Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ หน่วยที่ 1

ใบความรู้ หน่วยที่ 1

Published by nice_psw, 2018-03-28 05:20:40

Description: ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

Search

Read the Text Version

11 ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยี (Technology ) หมายถึง วิธีการปฏบิ ตั ิที่มกี ารจดั ลาดบั อยา่ งมรี ูปแบบและข้นั ตอนเพ่ือที่จะทาใหเ้ กิดประสิทธิภาพในเร่ืองของความรวดเร็ว ความน่าเช่ือถือ ความถกู ตอ้ ง เป็นตน้ สารสนเทศ (Information) หมายถงึ ขอ้ มลู ดิบ ที่ไดผ้ า่ นการประมวลผล จากคอมพวิ เตอร์มาแลว้ นนั่ คือไดผ้ า่ นการคานวณ การจดั เรียง การเปรียบเทียบ เป็นตน้ ผลลพั ธท์ ี่ไดส้ ามารถนาไปใช้ประโยชนต์ ่อผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งได้ เรียกวา่ สารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศจึงห มายถึง วธิ ีการปฏบิ ตั ิท่ีมกี ารจดั ลาดบั อยา่ งมีรูปแบบและข้นั ตอนเพ่ือท่ีจะทาใหเ้ กิดประสิทธิภาพในเรื่องของความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถอื ความถกู ตอ้ ง ซ่ึงเป็นเทคโนโลยีท่ีมีการนาคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยสี าหรับการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมมาทางาน ร่วมกนั เพอื่ ใหเ้ กิดการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ โดยนาขอ้ มลู ป้ อนเขา้ สู่เคร่ืองคอมพวิ เตอร์แลว้ ทาการประมวลผลเพื่อใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามตอ้ งการ รูปท่ี 1.1 แสดงการนาคอมพิวเตอร์ การส่ือสาร โทรคมนาคมาใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศ การที่จะไดผ้ ลลพั ธ์ จะตอ้ งทาการป้ อนขอ้ มลู ดิบที่เป็น ตวั เลข ตวั อกั ษร ภาพน่ิง ภาพเคล่ือนไหว หรือเสียงต่าง ๆ เขา้ สู่เคร่ืองคอมพวิ เตอร์เพ่ือทาการประมวลผล ผลลพั ธท์ ี่ได้ คือสารสนเทศท่ีสามารถนาไปใชง้ านดา้ นต่าง ๆ ได้

2 2 บทบาทของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ ( Information System : IS ) คือระบบเฉพาะเจาะจงชนิดหน่ึง ซ่ึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นกลุ่มของส่วนประกอบพ้นื ฐานต่าง ๆ ท่ีทางานเกี่ยวขอ้ งกนั ในการจดั เก็บ จดั การประมวลผล และเผยแพร่แสดงผลขอ้ มลู สารสนเทศและสนบั สนุนกลไกลของผลสะทอ้ นกลบั เพอ่ื ใหบ้ รรลตุ ามวตั ถุประสงค์ โดยทวั่ ไประบบสารสนเทศประกอบดว้ ยส่วนประกอบหลกั ๆ3 ส่วนดว้ ยกนั คือ 1. ส่วนที่นาเขา้ (Inputs)ไดแ้ ก่การรวบรวมและการจดั เตรียมขอ้ มลู ดิบ ส่วนที่นาเขา้ น้ี สามารถมีไดห้ ลายรูปแบบไมว่ า่ จะเป็น การโทรเขา้ เพอื่ ขอขอ้ มลู ในระบบสอบถามเบอร์โทรศพั ท์ ขอ้ มลู ที่ลกู ค้ ากรอกในแบบสอบถาม การใหบ้ ริการของร้านคา้ ฯลฯ ข้ึนอยกู่ บั ส่วนแสดงผลท่ีตอ้ งการ ส่วนที่นาเขา้ น้ีอาจเป็นขบวนการที่ทาดว้ ยตวั เอง หรือเป็นแบบอตั โนมตั ิก็ได้ เช่นการอา่ นขอ้ มลู รายชื่อสินคา้ โดยใชเ้ คร่ืองอ่าน บาร์โคด้ ของหา้ งสรรพสินคา้ จดั เป็นส่วนที่นาเขา้ แบบอตั โนมตั ิ 2. การประมวลผล ( Processing ) เกี่ยวขอ้ งกบั การเปลีย่ นแปลงขอ้ มลู ใหอ้ ยใู่ นรูปของ ส่วนแสดงผลท่ีมีประโยชน์ ตวั อยา่ งของการประมวลผลไดแ้ ก่ การคานวณ การเปรียบเทียบ การเลือกทางเลอื กในการปฏบิ ตั ิงานและการเกบ็ ขอ้ มลู ไวใ้ ชใ้ นอนาคตโดยการประมวลผลสามารถทาไดด้ ว้ ยตนเองหรือสามารถใชค้ อมพวิ เตอร์เขา้ มาช่วยก็ได้ ตวั อยา่ งเช่นระบบคิดเงินเดือนพนกั งาน สามารถคิดไดจ้ ากการนาจานวน ชว่ั โมงการทางานของพนกั งานคูณเขา้ กบั อตั ราค่าจา้ งเพอ่ื ใหไ้ ดย้ อดเงินที่ตอ้ งจ่าย ถา้ ชวั่ โมงการทางานรายสปั ดาห์มากกวา่ 40 ชวั่ โมง อาจมีการคิดเงินล่วงเวลาให้ โดยเพิม่ เขา้ ไปกบั เงินท่ีตอ้ งจ่ายจะทาใหไ้ ดเ้ งินสุทธิที่ตอ้ งจ่ายใหก้ บั พนกั งาน เป็นตน้ 3. ส่วนที่แสดงผล ( Outputs ) เก่ียวขอ้ งกบั การผลิตสารสนเทศที่มีประโยชนม์ กั จะอยใู่ นรูปของเอกสาร หรือรายงานหรืออาจะเป็นเชค็ ที่จ่ายใหก้ บั พนกั งาน รายงานที่นาเสนอผบู้ ริหารแล ะสารสนเทศท่ีถกู ผลติ ออกมาใหก้ บั ผถู้ ือหุน้ ธนาคารหรือกลมุ่ อนื่ ๆ โดยส่วนแสดงผลของระบบหน่ึง อาจใชเ้ ป็นส่วนท่ีนาเขา้ เพอื่ ควบคุมระบบหรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็ได้ เช่นในขบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ พนกั งานขาย ลกู คา้ และนกั ออกแบบเฟอร์นิเจอร์อาจจะทาการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ซ้าแลว้ ซ้าเลา่ เพ่ือใหต้ รงตามความตอ้ งการของลกู คา้ โดยอาจจะใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เขา้ มาช่วยในการออกแบบน้ีดว้ ย จนกระทง่ัไดต้ น้ แบบท่ีตรงตามความตอ้ งการมากท่ีสุด จึงส่งแบบน้นั ไปทาการผลติ เป็นตน้ รูปที่ 1.2 แสดงส่วนประกอบของระบบสารสนเทศ

3 3 ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพวิ เตอร์ ระบบสารสนเทศท่ีใชค้ อมพิวเตอร์ประกอบดว้ ย ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟตแ์ วร์ (Software)ขอ้ มลู (Data) บุคคล (People) ขบวนการ (Procedure) และการสื่อสารขอ้ มลู (Telecommunication) ซ่ึงถกูกาหนดข้ึนเพือ่ ทาการรวบรวม จดั เก็บและประมวลผลขอ้ มลู ใหเ้ ป็นสารสนเทศ รูปท่ี 1.3 แสดงส่วนประกอบของระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ 1. ฮาร์ดแวร์ คืออปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ ที่ใชใ้ นการรวบรวม การนาเขา้ การจดั เก็บ การประมวลผล ขอ้ มลู ใหเ้ ป็นสารสนเทศ และแสดงสารสนเทศที่เป็ นผลลพั ธอ์ อกมา 2. ซอฟตแ์ วร์ คือโปรแกรมหรือชุดคาสง่ั ที่ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานร่วมกบั ฮาร์ดแวร์ และใชใ้ นการประมวลผลขอ้ มลู เป็นสารสนเทศตามที่ตอ้ งการ 3. ขอ้ มลู หมายถงึ ขอ้ มลู และสารสนเทศที่ถกู เก็บอยใู่ นฐานขอ้ มลู โดยฐานขอ้ มลู หมายถึงกลุ่มของค่าความจริงและสารสนเทศท่ีมคี วามเกี่ยวขอ้ งกนั นน่ั เอง 4. บุคคล หมายถึงผทู้ ่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ งกบั การทางานและปฏิบตั ิงานร่วมกบั ระบบสารสนเทศ 5. ขบวนการ หมายถึงกลุม่ ของคาสง่ั หรือกฎท่ีแนะนาวธิ ีการปฏบิ ตั ิงาน กบั คอมพิวเตอร์ในระบบสารสนเทศ ซ่ึงอาจไดแ้ ก่การแนะนาการควบคุมการเขา้ ใชง้ านคอมพิวเตอร์ วิธีการสารองขอ้ มลูสารสนเทศในระบบและวิธีจดั การกบั ปัญหาที่อาจเกิดข้ึนได้ 6. การสื่อสารขอ้ มลู หมายถงึ การส่งสญั ญาณอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ พ่อื ติดต่อส่ือสาร และช่วยให้องคก์ รสามารถเช่ือมระบบคอมพวิ เตอร์เขา้ กบั ระบบเครือข่าย (Network) ที่มปี ระสิทธิภาพได้

44. ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ ระบบสารสนเทศเพ่อื การจดั การหมายถงึ กลมุ่ ของบุคคล ซอฟตแ์ วร์ ฐานขอ้ มลู และอปุ กรณ์ต่างๆ ที่ถกู จดั การเพอื่ ใชใ้ นการจดั การสารสนเทศที่เกิดข้ึนเป็นประจา ใหแ้ ก่ผบู้ ริหาร หรือผทู้ ่ีทาการตดั สินใจ จุดประสงคห์ ลกั ของระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ คือการดาเนินการอยา่ งมปี ระสิทธิภาพในดา้ นการตลาด การผลติ การเงิน และส่วนงานอนื่ ๆ โดยใชแ้ ละจดั เกบ็ ขอ้ มลู ลงในฐานขอ้ มลู รูปท่ี 1.4 แสดงระบบการประมวลผลรายการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านต่างๆ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การเป็นระบบสารสนเทศท่ีใชใ้ นการผลติ รายงานดา้ นการจดั การซ่ึงจะใชใ้ นการสนบั สนุนการตดั สินใจในระดบั ปฏบิ ตั ิงาน ในองคก์ ร แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. รายงานตามตารางเวลา แสดงขอ้ มลู การดาเนินงานขององคก์ รท่ีเกิดข้ึนตามช่วงเวลา อาจจะเป็นช่วงรายวนั รายสปั ดาห์ รายเดือน หรือรายปี มลี กั ษณะคลา้ ยกบั ขอ้ มลู ตน้ ฉบบั ท่ีผา่ นการประมวลผลมาจากหน่วยงานต่างๆ แต่เพิม่ การจดั กลุ่มขอ้ มลู และการสรุปขอ้ มลู ลงไป เพอ่ื ช่วยใหผ้ จู้ กั ารในระดบั ลา่ งสามารถตดั สินใจในการดาเนินงานใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคข์ องผจู้ ดั การระดบั สูงกว่าได้ 2. รายงานกรณียกเวน้ เป็นรายงานท่ีเกิดข้ึนตามเง่ือนไขบางอยา่ ง ซ่ึงมกั จะไมป่ กติ จึงจาเป็นจตอ้ งมี รายงานออกมา โดยในรายงานจะมขี อ้ มลู ที่จาเป็นต่อผจู้ ดั การ ในการตรวจสอบหาสาเหตุของขอ้ ผดิ พลาดที่เกิดข้ึนเท่าน้นั เช่น ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การทาการผลติ รายงานกรณียกเวน้ เมอื่ มกี ารทางานลว่ งเวลามากกวา่ 10% ของเวลาการทางานรวมท้งั หมด เมอ่ื ผจู้ ดั การฝ่ ายผลติ ไดร้ ับรายงาน จะทาการหาสาเหตุที่มกี ารทางานล่วงเวลาเกินกว่าที่กาหนด ซ่ึงอาจมีสาเหตุมาจากมีงานการผลิตมากหรือเกิดจากการวางแผนงานไม่ดี ถา้ เกิด ข้ึนจากการวางแผนไม่ดีแลว้ จะไดท้ าการปรับปรุงแกไ้ ขแผนงานต่อไป 3. รายงานตามคาขอ เกิดข้ึนตามคาขอของผจู้ ดั การ ในหวั ขอ้ ท่ีตอ้ งการ ซ่ึงรายงานอาจจะถกูกาหนดมาก่อนแลว้ แต่ไมท่ าการผลิตออกมาหรืออาจเป็นรายงานที่มีผลมาจากเหตุการณ์ท่ีไมเ่ คยคาดคิดมาก่อน

55. การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศในปัจจุบนั ไดม้ กี ารนามาใชใ้ นหลายสาขาวชิ าชีพ ท้งัในดา้ นการศึกษา ดา้ นธุรกิจอุตสาหกรรม ดา้ นการแพทย์ ดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพือ่ อานวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ การทางาน การศึกษาหาความรู้ ทาใหค้ ุณภาพชีวติ ของคนในสงั คมปัจจุบนั ดีข้ึน นอกจากน้ีหน่วยงานราชการต่างๆ กน็ าเทคโนโลยสี ารสนเทศและ ระบบคอมพวิ เตอร์เขา้ มาอานวยความสะดวกใหก้ บั ประชาชน ในการติดต่อประสานงานกบั ทางราชการและในธุรกิจเอกชนทางดา้ นการโรงแรม และการท่องเท่ียว กใ็ หบ้ ริการขอ้ มลู ข่าวสารและบริการลกู คา้ ผา่ นทางระบบอนิ เทอร์เน็ตทาไดอ้ ยา่ งสะดวกรวดเร็วทนั เหตุการณ์ 5.1 ประยุกต์ใช้ในงานด้านการศึกษา เทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีนามาใชส้ าหรับการเรียนการสอนเป็นการใชเ้ ทคโนโลยสี มยั ใหม่หลายอยา่ ง สอนดว้ ยสื่ออปุ กรณ์ที่ทนั สมยั หอ้ งเรียนสมยั ใหม่ มีอุปกรณ์วิดีโอโปรเจคเตอร์ (VideoProjector)มีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ มรี ะบบการอา่ นขอ้ มลู อเิ ลก็ ทรอนิกส์แบบต่าง ๆ รูปแบบของสื่อที่นามาใชใ้ นดา้ นการเรียนการสอน ก็มหี ลากหลาย ข้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสมในการนามาใช้ เช่นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน อิเลก็ ทรอนิกสบ์ ุค วดิ ีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ ระบบวิดีโอออนดีมานด์ การสืบคน้ขอ้ มลู ในคอมพิวเตอร์ และระบบอินเทอร์เน็ต เป็นตน้- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการนาเอาเทคโนโลยรี วมกบั การออกแบบโปรแกรมการสอนมาใชช้ ่วยสอน ซ่ึงเรียกกนั โดยทว่ั ไปว่าบทเรียน CAI ( Computer - Assisted Instruction ) การจดั โปรแกรมการสอนโดยใชค้ อมพวิ เตอร์ช่วยสอนในปัจจุบนั มกั อยใู่ นรูปของสื่อประสม (Multimedia) ซ่ึงหมายถงึนาเสนอไดท้ ้งั ภาพ ขอ้ ความ เสียง ภาพเคลอ่ื นไหวฯลฯ โปรแกรมช่วยสอนน้ีเหมาะกบั การศึกษาดว้ ยตนเอง และเปิ ดโอกาสใหผ้ ู้ เรียนสามารถโตต้ อบกบั บทเรียนไดต้ ลอด จนมผี ลป้ อนกลบั เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนรู้บทเรียนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และเขา้ ใจในเน้ือหาวิชาของบทเรียนน้นั ๆ - การเรียนการสอนโดยใชเ้ วบ็ เป็นหลกั เป็นการจดั การเรียนที่มีสภาพการเรียนต่างไปจากรูปแบบเดิม การเรียนการสอนแบบน้ีอาศยั ศกั ยภาพและความสามารถของเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต ซ่ึงเป็นการนาเอาส่ือการเรียนการสอนที่เป็นเทคโนโลยี มาช่วยสนบั สนุนการเรียนการสอนใหเ้ กิดการเรียนรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู และเช่ือมโยงเครือข่ายทาใหผ้ เู้ รียนสามารถเรียนไดท้ ุกสถานที่และทุกเวลา การจดั การเรียนการสอนลกั ษณะน้ีมชี ่ือเรียกหลายช่ือ ไดแ้ ก่ การเรียนการสอนผา่ นเวบ็ (Web-basedInstruction) การฝึกอบรมผา่ นเวบ็ (Web-based Trainning) การเรียนการสอนผา่ นเวลิ ด์ไวดเ์ วบ็ (www-based Instruction) การสอนผา่ นสื่อทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (e-learning)เป็ นตน้

6 - อเิ ลก็ ทรอนิกส์บุค คือการเกบ็ ขอ้ มลู จานวนมากดว้ ยซีดีรอม หน่ึงแผน่ สามารถเกบ็ ขอ้ มลูตวั อกั ษรไดม้ ากถงึ 600 ลา้ นตวั อกั ษร ดงั น้นั ซีดีรอมหน่ึงแผน่ สามารถเก็บขอ้ มลู หนงั สือ หรือเอกสารไดม้ ากกวา่ หนงั สือหน่ึงเลม่ และที่สาคญั คือการใชก้ บั คอมพวิ เตอร์ทาใหส้ ามารถเรียกคน้ หาขอ้ มลู ภายในซีดีรอมไดอ้ ยา่ งรวดเร็วโดยใชด้ ชั นี สืบคน้ หรือสารบญั เรื่อง ซีดีรอมจึงเป็นสื่อที่มีบทบาทต่อการศกึ ษาอยา่ งยงิ่ เพราะในอนาคตหนงั สือต่าง ๆ จะจดั เก็บอยใู่ นรูปซีดีรอม และเรียกอา่ นดว้ ยเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีเรียกวา่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์บุค ซีดีรอมมีขอ้ ดีคือสามารถจดั เกบ็ ขอ้ มลู ในรูปของมลั ติมเี ดีย และเมอ่ื นาซีดีรอมหลายแผน่ ใส่ไวใ้ นเคร่ืองอ่านชุดเดียวกนั ทาใหซ้ ีดีรอมสามารถขยายการเกบ็ ขอ้ มลู จานวนมากยงิ่ ข้ึนได้รูปที่ 1.6 แสดงการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นงานดา้ นการศกึ ษา- วดิ ีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ หมายถึงการประชุมทางจอภาพโดยใชเ้ ทคโนโล ยกี ารส่ือสารท่ีทนั สมยั เป็นการประชุมร่วมกนั ระหว่างบุคคลหรือคณะบุคคลท่ีอยตู่ ่างสถานท่ีและห่างไกลกนั โดยใชส้ ่ือทางดา้ นมลั ติมีเดียท่ีใหท้ ้งั ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสียง และขอ้ มลู ตวั อกั ษรในการประชุมเวลาเดียวกนั และเป็นการสื่อสาร 2 ทาง จึงทาให้ ดูเหมือนว่าไดเ้ ขา้ ร่วมประชุมร่วมกนั ตามปกติ ดา้ นการศึกษาวดิ ีโอเทคเลคอนเฟอเรนซ์ ทาใหผ้ เู้ รียนและผสู้ อนสามารถติดต่อส่ือสารกนั ไดผ้ า่ นทางจอภาพ โทรทศั นแ์ ละเสียง นกั เรียนในหอ้ งเรียนที่อยหู่ ่างไกลสามารถเห็นภาพและเสียงของผสู้ อนสามารถเห็นอากบั กิริยาของ ผสู้ อน เห็นการเคล่ือนไหวและสีหนา้ ของผสู้ อนในขณะเรียน คุณภาพของภาพและเสียงข้ึนอยกู่ บั ความเร็วของช่องทางการสื่อสารท่ีใชเ้ ชื่อมต่อระหว่างสองฝั่งที่มกี ารประชุมกนั ไดแ้ ก่ จอโทรทศั นห์ รือจอคอมพวิ เตอร์ลาโพง ไมโครโฟน กลอ้ ง อุปกรณ์เขา้ รหสั และถอดรหสั ผา่ นเครือข่ายการสื่อสารความเร็วสูงแบบไอเอสดีเอน็ (ISDN)

7 รูปท่ี 1.7 แสดงการเช่ือมต่อระบบวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ - ระบบวิดีโอออนดีมานด์ (Video on Demand) เป็นระบบใหมท่ ่ีกาลงั ไดร้ ับความนิยมนามาใช้ ในหลายประเทศเช่น ญี่ป่ ุนและสหรัฐอเมริกาโดยอาศยั เครือข่ายคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ทาให้ผชู้ มตามบา้ นเรือนต่าง ๆ สามารถเลอื กรายการวิดีทศั น์ที่ตนเองตอ้ งการชมไดโ้ ดยเลือกตามรายการ(Menu) และเลือกชมไดต้ ลอดเวลา วิดีโอออนดีมานดเ์ ป็นระบบที่มีศนู ยก์ ลางการเกบ็ ขอ้ มลู วีดิทศั น์ไวจ้ านวนมาก โดยจดั เกบ็ ในรูปแหลง่ ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ (Video Server) เมอื่ ผใู้ ชต้ อ้ งการเลอื กชมรายการใด ก็เลอื กไดจ้ ากฐานขอ้ มลู ที่ตอ้ งการ ระบบวดิ ีโอ ออนดีมานดจ์ ึงเป็นระบบที่จะนามาใช้ในเรื่องการเรียนการสอนทางไกลไดโ้ ดยไม่มขี อ้ จากดั ดา้ นเวลา ผเู้ รียนสามารถเลอื กเรียนในสิ่งที่ตนเองตอ้ งการเรียนหรือสนใจได้ - การสืบคน้ ขอ้ มลู (Search Engine) ปัจจุบนั ไดม้ กี ารกล่าวถึงระบบการสืบคน้ขอ้ มลู กนั มากแมแ้ ต่ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็มีการประยกุ ตใ์ ชไ้ ฮเปอร์เทก็ ซใ์ นการสืบคน้ ขอ้ มลู จนมีโปรโตคอลชนิดพิเศษท่ีใชก้ นั คือ World Wide Web หรือเรียกว่า www. โดยผใู้ ชส้ ามารถเรียกใชโ้ ปรโตคอล http เพอ่ื เชื่อมโยงเขา้ สู่ระบบไฮเปอร์เท็กซ์ ซ่ึงเป็นฐานขอ้ มลู ในอินเทอร์เน็ตไฮเปอร์เทก็ ซม์ ลี กั ษณะเป็นแบบมลั ติมเี ดียเพราะสามารถสร้างเป็นฐานขอ้ มลู ขนาดใหญ่ ท่ีเก็บไดท้ ้งั ภาพเสียง และตวั อกั ษร มรี ะบบการเรียกคน้ ท่ีมปี ระสิทธิภาพโดยใชโ้ ครงสร้างดชั นีแบบลาดบั ช้นั ภมู ิโดยทวั่ ไป ไฮเปอร์เทก็ ซจ์ ะเป็นฐานขอ้ มลู ที่มีดชั นีสืบคน้ แบบเดินหนา้ ถอยหลงั และบนั ทึกร่องรอยของการสืบคน้ ไว้ โปรแกรมท่ีใชใ้ นการสร้างไฮเปอร์เทก็ ซม์ เี ป็นจานวนมากส่วนโปรแกรมท่ีมีชื่อเสียงไดแ้ ก่ HTML Compossor FrontPage Marcromedia DreaWeaver เป็นตน้ ปัจจุบนั เราใชว้ ธิ ีการสืบคน้ ขอ้ มลู เพอ่ื นาขอ้ มลู ท่ีไดไ้ ปใชป้ ระกอบในการทาเอกสารรายงานต่าง ๆไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว

8รูปท่ี 1.8 แสดงการสืบค้นข้อมลู เร่ืองฉลามจากเวบ็ ไซค์ Google- อินเทอร์เน็ต คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซ่ึงประกอบดว้ ยเครือข่ายยอ่ ยและเครือข่ายใหญ่สลบั ซบั ซอ้ นมากมายเช่ือมต่อกนั มากกว่า 300 ลา้ นเคร่ืองในปัจจุบนั โดยใชใ้ นการติดต่อสื่อสารขอ้ ความรูปภาพ เสียงและอ่นื ๆ โดยผา่ นระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ีมีผใู้ ชง้ านกระจายกนั อยทู่ ว่ั โลกปัจจุบนั ไดม้ ีการนาระบบอินเทอร์เน็ตเขา้ มาใชใ้ นวงการศกึ ษากนั ทว่ั โลก ซ่ึงมปี ระโยชนใ์ นดา้ นการเรียนการสอนเป็นอยา่ งมาก5.2 ประยุกต์ใช้ในงานทะเบียนของสถานศึกษา - งานรับมอบตวั ทาหนา้ ท่ีตรวจสอบหลกั ฐานที่นกั ศึกษานามารายงานตวั จากน้นั ก็จดั เก็บประวตั ิภมู หิ ลงั นกั ศกึ ษา เช่น ภมู ิลาเนา บิดามารดา ประวตั ิการศกึ ษา ทุนการศึกษา ไวใ้ นแฟ้ มเอกสารขอ้ มลู ประวตั ินกั ศกึ ษา - งานทะเบียนเรียนรายวิชา ทาหนา้ ที่จดั รายวชิ าที่ตอ้ งเรียนใหก้ บั นกั ศึกษา ในแต่ละภาคเรียนทุกช้นั ปี ตามแผนการเรียนของแต่ละแผนก แลว้ จดั เกบ็ ไวใ้ นแฟ้ มขอ้ มลู ผลการเรียน - งานประมวลผลการเรียน ทาหนา้ ท่ีนาผลการเรียนจากอาจารยผ์ สู้ อนมาประมวลในแต่ละภาคเรียน จากน้นั กจ็ ดั เก็บไวใ้ นแฟ้ มเอกสารขอ้ มลู ผลการเรียน และแจง้ ผลการเรียนใหผ้ ทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งทราบ - งานตรวจสอบผจู้ บการศกึ ษา ทาหนา้ ท่ีตรวจสอบรายวิชา และผลการเรียนที่นกั ศึกษาเรียนต้งั แต่เร่ิมตน้ จนกระทง่ั จบหลกั สูตรจากแฟ้ มเอกสารขอ้ มลู ผลการเรียนว่าผา่ นเกณฑก์ ารจบหรือไม่ - งานส่งนกั ศึกษาฝึกงาน ทาหนา้ ที่หาขอ้ มลู จากสถานท่ีฝึกงาน ในแต่ละแห่งวา่ สามารถรองรับจานวน นกั ศกึ ษาท่ีจะฝึกงานในรายวิชาต่าง ๆ ไดเ้ ป็นจานวนเท่าใด จากน้นั ก็จดั นกั ศกึ ษาออกฝึกงานตามรายวิชา ใหส้ อดคลอ้ งกบั จานวนที่สถานประกอบการตอ้ งการ

95.3 ประยุกต์ใช้ในห้างสรรพสินค้าและสาขาย่อยเน่ืองจากหา้ งสรรพสินคา้ เป็นศนู ยก์ ารคา้ ขนาดใหญ่ มีอยหู่ ลายสาขาท่ีจดั จาหน่ายอยทู่ ว่ั ประเทศมีซพั พลายเออร์กว่าพนั ราย และมีพนกั งานอยหู่ ลายพนั คน ดงั น้นั ขอ้ มลู ที่เกี่ยวขอ้ ง และการตดั สินใจตอ้ งทาอยา่ งรวดเร็วเพอ่ื ใหท้ นั ต่อเหตุการณ์ ดงั น้นั การที่ตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยจี ึงเป็นส่ิงท่ีหลกี เล่ยี งไมไ่ ด้ การใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์และเคร่ืองอ่านบาร์โคด้ จึงมีความจาเป็นฝ่ ายเทคโนโลยสี ารสนเทศจะเป็นฝ่ ายสนบั สนุน ส่ิงสาคญั ที่สุดคือ เราตอ้ งใหค้ วามมน่ั ใจไดว้ า่ระบบจะตอ้ งทางานไดไ้ ม่มีปัญหาขดั ขอ้ ง ปัจจุบนั ระบบการเชื่อมต่อหา้ งสรรพสินคา้ จะเป็นแบบสองลกั ษณะคือในต่างจงั หวดั จะใชก้ ารเชื่อมต่อผา่ นดาวเทียม ในกรุงเทพจะใชก้ ารเช่ือมต่อแบบออนไลน์ซ่ึงจะมกี ารรับส่งขอ้ มลู กนั ทุกวนั ในส่วนของไอที นอกจากจะตอ้ งทาใหร้ ะบบสามารถทางานได้ตลอดเวลาแลว้ ยงั ตอ้ งมนั่ ใจดว้ ยว่าขอ้ มลู ท่ีรับส่งกนั น้นั มคี วามถกู ตอ้ ง ซ่ึงในแต่ละวนั มีขอ้ มลู มากที่จะตอ้ งผา่ นการประมวลผลใหแ้ ก่ผบู้ ริหารเพือ่ ใชป้ ระกอบการตดั สินใจ ไม่ว่าจะเป็นขอ้ มลู ยอดขายขอ้ มลู สตอ็ กและขอ้ มลู ต่างๆ ที่ ผบู้ ริหารตอ้ งการ5.4 ประยุกต์ใช้ในงานสาธารณสุขและการแพทย์เทคโนโลยสี ารสนเทศไดร้ ับการนามาใชใ้ นการพฒั นาดา้ นสาธารณสุขอยา่ งกวา้ งขวาง และทาใหง้ านดา้ น สาธารณสุขเจริญกา้ วหนา้ อยา่ งรวดเร็ว โดยกระทรวงสาธารณสุขไดป้ รับระบบการบริหารงาน และนาเทคโนโลยี สารสนเทศมาใชใ้ นงานต่างๆ ดงั น้ีรูปที่ 1.9 แสดงการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในวงการสาธารณสุขและการแพทย์

10- ดา้ นการลงทะเบียนผปู้ ่ วย ต้งั แต่เร่ิมทาบตั ร จ่ายยา เก็บเงิน- การสนบั สนุนการรักษาพยาบาล โดยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ต่างๆเขา้ ดว้ ยกนั สามารถสร้างเครือข่ายขอ้ มลู ทางการแพทย์ แลกเปลยี่ นขอ้ มลู ของผปู้ ่ วย- สามารถใหค้ าปรึกษาทางไกลโดยแพทยผ์ เู้ ชี่ยวชานาญ เทคโนโลยสี ารสนเทศ จะช่วยให้แพทยส์ ามารถเห็นหนา้ หรือท่าทางของผปู้ ่ วยได้ ช่วยใหส้ ่งขอ้ มลู ท่ีเป็นเอกสาร หรือภาพเพ่ือประกอบการพิจารณาของแพทยไ์ ด้- เทคโนโลยสี ารสนเทศจะช่วยในการ ใหค้ วามรู้แก่ประชาชนของแพทย์ หรือหน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ เป็นไปดว้ ยความสะดวก รวดเร็ว ไดผ้ ลข้ึน โดยสามารถใชส้ ่ือต่างๆ เช่นภาพน่ิงภาพเคลอื่ นไหวมเี สียงและอืน่ ๆ เป็นตน้- เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยใหผ้ บู้ ริหารสามารถกาหนดนโยบาย และติดตามกากบั การดาเนินงานตามนโยบายไดด้ ียงิ่ ข้ึน โดยอาศยั ขอ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ งฉบั ไว และขอ้ มลู ท่ีจาป็น ท้งั น้ีอาจใช้คอมพิวเตอร์เป็นตวั เก็บขอ้ มลู ต่างๆ ทาใหก้ ารบริหารเป็นไปไดด้ ว้ ยความรวดเร็ว ถกู ตอ้ งมากยงิ่ ข้ึน- ในดา้ นการใหค้ วามรู้หรือการเรียน การสอนทางไกล เทคโนโลยสี ารสนเทศโดยเฉพาะดาวเทียมจะช่วยใหก้ ารเรียนการสอนทางไกลทางดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณะสุขเป็นไปไดม้ ากข้ึนประชาชนสามารถเรียนรู้พร้อมกนั ไดท้ ว่ั ประเทศและ ยงั สามารถโตต้ อบหรือถามคาถามไดด้ ว้ ย5.5 ประยุกต์ใช้ในงานด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลมุ่ นกั วทิ ยาสตร์ วิศวกรที่ตอ้ งการศกึ ษาพฤติกรรมบางอยา่ งของสิ่งมีชีวต รวมถงึส่ิงแวดลอ้ มต่างๆ เช่นศกึ ษาการกระจายถนิ่ ท่ีอยขู่ องนก การกระจายของแบคทีเรีย การสร้างอาณาจกั รของมด ผ้งึ ชีวติ ความเป็นอยขู่ องสตั วป์ ่ าต่าง ๆ การพ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั ตลอดจนระบบนิเวศวิทยาความสนใจในการจาลองความเป็นอยขู่ อง สิ่งมีชีวิตไดม้ ีมานานแลว้ เร่ิมต้งั แต่คร้ัง จอหน์ พอยเมน ผเู้ ป็นนกั คณิตศาสตร์ เสนอแนวคิดการทาใหเ้ ครื่องจกั รทางานโดยอตั โนมตั ิภายใตโ้ ปรแกรม ซ่ึงเป็นรากฐานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ จนถึงปัจจุบนั เกมแห่งชีวิตจึงเกิดข้นึรูปท่ี 1.10 แสดงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านวิทยาศาสตร์

115.6 ประยุกต์ใช้ในงานด้านการส่ือสารและโทรคมนาคม เทคโนโลยขี องการส่ือสารและโทรคมนาคมในปัจจุบนั กา้ วไกลไปมาก มบี ริการมากมายท่ีทนั สมยั และตอบรับกบั การนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินธุรกิจ ตวั อยา่ งการใชโ้ ทรศพั ทใ์ นปัจจุบนั น้ีก็มไิ ดมีไวเ้ พียงสาหรับคุยสนทนาเพยี งอยา่ งเดียวอีกต่อไป แต่มนั สามารถช่วยงานไดม้ ากข้ึน โดยอา้ งอิงขอ้ มลู และการเปิ ดใหบ้ ริการของบริษทั มีติดต่อส่ือสารผา่ นดาวเทียมท้งั ภาพและเสียง มโี ทรศพั ทม์ ือถือรุ่นต่าง ๆ ออกมามากมาย พฒั นาท้ั งหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน เช่นเทเลคอม เอเชีย คอร์ปอร์เรชน่ัจากดั (มหาชน) ซ่ึงเป็นผวู้ างแผนการก่อสร้าง และติดต้งั ขยายบริการโทรศพั ทพ์ ้นื ฐาน 2.6 ลา้ นเลขหมายครอบคลุมพ้ืนที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงการซ่อมบารุงรักษาเป็นระยะเวลา 25 ปี และเป็นหน่ึงในผใู้ หบ้ ริการในปัจจุบนั5.7 ประยุกต์ใช้ในงานด้านการออกแบบผลิตภณั ฑ์ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศดา้ นการออกแบบ ไดม้ ีการนาคอมพวิ เตอร์มาช่วยในการออกแบบ ( CAD : Computer Aided Design) ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ออกแบบสินคา้ และสามารถใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยควบคุมกระบวนการผลิต ( CAM : ComputerAided Menufacturing ) เช่นควบคุมอุณหภมู ิ ควบคุมคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์ ลดแรงงานโดยใชค้ อมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนตท์ างาน รูปท่ี 1.11 แสดงการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานด้านการออกแบบ5.8 ประยุกต์ใช้ในสานักงานภาครัฐและเอกชน ปัจจุบนั ไดม้ กี ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใชใ้ นหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆมากมาย เช่น การทาบตั รประจาตวั ประชาชน การเกิด การตาย การเสียภาษีอากร การทาใบอนุญาตขบั รถยนต์ การจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่างๆ การประมวลผลคะแนนเลือกต้งั ฯลฯ เป็นตน้ งานเหลา่ น้ีไดม้ กี ารนาระบบสานกั งานอตั โนมตั ิเขา้ มาใช้ เพอ่ื ทาใหไ้ ดข้ อ้ มลู ข่าวสารท่ีรวดเร็ว และยงัตอบสนองกบั การบริหารยคุ ใหมท่ ่ีตอ้ งใชข้ อ้ มลู เป็นหลกั ในการบริหารจดั การ

12กล่าวโดยสรุปคือ ไดม้ กี ารนาคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใชใ้ นหน่วยงานต่างๆ เกือบทุกวงการ ท้งั ภาครัฐและเอกชนไมว่ ่าจะอยใู่ นรูปของบุคคลหรือองคก์ รใด ๆ ก็ตาม ฉะน้นั จึงจาเป็นอยา่ งยง่ิ ท่ีจะตอ้ งมกี ารศกึ ษาทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในหน่วยงานดา้ นการศึกษาก็มีความต่ืนตวั และเปิ ดทาการเรียนการสอนในหลกั สูตรดงั กลา่ ว ท้งั ในระดบั อาชีวศึกษาและอดุ มศกึ ษาและเป็นสาขาวิชาท่ีมีนกั ศึกษาใหค้ วามสนใจกนั มากเนื่องจากยงั มีตลาดแรงงานรองรับมากนนั่ เอง6. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศการพฒั นาเทคโนโลยสี ารสนเทศจนสามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งมากมาย นบั ได้วา่ เป็นยคุ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ หรือยคุ ขอ้ มลู ข่าวสาร ซ่ึงก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อมวลมนุษยอ์ ยา่ งมหาศาล ยงั ผลทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลง การเปลย่ี นแปลงอะไรกต็ ามยอ่ มมีผลกระทบต่อบุคคล องคก์ รหรือสงั คม เราสามารถจาแนกผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศออกเป็นสองดา้ นคือ ผลกระทบดา้ นบวกและผลกระทบดา้ นลบ ดงั น้ี6.1 ผลกระทบด้านบวก- เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลติ ชีวิตคนในสงั คมไดร้ ับความสะดวกสบาย เช่น การติดต่อผา่ นธนาคารดว้ ยระบบธนาคารท่ีบา้ น (Home Banking) การทางานท่ีบา้ น ติดต่อส่ือสารดว้ ยระบบเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต การบนั เทิงพกั ผอ่ นดว้ ยระบบมลั ติมเี ดีย เป็นตน้- เป็นสงั คมโลกแห่งการส่ือสารเกิดข้ึน โดยสามารถเอาชนะเร่ืองระยะทาง เวลา และสถานที่ได้ ดว้ ยความเร็วในการติดต่อส่ือสารที่เป็นเครือข่ายความเร็วสูง และท่ีเป็นเครือข่าย แบบไร้สาย ทาให้มนุษยส์ ามารถติดต่อถึงกนั อยา่ งรวดเร็วรูปที่ 1.12 แสดงการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วในยคุ เทคโนโลยีสารสนเทศ

13- มีระบบผเู้ ช่ียวชาญต่างๆ ในฐานขอ้ มลู ความรู้ เกิดการพฒั นาคุณภาพชีวิตในดา้ นที่เก่ียวกบัสาธารณสุขและการแพทย์ แพทยท์ ี่อยใู่ นชนบทกส็ ามารถวินิจฉยั โรคจากฐานขอ้ มลู ความรู้ของผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะทางการแพทยใ์ นสถาบนั การแพทยท์ ี่มชี ื่อเสียงไดท้ วั่ โลก หรือใชว้ ิธีปรึกษา แพทย์ผเู้ ชี่ยวชาญในระบบทางไกลไดด้ ว้ ย - เทคโนโลยสี ารสนเทศสร้างโอกาสใหค้ นพิการ หรือผดู้ อ้ ยโอกาสจากการพกิ ารทางร่างกายเกิดการสร้างผลิตภณั ฑช์ ่วยเหลือคนพกิ ารใหส้ ามารถพฒั นาทกั ษะและความรู้ได้ เพื่อใหค้ น พกิ ารเหลา่ น้นั สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ ผพู้ กิ ารจึงไม่ถกู ทอดท้ิงใหเ้ ป็นภาระของสงั คมรูปที่ 1.13 แสดงสือ่ การเรียนรู้สาหรับคนพิการหรือผูด้ อ้ ยโอกาส - พฒั นาคุณภาพการศกึ ษา โดยเกิดการศึกษาในรูปแบบใหม่ กระตุน้ ความสนใจแก่ผเู้ รียน โดยใชค้ อมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอน (Computer-Assisted Instruction : CAI) และการเรียนรู้โดยใชคอมพิวเตอร์ ( Computer-Assisted Learning : CAL ) ทาใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจในในบทเรียนมากยง่ิ ข้ึน ไม่ซ้าซากจาเจผเู้ รียนสามารถเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ ไดด้ ว้ ยนอกจากน้นั ยงั มบี ทบาทต่อการนามาใชใ้ นการสอนทางไกล (Distance Learning) เพอ่ืผดู้ อ้ ยโอกาสทางการศึกษาไดอ้ ีกดว้ ย - การทางานเปลีย่ นแปลงไปในทางที่ดีข้ึน กล่าวคือช่วยลดเวลาในการทางานใหน้ อ้ ยลง แต่ได้ผลผลิตมากข้ึน เช่น การใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ช่วยคิดบญั ชี การสร้างกราฟ แผนภูมิ ออกแบบงานลกั ษณะต่างๆ เป็นตน้ - ผบู้ ริโภคไดร้ ับประโยชนจ์ ากการบริโภคสินคา้ ท่ีหลากหลายและมีคุณภาพดีข้ึน ความกา้ วหนา้ทางเทคโนโลยี ทาใหร้ ูปแบบของผลติ ภณั ฑม์ คี วามแปลกใหม่และหลากหลายมากยง่ิ ข้ึน ผผู้ ลิตผลิตสินคา้ ท่ีมีคุณภาพ ผบู้ ริโภคสามารถเลือกซ้ือไดต้ ามตอ้ งการ และช่องทางทางการคา้ กม็ ใี หเ้ ลอื กมากข้ึนเช่น การเลือกซ้ือสินคา้ ทางอนิ เทอร์เน็ตและการพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ เป็นตน้6.2 ผลกระทบด้านลบ

14- ก่อใหเ้ กิดความเครียดในสงั คมมากข้ึน เน่ืองจากมนุษยไ์ มช่ อบการเปลย่ี นแปลง เคยทาอะไรแบบใดมกั จะชอบทาอยา่ งน้นั ไมช่ อบการเปล่ยี นแปลง แต่เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ ไปเปลี่ ยนแปลงบุคคลที่รับต่อการเปลี่ยนแปลงไม่ไดจ้ ึงเกิดความวิตกกงั กล จนกลายเป็นความเครียด กลวั วา่ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศจะทาให้ คนตกงาน เพราะสิ่งเหล่าน้ีจะเขา้ มาทดแทนมนุษย์- ก่อใหเ้ กิดการรับวฒั นธรรม หรือแลกเปล่ียนวฒั นธรรมของคนในสงั คมโลกทาให้ พฤติกรรมที่แสดงออก ดา้ นการแต่งกาย และการบริโภคเปลยี่ นแปลงไป การมอมเมาเยาวชน ในรูปของเกมส์อิเลก็ ทรอนิกส์ ส่งผลกระทบต่อการพฒั นาอารมณ์และจิตใจของเยาวชน เกิดการกลนื วฒั นธรรมด้งั เดิมซ่ึงแสดงถงึ เอกลกั ษณ์ของสงั คมน้นั ๆ- ก่อใหเ้ กิดผลดา้ นศลี ธรรม การติดต่อสื่อสารท่ีร วดเร็วในระบบเครือข่ายมผี ลก่อใหเ้ กิดโลกไร้พรมแดน แต่เมอ่ื พิจารณาศีลธรรมของแต่ละประเทศพบว่ามีความแตกต่างกนั ประเทศต่างๆ ผคู้ นอยู่ร่วมกนั ไดด้ ว้ ยจารีตประเพณี และศลี ธรรมดีงามของประเทศน้นั ๆ การแพร่ภาพหรือขอ้ มลู ข่าวสารท่ีไมด่ ีไปยงั ประเทศต่างๆ มีผลกระทบต่อความรู้สึกของคนในประเทศน้นั ๆ ท่ีนบั ถือศาสนาแตกต่างกนั- การมีส่วนร่วมของคนในสงั คมลดนอ้ ยลง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ทาใหเ้ กิดความสะดวกรวดเร็วในการสื่อสาร และการทางาน แต่ในอกี ดา้ นหน่ึงการมสี ่วนร่วมของกิจกรรมทาง สงั คมที่มีการพบปะสงั สรรคก์ นั จะมีนอ้ ยลง ผคู้ นมกั อยแู่ ต่ที่บา้ นหรือที่ทางานของตนเองมากข้ึน- การละเมดิ สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลโดยการเผยแพร่ขอ้ มลู หรือรูปภาพต่อสาธารณชน ซ่ึงขอ้ มลูบางอยา่ งอาจไมเ่ ป็นจริงหรือยงั ไม่ไดพ้ สิ ูจน์ความถกู ตอ้ งออกสู่สาธารณชน ก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อบุคคลโดยไม่สามารถป้ องกนั ตนเองได้ การละเมิ ดสิทธิส่วน บุคคล เช่นน้ีตอ้ งมีกฎหมายออกมาใหค้ วามคุม้ ครองเพื่อใหน้ าขอ้ มลู ต่างๆ มาใชใ้ นทางที่ถกู ตอ้ ง- เกิดช่องวา่ งทางสงั คม การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะเกี่ยวขอ้ งกบั การลงทุน ผใู้ ชจ้ ึงเป็นชนช้นั ในอกี ระดบั หน่ึงของสงั คม ในขณะที่ชนช้นั ระดบั รองลงมามอี ยจู่ านวนมากกลบั ไมม่ ี โอกาสใช้ และผู้ที่ยากจนกไ็ ม่มโี อกาสรู้จกั กบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ- อาชญากรรมบนเครือข่าย ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยสี ารสนเทศก่อใหเ้ กิดปัญหาใหมๆ่ ข้ึนเช่น ปัญหาอาชญากรรม ตวั อยา่ งเช่น อาชญากรรมในรูปของการขโมยความลบั การขโมย ขอ้ มลูสารสนเทศ การใหบ้ ริการ สารสนเทศที่มีการหลอกลวง รวมถงึ การบ่อนทาลายขอ้ มลู และไวรัส- ก่อใหเ้ กิดปัญหาดา้ นสุขภาพ นบั ต้งั แต่คอมพิวเตอร์เขา้ มามบี ทบาทในการทางาน การศึกษาบนั เทิง ฯลฯ การจอ้ งมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มผี ลเสียต่อสายตาซ่ึงทาใหส้ ายตา ผดิ ปกติ มีอาการแสบตา เวยี นศรีษะ นอกจากน้นั ยงั มีผลต่อสุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท

157. แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคตความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศไม่ใช่จะมอี ิทธิพลต่อนกั สารสนเทศ นกั วทิ ยาศาสตร์วศิ วกรและผอู้ ยใู่ นแวดวงสารสนเทศเท่าน้นั ในอนาคตเทคโนโลยสี ารสนเทศจะมอี ิทธิพลต่อทุกๆ คนในครอบครัว หน่วยงานต่างๆ นอกจากคอมพิวเตอร์จะเป็นอุปกรณ์สาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศแลว้ ยงั จะกลายเป็นเครื่องมือเคร่ืองใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เช่นเดียวกบั รถยนต์ ตูเ้ ยน็ เคร่ืองรับโทรทศั น์แลว้ คอมพวิ เตอร์จะรวมอยใู่ นอุปกรณ์ดงั กล่าวดว้ ยการเจริญเติบโตระบบส่ือสารหน่ึงเดียวที่รวมเอาระบบทางด่วน ขอ้ มลู การส่ือสารแบบต่างๆ เขา้ดว้ ยกนั ระบบการส่ือสารที่ชา้ จะค่อยๆ ถกู แทนที่โดยระบบส่ือสารท่ีเร็วและมปี ระสิทธิภาพมาก ระบบการสื่อสารแบบไร้สายจะ เขา้ มาแทนท่ีระบบการสื่อสารแบบมีสาย คอมพวิ เตอร์จะไมเ่ ป็นเพยี งกล่องสี่เหลีย่ มที่วางอยบู่ นโต๊ะทางานอกี ต่อไป แต่คอมพิวเตอร์จะเป็นส่วนหน่ึงท่ีบรรจุอยใู่ นอปุ กรณ์หรือเคร่ืองอานวยความสะดวกในชีวติ ประจาวนั เช่น ตูเ้ ยน็ รถยนต์ และอน่ื ๆ อีกมากรูปที่ 1.14 แสดงการติดต่อส่ือสารที่รวดเร็วในยคุ เทคโนโลยีสารสนเทศ ในอนาคตผคู้ นจะมคี วามสะดวกสบายมากยง่ิ ข้ึน เพราะอุปกรณ์ทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศจะอานวยความสะดวกใหต้ ลอดเวลา และจะเขา้ มาในชีวิตประจาวนั ของเราโดยท่ีไม่สามารถท่ีจะปฏเิ สธส่ิงเหลา่ น้ีได้ วธิ ีการท่ีจะรองรับส่ิงเหลา่ น้ีคือทาการศกึ ษาและทดลองใชจ้ ะทาใหอ้ ยใู่ นสงั คมน้ีไดอ้ ยา่ งดี

16สรปุ หน่วยท่ี 1ที่ 1แนวคิด การทางาน ตลอดจนการดาเนินชีวติ ของผคู้ นในสงั คมท้งั ในเมืองใหญ่และชนบท ต่างกไ็ ดร้ ับอิทธิพลอนั เนื่องมาจากการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นเทคโนโลยมี ากบา้ งนอ้ ยบา้ งต่างระดบั กนั ไปบางคร้ังเราก็ซึมซบั และรับเอาเทคโนโลยบี างอยา่ งเขา้ มาอยา่ งเป็นธรรมชาติที่สุด เช่น การใชโ้ ทรศพั ท์จากชนบทที่ห่างไกลยากแก่การที่คมนาคมจะเขา้ ถงึ อาจเกิดข้ึนไดโ้ ดยระบบสื่อสารผา่ นดาวเทียม ซ่ึงทาใหท้ ้งั ผพู้ ดู และผฟู้ ังต่างกไ็ ดร้ ับขอ้ มลู ข่าวสารถงึ กนั หรือถา้ เป็นการทางาน การ แข่ งขนั ทางธุรกิจท่ีจะประสบความสาเร็จใน ยคุ น้ีน้นั จะตอ้ งอาศยั ท้งั ความถกู ตอ้ งแม่นยา ความรวดเร็วในการตดั สินใจการจะทาส่ิงเหลา่ น้ีไดด้ ีตอ้ งอาศยั ขอ้ มลู ข่าวสารท่ีจะทาใหเ้ ราสามารถตดั สินใจไดแ้ ละวธิ ีหน่ึงท่ีจะทาใหไ้ ดม้ าซ่ึงขอ้ มลู ข่าวสารเหล่าน้ี กด็ ว้ ยการท่ีเรานาเอา เทคโนโลยดี า้ นคอมพวิ เตอร์และการติดต่อส่ือสารผา่ นเครือข่ายคอมพวิ เตอร์เขา้ มาช่วยรูปที่ 1.15 แสดงไมโครโปรเซสเซอร์ จะเป็นส่วนหนึ่งในร่ างกายมนุษย์

17 แบบทดสอบหลงั เรียน วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองตน้ หน่วยที่ 1 พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตอนที่ 1 จงตอบคาถามต่อไปนี้1. จงอธบิ ายความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. เทคโนโลยสี ารสนเทศมบี ทบาทต่อชวี ติ ประจาวนั อย่างไร..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. ระบบสารสนเทศท่ใี ชค้ อมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ยส่งิ ใด..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................4. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศในดา้ นลบมอี ะไรบา้ ง..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................5. แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคตจะเป็นอยา่ งไร.........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

18 แบบทดสอบหลงั เรียน วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้อื งตน้ หน่วยท่ี 1 พ้นื ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศตอนที่ 2 จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกต้องเพยี งคาตอบเดียว1. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ กั ษณะของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ข. ความน่านบั ถอื ก. มรี ูปแบบและขนั้ ตอน ง. ความถูกตอ้ ง ค. มปี ระสทิ ธิภาพ2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่บทบาทของระบบสารสนเทศในหน่วยงานก. ทาลายขอ้ มลู ข. จดั เก็บขอ้ มลูค. เผยแพร่ขอ้ มลู ง. จดั การประมวลผลขอ้ มลู3. ขอ้ ใดคอื ส่วนประกอบท่ถี กู ตอ้ งของระบบสารสนเทศทใ่ี ชค้ อมพวิ เตอร์ก. ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ หน่วยป้อนขอ้ มลู ข. ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ หน่วยความจาค. ฮารด์ แวร์ หน่วยแสดงผล บคุ คล ง. ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ ขบวนการ4. ขอ้ ใดคือจุดประสงคห์ ลกั ของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การก. การดาเนินการดา้ นการตลาดทด่ี ี ข. การดาเนินการดา้ นการผลติ ท่ดี ีค. การดาเนนิ การดา้ นการเงนิ ท่ดี ี ง. ถกู ทกุ ขอ้5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การประยุกตใ์ ชเ้ทคโนโลยสี ารสนเทศดา้ นการศกึ ษาก. ใชโ้ ปรแกรม CAI ข. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ สบื คน้ ขอ้ มลูค. ออกแบบผลติ ภณั ฑด์ ว้ ย Autocad ง. ฉายวดิ โี อโปรเจคเตอร์6. ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ ารประยุกตใ์ ชเ้ทคโนโลยสี ารสนเทศดา้ นการแพทย์ก. ลงทะเบยี นผูป้ ่วย ข. กายภาพบาบดัค. ใหค้ าปรึกษาทางไกล ง. แลกเปลย่ี นขอ้ มลู7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การประยุกตใ์ ชเ้ทคโนโลยสี ารสนเทศในสานกั งานก. การออกใบเสร็จดว้ ยโปรแกรม Excel ข. ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปทาบตั รค. เขยี นคารอ้ งเอกสารหาย ง. เสยี ภาษที างอินเทอรเ์ น็ต8. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศต่อมนุษยใ์ นดา้ นบวกคือขอ้ ใด

19ก. ก่อใหเ้กดิ การรบั วฒั นธรรม ข. ผลดา้ นศลี ธรรมค. การทางานเปลย่ี นไป ง. การมสี ว่ นร่วมของสงั คม9. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศต่อมนุษยใ์ นดา้ นลบคือขอ้ ใดก. ก่อใหเ้กิดการรบั วฒั นธรรม ข. การบรโิ ภคเปลย่ี นไปค. การทางานเปลย่ี นไป ง. การติดต่อส่อื สาร10. แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคตจะเป็นอย่างไรก. ระบบอตั โนมตั ิ ข. ประกอบธุรกจิ ท่บี า้ นค. ตรวจสอบงานทางจอมอนเิ ตอร์ ง. ถูกทกุ ขอ้

201. ระบบคอมพวิ เตอร์คอมพวิ เตอร์หมายถงึ เครื่องจกั รกลทางดา้ นอเิ ลก็ ทรอนิกส์ท่ีมนุษยค์ ิดคน้ ข้ึนมาเพ่อื อานวยความสะดวกในดา้ นต่าง ๆ เช่น การคานวณ การออกแบบ การเก็บขอ้ มลู โดยมนุษยส์ ามารถเขียนโปรแกรมหรือคาสงั่ สง่ั ใหค้ อมพวิ เตอร์ทางานตามข้นั ตอนที่กาหนด และประมวลผลออกมาตามท่ีตอ้ งการได้ ระบบคอมพิวเตอร์ คือองคป์ ระกอบหลกั ที่จะทาใหเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์สามารถทางานไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ ถา้ ขาดองคป์ ระกอบส่วนใดส่วนหน่ึงแลว้ คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถท่ีจะทางานได้ ระบบของคอมพวิ เตอร์น้ีประกอบไปดว้ ยองคป์ ระกอบหลกั ท่ีสาคญั 3 ส่วนคือ1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คืออุปกรณ์หรือช้ินส่วนของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ที่มวี งจรไฟฟ้ าอยภู่ ายในเป็นส่วนใหญ่ สามารถจบั ตอ้ งได้ เช่น กล่องซีพยี ู (Case) จอภาพ (Monitor)แป้ นพมิ พ์ (Keyboard) สแกนเนอร์(Scanner)เมนบอร์ด (Mainboard) ฮาร์ดดิสก(์ Harddisk)เคร่ืองพมิ พ(์ Printer) เป็นตน้ รูปที่ 2.1 แสดงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์คอมพวิ เตอร์2. ซอฟตแ์ วร์ ( Software ) คือโปรแกรมหรือชุดคาสงั่ ท่ีสง่ั ควบคุมใหฮ้ าร์ดแวร์ และเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ทางานตามที่ผใู้ ชต้ อ้ งการ ซอฟตแ์ วร์จะถกู บรรจุอยใู่ นสื่อหรือวสั ุดท่ีใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มลูเช่น ฟอบป้ี ดิสก์ , ฮาร์ดดิสก์ , ซีดีรอม , เทปไดร์ฟและ ดีวดี ีรอม เป็นตน้ รูปที่ 2.2 แสดงซอฟต์แวร์ ที่บรรจุอย่ใู นสื่อต่าง ๆ

21 3. พีเพลิ แวร์ (Peopleware) คือ บุคคลที่มีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั การทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เช่นนกั วิเคราะหร์ ะบบ (System Analysis) ผเู้ ขียนโปรแกรม (Programmer) ผใู้ ชโ้ ปรแกรม (User)โดยสรุปกค็ ือ บุคคลใดก็ตามที่มีหนา้ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบัเคร่ืองคอมพิวเตอร์จะถอื ว่าเป็นพเี พิลแวร์ท้งั สิ้น รูปที่ 1.3 แสดงพีเพิลแวร์2. ฮาร์ดแวร์คอมพวิ เตอร์ ฮาร์ดแวร์คืออปุ กรณ์และช้ินส่วนของคอมพิวเตอร์ ที่มีวงจรไฟฟ้ าอยภู่ ายในเป็นส่วนใหญ่ และสามารถจบั ตอ้ งได้ ตวั อยา่ งเช่น ซีพียู เมาส์ คียบ์ อร์ด สแกนเนอร์ เครื่องพมิ พ์ ลาโพง แผงเมนบอร์ดฮาร์ดดิสก์ ดิสกไ์ ดร์ฟ ซีดีรอม ดีวดี ีรอม เป็นตน้2.1 หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) หน่วยประมวลผลกลาง ( CPU : Central Processing Unit ) หรือมกั จะเรียกอกีอยา่ งหน่ึงวา่ไมโครโปรเซสเซอร์ มหี นา้ ที่ในการประมวลผลขอ้ มลู ในลกั ษณะของการคานวณและเปรียบเทียบ โดยจะทางานตามจงั หวะเวลาที่แน่นอน เรียกว่าสญั ญาณ Clock เมอื่ มกี ารเคาะจงั หวะหน่ึงคร้ังก็จะเกิดกิจกรรม 1 คร้ัง เราเรียกหน่วยท่ีใชใ้ นการวดั ความเร็วของซีพียวู า่ “เฮิร์ท”(Herzt) หมายถึงการทางานไดก้ ี่คร้ังในจานวน 1 วนิ าที เช่น ซีพียู Pentium4 มคี วามเร็ว 2.5 GHz หมายถึงทางานเร็ว 2,500 ลา้ นคร้ัง ในหน่ึงวินาที กรณีท่ีสญั ญาณ Clock เร็วก็จะทาใหค้ อมพิวเตอร์เคร่ืองน้นั มคี วามเร็วสูงตามไปดว้ ยซีพียทู ่ีทางานเร็วมากราคากจ็ ะแพงข้ึนมากตามไปดว้ ย การเลือกซ้ือจะตอ้ งเลือกซ้ือใหเ้ หมาะสมกบั งานที่ตอ้ งการนาไปใช้ เช่นตอ้ งการนาไปใชง้ านกราฟิ กส์ท่ีมกี ารประมวลผลมาก จาเป็นท่ีจะตอ้ งใช้ เคร่ืองที่มีการประมวลผลไดเ้ ร็ว ส่วนการพมิ พร์ ายงานทวั่ ไปใชเ้ คร่ืองท่ีความเร็ว 100 MHz ก็เพียงพอแลว้

22 รูปท่ี 2.4 แสดงหน่วยประมวลผลกลาง (CPU)2.2 หน่วยป้ อนข้อมูล (Input Unit) หน่วยป้ อนขอ้ มลู (Input Unit) ทาหนา้ ท่ีในการป้ อนขอ้ มลู เขา้ สู่เครื่องคอมพวิ เตอร์อุปกรณ์ที่ทาหนา้ ท่ีในการป้ อนขอ้ มลู เขา้ สู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ไดแ้ ก่ แป้ นพิมพ์ สาหรับพิมพต์ วั อกั ษรและอกั ขระต่าง ๆ เมาส์สาหรับคลิกสง่ั งานโปรแกรม สแกนเนอร์สาหรับสแกนรูปภาพ จอยสต๊ิกสาหรับเลน่ เกมส์ ไมโครโฟนสาหรับพดู อดั เสียง และกลอ้ งดิจิตอลสาหรับถา่ ยภาพและนาเขา้ ไปเก็บไว้ในดิสกข์ องเครื่องคอมพิวเตอร์เพอื่ นาไปใชง้ านต่อไป รูปที่ 2.5 แสดงอปุ กรณ์หน่วยป้ อนขอ้ มลู

232.3 หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยแสดงผล (Output Unit) มหี นา้ ท่ีในการแสดงผลขอ้ มลู ท่ีผา่ นการประมวลผลในรูปของ ขอ้ ความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวหรือ เสียง เป็นตน้ อุปกรณ์ที่ทาหนา้ ท่ีในการแสดงผลไดแ้ ก่จอภาพ(Monitor) สาหรับแสดงตวั อกั ษรและรูปภาพ เคร่ืองพิมพ์ (Printer) สาหรับพิมพ์ขอ้ มลู ที่อยใู่ นเคร่ืองออกทางกระดาษพิมพ์ ลาโพง (Speaker) แสดงเสียงเพลงและคาพดู เป็นตน้ รูปที่ 2.6 แสดงอปุ กรณ์หน่วยแสดงผล2.4 หน่วยความจา (Memory Unit) หน่วยความจา (Memory Unit) มีหนา้ ท่ีในการจาขอ้ มลู ใหก้ บั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ มีอยู่ 2ชนิดคือ หน่วยความถาวร (ROM : Read Only Memory) เป็นหน่วยความจาที่สามารถจาขอ้ มลู ไดต้ ลอดเวลา ส่วนหน่วยความจาอกี ประเภทหน่ึงคือหน่วยความจาชวั่ คราว (RAM :Random Access Memory) หน่วยความจาประเภทน้ีจะจาขอ้ มลู ไดเ้ ฉพาะช่วงท่ีมีการเปิ ดไฟเขา้ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์เท่าน้นั หน่วยความจาชวั่ คราวถอื วา่ เป็นหน่วยความจาหลกั ภายในเครื่องสามารถซ้ือมาติดต้งั เพม่ิ เติมได้ เรียกกนั ทว่ั ไปคือหน่วยความจาแรม ท่ีใชใ้ นปัจจุบนั คือ แรมแบบ SDRAM ,RDRAM เป็นตน้ รูปท่ี 2.7 แสดงหน่วยความจาของคอมพวิ เตอร์2.5 หน่วยความจาสารอง (Storage Unit)

24หน่วยความจาสารองคืออุปกรณ์ที่ทาหนา้ ท่ีเก็บขอ้ มลู ไวใ้ ชใ้ นโอกาสต่อไป เนื่องจากหน่วยความจาแรมจาขอ้ มลู ไดเ้ ฉพาะช่วงท่ีมกี ารเปิ ดไฟเขา้ เครื่องคอมพวิ เตอร์เท่าน้นั ถา้ ตอ้ งการเกบ็ ขอ้ มลูไวใ้ ชใ้ นโอกาสต่อไปจะตอ้ งบนั ทึกขอ้ มลู ลงในหน่วยความจาสารองซ่ึงหน่วยความจาสารองมอี ยหู่ ลายชนิดดว้ ยกนั แต่มีนิยมใชก้ นั ทวั่ ไปคือ ฮาร์ดดิสก์ ดิสกไ์ ดร์ฟ ซีดีรอม ดีวดี ีรอม ทมั ทไ์ ดร์ฟ เป็นตน้รูปที่ 2.8แสดงหน่วยความจาสารอง2.6 แผงวงจรหลัก (Mainboard)แผงวงจรหลกั หรือนิยมเรียกวา่ แผงเมนบอร์ดคือแผงวงจรที่ติดต้งั ภายในเคสของคอมพิวเตอร์แผงเมนบอร์ดเป็นที่ติดต้งั อปุ กร์คอมพิวเตอร์และอิเลก็ ทรอนิกส์ใหเ้ ชื่อมต่อถึงกนั เป็นท่ีติดต้งั ซีพียูหน่วยความจารอม หน่วยความจาแรม การ์ดอินเตอร์เฟสต่าง ๆ และพอร์ตเชื่อมต่อออกไปภายนอกแผงวงจรน้ีเป็นแผงวงจรหลกั ที่เชื่อมโยงไปยงั หน่วยป้ อนขอ้ มลู และหน่วยแสดงผลรูปท่ี 2.9 แสดงแผงวงจรหลกั (Mainboard)

253. ซอฟต์แวร์คอมพวิ เตอร์ ซอฟตแ์ วร์คือโปรแกรมหรือชุดคาสงั่ ท่ีสง่ั ใหฮ้ าร์ดแวร์ทางานรวมไปถงึ การควบคุมการทางานของอปุ กรณ์แวดลอ้ มต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดิสกไ์ ดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอินเตอร์เฟสต่าง ๆ เป็นตน้ซอฟตแ์ วร์ เป็นสิ่งท่ีมองไมเ่ ห็นจบั ตอ้ งไมไ่ ด้ แต่รับรู้การทางานของมนั ได้ ซ่ึงต่างกบั ฮาร์ดแวร์(Hardware) ท่ีสามารถจบั ตอ้ งได้ ซอฟตแ์ วร์เป็นศพั ทท์ ี่มีความหมายกวา้ งขวางมาก บางคร้ังอาจรวมถงึ ผลลพั ธต์ ่างๆ เช่น ผลการพมิ พท์ ี่ไดจ้ ากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เอกสารการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ตลอดจนค่มู ือการใช้ ในการสงั่ งานใดๆ รูปท่ี 2.10 แสดงซอฟต์แวร์ ระบบท่ีบรรจุในแผ่นซีดีรอม3.1 ชนิดของซอฟต์แวร์ 3.1.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software ) คือโปรแกรมที่ใชใ้ นการควบคุมระบบการทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท้งั หมด เช่น การบูตเคร่ือง การสาเนาขอ้ มลู การจดั การระบบของดิสก์ชุดคาสง่ั ท่ีเขียนเป็นคาสง่ั สาเร็จรูปโดยผผู้ ลิตเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ และมีมาพร้อมแลว้ จา กโรงงานผลติ การทางานหรือการประมวลผลของซอฟตแ์ วร์เหลา่ น้ีข้ึนกบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์แต่ละเคร่ือง ระบบของซอฟตแ์ วร์เหลา่ น้ีออกแบบมาเพอ่ื การปฏิบตั ิควบคุมและมคี วามสามารถในการยดื หยนุ่ การประมวลผลของเครื่องคอมพวิ เตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ

26- โปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการ (Operating System) เป็นโปรแกรมท่ีใชค้ วบคุมและติดต่อกบัอปุ กรณ์ต่าง ๆ ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจดั การระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจาของระบบ กลา่ วโดยสรุปคือ หากจะทางานใดงานหน่ึงโดยใชค้ อมพวิ เตอร์เป็นเคร่ืองมือในการทางานแลว้ จะตอ้ งติดต่อกบั ซอฟตแ์ วร์ระบบก่อน ถา้ ขาดซอฟตแ์ วร์ชนิดน้ีจะทาใหเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทางานได้ ตวั อยา่ งของซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ีไดแ้ ก่ โปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการ DOSUnixWindows (เวอร์ชน่ั ต่าง ๆ เช่น 95 98 me 2000 NT) Sun OS/2 Warp Netware และ Linux - ตวั แปลภาษาจาก Source Code ใหเ้ ป็น Object Code (แปลจากภาษาที่มนุษยเ์ ขา้ ใจใหเ้ ป็นภาษาท่ีเครื่องเขา้ ใจ เปรียบเสมอื นลา่ มแปลภาษา ) เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการแปลภาษาระดบั สูง ซ่ึง เป็นภาษาใกลเ้ คียงภาษามนุษยใ์ หเ้ ป็นภาษาเคร่ืองก่อนท่ีจะนาไปประมวลผล ตวั แปลภาษาแบ่งออกเ ป็นสองประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พีทเตอร์ (Interpeter) คอมไพเลอร์จะแปลคาสง่ั ในโปรแกรมท้งั หมดก่อน แลว้ ทาการลงิ้ (Link) เพ่ือใหไ้ ดค้ าสง่ั ท่ีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เขา้ ใจ ส่วนอินเตอร์พีทเตอร์จะแปลทีละประโยคคาสง่ั แลว้ ทางานตามประโยคคาสงั่ น้นั การจะเลอื กใชต้ วั แปลภาษาแบบใดน้นัจะข้ึนอยกู่ บั ภาษาท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เช่น ภาษาเบสิก (Basic) ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาซี (C)ภาษาจาวา(Java)ภาษาโคบอล (Cobol) ภาษา SQL ภาษา HTML เป็นตน้ รูปท่ี 2.11 แสดงซอฟต์แวร์ ที่เป็นภาษาของเครื่องคอมพิวเตอร์ - ยตู ิลิต้ี โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟตแ์ วร์เสริมช่วยใหเ้ ครื่องทางานมีประสิทธิภาพ มากข้ึน เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ในดิสก์ ช่วยสาเนาขอ้ มลู ช่วยซ่อมอาการ

27ชารุดของดิสก์ ช่วยคน้ หาและกาจดั ไวรัส ฯลฯ เป็นตน้ โปรแกรมในกล่มุ น้ีได้ แก่ โปรแกรม NortonWinzip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver ฯลฯ เป็นตน้ รูปท่ี 2.12 แสดงซอฟต์แวร์ Scandisk ช่วยตรวจสอบระบบไฟล์และโครงสร้ างของดิสก์ - ติดต้งั และปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ีใชใ้ นการติดต้งั ระบบเพ่ือให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใชง้ านอปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่ีนามาติดต้งั ระบบ ไดแ้ ก่ โปรแกรม SetupและDriver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Windows Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver SoundDriverCD-ROM Driver Printer Driver Scanner ฯลฯ เป็นตน้ 3.1.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ีถกู จดั ทาข้ึนเพือ่ ใชง้ านเฉพาะดา้ นหรือเฉพาะองคก์ รใดองคก์ รหน่ึง ซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ีมกั สร้างข้ึนโดยบริษทั ผผู้ ลิตซอฟตแ์ วร์ที่มคี วามชานาญดา้ นน้นั ๆ โดยเฉพาะ หรือออกแบบและสร้างโดยบุคคลากรในฝ่ ายคอม พิวเตอร์ขององคก์ รก็ได้ ตอ้ งมีทีมงานในการดาเนินการวเิ คราะห์และออกแบบระบบงานอยา่ งรอบคอบ เมือ่ออกแบบระบบงานใหม่ไดแ้ ลว้ จึงลงมือสร้างโปรแกรมจนเสร็จ แลว้ ทาการทดสอบโปรแกรมให้สามารถทางานไดถ้ กู ตอ้ งแน่นอน จนสามารถทางานไดจ้ ริง ตวั อยา่ งซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ีไดแ้ ก่

28ซอฟตแ์ วร์ดา้ นงานบุคคลากร ซอฟตแ์ วร์ระบบงานบญั ชี ซอฟตแ์ วร์ระบบสินคา้ คงคลงั ซอฟตแ์ วร์ของการรถไฟ ซอฟตแ์ วร์ของธุรกิจธนาคาร ซอฟตแ์ วร์ของธุรกิจประกนั ภยั ซอฟตแ์ วร์ของการบินไทยซอฟตแ์ วร์บริหารการศึกษา เป็นตน้ รูปที่ 2.13 แสดงซอฟต์แวร์ ประยกุ ต์งานด้านบญั ชีเงินเดือนบคุ คลากร 3.1.3 โปรแกรมสาเร็จรูป (Package Software) คือซอฟตแ์ วร์ท่ีสร้างข้ึนเพือ่ ใชใ้ นสานกั งานทวั่ ๆ ไป สร้างโดยบริษทั ที่มคี วามชานาญในดา้ นน้นั ๆ โดยเฉพาะ มีการปรับปรุงรุ่น(Version) ของซอฟตแ์ วร์ใหม้ ีประสิทธิภาพสูงข้ึนอยเู่ สมอ สามารถแบ่งออกเป็นประเภท ตามลกั ษณะหนา้ ที่การการทางานไดด้ งั น้ีคือ - โปรแกรมประมวลผลคา ใชส้ าหรับพมิ พเ์ อกสารรายงานหรือสร้างตารางแบบต่าง ๆ - โปรแกรมตารางงาน ใชส้ าหรับคานวณ สร้างกราฟ และจดั การดา้ นฐานขอ้ มลู - โปรแกรมนาเสนอผลงาน ใชใ้ นการนาเสนอผลงานและนาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบสไลด์

29- โปรแกรมจดั การฐานขอ้ มลู คือโปรแกรมท่ีทาหนา้ ที่ในการจดั การฐานขอ้ มลู- โปรแกรมเวบ็ เพจ็ ใชใ้ นการเขียนเวบ็ เพจ็ เพือ่ ใชง้ านในเวบ็ ไซคข์ องอนิ เทอร์เน็ต- โปรแกรมสื่อสารระยะไกล ใชใ้ นการติดต่อส่ือสารทางอินเทอร์เน็ต- โปรแกรมเขียนแบบ ใชใ้ นการออกแบบและเขียนแบบดา้ นต่าง ๆ เช่น ชิ้นงาน อาคาร- โปรแกรมกราฟิ กส์ ใชใ้ นการสร้างและจดั การรูปภาพในคอมพิวเตอร์- โปรแกรมเพอ่ื ความบนั เทิง ไดเ้ กมส์ ภาพยนตแ์ ละเสียงเพลงต่าง ๆ รูปท่ี 2.14 แสดงโปรแกรมสาเร็จรูปเพ่ือความบนั เทิงด้านเสียงเพลง4. ขบวนการทางานของคอมพวิ เตอร์ การทางานของคอมพิวเตอร์ เริ่มจากการป้ อนขอ้ มลู เขา้ ทางหน่วยป้ อนขอ้ มลู (Input Unit) ผา่ นไป ยงั หน่วยประมวลผลขอ้ มลู (CPU : Central Processing Unit) โดยหน่วยประมวลผลขอ้ มลู กลางจะทางานร่วมกบั หน่วยความจา (Memory Unit) เมอื่ ไดผ้ ลลพั ธท์ ี่ ตอ้ งการ จะส่ง ขอ้ มลู ออกไปยงั หน่วยแสดงผล (Output Unit) ขบวนการทางานสามารถเขียนเป็นแผนภาพ ไดด้ งั น้ี

30 รูปที่ 2.15แสดงขบวนการทางานของคอมพิวเตอร์5. รูปแบบของข้อมลู ขอ้ มลู (Data) หมายถึงขอ้ เท็จจริงต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั บุคคล สถานที่ ส่ิงของ หรือเหตุ การณ์ต่าง ๆ ท่ีบุคคลหรือองคก์ รใหค้ วามสนใจศกึ ษา ยงั ไม่ผา่ นกระบวนการประมวลผลใหอ้ ยใู่ นรูปแบบที่สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ ฉะน้นั ขอ้ มลู ทางคอมพวิ เตอร์ จึงหมายถึง ขอ้ มลู ดิบ (Raw Data)ท่ีนาเขา้ สู่ระบบการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ สารสนเทศ (Information) หมายถึง ขอ้ มลู ดิบที่ไดผ้ า่ นการประมวลผลในหน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์มาแลว้ ไดแ้ ก่ ผา่ นการคานวณ การจดั เรียง การเปรียบเทียบ การแบ่งกลุ่มเป็นตน้ ผลลพั ธท์ ี่ไดส้ ามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ต่อผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งได้ เรียกวา่ สารสนเทศ ซ่ึงสารสนเทศที่ไดจ้ ากการประมวลผลในข้นั ตอนน้ีอาจจะเป็นขอ้ มลู ดิบสาหรับกระบวนการอนื่ ๆ อกี ก็ได้ รูปท่ี 2.16 แสดงข้อมลู และสารสนเทศ

31 คอมพวิ เตอร์สามารถรับขอ้ มลู ไดห้ ลายรูปแบบ นาเขา้ สู่ระบบการประมวลผล เพ่อื ใหไ้ ด้ผลลพั ธห์ รือสารสนเทศที่สามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ดต้ ามความตอ้ งการขององคก์ ร รูปแบบของขอ้ มลู ท่ีนาเขา้ สู่ระบบการประมวลผลของคอมพิวเตอร์มดี งั น้ีคือ5.1 ตวั เลข ตวั เลข (Numeric) ไดแ้ ก่ขอ้ มลู ท่ีเป็นจานวนนบั สามารถนาไปคานวณได้ เช่น จานวนเงินเดือนราคาสินคา้ ระยะทาง อายุ ความสูง น้าหนกั ฯลฯ เป็นตน้5.2 ตวั อกั ษรและข้อความ ตวั อกั ษรและขอ้ ความ (Character and Text) ไดแ้ ก่ขอ้ มลู ท่ีเป็นตวั อกั ษร สญั ลกั ษณ์พเิ ศษและขอ้ ความ เช่น ช่ือ-สกุล ที่อยู่ เพศ สถานศกึ ษา รายการสินคา้ เป็นขอ้ มลู ที่ไมส่ ามารถคานวณได้5.3 ภาพนิ่งและภาพเคลอื่ นไหว ภาพน่ิงและภาพเคล่ือนไหว (Image and Animation) ไดแ้ ก่ขอ้ มลู ประเภทที่เป็นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ภาพบุคคล สถานท่ี เคร่ืองบิน รถยนต์ ภูเขา น้าตก เป็นตน้5.4 เสียง เสียง (Audio) คือขอ้ มลู ที่เป็นเสียง เช่น เสียงพดู เสียงเพลง เป็นตน้

326. การจัดเก็บและดูแลข้อมลู การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ของคอมพิวเตอร์จะใชร้ หสั ที่เป็น 0 หรือ 1 ท่ีเป็นสญั ญาณทางไฟฟ้ า กรณีที่สญั ญาณไฟปิ ดหรือแรงดนั ไฟฟ้ าต่า กาหนดใหเ้ ป็นรหสั 0 สญั ญาณไฟเปิ ด หรือแรงดนั ไฟฟ้ าสูงกาหนดใหเ้ ป็นรหสั 1 การจดั เกบ็ ขอ้ มลู จะเร่ิมต้งั แต่ขนาดเลก็ จนถงึ ขนาดใหญ่ดงั น้ี รูปที่ 2.17 แสดงการจัดเกบ็ ข้อมลู ของคอมพิวเตอร์6.1 บิต (Bit or Binary Digit) บิต คือหน่วยขอ้ มลู ที่เลก็ ท่ีสุด ใชเ้ ลขฐานสองหน่ึงหลกั เป็นสญั ลกั ษณ์ คือ 0 หรือ 16.1 ไบต์ (Byte) ไบต์ คือกลมุ่ ของเลขฐานสองหลาย ๆ ตวั หรือหลายบิตนามารวมกนั เช่นนาเลขฐานสองจานวน 8 บิต มารวมกนั เป็น 1 ไบต์ ซ่ึงขอ้ มลู 1 ไบต์ สามารถเก็บตวั อกั ขระที่เป็นตวั อกั ษรตวั เลขหรือสญั ลกั ษณ์ต่าง ๆ ได้ 1 ตวั อกั ษร เรียกว่า 1 Character ตวั อยา่ งเช่น01000001 ใชเ้ ป็นรหสั แทนตวั อกั ษร A รหสั 01000010 ใชเ้ ป็นรหสั แทนตวั อกั ษร Bเป็ นตน้

33 รูปท่ี 2.18 แสดงขอ้ มลู 8 บิตมคี ่าเท่ากบั 1 ไบต์6.3 คา (Word) คา หมายถึง หน่วยของขอ้ มลู กลมุ่ หน่ึง จานวนหน่ึงไบตห์ รือมากกว่า เช่น ถา้ กาหนดใหห้ น่ึงคาเท่ากบั 2 ไบต์ แสดงว่าหน่ึงคามคี ่าเท่ากบั 16 บิต รูปท่ี 2.19 แสดงขอ้ มลู 1 คาประกอบดว้ ย 2 ไบต์6.4 ฟิ ลด์ (Field) ฟิ ลด์ หมายถงึ การเก็บขอ้ มลู 1 ตวั อกั ษรหรือมากกว่าที่มคี วามสมั พนั ธก์ นั มารวมกนั ไว้สามารถส่ือความหมายและบอกคุณลกั ษณะท่ีเราสนใจได้ เช่น ใชต้ วั อกั ขระจานวน 8 ตวั มาประกอบกนั เป็นช่ือคนเช่น ชื่อบุญสืบ ประกอบดว้ ยตวั อกั ษร BOONSUEP ต้งั ช่ือฟิ ลดน์ ้ีวา่ ฟิ ลด์NAME เพ่ือใชใ้ นการเก็บชื่อ ขอ้ มลู ชนิดฟิ ลน์ ้ีจะใชแ้ ทนขอ้ เทจ็ จริง คุณลกั ษณะของสิ่งที่เราสนใจศึกษา เช่น รหสั พนกั งานช่ือ ท่ีอยู่ วนั เกิด เงินเดือน ฯลฯ เป็นตน้

34 รูปท่ี 2.20 แสดงขอ้ มลู ฟิ ลช์ ื่อเกบ็ ช่ือ SOMSAK ประกอบดว้ ย 6 ตวั อกั ษร6.5 เรคอร์ด (Record) เรคอร์ด หมายถึงการเก็บขอ้ มลู ประเภทฟิ ลท์ ี่มคี วามสมั พนั ธก์ นั หลาย ๆ ฟิ ลด์ รวมกนั เป็นชุดขอ้ มลู เราจะเรียกวา่ หน่ึงเรคอร์ด เช่น เรคอร์ดของนกั ศึกษาประกอบดว้ ย ฟิ ลดร์ หสั นกั ศกึ ษา ช่ือ-สกลุคะแนน แผนก ฯลฯ เป็นตน้6.6 ไฟล์ (File) ไฟล์ หมายถงึ การเก็บขอ้ มลู ประเภทเรคอร์ดที่มีความสมั พนั ธก์ นั หลาย ๆ เรคอร์ด เช่นไฟลท์ ่ีเก็บขอ้ มลู พนกั งาน นกั ศึกษา รายการสินคา้ ฯลฯ เป็นตน้ รูปท่ี 2.21 แสดงข้อมลู หลาย ๆ เรคอร์ ดรวมกนั เป็น 1 ไฟล์

356.7 ฐานข้อมูล (Database) ฐานขอ้ มลู หมายถึง การรวบรวมไฟลท์ ่ีมีความสมั พนั ธก์ ั นมาเกบ็ ไวด้ ว้ ยกนั เป็นฐานขอ้ มลูเดียวกนั เพือ่ ใหเ้ กิดความสะดวก ในการจดั การขอ้ มลู และการนาไปใช้ อีกท้งั ยงั ช่วยลดความซ้าซอ้ นของขอ้ มลู ขององคก์ รอกี ดว้ ย เช่นฐานขอ้ มลู บุคลากร ฐานขอ้ มลู รายการสินคา้ ฐานขอ้ มลู นกั ศกึ ษาเป็นตน้ รูปที่ 2.22 แสดงข้อมลู หลาย ๆไฟล์รวมกันเป็นหน่ึงฐานข้อมลู7. การจัดเกบ็ ข้อมลู ระบบแอสก้ี ต้งั แต่ปี ค .ศ. 1966 เป็นตน้ มา วงการคอมพวิ เตอร์ไดก้ าหนดรหสั ท่ีใชเ้ ก็บแทนขอ้ มลู ท่ีเรียกว่าระบบแอสก้ี (ASCII : American Standard Code for Information Interchange) ซ่ึงถกู กาหนดโดยสถาบนั รักษามาตรฐานของสหรัฐอเมริกา (American National Standards Institute : ANSI) เพอ่ื ใหก้ ารแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสารระหวา่ งเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ในปัจจุบนั มมี าตรฐานเดียวกนั ระบบรหสั มาตรฐาน ASCII ประกอบดว้ ยตวั เลขฐานสองจานวน 7 หรือ 8 บิต รวมเป็นรหสั แทนอกั ขระ 1ตวั หรือ 1 ไบต์ ถา้ เป็น 7 บิตไบตใ์ ชแ้ ทนอกั ขระได้ 128 ตวั ถา้ เป็น 8 บิตไบตใ์ ชแ้ ทนอกั ขระได้ 256ตวั ปัจจุบนั ใช้ 8 บิตไบตใ์ นการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสารในเคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ทว่ั ไป ตวั อกั ษรในภาษาไทยมกั ใชร้ หสั แอสก้ีในช่วงทา้ ย และผใู้ ชส้ ่วนใหญ่นิยมแทนรหสั แอสก้ีดว้ ยเลขฐานสิบ 0-255

368. อปุ กรณ์รับส่งข้อมูล อุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู หมายถึง ส่ือกลางท่ีใชเ้ ป็นเสน้ ทางผา่ นในการรับส่งขอ้ มลู ระหว่างผรู้ ับกบั ผู้ส่ง ปัจจุบนั มีอปุ กรณ์ในการรับส่งขอ้ มลู สาหรับการเชื่อมต่อเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไดห้ ลายประเภทดงั น้ี8.1 สายโทรศัพท์ (Telephone Line) สายโทรศพั ทเ์ ป็นอปุ กรณ์รับส่งขอ้ มลู ที่ใชก้ นั มานานในระบบการสื่อสารขอ้ มลู แบ่งเป็นสองลกั ษณะดว้ ยกนั คือ - สายค่ตู เี กลยี วไม่มฉี นวนหุ้ม (Unshield Twisted Pair : UTP) มลี กั ษณะเป็นสายทองแดงขนาดเลก็ มฉี นวนหุม้ ในแต่ละค่บู ิดเกลยี วค่เู ขา้ ดว้ ยกนั มฉี นวนหุม้ ภายนอก ราคาถกู ติดต้งั ง่าย มคี วามน่าเชื่อถือสูงในการเชื่อมต่อแบบ STAR แต่มีขอ้ เสียคือมอี ตั ราการส่งขอ้ มลู ต่า มรี ะยะทางการส่งสญั ญาณส้นั และสญั ญาณรบกวนสูง รูปท่ี 2.23แสดงสายคู่ตีเกลียวแบบไม่มีฉนวนหุ้ม- สายคู่ตเี กลยี วแบบมฉี นวนหุ้ม (Shield Twisted Pair : STP) มลี กั ษณะเป็นสายทองแดงขนาดเลก็ ตีเกลยี วคู่ แต่ละค่มู ีฉนวนหุม้ อกี ช้นั เรียกว่า Shield เพือ่ ลดสญั ญาณสอดแทรก(interference)และมฉี นวนหุม้ ช้นั นอกเรียกว่า Outer Jacket มขี อ้ ดีคือคุณภาพการรับส่งขอ้ มลู สูงกวา่ สายแบบ UTPสญั ญาณรบกวนนอ้ ยกวา่ สายแบบ UTP แต่ราคาสูงกว่ารูปท่ี 2.24แสดงสายค่ตู ีเกลยี วแบบมีฉนวนหุม้

378.2 สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) สายโคแอกเชียลเป็นสายที่มคี วามเร็วในการถ่ายโอนขอ้ มลู ประกอบดว้ ยสายตวั นาสญั ญาณเสน้ หน่ึงอยตู่ รงกลางเรียกวา่ Inner Conductor หุม้ ดว้ ยฉนวน Insulator Filter แลว้ลอ้ มรอบดว้ ยตวั นาอีกช้นั หน่ึงทาหนา้ ท่ีเป็นสายดิน (Ground) เรียกว่า Outer Conductorสายโคแอกเชียลมีขอ้ ดีเรื่องความเร็วสูงในการส่งขอ้ มลู สามารถส่งไดท้ ้งั สญั ญาณเสียงวดี ีโอและขอ้ มลูติดต้งั ง่าย แต่มขี อ้ เสียท่ีราคาแพงและค่าใชจ้ ่ายในการติดต้งั สูงดว้ ย รูปท่ี 2.24แสดงสายโคแอกเชียล8.3 สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic Cable) สายใยแกว้ นาแสง เป็นอปุ กรณ์รับส่งขอ้ มลู ที่ตอ้ งการความเร็วสูงมากในสภาพแวดลอ้ มที่มีสญั ญาณไฟฟ้ ารบกวนสูงลกั ษณะสายสญั ญาณประกอบดว้ ยเสน้ ใย (Fiber) ทาจากใยแกว้ สองชนิดท่ีมีดชั นีการสะทอ้ นแสงต่างกนั ชนิดหน่ึงเป็นแกนกลาง อีกชนิดหน่ึงอยดู่ า้ นนอก การทางานจะมีไดโอดเปล่งแสง (LED : Light Emited Diode) หรือไดโอดแบบเลเซอร์ (Laser Diode) ปลอ่ ยแสงที่เขา้ รหสั ขอ้ มลู โดยใชค้ วามถีจ่ ึงสามารถส่งรหสั ขอ้ มลู ไดห้ ลายช่องทางตามควาถตี่ ่าง ๆ กนั อุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู แบบเสน้ ใยแกว้ นาแสงมขี อ้ ดีคือรับส่งขอ้ มลู ดว้ ยความเร็วสูง ใชแ้ สงในการส่งขอ้ มลู จึงไม่ตอ้ งระมดั ระวงั เรื่องสญั ญาณไฟฟ้ ารบกวน มีการสูญเสียของสญั ญาณต่า แต่มีขอ้ เสียคือราคาแพงกว่าสายสญั ญาณประเภทอื่น ตอ้ งใชค้ วามชานาญในการติดต้งั รับส่งขอ้ มลู ไดท้ างเดียว ตอ้ งใชส้ ายสญั ญาณสองเสน้ เพือ่ ทาหนา้ ที่รับและส่งขอ้ มลู รูปท่ี 2.24 แสดงอุปกรณ์รับส่งข้อมลู ประเภทสายใยแก้วนาแสง

388.4 คลน่ื ไมโครเวฟ (Microwave) คลืน่ ไมโครเวฟ เป็นอุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู ท่ีใชค้ ล่ืนวทิ ยชุ นิดความถ่ีสูง เรียกว่าคลืน่ ไมโครเวฟโดยอาศยั อากาศเป็นส่ือกลาง เหมาะสาหรับการสื่อสารระยะใกลท้ ี่ไมม่ ตี ึกหรือภเู ขาระดบั สูงบงั การเดินทางของคลืน่ ระหว่างอาคาร โดยตอ้ งมจี านสญั ญาณติดต้งั ไวบ้ นเสาหรืออาคารสูง ๆ การรับส่งขอ้ มลู แบบน้ีเหมาะสาหรับบริเวณที่เดินสายลาบาก มสี ญั ญาณไฟฟ้ ารบกวนสูงขอ้ เสียคือรับส่งสญั ญาณไดไ้ ม่ไกลมากนกั และตอ้ งติดต้งั จานรับส่งสญั ญาณบนเสาสูงที่ไม่มอี าคารกีดขวางในทิศทางตรงกนั รูปท่ี 2.25 แสดงจานรับส่งสัญญาณคลื่นไมโครเวฟ8.5 ดาวเทยี ม (Satellite) ดาวเทียม เป็นอปุ กรณ์รับส่งขอ้ มลู ที่ใชด้ าวเทียมเป็นสถานีในการรับส่งสญั ญาณขอ้ มลู กบั สถานีทวนสญั ญาณภาคพ้นื ดิน รับส่งสญั ญาณครอบคลมุ พ้ืนท่ีกว่า 22,300 ตารางไมล์ เพอื่ หลกี เลี่ยงปัญหาการกีดขวางสญั ญาณของภูมิประเทศ เช่น ภเู ขา อาคารสูง สามารถส่งสญั ญาณครอบคลุมไดท้ ุกพ้ืนท่ี มขี อ้ เสียคือตอ้ งลงทุนและใชเ้ ทคโนโลยรี ะดบั สูง รูปที่ 2.25 แสดงดาวเทียมรับส่งขอ้ มลู

399. รูปแบบการรับส่งข้อมูล9.1 รับส่งข้อมูลทศิ ทางเดยี ว (Simplex Line) เป็นการรับส่งขอ้ มลู ไดท้ ิศทางเดียว ช่องทางสื่อสารทาหนา้ ที่รับหรือส่งขอ้ มลู ไดเ้ พียงอยา่ งเดียว เช่นช่องทางการส่งขอ้ มลู จาก ซีพยี ไู ปยงั เคร่ืองพมิ พ์ หรือจากซีพยี ไู ปยงั จอภาพ เป็นตน้9.2 รับส่งข้อมูลสองทางโดยสลับเวลารับส่ง (Half-Duplex Line) เป็นการรับส่งขอ้ มลู ไดส้ องทิศทาง แต่ตอ้ งสลบั เวลาในการรับส่งขอ้ มลู จะส่งและรับในเวลาเดียวกนั ไม่ได้ เช่น การรับส่งขอ้ มลู วทิ ยุ ผรู้ ั บและผสู้ ่งตอ้ งสลบั กนั ส่งสญั ญาณการรับส่งขอ้ มลู ระหวา่ งเครื่องสถานีปลายทางไปยงั หน่วยประมวลผล เป็นตน้9.3 รับส่งข้อมูลสองทางในเวลาเดยี วกัน (Full -Duplex Line) เป็นการรับส่งขอ้ มลู ไดส้ องทิศทางในเวลาเดียวกนั เช่น ช่องทางการส่ือสารของโทรศพั ท์ ผรู้ ับและผสู้ ่งสามารถพดู โตต้ อบกนั ไดใ้ นเวลาเดียวกนั ช่องทางการส่ือสารแบบน้ีนิยมใชก้ นั อยา่ งกวา้ งขวางในปัจจุบนั น้ี รสรุปหน่วยที่ 2รุปหน่วยท่ี 2 ระบบคอมพิวเตอร์ คือองคป์ ระกอบหลกั ท่ีจะทาใหเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทางานไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ ถา้ ขาดองคป์ ระก อบส่วนใดส่วนหน่ึงแลว้ คอมพิวเตอร์กไ็ มส่ ามารถที่จะทางานได้ ระบบของคอมพวิ เตอร์น้ีประกอบไปดว้ ยองคป์ ระกอบหลกั ท่ีสาคญั 3 ส่วนคือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์และพเี พลิ แวร์ฮาร์ดแวร์คืออุปกรณ์หรือชิ้นส่วนของคอมพวิ เตอร์ที่มวี งจรไฟฟ้ าอยภู่ ายในส่วนซอฟตแ์ วร์คือโปรแกรมหรือชุดคาสง่ั ท่ีใชใ้ นการสง่ั และควบคุมใหฮ้ าร์ดแวร์ทางาน ขบวนการทางานของคอมพวิ เตอร์เร่ิมจากป้ อนขอ้ มลู เขา้ หน่วยป้ อนขอ้ มลู ผา่ นการประมวลผลจากซีพียแู ละส่งผลลพั ธอ์ อกหน่วยแสดงผลขอ้ มลูทางคอมพวิ เตอร์ หมายถงึ ขอ้ มลู ดิบ (Raw Data) ส่วนสารสนเทศ (Information) หมายถงึ ขอ้ มูลดิบท่ีไดผ้ า่ นการประมวลผลในหน่วยประมวลผลกลางของคอมพวิ เตอร์มาแลว้ การจดั เก็บขอ้ มลู ของคอมพวิ เตอร์จะใชร้ หสั สญั ญาณทางไฟฟ้ าที่เป็น 0 หรือ 1 ในหน่วย บิต ไบต์ คา ฟิ ลด์ เรคอร์ดไฟล์และฐานขอ้ มลู อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการรับส่งขอ้ มลู ไดแ้ ก่ สายโทรศพั ท์ สายโคแอกเชียล สายใยแกว้ นาแสงคลื่นไมโครเวฟ ดาวเทียม

40กิจกรรมส่ งเสริ มการเรี ยนร้ ู1. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็ น 5 กลุ่ม ๆ ละ เท่า ๆ กนั เลือกศึกษาหัวข้อดงั ต่อไปนี้ 1.1 ระบบคอมพิวเตอร์ 1.2 ฮาร์ดแวร์ 1.3 ซอฟตแ์ วร์ 1.4 รูปแบบของขอ้ มลู และการจดั เก็บ 1.5 อุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู2. ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มนาข้อมูลที่ศึกษามาจดั บอร์ดตดิ ในห้องเรียน โดยทาการวเิ คราะห์ และสรุปเนื้อหาแล้วจดั รายละเอยี ดข้อมูลให้พอดกี ับบอร์ดทไ่ี ด้รับมอบหมาย

41 แบบทดสอบหลงั เรียน วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองตน้ หน่วยท่ี 2 ระบบคอมพวิ เตอร์ คาส่ัง จงตอบคาถามต่อไปนี้1. ระบบคอมพวิ เตอรค์ ืออะไร ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง ................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................2. ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วรเ์ ก่ยี วขอ้ งกนั อยา่ งไร ............................................................................................................................. ..................... ...................................................................................................................................................3. การจดั เก็บขอ้ มลู เกบ็ อยู่ในรูปแบบใด ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................... ...............4. อุปกรณร์ บั ส่งขอ้ มลู ทร่ี ูจ้ กั มอี ะไรบา้ ง ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................5. ขอ้ มลู และสารสนเทศต่างกนั อยา่ งไร ............................................................................................................................. ..................... ....................................................................................................................................................6. คอมพวิ เตอรม์ ขี บวนการทางานอยา่ งไร ............................................................................................................................. ............ ........ ..................................................................................................................................................7. รูปแบบการรบั ส่งขอ้ มลู มกี ่ชี นิด อะไรบา้ ง ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........ ............


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook