Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบถอดองค์ความรู้จากนวัตกรรมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลา

แบบถอดองค์ความรู้จากนวัตกรรมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลา

Published by พัฒนาชุมชน ยะลา, 2021-01-19 07:34:41

Description: kmyala

Search

Read the Text Version

แบบถอดองค์ความรู้จากนวัตกรรม โครงการความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ช่อื - สกุล นางเจนจริ า ดอยอ ตาแหนง่ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา เทคนคิ แก้จนด้วยการขบั เคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรแี บบบรู ณาการ 1. แนวคดิ การแก้ไขปัญหาความยากจน เป็นเชื่อมโยงการแก้ไขความยากจนทุกระดับ ตั้งแต่บุคคล ชุมชน และ ประเทศ ตลอดจนสร้างกลไกท่ีเชื่อมโยง ให้คนยากจนในชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์และทรัพยากร อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดย ในระดับบุคคลจะเน้นการขยายโอกาส สร้างรายได้ ลดรายจ่าย เพ่ิมช่อง ทางการเข้าถึงทุน ซึ่งรวมถึงเงินทุน กรรมสิทธิ์ท่ีดิน และองค์ความรู้ในระดับชุมชน เป็นการดาเนินการเสริมสร้าง ขบวนการชุมชนเข้มแข็งและพัฒนา ระบบการเงินที่สนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก เช่น กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกองทุนต่างๆในชุมชนที่ให้โอกาส เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพ่ือให้ชุมชนสามารถใช้ บริหารแก้ไขปัญหาของตนเอง และในระดับประเทศเน้นการแก้ปัญหา และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยการ “ลดรายจา่ ย เพม่ิ รายได้ ขยายโอกาส” ภายใต้ “ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง” 2. วตั ถปุ ระสงค์ ครัวเรือนยากจน มีความรู้ ความเขา้ ใจ มีศักยภาพและ มีแหล่งเงนิ ทนุ หมุนเวียนดอกเบีย้ ตา่ ในการสรา้ งอาชีพ สร้างรายได้ 3.ขั้นตอนการดาเนินงาน 1. ศกึ ษา เรยี นรู้ 2.สร้างความรู้ ความเขา้ ใจแก่ 3.การพฒั นาศักยภาพของครัวเรือน.ความเอาใจใส่ใฝร่ ู้ 4. ติดตาม 5.ประเมนิ ผล 4.ผลสาเร็จ - เชิงปรมิ าณ ครวั เรอื นยากจน จานวน 2 ครวั เรอื น สมคั รเป็นสมาชิกกองทนุ พฒั นาบทบาทสตรี รอ้ ยละ 30 ของครัวเรือน ยากจนเปา้ หมาย

สมาชิกกองทุนพฒั นาบทบาทสตรที ี่เป็นครัวเรือนยากจนเปา้ หมาย รอ้ ยละ 30 สามารถเข้าถงึ แหล่งเงินทนุ หมนุ เวยี นดอกเบ้ยี ต่า - เชิงคณุ ภาพ ครัวเรอื นยากจนเป้าหมายฯ ทเี่ ขา้ ถงึ แหล่งเงินทนุ หมนุ เวียนดอกเบีย้ ตา่ ของกองทนุ พัฒนาบทบาทสตรี มีงาน ทามอี าชีพ ท่สี ามารถสรา้ งความมน่ั คงด้านรายได้ มีคณุ ภาพชีวิตทดี่ ี มีบทบาทนาทางเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื งใน ชมุ ชนได้ 5.ปจั จยั แห่งความสาเรจ็ 1.การตดิ ตามของ จนท.อย่างตอ่ เน่อื ง 2.ความรว่ มมือของครัวเรือนฯ 3. ครวั เรือนฯใหค้ วามสาคัญของการยกระดับรายได้ของครอบครัว 6. ขอ้ คดิ เห็น/เสนอแนะ ถึงแม้นว่าครัวเรอื นเปา้ หมายเหน็ ความ สาคญั ละใหค้ วามรว่ ม มือแค่ไหน จะไมส่ ามารถดาเนนิ การสาเร็จได้ สืบเนอ่ื งจาก ความขี้เกียจโดยธรรมชาติ 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต สร้างจติ สานกึ ในการรักการทางาน ให้ความสาคญั ต่อความอยรู่ อดของครอบครัวอย่างจรงิ จงั ทกุ รปู แบบ

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม โครงการความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ชื่อ – สกลุ นางสาวทิพวัลย์ วรเวทย์ชลติ ตาแหน่ง เจา้ พนักงานพฒั นาชุมชนปฏบิ ตั ิงาน สังกดั สพอ.ธารโต การใช้เครื่องปรนิ้ เตอรร์ ว่ มกันผ่านเครอื ขา่ ย LAN ณ สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอธารโต 1. ที่มา/แนวคดิ ในปัจจุบนั มีการใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ กันอยา่ งแพร่หลายไปทัว่ ทุกมุมโลก แต่ละคนกใ็ ช้ประโยชนข์ องอนิ เทอร์เนต็ ไปใน หลายด้านต่างๆ มากมายในชีวิตประจาวันของเรา ทั้งด้านการศึกษา เชิงพาณิชย์ ธุรกรรม ความบันเทิง และอื่นๆ ระบบ อินเตอร์เน็ตมีทั้งระบบ LAN และระบบ Wifi การใช้คอมพิวเตอร์บนระบบอินเตอร์เน็ตมีความสาคัญเป็นอย่างย่ิงในการ ตดิ ต่อส่อื สาร และการปฏิบัติงาน สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอธารโต มีจานวนเครอ่ื งคอมพิวเตอร์มากกวา่ เคร่ืองปร้ินเตอร์เนอื่ งจากเปน็ ครุภัณฑ์ท่ี มรี าคาสงู จงึ มคี วามจาเปน็ ในการใชเ้ ครือ่ งพิมพ์ร่วมกัน เพ่อื ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดาเนนิ งานภายในสานักงาน ซ่ึงระบบ อินเตอร์เน็ตในสานักงานมีด้วยกัน 2 ระบบ คือ ระบบ LAN และระบบ Wifi ทาให้การแชร์เครื่องปริ้นเตอร์แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม เพื่อเพิ่มประสทิ ธภิ าพการทางานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และประหยัดงบประมาณ จึงได้จัดทาโครงการการใชเ้ ครอ่ื ง ปรน้ิ เตอรร์ ว่ มกันผา่ นเครือขา่ ย LAN 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพอ่ื อานวยความสะดวดแกผ่ ู้ปฏิบตั งิ านในการพิมพ์เอกสารภายในสานักงาน 2.2 เพอ่ื ลดค่าใชจ้ ่ายในการจัดซื้อเครื่องปริน้ เตอร์ 2.3 เพอ่ื การใชท้ รัพยากรร่วมกนั ได้อย่างคุ้มคา่ และเกิดประโยชนส์ งู สดุ 3. ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน 3.1 ตรวจสอบระบบอินเตอรเ์ นต็ ของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์แต่ละเคร่ือง 3.2 ตรวจสอบเคร่ืองปรนิ้ เตอร์ที่เหมาะสาหรับการใช้งานรว่ มกัน 3.3 ต้ังคา่ เครื่องปรนิ้ เตอร์ให้แชร์ เพ่ือการใชง้ านรว่ มกันได้ 4. ผลสาเร็จท่เี กดิ ขึน้ - เชิงปรมิ าณ : ร้อยละ 100 เคร่ืองคอมพิวเตอรท์ ุกเครื่องในสานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอธารโตสามารถใช้ เครอ่ื งปร้นิ เตอร์รว่ มกนั ได้ - เชิงคณุ ภาพ : บคุ ลากรในสานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอธารโตสามารถปฏิบัตงิ านได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 5. ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ 5.1 การเลือกเครื่องปริน้ เตอร์ท่สี ามารถรองรับการใช้งานภายในสานกั งานได้อยา่ งมีคุณภาพ

5.2 ทุกคนสามารถใชง้ านเครอ่ื งปรน้ิ เตอร์ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งย้ายไฟล์ขอ้ มลู 6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ การนาระบบเครือขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ มาใชใ้ นการทางาน จะช่วยให้เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพของการปฏบิ ตั ิงาน และ คณุ ภาพของงานได้มากข้นึ 7. แนวทางพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต 7.1 เป็นสานักงานท่ใี ช้ระบบอินเตอร์เนต็ ในการปฏบิ ตั งิ านและการดึงข้อมูลจากเครื่องคอมพวิ เตอรม์ าใช้ร่วมกนั 7.2 แนะนาการใชง้ านให้กับพฒั นากรทุกคนทราบ และสามารถใชง้ านได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 7.3 แนะนาให้ภาคเี ครือข่าย/ชุมชนนาระบบอินเตอร์เน็ตไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานใหเ้ กิดคณุ ภาพมากยง่ิ ขึน้ 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม โครงการความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นายประพันธ์ ทองสีดา พัฒนาการอาเภอรามนั สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอรามนั การสร้างความเขม้ แข็งจากภายในของสมาชกิ สตรรี ามัน 1. แนวคดิ /ท่มี า จุดเรม่ิ ตน้ เกดิ จากการตอบคาถามที่ว่า “เราจะทาอย่างไรใหส้ มาชิกสตรีรามันเกิดความเขม้ แข็งจาก ภายใน” บนพื้นฐานทีเ่ กิดจากความตอ้ งการของสตรีเอง บริหารจดั การเอง เพ่ือความสขุ และคณุ ภาพชีวติ ท่สี มดุล ของสมาชิกสตรีรามันดว้ ยตนเอง 2. วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ สร้างโอกาสให้สมาชิกสตรีรามันเกิดการสรา้ งงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สรา้ งความสขุ บนพื้นฐานของการมี คุณภาพชวี ติ ทีส่ มดุล 3. ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน 3.1 การพึง่ ตนเอง (การช่วยเหลือตนเองให้มากท่สี ุด) ด้วยวธิ ีการกาหนดเปา้ หมายชวี ิต สรา้ งวินัยในตนเอง ทบทวนการดาเนนิ ชวี ติ ลดภาระ และวางแผนการดาเนนิ ชวี ิต 3.2 มีความสุข ดว้ ยวิธกี ารจัดการชวี ิตให้อย่ใู นความพอดี พอกิน พออยู่ อย่างสมดุล 4. ผลสาเร็จที่เกิดขึ้น - ปรมิ าณ 17 ทีมตาบลของอาเภอรามัน บรรลุตามตวั ชีว้ ัดทีก่ าหนด - คุณภาพ ร้อยละ 80 ของสมาชิกสตรที ี่เข้ารว่ มกจิ กรรมมีความสขุ และมีคุณภาพชีวติ ทีด่ ีขึ้น 5. ปัจจัยแห่งความสาเรจ็ 5.1 ทีมอาเภอรามันใส่ใจ ติดตาม และใหก้ ารสนบั สนนุ อย่างไกลช้ ิด 5.2 ทมี ตาบลของอาเภอรามนั ติดตาม ให้คาปรึกษา และพร้อมให้โอกาสสมาชกิ สตรีในทกุ มิติของการพฒั นา ตนเอง 5.3 สมาชิกสตรีทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรมตระหนักและพร้อมยกระดบั การพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของตนเองอย่างไม่มี เงื่อนไข 6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ 6.1 กาหนดเปา้ หมาย/วิธีการดาเนนิ งานในการพัฒนาตนเองของสมาชกิ ใหช้ ดั เจน 6.2 กาหนดเกณฑช์ ีว้ ัดกจิ กรรมการพฒั นาตนเองของสมาชิกสตรีทเ่ี หมาะสมกบั สถานการณ์

7. แนวทางการพฒั นาต่อยอดในอนาคต 7.1 ทบทวนแผนชวี ติ อยา่ งต่อเน่ืองตามสถานการณ์ 7.2 สร้างความตระหนักใหก้ บั ทีมขบั เคลือ่ นในระดับอาเภอ/ตาบล/สมาชกิ เพราะเป็นจดุ แตกหกั สาคัญในการ บรรลผุ ลสมั ฤทธติ์ ามเป้าหมายของกิจกรรม 7.3 เน้นข้อมลู ท่เี ปน็ จริงในการนาไปวางแผนพัฒนาอย่างถกู ต้อง 8. ภาพประกอบ

แบบถอดองคค์ วามรู้จากนวตั กรรม โครงการความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นายสมาน มาซิดง นกั วิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอรามัน การพัฒนาแนวคิดครัวเรอื นสมั มาชีพตามวิถชี ีวิตเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. แนวคดิ /ท่มี า การพฒั นาคนใหค้ ิดได้และทาได้ เปน็ สง่ิ สาคัญ โดยเฉพาะการแกป้ ญั หาวิกฤตเศรษฐกิจ จะตอ้ งแกป้ ัญหา เศรษฐกิจในระดับครวั เรือนให้ประสบผลสาเร็จกอ่ นเปน็ อนั ดบั แรก วธิ กี ารแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการวถิ ชี ีวิต ของครวั เรือน การขาดความรดู้ า้ นอาชพี ขาดแคลนเงินทนุ และขาดความรูด้ า้ นเทคนิควิชาการพัฒนาอาชีพของ ครัวเรือน การให้ประชาชนคิดและแกไ้ ขปญั หาของตนเอง โดยที่เจ้าหนา้ ทีเ่ ข้าไปสง่ เสริมสนับสนุน ซงึ่ ไดร้ บั การ ยอมรบั วา่ ประสบผลสาเรจ็ สามารถแก้ปญั หาการขาดความรดู้ า้ นอาชีพ ขาดแคลนเงนิ ทุน และขาดความรดู้ า้ น เทคนิควิชาการพัฒนาอาชีพของครัวเรือน ซงึ่ มเี จา้ หนา้ ที่ของรัฐเป็นผู้สนับสนุนทางด้านความร้แู ละวิธกี าร ใช้ ทรัพยากรในหมบู่ ้าน / ตาบล เปน็ หลักในการดาเนนิ การพัฒนา 2. วัตถปุ ระสงค์ ครัวเรอื นมีการเรียนร้แู ละพัฒนาอาชีพเพิ่มรายได้แก่ครัวเรือน มีกลุม่ อาชพี ท่ีสรา้ งรายไดแ้ ก่ครวั เรือน ตาม แนวทางการสรา้ งสัมมาชพี ชมุ ชน เพื่อใหค้ รวั เรือนมีการน้อมนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นครัวเรือน 3. ผลสาเร็จท่ีเกดิ ขึน้ ครวั เรอื นมีการเรียนรู้และพัฒนาอาชีพ มกี ลมุ่ อาชพี ทสี่ รา้ งรายไดแ้ กค่ รวั เรือน ครวั เรือนมกี ารน้อมนาปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในครัวเรือน 4. ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ -หลักการมสี ว่ นร่วมของครัวเรือน -การเลอื กกิจกรรมพฒั นาอาชพี เสรมิ -การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ -ความพยายามและพากเพียรของครัวเรอื น

6. ข้อคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะ หนว่ ยงานราชการ องค์กรเอกชน ประชาชน ควรให้ความสาคัญกับการพฒั นาและส่งเสรมิ อาชพี เสริมในพ้นื ที่ ให้ มากกวา่ เดิม โดยการสง่ เสริมและพฒั นาต่อยอดกลุม่ อาชพี ให้ยงั่ ยนื และควรสนบั สนุนการเรยี นร้ขู องครัวเรือนให้ เหมาะสมกับอาชีพทีต่ ้องการต่อยอด 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต สนับสนนุ ใหค้ รวั เรือนเข้ารบั การฝกึ อบรมศกึ ษาดงู าน เรียนรู้ และพัฒนาตนอาชพี ของตนเองอยา่ งต่อเน่ือง และหาชอ่ งทางการสง่ เสริมชอ่ งทางการตลาดให้ครัวเรอื นสามารถเข้าถงึ แหลง่ ทนุ ได้อยา่ งยั่งยืน 8. ภาพประกอบ

แบบถอดองค์ความรูจ้ ากนวตั กรรม โครงการความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ชื่อ – สกุล นายนิรนั ดร์ ภกั ดี ตาแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ สงั กดั สพอ.ธารโต การจดั ต้งั เครือขา่ ยกลุ่มออมทรพั ย์เพื่อการผลติ ตาบลคีรีเขต 1. ท่ีมา/แนวคดิ สานกั งานพฒั นาชมุ ชนอาเภอธารโต ไดด้ าเนินการส่งเสริมประชาชนให้มกี ารจัดต้ังกลุม่ ออมทรพั ย์เพ่อื การ ผลติ เพ่ือส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนมกี ารออม สร้างกระบวนการเรียนรู้ให้ประชาชนรู้จักการบริหารจดั การชมุ ชนใน รปู แบบของกลุ่ม บนพ้ืนฐานคุณธรรม 5 ประการ ไดแ้ ก่ ความซ่อื สัตย์ ความเสียสละ ความรบั ผิดชอบ ความเห็นอก เห็นใจ ความไวว้ างใจซ่ึงกนั และกัน ซึง่ ตาบลครี ีเขต ประกอบดว้ ยหมบู่ า้ น 7 หมู่บา้ น มีกลมุ่ ออมทรัพย์เพื่อการผลติ จานวน 6 หมูบ่ ้าน ซง่ึ ยังมรี ูปแบบการดาเนนิ การบางสว่ นท่ีแตกต่างกัน บางกลมุ่ ยังมีปัญหาในการดาเนินงาน ไม่มี การแลเปลยี่ นเรยี นรู้ซง่ึ กันและกันระหวา่ งกลมุ่ ออมทรัพยเ์ พ่อื การผลติ ในระดับตาบล จึงจาเป็นจดั ตั้งเครือขา่ ยกลุ่ม ออมเพื่อการผลิต ตาบลคีรเี ขต 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพอื่ เป็นศนู ย์กลางในการประสานงานการทางานของกลุม่ ออมทรัพย์เพื่อการผลติ ในตาบล 2.2 เพ่อื เปน็ พลังในการแก้ปญั หา การจัดการพัฒนาชุมชน ไปสู่การเสรมิ สรา้ งชุมชนเข้มแขง็ 2.3 เพอ่ื เป็นต้นแบบในการดาเนนิ งานของกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตระดบั ตาบล 3. ขั้นตอนการดาเนนิ งาน 3.1 สารวจขอ้ มลู กลมุ่ ออมทรัพยเ์ พ่อื การผลิตในตาบลคีรีเขต 3.2 ประชมุ จัดต้ังกลุ่มเครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตระดบั ตาบล คดั เลือกคณะกรรมการ และจดั ทา ระเบยี บเครือข่าย พรอ้ มจัดทาแผนขบั เคลื่อน 3.3 ดาเนินการตามแผนขับเคลอื่ น 3.4 ติดตามผล 4. ผลสาเรจ็ ท่เี กิดขึ้น - เชงิ ปริมาณ : มเี ครอื ข่ายกลมุ่ ออมทรัพย์เพ่ือการผลิต จานวน 1 เครอื ข่าย - เชงิ คุณภาพ : เครอื ข่ายกลุ่มออมทรัพยเ์ พ่ือการผลิต เป็นศูนย์กลางในการเช่ือมโยงระหว่างกลุ่มฯ 5. ปจั จยั แห่งความสาเร็จ 5.1 การมีส่วนร่วมของทุกกลุ่ม

5.2 คณะกรรมการเปน็ ท่ยี อมรบั ของทกุ กลุ่ม 5.3 แนวทางการส่งเสรมิ กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตของกรมการพฒั นาชมุ ชน 6. ข้อคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ กลุ่มออมทรัพยเ์ พ่ือการผลิต เปน็ งานพฒั นาชมุ ชนที่สรา้ งคน สรา้ งชมุ ชนเข้มแข็ง และสร้างเศรษฐกจิ ฐานรากให้ ม่ันคง ดงั นน้ั สง่ เสริมสนบั สนุนกลมุ่ ออมทรัพยเ์ พอ่ื การผลติ จึงเป็นสิ่งสาคัญอยา่ งย่งิ ในงานพัฒนาชมุ ชน โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ การส่งเสริมสนับสนุนให้กล่มุ ออมทรพั ยเ์ พ่ือการผลิต ใชเ้ ทคโนโลยีในการดาเนนิ งานของกลุ่มฯ เชน่ การใช้ โปรแกรมฐานข้อมูลสมาชกิ การใช้โปรแกรมบญั ชีสาเร็จรปู เป็นต้น 7. แนวทางพัฒนาต่อยอดในอนาคต 7.1 ขยายผลสู่ตาบลอืน่ 7.2 นาข้อมลู การขบั เคล่ือนเครอื ข่ายกล่มุ ออมทรัพย์เพื่อการผลติ มาวเิ คราะห์ และวางแผนเพื่อยกระดับการ บริหารจดั การของเครือข่าย 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม โครงการความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ช่ือ – สกลุ นางปราณี นรี รัตน์ ตาแหน่ง เจ้าพนกั งานพัฒนาชมุ ชนชานาญงาน สงั กดั สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอรามนั จังหวดั ยะลา การส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP 1. หมวดองคค์ วามรู้ที่บ่งช้ี (ตามแนวทางการจัดการความรู้ของหน่วยงาน) องคค์ วามรู้หมวดเทคนิคการพฒั นาหน่ึงตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) 2. ที่มาและเปา้ หมายของการจัดการความรู้ กรมการพัฒนาชมุ ชน เปน็ หน่วยงานหลักในการสง่ เสริมและพฒั นาผลิตภณั ฑ์ OTOP ในการยกระดับ คณุ ภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ในการส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรู้ การพฒั นาผลติ ภัณฑแ์ ละการมสี ว่ นรว่ มของ ประชาชนในการสรา้ งงาน สร้างรายได้แกช่ มุ ชน เชอื่ มโยงไปส่กู ารดาเนนิ งาน OTOP ซงึ่ กรมการพัฒนาชุมชน ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการสง่ เสรมิ และพฒั นาการดาเนินงาน OTOP โดยไดก้ าหนดยทุ ธศาสตร์การพฒั นา OTOP ส่สู ากลในการพฒั นาคณุ ภาพมาตรฐานผลติ ภัณฑ์ OTOP ด้วยการส่งเสริมและพฒั นาเศรษฐกจิ ชมุ ชนให้ เข้มแข็งอยา่ งยง่ั ยนื เปน็ รากฐานเศรษฐกจิ ของประเทศ เร่มิ จากการรวมกลุ่มของประชาชนระดบั ฐานรากในการ จดั การบรหิ ารและการบรกิ ารท่มี ีคณุ ภาพไดม้ าตรฐาน มีเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น ซึง่ เป็นแนวทางหน่งึ ในการสรา้ ง พลังการพึ่งตนเอง และช่วยเหลอื กันของชุมชน เพ่ือแก้ไขปญั หาการประกอบอาชีพทั้งในระดบั บคุ คล ระดบั ครัวเรือน ระดบั กลุ่ม ชมุ ชน หมู่บ้าน ตาบล ตลอดจนเครอื ขา่ ยกลุ่มอาชีพ OTOP ให้มคี วามสามารถในการ บริหารจดั การ ปจั จบุ นั สินค้า OTOP บางชนิดในระดับชมุ ชนยังไม่เป็นท่รี ู้จักมากนัก และไมส่ ามารถครองตลาดในกลุม่ สนิ ค้าวยั รนุ่ และประชาชนบางกลมุ่ ได้ ดงั นนั้ ไดม้ แี นวคิดทจ่ี ะส่งเสริมและพัฒนา สนบั สนุนสินคา้ ผลติ ภัณฑใ์ หเ้ ปน็ เอกลักษณ์ของท้องถ่นิ และ มีช่องทางในการจาหนา่ ยการยกระดบั มาตรฐาน ดังน้ี 1. สรา้ งความคดิ ใหผ้ ูผ้ ลติ ผู้ประกอบการ ได้รับความเขา้ ใจและให้ความสาคัญในการยกระดับผลติ ภณั ฑ์ 2. อบรมให้ความรู้การพฒั นาผลิตภัณฑ์ กาหนดลกั ษณะผลิตภณั ฑ์ การบรรจภุ ัณฑ์ ให้ตรงกบั ความ ตอ้ งการของตลาด 3. สง่ เสริมการเข้าหาแหลง่ ทุนตา่ งๆ จากสถาบนั การเงิน องค์กรเอกชน 4. วเิ คราะห์ธรุ กิจ สง่ เสริมการตลาด สารวจแหลง่ การค้า

5. จดั ทาแผนธุรกิจ 3. วิธกี าร/ ข้นั ตอนการจดั การความรู้ (อธิบายพอสังเขป) ๑) ประชุมสรา้ งความเข้าใจผู้ผลิตผปู้ ระกอบการ และอบรมใหค้ วามรู้ และส่งเสริมการพฒั นาผลิตภัณฑ์ ๒) สร้างกระแสด้วยการประชาสัมพันธก์ จิ กรรมเพิ่มช่องทางการตลาดสินคา้ OTOP ๓) สร้างชอ่ งทางการจาหนา่ ยทางสอื่ ออนไลน์ ๔) สนิ ค้า OTOP ได้รบั การยอมรบั มากขน้ึ ๕) ส่งเสริมสนบั สนุนใหแ้ ก่ผูผ้ ลิต/ผ้ปู ระกอบการ ใหม้ คี วามเช่อื ม่ัน มีศักยภาพในการผลิต มคี วาม ต่อเนือ่ ง และผลติ ภัณฑ์ไดร้ ับมาตรฐานดีข้นึ 4. ผลลัพธไ์ ด้จากการจดั การความรู้ ๖.๑ เทคนคิ และแนวทางในการทางาน ๑) ใช้ความเขา้ ใจในการเข้าถึงชมุ ชน ๒) สร้างการมีสว่ นร่วมของกลมุ่ และคนในชุมชน 3) สร้างกจิ กรรมในชุมชนเพื่อให้เกิดความสามัคคี ๖.๒ ข้อพงึ ระวงั (ถ้ามี) 1) การคดั เลือกกลุ่มเป้าหมายในการเข้ารว่ มกิจกรรมต้องเกิดจากความตอ้ งการของกล่มุ 2) ต้องเกิดความรว่ มมอื อยา่ งจริงจงั ระหวา่ งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ๖.๓ ปัจจัยแห่งความสาเรจ็ ๑) การประสานงานต้องเปน็ ไปในระดับเดียวกนั เพราะการประสานงานทีป่ ระสบความสาเร็จตอ้ งได้รบั ความสาคัญ และให้เกยี รตซิ ่ึงกนั และกนั ๒) การบรู ณาการ คน (ผูเ้ ชี่ยวชาญ) เงนิ (งบประมาณ) กาหนดเปา้ หมายร่วมกันสกู่ ารพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ OTOP ๓) ประสานประโยชน์ มุ่งเป้าหมายเดียวกัน คือ ประโยชน์สงู สดุ ของประชาชน ๖.๔ ปัญหาและวธิ กี ารแก้ไข - อบรมสร้างความรูค้ วามเขา้ ใจในการดาเนนิ งานยกระดับพฒั นาผลติ ภณั ฑใ์ ห้กลุ่มผ้ผู ลติ ผ้ปู ระกอบการ ๖.๕ ผลลพั ธ์จากการแก้ปญั หาและการพัฒนาเรื่องน้ัน - กลมุ่ มีผลิตภัณฑ์ท่ีไดร้ ับการยอมรบั และมมี าตรฐานผลติ ภณั ฑ์ มีช่องทางการตลาดเพิ่มข้ึน

แบบถอดองค์ความรจู้ ากนวัตกรรม โครงการความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ชื่อ-สกุลน.ส.ภดารยี ะห์ โต๊ะองุ ตาแหน่ง อาสาพัฒนา สงั กดั สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอรามัน สรา้ งฐานการเรยี นรโู้ ดยอาสาพฒั นาชุมชน (ผูน้ า อช.) 1.แนวคิด/ท่มี า จากสถานการณค์ วามเปลย่ี นแปลงทั้งทางดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ สังคม ส่ิงแวดล้อม และเทคโนโลยี และ แนวคดิ ประเทศไทย ๔.๐ ทาใหว้ ิถชี ีวติ ของประชาชนมีความเปลยี่ นแปลงไปจากเดิมเปน็ อันมาก การขบั เคล่อื นงานพฒั นา ชุมชนจึงตอ้ งสรา้ งพลังชุมชนให้เปน็ เจา้ ของชุมชนในการพฒั นาชมุ ชนตามยุคสมยั จงึ ส่งเสริมให้องค์กรประชาชนเขา้ มามี บทบาทและมีสว่ นรว่ มในการแก้ไขปัญหาเพื่อดาเนินการกจิ กรรมพฒั นาศกั ยภาพผนู้ าอาสาพฒั นาชมุ ชน (ผูน้ าอช.) สามารถ เปน็ แกนหลักในการดาเนนิ กจิ กรรม/โครงการพฒั นาด้านตา่ ง ๆ 2.วตั ถุประสงค์ ๒.๑ เพ่ือพฒั นาศกั ยภาพผู้นาอาสาพัฒนาชมุ ชน (ผู้นา อช.) ใหส้ ามารถสรา้ ง พฒั นาหรือใช้นวตั กรรมในการบรหิ ารจัดการชุมชนอย่างสร้างสรรค์และบูรณาการ ร่วมกนั ๒.๒ เพอ่ื ใชฐ้ านเรยี นร้เู ป็นเครอื่ งมือในการทางานพฒั นาชุมชน เชิงรกุ ให้มากข้นึ สามารถตอบสนองให้ทนั ต่อการ เปล่ียนแปลงในยุคปัจจุบนั 3.ขั้นตอนการดาเนนิ งาน 3.๑ ประชุมชีแ้ จงทาความเขา้ ใจแก่กลุ่มเปา้ หมาย 3.๒ จัดทาแผนกิจกรรม 3.๓ ดาเนินการตามแผนกิจกรรม 3.๔ ติดตามการดาเนนิ กจิ กรรม 4.ผลสาเร็จทเ่ี กิดขนึ้ -ปริมาณ มฐี านการเรียนรู้ในตาบล 2 แหง่ -คณุ ภาพ ทาให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนมีชีวติ ที่ดขี นึ้

5. ปจั จัยแหง่ ความสาเรจ็ 5.1 ผู้นา อช. สรา้ งฐานการเรียนรแู้ ก่ชมุ ชน 5.2 สามารถเป็นแบบอยา่ งแกผ่ ู้นา อช. ตาบลอ่ืน ๆ 5.3 ครวั เรอื นในหมบู่ ้าน ตาบลสามารถศึกษาเรียนรู้ 5.4 ในฐานการเรียนรู้ได้ 6.ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ 6.1 สามารถเปน็ แบบอยา่ งแก่ผนู้ า อช. ตาบลอ่นื ๆ ได้ 6.2 ผู้นา อช. สร้างฐานการเรียนรู้แก่ชุมชน 7.แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต สง่ เสรมิ สนับสนุน การมีสว่ นร่วมในการดาเนินกิจกรรมเพ่ือเปน็ การสรา้ งให้ชุมชนสามรถพงึ่ ตนเองได้ และเปน็ การเรียนรโู้ ดยชมุ ชน 8.ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรู้จากนวตั กรรม โครงการความคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 นางสาวราไพพรรณ โทบุรี เจา้ พนกั งานพัฒนาชุมชนปฏิบตั ิงาน สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอรามนั การบรหิ ารจดั การลดการใช้กระดาษภายในสานักงาน 1. แนวคิด/ท่มี า กระดาษมีส่วนสมั พันธ์กับชวี ิตประจาวนั ของเราอย่างหลกี เลี่ยงไม่ได้ยงิ่ มีความต้องการกระดาษมากขึ้น เทา่ ใด เราก็ต้องตัดตน้ ไม้หรอื ถากถางพนื้ ที่ปา่ เพ่ือปลกู ต้นไม้โตเรว็ สาหรับนาเย่อื ไม้มาทากระดาษมากข้นึ เท่าน้นั ดังนั้น จึงเป็นส่งิ จาเปน็ อย่างย่ิงในการใช้ให้เกดิ ประโยชน์สูงสดุ เพ่ือลดปรมิ าณขยะกระดาษที่จะเกดิ ข้นึ พรอ้ มทง้ั ลดการใช้วสั ดุธรรมชาติและพลังงานในการผลติ กระดาษ ลดปริมาณของเสยี มลพิษทีเ่ กิดจากการทิ้งของเหลือใช้ ตา่ งๆ สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอรามันจึงไดร้ ิเร่ิมโครงการบรหิ ารจดั การการใช้กระดาษภายในหนว่ ยงานข้นึ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อควบคุมและลดการใช้กระดาษในสานักงานอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ปลูกจติ สานกึ ในการใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์สานักงาน ให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ เพ่ือนากระดาษทีใ่ ช้แล้วไปรีไซเคลิ ให้เกดิ ประโยชน์ในสานกั งาน 3. ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน 3.1 จดั ต้ังและกาหนดจุดเก็บกระดาษใช้แล้วหน้าเดยี ว ในพืน้ ท่ีส่วนกลาง 3.2 ประชาสัมพันธ์ใหท้ ุกคนในหน่วยงานรบั ทราบถงึ บริเวณ หรือสถานท่ีท่ใี ชส้ าหรบั การรวบรวมกระดาษใช้แลว้ หนา้ เดยี ว 3.3 บนั ทกึ ข้อความทีไ่ ม่เป็นทางการหรือบันทกึ ขอ้ ความที่ทาเพอ่ื ตดิ ต่อภายในสานกั ให้พิจารณานากระดาษ ทใี่ ช้ งานไปเพยี งหนา้ เดยี วมาใช้ 3.4 การพมิ พ์ (Print) เอกสารสาหรับการตรวจสอบให้ใช้ กระดาษทใ่ี ชง้ านไปเพยี งหนา้ เดียวมาใช้แทนกระดาษดี 4. ผลสาเรจ็ ทเ่ี กดิ ข้นึ - ปริมาณ ขยะประเภทกระดาษลดลง - คุณภาพ มกี ารใช้กระดาษหนา้ เดียวกันมากขึ้น 5. ปัจจัยแห่งความสาเร็จ ความตระหนกั ในการใช้ทรพั ยากรกระดาษ 6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ควรสร้างจติ สานึกและตระหนกั ถงึ ความสาคัญในการควบคุมปริมาณการใช้กระดาษ

7. แนวทางการพฒั นาตอ่ ยอดในอนาคต การคัดแยกขยะให้ถูกวธิ ี เช่น ขยะแห้ง ขยะเปียก 8. ภาพประกอบ

แบบถอดองค์ความรจู้ ากนวตั กรรม โครงการความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ช่ือ – สกลุ นายอาบดี ีน เล่ทองคา ตาแหน่ง นกั วิชาการพฒั นาชุมชนปฏิบตั ิการ สงั กดั สพอ.ธารโต ส่งเสริมการทาบัญชคี รัวเรอื นด้วย APPLICATION 1. ท่มี า/แนวคิด จากการประเมินหมบู่ ้านเป้าหมายตามโครงการพัฒนาหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียง ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ในตาบลบ้านแหร อาเภอธารโต จังหวัดยะลา จานวน 2 หม่บู ้าน ไดแ้ ก่ หมู่ที่ 2 บ้านบวั ทอง และหมทู่ ี่ 7 บ้านวงั ศลิ า ดว้ ยแบบประเมินกระทรวงมหาดไทย 4 ด้าน 23 ตัวช้วี ดั ปรากฏว่า ทัง้ สองหม่บู า้ น ไมผ่ ่านตวั ชว้ี ดั การ ทาบัญชคี รัวเรอื น และปจั จุบันประชาชนมีการใชโ้ ทรศัพท์มอื ถือสมารท์ โฟนกันแพร่หลาย ประกอบกบั สมาร์ทโฟน สามารถเพิ่มหรือดาวนโ์ หลด application เพอื่ ตอบสนองการทาบัญชคี รัวเรอื นให้สะดวก งา่ ยดาย และไมต่ ้อง เสยี เวลาจดบนั ทึก พรอ้ มทง้ั สามารถประมวลผลให้ผูใ้ ชไ้ ดท้ ันที 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพือ่ สง่ เสรมิ ให้ครวั เรือนพฒั นาจัดทาบัญชีครัวเรือนดว้ ย application 2.2 เพ่อื ส่งเสรมิ ใหค้ รัวเรือนพฒั นารู้จักนาเทคโนโลยีมาใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน 3. ขั้นตอนการดาเนินงาน 3.1 คดั เลือกครัวเรอื นเป้าหมาย ที่มคี วามพร้อม มที ัศนคตทิ ีด่ ตี ่อการทาบัญชคี รัวเรือน และใช้เทคโนโลยไี ด้ หรือสามารถพฒั นาได้ 3.2 ค้นหา application ทาบญั ชคี รัวเรอื น ทใี่ ช้งานงา่ ย 3.3 ฝกึ การติดต้ัง การใชง้ าน และการประมวลผล application “smart me” 3.4 ประชาสัมพนั ธ์ ตดิ ตามผล และถอดบทเรยี น 4. ผลสาเรจ็ ท่ีเกดิ ข้นึ - เชงิ ปริมาณ : ร้อยละ 100 ของครัวเรอื นเปา้ หมาย ทาบญั ชคี รัวเรอื นดว้ ย application - เชงิ คุณภาพ : ครัวเรือนเป้าหมายสามารถใช้ application ในการทาบัญชีครวั เรือนได้ 5. ปจั จัยแห่งความสาเรจ็ 5.1 การคดั เลอื กเป้าหมาย ท่ีมีความพร้อม มที ัศนคติทดี่ ีต่อการทาบญั ชคี รัวเรือน และสามารถพัฒนาในการใช้ เทคโนโลยไี ด้

5.2 การค้นหา application ทใี่ ช้งานงา่ ย 5.3 การฝึกการใชง้ านแบบเขา้ ถงึ เป็นกันเอง สามารถสอบถามข้อสงสัยได้ตลอด 6. ขอ้ คิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ การนาเทคโนโลยีมาใช้ในการทางาน จะชว่ ยให้เพิ่มประสทิ ธิภาพของการปฏบิ ัติงาน และคุณภาพของงาน ไดม้ ากข้นึ 7. แนวทางพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต 7.1 นาขอ้ มลู การทาบญั ชคี รัวเรอื นของเป้าหมายท่ปี ระมวลผลแลว้ มาวางแผนชีวติ ให้แก่เปา้ หมาย 7.2 ขยายผลสู่หมบู่ า้ นอ่ืน 7.3 แนะนาให้เจ้าหนา้ ท่ีพัฒนาชุมชน หน่วยงานภาคีเครือขา่ ย และประชาชนทัว่ ไป ทาบัญชคี รัวเรอื นด้วย application 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองค์ความรู้จากนวตั กรรม โครงการความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ชื่อ-สกุล นายอสั มี มะโระ๊ ตาแหนง่ เจา้ พนกั งานพฒั นาชุมชนปฏิบตั ิงาน สังกัดสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอรามนั ระบบรายงานผลการบรหิ ารโครงการ (Project Management Report :PMR) โดยใช้ Google form 1. แนวคดิ /ทีม่ า ในแต่ละปีงบประมาณ สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอรามันได้ดาเนินงานและจัดทาโครงการ/กิจกรรมตาม ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาชมุ ชนทงั้ 4 ประเด็น เปน็ จานวนมาก โดยมีการรายงานผลการดาเนินงานพร้อมภาพถา่ ยไป ยงั สานักงานพัฒนาชุมชนจงั หวัดยะลาผ่านแอพลเิ คชั่น Line และบนั ทึกในระบบ BPM เปน็ ประจาทุกครง้ั แตย่ ังไม่ มีการเก็บรวบรวมข้อมลู รายงานผลการบริหารโครงการในรูปแบบฐานขอ้ มลู และขาดความสะดวกในการรวบรวม ขอ้ มลู รายงานเพื่อใชใ้ นการบันทึกในระบบ BPM จงึ ไดจ้ ดั ทาระบบ PMR ขึ้น 2. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือจัดทาระบบรายงานผลการบรหิ ารโครงการ โดยใช้ Google Form 2. เพื่อสรา้ งฐานข้อมลู รายงานผลการบรหิ ารโครงการ และ ใช้ข้อมูลในการบนั ทึกในระบบบริหารงบรหิ ารงบประมาณและ บรหิ ารกิจกรรม/โครงการ (BPM) 3. ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน 1. วางแผนและเตรียมข้อมูลในการสร้างแบบฟอรม์ ระบบ 2. สรา้ งแบบฟอรม์ ระบบรายงาน และปรับปรุงแก้ไข 3. ประชุมชี้แจงและให้เจ้าหนา้ ที่บนั ทึกขอ้ มูลลงระบบ PMR 4. ประมวลผลรายงาน ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล 5. นาข้อมูลไปใชป้ ระโยชน์ในการบนั ทกึ ใน BPM 4. ผลสาเรจ็ ทเี่ กดิ ข้ึน - ปริมาณ เจา้ หน้าทมี่ ีการบันทกึ รายงานผลการบรหิ าร โครงการในระบบ ร้อยละ 100

- คณุ ภาพ ขอ้ มลู จากระบบ PMR สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการบันทึก BPM 5. ปัจจัยแห่งความสาเร็จ ระบบรายงานผลการบรหิ ารโครงการ (PMR) จัดทาขน้ึ โดยใช้ Google form ทาให้เจา้ หนา้ ทพ่ี ัฒนาชุมชน สามารถเขา้ ถึงระบบรายงานไดอ้ ย่างสะดวก โดยใช้สมาร์ทโฟน เพ่ือเปน็ ฐานข้อมูลในการรวบรวมรายงานผลการ บรหิ ารโครงการและภาพถา่ ยประกอบการดาเนินงาน อีกท้ังยงั สามารถนาข้อมลู นไี้ ปใช้ในการบันทึกในระบบ บรหิ ารงบประมาณและบริหารกจิ กรรม/โครงการ (BPM) ได้ 6. ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ปรับเปล่ียนการสร้าง Google form โดยใช้ Gmail สว่ นตวั เปน็ การใช้ Gmail กลาง ของสานักงาน เพ่ือความ สะดวกในการต่อยอดและเพ่ือความตอ่ เน่ืองในการใชง้ าน เม่ือเปล่ียนแปลงผู้ปฏิบัติงาน 7. แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต พฒั นาระบบรายงานผลการบรหิ ารโครงการ (PMR) เช่ือมโยงระบบแจง้ เตือน Line notify เพือ่ ลดขนั้ ตอนใน การรายงานผล และสามารถนาข้อมูลไปใชใ้ นการทาขา่ วประชาสัมพนั ธด์ ว้ ย 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรู้จากนวัตกรรม โครงการความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ชือ่ -สกุล นายอับดุลนาเซ ดอปอ ตาแหน่งนักวชิ าการพัฒนาชมุ ชนชานาญการ สังกัด สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอรามนั จาโปตางัน ปาดีกตี อ ลงแขกเกี่ยวขา้ ว มือลอของเราหมู่ที่ 5 ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา 1. แนวคดิ /ท่ีมา 1. บา้ นตาโงง เป็นหมูบ่ ้านเป้าหมายในการขบั เคล่ือนกจิ กรรมโครงการ จาโปตางนั ปาดีกีตอ ลงแขกเก่ียว ข้าว มือลอของเรา ส่กู ารพัฒนาอยา่ งต่อเนอ่ื ง และชมุ ชนเกิดความตระหนกั ในการปรบั เปลย่ี นการใชช้ ีวิต และ พฒั นาตนเอง และหมู่บ้านที่สมดลุ สอดคลอ้ งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสามารถ สามารถ ใชก้ จิ กรรม การทานา การปลกู ข้าวในการพัฒนาหมู่บา้ น ความสามคั คคี วามร่วมมือ ความมั่นคงทางอาหารไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เช่ือมโยงเครือข่ายการทานา เพ่ือเพมิ่ การผลิตรองรบั และสนองความต้องการของตลาด และตอบรบั การ พัฒนาตนเอง 2.2 เปิดช่องทางในการพัฒนาตนเอง ในการอบรมพฒั นาตนเองท้งั ภาครฐั และเอกชน 2.3 ดาเนนิ การจดทะเบยี นโอท็อป เพื่อเปดิ ประสบการณ์และชอ่ งทางการตลาดให้กบั กลมุ่ 3. ขั้นตอนการดาเนนิ งาน 1. ประชมุ วางแผนและเตรยี มขอ้ มูลในการดาเนินงาน 2. จดั เตรยี มสถานที่ ประสานกลุ่มเป้าหมาย 3. มอบหมายงาน แบ่งหนา้ ที่รับผิดชอบ 4. ประมวลภาพรายงาน ประชาสมั พนั ธ์ 5. นาขอ้ มลู ไปใช้ประโยชนใ์ นการพฒั นาขา้ วมอื ลอ 4. ผลสาเร็จท่เี กดิ ขนึ้ - ปริมาณ สามารถสรา้ งความสามัคคี และอนุรกั ษ์ กระตุ้นการ การทานาเพิ่มข้ึน

- คณุ ภาพ ขา้ วมือลอ เปน็ ข้าวประจาถิ่นเนินงาม มกี ารสบื สารพฒั นาคุณภาพขา้ วต่อไป 5. ปจั จัยแห่งความสาเร็จ พฒั นาหมบู่ า้ นสงิ่ ทสี่ าคญั ท่สี ุด การใหค้ วามสนใจ การเขา้ ถึง สาคญั มากไปกว่านนั้ คือ เราตอ้ งทุ่มเท และเราตอ้ ง เสมือนว่าเราสามารถทาไดท้ กุ ขั้นตอนตามลาดับ ของการทานา คือการนอ้ มนาของหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ต่อเนอ่ื งรว่ มกนั ทา แก้ปญั หา หากจิ กรรมใหมเ่ ขา้ มาในหมูบ่ ้านเพื่อสร้างความเปน็ สีสนั ให้กบั ชุมชน 6. ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ ตอ้ งมีสติ มีเทคนคิ การให้กาลังใจ และรว่ มกันแก้ปัญหากับพ่ีนอ้ งประชาชนไม่ท้งิ กัน การให้คาปรกึ ษาตอ้ งอยู่บน พ้นื ฐานความเปน็ ไปได้ ไมใ่ ช่ตามใจ ใช้เครือข่ายทุกมิติ เช่นผ้นู า อช. ศอช.ต สตรี กองทุนบทบาทสตรี ปราช์ญ ชมุ ชน เครือข่ายประชาสัมพันธ์ ฯล รว่ มขับเคลอ่ื นสมเหตุสมผล 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต เพมิ่ พนื้ ท่ีนาขา้ วมือลอ ขยายตลาดขา้ วกลอ้ งใหม้ ากข้นึ ประชมุ เครือขา่ ยชาวนาของตาบลเนินงาม เพื่อกาหนด ยุทธศาสตร์ ข้าวพนื้ เมือง และข้าวกลอ้ ง เป็นค่ขู นาน ต่อไป 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองค์ความรู้จากนวตั กรรม โครงการความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ชือ่ -สกุล นางสาวเพชราภรณ์ แก้วมณี ตาแหนง่ นกั วิชาการพฒั นาชุมชนชานาญการ \"ใช้ถงุ ผ้า ห้ิวตะกร้า พาป่นิ โ ไปทางาน\" 1.แนวคิด/ท่ีมา ในปจั จุบันวถี ชี วี ิตในสังคมไทยได้เปล่ียนไป โดยมีการนาพลาสติกมาใช้ในชวี ติ ประจาวันมากขึ้น เน่ืองจาก พลาสติกมรี าคาถูกน้าหนักเบา แตข่ ้อเสียของพลาติกคือเป็นวสั ดุที่มีความหนาแนน่ ตา่ ไมส่ ามารถย่อยสลายโดย จลุ ินทรยี ์ไดส้ ง่ ผลใหพ้ ลาสติกมีอายุยาวนานนบั ร้อยปี ดงั นั้นจึงมแี นวคดิ ในการลดการใชถ้ ุงพลาติกและโฟม อันเป็น ตน้ เหตสุ าคญั ของการเกิดขยะ โดยเปล่ยี นมาเป็นการใช้ถุงผ้า ตะกร้าหรือปนิ่ โต ในการใส่ของใช้สว่ นตัวและเอกสาร มาปฏิบตั งิ าน 2.วตั ถุประสงค์ 2.1 เพอ่ื เป็นการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาตกิ และโฟม ซ่ึงเปน็ การลดปรมิ าณขยะมูลฝอยต้งั แต่ตน้ ทาง 2.2 เพอื่ สรา้ งความตระหนกั รู้ และสรา้ งจิตสานึกในการลดการใชถ้ ุงพลาสตกิ และโฟม อนั เปน็ ตน้ เหตุสาคัญ ของการเกดิ ขยะ โดยเปน็ มาเป็นการใช้ถุงผา้ ตะกร้าหรือปิ่นโต ในการใส่ของใช้ส่วนตัวและเอกสารมาปฏบิ ัตงิ าน 3.ขนั้ ตอนการดาเนินงาน 3.1 ประชมุ วางแผนหาแนวทางการจัดกิจกรรม 3.2 จดั ทาแผนการขบั เคล่ือนและแบ่งภารกิจตามบทบาทหน้าที่ 3.3 เสนอโครงการขอความเหน็ ชอบ และอนมุ ตั ดิ าเนินการ 3.4 ดาเนินการโครงการ 3.5 ประเมินผลเพ่อื ทบทวนผลการดาเนนิ งาน พร้อมประชาสมั พนั ธผ์ า่ นส่อื ต่างๆอย่างน้อย 3 ชอ่ งทาง 4.ผลสาเรจ็ ทเ่ี กดิ ขึ้น ปริมาณ - ร้อยละ 80 ของกลุ่มเปา้ หมาย ใช้ถงุ ผ้าและตะกร้าแทนการใชถ้ ุงพลาสติก - รอ้ ยละ 80 ของกลุม่ เป้าหมาย นาปิ่นโตมารบั ประทานตอนกลางวนั ท่ีทางาน คุณภาพ - เจ้าหน้าทพี่ ัฒนาชุมชนอาเภอรามนั และอาสาพฒั นา เกิดความตืน่ ตัวในการลดภาวะโลกร้อนเพื่อเป็นต้นแบบของ ชาวบ้านและเยาวชนรนุ่ ใหม่

5.ปัจจัยแหง่ ความสาเรจ็ - เจ้าหนา้ ที่ และอาสาพฒั นา มคี วามรู้และตระหนกั ถึงพิษภัยของถงุ พลาสติกและโฟม 6.ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ - แนวคดิ ในการลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม ทเ่ี รมิ่ ต้นจากเจา้ หน้าทแ่ี ละอาสาพัฒนา ไดร้ บั ความรว่ มมือเปน็ อย่างดยี ่ิง ทาให้ปริมาณถงุ พลาสตกิ และโฟมในสานักงานลดน้อยลง 7.แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต - การประชาสัมพันธ์และรณรงคใ์ ห้คนในชมุ ชนลดการใชถ้ งุ พลาสตกิ และโฟมให้นอ้ ยลง - แจกถุงผา้ แกป่ ระชาชน 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองค์ความรู้จากนวัตกรรม โครงการความคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ช่อื -สกุล นายมะยากี แยนา ตาแหน่ง เจา้ พนักงานพัฒนาชมุ ชนปฏบิ ตั งาน สงั กดั สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอรามัน สรา้ งฐานและจดั เก็บข้อมูลระบบออนไลน์สาหรบั สานักงาน 1. แนวคิด/ท่ีมา ปญั หาการรับมอบงานจากเจ้าหน้าทที่ ่ีย้ายออกไปปฏบิ ตั งิ านทอ่ี น่ื เพื่อการส่งมอบภารกิจงานและเอกสาร ท่ีเก่ียวข้องกับพนื้ ทีร่ บั ผิดชอบของพฒั นากรในแต่ละตาบล การสรา้ งเอกสารรว่ มกัน ของเจ้าหน้าทใ่ี นสานกั งาน 2. วัตถุประสงค์ 1). เป็นพนื้ ทจ่ี ัดเก็บข้อมูลและไฟล์เอกสารทีจ่ าเป็นและเผยแพร่ได้ 2). สรา้ งความสะดวกและรวดเร็วในการคน้ หาไฟล์เอกสาร 3). ใชป้ ระโยชนเ์ ทคโนโลยใี นการเพิ่มประสทิ ธิภาพในการทางาน 4). สร้างฐานข้อมูลและจดั เก็บขอ้ มูลการดาเนนิ งานเพื่อใช้งานระบบออนไลน์สาหรบั สานักงาน 5). เป็นแหล่งข้อมลู สาหรับผูป้ ฏบิ ตั ิงานของสานักงาน 3. ขน้ั ตอนการดาเนินงาน 1). เปิดใช้งานบัญชี Google (Gmail) สาหรบั สานกั งาน 2). เกบ็ ข้อมลู และบันทกึ อีเมลลข์ องบคุ ลากรสานกั งาน 3). สร้างชตี เอกสารบนั ทึกอเี มลล์ทีใ่ ชง้ านเพื่อการเผยแพร่ข้อมลู หรอื การเข้าถงึ ข้อมูลในกูเกลิ ไดรฟ์ 4). ช้แี จงวธิ ีการใชง้ านการบนั ทึกและจัดเก็บขอ้ มลู การเข้าถึงข้อมูล การแกไ้ ขข้อมูล 4. ผลสาเร็จท่ีเกดิ ข้ึน - ปรมิ าณ จานวนไฟลง์ านท่ีจัดเกบ็ ในไดรฟ์ - คุณภาพ การบันทึกข้อมูลและแก้ไขข้อมูลรว่ มกนั 5. ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ 1). การเขา้ ถงึ การบันทึกและแก้ไขข้อมลู ใหถ้ ูกต้อง 2). การแจ้งบญั ชีอเี มลล์ของบุคคลากร เพือ่ เขา้ ระบบและใช้งาน 3). การเผยแพร่ขอ้ มลู ท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ บุคลากร 4). รายงานขอ้ มลู รวมของบุคคลากรทสี่ ามารถแก้ไขและบันทึกข้อมลู ร่วมกนั ได้

6. ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะ เพิ่มการประชาสมั พันธ์ การเขา้ ใช้งาน 7. แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต จดั การข้อมูลใหเ้ ปน็ สัดสว่ นในแตล่ ะงาน 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม โครงการความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ชื่อ-สกุล นายธรี ศกั ดิ์ โอรพันธ์ ตาแหนง่ เจ้าพนกั งานพัฒนาชุมชนปฏบิ ตั งาน สังกัด สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอรามัน เสรมิ สร้างหมู่บ้านเศรษฐกจิ ฐานรากมนั่ คง ชุมชนพง่ึ ตนเองได้ 1. แนวคดิ /ที่มา ดว้ ยกรมการพฒั นาชุม มภี ารกิจสาคัญในการส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรู้ การสง่ เสรมิ และพัฒนาเศรษฐกิจ ฐานรากให้มีความั่นคงและมีสเถียรภาพ เพ่ือให้เป็นชุมชนเข้มแข็ง โดยมีผู้นาชุมชน กลุ่ม/องค์กร ภาคีเครือข่าย เป็นกลไกในการบริหารจัดการชุมชนและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างม่ันคงและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุ วิสัยทัศน์ เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพ่ึงตนเองได้ ภายในปี 2565 ด้วยเหตุน้ีอาเภอรามันโดยพัฒนาการ อาเภอได้มอบหมายพัฒนากรจัดทาโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ โครงการเสริมสร้างหมู่บ้านเศรษฐกิจฐานรากม่ันคง ชมุ ชนพ่ึงตนเองได้ โดยใช้ทนุ ทม่ี ีอยู่ในชมุ ชน ทัง้ ทีเ่ ปน็ ตวั เงนิ และไมใ่ ช่ตวั เงนิ เพ่อื พัฒนาอาชีพให้เกดิ สัมมาชีพชุมชน สร้างรายไดใ้ หก้ บั กลุ่มเปา้ หมาย 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพื่อสืบสานศิลปวฒั นธรรมภูมิปัญญาท้องถนิ่ ให้คงอยู่ 2.2 เพ่อื ส่งเสรมิ การบริหารจัดการชมุ ชน กอ่ ใหเ้ กดิ เปน็ หมู่บ้านแหง่ การเรยี นรู้ 2.3 มีกลมุ่ อาชีพทสี่ ร้างรายไดใ้ หแ้ ก่ครวั เรือนตามแนวทางการสร้างสัมมาชีพชมุ ชน 3. ขนั้ ตอนการดาเนินงาน 3.1 ประชุมหมูบ่ ้านเพือ่ สร้างความเข้าใจ แก่ทีมวิทยากรสัมมาชีพประชาชน คณะกรรมการหมบู่ า้ นและครวั เรือน เป้าหมายสมั มาชีพ 3.2 วางแผนขบั เคล่อื นโครงการและแบ่งงานตามภาระหนา้ ที่ 3.3 จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ อาชพี เพื่อสรา้ งรายได้แก่ครัวเรอื นเปา้ หมาย 3.4 เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ การดาเนนิ งาน ผา่ นช่องทางต่างๆ 3.5 ประเมินผลการดาเนนิ งาน สรุปบทเรียน 4. ผลสาเร็จทเี่ กิดข้นึ - ปริมาณ ร้อยละ 80 ของครวั เรือนเป้าหมายมกี ารบรหิ ารจดั การชมุ ชนท่เี ข้มแข็ง

-คณุ ภาพ รอ้ ยละ 80 ของครวั เรือนเป้าหมายมีกลุ่มอาชีพทสี่ ร้างรายได้ อยา่ งน้อย 1 กล่มุ 5. ปัจจัยแหง่ ความสาเรจ็ 5.1 พัฒนากรและผนู้ าชมุ ชน มกี ารติดตาม ใหค้ าปรึกษาและใหก้ ารสนบั สนุนทางดา้ นเงินทนุ ความรู้อย่างใกล้ชดิ 5.2 ครวั เรอื นทเ่ี ข้าร่วมโครงการมคี วามสนใจและพร้อมจะยกระดบั คุณภาพชีวติ ของตนเอง 6. ขอ้ คิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ 6.1 กาหนดเปา้ หหมาย/วิธีการดาเนนิ งานของโครงการให้ชัดเจน 6.2 กาหนดเกณฑช์ ว้ี ัดความสาเร็จของโครงการให้สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ทว่ี างไว้ 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต 7.1 มกี ารรวมกลุ่มของสมาชิกในชุมชนเป้าหมายจดั ตั้งเป็นกลมุ่ ผู้ประกอบการOTOP 7.2 นาผลติ ภณั ฑ์ที่ผลิตได้มาข้นึ ทะเบยี น OTOP และพฒั นาผลติ ภณั ฑใ์ ห้ได้มาตรฐาน 7.3 มีการประชาสมั พนั ธโ์ ครงการใน 3 ชอ่ ง เพอ่ื ดึงนกั ท่องเทยี่ วมาเยย่ี มชมกลุ่มและชื้อสินคา้ กลบั บา้ น 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม โครงการความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ชือ่ -สกุล นางแสงระวี แปเราะ ตาแหน่ง เจา้ พนกั งานพฒั นาชุมชนชานาญงาน สงั กดั สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอรามัน ออมหนงึ่ ร้อยรายสัปดาห์เจ้าหนา้ ทพ่ี ฒั นาชุมชน 1. แนวคิด/ทม่ี า ทาอย่างไรเพ่ือให้ \"เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอาเภอรามัน มีความม่ันคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน เป็นหลักประกัน ความ มนั่ คงในด้านการดาเนินชวี ิตอาชีพข้าราชการ ด้วยการพฒั นาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง\" นาไปสกู่ ารมีความสุข ของเจา้ หน้าท่ีพัฒนาชุมชนอาเภอรามัน และความสาเร็จในชวี ิตและครอบครวั ผ่านการสร้างภูมิค้มุ กันด้านการเงิน ด้วยการออมเงิน จานวน 100 บาท ต่อสัปดาห์ พร้อมกันนี้จะเป็นการลดรายจ่ายลงด้วยการออมเงินในแต่ละ สัปดาห์อย่างสม่าเสมอ จึงเป็นแนวทางที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตสร้างเงินออมแก่เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชน และทาให้ ครอบครัวมคี วามมั่นคง โดยยืดม่ันตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2. วตั ถุประสงค์ 1). เพ่อื ใหเ้ จา้ หน้าที่พฒั นาชุมชนมีความซื่อสตั ย์ มีสัจจะ เสยี สละลดรายจา่ ย 2). เพื่อสรา้ งวนิ ัยการออมให้กับเจ้าหนา้ ที่พฒั นาชุมชนน 3) เพอ่ื เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงานตอ่ ชมุ ชนที่เจา้ หนา้ ที่พัฒนาชมุ ชนทร่ี บั ผิดชอบ 3. ข้นั ตอนการดาเนินงาน 1). ประชมุ ชแี้ จง แลกเปลย่ี นความคิดเห็นระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีพัฒนาชมุ ชน 2). วางแผนการจัดระเบยี บการออม 3). แตง่ ตง้ั เจา้ หน้าทพ่ี ฒั นาชมุ ชนเปน็ คณะทางาน 4). เริม่ ดาเนินการและประเมนิ ผล 4. ผลสาเร็จทเ่ี กิดขึ้น - ปรมิ าณ จานวนเงนิ ที่ได้รบั ฝากต่อสัปดาห์ - คณุ ภาพ การตรงต่อเวลาในการฝากเงนิ 5. ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ 1). การเขา้ ร่วมโครงการของบคุ ลากรในสานักงาน 2). จานวนเงนิ ฝากของแต่ละสัปดาห์

6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ไม่มี 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต ดาเนินการต่อเน่อื งทุก ๆ ปี 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองค์ความรู้จากนวัตกรรม โครงการความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ช่อื -สกุลนางสาวพาซีหย๊ะ กกึ กอ้ ง ตาแหน่ง นักวิชาการพฒั นาชมุ ชนปฏิบตั กิ าร สังกดั สพอ.รามัน \"หนง่ึ พฒั นากร หน่ึงความดีทีอ่ ยากทา\" 1. แนวคดิ /ท่ีมา ตามที่คณะรฐั มนตรีมีมติเมอื่ วันที่ 12 กรกฎาคม 2559 เห็นชอบแผนสง่ เสิรมคณุ ธรรมแหง่ ชาติฉบบั ที่ 1 (พ.ศ. 2559-2564)เพื่อใหท้ ุกหน่วยงานใช้เปน็ กรอบและทิศทางในการปฏิบตั กิ ารสง่ เสริมคุณธรรมของหนว่ ยงาน โดยนากลไกประชารฐั มาใช้เพ่ือเป็นแนวทางในการขบั เคล่ือน ซง่ึ อาเภอรามนั ได้ประกาศเจตนารมณร์ ่วมกนั ท่จี ะ ส่งเสริมและพัฒนาอาเภอรามันใหเ้ ป็นอาเภอคณุ ธรรมโดยมีการกาหนดคุณธรรมเปา้ หมายจาก “ปัญหาที่อยาก แก้” และ “ความดีที่อยากทา” ใหส้ อดคล้องกบั คณุ ธรรม 4 ประการพอเพยี ง วนิ ยั สุจริต จติ อาสา เพ่ือใหค้ ุณธรรม นาการพัฒนาเกิดสังคมคุณธรรมและรายงานผลการขับเคล่ือนการดาเนินงานตามประกาศเจตนารมณ์อาเภอรามนั 2. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ดาเนนิ งานตามประกาศเจตนารมณ์อาเภอรามันตามคุณธรรมเปา้ หมาย “ความดีท่ีอยากทา” 2. เพ่อื ปรับภูมิทัศนศ์ าสนสถาน และสถานที่สาคญั ใหม้ ีความสะอาดรม่ รืน่ มสี ภาวะสง่ิ แวดลอ้ มท่ีดี 3. เพื่อให้เกดิ ความรักสามคั คีของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน 3. ข้นั ตอนการดาเนินงาน 1. ประชุมช้แี จงการดาเนินโครงการ “หนึ่งพัฒนากร หน่ึงความดที ีอ่ ยากทา” 2. กาหนด วัน เวลา สถานที่ และ แผนการดาเนินโครงการ 3. ประสานหนว่ ยงานภาคี ผู้นาท้องที่ ผู้นาท้องถ่นิ อบต.และเชิญชวนประชาชนทีส่ นใจ 4. ดาเนนิ การตามโครงการ และรายงานผลการดาเนนิ งาน 4. ผลสาเร็จทเ่ี กดิ ขึน้ - ปรมิ าณ ศาสนสถาน และสถานทีส่ าคัญ จานวน 16 ตาบล ได้รับการพฒั นา - คณุ ภาพ 1 ศาสนสถานและสถานทสี่ าคัญ มีความสะอาด เรยี บร้อย และมสี ภาวะส่ิงแวดลอ้ มที่ดี 2 มีความรักสามคั คี เอ้ืออาทร และพลงั ในการปฏบิ ัติงานร่วมกัน

5. ปจั จยั แหง่ ความสาเร็จ เจ้าหนา้ ทพี่ ฒั นาชมุ ชน และภาคีเครอื ข่ายทุกภาคสว่ น สามารถปฏิบตั ติ ามเจตนารมณ์ ของอาเภอรามัน เพื่อให้ คณุ ธรรมนาการพัฒนาเกิดสังคมคุณธรรมท่ี “ม่นั คง มัง่ ค่ัง ย่งั ยนื ” ทกุ คนในอาเภอรามนั มีคณุ ธรรม มีความ จงรกั ภกั ดตี ่อสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์มคี วามสมานฉันท์ ยดึ มัน่ ในหลกั ธรรมทางศาสนาน้อมนาหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และวิถวี ัฒนธรรมไทย ไปใชใ้ นการดารงชวี ติ ทาใหป้ ัญหาหมดไป ส่งิ ดงี ามเกดิ ขึน้ เปน็ แบบอยา่ งที่ดี ต่อไป 6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ปรบั เปล่ยี นจากการส่งเสริมและพัฒนาสถานทสี่ าคญั เปน็ ส่งเสรมิ และพฒั นาครัวเรือนตกเกณฑ์ในมติ ิต่าง ๆ แทน 7. แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต ส่งเสริม ใหเ้ จ้าหน้าท่ีพฒั นาชุมชน ให้การชว่ ยเหลอื ด้านอาชพี ให้ครวั เรือนยากจน พิการ หรอื กลมุ่ เปราะบาง โดย ให้สอดคล้องกบั ครวั เรือนตกเกณฑ์ จปฐ. ตามฐานข้อมลู TPMAP ผา่ น\"โครงการ 1 พฒั นากร 1 ครวั เรอื น สรา้ ง ตัว\" เพ่อื ให้ครัวเรือนเป้าหมายมีคณุ ภาพความเปน็ อยู่ท่ีดีข้ึน 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม โครงการความคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ช่ือ - สกลุ นางสาวกรรณฤพร นว่ มเฟอื่ ง ตาแหนง่ นกั วิชาการพฒั นาชุมชนชานาญการสังกัด สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอยะหา ส่งเสรมิ คา่ นิยมองค์การด้านการใฝ่ รู้ (D : Discovery) แก่เจ้าหนา้ ที่พฒั นาชมุ ชน 1.แนวคดิ /ท่มี า สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอยะหา จงั หวัดยะลา ได้ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการขับเคลื่อนการ บริหารงานพัฒนาชุมชนอาเภอใหโ้ ปรง่ ใส ยึดหลกั ธรรมาภิบาล ดาเนินการในระดบั หนว่ ยงานในการส่งเสริมให้ บุคลากรน าค่านิยมองคก์ าร (ABC DEF S&P) มาใช้ในการปฏบิ ัตงิ านให้เปน็ รปู ธรรม สนองตอบตอ่ การขบั เคลื่อน กิจกรรมพฒั นาชุมชนใสสะอาดใน 5 มติ ิ และเปน็ หน่วยงานต้นแบบในการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์การ จึงจดั ทา โครงการสง่ เสริมค่านิยมองคก์ ารดา้ นการใฝร่ ู้ (D : Discovery) แกเ่ จา้ หน้าท่ีพัฒนาชุมชน ข้ึน 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่ือส่งเสริมให้เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชนอาเภอยะหา มีการเรียนรู้และพัฒนางานและตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง 2.2 เพอื่ เสรมิ สร้างใหบ้ ุคลากรกรมการพฒั นาชุมชน สังกัด สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอยะหา มผี ลงานการ นาเสนอความรู้ สามารถนามาปฏิบัติไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม 3. ข้นั ตอนการดาเนินงาน 3.1 แตง่ ตงั้ คณะทางานขบั เคลอื่ นกิจกรรมตามโครงการพัฒนาชมุ ชนใสสะอาด เพื่อกาหนดแนวทางการบรหิ าร จัดการใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั ความโปรง่ ใส โดยยดึ หลักธรรมาภิบาล 3.2 จดั ทาโครงการสง่ เสริมค่านิยมองคก์ ารด้านการใฝร่ ู้ (D : Discovery) แกเ่ จา้ หน้าทีพ่ ัฒนาชมุ ชน 3.3 ประชุมคณะทางานเพ่ือจัดทาแผนปฏบิ ตั ิการขับเคลื่อนโครงการพฒั นาชุมชนใสสะอาด ตามตัวชว้ี ัดครอบคลมุ ท้ัง 5 มิติสรา้ งความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั การดาเนินโครงการส่งเสริมค่านยิ มองค์กร ดา้ นการใฝร่ ู้ (D:Discovery) แก่เจา้ หน้าท่ีพัฒนาชุมชน 3.4 เจา้ หนา้ ทพ่ี ัฒนาชุมชน อบรม/เรยี นออนไลนต์ ามความสนใจ 3.5 เจ้าหน้าทพี่ ัฒนาชมุ ชน สรปุ บทเรยี นเปน็ เอกสารสาเนาประกาศนียบตั รการจบหลักสูตร จัดใหม้ ีการแลกเรยี น เรยี นรู้ จากการอบรม/เรยี นออนไลนร์ ่วมกนั 3.6 สรุปผลการดาเนนิ งานและประเมินผลการดาเนินงานพรอ้ มเผยแพร่ประชาสัมพันธ์

4. ผลสาเร็จทเ่ี กิดขึน้ 4.1 เชิงปรมิ าณ ข้าราชการสงั กดั สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอยะหาจบหลกั สตู รอบรมออนไลน์ อยา่ งนอ้ ยคนละ 1 หลกั สูตร 4.2 เชงิ คณุ ภาพ สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอยะหา มีการบริหารจดั การเป็นไปตามหลกั ความโปรง่ ใส่ตามเกณฑ์ที่กาหนด 5. ปจั จัยแห่งความสาเรจ็ 5.1 การมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าท่ีพฒั นาชมุ ชน 5.2 การสง่ เสริมให้การมกี ารเรยี นรู้ตามความสนใจของผเู้ รียน 5.3 การมรี ะบบเครอื ข่ายอินเตอร์เนต็ ท่เี อ้ืออานวยต่อการเรียนออนไลน์ 6. ข้อคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ 6.1 ส่งเสรมิ ใหเ้ กิดการเรียนรู้อยา่ งต่อเนื่อง ไมจ่ ากดั ระยะเวลาในการเรียน 6.2 จัดให้มกี ารมอบรางวัล ประกาศนยี บตั ร แกเ่ จ้าหน้าที่พฒั นาชุมชนท่ผี า่ นหลักสูตรการเรียน/อบรมออนไลน์ จานวนหลกั สตู รสงู สดุ เพื่อยกย่องเชดิ ชเู กยี รติสรา้ งขวัญกาลังใจ 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต 7.1 ขยายผลกลมุ่ เป้าหมายไปยงั ผ้นู า กลุ่ม องคก์ ร ประชาชน ในพ้นื ที่ เพ่ือให้มีการเรียนรู้อยา่ งกวา้ งขวาง ซง่ึ จะส่งผลดีต่อการพฒั นา หมบู่ ้าน 7.2 มีการจัดทาหลกั สตู รพเิ ศษ เพ่อื นาไปสอนในโรงเรยี นเป็นการถ่ายทอดความร้ใู นงานพัฒนาชุมชนแก่เยาวชน ในพืน้ ท่ี 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองค์ความรู้จากนวัตกรรม โครงการความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ชือ่ - สกุล นางตุแวนรู ีซนั นิเตะ ตาแหน่ง เจา้ พนักงานพัฒนาชมุ ชนชานาญงาน สังกดั สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอยะหา การขบั เคลือ่ นครัวเรือนสมั มาชพี สู่การพฒั นาเป็นผผู้ ลติ ผูป้ ระกอบการ OTOP 1.แนวคิด/ที่มา ตามที่รฐั บาลได้มอบหมายกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชมุ ชน เป็นหน่วยงานหลักในการบรู ณา การความร่วมมือหนว่ ยงานภาคการพัฒนา เพื่อสรา้ งและพัฒนาอาชีพให้ประชาชนตามแนวทางสมั มาชพี ชุมชน โดยมผี นู้ าชมุ ชน ปราชญช์ ุมชนดา้ นอาชีพเป็นกลไกหลักในการขบั เคลื่อนการดาเนินงาน โดยมีเปา้ ประสงค์ให้ เศรษฐกิจครัวเรือนมีความม่นั คง ประชาชนใชช้ ีวิตอย่ใู นชุมชนอย่างมีความสุข การขบั เคลอื่ นงานหน่ึงตาบล หนึ่งผลติ ภัณฑ์ (OTOP) เป็นกลุ่มธรุ กจิ ในชุมชนทีมีศักยภาพในการ ประกอบการซ่ึงมเี ครอื ข่ายผ้ปู ระกอบการ OTOP ทีม่ ีประสบการณแ์ ละเขม้ แข็ง ควรได้รับการสง่ เสริมให้เปน็ กาลงั ในการขบั เคลอ่ื นสัมมาชพี ชุมชนโดยยดึ หลกั ปรัชญาเศรฐกิจพอเพยี งจากตน้ ทาง กลางทาง จนถงึ ปลายทาง เพือ่ ครวั เรือนสัมมาชีพดังกล่าวสามารถสรา้ งอาชพี สร้างรายได้ใหก้ ับครัวเรือน และสามารถลงทะเบยี น เปน็ ผผู้ ลติ ผู้ ประกอบ OTOP ต่อไป 2. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อครัวเรือน สามารถลงทะเบยี นเปน็ กลมุ่ อาชีพ OTOP 2. เพื่อจดั ตัง้ เครอื ขา่ ย OTOP สมั มาชพี ชุมชน 3. เพื่อครัวเรือนมรี ายได้เสริม 3. ขั้นตอนการดาเนินงาน 3.1 ข้ันตอนดาเนนิ งาน 1. เตรยี มความพร้อมครัวเรือนเปา้ หมาย 2. จดั ทาแผนการขบั เคล่ือนครัวเรือนสมั มาชพี ในการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ และเข้ารับการประเมิน 3. สร้างความรูค้ วามเข้าใจให้แก่กลมุ่ เป้าหมาย 4. อานวยความสะดวกให้ครัวเรอื นสมั มาชพี สมัครเปน็ ผ้ปู ระกอบการ OTOP 5. จดั ใหม้ กี ารส่ือสารอย่างใกล้ชิด โดยใหม้ กี ารประชมุ ผูป้ ระกอบการ OTOP อย่างน้อยไตรมาสละ 1 คร้งั 6. จัดใหม้ กี ารประชมุ คณะกรรมการอานวยหน่งึ ตาบลหน่ึงผลิตภัณฑ์ (กอ.นตผ.) ระดับอาเภออยา่ งน้อยไตรมสละ 1 ครงั้ เพื่อใหส้ ่วนราชการทีเ่ ปน็ คณะพฒั นาผลิตภณั ฑ์ กรรมการอานวยการ ไดส้ นบั สนุน และประชาสมั พนั ธ์ให้ กลมุ่ องคก์ ร/ผปู้ ระกอบการในชมุ ชนไดร้ บั ทราบ และพฒั นาผลิตภัณฑข์ องตนเองตอ่ ไป

7. สร้างเครอื ข่ายการสอื่ สาร ONLINE 8. ตดิ ตามการพัฒนาผลิตภัณฑข์ องผู้ประกอบการ OTOP อยา่ งใกล้ชิด 9. รวบรวมข้อมูล รายงานผล 4. ผลสาเรจ็ ที่เกิดข้นึ - ปรมิ าณ 1. ครวั เรือน มกี ารพฒั นาเปน็ ผู้ผลติ ผปู้ ระกอบการ OTOP จานวน 2 กลุ่ม 2. มีการจดั ตั้งเครือข่าย OTOP สมั มาชีพ 3. สรา้ งรายไดเ้ สริมใหค้ รัวเรือนได้ - คุณภาพ สามารถขับเคลอ่ื นครวั เรือนสัมมาชีพ สู่การพัฒนาเปน็ ผผู้ ลิตผู้ประกอบการ OTOP 5. ปัจจัยแห่งความสาเร็จ 1. การรวมกลุม่ ของครวั เรือนในชมุ ชน 2. มผี นู้ า/แกนนาที่เขม้ แขง็ 3. เป็นผลติ ภัณฑ์ทส่ี ามารถทาตอ่ ยอดได้ 6. ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ ควรมีการติดตาม และประเมินผลอย่างตอ่ เนื่อง 7. แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต 1. สง่ เสรมิ การพฒั นาดา้ นบรรจุภณั ฑ์ และมาตรฐาน เช่น อย. มผช. ฮาลาล 2. ใหค้ วามรู้ด้านการทาบัญชีรายรับ-รายจ่ายแบบถูกต้อง 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ) +

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม โครงการรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ชอื่ -สกุล นางสาวจารินี วัฒนไทย ตาแหนง่ อาสาพัฒนา สงั กดั สานกั งานพฒั นาชมุ ชนอาเภอกาบงั แนวทางการพฒั นาผลิตภัณฑ์ OTOP อาเภอกาบัง 1.แนวคิด/ทม่ี า หนง่ึ ตาบล หนง่ึ ผลติ ภณั ฑ์” เปน็ แนวทางหนง่ึ ทีจ่ ะสรา้ งความเข้มแขง็ “แกช่ ุมชนให้สามารถยกระดับ ฐานะความเปน็ อยขู่ องคนในชมุ ชนใหด้ ขี ึน้ โดยการผลิตหรอื จดั การทรัพยากรที่มอี ยู่ในท้องถ่นิ ใหก้ ลายเป็นสนิ ค้าที่ มีคณุ ภาพ มจี ุดเดน่ เป็นเอกลักษณ์ของตนเองสอดคล้องกับวัฒนธรรมในแต่ละท้องถนิ่ สามารถจาหนา่ ยในตลาด ท้งั ภายในและต่างประเทศ เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากผลิตภณั ฑ์ทีเ่ กิดจากหมู่บ้านหรือตาบล โดย สนบั สนุนและสง่ เสรมิ ให้ท้องถิ่นสามารถสร้างสรรค์ผลติ ภัณฑ์ (Product) มีกจิ กรรมคิดคน้ และพัฒนาผลิตภณั ฑ์ ทางการตลาด การผลติ การบริหารจัดการ และการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีทางดา้ นการผลิตใหม้ ีคณุ ภาพเป็นที่ ยอมรับและความต้องการของตลาดสากล โดยทีพ่ ลงั กาย (Energy) ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และความ ปรารถนา (Desire) ทจ่ี ะใชท้ รัพยากรทห่ี าพบในท้องถน่ิ เปน็ หลัก เพ่อื ทีจ่ ะเกิดการสรา้ งงาน สร้างรายได้ และ นาไปสเู่ ปา้ หมาย ของการกนิ ดี อยู่ดี คุณภาพชีวติ ท่ีดขี องประชาชน แสวงหารากฐานทีส่ าคญั ของประเทศและยัง เปน็ การสบื สานวัฒนธรรมทดี่ ีงามของท้องถ่ินใหค้ งอยตู่ ่อไป สรา้ งความภาคภมู ใิ จใหก้ บั คนรุ่นตอ่ ๆไป และ วางรากฐานท่ีสาคญั ของประเทศและสังคมไทย จากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ทาให้กลุ่มผผู้ ลติ /ผู้ประกอบการ OTOP ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ ทาให้ต้องมีการปรับตัวในการจัดจาหนา่ ยในช่วงการแพรร่ ะบาดของเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) โดยปัจจบุ ันพฤติกรรมของผูบ้ รโิ ภคสว่ นใหญ่นิยมซื้อสนิ ค้าผ่านระบบอนิ เทอรเ์ น็ต ทาใหต้ อ้ งมีแนวทางการพฒั นาสินค้า OTOP ของอาเภอกาบัง ใหเ้ ปน็ ที่รับรขู้ องตลาดผู้บริโภค และใหท้ ุกคน สามารถเข้าถึงตัวผลติ ภณั ฑ์ได้อยา่ งรวดเรว็ จึงได้จดั ทาโครงการ แนวทางการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ OTOP อาเภอกาบัง ขึ้น 2. วตั ถปุ ระสงค์ (1) เพ่ือเพ่ิมมูลคา่ สินคา้ OTOP ของอาเภอกาบัง ให้ตรงความต้องการของตลาด (2) เพ่ือสง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้กล่มุ ผู้ผลิต/ผปู้ ระกอบการ OTOP มีรายได้เพิม่ มากขึ้น

3. ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน (1) จัดเตรยี มข้อมลู ผลิตภณั ฑ์ OTOP (2) นาเสนอ/ช้ีแจงวตั ถุประสงคข์ องการจดั ทาโครงการในที่ประชมุ สานกั งานฯ (3) ออกแบบ/จดั พมิ พ์ส่ือนาเสนอแนวทางการพฒั นาผลิตภณั ฑ์ OTOP อาเภอกาบัง (4) ประชาสัมพนั ธ์แผน่ พับในส่อื ออนไลน์ / ในเวทีตา่ งๆ ของอาเภอ (5) ตดิ ตามประเมนิ ผลการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ OTOP / การเขา้ ถึงข้อมูลของกลุม่ ผผู้ ลติ /ผู้ประกอบการ OTOP (8) ถอดบทเรยี น 4. ผลสาเรจ็ ทีเ่ กดิ ขนึ้ -ปริมาณ ผผู้ ลติ /ผู้ประกอบการ OTOP มีความรูค้ วามเข้าใจในการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ -คณุ ภาพ ผู้ผลิต/ผูป้ ระกอบการ OTOP มีการเพิ่มมูลค่าผลติ ภณั ฑโ์ ดยบรรจุภณั ฑ์ 5. ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ (1) ผู้ผลิต/ผ้ปู ระกอบการ OTOP มีรายไดเ้ พม่ิ ข้ึน (2) ผ้ผู ลติ /ผ้ปู ระกอบการ OTOP ศึกษาและต่อยอดการคิดค้นวธิ กี ารถนอมอาหาร/ขนม เพือ่ ปรับปรุงผลติ ภณั ฑใ์ ห้ ไดม้ าตรฐาน 6. ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ ผู้ผลติ ผูป้ ระกอบการ OTOP ตอ้ งมีการพัฒนาและรักษามาตรฐานอยา่ งต่อเน่ือง 7. แนวทางการพฒั นาต่อยอดในอนาคต (1) ส่งเสรมิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP อาเภอกาบงั ให้ได้รับการจัดสรรระดับ 4-5 ดาว (2) เพิ่มทักษะความรดู้ า้ นบริหารจัดการทางธุรกิจใหก้ ับผูผ้ ลติ /ผปู้ ระกอบการ OTOP 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามร้จู ากนวตั กรรม โครงการความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ชอ่ื - สกุล นางสาวนฟิ าตีฮาห์ สนิ ตาแหนง่ นกั วิชาการพฒั นาชุมชนชานาญการ สังกดั ทะเบียนคุมยทุ ธศาสตรเ์ พอ่ื การควบคุมการเบิกจ่ายในยุค 4.0 1.แนวคดิ /ที่มา เนื่องจากสานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอ มีลกั ษณะงานที่หลากหลายและมขี ้อมูลทเ่ี กี่ยวกับการพัฒนา ชุมชนเป็นจานวนมาก แต่ละงานจะมเี จ้าหนา้ ท่เี จ้าของเรื่องรบั ผิดชอบและมีขอ้ มลู เฉพาะในสว่ นของงานนั้น ๆ ทา ให้บางคร้ังเกิดความลา่ ชา้ และเกดิ อุปสรรคในการทางาน สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอยะหาเลง็ เห็นว่าเจา้ หนา้ ท่ี ทกุ คนควรรขู้ อ้ มลู ที่เกี่ยวกบั งานพฒั นาชมุ ชนของอาเภอทุกเร่ืองไมเ่ ฉพาะงานท่ตี นรับผิดชอบ จึงจัดทาโครงการการ จดั เกบ็ และแบ่งปันข้อมลู ออนไลน์ขน้ึ เพ่ือเจา้ หนา้ ที่ทุกคนสามารถจัดเกบ็ ข้อมลู และเขา้ ถึงข้อมลู ทุกเร่ืองได้ทกุ ท่ที ุก เวลา อีกท้งั ยงั สามารถแบ่งปันข้อมูลให้ทีมไดอ้ ย่างรวดเรว็ ช่วยประหยดั เวลา และทาให้การทางานมีประสทิ ธภิ าพ และมีประสทิ ธิผลมากขึ้น 2. วัตถปุ ระสงค์ (1) เพือ่ เปน็ ฐานข้อมูลระหว่างโครงการตามยุทธศาสตร์และการเบิกจ่ายเงินในปงี บประมาณ 2563 (2) เพื่อใหค้ วบคุมระบบการเบกิ จ่าย ให้ครบถว้ น ถูกต้องและทนั กาหนด (3) เพอ่ื สามารถนาข้อมลู ไปใช้ได้อย่างทนั ถ่วงที สาหรับผูส้ นใจและผูบ้ รหิ ารในการวิเคราะห์ วางแผน สกู่ าร พัฒนางาน 3. ขั้นตอนการดาเนินงาน 3.1 ข้นั ตอนเตรยี มการ (1) จัดเตรยี มฐานข้อมูลที่เก่ยี วข้องกบั ยุทธศาสตร์ฯ (2) เตรยี มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพ่ือจัดทาฐานข้อมลู 3.2 ขั้นตอนดาเนินงาน (1) จดั หมวดหมขู่ ้อมูลแยกเป็นรายไตรมาส (2) บันทึกฐานข้อมูลตามแผนที่ได้รบั อนุมัตจิ ากกรมการพัฒนาชุมชน แยกเปน็ รายไตรมาส (3) จดั ทาสูตรโดยใชโ้ ปรแกรม Ms.Office Excell (4) บันทึกข้อมูลท่ีได้ดาเนินการเบิกจ่าย ใหเ้ ป็นปจั จุบนั

3.3 ข้นั ตอนสรปุ ผลการดาเนนิ งาน (1) ตดิ ตามผล และรายงานผลต่อผ้บู งั คบั บญั ชา (2) นาผลท่ีได้เพ่ือวิเคราะห์ แกไ้ ขปัญหา พัฒนางาน (3) ถอดบทเรียน 4. ผลสาเรจ็ ที่เกดิ ข้ึน - ปริมาณ การเบิกจ่ายคิดเป็นรอ้ ยละ 100 ของงบประมาณทีไ่ ด้รบั จัดสรร - คุณภาพ การดาเนินงานเปน็ ไปตามแผน และการเบิกจ่ายเงนิ มีคณุ ภาพ ถูกต้องตามระเบียบ มปี ระสทิ ธภิ าพ 5. ปัจจยั แห่งความสาเร็จ (1) ความเข้าใจในรายละเอียดและวัตถุประสงค์ของโครงการ (2) กระบวนการจัดการข้อมูล (3) การสร้างระบบฐานข้อมลู โดยเทคโนโลยี (4) การถา่ ยทอดและการส่ือสารท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ (5) เทคโนโลยี ยคุ 4.0 6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ การพฒั นางานเปน็ การพัฒนาความคดิ ของคนใหร้ ู้จกั คิดอยา่ งเปน็ ระบบ เป็นการสร้างประโยชน์ให้กบั ราชการ การจดั การกับงานทป่ี ฏิบตั เิ ป็นเร่ืองทีด่ ี เพ่อื ใหเ้ กิดความง่ายและสามารถปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ โครงการรเิ ร่ิมสรา้ งสรรคถ์ ือ เป็นแนวคิดทด่ี ที จี่ ะช่วยให้ทกุ คนสรา้ งการพฒั นาตนเองสู่การพัฒนางานพฒั นาชุมชนอยา่ งต่อเนื่อง 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต จากการพฒั นาตนเอง จะนาไปส่กู ารพัฒนาเครือขา่ ยผู้นาทเี่ กี่ยวข้องกับงานพฒั นาชุมชน ในการพฒั นาตนเอง โดยการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายองคก์ รชมุ ชนสกู่ ารพัฒนาชุมชนได้อยา่ งยั่งยืน 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามร้จู ากนวัตกรรม โครงการริเร่มิ สรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ชอ่ื -สกุล นางสาวฟาตมิ า กาโบะ ตาแหน่ง นกั วิชาการพฒั นาชุมชนชานาญการ สังกัด สานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอกาบัง แคตตาลอ็ ก OTOP Number 1 อาเภอกาบัง 1.แนวคิด/ท่ีมา กรมการพฒั นาชมุ ชนได้ดาเนินการโครงการหนึง่ ตาบลหนงึ่ ผลิตภณั ฑ์ (OTOP) ต้ังแตป่ ี 2544 โดยมี วัตถุประสงค์ ดงั น้ี (1) สรา้ งงานและเพิ่มรายไดใ้ หแ้ ก่ชมุ ชน (2) เสรมิ สร้างความเข้มแขง็ ใหแ้ กช่ มุ ชน (3) สง่ เสริม การใชภ้ ูมปิ ญั ญาท้องถิ่น (4) สง่ เสริมการพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ (5) ส่งเสรมิ ความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ของ ชุมชน เปน็ การสร้างเศรษฐกิจฐานรากใหเ้ ขม้ แขง็ กรมการพัฒนาชมุ ชน มีภารกิจในการสง่ เสริมและพฒั นา เศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความมน่ั คง โดยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ เกดิ จากภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ และการมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการสร้างงานสรา้ งรายได้ให้แกช่ มุ ชน เชื่อมโยงไปสู่ การดาเนินงานโครงการ OTOP ซึง่ กรมการพัฒนาชุมชนไดร้ ับมอบหมายใหร้ บั ผดิ ชอบดาเนนิ การสง่ เสริม การ ดาเนินงาน OTOP ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2544 จนถงึ ปัจจุบัน และเพือ่ เป็นการประชาสมั พันธส์ ินค้า OTOP เด่นในระดับ อาเภอของอาเภอกาบัง ใหเ้ ป็นทีร่ บั รขู้ องคนทว่ั ไป และให้ทุกคนสามารถเข้าถึงผลติ ภณั ฑ์ท่ีมคี วามพร้อมในการผลติ ตามการสั่งซ้ือของลูกคา้ จงึ ได้จัดทาโครงการ แคตตาล็อก OTOP Number 1 อาเภอกาบงั ขึ้น 2. วัตถุประสงค์ (1) เพ่ือรวบรวมข้อมูลของสินค้า OTOP Number 1 ของอาเภอกาบงั ให้อยใู่ นรปู แค็ตตาลอ็ ก (2) เพ่ือให้ลกู คา้ เข้าถงึ ข้อมลู ไดง้ ่ายขน้ึ และงา่ ยต่อการส่งั ซ้ือ สงั่ ผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกคา้ 3. ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน (1) จัดเตรียมขอ้ มูลผลิตภัณฑ์ OTOP ของอาเภอกาบัง (2) สอบถามข้อมลู จากผปู้ ระกอบการถึงผลการผลิตและการจาหนา่ ยของผลติ ภัณฑ์แตล่ ะตวั (3) จดั ลาดบั ผลติ ภณั ฑ์ทีม่ ีความพร้อมในการผลิตและการจาหนา่ ย (4) นาเสนอ/ชีแ้ จงวตั ถุประสงค์ของการจดั ทาโครงการในที่ประชุมสานักงานฯ (5) ออกแบบ/จดั พมิ พ์แคต็ ตาล็อกสินค้า (6) ประชาสมั พันธ์แค็ตตาลอ็ กในสอื่ ออนไลน์ / ในเวทตี า่ งๆ ของอาเภอ (7) ติดตามประเมินผลการใช้บรกิ ารแคต็ ตาล็อก / การเข้าถงึ ข้อมลู ของลูกคา้

(8) ถอดบทเรียน 4. ผลสาเรจ็ ท่เี กิดข้ึน -เชิงปรมิ าณ มแี ค็ตตาลอ็ ก OTOP (นาร่อง) จานวน 1 เล่ม -เชิงคณุ ภาพ ลกู ค้าหรือผ้สู นใจ สามารถเข้าถึงและมคี วามสะดวกในการสัง่ สินคา้ 5. ปัจจยั แห่งความสาเร็จ (1) การทบทวนข้อมูลข้อเทจ็ จรงิ ของผลติ ภัณฑ์ (2) การประชาสมั พนั ธ์ในหลายช่องทาง รวมท้งั ช่องทางออนไลน์ 6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ -ผลติ ภณั ฑ์ OTOP ของอาเภอกาบัง ส่วนใหญ่เป็นผลติ ภัณฑ์ประเภทอาหาร (ขนมของว่าง) เก็บไดไ้ ม่นาน กระบวนการผลติ งา่ ยๆ แบบบา้ นๆ ไม่มโี รงเรือนผลิตทีเ่ ปน็ กิจจะลกั ษณะ จึงมขี ้อจากัดในการขอมาตรฐานอาหาร และยา (อย.) -ผลิตภัณฑ์ซ้ากับหลายๆ ที่ จึงจาหนา่ ยได้เพยี งในตลาดในพ้ืนท/่ี พืน้ ทีใ่ กล้เคยี ง 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต -พัฒนาผลติ ภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหเ้ หมาะสมและดงึ ดูดลูกค้า -ขยายตลาดในการจาหน่ายสนิ คา้ -ประชาสมั พนั ธส์ นิ ค้า OTOP ในทุกช่องทาง 7. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรู้จากนวตั กรรม โครงการความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ช่อื - สกลุ นางสาวมาลรี ัตน์ ภกั ดฉี นวน ตาแหนง่ นักวชิ าการพฒั นาชมุ ชนปฏิบตั กิ าร สังกดั สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอยะหา จัดต้งั ศูนยบ์ ริการขอ้ มูลขา่ วสาร “พฒั นาชมุ ชนยะหาใสสะอาด” 1.แนวคิด/ทีม่ า กรมการพัฒนาชมุ ชน ได้กาหนดแนวทางการดาเนินงาน “พฒั นาชมุ ชนใสสะอาด” ทุกปี เพือ่ เปน็ มาตรการในการ ส่งเสริมให้หน่วยงานในสังกัดกรมการพฒั นาชุมชน มีการบรหิ ารจัดการดว้ ยความโปร่งใส และสง่ เสรมิ ใหข้ ้าราชการ กรมการพัฒนาชมุ ชน มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติหน้าทีด่ ว้ ยความซื่อสตั ย์สจุ รติ ปราศจากการกระทาผดิ วินัย โดย กาหนดใหห้ นว่ ยงานท้ังสว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าคดาเนนิ โครงการพัฒนาชุมชนใสสะอาด ใน 5 มิติ ดังน้ี มติ ิท่ี 1 ด้านบทบาทผู้บริหารและความพยายามริเร่มิ ของหนว่ ยงานในการสรา้ งความโปรง่ ใส มิติที่ 2 ด้านความเปิดเผย ข้อมลู มิติที่ 3 ดา้ นการมสี ว่ นร่วมของภาคประชาชน มติ ทิ ี่ 4 ด้านการเสริมสรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาขา้ ราชการ มติ ทิ ่ี 5 ดา้ นสภาพแวดล้อมสถานที่ทางาน (กิจกรรม 5 ส) โดยมิตทิ ่ี 2 ดา้ นการเปิดเผยข้อมูลขา่ วสาร สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอยะหา ได้กาหนดกจิ กรรมโครงการจดั ต้งั ศูนยบ์ รกิ ารข้อมลู ขา่ วสาร จดั ทาป้ายประชาสมั พนั ธ์ เพ่ือประชาสัมพนั ธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารงานพัฒนา ชุมชน รวมถงึ มาตรการการให้บรกิ ารและประกาศให้ประชาชนทราบผ่านเว็บไซตต์ ่อไป 2. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ส่งเสรมิ หน่วยงาน มีการบรหิ ารจดั การดว้ ยความโปรง่ ใส และสามารถตรวจสอบได้ 2. เพื่อเสริมสร้างใหข้ ้าราชการกรมการพฒั นาชมุ ชน มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ประพฤติปฏิบัติตนตามมาตรฐาน ทางคุณธรรมและจริยธรรม ประมวลจรยิ ธรรมและจรรยาข้าราชการกรมการพัฒนาชมุ ชน 3. ข้ันตอนการดาเนินงาน ๑. การเปิดเผยข้อมลู ขา่ วสาร 1.1 จัดตัง้ ศนู ยบ์ ริการขอ้ มูลข่าวสาร ตามมาตรา ๙ พระราชบัญญตั ขิ ้อมลู ข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 1.2 ประชาสมั พนั ธ์งานพัฒนาชมุ ชน ผา่ นป้ายประชาสมั พันธ์และช่องทางสื่อออนไลน์ 1.3 การนาแผนงาน/โครงการเผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์

2. ดาเนินงานตามมาตรการให้บริการประชาชนและประกาศให้ทราบ ดังนี้ 2.1 เผยแพรแ่ ละใหบ้ ริการขอ้ มูลขา่ วสารประชาสัมพันธ์ ผ่านเวบ็ ไซต์ Facebook Line และQR Code 2.2 กาหนดมาตรฐานและขน้ั ตอนการใหบ้ ริการประชาชน 4. ผลสาเรจ็ ทเี่ กดิ ขน้ึ 1. มีศนู ย์บริการขอ้ มูลขา่ วสาร 2. มีการนาแผนงาน/โครงการ เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ ผ่านปา้ ยประชาสัมพันธ์งานพัฒนาชุมชน 3.. มกี ารใหบ้ ริการข้อมูลขา่ วสารประชาสมั พันธผ์ ่านเว็บไซต์และสอื่ ออนไลน์ 5. ปัจจยั แห่งความสาเร็จ 1. การเขา้ ถึงและการใหบ้ ริการขอ้ มลู ขา่ วสารประชาสัมพนั ธ์ผา่ นเว็บไซต์ สื่อออนไลน์ และผ่านป้าย ประชาสมั พันธ์งานพัฒนาชุมชน 2. การทาเอกสารประชาสมั พันธใ์ นรปู แบบ QR Code ทาให้ง่ายและสะดวกในการเขา้ ถงึ ข้อมูลงานพฒั นา ชมุ ชนตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง 6. ข้อคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ การทางานพัฒนาชุมชนเป็นการทางานท่ีมีความหลากหลายในดา้ นตา่ ง ๆ ทาให้มีเครอื ขา่ ยพัฒนาและองค์ ความรทู้ ่เี กิดจากการทางาน เม่ือเรามีการดาเนนิ งานหรือกิจกรรมตา่ ง ๆ จงึ ต้องมีการประชาสัมพันธ์หรือเปิดเผย ข้อมูลขา่ วสารให้กบั ประชาชนได้รบั ทราบ เพ่อื ให้ทุกคนเข้าถึงกิจกรรมทเี่ กี่ยวขอ้ งกับงานพฒั นาในพ้ืนที่ 7. แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต การพัฒนาขอ้ มลู ประชาสัมพนั ธใ์ นรปู แบบของ Clip Video ความยาวไม่เกิน 5 นาที 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรจู้ ากนวัตกรรม สงั กดั โครงการรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ชือ่ -สกุล นางสาวสาน๊ะ เตบสนั ตาแหน่ง นักวชิ าการพัฒนาชมุ ชนปฏบิ ัติการ สานกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอกาบงั 5 นาที กับ 5 ส 1. แนวคิด/ท่มี า 5 ส เป็นการจดั ระเบียบ ปรับปรุงทท่ี างาน สถานประกอบกจิ การ และงานด้วยตนเอง เพ่ือกอ่ ให้เกิด สภาพแวดล้อมในการทางานทด่ี ี ปลอดภยั มรี ะเบยี บเรียบรอ้ ย มคี ุณภาพ และประสทิ ธิภาพ โดยใชว้ ิธี สะสาง สะดวก สะอาด สขุ ลกั ษณะ และสรา้ งนสิ ัย โดย 3 ส แรก เป็นการพัฒนาสถานท่ี และระบบงาน สว่ น 2 ส หลัง เป็นการพัฒนาคน ซ่ึงประโยชนข์ องการดาเนินกจิ กรรม ไดแ้ ก่ สถานทท่ี างานและสภาพแวดล้อมการทางานสะอาด ปราศจากส่งิ สกปรก บุคลากรมสี ขุ ภาพกายและจติ ที่ดี มรี ะเบียบวินัยมากขึ้น และลดการเก็บเอกสารท่ีซา้ ซ้อน ลง นอกจากนี้ 5 ส ยงั ชว่ ยลดต้นทุนของหนว่ ยงานลงอีกด้วย สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอกาบัง ตระหนกั ถึงความสาคัญดังกล่าว จึงได้จัดโครงการ “5 นาที กบั 5 ส” ขน้ึ เพอ่ื คาดหวังใหบ้ คุ ลากรมีการปฏิบัติงานดา้ นสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตท่ีดใี นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีความ ปลอดภยั เสริมสร้างบรรยากาศท่ีดีในการปฏิบัตงิ าน รวมทั้งช่วยในการปรบั ปรุงประสิทธิภาพการปฏิบตั งิ าน ให้ บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ และเปา้ หมายตามภารกจิ ขององคก์ ร โดยให้บคุ ลากรทุกคนมีสว่ นรว่ ม มกี ารดาเนินการอยา่ ง ตอ่ เนือ่ ง จรงิ จัง เพื่อให้เกิดเป็นวฒั นธรรมและเป็นส่วนหนึง่ ของงานประจา 2. วัตถปุ ระสงค์ (1) เพื่อใหส้ ถานทีท่ างานของสานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอกาบังมีความเป็นระเบยี บมากขึน้ (2)เพ่ือให้บคุ ลากรทุกคนได้มสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม 5 ส 3. ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน (1) ดาเนินการจัดทาและเสนอโครงการ (2) ดาเนินกิจกรรม 5 นาที กับ 5 ส. ทุกวันก่อนเลิกงาน (3) ประชาสมั พนั ธ์โครงการ (4) คดั เลอื กโตะ๊ ทางานน่าอยู่ นา่ ทางาน (5) สรปุ ผลการดาเนนิ งาน

4. ผลสาเร็จท่เี กิดขน้ึ -ปรมิ าณ บคุ ลากรในสงั กัด จานวน 4 คน มีสุขภาพกายและจติ ท่ีดี -คุณภาพ สานกั งานมีความเป็นระเบียบวนิ ยั มากขน้ึ และลดการเกบ็ เอกสารที่ซา้ ซ้อนลง 5. ปจั จัยแห่งความสาเร็จ รอ้ ยละ 100 ของบุคลากรสานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอใหค้ วามร่วมมอื ในการดาเนินโครงการ 6. ข้อคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ ตอ้ งมคี วามต่อเนอื่ ง 7. แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต เนน้ ย้าใหบ้ ุคลากรในสังกัดได้ปฏบิ ัติจนเป็นวฒั นธรรมองค์กร และเปน็ ส่วนหนึง่ ในการทางาน เพื่อให้สถานท่ี ทางานมีความเป็นระเบียบมากขน้ึ 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองคค์ วามรูจ้ ากนวตั กรรม โครงการความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ช่ือ - สกุล นางสาวอรจิรา จิตเนียม ตาแหนง่ เจา้ พนักงานพฒั นาชุมชนปฏิบัติงาน สงั กัด สานกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอยะหา สร้างสรรค์ การบรหิ ารจดั การเอกสาร เพื่อการทางานอย่างมีประสิทธิภาพ 1.แนวคิด/ทีม่ า เนอ่ื งจากสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอ เป็นหน่วยงานท่ที าหนา้ ทใ่ี นการสง่ เสริมกระบวนการเรยี นรู้ การสร้าง รายได้ นาไปสู่ชุมชนทเี่ ขม้ แข็งอยา่ งยั่งยนื มีลักษณะงานท่ีหลากหลาย มขี ้อมูลทเี่ กีย่ วกับการพัฒนาชมุ ชนเป็น จานวนมาก มเี อกสารของงานแต่ละดา้ นเปน็ จานวนมาก แต่ละงานจะมีเจา้ หน้าทเี่ จ้าของเรื่องรบั ผิดชอบและมี ข้อมลู เฉพาะในสว่ นของงานนั้น ๆ การจดั เก็บเอกสารยังไมเ่ ปน็ ระบบ ไมส่ ะดวกต่อการนามาใช้ เพ่อื การจดั การ ดา้ นเอกสารใหม้ รี ะบบ มีความสะดวก รวดเรว็ ในการคน้ หา จงึ ไดจ้ ัดทาโครงการ “การบริหารจัดการเอกสาร เพื่อ การทางานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ” ขน้ึ เพื่อเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพในการจัดเกบ็ เอกสาร เปน็ การดาเนินงานเอกสารให้ บรรลุวัตถุประสงคต์ ามลาดบั ข้นั ตอน คือ การวางแผน การกาหนดหนา้ ที่ โครงสร้างการจดั เกบ็ เอกสาร กาหนด ระบบการจัดเกบ็ เอกสาร การเก็บรกั ษา อนั จะก่อใหเ้ กดิ ความสะดวกรวดเรว็ ประหยดั ทั้งเวลาและแรงงาน ซ่ึง นาไปส่ปู ระสิทธภิ าพและบังเกิดประสทิ ธิผลในการทางานต่อไป 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพ่อื ใหส้ ามารถจดั การเอกสารไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 2.2 เพือ่ ใหก้ ารคน้ หาเอกสารที่ต้องใช้ในการตดั สินใจไดโ้ ดยรวดเรว็ ทันต่อเหตุการณ์ 2.3 เพื่อมีระบบจดั เก็บเอกสารในการรองรับการจัดเกบ็ เข้าแฟ้มท่ีเป็นมาตรฐาน และเป็นไปในแนวทางเดยี วกนั 2.4 เพอ่ื รวบรวมเอกสารทเี่ กีย่ วข้องกนั จัดเก็บไวใ้ นทีเ่ ดียวกนั 2.5 เพอื่ ใหจ้ ดั เกบ็ ไวใ้ นแหล่งทีป่ ลอดภัยและถาวร 2.6 เพ่ือใหม้ รี ะบบงานทีด่ ี เช่น การเปลย่ี นตวั ผู้ปฏบิ ตั งิ านสามารถรบั ชว่ งปฏบิ ตั ิงานได้ โดยมีระบบเดียวกันได้ 3. ข้ันตอนการดาเนินงาน 3.1 ศกึ ษาวธิ ีการบรหิ ารจัดการเอกสารภายในสานักงาน 3.2 จดั ทาโครงสร้างการจดั เกบ็ เอกสาร 3.3 จัดเก็บเอกสารเป็นแฟ้มแยกตามหมวดหมู่ มกี ารจดั ทาดชั นขี องแต่ละหมวดหมู่ 3.4 สรปุ ผลดาเนินงาน ตดิ ตามและประเมนิ ผล

4. ผลสาเรจ็ ท่เี กิดข้ึน มีการจดั เกบ็ เอกสารทเี่ ปน็ ระบบ ปลอดภัย สะดวกต่อการใช้งาน และง่ายต่อการคน้ หา มีความเป็นระเบียบ เรยี บรอ้ ย สานักงานนา่ อยู่ นา่ ทางาน 5. ปัจจยั แห่งความสาเร็จ 5.1 มีการศกึ ษาวธิ กี ารจดั เก็บเอกสาร 5.2 มกี ารวางแผนการจดั เก็บเอกสารอยา่ งเป็นระบบ 5.3 การมสี ่วนร่วมของเจ้าหนา้ ท่พี ัฒนาชมุ ชน 6. ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ มีการจดั แบง่ พนื้ ที่ในการจดั เกบ็ เอกสารเป็นสัดส่วน และตู้ในการจดั เก็บเอกสารเพิ่มเติม เพอื่ ใหด้ เู ป็นระเบียบ เรยี บรอ้ ย และเป็นสานักงานที่น่าอยู่ นา่ ทางาน 7. แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต การสร้างตเู้ กบ็ เอกสาร ไฟล์ต่าง ๆ ในระบบ Google Form หรอื การจัดเก็บในระบบคอมพิวเตอร์ และใน แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ 8. ภาพประกอบ (1 ภาพ)

แบบถอดองค์ความรู้จากนวัตกรรม โครงการความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ช่อื - สกลุ นางสาวอารียา หมดั ทองใหม่ ตาแหน่ง นกั วชิ าการพฒั นาชุมชนปฏบิ ตั ิการ สังกดั สานกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอยะหา การจดั เก็บและแบ่งปนั ข้อมูลออนไลน์ 1.แนวคิด/ท่ีมา เนอื่ งจากสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอ มีลักษณะงานท่หี ลากหลายและมีข้อมูลที่เกี่ยวกบั การพัฒนา ชมุ ชนเปน็ จานวนมาก แต่ละงานจะมีเจา้ หนา้ ทเี่ จ้าของเร่ืองรบั ผิดชอบและมีข้อมูลเฉพาะในส่วนของงานนัน้ ๆ ทา ให้บางคร้งั เกดิ ความลา่ ช้าและเกดิ อุปสรรคในการทางาน สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอยะหาเลง็ เห็นว่าเจ้าหนา้ ท่ี ทุกคนควรรขู้ อ้ มลู ทเี่ กี่ยวกับงานพฒั นาชมุ ชนของอาเภอทุกเรอื่ งไม่เฉพาะงานทตี่ นรบั ผดิ ชอบ จึงจดั ทาโครงการการ จดั เกบ็ และแบ่งปันข้อมูลออนไลนข์ ้ึน เพ่ือเจา้ หน้าที่ทกุ คนสามารถจดั เกบ็ ข้อมลู และเข้าถึงขอ้ มลู ทุกเรื่องไดท้ กุ ที่ทุก เวลา อกี ทัง้ ยงั สามารถแบ่งปันข้อมูลให้ทมี ได้อย่างรวดเรว็ ช่วยประหยัดเวลา และทาให้การทางานมีประสิทธภิ าพ และมปี ระสทิ ธผิ ลมากขนึ้ 2. วตั ถปุ ระสงค์ (1) เพือ่ จดั เก็บข้อมลู และแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ให้เพื่อนรว่ มทมี สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว อัตโนมตั ิ (2) เพื่อให้งา่ ยต่อการคน้ หาขอ้ มลู สะดวกรวดเร็ว ทาไดท้ ุกทท่ี ุกเวลาไม่วา่ จะอยู่ที่ไหน (3) เพื่อประหยัดเวลาในการทางาน และเพิม่ ประสทิ ธภิ าพกระบวนการทางานให้ดยี ง่ิ ขึ้น 3. ขั้นตอนการดาเนินงาน 3.1 ขัน้ ตอนเตรยี มการ (1) จดั เตรียมฐานข้อมลู ทเ่ี กย่ี วข้องกบั งานพัฒนาชุมชน (2) ศึกษาวธิ ีการใช้งานการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ 3.2 ขน้ั ตอนดาเนนิ งาน (1) ประชุมช้ีแจงวัตถุประสงค์ของโครงการ (2) ใหเ้ จ้าหน้าท่ีทุกคนโหลดแอพจัดเก็บข้อมลู ออนไลน์ไว้ในโทรศัพทแ์ ละคอมพวิ เตอร์ (3) แนะนาวธิ ีการใชง้ านแอพพลิเคชนั่ จดั เกบ็ ขอ้ มูลออนไลนแ์ กท่ ีมงานสานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอทุกคน

(4) เจา้ หนา้ ท่สี านกั งานพฒั นาชมุ ชนอาเภอยะหา อัพโหลดข้อมลู /งานในส่วนท่ตี นรบั ผิดชอบ เชน่ ข้อมูลสตรี/ กองทนุ พัฒนาบทบาทสตรี หมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียง สมั มาชพี กลุ่มอาชพี /OTOP ตลาดประชารัฐ ครัวเรือน ยากจนข้อมูลตาบล/หมบู่ า้ น รปู ภาพ คลิปวีดีโอ ฯลฯ ไวใ้ นแอปพลิเคชน่ั จดั เก็บขอ้ มูลออนไลน์ 3.3 ขั้นตอนสรุปผลการดาเนนิ งาน (1) ตดิ ตามผล และใหค้ าปรึกษาแนะนา (2) ถอดบทเรียน 4. ผลสาเรจ็ ทเี่ กิดขนึ้ - ปรมิ าณ เจา้ หนา้ ทสี่ านกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอยะหาจานวน 8 คน สามารถจัดเก็บและแบง่ ปนั ข้อมลู ออนไลนไ์ ด้ - คณุ ภาพ เจ้าหนา้ ท่สี านักงานพฒั นาชุมชนอาเภอยะหา สามารถเข้าถึงข้อมูลงานพฒั นาชุมชนได้อย่างรวดเร็ว ทาให้เกิด ประสทิ ธิภาพในการทางานมากย่ิงข้ึน 5. ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ (1) ความเข้าใจในรายละเอียดและวัตถปุ ระสงค์ของโครงการ (2) ทกั ษะความรู้ความสามารถของทีม (3) การใหค้ วามรว่ มมือและการทางานเป็นทีม (4) การถา่ ยทอดและการสื่อสารที่มีประสทิ ธิภาพ (5) เทคโนโลยี ยุค 4.0 6. ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ งานพัฒนาชุมชนไม่ใช่แค่งานของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนสามารถชว่ ยกันคิด ช่วยกันดาเนนิ การ ชว่ ยกนั แก้ไข ปัญหารว่ มกัน และทกุ คนควรมีข้อมลู ในสว่ นของทุก ๆ งาน ไมเ่ ฉพาะงานทตี่ ัวเองรับผิดชอบเทา่ น้นั 1 งานรูห้ ลาย คน 1 คนรหู้ ลายงาน จะทาให้การทางานเกดิ ประสทิ ธิภาพ และประสบผลสาเรจ็ ตามเป้าหมายได้ดแี ละรวดเรว็ ยงิ่ ข้ึน 7. แนวทางการพัฒนาต่อยอดในอนาคต ส่งเสริมใหผ้ นู้ าและเครือข่ายไดเ้ ข้าถงึ ข้อมูลที่เกย่ี วกับงานพัฒนาชุมชนผ่านทางออนไลนด์ ว้ ยตนเอง โดยไมต่ ้อง เดนิ ทางมาทอี่ าเภอ เพื่อประหยดั เวลาและเพมิ่ ความรวดเร็วในการทางาน