6. การออกหนุ้ โดยการใหจ้ องในราคาท่ีสงู กวา่ ราคาตามมูลคา่ สว่ นเกนิ มลู ค่าหนุ้ บันทึกบัญชเี มอ่ื ใด ก. เม่อื มกี ารชาระค่าหนุ้ ข. เมือ่ ออกใบหุน้ ค. เมอื่ มีการจองหนุ้ ง. เมื่อจดทะเบียนห้นุ ให้จอง 7. บรษิ ัทแห่งหนง่ึ จดทะเบยี นห้นุ สามญั 10,000 หนุ้ มูลคา่ หนุ้ ละ 100 บาท และจาหน่ายหุ้นท้งั หมดโดย การใหจ้ องในราคาหุ้นละ 120 บาท ตามกฎหมายไทยกาหนดใหผ้ จู้ องหุ้นตอ้ งชาระหุ้นครั้งแรกเป็นจานวน เงนิ เทา่ ไร ก. 350,000 บาท ข. 450,000 บาท ค. 250,000 บาท ง. 300,000 บาท 8. จากโจทย์ขอ้ 7 บันทกึ บัญชีการชาระคา่ หุน้ ตามข้อใด ก. เดบติ ลกู หน้ีคา่ หนุ้ เครดิต ทนุ เรอื นหนุ้ ทจี่ องแล้ว ข. เดบิต ลูกหนคี้ ่าหุ้น เครดติ เงนิ สด ค. เดบิต เงนิ สด เครดติ ลกู หน้ีคา่ หนุ้ ง. เดบติ เงนิ สด เครดติ ทนุ เรอื นหุ้นท่จี องแลว้ 9. เมอ่ื บรษิ ทั ออกใบห้นุ ให้มีผทู้ ี่ชาระคา่ หนุ้ ครบแลว้ บนั ทึกบัญชีตามขอ้ ใด ก. เดบติ ทุนเรือนหนุ้ ทจี่ องแล้ว เครดิต เงนิ สด ข. เดบติ ทุนเรือนห้นุ ท่จี องแลว้ เครดติ ทุนเรอื นหุ้น ค. เดบิต เงนิ สด เครดติ ทนุ เรอื นหนุ้ ง. เดบิต ทนุ เรือนหนุ้ ที่จองแล้ว เครดติ ลกู หนค้ี า่ หุ้น 10.ข้อใดเป็นการริบหนุ้ ตามกฎหมายไทย ก. หลังจากหักคา่ ใช้จ่าย ผลขาดทนุ และดอกเบย้ี แลว้ คนื เงนิ ที่เหลอื ให้ผ้ถู อื หุ้นทถ่ี กู ริบ ข. ออกใบหนุ้ บางส่วนให้ผูถ้ อื หนุ้ ท่ีถูกรบิ เท่ากับจานวนเงินที่สง่ ใช้มาแล้ว ค. คนื เงนิ ให้ผถู้ ือหนุ้ ที่ถกู ริบเทา่ ท่รี ับชาระมาแล้ว ง. รบิ เงินทีส่ ่งใชม้ าแล้วท้ังหมด 5. เอกสารอา้ งอิง (ขนึ้ หนา้ ใหม)่ 1. หนงั สอื เรยี นการบญั ชชี ั้นกลาง 2 สานกั พิมพศ์ นู ยส์ ง่ เสริมวชิ าการ เรยี บเรยี งโดย จรัญ ตนั มา 2. หนังสอื เรียนการบญั ชีช้ันกลาง 2 บริษทั ศนู ย์หนงั สือ เมอื งไทย จากดั เรียบเรยี งโดย วนิ ัย รม่ บารมี 3. หนังสือเรียนการบญั ชบี รษิ ัทจากัด บริษัท ศนู ย์หนังสือ เมอื งไทย จากัด เรยี บเรยี งโดย วินยั รม่ บารมี 6. ภาคผนวก (เฉลยแบบฝึกหดั เฉลยแบบทดสอบ ฯ) เฉลยแบบทดสอบ 1. ก 2. ค
3. ค 4. ข 5. ง 6. ก 7. ข 8. ค 9. ก 10. ก
ใบงาน ท่ี 1 หน่วยที่ 6 หลักสตู ร ประกาศนยี บัตรวิชาชีพช้นั สงู (ปวส) สอนครง้ั ที่ 11 - 12 รหัสวชิ า 30201 – 2002 ชื่อวิชา การบัญชีชน้ั กลาง 2 เวลา 8 ชม. ชอ่ื เรือ่ ง การเปลยี่ นแปลงในสว่ นของผู้ถอื หุ้น 1. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายและส่วนประกอบของผถู้ ือหุ้นได้ 2. อธบิ ายการเพ่มิ ทุนและการลดทนุ ได้ 3. บอกหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการใช้การลดทนุ ของบรษิ ัทเอกชนจากัดได้ 4. บนั ทกึ บญั ชีเกยี่ วกับการลดทุนได้ 5. บนั ทกึ บัญชีเกีย่ วกับการให้สิทธใิ นการซ้ือหนุ้ ทุนได้ 6. บนั ทึกบญั ชเี กี่ยวกบั หุ้นทนุ รับคืนมาได้ 7. บนั ทึกบญั ชเี กย่ี วกบั การไถ่คนื ห้นุ บุรมิ สิทธไิ ด้ 8. บันทกึ บญั ชีเกีย่ วกบั การแปลงสภาพหุ้นทนุ ได้ 9. บนั ทึกบญั ชีเกยี่ วกับการแบง่ แยกหนุ้ ทนุ ได้ 10. บอกวธิ กี ารตรี าคาสินทรพั ยเ์ พม่ิ เตมิ ได้ 11. บนั ทึกบญั ชีเก่ยี วกับการประเมนิ การจดั เกบ็ ค่าหนุ้ เพิ่มเติมได้ 2. สมรรถนะ บันทกึ บัญชกี ารเปลี่ยนแปลงในส่วนของผ้เู ป็นหุน้ ส่วนตามหลักการบัญชี 3. เครือ่ งมือ วสั ดุ และอปุ กรณ์ 3.1 ใบงาน จานวน 1 ชุด 3.2 กระดาษคาตอบ จานวน 1 ชดุ 4. คาแนะนา ให้ปฏิบัติตามใบงาน 5. ข้อควรระวงั ใชค้ วามรอบคอบในการปฏบิ ัติงาน 6. ลาดับขัน้ (การทดลอง/การปฏบิ ตั งิ าน) 6.1 ใหผ้ ู้เรยี นศึกษาเน้อื หาเงนิ ลงทุน 6.2 แจกใบงานให้ผูเ้ รียนฝึกทา 6.3 ใหผ้ ู้เรยี นนาเสนองานหนา้ ชั้นเรยี น 6.4 ครูผู้สอนเฉลยและอธิบายให้ผเู้ รยี นได้ทาความเข้าใจ 7. คาถาม 4,000,000.- 7.1 จงแสดงวธิ ีทา 1. ส่วนของผถู้ อื หุน้ ของบริษทั ไทยคม จากัด ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 2557 ปรากฏดงั น้ี หุ้นบรุ ิมสทิ ธิ 9% จานวน 100,000 ห้นุ มูลคา่ หุ้นละ 40 บาท
หุ้นสามญั 2,000,000 หุ้น มูลค่าหนุ้ ละ 10 บาท 20,000,000.- สว่ นเกนิ เกินมูลคา่ หนุ้ บุริมสทิ ธิ 200,000.- สว่ นเกนิ มลู ค่าหนุ้ สามญั 56,000,000.- กาไรสะสม 7,000,000.- ในระหว่างปี 2558 มีรายการค้าเกดิ ข้ึนดงั นี้ ม.ค. 10 บริษทั ออกจาหน่ายหุ้นบรุ มิ สิทธิ 25,000 หุน้ ในราคาหุน้ ละ 46 บาท เปน็ เงนิ สด ม.ี ค. 10 บรษิ ัทออกจาหนา่ ยหนุ้ สามญั 400,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 40 บาท เป็นเงินสด มิ.ย. 10 บริษทั แบง่ แยกหุน้ สามัญในอตั รา 1 : 1 ก.ค. 10 บรษิ ัทซื้อหุน้ สามัญคืนมา 300,000 ห้นุ ในราคาหุ้นละ 28 บาท(บรษิ ัทใชว้ ิธรี าคาตามมูลค่า) ส.ค. 15 บรษิ ทั นาหุน้ สามญั ทซี่ ื้อคนื มาออกจาหน่าย 100,000 หนุ้ ในราคาหุ้นละ 34 บาท ธ.ค. 31 บรษิ ัทมีกาไรสุทธิ 4,200,000 บาท บริษัทประกาศจา่ ยเงินปันผลหุ้นบรุ ิมสทิ ธแิ ละเงนิ ปันผลหุน้ สามญั หนุ้ ละ 1,00 บาท ใหท้ า 1. บันทึกรายการคา้ ข้างต้นในสมุดรายวันทว่ั ไป 2. แสดงงบดลุ เฉพาะส่วนของผ้ถู อื หนุ้ ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 2. บรษิ ัท ไทเทเลคอม จากัด มีหุ้นสามัญ 50,000 หุน้ มลู ค่าหุ้นละ 100 บาท ชาระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วนั ท่ี 30 กรกฎาคม 2558 บริษัทมีผลขาดทุนสะสมในบญั ชจี านวน 215,000 บาท ท่ปี ระชมุ ผ้ถู ือหนุ้ จงึ ไดล้ งมติใหผ้ ู้ถอื หุ้นของบริษทั นาหุน้ มาบริจาคในอัตราสว่ น 5% ของมลู คา่ หุน้ ท่ีถอื อยู่ เพอื่ ทจี่ ะไดน้ าไปปรับปรงุ กบั ผลขาดทนุ สะสม และทุนท่ีลดลงซ่ึงมีจานวนเกินกวา่ ผลขาดทุนน้ันให้บริษทั จา่ ยเปน็ เงินสดคนื ให้แก่ผูถ้ อื หุ้นตามสิทธิท่ีแต่ ละคนพงึ่ จะไดร้ ับ รายการคา้ เกดิ ข้นึ ดงั น้ี ก.ค. 30 บริษัทได้รบั ห้นุ สามัญจากการบรจิ าคของผู้ถือหนุ้ ท้งั หมดตามมติทป่ี ระชุมผูถ้ ือห้นุ ส.ค. 10 บรษิ ัทได้จ่ายเงินสดคืนใหก้ บั ผู้ถอื ห้นุ เรยี บร้อย ก.ค. 30 บริษัทโอนทนุ จากการบริจาคไปลดขาดทุนสะสม ให้ทา บนั ทกึ รายการค้าขา้ งต้นในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 8. สรุปและวิจารณผ์ ล ............................................................................................................................. .......................... 9. การประเมนิ ผล ปฏิบตั ิกิจกรรมตามใบงานไดถ้ ูกตอ้ ง 50% ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 10. เอกสารอ้างอิง /เอกสารคน้ ควา้ เพ่ิมเติม 1. หนงั สอื เรยี นการบญั ชีช้นั กลาง 2 สานักพมิ พ์ศนู ยส์ ง่ เสรมิ วชิ าการ เรยี บเรยี งโดย จรญั ตันมา 2. หนังสอื เรยี นการบญั ชีชัน้ กลาง 2 บรษิ ทั ศูนยห์ นงั สอื เมอื งไทย จากดั เรียบเรยี งโดย วนิ ยั รม่ บารมี 3. หนงั สือเรยี นการบัญชีบรษิ ทั จากดั บริษทั ศนู ย์หนังสือ เมืองไทย จากัด เรียบเรียงโดย วินยั รม่ บารมี
แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 7 หลักสูตร ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพช้ันสูง (ปวส) สอนคร้งั ท่ี 13 - 14 รหัสวิชา 30201 – 2002 ชือ่ วิชา การบัญชีช้นั กลาง 2 ..ท-ป-น 2 - 2 - 3 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ กาไรสะสมและเงนิ ปนั ผล ทฤษฏี 2 ชม. ปฏบิ ัติ 2 ชม. 1. สาระสาคัญ กาไรสะสมเป็นผลการดาเนินงานที่กิจการได้สะสมมาตั้งแต่เร่ิมตั้งกิจการจนถึงปัจจุบันจะอยู่ในรูปของ กาไรสะสม ซง่ึ กจิ การยังไมแ่ บง่ ให้แก่ผ้ถู ือหนุ้ ซ่ึงนอกจากผลการดาเนินงานแล้ว ยงั มีรายการอื่นทท่ี าให้กาไรสะสม เพิ่มข้ึน หรือลดลง เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี การจัดสรรกาไร การจ่ายเงินปันผล ข้อผิดพลาดท่ีสาคัญ การปรับปรุงทุนของกิจการใหม่ รวมท้งั รายการท่ีเกยี่ วกบั ห้นุ ทุนรบั คืนมา รายการเหลา่ นี้มีผลทาให้กาไรสะสมของ กิจการเปล่ียนแปลงไป เงินปันผลเป็นผลตอบแทนการถือหนุ้ ทุนของผลู้ งทนุ ซง่ึ บริษัทสามารถจา่ ยเงนิ ปันผลในรูป ตา่ ง ๆ เชน่ เงินสดปันผล หนุ้ สามัญปนั ผล การจ่ายปนั ผลเป็นสนิ ทรัพย์อ่ืนท่ีมใิ ช่เงินสด การจา่ ยปันผลโดยการออก เอกสารแสดงหนส้ี นิ ของบรษิ ัท และการจา่ ยปันผลในลกั ษณะคืนทุน เป็นต้น ในการจัดสรรกาไรสะสม เปน็ การกัน กาไรสะสมไว้ เพ่ือวตั ถปุ ระสงคท์ ี่บริษัทไดก้ าหนดไว้โดยเฉพาะ เชน่ การจัดสรรตามกฎหมาย การจัดสรรตามข้อ ผูกพัน การจัดสรรเพ่ือผลเสียหายอันอาจจะเกินข้ึนในอนาคต และการจัดสรรเพ่ือรักษาสถานะของเงินทุน หมุนเวียน ซง่ึ การแสดงรายการเปลย่ี นแปลงในส่วนของกาไรสะสม ซ่ึงเป็นส่วนหนง่ึ ของผ้ถู ือห้นุ สามารถแสดงโดย การจัดทา งบกาไรสะสมที่แสดงรายละเอยี ดเกยี่ วกับกาไรสทุ ธิหรือขาดทุนสุทธิ เงินปันผล การปรับปรุงกาไรของ งวดบัญชีกอ่ น ตลอดจนการจัดสรรกาไรสะสมตามวตั ถุประสงคต์ า่ ง ๆ ของบรษิ ัท 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย บันทึกบัญชเี กยี่ วกับการจดั สรรกาไรสะสมและเงินปนั ผลตามหลักการบญั ชี 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของกาไรสะสมได้ 2. บอกรายการท่ีทาใหก้ าไรสะสมเปลยี่ นแปลงได้ 3. บันทกึ บัญชีเก่ยี วกบั เงนิ ปันผลได้ 4. บอกวธิ กี ารวธิ กี ารจัดสรรกาไรสะสมได้ 5. บนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกบั การจัดสรรกาไรสะสมได้ 6. จดั ทางบกาไรสะสมได้ 7. จัดทางบแสดงการเปล่ยี นแปลงในส่วนของเจา้ ของได้ 8. แสดงรายการส่วนของผ้ถู อื หุ้นในงบแสดงฐานะการเงินได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของกาไรสะสม 2. รายการท่ที าให้กาไรสะสมเปลีย่ นแปลง 3. เงินปนั ผล
4. การจัดสรรกาไรสะสม 5. การบนั ทกึ บญั ชีเกย่ี วกับการจดั สรรกาไรสะสม 6. งบกาไรสะสม 7. งบแสดงการเปล่ียนแปลงในส่วนของเจา้ ของ 8. การแสดงรายการสว่ นของผู้ถือหุ้นในงบแสดงฐานะการเงิน 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ี่ 5 – 6 ) ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครูแนะนาเนื้อหารายวชิ าการบัญชชี ัน้ กลาง 2 ตามโครงการสอน และเกณฑใ์ นการประเมินผลรายวชิ า 2. ครูแนะนาเนอ้ื หา หน่วยที่ 7 ความหมายของกาไรสะสม รายการท่ีทาให้กาไรสะสมเปลี่ยนแปลง เงิน ปันผล การจัดสรรกาไรสะสม การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการจัดสรรกาไรสะสม งบกาไรสะสม งบแสดงการ เปลย่ี นแปลงในส่วนของเจ้าของ การแสดงรายการส่วนของผู้ถอื หุ้นในงบแสดงฐานะการเงินและแจ้งผลการเรียนรู้ ที่คาดหวงั 3. ทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยที่ 7 ข้ันสอน 4. ครใู ช้คาถามลกั ษณะแนะนาเพือ่ ใหน้ กั เรียนคดิ วเิ คราะห์ จากการศึกษาเนอื้ หาดว้ ยตนเอง 5. ครแู นะนาเนื้อหาท่นี ักเรียนต้องเรยี นโดยศกึ ษาขอ้ มูลจากมาตรฐานการบัญชปี ระกอบกัน 6. มอบหมายให้ทางานกลุ่มตามใบงาน เรื่อง7 ความหมายของกาไรสะสม รายการที่ทาให้กาไรสะสม เปล่ียนแปลง เงินปันผล การจัดสรรกาไรสะสม การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการจัดสรรกาไรสะสม งบกาไรสะสม งบแสดงการเปล่ียนแปลงในส่วนของเจ้าของ การแสดงรายการส่วนของผถู้ ือหุ้นในงบแสดงฐานะการเงินเพ่ือให้ เกดิ การเรียนรู้ตามจุดประสงค์ คอื - บอกความหมายของกาไรสะสมได้ - บอกรายการที่ทาให้กาไรสะสมเปลีย่ นแปลงได้ - บันทกึ บัญชีเกย่ี วกับเงินปนั ผลได้ - บอกวธิ กี ารวธิ กี ารจัดสรรกาไรสะสมได้ - บนั ทกึ บญั ชเี กยี่ วกบั การจัดสรรกาไรสะสมได้ - จดั ทางบกาไรสะสมได้ - จดั ทางบแสดงการเปลีย่ นแปลงในส่วนของเจ้าของได้ - แสดงรายการส่วนของผูถ้ ือหุ้นในงบแสดงฐานะการเงนิ ได้ ข้นั สรปุ และประเมินผล 7. ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรุปสาระสาคัญและจดบันทกึ ไว้ 8. ทดสอบหลงั เรียน 6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนการบัญชีชั้นกลาง 2 สานักพมิ พ์ศนู ยส์ ง่ เสรมิ วิชาการ เรียบเรียงโดย จรัญ ตันมา 2. หนังสอื เรียนการบัญชีชัน้ กลาง 2 บริษทั ศูนยห์ นังสอื เมอื งไทย จากัด เรยี บเรยี งโดย วินยั ร่มบารมี
3. หนงั สือเรียนการบญั ชบี ริษัทจากัด บรษิ ัท ศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย จากัด เรยี บเรยี งโดย วินัย รม่ บารมี 4. แบบทดสอบ 5. อนิ เทอร์เน็ต 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ 1. สรปุ ความรเู้ ป็น Mind map 7.2 หลักฐานการปฏิบัตงิ าน 1. Mind map บทนาและบญั ชีสินทรพั ย์ 2. แบบฝกึ หดั 8. การวัดและประเมนิ ผล 8.1 วิธีการ 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ตรวจแบบฝกึ หัดและผลงานตามใบงาน 3. การสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึง 8.2 เครอื่ งมือ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน 2. แบบทดสอบหลังเรียน 3. แบบฝึกหัด 4. ใบงาน 5. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามระดับคุณวุฒอิ าชีวศึกษา 8.3 เกณฑ์ 1. แบบทดสอบ มีเกณฑผ์ ่านคอื 50% 2. แบบฝกึ หัด มเี กณฑ์ผ่านคอื ปฏิบตั ิถูกต้อง 50% ข้ึนไป 3. การประเมินผลงาน เกณฑผ์ า่ นคอื ผลประเมินอยตู่ ้งั แตร่ ะดับดีข้ึนไป 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กบั การประเมินระดับ คุณภาพตามพฤติกรรมบง่ ช้ี
9. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 9.1 ข้อสรุปหลังการจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ......................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................. ............................... 9.2 ปญั หาท่พี บ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ................................................................................................................................................. ............ 9.3 แนวทางแกป้ ัญหา ................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................
ใบความรูท้ ี่ 1 หนว่ ยท่ี 7 หลักสูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ช้ันสูง (ปวส) สอนครัง้ ที่ 13 - 14 รหัสวชิ า 30201 – 2002 ชือ่ วิชา การบญั ชชี ั้นกลาง 2 เวลา 8 ชม. ชอ่ื เรอื่ ง กาไรสะสมและเงนิ ปันผล 1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป ผเู้ รียนมีความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น 1.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. บอกความหมายและส่วนประกอบของผ้ถู อื หุ้นได้ 2. อธบิ ายการเพิ่มทนุ และการลดทุนได้ 3. บอกหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารใช้การลดทนุ ของบริษัทเอกชนจากัดได้ 4. บนั ทกึ บญั ชีเกยี่ วกบั การลดทุนได้ 5. บนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกับการให้สทิ ธใิ นการซอ้ื ห้นุ ทุนได้ 6. บันทกึ บญั ชีเกย่ี วกับหนุ้ ทนุ รบั คนื มาได้ 7. บันทึกบญั ชีเกยี่ วกับการไถ่คนื หนุ้ บุริมสทิ ธิได้ 8. บันทึกบัญชีเกีย่ วกบั การแปลงสภาพห้นุ ทนุ ได้ 9. บนั ทกึ บญั ชเี กยี่ วกับการแบง่ แยกห้นุ ทุนได้ 10. บอกวิธกี ารตรี าคาสินทรัพย์เพิ่มเติมได้ 11. บันทึกบัญชีเกยี่ วกบั การประเมนิ การจดั เก็บค่าห้นุ เพิม่ เติมได้ 2. สมรรถนะ บันทึกบญั ชีเกย่ี วกบั กาไรสะสมและเงนิ ปนั ผลตามหลกั การบญั ชี 3. เนื้อหาสาระ (อาจมีรปู ภาพประกอบ) เมื่อธุรกจิ ดาเนนิ กจิ การจนกระทั่งสามารถสรุปผลการดาเนินงานในวันสิ้นงวดบัญชีไดแ้ ล้ว หากธรุ กิจจัดต้ัง ในรูปแบบ กิจการเจ้าของคนเดียว และห้างหุ้นส่วน เมื่อสรุปผลกาไรขาดทุนจากการดาเนินงานเป็นกาไรหรือ ขาดทนุ แล้ว จะตอ้ งโอนผลกาไร หรอื ขาดทุนดังกล่าว ไปเข้าบัญชที ุนของ ผู้เป็นเจ้าของกจิ การโดยตรง สาหรับ ธุรกจิ ที่มีรูปแบบการจดั ต้ังเป็นบรษิ ัทจากัด จะโอนผลกาไรหรอื ขาดทุนสุทธิไมเ่ พ่ิมหรอื ลด ในบัญชกี าไรสะสม ดัง ตวั อย่างตอ่ ไปนี้ ตวั อยา่ ง การโอนกาไรสุทธิ เขา้ บัญชีกาไรสะสม xx เดบิต บัญชกี าไรขาดทุน xx เครดิต บัญชกี าไรสะสม บันทึกโอนกาไรสทุ ธเิ ขา้ บัญชกี าไรสะสม
ตัวอย่าง การโอนผลขาดทุนสทุ ธิ เขา้ บญั ชกี าไรสะสม เดบติ บัญชกี าไรสะสม xx เครดิต บญั ชกี าไรขาดทนุ xx บันทึกโอนขาดทนุ สุทธิเข้าบญั ชีกาไรสะสม การประกาศจ่ายเงินปนั ผลนนั้ ต้องปฏิบตั ติ ามเงื่อนไขตา่ ง ๆ ทกี่ ฎหมายกาหนดไวด้ ังต่อไปนี้ (1) บริษัทจะจ่ายเงินปันผลได้เมอ่ื มยี อดเครดติ ในบญั ชกี าไรสะสม ดังนน้ั แมว้ า่ บรษิ ทั มผี ลขาดทนุ จากการ ดาเนนิ งานในปีปัจจุบนั กต็ าม บรษิ ัทอาจจา่ ยเงนิ ปันผลได้ถ้าบรษิ ัทมกี าไรสะสมยกมาปกี ่อนเปน็ จานวนเพียงพอ (2) การประกาศจ่ายเงนิ ปันผลตอ้ งได้มตขิ องท่ีประชุมใหญเ่ สยี ก่อน (3) ทุกคราวท่ีประกาศจ่ายเงินปันผล บริษัทต้องจัดสรรกาไรสะสมไว้เป็นสารองตามกฎหมายในอัตรา ร้อยละ 5 ของกาไรสุทธิประจาปี จนกว่าสารองตามกฎหมายจะมีจานวนถึงร้อยละ 10 ของทุนเรือนหุ้น ในทางปฏิบัตถิ ้าบรษิ ัทมีกาไรเป็นจานวนเพียงพอ บริษทั มักจัดสรรกาไรสะสมเป็น ทุนสารองตามกฎหมาย ให้มี จานวนถึงร้อยละ 10 ของทุนเรือนหุ้นโดยเร็วที่สุด เพ่ือตัดปัญหาการ ตั้งสารองเป็นเวลาหลายปี อีกวิธีหน่ึง บริษัทมักจัดสรรกาไรสะสมเปน็ สารองตามกฎหมาย ในอตั รา ร้อยละ 5 ของกาไรสทุ ธิประจาปีทกุ ปีจนกวา่ จะได้ จานวนเพยี งพอ แม้ว่าจะไมม่ ีการประกาศจา่ ยเงินปันผลในบางปีก็ตาม การปฏบิ ัติเช่นนี้ทาให้ยอดเครดติ ในบญั ชี กาไรสะสม เป็นยอดท่ีจัดสรรสารองตามกฎหมายแล้ว และนาไปประกาศจ่ายเงินปันผลได้ทั้งจานวน อน่ึง กฎหมายกาหนดใหถ้ ือสว่ นเกินมูลคา่ หนุ้ เป็นสว่ นหน่ึงของสารองตามกฎหมายด้วย จนกว่าสารองตามกฎหมายจะ มีจานวนเพียงพอ (4) การคานวณเงินปันผลแต่ละหุ้น ต้องคิดตามส่วนจานวนเงนิ ซึง่ ผู้ถือหุน้ ได้ส่งใช้คา่ หุ้นแลว้ เว้นแต่จะ ได้ตกลงกันไวเ้ ป็นอย่างอื่นในเรอื่ งหุ้นบรุ ิมสทิ ธิ นอกจากข้อกาหนดของกฎหมายท่ีกล่าวแล้ว ในการเสนอข้อมติท่ีประชุมใหญ่ให้จ่ายเงินปันผลในอัตรา เท่าไรนน้ั กรรมการบริษัทจะต้องพิจารณาด้วยว่าบริษัทมีเงินสดเพ่ือจ่ายเงินปันผลหรอื ไม่ และถ้าจา่ ยเงินปันผล แล้วฐานะการเงินของบริษัทจะทรุดลงหรือไม่ ทง้ั น้ีเพราะในการหมนุ เวียนทุนค้าขาย กาไรสะสมของบริษัทอาจ มิได้คงอยู่ในทรัพย์สินรูปเงินสดก็ได้ นอกจากนั้นกรรมการบริษัทอาจพิจารณาเห็นว่า ควรเก็บกาไรสะสมของ บรษิ ัทไวจ้ านวนหนึ่ง เพือ่ เตรียมรบั ผลขาดทนุ ทอ่ี าจเกิดขนึ้ ในภายหนา้ 4. แบบฝกึ หัด/แบบทดสอบ แบบทดสอบ คาช้ีแจง เลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว 1. ข้อใดคือบัญชีกาไรสะสมมียอดคงเหลือด้านเดบติ ก. กาไรสะสม ข. ขาดทนุ สะสม ค. ขาดทนุ สุทธิ ง. กาไรสุทธิ 2. ข้อใดคือสารองตามนโยบายของบริษัท
ก. สารองตามกฎหมาย ข. สารองเพือ่ ไถถ่ อนห้นุ กู้ ค. สารองเพอื่ ชาระหนเี้ งนิ กรู้ ะยะยาว ง. สารองเพื่อรักษาระดับเงนิ ปันผล 3. กิจการใดสามารถนาส่วนเกินมลู คา่ หนุ้ มาบวกกบั สารองกฎหมายทีไ่ ด้จัดสรรไวไ้ ด้ ก. หา้ งหุ้นส่วนจากดั และบริษัทจากัด ข. ห้างหุน้ ส่วนจากดั และบรษิ ทั มหาชนจากัด ค. บริษทั จากัด และบริษทั มหาชนจากัด ง. ห้างหุ้นสว่ นจากัด บริษัทจากดั และบริษทั มหาชนจากัด 4. เมอ่ื บริษัทตอ้ งการโอนกาไรสะสมที่ไดจ้ ดั สรรสารองไว้มาเปน็ กาไรสะสมทยี่ ังไมไ่ ด้จดั สรร บันทกึ บัญชี ตามขอ้ ใด ก. เดบติ กาไรขาดทุน เครดติ กาไรสะสม ข. เดบติ กาไรสะสม เครดติ กาไรขาดทนุ ค. เดบิต สารองเพื่อ...(ระบุวตั ถุประสงค์)... เครดิต กาไรสะสม ง. เดบติ กาไรสะสม เครดติ สารองเพื่อ...(ระบวุ ัตถปุ ระสงค์)... 5. การรายงานกาไรสะสม ใช้ในกรณที ไี่ มม่ ีรายการเปลยี่ นแปลงในกาไรสะสมมากนกั คอื การแสดงเป็น ส่วนหน่งึ ของงบใด ก. งบแสดงฐานะการเงนิ ข. งบกาไรขาดทนุ ค. งบกระแสเงนิ สด ง. กาไรสะสม 6. ขอ้ ใดไม่ใชห่ ลกั เกณฑ์การจา่ ยเงินปันผลของไทย ก. การจ่ายเงนิ ปันผลตอ้ งได้รับมตจิ ากท่ีประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ข. เงนิ ปันผลต้องประกาศจ่ายจากผลกาไรอนั แท้จริงท่บี ริษทั ทามาหาได้ ค. การจ่ายเงนิ ปนั ผลตอ้ งมกี ารโฆษณาให้ทราบทางหนังสือพิมพ์ ง. ผ้ถู ือหุ้นคดิ ดอกเบ้ยี จากเงนิ ปนั ผลทคี่ ้างจ่ายตามระยะเวลาทคี่ ้าง 7. โดยปกตบิ รษิ ัทมักจ่ายเงนิ ปนั ผลเป็นส่ิงใด ก. เงินสด ข. หนุ้ ค. สนิ ทรพั ย์ ง. เอกสารแสดงหนส้ี ินของบรษิ ทั 8. ในวนั ประกาศจา่ ยหนุ้ ปนั ผล บันทึกรายการโดยเดบิตบญั ชีใด ก. กาไรขาดทุน ข. กาไรสะสม ค. หุน้ ปนั ผล
ง. ห้นุ ปันผลค้างจ่าย 9. บญั ชเี งินทนุ จ่ายคนื ถือหนุ้ นาไปแสดงหกั จากรายการใดในงบแสดงฐานะการเงิน ก. สนิ ทรัพย์ ข. หนส้ี นิ ค. ส่วนของผ้ถู อื หุ้น ง. กาไรสะสม 10. เงนิ ปันผลระหว่างกาล มกั จ่ายให้แก่ผู้ใด ก. ผู้ถอื หนุ้ สามญั ข. ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ ค. ผู้ถือหุ้นกู้ ง. ผถู้ ือหนุ้ ปันผล 5. เอกสารอ้างองิ (ขึน้ หนา้ ใหม่) 1. หนังสือเรยี นการบัญชีชั้นกลาง 2 สานักพมิ พศ์ ูนยส์ ่งเสรมิ วชิ าการ เรียบเรยี งโดย จรัญ ตันมา 2. หนังสอื เรยี นการบญั ชีชั้นกลาง 2 บริษัท ศนู ย์หนังสือ เมอื งไทย จากัด เรียบเรียงโดย วินยั รม่ บารมี 3. หนังสอื เรยี นการบญั ชบี ริษทั จากดั บริษัท ศูนย์หนงั สอื เมืองไทย จากดั เรยี บเรียงโดย วนิ ัย รม่ บารมี 6. ภาคผนวก (เฉลยแบบฝึกหดั เฉลยแบบทดสอบ ฯ) 2. ง เฉลยแบบทดสอบ 1. ข 4. ค 6. ง 3. ค 8. ข 5. ก 10. ก 7. ก 9. ค
ใบงาน ท่ี 1 หนว่ ยที่ 7 หลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง (ปวส) สอนครัง้ ที่ 13 - 14 รหัสวิชา 30201 – 2002 ชื่อวิชา การบญั ชชี ั้นกลาง 2 เวลา 8 ชม. ชอ่ื เรอื่ ง กาไรสะสมและเงนิ ปนั ผล 1. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายและส่วนประกอบของผถู้ ือห้นุ ได้ 2. อธบิ ายการเพิม่ ทนุ และการลดทุนได้ 3. บอกหลกั เกณฑ์และวิธีการใช้การลดทุนของบรษิ ัทเอกชนจากดั ได้ 4. บันทึกบัญชเี กย่ี วกบั การลดทุนได้ 5. บันทึกบญั ชีเกย่ี วกับการให้สทิ ธิในการซือ้ หุ้นทุนได้ 6. บันทกึ บัญชีเก่ียวกับหนุ้ ทนุ รบั คนื มาได้ 7. บันทกึ บญั ชีเกี่ยวกับการไถค่ ืนหนุ้ บุริมสทิ ธไิ ด้ 8. บนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกบั การแปลงสภาพห้นุ ทุนได้ 9. บนั ทึกบญั ชเี กี่ยวกบั การแบ่งแยกหุ้นทุนได้ 10. บอกวธิ ีการตรี าคาสนิ ทรพั ยเ์ พ่ิมเติมได้ 11. บันทึกบญั ชีเกยี่ วกับการประเมนิ การจดั เก็บค่าหุ้นเพิ่มเติมได้ 2. สมรรถนะ บันทึกบัญชีเก่ียวกับกาไรสะสมและเงินปันผลตามหลกั การบัญชี 3. เครอื่ งมือ วสั ดุ และอปุ กรณ์ 3.1 ใบงาน จานวน 1 ชดุ 3.2 กระดาษคาตอบ จานวน 1 ชดุ 4. คาแนะนา ให้ปฏบิ ตั ติ ามใบงาน 5. ขอ้ ควรระวัง ใช้ความรอบคอบในการปฏบิ ัตงิ าน 6. ลาดับข้ัน(การทดลอง/การปฏิบตั งิ าน) 6.1 ใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาเงนิ ลงทุน 6.2 แจกใบงานให้ผู้เรียนฝกึ ทา 6.3 ให้ผู้เรียนนาเสนองานหน้าช้ันเรยี น 6.4 ครผู ู้สอนเฉลยและอธบิ ายให้ผเู้ รียนได้ทาความเขา้ ใจ 7. คาถาม 7.1 จงแสดงวิธีทา
1. บริษัท ทองแท้ จากดั ดาเนนิ กิจการมกี าไรตดิ ต่อกันเรือ่ ยมาเป็นเวลาหลายปี เม่ือวนั ที่ 10 มกราคม 25x1 ที่ประชมุ ผู้ถือหนุ้ มมี ตใิ หบ้ รษิ ัทประกาศจ่ายเงินปนั ผลใหก้ ับผูถ้ ือหนุ้ เป็นจานวนเงนิ รวม 200,000 บาท และบรษิ ัทมี หุ้นสามัญเพียงชนิดเดียว ภายใต้เง่ือนไขของกรณตี ่าง ๆ ดังตอ่ ไปน้ี 1. ถ้าบรษิ ทั ประกาศจ่ายเงนิ ปันผลเป็นเงินสด บริษทั ประกาศและจา่ ยเงินปันผลน้วี นั ที่ 1 กมุ ภาพนั ธ์ และ 28 กุมภาพันธ์ 25x1 ตามลาดบั 2. ถ้าบรษิ ัทประกาศจา่ ยเงินปันผลเป็นตวั๋ เงนิ จา่ ย ระยะเวลา 2 เดอื น อัตราดอกเบ้ีย 12% ต่อปี บรษิ ทั ประกาศและจา่ ยเงนิ ปนั ผลน้ีเมอ่ื วนั ที่ 1 กุมภาพันธ์ และ 31 มนี าคม 25x1 ตามลาดับ 3. ถ้าบรษิ ทั ประกาศจ่ายเงินปนั ผลเป็นเงินลงทนุ ในหนุ้ สามัญของบรษิ ทั แอนนา จากัด ซง่ึ ถอื ไวเ้ ปน็ หลักทรัพยเ์ พ่ือคา้ จานวน 2,000 หนุ้ มลู ค่าห้นุ 100 บาท ราคาทนุ ที่ซือ้ มา 203,000 บาท ราคาตลาดของเงิน ลงทุนในวนั ทป่ี ระกาศจ่ายเงนิ ปนั ผลหนุ้ ละ 108 บาท บริษทั ประกาศและจ่ายเงินปันผลนเี้ มอ่ื วนั ท่ี 1 กมุ ภาพันธ์ และ 28 ภมุ ภาพนั ธ์ 25x1 ตามลาดบั ใหท้ า บนั ทึกรายการค้าในแต่ละกรณใี นสมุดรายวนั ทัว่ ไป 2. บรษิ ทั สยามโนต๊ บุค๊ จากัด มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันท่ี 1 มกราคม 25x1 ดงั น้ี หน่วย : บาท ห้นุ สามัญ (จดทะเบียน 40,000 หุ้น มูลคา่ หนุ้ ละ 100 บาท ออกจาหนา่ ยแลว้ 20,000 บาท) 2,000,000 ส่วนเกนิ มลู คา่ หุ้นสามัญ 800,000 2,800,000 กาไรสะสม : กาไรสะสมจัดสรรสาหรับห้นุ สามญั รับคืน 180,000 กาไรสะสมเพ่ือขยายโรงงาน 240,000 กาไรสะสมทีย่ งั ไมไ่ ดจ้ ัดสรร 600,000 1,020,000 3,820,000 3,820,000 หกั หนุ้ สามัญรับคนื (ราคาทนุ 1,200 หุ้น) 180,000 รวมสว่ นของผถู้ อื ห้นุ 3,640,000 ในระหว่างปีมรี ายการค้าเกดิ ข้นึ ดังน้ี 1. จ่ายเงนิ สดปันผลให้แก่หุ้นสามญั หุ้นละ 2 บาท เงนิ ปันผลน้ีไดป้ ระกาศจ่ายและบนั ทกึ ไปเมอ่ื ปกี อ่ น 2. ประกาศจ่ายหนุ้ สามัญปนั ผล 10% ในขณะทร่ี าคาตลาดของหนุ้ สามัญหุน้ ละ 115 บาท 3. ปรับปรุงกาไรของงวดกอ่ น เนือ่ งจากตรี าคาสินค้าปลายปีสูงเกนิ ไป 140,000 บาท 4. จาหน่ายหุน้ สามัญซอื้ คืนมาท้ังหมดในราคา 220,000 บาท 5. จา่ ยหุ้นสามญั ปนั ผล 6. คณะกรรมการบริหารตกลงใหม้ กี ารกนั กาไรสะสมเพือ่ ขยายโรงงานเพม่ิ อกี 80,000 บาท และประกาศ จา่ ยเงินสดปนั ผลให้หุ้นสามัญหุน้ ละ 1.70 บาท 7. กาไรสุทธิสาหรับปี 25x1 จานวน 450,000 บาท ให้ทา 1. บันทกึ รายการคา้ ขา้ งต้นในสมดุ รายวันทว่ั ไป 2. แสดงส่วนของผูถ้ ือห้นุ ในงบแสดงฐานะการเงิน ณ 31ธนั วาคม 25x1
3. งบกาไรสะสมสาหรับปี สิ้นสดุ 31 ธนั วาคม 25x1 8. สรุปและวิจารณผ์ ล ............................................................................................................................. .......................... 9. การประเมนิ ผล ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามใบงานไดถ้ กู ตอ้ ง 50% ขึน้ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน 10. เอกสารอา้ งอิง /เอกสารค้นคว้าเพิม่ เตมิ 1. หนังสือเรียนการบญั ชีช้ันกลาง 2 สานักพิมพ์ศนู ย์ส่งเสรมิ วชิ าการ เรยี บเรยี งโดย จรญั ตันมา 2. หนงั สือเรยี นการบัญชชี ้ันกลาง 2 บริษทั ศนู ย์หนังสอื เมืองไทย จากัด เรยี บเรียงโดย วนิ ัย ร่มบารมี 3. หนังสอื เรยี นการบญั ชีบรษิ ัทจากัด บริษทั ศูนยห์ นังสือ เมืองไทย จากัด เรยี บเรยี งโดย วินยั ร่มบารมี
แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 8 หลักสูตร ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชั้นสงู (ปวส) สอนคร้ังที่ 15 - 16 รหัสวิชา 30201 – 2002 ชื่อวิชา การบญั ชชี ้นั กลาง 2 ..ท-ป-น 2 - 2 - 3 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ การคานวณมูลคา่ หุ้นของบริษัทจากัด ทฤษฏี 2 ชม. ปฏิบตั ิ 2 ชม. 1. สาระสาคัญ การคานวณมูลค่าหุ้นของบริษัท จะทาให้ผู้ถือหุ้นทราบมูลค่าหุ้นท่ีแท้จริงท่ีตนเองถืออยู่ว่าคุ้มค่าต่อการ ลงทุนหรือไม่ หรือบริษัทมีความต้องการจะออกใบหุ้นเพิ่มเติม จึงต้องประเมินมูลค่าของหุ้นเพื่อ จะได้กาหนด ราคาขายของหุ้นใหม่ให้เหมาะสม เนื่องจากมูลค่าห้นุ ท่ีแท้จริงมิใช่เปน็ ราคาของหนุ้ ท่ีซ้ือขายกันตอนออกจาหน่าย ครัง้ แรก บรษิ ทั ดาเนนิ งานมามีผลกาไรสะสม ทาให้มลู ค่าของหนุ้ ซ่งึ เปน็ ส่วนของผู้ถือหุน้ ทั้งสิน้ นอกจากกาไรสะสม จากการดาเนนิ งานแลว้ ยังมีสว่ นเกินทนุ ตา่ ง ๆ เชน่ จากการประเมนิ ราคาสนิ ทรพั ยเ์ พิ่ม 2. สมรรถนะประจาหน่วย คานวณมูลค่าหนุ้ ของบรษิ ัทตามท่ีกฎหมายกาหนด 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของราคาตามบัญชีต่อหนุ้ ได้ 2. คานวณราคาตามบญั ชีต่อหนุ้ ได้ 3. บอกความหมายของกาไรตอ่ ห้นุ ได้ 4. คานวณกาไรต่อหุ้นข้นั พืน้ ฐานได้ 5. คานวณกาไรตอ่ หุ้นปรับลดของบริษัทท่ีมีโครงสรา้ งทุนแบบซับซ้อนได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 1. วิธีคานวณมูลค่าหุ้นของบรษิ ัทจากัด 2. ราคาตามบญั ชีตอ่ หุ้น 3. กาไรตอ่ หุน้ 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ที่ 15 – 16 ) ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ครแู นะนาเน้ือหารายวชิ าการบัญชชี ัน้ กลาง 2 ตามโครงการสอน และเกณฑ์ในการประเมินผลรายวิชา
2. ครแู นะนาเนื้อหา หนว่ ยที่ 8 วิธีคานวณมูลคา่ ห้นุ ของบรษิ ัทจากัด ราคาตามบญั ชีต่อห้นุ กาไรต่อหนุ้ และแจ้ง ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั 3. ทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 8 ข้นั สอน 4. ครูใช้คาถามลักษณะแนะนาเพื่อให้นักเรียนคดิ วิเคราะห์ จากการศึกษาเนอื้ หาด้วยตนเอง 5. ครูแนะนาเน้อื หาท่ีนกั เรยี นตอ้ งเรียนโดยศึกษาขอ้ มลู จากมาตรฐานการบัญชปี ระกอบกัน 6. มอบหมายใหท้ างานกลุ่มตามใบงาน เรือ่ งวิธีคานวณมูลค่าหุ้นของบรษิ ัทจากดั ราคาตามบญั ชีต่อห้นุ กาไรต่อ หุน้ เพ่อื ใหเ้ กิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ คือ - บอกความหมายของราคาตามบัญชตี อ่ หนุ้ ได้ - คานวณราคาตามบัญชตี อ่ หุ้นได้ - บอกความหมายของกาไรต่อหนุ้ ได้ - คานวณกาไรตอ่ หุน้ ข้นั พืน้ ฐานได้ - คานวณกาไรตอ่ หนุ้ ปรับลดของบรษิ ทั ทม่ี ีโครงสร้างทนุ แบบซับซ้อนได้ ข้นั สรปุ และประเมินผล 7. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ สาระสาคัญและจดบันทึกไว้ 8. ทดสอบหลงั เรยี น 6. สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นการบัญชชี นั้ กลาง 2 สานักพมิ พ์ศนู ย์ส่งเสรมิ วชิ าการ เรียบเรียงโดย จรญั ตันมา 2. หนงั สือเรียนการบญั ชีชน้ั กลาง 2 บรษิ ทั ศนู ยห์ นังสือ เมืองไทย จากัด เรยี บเรียงโดย วนิ ัย รม่ บารมี 3. หนงั สอื เรียนการบญั ชีบริษทั จากัด บริษัท ศูนย์หนงั สือ เมืองไทย จากัด เรียบเรียงโดย วนิ ยั ร่มบารมี 4. แบบทดสอบ 5. อินเทอรเ์ น็ต 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. สรุปความรูเ้ ปน็ Mind map 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน 1. Mind map บทนาและบญั ชีสินทรพั ย์ 2. แบบฝกึ หัด 8. การวัดและประเมนิ ผล 8.1 วิธกี าร 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น
2. ตรวจแบบฝกึ หัดและผลงานตามใบงาน 3. การสังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ 8.2 เคร่อื งมอื 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น 3. แบบฝกึ หัด 4. ใบงาน 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามระดบั คณุ วฒุ ิอาชวี ศึกษา 8.3 เกณฑ์ 1. แบบทดสอบ มีเกณฑ์ผ่านคอื 50% 2. แบบฝึกหัด มีเกณฑ์ผ่านคอื ปฏิบัติถูกตอ้ ง 50% ขึน้ ไป 3. การประเมินผลงาน เกณฑผ์ า่ นคอื ผลประเมนิ อยตู่ ้งั แตร่ ะดับดีขน้ึ ไป 4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอย่กู บั การประเมนิ ระดับ คณุ ภาพตามพฤตกิ รรมบ่งช้ี 9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 9.1 ขอ้ สรุปหลงั การจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ......................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................. ............................... 9.2 ปัญหาทพี่ บ ............................................................................................................................. ................................ ................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................ .............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ 9.3 แนวทางแก้ปญั หา ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ................................................................................................................................ ............................. ...................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................
ใบความร้ทู ี่ 1 หน่วยที่ 8 หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง (ปวส) สอนคร้งั ที่ 15 - 16 รหสั วชิ า 30201 – 2002 ช่อื วิชา การบัญชีชัน้ กลาง 2 เวลา 8 ชม. ชอื่ เรื่อง การคานวณมูลคา่ หุ้นของบริษทั จากดั 1. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป ผู้เรยี นมคี วามรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับการคานวณมลู คา่ ห้นุ ของบรษิ ัทจากัด 1.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของราคาตามบัญชีตอ่ หนุ้ ได้ 2. คานวณราคาตามบัญชีต่อหนุ้ ได้ 3. บอกความหมายของกาไรตอ่ หนุ้ ได้ 4. คานวณกาไรตอ่ หุน้ ขน้ั พื้นฐานได้ 5. คานวณกาไรตอ่ ห้นุ ปรับลดของบรษิ ทั ท่มี โี ครงสรา้ งทุนแบบซับซอ้ นได้ 2. สมรรถนะ บันทกึ บัญชเี กี่ยวกับการคานวณมูลค่าหุ้นของบรษิ ัทจากัดตามหลกั การบัญชี 3. เน้ือหาสาระ (อาจมีรปู ภาพประกอบ) ราคาตามบญั ชตี ่อหนุ้ ราคาตามบัญชีต่อหุ้น ( Book Value Per Share – BPS ) หมายถึง ส่วนเฉลี่ยของมูลค่าสุทธิของ สินทรพั ยท์ เ่ี ปน็ ของผ้ถู อื หุ้นสามัญตอ่ หนุ้ สามัญหนงึ่ หุ้น ซึ่งเป็นราคา ณ วนั ใดวนั หนึง่ ทีค่ านวณจากงบดลุ ของบริษัท ณ วันน้ัน มูลค่าดังกล่าวจะเป็นจานวนเงินที่ผู้ถือหุ้นมีสิทธิได้รับคืนเงินโดยสมมุติว่าบริษัทเลิกกิจการในวันน้ัน และตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่าสินทรัพย์ทั้งสิ้นของบริษัทจาหน่ายได้ในราคาตามบัญชีทป่ี รากฏในงบดุล และจะไม่นา ราคาตลาดของสนิ ทรพั ย์ ณ วนั นั้นมาพิจารณาราคาตามบญั ชตี อ่ ห้นุ กาไรตอ่ หุ้น กาไรต่อหนุ้ ( Earning Per Share – EPS ) หมายถึง สว่ นเฉลี่ยของกาไรต่อหุ้นสามญั หน่ึงหุน้ กาไรต่อ หุ้นใชเ้ ปน็ เกณฑว์ ัดความสามารถในการทากาไรของบรษิ ัท นอกจากน้ียงั เป็นดชั นชี ี้ราคาตลาดของห้นุ ตามทค่ี วรจะ เป็น และแสดงถึงความน่าจะเป็นในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทท้ังในปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนแสดงถึง สมรรถภาพในการบรหิ ารงานของผู้บรหิ ารบริษัทอีกด้วย มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 38 เร่ือง “กาไรต่อหุ้น” ได้กาหนดให้กิจการทุกกิจการที่มีหุ้นสามัญหรือหุ้น สามัญเทียบเท่า ถือปฏบิ ัติในเร่ืองกาไรต่อหุ้นตามมาตรฐานการบัญชีฉบับน้ีซ่ึงเป็นไปตามเกณฑท์ ่ีกาหนดขึ้นโดย มาตรฐานการบญั ชรี ะหวา่ งประเทศฉบับที่ 33 เรอื่ งกาไรตอ่ หุ้น กล่าวคือ ต้องแสดงกาไรต่อหุ้นในงบกาไรขาดทุน ดังน้ี 1. กาไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน ( Basic Earning Per Share ) หมายถึง ส่วนเฉล่ียกาไรต่อหนุ้ สามญั หน่ึงหุ้น ตามปกติ
2. กาไรต่อหุ้นปรับลด ( Diluted Earning Per Share ) หมายถึง ส่วนเฉลี่ยกาไรต่อหุ้นสามัญข้ัน พื้นฐานท่ถี ูกปรับลดลงดว้ ยจานวนหุ้นสามัญเทียบเทา่ กิจการอาจพบข้อผิดพลาดในการจัดทางบการเงินของงวดก่อน ๆ ในงวดปัจจุบัน ข้อผิดพลาดดังกล่าว อาจเกิดข้ึนจากการคานวณตัวเลขผิด การนานโยบายบัญชีมาปฏิบัติไม่ถกู ต้อง การตีความผิดพลาด การทุจริต หรือความเลินเลอ่ ขอ้ ผิดพลาดทเ่ี กดิ ขน้ึ อาจจาแนกได้ 3 ชนดิ คอื 1. ข้อผิดพลาดในงบดุล ( Balance Sheet Errors ) หมายถึง ข้อผิดพลาดที่มีผลกระทบต่อบัญชี สนิ ทรัพย์ หนี้สิน และทุน อันเกิดจากการจาแนกประเภทบัญชีผิด เช่น การจัดจาแนกลูกหน้ีการค้าระยะส้ัน เป็นเงินลงทุนระยะสั้น หรือการจัดต๋วั เงินจ่ายเป็นคา่ ใช้จา่ ยค้างจ่ายหรือการจัดสินทรัพย์ไม่มีตวั ตนเป็นสินทรัพย์ หมนุ เวยี นอืน่ ขอ้ ผิดพลาดดังกล่าวน้ี จะตอ้ งรายการแก้ไขปรับปรงุ บญั ชใี หถ้ ูกต้องทันทีเมอื่ ตรวจพบ 2. ขอ้ ผดิ พลาดในงบกาไรขาดทุน ( Income Statement Errors ) หมายถึง ขอ้ ผิดพลาดท่ีมีผลกระทบ ต่อบัญชีรายได้หรือค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการจาแนกประเภทบัญชีผิด เช่น บันทึกค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าให้ ลูกค้าเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร หรือบันทึกรายได้จากดอกเบ้ียรับเป็นรายได้จากการขาย ข้อผิดพลาดในการ จาแนกรายการในงบกาไรขาดทุนผิดจะไม่มีผลกระทบต่องบดุลและงบกาไรขาดทุน ดังน้ัน ถ้าหากเป็น ข้อผิดพลาดของปีก่อท่ีได้ปิดบัญชีไปแล้ว ก็ไม่จาเป็นต้องลงรายการแก้ไขปรับปรุงเมื่อตรวจพบ แต่ถ้าหากเป็น ข้อผดิ พลาดของปีปัจจบุ นั ระหวา่ งปี ก็จาเป็นตอ้ งรายการแกไ้ ขปรบั ปรุงใหถ้ ูกตอ้ งทันทเี มื่อตรวจพบ 3. ข้อผิดพลาดท่ีกระทบทั้งงบดุลและงบกาไรขาดทุน ( Balance Sheet and Income Statement Effect ) หมายถึง ข้อผิดพลาดที่มีผลกระทบต่อบญั ชีสินทรัพย์ หรือ หนี้สนิ หรือ ทุน และกระทบต่อรายได้หรือ ค่าใชจ้ า่ ย เชน่ มิไดบ้ นั ทกึ รายไดห้ รอื ค่าใชจ้ า่ ย เชน่ มิไดบ้ นั ทกึ รายไดค้ ้างรบั ณ วนั สิ้นงวดการบัญชี ผลของความ ผดิ พลาดนี้จะทาให้รายไดข้ องงวดต่าไป ซ่ึงเป็นผลทาใหก้ าไรสทุ ธิของงวดต่าไป และทาใหส้ ินทรพั ย์มีจานวนตา่ ไป ดว้ ย 4. แบบฝกึ หัด/แบบทดสอบ แบบทดสอบ คาชแี้ จง เลอื กคาตอบทถี่ ูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1. บรษิ ทั เอกราช จากัด มีส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งสิ้น 12,500,000 บาท มีหนุ้ สามญั จดทะเบยี น 200,000 หุ้น ออกจาหน่าย 120,000 ห้นุ มีให้จอง 20,000 หนุ้ ห้นุ สามญั รบั คืน 60,000 ห้นุ ราคาตามบัญชตี ่อห้นุ เปน็ เท่าใด ก. 62.50 ข. 156.25 ค. 104.16 ง. 89.28
จ. 90.50 โจทยต์ ่อไปนี้ใชต้ อบถามขอ้ 2 – 5 สว่ นของผถู้ ือหนุ้ บริษัท สิทธเิ กษม จากัด ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x5 มีดงั นี้ หนว่ ย : บาท หุ้นบรุ ิมสิทธิชนดิ 6% มูลคา่ หุ้นละ 10 บาท จานวน 20,000 หุ้น 200,000 หนุ้ สามญั มลู ค่าหุ้นละ 25 บาท จานวน 20,000 หุ้น 500,000 ส่วนเกินมลู คา่ ห้นุ สามญั 50,000 กาไรสะสม 75,000 รวมส่วนของผูถ้ ือหุน้ 825,000 ในวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 บรษิ ัทไดป้ ระกาศจา่ ยปันผลงวด 3 เดอื น หนุ้ บรุ มิ สทิ ธมิ ีมลู คา่ ที่จะไดร้ ับคืนเม่อื เลกิ กิจการหุ้นละ 10.50 บาท 2. เงนิ ทนุ สว่ นของหุน้ สามัญเปน็ จานวนเท่าใด ก. 612,000 ข. 825,000 ค. 750,000 ง. 625,000 จ. 500,000 3. เงินทนุ ส่วนของหนุ้ บุรมิ สิทธิเป็นจานวนเทา่ ใด ก. 212,000 ข. 203,000 ค. 200,000 ง. 213,000 จ. 220,000 4. ราคาตามบญั ชตี ่อหุ้นสามัญเปน็ จานวนเท่าใด ก. 41.25 บาทตอ่ หนุ้ ข. 37.50 บาทต่อหนุ้ ค. 30.60 บาทตอ่ หุ้น ง. 31.25 บาทต่อห้นุ จ. 36.25 บาทตอ่ หนุ้ 5. ราคาตามบัญชตี อ่ หุน้ บุรมิ สิทธเิ ป็นจานวนเทา่ ใด ก. 10.65 บาทตอ่ หุน้ ข. 10.15 บาทต่อหุน้ ค. 10.60 บาทต่อหุ้น ง. 10.00 บาทต่อหนุ้ จ. 11.00 บาทต่อหุ้น
โจทยต์ ่อไปนใ้ี ช้ตอบคาถามข้อ 6 – 8 บริษัท พลอยแดง จากัด มกี าไรก่อนรายการพิเศษจานวน 116,000 บาท และมีรายการพเิ ศษ (สุทธิจาก ภาษีเงินได้) อยู่ 48,000 บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิท่ีถือโดยบุคคลภายนอกจานวน 20,000 ในระหว่างปี บริษัทมีจานวนถัวเฉล่ียถ่วงน้าหนักของหุ้นสามัญท่ีถือโดยบุคคลภายนอกเท่ากับ 106,000 หนุ้ 6. กาไรต่อหนุ้ ขน้ั พื้นฐานกอ่ นรายการพเิ ศษของหุ้นสามญั เปน็ จานวนเท่าใด ก. 0.45 บาทต่อหนุ้ ข. 0.90 บาทตอ่ หนุ้ ค. 1.35 บาทต่อหุ้น ง. 1.09 บาทต่อหุ้น จ. 1.90 บาทต่อห้นุ 7. กาไรต่อห้นุ ขัน้ พ้นื ฐานรายการพิเศษของหนุ้ สามญั เปน็ จานวนเทา่ ใด ก. 0.45 บาทตอ่ หนุ้ ข. 1.09 บาทต่อหุ้น ค. 0.90 บาทต่อหุ้น ง. 1.35 บาทต่อหุ้น จ. 1.45 บาทต่อหนุ้ 8. กาไรสุทธติ อ่ หนุ้ พื้นฐานของหุ้นสามญั เปน็ เท่าใด ก. 0.45 บาทต่อหุ้น ข. 1.09 บาทตอ่ หุ้น ค. 0.90 บาทต่อหุ้น ง. 1.35 บาทต่อหนุ้ จ. 1.00 บาทต่อหุ้น 9. ข้อใด ไมใ่ ช่ รายการของหนุ้ สามัญเทยี บเท่าทใี่ ช้ในการคานวณกาไรตอ่ หุ้นปรบั ลด ก. หนุ้ กแู้ ปลงสภาพ ข. ในสาคญั แสดงซ้ือหุ้นสามัญ ค. หุ้นบุริมสทิ ธแิ ปลงสภาพ ง. ในสาคญั แสดงสทิ ธิรับเงินปนั ผล จ. ถกู ทง้ั ขอ้ ก. และขอ้ ค. 10. การคานวณกาไรต่อหุ้นปรบั ลด ใชใ้ นการคานวณสาหรบั กิจกรรมที่มโี ครงสรา้ งทุนแบบใด ก. โครงสรา้ งทุนแบบซับซ้อน ข. โครงสรา้ งทนุ ทม่ี ีแตท่ ุนหุน้ สามญั ค. โครงสรา้ งทุนแบบงา่ ย ง. โครงสรา้ งทุนทีม่ แี ตท่ ุนหนุ้ บุรมิ สทิ ธิ จ. ถกู ทง้ั ข้อ ก. และข้อ ค.
5. เอกสารอ้างองิ (ขนึ้ หนา้ ใหม่) 1. หนังสือเรียนการบญั ชชี ้นั กลาง 2 สานกั พิมพ์ศูนยส์ ่งเสริมวชิ าการ เรยี บเรยี งโดย จรัญ ตันมา 2. หนังสือเรียนการบัญชชี ั้นกลาง 2 บรษิ ัท ศูนยห์ นังสอื เมอื งไทย จากัด เรยี บเรยี งโดย วินยั ร่มบารมี 3. หนงั สือเรยี นการบัญชีบริษัทจากดั บริษัท ศนู ย์หนงั สือ เมอื งไทย จากัด เรยี บเรียงโดย วินยั รม่ บารมี 6. ภาคผนวก (เฉลยแบบฝกึ หัด เฉลยแบบทดสอบ ฯ) 2. ก เฉลยแบบทดสอบ 4. ค 1. ข 6. ข 3. ง 8. ง 10. ก 5. ก 7. ก 9. ง
ใบงาน ที่ 1 หน่วยท่ี 8 หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ช้นั สงู (ปวส) สอนคร้งั ที่ 15 - 16 รหสั วิชา 30201 – 2002 ช่อื วิชา การบญั ชชี น้ั กลาง 2 เวลา 8 ชม. ช่อื เรอื่ ง การคานวณมลู คา่ หุ้นของบรษิ ัทจากัด 1. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของราคาตามบัญชตี ่อหุ้นได้ 2. คานวณราคาตามบญั ชตี อ่ ห้นุ ได้ 3. บอกความหมายของกาไรตอ่ หุ้นได้ 4. คานวณกาไรต่อหุ้นข้นั พ้ืนฐานได้ 5. คานวณกาไรต่อหนุ้ ปรับลดของบรษิ ัททม่ี ีโครงสร้างทุนแบบซับซ้อนได้ 2. สมรรถนะ บนั ทึกบัญชเี กย่ี วกับการคานวณมูลค่าหนุ้ ของบรษิ ัทจากัดตามหลักการบัญชี 3. เครอ่ื งมอื วสั ดุ และอุปกรณ์ 3.1 ใบงาน จานวน 1 ชดุ 3.2 กระดาษคาตอบ จานวน 1 ชดุ 4. คาแนะนา ให้ปฏิบตั ติ ามใบงาน 5. ข้อควรระวัง ใช้ความรอบคอบในการปฏบิ ัตงิ าน 6. ลาดับขน้ั (การทดลอง/การปฏิบตั ิงาน) 6.1 ให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาเงนิ ลงทนุ 6.2 แจกใบงานให้ผ้เู รียนฝกึ ทา 6.3 ให้ผู้เรียนนาเสนองานหน้าชั้นเรยี น 6.4 ครผู ู้สอนเฉลยและอธบิ ายให้ผู้เรียนได้ทาความเขา้ ใจ 7. คาถาม 7.1 ตอนที่ 1 จงแสดงวิธีทา 1. บรษิ ทั เกษตรไทย จากดั มรี ายการส่วนของผู้ถอื หุ้นในงบแสดงฐานนะการเงนิ ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 25x1 ปรากฏดงั นี้
หน่วย : บาท สว่ นของผ้ถู ือหุน้ : ห้นุ สามญั (จดทะเบยี น 100,000 หนุ้ มูลค่าหุน้ ละ 100 บาท ออกจาหนา่ ยแลว้ 60,000 หนุ้ ) 6,000,000 หนุ้ สามญั ให้จอง 2,000 หุ้น 200,000 ส่วนเกินมลู คา่ ห้นุ สามญั 320,000 กาไรสะสม 500,000 รวมสว่ นของผถู้ อื หนุ้ 7,020,000 ใหท้ า คานวณราคาตามบญั ชขี องห้นุ สามัญ ในวันท่ี 31 ธันวาคม 25x1 2. ต่อไปน้ี เปน็ รายละเอยี ดเกย่ี วกบั ส่วนของผถู้ อื หุ้นบางสว่ น ของบรษิ ทั โชคชยั จากดั 25x1 ม.ค. 1 จดทะเบียนหนุ้ สามญั 500,000 หนุ้ ก.พ. 1 จาหน่ายห้นุ สามญั และออกใบหุ้น 400,000 ห้นุ มี.ค. 1 จาหน่ายหนุ้ สามัญและออกใบหุ้น 30,000 หนุ้ เม.ย. 1 จาหนา่ ยหนุ้ สามญั และออกใบหนุ้ 20,000 หุ้น ก.ค. 1 แบง่ แยกหนุ้ อตั รา 2 : 1 450,000 หุน้ ส.ค. 1 ซอ้ื หุ้นสามญั คนื มา (120,000) หุ้น ต.ค. 1 ซือ้ หุ้นสามญั คืนมา (50,000) ห้นุ ธ.ค. 1 จาหนา่ ยหุน้ สามัญและออกใบหนุ้ 90,000 หุ้น รวม 820,000 หุน้ บรษิ ัทออกใบสาคญั แสดงสิทธิซ้ือหุ้นสามญั ให้แกพ่ นักงานของบรษิ ัท เมอื่ วนั ที่ 1 มถิ ุนายน 25x1 สามารถ ใชส้ ิทธิซือ้ หุน้ สามญั ได้ 40,000 หุ้น ในราคาหุน้ ละ 30 บาท - กาไรสทุ ธสิ าหรบั ปี 25x1 เท่ากับ 1,800,000 บาท - อัตราภาษเี งินได้ 30% - ราคาตลาดของหุน้ สามัญ ณ วนั ส้นิ ปี หนุ้ ละ 40 บาท ให้ทา 1. คานวณจานวนถวั เฉลี่ยถว่ งนา้ หนักของหุ้นสามญั 2. กาไรตอ่ ห้นุ ขน้ั พื้นฐาน 3. กาไรต่อหุ้นปรับลด 8. สรุปและวจิ ารณ์ผล ............................................................................................................................. .......................... 9. การประเมนิ ผล ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามใบงานไดถ้ ูกต้อง 50% ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 10. เอกสารอ้างองิ /เอกสารคน้ คว้าเพม่ิ เตมิ 1. หนังสือเรยี นการบัญชชี ั้นกลาง 2 สานักพมิ พศ์ นู ยส์ ่งเสริมวิชาการ เรียบเรยี งโดย จรัญ ตนั มา
2. หนังสอื เรยี นการบัญชีช้ันกลาง 2 บรษิ ัท ศนู ยห์ นังสอื เมอื งไทย จากัด เรยี บเรยี งโดย วินัย ร่มบารมี 3. หนังสือเรยี นการบัญชีบรษิ ัทจากดั บรษิ ทั ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย จากดั เรยี บเรียงโดย วินยั ร่มบารมี
แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 9 หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้ันสงู (ปวส) สอนครง้ั ท่ี 17 - 18 รหัสวชิ า 30201 – 2002 ชือ่ วิชา การบัญชีช้ันกลาง 2 ..ท-ป-น 2 - 2 - 3 ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ การเลกิ กิจการและการชาระบญั ชขี องบรษิ ัทจากัด ทฤษฏี 2 ชม. ปฏบิ ตั ิ 2 ชม. 1. สาระสาคัญ เมือ่ บรษิ ัทจากัดมคี วามประสงค์จะเลกิ กิจการ คณะกรรมการของบริษัทจะต้องทาการชาระบัญชี โดยการ นาสินทรัพย์ที่มีอยู่ออกจาหน่าย ติดตามเก็บเงินจากลูกหนี้ เพ่ือรวบรวมเงินสดไปชาระหน้สี ินแก่บุคคลภายนอก จ่ายค่าใช้จ่ายในการชาระบัญชี และเงินสดที่คงเหลือจะคืนทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งในการจาหน่ายสินทรัพย์นั้น อาจจะเกิดผลกาไรหรือขาดทุนก็ได้ โดยการบันทึกกาไรหรือขาดทุนจากการจาหน่ายไว้ในบัญชีกาไรขาดทุนจาก การจาหนา่ ยสนิ ทรัพย์ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย ชาระบัญชีการเลิกกิจการของบรษิ ทั จากัดตามกฎหมายกาหนด 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกสาเหตุของการเลิกบริษัทจากัดได้ 2. อธิบายขนั้ ตอนการชาระบัญชเี ลิกบริษัทจากดั ได้ 3. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั การเลกิ บรษิ ทั จากัดได้ 4. จัดทารายงานการชาระบัญชเี ลิกบริษทั จากัดได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 1. สาเหตุของการเลกิ บรษิ ัทจากดั 2. การชาระบัญชีเลิกบรษิ ทั จากดั 3. รายงานการชาระบญั ชีเลิกบรษิ ัทจากดั 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่ 17 – 18 ) ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูแนะนาเนื้อหารายวิชาการบญั ชีช้นั กลาง 2 ตามโครงการสอน และเกณฑ์ในการประเมนิ ผลรายวชิ า 2. ครูแนะนาเนอื้ หา หนว่ ยที่ 9 สาเหตุของการเลิกบรษิ ทั จากัด การชาระบัญชีเลิกบริษัทจากดั รายงานการชาระ บัญชเี ลกิ บรษิ ทั จากัดและแจ้งผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง 3. ทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 9 ข้นั สอน 4. ครูแนะนาเนอื้ หาท่นี กั เรียนตอ้ งเรียนโดยศกึ ษาข้อมลู จากมาตรฐานการบญั ชปี ระกอบกัน 6. มอบหมายให้ทางานกลุ่มตามใบงาน เร่ืองสาเหตุของการเลิกบริษัทจากัด การชาระบัญชีเลิกบริษัทจากัด รายงานการชาระบัญชเี ลกิ บรษิ ัทจากัด เพือ่ ให้เกิดการเรียนรตู้ ามจุดประสงค์ คอื
- บอกสาเหตุของการเลิกบริษทั จากัดได้ - อธิบายขัน้ ตอนการชาระบญั ชเี ลิกบรษิ ทั จากดั ได้ - บันทึกบญั ชเี ก่ียวกบั การเลกิ บรษิ ทั จากดั ได้ - จดั ทารายงานการชาระบัญชเี ลกิ บริษัทจากดั ได้ ขัน้ สรุปและประเมินผล 7. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ สาระสาคัญและจดบนั ทึกไว้ 8. ทดสอบหลงั เรยี น 6. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนการบญั ชชี ้ันกลาง 2 สานักพิมพศ์ ูนย์ส่งเสริมวชิ าการ เรยี บเรยี งโดย จรญั ตันมา 2. หนงั สอื เรยี นการบญั ชีชัน้ กลาง 2 บริษทั ศนู ย์หนังสอื เมืองไทย จากดั เรียบเรียงโดย วนิ ัย รม่ บารมี 3. หนังสอื เรียนการบญั ชีบรษิ ัทจากดั บรษิ ัท ศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย จากัด เรยี บเรียงโดย วินยั ร่มบารมี 4. แบบทดสอบ 5. อินเทอร์เนต็ 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ 1. สรุปความรู้เปน็ Mind map 7.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน 1. Mind map บทนาและบญั ชีสนิ ทรพั ย์ 2. แบบฝกึ หดั 8. การวัดและประเมนิ ผล 8.1 วธิ ีการ 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบหลังเรียน 2. ตรวจแบบฝึกหัดและผลงานตามใบงาน 3. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง 8.2 เครือ่ งมือ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. แบบทดสอบหลงั เรียน 3. แบบฝึกหัด 4. ใบงาน 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ตามระดับคณุ วุฒอิ าชีวศกึ ษา 8.3 เกณฑ์ 1. แบบทดสอบ มีเกณฑผ์ ่านคือ 50% 2. แบบฝึกหัด มีเกณฑ์ผา่ นคือ ปฏบิ ัติถกู ตอ้ ง 50% ข้นึ ไป
3. การประเมินผลงาน เกณฑ์ผา่ นคือ ผลประเมนิ อยตู่ ง้ั แต่ระดับดีขน้ึ ไป 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการประเมนิ ระดับ คุณภาพตามพฤติกรรมบง่ ช้ี 9. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 9.1 ข้อสรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ......................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................. ............................... 9.2 ปัญหาทีพ่ บ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ .............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................ ................................................................................................................................................. ............ 9.3 แนวทางแกป้ ัญหา ................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................
ใบความรทู้ ่ี 1 หน่วยท่ี 9 หลกั สตู ร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สงู (ปวส) สอนคร้ังท่ี 17 - 18 รหัสวิชา 30201 – 2002 ชอื่ วิชา การบัญชีชนั้ กลาง 2 เวลา 8 ชม. ชื่อเรื่อง การเลกิ กิจการและการชาระบัญชีของบรษิ ัทจากดั 1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 จดุ ประสงค์ทว่ั ไป ผูเ้ รยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกับการเลิกกจิ การและการชาระบญั ชีของบริษัทจากัด 1.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. บอกสาเหตุของการเลกิ บริษัทจากัดได้ 2. อธิบายขั้นตอนการชาระบญั ชเี ลกิ บริษทั จากัดได้ 3. บันทกึ บญั ชีเกย่ี วกบั การเลิกบรษิ ัทจากัดได้ 4. จัดทารายงานการชาระบัญชีเลิกบรษิ ัทจากัดได้ 2. สมรรถนะ บันทกึ บญั ชเี กี่ยวกบั การเลกิ กิจการและการชาระบัญชขี องบริษัทจากดั ตามหลักการบัญชี 3. เน้ือหาสาระ (อาจมีรูปภาพประกอบ) การเลกิ กจิ การบรษิ ัทจากัด การดาเนินงานของกิจการบรษิ ัทได้ในระยะเวลาหนงึ่ บรษิ ทั จากดั อาจจะเกดิ เหตุท่ีเปน็ ปัจจยั ทั้งภายนอก และหรอื ภายในใหป้ ระสบภยั ความล้มเหลวในการบริหารงานจนเกดิ ผลขาดทุนจากการดาเนนิ งานและยงั ผลใหไ้ ม่ สามารถจ่ายเงินปนั ผลแกผ่ ู้ถือหุน้ เป็นเวลาติดต่อกันหลายปีหรอื อาจมเี หตตุ ามกฎหมายกาหนดให้เลิกบริษทั จากัด ดงั นัน้ จงึ สรุปสาเหตุการเลกิ บรษิ ัทจากัดดังน้ี 1. เลิกบรษิ ัทเหตุจากกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา 1236 บัญญัตไิ วว้ า่ อัน บริษัทจากัดยอมเลิกกันดว้ ยเหตดุ งั นี้ 1.1 ถ้าในข้อบังคับของบริษัทมกี าหนดกรณีอนั ใดเป็นเหตทุ ี่จะเลกิ กนั เม่อื มีกรณนี น้ั บริษัทจะต้อง เลิกทนั ที 1.2 ถ้าบริษัทได้ตั้งข้นึ ไวเ้ ฉพาะกาหนดกาล เมอ่ื ใดสนิ้ กาหนดกาลน้นั บริษทั จะตอ้ งเลกิ กจิ การ 1.3 ถา้ บรษิ ัทได้ตั้งขึน้ เฉพาะเพอ่ื ทากจิ การอยา่ งหนึง่ อย่างใดแต่อย่างเดียว เม่อื เสรจ็ การนัน้ บรษิ ทั จะตอ้ งเลกิ กิจการ 1.4 เมื่อมมี ตพิ ิเศษใหเ้ ลิก 1.5 เมือ่ บริษัทลม้ ละลาย 2. เลิกบรษิ ัทเหตุจากคาสง่ั ศาล บรษิ ทั จากัดอาจจะเลกิ กิจการตามคาสง่ั ศาล มาตรา 1237 ด้วยเหตุ ดังนี้ 2.1 ถา้ ทาผิดในการย่นื รายงานการประชมุ ตั้งบรษิ ทั หรือทาผิดในการประชุมต้ังบริษัท 2.2 ถ้าบริษัทไมเ่ รม่ิ ทาการภายในปีหนงึ่ นับตง้ั แตว่ นั จดทะเบยี นหรือหยดุ ทาการถงึ ปหี น่งึ เตม็ 2.3 ถ้าการคา้ ของบริษัททาไปมแี ต่ขาดทนุ อยา่ งเดียวไม่มที างหวงั ว่าจะกลบั ฟ้นื ตัวได้
2.4 ถา้ จานวนผูถ้ อื หนุ้ ลดนอ้ ยลงจนเหลอื ไม่ถงึ สามคน ในกิจการบริษัทมหาชนจากัด เมื่อดาเนินงานไปแล้วอาจมีปัจจัยเป็นเหตุท่ีกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ บรษิ ทั มหาชนจากดั พ.ศ. 2535 ด้วยเหตุดังน้ี 1. เม่ือทป่ี ระชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้เลกิ ด้วยคะแนนเสยี งไม่น้อยกวา่ สามในสขี่ องจานวนเสียงทงั้ หมดของผถู้ ือ หนุ้ ซึง่ มาประชมุ และมีสทิ ธิออกเสยี งลงคะแนน 2. เมื่อบริษทั ลม้ ละลาย 3. เมอ่ื ศาลมีคาสง่ั ให้เลกิ บรษิ ัทตามมาตรา 155 และคาสั่งน้นั ถึงท่ีสุดแลว้ 4. แบบฝึกหัด/แบบทดสอบ แบบทดสอบ คาชแี้ จง เลอื กคาตอบท่ถี กู ต้องทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดียว 1. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ าเหตขุ องการเลิกบริษัทจากัด ก. เลิกโดยนายทะเบยี นขีดช่ือบรษิ ทั ออกจากทะเบยี นเพราะเปน็ บรษิ ทั รา้ ง ข. เลิกโดยผลของกฎหมาย ค. เลิกโดยกรรมการผจู้ ดั การ ง. เลิกโดยคาส่งั ศาล 2. บรษิ ัทจากดั ต้องเลิกกิจการถา้ ไม่ดาเนินการภายในระยะเวลาเท่าไรนบั จากวันที่จดทะเบียนจัดตั้ง บรษิ ัท ก. 6 เดือน ข. 12 เดอื น ค. 1 เดือน ง. 3 เดอื น 3. ภายในระยะเวลากีว่ นั นบั แตว่ ันท่ีได้เลกิ บริษทั ทีป่ ระชมุ บริษัทหรือศาลจะแต่งตั้งผูช้ าระบญั ชี ก. 7 วนั ข. 14 วัน ค. 1 วัน ง. 3 วัน 4. ผูช้ าระบัญชโี อนปดิ กาไรขาดทุนจากการขายสินทรัพย์เขา้ บัญชใี ด ก. สว่ นของผู้ถือหนุ้ ข. กาไรสะสม ค. ผู้ถอื หุ้นบุรมิ สทิ ธิ ง. ผถู้ อื หนุ้
5. ผชู้ าระบัญชี โอนปิดบญั ชสี ่วนเกนิ หรอื ส่วนลดมลู ค่าหนุ้ กทู้ เ่ี หลอื อยูไ่ ปยงั บญั ชใี ด ก. กาไรสะสม ข. สว่ นของผู้ถอื หุ้น ค. ผถู้ อื ห้นุ กู้ ง. กาไรขาดทุนจากการขายสินทรพั ย์ 6. ถา้ บรษิ ทั ไมเ่ รม่ิ ทาการภายใน 1 ปี นบั จากวันที่จดทะเบียน บริษทั น้นั มีผลตามขอ้ ใด ก. บริษทั ต้องเลกิ กิจการโดยผลของกฎหมาย ข. บรษิ ัทต้องเลิกกจิ การเน่อื งจากนายทะเบยี นขดั ชอ่ื ออกจากทะเบียน ค. บริษทั ต้องเลิกกิจการโดยคาสงั่ ศาล ง. บริษทั สามารถดาเนินการได้ในปีถดั ไป 7. ผู้ชาระบัญชตี อ้ งส่งรายงานการชาระบัญชเี มอ่ื ใด นับจากวันท่ีเลกิ บริษัทจากัด ก. ทุกระยะเวลา 6 เดอื น ข. ทุกระยะเวลา 3 เดอื น ค. ทกุ ระยะเวลา 1 เดือน ง. ทกุ ระยะเวลา 14 วนั 8. ผู้ชาระบญั ชตี ้องย่นื จดทะเบียนเสรจ็ การชาระบัญชีภายในเวลาเทา่ ไรนบั จากวันท่ีประชมุ อนุมตั เิ สรจ็ การชาระบญั ชี ก. 60 วัน ข. 45 วัน ค. 30 วัน ง. 14 วัน 9. บญั ชีใดถูกปดิ ไปยงั บัญชผี ถู้ ือหุ้นกู้เมื่อมกี ารชาระบญั ชี ก. บัญชหี นุ้ กแู้ ละดอกเบยี้ คา้ งรับ ข. บัญชหี ุน้ ก้แู ละดอกเบยี้ ค้างจ่าย ค. บัญชหี ้นุ กแู้ ละสว่ นลดมลู คา่ ห้นุ กู้ ง. บัญชีห้นุ ก้แู ละส่วนเกินมูลคา่ หนุ้ กู้ 10. ในการชาระบญั ชขี องบริษัท บญั ชีกาไรสะสมถกู ปดิ เข้าบญั ชีใด ก. ผถู้ อื หนุ้ สามญั ข. ผู้ถอื หนุ้ บรุ มิ สิทธิ ค. ส่วนของผถู้ อื หนุ้ ง. ส่วนของเจา้ ของ
5. เอกสารอ้างองิ (ข้ึนหนา้ ใหม่) 1. หนังสอื เรียนการบญั ชีชัน้ กลาง 2 สานกั พมิ พศ์ นู ยส์ ง่ เสรมิ วิชาการ เรยี บเรยี งโดย จรญั ตันมา 2. หนังสอื เรยี นการบญั ชีชั้นกลาง 2 บริษทั ศูนย์หนังสอื เมืองไทย จากัด เรียบเรยี งโดย วนิ ัย ร่มบารมี 3. หนังสอื เรียนการบัญชบี รษิ ทั จากัด บรษิ ัท ศูนย์หนังสอื เมอื งไทย จากัด เรียบเรียงโดย วนิ ัย ร่มบารมี 6. ภาคผนวก 2. ข เฉลยแบบทดสอบ 4. ข 1. ค 3. ข 6. ค 5. ง 7. ข 8. ง 9. ค 10. ก
ใบงาน ที่ 1 หนว่ ยท่ี 9 หลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชน้ั สูง (ปวส) สอนครั้งท่ี 17 - 18 รหสั วิชา 30201 – 2002 ชอ่ื วิชา การบัญชีชั้นกลาง 2 เวลา 8 ชม. ชอื่ เรื่อง การเลิกกจิ การและการชาระบญั ชี 1. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. บอกสาเหตุของการเลิกบรษิ ัทจากัดได้ 2. อธบิ ายขั้นตอนการชาระบัญชีเลิกบริษทั จากัดได้ 3. บนั ทกึ บัญชีเกย่ี วกับการเลิกบริษทั จากัดได้ 4. จัดทารายงานการชาระบญั ชเี ลิกบริษทั จากัดได้ 2. สมรรถนะ บันทกึ บญั ชเี กี่ยวกับการเลกิ กจิ การและการชาระบัญชีของบริษัทจากดั ตามหลกั การบัญชี 3. เคร่ืองมือ วัสดุ และอุปกรณ์ 3.1 ใบงาน จานวน 1 ชุด 3.2 กระดาษคาตอบ จานวน 1 ชดุ 4. คาแนะนา ให้ปฏิบตั ิตามใบงาน 5. ข้อควรระวงั ใช้ความรอบคอบในการปฏบิ ัตงิ าน 6. ลาดับข้นั (การทดลอง/การปฏบิ ัตงิ าน) 6.1 ใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาเน้ือหาเงนิ ลงทนุ 6.2 แจกใบงานให้ผูเ้ รยี นฝึกทา 6.3 ใหผ้ ู้เรยี นนาเสนองานหน้าชัน้ เรยี น 6.4 ครูผู้สอนเฉลยและอธบิ ายให้ผ้เู รยี นได้ทาความเขา้ ใจ 7. คาถาม 7.1 ตอนท่ี 1 จงแสดงวธิ ีทา 1. บรษิ ัท อานวยพรขนส่ง จากดั ตกลงเลกิ กิจการตามทป่ี ระชมุ ผู้ถอื หุน้ เม่อื วนั ที่ 1 มกราคม 25x5 งบแสดง ฐานะการเงนิ ณ วนั เลิกกจิ การ มีดังนี้
บรษิ ทั อานวยพรขนสง่ จากดั งบแสดงฐานการเงนิ ณ วันที่ 1 มกราคม 25x5 สินทรพั ยห์ มนุ เวียน สนิ ทรพั ย์ หนว่ ย : บาท เงนิ สดและเงินฝากธนาคาร 200,000 184,500 ลูกหนี้การค้า 9,500 หัก ค่าเผอ่ื หนี้สงสัยจะสูญ 190,500 1,300,000 40,000 ตั๋วเงนิ รับ 600,000 14,000 สินคา้ คงเหลอื 4,800,000 639,000 ค่าเช่าจ่ายลว่ งหนา้ 3,900,000 1,500,000 ท่ดี นิ อาคาร และอปุ กรณ์ ท่ีดนิ 700,000 อาคาร 900,000 หกั ค่าเสื่อมราคาสะสม 3,100,000 รถบรรทุก 100,000 หกั คา่ เสื่อมราคาสะสม 100,000 รวมท่ีดิน อาคารและอุปกรณ์ 3,839,000 สนิ ทรพั ย์อืน่ 150,000 สัมปทาน 30,000 รวมสนิ ทรพั ยอ์ ่ืน 18,000 26,000 รวมสินทรพั ยท์ ้งั หมด 224,000 หนสี้ ินและสว่ นของผถู้ อื หนุ้ 500,000 หนสี้ ินหมุนเวยี น เจา้ หน้กี ารค้า ตั๋วเงินจ่าย ค่าไฟฟ้าค้างจ่าย ภาษีเงนิ ไดค้ า้ งจ่าย รวมหนส้ี ินหมนุ เวียน หนสี้ นิ ระยะยาว เงนิ กู้
บวก สว่ นเกนิ มูลคา่ หมุนเวยี น 25,000 525,000 รวมหน้ีสนิ ระยะยาว 749,000 รวมหนส้ี นิ ทัง้ สนิ้ 2,500,000 300,000 ส่วนของผู้ถือหุ้น 290,000 ทุนเรอื นหุ้น 3,090,000 3,839,000 ทุนจดทะเบียนและออกจาหนา่ ยแล้ว หุ้นบรุ ิมสทิ ธิ 12% 10,000 หุ้น มลู คา่ หุ้นละ 50 บาท 500,000 หุน้ สามัญ 20,000 หุ้น มลู ค่าห้นุ ละ 100 บาท 2,000,000 ส่วนเกินมลู ค่าหุน้ สามัญ 200,000 ส่วนเกินมลู คา่ หนุ้ บุริมสทิ ธิ 100,000 กาไรสะสมจัดสรรแลว้ : สารองตามกฎหมาย 150,000 สารองท่วั ไป 90,000 240,000 ยังไม่ได้จัดสรร 54,000 รวมส่วนของผถู้ ือหุน้ รวมหนส้ี นิ และสว่ นของผู้ถอื หุ้นทงั้ สิ้น รายละเอียดการชาระบัญชี มีดงั น้ี 25x5 ม.ค. 4 เก็บเงินตามตว๋ั เงนิ รบั ได้ 40,000 บาท 10 เก็บเงินจากลูกหน้ีได้ 180,000 บาท 15 ขายสินคา้ คงเหลอื ได้ 220,000 บาท 18 รบั คนื เงนิ คา่ เชา่ จ่ายล่วงหน้าได้ 70,000 บาท 20 ขายทดี่ ิน และอาคารได้ 2,000,000 บาท 25 ขายรถบรรทกุ ได้ 550,000 บาท 29 ยกเลกิ สมั ปทานเนอ่ื งจากจาหนา่ ยไมไ่ ด้ ก.พ. 9 จา่ ยคา่ ไฟฟา้ คา้ งจ่ายและภาษีเงนิ ได้คา้ งจ่าย 12 จ่ายชาระหนีใ้ ห้เจา้ หน้ีได้สว่ นละ 2% 16 จ่ายเงนิ ตามตั๋วเงนิ จา่ ยพรอ้ มดอกเบี้ยจา่ ยอีก 2,000 บาท 20 ไถถ่ อนหุ้นกู้ตามมลู ค่า 25 จา่ ยคา่ ใชจ้ ่ายชาระบญั ชเี ลกิ บริษทั 36,000 บาท ใหท้ า 1. บันทึกรายการเกย่ี วกับการชาระบญั ชีเลกิ บริษัทในสมุดรายวนั ทว่ั ไป 2. รายการชาระบัญชี 8. สรปุ และวิจารณ์ผล ............................................................................................................................. ..........................
9. การประเมินผล ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามใบงานไดถ้ ูกต้อง 50% ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 10. เอกสารอ้างอิง /เอกสารค้นควา้ เพ่มิ เติม 1. หนงั สือเรยี นการบญั ชีชน้ั กลาง 2 สานักพิมพศ์ นู ย์สง่ เสริมวชิ าการ เรยี บเรียงโดย จรัญ ตนั มา 2. หนงั สือเรียนการบญั ชชี นั้ กลาง 2 บริษทั ศนู ยห์ นังสือ เมอื งไทย จากัด เรยี บเรยี งโดย วินยั ร่มบารมี 3. หนงั สือเรียนการบัญชีบริษทั จากัด บรษิ ทั ศนู ยห์ นังสือ เมืองไทย จากดั เรียบเรียงโดย วินัย รม่ บารมี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139