ฟา -ขาว รวมใจ ตา นภัยโควิท 19 ระลอกใหม โดย…………………………………… ชนั้ …………………เลขท่ี…………. การแขงขันการสราง EBook สปั ดาหหองสมุด
โรคโควดิ 19 คอื อะไร โรคโควดิ 19 คอื โรคติดตอ ซงึ่ เกิดจากไวรัสโคโรนา ชนิดทม่ี ีการคน พบลา สดุ ไวรัสและโรคอุบตั ใิ หมน ้ี ไมเปน ทร่ี ูจักเลยกอนทจี่ ะมกี ารระบาดในเมือง อูฮ่ัน ประเทศจีนในเดือนธนั วาคมป 2019 ขณะน้ี โรคโควดิ 19 มกี ารระบาดใหญไปทัว่ สงผล กระทบแกหลายประเทศทัว่ โลก
อาการของโรคโควิด 19 คืออะไร อาการท่ัวไปของโรคโควิด 19 พ่ีพบมากทีส่ ดุ คือ ไข ไอ ล้ินไมร บั รส จมกู ไมไดกล่ิน และ ออนเพลยี อาการทพี่ บนอ ยกวาแตอาจมีผลตอ ผปู วยบางรายคอื ปวดเมอื่ ย ปวดหัว คดั จมกู นํ้ามูกไหล เจบ็ คอ ทองเสีย ตาแดง หรือผนื่ ตาม ผิวหนัง หรือสผี วิ เปล่ยี นตามนิว้ มอื น้วิ เทา อาการเหลานี้มกั จะไมร นุ แรงนักและคอยๆเรมิ่ ทลี ะนอย บางรายตดิ เชื้อแตม ีอาการไมรุนแรง
เราควรทาํ อยางไร หากมีอาการของโรคโควดิ 19 หากมอี าการไมร นุ แรงเชนไอเล็กนอ ยหรอื ไข ตา่ํ ๆ โดยท่ัวไปแลวไมจาํ เปน ตองพบแพทย อยบู าน กกั ตวั เอง และตดิ ตามดอู าการ ปฏบิ ัติตามขอ แนะนาํ ของทางการในการแยก ตัวเองจากผูอนื่ แตอ ยา งไรกต็ ามหากคุณเปน ผูปวยโรคโควดิ 19
วิธีที่ไดผ ลทส่ี ดุ ท่จี ะปองกนั ทานและผู อน่ื จากโควิด 19 คอื ● การลา งมือบอยๆ และ ● เล่ยี งการเอามือมาสมั ผสั ตา จมกู และปาก และ ● ปด ปากและจมกู ดวยกระดาษทชิ ชหู รือขอ ศอก เมอ่ื ไอหรือจาม ท้งิ กระดาษทิชชูทนั ทีและลา งมอื ใหสะอาด และ ● รักษาระยะหา งอยา งนอ ย 1 เมตรจากผูอืน่ และ ● สวมหนา กากเมอื่ ไมส ามารถรกั ษาระยะหางได
COVID-19 OMICRON BA4-5 ทําไมถงึ ตองจบั ตามอง? โควดิ สายพนั ธยุ อ ย BA.4/BA.5 เปน เชื้อกลาย พันธุของโควิดสายพันธุโอมิครอนทกี่ าํ ลงั มาแรง พบผตู ดิ เช้ือรายแรกในแถบแอฟรกิ าเมื่อชว ง เดอื นมกราคม 2022 ในปจจบุ ันพบผปู วยตดิ เชอ้ื โควดิ สายพันธุดงั กลาวเพิ่มข้นึ อยา งรวดเรว็ พบ การแพรร ะบาดท่ัวโลกโดยในทวปี แอฟริกาและ ทวีปยุโรปเกอื บท้งั หมดของผตู ิดเช้ือสว นใหญ
โอมิครอน BA.4 / BA.5 ทาํ ไมตองเฝา ระวัง! · แบงตวั เพม่ิ จาํ นวนไดด ใี นเซลลปอด อาจจะ เพม่ิ ความเสยี่ งตอ การเกดิ ปอดอักเสบ · แพรร ะบาดไดง าย และรวดเรว็ ยงิ่ ขน้ึ กวา เดิม หลบเล่ียงภูมิคมุ กนั เกง เคยติดเช้ือหรือฉีด วัคซนี แลวก็ตดิ เชอ้ื ซาํ้ ได
คณุ คอื ผูสมั ผัสเส่ยี งสูง! ควรตรวจ ATK ภายใน 24 ชัว่ โมง หลงั เจอผตู ดิ เชอื้ กรณที ่ผี ลตรวจเปน (-) ควรตรวจทุก 3 วัน คือ วันที่ 0 , 3 และ 7 จนครบ 7 วนั โดยในระหวา ง 7 วนั นี้ ใหก ักตัวอยทู ่บี า น หรืออยคู นเดียวกอ น หากไมม ีอาการและครบกาํ หนด 7 วันแลว สามารถใชชีวิตไดตามปกติ โดยสวมหนา กาก อนามยั เวนระยะหาง และสังเกตอาการตนเอง ตอจนครบ 10 วัน
ท่ีมา www.who.int www.sikarin.com
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: