Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายวิชาเลือกเมืองทองเนื้อเก้า2 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (อช 23736 )

รายวิชาเลือกเมืองทองเนื้อเก้า2 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (อช 23736 )

Published by กศน อําเภอบางสะพาน, 2022-08-29 09:48:10

Description: รายวิชาเลือกเมืองทองเนื้อเก้า2 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (อช 23736 )

Search

Read the Text Version

หลกั สตู ร เมอื งทองเนอ้ื เกา้ (อำเภอบางสะพาน) รายวชิ าเลอื ก เมอื งทองเนอื้ เกา้ 2 (ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ )

บทที่ 6 วธิ เี กบ็ รกั ษาทอง กรอบความคดิ รวบยอดร 1. ร้จู ักเครือ่ งมือในการจดั เก็บทอง 2. วธิ กี ารจดั เกบ็ และรักษาทอง บทที่ 1 ความรพู้ นื้ ฐานของ 1. ตำนานทองเน้อื เกา้ บทท่ี 5 วธิ กี ารรอ่ นทอง 2. แหลง่ ทต่ี ั้งเหมืองทอง 1. รวู้ ธิ ีการและเทคนคิ การรอ่ นทอง 3. ประวตั กิ ารรอ่ นทอง 2. ขน้ั ตอนการร่อนทอง 4. คุณสมบตั ิ และแรธ่ าตุ ส ร่อนทอง รายวชิ าเลอื ก เมอื (ระดบั มธั ยมศ จำนวน 8 บทที่ 4 อปุ กรณท์ ่ีใช 1. อปุ กรณท์ ่ใี ช

รายวชิ าเลอื ก เมอื งทองเนอื้ เก้า 2 งการรอ่ นทอง ส่วนประกอบจากการ บทที่ 2 เรยี นรเู้ รอ่ื งทองเนอ้ื เกา้ 1. ทองเน้ือเกา้ หมายถงึ อะไร องทองเนอ้ื เก้า 2 2. คุณสมบตั ิของทองเนอื้ เก้า ศกึ ษาตอนตน้ ) 80 ชั่วโมง บทที่ 3 การสำรวจพน้ื ที่เหมาะสมในการ รอ่ นทอง ช้ในการรอ่ นทอง 1. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของอำเภอบางสะพาน ช้ในการรอ่ นทอง 2. การเปรยี บเทยี บและสงั เกตลกั ษณะดิน

คำอธบิ ายรายวชิ า ปกี ารศกึ ษา.............. เวลา 80 ชวั่ โมง รายวิชา อช 23736 เมอื งทองเนอ้ื เกา้ 2 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ในรายวิชา เมืองทองเนื้อเก้า 2 มีสาระสำคัญในการจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย เรื่อง ตำนานทองเนื้อเก้า แหล่งที่ตั้งเหมืองทองในอดีต ประวัติการร่อนทอง คุณสมบัติ และแร่ธาตุ ส่วนประกอบจากการร่อนทอง ทองเนื้อเก้า หมายถึงอะไร คุณสมบัติของทองเนื้อเก้า ลักษณะภูมิประเทศ ของอำเภอบางสะพาน การเปรียบเทียบและสังเกตลักษณะดิน อุปกรณ์ที่ใช้ในการร่อนทอง รู้วิธีการ และเทคนคิ การร่อนทอง ข้ันตอนการรอ่ นทอง รู้จักเครอื่ งมือในการจัดเกบ็ ทอง และวธิ กี ารจดั เกบ็ และรกั ษา การจดั การเรยี นการสอนที่เน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั มุง่ พัฒนาให้ผู้เรยี นมคี วามสามารถในการเรียนรู้ โดยเน้นการพัฒนาทักษะ การแสวงหาความรู้ การประยุกต์ใช้ความรู้และการสร้างองค์ความรู้ สำหรับตนเอง ชุมชน และสังคม โดยการจัดการเรียนการสอน ด้วยวิธีการ บรรยายให้ความรู้กับผู้เรียน การอภิปราย การ สาธิตการใช้สื่อ/คลิปวิดีโอ ทัศนศึกษา/การใช้แหล่งเรยี นรู้ และการเรียนรู้จากปราชญช์ าวบ้าน ครูผู้สอนและ ผู้เรียน ได้วางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน เกิดการจัดการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม โดยศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ รวบรวมขอ้ มลู ตนเอง ชมุ ชน สงั คม และวชิ าการ จากสอื่ และแหล่งเรยี นรู้ท่หี ลากหลาย มีการ สะท้อนความคิด ระดมความคิดเห็น อภิปราย วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลและสรุปเป็นความรู้ ในรูปแบบ รายงาน/โครงการ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติจริงสอดคล้องกับสถานการณ์ เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรม ประเมินการเรียนรู้ โดยทบทวนแก้ไขข้อบกพร่องและตรวจสอบผลการ เรียนรู้ ให้บรรลุ ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการร่อนทองใน อำเภอบางสะพาน การวัดและประเมินผล โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน การบันทึกการเรียนรู้ การทำ รายงาน การทำใบงานและแบบฝกึ หดั ในการทดสอบย่อย ในแตล่ ะบทเรียน การทำแฟม้ สะสมผลงาน โครงงาน / รายงาน และมีการสังเกตพฤติกรรม โดยใช้เครื่องมือ คือ ทดสอบก่อนเรียน / หลังเรียน ใบงาน/แบบฝกึ หดั แบบทดสอบย่อย โครงงาน / รายงาน / ชน้ิ งานแบบประเมินโครงงาน / แบบประเมินรายงาน / แบบประเมิน ชิน้ งาน และแบบการสังเกตพฤติกรรม มาตรฐานท่ี 3 สาระการประกอบอาชีพ มาตรฐานท่ี 3.1 มีความรู้ความเข้าใจ และเจตคติท่ดี ใี นงานอาชีพ มองเหน็ ช่องทางและตัดสินใจ ประกอบอาชีพไดต้ ามความต้องการ และศักยภาพของตนเอง มาตรฐานท่ี 3.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะในอาชีพทต่ี ัดสินใจเลอื ก มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการจดั การอาชีพอยา่ งมคี ณุ ธรรม มาตรฐานท่ี 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการพฒั นาอาชีพให้มคี วามมัน่ คง

วตั ถปุ ระสงค์ 1. ผเู้ รียนมีความรู้ ความเข้าใจในการรอ่ นทอง 2. ผเู้ รยี นเกดิ ทักษะในการรอ่ นทองและสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ 3. ผู้เรยี นเกิดความตระหนกั และเห็นคุณค่าภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินในชุมชนบางสะพาน เนอื้ หาของรายวชิ า เมอื งทองเนอ้ื เกา้ 2 ประกอบด้วยเนือ้ หาที่แบง่ เปน็ หนว่ ยการเรียนรู้ 6 เรื่อง ดงั นี้ 1. ความรพู้ นื้ ฐานของการรอ่ นทอง 2. เรียนรู้ทองเนื้อเกา้ 3. การสำรวจพน้ื ทเี่ หมาะสมในการรอ่ นทอง 4. อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการร่อนทอง 5. วธิ ีการร่อนทอง 6. วธิ ีเก็บรกั ษาทอง

โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวชิ า เมอื งทองเนอ้ื เกา้ 2 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ บทที่ ช่ือหนว่ ยการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลาสอน (ชว่ั โมง) เรยี นรู้ 1. ตำนานทองเน้อื เก้า 2. แหล่งท่ตี ้ังเหมอื งทอง 10 1 ความรูพ้ ื้นฐานของ 1. ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจใน 3. ประวัติการรอ่ นทอง 4. คุณสมบตั ิ และแรธ่ าตุ 10 การรอ่ นทอง วิธีการร่อนทอง ส่วนประกอบจากการ ร่อนทอง 10 3. ผ้เู รยี นเกิดความตระหนกั และเห็น 1. ทองเนือ้ เกา้ หมายถงึ อะไร 10 คุณค่าภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ ในชุมชน 2. คุณสมบัติของทองเนื้อ เก้า บางสะพาน 1. ลกั ษณะภมู ิประเทศ 2 เรียนรูท้ องเนอ้ื เก้า 1. ผูเ้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจใน ของอำเภอบางสะพาน 2. การเปรยี บเทียบและ วิธกี ารร่อนทอง สงั เกตลักษณะดิน 3. ผู้เรียนเกิดความตระหนักและเห็น 1. อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการ รอ่ นทอง คณุ ค่าภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ในชุมชน บางสะพาน 3 การสำรวจพนื้ ท่ี 1. ผ้เู รยี นมีความรู้ ความเข้าใจใน เหมาะสมในการ วิธีการร่อนทอง รอ่ นทอง 2. ผู้เรียนเกดิ ความตระหนกั และเหน็ คณุ ค่าภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ในชมุ ชน บางสะพาน 4 อปุ กรณท์ ่ีใช้ใน 1. ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจใน การร่อนทอง วธิ กี ารร่อนทอง 2. ผู้เรยี นมที ักษะและสามารถปฏบิ ัติ ตามข้ันตอนของการร่อนทองได้ 3. ผเู้ รียนเกดิ ความตระหนกั และเห็น คณุ ค่าภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินในชุมชน บางสะพาน

บทที่ ชอ่ื หนว่ ยการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลาสอน เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) 1. ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจใน 1. รู้วธิ ีการและเทคนิคการ 5 วธิ กี ารร่อนทอง 30 วธิ กี ารรอ่ นทอง รอ่ นทอง 6 วธิ เี กบ็ รกั ษาทอง 10 2. ผเู้ รยี นมีทักษะและสามารถปฏิบตั ิ 2. ขน้ั ตอนการร่อนทอง ตามขน้ั ตอนของการรอ่ นทองได้ 3. ผูเ้ รยี นเกิดความตระหนักและเหน็ คณุ ค่าภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ในชุมชน บางสะพาน 1. ผูเ้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน 1. รูจ้ ักเครื่องมือในการจัดเก็บ วิธกี ารร่อนทอง ทอง 2. ผเู้ รยี นมที กั ษะและสามารถปฏบิ ัติ 2. วิธีการจดั เกบ็ และรกั ษาทอง ตามขั้นตอนของการร่อนทองได้ 3. ผู้เรยี นเกดิ ความตระหนกั และเหน็ คณุ ค่าภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ในชมุ ชน บางสะพาน

ระยะเวลาในการจดั การเรยี นการสอนตลอดหลกั สตู ร รายวชิ า เมอื งทองเนอ้ื เกา้ 2 ใช้เวลาเรยี นท้งั หมด 80 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 40 ชวั่ โมง ภาคปฏิบัติ 40 ชัว่ โมง แนวทางการจดั การเรยี นการสอน รายวชิ าน้ี ใช้วิธีการจดั การเรียนการสอนทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ มงุ่ พัฒนา ใหผ้ ูเ้ รียนมีความสามารถใน การเรียนรู้ โดยเน้นการพัฒนาทักษะ การแสวงหาความรู้ การประยุกต์ใช้ความรู้ และการสร้างองค์ความรู้ สำหรับตนเอง ชุมชน และสังคม โดยการจัดการเรียนการสอน ด้วยวิธีการบรรยายให้ความรู้กับผู้เรียน การ อภิปราย การสาธติ การใช้ส่อื /คลปิ วิดีโอ ทศั นศึกษา/การใช้แหล่งเรยี นรู้ และการเรยี นร้จู ากปราชญช์ าวบ้าน โดยครูผู้สอนและผู้เรียนมีการวางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ท่ีเชือ่ มโยงความรู้ ใหม่ กับความรู้เดิม โดยศึกษาค้นคว้าหาความรู้ รวบรวมข้อมูลตนเอง ชุมชน สังคม และวิชาการ จากสื่อและ แหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย มีการสะทอ้ นความคิด ระดมความคิดเห็น อภปิ ราย วิเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อมูลและ สรุปเป็นความรู้ ในรูปแบบรายงาน/โครงการ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติจริง สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ เหมาะสมกบั สังคมและวฒั นธรรม ประเมนิ การเรยี นรู้ โดยทบทวนแกไ้ ขข้อบกพร่อง และตรวจสอบผลการเรียนรู้ ใหบ้ รรลตุ ามเป้าหมายและวัตถุประสงคร์ ายวชิ า สอ่ื วสั ดอุ ปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี นรทู้ ใ่ี ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน 1. หนงั สือเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. ปราชญ์ชาวบ้าน 5. วีดที ศั น์ 6. อินเตอรเ์ นต็ 7. สมดุ บนั ทึกกิจกรรม

การวดั ผลประเมนิ ผลการเรยี น ระยะเวลาเรยี น นกั เรียนต้องมาเข้าเรียนไม่น้อยกว่า 64 ชว่ั โมง วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน รายวิชา เมืองทองเนื้อเก้า 2 มีแนวทางการวัดและประเมินผล โดยใช้แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรยี น การบนั ทึกการเรยี นรู้ การทำรายงาน การทำใบงานและแบบฝกึ หัด ใน การทดสอบย่อย ในแต่ละบทเรียน การทำแฟ้มสะสมผลงาน โครงงาน / รายงาน และมีการสังเกตพฤติกรรม โดยใช้เครอ่ื งมือ คือ ทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรยี น ใบงาน/แบบฝึกหัด แบบทดสอบย่อย โครงงาน / รายงาน / ชิ้นงาน แบบประเมินโครงงาน / แบบประเมินรายงาน / แบบประเมินช้ินงาน และแบบการสงั เกตพฤตกิ รรม การเก็บรวบรวมคะแนนและเกณฑก์ ารจบรายวชิ า เมอื งทองเนอื้ เกา้ 2 มกี ารเกบ็ รวบรวมคะแนน แบง่ เปน็ 60 : 40 คะแนนระหวา่ งภาคเรยี น 60 คะแนน บนั ทึกการเรยี นรู้ 10 คะแนน รายงาน 10 คะแนน แบบฝึกหัด 10 คะแนน แฟม้ สะสมงาน/ชนิ้ งาน 10 คะแนน โครงงาน/การนำเสนอ 10 คะแนน ทดสอบย่อย 10 คะแนน คะแนนปลายภาคเรยี น 40 คะแนน รวม 100 คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั การประเมนิ ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 80-100 4 ได้คะแนนรอ้ ยละ 75-79 3.5 ไดค้ ะแนนร้อยละ 70-74 3 ได้คะแนนร้อยละ 65-69 2.5 ไดค้ ะแนนร้อยละ 60-64 2 ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 55-59 1.5 ได้คะแนนร้อยละ 50-54 1 ได้คะแนนร้อยละ 0-49 0

ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ บั 1. เพ่อื อนุรักษ์ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ การร่อนทองในอำเภอบางสะพาน 2. ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจในการรอ่ นทอง 3. ผู้เรียนเกิดทกั ษะในการร่อนทองและสามารถนำไปประกอบอาชพี ได้ 4. ผเู้ รยี นเกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าภมู ิปัญญาท้องถ่ินในชุมชนบางสะพาน โครงสรา้ งเนอื้ หาของรายวิชา ประกอบดว้ ยเนือ้ หา 6 เรอื่ ง ดังนี้ เรือ่ งท่ี 1 ความร้พู นื้ ฐานของการร่อนทอง จำนวน 10 ชวั่ โมง 1. ตำนานทองเนอื้ เกา้ 2. แหลง่ ท่ตี ้ังเหมอื งทอง 3. ประวัตกิ ารร่อนทอง 4. คณุ สมบตั ิ และแร่ธาตุ สว่ นประกอบจากการรอ่ นทอง เรอ่ื งที่ 2 เรียนรู้ทองเนอ้ื เก้า จำนวน 10 ชั่วโมง 1. ทองเน้อื เก้า หมายถงึ อะไร 2. คณุ สมบัตขิ องทองเนอื้ เกา้ เรอื่ งท่ี 3 การสำรวจพ้นื ที่เหมาะสมในการร่อนทอง จำนวน 10 ชวั่ โมง 1. ลกั ษณะภมู ิประเทศของอำเภอบางสะพาน 2. การเปรียบเทียบและสังเกตลกั ษณะดนิ เรือ่ งที่ 4 อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการรอ่ นทอง จำนวน 10 ชั่วโมง 1. อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการรอ่ นทอง เรื่องที่ 5 วธิ ีการรอ่ นทอง จำนวน 30 ชวั่ โมง 1. รวู้ ิธกี ารและเทคนคิ การร่อนทอง 2. ขัน้ ตอนการร่อนทอง เรอ่ื งที่ 6 วธิ ีเกบ็ รกั ษาทอง จำนวน 10 ช่ัวโมง 1. รู้จักเครือ่ งมอื ในการจดั เกบ็ ทอง 2. วิธกี ารจัดเกบ็ และรักษา

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 40 ขอ้ คำสั่ง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียง 4. ในลานแรช่ นิดใดท่จี ะพบทองคำปนอยู่ คำตอบเดยี ว มากทีส่ ดุ 1. ชือ่ เดิมของอำเภอบางสะพานจงั หวัด ก. แรด่ ีบุก และพลอย ประจวบคีรขี ันธ์ ข. แรท่ องแดง และแร่ดบี ุก ค. แรต่ ะกวั่ และแรส่ ังกะสี คอื ขอ้ ใด ง. แรด่ ีบุก และแรว่ ุลแฟรม ก. เมอื งสพุ รรณบุรี ข. เมอื งกำเนดิ นพคณุ 5. แหลง่ สะสมตวั ของแร่ทองคำแบบทุติยภูมิ ค. เมืองบางตะพานใหญ่ มักพบปะปนกบั หนิ ประเภทใด ง. เมืองประจวบคีรขี นั ธ์ ก. หินกรวด 2. แหลง่ แรท่ องคำที่เกดิ ขนึ้ แบบทตุ ิยภูมิที่ ข. หนิ อคั นแี ข็ง พบในอำเภอบางสะพาน จังหวัด ค. หนิ ปูนภเู ขา ประจวบคีรีขันธ์ พบอยู่ในบริเวณใดของ ง. หนิ ชัน้ กลาง ตำบลร่อนทอง 6. ทองคำ มีช่ือภาษาองั กฤษอยา่ งไร ก. หมู่บา้ นปา่ ร่อน ก. Cold ข. หมบู่ า้ นวังน้ำเขียว ข. Gold ค. หมบู่ ้านคลองลอย ค. Glad ง. หมู่บ้านทุง่ สะเดาหวาน ง. Clade 3. ในสมยั รัชกาลท่ี 4 ได้อธบิ ายว่าทองคำที่ 7. ในอดตี ใช้อุปกรณช์ นดิ ใดในการร่อนทอง ซ้อื ขายกัน เรยี กตามเน้อื และตามราคาทอง เปน็ ครง้ั แรก หนักบาทหน่งึ เป็นเงิน 9 บาท จะเรยี กว่า อยา่ งไร ก. เลยี ง ข. กระสอบ ก. นพคณุ ส่นี ้ำ ค. กระปอ๋ ง ข. นพคุณห้านำ้ ง. กะละมัง ค. นพคุณเจด็ นำ้ ง. นพคณุ เก้าน้ำ 8. การขุดแรต่ ้องขดุ ให้ถึงชน้ั ใด ก. ชน้ั ดิน ข. ชัน้ อนิ ทรวี ัตถุ ค. ชั้นหนิ ดนิ ดาน ง. ช้ันตะกอนดินทราย

9. ในปัจจบุ นั ใช้อุปกรณช์ นิดใดในการ 14. ขอ้ ใดคอื คุณสมบตั ขิ องทองเนอ้ื เก้า ร่อนทอง ก. มีสารอื่นเจอื ปนอยู่ ข. มีราคาต่ำกวา่ ทองรูปพรรณและทอง ก. เลยี ง ข. กะละมัง แทง่ ค. กระป๋อง ค. เปน็ ทองทีม่ ชี ือ่ เรยี กเพียงชอ่ื เดยี ว ง. กระสอบ ทองเนือ้ เกา้ 10. ข้อใดคือ ความหมายของทองเน้อื เก้า ง. เปน็ ทองคำทม่ี ีเนอ้ื ทอง 99.99 ก. ทองคำแทง่ ข. ทองคำหนกั หนึ่งบาท เปอร์เซ็นต์หรอื มากกวา่ น้นั ค. ทองคำทม่ี ีสีคล้ายกับดอกดาวเรือง ง. ทองคำบริสทุ ธิ์ปราศจากธาตอุ ื่นเจอื 15. บทประพันธเ์ รอ่ื งใดที่ไมไ่ ดก้ ล่าวถงึ “ทอง เน้อื เก้า” ปน ก. อเิ หนา 11. ข้อใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของทองเนอื้ เกา้ ข. สังข์ทอง ก. มลี กั ษณะอ่อนตวั ค. นริ าศนรินทร์ ข. แยกตวั ออกจากแร่ชนดิ อ่นื ง. ขนุ ชา้ งขุนแผน ค. สีของทองคำสกุ เหลอื งอรา่ ม ง. เป็นก้อนชิน้ ใหญ่ตอ้ งนำมาเขา้ เตา 16. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ชื่อเรยี ก ทองเน้อื เกา้ ก. ทองชมพูนุท ถลุง ข. ทองธรรมชาติ ค. ทองนพคณุ นำ้ ห้า 12. ข้อใดคอื สญั ลกั ษณ์ทางเคมีของทองคำ ง. ทองนพคณุ เกา้ น้ำ ก. Ae ข. Au 17. ในสมัยใดเรยี กเกบ็ ส่วยเป็นทองคำ ค. Ag ก. ธนบรุ ี ง. Ap ข. สุโขทัย ค. อยุธยา 13. ทองเน้อื เกา้ มีกีก่ ะรตั ง. รตั นโกสนิ ทร์ ก. 22 กะรัต ข. 23 กะรตั ค. 24 กะรตั ง. 25 กะรัต

18. เพราะเหตใุ ดทองคำจงึ ได้รบั ความนยิ ม 22. อำเภอบางสะพาน มกี ่ีตำบล อยา่ งสูงสุดในวงการเครื่องประดบั ก. 6 ตำบล ข. 7 ตำบล ก. ทำการหลอมไดค้ ร้ังเดียว ค. 8 ตำบล ข. มีราคาสูงท่ีสุดในวงการ ง. 9 ตำบล เคร่ืองประดับ ค. ทนทานตอ่ การผุกร่อนและเกิดสนมิ 23. สภาพภมู ิอากาศ ของอำเภอบางสะพาน กับอากาศ เป็นอยา่ งไร ง. มคี วามงดงามมันวาวคงทนมคี วาม ก. อากาศร้อน เหนยี วและออ่ นนมิ่ สามารถนำมาทำขึ้นรปู ได้ ข. อากาศเยน็ งา่ ย ค. อากาศหนาว ง. อากาศร้อนชื้น 19. อำเภอบางสะพาน ตง้ั อยทู่ างตอนใด ของจงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ 24. ลักษณะของดนิ แบบใด ทีม่ กั พบแร่ทองคำ ก. ดนิ กรัง ก. ตอนใต้ ข. ดนิ ร่วน ข. ตอนบน ค. ดินชั้นดาน ค. ตอนล่าง ง. ดนิ รว่ นปนทราย ง. ไมม่ ีข้อใดถูก 25. อำเภอบางสะพาน มลี กั ษณะดนิ เปน็ 20. ในสมัยรชั กาลใดทรงพระกรุณาโปรด อยา่ งไร เกล้าฯใหเ้ ปลย่ี นนามอำเภอกำเนดิ นพคณุ เป็น ตำบลกำเนดิ นพคุณในปจั จบุ นั ก. มสี ภาพดินเป็นดนิ ดาน ข. มีสภาพดนิ เปน็ ดนิ กรงั ก. รัชกาลท่ี 5 ค. มีสภาพดนิ เป็นดนิ เหนียว ข. รชั กาลท่ี 6 ง. มสี ภาพดินเปน็ ดินรว่ นปนทราย ค. รัชกาลที่ 7 ง. รัชกาลท่ี 8 26. การขดุ หาแรท่ องคำ จะขดุ พบบรเิ วณชน้ั ดินใด 21. อำเภอบางสะพาน มีเน้ือท่ีท้ังหมดกี่ ตารางกิโลเมตร ก. ชน้ั หินควอตซ์ ข. ช้นั เปลือกดนิ หินดาน ก. 850 ตารางกิโลเมตร ค. ชัน้ เนื้อหนิ แร่ควอตซ์ ข. 868 ตารางกโิ ลเมตร ง. ช้นั เปลอื กดนิ สายควอตซ์ ค. 960 ตารางกิโลเมตร ง. 921 ตารางกโิ ลเมตร

27. บริเวณที่มดี ินรว่ นปนทราย เหมาะกบั 31. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการร่อนทอง การปลูกพืชชนดิ ใด ทั้งหมด 32. ก. พล่วั เสียม คราด ก. ต้นสน 32. ข. ชะแลง เลยี ง ถัง ข. มะพร้าว 32. ค. กะละมัง เลยี ง บุ้งกี๋ ค. ต้นยางนา 32. ง. เลียง กระทะกน้ ลกึ กระสอบ ง. ต้นยคู าลปิ ตสิ 32. วสั ดุอปุ กรณใ์ ดทเ่ี หมาะสำหรับการนำไป 28. ลักษณะรูปรา่ งของทองที่ขดุ พบ จะมี เป็นอปุ กรณใ์ นการร่อนทอง ลักษณะใด ก. เงนิ ก. มผี ิวเรียบ ข. เหล็ก ข. มลี ักษณะกลม ค. ไมม้ งคล ค. มีลกั ษณะเหลยี่ ม ง. แผ่นสงั กะสี ง. มลี กั ษณะเปน็ ก้อนเลก็ ๆ 33. จอบ มีท้งั หมดกช่ี นดิ 29. เม่ือทำการรอ่ นทองแล้วพบเกลด็ ทอง 33. ก. 2 ชนิด หรอื แร่ทองคำควรเก็บไวใ้ นภาชนะใด 33. ข. 3 ชนิด 33. ค. 4 ชนดิ ก. ถงั 33. ง. 5 ชนิด ข. แก้ว ค. ขวดสีขนุ่ 34. ถ้าไม่สามารถหาเลยี งร่อนทองได้ ควรใช้ ง. ขวดแกว้ ใส 33. อปุ กรณใ์ ดรอ่ นทองจึงจะเหมาะสมทส่ี ุด 33. ก. ถาด 30. ถา้ นกั เรียนตอ้ งการตักดินในคลองมา 33. ข. บุง้ ก๋ี รอ่ นหาทองควรใชอ้ ปุ กรณข์ ้อใด 33. ค. กระทะ 30. ก. พลว่ั 33. ง. กะละมงั 30. ข. จอบ 30. ค. เสียม 30. ง. กาละมัง

35. ขนาดความลาดชนั ของเลียงรอ่ นทอง 39. ทองบางสะพานไดจ้ ากการร่อนทองนยิ ม ควรให้มีความลาดชันก่อี งศา จึงจะมี นำไปใชท้ ำอะไร ประสิทธิภาพสงู สุดในการรอ่ นทอง ก. ทำเป็นเคร่ืองราง 36. ก. 45 องศา ข. ทำเปน็ ทางการบนิ อวกาศ 36. ข. 50 องศา ค. ทำเป็นสว่ นผสมในเคร่ืองสำอาง 36. ค. 55 องศา ง. ทำเปน็ สว่ นต่างๆของการทันตกรรม 36. ง. 60 องศา 40. ข้อใดคอื ลกั ษณะของทองโบราณ 36. ข้อใดคอื ขนาดของเลยี งร่อนทองท่ใี ชก้ นั ก. มลี วดลายทอี่ อ่ นชอ้ ย 36. โดยทวั่ ไป ข. ใชเ้ ครือ่ งจกั รในการผลิต ค. ออกแบบดว้ ยระบบดิจิทลั ก. เสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 21 นว้ิ หนา 4 น้ิว ง. มลี วดลายให้เลือกหลากหลาย ข. เสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 22 น้ิว หนา 4 นิ้ว ค. เส้นผ่าศูนยก์ ลาง 23 น้ิว หนา 4 นิว้ ง. เสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง 24 นว้ิ หนา 4 นิ้ว 37. สารชนิดใดทีใ่ ช้ในการดักจับแร่ทองคำ เพือ่ แยกออกจากเศษดนิ เศษทราย ก. ดเี กลือ ข. สารปรอท ค. สารตะกว่ั ง. สารกมั มันตรังสี 38. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเสยี ม 37. ก. คม ข. ใบเสียม ค. ยางกนั คม ง. ด้ามทม่ี ือจับ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง ความรพู้ นื้ ฐานของการรอ่ นทอง ระดบั มธั ยมศกึ ษาตน้ ภาคเรยี นท.่ี ........................... เวลา 80 ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสำคญั “ทองบางสะพาน” หรือ “ทองบางตะพาน” มีชื่อเสียงและรู้จักกันดีจนมีผู้กล่าวกันว่า “เป็นทองคำ เนื้อดีที่สุดของเมืองไทยและในโลก” ทองที่พบเป็นทองธรรมชาติ เห็นเป็น Nuggest (ทองที่ขุดได้โดยไม่ต้อง ถลุง) อย่างชัดเจน เหลืองอรา่ ม สุกปลง่ั และเน้อื ออ่ น ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นทองเนอื้ เก้า เรียกว่า “นพคุณเน้ือ เก้า” เชื่อกันว่าปอ้ งกันภยันตรายและภูตผปี ีศาจได้ดี ทองบางสะพาน หรือทองบางตะพาน หรือทองนพคุณนี้ ในหนังสอื ประชมุ ประกาศรชั กาลท่ี4 อธิบายไวว้ า่ ทองคำท่ซี ้ือขายกันนัน้ เรยี กตามเนอ้ื และตามราคา เช่น ทอง หนักบาทหนง่ึ เป็นเงิน 4 บาท เรยี กว่า เน้อื สี่ ทองหนกั บาทหนึ่งเปน็ เงิน 5 บาท เรียกวา่ เนอ้ื ห้า ทองหนักบาท หนึ่งเป็นเงิน 6 บาท เรยี กวา่ เน้ือหก ทองหนกั บาทหนึ่งเปน็ เงิน 6 บาทเรยี กว่า เน้อื เจด็ ทองหนกั บาทหนึ่งเป็น เงนิ 8 บาทเรียกวา่ เนื้อแปด ทองหนกั บาทหน่ึงเปน็ เงนิ 8 บาท 2 สลงึ เรียกว่า ทองเนือ้ แปดสองขา ทองหนัก บาทหนึง่ เปน็ เงิน 9 บาท เรยี กวา่ นพคณุ เก้าน้ำ ทตี่ ้งั เหมอื งทองแหลง่ แรท่ องคําต้ังอยู่ทางทศิ เหนอื ค่อนไปทางตะวนั ตกเลก็ นอ้ ยของบ้านปา่ รอ่ น อําเภอ บางสะพาน จงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์ หา่ งจากบา้ นป่ารอ่ น ประมาณ 250-2,000 เมตร บา้ นห้วยจงั หัน ซ่ึงเกือบ อยู่ กลางแหล่งแร่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 50 เมตรคลองใหญ่ เป็นทางน้ำสายใหญ่ของอําเภอและมีห้วยจงั หัน เป็นทางน้ำสาขา มีเทคนิคการหาเงินแบบไม่เหมือนใคร ขาวบ้านยังเชื่ออีกว่า การหาทองในลักษณะนี้ ยังได้ ทองคำท่บี ริสุทธ์ิ กว่าการขดุ เหมอื งหาทองคำเสียอีก ยกตัวอยา่ งบางครอบครัว ท่มี ีการสร้างเหมืองขึ้นในพ้ืนท่ี ห่างออกไป 10 กิโล ได้แนะนำ สอนวิธกี ารหาทองหรอื มีเทคนิคต่างๆเพือ่ แนะนำให้แก่ชาวบ้านที่กำลังจะเร่ิม หัด การร่อนทอง และยังได้บอกอีกว่า การร่อนทอง ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการทำเหมืองเลย และในช่วงต้นปี ของเดือนมกราคมปี 60 ของเรานี้ มีโรงแรมบางแห่งเปิดทำการให้แก่นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรม ร่อนทอง ร่วมกันกับขาวบ้าน เพื่อเป็นการอณุลักษณ์การประกอบอาชีพสมัยโบราณ กิจกรรมการร่อนทองของ อำเภอ บางสะพานจะจัดขน้ึ กันเป็นหมู่คณะ และอุปกรณท์ ใ่ี ช้สำหรับร่อนทอง ทีช่ าวบ้านเรียกกันวา่ “เลียง” การทาํ แร่ทองคําตงั้ แต่คร้ังบรรพบุรุษนั้นใช้แบบเหมืองขุด เหมืองหาบขนาดเล็ก ๆ และใช้วิธีควักร่อน ง่าย ๆ แบบชาวบ้าน การแยกแร่ แรก ๆ ใช้การสาดดินปนแร่ลงบนกระสอบแล้วค่อย ๆ เก็บทองที่ติดบน กระสอบนั้น อีกวิธีหนึ่งก็คือการแยกแร่ด้วยเลียงไม้ หรือที่เรียกว่าการร่อนทอง ทองบางสะพานหรือเรียกอีก อยา่ งว่า ทองเนอ้ื เกา้ เปน็ ทองคำบรสิ ุทธิ์ เปน็ “ทองธรรมชาติ” หรอื บางทเ่ี รยี กว่า “ทองชมพนู ุช” เป็นทองท่ีมี สีเหลืองเข้มออกแดง นอกจากนี้ยังมีช่ือเรียกแตกต่างกันอีกหลายชือ่ เช่น “ทองเนื้อแท้” “ทองคำเลียง” ซึ่ง หมายถงึ ทองบริสุทธป์ิ ราศจากธาตอุ น่ื เจือปน

ทองคำ (อังกฤษ: gold) คือธาตุเคมีที่มีหมายเลขอะตอม 79 และสัญลักษณ์คือ Au (มาจากภาษา ละตินว่า aurum) จัดอยู่ในกลุ่มธาตุโลหะมีสกุลชนดิ หนึ่ง ทองคำเป็นธาตุโลหะทรานซิชันสีเหลอื งทองมนั วาว เน้ือออ่ นนุ่ม สามารถยดื และตีเป็นแผ่นได้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ผู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจใน วิธีการร่อนทอง 2. ผูเ้ รยี นเกดิ ความตระหนกั และเห็นคุณค่าภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ในชมุ ชน บางสะพาน สาระการเรยี นรู้ 1.ตำนานทองเนอ้ื เกา้ คำขวญั จงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ “เมืองทองเน้อื เกา้ มะพร้าวสับปะรด สวยสด หาด เขา ถ้ำ งาม ลำ้ น้ำใจ” อำเภอบางสะพาน เป็นอำเภอหน่งึ ของจงั หวัดประจวบครี ีขนั ธ์ เปน็ ทมี่ าของทองบางสะพาน ท่ีเล่ือง ชื่อ มีการร่อนที่ตำบลร่อนทอง บางสะพานเป็นอำเภอที่มีเศรษฐกิจที่ดีในระดับหนึ่งของประจวบคีรีขันธ์ เน่อื งจากมีประชากรมาก และมีแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วท่ีสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชายทะเลบ้านกรูดหรือเกาะทะลุ ทำให้ อำเภอบางสะพานเป็นที่รจู้ กั มากข้นึ ในอดีต บางสะพานเป็นเมืองทีม่ กี ารขดุ และรอ่ นทองเปน็ ครง้ั แรก สมัยพระ เจ้าอยู่หัวบรมโกศ ในปี พ.ศ. 2289 เจ้าเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก 3 ตำลึง นำถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์จึงเกณฑ์ไพร่จำนวน 2,000 คน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็นเวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก 90 ชั่งเศษ เป็นน้ำหนกั 54 กิโลกรัม หรือ 3,600 บาท และได้นำทองท้ังหมดไป ห้มุ ยอดมณฑป รอยพระพุทธบาทสระบุรี แต่ยอดมณฑปนถ้ี ูกโจรจีนเผาหลอมทองเอาไปทง้ั หมด เม่อื ครัง้ เสียกรุงศรอี ยธุ ยาครั้งที่ 2 (พ.ศ.2310) ที่มาของ “ทอง” บางสะพาน แหล่งแรท่ องคำที่มีชื่อเสียง และรจู้ กั กนั ดีในประเทศไทย มีด้วยกัน ๓ แหลง่ ได้แก่ อำเภอ กบนิ ทร์บรุ ี จงั หวดั ปราจีนบุรี อำเภอสคุ ริ ิน จังหวดั นราธวิ าส และอำเภอ บางสะพาน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพาน เดิมชอ่ื เมืองกำเนดิ นพคุณ ตัวเมอื งตั้งอยู่ที่ท่ามะนาว ฝงั่ ขวาของลำน้ำแม่รำพึง ต่อมาต้ังที่ ท่ากะหลอ ปัจจุบันเรียกว่า บ้านหลัก เมือง อยู่ริมฝั่งขวาลำน้ำบางสะพาน ซึ่งยังมีหลักฐานเสาหินหลักเมือง ปรากฏอยู่ ต่อมาใน พ.ศ. 2437 มีการจัดการปกครองทอ้ งที่เป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองกำเนดิ นพคุณถูก ยุบเป็นอำเภอเมืองนพคุณ ข้ึนตอ่ เมืองชมุ พร เมอื่ ถงึ พ.ศ.2449 ตง้ั เมืองประจวบคีรีขันธแ์ ละยกอำเภอเมืองนพ คุณขึ้นต่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ และย้ายมาตั้งริมทางรถไฟ ในปี พ.ศ. 2459 และ เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบาง สะพานใน พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา ปัจจุบันอำเภอบางสะพาน มี 7 ตำบล ได้แก่ ตำบลกำเนิดนพคุณ ตำบล รอ่ นทอง ตำบลพงศป์ ระศาสน์ ตำบลทองมงคล ตำบลชยั เกษม ตำบลแม่รำพึง และตำบลธงชยั (หรือบ้านกรูด น่นั เอง) ทองท่มี ีชื่อเสยี งนนั้ อยู่ในเขตหมบู่ ้านป่าร่อน ตำบลร่อนทอง และบรเิ วณทมี่ ีการขุดทองมากที่สุดอยู่ท่ี บริเวณห้วยจงั หัน ซง่ึ อย่หู ่างจากหมู่บ้านประมาณ 750–2,000 เมตร ปัจจุบนั ปรมิ าณทองลดนอ้ ยลงมาก แต่ก็

ยังมีชาวบ้านมาร่อนทอง เพื่อเป็นอาชีพรองอยู่เสมอ ทองบางสะพาน “ทองบางสะพาน” หรือ “ทองบาง ตะพาน” มชี ่อื เสยี งและรู้จกั กันดีจนมผี ู้กล่าวกันว่า “เป็นทองคำเน้อื ดีที่สุดของเมืองไทยและในโลก” ทองท่ีพบ เป็นทองธรรมชาติ เห็นเป็น Nuggest (ทองที่ขุดได้โดยไม่ต้องถลุง) อย่างชัดเจน เหลืองอร่าม สุกปลั่งและ เนอ้ื อ่อน ทองรอ้ ยเปอรเ์ ซ็นต์ เปน็ ทองเนอ้ื เกา้ เรยี กว่า “นพคณุ เนือ้ เก้า” เชอื่ กนั วา่ ป้องกันภยันตรายและภูตผี ปีศาจไดด้ ี ทองบางสะพาน หรือทองบางตะพาน หรือทองนพคุณน้ีในหนงั สอื ประชมุ ประกาศรชั กาลท่ี4 อธบิ าย ไว้ว่า ทองคำทซ่ี ้อื ขายกันนัน้ เรยี กตามเนอ้ื และตามราคา เชน่ ทองหนักบาทหนง่ึ เปน็ เงนิ 4 บาท เรยี กวา่ เนื้อสี่ ทองหนักบาทหนึ่งเป็น เงิน 5 บาท เรียกว่า เนื้อห้า ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน 6 บาท เรียกว่า เนื้อหก ทอง หนักบาทหนึ่งเป็นเงิน 6 บาทเรียกว่า เนื้อเจ็ด ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน 8 บาทเรียกว่า เนื้อแปด ทองหนัก บาทหน่งึ เป็นเงนิ 8 บาท 2 สลึง เรียกวา่ ทองเน้อื แปดสองขา ทองหนักบาทหนง่ึ เป็นเงิน 9 บาท เรยี กวา่ นพ คุณเก้าน้ำ คุณสมบัติเด่นเฉพาะของทองบางตะพาน ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น นิราศนรินทร์ “บางสะพานสพาดพื้น ทองปาง แก่แฮ รอยชะแลงชระลุราง ร่อนกลุ้ม ระลึกโฉมแม่แบบบาง บัวมาศ กูเอย ควรแผ่แผ่นทองหุ้ม ห่อไว้หวงั สงวน” ขุนช้างขุนแผน “เอาไม้สรรพยามาทำฝัก ผสมผงลงรักให้ ผวิ ผ่อง กาบหุ้มต้นปลายลายจำลอง ทำด้วยทองบาทชาติบางตะพาน” 2. แหลง่ ทต่ี งั้ 2.1แหล่งที่ตัง้ เหมอื งทองในอดตี แหล่งแร่ทองคําภาคตะวันตกและภาคใต้ บริเวณภาคตะวันตกของประเทศ ภูมปิ ระเทศส่วนใหญ่ เป็นภูเขาสูง เนื่องจากการดันตัว ของหินแกรนิตเข้ามาในหินยุคต่างๆ อาทิเช่น ยุคคาร์บอนิเฟอรัส (280- 345ล้านปีมาแล้ว) เดโวเนียน (345-355 ล้านปีมาแล้ว) ไซลเรียน (345-435 ล้านปีมาแล้ว) การดันตัวของ หินแกรนิตเป็นผลทําให้ เกิดแหล่งแร่ดีบุกและวุลแฟรมตลอดแนวเขาทางภาคตะวันตก ในลานแร่ดีบุกและ วลุ แฟรมมักจะพบทองคํา สะสมตัวอยดู่ ้วย ซึง่ เข้าใจวา่ แรท่ องคาํ น้มี าจากสายแร่ควอรตซ์ ทีเ่ ปน็ ผลมาจากการ ดันตัวของหินแกรนิต เมื่อมีการผุพงั ทลายตัว แร่ทองคําก็จะถูกพัดพามาสะสมตัวอยูบ่ รเิ วณลานแร่ในที่ราบ เชงิ เขา แหลง่ แรท่ องคาํ ป่ารอ่ น อําเภอบางสะพานใหญ่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ยอร์จ ซี เทเลอร์ จูเนยี ร์ และ ชุมเจษฎี จรลั ชวนะเพท, 2446) แหลง่ แร่ทองคําวา่ รอ่ น เป็นแหลง่ ลานแร่ทีส่ ําคัญ และมีช่ือเสยี งเปน็ ทีร่ ู้จักกัน มานาน และ ดูเหมือนจะเปน็ แหล่งลานแร่ทม่ี ีแรท่ องคําอุดมสมบรู ณ์มากทส่ี ุดแหล่งหนงึ่ ท่ตี ้ังของแหล่งแร่อยู่ ทางทิศเหนือค่อนไปทางตะวันตกเล็กน้อยของบ้านป่าร่อน อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่าง จากบา้ นป่ารอ่ น ประมาณ 250-2,000 เมตร บ้านหว้ ยจังหนั ซึง่ เกือบอยู่ กลางแหลง่ แร่อยู่เหนือระดบั นำ้ ทะเล 50 เมตรคลองใหญ่ เป็นทางน้ำสายใหญ่ของอําเภอและมีห้วยจังหันเป็นทางน้ำสาขา ซึ่งจะกลาย เป็นห้วย แหง้ ในฤดูแลง้ ช่อื สถานท่ีและตําแหน่งของสถานที่ต่างๆ ในรายงานนี้ เชน่ คลองใหญ่ ห้วยจังหนั เนิน เนินพอ เนนิ ซ้าย เป็นไก่เขี่ย ไมป่ รากฏพบดงั ทกี่ ล่าวไว้ในแผนท่ีมาตราส่วน 150,000 ของกรมแผนที่ทหาร พ.ศ.2515

2.2 แหลง่ ทต่ี ง้ั เหมืองทองในปจั จุบัน ตำบลร่อนทอง เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอำเภอบางสะพาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแร่ทองคำเป็นจำนวน มาก โดยเฉพาะทีบ่ ้านป่าร่อน ได้มรี าษฎรจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้งชาวต่างชาติได้อพยพเขา้ มาในพื้นท่ีขุดหาแร่ ทองคำ มีการจัดตั้งบ้านเรือนกันเป็นกลุ่ม ๆ เช่น ที่กลุ่มตลาดห้วยจังหัน กลุ่มท่าตลาด ฯลฯ สภาพพื้นที่ โดยท่วั ไปเป็นท่หี บุ เขาสลบั กับพ้นื ท่ีราบ โดยมีหบุ เขาทางทิศตะวนั ตกแลเป็นพ้ืนที่ราบลงมาทางทศิ ตะวันออก มี ปา่ ไมแ้ ละทรพั ยากรธรรมชาติคอ่ นข้างสมบูรณ์ ดินมีความอุดมสมบรู ณ์ อากาศชมุ่ ช้ืน มีลำคลองสายสัน้ ๆ ไหล ลงสู่พื้นที่ราบ เขตพื้นที่ทิศเหนือ ติดกับ ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทิศใต้ ติดกับ ต.ทองมงคล อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทิศตะวันออก ติดกับ ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ ทศิ ตะวนั ตก ตดิ กบั สาธารณรัฐสังคมนยิ มแหง่ สหภาพเมียนมา่ ร์ ซงึ่ ในปัจจุบันการประกอบ อาชีพการทำเหมอื งแรไ่ ด้ปิดกิจการแล้ว แตค่ นในชุมชมได้ทำการอนุรกั ษ์และฟ้นื ฟกู ารร่อนทองด้วยภูมิปัญญา ท้องถิน่ โดยไม่ใชเ้ คร่ืองจกั รในการหาทอง และได้เปิดเปน็ ศูนยศ์ ึกษาการเรียนรู้การร่อนทอง 3.ประวตั กิ ารรอ่ นทอง แร่ทองคาํ ได้สะสมกนั เป็นลานแร่ อยู่ในเขตหมบู่ ้านป่าร่อนบรเิ วณห้วยจงั หัน และสองฝง่ั คลอง ทอง น่าจะมีการขุดร่อนกันมาไม่ต่ำกว่า 200 ปีมา แล้วหรือกว่านั้นมาก ดังหลักฐานต่าง ๆ ที่ยกมาอ้างแล้ว หลุมแร่เกา่ แก่เปน็ เครอื่ งยืนยนั ใหเ้ ห็นเปน็ จำนวนมากตลอดสองฟากฝง่ั คลอง การทาํ แร่ทองคําตง้ั แต่คร้ังบรรพ บุรุษนัน้ ใช้แบบเหมืองขุด เหมืองหาบขนาดเล็ก ๆ และใช้วิธีควักร่อนง่าย ๆ แบบชาวบ้าน การแยกแร่ แรก ๆ ใช้การสาดดินปนแร่ลงบนกระสอบแล้วค่อย ๆ เก็บทองที่ติดบนกระสอบ นั้น อีกวิธีหนึ่งก็คือการแยกแร่ด้วย เลยี งไม้ หรอื ท่เี รียกว่าการรอ่ นทองนั่นเอง วิวัฒนาการของการรอ่ นทอง อดีตการร่อนทองเป็นแบบเหมืองขุด เหมืองหาบขนาดเล็ก ๆ และใช้วิธีควักร่อนง่าย ๆ แบบ ชาวบ้าน การแยกแร่ แรก ๆ ใชก้ ารสาดดนิ ปนแร่ลงบนกระสอบแลว้ ค่อย ๆ เกบ็ ทองท่ตี ดิ บนกระสอบ น้ัน อีก วธิ ีหนึ่งกค็ อื การแยกแร่ดว้ ยเลยี งไม้ หรือทเ่ี รยี กว่าการรอ่ นทอง การรอ่ นดว้ ยเสียงนั้นจะเร่ิม ต้นจากการนําเอา ดินปนแรม่ าขย่าบ้กี ับน้ำใหเ้ ปน็ โคลนในเลยี่ งเสยี ก่อนแลว้ คอ่ ย ๆ เอียงเล้ยี งหมุนให้น้ำจาก ลาํ คลองพัดโคลนใน เลยี้ งหมุนวน ดนิ โคลน ทราย และอ่ืน ๆ ทเี่ บากว่าทองจะถกู น้ำพัดลอยออกไป ส่วน ทองและแร่อ่ืน ๆ ที่หนัก กว่าจะรวมตวั กันอยู่กันเสียง แร่อื่น ๆ จะมีสีดํา แร่ทองจะมีสีเหลืองแวววาว จะมอง เห็นได้อยา่ งชัดเจน การ แยกแร่ดว้ ยวิธีดังกล่าวข้างตน้ น้ี เชอ่ื ว่าการหายหกตกหลน่ ย่อมจะมีมาก ทองคา่ ที่กู้ ได้ส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดเป็น แท่งโต ที่เป็นเกล็ดเล็ก ๆ หรือเป็นผงละเอียดคล้ายแป้งจะถูกเทคืนไปปะปนกับ โคลน ดิน ทราย กลายเป็น ทรัพยใ์ นดนิ สิ้นในนำ้ ให้ลกู หลานนักนิยมทองขดุ คน้ กันต่อไปดินในบ่อแร่ทองคาํ ก็มชี ื่อเรียกแต่ละชั้นแตกต่างกัน ไป ดินชนั้ บนเรียกว่า\"ดนิ เมอื ง” จากดนิ เมอื งตอ่ ลงไป เปน็ “ดนิ กรงั ” ดนิ ช้ันนี้อาจแบง่ เรียกเป็น “ดินหลังสะ”

และ “ดนิ กระสะ” ลงไปอีกเรยี กว่า “ดินใช้” ดินใช้ คือดนิ ท่ีมแี ร่ทองคาํ ปนอยู่ ตำ่ ลงไปเปน็ ดินแขง็ เรยี กวา่ “ดิน โกด” คอื ดานหรือหินดานนนั่ เอง การร่อนแร่ก็ คือการน่า ดินใชม้ าแยกหาเนอ้ื แรท่ องคํา การขดุ แร่ตอ้ งขดุ ให้ถึง ชั้นดาน ดานลึกดนื่ อย่างไร ความลกึ ตน้ื ของบอ่ ก็เปน็ เช่นนัน้ ดว้ ย 4.คณุ สมบัติ และแร่ธาตุ สว่ นประกอบจากการรอ่ นทอง ทองคำ (อังกฤษ: gold) คือธาตุเคมีที่มีหมายเลขอะตอม 79 และสัญลักษณ์คือ Au (มาจากภาษา ละตินว่า aurum) จัดอยู่ในกลุ่มธาตุโลหะมีสกุลชนดิ หนึ่ง ทองคำเป็นธาตุโลหะทรานซิชันสีเหลืองทองมันวาว เนื้ออ่อนนุ่ม สามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ ทองคำไม่ทำปฏิกริ ยิ ากับสารเคมีส่วนใหญ่ ทองคำใช้เป็นทุนสำรอง ทางการเงนิ ของหลายประเทศ ใชป้ ระโยชนเ์ ปน็ เคร่อื งประดบั งานทนั ตกรรม และอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ มคี วามแวววาวอยเู่ สมอ ทองคำไม่ทำปฏกิ ิริยากับออกซิเจนดังนั้น เมื่อสัมผัสถกู อากาศสีของทองจะไม่ หมองและไม่เกิดสนิม มีความอ่อนตัว ทองคำเป็นโลหะที่มีความอ่อนตัวมากที่สุด ด้วยทองเพียงประมาณ 2 บาท เราสามารถยืดออกเป็นเสน้ ลวดไดย้ าวถึง 8 กโิ ลเมตร หรอื อาจตเี ปน็ แผน่ บางได้ถึง 100 ตารางฟตุ ทองคำ เปน็ โลหะชนดิ หนึง่ ท่ีสามารถนำไฟฟา้ ได้ดี สะทอ้ นความรอ้ นไดด้ ี ทองคำสามารถสะท้อนความรอ้ นได้ดี ไดม้ กี าร นำทองคำไปฉาบไวท้ ่หี น้ากากหมวกของนกั บนิ อวกาศ เพือ่ ป้องกนั รงั สีอินฟราเรด มนุษย์รู้จักทองคำมาตั้งแต่ประมาณ 5,000 ปี เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่ง จุดหลอมเหลว 1064 องศา เซลเซยี ส และจดุ เดอื ด 2970 องศาเซลเซยี ส เปน็ โลหะท่ีมีค่าทม่ี ีความเหนียว (Ductility) และความสามารถใน การขึ้นรูป (Malleability) คือจะยืดขยาย (Extend) เมื่อถูกตีหรือรีดในทุกทิศทาง โดยไม่เกิดการปริแตกได้ สูงสุด ทองคำบรสิ ทุ ธิ์หนัก 1 ออนซส์ ามารถดงึ เป็นเส้นลวดยาวไดถ้ ึง 80 กิโลเมตร ถ้าตเี ปน็ แผ่นก็จะได้บางเกิน กวา่ 1/300,000 น้ิว ส่วนความกว้างจะได้ถึง 9 ตารางเมตร ทองคำบริสุทธิไ์ มว่ อ่ งไวต่อการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี จึง ทนต่อการผุกร่อนและไม่เกิดสนิมกับอากาศ แต่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีบางชนิด เช่น คลอรีน ฟลูออรีน น้ำ ประสานทอง คุณสมบัติเหล่านี้ประกอบกับลักษณะภายนอกที่เป็นประกายจึงทำให้ทองคำเป็นที่หมายปองของ มนษุ ย์มาเป็นเวลานบั พนั ปี โดยนำมาตีมูลค่าสำหรบั การแลกเปล่ียนระหวา่ งประเทศและใช้เป็นวัตถุดิบท่ีสำคัญ สำหรบั วงการเครอ่ื งประดับทองคำได้รับความนยิ มอย่างสูงสุดในวงการเครือ่ งประดับทองคำ เพราะเปน็ โลหะมี คา่ ชนดิ เดยี วทม่ี ีคุณสมบตั ิพืน้ ฐาน 4 ประการซงึ่ ทำให้ทองคำโดดเด่น และเป็นท่ีตอ้ งการเหนอื บรรดาโลหะมีค่า ทกุ ชนิดในโลก คือ 1.งดงามมันวาว (lustre) สีสันที่สวยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาวก่อให้เกิดความงามอัน เป็นอมตะ ทองคำสามารถเปลี่ยนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีค่าอื่นๆ ช่วยเพ่ิมความงดงาม ให้แกท่ องคำไดอ้ กี ทางหน่ึง 2.คงทน (durable) ทองคำไม่ขึ้นสนิม ไม่หมอง และไม่ผุกร่อน แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไป 3000 ปีก็ ตาม 3.หายาก (rarity) ทองเปน็ แร่ท่หี ายาก กวา่ จะไดท้ องคำมาหนึ่งออนซ์ (31.167 gram) ตอ้ งถลงุ ก้อนแร่ ทม่ี ีทองคำอยู่เปน็ จำนวนหลายตนั และต้องขดุ เหมอื งลึกลงไปหลายสิบเมตร จึงทำใหม้ ีค่าใช้จ่ายที่สูง เป็นเหตุ ใหท้ องคำมีราคาแพงตามต้นทนุ ในการผลติ

4.นำกลับไปใช้ได้ (reuseable) ทองคำเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาทำเป็นเครอื่ งประดับเพราะมีความ เหนียวและอ่อนนิ่มสามารถนำมาทำขึ้นรูปได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่โดยการทำให้บริสุทธ์ิ (purified) ด้วยการหลอมไดอ้ ีกโดยนับครั้งไมถ่ ้วน ทองบางสะพานหรอื เรียกอีกอย่างว่า ทองเนอื้ เกา้ เปน็ ทองคำบริสุทธ์ิ เป็น “ทองธรรมชาติ” หรือบาง ที่เรียกวา่ “ทองชมพูนุช” เป็นทองที่มีสีเหลืองเข้มออกแดง นอกจากนี้ยังมชี ือ่ เรียกแตกตา่ งกันอีกหลายชอ่ื เช่น “ทองเนื้อแท้” “ทองคำเลียง” ซึ่งหมายถึงทองบริสุทธิ์ปราศจากธาตุอื่นเจือปน ซึ่งตรงกับคำใน ภาษาลา้ นนาว่า “คำขา” นอกจากน้ยี งั มีช่อื เรียกทองคุณภาพตา่ ง ๆ อีกหลายชือ่ เช่น “ทองปะทาสี” ซง่ึ เปน็ ทองคำเปลวเนื้อบรสิ ทุ ธช์ิ นิดหนา “ทองดอกบวบ” เป็นทองท่มี ีเนื้อทองสเี หลอื งออ่ นคลา้ ยดอกบวบ การรอ่ นทองเป็นการการนำเอาแร่ธาตุท่ีมีคา่ โดยใชว้ ธิ กี ารตา่ ง ๆ เช่น การขดุ การเจาะ การ่อนโดยใช้ เลียงในการรอ่ นแล้วนำเอาแร่ธาตุทีต่ ้องการสกัดออกมาจากดินหรือหินอกี ที มีทั้งทีเ่ ปน็ แร่โลหะและแร่อโลหะ แรโ่ ลหะ แร่ทองแดง แร่ทองคำ แรต่ ะกวั่ แร่เงิน แรไ่ ททาเนียม แร่สังกะสี สว่ นแรอ่ โลหะ พลอย เพชร ถ่านหิน หยก รวมไปถงึ วสั ดอุ ่ืน ๆ ท่ีไมจ่ ัดอยู่ในแร่ธาตุ ไดแ้ ก่ ดนิ หิน ทราย ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลงิ เป็นต้น การ ทำเหมืองแร่กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์อยา่ งมหาศาลต่อประเทศชาติ เพราะสามารถลดต้นทุนการนำเข้าแร่ธาตุจาก ตา่ งประเทศ รวมถึงสามารถส่งออกไปจำหนา่ ยเพ่มิ รายได้เข้าประเทศไดอ้ ีกด้วย

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ชอ่ื วิธสี อน/เทคนิค บรรยาย กระบวนการกลมุ่ การใชส้ ื่อวดี ที ัศน์) 1.ให้ผูเ้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง ตำนานทองเนื้อเกา้ 2.ครผู สู้ อนบรรยายให้ความรู้ พืน้ ฐาน เรอื่ ง การร่อนทอง โดยใช้สื่อวีดีทัศน์ 3.แบ่งกลุ่มผเู้ รียน/อภปิ รายกลุ่ม 4.การนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน 5.ครูใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาเพิ่มเตมิ ทแ่ี หล่งเรยี นร/ู้ ปราชญช์ าวบา้ น ส่อื การเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้ - สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. ปราชญ์ชาวบา้ น 5. วดี ที ัศน์ 6. อนิ เตอรเ์ นต็ 7. สมุดบันทกึ กิจกรรม - แหลง่ เรยี นรู้ - ม.6 ต.รอ่ นทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ - นายกฤษดา หมวดน้อย ประธานสภาวฒั นธรรมตำบลรอ่ นทอง ปราชญช์ าวบ้าน การวัดและประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั - ผเู้ รยี นตอ้ งได้ 1. ผ้เู รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจใน 1.ใหผ้ ู้เรียนทำ 1.แบบทดสอบกอ่ น คะแนนไมต่ ำ่ กว่าร้อย ละ 80ของ วิธกี ารรอ่ นทอง แบบทดสอบก่อนเรียน เรียน/หลังเรียน แบบทดสอบ -ผู้เรยี นตอ้ งตอบ เรอ่ื ง ทองเนื้อเก้า คำถามไมน่ ้อยกว่า 2. ผู้เรียนเกดิ ความตระหนักและ 2.ครผู ู้สอนบรรยายให้ 2.บนั ทึกการเรียนรู้ รอ้ ยละ 80 ของ เห็นคณุ ค่าภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ใน คำถาม ชมุ ชน บางสะพาน ความรู้ พ้นื ฐาน เร่ือง 3.รายงาน ใบงานและ การร่อนทอง โดยใช้สื่อวี แบบฝึกหดั ดีทัศน์ 3.แบง่ กลมุ่ ผู้เรียน/ 4. รายงาน อภปิ รายกลุ่ม ทำใบงาน แบบฝึกหัดและรายงาน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั 4.การนำเสนอหนา้ ชั้น เรยี น

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง เรยี นรทู้ องเนอ้ื เกา้ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตน้ ภาคเรยี นท.ี่ .......................... เวลา 80 ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสำคญั ทองเน้อื เก้า หมายถึงเป็นทองคำบริสุทธ์ิ เรียกว่า “ทองธรรมชาติ” หรอื บางทเี่ รียกวา่ “ทองชมพูนุช” เป็นทองที่มีสีเหลืองเข้มออกแดง เรียกว่า“ทองเน้ือแท้” คุณสมบัติของทองเนื้อเก้า “ทองบางสะพาน” เป็น ทองคำแท้บริสทุ ธิ์เนอื้ ดที ี่สดุ ทีว่ ดั ค่าความบริสทุ ธิ์ได้สูง 97.00-99.50+% เป็นทองธรรมชาติ จากการลานแร่ สีของทองเป็นเอกลกั ษณ์มสี ีเหลืองอร่าม อ่อนตัว เป็นก้อนชิน้ เล็ก ชิ้นน้อย แยกตัวออกจากแร่ชนิดอื่น โดยไม่ ต้องนำไปบด หรือทุบใหแ้ ร่ทองคำบรสิ ทุ ธิ์หลดุ ออกมา เมอื่ นำทองท่ีขดุ ได้มารวมกัน ใช้ไฟลนให้อ่อนตวั เป็นแท่ง ไดง้ ่าย จึงไม่ต้องใชเ้ ตาถลุง เพราะไมม่ ีเศษสิ่งอนื่ ใดเจอื ปน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ผู้เรียนมคี วามรู้ ความเข้าใจในวธิ ีการร่อนทอง 2. ผู้เรยี นเกดิ ความตระหนักและเห็นคณุ ค่าภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ในชมุ ชน บางสะพาน สาระการเรียนรู้ ทองคำ (อังกฤษ: gold) คือธาตุเคมีที่มีหมายเลขอะตอม 79 และสัญลักษณ์คือ Au (มาจากภาษา ละตินว่า aurum) จัดอยู่ในกลุม่ ธาตุโลหะมสี กุลชนิดหนึ่ง ทองคำเป็นธาตุโลหะทรานซชิ ันสีเหลอื งทองมันวาว เนื้ออ่อนนุ่ม สามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ ทองคำไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีส่วนใหญ่ ทองคำใช้เป็นทุนสำรอง ทางการเงินของหลายประเทศ ใชป้ ระโยชนเ์ ปน็ เครือ่ งประดบั งานทนั ตกรรม และอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ ทองเนื้อเก้า หมายถึงอะไร เป็นทองคำบริสุทธิ์ เรียกว่า “ทองธรรมชาติ” หรือบางที่เรียกว่า “ทอง ชมพนู ชุ ” เป็นทองท่ีมีสีเหลืองเขม้ ออกแดง นอกจากน้ียังมีชื่อเรยี กแตกต่างกนั อกี หลายช่อื เช่น “ทองเน้ือแท้” “ทองคำเลียง” ซึ่งหมายถึงทองบริสุทธิ์ปราศจากธาตุอื่นเจือปน ซึ่งตรงกับคำในภาษาล้านนาว่า “คำขา” นอกจากนี้ยงั มีช่อื เรียกทองคณุ ภาพตา่ ง ๆ อีกหลายชือ่ เชน่ “ทองปะทาสี” ซง่ึ เปน็ ทองคำเปลวเนอื้ บริสทุ ธิ์ชนิด หนา “ทองดอกบวบ” เป็นทองท่มี เี นอื้ ทองสีเหลอื งออ่ นคลา้ ยดอกบวบ

เอกลักษณแ์ ละลกั ษณะของทองบางสะพาน คือ สขี องทองคำสุกเหลืองอร่าม อ่อนตวั เป็นกอ้ นชิ้นเล็ก ช้นิ น้อย แยกตัวออกจากแร่ชนดิ อน่ื โดยไม่ต้องนำไปบด หรอื ทบุ ใหแ้ รท่ องคำบริสุทธ์ิหลุดออกมา เมื่อนำทองที่ ขดุ ไดม้ ารวมกัน ใช้ไฟลนให้อ่อนตัวเป็นแท่งไดง้ ่าย จงึ ไม่ตอ้ งใชเ้ ตาถลงุ เพราะไมม่ ีเศษสงิ่ อืน่ ใดเจือปน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั (รัชกาลที่ 5) มีความหมายประมาณวา่ ทองคำที่มี น้ำหนัก 1 บาทซึ่งมีเนื้อบริสุทธิ์ใกล้เคียงกับทองคำบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นทองที่มีสีเหลืองเข้มออกแดง ราคาในสมัยนั้นคือ 9 บาท ซึ่งในอดีตก็มีคำเรียกทองประเภทนี้กันหลากหลายนอกเหนือจากคำว่า \"ทองเน้ือ เก้า\" เช่นบางทีก็เรยี กว่า \"ทองนพคุณ\" หรอื \"ทองชมพูนุช\" ดว้ ยความบรสิ ุทธิ์ และเปน็ ทองเนื้อดี ในสมัยก่อนน้นั การกำหนดคณุ ภาพทองคำของไทย (ปรากฎหลกั ฐานตามประกาศของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) จะตั้งพิกัดราคาทองคำตามประมาณของเนื้อทองคำบริสุทธิ์ใน ทองรปู พรรณ เน้อื ทองคำดังกล่าวอาจผสมด้วยแรเ่ งิน หรอื ทองแดงมากนอ้ ยตามคุณภาพของทองคำ ส่วนการ เรยี กทองคุณภาพตา่ ง ๆ น้ัน ใช้วธิ กี ารเรยี กราคาของทองคำต่อน้ำหนกั ทอง 1 บาทเป็นมาตรฐานในการเรยี กชื่อ ทองคำ โดยเริ่มตั้งแต่ \"ทองเนื้อสี่\" ขึ้นไปจนถึง \"ทองเนื้อเก้า\" ซึ่งทองเนื้อสี่จะเป็นทองที่คุณภาพด้อยที่สุด กลา่ วคอื ทองคำน้ำหนัก 1 บาททองคำ จะมมี ลู ค่าการซ้ือขายเพยี งสบี่ าท โดยในสมยั กอ่ น มีการจำแนกประเภท ทองคำ และราคาเปน็ ดงั น้ี ทองเนอ้ื ส่ี หมายถึง ทองคำหนักหน่ึงบาท ราคา 4 บาท ทองเน้ือหา้ หมายถึง ทองคำหนักหนึ่งบาท ราคา 5 บาท ทองเนอ้ื หก หมายถงึ ทองคำหนักหนง่ึ บาท ราคา 6 บาท ทองเนื้อเจด็ หมายถึง ทองคำหนักหนง่ึ บาท ราคา 7 บาท ทองเน้อื แปด หมายถงึ ทองคำหนักหนงึ่ บาท ราคา 8 บาท ทองเน้อื เก้า หมายถงึ ทองคำหนกั หนง่ึ บาท ราคา 9 บาท การกำหนดคณุ ภาพและราคาทองคำในปจั จบุ นั การกำหนดคุณภาพของทองคำในระบบสากลปัจจุบนั ยังคงใช้ความบริสุทธ์ิของทองคำในการบ่งบอก คุณภาพของทองคำ โดยการคิดเนื้อทองเป็น \"กะรัต\" แทน ปัจจุบันนี้ ทองคำบริสุทธิ์ หมายถึง ทองคำที่มีเนอ้ื ทอง 99.99 เปอร์เซ็นตห์ รือมากกว่านนั้ หรอื เรียกกันว่าทองรอ้ ยเปอร์เซน็ ต์ หรือเรยี กกันในระบบสากลวา่ ทอง 24 กะรตั ทองคำซึ่งมีเกณฑ์การบ่งบอกคุณภาพของเนื้อทองโดยบ่งบอกความบริสุทธิ์เป็นกะรัตมีชื่อเรียกว่า \"ทองเค\" โดยถ้าเป็นทองคำบริสุทธิ์ที่ไม่มีโลหะ หรือสารอื่นเจือปนอยู่ จะเรียกเป็นทอง 24 กะรัต หากมีความ บริสทุ ธิข์ องทองคำลดต่ำลงมา ก็แสดงวา่ มโี ลหะอ่นื เจือปนมากข้นึ ตามส่วน เชน่ ทอง 14 กะรัต หมายถึง ทองที่ มเี นื้อทองบรสิ ุทธิ์ 14 ส่วน และมีโลหะอ่ืนเจือปน 10 สว่ น เปน็ ต้น ซ่ึงทองประเภทน้ี บางทกี ็เรยี กวา่ \"ทองนอก\"

ซ ึ่ง ส่ว น มาก น ิยมน ำมาทำเป็นเคร ื่อ งปร ะดับเพ ชร พลอ ยต่าง ๆ ใน อ ุตสาหก ร ร มอ ัญมณี https://www.checkraka.com/econ/gold/1016/ 2. คณุ สมบตั ขิ องทองเนอ้ื เกา้ คุณสมบตั ขิ องทองคำ มีความแวววาวอยเู่ สมอ ทองคำไม่ทำปฏกิ ริ ยิ ากบั ออกซเิ จนดงั น้นั เม่ือสัมผัสถูก อากาศสีของทองจะไม่หมองและไม่เกิดสนิม มีความอ่อนตัว ทองคำเป็นโลหะที่มีความอ่อนตวั มากท่ีสุด ด้วย ทองเพียงประมาณ 2 บาท เราสามารถยืดออกเป็นเสน้ ลวดได้ยาวถงึ 8 กโิ ลเมตร หรอื อาจตเี ป็นแผ่นบางได้ถึง 100 ตารางฟุต ทองคำเป็นโลหะชนิดหนึง่ ท่สี ามารถนำไฟฟ้าได้ดี สะท้อนความรอ้ นไดด้ ี ทองคำสามารถสะท้อน ความรอ้ นไดด้ ี ได้มกี ารนำทองคำไปฉาบไวท้ ่หี นา้ กากหมวกของนกั บินอวกาศ เพอ่ื ป้องกนั รงั สอี นิ ฟราเรด มนุษย์รู้จักทองคำมาตั้งแต่ประมาณ 5,000 ปี เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่ง จุดหลอมเหลว 1064 องศาเซลเซียส และจุดเดือด 2970 องศาเซลเซียส เป็นโลหะที่มีค่าที่มีความเหนียว (Ductility) และ ความสามารถในการขึ้นรูป (Malleability) คือจะยืดขยาย (Extend) เมื่อถูกตีหรอื รีดในทุกทิศทาง โดยไม่เกดิ การปริแตกไดส้ ูงสุด ทองคำบรสิ ทุ ธห์ิ นัก 1 ออนซ์สามารถดงึ เป็นเสน้ ลวดยาวได้ถึง 80 กิโลเมตร ถ้าตีเป็นแผ่นก็ จะไดบ้ างเกนิ กว่า 1/300,000 นว้ิ ส่วนความกว้างจะได้ถงึ 9 ตารางเมตร ทองคำบริสุทธิ์ไมว่ ่องไวต่อการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี จึงทนต่อการผกุ ร่อนและไม่เกดิ สนิมกบั อากาศ แต่ทำ ปฏกิ ิริยากับสารเคมีบางชนดิ เช่น คลอรนี ฟลอู อรีน น้ำประสานทอง คุณสมบัติเหล่านี้ประกอบกับลักษณะภายนอกที่เป็นประกายจึงทำให้ทองคำเป็นที่หมายปองของ มนุษย์มาเปน็ เวลานบั พันปี โดยนำมาตมี ลู ค่าสำหรบั การแลกเปลี่ยนระหวา่ งประเทศและใช้เป็นวัตถุดิบท่ีสำคัญ สำหรับวงการเครอื่ งประดับ ทองคำได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในวงการเครื่องประดับทองคำ เพราะเป็นโลหะมีค่าชนิดเดียวที่มี คุณสมบัติพื้นฐาน 4 ประการซึ่งทำให้ทองคำโดดเด่น และเป็นทีต่ ้องการเหนือบรรดาโลหะมีค่าทุกชนดิ ในโลก คือ งดงามมนั วาว (lustre) สีสันทสี่ วยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาวกอ่ ใหเ้ กดิ ความงามอนั เป็น อมตะ ทองคำสามารถเปล่ียนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีคา่ อน่ื ๆ ช่วยเพิม่ ความงดงามใหแ้ ก่ ทองคำได้อกี ทางหน่ึง คงทน (durable) ทองคำไม่ขึ้นสนิม ไม่หมอง และไม่ผุกร่อน แมว้ ่ากาลเวลาจะผ่านไป 3000 ปกี ็ตาม หายาก (rarity) ทองเปน็ แรท่ ห่ี ายาก กวา่ จะได้ทองคำมาหน่งึ ออนซ์ (31.167 gram) ต้องถลุงก้อนแร่ท่ี มีทองคำอยเู่ ปน็ จำนวนหลายตนั และตอ้ งขดุ เหมืองลึกลงไปหลายสบิ เมตร จึงทำให้มคี ่าใช้จ่ายท่ีสงู เป็นเหตุให้ ทองคำมรี าคาแพงตามตน้ ทนุ ในการผลิต

นำกลับไปใช้ได้ (reuseable) ทองคำเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพราะมีความ เหนียวและอ่อนนิ่มสามารถนำมาทำขึ้นรูปได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่โดยการทำให้บริสุทธ์ิ (purified) ด้วยการหลอมไดอ้ กี โดยนบั ครัง้ ไมถ่ ว้ น กรมทรพั ยากรธรณี ไดม้ กี ารแบง่ การเกดิ ของแรท่ องคำออกเปน็ 2 แบบ ตามลกั ษณะทพี่ บในธรรมชาติ ได้ดงั นี้ • แบบปฐมภูมิ คือกระบวนการทางธรณีวิทยา มีการผสมทางธรรมชาติจากน้ำแร่ร้อน ผสมผสานกับ สารละลายพวกซิลิก้า ทำให้เกิดการสะสมตัวของแร่ทองคำในหินต่างๆ เช่น หินอัคนี หินชั้น และหิน แปร มีการพบการฝังตวั ของแรท่ องคำในหนิ หรอื สายแรท่ แ่ี ทรกอยใู่ นหนิ ซึง่ สว่ นใหญจ่ ะมองไมเ่ ห็นด้วย ตาเปลา่ • แบบทุติยภูมิหรือลานแร่ คือการที่หินที่มีแร่ทองคำแบบปฐมภูมิได้มีการสึกกร่อน และถูกน้ำพัดพาไป สะสมตัวในทแี่ หง่ ใหม่ เชน่ ตามเชงิ เขา ลำหว้ ย หรอื ในตะกอนกรวดทรายในลำน้ำ แหลง่ แรท่ องคำปฐมภมู ใิ นไทย • แหลง่ โต๊ะโมะ จ.นราธวิ าส • แหล่งเขาสามสิบ จ.สระแก้ว • แหลง่ ชาตรี (เขาโปง่ ) จ.พิจติ ร - จ.เพชรบรู ณ์ • แหล่งดอยตงุ (บ้านผาฮ้)ี จ.เชียงราย • แหล่งเขาพนมพา จ.พจิ ติ ร แหลง่ แรท่ องคำทุตยิ ภมู ใิ นไทย • แหลง่ บา้ นป่าร่อน จ.ประจวบคีรีขนั ธ์ • แหล่งบา้ นนาล้อม จ.ปราจีนบุรี • แหล่งบา้ นท่งุ ฮ้วั จ.ลำปาง • แหลง่ ในแม่น้ำโขง จ.เลย - จ.หนองคาย • แหลง่ บ้านผาชา้ งมูบ จ.พะเยา https://th.wikipedia.org/wiki/ทองคำ คุณสมบัติของทองบางสะพาน มีชื่อเสียงและรู้จักกันดีจนมีผู้กล่าวกันว่า “เป็นทองคำเนื้อดีที่สุดของ เมอื งไทยและในโลก” ทองทพ่ี บเป็นทองธรรมชาติ เหน็ เป็น Nuggest (ทองที่ขดุ ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งถลงุ ) อยา่ งชัดเจน เหลืองอรา่ ม สุกปล่งั และเนือ้ อ่อน ทองรอ้ ยเปอร์เซ็นต์ เป็นทองเนื้อเก้า เรยี กว่า “นพคุณเน้อื เกา้ ”

คณุ สมบตั ิของทองเนอ้ื เกา้ 1.เป็นทองคำบริสุทธิ์แท้ที่วัดค่าความบริสุทธิ์ได้สูง 97.00-99.50+% เป็นทองธรรมชาติจากการเกิด แบบลานแร่หรอื ทตุ ยิ ภูมิ ไม่ตอ้ งถลงุ 2.มีประวตั ยิ าวนาน 200 กวา่ ปตี ง้ั แต่กรุงศรอี ยธุ ยา นำไปทำเป็นเคร่ืองราง พระพุทธรูป เครอื่ งประดับ ของมงคลตา่ งๆ เชือ่ วา่ เปน็ เลิศในบรรดาโลหะธาตมุ งคลและปอ้ งกนั ภัยมพี ุทธคุณในตวั เสรมิ ศริ ิมงคลต่อเจา้ ของ 3.เป็นทองคำที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวคือกว่าจะไดต้ ้องร่อนด้วยเลียงหรอื หลงั น้ำท่วม สืบทอดทั้งวัฒนธรรม พืน้ บ้าน หายากราคาสูงซื้อขายกนั แบบพระเครอื่ ง 4.สีทองสุกผ่องเนื้อสวยเป็นเอกลักษณ์ เป็นเกล็ดเป็นก้อน แต่ละก้อนมีชิ้นเดียวในโลกเวลานำมาทำ เครื่องประดบั 5.บทประพนั ธต์ ่างกล่าวถึง เช่น นริ าศนรนิ ทร์ , นิราศถลาง, ขุนชา้ งขนุ แผน, สงั ข์ทอง, เรือนมยุรา, บท กลอนประตวู ัด เปน็ ต้น 6.แสดงถึงความมั่นคงมั่งคั่งของคหบดีหรือข้าราชการมาแต่สมัยโบราณ และนิยมเป็นของฝากของ ของขวญั ของกำนลั เลอ่ื นขั้น การงาน งานมงคลตา่ งๆ ใช่รองกน้ หลมุ เรอื นปลูกใหม่ว่างา่ ยๆคือ อกี หนง่ึ สิง่ แสดง ยศศักด์ิ ความร่ำรวย มหี น้าตาทางสงั คม 7. หากให้คนรักแสดงถงึ มิตรไมตรอี นั บริสุทธ์ิ ความรกั มนั่ คงไมเ่ สื่อมคลาย 8.เปน็ ทองคำทม่ี ีชือ่ เรยี กเป็นคำไวพจน์นับสิบคำ เชน่ ทองบางตะพาน ทองเน้ือเก้า ทองนพคุณเก้าน้ำ ทองชมพนู ทุ ทองคำเลียง ทองธรรมชาติ คำขา ทองเม็ด ทองนพคุณ หมายความว่าเปน็ ทองซึ่งดีท่สี ุดในสยาม 9.เปรียบเทียบวา่ เป็น “ทองเนื้อเก้า” คือแพงกว่าทองทกุ ๆท่ีท้ังราคาและคณุ ค่า แม้จักอยู่หรือเกดิ ใน ห้วยหนองคลองโคลนตมก็ยังเป็นทองผุดผอ่ งใสไม่มรี าคหี ายากดีท้งั ความหมายไดท้ ้งั ความมงคล http://plodlock.com/2017/08/03/thongnoppagao/ ทองเนอ้ื เกา้ ทองบางสะพาน ตำบลรอ่ นทอง อำเภอบางสะพาน

กจิ กรรมการเรียนรู้ (ชอ่ื วธิ ีสอน/เทคนคิ บรรยาย กระบวนการกลุ่ม การใช้สื่อวดี ที ศั น์) ขนั้ นำเข้าสูบ่ ทเรียน ครใู หผ้ ู้เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื งทองเน้ือเกา้ ขน้ั สอน 1.ครูบรรยายใหค้ วามรู้ เรอื่ ง ทองเน้อื เก้า และใชส้ ่อื วีดีทศั น์ในการเรียนรู้เพ่ิมเติม 2.แบ่งกลุ่มผู้เรยี น และมอบหมายให้แตล่ ะ กลมุ่ ค้นคว้าในหัวขอ้ ท่ีสนใจและอภปิ รายกล่มุ 3.การนำเสนอหน้าชนั้ เรยี น 4.ทำแบบทดสอบหลังเรยี น ขน้ั สรุป ครสู รปุ ผลจากการนำเสนอความรู้ที่ค้นคว้ามา โดยครูสังเกตพฤตกิ รรมผู้เรียนในการทำใบงานและการนำเสนอ ใชเ้ วลากล่มุ ละ 10 นาที ครมู อบหมายงาน กรต.ให้ผเู้ รียนไปศึกษาเร่ือง ทองเน้อื เกา้ ทีแ่ หลง่ เรียนรู้/ปราชญ์ ชาวบา้ น โดยใชแ้ บบบันทึกการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ - ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. ปราชญ์ชาวบา้ น 5. วดี ีทัศน์ 6. อนิ เตอร์เน็ต 7. สมดุ บันทกึ กจิ กรรม - แหล่งเรียนรู้ - ม.6 ต.รอ่ นทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขนั ธ์ - นายกฤษดา หมวดน้อย ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลรอ่ นทอง ปราชญ์ชาวบ้าน

การวดั และประเมินผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั - ผู้เรียนตอ้ งได้ 1. ผูเ้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจใน 1.ใหผ้ ู้เรียนทำ 1.แบบทดสอบก่อน คะแนนไมต่ ำ่ กวา่ รอ้ ย ละ 80ของ เรอ่ื ง ทองเนือ้ เก้า แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรยี น/หลังเรยี น แบบทดสอบ -ผูเ้ รยี นต้องตอบ 2. ผูเ้ รยี นเกิดความตระหนักและ เร่ือง ทองเน้ือเก้า 2.การบนั ทึกการเรยี นรู้ คำถามไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 ของ เห็นคุณค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นใน 2.ครูผสู้ อนบรรยายให้ 3.การทำรายงาน คำถาม ชมุ ชน บางสะพาน ความรู้ พื้นฐาน เรือ่ ง 4.การทำใบงานและ การร่อนทอง โดยใชส้ ื่อวี แบบฝกึ หดั ดีทศั น์ 5.การทดสอบยอ่ ย 3.แบง่ กลุ่มผ้เู รยี น/ อภปิ รายกลมุ่ 4.การนำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น 5.ครูสรุปผลจากการ นำเสนอความรูท้ ค่ี ้นคว้า มา โดยครสู ังเกต พฤตกิ รรมผ้เู รียนในการ ทำใบงานและการ นำเสนอ ใช้เวลากลมุ่ ละ 10 นาที ครู มอบหมายงาน กรต.ให้ ผ้เู รยี นไปศึกษาเร่อื ง ทองเนือ้ เกา้ ทีแ่ หล่ง เรียนรู้/ปราชญ์ชาวบา้ น โดยใชแ้ บบบนั ทึกการ เรยี นรู้

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง การสำรวจพน้ื ทเ่ี หมาะสมในการรอ่ นทอง ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภาคเรยี นที่ .............................. เวลา 10 ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสำคัญ ลักษณะภูมิประเทศของอำเภอบางสะพาน เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ มีเนื้อที่ประมาณ 868 ตาราง กิโลเมตร เป็นที่มาของทองบางสะพานที่ขึ้นชื่อ ซึ่ง “ทอง”นี้ ได้ร่อนที่ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพานจึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น อำเภอบางสะพาน มีมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า เมืองกำเนดิ นพคุณ และสุดท้ายได้เปลี่ยนเป็น อำเภอบางสะพาน เมอ่ื ปี พ.ศ.2460 จนถึงปัจจุบนั การเปรียบเทียบและสังเกตลักษณะดิน สภาพพื้นดินโดยทั่วไป มีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย เนอ่ื งจากพ้นื ทข่ี องจังหวดั มอี าณาเขตตดิ ตอ่ กับ ชายทะเลโดยตลอด การหาแร่ทองคำ แร่ทองคำจะฝังปะปนในเนื้อหิน/แร่ควอตซ์ (quartz) และแร่ทองคำ ที่ผุพังมาจากหินควอตซ์และปะปนอยู่ในชัน้ เปลือกดนิ แร่ทองคำจะขุดพบในชั้นเปลือกดนิ ก่อน โดยนำเอาดิน ปนเศษหินไปล้างและร่อนเพื่อแยกแรท่ องคำออกมา ทองคำที่ได้จะเป็นก้อนเล็กๆ รูปร่างของทองคำมักกลม ไม่มีเหลี่ยม แต่หากนำสายควอตซ์ที่มีทองคำฝังปะปนอยู่ จะต้องนำเอาหินไปบดให้ละเอียดก่อน เพ่ือแยกแร่ทองคำออกจากกอ้ นหิน แลว้ จงึ นำไปล้างและร่อน อีกครง้ั หน่ึง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจลกั ษณะภูมิประเทศของอำเภอบางสะพาน 2. ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจในการเปรยี บเทียบและสงั เกตลักษณะของดิน สาระการเรียนรู้ 1.ลักษณะภมู ปิ ระเทศของอำเภอบางสะพาน อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพานเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเนื้อที่ประมาณ 868 ตารางกิโลเมตร เป็นที่มาของทองบางสะพานที่ขึ้นชื่อ ซึ่งทองนี้ได้ร่อนที่ตำบลร่อนทอง อำเภอนี้มีประชากร คอ่ นข้างมาก มีแหลง่ ท่องเที่ยวมากมาย เชน่ ชายทะเล บา้ นกรูด และเกาะทะลุ อำเภอบางสะพานจงึ เป็นที่รู้จัก มากขึ้น อำเภอบางสะพานมีมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า เมืองกำเนิดนพคุณ และสุดท้ายได้ เปลีย่ นเป็น อำเภอบางสะพาน เมอ่ื ปี พ.ศ.2460 จนถึงปจั จุบนั คำขวัญอำเภอบางสะพาน พระธาตุเจดีย์สูงเสียดฟ้า มากคุณค่าทองเนื้อเก้า เด่นเรื่องราวการท่องเที่ยว หน่ึง เดียวอตุ สาหกรรมเหลก็ ชมุ ชนใหญ่เล็กรกั สามคั คี ไหวพ้ ระดปี ู่อนิ ทร์ – ปู่ทว้ ม

สภาพภมู ิอากาศ มสี ภาพอากาศร้อนชื้น ทีต่ ้งั และอาณาเขตอำเภอบางสะพาน ทศิ เหนอื ติดต่อกบั อำเภอทับสะแก จังหวดั ประจวบครี ีขนั ธ์ ทศิ ตะวันออก จรดอา่ วไทย ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กบั อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบครี ีขันธ์ ทศิ ตะวันตก ตดิ ตอ่ กับ เขตตะนาวศรี (ประเทศพมา่ ) การปกครองส่วนภมู ิภาคอำเภอบางสะพานแบ่งพื้นที่การปกครองออกเปน็ 7 ตำบล ได้แก่ 1.กำเนดิ นพคณุ (Kamnoet Nopphakhun) 8 หมู่บ้าน 2.พงศป์ ระศาสน์ (Phong Prasat) 10 หมบู่ ้าน 3.รอ่ นทอง (Ron Thong) 12 หมู่บา้ น 4.ธงชัย (Thong Chai) 11 หมู่บ้าน 5.ชยั เกษม (Chai Kasem) 12 หมู่บา้ น 6.ทองมงคล (Thong Mongkhon) 10 หมบู่ า้ น 7.แม่รำพึง (Mae Ramphueng) 8 หมบู่ ้าน 2.การเปรียบเทยี บและสังเกตลกั ษณะดนิ สภาพพืน้ ดินโดยทั่วไป มลี กั ษณะเปน็ ดินรว่ นปนทราย เนอื่ งจากพนื้ ทข่ี องจงั หวัดมีอาณาเขตติดต่อกับ ชายทะเลโดยตลอด พื้นที่ทางตอนเหนือ และตอนใต้ของจังหวัดมีความแตกต่างกันมาก พื้นที่ตอนใต้ นับจากอำเภอเมือง ฯ ลงไป มีความอุดมสมบรู ณม์ ากกว่าพื้นที่ทางตอนเหนอื ของอำเภอเมือง จึงมีคำกล่าววา่ เหนือทำไร่ ใต้ทำสวน แหล่งน้ำตามธรรมชาติที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำปราณบุรี อยู่ในเขตอำเภอปราณบุ รี แม่น้ำกุยบุรี อยูใ่ นเขตอำเภอกุยบุรี แมน่ ำ้ บางสะพาน อยใู่ นเขตอำเภอบางสะพาน คลองบางนางรม อยู่ในเขต อำเภอเมือง ฯ และคลองกรูด อยู่ในเขตอำเภอบางสะพาน ปัจจุบันแหล่งน้ำดังกล่าวนี้อยู่ในสภาพตื้นเขิน มีน้ำเฉพาะในฤดูฝน ในฤดแู ลง้ น้ำจะแหง้ เป็นสว่ นใหญ่ ดินร่วนปนทราย หรือดินทรายที่เฉลี่ยแล้วมีมากกว่าดินปกตินั้น เหมาะกับการปลูกพืชชนิดใด คำถามนี้เหมือนเป็นปัญหาที่เกษตรกรผู้มีที่ดินและอยากเพิ่มมูลค่าพื้นที่ดินของตนเอง เช่น ปลูกกล้วย มะม่วงสน ยางนา หรือไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ ทั้งสัก ยูคาลิปตัส ฯลฯ ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเป็นพื้นท่ี ๆ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมากนัก และไม่ต้องเน้นในการดูแลปรับปรุงรักษามากนัก เพราะไม้จำพวกน้ี มีการดูแลไม่นานก็สามารถเติบโตเองได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม แต่หากต้องมีในเรื่องของผลผลิตตาม มาเปน็ ปัจจยั ในการตดั สินใจแล้วล่ะกต็ อ้ งมาพิจารณาหลายกรณดี ว้ ยกนั การหาแร่ทองคำ แร่ทองคำจะฝังปะปนในเน้ือหิน/แร่ควอตซ์ (quartz) และแร่ทองคำที่ผุพังมาจาก หินควอตซ์และปะปนอยู่ในช้ันเปลือกดนิ แร่ทองคำจะขดุ พบในชัน้ เปลือกดินก่อน โดยนำเอาดินปนเศษหนิ ไป ล้างและร่อนเพ่ือแยกแร่ทองคำออกมา ทองคำที่ได้จะเป็นก้อนเล็กๆ รูปร่างของทองคำมักกลม ไม่มีเหลี่ยม แต่หากนำสายควอตซ์ท่มี ที องคำฝงั ปะปนอยู่ จะต้องนำเอาหินไปบดใหล้ ะเอียดก่อนเพ่ือแยกแร่ทองคำออกจาก กอ้ นหิน แล้วจึงนำไปล้างและรอ่ น อกี ครั้งหน่ึง

กิจกรรมการเรียนรู้ 1.ครผู ู้สอน มอบหมายให้ผเู้ รยี นค้นคว้าข้อมูลเก่ียวกบั เรอ่ื งการสำรวจพ้นื ที่ ทเ่ี หมาะสมในการร่อนทอง 2.ครผู ้สู อน ให้ผเู้ รียนค้นคว้าหวั ขอ้ สาระการเรยี นร้ยู อ่ ย จากปราชญช์ าวบา้ น และแหล่งเรียนรู้ และใหผ้ เู้ รียนนำ ขอ้ มูลทไี่ ดร้ ับจากการค้นควา้ มาจดั ทำเป็นรูปเลม่ รายงานและนำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น ส่อื การเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. ปราชญ์ชาวบ้าน 5. วดี ที ศั น์ 6. อินเตอรเ์ นต็ 7. สมุดบนั ทกึ กิจกรรม การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.ครผู ้สู อน มอบหมาย 1.แบบทดสอบกอ่ น 1.ผู้เรียนต้องได้คะแนน ให้ผูเ้ รียนค้นคว้าข้อมูล เรยี น/หลังเรยี น ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 1. ผู้เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เกีย่ วกบั เร่ืองการสำรวจ 2.การบันทกึ การเรียนรู้ ของแบบทดสอบ ในวิธีการรอ่ นทอง พ้ืนที่ ทีเ่ หมาะสมในการ 3.การทำรายงาน 2 . ผ ู ้ เ ร ี ย น ต้ อ ง ต อ บ 2. ผเู้ รียนเกิดความตระหนัก รอ่ นทอง 4.การทำใบงาน คำถามไม่น้อยกว่าร้อย และเห็นคณุ ค่าภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน 2.ครผู สู้ อนให้ผเู้ รียน และแบบฝกึ หัด ละ 80 ของคำถาม ในชมุ ชนบางสะพาน คน้ ควา้ หวั ข้อสาระการ 5.การทดสอบยอ่ ย เรยี นรูย้ อ่ ย จากปราชญ์ ชาวบา้ น และแหล่ง เรยี นรู้ และให้ผูเ้ รียนนำ ขอ้ มลู ทไี่ ด้รบั จากการ คน้ คว้า มาจัดทำเปน็ รปู เลม่ รายงานและ นำเสนอหน้าชนั้ เรียน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการรอ่ นทอง ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภาคเรยี นท.ี่ ..................... เวลา 10 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสำคญั 1.อุปกรณ์ที่ใช้ในการรอ่ นทอง มีอะไรบ้าง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.ผเู้ รียนสามารถบอกชอื่ ของอุปกรณ์ในการรอ่ นทองได้ 2.ผเู้ รียนสามารถบอกคณุ สมบัตขิ องอปุ กรณ์ในการรอ่ นทองได้ 3.ผ้เู รียนสามารถประดษิ ฐโ์ ครงงานทใี่ ชใ้ นการร่อนทองได้ สาระการเรียนรู้ อปุ กรณท์ ใี่ ช้ในการรอ่ นทอง 1.จอบ เปน็ เคร่ืองมอื ทางการเกษตรสำหรับขุดดินและพรวนดิน และถากหญ้า ทำดว้ ยเหล็ก หน้าแบน กวา้ ง มดี า้ มยาว จอบแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ชนิดคอื จอบขดุ จอบถาก 1.1 จอบขดุ ลกั ษณะตวั จอบเปน็ แผน่ แบน หน้าจอบโค้งเว้า มมุ จอบแหลม คม มีน้ำหนกั มากกว่า จอบถาก 1.2.จอบถาก ลกั ษณะตัวจอบเป็นแผ่นแบนบาง หน้าจอบเรยี บเสมอกัน นำ้ หนกั เบากวา่ จอบขดุ 2.เสียม เปน็ เครือ่ งมอื สำหรับขดุ แซะ และพรวนดนิ ทำดว้ ยเหลก็ มดี า้ มยาว

3.พลั่ว เปน็ เคร่อื งมือสำหรบั แทงดนิ รูปแบนๆ มีดา้ มสำหรับถอื 4.ถงั ภาชนะกน้ ลกึ ใช้ตักนำ้ หรือตวงสิง่ ของ 5.บงุ้ ก๋ี เปน็ เคร่อื งมอื สานลกั ษณะคล้ายเปลือกหอย ใช้สำหรับโกยดนิ

6.ตะกรา้ ภาชนะสานโปรง่ สาํ หรบั ใส่ส่งิ ของ มรี ปู แบบต่าง ๆ บางชนิดมีหหู ้ิว บางชนดิ ไมม่ ี 7.เลยี ง รปู รา่ งคลา้ ยกระทะ ใชใ้ นการรอ่ นหาทองคำ ทำมาจากไม้ที่มชี ื่อเป็นมงคล เช่นไมไ้ ยด้าย ไมข้ นุน ไมท้ องหลาง ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 24 นว้ิ หนา 6 นว้ิ 8.ขวดแกว้ ใส ใชส้ ำหรับใส่เกลด็ ทองท่ีรอ่ นได้

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ชื่อวิธสี อน/เทคนิค......................................................) ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน - ครสู อบถามถงึ แหล่งเรยี นรูต้ ่างๆที่มอี ยใู่ นท้องถ่นิ ตำบลร่อนทองวา่ มที ใ่ี หนบา้ ง ให้นกั เรียน ยกตัวอยา่ ง ขน้ั สอน - ครูบรรยายใหค้ วามร้เู ก่ยี วกับอปุ กรณก์ ารร่อนทอง - ครใู หผ้ ูเ้ รียนแบ่งกลุม่ เพ่อื ศึกษาคน้ คว้า - ครูใหผ้ เู้ รียนแตล่ ะกลุ่มเลือกหวั ข้อทสี่ นใจ ในการจดั ทำโครงงาน/โครงการ - ครูใหผ้ เู้ รยี น ศกึ ษาค้นคว้าจากปราชญ์ชาวบา้ นและแหลง่ เรียนรู้ ขนั้ สรปุ - ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ในหัวขอ้ ความคดิ เรือ่ ง อุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นการร่อน - ครูประเมินผลชนิ้ งานและภาระงานที่กำหนดใหน้ กั เรยี นทำเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ สื่อการเรียนรู้ / แหลง่ เรยี นรู้ - ส่ือการเรียนรู้ -หนังสือเรียน -ใบความรู้ -ใบงาน -สมุดบันทึกกจิ กรรม - แหล่งเรียนรู้ -ปราชญช์ าวบา้ น -อินเทอรเ์ น็ต การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ -ครบู รรยายใหค้ วามรู้ -หนังสือเรียน -แ บ บ ท ด ส อ บ ก ่ อ น เกี่ยวกบั อปุ กรณ์ทใี่ ช้ใน -ใบความรู้ เรยี น/หลังเรียน 1.ผู้เรยี นสามารถบอกช่ือของ การรอ่ นทอง โดยใช้ -ใบงาน -บันทึกการเรยี นรู้ อุปกรณ์ในการรอ่ นทองได้ หนงั สอื เรยี นและใบ -ปราชญช์ าวบ้าน -การทำรายงาน ความรู้ -อนิ เทอร์เนต็ -ก า ร ท ำ ใ บ ง า น แ ล ะ -ครูให้ผู้เรียนศกึ ษา -สมุดบันทกึ กจิ กรรม แบบฝกึ หดั ค้นคว้าจากปราชญ์ -การทดสอบย่อย ชาวบ้านและแหล่ง -หนงั สือเรยี น เรยี นรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั 2.ผูเ้ รียนสามารถบอกคณุ สมบตั ิ -ครูให้ผู้เรียน แบง่ กลุ่ม -ใบความรู้ -แ บ บ ท ด ส อ บ ก ่ อ น ของอุปกรณใ์ นการร่อนทองได้ เพ่ือศกึ ษาค้นคว้า -ใบงาน เรียน/หลังเรยี น -ปราชญ์ชาวบา้ น -บันทกึ การเรียนรู้ -อินเทอรเ์ นต็ -การทำรายงาน -สมุดบนั ทึกกิจกรรม -ก า ร ท ำ ใ บ ง า น แ ล ะ แบบฝกึ หดั 3.ผู้เรียนสามารถประดิษฐ์ -ครใู หผ้ ู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ -หนังสอื เรียน -การทดสอบยอ่ ย โครงงานที่ใชใ้ นการร่อนทองได้ เลอื กหัวข้อท่ีสนใจใน -ใบความรู้ -แ บ บ ท ด ส อ บ ก ่ อ น การจดั ทำโครงงาน/ -ใบงาน เรยี น/หลังเรยี น รายงาน -ปราชญ์ชาวบา้ น -บนั ทึกการเรียนรู้ -อนิ เทอร์เน็ต -การทำรายงาน -สมุดบนั ทึกกิจกรรม -ก า ร ท ำ ใ บ ง า น แ ล ะ แบบฝกึ หดั -การทดสอบยอ่ ย -โครงงาน/รายงาน - โครงงาน/รายงาน

ลกั ษณะของแผนการจดั การเรยี นรทู้ ด่ี ี ควรมดี งั น้ี 1. มคี วามละเอยี ด ชัดเจน มีหัวข้อและส่วนประกอบตา่ ง ๆ ครอบคลมุ ตามหลักการของการสอน 1.1 สอนเก่ียวกับอะไร (หน่วยการเรยี นรู้ หวั เรอ่ื ง ความคิดรวบยอดหรือสาระสำคัญ) 1.2 เพ่ือจุดประสงคอ์ ะไร (จุดประสงค์การเรยี นรู้ ซงึ่ ควรเขียนเปน็ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม) 1.3 สาระอะไร (เนือ้ หา / โครงร่างเน้ือหา) 1.4 ใช้วธิ กี ารใดในการสอน (กิจกรรมการเรียนรซู้ ง่ึ ใชก้ ิจกรรมการเรียนรู้ทเ่ี น้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ) 1.5 ใช้เครือ่ งมืออะไรในการสอน (วัสดุอปุ กรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนร)ู้ 1.6 เราจะทราบไดอ้ ยา่ งไรว่าแผนการเรียนรทู้ เ่ี ราออกแบบจะประสบความสำเร็จ (การวัดและ ประเมนิ ผล) 2. แผนการจัดการเรียนรูส้ ามารถนำไปปฏบิ ัติได้จรงิ 3. ส่วนประกอบต่าง ๆ ของแผนการจดั การเรยี นรมู้ คี วามสอดคล้องสมั พนั ธเ์ ชื่อมโยงสัมพันธ์กัน เช่น 3.1 จดุ ประสงค์การเรียนร้คู รอบคลุมสาระ / เนอ้ื หา และเป็นจุดที่พฒั นาผเู้ รยี นในด้านความรู้ ทกั ษะ กระบวนการและเจตคติ 3.2 กิจกรรมการเรียนรู้ ควรสอดคล้องกับจดุ ประสงคแ์ ละเนือ้ หา / สาระ 3.3 วสั ดอุ ปุ กรณ์ ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ ควรสอดคลอ้ งสมั พนั ธ์กบั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.4 การวัดผลและประเมินผล ควรสอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ดี่ ตี อ้ งเปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ เี่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ดงั น้ี 1. มีการวเิ คราะห์หลักสูตร จดั ทำตารางวเิ คราะหค์ ำอธิบายรายวชิ า หรือวิเคราะหส์ าระการเรยี นรู้ จดั ทำหน่วยการเรียนรู้ และจดั ทำกำหนดการสอนหรอื โครงการสอน 2. มีการวเิ คราะห์ผู้เรียน โดยการจดั กลุม่ ผู้เรียนตามความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และความถนัด แล้วนำไปเขียนแผนการจัดการเรียนร้ตู ามศักยภาพของผู้เรียนเพื่อเน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั 3. มกี ารกำหนดเนื้อหาสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูส้ อดคล้องกบั ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวัง ศกั ยภาพของผูเ้ รียน และความตอ้ งการของทอ้ งถ่ิน รวมทง้ั การบรู ณาการระหว่างวิชา 4. มกี ารกำหนดกจิ กรรมการเรียนร้ทู ีห่ ลากหลาย เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของผูเ้ รียน มี การบูรณาการ เน้นการคิด (ทกั ษะการคดิ ลกั ษณะการคดิ และกระบวนการคดิ ) การฝกึ ทกั ษะ การปฏิบัติจรงิ และการสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง 5. มีการกำหนดสอื่ /นวัตกรรม/แหลง่ เรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย สอดคล้องกบั จุดประสงคก์ ารเรียนร/ู้ ผล การเรยี นรู้ทีค่ าดหวงั กิจกรรมการเรียนรู้ วยั และความสามารถของผู้เรยี น และให้ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการเลือก จดั หาและจดั ทำสอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 6. มกี ารกำหนดการวดั ผลและประเมินผล สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นร/ู้ ผลการเรียนรทู้ ่ี คาดหวงั และกิจกรรมการเรียนรู้ มีการวดั ผลตามสภาพจรงิ ใหค้ รอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ 7. มีองคป์ ระกอบสำคัญครบถว้ น เน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของท้องถนิ่

เนน้ คณุ ธรรม จริยธรรม และมกี ารบูรณาการตามความเหมาะสม 8. มีความสมบูรณถ์ ูกต้อง มคี วามคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ เปน็ ประโยชนต์ ่อผู้เรยี น ทำให้ผู้เรียนไดพ้ ฒั นา ด้านความรู้ ทักษะและเจตคติ ประโยชนข์ องแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ดี ี 1. ทำใหเ้ กดิ การวางแผนวธิ สี อนวิธีเรยี นทม่ี คี วามหมายยง่ิ ขน้ึ เพราะเป็นการจดั ทำอย่างมหี ลักการท่ี ถูกตอ้ ง 2. ช่วยให้ครมู คี ู่มอื การสอนที่ทำด้วยตนเอง ทำใหเ้ กิดความสะดวกในการจดั การเรยี นการสอน ทำให้ สอนได้ครบถ้วนตรงตามหลกั สูตรและสอนได้ทันเวลา 3. เป็นผลงานวิชาการทสี่ ามารถเผยแพรเ่ ป็นตวั อย่างได้ 4. ช่วยให้ความสะดวกแก่ครผู ูม้ าสอนแทนในกรณที ีผ่ ูส้ อนไม่สามารถเข้าสอนได้

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอื่ ง วธิ กี ารรอ่ นทอง ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภาคเรยี นท.ี่ ............................... เวลา 30 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสำคัญ 1. รู้วธิ ีการและเทคนิคการร่อนทอง 2. ข้ันตอนการรอ่ นทอง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน วธิ กี ารร่อนทอง 2. ผเู้ รียนมีทักษะและสามารถปฏิบตั ิตามขัน้ ตอนของการร่อนทองได้ 3. ผู้เรยี นเกดิ ความตระหนกั และเห็นคุณคา่ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นในชมุ ชนบางสะพาน สาระการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารและเทคนิคการรอ่ นทอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อ.บางสะพาน เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปเพื่อเย่ียมชมการรอ่ นทองแบบ สมัยโบราณ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน การหาทองคำ ในรูปแบบนี้เรียกว่า การร่อนทอง หากจะ เปรียบเทียบแล้วก็คงจะเหมือนการขุดเหมืองเล็กๆอยู่หน้าบ้านตัวเองนั่นเอง การทำลักษณะนี้ไม่ผิด กฎหมาย ไมต่ ้องไปวงิ่ เต้นเพือ่ แจง้ ตอ่ ภาครฐั ต่างๆ เปน็ การหาทองที่มีการถา่ ยทอดมานับ รอ้ ยๆปี ของ ชาวบา้ นบางสะพาน

มเี ทคนคิ การหาเงนิ แบบไม่เหมอื นใคร ขาวบา้ นยงั เชื่ออีกว่า การหาทองในลักษณะนี้ ยังได้ทองคำที่ บริสุทธิ์ กว่าการขุดเหมืองหาทองคำเสียอกี ยกตัวอยา่ งบางครอบครวั ท่มี กี ารสร้างเหมืองขน้ึ ในพื้นท่ีห่างออกไป 10 กิโล ได้แนะนำ สอนวิธีการหาทองหรือมีเทคนิคต่างๆเพื่อ แนะนำให้แก่ชาวบ้านที่กำลังจะเริ่มหัด การ รอ่ นทอง และยังไดบ้ อกอีกวา่ การร่อนทอง ไม่ไดแ้ ตกต่างอะไรกบั การทำเหมอื งเลย และในช่วงต้นปีของเดือน มกราคมปี 60 ของเรานี้ มีโรงแรมบางแห่งเปดิ ทำการใหแ้ ก่นักท่องเทย่ี วไดท้ ำกจิ กรรม รอ่ นทอง รว่ มกันกบั ขาว บา้ น เพือ่ เป็นการอณุลกั ษณก์ ารประกอบอาชีพสมยั โบราณ กิจกรรมการรอ่ นทองของ อำเภอบางสะพานจะจัด ขึน้ กนั เป็นหมู่คณะ และอุปกรณ์ทใ่ี ช้สำหรบั รอ่ นทอง ทช่ี าวบา้ นเรียกกนั ว่า “เรยี ง” ไว้ให้นกั ท่องเทีย่ วที่ต้องการจะเข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย อีกทั้งยังมีอาหารท้องถ่ินของชาวบางสะพาน จัดที่พักให้เป็นรูปแบบโฮมสเตย์ ไว้ใกล้ๆกับสถานที่ร่อนทอง หากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะพักผ่อน หรือ ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ก็สามารถเดินทางออกจาก หมู่บ้านเพียง 10 นาที ก็จะมีที่พักเป็นโรงแรมไว้รอ นักท่องเทย่ี วอยมู่ ากมาย หากนักทอ่ งเท่ียวสนใจ สามารถติดต่อสถานท่ีรอ่ นทอง ต่างๆได้ที่ อำเภอบางสะพาน อ้างองิ : วิธีการและเทคนคิ การร่อนทอง http://longwow.com/533/

2. ขน้ั ตอนการรอ่ นทอง 1.ขุดดนิ ทรายท่ีคิดวา่ มีสะกิดทอง เอามาใสใ่ นภาชนะเกบ็ ดินทราย 2.นำดนิ ทรายในภาชนะมาแช่นำ้ เอากรวดหินออกก่อน จะได้ดินทรายทีล่ ะเอยี ด 3.นำดินทรายละเอยี ดทไี่ ด้มาร่อนทแี่ ม่นำ้ ด้วยอปุ กรณ์ร่อนทราย เอาทรายออกท่ีละนิด ข้ันตอนน้เี รา จะเร่มิ มองเหน็ สะกิดทอง 4.พยายามเอาทรายออกใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด ขัน้ ตอนนจ้ี ะใชเ้ วลานานและจะทำขัน้ 1 ถึง 4 เวียนไปเร่อื ยๆ จะได้ดนิ ทรายทีส่ ะกดิ ทองใหม้ ากที่สุด 5.ข้ันตอนสำคญั ที่สดุ “การจับทอง” คอื การใส่น้ำและสารปรอทเข้าไปในดินทรายทม่ี สี ะกดิ ทอง แลว้ ตะแคงให้ปรอทกล้ิงไปทว่ั ๆเพอ่ื ให้เศษทองเขา้ ไปในปรอท เมือ่ ท่วั แลว้ กต็ ักสารปรอทนน้ั ลงในผา้ ไนล่อนขาว แล้วก็บิดหรือบบี ใหเ้ ป็นก้อนเศษทองและสารปรอท 6.นำกอ้ นเศษทองและสารปรอทไปเผา กจ็ ะได้ ทองคำ 80% ออกมา อา้ งองิ ขน้ั ตอนการรอ่ นทอง https://www.youtube.com/watch?v=rV3QPZq0vLY กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.ครูบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกบั วธิ กี ารร่อนทอง โดยใชห้ นังสือเรยี น และใบความรู้ 2.ครูให้ผู้เรยี น แบง่ กลุ่ม เพอ่ื ศกึ ษาคน้ คว้า 3.ครูให้ผ้เู รียนแต่ละกลมุ่ เลอื กหวั ขอ้ ที่สนใจ ในการจัดทำโครงงาน/รายงาน 4.ครใู ห้ผู้เรียน ศึกษาคน้ คว้าจากปราชญ์ชาวบ้าน และแหล่งเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้ / แหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. การสาธติ

5. ปราชญ์ชาวบา้ น 6. วดี ที ัศน์ 7. อนิ เตอร์เนต็ 8. สมดุ บันทกึ กิจกรรม การวัดและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั 1.ประเมนิ ผลการ 1. ผู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจใน 1.ครบู รรยายใหค้ วามรู้ 1.แบบทดสอบกอ่ น วเิ คราะหป์ ญั หาสาเหตุ และผลโดยพิจารณา วธิ ีการร่อนทอง เกย่ี วกับวิธกี ารร่อนทอง เรยี น/หลงั เรยี น จากกิจกรรม อภปิ ราย รายงาน การตอบ 2. ผู้เรียนมที กั ษะและสามารถ โดยใช้หนังสือเรียน และ 2.การบันทกึ การเรียนรู้ คำถามของ ผู้เรียน 2.ประเมินการวางแผน ปฏิบัติตามขัน้ ตอนของการ ใบความรู้ 3.การทำรายงาน กำหนด แนวปฏิบตั แิ ละ ผลการปฏบิ ัติ โดยใช้ รอ่ นทองได้ 2.ครใู หผ้ เู้ รียน แบง่ กล่มุ 4.การทำใบงานและ แบบการวัดและ ประเมนิ ผลงาน 3. ผู้เรยี นเกดิ ความตระหนักและ เพอื่ ศึกษาคน้ ควา้ แบบฝึกหัด 5.การ 3.สังเกตการณ์ทำงาน รว่ มกับผู้อื่นโดยใช้แบบ เห็นคุณค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นใน 3.ครูให้ผ้เู รียนแต่ละกลุ่ม ทดสอบยอ่ ย สังเกต ชมุ ชนบางสะพาน เลอื กหัวขอ้ ที่สนใจ ใน 6.โครงการ/รายงาน การจัดทำโครงงาน/ รายงาน 4.ครใู ห้ผู้เรียน ศึกษา คน้ คว้าจากปราชญ์ ชาวบ้าน และแหล่ง เรียนรู้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง วธิ กี ารรกั ษาทอง ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภาคเรยี นท.่ี ............................... เวลา 10 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสำคญั 1. รจู้ กั เคร่อื งมือในการจดั เก็บทอง 2. วธิ กี ารจัดเก็บและรกั ษาทอง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ผเู้ รียนมีความรู้ ความเข้าใจใน วธิ กี ารร่อนทอง 2. ผเู้ รียนมที กั ษะและสามารถปฏิบตั ิตามขน้ั ตอนของการรอ่ นทองได้ 3. ผเู้ รียนเกิดความตระหนักและเหน็ คุณค่าภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ในชมุ ชนบางสะพาน สาระการเรยี นรู้ ร้จู กั เครอ่ื งมอื ในการจัดเก็บทอง วัสดุวัสด/ุ อุปกรณ์ในการขุดทองบางสะพานประกอบดว้ ย 1. จอบ 2. เสียม 3. เรยี ง 4. กระป๋องพลาสติก 5. ขวดแกว้ ใสมฝี าปิด 6. คอทตอนบคั 2. วิธกี ารจดั เกบ็ และรกั ษาทอง การจดั เกบ็ รกั ษาทองจากการรอ่ นทอง ในพ้นื ที่ตำบลร่อนทอง โดยวธิ กี ารเกบ็ รักษาในขวดใสมีฝาปิด ใส่น้ำ ถงี คอขวด เพ่อื เปน็ การรักษาสภาพทองคำที่เปน็ เนือ้ ทองคำบรสิ ุทธิ์ ทองบางสะพาน ทองเนือ้ เกา้ สรปุ 9 ขอ้ 1. เปน็ ทองคำบริสทุ ธ์แิ ท้ท่วี ัดค่าความบริสทุ ธิไ์ ด้สูง 97.00-99.50+% เป็นทองธรรมชาติจากการเกดิ แบบลานแร่หรอื ทุติยภูมิ ไม่ตอ้ งถลงุ 2.มปี ระวตั ิยาวนาน 200 กว่าปีต้ังแตก่ รุงศรีอยธุ ยา นำไปทำเปน็ เครอื่ งราง พระพทุ ธรูป เครอื่ งประดับ ของมงคลตา่ งๆ เช่อื ว่าเป็นเลิศในบรรดาโลหะธาตุมงคลและป้องกนั ภัยมีพุทธคุณในตัว เสริมศิริมงคลตอ่ เจ้าของ

3.เปน็ ทองคำที่มเี สน่หเ์ ฉพาะตวั คือกวา่ จะไดต้ อ้ งรอ่ นดว้ ยเลยี งหรอื หลงั น้ำทว่ ม สบื ทอดทั้งวฒั นธรรม พ้นื บ้าน หายากราคาสงู ซอ้ื ขายกันแบบพระเครอ่ื ง อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=0Pg2w9bZJ3w กจิ กรรมการเรียนรู้ 1.ครบู รรยายให้ความรู้เกี่ยวกบั วิธกี ารเก็บรักษาทอง โดยใช้หนงั สอื เรยี น และใบความรู้ 2.ครูใหผ้ ู้เรียน แบง่ กล่มุ เพื่อศึกษาคน้ คว้า 3.ครูให้ผเู้ รยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กหัวขอ้ ที่สนใจ ในการจัดทำโครงงาน/รายงาน 4.ครใู หผ้ ้เู รียน ศึกษาคน้ คว้าจากปราชญช์ าวบา้ น และแหลง่ เรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. ปราชญช์ าวบ้าน 5. วีดที ัศน์ 6. อนิ เตอร์เน็ต 7. สมดุ บนั ทกึ กจิ กรรม การวัดและประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั 1.ประเมนิ ผลการ 1. ผู้เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจใน 1.ครบู รรยายใหค้ วามรู้ 1.แบบทดสอบกอ่ น วิเคราะหป์ ัญหาสาเหตุ และผลโดยพิจารณา วิธีการร่อนทอง เก่ียวกบั วิธีการเกบ็ รักษา เรียน/หลังเรียน จากกิจกรรม อภิปราย รายงาน การตอบ 2. ผ้เู รียนมีทักษะและสามารถ ทอง โดยใชห้ นังสือเรียน 2.การบนั ทึกการเรยี นรู้ คำถามของ ผเู้ รยี น 2.ประเมนิ การวางแผน ปฏบิ ัติตามขน้ั ตอนของการ และใบความรู้ 3.การทำรายงาน กำหนด แนวปฏบิ ตั ิและ ผลการปฏบิ ัติ โดยใช้ ร่อนทองได้ 2.ครใู หผ้ เู้ รยี น แบง่ กลมุ่ 4.การทำใบงานและ แบบการวัดและ ประเมินผลงาน 3. ผู้เรยี นเกดิ ความตระหนกั และ เพ่อื ศึกษาค้นควา้ แบบฝกึ หัด 5.การ เห็นคุณค่าภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นใน 3.ครูให้ผู้เรยี นแต่ละกลุ่ม ทดสอบย่อย ชุมชนบางสะพาน เลอื กหัวข้อท่ีสนใจ ใน 6.โครงการ/รายงาน การจัดทำโครงงาน/ รายงาน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั 4.ครใู ห้ผเู้ รยี น ศึกษา 3.สงั เกตการณ์ทำงาน ค้นควา้ จากปราชญ์ รว่ มกบั ผอู้ ่ืนโดยใช้แบบ ชาวบ้าน และแหล่ง สังเกต เรียนรู้

ภาคผนวก ก -ใบความรู้ -ใบงานประจำหนว่ ย

ใบความรู้ เรอ่ื ง ความรพู้ นื้ ฐานของการรอ่ นทอง 1.ตำนานทองเนอื้ เกา้ คำขวัญจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ “เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าวสับปะรด สวยสด หาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ” อำเภอบางสะพาน เป็นอำเภอหน่ึงของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่มาของทองบางสะพาน ที่เลื่องชื่อ มีการ ร่อนที่ตำบลร่อนทอง บางสะพานเป็นอำเภอที่มีเศรษฐกิจที่ดีในระดับหนึ่งของประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมี ประชากรมาก และมีแหล่งทอ่ งเที่ยวทีส่ วยงาม ไม่ว่าจะเป็นชายทะเลบ้านกรดู หรือเกาะทะลุ ทำให้อำเภอบาง สะพานเปน็ ท่ีรู้จกั มากขึ้นในอดตี บางสะพานเป็นเมืองท่มี ีการขุดและรอ่ นทองเปน็ ครงั้ แรก สมัยพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศ ในปี พ.ศ. 2289 เจ้าเมืองกุยได้สง่ ทองร่อนหนัก 3 ตำลึง นำถวายพระเจา้ อยู่หวั บรมโกศ พระองค์จึง เกณฑ์ไพร่จำนวน 2,000 คน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็นเวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก 90 ชั่งเศษ เป็นน้ำหนกั 54 กิโลกรัม หรือ 3,600 บาท และได้นำทองทั้งหมดไป หุ้มยอดมณฑป รอยพระพุทธบาทสระบุรี แต่ยอด มณฑปนี้ถูกโจรจีนเผาหลอมทองเอาไปทั้งหมด เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 (พ.ศ.2310) ที่มาของ “ทอง” บางสะพาน แหล่งแรท่ องคำท่ีมีช่ือเสยี ง และรู้จักกันดใี นประเทศไทย มดี ้วยกัน ๓ แหลง่ ได้แก่ อำเภอ กบนิ ทรบ์ ุรี จงั หวัดปราจีนบรุ ี อำเภอสคุ ริ ิน จังหวัดนราธิวาส และอำเภอ บางสะพาน จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพาน เดมิ ชอื่ เมืองกำเนดิ นพคณุ ตัวเมืองตั้งอยูท่ ี่ท่ามะนาว ฝัง่ ขวาของลำน้ำแม่รำพึง ต่อมาต้ังท่ี ท่ากะหลอ ปัจจุบันเรียกว่า บ้านหลัก เมือง อยู่ริมฝั่งขวาลำน้ำบางสะพาน ซึ่งยังมีหลักฐานเสาหินหลักเมือง ปรากฏอยู่ ต่อมาใน พ.ศ. 2437 มกี ารจดั การปกครองท้องทเ่ี ป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล เมอื งกำเนดิ นพคุณถูก ยุบเปน็ อำเภอเมอื งนพคุณ ข้นึ ตอ่ เมืองชมุ พร เมอ่ื ถึง พ.ศ.2449 ตั้งเมืองประจวบครี ขี ันธ์และยกอำเภอเมืองนพ คุณขึ้นต่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ และย้ายมาตั้งริมทางรถไฟ ในปี พ.ศ. 2459 และ เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบาง สะพานใน พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา ปัจจุบันอำเภอบางสะพาน มี 7 ตำบล ได้แก่ ตำบลกำเนิดนพคุณ ตำบล รอ่ นทอง ตำบลพงศ์ประศาสน์ ตำบลทองมงคล ตำบลชยั เกษม ตำบลแมร่ ำพงึ และตำบลธงชยั (หรือบ้านกรูด นน่ั เอง) ทองทม่ี ีช่อื เสียงนัน้ อยูใ่ นเขตหมู่บ้านป่ารอ่ น ตำบลร่อนทอง และบริเวณที่มีการขุดทองมากท่ีสุดอยู่ที่ บรเิ วณห้วยจังหัน ซงึ่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 750–2,000 เมตร ปัจจุบนั ปริมาณทองลดนอ้ ยลงมาก แต่ก็ ยังมีชาวบ้านมาร่อนทอง เพื่อเป็นอาชีพรองอยู่เสมอ ทองบางสะพาน “ทองบางสะพาน” หรือ “ทองบาง ตะพาน” มชี อ่ื เสยี งและรู้จักกนั ดีจนมผี ู้กล่าวกนั ว่า “เป็นทองคำเน้อื ดที ่ีสดุ ของเมืองไทยและในโลก” ทองท่ีพบ เป็นทองธรรมชาติ เห็นเป็น Nuggest (ทองที่ขุดได้โดยไม่ต้องถลุง) อย่างชัดเจน เหลืองอร่าม สุกปลั่งและ เนือ้ ออ่ น ทองรอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ต์ เป็นทองเน้อื เกา้ เรยี กว่า “นพคุณเนื้อเกา้ ” เชื่อกนั วา่ ป้องกนั ภยันตรายและภูตผี ปีศาจไดด้ ี ทองบางสะพาน หรอื ทองบางตะพาน หรอื ทองนพคุณนี้ในหนงั สือประชุมประกาศรชั กาลที่4 อธบิ าย ไว้วา่ ทองคำทซ่ี ้อื ขายกนั นนั้ เรยี กตามเนื้อและตามราคา เชน่ ทองหนักบาทหนึ่งเปน็ เงิน 4 บาท เรยี กว่า เน้ือส่ี ทองหนักบาทหนึ่งเป็น เงิน 5 บาท เรียกว่า เนื้อห้า ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน 6 บาท เรียกว่า เนื้อหก ทอง