Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ที่ 1พื้นฐานเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ใบความรู้ที่ 1พื้นฐานเครือข่ายคอมพิวเตอร์

Published by อดุล ศรีภักดี, 2020-06-24 00:42:35

Description: ใบความรู้ที่ 1 ชื่อหน่วย พื้นฐานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Basic computer networking) วิชา เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

Keywords: พื้นฐานเครือข่ายคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

8 ใบความรทู้ ่ี 1 หน่วยที่ 1 วิชา เครือข่ายคอมพิวเตอรเ์ บื้องต้น สอนคร้ังท่ี 1 ช่ือหน่วย พน้ื ฐานเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ (Basic computer คาบรวม 4 networking) ช่ือเรอื่ ง พืน้ ฐานเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ (Basic computer networking) จำนวนคาบ 4 1. ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ (Computer Network) ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ อย่างน้อยสองเครื่องเช่ือมต่อกันโดยใช้ส่ือกลาง และสามารถส่ือสารข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากน้ียังสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในระบบเครือข่ายร่วมกันได้เช่น เคร่ืองพิมพ์ ซีดีรอม ฮารด์ ดิสก์ สแกนเนอร์ เปน็ ตน้ รปู ท่ี 1.1 ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์เบ้ืองต้น 2. องคป์ ระกอบพน้ื ฐานของระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ Hub

9 รปู ท่ี 1.2 องคป์ ระกอบของระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น 2.1 เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ อยา่ งน้อย 2 เคร่ือง อาจเปน็ เคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ บบตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) หรือ โน๊ตบคุ๊ คอมพิวเตอร์ (Notebook Computer) กไ็ ด้ รปู ท่ี 1.3 เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 2.2 เนต็ เวิร์คการด หรอื NIC (Network Interface card) เป็นการ์ดท่ีเป็นจดุ เช่ือมต่อระหวา่ ง คอมพิวเตอร์กับเครือข่าย รปู ท่ี 1.4 เนต็ เวิร์คการด สบื ค้นจาก http://lanhardware.wordpress.com/2011/04/06/hello-world/ [4 พฤษภาคม 2554]

10 2.3 ส่ือกลางและอุปกรณ์สำหรับรับส่งข้อมูล สายสัญญาณ เช่น สายโคแอคเชียล สายคู่บิด เกลยี ว สายใยแก้วนำแสง เป็นต้น ส่วนอปุ กรณเ์ ครือข่ายเช่น ฮับ สวิตช์ เราท์เตอร์ เป็นต้น รูปที่ 1.5 ส่ือกลางและอปุ กรณส์ ำหรับรบั สง่ ขอ้ มลู สืบคน้ จาก http://lanhardware.wordpress.com/2011/04/06/hello-world/ [4 พฤษภาคม 2554] 2.4 โพรโตคอล (Protocol) เปน็ ภาษาทค่ี อมพิวเตอรใ์ ช้สือ่ สารกนั ผา่ นเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ท่ี สามารถส่ือสารกนั ได้นัน้ จำเป็นตอ้ งเป็นโพรโตคอลเดยี วกัน เช่น TCP/IP, IPX/SPX เป็นต้น 2.5 ระบบปฏิบตั ิการเครือข่าย หรือ NOS (Network Operating System) เป็นตวั ทค่ี อยจัดการ เก่ียวกับการใช้งานเครือข่ายของผู้ใช้แต่ละคน และควบคุมการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ของเครือข่าย ระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่นิยม เช่น Windows Server 2003, Novell Netware, Sun Solaris และ Red Hat Linux เปน็ ต้น รูปที่ 1.6 ระบบปฏบิ ตั ิการเครือข่าย สืบคน้ จาก http://www.jackcola.org/learn/network-and-system-administration/ [4 พฤษภาคม 2554] 3. ประเภทของเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ 3.1 แบ่งตามขนาดทางกายภาพของระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ ได้ 3 ชนดิ ดังน้ี 3.1.1 เครือข่ายระดับท้องถ่ิน (Local Area Network, LAN) เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ ในพ้ืนที่บริเวณเดียวกันหรือใกล้เคียงกันเข้าเป็นเครือข่าย เช่น ในห้องเดียวกัน ในชั้นอาคารเดียวกัน

11 หรือภายในอาคารเดียวกัน เป็นเครือข่ายภายในองค์กร หรือเครือข่ายขนาดเล็ก เช่น Ethernet, Wi-Fi เปน็ ตน้ รปู ที่ 1.7 เครอื ข่ายระดับทอ้ งถิ่น (Local Area Network, LAN) 3.1.2 เครอื ขา่ ยระดับเมือง (Metropolitan Area Network, MAN) ส่วนใหญ่จะเป็นการรวมกลุ่มเครือข่ายระดับท้องถ่ินหลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกันทำให้ สามารถติดต่อส่ือสารข้อมูล เข้าเครือข่ายได้ เช่น เครือข่ายระดับ MAN ของมหาวิทยาลัย เช่ือมโยง เครอื ข่ายระบบ LAN ของแต่ละคณะหรอื หน่วยงาน เปน็ ต้น

12 รปู ท่ี 1.8 เครอื ข่ายระดับเมอื ง (Metropolitan Area Network, MAN) สบื คน้ จาก http://soponmix.blogspot.com/2011/02/6.html [4 พฤษภาคม 2554] 3.1.3 เครือข่ายระดับประเทศหรือเครือข่ายบรเิ วณกว้าง WAN (Wide Area Network) เป็น ระบบเครือข่ายท่ีติดต้ังใช้งานอยู่ในบริเวณกว้าง เช่น ระบบเครือข่ายที่ติดตั้งใช้งานทั่วโลก เป็น เครือข่ายท่ีเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกันเข้าด้วยกัน อาจจะต้องเป็นการ ติดตอ่ สือ่ สารกันในระดับประเทศ ข้ามทวปี หรือทั่วโลกกไ็ ด้ ในการเชือ่ มการตดิ ต่อนั้น จะตอ้ งมีการต่อ เข้ากับระบบสื่อสารขององค์การโทรศัพท์หรือการส่ือสารแห่งประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเป็นการ ส่งข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ในการติดต่อส่ือสารกันโดยปกติมีอัตราการส่งข้อ มูลท่ีต่ำและมีโอกาสเกิด ข้อผดิ พลาด การสง่ ขอ้ มูลอาจใช้อุปกรณ์ในการสอื่ สาร เช่น โมเดม็ (Modem) มาชว่ ย

13 รปู ที่ 1.9 เครอื ข่ายระดับประเทศหรอื เครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง WAN (Wide Area Network) สืบคน้ จาก http://soponmix.blogspot.com/2011/02/6.html [4 พฤษภาคม 2554] 3.2 แบง่ ตามลักษณะหนา้ ท่ีการทำงานของคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย ได้ 2 ชนิด 3.2.1 เครือข่าย Peer-to-Peer Network หรือเครือข่ายแบบเท่าเทียม เป็นการเช่ือมต่อ เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ แต่ละเคร่ือง จะสามารถแบ่งทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์หรือเครื่องพิมพ์ซ่ึงกันและกันภายในเครือข่ายได้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองจะ ทำงานในลักษณะที่ทัดเทียมกัน ไม่มีเครื่องใดเคร่ืองเครื่องหนึ่งเป็นเคร่ืองหลักเหมือนแบบ Client / Server แต่ก็ยังคงคุณสมบัติพื้นฐานของระบบเครือข่ายไว้เหมือนเดิม การเช่ือมต่อแบบนี้มักทำใน ระบบท่ีมีขนาดเล็กๆ เช่น หน่วยงานขนาดเล็กท่ีมีเคร่ืองใช้ไม่เกิน 10 เครื่อง การเชื่อมต่อแบบนี้มี จุดอ่อนในเรอื่ งของระบบรักษาความปลอดภัย แต่ถ้าเป็นเครือข่ายขนาดเล็ก และเป็นงานที่ไม่มขี ้อมูล ท่เี ปน็ ความลบั มากนัก เครือขา่ ยแบบนี้ กเ็ ป็นรปู แบบท่นี า่ เลอื กนำมาใชไ้ ด้เป็นอยา่ งดี

14 รูปที่ 1.10 เครือขา่ ย Peer-to-Peer Network 3.2.2 เครือข่าย Client-Server Network หรือเครอื ข่ายแบบผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการเป็น ระบบท่ีมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองมีฐานะการทำงานท่ีเหมือนๆ กัน เท่าเทียมกันภายในระบบ เครือข่าย แต่จะมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีทำหน้าท่ีเป็นเคร่ืองแม่ข่าย (Server) ทำหน้าที่ให้บริการ ทรัพยากรต่าง ๆ ให้กับเครื่องลูกข่าย (Client) หรือเครื่องที่ขอใช้บริการ ซึ่งอาจจะต้องเป็นเคร่ืองท่ีมี ประสิทธิภาพที่ค่อนข้างสูง ถึงจะทำให้การให้บริการมีประสิทธิภาพตามไปด้วย ข้อดีของระบบ เครือข่าย Client - Server เป็นระบบที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงกว่า ระบบแบบ Peer-To-Peer เพราะว่าการจัดการในด้านรักษาความปลอดภัยนั้น จะทำกันบนเครื่อง Server เพียงเคร่ืองเดียว ทำ ใหด้ ูแลรกั ษางา่ ย และสะดวก มีการกำหนดสิทธิการเข้าใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้กับเครื่องผู้ขอใช้บริการ หรือ เครอ่ื งลกู ข่าย

15 รปู ท่ี 1.11 เครือขา่ ย Client-Server Network 3.3 แบง่ ตามระดบั ความปลอดภยั ของข้อมลู ได้ 3 ชนดิ ดงั นี้ 3.3.1 เครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) หรือเครือข่ายสาธารณะเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุม ท่ัวโลก ซ่ึงมีคอมพิวเตอร์เป็นล้าน ๆ เครื่องเช่ือมต่อเข้ากับระบบและยังขยายตัวข้ึนเร่ือย ๆ ทุกปี อินเตอร์เน็ตมีผู้ใช้ทั่วโลกหลายร้อยล้านคน และผู้ใช้เหล่าน้ีสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้ อย่างอิสระ โดยท่ีระยะทางและเวลาไม่เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าดูข้อมูลต่างๆ ท่ีถูก ตพี มิ พ์ในอินเตอร์เนต็ ได้

16 รูปท่ี 1.12 เครือขา่ ย Internet สบื คน้ จาก http://lanhardware.wordpress.com/2011/04/06/hello-world/ [4 พฤษภาคม 2554] 3.3.2 เครือข่าย Intranet คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบภายในองค์กร ใช้เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต ในการใช้งานอินทราเน็ตจะต้องใช้โพรโทคอล IP เหมือนกับอินเตอร์เน็ต สามารถมี เว็บไซต์และใช้เว็บเบราว์เซอร์ได้ เช่นกัน รวมถึงอีเมล์ ถ้าเชื่อมต่ออินทราเน็ตขององค์กรกับ อินเตอร์เน็ต ก็สามารถใช้ได้ทั้ง อินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ต ไปพร้อม ๆ กัน แต่ในการใช้งานนั้นจะ แตกตา่ งกันด้านความเร็ว ในการโหลดไฟล์ใหญ่ ๆ จากเว็บไซต์ในอนิ ทราเน็ต จะรวดเร็วกว่าการโหลด จากอินเตอร์เน็ตมาก ดังนั้นประโยชน์ท่ีจะได้รับจากอินทราเน็ต สำหรับองค์กรหนึ่ง คือ สามารถใช้ ความสามารถตา่ ง ๆ ทมี่ อี ยใู่ นอนิ เตอร์เนต็ ได้อย่างเต็มประสทิ ธภิ าพ รปู ท่ี 1.13 เครือข่าย Intranet สบื คน้ จาก http://lanhardware.wordpress.com/2011/04/06/hello-world/ [4 พฤษภาคม 2554] 3.3.3 เครือข่าย Extranet หรือเครือข่ายร่วม เป็นเครือข่ายก่ึงอินเตอร์เน็ตกึ่งอินทราเน็ต กล่าวคือ เอ็กส์ทราเน็ตคือเครือข่ายท่ีเชื่อมต่อระหว่างอินทราเน็ตของสององค์กร ดังนั้นจะมีบางส่วน ของเครือข่ายที่เป็นเจ้าของร่วมกันระหว่างสององค์กรหรือ บริษัท การสร้างอินทราเน็ตจะไม่จำกัด

17 ด้วยเทคโนโลยี แต่จะยากตรงนโยบายท่ีเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ท้ังสอง องค์กร จะต้องตกลงกัน รปู ท่ี 1.14 เครอื ข่าย Extranet สบื คน้ จาก http://lanhardware.wordpress.com/2011/04/06/hello-world/ [4 พฤษภาคม 2554] 4. ประโยชนข์ องเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 4.1 ใช้แลกเปล่ยี นขอ้ มลู โดยผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถท่ีจะดึงข้อมูลจากส่วนกลาง หรือข้อมูลจากผู้ใช้คนอื่นมาใช้ได้ อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เหมือนกับการดึงข้อมูลมาใช้จากเคร่ืองของตนเอง และนอกจากดึง ไฟลข์ อ้ มลู มาใชแ้ ลว้ ยงั สามารถคดั ลอกไฟล์ไปใหผ้ ู้อ่นื ได้อีกด้วย

18 รปู ท่ี 1.15 การแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ระหว่างเครื่องคอมพวิ เตอร์ สืบค้นจาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network2.htm [4 พฤษภาคม 2554] 4.2 ใช้ทรพั ยากรร่วมกนั ได้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เช่ือมต่อกับเครือข่ายนั้น ถือว่าเป็นทรัพยากรส่วนกลางที่ผู้ใช้ใน เครือข่ายทุกคน สามารถใช้ได้โดยการส่ังงานจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของ ตัวเองผ่านเครือข่ายไปยัง อุปกรณน์ ัน้ เชน่ มีเคร่ืองพิมพส์ ว่ นกลางในเครอื ขา่ ย เป็นตน้ ซ่ึงทำใหป้ ระหยดั คา่ ใช้จ่ายได้ดว้ ย รปู ท่ี 1.16 การใช้ทรัพยากรร่วมกนั สบื คน้ จาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network2.htm [4 พฤษภาคม 2554] 4.3 ใช้การทำงานประสานกัน ก่อนท่ีเครือข่ายจะเป็นที่นิยม องค์กรส่วนใหญ่จะใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม หรือมินิคอมพิวเตอร์ ในการจัดการงาน และข้อมูลทุกอย่างในองค์กร แต่ปัจจุบันองค์กรสามารถ

19 กระจายงานตา่ ง ๆ ให้กบั หลาย ๆ เครอื่ ง แลว้ ทำงานประสานกนั เช่น การใช้เครอื ข่ายในการจัดการ ระบบงานขาย โดยให้เคร่ืองหน่ึงทำหน้าที่จัดการการเกี่ยวกับใบส่ังซ้ือ อีกเคร่ืองหนึ่งจัดการกับระบบ สินค้าคงคลงั เปน็ รปู ที่ 1.17 การใชก้ ารทำงานประสานกนั สบื ค้นจาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network2.htm [4 พฤษภาคม 2554] 4.4 ใช้โปรแกรมรว่ มกนั ผูใ้ ช้ในเครอื ข่ายสามารถที่จะรันโปรแกรมจาก เคร่ืองคอมพิวเตอรส์ ่วนกลาง เช่น โปรแกรม Word, Excel, Power Point ได้ โดยไมจ่ ำเปน็ จะตอ้ งจดั ซื้อโปรแกรม สำหรับคอมพิวเตอร์ทุกเครอื่ ง เป็นการประหยดั งบประมาณในการจัดซื้อ และยงั ประหยดั เนือ้ ที่ในหน่วยความจำด้วย รปู ท่ี 1.18 การใช้โปรแกรมร่วมกัน สบื คน้ จาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network2.htm [4 พฤษภาคม 2554]

20 4.5 ใช้การตดิ ตอ่ ส่ือสารสะดวก รวดเร็ว เครือข่ายนับว่าเป็นเคร่ืองมือท่ีใช้ในการติดต่อส่ือสาร ได้เป็นอย่างดี ผู้ใช้สามารถ แลกเปลีย่ นข้อมลู กบั เพื่อนร่วมงานที่อยู่คนละที่ ไดอ้ ยา่ งสะดวก และรวดเร็ว รูปท่ี 1.19 การใช้การติดต่อส่ือสาร สืบค้นจาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network2.htm [4 พฤษภาคม 2554] 4.6 ใช้ขอ้ มูลจากบา้ นหรือที่ทำงานได้ เครือข่ายในปัจจุบันมักจะมีการติดตั้งคอมพิวเตอร์ เคร่ืองหน่ึงเป็นเซิร์ฟเวอร์ เพ่ือให้ผู้ใช้ สามารถเขา้ ใช้เครอื ข่ายจากระยะไกล เช่น จากที่บา้ น โดยใช้ตดิ ตั้งโมเด็มเพือ่ ใช้หมุนโทรศพั ท์เชอื่ มต่อ เข้ากบั เคร่ืองเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอรเ์ ครื่องนน้ั ก็จะเปน็ สว่ นหน่ึงของเครือข่าย รูปท่ี 1.20 การใช้ข้อมูลจากบ้านหรือที่ทำงาน

21 สบื ค้นจาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network2.htm [4 พฤษภาคม 2554] 4.7 ใช้การโอนเงนิ ทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (Electronic Funds Transfer-EFT) การโอนเงินทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (Electronic Funds Transfer) เข้า–ออกหรือระหวา่ งบัญชี ของธนาคาร เป็นการประยุกต์ใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่พบได้ในชีวติ ประจำวัน ตัวอย่างที่เห็น ได้ชัดในปัจจุบันก็คือการฝาก–ถอนผ่านทางเคร่ือง ATM (automated teller machine) รวมทั้ง ระบบการโอนเงนิ ระหว่างบัญชี ไมว่ า่ จะทำผ่านเคานเ์ ตอรธ์ นาคารหรือผ่านระบบธนาคารทางโทรศัพท์ 4.8 ใช้สง่ั ซ้ือสินค้าทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (Electronic Shopping) บริการการสั่งซื้อสินค้าทางอิเลคทรอนิกส์ กล่าวได้ว่าเป็นแนวโน้มของการค้าโลก ในยุค ตอ่ ไป ผู้ช้ือสามารถสั่งซือ้ สินค้าจากบา้ นหรือทีท่ ำงาน โดยดูลักษณะของสินค้าจากภาพที่ส่งมาแสดงท่ี หน้าจอ และผคู้ า้ สามารถได้รบั เงินจากผซู้ ื้อด้วยบรกิ ารโอนเงนิ ทางอิเลคทรอนิคสแ์ บบต่างๆ ไดท้ ันที รูปที่ 1.21 การใช้ส่ังซ้ือสนิ คา้ ทางอเิ ลคทรอนิกส์ สบื คน้ จาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network2.htm [4 พฤษภาคม 2554]

22


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook