คำนำ การมีนิสัยรักการอ่านจะส่งผลต่อการพัฒนาเยาวชนในด้านต่าง ๆ ตามมาทั้งด้านการเขียน และการคิดวิเคราะห์ตามลำดับ ทักษะดังกล่าวทำให้ผู้เรียนเข้าใจในองค์ความรู้ที่ได้รับและ เปรยี บเสมือนการติดอาวุธทางปัญญาท่ีเข้มแขง็ ใหก้ บั ตวั นกั เรยี น การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ มีความสัมพันธ์และมีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน ดังนั้น หากเยาวชนไทยได้รับการพัฒนาทักษะเหล่านี้ก็จะส่งผลต่อการพัฒนา ความสามารถในการศกึ ษาหาความรตู้ ่อไป สาขาวิชาภาษาไทย วิทยาลัยการฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จัดโครงการ “ยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน” (กิจกรรมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และ การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่รับผิดชอบ) ขึ้น โดยจัดทำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์” ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ประกอบดว้ ย การอ่านวเิ คราะห์ การตงั้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล และกระบวนการคดิ เป็นตน้ เพื่อใช้กิจกรรมการเรียนรู้เสริมหลักสูตรที่เหมาะสมกับช่วงวัย และนอกเวลาเรียนปกติ แล้วประยุกต์ ใหเ้ ข้ากับบรบิ ทของพน้ื ทก่ี รุงเทพมหานคร อาทิ ขอ้ มูลท้องถ่ิน ภูมินามของสถานทสี่ ำคัญ ตลอดจน ประเพณีของท้องถิ่น สร้างเป็นแนวทางการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ โดยผู้มีส่วนสำคัญในโครงการฯ ประกอบด้วยคณาจารย์ นักศึกษาประจำสาขาวิชาภาษาไทย และสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน วิทยาลัยการฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ร่วมกัน พัฒนายกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นต้นแบบสำหรับการนำไปใช้ในโรงเรียนต่าง ๆ ให้เกิดข้ึน อยา่ งยั่งยืนต่อไป สาขาวชิ าภาษาไทย วทิ ยาลยั การฝึกหัดครู มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร ๒๕๖๓
สารบัญ เรือ่ ง หนา้ คำนำ ๑ สารบญั ๒ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ......................................................................................................... ๓ คำช้ีแจงสำหรบั นักเรยี น ...................................................................................................... ๖ แบบทดสอบก่อนเรียน ........................................................................................................ ๘ เตรยี มพรอ้ มกอ่ นเรียน ........................................................................................................ ๙ มาอ่านกันเถอะ ................................................................................................................... ๑๐ ชดุ กิจกรรมท่ี 1 ทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า ........................................................................ ๑๒ • ใบความรู้ เรอื่ ง การตง้ั คำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ล ...................................... ๑๔ • ใบงานที่ 1 ข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ ..................................................................... ๑๗ • ใบงานท่ี 2 ตน้ โพศกั ดิ์สิทธิ์ .................................................................................... ๒๑ • แบบฝกึ หัดที่ ๑ ลองแต่งอกี คร้งั .............................................................................. ๒๓ • แบบฝึกหดั ท่ี ๒ ฉนั คอื อะไร .................................................................................... ๒๕ ๒๖ • แบบฝกึ หัดท่ี ๓ ตามจินตนาการ ............................................................................. ชุดกิจกรรมที่ ๒ หม่ันฝึกฝน ............................................................................................... ๒๗ • ใบความรู้ เรอ่ื ง เขยี นไดค้ ิดคลอ่ ง ............................................................................ ๒๙ • ใบงานที่ ๓ เพียรวางแผนคิด ................................................................................... ๓๒ • ใบงานท่ี ๔ ชมุ ชนแหง่ ความสขุ ................................................................................ ๓๔ • แบบฝกึ หดั ที่ ๔ เขียนเรอื่ งจากภาพ ........................................................................ ๓๗ • แบบฝึกหัดท่ี ๕ ทอ้ งถน่ิ ฉนั ....................................................................................... ๓๙ • แบบฝกึ หดั ที่ ๕.1 ผลติ ภัณฑ์ท้องถ่ินกรุงเทพมหานคร ............................... ๔๐ ๔๑ • แบบฝึกหดั ท่ี ๕.2 ตอบคำถาม ................................................................... ๔๒ • แบบฝกึ หดั ที่ ๖ ชวนนอ้ งลองวิเคราะห์ ................................................................... ๔๕ ชดุ กิจกรรมที่ ๓ ถิ่นทอง ท้องถนิ่ เรา .................................................................................. ๔๗ • ใบความรู้ เรอื่ ง อ่านวิเคราะห์ ................................................................................. • ใบงานที่ ๕ หลักทส่ี ่ี มีที่มา ...................................................................................... • ใบงานที่ ๖ แมน่ าค .................................................................................................
เรื่อง หนา้ • แบบฝกึ หัดที่ ๗ ดอนเมอื งท่ฉี นั รู้จกั ........................................................................ ๕๑ ๕๓ • แบบฝกึ หัดท่ี ๘ คำไหนถูก ...................................................................................... ๕๔ ๕๗ • แบบฝกึ หดั ท่ี ๙ คลองตาเล่ง ................................................................................... ๕๘ ชุดกิจกรรมท่ี ๔ รจู้ กั คิด รู้จักเขยี น ..................................................................................... ๕๙ ๖๑ • ใบความรู้ เรอื่ ง การเขียนเลา่ เร่อื ง .......................................................................... ๖๔ ๖๖ • ใบงานท่ี ๗ ฝกึ คิดฝึกเขยี น ...................................................................................... ๖๘ ๗๑ • ใบงานท่ี ๘ วชิ าย่นระยะทางและการล่องหน.......................................................... ๗๒ ๗๔ • แบบฝึกหัดท่ี ๑๐ ปรศิ นาหาศัพท์ ........................................................................... ๗๖ ๗๙ • แบบฝกึ หดั ที่ ๑๑ ประเพณแี หน่ างแมว................................................................... ๘๓ ๘๖ • แบบฝกึ หดั ท่ี ๑๒ ท้องถิน่ ของฉัน ............................................................................ ๘๙ ชดุ กจิ กรรมที่ ๕ จุดประกายนักคดิ ..................................................................................... • ใบความรู้ เรอ่ื ง แผนภาพโครงเรื่อง ......................................................................... • ใบงานที่ ๙ ลงแขกเกีย่ วขา้ ว ................................................................................... • ใบงานท่ี ๑๐ ลกู อมวิเศษ ........................................................................................ • แบบฝกึ หัดท่ี ๑๓ ตารางอกั ษร ………....................................................................... • แบบฝกึ หัดท่ี ๑๔ จะทำอย่างไร .............................................................................. • แบบฝกึ หดั ที่ ๑๕ มจี รงิ หรือ ..…………………..……….……………………..…………..………. แบบทดสอบหลงั เรยี น ......................................................................................................... บรรณานกุ รม
๑ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นวิเคราะหข์ อ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่อี ่านได้ (K) ๒. นกั เรียนบอกเหตุผลจากเรอื่ งทอ่ี ่านได้ (K) ๓. นกั เรยี นเขยี นแผนภาพโครงเร่ืองจากเรอื่ งท่ีอ่านได้ (P) ๔. นกั เรยี นเขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการจากส่ิงท่กี ำหนดให้ได้ (P) ๕. นักเรียนเหน็ คุณค่าเรอื่ งราวของท้องถ่นิ (A)
๒ คำชี้แจงสำหรบั นกั เรยี น ครูและนักเรียนศึกษาคำชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้เขา้ ใจก่อนลงมือปฏบิ ัติ ดงั น้ี ๑. นักเรียนแต่ละคนศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ และคำชี้แจง การใชช้ ดุ กิจกรรมฯ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งละเอยี ด ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบเพื่อประเมินตนเอง ก่อนทำใบงาน และแบบฝึกหัด ๓. ครูให้คำแนะนำนักเรียนในการศึกษาชุดกิจกรรมฯ และอธิบาย เนอื้ หาเพิม่ เตมิ ในใบความรแู้ ตล่ ะเรอ่ื ง ๔. เมื่อศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้จนเข้าใจอย่างละเอียดแล้ว ให้นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ ตามลำดบั ที่กำหนดให้ในชุดกิจกรรมฯ ๕. หลังจากศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมครบทุกกิจกรรมแล้ว ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบประเมนิ ตนเองหลังเรยี น
๓ แบบทดสอบกอ่ นเรียน คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นเขียนเคร่ืองหมายกากบาท X ทบั ตวั เลือกทถ่ี ูกตอ้ ง เพียงคำตอบเดยี ว ๑. ขอ้ ใดเป็นขอ้ เท็จจริง ก. หลวงปู่ทองสามารถย่นระยะทางได้ ข. เจ้าแมท่ บั ทมิ มคี วามศกั ด์สิ ทิ ธิใ์ นเร่อื งโชคลาภ ค. หากไดย้ ินเสยี งนกแสกร้องจะต้องมคี นเสียชีวิต ง. วัดพระศรีมหาธาตวุ รมหาวิหารเป็นพระอารามหลวง ๒. ขอ้ ใดมีหลกั ฐานอ้างอิงและพสิ จู นไ์ ด้ ก. ประวตั วิ ัดหลกั ส่ี ข. เร่อื งเล่าผีไกวเปล ค. อภินิหารหลวงปูข่ าว ง. ความเช่อื เรื่องศกั ดส์ิ ิทธิ์ ๓. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง ก. จบั ใจความสำคญั ของเร่ืองได้ ข. สามารถแสดงความคดิ เห็นได้ ค. ทำใหเ้ นือ้ เร่อื งมีความสมบรู ณ์ ง. ทำใหเ้ รอ่ื งมรี ายละเอียดมากขึ้น
๔ ๔. ขอ้ ใดไมใ่ ช่แนวทางการตง้ั คำถามเชิงเหตผุ ล ก. สาระสำคญั ของเรอ่ื งคืออะไร ข. เร่ืองทอ่ี า่ นมจี ุดประสงคอ์ ะไร ค. ใชค้ ำถามวา่ ใคร ทำอะไร ทีไ่ หน ง. เรอ่ื งราวมีเหตุผลเพยี งพอทจ่ี ะเชอ่ื ถือหรอื ไม่ ๕. ข้อใดคอื ใจความสำคัญของข้อความน้ี การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ารอบสะดือ เปน็ เรื่องเกย่ี วกบั การรักษาโรคพิษสนุ ัขบ้า ซึ่งสาเหตทุ ีต่ อ้ ง ฉีดวัคซีนรอบสะดือ เพราะเป็นบริเวณที่มีพื้นที่มากและ ไมเ่ กดิ การอกั เสบไดง้ ่าย ก. การรกั ษาบริเวณรอบสะดอื เพราะมีพ้นื ทม่ี าก ข. การรักษาโรคพษิ สนุ ขั บา้ ตอ้ งฉีดวัคซนี รอบสะดือ ค. การรกั ษาบริเวณรอบสะดอื จะไมเ่ กดิ การอกั เสบได้ง่าย ง. การรกั ษาโรคพิษสนุ ขั บ้าจะฉดี เขา้ กล้ามเน้อื ท่ีหัวไหล่แทน ๖. “การคิดนอกกรอบ” หมายถงึ ข้อใด ก. การคิดเชิงบวก ข. การคดิ สร้างสรรค์ ค. การคดิ เชงิ วเิ คราะห์ ง. การคิดอยา่ งมเี หตผุ ล
๕ ๗. ขอ้ ใดคอื ประเพณีของเขตสายไหม ก. ประเพณเี กยี่ วข้าว ข. ประเพณีแหน่ างแมว ค. ประเพณีกวนขา้ วทพิ ย์ ง. ประเพณแี ห่ผ้าปา่ ทางนำ้ ๘. สถานท่ีใดอยใู่ นเขตดอนเมือง ก. วัดสกี ัน ข. วัดหลกั ส่ี ค. วดั ลาดบัวขาว ง. วัดพระศรมี หาธาตุวรมหาวหิ าร ๙. ขนั้ ตอนแรกของกระบวนการเขยี นคืออะไร ก. วางโครงเรื่อง ข. เตรยี มการเขียน ค. ปรบั ปรงุ การเขียน ง. ลงมือเขยี นอย่างละเอยี ด ๑๐. พฤติกรรมในขอ้ ใดไม่ใช้ทกั ษะการคิด ก. นวิ วางแผนการทำงานกอ่ นลงมือทำทกุ คร้ัง ข. นาวเป็นหวั หน้าหอ้ งทม่ี คี วามคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ ค. นำ้ อา่ นข่าวแล้วบอกไดว้ ่าข่าวนน้ั มคี วามนา่ เชอ่ื ถือหรอื ไม่ ง. นนุ่ น่ังทบทวนสิง่ ทล่ี งมือทำทุกวนั เพื่อหาขอ้ ผิดพลาดแล้ว นำไปพัฒนาตนเอง
๖ เตรยี มพรอ้ มกอ่ นเรียน เขยี นสรุปความร้แู ละขอ้ คดิ รว่ มมอื รว่ มใจ เขตสะพานสูง เป็นพื้นที่ที่มีลำคลองไหลผ่านหลายสาย ได้แก่ คลองแสนแสบ คลองบ้านม้า คลองทับช้างล่าง คลองเจ๊ก คลองบัวคล่ี คลองหลอแหล เป็นต้น คลองเหล่านี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของ ชาวบ้าน ท่ีช่วยกันขุดคลองขึน้ มา ทกุ คนตง้ั ใจทำงานไมม่ ีหยดุ ยอมอดนอน ยอมเหน่ือย เพื่อทีจ่ ะมีน้ำใช้ เนื่องจากการเดินทางทางน้ำมีความสำคัญมาก และเพื่อให้ผู้คนทั้ง สองฝั่งคลองสามารถติดต่อไปมาหาสู่กันได้ ชาวบ้านจึงสร้างสะพานข้าม คลองขึน้ โดยสร้างสะพานทรงสูงเพือ่ ใหเ้ รือทกุ ขนาดสามารถลอดผ่านไป ได้สะดวก ซึ่งสะพานลักษณะดังกล่าวพบได้ทั่วไปในพื้นที่ จึงเป็นที่มา ของชื่อ “สะพานสูง” (ทพิ รตั น์ : ดัดแปลงจากบทสมั ภาษณ์นางใบด๊ะ หวังเจริญ, ประธานชมุ ชนบ้านมา้ เกาะล่าง, ๒๕๖๓)
๗ คำช้ีแจง จากเรื่อง “ร่วมมอื รว่ มใจ” ใหน้ กั เรยี นเขียนสรุปข้อคิด ๑. จากเร่อื ง “ร่วมมือรว่ มใจ” นกั เรยี นไดข้ ้อคิดอยา่ งไรบ้าง ๒. จากเรอ่ื ง “รว่ มมอื ร่วมใจ” นกั เรยี นจะนำข้อคดิ ไปปรับใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั อยา่ งไร
๘ มาอ่านกันเถอะ กระบวนการคิด เป็นกระบวนการทางสมองที่รับรู้ได้ เมื่อมีสิ่งมา กระตุ้นให้เราต้องคิดทบทวน ซึ่งเราต้องมีสติในการคิดอยู่เสมอและรู้ว่า กำลังคิดเพอื่ วตั ถปุ ระสงคอ์ ะไร จงึ จะทำใหก้ ารคดิ มปี ระสทิ ธภิ าพ รูปแบบของกระบวนการคิด ๑. การคิดสร้างสรรค์ หมายถึง กระบวนการคิดรูปแบบใหม่ และมีจนิ ตนาการ มักเรียกว่า “การคิดนอกกรอบ” ๒. การคิดเชิงวิเคราะห์ หมายถึง กระบวนการคิด ในการแยกแยะสว่ นต่าง ๆ ออกเป็นย่อย ๆ ทลี ะข้ันตอนเพือ่ แบ่งระบบข้อมูล ขนาดใหญ่ออกเป็นส่วน ๆ แล้วมาวเิ คราะหห์ าเปา้ หมายทตี่ ้องการ ๓. การคิดอย่างมีเหตุผล หมายถึง กระบวนการคิดอย่างมี เหตุผลรอบด้าน รวมทัง้ การรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพ่ือตรวจสอบ ตัดสินและ ประเมนิ ความถูกต้องแม่นยำ
ชดุ กิจกรรมท่ี ๑ ทำได้ไหม ทำไดห้ รือเปลา่
๑๐ ใบความรู้ เรื่อง การตง้ั คำถามและ ตอบคำถามเชิงเหตผุ ล การตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล การตั้งคำถาม เป็นการพูดหรือเขียนสิ่งที่ต้องการรู้หรือสิ่งที่สงสัย ซงึ่ สามารถต้ังคำถามได้จากเร่อื งทีอ่ ่าน ฟงั และดู การตั้งคำถามเชิงเหตุผล เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้สามารถจับประเด็น สำคัญของเรื่อง จุดประสงค์ของเรื่อง วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือและ นำความรู้ไปใช้ได้ ซึ่งเป็นคำถามที่ส่งเสริมให้ผู้ตอบได้ใช้ความคิด นำความรู้ และประสบการณเ์ ดิมมาเป็นพื้นฐานในการคำตอบถาม แนวทางการตัง้ คำถามเชงิ เหตผุ ล ๑. สาระสำคัญของเรอื่ งคืออะไร ๒. เรือ่ งทีอ่ ่านมีจดุ ประสงค์อะไร ๓. ใช้คำถามวา่ ทำไม อะไร อยา่ งไร หรอื เพราะเหตใุ ด ๔. เร่ืองราวมเี หตผุ ลเพียงพอทีจ่ ะเชือ่ ถือหรือไม่ โดยพิจารณาจาก ข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในเรอ่ื ง ๕. ขอ้ คดิ หรอื ความรู้ มีประโยชน์และควรปฏิบตั ิตามหรอื ไม่ และสามารถ นำไปใชไ้ ดอ้ ย่างไร
๑๑ วธิ ีการตอบคำถาม ๑. อา่ นคำถามใหเ้ ขา้ ใจว่าถามเรือ่ งอะไร มกี ่ปี ระเดน็ ๒. ตอบให้ตรงประเดน็ ที่ถาม ไม่ออ้ มคอ้ ม หรอื ตอบยาวเกนิ ไป ๓. ใชภ้ าษาท่เี ข้าใจงา่ ย เรียบเรยี งด้วยภาษาของตนเอง ไม่ใช้คำทบั ศัพท์ หรอื คำภาษาต่างประเทศโดยไมจ่ ำเปน็ ตัวอยา่ งการตง้ั คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล ชุนชนเศรษฐกจิ พอเพียง สมยั ก่อนชุนชนเศรษฐกิจพอเพียงเป็นชุมชนวิถีเกษตรใช้ชีวติ อย่างพอเพียง ชาวบ้าน มีอาชีพเกษตรกร ทำนาปลูกข้าว ปลูกผักสวนครวั เล้ียงสัตว์ เป็นต้น ชาวบ้านทุกคนมีนำ้ ใจ ต่อกัน มีสิ่งของอะไรก็จะแบ่งปันกัน เช่น หากบางส่วนเหลือก็จะนำไปขายเพื่อสร้างรายได้ ใหก้ บั ครอบครวั ได้อกี ด้วย การเดินทางสมัยก่อนจะใช้เรือเป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันวิถีชีวิตเหล่านั้นได้ เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เมื่อมคี วามเจริญเข้ามาจึงทำให้วิถีชีวิตแบบเดิมเปล่ียนแปลง ไป เช่น จากการสัญจรทางน้ำโดยใช้เรือเป็นพาหนะ ก็เปลี่ยนเป็นการสัญจรทางถนนโดย ใช้รถยนต์หรือรถเมล์เป็นพาหนะ แม้ว่าวิถีชีวิตเดิมจะเปลี่ยนแปลงไปแต่ก็ช่วยให้การใช้ ชีวติ เกดิ ความสะดวกสบายยิง่ ข้ึน (นำ้ ผึ้ง : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณ์คณุ สิทธชิ ยั แสงนาท, ประธานชมุ ชนวรวีร์, ๒๕๖๓) ตัวอยา่ งการตั้งคำถาม ๑. การปลกู ผักสวนครัวเองมขี ้อดีอยา่ งไร ๒. วถิ ีชีวติ สมัยก่อนเปลีย่ นแปลงไปเพราะเหตใุ ด ตัวอยา่ งการตอบคำถาม ๑. ตอบ มผี กั ปลอดสารพิษไว้รบั ประทานเอง แบ่งปนั ใหก้ ับผ้อู น่ื หรอื นำไปขายเพ่ือสร้าง รายใหก้ ับครอบครัว ๒. ตอบ เพราะมีความเจริญเขา้ มาทำใหก้ ารดำเนินชีวิตของผูค้ นสะดวกสบายมากยงิ่ ขึ้น
๑๒ ใบงานที่ ๑ ขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็น คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นอา่ นเร่ือง “การตั้งศาล” แล้วตอบคำถาม การต้ังศาล เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใส “คุณตาทองใบ” ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียม ของสำหรับการตั้งศาล ซึ่งเป็นความเชื่อที่โบราณยึดถือปฏิบัติมา อย่างยาวนาน โดยศาลแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ศาลพระภูมิ และศาลเจ้าที่ ลักษณะที่แต่งต่างกันคือ ศาลพระภูมิ จะมีเสาเดียว ส่วนศาลเจา้ ที่ จะมี ๔ เสา โบราณเชื่อว่าศาลพระภูมิ และศาลเจ้าที่ คอยคุ้มครองคนใน บ้านให้ปลอดภัยและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทุกบ้านจึงต้องมีไว้ กราบไหว้เพื่อแสดงความเคารพ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงท่ี ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเท่านั้น “สติ ความไม่ประมาท ความเข้าใจซ่ึง กันและกัน ความรักและความสามัคคี” สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ ครอบครวั อยรู่ ่วมกนั อย่างมีความสขุ ภาพ : ศาลพระภมู ิและศาลเจา้ ท่ี ท่มี า : http://wow.in.th/80Sw (ทพิ รตั น์ : ดัดแปลงจากบทสัมภาษณ์นายบรรจง กอ้ นเพชร, เลขาธกิ ารชมุ ชนเคหะทุ่งสองห้อง, ๒๕๖๓) คำศัพท์นา่ รู้ โฉลก (ฉะ-โหฺลก) หมายถงึ โชค, โอกาส
๑๓ คำชี้แจง จากเรื่อง “การตั้งศาล” ให้นักเรียนแยกข้อเท็จจริงและ ข้อคดิ เห็นมาอย่างละ ๒ ขอ้ เขียนดว้ ยตวั บรรจงครง่ึ บรรทัด ข้อเท็จจรงิ ๑. ๒. ข้อคดิ เหน็ ๑. ๒.
๑๔ ใบงานที่ ๒ ต้นโพศักดิส์ ิทธิ์ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นอา่ นเรอ่ื ง “ตน้ โพศักด์ิสิทธ์ิ” แลว้ ตอบคำถาม ภาพ : ต้นโพ ทีม่ า : http://wow.in.th/3K4p ตน้ โพศกั ด์สิ ิทธ์ิ เขตบางเขน บริเวณชุมชนวรวีร์ (อ่านว่า วอ-ระ-วี) มีต้นโพขนาดใหญ่ ๑ ตน้ ตงั้ อยบู่ รเิ วณกึ่งกลางของชุมชน สำหรบั คนในชุมชนแหง่ นีเ้ ช่ือว่าต้นโพ ขนาดใหญ่นี้เป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน และยังเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธ์ิ ตามความเชื่อของศาสนาพุทธเพราะต้นโพเป็นสถานที่ตรัสรู้ (อ่านว่า ตฺรัด- สะ-รู้) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งบริเวณต้นโพจะมีศาลเล็ก ๆ หากใครมาบนอะไรไว้ แล้วประสบผลสำเร็จก็จะนำของมาถวาย เช่น หุ่นม้า หุ่นนางรำ น้ำแดง ชุดไทยโบราณ ผ้าหลากสี หมากพลู และขนมไทยต่าง ๆ เพราะถือว่า เปน็ การตอบแทนทีต่ น้ โพบนั ดาลใหส้ ่ิงทข่ี อเกิดขึ้นจริง (น้ำผง้ึ : ดดั แปลงจากบทสัมภาษณค์ ุณวริ ัตน์ วงษใ์ หญ่, ชาวบา้ นเขตบางเขน, ๒๕๖๓) คำศพั ทน์ า่ รู้ ตรสั รู้ (ตฺรัด-สะ-รู้) หมายถึง ร้แู จง้ (ใชเ้ ฉพาะพระพุทธเจ้า)
๑๕ คำช้แี จง จากเรื่อง “ต้นโพศักดิ์สิทธิ์” ให้นักเรียนตั้งคำถาม และตอบคำถามเชิงเหตผุ ล เขยี นดว้ ยตัวบรรจงครง่ึ บรรทัด ๑. ตอบ ๒. ตอบ
๑๖ ๓. ตอบ ๔. ตอบ
๑๗ แบบฝึกหดั ที่ ๑ ลองแตง่ อกี ครง้ั คำชแี้ จง ให้นักเรียนแตง่ ประโยคจากคำท่กี ำหนดใหข้ อ้ ละ ๑ ประโยค ตวั อยา่ ง โลก/ลำบาก ประชากรโลกกำลงั พบกบั ความลำบากเป็นอยา่ งมาก 1. ประมาท/ชีวิต 2. ทัพพี/บาตร
๑๘ 3. ความโกรธ/ความสขุ 4. ผลไม้/ฤดูกาล 5. แอปเปิล/รสชาติ
๑๙ 6. เชยี่ วชาญ/ตะกร้า 7. ฉนั เพล/นมิ นต์ 8. โทรศัพท/์ สือ่ สาร
๒๐ 9. ทดี่ นิ /มรดก 10. สขุ ภาพ/ปราศจาก
๒๑ แบบฝกึ หดั ที่ ๒ ฉันคอื อะไร คำชีแ้ จง ให้นักเรียนเขียนคำที่ตรงกับภาพ แล้วโยงเส้นจับคู่กับ ความหมายใหถ้ กู ตอ้ ง ตวั อยา่ ง สง • • เรือนเล็ก ๆ ทำพอ อยไู่ ด้ เครื่องช้อนปลาชนิด • •๑. หนึ่งถักเป็นร่างแห กร ท่ ม มักใช้ไม้หรือหวาย ทำขอบปาก • •๒. พธิ อี อ้ นวอนขอฝน เก ย l จดั ข้นึ ในปที ี่แห้งแล้ง ๓. . หน่ า แมว • • บรรพบรุ ษุ ส่ิงทีต่ กทอดมาจาก • •๔. พาหนะชนิดหน่งึ มด. มี ๒ ล้อ ใชค้ วายหรือ ววั เทียม
๒๒ •แ โพ พ • ท่ีสำหรบั น่ังหรือนอน ๕. •. ค . โดยมากมีรปู ส่ีเหล่ียม ๖. •. ม้ ท้า มักทำด้วยไมไ้ ผ่ ๗. •ส พ น ๘. •กร บ ย • เทพธดิ าประจำข้าว ๙. น. • หรอื เจา้ แม่แหง่ ขา้ ว ๑๐. • ส่ิงท่ีสรา้ งหรอื ทำข้ึน สำหรับขา้ มแม่นำ้ • ไม้หรอื สงิ่ อ่ืน ๆ สำหรับถือยนั ตัวเดนิ • ทางท่ีทำขึน้ เรยี กวา่ สาย, เสน้ • ภาชนะสำหรับตักนำ้ เดิมทำด้วยกะโหลก มะพรา้ ว มีด้ามถือ
๒๓ แบบฝึกหดั ที่ ๓ ตามจินตนาการ คำช้แี จง ให้นักเรยี นเขียนเร่ืองตามจินตนาการเก่ยี วกบั ท้องถิน่ ของตนเอง อย่างน้อย 8 บรรทัด พร้อมตั้งชอ่ื เร่อื ง
๒๔
ชดุ กิจกรรมที่ ๒ หมนั่ ฝกึ ฝน
๒๖ ใบความรู้ เรื่อง เขียนไดค้ ิดคล่อง การเขียน การเขียน คือ การถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้ ความคิด ความต้องการ และความรู้สึกของบุคคลด้วยการเรียบเรียงถ้อยคำหรือข้อความออกมา เป็นลายลักษณ์อักษรหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อสื่อสารให้เกิดความเข้าใจตามที่ ต้องการ การเขียนเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสาร เป็นทักษะการส่งสาร ที่ซับซ้อน ต้องอาศัยทักษะและกระบวนการอื่นประกอบ เช่น ทักษะการฟัง ทักษะการอ่าน กระบวนการคิด และทักษะการใช้ภาษา เพราะผู้ที่จะเขียนได้ดี จะต้องเป็นผู้ฟังมาก อ่านมาก มีความรู้และประสบการณ์กว้างขวาง มกี ระบวนการคดิ ท่ีดี และท่สี ำคัญตอ้ งมที ักษะการใชภ้ าษาทีด่ ี การเขียนต้องอาศัย ความรู้ ทฤษฎี หลักวิธีการ และขั้นตอนการเขียนตามลักษณะของการเขียน ประเภทตา่ ง ๆ อาศยั การเลือกใช้คำหรอื ภาษาทีง่ ดงาม ประณีต ถกู ต้องตามระดบั ภาษาและเหมาะสมกบั เร่ือง เพอ่ื ใหส้ ามารถส่อื ได้ทงั้ ความรู้ ความคิด อารมณ์และ ความรู้สกึ ประโยชนข์ องการเขยี นท่ชี ว่ ยพฒั นาความคิด ๑. ชว่ ยพัฒนาใหค้ ดิ อยา่ งมีเหตุผล ๒. ชว่ ยใหเ้ กิดกระบวนการคดิ
๒๗ ใบงานท่ี ๓ เพยี รวางแผนคิด คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง “ผู้นำของเรา” แล้วเขียนแผนภาพ โครงเรอื่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ผนู้ ำของเรา นานมาแล้วมีผู้นำหมู่บ้านคนหนึ่งชื่อ “ดำรง” เป็นผู้นำที่รักลูกบ้าน ของตนมาก พร้อมที่จะดูแลทุกข์สุขไม่ว่าชาวบ้านจะมีเรื่องเดือดร้อนอะไร กต็ ามดำรงจะคอยชว่ ยเหลืออยเู่ สมอ อยู่มาวันหนึ่งมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เข้ามาก่อกวนทำลายข้าวของ และทำร้ายผู้คนในหมู่บ้าน จนชาวบ้านทนไม่ไหวจึงรีบไปบอกกับดำรงว่า มีคนเข้ามาก่อกวนในหมู่บ้าน และด้วยความที่ดำรงเป็นผู้นำหมู่บ้านและ เป็นคนที่พร้อมจะปกป้องชาวบ้าน เขาจึงได้เข้าไปห้ามกลุ่มวัยรุ่นเหล่าน้ัน ให้หยุดทำลายข้าวของและหยุดทำร้ายชาวบ้าน แต่วัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ยัง ไม่หยุด ดำรงจึงไดเ้ ขา้ ไปต่อสู้กับกลมุ่ วยั รนุ่ จนดำรงเสียชวี ิต หลังจากที่ดำรงได้เสียชีวิตไปแล้ว ชาวบ้านต่างเสียใจกับการสูญเสีย ผู้นำที่พร้อมจะดูแลและปกป้องพวกเขาให้พ้นจากอันตราย ชาวบ้าน จึงช่วยกันสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อระลึกถึงการเสียชีวิตของดำรง และต่อให้ เวลาผ่านไปนานแคไ่ หนดำรงกย็ ังอย่ใู นความทรงจำของชาวบา้ นตลอดไป (ณฐั พร : ดดั แปลงจากเร่ืองหลวงอำนวยสงคราม เขตบางเขน) ภาพ : อนสุ าวรยี พ์ ิทักษร์ ฐั ธรรมนูญ พ.ศ. ๒๔๗๗ ท่มี า : ศิลปวฒั นธรรม ฉบบั ตุลาคม 2556
๒๘ คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเขยี นแผนภาพโครงเรื่องใหถ้ กู ต้อง 1. ตวั ละคร 2. สถานท่ี 3. เหตุการณ์ 4. ผลของเหตกุ ารณ์ 5. ขอ้ คิด
๒๙ ใบงานที่ ๔ ชมุ ชนแหง่ ความสุข คำชี้แจง ให้นักเรยี นอา่ นเรือ่ ง “ชมุ ชนแหง่ ความสขุ ” แลว้ ตอบคำถาม ชุมชนแหง่ ความสุข ในอดีตชุมชนหลักสี่เป็นชุมชนขนาดเล็ก ไม่มีถนน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาใช้ การเดินทางจะใช้เรือเป็นหลัก ชาวบ้านใช้น้ำคลอง และอาศัยแสงไฟจากตะเกียงกระป๋องใส่แก๊ส อาชีพหลักของชาวบ้านคือ ทำนา เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวชาวบ้านจะช่วยกันเกี่ยวข้าว ในระหว่างที่เกี่ยว ก็จะร้องเพลงเกยี่ วข้าวไปด้วย ทำให้เกดิ ความสนกุ สนาน เมอ่ื เก่ยี วขา้ วเสร็จ ก็นำไปขายที่โรงสียายม่วย เป็นโรงสีเก่าแก่ของชุมชน จากนั้นก็แยกย้ายกนั กลับบ้านอาบน้ำที่คลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นคลองทีส่ ะอาด น้ำใสและเยน็ มาก เพราะชาวบ้านชว่ ยกนั เกบ็ ขยะดแู ลคลองเปน็ อยา่ งดี เพราะความสามคั คขี อง ชาวบ้านจึงทำให้ชุมชนแห่งนี้น่าอยู่ และทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในปัจจุบันถึงแม้จะมีบางสิ่งเปลี่ยนไปแต่สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ คือ “ความสามคั ค”ี (ทิพรัตน์ : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณ์ นายยงยุทธ์ สนิ พิบูลย,์ ประธานชุมชนเคหะทงุ่ สองห้อง ๓๑๖, ๒๕๖๓) ภาพ : เกษตรกรเกีย่ วข้าว ท่ีมา : http://wow.in.th/38ZO
๓๐ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ ๑. นักเรียนคิดว่า “ความสามัคคี” มีผลให้ชุมชนน่าอยู่หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ๒. นกั เรยี นคดิ ว่าการรอ้ งเพลงเกีย่ วข้าวมผี ลดอี ย่างไร ๓. “ชุมชนแห่งความสุข” ในความคดิ ของนกั เรยี นเปน็ อย่างไร
๓๑ ๔. จากเร่อื ง “ชุมชนแห่งความสุข” นักเรียนไดข้ อ้ คิดใดบ้าง ๕. นกั เรยี นจะนำขอ้ คดิ ไปปรับใช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งไร ภาพ : แผน่ ดินแห่งความสขุ ท่ีมา : เดก็ ชายธชั พล แก้วกำกง
๓๒ แบบฝึกหัดท่ี ๔ เขียนเรอ่ื งจากภาพ คำช้แี จง ให้นักเรียนเขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการจากภาพทีก่ ำหนดให้ อย่างนอ้ ย 8 บรรทดั พรอ้ มตง้ั ชอ่ื เรื่อง ภาพ : นวลนางบนเจ้าทุย ที่มา : http://wow.in.th/oM0f
๓๓ ภาพ : ควายบา้ นนอก ท่ีมา : http://wow.in.th/cyxS
๓๔ แบบฝกึ หดั ท่ี ๕ ทอ้ งถ่ินฉนั คำชี้แจง ให้นักเรียนอา่ นข้อความ แลว้ ตอบคำถามใหถ้ กู ตอ้ ง “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” เป็นแนวคิดที่ต้องการให้แต่ละชุมชน มีผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง โดยนำวัตถุดิบหรือทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาทำการพัฒนาจนกลายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสามารถส่งออกได้ทั้งในและ ต่างประเทศ ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้ชุมชน ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง วันนีพ้ ่ีแพรขอนำเสนอผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในกรุงเทพมหานครทั้งหมด ๑๑ เขต ดังนี้ ๑. กระเปา๋ ผ้าชมุ ชนคลองเจ๊กพัฒนา เขตสะพานสงู ๒. กำไลคอจบั ช่อเงนิ เขตดอนเมือง พแ่ี พร ๓. รองเท้าสานจากวัสดธุ รรมชาติ เขตบางเขน ๔. วา่ วไทยจากกระดาษสา เขตหลกั สี่ ๕. เทยี นหอม เขตสายไหม ๖. การบรู สมุนไพร เขตบางซือ่ ๗. นาฬิกาไมส้ ัก เขตภาษีเจริญ ๘. ตะกร้าสานจากกระดาษ เขตบางพลดั ๙. ผ้าบาติก เขตจตุจกั ร ๑๐. ขนมเปย๊ี ะ เขตบางรัก ๑๑. ลูกประคบสมุนไพร เขตลาดพรา้ ว ผลิตภัณฑ์มีหลากหลายประเภททั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องแต่งกาย สมุนไพร และเครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่นว่าจะผลิตสิ่งใดที่เป็น จุดเด่นผ่านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของชาวบ้าน เพราะแต่ละชุมชนมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจึงเป็นสิ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตและ ภมู ปิ ัญญาของชมุ ชนน้นั ๆ
๓๕ ผลิตภณั ฑ์ท้องถิน่ กรงุ เทพมหานคร กระเปา๋ ผ้าชุมชนคลองเจ๊กพัฒนา กำไลคอจับช่อเงนิ เขตสะพานสงู เขตดอนเมือง รองเทา้ สานจากวสั ดุธรรมชาติ ว่าวไทยจากกระดาษสา เขตบางเขน เขตหลกั ส่ี เทยี นหอม การบรู สมุนไพร เขตสายไหม เขตบางซ่อื
๓๖ นาฬิกาไม้สัก ตะกรา้ สานจากกระดาษ เขตภาษีเจรญิ เขตบางพลัด ผ้าบาตกิ ขนมเป๊ยี ะ เขตจตุจักร เขตบางรัก ลูกประคบสมุนไพร เขตลาดพรา้ ว
๓๗ แบบฝกึ หดั ที่ ๕.1 ผลติ ภณั ฑท์ อ้ งถนิ่ กรุงเทพมหานคร คำชีแ้ จง ให้นักเรียนเติมชื่อเขตในกรุงเทพมหานครให้ตรงกับ ผลิตภณั ฑท์ อ้ งถิ่นทั้ง 10 เขต ใหถ้ ูกต้อง ตวั อย่าง เส้นใยไขวก้ นั สรา้ งสรรคข์ องใช้ สองเท้าสวมใส่ ภมู ิใจไทยทำ เขตบางเขน ใชถ้ อื สะพาย ฉนั มีกล่ินหอม หลากหลายสีสัน เตรยี มพร้อมไล่ยุง ใส่ของสารพัน บรรจใุ สถ่ งุ หญิงนัน้ ใชด้ ี บำรุงหวั ใจ มหี ลากหลายไส้ ทำจากไม้ใหญ่ อยู่ในตวั แปง้ แขวนไว้ข้างฝา ทรงกลมจุดแดง คอยบอกเวลา ตัดแบ่งกันกิน เดินหน้าอย่างเดยี ว
๓๘ เปน็ เคร่ืองจกั สาน ใชง้ านหลากหลาย ให้แสงแจ่มจา้ ใส่ของมากมาย ชวนนา่ หลงใหล ใชก้ ระดาษทำ กล่นิ หอมชื่นใจ มีไว้คเู่ รอื น ของเลน่ โบราณ ลกู กลมห่อผ้า สบื สานกันมา มียาข้างใน ล่องลอยบนฟ้า หอมสมนุ ไพร หนา้ ตาคลา้ ยดาว ใครใช้เปน็ ดี ลวดลายงดงาม จบั ชอ่ เงนิ นาม ลอื นามของดี งดงามลวดลาย มีหลากหลายสี ประดับร่างกาย สง่ิ นี้คือผ้า หญงิ ชายชน่ื ชม
๓๙ แบบฝกึ หดั ท่ี ๕.2 ตอบคำถาม คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ เขยี นด้วยตวั บรรจงคร่งึ บรรทัด 1. ยกตัวอยา่ งของฝากหรอื ผลิตภัณฑท์ ่ขี น้ึ ชอื่ ในทอ้ งถ่ินของ นักเรยี น มา ๑ อยา่ งพร้อมอธิบาย 2. นกั เรียนคิดว่าของฝากหรอื ผลิตภัณฑท์ ีน่ ักเรียนยกตวั อยา่ งมาน้ัน มปี ระโยชน์ต่อทอ้ งถ่ินอย่างไร
๔๐ แบบฝึกหดั ที่ ๖ ชวนนอ้ งลองวเิ คราะห์ คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นอา่ นขอ้ ความท่ีกำหนดให้แลว้ พิจารณาว่าเปน็ “ขอ้ เท็จจรงิ ” หรือ “ข้อคิดเหน็ ” และเขยี นเครือ่ งหมาย ลงในช่องทีเ่ ปน็ คำตอบทถี่ กู ตอ้ ง ข้อความ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ตัวอย่าง บางเขนเมอื งที่นา่ อยู่ ผคู้ นนา่ รกั ๑. การสร้างบ้านในอดีตจะมีลักษณะเป็นบ้านไม้ และมีใตถ้ นุ สงู ๒. “ยอ” คอื เครอ่ื งมือจบั ปลาชนิดหนง่ึ ๓. บรรยากาศบา้ นนอกน่าอยกู่ วา่ ในเมือง ๔. เขตสะพานสูงเป็นพ้ืนที่ที่มีลำคลองไหลผ่าน หลายสาย ๕. ประชาชนที่ไปกราบหลวงพ่อยิ้ม รู้สึกได้ถึง ความเมตตาของหลวงพอ่ ทำใหเ้ กิดความสบายใจ ๖. นัง่ เครือ่ งบนิ ครงั้ แรกจะทำใหเ้ รารู้สึกตื่นเต้น ๗. แหน่ างแมวเป็นการแหเ่ พ่อื ขอฝน ๘. วัดหลักสี่น่าจะเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยว รจู้ ักมากทส่ี ดุ ๙. สงกรานต์ เปน็ ประเพณีทีม่ ีมาแตโ่ บราณ ๑๐. วถิ ชี วี ิตแบบคนเมืองกรงุ สะดวกสะบายท่สี ุด
ชดุ กจิ กรรมที่ ๓ ถิ่นทอง ท้องถนิ่ เรา
๔๒ ใบความรู้ เรือ่ ง อ่านวเิ คราะห์ การวเิ คราะห์ข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ ข้อเท็จจริง หมายถึง ข้อความที่แสดงเรื่องราวเหตุการณ์ ปรากฏการณ์ ข้อมลู และสิง่ ตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ จรงิ สามารถพิสจู น์ได้และมหี ลักฐานสนับสนุนยนื ยนั ลกั ษณะของขอ้ เท็จจรงิ 1. มคี วามสมเหตสุ มผล 2. มคี วามเปน็ ไปไดเ้ สมอ 3. มีหลกั ฐานอ้างองิ พิสจู น์ได้ 4. มคี วามเป็นจริงตามธรรมชาติ ข้อคิดเห็น หมายถึง ข้อความที่แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก ความเช่ือ การคาดคะเนของผู้พดู หรอื ผู้เขยี นทีม่ ตี ่อเรื่องใดเรื่องหนงึ่ ลกั ษณะของข้อคดิ เหน็ ๑. เป็นข้อความทีแ่ สดงความรสู้ กึ ๒. เป็นขอ้ ความทเี่ ปน็ ขอ้ เสนอแนะ ๓. เป็นข้อความท่ีแสดงการคาดคะเน ๔. เปน็ ข้อความทีเ่ ป็นความเชอ่ื แต่พสิ ูจน์ไม่ได้ ๕. เป็นขอ้ ความท่ีแสดงความคดิ เห็นของผู้เขยี นเอง
๔๓ การแยกแยะข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น คือ การอ่านข้อความหรือ เรื่องราวโดยพิจารณาอย่างละเอียด และเมื่ออ่านจบสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรคอื ขอ้ เท็จจรงิ อะไรคอื ข้อคิดเหน็ ตวั อยา่ งการแยกแยะขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ วัดหลกั ส่ีเป็นวดั ท่ีได้รับคัดเลอื กจากกรมการศาสนา ใหเ้ ป็นวัดพัฒนาตวั อยา่ งดีเด่น ในเขตกรุงเทพมหานครใน พ.ศ. ๒๕๓๔ มีถาวรวัตถุและสิ่งสำคัญประกอบด้วย องค์พระเจดียบ์ รรจุพระบรมสารีริกธาตุ และวิหารหลวงปู่ขาว เป็นพระเกจทิ ่ีผู้นิยมสะสม วัตถุมงคลจะรู้จักกันว่า มีชื่อเสียงในเรื่องมนต์คาถา ผู้คนที่ศรัทธาเชื่อว่าวัตถุมงคลของ หลวงปูข่ าวสามารถช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย และใหโ้ ชคลาภแกผ่ ู้ท่คี รอบครอง ขอ้ เท็จจรงิ ๑. วัดหลักสีเ่ ป็นวัดที่ได้รับคัดเลือกจากกรมการศาสนา ให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดเี ด่น ในเขตกรงุ เทพมหานครใน พ.ศ. ๒๕๓๔ ๒. มถี าวรวัตถุและสิ่งสำคญั ประกอบด้วย องค์พระเจดียบ์ รรจุพระบรมสารีริกธาตุ และวิหารหลวงปู่ขาว ข้อคดิ เหน็ ๑. หลวงปู่ขาวเป็นพระเกจทิ เี่ ลือ่ งลอื ในเรือ่ งมนตค์ าถา ๒. วัตถมุ งคลจะชว่ ยปกป้องใหค้ นที่ทำความดีแคล้วคลาดปลอดภยั ๓. ผู้ทม่ี ีวัตถมุ งคลของหลวงปู่ขาวจะโชคดแี ละแคลว้ คลาดปลอดภยั
๔๔ สรุปไดด้ ังนี้ ข้อเทจ็ จรงิ : สามารถพิสจู นไ์ ดแ้ ละมีหลักฐานสนบั สนุนยืนยนั ข้อคิดเห็น : ไมส่ ามารถพสิ จู น์ได้ ตารางเปรยี บเทยี บข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ ขอ้ เท็จจริง ขอ้ คิดเห็น ๑. เป็นข้อความทีแ่ สดงความรสู้ ึก ๑. มีความเปน็ ไปได้เสมอ หรอื ความคิดเหน็ ของผเู้ ขียนเอง ๒. มคี วามเปน็ จริงตามธรรมชาติ 2. เปน็ ข้อความทีแ่ สดงการคาดคะเน หรือเปรียบเทยี บ 3. มีหลกั ฐานอ้างองิ พสิ ูจน์ได้ ๓. เป็นขอ้ ความทีเ่ ป็นความเชื่อแต่พิสจู นไ์ มไ่ ด้ และมีความสมเหตสุ มผล และไม่สมเหตสุ มผล
๔๕ ใบงานที่ ๕ หลักที่ส่ี มที มี่ า คำช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง “หลักที่สี่ มีที่มา” แล้วตอบคำถาม เขียนด้วยตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั พชี่ ม สวัสดีค่ะนอ้ ง ๆ วันนี้พี่ชมกับพสี่ ้มจะมาเล่าเกีย่ วกับ หลักสี่ของเรา ว่าทำไมถึงได้ชื่อว่า “หลักส่ี” ให้น้อง ๆ ไดท้ ราบกนั นะคะ ว่าแต่… น้อง ๆ เคยรู้ที่มาของชื่อ “หลักส่ี” กันไหม ถา้ ยงั เด๋ียวพวกพีจ่ ะอธบิ ายใหฟ้ ังนะคะ พี่ส้ม คุณปู่คุณย่าของพี่ส้มท่านเคยเล่าให้พี่ฟังว่า ที่เขาเรียกว่า “หลักส่ี ก็น่าจะเพราะว่าเขตนี้ตั้งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๔ ของ ระยะทางพอดี เขาเลยเรยี กกันว่า “หลกั ส่ี” ค่ะ พี่ชมได้ไปหาข้อมูลทั่วไปของเขตหลักสี่ เขาได้บันทึกข้อมูลไว้ว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มีการขุดคลอง ต่าง ๆ เพื่อเป็นทางลัดสู่จังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่รอบนอกพระนคร โดยจะกำหนด หลักบอกระยะทางของคลองที่ขุดทุกระยะ 100 เส้น (๑๐๐ เส้นเท่ากับ ๔ กิโลเมตร) หนึ่งในคลองเหล่านั้น ได้แก่ คลองเปรมประชากร ซึง่ ขดุ เชือ่ มไป ยังอำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชุมชนที่ตั้งอยู่ที่หลักบอก ระยะที่ 4 ของคลองนี้ จึงมีชื่อเรียกว่า “บ้านหลักสี่” ซึ่งชื่อหลักสี่นี้ ได้นำมาใช้เป็นชื่อสถานที่อื่น ๆ ในบริเวณนั้นอีก คือ วัดหลักสี่ สถานีรถไฟ หลกั สี่ และสแ่ี ยกหลกั สี่นัน่ เองค่ะ (ณฐั พร : ดดั แปลงจากบทสัมภาษณ์นางละเมยี ด วรรณากุล, ประธานชุมชนรว่ มพัฒนา, ๒๕๖๓)
Search