Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.4

คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.4

Published by edtech cherry, 2022-08-16 05:49:00

Description: คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.4

Search

Read the Text Version

๔๔ เฉลยใบงานท่ี ๔ ชุมชนแหง่ ความสขุ คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นอ่านเรื่อง “ชมุ ชนแหง่ ความสขุ ” แลว้ ตอบคำถาม ชมุ ชนแห่งความสขุ ในอดีตชุมชนหลักสี่เป็นชุมชนขนาดเล็ก ไม่มีถนน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาใช้ การเดินทางจะใช้เรือเป็นหลัก ชาวบ้านใช้น้ำคลอง และอาศัยแสงไฟจากตะเกียงกระป๋องใส่แก๊ส อาชีพหลักของชาวบ้านคือ ทำนา เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวชาวบ้านจะช่วยกันเกี่ยวข้าว ในระหว่างที่เกี่ยว กจ็ ะร้องเพลงเก่ียวขา้ วไปด้วย ทำใหเ้ กดิ ความสนกุ สนาน เมอื่ เกี่ยวขา้ วเสร็จ ก็นำไปขายท่ีโรงสียายมว่ ย เป็นโรงสีเกา่ แก่ของชมุ ชน จากนัน้ กแ็ ยกย้ายกัน กลับบ้านอาบน้ำที่คลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นคลองที่สะอาด น้ำใสและเย็นมาก เพราะชาวบ้านชว่ ยกันเก็บขยะดแู ลคลองเป็นอยา่ งดี เพราะความสามัคคีของ ชาวบ้านจึงทำให้ชุมชนแห่งนี้น่าอยู่ และทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในปัจจุบันถึงแม้จะมีบางสิ่งเปลี่ยนไปแต่สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันน้ี คอื “ความสามัคคี” (ทิพรัตน์ : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณ์ นายยงยทุ ธ์ สินพบิ ูลย,์ ประธานชมุ ชนเคหะทุ่งสองหอ้ ง ๓๑๖, ๒๕๖๓) ภาพ : เกษตรกรเก่ยี วขา้ ว ทีม่ า : http://wow.in.th/38ZO

๔๕ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ๑. นักเรียนคิดว่า “ความสามัคคี” มีผลให้ชุมชนน่าอยู่หรือไม่ เพราะเหตุใด อยูใ่ นดุลยพนิ ิจของผู้สอน ๒. นกั เรยี นคิดวา่ การร้องเพลงเกย่ี วข้าวมผี ลดอี ยา่ งไร อยู่ในดุลยพนิ ิจของผู้สอน ๓. “ชุมชนแหง่ ความสขุ ” ในความคิดของนกั เรยี นเปน็ อยา่ งไร อยู่ในดลุ ยพินิจของผู้สอน

๔๖ ๔.จากเรอ่ื ง “ชุมชนแหง่ ความสขุ ” นกั เรยี นไดข้ อ้ คิดใดบา้ ง อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน ๕. นกั เรยี นจะนำขอ้ คดิ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวนั อยา่ งไร อยู่ในดุลยพนิ จิ ของผู้สอน ภาพ : แผน่ ดนิ แหง่ ความสขุ ที่มา : เดก็ ชายธชั พล แกว้ กำกง

๔๗ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ชุมชนแห่งความสุข ประเดน็ การประเมนิ ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน ๑. การเขยี น ๑๐ ๑.๑ การเขยี นตอบคำถาม ๕ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มีการใชเ้ หตผุ ลประกอบและเข้าใจงา่ ย ๔ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น มีการใช้เหตผุ ลประกอบ ๓ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น ๒ เขียนตอบคำถามคอ่ นขา้ งตรงประเด็น ๑ เขียนตอบคำถามตรงประเด็นคอ่ นข้างน้อยมาก ๑.๒ การสะกดคำ ๕ เขียนสะกดคำถูกตอ้ งทุกคำ ๔ เขียนสะกดคำผิด ๑-๓ คำ ๓ เขียนสะกดคำผิด ๔-๖ คำ ๒ เขียนสะกดคำผดิ ๗-๙ คำ ๑ เขยี นสะกดคำผดิ ๑๐ คำขน้ึ ไป ๒. การคิดวเิ คราะห์ ๕ สามารถแสดงความคิดเห็น ๕ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลและน่าสนใจ ด้วยการตอบคำถาม โดยมีเหตุผล เปน็ อยา่ งมาก ประกอบ ๔ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลเป็นส่วนใหญ่ และคอ่ นขา้ งน่าสนใจ ๓ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลได้เป็นบางส่วน และนา่ สนใจค่อนขา้ งน้อย ๒ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้ แต่ไม่แสดงเหตุผล และน่าสนใจนอ้ ยมาก ๑ พยายามแสดงความคิดเห็นดว้ ยการตอบคำถาม แต่ยังไมส่ มบูรณ์ รวมคะแนน ๑๕

๔๘ เฉลยแบบฝึกหดั ที่ ๔ เขยี นเร่อื งจากภาพ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเร่อื งตามจนิ ตนาการจากภาพทก่ี ำหนดให้ อยา่ งน้อย 8 บรรทัด พร้อมตง้ั ชอ่ื เรือ่ ง ภาพ : นวลนางบนเจา้ ทยุ ทม่ี า : http://wow.in.th/oM0f ชอื่ เรอ่ื ง อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของผสู้ อน

๔๙ อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของผสู้ อน ภาพ : ควายบ้านนอก ที่มา : http://wow.in.th/cyxS

๕๐ เกณฑ์การให้คะแนน เขยี นเรอื่ งจากภาพ ประเด็นการประเมิน ระดบั เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๒๐ ๑.๑ การต้ังชอื่ เรอ่ื ง ๓ ต้ังชอ่ื เรอ่ื งไดต้ ามประเด็นการประเมินครบ ๒ ข้อ ๑) ชอ่ื เรอ่ื งส่ือความหมายได้ตรงหรือ ๒ ตงั้ ชอื่ เรอ่ื งไดต้ ามประเดน็ การประเมิน ๑ ข้อ สอดคล้องเนือ้ เร่ือง ๑ ตั้งชื่อเรื่องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง แต่มีความน่าสนใจ ๒) ช่อื เร่ืองสร้างสรรค์และมีความนา่ สนใจ ค่อนข้างนอ้ ย ๑.๒ สาระสำคญั ของเร่ือง ๕ เขียนเร่ืองได้สาระสำคญั ตามประเด็นการประเมินครบ ๕ ขอ้ ๑) ลำดบั ความคดิ อย่างต่อเนอ่ื ง ๔ เขยี นเรอ่ื งไดส้ าระสำคญั ตามประเด็นการประเมิน ๔ ข้อ ๒) นำเสนอเน้ือหาตรงประเด็น ๓ เขยี นเรอ่ื งไดส้ าระสำคัญตามประเดน็ การประเมิน ๓ ขอ้ ๓) เนื้อหามีความสัมพนั ธก์ ับคำทกี่ ำหนดให้ ๔) มีความเปน็ เหตุเป็นผล ๒ เขียนเรื่องไดส้ าระสำคญั ตามประเด็นการประเมนิ ๒ ขอ้ ๕) มีการนำเสนอแนวคดิ ใหม่ ๑ เขียนเร่ืองได้สาระสำคัญตามประเด็นการประเมนิ ๑ ข้อ ๑.๓ การใชภ้ าษา ๕ ใช้ภาษาไดต้ ามประเด็นการประเมินครบ ๕ ข้อ ๑) เลือกใชค้ ำได้ถูกต้อง ๔ ใช้ภาษาได้ตามประเดน็ การประเมนิ ๔ ขอ้ ๒) เขียนเว้นวรรคตอนได้ถกู ตอ้ ง ๓ ใช้ภาษาได้ตามประเดน็ การประเมิน ๓ ขอ้ ๓) ใช้คำสภุ าพ ๒ ใชภ้ าษาได้ตามประเดน็ การประเมนิ ๒ ข้อ ๔) ใชป้ ระโยคสอื่ ความหมายได้ ๑ ใชภ้ าษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ๑ ข้อ ๕) ใชค้ ำได้สละสลวย ๑.๔ การเขยี นสะกดคำ ๕ เขยี นถกู ต้องทกุ คำ ๔ เขียนผิด ๑-๒ คำ ๑.๕ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย ๓ เขยี นผิด ๓-๔ คำ ๑) เขยี นตวั อักษรอา่ นง่าย ๒ เขยี นผดิ ๕-๖ คำ ๒) สะอาดเรยี บร้อย ๑ เขยี นผิด ๗ คำ ขึน้ ไป ๒ เขยี นได้ตามประเด็นการประเมินครบ ๒ ข้อ ๑ เขยี นได้ตามประเดน็ การประเมิน ๑ ขอ้

๕๑ ประเด็นการประเมนิ ระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถคิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับ ๕ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอ รูปภาพแลว้ นำเสนอผ่านงานเขียนเปน็ เรอ่ื งราว ผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ ครบถ้วน และถูกต้องตามหลกั การเขียน ๔ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอ ผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้ค่อนข้างน่าสนใจ ครบถ้วน และถกู ต้องตามหลกั การเขียน ๓ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอ ผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้ค่อนข้างน่าสนใจ ค่อนข้าง ครบถ้วนและถกู ต้องตามหลักการเขยี น ๒ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอ ผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้ไม่ค่อยน่าสนใจ ค่อนข้าง ครบถว้ นและถูกต้องตามหลกั การเขียนบางสว่ น ๑ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอ ผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้ไม่น่าสนใจ ไม่ครบถ้วน และไม่ถกู ตอ้ งตามหลกั การเขียน รวมคะแนน ๒๕

๕๒ เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๕ ทอ้ งถิ่นฉนั คำช้แี จง ให้นกั เรยี นอ่านขอ้ ความ แลว้ ตอบคำถามให้ถูกต้อง “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” เป็นแนวคิดที่ต้องการให้แต่ละชุมชน มีผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง โดยนำวัตถุดิบหรือทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถ่ิน มาทำการพัฒนาจนกลายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสามารถส่งออกได้ทั้งในและ ต่างประเทศ ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้ชุมชน ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง วันนีพ้ ่ีแพรขอนำเสนอผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในกรุงเทพมหานครทัง้ หมด ๑๑ เขต ดังนี้ ๑. กระเป๋าผา้ ชุมชนคลองเจก๊ พฒั นา เขตสะพานสงู ๒. กำไลคอจบั ช่อเงนิ เขตดอนเมอื ง พีแ่ พร ๓. รองเทา้ สานจากวัสดธุ รรมชาติ เขตบางเขน ๔. วา่ วไทยจากกระดาษสา เขตหลกั ส่ี ๕. เทยี นหอม เขตสายไหม ๖. การบูรสมนุ ไพร เขตบางซื่อ ๗. นาฬิกาไมส้ กั เขตภาษีเจรญิ ๘. ตะกรา้ สานจากกระดาษ เขตบางพลดั ๙. ผ้าบาตกิ เขตจตุจักร ๑๐. ขนมเปยี๊ ะ เขตบางรัก ๑๑. ลูกประคบสมนุ ไพร เขตลาดพรา้ ว ผลิตภัณฑ์มีหลากหลายประเภททั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องแต่งกาย สมุนไพร และเครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่นว่าจะผลิตสิ่งใดที่เป็น จุดเด่นผ่านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของชาวบ้าน เพราะแต่ละชุมชนมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจึงเป็นสิ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตและ ภมู ปิ ญั ญาของชมุ ชนน้ัน ๆ

๕๓ ผลิตภณั ฑ์ท้องถิน่ กรงุ เทพมหานคร กระเปา๋ ผ้าชุมชนคลองเจ๊กพัฒนา กำไลคอจับช่อเงนิ เขตสะพานสงู เขตดอนเมือง รองเทา้ สานจากวสั ดุธรรมชาติ ว่าวไทยจากกระดาษสา เขตบางเขน เขตหลกั ส่ี เทยี นหอม การบรู สมุนไพร เขตสายไหม เขตบางซ่อื

๕๔ นาฬิกาไม้สัก ตะกรา้ สานจากกระดาษ เขตภาษีเจรญิ เขตบางพลัด ผ้าบาตกิ ขนมเป๊ยี ะ เขตจตุจักร เขตบางรัก ลูกประคบสมุนไพร เขตลาดพรา้ ว

๕๕ เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๕.1 ผลิตภัณฑท์ ้องถ่นิ กรุงเทพมหานคร คำชีแ้ จง ให้นักเรียนเติมชื่อเขตในกรุงเทพมหานครให้ตรงกับ ผลติ ภัณฑท์ ้องถ่นิ ท้ัง 10 เขต ให้ถูกตอ้ ง ตัวอย่าง เส้นใยไขว้กนั สร้างสรรคข์ องใช้ สองเท้าสวมใส่ ภมู ิใจไทยทำ เขตบางเขน ใช้ถือสะพาย ฉันมกี ล่ินหอม หลากหลายสสี นั เตรยี มพรอ้ มไลย่ ุง ใส่ของสารพัน บรรจุใส่ถุง หญงิ นัน้ ใชด้ ี บำรงุ หวั ใจ เขตสะพานสงู เขตบางซื่อ มีหลากหลายไส้ ทำจากไมใ้ หญ่ อยู่ในตวั แปง้ แขวนไว้ขา้ งฝา ทรงกลมจุดแดง คอยบอกเวลา ตดั แบง่ กนั กิน เดินหน้าอย่างเดยี ว เขตบางรัก เขตภาษีเจริญ

๕๖ เปน็ เคร่ืองจกั สาน ใชง้ านหลากหลาย ให้แสงแจม่ จ้า ใส่ของมากมาย ชวนน่าหลงใหล ใชก้ ระดาษทำ กล่นิ หอมชืน่ ใจ มไี วค้ ่เู รอื น เขตบางพลัด เขตสายไหม ลกู กลมห่อผา้ มยี าขา้ งใน ของเลน่ โบราณ หอมสมนุ ไพร สืบสานกนั มา ใครใชเ้ ป็นดี ลอ่ งลอยบนฟา้ หน้าตาคล้ายดาว เขตลาดพร้าว เขตหลักสี่ จับช่อเงนิ นาม งดงามลวดลาย ลวดลายงดงาม ประดับรา่ งกาย ลอื นามของดี หญิงชายชนื่ ชม มหี ลากหลายสี สงิ่ นค้ี อื ผา้ เขตดอนเมือง เขตจตุจกั ร

๕๗ เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลิตภัณฑ์ทอ้ งถ่นิ กรงุ เทพมหานคร ประเด็นการประเมิน ระดับ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขียน เขียนเติมช่อื เขตถกู ตอ้ ง 9-10 ข้อ การเขียนเติมช่อื เขต ๕ เขยี นเติมอกั ษรได้ถูกตอ้ ง 7-8 ข้อ ๕ เขยี นเติมอักษรไดถ้ ูกต้อง 5-6 ข้อ ๒. การคิดวเิ คราะห์ ๔ เขยี นเติมอกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง 3-4 ข้อ สามารถคิดวิเคราะห์โดยการคาดคะเน ๓ เขียนเตมิ อกั ษรได้ถูกต้อง 1-2 ข้อ ๒ บ ท ร ้ อ ย ก ร อ ง เ ป ็ น ช ื ่ อ ผ ล ิ ต ภ ั ณ ฑ์ ท ี ่ ก ำ ห น ด ใ ห้ ๑ คิดวิเคราะห์โดยการคาดคะเนบทร้อยกรองเป็น ด้วยการเขียนเติมชื่อเขตไดถ้ ูกตอ้ ง ๕ ชื่อผลิตภัณฑ์ที่กำหนดให้ ด้วยการเขียนเติม ๕ ชอื่ เขตไดถ้ กู ต้อง 9-10 ข้อ รวมคะแนน คิดวิเคราะห์โดยการคาดคะเนบทร้อยกรองเป็น ๔ ชื่อผลิตภัณฑ์ที่กำหนดให้ ด้วยการเขียนเติม ชือ่ เขตไดถ้ ูกตอ้ ง 7-8 ขอ้ ๓ คิดวิเคราะห์โดยการคาดคะเนบทร้อยกรองเป็น ชื่อผลิตภัณฑ์ที่กำหนดให้ ด้วยการเขียนเติม ๒ ชอ่ื เขตไดถ้ ูกต้อง 5-6 ข้อ คิดวิเคราะห์โดยการคาดคะเนบทร้อยกรองเป็น ๑ ชื่อผลิตภัณฑ์ที่กำหนดให้ ด้วยการเขียนเติม ชอ่ื เขตได้ถกู ตอ้ ง 3-4 ขอ้ ๑๐ คิดวิเคราะห์โดยการคาดคะเนบทร้อยกรองเป็น ชื่อผลิตภัณฑ์ที่กำหนดให้ ด้วยการเขียนเติม ชอ่ื เขตได้ถูกตอ้ ง 1-2 ขอ้

๕๘ เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๕.2 ตอบคำถาม คำชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้ เขยี นดว้ ยตวั บรรจงครึง่ บรรทดั 1. ยกตวั อย่างของฝากหรือผลิตภณั ฑท์ ่ขี ้นึ ชื่อในท้องถ่ินของ นักเรยี น มา ๑ อย่างพร้อมอธิบาย อยใู่ นดุลยพินิจของผู้สอน 2. นกั เรยี นคิดวา่ ของฝากหรือผลิตภณั ฑ์ทนี่ ักเรยี นยกตัวอย่างมานั้น มปี ระโยชนต์ อ่ ทอ้ งถ่ินอย่างไร อยู่ในดุลยพินิจของผ้สู อน

๕๙ เกณฑก์ ารให้คะแนน ตอบคำถาม ประเด็นการประเมนิ ระดับ เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน ๑. การอา่ น อา่ นออกเสยี งไดถ้ ูกต้องตามอักขรวิธี เสยี งดงั ชัดเจน เวน้ จังหวะ การอา่ นออกเสยี ง ๕ เหมาะสม และใช้น้ำเสยี งแสดงอารมณ์ไดอ้ ย่างไพเราะ ๕ อา่ นออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธี เสยี งดงั ชัดเจน เวน้ จงั หวะ ๒. การเขียน เหมาะสม แสดงอารมณใ์ นบางจังหวะได้ดี การเขียนตอบคำถาม ๔ อา่ นออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธี เสียงดังชัดเจน เวน้ จังหวะ เหมาะสมและใช้นำ้ เสียงแสดงอารมณ์ในบางจังหวะยงั ทำไดไ้ ม่ดนี ัก ๓. การคดิ วเิ คราะห์ ๓ อา่ นออกเสยี งไดถ้ กู ต้องตามอักขรวิธี เสียงดังชดั เจน แตย่ งั ต้อง สามารถแสดงความคิดเห็น ปรบั ปรงุ เรอ่ื งการเว้นจงั หวะ ๒ อา่ นออกเสยี งไม่ชัดเจน เสยี งค่อนขา้ งเบา และตอ้ งปรับปรงุ เรือ่ ง ด้วยการตอบคำถาม โดยมี การเวน้ จงั หวะ เหตผุ ลประกอบ ๑ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มกี ารใช้เหตุผลประกอบ เข้าใจง่าย รวมคะแนน ๕ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น มกี ารใช้เหตผุ ลประกอบ ๕ เขยี นตอบคำถามตรงประเดน็ ๔ เขียนตอบคำถามคอ่ นขา้ งตรงประเดน็ ๓ เขียนตอบคำถามไม่ตรงประเด็น ๒ ๑ สามารถแสดงความคดิ เห็นดว้ ยการตอบคำถามได้อยา่ งมีเหตุผล ๕ และมีความน่าสนใจอยา่ งมาก ๕ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้อย่างมีเหตุผล เป็นสว่ นใหญ่และมคี วามคอ่ นข้างนา่ สนใจ ๔ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้อย่างมีเหตุผลได้ เปน็ บางสว่ น และมคี วามค่อนขา้ งน่าสนใจนอ้ ย ๓ สามารถแสดงความคดิ เห็นดว้ ยการตอบคำถามได้ แต่ไม่แสดงเหตผุ ล และมีความนา่ สนใจนอ้ ยมาก ๒ พยายามแสดงความคิดเหน็ ด้วยการตอบคำถาม แตย่ ังไมส่ มบรู ณ์ ๑ ๑๕

๖๐ เฉลยแบบฝกึ หัดที่ ๖ ชวนนอ้ งลองวเิ คราะห์ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนอา่ นข้อความท่ีกำหนดให้แลว้ พจิ ารณาว่าเปน็ “ขอ้ เท็จจริง” หรอื “ขอ้ คดิ เหน็ ” และเขยี นเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องที่เป็นคำตอบทถี่ ูกต้อง ขอ้ ความ ขอ้ เทจ็ จรงิ ข้อคิดเห็น ตัวอย่าง บางเขนเมอื งท่นี า่ อยู่ ผ้คู นนา่ รัก  ๑. การสร้างบ้านในอดีตจะมีลักษณะเป็นบ้านไม้  และมใี ตถ้ ุนสูง ๒. “ยอ” คอื เครอื่ งมอื จับปลาชนิดหน่งึ  ๓. บรรยากาศบ้านนอกน่าอยกู่ ว่าในเมือง  ๔. เขตสะพานสูงเป็นพื้นที่ที่มีลำคลองไหลผ่าน  หลายสาย ๕. ประชาชนที่ไปกราบหลวงพ่อยิ้ม รู้สึกได้ถึง  ความเมตตาของหลวงพอ่ ทำให้เกดิ ความสบายใจ ๖. นง่ั เครือ่ งบนิ คร้ังแรกจะทำใหเ้ รารู้สกึ ตื่นเต้น  ๗. แหน่ างแมวเป็นการแห่เพอื่ ขอฝน  ๘. วัดหลักสี่น่าจะเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยว  รู้จกั มากท่สี ุด ๙. สงกรานต์ เป็นประเพณที ่ีมมี าแต่โบราณ  ๑๐. วถิ ชี ีวิตแบบคนเมืองกรงุ สะดวกสะบายทสี่ ดุ 

๖๑ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ชวนน้องลองวิเคราะห์ ประเด็นการประเมนิ ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขยี น ๕ การเขยี นเครอื่ งหมาย ๕ เขียนเคร่อื งหมายหนา้ ขอ้ ความได้ถูกต้อง ๙-๑๐ ขอ้ ๔ เขียนเครื่องหมายหนา้ ขอ้ ความไดถ้ กู ต้อง ๗-๘ ข้อ ๓ เขยี นเครอื่ งหมายหนา้ ข้อความไดถ้ กู ตอ้ ง ๕-๖ ขอ้ ๒ เขยี นเครือ่ งหมายหน้าข้อความได้ถูกต้อง ๓-๔ ข้อ ๑ เขียนเคร่อื งหมายหน้าข้อความได้ถกู ตอ้ ง ๑-๒ ขอ้ ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและ ๕ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของข้อความที่กำหนดให้ ข้อคิดเห็นของข้อความที่กำหนดให้ แลว้ เขียนเครอื่ งหมายลงในชอ่ งวา่ งได้ถกู ตอ้ ง ๙-๑๐ ข้อ แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องว่าง ๔ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของข้อความที่กำหนดให้ ได้ถูกต้อง แลว้ เขียนเครอ่ื งหมายลงในชอ่ งว่างได้ถูกต้อง ๗-๘ ข้อ ๓ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของข้อความที่กำหนดให้ แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องว่างได้ถูกตอ้ ง ๕-๖ ขอ้ ๒ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของข้อความที่กำหนดให้ แลว้ เขียนเครอ่ื งหมายลงในช่องว่างได้ถูกต้อง ๓-๔ ขอ้ ๑ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของข้อความที่กำหนดให้ แลว้ เขยี นเครอื่ งหมายลงในชอ่ งว่างไดถ้ ูกตอ้ ง ๑-๒ ข้อ รวมคะแนน ๑๐



ชดุ กจิ กรรมที่ ๓ ถิ่นทอง ท้องถนิ่ เรา

๖๔ ใบความรู้ เรอ่ื ง อ่านวเิ คราะห์ การวิเคราะหข์ อ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ ข้อเท็จจริง หมายถึง ข้อความที่แสดงเรื่องราวเหตุการณ์ ปรากฏการณ์ ขอ้ มลู และส่งิ ตา่ ง ๆ ทเ่ี ปน็ จริงสามารถพิสูจนไ์ ด้และมหี ลักฐานสนับสนุนยืนยนั ลกั ษณะของข้อเทจ็ จรงิ 1. มคี วามสมเหตสุ มผล 2. มีความเป็นไปได้เสมอ 3. มีหลักฐานอ้างอิงพสิ ูจนไ์ ด้ 4. มคี วามเป็นจริงตามธรรมชาติ ข้อคิดเห็น หมายถึง ข้อความที่แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก ความเช่ือ การคาดคะเนของผู้พดู หรอื ผเู้ ขยี นท่ีมีตอ่ เรอ่ื งใดเรื่องหนง่ึ ลกั ษณะของขอ้ คิดเห็น ๑. เปน็ ขอ้ ความทแี่ สดงความรู้สึก ๒. เปน็ ขอ้ ความทีเ่ ป็นข้อเสนอแนะ ๓. เปน็ ข้อความทีแ่ สดงการคาดคะเน ๔. เปน็ ข้อความทีเ่ ปน็ ความเชอ่ื แต่พิสูจน์ไม่ได้ ๕. เปน็ ขอ้ ความทแ่ี สดงความคดิ เหน็ ของผเู้ ขยี นเอง

๖๕ การแยกแยะข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น คือ การอ่านข้อความหรือ เรื่องราวโดยพิจารณาอย่างละเอียด และเมื่ออ่านจบสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรคอื ขอ้ เท็จจรงิ อะไรคอื ข้อคิดเห็น ตวั อยา่ งการแยกแยะขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ วัดหลกั ส่ีเป็นวดั ที่ได้รับคดั เลอื กจากกรมการศาสนา ให้เป็นวดั พัฒนาตวั อย่างดีเด่น ในเขตกรุงเทพมหานครใน พ.ศ. ๒๕๓๔ มีถาวรวัตถุและสิ่งสำคัญประกอบด้วย องค์พระเจดียบ์ รรจุพระบรมสารีริกธาตุ และวิหารหลวงปู่ขาว เป็นพระเกจทิ ่ีผู้นิยมสะสม วัตถุมงคลจะรู้จักกันว่า มีชื่อเสียงในเรื่องมนต์คาถา ผู้คนที่ศรัทธาเชื่อว่าวัตถุมงคลของ หลวงปูข่ าวสามารถช่วยใหแ้ คลว้ คลาดปลอดภยั และใหโ้ ชคลาภแกผ่ ู้ท่คี รอบครอง ขอ้ เท็จจรงิ ๑. วัดหลักสีเ่ ป็นวัดที่ได้รับคัดเลือกจากกรมการศาสนา ให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่น ในเขตกรงุ เทพมหานครใน พ.ศ. ๒๕๓๔ ๒. มถี าวรวัตถุและส่ิงสำคญั ประกอบด้วย องค์พระเจดีย์บรรจพุ ระบรมสารีรกิ ธาตุ และวิหารหลวงปู่ขาว ข้อคดิ เหน็ ๑. หลวงปู่ขาวเป็นพระเกจทิ ่ีเลือ่ งลือในเรื่องมนต์คาถา ๒. วัตถมุ งคลจะชว่ ยปกปอ้ งใหค้ นที่ทำความดแี คล้วคลาดปลอดภัย ๓. ผู้ทม่ี ีวัตถมุ งคลของหลวงปูข่ าวจะโชคดแี ละแคลว้ คลาดปลอดภัย

๖๖ สรปุ ไดด้ ังนี้ ข้อเทจ็ จรงิ : สามารถพิสจู นไ์ ดแ้ ละมีหลักฐานสนบั สนุนยืนยนั ข้อคิดเห็น : ไมส่ ามารถพสิ จู น์ได้ ตารางเปรยี บเทยี บข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ ขอ้ เท็จจริง ขอ้ คิดเห็น ๑. เป็นข้อความทีแ่ สดงความรสู้ ึก ๑. มีความเปน็ ไปได้เสมอ หรอื ความคิดเหน็ ของผเู้ ขียนเอง ๒. มีความเปน็ จริงตามธรรมชาติ 2. เปน็ ข้อความทีแ่ สดงการคาดคะเน หรือเปรียบเทยี บ 3. มหี ลกั ฐานอ้างองิ พสิ ูจน์ได้ ๓. เป็นขอ้ ความทีเ่ ป็นความเชื่อแต่พิสจู นไ์ มไ่ ด้ และมีความสมเหตสุ มผล และไม่สมเหตสุ มผล

๖๗ เฉลยใบงานท่ี ๕ หลักทส่ี ี่ มีทมี่ า คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง “หลักที่สี่ มีที่มา” แล้วตอบคำถาม เขยี นด้วยตวั บรรจงครึง่ บรรทัด พ่ีชม สวัสดีค่ะนอ้ ง ๆ วันน้ีพีช่ มกับพส่ี ้มจะมาเล่าเกีย่ วกบั หลักสี่ของเรา ว่าทำไมถึงได้ชื่อว่า “หลักสี่” ให้น้อง ๆ ไดท้ ราบกันนะคะ ว่าแต่…น้อง ๆ เคยรู้ที่มาของชื่อ “หลักสี่” กันไหม ถา้ ยงั เดยี๋ วพวกพจ่ี ะอธิบายใหฟ้ งั นะคะ พี่ส้ม คุณปู่คุณย่าของพี่ส้มท่านเคยเล่าให้พี่ฟังว่า ที่เขาเรียกว่า “หลักส่ี ก็น่าจะเพราะว่าเขตนี้ตั้งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๔ ของ ระยะทางพอดี เขาเลยเรียกกันว่า “หลกั ส่ี” คะ่ พี่ชมได้ไปหาข้อมูลทั่วไปของเขตหลักสี่ เขาได้บันทึกข้อมูลไว้ว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มีการขุดคลอง ต่าง ๆ เพื่อเป็นทางลัดสู่จังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่รอบนอกพระนคร โดยจะกำหนด หลักบอกระยะทางของคลองที่ขุดทุกระยะ 100 เส้น (๑๐๐ เส้นเท่ากับ ๔ กิโลเมตร) หนึง่ ในคลองเหลา่ นัน้ ได้แก่ คลองเปรมประชากร ซึ่งขุดเชือ่ มไป ยังอำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชุมชนที่ตั้งอยู่ที่หลักบอก ระยะที่ 4 ของคลองนี้ จึงมีชื่อเรียกว่า “บ้านหลักสี่” ซึ่งชื่อหลักสี่นี้ ได้นำมาใช้เป็นชื่อสถานที่อื่น ๆ ในบริเวณนั้นอีก คือ วัดหลักสี่ สถานีรถไฟ หลกั สี่ และสี่แยกหลักสนี่ ่ันเองค่ะ (ณฐั พร : ดัดแปลงจากบทสัมภาษณ์นางละเมยี ด วรรณากลุ , ประธานชมุ ชนรว่ มพัฒนา, ๒๕๖๓)

๖๘ เป็นอย่างไรบ้างคะน้อง ๆ เข้าใจแล้วใช่ไหมคะ วา่ ทำไมเราถึงเรียกว่า “หลักส่ี” วันนี้พี่มีใบงานมาให้น้อง ๆ ลองทำกันด้วยนะคะ พี่จะให้น้อง ๆ อ่านเรื่องที่พวกพี่สองคนอธิบายข้างต้น แลว้ ใหน้ อ้ ง ๆ ลองดูวา่ ข้อมลู ไหนเป็นขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ มูล ไหนเป็นขอ้ คิดเหน็ (อยา่ งละ ๒ ขอ้ ) ถา้ ทราบแลว้ ให้นอ้ ง ๆ นำขอ้ มลู ไปเขียนลงในกรอบด้านล่างไดเ้ ลยคะ่ ข้อเท็จจรงิ 1. อย่ใู นดุลยพนิ ิจของผสู้ อน 2. อยใู่ นดลุ ยพินิจของผ้สู อน ขอ้ คิดเห็น 1. อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน 2. อยูใ่ นดุลยพินิจของผสู้ อน

๖๙ เกณฑ์การให้คะแนน หลักท่สี ี่ มที ีม่ า ประเด็นการประเมนิ ระดบั เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๑๐ ๑.๑ การเขยี นตอบคำถาม ๕ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น มกี ารใช้เหตผุ ลประกอบและเขา้ ใจง่าย ๔ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มีการใชเ้ หตผุ ลประกอบ ๓ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น ๒ เขียนตอบคำถามคอ่ นข้างตรงประเดน็ ๑ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็นคอ่ นข้างนอ้ ยมาก ๑.๒ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำถกู ต้องทกุ คำ ๔ เขยี นสะกดคำผิด ๑-๓ คำ ๓ เขียนสะกดคำผิด ๔-๖ คำ ๒ เขียนสะกดคำผิด ๗-๙ คำ ๑ เขียนสะกดคำผดิ ๑๐ คำข้นึ ไป ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถวิเคราะหข์ ้อเท็จจรงิ และ ๕ วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่านได้ถกู ตอ้ ง ๔ ข้อ ข้อคดิ เหน็ จากเรื่องที่อา่ นได้ถูกตอ้ ง ๔ วเิ คราะหข์ ้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ จากเรอ่ื งที่อา่ นไดถ้ ูกต้อง ๓ ข้อ ๓ วเิ คราะหข์ อ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็นจากเรอ่ื งท่ีอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง ๒ ข้อ ๒ วเิ คราะหข์ อ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรอ่ื งที่อ่านไดถ้ ูกตอ้ ง ๑ ขอ้ ๑ พยายามวเิ คราะหข์ อ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ แต่ยังไม่สมบรู ณ์ รวมคะแนน ๑๕

๗๐ เฉลยใบงานที่ ๖ แม่นาค คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงเรอื่ ง “แม่นาค” แลว้ ตอบคำถาม แมน่ าค ยายนาหญิงชราอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง ที่เขตสะพานสูง ยายนามีหลานชายหนึ่งคน ชื่อว่า “ต้า” เขาเป็นเด็กช่างสงสัย ต้าชอบฟังตำนานและเรื่องเล่าในสมัยก่อนมาก ต้าจะให้คุณยายเล่า เรื่องเหล่านี้ให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง เขาฟังอย่างตั้งใจและมักจะจดลงใส่ สมุดเล่มโปรดอยเู่ สมอ วันหนึ่งต้าก็นึกอยากรู้เกี่ยวกับตำนานในชุมชนของตัวเอง จงึ บอกกบั ยายนาว่า “คุณยายครับ ผมอยากรู้ตำนานในชุมชนของเราครับ คุณยาย ช่วยเลา่ ใหฟ้ งั สกั หนง่ึ ตำนานไดไ้ หมครับ” ยายนาตอบว่า “ไดส้ หิ ลานรกั เด๋ียวยายเล่าตำนานแมน่ าคให้ฟงั นะ” “ในสมัยก่อนคนในชุมชนนั่งเรือไปพระโขนง ผ่านวัดมหาบุตร คนก็จะไปขอหวยกัน คนสมัยก่อนเล่าต่อกันมาว่า ย่านาคหรือที่เรา เรียกกันว่าแม่นาค เขาเสียชีวิตในขณะที่กำลังคลอดลูก หรือที่เขา เรียกกันว่า “ตายทั้งกลม” ส่วนศพก็นําไปฝังไว้ที่ต้นตะเคียน ๒ ต้น จึงทำใหเฮี้ยนมาก ในช่วงดึก ๆ แม่นาคก็จะออกมารอสามีที่ช่ือ “มาก” ที่ท่าน้ำเป็นประจำ แล้วเวิ้งแถวนั้นเป็นเวิ้งเขตพระโขนง เขาจึงเรียกแมน่ าควา่ “แมน่ าคพระโขนง” ยงั ไงล่ะ” คำศัพทน์ า่ รู้ ตายทงั้ กลม หมายถงึ ตายทงั้ หมด, ตายท้งั แมท่ งั้ ลกู , เรยี กหญิงทตี่ ายพร้อมกบั ลกู ที่ อยู่ในท้อง ว่า “หญิงตายท้งั กลม”

๗๑ “อ๋อครบั ตำนานนน้ี ่ากลวั จังเลยนะครบั คุณยาย” ตา้ ตอบพรอ้ ม กับมสี ีหน้าท่หี วาดกลวั “ไม่ต้องกลัวนะลูก ตำนานเป็นสิ่งที่คนเขาเล่ากันมา สิ่งเหล่าน้ี ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคนนะ ถ้าไม่เชื่อเราก็ไม่ควรหลบหลู่ ไวว้ นั ไหนวา่ ง ๆ ยายจะพาหลานไปดศู าลแมน่ าคกันนะ อยูไ่ ม่ไกลจาก บ้านเราเลย” ยายนาตอบ “โอ้โฮ มีศาลแม่นาคด้วยเหรอครับยาย ผมอยากไปดูให้เห็นกับ ตาครับ เผื่อจะได้ถามเรือ่ งแม่นาคแถวนัน้ ด้วย วันไหนว่าง ๆ ยายพา ผมไปนะครบั ” ตา้ ตอบยายดว้ ยแววตาทีต่ นื่ เตน้ มากเป็นพิเศษ “ได้เลย ไวย้ ายจะพาไปนะจ๊ะ” ยายตอบและยม้ิ ให้กับตา้ (ณฐั พร : ดดั แปลงจากการสัมภาษณ์นางใบด๊ะ หวงั เจรญิ , รองประธานชุมชนบา้ นม้าเกาะล่าง, ๒๕๖๓)

๗๒ คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี เขยี นด้วยตวั บรรจงครึ่งบรรทัด ๑. จากเรอื่ ง “แมน่ าค” มใี ครบ้าง ยายนา และตา้ ๒. “ต้า” เป็นเด็กท่ีมนี ิสัยอย่างไร ต้าเป็นเดก็ ชา่ งสงสยั ชอบฟงั ตำนานและเรอ่ื งเลา่ ใน สมัยกอ่ น ๓. แม่นาคเสยี ชีวติ เพราะอะไร และนำศพไปฝังไวท้ ไี่ หน เขาเสียชีวิตในขณะท่ีกำลังคลอดลูก ศพฝังไว้ท่ีต้น ตตะะเเคคียียนน

๗๓ ๔. ทำไมแม่นาคจึงได้ชอ่ื วา่ “แมน่ าคพระโขนง” เพราะเวงิ้ แถวนั้นเป็นเว้งิ เขตพระโขนง จงึ เรยี กแม่นาค ว่า “แม่นาคพระโขนง” ๕. นักเรียนเชื่อเร่ืองตำนานแม่นาคหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด อยใู่ นดุลยพินิจของผูส้ อน ๖. นกั เรียนรู้จักตำนานเร่อื งใดบา้ งและเช่ือตำนานนนั้ หรือไม่ เพราะเหตุใด (๑ ตำนาน) อย่ใู นดุลยพนิ ิจของผู้สอน

๗๔ เกณฑก์ ารให้คะแนน แม่นาค ประเด็นการประเมิน ระดับ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๑๐ ๑.๑ การเขยี นตอบคำถาม ๕ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มีการใช้เหตผุ ลประกอบ เข้าใจงา่ ย ๔ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น มกี ารใช้เหตผุ ลประกอบ ๓ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น ๒ เขียนตอบคำถามคอ่ นขา้ งตรงประเด็น ๑ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็นคอ่ นข้างน้อยมาก ๑.๒ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำถูกต้องทุกคำ ๔ เขียนสะกดคำผดิ ๑-๓ คำ ๓ เขียนสะกดคำผิด ๔-๖ คำ ๒ เขียนสะกดคำผิด ๗-๙ คำ ๑ เขียนสะกดคำผดิ ๑๐ คำขึ้นไป ๒. การคิดวเิ คราะห์ ๕ สามารถแสดงความคิดเห็น ๕ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลและน่าสนใจ ด้วยการตอบคำถาม โดยมีเหตุผล เปน็ อย่างมาก ประกอบ ๔ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามอย่างมีเหตุผล เป็นส่วนใหญ่ และค่อนขา้ งน่าสนใจ ๓ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามอย่างมีเหตุผล ได้เป็นบางส่วน และน่าสนใจคอ่ นข้างนอ้ ย ๒ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามได้ แต่ไม่แสดงเหตุผล และ น่าสนใจนอ้ ยมาก ๑ สามารถแสดงความคดิ เห็นผา่ นการตอบคำถาม แตย่ งั ไม่สมบูรณ์ รวมคะแนน ๑๕

๗๕ เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๗ ดอนเมืองที่ฉันร้จู ัก คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเขียนบรรยายเร่อื งราวเกีย่ วกบั เขตดอนเมือง ตามจนิ ตนาการ อยา่ งน้อย ๑๐ บรรทัด พรอ้ มตั้งชื่อเร่อื ง ชื่อเร่ือง งง อยใู่ นดุลยพินจิ ของผู้สอน

๗๖ อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผ้สู อน

๗๗ เกณฑก์ ารให้คะแนน ดอนเมืองท่ีฉันรู้จกั ประเด็นการประเมิน ระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๒๐ ๑.๑ การตัง้ ช่อื เรื่อง ๓ ตงั้ ช่ือเรือ่ งไดต้ ามประเด็นการประเมนิ ครบ ๒ ขอ้ ๑) ชอ่ื เรอื่ งสือ่ ความหมายได้ตรงหรอื ๒ ตั้งชื่อเร่อื งไดต้ ามประเดน็ การประเมิน ๑ ข้อ สอดคล้องเน้ือเรื่อง ๑ ตั้งชื่อเรื่องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง แต่มีความน่าสนใจ ๒) ช่อื เรอ่ื งสร้างสรรค์และมีความนา่ สนใจ คอ่ นข้างนอ้ ย ๑.๒ สาระสำคัญของเร่ือง ๕ เขียนเร่ืองไดส้ าระสำคญั ตามประเด็นการประเมินครบ ๕ ขอ้ ๑) ลำดบั ความคิดอยา่ งตอ่ เน่ือง ๔ เขยี นเรอ่ื งได้สาระสำคัญตามประเดน็ การประเมนิ ๔ ขอ้ ๒) นำเสนอเน้อื หาตรงประเดน็ ๓ เขยี นเรื่องได้สาระสำคัญตามประเดน็ การประเมนิ ๓ ขอ้ ๓) เนอื้ หามีความสมั พนั ธ์กบั คำที่กำหนดให้ ๒ เขยี นเรื่องได้สาระสำคญั ตามประเดน็ การประเมนิ ๒ ข้อ ๔) มคี วามเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ๑ เขยี นเร่อื งได้สาระสำคญั ตามประเดน็ การประเมิน ๑ ข้อ ๕) มกี ารนำเสนอแนวคิดใหม่ ๑.๓ การใช้ภาษา ๕ ใชภ้ าษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ครบ ๕ ข้อ ๑) เลือกใชค้ ำไดถ้ กู ต้อง ๔ ใช้ภาษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ๔ ขอ้ ๒) เขยี นเวน้ วรรคตอนได้ถูกตอ้ ง ๓ ใชภ้ าษาไดต้ ามประเด็นการประเมิน ๓ ข้อ ๓) ใชค้ ำสภุ าพ ๒ ใชภ้ าษาไดต้ ามประเด็นการประเมนิ ๒ ขอ้ ๔) ใช้ประโยคส่ือความหมายได้ ๑ ใช้ภาษาไดต้ ามประเดน็ การประเมิน ๑ ขอ้ ๕) ใช้คำได้สละสลวย ๑.๔ การเขยี นสะกดคำ ๕ เขยี นถกู ตอ้ งทุกคำ ๔ เขยี นผดิ ๑-๒ คำ ๓ เขียนผดิ ๓-๔ คำ ๒ เขียนผิด ๕-๖ คำ ๑ เขยี นผิด ๗ คำ ขน้ึ ไป ๑.๕ ความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย ๒ เขียนได้ตามประเดน็ การประเมนิ ครบ ๒ ขอ้ ๑) เขียนตวั อักษรอ่านง่าย ๑ เขยี นได้ตามประเด็นการประเมิน ๑ ข้อ ๒) สะอาดเรยี บร้อย

๗๘ ประเดน็ การประเมิน ระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน ๒. การคิดวเิ คราะห์ ๕ สามารถคิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์ ๕ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอผ่าน กับรูปภาพแล้วนำเสนอผ่านงานเขียนเป็น งานเขียนเป็นเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ ครบถ้วนและถูกต้อง เรอ่ื งราว ตามหลกั การเขียน ๔ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเป็นเรื่องราวได้ค่อนข้างน่าสนใจ ครบถ้วน และถกู ตอ้ งตามหลักการเขยี น ๓ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเป็นเรื่องราวได้ค่อนข้างน่าสนใจ ค่อนข้างครบถ้วน และถูกต้องตามหลักการเขียน ๒ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเป็นเรื่องราวได้ไม่ค่อยน่าสนใจ ค่อนข้างครบถ้วน และถูกตอ้ งตามหลักการเขียนบางส่วน ๑ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับรูปภาพแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเปน็ เรื่องราวได้ไมน่ ่าสนใจ ไมค่ รบถ้วนและไม่ถูกต้อง ตามหลักการเขียน รวมคะแนน ๒๕

๗๙ เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี 8 คำไหนถูก คำชี้แจง ให้นกั เรียนทำเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องวา่ งหน้าคำท่เี ขยี นถูกตอ้ ง ตวั อยา่ ง ✓ โบราณ  โบราน ๑.  แมน่ าค  แมน่ าก ๒.  ศาน  ศาล ๓.  ผลติ ภณั ฑ์  ผลดิ พนั ธ์ ๔.  สูนเสีย  สญู เสีย ๕.  สกั สทิ ธิ์  ศกั ดิ์สิทธ์ิ ๖.  ต้นโพธ์ิ  ตน้ โพธ์ ๗.  ตัสรู้  ตรัสรู้ ๘.  บันพบุรุษ  บรรพบรุ ษุ ๙.  พระภมู ิ  พระพมู ๑๐.  อันเชญิ  อญั เชิญ

๘๐ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คำไหนถูก ประเด็นการประเมิน ระดับ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขยี น ๕ การเขยี นเคร่อื งหมาย ๕ เขียนเคร่อื งหมายเลือกคำตอบได้ถูกตอ้ ง ๙-๑๐ ข้อ ๔ เขยี นเครอื่ งหมายเลือกคำตอบได้ถูกต้อง ๗-๘ ข้อ ๓ เขียนเคร่ืองหมายเลือกคำตอบไดถ้ ูกต้อง ๕-๖ ข้อ ๒ เขียนเครอ่ื งหมายเลอื กคำตอบไดถ้ กู ตอ้ ง ๓-๔ ข้อ ๑ เขียนเครอื่ งหมายเลอื กคำตอบไดถ้ ูกต้อง ๑-๒ ข้อ ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถเปรียบเทียบคำด้วย ๕ เปรียบเทียบคำดว้ ยการแยกแยะคำถูกคำผิดไดถ้ ูกต้องทกุ ขอ้ การแยกแยะคำถกู คำผดิ ได้ถกู ต้อง ๔ เปรยี บเทยี บคำด้วยการแยกแยะคำถูกคำผดิ ไดถ้ กู ตอ้ ง 7-8 ข้อ ๓ เปรียบเทยี บคำด้วยการแยกแยะคำถูกคำผดิ ไดถ้ กู ต้อง 5-6 ข้อ ๒ เปรยี บเทียบคำด้วยการแยกแยะคำถกู คำผิดได้ถกู ต้อง 3-4 ข้อ ๑ เปรียบเทยี บคำดว้ ยการแยกแยะคำถกู คำผดิ ไดถ้ กู ต้อง 1-2 ขอ้ รวมคะแนน ๑๐

๘๑ เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๙ คลองตาเลง่ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นเรอื่ ง “คลองตาเล่ง” แล้วตอบคำถาม คลองตาเล่ง ยายแก้วกำลังเตรียมอาหารเพื่อจะเอาไปทำบุญที่วัด จึงเรียก หลานสาวให้มาช่วยเตรียม “ใบตอง มาช่วยยายเตรียมอาหารหน่อย จ้ะหลาน” เม่ือใบตองเดนิ มาถึงก็ไดน้ ัง่ ลงขา้ ง ๆ คุณยาย “ยายจะให้ใบตองทำอะไรหรือคะ” ใบตองกล่าว “วันน้ียาย จะทำนำ้ พรกิ เอาพรกิ ในตะกรา้ มาตำ” ยายแก้วบอกหลานสาว ในระหว่างที่ใบตองตำพรกิ อยูน่ น้ั ใบตองถามยายแกว้ วา่ “ยายจ๋า หนเู คยไดย้ นิ วา่ คลองท่อี ยตู่ ดิ บา้ นเราน้ีเคยมีตำนาน จริงไหมจ๊ะยาย” “จริงแล้วหลานรัก อยากรู้ไหมว่าตำนานเล่าว่าอย่างไร” ยายแก้วกลา่ ว “อยากจะ๊ ยาย” ใบตองตอบยาย “ในอดีตมีชายคนหนึ่ง ชื่อว่า “เล่ง” อาศัยอยู่บริเวณนี้ ตาเล่ง มีภรรยาและรักภรรยามาก แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน วันหนึ่งตาเล่งอยาก จะไปหาภรรยา แต่ดว้ ยการเดินทางเป็นไปอยา่ งยากลำบาก จึงทำให้ ตาเล่งไปหาไม่ได้ ด้วยความรักและคิดถึง ตาเล่งจึงขุดคลองเพื่อใช้ ในการเดินทางไปหาภรรยาที่วัดสามขาหรือวัดไตรรัตนาราม ปัจจุบัน ชาวบา้ นแถวนจี้ งึ เรยี กคลองน้วี ่า “คลองตาเลง่ ” คณุ ยายแกว้ เลา่ เมื่อคณุ ยายแกว้ เล่าจบ ใบตองก็ตำน้ำพริกเสร็จพอดี ยายหลาน จึงพากนั ไปทำบุญท่วี ัด (ธนวัฒน์ : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณน์ างสงกรานต์ สุวรรณหงส์, ชาวบ้านเขตบางเขน, 2563)

๘๒ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี ๑. ใครคอื ผู้ขุดคลองตาเล่ง ตาเลง่ ๒. สาเหตขุ องการขุดคลองตาเล่งคืออะไร และขุดคลองเพื่ออะไร สาเหตุคอื ความรกั และความคดิ ถงึ ภรรยา และขุดเพ่อื ใชเ้ ดนิ ทางไปหาภรรยา ๓. เม่อื นกั เรยี นได้อ่านเร่อื ง “คลองตาเล่ง” แลว้ รสู้ ึกอย่างไร อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน ๔. จากเรื่อง “คลองตาเลง่ ” นกั เรยี นไดข้ ้อคิดอย่างไรบ้าง อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน

๘๓ เกณฑก์ ารให้คะแนน คลองตาเลง่ ประเด็นการประเมนิ ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน ๑. การอ่าน ๕ การอ่านออกเสยี ง ๕ อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ตามอักขรวิธี เสียงดังชัดเจน เว้นจังหวะ เหมาะสม และใช้นำ้ เสยี งแสดงอารมณ์ไดไ้ พเราะ ๔ อ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธี เสียงดังชัดเจน เว้นจังหวะ เหมาะสม แสดงอารมณ์ในบางจงั หวะไดด้ ี ๓ อ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธี เสียงดังชัดเจน เว้นจังหวะ เหมาะสมและใชน้ ำ้ เสียงแสดงอารมณ์ในบางจงั หวะ แตย่ ังทำไดไ้ ม่ดนี ัก ๒ อ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธี เสียงดังชัดเจน แต่ยังต้อง ปรบั ปรุงเรอ่ื งการเว้นจังหวะ ๑ อ่านออกเสียงค่อนข้างไม่ชัดเจน เสียงค่อนข้างเบา และต้องปรับปรุง เรอ่ื ง การเว้นจงั หวะ ๒. การเขียน ๕ การเขยี นตอบคำถาม ๕ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น มกี ารใช้เหตผุ ลประกอบ เขา้ ใจงา่ ย ๔ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มกี ารใชเ้ หตผุ ลประกอบ ๓ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น ๒ เขียนตอบคำถามค่อนข้างตรงประเดน็ ๑ เขียนตอบคำถามไม่ตรงประเด็น ๓. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถแสดงความคดิ เห็น ๕ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้อย่างมีเหตุผล ด้วยการตอบคำถาม โดยมี และมคี วามน่าสนใจอย่างมาก เหตุผลประกอบ ๔ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้อย่างมีเหตุผลเป็น ส่วนใหญ่ และมีความคอ่ นขา้ งนา่ สนใจ ๓ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้อย่างมีเหตุผลได้เป็น บางสว่ น และมีความค่อนขา้ งนา่ สนใจน้อย ๒ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้ แต่ไม่แสดงเหตุผล และมคี วามน่าสนใจน้อยมาก ๑ พยายามแสดงความคดิ เหน็ ดว้ ยการตอบคำถาม แต่ยังไมส่ มบูรณ์ รวมคะแนน ๑๕



ชดุ กจิ กรรมที่ ๔ รู้จักคิด รจู้ ักเขยี น

๘๖ ใบความรู้ เรอื่ ง การเขียนเลา่ เรื่อง การเขยี นเล่าเรือ่ ง การเขียนเล่าเรื่อง อาจเป็นการเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัวหรือ เร่ืองทีน่ ่าสนใจ การเขยี นประเภทนี้ส่วนมากใช้การเขยี นแบบบรรยาย และมีการเขียน แบบอธบิ ายประกอบ การเขียนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง อาจกำหนดโครงเรื่องอย่างง่าย ๆ เริ่มต้น จากคำนำ หัวข้อเรื่องหรือลำดับเหตุการณ์ จนถึงบทสรุปข้อสำคัญอยู่ที่ว่าจะ เขียนอยา่ งไรจึงจะสามารถเลา่ สิง่ ทตี่ อ้ งการใหไ้ ดด้ ที ี่สดุ เทา่ น้ัน จุดประสงคใ์ นการเขยี นเลา่ เรอ่ื ง ๑. เพ่ือให้เกิดความเพลิดเพลนิ ๒. เพ่ือถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณ์ และข้อคดิ ใหผ้ ูอ้ ่นื ทราบ ๓. เพ่อื ถา่ ยทอดอารมณแ์ ละความรสู้ กึ ๔. เพ่อื เป็นคำสอนและแนวทางในการดำเนินชีวติ

๘๗ เฉลยใบงานท่ี ๗ ฝกึ คดิ ฝึกเขียน คำช้ีแจง ให้นักเรียนนำคำที่กำหนดให้ เขียนแผนภาพโครงเรื่อง และเขียนเป็นเรื่องราวให้สมบูรณ์ไม่เกิน ๗ บรรทัด พร้อมต้ังชื่อเรื่องให้สอดคล้อง ท่งุ นา ขา้ ว บางเขน วถิ ีชีวติ ชาวบ้าน 1.ตวั ละคร ชาวบ้าน 2. สถานท่ี ทุ่งนาบางเขน 3. เหตุการณ์ อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของผสู้ อน 4. ผลของเหตุการณ์ อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผู้สอน 5. ขอ้ คดิ อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน

๘๘ ช่อื เรอ่ื ง อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผู้สอน ภาพ : ทุง่ นาบางเขน เลยี บถนนกาญจนาภิเษก แขวงทา่ แร้ง ทม่ี า : https://www2.mcot.net/view/kBex1ThT

๘๙ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ฝึกคดิ ฝกึ เขียน ประเดน็ การประเมิน ระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๒๐ ๑.๑ การตงั้ ชอ่ื เร่อื ง ๓ ตั้งชอ่ื เรอ่ื งได้ตามประเดน็ การประเมนิ ครบ ๒ ข้อ ๑) ช่ือเรอ่ื งสอ่ื ความหมายได้ตรงหรอื ๒ ตั้งชื่อเรือ่ งได้ตามประเด็นการประเมนิ ๑ ขอ้ สอดคล้อง เน้อื เร่อื ง ๑ ตงั้ ช่ือเรื่องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง แต่มีความน่าสนใจ ๒) ชอ่ื เรอ่ื งสร้างสรรคแ์ ละมคี วามนา่ สนใจ ค่อนขา้ งนอ้ ย ๑.๒ สาระสำคัญของเร่อื ง ๕ เขียนเร่อื งไดส้ าระสำคญั ตามประเดน็ การประเมนิ ครบ ๕ ขอ้ ๑) ลำดับความคิดอยา่ งตอ่ เน่ือง ๔ เขียนเรือ่ งได้สาระสำคัญตามประเดน็ การประเมนิ ๔ ขอ้ ๒) นำเสนอเนอ้ื หาตรงประเด็น ๓ เขยี นเรอ่ื งได้สาระสำคญั ตามประเดน็ การประเมิน ๓ ข้อ ๓) เน้ือหามคี วามสมั พันธ์กับคำทก่ี ำหนดให้ ๒ เขียนเร่อื งไดส้ าระสำคัญตามประเดน็ การประเมนิ ๒ ข้อ ๔) มคี วามเปน็ เหตุเป็นผล ๕) มีการนำเสนอแนวคิดใหม่ ๑ เขยี นเรอ่ื งได้สาระสำคัญตามประเด็นการประเมิน ๑ ขอ้ ๑.๓ การใชภ้ าษา ๕ ใชภ้ าษาไดต้ ามประเดน็ การประเมินครบ ๕ ข้อ ๑) เลือกใช้คำที่กำหนดไดค้ รบ ๓ คำ ๔ ใช้ภาษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ๔ ข้อ ๒) เขียนเว้นวรรคตอนไดถ้ กู ต้อง ๓ ใช้ภาษาได้ตามประเดน็ การประเมนิ ๓ ข้อ ๓) ใช้คำสุภาพ ๒ ใชภ้ าษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ๒ ข้อ ๔) ใชป้ ระโยคสื่อความหมายได้ ๑ ใช้ภาษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ๑ ข้อ ๕) ใชค้ ำไดส้ ละสลวย ๑.๔ การเขยี นสะกดคำ ๕ เขยี นถูกตอ้ งทกุ คำ ๔ เขียนผดิ ๑-๒ คำ ๓ เขยี นผดิ ๓-๔ คำ ๒ เขยี นผิด ๕-๖ คำ ๑ เขียนผดิ ๗ คำ ขนึ้ ไป ๑.๕ ความเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย ๒ เขยี นได้ตามประเด็นการประเมินครบ ๒ ข้อ ๑) เขียนตัวอักษรอ่านงา่ ย ๑ เขยี นไดต้ ามประเด็นการประเมนิ ๑ ข้อ ๒) สะอาดเรียบรอ้ ย

๙๐ ประเด็นการประเมนิ ระดบั เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถคดิ วิเคราะหเ์ น้อื หาที่สมั พนั ธก์ บั คำที่ ๕ คิดวิเคราะห์เน้ือหาที่สัมพันธ์กับคำแล้วนำเสนอผ่าน กำหนดให้แล้วนำเสนอผ่านงานเขียนเปน็ เรอื่ งราว งานเขียนเป็นเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ ครบถ้วนและ ถูกตอ้ งตามหลักการเขียน ๔ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับคำแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเป็นเรื่องราวได้ค่อนข้างน่าสนใจ ครบถ้วนและ ถกู ตอ้ งตามหลักการเขียน ๓ คิดวิเคราะห์เน้ือหาที่สัมพันธ์กับคำแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเป็นเร่ืองราวได้ค่อนข้างน่าสนใจ ค่อนข้าง ครบถว้ นและถูกต้องตามหลกั การเขยี น ๒ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับคำแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเป็นเรื่องราวได้ไม่ค่อยน่าสนใจ ค่อนข้าง ครบถ้วนและถูกต้องตามหลกั การเขียนบางส่วน รวมคะแนน ๑ คิดวิเคราะห์เนื้อหาท่ีสัมพันธ์กับคำแล้วนำเสนอผ่าน งานเขียนเป็นเรื่องราวได้ไม่น่าสนใจ ไม่ครบถ้วนและ ไม่ถกู ตอ้ งตามหลักการเขยี น ๒๕

๙๑ เฉลยใบงานที่ ๘ วชิ ายน่ ระยะทางและการล่องหน คำช้แี จง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง “วิชาย่นระยะทางและการล่องหน” แลว้ ต้ังคำถามและตอบคำถาม ๕ ขอ้ “วิชายน่ ระยะทางและการลอ่ งหน” นานมาแล้วมีพระรปู หน่ึงชือ่ ว่า “หลวงปูท่ อง” ท่านเปน็ พระท่ีมีวิชา ยน่ ระยะทางและการลอ่ งหน ทำใหเ้ ปน็ ท่ศี รัทธาของชาวบา้ นในหม่บู า้ น วันหนึ่งหลวงปู่ทอง ท่านได้ออกเดินทางไปธุดงค์ในป่าและมีลูกศิษย์ ตามไปด้วย ท่านให้ลูกศิษย์ออกเดินไปก่อนท่าน แต่เมื่อลูกศิษย์เดินทาง ไปถึงปรากฏว่าหลวงปู่ทองถึงที่หมายแล้ว ลูกศิษย์จึงเกิดความสงสัย และ ถามทา่ นว่า “ทำไมหลวงปู่มาถึงกอ่ น ทัง้ ๆ ทหี่ ลวงปตู่ ามมาทหี ลงั ครับ” หลวงปู่ตอบกลับว่า “ก็เพราะวา่ อาตมา (อาด-ตะ-มา) ใชว้ ิชาย่นระยะทาง และการล่องหนนะ่ สิ จึงทำให้อาตมา (อาด-ตะ-มา) มาถงึ กอ่ นโยมไง” “หลวงปู่มีวิชาแบบนี้ด้วยเหรอครับ ผมอยากมีวิชานี้บ้าง ฝึกวิชา ใหผ้ มได้ไหมครบั หลวงปู่” ลูกศิษย์ตอบ หลวงปู่ตอบกลับว่า “ถ้าอยากมีวิชาติดตัวเหมือนกับอาตมา ก็ต้อง เป็นคนดี มีศีลธรรม และต้องถือศีลด้วยนะ ถ้าโยมทำได้เดี๋ยวอาตมาจะ ฝกึ วชิ าให้นะ” หลวงปู่ตอบกลับพรอ้ มย้มิ ให้กับลกู ศิษย์ (ณฐั พร : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณพ์ ระครูโสภณ ขนั ตกิ ลุ , ผ้ชู ่วยเจา้ อาวาสวัดลาดบวั ขาว, ๒๕๖๓)

๙๒ คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นตั้งคำถามและตอบคำถามจากเรอื่ ง “วชิ าย่นระยะทางและการล่องหน” จำนวน ๕ ขอ้ ตัวอยา่ ง หลวงปู่ทองคอื ใคร ตอบ คอื พระทม่ี ีวชิ าย่นระยะทางและการลอ่ งหน ๑. อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน ตอบ อยู่ในดุลยพนิ จิ ของผสู้ อน ๒. อย่ใู นดุลยพินจิ ของผู้สอน ตอบ อย่ใู นดุลยพนิ ิจของผสู้ อน ๓. อยู่ในดลุ ยพินิจของผูส้ อน ตอบ อยู่ในดุลยพนิ ิจของผู้สอน

๙๓ ๔. อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน ตอบ อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผู้สอน ๕. อย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน ตอบ อยู่ในดุลยพนิ จิ ของผสู้ อน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook