Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรรณพษา สงสัย

พรรณพษา สงสัย

Published by Guset User, 2021-12-12 14:15:23

Description: พรรณพษา สงสัย

Search

Read the Text Version

ใบงาน การปฏิบัติวชิ าชพี ครูระหวา่ งเรยี น 2 นางสาวพรรณพษา สงสยั รหัสนักศึกษา 6312106011 คณะครุศาสตร์ สาขาคณติ ศาสตร์ ฝกึ ที่โรงเรียนไกรในวิทยาคม รชั มังคลาภิเษก อำเภอกงไกรลาศ จงั หวัดสุโขทยั อาจารย์นิเทศ รองศาสตราจารย์ ดร.ภัคพล ปรชี าศิลป์

ก คำนำ รายงานเล่มน้ีเป็นสว่ นหนงึ่ ของการฝกึ ปฏบิ ัตวิ ิชาชีพครูระหวา่ งเรยี น 2 การลงฝกึ ปฏบิ ัตขิ อง คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พบิ ูลสงคราม โดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือศึกษาหลักสูตรโครงสรา้ งของสถานศึกษา คำอธบิ ายรายวชิ า การเขยี นแผนการสอน และขน้ั ตอนการสอน การประกนั คณุ ภาพทีส่ อดคล้องกบั สถานศกึ ษา การวิเคราะห์แนวทางในการพัฒนาตนเอง และโครงการสง่ เสริม อนรุ กั ษ์วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นของสถานศกึ ษา โดยทผ่ี ู้จัดทำหวงั วา่ รายงานเล่มนจ้ี ะชว่ ยเปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั วิ ิชพี หรอื หรือเป็นคำแนะนำสำหรับ นักศึกษาครูหลาย ๆ ท่าน พรรณพษา สงสยั ผจู้ ดั ทำ

ข สารบญั เร่อื ง หน้า คำนำ ก สารบญั ข ข้อมูลท่ัวไป 4 ใบงานที่ 1 การวิเคราะห์หลกั สตู รสถานศกึ ษา 5 แผนการสอน 12 ใบงานที่ 2 การประกนั คุณภาพการศึกษาที่สอดคลอ้ งกบั สถานศึกษา 37 ใบงานท่ี 3 การวเิ คราะหแ์ นวทางในการพัฒนาตนเอง 42 ใบงานท่ี 4 แบบรายงานโครงการส่งเสริม อนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ของสถานศึกษา 45 ภาคผนวก 52

ขอ้ มลู ทว่ั ไปของนกั ศึกษา ชอ่ื -สกุล นางสาวพรรณพษา สงสยั รหสั ประจำตัวนกั ศึกษา 6312106011 ว.ด.ป.เกิด 4 สงิ หาคม 2544 อายุ 20 ปี ภมู ลิ ำเนาของนักศึกษา บา้ นเลขท่ี 180 หมู่ 11 ถนน - ตำบล ไกรใน อำเภอ กงไกรลาศ จงั หวดั สโุ ขทยั รหสั ไปรษณยี ์ 64170 สังเกตการณ์ ณ โรงเรียนไกรในวิทยาคม รชั มังคลาภเิ ษก ที่อยู่โรงเรียน หมู่ที่ 3 ตำบล ไกรใน อำเภอ กงไกรลาศ จงั หวดั สโุ ขทัย รหสั ไปรษณีย์ 64170 นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์ (ชุดสงั เกตการณ์ ปี 63) ท่ีรว่ มสงั เกตการณ์ในสถานศึกษาเดียวกนั 1.นางสาวเกศริน บุญรอด สาขาวิชาคณติ ศาสตร์ 2.นางสาวสนุ ษิ า อยศู่ รี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป

ใบงานที่ 1 การวเิ คราะห์หลกั สตู รสถานศึกษา วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ใหน้ ักศึกษามีความรู้ความเขา้ ใจในการวิเคราะห์หลักสตู ร ตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ทต่ี รงกบั วชิ าเอกของตน 2. เพื่อให้นกั ศึกษาสามารถฝกึ ปฏิบัตวิ เิ คราะห์หลกั สตู รได้ตามขนั้ ตอน 3. เพื่อให้นกั ศึกษาสามารถเขยี นแผนการจดั การเรยี นรูต้ ามกลุ่มสาระที่ตรงกับวชิ าเอกได้ อยา่ งเหมาะสม 4. เพื่อให้นักศึกษาสามารถฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานการณ์ในชั้นเรียนจรงิ ได้ ขอบขา่ ยของงาน 1. ใหน้ ักศึกษาศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระที่ตรงกับวิชาเอกของตนแลว้ ทำการวเิ คราะห์หลกั สตู รตามขั้ นตอนที่กำหนดให้ 2. เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหนว่ ยการเรยี นรู้ 3. วางแผนการจดั การเรยี นรู้ทีจ่ ะนำไปทดลองปฏบิ ตั ิการสอนในชั้นเรยี น 4. ทดลองปฏิบัติการจดั การเรียนรู้ ผ้เู กี่ยวขอ้ ง/แหล่งข้อมูล 1. ครูนเิ ทศก์ / ครพู ีเ่ ล้ยี ง 2. เอกสารหลักสูตรสถานศกึ ษาตามกลมุ่ สาระ 3. เอกสารหลกั สตู ร / เอกสารประกอบหลกั สูตร 4. แผนการจดั การเรยี นรู้

การวิเคราะหห์ ลักสตู รกลมุ่ สาระ หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ชื่อสถานศึกษาโรงเรยี นไกรในวิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก อำเภอกงไกรลาศ จงั หวัดสโุ ขทัย ***************************************************************************************** ข้นั ที่ 1การวิเคราะห์ความสมั พันธ์ระหวา่ งมาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระกับตวั ชี้วัดช้ันปี/ตัวช้ีวัด รายภาค มาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระ ตวั ชว้ี ดั ช้ันปี / ตัวชี้วดั รายภาค ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ๑. เข้าใจและใชห้ ลักการบวกและการคูณ การเรยี งสับเปลยี่ น มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนับเบ้อื งต้น และการจัดหมู่ ในการแกป้ ัญหา ความน่าจะเป็น และนำไปใช้ ๒. หาความนา่ จะเป็นและนำความรู้เกยี่ วกบั ความนา่ จะเป็นไปใช้ มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนับเบอื้ งตน้ ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้

ขนั้ ท่ี 2 การวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างสาระการเรยี นรชู้ ว่ งช้นั กับสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตัวชว้ี ัดช้ันปี / รายภาค สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ค ๓.๒ ม.๔/๑ เขา้ ใจและใช้หลักการ บวกและการคูณ การเรียงสบั เปล่ยี น หลกั การนบั เบ้อื งตน้ และการจดั หมู่ ในการแก้ปัญหา - หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ยี นเชงิ เส้นกรณที ่ีสิ่งของแตกตา่ งกัน ค ๓.๒ ม.๔/๒ หาความน่าจะเปน็ และ ทงั้ หมด นำความรู้เก่ยี วกบั ความน่าจะเป็นไปใช้ -การจัดหมกู่ รณีทส่ี ิง่ ของแตกต่างกนั ทง้ั หมด ความนา่ จะเป็น -การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ -ความน่าจะเปน็ ของเหตกุ ารณ์

ขัน้ ท่ี 3 การวเิ คราะห์ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง ตัวชี้วัด กับ ความรู้/ทักษะ/คุณลกั ษณะฯ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ตวั ชว้ี ัด ความรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง คณุ ลกั ษณะฯ ค ๓.๒ ม.๔/๑ เขา้ ใจและ -มคี วามรบั ผดิ ชอบ ใชห้ ลักการบวกและการคูณ -สามารถแกโ้ จทย์ปญั หา ทักษะ / กระบวนการ -มีระเบียบวินัย การเรียงสับเปลี่ยน และการ โดยใชห้ ลักการนบั เบื้องต้น -ใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ ในการทำงาน จัดหมู่ ในการแก้ปญั หา -สามารถแก้โจทยป์ ัญหา -มที กั ษะในการแกป้ ัญหาและให้ โดยใช้แผนภาพต้นไม้อยา่ ง เหตผุ ลได้ -มีความรบั ผิดชอบ ค ๓.๒ ม.๔/๒ หาความ งา่ ยได้ -มีการสื่อสาร ส่อื ความหมายทาง -มรี ะเบยี บวนิ ยั นา่ จะเปน็ และนำความรู้ -ตระหนักถึงความ คณติ ศาสตร์ และการน าเสนอ -ใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ ในการทำงาน เกย่ี วกับความนา่ จะเป็นไปใช้ สมเหตุสมผลของคำตอบ -มีทักษะในการใชส้ มบตั ิของเลข จากการคำนวณและการ ยกกำลังในการประยกุ ตใ์ ช้ได้ แกป้ ญั หาได้ -สามารถใช้และแกป้ ัญหา -มที กั ษะในการแก้ปญั หาและให้ เก่ยี วกับแฟคทอเรยี ลได้ เหตุผลได้ -สามารถแกโ้ จทย์ปญั หา -มีการสื่อสาร สอ่ื ความหมายทาง โดยวิธกี ารเรยี งสบั เปลยี่ น คณิตศาสตร์ และการน าเสนอ ได้ -มที ักษะในการใชส้ มบตั ิของเลข -สามารถแกโ้ จทย์ปัญหา ยกกำลงั ในการประยุกต์ใช้ได้ โดยวธิ ีการจดั หมูไ่ ด้

ขั้นที่ 4 การจัดทำคำอธบิ ายรายวชิ า คำอธบิ ายรายวิชา ค๓๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(พื้นฐาน) ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง ............................... ศกึ ษา หลกั การนบั เบื้องต้น หลักการบวกและการคูณ การเรยี งสับเปลยี่ นเชงิ เส้นกรณีทสี่ งิ่ ของ แตกต่างกันทงั้ หมด การจดั หมู่กรณสี ิง่ ของแตกต่างกันทง้ั หมด ความนา่ จะเป็น การทดลองสมุ่ และเหตุการณ์ ความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ ฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์อันไดแ้ ก่ การแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การสอื่ สาร การส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความร้ตู ่าง ๆทางคณิตศาสตร์ และเชือ่ มโยงคณิตศาสตรก์ บั ศาสตรอ์ น่ื ๆ และมคี วามคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ เหน็ คณุ คา่ และมเี จตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์ มีความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรคส์ ามารถทำงานอย่างเป็นระบบ ระเบยี บ ความรอบคอบ มวี ิจารณญาณ และมคี วามเช่ือมัน่ ในตนเอง ตัวชวี้ ดั ค ๓.๒ ม.๔/๑ ม.๔/๒ รวมทั้งหมด ๒ ตัวช้ีวัด

ขั้นที่ 5 การจัดทำโครงสร้างรายวิชา โครงสรา้ งรายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดับ ❑ ประถมศึกษา ชั้น...................................................เวลา........................................ ✓ มธั ยมศกึ ษา ชัน้ ปีที่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ลำดับ ชอื่ หน่วยการเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก ท่ี รู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 ชอ่ื หน่วย หลกั การนับเบื้องต้น 1.1 ช่อื เรอื่ ง ค ๓.๒ ม.๔/๑ -แผนภาพตน้ ไม้ (Tree .............. .............. หลกั การบวกและ เข้าใจและใชห้ ลกั การบวกและ Diagram) เป็น ... ... หลกั การคูณ การคูณ การเรยี งสับเปลยี่ น เครอื่ งมือท่ีใช้สำหรบั และ แสดงให้เหน็ ถงึ ความ การจดั หม่ใู นการแก้ปัญหา เปน็ ไปได้ของ ผลลัพธ์ ที่จะเกิดขน้ึ ทงั้ หมดใน ลักษณะของรปู ภาพ แทนการเขยี นเซตของ ปรภิ มู ิ -หลกั การนับเบอ้ื งต้น เก่ยี วกบั การนบั จะมี 2 หลักการ ก็คือหลักการ คณู และหลักการบวก 1.2 ช่ือเร่ือง ค ๓.๒ ม.๔/๑ -แฟกทอเรียล คือ ผล .............. .............. การเรียงสบั เปล่ียน เข้าใจและใชห้ ลักการบวกและ คณู ของจำนวนเตม็ ... ... เชงิ เสน้ กรณที ี่ การคูณ การเรยี งสบั เปล่ียน บวกท้งั หมดตงั้ แต่ n สิ่งของแตกต่างกนั และ ลงไป หรือก็คอื ผลคูณ ท้งั หมด การจัดหมใู่ นการแก้ปญั หา ตอ่ เนื่องตง้ั แต่ 1 ไปถงึ n โดยที่ n แทนเลขท่ี เปน็ แฟกทอเรยี ล -การเรียงสับเปลีย่ นเชงิ เส้นกรณที ีส่ ่งิ ของ แตกตา่ งกนั ท้งั หมด 1.3 ชือ่ เรอื่ ง ค ๓.๒ ม.๔/๑ -การจัดหมกู่ รณีส่ิงของ .............. .............. เขา้ ใจและใชห้ ลักการบวกและ แตกตา่ งกนั ทงั้ หมด ... ...

การจดั หมกู่ รณี การคณู การเรยี งสับเปลย่ี น ส่ิงของแตกตา่ งกนั และ ท้ังหมด การจัดหมใู่ นการแก้ปัญหา รวมหน่วยที่ 1 20 30 2 ชอ่ื หน่วย ความน่าจะเปน็ 2.1 ชอ่ื เร่ือง ค ๓.๒ ม.๔/๒ -การทดลองสุ่มและ .............. .............. การทดลองสุ่ม หาความนา่ จะเปน็ และนำ เหตุการณ์ ... ... และเหตุการณ์ ความร้เู กีย่ วกับ ความนา่ จะเป็นไปใช้ 2.2 ชื่อเรือ่ ง ค ๓.๒ ม.๔/๒ -ความน่าจะเปน็ .............. .............. ความนา่ จะเปน็ หาความน่าจะเปน็ และนำ ... ... ความรูเ้ กี่ยวกับ ความน่าจะเป็นไปใช้ รวมหน่วยท่ี 2 18 30 รวมทุกหน่วย 38 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 รวมตลอดปี / ภาค 40 100

ขนั้ ที่ 6 การจัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ชอื่ หนว่ ย หลักการนบั เบ้อื งต้น แผนที่ 1 เร่อื ง แผนภาพตน้ ไมแ้ ละหลักการบวก เวลาสอน……………………………………ชั่วโมง สอนวันท่.ี ...............เดือน.................................พ.ศ................. ชื่อผ้สู อน นางสาวพรรณพษา สงสัย สาขา วิชาคณิตศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคัญ หลักการบวก เป็น หลักการเบอ้ื งตน้ ท่เี กีย่ วกบั การนบั มาตรฐาน มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลกั การนับเบอ้ื งตน้ ความนา่ จะเป็น และนำไปใช้ ตัวชวี้ ดั -เข้าใจและใช้หลักการบวกและการคูณ การเรยี งสับเปล่ยี น และการจดั หมู่ ในการแกป้ ญั หา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 นกั เรียนสามารถแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใชห้ ลักการบวกเบ้อื งต้นเกีย่ วกับการนับได้ 1.2 นกั เรยี นสามารถแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้แผนภาพต้นไมอ้ ย่างง่ายได้ 1.3. นักเรียนตระหนักถงึ ความสมเหตุสมผลของคำตอบจากการคำนวณและการแกป้ ัญหาได้ 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2.1 นกั เรียนมที ักษะในการแกป้ ัญหาและให้เหตผุ ลได้ 2.2 มกี ารสื่อสาร ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 3.1 มีความรบั ผดิ ชอบ 3.2 มรี ะเบยี บวนิ ยั 3.3 ใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ ในการทำงาน สาระการเรยี นรู้ แผนภาพตน้ ไม้และหลกั การบวก ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 การเรยี นรู้ 3R x 7C -3R Rithemetics (คิดเลขเป็น) -7C ritical Thinking and Problem Solving (ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา)

สมรรถนะสำคญั - การแกป้ ญั หา - การใหเ้ หตผุ ล - ความสามารถในการส่อื สาร การส่ือความหมาย คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ -ใฝเ่ รียนรู้และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน - ตรงตอ่ เวลา กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันท่ี 1 นำเข้าสูบ่ ทเรยี น ครพู ูดถงึ คำว่าโอกาสหมายถงึ อะไร โอกาสในการกระทำส่ิงใดจะมีกี่วิธใี นการกระทำได้ ขั้นที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนำนักเรยี นสนทนาวา่ ใครเคยมีปญั หาเร่ืองการจดั ชดุ เส้อื ผา้ จดั ชดุ อาหาร จัดชุดส่งิ ของ ต่าง ๆ และ นักเรียนมีวธิ ีแกไ้ ขปัญหาอยา่ งไร ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นท่ีเคยมีปัญหา มีวธิ ี แก้ปัญหาเลา่ ปัญหา วธิ แี ก้ปญั หา พร้อมให้นกั เรียนคนอ่นื ร่วมสนทนาแสดงความคิดเห็น 2. ครูบอกนักเรียนเก่ียวกบั แผนภาพตน้ ไมว้ ่าคอื อะไร แผนภาพตน้ ไม้ คือ วิธีการในการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ท่เี กี่ยวข้องกบั การหาจำนวน วธิ กี ารท้งั หมดท่เี ป็นไปได้ของเหตกุ ารณ์หนึ่งๆ 3. ครูแสดงวธิ แี ก้ปญั หา หรือหาคำตอบโดยการแผนภาพต้นไม้ของการจดั ชดุ เสื้อผา้ ที่มีเสื้อ 3 ตวั กางเกง 2 ตวั โดยนกั เรียนควรอ่านโจทย์ใหเ้ ขา้ ใจวา่ ในปญั หาน้ันกำหนดเง่ือนไขอะไรบ้าง การพิจารณาเง่อื นไขของปัญหา จะช่วยให้สามารถกำหนดข้นั ตอนในการแก้ปัญหา ซึง่ จะ ช่วยให้สามารถหาคำตอบได้ง่ายขึน้ กางเกง เสอ้ื ชดุ ที่ 1 กางเกงที่ 1 เสอ้ื ตวั ท่ี 1 ชุดท่ี 2 กางเกง เส้อื ตวั ท่ี 2 ชดุ ท่ี 3 กางเกงท่ี 2 เส้ือตวั ที่ 3 ชุดที่ 4 เส้อื ชดุ ที่ 5 เสอ้ื ตวั ที่ 1 ชุดที่ 6 เสอ้ื ตัวท่ี 2 เสือ้ ตวั ท่ี 3 4. ครูถามนกั เรียนใครตอบ 6 วธิ ี และมวี ธิ ีอย่างไร พร้อมให้นักเรียนอภปิ รายวธิ ใี ห้คำตอบ

5. ครสู รุปเราใช้หลกั ในการคำนวณ คอื ใช้หลกั การบวก หลักการบวก ในการทำงานอยา่ งหน่ึง ถ้าสามารถแบ่งวิธกี ารทำงานออกเปน็ 2 กรณี โดยท่ี กรณที ่ี 1 สามารถทำได้ ������1 วิธี กรณที ่ี 2 สามารถทำได้ ������2 วธิ ี ซ่งึ วิธกี ารทำงานทั้งสองกรณีไมซ่ ้ำซอ้ นกัน และการทำงานในแต่ละกรณที ำให้ทำงานเสร็จสมบรู ณแ์ ลว้ จะสามารถ ทำงานนีไ้ ด้ท้ังหมด ������1+������2 วิธี 6. ครูยกตวั อย่างต่อไปโดยโจทย์กำหนดให้นักเรียนต้องจดั อาหารคาว 2 ชนดิ กบั อาหารหวาน 3 ชนิด นักเรียนจะ สามารจดั อาหารไดท้ ัง้ หมดกว่ี ิธี วิธที ำ โจทย์กำหนด อาหารคาว 2 ชนิด และ อาหารหวาน 3 ชนิด ให้ คาว แทนอาหารคาว ให้ หวาน แทนอาหารหวาน อาหารคาว อาหารหวาน หวาน 1 1วิธี คาว 1 หวาน 2 2วธิ ี หวาน 3 3วธิ ี อาหารคาว อาหารหวาน หวาน 1 4วิธี คาว 2 หวาน 2 5วิธี หวาน 3 6วธิ ี ตอบ นักเรียนสามารจัดอาหารไดท้ ั้งหมด 6 วิธี กจิ กรรมสรปุ การสอน 7. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปประเดน็ เกยี่ วกับการหาเข้าใจโจทย์ปญั หาของความนา่ จะเป็น 8. ครูให้นกั เรียนทุกคนทำ ใบงานที่ 1 ในเอกสารประกอบการสอนเปน็ การบ้าน และกำหนดวันส่ง ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2251 จัดทำโดย สสวท. 2. ใบงานท่ี 1 เร่ืองหลักการนับเบือ้ งตน้ ( หลักการบวก )

การวดั ผลและประเมนิ ผล เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมิน วธิ กี าร ความรู้ - ตรวจสอบความถกู ต้อง การตรวจสอบความถูกต้องของใบ -แบบฝกึ หัดในเอกสารประกอบ และความเข้าใจ งานและฝึกหดั การเรียน - ความถูกต้องของ - -แบบฝกึ หดั ในหนังสอื เรียน แบบฝึกหัดไม่ต่ำกวา่ 70% การเชค็ ช่ือการเข้าเรียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - เขา้ เรยี นตรงต่อเวลา การส่งงานในแต่ละคร้ัง -แบบบันทกึ การมาเรียน - มคี วามกระตอื รือร้นใน -แบบสงั เกตพฤติกรรม การเรียน - การแกป้ ัญหา สมรรถนะ - ตรวจสอบความถูกต้อง - การให้เหตผุ ล - แบบฝกึ หดั ในเอกสาร และความเข้าใจ - ความสามารถใน ประกอบการเรยี น - ความถูกต้องของ การส่อื สาร การสื่อ - แบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรียน แบบฝกึ หัดไม่ตำ่ กว่า 70% ความหมาย กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... บันทกึ ความคิดเหน็ ของครูพี่เลย้ี งกอ่ นสอน ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ลงชื่อ.............................................................. วัน/เดือน/ป.ี ........................... บันทกึ ความคิดเห็นครูพเ่ี ล้ยี งหลงั สอน ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ ........................................................ วัน/เดือน/ป.ี ...........................

บนั ทึกผลหลังสอน ผลการสอน ................................................................................................................................................. ......................... ปญั หา/อปุ สรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ............................................. ลงช่ือ.......................................................นกั ศึกษา วนั /เดอื น/ป.ี ......................... ลงชอ่ื ……………………………………….. (ครูพเี่ ลย้ี ง / ครนู เิ ทศ / ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา)

เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชดุ ที่ 1 เรอ่ื ง หลกั การนบั เบอ้ื งตน้ แบบฝึกทักษะท่ี 1.1 เรอื่ ง หลักการบวกและแผนภาพต้นไม้ จุดประสงค์ นักเรยี นสามารถใช้แผนภาพตน้ ไม้อยา่ งง่ายในการหาจำนวนผลลัพธ์ท่ีอาจเกิดขน้ึ ของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ได้ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นหาจำนวนวิธที เ่ี ป็นไปได้ทัง้ หมดโดยใช้แผนภาพต้นไม้ 1. นักเรยี นคนหนึ่งจะต้องเลือกเรียนวิชาเพิม่ เติมการงานอาชีพและภาษาอังกฤษอยา่ งละ 1 รายวชิ า ถา้ โรงเรียนกำหนดสอนวชิ าเพิม่ เติมการงานอาชพี ให้ 3 รายวชิ า และวิชาภาษา องั กฤษ 3 รายวชิ า จำนวนวธิ ีท่ี นักเรียนคนนจี้ ะเลือกเรียนวิชาเพม่ิ เติมทงั้ วิชาการงานอาชีพและ ภาษาอังกฤษได้แตกตา่ งกนั ท้งั หมดก่ีวิธี วิธที ำ เขียนแผนภาพต้นไม้ได้ดงั นี้ ดงั น้นั จำนวนวิธที ่ีนกั เรียนคนนี้จะเลือกเรยี นวิชาเพมิ่ เติมท้งั วิชาการงานอาชพี และ ภาษาองั กฤษ ได้แตกตา่ งกันเท่ากับ........................ วิธี 2. เดก็ คนหนงึ่ ต้องการเลือกซื้อไอศกรมี ที่ร้านไอศกรีมแหง่ หน่งึ โดยทางรา้ นมีโคนและถ้วยให้เลอื ก ใสไ่ อศกรมี ได้เพียงอย่างละ 1 ลกู เท่านน้ั ซง่ึ มรี สวนิลา รสมะนาว รสชอ็ กโกแลต และรสสตอเบอรี่ ท่ีเด็กคนนีช้ อบจำนวนวธิ ีที่เด็กคนนจ้ี ะเลือกซื้อไอศกรมี ได้แตกต่างกนั ทง้ั หมดกว่ี ิธี วธิ ีทำ เขียนแผนภาพตน้ ไม้ไดด้ งั นี้ ดงั นน้ั จำนวนวธิ ีทเี่ ดก็ คนน้จี ะเลือกซื้อไอศกรีมได้แตกต่างกัน เท่ากบั ........................วธิ ี

3. จากเมอื ง ก ไปยงั เมอื ง ข มเี สน้ ทางการเดินทางได้ 3 วธิ ี คือ รถยนต์ รถไฟ และเคร่ืองบิน จากเมือง ข ไป เมือง ค มเี สน้ ทางการเดนิ ทางได้ 2 วิธี คือ รถยนตแ์ ละเรือ จำนวนวธิ ที ี่จะ เดนิ ทางจากเมือง ก ไปยังเมือง ค โดยผา่ นเมอื ง ข เปน็ เทา่ ใด วธิ ที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไมไ้ ดด้ งั น้ี ดงั นนั้ จำนวนวธิ ที จี่ ะเดนิ ทางจากเมือง ก ไปยงั เมือง ค โดยผา่ นเมือง ข เท่ากบั ………………….วิธี 4. มนี ก 2 ตวั เลอื กใสก่ รงนก 5 กรง ไดแ้ ตกตา่ งกันทัง้ หมดกี่วิธี วิธที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไมไ้ ด้ดังนี้ ดังนั้น นก 2 ตัว จะเลอื กกรงได้ท้งั หมด…………………………………..วธิ ี

เฉลย เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชุดที่ 1 เรอ่ื ง หลักการนบั เบ้อื งตน้ แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 1.1 เรอ่ื ง หลกั การบวกและแผนภาพตน้ ไม้ จดุ ประสงค์ นักเรยี นสามารถใชแ้ ผนภาพต้นไม้อย่างงา่ ยในการหาจำนวนผลลพั ธ์ทอ่ี าจเกิดขน้ึ ของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ได้ คำช้แี จง : ให้นักเรียนหาจำนวนวธิ ที เ่ี ปน็ ไปได้ทง้ั หมดโดยใช้แผนภาพตน้ ไม้ 1. นักเรยี นคนหนึง่ จะต้องเลือกเรยี นวชิ าเพิ่มเติมการงานอาชีพและภาษาองั กฤษอยา่ งละ 1 รายวิชา ถ้าโรงเรียนกำหนดสอนวิชาเพิม่ เตมิ การงานอาชีพให้ 3 รายวชิ า และวชิ าภาษา อังกฤษ 3 รายวิชา จำนวนวธิ ีที่ นักเรยี นคนน้จี ะเลือกเรยี นวชิ าเพิ่มเติมทง้ั วิชาการงานอาชีพและ ภาษาองั กฤษได้แตกตา่ งกันทัง้ หมดกว่ี ธิ ี วิธที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไม้ไดด้ งั นี้ การงานอาชพี ภาษาองั กฤษ การงานอาชพี ภาษาอังกฤษ การงานอาชีพ ภาษาอังกฤษ อ1 1วิธี อ1 4วิธี อ1 7วิธี ก1 อ2 2วธิ ี ก2 อ2 5วิธี ก3 อ2 8วิธี อ3 3วธิ ี อ3 6วิธี อ3 9วธิ ี ดงั น้นั จำนวนวิธที น่ี ักเรียนคนน้จี ะเลอื กเรียนวชิ าเพิม่ เติมทั้งวชิ าการงานอาชีพและ ภาษาองั กฤษ ได้แตกตา่ งกนั เทา่ กับ 9 วธิ ี 2. เด็กคนหนง่ึ ต้องการเลือกซ้ือไอศกรีมทร่ี ้านไอศกรีมแหง่ หน่ึง โดยทางร้านมีโคนและถ้วยใหเ้ ลอื ก ใส่ไอศกรีมไดเ้ พียงอย่างละ 1 ลกู เท่านนั้ ซ่ึงมีรสวนิลา รสมะนาว รสช็อกโกแลต และรสสตอเบอรี่ ทีเ่ ดก็ คนนชี้ อบจำนวนวธิ ีทีเ่ ดก็ คนน้ีจะเลือกซ้ือไอศกรมี ไดแ้ ตกตา่ งกันทัง้ หมดกว่ี ธิ ี วิธีทำ เขยี นแผนภาพต้นไมไ้ ด้ดงั นี้ โคน ถ้วย วนลิ า มะนาว ช็อกโกแลต สตอเบอรี่ วนิลา มะนาว ชอ็ กโกแลต สตอเบอร่ี ดังน้นั จำนวนวิธีทีเ่ ดก็ คนน้ีจะเลอื กซื้อไอศกรีมได้แตกต่างกนั เท่ากับ 4+4 = 8 วธิ ี

3. จากเมือง ก ไปยงั เมือง ข มีเส้นทางการเดินทางได้ 3 วิธี คือ รถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน จากเมือง ข ไป เมือง ค มเี สน้ ทางการเดินทางได้ 2 วิธี คอื รถยนตแ์ ละเรือ จำนวนวิธีท่จี ะ เดนิ ทางจากเมือง ก ไปยังเมือง ค โดยผา่ นเมือง ข เปน็ เทา่ ใด วธิ ที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไม้ได้ดังน้ี จากเมือง ก ไปเมอื ง ข จากเมอื ง ข ไปเมอื ง ค 1วธิ ี รถยนต์ รถยนต์ รถไฟ 2วธิ ี เคร่อื งบนิ เรอื 3วิธี รถยนต์ 4วธิ ี เรือ 5วธิ ี รถยนต์ 6วิธี เรือ ดังน้ัน จำนวนวิธีที่จะเดินทางจากเมือง ก ไปยงั เมือง ค โดยผ่านเมอื ง ข เท่ากบั 6 วธิ ี 4. มนี ก 2 ตัว เลือกใสก่ รงนก 5 กรง ได้แตกตา่ งกันทัง้ หมดก่วี ธิ ี วิธที ำ เขยี นแผนภาพตน้ ไม้ไดด้ ังนี้ น1 น2 ก1 ก2 ก3 ก4 ก5 ก1 ก2 ก3 ก4 ก5 ดงั นน้ั นก 2 ตวั จะเลือกกรงไดท้ ัง้ หมด 5+5 = 10 วธิ ี

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 ช่อื หนว่ ย หลักการนับเบอ้ื งต้น แผนท่ี 2 เร่ือง หลกั การคูณ เวลาสอน……………………….ชว่ั โมง สอนวันที่................เดือน................................................พ.ศ................. ช่อื ผูส้ อน นางสาวพรรณพษา สงสัย สาขา วิชาคณิตศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคญั หลักการคูณ เปน็ หลกั การเบ้ืองตน้ ทเ่ี กี่ยวกบั การนับ มาตรฐาน มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนบั เบ้อื งต้น ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้ ตัวช้วี ัด -เขา้ ใจและใช้หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ยี น และการจัดหมู่ ในการแก้ปัญหา จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 นกั เรียนสามารถแก้โจทยป์ ญั หาโดยใชห้ ลกั การคูณเบอื้ งตน้ เก่ียวกับการนับได้ 1.2 นกั เรยี นสามารถแก้โจทย์ปญั หาโดยใช้แผนภาพต้นไมอ้ ยา่ งง่ายได้ 1.3. นักเรยี นตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบจากการคำนวณและการแก้ปัญหาได้ 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2.1 นักเรียนมที กั ษะในการแกป้ ัญหาและให้เหตุผลได้ 2.2 มกี ารสอ่ื สาร สือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 3.1 มีความรบั ผดิ ชอบ 3.2 มีระเบยี บวนิ ัย 3.3 ใฝเ่ รยี นรู้และมุ่งในการทำงาน สาระการเรียนรู้ หลักการคูณ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 การเรียนรู้ 3R x 7C -3R Rithemetics (คิดเลขเป็น) -7C ritical Thinking and Problem Solving (ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา)

สมรรถนะสำคัญ - การแกป้ ญั หา - การให้เหตผุ ล - ความสามารถในการส่ือสาร การสอ่ื ความหมาย คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ -ใฝเ่ รียนรูแ้ ละมุ่งมน่ั ในการทำงาน - ตรงตอ่ เวลา กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี 1 นำเข้าสู่บทเรียน ครพู ูดถงึ คำวา่ โอกาสหมายถึงอะไร โอกาสในการกระทำสิง่ ใดจะมกี ีว่ ธิ ีในการกระทำได้ 2. ครบู อกนักเรียนเกย่ี วกบั แผนภาพตน้ ไมว้ า่ คืออะไร แผนภาพต้นไม้ คือ วธิ ีการในการแก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ที่ เกีย่ วข้องกบั การหาจำนวน วธิ กี ารทงั้ หมดที่เปน็ ไปได้ของเหตกุ ารณ์หนง่ึ ๆ 3. ครูแสดงวิธแี กป้ ญั หา หรอื หาค าตอบโดยการแผนภาพต้นไมข้ องการจัดชุดเสือ้ ผา้ ทม่ี เี สอ้ื 3 ตวั กางเกง 2 ตวั โดยนกั เรียนควรอ่านโจทยใ์ ห้เขา้ ใจว่าในปญั หานั้นกำหนดเงื่อนไขอะไรบ้าง การพิจารณาเง่อื นไขของปัญหาจะชว่ ย ให้สามารถก าหนดขน้ั ตอนในการแก้ปัญหา ซึ่งจะ ช่วยให้สามารถหาคำตอบไดง้ ่ายข้ึน 4. ครูถามนกั เรียนใครตอบ 6 วิธี และมวี ธิ ีอย่างไร พร้อมให้นักเรียนอภปิ รายวิธีให้คำตอบ 5. ครูสรปุ เราใช้หลกั ในการคำนวณ 6 วธิ ีทไ่ี ด้มานเ้ี กิดจาก การกระทำที่1 (เลือกกางเกง) ทำได้ 2 วิธี และในแต่ละวธิ นี ีส้ ามารถกระทำอย่างท่ี 2 (เลือกเสือ) ได้3 วธิ ี ดังน้ันได้ทั้งหมด 2 × 3 = 6 วธิ เี พื่อความเขา้ ใจตรงกัน สรปุ เป็นหลักการคูณ ไดด้ ังนี้ หลักการคูณ ถา้ ในการทำงานชนิ้ หน่ึงสามารถแบ่งงานเปน็ k ขนั้ ตอนดว้ ย ข้นั ตอนท่ี 1 สามารถทำงานไดท้ ้ังหมด ������1วธิ ี ขน้ั ตอนที่ 2 สามารถท างานได้ทง้ั หมด ������2วิธี ขน้ั ตอนท่ี 3 สามารถท างานไดท้ งั้ หมด ������3วิธี ข้นั ตอนท่ี k สามารถท างานได้ทัง้ หมด ������������วิธี จำนวนวธิ กี ารทำงานชิ้นหน่งึ ดงั กล่าวท้งั หมด คือ ������1������2 ������3…  ������������ วธิ ี 6. ครูยกตวั อยา่ งต่อไปโดยโจทยก์ ำหนดให้นักเรยี นต้องจัดชดุ เส้ือ 5 ตวั กางเกง 3 ตวั ถุงเท้า 5 คู่ รองเทา้ 2 คู่ หมวก 2 ใบ จะจัดชดุ แตง่ ตวั ใหค้ รบทัง้ 5 อย่าง ได้ทง้ั หมดกี่วธิ ี บนกระดาน ใหน้ กั เรียนลองหาคำตอบโดยเขียน คำตอบในกระดาษ

7. ครแู สดงวธิ ีแก้ปัญหาหรือหาคำตอบโดยการแผนภาพตน้ ไมข้ องการจัดชุดเสือ้ ผ้าท่ีมีเสอ้ื 5 ตวั กางเกง 3 ตวั ถุง เทา้ 5 คู่ รองเทา้ 2 คู่ หมวก 2 ใบ จะจัดชดุ แต่งตัวให้ครบท้ัง 5 อยา่ ง ไดท้ ัง้ หมดกีว่ ธิ โี ดย นกั เรยี นควรอา่ นโจทย์ให้ เข้าใจวา่ ในปัญหานน้ั กำหนดเงอ่ื นไขอะไรบ้าง การพิจารณาเงื่อนไขของปัญหาจะชว่ ยใหส้ ามารถกำหนดขนั้ ตอนใน การแกป้ ัญหา ซง่ึ จะชว่ ยใหส้ ามารถหาคำตอบได้งา่ ยข้นึ วิธีทำ แตง่ ตวั 1 ชุด ตอ้ งใส่กำงเกง เส้ือ ถุงเทำ้ รองเทำ้ และหมวก โดย ทำงำนอยำ่ งแรก เลือกเส้ือได้ 3 วิธี ทำงำนอยำ่ งที่สอง เลือกกำงเกงได้ 5 วิธี ทำงำนอยำ่ งท่ีสำม เลือกถงุ รองเทำ้ ได้ 2 วธิ ี ทำงำนอยำ่ งที่สี่ เลือกรองเทำ้ ได้ 2 วธิ ี ทำงำนอยำ่ งท่ีหำ้ เลือกหมวกได้ 2 วิธี ดงั น้นั จะเลือกแต่งชุดไดท้ ้งั หมด 3 5 2  22 = 120 วธิ ี 8. ครูสรุปเรำใชห้ ลกั ในกำรคำนวณ 120 วิธีที่ไดม้ ำน้ีเกิดจำกกำรกระทำที่ 1 (เลือกเส้ือ) ทำได้ 3 วิธีและในแต่ ละวธิ ีน้ีสำมำรถกระทำอยำ่ งท่ี2 (เลือกกำงเกง) ได5้ วธิ ีและในแตล่ ะวิธีน้ีสำมำรถ กระทำอยำ่ งท่ี3 (เลือกถุง รองเทำ้ ) ได2้ วธิ ีและในแต่ละวธิ ีน้ีสำมำรถกระทำอยำ่ งท่ี4 (เลือกรองเทำ้ ) ได้ 2 วิธี และในแต่ละวิธีน้ีสำมำรถ กระทำอยำ่ งที่ 4 (เลือกหมวก) ได2้ วิธี ดงั น้นั ได้ ท้งั หมด 3 × 5 × 2 × 2 × 2 = 120 วิธี เพ่ือควำมเขำ้ ใจตรงกนั

9. ครยู กตัวอย่างเพิ่มเติมเพ่ือใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ ฝนและทำความเขา้ ใจมากข้ึน ตัวอยา่ ง ฟิวเจอรผ์ ้โู อบอ้อมอารี ต้องการแจกแอปเป้ิลอยู่ 4 ลูก ต้องการมอบใหเ้ พ่ือนรกั 10 คน จะมวี ิธกี ารแจก กวี่ ธิ ีเม่ือ 1) ไม่มเี งื่อนไข วธิ ที ำ ฟิวเจอรต์ ้องการแจกแอปเป้ลิ 4 ลูกใหเ้ พ่ือนสิบคน โดยทำงานอยา่ งแรก เลอื กได้ 10 วธิ ี โดยทำงานอยา่ งสอง เลือกได้ 10 วิธี โดยทำงานอย่างสาม เลือกได้ 10 วิธี โดยทำงานอย่างทีส่ ่ี เลือกได้ 10 วิธี ดังน้ันฟวิ เจอร์จะเลือกแจกแอปเปิล้ ใหเ้ พ่อื นได้ท้งั หมด 10x10x10x10 = 10,000 วธิ ี 2) ไม่ใหซ้ ำ้ คน วิธีทำ โดยทำงานอยา่ งแรก เลือกได้ 10 วิธี โดยทำงานอยา่ งสอง เลอื กได้ 9 วธิ ี โดยทำงานอยา่ งสาม เลือกได้8 วธิ ี โดยทำงานอยา่ งทสี่ ี่ เลอื กได้ 7 วธิ ี ดังน้นั ฟวิ เจอรจ์ ะเลือกแจกแอปเป้ิลใหเ้ พ่ือนได้ท้งั หมด 10 x 9 x 8 x 7 = 5,040 วธิ ี กจิ กรรมข้นั สรปุ 16. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปประเดน็ เกย่ี วกับการหาเขา้ ใจโจทย์ปัญหาของการใช้หลกั การคูณ 17. ครูใหน้ กั เรียนทุกคนทำ ใบงานท่ี 2 ในเอกสารประกอบการเปน็ การบ้านและแบบฝกึ หัดในหนังสอื และ กำหนดวันส่ง

สือ่ และแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2251 จัดทำโดย สสวท. 2. ใบงานที่ 2 เร่ืองหลักการนับเบ้อื งต้น ( หลกั การคูณ ) การวดั ผลและประเมินผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน วธิ ีการ ความรู้ - ตรวจสอบความถูกต้อง การตรวจสอบความถกู ต้องของใบ -แบบฝกึ หัดในเอกสารประกอบ และความเขา้ ใจ งานและฝึกหัด การเรยี น - ความถูกต้องของ - -แบบฝึกหัดในหนังสอื เรียน แบบฝึกหัดไม่ต่ำกวา่ 70% การเช็คช่อื การเข้าเรยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - เขา้ เรยี นตรงต่อเวลา การสง่ งานในแตล่ ะคร้ัง -แบบบนั ทึกการมาเรยี น - มีความกระตือรือรน้ ใน -แบบสงั เกตพฤติกรรม การเรยี น - การแก้ปญั หา สมรรถนะ - ตรวจสอบความถกู ต้อง - การให้เหตุผล - แบบฝกึ หัดในเอกสาร และความเข้าใจ - ความสามารถใน ประกอบการเรยี น - ความถูกต้องของ การสอ่ื สาร การส่ือ - แบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรยี น แบบฝึกหัดไม่ต่ำกว่า 70% ความหมาย กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... บันทกึ ความคดิ เห็นของครูพ่ีเล้ียงก่อนสอน ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ .............................................................. วัน/เดือน/ปี............................

บันทึกความคดิ เหน็ ครูพ่ีเลี้ยงหลงั สอน ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอ่ื ........................................................ วนั /เดอื น/ป.ี ........................... บันทกึ ผลหลังสอน ผลการสอน ............................................................................................................................ .............................................. ปัญหา/อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอ่ื .......................................................นกั ศกึ ษา วัน/เดอื น/ปี.......................... ลงช่อื ……………………………………….. (ครพู เี่ ล้ยี ง / ครูนิเทศ / ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา)

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน ชดุ ท่ี 1 เรอ่ื ง หลักการนับเบื้องตน้ แบบฝึกทักษะที่ 1.2 เรอ่ื ง หลกั การนบั เบอื้ งต้น (การคณู ) จดุ ประสงค์ นักเรียนสามารถใชก้ ฎเกณฑ์เบอ้ื งต้นเกี่ยวกับการนบั ในการหาจำนวนผลลัพธ์ ท่อี าจเกดิ ขึ้น ของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ได้ คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นหาจำนวนวิธที ่ีเปน็ ไปได้ท้ังหมดโดยใช้กฎเกณฑ์เบือ้ งตน้ เกยี่ วกบั การนับ 1. ในการรับสมัครพนกั งาน 2 ตำแหนง่ เปน็ พนักงานหญิง 1 ตำแหนง่ พนักงานชาย 1 ตำแหนง่ ถ้าผสู้ มคั รเป็นหญงิ 4 คน เป็นชาย 5 คน จะมีจำนวนวธิ รี บั พนกั งานแบบต่าง ๆ ไดก้ ว่ี ธิ ี วธิ ีทำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ถา้ A = {1, 3, 5, 7, 9} จงหาว่าจะสามารถนำสมาชกิ ในเซต A มาสรา้ งเป็นจำนวนเต็มซึ่งมี สามหลกั โดยท่ีแตล่ ะหลกั ใช้เลขโดดไมซ่ ้ำกนั ได้ทง้ั หมดกจี่ ำนวน วธิ ที ำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. บัตรเข้าชมภาพยนตร์ของโรงหนงั แหง่ หนึง่ กำหนดหมายเลขที่น่งั เขา้ ชมโดยใชห้ มายเลข 1-20 และตัวอักษรภาษาอังกฤษ A – P ตัวอยา่ งเชน่ 1A จงหาจำนวนท่ีนง่ั ทงั้ หมดของโรงหนงั แหง่ นี้ วธิ ีทำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. จงนำตัวอักษรจากคำวา่ FATHER มาจดั เปน็ คำใหม่ โดยไมต่ ้องคำนึงถึงความหมาย จะจัด เป็นคำท่ีแตกต่างกันทง้ั หมดไดก้ ว่ี ธิ ี วิธที ำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. 5. ในการสอบวชิ าคณิตศาสตรซ์ ึง่ มขี ้อสอบแบบผดิ - ถกู อยู่ 10 ขอ้ นักเรยี นจะเลือกตอบข้อสอบทั้ง 10 ข้อไดท้ ั้งหมดก่ีวิธี วธิ ีทำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………..

เฉลย เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชุดที่ 1 เร่ือง หลักการนบั เบ้อื งตน้ แบบฝึกทักษะที่ 1.2 เรอื่ ง หลกั การนบั เบ้ืองตน้ (การคณู ) จุดประสงค์ นักเรยี นสามารถใชก้ ฎเกณฑ์เบือ้ งตน้ เกย่ี วกบั การนบั ในการหาจำนวนผลลัพธ์ ท่อี าจเกิดขน้ึ ของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ได้ คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนหาจำนวนวิธีทเี่ ป็นไปได้ท้ังหมดโดยใชก้ ฎเกณฑ์เบื้องตน้ เก่ียวกบั การนบั 1. ในการรับสมคั รพนักงาน 2 ตำแหน่ง เป็นพนักงานหญิง 1 ตำแหน่ง พนักงานชาย 1 ตำแหนง่ ถ้าผู้สมคั รเป็นหญิง 4 คน เป็นชาย 5 คน จะมจี ำนวนวิธีรบั พนกั งานแบบต่าง ๆ ได้กีว่ ธิ ี วิธีทำ เลอื กรับพนกั งานหญิงได้ 4 วิธี เลือกรับพนกั งานชายได้ 5 วธิ ี ดังน้ัน จะมจี ำนวนวธิ ีรับพนักงานแบบตา่ ง ๆ ได้ทัง้ หมด 4×5 = 20 วิธี ตอบ จำนวนวิธรี บั พนกั งานแบบตา่ ง ๆ ได้เท่ากบั 20 วิธี 2. ถ้า A = {1, 3, 5, 7, 9} จงหาว่าจะสามารถนำสมาชิกในเซต A มาสรา้ งเปน็ จำนวนเต็มซ่งึ มี สามหลัก โดยทแ่ี ตล่ ะหลักใช้เลขโดดไมซ่ ้ำกันได้ทงั้ หมดก่ีจำนวน วิธที ำ เลือกเลขโดดในหลักร้อยได้ 5 วิธี เลอื กเลขโดดในหลักสิบได้ 4 วิธี เลือกเลขโดดในหลักหนว่ ยได้ 3 วิธี ดังน้นั สรา้ งจำนวนเต็มทม่ี ีสามหลกั โดยท่ีแต่ละหลักใช้เลขโดดไมซ่ ้ำกันไดท้ ้ังหมด 5×4×3 = 60 จำนวน ตอบ สร้างจำนวนเตม็ ที่มีสามหลักโดยท่ีแต่ละหลักใชเ้ ลขโดดไมซ่ ำ้ กันได้ทั้งหมด 60 จำนวน

3. บัตรเขา้ ชมภาพยนตรข์ องโรงหนังแหง่ หน่ึงกำหนดหมายเลขทีน่ ั่งเข้าชมโดยใชห้ มายเลข 1-20 และตัวอักษรภาษาองั กฤษ A – P ตัวอยา่ งเชน่ 1A จงหาจำนวนทนี่ งั่ ทง้ั หมดของโรงหนังแหง่ น้ี วธิ ที ำ เลอื กหมายเลขได้ 20 วธิ ี เลือกตัวอักษรได้ 15 วธิ ี ดงั น้ัน จำนวนที่นง่ั ท้ังหมดของโรงหนงั 20×15 = 300 ทน่ี ่ัง ตอบ จำนวนท่นี ัง่ ทั้งหมดของโรงหนังเทา่ กบั 300 ท่นี ัง่ 4. จงนำตวั อกั ษรจากคำว่า FATHER มาจัดเป็นคำใหม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความหมาย จะจดั เปน็ คำท่ีแตกต่างกนั ท้ังหมดไดก้ ีว่ ิธี วธิ ีทำ เลือกตัวอักษรวางตำแหนง่ ท่ี 1 ได้ 6 วธิ ี เลอื กตัวอักษรวางตำแหนง่ ท่ี 2 ได้ 5 วิธี เลือกตวั อักษรวางตำแหนง่ ที่ 3 ได้ 4 วธิ ี เลือกตัวอักษรวางตำแหน่งที่ 4 ได้ 3 วธิ ี เลอื กตวั อักษรวางตำแหนง่ ท่ี 5 ได้ 2 วิธี เลือกตัวอักษรวางตำแหนง่ ท่ี 5 ได้ 1 วิธี ดังนนั้ จำนวนวธิ เี ลือกตัวอกั ษรจากคำวา่ FATHER มาจดั เปน็ คำใหม่ไดท้ ั้งหมด 6×5×4×3×2×1 = 720 วิธี ตอบ จำนวนวิธเี ลอื กตวั อักษรจากคำวา่ FATHER มาจัดเป็นคำใหม่ได้ท้งั หมด 720 วิธี 5. ในการสอบวชิ าคณิตศาสตร์ซงึ่ มีข้อสอบแบบผดิ - ถกู อยู่ 10 ขอ้ นักเรยี นจะเลือกตอบขอ้ สอบทัง้ 10 ข้อได้ท้ังหมดก่ีวธิ ี วธิ ที ำ เลอื กตอบข้อสอบขอ้ ที่ 1 ได้ 2 วิธี เลอื กตอบข้อสอบข้อท่ี 2 ได้ 2 วิธี เลอื กตอบข้อสอบขอ้ ที่ 3 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบข้อที่ 4 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบขอ้ ที่ 5 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบขอ้ ที่ 6 ได้ 2 วธิ ี เลือกตอบข้อสอบขอ้ ที่ 7 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบข้อที่ 8 ได้ 2 วิธี เลอื กตอบข้อสอบขอ้ ท่ี 9 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบข้อที่ 10 ได้ 2 วธิ ี ดังน้ัน จำนวนวธิ จี ะเลอื กตอบขอ้ สอบทัง้ 10 ขอ้ ไดท้ ้งั หมด 2×2×2×2×2×2×2×2×2×2 = 210 วิธี ตอบ จำนวนวิธีจะเลือกตอบข้อสอบทัง้ 10 ข้อได้ทั้งหมด 210 วธิ ี

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ช่อื หนว่ ย หลกั การนับเบ้อื งต้น แผนที่ 3 เรอ่ื ง แฟกทอเรยี ล เวลาสอน………………………ชว่ั โมง สอนวันท่.ี ...............เดือน................................................พ.ศ................. ชือ่ ผ้สู อน นางสาวพรรณพษา สงสยั สาขา วิชาคณติ ศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคญั แฟกทอเรียล ของจำนวนเตม็ ไมเ่ ป็นลบ n คอื ผลคูณของจำนวนเต็มบวกทั้งหมดที่น้อยกว่าหรอื เท่ากบั n เขยี นแทนดว้ ย n! (อ่านว่า n แฟกทอเรยี ล) มาตรฐาน มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลกั การนับเบ้ืองต้น ความนา่ จะเปน็ และนำไปใช้ ตวั ชีว้ ัด -เข้าใจและใชห้ ลกั การบวกและการคูณ การเรยี งสับเปลีย่ น และการจดั หมู่ ในการแกป้ ัญหา จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 นักเรยี นสามารถแกโ้ จทย์ปัญหาโดยใช้กฎเกณฑ์เบอ้ื งต้นเก่ียวกับการนบั ได้ 1.2 นกั เรยี นสามารถใช้และแก้ปัญหาเก่ียวกับแฟคทอเรียลได้ 1.3. นักเรยี นตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของค าตอบจากการคำนวณและการแก้ปญั หาได้ 2. ดา้ นทักษะกระบวนการ 2.1 มที ักษะในการแก้ปญั หาและให้เหตุผลได้ 2.2 มีการส่อื สาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ 2.3 มที ักษะในการใช้สมบัติของเลขยกกำลังในการประยุกต์ใชไ้ ด้ 3. ด้านคุณลกั ษณะ 3.1 มคี วามรบั ผดิ ชอบ 3.2 มรี ะเบยี บวินยั 3.3 ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งในการทำงาน สาระการเรียนรู้ แฟกทอเรยี ล ทักษะในศตวรรษท่ี 21 การเรียนรู้ 3R x 7C -3R Rithemetics (คิดเลขเป็น) -7C ritical Thinking and Problem Solving (ทักษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ญั หา)

สมรรถนะสำคัญ - การแก้ปญั หา - การให้เหตผุ ล - ความสามารถในการสื่อสาร การสอ่ื ความหมาย คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ -ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ ม่นั ในการทำงาน - ตรงตอ่ เวลา กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมนำเข้าส่บู ทเรยี น ครแู นะนำใหน้ ักเรียนไดร้ จู้ กั ถึงสญั ลักษณ์ของความน่าจะเป็นและบอกความหมายของแฟกทอเรยี ล คือ ถา้ n เป็นจำนวนเตม็ บวกแล้วผลคูณของจำนวนเตม็ บวกตงั้ แต่ 1 ถงึ n สามารถเขียนแทนดว้ ย n! = 12 3 4 …  n หรอื n! = n (n - 1)  (n - 2) …3 21 เราเรียก n! ว่า แฟคทอเรียล กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูยกตัวอย่างการเขียนแฟคทอเรยี ล เพือ่ ให้นักเรียนเข้าใจชัดเจนขน้ึ โดย 0! = 1 1! = 1 2! = 21 = 2 3! = 3  2  1 = 6 4! = 4 3 2 1 = 24 5! = 5 4 3 2 1 = 120 6! = 6 5 4 3 2 1 = 720 2. ครูยกตวั อยา่ งท่ีนำแฟคทอเรยี ลไปใชใ้ นการหาเขยี นแฟคทอเรยี ลในรูปของตวั เลข ตวั อยา่ ง จงหาคา่ ต่อไปนี้ 1. 6! 6! = 6×5×4! 4! 4! 4! 6×5 วธิ ที ำ = 30 =

2. 7! 2!5! วธิ ที ำ 7! = 7×6×5! 2!5! 2×1×5! = 7×6 2 = 21 กจิ กรรมสรปุ การสอน 3. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายและสรุปองค์ความร้จู ากการใช้แฟคทอเรียล 4. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดทเ่ี หลือดว้ ยตนเองแลว้ ส่งในคาบ โดยครคู อยกำกับดูแล ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2251 จดั ทำโดย สสวท. 2. ใบงานท่ี 3 เรื่องหลักการนับเบอ้ื งต้น ( แฟกทอเรยี ล ) การวัดผลและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ วธิ กี าร ความรู้ - ตรวจสอบความถกู ต้อง การตรวจสอบความถกู ต้องของใบ -แบบฝึกหดั ในเอกสารประกอบ และความเข้าใจ งานและฝกึ หัด การเรียน - ความถูกต้องของ - -แบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรยี น แบบฝึกหดั ไมต่ ่ำกวา่ 70% การเช็คชื่อการเข้าเรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - เขา้ เรียนตรงตอ่ เวลา การส่งงานในแตล่ ะคร้ัง -แบบบนั ทึกการมาเรียน - มีความกระตอื รือรน้ ใน -แบบสงั เกตพฤติกรรม การเรียน - การแก้ปัญหา สมรรถนะ - ตรวจสอบความถูกต้อง - การใหเ้ หตผุ ล - แบบฝึกหดั ในเอกสาร และความเขา้ ใจ - ความสามารถใน ประกอบการเรยี น - ความถูกต้องของ การสือ่ สาร การส่ือ - แบบฝึกหดั ในหนงั สือเรียน แบบฝกึ หัดไม่ตำ่ กว่า 70% ความหมาย

กจิ กรรมเสนอแนะ ..................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. บนั ทกึ ความคิดเห็นของครูพี่เลยี้ งก่อนสอน ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ .............................................................. วนั /เดือน/ป.ี ........................... บันทกึ ความคิดเห็นครูพีเ่ ลย้ี งหลังสอน ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ ........................................................ วนั /เดือน/ปี............................ บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการสอน .......................................................................................................................................................................... ปญั หา/อปุ สรรค ............................................................................................................................ .............................................. แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ .......................................................นักศกึ ษา วัน/เดอื น/ป.ี ......................... ลงชอื่ ……………………………………….. (ครพู ่เี ลี้ยง / ครูนิเทศ / ผู้บริหารสถานศกึ ษา)

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน ชุดที่ 1 เรื่อง หลักการนบั เบอ้ื งตน้ แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 1.3 เรอ่ื ง ความหมายของแฟกทอเรยี ล จุดประสงค์ นกั เรียนสามารถบอกนิยาม ความหมายของแฟกทอเรียล n ได้ คำชี้แจง : จงหาค่าของ 1. 7! …………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. 3!6! ………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. (4-2)!(8-4)! ……….………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 1!2!3! ………………….……………………………………………………………………………………………………………………………… 5. 5!×4! ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. 3!………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6! ……………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………… 7. 11!……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8! ……………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………… 8. 5!3!………………………………….………………………………………………………………………………………………………………… 4! ……………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………… 9. 4!+3! ………………………….……………………………………………………………………………………………………………………… 10. 8! ………………………………….……………………………………………………………………………………………………………… 3!5! ………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………

เฉลย เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชุดที่ 1 เร่อื ง หลักการนับเบอื้ งตน้ แบบฝึกทกั ษะที่ 1.3 เรอ่ื ง ความหมายของแฟกทอเรียล จดุ ประสงค์ นักเรียนสามารถบอกนยิ าม ความหมายของแฟกทอเรียล n ได้ คำชีแ้ จง : จงหาคา่ ของ 1. 7! = 7×6×5×4×3×2×1 =5,040 2. 3!6! = 3×2×1×6×5×4×3×2×1 = 4,320 3. (4-2)!(8-4)! = 2!4! = 2×1×4×3×2×1 = 48 4. 1!2!3! = 1×2×1×3×2×1 = 12 5. 5!×4! = (5×4×3×2×1)×(4×3×2×1) = 2,880 6.3! = 3! = 1 = 1 6! 6×5×4×3! 6×5×4 120 7. 11! = 11×10×9×8! = 11×10×9 = 990 8! 8! 8. 5!3! = 5×4!×3×2×1 = 5×3×2×1 = 30 4! 4! 9. 4!+3! = 4×3!+3! = 5×3! = 5×3×2×1 = 30 10. 8! = 8×7×6×5! = 8×7×6 = 56 3!5! 3×2×1×5! 6

ใบงานท่ี 2 การประกันคณุ ภาพการศึกษาทสี่ อดคล้องกบั สถานศึกษา วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้อง กับสถานศึกษาแต่ละระดับ (ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ระดับปฐมวัย, ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษ) 2. เพ่ือใหน้ กั ศึกษามคี วามรูค้ วามเข้าใจในมาตรฐานการศกึ ษา ในแตล่ ะระดับ (ระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน , ระดบั ปฐมวยั , ระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐานศูนย์การศึกษาพเิ ศษ) 3. เพอ่ื ให้นกั ศกึ ษาสามารถฝกึ ปฏิบตั งิ านประกนั คุณภาพการศกึ ษาที่สอดคล้องกับสถานศกึ ษาได้จริง ขอบขา่ ยของงาน ให้นักศึกษา ศึกษาโครงสร้างระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานศึกษา แต่ละระดบั ในแตล่ ะมาตรฐานตามที่กำหนดให้ ผู้เกีย่ วข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ครนู เิ ทศก์ / ครูพเ่ี ลยี้ ง 2. เอกสารประกนั คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา

1. กรอบการประเมินคณุ ภาพการศกึ ษาที่สอดคล้องกบั สถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ช่อื สถานศึกษา โรงเรยี นไกรในวทิ ยาคม รชั มังคลาภเิ ษก รอบที่ 3 ประเดน็ การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน 1.แนวคดิ หลกั ในการประเมินคุณภาพการศึกษา 1.การประเมินคณุ ภาพภายนอกเชื่อมโยงกับระบบประกนั ของสถานศกึ ษา คณุ ภาพของภายในของสถานศึกษาและหน่วยงานต้น สงั กัด 2.การประเมนิ คุณภาพภายนอกช่วยกระตนุ้ หน่วยงานท่ี เก่ยี วข้องใหเ้ กดิ การสง่ เสรมิ การยกระดับคณุ ภาพของ สถานศกึ ษา 2.วัตถปุ ระสงค์ในการประเมินคณุ ภาพการศึกษา 1.ส่งเสรมิ ใหส้ ถานศึกษามีความร้คู วามเขา้ ใจในแนว ของสถานศึกษา ทางการประเมินคุณภาพภายนอกและสรา้ งผูเ้ ช่ยี วชาญ ด้านการประเมินคุณภาพภายนอก 2.ประเมนิ คุณภาพภายนอกเพอ่ื สะท้อนคณุ ภาพการจัด การศกึ ษาพร้อมท้งั รายงานสถานการณ์ด้านคุณภาพของ การศกึ ษาเพอื่ ให้ข้อมลู แกร่ ัฐบาลในการพิจารณากำหนด นโยบายการพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 3.เปา้ หมายในการประเมนิ คุณภาพการศึกษา ไดแ้ นวทางสำหรับการประเมินคณุ ภาพภายนอกตาม ของสถานศึกษา หลกั เกณฑท์ ก่ี ำหนดไว้ในกฎหมายท่เี กีย่ วข้องติดตามและ ตรวจสอบคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา โดย คำนงึ ถงึ บรบิ ทของสถานศึกษามาตรฐานการศึกษาชาติ และมาตรฐานระดบั สากล 4.วิธกี ารประเมนิ การประเมนิ คุณภาพภายนอกเปน็ การประเมินเชิงคณุ ภาพ เนน้ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ที่สะท้อนผลลัพธ์การดำเนนิ งาน โดยใช้การตดั สินใจของผเู้ ชีย่ วชาญ และตรวจสอบผลการ ประเมนิ โดยคณะกรรมการประเมินในระดบั เดยี วกันให้ ครอบคลุมองค์ประกอบท้งั ระบบแบบองคร์ วม 5.ขน้ั ตอนการดำเนนิ งานในการประเมินคุณภาพ 1.สถานศกึ ษาประเมินตนเอง แล้วจดั สง่ รายงานการ การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ประเมินตนเองใหห้ น่วยตน้ สงั กดั วิเคราะห์ SAR ส่งให้ สม ศ. 2.สมศ. วเิ คราะหข์ ้อมูลพ้ืนฐานของสถานศึกษาจาก ฐานขอ้ มลู ของหนว่ ยงานตน้ สังกดั 3.คณะผปู้ ระเมนิ ภายนอกประชมุ พจิ ารณาผลการ ดำเนนิ งานของสถานศกึ ษารว่ มกับวิเคราะห์ข้อมูลพ้นื ฐาน เพื่อวางแผนการลงพื้นที่ตรวจเย่ยี ม 4.คณะผูป้ ระเมนิ ภายนอกลงพนื้ ที่ตรวจเย่ยี มเพื่อประชมุ เสวนาสร้างสรรค์กบั ผ้มู สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี เก็บรวบรวมขอ้ มลู

เชิงคุณภาพกับบคุ ลากร หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ และ หนว่ ยงาน บุคคลที่มีความเก่ยี วขอ้ งเพม่ิ เติม รวมท้ังทำ รายงานผลการประเมนิ ดว้ ยวาจา 5. คณะผ้ปู ระเมินภายนอกจัดทำรายงานผลการประเมิน คณุ ภาพภายนอกพร้อมข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง พัฒนาคุณภาพการศึกษาแลว้ จะส่งให้ สมศ. เพ่ือพจิ ารณา ในการรบั รองผลการประเมนิ จากนนั้ สมศ.จะจัดส่งให้กบั สถานศกึ ษาและหนว่ ยงานต้นสังกัด 2. สรุปการประเมินคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานศึกษา ตามกรอบมาตรฐานการศึกษา พทุ ธศักราช 2561 ระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน 2.1 มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผูเ้ รยี น ระดับคณุ ภาพ : ดี ผลการเรียนรู้ที่เป็นคุณภาพของผู้เรียนทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ประกอบด้วย ความสามารถในการ อ่าน การเขียน การสื่อสารการคิดคำนวณ การคิดประเภทต่าง ๆ การสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสาร ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นตามหลักสูตรการมีความรู้ ทกั ษะพืน้ ฐานและเจตคติท่ีดีต่อ วิชาชีพ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่เป็นค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ความภูมิใจในท้องถ่ิน และความเป็นไทย การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย รวมทั้งสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสงั คม 2.1.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างวชิ าการของผเู้ รียน ในด้านผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียนและการ สื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง รู้จักการวาง แผนการทำงานสามารถทำงานร่วมกับผู้อืน่ ได้ดี รวมทั้งรูเ้ ทา่ ทันส่ือและสังคมที่เปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ และ สถานศึกษามีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย ครูจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปตามศักยภาพของ ผู้เรียน เป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตร มีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โรงเรยี นมงุ่ เน้นกระตุ้นให้ครผู สู้ อนแทรกวิธกี ารทำงานอยา่ งเป็นระบบ โดยอาศัยการวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูล และเลือกขอ้ มลู ในการตัดสนิ ใจปฏบิ ัติงานอยา่ งสม่ำเสมอในกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริม มีการ ดำเนินการพัฒนาทกั ษะการคิดวิเคราะหค์ ิดอย่างมวี จิ ารณญาณ อภปิ รายแลกเปล่ยี นความคดิ เห็น จึงสง่ ผลให้มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีพัฒนาการขึ้น นักเรียนจึงมีผลงานนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับเขตพื้นที่ การศึกษา เช่น รางวัลโรงเรียนดีเด่นด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้น พื้นฐาน o-net วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 และรางวัลโรงเรียนดีเด่นด้าน ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น จากการทดสอบการศึกษาระดับชาติข้ันพืน้ ฐาน o-net วิชาภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 นักเรียนร้อยละ 60 ถึง 69 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อ พัฒนาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรียนรู้การส่ือสารการทำงานในระดบั ดี และผเู้ รยี นมผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน ในภาพรวมผ่านเกณฑร์ ะดบั ดีตามท่ีโรงเรยี นกำหนดในปีการศึกษา 2563 เพิม่ ขนึ้ จากพน้ื ฐานเดิมในปกี ารศึกษา 2562 โดยเปรยี บเทยี บจากผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี น

จุดที่ควรพัฒนา คือ ครูผู้สอนต้องพยายามและร่วมมือกันฝึกให้นักเรียนได้รู้จักใช้วิธีการทำงานเชิง ระบบและเป็นทีมอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องทั้งในการเรียนการสอนและการทำงาน จึงจะทำให้นักเรียนมี การพฒั นาพฤติกรรมด้านนี้มากขน้ึ ควรมีการประเมินความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ อธิบายแลกเปลย่ี นความคดิ เห็น และแก้ปัญหาเป็นรายบุคคลที่ชัดเจนและครอบคลมุ ทกุ รายวิชา 2.1.2 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ของผู้เรยี น ในด้านคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ของนักเรียนผู้เรยี นมีสว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โรงเรียนได้รบั การยกย่องให้เป็นโรงเรียนปลอดขยะของสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาสุโขทัย รู้และ การหนักถึงโทษและพิษภัยของสิ่งเสพติดต่างๆ เลือกรับประทานอาหารทส่ี ะอาดและมีประโยชน์มีสุขนิสัยใส่ใจ ในการดูแลสุขภาพมีมนุษย์สัมพันธ์ท่ีดี นักเรียนทุกคนรักการออกกำลังกาย และสามารถเล่นกีฬาได้อย่างน้อย คนละประเภทยอมรบั ในกติกาของกลุม่ ของสถานศึกษา ของสังคม รวมถึงมีความเข้าใจในเรื่องความแตกต่าง ระหว่างบุคคล นักเรียนทุกคนมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย เช่น การร่วมกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาตนิ ักเรียนทุกคนแต่งกายดว้ ยชุดไทยท่ีสวยงาม การรว่ มกิจกรรมประเพณี ลอยกระทงอันเป็นประเพณีของจังหวัด คณะครูร่วมใจกันใส่ผ้าพื้นเมืองทุกวันศุกร์ มีการยอมรับความคิดเห็น ของผอู้ น่ื อนั จะเหน็ ได้จากกจิ กรรมในหลายกิจกรรม เช่นกจิ กรรมคา่ ยคนกล้าฝนั กิจกรรมกฬี าภายใน กิจกรรม ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย กิจกรรมในโครงการTo Be Number One และกิจกรรมเด็กอวดดีปี 5 และ นักเรียนเข้าร่วมโครงการสร้างคนดีอย่างเป็นระบบครบร้อยละ 100 จากกิจกรรมคนกล้าฝันตามรอยเท้าพ่อ กิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระ กิจกรรมเพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ โครงงานคุณธรรมตามแนวทางมูลนิธิยุวพัฒน์ และยังมีส่วนร่วมกิจกรรมดนตรีไทยในระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัดเข้าร่วมอบรมโครงการ Pure Love รัก บรสิ ทุ ธิ์หยุดปญั หาพฒั นาสงั คม ร่วมจัดนทิ รรศการโรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.เยาวชนไทยรูร้ ักสามัคคีสร้างคนดีให้ บ้านเมืองสมชั ชาคณุ ธรรมภาคเหนือ 17 จังหวดั กล่มุ ทักษะอาชีพต่างๆสามารถจดั การเรียนรโู้ ดยนำความรู้จาก การปฏิบตั ิในห้องเรยี นสู่การปฏบิ ัติจริงจนกระทง่ั ออกสชู่ ุมชนได้เชน่ กลุ่มทักษะอาชีพดนตรีแตรวงของโรงเรียน การจำหน่ายเบเกอรี่ ผลผลิตจากไข่ การผลิตไม้กวาดดอกหญ้ารวมทั้งผลิตภัณฑ์ของโรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก นักเรยี นจึงมคี วามสามารถหลายดา้ นเป็นตวั แทนเขา้ แข่งขันในหลายระดับจนเป็นท่ียอมรับกัน โดยทั่วไป จุดทีค่ วรพัฒนา สง่ เสริมการเรยี นร้เู พื่อการมงี านทำในยคุ ศตวรรษที่ 21 ใหม้ ากย่ิงขน้ึ อีกทง้ั มีนกั เรียน จำนวนหนึ่งที่มีสภาวะความเสี่ยงโรคอ้วนและภาวะขาดสารอาหาร อันเนื่องจากภาวะทางกายเกินเกณฑ์และ ผา่ นเกณฑ์ จงึ ควรมกี ารพัฒนาโดยการขอความรว่ มมอื กบั โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพประจำตำบลไกรในให้เข้า มามสี ว่ นรว่ ม 2.2 มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ ระดับคณุ ภาพ : ดี โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษกมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่กำหนดไว้ตรงกับ วัตถุประสงค์ ของแผนการศึกษาชาตินโยบายของรฐั บาลและของตน้ สังกดั รวมทั้งทานต่อการเปลี่ยนแปลงของ สังคมอย่างชัดเจน และเป็นไปได้ในทางปฏิบัติทั้งยังสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และท้องถิ่นอย่าง ชัดเจน สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบทั้งในส่วนการวางแผน พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา การนำแผนไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา มีการติดตามตรวจสอบ ประเมินผล และปรับปรุงพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนได้ใช้เทคนิคการประชุมที่หลากหลายวิธีเช่น การ

ประชุมแบบมีส่วนร่วม การประชุมระดมสมอง การประชุมกลุ่ม เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ที่ชัดเจนมีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาแผนปฏิบัติการประจำปีที่ สอดคล้องกับผลการศึกษา สภาพปัญหาความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี คุณภาพมีการดำเนิน การนิเทศ กำกับติดตามผล การดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการจัดการศึกษา และ โรงเรียนได้ใช้กระบวนการวิจัยในการรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้เป็นฐานในการวางแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา และมกี ารนำขอ้ มูลมาใช้ในการปรบั ปรุงเพื่อเปน็ การพฒั นาอย่างต่อเนื่องและเปน็ แบบอย่างได้ จดุ ท่คี วรพัฒนา เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองชุมชนภาคเอกชนได้มีสว่ นร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการ จัดการศกึ ษา เพื่อพัฒนาผู้เรยี นให้มากขึน้ จากเดิมท่ีมีเพียงกิจกรรมเครือข่ายผปู้ กครอง และกจิ กรรมผู้ปกครอง อาสา สร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง มี สว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบต่อผลการจดั การศึกษา และการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา 2.3 มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ระดับคณุ ภาพ : ดี โรงเรียนเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษาท่ี เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยผ่านกระบวนการคิด และปฏิบัติจริง มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปจัด กิจกรรมได้จริง มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้เฉพาะสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ครูผู้สอนมกี ารบริหารจดั การชน้ั เรียนโดยเน้นการมปี ฏสิ ัมพันธ์เชิงบวก ครูมกี ารตรวจสอบและประเมินคุณภาพ การจดั การเรยี นรู้อย่างมีระบบ มขี นั้ ตอนโดยใช้เคร่ืองมือ วิธกี ารวดั และประเมนิ ผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายใน การจัดการเรียนรู้ครูยังจัดการเรียนรู้ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการเรียนโดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียน แสวงหาความรู้ด้วยทางคนในชุมชน ครูมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการพัฒนาการเรียนการสอนโดยจัดกิจกรรมให้ นักเรียนได้เรียนรู้โดยการคิดได้ปฏิบัติจริง มีการให้วิธีการและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้นักเรียนแสวงหา ความรู้จากสื่อเทคโนโลยีด้วยตนเองอยา่ งต่อเน่ือง นกั เรียนมสี ว่ นร่วมในการจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อ ต่อการเรียนรู้ การบูรณาการ 8 กลุ่มสาระ และผลงานจากการจัดการเรียนการสอนได้รับการประเมินจาก ชุมชนและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีงานวิจัยเพื่อพัฒนาการคุณภาพการศึกษาได้ตรวจการประเมินผล งานวจิ ัยในชน้ั เรียนของครูทุกคนพร้อมทงั้ ให้คำแนะนำท่ีครูสามารถพัฒนาต่อยอดได้ ผู้บริหารและหัวหน้างาน ทกุ ฝ่ายมกี ารนิเทศกำกบั ติดตามเพ่ือนำผลไปปรบั ปรงุ แกไ้ ขพฒั นาผูเ้ รียนอย่างต่อเนื่อง จุดท่ีควรพฒั นา การนำวทิ ยากรท้องถ่ิน แหลง่ เรียนรู้ และภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายมากยิ่งข้ึน รวมทั้งควรนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆมาช่วยใน การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ส่งเสริมให้ครูพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในการใช้เทคโนโลยี และสร้าง นวัตกรรมเพื่อการเรียนการสอน และควรมีการวางแผนร่วมกันอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนทสี่ ูงขึน้

ใบงานที่ 3 การวเิ คราะหแ์ นวทางในการพัฒนาตนเอง วัตถุประสงค์ เพ่อื ใหน้ ักศึกษามคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับการวิเคราะหต์ นเองนำไปส่กู ารพัฒนาตนเองใหม้ คี วามเปน็ ครมู ืออาชีพ ทเี่ ทา่ ทนั ต่อการเปลยี่ นแปลงทั้งทางด้านศาสตร์วชิ าชีพครู และศาสตร์สาขาวชิ าเอก ขอบข่ายงาน 1. ให้นกั ศกึ ษาทำการวเิ คราะหต์ นเอง SWOT นำไปสู่การพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูมืออาชีพ ทเี่ ท่าทนั ตอ่ การ เปลี่ยนแปลงทง้ั ทางด้านศาสตร์วชิ าชีพครแู ละศาสตรส์ าขาวชิ าเอก 2. สรปุ การเคราะห์ตนเองเพือ่ เป็นแนวทางนำไปสกู่ ารเปน็ ครมู อื อาชพี ท่เี ทา่ ทนั ต่อการเปล่ยี นแปลงทัง้ ทางดา้ น ศาสตร์วชิ าชพี ครแู ละศาสตร์สาขาวชิ าเอก ผู้เกยี่ วข้อง / แหล่งข้อมูล 1. นักศกึ ษา 2. ครพู เี่ ลีย้ ง/เพื่อนักศึกษา/อาจารย์นิเทศก์

1. วิเคราะห์ SWOT ของตนเอง ชอ่ื ผวู้ เิ คราะห์ นางสาวพรรณพษา สงสยั วชิ าเอก คณิตศาสตร์ วนั ท่ี 17 พฤศจกิ ายน – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2564 คำอธิบาย S (Strength) หมายความวา่ จดุ แขง็ W (Weakness) หมายความวา่ จดุ ออ่ น O (Opportunity) หมายความวา่ โอกาส T (Threat) หมายความวา่ อปุ สรรค S W (จดุ แข็งของตนเอง) (จุดอ่อนของตนเอง) - มคี วามตั้งมน่ั ในส่ิงทวี่ างแผนไว้ - การสื่อสารไมช่ ัดเจน เช่น เผลอพูดภาษาทีไ่ มเ่ ปน็ - พรอ้ มเรียนรู้กับสง่ิ ใหม่อย่ตู ลอดเวลา ทางการบ่อยๆ พูดวกวนอยบู่ ่อยๆ - มคี วามต้งั ใจ ขยันหม่ันเพียร - วางแผนการสอนไมเ่ หมาะสมกับเวลา - พรอ้ มรับทุกข้อแกไ้ ข เมอื่ ตอนเกิดข้อผิดพลาด - ไม่มีความละเอยี ดรอบคอบในเรือ่ งท่สี อน - มปี ระสบการณ์ในการสอนน้อยมาก - ยังมคี วามรู้ในบางเรื่องในบทเรียนที่ไมม่ ากพอ O T (โอกาสทตี่ นเองได้รับ) (อุปสรรคท่ีพบเจอ) - ได้รบั คำแนะนำเทคนิคการสอนจากครูพเ่ี ลี้ยง - นักเรยี นบางส่วนไม่ตัง้ ใจเรียน - ได้รับความไวว้ างใจจากคุณครหู ลายๆทา่ นให้ปฏบิ ัติหนา้ ที่ - อปุ กรณ์การเรยี นการสอนไม่พร้อม เช่น กระดาน เครอ่ื ง ทีต่ นยงั ไมเ่ คยปฏบิ ตั ิ คอมพวิ เตอร์ - ได้ฟังความคิดเหน็ จากผปู้ กครองหลายๆทา่ นเกี่ยวกบั การ - เวลาในการสอนนอ้ ยไป สอนของตนและไดร้ ับคำติชม - อุปสรรคในการเดินทางเพราะบ้านอยู่ห่างไกลจาก โรงเรยี นพอสมควร

2. สรปุ การเคราะห์ตนเองเพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่การเป็นครมู ืออาชีพทเี่ ทา่ ทันตอ่ การเปลี่ยนแปลง ท้ังทางดา้ น ศาสตร์วิชาชีพครู และศาสตร์สาขาวิชาเอก จากการวเิ คราะห์ตนเอง ทำใหท้ ราบถงึ จุดแข็ง จุดอ่อนของตน จงึ มองเหน็ ตนทัง้ ดา้ นบวกด้านลบ อกี ทั้งยงั มองเห็นอปุ สรรคทีต่ นพบเจอและโอกาสท่ตี นไดร้ ับ ส่ิงเหล่าน้สี ามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขและพฒั นาตนเองต่อไปได้ เช่น เร่อื งเทคนิคการสอน ความรูใ้ นแต่ละบทเรยี น การส่ือสาร เปน็ ตน้ ลงชอื่ พรรณพษา สงสัย นักศึกษา 14 ธันวาคม 2564

ใบงานท่ี 4 แบบรายงานโครงการส่งเสริม อนรุ กั ษ์วฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาท้องถิ่นของสถานศึกษา จุดประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจลักษณะของโครงการที่ส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และ ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ 2. เพื่อใหน้ ักศกึ ษาสามารถเขยี นโครงการพัฒนาผู้เรียนตามรูปแบบทกี่ ำหนดได้ 3. เพื่อให้นักศึกษาเขียนรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการเมื่อโครงการเสร็จ สิ้นแล้วได้ อย่างถูกตอ้ ง ขอบขา่ ยของงาน 1. ให้นกั ศกึ ษาเขยี นโครงการท่สี ง่ เสรมิ อนุรักษว์ ัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ หรือเขยี นโครงการที่ บูรณาการตามเน้อื หาวิชาของตนเองทสี่ ง่ เสริม อนรุ ักษ์วัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น โดยเขียนตามรูปแบบ ทกี่ ำหนด 2. ใหน้ ักศึกษาดำเนินและเข้ารว่ มโครงการท่ีสง่ เสรมิ อนรุ ักษว์ ัฒนธรรม และภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ 3. ให้นักศึกษานำผลจากการเรียนรู้โครงการที่ส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ของสถานศกึ ษาเขียนรายงาน และนำไปประเมินสะท้อนกลบั (AAR) โดยนำผลมาแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ในรูปแบบ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาตนเองให้มีความรอบรู้ทันสมัยและทันต่อ การเปล่ยี นแปลง ในวนั สัมมนาหลงั ฝกึ ประสบการวิชาชีพครู ผูเ้ ก่ยี วข้อง/ แหล่งข้อมลู 1. ครพู เี่ ลี้ยง 2. ครูผูร้ บั ผิดชอบโครงการท่ีสง่ เสรมิ อนรุ กั ษว์ ัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิน่ ของสถานศกึ ษา 3. แผนปฏิบัตกิ าร 4. รายงานการประเมินตนเอง (SAR)

1. โครงการสง่ เสริม อนุรกั ษ์วฒั นธรรม และภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ช่ือโครงการ ส่งเสริมคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ใหก้ ับนักเรียน ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงการ นางสาวนำ้ ผึง้ สงสัย ลักษณะโครงการ โครงการใหม่ โครงการสังกดั กลุ่มงาน/ฝ่าย กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ******************************************************************************* หลักการและเหตุผล ปัจจบุ ันสถานการณป์ ัญหาความไม่ปลอดภัยทเี่ กิดขึน้ กบั เยาวชนในสังคมมใี หเ้ ห็นมากมายทั้งในเชงิ ปรมิ าณและความรุนแรง ซ่ึงปัญหาเหลา่ นีล้ ว้ นสง่ ผลกระทบตอ่ พัฒนาการของเด็กทง้ั ดา้ นร่างกายและจติ ใจ สติปญั ญา ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ อีกทง้ั ยงั ขาดการดูแลคุ้มครองสวสั ดภิ าพและความปลอดภัยจาก สังคมอยา่ งจรงิ จัง การปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ใหก้ ับนักเรยี นจึงมีความ จำเป็นทีต่ ้อง ดำเนนิ การอย่างต่อเนอ่ื งและสม่ำเสมอ เพื่อให้เดก็ และเยาวชนของชาตเิ ตบิ โตเปน็ ผูใ้ หญท่ ่มี ี คุณภาพ สามารถ ดำรงตนอยู่ในสังคมอยา่ งมีความสุข ( ดี ) เพอื่ เปน็ การสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคส์ ำหรบั นักเรียนให้ประสบ ผลสำเร็จ มคี วามสอดคล้องและเปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลา ภิเษก จึงได้จดั ทำโครงการน้ีขึ้นมาเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้ตามมาตรฐานการศึกษา วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคใ์ ห้กบั นกั เรยี นทกุ คน เปา้ หมาย เชิงปริมาณ นกั เรียนโรงเรียนไกรในวทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก จำนวน 415 คน เชงิ คุณภาพ นักเรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและมคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ระดบั ดี ร้อยละ 90 วิธดี ำเนินการ กิจกรรม ระยะเวลา ผ้รู บั ผดิ ชอบ ดำเนินการ 1. ขน้ั เตรยี ม (Plan) 1.1 ระดมความคดิ เห็น/สภาพปญั หา/ความต้องการ/ทางเลือกในการ พ.ค.2564 น.ส.นำ้ ผึ้ง สงสัยและคณะ ดำเนินการ 1.2 เสนอโครงการและขออนุมตั ิ

กิจกรรม ระยะเวลา ผ้รู บั ผิดชอบ ดำเนนิ การ 1.3 แตง่ ต้งั คณะกรรมการดำเนินงาน 2. ข้ันปฏบิ ัติ (DO) 2.1 กจิ กรรมเข้าถึง รู้ซึ้ง ถึงใจ ห่วงใย ตลอดปี นายเคียง ชำนิและคณะ 2.2 กจิ กรรมโรงเรยี นคณุ ธรรมตามแนวทางมูลนิธยิ วุ พฒั น์ 2.3 กิจกรรมโรงเรยี นรกั ษาศลี ๕ การศกึ ษา นางสาวมสั ริน ชมุ่ อนิ จักร์ 2564 นางสาวมสั ริน ชุ่มอนิ จกั ร์ 2.4 กจิ กรรมโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. นางสาวน้ำผง้ึ สงสัย และคณะ 2.4 กิจกรรมทำบญุ ตักบาตร กิจกรรมวนั สำคญั ทางศาสนา นายเคยี ง ชำนิ และคณะ ขนบธรรมเนียมและประเพณี ตามความเหมาะสม 2.5 จัดกจิ กรรมสวดมนต์ไหวพ้ ระประจำวนั ประจำสปั ดาหแ์ ละ นายสทุ ธพิ ร จันทรฝ์ อย พฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมแกน่ ักเรียน 2.6 กจิ กรรมเข้าคา่ ยคุณธรรมต่างๆ การบำเพ็ญกศุ ลและพัฒนาจติ ใจ นางสาวนำ้ ผง้ึ สงสยั และคณะ ให้เปน็ คนดีมีศีลธรรมนำความสุข และมีจรยิ ธรรม 2.7 กจิ กรรมการคัดเลือกนักเรยี นดเี ดน่ ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมและมี นายสุทธิพร จนั ทรฝ์ อย ค่านิยมท่ดี ีงามเพ่ือประกาศเกียรติคณุ ยกย่องและให้กำลงั ใจ 2.8 กจิ กรรมประกวดการทำโครงงานพฒั นาคุณธรรมและเปน็ ที่ นางสาวมสั ริน ชุ่มอนิ จักร์ ปรกึ ษาแกน่ กั เรยี นในแตล่ ะระดบั ช้นั 3. ขั้นตดิ ตามผล (Check) คณะกรรมการดำเนินงานมกี ารตรวจสอบตามแผนการดำเนิน มี.ค.2565 นางสาวน้ำผ้ึง สงสัยและ กิจกรรมตามโครงการ คณะ 4. ขน้ั สรปุ รายงานผล (Action) 4.1 สรปุ และประเมนิ ผลโครงการ ม.ี ค. 2565 นางสาวนำ้ ผง้ึ สงสยั และ 4.2 รายผลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ คณะ งบประมาณทใ่ี ช้ 30,000 บาท

สถานที่ โรงเรียนไกรในวทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก ผลท่คี าดว่าจะได้รบั นักเรยี นโรงเรยี นไกรในวิทยาคม รชั มงั คลาภิเษกมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ในระดบั ดี ร้อยละ 90 ขน้ึ ไป การประเมนิ โครงการ วธิ ีการประเมนิ เคร่ืองมอื ที่ใช้ - แบบสงั เกต ตวั บ่งชคี้ วามสำเร็จ - จากการสังเกต - แบบประเมินความพงึ ผลผลติ (เชงิ ปรมิ าณ) - ความพึงพอใจใน พอใจ การร่วมกจิ กรรมของ 1. นกั เรียนโรงเรยี นไกรในวทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก ผูเ้ รยี น จำนวน 415 คน ผลลัพธ์ (เชงิ คุณภาพ) - สรปุ ผลการประเมณิ - แบบสรุปผลการ คุณลักษณะอันพึง ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั 1. นกั เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและมคี ุณลกั ษณะอัน ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงคร์ ะดับดี ร้อยละ 90 - ปพ.5 2. การทบทวนหลังปฏิบตั ิงาน (After Action Review: AAR) 2.1 นักศกึ ษาคาดหวงั อะไรจากการเข้ารว่ มโครงการส่งเสริม อนรุ ักษ์วัฒนธรรม และภูมปิ ัญญาท้องถิ่น ในครง้ั นี้ คาดหวังว่านักเรียน และเยาวชนของชาติจะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ความสามารถ คณุ ธรรม และจริยธรรม เพ่อื ใหด้ ำรงตนอยใู่ นสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ 2.2 นักศึกษาได้บรรลุตามที่คาดหวังจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และ ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ ในครงั้ นหี้ รอื ไม่ เพราะอะไร บรรลตุ ามท่คี าดหวงั เพราะ ในโครงคุณธรรมการนำชีวติ จะเป็นโครงการทส่ี อนนักเรียนในเรอ่ื งการ ปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม และลักษณะอันพึงประสงค์ให้กับนกั เรยี น ซง่ึ ทำให้นักเรียนโรงเรยี นไกรใน วทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษกมีคุณธรรม จริยธรรมและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับดี ร้อยละ 90 ขน้ึ ไป 2.3 มีสิ่งใดบา้ งท่ีไม่เปน็ ไปตามคาดหวงั จากการเข้าร่วมโครงการสง่ เสรมิ อนรุ ักษว์ ัฒนธรรม และ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นในครง้ั นี้ เพราะอะไร นักเรียนบางคนไม่มีความตั้งใจในการทำกิจกรรมและอาจเป็นเพราะเป็นเพียงการฝึกชั่วคราว จึง ตอ้ งใชก้ ารฝึกเป็นประจำถึงจะตดิ เปน็ นสิ ยั และจะทำให้นักเรียนทำได้ถกู ต้องและทำดว้ ยความเต็มใจ

2.4 พบปัญหาอะไร จะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างไรจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ - ปญั หา : นักเรียนบางคนยังไม่ต้ังใจในการทำกจิ กรรมครั้งน้ี และไมค่ ่อยปฏิบตั ิตาม - วิธีแกป้ ญั หา : เวลาท่ีนกั เรยี นไม่ตง้ั ใจทำกจิ กรรมใชว้ ิธกี ารดงึ ดูดความสนใจด้วยกจิ กรรมทีต่ อ้ งมี การคิด เพ่อื กระต้นุ ใหน้ กั เรยี นมคี วามสนใจและปฏิบตั กิ ิจกรรมต่อไป 2.5 มีสิ่งใดที่เกินความคาดหวังจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ท้องถน่ิ ในคร้ังนีห้ รอื ไม่ เพราะอะไร - มี เพราะนักเรียนตั้งใจปฏิบัติกจิ กรรมมากขนึ้ กวา่ เดิม และมรี ะเบียบวินยั มากข้ึนกกว่าเดมิ 2.6 นักศึกษาจะทำอย่างไรเพ่ือให้บรรลสุ ่ิงท่คี าดหวัง และนักศึกษาได้รบั บทเรียนอะไรทีจ่ ะชว่ ย ปรบั ปรุงการทำงานในคร้งั ต่อไป - วางแผนในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมทีเ่ ปน็ ระบบ มีความสะดวกตอ่ การจัดกจิ กรรม บทเรยี นทีไ่ ดร้ บั : นักเรียนยงั ไมต่ ง้ั ใจในการทำกิจกรรมทำให้เกิดปญั หา ในครั้งตอ่ ไปจะต้องหา กิจกรรมมาดึงดูดความสนใจของนกั เรยี นใหม้ ากข้นึ

3. ภาพนักศึกษาเขา้ ร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ของสถานศกึ ษา (3-5 ภาพ) กิจกรรมแหเ่ ทยี นพรรษาในวนั กิจกรรมตกั บาตรขา้ งสารอาหารแหง้ เข้าพรรษา ในวันขึ้นปีใหม่ กิจกรรมทอดผ้าป่าในวนั สถาปนาของ กิจกรรมอมรมโรงเรียนคณุ ธรรม โรงเรยี น มูลนิธยิ วุ พัฒน์ กิจกรรมอบรมวทิ ิสาสมาธิ กิจกรรมตลาดนดั วัฒนธรรมตำบล ไกรใน