Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1เรื่องที่ 1 การเกิดหินแต่ละประเภท

1เรื่องที่ 1 การเกิดหินแต่ละประเภท

Published by tipavanlungtee, 2021-06-29 18:06:22

Description: 1เรื่องที่ 1 การเกิดหินแต่ละประเภท

Search

Read the Text Version

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6ชั้นประถมศึกษาปที ่ี เร่ือง หินและซากดึกดาบรรพ์ ชดุ กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 1 การเกดิ หินแตล่ ะประเภท โดย นางสาวทิพวรรณ หล่งุ ต้ี โรงเรียนวัดหนงั สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง หนิ และซากดึกดาบรรพ์ : ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่ 1 การเกดิ หนิ แต่ละประเภท คาแนะนาสาหรบั ครูในการใช้ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ว16101) เร่ือง หินและซากดึกดาบรรพ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้เป็นชุดท่ี 1 เรื่อง การเกิด หินแต่ละประเภท มีจุดมุ่งหมายเพ่ือช่วยให้การดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ ให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ และมปี ระสทิ ธิภาพ ครคู วรเตรียมความพรอ้ ม และปฏบิ ัตติ าม คาแนะนาดงั ตอ่ ไปน้ี คาแนะนาสาหรับครใู นการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และอ่านเนื้อหาอย่างละเอียดรอบครอบพร้อมท้ังทาความเข้าใจ กับเนือ้ หา ทุกชดุ ก่อนการใชง้ าน 2. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ส่ือการสอนต่าง ๆ สาหรับให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมให้ครบถ้วน และเพียงพอ กับจานวนนักเรยี น 3. ชแ้ี จงให้นักเรยี นทราบถงึ ลาดับขั้นตอนและวธิ กี ารสอนโดยแบบฝกึ ทักษะอย่างชัดเจน และประโยชน์ ทไี่ ด้จากการสอนโดยแบบฝึกทักษะ 4. ช้ีแจงให้นักเรียนทราบเก่ียวกับบทบาทของนักเรียนในการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้ เขา้ ใจและเนน้ ยา้ เรอื่ งความซอ่ื สตั ย์โดยไมค่ ัดลอกเพื่อนหรอื ดูเฉลยลว่ งหน้า 5. ในขณะที่นักเรียนกาลังศึกษาเนื้อหาหรือปฏิบัติกิจกรรม ครูควรคอยให้ความช่วยเหลือ แนะนา กระตุ้นให้นักเรียน ทากิจกรรมอย่างกระตือรือร้นและตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ระหว่างเรียนพร้อม ท้ังสังเกต และประเมินพฤติกรรมการทางานของนักเรยี น 6. เวลาที่ใช้ในการเรียนจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ของนักเรียนแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ครูควรยืดหยุ่น ไดต้ ามความเหมาะสมกบั สถานการณ์ 7. ในกรณีท่ีนักเรียนคนใดขาดเรียน ให้นักเรียนศึกษาเป็นรายบุคคล จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีครู เตรยี มไว้ 8. สาหรับห้องเรียนที่ใช้ในการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ น้ันสามารถเรียนได้ท้ังในห้องเรียน และนอกห้องเรยี นตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ 9. เม่ือนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครบถ้วน ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน แล้วนาผลทดสอบก่อน เรยี นและหลังเรยี นแจ้งใหน้ ักเรียนทราบความก้าวหน้าทางการเรยี น 10. เม่ือนักเรียนเรียนรู้จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ครบทุกเร่ืองแล้ว ให้นักเรียนทาแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธห์ิ ลังเรยี น เรอ่ื งหินและซากดกึ ดาบรรพ์จานวน 10 ข้อ เพอ่ื ทราบผลการพัฒนาในภาพรวม

คาแนะนาสาหรับนกั เรียนในการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนในการเรียนรมู้ ดี ังนี้ 1. อา่ นคาแนะนาสาหรับนกั เรียนให้เขา้ ใจก่อนทจี่ ะลงมือศึกษาชุดการสอน 2. การศกึ ษาชุดการสอนเล่มนใี้ หท้ าตามลาดบั ข้ันตอนโดยดูแผนภูมิประกอบ 3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรูเ้ ดิมของนกั เรยี น 4. นกั เรยี นทาแบบประเมินกอ่ นเรียน เร่ือง การเกิดหนิ แตล่ ะประเภท 5. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง การเกิดหนิ แต่ละประเภท 6. นักเรียนทาแบบฝึกหัด ตอนท่ี 1-3 เรือ่ งการเกิดหนิ แตล่ ะประเภท 7. นักเรยี นทาแบบประเมินหลังเรยี น เพ่ือเปรียบเทียบความก้าวหนา้ ในการเรียนของนักเรยี น 8. ใหส้ มาชกิ แตก่ ลมุ่ ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามลาดบั ขน้ั ตอนท่ีกาหนดไว้ในชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ 9. เมื่อนกั เรียนทากิจกรรมทุกขน้ั ตอนเสรจ็ แลว้ ให้รบั ใบเฉลยจากครไู ปตรวจคาตอบ 10. ถา้ นักเรยี นทดสอบหลังเรียนไม่ผา่ นร้อยละ 80 ควรเรมิ่ ต้นศกึ ษาชุดการสอนใหม่อีกคร้ัง 11. นักเรยี นควรฝกึ ปฏิบตั ิดว้ ยตนเองอย่างเตม็ ความสามารถและซื่อสตั ย์ไมล่ อกเพื่อนไมเ่ ปิดดเู ฉลยก่อน ซึ่งจะทาใหก้ ารเรียนรู้ของนักเรียนบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ สามารถสรา้ งองค์ความร้ไู ด้ดว้ ยตนเอง 12. ถา้ นกั เรียนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามหรือขอคาแนะนาจากครูไดท้ นั ที

แผนภูมิการใช้ชุดการสอนสาหรับนักเรยี น นกั เรยี นอา่ นคาแนะนา นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5 ขอ้ นักเรยี นศึกษากจิ กรรมการเรยี นรู้ ซ่อมเสรมิ นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 5 ข้อ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ ทาได้ 80 เปอรเ์ ซน็ ต์ นกั เรยี นศกึ ษาชดุ ต่อไป

ผลการเรยี น ผลการเรียนรู้ เปรียบเทยี บกระบวนการเกิดหินอคั นี หินตะกอน และหินแปร และอธบิ ายวัฏจักรหนิ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายลักษะและกระบวนการเกิดหนิ แต่ละประเภทได้ 2. เปรียบเทยี บการเกิดหินแตล่ ะประเภทได้ 3. จาแนกตวั อย่างหินตามลกั ษณะการเกดิ ได้

แบบประเมนิ ก่อนเรียน ตอนที่ 1 คาชีแ้ จง :ให้นกั เรยี นทาเครื่องหมาย x เลอื กคาตอบทีถ่ กู ต้องที่สดุ เพยี ง 1 ตวั เลอื ก 1. หินชนิดหนึ่งประกอบดว้ ยผลกึ แร่ขนาดใหญ่ สีตา่ ง ๆ กัน หนิ ชนิดนเ้ี กิดข้นึ ได้ตามข้อใด ก. เกิดจากลาวาเยน็ ตวั ลงบนเปลือกโลก ข. เกดิ จากการทบั ถมของตะกอนสตี ่าง ๆ อัดกันแนน่ ค. เกดิ จากแมกมาเย็นตัวลงภายในเปลือกโลก ง. เกดิ จากความร้อนความดันทีเ่ กิดขึน้ ภายในเปลอื กโลก 2. หินข้อใดท่ีแตกตา่ งจากหนิ ในข้ออืน่ ก. หินทราย ข. หินปนู ค. หินแกรนิต ง. หินดนิ ดาน 3. หินทเี่ กิดจากโคลนและดินเหนยี วทบั ถมกนั เปน็ หินประเภทตามข้อใด ก. หนิ แปร ข. หินตะกอน ค. หินอัคนี ง. หนิ ฟอสซลิ 4. ข้อใดถูกต้องเกีย่ วกับหินดินดานและหินชนวน ก. หินดินดานเปน็ หินตะกอน สว่ นหินชนวนเป็นหินแปร ข. เน้ือหินดินดานแข็งกว่าเน้อื หินชนวน ค. หินดนิ ดานและหินชนวนเกิดจากการสะสมของตะกอน ง. หนิ ดนิ ดานและหนิ ชนวนเกิดจากการเยน็ ตัวของแมกมา 5. ข้อมลู แสดงลกั ษณะของตวั อย่างหิน 4 ชนดิ เป็นดงั นี้ ชนดิ หนิ ลกั ษณะของหนิ A เนือ้ หยาบ สีเทาอ่อนจุดสดี า มีผลกึ แรข่ นาดใหญ่ ประสานกนั แนน่ B เน้อื แก้ว สีเทาอ่อนเกือบบาง มีรพู รุนจานวนมาก C เนอื้ หยาบ สขี าว ประกอบด้วยเม็ดทรายขนาดเลก็ จานวนมาก ยดึ ตดิ กนั แน่น D เนอ้ื ละเอียด สดี า กะเทาะออกเป็นแผ่นได้งา่ ย จากข้อมูล ข้อสรปุ ใดต่อไปน้ีไม่ถกู ต้อง ก. หิน C เกิดจากการทับถมของตะกอน ข. เม่ือนาหินไปลอยนา้ หนิ D จะจมลงก้นภาชนะใส่นา้ ค. เม่ือหยดดว้ ยกรดเกลือ กนิ B จะเกดิ ฟองแก๊ส ง. หิน A นาไปใชป้ ระโยชน์ในการก่อสรา้ งทตี่ ้องการความคงทนได้ คะแนนท่ไี ด้.............................. เยี่ยมทส่ี ดุ ขอ้ เสนอแนะจากครู.................................................................................................. ทาไดด้ ี ................................................................................................................................. พอใช้ ................................................................................................................................. ปรับปรุงอกี นิด ลงชื่อผ้ปู กครอง.................................................รับทราบข้อเสนอแนะ ลงช่ือนกั เรยี น....................................................รบั ทราบขอ้ เสนอแนะ

ใบความรู้ เร่ืองการเกิดหนิ แตล่ ะประเภท หิน (Rock) มีลักษณะเป็นของแข็ง ประกอบไปด้วยแร่ธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป หินเป็นส่วนประกอบสาคัญของ เปลือกโลก เราจาแนกหนิ ออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการเกดิ คือ หนิ อัคนี หินตะกอน หินแปร ประเภทของหนิ หินอัคนี (igneous rock) เกิดจากการเยน็ ตัวของแมกมา อาจมีลักษณะการเกดิ ได้ 2 ลกั ษณะ ดังนี้ 1. หินอัคนีเย็นตัวใต้เปลือกโลก เกิดจากแมกมาดันตัวข้ึนมาอยู่บริเวณใต้เปลือกโลก ซึ่งมีอุณหภูมิต่ากว่า แมกมาจะเย็นตวั อย่างชา้ ๆ ทาให้หินมีเนือ้ หยาบและแข็ง ซึ่งเรียกวา่ หนิ อคั นีแทรกซอ้ น ได้แก่ หินแกรนติ (granite) หนิ แกบโบร (gabbro) หินไดออไรต์ (diorite) 2. หินอัคนีที่แข็งตัวบนเปลือกโลก เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟทาให้แมกมาพุ่งข้ึนมาเหนือแผ่นเปลือก โลก เรยี กว่า ลาวา แลว้ เย็นตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้มีรูพรุน เนอื้ ละเอยี ด เปราะ แขง็ ซ่ึงเรียกว่า หินอคั นพี ุ ไดแ้ ก่ หินพมั มิช (pumice) หินออบซเิ ดียน (obsidian) หนิ ไรโอไลต หนิ แอนดไี ซต์ หินบะซอลต์ (basalt)

ใบความรู้ เรื่องการเกิดหินแต่ละประเภท (ต่อ) หนิ ตะกอน (Sedimentary rock) เกิดจากการทับถมของเศษหินและดินท่ีถูกกระแสลม และกระแสน้าพัดมารวมกันตกตะกอนและสะสมตัว ถูกอดั แน่นจนกลายเป็นหนิ ตัวอย่างเช่น หนิ กรวดมน (conglomerate) หนิ ทราย (sandstone) หินดนิ ดาน (shale) หินศิลาแลง (laterite stone) หินปนู (limestone) หินเชริ ต์ (chert) หินแปร (Metamorphic rock) เกดิ จากการเปลย่ี นแปลงของหนิ อคั นีหรอื หนิ ตะกอน เมือ่ ได้รับความรอ้ น และความดันสูง เน่ืองจากการกดทับ ของแผ่นเปลอื กโลก ทาให้มกี ารแปรสภาพเป็นหินใหม่ ตวั อย่างเชน่ หินทราย (sandstone) หินดินดาน (shale) หินแกรนิต (granite) แปรสภาพเปน็ แปรสภาพเปน็ แปรสภาพเป็น หนิ ควอร์ตไซต์ (quartzite) หินชนวน (slate) หินไนซ์ (gneiss)

ใบความรู้ เรือ่ งการเกิดหนิ แตล่ ะประเภท (ตอ่ ) หนิ ชนวน (slate) หินปนู หนิ ปนู (limestone) แปรสภาพเป็น แปรสภาพเป็น หินซีตส์ (schist) หินอ่อน (marble) การเปลี่ยนแปลงของหนิ หินในธรรมชาติมีการเปล่ียนแปลง เช่น การผุพังอยู่กับท่ี การกร่อน ซึ่งทาให้หินมีขนาดเล็กลงจนเป็น ส่วนประกอบ ของดนิ การเปล่ยี นแปลงของหินเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้ 1. การกัดเซาะของกระแสนา้ ทาใหห้ นิ บรเิ วณชายฝงั่ ผุกรอ่ น และพงั ทลาย เปล่ียนรปู รา่ ง 2. อณุ หภมู ิสูงทาให้หนิ เกดิ การขยายตวั และแตกรา้ ว 3. น้าฝนทาปฏิกิรยิ าเคมกี ับแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ เกิดเป็นฝนกรด กัดกรอ่ นหนิ ปูน ทาใหห้ นิ ผุพงั ได้ 4. แรงลมพดั ดนิ และทรายไปปะทะกบั ภูเขาหิน ทาใหเ้ กดิ การสึกกรอ่ นเปน็ กอ้ นเลก็ ๆ 5. น้าทอี่ ยูต่ ามรอยแยกของหนิ กลายเปน็ นา้ แข็งจึงขยายตัวและดันให้หินแตกได้

แบบฝึกหัด ตอนที่ 1 คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นเติมคาลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง หิน (Rock) เป็นของแข็งที่ประกอบขึ้นด้วยแร่ชนิดเดียวกันหรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติ หินมีการสึกกร่อนเนื่องจากน้า น้าแข็ง ลม และจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ส่งผลให้หินมีการ เปลี่ยนแปลงไปเป็นหินประเภทต่างๆ นักธรณีวิทยาใช้ลักษณะการเกิดเป็นเกณฑ์ในการจาแนกหินออกเป็น 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ........................................ ........................................ และ ........................................ 1. หนิ ........................................... เปน็ หินที่เกดิ จาก pumice Igneous obsidian ……………………………………………………………………………… granite ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… 1.1 หิน..........................................เกดิ จากการเย็นตัวและตกผลกึ ของแมกมาใตผ้ วิ โลกอยา่ งช้าๆ ทาให้เกิดผลึกแร่มขี นาด.............................เกิดประกอบกันเปน็ หินที่มีเน้ือ.................................... 1.2 หนิ ..........................................เกิดจากการเยน็ ตวั และตกผลึกของลาวาบนผวิ โลกอย่างรวดเร็ว ทาให้เกดิ ผลึกแร่มีขนาด.............................เกดิ ประกอบกันเป็นหินทีม่ ีเนื้อ.................................... 2. หิน........................................... เป็นหินทเ่ี กดิ จาก Sedimentary ……………………………………………………………………………… conglomerate shale sandstone ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… 2.1 หิน...............................ที่เกดิ จากการสะสมตัวของ.............................และการเช่ือมประสาน ตะกอนจะมีลกั ษณะเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด ตะกอนจะเป็นขน้ั ๆ เชน่ ................................... 2.2 หนิ ..........................................ที่เกิดจากการตกผลกึ หรอื ตก..........................ของสารบางชนิด จากน้าโดยเฉพาะน้าทะเล จะมีเน้ือเปน็ เน้ือผลึกเล็กและละเอยี ด เชน่ .......................................... 3. หนิ ........................................... เป็นหนิ ทเี่ กิดจาก Metamorphic ……………………………………………………………………………… gneiss marble schist ……………………………………………………………………………….

แบบฝกึ หดั (ตอ่ ) ตอนที่ 2 คาชี้แจง : ให้นกั เรียนเติมคาลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ต้อง ชนิดของหนิ ลกั ษณะการเกิดหิน ยกตวั อยา่ งช่ือหิน หนิ ........................................... เกดิ จากการทับถมของตะกอน .................................................... . ที่เกิดจากการผผุ ังของหนิ ชนิดต่างๆ .................................................... .................................................... .................................................... หนิ ........................................... เกดิ จากการเยน็ ตวั และแขง็ ตวั .................................................... . ของหินทีร่ ้อนและหลอมเหลว .................................................... .................................................... .................................................... หิน........................................... เกิดจากการแปรสภาพของหินอัคนี .................................................... . หนิ ตะกอน หรือหินแปรจาก .................................................... ความร้อนและความกดดัน .................................................... .................................................... ตอนท่ี 3 คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. หนิ อัคนแี บ่งออกเปน็ ก่ปี ระเภท อะไรบ้าง และลกั ษณะทวั่ ไปของหนิ อัคนเี ป็นอยา่ งไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. หนิ ชนิดใดท่มี กั พบซากพืชซากสัตวอ์ ยูภ่ ายในเน้อื หิน เพราะเหตใุ ด .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ลักษณะท่ัวไปของหนิ แปรเปน็ อยา่ งไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................

แบบประเมนิ หลงั เรยี น ตอนที่ 1 คาช้ีแจง :ให้นักเรยี นทาเครื่องหมาย x เลอื กคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ เพยี ง 1 ตวั เลอื ก 1. ข้อใดถูกต้องเก่ียวกบั หินดินดานและหินชนวน ก. เน้ือหนิ ดนิ ดานแข็งกว่าเนือ้ หินชนวน ข. หินดินดานเป็นหนิ ตะกอน ส่วนหนิ ชนวนเป็นหินแปร ค. หนิ ดินดานและหนิ ชนวนเกดิ จากการสะสมของตะกอน ง. หนิ ดนิ ดานและหินชนวนเกิดจากการเย็นตวั ของแมกมา 2. หนิ ชนิดหนึ่งประกอบด้วยผลกึ แรข่ นาดใหญ่ สีต่าง ๆ กัน หนิ ชนดิ นเี้ กิดขึ้นไดต้ ามข้อใด ก. เกิดจากความร้อนความดันทเ่ี กิดขึน้ ภายในเปลือกโลก ข. เกดิ จากการทบั ถมของตะกอนสตี า่ ง ๆ อดั กันแน่น ค. เกิดจากแมกมาเยน็ ตัวลงภายในเปลือกโลก ง. เกิดจากลาวาเยน็ ตัวลงบนเปลือกโลก 3. ข้อมูลแสดงลักษณะของตัวอย่างหนิ 4 ชนิด เปน็ ดังน้ี ชนิดหนิ ลักษณะของหนิ A เน้อื หยาบ สีเทาอ่อนจุดสีดา มีผลกึ แรข่ นาดใหญ่ ประสานกันแน่น B เน้อื แกว้ สีเทาอ่อนเกือบบาง มรี ูพรุนจานวนมาก C เน้ือหยาบ สขี าว ประกอบด้วยเมด็ ทรายขนาดเล็กจานวนมาก ยึดติดกันแน่น D เนือ้ ละเอียด สดี า กะเทาะออกเป็นแผน่ ได้งา่ ย จากขอ้ มลู ข้อสรปุ ใดต่อไปนี้ไมถ่ ูกต้อง ก. หิน C เกดิ จากการทบั ถมของตะกอน ข. เม่ือหยดดว้ ยกรดเกลือ กิน B จะเกดิ ฟองแกส๊ ค. เม่ือนาหนิ ไปลอยนา้ หนิ D จะจมลงกน้ ภาชนะใส่นา้ ง. หิน A นาไปใชป้ ระโยชน์ในการกอ่ สรา้ งทีต่ ้องการความคงทนได้ 4. หินที่เกดิ จากโคลนและดินเหนยี วทับถมกันเปน็ หินประเภทตามข้อใด ก. หินแปร ข. หินฟอสซิล ค. หินตะกอน ง. หินอคั นี ง. หินแกรนติ 5. หินข้อใดทแ่ี ตกตา่ งจากหนิ ในข้ออน่ื ก. หนิ ทราย ข. หนิ ปูน ค. หนิ ดินดาน คะแนนทไ่ี ด้.............................. เย่ยี มทสี่ ดุ ขอ้ เสนอแนะจากครู.................................................................................................. ทาไดด้ ี ................................................................................................................................. พอใช้ ................................................................................................................................. ปรบั ปรงุ อกี นิด ลงช่ือผ้ปู กครอง.................................................รบั ทราบขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อนกั เรยี น....................................................รบั ทราบข้อเสนอแนะ

แบบประเมนิ กอ่ นเรยี น ตอนที่ 1 คาชีแ้ จง :ใหน้ กั เรยี นทาเครื่องหมาย x เลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องท่สี ุดเพยี ง 1 ตวั เลอื ก 1. หนิ ชนดิ หน่ึงประกอบดว้ ยผลึกแร่ขนาดใหญ่ สีต่าง ๆ กัน หนิ ชนิดนเ้ี กดิ ข้นึ ได้ตามข้อใด ก. เกิดจากลาวาเยน็ ตัวลงบนเปลือกโลก ข. เกิดจากการทบั ถมของตะกอนสีตา่ ง ๆ อดั กันแนน่ ค. เกิดจากแมกมาเยน็ ตวั ลงภายในเปลือกโลก ง. เกิดจากความร้อนความดันท่เี กิดขน้ึ ภายในเปลือกโลก 2. หินข้อใดที่แตกต่างจากหินในข้ออ่ืน ก. หินทราย ข. หินปนู ค. หนิ แกรนติ ง. หนิ ดินดาน 3. หินที่เกดิ จากโคลนและดินเหนียวทับถมกนั เป็นหนิ ประเภทตามข้อใด ก. หนิ แปร ข. หินตะกอน ค. หนิ อัคนี ง. หินฟอสซิล 4. ขอ้ ใดถูกต้องเก่ียวกบั หนิ ดินดานและหินชนวน ก. หินดนิ ดานเป็นหินตะกอน ส่วนหินชนวนเปน็ หินแปร ข. เน้ือหนิ ดนิ ดานแข็งกว่าเนือ้ หินชนวน ค. หนิ ดนิ ดานและหนิ ชนวนเกิดจากการสะสมของตะกอน ง. หนิ ดินดานและหินชนวนเกิดจากการเย็นตวั ของแมกมา 5. ข้อมลู แสดงลักษณะของตัวอย่างหนิ 4 ชนิด เป็นดงั นี้ ชนิดหิน ลักษณะของหนิ A เน้ือหยาบ สเี ทาอ่อนจุดสีดา มีผลกึ แรข่ นาดใหญ่ ประสานกันแนน่ B เน้อื แก้ว สีเทาอ่อนเกือบบาง มีรูพรนุ จานวนมาก C เนอื้ หยาบ สีขาว ประกอบด้วยเมด็ ทรายขนาดเลก็ จานวนมาก ยึดตดิ กนั แน่น D เน้ือละเอียด สดี า กะเทาะออกเป็นแผ่นได้ง่าย จากขอ้ มูล ข้อสรปุ ใดต่อไปน้ีไม่ถูกต้อง ก. หิน C เกดิ จากการทับถมของตะกอน ข. เม่ือนาหินไปลอยน้า หิน D จะจมลงกน้ ภาชนะใส่น้า ค. เมื่อหยดด้วยกรดเกลือ กิน B จะเกดิ ฟองแก๊ส ง. หิน A นาไปใชป้ ระโยชน์ในการก่อสรา้ งทีต่ ้องการความคงทนได้

แบบฝกึ หัด ตอนที่ 1 คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเตมิ คาลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง หิน (Rock) เป็นของแข็งท่ีประกอบข้ึนด้วยแร่ชนิดเดียวกันหรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติ หินมีการสึกกร่อนเนื่องจากน้า น้าแข็ง ลม และจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ส่งผลให้หินมีการ เปล่ียนแปลงไปเป็นหินประเภทต่างๆ นักธรณีวิทยาใช้ลักษณะการเกิดเป็นเกณฑ์ในการจาแนกหินออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ...........ห...ิน..อ...คั ..น...ี ................ .............ห...ิน..ต...ะ..ก..อ..น............. และ ...........ห...นิ ..แ...ป..ร................... 1. หิน............ห...ิน...อ..ัค..น...ี.................. เปน็ หินทเ่ี กิดจาก pumice Igneous obsidian …ก…า…รเ…ย…็นต…วั …แ…ล…ะต…ก…ผ…ล…กึ ข…อ…ง…หิน…ห…น…ืด……ค…ือ…แ…ม…ก…ม…า……… granite …แ…ล…ะ…ลา…ว…า…เ…ม…่ือห…นิ …ห…น…ืด…ม…ีอุณ……หภ…ูม…ลิ …ด…ล…งจ…ะ…ต…กผ…ล…ึก……… …แ…ข…็งเ…ป…็น…หิ…นอ…คั …น…ี …………………………………………………… 1.1 หิน...................ห...ิน..อ...ัค..น..ี...........เกิดจากการเยน็ ตัวและตกผลึกของแมกมาใต้ผิวโลกอยา่ งชา้ ๆ ทาใหเ้ กิดผลึกแร่มีขนาด........ใ..ห..ญ...่..............เกิดประกอบกนั เปน็ หินท่มี ีเนื้อ....ห..ย...า..บ..แ..ล...ะ..แ..น...น่..แ...ข..ง็.... 1.2 หิน.................ห..ิน...อ..ัค...น..ีพ...ุ..........เกิดจากการเยน็ ตัวและตกผลกึ ของลาวาบนผิวโลกอย่างรวดเร็ว ทาให้เกดิ ผลกึ แรม่ ีขนาด......เ.ล...ก็ ...................เกดิ ประกอบกันเป็นหินทม่ี ีเนื้อล...ะ..เ.อ..ยี...ด..แ..ล...ะ..ม..รี..ูพ...ร..ุน....... 2. หิน...............ต..ะ..ก...อ..น................... เป็นหินทเ่ี กิดจาก Sedimentary …กา…ร…สะ…ส…ม…ต…วั ข…อ…ง…ตะ…ก…อ…น…แล…ะ…ก…าร…เ…ช่ือ…ม…ป…ร…ะส…า…น…………… conglomerate shale sandstone ต…ะ…ก…อ…น…ใน…แ…อ…่งส…ะ…สม…ต…ะ…ก…อ…น…แ…ล…ะ…เก…ิด…จา…ก…ก…าร…ต…ก………… ผ…ล…กึ …ข…อง…ส…า…รบ…า…งช…น…ิด………………………………………………… 2.1 หนิ ............ต...ะ..ก..อ...น.........ที่เกิดจากการสะสมตัวของ...........ต..ะ..ก...อ..น.........และการเชือ่ มประสาน ตะกอนจะมีลักษณะเนื้อหยาบและเน้ือละเอยี ด ตะกอนจะเป็นขั้นๆ เช่น..ห...ิน..ก..ร..ว..ด...ม..น....ห...นิ ..ท...ร..า..ย. 2.2 หนิ ............ต...ะ..ก..อ...น....................ท่เี กดิ จากการตกผลกึ หรือตก........ต...ะ..ก..อ...น........ของสารบางชนิด จากนา้ โดยเฉพาะนา้ ทะเล จะมีเน้ือเปน็ เน้ือผลึกเลก็ และละเอยี ด เช่น.......ห..นิ...ป..นู............................ 3. หิน..........แ...ป..ร............................ เป็นหินท่เี กิดจาก Metamorphic การ…แ…ป…รส…ภ…า…พ…ข…อง…ห…นิ …ท…กุ ป…ร…ะ…เภ…ท……ท…ัง้ ห…ิน…อ…ัค…น…ี …ห…ินต…ะ…ก…อ…น gneiss marble schist แล…ะห…ิน…แ…ป…ร…โ…ด…ยค…ว…า…มร…อ้ …น……ค…วา…ม…ด…นั …แ…ล…ะ…ป…ฏ…กิ ิร…ิย…าเ…ค…ม…ี .

แบบฝึกหดั ตอนท่ี 2 คาช้แี จง : ให้นกั เรียนเตมิ คาลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ชนิดของหนิ ลักษณะการเกดิ หิน ยกตัวอย่างช่อื หิน หิน......ห...ิน..ต...ะ..ก..อ...น......... เกดิ จากการทับถมของตะกอน .......-.ห...ิน..ท...ร..า..ย..............-...ห...ิน..เ.ซ...ิร..์ต................... หิน.....ห...นิ ..อ...ัค..น...ี ............ ท่เี กิดจากการผุผงั ของหนิ ชนดิ .......-...ห..ิน...ด..นิ...ด..า..น..........-...ถ..า่..น...ห..ิน..................... หิน......ห...ิน..แ...ป..ร.............. .......-...ห..ิน...ป..ูน.................-...เ.ก...ล..ือ..ห...ิน................... ต่างๆ .......-...ห..ิน...ก..ร..ว..ด..ม...น........................................ เกิดจากการเยน็ ตวั และแขง็ ตัว -..ห..ิน...แ..ก...ร..น..ิต............-...ห..นิ...ไ.ด...อ..อ..ไ..ร..ต..์................. ของหินท่ีร้อนและหลอมเหลว -...ห...ิน..แ...ก..บ...โ.บ...ร........-...ถ..่า..น..บ...ะ..ซ..อ...ล..ต...์ ............... -...ห...ิน..พ...มั..ม...สิ ............-...ห..ิน...อ..อ..บ...ซ..เิ..ด..ีย..น................ เกดิ จากการแปรสภาพของหนิ อัคนี -...ห...นิ ..แ...อ..น..ด...ีไ.ซ...ด..ต..์..-...ห..ิน...ไ.ร..โ..อ..ไ.ล...ต..์................. หนิ ตะกอน หรือหินแปรจาก ความรอ้ นและความกดดัน -..ห..นิ...ช..น...ว..น....(.แ..ป...ร..ม..า..จ..า..ก...ห..ิน...ด..นิ...ด..า..น...)............. .-..ห...ิน..ค...ว..อ..ร..์ต..ไ..ซ..ต...์ .(.แ..ป...ร..ม..า..จ...า.ก...ห..ิน...ท...ร..า..ย..)....... -...ห...นิ ..อ...่อ..น....(.แ..ป...ร..ม..า..จ...า.ก...ห..ิน...ป...นู ..)..................... -...ห...นิ ..ไ..น..ส...์ .(.แ..ป...ร..ม..า..จ...า.ก...ห..ิน...แ..ก...ร..น..ิต...)............... ตอนท่ี 3 คาชีแ้ จง : ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. หินอคั นแี บง่ ออกเป็นกี่ประเภท อะไรบา้ ง และลักษณะทั่วไปของหนิ อคั นีเปน็ อยา่ งไร ..ห...นิ ..อ..ัค...น..ีแ..บ..่ง..อ..อ..ก..เ..ป..็น....2...ป..ร..ะ..เ.ภ..ท....ไ.ด...้แ..ก..่ ..ห...นิ ..อ..คั..น...แี ..ท..ร..ก..ซ..อ..น.....แ..ล..ะ..ห...ิน..อ..คั..น...ีพ..ุล..ัก..ษ...ณ...ะ..ท..ว่ั..ไ.ป...ข..อ..ง..ห..นิ..อ..คั...น..ีแ..ท..ร..ก.. ....ซร....พู..อ้ ....นร....ุน..ค....ื..อ......ม....ีผ....ล....ึก....แ......ร..ข่....น......า..ด......ใ..ห....ญ......่..เ....น....้ือ....ห....ย......า..บ........แ....ข....็ง....แ....ร....ง....ส......่ว..น......ห....ิน....อ......ัค....น....ีพ......ุ ..ม....ีผ....ล....กึ....แ....ร....่ข....น......า..ด......เ..ล....็ก......เ..น......ื้อ....ล....ะ....เ..อ....ีย....ด........บ....า....ง..ช......น....ิด....ม....ี 2. หนิ ชนดิ ใดที่มักพบซากพืชซากสัตว์อยู่ภายในเนอื้ หิน เพราะเหตใุ ด ..ห...นิ ..ท...่มี ..ัก..พ..บ...ซ..า..ก..พ..ชื..ซ..า..ก..ส..ตั...ว.์...ค..อื.....ห..นิ..ต...ะ..ก..อ..น.....เ.พ..า..ะ..ซ..า..ก..ด..ึก..ด..า..บ...ร.ร..พ...์ ..เ.ก..ิด..จ..า..ก..โ..ค..ร..ง.ร..่า..ง.ห...ร..ือ..ร..่อ..ง.ร..อ..ย..ข..อ...ง....... ..ส...งิ่ .ม..ีช...วี .ติ...ท..ีถ่..ูก..ป...ดิ ..ท..ับ..ด...ว้ ..ย..ต..ะ..ก..อ..น..ห...ร..ือ..เ.ก..ดิ..พ...ร.้อ...ม...ๆ...ก...ับ..ห..ิน...ต..ะ..ก..อ..น................................................................ .......................................................................................................................................................... 3. ลกั ษณะทวั่ ไปของหินแปรเปน็ อย่างไร ..ห...ิน..แ..ป...ร.บ...า..ง.ช..น...ิด..ม..ีผ..ล..ึก..แ..ร..่ท...ี่ม..ีก..า..ร..เ.ร.ีย...ง.ต..ัว..ข..น...า.น...ก..ัน..เ.ป...น็ ..แ..ถ..บ.....บ..า..ง..ช..น..ิด..เ.ร..ยี..ง..ต..ัว..เ.ป...็น..แ..ผ..่น..แ...ซ..ะ..อ..อ..ก..เ.ป...น็ ..แ..ผ..่น..ไ..ด..้... ..แ...ล..ะ..บ..า..ง.ช...น..ดิ ..เ.น..้ื.อ..ผ..ล..กึ..ม..คี..ว..า..ม..แ..ข..ง็..แ..ร..ง..................................................................................................... ....................................................................................................................................................

แบบประเมินหลงั เรียน ตอนที่ 1 คาชี้แจง :ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย x เลือกคาตอบท่ถี ูกต้องที่สุดเพียง 1 ตวั เลือก 1. ข้อใดถกู ต้องเกีย่ วกบั หินดินดานและหินชนวน ก. เนื้อหนิ ดนิ ดานแข็งกว่าเนอื้ หินชนวน ข. หินดินดานเปน็ หินตะกอน สว่ นหนิ ชนวนเป็นหินแปร ค. หินดนิ ดานและหนิ ชนวนเกิดจากการสะสมของตะกอน ง. หนิ ดินดานและหินชนวนเกิดจากการเย็นตวั ของแมกมา 2. หนิ ชนิดหน่ึงประกอบด้วยผลกึ แรข่ นาดใหญ่ สตี ่าง ๆ กัน หนิ ชนดิ นเี้ กิดขนึ้ ได้ตามข้อใด ก. เกดิ จากความร้อนความดนั ท่เี กดิ ขึ้นภายในเปลือกโลก ข. เกิดจากการทบั ถมของตะกอนสีต่าง ๆ อัดกันแนน่ ค. เกดิ จากแมกมาเยน็ ตวั ลงภายในเปลือกโลก ง. เกดิ จากลาวาเยน็ ตัวลงบนเปลือกโลก 3. ขอ้ มูลแสดงลกั ษณะของตัวอยา่ งหิน 4 ชนดิ เปน็ ดงั นี้ ชนิดหนิ ลกั ษณะของหนิ A เนอื้ หยาบ สเี ทาอ่อนจุดสดี า มผี ลกึ แร่ขนาดใหญ่ ประสานกันแน่น B เนื้อแก้ว สเี ทาอ่อนเกือบบาง มรี ูพรุนจานวนมาก C เนอ้ื หยาบ สขี าว ประกอบด้วยเม็ดทรายขนาดเลก็ จานวนมาก ยึดตดิ กนั แนน่ D เนอ้ื ละเอียด สีดา กะเทาะออกเป็นแผ่นได้ง่าย จากขอ้ มูล ข้อสรปุ ใดต่อไปนี้ไมถ่ กู ต้อง ก. หิน C เกิดจากการทบั ถมของตะกอน ข. เม่ือหยดด้วยกรดเกลือ กิน B จะเกดิ ฟองแกส๊ ค. เม่ือนาหนิ ไปลอยนา้ หิน D จะจมลงก้นภาชนะใส่น้า ง. หนิ A นาไปใชป้ ระโยชน์ในการก่อสร้างที่ต้องการความคงทนได้ 4. หินท่เี กิดจากโคลนและดินเหนยี วทบั ถมกันเป็นหินประเภทตามขอ้ ใด ก. หนิ แปร ข. หนิ ฟอสซลิ ค. หนิ ตะกอน ง. หนิ อคั นี 5. หินข้อใดท่ีแตกตา่ งจากหินในข้ออน่ื ก. หินทราย ข. หนิ ปูน ค. หนิ ดนิ ดาน ง. หินแกรนิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook