หมวดท่ี 3 จรรยาบรรณวิชาชีพครู 3.7 การประพฤติปฏิบตั ิตนเป็นทย่ี อมรับของผู้เรียน ผ้บู รหิ าร เพอ่ื นร่วมงาน ผปู้ กครอง ชมุ ชน ขา้ พเจ้าดารงตนด้วยความสภุ าพออ่ นน้อม สารวมในกิรยิ ามารยาท และการแสดงออกดว้ ยปยิ วาจา แตง่ กายสะอาด เรียบร้อย และถกู กาลเทศะ
หมวดท่ี 3 จรรยาบรรณวิชาชพี ครู 3.8 การไมป่ ฏิบตั ิตนท่สี ง่ ผลเชงิ ลบตอ่ กายและใจของนักเรียน ขา้ พเจา้ ปฏิบตั ติ นตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู อยา่ งเคร่งครัด และถูกตอ้ งตามระเบยี บข้อกฎหมาย ที่กระทรวงศกึ ษาธิการได้กาหนดไว้
หมวดท่ี 3 จรรยาบรรณวชิ าชีพครู 3.9 การทางานกับผ้อู ่นื ไดโ้ ดยยึดหลกั ความสามัคคี เกอื้ กูลซง่ึ กันและกัน ขา้ พเจา้ ปฏิบตั งิ านตา่ ง ๆทท่ี างโรงเรียนมอบหมาย ให้ความร่วมมือกับคณะครู ในการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ทงั ในและนอกสถานศึกษาด้วยความเตม็ ใจ
หมวดที่ 3 จรรยาบรรณวิชาชีพครู 3.9 การทางานกบั ผอู้ ื่นไดโ้ ดยยดึ หลกั ความสามคั คี เก้ือกลู ซึ่งกันและกัน ภาพกจิ กรรมการทากีฬาสปี ระจาปี 2562
หมวดท่ี 3 จรรยาบรรณวิชาชพี ครู 3.9 การทางานกบั ผู้อ่นื ได้โดยยดึ หลักความสามัคคี เก้ือกูลซึ่งกันและกนั ภาพกจิ กรรมการสารวจเสน้ ทางและการเขา้ คา่ ยลกู เสือพักแรม ประจาปี 2562
หมวดที่ 3 จรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 3.10 การใชค้ วามรคู้ วามสามารถทมี่ อี ยู่ นาใหเ้ กดิ ความเปลี่ยนแปลงในทางพัฒนาใหก้ บั ผ้เู รยี น โรงเรียนหรอื ชมุ ชนในด้านใดดา้ นหนึ่ง ขา้ พเจ้าตังใจปฏบิ ัตหิ น้าทีใ่ นการถา่ ยทอดความรู้ ทกั ษะทต่ี นเองมีให้กับนักเรียนโดยมไิ ดป้ ดิ บงั พยายามศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้เพม่ิ เตมิ เพอื่ พัฒนาตนเอง ตดิ ตามข่าวสาร และเข้าอบรมเทคนคิ ใหมๆ่ นามาชว่ ย พัฒนาการเรยี นการสอน ใหก้ ับนกั เรยี นเพ่อื ให้นักเรยี น เป็นบคุ คลที่มีความรู้ ทกั ษะ และทันต่อเหตกุ ารณ์ สามารถนาความรู้ทไ่ี ด้ไปพฒั นาชมุ ชนและท้องถิน่
หมวดท่ี 3 จรรยาบรรณวิชาชีพครู 3.11 การยดึ ม่นั ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ ข้าพเจา้ มีความจงรกั ภกั ดี ตอ่ สถาบนั ชาติ ศาสนาและ พระมหากษตั รยิ ์ ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย โดยมีพระมหากษตั รยิ ์เปน็ ประมุข ประพฤติตนให้เป็นสมาชิก ทด่ี ขี องสังคมและมีจิตสาธารณะมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม โดยช่วยเหลือเพ่ือนร่วมงานโดยไม่หวงั ผลประโยชน์และ สิง่ ตอบแทนใดๆทงั สิน เช่น ร่วมกิจกรรมหนา้ เสาธงทุกเช้า
หมวดที่ 4 การดารงชวี ิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ขา้ พเจ้าตระหนักถงึ คุณคา่ ของการดาเนนิ ชวี ิตตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง และพยายามน้อมนาหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งมาใชใ้ นชีวิตประจาวัน เพื่อความผาสุก ของตนเองในปจั จบุ นั และอนาคต
หมวดท่ี 4 การดารงชีวติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4.1 มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ภาพกจิ กรรมการพานกั เรยี นหอนอน 12 ฉัตรพระอนิ ทร์ ปลกู ผกั เพื่อหารายได้ระหวา่ งเรยี น ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ของสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9
หมวดที่ 4 การดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4.2 มกี ารนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยกุ ต์ใช้กับการจดั การเรียนรใู้ นหอ้ งเรยี น ข้าพเจ้านาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาสอดแทรก ในใบงานของนักเรียน พบว่านกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ในหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สามารถนาหลัก ของความพอเพียง คือ พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมคิ มุ้ กัน ทด่ี ีในตวั บนเง่อื นไขของความร้คู คู่ ุณธรรม นกั เรียนนาไป ประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ มกี ารปลกู ผักเพ่ือหารายได้ ระหวา่ งเรียน
หมวดที่ 4 การดารงชีวิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4.2 มีการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับประยุกต์ใชก้ ับการจัดการเรียนร้ใู น หอ้ งเรียน ภาพกจิ กรรมการพานกั เรยี นหอนอน 12 ฉตั รพระอินทร์ ปลูกผักเพือ่ หารายได้ระหวา่ งเรยี น ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ของสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภมู พิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
หมวดที่ 4 การดารงชวี ิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4.3 มีการนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ประยกุ ต์ใช้กับภารกิจท่ีไดร้ บั มอบหมายอ่นื ขา้ พเจา้ ดาเนินชีวิตโดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาประยุกต์ใช้กบั ภารกิจทไี่ ด้รับมอบหมายอื่น เชน่ ครูหอนอน โดยได้ทาการใหเ้ ด็กในหอนอนปลกู ผกั สง่ โรงเรยี น เพ่อื เปน็ การหารายได้ให้แกนักเรียน
หมวดที่ 4 การดารงชีวติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4.4 มีการนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ประยุกต์ใชก้ ับการดารงชีวติ ของตนเอง ข้าพเจ้าดาเนนิ ชวี ิตโดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของในหลวง เป็นแนวทางในการดาเนินชวี ิตตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง เช่น การเพราะปลกู พืชตามฤดูกาล เพอ่ื ใชใ้ นการประกอบอาหาร และส่งขายใหแ้ กโ่ รงเรยี น
หมวดที่ 4 การดารงชีวติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4.4 มีการนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ประยุกต์ใชก้ ับการดารงชีวติ ของตนเอง ข้าพเจ้าดาเนนิ ชวี ิตโดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของในหลวง เป็นแนวทางในการดาเนินชวี ิตตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง เช่น การเพราะปลกู พืชตามฤดูกาล เพอ่ื ใชใ้ นการประกอบอาหาร และส่งขายใหแ้ กโ่ รงเรยี น
หมวดที่ 5 จิตวิญญาณความเป็นครู 5.1 การเข้าสอนตรงเวลาและสอนเต็มเวลา ขา้ พเจ้าปฏิบตั ิหน้าทท่ี ี่ไดร้ ับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ เต็มเวลา เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีอย่างสมา่ เสมอ โดยมีการวางแผนการสอนล่วงหนา้ จัดทาและจดั หาส่ือ จัดกจิ กรรมโดยเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญไมล่ ะทิงการสอนกลางคนั มีการปรับปรงุ พฒั นางานการสอนอยเู่ สมอ
หมวดท่ี 5 จิตวิญญาณความเปน็ ครู 5.2 การตระหนกั ในความรแู้ ละทักษะท่ีถูกตอ้ งรวมถงึ สิง่ ท่ีดๆี ให้กับผู้เรียน ขา้ พเจ้าตระหนักในความร้แู ละทกั ษะทถ่ี ูกตอ้ งรวมถงึ สงิ่ ที่ดีๆ ให้กบั ผู้เรยี น โดยมกี ารศึกษาหาความรู้เพิ่มเตมิ อยตู่ ลอดเวลา และมีการเตรยี มการสอนเตรียมสื่อการสอนเพือ่ ให้นกั เรียน ได้รบั ความร้ทู ่ถี ูกตอ้ งและมที กั ษะท่ดี แี ละถูกต้อง
หมวดท่ี 5 จติ วญิ ญาณความเปน็ ครู 5.3 การสรา้ งความเสมอภาคเป็นธรรมกบั ผ้เู รยี นทุกคน ข้าพเจา้ พยายามเรียนรู้และศกึ ษาผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล เพือ่ จะได้ทราบความตอ้ งการ สภาพสังคม เศรษฐกจิ ครอบครวั ของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล แล้วนาผลทีไ่ ดไ้ ปใช้ใน การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนให้เหมาะสมกบั ผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคลทาใหน้ ักเรียนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรียนทดี่ ขี นึ
หมวดที่ 5 จติ วิญญาณความเปน็ ครู 5.4การรจู้ กั ให้อภยั ปราศจากอคติ ชว่ ยเหลอื ส่งเสรมิ สนับสนุนใหผ้ ูเ้ รยี นประสบความสาเรจ็ ตามศักยภาพ ความสนใจหรือ ความตง้ั ใจ ขา้ พเจา้ ตังใจปฏิบตั ิหนา้ ที่ในการถา่ ยทอดความรใู้ ห้แก่ นกั เรียน เพอื่ ใหน้ ักเรียนประสบความสาเร็จ ตามศักยภาพ ความสนใจหรือความตังใจ
หมวดท่ี 5 จติ วญิ ญาณความเป็นครู 5.5 การเปน็ ที่พงึ่ ใหก้ บั ผ้เู รยี นไดต้ ลอดเวลา ข้าพเจา้ เสยี สละเวลาตนเอง มคี วามมงุ่ มานะและคอย ช่วยเหลือ เปน็ ทปี่ รกึ ษาเกยี่ วกบั ปญั หาของผเู้ รียนใน ด้านต่าง ๆ เป็นกาลังใจและให้คาแนะนาเสมอมา
หมวดท่ี 5 จติ วญิ ญาณความเปน็ ครู 5.6 การจัดกิจกรรมสง่ เสริม การใฝร่ ู้ ค้นหา สร้างสรรค์ ถ่ายทอด ปลูกฝังและเป็นแบบอยา่ งท่ดี ขี องผู้เรยี น ขา้ พเจา้ ปฏิบัตหิ นา้ ท่ดี ว้ ยจติ วิญญาณเปน็ การทาหนา้ ทดี่ ว้ ยใจ ซ่ึงทาให้เกดิ ความรกั ศรัทธาและยึดมัน่ ในอุดมการณแ์ หง่ วิชาชีพ มุ่งมนั่ ทมุ่ เทในการทางาน ประพฤติตนเปน็ แบบอยา่ ง ท่ดี ี เอาใจใส่ ดูแลและหวงั ดีต่อศิษย์
หมวดที่ 6 จติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี 6.1 การมีเจตคตเิ ชิงบวกกับวชิ าชีพ ขา้ พเจา้ ปฏิบัตติ นดงั นี ๖.๑.๑ มคี วามจงรกั ภกั ดี ตอ่ สถาบนั ชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั ริย์ ๖.๑.๒ ยึดมนั่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมี พระมหากษตั รยิ เ์ ป็นประมุข
หมวดท่ี 6 จติ สานึกความรบั ผิดชอบในวิชาชีพ 6.2 การมุ่งมั่น ทุ่มเทในการสร้างสรรค์ นวตั กรรมใหม่ๆ เพ่ือให้เกิดการพัฒนาวชิ าชพี และใหส้ งั คมยอมรบั ข้าพเจ้าพยายามศึกษาหาความรเู้ พม่ิ เตมิ อย่เู สมอจากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ เช่น หนงั สือ สื่อสง่ิ พิมพ์ โทรทศั น์ อินเทอร์เนต็ เปน็ ต้น เพือ่ นาความร้มู าผลติ ส่อื การสอนและนามาพฒั นา วชิ าชพี ต่อไป
หมวดท่ี 6 จิตสานึกความรับผดิ ชอบในวิชาชีพ 6.3 ประพฤติปฏบิ ัติตนในการรกั ษาภาพลักษณ์ในวชิ าชีพ ขา้ พเจ้าประพฤติตนใหเ้ ป็นสมาชิกท่ีดีของสงั คมและมีจติ สาธารณะมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม โดยชว่ ยเหลอื เพื่อน ร่วมงานโดยไมห่ วงั ผลประโยชน์และสงิ่ ตอบแทนใดๆทงั สนิ ยึดหลักคุณธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพในการยึดเหนี่ยว จติ ใจในการปฏบิ ัติงาน
หมวดท่ี 6 จติ สานึกความรบั ผิดชอบในวชิ าชพี 6.4 การปกป้อง ป้องกันมใิ ห้ผูร้ ว่ มวชิ าชีพประพฤติปฏบิ ัติในทางทจ่ี ะเกิดภาพลกั ษณเ์ ชงิ ลบตอ่ วชิ าชีพ ขา้ พเจา้ คอยใหค้ าปรึกษาแนะนาผู้ร่วมวิชาชพี ให้ประพฤติ ปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งทดี่ แี ละยึดมั่นปฏิบตั ติ นตาม จรรยาบรรณวิชาชีพครอู ยา่ งเครง่ ครดั
หมวดท่ี 6 จิตสานึกความรบั ผิดชอบในวิชาชีพ 6.5 การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การใฝ่รู้ คน้ หาสร้างสรรค์ ถา่ ยทอดปลกู ฝังและเป็นแบบอย่างทด่ี ีของเพ่อื นรว่ มงานและสงั คม ข้าพเจ้าปฏิบตั ิหน้าทด่ี ว้ ยใจซ่งึ ทาให้เกดิ ความรัก ศรทั ธาและ ยดึ มัน่ ในอดุ มการณแ์ หง่ วชิ าชีพ มุ่งมน่ั ทุ่มเทในการทางาน ประพฤตติ นเป็นแบบอยา่ งท่ดี ี ยอมรับฟังความคดิ เห็นของ เพื่อนร่วมงาน และปรับปรงุ ในสว่ นที่ตนเองบกพร่อง ให้ดี มากขนึ กวา่ เดมิ
การปฏบิ ตั งิ าน 1. การจดั การเรยี นการสอน 2. การบรหิ ารจัดการในชน้ั เรยี น 3. การพฒั นาตนเอง 4. การทางานเปน็ ทมี 5. งานกิจกรรมตามภารกจิ บริหารของสถานศึกษา 6. การใชภ้ าษาและเทคโนโลยี การประเมนิ เตรียมความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเขม้ ตาแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย (ครัง้ ที่ 1) นายณัฏฐชัย มาตา
หมวดท่ี 1 การจดั การเรียนการสอน 1.1 การนาผลการวเิ คราะห์หลกั สตู ร มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชีว้ ัด หรือผลการเรียนรู้ มาใช้ในการจดั ทารายวชิ าและ ออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ การวิเคราะหม์ าตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวบง่ ชตี ามหลักสตู ร หลกั สูตรสถานศึกษา ข้าพเจา้ ไดศ้ กึ ษาเพือ่ เตรียมการสอนให้ ครอบคลมุ เนอื หา และเพ่ือให้เกิดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยได้จัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้แบบมุ่งเนน้ ผเู้ รยี นเป็น สาคัญและครอบคลุมเนอื หาทกุ หน่วยการเรยี น
หมวดที่ 1 การจดั การเรียนการสอน 1.2 การออกแบบการจดั การเรยี นร้โู ดยเน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ เพือ่ ให้ผเู้ รียนมีความรู้ ทักษะ คณุ ลกั ษณะประจาวิชาคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะทีส่ าคัญตามหลักสูตร การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ข้าพเจา้ ได้ศึกษามาตรฐานการ เรยี นรแู้ ละตัวชีวดั เพื่อเตรยี มการสอนให้ครอบคลุมเนือหา และเพอ่ื ให้เกดิ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน โดยไดจ้ ดั ทาแผนการ เรยี นแบบมุ่งเนน้ สมรรถนะครบและครอบคลุมเนือหาทุก หน่วยการเรยี น และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
หมวดท่ี 1 การจัดการเรยี นการสอน 1.3 การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ อานวยความสะดวกในการเรยี นรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้ ดว้ ยวธิ กี ารทีห่ ลากหลายโดยเน้น ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ข้าพเจา้ มีการจดั การเรยี นร้ทู เี่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั ผเู้ รยี น จะตอ้ งอาศยั กระบวนการเรยี นรู้ ทห่ี ลากหลาย กระบวนการ เรยี นรูท้ จี่ าเปน็ สาหรบั ผู้เรียน อาทิ กระบวนการเรยี นรู้แบบ บูรณาการ เรยี นรู้จากประสบการณจ์ รงิ ลงมือปฏบิ ตั ิจริง และ การเรียนรูผ้ า่ นการเล่น
หมวดท่ี 1 การจดั การเรียนการสอน 1.4 การเลือกและใช้สื่อ เทคโนโลยแี ละแหล่งเรยี นรู้ทีส่ อดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้าพเจา้ นาเทคโนโลยแี ละแหล่งเรยี นรทู้ ่ีสอดคลอ้ งกับการ เรียนการสอนมาใช้ในการศกึ ษาทาใหก้ ารเรียนการสอน มคี วามหมายมากขึน ทาให้ผูเ้ รยี นสามารถเรียนได้กวา้ งขวาง เรยี นได้เร็วขึน ทาให้ผู้เรียนเกดิ ความสนใจ และมีความแปลก ใหม่ในการเรยี นรู้
หมวดท่ี 1 การจัดการเรยี นการสอน 1.5 การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้วยวธิ ีการทีหลากหลาย การวัดและประเมินผล หลังจากทข่ี า้ พเจ้าไดจ้ ัดการเรยี นรู้ใน หนว่ ยการเรยี นร้แู ตล่ ะหน่วยเสรจ็ สินแล้วข้าพเจา้ ได้ทาการ บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้ในแตล่ ะหนว่ ยไว้ทา้ ยแผนการ จดั การเรยี นรู้ และทาการศึกษาหาสาเหตุและปญั หาที่เกิดขึน ในหน่วยนัน ๆเพื่อนามาปรบั ปรงุ พัฒนาการจัดการเรียนการ สอนครังต่อไป
หมวดที่ 1 การจัดการเรยี นการสอน 1.6 คุณภาพของผูเ้ รยี น ได้แก่ 1. ผลสัมฤทธิท์ างวิชาการของผู้เรยี น 2. คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงคข์ องผู้เรยี น การเรียนรขู้ องผเู้ รียนท่ีแสดงออกถงึ ความรู้ ความสามารถ ทักษะตามหลกั สูตรสถานศึกษา และมพี ฒั นาการ ตามวัย มสี มรรถนะท่สี าคัญ และคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
หมวดท่ี 2 การบรหิ ารจัดการชั้นเรยี น 2.1 การจัดบรรยากาศที่ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ กระบวนการคิด ทักษะชวี ิตและพัฒนาผเู้ รยี น ข้าพเจ้าไดจ้ ดั บรรยากาศในชันเรยี นท่ีส่งเสริมให้นกั เรยี นเกดิ ความสนใจในหนว่ ยการเรียนรู้นันๆและเกิดแรงจงู ใจในการ เรยี นรเู้ พม่ิ มากขนึ มกี ารสรา้ งบรรยากาศในชนั เรยี นทอี่ บอนุ่ มีการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ซ่งึ กนั และกัน ระหว่างนกั เรยี นกับ เพื่อน และนักเรยี นกบั ครูผูส้ อน
หมวดที่ 2 การบรหิ ารจดั การช้ันเรยี น 2.2 การดาเนินการตามระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผู้เรียน โดยมกี ารศึกษาและรวบรวมข้อมูลผู้เรยี นรายบุคคลเพ่ือแกป้ ญั หา และพัฒนาผเู้ รียน ข้าพเจา้ จดั กิจกรรมดแู ลช่วยเหลือนักเรียน โดยการศึกษาและ สารวจตดิ ตามพฤตกิ รรมของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคลโดยการ ออกเย่ยี มบา้ นนักเรียนและดาเนินการช่วยเหลือนกั เรียนตาม สภาพจรงิ
หมวดท่ี 2 การบรหิ ารจดั การชั้นเรียน 2.3 การอบรมบ่มนิสยั ให้ผ้เู รยี น มคี ณุ ธรรม จริยธรรม คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และคา่ นยิ มท่ดี งี าม ข้าพเจา้ ไดม้ ีการปลกู ฝังคุณธรรมจริยธรรมท่ดี งี ามใหเ้ กดิ ขนึ กบั ผเู้ รียน โดยมีการอบรมคณุ ธรรม จริยธรรมในทกุ ครงั ก่อนการ เขา้ สู่เนอื หาในหนว่ ยนัน ๆ ซ่ึงใช้เวลาประมาณ ๕ นาที เป็น ประจาทุกวนั ตลอดเวลาท่ีจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนมกี าร สอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมให้เกิดขนึ กบั ผู้เรียน
หมวดท่ี 3 การพัฒนาตนเอง 3.1 การพฒั นาตนเองเพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ ทกั ษะด้วยวิธีการตา่ งๆ อย่างเหมาะสม ขา้ พเจา้ หมั่นศกึ ษาและพัฒนาตนเองอยู่เสมอเข้าร่วมกิจกรรม การฝึกอบรมหรอื กจิ กรรมการแลกเปลย่ี นเรียนร้กู บั เพื่อนครู ทังในและนอกโรงเรยี นอย่างต่อเน่ือง
หมวดท่ี 3 การพัฒนาตนเอง 3.1 การพัฒนาตนเองเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความสามารถ ทักษะด้วยวิธกี ารต่างๆ อยา่ งเหมาะสม ภาพการเขา้ รว่ มการอบรมตามผบู้ งั คบั บัญชามอบหมาย
หมวดท่ี 3 การพฒั นาตนเอง 3.1 การพฒั นาตนเองเพอ่ื ใหม้ ีความรู้ ความสามารถ ทกั ษะดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ อย่างเหมาะสม ภาพการ จัดทาหลักสูตรสถานศึกษา
หมวดที่ 3 การพัฒนาตนเอง 3.2 การมีส่วนร่วมในชมุ ชนการเรยี นรู้ ขา้ พเจ้ามสี ว่ นรว่ มในการแลกเปลีย่ นเรียนรูแ้ ละหา แนวทางในการแกไ้ ขปัญหารว่ มกนั กับครู ผบู้ รหิ าร ผู้ปกครอง เพือ่ นร่วมวชิ าชีพ
หมวดท่ี 4 การทางานเปน็ ทีม 4.1 หลักการทางานเปน็ ทมี การทางานเปน็ ทมี เปน็ ความร่วมมือ ร่วมใจของบคุ คล เพื่อทีจ่ ะบรรลุเปา้ หมายรว่ มกัน ข้าพเจ้าจงึ ยดึ หลกั การทางาน เปน็ ทมี ดังนี ๑. มวี ัตถุประสงค์ ที่ชดั เจนและมเี ปา้ หมายตรงกัน ๒. มีการวางแผนรว่ มกัน 3. มกี ารแบง่ หนา้ ท่ี 4. มคี วามสามคั คชี ่วยเหลอื เกือกลู กนั 5. ผลงานมีประสทิ ธภิ าพ 6. มกี ารสรปุ ผลการทางานร่วมกัน
หมวดที่ 4 การทางานเปน็ ทมี 4.2 การพัฒนาทมี งาน การใชแ้ ละสร้างเครอื ข่าย ทางวชิ าการ ขา้ พเจา้ ได้เขา้ ร่วม กจิ กรรมท่อี งค์กรวิชาชีพทงั ภายในและภายนอกองคก์ าร จดั ขนึ เพือ่ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้กบั บุคคลในแวดวงอาชพี ครู และแลกเปล่ียนความรแู้ ละรว่ มกนั พฒั นาสื่อการเรยี นรู้ ตลอดจนสร้างเครือขา่ ยการทางวิชาการ ในรูปแบบ ช่องทางตา่ ง ๆ เพ่อื แลกเปลี่ยนความรใู้ นระหว่างองค์กร
หมวดท่ี 5 งานกิจกรรมตามภารกิจบริหารงานของสถานศกึ ษา 5.1 มีความรคู้ วามเข้าใจภาระงานงานของสถานศึกษาเกยี่ วกบั งานบรหิ ารท่ัวไปหรืองานบรหิ ารวชิ าการ งบประมาณหรืองานบรหิ ารทรัพยากรบคุ คล และมีสว่ นร่วมปฏบิ ตั งิ านทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ขา้ พเจ้ามคี วามกระตอื รือร้นในการทางานท่ไี ด้รบั มอบหมาย จากผูบ้ ริหาร เช่น การทาระบบแจ้งยอดนักเรยี นเขา้ แถว และ การแจง้ ระบบการเช็คหอนอน อ่ืนๆ ตามที่ได้รบั มอบหมาย เพอื่ ให้งานสาเรจ็ ลุลว่ งไปได้ด้วยดี
หมวดท่ี 6 การใช้ภาษาและเทคโนโลยี 6.1 สามารถใชภ้ าษาและเทคโนโลยใี นการปฏิบตั ิงานตามหน้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบ ขา้ พเจา้ ใหค้ วามสาคญั เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนาเทคโนโลยีมา ใช้ในการจดั การเรยี นการสอน เชน่ ส่อื มัลติมเี ดีย ส่อื การสอน PowerPoint คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยในการเรียนการสอน ทาให้ การเรยี นการสอนเป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ผเู้ รยี นสามารถ ทาความเขา้ ใจและเหน็ ภาพได้ชดั เจนมากยิง่ ขนึ
จบการนาเสนอ
Search