Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบงาน

ใบงาน

Published by Guset User, 2021-12-11 04:36:07

Description: ใบงาน

Search

Read the Text Version

ใบงาน การปฏิบัติวชิ าชพี ครูระหวา่ งเรยี น 2 นางสาวพรรณพษา สงสยั รหัสนักศึกษา 6312106011 คณะครุศาสตร์ สาขาคณติ ศาสตร์ ฝกึ ที่โรงเรียนไกรในวิทยาคม รชั มังคลาภิเษก อำเภอกงไกรลาศ จงั หวัดสุโขทยั อาจารย์นิเทศ รองศาสตราจารย์ ดร.ภัคพล ปรชี าศิลป์

ใบงานที่ 1 การวเิ คราะห์หลกั สตู รสถานศึกษา วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ให้นักศึกษามีความรู้ความเขา้ ใจในการวิเคราะห์หลักสตู ร ตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ที่ตรงกบั วิชาเอกของตน 2. เพอ่ื ใหน้ ักศึกษาสามารถฝกึ ปฏิบัตวิ เิ คราะห์หลกั สตู รได้ตามขนั้ ตอน 3. เพ่ือให้นักศึกษาสามารถเขยี นแผนการจดั การเรยี นรูต้ ามกลุ่มสาระที่ตรงกับวชิ าเอกได้ อยา่ งเหมาะสม 4. เพอื่ ให้นักศึกษาสามารถฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานการณ์ในชั้นเรียนจรงิ ได้ ขอบข่ายของงาน 1. ใหน้ กั ศึกษาศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระที่ตรงกับวิชาเอกของตนแลว้ ทำการวเิ คราะห์หลกั สตู รตามขั้ นตอนท่ีกำหนดให้ 2. เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหนว่ ยการเรยี นรู้ 3. วางแผนการจัดการเรยี นรู้ทีจ่ ะนำไปทดลองปฏบิ ตั ิการสอนในชั้นเรยี น 4. ทดลองปฏบิ ตั กิ ารจดั การเรียนรู้ ผเู้ ก่ียวข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ครูนเิ ทศก์ / ครูพ่เี ล้ียง 2. เอกสารหลกั สูตรสถานศกึ ษาตามกลมุ่ สาระ 3. เอกสารหลกั สูตร / เอกสารประกอบหลกั สูตร 4. แผนการจัดการเรยี นรู้

การวเิ คราะหห์ ลกั สตู รกลุ่มสาระ หลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ช่ือสถานศึกษาโรงเรยี นไกรในวิทยาคม รัชมงั คลาภิเษก อำเภอกงไกรลาศ จงั หวัดสุโขทัย ***************************************************************************************** ขนั้ ที่ 1การวเิ คราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างมาตรฐานการเรียนรกู้ ล่มุ สาระกับตัวช้ีวัดชน้ั ปี/ตวั ชี้วัด รายภาค มาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระ ตวั ชวี้ ดั ช้นั ปี / ตัวช้ีวัดรายภาค ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 มาตรฐาน ค ๓.๒ ๑. เขา้ ใจและใช้หลักการบวกและการคณู การเรียงสับเปลยี่ น เขา้ ใจหลักการนบั เบ้อื งต้น และการจัดหมู่ ในการแกป้ ญั หา ความน่าจะเป็น และนำไปใช้ ๒. มาตรฐาน ค ๓.๒ หาความนา่ จะเปน็ และนำความรเู้ กย่ี วกบั ความน่าจะเป็นไปใช้ เข้าใจหลักการนบั เบือ้ งต้น ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้

ข้นั ที่ 2 การวเิ คราะหค์ วามสัมพนั ธ์ระหวา่ งสาระการเรียนรู้ช่วงช้นั กบั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตวั ชี้วดั ช้ันปี / รายภาค สาระการเรียนรู้แกนกลาง ค ๓.๒ ม.๔/๑ เขา้ ใจและใชห้ ลกั การ บวกและการคูณ การเรียงสับเปลี่ยน หลกั การนบั เบือ้ งต้น และการจดั หมู่ ในการแกป้ ัญหา - หลกั การบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียนเชิงเส้นกรณีที่ส่ิงของแตกต่างกนั ค ๓.๒ ม.๔/๒ หาความน่าจะเป็นและ ท้งั หมด นาความรู้เกี่ยวกบั ความน่าจะเป็นไปใช้ -การจดั หมกู่ รณีที่สิ่งของแตกตา่ งกนั ท้งั หมด ความน่าจะเป็ น -การทดลองสุ่มและเหตกุ ารณ์ -ความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณ์

ข้นั ที่ 3 การวเิ คราะห์ความสัมพนั ธ์ระหว่าง ตวั ชี้วดั กบั ความรู้/ทักษะ/คณุ ลกั ษณะฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4 ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ค ๓.๒ ม.๔/๑ เขา้ ใจและ ความรู้ ทกั ษะ / กระบวนการ คุณลกั ษณะฯ ใชห้ ลกั การบวกและการคณู การเรียงสับเปลี่ยน และการ -สามารถแกโ้ จทยป์ ญั หา -มีทกั ษะในการแกป้ ัญหาและให้ จดั หมู่ ในการแกป้ ัญหา โดยใช้หลกั การนบั เบอื้ งต้น -สามารถแกโ้ จทยป์ ญั หา เหตผุ ลได้ -มีความรับผิดชอบ ค ๓.๒ ม.๔/๒ หาความ โดยใช้แผนภาพตน้ ไม้อย่าง น่าจะเป็ นและนาความรู้ ง่ายได้ -มีการสื่อสาร สื่อความหมายทาง -มีระเบียบวินยั เกี่ยวกบั ความน่าจะเป็นไป -ตระหนกั ถึงความ ใช้ สมเหตุสมผลของคำตอบ คณิตศาสตร์ และการน าเสนอ -ใฝ่เรียนรู้และมงุ่ ในการทางาน จากการคำนวณและการ แก้ปัญหาได้ -มีทกั ษะในการใชส้ มบตั ิของเลข -สามารถใชแ้ ละแกป้ ัญหา ยกกาลงั ในการประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ เกี่ยวกบั แฟคทอเรียลได้ -มีทกั ษะในการแกป้ ัญหาและให้ -สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหา เหตผุ ลได้ -มีความรับผิดชอบ โดยวิธีการเรียงสับเปล่ียน -มีการสื่อสาร ส่ือความหมายทาง -มีระเบียบวนิ ยั ได้ คณิตศาสตร์ และการน าเสนอ -ใฝ่เรียนรู้และมงุ่ ในการทางาน -สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหา -มีทกั ษะในการใชส้ มบตั ิของเลข โดยวิธีการจดั หมู่ได้ ยกกาลงั ในการประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้

ข้นั ท่ี 4 การจดั ทาคาอธิบายรายวชิ า คาอธบิ ายรายวชิ า ค๓๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๒ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์(พื้นฐาน) ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ จานวน ๑.๐ หน่วยกติ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ............................... ศึกษาและฝึกทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อนั ไดแ้ ก่ การแกป้ ัญหา การใหเ้ หตผุ ล การส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ตา่ ง ๆทางคณิตศาสตร์ และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อ่ืน ๆ และมีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ในสาระตอ่ ไปน้ี หลกั การนับเบือ้ งต้น หลกั การบวกและการคณู การเรียงสับเปล่ียนเชิงเสน้ กรณีที่ส่ิงของแตกต่างกนั ท้งั หมด การจดั หมกู่ รณีสิ่งของแตกตา่ งกนั ท้งั หมด ความน่าจะเป็ น การทดลองสุ่มและเหตกุ ารณ์ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ตวั ชี้วดั ค ๓.๒ ม.๔/๑ ม.๔/๒ รวมท้งั หมด ๒ ตัวชีว้ ดั

ข้นั ที่ 5 การจดั ทาโครงสร้างรายวิชา โครงสร้างรายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดบั ❑ ประถมศึกษา ช้นั ...................................................เวลา........................................ ✓ มธั ยมศึกษา ช้นั ปี ท่ี 4 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ลาดบั ที่ ชื่อหน่วยการเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั คะแนน รู้ (ช่ัวโมง) 1 ชื่อหน่วย หลกั การนบั เบ้ืองตน้ 1.1 ชื่อเรื่อง ค ๓.๒ ม.๔/๑ -แผนภาพ .............. ................. หลกั การบวกและ เขา้ ใจและใชห้ ลกั การบวก ตน้ ไม้ ... หลกั การคูณ และ -หลกั การบวก การคณู การเรียงสบั เปลี่ยน และหลกั การ และ คูณ การจดั หมใู่ นการแกป้ ัญหา 1.2 ช่ือเร่ือง ค ๓.๒ ม.๔/๑ -แฟกทอเรียล .............. ................. การเรียงสับเปลี่ยน เขา้ ใจและใชห้ ลกั การบวก -การเรียง ... เชิงเส้นกรณีที่ และ สบั เปล่ียนเชิง สิ่งของแตกต่างกนั การคูณ การเรียงสับเปล่ียน เส้นกรณีท่ี ท้งั หมด และ ส่ิงของแตกตา่ ง การจดั หมใู่ นการแกป้ ัญหา กนั ท้งั หมด 1.3 ชื่อเรื่อง ค ๓.๒ ม.๔/๑ -การจดั หมกู่ รณี .............. ................. การจดั หมกู่ รณี เขา้ ใจและใชห้ ลกั การบวก สิ่งของแตกตา่ ง ... ส่ิงของแตกต่างกนั และ กนั ท้งั หมด ท้งั หมด การคูณ การเรียงสับเปลี่ยน และ การจดั หม่ใู นการแกป้ ัญหา รวมหน่วยท่ี 1 20 40

2 ช่ือหน่วย ความน่าจะเป็น 2.1 ช่ือเรื่อง ค ๓.๒ ม.๔/๒ -การทดลองสุ่ม .............. ................. และเหตุการณ์ ... การทดลองสุ่ม หาความน่าจะเป็นและนา -ความน่าจะ .............. ................. และเหตุการณ์ ความรู้เกี่ยวกบั เป็น ... ความน่าจะเป็ นไปใช้ 18 30 38 70 2.2 ชื่อเร่ือง ค ๓.๒ ม.๔/๒ 1 15 1 15 ความน่าจะเป็น หาความน่าจะเป็นและนา 40 100 ความรู้เก่ียวกบั ความน่าจะเป็ นไปใช้ รวมหน่วยท่ี 2 รวมทุกหน่วย สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวมตลอดปี / ภาค

ข้นั ที่ 6 การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระคณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ชื่อหนว่ ย หลักการนับเบื้องต้น แผนที่ 1 เรอ่ื ง แผนภาพต้นไม้และหลักการบวก เวลาสอน……………………………………ชวั่ โมง สอนวนั ท.ี่ ...............เดอื น................................................พ.ศ ................. ช่ือผสู้ อน นางสาวพรรณพษา สงสยั สาขา วชิ าคณติ ศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคญั หลักการบวก เป็น หลกั การเบ้ืองต้นที่เกยี่ วกบั การนบั มาตรฐาน มาตรฐาน ค ๓.๒ เข้าใจหลักการนบั เบื้องตน้ ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้ ตัวชี้วดั -เขา้ ใจและใช้หลักการบวกและการคณู การเรยี งสบั เปลย่ี น และการจดั หมู่ ในการแกป้ ญั หา จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 นกั เรียนสามารถแก้โจทย์ปญั หาโดยใช้หลกั การบวกเบือ้ งต้นเกี่ยวกบั การนับได้ 1.2 นักเรยี นสามารถแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใช้แผนภาพตน้ ไมอ้ ย่างง่ายได้ 1.3. นกั เรียนตระหนกั ถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบจากการคำนวณและการแกป้ ัญหาได้ 2. ด้านทกั ษะกระบวนการ 2.1 นักเรยี นมีทักษะในการแกป้ ญั หาและใหเ้ หตผุ ลได้ 2.2 มกี ารส่อื สาร ส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ 3.1 มีความรับผดิ ชอบ 3.2 มรี ะเบียบวนิ ัย 3.3 ใฝ่เรียนรแู้ ละมุง่ ในการทำงาน สาระการเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภาพตน้ ไมไ้ ด้และเข้าใจหลกั การบวก ทักษะในศตวรรษที่ 21 การเรียนรู้ 3R x 7C -3R Rithemetics (คิดเลขเป็น) -7C ritical Thinking and Problem Solving (ทักษะดา้ นการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา)

สมรรถนะสำคญั - การแกป้ ญั หา - การใหเ้ หตผุ ล - ความสามารถในการส่อื สาร การส่ือความหมาย คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ -ใฝเ่ รียนรู้และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน - ตรงตอ่ เวลา กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันท่ี 1 นำเข้าสูบ่ ทเรยี น ครพู ูดถงึ คำว่าโอกาสหมายถงึ อะไร โอกาสในการกระทำส่ิงใดจะมีกี่วิธใี นการกระทำได้ ขั้นที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนำนักเรยี นสนทนาวา่ ใครเคยมีปญั หาเร่ืองการจดั ชดุ เส้อื ผา้ จดั ชดุ อาหาร จัดชุดส่งิ ของ ต่าง ๆ และ นักเรียนมีวธิ ีแกไ้ ขปัญหาอยา่ งไร ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นท่ีเคยมีปัญหา มีวธิ ี แก้ปัญหาเลา่ ปัญหา วธิ แี ก้ปญั หา พร้อมให้นกั เรียนคนอ่นื ร่วมสนทนาแสดงความคิดเห็น 2. ครูบอกนักเรียนเก่ียวกบั แผนภาพตน้ ไมว้ ่าคอื อะไร แผนภาพตน้ ไม้ คือ วิธีการในการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ท่เี กี่ยวข้องกบั การหาจำนวน วธิ กี ารท้งั หมดท่เี ป็นไปได้ของเหตกุ ารณ์หนึ่งๆ 3. ครูแสดงวธิ แี ก้ปญั หา หรือหาคำตอบโดยการแผนภาพต้นไม้ของการจดั ชดุ เสื้อผา้ ที่มีเสื้อ 3 ตวั กางเกง 2 ตวั โดยนกั เรียนควรอ่านโจทย์ใหเ้ ขา้ ใจวา่ ในปญั หาน้ันกำหนดเง่ือนไขอะไรบ้าง การพิจารณาเง่อื นไขของปัญหา จะช่วยให้สามารถกำหนดข้นั ตอนในการแก้ปัญหา ซึง่ จะ ช่วยให้สามารถหาคำตอบได้ง่ายขึน้ กางเกง เสอ้ื ชดุ ที่ 1 กางเกงที่ 1 เสอ้ื ตวั ท่ี 1 ชุดท่ี 2 กางเกง เส้อื ตวั ท่ี 2 ชดุ ท่ี 3 กางเกงท่ี 2 เส้ือตวั ที่ 3 ชุดที่ 4 เส้อื ชดุ ที่ 5 เสอ้ื ตวั ที่ 1 ชุดที่ 6 เสอ้ื ตัวท่ี 2 เสือ้ ตวั ท่ี 3 4. ครูถามนกั เรียนใครตอบ 6 วธิ ี และมวี ธิ ีอย่างไร พร้อมให้นักเรียนอภปิ รายวธิ ใี ห้คำตอบ

5. ครสู รุปเราใช้หลกั ในการคำนวณ คอื ใช้หลกั การบวก หลักการบวก ในการทำงานอยา่ งหน่ึง ถ้าสามารถแบ่งวิธกี ารทำงานออกเปน็ 2 กรณี โดยท่ี กรณที ่ี 1 สามารถทำได้ ������1 วิธี กรณที ่ี 2 สามารถทำได้ ������2 วธิ ี ซ่งึ วิธกี ารทำงานทั้งสองกรณีไมซ่ ้ำซอ้ นกัน และการทำงานในแต่ละกรณที ำให้ทำงานเสร็จสมบรู ณแ์ ลว้ จะสามารถ ทำงานนีไ้ ด้ท้ังหมด ������1+������2 วิธี 6. ครูยกตวั อย่างต่อไปโดยโจทย์กำหนดให้นักเรียนต้องจดั อาหารคาว 2 ชนดิ กบั อาหารหวาน 3 ชนิด นักเรียนจะ สามารจดั อาหารไดท้ ัง้ หมดกว่ี ิธี วิธที ำ โจทย์กำหนด อาหารคาว 2 ชนิด และ อาหารหวาน 3 ชนิด ให้ คาว แทนอาหารคาว ให้ หวาน แทนอาหารหวาน อาหารคาว อาหารหวาน หวาน 1 1วิธี คาว 1 หวาน 2 2วธิ ี หวาน 3 3วธิ ี อาหารคาว อาหารหวาน หวาน 1 4วิธี คาว 2 หวาน 2 5วิธี หวาน 3 6วธิ ี ตอบ นักเรียนสามารจัดอาหารไดท้ ั้งหมด 6 วิธี กจิ กรรมสรปุ การสอน 7. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปประเดน็ เกยี่ วกับการหาเข้าใจโจทย์ปญั หาของความนา่ จะเป็น 8. ครูให้นกั เรียนทุกคนทำ ใบงานที่ 1 ในเอกสารประกอบการสอนเปน็ การบ้าน และกำหนดวันส่ง ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2251 จัดทำโดย สสวท. 2. ใบงานท่ี 1 เร่ืองหลักการนับเบือ้ งตน้ ( หลักการบวก )

การวัดผลและประเมินผล เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมิน วธิ ีการ ความรู้ - ตรวจสอบความถกู ต้อง การตรวจสอบความถูกต้องของใบ -แบบฝึกหัดในเอกสารประกอบ และความเขา้ ใจ งานและฝกึ หัด การเรยี น - ความถูกต้องของ - -แบบฝึกหดั ในหนงั สือเรียน แบบฝึกหดั ไมต่ ่ำกว่า 70% การเช็คชอื่ การเขา้ เรยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - เข้าเรียนตรงต่อเวลา การสง่ งานในแต่ละครั้ง -การเขา้ เรยี น - มคี วามกระตอื รือรน้ ใน -มคี วามรับผดิ ชอบในการส่งงาน การเรียน - การแก้ปญั หา -การมสี ่วนร่วมในช้ันเรยี น - การให้เหตผุ ล - ตรวจสอบความถกู ต้อง - ความสามารถใน สมรรถนะ และความเข้าใจ การส่อื สาร การสื่อ - แบบฝกึ หัดในเอกสาร - ความถูกต้องของ ความหมาย ประกอบการเรยี น แบบฝึกหัดไมต่ ำ่ กว่า 70% - แบบฝึกหดั ในหนงั สือเรียน กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. บันทึกความคดิ เหน็ ของครูพ่ีเลี้ยงกอ่ นสอน .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ลงช่ือ.............................................................. วัน/เดอื น/ปี............................ บนั ทกึ ความคิดเห็นครพู เ่ี ล้ยี งหลังสอน .......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................ วัน/เดอื น/ปี............................

บนั ทึกผลหลังสอน ผลการสอน ............................................................................................................................. ............................................. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแกไ้ ข .......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .......................................................นกั ศึกษา วนั /เดอื น/ปี.......................... ลงชือ่ ……………………………………….. (ครพู ่เี ลย้ี ง / ครนู ิเทศ / ผู้บริหารสถานศึกษา)

เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชดุ ที่ 1 เรอ่ื ง หลกั การนบั เบอ้ื งตน้ แบบฝึกทักษะท่ี 1.1 เรอื่ ง หลักการบวกและแผนภาพต้นไม้ จุดประสงค์ นักเรยี นสามารถใช้แผนภาพตน้ ไม้อยา่ งง่ายในการหาจำนวนผลลัพธ์ท่ีอาจเกิดขน้ึ ของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ได้ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นหาจำนวนวิธที เ่ี ป็นไปได้ทัง้ หมดโดยใช้แผนภาพต้นไม้ 1. นักเรยี นคนหนึ่งจะต้องเลือกเรียนวิชาเพิม่ เติมการงานอาชีพและภาษาอังกฤษอยา่ งละ 1 รายวชิ า ถา้ โรงเรียนกำหนดสอนวชิ าเพิม่ เติมการงานอาชพี ให้ 3 รายวชิ า และวิชาภาษา องั กฤษ 3 รายวชิ า จำนวนวธิ ีท่ี นักเรียนคนนจี้ ะเลือกเรียนวิชาเพม่ิ เติมทงั้ วิชาการงานอาชีพและ ภาษาอังกฤษได้แตกตา่ งกนั ท้งั หมดก่ีวิธี วิธที ำ เขียนแผนภาพต้นไม้ได้ดงั นี้ ดงั น้นั จำนวนวิธที ่ีนกั เรียนคนนี้จะเลือกเรยี นวิชาเพมิ่ เติมท้งั วิชาการงานอาชพี และ ภาษาองั กฤษ ได้แตกตา่ งกันเท่ากับ........................ วิธี 2. เดก็ คนหนงึ่ ต้องการเลือกซื้อไอศกรมี ที่ร้านไอศกรีมแหง่ หน่งึ โดยทางรา้ นมีโคนและถ้วยให้เลอื ก ใสไ่ อศกรมี ได้เพียงอย่างละ 1 ลกู เท่านน้ั ซง่ึ มรี สวนิลา รสมะนาว รสชอ็ กโกแลต และรสสตอเบอรี่ ท่ีเด็กคนนีช้ อบจำนวนวธิ ีที่เด็กคนนจ้ี ะเลือกซื้อไอศกรมี ได้แตกต่างกนั ทง้ั หมดกว่ี ิธี วธิ ีทำ เขียนแผนภาพตน้ ไม้ไดด้ งั นี้ ดงั นน้ั จำนวนวธิ ีทเี่ ดก็ คนน้จี ะเลือกซื้อไอศกรีมได้แตกต่างกัน เท่ากบั ........................วธิ ี

3. จากเมอื ง ก ไปยงั เมอื ง ข มเี สน้ ทางการเดินทางได้ 3 วธิ ี คือ รถยนต์ รถไฟ และเคร่ืองบิน จากเมือง ข ไป เมือง ค มเี สน้ ทางการเดนิ ทางได้ 2 วิธี คือ รถยนตแ์ ละเรือ จำนวนวธิ ที ี่จะ เดนิ ทางจากเมือง ก ไปยังเมือง ค โดยผา่ นเมอื ง ข เปน็ เทา่ ใด วธิ ที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไมไ้ ดด้ งั น้ี ดงั นนั้ จำนวนวธิ ที จี่ ะเดนิ ทางจากเมือง ก ไปยงั เมือง ค โดยผา่ นเมือง ข เท่ากบั ………………….วิธี 4. มนี ก 2 ตวั เลอื กใสก่ รงนก 5 กรง ไดแ้ ตกตา่ งกันทัง้ หมดกี่วิธี วิธที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไมไ้ ด้ดังนี้ ดังนั้น นก 2 ตัว จะเลอื กกรงได้ท้งั หมด…………………………………..วธิ ี

เฉลย เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชุดที่ 1 เรอ่ื ง หลักการนบั เบ้อื งตน้ แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 1.1 เรอ่ื ง หลกั การบวกและแผนภาพตน้ ไม้ จดุ ประสงค์ นักเรยี นสามารถใชแ้ ผนภาพต้นไม้อย่างงา่ ยในการหาจำนวนผลลพั ธ์ทอ่ี าจเกิดขน้ึ ของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ได้ คำช้แี จง : ให้นักเรียนหาจำนวนวธิ ที เ่ี ปน็ ไปได้ทง้ั หมดโดยใช้แผนภาพตน้ ไม้ 1. นักเรยี นคนหนึง่ จะต้องเลือกเรยี นวชิ าเพิ่มเติมการงานอาชีพและภาษาองั กฤษอยา่ งละ 1 รายวิชา ถ้าโรงเรียนกำหนดสอนวิชาเพิม่ เตมิ การงานอาชีพให้ 3 รายวชิ า และวชิ าภาษา อังกฤษ 3 รายวิชา จำนวนวธิ ีที่ นักเรยี นคนน้จี ะเลือกเรยี นวชิ าเพิ่มเติมทง้ั วิชาการงานอาชีพและ ภาษาองั กฤษได้แตกตา่ งกันทัง้ หมดกว่ี ธิ ี วิธที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไม้ไดด้ งั นี้ การงานอาชพี ภาษาองั กฤษ การงานอาชพี ภาษาอังกฤษ การงานอาชีพ ภาษาอังกฤษ อ1 1วิธี อ1 4วิธี อ1 7วิธี ก1 อ2 2วธิ ี ก2 อ2 5วิธี ก3 อ2 8วิธี อ3 3วธิ ี อ3 6วิธี อ3 9วธิ ี ดงั น้นั จำนวนวิธที น่ี ักเรียนคนน้จี ะเลอื กเรียนวชิ าเพิม่ เติมทั้งวชิ าการงานอาชีพและ ภาษาองั กฤษ ได้แตกตา่ งกนั เทา่ กับ 9 วธิ ี 2. เด็กคนหนง่ึ ต้องการเลือกซ้ือไอศกรีมทร่ี ้านไอศกรีมแหง่ หน่ึง โดยทางร้านมีโคนและถ้วยใหเ้ ลอื ก ใส่ไอศกรีมไดเ้ พียงอย่างละ 1 ลกู เท่านนั้ ซ่ึงมีรสวนิลา รสมะนาว รสช็อกโกแลต และรสสตอเบอรี่ ทีเ่ ดก็ คนนชี้ อบจำนวนวธิ ีทีเ่ ดก็ คนน้ีจะเลือกซ้ือไอศกรมี ไดแ้ ตกตา่ งกันทัง้ หมดกว่ี ธิ ี วิธีทำ เขยี นแผนภาพต้นไมไ้ ด้ดงั นี้ โคน ถ้วย วนลิ า มะนาว ช็อกโกแลต สตอเบอรี่ วนิลา มะนาว ชอ็ กโกแลต สตอเบอร่ี ดังน้นั จำนวนวิธีทีเ่ ดก็ คนน้ีจะเลอื กซื้อไอศกรีมได้แตกต่างกนั เท่ากับ 4+4 = 8 วธิ ี

3. จากเมือง ก ไปยงั เมือง ข มีเส้นทางการเดินทางได้ 3 วิธี คือ รถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน จากเมือง ข ไป เมือง ค มเี สน้ ทางการเดินทางได้ 2 วิธี คอื รถยนตแ์ ละเรือ จำนวนวิธีท่จี ะ เดนิ ทางจากเมือง ก ไปยังเมือง ค โดยผา่ นเมือง ข เปน็ เทา่ ใด วธิ ที ำ เขียนแผนภาพตน้ ไม้ได้ดังน้ี จากเมือง ก ไปเมอื ง ข จากเมอื ง ข ไปเมอื ง ค 1วธิ ี รถยนต์ รถยนต์ รถไฟ 2วธิ ี เคร่อื งบนิ เรอื 3วิธี รถยนต์ 4วธิ ี เรือ 5วธิ ี รถยนต์ 6วิธี เรือ ดังน้ัน จำนวนวิธีที่จะเดินทางจากเมือง ก ไปยงั เมือง ค โดยผ่านเมอื ง ข เท่ากบั 6 วธิ ี 4. มนี ก 2 ตัว เลือกใสก่ รงนก 5 กรง ได้แตกตา่ งกันทัง้ หมดก่วี ธิ ี วิธที ำ เขยี นแผนภาพตน้ ไม้ไดด้ ังนี้ น1 น2 ก1 ก2 ก3 ก4 ก5 ก1 ก2 ก3 ก4 ก5 ดงั นน้ั นก 2 ตวั จะเลือกกรงไดท้ ัง้ หมด 5+5 = 10 วธิ ี

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ชอ่ื หนว่ ย หลักการนับเบอื้ งต้น แผนที่ 2 เรอ่ื ง หลกั การคูณ เวลาสอน……………………….ช่วั โมง สอนวนั ที่................เดือน................................................พ.ศ................. ชอ่ื ผสู้ อน นางสาวพรรณพษา สงสัย สาขา วชิ าคณติ ศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคัญ หลักการคูณ เป็น หลักการเบื้องต้นท่ีเกีย่ วกบั การนบั มาตรฐาน มาตรฐาน ค ๓.๒ เข้าใจหลกั การนบั เบื้องตน้ ความนา่ จะเปน็ และนำไปใช้ ตัวช้ีวดั -เขา้ ใจและใช้หลักการบวกและการคูณ การเรียงสบั เปล่ียน และการจดั หมู่ ในการแกป้ ญั หา จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 นกั เรยี นสามารถแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใชห้ ลักการคณู เบื้องต้นเก่ยี วกบั การนับได้ 1.2 นกั เรียนสามารถแกโ้ จทย์ปัญหาโดยใช้แผนภาพต้นไม้อยา่ งง่ายได้ 1.3. นกั เรยี นตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบจากการคำนวณและการแกป้ ัญหาได้ 2. ด้านทักษะกระบวนการ 2.1 นกั เรียนมีทกั ษะในการแกป้ ญั หาและให้เหตุผลได้ 2.2 มีการส่อื สาร ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ 3. ด้านคุณลักษณะ 3.1 มีความรบั ผิดชอบ 3.2 มรี ะเบยี บวนิ ัย 3.3 ใฝเ่ รียนรแู้ ละมุ่งในการทำงาน สาระการเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถเขียนแก้ปัญหาโดยใช้หลักการคูณได้ ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 การเรยี นรู้ 3R x 7C -3R Rithemetics (คิดเลขเป็น) -7C ritical Thinking and Problem Solving (ทักษะดา้ นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา)

สมรรถนะสำคัญ - การแกป้ ญั หา - การให้เหตผุ ล - ความสามารถในการส่ือสาร การสอ่ื ความหมาย คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ -ใฝเ่ รียนรูแ้ ละมุ่งมน่ั ในการทำงาน - ตรงตอ่ เวลา กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี 1 นำเข้าสู่บทเรียน ครพู ูดถงึ คำวา่ โอกาสหมายถึงอะไร โอกาสในการกระทำสิง่ ใดจะมกี ีว่ ธิ ีในการกระทำได้ 2. ครบู อกนักเรียนเกย่ี วกบั แผนภาพตน้ ไมว้ า่ คืออะไร แผนภาพต้นไม้ คือ วธิ ีการในการแก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ที่ เกีย่ วข้องกบั การหาจำนวน วธิ กี ารทงั้ หมดที่เปน็ ไปได้ของเหตกุ ารณ์หนง่ึ ๆ 3. ครูแสดงวิธแี กป้ ญั หา หรอื หาค าตอบโดยการแผนภาพต้นไมข้ องการจัดชุดเสือ้ ผา้ ทม่ี เี สอ้ื 3 ตวั กางเกง 2 ตวั โดยนกั เรียนควรอ่านโจทยใ์ ห้เขา้ ใจว่าในปญั หานั้นกำหนดเงื่อนไขอะไรบ้าง การพิจารณาเง่อื นไขของปัญหาจะชว่ ย ให้สามารถก าหนดขน้ั ตอนในการแก้ปัญหา ซึ่งจะ ช่วยให้สามารถหาคำตอบไดง้ ่ายข้ึน 4. ครูถามนกั เรียนใครตอบ 6 วิธี และมวี ธิ ีอย่างไร พร้อมให้นักเรียนอภปิ รายวิธีให้คำตอบ 5. ครูสรปุ เราใช้หลกั ในการคำนวณ 6 วธิ ีทไ่ี ด้มานเ้ี กิดจาก การกระทำที่1 (เลือกกางเกง) ทำได้ 2 วิธี และในแต่ละวธิ นี ีส้ ามารถกระทำอย่างท่ี 2 (เลือกเสือ) ได้3 วธิ ี ดังน้ันได้ทั้งหมด 2 × 3 = 6 วธิ เี พื่อความเขา้ ใจตรงกัน สรปุ เป็นหลักการคูณ ไดด้ ังนี้ หลักการคูณ ถา้ ในการทำงานชนิ้ หน่ึงสามารถแบ่งงานเปน็ k ขนั้ ตอนดว้ ย ข้นั ตอนท่ี 1 สามารถทำงานไดท้ ้ังหมด ������1วธิ ี ขน้ั ตอนที่ 2 สามารถท างานได้ทง้ั หมด ������2วิธี ขน้ั ตอนท่ี 3 สามารถท างานไดท้ งั้ หมด ������3วิธี ข้นั ตอนท่ี k สามารถท างานได้ทัง้ หมด ������������วิธี จำนวนวธิ กี ารทำงานชิ้นหน่งึ ดงั กล่าวท้งั หมด คือ ������1������2 ������3…  ������������ วธิ ี 6. ครูยกตวั อยา่ งต่อไปโดยโจทยก์ ำหนดให้นักเรยี นต้องจัดชดุ เส้ือ 5 ตวั กางเกง 3 ตวั ถุงเท้า 5 คู่ รองเทา้ 2 คู่ หมวก 2 ใบ จะจัดชดุ แตง่ ตวั ใหค้ รบทัง้ 5 อย่าง ได้ทง้ั หมดกี่วธิ ี บนกระดาน ใหน้ กั เรียนลองหาคำตอบโดยเขียน คำตอบในกระดาษ

7. ครแู สดงวธิ ีแก้ปัญหาหรือหาคำตอบโดยการแผนภาพตน้ ไมข้ องการจัดชุดเสือ้ ผ้าท่ีมีเสอ้ื 5 ตวั กางเกง 3 ตวั ถุง เทา้ 5 คู่ รองเทา้ 2 คู่ หมวก 2 ใบ จะจัดชดุ แต่งตัวให้ครบท้ัง 5 อยา่ ง ไดท้ ัง้ หมดกีว่ ธิ โี ดย นกั เรยี นควรอา่ นโจทย์ให้ เข้าใจวา่ ในปัญหานน้ั กำหนดเงอ่ื นไขอะไรบ้าง การพิจารณาเงื่อนไขของปัญหาจะชว่ ยใหส้ ามารถกำหนดขนั้ ตอนใน การแกป้ ัญหา ซง่ึ จะชว่ ยใหส้ ามารถหาคำตอบได้งา่ ยข้นึ วิธีทำ แตง่ ตวั 1 ชุด ตอ้ งใส่กำงเกง เส้ือ ถุงเทำ้ รองเทำ้ และหมวก โดย ทำงำนอยำ่ งแรก เลือกเส้ือได้ 3 วิธี ทำงำนอยำ่ งที่สอง เลือกกำงเกงได้ 5 วิธี ทำงำนอยำ่ งท่ีสำม เลือกถงุ รองเทำ้ ได้ 2 วธิ ี ทำงำนอยำ่ งที่สี่ เลือกรองเทำ้ ได้ 2 วธิ ี ทำงำนอยำ่ งท่ีหำ้ เลือกหมวกได้ 2 วิธี ดงั น้นั จะเลือกแต่งชุดไดท้ ้งั หมด 3 5 2  22 = 120 วธิ ี 8. ครูสรุปเรำใชห้ ลกั ในกำรคำนวณ 120 วิธีที่ไดม้ ำน้ีเกิดจำกกำรกระทำที่ 1 (เลือกเส้ือ) ทำได้ 3 วิธีและในแต่ ละวธิ ีน้ีสำมำรถกระทำอยำ่ งท่ี2 (เลือกกำงเกง) ได5้ วธิ ีและในแตล่ ะวิธีน้ีสำมำรถ กระทำอยำ่ งท่ี3 (เลือกถุง รองเทำ้ ) ได2้ วธิ ีและในแต่ละวธิ ีน้ีสำมำรถกระทำอยำ่ งท่ี4 (เลือกรองเทำ้ ) ได้ 2 วิธี และในแต่ละวิธีน้ีสำมำรถ กระทำอยำ่ งที่ 4 (เลือกหมวก) ได2้ วิธี ดงั น้นั ได้ ท้งั หมด 3 × 5 × 2 × 2 × 2 = 120 วิธี เพ่ือควำมเขำ้ ใจตรงกนั

9. ครยู กตัวอย่างเพิ่มเติมเพ่ือใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ ฝนและทำความเขา้ ใจมากข้ึน ตัวอยา่ ง ฟิวเจอรผ์ ้โู อบอ้อมอารี ต้องการแจกแอปเป้ิลอยู่ 4 ลูก ต้องการมอบใหเ้ พ่ือนรกั 10 คน จะมวี ิธกี ารแจก กวี่ ธิ ีเม่ือ 1) ไม่มเี งื่อนไข วธิ ที ำ ฟิวเจอรต์ ้องการแจกแอปเป้ลิ 4 ลูกใหเ้ พ่ือนสิบคน โดยทำงานอยา่ งแรก เลอื กได้ 10 วธิ ี โดยทำงานอยา่ งสอง เลือกได้ 10 วิธี โดยทำงานอย่างสาม เลือกได้ 10 วิธี โดยทำงานอย่างทีส่ ่ี เลือกได้ 10 วิธี ดังน้ันฟวิ เจอร์จะเลือกแจกแอปเปิล้ ใหเ้ พ่อื นได้ท้งั หมด 10x10x10x10 = 10,000 วธิ ี 2) ไม่ใหซ้ ำ้ คน วิธีทำ โดยทำงานอยา่ งแรก เลือกได้ 10 วิธี โดยทำงานอยา่ งสอง เลอื กได้ 9 วธิ ี โดยทำงานอยา่ งสาม เลือกได้8 วธิ ี โดยทำงานอยา่ งทสี่ ี่ เลอื กได้ 7 วธิ ี ดังน้นั ฟวิ เจอรจ์ ะเลือกแจกแอปเป้ิลใหเ้ พ่ือนได้ท้งั หมด 10 x 9 x 8 x 7 = 5,040 วธิ ี กจิ กรรมข้นั สรปุ 16. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปประเดน็ เกย่ี วกับการหาเขา้ ใจโจทย์ปัญหาของการใช้หลกั การคูณ 17. ครูใหน้ กั เรียนทุกคนทำ ใบงานท่ี 2 ในเอกสารประกอบการเปน็ การบ้านและแบบฝกึ หัดในหนังสอื และ กำหนดวันส่ง

สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2251 จัดทำโดย สสวท. 2. ใบงานที่ 2 เรื่องหลักการนับเบ้อื งต้น ( หลกั การคูณ ) การวัดผลและประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ วิธกี าร ความรู้ - ตรวจสอบความถูกต้อง การตรวจสอบความถกู ต้องของใบ -แบบฝึกหัดในเอกสารประกอบ และความเขา้ ใจ งานและฝกึ หัด การเรยี น - ความถกู ต้องของ - -แบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรียน แบบฝกึ หัดไมต่ ่ำกว่า 70% การเช็คช่อื การเขา้ เรยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - เข้าเรียนตรงต่อเวลา การส่งงานในแตล่ ะคร้ัง -การเขา้ เรียน - มคี วามกระตอื รือรน้ ใน -มคี วามรับผิดชอบในการส่งงาน การเรยี น - การแกป้ ญั หา -การมสี ว่ นร่วมในชน้ั เรียน - การให้เหตผุ ล - ตรวจสอบความถกู ต้อง - ความสามารถใน สมรรถนะ และความเข้าใจ การสือ่ สาร การส่ือ - แบบฝกึ หดั ในเอกสาร - ความถูกต้องของ ความหมาย ประกอบการเรียน แบบฝึกหดั ไมต่ ำ่ กวา่ 70% - แบบฝึกหัดในหนงั สอื เรียน กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... บันทึกความคิดเหน็ ของครูพ่ีเลยี้ งก่อนสอน ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ลงชื่อ.............................................................. วนั /เดือน/ปี............................

บันทึกความคดิ เหน็ ครูพ่ีเลี้ยงหลงั สอน ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอ่ื ........................................................ วนั /เดอื น/ป.ี ........................... บันทกึ ผลหลังสอน ผลการสอน ............................................................................................................................ .............................................. ปัญหา/อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอ่ื .......................................................นกั ศกึ ษา วัน/เดอื น/ปี.......................... ลงช่อื ……………………………………….. (ครพู เี่ ล้ยี ง / ครูนิเทศ / ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา)

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน ชดุ ท่ี 1 เรอ่ื ง หลักการนับเบื้องตน้ แบบฝึกทักษะที่ 1.2 เรอ่ื ง หลกั การนบั เบอื้ งต้น (การคณู ) จดุ ประสงค์ นักเรียนสามารถใชก้ ฎเกณฑ์เบอ้ื งต้นเกี่ยวกับการนบั ในการหาจำนวนผลลัพธ์ ท่อี าจเกดิ ขึ้น ของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ได้ คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นหาจำนวนวิธที ่ีเปน็ ไปได้ท้ังหมดโดยใช้กฎเกณฑ์เบือ้ งตน้ เกยี่ วกบั การนับ 1. ในการรับสมัครพนกั งาน 2 ตำแหนง่ เปน็ พนักงานหญิง 1 ตำแหนง่ พนักงานชาย 1 ตำแหนง่ ถ้าผสู้ มคั รเป็นหญงิ 4 คน เป็นชาย 5 คน จะมีจำนวนวธิ รี บั พนกั งานแบบต่าง ๆ ไดก้ ว่ี ธิ ี วธิ ีทำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ถา้ A = {1, 3, 5, 7, 9} จงหาว่าจะสามารถนำสมาชกิ ในเซต A มาสรา้ งเป็นจำนวนเต็มซึ่งมี สามหลกั โดยท่ีแตล่ ะหลกั ใช้เลขโดดไมซ่ ้ำกนั ได้ทง้ั หมดกจี่ ำนวน วธิ ที ำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. บัตรเข้าชมภาพยนตร์ของโรงหนงั แหง่ หนึง่ กำหนดหมายเลขที่น่งั เขา้ ชมโดยใชห้ มายเลข 1-20 และตัวอักษรภาษาอังกฤษ A – P ตัวอยา่ งเชน่ 1A จงหาจำนวนท่ีนง่ั ทงั้ หมดของโรงหนงั แหง่ นี้ วธิ ีทำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. จงนำตัวอักษรจากคำวา่ FATHER มาจดั เปน็ คำใหม่ โดยไมต่ ้องคำนึงถึงความหมาย จะจัด เป็นคำท่ีแตกต่างกันทง้ั หมดไดก้ ว่ี ธิ ี วิธที ำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. 5. ในการสอบวชิ าคณิตศาสตรซ์ ึง่ มขี ้อสอบแบบผดิ - ถกู อยู่ 10 ขอ้ นักเรยี นจะเลือกตอบข้อสอบทั้ง 10 ข้อไดท้ ั้งหมดก่ีวิธี วธิ ีทำ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………..

เฉลย เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชุดที่ 1 เร่ือง หลักการนบั เบ้อื งตน้ แบบฝึกทักษะที่ 1.2 เรอื่ ง หลกั การนบั เบ้ืองตน้ (การคณู ) จุดประสงค์ นักเรยี นสามารถใชก้ ฎเกณฑ์เบือ้ งตน้ เกย่ี วกบั การนบั ในการหาจำนวนผลลัพธ์ ท่อี าจเกิดขน้ึ ของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ได้ คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนหาจำนวนวิธีทเี่ ป็นไปได้ท้ังหมดโดยใชก้ ฎเกณฑ์เบื้องตน้ เก่ียวกบั การนบั 1. ในการรับสมคั รพนักงาน 2 ตำแหน่ง เป็นพนักงานหญิง 1 ตำแหน่ง พนักงานชาย 1 ตำแหนง่ ถ้าผู้สมคั รเป็นหญิง 4 คน เป็นชาย 5 คน จะมจี ำนวนวิธีรบั พนกั งานแบบต่าง ๆ ได้กีว่ ธิ ี วิธีทำ เลอื กรับพนกั งานหญิงได้ 4 วิธี เลือกรับพนกั งานชายได้ 5 วธิ ี ดังน้ัน จะมจี ำนวนวธิ ีรับพนักงานแบบตา่ ง ๆ ได้ทัง้ หมด 4×5 = 20 วิธี ตอบ จำนวนวิธรี บั พนกั งานแบบตา่ ง ๆ ได้เท่ากบั 20 วิธี 2. ถ้า A = {1, 3, 5, 7, 9} จงหาว่าจะสามารถนำสมาชิกในเซต A มาสรา้ งเปน็ จำนวนเต็มซ่งึ มี สามหลัก โดยทแ่ี ตล่ ะหลักใช้เลขโดดไมซ่ ้ำกันได้ทงั้ หมดก่ีจำนวน วิธที ำ เลือกเลขโดดในหลักร้อยได้ 5 วิธี เลอื กเลขโดดในหลักสิบได้ 4 วิธี เลือกเลขโดดในหลักหนว่ ยได้ 3 วิธี ดังน้นั สรา้ งจำนวนเต็มทม่ี ีสามหลกั โดยท่ีแต่ละหลักใช้เลขโดดไมซ่ ้ำกันไดท้ ้ังหมด 5×4×3 = 60 จำนวน ตอบ สร้างจำนวนเตม็ ที่มีสามหลักโดยท่ีแต่ละหลักใชเ้ ลขโดดไมซ่ ำ้ กันได้ทั้งหมด 60 จำนวน

3. บัตรเขา้ ชมภาพยนตรข์ องโรงหนังแหง่ หน่ึงกำหนดหมายเลขทีน่ ั่งเข้าชมโดยใชห้ มายเลข 1-20 และตัวอักษรภาษาองั กฤษ A – P ตัวอยา่ งเชน่ 1A จงหาจำนวนทนี่ งั่ ทง้ั หมดของโรงหนังแหง่ น้ี วธิ ที ำ เลอื กหมายเลขได้ 20 วธิ ี เลือกตัวอักษรได้ 15 วธิ ี ดงั น้ัน จำนวนที่นง่ั ท้ังหมดของโรงหนงั 20×15 = 300 ทน่ี ่ัง ตอบ จำนวนท่นี ัง่ ทั้งหมดของโรงหนังเทา่ กบั 300 ท่นี ัง่ 4. จงนำตวั อกั ษรจากคำว่า FATHER มาจัดเป็นคำใหม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความหมาย จะจดั เปน็ คำท่ีแตกต่างกนั ท้ังหมดไดก้ ีว่ ิธี วธิ ีทำ เลือกตัวอักษรวางตำแหนง่ ท่ี 1 ได้ 6 วธิ ี เลอื กตัวอักษรวางตำแหนง่ ท่ี 2 ได้ 5 วิธี เลือกตวั อักษรวางตำแหนง่ ที่ 3 ได้ 4 วธิ ี เลือกตัวอักษรวางตำแหน่งที่ 4 ได้ 3 วธิ ี เลอื กตวั อักษรวางตำแหนง่ ท่ี 5 ได้ 2 วิธี เลือกตัวอักษรวางตำแหนง่ ท่ี 5 ได้ 1 วิธี ดังนนั้ จำนวนวธิ เี ลือกตัวอกั ษรจากคำวา่ FATHER มาจดั เปน็ คำใหม่ไดท้ ั้งหมด 6×5×4×3×2×1 = 720 วิธี ตอบ จำนวนวิธเี ลอื กตวั อักษรจากคำวา่ FATHER มาจัดเป็นคำใหม่ได้ท้งั หมด 720 วิธี 5. ในการสอบวชิ าคณิตศาสตร์ซงึ่ มีข้อสอบแบบผดิ - ถกู อยู่ 10 ขอ้ นักเรยี นจะเลือกตอบขอ้ สอบทัง้ 10 ข้อได้ท้ังหมดก่ีวธิ ี วธิ ที ำ เลอื กตอบข้อสอบขอ้ ที่ 1 ได้ 2 วิธี เลอื กตอบข้อสอบข้อท่ี 2 ได้ 2 วิธี เลอื กตอบข้อสอบขอ้ ที่ 3 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบข้อที่ 4 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบขอ้ ที่ 5 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบขอ้ ที่ 6 ได้ 2 วธิ ี เลือกตอบข้อสอบขอ้ ที่ 7 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบข้อที่ 8 ได้ 2 วิธี เลอื กตอบข้อสอบขอ้ ท่ี 9 ได้ 2 วิธี เลือกตอบข้อสอบข้อที่ 10 ได้ 2 วธิ ี ดังน้ัน จำนวนวธิ จี ะเลอื กตอบขอ้ สอบทัง้ 10 ขอ้ ไดท้ ้งั หมด 2×2×2×2×2×2×2×2×2×2 = 210 วิธี ตอบ จำนวนวิธีจะเลือกตอบข้อสอบทัง้ 10 ข้อได้ทั้งหมด 210 วธิ ี

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ชอ่ื หน่วย หลกั การนับเบื้องต้น แผนที่ 3 เรอ่ื ง แฟกทอเรยี ล เวลาสอน………………………ชว่ั โมง สอนวนั ที่................เดอื น................................................พ.ศ................. ช่อื ผู้สอน นางสาวพรรณพษา สงสัย สาขา วิชาคณติ ศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคญั แฟกทอเรยี ล ของจำนวนเตม็ ไมเ่ ป็นลบ n คอื ผลคูณของจำนวนเต็มบวกท้ังหมดท่ีน้อยกวา่ หรอื เท่ากบั n เขยี นแทนด้วย n! (อา่ นว่า n แฟกทอเรียล) มาตรฐาน มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนบั เบอื้ งต้น ความนา่ จะเปน็ และนำไปใช้ ตัวชวี้ ดั -เขา้ ใจและใชห้ ลกั การบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ยี น และการจัดหมู่ ในการแก้ปญั หา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 นักเรยี นสามารถแกโ้ จทย์ปญั หาโดยใชก้ ฎเกณฑ์เบอ้ื งต้นเก่ยี วกบั การนับได้ 1.2 นกั เรียนสามารถใช้และแกป้ ญั หาเกย่ี วกับแฟคทอเรยี ลได้ 1.3. นักเรียนตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของค าตอบจากการคำนวณและการแก้ปัญหาได้ 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2.1 มที กั ษะในการแกป้ ญั หาและให้เหตุผลได้ 2.2 มกี ารสอ่ื สาร สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ 2.3 มที กั ษะในการใช้สมบตั ิของเลขยกกำลงั ในการประยุกตใ์ ช้ได้ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ 3.1 มคี วามรบั ผดิ ชอบ 3.2 มีระเบยี บวนิ ยั 3.3 ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ ในการทำงาน สาระการเรยี นรู้ n เปน็ จำนวนเต็มบวก แฟกทอเรียล n หมายถึง ผลคูณของจำนวนเต็มบวกตง้ั แต่ 1 ถงึ n เขยี นแทนดว้ ย n! ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 การเรยี นรู้ 3R x 7C -3R Rithemetics (คดิ เลขเป็น) -7C ritical Thinking and Problem Solving (ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ญั หา)

สมรรถนะสำคัญ - การแก้ปญั หา - การให้เหตผุ ล - ความสามารถในการสื่อสาร การสอ่ื ความหมาย คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ -ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ ม่นั ในการทำงาน - ตรงตอ่ เวลา กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมนำเข้าส่บู ทเรยี น ครแู นะนำใหน้ ักเรียนไดร้ จู้ กั ถึงสญั ลักษณ์ของความน่าจะเป็นและบอกความหมายของแฟกทอเรยี ล คือ ถา้ n เป็นจำนวนเตม็ บวกแล้วผลคูณของจำนวนเตม็ บวกตงั้ แต่ 1 ถงึ n สามารถเขียนแทนดว้ ย n! = 12 3 4 …  n หรอื n! = n (n - 1)  (n - 2) …3 21 เราเรียก n! ว่า แฟคทอเรียล กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูยกตัวอย่างการเขียนแฟคทอเรยี ล เพือ่ ให้นักเรียนเข้าใจชัดเจนขน้ึ โดย 0! = 1 1! = 1 2! = 21 = 2 3! = 3  2  1 = 6 4! = 4 3 2 1 = 24 5! = 5 4 3 2 1 = 120 6! = 6 5 4 3 2 1 = 720 2. ครูยกตวั อยา่ งท่ีนำแฟคทอเรยี ลไปใชใ้ นการหาเขยี นแฟคทอเรยี ลในรูปของตวั เลข ตวั อยา่ ง จงหาคา่ ต่อไปนี้ 1. 6! 6! = 6×5×4! 4! 4! 4! 6×5 วธิ ที ำ = 30 =

2. 7! 2!5! วิธีทำ 7! = 7×6×5! 2!5! 2×1×5! = 7×6 2 = 21 กจิ กรรมสรปุ การสอน 3. นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายและสรุปองค์ความร้จู ากการใช้แฟคทอเรียล 4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดทเ่ี หลอื ดว้ ยตนเองแลว้ ส่งในคาบ โดยครคู อยกำกบั ดแู ล สื่อและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2251 จดั ทำโดย สสวท. 2. ใบงานท่ี 3 เรือ่ งหลักการนับเบ้ืองต้น ( แฟกทอเรียล ) การวัดผลและประเมินผล เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ วิธกี าร ความรู้ - ตรวจสอบความถกู ต้อง การตรวจสอบความถูกต้องของใบ -แบบฝกึ หัดในเอกสารประกอบ และความเข้าใจ งานและฝึกหดั การเรยี น - ความถูกต้องของ - -แบบฝกึ หดั ในหนังสอื เรยี น แบบฝึกหัดไมต่ ำ่ กว่า 70% การเชค็ ชอ่ื การเข้าเรยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - เขา้ เรยี นตรงต่อเวลา การส่งงานในแต่ละครั้ง -การเข้าเรยี น - มีความกระตือรือรน้ ใน -มีความรบั ผดิ ชอบในการส่งงาน การเรยี น - การแกป้ ัญหา -การมสี ่วนรว่ มในช้ันเรยี น - การใหเ้ หตผุ ล - ตรวจสอบความถกู ต้อง - ความสามารถใน สมรรถนะ และความเข้าใจ การสื่อสาร การส่ือ - แบบฝึกหัดในเอกสาร - ความถกู ต้องของ ความหมาย ประกอบการเรยี น แบบฝกึ หดั ไม่ต่ำกว่า 70% - แบบฝึกหดั ในหนังสือเรยี น

กจิ กรรมเสนอแนะ ..................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. บนั ทกึ ความคิดเห็นของครูพี่เลยี้ งก่อนสอน ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ .............................................................. วนั /เดือน/ป.ี ........................... บันทกึ ความคิดเห็นครูพีเ่ ลย้ี งหลังสอน ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ ........................................................ วนั /เดือน/ปี............................ บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการสอน .......................................................................................................................................................................... ปญั หา/อปุ สรรค ............................................................................................................................ .............................................. แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ............................................. ลงชอื่ .......................................................นักศกึ ษา วัน/เดอื น/ป.ี ......................... ลงชอื่ ……………………………………….. (ครพู ่เี ลี้ยง / ครูนิเทศ / ผู้บริหารสถานศกึ ษา)

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน ชุดที่ 1 เรื่อง หลักการนบั เบอ้ื งตน้ แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 1.3 เรอ่ื ง ความหมายของแฟกทอเรยี ล จุดประสงค์ นกั เรียนสามารถบอกนิยาม ความหมายของแฟกทอเรียล n ได้ คำชี้แจง : จงหาค่าของ 1. 7! …………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. 3!6! ………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. (4-2)!(8-4)! ……….………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 1!2!3! ………………….……………………………………………………………………………………………………………………………… 5. 5!×4! ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. 3!………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6! ……………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………… 7. 11!……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8! ……………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………… 8. 5!3!………………………………….………………………………………………………………………………………………………………… 4! ……………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………… 9. 4!+3! ………………………….……………………………………………………………………………………………………………………… 10. 8! ………………………………….……………………………………………………………………………………………………………… 3!5! ………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………

เฉลย เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชุดที่ 1 เร่อื ง หลักการนับเบอื้ งตน้ แบบฝึกทกั ษะที่ 1.3 เรอ่ื ง ความหมายของแฟกทอเรียล จดุ ประสงค์ นักเรียนสามารถบอกนยิ าม ความหมายของแฟกทอเรียล n ได้ คำชีแ้ จง : จงหาคา่ ของ 1. 7! = 7×6×5×4×3×2×1 =5,040 2. 3!6! = 3×2×1×6×5×4×3×2×1 = 4,320 3. (4-2)!(8-4)! = 2!4! = 2×1×4×3×2×1 = 48 4. 1!2!3! = 1×2×1×3×2×1 = 12 5. 5!×4! = (5×4×3×2×1)×(4×3×2×1) = 2,880 6.3! = 3! = 1 = 1 6! 6×5×4×3! 6×5×4 120 7. 11! = 11×10×9×8! = 11×10×9 = 990 8! 8! 8. 5!3! = 5×4!×3×2×1 = 5×3×2×1 = 30 4! 4! 9. 4!+3! = 4×3!+3! = 5×3! = 5×3×2×1 = 30 10. 8! = 8×7×6×5! = 8×7×6 = 56 3!5! 3×2×1×5! 6

ใบงานท่ี 2 การประกันคณุ ภาพการศึกษาทสี่ อดคล้องกบั สถานศึกษา วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้อง กับสถานศึกษาแต่ละระดับ (ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ระดับปฐมวัย, ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษ) 2. เพ่ือใหน้ กั ศึกษามคี วามรูค้ วามเข้าใจในมาตรฐานการศกึ ษา ในแตล่ ะระดับ (ระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน , ระดบั ปฐมวยั , ระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐานศูนย์การศึกษาพเิ ศษ) 3. เพอ่ื ให้นกั ศกึ ษาสามารถฝกึ ปฏิบตั งิ านประกนั คุณภาพการศกึ ษาที่สอดคล้องกับสถานศกึ ษาได้จริง ขอบขา่ ยของงาน ให้นักศึกษา ศึกษาโครงสร้างระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานศึกษา แต่ละระดบั ในแตล่ ะมาตรฐานตามที่กำหนดให้ ผู้เกีย่ วข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ครนู เิ ทศก์ / ครูพเ่ี ลยี้ ง 2. เอกสารประกนั คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา

1. กรอบการประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาทสี่ อดคล้องกบั สถานศกึ ษา ระดบั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน ชอ่ื สถานศกึ ษา โรงเรยี นไกรในวิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก รอบท่ี 3 ประเด็น การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน 1.แนวคิดหลกั ในการประเมินคุณภาพการศึกษา 1.การประเมนิ คณุ ภาพภายใน เปน็ ระบบและกลไกในการ ของสถานศึกษา ควบคุม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนนิ งานของ สถานศกึ ษา ใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายท่กี ำหนดโดย สถานศกึ ษาและ/หรือหน่วยงานต้นสงั กัด ต้องดำเนนิ การ ใหเ้ ปน็ ส่วนหน่งึ ของกระบวนการบรหิ ารการศึกษาอย่าง ตอ่ เนอื่ ง กระบวนการประเมินคุณภาพภายในเปน็ การ ประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศกึ ษา 2.การประเมินคุณภาพภายในกระทำโดยบุคลากรใน หน่วยงานหรือผทู้ เี่ กย่ี วข้องอย่างตอ่ เน่ือง เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ี ชว่ ยในการปรบั ปรงุ พฒั นาการดำเนินงานใหบ้ รรลุ เป้าหมายตามทก่ี ำหนดถือเป็นกระบวนการตรวจสอบการ ทำงานของตนเอง (self-evaluation) โดยการประเมินผล การปฏบิ ตั ิงานตามมาตรฐานการศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน เพื่อให้ได้ขอ้ มลู ทีน่ ำไปสกู่ ารพัฒนา ปรบั ปรุง ตนเอง และพร้อมทจ่ี ะไดร้ ับการประเมนิ คุณภาพจาก หน่วยงานต้นสังกัด และการประเมินจากหน่วยงาน ภายนอกอีกด้วย 3.สถานศกึ ษาดำเนินการประกนั คณุ ภาพภายใน มี พฒั นาการของคุณภาพมาตรฐานการศึกษาทสี่ งู ขนึ้ อยา่ ง ต่อเน่ือง 2.วัตถปุ ระสงค์ในการประเมินคณุ ภาพการศึกษา 1.เพื่อตรวจสอบคณุ ภาพและผลการปฏบิ ัติงานของ ของสถานศกึ ษา สถานศกึ ษาตามมาตรฐานการศึกษาขัน้ พื้นฐานและ มาตรฐานสถานศึกษา 2.เพื่อนำผลการประเมินคุณภาพภายในมาใช้เปน็ ข้อมลู ประกอบในการตดั สนิ วางแผนพฒั นาและปรบั ปรงุ คุณภาพ การศึกษา 3.เพอื่ พฒั นาระบบประเมนิ คุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศกึ ษาของสถานศึกษา 4.เพ่อื นำข้อมูลผลการประเมินคุณภาพภายในตาม มาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษาไปจัดทำรายงาน ประจำปี

3.เปา้ หมายในการประเมนิ คุณภาพการศกึ ษา 1.เพ่อื ให้บรรลุตามปรัชญา วสิ ัยทศั น์ พันธกจิ และ ของสถานศกึ ษา วตั ถุประสงค์ของการจดั ตัง้ สถานศกึ ษา 2.เพ่ือพฒั นาจดุ เน้นและจดุ เด่นทสี่ ่งผลสะทอ้ นเป็น เอกลักษณ์ของสถานศึกษา 3.เพ่ือสง่ เสริมบทบาทโครงการ และกจิ กรรมเสริมของ สถานศกึ ษา 4.เพอ่ื สง่ เสรมิ พฒั นาสถานศกึ ษาเพ่ือยกระดับมาตรฐาน รักษามาตรฐานและพฒั นาสู่ความเป็นเลิศที่สอดคล้องกับ แนวทางการปฏริ ปู การศึกษา 4.วธิ ีการประเมิน 1.กำหนดมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 2.จัดทำแผนพฒั นาการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา ทม่ี งุ่ คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 3.จดั ระบบบริหารและสารสนเทศ 4.ดำเนนิ งานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ สถานศึกษา 5.จัดให้มกี ารติดตามตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษา 6.จัดใหม้ กี ารประเมนิ คุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศกึ ษาของสถานศกึ ษา 7.จัดทำรายงานประจำปที ีเ่ ป็นรายงานประเมินคณุ ภาพ ภายใน 8.จดั ให้มกี ารพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างตอ่ เนื่อง 5.ข้ันตอนการดำเนินงานในการประเมินคุณภาพ 1.แต่ต้ังคณะกรรมการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ภายในโรงเรียน ซง่ึ อาจจะประกอบดว้ ย รองผู้อำนวยการ โรงเรยี น หัวหนา้ กล่มุ การบริหาร หัวหน้างาน และหวั หน้า กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ใหม้ หี น้าที่ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ท่ี เป็นผลการปฏบิ ตั งิ านของแต่ละกลุม่ การบรหิ าร/กลุม่ สาระ การเรียนร/ู้ งาน ตามตวั บง่ ชี้ รายงานขอ้ บกพร่องที่ไม่ เปน็ ไปตามระดบั คณุ ภาพ ตามมาตรฐานการศกึ ษาของ โรงเรยี นที่ไดก้ ำหนดไว้ ให้ผบู้ ริหารทราบ เพื่อการ ดำเนนิ การแกไ้ ขต่อไป แลว้ สรปุ เขียนเปน็ รายงานการ ประเมนิ ตนเอง 2.แตล่ ะกลุ่มการบริหาร / กลุ่มสาระการเรยี นรู้ / งาน วเิ คราะหผ์ ลการปฏิบตั ิงาน หรอื ผลการจัดการเรียนการ สอนทีส่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐาน และตัวบง่ ชข้ี องมาตรฐาน การศกึ ษาระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 3.แตล่ ะกลุม่ การบริหาร /กลุ่มสาระการเรียนรู้ / งาน ปฏิบตั ิงานพฒั นาคุณภาพการศึกษาตามทโี่ รงเรยี น มอบหมายอย่างเป็นปกติ (อาจจะปฏบิ ัติงานตามมาตรฐาน

การปฏบิ ัตงิ านของโรงเรียน ถ้าโรงเรียนไดจ้ ดั ทำมาตรฐาน การปฏบิ ตั ิงานไวแ้ ล้ว พร้อมกับเก็บข้อมูลทเ่ี ปน็ ผลการ ปฏบิ ตั ิงานเป็นปกติ แยกเปน็ มาตรฐาน และตวั บ่งช้ีที่ได้ วเิ คราะห์ไวใ้ นขนั้ ตอนที่ 2 โดยเก็บข้อมลู เป็นระดับ คุณภาพของการจดั การศกึ ษา ตามมาตรฐานการศกึ ษาของ โรงเรียนทีไ่ ดก้ ำหนดไว้ พร้อมเกบ็ หลกั ฐานการประเมนิ ไว้ สำหรับการตรวจสอบ 4.แต่ละกลุม่ การบรหิ าร/ กลุ่มสาระการเรียนรู้ / งาน เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากผู้ปฏิบตั ิงานในฝ่าย/หมวด/งานเดียวกนั มาสรุปเป็นคณุ ภาพการพัฒนาโรงเรียน โดยนำข้อมูลของ ผลการปฏิบตั งิ านที่เปน็ ตัวบง่ ชเี้ ดียวกันจากผูป้ ฏบิ ัติงาน มา สรปุ ใหเ้ ปน็ ผลสดุ ท้ายสำหรับตัวบ่งช้นี ั้น ๆ โดยสรปุ จาก ความถงึ ของระดับคุณภาพของตัวตัวบง่ ช้นี ้ัน ถา้ ความถี่ ของระดับคุณภาพใดมมี ากทีส่ ุดให้สรุปวา่ คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นตามตวั บง่ ชน้ี น้ั เปน็ ไปตามระดับ คณุ ภาพทมี่ ีความถีม่ ากท่ีสุด บางตวั บง่ ชี้ อาจจะต้องสรุป รวมจากหลายหมวดเพื่อตอบตัวบ่งชี้ ซึง่ แล้วแต่ดลุ พินิจ ของโรงเรยี น 5.สรุปคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรยี น จากข้อมลู ที่ เกบ็ รวบรวมไว้ 6.แก้ไขข้ ้อบกพรอ่ งของผลการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น (มาตรฐานและตัวบ่งชี้ ทยี่ ังมีคณุ ภาพไม่เปน็ ทน่ี ่าพอใจ) 7.สรปุ เขยี นรายงานการประเมนิ ตนเอง 2. สรุปการประเมินคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานศึกษา ตามกรอบมาตรฐานการศึกษา พทุ ธศกั ราช 2561 ระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน 2.1 มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้เรยี น ผลการเรียนรู้ที่เป็นคุณภาพของผู้เรียนทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ประกอบด้วย ความสามารถในการ อ่าน การเขียน การสื่อสารการคิดคำนวณ การคิดประเภทต่าง ๆ การสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนตามหลักสูตรการมีความรู้ ทักษะพน้ื ฐานและเจตคติท่ีดีต่อ วิชาชีพ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่เป็นค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ความภูมิใจในท้องถ่ิน และความเป็นไทย การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย รวมทั้งสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม

2.1.1 ผลสมั ฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ในด้านผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียนและการ สื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง รู้จักการวาง แผนการทำงานสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี รวมทั้งรู้เท่าทันสื่อและสังคมที่เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว และ สถานศึกษามีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย ครูจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปตามศักยภาพของ ผู้เรียน เป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตร มีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โรงเรยี นมงุ่ เน้นกระตุ้นให้ครผู ้สู อนแทรกวธิ กี ารทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ โดยอาศัยการวเิ คราะห์สังเคราะห์ข้อมูล และเลือกขอ้ มลู ในการตดั สินใจปฏบิ ตั ิงานอย่างสม่ำเสมอในกิจกรรมการเรยี นการสอนและกิจกรรมเสริม มีการ ดำเนนิ การพัฒนาทกั ษะการคิดวิเคราะห์คิดอย่างมวี จิ ารณญาณ อภิปรายแลกเปลย่ี นความคิดเห็น จึงสง่ ผลให้มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีพัฒนาการขึ้น นักเรียนจึงมีผลงานนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับเขตพื้นที่ การศึกษา เช่น รางวัลโรงเรียนดีเด่นด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบการศึกษาระดับชาติข้ัน พื้นฐาน o-net วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 และรางวัลโรงเรียนดีเด่นด้าน ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน จากการทดสอบการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน o-net วิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 นักเรียนร้อยละ 60 ถึง 69 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพ่ือ พัฒนาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรียนรู้การสอื่ สารการทำงานในระดับดี และผเู้ รียนมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ในภาพรวมผ่านเกณฑ์ระดบั ดีตามที่โรงเรยี นกำหนดในปีการศกึ ษา 2563 เพิ่มขน้ึ จากพืน้ ฐานเดิมในปีการศึกษา 2562 โดยเปรียบเทียบจากผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของนกั เรยี น จุดที่ควรพัฒนา คือ ครูผู้สอนต้องพยายามและร่วมมือกันฝึกให้นักเรียนได้รู้จักใช้วิธีการทำงานเชิง ระบบและเป็นทีมอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องทั้งในการเรียนการสอนและการทำงาน จึงจะทำให้นักเรียนมี การพัฒนาพฤติกรรมด้านนี้มากขึน้ ควรมกี ารประเมนิ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อธบิ ายแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ และแก้ปญั หาเปน็ รายบุคคลทช่ี ดั เจนและครอบคลุมทกุ รายวชิ า 2.1.2 คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ของผเู้ รยี น ในด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักเรียนผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โรงเรยี นได้รับการยกย่องให้เปน็ โรงเรียนปลอดขยะของสำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามัธยมศึกษาสุโขทัย รู้และ การหนกั ถงึ โทษและพิษภยั ของส่ิงเสพติดต่างๆ เลือกรับประทานอาหารท่สี ะอาดและมปี ระโยชน์มีสุขนิสัยใส่ใจ ในการดูแลสุขภาพมีมนุษย์สัมพันธ์ท่ีดี นักเรียนทุกคนรกั การออกกำลังกาย และสามารถเล่นกีฬาได้อย่างน้อย คนละประเภทยอมรับในกติกาของกลุม่ ของสถานศึกษา ของสังคม รวมถึงมีความเข้าใจในเรื่องความแตกต่าง ระหว่างบุคคล นักเรียนทุกคนมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย เช่น การร่วมกจิ กรรมวันภาษาไทยแหง่ ชาตินักเรียนทุกคนแต่งกายด้วยชดุ ไทยที่สวยงาม การร่วมกิจกรรมประเพณี ลอยกระทงอันเป็นประเพณีของจังหวัด คณะครูร่วมใจกันใส่ผ้าพื้นเมืองทุกวันศุกร์ มีการยอมรับความคิดเห็น ของผ้อู ืน่ อันจะเหน็ ได้จากกจิ กรรมในหลายกิจกรรม เชน่ กิจกรรมค่ายคนกล้าฝัน กจิ กรรมกีฬาภายใน กิจกรรม ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย กิจกรรมในโครงการTo Be Number One และกิจกรรมเด็กอวดดีปี 5 และ นักเรียนเข้าร่วมโครงการสร้างคนดีอย่างเป็นระบบครบร้อยละ 100 จากกิจกรรมคนกล้าฝันตามรอยเท้าพ่อ กิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระ กิจกรรมเพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ โครงงานคุณธรรมตามแนวทางมูลนิธิยุวพัฒน์ และยังมีส่วนร่วมกิจกรรมดนตรีไทยในระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัดเข้าร่วมอบรมโครงการ Pure Love รัก บรสิ ุทธ์ิหยุดปญั หาพฒั นาสงั คม รว่ มจัดนทิ รรศการโรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.เยาวชนไทยรู้รกั สามัคคีสร้างคนดีให้ บา้ นเมอื งสมัชชาคณุ ธรรมภาคเหนือ 17 จงั หวัดกล่มุ ทกั ษะอาชีพต่างๆสามารถจัดการเรียนร้โู ดยนำความรู้จาก

การปฏิบัติในหอ้ งเรียนสู่การปฏิบัติจริงจนกระทัง่ ออกสูช่ ุมชนได้เชน่ กลุ่มทักษะอาชีพดนตรีแตรวงของโรงเรียน การจำหน่ายเบอเกอรี่ ผลผลิตจากไข่ การผลิตไม้กวาดดอกหญ้ารวมทั้งผลิตภัณฑ์ของโรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก นักเรียนจึงมคี วามสามารถหลายดา้ นเปน็ ตัวแทนเขา้ แข่งขันในหลายระดับจนเป็นท่ียอมรับกัน โดยทัว่ ไป จุดที่ควรพัฒนา ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการมีงานทำในยุคศตวรรษที่ 21 ให้มากยิ่งข้ึน อีกทั้งมีนักเรียน จำนวนหนึ่งที่มีสภาวะความเสี่ยงโรคอ้วนและภาวะขาดสารอาหาร อันเนื่องจากภาวะทางกายเกินเกณฑ์และ ผา่ นเกณฑ์ จงึ ควรมีการพัฒนาโดยการขอความรว่ มมือกับโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพประจำตำบลไกรในให้เข้า มามีส่วนร่วม 2.2 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ โรงเรยี นไกรในวิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษกมีเป้าหมาย วิสยั ทัศน์ และพนั ธกจิ ทกี่ ำหนดไว้ตรงกบั วัตถุประสงค์ ของแผนการศึกษาชาตินโยบายของรัฐบาลและของต้นสังกัดรวมทั้งทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมอย่าง ชัดเจน และเป็นไปได้ในทางปฏิบัติทั้งยังสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และท้องถิ่นอย่างชัดเจน สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบทั้งในส่วนการวางแผนพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษา การนำแผนไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา มีการติดตามตรวจสอบ ประเมินผล และปรับปรุงพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนได้ใช้เทคนิคการประชุมที่หลากหลายวิธีเช่น การ ประชุมแบบมีส่วนร่วม การประชุมระดมสมอง การประชุมกลุ่ม เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ที่ชัดเจนมีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาแผนปฏิบัติการประจำปีท่ี สอดคล้องกับผลการศึกษา สภาพปัญหาความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี คุณภาพมีการดำเนิน การนิเทศ กำกับติดตามผล การดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการจัดการศึกษา และ โรงเรียนได้ใช้กระบวนการวิจัยในการรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้เป็นฐานในการวางแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา และมีการนำข้อมูลมาใชใ้ นการปรบั ปรุงเพ่ือเปน็ การพฒั นาอย่างต่อเนอื่ งและเป็นแบบอย่างได้ จุดที่ควรพัฒนา เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองชุมชนภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัด การศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงกิจกรรมเครือข่ายผู้ปกครอง และกิจกรรมผู้ปกครอง อาสา สร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง มี ส่วนร่วมรบั ผดิ ชอบต่อผลการจดั การศึกษา และการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา 2.3 มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั โรงเรียนเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นให้ ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรโู้ ดยผ่านกระบวนการคดิ และปฏิบตั จิ ริง มแี ผนการจัดการเรียนรู้ทสี่ ามารถนำไปจัดกิจกรรมได้ จริง มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้เฉพาะสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการความช่วยเหลือพิเศษครูผู้สอนมี การบรหิ ารจดั การช้นั เรยี นโดยเนน้ การมีปฏิสัมพนั ธเ์ ชงิ บวก ครูมีการตรวจสอบและประเมินคณุ ภาพการจัดการ เรยี นร้อู ย่างมีระบบ มีขั้นตอนโดยใช้เครื่องมือ วิธีการวดั และประเมินผลท่ีเหมาะสมกับเป้าหมายในการจัดการ เรียนรู้ครูยังจัดการเรียนรู้ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการเรียนโดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ ดว้ ยทางคนในชุมชน ครูมีความต้ังใจ มุ่งม่นั ในการพัฒนาการเรียนการสอนโดยจัดกิจกรรมให้นกั เรียนได้เรียนรู้ โดยการคิดได้ปฏิบัติจริง มีการให้วิธีการและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้นักเรียนแสวงหาความรู้จากสื่อ เทคโนโลยีด้วยตนเองอย่างต่อเนือ่ ง นักเรียนมีสว่ นรว่ มในการจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อมทเี่ อ้อื ตอ่ การเรียนรู้



ใบงานที่ 3 การวเิ คราะหแ์ นวทางในการพัฒนาตนเอง วัตถุประสงค์ เพ่อื ใหน้ ักศึกษามคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับการวิเคราะหต์ นเองนำไปส่กู ารพัฒนาตนเองใหม้ คี วามเปน็ ครมู ืออาชีพ ทเี่ ทา่ ทนั ต่อการเปลยี่ นแปลงทั้งทางด้านศาสตร์วชิ าชีพครู และศาสตร์สาขาวชิ าเอก ขอบข่ายงาน 1. ให้นกั ศกึ ษาทำการวเิ คราะหต์ นเอง SWOT นำไปสู่การพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูมืออาชีพ ทเี่ ท่าทนั ตอ่ การ เปลี่ยนแปลงทง้ั ทางด้านศาสตร์วชิ าชีพครแู ละศาสตรส์ าขาวชิ าเอก 2. สรปุ การเคราะห์ตนเองเพือ่ เป็นแนวทางนำไปสกู่ ารเปน็ ครมู อื อาชพี ท่เี ทา่ ทนั ต่อการเปล่ยี นแปลงทัง้ ทางดา้ น ศาสตร์วชิ าชพี ครแู ละศาสตร์สาขาวชิ าเอก ผู้เกยี่ วข้อง / แหล่งข้อมูล 1. นักศกึ ษา 2. ครพู เี่ ลีย้ ง/เพื่อนักศึกษา/อาจารย์นิเทศก์

1. วิเคราะห์ SWOT ของตนเอง ชอ่ื ผวู้ เิ คราะห์ นางสาวพรรณพษา สงสยั วชิ าเอก คณิตศาสตร์ วนั ท่ี 17 พฤศจกิ ายน – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2564 คำอธิบาย S (Strength) หมายความวา่ จดุ แขง็ W (Weakness) หมายความวา่ จดุ ออ่ น O (Opportunity) หมายความวา่ โอกาส T (Threat) หมายความวา่ อปุ สรรค S W (จดุ แข็งของตนเอง) (จุดอ่อนของตนเอง) - มคี วามตั้งมน่ั ในส่ิงทวี่ างแผนไว้ - การสื่อสารไมช่ ัดเจน เช่น เผลอพูดภาษาทีไ่ มเ่ ปน็ - พรอ้ มเรียนรู้กับสง่ิ ใหม่อย่ตู ลอดเวลา ทางการบ่อยๆ พูดวกวนอยบู่ ่อยๆ - มคี วามต้งั ใจ ขยันหม่ันเพียร - วางแผนการสอนไมเ่ หมาะสมกับเวลา - พรอ้ มรับทุกข้อแกไ้ ข เมอื่ ตอนเกิดข้อผิดพลาด - ไม่มีความละเอยี ดรอบคอบในเรือ่ งท่สี อน - มปี ระสบการณ์ในการสอนน้อยมาก - ยังมคี วามรู้ในบางเรื่องในบทเรียนที่ไมม่ ากพอ O T (โอกาสทตี่ นเองได้รับ) (อุปสรรคท่ีพบเจอ) - ได้รบั คำแนะนำเทคนิคการสอนจากครูพเ่ี ลี้ยง - นักเรยี นบางส่วนไม่ตัง้ ใจเรียน - ได้รับความไวว้ างใจจากคุณครหู ลายๆทา่ นให้ปฏบิ ัติหนา้ ที่ - อปุ กรณ์การเรยี นการสอนไม่พร้อม เช่น กระดาน เครอ่ื ง ทีต่ นยงั ไมเ่ คยปฏบิ ตั ิ คอมพวิ เตอร์ - ได้ฟังความคิดเหน็ จากผปู้ กครองหลายๆทา่ นเกี่ยวกบั การ - เวลาในการสอนนอ้ ยไป สอนของตนและไดร้ ับคำติชม - อุปสรรคในการเดินทางเพราะบ้านอยู่ห่างไกลจาก โรงเรยี นพอสมควร



ใบงานท่ี 4 แบบรายงานโครงการส่งเสริม อนรุ กั ษ์วฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาท้องถิ่นของสถานศึกษา จุดประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจลักษณะของโครงการที่ส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และ ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ 2. เพื่อใหน้ ักศกึ ษาสามารถเขยี นโครงการพัฒนาผู้เรียนตามรูปแบบทกี่ ำหนดได้ 3. เพื่อให้นักศึกษาเขียนรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการเมื่อโครงการเสร็จ สิ้นแล้วได้ อย่างถูกตอ้ ง ขอบขา่ ยของงาน 1. ให้นกั ศกึ ษาเขยี นโครงการท่สี ง่ เสรมิ อนุรักษว์ ัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ หรือเขยี นโครงการที่ บูรณาการตามเน้อื หาวิชาของตนเองทสี่ ง่ เสริม อนรุ ักษ์วัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น โดยเขียนตามรูปแบบ ทกี่ ำหนด 2. ใหน้ ักศึกษาดำเนินและเข้ารว่ มโครงการท่ีสง่ เสรมิ อนรุ ักษว์ ัฒนธรรม และภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ 3. ให้นักศึกษานำผลจากการเรียนรู้โครงการที่ส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ของสถานศกึ ษาเขียนรายงาน และนำไปประเมินสะท้อนกลบั (AAR) โดยนำผลมาแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ในรูปแบบ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาตนเองให้มีความรอบรู้ทันสมัยและทันต่อ การเปล่ยี นแปลง ในวนั สัมมนาหลงั ฝกึ ประสบการวิชาชีพครู ผูเ้ ก่ยี วข้อง/ แหล่งข้อมลู 1. ครพู เี่ ลี้ยง 2. ครูผูร้ บั ผิดชอบโครงการท่ีสง่ เสรมิ อนรุ กั ษว์ ัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิน่ ของสถานศกึ ษา 3. แผนปฏิบัตกิ าร 4. รายงานการประเมินตนเอง (SAR)

1. โครงการสง่ เสริม อนุรกั ษ์วฒั นธรรม และภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ช่ือโครงการ ส่งเสริมคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ใหก้ ับนักเรียน ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงการ นางสาวนำ้ ผึง้ สงสัย ลักษณะโครงการ โครงการใหม่ โครงการสังกดั กลุ่มงาน/ฝ่าย กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ******************************************************************************* หลักการและเหตุผล ปัจจบุ ันสถานการณป์ ัญหาความไม่ปลอดภัยทเี่ กิดขึน้ กบั เยาวชนในสังคมมใี หเ้ ห็นมากมายทั้งในเชงิ ปรมิ าณและความรุนแรง ซ่ึงปัญหาเหลา่ นีล้ ว้ นสง่ ผลกระทบตอ่ พัฒนาการของเด็กทง้ั ดา้ นร่างกายและจติ ใจ สติปญั ญา ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ อีกทง้ั ยงั ขาดการดูแลคุ้มครองสวสั ดภิ าพและความปลอดภัยจาก สังคมอยา่ งจรงิ จัง การปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ใหก้ ับนักเรยี นจึงมีความ จำเป็นทีต่ ้อง ดำเนนิ การอย่างต่อเนอ่ื งและสม่ำเสมอ เพื่อให้เดก็ และเยาวชนของชาตเิ ตบิ โตเปน็ ผูใ้ หญท่ ่มี ี คุณภาพ สามารถ ดำรงตนอยู่ในสังคมอยา่ งมีความสุข ( ดี ) เพอื่ เปน็ การสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคส์ ำหรบั นักเรียนให้ประสบ ผลสำเร็จ มคี วามสอดคล้องและเปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลา ภิเษก จึงได้จดั ทำโครงการน้ีขึ้นมาเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้ตามมาตรฐานการศึกษา วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคใ์ ห้กบั นกั เรยี นทกุ คน เปา้ หมาย เชิงปริมาณ นกั เรียนโรงเรียนไกรในวทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก จำนวน 415 คน เชงิ คุณภาพ นักเรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและมคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ระดบั ดี ร้อยละ 90 วิธดี ำเนินการ กิจกรรม ระยะเวลา ผ้รู บั ผดิ ชอบ ดำเนินการ 1. ขน้ั เตรยี ม (Plan) 1.1 ระดมความคดิ เห็น/สภาพปญั หา/ความต้องการ/ทางเลือกในการ พ.ค.2564 น.ส.นำ้ ผึ้ง สงสัยและคณะ ดำเนินการ 1.2 เสนอโครงการและขออนุมตั ิ

กิจกรรม ระยะเวลา ผ้รู บั ผิดชอบ ดำเนนิ การ 1.3 แตง่ ต้งั คณะกรรมการดำเนินงาน 2. ข้ันปฏบิ ัติ (DO) 2.1 กจิ กรรมเข้าถึง รู้ซึ้ง ถึงใจ ห่วงใย ตลอดปี นายเคียง ชำนิและคณะ 2.2 กจิ กรรมโรงเรยี นคณุ ธรรมตามแนวทางมูลนิธยิ วุ พฒั น์ 2.3 กิจกรรมโรงเรยี นรกั ษาศลี ๕ การศกึ ษา นางสาวมสั ริน ชมุ่ อนิ จักร์ 2564 นางสาวมสั ริน ชุ่มอนิ จกั ร์ 2.4 กจิ กรรมโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. นางสาวน้ำผง้ึ สงสัย และคณะ 2.4 กิจกรรมทำบญุ ตักบาตร กิจกรรมวนั สำคญั ทางศาสนา นายเคยี ง ชำนิ และคณะ ขนบธรรมเนียมและประเพณี ตามความเหมาะสม 2.5 จัดกจิ กรรมสวดมนต์ไหวพ้ ระประจำวนั ประจำสปั ดาหแ์ ละ นายสทุ ธพิ ร จันทรฝ์ อย พฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมแกน่ ักเรียน 2.6 กจิ กรรมเข้าคา่ ยคุณธรรมต่างๆ การบำเพ็ญกศุ ลและพัฒนาจติ ใจ นางสาวนำ้ ผง้ึ สงสยั และคณะ ให้เปน็ คนดีมีศีลธรรมนำความสุข และมีจรยิ ธรรม 2.7 กจิ กรรมการคัดเลือกนักเรยี นดเี ดน่ ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมและมี นายสุทธิพร จนั ทรฝ์ อย ค่านิยมท่ดี ีงามเพ่ือประกาศเกียรติคณุ ยกย่องและให้กำลงั ใจ 2.8 กจิ กรรมประกวดการทำโครงงานพฒั นาคุณธรรมและเปน็ ที่ นางสาวมสั ริน ชุ่มอนิ จักร์ ปรกึ ษาแกน่ กั เรยี นในแตล่ ะระดบั ช้นั 3. ขั้นตดิ ตามผล (Check) คณะกรรมการดำเนินงานมกี ารตรวจสอบตามแผนการดำเนิน มี.ค.2565 นางสาวน้ำผ้ึง สงสัยและ กิจกรรมตามโครงการ คณะ 4. ขน้ั สรปุ รายงานผล (Action) 4.1 สรปุ และประเมนิ ผลโครงการ ม.ี ค. 2565 นางสาวนำ้ ผง้ึ สงสยั และ 4.2 รายผลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ คณะ งบประมาณทใ่ี ช้ 30,000 บาท

สถานที่ โรงเรียนไกรในวทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก ผลท่คี าดว่าจะได้รบั นักเรยี นโรงเรยี นไกรในวิทยาคม รชั มงั คลาภิเษกมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ในระดบั ดี ร้อยละ 90 ขน้ึ ไป การประเมนิ โครงการ วธิ ีการประเมนิ เคร่ืองมอื ที่ใช้ - แบบสงั เกต ตวั บ่งชคี้ วามสำเร็จ - จากการสังเกต - แบบประเมินความพงึ ผลผลติ (เชงิ ปรมิ าณ) - ความพึงพอใจใน พอใจ การร่วมกจิ กรรมของ 1. นกั เรียนโรงเรยี นไกรในวทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก ผูเ้ รยี น จำนวน 415 คน ผลลัพธ์ (เชงิ คุณภาพ) - สรปุ ผลการประเมณิ - แบบสรุปผลการ คุณลักษณะอันพึง ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั 1. นกั เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและมคี ุณลกั ษณะอัน ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงคร์ ะดับดี ร้อยละ 90 - ปพ.5 2. การทบทวนหลังปฏิบตั ิงาน (After Action Review: AAR) 2.1 นักศกึ ษาคาดหวงั อะไรจากการเข้ารว่ มโครงการส่งเสริม อนรุ ักษ์วัฒนธรรม และภูมปิ ัญญาท้องถิ่น ในครง้ั นี้ คาดหวังว่านักเรียน และเยาวชนของชาติจะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ความสามารถ คณุ ธรรม และจริยธรรม เพ่อื ใหด้ ำรงตนอยใู่ นสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ 2.2 นักศึกษาได้บรรลุตามที่คาดหวังจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และ ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ ในครงั้ นหี้ รอื ไม่ เพราะอะไร บรรลตุ ามท่คี าดหวงั เพราะ ในโครงคุณธรรมการนำชีวติ จะเป็นโครงการทส่ี อนนักเรียนในเรอ่ื งการ ปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม และลักษณะอันพึงประสงค์ให้กับนกั เรยี น ซง่ึ ทำให้นักเรียนโรงเรยี นไกรใน วทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษกมีคุณธรรม จริยธรรมและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับดี ร้อยละ 90 ขน้ึ ไป 2.3 มีสิ่งใดบา้ งท่ีไม่เปน็ ไปตามคาดหวงั จากการเข้าร่วมโครงการสง่ เสรมิ อนรุ ักษว์ ัฒนธรรม และ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นในครง้ั นี้ เพราะอะไร นักเรียนบางคนไม่มีความตั้งใจในการทำกิจกรรมและอาจเป็นเพราะเป็นเพียงการฝึกชั่วคราว จึง ตอ้ งใชก้ ารฝึกเป็นประจำถึงจะตดิ เปน็ นสิ ยั และจะทำให้นักเรียนทำได้ถกู ต้องและทำดว้ ยความเต็มใจ

2.4 พบปัญหาอะไร จะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างไรจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ - ปญั หา : นักเรียนบางคนยังไม่ต้ังใจในการทำกจิ กรรมครั้งน้ี และไมค่ ่อยปฏิบตั ิตาม - วิธีแกป้ ญั หา : เวลาท่ีนกั เรยี นไม่ตง้ั ใจทำกจิ กรรมใชว้ ิธกี ารดงึ ดูดความสนใจด้วยกจิ กรรมทีต่ อ้ งมี การคิด เพ่อื กระต้นุ ใหน้ กั เรยี นมคี วามสนใจและปฏิบตั กิ ิจกรรมต่อไป 2.5 มีสิ่งใดที่เกินความคาดหวังจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ท้องถน่ิ ในคร้ังนีห้ รอื ไม่ เพราะอะไร - มี เพราะนักเรียนตั้งใจปฏิบัติกจิ กรรมมากขนึ้ กวา่ เดิม และมรี ะเบียบวินยั มากข้ึนกกว่าเดมิ 2.6 นักศึกษาจะทำอย่างไรเพ่ือให้บรรลสุ ่ิงท่คี าดหวัง และนักศึกษาได้รบั บทเรียนอะไรทีจ่ ะชว่ ย ปรบั ปรุงการทำงานในคร้งั ต่อไป - วางแผนในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมทีเ่ ปน็ ระบบ มีความสะดวกตอ่ การจัดกจิ กรรม บทเรยี นทีไ่ ดร้ บั : นักเรียนยงั ไมต่ ง้ั ใจในการทำกิจกรรมทำให้เกิดปญั หา ในครั้งตอ่ ไปจะต้องหา กิจกรรมมาดึงดูดความสนใจของนกั เรยี นใหม้ ากข้นึ

3. ภาพนักศึกษาเขา้ ร่วมโครงการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ของสถานศกึ ษา (3-5 ภาพ) กิจกรรมแหเ่ ทยี นพรรษาในวนั กิจกรรมตกั บาตรขา้ งสารอาหารแหง้ เข้าพรรษา ในวันขึ้นปีใหม่ กิจกรรมทอดผ้าป่าในวนั สถาปนาของ กิจกรรมอมรมโรงเรียนคณุ ธรรม โรงเรยี น มูลนิธยิ วุ พัฒน์ กิจกรรมอบรมวทิ ิสาสมาธิ กิจกรรมตลาดนดั วัฒนธรรมตำบล ไกรใน

4. สรปุ การทบทวนหลงั ปฏิบตั งิ าน (After Action Review: AAR) ผ่านกระบวนการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ในรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) (ข้อนี้ใหท้ ำในวนั สัมมนาหลงั ฝึกฯ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… *หมายเหตุ การสรุปผลทบทวนหลังปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) ในข้อที่ 4 จะได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) ในวันสัมมนาหลัง ฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook