1 | ห น า
อาหารหลกั 5 หมู (Basic 5 food groups) อาหารทค่ี นไทยกินมีหลากหลาย อาหารแตละชนดิ จะมีสารอาหารในปรมิ าณมากนอยแตกตางกนั ไป นักโภชนาการจงึ แบง อาหารออกเปน 5 หมตู ามคณุ คาสารอาหารที่มอี ยใู นอาหารนั้นๆโดยจาํ แนกอาหารชนดิ ท่มี ีองคประกอบของสารอาหารในลกั ษณะเชนเดียวกันไวใ นอาหารหมูเดียวกันเพอ่ื ใหเราสามารถเลอื กบริโภคไดอ ยางถูกตอ ง พรอ มทั้งเสนอแนะปรมิ าณของอาหารในหมูอ าหารนน้ัสําหรบั เด็ก ผใู หญ ควรจะบรโิ ภคใน 1 วนั อาหารหลัก 5 หมู มดี ังนี้ • หมทู ่ี 1 เน้อื สัตวตาง ๆ เชน หมู วัว เปด ไก รวมถึงเคร่ืองในสตั ว ไข นม ถ่ัว เมล็ดแหง เชน ถ่ัวเหลืองและผลิตภัณฑ จากถว่ั เหลือง ไดแก เตาหู เตาเจย้ี ว นม ถั่วเหลือง อาหารหมนู จ้ี ะใหส ารอาหารท่ี สาํ คญั คือ โปรตีน จงึ มหี นา ท่ใี นการ เสริมสรางและซอมแซมรา งกาย หมูท่ี 2 ขา ว แปง นํ้าตาล กวยเตี๋ยว ขนมจนี ขนมปง เผือก มัน อาหารหมูนี้จะให สารอาหาร คารโ บไฮเดรตเปน สวนใหญ จึงมี ประโยชนในการใหกาํ ลงั งานและความอบอุน แกรา งกาย หมทู ่ี 3 ผักใบเขียว และพืชผักอืน่ ๆ เชน ผกั บุง ผกั ตําลึง มะเขือเทศ ฟกทอง แตงกวา อาหารหมนู ้ีจะมสี ารอาหารพวกเกลอื แร วิตามิน และนํ้าเปนสวนใหญ จงึ ทําหนาท่ี ควบคุมการทาํ งานของรางกายใหป กติ และ ยังมีใยอาหารชว ยปอ งกันทองผูกอีกดว ย 2 | ห น า
หมทู ี่ 4 ผลไมต าง ๆ เชน สม กลว ยมะละกอ มะมวง เงาะ อาหารหมนู ้ีจะใหสารอาหารพวก เกลือแร วิตามินและนํ้ารวมทง้ั ใยอาหารดว ย จงึ มีหนาท่ีเชนเดียวกับอาหารหมูที่ 3 คอื ควบคมุ การทํางานของรา งกายใหปกติหมทู ี่ 5 ไขมนั จากพืชและสัตว เชน น้ํามันถั่ว น้ํามันมะพราว น้ํามันหมู เนย ครมีอาหารหมูน ี้จะใหส ารอาหารไขมนั เปนสว นใหญ จงึ ใหกําลงั งานสูง และใหค วามอบอนุแกรา งกาย 3 | ห น า
โภชนบญั ญตั ิขอ ปฏิบตั กิ ารกนิ อาหารเพอ่ื สุขภาพทดี่ ีของคนไทย(Food Based Dietary Guidelines For Thai)เปน แนวทางการปฏบิ ัติสาํ หรบั คนไทยในการกินอาหารท่ีจัดทําขนึ้ โดยกระทรวงสาธารณสุขและหนว ยงานทีเ่ กีย่ วขอ งดานอาหารและโภชนาการเม่ือปพ .ศ. 2541 โดยมจี ุดมงุ หมายเพื่อปรบัพฤติกรรมการกินอาหารของคนไทยใหอยูในปริมาณที่พอดี อันจะนําไปสูการปองกันไมใ หเกดิภาวะการขาดสารอาหาร และภาวะโภชนาการเกิน ตลอดจนพษิ ภัยจากอาหาร มีชอ่ื เรียกวา “ขอปฏบิ ตั ิการกนิ อาหารเพือ่ สขุ ภาพทีด่ ขี องคนไทย” หรือเรยี กสน้ั ๆ วา “โภชนบญั ญตั ิ 9 ประการ”ซง่ึ มสี าระสําคญั ดงั นี้1. กินอาหารครบ 5 หมู แตล ะหมใู หหลากหลายและหม่ันดูแลนํา้ หนักตัว2. กนิ ขาวเปนอาหารหลัก สลบั กบั อาหารประเภทแปง เปน บางมอ้ื3. กินพืชผักใหม ากและกินผลไมเ ปนประจํา4. กินปลา เนอ้ื สตั วไมติดมนั ไข และถว่ั เมล็ดแหงเปน ประจํา5. ดื่มนมใหเ หมาะสมตามวัย6. กนิ อาหารท่มี ไี ขมนั แตพ อควร7. หลกี เลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัด และเคม็ จัด8. กินอาหารท่สี ะอาด ปราศจากการปนเปอ น9. งดหรือลดเครือ่ งด่มื ที่มแี อลกอฮอล1) กินอาหารครบ 5 หมู แตละหมใู หกลากหลายและหมนั่ ดแู ลน้ําหนักตัว 4 | ห น า
เนอ่ื งจากรางกายเราตองการสารอาหารตาง ๆ ท่ีมอี ยใู นอาหาร ไดแ ก โปรตนีคารโบไฮเดรต ไขมนั แรธาตุ วิตามิน รวมทัง้ น้ํา และใยอาหาร แตไ มมีอาหารชนิดใดชนิดเดียวท่ใี หสารอาหารตา ง ๆ ครบในปริมาณทร่ี างกายตองการ จึงจําเปนตองกินอาหารใหค รบ 5 หมู และกินแตล ะหมใู หหลากหลายจงึ จะไดสารอาหารตา ง ๆ ครบถว น และเพียงพอ“นํา้ หนักตัว” เปน เคร่อื งบง ชี้ทบี่ อกถึงสุขภาพของเราจึงควรหมัน่ ดูแล การท่ีจะประเมินวาน้ําหนักตัวอยใู นเกณฑป กติหรือไมทาํ ไดหลายวิธี แตวิธีที่งา ยและดีทส่ี ุดคอืในเดก็ ใชค าน้าํ หนักตามเกณฑอายุ หรอื คานํ้าหนักตามเกณฑส วนสูงเปรียบเทยี บกบั เกณฑอ างอิงในผใู หญ ใชดัชนีมวลกาย ซงึ่ คํานวณโดยใชสูตรดชั นีมวลกาย = นา้ํ หนกั (กโิ ลกรัม) สว นสงู 2 (เมตร)แปลผลโดย นอยกวา 18.5 กโิ ลกรัม/ตารางเมตร ผอมหรอื นํ้าหนกั ต่ํากวา เกณฑระหวาง 18.5-24.9 กโิ ลกรัม/ตารางเมตร ปกติระหวาง 25-29.9 กิโลกรัม/ตารางเมตร นํา้ หนักเกนิตั้งแต 30 กโิ ลกรมั /ตารางเมตร ขนึ้ ไป โรคอว น2) กนิ ขา วเปนอาหารหลกั สลบั กบั อาหารประเภทแปงเปนบางม้อื ขา วเปนอาหารหลักของคนไทย เปน แหลง อาหารสําคัญทใ่ี หพลงั งาน มีสารอาหารคารโบไฮเดรต โปรตีน วิตามนิ แรธาตุ และใยอาหาร โดยเฉพาะขาวกลองหรือขาวซอ มมือ ซง่ึ เปนขาวทขี่ ัดสีแตนอย ถอื วา เปนขา วทีม่ ปี ระโยชนม ากกวาขาวที่ขัดสีจนขาว ผลิตภณั ฑจ ากขา วและธัญญพืชอ่นื ๆ มมี ากมาย สามารถกนิ สลับกับขาวได เชน กว ยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปง เผอื ก และมนัเปน ตน ควรคํานงึ ถงึ ปรมิ าณท่ีกินในแตล ะวนั เพราะถารางกายไดรับเกินความตอ งการแลวจะถูกเปล่ยี นเปนไขมนั เกบ็ ไวตามสวนตางๆของรางกาย ทาํ ใหเกดิ โรคอวนได3) กินพืชผกั ใหมาก และกินผลไมเ ปนประจํา พืชผักและผลไม เปนแหลง สาํ คัญของวิตามนิ และแรธ าตุ รวมท้ังสารอืน่ ๆ เชนใยอาหาร ที่ชว ยในการขบั ถาย และนําโคเลสเตอรอลและสารพิษท่ีกอโรคมะเร็งบางชนดิ ออกจากรางกาย ทาํ ใหลดการสะสมสารเหลานี้ จงึ ควรกินพชื ผักทุกมื้อใหหลากหลายสลับกันไป สวนผลไมควรกินเปน ประจําสมาํ่ เสมอโดยเฉพาะหลงั กนิ อาหารแตละมื้อ และกนิ เปน อาหารวาง และควรกินพืชผกั ผลไมตามฤดูกาล 5 | ห น า
4) กินปลา เนือ้ สัตวไมต ิดมนั ไขแ ละถ่วั เมล็ดแหง เปน ประจาํ ปลา เนือ้ สัตวไ มต ิดมนั ไขและถว่ั เมลด็ แหงเปน แหลง โปรตนี ทีด่ ี - ปลา เปนแหลง อาหารโปรตนี ที่ดี ยอยงา ย มไี ขมันตํ่า หากกินปลาแทนเนอ้ื สัตวเปน ประจํา จะชว ยลดปรมิ าณไขมันในเลอื ด นอกจากนีใ้ นเนอ้ื ปลายงั มฟี อสฟอรัสสงู และถา กินปลาเล็กปลานอย กจ็ ะไดแคลเซียมดวย อกี ทงั้ ในปลาทะเลทุกชนิดยังมสี ารไอโอดีนอกี ดว ย จึงชว ยปอ งกันการขาดสารไอโอดีนได - เนอ้ื สตั วทกุ ชนิด มโี ปรตนี แตค วรกนิ ชนิดไมต ิดมนั เพ่ือลดการสะสมไขมนั ในรางกาย - ไข เปนอาหารอกี ชนิดหนง่ึ ที่มโี ปรตนี สงู และราคาถกู หาซอ้ื งาย เดก็ สามารถกินไดทุก วนั วันละฟอง สวนผใู หญควรกินไมเกนิ สัปดาหละ 2-3 ฟอง และควรกนิ ไขท ี่ปรุงใหสกุ - ถัว่ เมลด็ แหงและผลติ ภณั ฑ เปน แหลง อาหารโปรตนี ท่ีดี ราคาถกู และมีหลากหลาย ชนดิ ไดแก ถ่ัวเหลือง ถ่ัวเขยี ว ถวั่ ดํา ถว่ั แดง ถว่ั ลิสง เปน ตน ผลิตภัณฑจากถ่ัวเมล็ดแหง เชน เตาหู เตาเจ้ยี ว น้ํานมถั่วเหลือง หรือน้าํ เตา หู และอาหารที่ทําจากถ่ัว เชน ถั่วกวน ถวั่ ตัด ขนมไสถ ่ัวตางๆ ควรกินสลบั กับเน้ือสัตวเ ปน ประจาํ5) ดม่ื นมใหเหมาะสมตามวัย นมเปน แหลง แรธาตุทสี่ ําคัญคือ แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึง่ สําคัญตอการเจริญเติบโตและเสรมิ สรางความแขง็ แรงใหกระดูกและฟน นอกจากน้ียังเปน แหลงของโปรตีน และวติ ามินโดยเฉพาะวิตามินบี2 จึงเปนอาหารท่เี หมาะสมกบั บคุ คลทกุ วยั หญิงตง้ั ครรภ เด็กวยั เรยี น วัยรนุ ผูใ หญ และผสู ูงอายุควรด่ืมนมวันละ 1-2 แกว6) กนิ อาหารทีม่ ไี ขมันแตพอควร ไขมันเปนสารอาหารทจี่ ําเปนตอสุขภาพ ใหพลังงานและความอบอุน แกรางกาย ใหกรดไขมันจาํ เปน ตอ รา งกาย และยังชวยดดู ซมึ วติ ามินทีล่ ะลายในไขมนั ไดแก วติ ามนิ เอ ดี อี และ เค แตไมควรกินมากเกนิ ไปจะทาํ ใหอว น และเกิดโรคอ่นื ๆ ตามมา การไดรับไขมันอิ่มตัวจากสตั วแ ละอาหารทม่ี ีโคเลสเตอรอลมากเกินไปจะทําใหระดับโคเลสเตอรอลในเลอื ดสูง และเส่ียงตอการเปน โรคหัวใจ จงึควรจํากัดปรมิ าณไขมันอิม่ ตัวและโคเลสเตอรอล และควรกินอาหารประเภท ตม นง่ึ ยา ง อบ จะชว ยลดปริมาณไขมนั ในอาหารได7) หลีกเลีย่ งการกินอาหารรสหวานจดั และเคม็ จัด การกินอาหารรสจัดมากจนเปน นสิ ยั ใหโ ทษแกรางกาย รสหวานไดมาจากอาหารท้งั คาวและหวานท่ีกินประจําวัน รวมทั้งท่แี ฝงมากบั อาหารฟุมเฟอยอ่นื ๆ เชน น้าํ หวาน นํา้ อัดลม ลกู อม เยลล่ีรวมท้ังการใชนํ้าตาลเตมิ น้ําชา กาแฟ โอวลั ติน ทําใหไดพ ลงั งานเพิ่มขน้ึ นอกเหนือจากท่ไี ดจ ากอาหารในแตละมอ้ื การกินอาหารรสหวานจัดเปน ประจํา มแี นวโนมทําใหอวนได จึงควรจาํ กัดพลงั งานทไ่ี ดจากนํ้าตาลในแตละวันไมเ กินรอ ยละ 10 ของพลงั งานที่ไดร ับจากอาหารท้งั หมด และไมควรกนิ น้าํ ตาลเกนิ วนั ละ 40-55 กรมั หรอื มากกวา 4 ชอนโตะตอวัน สว นรสเค็มรสไดมาจากเกลือโซเดยี มหรอื เกลือแกงนั่นเอง ซงึ่ เปน สารตัวหลักท่ใี หค วามเคม็ ในเคร่ืองปรงุ ตางๆ ท้ังน้ําปลา ซอี ิ๊ว ซอสถ่วั เหลือง เตาเจ้ียว และยังใชใ นการถนอมอาหารประเภทหมกั 6 | ห น า
ดอง เชน ผกั ดอง ปลารา ปลาเคม็ ไขเค็ม เปน ตน นอกจากน้เี กลือโซเดียมยงั แฝงมากบั อาหารอ่ืนอีกเชนขนมอบตางๆ ขนมขบเค้ียว และผงชูรส การกินอาหารรสเค็มจัดท่ไี ดจากเกลือโซเดยี มมากกวา 6กรัมตอวัน หรือมากกวา 1 ชอ นชาข้ึนไปจะมโี อกาสเสย่ี งตอภาวะความดันโลหิตสงู8) กนิ อาหารท่ีสะอาดปราศจากการปนเปอ น อาหารปนเปอนไดจากหลายสาเหตุ คือจากเชอ้ื โรคและพยาธติ างๆ สารเคมีที่เปนพิษหรอืสารปนเปอ นหรอื โลหะหนกั ท่ีเปน อันตราย ท้ังนเ้ี กิดจากกระบวนการผลิต ปรงุ ประกอบ และจาํ หนายอาหารทไี่ มถูกสุขลักษณะ เปน สาเหตุของอาหารเปน พษิ และเกดิ การเจ็บปวยได ดังนนั้ จึงควรเลือกกินอาหารทส่ี ะอาด ปรงุ สุกใหม ๆ มีการปกปดปอ งกันเช้อื โรคแมลงวนั และบรรจุในภาชนะท่ีสะอาด มีอุปกรณหยบิ จับท่ีถูกตอง ประการสําคัญคอื ตองมสี ขุ นิสัยท่ีดใี นการกินอาหาร ลา งมือใหสะอาดกอนกนิ อาหาร และหลังจากใชสว ม ใชช อ นกลางเมอื่ กนิ รวมกันหลายคน เปนตน9) งดหรือลดเคร่ืองดืม่ ท่มี แี อลกอฮอล การดื่มเครือ่ งดื่มที่มีแอลกอฮอลเปนประจาํ เปน โทษแกร างกายทําใหสมรรถภาพการทาํ งานลดลง ขาดสติทาํ ใหเกิดอุบัติเหตุไดงา ย สูญเสียทรัพยสนิ เงินทอง ตลอดจนชวี ติ เส่ียงตอ การเปนโรคตับแข็ง แผลในกระเพาะอาหารและลาํ ไส มะเรง็ หลอดอาหารและโรคขาดสารอาหาร จงึ ควรงดหรอื ลดเคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล และไมขบั ขย่ี านพาหนะในขณะมึนเมา จากขอปฏบิ ัติการกินอาหารเพ่อื สุขภาพที่ดขี องคนไทยทัง้ 9 ขอ ขางตน เราสามารถประเมนิตนเองแบบงายๆ ซง่ึ จะเปนเคร่ืองชี้วัดเพ่ือปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมการกินใหมีความถกู ตองเหมาะสมย่ิงขึน้ โดยใชแ บบประเมนิ ดังน้ี 7 | ห น า
แบบประเมินตนเองในเรื่อง “ขอ ปฏบิ ัตกิ ารกนิ อาหารเพอ่ื สขุ ภาพท่ดี ีของคนไทย” ขอใหทําเครอื่ งหมาย X ลงในชอ งท่ีทานไดป ฏบิ ตั เิ ปน สว นใหญในการกนิ อาหารที่ผา นๆมา พฤตกิ รรมการกนิ อาหาร ความถีก่ ารปฏบิ ัติ และพฤตกิ รรมทเี่ กี่ยวขอ ง ประจาํ ครง้ั คราว ไมเ คยเลย1. กินอาหารครบ 5 หมู2. กินอาหารหลากหลาย ไมซ ้ําซาก3. กนิ ขา วซอ มมอื4. กินผลไม5. กนิ ปลา6. กนิ เน้อื สัตวไมต ดิ มนั7. ดื่มนม8. กินอาหารทีป่ รุงสุกใหม9. ลางมอื ทกุ ครัง้ กอนกนิ อาหาร10. ชงั่ น้ําหนกั วดั สว นสูง11. ออกกาํ ลังกาย12. ตรวจสขุ ภาพอยา งนอ ยปละ 1 ครงั้13. นอนหลบั พักผอนใหเ พียงพอ14. กนิ ผัก15. กินอาหารท่มี นี าํ้ มนั และไขมัน16. กินอาหารประเภททอดและผดั17. กนิ อาหารท่มี รี สหวาน18. ดมื่ น้าํ อดั ลม19. เติมนาํ้ ตาลทุกครงั้ ที่กินอาหาร20. กินอาหารรสเคม็21. เติมนํา้ ปลาหรอื เกลอื ทุกครง้ั ที่กนิ อาหาร22. กนิ อาหารทีใ่ สสีผดิ ธรรมชาติ23. ด่ืมสุรา เบยี รและเครือ่ งดื่มทีม่ แี อลกอฮอล24. มนึ เมาในขณะที่ขบั ข่ียานพาหนะ25. มีความเครียด26. สูบบหุ รี่สรุปผลการประเมนิ ภายหลงั ทาํ แบบประเมนิ แลว ขอใหทานสรุปพฤตกิ รรมการกินอาหารตามความถีด่ ังนี้1. พฤติกรรมการกนิ อาหารตามขอ 1-14 เปนพฤติกรรมท่ดี ี และเหมาะสม ถา ทานมีความถขี่ องการปฏิบัติ ……… เปนประจาํ ขอใหท านจงปฏิบตั ติ อไป……… เปน คร้ังคราว ขอใหท านจงพยายามปฏิบตั ิเปน ประจาํ……… ไมเ คยเลย ขอใหท า นพิจารณาถงึ สาเหตุทไี่ มไดป ฏบิ ัติ แลว ใชความพยายามคอยๆปฏบิ ตั เิ ปน ครง้ั คราวและปฏิบตั เิ ปน ประจํา2. พฤติกรรมการกนิ อาหารตามขอ 15-26 เปนพฤตกิ รรมท่ีจะตองปรับปรุง ถา ทานมคี วามถข่ี องการปฏิบตั ิ……… เปน ประจาํ ขอใหท า นพิจารณาถึงสาเหตุท่ปี ฏิบตั เิ ปน ประจาํ แลว ใชความพยายามคอ ยๆเปลี่ยน มาปฏบิ ัติเปน ครั้งคราวหรอื ไมปฏิบตั เิ ลยจะเปนประโยชนต อ สขุ ภาพ……… เปน ครั้งคราว ขอใหทานปฏบิ ตั ติ อ ไป แตถาปรับเปนไมป ฏบิ ัติเลยก็จะเปน ประโยชนตอสขุ ภาพ……… ไมป ฏบิ ตั ิเลย ขอใหทา นจงปฏบิ ตั ติ อ ไป 8 | ห น า
ธงโภชนาการ (Nutrition Flag) จากโภชนบญั ญัติขางตน จะเห็นไดว า มีขอ จํากัดในการใช เน่ืองจากเปนการแนะนาํ เพียงแนวทางการกินอาหารตาม 9 ขอ แตไ มไดบอกวาจะกนิ อาหารในปรมิ าณและสัดสวนเทาไรจึงจะเพียงพอดงั นน้ั จงึ ไดม ีการพฒั นาจากโภชนบัญญัตมิ าเปน ภาพจําลองของธง เรียกวา “ธงโภชนาการ” ธงโภชนาการคอื เครอ่ื งมือท่ชี วยอธิบายและทําความเขา ใจโภชนบัญญัติ 9 ประการ เพ่ือนําไปสูการปฏิบัติ โดยกําหนดภาพเปน “ธงปลายแหลม” แสดงกลุมอาหารและสัดสว นการกินอาหารในแตละกลุม ฐานใหญด านบนเนนใหก ินมาก และปลายธงขางลางเนน ใหกนิ นอย ธงโภชนาการจะบอกชนิดและปรมิ าณของอาหารทคี่ นไทยควรบรโิ ภคใน 1 วัน โดยสามารถอธบิ ายไดดงั น้ี - กินอาหารใหครบ 5 หมู - กลมุ อาหารที่บรโิ ภคจากมากไปนอ ย แสดงดว ยพื้นท่ีในภาพ - อาหารที่หลากหลายชนิดในแตล ะกลุมสามารถเลือกกินสลับเปลยี่ นหมนุ เวียนกันไดภ ายใน กลมุ เดยี วกนั ทัง้ กลมุ ผัก กลมุ ผลไมและกลมุ เนื้อสัตว สาํ หรับกลมุ ขา ว-แปง ใหกนิ ขาว เปน หลัก อาจสลับกับผลิตภัณฑท ีท่ ําจากแปงเปนบางมือ้ - ปริมาณอาหาร บอกจํานวนเปน หนว ยครัวเรือน เชน ทัพพี ชอนกินขาว แกว และผลไม กําหนดเปน สวน - ชนดิ ของอาหารท่ีควรบรโิ ภคปรมิ าณนอ ยๆ เทาที่จาํ เปน คือ นา้ํ มัน น้ําตาล เกลอื 9 | ห น า
ความหมายของสัดสว นของธงโภชนาการ การจัดกลุม อาหารของธงโภชนาการมีขอ แตกตางไปจากอาหารหลัก 5 หมู ไดแ ก กลมุ ขาว-แปง กลมุ ผกั กลุมผลไม กลุมเนอื้ สตั ว กลมุ นม และกลุมไขมัน นํ้าตาลและเกลือ โดยแยกกลมุ นมออกจากกลุม เนื้อสตั ว เพอ่ื ใหค วามสําคญั ของอาหารท่ีเปนแหลงแคลเซียม และจัดรวมกลมุ ไขมนั รวมไวกับน้ําตาลและเกลือ รวมเปน กลุม ที่แนะนําใหกินนอย อาหารทุกกลุมมีความสําคญั และรา งกายตองการปริมาณของอาหารแตล ะกลุมไมเ ทากนั โดยจัดอยูใ น 4 ระดับของพนื้ ที่ธง ระดบั ที่ 1 กลุมขา ว-แปง กินปริมาณมากท่ีสดุ ใหสารอาหารหลักคือคารโบไฮเดรต เปน แหลงพลังงานหลกั และควรเลือกชนิดทข่ี ัดสนี อ ย เชน ขาวกลอง ระดบั ท่ี 2 กลุมผักและกลุมผลไม กนิ ปริมาณมากรองลงมา เพือ่ ใหไ ดวิตามิน แรธาตุและ ใยอาหาร ระดับที่ 3 กลุม เนอ้ื สัตว ถว่ั ไข และกลมุ นม กินปรมิ าณพอเหมาะ เพื่อใหไ ดโ ปรตีนคณุ ภาพดี เหลก็ และแคลเซียม ระดบั ที่ 4 กลมุ นํ้ามนั นํ้าตาล เกลอื กนิ แตน อย เทา ทจี่ ําเปน การกินอาหารในแตละกลุมอาหารควรกนิ ใหหลากหลาย หมายความวา กนิ อาหารหลายๆชนดิ ในแตละกลุม หมนุ เวยี นกนั ไป ไมกนิ ซํา้ จําเจเพยี งชนิดใดชนิดหนึ่ง เพื่อใหไดสารอาหารตางๆครบถวน และเพือ่ หลีกเลยี่ งการสะสมพษิ ภัยจากการปนเปอ นในอาหารชนิดใดชนดิ หนึง่ ท่ีกนิ เปนประจํา เราตองกินอาหารแตละกลมุ ในปรมิ าณเทาไร ธงโภชนาการบอกชนิดและปริมาณของอาหารทค่ี นไทยควรกินใน 1 วนั สาํ หรับเดก็ ต้ังแต 6 ปขน้ึ ไปถงึ ผใู หญและผูสงู อายุ โดยแบงตามการใชพลังงานเปน 3 ระดับ คอื 1600, 2000 และ 2400 กโิ ลแคลอรี ดังแสดงในตารางที่ 3 10 | ห น า
ตารางท่ี 3 ปริมาณอาหารท่เี หมาะสมในระดบั พลังงานตา งๆ กลุม อาหาร หนวยครัวเรอื น พลังงาน (กิโลแคลอรี) 1600 2000 2400ขา ว-แปง ทพั พี 8 10 12ผกั ทพั พี 4 (6) 5 6ผลไม สวน 3 (4) 4 5เนอ้ื สัตว ชอ นกินขาว 6 9 12นม แกว 2 (1) 1 1นาํ้ มัน นํ้าตาล และเกลือ ชอนชา ใชแตน อ ยเทาทจี่ ําเปนหมายเหตุ เลขใน ( ) คอื ปรมิ าณท่ีแนะนาํ สําหรบั ผูใหญ1600 กิโลแคลอรี สาํ หรบั เดก็ อายุ 6-13 ป หญงิ วัยทาํ งานอายุ 25-60 ป ผูส ูงอายุ 60 ปขึ้นไป2000 กิโลแคลอรี สาํ หรับ วยั รุน หญงิ -ชายอายุ 14-25 ป วัยทาํ งานอายุ 25-60 ป2400 กโิ ลแคลอรี สําหรับ หญิง-ชาย ทใี่ ชพ ลังงานมากๆ เชน เกษตรกร ผใู ชแรงงาน นกั กีฬา การประเมินตนเองตามขอแนะนําของธงโภชนาการ ผูบริโภคสามารถเติมขอ มลู ลงในชอ งตามปริมาณอาหารท่บี รโิ ภคในแตล ะคร้ัง ทําใหส ามารถตรวจนบั ปรมิ าณอาหารแตละกลุมไดวา ในหน่งึ วัน บริโภคมากนอ ยแคไหน เพยี งพอหรอื ไม ปรมิ าณอาหารที่บอกไวเ ปน ชวง เชน ขาว 8-12ทพั พี ใหเ ลือกปฏบิ ตั โิ ดยอาศยั หลักงายๆวา ผใู หญก ินมากกวาเด็ก ผชู ายกนิ มากกวาผูหญงิ ผใู ชแรงงานมาก ออกกําลังกาย หรือเลนกฬี า กินมากกวา คนปกติ เปน ตนใน 1 วนั ทานกินอาหารในกลุม ตางๆ มากนอยเพียงใดขาว-แปง 8-12 ทัพพีผัก 4-6 ทพั พีผลไม 3-5 สวนเนอื้ สัตว ไข 6-12 ชอ นกินขา วนม 1-2 แกว 11 | ห น า
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: