Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน พต 21001 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน พต 21001 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

Published by Patong. CLC., 2020-04-21 00:36:20

Description: หนังสือเรียนวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน พต 21001 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นนี้ใช้เป็นหลักในการศึกษาค้นคว้า สำหรับการเรียนรู้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ต่อไป

Search

Read the Text Version

เอกสารสรปุ เนื้อหาทต่ี อ งรู รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ( English in Daily Life ) ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน รหัส พต21001 หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 สํานักงานสง เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สาํ นักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หา มจาํ หนา ย หนังสือเรยี นน้จี ดั พิมพดว ยเงินงบประมาณแผน ดินเพื่อการศึกษาตลอดชวี ติ สาํ หรบั ประชาชน ลิขสิทธ์เิ ปนของสาํ นักงาน กศน.สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร



สารบญั หนา คํานํา คําแนะนาํ การใชเ อกสารสรปุ เนอื้ หาทตี่ องรู บทท่ี 1 การใชภาษาในการสอ่ื สารความหมายในชีวิตประจําวนั (Language in Daily Life) 1 เรอ่ื งที่ 1 การทักทายและการกลาวลา (Greeting and Leave Taking) 1 เรื่องที่ 2 การแนะนําตนเองและผูอน่ื (Introducing Yourself and Others) 2 เรอ่ื งที่ 3 การใหแ ละการสอบถามขอมลู สว นตัว (Sharing Personal Data) 3 เร่ืองที่ 4 การใชภ าษากาย (Body Language) 4 เร่ืองที่ 5 การพดู โทรศัพท (Telephone Conversation) 6 กิจกรรมทายบทท่ี 1 7 บทท่ี 2 คุณรสู กึ อยางไร (How do you feel?) 13 เรื่องที่ 1 ภาพยนตรเ รอ่ื งนี้เปนอยา งไร (How about the movie?) 13 เรื่องที่ 2 คุณสนใจอะไร (What are you interested in?) 14 เรื่องที่ 3 เสียใจดว ยนะ (Sorry to hear that.) 16 เรื่องที่ 4 ยินดดี วย (Congratulations!) 17 กจิ กรรมทายบทท่ี 2 19 บทที่ 3 การพดู แสดงความคดิ รปู แบบตา ง ๆ (Expression of opinion) 20 เรอ่ื งที่ 1 การแสดงความคดิ เห็น (Agreement/Disagreement) 20 เรอื่ งท่ี 2 การแสดงความตอ งการและตอบรบั (Need/Want ) 21 เรือ่ งท่ี 3 การแสดงความชว ยเหลอื และบริการผูอน่ื รวมทัง้ ตอบรับ 22 เรื่องที่ 4 การกลาวขอบคณุ และตอบรับ (Thank you) 24 เรื่องท่ี 5 การพูดขออนญุ าตและตอบรบั (May I come in ?) 24 เรอ่ื งท่ี 6 การพูดขอโทษและตอบรับ (Sorry / Don’t worry) 25 เรื่องที่ 7 การพูดแทรกอยางสุภาพ (Excuse me) 26 กิจกรรมทา ยบทที่ 3 27

สารบญั (ตอ) หนา บทที่ 4 รูปแบบประโยคในภาษาองั กฤษ (Types of English Sentence) 29 เรื่องท่ี 1 ประโยคบอกเลา 29 เรื่องท่ี 2 ประโยคคาํ ถาม 29 เรอ่ื งที่ 3 ประโยคปฏิเสธ 30 เรอื่ งท่ี 4 ประโยคคาํ ส่ัง 30 เรอ่ื งที่ 5 ประโยคอทุ าน 31 กิจกรรมทา ยบทท่ี 4 31 33 บทที่ 5 ประโยคความรวม (Compound Sentence) 33 เรือ่ งที่ 1 สว นประกอบของ Compound Sentence 33 เรอ่ื งที่ 2 ประโยค 2 ประโยคมารวมกันดวยคาํ เชื่อมท่ีเหมาะสม 34 เรือ่ งที่ 3 การเชือ่ มประโยคใหเปน Compound Sentence 35 กจิ กรรมทา ยบทท่ี 5 36 36 บทที่ 6 อดีตกาล (Past Tense) 37 เรือ่ งท่ี 1 Past Simple Tense 38 เรอ่ื งท่ี 2 Past Continuous Tense 39 กิจกรรมทายบทที่ 6 39 40 บทท่ี 7 ภาษาองั กฤษสาํ หรับอาชีพพนักงานขบั รถรบั จา ง 40 เรื่องที่ 1 การพูดภาษาองั กฤษตามมารยาทสงั คมและเหมาะสมกับสถานการณ 41 เรอ่ื งท่ี 2 การพูดแสดงความรูส ึกและแสดงความคดิ เหน็ 42 เร่ืองท่ี 3 การพดู แสดงความชวยเหลือ 43 เรื่องที่ 4 การขออนญุ าต เรื่องท่ี 5 การพดู แทรกอยางสุภาพ กิจกรรมทา ยบทท่ี 7

สารบญั (ตอ ) หนา บทที่ 8 ภาษาอังกฤษสําหรับพนกั งานบรกิ ารในสถานท่ีตาง ๆ 44 เรือ่ งที่ 1 การกลาวตอ นรบั ลกู คา ของพนักงานบริการประเภทตา ง ๆ 44 เรื่องที่ 2 ประโยคการใหบริการความชว ยเหลอื และบรกิ าร 45 กจิ กรรมทายบทที่ 8 49 เฉลยกจิ กรรมทา ยบท 50 บรรณานกุ รม 65 คณะผูจัดทํา 56

คาํ แนะนําการใชเอกสารสรุปเน้ือหาทีต่ อ งรู เอกสารสรปุ เนื้อหาทต่ี องรู รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน หลักสตู ร การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เปน หนงั สอื สรุปเนอื้ หาที่จดั ทาํ ขน้ึ เพือ่ ใหผเู รียนทเ่ี ปนนักศึกษา กศน. สามารถทาํ ความเขา ใจ และเรยี นรูในสาระสําคญั ของเนือ้ หา รายวชิ าสาํ คญั ๆ ไดส ะดวก และสามารถเขา ถงึ แกนของเนอื้ หาไดด ีขนึ้ ในการศึกษาเอกสารสรปุ เนื้อหาที่ตองรู รายวิชาภาษาองั กฤษ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน ผเู รียนควรปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1. ศึกษาโครงสรา งรายวิชาจากหนงั สอื ใหเ ขา ใจในหวั ขอ และสาระสาํ คญั ผลการเรียนรู ทค่ี าดหวงั และขอบขา ยเน้ือหาของรายวิชานั้น ๆ เขา ใจกอ น 2. ศึกษารายละเอียดเนือ้ หาของเอกสารสรุปเนอ้ื หาท่ตี อ งรูเลมน้ี โดยศึกษาแตล ะบท อยางละเอียด ทาํ แบบฝกหดั หรอื กจิ กรรมตามทก่ี ําหนด และทาํ ความเขาใจในเน้อื หาใหมใ หเ ขาใจ กอนทจ่ี ะศกึ ษาเรอ่ื งตอ ๆ ไป 3. หากตองการศกึ ษารายละเอียดเน้ือหาเพม่ิ เตมิ จากเอกสารสรุปเนอื้ หาที่ตอ งรูน้ี ใหผ ูเรียนศึกษาเพม่ิ เตมิ จากหนงั สอื เรียน หรือครูผสู อนของทา น

1 บทท่ี 1 การใชภาษาในการสือ่ สารความหมายในชีวติ ประจาํ วนั (Language in Daily Life) เรอื่ งท่ี 1 การทกั ทายและการกลา วลา 1.การทกั ทาย (Greeting) และการกลา วลา (LeaveTaking) เปน การสนทนา ท่ีใชในชวี ิตประจาํ วนั ซึ่งแตกตางกันไปตามกาลเทศะ คือ เวลาและสถานภาพของผพู ูด ดงั ตัวอยา ง ในบทสนทนาตอ ไปนี้ -Good morning. สวสั ดีตอนเชา ใชเวลาเชาถงึ เที่ยงวัน -Good afternoon. สวัสดีตอนบา ย ใชต้ังแตบา ย เปนตนไป -Good evening. สวัสดีตอนเย็น ใชตงั้ แตต อนเย็น เปนตนไป หากเปน ผูสนิทสนมคนุ เคยกัน จะทกั ทาย โดยใชคําวา Hello หรือ Hi สว นผูท ไ่ี มค ุนเคย หรือสถานภาพตางกนั มักใชค ําทักทายตามเวลา หลงั จากกลาวคาํ ทักทายแลว มกั จะไถถามทุกขส ุขโดยมารยาท เชน “คุณสบายดีไหม หรอื เปน อยางไรบา ง” โดยใชประโยคท่ีวา Question Answer -How are you? -Fine, thank you. And you? - Nice to see you. /Nice to see you, too. -How are you today? -How are you doing? -How do you do? สํานวนที่ใชตอบรบั มักนิยมใชด ังน้ี -Fine, thank you. And how are you? สบายดี ขอบคุณ แลวคณุ ละ -Nice to see you. หรอื Nice to see you, too. ดใี จทไี่ ดพบคณุ หรือ -Glad to see you. หรอื Glad to see you, too. ดีใจท่ไี ดพบคุณเชนเดียวกัน - Cool, thanks. การทกั ทายสาํ หรบั ผูท ค่ี ุนเคยกนั Sri : Hello/Hi, Nid. How are you? Nid : Fine thank you. And you? Sri : Fine, thanks.

2 2.การกลาวลา ( Leave taking ) เมื่อลาจากกนั มกั ใชคาํ วา “ลากอน” โดยใชคําวา “Goodbye” หรอื “Bye” นอกจากนน้ั ก็มีสาํ นวนกลาวลา ซึ่งใชตามสถานการณต าง ๆ เชน - See you. Bye. แลวเจอกนั ใหม - See you later. Bye. แลวพบกันใหม - See you soon. แลว พบกันในไมช าน้ี - See you tomorrow. แลว พบกันวันพรุง น้ี - See you next year. ไวพ บกันปหนา การลาในกรณที ่รี ะบเุ วลา - See you on Sunday. แลว พบกันวนั อาทิตย บทสนทนา Pat : Hi, Peter. Peter : Hi, Pat. How are you today? Pat : Very well. We have a meeting on Sunday. Peter : Yes. See you on Sunday. Pat : Goodbye. See you soon. Peter : Bye. กิจกรรม ใหผเู รยี นฝกโตต อบตามบทสนทนา ที่ยกใหเปน ตัวอยางขา งตน EN201001 บทท่ี 1 การใชภาษาในการสอ่ื สารความหมายในชวี ติ ประจําวนั เรือ่ งท่ี 1 การทักทายและการกลาวลา เรื่องที่ 2 การแนะนําตนเองและผูอนื่ (Introducing Yourself and Others) 1. การแนะนาํ ตนเอง Bob : Hello. My name is Bob. /I’m Bob. John : Hello. My name is John. /I’m John. How do you do? Bob : How do you do?

3 2. การแนะนาํ ผอู ื่น Bob : John, this is Anne from England (the UK). John : How do you do? Nice to meet you. Anne : How do you do? Nice to meet you too. /Nice meeting you./Pleased to meet you. กิจกรรม ใหผ ูเรยี นฝกสนทนาโตต อบ ตามบทสนทนาท่ียกใหเ ปนตัวอยา งขางตน EN201002 บทที่ 1 การใชภาษาในการสือ่ สารความหมายในชีวิตประจาํ วัน เร่อื งที่ 2 การแนะนาํ ตนเองและผอู ่นื เร่ืองที่ 3 การสอบถามขอมลู สว นตวั บทสนทนาท่ี 1 Peter : What is your nationality? / Where are you from? (คณุ มีสญั ชาตอิ ะไร) Anne : I’m American. (ฉันสญั ชาตอิ เมริกนั ) Peter : What do you do? (คณุ ทํางานอะไร) Anne : I’m a doctor. (ฉันเปนหมอ) Peter : How many people are there in your family? (ในครอบครัวคุณมีกค่ี น) Anne : There are five persons in my family. /I have two sisters and one brother.(ในครอบครัวของผมมี 5 คน) Peter : Do you have a telephone number or e-mail address? / How do we contact you? (คุณมเี บอรโทรศพั ท หรืออีเมลหรอื ไม) Anne : Yes, I do. My telephone number is 02-2634224. My mobile number is 082- 2281958 and my e-mail address is [email protected]. (ไดคะ หมายเลขโทรศพั ทของฉัน คอื 02-2634224 และโทรศัพทม ือถือ คอื หมายเลข 082-2281958 และอีเมลแอดเดรส คือ [email protected])

4 กจิ กรรม ใหผ ูเ รยี นฝกสนทนาโตต อบตามบทสนทนาท่ี 1 EN201003 บทท่ี 1 การใชภ าษาในการส่ือสารความหมายในชวี ิตประจําวัน เรื่องที่ 3 การใหแ ละการสอบถามขอ มลู เรื่องท่ี 4 การใชภ าษากาย ( Body Language) 1) ภาษาทา ทางท่ใี ชในโอกาสตา ง ๆ Victory Come here (สัญลกั ษณข องชัยชนะ) (กวกั มอื ) Bye-bye Boredom (โบกมอื ) (แสดงอาการเบอื่ )

5 Doubt Hand to chin (สงสยั ) (เอามือเทา คาง) 2) ทาทางการปฏบิ ตั ติ ามวฒั นธรรมเจาของภาษา Hand Shaking Good-bye hug/kiss (การจับมอื กัน) (การลาดวยการกอด/จบู ) กจิ กรรม ใหผูเ รยี นฝกทําทาทาง ภาษากายดงั กลา วขางตน และฝกออกเสียง 3) คาํ ศพั ท สาํ นวน ประโยคและทา ทางท่ีใชใ นการสอื่ สารในโอกาสตาง ๆ เชน 1. คาํ ศพั ท สํานวน ประโยคทีใ่ ชสื่อสารในโอกาสตา ง ๆ บทสนทนา Suda : Merry Christmas and Happy New Year. ( สุขสนั ตว ันครสิ ตม าส และสขุ สันตวันปใหม ) Peter : Merry Christmas and Happy New Year. ( สขุ สนั ตว ันคริสตม าส และสุขสนั ตวนั ปใหม ) Suda : Thanks. (ขอบคณุ คะ ) Peter : Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)

6 ตวั อยา งประโยคท่ีใชใ นโอกาสตาง ๆ - Happy Valentine’s Day. (สขุ สนั ตว นั วาเลนไทน) - Merry Christmas. (สุขสันตว นั ครสิ ตมาส) - Happy New Year. (สขุ สันตวันปใ หม) นอกจากนย้ี งั มีการใชส ํานวนในโอกาสอน่ื ๆ เชน - Happy birthday. (สุขสันตว ันเกิด) - Congratulation for your new baby. (ขอแสดงความยินดที ่มี ีลูกใหม) - Happy anniversary. (สุขสนั ตวนั ครบรอบ) กิจกรรม ใหผ เู รยี น ฝก สนทนาโตต อบตามบทสนทนาที่ 1 และ 2 ตลอดจนฝกออกเสียง สาํ นวนท่ใี ช ในโอกาสตา ง ๆ EN201004 บทท่ี 1 การใชภาษาในการสื่อสารความหมายในชวี ิตประจาํ วนั เรื่องที่ 4 การใชภาษากาย เรอื่ งท่ี 5 การพดู โทรศพั ท ( Telephone Conversation ) 1. การรบั โทรศพั ทอ ยา งงา ย Caller Receivers - Hello. Is Mrs. Brown home? - Yes, who is calling? - I’m Peter. may I speak to Mrs. - Yes, just a minute, please. Brown?

7 2. Business Caller - Hello, John speaking. May I Operator speak to ______________. - Yes, Please tell him/her John is - Hello. NFE Company. Sarah calling from _______and let speaking. May I help you? him/her call me back at (mobile - He/ She is not in just now. number) Would you like to leave a message? - Thank you. Bye. - Sorry, she is not here now. Would you like to leave a message? - All right. I’ll tell him/her. - You’re welcome. Bye. กิจกรรม ใหผ ูเรยี นฝกสนทนาโตต อบการใชโทรศัพทตามบทสนทนาท่ี 1 และ 2 EN201005 บทท่ี 1 การใชภ าษาในการสื่อสารความหมายในชวี ติ ประจําวนั เร่อื งท่ี 5 การพดู โทรศพั ท กจิ กรรมทา ยบทท่ี 1 กจิ กรรมท่ี 1. เร่ืองการทกั ทาย (Greeting) (10 คะแนน) ใหผูเรยี นเร่มิ ทาํ แบบฝก หดั บทสนทนา โดยการเตมิ คํา หรือประโยค ลงในชอ งวาง 1.1 Unofficial Greeting. Alex : Hello, Susan. How are you? Susan : _____________________. And you? Alex : ______________________.

8 1.2 Greeting at work. Mr. David : Good morning. Miss Judy. How do you do? Miss Judy : _________________. ___________________. Mr. David : Nice to see you. Miss Judy : _________________. กจิ กรรมท่ี 2. การแนะนาํ ตนเองและผอู น่ื (Introducing Yourself and others) (1 คะแนน) 2.1 การแนะนําตนเอง (Self-introduction) John : Hello. My name is John. I’m John from Thailand. Bob : ___________________. How do you do? John : ___________________. 2.2 การแนะนาํ ผอู ื่น Malee : Suda. This is Nida my friend from Phuket. Suda : How do you do? Nice to meet you. Nida : __________________________________________ กจิ กรรมที่ 3. การสอบถามขอ มูลสวนตัว (5 คะแนน) ใหผูเ รยี นเขยี นขอความสอบถามเพ่ือนเก่ยี วกับขอ มลู สวนตวั ที่กําหนดใหมา เปน ภาษาองั กฤษ NFE CO.,LTD. Employment Application APPLICANT INFORMATION Name : Last Name : Gender : Date of Birth : Address : Post Code : Mobile Number : Facebook : Line ID : E-mail Address : Position Applied For: Desired Salary : Date Available for work : Bath. Have you ever worked for this company? YES NO If so, when?

9 EDUCATION Address : High School : From To Did you graduate? YES Degree NO College : address : From To Did you graduate? YES Degree University : NO address : From To Did you graduate? YES Degree NO REFERENCES Please list three professional references. Full Name : Relationship : Company : Phone : Address : Full Name : Relationship : Company : Phone : Address : Full Name : Relationship : Company : Phone : Address :

10 PREVIOUS EMPLOYMENT Company : Phone : Address : Supervisor : Job Title : Starting Salary : Ending Salary : Responsibilities : From : To : Reason for Leaving : May we contact your previous supervisor for a reference? YES NO Company : Phone : Address : Supervisor : Job Title : Starting Salary : Job Title : Responsibilities : From : To : Reason for Leaving : May we contact your previous supervisor for a reference? YES NO Company : Phone : Address : Supervisor : Job Title : Starting Salary : Job Title : Responsibilities : From : To : Reason for Leaving : May we contact your previous supervisor for a reference? YES NO MILITARY SERVICE From : To : Branch : Type of Discharge : Rank at Discharge : If other than honorable, explain. DISCLAIMER AND SIGNATURE I certify my answers are true and complete to the best of my knowledge. If this application leads to employment, I understand that false or misleading information in my application or interview may result in my release. Signature : Date :

11 กิจกรรมท่ี 4 การใชภาษากาย ( Body language) ใหผูเ รียน ศกึ ษารปู ภาพเก่ยี วกับภาษากาย (Body language) และนําตัวเลือก ทีใ่ หไปเตมิ ลงในชองวา ง ใหตรงตามรูปลักษณะภาษากาย ทมี่ า : http://www.keyword-suggestions.com

12 กิจกรรมท่ี 5 การพดู โทรศพั ท (Telephone Conversation) (3 คะแนน) สรปุ เน้อื หา การพูดโทรศพั ท แลวฝก เขียนประโยค และจบั คสู นทนากับเพ่อื น ตามสถานการณตาง ๆ ใหผูเรียนเขยี นสํานวน และประโยคภาษาไทยตอไปน้ี เปน ภาษาอังกฤษ 1.1 สวัสดีคะ/ครับ ดิฉัน/ผม ขอพดู กับคณุ สดุ าคะ /ครบั ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ 1.2 คุณสดุ าไมอ ยคู ะ เธอออกไปขางนอก ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ 1.3 ขอประทานโทษคะ /ครบั ดิฉนั /ผมอยากทราบวา ใครจะคยุ ดว ยคะ/ครับ ____________________________________________________________ ____________________________________________________________

13 บทที่ 2 คณุ รูสกึ อยางไร (How do you feel?) เรือ่ งที่ 1 ภาพยนตรเ รอื่ งนเ้ี ปน อยางไร (How about the movie?) ในการสนทนาโดยทั่วไป เมื่อมกี ารพดู คุยสอบถามเรื่องตาง ๆ แลว การแสดงความชอบ ความไมชอบ หรือความพงึ พอใจ ความไมพ งึ พอใจ เปนเรอื่ งธรรมดาและสามารถพบเห็นได โดยทวั่ ไป คาํ ศพั ทที่ใชแสดงอากปั กริยาดงั กลาวขางตน จะประกอบดวย คําตอไปนี้ Like = ชอบ Dislike = ไมชอบ Pleasant = พึงพอใจ Pleased Unpleasant = ไมพงึ พอใจ กรณีท่ีเราชอบ จะใชใ นรปู ประโยคบอกเลา ตวั อยา ง เชน  I like seafood. ฉนั ชอบอาหารทะเล  I like to walk to school. ฉนั ชอบเดินไปโรงเรียน  I like dogs. ฉันชอบสนุ ัข ในกรณที ีเ่ ราไมชอบ สามารถเขียนรูปประโยค เปนประโยคปฏิเสธ โดยใช Verb to do มา วางไวห ลังประธาน ตามดวย not นําหนากริยาแท ยกตัวอยางเชน  I don’t like seafood. ฉันไมชอบอาหารทะเล  I don’t like to walk to school. ฉันไมชอบเดินไปโรงเรียน  I don’t like dogs. ฉันไมชอบสุนัข ความรูส กึ ทแ่ี สดงความชอบ ไมช อบ หรอื ความพึงพอใจ ความไมพ ึงพอใจ ตัวอยา ง เชน I like seafood. (ฉันชอบทานอาหารทะเล) I like spicy food. (ฉนั ชอบทานอาหารรสจดั ) I dislike hot food. (ฉนั ไมชอบทานอาหารรอ น ๆ) I dislike him. (ฉันไมชอบเขา) I’m so impressed to hear that. (ฉันดีใจมากทีท่ ราบเร่อื งน้ี) It’s awful. (มันนา กลัว) I love it. (ฉันชอบมัน) I enjoy swimming. (ฉันชอบวายนํ้า)

14 นอกจากนี้ ยงั มีสํานวนทีแ่ สดงอารมณ ความรสู ึกพอใจ/ไมพอใจ เชน That’s great. (ยอดเย่ียมจรงิ ) That’s bad. (แยจ ริง ๆ) How wonderful! (วเิ ศษมาก) How awful! (แยม าก) Awesome! (เยี่ยมมาก) Brilliant! (เยี่ยมยอด) Stunning (นา ทง่ึ ) สดุ ากับมาลี ไปดภู าพยนตรดว ยกนั สดุ าชอบภาพยนตรเ รอ่ื งน้ีมาก เธอดดู วยความ สนุกสนานและพอใจกบั เงนิ และเวลาท่เี สียไป ซ่งึ แตกตางกับมาลซี ง่ึ ไมพอใจกับภาพยนตรเร่อื งนี้ เลย สุดาและมาลสี ามารถใชสํานวนตอ ไปน้ี ในการพูดได Suda : I’m so pleased with this movie./This movie makes me pleasant. Malee : I’m not pleased with this movie./This movie makes me unpleasant. กจิ กรรม ใหผ ูเรียน ฝกเขยี นและออกเสยี งแสดงความรูส กึ ที่แสดงความพอใจและไมพอใจ ใน ตวั อยา งทยี่ กมาขางบนนี้ EN203001 บทที่ 2 คุณรสู ึกอยา งไร (how do you feel?) เรอ่ื งที่ 1 พอใจ/ไมพ อใจ เร่ืองท่ี 2 คณุ สนใจอะไร (What are you interested in?) โดยทวั่ ไป บุคคลมกั มีความสนใจ และไมสนใจแตกตางกนั ไป คําศัพททใ่ี ชบอกความสนใจ คือ คาํ วา interested ตามดวยบุพบท in ซึ่งประกอบดว ยโครงสรา งประโยค ดงั น้ี Subject + Verb to be + interested in +noun (คําถามที่แสดงถงึ ส่ิงทเี่ ราสนใจ) ซึง่ ประโยคที่ยกตัวอยางขา งตน อยูในรปู ประโยคบอกเลา ในกรณีท่ีจะทาํ รปู ประโยคบอกเลาเปน ประโยคปฏเิ สธ ใหใชคาํ วา not วางไวหลงั Verb to be ซึง่ ความหมายจะเปลีย่ นเปน สง่ิ ตรงกันขา มทนั ที

15 ความรูส ึกทแี่ สดงถงึ ความสนใจและไมส นใจ ตัวอยา งเชน I’m interested in singing. (ฉันสนใจในการรอ งเพลง) I’m not interested in dancing. (ฉันไมสนใจในการเตนราํ ) I’m uninterested in swimming. (ฉนั ไมสนใจในการวายน้าํ ) I have no idea. (ฉันไมม ีความคิดเห็น/ฉนั ไมรเู รอ่ื งเลย) I’m not bothered. (ชางมันเถอะ) บทสนทนาที่ 1 Preecha : Let’s go and exercise. (เราไปออกกาํ ลังกายกนั เถอะ) Suda : I’m not interested in exercise. I’d rather stay at home. (ฉันไมส นใจในการออกกําลงั กาย ฉนั สนใจทีจ่ ะอยูบาน) Preecha : OK. Bye. (ครับ ลากอ น) Suda : Bye. See you. (ลากอน แลวพบกนั คะ) บทสนทนาที่ 2 Suphit: I want to get a new dress. What color? (ฉันจะซือ้ ชุดใหม สไี หนดี) Udom : I have no idea. Suda can give you better advice. (ผมไมร ูเรื่องเลย สุดานาจะแนะนําคณุ ได) Suphit: That’s a good idea. Thank you. (เปนความคิดทีด่ ี ขอบคณุ คะ ) Udom : You’re welcome. (ไมเ ปน ไรครับ) กิจกรรม ใหผ ูเ รยี นฝก สนทนาโตตอบตามบทสนทนาท่ี 1 และ 2 EN203002 บทท่ี 2 คณุ รสู ึกอยา งไร (how do you feel?) เร่อื งที่ 2 สนใจ/ไมส นใจ

16 เรือ่ งที่ 3 เสยี ใจดวยนะ (Sorry to hear that.) ในชีวิตประจาํ วนั การแสดงความเสยี ใจตอ เรอื่ ง หรอื เหตกุ ารณที่สญู เสียของบคุ คล เปน มารยาททางสังคม ท่พี งึ ปฏบิ ัตติ อ กัน ผูพูดจงึ ตอ งใชคําพดู และสํานวนทแี่ สดงความเห็นอกเห็นใจ ตอ ผูสูญเสียทอ่ี ยใู นอารมณเศรา ใหผ อ นคลาย และเกิดกําลังใจในการตอ สู และดาํ รงชีวิตตอ ไป การใหกําลงั ใจ/เห็นใจ/ปลอบใจ คําศพั ท สํานวน และประโยค ทีแ่ สดงถึงความรสู ึก Don’t worry. ไมตอ งกงั วล Cheer up! สู ๆ Take it easy. ใจเยน็ ๆ ไว Good job. / Well done. ทาํ ไดด มี าก You did a good job. ทําไดดีมาก Relax. ทาํ ใหสบาย It’s going to be fine. เดี๋ยวก็ดีเอง Take it easy. ใจเยน็ ๆ Let it go. ปลอ ยมันไป Let it be. ปลอยใหมนั เปนไป บทสนทนาท่ี 1 Anne : I lost my mobile. (ฉนั ทาํ โทรศพั ทห าย) Suda : Don’t worry. You will get the new one. (ไมตองกงั วล เธอกแ็ คซ ้อื ใหม) Anne : Thank you. Have you done your homework? (ขอบคณุ และคณุ ทําการบา นแลว หรือยงั ) Suda :Oh! I forgot it. (โอ ฉันลมื ทาํ ) Anne : Take it easy. I can help you. Let’s start right now. You will be fine. (ใจเย็น ๆ ไว ฉันชว ยเธอได เรามาทาํ การบานกันเด๋ยี วนเ้ี ถอะ เดย๋ี วก็ดเี อง) Suda : Thanks a lot. (ขอบคุณมาก) Suda : OK. (จะ) บทสนทนาที่ 2 Suphit: Somsri is the champion. (สมศรเี ปนผูชนะเลศิ ) Suda : She did a good job. She is the winner. (เธอทาํ ไดดมี าก เธอคอื ผูช นะ) Suphit: Congratulations to our champion. (ยนิ ดดี วยกับผชู นะเลิศของเรา)

17 นอกจากนย้ี ังสามารถใชส ํานวนคําวา sympathy แสดงความเศราโศกเสยี ใจ เชน  It’s my sympathy to hear that your father passed away.  I deeply regret. นอกจากแสดงความเสยี ใจ ยังสามารถแสดงความเห็นอกเหน็ ใจ ปลอบใจ และใหก ําลงั ใจ ในโอกาสตาง ๆ ซงึ่ สาํ นวนทมี่ ักจะใช ไดแ ก  Don’t worry. ไมต องกังวล  Cheer up. สู ๆ  Take it easy. ใจเย็น ๆ ไว  Relaxed. ทาํ ใหส บายใจ  You will be fine. เดย๋ี วก็ดเี อง  Well done. ทําไดดมี าก  You did a good job. ทําไดดีมาก กจิ กรรม ใหผูเ รยี นฝกสนทนาโตตอบตามบทสนทนาท่ี 1 และ 2 EN203003 บทท่ี 2 คุณรูส กึ อยางไร (how do you feel?) เร่ืองที่ 3 ใหก ําลงั ใจ/เหน็ ใจ/ปลอบใจ เรอื่ งที่ 4 ยนิ ดดี วย (Congratulations!) การแสดงความยินดกี ับเพื่อน ๆ และผูใหญใ นโอกาสท่ีบุคคลนนั้ ๆ ไดร บั ความเจรญิ กาวหนา ในหนาท่กี ารงานและอาชีพ ตลอดจนการไดเลื่อนตาํ แหนงใหส ูงขน้ึ เปน มารยาททางสังคม ที่ผมู ี นํา้ ใจพึงปฏิบัตติ อกัน สาํ นวนท่ใี ชใ นการแสดงความยินดี ไดแ ก คําวา Congratulations! หรอื คาํ วา Congratulations on your…………………………….! เปนตน ดใี จและเสยี ใจ คําศัพท สํานวนและประโยค ที่แสดงถึงความรสู กึ ดงั น้ี - Congratulations! ยนิ ดีดว ย - How wonderful! วิเศษมาก

18 - Marvelous! วเิ ศษจริง ๆ - That’s great! ยอดมาก ฉนั ดใี จท่ี........ - I’m glad that…… ฉนั ดีใจมากท่ี........ - I’m so pleased….. ฉันดีใจมากทไ่ี ดทราบวา ........ - I’m glad to hear….. ฉันรสู กึ เสยี ใจมาก การแสดงความเสียใจ - I’m so sorry. - Condolences. บทสนทนาท่ี 1 Nid : Congratulations on your success. (ขอแสดงความยนิ ดีกบั ความสําเร็จของคณุ ) Wit : I’m so pleased to hear that. (ดีใจมากที่ทราบขา ว) Nid : Thank you. (ขอบคุณคะ ) บทสนทนาที่ 2 Malee : I’m so sorry for being late. (ขอโทษท่ีมาชา) Suda : Don’t worry. You can make it. (ไมต องกงั วล คุณยังมาทันเวลา) Malee : My deep condolences for your father passing away./I deeply regret it. (รสู ึกเหน็ ใจอยา งสุดซึง้ กบั การจากไปของคณุ พอ ของคณุ / ฉันรูส กึ เสียใจมาก) Suda : Thank you. (ขอบใจจะ ) กจิ กรรม ใหผเู รียนฝก สนทนาโตตอบ ตามบทสนทนาท่ี 1 และ 2 EN203004 บทท่ี 2 คณุ รูสึกอยา งไร (how do you feel?) เรือ่ งที่ 4 ดใี จ/เสยี ใจ

19 กิจกรรมทายบทท่ี 2 การแสดงความรสู ึกตา ง ๆ (Expression of feeling ) กิจกรรม เรอ่ื งการทกั ทาย (10 คะแนน) ใหผ เู รียนศกึ ษาคําศัพท สาํ นวน และประโยคทแ่ี สดงความพอใจ และไมพอใจ ความสนใจ ความไมสนใจ การใหกาํ ลังใจ เหน็ ใจ ปลอบใจ และนาํ มาใช ในสถานการณท ก่ี ําหนด ดงั ตอ ไปนี้ โดยการเขยี นและออกเสยี งแสดงความรูสกึ (ขอละ 1 คะแนน) 1. สุดาไมชอบสนุ ัข เธอตอ งพูดวา อยา งไร ______________________________________________________________ 2. มาลัยบอกสดุ าวาเธอสอบไดที่ 1 สดุ าควรจะพดู วาอยา งไร ______________________________________________________________ 3. วิชัยขอความคิดเหน็ จากวิโรจน ในเรอื่ งการซอมแซมโทรศพั ทม ือถอื ดว ยตนเอง แตว ิโรจนไมมีความรูในเร่อื งดงั กลาว วโิ รจนควรพดู วาอยางไร ______________________________________________________________ 4.นนั ทาเปน ผชู นะเลศิ จากการประกวดรอ งเพลง พรสุดาซึ่งเปนเพอื่ นรัก ควรจะกลาว แสดงความยนิ ดีกับนันทาวาอยา งไร ______________________________________________________________ 5. ชาตรีมาเขาเรียนสาย เขาควรจะบอกคุณครู และเพื่อน ๆ วาอยางไร ______________________________________________________________ 6. มานะสอบปลายภาคไมผาน ทา นควรกลา วคําปลอบใจเขาวา อยา งไร ______________________________________________________________ 7. คุณแมเพื่อนปว ยและเสยี ชีวิตทโี่ รงพยาบาล ทานควรกลาวคําแสดงความเสียใจ วาอยา งไร ______________________________________________________________ 8. ฉนั สนใจในการเลน แบดมินตัน ______________________________________________________________ 9. ฉนั ไมส นใจในการเตนแอโรบิค ______________________________________________________________ 10. สุดาบอกมาลวี า ตุกตาผา ตวั น้ี ฉนั ทํามนั ดว ยตวั เองนะ มาลคี วรจะกลา ววาอยางไร กบั สดุ า ______________________________________________________________

20 บทท่ี 3 การพดู แสดงความคดิ เหน็ รปู แบบตา ง ๆ (Expression of opinion, ideas/wishes/offering helps, etc.) ภาษาเพอื่ แสดงความคิดเหน็ และความตอ งการ เร่ืองท่ี 1 การแสดงความคดิ เหน็ (เหน็ ดวย/ไมเห็นดว ย ยอมรบั /ไมยอมรบั ) Agreement/Disagreement Agreement เปนรปู แบบของการสนทนาท่ีมีความเห็นพอ งดวย เม่ือฝายหน่งึ แสดง ความเหน็ อาจอยใู นรูปประโยคบอกเลาธรรมดา และคสู นทนากแ็ สดงความเหน็ ดวย และสํานวนท่ี ใชใ นการแสดงความเห็นดว ย อาจเลือกใชต ามโอกาสอันสมควร ไดแ ก Agreement Disagreement Yes, I think so. (ใช ฉันก็คิดอยา งน้ัน) No, I don’t think so. (ไม ฉันไมคดิ อยา งน้ัน) Yes, I agree with you. (ใช ฉันเห็นดวย) Well, I really don’t think so. Yes, you are right. (เอ!....ฉันไมไ ดค ิดเชนนั้นจริง ๆ ) (ใช คุณพดู ถกู ) No, I don’t agree with you. Yes, I think you are right. (ไมล ะ ฉนั ไมเห็นดวยกบั คุณ) (ใช คิดวาคณุ พูดถูก) No, I don’t think you are right. Yes, that’s my opinion too. (ไม ฉันไมค ิดวา คณุ ถกู นะ) (ใช ความเห็นฉันก็เปนเชนน้ันแหละ) I can’t say I agree with you. (ฉนั ไมสามารถจะพดู ไดว า เห็นดวยกบั คณุ ) Disagreement คอื คาํ พดู ทีใ่ ชในการสนทนาอกี ลักษณะหนึง่ เปน คาํ พูดท่มี ีความหมาย ในทํานองขัดแยง หรือไมเห็นดวยกบั ความเห็นของคูส นทนา ซึ่งจะตองมศี ิลปะในการพดู เพ่ือไมให เปนการขดั แยง และจะทาํ ใหการสนทนาเปน ไปอยางราบรืน่ และคาํ พดู ท่ใี ชในการแสดงความ ไมเ ห็นดว ย อาจเลือกใชใ นโอกาสอันสมควร ไดแก

Agreement 21 Yes, I think so. (ใช ฉันก็คิดอยา งนั้น) Disagreement Yes, I agree with you. (ใช ฉนั เห็นดว ย) No, I don’t think so. (ไม ฉนั ไมคิดอยา งน้ัน) Yes, you are right. (ใช คุณพดู ถกู ) Well, I really don’t think so. Yes, I think you are right. (เอ!....ฉนั ไมไ ดคิดเชนน้ันจริง ๆ) (ใช ฉนั คดิ วาคุณพูดถกู ) No, I don’t agree with you. Yes, that’s my opinion too. (ไมล ะ ฉันไมเ ห็นดวยกับคุณ) (ใช ความเห็นฉันกเ็ ปนเชนนั้นแหละ) No, I don’t think you are right. (ไม ฉันไมค ิดวา คณุ ถูกนะ) I can’t say I agree with you. (ฉนั ไมสามารถจะพดู ไดวา เห็นดว ยกับคุณ) บทสนทนาท่ี 1 A : Bangkok is hotter than Singapore’s. B : I think so. I don’t think so. /I agree with you. A : Bangkok is more polluted. Do you agree? B : Yes, but living in rural areas is less convenient. EN204001 บทท่ี 3 การพดู แสดงความคิดรปู แบบตา ง ๆ เร่อื งที่ 1 การแสดงความคิดเห็น เรอ่ื งที่ 2 การแสดงความตอ งการและตอบรบั (Need/Want Yes/Please do/sure) เม่อื ตอ งการใหผอู น่ื ทําบางสิง่ บางอยางให อาจเปนการรบกวนผอู น่ื รูปประโยคที่ใช จงึ แสดงความสภุ าพอยางยิง่ อาจใชป ระโยคบอกเลา ธรรมดา หรือประโยคคําถาม มถี อ ยคําสาํ นวน ทีใ่ ชใ นโอกาสตาง ๆ ดงั น้ี I’d like some more coffee. ฉนั ชอบดม่ื กาแฟ I want to go to……… ฉนั ตอ งการจะไป…………………………… I wish you could go with me. ฉันอยากใหคุณพาฉันไป I need……………………… ฉนั ตองการ………………………………….

22 การตอบรับอาจใชสํานวนสัน้ ๆ ตอ ไปนี้ตามความเหมาะสม Yes…/Please do. /Sure. ใช/ขอความกรุณา/แนนอน Thank you. I’d love to. ขอบคณุ ฉันยินดมี าก With pleasure. ดวยความยนิ ดี Thank you so much. ขอบคณุ มาก Very kind of you. คุณใจดีจงั เลย บทสนทนาท่ี 2 1. A : Would you like some more coffee? B :Yes, please. I’d like some more coffee. 2. A : Where are you going? B : I want to go to school EN204002 บทท่ี 3 การพดู แสดงความคดิ รปู แบบตาง ๆ เรือ่ งท่ี 2 การแสดงความตองการและตอบรบั เรื่องที่ 3 การแสดงความชว ยเหลือ และบรกิ ารผูอนื่ รวมท้งั ตอบรบั (Can I help you?/Yes, of course) การใชช ีวิตประจาํ วนั ของคนเรา ตอ งเกี่ยวขอ งกบั การจบั จา ยใชส อย ไมวา จะเปน อาหาร เคร่ืองด่ืม เส้อื ผา และของใช ตลอดจนยารักษาโรค การแสดงความชวยเหลือ และบริการผอู ่นื จาํ แนกออกตามสถานการณตาง ๆ มักนยิ มใชสาํ นวนที่ใชถามเมอื่ ใหบ รกิ าร ดงั น้ี ประโยคคาํ ถาม - What can I do for you? ฉนั จะชวยอะไรคุณไดบา ง - Can I help you? ฉันจะชวยคุณไดไ หม - May I help you? - Need some help? คณุ ตอ งการความชว ยเหลอื รเึ ปลา - Do you need some help?

23 - If you need anything, please tell me. ถา คณุ ตอ งการอะไรโปรดบอก - If you need anything, please let me know. ประโยคคําตอบ - Certainly. แนนอน - Yes, of course. ใชไ มเปนไร - I’m afraid……………….. ฉนั เกรงวา…………………………….. - Sorry, but……………….. เสียใจแต… ………………………….. - บทสนทนา ในการแสดงความชวยเหลอื และบริการผูอ น่ื At the Thai Embassy in the United Kingdom. (the UK) Receptionist : Sawasdee Ka, What can I do for you? Suda : I'm so glad you can speak Thai. Receptionist : Oh! I can speak and understand Thai just a little bit. Suda : I lost my passport yesterday and I went to the police station to inform them. This is the police record. Receptionist : Please wait for a few minutes. I will ask Mr. John at the consular Section to help you. Suda : Thank you for your help. Receptionist : It's my pleasure. EN204003 บทที่ 3 การพดู แสดงความคิดรูปแบบตา ง ๆ เรอ่ื งท่ี 3 การแสดงความชวยเหลอื และบริการผูอนื่ รวมทง้ั ตอบรบั

24 เร่อื งที่ 4 การกลาวขอบคณุ และตอบรับ (Thank you./You’re welcome) การกลา วขอบคณุ /ขอบใจ เปนความจําเปน ในโอกาสที่บุคคลอ่ืน ทาํ คุณประโยชน หรอื ไดเ อื้อเฟอ ชว ยเหลอื โดยการแสดงออกทางวาจา ดังสาํ นวนตอไปนี้ Thank you You’re welcome - Thank you for your help. Don’t mention it (ขอบคณุ ท่ใี หความชว ยเหลอื ) You’re welcome. ไมเ ปนไร - Thank you very much for your You’re quite welcome. kindness. (ขอบคณุ ทคี่ ุณใหความเมตตา) Not at all. Never mind - Thank you for your invitation (ขอบคุณสําหรบั การเช้อื เชิญ) ไมควรใชก ารตอบรับ Never mind กับผทู ่ีอาวโุ สกวา เพราะถอื วาไมส ุภาพ EN204004 บทท่ี 3 การพดู แสดงความคิดรปู แบบตาง ๆ เรื่องที่ 4 การกลา วขอบคุณและตอบรบั เรื่องที่ 5 การพดู ขออนญุ าตและตอบรบั (May I come in ?/Yes you can) การพูดเพื่อขออนญุ าต เปนมารยาทท่พี ึงกระทาํ เม่อื ตอ งการทําอะไร และสํานวน ท่มี กั ใช กนั ทว่ั ไป มีดงั นี้ สํานวนท่ีมกั ใชใ นการกลาวตอบรบั Asking Permit Permit May I interrupt you for a moment? Yes, of course. (ไดแนน อน) (ขออนุญาต ฉันขอขัดจังหวะคณุ สักครูไดไหม) Certainly. (แนน อน) May I come in? (ขออนุญาตเขาขางในไดไหม) Sure. (ไดเลย) Can I borrow your pen? Go ahead. (ตามสบาย) (ฉันขอยมื ปากกาคุณไดไหม) Excuse me. Can you give me a few My pleasure. (ยนิ ดเี ปนอยางย่งิ ) minutes? (It’s) my pleasure. (ฉันยินดี) (ขอโทษนะคะ ขอเวลาฉันสกั ครูไดไหมคะ)

25 EN204005 บทที่ 3 การพดู แสดงความคิดรปู แบบตา ง ๆ เร่อื งท่ี 5 การพดู ขออนญุ าตและตอบรบั เรือ่ งที่ 6 การพดู ขอโทษและตอบรบั (Sorry / Don’t worry) การกลาวคําขอโทษ เปนการแสดงความเสียใจ และการขออภยั เปน มารยาทอันดีย่ิงทีต่ อง แสดงออกเปน ประจาํ เม่อื กระทาํ ผดิ ไป แมจ ะเปน เรอื่ งเล็กนอ ยก็ตาม โดยใชประโยคขอความ ดงั นี้ I’m very sorry to be late. (ขอโทษดวยนะ ท่ีมาชา) I lost your book. I’m so sorry. (ฉนั ทําหนังสือของคณุ หายไป ฉันขอโทษดวยนะ) I’m terribly sorry for…………… (ฉนั เสียใจกบั เรอื่ งท่เี กิดขึ้นกบั ………………) Sorry, it’s my fault. (ฉันขอโทษ มนั เปนความผดิ ของฉันเอง) Please forgive me for being late. (กรุณาอภัยใหฉนั ดวยทม่ี าชา) อีกฝายอาจกลาวตอบเพ่ือเปน เชิงใหอภยั มีสํานวน ดังน้ี The apology Accepting an apology I’m very sorry to be late. Forget it. (ลืมมนั ไปเถอะ) (ขอโทษดว ยนะทม่ี าชา) Don’t worry. (ไมตอ งหวง) I lost your box, I’m so sorry. It doesn’t matter. (ไมเปนอะไร) (ฉนั ทํากลองหายไป ฉันขอโทษดวยนะ) Of course. (ไมเ ปนไร) I’m terribly sorry for…………… Certainly. ไมเปน (ฉันเสียใจกบั เรอ่ื งท่ีเกิดขึ้นกับ………………) That’s all right. อะไรหรอก Sorry, it’s my fault. That’s quite all right. (ฉันขอโทษ มันเปนความผดิ ของฉันเอง) Please forgive me for being late. (กรุณาอภยั ใหฉ นั ดวยทีม่ าชา)

26 EN204006 บทท่ี 3 การพูดแสดงความคิดรูปแบบตาง ๆ เรือ่ งท่ี 6 การพูดขอโทษและตอบรบั เร่อื งท่ี 7 การพดู แทรกอยางสุภาพ (Excuse me) การพูดแทรกอยา งสภุ าพ เปนสง่ิ ทจี่ าํ เปนมาก เพราะสิ่งเหลาน้ี จะบงบอกถงึ วฒั นธรรม ท่ดี งี าม ทที่ กุ คนควรกระทํา ใหเกดิ เปน นสิ ัย และสํานวนทม่ี กั ใชในการพูดแทรกอยางสภุ าพ มีดงั น้ี - Excuse me, sir. Could you speak louder? ขอโทษครับ/คะ คุณผชู าย กรณุ าพูดเสียงดังหนอ ยไดไ หม - Excuse me, madam. Could you show me that book? ขอโทษครบั /คะคุณผหู ญิง กรณุ าโชวห นังสอื ของคุณใหฉ ันดูไดไ หม - Excuse me, how far is it to the airport? ขอโทษครบั /คะ จากตรงน้ีถึงสนามบินไกลแคไหน ตัวอยาง บทสนทนา Suda : Excuse me. Is this seat unoccupied? Chaba : Yes, it is. Suda : Thank you. Chaba : You're welcome. What's your name? Suda : My name is Suda. Chaba : Nice to meet you. I'm Chaba. EN204007 บทท่ี 3 การพดู แสดงความคิดรูปแบบตา ง ๆ เรื่องที่ 7 การพูดแทรกอยา งสุภาพ

27 กิจกรรมทา ยบทท่ี 3 การพูดแสดงความคดิ เหน็ ในรูปแบบตา ง ๆ (Expression of opinion, ideas / wishes, offering help, etc.) กจิ กรรมท่ี 1 (10 คะแนน) ใหผ เู รียนศึกษาประโยคทใี่ ชใ นการแสดงความคิดเหน็ ในรูปแบบตาง ๆ แลวฝก ออกเสียง และเขียน แลวนาํ ไปใชใ นสถานการณจ ริง โดยใหเขยี นคาํ ตอบในชองวา งตามทกี่ าํ หนด (ขอ ละ 1 คะแนน) 1. A : I think the weather in Bangkok is getting hotter. What do you think? B : ___________________________________________ (กรณเี ห็นดวย) __________________________________________ (กรณีไมเ หน็ ดว ย) 2. A : __________________________________________(เสนอความชวยเหลอื ) B : Yes, I’m looking for a shirt. 3. A : __________________________________________ (การพูดอนุญาตเขาช้ันเรียน) B : O.K. 4. A : __________________________________________(การพูดขอยมื สิ่งของ) B : It’s my pleasure. 5. Suda steps on Somchai’s foot. What would she say? _____________________________________________________

28 กิจกรรมที่ 2 Match the response. (ใหผ เู รียนจับคปู ระโยคตอไปน้ี) a. What a pity! How did you hurt it? _________1) I’m afraid I can’t come to the class because I’m not feeling b. That’s OK. I’ll tell you what we’re well. going to do and you can stay at _________2) I’m sorry the train was home. late. c. Don’t worry! It isn’t expensive. _________3) I’m really sorry. I’ve broken the plate. d. That’s OK. Everybody is already _________4) I’m afraid I can’t come here. to work today. I’ve got a e. Don’t worry! Take some aspirin and temperature. stay in bed. _________5) I’m sorry, I can’t play football today. I’ve hurt my leg.

29 บทท่ี 4 รูปแบบประโยคในภาษาอังกฤษ (Types of English Sentence) เรื่องท่ี 1 ประโยคบอกเลา (Affirmative or Statement or Dedication Sentence) ประโยคบอกเลา คอื ประโยคที่ใชใ นการสือ่ สารเร่ืองราว ขา วสาร ขอคดิ เห็นตา ง ๆ ในชวี ิตประจาํ วนั ประกอบดวย ประธาน (Subject) และกริยา (Verb) ซงึ่ อาจจะมีกรรม (Object) หรือสว นขยาย (Complement) ดว ยก็ได ประธาน + กรยิ า + กรรม (Subject) (Verb) ตัวอยา ง He likes you. (เขาชอบเธอ) ในประโยคบอกเลา การกระจายกริยา ตอ งเปนไปตามประธาน (Subject) และกาล (Tense) ที่บอกเลา เร่ืองน้นั EN205001 บทท่ี 4 รูปแบบประโยคในภาษาองั กฤษ เร่ืองที่ 1 ประโยคบอกเลา เรอ่ื งที่ 2 ประโยคคําถาม (Question sentence) เปน ประโยคที่ใชถ าม เพ่อื ตองการคําตอบจากผทู ่เี ราสนทนาดวย และขน้ึ ตนดว ยคํา ท่ีเปน คําถาม ไดแก what (อะไร), when (เมอื่ ไหร) , where (ทไี่ หน), who (ใคร), whom (ถึง, แกใ คร), whose (ของใคร), which (อนั ไหน/ส่ิงไหน), why (ทาํ ไม), how (อยา งไร) เชน - What is your name? คุณช่ืออะไร - Where do you teach? คณุ สอนทไี่ หน เขาจบเมอ่ื ไหร - When did he leave school?

30 EN205002 บทท่ี 4 รูปแบบประโยคในภาษาอังกฤษ เรื่องที่ 2 ประโยคคําถาม เร่อื งที่ 3 ประโยคปฏเิ สธ (Negative Sentence) คือประโยคท่มี ีคาํ หรอื วลที มี่ ีความหมายในเชงิ ปฏเิ สธอยูในประโยค หรอื ประโยคท่มี ี not เขามา ซ่งึ จะมีคํากริยาวเิ ศษณ (Adverb) เชน not, never, hardly, scarcely, rarely เปน ตน หรอื คําสรรพนามแสดงการปฏเิ สธ เชน no one, nobody, none, no, nothing เปนตน ตวั อยาง ประโยคปฏิเสธ พวกเขาไมใ ชชาวนา - They are not farmers. เขาดูไมเ หมือนกบั บอ บบี้ - He doesn’t like Bobby. ฉนั ไมต อ งการไปกบั เขา - I don’t want to go with him. - EN205003 บทที่ 4 รปู แบบประโยคในภาษาองั กฤษ เร่อื งท่ี 3 ประโยคปฏเิ สธ เรื่องท่ี 4 ประโยคคาํ สงั่ (Imperative or Order sentence) เปน ประโยคที่บอกใหท าํ หรือขอรองใหทาํ ตามที่ผนู ั้นบอก โดยไมตองมปี ระธาน ของประโยคก็ได ตัวอยางประโยคคําสั่ง - Open the door, please. กรุณาเปดประตดู ว ย - Don't walk on the lawn! หา มเดินในสนาม - Enter your personal code. ใสรหสั สวนตวั ของทา น - Sit down here! - Follow me! น่ังตรงนี้ - Come here! ตามฉันมา - Let’s go now! มานส่ี ิ ไปเดย๋ี วนี้

31 EN205004 บทท่ี 4 รปู แบบประโยคในภาษาอังกฤษ เรื่องที่ 4 ประโยคคําสงั่ เรือ่ งท่ี 5 ประโยคอทุ าน (Exclamatory sentence) คือประโยคทีใ่ ชแ สดงความรูสึกและอารมณ เชน เสียใจ ดใี จ เปน ตน ใชไดท้งั ประโยค เต็มรูป และลดรูป เชน - Oh my God! โอพระเจา ชวย - How marvelous! เหลอื เชื่อจริง ๆ - What a wonderful party! ชางเปนงานที่มหัศจรรยอะไรเชนน้ี - Oops! อุย! EN205005 บทที่ 4 รูปแบบประโยคในภาษาอังกฤษ เรือ่ งที่ 5 ประโยคอทุ าน กจิ กรรมทายบทท่ี 4 รปู แบบประโยคในภาษาองั กฤษ (Type of English Sentence) กิจกรรมท่ี 1 (10 คะแนน) What kind of sentences are these? (ใหบ อกประเภทของประโยคทใ่ี หม าวาเปนประโยคชนดิ ใด) (ขอ ละ 1 คะแนน) 1. I like to play football. ___________________________________________________

32 2. Are you hungry? ___________________________________________________ 3. Suda doesn’t like to live alone. ___________________________________________________ 4. No entry. ___________________________________________________ 5. How beautiful! ___________________________________________________ Change these sentences into question (Q) and negative (N)sentences. (ใหเปล่ยี นประโยคทกี่ าํ หนดใหเ ปน ประโยคคาํ ถามและปฏเิ สธ) (ขอ ละ 1 คะแนน) 1. He will go to France tomorrow. (Q)________________________________________________ (N)________________________________________________ 2. Suda works hard every day. (Q)________________________________________________ (N)________________________________________________ 3. They can speak English. (Q)________________________________________________ (N)________________________________________________ 4. Malee went to Pattaya yesterday. (Q)________________________________________________ (N)________________________________________________ 5. She is singing a song. (Q)________________________________________________ (N)________________________________________________

33 บทท่ี 5 ประโยคความรวม (Compound Sentence) เร่ืองที่ 1 สว นประกอบของ Compound Sentence การเชือ่ มประโยค 2 ประโยคเขา ดวยกนั โดยมี คาํ เช่ือม (Conjunction) คอื and, but หรือ or โดยแตละประโยค ตางมคี วามหมายสมบรู ณ and เชือ่ มประโยคที่คลอ ยตามกัน เชน - Suda can speak English and French. but เชื่อมประโยคทเี่ หน็ ตางกัน เชน - Malee does not study French but she can speak it. or เช่ือมประโยคซง่ึ เลอื กอันใดอันหนง่ึ เชน - I’ll go to the cinema or visit my parents. EN206001 บทที่ 5 ประโยคความรวม (Compound Sentence) เรอ่ื งท่ี 1 สวนประกอบ compound sentence เรื่องท่ี 2 ประโยค 2 ประโยคมารวมกันดว ยคาํ เชอ่ื มท่เี หมาะสม คอื and, but, or เชน - Suda can speak English and French. สดุ าพูดภาษาองั กฤษและภาษาฝร่ังเศสได - Malee does not study French, but she can speak it. มาลีไมไ ดเรียนภาษาฝรัง่ เศสแตพ ดู ภาษาฝร่งั เศสได - You can have fried rice or boiled rice. คุณสามารถเลือกทานขา วผัดหรอื ขาวตมก็ได

34 EN206002 บทท่ี 5 ประโยคความรวม (Compound Sentence) เรอื่ งท่ี 2 ประโยค 2 ประโยค มารวมกันดว ยคาํ เช่ือมทเี่ หมาะสม เรือ่ งท่ี 3 การเชอื่ มประโยคใหเ ปน Compound Sentence โดยใชเ ครอ่ื งหมาย/คําเชื่อม 1. “,” (comma) + คาํ สันธาน เชน They tried their best, yet they didn’t succeed. 2. “;” (Semicolon) ใชในกรณที ่มี ีเคร่ืองหมายอื่น ๆ อยูดวย เชน I also bought her a new car; I have not yet, however, given it to her. 3. Correlative Conjunction ไดแกคาํ ตอไปนี้ Both……….and……….. ทัง้ ...............และ........... Either………or……….. ไมอยางใดก็อกี อยา งหนง่ึ Neither………nor……... ไมทัง้ สองอยาง เชน Both boys and girls learn English.

35 กิจกรรมทา ยบทท่ี 5 ประโยคความรวม (Compound Sentence) กิจกรรมที่ 1 (5 คะแนน) Look all the following sentences given and then identify which one is the compound sentence. Write “C” in the blank in front of the sentence. (ใหผ เู รยี นดูประโยคที่ใหมา และใหบอกวา ประโยคใดเปน ประโยคความรวม แลวเขียนอกั ษร “C” ลงในชอ งวางหนาประโยค) _________1) I like to swim. _________2) Malee can speak English and French. _________3) Don’t walk on the lawn. _________4) How much sugar do you want? _________5) That building is old but strong. _________6) This lady is neither rich nor clever. _________7) Both boys and girls learn Japanese. _________8) What would you like, coffee or tea? _________9) The bird sings. _________10) It rained heavily in Bangkok.

36 บทท6ี่ อดตี กาล ( Past Tense) เรื่องที่ 1 Past Simple Tense Past Simple Tense คือ ประโยคทแี่ สดงเหตกุ ารณท ีเ่ กดิ ข้นึ และสน้ิ สุดแลวในอดตี มีโครงสรา งประโยค ดังนี้ Subject + V2 + Object + (adv. of place) + (adv. of time) 1.1 เหตกุ ารณทเ่ี กิดขึ้นในอดีต และจบลงไปแลวกอ นพดู ประโยคนัน้ เชน He spoke. เขาเปนคนพดู She came here yesterday. เธอมาทีน่ ่ีเมอ่ื วานน้ี 2.2 แสดงการกระทาํ ท่กี ระทาํ เปนประจําในอดตี โดยมีคําทแี่ สดงความบอ ย ความเปน ประจําอยูด ว ย เชน He always got up late when he was young. เมือ่ ตอนเด็ก ๆ เขาตื่นสายเปน ประจาํ EN207001 บทท่ี 6 อดตี กาล (Past Tense) เร่ืองท่ี 1 Past Simple Tense

37 เรอื่ งท่ี 2 Past Continuous Tense หรืออีกอยา งหนงึ่ เรียกวา Past Progressive Tense เปน Tense ท่ใี ชแสดงเหตุการณ ที่กําลังเกดิ ขึ้น ณ ชวงเวลาหน่งึ ในอดตี หรอื มเี หตกุ ารณ 2 เหตกุ ารณ กาํ ลังเกิดข้นึ พรอมกนั ณ ชว งเวลาหน่งึ ในอดีต โครงสรา งประโยค Past Continuous Tense Subject + V.to be + V. - ing เชน We were playing in the garden. เรากาํ ลงั เลนอยใู นสวน He was singing a song. เขากําลังรอ งเพลง EN207002 บทท่ี 6 อดีตกาล (Past Tense) เรือ่ งท่ี 2 Past Continuous Tense

38 กจิ กรรมทายบทท่ี 6 อดตี กาล (Past Tense) กจิ กรรมท่ี 1 (5 คะแนน) Change the following sentences into Past Simple Tense. (เปลยี่ นประโยคตอ ไปนี้ใหเปน ประโยคอดตี กาล) 1. Malee comes here this morning. ___________________________________________________ 2. Mike always gets up at six o’clock. ___________________________________________________ 3. Suda and Malee are going to England tonight. ___________________________________________________ 4. My teacher gives me a book. ___________________________________________________ 5. He often comes late to school. ___________________________________________________

39 บทท่ี 7 ภาษาอังกฤษสําหรบั อาชพี พนกั งานขบั รถรบั จา ง เรื่องท่ี 1 การพดู ภาษาองั กฤษตามมารยาทสงั คมและเหมาะสมกบั สถานการณ Taxi Passenger - Good morning. - Good morning. Good afternoon. Good afternoon. Good evening. Good evening. - Where are you going? - I want to go to the airport. Where to, Sir? Where to, Madam? Where to, Miss? - Which airport? - DonMuang, please. Suvarnabhumi, please. เม่ือมีผโู ดยสารเรียกใชบ รกิ ารจากพนกั งานขับรถรับจางน้ัน ส่งิ แรกท่ีควรทาํ คือ การ ทกั ทายโดยทักทายตามเวลา คือ Good morning. สวัสดีครบั เมอื่ พบผโู ดยสารตอนเชา Good afternoon. สวัสดคี รบั เมื่อพบผูโดยสารตอนบา ย Good evening. สวัสดีครับ เมื่อพบผโู ดยสารตอนคํ่า หรอื อาจถามดวยขอ ความส้ัน ๆ ทสี่ ุภาพ และเขาใจไดว า Where to, Sir? ไปที่ไหนครบั คุณผูช าย Where to, Madam? ไปทไี่ หนครบั คุณผูหญงิ Where to, Miss? ไปทีไ่ หนครบั คุณผูห ญงิ ชาวตางชาตจิ ะตอบไดหลากหลาย โดยอาจพูดเฉพาะชื่อสถานท่ี ดงั นี้ Suvarnabhumi airport. สนามบนิ สวุ รรณภมู ิ KhaoSarn Road. ถนนขา วสาร The weekend market. ตลาดนดั สดุ สัปดาหหรอื ตลาดนดั จตุจักร Chatuchak market. ตลาดนดั สวนจตุจักร

40 EN208001 บทท่ี 7 ภาษาองั กฤษสาํ หรบั อาชพี พนกั งานขบั รถรบั จา ง เรอ่ื งท่ี 1 การพดู ภาษาอังกฤษตามมารยาทสงั คม และเหมาะสมกบั สถานการณ เรอ่ื งที่ 2 การพดู แสดงความรูสกึ และแสดงความคิดเหน็ ขณะขับรถบริการผโู ดยสาร ยอมมีเวลาพดู คุยกันพอสมควร โดยเฉพาะพดู แสดงความรูส ึก และแสดงความคิดเห็น อยางเชนตัวอยางตอไปน้ี The traffic is bad. รถตดิ The traffic is too bad. รถติดจังเลย The traffic is very bad. การจราจรติดขดั มาก It takes thirty minutes to get to the airport. ใชเวลา 30 นาทไี ปสนามบนิ It takes about twenty minutes to get there.ใชเ วลาประมาณ 20 นาทที จี่ ะไปท่นี ่ัน EN208002 บทท่ี 7 ภาษาองั กฤษสําหรับอาชพี พนกั งานขับรถรบั จา ง เรอื่ งที่ 2 การพูดแสดงความรสู กึ และแสดงความคิดเหน็ เรอื่ งท่ี 3 การพดู แสดงความชวยเหลือ หนาท่ีของพนกั งานขับรถรับจา ง ไมเ พียงแตขับรถเทา นัน้ แตจําเปน ตองชวยเหลอื ผโู ดยสาร การชวยเหลือเรม่ิ ดว ยการพูดแสดงความชวยเหลอื เชน - Let me help you. ใหผ มชว ยคณุ นะครบั - I can take you to the nearest toilet at the gas station. ผมสามารถพาคุณไปหองน้าํ ท่ใี กลท่ีสุดทป่ี มน้าํ มันครับ

41 EN208003 บทที่ 7 ภาษาองั กฤษสาํ หรับอาชพี พนกั งานขบั รถรบั จา ง เร่อื งท่ี 3 การพูดแสดงความชว ยเหลอื เร่ืองท่ี 4 การขออนญุ าต ทกุ คร้ังทมี่ ขี อ ขัดของประการใดกต็ าม พนกั งานขับรถรับจาง จาํ เปนตองขออนุญาต ผโู ดยสาร กอ นดาํ เนนิ การเรอ่ื งทเ่ี กิดขึ้นเพอ่ื ความสบายใจ และมีความเขาใจทีต่ รงกัน เชน Taxi Passengers - Which airline are you flying with? Thai Airways, Gate1. - Can I take the expressway for 50 Here is the money. Baht? - You will need to check in two hours Thank you. before the flight. - Can I take your luggage? Yes, please. EN208004 บทท่ี 7 ภาษาองั กฤษสําหรับอาชีพพนกั งานขับรถรบั จาง เรือ่ งที่ 4 การขออนญุ าต

42 เรอ่ื งท่ี 5 การพดู แทรกอยางสุภาพ ถาผูโดยสารกําลังพดู อยู หรือพดู ยงั ไมจ บ พนักงานขับรถรบั จางตอ งไมพูดแทรก แตเ ม่อื ใด ที่ตอ งการพดู ควรเอยดวยความสุภาพวา Excuse me. ขอโทษนะครบั จากน้นั จึงเอยถงึ เร่ือง ที่ตองการจะพูด หรืออาจเร่มิ ดวยการเรียกผโู ดยสารท่ีอยูบนรถ คอื Sir. ทา นครบั (เปนการเรียกผโู ดยสารท่เี ปนผชู าย) Madam คุณผหู ญิงครับ (ใชเ รียกผโู ดยสารท่ีเปนหญิงสงู วยั ) Ma’am คุณผูหญงิ ครับ (เรยี กผูโ ดยสารที่เปนหญิงสูงวัย) Miss คณุ ผูห ญิงครบั (เรียกผูโดยสารท่ีเปนหญงิ สาว) จากนัน้ พนักงานขับรถรับจาง จงึ พดู เรอ่ื งราวที่ตองการจะบอก หรอื จะพูดคุยกบั ผูโดยสาร ตางชาติ หากพนักงานขบั รถรับจาง เขาใจมารยาททางสังคม และสามารถใชภ าษาองั กฤษได เหมาะสมกับสถานการณอยางนแี้ ลว ทา นจะเปนพนกั งานขบั รถรับจา งท่มี คี วามสามารถอยางยง่ิ EN208005 บทที่ 7 ภาษาอังกฤษสาํ หรับอาชพี พนกั งานขับรถรบั จา ง เรื่องที่ 5 การพดู แทรกอยา งสภุ าพ

43 กิจกรรมทายบทท่ี 7 กิจกรรมที่ 1 (5 คะแนน) ใหผ ูเรยี นเขยี นประโยคตอ ไปน้ีเปน ภาษาองั กฤษ 1. คุณจะไปทีไ่ หนครับ/ คะ ___________________________________________________ 2. ฉนั ตองการไปทสี่ นามบินสุวรรณภูมิ ___________________________________________________ 3. ตรวจเช็คส่ิงของของคณุ กอนลงจากรถ ___________________________________________________ 4. อยาลมื สมั ภาระของคุณนะครับ ___________________________________________________ 5. การจราจรตดิ ขัดมาก ___________________________________________________