ ไดพ ยายามศึกษาหาแนวทางท่ีจะชว ยใหนักเรียนระดับช้นั ประถมศกึ ษาไดจดจําคําศพั ทและนาํ ไปใชในการเรียน และชีวิตประจําวนั ไดม ากข้นึ โดยครูผูสอนใชวิธกี ารสอนโดยใชชุดคําศพั ทโดยแตล ะคําศัพทจะเปนคําศพั ททใี่ กลตวั นักเรียนในระดับช้ันประถมศึกษา และจําเปนในการเรยี นและการสอื่ สาร โดยครผู ูสอนเปน ผชู น้ี ําใหนักเรยี นเมือ่ นักเรียนไมเขาใจหรอื สะกดคาํ ไมไ ด ครูผูสอนจะเปน ผูใหคาํ ปรึกษาและชวยนกั เรียน ครูผูสอนจะใหน ักเรยี นม่ันทบทวนคําศัพท เพื่อใหน กั เรยี นไดจดจํา และหัดใหนกั เรียนฝกการสื่อสารภาษาองั กฤษ โดยเรียบเรียงเปนประโยค เมื่อนกั เรยี นไดม ีการสื่อสาร นักเรยี นจะจดจาํ คําศพั ทไดด ีขึ้น ทําใหพ ฒั นาความสามารถการจาํ คําศพั ทภาษาอังกฤษ เม่ือนักเรยี นสามารถจาํ คําศพั ทไดดีขึน้ จะทําใหผลสมั ฤทธิ์ดีข้ึน และนาํ ความรูไปศกึ ษาตอในระดบั ที่สูงกวา และสามารถนาํ มาใชใ นชีวติ ประจําวนั ไดวัตถปุ ระสงคข องการวจิ ยั1. เพ่อื ศึกษาความสามารถการจาํ คําศพั ทภ าษาองั กฤษของนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที่ 62. เพ่อื เปรยี บเทยี บความสามารถการจําคาํ ศพั ทภาษาองั กฤษของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที่ 6 กอ นและหลงั ไดร ับการสอบแบบชุดคําศัพท3. เพื่อพัฒนาความสามารถการจําคาํ ศพั ทภ าษาอังกฤษของนักเรยี นช้ันประถมศึกษาปท ี่ 6 โดยใชวิธกี ารสอนแบบชดุ คําศัพทตัวแปรท่ีใชในการวจิ ัยตวั แปรตนวธิ กี ารสอนแบบชดุ คําศพั ทตวั แปรตามความสามารถการจําคาํ ศัพทภาษาองั กฤษประชากรประชากร เปน นกั เรียนระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 4/4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปก ารศกึ ษา 2561
โรงเรียนราชประชานุเคราะห 31ความเปน มาและความสาํ คญั ของปญหากลุมตวั อยางเปนนกั เรยี นระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 4/4 ภาคเรียนท่ี 2 ปการศึกษา 2561 โรงเรียนราชประชานุเคราะห 31จาํ นวนนกั เรยี น 35 คน โดย โดยสุมอยางงายกรอบแนวคิดการวจิ ัยตวั แปรตนวธิ กี ารสอนแบบชุดคําศพั ทตวั แปรตามความสามารถการจาํ คาํ ศัพทภาษาอังกฤษเอกสารทีเ่ กย่ี วของ1. ลกั ษณะของเด็กที่มปี ญหาทางการเรยี นรูดา นการอานศรียา นยิ มธรรม ( 2540: 42 ) ไดกลา วถึงพฤตกิ รรมการอานของเดก็ ท่มี ีปญ หาการเรยี นรูดา นการอาน ไดแกขมวดคว้ิ นิว่ หนาขณะท่ีอาน อานหลงบรรทัด อานสลับคาํ อานขามคํา อานสลับตัวอกั ษร อานคาํ ซ้าํ คาํ อานออกเสียงไมช ัด จับใจความสาํ คัญของเร่อื งไมไ ด หรือเรยี งลาํ ดบั เร่ืองที่อา นไมไ ด เลา เรื่องทอี่ านไมไ ดเอกสารที่เกยี่ วของ (ตอ)ผดุง อารยะวญิ ู (2544 : 22 ) ไดก ลาวถงึ ลกั ษณะของเดก็ ที่มปี ญหาทางการเรียนรู ดานการอานไวว า เด็กที่มีปญ หาทางการเรยี นรดู านการอานอาจมพี ฤติกรรมดงั นี้1. จําตวั อักษรไมได ทาํ ใหอานเปน คาํ ไมไ ด2. จาํ ตวั อกั ษรไดบาง แตอ านเปนคําไมไ ด3. ความสามารถในการอา นตํา่ กวานกั เรยี นอื่นในชนั้ เรียนดวยกนั4. ระดับสตปิ ญญาของเดก็ อยูในเกณฑเฉลี่ย หรือสูงกวาเกณฑเ ฉลี่ย เมื่อวดั โดยใชแบบทดสอบเชาวนปญ ญาท่ีเชือ่ ถอื ได5.เด็กบางคนอาจมคี วามไวในการใชส ายตา6. เด็กบางคนอาจมีความไวในการฟง7. พูดไมเ ปนประโยค8. เด็กสามารถเขา ใจภาษาไดดี หากใหเ ดก็ ฟง หรือมคี นอา นหนงั สือใหฟง หรือฟง จากเทป แตถ า ใหอานเองเด็กจะอานไมได อา นไมเขา ใจ หรือจบั ใจความสาํ คัญไมไ ด9. อา นคําโดยสลบั ตวั อักษร10. ไมเ ขาใจวา ตัวอกั ษรใดมากอ น-หลงั ตัวอักษรใดอยทู างซา ย หรอื ทางขวา11. ไมส ามารถแยกแยะเสยี งสระในคาํ ไดเคร่ืองมือท่ใี ชใ นการวจิ ยั1. แบบทดสอบวัดความรูกอ นเรียน (Pre-Test)2. แบบฝกหัดเก่ียวกับกระบวนการทักษะการอานศพั ทภ าษาอังกฤษ3. แบบฝก ชุดคําสําหรับฝกและทดสอบเกี่ยวกับกระบวนการอานศพั ทภาษาอังกฤษ4. แบบทดสอบวัดความรูห ลงั เรียน (Post-Test)การเกบ็ รวบรวมขอมูล
1. ผลจากคะแนนท่ีไดจ ากการทําแบบทดสอบกอ นเรยี น2. ผลจากคะแนนทไี่ ดจากการทําแบบฝก หดั3. ผลจากคะแนนทีไ่ ดจ ากการทําแบบทดสอบหลังเรียนวิธวี ิเคราะหข อ มูล1 สถติ ิท่ีใชในการวิเคราะหข อ มลู1.1 การหาคาเฉลีย่ ( x )(x)=xNเมอ่ื x = คา เฉลี่ยX = คะแนนท่ไี ดN = จํานวนนักเรยี นทัง้ หมด= ผลรวมของคะแนนท้ังหมด1.2 การหาคารอยละคารอ ยละ = คะแนนทไ่ี ด x 100 / คะแนนเต็มประโยชนท ี่คาดวา จะไดรับ1. ความสามารถในการจาํ คาํ ศัพทภ าษาอังกฤษของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4/42. เปรียบเทยี บความสามารถการจําคาํ ศพั ทภาษาอังกฤษของนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 4/4 กอนและหลังไดร ับการสอบแบบชุดคาํ ศพั ท3. พฒั นาความสามารถการจําคาํ ศพั ทภ าษาองั กฤษของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 6โดยใชว ธิ กี ารสอนแบบชุดคําศพั ท4. ครไู ดความรูและแนวทางในการพฒั นาผูเรียนเอกสารอางองิ /บรรณานกุ รมกระทรวงศึกษาธกิ าร (2551). ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรแู กนกลางกลมุ สาระการเรยี นรูภาษาตางประเทศ. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พชมุ นมุ สหกรณก ารเกษตรแหงประเทศไทย จํากัด.
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: