Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาธุรกิจเเละบริการ ปวช.

แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาธุรกิจเเละบริการ ปวช.

Published by lookjeabjongjit, 2018-11-10 01:34:18

Description: 20001303วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาธุรกิจเเละบริการ ปวช.

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ แบบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการรหสั วิชา 2000 - 1303 ช่ือวชิ า วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื พฒั นาอาชีพธุรกจิ และบริการสาขาวชิ าหลกั สตู ร สาขางาน ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศักราช 2556 ประเภทวิชา พณชิ ยกรรม จัดทาโดย นางสาวพรพมิ ล จงจติ รแผนกวชิ า.สามญั สมั พันธ์ วิทยาลยั การอาชีพเวยี งสระสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

รายการตรวจสอบและอนญุ าตให้ใช้ ลงชือ่ ................................................. (นางสาวพรพมิ ล จงจติ ร) ครผู ูส้ อน .........../........./........... ควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้ ควรปรับปรงุ เกยี่ วกบั .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ลงช่อื ........................................................... หวั หน้าแผนกวิชาสมั พนั ธ์ .........../........./........... ควรอนญุ าตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้ ควรปรับปรงุ เกี่ยวกับ.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ........................................................... หัวหน้างานพัฒนาหลกั สูตรการเรยี นการสอน .........../........./........... ควรอนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้ ควรปรบั ปรุงตามเสนอ อืน่ ๆ ........................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................... รองผอู้ านวยการฝา่ ยวิชาการ .........../........./........... อนุญาตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้ อน่ื ๆ ........................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................... ผู้อานวยการวทิ ยาลยั อาชวี ศึกษานครศรีธรรมราช .........../........./...........

คานา แผนการจัดการเรียนรู้ มุ่งเน้นฐานสมรรถนะและบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วิชาวิทยาศาสตร์เพ่ือพัฒนาอาชีพธุรกิจและบริการ รหัสวิชา 2000–1303 เล่มน้ีได้จัดทาข้ึนเพื่อใช้เป็นคู่มือประกอบการสอน หรือเป็นแนวทางการสอนในรายวิชาเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นสาคัญ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พุทธศกั ราช 2557สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ การจัดทาไดม้ ีการพัฒนาเพ่ือให้เหมาะสมกับผเู้ รียน โดยแบง่ เนื้อหาออกเปน็ 8 หน่วย การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนยดึ ผเู้ รียนเป็นสาคญั มีการบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และค่านิยมหลักของคนไทย 12ประการไวใ้ นหน่วยการเรียนรู้ตามความเหมาะสม สอดคล้องกบั เนอื้ หา มีแบบฝกึ หัด แบบทดสอบหลงั เรียน พร้อมเฉลย มใี บกิจกรรมการทดลอง และสอ่ื การเรยี นการสอนตา่ ง ๆ เพ่ือให้เกดิ ประสิทธิผลแก่ผู้เรยี นมากย่ิงขึน้ ผู้จดั ทาหวังวา่ แผนการจัดการเรียนรู้เลม่ น้ีคงจะเปน็ แนวทางและเปน็ ประโยชนต์ อ่ ครู-อาจารย์และนักเรยี นหากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จดั ทายนิ ดีน้อมรับไวเ้ พอ่ื ปรบั ปรงุ แกไ้ ขในครั้งต่อไป ลงช่ือ........................................... (นางสาวพรพิมล จงจิตร)

สารบัญ หนา้แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 วงจรไฟฟ้าภายในบา้ น 1แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ในบ้านและสานักงาน 8แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 การเก็บรักษาสนิ ค้า 12แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 การอนุรกั ษ์พลงั งานและสงิ่ แวดลอ้ ม 17แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 สารละลาย 23แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 ปฏิกิริยาเคมี 30แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 สารเคมใี นชวี ติ ประจาวัน 37แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 สารสงั เคราะหแ์ ละผลิตภัณฑ์ 42

ลักษณะรายวิชารหสั 2000 – 1302 ชอื่ วชิ า วิทยาศาสตร์เพื่อพฒั นาอาชีพธุรกิจและบริการหนว่ ยกติ (ชั่วโมง) 2-1-2 เวลาเรียนตอ่ ภาค 54 ชั่วโมง รายวิชาตามหลกั สตู ร

จุดประสงค์รายวิชา (มีพุทธพิสัย,ทักษะพิสยั ,จติ พิสัย) 1. เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ ไฟฟ้าและเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบ้านและสานักงาน การเก็บรักษา สนิ ค้าการใช้พลังงานเพ่ือการขนส่ง การอนุรกั ษพ์ ลงั งานและสง่ิ แวดล้อม สารละลาย ปฏกิ ิริยาเคมี สารเคมี ทมี่ ีในชวี ติ ประจาวันและสานักงาน สารสังเคราะหแ์ ละผลิตภณั ฑ์ 2. เพอื่ ให้มีทักษะการคานวณ การทดลอง การวิเคราะหแ์ ละสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในวชิ าชพี 3. มีเจตคติทด่ี ตี อ่ วิทยาศาสตรแ์ ละกิจนสิ ยั ท่ีดีในการทางานสมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับเกี่ยวกับ ไฟฟ้าและเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบ้านและสานักงาน การเก็บรักษาสินค้า การใช้พลงั งานเพื่อการขนส่ง การอนุรักษ์พลังงานและส่งิ แวดล้อม สารละลาย ปฏิกริ ิยาเคมี สารเคมี ท่ีมี ในชีวิตประจาวันและสานักงาน สารสังเคราะห์และผลิตภณั ฑ์ 2. คานวณขอ้ มลู เก่ียวกับไฟฟา้ และขอ้ มูลตามหลกั การ 3. สารวจตรวจสอบเก่ียวกับสารละลาย ปฏิกิริยาเคมี สารเคมี และสารสังเคราะห์ตามกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ 4. ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้จากการศกึ ษาวิทยาศาสตรง์ านธรุ กจิ และบริการในงานอาชพีคาอธบิ ายรายวชิ าศกึ ษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกับ ไฟฟ้าและเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าภายในบ้านและสานกั งานการเกบ็ รกั ษาสินค้าการใช้พลงั งานเพ่อื การขนสง่ การอนรุ ักษ์พลังงานและสงิ่ แวดลอ้ ม สารละลาย ปฏกิ ริ ยิ าเคมี สารเคมี ทม่ี ีในชีวติ ประจาวันและสานกั งาน สารสงั เคราะหแ์ ละผลิตภัณฑ์ท่ี สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้ ชว่ั โมง1 วงจรไฟฟา้ ภายในบ้าน 62 เครื่องใช้ไฟฟา้ ในบ้านและสานักงาน 63 การเกบ็ รกั ษาสนิ ค้า 6

4 การอนุรักษพ์ ลังงานและสิ่งแวดลอ้ ม 65 สารละลาย 66 ปฏกิ ริ ยิ าเคมี 67 สารเคมใี นชวี ติ ประจาวนั 68 สารสังเคราะหแ์ ละผลิตภณั ฑ์ 9 ประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น 3 รวม 54 ตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู รรหัส 2000 – 1303 วิชา วิทยาศาสตร์เพ่ือพัฒนาอาชพี ธุรกิจและบรกิ าร หน่วยกติ 2-1-2 ชนั้ ประกาศยีนบตั รวิชาชีพ สาขาวิชา/กลุ่มวิชา/คอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ

พฤตกิ รรม ความ ู้ร พทุ ธิพสิ ยั ความข้าใจ ชือ่ หนว่ ย นาไปใช้233 ิวเคราะห์1331. วงจรไฟฟ้าภายในบ้าน สังเคราะห์2122. เครือ่ งใช้ไฟฟา้ ในบา้ นและสานกั งาน ประเ ิมน ่คา2223. การเกบ็ รักษาสินคา้ ทักษะพิสัย2224. การอนุรักษ์พลงั งานและสง่ิ แวดล้อม จิตพิ ัสย1225. สารละลาย 1226. ปฏิกริ ยิ าเคมี รวม3127. สารเคมีในชวี ติ ประจาวัน ลาดับความสา ัคญ17 20 238. สารสงั เคราะหแ์ ละผลติ ภณั ฑ์ จานวนคาบ2 รวม ลาดับความสาคญั 9 9 4 20 1 8 8 4 19 2 7 7 4 16 4 7 7 4 17 3 6 6 4 16 4 5 5 4 14 5 5 5 4 14 5 7 7 4 17 3 13หนว่ ยที่ กาหนดการสอน สัปดาหท์ ่ี ชวั่ โมงท่ี ชอื่ หน่วย/รายการสอน

1 วงจรไฟฟา้ ภายในบ้าน 1-2 62 เครื่องใช้ไฟฟา้ ในบ้านและสานกั งาน 3-4 63 การเกบ็ รกั ษาสินคา้ 5-6 64 การอนรุ ักษ์พลงั งานและสิง่ แวดลอ้ ม 7-8 65 สารละลาย 9-10 66 ปฏกิ ริ ยิ าเคมี 11-12 67 สารเคมีในชวี ติ ประจาวัน 13-14 68 สารสังเคราะหแ์ ละผลติ ภัณฑ์ 15-17 99 ประเมินผลปลายภาคเรียน 18 3 รวม 54

แผนการจดั การเรยี นการสอนเพ่อื ประเมนิ พฤติกรรมผู้เรียนอาชีวศกึ ษา ตามค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ วิทยาลัยการอาชีพเวยี งสระ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2559วิชา 2000 – 1303 รหัสวิชา วิทยาศาสตร์เพอ่ื อาชีพธรุ กจิ และบริการ ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพครผู สู้ อน นางสาวร่งุ นภา ทิพยส์ วุ รรณ รายการประเมิน พฤติกรรมทแ่ี สดงออก พฤติกรรม ประจา1.มคี วามรักชาติ ศาสนา ทจ่ี ะวัด หน่วยที่พระมหากษัตรยิ ์ 1.1 ร่วมกจิ กรรมเข้าแถว ยืนตรงเคารพธง2.ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน ชาติ ร้องเพลงชาติ √ 1-8 1.2 ร่วมกจิ กรรมวันสาคัญทางศาสนา ท่ีตน3.กตัญญูต่อพ่อแม่ ผ้ปู กครอง ครบู า นบั ถอื √ 1,3,7อาจารย์ 1.3 รว่ มกิจกรรมวันสาคัญทเ่ี กีย่ วกบั การ เทดิ ทนู สถาบันพระมาหากษตั รยิ ์ √ 1-84.ให้ความรู้ หม่นั ศึกษาเล่าเรียน ทั้ง 2.1 ประพฤติ ปฏบิ ตั ติ นตามความจริงที่แสดงทางตรงและทางอ้อม ถงึ การยึดมนั่ ในความถกู ต้อง ยอมรับผลการ √ 1-8 กระทาของตนเองและผู้อนื่ 2.2 เสยี สละกาลังกาย ทรัพย์ สติปญั ญา ในการช่วยเหลอื ผ้อู ื่นและสังคม 2.3 ควบคมุ ตนเองเม่ือประสบความ ยากลาบากและไมก่ ่อให้เกิดความเสยี หาย 3.1 รู้จกั บุญคุณพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครูบา อาจารย์และผู้มีพระคุณ 3.2 เอาใจใส่ ดูแลชว่ ยเหลอื ภารกิจ การงาน ปฏบิ ัตติ นตามคาส่ังสอนท่ีถูกต้องและ เหมาะสม 3.3 ตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์และผู้มีพระคณุ 4.1 แสวงหาความรูท้ ้ังทางตรงและทางอ้อม 4.2 ม่งุ มั่นตง้ั ใจเพียรพยายามในการศึกษา และปฏบิ ัติงาน 4.3 แกป้ ญั หาและพัฒนาส่งิ ใหมๆ่ จนบรรลุผลสาเร็จ

5.รกั ษาวฒั นธรรม ประเพณีไทย อนั 5.1 เขา้ รว่ มโครงการหรือกิจกรรมทีเ่ ปน็ ไทย √ 1-8งดงาม 5.2 ภมู ใิ จในความเปน็ ไทย 5.3 อนุรกั สืบทอดวัฒนธรรมไทยอนั ดีงาม รายการประเมิน พฤตกิ รรมท่ี พฤติกร ประ6.มศี ีลธรรม รกั ความส่ือสัตย์ หวงั ดตี อ่ ผ้อู นื่ เผอื่ แผแ่ ละแบ่งปนั แสดงออก รมทจี่ ะ จา หน่ว7.เข้าใจเรยี นร้กู ารเป็นประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ท่ี วัด ยท่ีถกู ต้อง 6.1 ประพฤตติ น ตามหลัก ศีลธรรมอนั ดีงาม 6.2 ปฏบิ ตั ิ โดยยึดหลัก กตกิ า ข้อตกลง/ √ 1-8 กฎ/ระเบยี บ ของ สถานศกึ ษา 6.3 หวงั ดี โอบออ้ มอารี ชว่ ยเหลือ ผู้อ่นื ตาม โอกาส 7.1 เข้าร่วม กิจกรรม เก่ียวกบั ประชาธปิ ไต √ 3-5 ย อันมี พระมหากษั ตริยท์ รงเป็น

ประมขุ 7.2 เคารพ สิทธขิ อง ผูอ้ ่นื 7.3 ปฏบิ ตั ิ ตนตาม ระบอบ ประชาธิปไต ย อันมี พระมหากษั ตริย์ทรงเป็น ประมขุ8.มีระเบียบวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผูน้ อ้ ยร้จู ักเคารพผใู้ หญ่ 8.1 ตรงต่อ √ 1-8 เวลา9.มสี ติ รู้ตวั รคู้ ดิ รูท้ า รู้ปฏิบัติ ตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวฯ 8.2 ประพฤติ ตามคาสง่ั หรือ ข้อบังคบั ของ สถานศกึ ษา 8.3 เคารพ นบน้อมต่อ ผใู้ หญ่ 9.1 คิดดี พูดดี ทาดี 9.2 สุภาพ เรียบรอ้ ย ออ่ นน้อมถ่ม ตนตาม √ 1-8 สถานภาพ และ กาลเทศะ 9.3

รอบคอบ เหมาะสม กับวยั สถานการณ์ และบทบาท ของตนเอง และแนว พระราช ดารสั ฯ10.รู้จักดารงตนโดยให้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดารัสของ 10.1 ใช้วัสดุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ฯ รจู้ กั อดออมไวใ้ ชใ้ นยามจาเปน็ มีไวพ้ อกินพอใช้ ถูกต้องถา้ เหลอื ก็แจกจา่ ยจาหนา่ ยและพร้อมทจ่ี ะขยายกจิ การเมือ่ มคี วามพร้อมเมอื่ มี พอเพยี งและภมู คิ ้มุ กนั ที่ดี เหมาะสม กบั งาน 10.2 เก็บ ออมถนอม ใช้ทรพั ยส์ ิน สงิ่ ของให้ √ 1-8 √ 1-8 เกิด ประโยชน์ คมุ้ คา่ 10.3 ปฏิบตั ิ ตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย สาเร็จตาม กาหนดโดย คานงึ ถึง ความ ปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ ื่น11.มคี วามเข้มแข็งทง้ั รา่ งกายและจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออานาจฝ่ายต่าหรอื กเิ ลสมี 11.1 ดูแลความละอายเกรงกลัวต่อตามหลักของศาสนา รกั ษา สขุ ภาพ

ร่างกายตาม สุขอนามยั 11.2 ไม่ เก่ียวขอ้ งกบั อบายมุข 11.3 ไม่นา ทรพั ยส์ ิน ของผู้อ่ืน เป็นของ ตนเอง 11.4 หลีกเลยี่ ง แหล่งม่วั สมุรายการประเมนิ พฤติกรรมท่แี สดงออก พฤตกิ รรม ประจา ท่ีจะวดั หน่วยท่ี12. คานึงถงึ ประโยชนข์ องส่วนรวม 12.1 มีจติ อาสา อทุ ิศตนเพ่ือประโยชน์ตอ่และของชาตมิ ากกว่าผละประโยชน์ สังคมและส่วนรวม √ 1-8ของตนเอง 12.2 เสยี สละความสขุ สว่ นตน เพอ่ื ทา ประโยชนแ์ กผ่ ูอ้ น่ื ลงชื่อ................................................. ลงชือ่ .......................................................หวั หน้างานวัดผลและประเมินผล ครูผูส้ อน

ลงชื่อ.................................................. รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ แผนผงั ความคดิบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง พอประมาณ 3. อธบิ ายหรือเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟา้ 4. อธบิ ายการต่อวงจรไฟฟา้ มีเหตผุ ล มภี มู คิ ้มุ กนั1. อธิบายการเกิดไฟฟ้าจากแหล่งกาเนดิ ต่าง ๆ 5. ลดความเส่ียงในการปฏบิ ัติการทดลอง2. ยกตัวอย่างเซลลไ์ ฟฟา้ ปฐมภูมิและทตุ ยิ ภูมิ 6. ปฏิบตั ิการทดลองโดยคานึงถึงสังคมและ ส่งิ แวดล้อมและความปลอดภยั

วงจรไฟฟา้ ภายในบา้ น ความรู้ + ทักษะ คุณธรรม- ตอ่ แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ - มวี นิ ัย- เรียนรอู้ ปุ กรณ์ไฟฟ้า - ความเรยี บร้อย - ตรงตอ่ เวลา - รบั ผดิ ชอบ - ขยัน อดทน อดกล้ันสังคม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สง่ิ แวดลอ้ ม1,2,4 3,4 5 6 แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1วชิ า วิทยาศาสตรเ์ พื่อพัฒนาอาชีพธุรกจิ และบริการ สอนครั้งที่ 1-2 ช่ือหน่วย วงจรไฟฟา้ ภายในบ้าน จานวน 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์เร่อื ง วงจรไฟฟา้ ภายในบ้าน จานวน 6 ช่วั โมง1. สาระสาคญั แหล่งกาเนิดไฟฟ้าได้มาจากหลายแหล่ง ได้จากเซลล์ไฟฟ้า ซ่ึงมีอยู่ 2 ชนิดคือ เซลล์ปฐมภูมิได้แก่ถ่านไฟฉายขนาดต่าง ๆ สามารถใช้ได้คร้ังเดียวเมื่อหมดไฟแล้ว ไม่สามารถนาไปประจุไฟใหม่ได้ส่วนเซลล์ไฟฟ้าทุติยภูมิ เป็นเซลล์ไฟฟ้าที่เม่ือใช้ไฟหมดแล้ว สามารถนาไปประจุไฟใหม่ได้ ได้แก่ แบตเตอรี่ขนาดต่าง ๆ ไฟฟ้าจากการเหนี่ยวนาระหว่างแม่เหล็กกับขดลวดทาให้เกิดไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ ไฟฟ้าจากเซลล์สุริยะ และไฟฟ้าที่เกิดจากแหล่งกาเนิดสามารถไหลมายังเคร่ืองใช้ไฟฟ้า โดยเคล่ือนท่ีผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้า

ประกอบด้วย สายไฟฟ้า สวิทช์ไฟฟ้า เต้ารับและเต้าเสียบ ฟิวส์และสะพานไฟ โดยมีมาตรไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์วัดปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านโดยไฟฟ้าจะไหลตามวงจรไฟฟ้า2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้ แสดงความรูแ้ ละปฏิบตั เิ กย่ี วกับวงจรไฟฟา้ ภายในบ้าน3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงค์ท่วั ไป 1. เพ่อื อธบิ ายการเกดิ ไฟฟ้าจากแหลง่ กาเนดิ ตา่ ง ๆได้ 2. เพื่อยกตวั อย่างเซลลไ์ ฟฟ้าปฐมภมู ิและทตุ ิยภูมิได้ถูกต้อง 3. เพ่ืออธบิ ายหรอื เลือกใช้อุปกรณไ์ ฟฟ้าได้ถกู ต้อง จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. อธิบายการต่อวงจรไฟฟ้า 2. เลอื กใช้อปุ กรณไ์ ฟฟ้าอยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม4. สาระการเรียนรู้ 1.แหล่งกาเนดิ ไฟฟ้า 2.อุปกรณ์ไฟฟา้ 3.วงจรไฟฟา้5. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 1-2/18, คาบท่ี 1–8/72) 1. ข้นั เตรยี มการสอน 1.ตัวอย่างถ่านไฟฉาย 2. ตัวอย่างแบตเตอร่ี 3. ชดุ ทดลองไดนาโม 4. ชุดการทดลองเซลลไ์ ฟฟ้าจากปฏิกิรยิ าเคมี 5. ตวั อย่างอปุ กรณ์ไฟฟ้าภายในบา้ น 6. ตัวอยา่ งโซลาเซลล์ 7. เตรยี มแบ่งกลมุ่ นกั ศกึ ษาเปน็ 5 กลุ่ม2. ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. พูดคยุ กับนักศกึ ษาเกย่ี วกับการเรียนการสอนแนะนาวธิ เี รียน

2. ถามนกั ศกึ ษาวา่ ไฟฟ้าเกิดได้อยา่ งไร3. ขน้ั สอน 1. อธิบายว่าไฟฟ้าเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น จากไฟฟ้าสถิตย์ จากปฏิกิริยาเคมี จากการเหนย่ี วนาระหว่างแมเ่ หล็กกบั ขดลวด และจากพลงั งานแสงอาทิตย์ 2. ไฟฟ้าจากปฏิกิริยาเคมีที่เป็นเซลล์ปฐมภูมิ คือถ่านไฟฉาย เช่นถ่านชนิดต่าง ๆ อธิบายการเกิดไฟฟ้า พร้อมทัง้ ใหด้ ตู วั อยา่ งของถา่ นไฟฉาย 3. อธิบายเกี่ยวกับเซลล์ไฟฟ้าจากปฏิกิริยาเคมี จากน้ันสาธิต การเกิดไฟฟ้าจากเซลล์ไฟฟ้าอย่างโดยใช้แผ่นทองแดง และแผน่ สังกะสจี ่มุ ลงในสารละลายกรดซลั ฟิวรกิ พรอ้ มทง้ั อธิบายเพม่ิ เตมิ 4. ไฟฟา้ จากปฏิกริ ยิ าเคมีท่ีเปน็ เซลล์ทุติยภมู ิ คอื แบตเตอร่ีขนาดต่าง ๆ พร้อมให้ดูตัวอย่าง 5. ให้นกั ศึกษาบางคนออกมาหน้าชน้ั เรียนแล้วหมุนไดนาโมท่ีเตรียมมาให้เพ่ือน ๆได้ดูแล้วถามว่าเกิดไฟฟ้าไดอ้ ย่างไร 6. อธิบายการทางานของโซลาเซลล์พรอ้ มกบั เอาตัวอย่างการทางานของโซลาเซลล์มาใหน้ กั ศึกษา 7. อธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกบั การนาโซลาเซลล์ไปใช้ พร้อมทง้ั ยกตัวอย่าง 8. ถามนักศึกษาเป็นรายคน เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อดูว่านักศึกษา คนใดบ้างท่ีรู้ และคนใดบ้างทไี่ มร่ ู้ พร้อมกบั เอาตวั อยา่ งท่ีเตรียมมาให้นกั ศึกษาดู 9. อธบิ ายเพิม่ เตมิ เกี่ยวกับการทางานของอุปกรณ์ไฟฟา้ 10. ใหน้ ักศึกษายกตวั อยา่ งอปุ กรณไ์ ฟฟ้าภายในบา้ น 11. อธิบายการต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้านท้ัง 3 ชนิดคือ แบบอนุกรม แบบขนานและแบบผสมพรอ้ มทงั้ บอกข้อดีและข้อเสียการต่อวงจรไฟฟ้าท้งั 3 แบบ4. ขน้ั สรุป 1. ซกั ถามเพมิ่ เติม 2. ทาแบบฝึกหดั6. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นการสอนวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 นายมนวรรธณ์ นกอิ่ม 2. กิจกรรมเสริมการเรียนรทู้ ่ี 1.1 3. กจิ กรรมเสริมการเรยี นรทู้ ่ี 1.2 4. ตวั อย่างถา่ นไฟฉาย 5. ตวั อยา่ งแบตเตอรี่

6. ชุดทดลองไดนาโม 7. ชดุ การทดลองเซลลไ์ ฟฟ้าจากปฏิกริ ยิ าเคมี 8. ตวั อยา่ งอุปกรณ์ไฟฟา้ ภายในบ้าน 9. ตวั อย่างโซลาเซลล์ 2. แหลง่ การเรียนรู้ 2.1 หนงั สือ วารสาร เกี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.2 อนิ เทอร์เนต็ www.google.com7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบ,แบบฝึกหัดท้ายบท 2. บันทกึ ผลการเรยี นรู้จากการทดลอง 3. บนั ทึกการนาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน8. การวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ 8.1 เครือ่ งมือวัดประเมินผลตามสภาพจริง 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบสงั เกตการปฏบิ ตั ิงาน 3. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมผูเ้ รียน 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 2.1 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ จะต้องได้คะแนนไม่ตา่ กว่า ร้อยละ50 2.2 แบบทดสอบหลังเรยี น ตอ้ งได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 50 2.3 แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏิบัตกิ ิจกรรมกลุม่ ต้องได้คะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 509. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 9.1 ข้อสรปุ หลังการจัดการเรียนรู้................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .......................................................

............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................5 9.2 ปัญหาทพี่ บ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................... 9.3 แนวทางแก้ปญั หา............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................... ....................ลงชื่อ ............................ ผรู้ บั รอง ลงชื่อ .......................................... ผู้ตรวจ หัวหน้าแผนกวิชา รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ………./……………../…………….. ………./……………../…………….. แผนผังความคิด

บูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พอประมาณ 3. บอกวธิ กี ารดแู ลรักษา 4. คานวณหาค่าเฉลี่ยจากการวดั มีเหตผุ ล มีภูมคิ ุม้ กนั1. บอกและอธิบายส่วนประกอบของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีให้ความ 5. ลดความเสย่ี งในการปฏบิ ัติการทดลองร้อน 6. ปฏิบัติการทดลองโดยคานึงถึงสังคมและ2. บอกและอธิบายเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ส่ิงแวดลอ้ มและความปลอดภัย เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ในบ้านและ สานักงาน ความรู้ + ทกั ษะ คณุ ธรรม- เลือกใช้อปุ กรณ์ไดอ้ ย่างเหมาะสม - มีวินยั- ศึกษาควบคุมความร้อนทางาน - ความเรียบรอ้ ย - ตรงต่อเวลา - รบั ผิดชอบ - ขยัน อดทน อดกลนั้สงั คม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม สง่ิ แวดล้อม1,2,4 3,4 5 6

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 2 วชิ า วิทยาศาสตร์เพ่อื พฒั นาอาชีพธรุ กจิ และบริการ สอนครั้งที่ 3-4 จานวน 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ช่ือหน่วย เคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้านและสานักงาน จานวน 6 ชั่วโมงเรอ่ื ง เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นและสานักงาน1. สาระสาคัญ เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าประเภ ทให้ความร้อน จะมีอุปกรณ์ ท่ีให้ความร้ อนเป็นแผ่นความร้อนห รือขดลวดความร้อนทาหน้าท่ีเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน โดยมีอุปกรณ์ควบคุมระดับความร้อนคือเทอร์โมสตัตทาหน้าที่ควบคุมความร้อน ได้แก่ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า กาต้มน้าไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า เคร่ืองทาน้าอนุ่2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้ แสดงความรู้และปฏิบัติเกี่ยวกบั เครื่องใชไ้ ฟฟ้าในบ้านและสานักงาน3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์ทว่ั ไป 1. เพ่ือให้อธิบายถึงส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้า 2. เพอื่ ให้อธิบายถึงส่วนหลักการทางานของเครื่องใชไ้ ฟฟ้า จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. บอกความสาคัญของเครื่องใช้ไฟฟา้ 2. เลอื กใช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าใหเ้ หมาะสมกับสิ่งที่การใช้ อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม4. สาระการเรียนรู้ 1. เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ภายในบ้าน 2. เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ภายในสานกั งาน5. กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 3-4/18, คาบท่ี 9-17/54)1. ขน้ั เตรยี มการสอน

1. เตรยี มเครือ่ งฉายแผ่นใส 2. เตรยี มแผ่นใสเกี่ยวกบั สว่ นประกอบของเคร่อื งใช้ไฟฟ้าศึกษาไดด้ ู 3. เตรยี มตวั อยา่ งอปุ กรณ์เครอื่ งใช้ไฟฟ้า เชน่ เตารีดไฟฟ้า กาตม้ น้าไฟฟา้ ไวใ้ หน้ กั ศกึ ษาได้ดูของจรงิ2. ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ถามนักศกึ ษาวา่ ใครบ้างทีห่ งุ ข้าวด้วยหมอ้ หุงขา้ วไฟฟา้ 2. ให้นกั ศกึ ษามาบอกวิธกี ารหุงขา้ วให้ฟัง 3. บอกนักศึกษาว่าครูจะมาแนะนาวิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อน เช่นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเตารีดไฟฟา้ กาตม้ นา้ ไฟฟา้ กระทะไฟฟา้ เคร่อื งทานา้ อนุ่ เปน็ ตน้ 4. แนะนานักศึกษาที่แต่งกายไมถ่ ูกระเบยี บ3. ขนั้ สอน 1. อธบิ ายสว่ นประกอบของหม้อหงุ ขา้ วไฟฟ้าพร้อมทั้ง นาตัวอย่างอปุ กรณจ์ ริงมาให้นักศึกษาไดร้ จู้ ัก 2. ฉายแผ่นใสหลักการใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ และวิธกี ารดูแลรกั ษาหมอ้ หงุ ข้าวไฟฟ้าให้ทราบ 3. อธิบายส่วนประกอบของเตารีดไฟฟ้า พร้อมทั้งนาตัวอุปกรณ์จริงมาให้นักศึกษาได้รู้จัก และทาวิธีเดียวกันกบั กาตม้ นา้ ไฟฟ้า กระทะไฟฟ้าและเครื่องทาน้าอนุ่ 4. เปิดโอกาสให้นักศกึ ษาซกั ถามปญั หาของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า 5. อธิบายเพิม่ เติมในสว่ นท่นี กั ศึกษาสงสัย4. ขั้นสรุป 1. สรุปข้อควรระวงั และขอ้ ควรปฏิบตั เิ กย่ี วกบั เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าประเภทใหค้ วามร้อน 2. ให้นักศึกษาสารวจเคร่ืองใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อนที่บ้านของแต่ละคนมีอะไรบ้าง และเขียนมาส่งครู 3. บอกวธิ กี ารประหยัดในการใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟา้ ที่ไม่จาเปน็6. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. สื่อการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนการสอน 2. กจิ กรรมเสริมการเรียนรู้ที่ 2.1 3. รูปหม้อหงุ ข้าวไฟฟา้ 4. รูปเตารดี ไฟฟา้ 5. กาต้มนา้ ไฟฟา้ 2. แหลง่ การเรียนรู้ 2.1 หนงั สือ วารสาร เกี่ยวกบั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.2 อินเทอร์เน็ต www.google.com7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบ,แบบฝกึ หัดท้ายบท

2. บนั ทกึ ผลการเรยี นร้จู ากการทดลอง 3. บนั ทกึ การนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น8. การวดั และประเมินผลตามสภาพจรงิ 8.1 เครือ่ งมือวดั ประเมินผลตามสภาพจรงิ 1. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. แบบสังเกตการปฏิบตั ิงาน 3. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมผูเ้ รียน 8.2 เกณฑ์การประเมิน 2.1 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ จะต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่า ร้อยละ50 2.2 แบบทดสอบหลังเรยี น ต้องไดค้ ะแนนไม่นอ้ ยกว่า รอ้ ยละ 50 2.3 แบบประเมินพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลุ่มต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 50

9. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 9.1 ข้อสรปุ หลังการจัดการเรียนรู้................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................ .......................5 9.2 ปัญหาท่ีพบ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................. ............................................... 9.3 แนวทางแกป้ ัญหา............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................

............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................... ....................ลงชื่อ ............................ ผรู้ ับรอง ลงช่ือ .......................................... ผู้ตรวจหวั หนา้ แผนกวิชา รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ………./……………../…………….. ………./……………../…………….. แผนผงั ความคดิบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พอประมาณ มีเหตผุ ล 3. การนาเทคโนโลยีการถนอมอาหารมาใชเ้ พื่อ การชะลอการสุกของผลไม้1. ความสาคัญของการถนอมอาหาร 4. เลือกวิธกี ารถนอมอาหารใหเ้ หมาะสมกบั2. การถนอมอาหาร อาหาร มภี มู ิคมุ้ กนั 5. ลดความเสีย่ งในการปฏิบัติการทดลอง 6. ปฏบิ ตั กิ ารทดลองโดยคานึงถึงสังคมและ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภยั การเก็บรกั ษาสนิ คา้

ความรู้ + ทกั ษะ คณุ ธรรม- สามารถนาเทคโนโลยกี ารถนอมอาหารมาใชเ้ พอ่ื การชะลอการสกุ - มวี ินัยของผลไม้ - ความเรยี บรอ้ ย - ตรงตอ่ เวลา - รับผิดชอบ - ขยนั อดทน อดกลั้นสังคม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม1,2,4 3,4 5 6แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 3 วิชา วิทยาศาสตร์เพ่อื พฒั นาอาชพี ธุรกจิ และบรกิ าร สอนครงั้ ที่ 5-6 จานวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ ช่อื หน่วย การเก็บรักษาสนิ ค้า จานวน 6 ชว่ั โมงเร่อื ง การเก็บรักษาสนิ ค้า1. สาระสาคญั การถนอมอาหารมีความสาคัญเป็นอย่างมากในการเก็บรักษาอาหาร ไว้รับประทานในเวลาปกติและเวลาขาดแคลน โดยให้มีคุณค่าทางสารอาหารมากที่สุด โดยใช้ความรู้และเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์มาใช้ เช่น การทาแห้ง ใชค้ วามรอ้ น การใชอ้ ุณหภูมิต่า การใช้สารเคมี การหมักดอง การใช้ความเขม้ ข้นของน้าตาล และการอาบรงั สีมาป้องกัน การเปลยี่ นแปลงของอาหาร นอกจากนั้นยังนากระบวนการถนอมอาหารมาใชใ้ นการชะลอการสกุ ของผลไม้2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้ 1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับการเก็บรกั ษาสินค้า 2. ปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับการเกบ็ รักษาสินคา้3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

จุดประสงค์ทัว่ ไป 1. เพอ่ื อธิบายความสาคญั ของการถนอมอาหาร 2. เพ่ือบอกวิธีการถนอมอาหารได้ 3. เพอ่ื สามารถเลือกวธิ กี ารถนอมอาหารใหเ้ หมาะสมกับอาหาร จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. สามารถนาเทคโนโลยกี ารถนอมอาหารมาใช้เพอ่ื การชะลอการสุกของผลไม้ได้ 2. ถนอมอาหารอยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความสาคัญของการถนอมอาหาร 2. การถนอมอาหาร 3. การนาเทคโนโลยีการถนอมอาหารมาใช้เพ่ือการชะลอการสุกของผลไม้5. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ที่ 5-6/18, คาบที่ 18-25/54) 1. ขนั้ เตรยี มการสอน 1. เตรียมสารละลายดา่ งทับทิม 2. เตรยี มถงุ พลาสตกิ และหนังยาง 3. เตรียมกล้วยดิบจานวน 1 หวี 2. ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน 1. ทบทวนการถนอมอาหารชัง่ โมงท่ีแลว้ 3. ขน้ั สอน 1. อธบิ ายการถนอมอาหารโดยการใช้รังสี พร้อมกบั ใหค้ วามรเู้ รื่องรงั สี มีกช่ี นิดอะไรบา้ ง 2. บอกอนั ตรายของรงั สีใหท้ ราบ 3. อธิบายการถนอมอาหารโดยใชจ้ ุลนิ ทรีย์ พร้อมกบั ยกตวั อยา่ งแต่ละประเภท ใหท้ ราบ 4. อธบิ ายเรอ่ื งการนาเอาเทคโนโลยีการถนอมอาหารมาใช้ชะลอการสุกของผลไม้ 5. ให้นักศึกษาทาการทดลองการชะลอการสุกของกล้วย โดยการอธิบายวธิ ีการทาให้นักศึกษาฟังโดยทาเปน็ กล่มุ แล้วบนั ทกึ การเปลย่ี นแปลงของกลว้ ยทุกวนั จนสกุ ว่าใช้เวลา กวี่ นั นาผลการจดบันทึกส่งครู 6. ให้นกั ศกึ ษาซกั ถามปัญหาตา่ ง ๆ ทั้งเนอ้ื หาและวิธีการทดลอง 4. ขนั้ สรุป

1. ทบทวนเร่อื งการถนอมอาหารโดยใชจ้ ลุ นิ ทรยี ห์ มกั ดอง 2. ทบทวนการจดผลการทดลอง6. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ หนงั สือเรียน หนว่ ยที่ 3 เรื่อง การเก็บรักษาสนิ ค้า ใบกิจกรรมท่ี 3.1-3.3 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 3 และแบบทดสอบกอ่ นเรียน และหลงั เรียน และ PowerPoint ประกอบการสอน 3. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สือ วารสาร เก่ียวกบั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ต www.google.com7. หลักฐานการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบ,แบบฝึกหดั ท้ายบท 2. บนั ทึกผลการเรยี นร้จู ากการทดลอง 3. บนั ทกึ การนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น8. การวัดและประเมินผลตามสภาพจริง 8.1 เครอื่ งมือวัดประเมินผลตามสภาพจรงิ 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบสงั เกตการปฏิบัตงิ าน 3. แบบประเมินพฤติกรรมผู้เรยี น 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 2.1 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จะต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่า ร้อยละ50 2.2 แบบทดสอบหลังเรียน ต้องไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 50 2.3 แบบประเมินพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุม่ ต้องไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50

9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 9.1 ข้อสรุปหลงั การจัดการเรียนรู้................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................................................................5 9.2 ปัญหาท่ีพบ...................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..........................................................................................

............................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ............................................... 9.3 แนวทางแกป้ ัญหา............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................... ....................ลงชอื่ ............................ ผรู้ บั รอง ลงช่ือ .......................................... ผูต้ รวจ หัวหนา้ แผนกวชิ า รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ ………./……………../…………….. ………./……………../…………….. แผนผังความคดิ บูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง พอประมาณ 3. การนาพลังงานไปใช้ 4. วิธีการอนรุ กั ษ์พลังงานมีเหตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กนั 5. ลดความเสีย่ งในการปฏบิ ัติการทดลอง 6. ปฏบิ ัติการทดลองโดยคานึงถงึ สังคมและ ส่ิงแวดลอ้ มและความปลอดภยั

1. บอกการอนรุ กั ษ์พลังงาน2. บอกความหมายของพลังงาน การอนุรักษ์พลังงานและ ส่ิงแวดลอ้ ม ความรู้ + ทักษะ คณุ ธรรม- บอกวธิ ีการอนรุ ักษ์พลงั งนและสิ่งเวดล้อม - มวี นิ ยั - ความเรยี บร้อย - ตรงต่อเวลา - รบั ผิดชอบ - ขยนั อดทน อดกลั้น สงั คม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม สิง่ แวดลอ้ ม 1,2,4 3,4 5 6 แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 4 วิชา วิทยาศาสตรเ์ พอื่ พัฒนาอาชพี ธรุ กจิ และบริการ สอนคร้งั ที่ 7-8 จานวน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ช่อื หน่วย การอนุรกั ษ์พลงั งานและสง่ิ แวดล้อม จานวน 6 ช่วั โมงเรือ่ ง การอนุรักษ์พลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม1. สาระสาคัญ

ศึกษาและปฏิบัติเกีย่ วกับความหมายและประเภทของพลงั งานและสง่ิ แวดล้อม ความสมั พนั ธ์ของพลังงานและสิ่งแวดลอ้ มกบั การดารงชีวิต ปัญหาการใชพ้ ลังงานท่สี ่งผลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ ม หลกั และวิธกี ารอนรุ ักษ์พลังงานและสิ่งแวดลอ้ ม การป้องกันและแก้ไขปญั หา พลังงานทดแทน กฎหมายและนโยบายทเ่ี กี่ยวข้อง2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั การอนุรักษ์พลงั งานและส่ิงแวดลอ้ ม 2. ปฏิบัติเกีย่ วกบั การอนุรกั ษ์พลังงานและสง่ิ แวดล้อม3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ท่ัวไป 1. เพอ่ื อธบิ ายความหมายของพลังงานได้ 2. เพือ่ จาแนกประเภทของพลงั งานได้ 3. เพือ่ ประเมนิ ความสาคัญของสิง่ แวดลอ้ มได้ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. จาแนกประเภทของสิ่งแวดล้อมได้ 2. แสดงความรแู้ ละปฏิบัติเก่ียวกับพลังงานทดแทน เลอื กใชพ้ ลงั งานทดแทนในการดาเนินชวี ิต4. สาระการเรยี นรู้ 1. พลงั งานมาจากไหน 2. การอนุรักษพ์ ลังงาน5. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 7-8/18, คาบท่ี 27-34/54) 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยที่ 4 การอนุรกั ษ์พลงั งานและสิง่ แวดล้อม 2. แบ่งกลุม่ นักเรียนเป็นกล่มุ ๆ ละ 5 คน 3. ครใู ห้นักเรยี นดเู น้ือหาหนว่ ยที่ 4 ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นทั้งทฤษฎีและปฏิบตั ิ 4. ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน ครูต้ังคาถามให้นักเรียนช่วยกันตอบ และร่วมอภิปรายให้ได้แนวคิดเพ่ือศึกษาหัวข้อ 4.1-4.3

5. ขั้นสอน 5.1 ครูอธิบาย บรรยายและถามตอบ นกั เรยี นศึกษาจากเนอ้ื หาในหวั ข้อเร่ือง 4.1–4.3 5.2 นักเรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนมาอภิปรายหนา้ ช้ันเรยี นเพื่อสรุป 5.3 ครูใหค้ วามร้เู พมิ่ เตมิ โดยใช้สอื่ PowerPoint 5.4 นักเรียนทากิจกรรมตามใบกิจกรรมท่ี 4.1–4.3 5.5 ขณะนกั เรียนทากจิ กรรมครจู ะสังเกตการทางานกลุ่ม 6. ขนั้ สรุป ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรม และรว่ มอภิปรายสรุปบทเรียน6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ส่ือการเรยี นรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 4 เรื่อง การอนุรักษ์พลังงานและส่ิงแวดล้อม ใบกิจกรรมที่ 4.1–4.7แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 4 และแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน และ PowerPoint ประกอบการสอน 2 แหล่งการเรียนรู้ หนงั สือ วารสาร เก่ยี วกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอินเทอรเ์ น็ต www.google.com7. หลักฐานการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบ,แบบฝกึ หดั ท้ายบท 2. บนั ทึกผลการเรียนรู้จากการทดลอง 3. บันทึกการนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน8. การวดั และประเมินผลตามสภาพจรงิ 8.1 เครื่องมือวดั ประเมินผลตามสภาพจรงิ 1. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. แบบสงั เกตการปฏิบัตงิ าน 3. แบบประเมินพฤตกิ รรมผู้เรียน 8.2 เกณฑ์การประเมิน 2.1 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จะต้องได้คะแนนไม่ตา่ กว่า ร้อยละ50 2.2 แบบทดสอบหลังเรยี น ตอ้ งได้คะแนนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 2.3 แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมกลมุ่ ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 509. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 9.1 ข้อสรปุ หลังการจัดการเรียนรู้

.................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ...............................5 9.2 ปัญหาทีพ่ บ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ...................................................... 9.3 แนวทางแก้ปัญหา............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................... ....................ลงชื่อ ............................ ผูร้ ับรอง ลงช่ือ .......................................... ผู้ตรวจ หัวหน้าแผนกวิชา รองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ ………./……………../…………….. ………./……………../……………..

แผนผังความคดิ บูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง พอประมาณมีเหตผุ ล 3. ระบุสมบตั ขิ องธาตุทีเ่ ปน็ โลหะ อโลหะและกึง่ โลหะ 4. แยกตวั ทาละลายและตวั ละลาย เมือ่ กาหนด องค์ประกอบของสารละลายมาให้ มีภูมิคมุ้ กนั1. บอกความแตกต่างของสมบัตทิ างกายภาพและทางเคมี 5. จาแนกประเภทของสาร เม่ือกาหนด สารมาให้2. จาแนกความแตกต่างระหว่างสารเน้อื เดียวกบั 6. ทาการทดลองการละลายของสารใน สารเน้ือผสม ตวั ทาละลายต่าง ๆ อยา่ งปลอดภยั สารละลาย ความรู้ + ทักษะ คณุ ธรรม- ระบุสมบัติของสารประเภทสารแขวนลอย คอลลอยด์ และ - มีวนิ ัยสารละลาย - ความเรียบรอ้ ย- ระบปุ ัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ การละลายของสาร - ตรงต่อเวลา - รบั ผดิ ชอบ- อธิบายการเกิดพนั ธะโลหะและสมบตั ขิ อง พนั ธะโลหะ - ขยัน อดทน อดกล้ัน

สังคม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สิง่ แวดล้อม1,2,4 3,4 5 6แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 5 วิชา วิทยาศาสตร์เพ่อื พัฒนาอาชีพธุรกิจและบรกิ าร สอนคร้ังท่ี 9-10 จานวน 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ชือ่ หนว่ ย สารละลาย จานวน 6 ชั่วโมงเรอ่ื ง สารละลาย1. สาระสาคญั สารต่าง ๆ ในโลกมีมากมายหลายชนิด การศึกษาเกี่ยวกับสารจึงต้องจัดหมวดหมู่เพ่ือประโยชน์ต่อการศึกษาค้นควา้ โดยการกาหนดเกณฑ์เพ่ือใช้ในการจาแนกสาร เมอ่ื ใช้เน้ือสารเปน็ เกณฑ์จะจาแนกสารออกเป็น 2ประเภท ได้แก่ สารเน้ือเดียว และสารเน้ือผสม สารเน้ือเดียวยังแบ่งออกเป็นสารละลายและสารบริสุทธ์ิ และสารบริสุทธิ์ยังแบ่งออกเป็นธาตุกับสารประกอบ การจัดจาแนกสารเมื่อใช้อนุภาคเป็นเกณฑ์จะแบ่งได้ 3 ประเภทเรยี งลาดับตามขนาดของอนุภาคจากใหญ่ไปเล็ก ได้แก่ สารแขวนลอย คอลลอยด์ และสารละลายสารต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อาจเป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพหรือการเปล่ียนแปลงทางเคมี ซึ่งการเปล่ียนแปลงท้ังสองอย่างน้ีจะแตกต่างกันโดยการเปลี่ยนแปลงทางเคมีจะมีสารใหม่เกิดข้นึ ทาให้การยึดเหน่ียวของอะตอมในโครงสร้างเปลย่ี นไป2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้ 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับสารและการเปลี่ยนแปลง 2. ปฏบิ ตั ิเกยี่ วกบั สารและการเปลี่ยนแปลง3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงคท์ วั่ ไป 1. เพอ่ื บอกความแตกต่างของสมบัตทิ างกายภาพและทางเคมี 2. จาแนกความแตกตา่ งระหว่างสารเนื้อเดยี วกับ สารเน้อื ผสม 3. เพือ่ ระบสุ มบตั ขิ องธาตทุ เี่ ปน็ โลหะ อโลหะและก่ึงโลหะ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายการละลายแบบดดู ความร้อนและคายความร้อน 2. ทาการทดลองการละลายของสารใน ตวั ทาละลายตา่ ง ๆ ได้อยา่ งถกู ตอ้ งและสมบูรณ์

3. อธิบายสมั พนั ธ์ของพลงั งานความร้อน ที่เกี่ยวข้องกบั การเปล่ียนสถานะได้อย่างถกู ต้องและสมบูรณ์4. สาระการเรยี นรู้ 1. สาร 2. สมบตั ขิ องสาร 3. การจาแนกสาร 4. การเปล่ียนแปลงของสาร5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 9-10/18, คาบท่ี 37–45/54) 1. เตรียมความพร้อมในการเรียน โดยการเรียกช่ือ สารวจการแตง่ กาย พร้อมทงั้ บนั ทกึ ลงในแบบสงั เกตความมีวินยั และความรับผิดชอบ 2. ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 3. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้อ 1–5 และให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 7 สารและการเปล่ียนแปลง เน้นให้ทาด้วยความซ่ือสตั ย์ 4. ขัน้ สอน ครูให้ความรู้ บรรยาย อธิบาย โดยใช้ส่ือ PowerPoint ประกอบ และให้ นักเรียนทาใบกิจกรรมที่ 7.1–7.3 5. ครูและนกั เรียนร่วมสรุปกิจกรรมท่ีทา 6. ขนั้ สรุป ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสรุปบทเรียน โดยการจดั ทาแผนท่ีความคิด และมอบหมายให้ทาแบบฝึกหดั ท้ายบท6. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. สอื่ การเรยี นรู้ หนงั สือเรียน หนงั สือเรียน หน่วยท่ี 5 เร่ือง สารละลาย ใบกิจกรรมที่ 7.1–7.5 แบบฝึกหดั หน่วยที่7 และแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน และ PowerPoint ประกอบการสอน 2. แหล่งการเรียนรู้ หนังสอื วารสาร เก่ียวกับวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และอินเทอร์เนต็ www.google.com7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบ,แบบฝึกหัดท้ายบท 2. บันทึกผลการเรียนรู้จากการทดลอง 3. บันทึกการนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น8. การวัดและประเมินผลตามสภาพจรงิ 8.1 เครือ่ งมือวดั ประเมินผลตามสภาพจรงิ

1. แบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. แบบสังเกตการปฏิบัตงิ าน 3. แบบประเมนิ พฤติกรรมผเู้ รยี น 8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 2.1 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ จะต้องได้คะแนนไม่ตา่ กว่า ร้อยละ509. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 9.1 ข้อสรุปหลังการจัดการเรยี นรู้.................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................................................................5 9.2 ปญั หาทพี่ บ............................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................................................ ............................................... 9.3 แนวทางแกป้ ัญหา............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................ .......................

ลงช่ือ ............................ ผรู้ ับรอง ลงชื่อ .......................................... ผู้ตรวจหัวหนา้ แผนกวชิ า รองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ………./……………../…………….. ………./……………../…………….. แผนผงั ความคิดบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พอประมาณ 3. ระบสุ ารตั้งต้นและผลิตภณั ฑใ์ นสมการเคมี 4. ดลุ สมการเคมี มเี หตุผล มภี ูมคิ มุ้ กนั1. อธบิ ายการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี 5. อธบิ ายสมบตั ขิ องตวั เร่งปฏกิ ริ ยิ าเคมี2. อธิบายการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมแี บบดดู ความรอ้ น 6. ระบุผลิตภัณฑ์ท่ีเกดิ ขน้ึ จากการเผาไหม้ท่สี มบรู ณ์ และคายความร้อน และไม่สมบูรณ์ ปฏิกริ ิยาเคมี

ความรู้ + ทักษะ คณุ ธรรม- เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ของสารตงั้ ต้นที่มีพืน้ ที่ผิว - มีวนิ ัยตา่ งกนั - ความเรียบรอ้ ย- เปรียบเทียบอตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ของสารตงั้ ต้นระหว่างการใช้ - ตรงต่อเวลาตวั เร่ง - รบั ผดิ ชอบ - ขยนั อดทน อดกลนั้- อธิบายการเกิดพนั ธะโลหะและสสมังบคตั มขิ อง พนั ธะโลเหศะรษฐกิจ วฒั นธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม1,2,4 3,4 5 6แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 6 วิชา วิทยาศาสตร์เพ่ือพฒั นาอาชพี ธุรกิจและบรกิ าร สอนคร้งั ที่ 11-12 จานวน 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ ช่ือหนว่ ย ปฏิกิริยาในชีวิตประจาวนั จานวน 6 ชัว่ โมงเรอื่ ง ปฏิกิริยาในชีวติ ประจาวนั1. สาระสาคญั รอบ ๆ ตวั เราและในร่างกายเรามีปฏิกิริยาเคมีเกิดขนึ ้ อย่ตู ลอดเวลา ปฏิกิริยาเคมีเกิดจากกระบวนการเปล่ียนแปลงโครงสร้ างของสารต่าง ๆ มีผลให้พลงั งานของระบบเปลี่ยนไป และให้ผลิตภัณฑ์หรือสารใหม่เกิดขึน้ ปฏิกิริยาเคมีบางชนิดเกิดขึน้ เอง แตบ่ างชนิดต้องได้รับพลงั งานจานวนหนึ่งก่อนจึงจะเกิดปฏิกิริยาได้ปฏิกิริยาเคมีหลายชนิดสามารถนามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันในอุตสาหกรรมเกษตรกรรม และทางการแพทย์ ในขณะเดียวกนั ปฏิกิริยาบางชนิดก็ให้ผลลบตอ่ สิ่งแวดล้อมและชีวิตของมนุษย์เองปฏิกิริยาเคมีแต่ละชนิดมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาที่แตกต่างกัน ขึน้ อยู่กับปัจจัยหลัก 5 ประการ ได้แก่ ความเข้มข้น พืน้ ที่ผิวอุณหภูมิ ตัวเร่งปฏิกิริยา และธรรมชาติของสาร ผลของปัจจัยดงั กล่าวหาได้จากการทดลองการที่มนุษย์สามารถปรับเปล่ียนและควบคมุ ปัจจยั ตา่ ง ๆ ดงั กลา่ ว ทาให้มนษุ ย์สามารถใช้ประโยชน์จากปฏิกิริยาเคมีได้2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั ปฏิกิริยาในชีวิตประจาวนั 2. ปฏิบตั ิเกีย่ วกบั ปฏิกิริยาในชีวติ ประจาวนั3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงค์ทัว่ ไป 1. เพอ่ื อธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมี 2. เพ่ืออธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมีแบบดดู ความร้อน และคายความร้อน 3. เพื่อระบปุ ัจจยั ที่มีผลตอ่ อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. ดลุ สมการเคมี 2. ระบสุ ารตงั้ ต้น และผลติ ภณั ฑ์ พร้อมระบสุ ถานะ 3. ใช้เครื่องมือตามการทดลองได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์4. สาระการเรียนรู้ 1. การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี 2. พลังงานกับการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 3. ปจั จัยท่ีมผี ลตอ่ การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 4. ปฏิกริ ยิ าเคมใี นชวี ิตประจาวัน5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 11-12/18, คาบท่ี 46-53/72) 1. เตรียมความพร้อมในการเรียน โดยการเรียกชื่อ สารวจการแต่งกาย พร้อมทั้งบันทึกลงในแบบสังเกตความมวี นิ ยั และความรับผิดชอบ 2. ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน 3. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขอ้ 6–10 4. ข้ันสอน ครูให้ความรู้ บรรยาย อธบิ าย โดยใชส้ ือ่ PowerPoint ประกอบ และให้นักเรียนทาใบกิจกรรมที่ 8.3 5. ครูและนักเรยี นรว่ มสรุปกจิ กรรมทีท่ า 6. ข้ันสรุป ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปบทเรียน โดยการจัดทาแผนที่ความคิด และมอบหมายให้ทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท 7. ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยท่ี 86. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. สือ่ การเรียนรู้ หนงั สือเรียน หนว่ ยที่ 8 เรื่อง ปฏิกิริยาในชีวิตประจาวนั ใบกิจกรรมที่ 8.1–8.3 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี8 และแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน และ PowerPoint ประกอบการสอน 2. แหล่งการเรยี นรู้ หนงั สือ วารสาร เก่ียวกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และอินเทอร์เนต็ www.google.com

7. หลักฐานการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบ,แบบฝกึ หดั ท้ายบท 2. บันทึกผลการเรียนรู้จากการทดลอง 3. บนั ทกึ การนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น8. การวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจริง 8.1 เครือ่ งมือวัดประเมินผลตามสภาพจรงิ 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบสงั เกตการปฏิบัตงิ าน 3. แบบประเมนิ พฤติกรรมผเู้ รียน 8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 2.1 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ จะต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่า ร้อยละ50 2.2 แบบทดสอบหลงั เรียน ตอ้ งได้คะแนนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 2.3 แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่มต้องได้คะแนนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 509. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 9.1 ข้อสรุปหลงั การจัดการเรียนรู้............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ...................................................5 9.2 ปญั หาท่พี บ............................................................................................................................. ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................... ..............................

9.3 แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ........................................................ลงชื่อ ............................ ผูร้ บั รอง ลงชื่อ .......................................... ผู้ตรวจหวั หนา้ แผนกวชิ า รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ………./……………../…………….. ………./……………../…………….. แผนผงั ความคิด บรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พอประมาณมีเหตุผล 3. ระบสุ มบัตขิ องธาตุทีเ่ ปน็ โลหะ อโลหะและก่ึงโลหะ 4. แยกตัวทาละลายและตวั ละลาย เมอ่ื กาหนด องค์ประกอบของสารละลายมาให้ มภี ูมคิ ้มุ กนั1. บอกความแตกต่างของสมบตั ิทางกายภาพและทางเคมี 5. จาแนกประเภทของสาร เมื่อกาหนด สารมาให้2. จาแนกความแตกตา่ งระหวา่ งสารเน้ือเดียวกบั 6. ทาการทดลองการละลายของสารใน สารเนื้อผสม ตัวทาละลายต่าง ๆ อยา่ งปลอดภัย

สารเคมใี นชีวิตประจาวนั ความรู้ + ทกั ษะ คุณธรรม- ระบุสมบัติของสารประเภทสารแขวนลอย คอลลอยด์ และ - มวี นิ ัยสารละลาย - ความเรียบรอ้ ย- ระบปุ ัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ การละลายของสาร - ตรงต่อเวลา - รับผิดชอบ- อธิบายการเกิดพนั ธะโลหะและสมบตั ขิ อง พนั ธะโลหะ - ขยัน อดทน อดกลน้ัสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ส่งิ แวดลอ้ ม1,2,4 3,4 5 6แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 7 วิชา วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาอาชีพธรุ กจิ และบรกิ าร สอนครงั้ ที่ 13-14 จานวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ชื่อหน่วย สารเคมีในชีวติ ประจาวนั จานวน 6 ชว่ั โมงเรอ่ื ง สารเคมีในชีวิตประจาวนั1. สาระสาคัญ สารต่าง ๆ ในโลกมีมากมายหลายชนิด การศึกษาเกี่ยวกับสารจึงต้องจัดหมวดหมู่เพ่ือประโยชน์ต่อการศึกษาค้นควา้ โดยการกาหนดเกณฑ์เพ่ือใช้ในการจาแนกสาร เม่อื ใชเ้ น้ือสารเปน็ เกณฑ์จะจาแนกสารออกเป็น 2ประเภท ได้แก่ สารเนื้อเดียว และสารเน้ือผสม สารเน้ือเดียวยังแบ่งออกเป็นสารละลายและสารบริสุทธิ์ และสารบริสุทธ์ิยังแบ่งออกเป็นธาตุกับสารประกอบ การจัดจาแนกสารเมื่อใช้อนุภาคเป็นเกณฑ์จะแบ่งได้ 3 ประเภท

เรียงลาดบั ตามขนาดของอนุภาคจากใหญ่ไปเลก็ ได้แก่ สารแขวนลอย คอลลอยด์ และสารละลายสารต่าง ๆ มีการเปล่ียนแปลงได้ตลอดเวลา อาจเป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพหรือการเปล่ียนแปลงทางเคมี ซึ่งการเปลย่ี นแปลงท้ังสองอย่างน้ีจะแตกต่างกนั โดยการเปลี่ยนแปลงทางเคมีจะมีสารใหม่เกิดขนึ้ ทาให้การยึดเหน่ียวของอะตอมในโครงสร้างเปลี่ยนไป2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้ 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับสารและการเปลี่ยนแปลง 2. ปฏิบตั ิเกย่ี วกับสารและการเปลี่ยนแปลง3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงคท์ วั่ ไป 1. เพื่อบอกความแตกตา่ งของสมบัตทิ างกายภาพและทางเคมี 2. จาแนกความแตกตา่ งระหวา่ งสารเนอื้ เดียวกบั สารเนื้อผสม 3. เพอ่ื ระบุสมบัตขิ องธาตุทเี่ ปน็ โลหะ อโลหะและกงึ่ โลหะ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายการละลายแบบดดู ความร้อนและคายความร้อน 2. ทาการทดลองการละลายของสารใน ตวั ทาละลายตา่ ง ๆ ได้อย่างถกู ตอ้ งและสมบรู ณ์ 3. อธิบายสมั พนั ธ์ของพลงั งานความร้อน ท่ีเก่ียวข้องกบั การเปล่ียนสถานะไดอ้ ย่างถกู ต้องและสมบรู ณ์4. สาระการเรียนรู้ 1. สาร 2. สมบตั ขิ องสาร 3. การจาแนกสาร 4. การเปลี่ยนแปลงของสาร5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 13-14/18, คาบที่ 54–61/72) 1. เตรียมความพร้อมในการเรียน โดยการเรียกช่ือ สารวจการแตง่ กาย พร้อมทงั้ บนั ทกึ ลงในแบบสงั เกตความมีวินยั และความรับผิดชอบ 2. ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 3. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้อ 1–5 และให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 7 สารและการเปลี่ยนแปลง เน้นให้ทาด้วยความซื่อสตั ย์

4. ขัน้ สอน ครูให้ความรู้ บรรยาย อธิบาย โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบ และให้ นักเรียนทาใบกิจกรรมท่ี 7.1–7.3 5. ครูและนกั เรียนร่วมสรุปกิจกรรมท่ีทา 6. ขนั้ สรุป ครูให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ สรุปบทเรียน โดยการจดั ทาแผนท่ีความคิด และมอบหมายให้ทาแบบฝึกหดั ท้ายบท6. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรยี นรู้ หนงั สือเรียน หนงั สือเรียน หน่วยที่ 5 เรื่อง สารละลาย ใบกิจกรรมที่ 7.1–7.5 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี7 และแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน และ PowerPoint ประกอบการสอน 2. แหลง่ การเรียนรู้ หนังสอื วารสาร เกี่ยวกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และอินเทอร์เนต็ www.google.com7. หลักฐานการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบ,แบบฝึกหัดท้ายบท 2. บันทึกผลการเรียนร้จู ากการทดลอง 3. บันทึกการนาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน8. การวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง 8.1 เครือ่ งมือวดั ประเมินผลตามสภาพจรงิ 1. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. แบบสังเกตการปฏบิ ัติงาน 3. แบบประเมินพฤตกิ รรมผู้เรียน 8.2 เกณฑก์ ารประเมิน 2.1 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จะต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่า ร้อยละ509. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 9.1 ข้อสรปุ หลังการจัดการเรยี นรู้............................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ...................................................5 9.2 ปญั หาที่พบ

............................................................................................................................. .......................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... ............................................... 9.3 แนวทางแก้ปญั หา.......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ .......................................................................................................................................................................................................................ลงช่ือ ............................ ผรู้ ับรอง ลงชื่อ .......................................... ผูต้ รวจหัวหนา้ แผนกวิชา รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ………./……………../…………….. ………./……………../…………….. แผนผงั ความคดิบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พอประมาณ 3. บอกสาขายอ่ ยของนาโนเทคโนโลยี 4. ยกตวั อยา่ งและอธิบายนาโนเทคโนโลยีในธรรมชาติ

มีเหตผุ ล มภี มู ิคมุ้ กนั1. บอกความหมายของนาโนเทคโนโลยี 5. ยกตวั อยา่ งผลิตภณั ฑ์นาโนและบอกคณุ สมบตั ขิ อง2. บรรยายความเกี่ยวข้ องระหว่างนาโนเทคโนโลยีกับ ผลิตภณั ฑ์อตุ สาหกรรมสารสงั เคราะหแ์ ละผลติ ภณั ฑ์ ความรู้ + ทกั ษะ คณุ ธรรม- อธิบายการรักษาดลุ ยภาพของกรดเบส - มีวนิ ัย- เขียนโซอ่ าหารและสายใยอาหารจาก - ความเรยี บรอ้ ย - ตรงต่อเวลา สิง่ มีชีวติ ที่กาหนดให้ - รบั ผิดชอบ - ขยนั อดทน อดกลน้ั- อธิบายการเกิดพนั ธะโลหะและสมบตั ขิ อง พนั ธะโลหะสงั คม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม สิ่งแวดล้อม1,2,4 3,4 5 5แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยท่ี 8วิชา วิทยาศาสตร์เพอ่ื พัฒนาอาชพี ธุรกิจและบรกิ าร สอนครง้ั ท่ี 15-17 จานวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ช่ือหน่วย สารสงั เคราะห์และผลติ ภณั ฑ์