Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-BOOK การละเล่นพื้นบ้าน

E-BOOK การละเล่นพื้นบ้าน

Published by areeya.binsa19, 2020-04-03 11:00:21

Description: E-BOOK การละเล่นพื้นบ้าน

Search

Read the Text Version

การละเลน่ พ้ืนบา้ น



คำนำ สำรบญั 1-2 3-14 E-BOOK เล่มน้ีเป็ นส่วนหนึ่งของวชิ า 01179232 การละเลน่ พ้ืนบา้ น 15-26 การผลติ สอื่ อเิ ล็กทรอนิกสเ์ พอ่ื การศกึ ษา จดั ทาข้นึ เพื่อใหค้ วามรู้ การละเล่นพ้ืนบา้ นภาคกลาง 27-38 ในเรือ่ งของการละเล่นพ้ืนบา้ น 4 ภาค โดยเน้ือจะมีรายละเอียด การละเล่นพ้นื บา้ นภาคเหนือ 39-50 ดงั น้ี การละเลน่ พ้ืนบา้ นของแตล่ ะภาค อุปกรณ์ วธิ ีการเล่น และ การละเล่นพ้นื บา้ นภาคใต้ 51 คุณค่าท่ีไดร้ บั ผูจ้ ดั ทาหวงั วา่ ผูท้ ่ีอ่าน E-BOOK เล่มน้ีจะไดร้ บั การละเลน่ พ้นื บา้ นภาคอสี าน 52 ความรูแ้ ละเป็ นประโยชน์แก่ผูอ้ ่านไม่มากก็นอ้ ย หากผิดพลาด บรรณานุกรม ประการใดขออภยั มา ณ ทน่ี ้ี ผูจ้ ดั ทา นางสาวอารยี า บินซาอด๊ิ ผูจ้ ดั ทา

12 กำรละเล่นพ้นื บำ้ น การละเล่นพ้ืนบา้ นเป็ นกิจกรรมนนั ทนาการประเภทเกม ที่สามารถ ส่งเสริมและพฒั นา อารมณ์สุข สนุกสนาน การละเล่น พ้ืนบา้ นของไทย เป็ นกิจกรรมท่ียอมรบั ร่วมกนั ในสงั คมว่าเป็ นภูมิ ปัญญาทอ้ งถิ่น มีการถ่ายทอด จากคนรุ่นหน่ึงไปยงั คนอีกรุ่นหนึ่ง การละเล่นพ้ืนบา้ นเป็ นกิจกรรมที่เนน้ ความสนุกสนานไม่เนน้ การแพ้ ชนะ จึงมีคุณค่าและมีส่วนสาคัญ ในการหล่อหลอมพฤติกรร ม โดยเฉพาะกบั เด็กเล็กซง่ึ เป็ นท่ีรวม ทงั้ เป็ น การเช่ือมโยงประสบการณ์ ทางสงั คมใหก้ บั เด็ก ทาใหเ้ ด็กไทยประสบความสาเร็จในการเล่นจนเกิด ความภาคภูมิใจในตนเอง เห็นคุณค่าของตนเอง กล้าคิด กล้า แสดงออก รูจ้ กั การปรบั ตวั ใหอ้ ยูร่ ว่ มกบั ผูอ้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข อีกทงั้ ยงั ชว่ ยใหเ้ ด็กไดเ้ รียนรูด้ ว้ ยการรอคอย การชว่ ยเหลือ การแบง่ ปัน และ การเป็นผูน้ า ผูต้ าม ส่งิ เหล่าน้ีเป็นผลทจ่ี ะเกิดโดยตรงจากการละเลน่ ของเด็ก ที่สง่ ผลต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมทางสงั คมของเด็กวยั น้ี ทต่ี อ้ งเสริมสรา้ ง พฒั นาการใหพ้ รอ้ มในการเจริญเตบิ โตและการเรยี นรู้ ในระดบั สงู ข้ึนตอ่ ไป อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

34 การละเลน่ พ้ืนบา้ น ภาคกลาง

56 วธิ ีเล่น 1. ผเู้ ลน่ 2 คนยืนหนั หนา้ เขา้ หากนั โนม้ ตวั ประสานมือกนั เป็ นรูปซมุ้ 2. ส่วนผูอ้ น่ื เกาะเอวตอ่ ๆ กนั ตามลาดบั 3. หวั แถวจะพาลอดใตซ้ มุ้ มอื พรอ้ มกบั รอ้ งบทรอ้ งประกอบการเล่น 4. เม่อื รอ้ งถงึ ประโยคท่วี า่ “คอยพานคนขา้ งหลงั ไว”้ ผทู้ ปี่ ระสานมือเป็น ซมุ้ จะลดมอื ลงกนั คนสดุ ทา้ ยไว้ ซง่ึ คนสดุ ทา้ ยจะถูกคดั ออกไปจากแถว แลว้ จงึ เริ่มตน้ เลน่ ใหมท่ าเชน่ นนั้ จนหมดคน เพลงรอ้ งประกอบ \"รรี ขี า้ วสาร สองทะนานขา้ วเปลือก เดก็ นอ้ ยตาเหลือก เลอื กทอ้ งใบลาน คดขา้ วใสจ่ าน คอยพานคนขา้ งหลงั ไว\"้ คุณค่ำ/แนวคดิ /สำระ 1. ออกกาลงั กายพฒั นากลา้ มเน้ือส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายใหแ้ ข็งแรง 2. เพลดิ เพลนิ จติ ใจรา่ เรงิ แจม่ ใส ยอมรบั ในกฎเกณฑก์ ตกิ าในการเล่น 3. หดั ใหเ้ ดก็ มไี หวพรบิ ปฏิภาณ และรูจ้ กั ใชก้ ลยุทธท่จี ะใหต้ นรอดจากการ ถูกคลอ้ งตวั ไว้ 4. หดั ใหเ้ ดก็ รูจ้ กั ทางานเป็นกลุม่ โดยหวั แถวตอ้ งพยายามพาแถว โดยเฉพาะคนสดุ ทา้ ยใหร้ อดพน้ จากการถกู กกั ตวั ใหไ้ ด้

78 อปุ กรณ์ ผา้ เช็ดหนา้ ขนาดใหญ่หนึ่งผนื ไม่ตอ้ งขมวดหรอื พนั ใหเ้ ป็นเกลียว เพราะถา้ ฟาดถูกผใู้ ด เขา้ แลว้ จะเจบ็ วิธีเลน่ 1. ใหผ้ เู้ ลน่ ทงั้ หมดจบั ไมส้ น้ั ไมย้ าว ผทู้ ไี่ ดไ้ มส้ นั้ ทส่ี ุด ถือผา้ เชด็ หนา้ ทเ่ี ตรยี มไวแ้ ลว้ ออกไปยืนขา้ งนอก ท่ีเหลอื นอกนนั้ นงั่ กนั เป็นวงกลม หนั หนา้ เขา้ หากนั ในระยะหา่ งกนั ประมาณ 1 ศอก เอามือทงั้ สองพาดไวท้ ีต่ กั คุยกนั หรือรอ้ งเพลงก็ได้ เพื่อความรน่ื เรงิ 2. ใหผ้ ูถ้ อื ผา้ บงั ตวั ไวม้ ิใหผ้ ูน้ งั่ เห็นไดถ้ นดั แลว้ เดนิ หรอื วิ่งไปรอบๆ วงตอ้ งทาทา่ หรอื หนา้ ตาใหส้ นิท เดินบา้ งว่งิ บา้ ง ทาเป็นวางผา้ แตไ่ ม่วาง เพื่อหลอกลอ่ ผูท้ ่นี งั่ ใหเ้ ผลอตวั เม่ือเหน็ เป็นโอกาสแลว้ ก็แอบหยอ่ นผา้ ลงไว้ ใกลห้ ลงั ผนู้ งั่ คนใดคนหนึ่ง เมื่อวางผา้ แลว้ ควรเดินหรือว่ิง ใหเ้ รว็ ตอ่ ไปเพ่ือกลบั ถงึ ท่ีเดิมโดยมิใหผ้ ู้ นนั้ ตอ้ งรูต้ วั 3. ถา้ ผถู้ ูกวางผา้ ขา้ งหลงั รูส้ กึ ตวั เสยี ก่อนผวู้ างผา้ มาถึง ก็ตอ้ งรบี ฉวยผา้ วงิ่ มานงั่ แทนท่ี ของตนได้ แลว้ จงึ เดินหาโอกาสวางผา้ ไวข้ า้ งหลงั ผหู้ นึ่งผใู้ ดตอ่ ไป แตถ่ า้ ถูกวางขา้ งหลงั ไม่ รูส้ ึกตวั จนผทู้ ี่วางว่งิ มาถึงก็หยิบผา้ ที่วางนน้ั ข้ึนฟาดผถู้ ูกวางจนกวา่ จะลุกข้ึน รบั ผา้ ออกเดนิ ผู้ วางจึงลงนงั่ แทนท่ี ขอ้ ระวงั ในกำรเล่น ผูน้ ง่ั ทุกคนจะหนั หนา้ ไปดูขา้ งหลงั ไมไ่ ด้ ถา้ หากสงสยั วา่ จะมีผา้ อยขู่ า้ งหลงั ตน หรือไมก่ ็ใหใ้ ชม้ ือคลาดเู ทา่ นนั้ ผถู้ ือตอ้ งวางผา้ ลงขา้ งหลงั ใหใ้ กลต้ วั ผูน้ งั่ จะวางเกินกวา่ ๑ ศอก ไมไ่ ดแ้ ละใหว้ ิ่งหรือเดนิ ตอ่ ไปขา้ งหนา้ จนบรรจบรอบ จะหนั หลงั เดินยอ้ นมาไม่ได้ เพลงประกอบกำรเลน่ \"มอญซอ่ นผา้ ตกุ๊ ตาอยขู่ า้ งหลงั ใครเผลอคอยระวงั ใครเผลอคอยระวงั ตกุ๊ ตาอยขู่ า้ ง หลงั ระวงั จะถูกตี” คุณค่ำ/แนวคิด/สำระ 1. เพ่ือหดั ใหผ้ ูเ้ ลน่ เป็นคนวอ่ งไว 2. เพื่อฝึ กใหผ้ เู้ ลน่ เป็นคนทีม่ ีไหวพริบและรูจ้ กั สงั เกตเหตุการณต์ า่ งๆ

9 10 กติกำ 1. ผทู้ ีเ่ ป็นคนหาสามารถ โป้ ง คนทีต่ นเห็นในระยะไกลได้ 2. ผูท้ ี่ถูกพบคนแรกตอ้ งเป็นผหู้ าแทน 3. ผหู้ าจะตอ้ งหาผซู้ อ่ นใหไ้ ดค้ รบทกุ คน 4. หากผูซ้ อ่ นคนใดทผ่ี ูห้ ายงั หาไม่พบ เขา้ มาแตะตวั ผูห้ าพรอ้ มกบั รอ้ งวา่ แปะ ผหู้ าตอ้ ง เป็นตอ่ อกี รอบหน่ึง 5. ตอ้ งกาหนดเขตการซอ่ นเพื่อจะหาไดง้ า่ ย วธิ ีกำรเลน่ หากมีพ้ืนท่กี วา้ งมากก่อนการเลน่ ผเู้ ลน่ ทงั้ หมดอาจตกลงกนั กอ่ นวา่ หา้ มซอ่ นเกินเขตท่ี กาหนด ผใู้ ดออกไปซอ่ นนอกเขตถือวา่ ผดิ กติกาจะตอ้ งเป็นผหู้ าแทน เมื่อตกลงไดแ้ ลว้ ถึง ดาเนินการเลือกผูท้ ี่จะเป็นผหู้ าคนหน่ึง ตามวธิ ีการแบง่ กลมุ่ และจดั ลาดบั การเลน่ แลว้ จงึ เริ่ม เลน่ ผหู้ าตอ้ งปิดตา โดยใชม้ ือปิดหรอื หนั หนา้ เขา้ หาเสา ตน้ ไม้ ฯลฯ บางครงั้ ผหู้ าอาจนบั เลข ไปดว้ ยเพื่อเป็นการใหเ้ วลาแกผ่ ซู้ อ่ น และผทู้ ไี่ ปซอ่ นอาจรอ้ งวา่ “ปิดตาไม่มิด สาระพิษเขา้ ตา พ่อแม่ทานาไดข้ า้ วเม็ดเดียว” เมื่อคะเนวา่ ผซู้ อ่ นหาที่ซอ่ นไดห้ มดแลว้ จงึ ถามวา่ เอาหรอื ยงั ผู้ ซอ่ นจะตอบวา่ เอาละ ผูห้ าจงึ เปิดตาแลว้ ออกหาผซู้ อ่ นตามจุดตา่ ง ๆ ทค่ี าดวา่ ตอ้ งมีผไู้ ปซอ่ น เมื่อพบผูซ้ อ่ นคนใดจะตอ้ งพูดวา่ โป้ ง... (ชอ่ื ผทู้ ีพ่ บ)... ผนู้ น้ั จะออกมาจากทซี่ อ่ น ผูห้ าตอ้ งหาผู้ ซอ่ นตอ่ ไปจนครบหมดทกุ คนขณะหาถา้ มีผซู้ อ่ นคนใดวิ่งเขา้ มาแตะตวั ผหู้ าแลว้ รอ้ งวา่ แปะผหู้ า ตอ้ งเป็นอกี รอบหนึ่ง แตถ่ า้ หาผูซ้ อ่ นไดค้ รบทุกคน ผถู้ ูกพบคนแรกตอ้ งเป็ นผหู้ าแทน พฤติกรรมเชิงวเิ คราะหฝ์ ึ กใหเ้ ป็นคนชา่ งสงั เกต หไู ว ตาไว สามารถจบั ทิศทางของเสียง ท่ไี ดย้ นิ ไดอ้ ยา่ งแมน่ ยา คุณค่ำ/แนวคิด/สำระ 1. มีความรอบคอบและระมดั ระวงั ตวั มีกลยุทธใ์ นการซอ่ นตวั 2. รูจ้ กั การประเมินสภาพแวดลอ้ ม และคาดเดาสถานท่ีซอ่ นตวั ของผซู้ อ่ น 3. เป็นการฝึ กบงั คบั การเคล่อื นไหวใหเ้ บาท่ีสุดเพ่ือไม่ใหผ้ หู้ าไดย้ ินหรอื หาพบ 4. พฒั นาจติ ใจใหแ้ จม่ ใสเบกิ บาน

11 12 อปุ กรณ์ กอ้ นหนิ ลกั ษณะคอ่ นขา้ งกลมขนาดเทา่ หวั แม่มือ จานวน 5 เม็ด วธิ ีเล่น ใชส้ ่ิงสมมติเป็นหมาก 5 กอ้ นเร่มิ ตน้ ดว้ ยการทอด คอื การเทปลอ่ ยใหห้ มากทงั้ 5 กระจาย ไปบนพ้ืนกระดานถา้ กอ้ นไหนอยหู่ า่ งถอื เป็นตวั นาและข้ึนตน้ ดว้ ยหมากหนึ่ง คอื หยบิ นาลกู ไวต้ า่ งหากโยนข้ึนไป แลว้ ปลอ่ ย 4 ลูกกระจายบนพ้ืนทีละลกู และรบั ลูกทโ่ี ยนใหไ้ ด้ ใน ขณะเดยี วกนั ถา้ เก็บไดห้ มดก็ตอ่ หมาก 2 หมาก3 หมาก4 ตอ่ ไปดว้ ยวิธเี ลน่ แบบเดียวกนั แต่ ถา้ เก็บลกู 3 ลกู พรอ้ มกนั เรยี กวา่ หมาก3 แลว้ จงึ เก็บอกี 1 ลกู ถา้ รวมหมดเรียกวา่ หมาก4 และลกู โยนนน้ั จะตกไมไ่ ด้ ถา้ ตกนบั เป็นได้ ตอ้ งใหค้ นอนื่ เลน่ ตอ่ ไป หมากเก็บน้ีมีวธิ เี ลน่ พลิก แพลงหลายอยา่ ง เชน่ การใชม้ ือซา้ ยป้ องและเขี่ย หรือเก็บหมากใหเ้ ขา้ ในมือทีละลกู ทลี ะ 2 3 4 ตามลาดบั เรยี กวา่ \"อกี าเขา้ รงั \" ถา้ เข่ียไมเ่ ขา้ ก็นบั เป็นตายยงั มี \"อกี าออกรงั \" \"รูปู\" ซ่งึ ใชม้ ือ ซา้ ยรูปตา่ งๆ ถา้ ใชน้ ้ิวกลางและน้ิวหวั แมม่ ือยืนพ้ืน เป็นรูปเหมือนรูปูก็เรียก \"รูปู\" ผเู้ ลน่ ตอ้ ง เก็บหมากลงในรูปูหรือเข่ียออกนอกรงั ในขณะที่รบั ลูกโยนใหไ้ ด้ พรอ้ มกนั การละเลน่ ชนิดน้ีตอ้ ง อาศยั การคาดคะเนใหด้ ี ในขณะโยนลกู วา่ ควรจะสูงตา่ เพียงใด ในการโปรยลูกวา่ ถงึ กาหนดตอ้ ง เก็บอยา่ งไร จะไดโ้ ปรยใหห้ มากเหลา่ นนั้ อยูช่ ดิ หรอื หา่ งกนั อยา่ งไร เพราะถา้ มือท่เี ก็บไปถูก ลกู หมากอกี ลูกหนึ่ง ซ่ึงไมไ่ ดอ้ ยใู่ นแม่ที่กาหนดไวก้ ็ถือเป็นตายเหมือนกนั คุณค่ำ/แนวคิด/สำระ 1. เป็นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ 2. เป็นการฝึ กสมาธิ เกิดไหวพริบในการแกป้ ัญหา 3. ฝึ กนา้ ใจเป็นนกั กีฬา โดยปราศจากการพนนั อนั เป็นอบายมุข 4. เป็นการปลูกฝังความรกั ความสามคั คใี นหมูเ่ ดก็ ในสภาพสงั คมปัจจุบนั ทมี่ ีปัญหาทางเศรษฐกิจและความเครียดในสงั คม การสง่ เสรมิ การเลน่ หมากเก็บ อาจเป็นวธิ ีการหนึ่งท่ีชว่ ยลดชอ่ งวา่ งในหมูเ่ ดก็ สรา้ งความชว่ ยเหลอื เก้ือกูลกนั ใน สงั คม เป็นการสรา้ งพ้ืนฐานทดี่ ีใหแ้ กเ่ ดก็ เพ่ือเติบโตเป็นสมาชกิ ทด่ี ีในสงั คมไทยในอนาคต

13 14 อปุ กรณ์ 1. เชอื ก ทใี่ ชด้ ึงตอ้ งยาวอย่างนอ้ ย 33.50 ม. เสน้ รอบวงเชอื กตอ้ งไมต่ า่ กวา่ 10 ซม. แตไ่ ม่เกนิ 12 – 50 ซม. 2. ตรงกึ่งกลางของเชอื กทาสีแดงใหเ้ ห็นชดั เจน จากจุดสีแดงนบั ไปทางซา้ ย 4 เมตร ทางขวา 4 เมตร แลว้ ทาสีขาวเอาไว้ ฝ่ ายใดดึงใหส้ ีขาวของอกี ฝ่ ายหนึ่งมาถึง จดุ เร่ิมตน้ การแข่งขนั จะเป็ นผชู้ นะ (ตรงจุดสแี ดงของเชอื กตีเสน้ เป็ นจุดเร่ิมตน้ ไวท้ ี่ สนาม ) 3. ตาแหนง่ ทผ่ี เู้ ลน่ ใชม้ ือจบั เชอื ก ตอ้ งหา่ งจากจุดสีขาวอย่าง นอ้ ย 1 เมตร ดงั นน้ั ตรงจุดทห่ี ่างจากสขี าว 1 เมตร จะตอ้ งทาเครื่องหมายสีนา้ เงนิ เอาไวใ้ หเ้ ห็นชดั เจน ใครจะจบั ตรงจดุ ไหนก็ไดแ้ ตต่ อ้ งไมใ่ กลจ้ ดุ สขี าวนอ้ ยกวา่ 1 เมตร วิธีเล่น แบง่ ผเู้ ลน่ เป็ นสองฝ่ ายฝ่ ายละก่ีคนก็ได้ ตามแต่จะตกลงกนั เมอื่ แบง่ พวกได้ แลว้ ก็ขดี เสน้ แบง่ แดน หวั แถว(ถา้ เป็ นชายเรียกพอ่ หลกั ถา้ เป็ นหญิงเรียกแม่หลกั ) ของทง้ั สองฝ่ ายเหยียดแขนจบั ไมย้ ึดแนวขนานกบั มอื ทงั้ สองมือ ไมจ้ ะนอนขนานกบั เสน้ แบง่ แดน ลูกนอ้ งของแต่ละฝ่ ายเกาะเอวหวั แถวเรยี งต่อๆกนั เริม่ เล่นต่างฝ่ าย พยายามดึงใหฝ้ ่ ายตรงขา้ มหลุดลา้ เขา้ มาในแดนตน ฝ่ ายใดหลุดลา้ ถอื เป็ นฝ่ ายแพ้ เมอื่ แพท้ งั้ สองฝ่ ายก็จะเร่ิมตน้ เล่นเพลงระบากนั พอจบก็เรมิ่ ชกั เยอ่ กนั ใหม่ คณุ ค่ำ/แนวคดิ /สำระ ในอดีตกิจกรรมทส่ี ามารถเป็ นสื่อชกั นาใหห้ นุม่ สาวไดม้ าพบกนั ก็คือ งานบุญ และการละเล่นหลงั ทาบุญการเลน่ ชกั เย่อก็เชน่ กนั ทาใหห้ นุ่มสาวไดพ้ บหนา้ เก้ยี วพา ราสแี ละสนุกสนานดว้ ยกนั แตป่ ัจจุบนั คนหนุ่มสาวมโี อกาสพบกนั โดยไม่มีขอ้ จากดั

15 16 การละเลน่ พ้ืนบา้ น ภาคเหนือ

17 18 การเลน่ มา้ จกคอก ภาคกลางเรียก ลาวกระทบไม้ อปุ กรณแ์ ละวิธีเล่น จานวนผเู้ ลน่ ตง้ั แต่ 3 คนข้นึ ไป อปุ กรณ์ 1. ไมก้ ลมขนาดการอบ ยาวประมาณ 5 ศอก จานวน 2 ทอ่ น 2. ขอนไมส้ งู ประมาณ 1 คบื ยาวประมาณ 1-2 ศอก จานวน 2 ทอ่ น สถำนที่เล่น เลน่ บริเวณทเ่ี ป็ นลานกวา้ ง วิธีกำรเล่น 1. แบง่ ผเู้ ลน่ ออกเป็ น 2 ฝ่ าย ฝ่ ายแรกมี 2 คน สาหรบั ถือทอ่ นไมท้ วี่ างขนาน บนขอนไม้ แลว้ กระทบกนั เป็ นจงั หวะ ส่วนฝ่ ายที่ 2 มี 2 คนข้นึ ไป สาหรบั เป็ นผเู้ ตน้ 2. ใหผ้ เู้ ล่นเขา้ ไปอยู่ระหวา่ งคาน ผถู้ อื ไมค้ านทง้ั ค่กู ็ทาสญั ญาณ โดยยกคาน ไมท้ งั้ ค่กู ระแทกลงบนไมห้ มอน ระหวา่ งทเ่ี คาะจงั หวะอยู่นน้ั ผเู้ ล่นตอ้ งเตน้ ไปดว้ ย เม่ือ ใหส้ ญั ญาณเคาะ 3 ครงั้ แลว้ ครง้ั ที่ 4 ผถู้ อื จะเอาคานทง้ั สองเขา้ ชดิ กนั ผเู้ ตน้ จะตอ้ ง กระโดดใหส้ งู กวา่ ครงั้ แรกของจงั หวะและแยกขาออกใหพ้ น้ ไม้ ถา้ ถกู หนบี เรียกวา่ มา้ ขาคอก หรอื มา้ ตดิ คอก ค่ทู ถี่ กู ไมห้ นีบจะตอ้ งออกไปเปล่ยี นใหผ้ ทู้ ถ่ี อื คานอย่เู ดมิ นนั้ เขา้ มาเตน้ ในระหวา่ งคานนนั้ บา้ ง โอกำสหรอื เวลำท่เี ล่น การเล่นมา้ จกคอกนยิ มเลน่ ในวนั ข้นึ ปีใหม่ (สงกรานต)์ ของลา้ นนา สำระ การเล่นมา้ จกคอก เป็ นการละเลน่ เพอื่ ใหค้ วามสนุกสนาน เพลดิ เพลิน ทาใหเ้ กิด ความสามคั คภี ายในกลุ่มและความมีมนุษยสมั พนั ธท์ ด่ี ีต่อกนั

19 20 อุปกรณแ์ ละวิธีเล่น การป่ันหนงั วอ้ ง คอื การปั่นยางวงท่ีใชร้ ดั ของ เป็นการเลน่ ของ เดก็ ผหู้ ญงิ และเด็กผชู้ ายเลน่ โดยการจบั คเู่ ลน่ บนพ้นื ราบท่ีไมส่ กปรก เชน่ พ้ืน เรอื น หรือบนโตะ๊ อปุ กรณท์ ่ีใชค้ อื ยางรดั ของจานวนมากนอ้ ยเทา่ ท่ีหาได้ กตกิ าการเลน่ มีอยูว่ า่ หากผเู้ ลน่ ฝ่ ายใดสามารถคลายยางรดั ของออกจากกนั เป็นเสน้ ปกตไิ ด้ ก็จะไดย้ างรดั นนั้ เป็นกรรมสทิ ธิ์ วิธีเลน่ เรมิ่ จากการนายางรดั ของมาคนละเสน้ ประกบกนั แลว้ ใหฝ้ ่ ายหนึ่งใชส้ น้ มือถูยางรดั ของท่ปี ระกบกนั นน้ั โดยแรงใหย้ างรดั ทงั้ สองเสน้ บิดตวั พนั กนั จน แน่น แลว้ ใหอ้ กี ฝ่ ายหน่ึงพยายามแกะใหค้ ลายออกจากกนั ถา้ ทาไดส้ าเรจ็ จะ ไดย้ างรดั ของไปเป็นของตน ถา้ ทาไมส่ าเรจ็ จะตอ้ งใหอ้ กี ฝ่ ายหน่ึงทาแทน ผลดั กนั เชน่ น้ีไปจนกวา่ จะมีผูท้ าสาเร็จ เมื่อเสรจ็ แลว้ ก็เร่ิมตน้ ใหมไ่ ปเรื่อย โอกำสหรอื เวลำทเี่ ลน่ เป็นการละเลน่ ท่ีใชเ้ ลน่ ในยามวา่ ง คุณคำ่ / แนวคดิ / สำระ การเลน่ ปั่นหนงั วอ้ ง เลน่ ไดท้ งั้ เดก็ ผชู้ ายและเด็กผูห้ ญิง พอ่ แม่ สามารถใหล้ กู เลน่ ในบา้ นและคอยสงั เกตพฤติกรรม นิสยั ใจคอของลกู หาก พบความผดิ ปกตจิ ะแกไ้ ขไดท้ นั ทว่ งทีนอกจากน้ียงั เป็นการเก็บรกั ษายางรดั ของไวใ้ ชใ้ นโอกาสตอ่ ไปอกี ทางหน่ึงดว้ ย

21 22 สถำนที่เล่น ลานกวา้ ง ทโ่ี ล่งแจง้ จานวนผูเ้ ล่น 6 – 20 คน วิธีเลน่ ขีดเสน้ เป็นตารางจานวนเทา่ กบั ผเู้ ล่น (สมมติวา่ มี 6 คน) แลว้ แบ่งผูเ้ ลน่ ออกเป็น 2 ฝ่ าย ฝ่ ายหนึ่งยืนประจาเสน้ (ตามขวาง) อีกฝ่ ายจะ วง่ิ ผา่ นแตล่ ะเสน้ ไปโดยไมใ่ หเ้ จา้ ของเสน้ แตะได้ เม่อื เริ่มเลน่ คนทยี่ ืน ประจาเสน้ แรก พูดวา่ ไหล หรอื หล่ิน ฝ่ ายตรงขา้ มก็เรม่ิ วง่ิ ผ่านเสน้ แรก ไปจนถงึ เสน้ สดุ ทา้ ยแลว้ วงิ่ กลบั ถา้ วงิ่ กลบั ถึงเสน้ แรกโดยไมถ่ กู ฝ่ ายตรง ขา้ มแตะไดก้ ็พูดวา่ เตย ก็จะเป็นฝ่ ายชนะ โอกำส เป็นการละเล่นพ้ืนบา้ นทเี่ ดก็ ๆ เลน่ กนั โดยทวั่ ไป

23 24 อปุ กรณ์ โกง๋ เกง๋ ทาจากไมไ้ ผ่ ทอ่ นปลายของไมร้ วก หรอื ไมซ้ าง ตดั ใหส้ งู ประมาณ 2 - 2.5 เมตร ใชม้ ดี ตดั เจาะก่ิงไผท่ เี่ ป็นปมอยขู่ อ้ ตาไผ่ ออกใหห้ มด แตต่ อ้ งเหลือไวต้ รงขอ้ แรกของไมไ้ ผ่ใหเ้ ป็นปมอยู่ เหลาขอ้ อน่ื ๆ ใหเ้ รยี บเพอ่ื สะดวกในการจบั ถือ หาปลอ้ งไมไ้ ผท่ ใ่ี หญ่ กวา่ 2 ทอ่ นแรก ตดั ใหเ้ หลอื ขอ้ ปลอ้ งไวด้ า้ นหน่ึงยาวประมาณ 15 - 30 เซนตเิ มตร จานวน 2 ทอ่ น เจาะรู 2 ดา้ น เสรจ็ แลว้ นาไปสวม เขา้ กบั ไม้ 2 ทอ่ นแรก โดยใหไ้ มท้ ส่ี วมนน้ั ไปคา้ งตดิ อยกู่ บั ขอ้ ตาไผ่ที่ เหลือไว้ แลว้ ใชผ้ า้ พนั ตรงไม้ 2 ทอ่ นประกบกนั ใหแ้ น่น วิธีกำรเลน่ ใชม้ อื ถือไมโ้ กง๋ เกง๋ ตง้ั ข้นึ ใหต้ รง แลว้ คอ่ ยกา้ วเทา้ ใดเทา้ หนึ่ง ข้นึ เหยยี บบนไมโ้ กง๋ เกง๋ ซงึ่ สว่ นใหญจ่ ะใชเ้ ทา้ ซา้ ยข้ึนกอ่ น แลว้ กา้ ว เทา้ ขวาตามตง้ั ตวั ใหส้ มดุลแลว้ คอ่ ย ๆ กา้ วเทา้ ใดเทา้ หน่ึงออกไป ถา้ ลม้ ก็ข้นึ ใหมเ่ ดนิ ใหม่จนครบ

25 26 สถำนท่ีเล่น สนาม ลานกวา้ ง อปุ กรณ์ ผา้ ปิดตา จำนวนผูเ้ ลน่ ไม่จากดั จานวน วิธีเล่น ยงิ ฉุบกนั วา่ ใครจะเป็นผแู้ พต้ อ้ งปิดตาเป็นโพงพางตาบอด ผู้ เล่นคนอน่ื ๆ จบั มอื เป็นวงกลมรอ้ งเพลง โพงพางเอย๋ โพงพางตา บอด รอดเขา้ รอดออก โพงพางตาบอดปล่อยลกู ชา้ งเขา้ ในวง ขณะ เดนิ วนรอบ ๆ โพงพางตาบอดรอ้ งเพลง 1-3 จบ แลว้ นง่ั ลง โพงพางจะเดนิ มาคลาคนอนื่ ๆ ซง่ึ ตอ้ งพยายามหนี และจะตอ้ งเงียบ สนิท หากโพงพางจาเสยี งหวั เราะ รปู ลกั ษณะไดจ้ ะเรยี กชอ่ื ถา้ เรยี ก คนถกู ตอ้ งออกมาปิดตาเป็นโพงพางตอ่ ไป ถา้ ไมถ่ กู ก็ตอ้ งเป็น โพงพางอกี ไปเรอื่ ย ๆ กตกิ ำ ใครถกู จบั ได้ และบอกชอื่ ถูกตอ้ งเป็นโพงพางแทน โอกำส เป็นการละเล่นพ้นื บา้ นทเี่ ด็ก ๆ เลน่ กนั โดยทว่ั ไป

27 28 การละเลน่ พ้ืนบา้ น ภาคใต้

29 30 อุปกรณแ์ ละวิธีเล่น ฉบั โผง เป็นวตั ถุประดษิ ฐท์ ่ีเดก็ กระบ่ีในสมยั ก่อนนิยมเล่นกนั วธิ ีการ ประดษิ ฐน์ าไมไ้ ผข่ นาดเลก็ มาตดั ใหเ้ หลอื ๑ ปลอ้ งมีรูกลวงตรงกลางตลอดลา (ยาวประมาณ ๑ คบื ) เรียกสว่ นน้ีวา่ \"บอกฉบั โผง\"จากนนั้ นาไมไ้ ผ่ความยาว ประมาณ ๑.๕ คบื มาเกลาใหก้ ลม ขนาดพอที่จะกระทงุ้ เขา้ ไปในกระบอกไมไ้ ผ่ที่ เตรียมไวไ้ ด้ พรอ้ มทง้ั ใชไ้ มไ้ ผข่ นาดเท่ากระบอกฉบั โผงความยาวประมาณ ๐.๕ คบื สวมโคนไมไ้ ผส่ ่วนทยี่ าวเกินกระบอก ช้นิ สว่ นน้ีเรยี กวา่ \"ดา้ มจบั \" วธิ กี ารเลน่ นาลกู พลา (ผลไมป้ ่ ามีลกั ษณะผลเป็ นชอ่ คลา้ ยมะเขือพวงแต่ลกู เล็ก กวา่ ) อดั เขา้ ไปในกระบอกฉบั โผง แลว้ มอื ขา้ งหน่ึงถอื กระบอกมือขา้ งหนึ่งถือดา้ ม จบั สอดปลายดา้ มจบั กระทงุ้ ไปดา้ นหนา้ แรงๆใหแ้ รงอดั ดนั ลูกพลาพุ่งออกไปนอก กระบอก โอกำสและเวลำที่เล่น การเล่นฉบั โผงไมจ่ ากดั โอกาสและเวลาท่เี ลน่ สามารถใชเ้ ลน่ ยิงกนั แทนปืน หรอื ยงิ วตั ถุทเี่ ป็นเป้ าไดท้ ุกโอกาส คุณค่ำและแนวคดิ การเล่นฉบั โผงสว่ นใหญแ่ ลว้ นิยมเล่นกนั เป็ นกล่มุ ๆก่อใหเ้ กิดความสามคั คใี น หม่คู ณะฝึกความแม่นยาและฝึกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตากบั มือและเป็นการฝึ กให้ เดก็ ๆไดน้ าวสั ดจุ ากธรรมชาตมิ าประดษิ ฐเ์ ป็นของเล่น

31 32 อุปกรณ์ หลกั จานวน 4 ตน้ จำนวนผูเ้ ล่น 5 คนข้นึ ไป วิธีกำรเล่น หมาชงิ มมุ หรือ หมาชงิ เสา เป็นการเลน่ ของเดก็ มวี ธิ เี ล่นคลา้ ยลิงชงิ หลกั คอื มีผเู้ ล่น 5 คน และมีหลกั ปักไว้ 4 ตน้ หรืออาจเขียนเครอื่ งหมายบนพ้ืน 4 ทิศ ใหอ้ ยหู่ า่ งกนั เป็นรูปส่เี หลยี่ มจตั รุ สั แตเ่ พ่ือความสะดวกอาจใชเ้ สาศาลาพกั รอ้ น หรอื เสาของอาคารท่ีไม่มสี ิง่ กีดขวาง ก็ได้ ก่อนเริม่ เลน่ จะตอ้ งมีการเสย่ี งทายหาผู้ เล่นเป็น \"หมา\" เร่มิ เลน่ โดยการใหค้ นท่เี ป็ น \"หมา\" ยืนอย่ตู รงกลางของพ้ืนท่ี 4 เหล่ยี ม แลว้ คน อื่น ๆ ก็เปล่ียนทก่ี นั ยนื โดยการวงิ่ จากมมุ เดมิ ไปอยมู่ ุมอ่ืน (มุมไหนกไ็ ด)้ เป็น การแลกเปลี่ยนมุมกนั ผทู้ เ่ี ลน่ เป็นหมาจะตอ้ งแยง่ มุมใดมุมหน่ึงซง่ึ ยงั ไม่มีใคร ครอบครอง หากผทู้ ี่เลน่ เป็นหมาแยง่ ได้ ผทู้ ไี่ ม่มหี ลกั ครอบครองกจ็ ะตอ้ งเลน่ เป็นหมาแทน แตเ่ ม่อื ผูเ้ ลน่ สามารถเปลี่ยนมุมไดค้ นละ 5 หรอื 7 ครงั้ แลว้ แตจ่ ะ ตกลงกนั ถา้ หมาไมส่ ามารถชงิ มมุ ได้ ผเู้ ล่นทง้ั 4 คน ก็จะชว่ ยกนั หามหมาไปท้งิ (ส่ง) ณ ทใ่ี ดทีห่ น่ึงซงึ่ หา่ งจากสถานที่เลน่ พอสมควร ซง่ึ ในขณะที่หามอยู่นนั้ ทกุ คนจะตอ้ งชว่ ยกนั รอ้ งเสยี งหมาท่มี ีอาการเจบ็ ปวดไดด้ ว้ ย เมอ่ื ไดท้ ่แี ลว้ ทุกคน (ทงั้ 5 คน) ก็จะตอ้ งวงิ่ กลบั ไปชงิ มมุ ที่ทาเอาไว้ หากใครชงิ ไม่ไดก้ ็ตอ้ งเลน่ เป็น หมาตอ่ ไป เล่นอยา่ งน้ีไปเรอ่ื ย ๆ จนเลิก

33 34 อปุ กรณใ์ นกำรเล่นมีดงั น้ี (ใชอ้ ย่างหนึ่งอย่างใด) 1. ยางเสน้ 2. เมล็ดมะมว่ งหมิ พานต์ 3. เมลด็ สวาด 4. เมลด็ สวด 5. ลกู นู (กอ้ นดนิ กลม) วิธีกำรเล่น 1. เมือ่ สญั ญาณการเลน่ เริม่ ข้ึนทกุ คนจะกอบหรือกาของที่อยู่ตรงหนา้ นน้ั โดยไม่ใหค้ นอ่ืนเหน็ วา่ มีจานวนเทา่ ใด 2. ใหท้ ายท่คี นวา่ ของในมอื ของทุกคนเมือ่ รวมกนั แลว้ มจี านวนเท่าใด 3. เม่ือทายเสรจ็ ทุกคนแบมอื ออกและนบั ของในมอื ของทุกคน ใครทายถกู ไดเ้ ป็นกรรมสทิ ธิ์ในของนน้ั ถา้ ทายถูกหลายคนใชว้ ธิ หี ารแบ่งกนั ถา้ มเี ศษใหร้ วม ไวเ้ ป็นกองกลาง เพื่อเป็นเล่นหนตอ่ ไป โอกำสหรอื เวลำท่เี ล่น กาทาย เป็นการเล่นอย่างหน่ึงของเดก็ เลน่ ไดท้ ง้ั ชายและหญิงเป็ นการ เล่นในรม่ โดยมีผเู้ ล่น ๒-๕ คน นง่ั ลอ้ มวงกนั แลว้ แตล่ ะคนเอาของชนิดเดยี วกนั วางกองไวต้ รงหนา้ แนวคดิ จำกกำรละเล่นกำทำย การเลน่ กาทาย เป็นการละเล่นท่ีฝึ กทกั ษะในการคานวณ และการสงั เกต

35 36 อปุ กรณ์ 1. ยางวง (ยางเสน้ ) วงใหญ่ หรือวงเล็กก็ได้ แลว้ แตค่ วามชอบและความถนดั 2. ผเู้ ลน่ จานวนตงั้ แต่ 2 คน หรือมากกวา่ เล่นทงั้ เดก็ ชายและเดก็ หญิงบางครงั้ อาจ เล่นเป็นทมี ก็ได้ 3. สถานที่ เชน่ พ้ืนซเี มนต์ พ้นื กระดาน หรอื พ้นื โตะ๊ วิธีกำรเล่น เป่ ากบเป็นการเลน่ อยา่ งหนง่ึ ของเด็ก เล่นกนั ทงั้ เด็กชายและหญงิ ผเู้ ล่นมีจานวน 2 คน หรือเป็นทมี ก็ได้ สถานทเี่ ลน่ ในทร่ี ม่ ใชพ้ ้นื ทเ่ี รียบ ๆ เชน่ พ้ืนซเี มนต์ พ้นื กระดาน หรอื พ้ืนโตะ๊ ซง่ึ ผเู้ ล่นจะเอายางเสน้ (ยางวง) จะเป็นวงเล็กหรือวงใหญ่ หรืออาจจะเป็นวงสตี า่ ง ๆ อยทู่ คี่ วามชอบ ไดแ้ ก่ สเี ขยี ว สแี ดง สนี า้ ตาล เป็นตน้ นามาวางบนพ้ืนคนละ 1 เสน้ ใหอ้ ยู่ หา่ งกนั ประมาณ 1 ฟตุ ผเู้ ลน่ จะผลดั กนั เป่ ายางเสน้ (ยางวง) ของตนไปขา้ งหนา้ ทลี ะนอ้ ย ๆ จนยางเสน้ ทง้ั สองมาอยู่ใกลก้ นั ผเู้ ลน่ คนใดเป่ าใหย้ างเสน้ ของตนไปทบั ยางเสน้ ของฝ่ ายตรง ขา้ มไดก้ ็จะเป็นผชู้ นะ ฝ่ ายแพจ้ ะตอ้ งจา่ ยรางวลั ใหก้ บั ผชู้ นะ ซงึ่ สว่ นใหญจ่ ะเป็นยางเสน้ (ยาง วง) แตอ่ าจใหร้ างวลั อนื่ ๆ ก็ไดต้ ามแตจ่ ะตกลงกนั โอกำสหรือเวลำท่ีเล่น การเล่นเป่ ากบของเด็ก สว่ นใหญเ่ ลน่ กนั ในเวลาทว่ี า่ ง และมีอุปกรณพ์ รอ้ มทจ่ี ะเล่น กนั ทงั้ สองฝ่ าย คณุ ค่ำ / แนวคิด/ สำระ 1. การเล่นเป่ ากบ เป็นการเลน่ ทใ่ี หค้ วามสนุกสนานแลว้ ยงั เป็นการฝึก การรกู้ าหนด จงั หวะและกะระยะดว้ ย 2. การเล่นเป่ ากบเป็นการฝึกสงั เกต ไหวพริบในการเป่ าของคตู่ อ่ สู้ ซง่ึ จะเป็นวธิ หี น่งึ ทจ่ี ะทาใหเ้ ด็กรจู้ กั คดิ ใหร้ อบคอบก่อนทจ่ี ะเป่ า ถา้ เป่ าโดยไมค่ ดิ อาจจะผดิ พลาดได้ จนทาให้ ตอ้ งแพ้ 3. เป็นการฝึกใหเ้ ดก็ รจู้ กั ความรกั ความสามคั คี

37 38 อุปกรณแ์ ละวธิ ีกำรเลน่ เป็ นการเลน่ ทห่ี ดั ใหผ้ ูเ้ ลน่ ใชก้ าลงั แขน กาลงั ขา เป็ นคนตาไว และคลอ่ งแคล่ว เครอื่ งใชใ้ นการเล่น คอื เชอื กเสน้ หนึ่งขนาดโตเทา่ ปลายน้ิวกอ้ ยยาววาศอกถา้ กระโดดมากคนดว้ ยกนั ตอ้ งยาวประมาณ 4-5วา วิธีเลน่ 1. สาหรบั ผูเ้ ล่นคนเดยี ว ใหผ้ ูเ้ ล่นถอื เชอื กดว้ ยมือทงั้ สองขา้ ง งอศอกเล็กนอ้ ยใหก้ ลางเชอื กหอ้ ย อยขู่ า้ งหลงั แลว้ แกวง่ เชอื กใหเ้ รว็ ข้นึ ทกุ ที จนแทบแลไม่เหน็ เสน้ เชอื กจึงจะสนุก 2. วธิ นี ้ีตอ้ งใชเ้ ชอื กใหย้ าวสกั หน่อย ใหผ้ เู้ ล่นสองคนจบั ปลายเชอื กดว้ ยมอื ทงั้ สอง เชอื กจะแกวง่ ลง พ้ืนขา้ งหนึ่ง และข้นึ อกี ขา้ งหน่ึงผเู้ ลน่ นอกนน้ั ยนื อยู่หา่ งๆ ทางดา้ นทเ่ี ชอื กลงพ้นื พอเห็นเชอื กแกวง่ ดแี ลว้ ก็ ใหค้ นวง่ิ เขา้ ไป ระวงั อย่าใหต้ ดิ เชอื ก และยืนระหวา่ งกลางคนแกวง่ เชอื กทง้ั สอง คอยกระโดดข้ึนเมอื่ เชอื ก ฟาดลงพ้ืนเพื่อใหเ้ ชอื กลอดไป ตอ้ งหมายตาคอยดูใหด้ ี พอกระโดดไดส้ กั สบิ ครง้ั ก็วง่ิ ออกไปอกี ดา้ นหนง่ึ แลว้ คนท่ีสองจงึ วงิ่ ไปกระโดดบา้ ง ใหผ้ ูเ้ ลน่ วงิ่ ทยอยเขา้ ไปกระโดด เชน่ น้ีจนครบผูเ้ ล่นทุกคนจะตอ้ งผลดั กนั แกวง่ เชอื ก และตอ้ งแกวง่ ใหด้ ี คอื ใหเ้ ชอื กตกลงเฉยี ดพ้ืนพอดี และเวลาเชอื กแกวง่ ข้นึ ก็ใหข้ า้ มศรี ษะ คนกระโดดไปได้ อย่าใหฟ้ าดถูกตวั เขา้ ผูเ้ ล่นตอ้ งฝึกหดั แกวง่ เชอื กใหเ้ ป็ นเสยี ก่อนทกุ คน และใหผ้ ูเ้ ลน่ ผลดั กนั แกวง่ ในเวลาเลน่ เพื่อมใิ หค้ นแกวง่ ประจาอยจู่ นเม่ือยแขนเกินไป เมอื่ กระโดดไดช้ านาญแลว้ จงึ เปลย่ี นวธิ ีเลน่ ใหย้ าวข้นึ ดงั น้ี 1. ใหผ้ ูเ้ ลน่ วง่ิ ไปทางเชอื กท่ีแกวง่ ข้นึ 2. ใหย้ นื เทา้ เดียวเวลากระโดด จะเปลย่ี นเทา้ บา้ งก็ไดแ้ ต่ตอ้ งระวงั มิใหเ้ ทา้ ถงึ พ้นื ดนิ พรอ้ มกนั ทง้ั สองขา้ ง 3. แกวง่ เชอื กอย่าใหถ้ งึ พ้ืน กะดใู หส้ งู กวา่ พ้ืนหนึ่งคบื เพื่อใหผ้ ูก้ ระโดด กระโดดสูงข้นึ และกระโดด ไดย้ ากเขา้ 4. แกวง่ เชอื กตามธรรมดา และใหผ้ ูเ้ ลน่ วง่ิ เขา้ ไปกระโดดพรอ้ มๆ กนั ราวครงั้ ละ 10 คน นอกจากน้ี ยงั มกี ารดดั แปลงเป็นการกระโดดเชอื กถอื เชอื กในระดบั ที่แตกตา่ งกนั ไป เพื่อใหผ้ ูเ้ ล่นเขา้ ตามท่กี าหนดทา่ ต่างๆ ไว้ โอกำสหรือเวลำที่เลน่ เล่นไดท้ กุ โอกาสไม่จากดั เวลา คุณค่ำ/แนวคดิ /สำระ เป็ นการฝึกกลา้ มเน้ือและความวอ่ งไว

39 40 การละเลน่ พ้ืนบา้ น ภาคอสี าน

41 42 อปุ กรณ์ และวธิ ีเล่น การเล่นงกู นิ หางไมม่ อี ปุ กรณก์ ารเลน่ ใด ๆ สามารถเลน่ ไดท้ กุ โอกาสจะมเี ล่นทง้ั เด็กและผใู้ หญ่ สว่ นมากผใู้ หญจ่ ะเลน่ ในเทศกาลสาคญั เชน่ สงกรานต์ สว่ นเดก็ ๆ จะเล่นทกุ โอกาสทเ่ี ดก็ ๆ รวมกนั ซงึ่ มีวธิ กี ารเลน่ ดงั น้ี เร่ิมเลน่ เมอื่ ผูเ้ ล่นพรอ้ มกนั แลว้ จะเร่ิมดว้ ยการเสย่ี งถา้ ใครแพค้ นนนั้ ก็จะออกเป็ น พ่องู สว่ นผชู้ นะก็จะไดเ้ ลน่ เป็นแมง่ ูและลูกงู สว่ นมากในกลุ่มผเู้ ล่นจะเลือกเอาคนทม่ี รี า่ งกายแข็งแรง หรอื รูปรา่ งใหญใ่ นทมี เป็ นแมง่ ู เพ่ือเอาไวป้ ้ องกนั ลูกงู เม่ือไดผ้ เู้ ลน่ แลว้ พอ่ งแู ละแมง่ ูจะยนื หนั หนา้ เขา้ หากนั สว่ นแมง่ จู ะมีลูกงกู อดเอวตอ่ แถวไปขา้ งหลงั แลว้ พ่องจู ะเรมิ่ ถามแมง่ ูวา่ พอ่ งู “แมง่ เู อย๋ กนิ นา้ บ่อไหน” แมง่ ู “กินนา้ บ่อโสกโยกไปโยกมา” พรอ้ มแสดงอาการสา่ ยตวั ไปมา พอ่ งู “แมง่ ูเอย๋ กนิ นา้ บอ่ ไหน” แมง่ ู “กินนา้ บ่อหินบินไปบินมา” พรอ้ มแสดงอาการบินไปบินมา พ่องู “แมง่ ูเอย๋ กนิ นา้ บอ่ ไหน” แมง่ ู “กินนา้ บ่อทรายยา้ ยไปยา้ ยมา” พรอ้ มแสดงอาการสา่ ยตวั ไปมา พ่องู “กนิ หวั กนิ หางกนิ กลางตลอดตวั ” เม่ือ พ่องูกล่าวเสรจ็ พ่องจู ะเรมิ่ ไล่จบั ลูกงทู กี่ อดเอวแมง่ อู ยสู่ ว่ นแมง่ ูก็จะ พยายามป้ องกนั ไมใ่ หพ้ ่องไู ป แยง่ ลูกงูได้ เมื่อพอ่ งจู บั ลูกงูคนใดไดล้ ูกงูก็จะออกมายนื อยูต่ า่ งหากเพ่ือรอเลน่ รอบตอ่ ไป สว่ นพอ่ งูจะ พยายามแยง่ ลูกงูใหไ้ ดห้ มดทกุ ตวั จึงจะถือวา่ จบการเล่นรอบหนงึ่ เมอ่ื พอ่ งจู บั ลูกงูไดท้ กุ ตวั แลว้ ก็จะ เรม่ิ เล่นใหม่ โดยพอ่ งคู นเดิมจะกลบั ไปเป็ นแมง่ ูในรอบตอ่ ไป คุณค่ำ/แนวคิด/สำระ 1. ใหค้ วามสนุกสนานในกลุ่มผเู้ ล่น 2. ฝึ กใหเ้ กิดความสามคั คีในกลุ่มผเู้ ล่น 3. ฝึ กฝนการตอ่ สแู้ ละการหลบหลีกภยั ทจี่ ะเกดิ กบั ตน 4. ฝึ กการทางานเป็ นกลุ่มตงั้ แตว่ ยั เด็ก ประโยชนข์ องกำรเลน่ งกู นิ หำง กค็ ือ ทาใหผ้ เู้ ล่นเกดิ ความสามคั คี ทางานเป็ นกลุ่ม รูจ้ กั ชว่ ยเหลือกนั และรูจ้ กั การตอ่ สูเ้ พื่อเอาตวั รอด เมอื่ ภยั มาถึงตวั นอกจากน้ียงั ฝึ กรา่ งกายใหแ้ ข็งแรง และจติ ใจเบิก บานสนุกสนานไปดว้ ย

43 44 วิธีเล่น ผูเ้ ลน่ ยนื บนกะลา ใชน้ ้ิวหวั แมเ่ ทา้ กบั น้ิวช้ีคบี เชอื กทกี่ น้ กะลา ไวท้ ง้ั 2 เทา้ แลว้ เอามอื ดงึ เชอื กใหต้ งึ เมอ่ื ไดส้ ญั ญาณ ทกุ คนจะรบี เดนิ ไปใหถ้ ึงเสน้ ชยั ใครถึงก่อนถือวา่ เป็นผชู้ นะ แต่ถา้ ระหวา่ งทเ่ี ดนิ ไปคนใดเทา้ ตกจากกะลาไปถูกพ้ืนก็เป็นผูแ้ พ้ อปุ กรณ์ กะลาครงึ่ ซกี เจาะรูทก่ี น้ กะลา แลว้ เอาเชอื กยาวประมาณ 2 เมตร รอ้ ยทร่ี กู ะลาเป็นคๆู่ ปลายเชอื ก 2 ขา้ ง ผูกปมไวใ้ นกะลาเพ่ือ ไมใ่ หห้ ลุด ประโยชนแ์ ละคณุ ค่ำ 1.ชว่ ยใหเ้ ดก็ ๆไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 2.ชว่ ยใหเ้ พลิดเพลินสนุกสนานในการละเล่น 3.เป็นการนาวสั ดุจากธรรมชาตมิ าใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์

45 46 อุปกรณแ์ ละวิธีกำรเลน่ ไมก้ ระดาน 2 แผน่ ยาวประมาณ 1 วาเศษ พรอ้ มเชอื กทจี่ ะ ใชร้ ดั หลงั เทา้ ตดิ กบั ไม้ วิธีกำรเลน่ ผูเ้ ล่นแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ละ 2-5 คน โดยจะรดั เทา้ ทง้ั 2 ขา้ ง ไวก้ บั กระดาน 2 แผ่น มือจบั เอวหรอื จบั ไหลข่ องผทู้ อ่ี ยขู่ า้ งหนา้ อาศยั ความพรอ้ มเพรยี งจะยกเทา้ ซา้ ยพรอ้ ม ๆ กนั ดนั ไมก้ ระดาน ไปขา้ งหนา้ กลุม่ ใดถึงเสน้ ชยั กอ่ นถือวา่ ชนะ โอกำสหรือเวลำที่เลน่ สว่ นใหญจ่ ะเล่นในเทศกาลสงกรานต์ คุณค่ำ / แนวคดิ / สำระ นอกจากจะเป็นการออกกาลงั ขาแลว้ ยงั สรา้ งความสามคั คใี น หม่คู ณะ สรา้ งความสนุกสนาน การแข่งเรอื บกจะเลน่ กนั ในพ้ืนท่ี ๆ ไม่มแี ม่นา้ ไหลผา่ น

47 48 วสั ดุอปุ กรณ์ กา้ นกลว้ ย , มีด , ไมก้ ลดั , เชอื ก หรอื เชอื กฟางก็ไดแ้ ลว้ แตเ่ ราสะดวกในการหา วิธีทำมำ้ กำ้ นกลว้ ย - ตวั มา้ ตดั กา้ นกลว้ ยขนาดใหญ่มาหนงึ่ กา้ น ใหม้ ีความยาวประมาณ1 เมตร ข้นึ ไป ใชม้ ดี คมเลาะใบกลว้ ยถึงปลาย เอาส่วนกลางกา้ นกลว้ ยมาทาเป็ นลาตวั - หางมา้ ปลายกา้ นกลว้ ยใหเ้ หลอื สว่ นทเ่ี ป็ นใบตองไวเ้ ล็กนอ้ ยเพื่อสมมุตใิ ห้ เป็ นหางมา้ - หวั มา้ กา้ นกลว้ ยตรงโคนทมี่ ีขนาดใหญ่ ใหใ้ ชม้ ีดปาดทง้ั สองดา้ น ความยาว ประมาณ 10 เซนตเิ มตร - คอมา้ หกั คอใหเ้ ป็ นคอมา้ มหี ูสองขา้ งตงั้ ชนั แลว้ ใชไ้ มก้ ลดั แทงตรงกา้ นหวั ใหแ้ นน่ เพื่อเป็ นหวั มา้ - บงั เหียนตดั เชอื ก ใหม้ ีความยาวพอประมาณ ผกู ตรงหวั และตรงทา้ ยสาหรบั สะพายหรือไวค้ ลอ้ งไหล่ผเู้ ลน่ วิธีกำรเล่น ใหน้ ากา้ นกลว้ ยทเ่ี ปลยี่ นสภาพมาเป็ นกา้ นกลว้ ยโดยสมบูรณแ์ ลว้ ข้ึนข่บี นกา้ น กลว้ ยแลว้ ออก วง่ิ จากนน้ั ส่งเสยี งรอ้ ง ฮ้ฮี ้ี แตถ่ า้ มผี เู้ ล่น 2 คนข้นึ ไป ก็สามารถ จดั เป็ นการแข่งขนั ข้ึนได้ โดยฝ่ ายไหนวงิ่ เร็วทสี่ ุดก็จะเป็ นผชู้ นะ ประโยชนแ์ ละคุณค่ำกำรเล่นมำ้ กำ้ นกลว้ ย 1. การทาทา่ เหมอื นมา้ ทาใหเ้ ด็กมีจินตนาการ และ กลา้ แสดงออก 2. เป็ นการออกกาลงั กายอยา่ งดสี าหรบั เด็กในวยั นน้ั 3. รกั ษาประเพณีพ้ืนบา้ นของไทย

49 50 วิธีเลน่ ใชผ้ ลไมห้ รอื อะไรก็ได้ สมมตุ ิวา่ เป็นไข่ และเขียนวงกลมลงบนพ้ืน เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 4 ฟตุ 1 วง และอกี วงหน่ึงอยใู่ นวงแรก ขนาด เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 1 ฟตุ วางทง้ั หมดไวใ้ นวงกลมเลก็ ใหค้ นใดคนหน่ึงเป็น กา ยนื ในวงกลมวงใหญ่ หรอื นง่ั ครอ่ มวงกลมเล็ก นอกนน้ั ทกุ คนยนื รอบ นอกวงกลมวงใหญค่ อยแยง่ ไข่ คนเป็นกา มีหนา้ ทป่ี ้ องกนั ไข่ โดยมกี ติกา การเล่น ดงั น้ี 1. ผูม้ หี นา้ ท่ีหยบิ ไข่ เขา้ ไปในวงกลมไมไ่ ด้ 2. ผูม้ หี นา้ ท่หี ยิบไข่ ตอ้ งระวงั มิใหอ้ ีกาตถี ูกมือ หรือแขนของตน ซงึ่ ล่วงลา้ เขา้ ไปในวงกลมได้ 3. ถา้ แยง่ ไขไ่ ปจากอีกาไดห้ มดแลว้ ใหป้ ิดตากาแลว้ เอาไข่ไปซอ่ น ใหอ้ ีกาตามหาไข่ ถา้ พบไขท่ ผ่ี ูเ้ ลน่ คนใดเป็นคนซอ่ น ผูน้ นั้ ตอ้ งเปลย่ี นมา เป็ นกาแทน อปุ กรณ์ กอ้ นหินหรือผลไมเ้ ทา่ จานวนคนเลน่ ยกเวน้ คนที่เป็นกา 1 คน ประโยชนแ์ ละคณุ ค่ำ เพ่ือใหเ้ กิดความสนุกสนานและความเพลดิ เพลิน

51 52 บรรณำนุกรม ผูจ้ ดั ทำ https://bit.ly/3b9zRYu นางสาวอารียา บินซาอิ๊ด https://bit.ly/2J78imN รหสั นิสิต 6110601853 https://bit.ly/398TPRR 01179232 การผลิตสือ่ อิเล็กทรอนิกสเ์ พ่ือการศึกษา http://www.openbase.in.th/node/8049 https://bit.ly/2WzdKXC https://www.youtube.com/watch?v=GbdUVq ly_M0&t=57s


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook