Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กีฬาแบดมินตัน Badminton

กีฬาแบดมินตัน Badminton

Description: กีฬาแบดมินตัน Badminton

Search

Read the Text Version

คมู่ ือการตดั สินกฬี า แบดมนิ ตนั คนพิการ BADMINTON จดั ทำโดย สำนกั การกฬี า กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

คมู่ ือการตดั สินกฬี า แบดมนิ ตนั คนพิการ BADMINTON จดั ทำโดย สำนกั การกฬี า กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

คาํ นาํ กรมพลศกึ ษา กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกีฬา เป็นองค์กรหลักท่ีมีศักยภาพ ในการพัฒนากีฬาท้ังคนปกติ คนพิการ และคนพิเศษ เพ่ือเสริมสร้างและฟ้ืนฟูสุขภาพ พลานามัย ให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดีเท่าเทียมเสมอภาค ด้วยการใช้กิจกรรมกีฬาเป็นส่ือให้แสดง ความสามารถทางกีฬาเต็มศักยภาพ สนับสนุนส่งเสริมให้มีการเล่นกีฬาและแข่งขันอย่าง ต่อเนื่อง ท้ังในส่วนกลางและ ส่วนภูมิภาค และได้มอบหมายให้ สํานักการกีฬา จัดดําเนินการ แขง่ ขันกีฬานักเรียนคนพิการแห่งชาติ เป็นประจําทุกปี และสนับสนุนงบประมาณให้โรงเรียน สถานศึกษา หน่วยงานคนพิการ จัดการแข่งขันสําหรับผู้พิการด้วย พร้อมทั้งให้จัดทําเอกสาร กติกา และคู่มือการตัดสินกีฬาแบดมินตันคนพิการขึ้น เพ่ือเผยแพร่ให้กับหน่วยงาน สถานศึกษาและองค์กร สําหรับคนพิการได้นําไปศึกษา และยกระดับมาตรฐานการแข่งขัน กฬี าคนพกิ ารไดอ้ ย่างถูกต้องและทันสมัยต่อไป กรมพลศึกษา ขอขอบคุณ กลมุ่ กีฬาคนพกิ ารและคนพิเศษ สํานักการกีฬา ท่ี ได้จัดทําคู่มือการตัดสินกีฬาแบดมินตันคนพิการเล่มน้ีข้ึน และหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ แก่ หนว่ ยงาน สถานศกึ ษาและองคก์ รกีฬาคนพกิ ารทว่ั ไปตามสมควร (นางแสงจนั ทร์ วรสุมนั ต)์ อธิบดกี รมพลศกึ ษา        

สารบัญ คาํ นาํ หนา สารบัญ 1 1 บทที่ 1 ความรูทัว่ ไปและคุณสมบัตขิ องผตู ดั สินกฬี าแบดมินตนั 4 • ความรูท่ัวไปเก่ยี วกบั ผูตัดสนิ 4 • คณุ สมบัติของผตู ดั สนิ แบดมนิ ตนั ทีด่ ี • สง่ิ จําเปน ทผ่ี ตู ัดสนิ ควรรู บทที่ 2 กติกาแบดมินตนั และคําแนะนํากรรมการเทคนคิ 13 ตามมาตรฐานสากล 13 • กตกิ าแบดมินตัน 29 • คําศพั ทท ่วั ไปที่ใชในการตดั สนิ กีฬาแบดมนิ ตนั 33 • คําแนะนาํ กรรมการเทคนคิ ตามาตรฐานสากล 50 • ระบบการนับคะแนนแบบแรลล่พี อยท 54 • ใบบันทกึ คะแนนและการบนั ทกึ คะแนน 61 บทที่ 3 เกณฑต างๆสาํ หรบั นกั กฬี าแบดมินตนั คนพิการ 61 • กฎเกณฑการพจิ ารณานกั กีฬาคนพกิ ารกลุมวลี แชร 65 • เกณฑก ารพิจารณานกั กีฬาประเภทยนื แขง ขนั กลมุ พิการรางกายสวนลาง 68 • เกณฑการพจิ ารณานักกีฬากลมุ พิการแขน 70 • เกณฑก ารพิจารณานกั กฬี าประเภทยืนแขง ขันกลุมคนแคระ คําศัพทก ีฬาแบดมินตนั คนพิการ 71

    บทท่ี 1   ความรทู วั่ ไปและคณุ สมบตั ขิ องผตู ดั สนิ กฬี าแบดมนิ ตนั 1.1 ความรูท่วั ไปเกีย่ วกับผตู ัดสนิ มารยาทผูแ ขงขนั 1. ผูแขงขันตองตระหนักอยูเสมอวาผูเขาแขงขันเปนนักกีฬาสมัครเลน ซึ่งตองมี น้ําใจเปนนักกีฬาอยูเสมอ และพรอมที่จะใหอภัยแกความผิดพลาดทุกโอกาส โดยไม คํานึงถึงผล แพ – ชนะเปน สาํ คัญจนเกินไป 2. ผูเ ขาแขง ขันแตง กายดวยชุดกฬี าสขี าวหรือสีอื่น ๆ สะอาด เรยี บรอย 3. ยมิ้ แยม แจมใสตอคแู ขงขัน แสดงออกถึงมิตรภาพ ความสภุ าพ ออนโยน ดวยการ สมั ผสั มอื หรอื เปด โอกาสใหคูแขงขันไดวอรม รวมทั้งไมเอาเปรียบคูแขงขันในการเส่ียงให โอกาสคูตอสูเปนผนู ําการเลือกเสี่ยงกอน 4. ไมแสดงกิริยาที่ไมดีเมื่อทําเสียเองดวยทาทางหรือคําพูด รวมท้ังการกลาวตําหนิ ผเู ลน ฝายเดียวกนั 5. ใชค าํ พดู ทสี่ ภุ าพในการแขงขัน 6. การถามขอสงสัยหรือถามคะแนนตอผูตัดสินในระหวางการแขงขันควรจะใช ถอ ยคําสุภาพ 7. การอุทธรณคําวินิจฉัยของผูตัดสิน ก็เปนอีกเร่ืองหน่ึงท่ีผูเขาแขงขันควรจะใช ถอ ยคําทร่ี ะมดั ระวัง และเมือ่ ไดทาํ การอทุ ธรณแ ลว ผูอุทธรณต องอยใู นความสงบและพรอม ที่จะทาํ การแขงขนั ตอไปไดและเมื่อผูตัดสนิ ตัดสินอยา งไรกต็ อ งปฏิบัตติ ามดวยความเตม็ ใจ 8. เมื่อขณะดําเนินการแขงขันอยูหากจะหยุดพัก เชน ขอเช็ดเหง่ือ ด่ืมนํ้า เปล่ียน แร็กเกต เปลี่ยนรองเทาถุงเทา ฯลฯ ตองขออนุญาตผูตัดสินทุกคร้ัง เมื่อไดรับอนุญาตแลวจึง ปฏบิ ัติได คมู ือการตัดสนิ กีฬาแบดมินตันคนพิการ 1  

     9. การสงลูกไปใหคูตอสูเปนฝายสงจะตองสงลูกขามตาขายไปใหเสมอ การสงลูก ลอดใตตาขา ยไปใหค ตู อ สถู ือวาเปน การเสียมารยาทอยา งแรง 10. ในระหวางการแขงขัน ถา ผูตัดสนิ ทาํ หนา ทีผ่ ดิ พลาดแตเราอยูในฐานะไดเปรียบ ไมควรใชความไดเ ปรยี บน้ันเปนประโยชน 11. เม่ือการแขงขันเสร็จส้ินลง ถาเราเปนฝายชนะจะตองไมแสดงความดีใจจนเกิน ควรตองเขาไปจับมือคูแขงขันทันทีพรอมแสดงความเสียใจ ถาเปนฝายแพไมควรจะแสดง อารมณฉุนเฉียวตองควบคุมอารมณ และรีบไปแสดงความยินดีกับคูแขงขันโดยทันที เหมอื นกัน 12. ยอมรับและเช่ือฟงการตัดสินโดยไมโตแยง และเม่ือเสร็จส้ินการแขงขันควร แสดงความเคารพผตู ัดสิน 13. ในสนามที่มผี ูมารอเลนอยมู าก และไมใ ชก ารแขง ขนั ไมค วรเลนกันนานเกินไป ควรเปด โอกาสใหผ อู ืน่ ไดเลนบาง มารยาทในการชม 1. แตงกายใหส ภุ าพ เรียบรอย เปน การใหเกียรติแกการแขง ขันน้นั ๆ 2.ใหเกียรตแิ กนักกฬี าทง้ั 2 ฝา ย ดว ยการปรบมือเมอ่ื มีการแนะนําคแู ขง ขนั 3.ไมก ลา ววาจาไมสภุ าพ และไมเชียรฝายใดฝา ยหนึง่ จนดไู มเหมาะสม 4.ขณะการแขงขันยงั ดาํ เนินอยูไมค วรรบกวนสมาธิของผูแขงขนั หรอื ผชู มดว ยกัน 5.การปรบมือเมื่อผูเลนฝายใดฝายหนึ่งเลนไดดี สวยงาม และกระทาํ เมื่อลูกไมไ ดอ ยู ในการเลน 6.ไมแสดงออกดวยกิริยา หรือวิพากษวิจารณการตัดสินของกรรมการ ขณะทําการ แขง ขนั แมว าจะมีขอผดิ พลาด 7.เมือ่ การแขง ขันสนิ้ สดุ ลง ควรปรบมอื ใหเ กียรติแกน กั กฬี าทงั้ 2 ฝาย 2 คูม อื การตดั สินกีฬาแบดมนิ ตนั คนพิการ  

     มารยาทผูต ัดสนิ 1. เม่ือเขาสูสนามแขงขันตองแตงกายใหถูกตองตามลักษณะของผูตัดสิน เครื่อง แตงกายตองประณีตและสะอาด วางตัวในลักษณะสุภาพ ออนนอม สํารวมไมหยอกลอกับ ผูหนงึ่ ผูใดจนเกนิ ควร 2. ระหวางการแขงขัน หลีกเล่ียงการพบปะสนทนากับผูเลน ผูฝกสอน ตลอดจน ผูชม พยายามต้ังใจจริงในการปฏิบัติหนาที่การตัดสิน ตัดสินใจดวยความเด็ดขาดถูกตอง แสดงออกถึงความมีนํ้าใจเปนนักกีฬา ไมแสดงอารมณออกมา ควรใชวาจาเฉพาะในสิ่งท่ี จําเปนใชคําศัพทมาตรฐานพูดเฉพาะหลักการเทาน้ัน เพ่ือสรางความเชื่อมั่นแกผูชม และไม ควรโตเถียงกับผูหนึ่งผูใด ซ่ึงเปนการลดฐานะของตนเอง อันเปนการเส่ือมเสียศักด์ิศรี และ เปนการนาํ ไปสูการทะเลาะวิวาท หรอื ทาํ ใหเกดิ ความคบั ของขุน เคืองใจได 3. เมื่อจบการแขงขัน หลังจากตรวจใบนับคะแนนเรียบรอยแลว ควรรีบออกจาก สนามแขง ขนั ทันที ไมควรรีรออยูเพื่อขออภัยในความผิดพลาดในการตัดสิน หรือเพื่อแสดง ความยินดีหรือเสียใจตอคูแชงชัน ไมควรแสดงความคิดเห็นใด ๆ เก่ียวกับปญหาตาง ๆ ท่ีมี การถกเถียงกันในกรณีท่ีมีผูส่ือขาวขอสัมภาษณควรใหความรวมมือดวยอัธยาศัยอันดี โดย ช้ีแจงอยางเปนธรรมและเหมาะสมในขอบเขตของการเปนผูตัดสิน แตไมควรแสดงความ คิดเห็นที่ซาํ้ เติมหรอื กาวกา ยหนา ท่ีของผูอื่น ความรูท ัว่ ไปเกย่ี วกับผูตดั สนิ แบดมนิ ตัน 1. ควรเปนผูที่มีความสนใจในกีฬาแบดมินตัน ติดตามความเคล่ือนไหวอยู ตลอดเวลา 2. เคยเลนหรือเปนนักกีฬามากอน จะทําใหนักกีฬาเช่ือถือ เคารพ และรูเทคนิค วิธกี ารตาง ๆ ของนกั กีฬา 3. มีความรู ความเขา ใจในกฎ กติกาแบดมนิ ตนั เปน อยา งดี 4. มเี วลาหรอื แบงเวลามาตดั สนิ ได 5. ตอ งมเี ปา หมายหรอื จุดมงุ หมายในการเปนผตู ดั สนิ อยางชัดเจน 6. มีจิตวิทยาและรูธรรมชาตขิ องนักกีฬา คมู ือการตัดสินกีฬาแบดมินตันคนพกิ าร 3  

     7. มีความรักในอาชพี การรมการผตู ดั สนิ 8. มีทศั นคติที่ดีในฐานะกรรมการผูตดั สนิ 1.2 คุณสมบตั ขิ องผตู ัดสนิ แบดมนิ ตนั ที่ดี 1. มสี มรรถภาพทางกายทด่ี ี 2. รแู ละนาํ ความรูไปใชไดอ ยางถกู ตอ ง 3. รจู ักกฎระเบยี บในการแขงขัน 4. มีวจิ ารณญาณท่ีดีและถกู ตอง 5. ควบคมุ สถานการณและทนั ตอ เหตุการณ 6. รจู ักบทบาทและหนา ท่ขี องตน 7. รูและเขาใจเกี่ยวกบั กติกาแบดมนิ ตนั อยางดี 8. มคี วามยตุ ธิ รรม 9. มีบคุ ลกิ ภาพทดี่ ี 10. มีจติ วทิ ยาในการตัดสนิ และลงโทษ 11. มสี ุขภาพจิตและสมาธดิ ี 12. มมี นษุ ยสัมพนั ธในการทาํ งานเปน ทมี ที่ดี 13. มเี จตคติทด่ี ตี อการเปน ผตู ัดสิน 14. สนใจ กระตือรือรน ศกึ ษาคน ควาความรูแ ละขา วในวงการแบดมินตนั อยูเสมอ 15. ใชคาํ ศพั ท ภาษาไดถ กู ตอง 16. มคี วามสามารถเปนท่ียอมรบั ของเพ่อื นผตู ดั สิน ผฝู ก สอน และนักกฬี า 17. ยอมรบั ฟงคาํ แนะนาํ แกไข การปฏบิ ัติหนา ท่ผี ตู ดั สิน 1.3 ส่ิงจาํ เปน ท่ผี ูตัดสนิ ควรรู 1. เครือ่ งแตงกาย (ท่ัวไป) 1.1 จุดมุงหมายของการกําหนดระเบียบน้ี เพื่อความชัดเจนของขอความโฆษณา ทปี่ รากฏบนเครอื่ งแตงกายหรือสิ่งอื่นใดที่ผูเลนสวมใสในขณะการเลน ยกเวนแร็กเกต และ 4 คูม ือการตัดสินกีฬาแบดมินตันคนพกิ าร  

     สง่ิ ประกอบอ่นื ๆ แตไ มมีขอจํากัดของเสื้อที่สวมคลุมทางศีรษะ กางเกงขาสั้น กระโปรง ถุง เทา ผาคาดศรี ษะ ผาขนหนู ผารัดขอ มือ ผาพนั คอ และเวชภณั ฑ 1.2 เพ่ือใหมั่นใจวาการนําเสนอน้ีสามารถดึงดูดความสนใจในเกมกีฬา แบดมินตันท่ีไดรับอนุมัติรับรองจากสหพันธแบดมินตันโลก (BWF) เคร่ืองแตงกายของผู เลน จะตอ งเปนแบบท่ีใชส วมใสส าํ หรับการเลน กีฬาแบดมนิ ตนั และจะไมอนุญาตใหใชเทป หรือใชก ารกลดั ทับบนการโฆษณาหรอื ดัดแปลงบนเส้อื ผา ในสว นของการโฆษณา 1.3 ระเบียบของการโฆษณาบนเคร่ืองแตงกายน้ีจะใชสําหรับเครื่องแตงกายท่ีผู เลนใชใ สลงทําการแขงขันในสนามเทาน้ัน 1.4 ระเบียบการโฆษณานจี้ ะตองระบุอยา งชดั เจนในระเบียบการแขงขนั หรอื ใบสมัคร 1.5 การนําระเบยี บมาใชในแตละรายการการวนิ จิ ฉัยของกรรมการผูชข้ี าดถอื วา สน้ิ สดุ 2. สีของเครอ่ื งแตงกาย 2.1 สีของเคร่อื งแตงกาย ผูเลนจะแตงกายดวยชุดสีเดียวหรือหลายสีรวมกัน ลง สนามกไ็ ด 2.2 แบบบนเครอ่ื งแตงกาย 2.2.1 ลวดลายบนเสื้อท่ีไดรับอนุญาต จะตองเปนลวดลายศิลปะโดย ปราศจากการโฆษณาเชิงพาณิชยหรอื การสงเสรมิ การขาย 2.2.2 ดา นหนาอาจมรี ปู ธงชาติ หรือสญั ลกั ษณป ระจาํ ชาติของประเทศ ที่ เปนตวั แทน 2.2.3 อนุญาตใหแบบที่เปนสวนการโฆษณาตามระเบียบและขนาดของ การโฆษณาบนเคร่อื งแตงกาย 2.3 ตวั อกั ษรบนเครอ่ื งแตงกายผูเ ลน 2.3.1 สี แบบ และความสูงของตัวอักษร - ตัวอักษรภาษาไทยหรือตัวอักษรโรมันตัวใหญ โดยใชสีเดียว และเปนสีทต่ี ัดกับเสอ้ื คูม อื การตัดสนิ กีฬาแบดมนิ ตันคนพกิ าร 5  

     - รูปแบบของตัวหนังสือ หากมีแบบบนดานหลังของเสื้อ ตัวอกั ษรควรตดั กบั แบบดังกลาว - เพื่อใหตัวอักษรสามารถมองเห็นไดชัดเจนโดยผูชมโทรทัศน ตวั อกั ษรจะตองมีความสูงอยา งนอย 6 เซนติเมตร และสูงไมเกนิ 10 เซนตเิ มตร - ตัวอักษรจะวางเปนแนวนอนหรือใหใกลเคียงกับแนวนอนมาก ทีส่ ดุ เทาท่จี ะทาํ ได และใหวางอยูใ กลต ําแหนง บนสุดของเส้อื 2.3.2 ชื่อนักกฬี าและสงั กดั - ชื่อนักกีฬาจะใชชื่อหรือนามสกุล หรือช่ือยอ หรือชื่อเลนก็ได แตต อ งเปน ช่ือท่ใี ชสง ลงทาํ การแขงขนั - ชอ่ื ตน สงั กดั นกั กีฬาจะปรากฏอยดู านหลังของเสื้อ 2.3.3 ลําดบั ของการโฆษณาดา นหลงั เสอ้ื - การเรียงลําดับจากดานบนลงมาดานลาง จะตองเรียงตามลําดับ ดงั น้ี ช่อื นักกฬี า (ถา มี) ชือ่ สงั กัด (ถาม)ี และการโฆษณา (ถามี) 2.4 การโฆษณาบนเครอ่ื งแตง กายของนักกีฬา 2.4.1 เสอ้ื - ตําแหนงที่มีการโฆษณาบนแขนเส้ือดานซาย, บนแขนเสื้อ ดานขวา, บนปกเสื้อดานซาย, บนปกเสือ้ ดานขวา,ไหลซ าย , ไหลขวา , อกซาย , อกซา ย, อก ขวา , บริเวณกลางอก ดานหนาของเสื้อ ธงชาติถือวาเปนตําแหนงการโฆษณา 1 ตําแหนง บริเวณไหลท้ังสองจะตองอยูดานหนาที่เห็นไดชัดเจน ซึ่งโฆษณาแตละแหงจะตองมีขนาด 20 ตารางเซนติเมตร หรือนอยกวา และจะตองมีรวมกันไมเกิน 5 ชิ้น และ จะมีเพียง 1 ช้ิน ในแตละตําแหนง - การโฆษณาท่ีเปนแบบของเคร่ืองแบบ จะมีความสูงไมเกิน 10 เซนติเมตร จะวางในแนวใดก็ได อาจจะมีบนดานหนา หรือดานหลังจะมีความสูงไมเกิน 5 เซนติเมตร หรอื ท้งั 2 ดานของเสอื้ กไ็ ด 6 คูมือการตัดสินกีฬาแบดมินตนั คนพิการ  

     - กรรมการผูชี้ขาดมีสิทธ์ิวินิจฉัยแตเพียงผูเดียว หากมีผลกระทบ ระหวางการโฆษณาท่ีเปนแถบ และผูอุปถัมภการแขงขัน หรือผูดําเนินการถายทอด โทรทัศนหรือขอความโฆษณาละเมิดกฎหมายทองถ่ิน หรือพิจารณาแลวมีขอความที่ไม เหมาะสม ดังนั้น กรรมการผูช้ีขาดจะจํากัดการโฆษณาบนเสื้อ การโฆษณาบนเสื้อและ เคร่ืองแตงกายอื่นๆ อาจจะเปนสัญลักษณของผูผลิตเคร่ืองแตงกาย หรือสัญลักษณของผู อปุ ถัมภ 2.4.2 เคร่อื งแตงกายอนื่ ๆ - ถุงเทาและรองเทาแตละขางจะมีการโฆษณาได 2 ชิ้น มีขนาด 20 ตารางเซนติเมตร หรือนอยกวา - เครื่องแตงกายชิ้นอื่น ๆ จะมีโฆษณาไดอีก 1 ช้ิน มีขนาด 20 ตารางเซนตเิ มตร หรอื นอยกวา - การโฆษณาบนเสื้อและเคร่ืองแตงกายอื่น ๆ อาจเปนสัญลักษณ ของผผู ลิต หรือสัญลักษณของผอู ุปถมั ภ 3. การโฆษณาของสมาคม สมาชิกสมาคมท่ีใหการสนับสนุนงบประมาณแกสหพันธแบดมินตันโลก (BWF) สามารถใชส ญั ลักษณของสมาคมทมี่ ีขนาดไมเกิน 50 ตารางเซนติเมตรลงบนกางเกง หรือสวนลางของเคร่ืองแตงกาย หรือกระโปรง เมื่อไดรับอนุญาตจากสหพันธฯ แลว ผูเลน ทกุ คนทล่ี งแขงขันในสงั กดั จะตอ งใชการโฆษณาทเี่ ปน แบบเดียวกันท้งั หมด 3.1 ลวดลายบนเสื้อท่ีไดรับอนุญาต จะตองเปนลวดลายศิลปะเทาน้ัน ไมใ ชเปนการโฆษณาเชงิ พาณชิ ย 3.2 ตัวหนังสอื บนเครื่องแตงกายผูเ ลน 3.3 สี แบบ และความสูงของตัวหนงั สือ 3.3.1 ตัวอกั ษรภาษาไทยหรือตัวอักษรโรมัน โดยใชสีเดียวและ เปน สที ต่ี ดั กับเสือ้ คูมือการตดั สนิ กฬี าแบดมนิ ตนั คนพิการ 7  

     3.3.2 รูปแบบของตัวหนังสือทเ่ี ยบ็ ติดดานหลัง จะตองเปนแถบ ผาทมี่ สี ตี ัดกัน 3.3.3 เพ่ือใหตัวหนังสือสามารถมองเห็นไดชัดโดยผูชม โทรทัศน ตัวหนังสือจะตอ งมคี วามสูงอยางนอ ย 6 เซนติเมตร และสงู ไมเ กนิ 10 เซนติเมตร 3.3.4 ตัวหนังสือจะวางเปนแนวนอนหรือใหใกลเคียงกับ แนวนอนมากที่สุดเทาทีจ่ ะทาํ ได และใหว างอยูใ กลตําแหนงบนสุดของเส้อื 3.3.5 ช่ือของผูเลนใหใชชื่อหรือนามสกุล หรือช่ือยอ หรือช่ือ เลน กไ็ ดแตตองเปน ชอื่ ท่ใี ชส ง ลงทาํ การแขง ขนั 3.3.6 ช่ือของนักกีฬาจะปรากฏบนดานหลัง ใหเปนไปตาม ระเบียบขอ 3.3.1-3.3.5 และตอ งเปน ไปตามระเบียบขอ 5 4. ชอ่ื สังกดั ชื่อสังกัดของผเู ลนจะปรากฏอยดู า นหลงั ของเสอ้ื 5. ลําดับของการโฆษณาดานหลงั เสอ้ื การเรียงลําดับจากดานบนลงมาดานลาง จะตองเรียงตามลําดับดังนี้ ชื่อนักกีฬา (ถา ม)ี ชือ่ สงั กดั (ถา มี) และการโฆษณา (ถามี) 8 คมู อื การตัดสนิ กีฬาแบดมินตันคนพกิ าร  

     การโฆษณาบนเคร่ืองแตงกายนกั กีฬา เครอ่ื งแตง กายแตล ะชนิ้ จะเปนสี ชอื่ ผเู ลน ชือ่ ประเทศ ตอ งเปน ภาษาไทยหรือพยญั ชนะโรมนั (ตัวพมิ พใหญ) มสี ี อะไร หรอื หลายสรี วมกนั ก็ได เดียวกนั ขนาดสูงไมน อ ยกวา 6 เซนตเิ มตร และสงู ไมเ กนิ 10 เซนติเมตร โดยวาง (Abstract) ตวั อกั ษรตามแนวนอนดา นหลังใกลส ว นบนของเสอื้ และตองเรยี งตามลําดับ คอื ช่ือนกั กีฬา ประเทศ และโฆษณา (ถา มี) ธงชาติหรอื สญั ลักษณ โฆษณาไดไ มเ กนิ 20 ตร.ซม. ประจําชาตดิ า นหนาเสื้อ ที่แขนเสื้อดานซายและ ดานขวา หรอื ปกคอเสอื้ สัญลกั ษณโ ฆษณาเปน แถบ ดา นซายและดา นขวา และ กวางหรอื สูงกไ็ ดแ ละจะอยใู น ไหลซา ย,ไหลข วา,อกซาย,อก แนวใดจะอยูด านหนา ขวา,บริเวณกลางอก รวมแลว ดานหลงั หรอื ทัง้ 2 ดา นกไ็ ด ตอ งไมเ กนิ 5 ชนิ้ และ 1 ชิน้ โดยดานหนา มีความสงู ไมเ กนิ ตอ 1 ท่ี 10 ซม. และดา นหลังความสงู ไมเกิน 5 ซม. โฆษณาบนเคร่อื งแตง กาย ทีอ่ ่นื ๆ ไดอ ีก 1 ชิ้น ขนาด ไมเกิน 20 ตร.ซม. ถุงเทาและรองเทา แตล ะขา งมโี ฆษณา แบบลวดลายศลิ ปะทป่ี ราศจาก ได 2 ช้นิ ขนาดไมเกนิ 20 ตร.ซม. ขอ ความโฆษณา หมายเหตุ กรรมการผูช ีข้ าดมีสิทธิว์ ินิจฉยั แตเพยี งผเู ดียวที่จะจาํ กดั โฆษณาบนเครอ่ื งแตงกายหากมผี ลกระทบขดั แยงในขอ ความโฆษณา และ/หรอื ตอ ผอู ุปถัมภก ารแขงขนั หรือดาํ เนินการถายทอดโทรทศั น หรอื ขอความโฆษณาทลี่ ะเมิดตอ กฎหมายทอ งถิน่ หรอื ขอ ความที่ไมเหมาะสม คมู อื การตัดสนิ กีฬาแบดมินตันคนพิการ 9  

     ระบบการตัดสนิ แบดมินตัน ระบบเดมิ ระบบ Rally Point ระบบการนับคะแนน 1. ระบบ 2 x 3 1. ระบบ 2 x 3 2. ฝา ยทีไ่ ดค ะแนน 15 คะแนน เปนฝายชนะใน 2. ฝา ยท่ีไดค ะแนน 21 คะแนน เปน ฝายชนะ ประเภทชายเดีย่ ว ชายคู หญิงคู และคูผสม 3. ทกุ ประเภทการแขงขันยกเวนตามทกี่ าํ หนด ในขอ 7.4 , 7.5 3.1 ถามคี ะแนน 20 คะแนนเทากัน ฝายชนะ ตองมีคะแนนนํา 2 คะแนน (ตามกติกา ขอ 7.4) 3.2 ถามคี ะแนน 29 คะแนนเทากนั ฝายทไ่ี ด คะแนน 30 คะแนนกอ นเปนฝายชนะ ตาม กติกา ขอ 7.5 3. ในประเภทหญิงเดี่ยว ฝา ยท่ีได 11 คะแนนเปน ฝายชนะ 3.1 กรณีที่ไดคะแนน 10 คะแนนเทากนั ผูเ ลน ทไ่ี ดค ะแนนกอนมสี ทิ ธิเ์ ลนตออีก 3 คะแนน หรอื ไมเลน ตอถึง 13 คะแนนก็ได 3.2 กรณที ่ีไดคะแนน 14 คะแนนเทา กนั ผู เลนท่ไี ดค ะแนนกอนมสี ิทธเ์ิ ลนตออกี 3 คะแนน หรือไมเ ลนตอ ถึง 17 คะแนนก็ได การเปลีย่ นขาง กรณีที่มกี ารเลน เกมท่ี 3 เปลยี่ นขางเม่ือมผี ูทําคะแนน กรณีที่มกี ารเลน เกมท่ี 3 เปลยี่ นขางเม่ือมผี ูทํา ถงึ 11 คะแนนไดกอ น คะแนนถึง 6 คะแนน ในประเภทหญิงเด่ยี ว และ 8 คะแนน ในประเภทชายเด่ยี ว ชายคู หญงิ คู และ คผู สม การนบั คะแนน ฝายสง เทานั้นท่ีมสี ทิ ธิ์ไดค ะแนน ถา ชนะในการตีโต ทง้ั ฝา ยสงและฝายรบั มีสทิ ธิ์ไดคะแนนในทุกการสง หรอื สง ลกู ตกลงไปในเสนเขตของฝา ยรบั ลูกและการตโี ตไมวา จะส้นิ สดุ ลงแบบใดก็ตาม 10 คมู อื การตดั สนิ กีฬาแบดมนิ ตันคนพกิ าร  

     ระบบเดิม ระบบ Rally Point ตําแหนงการยืนสง ลูก จะตองเริ่มที่สนามสงลูกดานขวาเสมอโดยไม ถา คะแนนเปน เลขคูใหยนื สงในสนามดานขวา ถา คํานงึ ถึงคะแนนท่ีไดเ ปน คหู รอื ค่ี (จะกาํ หนด คะแนนเปนเลขค่ีใหยนื สงในสนามดานซาย (จะ ตําแหนงการยืนของผเู ลน) กําหนดตามคอรด) การสงลูก สทิ ธใิ์ นการสงลูก มดี ังนี้ 1. ผเู ลน คนแรกสง ลูกสนามดานขวา และสง ลกู 1. ผูเลนคนแรกจะเปน ผสู ง จะสงสนามสง ลูกดา นขวา ตอไปเรอื่ ย ๆ ในสนามทีส่ ลับกันไป ถา ชนะใน การตีโตหรอื สง ลกู ลงในเขตสนามฝา ยรบั 2. ผูเลน ฝายรับคนแรกเปนผูส ง ลูกตอ ไปจนกระท่งั 2. คูขาของฝายรับจะเปน ฝายสง ตอไปจากสนามสง ลูก มีการทําเสีย และจะตองสง ในสนามดานขวา ดา นซา ย 3. คขู าของฝายรับเปนผสู ง ลําดับตอ ไป 3. คขู าฝา ยสงคนแรกจะเปนผูสงลูกตามลําดับคะแนน 4. ฝายสง เปนมือแรก 4. ผูรับลูกคนแรกเปนผสู ง ลกู ตามลําดบั คะแนน 5. คขู าของฝายสง การพกั ระหวางเกม 1. ใหพักระหวา งเกมท่ี 1, 2 ไมเ กิน 90 วนิ าที 1. ในระหวา งเกมท่ี 1 เมอ่ื ฝายใดฝา ยหนงึ่ ทาํ คะแนน ได 11 คะแนน พกั ไดไมเกนิ 60 วินาที 2. ใหพักระหวางเกมที่ 2,3 ไมเกิน 5 นาที 2. ใหพกั ระหวางเกมท่ี 1,2 และ 3 ไดไ มเกิน 120 วนิ าที ความผิดในสนามสงลกู จะมกี ารแกไขใหเอาใหม ถา ฝายท่ีทําผิดชนะในการ จะไมมีการแกไขความผดิ นั้นใหเลนตอ โดยไมม ีการ ตโี ต หรอื มีการทําผิดทั้ง 2 ฝาย เปล่ียนสนามสงลูกใหมของผูเลน การเอาใหม - ถา กรรมการผตู ัดสนิ เห็นวาการเลน ถกู รบกวนหรอื ผู เลน อีกฝายหน่ึงฝา ยใดถกู ผูฝก สอนทําลายสมาธิ ลูกไมอ ยูในการเลน มกี ตกิ าท้งั หมด 4 ขอ ตามในหนังสือกตกิ า ปรับกตกิ าใหเหลอื เพียง 3 ขอ ตามในหนงั สอื กติกา คมู ือการตดั สินกฬี าแบดมินตนั คนพิการ 11  

     ระบบเดมิ ระบบ Rally Point คาํ แนะนําการสอน (Coaching) 1. หามใหมกี ารสอนในระหวา งการแขงขนั ยกเวน 1. ในระหวา งเกมท่ี 1 และ 2 เม่ือฝายใดฝายหนง่ึ ทํา คะแนนนําถงึ 11 คะแนน ใหพักไดไ มเกนิ การพักระหวางเกมท่ี 1 และ 2 หรอื เกมท่ี 2 และ 60 วนิ าที และอนุญาตใหผูฝก สอนสามารถทําการ 3 (ถามี) สอนนกั กีฬาได การออกนอกสนาม 2. จะอนุญาตใหผ ูเลน ไดรบั คําแนะนําระหวา งการ หามผูเลน ออกนอกสนามโดยไมไดร ับอนญุ าตจากผู แขงขัน (ในขณะที่ลูกไมอ ยูในการเลน ) ตดั สนิ ยกเวน การพกั ในระหวางเกมท2ี่ และ 3 หามผเู ลน เดนิ ออกนอกสนามระหวา งการแขงขันโดย การเปลย่ี นลกู ขนไก ไมไ ดร ับอนุญาตจากกรรมการ ผูตดั สิน ยกเวนการ ถา ท้งั 2 ฝายยินยอม กรรมการผูตัดสนิ อนญุ าตให พกั ตามกติกาขอ 16.2 เปลยี่ นได กรรมการผูตัดสินเปน ผูพ ิจารณาในการเปลี่ยนลูก ถงึ แมท ้ัง 2 ฝายจะยินยอม (ทงั้ น้คี ํานึงถึงการถวงเวลาของนักกีฬา) 12 คูม อื การตดั สินกฬี าแบดมนิ ตันคนพิการ  

    บทที่ 2   กตกิ าแบดมนิ ตนั และคาํ แนะนาํ กรรมการเทคนคิ ตามมาตรฐานสากล 2.1 กตกิ าแบดมนิ ตนั คํานิยาม ผูเลน บคุ คลใดกต็ ามทเี่ ลนแบดมินตนั แมทช การแขงขันแบดมนิ ตันโดยทวั่ ไป ระหวา งผูเลน ฝา ยละ 1 หรอื 2 คน เดย่ี ว การแขงขันท่ีมีผเู ลนฝายละ 1 คน คู การแขงขนั ทีม่ ีผเู ลน ฝา ยละ 2 คน ฝายสง ลกู ฝา ยที่ไดสทิ ธส์ิ ง ลูก ฝายรับลูก ฝา ยตรงขามกับฝายสงลกู การตโี ต เปน ลําดับของการตี 1 ครัง้ หรอื มากกวา 1 ครง้ั เรม่ิ ตงั้ แตการ สงลกู จนกวา ลกู ไมอยใู นการเลน การตี เปนการเคล่ือนแร็กเกตของผูเลนทีมเี จตนาจะตไี ปยงั ลกู ขนไก 1. สนามและอปุ กรณส นาม 1.1 สนามจะเปน รปู สเี่ หลย่ี มผนื ผา ประกอบดว ยเสน กวางขนาด 40 มิลลเิ มตร ตามภาพผงั ก. 1.2 เสนทุกเสนตองเดน ชดั และควรทาดว ยสีขาวหรอื สเี หลอื ง 1.3 เสน ทกุ เสน เปน สวนประกอบของพ้ืนท่ซี ่งึ กําหนดไว 1.4 เสาตาขายจะตอ งสงู 1.55 เมตรจากพ้ืนสนาม และตงั้ ตรงเมื่อขึงตาขา ยใหตงึ ตามที่ กาํ หนดไวใ นกตกิ าขอ 1.10 โดยทีจ่ ะตองไมมีสว นหนง่ึ สวนใดของเสาย่นื เขามาในสนาม 1.5 เสาตาขา ยจะตอ งต้งั อยูบนเสน เขตขา งของประเภทคตู ามท่ีไดแ สดงไวใ นภาพผงั ก. โดยไมตองคํานงึ วาจะเปนประเภทเดย่ี วหรอื ประเภทคู คูมอื การตดั สินกีฬาแบดมินตนั คนพกิ าร 13  

     1.6 ตาขายจะตอ งถกั ดว ยเสนดายสเี ขม และมขี นาดรตู าขายกวางไมน อยกวา 15 มิลลเิ มตร และไมเกิน 20 มลิ ลเิ มตร 1.7 ตาขา ยตอ งมีความกวาง 760 มิลลิเมตร และความยาวอยางนอ ย 6.1 เมตร 1.8 ขอบบนของตาขายตองมแี ถบผาสีขาวพับ 2 ขนาดกวา ง 75 มลิ ลเิ มตร ทับบนเชอื ก หรือลวดท่รี อ ยตลอดแถบผา ขาว 1.9 เชอื กหรอื ลวดตอ งมขี นาดพอที่จะขงึ ใหต ึงเตม็ ทกี่ บั หวั เสาบนสุด 1.10 ขอบบนตาขายตองสงู จากพนื้ ที่ตรงกึง่ กลางสนาม 1.524 เมตร และ 1.55 เมตร เหนอื เสนเขตขา งของประเภทคู 1.11 ตองไมมีชองวางระหวางสุดปลายตาขายกับเสา ถาจําเปนตองผูกรอยปลายตาขาย ท้งั หมดกบั เสา ภาพผงั ก. 14 คูมือการตัดสินกฬี าแบดมินตันคนพิการ  

     2. ลกู ขนไก 2.1 ลูกขนไกอาจทําจากวัสดุธรรมชาติ และ/หรือวัสดุสังเคราะห ไมวาลูกน้ันจะทํา จากวัสดุชนิดใดก็ตาม ลักษณะวิถีว่ิงท่ัวไปจะตองเหมือนกับลูกซ่ึงทําจากขนธรรมชาติฐาน เปน หวั ไมกอ ก หมุ ดว ยหนังบาง 2.2 ขนของลกู ขนไก 2.2.1 ลูกขนไกตองมีขน 16 อนั ปก อยบู นฐาน 2.2.2 ความยาวของขนวัดจากปลายขนถึงสวนบนของฐานในแตละลูกจะเทากัน ทั้งหมดระหวาง 62 – 70 มิลลิเมตร 2.2.3 ปลายขนตอ งแผเปนรปู วงกลม มเี สนผาศูนยกลางระหวาง 58-68 มลิ ลเิ มตร 2.2.4 ขนตองมดั ใหแนนดวยเสน ดายหรอื วัสดอุ ่ืนทเ่ี หมาะสม 2.2.5 ฐานของลูกตองมีเสน ผาศนู ยกลาง 25-28 มิลลเิ มตร และสว นลา งมมุ กลม 2.2.6 ลูกขนไกจ ะมนี า้ํ หนักต้งั แต 4.74-5.50 กรมั 2.3 ลูกขนไกทไี่ มใ ชขนธรรมชาติ 2.3.1 สวนของขนหรือวสั ดสุ งั เคราะหใชแทนขนธรรมชาติ 2.3.2 ฐานลกู ดังทไ่ี ดกําหนดไวในกติกาขอ 2.2.5 2.3.3 ขนาดและน้ําหนักของลูกตองเปนไปตามท่ีไดกําหนดไวในกติกาขอ 2.2.2,2.2.3 และ2.2.6 อยางไรก็ตาม ความแตกตางของความถวงจําเพาะ และคุณสมบัติของวัสดุสังเคราะหโดยการเปรียบเทียบกับธรรมชาติ ยอม ใหม คี วามแตกตางไดถ ึง 10 เปอรเ ซน็ ต 2.4 เน่ืองจากมิไดกําหนดความแตกตางในเร่ืองลักษณะทั่วไป ความเร็วและวิถีว่ิง ของลูกอาจมีการเปล่ียนแปลงคุณลักษณะดังกลาวขางตนได โดยการอนุมัติจากองคกร แหงชาติที่เก่ียวของในที่ซ่ึงสภาพความกดอากาศสูงหรือสภาพดินฟาอากาศเปนเหตุใหลูก ขนไกต ามมาตรฐานที่กาํ หนดไวไ มเ หมาะสม คมู ือการตัดสินกฬี าแบดมนิ ตันคนพิการ 15  

     3. การทดสอบความเร็วของลกู การทดสอบ ใหผูทดสอบตีลูกใตมืออยางสุดแรงโดยจุดสัมผัสลูกอยูเหนือเสน เขตหลัง ลูกจะพุงเปนมุมสูง และอยูในแนวขนานกับเสนเขตขาง ลูกจะตองตกหางจากเสน เขตหลงั ของอกี ดา นหนง่ึ ไมน อยกวา 530 มลิ ลเิ มตร และไมมากกวา 990 มิลลเิ มตร (ภาพผงั ข.) ภาพผงั ข. จดุ ทดสอบความเรว็ ของลูกขนไก 4. แร็กเกต 4.1 เฟรมของแร็กเกตยาวทั้งหมดไมเกิน 680 มิลลิเมตร และกวางทั้งหมดไมเกิน230 มิลลิเมตร สวนตาง ๆ ที่สําคัญไดอธิบายไวในกติกาขอ 4.1.1 - 4.1.5 และไดแสดงไวใน ภาพผัง ค. 4.1.1 ดา มจบั เปนสวนของแรก็ เกตทผ่ี เู ลนใชจบั 4.1.2 พื้นทขี่ ึงเอน็ เปนสว นของแรก็ เกตที่ผเู ลนใชตีลกู 4.1.3 หัว บรเิ วณท่ใี ชขึงเอ็น 4.1.4 กาน ตอ จากดามจับถึงหวั (ข้ึนอยูกบั กติกาขอ 4.1.5)+ 4.1.5 คอ (ถามี) ตอกานของหวั ตอนลาง 16 คมู อื การตดั สนิ กีฬาแบดมนิ ตนั คนพิการ  

     ภาพผงั ค. 4.2 พน้ื ทขี่ งึ เอ็น 4.2.1 พื้นที่ขึงเอ็นตองแบนราบดวยการรอยเอ็นเสนขวางขัดกับเสนยืนแบบการ ขงึ เอ็นทว่ั ไป โดยพนื้ ทีต่ อนกลางไมค วรทบึ นอ ยกวาตอนอื่น ๆ และ 4.2.2 พืน้ ทีข่ งึ เอ็นตองยาวท้ังหมดไมเกิน 280 มิลลิเมตรและกวางท้ังหมดไมเกิน 220 มิลลเิ มตร อยา งไรกต็ าม อาจขึงเอน็ ไปถึงคอเฟรม โดยมีขอกาํ หนดดังน้ี - ความกวา งทีเ่ พิม่ ของพืน้ ทขี่ งึ เอ็นไมเ กิน 35 มลิ ลเิ มตร - ความกวา งทัง้ หมดของพืน้ ท่ีขึงเอน็ ไมเ กนิ 330 มลิ ลเิ มตร 4.3 แร็กเกต 4.3.1 ตองปราศจากวัตถุอ่ืนติดอยู หรือยื่นออกมา ยกเวนสวนท่ีทําไวเปนการ เฉพาะ เพ่ือปองกันการสึกหรอ ฉีกขาด ชํารุดเสียหาย การสั่นสะเทือน การกระจายนํ้าหนัก หรือการพนั ดามจบั ใหก ระชบั มอื ผเู ลน และมคี วามเหมาะสมทั้งขนาด และการติดตั้งสําหรับ วตั ถปุ ระสงคด ังกลา ว และ 4.3.2 ตอ งปราศจากสง่ิ ประดิษฐอ นื่ ๆ ทีช่ ว ยใหผเู ลนเปลี่ยนรูปทรงของแร็กเกต คูมือการตัดสนิ กฬี าแบดมนิ ตนั คนพิการ 17  

     5. การยอมรับอปุ กรณ สหพันธแบดมินตันโลก (BWF) จะกําหนดกฎเกณฑเกี่ยวกับแร็กเกต ลูกขนไก อุปกรณ หรืออุปกรณตนแบบ ซึ่งใชในการเลนแบดมินตันใหเปนไปตามขอกําหนดตาง ๆ กฏเกณฑดังกลาวอาจเปนการเริ่มตนของสหพันธเอง หรือจากการยื่นความจํานงของคณะ บุคคลท่ีมีความเก่ียวของ รวมถึงผูเลน กรรมการเทคนิค ผูผลิต หรือองคกรแหงชาติ หรือ สมาชิกขององคกรนน้ั ๆ 6. การเสีย่ ง 6.1 กอนเริ่มเลนจะตองทําการเส่ียง ฝายท่ีชนะการเสี่ยงมีสิทธ์ิเลือกตามกติกาขอ 6.1.1 หรอื 6.1.2 6.1.1 สง ลกู หรือรับลกู กอน 6.1.2 เริ่มเลนจากสนามขางใดขางหนึ่ง 6.2 ฝายทแ่ี พการเส่ยี ง มีสิทธท์ิ เี่ หลือจากการเลอื ก 18 คมู อื การตดั สนิ กฬี าแบดมนิ ตันคนพกิ าร  

     7. ระบบการนบั คะแนน 7.1 แมทซห นงึ่ ตอ งชนะใหไดมากท่ีสดุ ใน 3 เกม เวนแตจะไดกําหนดเปนอยางอ่ืน (ภาคผนวก 2 และ 3) 7.2 ฝายที่ได 21 คะแนนกอนเปนฝายชนะ ยกเวนตามที่ไดกําหนดในกติกาขอ 7.4 และ 7.5 7.3 ฝายที่ชนะการตีโตจะได 1 คะแนน ฝายที่ชนะการตีโตจะชนะไดก็ตอเม่ืออีก ฝายหนงึ่ ทํา “เสยี ” หรือลูกไมอยูในการเลน เน่อื งจากลูกตกลงพ้ืนสนามของอกี ฝา ยหนงึ่ 7.4 ถามคี ะแนน 20 เทา กนั ฝายชนะตอ งมีคะแนนนาํ 2 คะแนน 7.5 ถา มคี ะแนน 29 เทา กนั ฝา ยท่ไี ด 30 คะแนนกอนเปนฝา ยชนะ 7.6 ฝายชนะเปนฝา ยไดสงในเกมตอไป 8. การเปลยี่ นขาง 8.1 ผเู ลนจะเปลี่ยนขาง 8.1.1 หลงั จากจบเกมที่ 1 8.1.2 กอ นเริ่มเลนเกมที่ 3 (ถา มี) และ 8.1.3 ในเกมท่ี 3 หรือในการแขงขันเกมเดียว เมือ่ คะแนนนาํ ถงึ 11 คะแนน 8.2 ถาผูเลนไมไดเปลี่ยนขางตามท่ีไดระบุไวในกติกาขอ 8.1 เม่ือตรวจพบใหเปล่ียน ขา งทนั ทที ลี่ ูกไมอยใู นการเลน และใหนบั คะแนนตอ จากคะแนนท่ีไดใ นขณะนัน้ 9. การสง ลกู 9.1 การสง ลูกทถี่ ูกตอง 9.1.1 ท้ัง 2 ฝาย ตองไมประวิงเวลาใหเกิด ความลาชาในการสงลูกทันทีที่ผูสงลูกและผูรับลูก อยูในทาพรอมแลว การที่ผูสงดึงหัวแร็กเกตมา ดา นหลังพรอมที่จะสงหากมีการประวงิ เวลาในการ คูมือการตดั สินกีฬาแบดมนิ ตันคนพกิ าร 19  

     เริ่มสงลูก (ตามกติกาขอ 9.2 ) จะถือเสมือนวาเปน การประวิงเวลาในการสงลกู 9.1.2 ผูสงลูกและผูรับลูกตองยืนในสนามสงลูกทแยงมุม ตรงขา ม (ภาพผงั ก.) โดยเทา ไมเ หยียบเสน เขตของสนามสงลกู 9.1.3 บางสวนของเทาท้ังสองขางของผูสงลูกและผูรับลูก ตองแตะพ้ืนสนามในทา น่ิงตั้งแตเ รม่ิ สง ลกู (กตกิ าขอ 9.2) จนกระทัง่ สง ลูกแลว (กติกาขอ 9.3) 9.1.4 จุดสัมผัสแรกของแรก็ เกต ผสู ง ตอ งตีทฐ่ี านของลูก 9.1.5 ทุกสวนของลูกจะตองอยูต่ํากวาเอวของผูสง ขณะที่แร็กเกตสัมผัสลูกสวน เอวนน้ั จะพจิ ารณาโดยการจนิ ตนาการจากเสนรอบลําตัวที่ระดับซโ่ี ครงซส่ี ุดทา ยของผูสงลกู 9.1.6 กา นแรก็ เกตของผสู งลกู ในขณะตลี กู ตอ งช้ีลงต่ํา 9.1.7 การเคลื่อนแร็กเกตของผูสงลูกไปขางหนา ตองตอเนื่องจากการเร่ิมสงลูก (กตกิ าขอ 9.2) จนกระทง่ั ไดสง ลกู แลว (กตกิ าขอ 9.3) 9.1.8 วิถีลูกจะพุงข้ึนจากแร็กเกตของผูสงลูกขามตาขาย และถาปราศจากการสกัด กน้ั ลูกจะตกลงพน้ื สนามสงลูกของผูรบั ลูก (กลา วคือ บนหรือภายในเสน เขต) และ 9.1.9 ในการพยายามจะสงลูก ผูสงจะตอ งสง ลูกใหถ กู 9.2 เม่อื ผูเ ลน อยูในทาพรอมแลว การเคลื่อนแรก็ เกตไปขางหนา ของผูส งลูกถือวา เรมิ่ สง ลูก 9.3 เม่ือเริ่มสงลูก (กติกาขอ 9.2) ถือวาไดสงลูกแลว ถาแร็กเกตของผูสงสัมผัสลูกหรือ พยายามจะสง ลูกแตตไี มถ ูกลูก 9.4 ผูสงลูกจะตองไมสงลูกจนกวาผูรับลูกจะพรอม แตถือวาผูรับลูกพรอมแลวถา พยายามตีลูกที่สงมากลับไป 9.5 ในประเภทคู ระหวางการสงลูก (กติกาขอ 9.2 , 9.3) คูขาจะยืน ณ ที่ใดก็ไดใน สนามของตน โดยไมบ งั คบั ผสู งลูกและผรู บั ลกู 20 คมู อื การตดั สินกีฬาแบดมินตันคนพิการ  

     10. ประเภทเดยี่ ว 10.1 สนามสง ลกู และรับลูก 10.1.1 ผูเลนจะสงลูกและรับลูกในสนามสงลูกดานขวา เม่ือผูสงทําคะแนนไมได หรอื คะแนนทีไ่ ดเ ปนเลขคูในเกมนั้น 10.1.2 ผูเลนจะสงลูกและรับลูกในสนามสงลูกดานซาย เม่ือผูสงลูกไดคะแนนเปน เลขคี่ในเกมนัน้ 10.2 ลําดับในการเลน และตาํ แหนง การยนื ในสนาม การตีโต จะเปนการตีลูกขนไกสลับกันของฝายสงและฝายรับจากตําแหนงใดก็ได ในสนามของแตละฝายท่ีมตี าขา ยก้ัน จนกระทงั่ ลูกไมอ ยูใ นการเลน (กตกิ าขอ 15) 10.3 คะแนนและการสงลูก 10.3.1 ถาฝา ยสงชนะการตีโต (กติกาขอ 7.3) ฝา ยสงได 1 คะแนน และผสู งยงั คงได สงลกู ตอในสนามสงลูกอกี ดานหนึ่ง 10.3.2 ถาฝายรับชนะการตีโต (กติกาขอ 7.3) ฝายรับได 1 คะแนน ฝายสง หมดสิทธิ์ ทจี่ ะสงลกู ตอ ฝายรบั จะเปล่ียนเปนฝายสง 11. ประเภทคู 11.1 สนามสง ลกู และรับลกู 11.1.1 ผูเลนที่เปนฝายสงลูก จะตองเร่ิมสง จากสนามสงลูกดานขวา หรือเมื่อฝายสงลูกยังไมมี คะแนน หรือคะแนนในเกมนน้ั เปน เลขคู 11.1.2 ผูเลนจะสงลูกในสนามท่ีสงลูก ดา นซาย เมอื่ ผูส งลูกไดค ะแนนในเกมนัน้ เปน เลขคี่ 11.1.3 ผูเลนที่เปนฝายรับท่ีสงลูกเปนคร้ัง สุดทาย จะตองยืนอยูในสนามดานท่ีตนเปนผูสงลูก ครง้ั สุดทา ย ใหค ูขาของฝายรับปฏิบัตใิ นทางกลบั กนั คูมอื การตดั สนิ กฬี าแบดมินตันคนพกิ าร 21  

     11.1.4 ผเู ลนทเ่ี ปนฝายรบั ใหยนื ทแยงมมุ ตรงขามกับฝายสงลูก โดยจะเปนผรู ับลกู 11.1.5 ผูเลนจะตองไมเปลี่ยนสนามสงลูกจนกวาจะชนะการตี เม่ือฝายตนเปนฝาย สงลกู 11.1.6 การสงลูกทุกครั้งตองสงจากสนามสงลูกตามคะแนนของฝายสง ยกเวน ตามท่ไี ดกําหนดไวใ นกตกิ าขอ 12 11.2 ลําดบั การเลนและตําแหนงการยืนในสนาม หลังจากไดรับลูกท่ีสงมาแลวใหการตีโตผูเลนของฝายสงคนหน่ึงคนใดตีลูก กลับไปและผูเลนคนหน่ึงคนใดของฝายรับโตลูกกลับมาจากที่ใดก็ได ภายในสนามของตน โดยมตี าขายกนั้ เปน อยา งน้ีเรือ่ ยไปจนกวา ลกู ไมอยูในการเลน (กตกิ าขอ 15) 11.3 การนบั คะแนนและการสง 11.3.1 ถาฝา ยสง ชนะการตโี ต (กตกิ าขอ 7.3) ฝายสง จะได 1 คะแนน และผูสงยังคง ไดสงลูกตอ 11.3.2 ถาฝายรับชนะการตีโต (กติกาขอ 7.3) ฝายรับจะได 1 คะแนน ฝายรับจะ เปลี่ยนเปน ฝา ยสง ลูก 11.4 ลําดับของการสง ลูก ในแตละเกม สิทธใิ์ นการสง ลกู จะตองเรียงตามลําดงั น้ี 11.4.1 ผูเลน คนแรกเปนผเู ร่มิ สง จะสงจากสนามสงลูกดานขวา 11.4.2 คูขาของผรู ับคนแรก จะเปน ผูสง คนตอ ไปจากสนามสง ลกู ดานซาย 11.4.3 คขู าของฝา ยสงคนแรก 11.4.4 ผเู ลน ของฝา ยรับคนแรก 11.4.5 ผสู ง คนแรก และเปนอยางนี้ไปเรือ่ ยๆ 11.5 ผูเลนตองไมสงลูกหรือรับลูกผิดลําดับมือ หรือรับลูกติดตอกัน 2 ครั้งในเกม เดียวกัน ยกเวนตามท่ีระบไุ วใ นกติกาขอ 12 11.6 ผูเลนคนหน่ึงคนใดของฝายชนะจะเปนผูสงลูกกอนในเกมตอไป และผูเลนคน หนง่ึ คนใดของฝา ยทีแ่ พจะเปน ผรู บั กอ นในเกมตอไปกไ็ ด 22 คมู อื การตัดสนิ กฬี าแบดมนิ ตนั คนพกิ าร  

      12. ความผิดในสนามสง ลูก 12.1 ความผิดในสนามสงลกู เกิดขึ้นเมื่อผเู ลน 12.1.1 สง ลกู หรือรบั ลกู ผดิ ลาํ ดบั มอื 12.1.2 ยืนสง ลกู หรอื รับลกู ในสนามที่ผิด 12.2 ถาพบความผดิ ในสนามสงลูก ใหแ กไ ขใหถ กู ตองโดยไมตองแกไขคะแนน 13. การทํา “เสีย” ถือวา “เสีย” 13.1 ถา การสง ลกู ไมถูกตอง (ตามกติกาขอ 9.1) 13.2 ถา การสง ลูกขนไก 13.2.1 ตดิ อยูบนตาขา ยและยังคงคา งอยบู นตาขาย 13.2.2 หลงั จากลูกขา มตาขายไปแลว ตดิ คา งอยใู นตาขาย 13.2.3 ถูกตโี ดยคูข าของฝายรับ 13.3 ถา ในขณะเลน ลกู ขนไก 13.3.1 ตกลงพ้ืนนอกเสนเขตสนาม (กลาวคือ ไมอยูบนหรือภายในเสน เขตสนาม) 13.3.2 ลอดผานหรือลอดใตต าขาย 13.3.3 ไมข ามเหนอื ตาขาย 13.3.4 ถูกเพดานหรอื ฝาผนัง 13.3.5 ถกู ตัวผูเ ลน หรอื เครื่องแตงกายผเู ลน 13.3.6 ถกู วัตถหุ รือบุคคลภายนอกที่อยูใกลเคียงลอมรอบสนาม (ในกรณี ท่ีมีความจําเปนเกี่ยวกับโครงสรางของตัวอาคาร ผูมีอํานาจเก่ียวกับแบดมินตันทองถ่ิน อาจวางกฎเพม่ิ เตมิ เก่ียวกบั ลูกถูกสง่ิ กดี ขวางได ทั้งนีแ้ ลว แตสทิ ธิความเหน็ ชอบของภาคี สมาชิก) 13.3.7 ติดอยใู นแรก็ เกต แลว ถูกเหวี่ยงออกไปในระหวา งตลี ูก คมู ือการตัดสินกฬี าแบดมนิ ตนั คนพกิ าร 23  

     13.3.8 ถูกตี 2 ครั้งติดตอกัน โดยผูเลนคนเดียวกัน อยางไรก็ตาม ลูกขน ไกท ี่ตถี กู หวั แรก็ เกตและสว นเอน็ ในการตีคร้ังเดยี วกัน ถอื วา ไมเสยี 13.3.9 ถูกตโี ดยผเู ลน คนหน่งึ และคขู าของผูเลน คนน้ันติดตอกนั 13.3.10 ถกู แร็กเกตของผูเลน แลวไมล อยขามไปสนามฝา ยตรงขา ม 13.4 ถา ลูกอยรู ะหวา งการเลน ผูเลน 13.4.1 ถูกตาขายหรืออุปกรณท่ีขึงดวยแร็กเกต ดวยตัว หรือดวยเคร่ือง แตงกาย 13.4.2 ลํ้าบนตาขายเขาไปในเขตสนามของคูตอสูดวยแร็กเกตหรือดวย ตัว ยกเวนผูเลนอาจใชแร็กเกตตามที่ตีขามตอไป โดยจุดสัมผัสของลูกน้ันจะตองอยูใน แดนของตนทมี่ ตี าขายก้ัน 13.4.3 ลํ้าใตตาขายเขาไปในเขตสนามคูตอสูดวยแร็กเกตหรือดวยตัวท่ี เปน การกดี ขวาง หรอื ทาํ ลายสมาธคิ ตู อ สู 13.4.4 กีดขวางคูตอสู กลาวคือ กันไมใหคูตอสูตีลูกขามตาขายมาอยาง ถูกตองตามกติกา ในขณะที่เลนลกู อยเู หนือตาขาย 13.4.5 จงใจทําลายสมาธิคูตอสูดวยการกระทํา เชน การตะโกน หรือการ แสดงทา ทาง 13.5 ถาผูเลน ทําผิดอยางชัดเจนซํ้าแลว ซ้ําอีก หรือทําผดิ อยูตลอดตามกตกิ าขอ 16 14. การ “เอาใหม” 14.1 การ “เอาใหม” จะขานโดยกรรมการผูตัดสิน หรือโดยผูเลน (ถาไมมี กรรมการผูต ัดสิน) ขานใหห ยุดเลน 14.2 ให “เอาใหม” ถา 14.2.1 ผสู งลูก สง ลกู โดยที่ผูรับลูกยังไมพ รอ ม (ดกู ตกิ าขอ 9.5) 14.2.2 ในระหวา งการสง ลกู ผูรบั และผูสง ลูกทาํ “เสีย” 14.2.3 หลงั จากรับลูกสง ไปแลว ลกู ขนไก 24 คมู อื การตดั สนิ กีฬาแบดมนิ ตันคนพกิ าร  

     - ไปตดิ และคางอยบู นตาขา ย หรอื - ขา มตาขา ยแลวตดิ คา งอยูในตาขาย 14.2.4 ในระหวางการเลนลูกขนไกแตกแยกออกเปนสวน ๆ และฐาน แยกออกจากสว นที่เหลือของลูกโดยส้ินเชิง 14.2.5 ถากรรมการผูตัดสินเห็นวาการเลนถูกรบกวนหรือผูเลนอีกฝาย หนึ่งถกู ผูฝ กสอนทําลายสมาธิ 14.2.6 กรรมการกํากับเสนมองไมเห็น และกรรมการผูตัดสินไมสามารถ ติดสินใจได 14.2.7 กรณีที่เกดิ ขึ้นโดยไมค าดคดิ มากอ น หรือโดยเหตุบงั เอิญ 14.3 เม่ือมีการ “ เอาใหม ” การเลนหลังจากการสงลูกครั้งสุดทายถือเปนโมฆะ และผูเลน ท่ีสงลูกจะไดส ง ลกู อกี ครั้งหน่งึ 15. ลกู ไมอ ยูในการเลน ลกู ไมอ ยใู นการเลน เม่อื 15.1 ลกู ชนตาขา ยหรอื เสาตาขาย แลว ตกลงบนพ้นื สนามในดา นของผูตีลูก 15.2 ลูกถูกพน้ื สนาม 15.3 เกิดการ “เสีย” หรอื การ “เอาใหม” 16. การเลนตอเนอ่ื ง , การทาํ ผดิ , การลงโทษ 16.1 การเลนตองตอเนื่องต้ังแตเริ่มสงลูกครั้งแรกจนจบการแขงขัน ยกเวน ตามทไ่ี ดรบั อนุญาตไวใ นกตกิ าขอ 16.2 และ 16.3 16.2 การพกั ระหวา งเกม 16.2.1 เม่ือฝายหนึ่งมีคะแนนถึง 11 คะแนน ในแตละเกมใหพักระหวาง เกมไดไ มเกนิ 60 วนิ าที คูมอื การตดั สินกีฬาแบดมินตนั คนพิการ 25  

     16.2.2 การพกั ระหวา งเกมท่ี 1 กับเกมที่ 2 และระหวางเกมท่ี 2 กับเกมท่ี3 ใหพักไดไมเกิน 120 วินาที อนุญาตสําหรับทุกแมทชการแขงขัน (ในการแขงขันท่ีมีการ ถา ยทอดโทรทศั น กรรมการผูช ข้ี าดอาจตัดสินใจกอนเร่ิมการแขงขันวาการพักตามกติกาขอ 16.2 และอยูในอาณตั ิเวลาทก่ี ําหนด) 16.3 การพักเลน 16.3.1 เมื่อมีความจําเปนจากสภาพแวดลอมที่มีไดอยูภายใตการควบคุม ของผูเ ลน กรรมการผูต ัดสนิ อาจสัง่ ใหพักการเลนชว่ั คราวตามที่พิจารณาเหน็ วา เปน จรงิ 16.3.2 ภายใตสถานการณพิเศษ กรรมการผูช้ีขาดอาจแนะนําให กรรมการผูตดั สินพักการเลน 16.3.3 ถามีการพักการเลน คะแนนที่ไดจะอยูคงเดิม และจะเริ่มเลนใหม จากคะแนนนัน้ ๆ 16.4 การถว งเวลาการเลน 16.4.1 ไมวา กรณีใด ๆ หามผูเ ลน ถว งเวลาการเลน เพอ่ื ใหฟนกําลัง เพ่ือให หายเหนือ่ ย หรือเพือ่ รับฟงคาํ แนะนําจากผฝู กสอน 16.4.2 กรรมการผตู ัดสินจะวนิ จิ ฉัยความลาชา แตเพียงผูเดยี ว 16.5 คําแนะนาํ และการออกนอกสนาม 16.5.1 จะอนุญาตใหผูเลนไดรับคําแนะนําระหวางการแขงขัน ในขณะที่ ลกู ไมอ ยใู นการเลน ตามกตกิ าขอ 15 เทา น้นั 16.5.2 หามผูเลนเดินออกนอกสนามระหวางการแขงขันโดยมิไดรับ อนุญาตจากกรรมการผูตัดสนิ ยกเวนระหวางการพักตามท่ีไดอ ธบิ ายในกติกาขอ 16.2 16.6 ผเู ลน จะตอ งไม 16.6.1 จงใจถวงเวลาพักการเลน หรอื รบั ฟงคําแนะนาํ จากผฝู กสอน 16.6.2 จงใจเปลีย่ นแปลงหรือทําลายลูก เพ่ือเปลี่ยนความเรว็ หรอื วถิ ี 16.6.3 แสดงกิรยิ ากา วรา ว 16.6.4 กระทําผิดนอกเหนอื กติกาแบดมนิ ตนั 26 คูมือการตดั สินกฬี าแบดมินตนั คนพกิ าร  

     16.7 การดําเนินการเกย่ี วกับความผิด 16.7.1 กรรมการผูตัดสินจะตองดําเนินการกับความผิดตามกติกาขอ 16.4,16.5,หรือ 16.6 โดย - เตอื นผูกระทาํ ผิด - ตัดสิทธิ์ผูกระทําผิดหลังจากไดมีการเตือนกอนแลว หากมีการ ตัดสทิ ธิ์ของฝา ยที่กระทําผดิ เปนครงั้ ท่ี 2 ใหพจิ ารณาเปน การกระทาํ ผิดตลอดเวลา 16.7.2 ในกรณีที่กระทําผิดอยางชัดแจง หรือทําผิดตลอดเวลา หรือไม ปฏบิ ัติตามกติกาขอ 16.2 ใหต ดั สิทธผ์ิ กู ระทําผิด และรายงานใหกรรมการผูชี้ขาดทราบทันที กรรมการผชู ข้ี าดมอี ํานาจตดั สิทธ์ิผูก ระทาํ ผิดออกจากการแขง ขัน 17. กรรมการและการอุทธรณ 17.1 กรรมการผูช ีข้ าดเปนผดู ูแลรบั ผิดชอบการแขงขนั ทัง้ หมด 17.2 กรรมการผูตัดสินท่ีไดรับการแตงต้ัง จะตองทําหนาท่ีควบคุมการแขงขัน สนามและบริเวณโดยรอบสนามแขงขัน กรรมการผตู ัดสินตอ งรายงานตอ กรรมการผูชี้ขาด 17.3 กรรมการกํากับการสงลูกเปนผูขาน “เสีย” สําหรับการสงลูกที่ผูสงลูกเปน ผกู ระทําผดิ (กตกิ าขอ 9.1) 17.4 กรรมการกํากับเสนเปนผูใหสัญญาณ “ดี” หรือ “ออก” ใหเสนเขตท่ีไดรับ มอบหมาย 17.5 การตัดสินใจเกี่ยวกับขอเท็จจริงท้ังหมดของกรรมการสนามท่ีรับผิดชอบ ถือวาสิ้นสุด เวนแตวากรรมการผูตัดสินเห็นวากรรมการกํากับเสนตัดสินผิดอยางแนนอน ใหกรรมการผตู ดั สนิ เปลยี่ นการตดั สนิ ของกรรมการกาํ กบั เสน 17.6 กรรมการผูตัดสนิ จะตอ ง 17.6.1 ควบคุมการแขงขันใหดําเนินไปภายใตกฎกติกาอยางเครงครัด โดยเฉพาะอยา งยิ่ง การขาน “เสีย” หรอื “เอาใหม” เม่ือมีกรณเี กดิ ขนึ้ 17.6.2 ตัดสินคําอุทธรณเกี่ยวกับการโตแยง ซ่ึงมีขึ้นกอนการสงลูกคร้ัง ตอไป คูม ือการตัดสนิ กีฬาแบดมินตนั คนพิการ 27  

     17.6.3 แนใ จวา ผูเ ลนและผชู มไดท ราบถงึ ความคืบหนาของการแขงขัน 17.6.4 แตงต้ังหรือถอดถอนกรรมการกํากับเสน หรือกรรมการกํากับการ สง ลกู หลงั จากไดปรกึ ษากบั กรรมการผชู ้ขี าดแลว 17.6.5 หากไมมีการแตงต้ังกรรมการสนามอื่น จะตองปฏิบัติหนาท่ีน้ัน ใหเรยี บรอย 17.6.6 หากกรรมการสนามทไ่ี ดร บั การแตงต้ังมองไมเ หน็ ตองดาํ เนินการ ในหนา ท่ขี องกรรมการน้นั หรือให “เอาใหม” 17.6.7 บันทึก และรายงานตอกรรมการผูชี้ขาดทุกเรื่อง ที่เก่ียวกับกติกา ขอ 16 17.6.8 เสนอคาํ อทุ รณท่ีไมพงึ พอใจในปญหาเกี่ยวกบั กติกาตอกรรมการผู ชขี้ าด(คําอุทธรณดังกลา ว จะตอ งเสนอกอนการสงลูกคร้ังตอไป หรือเม่ือการแขงขันสิ้นสุด ลงกอ นทฝี่ า ยอทุ ธรณจ ะเดินออกจากสนาม) 28 คมู อื การตดั สินกีฬาแบดมินตันคนพกิ าร  

     2.2 คําศพั ทท ่ัวไปทใ่ี ชในการตดั สินกีฬาแบดมินตัน คําศัพทมาตรฐานในภาคผนวกน้ี กรรมการผูตัดสินสามารถนําไปใชควบคุมการ แขง ขนั 1. การประกาศและการแนะนาํ 1.1 การแขงขันระหวา ง 1.1.1 ชื่อ – สกุล (สังกัด) ดา นขวา กับ ชือ่ – สกุล (สังกดั ) ดา นซา ย หรือ 1.1.2 ชอ่ื – สกุล และ ชอ่ื – สกลุ (สงั กดั ) ดา นขวา กับ ช่ือ – สกลุ และ ช่อื – สกลุ (สงั กดั ) ดานซาย 1.1.3 (สังกัด) ดานขวา ตวั แทนคือ ช่ือ – สกลุ กับ (สงั กัด) ดานซา ย ตัวแทนคอื ชื่อ – สกุล หรอื 1.1.4 (สงั กัด) ดา นขวา ตัวแทนคือ ชอื่ - สกลุ และ ชอื่ – สกุล กับ (สงั กดั ) ดานซา ย ตวั แทนคือ ช่อื – สกุล และ ช่อื – สกุล 1.1.5 ชือ่ เปนฝายสง หรอื 1.1.6 (ประเทศ/ชือ่ สงั กดั ) เปน ฝายสง 1.1.7 ชื่อ สง ให หรอื 1.1.8 ชอ่ื ให ชอื่ สามารถนําตารางขา งลา งนไี้ ปใชไ ดต ามความเหมาะสม ประเภท เดี่ยว คู บคุ คล 1.1.1 , 1.1.5 1.1.2 , 1.1.7 ทีม 1.1.3 , 1.1.6 1.1.4 , 1.1.6 , 1.1.8 คมู อื การตัดสนิ กฬี าแบดมนิ ตันคนพกิ าร 29  

     2. การเริ่มแขงขนั และขานคะแนน 2.1 ศนู ยเ ทา สง ได 2.2 เปล่ียนสง 2.3 พัก 2.4 สนาม (เลขสนาม) 20 วินาที 2.5 อกี แตม เดียวเกม เชน 20 – 6อกี แตมเดยี วเกม หรือ 29-28 อกี แตมเดยี วเกม 2.6 อีกแตมเดียวจบการแขงขัน เชน 20-8 อีกแตมเดียวจบการแขงขัน หรือ 29-28 อีกแตมเดยี วจบการแขงขัน 2.7 (คะแนน) เทาอกี แตมเดียวเกม เชน 29 เทา อีกแตมเดยี วเกม 2.8 เกมท่ี 1 (ในประเภททีม, ช่อื ประเทศ/ชอ่ื ทมี ) เปน ฝายชนะ (คะแนน) 2.9 เกมท่ี 2 2.10 (คะแนน) เทาอีกแตมเดียวจบการแขงขัน เชน 29 เทาอีกแตมเดียวจบ การแขง ขนั 2.11 เกมท่ี2 (ในประเภททมี ,ช่อื ประเทศ/ชื่อทีม)เปนฝายชนะ (คะแนน) 2.12 ชนะคนละเกม 2.13 เกมสดุ ทา ย 3. การสอื่ สารทว่ั ไป 3.1 เลือกขา ง 3.2 เตรียมตวั 3.3 ขณะสง ตีลกู พาด 3.4 ผูร บั ยงั ไมพ รอ ม 3.5 พยายามทีจ่ ะรับลูกสงแลว 3.6 หา มขม ขกู รรมการกาํ กับเสน 3.7 มาน่ี 3.8 ลกู ขนไกใ ชไดไหม? 30 คมู ือการตดั สนิ กฬี าแบดมนิ ตันคนพิการ  

      3.9 ทดสอบลูกขนไก 3.10 เปลีย่ นลูกขนไก 3.11 หามเปลย่ี นลูกขนไก 3.12 เอาใหม 3.13 เปลย่ี นขาง 3.14 ไมไ ดเปล่ียนขาง 3.15 ยืนสง ลูกผดิ สนาม 3.16 สงลกู ผดิ ลาํ ดบั มือ 3.17 รบั ลกู ผดิ ลําดับมอื 3.18 อยาทําลายลกู ขนไก 3.19 ลูกขนไกถ กู ตวั 3.20 ถกู ตาขา ย 3.21 ยืนผิดสนาม 3.22 ทาํ ลายสมาธคิ ตู อ สู 3.23 ผูฝก สอนรบกวนสมาธิฝา ยตรงขาม 3.24 ตลี กู 2 ครงั้ 3.25 ลูกขนไกตดิ บนแรก็ เกตและถกู เหวยี่ งขามไป 3.26 ลาํ้ เขาไปในเขตสนามคูต อ สู 3.27 กีดขวางคตู อสู 3.28 จะถอนตัวไหม? 3.29 ฝายรบั เสีย 3.30 สงลูกเสีย 3.31 ประวิงเวลาสง ลกู , การเลน ตองตอเนื่อง 3.32 พักการเลน 3.33 (ชื่อนักกฬี า) เตอื นที่กระทําผดิ คูมอื การตดั สินกฬี าแบดมนิ ตันคนพกิ าร 31  

     3.34 (ชื่อนกั กฬี า) ตัดสิทธิท์ ี่กระทําผิด 3.35 เสยี 3.36 ออก 3.37 ขอสญั ญาณกรรมการกํากับเสน 3.38 ขอสญั ญาณกรรมการกํากบั การสง ลกู 3.39 แกไ ขเปน ดี 3.40 แกไ ขเปนออก 3.41 เชด็ พนื้ 4. จบการแขง ขัน 4.1 ผลการแขงขนั (ชอ่ื ผเู ลน/สงั กัดในประเภททมี ) เปนฝา ยชนะ (คะแนน) 4.2 (ชือ่ ผูเลน /สังกัดในประเภททมี ) ถอนตวั จากการแขงขนั 4.3 (ชอื่ ผูเลน/สงั กดั ในประเภททมี ) ตดั สิทธิ์จากการแขง ขนั 5. คะแนน 11 - สิบเอด็ 22 - ยี่สบิ สอง 0 - ศูนย 12 - สบิ สอง 23 - ย่สี ิบสาม 1 - หนึง่ 13 - สิบสาม 24 - ย่ีสิบส่ี 2 - สอง 14 - สิบส่ี 25 - ย่ีสิบหา 3 - สาม 15 - สบิ หา 26 - ย่สี ิบหก 4 - ส่ี 16 - สบิ หก 27 - ย่ีสิบเจด็ 5 - หา 17 - สิบเจด็ 28 - ยส่ี ิบแปด 6 - หก 18 - สบิ แปด 29 - ยี่สบิ เกา 7 - เจ็ด 19 - สิบเกา 30 - สามสิบ 8 - แปด 20 - ยส่ี ิบ 9 - เกา 21 - ยีส่ ิบเอ็ด 10 – สิบ 32 คูมอื การตัดสินกฬี าแบดมนิ ตันคนพิการ  

     2.3 คาํ แนะนํากรรมการเทคนิคตามาตรฐานสากล 1. คํานาํ 1.1 สหพันธแบดมินตันนานาชาติ เปนผูใหคําแนะนํากรรมการเทคนิค เพ่ือ ตองการใหการควบคุมเกมการแขงขันทุก ๆ ประเทศเปนมาตรฐานและดําเนินไปภายใตกฎ กตกิ า 1.2 จุดประสงคของคําแนะนํานี้ เพื่อชี้แจงใหกรรมการผูตัดสินทราบถึง วิธีการควบคุมการแขงขันใหรัดกุมและยุติธรรมในหนาที่ของตน เพื่อใหเกิดความมั่นใจวา การแขงขันไดดําเนินไปภายใตกฎกติกาอยางถูกตอง คําแนะนําน้ียังเปนขอช้ีแนะถึงการ ปฏิบัตหิ นาท่ขี องกรรมการกํากบั การสง ลกู และกรรมการกาํ กับเสน อีกดวย 1.3 กรรมการเทคนิคทกุ คนพึงระลกึ วา “เกมการแขงขันเปน ของผเู ลน ” 2. กรรมการและการตดั สนิ ใจ 2.1 กรรมการผูตัดสินตองรายงานผลปฏิบัติหนาที่ภายใตการกํากับดูแลของ กรรมการผชู ข้ี าด (กตกิ าขอ 17.2 ) (หรอื เจา หนา ทีผ่ รู บั ผดิ ชอบในกรณไี มม ีกรรมการผูชข้ี าด) 2.2 โดยปกติกรรมการผูชี้ขาดเปนผูแตงตั้งกรรมการกํากับการสงลูก กรรมการผูชี้ขาดมีสิทธิ์ที่จะเปล่ียนกรรมการกํากับการสงลูกหรือเปลี่ยนโดยกรรมการผู ตดั สนิ หลังจากไดป รึกษากรรมการผชู ี้ขาดแลว (กตกิ าขอ 17.6.4) 2.3 โดยปกติกรรมการผูชี้ขาดเปนผูแตงต้ังกรรมการกํากับเสน กรรมการผูช้ี ขาดมีสิทธิ์ท่ีจะเปลี่ยนกรรมการกํากับเสน หรือเปล่ียนโดยกรรมการผูตัดสินหลังจากได ปรึกษากรรมการผูชขี้ าดแลว (กตกิ าขอ 17.6.4) 2.4 การตัดสินปญหาขอเท็จจริงของกรรมการถือวาส้ินสุด แตหากกรรมการ ผูตัดสินเห็นวากรรมการกํากับเสนผูนั้นตัดสินผิดอยางแนนอน กรรมการผูตัดสินจะตอง เปล่ียนคําตัดสินของกรรมการกํากับเสน (กติกาขอ 17.5) ถาหากวากรรมการผูตัดสิน เห็นสมควรตองเปล่ียนกรรมการกํากับเสน ใหเรียกกรรมการผูช้ีขาดเขามาเพ่ือปรึกษากอน จะมกี ารเปลย่ี น (กตกิ าขอ 17.6.4 คาํ แนะนํา ขอ 2.3) คมู อื การตดั สินกฬี าแบดมนิ ตนั คนพิการ 33  

     2.5 เมื่อกรรมการสนามอืน่ มองไมเหน็ กรรมการผูตัดสินเปนผตู ดั สนิ หากไม สามารถตัดสินไดให “ เอาใหม” 2.6 การรับผิดชอบในสนามและเหตุฉับพลันรอบสนาม เปนหนาท่ีของ กรรมการผูตัดสิน ซึ่งมีอํานาจตั้งแตเดินเขาสนามกอนเร่ิมการแขงขัน จนกระท่ังออกจาก สนามหลงั จากจบการแขงขัน (กติกาขอ 17.2) 3. คําแนะนํากรรมการผูต ดั สนิ 3.1 กอ นเร่มิ การแขง ขัน กรรมการผูตัดสินจะตองปฏบิ ัติดังตอไปนี้ 3.1.1 รบั ใบบนั ทกึ คะแนนจากกรรมการผชู ้ีขาด 3.1.2 ตรวจใหแนใจวา เครอ่ื งบอกคะแนนทาํ งานปกติ 3.1.3 ดูดวยวาเสาตาขายต้ังอยูบนเสนเขตขางของสนามประเภทคู (กติกาขอ 1.5 ) 3.1.4 ตรวจดูความสูงของตาขายและตองใหแนใจดวยวาไมมีชองวาง ระหวางปลายสุดของตาขา ยกับเสาตาขา ย 3.1.5 ตรวจสอบใหแนใจดวยวามีขอบังคับวาดวยลูกขนไกถูกส่ิงกีด ขวางหรอื ไม 3.1.6 ตรวจดูใหแนดวยวากรรมการกํากับการสงลูกและกรรมการ กาํ กบั เสนรูหนา ที่และนง่ั ประจําทถี่ ูกตอง (กติกาขอ 5 และ 6) 3.1.7 ตรวจดูใหแนดวยวาลูกขนไกที่ไดทดสอบแลว (กติกาขอ 3) มีอยู พรอมและจาํ นวนเพียงพอสําหรับใชใ นการแขงขัน เพอื่ หลกี เลีย่ ง มิใหเกิดความลาชาระหวางการแขงขัน(เปนธรรมเนียมปฏิบัติ ของกรรมการผูตัดสินท่ีมอบหนาท่ีในขอ 3.1.3,3.1.4,3.1.7 ให กรรมการกํากับการสง ลูกท่ไี ดมกี ารแตงตง้ั ) 3.1.8 ตรวจดูเครอื่ งแตงกายของนักกีฬาวาถูกตองตามระเบียบวาดวยสี, การออกแบบของตัวอักษรและการโฆษณา และตองแนใจวาการ 34 คมู ือการตดั สินกฬี าแบดมนิ ตันคนพิการ  

     ฝาฝนน้ันไดรับการแกไขแลวในเร่ืองเครื่องแตงกาย หากตัดสิน วาผิดระเบียบ (หรือไมแนใจ) ควรรายงานตอกรรมการผูช้ีขาด หรือเจาหนาท่ีท่ีเก่ียวของกอนเริ่มการแขงขัน หรือหากไม สามารถทาํ ได ใหรายงานทนั ทหี ลงั จากการแขง ขนั จบลง 3.1.9 แนใจวาการเสี่ยงสิทธิ์ไดดําเนินไปอยางบริสุทธ์ิยุติธรรม ฝาย ชนะและฝายแพในการเสี่ยงสิทธิ์ไดใชสิทธ์ิของตนเองอยาง ถูกตอง (กตกิ าขอ 6) ใหบนั ทกึ ดานทีน่ ักกฬี าเลือกไวดว ย 3.1.10 ในกรณีประเภทคูทําเคร่ืองหมายไวท่ีชื่อนักกีฬาท่ีเริ่มเลนใน สนามสงลูกทั้งฝายสงและฝายรับ ควรทําเชนน้ีทุกครั้งท่ีเริ่ม แขงขันแตละเกม (การปฏิบัติดังกลาวจะชวยใหตรวจสอบได ตลอดเวลาวา นกั กีฬาอยใู นสนามสง ลูกท่ีถกู ตอ ง) 3.2 การเร่ิมตนการแขงขันกรรมการผูตัดสินจะตองประกาศโดยใชคํา ประกาศตามขอ ความทรี่ ะบไุ ว และใหยืน่ แขนช้ไี ปทางขวาหรือซา ยประกอบคําประกาศ *ประเภทบุคคล การแขงขนั เดีย่ ว การแขงขันระหวาง ชื่อ – สกุล (สังกัด) ดานขวา กับ ชื่อ – สกุล (สังกัด) ดา นซาย ชื่อ เปน ฝายสง “ศูนยเ ทา – สงได” การแขง ขนั คู การแขงขันระหวาง ช่ือ – สกุล (สังกัด) และช่ือ – สกุล (สังกัด) ดานขวา กับ ชอื่ – สกลุ (สังกัด) และ ชือ่ – สกลุ (สงั กดั ) ดานซาย ชอื่ สง ให ชื่อ “ศนู ยเ ทา – สงได” *ประเภททีม การแขง ขันเด่ยี ว การแขงขนั ระหวา ง.. (สงั กดั ) ดา นขวา ตัวแทนคือ ชื่อ – สกุล กับ...(สังกัด) ดานซา ย ตัวแทนคือ ช่ือ – สกุล..(สังกัด) เปนฝายสง “ศูนยเ ทา – สง ได” คมู ือการตัดสินกฬี าแบดมินตันคนพกิ าร 35  

     การแขง ขนั คู การแขงขันระหวาง... (สังกัด) ดานขวา ตัวแทนคือ ชื่อ – สกุล และ ช่ือ – สกุล กับ...(สังกัด) ดานซาย ตัวแทนคือ ชื่อ – สกุล และ ช่ือ – สกุล... (สังกัด) เปนฝาย สง ชือ่ สงให ชือ่ “ศูนยเทา – สง ได” 3.3 ระหวา งการแขง ขนั 3.3.1 กรรมการผตู ดั สินจะตอ ง 3.3.1.1 ใชคําศพั ทมาตรฐานในภาคผนวก 4 ของกตกิ าแบดมินตัน 3.3.1.2 บันทึกและขานคะแนน โดยจะตองขานคะแนนของผูสง กอนเสมอ 3.3.1.3 ระหวางการสงลูก ถาหากมีการแตงต้ังกรรมการกํากับ การสงลูกใหมองดูผูรับลูกเปนพิเศษ และกรณีท่ีจําเปนอาจจะขานเสียถาฝายสงลูกไดสงลูก ไมถกู ตอ งตามกติกา 3.3.1.4 ถาเปนไปไดคอยมองสภาพการทํางานของปายบอก คะแนน 3.3.1.5 ยกมือขวาขึ้นเหนือศีรษะ เมื่อตองการความชวยเหลือจาก กรรมการผูช ้ีขาด 3.3.2 เมื่อฝายท่ีแพในการตีโต และเสียสิทธ์ิในการสงลูก (กติกาขอ 10.3.2,11.3.2) ใหขานวา “เปล่ียนสง” ตามดวยคะแนนของฝายท่ีไดสงลูกใหม ถาจําเปนให ชมี้ ือไปยงั ดา นและสนามสง ลูกทถี่ กู ตองของฝา ยสง ลกู 3.3.3 คาํ วา “สง ได” กรรมการผูตัดสนิ เทานัน้ เปน ผขู าน 3.3.3.1 แสดงวา แมทชหรือเกม หรือในเกมหลังจากการพัก หรือ ในเกมหลงั จากเปลย่ี นขา งแลวไดเ ริม่ ขึ้น 3.3.3.2 แสดงวา การเลนไดเริ่มขึ้นหลังจากไดมีการหยุดพักชั่วคราว หรอื 3.3.3.3 แสดงวา กรรมการผตู ัดสินบอกใหผเู ลน เริม่ เลน ได 36 คมู อื การตัดสนิ กีฬาแบดมนิ ตันคนพกิ าร  

     3.3.4 การขาน “เสีย” จะขานโดยกรรมการผูตัดสินเมื่อมีการทําผิด เกิดขนึ้ ยกเวนกรณดี งั ตอไปน้ี 3.3.4.1 การขาน “เสีย” เม่ือฝายสงสงลูกเสีย (กติกาขอ 9.1) จะ ขานโดยกรรมการกํากับสงลูกตามกติกาขอ 13.1 กรรมการผูตัดสินจะตองรับรูการขานวา “สงลกู เสยี ” กรรมการผตู ดั สนิ จะขาน “เสีย” ฝายรบั ลูก ตามดวยการขานวา “ฝา ยรบั เสีย” 3.3.4.2 การทํา “เสีย” ตามกติกาขอ 13.3.1 ซึ่งขานหรือการให เพยี งสญั ญาณโดยกรรมการกํากบั เสน (คาํ แนะนาํ ขอ 6.2 ) และ 3.3.4.3 การทํา “เสีย” ตามกติกาขอ 13.2.1,13.2.2,13.3.2 หรือ 13.3.3 จาํ เปน ตอ งขานเพอ่ื ใหผูเลนหรอื ผูชมไดเ ขาใจ 3.3.5 ในระหวา งแตละเกมเมื่อมีฝา ยทําคะแนนนําถึง 11 คะแนน ทันทีท่ี การตีโตลูกคะแนนท่ี 11 ไดยุติลง ใหขาน “...คะแนน..” “..พัก..” หรือ “...เปลี่ยนสง...” “...คะแนน...” “...พัก...” โดยไมตองคํานึงถึงการปรบมือ และใหนักกีฬาพักตามกติกาขอ 16.2.1 ตอ งแนใ จวากรรมการกาํ กบั การสงลูก กาํ กับดูแลการเชด็ สนามใหระหวา งการพกั 3.3.6 ในระหวางเกมเม่ือมีฝายทําคะแนนนําถึง 11 คะแนน ใหมีการพัก (กติกาขอ16.2.1) ภายหลังจาก 40 วินาทีผานไป ใหขานวา “ สนามท่ี...20 วินาที” (ขานซ้ํา) นักกีฬาพัก (กติกาขอ 16.2.1) ในระหวางเกมที่ 1 เกมท่ี 2 และเกมที่ 3 (ภายหลังจากเปล่ียน ขางแลว) ใหมีบุคคลเขาไปพบนักกีฬาในสนามไดฝายละไมเกิน 2 คน และตองออกจาก สนามทันที เมื่อกรรมการผูตัดสินขาน 20 วินาที การเร่ิมการแขงขันภายหลังจากการพักให ขานคะแนนซ้ําตามดวยคําวา “สงได” แตถานักกีฬาทั้งสองฝายไมใชสิทธ์ิในการพักตาม กติกาขอ 16.2.1 จะอนุญาตใหเ ลน ตอไปไดท ันที 3.3.7 ขอบเขตของเกม 3.3.7.1 เมื่อมีฝายหนึ่งฝายใดทําคะแนนถึง 20 คะแนน ใหขานวา “อีกแตมเดียวเกม” หรือ “ อกี แตม เดยี วจบการแขง ขนั ” ในโอกาสแรกของแตละเกม 3.3.7.2 เม่ือฝายหน่ึงฝายใดมีโอกาสไดคะแนน 29 คะแนนในแต ละเกม ใหขานวา “อีกแตม เดียวเกม” หรอื “อกี แตมเดียวจบการแขงขนั ” แลวแตก รณี คูมอื การตัดสินกฬี าแบดมินตันคนพกิ าร 37  

     3.3.7.3 ใหขานคะแนนของฝายสงและฝายรับลูกตามดวยขานวา “อีกแตม เดยี วเกม” หรอื “อกี แตมเดยี วจบการแขงขัน” ตามคาํ แนะนําขอ 3.3.7.1 และ 3.3.7.2 3.3.8 เมื่อสิ้นสุดการเลนทุกเกม ตองขานทุกครั้งวา “เกม” ทันทีที่การตี โตลูกยุติลงโดยไมตองคํานึงถึงการปรบมือ ใหปฏิบัติทํานองเดียวกันกับกรณีเร่ิมการพัก ตามท่ีไดอนญุ าตไวใ นกตกิ าขอ 16.2.2 หลงั จบเกมท่ี 1 ใหขานวา “ เกมท่ี 1....(ชื่อผูเลน หรือช่ือสังกัดในประเภททีม) เปนฝายชนะ.. (คะแนน)” หลงั จบเกมท่ี 2 ใหขานวา “เกมท่ี 2...(ช่ือผูเลนหรือชื่อสังกัดในประเภททีม) เปนฝายชนะ... (คะแนน)” “ชนะคนละเกม” (ถา มีการแขงขนั ในเกมท่ี 3) หากเปน เกมทีท่ ําใหช นะในแมทชการแขง ขันใหข านวา “ผลการแขงขัย ... (ชื่อผูเลนและสังกัดในประเภททีม) เปนฝาย ชนะ...(ประกาศคะแนนทุกเกม) 3.3.9 ในการพักระหวางเกมที่ 1 และเกมท่ี 2 และระหวางเกมที่ 2 และ เกมท่ี 3 (กติกาขอ 16.2.2) หลังจาก 100 วินาทีผานไป ใหขานวา “สนาม...20 วินาที” (ขานซํา้ ) ในการพักระหวา ง 2 เกม (กตกิ าขอ 16.2.2) หลังจากไดเปล่ียนขาง แลวใหมีบุคคลเขาไปพบนักกีฬาในสนามไดฝายละไมเกิน 2 คน และจะตองออกจากสนาม ทันทีเม่ือกรรมการผูตดั สินขาน 20 วนิ าที 3.3.10 เรมิ่ การแขงขันเกมท่ี 2 ใหข านวา “เกมที่ 2 ศูนยเ ทา – สงได” หากมกี ารเลน เกมท่ี 3 เรมิ่ การแขงขนั ใหขานวา “เกมสุดทาย ศูนยเทา – สง ได” 38 คมู ือการตัดสนิ กีฬาแบดมินตนั คนพิการ  

     3.3.11 การแขงขันเกมท่ี 3 หรือการแขงขันเกมเดียว ใหขานคะแนนแลว ตามดวยคําวา “เปลี่ยนขาง” เมื่อเริ่มเลนใหขานคะแนนของฝายสงและฝายรับตามดวย “สงได” 3.3.12 หลงั ขากการแขงขันจบลงใหนําไปบันทึกคะแนนท่ีสมบูรณสงให กรรมการผูชขี้ าดทันที 3.4 การกาํ กบั เสน 3.4.1 กรรมการผูตัดสิน ควรมองดูกรรมการกํากับเสนเสมอเม่ือลูก ขนไกตกใกลเสนและตกนอกเสนเขตทุกคร้ังไมวาจะหางแคไหน กรรมการกํากับเสนเปน ผูรับผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจทั้งส้ิน ยกเวน 3.4.2 3.4.2 ถากรรมการผูตัดสินเห็นวากรรมการกํากับเสนขานผิดอยาง แนนอน กรรมการผูตัดสินจะตองขาน “แกไขเปนดี” เม่ือลูกขนไกตกในเขตสนาม “แกไข เปน ออก” เม่อื ลูกขนไกตกนอกเขตสนาม 3.4.3 ในกรณีทไ่ี มมกี รรมการกํากบั เสน หรอื กรรมการกํากบั เสนมองไม เหน็ • ขาน “ออก” กอนท่ีจะขานคะแนน เมอื่ ลูกขนไกต านอกเสน เขตหรือ • ใหค ะแนน เมอ่ื ลกู ขนไกต กในเขต หรือ • “เอาใหม” หากกรรมการผตู ัดสินมองไมเหน็ เชน กนั 3.5 ระหวางการแขงขัน กรรมการผูตัดสินจะตองคอยดูแลและดําเนินการ ทนั ทกี ับเหตุการณสาํ หรับกรณดี ังตอไปนี้ 3.5.1 นักกีฬาขวางแร็กเกตไปยังสนามของคูแขงขันหรือลื่นไถลลอด ใตตาขาย (ถือวาผูนั้นกีดขวางหรือรบกวนสมาธิคูตอสู) ถือวา “เสีย” ฯลฯ ตามกติกาขอ 13.4.2 หรือ 13.4.3 ตามลาํ ดบั 3.5.2 ลูกขนไกท่ีลํ้าเขามาจากสนามอื่นไมจําเปนตองตัดสินให “เอาใหม” ถากรรมการผตู ดั สินเห็นวา 3.5.2.1 นกั กีฬาไมไ ดส ังเกตเหน็ หรือ คมู ือการตดั สินกีฬาแบดมินตนั คนพิการ 39  

     3.5.2.2 ไมไดก ีดขวางหรือทาํ ลายสมาธขิ องนกั กีฬา 3.5.3 การตะโกนวา “อยาตี” “เสีย” ฯลฯ อาจจะถือวาทําลายสมาธิ คูตอสูได แตการที่นักกีฬาตะโกนบอกคูขาซึ่งกําลังจะตีลูกไมถือวาเปนการรบกวนสมาธิ คูตอสู (กตกิ าขอ 13.4.5) 3.5.4 นักกฬี าออกนอกสนาม 3.5.4.1 นักกีฬาตองไมออกไปนอกสนาม โดยมิไดรับอนุญาต จากกรรมการผตู ดั สนิ ( กตกิ าขอ 16.5.2) ยกเวนระหวา งการพักตามกตกิ ารขอ 16.2 3.5.4.2 ตองเตือนนักกีฬาที่ละเมิดวาการออกไปนอกสนามตอง ไดร บั อนุญาตจากกรรมการผตู ัดสนิ (กตกิ าขอ16.5.2) หากจําเปนใหด ําเนินการตามกติกา ขอ 16.7 อยางไรก็ตาม การเปลี่ยนไมแร็กเกตท่ีวางไวขางหลังนามระหวางการตีโตอนุญาตให กระทําได 3.5.4.3 ในระหวา งการแขง ขันนักกีฬาออกไปเช็ดเหงื่อ และ/หรือ ด่ืมน้ํา กระทําดวยความรวดเร็ว ถาไมทําใหการเลนหยุดชะงักกรรมการผูตัดสินจะอนุญาต ใหก ระทําได 3.5.5 การถวงเวลาและการพักการเลนตองแนใจวาผูเลนจะไมจงใจถวง เวลาหรือพักการเลน (กติกาขอ 16.4, 16.3.1) ควรระมัดระวังการเดินรอบๆ สนาม หาก จาํ เปน จะตองดาํ เนนิ การตามกติกาขอ 16.7 3.5.6 การสอนจากนอกสนาม 3.5.6.1 ปองกันไมใหมกี ารสอนจากนอกสนาม (กติกาขอ 16.5.1) ขณะลกู อยใู นการเลน 3.5.6.2 ตอ งมั่นใจวา • ผูฝกสอนนั่งอยูในพ้ืนที่ท่ีกําหนด และไมไดยืน อยูข างสนามระหวา งการแขงขนั ยกเวน ในชว งทีอ่ นญุ าตใหม กี ารพกั (กติกาขอ 16.2) • ไมมีการทําลายสมาธิหรือกอกวนจากผูฝกสอน คนหนึ่งคนใด สําหรบั แมทชก ารแขงขันนน้ั 40 คูมอื การตดั สินกีฬาแบดมนิ ตนั คนพิการ  

     3.5.6.3 ถากรรมการผูตัดสินเห็นวาเกมการเลนถูกรบกวนทําให นักกีฬาเสียสมาธิโดยผูฝกสอนของอีกฝายหน่ึง ใหขาน “เอาใหม” และเรียกกรรมการผูขาด ทนั ทีกรรมการผชู ้ขี าดจะเตอื นเก่ียวกับการกระทํานั้น ๆ 3.5.6.4 ถามีการกระทําอีกเปนครั้งท่ีสอง ถาจําเปนกรรมการผูช้ี ขาดอาจขอใหผฝู กสอนออกจากบริเวณสนามแขง ขัน 3.5.7 การขอเปล่ียนลกู ขนไก 3.5.7.1 การขอเปล่ียนลูกขนไกระหวางการเลนตองไมเปนการ เอาเปรยี บ เมอื่ ผูเลนขอเปลีย่ นลูกขนไกก รรมการผูตัดสินจะอนุญาตกต็ อเมื่อเห็นวาสภาพลูก ขนไกชาํ รดุ แลว 3.5.7.2 หากมีการทําลายวิถีและความเร็วของลูกขนไกใหเปล่ียน ลูกน้นั และกรรมการผูตดั สินตอ งดาํ เนนิ การตามกตกิ าขอ 16.7 3.5.7.3 กรรมการผูช้ีขาดเปนผูมีอํานาจตัดสินใจในการเลือก ความเรว็ ของลูกขนไกท่ีใชในการแขงขัน ถา นกั กฬี าทงั้ สองฝา ยตอ งการเปลยี่ นความเร็วของ ลูกขนไก กรรมการผูตัดสินจะตองเรียกกรรมการผูช้ีขาดทันทีและถาจําเปนกรรมการผูชี้ ขาดอาจจะใหมีการทดสอบความเรว็ ของลูกขนไกก ไ็ ด 3.5.8 การบาดเจ็บหรอื เจบ็ ปว ยระหวางการแขง ขัน 3.5.8.1 การบาดเจ็บหรือเจ็บปวยระหวางการแขงขันตองปฏิบัติ ดวยความระมัดระวัง และยืดหยุน กรรมการผูตัดสินตองวินิจฉัยความรุนแรงของปญหา โดยเรว็ ทีส่ ุดเทา ท่ีจะเรว็ ได ถา จําเปน ใหเรียกกรรมการผูช ข้ี าด 3.5.8.2 กรรมการผูช้ีขาดจะเรียกเจาหนาท่ีทางการแพทยหรือ บุคคลอ่ืน ท่ีเห็นวาจําเปนเขาไปในสนาม แพทยจะตองวินิจฉัยและแนะนํานักกีฬาเกี่ยวกับ ความรุนแรงของการบาดเจ็บ หรือการเจ็บปวย ถาเลือดออกจะตองหยุดเกมและหามเลือด จนกระทงั่ เลือดหยุด หรือไดทําบาดแผลแลว 3.5.8.3 กรรมการผูชี้ขาดจะแนะนําใหกรรมการผูตัดสินจับเวลา และเปนผูบ อกใหน กั กีฬาเริม่ เลน ตอไป คูมอื การตัดสินกีฬาแบดมินตนั คนพิการ 41  

     3.5.8.4 กรรมการผูตัดสินตองม่ันใจวา ฝายตรงขามจะตองไมอยู ในฐานะเสียเปรียบ และควรปฏิบัติดวยความเท่ียงธรรมตามกติกาขอ 16.4 , 16.5, 16.6.1 และ 16.7 3.5.8.5 กรณีของการบาดเจ็บ เจ็บปว ย หรอื มอี ปุ สรรคตาง ๆ ท่ีไม อาจหลกี เล่ยี งได ควรถามผเู ลนวา “ จะถอนตวั ไหม” หากตอบรับใหขานวา “ผลการแขงขัน...(ชื่อผูเลนและสังกัด หรือช่ือสังกัด ใน ประเภททมี ) เปนฝา ยชนะ....(คะแนน) ...ถอนตวั จากการแขง ขนั 3.5.9 โทรศพั ทเ คล่ือนท่ี ถามีเสียงโทรศัพทผูเลนดังขึ้นขณะกําลังมีการแขงขันในสนาม ถือวา ผูเลนคนนั้นทําความผิดตามกติกาขอ 16.6.4 กรรมการผูตัดสินจะตองดําเนินการ ลงโทษตามกติกาขอ 16.7 3.5.10 ความประพฤติของนกั กีฬาในสนาม 3.5.10.1 กรรมการผูตัดสินจะตองแนใจวาผูเลนท้ังสองฝายทํา การแขง ขันดว ยความมนี ้ําใจนักกฬี า 3.5.10.2 การกระทําละเมิดใดๆของผูเลนตามขอบังคับที่ 4.6. , 4.10 ถงึ 4.16 ของระเบียบวาดวยการควบคุมความประพฤติของนักกีฬา ใหถือวาเปนการทํา ผิด ตามกติกาขอ ง16.6.4 3.6 การพักการเลน ถามกี ารพกั การเลนใหขานวา “ พักการเลน” แลวบันทึกคะแนน ผูสงลูก ผรู ับลูก สนามสงลูกท่ีถูกตอง และดานของผู เลนเมื่อกลับมาเลนตอ ใหบันทึกระยะของการพักการเลน ตองแนใจวาผูเลนกลับมายืนใน ตาํ แหนงท่ถี กู ตอ ง และขานวา “ เตรียมตวั ” แลวจึงขานคะแนน และ “สงได” 42 คมู อื การตดั สินกีฬาแบดมนิ ตันคนพกิ าร  

     3.7 การทาํ ผิด 3.7.1 บันทึกแลวรายงานตอกรรมการผูช้ี ข า ด ถึ ง ส า เ ห ตุ ข อ ง ก า ร ก ร ะ ทํ า ผิ ด แ ล ะ ก า ร ดําเนนิ การทไ่ี ดทําไป 3.7.2 การทําผิดระหวางเกม ถือเสมือนเปน ก า ร ทํ า ผิ ด ข ณ ะ ท่ี กํ า ลั ง เ ล น ใ น ร ะ ห ว า ง เ ก ม กรรมการผูตัดสินจะประกาศดําเนินการกับการ ทําผิดเมื่อเริ่มเกมถัดไป โดยขานตามคําแนะนํา ขอ 3.3.10 ตามดวยขอ 3.7.3 หรือ 3.7.5 จากน้ัน ขาน “คะแนน” หรือ “เปล่ียนสง...คะแนน” ตาม ความเหมาะสม 3.7.3 หากกรรมการผูตัดสินตองดําเนินการตามกติกาขอ 16.4, 16.5, หรอื 16.6 โดยเตอื นฝา ยทีก่ ระทาํ ผิด (กตกิ าขอ 16.7.1) ใหเ รยี กผเู ลน ทที่ ําผดิ “มาน”ี่ แลวขาน วา “...(ชื่อผเู ลน ) เตอื นท่กี ระทําผิด” ในขณะเดียวกันใหถือใบเหลืองขึ้นเหนือศีรษะ 3.7.4 หากกรรมการผูตัดสินตองดําเนินการตามกติกาขอ 16.4 , 16.5 หรือ 16.6 โดยเตือนฝายที่กระทําผิด ซึ่งไดเตือนที่กระทําผิดไปแลว (กติกาขอ 16.7.2 ) ให เรยี กผูเ ลน ท่ีทําผิด “ มาน่ี” แลว ขานวา “.....(ชอ่ื ผูเลน ) ตัดสทิ ธท์ิ ี่กระทาํ ผดิ ” ในขณะเดยี วกนั ใหช ูแขนขวาท่ถี ือใบแดงขน้ึ เหนอื ศรี ษะ 3.7.5 เมื่อกรรมการผูตัดสินไดดําเนินการ กระทําผิดอยางชัดแจงหรือผิดอยูตลอดเวลาตามกติกาขอ 16.2,16.4,16.5 หรือ 16.6 โดยตัดสิทธิ์ผูกระทําผิด (กติกาขอ 16.7.2) และรายงานใหกรรมการผูชี้ขาดทราบทันที ในการ พิจารณาตัดสิทธ์ิจากการแขงขัน และกรรมการผูตัดสินจะตอง เรยี กฝา ยทก่ี ระทําผิดวา “มาน่ี” คมู อื การตดั สนิ กฬี าแบดมนิ ตนั คนพิการ 43  

     “...(ชื่อผูเลน) ตัดสิทธทิ์ ก่ี ระทาํ ผดิ ” ในขณะเดยี วกนั ใหช แู ขนขวาที่ถอื ใบแดงขน้ึ เหนือศีรษะ พรอมทงั้ เรยี กกรรมการผชู ้ีขาดเขามาในสนาม 3.7.6 หากกรรมการผูชี้ขาด พิจารณาใหตัดสิทธ์ิผูเลนออกจากการแขงขันก็จะ สงใบดําใหกรรมการผูตัดสิน กรรมการผูตัดสินจะ เรยี กฝายทกี่ ระทําผิดวา “มานี่” และขานวา “...(ชอ่ื ผูเลน ) ตัดสทิ ธจิ์ ากการแขงขัน” ในขณะเดยี วกัน ใหช ูแขนขวาทถี่ ือใบดาํ ข้นึ เหนือศีรษะ เมอื่ ผูเลน ถูกตัดสทิ ธิ์ออกจากการแขง ขนั จะถกู ตัดสิทธิ์ ท้งั หมดสาํ หรบั ประเภทท่เี หลืออยูในรายการน้ัน 4 คาํ แนะนาํ ทวั่ ไปสําหรบั กรรมการผตู ัดสิน 4.1.1 ตอ งรูและเขา ใจกติกาแบดมินตัน 4.1.2 ขานใหเด็ดขาดและทันทีทันควัน หากมีการผิดพลาดใหยอมรับและกลาว ขออภัยและแกไ ขใหถูกตอ ง 4.1.3 การประกาศและขานคะแนน ตองชัดเจนและดังพอท่ีผูเลนและผูชมไดยิน ท่วั กัน 4.1.4 เมือ่ เกดิ ขอสงสยั วา อาจมีการละเมิดกติกาขึ้น หรือไมก็ตาม อยาขาน “เสีย” ควรปลอยใหเกมการเลนดาํ เนินตอไป 4.1.5 อยา ถามผูชมหรือเช่ือตามคาํ บอกของผูชมเปน อันขาด 44 คูมอื การตดั สินกีฬาแบดมนิ ตันคนพิการ  

     4.1.6 ใหความสําคัญแกกรรมการเทคนิคคนอ่ืน ๆ เชน การรับรูดวยความสุขุม คัมภีรภาพในการตัดสินของกรรมการกํากับการสงลูกและกรรมการกํากับเสน และ เสริมสรางสมั พนั ธภาพอันดีในการปฏบิ ัตหิ นา ท่รี วมกนั 5 คําแนะนาํ สําหรบั กรรมการกํากับการสงลูก 5.1 กรรมการกํากับการสงลูก ควรนั่งเกาอี้ต่ํากวาธรรมดาที่เสาตามขาย ทางดา นตรงขามกรรมการผูตัดสนิ 5.2 กรรมการกํากบั การสง ลูก รับผดิ ชอบในการวินจิ ฉัยวาผสู งลูกสงลูกถูกตอง (กติกาขอ 9.1.2 ถึง 9.1.9) ถาไมถูกตองใหขานวา “เสีย” ใหกรรมการผูตัดสินไดยิน พรอ มกับแสดงสัญลักษณม อื ทไ่ี ดรบั การเหน็ ชอบอันบงบอกถึงลกั ษณะของการทาํ ผิด 5.3 สญั ลักษณมอื ที่ไดร ับการเหน็ ชอบ คอื กตกิ าขอ 9.1.6 ขณะทลี่ กู ตกี านของแรก็ เกตไมชต้ี าํ่ ลง กติกาขอ 9.1.5 สวนหน่ึงสวนใดของลูกที่ถูกตอี ยูสงู กวา เอวของผูส ง ลกู กตกิ าขอ 9.1.7 45 ทันทีที่ผูเลนอยูในทาพรอมแลว การเคลื่อน แร็กเกตของผูสงลูกไปขางหนาถือวาไดเริ่มสง ลกู และตอ งตอเนือ่ ง คมู ือการตัดสนิ กีฬาแบดมินตันคนพิการ  

     กติกาขอ 9.1.2 และ 9.1.3 บางสวนของเทาไมอยูในสนามสงลูกและ ในทา น่ิงจนกระท่งั ไดสง ลูกแลว กตกิ าขอ 9.1.4 จดุ สมั ผัสครงั้ แรก ไมถ กู ฐานของลกู 5.4 กรรมการผูตัดสิน ควรตกลงกับกรรมการกํากับการสงลูกใหเขาใจหนาท่ี อ่นื ท่นี อกเหนอื โดยแจง ใหผ ูเลน ทราบ 6 คําแนะนําสําหรบั กรรมการกํากบั เสน 6.1 กรรมการกํากับเสน ควรนั่งเกาอ้ีตั้งอยูปลายสุดความยาวของเสนเขต รวมทัง้ ดา นขางของสนามและอยูต รงขา มกบั กรรมการผตู ัดสนิ (ดูภาพ) 6.2 กรรมการกํากับเสนคนหน่ึงรับผิดชอบเสนเขตทั้งหมดท่ีไดรับมอบหมาย เวนเสียแตกรรมการผูตัดสินไดแกไขคําตัดสินของกรรมการกํากับเสน เม่ือกรรมการผู ตดั สินเหน็ วากรรมการกํากบั เสน ผดิ อยางแนนอน 6.2.1 ถาลูกขนไกตกนอกเสนเขตไมวาจะหางแคไหนใหขานวา “ออก” ทันทีดวยเสียดังฟงชัดพอท่ีผูเลนและผูชมไดยิน และในขณะเดียวกันใหสัญญาณดวย การเหยยี ดแขนทั้งสองขา งออกตามขวาง เพอ่ื ใหกรรมการผูต ดั สินเหน็ ไดถนัด 46 คูมอื การตดั สนิ กฬี าแบดมนิ ตันคนพกิ าร  


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook