คำนำ ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยเงนิ อุดหนนุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ พ.ศ. ๒๕๕๙ (แกไ้ ขเพิ่มเติมถึง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓) กำหนดระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยเงนิ อุดหนุนขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน โดย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และ มาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วน จังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๖๙ และ มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๕ และ มาตรา ๘๘ แห่ง พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ในการกำหนดระเบยี บว่าด้วยเงินอดุ หนนุ “เงิน อุดหนุน” เป็นเงินที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้ังงบประมาณอุดหนุนให้แก่ หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนเพื่อให้ ดำเนินการตามภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าทีข่ ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามกฎหมาย เงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ให้แบ่งเปน็ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ 1. เงินอุดหนุนท่วั ไป และเงินอุดหนนุ เฉพาะกิจ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เสนอขอตั้งงบประมาณโดยตรงและ หน่วยงานที่เสนอขอตั้ง งบประมาณเงินอุดหนุนใหแ้ ก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอต้ังงบประมาณที่สอดคลอ้ งกบั แผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี แผนปฏิรปู ประเทศและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตฉิ บับที่ ๑3 (พ.ศ. ๒๕๖6 – ๒๕70) เทศบาลเมือง ให้เสนอขอตั้งงบประมาณ โดยแบ่งเป็นเงินอุดหนุนทั่วไปและเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ตาม ภารกิจท่ไี ดร้ บั การถ่ายโอนและตามวตั ถปุ ระสงคส์ ำหรับการใช้จา่ ย การขอเบิกงบประมาณอดุ หนุนประจำปีเป็นการขอ งบประมาณเป็นรายปี ซึ่งงบประมาณที่ได้มา จะได้มาจากการจัดสรรของสำนักงบประมาณที่รัฐบาลกำหนดไว้ตาม หวั ข้อและวตั ถุประสงค์ของงบประมาณและความเหมาะสมขององค์กร คู่มือการขอเบิกงบประมาณอุดหนุนประจำปีจากรัฐบาล ฉบับนี้ เป็นคู่มือที่จัดทำขึ้นเพื่อให้เป็นคู่มือความรู้ สำหรบั การขอเบิกงบประมาณอดุ หนุนประจำปีจากรฐั บาลและเป็นแนวทางในการขอเบิกงบประมาณอดุ หนนุ ประจำปี จากรัฐบาลใหแ้ กเ่ จา้ หนา้ ทที่ ีเ่ ก่ียวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ เป็นคูม่ ือทชี่ ี้นำในการจดั ทำงบประมาณอุดหนุน อยา่ งถกู ต้องตามระเบียบกฎเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ เทศบาลเมืองสะเตงนอก หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คมู่ อื การขอเบิกงบประมาณอุดหนุนประจำปีจากรัฐบาล ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ให้แก่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำการขอเบิกงบประมาณอุดหนุนประจำปีของ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ และให้เป็นไปตามกระบวนการหรือระเบียบข้ันตอนท่ีกำหนดไว้ งานวเิ คราะห์นโยบายและแผน เทศบาลเมืองสะเตงนอก
สารบญั สว่ นท่ี 1 สภาพทวั่ ไปและข้อมูลพื้นฐาน หนา้ 1 สว่ นที่ 2 ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ 17 2.1 ประเดน็ การพัฒนาที่ 1 การเสริมสร้างความเข้มแขง็ ของระบบการบรหิ าร 31 จดั การการเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนอ่ื งจากภาคการเกษตรทีแ่ ขง่ ขันได้ 32 2.2 ประเดน็ การพฒั นาท่ี 2 การเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของอตุ สาหกรรมการ ทอ่ งเที่ยวเชงิ นเิ วศ วฒั นธรรม และท่องเทีย่ วชายแดน 33 2.3 ประเดน็ การพัฒนาท่ี 3 การพฒั นาคุณภาพชวี ติ และศกั ยภาพของประชาชน 35 ตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 52 57 2.4 ประเด็นการพัฒนาท่ี 4 การระดมภาคีทุกภาคส่วนร่วมเสริมสร้างยะลาสันติสขุ ท่ยี ่งั ยืน ส่วนท่ี 3 ข้อมูลท่ัวไปเก่ียวกบั เงินอดุ หนุนประจำปีขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ สว่ นท่ี 4 ข้ันตอนและระเบยี บการเบกิ งบประมาณอุดหนนุ
ส่วนที่ 1 สภาพทัว่ ไปและข้อมลู พ้นื ฐาน 1. ดา้ นกายภาพ 1.1 ที่ตั้งของหมู่บ้าน/ชุมชน/ตำบล เทศบาลเมืองสะเตงนอก มีพื้นที่รับผิดชอบ 34.78 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดยะลา อยู่ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 2 กิโลเมตร มีอาณาเขต ดังน้ี ทศิ เหนอื ติดตอ่ กบั อบต.เขาตูม อำเภอยะรัง จงั หวัดปัตตานี ทศิ ใต้ ติดต่อกับ เทศบาลตำบลบดุ แี ละอบต.บนั นังสาเรง อำเภอเมือง จงั หวัดยะลา ทิศตะวันออก ตดิ ตอ่ กับ อบต.วงั พญา อำเภอรามนั จังหวดั ยะลา ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ กับ เทศบาลนครยะลา อำเภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา จุดเริ่มต้นของการปกครองท้องถิ่นในตำบลสะเตงนอก เริ่มต้นตั้งแต่กระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศ กระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2538 จากเดิมเป็นสภาตำบลสะเตง นอกเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสะเตงนอก เพื่อให้เกิดความเหมาะสมแก่การบริหารกิจการและการทำนุบำรุง ท้องถิ่น ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นเทศบาลตำบลสะเตงนอก เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2550 ซึ่งตามหลักภูมิศาสตร์ของ ตำบลสะเตงนอกซึ่งเป็นตำบลที่ติดกับเทศบาลนครยะลาทำให้สภาพบ้านเมืองเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว กระทรวงมหาดไทยเองกเ็ ห็นถึงสภาพความเป็นไปของบา้ นเมืองท่ีมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสงั คมที่เพิ่มขึ้น สมควรเปลีย่ นแปลงฐานะเปน็ เทศบาลเมืองสะเตงนอก ดังนั้นในปี 2554 จึงไดม้ ีพระราชกฤษฎกี า จดั ตั้งเทศบาลเมือง สะเตงนอกขึ้นมา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และมีฐานะเป็นเทศบาลเมืองขนาดกลาง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งตำบลสะเตงนอก มีเนื้อที่ประมาณ 34.78 ตารางกิโลเมตร หมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง สะเตงนอก มีทั้งหมดจำนวน 13 หมู่บา้ น ประกอบดว้ ย หมู่ท่ี 1 บา้ นเบอร์เส้ง หมทู่ ี่ 2 บา้ นหลกั ห้า หมทู่ ี่ 3 บ้านเปาะยานิ หมทู่ ี่ 4 บา้ นนดั โต๊ะโมง หมทู่ ี่ 5 บ้านบาโงยบาแด หมทู่ ี่ 6 บา้ นตะโละ๊ กอื บอ หมู่ท่ี 7 บา้ นนิบงบารู หมทู่ ี่ 8 บา้ นกำปงบเู ก๊ะ หมทู่ ี่ 9 บา้ นกือแลมะห์ 1
หมทู่ ่ี 10 บ้านตอื เบาะ หมู่ที่ 11 บ้านกำปงตอื เงาะ หมู่ท่ี 12 บา้ นลาโจ๊ะ หมทู่ ี่ 13 บ้านปรามะ แผนท่ีเทศบาลเมืองสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวดั ยะลา 2
ข้อมลู เกี่ยวกบั ศกั ยภาพของเทศบาลเมืองสะเตงนอก คณะผบู้ รหิ ารเทศบาลเมืองสะเตงนอก 1. นายเสรี เรืองกาญจน์ นายกเทศมนตรเี มืองสะเตงนอก 2. นายศรัณยพ์ ล ลฬี หาวงศ์ รองนายกเทศมนตรเี มืองสะเตงนอก 3. นายอบั ดลุ เล๊าะ อาเยา๊ ะแซ รองนายกเทศมนตรีเมืองสะเตงนอก 4. นางรชั นี กาญจนานชุ ติ รองนายกเทศมนตรเี มืองสะเตงนอก 5. นายนัฏศาสตร์ เลาะแม ทปี่ รึกษานายกเทศมนตรีเมอื งสะเตงนอก 6. นายต่วนมาหามะอับดลู คอเดร์ ต่วนกาจิ เลขานกุ ารนายกเทศมนตรเี มืองสะเตงนอก สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสะเตงนอก 1. นายอบั ดลุ อาซิซ หะยปี ยิ วงศ์ ประธานสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก 2. นายอดลุ ย์ แวโวะ รองประธานสภาเทศบาลเมืองสะเตงนอก 3. นายดาฮารี ดอปอ สมาชิกสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 1 4. นายแวฮาซัน แวหะยี สมาชกิ สภาเทศบาลเมืองสะเตงนอก เขต 1 5. นายไพศาล ยะลาใด สมาชกิ สภาเทศบาลเมืองสะเตงนอก เขต 1 6. นายกราซี แวนะลยั สมาชกิ สภาเทศบาลเมืองสะเตงนอก เขต 1 7. นายมะสดี หะยยี ะปาร์ สมาชิกสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 1 8. นายอสุ มาน สาแม สมาชิกสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 2 9. นายอนันต์ ฮะ สมาชิกสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 2 10. นายดอเลาะ สะหัดอีตำ สมาชกิ สภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 2 11. นายสพุ จน์ จันทรเ์ อยี ด สมาชิกสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 2 12. นางสาวนำทัย อินออ่ น สมาชกิ สภาเทศบาลเมืองสะเตงนอก เขต 2 13. นายนพดล ดวงแก้ว สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสะเตงนอก เขต 2 14. นายสูเพยี น มายิ สมาชกิ สภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 3 15. นายอดลุ ย์ สามะ สมาชกิ สภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 3 16. นายเดะ๊ ซามัน ยูโซ๊ะ สมาชิกสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 3 17. นายอสุ มาน มะแซ สมาชิกสภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 3 18. นายมูฮำหมัดยากี สามะ สมาชกิ สภาเทศบาลเมอื งสะเตงนอก เขต 3 3
โครงสรา้ งการแบ่งสว่ นราชการ จำนวน 7 สำนกั /กอง โดยมภี ารกิจการบรหิ ารงานดังน้ี 1. สำนกั ปลัด มีภาระหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการ งานสารบรรณ การจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล งบประมาณ การ จัดทำร่างข้อบังคับการจัดทำทะเบียนคณะผู้บริหาร สมาชิกเทศบาล การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจการให้คำปรึกษางานในหน้าที่และความรับผิดชอบการปกครอง บังคับบัญชา พนักงานเทศบาล และพนักงานจ้าง การบริหารงานบุคคลของเทศบาลทั้งหมด งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งานทะเบียนและ บัตร รวมถงึ การดำเนนิ การเก่ยี วกบั การอนญุ าตต่างๆ และปฏบิ ัตหิ นา้ ท่อี น่ื ที่เกี่ยวขอ้ ง 2. กองสาธารณสขุ มีภาระหน้าที่เกี่ยวกับการสาธารณสุขและข้อบังคับตำบลการวางแผนการสาธารณสุขและการ ประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข การเฝ้าระวังโรค การเผยแพร่ฝึกอบรมการให้ สุขศึกษา การจัดทำงบประมาณตามแผนงานสาธารณสุขงานด้านสิ่งแวดล้อม ให้บริการสาธารณสุข การควบคุมการ ฆ่าสตั ว์ จำหนา่ ยเน้ือสัตว์ การบรกิ ารจัดเกบ็ ขยะและสง่ิ ปฏิกูลและปฏบิ ตั หิ นา้ ทอ่ี นื่ ท่เี กี่ยวข้อง 3. กองคลัง มีภาระหน้าที่เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีและทะเบียนรับ-รายเงินทุกประเภทงานเกี่ยวกับการเงินการ เบกิ จ่ายเงินการเก็บรักษาเงนิ การนำส่งเงิน การฝากเงิน การตรวจเงิน รวบรวมสถติ ิเงินได้ ประเภทตา่ งๆ การเบิกตดั ปี การขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณการหักภาษีและนำส่งเงินคงเหลือประจำวันการรับ และจ่ายขาดเงินสะสมของ เทศบาล การยืมเงินทดรองราชการ การจัดหาผลประโยชน์จากสิ่งก่อสร้างและทรัพย์สินของเทศบาล ตรวจสอบงาน ของจงั หวดั และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดนิ การเรง่ รัดใบสำคัญและเงินยมื คา้ งชำระ การจัดเกบ็ ภาษี การประเมินภาษี การเรง่ รัดจัดเก็บรายได้ การพฒั นารายได้ การออกใบอนญุ าตและคา่ ธรรมเนยี มตา่ งๆ และปฏบิ ตั ิหน้าที่อืน่ ทเี่ กีย่ วข้อง 4. กองช่าง มีภาระหนา้ ท่ีเก่ียวกับการสำรวจออกแบบและจัดทำโครงการใช้จ่ายเงนิ ของเทศบาล การอนมุ ัติ เพื่อ ดำเนินการตามโครงการที่ตั้งจ่ายจากเงินรายได้ของเทศบาล งานบำรุงซ่อมและจัดทำทะเบียน สิ่งก่อสร้าง ที่อยู่ใน ความรับผิดชอบของเทศบาลการให้คำแนะนำปรึกษา เกี่ยวกับการจัดทำโครงการ และการออกแบบ ก่อสร้างแก่ เทศบาลและหน่วยงานอ่นื ท่ีเกยี่ วข้อง งานควบคุมอาคาร การดูแล ควบคมุ ปรกึ ษา ซ่อมแซม วัสดคุ รภุ ัณฑแ์ ละปฏิบัติ หน้าทอ่ี ืน่ ที่เกยี่ วขอ้ ง 5. กองการศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม มีภาระหน้าที่เกี่ยวกับ การปฏิบัติงานทางการศึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์วิจัยและพัฒนาหลักสูตร การแนะแนว การวัดผลประเมินผลการพัฒนาตำราเรียน การวางแผนการศึกษาของมาตรฐานสถานศึกษา การ จัดบริการส่งเสริมการศึกษา การใช้เทคโนโลยีทางการศึกษา การเสนอแนะเกี่ยวกับการศึกษา ส่งเสริมการวิจัยการ วางโครงการสำรวจเกบ็ รวบรวมข้อมลู สถิติการศึกษาเพื่อนำไปประกอบ การพิจารณา กำหนดนโยบาย แผนงานและ แนวทางการปฏิบตั ิ ในการจดั การศึกษา การเผยแพรก่ ารศึกษา และปฏบิ ตั หิ น้าท่อี ่ืนทเี่ กี่ยวข้อง 4
6. กองสวัสดกิ ารสังคม มีภาระหน้าที่เกี่ยวกับ งานจัดทำแผนงานด้านการพัฒนาสังคม ด้านสวัสดิการสังคมและด้านสังคม สงเคราะห์ งานพัฒนาระบบ รูปแบบ มาตรการและวิธีการพัฒนาสังคม การจัดสวัสดิการสังคมและการสังคม สงเคราะห์ที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของประชาชน งานพัฒนาชุมชน งานสำรวจและจัดตั้ง คณะกรรมการชุมชน งานสำรวจและจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน งานสำรวจและจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน งานจัด ระเบียบชุมชน งานส่งเสริมสนับสนุนการจัดสวัสดิการสังคมแก่เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส งาน ฝึกอบรมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน งานสังคมสงเคราะห์เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ไร้ท่ีพึง่ ผู้ประสบภัยพิบตั ิต่างๆ งานสงเคราะหเ์ ดก็ และเยาวชน ผู้พิการทางร่างกายและสมอง งาน สงเคราะหเ์ ด็กและเยาวชน ผถู้ กู ทอดท้งิ เรร่ อน ไร้ที่พ่งึ ถกู ทำรา้ ยรา่ งกาย งานสง่ เสริมสวสั ดิภาพเดก็ และเยาวชนท่ี ประพฤติตนไม่เหมาะสมแก่วัย งานสงเคราะห์ครอบครัวที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ การดำเนินชีวิตในครอบครัว งานด้านจติ วิทยา งานจ่ายเงินเบีย้ ยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ การส่งเสรมิ และพัฒนาอาชพี งานบรกิ ารข้อมูล สถิติ ชว่ ยเหลือให้คำแนะนำทางวิชาการ งานอนื่ ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งและท่ีไดร้ ับมอบหมาย 7. หนว่ ยงานตรวจสอบภายใน มีภาระหน้าที่เกี่ยวกับ งานการจัดทำแผนการตรวจสอบภายในประจำปี งานการตรวจสอบความ ถูกต้องและเชื่อถือได้ของเอกสารการเงิน การบัญชี เอกสารการรับ การจ่ายเงินทุกปร ะเภท ตรวจสอบการเก็บ รักษาหลักฐานการเงิน การบญั ชี งานตรวจสอบการสรรหาพสั ดแุ ละทรัพยส์ ิน การเกบ็ รกั ษาพัสดุและทรพั ยส์ ิน งาน ตรวจสอบการทำประโยชน์จากทรัพย์สินของเทศบาล งานตรวจสอบ ติดตามและการประเมินผลการดำเนินงานตาม แผนงาน โครงการ ใหเ้ ป็นไปตามนโยบาย วตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายท่ีกำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ลและ ประหยัด งานวิเคราะห์และประเมินความมีประสิทธิภาพ ประหยัด คุ้มค่าในการใชท้ รัพยากรของสว่ นราชการต่างๆ งานประเมินการควบคุมภายในของหน่วยรับตรวจ งานรายงานผลการตรวจสอบภายใน งานบริการข้อมูล สถิติ ชว่ ยเหลือใหค้ ำแนะนำ แนวทางแกไ้ ข ปรับปรงุ การปฏบิ ัตงิ านแก่หน่วยรบั ตรวจและผู้ทเ่ี กย่ี วข้อง งานอ่นื ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง และที่ได้รับมอบหมาย ด้านการคลงั ทอ้ งถ่นิ 1. สถานะการคลงั 1.1 งบประมาณรายจ่ายท่วั ไป ในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ณ วนั ท่ี 30 กนั ยายน พ.ศ.2564 เทศบาลเมืองสะเตงนอกมสี ถานะการเงิน ดังนี้ 1.1.1 เงนิ ฝากธนาคาร จำนวน 80,139,054.08 บาท 1.1.2 เงนิ สะสม จำนวน 220,944,859.24 บาท 1.1.3 เงนิ ทุนสำรองเงินสะสม จำนวน 30,124,202.73 บาท 2. การบริหารงบประมาณ ในปีงบประมาณ 2564 วันท่ี 30 กันยายน 2564 (1) รายรบั จริง จำนวน 151,123,104.43 บาท ประกอบดว้ ย 5
หมวดภาษีอากร จำนวน 1,171,204.24 บาท หมวดคา่ ธรรมเนยี ม คา่ ปรบั และใบอนญุ าต จำนวน 2,515,171.79 บาท หมวดรายไดจ้ ากทรัพย์สิน จำนวน 507,964.09 บาท หมวดรายได้เบด็ เตล็ด จำนวน 3,780.00 บาท หมวดรายไดจ้ ากทุน จำนวน 1,000.00 บาท หมวดภาษีจดั สรร จำนวน 54,503,081.31 บาท เงินอุดหนนุ ทั่วไป จำนวน 92,784,903.00 บาท (2) เงนิ อุดหนุนท่ีรัฐบาลใหโ้ ดยระบวุ ัตถปุ ระสงค์ จำนวน 965,472.92 บาท (3) รายจา่ ยจรงิ จำนวน 137,884,048.00 บาท ประกอบด้วย งบกลาง จำนวน 34,456,400.35 บาท งบบุคลากร จำนวน 44,965,507.15 บาท งบดำเนนิ งาน จำนวน 36,958,351.05 บาท งบลงทุน จำนวน 15,456,380.00 บาท งบเงินอุดหนุน จำนวน 6,047,908.73 บาท (4) รายจา่ ยท่เี กิดจากเงินอดุ หนนุ รัฐบาลใหโ้ ดยระบวุ ตั ถปุ ระสงค์ จำนวน 945,472.92 บาท (5) รานจา่ ยทจี่ า่ ยจากเงนิ สะสม จำนวน 13,756,048.00 บาท บทบาท/การมีสว่ นรว่ มของประชาชนในกิจการทางการเมืองและการบรหิ าร ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก มีส่วนร่วมในการบริหารงานของเทศบาลเมืองสะเตงนอก การ ช่วยเหลืองานของเทศบาลเมืองสะเตงนอก เสนอแนะในกิจกรรมของเทศบาลเมืองสะเตงนอก ในการดำเนินงาน ต่างๆ เช่น การประชุมจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล, ประชุมประชาคมแก้ไขปัญหาความยากจน, ประชุมการจัดอบรม กระบวนการชุมชนเข้มแข็ง การรณรงคต์ ่อตา้ นยาเสพตดิ ฯลฯ 1.2 ลักษณะภูมิประเทศ สภาพพื้นที่ทั่วไปของเทศบาลเมืองสะเตงนอก มีสภาพทั่วไปของพื้นที่เป็นที่ราบลมุ่ และเนนิ สงู ทำให้เกดิ ปญั หานำ้ ท่วมขงั 1.3 ลกั ษณะภมู อิ ากาศ สภาพอากาศทว่ั ไปของเขตพน้ื ที่เทศบาลเมืองสะเตงนอกเปน็ แบบมรสุม มี 2 ฤดู ฤดูร้อน เริ่มต้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – มิถุนายน อากาศร้อนจัดและแล้งจัดติดต่อเป็นระยะ เวลานานความชื้นในอากาศมีน้อย และมีพายุฤดูร้อนเป็นบางช่วงที่มีคลื่นความร้อนปกคลุม อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 35 - 40 องศาเซลเซียส ฤดฝู น เร่ิมต้นระหว่างเดอื นกรกฎาคม – มกราคม อากาศร้อนและมีพายุลมฝนฟา้ คะนองลมแรงและ มภี าวะฝนท้งิ ช่วงในบางช่วง 1.4 ลักษณะของดิน สภาพดินในเขตตำบลสะเตงนอก เป็นดินที่เกิดจากการสลายตัวของหินทรายและหิน ควอตไซด์ ส่วนใหญ่จะเปน็ พืน้ ท่ีเนนิ เขา เปน็ ดนิ ปนหนิ เหลี่ยม ตัง้ แต่ระดับความลกึ 25 – 100 เซนตเิ มตร และเป็นดิน ที่เกิดจากตะกอนทับถมของตะกอนลำน้ำ เป็นกลุ่มดินนา ซึ่งเป็นดินท่ีมีความอุดมสมบรู ณ์ค่อนขา้ งสูงและเป็นดินราบ ลมุ่ น้ำทว่ มถงึ รวมท้งั เป็นดนิ บรเิ วณลานตะพักลำนำ้ ตำ่ 6
1.5 ลกั ษณะของแหลง่ นำ้ แหลง่ น้ำธรรมชาติ ในตำบลสะเตงนอก ไดแ้ ก่ท่ี ลำหว้ ย 7 แห่ง หนองน้ำ 2 แหง่ ลำคลอง 2 แห่ง บึง 11 แห่ง แมน่ ้ำ - แหง่ ประปาหมบู่ ้าน 3 แห่ง อน่ื ๆ (ระบ)ุ - แห่ง 1.6 ลกั ษณะของไม/้ ป่าไม้ ในเขตเทศบาลเมอื งสะเตงนอกไม่มพี ืน้ ทปี่ ่าไม้ แตม่ ีต้นไมท้ ีช่ าวบ้านปลกู ลกั ษณะ ของไมเ้ ป็นไมย้ ืนต้น ผลดั ใบและทางราชการปลกู ในวนั สำคญั ของชาติ 2. ด้านการเมอื ง/การปกครอง 2.1 เขตการปกครอง เทศบาลเมอื งสะเตงนอก ประกอบดว้ ยหมบู่ ้าน 13 หมูบ่ ้าน ดังน้ี หมทู่ ี่ 1 บ้านเบอร์เสง้ นายอับดุลการมิ กรยี อ กำนนั ตำบลสะเตงนอก หมทู่ ่ี 2 บา้ นหลักหา้ นายมะยูโซะ๊ โตะแว ผ้ใู หญ่บา้ น หมู่ที่ 3 บ้านเปาะยานิ นายภวู นยั มะดอลอ ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ี่ 4 บ้านนดั โต๊ะโมง นายมะอีซอ สามะ ผู้ใหญ่บา้ น หมู่ท่ี 5 บา้ นบาโงยบาแด นายมหู ำมดั ไพซอล กะโด ผใู้ หญ่บา้ น หมูท่ ี่ 6 บ้านตะโละ๊ กือบอ นายมะสุไฮมี เจะอมู า ผใู้ หญบ่ ้าน หมทู่ ่ี 7 บ้านนิบงบารู นายอับดุลวาฮับ วาแม ผ้ใู หญ่บา้ น หมทู่ ่ี 8 บ้านกำปงบูเก๊ะ นายสะรี อูมา ผู้ใหญ่บา้ น หมู่ท่ี 9 บ้านกือแลมะห์ นายจรสั จนั รตั นา ผูใ้ หญบ่ ้าน หมทู่ ี่ 10 บ้านตือเบาะ นายแมรโซร์ แยนา ผใู้ หญ่บา้ น หมู่ท่ี 11 บา้ นกำปงตอื เงาะ นายมะดงิ จิใจ ผใู้ หญ่บ้าน หมทู่ ี่ 12 บ้านลาโจ๊ะ นายมะลเี ปง โต๊ะกเู วง ผใู้ หญ่บ้าน หมู่ที่ 13 บา้ นปรามะ นายอาหามะ อาแด ผใู้ หญ่บา้ น 2.2 การเลอื กตง้ั เทศบาลเมืองสะเตงนอก มีทั้งหมด 13 หมู่บ้าน ประชาชนให้ความร่วมมือด้านการเลือกตั้งเป็น อยา่ งดี ปญั หาคือการแข่งขันทางการเมืองค่อนขา้ งสูง มีจุดที่นา่ สงั เกตคอื มีการยา้ ยเขา้ ยา้ ยออกช่วงท่ีจะมีการเลือกตั้ง 7
ไม่วา่ จะเปน็ การเลือกผู้ใหญ่บา้ น สมาชิกสภา นายกเทศมนตรี โดยเฉพาะการคัดเลือกผู้ใหญบ่ ้าน การแก้ไขปัญหาของ เทศบาลเมืองสะเตงนอก คือ ขอความร่วมมือ ผู้นำ เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบให้ระมัดระวัง สอดส่องพฤติกรรม และให้รายงานอำเภอทราบ การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เกี่ยวกับข้อกฎหมายของการเลือกตั้งท่ี กระทำได้และทำไมไ่ ด้ให้ประชาชนได้รบั ทราบ ปัญหาต่างๆ ที่เกดิ ขึน้ เทศบาลเมอื งสะเตงนอก แบ่งเขตการเลอื กต้ังเปน็ จำนวน 3 เขต คือ - เขตเลอื กตง้ั ที่ 1 จำนวน 6 หม่บู ้าน คอื หมทู่ ่ี 1, 2, 5, 8, 11 และ 12 (บางส่วน) - เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 3 หมบู่ า้ น คือ หมู่ที่ 6, 9, 10 และ 12 - เขตเลือกตง้ั ท่ี 3 จำนวน 4 หมู่บ้าน คือ หมทู่ ี่ 3, 4, 7 และ 13 8
3. ประชากร 3.1 ข้อมลู เก่ยี วกับจำนวนประชากร จำนวน 13 หมู่บ้าน (ปี พ.ศ. 2565) หมทู่ ี่ ชื่อหมู่บา้ น จำนวนครวั เรอื น หญงิ (คน) ชาย (คน 1 บา้ นเบอรเ์ ส้ง 2,038 1,983 1,856 2 บา้ นหลักหา้ 887 1,260 1,270 3 บา้ นเปาะยานิ 2,032 2,457 2,403 4 บ้านนัดโต๊ะโมง 1,067 1,294 1,272 5 บ้านบาโงยบาแด 361 768 763 6 บ้านตะโละกือบอ 903 1,245 1,237 7 บ้านนบิ งบารู 706 1,037 1,033 8 บ้านกำปงบูเก๊ะ 420 685 677 9 บ้านกือแลมะห์ 2,391 2,409 2,015 10 บา้ นตือเบาะ 1,655 1,342 1,167 11 บา้ นกำปงตือเงาะ 508 756 757 12 บา้ นลาโจ๊ะ 1,954 1,856 1,573 13 บ้านปรามะ 310 723 694 15,232 17,815 16,680 หมายเหตุ : ข้อมูลจากสำนักทะเบยี นเทศบาลเมืองสะเตงนอก ณ วันท่ี 20 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2565 9
พ.ศ.2563 พ.ศ.2564 พ.ศ.2565 ลำดบั ท่ี หมูบ่ ้าน จำนวน จำนวน จำนวน ครัวเรอื น ครวั เรอื น ครวั เรอื น ชาย หญิง ชาย หญงิ ชาย หญงิ 1 บา้ นเบอร์เส้ง 1,984 1,939 1,764 2,038 1,983 1,829 2,088 1,856 2,034 2 บ้านหลักหา้ 3 บ้านเปาะยานิ 870 1,239 1,252 887 1,260 1,270 907 1,289 1,281 4 บ้านนดั โตะ๊ โมง 5 บ้านบาโงยบาแด 1,928 2,333 2,298 2,032 2,457 2,403 2,131 2,494 2,566 6 บ้านตะโล๊ะกือบอ 7 บา้ นนบิ งบารู 1,046 1,262 1,264 1,067 1,294 1,272 1,104 1,286 1,366 8 บ้านกำปงบูเกะ๊ 9 บ้านกอื แลมะห์ 358 769 751 361 768 763 363 774 771 10 บา้ นตอื เบาะ 11 บ้านกำปงตือเงาะ 810 1,192 1,203 903 1,245 1,237 1,007 1,286 1,307 12 บา้ นลาโจะ๊ 13 บา้ นปรามะ 696 1,058 1,034 706 1,037 1,033 729 1,034 1,050 399 673 654 420 685 667 438 677 700 2,332 2,378 2,004 2,391 2,409 2,015 2,454 2,032 2,433 1,613 1,343 1,177 1,655 1,342 1,167 1,709 1,188 1,352 481 738 741 503 756 757 530 781 794 1,859 1,806 1,526 1,954 1,856 1,573 2,045 1,620 1,936 305 709 678 310 723 694 316 708 739 รวม 14,681 16,817 14,681 15,232 16,680 17,815 15,821 17,025 18,329 10
4. สภาพทางสงั คม 4.1 การศกึ ษา ดา้ นการศึกษาในเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก มสี ถานศึกษาทัง้ หมด 42 แหง่ ดังนี้ สถานศกึ ษา จำนวน (แห่ง) 1. ศูนย์การเรียนชุมชน 1 2. โรงเรียนอนบุ าลเอกชน 5 3. โรงเรยี นอนบุ าลสงั กดั เทศบาลเมืองสะเตงนอก 1 4. โรงเรยี นประถมศึกษา 4 5. ทอี่ า่ นหนังสือประจำหมบู่ า้ น/ห้องสมดุ ประชาชน 3 6. โรงเรยี นเอกชนสอนศาสนาอสิ ลาม 7 7. ศูนย์พฒั นาเด็กเลก็ 5 8. ศูนย์อบรมจริยธรรมและศาสนาอสิ ลาม (โรงเรียนตาดกี า) 16 รวม 42 สภาเดก็ และเยาวชนตำบลสะเตงนอก เทศบาลเมืองสะเตงนอก ได้จัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนขึ้น จำนวน 1 แห่ง เพื่อเป็นองค์กรเครือข่าย เชื่อมโยงกลุ่มเด็กและเยาวชนตำบลสะเตงนอก มีการดำเนินงานในด้านต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อ แสวงหาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาเดก็ และเยาวชนภายในตำบลสะเตงนอกภายใต้หลักการ “เด็กนำผู้ใหญ่ หนุน” ซึ่งในปัจจุบันนีส้ ภาเดก็ และเยาวชนเปน็ องค์กรนิติบุคคล ภายใตพ้ ระราชบัญญัติสง่ เสริมการพัฒนาเด็กและ เยาวชนแห่งชาติ พุทธศักราช 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 โดยสภาเด็กและเยาวชนมี สำนักงานตั้งอยู่ที่ กองการศึกษา เทศบาลเมืองสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยได้ดำเนินการแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารสภาเด็กและเยาวชน เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการดำเนินการของสภาเด็ก และเยาวชน 4.2 สาธารณสุข การให้บรกิ ารทางด้านสาธารณสขุ มีโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพประจำตำบล 3 แหง่ ไดแ้ ก่ - โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพประจำตำบลสะเตงนอก ต้งั อยู่ หมทู่ ่ี 6 ตำบลสะเตงนอก - โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพประจำตำบลบาโงยบาแด ตัง้ อยู่ หมู่ที่ 5 ตำบลสะเตงนอก - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพนิบงบารู ตั้งอยู่ หมูท่ ่ี 7 ตำบลสะเตงนอก 11
4.3 อาชญากรรม เทศบาลเมอื งสะเตงนอกไม่มีเหตุอาชญากรรมเกิดข้ึน แต่มเี หตกุ ารณ์ลกั ขโมยทรัพยส์ ินประชาชน และทำลายทรัพย์สินของราชการ ซึ่งเทศบาลเมืองสะเตงนอกก็ได้ดำเนินการป้องกันการเกิดเหตุดังกล่าว จากการ สำรวจข้อมูลพื้นฐานพบว่า ส่วนมากครัวเรือนมีการป้องกันอุบัติภัยอย่างถูกวิธี มีความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สิน ปัญหาคือจากข้อมูลที่สำรวจพบว่ามีการป้องกันอุบัติเหตุ อาชญากรรม วิธีการแก้ปัญหาของเทศบาล เมืองสะเตงนอก ทุกๆ ปีงบประมาณเทศบาลได้บรรจุโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในแผนพัฒนาท้องถิ่นเป็น ประจำทกุ ๆ ปี รวมทงั้ ไดต้ ้งั จดุ ตรวจ จดุ สกดั จุดบรกิ าร ในชว่ งเทศกาลที่มวี ันหยดุ หลายวนั เพ่ืออำนวยความสะดวก ให้กับประชาชน แต่ปัญหาที่พบเป็นประจำคือการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะในสถานที่จัดงานดนตรี งานมหรสพ เป็นปัญหาที่ชุมชนไดร้ ับผลกระทบเป็นอย่างมาก การแก้ไขปัญหา คือการแจ้งเตือนให้ผู้ปกครองดูแล บุตรหลานของตน ประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงผลกระทบ ผลเสียหายและโทษที่ได้รับจากการเกิดเหตุทะเลาะวิวาท การขอความร่วมมือไปยังผู้นำ การขอกำลังจาก ตำรวจ ผู้นำ อปพร. เพื่อระงับเหตุไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่จะ ไม่ให้เกิดขึ้นเลยยังเป็นปัญหาที่ปัจจุบันไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ ทั้งที่มีการร่วมมือกันหลายฝ่าย เป็นเรื่องที่ทาง เทศบาลจะตอ้ งหาวิธที ่จี ะแกไ้ ขปัญหาให้กบั ประชาชนต่อไปตามอำนาจหน้าที่ท่สี ามารถดำเนินการได้ 4.4 ยาเสพติด ปัญหายาเสพตดิ ในเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก จากการที่ทางสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองยะลา ได้แจ้งให้กับเทศบาลเมืองสะเตงนอก นั้นพบว่าในเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอกมีผู้ที่ติดยาเสพติดแต่เมื่อเทียบกับ พื้นที่อื่นถือว่าน้อย และยังไม่พบผู้ค้า เหตุผลก็เน่ืองมาจากว่าได้รับความร่วมมือกับทางผู้นำ ประชาชน หน่วยงาน ของเทศบาลเมืองสะเตงนอกที่ช่วยสอดส่องดูแลอยู่เป็นประจำ การแก้ไขปัญหาของเทศบาลเมืองสะเตงนอก สามารถทำได้เฉพาะตามอำนาจหน้าท่ีเท่านั้น เช่น การรณรงค์ การประชาสัมพันธ์ การแจ้งเบาะแส การฝึกอบรม ให้ความรู้ ถ้านอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ ก็เป็นเรื่องของอำเภอหรือตำรวจแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ เทศบาลเมือง สะเตงนอกก็ไดใ้ หค้ วามรว่ มมือมาโดยตลอด 4.5 การสังคมสังเคราะห์ เทศบาลเมืองสะเตงนอกไดด้ ำเนนิ การดา้ นสังคมสังเคราะห์ ดังน้ี (1) ดำเนินการจ่ายเบี้ยยงั ชีพให้กับผสู้ ูงอายุ ผพู้ ิการ และผ้ปู ว่ ยเอดส์ (2) รับลงทะเบียนและประสานโครงการเงินอุดหนนุ เพื่อการเลี้ยงดเู ดก็ แรกเกิด (3) ประสานการทำบตั รผู้พิการ (4) ดำเนินโครงการการจา้ งนักเรียน/นกั ศึกษาทำงานช่วงปิดภาคเรยี น (5) ดำเนนิ การโครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชีพให้กบั ประชาชนทัว่ ไป (6) ดำเนินโครงการสงเคราะห์ครองครวั ผู้ยากไร้ทต่ี กเกณฑ์ จปฐ. (7) ดำเนนิ โครงการสร้างและซ่อมที่อยู่อาศัยให้กบั ผยู้ ากไร้ รายได้นอ้ ย ผูด้ ้อยโอกาสไรท้ ่ีพึ่ง (8) อดุ หนุนกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชน (9) ประสานการให้ความช่วยเหลือของจังหวัด อำเภอ หนว่ ยงานต่างๆ ทใี่ ห้การสนบั สนนุ 12
5. ระบบบริการพน้ื ฐาน 5.1 การคมนาคมขนส่ง เทศบาลเมืองสะเตงนอกติดต่อกับเทศบาลนครยะลา อำเภอรามัน จังหวัดยะลาและอำเภอยะรัง จังหวัด ปัตตานี โดยมถี นนหลายสายทำให้การเดินทางสะดวก สว่ นสภาพการจราจรมีปัญหาติดขดั บ้างในชว่ งเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง สำหรับถนนภายในเทศบาลเมืองสะเตงนอก ถนนในพื้นที่เทศบาลเมืองสะเตงนอก เป็นถนนหินคลุก คอนกรตี และลาดยาง ตามลำดับ ในส่วนของปัญหาทางด้านคมนาคมและการขนส่ง เป็นปัญหาของระบบและโครงข่ายถนนใน ปัจจบุ นั ตลอดจนปัญหาการจราจรและอบุ ัติเหตตุ ่างๆ ทเ่ี กดิ จากการคมนาคมและขนสง่ สภาพถนน โดยส่วนใหญ่พื้นผิวจราจรบนถนนสายหลักอยู่ในสภาพค่อนข้างดี และเชื่อมต่อกับ เทศบาลนครยะลาและถนนลาดยางผ่านเส้นทางกลางหมบู่ ้านทุกหมบู่ ้านและมีรถสองแถวเข้าออกบางหมู่บ้านท่ีอยู่ หา่ งไกล ระบบและโครงข่ายถนน การเชื่อมโยงการจราจรระหว่างถนนแต่ละสาย ในเขตเทศบาลและ ชุมชนนอกเขตเทศบาลทีใ่ กล้เคียงติดต่อกนั ไดโ้ ดยสะดวก ผวิ จราจรอยใู่ นสภาพดี ถนนภายในเทศบาลโดยส่วนใหญ่ เป็นถนนคอนกรีตเสรมิ เหล็ก ในอนาคตควรมีการปรบั ปรุงระบบถนน โดยกำหนดแนวทางเพื่อรองรับและเชือ่ มตอ่ การคมนาคม ให้เป็นระบบและมีโครงขา่ ยทดี่ ีย่งิ ข้นึ การขนส่งผ้โู ดยสาร ปัจจุบันเทศบาลเมืองสะเตงนอก ไมม่ สี ถานขี นสง่ ผ้โู ดยสาร 5.2 การไฟฟา้ การขยายเขตไฟฟ้า ปจั จุบนั มีไฟฟา้ ใชเ้ กือบทุกครวั เรือน คิดเปน็ 99 เปอรเ์ ซ็นต์ ปัญหาคือไฟฟ้า ส่องสว่างทางหรือที่สาธารณะยังไม่สามารถดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่ที่มีความต้องการ ให้ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างนั้นยังไม่เป็นที่สาธารณะ เทศบาลจึงไม่สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกับถนน การ แก้ปัญหาคือ ประสานความร่วมมือกันในหลายๆ ฝ่าย เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และวิธีการท่ี จะดำเนินการแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ เทศบาลก็ได้ตั้งงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้ว และได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชนได้รับทราบถึงเหตผุ ลเพ่อื ทจ่ี ะได้ชว่ ยกนั แก้ไขปญั หาให้กบั ประชาชน 5.3 การประปา การประปาของเทศบาลเมืองสะเตงนอกไม่มีกิจการประปา แต่ละหมู่บ้านได้บริหารจัดการเอง และทุกหมู่บา้ นสามารถให้บริการไดค้ รอบคลมุ ทกุ หลงั คาเรือน คดิ เป็น ๑๐๐ เปอร์เซน็ ต์ แตจ่ ะมีปัญหาในปีทผี่ ่าน มามีบางหมู่บ้านที่เกิดปญั หาภยั แล้งซ่ึงทางเทศบาลได้แก้ไขปัญหาโดยการใช้เครื่องสูบนำ้ และสามารถแก้ไขปัญหา ให้ประชาชนได้ เทศบาลก็ได้นำโครงการเกี่ยวกับพัฒนาแหล่งน้ำบรรจุในแผนพัฒนาเพื่อที่จะพิจารณาดำเนินการ ในปีต่อไป เมื่อมงี บประมาณและความจำเป็นก็สามารถดำเนนิ โครงการไดต้ ่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ของประชาชนตอ่ ไป แหล่งนำ้ ดบิ ทใ่ี ช้ผลติ นำ้ ประปาได้จาก สระนำ้ หนองนำ้ และแหล่งน้ำผิวดนิ 13
5.4 โทรศัพท์ ปัจจุบันในพนื้ ที่เทศบาลเมืองสะเตงนอก ไม่คอ่ ยมโี ทรศัพทส์ าธารณะ เนอื่ งจากประชาชนได้นิยม ใช้โทรศัพท์ส่วนบุคคลแทน ซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารได้รวดเร็ว และสามารถใช้ระบบอินเตอร์เน็ตได้ เช่น โทรศพั ท์มือถอื สำหรบั สถานท่ีราชการ ยังคงใชร้ ะบบโทรศัพทพ์ ้ืนฐานในการตดิ ตอ่ ส่ือสารใช้อยู่ 5.5 ไปรษณีย์/การสอื่ สาร/การขนส่ง และวัสดุ ครภุ ณั ฑ์ เทศบาลเมืองสะเตงนอก มีไปรษณีย์สาขาย่อย 1 แห่ง และมีบริการไปรษณีย์จากไปรษณีย์ ประจำอำเภอ ซึ่งมี จำนวน 2 แห่ง ให้บริการ เวลา 08.00 – 16.00 น. ในวันจันทร์ – เสาร์ (วันเสาร์ครึ่งวัน) หยดุ วันอาทติ ย์ - มีหอกระจายขา่ วประจำหมบู่ ้าน - มีบริการให้ใช้อนิ เตอรเ์ นต็ ฟรี ที่สำนักงานเทศบาลเมืองสะเตงนอก - เทศบาลเมืองสะเตงนอก มีวัสดุ ครุภัณฑ์ในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มีบางรายการที่ยังขาด แคลนเนอ่ื งจากมงี บประมาณไมเ่ พียงพอ วัสดุ ครุภัณฑ์ตา่ งๆ น้ันมีไว้สำหรับการปฏบิ ัติหน้าทีข่ องเจา้ หน้าที่เทศบาล เมืองสะเตงนอกในการดำเนินภารกิจบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนเท่านั้น แต่หากประชาชน เดอื ดรอ้ นหรอื หน่วยงานอ่ืนเดอื นรอ้ นกส็ ามารถมายืมใชไ้ ด้ 6. ระบบเศรษฐกจิ 6.1 การเกษตร พน้ื ที่ตำบลสะเตงนอก ประชากรส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีกิจกรรมการเกษตรที่ สำคญั ได้แก่ ทำสวนยางพารา สวนปาลม์ สวนผลไม้ ทำนา ทำไร่ เล้ยี งสตั ว์ รบั จา้ ง นอกจากนี้ยังมีประกอบอาชีพ คา้ ขายและรบั จ้างทว่ั ไป 6.2 การประมง ในเขตพื้นที่ตำบลสะเตงนอก เกษตรกรทำอาชีพประมง ได้แก่ การเลี้ยงปลาและมีการจับปลา ตามธรรมชาตบิ รโิ ภคในครวั เรือนตามฤดูกาลเทา่ น้ัน 6.3 การปศุสัตว์ การปศุสตั ว์ในพ้ืนท่ีตำบลสะเตงนอก เปน็ การประกอบการในลักษณะเล้ียงในครัวเรือนเป็นอาชีพ หลกั และอาชีพเสริม เชน่ การเลยี้ งไก่ เป็ด โค สุกร กระบอื และแพะ เพอ่ื จำหนา่ ยและบริโภคเองในครัวเรือน 6.4 การบริการ โรงแรม/รสี อร์ท จำนวน 5 แหง่ ร้านอาหาร/คาราโอเกะ จำนวน 63 แหง่ 6.5 การท่องเท่ียว ในเขตพื้นที่ตำบลสะเตงนอกไม่มีแหล่งท่องเที่ยว แต่ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในพื้นท่ี เชน่ การจดั งานประเพณตี ่างๆ และส่งเสรมิ กจิ กรรมทางศาสนา 14
6.6 อตุ สาหกรรม ในเขตพน้ื ที่ตำบลสะเตงนอกมีอุตสาหกรรมการผลติ และบริการ ไดแ้ ก่ โรงงานแปรรูปไมย้ างพารา โรงงานนำ้ ยาง โรงงานผลติ ขนมจนี 6.7 การพาณิชยแ์ ละกลุ่มอาชีพ เทศบาลเมอื งสะเตงนอกมีตลาดการค้าท่สี ำคัญ จำนวน 1 แหง่ ท่ีทางเทศบาลสามารถจดั เก็บรายได้ได้เอง คือ ตลาดเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่หมู่ที่ 9 ส่วนการพาณิชยกรรมในเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก เป็นกิจการค้าปลีกและค้าส่ง สินค้าต่างๆ ได้แก่ ผลผลิตทางการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเขียนแบบเรียน เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องยนต์การเกษตร พันธุ์พืชและวัสดุการเกษตร เวชภัณฑ์ สถานประกอบอาหาร และ สนิ คา้ อุปโภคบรโิ ภค จำแนกประเภทกิจการต่างๆ ไดด้ งั น้ี มีการจัดต้ังกลมุ่ อาชีพ จำนวน 2 กลุม่ ได้แก่ กลุ่มผเู้ ล้ยี งโคขุนและกลมุ่ ผลติ ไบโอดีเซล 6.8 แรงงาน จากการสำรวจขอ้ มลู พืน้ ฐานพบว่า ประชากรท่มี ีอายุ 15 – 60 ปี อยูใ่ นกำลังแรงงาน แต่ค่าแรง ในพื้นที่ต่ำกว่าระดับจังหวัด โดยเฉพาะแรงงานด้านการเกษตร ประชากรอายุระหว่าง 25 – 50 ปี บางส่วน ไป รับจ้างทำงานนอกพื้นที่ รวมทั้งแรงงานท่ีไปทำงานต่างประเทศ ปัญหาที่พบคือ ประชากรต้องไปทำงานนอกพื้นที่ ในเมืองที่มีโรงงานอุตสาหกรรม บริษัท ห้างร้านใหญ่ๆ เพราะในพื้นที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการจ้างแรงงาน เยอะ และปัญหาความไมส่ งบในพน้ื ที่ ซึ่งปัญหานีย้ ังไม่สามารถแก้ไขได้ 7. ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม 7.1 การนับถือศาสนา ประชาชนในตำบลสะเตงนอก จะนับถอื ศาสนาอสิ ลาม พุทธและคริสต์ โดยมีศาสนสถาน ดงั น้ี 1. มสั ยดิ จำนวน 21 แห่ง 2. วดั จำนวน 3 แหง่ 3. ศาลเจ้า จำนวน 2 แห่ง 7.2 ประเพณแี ละงานประจำปี วัฒนธรรมชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก มีขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม ท้องถ่นิ ท่ดี ีงาม ปฏิบัตสิ บื ทอดกนั มาเปน็ ประจำทกุ ปี ดังนี้ 1. งานประเพณีชักพระ 2. งานประเพณีสงกรานต์ 3. งานประเพณีเข้าพรรษา 4. งานประเพณีออกพรรษา 5. งานประเพณีลอยกระทง 6. งานประเพณีกวนอาซรู อ 15
7. งานประเพณีละศลี อด 7.3 ภูมิปัญญาท้องถ่นิ ภาษาถ่ิน ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ประชาชนในเขตพื้นท่ไี ด้อนรุ ักษ์ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ได้แก่ การผลิตหมวก กะปิเยาะและเครื่องแต่งกายมุสลมิ ภาษาถ่นิ ประชาชนส่วนใหญใ่ ชภ้ าษามลายูและภาษาใต้ 7.4 สินคา้ พ้ืนเมอื งและของทร่ี ะลึก ประชาชนในตำบลสะเตงนอกมีสินค้าพื้นเมืองและของฝากสว่ นใหญ่จะเป็น หมวกกะปิเยาะและ เครอ่ื งแตง่ กายมุสลิม 8. ทรัพยากรธรรมชาติ 8.1 น้ำ ที่ใช้ในการอุปโภค-บริโภค เป็นน้ำที่ได้จากน้ำฝน และน้ำดิบจากผิวดิน ซึ่งจะต้องนำมาผ่าน กระบวนการของระบบประปา สำหรับน้ำใต้ดินมีปริมาณเพียงพอแต่พื้นที่บางแห่งไม่สามารถนำมาใช้ดื่มและ อปุ โภคได้ 8.2 ปา่ ไม้ ในเขตพื้นที่ตำบลสะเตงนอกไม่มปี า่ ไม้ 8.3 ภูเขา ในเขตพืน้ ท่ีตำบลสะเตงนอกไม่มีพื้นท่ีภูเขา แต่จะมลี ักษณะเปน็ ทล่ี ่มุ และพืน้ ที่ราบสูง 8.4 คุณภาพของทรัพยากรธรรมชาติ ในพื้นที่ของตำบลสะเตงนอกส่วนมากเป็นพื้นที่สำหรับเพาะปลูก เป็นสวน นา ไร่ ที่อยู่อาศัย รา้ นค้า สถานประกอบการ ตามลำดบั และมีพนื้ ทเ่ี พียงเล็กน้อยที่เป็นพ้ืนท่สี าธารณะ ทรัพยากรธรรมชาติในพ้ืนท่ี ก็ได้แก่ ดิน น้ำ ต้นไม้ แต่จะมีปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศบ้างเล็กน้อย เช่น การเผาขยะของครัวเรือน การ เลีย้ งสุกร และการปล่อยน้ำเสยี จากครัวเรือนลงส่แู หล่งน้ำธรรมชาติ โดยไมม่ กี ารบำบัดน้ำเสียทถี่ ูกวธิ ี และมีแหล่ง น้ำใช้ในการเกษตรไม่เพียงพอ ปัญหาคือยังไม่สามารถหาแหล่งน้ำสำหรับการเกษตรได้เพิ่มขึ้น เพราะพื้นท่ี ส่วนมากเป็นของประชาชน เอกชน มีการจัดโครงการปลูกต้นไม้ในวันสำคัญต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะรวมทั้ง ปรบั ปรุงสภาพภูมิทศั นใ์ หร้ ่มรืน่ สวยงาม เป็นที่พักผอ่ นหยอ่ นใจของประชาชน ฯลฯ ************************************ 16
ส่วนที่ 2 ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ความสมั พันธ์ระหว่างแผนพัฒนาระดับมหภาค 1. แผนยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 กำหนดให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็น เป้าหมายการพฒั นาประเทศอยา่ งยง่ั ยนื ตามหลักธรรมาภบิ าลเพ่อื ใชเ้ ปน็ กรอบในการจดั ทำแผนต่างๆใหส้ อดคล้อง และบูรณาการกนั เพื่อใหเ้ กิดเป็นพลงั ผลักดันรว่ มกนั ไปสูเ่ ปา้ หมายดังกล่าว โดยให้เปน็ ไปตามที่กำหนดในกฎหมาย วา่ ดว้ ยการจดั ทำยุทธศาสตรช์ าติ และตอ่ มาได้มีการตราพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560 มีผล บังคับใช้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 โดยกำหนดให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อรับผิดชอบใน การจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติ กำหนดวิธีการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจดั ทำร่างยุทธศาสตร์ชาติ ในการ ติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินผล รวมทั้งกำหนดมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนทุกภาค ส่วนดำเนินการใหส้ อดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตรช์ าติ เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติการจัดทำ ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่างๆ รวม 6 คณะอัน ประกอบด้วย คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการ สร้างความสามารถในการแข่งขัน คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ คณะกรรมการจดั ทำยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพ่ือรับผิดชอบ ในการดำเนินการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ตลอดจนได้จัด ให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางเพื่อประกอบการ พจิ ารณาจัดทำรา่ งยทุ ธศาสตรช์ าติตามทีก่ ฎหมายกำหนดแล้ว ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทยตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องนำไปสู่การปฏบิ ัติเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทศั น์ “ประเทศไทยมี ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ภายใน ชว่ งเวลาดงั กลา่ ว เพ่ือความสขุ ของคนไทยทุกคน 17
สถานการณ์ แนวโน้ม วิสยั ทัศน์ และเปา้ หมายในการพัฒนาประเทศ 1. บทนำ การพัฒนาประเทศไทยนับตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 1 เป็นต้นมาได้ ส่งผลใหป้ ระเทศมีการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งในดา้ นเศรษฐกิจที่ประเทศไทยได้รับการยกระดับเปน็ ประเทศในกลุ่มบน ของกลุ่มประเทศระดับรายได้ปานกลาง ในด้านสังคมที่มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนส่งผลให้ประเทศ ไทยหลุดพ้นจากการเป็นประเทศยากจน และในด้านสิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบในความหลากหลาย เชิงนิเวศ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีความทา้ ทายต่อการพัฒนาที่สำคัญ อาทิ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในปี 2560 ที่ร้อยละ 3.9 ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าศักยภาพ เมื่อเทียบกับร้อยละ 6.0 ต่อปีในช่วงเวลาเกือบ 6 ทศวรรษทีผ่ ่านมา โดยมสี าเหตุหลักจากการชะลอตัวของการลงทนุ ภายในประเทศและสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ ยังไม่ฟื้นตัวไดเ้ ต็มที่โครงสรา้ งเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยนวตั กรรมได้อยา่ งเตม็ ประสิทธิภาพภาค บริการและภาคเกษตรมีผลิตภาพการผลิตในระดับต่ำ ขาดการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ประกอบกับแรงงานไทยยังมีปัญหาเรื่องคุณภาพและสมรรถนะที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการในการขับเคลื่อน การพฒั นาของประเทศ นอกจากนั้น ศักยภาพและคุณภาพของประชากรไทยทุกช่วงวัยยังคงเป็นปัจจัยท้าทายสำคัญตอ่ การพัฒนาประเทศ แม้ว่าการเข้าถึงระบบบริการสาธารณะ การศึกษา บริการสาธารณสุข โครงสร้างพืน้ ฐานต่างๆ และการคุ้มครองทางสังคมอื่น ๆ ของคนไทยมีความครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องคุณภาพการ ให้บริการที่มีมาตรฐานแตกตา่ งกันระหว่างพื้นที่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ประเทศไทยยังคงมีปัญหาความ เหลื่อมล้ำในหลายมิติ ขณะที่ปัญหาด้านความยากจนยังคงเป็นประเด็นท้าทายในการยกระดับการพัฒนาประเทศ ให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นและแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันการวางกลยุทธ์ระยะยาวในการ ฟนื้ ฟู การใช้ และการรกั ษาทรัพยากรอย่างบรู ณาการเพ่ือการพัฒนาประเทศท่ผี ่านมายังขาดความชัดเจน ส่งผลให้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมของประเทศยงั มีปญั หาการใช้อย่างสนิ้ เปลืองและเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเรว็ ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวข้างต้นมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐ การ พัฒนาประเทศขาดความต่อเนื่องและความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อความต้องการและปัญหาของประชาชน ขณะที่ความมั่นคงภายในประเทศยังมีหลายประเด็นที่ต้องเสริมสร้างให้เกิดความเข้มแข็ง ลดความขัดแย้งทาง ความคดิ และอุดมการณ์ทมี่ ีรากฐานมาจากความเหล่ือมล้ำ ความไมเ่ สมอภาค การขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการ ยตุ ธิ รรม และปญั หาการขาดเสถียรภาพทางการเมืองตลอดจนสง่ เสริมคนในชาติให้ยึดมั่นสถาบนั หลักเป็นศูนย์รวม จติ ใจใหเ้ กิดความรกั และความสามคั คี ในขณะเดียวกนั การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรทีม่ สี ัดส่วนประชากรวยั แรงงานและวยั เดก็ ที่ลดลงและประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยเส่ียงสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาประเทศในมิติ ต่าง ๆ มีความท้าทายมากขึ้น ทั้งในส่วนของเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศในการจัดสวัสดิการเพ่ือ ดแู ลผสู้ ูงอายทุ เ่ี พ่ิมสงู ข้ึน การลงทุนและการออม การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของประเทศ ความม่ันคงทางสังคม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนซ่ึงจะเป็นประเด็นท้าทายตอ่ การขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเปน็ ประเทศพัฒนาแล้ว 18
2. ปัจจัยและแนวโนม้ ที่คาดวา่ จะสง่ ผลตอ่ การพัฒนาประเทศ แม้ว่าประเทศไทยจะมีตำแหน่งที่ตั้งที่สามารถเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงในภูมิภาคและเป็น ประตูสู่เอเชีย แต่การที่มีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ทำให้ปัญหาด้านเขตแดนกับประเทศ เพื่อนบ้านยังคงเป็นความท้าทายด้านความมั่นคงในอนาคต นอกจากน้ี ประเทศไทยยังคงต้องให้ความสำคัญกับ ปัญหาด้านความมั่นคงอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน และมีความเชื่อมโยงกันหลายมิติ ที่อาจเป็นประเด็น ท้าทายต่อการสร้างบรรยากาศความไว้วางใจระหว่างรัฐกับประชาชนและระหว่างประชาชนกับประชาชน ซ่ึง รวมถึงการสร้างความสามัคคีของคนในชาติที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประชากรไทยที่มี แนวคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างยั่งยืนนอกจากน้ี การขยายอิทธิพลและการเพิ่มบทบาทของประเทศ มหาอำนาจ ที่อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบหลายขั้วอำนาจ หรือเกิดการย้ายขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ขณะที่องค์กรที่ไม่ใช่รัฐ อาทิ องค์การ ระหว่างประเทศ และบรรษัทข้ามชาติ จะมีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดกฎ ระเบียบ ทิศทางความสัมพันธ์และ มาตรฐานสากลตา่ งๆ ทง้ั ในด้านความมนั่ คง และเศรษฐกิจ รวมทง้ั การรวมกล่มุ เศรษฐกจิ และการเปิดเสรใี นภูมิภาค ที่นำไปสู่ความเชื่อมโยงในทุกระบบ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านอาชญากรรมข้ามชาติและเศรษฐกิจนอกระบบ รวมท้งั ปัญหายาเสพตดิ การคา้ มนุษย์ และการลกั ลอบเข้าเมือง ในทางกลับกัน ความเปลี่ยนแปลงจากโลกาภิวัตน์และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีทไี่ ดร้ ับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจะก่อให้เกิดนวัตกรรมอย่างพลกิ ผัน อาทิ เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หุ่นยนต์และโดรน เทคโนโลยีพันธุกรรมสมัยใหม่ และ เทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งตัวอย่างแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดเหล่าน้ี คาดว่าจะเป็นปัจจัย สนับสนุนหลักที่ช่วยทำให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะกลับมาขยายตัวได้เข้มแข็งขึ้น แนวโน้ม สำคัญที่จำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิการรวมกลุ่มทางการค้าและการลงทุนที่จะมีความหลากหลาย เพม่ิ มากขึ้น การแขง่ ขนั ท่ีคาดว่าจะรุนแรงข้ึนในการเพิ่มผลิตภาพและสร้างความหลากหลายของสินค้าและบริการ ท่ตี อบโจทย์รูปแบบชีวิตใหมๆ่ นอกจากนั้น ประเทศไทยคาดว่าจะเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอดในปี 2574 จะ ก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคสูงอายุที่จะมีสัดส่วนเพิ่มขึน้ อย่างต่อเนื่อง รวมท้งั การคาดการณ์ว่าครอบครัวไทยจะมขี นาดเลก็ ลงและมีรปู แบบทหี่ ลากหลายมากข้นึ ประชากรในประเทศไทย จะมีช่วงอายุที่แตกต่างกันและจะมีกลุ่มคนชว่ งอายุใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมท่ีแตกต่าง กัน ดังนน้ั การเตรยี มความพร้อมของประชากรให้มีคุณภาพและการนำเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมมาใช้ในการผลิตและ การบรกิ ารของประเทศจะเป็นความทา้ ทายสำคญั ในระยะตอ่ ไป ในขณะเดียวกัน โครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมสูงวัย อาจทำให้เกิดความต้องการแรงงาน ต่างชาติเพ่ิมมากขึ้นเพ่ือทดแทนจำนวนแรงงานไทยที่ลดลง ซึ่งปัจจัยด้านการเปดิ เสรีในภมู ิภาคและความก้าวหนา้ ของการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในภูมิภาคจะทำให้การเคลื่อนย้ายแรงงานและการย้ายถิ่นมีความสะดวกมาก ขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายประชากรเข้าออกประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม ประชากรที่มีศักยภาพซึ่งมีแนวโน้มในการเคลื่อนย้ายไปเรียนหรือทำงานในทั่วทุกมุมโลกสูงขึ้น ทั้งน้ี การย้ายถิ่น ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จึงอาจจะเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะยังคงเป็น 19
ประเทศผู้รับของประชากรจากประเทศเพื่อนบ้านขณะที่ประชากรไทยโดยเฉพาะแรงงานทักษะอาจมีแรงจูงใจใน การย้ายถิ่นไปยังประเทศที่มีระดับการพัฒนาที่ดีกว่า อาจทำให้การแย่งชิงแรงงานมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะย่ิง ทำใหเ้ กดิ ความเส่ียงต่อการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกจิ และการเปล่ยี นแปลงของบริบทสังคมไทย นอกจากน้ี ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมิอากาศคาดว่าจะมีความรุนแรงมากข้ึนทั้งใน เชิงความผันผวน ความถี่ และขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ระบบ โครงสร้างพื้นฐานที่จำเปน็ ตลอดจนระบบผลิตทางการเกษตรที่สมั พันธต์ ่อเน่ืองกับความมั่นคงด้านอาหารและน้ำ ขณะที่ระบบนิเวศต่างๆ มีแนวโน้มเสื่อมโทรมลง และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงในการสูญเสียความสามารถใน การรองรบั ความต้องการของมนุษย์ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพอย่างไรกด็ ี ระดับความรุนแรงของผลกระทบอันเกิดจาก การเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศโลกและความเส่ือมโทรมของระบบนเิ วศต่าง ๆ ดังกลา่ วทแ่ี ต่ละประเทศจะตอ้ งเผชิญจะ มีความแตกต่างกัน ทำให้การเป็นสังคมสีเขียวการรักษาและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างบูรณาการจะได้รับความสำคัญและความสนใจจากนานาประเทศรวมทั้งประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น พลังงาน ทดแทนและพลังงานทางเลือกรวมถึงการสร้างสมดุลความมั่นคงด้านพลังงานและอาหารมีแนวโน้มที่จะมี ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นกฎระเบียบและข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมจะมีความเข้มข้นและเข้มงวดขึ้น โดยกรอบการ พัฒนาตามข้อตกลงระหว่างประเทศต่างๆ ที่สำคัญ เช่น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยนื และบันทึกความตกลงปารีส จะได้รบั การนำไปปฏิบัติอย่างจรงิ จังมากยงิ่ ขนึ้ แนวโน้มเหล่านี้จะก่อให้เกิดความท้าทายต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ ทั้งในส่วนของการ จ้างงานและอาชีพ สาขาการผลิตและบริการใหม่ๆ ความมั่นคงของประเทศอันเกิดจากภัยคุกคามและความเสี่ยง ด้านอื่นๆ ที่ซับซ้อนขึ้น อาชญากรรมไซเบอร์ รูปแบบการก่อสงครามที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ การเคลื่อนย้าย อย่างเสรีและรวดเร็วของผู้คน เงินทุน ข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ เทคโนโลยีและสินคา้ และบริการ การปรับตัวตอ่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รวดเร็วและคาดการณ์ได้ยากการเกิดขึ้นของโรคระบาดและโรคอุบัติใหม่ที่จะ ส่งผลให้การเฝ้าระวังด้านการสาธารณสุขในประเทศมีความสำคัญมากขึ้น อาจนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ทวี ความรุนแรงมากขึ้นได้ หากไม่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและรองรับผลกระทบต่างๆ ที่คาดว่าจะ เกิดข้ึน ซงึ่ รวมถงึ การเตรยี มความพร้อมเพ่ือรองรับการเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบบพลิกผันท่ีจะ เกดิ ขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ หากการเข้าถึงเทคโนโลยี โครงสรา้ งพืน้ ฐาน และองคค์ วามรสู้ มัยใหมม่ รี ะดับ ความแตกต่างกันระหว่างกลุ่มประชากรต่างๆ โดยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมดังกล่าวจะสง่ ผล ตอ่ ทัง้ การจา้ งงานและอาชพี ทจ่ี ะมีรูปแบบและลักษณะงานทเ่ี ปลย่ี นไป มีความต้องการแรงงานทม่ี ีสมรรถนะสูงเพ่ิม มากขนึ้ หลายอาชีพอาจหายไปจากตลาดงานในปัจจบุ ันและบางอาชีพจะถูกทดแทนดว้ ยระบบอัตโนมัติโดยเฉพาะ อาชีพที่ต้องการทักษะระดบั ตำ่ ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมัน่ คงและคุณภาพชวี ติ ของประชาชนที่ปรบั ตัวไม่ทัน หรอื ขาดความร้แู ละทักษะท่ีทนั กบั ยุคสมยั ท่ีเปล่ยี นแปลงไปกระแสโลกาภวิ ัตน์ท่ีจะทำใหเ้ กดิ การพฒั นาขยายความ เป็นเมือง วิถีชีวิตที่เปลีย่ นไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภมู ิอากาศที่อาจจะมีความแปรปรวน มากย่งิ ข้นึ ซึ่งปจั จยั ทั้งหมดดงั กล่าวจะส่งผลใหป้ ัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำของประเทศมีความซับซ้อน มากยงิ่ ข้นึ จากปัจจัยและแนวโน้มที่คาดว่าจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในมิติต่างๆข้ างต้น เห็นได้ว่าบริบทและสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกประเทศมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มี 20
พลวัตสูง และมีความซับซ้อนหลากหลายมิติ ซงึ่ จะสง่ ผลตอ่ อนาคตการพฒั นาประเทศอย่างมาก ดงั นนั้ การพัฒนา ประเทศจงึ จำเปน็ ต้องมียุทธศาสตร์การพัฒนาท่ีครอบคลุมทุกมิตแิ ละทุกดา้ นการพัฒนาท่เี กี่ยวข้อง มีความร่วมมือ ในลักษณะประชารัฐจากภาคส่วนต่างๆ ในรูปแบบของหุ้นส่วนการพัฒนาที่เป็นการดำเนินงานอย่างบูรณาการ เนอื่ งจากทุกมติ ิการพัฒนามีความเกีย่ วขอ้ งซง่ึ กันและกัน โดยประเทศไทยจำเป็นต้องมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ มีความรู้ สมรรถนะ และทักษะที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ สามารถรู้เท่าทันและปรับตัวให้สามารถ ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข มีอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และกติกาใหม่ๆ และมาตรฐานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบและ ปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกัน ทั้งในส่วนของระบบการเรียนการสอน และการพัฒนาทักษะฝีมือที่ สอดคล้องกันกับการพัฒนาของคนในแต่ละช่วงวัย ระบบบริการสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการให้ ความสำคัญกับการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถยกระดับเป็นเจ้าของเทคโนโลยี และนวัตกรรมก้าวทันโลก จากการต่อยอดการพัฒนาบนพ้นื ฐานนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ส่งผลให้เกดิ การสร้างห่วง โซม่ ูลคา่ ทางเศรษฐกจิ ในท้ังภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรและภาคบริการ กระจายผลประโยชนจ์ ากการพัฒนา ลด ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และนำไปสูก่ ารเสริมสร้างคณุ ภาพชวี ิตของประชาชนทุกภาคส่วน นอกจากน้ี ประเทศไทยต้องให้ความสำคญั กับการสร้างสมดุลความมน่ั คงดา้ นพลงั งานและอาหาร การรักษาไว้ซ่ึงความหลากหลายเชิงนิเวศ การส่งเสริมการดำเนนิ ชีวิตและธรุ กจิ และการพัฒนาและขยายความเป็น เมืองที่เติบโตอย่างต่อเนื่องที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการมีข้อกำหนดของรูปแบบและกฎเกณฑ์ที่ เกี่ยวเนื่องกับลักษณะการใช้พื้นที่ที่ชัดเจน ขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ กฎหมาย ระบบภาษีต้องมีกลยุทธ์การพัฒนาที่สามารถอำนวยความสะดวกและส่งเสริมให้ประเทศมีศักยภาพการแข่งขันที่ สูงขึ้น และสามารถใช้จุดแขง็ ในเร่ืองตำแหน่งทตี่ ้งั ทางภูมิศาสตรข์ องประเทศให้เกิดประโยชน์ต่อการพฒั นาประเทศ มากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญของการรวมกลุ่มความร่วมมือกับนานาประเทศในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพ่ือ กระชับและสร้างสัมพันธไมตรี เสรมิ สร้างความสัมพันธ์ทางการทูต ซง่ึ จะกอ่ ให้เกิดการสร้างพลงั ทางเศรษฐกิจและ รักษาความมั่นคงของประเทศ โดยจำเป็นต้องสร้างความพร้อมในการที่จะยกระดับมาตรฐานและมีการปฏิบัติให้ เป็นไปตามระเบียบกติกาสากลในด้านต่างๆ ขณะเดียวกันประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งให้มีการปฏริ ูประบบราชการ และการเมืองเพื่อให้เกิดการบริหารราชการที่ดีและมีเสถียรภาพทางการเมือง มีการส่งเสริมคนในชาติให้ยึดมั่น สถาบนั หลักเป็นศูนย์รวมจิตใจเพื่อใหเ้ กดิ ความรักความสามัคคี และลดความขัดแย้งภายในประเทศ โดยท่ีนโยบาย การพัฒนาต่างๆ จำเป็นต้องคำนึงถึงความสอดคลอ้ งกับโครงสร้างและลักษณะพฤติกรรมของประชากรที่อาจจะมี ความแตกต่างจากปจั จบุ นั มากข้นึ ดังนั้น ภายใต้เงื่อนไขโครงสร้างประชากร โครงสร้างเศรษฐกิจ สภาพสังคม สภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม และปัจจัยการพัฒนาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการวางแผนการพัฒนาท่ี รอบคอบและครอบคลุม อย่างไรก็ตาม หลายประเด็นพัฒนาเป็นเรื่องที่ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานเพื่อให้ เกิดการปรบั ตัวซึ่งจะตอ้ งหยัง่ รากลึกลงไปถึงการเปล่ียนแปลงในเชิงโครงสร้างการขับเคล่ือนการพัฒนาให้ประเทศ เจรญิ ก้าวหนา้ ไปในอนาคตจงึ จำเป็นต้องกำหนดวิสยั ทศั น์ในระยะยาวท่ตี ้องบรรลุ พรอ้ มทัง้ แนวยทุ ธศาสตร์หลักใน ด้านต่างๆ เพื่อเป็นกรอบในการขับเคลื่อนการพฒั นาอย่างบูรณาการบนพื้นฐานประชารัฐเพื่อยกระดับจดุ แขง็ และ จุดเด่นของประเทศ และปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนและจุดด้อยต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ โดยยุทธศาสตร์ชาติจะเป็น 21
เป้าหมายใหญ่ในการขับเคลื่อนประเทศ และถ่ายทอดไปสู่แผนในระดับอื่น ๆ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติทั้งในระดับ ยุทธศาสตร์ ภารกิจและพื้นท่ี ซึ่งรวมถึงพื้นที่พิเศษต่างๆ อาทิ เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออกเพอื่ ให้การพัฒนาประเทศสามารถดำเนนิ การได้อย่างมนั่ คง มง่ั คั่ง และ ยง่ั ยืน 3. วสิ ัยทศั นป์ ระเทศไทย “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อสนองตอบต่อ ผลประโยชนแ์ หง่ ชาติ อนั ไดแ้ ก่ การมีเอกราช อธิปไตย การดำรงอยูอ่ ยา่ งม่นั คง และย่งั ยนื ของสถาบันหลกั ของชาติ และประชาชนจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ การอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุขเป็นปึกแผ่น มีความมั่นคงทางสังคม ท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกยี รตแิ ละศักดิ์ศรขี องความเปน็ มนุษย์ความเจรญิ เติบโตของชาติ ความเปน็ ธรรมและ ความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ความยั่งยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางพลังงานและ อาหาร ความสามารถในการรักษาผลประโยชน์ของชาติภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมระหว่าง ประเทศ และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติประสานสอดคล้องกันด้านความมั่นคงในประชาคมอาเซียนและประชาคม โลกอย่างมีเกียรติและศักด์ิศรี ความมั่นคง หมายถึง การมีความม่ันคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศในทุกระดับ ทัง้ ระดับประเทศ สงั คม ชุมชน ครวั เรือน และปจั เจกบุคคลและมีความม่ันคงใน ทุกมิติ ทั้งมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและ อธิปไตย มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน มีระบบการเมืองที่มั่นคง เป็นกลไกที่นำไปสู่การบริหารประเทศที่ต่อเน่ืองและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล สังคมมีความปรองดองและ ความสามัคคี สามารถผนึกกำลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ประชาชนมี ความม่ันคงในชีวิต มีงานและรายได้ทม่ี ั่นคงพอเพียงกับการดำรงชีวติ มีการออมสำหรบั วยั เกษยี ณ ความม่ันคงของ อาหาร พลังงาน และนำ้ มีทอ่ี ย่อู าศยั และความปลอดภยั ในชีวิตทรัพยส์ ิน ความมงั่ ค่งั หมายถงึ ประเทศไทยมกี ารขยายตวั ของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีความย่ังยืนจน เข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง ความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่ดีมสี ุขได้รบั ผลประโยชน์จาก การพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น และมีการพัฒนาอย่างทั่วถึงทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตตามมาตรฐานของ องค์การสหประชาชาติ ไม่มีประชาชนที่อยู่ในภาวะความยากจนเศรษฐกิจในประเทศมคี วามเขม้ แข็ง ขณะเดียวกัน ต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่างๆทั้งในตลาดโลกและตลาดภายในประเทศเพื่อให้สามารถสร้าง รายได้ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศตลอดจนมีการสร้างฐานเศรษฐกิจและสัง คมแห่งอนาคตเพื่อให้สอดรับ กับบริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงไป และประเทศไทยมีบทบาทที่สำคัญในเวทีโลก และมีความสัมพันธ์ทาง เศรษฐกิจและการค้าอย่างแน่นแฟ้นกบั ประเทศในภูมิภาคเอเชยี เป็นจุดสำคัญของการเชื่อมโยงในภูมภิ าค ทั้งการ คมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุน และการทำธุรกิจ เพื่อให้เป็นพลังในการพัฒนา นอกจากนี้ยังมีความ สมบูรณ์ในทุนที่จะสามารถสร้างการพัฒนาต่อเน่ืองไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญาทุนทางการเงิน ทุนที่เป็น เคร่ืองมอื เครื่องจักร ทุนทางสังคม และทนุ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 22
ความยั่งยืน หมายถึง การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของ ประชาชนใหเ้ พิ่มข้นึ อย่างต่อเนอื่ ง ซง่ึ เป็นการเจริญเตบิ โตของเศรษฐกิจที่อยบู่ นหลักการใช้ การรกั ษาและการฟื้นฟู ฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมจนเกิน ความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นและสิ่งแวดล้อมมี คุณภาพดีขน้ึ คนมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม มคี วามเอ้อื อาทร เสยี สละเพือ่ ผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลมีนโยบาย ที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืนและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสังคม ยดึ ถอื และปฏิบตั ิตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพื่อการพัฒนาอยา่ งสมดุล มีเสถยี รภาพ และย่งั ยืน โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุขเศรษฐกิจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศใน หลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอ ภาคทางสงั คม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตทเี่ ป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีภาครัฐของประชาชนเพอ่ื ประชาชน และประโยชนส์ ว่ นรวม โดยการประเมนิ ผลการพฒั นาตามยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย 1) ความอย่ดู มี ีสุขของคนไทยและสังคมไทย 2) ขดี ความสามารถในการแข่งขนั การพฒั นาเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้ 3) การพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ 4) ความเท่าเทยี มและความเสมอภาคของสงั คม 5) ความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพสง่ิ แวดล้อม และความยง่ั ยืนของ ทรพั ยากรธรรมชาติ 6) ประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการและการเข้าถึงการใหบ้ ริการของภาครฐั 4. ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ชาติ 4.1 ยุทธศาสตรช์ าติดา้ นความม่ันคง (1) การรักษาความสงบภายในประเทศ (2)การป้องกนั และแก้ไขปญั หาท่ีมผี ลกระทบต่อความมั่นคง (3) การพฒั นาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชญิ ภยั คุกคามทก่ี ระทบต่อความ มน่ั คงของชาติ (4) การบูรณาการความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอาเซียนและนานาชาติ รวมถึงองคก์ รภาครัฐและทม่ี ใิ ชภ่ าครัฐ (5) การพัฒนากลไกการบริหารจดั การความม่นั คงแบบองค์รวม 4.2 ยุทธศาสตร์ชาติดา้ นการสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั (1) การเกษตรสรา้ งมลู คา่ (2) อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต (3) สร้างความหลากหลายด้านการทอ่ งเท่ียว (4) โครงสร้างพนื้ ฐาน เชอ่ื มไทย เชือ่ มโลก 23
(5) พฒั นาเศรษฐกจิ บนพ้ืนฐานผปู้ ระกอบการยุคใหม่ 4.3 ยุทธศาสตร์ชาตดิ า้ นการพฒั นาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ (1) การปรับเปลี่ยนคา่ นยิ มและวฒั นธรรม (2) การพัฒนาศักยภาพคนตลอดชว่ งชีวิต (3) ปฏิรูปกระบวนการเรยี นรู้ท่ตี อบสนองต่อการเปล่ยี นแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑ (4) การตระหนกั ถึงพหปุ ัญญาของมนุษยท์ ห่ี ลากหลาย (5) การเสรมิ สรา้ งใหค้ นไทยมสี ุขภาวะทด่ี ี (6) การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรพั ยากรมนุษย์ (7) การเสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างคุณค่าทางสังคมและพัฒนา ประเทศ 4.4 ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม (1) การลดความเหลื่อมลำ้ สร้างความเปน็ ธรรมในทกุ มติ ิ (2) การกระจายศนู ยก์ ลางความเจริญทางเศรษฐกิจ สงั คม และเทคโนโลยี (3) การเสริมสร้างพลังทางสงั คม (4) การเพ่มิ ขีดความสามารถของชุมชนท้องถน่ิ ในการพฒั นา การพ่งึ ตนเองและ การจดั การตนเอง 4.5 ยุทธศาสตรช์ าติด้านการสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชวี ติ ทเี่ ปน็ มติ รกับ สิ่งแวดล้อม (1) สรา้ งการเตบิ โตอยา่ งย่ังยืนบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว (2) สร้างการเตบิ โตอยา่ งย่ังยืนบนสังคมเศรษฐกจิ ภาคทะเล (3) สร้างการเตบิ โตอยา่ งย่ังยืนบนสงั คมที่เปน็ มิตรต่อสภาพภูมิอากาศ (4) พฒั นาพื้นที่เมอื ง ชนบท เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศ มุ่งเนน้ ความเป็นเมืองทีเ่ ติบโตอย่างต่อเน่อื ง (5) พฒั นาความมน่ั คงนำ้ พลังงาน และเกษตรท่ีเปน็ มติ รต่อส่งิ แวดลอ้ ม (6) ยกระดับกระบวนทศั น์เพ่ือกำหนดอนาคตประเทศ 4.6 ยุทธศาสตรช์ าตดิ ้านการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครฐั (1) ภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และ ใหบ้ รกิ ารอย่างสะดวกรวดเรว็ โปรง่ ใส (2) ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายและ เชอ่ื มโยงการพฒั นาในทุกระดับ ทุกประเด็น ทกุ ภารกจิ และทุกพ้ืนที่ (3) ภาครฐั มขี นาดเลก็ ลง เหมาะสมกับภารกิจ ส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนและทุกภาค ส่วนมสี ่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ 24
(4) ภาครัฐมีความทันสมัย (5) บุคลากรภาครัฐเป็นคนดีและเก่ง ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำ นึกมี ความสามารถสูง ม่งุ มั่น และเปน็ มืออาชพี (5) ภาครฐั มีความโปรง่ ใส ปลอดการทุจรติ และประพฤตมิ ิชอบ (6) กฎหมายมีความสอดคล้องเหมาะสมกับบริบทตา่ ง ๆ และมเี ท่าทจี่ ำเปน็ (7) กระบวนการยตุ ธิ รรมเคารพสทิ ธิมนุษยชนและปฏบิ ัติต่อประชาชนโดยเสมอ ภาค 2. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) ได้จัดทาขึ้นในช่วงเวลา ของการปฏิรูปประเทศและสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงกันใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยได้ นอ้ มนาหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” มาเปน็ ปรัชญานำทางในการพัฒนาประเทศตอ่ เน่ืองจากแผนพัฒนา ฯ ฉบบั ที่ 9–11 เพ่อื เสรมิ สร้างภูมิคมุ้ กันและช่วยให้สังคมไทยสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมน่ั คง เกิดภูมิคุ้มกัน และ มีการบริหารจัดการความเส่ยี งอยา่ งเหมาะสม ส่งผลให้การพฒั นาประเทศสู่ความสมดลุ และย่งั ยืน ในการจัดทาแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ครั้งนี้ สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดทาบนพื้นฐานของกรอบยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ซึ่งเป็นแผนหลกั ของการพัฒนาประเทศ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) รวมท้ัง การปรับโครงสร้างประเทศไทยไปสู่ประเทศไทย 4.0 ตลอดจนประเด็นการปฏิรูปประเทศ นอกจากนั้น ได้ให้ ความสำคญั กับการมสี ว่ นรว่ มของภาคีการพฒั นาทกุ ภาคสว่ น ท้งั ในระดบั กลุ่มอาชีพ ระดับภาค และระดบั ประเทศ ในทกุ ขนั้ ตอนของแผนฯ อยา่ งกวา้ งขวางและต่อเนื่อง เพอื่ ร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์และ ทศิ ทางการพัฒนาประเทศ รวมทง้ั รว่ มจดั ทารายละเอียดยุทธศาสตรข์ องแผนฯ เพ่ือมงุ่ สู่ “ความมน่ั คง ม่งั คงั่ และยั่งยนื ” การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 12 จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการเชื่อมต่อกับ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในลักษณะการแปลงยุทธศาสตร์ระยะยาวสู่การปฏิบัติ โดยในแต่ละยุทธศาสตร์ของ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ได้กำหนดประเด็นการพัฒนา พร้อมทั้งแผนงาน/โครงการสำคัญที่ต้องดาเนินการให้เห็น ผลเป็นรูปธรรมในช่วง 5 ปีแรกของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมคน สังคม และระบบ เศรษฐกิจของประเทศใหส้ ามารถปรับตวั รองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้อยา่ งเหมาะสม ขณะเดยี วกัน ยงั ได้กำหนดแนวคิดและกลไกการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลที่ชัดเจน เพื่อกากับให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมี ทศิ ทางและเกิดประสิทธิภาพ นาไปสู่การพัฒนาเพ่ือประโยชนส์ ขุ ท่ยี ง่ั ยืนของสงั คมไทย 1. ภาพรวมการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบบั ท่ี 12 1.1 หลักการ 1.2 จุดเปลี่ยนสำคัญในแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมฉบบั ท่ี ๑๒ 1.3 ประเดน็ การพัฒนาหลักที่สำคญั ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ 2. การประเมินสภาพแวดล้อมการพฒั นาประเทศ 2.1 สถานการณ์และแนวโน้มภายนอก 25
2.2 สถานการณ์และแนวโนม้ ภายใน 3. วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพฒั นาในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ 3.1 วตั ถุประสงค์ 3.2 เป้าหมายรวม 4. ยุทธศาสตร์การพฒั นาประเทศ ยุทธศาสตร์ในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 มีทั้งหมด 10 ยุทธศาสตร์ โดยมี 6 ยุทธศาสตร์ ตามกรอบยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี และอกี 4 ยุทธศาสตรท์ เ่ี ป็นปัจจยั สนบั สนุน ดังนี้ 4.1 ยุทธศาสตร์การเสรมิ สรา้ งและพฒั นาศักยภาพทุนมนษุ ย์ 4.2 ยุทธศาสตรก์ ารสร้างความเปน็ ธรรมและลดความเหล่ือมลำ้ ในสังคม 4.3 ยทุ ธศาสตรก์ ารสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อยา่ งยั่งยนื 4.4 ยุทธศาสตรก์ ารเติบโตท่ีเป็นมติ รกับสง่ิ แวดล้อมเพอ่ื การพัฒนาทย่ี ัง่ ยืน 4.5 ยทุ ธศาสตรก์ ารเสริมสร้างความม่ันคงแหง่ ชาตเิ พ่ือการพฒั นาประเทศสูค่ วามมั่งค่ัง และยัง่ ยนื 4.6 ยุทธศาสตรก์ ารบรหิ ารจัดการในภาครฐั การป้องกนั การทุจริตประพฤตมิ ิชอบ และ ธรรมาภิบาลในสงั คมไทย 4.7 ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาโครงสรา้ งพ้นื ฐานและระบบโลจสิ ตกิ ส์ 4.8 ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจยั และนวตั กรรม 4.9 ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาภาค เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ 4.10 ยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพฒั นา 5. การขบั เคล่อื นแผนพัฒนาฯ ฉบบั ท่ี 12 สกู่ ารปฏิบตั ิ 5.1 หลักการ 5.2 แนวทางขบั เคลือ่ นแผนพัฒนาฯ ฉบบั ท่ี 12 5.3 การติดตามประเมนิ ผลแผนพัฒนาฯ ฉบบั ท่ี 12 3. แผนพัฒนาภาค/แผนพฒั นากลมุ่ จงั หวัด/แผนพัฒนาจงั หวดั 3.1 แผนพัฒนาภาคใต้ ยทุ ธศาสตร์การพัฒนา มีดังนี้ คอื (1) การเสริมสร้างความเข้มแข็งภาคการผลิตหลักให้เจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูป พัฒนาประสิทธิภาพและผลิตภาพการผลิตสินค้าอาหาร พัฒนาการทอ่ งเที่ยว (2) ขยายฐานเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มความหลากหลายของแหล่งสร้างรายได้และการจ้างงานให้แก่ ภาคโดยพฒั นาความรว่ มมือกับประเทศเพื่อนบา้ นภายใต้กรอบโครงการ JDS และกรอบโครงการ IMT-GT พฒั นา รองรบั การขยายการลงทนุ อุตสาหกรรมที่มศี กั ยภาพของประเทศ และพฒั นาการคมนาคมขนส่งทางทะเล 26
(3) พัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพและมีภูมิคุ้มกันที่ดีเพื่อเสริมสมรรถนะการพัฒนา โดยการ พัฒนาความรู้ คุณธรรม และสุขภาวะ การสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของคนจน คนด้อยโอกาสให้สามารถ พึ่งตนเองได้ การพัฒนาศักยภาพคนเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิตและเพิ่มโอกาสด้านอาชีพและรายได้ และการ อำนวยความเป็นธรรมและสร้างภมู ิค้มุ กนั แก่คนกลุ่มเสย่ี งเพื่อแก้ปญั หาความไม่สงบในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ (4) เสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมระดับชุมชน โดยสร้างกระบวนการเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนสู่การพึ่งตนเอง พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนโดยการเพิ่มโอกาสการมีรายได้จาก ทรัพยากรในท้องถิ่น และส่งเสริมการใช้กระบวนการชุมชนเข้มแข็งเพื่อสร้างสันติสุขโดยเฉพาะการใช้ กระบวนการชมุ ชนเขม้ แขง็ แกไ้ ขปัญหายาเสพติด (5) ฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาสมดุลเชิงนิเวศน์ อย่างยั่งยืน โดยฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อรักษาความสมดุลเชิงนิเวศน์ สร้างความอุดมสมบูรณ์ ทรพั ยากรธรรมชาตใิ หเ้ ปน็ ฐานการผลติ อยา่ งย่งั ยืน และควบคมุ คุณภาพสิง่ แวดล้อมเพ่ือลดผลกระทบด้านคุณภาพ ชีวิต 3.2 แผนพัฒนากลมุ่ จงั หวัด (1) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วยชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ พัทลุง เน้นการพัฒนาฐานอุตสาหกรรมแปรรปู ผลผลิตจากน้ำมันปาล์ม พัฒนาการปลูกข้าวและการเลี้ยงปศุสัตว์ พัฒนาการเกษตรยั่งยืนเพื่อผลิตสินค้าเกษตรเชิงคุณภาพ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บริเวณชายฝั่งทะเล และการเตรียมความพรอ้ มพ้ืนท่ที ีม่ ีศกั ยภาพรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ (2) กลมุ่ จังหวดั ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบดว้ ย ระนอง พังงา ภเู กต็ กระบ่ี และตรงั เน้นการ รกั ษาความมีมนต์เสนห่ ข์ องศนู ย์กลางการท่องเทีย่ วทางทะเล เพ่มิ ความหลากหลายของกิจกรรมการท่องเทยี่ วและ การบริการ พฒั นาแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วชายฝั่งทะเลและบนบก และพฒั นาบคุ ลากรรองรับการท่องเที่ยว (3) กลมุ่ จังหวดั ภาคใต้ชายแดน ประกอบดว้ ย สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธวิ าส เน้น การคุ้มครองความปลอดภัย การอำนวยความเป็นธรรมเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ และสร้าง ภูมิคุ้มกัน แก่คนกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ การเสริมสร้างความมั่นคงด้าน อาชีพและรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อย การพัฒนาคุณภาพคนเพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิต การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและพัฒนาความร่วมมือกับต่างประเทศ และการบริหารจัดการเขต พฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการท่ีสำคญั (Flagship Project) (1) โครงการพฒั นาสงขลาเปน็ ศูนย์กลางการผลิตการแปรรูปและคา้ ยางพาราของประเทศ (2) โครงการพฒั นาสรุ าษฎร์ธานีเปน็ ศูนย์กลางการผลิตและแปรรูปปาลม์ น้ำมนั แบบครบวงจร (3) โครงการพัฒนาลุ่มนำ้ ปากพนังและลมุ่ นำ้ ทะเลสาปสงขลาเปน็ อู่ขา้ วอู่น้ำ (4) โครงการพฒั นาธุรกิจบรกิ ารกลุ่ม Mice และ Marina เกาะภเู กต็ (5) โครงการพฒั นาอตุ สาหกรรมอาหารฮาราลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (6) โครงการแก้ไขปญั หาความยากจนเชงิ บรู ณาการในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ 27
(7) โครงการพัฒนาแรงงานในจงั หวดั ชายแดนภาคใตเ้ พ่อื ไปทำงานในต่างประเทศ (8) โครงการพฒั นาขา้ วสงั ขห์ ยดเปน็ สินค้าเชิงคุณภาพ (9) โครงการผลติ สินค้าอาหารฮาลาลระดับชุมชนในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้แบบครบวงจร (10) โครงการอา่ วปัตตานี (ฟน้ื ฟคู วามอดุ มสมบูรณ์ของชายฝงั่ ทะเล) (11) โครงการฟื้นฟกู ารทำนาในพน้ื ที่นาร้างในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ 3.3 แผนพัฒนาจังหวดั แผนพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาลต้องมีความสัมพันธ์กับแผนพัฒนาจังหวัดยะลา เทศบาลจึงได้นำ กรอบจากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดยะลา มาใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น แผนพัฒนา ท้องถิ่นความสัมพันธ์กับแผนพัฒนาจังหวัดดังกล่าว โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน พัฒนาด้านเศรษฐกิจตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมคุณธรรมในสังคม สนับสนุนการพัฒนา ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้เข้มแข็ง สร้างความร่วมมือในการบริหารงานจังหวดั แบบบูรณาการกับทุก ภาคสว่ น ซ่ึงแผนยุทธศาสตร์การพฒั นาจงั หวัดยะลา มีรายละเอียดดงั น้ี เปา้ หมายการพัฒนาจงั หวัด พันธกิจ ตวั ชี้วัดความสำเรจ็ ตามเป้าหมายการพัฒนาจงั หวัด และประเดน็ การพัฒนา 1. เป้าหมายการพฒั นาจงั หวดั ยะลา : คุณภาพชวี ิตม่นั คง เกษตรม่ังคั่ง ท่องเที่ยวย่ังยนื คำอธิบายเปา้ หมายการพัฒนาจังหวัดยะลา คุณภาพชีวิตมั่นคง หมายถึง ประชาชนมีคณุ ภาพชวี ิตทดี่ ี มสี ุขภาวะทีด่ ี มขี ดี ความสามารถในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เน่ือง เป็นพลเมืองไทย พลเมืองอาเซียน และพลเมืองโลก สังคมมีความสันติสุข ชุมชนสามารถ บรหิ ารจัดการความสงบเรียบร้อยของชมุ ชนได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ เปน็ สงั คมพหวุ ัฒนธรรมทีเ่ ข้มแข็ง ประชาชนมี ความเปน็ อยู่เรยี บง่าย ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐานดำเนนิ ชวี ิตจังหวัดยะลา มีความอุดมสมบูรณ์ ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชาชนได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึงเป็นธรรมสามารถพึ่งพาตนเองได้ เข้าถึงสวสั ดิการพืน้ ฐานได้ ภาครัฐมสี มรรถนะสูง การพัฒนาจังหวัดยึดหลักยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถงึ และพฒั นา มีรายได้และอาชีพท่มี ่นั คง เกษตรมั่งคั่ง หมายถึง สถาบันการเกษตรเข้มแข็ง เกษตรกรมีความเป็นมืออาชีพที่มีศักยภาพในการ จัดการผลผลิตให้มีคุณภาพ มีเทคโนโลยี นวัตกรรมทางการเกษตร ผลผลิตหลักทางการเกษตรของจังหวัดมี คุณภาพ มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของจังหวัดจากฐานของเกษตรสามารถสร้างมูลค่าให้กับจังหวัดและ รายได้ให้กับเกษตรกร ผลผลิตการเกษตรพรเี มี่ยมของจังหวัดมีมูลค่าและแข่งขันได้เป็นศนู ย์กลางผลผลิตด้านไม้ผล ปศสุ ตั ว์ทมี่ คี ุณภาพ จงั หวัดยะลาเป็นพื้นทที่ ม่ี ีความม่นั คงทางอาหาร เปน็ เมืองอาหารปลอดภัย 28
ท่องเที่ยวยั่งยืน หมายถึง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดเติบโตอย่างต่อเนื่อง เน้นการสร้าง คุณค่า และมูลค่าจากความหลากหลายทางชีวภาพและพหุวัฒนธรรม การเชื่อมโยงการพัฒนาการท่องเที่ยวจาก ฐานของชุมชนด้วยนวัตวิถี ชุมชนมีความพร้อมในการบรหิ ารจัดการการทอ่ งเทีย่ วของพืน้ ที่ใหม้ ีความเข้มแข็ง การ ท่องเที่ยวของชุมชนสร้างงาน อาชีพ หนุนเสริมเศรษฐกิจของชุมชน แหล่งท่องเที่ยวหลักของจังหวัดได้รับการ บรหิ ารจดั การให้มมี าตรฐานการจัดการท่องเทยี่ วในระดับชั้นนำ เปน็ การทอ่ งเท่ียวท่เี ป็นมิตรกบั ส่ิงแวดล้อม และมี ธรรมาภิบาลในการจัดการการท่องเที่ยวชายแดนเติบโตอยา่ งต่อเน่ือง จังหวัดยะลาเปน็ ต้นแบบในระดบั ประเทศใน การพัฒนาการท่องเที่ยวเชงิ นิเวศและพหุวัฒนธรรม จังหวัดประสบความสำเรจ็ ในการยกระดับอำเภอเบตงให้เป็น เมืองท่องเท่ยี วในระดบั นานาชาติ จังหวัดยะลามีภาพลกั ษณ์ในการเป็นเมืองท่ีมผี ังเมืองท่ีมีความสวยงามและเปน็ ระเบียบมีความสะอาดที่สุด เมืองหน่ึงของประเทศไทย มสี ถานทีท่ ่องเที่ยวท่ีมีความหลากหลายและสวยงามโดยเฉพาะอำเภอเบตง จนมีคำขวัญ ว่า “ใตส้ ุดสยาม เมอื งงามชายแดน” ประชาชนมีการประกอบอาชีพทางด้านการเกษตร โดยการทำสวนยาง และ สวนผลไม้ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีประเพณีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองแต่ก็มีวิถี ชีวิตร่วมกันอย่างสันติสุขในความหลากหลายของพหุวัฒนธรรม แต่จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ จนถึงปัจจุบัน แนวโน้มของความรุนแรงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างลดลง แต่ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนา คุณภาพชวี ิตของประชาชนและภาพลักษณข์ องจังหวัดซ่งึ ถือเป็นจดุ อ่อน และอปุ สรรคสำคัญในการพฒั นาจงั หวดั ดังนั้น จังหวัดยะลา จึงได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดยะลาคือ “คุณภาพชีวิตมั่นคง เกษตรมั่งคั่ง ท่องเที่ยวยั่งยืน” หมายถึง การพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ และสร้างความสุข สังคมมีความมั่นคง เสมอภาค และเป็นธรรม สามารถแข่งขันได้ในระบบเศรษฐกิจ โดยนำยะลามุ่งไปสู่เมืองท่องเที่ยวที่น่าอยู่ มีอาชีพที่มั่นคง มี สุขภาพดี มีคุณธรรม มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง อยู่ร่วมกันด้วยความรัก ความสามัคคี ยึดหลัก เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ภายใต้ความหลากหลาย ของวฒั นธรรมและอตั ลักษณ์ของพื้นท่ี นำไปสู่ยะลาเมอื งแห่งความสุข : Yala city of happiness 2. พันธกจิ 1.) ส่งเสริมให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนมีความเข้าใจที่ดี ตอ่ ภาครัฐ 2.) เสรมิ สร้างการพัฒนาเศรษฐกจิ ฐานรากตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เพือ่ ให้ประชาชนมี อาชีพและรายได้ทม่ี ่ันคง 3.) เสรมิ สร้างการอำนวยความเปน็ ธรรมและส่งเสรมิ คุณธรรมของสังคม ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพ ชีวติ ประชาชนดา้ นสุขภาพ และสร้างภมู คิ ุม้ กันทางสังคม 4.) สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การพัฒนาชมุ ชนและองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ให้มีความเขม้ แขง็ 5.) ประสาน สนบั สนุน เสริมสร้างความรว่ มมอื ในการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ 29
3. ตัวชี้วัดความสำเรจ็ ตามเปา้ หมายการพฒั นาจงั หวัดยะลา สังคมเมืองยะลามีความมั่นคง ประชาชนมีความสุข ประสบความสำเร็จในการยกระดับศักยภาพ ในหลากหลายมิติเพื่อการพฒั นาเศรษฐกจิ อย่างต่อเนื่อง ประชาชนทกุ ชว่ งวยั ได้รบั การพัฒนาให้เป็นคนดี เก่ง และ มีคุณภาพ ชุมชนเข้าถึงและได้รับการเสริมสร้างโอกาส เป็นสังคมที่มีความเสมอภาค เติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เปน็ มติ รกับส่งิ แวดล้อม จงั หวัดยะลาเปน็ ตน้ แบบท่ดี ขี องประเทศ ที่มภี าครฐั ของประชาชนเพอื่ ประชาชนและประโยชน์ สว่ นรวม 4. ประเดน็ การพัฒนาจังหวัด จำนวน 4 ประเดน็ คือ 1) การเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของระบบการบรหิ ารจัดการการเกษตรและอตุ สาหกรรมต่อเน่ือง จากภาคการเกษตรท่แี ข่งขนั ได้ 2) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ วัฒนธรรม และท่องเที่ยว ชายแดน 3) การพฒั นาคณุ ภาพชีวิต และศักยภาพของประชาชนตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4) การระดมภาคีทกุ ภาคสว่ นรว่ มเสรมิ สร้างยะลาสันติสุข ทยี่ ง่ั ยืน 30
ประเดน็ การพัฒนาที่ 1 การเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของระบบการบรหิ ารจดั การการเกษตร และอตุ สาหกรรมต่อเนื่องจากภาคการเกษตรทแ่ี ข่งขันได้ วตั ถุประสงค์ : สินค้าเกษตรของจงั หวัดมีคุณภาพและไดม้ าตรฐาน เกษตรกรและผปู้ ระกอบการภาคเกษตรมีรายได้ เพ่ิมขน้ึ เป้าหมายและตัวช้ีวัด ปี 2566 – 2570 ตวั ชี้วัด ข้อมูลค่าฐาน ค่าเปา้ หมาย 2566 2567 2568 2569 2570 1. สนิ ค้าเกษตรได้รับการรับรอง (2560 - 2562) 1% 1% 1% 1% 1% มาตรฐานการผลติ (GAP/อนิ ทรยี )์ 1,762 แปลง/ ตอ่ ปี ตอ่ ปี ตอ่ ปี ตอ่ ปี ต่อปี เพมิ่ ขึ้น ฟารม์ 1% 1% 1% 1% 1% 2. มูลคา่ ผลิตภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวัด (2560 - 2562) ตอ่ ปี ตอ่ ปี ตอ่ ปี ตอ่ ปี ต่อปี สาขาภาคเกษตร เพิ่มข้ึน 13,596 ลา้ นบาท แนวทางการพฒั นา 1. พัฒนาโครงสร้างพ้นื ฐานดา้ นการเกษตร เพ่ือรองรับการผลิตภาคการเกษตรท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ และการ พฒั นา เพือ่ รองรบั การทอ่ งเท่ยี วเชิงเกษตร 2. สง่ เสริม สนับสนนุ การใชง้ านวจิ ัย นวตั กรรม เทคโนโลยีการเกษตรสมยั ใหม่ และเปน็ มติ รสง่ิ แวดลอ้ ม 3. เพิ่มประสทิ ธิภาพการผลติ การแปรรปู สินค้าเกษตรสรา้ งมลู ค่า เกษตรอตั ลักษณ์พน้ื ถิน่ ให้มีคุณภาพได้ มาตรฐาน 4. ส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) และพัฒนาศักยภาพเกษตร กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกรให้มีความเขม้ แข็งอยา่ งยั่งยืน 5. สง่ เสริมการเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎใี หม่ เพ่ือเสริมสร้างรายได้และความม่ันคงทางอาหาร 6. ส่งเสรมิ อุตสาหกรรมตอ่ เน่อื งจากภาคเกษตร เพ่อื สร้างมลู ค่าเพ่มิ สนิ คา้ เกษตร 7. ส่งเสรมิ พฒั นาบรรจภุ ัณฑ์ สรา้ งแบรนด์ และเชอื่ มโยงสินค้าเกษตรสูต่ ลาดดิจิทลั 31
ประเด็นการพัฒนาที่ 2 การเสรมิ สร้างความเข้มแขง็ ของอตุ สาหกรรมการทอ่ งเที่ยว เชิงนเิ วศ วฒั นธรรม และท่องเท่ียวชายแดน วัตถุประสงค์ : รายได้จากการทอ่ งเที่ยวเพ่ิมข้ึน การท่องเท่ียวเชิงธรรมชาติและวฒั นธรรม ไดม้ าตรฐานและยั่งยนื เปา้ หมายและตัวชี้วดั ปี 2566 – 2570 ตวั ช้วี ดั ขอ้ มูลค่าฐาน คา่ เป้าหมาย 2566 2567 2568 2569 2570 1. จำนวนแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วที่ได้รบั การพฒั นา ขอ้ มลู เฉลีย่ 3 ปี 6 แหลง่ 6 แหลง่ 6 แหล่ง 6 แหลง่ 6 แหลง่ (2559 - 2561) ตอ่ ปี ตอ่ ปี ต่อปี ตอ่ ปี ต่อปี 6 แหลง่ ต่อปี 2. รายได้จากการทอ่ งเที่ยว ข้อมลู เฉลีย่ 3 ปี 6.5 % 7.0 % 7.5 % 8.0 % 8.5 % เพ่มิ ข้นึ (2559 - 2561) ตอ่ ปี ตอ่ ปี ต่อปี ต่อปี ตอ่ ปี รอ้ ยละ 6.05 แนวทางการพฒั นา 1. พฒั นาโครงสรา้ งพ้นื ฐานและส่งิ อำนวยความสะดวกแหล่งทอ่ งเทย่ี วเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม 2. พัฒนาการตลาดและประชาสมั พนั ธ์ด้านการทอ่ งเท่ยี วรปู แบบดจิ ิทลั ให้มคี วามหลากหลาย และ สง่ เสริมกจิ กรรมด้านการท่องเที่ยวเชงิ สร้างสรรค์ 3. สง่ เสริมและพฒั นาสนิ ค้าและการบริการดา้ นการท่องเทยี่ ว ผลติ ภัณฑ์ท้องถนิ่ เชิงสร้างสรรค์ เพ่มิ มูลคา่ เพ่ือรองรับการท่องเทยี่ ว 4. พฒั นาการบรหิ ารจัดการด้านการทอ่ งเที่ยวเชงิ ธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรม เพอ่ื รองรบั การท่องเท่ียววถิ ี ใหม่ (New Normal) 5. พัฒนาศักยภาพอำเภอเบตงให้สามารถพึง่ พาตนเองอยา่ งย่ังยืน และเป็นพื้นที่เศษรฐกิจ/ท่องเที่ยว ชายแดน เชือ่ มโยงภูมิภาค 32
ประเด็นการพัฒนาที่ 3 การพฒั นาคุณภาพชีวิต และศกั ยภาพของประชาชน ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง วัตถปุ ระสงค์ : ประชาชนมีคุณภาพชวี ติ ทด่ี ใี นเมืองนา่ อยู่ การศึกษามีคณุ ภาพ อาชีพมน่ั คง สุขภาพดี กลุ่มผ้ไู ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ผสู้ งู อายุ ผ้พู ิการและผู้ดอ้ ยโอกาสมีศักยภาพและสามารถพ่ึงพาตนเองได้ เป้าหมายและตัวชี้วดั ปี 2566 – 2570 ค่าเปา้ หมาย ตัวชี้วดั ขอ้ มูลคา่ ฐาน 2566 2567 2568 2569 2570 1. ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ปกี ารศกึ ษา 2558 เพมิ่ ขนึ้ เพิม่ ข้นึ เพ่ิมขึ้น เพิ่มขน้ึ เพมิ่ ข้ึน จากการสอน O-Net ชั้น ม.3 เพิ่มขึ้น รอ้ ยละ 33.25 รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ เม่ือเทยี บกับปีที่ผา่ นมา ปีการศึกษา 2559 1 ต่อปี 1 ต่อปี 1 ต่อปี 1 ต่อปี 1 ต่อปี รอ้ ยละ 32.41 ลดลง 0.84 2. กลุ่มเสีย่ งโรคความดนั โลหติ สูงป่วย ปี 2562 ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง เป็นผู้ป่วยรายใหม่ลดลงจากปีที่ผ่าน ร้อยละ 6.91 ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ มา 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 3. แรงงานทั้งในและนอกระบบได้รับ ปี 2561 8 11 14 17 20 การพัฒนาศักยภาพมีหลักประกัน ร้อยละ 5 ทางสงั คมและมรี ายไดท้ ี่ม่ันคง 4. กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจาก ปี 2560 91 93 95 97 99 เหตุการณ์ความไม่สงบ ผู้ด้อยโอกาส รอ้ ยละ 89.89 ผู้สูงอายุ และ ผู้พิการได้รับการ พัฒนาศักยภาพให้สามารถพึ่งพา ตนเองได้ 5. รอ้ ยละของการบุกรกุ พ้นื ท่ีปา่ ไม้ ปี 2560 รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ และการตัดไม้ทำลายปา่ ลดลง ร้อยละ 36 55 5 10 15 33
แนวทางการพฒั นา 1. พัฒนาระบบเมืองที่เอื้อต่อการสร้างชีวิตและสังคมที่มีคุณภาพและปลอดภัยเพื่อให้เป็นเมืองน่าอยู่ อยา่ งยั่งยนื 2. พัฒนาระบบการเรียนรู้ให้เอื้อต่อการพัฒนาทักษะ และสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงการศึกษา สำหรับศตวรรษท่ี 21 3. สง่ เสรมิ การมสี ุขภาวะท่ดี ขี องประชาชนทุกกลมุ่ วัย 4. สร้างหลักประกันทางสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ผสู้ งู อายุ ผดู้ อ้ ยโอกาสและผู้พิการ 5. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานทั้งในและนอกระบบให้สามารถพึ่งตนเองอย่างมั่นคง และ ย่ังยืน 6. สง่ เสริมการมสี ว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์เฝา้ ระวังและฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม 7. ส่งเสริมพฒั นาและขยายผลโครงการอันเน่อื งมาจากพระราชดำริ เพือ่ ให้ชมุ ชนพง่ึ ตนเองอย่างยง่ั ยนื 34
ประเดน็ การพัฒนาท่ี 4 การระดมภาคที ุกภาคส่วนรว่ มเสรมิ สร้างยะลาสันตสิ ุข ทีย่ ง่ั ยืน วตั ถปุ ระสงค์ : สงั คมมีความปรองดอง สมานฉันท์ หมบู่ ้าน ชมุ ชนมีสว่ นร่วมสรา้ งความปลอดภัยในชวี ติ และ ทรพั ย์สนิ ตามแนวทางประชารฐั อยา่ งย่งั ยนื เป้าหมายและตัวช้ีวดั ปี 2566 – 2570 ตวั ชวี้ ัด ขอ้ มูลคา่ ค่าเป้าหมาย 2565 ฐาน 2561 2562 2563 2564 1. ร้อยละของสถติ ิการก่อเหตุร้าย ปี 2560 ร้อยละ 11 รอ้ ยละ 12 รอ้ ยละ 13 รอ้ ยละ 14 รอ้ ยละ 15 ลดลงในปที ีผ่ า่ นมา ลดลง รอ้ ยละ 10 2. ร้อยละของหมบู่ ้าน ชุมชน ปี 2560 ร้อยละ 90 รอ้ ยละ 91 ร้อยละ 92 ร้อยละ 93 ร้อยละ 94 เขม้ แข็งทีม่ รี ะบบรกั ษาความ ร้อยละ 89 ปลอดภยั แนวทางการพัฒนา 1. ส่งเสริมประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน เสริมสร้าง ความ ปลอดภัยและมีความสงบมัน่ คงในพืน้ ท่ี 2. เพิ่มประสิทธิภาพในการปอ้ งกนั ปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรม 3. เสรมิ สรา้ งวิถชี วี ติ ของประชาชนในรปู แบบสงั คมพหุวฒั นธรรม 4. เสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐตามแนวทางประชารฐั 5. การเสรมิ สรา้ งพลังทางสังคมบนฐานทุนทางสงั คมและวัฒนธรรม 35
4. ยุทธศาสตร์การพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ในเขตจังหวัด การจดั ทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาลมีความสัมพันธ์กับยุทธศาสตร์การพัฒนาขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดยะลา โดยมุ่งเน้นพัฒนาด้านสานต่อแนวทางพระราชดำริ ด้านการศึกษา การเกษตร พัฒนาสงั คม ด้านการพฒั นาสาธารณสุข ด้านการพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐาน ด้านการพัฒนาการท่องเทย่ี ว ศาสนา- วัฒนธรรมประเพณีและกีฬา ด้านการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี ด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันมีรายละเอียดของยุทธศาสตร์การ พัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในเขตจังหวัดยะลา ดงั น้ี วสิ ัยทศั น์ “คุณภาพชวี ิตมั่นคง สงั คมย่ังยนื ประชาชนมสี ว่ นรว่ ม บนพ้นื ฐานความพอเพยี ง ยะลาสนั ติสุข” ประเดน็ ยุทธศาสตร์การพัฒนาขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ในเขตจังหวัดยะลา (พ.ศ.2566-2570) 1) ยทุ ธศาสตร์การสง่ เสริมดา้ นคุณภาพชวี ิต 1.1) ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับประเทศกลุ่ม อาเซยี น 1.2) พัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนทั้งในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัยให้ได้ มาตรฐานในทุกระดบั ชัน้ 1.3) ส่งเสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพของผบู้ ริหาร ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา 1.4) พฒั นาระบบเทคโนโลยที างการศกึ ษาและสอื่ นวัตกรรมทางการศึกษา 1.5) พฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาหลักของอาเซยี นแกบ่ ุคลากรทุกภาคส่วนประชาชน ผ้นู ำและ องค์กรชุมชน 1.6) สนับสนุนและส่งเสริมด้านการกีฬานันทนาการ สุขอนามัยตลอดจนการดำรงชีวิตของ ประชาชน 1.7) สง่ เสริมด้านสาธารณสุขมูลฐานใหค้ รอบคลมุ ทกุ ด้าน 1.8) วางแผนการจดั ระบบเพอื่ รองรับการเข้ามาของแรงงานและนักท่องเท่ียว 1.9) กำหนดมาตรการตรวจเย่ียมแหล่งเส่ือมโทรมที่มคี วามเสี่ยงด้านสขุ ภาพและยาเสพติดอย่าง จรงิ จงั 1.10) พฒั นาขดี ความสามารถของอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำหมู่บ้าน 1.11) พฒั นาเดก็ สตรี ผ้สู ูงอายุ ผพู้ กิ ารและผูด้ อ้ ยโอกาส 2) ยทุ ธศาสตร์การส่งเสรมิ โครงสร้างพืน้ ฐานและระบบคมนาคม 2.1) สนบั สนนุ งบประมาณก่อสร้างและปรับปรุงระบบคมนาคมใหไ้ ด้มาตรฐาน 2.2) สนับสนนุ ใหม้ ีการใช้พลังงานทางเลอื ก 2.3) สง่ เสริม สนับสนนุ จดั ใหม้ ีศนู ย์บริการแบบเบด็ เสรจ็ ของด่านศุลกากร 2.4) พัฒนาแหล่งนำ้ เพอ่ื การอุปโภคบรโิ ภค 36
3) ยทุ ธศาสตร์ดา้ นการส่งเสรมิ ดา้ นการท่องเท่ยี ว การค้าและการลงทนุ 3.1) พัฒนาการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเดิมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้เป็นระบบ และมีคณุ ภาพ 3.2) พัฒนาผปู้ ระกอบการ บุคลากรและประชาชนเพื่อสนบั สนุนการท่องเที่ยวทุกภาคส่วน ด้าน ภาษาและการให้บรกิ าร 3.3) จัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานสร้างระบบฐานการจัดเก็บภาษีและพัฒนา ข้อมูลขา่ วสาร ระบบสารสนเทศและการประชาสมั พนั ธ์แหล่งทอ่ งเที่ยว 3.4) พัฒนาและส่งเสริมแหล่งเงินทุนสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม 3.5) พัฒนาระบบจดทะเบียนการค้า สร้างความรู้ความเข้าใจทางด้านการค้าการลงทุนและ กฎระเบยี บพิธศี ุลกากร 3.6) ส่งเสริมการจดั ตงั้ ศนู ยจ์ ัดเก็บ สง่ และกระจายสนิ คา้ 3.7) จดั ทำผงั เมอื งรวมในการพฒั นาพื้นท่กี ารค้าและการลงทนุ 3.8) ปรับปรงุ ระบบโปรแกรมแผนทีภ่ าษแี ละทะเบียนทรพั ยส์ ิน 3.9) พฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานของผลติ ภัณฑ์ 4) ยทุ ธศาสตร์ดา้ นการส่งเสรมิ ดา้ นสิง่ แวดล้อม 4.1) จดั ระบบการจดั การขยะมลู ฝอยและเน้นการคดั แยกขยะในระดับครวั เรือน 4.2) วางระบบกำจัดนำ้ เสียรวมในเขตองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ 4.3) ออกข้อบญั ญัตแิ ละเทศบัญญัติดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมรวมถึงการดูแล รกั ษาทรัพยากรต้นน้ำและบังคบั ใชก้ ฎหมายอยา่ งเข้มงวด 4.4) สง่ เสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนดา้ นการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ของทอ้ งถน่ิ 5) ยุทธศาสตรด์ ้านการส่งเสริมดา้ นพหุวฒั นธรรมและอตั ลักษณ์ของท้องถิ่น 5.1) ส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์ด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ และอัตลักษณข์ อง 5.2) ส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันการศึกษาเป็นหน่วยงานหลักในการถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ ชุมชน อัตลักษณอ์ าเซยี นและเผยแพรว่ ฒั นธรรม จารีตประเพณีของประเทศเพ่ือนบา้ น 5.3) ส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มของประชาชนที่มีวิถชี ีวิตที่แสดงถึงอัตลกั ษณ์วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของทอ้ งถ่นิ 5.4) จัดให้มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหรือหอจดหมายเหตุ หอสมุดท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์ ประวัตศิ าสตร์และอตั ลักษณข์ องทอ้ งถน่ิ ในรปู แบบตา่ งๆ 37
5.5) สง่ เสริมการแลกเปล่ียนวัฒนธรรมและอตั ลกั ษณ์ระหว่างไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน ความเช่อื มโยงยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์การพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดยะลา มีความเชื่อมโยงกับ ยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนตา่ งๆ ดังน้ี 1. ยุทธศาสตร์การสง่ เสรมิ ด้านคุณภาพชีวติ ดำเนินการพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้มี คุณภาพ การพัฒนาการใช้ภาษา การส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีสุขภาพอนามัยท่ีสมบูรณ์ ตลอดจนส่งเสริม สนบั สนุนใหเ้ ดก็ สตรี ผสู้ ูงอายุ ผ้ดู อ้ ยโอกาส ผู้เสยี โอกาสและผพู้ กิ ารให้สามารถดำรงชีวิตอยา่ งมเี กียรติ ศักดศ์ิ รี ซ่ึง จะเช่อื มโยงกบั 1.) แผนพัฒนาจังหวัดยะลา ประเด็นการพัฒนาที่ 3 ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและ ศกั ยภาพของประชาชนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2.) แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประเด็นการพัฒนาที่ 4 ด้านเสริมสร้าง ความเข้มแขง็ ให้กบั ชุมชนบนพนื้ ฐานสังคมพหุวฒั นธรรม 3.) แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการเสริมสร้างความ เขม้ แขง้ ใหก้ ับชมุ ชน 4.) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการ เสรมิ สร้างพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ 5.) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนษุ ย์ 2. ยทุ ธศาสตรก์ ารส่งเสริมโครงสรา้ งพน้ื ฐานและระบบคมนาคม ดำเนินการกอ่ สร้าง/ปรับปรุง ระบบคมนาคมให้ได้มาตรฐาน การส่งเสริม สนับสนุนให้มีการใช้พลังงานทางเลือก การพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการ อุปโภค บริโภค โดยเชอื่ มโยงกบั 1.) แผนพัฒนาจังหวัดยะลา ประเด็นการพัฒนาที่ 1 ด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ของระบบการบริหารจัดการเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากภาคการเกษตรที่ แข่งขนั ได้ 2.) แผนพัฒนากลุม่ จังหวัดภาคใต้ชายแดน ประเด็นการพัฒนาที่ 2 ด้านส่งเสริมการคา้ การลงทุนในพ้ืนท่ีเศรษฐกิจทีส่ ำคญั 3.) แผนพัฒนาภาคใต้ชายแดน ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและ อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับภาคการผลิตและ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 พัฒนาเมืองสุไหง-โกลกและเมืองเบตง ใหเ้ ป็นเมอื งการค้าและเมือง ทอ่ งเที่ยวชายแดน 4.) แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2 การสร้างความ เข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเติบโตที่เป็น มิตรกบั สง่ิ แวดล้อมเพอื่ การพฒั นาท่ียั่งยืน 38
5.) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความสามารถในการแข่งขันและ ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างความเตบิ โตบนคุณภาพชวี ิตทีเ่ ปน็ มิตรกับสิง่ แวดล้อม 3. ยุทธศาสตร์การสง่ เสรมิ การทอ่ งเที่ยว การค้า การลงทนุ ดำเนนิ การพฒั นาแหลง่ ท่องเท่ยี ว ของจังหวัดยะลาให้มีคุณภาพ การพัฒนาและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมให้มีความเข้มแข็งและมี ประสทิ ธภิ าพ โดยมีความเชอ่ื มโยงกบั 1.) แผนพัฒนาจังหวัดยะลา ประเด็นการพัฒนาที่ 2 การเสริมสร้างความเข้มแข็งของ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ วัฒนธรรม การท่องเที่ยวชายแดน และ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างความเข้มแขง็ ของระบบการบรหิ ารจดั การการเกษตร และอุตสาหกรรมตอ่ เน่อื งภาคการเกษตรท่แี ข่งขันได้ 2.) แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประเด็นการพัฒนาที่ 3 การส่งเสริมและ พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ วัฒนธรรมและเมืองท่องเที่ยวชายแดน และ ประเดน็ การพฒั นาที่ 2 ส่งเสริมการคา้ การลงทุนในพ้นื ท่เี ศรษฐกิจทีส่ ำคัญ 3.) แผนพัฒนาภาคใตช้ ายแดน ยุทธศาสตร์ท่ี 2 พัฒนาเมอื งสไุ หง-โกลกและเมืองเบตง ใหเ้ ปน็ เมืองการค้าและเมอื งทอ่ งเทีย่ ว 4.) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 การสร้างความ เขม้ แขง็ ทางเศรษฐกิจและแขง่ ขนั ได้อย่างย่ังยืน 5.) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตรท์ ่ี 2 การสร้างความสามารถในการแขง่ ขนั 4. ยุทธศาสตรก์ ารสง่ เสริมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ดำเนนิ การจัดระบบการบริหารจดั การขยะ การ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีความเชอ่ื มโยงกบั 1.) แผนพัฒนาจังหวัดยะลา ประเด็นการพัฒนาที่ 3 การพัฒนาคุณภาพชีวิตและ ศกั ยภาพของประชาชนตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2.) แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประเด็นการพัฒนาที่ 2 ส่งเสริมการค้าการ ลงทนุ ในพ้นื ทีเ่ ศรษฐกิจทสี่ ำคญั 3.) แผนพัฒนาภาคใต้ชายแดน ตามยุทธศาสตร์ที่ 3 เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ ชมุ ชน 4.) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเติบโตที่ เป็นมิตรกบั ส่งิ แวดลอ้ มเพื่อการพฒั นาทยี่ ัง่ ยืน 5.) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็น มติ รกับสง่ิ แวดล้อม 5. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมด้านพหุวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ส่งเสริมด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและอัตลักษณ์ของ ประวัตศิ าสตร์ของทอ้ งถิน่ ให้นกั ทอ่ งเท่ยี วรู้จักและมาศึกษาดูงานโดยมีความเชื่อมโยงกบั 1.) แผนพัฒนาจังหวัดยะลา ประเด็นการพัฒนาที่ 4 การระดมภาคีทุกภาคส่วนร่วม เสริมสรา้ งยะลาสนั ตสิ ขุ ท่ีย่งั ยนื 39
2.) แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประเด็นการพัฒนาที่ 3 ส่งเสริมและ พฒั นาการทอ่ งเท่ยี วเชงิ ธรรมชาติ วฒั นธรรมและเมืองทอ่ งเทย่ี วชายแดน 3.) แผนพัฒนาภาคใตช้ ายแดน ยุทธศาสตรท์ ี่ 3 เสรมิ สร้างความเข้มแขง็ ให้ชมุ ชน 4.) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเสริมสร้าง และพฒั นาศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ 5.) ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3 การพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรพั ยากร มนุษย์ ยุทธศาสตร์ของเทศบาลเมอื งสะเตงนอก วิสยั ทศั น์ เทศบาลเมืองสะเตงนอก ได้กำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) เพื่อแสดงสถานการณ์ในอุดมคติ ซึ่งเป็น จุดมุ่งหมายความคาดหวังที่ต้องการให้เกิดขึน้ ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งจะสามารถสะท้อนถึงสภาพการณ์ของท้องถ่ิน ในอนาคตอย่างรอบด้าน ภายใตก้ ารเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดล้อมด้านต่างๆ จงึ ไดก้ ำหนดวสิ ยั ทัศน์ คาดหวังท่ี จะให้เกิดข้นึ ในอนาคต ดงั นี้ วสิ ยั ทัศน์ สะเตงนอกก้าวหนา้ การศึกษาเดน่ เป็นเมืองนา่ อยู่ สูส่ งั คมสันตสิ ขุ พันธกจิ 1. พฒั นาระบบโครงสร้างพืน้ ฐานและระบบสาธารณูปโภคให้ได้มาตรฐานและเพียงพอต่อความต้องการ ของประชาชน เพื่อรองรบั ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 2. เสริมสร้างสงั คมแห่งการเรียนรู้ คู่คณุ ธรรม รักษาขนบธรรมเนยี มประเพณีวฒั นธรรมอนั ดีงามและ คงไว้ซ่ึงเอกลักษณ์ของท้องถน่ิ 3. ส่งเสรมิ อาชีพ ให้ความรู้เก่ยี วกับอาชีพแก่ประชาชนให้สามารถประกอบอาชพี เพ่ือสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเองและครอบครัวได้ 4. พัฒนาคณุ ภาพด้านการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษาสงั กัดเทศบาลเมืองสะเตงนอก ให้ได้มาตรฐาน อยา่ งทั่วถึง ส่งเสริมบคุ ลากรทางการศึกษาและนักเรยี นใหม้ ีความรคู้ ู่คุณธรรม 5. ส่งเสริมคุณภาพชีวติ พัฒนาสังคม สร้างความเขม้ แข็งของชุมชน รักษาความสงบเรยี บร้อยภายใน เทศบาลเมืองสะเตงนอก 6. พัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สรา้ งการมีส่วนรว่ มของประชาชนในการบริหาร จัดการท้องถิ่น ปลกู ฝงั คุณธรรมจรยิ ธรรมใหค้ วามรู้เกีย่ วกับกฎหมายแก่ประชาชน 40
7. พัฒนาศักยภาพด้านสาธารณะสุข มกี ารป้องกนั รักษา ฟืน้ ฟู สง่ เสริมสุขภาพประชาชนให้มีสขุ ภาพ กายและสุขภาพใจท่ีดี 8. อนรุ ักษ์และฟืน้ ฟูทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม สรา้ งจติ สำนึก ความตระหนักและการมสี ว่ น ร่วมของประชาชนในการจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มอย่างประหยัดและคุ้มค่า เพ่ิม พื้นทีส่ ีเขยี วในเขตเมือง บรหิ ารจัดการดา้ นส่ิงแวดล้อมใหส้ อดคล้องกบั การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยง่ั ยนื 9. พัฒนาระบบบริหารจัดการของเทศบาลเมืองสะเตงนอกให้มีประสทิ ธภิ าพ ภายใต้หลักธรรมาภบิ าล (Good Governance) โดยยึดประชาชนเป็นศนู ย์กลาง 2.2 ยทุ ธศาสตร์ 1. ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาด้านการศกึ ษา 2. ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาดา้ นสาธารณสุข 3. ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาด้านโครงสร้างพน้ื ฐานและการพัฒนาเมืองอยา่ งมีคุณภาพ 4. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาดา้ นสงั คม คณุ ภาพชวี ิตและสวัสดกิ าร 5. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาดา้ นเสรมิ สร้างความเข้มแข็งของชมุ ชนและแก้ไขปญั หาความยากจน 6. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาดา้ นศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 7. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาดา้ นการกีฬาและนนั ทนาการ 8. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาดา้ นการบริหารจดั การ 9. ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม เป้าประสงค์ 1) เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการก่อสร้าง ปรับปรุงและขยาย โครงข่าย สาธารณูปโภค สาธารณูปการ ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เช่น ถนน รางระบายน้ำ ทางเท้า ไฟฟ้า และอน่ื ๆ 2) เพื่อพฒั นาและส่งเสริมดา้ นการศกึ ษาและเสริมสรา้ งสวสั ดกิ ารใหแ้ ก่ประชาชน 3) เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและปรับปรุงภูมิ ทัศนแ์ หลง่ ท่องเทยี่ วและสถานที่ออกกำลงั กาย 4) เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี ทั้งประจำชาติและท้องถ่ิน รวมทง้ั ส่งเสริมการศกึ ษาการกีฬา การสนับสนนุ และทำนุบำรงุ ศาสนาทกุ ศาสนาในพนื้ ท่ี 5) เพื่อการพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้และสถานที่ปฏิบัติงานให้เพียงพอกับความจำเป็นในการ ปฏบิ ตั งิ านและการบรกิ ารประชาชน 6) เพื่อส่งเสรมิ อาชีพและเพิ่มรายไดใ้ ห้แกป่ ระชาชน 7) เพ่ือพฒั นาดา้ นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีประสทิ ธิภาพมากยิ่งขน้ึ 8) เพอื่ ใหป้ ระชาชนมีส่วนรว่ มทางการเมืองทอ้ งถ่ินในระบบประชาธิปไตย การได้รบั บรกิ ารด้านโครงสรา้ งพืน้ ฐานใหม้ ีความสะดวกและรวดเรว็ 41
ตัวชี้วดั 1) ประชาชนในเขตเทศบาลมแี หลง่ นำ้ ในการอุปโภคเพ่มิ มากข้ึนร้อยละ 5 2) ในเขตเทศบาลมโี ครงสร้างพืน้ ฐานใหป้ ระชาชนไดใ้ ชบ้ ริการร้อยละ 80 3) ประชาชนมคี วามรู้มากขนึ้ ร้อยละ 90 และศิลปวฒั นธรรมอันดียงั คงอยู่ 4) ประชาชนในเขตเทศบาลร้อยละ 80 มีความรู้และมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยว ศาสนา – วฒั นธรรมประเพณีและกีฬา 5) ประชาชนมคี ณุ ภาพชวี ติ ที่ดขี ้ึนรอ้ ยละ 10 6) ชุมชนมีรายไดเ้ พิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 5 และพ่ึงตนเองไดม้ ากข้นึ 7) ชุมชนในเขตเทศบาลร้อยละ 60 อยูอ่ ย่างสงบสุข 8) การบรกิ ารจดั การของเทศบาลมีผลการปฏบิ ตั งิ านที่มีประสิทธภิ าพสงู ร้อยละ 60 9) การบริการจดั การของเทศบาลมีผลการปฏบิ ัติงานท่ีมีประสิทธภิ าพสงู ร้อยละ 60 ค่าเปา้ หมาย 1) ด้านการได้รับบริการด้านโครงสร้างพืน้ ฐานให้มีความสะดวกและรวดเร็ว - คา่ เปา้ หมาย จำนวน โครงการ 2) ประชาชนมคี วามรู้และบำรงุ รักษาศิลปวฒั นธรรมอนั ดีงาม - ค่าเป้าหมาย จำนวน โครงการ 3) ประชาชนมีศักยภาพมีรายได้เพยี งพอสามารถพงึ่ ตนเองได้ - ค่าเปา้ หมาย จำนวน โครงการ 4) มลภาวะและส่งิ แวดล้อมไม่เป็นพิษทำใหช้ มุ ชนน่าอยู่อย่างสงบสุข - ค่าเปา้ หมาย จำนวน โครงการ 5) การบรหิ ารจัดการภาครฐั ทด่ี ีและมีส่วนรว่ มจากทกุ ภาคส่วน - ค่าเป้าหมาย จำนวน โครงการ กลยุทธ์ 1) พัฒนาขุดลอก คูคลองและจัดสร้างแหล่งน้ำ สงวนและเก็บกักน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อการ อปุ โภคและบริโภค รวมทัง้ วางโครงการเพอ่ื แก้ไขปญั หานำ้ ทว่ มและน้ำแลง้ 2) สง่ เสริมและพฒั นาระบบการศึกษา ให้เปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษา 3) พัฒนาและเตรียมบุคลากรด้านการศึกษา ครู นักเรียน ให้เป็นผู้มีคุณภาพมีทักษะและ ศกั ยภาพตามมาตรฐานสากล รองรับประชาคมอาเซยี น 4) พัฒนา ปรับปรงุ พนั ธุ์พืชและเมล็ดพันธุ์พืชที่ดีมีคุณภาพ ส่งเสรมิ ให้เกิดเกษตรอุตสาหกรรม เกิดพันธพุ์ ืชใหมๆ่ ทม่ี คี ณุ ภาพสูงขึ้น โดยขอความรว่ มมอื และใหค้ วามรว่ มมอื กับหน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชน 42
5) ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ปรับปรุงผลิตผลให้มีคุณภาพ มี มาตรฐานสากลโดยการร่วมมอื และให้ความร่วมมือกับหนว่ ยงานทง้ั ภาครัฐและเอกชน 6) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การถนอมและแปรรูปสนิ ค้าทางการเกษตร และเพ่มิ ช่องทางตลาด 7) ส่งเสริมประชาชนในท้องถิ่นให้มีการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ เพื่อการบริโภคเพื่อจำหน่วยและ เพอ่ื การอนุรกั ษ์ 8) สง่ เสริมและพัฒนาบทบาทของผู้นำชมุ ชน คณะกรรมการหมบู่ ้านและชมุ ชนให้เข้มแขง็ 9) ส่งเสริมความเข้มแข็งของชมุ ชน 10) สง่ เสริม พัฒนาบทบาทและคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน สตรี ผ้สู ูงอายุ ผู้พิการ ผูด้ อ้ ยโอกาส ประชาชน และคุ้มครองสิทธเิ สรภี าพของประชาชน 11) สง่ เสรมิ พฒั นาคณุ ภาพและศกั ยภาพตามความสามารถของแรงงานในท้องถิ่น 12) ปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาการเสพ การผลติ และการจำหนา่ ยยาเสพติดในทุกระดับ 13) ดำเนินการโครงการ เพื่อให้บริการประชาชน และรับทราบปัญหา อุปสรรค และความ ตอ้ งการของประชาชนในพืน้ ที่ 14) พัฒนาศกั ยภาพของอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำหมูบ่ า้ น (อสม) 15) ส่งเสรมิ สุขภาพและอนามัยของประชาชนในทุกระดับ ใหม้ สี ขุ ภาพแข็งแรง โดยให้การเรียนรู้ การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย การป้องกันโรค การใช้ยาอย่างถูกต้อง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการเขา้ รบั การตรวจสขุ ภาพหรือการรับบรกิ ารด้านสาธารณสขุ ตามข้นั ตอนและวธิ กี ารทางการแพทย์ 16) ส่งเสริมสนับสนุนการวางระบบการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกับความ จำเปน็ และความต้องการของประชาชน 17) กอ่ สรา้ ง ปรบั ปรงุ เสน้ ทางการคมนาคมอยา่ งทวั่ ถงึ 18) พฒั นาฟืน้ ฟแู ละสง่ เสรมิ กิจกรรมดา้ นศาสนา ศิลปวฒั นธรรมและประเพณขี องชุมชนท้องถิ่น โดยการอนุรักษส์ บื สานตอ่ และเชอ่ื มโยงสู่กจิ กรรมการท่องเท่ยี ว 19) ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน ให้รองรับการปฏิบัติภารกิจหน้าที่ ตามที่กฎหมาย กำหนดอยา่ งมีประสิทธิภาพ 20) นำระบบสารสนเทศมาใช้ในการบรหิ ารงานภายในองค์กร 21) สนับสนุนบุคลากรในสังกัด ให้ได้รับการศึกษา อบรม การทำวิจัย เพิ่มพูนความรู้ เพ่ือ ยกระดับประสิทธิภาพ การทำงานให้เกิดประสิทธิผลในการบริการประชาชน และในการสื่อสารและร่วมมือกับ ประชาคมอาเซียน 22) บูรณาการการจดั ทำแผนพัฒนาท้องถ่ิน รว่ มกนั ระหว่างหนว่ ยงานภาครัฐ และเอกชนองค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เพ่ือพัฒนาทอ้ งถนิ่ สรา้ งประโยชน์สูงสดุ แก่ประชาชนในจังหวัดยะลา 23) เพมิ่ ประสิทธิภาพในการปฏิบตั ริ าชการ 24) ส่งเสริม สนับสนุนและร่วมมือกับส่วนราชการ หน่วยงาน มูลนิธิการกุศลและองค์กรท่ี เก่ยี วข้องในการเตรียมความพร้อมในการป้องกนั ภยั และการชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัย 43
25) ส่งเสริมและสนับสนุนการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในเขตชุมชนและสถานที่สำคัญ โดย สร้างความอบอุ่นใจ และความปลอดภยั ในชวี ิตและทรพั ยส์ ินของประชาชน 26) สนับสนุนการฝึกอบรมจัดตั้งและอบรมฟื้นฟูตำรวจบ้านและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพล เรอื น (อปพร.) และดแู ลรักษาความปลอดภยั และการจราจร 27) พัฒนาฟื้นฟแู ละอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แหล่งน้ำ ลุ่มน้ำลำคลองและปา่ ไม้ใหม้ คี วาม อดุ มสมบูรณ์ 28) รณรงค์สร้างจิตสำนึกเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษและปัญหาสิ่งแวดล้อมของชุมชน ท้องถิน่ ทุกระดับ 29) จดั ทำระบบกำจัดขยะรวม และจัดการขยะมลู ฝอยและส่งิ ปฏิกลู จดุ ยนื ทางยุทธศาสตร์ 1) การพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่มีความเข้มแขง็ โดยได้รับบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานท่ี จำเปน็ เพือ่ รองรับการขยายตวั ของชุมชนและเศรษฐกิจ 2) การพัฒนาระบบการศึกษาและสง่ เสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรมท้องถ่ิน 3) ส่งเสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพคนและความเข้มแข็งของชมุ ชนในการพ่ึงตนเอง 4) การกำจัดขยะมูลฝอย ส่ิงปฏกิ ูลและมลภาวะสง่ิ แวดล้อมที่มีอย่างยงั่ ยืน 5) การพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การภาครฐั ท่ีดแี ละมีส่วนรว่ มจากทุกภาคสว่ น แผนงาน 1) งบกลาง 2) แผนงานบริหารงานทวั่ ไป 3) แผนงานวางแผนสถิติและวชิ าการ 4) แผนงานบรหิ ารงานคลัง 5) แผนงานปอ้ งกันฝ่ายพลเรอื นและระงบั อัคคีภยั 6) แผนงานบริหารงานทว่ั ไปเกีย่ วกบั การศกึ ษา 7) แผนงานระดบั ก่อนวยั เรยี นและประถมศกึ ษา 8) แผนงานการศกึ ษาไมก่ ำหนดระดบั 9) แผนงานบรหิ ารทวั่ ไปเกยี่ วกับสาธารณสขุ 10) แผนงานบริการสาธารณสขุ และสาธารณสุขอ่นื 11) แผนงานศนู ย์บรกิ ารสาธารณสขุ 12) แผนงานบรหิ ารท่ัวไปเกย่ี วกบั สังคมสงเคราะห์ 13) แผนงานสวัสดกิ ารและสังคมสงเคราะห์ 14) แผนงานบรหิ ารทวั่ ไปเกี่ยวกบั เคหะและชุมชน 15) แผนงานไฟฟ้าและประปา 44
16) แผนงานกำจดั ขยะมูลฝอยและสงิ่ ปฏิกูล 17) แผนงานส่งเสริมและสนับสนนุ ความเข้มแข็งของชุมชน 18) แผนงานกีฬาและนนั ทนาการ 19) แผนงานศาสนาและวฒั นธรรมท้องถิ่น 20) แผนงานสง่ เสรมิ การเกษตร 21) แผนงานสิง่ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 22) แผนงานตลาดสด ความเชอื่ มโยงของยุทธศาสตรใ์ นภาพรวม ในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2566 – 2570) ของเทศบาลเมืองสะเตงนอก มีความ สอดคลอ้ งกับ ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นจังหวัด ยุทธศาสตรจ์ ังหวดั ยทุ ธศาสตร์การ พัฒนากลุ่มจังหวัด ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และ ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี ดงั นี้ ยุทธศาสตร์การพัฒนาของเทศบาล เป้าประสงค์ ตัวชว้ี ัด ค่าเปา้ หมาย จุดยืนทางยุทธศาสตร์ 45
3. การวเิ คราะห์เพือ่ พฒั นาท้องถิน่ 3.1 การวิเคราะห์กรอบการจัดทำยทุ ธศาสตร์ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาลเมืองสะเตงนอกได้ใช้การวิเคราะห์ SWOT Analysis/Demand (Demand Analysis)/Global Demand และTrend ปัจจัยและสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง ที่มีผลต่อการพัฒนา อย่างน้อยต้องประกอบด้วย การวิเคราะห์ศักยภาพด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้าน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ซง่ึ มรี ายละเอียดดงั นี้ 1) จุดแข็ง (S : Strength) 1. เป็นเทศบาลท่ีมีความพรอ้ มทางดา้ นบริการโครงสร้างพน้ื ฐานและมขี ีดความสามารถในการ ใหบ้ ริการสาธารณะแกป่ ระชาชน 2. พน้ื ทใี่ นเขตเทศบาลเมอื งสะเตงนอกเปน็ ทต่ี งั้ ของธุรกิจการคา้ การให้บรกิ าร 3. มวี ัฒนธรรมทีเ่ ป็นอตั ลักษณข์ องท้องถน่ิ โดยเฉพาะมีความเครง่ ครัดในศาสนาและหลกั การ ปฏบิ ตั ิ 4. ประชาชน ชมุ ชน องคก์ รภาครฐั และเอกชนใหก้ ารสนับสนนุ ส่งเสริม ตรวจสอบ ตดิ ตามการ ดำเนินงานของเทศบาลเมอื งสะเตงนอก 5. เทศบาลเมอื งสะเตงนอกเป็นภมู ินิเวศน์ท่เี หมาะสมทจ่ี ะเป็นท้องถนิ่ น่าอยแู่ ละนา่ อาศัย 6. เทศบาลเมอื งสะเตงนอกเป็นทร่ี จู้ ักของคนทัว่ ไป 7. ประชาชนใหค้ วามร่วมมือและมีส่วนรว่ มในการพัฒนาท้องถ่นิ 8. มเี ส้นทางการคมนาคมขนสง่ ทส่ี ะดวก 9. มมี สั ยิดศูนยด์ ะวะห์มัรกสั ยะลาซง่ึ เป็นศาสนสถานทใ่ี หญ่ทีส่ ดุ ในประเทศไทย 10. เปน็ ท้องถิน่ ท่รี องรับการขยายตวั ของเมือง 2) จุดอ่อน (weakness) 1. เยาวชนในพื้นทีไ่ มไ่ ดร้ ับการศกึ ษาอย่างเหมาะสม 2. ประชาชนยงั ขาดความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับการประกอบอาชพี 3. ประชาชนวา่ งงาน 4. ปัญหาการแพรร่ ะบาดของยาเสพตดิ ในกลมุ่ วัยรุ่น 5. เหตุการณค์ วามไมส่ งบในพน้ื ท่ีเกดิ ขน้ึ อยู่เสมอ 6. ประชาชนขาดความกระตอื รือร้นในการช่วยเหลอื ตนเอง 7. คณุ ภาพชีวิตของคนในชมุ ชนอย่ใู นเกณฑ์ทต่ี ่ำกวา่ มาตรฐาน 8. ระบบสาธารณปู โภคยงั ไม่ท่วั ถึง 9. ประชาชนใหข้ อ้ มลู แก่ภาครัฐทไ่ี มต่ รงกบั ความจริง 10. ปญั หาการคมนาคมขนส่งทจี่ ะรองรับการเดนิ ทางของประชาชนระหว่างหมบู่ ้าน 11. ปญั หาการทำนา เนอ่ื งจากขาดระบบชลประทานท่ดี ี ทำให้ขาดนำ้ จนไม่สามารถทำนาได้ 46
12. ปญั หาการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติและการทำลายสง่ิ แวดล้อมในเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอกท่ี เพิ่มมากข้ึน สง่ ผลใหป้ ริมาณขยะ ปัญหาน้ำเสีย และปญั หามลพษิ ทางอากาศมปี รมิ าณเพม่ิ มากขน้ึ อันจะเป็นสาเหตุ การทำลายภาพพจน์ของท้องถน่ิ และส่งผลต่อสขุ ภาพของประชาชนในท้องถิน่ 13. ขาดการบรู ณาการความร่วมมืออย่างจรงิ จังในการแกไ้ ขปัญหาต่างๆ ระหวา่ งหนว่ ยงานภาครฐั 14. เทศบาลเมอื งสะเตงนอกขาดการจดั ระเบยี บของท้องถ่นิ และขาดการบังคับใช้อย่างเคร่งครดั 15. งบประมาณไมเ่ พียงพอในการพฒั นาในแตล่ ะปี 3) โอกาส (Opportunity) 1. พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 กำหนดให้เทศบาลดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตของ ตน ในการพฒั นาด้านเศรษฐกิจทอ้ งถน่ิ ระบบสาธารณูปโภค และสาธารณปู การ เปน็ ตน้ 2. พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ.2542 กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบบริการ สาธารณะเพือ่ ประโยชน์ของประชาชนในทอ้ งถ่ิน 3. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 สนับสนุนในการพัฒนาดา้ นความเป็นอยู่ของ ประชาชน การสร้างความมัน่ คงทางเศรษฐกจิ เป็นต้น 4. รัฐบาลสนับสนุนให้แต่ละท้องถิ่นมีบทบาทในการอนุรักษ์ฟื้นฟูเผยแพร่และถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณี และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ มากขน้ึ 5. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 สนับสนุนให้มีการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับ ความตอ้ งการของประชาชนในท้องถน่ิ อย่างเท่าเทยี มกนั และท่วั ถงึ 6. ภาครัฐมีโครงการพฒั นาตา่ งๆ เปน็ จำนวนมากเพื่อแก้ปัญหาความยากจน 7. รัฐบาลใหก้ ารสนับสนุนในเรอื่ งการศึกษาต้งั แตร่ ะดบั ก่อนวยั เรยี นจนถงึ ปริญญาตรี 4) อปุ สรรค (Threat) 1. สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจในระดับประเทศในระดับภมู ภิ าคสง่ ผลต่อการพัฒนาท้องถน่ิ 2. การขยายตัวของชุมชนและการเพม่ิ ขึ้นของจำนวนประชากรภายในเขตเทศบาลส่งผลให้ประชาชน มีระดับความต้องการในการบริการสาธารณะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่าง ไม่ทว่ั ถงึ 3. ความทันสมัยและกระแสวฒั นธรรมต่างชาตทิ ำให้ประชาชนในท้องถิ่นลืมรากฐานทางวัฒนธรรม ที่ มีอยู่ และหันไปนยิ มวัฒนธรรมการบรโิ ภคมากขนึ้ 4. ความยากจนจึงทำใหเ้ ด็กไมไ่ ดร้ บั การศกึ ษา 5. ประชาชนมหี น้สี นิ เกอื บทกุ ครัวเรอื น 6. ค่าตอบแทนในพืน้ ทีต่ ่ำจึงส่งผลให้คนในพืน้ ที่ ออกทำงานนอกพื้นท่ี โดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย 7. ปัญหาการลกั เล็กขโมยนอ้ ยในชุมชน 8. ปัญหาการขาดความปลอดภัยในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ เนอ่ื งจากมคี วามไมส่ งบในพ้นื ที่ 47
Search