Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2901-1002 การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์

2901-1002 การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์

Description: 2901-1002 การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรูมุงเนนสมรรถนะ ชื่อวชิ า ระบบปฏบิ ัตกิ ารและโปรแกรมอรรถประโยชน์ รหัสวชิ า 20901-1001 ทฤษฎี 2 ปฏิบัติ 2 หนวยกติ 3 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี  หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพช้นั สงู ประเภทวชิ า..............เทคโนโลยีสารสนเทศ................สาขาวชิ า..................เทคโนโลยีสารสนเทศ.................... สาขางาน....................เทคโนโลยสี ารสนเทศ........................... จดั ทําโดย นายอนุสทิ ธ์ิ อารักษศ์ กั ด์ิ วิทยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดิน สาํ นักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

แบบคาํ ขออนุมตั ิใช้แผนการจดั การเรียนรู้ มงุ่ เน้นสมรรถนะอาชพี และบรณู าการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ของผู้สําเร็จการศึกษา รายวิชา ระบบปฏบิ ัตกิ ารและโปรแกรมอรรถประโยชน์ รหัสวิชา 20901-1001 ลงช่ือ..................................................... (นายอนสุ ทิ ธิ์ อารักษศ์ ักด์ิ) ตาแหนง่ ครพู ิเศษสอน ผจู้ ัดทา ความเห็นหัวหนา้ แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ ความเหน็ หวั หนา้ งานพัฒนาหลักสตู รฯ ลงชือ่ ............................................... ลงช่ือ............................................... (นางสกุ ัญญา ดนัยสวสั ด์ิ) (นายคมุ ดวง พรมอนิ ทร์) หวั หนา้ แผนกวชิ าคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ หัวหนา้ งานพัฒนาหลักสตู รการเรยี นการสอน ความเห็นรองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ ลงช่อื ……………………………………... (นายทินกร พรหมอนิ ทร)์ รองผอู้ านวยการฝา่ ยวิชาการ □ อนมุ ัติ □ ไม่อนุมตั ิ ลงช่ือ............................................ (นางวรรณภา พว่ งกลุ ) ผอู้ านวยการวทิ ยาลัยเทคนคิ สวา่ งแดนดิน

ชื่อรายวิชา แผนจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการ การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ รหัสวชิ า 2901-1002 หมวดวิชาชพี วิชาชพี สาขางาน สาขางาน ประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) จาํ นวน 2 หนว่ ยกิต จาํ นวนช่วั โมง รวม 51 ชวั่ โมง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จดุ ประสงค์รายวชิ า เพือ่ ให้ 1. มีความรูค้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับหลกั การทางานของโปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. มีทักษะในการติดต้งั โปรแกรมอรรถประโยชน์ 3. มีทักษะในการใชง้ านโปรแกรมอรรถประโยชน์ 4. มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทด่ี ีในการใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้และหลักการเก่ยี วกบั โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ตติ ตง้ั ใชง้ านโปรแกรมอรรถประโยชน์ คําอธิบายรายวิชา ศกึ ษาและปฏิบตั ิการใช้งานโปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) การเลือกใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ การตดิ ตงั้ และใชง้ านโปรแกรมอรรถประโยชน์ คลาวดค์ อมพิวตงิ (Cloud Computing) และการใช้งาน

สารบญั หนา้ เรื่อง ตารางวิเคราะห์คาอธบิ ายรายวิชา ตารางวิเคราะห์การประเมินผลตามสภาพจรงิ แผนจัดการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ แผนจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เฉลยแบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 1 แผนจดั การเรียนรู้ เร่อื ง โปรแกรมอรรถประโยชนแ์ ละการเลอื กใช้ เฉลยแบบฝกึ หัด หน่วยท่ี2 แผนจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง จดั การไฟล์ด้วย Windows Explorer เฉลยแบบฝกึ หดั บทท่ี 3 แผนจดั การเรยี นรู้ เร่ือง ยูทลิ ิต้ีสาหรับดแู ลรกั ษาคอมพวิ เตอร์ เฉลยแบบฝึกหดั บทที่ 4 แผนจดั การเรียนรู้ เร่ือง แกไ้ ขการทางานของ Windows ด้วยยทู ลิ ติ ้ี เฉลยแบบฝึกหัด หน่วยท่ี 5 แผนจัดการเรียนรู้ เร่อื ง ยูทลิ ิตี้สาหรับแก้ปญั หาคอมพิวเตอร์ เฉลยแบบฝกึ หดั บทที่ 6 แผนจดั การเรยี นรู้ เรื่อง ยูทลิ ิตี้สาหรบั สารองและเรยี กคนื ข้อมลู เฉลยแบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 7 แผนจดั การเรยี นรู้ เร่ือง ยูทลิ ิตสี้ าหรบั การกขู้ ้อมลู เฉลยแบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 8 แผนจดั การเรียนรู้ เรื่อง รูจ้ กั กบั Cloud Computing เฉลยแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 9 แผนจดั การเรียนรู้ เร่อื ง เกบ็ ไฟล์ออนไลน์แบบ Cloud Storage เฉลยแบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 10

ตารางวเิ คราะหค์ ําอธบิ ายรายวิชา ชอ่ื วิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ รหสั วชิ า 2901-1002 จํานวน 2 หน่วยกิต ระยะเวลาเรียน 17 สปั ดาห์ จํานวน 3 ชั่วโมง / สัปดาห์ รวมจาํ นวน 51 ชั่วโมง ลําดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ พฤตกิ รรมทค่ี าดหวงั ต่อการเรยี นการสอน 1 ครั้ง ที่ ความรู้ ทักษะ จติ พิสยั รวม(ชม.) 1 โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 42 1 3 2 โปรแกรมอรรถประโยชน์และการเลือกใช้ 4 2 1 3 3 จัดการไฟลด์ ้วย Windows Explorer 4 2 1 3 4 ยูทลิ ติ ส้ี าหรบั ดแู ลรกั ษาคอมพวิ เตอร์ 42 1 6 5 แก้ไขการทางานของ Windows ดว้ ยยูทลิ ติ ี้ 2 4 1 6 6 ยูทลิ ติ ี้สาหรบั แกป้ ัญหาคอมพิวเตอร์ 24 1 6 7 ยูทลิ ิตี้สาหรับสารองและเรียกคืนขอ้ มลู 24 1 6 8 ยูทลิ ิตีส้ าหรบั การกู้ข้อมูล 6 9 รู้จักกบั Cloud Computing 3 10 เกบ็ ไฟล์ออนไลนแ์ บบ Cloud Storage 2 4 1 9 การประเมินผลการเรียน รวม 51

ตารางวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ หน่วยที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เครือ่ งมอื วัดผล คะแนน หมายเหตุ 1. แบบประเมนิ จดุ ประสงค์การ 2. เรยี นรทู้ ่ีไมผ่ า่ น 3. แบบประเมนิ ครผู สู้ อน 4. แบบประเมิน มอบหมายงาน 5. แบบประเมนิ เพ่ิมเติมเพ่ือ 6. แบบประเมิน เปน็ การพฒั นา 7. แบบประเมิน ความรู้และ 8. แบบประเมิน ทบทวน 9. แบบประเมิน บทเรียนของ แบบประเมิน ผเู้ รยี น หาก 10. พบว่ายงั ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ จดุ ประสงค์การ 11. เรียนร้อู กี จัด แบบประเมนิ สอนซ่อมเสริม 12. ให้ แบบประเมิน

คู่มอื ครู และ Course Syllabus 1. รหัสวิชา 2901-1002 ช่อื วิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ ระดบั ช้นั ปวช. 2. ผู้สอน ………………………………………………………………………………………… 3. จดุ ประสงคร์ ายวิชา เพอื่ ให้ 1. มีความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกับหลกั การทางานของโปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. มที กั ษะในการติดตัง้ โปรแกรมอรรถประโยชน์ 3. มที ักษะในการใชง้ านโปรแกรมอรรถประโยชน์ 4. มคี ุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมท่ีดีในการใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 4. สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรแู้ ละหลกั การเกย่ี วกับโปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ติตต้งั ใช้งานโปรแกรมอรรถประโยชน์ 5. คําอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏบิ ตั ิการใช้งานโปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) การเลอื กใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ การตดิ ตั้งและใช้งานโปรแกรมอรรถประโยชน์ คลาวด์คอมพวิ ติง (Cloud Computing) และการใชง้ าน 6. แผนจัดการเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้/เน้อื หา กิจกรรม 1 บทที่ 1 โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 1. เข้าใจการทางานของ ระบบปฏบิ ัติการ - ทดสอบความรู้พนื้ ฐานของนักศกึ ษาโดย 2 2. วธิ ีจดั การโปรแกรมของ ระบบปฏิบตั กิ ารได้ การต้งั คาถามก่อนเรียน 3. กลุ่มโปรแกรมทีค่ วรมีประจา เครื่องได้ - บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอย่าง แสดงวิธกี าร 3 ปฏิบัติในแต่ ละหัวข้อการเรยี นและให้ บทที่ 2 โปรแกรมอรรถประโยชน์และการเลอื กใช้ นักศึกษาปฏบิ ัติไปพร้อมกัน 1. บอกโปรแกรมอรรถประโยชน์ท่สี าคญั ๆ ได้ - สรุปบทเรยี น 2. บอกแนวทางในการเลือกใชโ้ ปรแกรม - แบบฝกึ หดั /ทดสอบ อรรถประโยชนไ์ ด้ - ทดสอบความรู้พื้นฐาน บทที่ 3 จัดการไฟล์ด้วย Windows Explorer - บรรยาย - อธบิ าย ยกตัวอยา่ ง - แสดงวิธีการปฏบิ ตั ิในแต่ ละหัวข้อการ เรยี นและให้นักศึกษาปฏบิ ัติไปพร้อมกนั สรุปบทเรยี น - แบบฝักหัด / ทดสอบ - ใหน้ กั ศกึ ษาค้นควา้ หน่วยการเรยี น - บรรยาย

1. เข้าใจระบบไฟล์และโฟลเดอร์ใน Windows - อธบิ าย ยกตัวอย่าง 7 - แสดงวิธีการปฏบิ ตั ิในแต่ ละหัวข้อการ 2. คน้ หาไฟล์หรือโฟลเดอรท์ ีต่ ้องการได้ เรียนและให้นักศึกษาปฏิบัตไิ ปพร้อมกนั 3. สรา้ งชอร์ทคทั ได้ สรุปบทเรียน 4. จดั การไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ทต่ี ้องการได้ - แบบฝึกหัด / ทดสอบ 5. กไู้ ฟลท์ ่ลี บจาก Recycle Bin ได้ 6. บีบอดั ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ได้ 4-5 บทที่ 4 ยูทลิ ติ ี้สาหรบั ดูแลรักษาคอมพวิ เตอร์ - ให้นกั ศกึ ษาคน้ คว้าหน่วยการเรยี น 1. บารุง ดแู ลรกั ษาเครอื่ งคอมพิวเตอรใ์ หอ้ ยู่ใน - บรรยาย สภาพพร้อมใช้งานได้ - อธบิ าย ยกตวั อย่าง 2. ใชโ้ ปรแกรม Disk Defragmenter เพื่อจัด - แสดงวธิ ีการปฏิบัติในแต่ ละหวั ขอ้ การ ระเบียบข้อมูลในฮารด์ ดสิ ก์ได้ เรียนและใหน้ ักศึกษาปฏบิ ัตไิ ปพร้อมกัน 3. ใช้โปรแกรม Disk Cleanup เพื่อตรวจสอบ สรุปบทเรียน และลบไฟลท์ ไ่ี มไ่ ด้ใช้งานได้ - แบบฝกึ หดั / ทดสอบ 4. ใช้โปรแกรม Task Scheduler เพ่ือ กาหนดเวลาในการเรยี กใช้งานโปรแกรมรกั ษาระบบ ได้ 5. ใช้ Power Options ในการจัดการพลังงาน ได้ 6-7 บทที่ 5 แก้ไขการทางานของ Windows ด้วยยทู ิลิต้ี - ใหน้ ักศกึ ษาค้นคว้าหน่วยการเรียน 1. แก้ปัญหาเครือ่ งค้างไม่ตอบสนอง - บรรยาย 2. การเขา้ สู่ Safe Mode - อธบิ าย ยกตวั อยา่ ง 3. การยอ้ นกลับไปใช้ไดรเวอร์ตัวเกา่ - แสดงวธิ กี ารปฏบิ ัติในแต่ ละหัวข้อการ 4. จัดการพาร์ติช่นั เรยี นและใหน้ ักศึกษาปฏิบัตไิ ปพร้อมกัน สรปุ บทเรยี น - แบบฝกึ หัด / ทดสอบ 8-9 บทท่ี 6 ยูทิลิตส้ี าหรับแก้ปัญหาคอมพวิ เตอร์ - ใหน้ ักศึกษาค้นคว้าหนว่ ยการเรยี น 1. รูจ้ กั และสามารถแยกแยะไวรัส/ส่งิ - บรรยาย แปลกปลอมได้ - อธบิ าย ยกตัวอย่าง 2. วิเคราะห์อาการของเครอ่ื งท่ตี ิดไวรสั ได้ - แสดงวิธีการปฏบิ ตั ิในแต่ ละหัวข้อการ 3. ใช้ User Account Control เพ่อื กาหนด เรยี นและให้นักศึกษาปฏิบัตไิ ปพร้อมกนั ระดบั การแจง้ เตอื นได้ สรปุ บทเรยี น 4. ใช้ Action Center เพื่อเปิด/ปิดระบบรักษา - แบบฝึกหดั / ทดสอบ ความปลอดภัย

10-11 5. ใชโ้ ปรแกรม Norton Antivirus จากดั ไวรัส - ใหน้ ักศึกษาคน้ ควา้ หน่วยการเรยี น 12-13 ในเคร่อื งได้ - บรรยาย 14 6. ใชโ้ ปรแกรม Windows Defender จดั การ - อธบิ าย ยกตัวอย่าง 15-17 กบั สปายแวร์ - แสดงวธิ ีการปฏิบตั ใิ นแต่ ละหัวขอ้ การ ปอ้ งกนั การบกุ รุกจากคอมพิวเตอร์เครอ่ื งอืน่ หรือ โปรแกรมอันตรายด้วย Firewall เรียนและใหน้ ักศึกษาปฏิบัตไิ ปพร้อมกัน บทท่ี 7 การสารองและเรยี กคนื ข้อมลู สรุปบทเรียน - แบบฝึกหดั / ทดสอบ 1. สารองข้อมลู ดว้ ย Backup 2. การเรียกคืนไฟลข์ ้อมลู ด้วย Restore Files - ให้นักศกึ ษาค้นคว้าหนว่ ยการเรียน 3. การสารองข้อมูลด้วย System Image - บรรยาย - อธบิ าย ยกตวั อย่าง 4. การเรยี กคืนไฟลข์ ้อมลู ดว้ ย System Image - แสดงวธิ กี ารปฏิบัติในแต่ ละหัวขอ้ การ 5. สารองไดรเวอรด์ ว้ ย Driver Genius 6. เรียกคืนไดรเวอร์ เรยี นและให้นักศึกษาปฏบิ ัติไปพร้อมกัน 7. โอนยา้ ยข้อมูลพรอ้ มกาหนดคา่ สรุปบทเรียน 8. เรียกข้อมูลและการกาหนดคา่ คนื มา - แบบฝกึ หดั / ทดสอบ บทที่ 8 การกู้ข้อมูลจากฮาร์ดดสิ ก์ - ใหน้ ักศกึ ษาค้นคว้าหนว่ ยการเรยี น 1. ก้ไู ฟลท์ ีล่ บไปกลบั คืนมา - บรรยาย - อธบิ าย ยกตัวอย่าง 2. กู้ไฟล์ท่ีถูกลบแบบถาวร - แสดงวธิ กี ารปฏบิ ัตใิ นแต่ ละหวั ขอ้ การ 3. ก้ขู ้อมลู จากเมมโมรี่การด์ เรยี นและให้นักศึกษาปฏิบัติไปพร้อมกนั สรุปบทเรยี น บทท่ี 9 รจู้ กั Cloud Computing - แบบฝึกหดั / ทดสอบ 1. รจู้ กั และอธบิ ายความหมายของ Cloud Computing ได้ - ใหน้ ักศึกษาค้นควา้ หนว่ ยการเรยี น 2. บอกประโยชน์ของ Cloud Computing ได้ - บรรยาย - อธบิ าย ยกตัวอย่าง 3. อธิบายประเภทของ Cloud Computing ได้ - แสดงวิธกี ารปฏิบัตใิ นแต่ ละหวั ข้อการ 4. ยกตัวอยา่ งองค์กรทีน่ า Cloud Computing มา ใช้งานได้ เรยี นและใหน้ ักศึกษาปฏบิ ัตไิ ปพร้อมกัน 5. บอกถงึ ข้อจากดั และข้อคานงึ ถงึ ในการใช้ Cloud Computing ได้ บทที่ 10 เกบ็ ไฟลอ์ อนไลน์แบบ Cloud Computing 1. มีความรูเ้ กี่ยวกับผูใ้ ห้บริการ Cloud Storage ตา่ งๆ ที่นิยมใช้

2. สามารถใช้ Google Drive ในการเก็บไฟล์และ สรุปบทเรียน แบ่งปันไฟล์ได้ - แบบฝึกหดั / ทดสอบ 3. สามารถใช้ Dropbox ในการเกบ็ ไฟลแ์ ละ แบ่งปนั ไฟล์ได้ 18 ประเมินผลผเู้ รียน

แผนจัดการเรียนรู้ วิชา การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ รหสั วิชา 2901-1002 ชัน้ ปวช. สัปดาหท์ ่ี 1 เวลา 3 ชว่ั โมง หน่วยท่ี 1 เรือ่ ง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 1. สาระสาํ คัญ ในเครอื่ งคอมพิวเตอรจ์ ะตอ้ งมีโปรแกรมระบบ และโปรแกรมน้จี ะถูกเรียกใช้ตอนทเ่ี ปดิ เครอ่ื ง เมื่อโปรแกรมระบบ อยใู่ นหน่วยความจาหลักของเครือ่ งคอมพิวเตอร์แลว้ จะทาใหส้ ามารถใช้โปรแกรมประยุกต์ตา่ งๆ ได้งา่ ย การจัดการ กบั ฮารด์ แวร์ต่างๆ กท็ าได้ง่ายขึน้ ดว้ ย นอกจากน้ีในการใช้งานคอมพวิ เตอรย์ ังต้องมโี ปรแกรมอ่นื ๆ ติดไวใ้ นเคร่ือง ดว้ ย เพอ่ื ช่วยเหลือการทางานต่างๆ ที่อาจจะมีขึน้ 2. ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 1. แยกแยะโปรแกรมออกเป็นกลุม่ ของโปรแกรมประยุกต์และกล่มุ ของโปรแกรมระบบได้ 2. เขา้ ใจการทางานของระบบปฏบิ ัตกิ าร 3. บอกวิธีการจัดการโปรแกรมของระบบปฏิบัติการได้ 4. บอกตัวอยา่ งกลมุ่ โปรแกรมท่ีควรมปี ระจาเครื่องได้

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรียน ขั้นนาํ เข้าส่บู ทเรยี น (20 นาที) 1. ตรวจสอบรายชือ่ นกั ศกึ ษาท่เี ข้าเรียน 1. ใหค้ วามรว่ มมือกบั ครใู นการตรวจสอบ 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น โดยการถามผู้เรยี นในห้อง 2. ผูเ้ รียนชว่ ยกนั หาคาตอบจากสิง่ ทคี่ รูกาหนด 3. ร่วมสนทนาเกย่ี วกับโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาํ เนนิ การสอน (80 นาที) 1. บอกจดุ ประสงค์การเรยี น 1. ฟัง ทาความเข้าใจและซักถาม 2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอยา่ ง แสดงวิธีการ 2. ฟัง ทาความเขา้ ใจและปฎิบตั ติ าม ปฎิบัตใิ นแต่ ละหวั ขอ้ การเรยื นและให้นักศึกษา 3. ผเู้ รยี นซกั ถามข้อสงสัยและจดบันทึก ปฎบิ ัตไิ ปพร้อมกัน รับการประเมนิ 3. ครบู อกวธิ กี ารและแนวคิดในการปฏบิ ตั ิท่ี ถูกต้องใหแ้ กผ่ ูเ้ รยี น 4. ประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคลโดยครจู ะซกั ถาม ในแต่ละคน ขนั้ สรปุ (20 นาที) 1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปสาระสาคญั 1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปสาระสาคัญ 2. นักเรียนสอบถามขอ้ สงสยั 2. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสยั 3. ฟังและจดบันทึก 3. มอบหมายใหไ้ ปหัดทาและศึกษาเพม่ิ เติม 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท 4. ทาแบบทดสอบ 4.กจิ กรรมการเรียนรู้ ก่อนเรยี น 1. ครชู ี้แจงใหผ้ ู้เรียน เหน็ ความสาคญั เพื่อเปน็ ประโยชนใ์ นการเรยี นรู้ และนาไปประยุกต์ใช้ทั้งใน ชีวิตประจาวัน 2. ครชู ้แี จงวตั ถปุ ระสงค์รายวิชา 3. ครูช้แี จงระเบยี บว่าด้วยเวลาเรยี น 4. ครตู กลงกับผเู้ รียน เรอื่ งการแบง่ คะแนนเกบ็ ระหว่างภาคดังน้ี 5. ครตู กลงกบั ผู้เรยี นเรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ นในหอ้ งเรยี นตามแบบประเมนิ 6. ครูบอกแนวทางในการเรียน และวิธีการปฏิบัตติ ามภาระงานท่ีมอบหมาย ขณะเรยี น 1. ทาแบบฝึกหดั ก่อนเรยี น โดยการถาม – ตอบ และใหแ้ สดงความคิดเห็น 2. จดบนั ทึก สาระการเรียนรู้

3. ร่วมกันสรปุ บทเรียน พร้อมบันทกึ ผลการสรปุ แลว้ ลกุ ขึ้นนาเสนอกับครผู ู้สอน 4. ผูเ้ รียนและครผู ู้สอนร่วมกันประเมนิ ข้อสรุปของผู้เรยี นที่ออกแสดงความคิดเห็นเพือ่ ให้ได้ข้อสรุปที่ ถูกต้อง และครูผู้สอนแสดงความชื่นชมกบั ผเู้ รียนทุกคนทอ่ี อกแสดงความคิดเหน็ และมสี ว่ นร่วมใน กจิ กรรมทมี่ อบหมาย 5. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แกไ้ ขใบงาน 6. ทบทวนเนอ้ื หา 7. ทาแบบฝึกหดั หลังเรยี น 8. ร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหัด 5.สอ่ื การเรียนการสอนประจําหน่วย 1. หนังสอื เรียนวชิ า การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ใบความรู้ประจาหนว่ ย 3. ใบงานและแบบฝึกหดั 4. เครื่องไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. แผน่ ใสและเครื่องฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 6. วดั ผลประเมนิ ผลประจาํ หน่วย 1. สังเกตผู้เรียนมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื รน้ ใน การแสดงความคดิ เห็นและสรุปสาระการเรียนร้ปู ระจาหนว่ ย 2. ทาใบงานได้อย่างถูกต้อง ทันเวลาท่ีกาหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ 3. ผูเ้ รียนทาแบบฝึกหดั หลังเรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างต่า 7. กจิ กรรมเสนอแนะประจาํ หน่วย 1. ผู้เรยี นต้องให้ความสนใจในการศกึ ษา เพ่ือหาเทคนคิ วิธีการ หรอื หลักการง่ายเพ่ือให้หาคาตอบได้ อย่างถูกต้อง และรวดเรว็ โดยการ ตัง้ ใจฟงั หลักการ เทคนิควิธกี ารท่ีครูผ้สู อนสรุปในขณะที่ทาการ สอน และนาข้อสงสัยซักถามครใู นการเรยี นทุกคร้ังท่เี กดิ ความสบั สน และไม่เข้าใจ 2. ผู้มกี ารทบทวนบทเรียน ตลอดเพื่อเสรมิ สรา้ งความเข้าใจอยา่ งแท้จริง 3. ผเู้ รยี นหม่นั ทาใบงาน แบบฝึกหัด และแก้ไขข้อท่ผี ิดใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ 4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพใหเ้ กดิ ความคดิ รวบยอดในสาระการเรยี นรู้และเทคนคิ วธิ ีการพร้อมกบั ความจาเปน็ ในการนาไปประยุกต์ใชใ้ ห้เกดิ ขึ้นโดยตนเองให้ได้เพือ่ เกดิ ่ความรู้ความเข้าใจอย่าง แทจ้ รงิ ไมใ่ ชเ่ กิดจากการท่องจา 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผู้เรียนต้องทบทวนบทเรียนท้ังก่อนเรยี นและหลงั เรยี นอย่อู ยา่ งสม่าเสมอ

2. ผูเ้ รยี นหม่ันเข้าช้นั เรียนเพื่อรบั ฟงั เทคนิค วิธี และแนวทางทีด่ กี บั ครูสอนอย่างตัง้ ใจ 3. ผเู้ รียนสนใจทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขให้ถูกตอ้ งทุกครั้งที่ทาผดิ 4. กลา้ ทจ่ี ะถามทกุ ครงั้ ท่เี กิดความสงสัยและไมเ่ ข้าใจหรือตามบทเรยี นไมท่ นั เฉลยกจิ กรรมบทท่ี 1 ตอนที่ 1 เลอื กขอ้ ท่ถี ูกต้องทส่ี ดุ เพียงข้อเดียว 1. โปรแกรมที่ออกแบบมาสาหรบั อุปกรณ์ต่างๆ ใหท้ างานร่วมกบั คอมพวิ เตอร์ได้ เรียกวา่ อะไร ก. โปรแกรมระบบปฏิบัติการ ข. โปรแกรมประยุกต์ ค. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ง. โปรแกรมดไี วซไ์ ดรเวอร์ 2. ข้อใดเป็นหน้าที่ของโปรแกรมระบบปฏบิ ัติการ ก. ประสานงานกบั ซอฟต์แวร์ ข. ประสานงานระหวา่ งผใู้ ชก้ ับเครื่อง ค. จดั การทรัพยากรต่างๆ ในระบบ ง. ถูกทุกข้อ 3. โปรแกรม Microsoft Word จัดว่าเป็นโปรแกรมประเภทใด ก. A software suite ข. Shareware ค. Packaged software ง. Custom software 3. ข้อใดไม่ใชโ่ ปรแกรมเฉพาะงาน ข. โปรแกรมสรา้ งเว็บ ก. โปรแกรมตารางการคํานวณ ง. โปรแกรมเกม ค. โปรแกรมเปดิ VCD 4. โปรแกรมใดใช้ผลิตงานมัลติมเี ดยี ข. Authorware ก. AutoCAD ง. Visual Studio ค. lllustrator 5. ขอ้ ใดคือไฟล์ท่ใี ชใ้ นการติดตั้งโปรแกรม ก. install ข. run ค. Custom ง. pro 6. คาวา่ GUI มาจากคาว่าอะไร ข. Graphic User Interrupt ก. Graphic User Interface ง. Good User Interface ค. Graphic Uninstall Integration

7. การคีย์คาสั่งของระบบปฏบิ ตั ิการเข้าไปทางแป้นพมิ พ์เรียกว่า ก. Command – line ข. Input Command ค. Text Input ง. Dialog Input 8. การทางานแบบ Multitasking หมายถึง ก. การใชง้ านโปรแกรมของผใู้ ช้หลายคน ข. เรียกโปรแกรมหลายตวั มาใช้พร้อมกัน ค. หลายโปรแกรมทางานขนานกัน ง. หลายโปรแกรมใช้หนว่ ยความจาเดยี วกัน 9. ข้อใดคือความหมายของ เรสสิเดน้ โปรแกรม (Resident Program) ก. โปรแกรมขนาดเล็กท่ีฝงั ตัวอยู่ในหน่วยความจํา ข. โปรแกรมทีใ่ ช้หนว่ ยความจารว่ มกัน ค. โปรแกรมทีก่ าลงั ทางานอยู่ขณะนัน้ ง. ถูกทุกขอ้ 10. หน่วยความจาชนดิ ใดทเ่ี ก็บข้อกาหนดหรือค่าที่ถกู ต้องของเครือ่ งคอมพวิ เตอรเ์ อาไว้ ก. หน่วยความจาํ CMOS ข.หนว่ ยความจา BIOS ค.หนว่ ยความจา POST ง. หน่วยความจา RAM ตอนท่ี 2 ตอบคําถามต่อไปนี้ 1. ท่านคิดว่าโปรแกรมสาหรับเข้าสอู่ นิ เทอรเ์ นต็ เปน็ โปรแกรมประยกุ ตห์ รือโปรแกรมระบบ โปรแกรมประยุกต์ 2. โปรแกรมแบบแชร์แวร์ต่างจากฟรีแวร์อยา่ งไร แชร์แวร์มรี ะยะเวลาทดลองใชง้ าน ฟรีแวร์ให้ใช้งานฟรตี ลอด 3. ยกตัวอย่างโปรแกรมท่ีใช้งานบอ่ ยๆ ในชีวิตประจาวันมา 3 โปรแกรม Microsoft Word, Microsoft Excel, Line 4. โปรแกรมประยุกตท์ ี่ทางานบนเวบ็ เรียกว่าอะไร Web Application. 5. ซอฟตแ์ วร์เฉพาะคืออะไร.

โปรแกรมท่ีทํางานเฉพาะทาง เช่น ทาํ งานในวงการแพทย์ 6. เหตใุ ดต้องมโี ปรแกรมระบบปฏบิ ัติการ เพ่อื ควบคุมการทาํ งานของเครื่อง จัดการทรพั ยากรตา่ งๆ ในระบบ ประสานงานกบั ซอฟต์แวร์อ่นื ๆ 7. หากไม่มโี ปรแกรมระบบปฎิบตั กิ าร จะใชง้ านโปรแกรมอืน่ ๆ ได้อย่างไร ไมส่ ามารถทาํ ได้ 8. คาว่า GUI คอื อะไร การเชอ่ื มต่อแบบกราฟิก มีเมนใู ห้ผ้ใู ช้สามารถตดิ ต่อผา่ นทางไอคอนต่างๆ ได้ 9. จงยกตัวอยา่ งการทางานแบบ Multitasking การทํารายงาน พร้อมกบั ฟังเพลงไปดว้ ย 10. หนว่ ยความจาเสมือนคืออะไร มีประโยชนอ์ ยา่ งไร เครือ่ งคอมพิวเตอรไ์ ม่จําเป็นตอ้ งมีหนว่ ยความจําจํานวนมาก แตส่ ามารถทํางานหลายๆ โปรแกรมพร้อมกนั ได้

แผนจัดการเรียนรู้ วิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ รหสั วิชา 2901-1002 ช้ัน ปวช. หนว่ ยที่ 2 โปรแกรมอรรถประโยชนแ์ ละการเลอื กใช้ สปั ดาหท์ ่ี 2 เวลา 3 ชั่วโมง 1. สาระสําคัญ โปรแกรมอรรถประโยชน์ หรอื เรียกสัน้ ๆ วา่ ยทู ลิ ิตี้ เป็นโปรแกรมประเภทหนึ่งท่ีทางานบนระบบปฏบิ ตั กิ าร สว่ นมากใช้เพ่ือบารุงรักษาและเพ่ิมประสิทธิภาพการทางานของคอมพิวเตอร์ คณุ สมบัติการใช้งานนั้นค่อนขา้ ง หลากหลาย ยูทลิ ิตีแ้ บง่ ออกเป็นสองชนิดคอื ยูทลิ ติ สี้ าหรับระบบปฏบิ ัติการ (OS utility program) และยทู ิลิตี้อนื่ ๆ (stand-alone utility program) 2. ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง 1. บอกโปรแกรมอรรถประโยชนท์ ่ีสาคัญๆ ได้ 2. บอกแนวทางในการเลือกใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ได้

3. กิจกรรมการเรยี นรู้กิจกรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน ข้นั นาํ เขา้ สู่บทเรียน (20 นาที) 1. ตรวจสอบรายชอ่ื นกั ศกึ ษาที่เข้าเรยี น 1. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบ 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น โดยการถามผูเ้ รียนในห้อง 2. ผเู้ รียนช่วยกนั หาคาตอบจากสิ่งทคี่ รูกาหนด 3. ร่วมสนทนาเกย่ี วกับการเลอื กใชโ้ ปรแกรม 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ อรรถประโยชน์ ขัน้ ดาํ เนินการสอน (80 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรียน 1. ฟัง ทาความเขา้ ใจและซกั ถาม 2. บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอยา่ ง แสดงวธิ กี าร 2. ฟงั ทาความเขา้ ใจและปฎิบตั ิตาม ปฎบิ ัติในแต่ ละหัวขอ้ การเรืยนและใหน้ กั ศกึ ษา 3. ผ้เู รยี นซักถามข้อสงสัยและจดบนั ทึก ปฎิบตั ไิ ปพร้อมกัน รบั การประเมิน 3. ครบู อกวิธีการและแนวคิดในการปฏิบตั ทิ ่ี ถกู ต้องใหแ้ กผ่ ู้เรยี น 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครจู ะซกั ถาม ในแต่ละคน ข้นั สรปุ (20 นาที) 1. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปสาระสาคญั 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคญั 2. นักเรยี นสอบถามขอ้ สงสยั 2. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสัย 3. ฟงั และจดบันทึก 3. มอบหมายให้ไปหดั ทาและศึกษาเพิ่มเติม 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท 4. ทาแบบทดสอบ 4.กจิ กรรมการเรยี นรู้ ก่อนเรยี น 1. ครชู ี้แจงให้ผเู้ รยี น เห็นความสาคัญ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเรยี นรู้ และนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั 2. ครชู แี้ จงวตั ถุประสงค์รายวิชา 3. ครูชแ้ี จงระเบยี บวา่ ด้วยเวลาเรยี น 4. ครตู กลงกบั ผู้เรยี น เรอื่ งการแบง่ คะแนนเกบ็ ระหวา่ งภาคดังนี้ 5. ครูตกลงกับผ้เู รียนเรือ่ งการปฏบิ ัตติ นในหอ้ งเรยี นตามแบบประเมนิ 6. ครูบอกแนวทางในการเรยี น และวิธีการปฏบิ ัติตามภาระงานที่มอบหมาย ขณะเรียน 1. ทาแบบฝกึ หดั ก่อนเรยี น โดยการถาม – ตอบ และให้แสดงความคิดเห็น 2. จดบนั ทกึ สาระการเรียนรู้

3. รว่ มกันสรปุ บทเรียน พร้อมบนั ทึกผลการสรุป แล้วลกุ ข้ึนนาเสนอกับครูผสู้ อน 4. ผู้เรยี นและครูผู้สอนรว่ มกันประเมนิ ข้อสรปุ ของผเู้ รียนท่ีออกแสดงความคิดเหน็ เพ่อื ให้ไดข้ ้อสรุปท่ี ถกู ต้อง และครูผู้สอนแสดงความชื่นชมกับผ้เู รียนทุกคนทีอ่ อกแสดงความคิดเหน็ และมีสว่ นร่วมใน5. กิจกรรมที่ มอบหมาย 6. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แกไ้ ขใบงาน 7. ทบทวนเน้อื หา 8. ทาแบบฝึกหัดหลังเรยี น 9. รว่ มกนั เฉลยแบบฝึกหัด 5.สื่อการเรียนการสอนประจําหน่วย 1. หนงั สือเรียนวิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ใบความรูป้ ระจาหนว่ ย 3. ใบงานและแบบฝกึ หัด 4. เครอื่ งไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่องฉายภาพขา้ มศรี ษะ 6. ซีดีสอ่ื การสอน 6. วัดผลประเมนิ ผลประจาํ หน่วย 1. สังเกตผ้เู รยี นมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือรน้ ใน การแสดงความคดิ เห็นและสรปุ สาระการเรยี นรู้ประจาหน่วย 2. ทาใบงานได้อยา่ งถูกต้อง ทันเวลาที่กาหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ 3. ผูเ้ รียนทาแบบฝึกหัดหลังเรยี นไดถ้ กู ต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างต่า 7. กิจกรรมเสนอแนะประจาํ หน่วย 1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรอื หลกั การง่ายเพื่อให้หาคาตอบได้ อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตง้ั ใจฟังหลกั การ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทาการ สอน และนาข้อสงสยั ซักถามครใู นการเรียนทุกครัง้ ทเ่ี กิดความสับสน และไม่เข้าใจ 2. ผู้มีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเข้าใจอยา่ งแท้จริง 3. ผเู้ รียนหม่นั ทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขข้อท่ผี ิดให้ถูกตอ้ งเสมอ 4. ผ้เู รยี นตอ้ งสรา้ งมโนภาพให้เกิดความคดิ รวบยอดในสาระการเรียนรูแ้ ละเทคนิควิธีการพร้อมกบั ความจาเป็นในการนาไปประยุกตใ์ ชใ้ ห้เกดิ ข้นึ โดยตนเองใหไ้ ด้เพ่ือเกิด่ความรูค้ วามเข้าใจอย่างแทจ้ ริง ไม่ใช่เกิดจากการท่องจา

8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผ้เู รียนตอ้ งทบทวนบทเรยี นทั้งก่อนเรยี นและหลงั เรียนอยอู่ ยา่ งสมา่ เสมอ 2. ผเู้ รียนหมน่ั เข้าช้นั เรียนเพ่ือรบั ฟงั เทคนิค วิธี และแนวทางท่ดี ีกับครสู อนอย่างต้ังใจ 3. ผเู้ รียนสนใจทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขให้ถูกต้องทุกคร้งั ที่ทาผดิ 4. กลา้ ทจ่ี ะถามทุกครงั้ ท่ีเกดิ ความสงสยั และไมเ่ ข้าใจหรอื ตามบทเรยี นไมท่ ัน เฉลยกจิ กรรมบทท่ี 2 ตอนท่ี 1 เลอื กคําตอบท่ถี ูกต้องที่สุดเพยี งข้อเดียว 1. ข้อใดคือความหมายของโปรแกรมอรรถประโยชน์ ก. โปรแกรมท่ีรวมความสามารถหลายอย่างไว้ตวั เดยี ว ข. โปรแกรมท่ีช่วยหรอื ขยายขดี ความสามารถของโปรแกรมท่ใี ช้งานให้มปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น ค. โปรแกรมที่ใช้บ่อยๆ ในชีวติ ประจาวนั ง. โปแกรมทต่ี อ้ งมีในเครอื่ งคอมพิวเตอร์ 2. โปรแกรมอรรถประโยชนแ์ บง่ ออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง ก. 2 ประเภท คอื โปรแกรมสาหรับ Online และ โปรแกรมสาหรบั Offline ข. 2 ประเภท คือ โปแกรมสําหรบั ระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมอรรถประโยชนอ์ ่ืนๆ ค. 3 ประเภท คือ โปรแกรมสาหรับ Online, โปรแกรมสาหรบั Offline และโปรแกรมทางานเบอื้ งหลัง ง. 3 ประเภท คือ โปรแกรมสาหรบั ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมสาหรบั Online และ โปรแกรมสาหรบั Offline 3. ขอ้ ใดเป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ดา้ นจดั การไฟล์ ก. Windows Manager ข. Windows Explorer ค. File Manager ง. File Explorer 4. ขอ้ ใดเปน็ โปรแกรมอรรถประโยชนด์ ้านถอดถอนโปรแกรม ก. Program Remover ข. Program Delete ค. UnInstaller ง. Cleaner 5. โปรแกรมใดต่อไปน้ี ไมจ่ ดั อยใู่ นประเภทอรรถประโยชนส์ าหรบั ระบบปฏบิ ตั กิ าร ก. โปรแกรมรกั ษาหน้าจอ ข. โปแกรมปอ้ งกนั ไวรัส ค. โปรแกรมถอดถอนโปรแกรม ง. โปรแกรมจดั การไฟล์

6. ขอ้ ใดไมไ่ ดเ้ ป็นโปรแกรมที่ช่วยใหเ้ ครือ่ งคอมพิวเตอรท์ างานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ก. disk defragmenter ข. file compression ค. firewall ง. anti virus 7. โปรแกรมใดมหี นา้ ทใ่ี นการบีบอัดไฟล์ใหม้ ีขนาดเล็กลง ก. WinCompress ข. WinRAR ค. FileZip ง. SetFile 8. โปรแกรมใดชว่ ยใหจ้ อคอมพิวเตอร์ทางานได้นานข้ึน ก. FileZip ข. Screen Saver ค. Disk Defragmenter ง. Disk Scanner 9. ขอ้ ใดไม่ใชแ่ นวทางในการเลอื กใชโ้ ปรแกรม ก. ดาวน์โหลดจากเวบ็ ไซตท์ ่ีเชือ่ ถอื ได้ ข. มคี วามง่ายในการใชง้ าน ค. การติดต้ังโปรแกรมไม่ซบั ซ้อน ง. เลือกจากเว็บไซตท์ ่ีมผี ลู้ งโฆษณาเยอะ 10. ขอ้ ใดไม่ใชล่ ักษณะของเว็บไซต์ที่นา่ เช่ือถือ ก. เปน็ ของบริษทั หรอื องค์กรทร่ี ู้จักกนั ดี ข. ได้รบั รองจากองคก์ รรบั รองความนา่ เชื่อถอื บนอนิ เทอรเ์ นต็ ค. ไม่ได้มีการขอ้ มลู ส่วนตัวท่ไี มเ่ กย่ี วข้องกบั ความต้องการของเว็บไซต์ ง. การออกแบบองค์ประกอบตา่ งๆ ในหนา้ เวบ็ มคี วามเป็นมาตรฐาน ตอนท่ี 2 ตอบคาถามต่อไปนี้ 1. โปรแกรมอรรถประโยชนส์ าหรับระบบปฏบิ ตั ิการมอี ะไรบา้ ง โปรแกรมด้านการจดั การไฟล์, โปรแกรมยกเลิกการติดต้ังโปรแกรม, โปรแกรมสแกนดิสก์, โปรแกรมจัดเรยี งพนื้ ทเ่ี ก็บข้อมูล, โปรแกรมรักษาหน้าจอ 2. โปรแกรมอรรถประโยชน์อ่ืนๆ มีอะไรบา้ ง โปรแกรมป้องกนั ไวรัส, โปรแกรมไฟร์วอลล์ , โปรแกรมบบี อัดไฟล์ 3. แนวทางในการเลือกใชโ้ ปรแกรมมีอะไรบา้ ง 1. ดาวน์โหลดจากเว็บไซตท์ ี่เช่ือถอื ได้ 2. มคี วามงา่ ยในการใชง้ าน 3. การตดิ ตงั้ โปรแกรมไม่ซับซ้อน

แผนจดั การเรยี นรู้ วิชา การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ รหสั วิชา 2901-1002 ชน้ั ปวช. หน่วยท่ี 3 เรื่อง จัดการไฟล์ด้วย Windows Explorer สปั ดาห์ท่ี 3 เวลา 3 ช่ัวโมง 1. สาระสาํ คญั การจดั เกบ็ ข้อมูลใน Windows คลา้ ยกับการจัดเกบ็ เอกสารในสานักงาน โดยข้อมูลแตล่ ะช้นิ ท่ีเราสร้างจะถูกเก็บใน เครื่องเป็นไฟล์แยกจากกนั และเม่ือมไี ฟล์เปน็ จานวนมาก การคน้ หาขอ้ มูลจะทาไดย้ ากข้ึน จงึ ได้มกี ารจดั เกบ็ ไฟล์ เหลา่ น้ันไวใ้ นโฟลเดอร์ทท่ี าหนา้ ทเี่ หมอื นเปน็ แฟ้มใส่เอกสารทีส่ มั พนั ธ์กัน 2. ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวงั 1. เข้าใจระบบไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ ใน Windows 7 2. ค้นหาไฟลห์ รอื โฟลเดอร์ที่ตอ้ งการได้ 3. สรา้ งชอรท์ คัทได้ 4. จดั การไฟล์และโฟลเดอร์ที่ต้องการได้ 5. กู้ไฟล์ท่ีลบจาก Recycle Bin ได้ 6. บีบอัดไฟลแ์ ละโฟลเดอรไ์ ด้

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรียน ข้นั นาํ เข้าสู่บทเรยี น (20 นาที) 1. ตรวจสอบรายช่อื นกั ศกึ ษาทีเ่ ขา้ เรยี น 1. ให้ความรว่ มมือกบั ครใู นการตรวจสอบ 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น โดยการถามผ้เู รยี นในห้อง 2. ผูเ้ รียนชว่ ยกนั หาคาตอบจากสิง่ ทค่ี รูกาหนด 3. ร่วมสนทนาเกย่ี วกับการใช้ Windows 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ Explorer ข้นั ดําเนินการสอน (80 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรียน 1. ฟัง ทาความเข้าใจและซกั ถาม 2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธกี าร 2. ฟัง ทาความเข้าใจและปฎิบตั ติ าม ปฎบิ ตั ิในแต่ ละหัวข้อการเรยื นและใหน้ กั ศึกษา 3. ผ้เู รียนซักถามข้อสงสยั และจดบนั ทึก ปฎิบตั ไิ ปพร้อมกัน รับการประเมนิ 3. ครูบอกวธิ กี ารและแนวคิดในการปฏิบตั ทิ ่ี ถกู ต้องให้แก่ผูเ้ รยี น 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซักถาม ในแตล่ ะคน ขน้ั สรุป (20 นาที) 1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปสาระสาคัญ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสาคัญ 2. นกั เรยี นสอบถามข้อสงสยั 2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสัย 3. ฟงั และจดบนั ทึก 3. มอบหมายใหไ้ ปหัดทาและศึกษาเพิม่ เติม 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท 4. ทาแบบทดสอบ 4.กิจกรรมการเรยี นรู้ กอ่ นเรยี น 1. ครูช้ีแจงให้ผู้เรียน เห็นความสาคญั เพ่ือเปน็ ประโยชนใ์ นการเรียนรู้ และนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์รายวิชา 3. ครชู ้ีแจงระเบียบว่าดว้ ยเวลาเรียน 4. ครูตกลงกบั ผ้เู รยี น เรือ่ งการแบง่ คะแนนเก็บระหวา่ งภาคดังน้ี 5. ครูตกลงกับผเู้ รียนเร่ืองการปฏิบัตติ นในหอ้ งเรยี นตามแบบประเมนิ 6. ครบู อกแนวทางในการเรยี น และวิธีการปฏบิ ัตติ ามภาระงานที่มอบหมาย ขณะเรียน 1. ทาแบบฝึกหดั ก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ และให้แสดงความคดิ เหน็ 2. จดบนั ทึก สาระการเรียนรู้

3. รว่ มกนั สรุปบทเรยี น พร้อมบนั ทึกผลการสรปุ แล้วลุกขึ้นนาเสนอกับครผู ูส้ อน 4. ผูเ้ รียนและครูผู้สอนรว่ มกันประเมนิ ข้อสรุปของผู้เรยี นท่ีออกแสดงความคดิ เห็นเพือ่ ให้ได้ข้อสรุปที่ ถูกต้อง และครูผสู้ อนแสดงความช่ืนชมกับผู้เรยี นทุกคนทอ่ี อกแสดงความคิดเห็นและมสี ว่ นร่วมใน5. กิจกรรมที่ มอบหมาย 6. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แก้ไขใบงาน 7. ทบทวนเนือ้ หา 8. ทาแบบฝกึ หัดหลงั เรียน 9. ร่วมกันเฉลยแบบฝึกหดั 5.สอ่ื การเรยี นการสอนประจําหนว่ ย 1. หนังสือเรียนวิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ใบความร้ปู ระจาหนว่ ย 3. ใบงานและแบบฝึกหดั 4. เครอื่ งไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเคร่ืองฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซดี สี ือ่ การสอน 6. วัดผลประเมนิ ผลประจาํ หน่วย 1. สังเกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือรน้ ใน การแสดงความคดิ เหน็ และสรุปสาระการเรยี นรปู้ ระจาหนว่ ย 2. ทาใบงานได้อยา่ งถูกต้อง ทนั เวลาท่กี าหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ 3. ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหัดหลงั เรียนไดถ้ กู ต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างต่า 7. กจิ กรรมเสนอแนะประจาํ หนว่ ย 1. ผ้เู รียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพ่ือหาเทคนิค วิธีการ หรือหลกั การง่ายเพื่อให้หาคาตอบได้ อย่างถกู ต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟังหลกั การ เทคนคิ วิธีการที่ครูผ้สู อนสรุปในขณะที่ทาการ สอน และนาขอ้ สงสัยซักถามครูในการเรยี นทุกคร้งั ท่เี กดิ ความสับสน และไมเ่ ขา้ ใจ 2. ผมู้ กี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สร้างความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริง 3. ผเู้ รยี นหม่ันทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขข้อทีผ่ ดิ ใหถ้ ูกต้องเสมอ 4. ผูเ้ รียนตอ้ งสร้างมโนภาพให้เกดิ ความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพรอ้ มกบั ความจาเปน็ ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ขนึ้ โดยตนเองใหไ้ ด้เพ่ือเกิดค่ วามรคู้ วามเข้าใจอยา่ งแท้จริง ไม่ใช่เกิดจากการท่องจา 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผเู้ รยี นตอ้ งทบทวนบทเรยี นทั้งก่อนเรยี นและหลังเรียนอย่อู ยา่ งสม่าเสมอ

2. ผู้เรียนหมน่ั เขา้ ชนั้ เรียนเพื่อรับฟังเทคนิค วิธี และแนวทางทด่ี ีกับครสู อนอย่างต้ังใจ 3. ผู้เรยี นสนใจทาใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขใหถ้ ูกต้องทุกครัง้ ท่ีทาผิด 4. กล้าท่จี ะถามทกุ ครั้งที่เกิดความสงสยั และไมเ่ ข้าใจหรอื ตามบทเรียนไมท่ นั เฉลยกจิ กรรมบทที่ 3 ตอนที่ 1 เลือกคําตอบท่ถี ูกต้องที่สุดเพียงขอ้ เดียว 1. การตง้ั ช่ือพาธสามารถต้งั ใหม้ คี วามยาวสงู สุดได้กต่ี วั อักษร ก. 255 ข. 256 ค. 511 ง. 512 2. สญั ลักษณ์ใดท่ีสามารถนามาตง้ั เป็นชอื่ ไฟล์ได้ ก. ? ข. \\ ค. / ง. ช่องว่าง 3. คุณสมบัติของไฟล์แบบ Hidden หมายถึงข้อใด ก. ไฟลท์ ่ีถกู ล็อกเอาไว้ ข. ไฟลท์ ถี่ ูกกาหนดไวใ้ ห้อา่ นไดอ้ ย่างเดยี ว ค. ไฟล์ทถี่ กู ซ่อนเอาไว้ ง. ไฟล์ท่ถี ูกกาหนดไว้เพ่ือทางานเฉพาะ 4. หากเราลบไฟล์ผดิ เราสามารถใช้คยี ใ์ ดในการยกเลกิ การลบไฟล์ท่ีพ่งึ เกิดข้ึน ก. <Ctrl>+P ข. <Ctrl>+M ค. <Ctrl>+Z ง. <Ctrl>+E 5. ข้อใดไม่อยใู่ นลักษณะการจัดวางภาพ Wallpaper ก. Stretch ข. Tile ค. Mosaic ง. Fill 6. เวลาต่าสุดในการตั้งค่าเปล่ียน Wallpaper ไปเรอื่ ยๆ สามารถตงั้ ได้ก่ีวนิ าที ก. 10 วนิ าที ข. 20 วนิ าที ค. 30 วนิ าที ง. 60 วินาที 7. Screen Saver จะเกดิ ขน้ึ เมอื่ ใด ข. ไมม่ ีการขยบั จอ ก. ไมม่ ีการขยับเมาส์หรอื คีย์บอรด์ ง. ไมม่ กี ารขยบั เมาส์มากกวา่ 1 นาที ค. ไม่มกี ารแชท

8. โดยปกติแล้วใน Windows ไฟล์ทดี่ าวน์โหลดจากอินเทอร์เนต็ จะอยู่ในโฟลเดอร์ใด ก. My Documents ข. Desktop ข. Downloads ง. Save Games 9. ไฟลห์ รือโฟลเดอรท์ ถี่ ูกบบี อัดด้วยโปรแกรม WinRAR จะมนี ามสกุลอะไร ก. .zip ข. .war ค. .rar ง. .win 10. ในการบีบอดั ไฟล์ หากต้องการแยกไฟลเ์ ปน็ หลายๆ ส่วน เชน่ ครัง้ ละ 10 MB จะต้องกาหนดคา่ ในช่องแยก ไฟล์ตามข้อใด ก. 10 ข. 1024 ค. 10000000 ง. 10M ตอนท่ี 2 ตอบคาถามต่อไปนี้ 1. ไฟล์ คืออะไร การจัดเก็บขอ้ มลู ใน Windows คล้ายกบั การจดั เก็บเอกสารในสานักงาน โดยขอ้ มูลแตล่ ะช้นิ ทเ่ี ราสร้างจะถูกเกบ็ ในเคร่อื งเป็นไฟล์ (file) แยกจากกัน 2. โฟลเดอร์ คืออะไร ในการจัดเกบ็ ข้อมูลจะมที ้ังไฟลข์ อ้ มลู และไฟลโ์ ปรแกรมซึ่งมไี ฟลเ์ ปน็ จานวนมาก โดยจะทาใหก้ ารหาขอ้ มูลท่ี ต้องการทาได้ยาก จงึ ไดม้ ีการจดั เกบ็ ไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ทาหน้าที่เหมอื นเป็นแฟ้มใส่เอกสารที่สมั พันธก์ ัน และ ใน โฟลเดอร์ ยงั สามารถสรา้ งโฟลเดอร์ยอ่ ยไดอ้ ีก 3. วธิ ีการเคลือ่ นย้ายไฟล์ที่ง่ายและรวดเรว็ ทีส่ ดุ ทาอย่างไร จงอธบิ าย คลกิ เลอื กไฟล์ทต่ี ้องการ แลว้ ลากไฟล์นัน้ ไปยังตาแหนง่ ปลายทาง แล้วปล่อยเมาส์ 4. จงบอกประโยชน์ของการจัดเรยี งไฟล์มาสัก 5 ขอ้ 1. ชว่ ยหาไฟล์ทต่ี ้องการได้เร็วขึน้ 2. หาไฟลท์ ี่มีขนาดใหญ่-เลก็ ทสี่ ดุ ได้ 3. หาไฟลท์ ่ปี รบั ปรุงล่าสดุ ได้ 4. หาชนิดของไฟล์ท่ีต้องการได้ 5. ลบไฟลท์ ซ่ี ้ากนั หรอื ไฟล์ขยะได้

5. ไอคอนโปรแกรมทีเ่ ป็นชอรท์ คทั กับไอคอนโปรแกรมปกติ มีความแตกต่างกนั อย่างไร ชอร์ทคทั เป็นไอคอนทีเ่ สมือนเปน็ เส้นทางลัดไปสตู่ วั ไอคอนโปรแกรมจริงๆ ซ่ึงอาจจะอยู่ซ้อนไปโฟลเดอร์อ่นื หลาย ช้นั ซึ่งเวลาใชง้ านอาจทาให้เสียเวลา การสรา้ งชอรท์ คทั ไวท้ ่ีหนา้ เดสกท์ อ็ ป ทาใหท้ างานไดง้ ่ายขนึ้ 6. สัญลกั ษณ์ทไี่ ม่สามารถนามาใช้สรา้ งชื่อไฟล์ \\ /:*?“<>| 7. ในการเลือกไฟลแ์ ละโฟลเดอรม์ กี ว่ี ิธี อะไรบ้าง จงอธบิ าย 4 วิธี 1. เลือกไฟล์/โฟลเดอร์ทีละไฟล์ โดยคลกิ เลือกไฟล์/โฟลเดอร์ท่ีต้องการ 2. เลอื กหลายไฟล์/โฟลเดอร์ทต่ี ดิ กนั โดยลากเมาสค์ ลุมกลมุ่ ไฟล์/โฟลเดอรท์ ่ีต้องการ หรือเลอื กไฟล์/โฟลเดอร์ แรกทต่ี ้องการ แล้วกด <shift> จากนั้นคลิกเลือกไฟล์/โฟลเดอร์สดุ ทา้ ย 3. เลือกหลายไฟล์ที่ไม่ติดกัน คลกิ เลือกไฟล์ทตี อ้ งการ แลว้ กด <Ctrl> คา้ งไว้ แลว้ เลอื กไฟลท์ เ่ี หลือ 4. เลือกทกุ ไฟล์/โฟลเดอร์ในหน้าตา่ ง โดยการกด <Ctrl>+A 8. เราสามารถจัดเรยี งไฟลไ์ ด้กว่ี ธิ ี มีรายละเอียด อะไรบ้าง จงอธบิ าย 4 วิธี Name จัดเรียงไอคอนตามชอื่ Size จัดเรยี งไอคอนตามขนาดไฟล์ Type จัดเรยี งไอคอนตามชนิดของไฟล์ โดยดูจากสกุลไฟล์ Modified จัดเรียงไอคอนตามวนั เวลาทีไ่ ฟล์ถูกแก้ไขครั้งสดุ ทา้ ย 8. คุณลักษณะของไฟลม์ ีอะไรบ้าง 1. Read Only คือ อา่ นได้อย่างเดียว 2. Hiddend กาหนดใหเ้ ป็นไฟลท์ ถ่ี ูกซ่อนเอาไว้ 9. หากต้องการกาหนดขนาดของ Recycle Bin ให้มีขนาด 5 GB มขี ัน้ ตอนอยา่ งไร 1. คลกิ เมาส์ปุ่มขวาที่ Recycle Bin เลือกคาสงั่ Properties 2. เลอื กไดรวท์ จี่ ะต้งั พนื้ ที่ 3. ท่ชี อ่ ง Custom size กาหนดเป็น 5000 10. เหตุใดจงึ จาเปน็ ต้องบีบอัดโฟลเดอร์ เพิอ่ ลดพน้ื ท่ีฮาร์ดดิสก์ หรือสาหรบั ส่งผ่านอนิ เทอร์เนต็

แผนจดั การเรียนรู้ วิชา การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ รหัสวชิ า 2901-1002 ชั้น ปวช. หนว่ ยที่ 4 เร่ือง ยทู ิลติ สี้ ําหรบั ดแู ลรักษาคอมพวิ เตอร์ สัปดาห์ที่ 4-5 เวลา 6 ชั่วโมง 1. สาระสาํ คญั การเรยี นรกู้ ารใช้งานระบบปฏบิ ตั ิการ Windows ควรมีการเรียนรเู้ ก่ยี วกับการดแู ลรักษาระบบปฏบิ ตั ิการนี้ควบคู่ กนั ไปเชน่ การตรวจสอบฮารด์ ดสิ ก์ การจดั ระเบยี บข้อมูลในฮาร์ดดสิ ก์ การตรวจสอบและลบไฟลท์ ี่ไมไ่ ด้ใชง้ าน การ กาหนดเวลาในการเรียกใชง้ านในโปรแกรมรักษาระบบ การดแู ลรักษาระบบแบบอัตโนมัติ ท้ังนเี้ พ่ือทาให้ คอมพิวเตอร์ไดร้ ับการบารุงรักษาและมีความพร้อมในการนามาใชง้ านได้ดนี ่นั เอง 2. ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง 1. บารุง ดแู ลรกั ษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์ใหอ้ ยูใ่ นสภาพพร้อมใช้งานได้ 2. ใชโ้ ปรแกรม Disk Defragmenter เพ่ือจัดระเบียบข้อมูลในฮารด์ ดิสก์ได้ 3. ใช้โปรแกรม Disk Cleanup เพ่ือตรวจสอบและลบไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานได้ 4. ใชโ้ ปรแกรม Task Scheduler เพ่ือกาหนดเวลาในการเรยี กใชง้ านโปรแกรมรักษาระบบได้ 5. ใช้ Power Options ในการจดั การพลงั งานได้

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรียน ข้นั นําเข้าส่บู ทเรียน (20 นาที) 1. ตรวจสอบรายช่อื นักศกึ ษาทเ่ี ข้าเรียน 1. ใหค้ วามรว่ มมือกบั ครใู นการตรวจสอบ 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น โดยการถามผู้เรียนในห้อง 2. ผเู้ รยี นชว่ ยกันหาคาตอบจากส่ิงที่ครูกาหนด 3. รว่ มสนทนาเก่ียวกับการดูแลรกั ษา 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เห็น คอมพวิ เตอร์ ข้ันดําเนินการสอน (80 นาที) 1. บอกจดุ ประสงค์การเรยี น 1. ฟงั ทาความเข้าใจและซักถาม 2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอยา่ ง แสดงวิธีการ 2. ฟัง ทาความเข้าใจและปฎิบัติตาม ปฎบิ ตั ใิ นแต่ ละหัวขอ้ การเรืยนและให้นกั ศกึ ษา 3. ผู้เรยี นซกั ถามข้อสงสยั และจดบนั ทึก ปฎบิ ัตไิ ปพร้อมกัน รับการประเมิน 3. ครบู อกวิธกี ารและแนวคดิ ในการปฏิบตั ิที่ ถกู ต้องให้แกผ่ ู้เรยี น 4. ประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถาม ในแต่ละคน ขน้ั สรปุ (20 นาที) 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสาระสาคญั 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคัญ 2. นักเรียนสอบถามขอ้ สงสัย 2. เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสัย 3. ฟงั และจดบันทึก 3. มอบหมายให้ไปหัดทาและศึกษาเพ่ิมเติม 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท 4. ทาแบบทดสอบ 4.กิจกรรมการเรยี นรู้ กอ่ นเรียน 1. ครูชแ้ี จงให้ผู้เรยี น เห็นความสาคญั เพ่ือเปน็ ประโยชนใ์ นการเรยี นรู้ และนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวนั 2. ครูช้ีแจงวตั ถุประสงคร์ ายวิชา 3. ครชู แ้ี จงระเบียบวา่ ด้วยเวลาเรยี น 4. ครูตกลงกับผูเ้ รียน เรือ่ งการแบ่งคะแนนเกบ็ ระหวา่ งภาคดงั นี้ 5. ครตู กลงกับผเู้ รยี นเร่อื งการปฏิบัตติ นในหอ้ งเรียนตามแบบประเมิน 6. ครูบอกแนวทางในการเรียน และวธิ กี ารปฏิบตั ติ ามภาระงานท่ีมอบหมาย ขณะเรยี น 1. ทาแบบฝกึ หดั ก่อนเรยี น โดยการถาม – ตอบ และใหแ้ สดงความคิดเห็น 2. จดบนั ทึก สาระการเรยี นรู้

3. รว่ มกันสรุปบทเรยี น พร้อมบนั ทึกผลการสรปุ แล้วลุกขึ้นนาเสนอกับครผู ูส้ อน 4. ผูเ้ รียนและครผู ู้สอนรว่ มกันประเมนิ ข้อสรุปของผู้เรยี นท่ีออกแสดงความคดิ เห็นเพือ่ ให้ได้ข้อสรุปที่ ถูกต้อง และครูผสู้ อนแสดงความช่ืนชมกับผู้เรยี นทุกคนทอ่ี อกแสดงความคิดเห็นและมสี ว่ นรว่ มใน5. กิจกรรมที่ มอบหมาย 6. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แก้ไขใบงาน 7. ทบทวนเนื้อหา 8. ทาแบบฝกึ หัดหลงั เรียน 9. ร่วมกันเฉลยแบบฝึกหดั 5.สอ่ื การเรยี นการสอนประจําหนว่ ย 1. หนงั สือเรียนวิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ใบความร้ปู ระจาหนว่ ย 3. ใบงานและแบบฝกึ หดั 4. เครอื่ งไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเคร่ืองฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซดี สี ือ่ การสอน 6. วัดผลประเมนิ ผลประจาํ หน่วย 1. สังเกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือรน้ ใน การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรยี นรปู้ ระจาหนว่ ย 2. ทาใบงานได้อยา่ งถูกต้อง ทนั เวลาท่กี าหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ 3. ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั หลงั เรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างต่า 7. กจิ กรรมเสนอแนะประจาํ หนว่ ย 1. ผ้เู รียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพ่ือหาเทคนิค วิธีการ หรือหลกั การง่ายเพื่อให้หาคาตอบได้ อย่างถกู ต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟังหลกั การ เทคนคิ วิธกี ารทคี่ รูผ้สู อนสรุปในขณะที่ทาการ สอน และนาขอ้ สงสัยซักถามครูในการเรยี นทุกคร้งั ท่เี กดิ ความสับสน และไมเ่ ขา้ ใจ 2. ผมู้ กี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สร้างความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริง 3. ผเู้ รียนหม่ันทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขข้อทีผ่ ดิ ใหถ้ ูกต้องเสมอ 4. ผูเ้ รียนต้องสร้างมโนภาพให้เกดิ ความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพรอ้ มกบั ความจาเปน็ ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ขนึ้ โดยตนเองใหไ้ ด้เพ่ือเกิดค่ วามรคู้ วามเข้าใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่เกดิ จากการท่องจา 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผเู้ รยี นตอ้ งทบทวนบทเรยี นทั้งก่อนเรยี นและหลังเรียนอย่อู ยา่ งสม่าเสมอ

2. ผเู้ รียนหม่นั เขา้ ช้นั เรียนเพ่ือรับฟงั เทคนิค วธิ ี และแนวทางที่ดีกับครูสอนอย่างตั้งใจ 3. ผ้เู รียนสนใจทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขให้ถูกตอ้ งทุกครง้ั ท่ีทาผดิ 4. กลา้ ทีจ่ ะถามทุกครั้งทเ่ี กิดความสงสัยและไมเ่ ข้าใจหรอื ตามบทเรียนไม่ทนั เฉลยกจิ กรรมบทที่ 4 ตอนที่ 1 เลือกคาํ ตอบทีถ่ ูกต้องทสี่ ดุ เพยี งข้อเดียว 1. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีที่เป็นอันตรายตอ่ เครื่องคอมพวิ เตอร์น้อยท่ีสดุ ก. ความร้อน ข. ความช้ืน ค. สนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ ง. แมลง 2. ข้อใดเปน็ การดูแลรกั ษาคอมพิวเตอร์แบบผดิ วธิ ี ก. ตงั้ เครื่องคอมพิวเตอรใ์ ห้ห่างๆ จากผนังหรอื กาแพง ข. เปดิ แผ่นเหล็กปดิ สล็อตเพือ่ ช่วยระบายอากาศ ค. ในที่ๆ มฝี นุ่ ละอองมาก ควรเปา่ ลมทาความสะอาดเดือนละค้ร้ง ง. ตดิ ตง้ั UPS เพ้ิอช่วยรักษาระดับแรงดันไฟฟา้ 3. ขอ้ ใดตอ่ ไปนีไ้ ม่ถูกตอ้ ง ก. เมือ่ ต้องการจดั ระเบยี บขอ้ มูลในฮารด์ ดิสก์ ให้ใช้โปรแกรม Disk Defragmenter ข. โปรแกรม Disk Defragmenter สามารถชว่ ยเพมิ่ เนือ้ ทใี่ นฮารด์ ดิสกไ์ ด้ ค. เราควรหยุดใช้โปรแกรมอื่นๆ ช่ัวคราวหากเรากาลงั จดั ระเบยี บข้อมูลฮารด์ ดสิ ก์อยู่ ง. เราสามารถใชโ้ ปรแกรม Disk Cleanup เพ่ือลบไฟล์ขยะตา่ งๆ ได้ 4. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไม่ใชป่ ญั หาทเี่ กิดขึน้ กับฮาร์ดดสิ ก์ ข. มีไฟล์ขยะในปริมาณมาก ก. เปิดโปรแกรมบางโปรแกรมไมไ่ ด้ ง. Windows ทางานชา้ ลง ค. เขียนขอ้ มลู เพม่ิ ลงไปไมไ่ ด้ 5. ขอ้ ใดตอ่ ไปนไ้ี มใ่ ชป่ ระเภทของขอ้ มูลที่สามารถลบได้โดยใช้โปรแกรม Disk Cleanup ก. ไฟลท์ ่ีไมม่ ีความสาคัญสามารถลบทิง้ ได้ ข. ไฟลท์ ่ีอยู่ใน Recycle Bin ค. ไฟลข์ ้อมูลท่ไี ม่ต้องการใช้งานแลว้

ง. ไฟล์ข้อมลู ทดี่ าวน์โหลดมาจากอินเทอร์เนต็ 6. อุปกรณ์ทชี่ ่วยในการรักษาระดบั แรงดันไฟฟา้ ให้คงที่ คือ ข้อใด ก. SVU ข. UPS ค. UMS ง. SUV 7. ข้อใดต่อไปนี้ ที่สามารถลบทิ้งได้ โดยไม่ผลตอ่ การทางานของคอมพิวเตอร์ ก. Temporary Internet Files ข. Temporary Files ค. Microsoft Office Temporary Files ง. ถูกทกุ ขอ้ 8. Temporary Files เกดิ ข้ึนไดอ้ ยา่ งไร ข. โปรแกรมสารองไฟลเ์ อาไว้ ก. โปรแกรมเกดิ ทางานผิดพลาด ง. ถกู ท้ัง ก. และ ค. ค. โปรแกรมถกู ยกเลกิ การทางานกลางคัน 9. ข้อใดเป็นความสามารถของ Power Options ก. เพมิ่ พลังงานใหก้ บั เคร่ือง ข. ชว่ ยให้อุปกรณ์ประสานการทางานได้อยา่ งสอดคล้อง ค. ข่วยประหยดั พลังงาน ง. ถูกทุกข้อ 10. เราสามารถกาหนดให้คอมพวิ เตอร์เขา้ สูโ่ หมดประหยัดพลังงาน โดยระยะเวลาตา่ สุด เทา่ ใด ก. 15 วินาที ข. 30 วนิ าที ค. 45 วินาที ง. 1 นาที ตอนท่ี 2 ตอบคาํ ถามตอ่ ไปนี้ 1. ความรอ้ นมีผลตอ่ คอมพิวเตอร์อย่างไร หากความร้อนสูงเกนิ ขอบเขตท่ีฮารด์ แวรท์ นได้ ก็จะเกิดการเส่ือมของฮารด์ แวร์ชน้ิ น้ัน 2. ฝุ่นละอองมผี ลต่อคอมพวิ เตอรอ์ ย่างไร หากเข้าไปขดั ขวางทางเดินของกระแสไฟฟ้า ทาใหอ้ ุปกรณ์ทางานได้ไม่เต็มทีห่ รือทางานติดขดั

3. เมือ่ มีการใช้งานฮาร์ดดิสก์ไปสักระยะ ฮาร์ดดิสกจ์ ะมีการทางานช้าลงเพราะเหตใุ ด และสามารถแก้ไขปญั หา ดังกลา่ วได้อย่างไร เพราะขอ้ มูลอยู่กระจดั กระจายกัน / ใชโ้ ปรแกรม Disk Defragmenter 4. จงอธิบายขั้นตอนในการตรวจสอบและลบไฟลท์ ่ีไมใ่ ช้ใน Windows 7 1. เปิดโปแกรม Disk cleanup โดยคลกิ ขวาที่ไดรว์ที่ต้องการ เลือกคาสั่ง Properties 2. คลกิ แทบ็ General แลว้ คลิกปมุ Disk cleanup 3.เลอื กรายการที่ตอ้ งการลบ 4. คลกิ ป่มุ OK 5. จงอธิบายขัน้ ตอนในการจัดระเบยี บข้อมลู ในฮาร์ดดิสก์ใน Windows 7 1. คลิกขวาท่ีไดรวท์ ี่ต้องการ เลือกคาสั่ง Properties 2. คลกิ แท็บ Tools แลว้ คลิกปุ่ม Defragment now… 3. คลิกเลอื กไดรว์ แล้วคลิกปมุ่ Defragment disk 4 รอจนโปรแกรมทางานเสรจ็ แลว้ คลกิ ปมุ่ close 6. โปรแกรม Task Scheduler มีส่วนช่วยในการดแู ลรกั ษาคอมพวิ เตอร์อย่างไร ชว่ ยกาหนดการดูแลรกั ษาระบบ อตั โนมตั ิ เชน่ ใหท้ างาน Disk Defragment ทกุ ๆ 1 เดอื น

แผนจัดการเรียนรู้ วิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ รหสั วิชา 2901-1002 ชัน้ ปวช. หน่วยที่ 5 เรื่อง แกไ้ ขการทํางานของ Windows ดว้ ยยทู ิลติ ี้ สปั ดาหท์ ี่ 6-7 เวลา 6 ชั่วโมง 1. สาระสาํ คัญ ปัญหาจากการทางานกบั Windows เกิดขึ้นไดจ้ ากหลายสาเหตุ และบางคร้ังปัญหาเหล่านี้มกั จะมาในช่วงเวลาที่ เราคดิ ไม่ถึง หากเกดิ ปัญหาเหลา่ นขี้ ้ึน เราสามารถแก้ไขปญั หาเบอื้ งตน้ ได้ด้วยตวั เองก่อน โดยใชเ้ ครื่องมอื ทม่ี ีใน Windows และจดั ระบบการเก็บข้อมลู ใหม่ โดยใช้ยูทิลิต้ีเข้ามาช่วย 2. ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวัง 1. แก้ปญั หาเคร่อื งค้างไมต่ อบสนอง 2. การเข้าสู่ Safe Mode 3. การยอ้ นกลับไปใชไ้ ดรเวอร์ตัวเกา่ 4. จดั การพารต์ ชิ ั่น

3. กิจกรรมการเรยี นรู้กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน ข้นั นาํ เขา้ สู่บทเรียน (20 นาที) 1. ตรวจสอบรายช่ือนกั ศกึ ษาทเี่ ข้าเรยี น 1. ให้ความร่วมมือกับครใู นการตรวจสอบ 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น โดยการถามผู้เรยี นในห้อง 2. ผู้เรียนช่วยกันหาคาตอบจากส่งิ ทคี่ รูกาหนด 3. ร่วมสนทนาเก่ียวกบั เร่ืองปัญหาท่ีเกิดกับ 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ windows ขัน้ ดาํ เนินการสอน (80 นาที) 1. บอกจดุ ประสงค์การเรยี น 1. ฟงั ทาความเข้าใจและซักถาม 2. บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอย่าง แสดงวธิ ีการ 2. ฟงั ทาความเข้าใจและปฎิบตั ติ าม ปฎบิ ัติในแต่ ละหวั ข้อการเรยื นและใหน้ กั ศึกษา 3. ผเู้ รียนซักถามข้อสงสัยและจดบันทึก ปฎบิ ตั ิไปพร้อมกัน รบั การประเมนิ 3. ครูบอกวิธกี ารและแนวคิดในการปฏิบัตทิ ี่ ถูกต้องใหแ้ ก่ผูเ้ รียน 4. ประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถาม ในแตล่ ะคน ขนั้ สรปุ (20 นาที) 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคญั 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคัญ 2. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสยั 2. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสัย 3. ฟงั และจดบนั ทึก 3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาและศึกษาเพม่ิ เติม 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท 4. ทาแบบทดสอบ 4.กจิ กรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ครูชแ้ี จงใหผ้ ูเ้ รยี น เห็นความสาคัญ เพ่ือเป็นประโยชนใ์ นการเรยี นรู้ และนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั 2. ครูช้ีแจงวตั ถุประสงคร์ ายวิชา 3. ครชู ี้แจงระเบยี บวา่ ดว้ ยเวลาเรียน 4. ครตู กลงกับผเู้ รยี น เร่อื งการแบง่ คะแนนเก็บระหวา่ งภาคดังน้ี 5. ครูตกลงกับผู้เรยี นเรอื่ งการปฏิบตั ติ นในหอ้ งเรยี นตามแบบประเมิน 6. ครบู อกแนวทางในการเรียน และวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ ามภาระงานทมี่ อบหมาย ขณะเรียน 1. ทาแบบฝึกหดั ก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ และให้แสดงความคิดเห็น 2. จดบนั ทกึ สาระการเรยี นรู้

3. รว่ มกันสรุปบทเรยี น พร้อมบนั ทึกผลการสรปุ แล้วลุกขึ้นนาเสนอกับครผู ูส้ อน 4. ผูเ้ รียนและครผู ู้สอนรว่ มกันประเมนิ ข้อสรุปของผู้เรยี นท่ีออกแสดงความคดิ เห็นเพือ่ ให้ได้ข้อสรุปที่ ถูกต้อง และครูผสู้ อนแสดงความช่ืนชมกับผู้เรยี นทุกคนทอ่ี อกแสดงความคิดเห็นและมสี ว่ นร่วมใน5. กิจกรรมที่ มอบหมาย 6. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แก้ไขใบงาน 7. ทบทวนเนือ้ หา 8. ทาแบบฝกึ หัดหลงั เรียน 9. ร่วมกันเฉลยแบบฝึกหดั 5.สอ่ื การเรยี นการสอนประจําหนว่ ย 1. หนงั สือเรียนวิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ใบความร้ปู ระจาหนว่ ย 3. ใบงานและแบบฝกึ หดั 4. เครอื่ งไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเคร่ืองฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซดี สี ือ่ การสอน 6. วัดผลประเมนิ ผลประจาํ หน่วย 1. สังเกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือรน้ ใน การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรยี นรปู้ ระจาหนว่ ย 2. ทาใบงานได้อยา่ งถูกต้อง ทนั เวลาท่กี าหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ 3. ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั หลงั เรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างต่า 7. กจิ กรรมเสนอแนะประจาํ หนว่ ย 1. ผ้เู รียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพ่ือหาเทคนิค วิธีการ หรือหลกั การง่ายเพื่อให้หาคาตอบได้ อย่างถกู ต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟังหลกั การ เทคนคิ วิธกี ารทคี่ รูผ้สู อนสรุปในขณะที่ทาการ สอน และนาขอ้ สงสัยซักถามครูในการเรยี นทุกคร้งั ท่เี กดิ ความสับสน และไมเ่ ขา้ ใจ 2. ผมู้ กี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สร้างความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริง 3. ผเู้ รียนหม่ันทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขข้อทีผ่ ดิ ใหถ้ ูกต้องเสมอ 4. ผูเ้ รียนต้องสร้างมโนภาพให้เกดิ ความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพรอ้ มกบั ความจาเปน็ ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ขนึ้ โดยตนเองใหไ้ ด้เพ่ือเกิดค่ วามรคู้ วามเข้าใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่เกดิ จากการท่องจา 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผเู้ รยี นตอ้ งทบทวนบทเรยี นทั้งก่อนเรยี นและหลังเรียนอย่อู ยา่ งสม่าเสมอ

2. ผู้เรยี นหมนั่ เขา้ ชัน้ เรยี นเพื่อรบั ฟงั เทคนิค วิธี และแนวทางทีด่ กี บั ครสู อนอยา่ งต้งั ใจ 3. ผู้เรียนสนใจทาใบงาน แบบฝกึ หัด และแก้ไขให้ถูกต้องทุกครั้งท่ีทาผดิ 4. กล้าที่จะถามทุกครัง้ ทีเ่ กดิ ความสงสัยและไมเ่ ข้าใจหรือตามบทเรียนไมท่ นั เฉลยกิจกรรมบทที่ 5 ตอนท่ี 1 จงตอบคําถามต่อไปนี้ 1. ปญั หาจากการใช้งานคอมพวิ เตอร์ไมไ่ ด้มสี าเหตุมาจากอะไร ก. ปัญหาจากฮาร์ดแวร์ ข. ปญั หาซอฟตแ์ วร์ ค. ปญั หาจากผู้ใช้ ง. ปญั หาเครือข่าย 2. ข้อใดเป็นปุ่มสาหรับเข้าสู่ Task Manager ก. <Ctrl>+T ข. <Ctrl>+<Del> ค. <Ctrl>+M ง. <Ctrl>+<Alt>+<Del> 3. ปมุ่ สาหรบั เขา้ สู่ Safe Mode คือข้อใด ก. <F1> ข. <F8> ค. <Del> ง. <F11> 4. ไฟลใ์ นข้อใดเป็นไฟล์ทีบ่ ันทึกรายละเอยี ดระหว่างการบู๊ตเคร่ือง ก. winlog.txt ข. ntbtlog.txt ค. bootlog.txt ง. log.txt 5. ปมุ่ ใดชว่ ยให้เรากลบั ไปใช้ไดรเวอร์ตวั เก่าได้ ก. Driver Details ข. Update Driver ค. Roll Back Driver

ง. Uninstall 6. เคร่อื งมือในการจัดการพารต์ ิช่ันท่มี าพร้อมกับ Windows มชี ่ือวา่ ก. Drive Management ข. Drive Manager ค. Disk Management ง. Disk Manager 7. ไดรวท์ ี่เป็น Unallocation space หมายความวา่ อย่างไร ก. มีข้อมลู ของการบู๊ตระบบอยู่ ข. พ้นื ที่เสีย ไมส่ ามารถบนั ทึกขอ้ มูลได้ ค. ไดรวส์ ารองของระบบ ง. พน้ื ท่ีว่าง ที่ยังไมจ่ ดั แบ่งพารต์ ชิ ั่น ตอนท่ี 2 ตอบคาํ ถามตอ่ ไปนี้ 1. เม่ือเกดิ อาการโปรแกรมค้าง มวี ธิ แี ก้ไขอย่างไร 1. กดปุ่ม <Ctrl>+<Alt>+<Del> เพอ่ื เปิด Start Task Manager 2. คลิกเลอื กรายการที่ Not Responding 3. คลิกปุ่ม End Task 2. อธบิ ายตวั เลือกของ Safe Mode ต่อไปน้ี Safe Mode with Command Prompt มีหนา้ ตาแบบ Command Prompt เหมือนกบั หนา้ จอ MS-DOS โดยตอ้ งใชค้ าสั่ง DOS ในการทางาน Enable Boot Logging ให้บนั ทึกรายละเอียดระหวา่ งการบู๊ตเคร่ืองลงในไฟล์ ntbtlog.txt เพ่ือการวิเคราะห์ Last Known Good Configuration เป็นการบูต๊ เขา้ สรู่ ะบบโดยใช้คา่ เดิมทีเ่ คยใช้งานไดล้ า่ สุดก่อนที่เครื่องจะมีปัญหา 3. พารต์ ิช่ันคืออะไร พน้ื ท่ีฮารด์ ดสิ ก์ทถี ูกแบ่งออกเป็นไดรวต์ ่างๆ

แผนจัดการเรียนรู้ วิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ รหัสวิชา 2901-1002 ชนั้ ปวช. หนว่ ยที่ 6 เรื่อง ยูทิลติ ส้ี าํ หรับแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ สปั ดาห์ท่ี 8-9 เวลา 6 ชวั่ โมง 1. สาระสําคัญ ปัญหาจากการใชค้ อมพวิ เตอร์ ถ้าทางด้านอุปกรณ์ฮารด์ แวรอ์ าจเกิดจากความผดิ พลาดผู้ใชเ้ อง บางคร้ังก็เกดิ ความ ผิดพลาดจากตัวโปรแกรมไม่สมบูรณ์ หรือมสี ่งิ แปลกปลอมเขา้ มาในขณะท่เี ชอื่ มต่ออนิ เทอรเ์ นต็ อยู่ ทร่ี ู้จักกันทั่วไป ว่า “สปายแวร์” และ “ไวรัส” ดงั นั้นจงึ มีโปรแกรมทใ่ี ชส้ าหรบั การแก้ปัญหาคอมพวิ เตอร์ เพื่อชว่ ยบรรเทาปัญหา ดงั กลา่ ว 2. ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง 1. รู้จักและสามารถแยกแยะไวรัส/สงิ่ แปลกปลอมได้ 2. วเิ คราะห์อาการของเครอ่ื งที่ติดไวรัสได้ 3. ใช้ User Account Control เพอ่ื กาหนดระดับการแจง้ เตือนได้ 4. ใช้ Action Center เพื่อเปดิ /ปดิ ระบบรักษาความปลอดภยั

5. ใชโ้ ปรแกรม Norton Antivirus จากัดไวรัสในเครือ่ งได้ 6. ใช้โปรแกรม Windows Defender จดั การกบั สปายแวร์ 7. ป้องกันการบุกรุกจากคอมพิวเตอรเ์ ครอ่ื งอน่ื หรือโปรแกรมอนั ตรายด้วย Firewall

3. กจิ กรรมการเรียนรู้กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น ข้นั นาํ เข้าส่บู ทเรียน (20 นาที) 1. ตรวจสอบรายชอื่ นักศึกษาที่เข้าเรียน 1. ให้ความร่วมมือกับครใู นการตรวจสอบ 2. ทดสอบกอ่ นเรียน โดยการถามผเู้ รียนในห้อง 2. ผเู้ รยี นชว่ ยกนั หาคาตอบจากสงิ่ ทค่ี รูกาหนด 3. รว่ มสนทนาเกีย่ วกบั เร่ืองไวรัส 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคิดเหน็ ขั้นดาํ เนินการสอน (80 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรียน 1. ฟงั ทาความเข้าใจและซักถาม 2. บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอยา่ ง แสดงวิธีการ 2. ฟงั ทาความเขา้ ใจและปฎิบัตติ าม ปฎิบัติในแต่ ละหวั ขอ้ การเรยื นและให้นกั ศึกษา 3. ผูเ้ รยี นซักถามข้อสงสยั และจดบนั ทึก ปฎบิ ตั ิไปพร้อมกัน รบั การประเมิน 3. ครูบอกวิธีการและแนวคิดในการปฏบิ ัติท่ี ถกู ต้องให้แกผ่ เู้ รียน 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถาม ในแต่ละคน ขั้นสรปุ (20 นาที) 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคญั 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคัญ 2. นักเรยี นสอบถามขอ้ สงสยั 2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั 3. ฟังและจดบนั ทึก 3. มอบหมายให้ไปหัดทาและศกึ ษาเพมิ่ เติม 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท 4. ทาแบบทดสอบ 4.กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรยี น 1. ครชู แ้ี จงใหผ้ ้เู รียน เหน็ ความสาคญั เพ่ือเปน็ ประโยชนใ์ นการเรยี นรู้ และนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั 2. ครชู ้แี จงวัตถุประสงคร์ ายวิชา 3. ครูชแ้ี จงระเบยี บวา่ ดว้ ยเวลาเรียน 4. ครูตกลงกับผเู้ รยี น เร่ืองการแบ่งคะแนนเกบ็ ระหวา่ งภาคดังนี้ 5. ครูตกลงกบั ผเู้ รยี นเร่อื งการปฏิบัตติ นในห้องเรียนตามแบบประเมนิ 6. ครูบอกแนวทางในการเรยี น และวิธีการปฏิบัติตามภาระงานท่ีมอบหมาย ขณะเรียน 1. ทาแบบฝกึ หดั ก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ และให้แสดงความคิดเห็น 2. จดบนั ทกึ สาระการเรียนรู้ 3. รว่ มกนั สรปุ บทเรียน พร้อมบนั ทกึ ผลการสรปุ แลว้ ลกุ ข้ึนนาเสนอกบั ครผู สู้ อน

4. ผ้เู รียนและครผู ูส้ อนร่วมกันประเมินข้อสรปุ ของผ้เู รียนที่ออกแสดงความคิดเห็นเพือ่ ให้ได้ข้อสรปุ ท่ี ถกู ต้อง และครูผสู้ อนแสดงความชน่ื ชมกับผูเ้ รียนทุกคนท่ีออกแสดงความคิดเหน็ และมีส่วนร่วมใน5. กจิ กรรมท่ี มอบหมาย 6. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แกไ้ ขใบงาน 7. ทบทวนเนอื้ หา 8. ทาแบบฝกึ หัดหลงั เรยี น 9. ร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด 5.ส่อื การเรยี นการสอนประจําหน่วย 1. หนังสอื เรียนวิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ใบความรู้ประจาหนว่ ย 3. ใบงานและแบบฝกึ หดั 4. เครอ่ื งไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเคร่ืองฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซีดีสอ่ื การสอน 6. วดั ผลประเมินผลประจาํ หนว่ ย 1. สงั เกตผู้เรยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื รน้ ใน การแสดงความคดิ เหน็ และสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจาหนว่ ย 2. ทาใบงานได้อย่างถูกต้อง ทนั เวลาที่กาหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ 3. ผเู้ รยี นทาแบบฝกึ หัดหลังเรยี นได้ถูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างตา่ 7. กิจกรรมเสนอแนะประจําหน่วย 1. ผเู้ รยี นตอ้ งให้ความสนใจในการศึกษา เพ่ือหาเทคนคิ วิธกี าร หรือหลกั การง่ายเพื่อให้หาคาตอบได้ อย่างถกู ต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟงั หลักการ เทคนคิ วธิ ีการทค่ี รผู ้สู อนสรุปในขณะที่ทาการ สอน และนาข้อสงสัยซักถามครูในการเรยี นทกุ ครัง้ ท่เี กดิ ความสบั สน และไม่เขา้ ใจ 2. ผู้มีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพื่อเสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแท้จริง 3. ผู้เรียนหมน่ั ทาใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขข้อทีผ่ ิดให้ถูกตอ้ งเสมอ 4. ผเู้ รียนตอ้ งสรา้ งมโนภาพให้เกดิ ความคดิ รวบยอดในสาระการเรียนรแู้ ละเทคนคิ วธิ กี ารพรอ้ มกับ ความจาเป็นในการนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองใหไ้ ด้เพ่ือเกิด่ความรคู้ วามเข้าใจอย่างแท้จริง ไม่ใชเ่ กดิ จากการท่องจา 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผู้เรียนตอ้ งทบทวนบทเรยี นทั้งก่อนเรียนและหลงั เรียนอยู่อยา่ งสม่าเสมอ 2. ผเู้ รยี นหม่นั เข้าชน้ั เรยี นเพื่อรบั ฟังเทคนิค วิธี และแนวทางทดี่ กี ับครูสอนอยา่ งตงั้ ใจ

3. ผเู้ รยี นสนใจทาใบงาน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขให้ถูกต้องทุกครัง้ ที่ทาผิด 4. กล้าทจ่ี ะถามทกุ ครงั้ ท่เี กิดความสงสัยและไมเ่ ข้าใจหรอื ตามบทเรียนไมท่ นั เฉลยกิจกรรมหน่วยที่ 6 ตอนที่ 1 เลือกคาํ ตอบทถี่ ูกต้องที่สดุ เพยี งข้อเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของไวรัส ก. ไวรสั ประเภทมาโคร ข. ไวรสั ทซ่ี ่อนตวั อยู่ในบ๊ตู เซกเตอร์ ค. ไวรัสที่แนบมากับอีเมล์ ง. ไวรสั ประเภทตดั การเช่อื มตอ่ ข้อมลู 2. ข้อใดเปน็ การทางานของไวรสั ประเภท Worms ก. เกาะติดกบั ไฟล์ข้อมลู และแพร่กระจายเมื่อมีการใชไ้ ฟล์นนั้ ข. ทางานทกุ ครั้งเม่ือมีการบู๊ตเคร่ือง ค. กระจายไปทางระบบเครือขา่ ย ง. อยใู่ นไฟล์เอกสารประเภท Word และ Excel 3. ไวรสั ในข้อใดถกู ออกแบบมาเพือ่ ขโมยข้อมลู ในเคร่ือง และสง่ กลบั ไปทางเครือขา่ ย ก. ไวรสั ประเภทมาโคร ข. ไวรสั ทซี่ ่อนตัวอยู่ในบูท๊ เซกเตอร์ ค. มา้ โทรจัน ง. ไวรสั ประเภท Worms 4. โปรแกรม Avast Antivirus หลงั จากลงทะเบยี นอย่างถูกตอ้ ง สามารถใชง้ านไดก้ ่ีเดอื น ก. 1 เดือน ข. 3 เดือน ค. 6 เดอื น ง. 12 เดอื น 5. อาการในข้อใด ท่บี ่งบอกวา่ เครอื่ งคอมพิวเตอร์ถูกสปายแวร์เลน่ งานเขา้ แล้ว ก. มแี ถบเครื่องมือ (Tools Bar) แปลกๆ โผล่ขึ้นมาที่หนา้ ต่างบราวเซอร์ ข. วอลเปเปอรข์ องหน้าจอคอมพิวเตอร์ถกู เปลย่ี นอัตโนมัติ ค. ไฟล์ฮาร์ดดสิ กท์ างานอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่ไม่มีการทางานใดๆ อยู่ ง. ถูกทุกขอ้ 6. ข้อใดเป็นโปรแกรมสาหรบั จดั การสปายแวร์

ก. โปรแกรม Microsoft Anti-Spyware ข. โปรแกรม SpyBot ค. โปรแกรม AdAware ง. ทุกข้อเป็นโปรแกรมใช้ตรวจจบั สปายแวร์ 7. ความหมายของ Adware คือขอ้ ใด ก. เป็นไวรัสประเภทหน่งึ ข. มักติดกบั ไฟลข์ ้อมลู ประเภท Word และ Excel ค. เก่ียวกบั Pop-Up โฆษณาทมี่ กั แสดงขึ้นมาระหวา่ งใช้งาน ง. ไมม่ ขี ้อใดถูก 8. หากต้องการป้องกนั การติดตั้งจากโปรแกรมทแี่ ฝงตวั เข้ามา ควรใชเ้ คร่อื งมือใด ก. User Account Control ข. Action Center ค. Firewall ง. Virus protection 9. หากต้องการปิดการอพั เดทของ Windows ตอ้ งเข้าไปส่วนใด ก. User Account Control ข. Action Center ค. Firewall ง. Virus protection 10. ข้อใดตอ่ ไปนท้ี ่ี Windows Firewall สามารถทาได้ ก. คอยสกัดก้ันการติดต่อท่เี ราไม่อาจทราบ ข. ตรวจจับไวรสั ท่ีเข้ามาอาศัยในเครือ่ งแลว้ ค. ป้องกันการเปดิ ไฟล์ท่ีแนบมากับอเี มล์ ง. สกัดก้นั เมลข์ ยะ ตอนที่ 2 ตอบคาถามต่อไปน้ี 1. อธิบายการทางานของไวรสั คอมพิวเตอรต์ ่อไปน้ี ไวรัสมาโคร เป็นมาโครทที่ างานกบั โปรแกรม Word หรือ Excel จะทางานอัตโนมตั ิเพยี งแคเ่ ปดิ เอกสารเท่าน้นั มา้ โทรจนั เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพอ่ื ขโมยข้อมลู สาคัญในเครื่องของเรา Worms เป็นไวรัสทแี่ พร่กระจายไปยังคอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งอื่นท่เี ชื่อมต่อกันผา่ นเครือข่าย

2. อธบิ ายตวั เลือกในการจัดการไวรสั คอมพิวเตอร์ของโปรแกรม Norton Antivirus ตอ่ ไปนี้ Ignore ไม่จัดการใดๆ กับไฟล์นัน้ Delete ลบไฟลท์ งิ้ ไปกับไวรัส Exclude นาไฟล์ไปกักกันเอาไว้ 3. ยกตัวอย่างอาการของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกสปายแวร์เล่นงานมา 5 ตัวอยา่ ง 1. มี Pop Up โฆษณาข้นึ มาอยูต่ ลอด ในขณะที่เปิดเว็บค้างไว้ 2. มีแถบเครอ่ื งมือ (Tool Bar) แปลกๆ เพิ่มขึน้ มาบนหน้าตา่ งบราวเซอร์ 3. มไี อคอนโฆษณาปรากฏข้ึนมาบนเดสกท์ ็อป แมล้ บไปแล้วก็ยังกลบั มาแสดงตลอด 4. รายช่อื เวบ็ ไซต์ใน Favorites เพ่มิ ข้ึนมาเอง ทั้งๆ ทไ่ี มเ่ คยเข้าเวบ็ นนั้ มาก่อน 5. ฮาร์ดดสิ ก์มกี ารทางานอยู่ตลอด ทง้ั ๆ ท่ีไม่ไดท้ างานใดๆ กับเครอ่ื ง 4. บอกข้อแนะนาในการเปิดอีเมล์เพ่ือป้องกนั ไวรสั 1. ไมเ่ ปิดเมลท์ ไ่ี มท่ ราบแหลง่ ทม่ี า 2. ไมเ่ ปิดเมล์ทเ่ี ป็นคนทเี่ รารู้จกั แตเ่ นอื้ หามนั ภาษาท่ีไม่เข้าใจ หรือมีลิงค์ให้คลกิ 3. ไม่เปิดเมลโ์ ฆษณาชวนเช่ือต่างๆ 5. Firewall สามารถช่วยทางานสิง่ ใดได้บ้าง 1. สกดั กนั้ ไวรัสและเวิร์มจากภายนอกเข้ามาในเครื่องของเรา 2. คอยสกดั กนั้ การตดิ ตอ่ ที่เราอาจไมท่ ราบ โดยจะถามเราว่าต้องการอนญุ าตการตดิ ตอ่ นห้ี รือไม่ 3. บนั ทึกข้อมลู เกีย่ วกบั ความพยายามจากภายนอกในการติดต่อกบั คอมพิวเตอร์ของเราไว้ เพอ่ื นามา วิเคราะห์ในภายหลงั ได้

แผนจดั การเรยี นรู้ วิชา การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ รหัสวิชา 2901-1002 ช้ัน ปวช. หนว่ ยที่ 7 เรือ่ ง ยทู ิลติ ้ีสําหรบั สาํ รองและเรียกคนื ข้อมูล สปั ดาห์ที่ 10-11 เวลา 6 ชัว่ โมง 1. สาระสาํ คญั การสารองข้อมลู สาคญั ๆ ควรกระทาไว้เสมอ เพราะเราไมท่ ราบว่า เหตุการณ์ไม่คาดฝนั จะเกิดขน้ึ เม่ือไหร่ เมือ่ เหตุการณน์ น้ั เกิด้ขน่ึ จริง เราก็สามารถเรยี กคืนข้อมลู ท่สี ารองไวม้ าใชง้ านได้ 2. ผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวงั 1. สารองข้อมลู ดว้ ย Backup 2. การเรยี กคนื ไฟล์ข้อมลู ด้วย Restore Files 3. การสารองข้อมูลดว้ ย System Image 4. การเรยี กคืนไฟล์ข้อมลู ด้วย System Image 5. สารองไดรเวอร์ด้วย Driver Genius 6. เรียกคนื ไดรเวอร์ 7. โอนยา้ ยข้อมูลพร้อมกาหนดค่า 8. เรยี กข้อมลู และการกาหนดค่าคืนมา

3. กิจกรรมการเรียนรู้กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น ขน้ั นําเข้าสู่บทเรยี น (20 นาที) 1. ตรวจสอบรายชอื่ นกั ศึกษาทีเ่ ข้าเรยี น 1. ให้ความรว่ มมือกับครใู นการตรวจสอบ 2. ทดสอบกอ่ นเรียน โดยการถามผู้เรียนในห้อง 2. ผู้เรยี นช่วยกนั หาคาตอบจากสิ่งท่คี รูกาหนด 3. ร่วมสนทนาเก่ียวกบั เร่ืองการสารองข้อมลู 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ ขน้ั ดําเนนิ การสอน (80 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรียน 1. ฟัง ทาความเข้าใจและซักถาม 2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธกี าร 2. ฟัง ทาความเขา้ ใจและปฎิบัตติ าม ปฎิบัติในแต่ ละหัวขอ้ การเรยื นและใหน้ กั ศกึ ษา 3. ผู้เรยี นซกั ถามข้อสงสยั และจดบันทึก ปฎิบตั ิไปพร้อมกัน รับการประเมนิ 3. ครูบอกวิธกี ารและแนวคดิ ในการปฏบิ ัติท่ี ถูกต้องใหแ้ ก่ผู้เรียน 4. ประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคลโดยครจู ะซักถาม ในแตล่ ะคน ขั้นสรปุ (20 นาที) 1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสาระสาคญั 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสาระสาคญั 2. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสัย 2. เปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย 3. ฟงั และจดบนั ทึก 3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาและศกึ ษาเพิ่มเตมิ 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท 4. ทาแบบทดสอบ 4.กิจกรรมการเรยี นรู้ กอ่ นเรียน 1. ครูชี้แจงใหผ้ เู้ รียน เห็นความสาคญั เพ่ือเปน็ ประโยชนใ์ นการเรยี นรู้ และนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 2. ครชู ี้แจงวตั ถุประสงคร์ ายวิชา 3. ครูช้แี จงระเบยี บวา่ ด้วยเวลาเรียน 4. ครูตกลงกับผู้เรยี น เรอ่ื งการแบ่งคะแนนเก็บระหวา่ งภาคดงั น้ี 5. ครูตกลงกบั ผูเ้ รยี นเรอ่ื งการปฏิบตั ติ นในห้องเรียนตามแบบประเมนิ 6. ครบู อกแนวทางในการเรียน และวธิ กี ารปฏบิ ตั ิตามภาระงานท่ีมอบหมาย ขณะเรยี น 1. ทาแบบฝึกหดั ก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ และใหแ้ สดงความคิดเหน็ 2. จดบนั ทึก สาระการเรียนรู้ 3. ร่วมกันสรุปบทเรียน พร้อมบนั ทกึ ผลการสรุป แลว้ ลุกข้ึนนาเสนอกบั ครผู สู้ อน

4. ผเู้ รยี นและครูผ้สู อนร่วมกันประเมินข้อสรุปของผ้เู รยี นที่ออกแสดงความคิดเหน็ เพื่อให้ไดข้ ้อสรุปท่ี ถูกต้อง และครูผู้สอนแสดงความช่ืนชมกบั ผ้เู รยี นทุกคนท่อี อกแสดงความคิดเหน็ และมีส่วนรว่ มใน5. กิจกรรมท่ี มอบหมาย 6. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แก้ไขใบงาน 7. ทบทวนเน้ือหา 8. ทาแบบฝกึ หัดหลงั เรยี น 9. ร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด 5.สื่อการเรียนการสอนประจําหนว่ ย 1. หนังสือเรียนวิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 2. ใบความรปู้ ระจาหน่วย 3. ใบงานและแบบฝึกหัด 4. เครอื่ งไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. แผ่นใสและเคร่ืองฉายภาพข้ามศรี ษะ 6. ซีดีสอื่ การสอน 6. วดั ผลประเมินผลประจาํ หนว่ ย 1. สงั เกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นรูป้ ระจาหน่วย 2. ทาใบงานได้อยา่ งถูกต้อง ทันเวลาที่กาหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ 3. ผเู้ รียนทาแบบฝึกหดั หลังเรยี นไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างตา่ 7. กิจกรรมเสนอแนะประจําหน่วย 1. ผู้เรยี นตอ้ งให้ความสนใจในการศกึ ษา เพ่ือหาเทคนคิ วิธีการ หรือหลกั การง่ายเพ่ือให้หาคาตอบได้ อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟังหลกั การ เทคนิควิธกี ารทค่ี รูผสู้ อนสรุปในขณะที่ทาการ สอน และนาข้อสงสัยซักถามครูในการเรียนทุกครัง้ ที่เกดิ ความสับสน และไม่เข้าใจ 2. ผ้มู กี ารทบทวนบทเรียน ตลอดเพื่อเสรมิ สร้างความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง 3. ผู้เรียนหมัน่ ทาใบงาน แบบฝึกหดั และแก้ไขข้อทผี่ ิดใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ 4. ผูเ้ รยี นต้องสรา้ งมโนภาพใหเ้ กิดความคดิ รวบยอดในสาระการเรยี นรแู้ ละเทคนคิ วธิ กี ารพร้อมกับ ความจาเปน็ ในการนาไปประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ กิดขนึ้ โดยตนเองใหไ้ ดเ้ พื่อเกิด่ความรู้ความเขา้ ใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่เกดิ จากการท่องจา 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผ้เู รียนตอ้ งทบทวนบทเรยี นท้ังก่อนเรยี นและหลังเรียนอยู่อย่างสม่าเสมอ

2. ผู้เรยี นหมนั่ เข้าชน้ั เรียนเพื่อรับฟงั เทคนิค วธิ ี และแนวทางท่ีดีกับครสู อนอยา่ งต้งั ใจ 3. ผู้เรียนสนใจทาใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งทุกครง้ั ที่ทาผิด 4. กล้าท่จี ะถามทกุ คร้งั ท่ีเกิดความสงสยั และไมเ่ ข้าใจหรือตามบทเรยี นไม่ทนั

แผนจดั การเรยี นรู้ วิชา การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ รหัสวิชา 2901-1002 ชน้ั ปวช. หนว่ ยท่ี 8 เรอ่ื ง ยูทิลิตี้สําหรบั การกขู้ ้อมูล สปั ดาหท์ ่ี 12-13 เวลา 6 ช่ัวโมง 1. สาระสาํ คัญ ปญั หาบางอย่างเกดิ จากความไมต่ ัง้ ใจของผู้ใชง้ าน เช่น การเผลอลบข้อมูล ทาใหเ้ กดิ ความตะหนกตกใจ เพราะอาจ ไม่สามารถทาขึ้นใหม่ได้ หรอื ทาก็ใชเ้ วลานาน อย่างไรกต็ าม ปจั จุบนั มโี ปรแกรมหลายตัวท่ชี ว่ ยกขู้ ้อมลู ท่ีถูกลบไป แลว้ กลบั คนื มาได้ แม้จะถูกฟอรแ์ มตแลว้ ก็ตาม 2. ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั 1. กู้ไฟลท์ ลี่ บไปกลับคนื มา 2. กไู้ ฟลท์ ่ถี ูกลบแบบถาวร 3. ก้ขู ้อมูลจากเมมโมรกี่ าร์ด