Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ws02001

Description: ws02001

Search

Read the Text Version

ก v หนังสือเรียน สาระทักษะการดาํ เนินชีวิต รายวชิ าเลอื ก บญั ชชี าวบา้ น รหสั วชิ า ทช02001 ระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้น มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตามหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั เชียงใหม่ สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สํานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ห้ามจําหน่าย หนงั สือเรียนเล่มน้ีจดั พิมพด์ ว้ ยเงินงบประมาณแผน่ ดินเพือ่ การศึกษาตลอดชีวิตสาํ หรับประชาชน ลิขสิทธ์ิเป็ นของสาํ นกั งาน กศน. จงั หวดั เชียงใหม่

ก คาํ นาํ หนงั สอื เรยี นรายวิชาเลือก วิชาบัญชีชาวบ้าน รหัสวิชา ทช02001 ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย จัดทําขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้และประสบการณ์ ซ่ึงเป็นไปตามหลักการและปรัชญาการศึกษานอก โรงเรียนและพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 ให้ผู้เรียนมี คุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญามีศักยภาพในการประกอบอาชีพและสามารถดํารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ ดังนั้น เพ่ือให้การจัดกระบวนการเรียนรู้ของสถานศึกษามีประสิทธิภาพ สถานศึกษาต้องใช้หนังสือ เรียนท่ีมีคุณภาพ สอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของผู้เรียน ชุมชน สังคม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ของสถานศึกษา หนังสือเล่มนี้ได้ประมวลองค์ความรู้ กิจกรรมเสริมทักษะ แบบวัดประเมินผลการ เรียนรู้ไว้อย่างครบถ้วน โดยองค์ความรู้นั้นได้นําเนื้อหาสาระตามที่หลักสูตรกําหนดไว้ นํามาเรียบเรียงอย่างมี มาตรฐานของการจัดทําหนังสือเรียน เพ่ือให้ผู้เรียนอ่านเข้าใจง่าย สามารถอ่านและค้นคว้าด้วยตนเองได้อย่าง สะดวก คณะผู้จัดทําหวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสือเรียนสาระรายวิชาบัญชีชาวบ้าน รหัสวิชา ทช02001 เล่มน้ี จะเป็นส่ือการเรียนการสอนท่ีอํานวยประโยชน์ต่อการเรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เพื่อใหส้ มั ฤทธิ์ผลตามมาตรฐาน ตวั ชวี้ ัดที่กําหนดไว้ในหลักสูตรทุกประการ คณะผจู้ ดั ทํา สํานักงาน กศน.จงั หวดั เชียงใหม่

ข สารบญั หน้า คาํ นํา........................................................................................................................................................... ก สารบัญ....................................................................................................................................................... ข รายละเอยี ดวชิ า.......................................................................................................................................... ง บทท่ี 1 บญั ชีชาวบ้านงา่ ยนดิ เดยี ว........................................................................................................... 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน........................................................................................................................ 3 ตอนที่ 1 ความหมาย ประโยชนข์ องการทําบญั ชชี าวบ้าน................................................................... 5 กิจกรรม...................................................................................................................................... 6 ตอนที่ 2 หลกั การ แนวคดิ การทาํ บัญชชี าวบา้ น.................................................................................. 7 กิจกรรม..................................................................................................................................... 10 ตอนที่ 3 รูปแบบและวธิ กี ารทาํ บญั ชีชาวบ้าน(บญั ชใี นครวั เรอื นกบั การประกอบอาชีพ)..................... 11 กิจกรรม...................................................................................................................................... 12 แบบทดสอบหลังเรยี น......................................................................................................................... 13 บทที่ 2 บญั ชชี าวบ้านกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง............................................................................... 16 แบบทดสอบก่อนเรยี น........................................................................................................................ 18 ตอนที่ 1 แนวคิด หลกั การของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง................................................................... 20 ตอนที่ 2 บัญชีชาวบ้านตามหลกั ของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง.......................................................... 23 แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท.............................................................................................................................. 28 แบบทดสอบหลงั เรียน......................................................................................................................... 29 บทท่ี 3 บญั ชีชาวบ้านในครวั เรือน........................................................................................................... 32 แบบทดสอบก่อนเรยี น........................................................................................................................ 35 ตอนที่ 1 วิธกี ารวเิ คราะห์รายรบั – รายจา่ ย........................................................................................ 37 กิจกรรม...................................................................................................................................... 40 ตอนที่ 2 วธิ ีการทาํ บญั ชรี ับ – จา่ ยของตนเองและครอบครวั .............................................................. 41 เรือ่ งท่ี 2.1 วิธกี ารทาํ บญั ชีรับ – จ่ายของตนเองและครอบครัว.................................................. 41 เรื่องที่ 2.2 ข้นั ตอนการทํางบประมาณ....................................................................................... 42 กิจกรรม...................................................................................................................................... 43

ค สารบญั (ต่อ) หน้า ตอนที่ 3 แนวทางการทาํ บญั ชีครัวเรือนและการประกอบอาชีพอยา่ งง่าย.......................................... 44 กิจกรรม...................................................................................................................................... 45 ตอนท่ี 4 การวางแผนการจัดทาํ บัญชรี ายรับ-รายจ่ายเพ่ือการประยุกต์ใชใ้ นครวั เรือนทางการ ประกอบอาชีพ............................................................................................................................ 46 กิจกรรม................................................................................................................................. 47 แบบทดสอบหลงั เรยี น......................................................................................................................... 48 บทท่ี 4 การลดรายจ่าย เพมิ่ รายได้........................................................................................................... 51 แบบทดสอบก่อนเรยี น........................................................................................................................ 53 ตอนท่ี 1 แนวคิดการกาํ หนดมาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย..................................................................... 55 กิจกรรม...................................................................................................................................... 56 ตอนท่ี 2 การลดรายจ่าย..................................................................................................................... 57 เรอ่ื งที่ 2.1 การวเิ คราะหร์ ายรับ – รายจา่ ย................................................................................ 57 เรอื่ งที่ 2.2 แนวทางการลดรายจ่าย............................................................................................ 58 กจิ กรรม...................................................................................................................................... 59 ตอนท่ี 3 การเพ่มิ รายได้และแนวทางการเพิ่มรายได้........................................................................... 60 กิจกรรม...................................................................................................................................... 61 ตอนท่ี 4 การวางแผนการลดรายจ่ายและเพ่ิมรายไดข้ องตนเองและครอบครวั .................................. 62 กิจกรรม...................................................................................................................................... 65 แบบทดสอบหลังเรียน......................................................................................................................... 66 บรรณานุกรม.............................................................................................................................................. 69 คณะผู้จดั ทาํ ................................................................................................................................................ 70 คณะบรรณาธิการ/ปรับปรุงแก้ไข............................................................................................................... 71

ง รายละเอยี ดวิชา 1.คําอธบิ ายรายวชิ า การทําบัญชี คือ การจดบันทึก ข้อมูลเก่ียวกับเง่ือนไขปัจจัยในการดํารงชีวิตของตัวเอง และภายใน ครอบครัว ชมุ ชน รวมถงึ ประเทศ ข้อมลู ทไ่ี ด้จากการบันทึกจะเป็นตัวบ่งชี้อดีตปัจจุบันและอนาคตของชีวิตของ ตัวเอง สามารถนําข้อมูลอดีตมาบอกปัจจุบันและอนาคตได้ ข้อมูลท่ีได้ ที่บันทึกไว้ จะเป็นประโยชน์ต่อการ วางแผนชีวติ และกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิต ในครอบครัว การทําบัญชีครัวเรือน ในเรื่องรายรับรายจ่าย ก็คือวิถีแห่งการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาชีวิต ตามปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง เพราะปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง คอื ปรัชญาชวี ติ ทถี่ ูกตอ้ งเหมาะสม พอดี สอดคล้องถูกต้อง ตามกฎธรรมชาติที่มีท้ังความเป็นเอกภาพและดุลยภาพอยู่เสมอการทําบัญชีครัวเรือนเป็นการจดบันทึกรายรับ รายจ่ายประจําวันของครัวเรือน และสามารถนําข้อมูลมาวางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ทําให้เกดิ การออม การใชจ้ า่ ยเงนิ อยา่ ง ประหยดั ค้มุ ค่า ไม่ฟุม่ เฟอื ย 2.วัตถปุ ระสงค์ของชดุ วชิ า เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ ความหมาย ประโยชน์ หลักการ แนวคิด รูปแบบและวิธีการทํา บัญชีชาวบ้าน วิเคราะห์ รายรับ-รายจ่าย ให้สอดคล้องกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางการจัดทํา บัญชีครัวเรอื น การวางแผน การประยุกต์ เพอ่ื ใหเ้ กิดประโยชนก์ บั ตนเอง ครอบครัว รายช่อื บท บทท่ี 1 บัญชชี าวบา้ นงา่ ยนดิ เดียว บทท่ี 2 บญั ชีชาวบา้ นกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง บทที่ 3 บญั ชชี าวบ้านในครวั เรือน บทท่ี 4 การลดรายจา่ ย เพ่มิ รายได้

จ วธิ ีการศกึ ษา ชดุ วชิ าบัญชีชาวบา้ น ในการศึกษาชดุ วชิ าบญั ชชี าวบ้าน นี้ มสี ง่ิ ทน่ี กั ศึกษาควรทาํ ความเขา้ ใจในประเด็นต่างๆดงั น้ี 1.การเตรยี มตัวเพ่ือการศึกษาดว้ ยตนเอง ในการศกึ ษาชดุ วิชาบัญชีชาวบา้ นน้ี คณะกรรมการกลุ่มผลิตชดุ วชิ า ใครข่ อเสนอแนะการเตรยี มการ สาํ หรบั การศึกษาดว้ ยตนเอง ดังน้ี การจัดตารางเรียน ควรกําหนดเรียนวันละ 1 ตอนเป็นอย่างน้อย นักศึกษาควรเรียนให้สิ้นสุด 1 ตอน ในช่วงเวลาหน่ึง เพ่ือทําให้ความเข้าใจในเนื้อหาเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด สําหรับเวลาที่ใช้ในการศึกษาแต่ ละตอนนั้นไม่อาจเท่ากัน ท้ังน้ีเพราะบางบท อาจมี 3 หรือ 4 ตอน บางบทอาจมี 2 ตอนเท่านั้น โดยเฉลี่ย นักศึกษาควรใช้เวลาในการศึกษาเอกสารการสอนและทาํ กิจกรรมในแบบปฏบิ ตั ิบทละ 6 ชว่ั โมง 2.การประเมนิ ผลตนเองกอ่ นและหลงั เรยี น เพื่อสํารวจตนเองว่าจะมีความรู้ในบทท่ีจะเรียนมากน้อยเพียงไรก่อนท่ีจะศึกษาในบทเรียนนั้น นักศึกษาโปรดทําแบบทดสอบก่อนเรียนเสียก่อน เมื่อทําแบบทดสอบเสร็จแล้วจึงไปตรวจแบบเฉลยในเฉลย ท้ายบทแล้วรวมคะแนนการทดสอบไว้ในด้านบนของกระดาษคําตอบ เพื่อนําไปเปรียบเทียบกับคะแนนการ ทดสอบหลงั เรียน เมื่อนักศึกษาเรียนจบบทนั้นแล้ว เพ่ือดูความก้าวหน้าของตน นักศึกษาทําแบบทดสอบหลังเรียนที่มี อยู่ไว้ในตอนท้ายของแบบฝึกปฏิบัติ เม่ือทําเสร็จแล้วจึงตรวจคําตอบจากเฉลยแล้วรวมคะแนนไว้ด้านบนของ กระดาษคําตอบ แล้วนําผลการทดสอบนี้ไปเปรียบเทียบกับคะแนนทดสอบก่อนเรียนเพ่ือดูความก้าวหน้าใน การเรียน 3.การศกึ ษาเอกสารการสอน เอกสารการสอนของชุดวิชาบัญชีชาวบ้านได้บรรจุเน้ือหาสาระสําคัญไว้แล้วอย่างครบถ้วน ฉะน้ัน เพื่อให้การเรียนดําเนินไปด้วยดี และบรรลุผลตามความมุ่งหมายของชุดวิชาอย่างมีประสิทธิภาพ นักศึกษาจึง ควรศึกษาเอกสารการสอน พร้อมท้ังปฏิบัตกิ ิจกรรมตามทีก่ าํ หนดตามท่กี าํ หนดลงในสมดุ บนั ทกึ ดว้ ยตนเอง สําหรับการศึกษาเอกสารสอน นักศึกษาควรปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 3.1 ศึกษาแผนการสอนของแต่ละบทก่อนแลว้ ปฏิบัติตามแผนการสอนนน้ั ๆ ตามลาํ ดบั 3.2 ศึกษาเอกสารการสอน ควรพยายามศึกษาคร้ังละ 1 ตอน ให้ส้ินสุดในช่วงเวลาหน่ึง ๆ ขณะท่ี นักศึกษาอ่านรายละเอียดของแต่ละหัวเร่ืองในแต่ละตอนน้ัน ควรบันทึกสาระสําคัญของแต่ละเร่ืองลงในสมุด บนั ทึกด้วยตนเอง และปฏบิ ัตกิ จิ กรรมที่กาํ หนดไว้ในทา้ ยแตล่ ะหวั เรือ่ ง กอ่ นศกึ ษาเรือ่ งอืน่ ๆ ตอ่ ไป การปฏิบัติกิจกรรมนี้ช่วยให้นักศึกษาสามารถประเมินผลตนเองได้ว่านักศึกษามีความเข้าใจในส่ิงท่ี ศึกษามากน้อยเพียงไร ดังนั้นนักศึกษาจึงควรปฏิบัติกิจกรรมทุกๆกิจกรรมด้วยตนเอง เพ่ือนักศึกษาจะได้เกิด การเรยี นรู้อยา่ งแทจ้ รงิ

ฉ 4.การทาํ กจิ กรรม นักศึกษาควรมีบันทึกสาระสําคัญและปฏิบัติกิจกรรมทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายลงในสมุดบันทึกด้วย ตนเอง 5.กจิ กรรมภาคปฏบิ ตั เิ สรมิ ประสบการณ์ ตอนท้ายของบทบางบทในแบบฝึกปฏิบัติ อาจมีการให้เขียนรายงานหรือกิจกรรมอื่นๆ นักศึกษาควรให้ ความสาํ คัญโดยประมวลความร้ทู งั้ หมดท่ศี ึกษามาประกอบกบั ประสบการณข์ องตนเองเพอื่ ปฏบิ ัติกจิ กรรม 6.การสอบ เม่ือสิ้นภาคการศึกษา นักศึกษาต้องเข้าสอบไล่ชุดวิชา ณ สนามสอบท่ีจัดไว้ท่ีศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ตามวันเวลาท่ีกําหนด นักศึกษาต้องนําบัตรประจําตัวนักศึกษา บัตรลงทะเบียน และบตั รประจําตวั ประชาชน หากขาดอย่างใดอยา่ งหน่ึงนักศกึ ษาจะไม่มีสทิ ธิเ์ ขา้ สอบ ดังนัน้ โปรดอย่าลืม

1 บทท่ี 1 บัญชชี าวบ้านง่ายนิดเดียว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2 แผนการเรียนรปู้ ระจาํ บท บทท่ี 1 บัญชชี าวบา้ นง่ายนิดเดียว สาระสาํ คญั 1. การทําบัญชี คือ การทําบัญชีเป็นการนํารายการที่เก่ียวข้องกับการเงินมาจดบันทึกไว้เป็นอย่าง เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้เป็นหลักฐานการดําเนินงานและสามารถสรุปผลกําไรขาดทุนได้ ประโยชน์ชองการทํา บัญชีชาวบา้ น หมายถึง บญั ชคี รัวเรือนจะทําให้เราทราบว่าในและเดือน ครอบครัวมีรายรับ-รายจ่าย อะไรบ้าง คนเราสว่ นมากมักจะหลงลืม(ไมส่ นใจท่จี ะทาํ ) เวลาใชจ้ า่ ย เงนิ ออกไปหรอื รับเงนิ เขา้ มา พอเวลาผ่านไป 2-3 วัน ก็ลืมแล้ว ดังนั้น บัญชีชาวบ้านจะช่วยเตือนความจําให้เรารู้ถึงการช่วยจ่ายเงิน เพ่ือนํามาเป็นข้อมูลในการวาง แผนการชว่ ยเงินของครอบครวั 2. หลกั การ แนวคดิ การทําบัญชีชาวบ้าน คือ การมองภาพรวมภาพใหญว่ ่าในเดือนหนึ่งๆ มีค่าใช้จ่าย อะไรบ้าง เช่น คา่ เรียนบตุ ร ค่าป๋ยุ คา่ นา้ํ คา่ ไฟ หนส้ี ินทจ่ี ะตอ้ งชําระคนื ในรายเดือน รายปี และเงินคงเหลือ คือ เงินหรือทรัพย์สินที่มีหลังนํารายรับหักรายจ่ายแล้ว แนวคิดการทําบัญชีชาวบ้าน คือ การนําข้อมูลการใช้ จ่ายเงินมาจัดเรียงลําดับความสําคัญของรายจ่าย และวางแผนการใช้จ่ายเงิน โดยพิจารณาแต่ละรายการในแต่ ละวนั รายจ่ายใดไมจ่ าํ เปน็ ให้ตัดออก เพอื่ ใหก้ ารใชจ้ า่ ยเงินในครอบครวั มพี อใช้ 3. รูปแบบและวิธีการทําบัญชีชาวบ้าน (บัญชีในครัวเรือนกับการประกอบอาชีพ) คือการจดบันทึก ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขปัจจัยในการดํารงชีวิของตัวเองและภายในครอบครัว ชุมชน รวมถึงประเทศ ข้อมูลที่ได้ จากการบนั ทกึ จะเป็นตวั ชี้อดตี ปจั จุบนั และอนาคตได้ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั 1. อธิบายความหมาย และประโยชนข์ องการทําบัญชชี าวบา้ นอย่างง่ายได้ 2. วิเคราะหแ์ ละอธิบายแนวคดิ หลักการของบัญชีชาวบ้านไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม 3. อธบิ ายวิธกี ารทาํ บญั ชีชาวบ้าน(บัญชใี นครวั เรือนกบั การประกอบอาชพี ) ขอบขา่ ยเนื้อหา 1. ความหมาย ประโยชนข์ องการทาํ บญั ชชี าวบา้ น 2. หลักการ แนวคดิ การทาํ บญั ชชี าวบา้ น 3. รูปแบบและวิธีการทําบญั ชชี าวบ้าน (บัญชใี นครัวเรือนกับการประกอบอาชีพ) กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ศึกษาเอกสารการสอน 3. ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมายในเอกสารการสอน 4. ทําแบบทดสอบหลังเรยี น สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการสอน ประเมนิ ผล 1. ประเมินผลตนเองก่อนเรียนและหลังเรยี น

3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คําช้แี จง ใหท้ ําเคร่อื งหมาย X ทับตวั อกั ษรหน้าคําตอบที่ถกู ทีส่ ุดเพียงขอ้ เดยี ว ข้อ 1. การทาํ บัญชี หมายถงึ อะไร ก. การทําบัญชเี ป็นการนาํ รายได้ทเี่ กีย่ วกับการเงนิ มาจดบันทึกไวเ้ ปน็ หมวดหมู่ ข. เปน็ การแสดงรายละเอยี ดทางการเงิน ค. เปน็ การจดสรุปรายรบั – รายจา่ ย ทุกเดอื น ง. การทาํ บญั ชเี พื่อเปน็ หลักฐานการดําเนินงานในแตล่ ะครง้ั ข้อ 2. ประโยชนข์ องการทาํ บญั ชีชาวบา้ น หรอื บัญชีครวั เรือน เพื่อใหท้ ราบถงึ อะไร ก. ทําใหเ้ ราทราบว่าแตล่ ะเดอื น ครอบครัวมรี ายรับ-รายจ่ายอะไรบ้าง ข. เพอ่ื ให้ทราบการไมห่ ลงลมื ค. เพอ่ื ใหท้ ราบเงินเข้าเงนิ ออก ง. บัญชชี าวบ้านชว่ ยเตือนความจาํ ให้เราร้ถู งึ การใช้จ่ายเงินเพ่ือนาํ ไปเปน็ ข้อมลู การวางแผนใชจ้ ่ายเงนิ เพ่อื ใหค้ รอบครวั มีความเป็นอยู่ทดี่ ี ขอ้ 3. การทําบัญชชี าวบา้ น เรม่ิ จากการใช้อะไร เปน็ สิง่ แรกของการเขียน ก. สมุด ข. กระดาษ A4 ค. เครือ่ งคดิ เลข ง. ยางลบ ขอ้ 4. การเขยี นบญั ชีครวั เรอื นในแตล่ ะวันใช้เวลาประมาณ กี่นาที ก. 25 - 30 นาที ข. 10 – 20 นาที ค. 5 – 10 นาที ง. 1 ชวั่ โมง ขอ้ 5. จุดประสงคข์ องบญั ชชี าวบา้ นเพ่อื ให้ทที่ ราบถึงอะไร ก. เพอื่ ใหท้ ราบในแต่ละวนั ครอบครัวไดร้ บั เงินและจา่ ยเงินเปน็ คา่ อะไรบา้ ง ข. เพอ่ื ใหท้ ราบวา่ ตอ้ งจดั การอย่างไรกบั เงินทมี่ ีอยู่ ค. เพื่อใหน้ ําเงนิ ทมี่ ีไปฝากธนาคาร ง. เพือ่ ใหช้ ่วงวางแผนการเงิน ขอ้ 6. ประโยชนข์ องการวิเคราะหบ์ ัญชีชาวบ้าน เพอื่ ใหท้ ราบถึงอะไร ก. เพอื่ ให้ทราบถงึ รายจ่ายครอบครวั ข. เพ่อื ใหท้ ราบถงึ รายรับเพ่ือนาํ เงนิ ทม่ี ีฝากธนาคาร ค. เพอ่ื ไม่ใหใ้ ช้จ่ายฟุ่มเฟือย ง. เพ่ือนาํ บญั ชชี าวบ้านทผ่ี ่านมาในระยะเวลา 1 เดือน มาพิจารณารายรบั – รายจา่ ย มีความสมดุล หรือไม่

4 ขอ้ 7. ขอ้ มลู ทไี่ ด้จากการทาํ บัญชชี าวบ้าน จะชว่ ยใหเ้ ราทราบถึงอะไร ก. จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ในเดอื นถดั ไปได้ รู้จักวางแผนการใชจ้ ่ายเงิน ข. ชว่ ยใหท้ ราบถงึ เงินท่ีมีอยูน่ าํ ไปใชป้ ระโยชน์อะไรบ้าง ค. ทาํ ใหเ้ รามองเห็นปัญหาเรอ่ื งการใช้จ่ายเงิน ง. เพอื่ ไม่ให้ใชจ้ ่ายฟมุ่ เฟอื ย ข้อ 8. การทําบญั ชชี าวบา้ นถา้ มีเดือนหนง่ึ ท่มี ีรายจา่ ยตดิ ลบควรแก้ไขการใช้จ่ายอย่างไร ก. ควรลดรายจา่ ยรายการท่ฟี ่มุ เฟอื ย ออกไปเพื่อให้รายรบั -รายจ่ายสมดุลกัน ข. ควรใช้จ่ายเพมิ่ ขึ้น ค. ควรนําเงนิ ทีไ่ ด้ไปฝากไวใ้ นธนาคารเพ่ือการออมให้มีประสทิ ธภิ าพ ง. ควรเพ่อื รายไดใ้ หม้ ากข้นึ ไมใ่ ห้มรี ายจา่ ยในเดอื นน้ันเลย ข้อ 9. การทําบัญชีครวั เรอื น ในเดอื นน้นั ได้รับเงินเดอื น ถือเปน็ รายรบั และรายจา่ ย ก. รายรับ ข. รายจ่าย ค. เปน็ ได้ทงั้ รายรบั และรายจ่าย ง. ถกู ทุกขอ้ ขอ้ 10. การทาํ บัญชชี าวบ้านหรือบญั ชคี รวั เรอื น ใหต้ ีตารางออกเปน็ ก่ีช่อง ก. 2 ช่อง ข. 3 ชอ่ ง ค. 4 ชอ่ ง ง. 5 ช่อง

5 ตอนที่ 1 ความหมาย ประโยชนข์ องการทําบญั ชีชาวบ้าน ความหมายของการทําบัญชี การทําบัญชี คอื การจดบนั ทกึ ขอ้ มูลเก่ียวกบั เงือ่ นไขปจั จัยในการดํารงชีวิตของตัวเอง และภายใน ครอบครัว ชุมชน รวมถงึ ประเทศ ขอ้ มลู ทไี่ ด้จากการบันทึกจะเป็นตัวบง่ ช้ีอดีตปจั จุบนั และอนาคตของชีวิต ของตวั เอง สามารถนําข้อมูลอดีตมาบอกปัจจุบนั และอนาคตได้ ข้อมลู ทไ่ี ด้ ที่บนั ทึกไว้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การ วางแผนชวี ิตและกจิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิต ในครอบครัว ความหมายของการทําบญั ชชี าวบา้ น บัญชีชาวบ้าน หรือ บัญชีครัวเรือน (home accounting) เป็นการนําการบัญชีมาประยุกต์ เพื่อเป็น เครื่องมืออย่างหนึ่งของปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง โดยเป็นบัญชีท่ีใช้สําหรับบันทึกรายได้และรายจ่าย รายได้ และรายจ่ายทีบ่ นั ทกึ อาจเปน็ รายไดแ้ ละรายจ่ายส่วนบคุ คล หรือรายได้และรายจ่ายท่ีเป็นต้นทุนในการผลิตของ ธุรกิจขนาดย่อม เพ่ือท่ีจะทําให้ผู้ประกอบกิจการทราบถึงผลกําไรหรือขาดทุนจากการประกอบธุรกิจ นั้น โดย ในเอกสารน้ีจะกลา่ วถงึ การบนั ทึกบญั ชีรายได้และรายจ่ายที่เปน็ ของส่วนบุคคลหรอื ครอบครัว ทั้งนี้ข้อมูลรายได้ และรายจา่ ยท่ไี ด้จากการบันทึกจะถูกวิเคราะหเ์ พื่อใช้ประโยชน์ตอ่ ไป การทําบัญชีครัวเรือนเป็นการจดบันทึกรายรับรายจ่ายประจําวันของครัวเรือน และสามารถนําข้อมูล มาวางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ในอนาคตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทําให้เกิดการออม การใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดคุ้มค่า ไม่ ฟมุ่ เฟอื ย บัญชีครัวเรือน มิได้หมายถึง การทําบัญชีหรือบันทึกรายรับรายจ่ายประจําวันเท่าน้ัน แต่อาจหมายถึง การบันทึกข้อมูลด้านอ่ืน ๆ ในชีวิต ในครอบครัว เป็นต้น ของเราได้ด้วย เช่น บัญชีทรัพย์สิน พันธุ์พืช พันธุ์ไม้ ในบ้านเราในชุมชนเรา บญั ชคี วามรู้ความคิดของเรา บญั ชีผูท้ รงคณุ ผรู้ ูใ้ นชุมชนเรา บญั ชีเด็กและเยาชนของเรา บัญชีภูมิปัญญาด้านต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น หมายความว่า สิ่งหรือเร่ืองราวต่าง ๆ ในชีวิตของเรา เราจดบันทึก ไดท้ กุ เรื่อง หากประชาชนทุกคนจดบันทึกจะมีประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศ จะเป็นแหล่ง เรียนรู้ ครอบครัวเรียนรู้ ชุมชนเรียนรู้ และประเทศเรียนรู้การเรียนรู้เป็นท่ีมาของปัญญา ปัญญาเป็นที่มาของ ความเจริญทั้งกาย สังคม ใจ และจิตวิญญาณของมนุษย์จะเห็นว่า การทําบัญชี หรือการจดบันทึกนี้สําคัญ ย่ิงใหญ่มาก บุคคลสําคัญในประเทศหลายท่านเป็นตัวอย่างที่ดีของการจดบันทึก เช่น ท่านพุทธทาส ในหลวง และสมเด็จพระเทพ ลว้ นเปน็ นกั บันทกึ ทัง้ ส้นิ การบันทึก คอื การเขียน เมื่อมีการเขียนย่อมมีการคิด เมื่อมีการ คดิ ยอ่ มก่อปัญญา แกไ้ ขปัญหาไดโ้ ดยใช้เหตผุ ลวเิ คราะหพ์ จิ ารณา ได้ถกู ต้อง นนั่ คอื ทางเจรญิ ของมนษุ ย์ การทําบัญชคี รัวเรอื นในด้านเศรษฐกจิ หรอื การบันทกึ รายรบั รายจ่ายที่ทางราชการพยายามส่งเสริมให้ ประชาชนได้ทาํ กนั นน่ั เปน็ เรอื่ งการบันทึกรายรบั รายจา่ ยประจําวันประจาํ เดือนว่า มีรายรับจากแหล่งใดบ้าง จํานวนเท่าใด มีรายจ่ายอะไรบ้าง จํานวนเท่าใด ในแต่ละวัน สัปดาห์ เดือน และ ปี เพื่อจะได้เห็นภาพรวมว่า ตนเองและครอบครัวทีรายรับเท่าใด รายจ่ายเท่าใด คงเหลือเท่าใด หรือ เงินไม่พอใช้เท่าใด คือ รายจ่าย มากกว่ารายรับ และสํารวจว่ารายการใดจ่ายน้อยจ่ายมาก จําเป็นน้อยจําเป็นมาก จําเป็นน้อย อาจลดลง จ่าย เฉพาะที่จําเป็นมาก เช่น ซ้ือกับข้าว ซื้อยา ซ้ือเส้ือผ้า ซ่อมแซมบ้าน การศึกษา เป็นต้น ส่วนรายจ่ายท่ีไม่ จาํ เปน็ ให้ลด ละ เลกิ เช่น ซ้อื บหุ รี่ ซ้ือเหลา้ เลน่ การพนนั เป็นต้น เมอื่ นาํ รายรบั รายจ่าย มาบวกลบกันแล้ว ขาดดุลเกินดุลไปเท่าใด เม่ือเห็นตัวเลข จะทําให้เราคิดได้ว่าส่ิงไม่จําเป็นนั้นมีมากหรือน้อยสามารถลดได้ หรือไม่ เลิกได้ไหม ถ้าไม่ลดไม่เลิกจะเกิดอะไร กับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ หากเราวาง

6 แผนการรับการจ่ายเงินของตนเองได้ เท่ากับว่า รู้จักความเป็นคนได้พัฒนาตนเอง ให้เป็นคนมีเหตุมีผล เป็นคน ร้จู ักพอประมาณ เป็นคนรักตนเอง รักครอบครวั รกั ชุมชน และรกั ประเทศชาติมากขึ้นจึงเห็นได้ว่า การทําบัญชี ครัวเรือน ในเรื่องรายรับรายจ่าย ก็คือวิถีแห่งการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ ปรัชญาชีวิตท่ีถูกต้องเหมาะสม พอดี สอดคล้องถูกต้องตามกฎ ธรรมชาติทมี่ ที ้งั ความเป็นเอกภาพและดุลยภาพอยเู่ สมอ วัตถปุ ระสงค์ของการบนั ทกึ บญั ชีครัวเรือน ก็เพือ่ ใหผ้ ูบ้ ันทกึ 1. สามารถวางแผนการใช้จา่ ยต่อไปได้อย่างรอบคอบ ไม่ใชจ้ ่ายเกินกวา่ เงินคงเหลอื เน่อื งจากทกุ ครัง้ ที่ บนั ทกึ บญั ชีจะทราบถงึ ยอด เงนิ คงเหลือของตน 2. ทราบถึงถึงรายได้และค่าใชจ้ ่ายของตนและครอบครัว ท้ังรายละเอยี ดและภาพรวม 3. เม่ือผ้บู ันทกึ ทาการวเิ คราะหร์ ายไดแ้ ละคา่ ใช้จ่ายของตนทไี่ ดบ้ ันทกึ ไวแ้ ล้ว จะสามารถลดคา่ ใช้จา่ ยที่ ไมจ่ าเป็น ทาให้เกดิ การประหยัดและการออม และหากมกี ารใช้จา่ ยเทา่ ท่มี กี จ็ ะไม่กอ่ ใหเ้ กิดหนส้ี ิน จงึ สามารถ แกไ้ ขปัญหาหนสี้ ินไดอ้ ยา่ งยั่งยนื ประโยชนข์ องการทาํ บญั ชีชาวบา้ น จุดประสงค์ของการทําบัญชีชาวบ้าน เพ่ือให้ทราบว่าในแต่ละวันครอบครัวได้รับเงินจ่ายเงินเป็นค่า อะไรบ้าง ดังนั้น ประโยชน์ของการทําบัญชีชาวบ้าน หรือบัญชีครัวเรือนจะทําให้เราทราบว่าในแต่ละเดือน ครอบครัวมีรายรับ-รายจ่าย อะไรบ้าง คนเราส่วนมากมักจะหลงลืม(ไม่สนใจท่ีจะจดจํา) เวลาจ่ายเงินออกไป หรือรับเงินเข้ามา พอเวลาผ่านไป 2-3 วัน ก็ลืมแล้ว ดังนั้น บัญชีชาวบ้านะช่วยเตือนความจําให้เรารู้ถึงการใช้ จ่ายเงิน เพ่ือนํามาเป็นข้อมูลในการวางแผนการจ่ายเงินของครอบครัวเพ่ือแก้ไขปัญหาหน้ีสิน ให้ครอบครัวมี ความเปน็ อย่ทู ด่ี ีข้ึนได้ กจิ กรรม สรุปความหมายและประโยชน์ของการทาํ บญั ชีชาวบ้าน -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

7 ตอนที่ 2 หลักการ แนวคดิ การทาํ บัญชชี าวบา้ น หลักการการทาํ บัญชชี าวบ้าน การจัดทําบัญชีรายรับ รายจ่าย เป็นเร่ืองง่ายๆ ไม่ต้องไปร่ําเรียนวิชาบัญชีที่ไหนก็ทําได้ ท้ังยังมี ประโยชน์มากมายอย่างคาดไม่ถึง เพราะตัวเลขทุกตัวถ้าพิจารณาในรายละเอียดของที่มาที่ไปแล้ว สามารถ นําไปใช้ในการดําเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่รายรับท่ีบันทึกว่าได้มาจากไหน อย่างไร เท่าไหร่ ชวนให้ คิดต่อว่าจะรักษาสถานะเดิมไว้ได้อย่างไร เช่น มีอาชีพรับจ้างก็ต้องค้นหาวิธีท่ีจะทําให้นายจ้างพอใจ เพ่ือ ไม่ให้เลิกจ้างหรือให้เพิ่มค่าจ้าง ถ้าเห็นว่ารายรับน้อยก็ใช้ตัวเลขน้ีเป็นแรงผลักดันให้แสวงหาช่องทาง หรือวิธีท่ี จะทําให้เพิ่มพูนข้ึน เช่น หลักเลิกงานประจําแล้วไปทํางานอื่นต่อ ในส่วนของรายจ่ายท่ีบันทึกว่าจ่ายค่าอะไร เพือ่ อะไร เมอ่ื ใด เปน็ เงนิ เท่าไหร่ เม่ือทบทวนดูจะทําให้เห็นว่ารายการใดจําเป็น สินค้าใดถูก สินค้าใดแพง คมุ้ คา่ ไมค่ ุ้มคา่ ทาํ ใหเ้ กิดสติ นําไปสกู่ ารยับยงั้ ชงั่ ใจกอ่ นตัดสนิ ใจใช้เงินครั้งต่อๆไป หรืออย่างน้อยที่สุดไม่คิด อะไรมาก แค่เอารายจ่ายไปลบออกจากรายรับ ถ้าเห็นเหลือน้อยจะทําให้ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากข้ึน มิ แผนการใช้เงนิ ทีพ่ อเหมาะจนทาํ ให้เงนิ สดไมข่ าดมือ ถ้ามองในเชิงธุรกิจ บัญชีตามที่กล่าวถึงในย่อหน้าข้างบนก็คือบัญชี “กําไรขาดทุน” น่ันเอง เป็น บัญชีท่ีโดยหลักการแล้วบันทึกข้อมูลสําคัญสามรายการ คือ บรรทัดแรกบันทึกรายรับ ตามด้วยรายจ่ายใน บรรทัดที่สอง และบรรทัดสุดท้าย(Bottom line) เป็นผลต่างระหว่างรายรับรายจ่าย ถ้าเป็นบวกแสดงว่ามี กําไร ถ้าเป็นลบกข็ าดทุน ตวั อยา่ งรูป การทําบัญชชี าวบ้าน (รายรบั รายจา่ ย และยอดคงเหลอื )

8 วนั /เดือน/ปี รายการ รายรบั รายจา่ ย คงเหลอื 30/6/2553 ยอดยกมา 31/7/2553 ได้รับเงนิ เดือน รับเงินจากรบั จา้ งทําอาหารขาย ค่าอาหาร คา่ อาหาร จา่ ยค่านํา้ จา่ ยค่าไฟฟา้ ซอ้ื ของใชใ้ นบา้ น รวม ตัวอยา่ ง แบบฟอร์มบญั ชชี าวบา้ น (รายรับ รายจา่ ย และยอดคงเหลอื ) แม้จะมีเพียงสามบรรทัด แต่เรื่องราว หรือกระบวนการที่ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดน้ันมีมากมายเหลือเกิน เริ่ม ต้ังแต่บรรทัดแรก (รายรับ) ที่เกิดจากลูกค้านําเงินมาให้เพื่อแลกเปล่ียนกับสินค้าซ่ึงรังสรรค์ข้ึนโดยฝ่ายผลิต และนําเสนอโดยฝ่ายขาย บรรทัดน้ีจึงมีเรื่องของฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย และฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันทําให้ ลูกค้ามีความพึงพอใจซ้ือสินค้า ซื้อแล้วกลับมาซื้ออีก (ซื้อซ้ํา) ซ้ือเพ่ิม ทั้งสินค้าเดิม และสินค้าใหม่ รวมถึง ช่วยหาลกู คา้ ใหม่ดว้ ยการบอกต่อ บรรทดั ท่ีสอง (รายจา่ ย) ที่เกิดจากการดําเนนิ กิจกรรมของฝ่ายตา่ งๆ ไม่ว่า จะเป็นฝา่ ยผลติ ฝ่ายขาย ฝา่ ยสนับสนนุ ฝา่ ยทเ่ี ป็นโครงสร้างพ้ืนฐาน และฝ่ายบริหาร บรรทัดนี้จึงเป็นท่ีรวม ของกระบวนการต่างๆมากมาย เช่น กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง กระบวนการบริหารบุคคล กระบวนการ ทางดา้ นการเงนิ และบญั ชี ฯลฯ ถ้าอ่านบัญชีรู้ ดูบัญชีเป็น ก็จะเห็นว่ากว่าจะลงมาถึงบรรทัดสุดท้าย (Bottom line) ได้ ต้องผ่าน กระบวนการอะไรมาบ้าง ถ้าไม่ดูแลกระบวนการเหล่านั้นให้ดี โอกาสที่ผลจะออกมาดีคงยาก ดังน้ันในการ บริหารจัดการจะให้ความสําคัญเฉพาะบรรทัดสุดท้าย(Bottom line) อย่างเดียวโดยไม่ใส่ใจกระบวนการ จัดการต่างๆ ทีเ่ กิดข้นึ กอ่ นหนา้ น้ีคงไม่พอ หลักการบริหารสมัยใหม่จึงให้ความสําคัญกับกระบวนการอย่างเท่าเทียมกับเป้าหมาย (สมดุล) ตวั อยา่ งเช่น การประกันคณุ ภาพ ให้วางแผน (จัดทํากระบวนการ) ก่อนลงมือปฏิบัติ การบริหารความเส่ียงท่ี คิดแก้ไขปัญหาล่วงหน้า หรือการค้นหาปัจจัยเสี่ยงในกระบวนการ แล้วดูแลไม่ให้สร้างปัญหา (Balance scorer card) ที่ให้ความสําคัญกับทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน ลูกค้า กระบวนการภายใน และ อื่นๆ อย่างทั่วถึง คนจํานวนไม่น้อยแสวงหา และจ่ายทรัพย์เพียงเพื่อให้ได้ตัวเลขใน Bottom line ออกมา ตามท่ีปรารถนา โดยไม่ใส่ใจว่ากระบวนการ หรือวิธีการจะเป็นไปด้วยความถูกต้องหรือไม่ เช่น ได้ทรัพย์มา ด้วยการทุจริต คอรัปชั่น เบียดเบียนผู้อื่น หลีกเล่ียงภาษี ฯลฯ ผลคือแม้มีทรัพย์มากมายก็หาความสุขไม่ได้ ดังนนั้ ถ้าไม่ตอ้ งการเป็นทุกขก์ ต็ อ้ งทําใหต้ วั เลขใน Bottom line มีทีม่ าจากการประพฤติดี ประพฤติชอบ

9 หลกั การบนั ทกึ บัญชี หลักการบันทึกบัญชีครัวเรือนคืออาจจะเร่ิมจากการมองรวมภาพใหญ่ก่อนว่า ในเดือนหน่ึงๆ หรือปี หนงึ่ ๆ มีรายการอะไร ดังน้ี - รายการค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ อะไรบ้าง ที่ค่อนข้างคงท่ี เช่น หรือเงินค่าเรียนหนังสือบุตร หรือเงินค่า วัตถุดิบในการผลิตสินค้า เช่น ค่าปุ๋ย ค่าพันธุ์พืช และมีรายการย่อยๆ ที่เกิดประจําวันอะไรบ้าง เช่น ค่าอาหาร คา่ นา้ํ ค่าไฟฟา้ (ค่าสาธารณปู โภค) คา่ น้ํามัน เงินทําบญุ ทอดกฐิน ทอดผา้ ปา่ เป็นตน้ - หนี้สนิ ก็เป็นค่าใชจ้ ่ายรายการใหญท่ ่เี ปน็ ภาระผูกพนั ท่ตี อ้ งชดใชค้ นื ในอนาคต ได้แก่ ค่าดอกเบ้ียเงินท่ี ไปกู้และต้องใช้คืนรายเดือนหลายปี จากการกู้ยืมเงินจากเพ่ือนบ้าน จากกองทุน หรือธนาคารต่างๆ หรือ การ ซ้ือของด้วยเงินเชอื่ การดว้ ยเครดิต หรอื ด้วยเงินผ่อนชาํ ระหรือการเช่าซื้อ การจํานาํ จาํ นอง ขายฝาก เปน็ ต้น - เงนิ คงเหลอื คือ เงนิ หรือทรัพยส์ นิ ท่วี ดั มลู ค่าได้ หลงั จากนาํ รายรบั หกั รายจ่ายแล้ว ถ้ารายรับมากกว่า รายจ่าย จะเกิดเงินคงเหลือ หรือในหลักทางบัญชีเรียกว่า “กําไร” แต่หากหลังจากนํารายรับหักรายจ่ายแล้ว พบวา่ รายจ่ายมากกวา่ รายรบั จะทาํ ให้เงนิ คงเหลอื ติดลบ หรอื ทางบัญชีเรียกวา่ “ขาดทนุ ”นั่นเอง แนวคดิ การทําบญั ชีชาวบ้าน การนําข้อมูลการใช้จ่ายเงินภายในครอบครัวมาจัดเรียงลําดับความสําคัญของรายจ่าย และวางแผน การใชจ้ า่ ยเงิน โดยพิจารณาแต่ละรายการในแต่ละวันมีรายจ่ายใดท่ีมีความสําคัญมาก และรายจ่ายใดไม่จําเป็น ให้ตัดออก เพ่ือให้การใช้จ่ายเงินภายในครอบครัวมีพอใช้และเหลือเก็บเพ่ือการออมทรัพย์สําหรับใช้จ่ายสิ่งท่ี จําเป็นในอนาคต บัญชีครัวเรือนถือเป็นส่วนสําคัญในการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลัก 3 ข้อ คอื การพอประมาณ ถา้ รูร้ ายรับรายจา่ ย กจ็ ะใชแ้ บบพอประมาณ แต่ มีเหตผุ ล รูว้ า่ รายจา่ ยใดจาํ เป็นไม่จําเป็น และเม่ือเหลือจากใช้จา่ ยก็เกบ็ ออม นัน่ คอื ภูมคิ ุ้มกัน ท่ีเอาไว้คุ้มกันตัวเราและครอบครัว บัญชีครัวเรือนสามารถ จัดได้หมด จึงนับว่ามีประโยชน์มาก การวางแผนการใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมระหว่างรายรับและรายจ่าย ครอบครัวต้องมีรายรับมากกว่ารายจ่าย หากพบว่ารายรับน้อยกว่ารายจ่าย ต้องหาแนวทางนําเงินมาใช้จ่ายให้ เพียงพอ ขอ้ ควรระวังในการจัดทาํ บญั ชีครวั เรือน คือ ลืมบันทึกบัญชี ทําให้ขาดความต่อเนื่องในการบันทึก และ ส่งผลให้ไม่อยากบันทึก ผู้จัดทําเข้าใจผิดในรายการบัญชี ไม่เข้าใจรายการที่เป็นรายรับ จึงไม่ได้บันทึกบัญชี เช่น ลูกส่งเงินมาให้พ่อแม่สําหรับใช้จ่ายทุกวันสิ้นเดือน แต่พ่อแม่ไม่ได้บันทึกบัญชีรายรับเนื่องจากเข้าใจว่าเงิน

10 ท่ีได้รบั มาน้ันมไิ ดเ้ กิดจากการประกอบอาชพี ของตนเองหรอื เขา้ ใจผิดรายการหนี้สินแต่บันทึกว่าเป็นรายรับ ทํา ให้มิได้เก็บเงินไว้สําหรับจ่ายชําระหน้ีในอนาคต เช่น ยืมเงินจากเพื่อนบ้านมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ถึงแม้จะ ได้รับเงินมาแต่รายการดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นรายรับเนื่องจากตนเองมีภาระผูกพันที่ต้องชดใช้ในอนาคต ซึ่งอาจ ต้องชดใชเ้ งินต้นพรอ้ มด้วยดอกเบ้ียด้วย จากสาเหตดุ งั กลา่ วอาจทําใหค้ รอบครัววางแผนการใช้จ่ายเงนิ ผดิ พลาด ส่วนข้อผิดพลาดอกี ประการหนึง่ คอื การเขียนชื่อรายการผิด การบันทึกตัวเลขผิด การบวกหรือการลบ จํานวนเงินผิดอาจเกิดจากการลืมจดบันทึกรายการบัญชี หรือบันทึกรายการซ้ําๆ กันหลายรายการ ปัญหา ดังกล่าวแก้ไขโดยการคํานวณจํานวนเงินกระทบยอดเงินคงเหลือในบัญชีกับยอดเงินฝากธนาคารท่ีครอบครัวมี อยู่จริง หรือยอดเงินท่ีเก็บไว้สําหรับใช้จ่ายจริง หากพบว่ายอดเงินคงเหลือในบัญชีเท่ากับยอดเงินคงเหลือใน บัญชีเงินฝากธนาคาร แสดงว่าการจัดทําบัญชีถูกต้อง แต่หากกระทบยอดแล้วยอดเงินท้ังสองไม่เท่ากันอาจเกิด จากการบันทกึ บัญชีผดิ พลาด หรอื เงินสดของครอบครัวสญู หาย กิจกรรม ใหน้ กั ศกึ ษาอธบิ ายหลกั การ แนวคิด การทาํ บัญชีชาวบา้ น -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

11 ตอนท่ี 3 รูปแบบและวิธีการทําบัญชชี าวบ้าน (บัญชีในครวั เรอื นกับการประกอบอาชพี ) รูปแบบและวิธกี ารทําบัญชคี รวั เรือน การทําบัญชีครัวเรือน เร่ิมจากการหาสมุดมาสักเล่มหนึ่งอาจเป็นสมุดที่เด็ก ๆ ใช้แล้วเหลือ หน้ากระดาษว่าง ๆ ก็นํามาทําเป็นบัญชีครัวเรือนได้ ปากกาหรือดินสอสําหรับเขียนลงในสมุดบัญชีครัวเรือน สาํ หรับชาวบา้ นหรือคนท่ีอา่ น-เขียนหนังสือไม่ค่อยคล่องก็อาจใช้ให้ลูก ๆ ช่วยเขียนให้ การทําบัญชีครัวเรือนใน แต่ละวันใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 5-10 นาทีก็เสร็จแล้ว เวลาท่ีเสียไปแค่ 5-10 นาทีต่อวันแต่ประโยชน์ที่ได้รับจากการทําบัญชีครัวเรือนน้ันมีค่า มากมายมหาศาลนักในการช่วยวางแผนการเงินของครอบครัวและสามารถ ประยกุ ต์ไปจนถึงการนําไปใช้แก้ไขปัญหาหนี้สินได้ ขอให้ยอมสละเวลาในแต่ ละวนั เพอ่ื ความเป็นอยขู่ องครอบครวั ที่ดีขนึ้ บญั ชีครัวเรือนสามารถจดั ทําได้หลายรปู แบบแต่อย่างน้อยต้องมีการ บันทึกข้อมูลรายรับและรายจ่ายปกติเป็นตาราง 5 ช่อง ประกอบด้วย ช่องแรกวันเดือนปีเพื่อบันทึกวันท่ีเกิด รายการนั้น ช่องท่ีสองรายการ เพ่ือบันทึกเหตุการณ์ ช่องท่ีสามรายรับ เพ่ือบันทึกจํานวนเงินท่ีได้รับช่องที่สี่ รายจ่าย เพื่อบันทึกจํานวนเงินท่ีจ่ายออกไป และช่องสุดท้ายยอดคงเหลือ เป็นช่องสรุปยอดเงินคงเหลือในแต่ ละวนั การจัดทาํ บัญชีครัวเรอื น มขี ัน้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1) แยกประเภทของรายได้ และค่าใช้จ่าย แต่ละประเภทออกมา อาจใช้สมุดบัญชีท่ีมีขายตามร้าน ท่วั ไป หรอื หาสมดุ มาตเี ส้น แบ่งออกเปน็ แถวในแนวตัง้ และแนวนอน เพ่ือจดรายการ 2) กาํ หนดรหสั ประเภทของรายได้ และ ค่าใช้จา่ ย เพอื่ ใชส้ รุปประเภทของคา่ ใชจ้ า่ ย 3) เริ่มจากยอดเงินสดยกมา หรือ เงินทุนต้ังต้น แล้ว บวก ด้วยรายได้ หัก ด้วยค่าใช้จ่าย และแสดง ยอดคงเหลือไว้ 4) นํารายการท่ีเป็นบัญชีประเภทเดียวกัน รวมยอดเข้าด้วยกัน แล้ว แยกไปสรุปไว้ต่างหาก โดยสรุป ยอดตามแต่ตอ้ งการ เช่น เปน็ รายวนั รายสปั ดาห์ รายปกั ษ์ หรือรายเดือน เปน็ ตน้

12 กจิ กรรม ใหน้ กั ศึกษาอธิบายรูปแบบและวธิ กี ารทาํ บัญชีชาวบ้าน ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

13 แบบทดสอบหลังเรียน คําชแี้ จง ใหท้ าํ เคร่ืองหมาย X ทับตัวอักษรหนา้ คาํ ตอบที่ถูกทส่ี ดุ เพยี งข้อเดยี ว ขอ้ 1. การทาํ บญั ชี หมายถงึ อะไร ก. การทาํ บญั ชเี ปน็ การนาํ รายไดท้ เ่ี กย่ี วกบั การเงินมาจดบนั ทึกไวเ้ ป็นหมวดหมู่ ข. เปน็ การแสดงรายละเอยี ดทางการเงนิ ค. เปน็ การจดสรปุ รายรับ – รายจา่ ย ทกุ เดือน ง. การทําบญั ชเี พื่อเป็นหลักฐานการดาํ เนนิ งานในแตล่ ะครัง้ ขอ้ 2. ประโยชนข์ องการทาํ บญั ชชี าวบ้าน หรอื บญั ชีครัวเรือน เพ่ือใหท้ ราบถึงอะไร ก. ทําใหเ้ ราทราบวา่ แต่ละเดอื น ครอบครวั มรี ายรับ-รายจา่ ยอะไรบ้าง ข. เพ่ือให้ทราบการไม่หลงลมื ค. เพื่อให้ทราบเงินเขา้ เงนิ ออก ง. บญั ชีชาวบา้ นชว่ ยเตือนความจําใหเ้ รารู้ถึงการใชจ้ ่ายเงินเพอื่ นาํ ไปเป็นข้อมลู การวางแผนใช้จา่ ยเงนิ เพือ่ ให้ครอบครัวมีความเป็นอยทู่ ่ีดี ขอ้ 3. การทําบัญชชี าวบ้าน เรมิ่ จากการใชอ้ ะไร เป็นส่งิ แรกของการเขียน ก. สมดุ ข. กระดาษ เอ4 ค. เครอื่ งคดิ เลข ง. ยางลบ ข้อ 4. การเขียนบญั ชีครัวเรอื นในแตล่ ะวนั ใช้เวลาประมาณ ก่นี าที ก. 25 - 30 นาที ข. 10 – 20 นาที ค. 5 – 10 นาที ง. 1 ชว่ั โมง ขอ้ 5. จดุ ประสงคข์ องบญั ชีชาวบา้ นเพื่อให้ทท่ี ราบถงึ อะไร ก. เพอ่ื ใหท้ ราบในแต่ละวนั ครอบครวั ได้รบั เงินและจ่ายเงนิ เปน็ ค่าอะไรบา้ ง ข. เพอ่ื ใหท้ ราบว่าตอ้ งจดั การอย่างไรกบั เงินท่มี อี ยู่ ค. เพือ่ ให้นําเงินที่มีไปฝากธนาคาร ง. เพ่ือใหช้ ่วงวางแผนการเงิน ขอ้ 6. ประโยชน์ของการวิเคราะห์บญั ชีชาวบ้าน เพ่อื ใหท้ ราบถึงอะไร ก. เพ่ือให้ทราบถึงรายจา่ ยครอบครวั ข. เพ่ือใหท้ ราบถงึ รายรับเพ่ือนาํ เงินท่มี ีฝากธนาคาร ค. เพอื่ ไมใ่ หใ้ ชจ้ ่ายฟมุ่ เฟือย ง. เพ่อื นาํ บญั ชีชาวบ้านที่ผา่ นมาในระยะเวลา 1 เดือน มาพิจารณารายรับ – รายจา่ ย มคี วามสมดลุ หรอื ไม่

14 ข้อ 7. ข้อมลู ทไี่ ด้จากการทําบญั ชชี าวบ้าน จะชว่ ยใหเ้ ราทราบถงึ อะไร ก. จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการใชจ้ ่ายเงินในเดอื นถดั ไปได้ รจู้ กั วางแผนการใชจ้ ่ายเงิน ข. ชว่ ยใหท้ ราบถึงเงนิ ท่ีมีอยู่นาํ ไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง ค. ทาํ ใหเ้ รามองเห็นปญั หาเรือ่ งการใช้จา่ ยเงิน ง. เพอ่ื ไม่ให้ใชจ้ า่ ยฟมุ่ เฟือย ขอ้ 8. การทําบัญชีชาวบา้ นถา้ มีเดอื นหนง่ึ ท่ีมีรายจา่ ยตดิ ลบควรแกไ้ ขการใชจ้ า่ ยอยา่ งไร ก. ควรลดรายจา่ ยรายการทีฟ่ มุ่ เฟือย ออกไปเพื่อใหร้ ายรบั -รายจ่ายสมดลุ กัน ข. ควรใช้จา่ ยเพ่ิมขึ้น ค. ควรนาํ เงนิ ทีไ่ ด้ไปฝากไว้ในธนาคารเพอื่ การออมให้มีประสทิ ธภิ าพ ง. ควรเพอ่ื รายไดใ้ ห้มากขึ้น ไมใ่ หม้ รี ายจา่ ยในเดือนน้ันเลย ข้อ 9. การทําบญั ชีครัวเรอื น ในเดือนนนั้ ไดร้ ับเงนิ เดอื น ถอื เป็นรายรบั และรายจา่ ย ก. รายรับ ข. รายจ่าย ค. เปน็ ไดท้ ้ังรายรับและรายจ่าย ง. ถูกทุกขอ้ ขอ้ 10. การทาํ บัญชชี าวบ้านหรอื บญั ชีครวั เรอื น ใหต้ ตี ารางออกเป็นก่ีช่อง ก. 2 ชอ่ ง ข. 3 ช่อง ค. 4 ชอ่ ง ง. 5 ช่อง

15 เฉลยทา้ ยบทท่ี 1 แนวตอบกิจกรรมตอนที่ 1 การทําบัญชี หมายถึง การทําบัญชีเป็นการนํารายได้ท่ีเก่ียวข้องกับการเงินมาจดบันทึกไว้อย่างเป็น หมวดหมู่ เพ่อื ใหเ้ ปน็ หลักฐานการดําเนินงานและสามารถสรปุ ผลกาํ ไรขาดทุนได้ ประโยชน์ของการทําบัญชีชาวบ้าน หรือบัญชีครัวเรือนจะทําให้เราทราบว่าในแต่ละเดือน ครอบครัวมี รายรับ-รายจ่าย อะไรบ้าง คนเราส่วนมากมักจะหลงลืม(ไม่สนใจท่ีจะจดจํา) เวลาจ่ายเงินออกไปหรือรับเงินเข้า มา พอเวลาผ่านไป 2-3 วัน ก็ลืมแล้ว ดังนั้น บัญชีชาวบ้านะช่วยเตือนความจําให้เรารู้ถึงการใช้จ่ายเงิน เพ่ือ นํามาเปน็ ขอ้ มลู ในการวางแผนการจ่ายเงินของครอบครัวเพื่อแก้ไขปัญหาหน้ีสิน ให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ท่ีดี ข้ึนได้ แนวตอบกิจกรรมตอนที่ 2 หลักการการทําบัญชีชาวบ้านมีหลักการง่ายคือ บันทึกข้อมูลสําคัญ 3 รายการ บรรทัดแรกบันทึก รายรับ ตามด้วยรายจ่ายในบรรทัดท่ีสอง และบรรทัดสุดท้าย(Bottom line) เป็นผลต่างระหว่างรายรับ รายจ่าย ถ้าเป็นบวกแสดงว่ามีกําไร ถ้าเป็นลบก็ขาดทุนแม้จะมีเพียงสามบรรทัด ส่วนแนวคิดการทําบัญชี ชาวบ้าน คือ การนําข้อมูลการใช้จ่ายเงินภายในครอบครัวมาจัดเรียงลําดับความสําคัญของรายจ่าย และ วางแผนการใช้จ่ายเงิน โดยพิจารณาแต่ละรายการในแต่ละวันมีรายจ่ายใดท่ีมีความสําคัญมาก และรายจ่ายใด ไมจ่ ําเปน็ ใหต้ ัดออก เพื่อให้การใช้จ่ายเงินภายในครอบครัวมีพอใช้ โดยยึดหลัก 3 ข้อคือ การพอประมาณ ถ้ารู้ รายรบั รายจ่าย ก็จะใชแ้ บบพอประมาณ แต่ มเี หตผุ ล รู้ว่ารายจ่ายใดจําเป็นไม่จําเป็น และเมื่อเหลือจากใช้จ่าย กเ็ กบ็ ออม นนั่ คือภมู คิ ้มุ กนั ทเ่ี อาไว้คุ้มกันตวั เราและครอบครัว แนวตอบกิจกรรมตอนท่ี 3 รูปแบบของการทําบัญชีชาวบ้านมีหลายรูปแบบ ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว แต่อย่างน้อยต้องมีการบันทึก ข้อมูลรายรับและรายจ่ายปกติเป็นตาราง 5 ช่อง ประกอบด้วย ช่องแรกวันเดือนปีเพื่อบันทึกวันท่ีเกิดรายการ น้ัน ช่องที่สองรายการ เพ่ือบันทึกเหตุการณ์ ช่องท่ีสามรายรับ เพื่อบันทึกจํานวนเงินที่ได้รับช่องที่สี่รายจ่าย เพื่อบันทึกจํานวนเงินที่จ่ายออกไป และช่องสุดท้ายยอดคงเหลือ เป็นช่องสรุปยอดเงินคงเหลือในแต่ละวัน วิธีการทําบัญชีครัวเรือน เร่ิมจากการหาสมุดมาสักเล่มหน่ึงอาจเป็นสมุดที่เด็ก ๆ ใช้แล้วเหลือหน้ากระดาษว่าง ก็นํามาทําเป็นบัญชีครัวเรือนได้ ปากกาหรือดินสอสําหรับเขียนลงในสมุดบัญชีครัวเรือน สําหรับชาวบ้านหรือ คนท่อี ่าน-เขียนหนังสอื ไม่ค่อยคล่องก็อาจใช้ใหล้ กู ๆ ชว่ ยเขยี นให้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรยี น 1. ก 2. ง 3. ก 4. ค 5. ก 6. ง 7. ก 8. ก 9. ก 10. ค

16 บทท่ี2 บัญชีชาวบ้านกบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

17 แผนการเรยี นรู้ประจําบท บทที่ 2 บัญชชี าวบ้านกับปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาระสาํ คญั 1. แนวคดิ หลกั การของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. บญั ชีชาวบ้านตามหลกั ของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั 1. อธบิ ายแนวคดิ หลักการของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ 2. วเิ คราะห์บญั ชีชาวบา้ นใหส้ อดคล้องกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ขอบขา่ ยเนอื้ หา 1. แนวคดิ หลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. บัญชชี าวบ้านตามหลักของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ทําแบบประเมนิ ผลตนเองก่อนเรียน 2. ศกึ ษาเอกสารแบบเรยี น 3. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย 4. ทําแบบฝกึ หดั สือ่ ประกอบการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการสอน 2. แบบฝกึ หดั ประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ตนเองกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น

18 แบบทดสอบก่อนเรยี น คาํ ชี้แจง ใหท้ าํ เคร่ืองหมาย X ทับตวั อกั ษรหน้าคําตอบทีถ่ ูกทีส่ ุดเพยี งขอ้ เดยี ว 1. เศรษฐกจิ พอเพยี งหมายถึงอะไร ก. การพงึ พาตนเอง ข. ความพอประมาณ ค. ไมป่ ระมาณ ง. ถูกทกุ ข้อ 2. ในสังคมปจั จุบนั คนไทยควรดาํ รงชีวติ อยา่ งไร ก. อย่อู ย่างพอเพียง ข. อยอู่ ยา่ งชาวบา้ น ค. ใช้จา่ ยแบบฟุ่มเฟือย ง. พ่ึงพาผูอ้ ่ืน 3. การทาํ บัญชคี อื อะไร ก. การทําการบ้าน ข การใชจ้ ่าย ค. การฝากเงิน ง. การจดบนั ทึก 4. การดํารงชีวติ ทีด่ ีควรจะทาํ อย่างไร ก. อยแู่ บบยากจน ข. อยู่อยา่ งพอเพียง ค. อยู่อย่างหมดหวงั ง. ถกู ทกุ ขอ้ 5. ความพอเพียงมคี วามหมายอยา่ งไร ก. ความพอประมาณและมีเหตผุ ล ข. ความรวย ค. ความจน ง. ความทันสมยั 6. การพัฒนาประเทศทดี่ ีควรจะทาํ อย่างไร ก. สง่ เสรมิ การขายสินค้า ข. การค้าขายกบั ตา่ งประเทศ ค. ความมีกนิ มีใช้ของประชาชน ง. การประหยัดการใช้จา่ ย

19 7. หน้สี นิ หมายถึงอะไร ก. เงนิ ฝาก ข. เงินเหลอื ใช้ ค. คา่ ใชจ้ ่าย ง. เงนิ ที่ต้องใชค้ นื 8. ถา้ อยากมีรายไดห้ รือมเี งนิ มากควรทําอยา่ งไร ก. ฝากเงินกบั ธนาคาร ข. ฝากเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ ค. ฝากเงินกบั กองทนุ หมู่บา้ น ง. หารายไดเ้ สริมนอกเวลาทํางานปกติ 9. การใชจ้ า่ ยทค่ี วรปฏบิ ตั ใิ นครอบครัวควรทําอย่างไร ก. ใช้จ่ายตามสบาย ข. ใช้ตามผอู้ นื่ ค. ใช้อย่างระมดั ระวงั ง. ไม่ตอ้ งใชจ้ า่ ยอะไร 10. การสง่ เสรมิ การลดรายจ่ายในบ้านควรจะทาํ อย่างไร ก. ไปซอ้ื ผักในตลาด ข. ไปซ้อื ของในห้างสรรพสนิ คา้ ค. ไมต่ ้องใช้จ่ายอะไร ง. การปลูกผกั สวนครัวไว้ในบ้าน

20 ตอนที่ 1 แนวคดิ หลกั การของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง การพฒั นาตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง คอื การพฒั นาทีต่ งั้ อยบู่ นพนื้ ฐานของทางสายกลางและความไม่ ประมาท โดยคาํ นึงถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสร้างภมู ิคุ้มกนั ทดี่ ีในตวั ตลอดจนใชค้ วามรูค้ วาม รอบคอบและคุณธรรม ประกอบการวางแผนการตัดสนิ ใจและ การกระทาํ เศรษฐกิจพอเพียงกบั ทฤษฎีใหมต่ ามแนวพระราชดาํ ริ เศรษฐกิจพอเพียงและแนวทางปฏิบัติของทฤษฎีใหม่เป็นแนวทางการพัฒนาท่ีนําไปสู่ความสามารถใน การพ่ึงตนเอง ในระดับต่างๆอย่างเป็นข้ันตอน โดยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันแปรของธรรมชาติ หรือการ เปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆโดยอาศัยความพอประมาณและความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี มีความรู้ ความเพยี รและความอดทนสติปญั ญา การช่วยเหลือซ่งึ กันและกัน และความสามคั คี ในการพัฒนาประเทศนั้นจําเป็นต้องทําตามลําดับข้ันเร่ิมด้วยการสร้างพื้นฐาน คือความมีกิน มีใช้ของ ประชาชนก่อน ด้วยวิธีการประหยัด ระมัดระวัง และถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อพื้นฐานเกิดข้ึนมั่นคงพอควรแล้ว จึงค่อยสร้างเสริมความเจริญข้ันสูงข้ึนตามลําดับต่อไป การถือหลักท่ีจะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นค่อยไป ตามลําดบั ด้วยความระมัดระวงั และประหยัด เพื่อปอ้ งกันความผดิ พลาดลม้ เหลว และเพือ่ ใหบ้ รรลผุ ลสําเร็จได้ แน่นอนบริบูรณ์....จากพระบรมราโชวาทและพระราชดํารัสของพระองค์นับตั้งแต่ปี 2517 เป็นต้นมา จะพบว่า พระองค์ท่านได้ทรงยํ้าแนวทางการพัฒนา ที่อยู่บนพ้ืนฐานของการพ่ึงตนเอง ความพอมีพอกิน การรู้จัก พอประมาณการคํานึงถึงความมีเหตุมีผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว และทรงเตือนสติประชาชนคนไทยไม่ให้ ประมาทตลอดจนการมีคุณธรรมเป็นกรอบในการดํารงชีวิต ซึ่งทั้งหมดน้ีเป็นที่รู้จักกันภายใต้ชื่อว่าเศรษฐกิจพอ พยี ง

21 หลักการของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. การพึ่งพาตนเอง เป็นการยึดหลักตนเองเป็นท่ีพึ่งแห่งตน รู้จักนําเอาทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิด ประโยชน์ รู้จักผลิตพืชให้เพียงพอกับความต้องการในการบริโภคของครัวเรือนก่อน หลังจากนั้นจึงผลิตเพื่อ การค้า 2. การพึ่งพากันเอง จะให้ความสําคัญกับการรวมกลุ่มของชาวบ้าน เพื่อดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต่างๆ เช่น การเกษตรแบบผสมผสาน การใช้ภูมิปัญญาท้องถ่ิน การแปรรูปอาหาร เป็นต้น ในปัจจุบันมีการ ดําเนินงานเพ่ือสร้างรายได้ตามนโยบาย “หนึ่งตําบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” เป็นการพัฒนาชุมชน และพัฒนาระบบ เศรษฐกจิ ของประเทศให้เตบิ โต หลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาท่ีช้ีแนะแนวทางการดํารงอยู่และปฏิบัติของประชาชนในทุก ระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐบาลทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดําเนินไป ในทางสายกลางโดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ความพอเพียงหมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจําเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่พอสมควรต่อการมี ผลกระทบใดๆอันเกดิ จากการเปลยี่ นแปลงทงั้ ภายนอกและภายใน ทัง้ นจ้ี ะต้องอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงการนําวิชาการต่างๆมาใช้ในกรวางแผนและการดําเนินงานทุกขั้นตอนและ ขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุก ระดับให้มีสํานึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตและมีความรอบรู้ที่เหมาะสมดําเนินชีวิตด้วยความอดทน ความ เพียร มีสติ มีปัญญาและความรอบคอบเพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนปลงอย่างรวดเร็วและ กวา้ งขวางท้ังดา้ นวตั ถุ สังคมและวฒั นธรรมโลกภายนอกไดเ้ ปน็ อย่างดี หลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบดว้ ย 5 สว่ น คอื 1. กรอบแนวคิด เป็นปรชั ญาท่ีแนะแนวทางการดํารงอยู่และปฏิบัตติ นในทางทค่ี วรจะเป็น โดยมพี ื้นฐานมาจาก วิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนํามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มงุ่ เน้นการรอดพน้ จากภัยและวกิ ฤติเพื่อความมั่นคงและความยั่งยนื ของการพฒั นา

22 2. คณุ ลกั ษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนํามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ทุกระดับโดยเน้นการปฏิบัติ บนทางสายกลางสายพฒั นาอยา่ งเป็นขัน้ ตอน 3. คํานิยาม ความพอเพยี งจะต้องประกอบด้วย3 คุณลักษณะพรอ้ มๆกันดังนี้ 3.1 ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดีท่ีไมม่ ากเกนิ ไปและไมน่ อ้ ยเกนิ ไป โดยไม่ เบียดเบยี นตนเองและผอู้ นื่ เช่น การผลติ และการบรโิ ภคท่อี ยใู่ นระดบั พอประมาณ 3.2 ความมีเหตผุ ล หมายถึง การตดั สนิ ใจเกย่ี วกับระดบั ความพอเพยี งนนั้ จะตอ้ งเปน็ ไปอยา่ ง มีเหตผุ ล โดยพิจารณาจากเหตปุ ัจจัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง ตลอดจนคาํ นึงถงึ ผลทค่ี าดวาจะไดร้ ับ 3.3 ความมีภมู คิ มุ้ กันทด่ี ใี นตัว หมายถึง การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั กับผลกระทบและการ เปล่ยี นแปลงดา้ นตา่ งๆ 4. เงื่อนไข การตัดสินใจและการดําเนินกิจกรรมต่างๆใหอ้ ย่ใู นระดับพอเพยี งนัน้ ต้องอาศยั ทงั้ ความรู้ และคณุ ธรรมเปน็ พน้ื ฐาน คอื 4.1 เง่ือนไขความรู้ ประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆท่ีเกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนําความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาเช่ือมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และระมัดระวังในข้ัน ปฏบิ ัติ 4.2 เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วยมีความตระหนักในคุณธรรม มีความ ซอ่ื สัตย์สุจรติ และมคี วามอดทน มีความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาํ เนินชีวติ 5. แนวทางปฏบิ ัต/ิ ผลท่คี าดว่าจะได้รบั จากการนําปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยกุ ต์ใช้ คอื การ พฒั นาทีส่ มดุลและยั่งยนื พรอ้ มรับต่อการเปลย่ี นแปลงในทุกดา้ น ทง้ั ด้านเศรษฐกิจ สังคม สง่ิ แวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี

23 ตอนท่ี 2 บัญชชี าวบา้ นตามหลกั ของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง บญั ชชี าวบ้านตามหลักของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง จากสภาวะสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยกระแสวัตถุนิยม และความฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ จนทําให้ คนไทยหลงเดินทางผิดไปตามกระแสนิยมจนกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะปัญหาหน้ีสินท่ีไม่มีวัน จบส้ิน อย่างไร ก็ตามคนไทยยังมีทางออก ซ่ึงการจะดํารงชีวิตให้อยู่รอดภายใต้สังคมในปัจจุบัน แนวทางหน่ึงท่ีประชาชนไทย ควรยึดถอื คอื การพง่ึ ตนเอง รจู้ ักความพอประมาณ และไมป่ ระมาท ตามแนวปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่ีทรงมองเห็นถึงความสําคัญของการสร้างภูมิ คุ้มกันให้กับตัวเอง รู้จักความ พอมีพอกิน พอมีพอใช้ คํานึง ถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเอง โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินอันเป็นปัจจัย สําคัญในการดําเนินชีวิตซึ่งพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดํารัสว่า“เศรษฐกิจพอเพียง...จะทํา ความเจริญให้แก่ ประเทศได้แต่ต้องมีความเพียรแล้วต้องอดทนต้องไม่ใจร้อนต้องไม่พูดมากต้องไม่ ทะเลาะกัน ถ้าทาํ โดยเข้าใจกนั เช่ือวา่ ทกุ คนจะมีความพอใจได้...” พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ณ วนั ท่๔ี ธนั วาคม๒๕๔๑ จากหลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับความหมายการบัญชีครัวเรือน จะเห็นว่าการบัญชี ครัวเรือนมีส่วนช่วยให้ประชาชนเข้าถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วง ทศวรรษที่ผ่านมา มีการเผยแพร่สารสนเทศต่าง ๆ อย่างมากมายท่ีแสดงถึงความเก่ียวข้องและเกื้อหนุนซึ่งกัน และกนั ตัวอยา่ งเช่น มูลนิธิชัยพัฒนา สํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดําริ (กปร.) ร่วมกับสํานักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย กองทัพไทย และสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตาม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จัดกิจกรรมการประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ระดับประเทศ คร้ังที่ 1 และ 2 เน่ืองในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 และ พ.ศ.2552 เพ่ือเผยแพร่ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งหมายจะกระตุ้นและสร้างจิตสํานึกให้ประชาชน ชุมชน เกษตรกร กลุ่ม เกษตรกร องค์กรภาครัฐ ธุรกิจขนาดย่อม ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ได้น้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันและในการบริหารธุรกิจต่าง ๆ มีการกําหนดตัวช้ีวัดของเกณฑ์การให้ คะแนนประเภทประชาชนท่ัวไป ในหัวข้อเร่ืองความพอประมาณว่า ประชาชนจะต้องมีการออม มีการทําบัญชี รายรับ - รายจ่ายอย่างสมํ่าเสมอ มีการวางแผนการใช้จ่ายและจัดสรร มีการจัดสรรค่าใช้จ่ายตามความ เหมาะสม และมี รายรบั สมดลุ กบั รายจา่ ย (กปร.2552: 1) การกําหนดตัวชี้วัดดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การบัญชี ครวั เรอื นมคี วามเก่ียวขอ้ งท่สี ําคญั ทีแ่ สดงถงึ การประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจาํ วัน เอนก ชิตเกษร และพรรณนุช ชัยปินชนะ ได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาลและหน่วยงานท่ี เกี่ยวข้องใน งานวิจัยเร่ืองการจัดการรายจ่ายและเพ่ิมรายได้เชิงบูรณาการตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียง ตําบลท่าตุ้ม อําเภอป่าซาง จังหวัดลําพูน เม่ือ พ.ศ. 2554 ว่า การท่ีจะนําปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปทํา ประโยชน์ให้เกิดข้ึนสู่ชุมชน ควรเริ่มจากการสร้างความตระหนักและความเข้าใจเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอ เพียงให้แก่ชุมชนก่อนและจึงนําปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติใน ชีวิตประจําวันอย่างเป็น รูปธรรม เร่ิมตั้งแต่การทําบัญชีครัวเรือน นําข้อมูลจากการบันทึกบัญชีครัวเรือนไปกําหนดกิจกรรมลดรายจ่าย และเพ่ิมรายได้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง บันทึกบัญชีครัวเรือนจนเป็นนิสัย ก็จะนําไปสู่การบูรณาการตาม แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงอยา่ งยง่ั ยนื ได้

24 ปรียานุช พิบูลสราวุธ (2549: 4) กล่าวว่า การใช้ชีวิตอย่างมีความพอเพียงจะต้องมีความสมดุลทาง เศรษฐกิจ คอื ต้องรกั ษาสมดุลของรายรับและรายจ่าย ต้องมีเงินออม มีหลักประกันความมั่นคงของชีวิต และให้ ความสาํ คัญกับการทาํ บัญชีรายรับรายจ่ายวา่ เปน็ เครอื่ งมือที่ทําให้ทราบ ถึงการใช้จ่ายเงินแต่ละเดือนและทราบ วา่ การใชช้ ีวติ เปน็ ไปอย่างพอเพยี งหรอื ไม่ นอกจากนี้ สุรภี เหมวนิช (2555: 1) ให้ความเห็นว่า การทําบัญชีรับจ่ายเป็นประจําทุกเดือน จะทํา ให้รู้สถานะการเงินของตนเองและครอบครัว ช่วยลดการใช้จ่ายที่เกินตัวได้ คนท่ัวไปควรจะทําบัญชีครัวเรือน เพือ่ สร้างภูมคิ มุ้ กันดา้ นการเงินของครอบครัว รวมทง้ั ควรปลูกฝังให้ลูกหลานเป็นคนร้จู กั พอประมาณ มเี หตุมีผล ในการใช้เงนิ และกล่าวว่าการทําบัญชีรายรับ รายจ่าย ของตนเองหรือของครอบครัวเป็นวิถีแห่งการเรียนรู้เพ่ือ พัฒนาชีวิตตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สรุปได้ว่าการบัญชีครัวเรือนมีความเก่ียวข้องสัมพันธ์กับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแยกกันไม่ ออก และมีบทบาทสําคัญที่จะทําให้ประชาชนประสบผลสําเร็จในการดําเนินชีวิตตามแนวคิดของปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงได้ เพราะการบันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นประจําทุกวัน จะทําให้คนรู้จักใช้จ่ายอย่าง พอประมาณ ไม่ใช้จ่ายเกินตัว มีเหตุผลในการใช้จ่ายมากขึ้น รู้จักวางแผนการใช้จ่าย จึงทําให้รายจ่ายจะลดลง ไดแ้ ละมีเงินเหลอื ใช้ นําไปสู่การเก็บออมเงิน ซง่ึ จะเปน็ ภูมคิ ุ้มกันตนเองสําหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดข้ึน ทําให้การดาํ เนนิ ชีวติ มีความปลอดภยั มากขน้ึ ด้วย ความเกี่ยวข้องกันของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการบัญชีครัวเรือนจึงทําให้ มีผู้เรียก บัญชีครัวเรือนในช่ือต่าง ๆ ที่แสดงความหมายไปในทิศทางเดียวกัน เช่น บัญชีชาวบ้าน บัญชีเศรษฐกิจ พอเพียง บัญชีพอเพียง เป็นต้น ในทัศนะของผู้เขียนแล้ว เห็นว่าถ้าจะเรียกว่า “บัญชีเพ่ือชีวิต” ก็ไม่น่าจะ ขัดแย้งกันแต่ประการใด เน่ืองจากเป็นบัญชีท่ีจัดทําขึ้นเพื่อชีวิตท่ีดีมีสุขและย่ังยืนของตนเองและครอบครัว อยา่ งแทจ้ รงิ การบัญชีครัวเรือนเป็นการจดบันทึกรายรับ รายจ่ายประจําวันของครัวเรือน และสามารถนําข้อมูลมา วางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ทําให้เกิดการออม การใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดคุ้มค่า ไม่ ฟุ่มเฟอื ย ดงั นั้น การทาํ บญั ชีครัวเรือนมคี วามสําคัญดังน้ี 1. ทําให้ตนเองและครอบครัวทราบรายรับ รายจ่าย หน้ีสิน และเงินคงเหลือในแต่ละวัน รายรับ หรือ รายได้ คือ เงิน หรือสินทรัพย์ท่ีวัดมูลค่าได้ ท่ีได้รับจากการประกอบอาชีพ หรือผลตอบแทนที่ได้รับจากการให้ ผู้อ่ืนใช้สินทรัพย์ หรือ ผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบต่างๆ เช่นรายได้จากค่าจ้างแรงงาน เงินเดือน ดอกเบ้ยี รับจากเงนิ ฝากธนาคาร หรือจากเงนิ ให้กู้ยืม รายไดจ้ ากการขายสนิ ค้าหรอื บรกิ าร เป็นตน้ รายจ่าย หรือ ค่าใช้จ่าย คือ เงิน หรือสินทรัพย์ที่วัดมูลค่าได้ ท่ีจ่ายออกไปเพ่ือให้ได้สิ่งตอบแทน กลบั มา สิ่งตอบแทนอาจเป็นสนิ ค้าหรอื บริการ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ํา ค่าไฟฟ้า (ค่าสาธารณูปโภค) ค่านํ้ามัน ค่า หนังสือตํารา เป็นต้น หรือรายจ่าย อาจไม่ได้รับส่ิงตอบแทนคือสินค้าหรือบริการก็ได้ เช่น เงินบริจาคเพื่อการ กศุ ล เงนิ ทําบุญทอดกฐนิ ทอดผ้าปา่ เป็นตน้ หนี้สิน คือ ภาระผูกพนั ทต่ี อ้ งชดใชค้ ืนในอนาคต การชดใช้อาจจา่ ยเป็นเงนิ หรอื ของมีค่าท่ีครอบครัว หรือตนเองมีอยู่ หนี้สินเป็นเงินหรือ ส่ิงของที่มีค่าที่ครอบครัวหรือตนเองได้รับมาจากบุคคลหรือแหล่งเงิน ภายนอก เช่น การกู้ยืมเงินจากเพ่ือนบ้าน การกู้ยืมเงินจากกองทุนต่างๆ การซ้ือสินค้าหรือบริการเป็นเงินเชื่อ การซื้อสนิ ทรพั ยเ์ ปน็ เงนิ ผ่อนชําระ หรือการเชา่ ซอ้ื เปน็ ต้น เงินคงเหลือ คือ เงิน หรือ ทรัพย์สินที่วัดมูลค่าได้ หลังจากนํารายรับลบด้วยรายจ่ายแล้วปรากฏ รายรับมากกว่ารายจ่ายจะทําให้มีเงินคงเหลือหรือในหลักทางบัญชีเรียกว่า กําไร แต่หากหลังจากนํารายรับลบ ด้วยรายจ่ายแล้วปรากฏว่ารายจ่ายมากกว่ารายรับจะทําให้เงินคงเหลือติดลบหรือทางบัญชีเรียกว่าขาดทุน นน่ั เอง

25 2. นําขอ้ มลู การใช้จา่ ยเงินภายในครอบครวั มาจัดเรยี งลาํ ดบั ความสาํ คญั ของรายจา่ ย และวางแผนการ ใช้จ่ายเงิน โดยพิจารณาแต่ละรายการในแต่ละวันมีรายจ่ายใดท่ีมีความสําคัญมาก และรายจ่ายใดไม่จําเป็นให้ ตัดออก เพื่อให้การใช้จ่ายเงินภายในครอบครัวมีพอใช้และเหลือเก็บเพ่ือการออมทรัพย์สําหรับใช้จ่ายสิ่งที่ จําเป็นในอนาคต บัญชีครัวเรือนถือเป็นส่วนสําคัญในการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลัก 3 ข้อ คือ การพอประมาณ ถ้ารู้รายรับรายจ่าย ก็จะใช้แบบพอประมาณ แต่ มีเหตุผล รู้ว่ารายจ่ายใดจําเป็นไม่จําเป็น และเม่ือเหลือจากใช้จ่ายก็เก็บออมนั่นคือภูมิคุ้มกัน ที่เอาไว้คุ้มกันตัวเราและครอบครัว บัญชีครัวเรืองสามารถ จดั ได้หมด จงึ นบั ว่ามปี ระโยชน์มาก ข้อควรระวังในการจัดบัญชีครัวเรือน คือ ลืมบันทึกบัญชี ทําให้ขาดความต่อเน่ืองในการบันทึก และ สง่ ผลใหไ้ มอ่ ยากบนั ทกึ ผูจ้ ัดทําเข้าใจผิดในรายการบัญชี ไมเ่ ขา้ ใจรายการท่เี ปน็ รายรับ จงึ ไมไ่ ดบ้ ันทึกบัญชี เช่น ลูกส่งเงินมาให้พ่อแม่สําหรับใช้จ่ายทุกวันส้ินเดือน แต่พ่อแม่ไม่ได้บันทึกบัญชีรายรับเนื่องจากเข้าใจว่าเงินที่ ได้รับมานั้นมิได้เกิดจากการประกอบอาชีพของตนเองหรือ เข้าใจผิดรายการหน้ีสินแต่บันทึกว่าเป็นรายรับ ทํา ให้มิได้เก็บเงินไว้สําหรับจ่ายชําระหน้ีในอนาคต เช่น ยืมเงินจากเพื่อนบ้านมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ถึงแม้จะ ได้รับเงินมาแต่รายการดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นรายรับเน่ืองจากตนเองมีภาระผูกพันที่ต้องชดใช้ในอนาคต ซึ่งอาจ ตอ้ งชดใช้เงนิ ต้นพรอ้ มด้วยดอกเบย้ี ดว้ ย จากสาเหตดุ งั กลา่ วอาจทําใหค้ รอบครวั วางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ผดิ พลาด ส่วนขอ้ ผิดพลาดอีกประการหน่งึ คือ การเขยี นช่ือรายการผิด การบันทึกตัวเลขผิด การบวกหรือการลบ จํานวนเงินผิดอาจเกิดจากการลืมจดบันทึกรายการบัญชี หรือบันทึกรายการซ้ําๆ กันหลายรายการ ปัญหา ดังกล่าวแก้ไขโดยการคํานวณจํานวนเงินกระทบยอดเงินคนเหลือในบัญชีกับยอดเงินฝากธนาคารที่ครอบครัวมี อยู่จริง หรือยอดเงินที่เก็บไว้สําหรับใช้จ่ายจริง หากพบว่ายอดเงินคงเหลือในบัญชีเท่ากับยอดเงินคงเหลือใน บัญชีเงินฝากธนาคาร แสดงว่าการจัดทําบัญชีถูกต้อง แต่หากกระทบยอดแล้วยอดเงินทั้งสองไม่เท่ากันอาจเกิด จากการบันทึกบัญชผี ดิ พลาด หรือเงนิ สดของครอบครัวสูญหาย นะคะ มาถึงตอนน้ีแล้วท่านผู้ฟังหลายท่านอาจ นึกในใจแล้วว่าการจดบันทึกเป็นส่ิงท่ีสําคัญและจําเป็นมากสําหรับการดํารงชีวิตในปัจจุบัน ย่ิงเศรษฐกิจไม่ดี การเงินขาดสภาพคลอ่ งดว้ ยแลว้ ละก็คดิ วา่ หลายทา่ นคงอยากจะหันมาจดบันทกึ รายรับและรายจ่ายกันบ้างแล้ว การวางแผนการใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมระหว่างรายรับและรายจ่ายครอบครัวต้องมีรายรับมากกว่า รายจ่าย หากพบว่ารายรับน้อยกว่ารายจ่ายต้องหาแนวทางนําเงินมาใช้จ่ายให้เพียงพอ โดยอาจต้องกู้ยืมเงินมา ใช้จ่ายแต่การกู้ยืมเงินไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพียงแต่ช่วยให้การใช้จ่ายมีสภาพคล่องชั่วขณะ เท่านั้น และในระยะยาวยังส่งผลให้ครอบครัว มีภาระหนี้สินจํานวนมาทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งจะเพิ่มจํานวน มากข้ึนตามระยะเวลาที่ยาวนานในการกยู้ ืมเงิน เป็นปญั หาทีแ่ กไ้ ขได้ยาก สาํ หรับการแกไ้ ข บทสรปุ การจัดทําบัญชีครัวเรือน หรือ บัญชีรายรับรายจ่ายน้ี ไม่ใช่เป็นแต่เพียงการจดบันทึกรายการ ต่างๆ ที่เป็นเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีภายในครอบครัว รู้จักช่วยเหลือแบ่งปันกันในสังคม มี การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซ่ึงเกิดจากประสบการณ์ต่างๆ ท่ีได้รับจากการจดบันทึกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทําให้ ประชาชนทุกคนรู้จักการบริหารจัดการด้านการเงินและการวางแผนการทํางานทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ได้ การทําบัญชีครัวเรือนทําให้ครอบครัวมีความสุขใช้ชีวิตโดยยึดหลักความพอเพียง มีเหตุมีผล รู้จักพึ่งพา ตนเอง มคี วามพอประมาณ การเงินมีสภาพคล่อง รู้จักการเก็บออม ทุกคนรู้ถึงแหล่งที่มาของรายรับและการใช้ ไปของคา่ ใชจ้ ่ายในแต่ละวนั สามารถนําข้อมลู การใช้จ่ายมาวางแผนบริหารการเงินในอนาคตได้

26 ตัวอย่าง บญั ชี รายรบั -รายจ่าย ประจาํ เดอื น............................... วนั ท่ี รายการ รายรบั รายจ่าย คงเหลือ บาท บาท บาท 31/1/2552 ยอดยกมา 8,000 1/2/2553 ไดร้ บั เงนิ เดอื น 22,000 30,000 รบั เงินจากพศี่ รราม ค่าอาหาร 4,000 34,000 จา่ ยเงินลกู ไปโรงเรียน คา่ น้ํามนั รถ - 600 - - 80 - - 60 33,260 2/2/2553 คา่ อาหาร - 80 - จ่ายค่านํ้า - 170 - จ่ายคา่ ไฟฟ้า - 600 - ซ้อื ของใช้ในบา้ น - 400 - จ่ายเงินลูกไปโรงเรียน - 100 31,910

27

28 แบบฝกึ หัดทา้ ยบท 1. การพฒั นาตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งหมายถึงอะไร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 2. ความพอประมาณหมายถึงอะไร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 3. การทําบัญชีชาวบ้านคอื อะไร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 4. หนส้ี ินคืออะไร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 5. เงนิ คงเหลอื คอื อะไร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

29 แบบทดสอบหลงั เรยี น คําชี้แจง ใหท้ าํ เคร่ืองหมาย X ทบั ตวั อักษรหน้าคาํ ตอบท่ีถูกที่สุดเพียงขอ้ เดยี ว 1. เศรษฐกจิ พอเพียงหมายถงึ อะไร ก. การพึงพาตนเอง ข. ความพอประมาณ ค. ไม่ประมาณ ง. ถูกทกุ ขอ้ 2. ในสังคมปจั จบุ นั คนไทยควรดํารงชีวิตอย่างไร ก. อย่อู ยา่ งพอเพียง ข. อยอู่ ยา่ งชาวบา้ น ค. ใชจ้ า่ ยแบบฟมุ่ เฟือย ง. พง่ึ พาผ้อู ่นื 3. การทําบญั ชคี ืออะไร ก. การทําการบา้ น ข การใช้จ่าย ค. การฝากเงิน ง. การจดบันทกึ 4. การดาํ รงชีวิตทด่ี คี วรจะทําอยา่ งไร ก. อยู่แบบยากจน ข. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ค. อยู่อยา่ งหมดหวัง ง. ถูกหมดทุกขอ้ 5. ความพอเพียงมคี วามหมายอย่างไร ก. ความพอประมาณและมีเหตุผล ข. ความรวย ค. ความจน ง. ความทันสมัย 6. การพัฒนาประเทศท่ีดคี วรจะทาํ อย่างไร ก. สง่ เสรมิ การขายสินค้า ข. การค้าขายกบั ตา่ งประเทศ ค. ความมีกินมใี ช้ของประชาชน ง. การประหยดั การใช้จ่าย

30 7. หนี้สนิ หมายถึงอะไร ก. เงินฝาก ข. เงนิ เหลือใช้ ค. ค่าใช้จา่ ย ง. เงนิ ทต่ี อ้ งใชค้ ืน 8. ถ้าอยากมีรายได้หรือมเี งนิ มากควรทาํ อยา่ งไร ก. ฝากเงินกับธนาคาร ข. ฝากเงินกบั สหกรณอ์ อมทรพั ย์ ค. ฝากเงนิ กับกองทนุ หม่บู า้ น ง. หารายไดเ้ สรมิ นอกเวลาทาํ งานปกติ 9. การใช้จา่ ยท่คี วรปฏิบัตใิ นครอบครวั ควรทาํ อย่างไร ก. ใชจ้ ่ายตามสบาย ข. ใชต้ ามผูอ้ น่ื ค. ใชอ้ ย่างระมดั ระวงั ง. ไมต่ ้องใชจ้ า่ ยอะไร 10. การส่งเสรมิ การลดรายจ่ายในบา้ นควรจะทาํ อยา่ งไร ก. ไปซอื้ ผกั ในตลาด ข. ไปซ้ือของในห้างสรรพสินคา้ ค. ไม่ต้องใช้จา่ ยอะไร ง. การปลกู ผกั สวนครัวไวใ้ นบา้ น

31 เฉลยทา้ ยบทท่ี 2 แนวคําตอบแบบฝกึ หัดทา้ ยบท 1. การพฒั นาตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี งหมายถงึ อะไร การพฒั นาทตี่ งั้ อยบู่ นพน้ื ฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคํานงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันที่ดีในตวั ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบและคุณธรรม ประกอบการ วางแผนการตัดสนิ ใจและ การกระทาํ 2. ความพอประมาณหมายถงึ อะไร ความพอดีทไ่ี มม่ ากเกินไปและไม่น้อยเกินไป โดยไมเ่ บยี ดเบียนตนเองและผอู้ ่นื เชน่ การผลติ และการ บรโิ ภคทอ่ี ยใู่ นระดับพอประมาณ 3. การทําบญั ชชี าวบา้ นคืออะไร การจดบันทึกรายรับ รายจา่ ยประจําวนั ของครวั เรอื น และสามารถนําข้อมลู มาวางแผนการใชจ้ า่ ยเงิน ในอนาคตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทาํ ให้เกิดการออม การใช้จา่ ยเงนิ อย่างประหยัดคุม้ ค่า ไมฟ่ มุ่ เฟอื ย 4. หนี้สนิ คืออะไร ภาระผูกพนั ทีต่ ้องชดใช้คนื ในอนาคต การชดใชอ้ าจจ่ายเป็นเงนิ หรือของมีคา่ ท่ีครอบครวั หรอื ตนเองมี อยู่ หนีส้ นิ เปน็ เงนิ หรอื ส่งิ ของท่ีมคี ่าทคี่ รอบครัวหรือตนเองได้รบั มาจากบคุ คลหรอื แหลง่ เงนิ ภายนอก เชน่ การ กยู้ ืมเงนิ จากเพ่อื นบ้าน การกู้ยืมเงินจากกองทนุ ตา่ งๆ 5. เงินคงเหลอื คอื อะไร เงนิ หรือ ทรพั ยส์ ินที่วัดมลู ค่าได้ หลังจากนาํ รายรับลบดว้ ยรายจ่ายแลว้ ปรากฏรายรับมากกว่ารายจา่ ย จะทําใหม้ ีเงินคงเหลอื หรอื ในหลกั ทางบญั ชเี รยี กว่า กาํ ไร เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน 1. ง 2. ก 3. ง 4. ข 5. ก 6. ค 7. ง 8. ง 9. ง 10. ง

32 บทที่ 3 บญั ชีชาวบ้านในครวั เรือน ------------------------------------------------------------------------------------------------

33 แผนการเรียนรู้ประจําบท บทท่ี 3 บญั ชชี าวบ้านในครวั เรอื น สาระสาํ คญั 1. วิธีการทําบัญชีรายรับ-รายจ่ายของตนเองและครัวเรือนเป็นเป้าหมายท่ีสําคัญในการวางแผนการใช้ จ่ายในครอบครวั และเปน็ การจดั ทํางบประมาณของตนเองและครอบครวั อย่างเป็นระบบ 2. การทําบัญชี คือ การจดบันทึก ข้อมูลเกี่ยวกับเง่ือนไขปัจจัยในการดํารงชีวิตของตัวเอง และภายใน ครอบครัว ชุมชน รวมถึงประเทศ ข้อมูลท่ีได้จากการบันทึกจะเป็นตัวบ่งช้ีอดีตปัจจุบัน และอนาคตของชีวิต ของตัวเอง สามารถนาํ ขอ้ มูลอดตี มาบอกปัจจุบนั และอนาคตได้ ขอ้ มูลท่ไี ด้ ทบ่ี ันทึกไว้ จะเป็นประโยชน์ต่อการ วางแผนชีวิตและกจิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ในครอบครวั 3. การทําบัญชีครวั เรอื น ในเรอ่ื งรายรบั รายจ่าย กค็ ือวิถแี หง่ การเรยี นรู้เพ่อื พฒั นาชีวติ ตามปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพยี ง น่นั เอง เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คอื ปรัชญาชวี ิตทถ่ี กู ต้องเหมาะสม พอดี สอดคล้อง ถูกต้องตามกฎธรรมชาตทิ ่ีมที งั้ ความเป็นเอกภาพและดลุ ยภาพอยเู่ สมอ 1. การทาํ บัญชคี รวั เรือนเป็นการจดบันทกึ รายรบั รายจ่ายประจาํ วันของครวั เรือน และสามารถนํา ข้อมูลมาวางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ทําให้เกิดการออม การใช้จ่ายเงินอย่าง ประหยัดคุ้มคา่ ไมฟ่ ุ่มเฟอื ย 5. การวางแผนการใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมระหว่างรายรับและรายจ่าย ครอบครัวต้องมีรายรับมากกว่า รายจ่ายหากพบวา่ รายรับน้อยกวา่ รายจา่ ย ต้องหาแนวทางนาํ เงินมาใช้จ่ายใหเ้ พียงพอ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั 1. สามารถวิเคราะห์รายรบั -รายจ่ายและทําบัญชีตนเอง บญั ชีครวั เรอื นได้ 2. สามารถอธบิ ายความหมายของบัญชีชาวบา้ นในครวั เรอื นไดถ้ ูกต้อง 3. ตระหนักเห็นคณุ ค่าและนําหลกั การและวธิ กี ารทําบัญชไี ปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ได้อยา่ งตอ่ เนื่อง 4. สามารถอธบิ ายแนวทางการทําบัญชีครวั เรือนและการประกอบอาชพี อย่างง่ายไดถ้ ูกตอ้ ง 5. สามารถอธิบายการการวางแผนการจัดทาํ บัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อการประยกุ ต์ใช้ในครวั เรอื น ทางการประกอบ อาชพี ขอบขา่ ยเนื้อหา 1. วธิ ีการวิเคราะห์รายรับ-รายจ่าย 2. วธิ กี ารทําบญั ชีรายรับ-รายจ่ายของตนเองและครอบครัว 3. แนวทางการทําบญั ชีครัวเรอื นและการประกอบอาชีพอยา่ งง่าย 4. การวางแผนการจัดทาํ บัญชีรายรับ-รายจา่ ย เพ่อื การประยุกต์ใชใ้ นครัวเรือนทางการประกอบ อาชพี

34 กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ทําแบบประเมนิ ผลตนเองก่อนเรียน 2. ศกึ ษาเอกสารการสอน 3. ทํากิจกรรมตามที่กําหนดไวใ้ นเอกสารการสอนและแบบฝกึ ปฏิบตั ิ 4. ทาํ แบบประเมินผลตนเองหลังเรยี น สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ 1. เอกสารการสอน 2. แบบฝกึ ปฏิบตั ิ ประเมนิ ผล 1. ประเมินผลตนเองกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น

35 แบบทดสอบก่อนเรยี น คําชี้แจง ให้นกั ศึกษาทําเครอื่ งหมาย X หนา้ คําตอบท่ถี กู ที่สดุ เพียงคาํ ตอบเดียว 1. บญั ชีชาวบ้าน ยดึ แนวคดิ หลักการใด ก. คดิ เป็น ข. เศรษฐกจิ ค. ทฤษฎีใหม่ ง. ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. ข้อใดกลา่ วถงึ บัญชีชาวบ้านไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ก. เดบติ เครดิต ข. กาํ ไร ขาดทุน ค. ต้นทนุ ผลผลิต ง. รายรับ รายจ่าย 3. บญั ชชี าวบ้านเกยี่ วข้องอย่างไรกบั การดําเนนิ ชวี ติ ก. เป็นสง่ิ ทบี่ ่งบอกภาระหนีส้ ินของแต่บุคคล ข. เป็นบญั ชที ่บี ง่ บอกถึงรายรับ รายจ่ายภายในชุมชน ค. เป็นส่งิ ท่บี ่งบอกถงึ ฐานะความเปน็ อยูข่ องแต่ละบคุ คล ง. เปน็ บัญชีทบี่ ง่ บอกถงึ รายรับ รายจา่ ยภายในครวั เรอื น 4. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ประโยชน์ของการทาํ บัญชีครวั เรือนไดอ้ ย่างถูกต้อง ก. ชว่ ยแกป้ ญั หาหนีส้ ินและชว่ ยวางแผนการเงนิ ของครอบครัว ข. ช่วยแก้ไขปญั หาหนส้ี นิ และชว่ ยวางแผนการเงินของครอบครัว ค. ทาํ ให้สามารถตรวจสอบยอดเงินที่มใี นแต่ละวนั ได้อย่างถกู ต้อง ง. ทําใหท้ ราบว่าในแต่ละเดือน ครอบครวั มรี ายรับ-รายจา่ ยอะไรบา้ ง 5. หลักการ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” คือข้อใด ก. พอกนิ พอใช้ พอเพยี ง ข. อยู่เย็น เปน็ สุข มกี ินมใี ช้ ค. พอเพียง พอประมาณ มีเหตผุ ล พอประมาณ ง. มีเหตุผล มภี ูมคิ ุ้มกัน 6. สนิ ทรัพย์ หมายถึง ก. สถานะทางการเงิน ข. รายการแสดงถงึ สทิ ธิของบุคคล ค. ทรัพยากรท่ีมีอยู่ในความครอบครอง ง. ภาระผกู พนั ท่ีเกิดจากการดําเนินชวี ติ

36 7. ขอ้ ใดหมายถึงประโยชน์ของการวเิ คราะหบ์ ัญชีครวั เรอื น ก. เพอ่ื พิจารณาดูวา่ รายรบั -รายจ่ายมีความสมดลุ กันหรอื ไม่ ข. ช่วยแก้ไขปัญหาหน้สี นิ และชว่ ยวางแผนการเงินของครอบครัว ค. ทาํ ใหส้ ามารถตรวจสอบยอดเงนิ ท่ีมีในแต่ละวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ง. ทําให้ทราบว่าในแตล่ ะเดือน ครอบครวั มีรายรบั -รายจ่ายอะไรบ้าง 8. ขอ้ มูลทไี่ ด้รับจากการทาํ บญั ชคี รัวเรือนมปี ระโยชนอ์ ย่างไรกบั การดาํ เนินชวี ิต ก. ช่วยให้เราสามารถวางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ในเดอื นถดั ไป ข. เพื่อพิจารณาดูว่ารายรบั -รายจ่ายมีความสมดลุ กนั หรือไม่ ค. ช่วยแก้ไขปัญหาหน้ีสินและชว่ ยวางแผนการเงนิ ของครอบครัว ง. ทาํ ให้สามารถตรวจสอบยอดเงินที่มีในแตล่ ะวนั ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 9. จดุ มุง่ หมายของการทําบัญชีครัวเรือน คือ ก. เพ่อื ครอบครัวมคี วามเปน็ อยูท่ ด่ี ขี ้ึน ข. เพือ่ ชมุ ชน สงั คมมีความเป็นอยู่ทดี่ ขี ึ้น ค. เพ่ือพฒั นาระบบเศรษฐกจิ ภายในประเทศ ง. เพอ่ื ใหช้ ุมชนเกดิ กระบวนการจดั การการเรียนรู้ 10. การทําบญั ชชี าวบ้านเหมาะสมกับคนกลุ่มใด ก. นกั ธรุ กจิ ข. เกษตรกร ค. นักศึกษา ง. ทุกกลุ่มอาชพี

37 ตอนท่ี 1 วิธกี ารวเิ คราะห์รายรบั -รายจา่ ย เป้าหมายท่ีสําคัญของตนเองและครอบครัวก็คือ การให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีข้ึน ไม่ประสบ ปัญหาเร่ืองการใช้จ่ายเงิน การใช้จ่ายเงินท่ีดีก็ควรท่ีจะจัดทําแผนการใช้เงินและจัดทํางบประมาณของตนเอง และครอบครัวอย่างเป็นระบบ บุคคลในครอบครัวก็ต้องช่วยกันมาบันทึกบัญชีเงินสดของตนเอง เพ่ือที่จะได้นํา ของแต่ละคนมารวบรวม ทําการเปรียบเทียบงบประมาณกับการจ่ายจริงของครอบครัว เป้าหมายที่สําคัญอีก ประการหนงึ่ กค็ อื การที่ตนเองและครอบครัวมเี งินออมและสามารถนําเงินออมนน้ั ไปลงทุนทําธุรกจิ การทําบัญชีครัวเรือนเป็นการจดบันทึกรายรับรายจ่ายประจําวันของครัวเรือน และสามารถนําข้อมูล มาวางแผนการใช้จ่ายเงนิ ในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ทําให้เกิดการออม การใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดคุ้มค่า ไม่ ฟ่มุ เฟอื ย วิธีการวิเคราะห์รายรบั -รายจ่าย ใหน้ าํ บญั ชีครัวเรือนท่ีผ่านมาในระยะเวลา 1 เดือน มาพิจารณาดูว่า รายรับ-รายจ่าย มีความสมดุลกัน หรือไม่ รับมากกว่าจ่ายหรือจ่ายมากกว่ารับ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีปัญหาเร่ืองหนี้สิน รายจ่ายมักจะมากกว่า รายรับ จึงต้องให้ความสําคัญในการพิจารณารายจ่ายให้ดีว่า พอจะมีรายการไหนท่ีพอจะลดหรือตัดออกได้ (รายการทฟี่ ่มุ เฟอื ย) กใ็ ห้หาทางปรบั ลดหรอื ตัดรายการรายจา่ ยเหลา่ น้ีออกไป ตวั อยา่ งรายรบั ครวั เรือน 1. ขายผลติ จากการทํานา ทาํ ไร่ ฯ 2. ขายสตั ว์เลย้ี ง เชน่ หมู วัว เป็ด ไก่ ฯ 3. ขายผลิตภัณฑจ์ ากงานหตั ถกรรม 4. การคา้ ขายสนิ ค้าซอ้ื มา/ขายอาหาร 5. การขายพชื /สัตว์ หาจากแหลง่ ธรรมชาติ 6. ค้าจา้ งจาการทํางานหรือให้บรกิ าร 7. เงินเดือน เบี้ยเลีย้ ง คา่ คอมมชิ ชั่น 8. เงนิ สงเคราะห์และสวัสดกิ ารตา่ งๆ 9. รายได้จากการขาย/ใหเ้ ชา่ ท่ีดิน บา้ น ฯ 10. รายรับจากดอกเบ้ียเงินกู/้ ดอกเบยี้ ธนาคารฯ 11. รายไดจ้ ากการเสย่ี งโชค 12. เงนิ ท่ไี ดร้ ับจากการกูย้ ืม 13. เงนิ ทีล่ กู หลาน ญาติพน่ี ้อง ส่งมาให้ 14. เงินทผ่ี ู้อื่นช่วยงานต่างๆ 15. เงนิ /ลาภลอยท่มี ีคนมานาํ ใหเ้ ปน็ กรณพี เิ ศษ

38 ตัวอย่างรายจา่ ยครัวเรือน หมวดท่ี 1 : คา่ ใช้จา่ ยในการประกอบอาชีพ 1.1. ค่าจา้ งแรงงาน 1.2. ค่าเชา่ /ซอื้ วสั ดุอุปกรณ์ หรือลงทนุ เครอ่ื งมือ ฯ 1.3. คา่ โดยสาร รถ เรอื รถไฟ ฯ ค่าแสตมป์ ไปรษณีย์ ฯ 1.4. คา่ น้าํ มันเช้อื เพลงิ พาหนะ เดนิ ทาง/ประกอบอาชีพ 1.5. ค่าปยุ๋ ชวี ภาพ หรืออนิ ทรีย์ ฯ 1.6. ค่าปุย๋ เคมี/ฮอรโ์ มน ฯ 1.7. ยาฆา่ แมลง ยาปราบศัตรูพืช 1.9. เงนิ สด เงินดาวน์ หรือเงินผอ่ น เพื่อซื้อยานพาหนะ 1.8 คา่ เมล็ดพันธุ์ 1.10. ซ้อื สินคา้ มาจําหนา่ ย หมวดท่ี 2 : ค่าอาหาร 2.1. ข้าวสารทกุ ชนิด 2.2. เน้อื สัตวบ์ ก สตั ว์น้ํา แมลง และสัตว์อน่ื ๆ ทใ่ี ช้เป็นอาหาร 2.3. ผักสด และผลไม้สดตา่ งๆ รวมทงั้ พรกิ หวั หอม กระเทียมฯ 2.4. ไข่สด เช่น ไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่นกกระทา ฯ 2.5. เคร่ืองเทศ เช่น พรกิ ไทย กานพลู ขมนิ้ ฯ 2.6. อาหารแหง้ อาหารกระป๋อง อาหารหมกั ดอง อาหารสําเร็จรูป ฯ 2.7. อาหารสําเร็จท่ีซ้อื จากรา้ น เชน่ ข้าวผัด กว๋ ยเต๋ียว ขนมหวาน ฯ 2.8. นาํ้ ดม่ื สะอาด เชน่ นํา้ แร่ นาํ้ โพลาลสิ ฯ 2.9. นํ้าอดั ลม ชา กาแฟ เครอ่ื งดม่ื เกลอื แร่ ฯ 2.10. นมทกุ ชนิด โอวัลติน ไมโล โกโก้ นํา้ ผลไม้ 2.11. ขนมขบเค้ยี ว ขนมกรบุ กรอบ ลูกอม 2.12. คา่ ขนมทใี่ ห้เด็กไปโรงเรยี นรายวัน /รายเดอื น 2.14. เหลา้ เบยี ร์ ยาดอง ไวน์ กระแช่ สาโท 2.15. คา่ เชอื้ เพลงิ ในการหงุ ตม้ เช่น แกส๊ ถา่ น ฟนื ฯลฯ หมวดท่ี 3 : ยา - สุขภาพอนามัย 3.1. ยาแก้ปวด 3.2. ยารักษาโรคอนื่ ๆ 3.3 ยาหรอื อปุ กรณค์ มุ กําเนิด 3.4. ค่ารักษาพยาบาลท้งั ทส่ี ถานอี นามยั โรงพยาบาล และคลินิก 3.5. ยาสบู บหุ รี่ หมาก ยานัตถ์ุ ฯลฯ

39 3.6. จา่ ยเบย้ี ประกันชวี ติ เบ้ยี ประกันสุขภาพ และเบย้ี ประกันภัย หมวดท่ี 4 : เส้ือผา้ เครอ่ื งแตง่ กาย และเครอ่ื งประดบั 4.1. เสอ้ื ผ้า เครือ่ งแต่งกาย และเครื่องนอน 4.2. คา่ ใชจ้ ่ายในการเสริมสวย เชน่ ตดั ผม ดัดผม ยอ้ มผม เครอื่ งสําอาง ฯ หมวดท่ี 5 : ทอี่ ยอู่ าศยั 5.1. เงินสด เงินดาวน์ หรือเงินผ่อน เพอ่ื ซอ้ื /เชา่ ท่ีดิน ฯ 5.2. ซอ่ มแซม ตอ่ เตมิ หรอื ปลูกบา้ น หรือปรบั ปรุงบริเวณบ้าน/ทด่ี ิน 5.3. เงินสด เงินดาวน์ และเงินผ่อน เพ่อื ซอื้ /ซ่อมเครื่องใชใ้ นบ้าน ฯ 5.4. ของใชป้ ระจาํ วัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ของเดก็ เล่น ฯ 5.5. ค่าไฟฟ้า 5.6. ค่านํ้าประปา 5.7. ค่าโทรศพั ท์ทง้ั ครัวเรอื น รายเดือน/คา่ บัตรเตมิ โทรศพั ท์ 5.8. ค่าหนังสอื พมิ พ์ หนังสอื นติ ยสาร 5.9. ค่าภาษตี ่างๆ เช่น ภาษบี ํารุงทอ้ งที่ ท่ีดิน ป้าย ร้านคา้ ฯ รวมคา่ ใช้จา่ ยหมวดท่ี 5 หมวดที่ 6 : ค่าใชจ้ า่ ยเพอ่ื การลงทนุ งานสังคม และเพือ่ พกั ผ่อนหย่อนใจ 6.1. ฝากธนาคาร ซื้อพันธบตั ร ฝากสหกรณอ์ อมทรัพย์ ออกเงินกู้ 6.2. จ่ายดอกเบ้ีย และเพอื่ ใชห้ น้เี งนิ กู้ เงินยมื เงินแชร์ 6.3. เงนิ ทําบุญ หรือบรจิ าค 6.4. เงนิ ช่วยงานหรอื เงนิ ใส่ซอง เชน่ งานแตง่ งาน งานศพ งานบวช ฯ 6.5. คา่ ใชจ้ ่ายในการจัดงานแต่งงาน/งานศพ บวชนาค ข้นึ บา้ นใหม่ ฯ 6.6. จา่ ยพักผอ่ นหย่อนใจ เชน่ ค่าแผน่ ซีดี คา่ ต๋วั ดหู นัง ดนตรี ฯ 6.7. ซอ้ื สตั ว์เลยี้ ง เช่น สนุ ัข นก ปลา ฯ หรอื ไม้ดอกไม้ประดับ 6.8. เงินเดอื นหรือเงินทสี่ ง่ ไปชว่ ยเหลอื ญาตใิ นครอบครวั ทอ่ี ยู่ทอ่ี ื่น 6.9. เงินเสยี ไปโดยไมเ่ ตม็ ใจ เช่น ทาํ เงินหาย ถูกลกั ขโมย ถกู ปรบั ฯ 6.10. เงินที่จ่ายเพอ่ื การเสี่ยงโชค เชน่ ซอ้ื หวย ล็อตเตอรี่ สลากกนิ แบ่งฯ 6.11. เงินเสยี่ งดวงในรูปแบบตา่ งๆ หมวดท่ี 7 : ค่าใช้จ่ายในการศึกษา 7.1. คา่ เทอม ค่าเรยี นพเิ ศษ ค่ากจิ กรรมพเิ ศษ 7.2. คา่ อปุ กรณ์การเรียน เชน่ เครอ่ื งเขยี น สมุด หนงั สอื เรยี น กระเป๋า ฯ 7.3. ค่าชดุ นกั เรยี น ชุดพละ ชดุ ลกู เสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ฯ

40 กจิ กรรม ให้นกั ศกึ ษาอธิบายวิธีการวิเคราะห์รายรับ-รายจ่ายของตนเองมาพอสังเขป ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

41 ตอนที่ 2 วิธกี ารทําบัญชีรบั – จา่ ยของตนเองและครอบครวั เรอ่ื งท่ี 2.1 วธิ ีการทาํ บญั ชรี บั – จา่ ยของตนเองและครอบครวั การทําบัญชี คือ การจดบันทึก ข้อมูลเก่ียวกับเง่ือนไขปัจจัยในการดํารงชีวิตของตัวเอง และภายใน ครอบครัว ชุมชน รวมถึงประเทศ ข้อมูลท่ีได้จากการบันทึกจะเป็นตัวบ่งชี้อดีตปัจจุบันและอนาคตของชีวิตของ ตัวเอง สามารถนําข้อมูลอดีตมาบอกปัจจุบันและอนาคตได้ ข้อมูลท่ีได้ ที่บันทึกไว้ จะเป็นประโยชน์ต่อการ วางแผนชีวติ และกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิต ในครอบครวั บัญชีครัวเรือน มิได้หมายถึง การทําบัญชีหรือบันทึกรายรับรายจ่ายประจําวันเท่าน้ัน แต่อาจหมายถึง การบันทึกข้อมูลด้านอ่ืน ๆ ในชีวิต ในครอบครัว เป็นต้น ของเราได้ด้วย เช่น บัญชีทรัพย์สิน พันธ์ุพืช พันธ์ุไม้ ในบา้ นเราในชมุ ชนเรา บัญชีความรคู้ วามคิดของเรา บัญชผี ูท้ รงคณุ ผ้รู ใู้ นชุมชนเรา บญั ชเี ดก็ และเยาชนของเรา บัญชีภูมิปัญญาด้านต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น หมายความว่า ส่ิงหรือเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเรา เราจดบันทึก ไดท้ ุกเรอ่ื ง หากประชาชนทุกคนจดบันทึกจะมีประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศ จะเป็นแหล่ง เรียนรู้ ครอบครัวเรียนรู้ ชุมชนเรียนรู้ และประเทศเรียนรู้การเรียนรู้เป็นที่มาของปัญญา ปัญญาเป็นที่มาของ ความเจริญท้ังกาย สังคม ใจ และจิตวิญญาณของมนุษย์จะเห็นว่า การทําบัญชี หรือการจดบันทึกน้ีสําคัญ ย่ิงใหญ่มาก บุคคลสําคัญในประเทศหลายท่านเป็นตัวอย่างท่ีดีของการจดบันทึก เช่น ท่านพุทธทาส ในหลวง และสมเด็จพระเทพ ล้วนเป็นนักบันทึกทั้งส้ิน การบันทึก คือ การเขียน เม่ือมีการเขียนย่อมมีการคิด เม่ือมีการ คิดย่อมก่อปัญญา แกไ้ ขปญั หาไดโ้ ดยใชเ้ หตผุ ลวเิ คราะห์พิจารณา ได้ถกู ตอ้ ง นั่นคือ ทางเจรญิ ของมนุษย์ การทําบัญชีครัวเรอื นในด้านเศรษฐกจิ หรือการบนั ทกึ รายรับรายจ่ายที่ทางราชการพยายามส่งเสริมให้ ประชาชนได้ทํากัน น่ัน เป็นเรื่องการบันทึกรายรับรายจ่ายประจําวันประจําเดือนว่า มีรายรับจากแหล่งใดบ้าง จํานวนเท่าใด มีรายจ่ายอะไรบ้าง จํานวนเท่าใด ในแต่ละวัน สัปดาห์ เดือน และ ปี เพ่ือจะได้เห็นภาพรวมว่า ตนเองและครอบครัวทีรายรับเท่าใด รายจ่ายเท่าใด คงเหลือเท่าใด หรือ เงินไม่พอใช้เท่าใด คือ รายจ่าย มากกว่ารายรับ และสํารวจว่ารายการใดจ่ายน้อยจ่ายมาก จําเป็นน้อยจําเป็นมาก จําเป็นน้อย อาจลดลง จ่าย เฉพาะท่ีจําเป็นมาก เช่น ซื้อกบั ข้าว ซื้อยา ซื้อเสื้อผ้า ซ่อมแซมบ้าน การศึกษา เป็นต้น ส่วนรายจ่ายท่ีไม่จําเป็น ให้ลด ละ เลิก เช่น ซื้อบุหรี่ ซ้ือเหล้า เล่นการพนัน เป็นต้น เมื่อนํารายรับ รายจ่าย มาบวกลบกันแล้วขาดดุล เกินดลุ ไปเทา่ ใด เมื่อเห็นตัวเลข จะทําให้เราคิดได้ว่าส่ิงไม่จําเป็นนั้นมีมากหรือน้อยสามารถลดได้หรือไม่ เลิกได้ ไหม ถ้าไม่ลดไม่เลิกจะเกิดอะไร กับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ หากเราวางแผนการรับการจ่ายเงิน ของตนเองได้ เท่ากับว่า รู้จักความเป็นคนได้พัฒนาตนเอง ให้เป็นคนมีเหตุมีผล เป็นคนรู้จักพอประมาณ เป็น คนรักตนเอง รักครอบครัว รักชุมชน และรักประเทศชาติมากขึ้นจึงเห็นได้ว่า การทําบัญชีครัวเรือน ในเรื่อง รายรับรายจ่าย ก็คือวิถีแห่งการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง น่ันเอง เพราะปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง คือ ปรชั ญาชีวิตทถ่ี ูกต้องเหมาะสม พอดี สอดคล้องถูกต้องตามกฎธรรมชาติท่ีมีทั้งความเป็น เอกภาพและดุลยภาพอยู่เสมอ วธิ กี ารบนั ทึกบญั ชคี รัวเรอื น 1. ชอ่ ง “วันท่”ี ใชบ้ ันทึก วันท่ี เดอื น และปี พ.ศ. ท่เี กดิ รายการรบั เงนิ หรือจ่ายเงินจริง แต่หากจําวันที่ เกิดรายการไมไ่ ด้ ให้ใช้วันทท่ี าํ การบนั ทกึ บญั ชีแทน 2. ช่อง “รายการ” ใชบ้ ันทกึ คาํ อธิบายหรือรายละเอียดของการรับเงนิ หรือจา่ ยเงนิ การรับเงิน เช่น รับ เงนิ เดือน รบั รายได้พเิ ศษ การจ่ายเงิน เช่น ค่าอาหาร ค่าพาหนะเดนิ ทาง จา่ ยค่าเล่าเรียน เปน็ ต้น

42 3. ช่อง “รับ” ใช้บันทึก “จํานวนเงิน” ที่ได้รับเข้ามาทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นรายรับจากอาชีพหลัก หรอื รายได้อื่น ๆ 4. ชอ่ ง “จา่ ย” ใช้บันทึก “จาํ นวนเงนิ ” ทีจ่ ่ายออกไปทกุ รายการ ไมว่ ่าจะจา่ ยออกไปในเรอ่ื งใดก็ตาม 5. ชอ่ ง “คงเหลือ” ใช้บันทกึ “จาํ นวนเงิน” คงเหลือ หลงั จากได้รับเข้ามาหรือจ่ายออกไป ควรคํานวณ ทกุ ครงั้ ที่มีการบันทึกบญั ชกี ารรบั เขา้ หรอื จา่ ยออก เพอื่ จะไดท้ ราบว่าปัจจบุ ันมีจํานวนเงนิ คงเหลืออยู่เท่าใด โดย ตงั้ ตน้ ด้วยจํานวนเงินคงเหลือล่าสุด นํารายการรับมาบวกเข้า และนํารายการจ่ายมาหักออก จะได้ยอดคงเหลือ ปจั จุบัน เพอื่ สามารถวางแผนการใช้จ่ายในอนาคตได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 6. ช่อง “หมายเหตุ” ใช้บันทกึ รายละเอยี ด ทีต่ อ้ งการบนั ทกึ เพิม่ เตมิ จากช่องรายการ 7. บรรทัด “ยอดคงเหลือยกมา” ใช้บันทึก “จํานวนเงิน” ในช่องคงเหลือ โดยนําตัวเลขมาจากจํานวน เงินในช่อง “คงเหลือ” จากบรรทัด “รวม” (บรรทัดสุดท้าย) ของหน้าบัญชีก่อนหน้าน้ี แต่หากเป็นการเร่ิมต้น บันทกึ บัญชเี ปน็ คร้ังแรกในหนา้ นี้ ให้ใสจ่ าํ นวนเงนิ คงเหลือตามตัวเลขทีม่ ีเงินคงเหลืออย่เู ป็นตวั เลขตงั้ ต้น 8. บรรทัด รวม รับ, จ่าย และยอดคงเหลือยกไป ใช้บันทึก “จํานวนเงินรวม” ตามแนวตั้งในช่อง รับ และจ่าย ส่วนช่องคงเหลือ เป็นจํานวนเงินคงเหลือท่ีเป็นปัจจุบัน โดยนําตัวเลขนี้มาจากช่องคงเหลือล่าสุดของ หน้าบัญชีน้ี ซ่ึงจํานวนเงินนี้จะนาไปใส่ในบรรทัดยอดคงเหลือยกมาในช่องคงเหลือของหน้าบัญชีถัดไป แต่หาก ต้องการทราบยอดรวมของรายรับและรายจ่ายในหน้าบัญชีถัดไปด้วย ก็ให้ยกยอดรวมในช่องรับและจ่ายไปใส่ ในหน้าบัญชีถัดไปพร้อมกัน จํานวนเงินยอดคงเหลือยกไปในหน้าบัญชีนี้จะต้องเท่ากับจํานวนเงินยอดคงเหลือ ยกมาในหน้าบัญชถี ัดไป เร่อื งท่ี 2.2 ขั้นตอนการจัดทาํ งบประมาณ ขัน้ ตอนการจดั ทํางบประมาณ 1. ประมาณการรายรบั ประจําเดอื น 2. ประมาณการรายจ่ายประจําเดือน ตามความจาํ เป็นก่อนหลัง 3. ประมาณการรบั -รายจ่ายต้องเท่ากนั ตวั อยา่ งประมาณการรายรบั -รายจ่ายของครอบครวั งบประมาณเดอื นมีนาคม 2546 ประมาณการรายรบั เงนิ เดอื นสามี 6,400 เงนิ เดอื นภรรยา 4,500 รวม 10,900 ประมาณการรายจา่ ย รายจา่ ยเพอื่ ความตอ้ งการขน้ั พนื้ ฐาน คา่ เช่าบ้าน 1,500 ค่าอาหาร 4,000 ค่าเสอ้ื ผา้ 500 ค่ารกั ษาพยาบาล 500 รวม 6,500

43 รายจา่ ยเพอ่ื การดําเนนิ ชีวติ ประจาํ วนั 600 คา่ รถ 250 ค่าก๊าซหุงต้ม 250 ค่าไฟฟา้ 150 คา่ นํา้ ประปา 150 ค่าโทรศพั ท์ 1,400 รวม 500 รายจา่ ยเพื่อประโยชนร์ ะยะยาว 1,000 ค่าประกันชวี ิต 1,000 เงนิ ฝากธนาคารเพ่อื การศกึ ษา 2,500 เงินออม 500 รวม 10,900 รายจ่ายอ่นื ๆ รวมรายจา่ ยทงั้ สิ้น กจิ กรรม ใหน้ ักศกึ ษาศกึ ษาความหมายของ การทําบัญชี คอื อะไร (จงอธิบายมาโดยสังเขป) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------