E=MC 2
สามารถสรุปความหมาย บอกประเภท ของโครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ ของโครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ อธิบายความสัมพันธ์ของโครงงานวิทยาศาสตร์ ท้ัง 4 ประเภทได้
1. ผู้เรียนเป็นผู้ริเร่ิมและเลือกเรื่องที่จะศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเองตามความสนใจและระดบั ความสามารถ 5. ผ้เู รยี นเปน็ ผวู้ างแผนในการค้นควา้ เกบ็ โครงงาน 2. เป็นกจิ กรรมทเี่ กีย่ วกบั รวบรวมขอ้ มลู ดาเนนิ การปฏิบัตทิ ดลองหรือ วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ประดษิ ฐค์ ิดคน้ รวมท้งั แปรผล สรปุ ผลและ นาเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเองโดย มีครหู รือผู้ทรงคุณวุฒิเปน็ ผใู้ หค้ าปรกึ ษา 4. งานวิจัยเล็กๆ ของผเู้ รียน ทมี่ เี นอื้ หา 3. กจิ กรรมทีใ่ ช้วิธีการทาง เกี่ยวข้องกบั วทิ ยาศาสตร์ หรือขอ้ สงสัยของ วทิ ยาศาสตร์ ในการศกึ ษา ผเู้ รียนโดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คน้ คว้าเพอ่ื ตอบปญั หาทีส่ งสยั
โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทการสารวจ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทการทดลอง โครงงาน วทิ ยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ โครงงาน
1. สารวจ 4. ทฤษฎี โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 4 2. ทดลอง ประเภท 3. สิ่งประดษิ ฐ์
ประเภทของโครงงาน ตวั อย่างโครงงาน 1. โครงงานประเภทสารวจ สารวจพืชสมนุ ไพรทม่ี คี ุณสมบัตใิ นการห้ามเลอื ด 2. โครงงานประเภททดลอง นาพืชสมนุ ไพรในข้อ 1 มาทดลองหา ประสิทธิภาพ 3. โครงงาน นาผลการทดลองในขอ้ 2 มาประดษิ ฐเ์ ปน็ ยา ประเภทส่ิงประดษิ ฐ์ ห้ามเลือด 4. โครงงานประเภททฤษฎี ทบทวนผลสรปุ ของการทดลองจากขอ้ 3 เพ่อื ยืนยันแนวคดิ หรือปรบั เปลี่ยนแนวคดิ ใหม่
ประเภทของโครงงาน ตัวอย่างโครงงาน 1.โครงงานประเภทสารวจ สารวจพืชทมี่ คี ุณสมบัตใิ นการใชท้ าอินดเิ คเตอร์ นาพชื ชนดิ ตา่ งๆ เช่น ฝาง ดอกกหุ ลาบ กระเจ๊ียบ มาทดลองหา ประสทิ ธภิ าพ 2. โครงงาน ประเภททดลอง นาผลการทดลองในข้อ 2 มาประดษิ ฐเ์ ป็นกระดาษ อนิ ดิเคเตอร์ สาหรบั ประเภท ทดสอบความเป็นกรด - เบสของสาร 3. โครงงาน ส่ิงประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภททฤษฎี ทบทวนผลสรุปของการทดลองจากข้อ 3 เพ่อื ยืนยันแนวคดิ
ขัน้ ตอนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ 4. การลงมอื ทาโครงงาน วิทยาศาสตร์
ขนั้ ท่ี 1 การคิด และ สงั เกตปัญหาต่าง ๆ รอบตวั เลือกปัญหาท่ี เลือกหวั ข้อโครงงาน ตนเองสนใจ และพิจารณาความเป็นไปได้ เพื่อกาหนดหวั ข้อที่จะทาโครงงาน ขนั้ ท่ี 2 การศึกษาเอกสาร ที่เก่ียวข้อง ศึกษาค้นคว้าเอกสารต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือ ใช้เป็ นแนวทางในการออกแบบโครงงาน ขนั้ ท่ี 3 การจดั ทา เค้าโครง ของ โครงงานวิทยาศาสตร์ นาแนวทางในการออกแบบโครงงานมาเขียน เป็ นลายลกั ษณ์อกั ษรที่เรียกว่า “ เค้าโครง ” ซึ่งประกอบด้วยหวั ข้อต่อไปนี้ตามลาดบั ชื่อ โครงงาน ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อที่ปรึก ษา โครงงาน ที่มาและความสาคญั วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขต ของโครงงาน สมมติ ฐาน วิ ธี ดาเนิ นงาน ประโยชน์ที่ได้รบั เอกสารอ้างอิง หรอื บรรณานุกรม
ขนั้ ที่ 4 การลงมือทา ดาเนินการตามท่ีเขียนเค้าโครงไว้ โดยใช้ทกั ษะต่อไปนี้ โครงงานวิทยาศาสตร์ - วิธีการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ - ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขนั้ ท่ี 5 การเขียนรายงาน - ทกั ษะการบนั ทึกข้อมลู โครงงานวิทยาศาสตร์ - ทกั ษะการปฏิบตั ิงาน ประมวลผลการทาโครงงานแล้วสรปุ เป็นเอกสารรายงาน ซึ่งมี 5 บท ได้แก่ บทที่ 1 บทนา บทที่ 2 บทเอกสาร ท่ีเก่ียวข้อง บทที่ 3 วิธีดาเนินการ บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
ประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงงานต่อสาธารณะชน ด้วย ขน้ั ที่ 6 การนาเสนอผลงาน การบรรยายประกอบแผงโครงงานวิทยาศาสตร์ หรือนาผลงานโครงงาน โครงงานวทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ไปจัดนิทรรศการ
ข้นั ท่ี 1
แหล่งปญั หาท่จี ะทาโครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ดจ้ ากแหล่งต่าง ๆ การอา่ นคน้ คว้าหนงั สือเอกสารหนังสือพิมพ์วารสารต่างๆ โดยไม่จาเปน็ ตอ้ งเป็น เรอ่ื งราวทางวิทยาศาสตร์ การไปเยีย่ มชมสถานท่ีตา่ งๆ เช่น วนอุทยาน สวนสตั ว์ พิพธิ ภณั ฑ์ โรงงาน อุตสาหกรรม สถานท่ีเพาะเลี้ยงพชื และสัตว์ หนว่ ยงานวจิ ัยหอ้ งปฏิบัติการต่างๆ การฟงั บรรยายทางวิชาการ การฟงั และชมรายการทางวทิ ยุ โทรทัศนต์ ลอดจน การสนทนาแลกเปลีย่ นเรียนรแู้ สดงความคิดเหน็ ระหว่างเพือ่ นหรือกับบุคคลอน่ื กิจกรรมการเรยี นรใู้ นโรงเรยี น เช่น สมบตั ิของแม่เหลก็
แหล่งปัญหาท่ีจะทาโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้จากแหล่งต่าง ๆ งานอดิเรกของผ้เู รยี นเอง เช่น การเลีย้ งปลา การเข้าชมนิ ทรรศการหรือการประกวดโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีต่าง ๆ จากการสงสยั ของผเู้ รียนเอง เช่น เหน็ แม่ลวกผกั กวางต้งุ โดยการเติมเกลือ ลงไปด้วยทา ให้ผกั ลวกมีสีเขียวน่ารบั ประทาน จึงสงสยั ว่าเกลือมีผลทาให้ผกั มีสีเขียวได้อย่างไร ปัญหาใกล้ตวั ปัญหาในท้องถิ่น การตงั้ คาถามของครู
ข้นั ตอนการคดิ ตั้งปญั หา ต้องศึกษาค้นคว้าเร่ืองน้ันๆ ให้ได้ข้อมูลมากที่สุดเพื่อจะนามาต้ัง ปัญหา และมีข้อมูลเพียงพอท่ีจะตั้งสมมติฐานเพ่ือคาดคะเนหา คาตอบลว่ งหนา้ หลังจากได้หัวข้อแล้ว ให้หาส่ิงที่เก่ียวข้องกับหัวข้อ นน้ั ๆ หรอื ทีเ่ ปน็ สาเหตุใหเ้ กดิ หัวข้อนน้ั ๆ เลือกจับคู่หัวข้อที่เกี่ยวข้องหรือสาเหตุท่ีเกี่ยวข้องท่ี สนใจท่ีสุดเพ่ือนามาต้ังปัญหาโดยให้เป็นเหตุเป็นผล กัน
สิ่งท่ีเก่ียวข้อง/สาเหตุ ต้ังคาถาม หวั ข้อ อากาศเสยี - การเผาขยะ - การเผาขยะทาใหอ้ ากาศเสยี จรงิ หรือไม่ - ควันจากรถยนต์ - ควนั จากรถยนต์มีผลทาใหอ้ ากาศเสียจริงหรอื ไม่ การเจรญิ - ป๋ยุ - ปุย๋ มผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื จริงหรือไม่ เตบิ โต - การใหน้ า้ - ปุ๋ยคอกกับปุ๋ยเคมีชนดิ ใดพืชเติบโต ของพืช ได้ดกี วา่ กันจรงิ หรือไม่ - น้าทาให้พชื มกี ารเจรญิ เติบโตไดด้ ใี ชห่ รือไม่
1. ตอ้ งมีความรู้พน้ื ฐานอยา่ งเพยี งพอ 2. มแี หล่งความรูเ้ พยี งพอทจ่ี ะคน้ คว้าหรือขอคาปรกึ ษา 3. สามารถจดั หาวัสดอุ ปุ กรณ์ที่จาเป็นที่ซือ้ หรือจัดทาขึ้นเองได้ 4. มีเวลาเพียงพอท่ีจะทาโครงงาน 5. มีงบประมาณเพียงพอ 6. มีความปลอดภัย
ข้นั ท่ี 2
ห้องสมดุ สถานท่ีต่าง ๆ ในท้องถิ่น เช่น แหล่งเรียนรู้การเลี้ยงไหม แหล่งเรียนรู้การทาปุ๋ยชีวภาพ เกษตรท่ีสูงอาเภอด่าน ซา้ ย หนว่ ยพทิ กั ษ์ป่าไม้ ตลอดจนการสืบค้นข้อมลู โดยใชร้ ะบบอนิ เทอร์เน็ต เปน็ ต้น
ข้นั ท่ี 3
วตั ถปุ ระสงค์ องคป์ ระกอบ
สือ่ ความหมายถงึ จดุ มงุ่ หมายที่ ตอ้ งการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งชดั เจน ความกะทัดรดั และดึงดูดความ สนใจ
ปญั หาเรื่องทส่ี นใจศกึ ษา คอื ถุงนา้ พลาสติกสามารถไล่แมลงวันท่ีมาตอมอาหารไดจ้ ริงหรอื “ ถงุ พลาสติกพิชติ แมลงวนั ” “ การศกึ ษาการไล่แมลงวันดว้ ยถงุ น้าพลาสติก ” “ ผลการใชถ้ งุ น้าพลาสติกต่อการไล่แมลงวนั ”
การเขียนช่ือผู้รับผิดชอบโครงงาน วิทยาศาสตร์เป็นส่ิงดีเพ่ือจะได้ทราบว่าโครงงานนั้นอยู่ในความ รบั ผิดชอบของใครและสามารถตดิ ตามได้ทใ่ี ด การเขียนช่ือผู้ให้ คาปรึกษาควรให้เกียรติยกย่อง และเผยแพร่ รวมทั้งขอบคุณที่ได้ให้คาแนะนาการทาโครงงาน วทิ ยาศาสตร์จนบรรลเุ ป้าหมาย
เปน็ การบรรยายถึงนโยบาย เกณฑ์สภาพทวั่ ๆ ไป หรือปญั หาท่ีมีส่วนสนบั สนนุ ใหร้ ิเรม่ิ ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ อธบิ ายถงึ รายละเอียดเชื่อมโยงให้เหน็ ประโยชน์ของการทา โครงงาน วิทยาศาสตร์ โดยมีหลกั การ ทฤษฎสี นับสนนุ เร่อื งทศ่ี กึ ษาหรอื การบรรยาย ผลกระทบถา้ ไมท่ าโครงงานเรอื่ งน้ี โดยสรปุ ถงึ ความจาเปน็ ทีต่ อ้ งดาเนินการตามส่วนที่ 2 เพื่อแก้ไขปัญหา ค้นคว้าความรูใ้ หมค่ ดิ คน้ สงิ่ ประดษิ ฐใ์ หม่ใหเ้ ปน็ ไปตามเหตผุ ลของสว่ นที่ 1
กาหนดจดุ ม่งุ หมายปลายทางทต่ี อ้ งการให้เกิดจากการทา โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดั เจนอ่านเข้าใจง่ายและสอดคล้องกับช่ือโครงงาน หากมีวัตถุประสงค์ หลายประเดน็ ใหร้ ะบุเปน็ ข้อ ๆ มคี วามสาคญั ต่อ แนวทางการศกึ ษา/ ตอ้ งสอดคลอ้ งกับ ความสมบรู ณ์ ข้อความรทู้ ี่คน้ พบ/ วัตถุประสงคท์ ุก ๆ ขอ้ สิ่งประดิษฐท์ ี่ค้นพบ ครบถว้ น
6. สมมตฐิ านของการศกึ ษา
1. การกาหนดประชากร กลมุ่ ตวั อย่างทศี่ กึ ษา 2. การสร้างเครอ่ื งมือเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล 4. การวเิ คราะห์ข้อมลู
การคาดหวังถงึ ผลการดาเนนิ การ ตามโครงงาน ตอ้ งคาดคะเนเหตกุ ารณ์วา่ เมือ่ ไดท้ าโครงงานวทิ ยาศาสตร์สนิ้ สุดลงใคร เป็นผไู้ ดร้ บั ประโยชนอ์ ยา่ งไรและไดร้ บั มากนอ้ ยเพยี งใด ผลทไี่ ดร้ บั สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทศี่ ึกษาอย่างไร
11. เอกสารอ้างองิ รายช่ือเอกสารท่ีนามาอ้างอิงเพ่ือประกอบการทา โครงงานวิทยาศาสตร์ ตลอดจนการเขียนรายงาน การทาโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรเขียนตาม หลกั การที่นิยมกัน (การเขียนเอกสารอา้ งองิ )
การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การสร้างหรือการประดษิ ฐ์ การปฏิบัตกิ ารทดลอง ซึ่งแล้วแตจ่ ะเป็นโครงงานประเภทใด และการศกึ ษาค้นควา้ จากเอกสารต่างๆ แลว้ ดาเนินการวเิ คราะห์ขอ้ มูล แบง่ ความหมายของข้อมลู และ สรุปผล อาศัย ทักษะและ วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ การกาหนดปญั หาการตั้งสมมตฐิ าน การเก็บรวบรวมข้อมูล การทดลอง การสรปุ ขอ้ มูล
อาศัย ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 13 ทกั ษะกระบวนการ ทกั ษะการบันทกึ ขอ้ มูล เพอ่ื รวบรวมข้อมลู ซง่ึ เป็น ความร้หู รือความจริงให้เปน็ เป็นการบันทกึ ขอ้ มลู เดยี่ วกับสิ่งท่ีเกิดข้นึ หมวดหมโู่ ดยสามารถบนั ทึก จากการทาโครงงาน เช่น ข้อมลู ในหลายรปู แบบ - ส่ิงทสี่ ารวจพบ - ผลการทดลองทเี่ กดิ ข้ึน -รายละเอียดสงิ่ ประดษิ ฐ์ท่ีทา ภาพถา่ ย ตาราง แผนภาพ แผนทค่ี วามคดิ ผังกราฟกิ
ความหมาย โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทการสารวจเป็น การศึกษารวบรวมปัญหา หรือข้อมูลจาก ธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มเพือ่ ศึกษาหาความรู้ท่ีมี อยู่ในธรรมชาติ
การสารวจ และรวบรวมขอ้ มลู การจาแนกหมวดหมู่ หมายถึง นาข้อมลู ท่ีไดม้ าจดั กระทาให้เป็นระบบ ระเบียบ และสื่อความหมายชดั เจน นาเสนอในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ ตาราง กราฟ แผนภูมิ และคาอธิบาย ประกอบ
1. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในภาคสนามหรอื ธรรมชาตไิ ดท้ นั ที ไมต่ อ้ งนาวสั ดตุ วั อยา่ งมาวเิ คราะหใ์ นห้องปฏบิ ัตกิ าร
2. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู วัสดุตวั อย่างมาวิเคราะห์ใน ห้องปฏิบัติการ เป็นโครงงานทมี่ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู วสั ดตุ ัวอยา่ ง มาวิเคราะห์ใน ห้องปฏบิ ัติการ เนื่องจากไม่สามารถ ที่จะวเิ คราะหข์ ้อมลู วสั ดุ ตัวอยา่ งไดท้ ันทีในขณะที่ออกไปปฏิบตั กิ ารภาคสนาม
3. จาลองธรรมชาติขนึ้ ในห้องปฏิบตั ิการ มกี ารสรา้ งแบบจาลองธรรมชาติข้นึ ในห้องปฏิบัตกิ ารแลว้ สงั เกต และศึกษาเก็บรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ ในธรรมชาตจิ าลองน้นั ๆ
ความหมาย เป็นการศึกษาหาคาตอบของปัญหาใดปัญหา หนึ่งโดยต้องมีการออกแบบการทดลองเพื่อ ศึกษาผลของตัวแปรต้นท่ีมีต่อตัวแปรตาม และตอ้ งมกี ารควบคุมตัวแปรอืน่ ๆ ท่ีอาจมผี ล ตอ่ ตัวแปรทตี่ ้องการศกึ ษาไว้ด้วย
Search