Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงแรม ศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่

หลักสูตรโรงแรม ศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่

Published by Rattikan Youtsook, 2019-06-28 03:50:20

Description: หลักสูตรโรงแรม ศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่

Search

Read the Text Version

หลักสตู รทวศิ ึกษาโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ พทุ ธศักราช 2556 (ปรับปรุง 2561) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเทีย่ ว สาขาวชิ าการโรงแรม สาขางานการโรงแรม โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่ ตาบลดอนแกว้ อาเภอแม่ริม จงั หวดั เชยี งใหม่ สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

คำนำ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 เป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 และความเจริญก้าวหน้า ทางเทคโนโลยี เพ่ือผลิตกาลังคนระดับฝีมือท่ีมีสมรรถนะวิชาชีพ มีคุณธรรมจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ สามารถนาไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในลักษณะผู้ปฏิบัติหรือ ประกอบอาชีพอิสระได้ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ โดย เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกระบบและวิธีการเรียนได้อย่างเหมาะสมตามศักยภาพตามความสนใจและโอกาสของตน สง่ เสริมให้มกี ารประสานความร่วมมือเพ่ือจัดการศึกษาระบบทวิศึกษา และพัฒนาหลกั สูตรร่วมกันระหว่างสถาบัน สถานศกึ ษา หน่วยงาน สถานประกอบการ และองค์กรตา่ งๆ ท้ังในระดับชุมชน ระดับทอ้ งถ่นิ และระดบั ชาติ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ เป็นโรงเรียนสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ได้จัดการศึกษา เพื่อการมีงานทาตามนโยบายและยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทาของกระทรวงศึกษาธิการและ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทาของสานักบริหารงาน การศึกษาพิเศษ คือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระบบทวิศึกษา โดยความร่วมมือ ของโรงเรียนกับวิทยาลัยเทคนิคสารภี ซึ่งนักเรียนจะเรียนหมวดวิชาชีพ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พทุ ธศักราช 2556 และเรียนวิชารายวชิ าพนื้ ฐาน ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 หลักสตู รทวิศึกษาโรงเรียนศึกษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ พุทธศักราช 2556 (ปรับปรุง 2561) ตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประเภท วิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สาขาวิชาการโรงแรม สาขางานการโรงแรม เป็นหลักสูตรท่ีจัดทาข้ึนเพ่ือใช้ในการ จัดการเรียนการสอนสาหรับนักเรียนที่เลือกเรียนระบบทวิศึกษา ซ่ึงเม่ือเรียนจบหลักสูตรแล้วนักเรียนจะได้ วุฒิการศึกษา 2 วุฒิ คือ หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเท่ียว สาขาวิชาการโรงแรม สาขางานการโรงแรม เร่ิมตั้งแต่ ปีการศึกษา 2556 ประกอบด้วยสาระสาคัญที่จาเป็นสาหรับครูผู้สอน ได้แก่ หลักการของหลักสูตร จุดมุ่งหมาย ของหลักสูตร หลักเกณฑ์การใช้หลักสูตร โครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ท่องเท่ียว สาขาวชิ าการโรงแรม สาขางานการโรงแรม และคาอธบิ ายรายวชิ า ขอขอบคุณคณะกรรมการดาเนินการตามโครงการพัฒนาหลักสูตรวิชาชีพเพื่อการมงี านทา ท่ีไดจ้ ดั ให้มี การประชุมปฏิบัติการพัฒนาหลักสูตรทวิศึกษาของสถานศึกษา สังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ส่งผล ให้โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ได้มีโอกาสทบทวนหลักสูตรทวิศึกษาโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ พุทธศักราช 2556 (ปรับปรุง 2561) โดยเฉพาะอย่างย่ิงหลักสูตรที่เก่ียวข้องกับการสนองต่อนโยบายการจัด การศึกษาเพ่ือการมงี านทา โรงเรียนหวงั เป็นอย่างยิ่งว่า หลักสูตรน้ีจะเปน็ ประโยชน์สาหรับครูผู้สอนในการจัดการศึกษาระบบทวศิ ึกษา ของโรงเรยี น โดยคานึงถึงกลุ่มเป้าหมายคือนกั เรียนโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ทเี่ ลือกเรยี นหลักสตู รทวิศกึ ษา ให้มที ักษะในการดาเนินชีวิตทด่ี ี มีความพร้อมต่อการเปลย่ี นแปลงของสังคมและอยู่รว่ มกบั สังคมได้อยา่ งปกตสิ ุข สมุ นต์ มอนไข่ ผ้อู านวยการโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์เชยี งใหม่

สำรบญั หน้า ปกใน................................. ประกาศโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ เร่ือง ให้ใช้หลักสตู รโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชยี งใหม่ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พัช้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551.................................. คานา................................ สารบัญ............................. บทนา............................... 1 ทิศทางการพัฒนาการศกึ ษาของโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ระยะท่ี 5 ปี (2560-2564) ปรัชญา อตั ลกั ษณ์ เอกลักษณ์ วสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ เปา้ ประสงค.์ ................................................................. 4 หลกั การของหลักสูตรโรงเรียนศึกษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ พุทธศกั ราช 2561 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน... 5 หลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี พุทธศักราช 2556 หลกั การของหลกั สูตร จุดม่งุ หมายของหลกั สตู ร........ 7 หลักเกณฑ์การใช้หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศักราช 2556 การเรียนการสอน การจัดการศึกษา โครงสร้างของหลักสตู ร การสาเรจ็ การศึกษาตามหลักสูตร........................................................................... 8 หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ พุทธศักราช 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สาขาวิชาการโรงแรม สาขางานการโรงแรม จดุ ประสงคส์ าขาวิชา มาตรฐานการศึกษาวิชาชพี ........................................................ 12 โครงสร้างหลักสตู รโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ พทุ ธศักราช 2556 (ปรับปรุง 2561) ตามหลักสตู ร ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2556 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมท่องเท่ียว สาขาวชิ าการโรงแรม สาขางานการโรงแรม........................................................................................................................................................ 14 คาอธบิ ายรายวิชา หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 18 1. หมวดวชิ าทักษะชีวิต................................................................................................................................. 18 21 1.1 กลมุ่ วชิ าภาษาไทย............................................................................................................. 26 1.2 กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ................................................................................................ 29 1.3 กลุม่ วิชาวทิ ยาศาสตร.์ ....................................................................................................... 32 1.4 กลุ่มวชิ าคณติ ศาสตร์........................................................................................................ 35 1.5 กลุ่มวชิ าสังคมศึกษา......................................................................................................... 38 1.6 กลุ่มวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา........................................................................................ 38 2. หมวดวิชาทกั ษะวชิ าชีพ .......................................................................................................................... 48 2.1 กลมุ่ ทักษะวชิ าพ้นื ฐาน..................................................................................................... 59 2.2 กลุ่มทักษะวชิ าชีพเฉพาะ................................................................................................. 69 2.3 กลุ่มทกั ษะวชิ าชพี เลือก.................................................................................................... 70 2.4 ฝกึ ประสบการณ์ทกั ษะวิชาชีพ......................................................................................... 71 2.5 โครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ........................................................................................... 76 3. หมวดวชิ าเลือกเสรี.................................................................................................................................. 4. กจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร..............................................................................................................................

สำรบัญ หนา้ ภาคผนวก 79 - โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรยี นศึกษำสงเครำะห์เชยี งใหม่ ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว สาขาวิชา การโรงแรม สาขางานการโรงแรม.................................................................................................................... 80 - แบบสรปุ รายวิชาทข่ี อเทียบโอนผลการเรยี นรายวชิ า ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว สาขาวิชา การโรงแรม สาขางานการโรงแรม.................................................................................................................. 83 - คาสั่งโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชยี งใหม่ ที่ 20/2561 เรือ่ ง แตง่ ตั้งคณะทางานปรบั ปรุงหลักสตู รทวศิ กึ ษา ฉบับปรบั ปรงุ 2561............................................................................................................................. .......... 88

1 บทนำ การก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และการเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 Thailand 4.0 ในปีพุทธศักราช 2561 ประเทศไทยเป็นประเทศหน่ึงท่ีต้องเร่งดาเนนิ การเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีสมรรถนะท่ีจะดารงชีวิต ประกอบอาชีพ และแข่งขันในเวทีโลก โดยผ่านการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ที่จาเป็นต้องมีการปรับ ทั้งเป้าหมายและกระบวนการในการเตรียม การพัฒนาผู้เรยี นท่ีมุ่งให้เกิดสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแล้ว ยังมุ่งเตรียมเยาวชนให้ตระหนักรู้เก่ียวกับความถนัด และศักยภาพของตนเอง สามารถมองเห็น ภาพอนาคตเกี่ยวอาชีพของตนเองได้ โดยผู้เรียนควรได้รับการจัดเตรียมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึง การศึกษาข้ันพื้นฐานเพ่ือเช่ือมต่อระดับอุดมศึกษา ตามนโยบายการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่ือการมีงานทาตาม ยุทธศาสตร์ 2555 จากนโยบาย ยุทธศาสตร์ และทิศทางการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทาของสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ไดก้ าหนดแนวทางในการดาเนินการโดยให้นาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทกั ษะท่ีจาเป็น สมรรถนะ สาคญั ทสี่ ่งผลตอ่ การประกอบอาชพี สอดแทรกในการจดั การศกึ ษาทุกระดับ ดังน้ี ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1-3 มุ่งเน้นการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ทาความรู้จัก และเห็นความ แตกต่างของหน้าที่ วิธีการทางานและอาชีพต่างๆ ได้ ซึ่งเป็นการสร้างความตระหนักในอาชีพที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4-6 มุ่งเน้นให้นักเรียนเห็นถึงความสาคัญของระบบสังคม สร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักในอาชีพที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 มุง่ เน้นการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลท้ังด้านความสนใจ ความสามารถ ทัศนคติ และการให้คุณค่าการประกอบอาชีพ ของคนในสังคม เปิดโอกาสให้นักเรียนรู้จักตนเองมากข้ึน ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์จริงในการฝึกปฏิบัติการ ทางาน รว่ มกับการประเมินหรอื สารวจตนเอง ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 มุ่งเน้นการจดั การเรยี นการสอนท่ีเป็น การเตรียมการดา้ นทฤษฏีและทกั ษะไปสู่การเตรียมอาชพี สาหรับการปลูกฝังคุณลักษณะเพ่ือการทาอาชีพ เป็นสิ่งสาคัญอีกประการหน่ึงท่ีจะต้องเกิดกับนักเรียน ทั้งน้ีในชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1-3 มุ่งเน้นการปลูกฝังคุณลักษณะเพื่อการทาอาชีพเบ้ืองต้น ได้แก่ มีวินัย ความ รับผิดชอบ อดทน และคิดวิเคราะห์ ทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4-6 มุ่งเน้นการปลูกฝังคุณลักษณะเพ่ือ การทาอาชีพเบื้องต้น กล้าเผชิญปัญหา คิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 มุ่งเน้นการปลูกฝัง คณุ ลักษณะเพ่ือการทาอาชพี เบอ้ื งต้น สามารถแก้ปัญหาอยา่ งมีเหตผุ ล ตัดสินใจเลือกจัดระบบการทางานเพื่ออาชีพ และทางานร่วมกบั ผูอ้ ื่นได้อยา่ งสร้างสรรค์ และระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 มุ่งเนน้ การปลูกฝังคณุ ลกั ษณะเพ่ือการ ทาอาชพี เบ้ืองต้น สามารถแก้ปญั หาอยา่ งมีเหตผุ ล การตัดสินใจเลือกจัดระบบการทางานเพอ่ื อาชีพ การสร้างสรรค์ งานดว้ ยตนเอง และทางานร่วมกบั ผู้อื่นได้ จะเห็นได้ว่านโยบายการศึกษาขั้นพื้นฐานเพ่ือการมีงานทา ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เป็นส่วนหนึ่งของเจตนารมณ์และเป้าหมายของการศึกษาสาหรับเยาวชนไทย การให้ความรู้ความเข้าใจในการจัด การศึกษาเพื่อการมีงานทาในทุกระดับชน้ั จงึ มีความจาเป็น เพือ่ การพฒั นาประเทศ

2 เพื่อให้การจัดการศึกษาตามนโยบายดังกล่าวบรรลุผล สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษจึงได้ จัดการศึกษา เพื่อการมีงานทาโดยดาเนินงานสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มีผลงานเชิงประจักษ์สู่สาธารณชนอย่างต่อเน่ือง จนสามารถกาหนด เป็นแนวทางให้สถานศึกษาได้จัดการศกึ ษาเพ่ือการมีงานทาสาหรับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนการศึกษาพิเศษ ซ่งึ เป็นการจัดการศึกษาให้นกั เรียนได้ เรียนรรู้ ายวิชาพน้ื ฐานตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรเพื่อการศึกษาต่อ ได้เรียนรู้ฝึกฝนให้มีความรู้และเจตคติอันดีที่จะนาไปสู่การตัดสินใจเลือกประกอบ อาชีพในอนาคต ในปีการศึกษา 2555 สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษจึงได้จัดทาแนวทางการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทา ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทาในโรงเรียนโดยมีแนวทางการจัดการศึกษา เพื่อการมีงานทา 4 แนวทาง ไดแ้ ก่ แนวทำงท่ี 1 กำรจัดรำยวชิ ำเพมิ่ เติมในแผนกำรเรียนวชิ ำสำมญั การจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทา โดยการจัดรายวิชาเพ่ิมเติมในแผนการเรียนวิชาสามัญ เป็นวิธีการ จัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านอาชีพ โดยการเพ่ิมเติมรายวิชาด้านอาชีพในสาระเพ่ิมเติมตามระดับช้ัน ในโครงสร้าง หลักสูตรสถานศึกษา ซ่ึงสามารถจัดได้หลากหลายวิชาตามความพร้อมของสถานศกึ ษาและความสนใจของนกั เรยี น แนวทำงท่ี 2 กำรจัดกำรศกึ ษำในรปู แบบทวภิ ำคี การจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทา โดยการจัดการศึกษาในรูปแบบทวิภาคี เป็นวิธีการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ด้านอาชีพ โดยเพ่ิมรายวิชาชีพในสาระเพ่ิมเติมในระดับมัธยมศึกษาและปรับสัดส่วนเวลาเรียนให้ ภาคปฏบิ ัติมากกว่าทฤษฎี ท้ังน้ีให้จัดทาข้อตกลงกับสถานประกอบการเก่ียวกับการฝกึ ประสบการณ์การเรียนรแู้ ละ การทางานดา้ นอาชพี แนวทำงที่ 3 กำรจดั กำรศกึ ษำเพ่ือกำรมีงำนทำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ(ปวช.) แนวทางการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทาตามหลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) เป็นวธิ กี ารจัด ประสบการณ์เรียนรู้ด้านอาชีพ โดยความร่วมมือของสถานศึกษา และสถานศึกษาแห่งอื่นที่จัดการศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ซ่ึงนักเรียนจะเรียนหมวดวิชาชีพตามหลักสูตรวิชาชีพจากสถานศึกษาแห่งอ่ืน และ เรียนวิชาสามัญ ในสถานศึกษาเม่ือสาเร็จการศึกษาแล้ว ได้รับวุฒิการศึกษาจากสถานศึกษาและหรือวุฒิการศึกษา ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) จากสถานศกึ ษาแห่งอืน่ แนวทำงท่ี 4 กำรจัดรำยวิชำอำชีพระยะสั้น แนวทางการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทาโดยการจัดรายวิชาอาชีพระยะส้ัน เป็นการจัดการเรียนรู้ ใหก้ ับนักเรียนนอกเหนือจากการเรียนการสอนตามโครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา เพ่อื มุ่งพัฒนาทักษะกระบวนการ ดา้ นการประกอบอาชีพ มีลักษณะการเรยี นทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ เพ่ือฝึกทักษะและกระบวนการประกอบ อาชีพ โดยมีความยืดหยุ่นด้านเน้ือหา ระยะเวลาเรียน และสถานท่ี ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละ สถานศึกษา เนื่องด้วยโรงเรียนในสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จัดการศึกษาในลักษณะการอยู่ประจา นกั เรยี นมีความหลากหลายทง้ั ด้านความรู้ ความสามารถ มเี วลาว่างหลังจากการเรียนตามหลักสูตรปกติ

3 แนวทางทงั้ 4 แนวทางน้ี ได้นาไปใชใ้ นโรงเรยี นสงั กดั สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ ในปีการศึกษา 2561 ท้ังน้ีการนาแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทาสู่การปฏิบัติในระดับโรงเรียนในแต่ละแนวทางน้ัน โรงเรียน จะต้องศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพพื้นท่ีโรงเรียน สารวจวิเคราะห์บริบทความต้องการจาเป็นของท้องถิ่น ศึกษา วเิ คราะห์ ทิศทางโลกอาชีพในอนาคตตรวจสอบความพร้อมของโรงเรียนอย่างรอบคอบในด้านบุคลากรสถานบันพ่ี เล้ียงสถานประกอบการ สภาพพื้นที่ สื่อ อุปกรณ์ สงิ่ อานวยความสะดวกตา่ งๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศกึ ษาตาม หลักสตู รตามแนวทางตา่ งๆ โดยการมสี ว่ นรว่ มของครแู ละผู้ทเ่ี กี่ยวข้องทกุ ฝ่าย โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชยี งใหม่ ได้แสวงหาแนวทางในการเตรียมความพรอ้ มให้นักเรยี นในการกา้ วเขา้ สู่ ประชาคมอาเซียน และการเข้าสู่ศตวรรษท่ี 21 Thailand 4.0 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงานอาชีพ และเข้าสู่ ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ โดยยึดแนวทางการจัดการศึกษาตามรูปแบบท่ีสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กาหนดไว้ในเรื่องการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทา จากการศึกษา วิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่โรงเรียน สารวจ วิเคราะห์บริบทความต้องการจาเป็นของท้องถ่ิน ศึกษา วิเคราะห์ ทิศทางโลกอาชีพในอนาคต ตรวจสอบความ พร้อมของโรงเรยี นอยา่ งรอบคอบในด้านบคุ ลากร สถานบันพ่ีเลี้ยง สถานประกอบการ สภาพพ้ืนท่ี ส่ือ อุปกรณ์ ส่ิง อานวยความสะดวกต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ( ปวช.) โดยการมี ส่วนรว่ มของครูทเี่ กี่ยวข้องทกุ ฝ่าย ผลการวิเคราะห์สรุปได้ว่า โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ มีความพร้อมในการเปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช.) 4 สาขาวิชา ได้แก่ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาชาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาชาวิชาการบัญชี ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเท่ียว สาขาวิชาการโรงแรม และ ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเช่ือมโลหะ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 ในลักษณะการเทยี บโอนรายวิชา โดยมีวิทยาลัยเทคนิคสารภี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอาเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถาบัน พี่เลี้ยง โดยได้เริ่มเปิดทาการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 จนถึงปีปัจจุนัน ท้ังน้ี โรงเรียนได้ทาบันทึกตกลงความร่วมมือ เมื่อวนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2556 โดยผอู้ านวยการวิทยาลยั เทคนิคสารภกี ับผูอ้ านวยการโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ลกั ษณะการจดั การศึกษาสาหรับนักเรียนที่เรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพนนั้ โรงเรียนจัดให้นักเรยี น เรียนรายวิชาพื้นฐานตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส่วนรายวิชาเพิ่มเติมจัดให้ นกั เรียนเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2556 เมื่อเรียนครบ 3 ปี นาเอารายวิชาท่ีเรียนมาเทียบโอนเป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ตามสาขาที่เรียนมานั้น และ นักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย จะต้องลงทะเบียนเป็นนักเรียนของสถาบันพ่ีเลี้ยง โดยจะต้องเรียนครบตาม โครงสร้างหลักสูตรของสานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2556 ดังนั้นการเรียนตามรูปแบบน้ี นักเรียนจะได้วฒุ กิ ารศกึ ษา 2 วฒุ ิ คือวฒุ กิ ารศึกษาช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 และ วฒุ ิการศกึ ษาประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) การจัดการเรียนการสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ได้ดาเนินการ สอดคล้องกบั นโยบายและยุทธศาสตร์ 2555 ของกระทรวงศึกษาธิการ ท้ังนเี้ พ่อื ให้การศึกษาเช่ือมโยงและส่งเสริมสนับสนุน การพัฒนาคุณภาพเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน ดังน้ันการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานเพ่ือการ ประกอบอาชีพจึงเป็นทั้งเป้าหมาย วิธีการ และผลลัพธ์ที่คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน มุ่งหวังให้เกิดจริง ในการจัด การศึกษาของทุกโรงเรียน ช่วยเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมในการทางานเมื่อจบมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมท้ังพัฒนา ผู้เรยี นให้รเู้ ท่าทันและพรอ้ มเผชิญกับการเปลย่ี นแปลงของสังคม ยุคโลกาภิวตั น์ โดยเฉพาะการพัฒนาค่านิยม การคดิ ทเ่ี ป็น เหตุเป็นผล การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ท่ีเข้มแข็ง สั่งสมความรู้ และทักษะท่ีจาเป็นในการทางานตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง

4 หลักสูตรโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตามหลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2556 สานกั งานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ทศิ ทางการพัฒนาการศกึ ษาของโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ระยะท่ี 5 ปี (2560-2564) ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้เด็กด้อยโอกำสได้รับกำรศึกษำอย่ำงเท่ำเทียมกับเด็กปกติท่ัวไป และมีควำมเป็น อัตลักษณ์ ในกำรพฒั นำจัดกำรศึกษำสำหรับเด็กด้อยโอกำสโดยสอดคล้องกบั นโยบำยและยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรเพิม่ โอกำสทำงกำรศึกษำ และกำรเรียนรู้ของคนไทย และแผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำสงเครำะห์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร จึงได้กำหนดปรัชญำ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ กลยุทธ์ มำตรกำรและ เป้ำหมำยกำรพฒั นำ ดงั ต่อไปนี้ ปรัชญา “ควำมรู้ คู่คณุ ธรรม นำอำชีพ” อตั ลกั ษณ์ “ทำอำชพี เปน็ เด่นกีฬำ” เอกลกั ษณ์ “อำชีพหลำกหลำย สรำ้ งรำยไดร้ ะหว่ำงเรยี น” วสิ ยั ทัศน์ “เป็นสถำนศึกษำท่ีมุ่งพัฒนำผู้เรียนให้มีควำมรู้คู่คุณธรรมมีทักษะกำรดำรงชีวิตมีควำมสุขในสังคมภำยใต้ หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง” พันธกจิ 1. ยกระดบั คุณภำพกำรศกึ ษำของผู้เรียนให้มีควำมรู้ มีคุณธรรม มที ักษะกำรดำรงชวี ิตอยำ่ งยงั่ ยืนตำมหลัก ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง 2. พฒั นำครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำใหเ้ ป็นครูมืออำชพี ในกำรจดั กำรศึกษำอยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ 3. พัฒนำระบบบริหำรจดั กำรกำรศึกษำตำมหลักธรรมำภบิ ำล 4. พัฒนำอำคำรสถำนท่แี ละส่งิ อำนวยสะดวกให้เอื้อตอ่ กำรจัดกำรเรยี นรู้และควำมเป็นอยู่ของนักเรียนประจำ เป้าประสงค์ ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำมีควำมรู้ คู่คุณธรรมมีทักษะกำรดำรงชีวิตมีควำมสุขในสังคมตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง กลยทุ ธท์ ่ี 1 พัฒนำหลกั สตู รสถำนศกึ ษำกระบวนกำรจดั กำรเรยี นรูก้ ำรวดั และประเมินผลเพือ่ พฒั นำ ศักยภำพของผู้เรยี น กลยุทธ์ท่ี 2 ส่งเสริมพัฒนำคุณธรรม จริยธรรม และทักษะกำรดำรงชีวิตภำยใต้หลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง กลยทุ ธ์ที่ 3 พัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำใหเ้ ปน็ ครูมืออำชพี ในกำรจัดกำรศกึ ษำอย่ำงมปี ระสิทธิภำพ กลยุทธท์ ี่ 4 พัฒนำระบบบรหิ ำรจดั กำรและส่งเสริมใหท้ กุ ภำคสว่ นมีสว่ นร่วมในกำรจดั กำรศึกษำ กลยทุ ธท์ ี่ 5 พฒั นำแหล่งเรยี นรู้ และกำรจดั บรรยำกำศสง่ิ แวดล้อมในสถำนศึกษำให้เอือ้ ตอ่ กำรเรยี นรู้

5 หลกั การของหลักสตู รโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่ หลักสูตรโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์เชียงใหม่ พทุ ธศักรำช 2561 มีหลกั กำรที่สำคญั ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำเพ่ือควำมเป็นเอกภำพของชำติ มีจุดมุ่งหมำยและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ เป็น เป้ำหมำยสำหรับพัฒนำเด็กและเยำวชนให้มีควำมรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรม บนพื้นฐำนของควำมเป็นไทย ควบคกู่ บั ควำมเปน็ สำกล 2. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำเพ่ือปวงชน ทป่ี ระชำชนทุกคนมโี อกำสไดร้ บั กำรศึกษำอย่ำงเสมอภำคและมี คณุ ภำพ 3. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำที่สนองกำรกระจำยอำนำจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำให้ สอดคล้องกบั สภำพและควำมต้องกำรของท้องถนิ่ 4. เป็นหลักสูตรกำรศกึ ษำทม่ี ีโครงสร้ำงยืดหยุ่นทง้ั ดำ้ นสำระกำรเรียนรู้ เวลำและกำรจดั กำรเรยี นรู้ 5. เปน็ หลกั สูตรกำรศกึ ษำทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั 6. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำสำหรับกำรศึกษำในระบบ นอกระบบ และตำมอัธยำศัย ครอบคลุมทุก กลมุ่ เปำ้ หมำย สำมำรถเทยี บโอนผลกำรเรียนรู้ และประสบกำรณ์ จุดมุง่ หมาย หลักสูตรโรงเรยี นศึกษำสงเครำะห์เชียงใหม่ พทุ ธศักรำช 2561 มุ่งพัฒนำผู้เรียนให้เป็นคนดีมปี ญั ญำ มี ควำมสุข มีศักยภำพในกำรศึกษำต่อ และประกอบอำชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมำย เพ่ือให้เกิดกับผู้เรียนเม่ือจบ กำรศกึ ษำขัน้ พืน้ ฐำน ดังนี้ 1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่ำของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตำม หลักธรรมของพระพุทธศำสนำ หรือศำสนำที่ตนนบั ถอื ยดึ หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. มีควำมรู้อันเป็นสำกลและมีควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร กำรคิด กำรแก้ปัญหำ กำรใช้เทคโนโลยี และมีทกั ษะชวี ิต 3. มีสขุ ภำพกำยและสุขภำพจิตทด่ี ี มีสขุ นิสยั และรักกำรออกกำลังกำย 4. มีควำมรักชำติ มีจิตสำนึกในควำมเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวิต และกำรปกครอง ตำมระบอบประชำธิปไตยอันมพี ระมหำกษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข 5. มจี ิตสำนึกในกำรอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญำไทย กำรอนุรักษ์และพัฒนำสิ่งแวดลอ้ ม มีจติ สำธำรณะ ที่มุ่งม่นั ทำประโยชนแ์ ละสรำ้ งสิง่ ทีด่ งี ำมในสังคม และอยูร่ ว่ มกนั ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสขุ

6 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ในกำรพัฒนำผู้เรียนตำมหลักสูตรโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์เชยี งใหม่ พทุ ธศักรำช 2561 มุ่งเน้นพฒั นำ ผู้เรียนให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำนที่กำหนด ซ่ึงจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญมุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ สำคัญ 5 ประกำร ดงั น้ี 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นควำมสำมำรถในกำรรับและส่งสำร มีวัฒนธรรมในกำรใช้ภำษำ ถ่ำยทอดควำมคิด ควำมรู้ควำมเข้ำใจ ควำมรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียนข้อมูลข่ำวสำรและ ประสบกำรณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อกำรพัฒนำตนเองและสังคม รวมทั้งกำรเจรจำต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหำ ควำมขัดแย้งต่ำงๆ กำรเลือกรบั หรือไม่รับข้อมูลข่ำวสำรดว้ ยหลกั เหตุผลและควำมถูกต้อง ตลอดจนกำรเลือกใช้ วิธกี ำรส่อื สำร ที่มปี ระสทิ ธภิ ำพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทมี่ ตี อ่ ตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เปน็ ควำมสำมำรถในกำรคิดวเิ ครำะห์ กำรคิดสังเครำะห์ กำรคดิ อย่ำงสร้ำงสรรค์ กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ และกำรคิดเป็นระบบ เพ่ือนำไปสู่กำรสร้ำงองค์ควำมรู้หรือสำรสนเทศเพื่อกำรตัดสนิ ใจ เก่ยี วกับตนเองและสงั คมไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำและอุปสรรคต่ำงๆ ที่เผชิญได้ อย่ำงถูกต้องเหมำะสมบนพื้นฐำนของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสำรสนเทศ เข้ำใจควำมสัมพันธ์และกำร เปล่ียนแปลงของเหตุกำรณต์ ่ำงๆ ในสังคม แสวงหำควำมรู้ ประยุกต์ควำมรู้มำใช้ในกำรป้องกันและแก้ไขปญั หำ และมกี ำรตัดสินใจที่มีประสทิ ธิภำพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีเกิดขึน้ ต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นควำมสำมำรถในกำรนำกระบวนกำรต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ดำเนินชีวิตประจำวัน กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง กำรเรียนรู้อย่ำงต่อเนื่อง กำรทำงำน และกำรอยู่ร่วมกันในสังคม ดว้ ยกำรสร้ำงเสริมควำมสัมพันธอ์ ันดีระหวำ่ งบุคคล กำรจัดกำรปัญหำและควำมขัดแย้งต่ำงๆ อย่ำงเหมำะสม กำร ปรับตัวให้ทนั กบั กำรเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภำพแวดล้อม และกำรรู้จักหลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ ที่สง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อนื่ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นควำมสำมำรถในกำรเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้ำนต่ำงๆ และ มีทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี เพ่ือกำรพัฒนำตนเองและสังคม ในด้ำนกำรเรียนรู้ กำรส่ือสำร กำรทำงำน กำรแกป้ ญั หำอย่ำงสร้ำงสรรค์ ถกู ต้อง เหมำะสม และมคี ุณธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์เชียงใหม่ พุทธศักรำช 2561 มงุ่ พัฒนำผู้เรียนให้มีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สำมำรถอยู่ร่วมกับผอู้ ืน่ ในสงั คมได้อย่ำงมคี วำมสุข ในฐำนะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังน้ี 1. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี นิ ยั 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อย่อู ยำ่ งพอเพยี ง 6. ม่งุ ม่ันในกำรทำงำน 7. รักควำมเป็นไทย 8. มจี ิตสำธำรณะ

7 หลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2556 หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลักสูตรระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพหลังมัธยมศึกษำตอนต้นหรือเทียบเท่ำด้ำนวิชำชีพท่ี สอดคล้องกับแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ แผนกำรศึกษำแห่งชำติ และประชำคมอำเซียนเพื่อผลิต และพัฒนำกำลังคนระดับฝีมือให้มีสมรรถนะ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชีพสำมำรถประกอบ อำชพี ได้ตรงตำมควำมตอ้ งกำรของสถำนประกอบกำรและกำรประกอบอำชีพอสิ ระ 2. เป็นหลกั สูตรที่เปิดโอกำสให้เลือกเรียนได้อย่ำงกว้ำงขวำง เน้นสมรรถนะเฉพำะด้ำนด้วยกำรปฏิบตั ิจริง สำมำรถเลือกวิธีกำรเรียนตำมศักยภำพและโอกำสของผู้เรียน เปิดโอกำสให้ผู้เรียนสำมำรถเทียบโอนผลกำรเรียน สะสมผลกำรเรียน เทียบควำมรู้และประสบกำรณ์จำกแหล่งวิทยำกำร สถำนประกอบกำรและสถำนประกอบ อำชีพอิสระ 3. เป็นหลักสูตรที่สนับสนุนกำรประสำนควำมร่วมมือในกำรจัดกำรศึกษำร่วมกันระหว่ำงหน่วยงำน และองค์กรที่เกยี่ วขอ้ ง ทงั้ ภำครัฐและเอกชน 4. เป็นหลักสูตรท่ีเปิดโอกำสให้สถำนศึกษำ สถำนประกอบกำร ชุมชนและท้องถิ่น มีส่วนร่วมในกำร พัฒนำหลักสูตรให้ตรงตำมควำมต้องกำรและสอดคล้องกับสภำพยุทธศำสตร์ของภูมิภำค เพื่อเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขนั ของประเทศ จุดหมายของหลกั สูตร 1. เพ่ือให้มีควำมรู้ ทักษะและประสบกำรณ์ในงำนอำชีพสอดคล้องกับมำตรฐำนวิชำชีพ สำมำรถนำ ควำมรู้ ทักษะและประสบกำรณ์ในงำนอำชีพไปปฏิบัติงำนอำชีพได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ เลือกวิถีกำรดำรงชีวิต กำรประกอบอำชพี ได้อย่ำงเหมำะสมกบั ตน สร้ำงสรรคค์ วำมเจรญิ ต่อชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ และประเทศชำติ 2. เพื่อให้เป็นผู้มีปญั ญำ มีควำมคดิ ริเร่ิมสร้ำงสรรค์ ใฝ่เรยี นรู้ เพื่อพฒั นำคุณภำพชีวิตและกำรประกอบ อำชีพ สำมำรถสรำ้ งอำชีพ มีทักษะในกำรจดั กำรและพฒั นำอำชีพให้กำ้ วหน้ำอย่เู สมอ 3. เพ่ือให้มีเจตคติที่ดีต่ออำชีพ มีควำมมั่นใจและภำคภูมิใจในวิชำชีพที่เรียน รักงำน รักหน่วยงำน สำมำรถทำงำนเป็นหมูค่ ณะได้ดี โดยมคี วำมเคำรพในสทิ ธแิ ละหน้ำท่ีของตนเองและผู้อืน่ 4. เพ่ือให้เป็นผมู้ ีพฤตกิ รรมทำงสังคมท่ีดีงำม ทั้งในกำรทำงำน กำรอยู่รว่ มกัน กำรต่อต้ำนควำมรุนแรง และสำรเสพติด มีควำมรับผิดชอบต่อครอบครัว หน่วยงำน ท้องถิ่นและประเทศชำติ อุทิศตนเพ่ือสังคม เข้ำใจ และเหน็ คุณค่ำของศลิ ปวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่นิ มจี ิตสำนึกดำ้ นปรัชญำ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง รจู้ กั ใชแ้ ละอนุรกั ษท์ รพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสร้ำงส่ิงแวดลอ้ มทดี่ ี 5. เพ่ือให้มีบคุ ลิกภำพท่ดี ี มมี นุษยสมั พันธ์ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และวนิ ยั ในตนเอง มีสขุ ภำพอนำมยั ที่ สมบูรณท์ งั้ ร่ำงกำยและจิตใจ เหมำะสมกบั งำนอำชพี 6. เพื่อให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในกำรแก้ไขปัญหำเศรษฐกิจ สังคม กำรเมืองของประเทศและโลกมี ควำมรักชำติ สำนึกในควำมเป็นไทย เสียสละเพ่ือส่วนรวม ดำรงรักษำไว้ซึ่งควำมมั่นคงของชำติศำสนำ พระมหำกษตั ริย์ และกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตรยิ เ์ ป็นประมขุ

8 หลักเกณฑก์ ารใชห้ ลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2556 1. การเรียนการสอน 1.1 กำรเรียนกำรสอนตำมหลักสูตรนี้ ผู้เรียนสำมำรถลงทะเบียนเรียนได้ทุกวิธีเรียนท่ีกำหนด และนำผลกำรเรียนแต่ละวิธีมำประเมินผลร่วมกันได้ สำมำรถเทียบโอนผลกำรเรียน และขอเทียบควำมรู้และ ประสบกำรณไ์ ด้ 1.2 กำรจัดกำรเรียนกำรสอนเน้นกำรปฏิบัติจริง สำมำรถจัดกำรเรียนกำรสอนได้หลำกหลำย รูปแบบ เพ่ือให้ผู้เรียนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในวิธีกำรและกำรดำเนินงำน มีทักษะกำรปฏิบัติงำนในขอบเขต สำคัญและบริบทต่ำง ๆ ที่สัมพันธ์กันซ่ึงส่วนใหญ่เป็นงำนประจำ สำมำรถประยุกต์ใช้ควำมรู้และทักษะไปสู่ บริบทใหม่ สำมำรถให้คำแนะนำ แก้ปัญหำเฉพำะด้ำนและรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อ่ืน มีส่วนร่วมใน คณะทำงำนหรือมีกำรประสำนงำนกลุ่ม รวมทั้งมคี ณุ ธรรม จริยธรรม จรรยำบรรณวิชำชพี เจตคตแิ ละกิจนิสยั ท่ี เหมำะสมในกำรทำงำน 2. การจดั การศึกษาและเวลาเรยี น กำรจัดกำรศึกษำในระบบปกติ ใช้ระยะเวลำ 3 ปีกำรศึกษำ กำรจดั เวลำเรยี นใหด้ ำเนนิ กำร ดังนี้ 2.1 ในปกี ำรศึกษำหน่ึงๆ ให้แบ่งภำคเรียนออกเปน็ 2 ภำคเรียนปกตหิ รอื ระบบทวิภำค ภำคเรยี น ละ 18 สัปดำห์ โดยมีเวลำเรียนและจำนวนหน่วยกิตตำมที่กำหนด และสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบัน อำจเปดิ สอนภำคเรยี นฤดูรอ้ นได้อีกตำมท่เี ห็นสมควร 2.2 กำรเรียนในระบบชั้นเรียน ให้สถำนศึกษำอำชวี ศึกษำหรือสถำบัน เปิดทำกำรสอนไม่น้อยกว่ำ สปั ดำหล์ ะ 5 วันๆ ละไมเ่ กิน 7 ชัว่ โมง โดยกำหนดให้จดั กำรเรียนกำรสอนคำบละ 60 นำที 3. หน่วยกติ ให้มีจำนวนหน่วยกติ ตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกว่ำ 1 0 3 หนว่ ยกติ กำรคิดหนว่ ยกติ ถือเกณฑ์ดังนี้ 3.1 รำยวิชำทฤษฎที ่ีใชเ้ วลำบรรยำยหรอื อภปิ รำย ไมน่ อ้ ยกว่ำ 18 ชัว่ โมง เทำ่ กบั 1 หน่วยกิต 3.2 รำยวิชำปฏิบัติท่ีใช้เวลำในกำรทดลองหรือฝึกปฏิบัติในห้องปฏิบตั ิกำร ไม่นอ้ ยกว่ำ 36 ช่ัวโมง เทำ่ กบั 1 หน่วยกติ 3.3 รำยวิชำปฏิบัติที่ใช้เวลำในกำรฝึกปฏิบัติในโรงฝึกงำนหรือภำคสนำม ไม่น้อยกว่ำ 54 ช่ัวโมง เท่ำกบั 1 หน่วยกติ 3.4 รำยวิชำท่ใี ช้ในกำรศึกษำระบบทวภิ ำคี ไมน่ อ้ ยกว่ำ 54 ชัว่ โมง เทำ่ กับ 1 หน่วยกิต 3.5 กำรฝึกประสบกำรณ์ทักษะวิชำชีพในสถำนประกอบกำรหรือแหล่งวิทยำกำร ไม่น้อยกว่ำ 320 ชั่วโมง เทำ่ กบั 4 หน่วยกติ 3.6 กำรทำโครงกำรพัฒนำทกั ษะวชิ ำชพี ไมน่ อ้ ยกว่ำ 54 ชัว่ โมง เท่ำกับ 1 หน่วยกิต

9 4. โครงสรา้ ง โครงสร้ำงของหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 แบ่งเป็น 3 หมวดวิชำ และ กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร ดังนี้ 4.1 หมวดวชิ ำทักษะชีวิต 4.1.1 กลมุ่ วชิ ำภำษำไทย 4.1.2 กลุ่มวิชำภำษำต่ำงประเทศ 4.1.3 กลมุ่ วชิ ำวทิ ยำศำสตร์ 4.1.4 กลุ่มวิชำคณิตศำสตร์ 4.1.5 กลุม่ วชิ ำสงั คมศึกษำ 4.1.6 กลมุ่ วชิ ำสุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ 4.2 หมวดวชิ ำทกั ษะวิชำชพี 4.2.1 กล่มุ ทักษะวชิ ำชพี พืน้ ฐำน 4.2.2 กล่มุ ทกั ษะวชิ ำชีพเฉพำะ 4.2.3 กลมุ่ ทกั ษะวิชำชพี เลือก 4.2.4 ฝกึ ประสบกำรณท์ ักษะวชิ ำชีพ 4.2.5 โครงกำรพัฒนำทักษะวิชำชพี 4.3 หมวดวิชำเลอื กเสรี 4.4 กิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร จำนวนหน่วยกติ ของแตล่ ะหมวดวิชำตลอดหลักสูตร ใหเ้ ปน็ ไปตำมท่ีกำหนดไวใ้ นโครงสรำ้ งของแตล่ ะ ประเภทวิชำและสำขำวิชำ รำยวิชำแต่ละหมวดวิชำ สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถจัดตำมท่ี กำหนดไว้ในหลักสูตร และหรือพัฒนำได้ตำมควำมเหมำะสมของภูมิภำคตำมยุทธศำสตร์ เพื่อเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของประเทศ ทงั้ นี้ สถำนศึกษำอำชีวศกึ ษำหรือสถำบันต้องกำหนดรหัสวิชำ จำนวน หนว่ ยกิตและจำนวนชว่ั โมงเรียนตำมที่กำหนดไวใ้ นหลักสตู ร 5. การฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพ เป็นกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้โดยควำมร่วมมือระหว่ำงสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันกับภำค กำรผลิตและหรือภำคบริกำร หลังจำกท่ีผู้เรียนได้เรียนรู้ภำคทฤษฎีและกำรฝึกหัดหรือฝึกปฏิบัติเบ้ืองต้นใน สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันแล้วระยะเวลำหนึ่ง ท้ังนี้ เพ่ือเปิดโอกำสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จำก ประสบกำรณ์จริง ได้สัมผัสกับกำรปฏิบัติงำนอำชีพ เคร่ืองมือเครื่องจักร อุปกรณ์ท่ีทันสมัยและบรรยำกำศกำร ทำงำนร่วมกัน สง่ เสรมิ กำรฝึกทักษะ กระบวนกำรคิด กำรจัดกำร กำรเผชิญสถำนกำรณ์ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนทำ ได้ คิดเป็น ทำเป็นและเกิดกำรใฝ่รูอ้ ย่ำงต่อเนื่อง ตลอดจนเกิดควำมมั่นใจและเจตคติที่ดีในกำรทำงำนและกำร ประกอบอำชีพอิสระ โดยกำรจัดฝึกประสบกำรณท์ ักษะวิชำชพี ต้องดำเนินกำร ดังน้ี 5.1 สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องจัดให้มีกำรฝึกประสบกำรณ์ทักษะวิชำชีพ ในรูปของ กำรฝึกงำนในสถำนประกอบกำร แหล่งวิทยำกำร รัฐวิสำหกิจหรือหน่วยงำนของรัฐโดยใช้เวลำรวมไม่น้อยกว่ำ 320 ช่ัวโมง กำหนดให้มีค่ำเท่ำกับ 4 หน่วยกิต กรณีสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องกำรเพ่ิมพูน ประสบกำรณ์ทักษะวิชำชีพ สำมำรถนำรำยวิชำในหมวดวิชำทักษะวิชำชีพท่ีตรงหรือสมั พันธ์กับลักษณะงำนไป เรียนหรอื ฝึกในสถำนประกอบกำร รัฐวิสำหกิจหรือหน่วยงำนของรฐั ได้ โดยใชเ้ วลำรวมกับกำรฝึกประสบกำรณ์ ทักษะวชิ ำชพี ไม่น้อยกวำ่ 1 ภำคเรยี น 5.2 กำรตดั สินผลกำรเรยี นและใหร้ ะดับผลกำรเรยี น ใหป้ ฏิบตั เิ ช่นเดียวกบั รำยวิชำอ่ืน

10 6. โครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ เป็นรำยวิชำท่ีเปิดโอกำสใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษำค้นคว้ำ บูรณำกำรควำมรู้ ทักษะและประสบกำรณ์จำกส่ิง ที่ได้เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตำมควำมถนัดและควำมสนใจ ตั้งแต่กำรเลือกหัวข้อหรือเรื่องที่จะศึกษำ ค้นคว้ำ กำรวำงแผน กำรกำหนดข้ันตอนกำรดำเนินกำร กำรดำเนนิ งำน กำรประเมินผลและกำรจดั ทำรำยงำน ซ่ึงอำจทำเป็นรำยบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ ทงั้ นี้ ขน้ึ อยู่กบั ลักษณะของโครงกำรนั้นๆ โดยกำรจัดทำโครงกำรดงั กลำ่ ว ต้องดำเนนิ กำรดงั น้ี 6.1 สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องจัดให้ผู้เรียนจัดทำโครงกำรพัฒนำทักษะวิชำชีพที่ สัมพันธ์หรือสอดคล้องกบั สำขำวิชำ ในภำคเรียนท่ี 5 และหรือภำคเรียนท่ี 6 รวมจำนวน4 หน่วยกิต ใช้เวลำไม่ น้อยกว่ำ 216 ช่ัวโมง ทั้งนี้ สถำนศกึ ษำอำชีวศกึ ษำหรือสถำบนั ต้องจัดใหม้ ีชั่วโมงเรียน 4 ชั่วโมง ต่อสัปดำห์ กรณีที่ใช้รำยวิชำเดียว หำกจัดใหม้ ีโครงกำรพัฒนำ ทกั ษะวิชำชพี 2 รำยวชิ ำ คือ โครงกำร 1 และโครงกำร 2 ใหส้ ถำนศึกษำอำชีวศกึ ษำหรือสถำบันจดั ให้มีชั่วโมง เรยี นตอ่ สปั ดำห์ ทเ่ี ทยี บเคยี งกบั เกณฑด์ งั กล่ำวข้ำงต้น 6.2 กำรตดั สนิ ผลกำรเรียนและให้ระดับผลกำรเรียน ใหป้ ฏิบตั ิเช่นเดียวกับรำยวชิ ำอ่ืน 7. การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นรูปแบบกำรจัดกำรศึกษำที่เกิดจำกข้อตกลงร่วมกันระหว่ำงสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบัน กบั สถำนประกอบกำร รฐั วิสำหกิจ หรือหนว่ ยงำนของรัฐ โดยผู้เรยี นใชเ้ วลำส่วนหน่ึงในสถำนศึกษำอำชวี ศึกษำ หรือสถำบัน และเรียนภำคปฏิบัติในสถำนประกอบกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐเพื่อให้กำรจัด กำรศึกษำระบบทวิภำคีสำมำรถเพ่ิมขีดควำมสำมำรถด้ำนกำรผลิตและพัฒนำกำลังคนตำมจุดหมำยของ หลักสูตร กำรจัดกำรศึกษำระบบทวภิ ำคี โดยนำรำยวิชำทวิภำคีในกลุ่มทักษะวชิ ำชีพเลือกไปกำหนดรำยละเอียด ของรำยวิชำและเวลำท่ีใช้ฝึก จัดทำแผนฝึกอำชีพ กำรวัดและกำรประเมินผลในแต่ละรำยวิชำให้สอดคล้องกับ ลักษณะงำนของสถำนประกอบกำร รฐั วสิ ำหกิจ หรือหน่วยงำนของรฐั ทั้งนี้ อำจนำรำยวิชำชีพอนื่ ในหมวดวิชำ ทกั ษะวิชำชีพไปจดั รว่ มดว้ ยกไ็ ด้ 8. การเข้าเรียน ผู้เข้ำเรียนต้องสำเร็จกำรศึกษำไม่ต่ำกว่ำระดับมัธยมศึกษำปีที่ 3 หรือเทียบเท่ำ และมีคุณสมบัติ เป็นไปตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำและกำรประเมินผลกำรเรียนตำมหลักสูตร ประกำศนียบัตรวิชำชพี พ.ศ. 2556 9. การประเมินผลการเรียน เน้นกำรประเมินสภำพจริง ทั้งน้ี ให้เปน็ ไปตำมระเบยี บกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำ และกำรประเมนิ ผลกำรเรยี นตำมหลักสตู รประกำศนียบตั รวิชำชีพ พ.ศ. 2556 10. กิจกรรมเสรมิ หลกั สตู ร 10.1 สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องจัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรไม่น้อยกว่ำ 2 ช่ัวโมง ตอ่ สัปดำห์ทุกภำคเรียน เพ่ือพัฒนำวิชำกำรและวิชำชีพ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม ระเบียบวินัย กำร ต่อต้ำนควำมรุนแรงและสำรเสพติด ส่งเสริมกำรคิด วิเครำะห์สร้ำงสรรค์กำรทำงำน ปลูกฝังจิตสำนึกและ เสริมสร้ำงกำรเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลกใชก้ ระบวนกำรกลุ่มในกำรทำประโยชน์ตอ่ ชุมชนและท้องถน่ิ รวมทั้ง กำรทะนุบำรุงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงำม โดยกำรวำงแผน ลงมือปฏิบัติ ประเมินผล และปรับปรุง กำร ทำงำน ทง้ั นี้ สำหรบั นักเรยี นอำชวี ศึกษำระบบทวภิ ำคี ให้เข้ำรว่ มกิจกรรมท่สี ถำนประกอบกำรจดั ขึ้น

11 10.2 กำรประเมินผลกิจกรรมเสริมหลักสูตร ให้เป็นไปตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำรว่ำด้วย กำรจัดกำรศึกษำและกำรประเมนิ ผลกำรเรยี นตำมหลักสตู รประกำศนยี บัตรวชิ ำชพี พ.ศ. 2556 11. การสาเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตร 11.1 ประเมินผ่ำนรำยวิชำในหมวดวิชำทักษะชีวิต หมวดวิชำทักษะวิชำชีพ และหมวดวิชำเลือก เสรีตำมทกี่ ำหนดไว้ในหลกั สตู ร 11.2 ได้จำนวนหน่วยกติ สะสมครบตำมโครงสร้ำงของหลกั สูตร 11.3 ได้คำ่ ระดบั คะแนนเฉล่ียสะสมไม่ต่ำกว่ำ 2.00 และผำ่ นกำรประเมินมำตรฐำนวิชำชีพ 11.4 เข้ำรว่ มกจิ กรรมและประเมินผำ่ นทุกภำคเรยี น 12. การพัฒนารายวชิ าในหลักสตู ร 12.1 หมวดวิชำทักษะชีวิต สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถพัฒนำรำยวิชำเพ่ิมเตมิ ใน แต่ละกลุ่มวิชำของหมวดวิชำทักษะชีวิต ในลักษณะจำแนกเป็นรำยวิชำหรือลักษณะบูรณำกำรใดๆ ก็ได้ โดย ผสมผสำนเน้ือหำวิชำท่ีครอบคลุมสำระของกลุ่มวิชำภำษำไทย กลุ่มวิชำภำษำต่ำงประเทศ กลุ่มวิชำ วิทยำศำสตร์ กลุ่มวชิ ำคณิตศำสตร์ กลุ่มวชิ ำสงั คมศกึ ษำ กลุ่มวิชำสุขศึกษำและพลศึกษำ ในสดั ส่วนท่เี หมำะสม โดยพิจำรณำจำกมำตรฐำนกำรเรยี นรขู้ องกลุ่มวิชำนัน้ ๆ เพอ่ื ให้บรรลุจดุ ประสงคข์ องหมวดวิชำทกั ษะชีวติ 12.2 หมวดวิชำทักษะวิชำชีพ สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถปรับปรุงรำยละเอียด ของรำยวิชำในกลุ่มทักษะวิชำชีพเฉพำะ และหรือพัฒนำรำยวิชำเพ่ิมเติม ในกลุ่มทักษะวิชำชีพเลือกได้ โดย พิจำรณำจำกจุดประสงค์สำขำวิชำและมำตรฐำนกำรศึกษำวิชำชีพสำขำวิชำ ตลอดจนควำมต้องกำรของสถำน ประกอบกำรหรอื สภำพยุทธศำสตร์ของภมู ิภำคเพ่ือเพิ่มขดี ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขันของประเทศ 12.3 หมวดวิชำเลือกเสรี สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถพัฒนำรำยวิชำเพ่ิมเติมได้ ตำมควำมต้องกำรของสถำนประกอบกำร ชุมชน ท้องถิ่น หรือสภำพยุทธศำสตร์ของภูมิภำคเพ่ือเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของประเทศ และหรือเพื่อกำรศึกษำตอ่ ทั้งน้ี กำรกำหนดรหัสวิชำ จำนวนหน่วยกิต และจำนวนชั่วโมงเรียนให้เปน็ ไปตำมทห่ี ลกั สูตรกำหนด 13. การปรับปรงุ แกไ้ ข พัฒนารายวิชา กลุม่ วิชาและการอนมุ ัติหลักสูตร 13.1 กำรพัฒนำหลักสูตรหรือกำรปรับปรุงสำระสำคัญของหลักสูตรตำมมำตรฐำนคุณวุฒิ อำชีวศึกษำระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ ให้เป็นหน้ำที่ของสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ สถำบัน กำรอำชีวศกึ ษำ หรือสถำนศึกษำ โดยควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศึกษำ 13.2 กำรอนมุ ัตหิ ลกั สตู ร ให้เป็นหน้ำทขี่ องสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศกึ ษำ 13.3 กำรประกำศใชห้ ลกั สูตรใหท้ ำเปน็ ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร 13.4 กำรพัฒนำรำยวิชำหรือกลุ่มวิชำเพิ่มเติม สถำบันกำรอำชีวศึกษำหรือสถำนศึกษำสำมำรถ ดำเนนิ กำรได้ โดยตอ้ งรำยงำนใหส้ ำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศกึ ษำทรำบ 14. การประกันคณุ ภาพหลักสูตร ให้ทกุ หลกั สูตรกำหนดระบบประกนั คุณภำพไว้ให้ชดั เจน อย่ำงนอ้ ยประกอบด้วย 4 ประเดน็ คอื 14.1 คุณภำพของผู้สำเรจ็ กำรศึกษำ 14.2 กำรบรหิ ำรหลักสตู ร 14.3 ทรัพยำกรกำรจดั กำรอำชีวศกึ ษำ 14.4 ควำมตอ้ งกำรกำลังคนของตลำดแรงงำน ให้สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ สถำบันกำรอำชีวศึกษำและสถำนศึกษำจัดให้มี กำร ประเมนิ เพอื่ พัฒนำหลักสูตรท่ีอยู่ในควำมรบั ผดิ ชอบอย่ำงต่อเนื่อง อย่ำงน้อยทกุ 5 ปี

12 หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว สาขาวชิ าการโรงแรม สาขางานการโรงแรม จดุ ประสงคส์ าขาวชิ า 1. เพ่ือให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะด้าน ภาษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาในการพฒั นาตนเองและวชิ าชีพ 2. เพื่อให้มีความรู้และทักษะในหลักการบริหารและจัดการวิชาชีพ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ หลักการการอาชีพที่สัมพันธ์เก่ียวข้องกับการพัฒนาวิชาชีพ การโรงแรมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และความ กา้ วหน้าของเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี 3. เพือ่ ให้มคี วามรู้และทักษะในหลักการและกระบวนการงานพนื้ ฐานที่เก่ียวข้องกับ อาชพี การ โรงแรม 4. เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการบริการทางการโรงแรม ตามหลักการและกระบวนการในลักษณะ ครบวงจรเชงิ ธรุ กิจ โดยคานึงถึงการใชท้ รัพยากรอยา่ งคุม้ คา่ การอนุรกั ษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 5. เพอื่ ให้สามารถปฏิบัตงิ านด้านการ โรงแรมในสถานประกอบการและประกอบอาชีพอิสระ ใช้ความรู้ และทักษะพืน้ ฐานในการศึกษาต่อระดบั สงู ข้ึน 6. เพ่ือใหส้ ามารถเลือก/ ใช้/ ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีในงานการโรงแรม 7. เพ่อื ให้มีเจตคติและกจิ นิสัยท่ีดีต่องานอาชีพ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ซ่ือสัตย์ ประหยัด อดทน มีวินัย มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ต่อต้านความรุนแรงและสารเสพติด สามารถ พัฒนาตนเองแล ะ ทางานร่วมกบั ผ้อู ่ืน

13 มาตรฐานการศกึ ษาวชิ าชีพ คุณภาพของผู้สาเร็จการศึกษาระดับคุณวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชา อุตสาหกรรมท่องเท่ยี ว สาขาวิชาการโรงแรม สาขางานการโรงแรม ประกอบด้วย 1. ด้านคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1.1 คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ได้แก่ ความเสียสละ ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญู กตเวที ความอดกลั้น การละเว้นส่ิงเสพติดและการพนัน การมีจิตส านึกและเจตคติทดี่ ี ต่อวชิ าชพี และสงั คม เป็นตน้ 1.2 พฤติกรรมลักษณะนิสัย ได้แก่ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความมีมนุษยสัมพันธ์ ความ เชื่อม่ัน ในตนเอง ความรกั สามัคคี ความขยนั ประหยดั อดทน การพ่งึ ตนเอง เป็นต้น 1.3 ทักษะทางปัญญา ได้แก่ ความรู้ในหลักทฤษฎี ความสนใจใฝ่รู้ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ เปน็ ตน้ 2. ด้านสมรรถนะหลักและสมรรถนะทว่ั ไป 2.1 ส่อื สารโดยใช้ภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศในชีวิตประจาวนั และในงานอาชีพ 2.2 แกไ้ ขปญั หาในงานอาชพี โดยใชห้ ลักการและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 2.3 ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนา วัฒนธรรม ค่านิยม คุณธรรม จรยิ ธรรมทางสังคมและสทิ ธหิ นา้ ท่ี พลเมอื ง 2.4 พัฒนาบุคลกิ ภาพและสขุ อนามัยโดยใช้หลกั การและกระบวนการด้านสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 3. ด้านสมรรถนะวชิ าชีพ 3.1 วางแผน ดาเนินงาน จัดการงานอาชีพตามหลักการและกระบวนการ โดยคานึงถึง การบริหารงาน คณุ ภาพ การอนรุ ักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม หลกั อาชีวอนามัยและ ความปลอดภัย 3.2 ใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอื่ การอาชีพ 3.3 ปฏิบตั ิงานพื้นฐานอาชีพตามหลักและกระบวนการ 3.4. ใช้หลกั การและกระบวนการของการเป็นผูบ้ ริการในงานโรงแรม 3.5 ประยกุ ตค์ วามรดู้ า้ นศลิ ปวฒั นธรรมไทยและวฒั นธรรมของนกั ทอ่ งเท่ียวในงานโรงแรม 3.6 ปฏิบัติงานตามมาตรฐานงานส่วนหน้าโรงแรม งานแม่บ้านโรงแรม งานครัวโรงแรม และงาน บรกิ ารอาหารและเครอื่ งดม่ื 3.7 ตดิ ตามความกา้ วหน้าทางวชิ าชีพและเทคโนโลยี และนามาพฒั นางานโรงแรมให้มีประสิทธิภาพ และทันสมัย 3.8 ส่อื สารดว้ ยภาษาตา่ งประเทศในการบริการงานโรงแรม

14 โครงสรา้ งหลกั สูตรโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ พทุ ธศักราช 2556 (ปรับปรุง 2561) หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี พุทธศกั ราช 2556 ประเภทวิชาอตุ สาหกรรมทอ่ งเทยี่ ว สาขาวิชาการโรงแรม สาขางานการโรงแรม ผูส้ ำเรจ็ กำรศึกษำตำมหลกั สตู รประกำศนียบัตรวิชำชพี พุทธศักรำช 2556 ประเภทวชิ ำอตุ สำหกรรมท่องเทย่ี ว สำขำวชิ ำกำรโรงแรม สำขำงำนกำรโรงแรม จะต้องศึกษำรำยวชิ ำจำกหมวดวชิ ำต่ำงๆ รวมไม่นอ้ ยกว่ำ 103 หน่วยกิต และเขำ้ ร่วมกจิ กรรมเสริมหลักสูตร ดังโครงสร้ำงต่อไปนี้ 1.หมวดวิชาทักษะชีวติ ไม่นอ้ ยกว่า 22 หนว่ ยกิต (ไมน่ ้อยกว่ำ 3 หนว่ ยกติ ) 1.1 กลมุ่ วชิ ำภำษำไทย (ไม่น้อยกว่ำ 6 หน่วยกติ ) 1.2 กลมุ่ วิชำภำษำต่ำงประเทศ (ไม่น้อยกวำ่ 4 หน่วยกติ ) 1.3 กลุ่มวชิ ำวทิ ยำศำสตร์ (ไมน่ ้อยกว่ำ 4 หนว่ ยกิต) 1.4 กลุม่ วิชำคณิตศำสตร์ (ไมน่ ้อยกวำ่ 3 หน่วยกิต) 1.5 กลุ่มวิชำสงั คมศึกษำ (ไม่น้อยกว่ำ 2 หนว่ ยกติ ) 1.6 กล่มุ วิชำสขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ 2. หมวดวิชาทกั ษะวชิ าชพี ไมน่ อ้ ยกวา่ 71 หน่วยกิต (18 หนว่ ยกติ ) 2.1 กลมุ่ ทกั ษะวิชำชีพพืน้ ฐำน (24 หน่วยกิต) 2.2 กลุ่มทกั ษะวชิ ำชพี เฉพำะ (ไม่น้อยกวำ่ 21 หนว่ ยกติ ) 2.3 กลมุ่ ทกั ษะวชิ ำชพี เลือก (4 หนว่ ยกิต) 2.4 ฝกึ ประสบกำรณ์ทักษะวิชำชพี (4 หนว่ ยกติ ) 2.5 โครงกำรพัฒนำทกั ษะวชิ ำชพี 3. หมวดวชิ าเลอื กเสรี ไมน่ ้อยกว่า 10 หน่วยกติ 4. กิจกรรมเสริมหลกั สูตร ( 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ) รวมไมน่ ้อยกวา่ 103 หนว่ ยกิต

15 1. หมวดวิชาทักษะชีวติ ไมน่ ้อยกว่า 22 หน่วยกติ ใหเ้ รียนรำยวชิ ำลำดับแรกของกลุม่ วิชำหรอื ตำมทีก่ ลุม่ วิชำกำหนด และเลอื กเรยี นรำยวชิ ำสว่ นทเ่ี หลือ ตำมท่กี ำหนดในแต่ละกลมุ่ วิชำ ใหส้ อดคล้องหรือสัมพนั ธก์ ับสำขำวชิ ำที่เรียนอกี รวมไม่นอ้ ยกว่ำ 22 หน่วยกิต 1.1 กลุม่ วิชาภาษาไทย (ไม่นอ้ ยกวา่ 3 หน่วยกติ ) รหัสวิชำ ชื่อวิชำ ท-ป-น 2000-1101 ภำษำไทยพืน้ ฐำน 2-0-2 2000-1106 ภำษำไทยเชงิ สร้ำงสรรค์ 1-0–1 1.2 กลมุ่ วิชาภาษาต่างประเทศ (ไมน่ ้อยกวา่ 6 หน่วยกิต) รหัสวชิ ำ ชอ่ื วชิ ำ ท-ป-น 2000-1201 ภำษำอังกฤษในชีวติ จรงิ 1 2-0-2 2000-1202 ภำษำองั กฤษในชีวติ จริง 2 2-0-2 2000-1205 กำรอำ่ นสื่อสง่ิ พิมพใ์ นชีวติ ประจำวัน 0-2-1 2000-1206 กำรเขยี นในชีวิตประจำวัน 0-2-1 1.3 กลมุ่ วิชาวิทยาศาสตร์ (ไมน่ ้อยกว่า 4 หน่วยกิต) รหสั วิชำ ชื่อวชิ ำ ท-ป-น 2000-1301 วทิ ยำศำสตรเ์ พ่ือพัฒนำทักษะชีวิต 1-2-2 2000-1303 วิทยำศำสตร์เพื่อพฒั นำอำชีพธุรกจิ และบริกำร 1 - 2 - 2 1.4 กลุม่ วิชาคณติ ศาสตร์ (ไม่น้อยกวา่ 4 หนว่ ยกติ ) รหสั วชิ ำ ชอื่ วิชำ ท-ป-น 2000-1401 คณิตศำสตร์พน้ื ฐำน 2-0-2 2000-1406 คณติ ศำสตร์พำณิชยกรรม 2-0-2 1.5 กลมุ่ วิชาสงั คมศกึ ษา (ไมน่ ้อยกว่า 3 หน่วยกติ ) รหสั วิชำ ชื่อวชิ ำ ท-ป-น 2000-1501 หน้ำทพี่ ลเมืองและศีลธรรม 2-0-2 2000-1507 ประวัติศำสตร์ชำติไทย 2-0-2 1.6 กลมุ่ วิชาสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (ไม่น้อยกวา่ 2 หน่วยกิต) ใหเ้ ลอื กเรียนรำยวิชำในกลุ่มสุขศึกษำและกลุ่มพลศึกษำรวมกันไม่น้อยกว่ำ 2 หนว่ ยกิต หรอื เลอื กเรียนรำยวชิ ำในกลุม่ บรู ณำกำร 1.6.1 กลมุ่ พลศึกษำ รหสั วิชำ ชื่อวชิ ำ ท-ป-น 2000-1603 กำรออกกำลังกำยเพ่ือเสรมิ สร้ำงสมรรถภำพในกำรทำงำน 0 - 2 - 1 1.6.2 กลมุ่ สุขศกึ ษำ รหสั วิชำ ช่ือวิชำ ท-ป-น 2000-1606 กำรจัดระเบยี บชีวติ เพ่อื ควำมสุข 1-0–1 หมายเหตุ รำยวชิ ำในหมวดทกั ษะชีวิต เป็นรำยวิชำที่เทียบโอนจำกรำยวชิ ำในหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้นั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551

16 2. หมวดวิชาทักษะวชิ าชพี ไม่นอ้ ยกวา่ 71 หน่วยกิต 2.1 กลุ่มทกั ษะวิชาชีพพ้ืนฐาน (18 หน่วยกิต) ให้เรยี นรายวิชาตอ่ ไปน้ี รหสั วิชำ ช่อื วิชำ ท-ป-น ง30206 2001-1001 ควำมรู้เกยี่ วกับงำนอำชีพ 2-0-2 ง30210 2001-2001 คอมพิวเตอรแ์ ละสำรสนเทศเพือ่ งำนอำชีพ 1 - 2 - 2 ง30296 2700-1001 อตุ สำหกรรมท่องเทีย่ ว 1-2-2 ส30213 2700-1002 ศิลปวฒั นธรรมไทย 1-2-2 ง30278 2700-1003 ศลิ ปะกำรใหบ้ ริกำร 1-2-2 ง30275 2700-1004 พฤตกิ รรมนักท่องเทีย่ ว 2-0-2 ง30259 2700-1005 เครือ่ งใชส้ ำนกั งำนในงำนอตุ สำหกรรมท่องเทยี่ ว 1 - 2 - 2 ง30274 2700-1006 กำรตลำดเพ่ืออุตสำหกรรมท่องเท่ยี ว 2-0-2 ง30272 2700-1007 ธุรกิจโรงแรม 2-0–2 2.2 กลุ่มทักษะวิชาชีพเฉพาะ (24 หนว่ ยกติ ) ให้เรียนรายวิชาต่อไปนี้ รหสั วชิ ำ ชอื่ วชิ ำ ท-ป-น ง30260 2701-2001 ควำมปลอดภยั ในโรงแรม 2-0-2 ง30220 2701-2002 กำรพฒั นำบคุ ลิกภำพ 1-2–2 ง30284 2701-2003 งำนครัวโรงแรม 2-2-3 ง30271 2701-2004 งำนแม่บำ้ นโรงแรม 2-2-3 ง30285 2701-2005 งำนบริกำรอำหำรและเครื่องดื่ม 2-2-3 ง30289 2701-2006 ภัตตำคำรและกำรจัดเลีย้ ง 2-2-3 ง30287 2701-2007 เครอ่ื งดมื่ และกำรผสมเครือ่ งด่ืม 1-2-2 ง30273 2701-2008 งำนส่วนหน้ำโรงแรม 1-2-2 ง30297 2701-2009 คอมพิวเตอร์ในงำนโรงแรม 1-2-2 อ30231 2701-2010 ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรโรงแรม 1-2-2 2.3 กลมุ่ ทักษะวชิ าชพี เลือก (ไม่นอ้ ยกว่า 21 หนว่ ยกติ ) ใหเ้ รียนรำยวชิ ำลำดับที่ 1-6 และเลอื กเรยี นรำยวชิ ำท่ีเหลือ รวมไมน่ ้อยกวำ่ 21 หนว่ ยกติ สำขำงำนกำรโรงแรม รหสั วิชำ ชื่อวิชำ ท-ป–น ง30276 2701-2107 เอกสำรงำนโรงแรมและกำรเขียนรำยงำน 2 - 0 - 2 ง30279 2701-2110 ศลิ ปะกำรจัดตกแตง่ อำหำร 1-2-2 ง30291 2701-2111 โภชนำกำรและอนำมัยอำหำร 2-0-2 ง30290 2701-2112 กำรจดั แสดงอำหำร 1-2-2 ง30286 2701-2113 เคร่อื งดมื่ เพื่อสุขภำพ 1-2-2 ง30283 2701-2120 กำรจดั ดอกไม้ 2-2-3 ง30281 2701-2121 กำรจัดประชุม 2-2-3 ง30270 2701-2122 กำรจัดตกแต่งสถำนท่ี 2-2-3 ง30280 2701-2123 กำรจดั นทิ รรศกำร 1-2–2

17 2.4 ฝกึ ประสบการณ์ทักษะวิชาชพี ( 4 หนว่ ยกิต 320 ชวั่ โมง ) ท-ป–น รหัสวชิ ำ ช่อื วชิ ำ *-*-4 ง30298 2204-8001 ฝึกงำน ท-ป–น 2.5 โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ ( 4 หน่วยกิต ) *-*-4 รหสั วิชำ ชือ่ วชิ ำ ง30294 2204-8501 โครงกำร 3. หมวดวชิ าเลอื กเสรี ไมน่ ้อยกว่า 10 หน่วยกิต ให้เลอื กเรยี นตำมควำมถนดั และควำมสนใจจำกรำยวิชำ ทีก่ ำหนดหรอื เลือกเรยี นจำกรำยวิชำใน หลักสตู ร ประกำศนียบัตรวชิ ำชพี พุทธศักรำช 2556 ทุกประเภทวิชำและสำขำวชิ ำ ทัง้ นสี้ ถำนศึกษำ อำชวี ศึกษำหรือสถำบนั สำมำรถพัฒนำรำยวิชำเพ่ิมเติมในหมวดวิชำเลอื กเสรไี ดต้ ำมบริบทและควำมต้องกำร ของชมุ ชนและท้องถน่ิ รหัสวชิ ำ ช่อื วิชำ ท - ป –น ง30288 2701-2109 แกะสลักผกั และผลไม้ 2-2–3 ง30293 2701-2106 กำรพัสดโุ รงแรม 2-0-2 ง30277 2701-2118 งำนซกั รีด 1-2-2 ง30292 2701-2115 อำหำรเพื่อสขุ ภำพ 2-2-3 4. กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร (2 ช่วั โมงต่อสัปดาห์) สถำนศกึ ษำต้องจดั ใหม้ ีกจิ กรรมเสริมหลักสูตรไมน่ ้อยกวำ่ 2 ชั่วโมงตอ่ สปั ดำห์ รหัสวชิ ำ ชื่อวิชำ ท - ป- น 2000-2001 กิจกรรมลกู เสือวสิ ำมัญ 1 0-2-0 2000-2002 กจิ กรรมลูกเสือวสิ ำมญั 2 0-2-0 2000-2003 กิจกรรมองค์กำรวชิ ำชพี 1 0-2-0 2000-2004 กจิ กรรมองค์กำรวิชำชีพ 2 0-2-0 2000-2005 กิจกรรมองค์กำรวชิ ำชีพ 3 0-2-0 2000-2006 กิจกรรมองค์กำรวิชำชีพ 4 0-2-0 2000*2001 ถึง 2000*20XX กจิ กรรมนักศกึ ษำวชิ ำทหำร 0 - 2 - 0 / กจิ กรรมท่สี ถำนศึกษำ / หรอื สถำนประกอบกำรจดั

18 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ หลกั สูตรประกำศนียบตั รวชิ ำชีพ พุทธศกั รำช 2556 หมวดวิชำทักษะชีวิต ( ไมน่ อ้ ยกว่ำ 22 หนว่ ยกิต ) กลุม่ วชิ ำภำษำไทย 2-0-2 (ไมน่ อ้ ยกว่ำ 3 หนว่ ยกติ ) 1-0-1 กลุม่ วิชำภำษำไทย 2000-1101 ภาษาไทยพ้ืนฐาน 2000-1106 ภาษาไทยเชงิ สร้างสรรค์

19 ภาษาไทยพนื้ ฐาน คำอธิบำยรำยวิชำ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หนว่ ยกติ รหสั รายวชิ า สอศ. 2000-1101 ศึกษาเก่ียวกับ การรับสารและการส่งสารด้วยภาษาไทย การใช้ถ้อยคา สานวน ระดับภาษา การฟัง การดูและการอ่านข่าว บทความ สารคดี โฆษณา บันเทิงคดี วรรณกรรมหรือภูมิปัญญา ท้องถ่ินด้านภาษาจากสื่อสิ่งพิมพ์และส่ืออิเล็กทรอนิกส์ การพูดในโอกาสต่างๆ ตามมารยาทของสังคม การกล่าวทักทาย แนะนาตนเองและผู้อื่นตอบรับและปฏิเสธ แสดงความยินดี แสดงความเสียใจ การ พูดติดต่อกิจธุระ พูดสรุปความ พูดแสดงความคิดเห็นการเขียนข้อความติดต่อกิจธุระ เขียนสะกดคา สรุปความ อธิบาย บรรยาย การกรอกแบบฟอร์ม เขียนประวัติย่อเขียนรายงานเชิงวิชาการและเขียน โครงการ จดุ ประสงคร์ ำยวชิ ำ เพื่อให้ 1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในการใช้ภาษาไทย 2. สามารถเลือกใชภ้ าษาไทยไดถ้ กู ต้องตามหลกั การใช้ภาษา เหมาะสมกับบคุ คล กาลเทศะ โอกาส และสถานการณ์ 3. สามารถนา ความรู้และทักษะการฟงั การดู การพูด การอา่ น และการเขียนไปใช้สื่อสาร ในชีวิตประจาวนั ถกู ต้องตามหลกั การ 4. เหน็ คุณคา่ และความสาคญั ของการใชภ้ าษาไทย รวมทั้งส้นิ 4 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาไทยในการฟัง การดู การพดู การอา่ น และการเขยี น 2. วิเคราะห์ ประเมนิ ค่าสารจากการฟัง การดู การอ่านตามหลักการ 3. พูดติดต่อกจิ ธุระ พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ตามหลกั การและมารยาทของสงั คม 4. เขยี นขอ้ ความติดต่อกจิ ธรุ ะ เขยี นรายงานเชงิ วิชาการ และเขยี นโครงการตามหลักการ

20 คำอธิบำยรำยวิชำ ภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 เวลา 1 ช่วั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ท-ป-น 1 - 0 - 1 รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1106 วิชาบังคับกอ่ น : 2000-1101 ภาษาไทยพ้ืนฐาน ศึกษาเกี่ยวกบั การใช้ภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ การเรียบเรยี งถ้อยคา สานวน โวหาร การพูด- เล่าเร่ืองการอธิบาย บรรยาย การพูดโน้มน้าว การนาเสนอผลงาน การเขียนสรุปความ เขียนนิทาน สารคดี บทความปกณิ กะ เขยี นแสดงความคดิ เห็นและแสดงความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ เขียนบทร้อยกรอง โฆษณา ประชาสมั พนั ธใ์ นงานอาชีพ จดุ ประสงค์รำยวิชำ เพ่ือให้ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการใชภ้ าษาไทยเชงิ สร้างสรรค์ 2. สามารถเลือกใช้ภาษาไทยในการพูดและการเขียนเชงิ สร้างสรรค์ตามหลกั การ 3. สามารถใช้ทักษะการใช้ภาษาไทยพฒั นาตนเองและงานอาชพี 4. เหน็ คณุ ค่าความสาคัญของการใชภ้ าษาไทย รวมท้ังสนิ้ 4 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการใช้ถอ้ ยคา สานวน โวหาร 2. พดู เชิงสรา้ งสรรค์ตามรูปแบบและหลักการพดู 3. เขยี นเชิงสร้างสรรค์ตามรูปแบบและหลกั การเขยี น

21 2-0-2 2-0-2 กลุ่มวชิ ำภำษำต่ำงประเทศ 0-2–1 (ไมน่ ้อยกว่ำ 6 หนว่ ยกติ ) 0–2-1 กลุ่มวชิ ำภำษำตำ่ งประเทศ 2000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ 1 2000-1202 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จริง 2 2000-1205 การอ่านส่อื สิง่ พิมพใ์ นชวี ิตประจาวัน 2000-1206 การเขยี นในชวี ิตประจาวัน

22 อ30227 ภาษาองั กฤษในชีวิตจรงิ 1 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ชวั่ โมง จานวน 2.0 หน่วยกิต รหัสรายวชิ า สอศ. 2000-1201 ศึกษาเกี่ยวกับ การฟัง-ดู พูด อ่าน เขียน การฟังคาสั่ง เร่ืองราว การสนทนาโต้ตอบใน สถานการณ์ต่างๆ หรือท่ีกาหนดเก่ียวกบั ครอบครัว การศึกษา งานอดิเรก สุขภาพ การสนทนาเรอื่ งใน อดีต ปัจจุบันและอนาคตเทศกาลทางวัฒนธรรม การอ่านเรื่องท่ัวไป ข้อความส้ันๆ ท่ีพบใน ชีวิตประจาวันจากสื่อส่ิงพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การเขียนข้อความส้ันๆ การใช้พจนานุกรม และ online dictionary การใช้ภาษาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศเป็นแหล่งเรียนรู้หรือฝึกฝนกับเพ่ือนเพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้วยตนเอง การสืบค้น ขอ้ มูลจากแหลง่ การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย จุดประสงคร์ ำยวิชำ เพ่อื ให้ 1. สามารถใชภ้ าษาอังกฤษฟัง ดู พดู อา่ นและเขียนตามสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจาวัน 2. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและใชภ้ าษาตามมารยาทสงั คม 3. ตระหนกั และเห็นประโยชนข์ องการใช้ภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวนั และการศึกษาต่อ รวมท้ังส้ิน 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ฟัง – ดู บทสนทนา เรือ่ งราว คาสง่ั ต่างๆ ในชีวิตประจาวนั จากสือ่ โสตทศั น์ 2. สนทนาโต้ตอบไดต้ รงตามวัตถุประสงคข์ องการสื่อสารตามสถานการณ์ตา่ งๆ ใน ชีวิตประจาวนั 3. อา่ นเร่ืองท่วั ไปในชวี ิตประจาวัน 4. เขยี นให้ข้อมูลเก่ยี วกับตนเองในชวี ิตประจาวัน 5. ใช้ภาษาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาในสถานการณต์ า่ งๆ 6. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสืบค้นและฝึกฝนการฟัง พดู อา่ นและเขยี น พรอ้ มแสดง หลักฐาน การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

23 คำอธบิ ำยรำยวิชำ อ30228 ภาษาองั กฤษในชวี ิตจรงิ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 เวลา 4 ชว่ั โมง จานวน 2.0 หนว่ ยกติ ท-ป-น 2 - 0 - 2 รหัสรายวชิ า สอศ. 2000-1202 วิชาบงั คบั ก่อน : 2000-1201 ภาษาอังกฤษในชีวิตจรงิ 1 ศึกษาเกี่ยวกับ การฟัง-ดู พูด อ่าน เขียน การฟัง-ดูเรื่องราวต่างๆ บันเทิงคดีจากส่ือโสตทัศน์ การสนทนาโต้ตอบในสถานการณ์ต่างๆ ที่กาหนดเก่ยี วกบั การเดินทาง ท่องเท่ยี ว การบอกทิศทาง การ บอกตาแหน่งที่ตั้ง สงิ่ บันเทิง การซื้อ ขาย การต้อนรับ การสนทนาทางโทรศัพท์ การปฏิบัติตามคาส่ัง ขน้ั ตอนการปฏิบัตกิ ารอา่ นเรื่องท่ัวไป ข้อความ กาหนดการ ปา้ ยประกาศต่างๆ ท่ีพบในชีวิตประจาวัน จากสื่อสิ่งพิมพ์ และส่ืออิเล็กทรอนิกส์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ การใช้ ภาษาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นแหล่ง เรียนรู้หรือฝึกฝนกับเพื่อนเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้วยตนเอง การสืบคน้ ข้อมลู จากแหลง่ การเรียนรู้ ท่ีหลากหลาย จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพือ่ ให้ 1. สามารถใช้ภาษาอังกฤษฟัง ดู พูด อา่ นและเขียน ตามสถานการณต์ า่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน 2. มีความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและใช้ภาษาตามมารยาทสังคม 3. ตระหนักและเหน็ ประโยชนข์ องการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวัน และการศึกษาต่อ รวมทั้งสนิ้ 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ฟัง – ดู เรื่องราว บนั เทงิ คดี ขา่ วสัน้ ๆ ในชวี ติ ประจาวันจากส่อื โสตทัศน์ 2. สนทนาโต้ตอบสถานการณ์ต่างๆในชวี ติ ประจาวันและสถานประกอบการ 3. อา่ นเรือ่ งทัว่ ไป กาหนดการ ป้ายต่างๆ ในชวี ิตประจาวนั จากสื่อส่ิงพมิ พ์และส่ือ อิเลก็ ทรอนิกส์ 4. เขียนใหข้ อ้ มูล กรอกแบบฟอร์มตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวัน 5. ใช้ภาษาตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาในสถานการณ์ตา่ งๆ 6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื ค้นและฝึกฝนการฟงั พูด อ่านและเขียน พร้อมแสดงหลักฐาน การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

24 คำอธิบำยรำยวิชำ อ30232 การอ่านส่อื ส่งิ พมิ พ์ในชวี ิตประจาวนั กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 เวลา 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หน่วยกติ ท-ป-น 0 - 2 - 1 รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1205 ปฏิบตั ิเกี่ยวกับ การอา่ นเร่อื งต่างๆ ทพี่ บในชวี ิตประจาวันจากส่อื สิ่งพิมพ์ สารคดี บันเทงิ คดี หนังสอื พมิ พ์โฆษณา แผน่ พบั แผ่นปลิว โปสการ์ด ประกาศ ฉลาก ป้ายประกาศ ป้ายเตือน เครอ่ื งหมาย สัญลักษณ์ ตารางแผนภาพ แผนภูมิ รายการสินคา้ ประกาศรับสมัครงาน กาหนดการ ระเบียบการ บนั ทึกสัน้ ๆ การเลือกใชส้ ื่อเทคโนโลยเี ปน็ แหลง่ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การสืบค้นขอ้ มูล จากแหลง่ การเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย จุดประสงค์รำยวชิ ำ เพ่อื ให้ 1. สามารถอา่ นสื่อสง่ิ พิมพ์ชนิดต่างๆ ในชีวติ ประจาวนั 2. ตระหนกั และเหน็ ประโยชนข์ องการอา่ นภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวันและการศึกษาตอ่ รวมทั้งสน้ิ 2 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. อา่ นหนังสอื พิมพ์ แผน่ พบั แผ่นปลวิ โฆษณา โปสการด์ จากส่อื ส่งิ พมิ พ์ต่างๆ ใน ชวี ิตประจาวัน 2. อา่ นประกาศ ฉลาก ปา้ ยประกาศ ป้ายเตอื น เคร่อื งหมาย สญั ลักษณ์จากสถานท่ตี ่างๆ 3. อ่านตาราง แผนภาพ แผนภูมิ 4. อ่านเอกสารทางการคา้ 5. อ่านประกาศรับสมัครงาน ระเบียบการ 6. อ่านกาหนดการ บนั ทึกสน้ั ๆ 7. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสืบคน้ และฝึกฝนการอ่านพร้อมแสดงหลกั ฐานการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง

25 การเขียนในชีวติ ประจาวนั คำอธบิ ำยรำยวิชำ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ท-ป-น 0 - 2 - 1 เวลา 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หน่วยกิต รหัสรายวชิ า สอศ. 2000-1206 ปฏิบัติเก่ียวกับ การเขียนโต้ตอบทางสังคม การเขียนข้อมูลบุคคล ขอ้ ความสั้นๆ บันทึกย่อ/ จดหมายส่วนตัว การเขียนบัตรอวยพร บัตรอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ในโอกาสต่างๆ จดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ การเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนาทักษะการเขียน การแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากแหล่งการเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย จดุ ประสงค์รำยวชิ ำ เพือ่ ให้ 1. สามารถเขยี นภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั 2. ตระหนักและเห็นประโยชนข์ องการใช้ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวันและการศกึ ษาต่อ รวมทั้งสิ้น 2 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. เขียนข้อมลู บุคคล 2. เขยี นบนั ทึกย่อ ข้อความสั้นๆ 3. เขียนอวยพรเทศกาลตา่ งๆ 4. เขยี นจดหมายสว่ นตัว จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 5. กรอกแบบฟอรม์ ชนดิ ต่างๆ 6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการเขียนพรอ้ มแสดงหลกั ฐานการเรยี นรู้ดว้ ย ตนเอง

26 1-2-2 1-2-2 กลมุ่ วชิ ำวิทยำศำสตร์ (ไมน่ ้อยกวำ่ 4 หนว่ ยกิต) กลมุ่ วิชำวทิ ยำศำสตร์ 2000-1301 วทิ ยาศาสตร์เพ่ือพัฒนาทกั ษะชวี ติ 2000-1303 วิทยาศาสตรเ์ พ่ือพฒั นาอาชพี ธุรกิจและบริการ

27 วิทยาศาสตรเ์ พื่อพัฒนาทักษะชวี ิต คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ท-ป-น 1 - 2 - 2 เวลา 4 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หน่วยกติ รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1301 ศกึ ษาและปฏิบัติเกย่ี วกบั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ หน่วยและการวดั แรงและ การเคลอ่ื นท่ไี ฟฟ้าในชวี ติ ประจาวนั นาโนเทคโนโลยี โครงสร้างอะตอมและตารางธาตุ พนั ธะเคมี สาร และการเปลี่ยนแปลงปฏกิ ริ ิยาเคมีในชีวติ ประจาวนั การรกั ษาดุลยภาพของสง่ิ มชี ีวิตและระบบนเิ วศ จุดประสงคร์ ำยวิชำ เพอื่ ให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหน่วยและการวัด แรงและการเคลื่อนที่ ไฟฟ้า อะตอมและ ธาตุ สารและปฏิกิรยิ าเคมี การรกั ษาดุลยภาพของสง่ิ มีชีวติ และระบบนิเวศ 2. มีทักษะเก่ียวกับการใช้เคร่ืองมือวัด ปริมาณทางฟิสิกส์ การทดลองแหล่งกาเนิดไฟฟ้า วงจรไฟฟา้ การคานวณคา่ ไฟฟา้ การทดลองปฏกิ ริ ยิ าเคมีในชวี ติ ประจาวันและงานอาชีพ 3. มเี จตคตทิ ี่ดตี ่อวิชาวิทยาศาสตร์ และกจิ นิสัยทด่ี ใี นการทางาน รวมท้ังสน้ิ 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรแู้ ละปฏิบัติเก่ียวกบั ปริมาณทางฟสิ ิกส์ แรงและการเคลอ่ื นท่ี 2. แสดงความรแู้ ละปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ไฟฟ้าในชวี ิตประจาวนั 3. แสดงความรแู้ ละปฏบิ ัตเิ กี่ยวกับสารเคมแี ละการเปล่ยี นแปลงทางเคมี 4. แสดงความรแู้ ละปฏบิ ัตเิ กี่ยวกบั ส่งิ มีชวี ิตและระบบนเิ วศ 5. แสดงความรู้เบ้ืองตน้ เก่ยี วกบั นาโนเทคโนโลยี

28 คำอธิบำยรำยวชิ ำ วทิ ยาศาสตรเ์ พื่อพฒั นาอาชีพธรุ กิจและบริการ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 4 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หน่วยกติ ท-ป-น 1 - 2 - 2 รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1303 ศึกษาและปฏบิ ตั ิเกยี่ วกับ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม ความหลากหลายทางชวี ภาพ เทคโนโลยชี ีวภาพ จลุ ินทรยี ใ์ นอาหาร ปิโตรเลียมและผลิตภณั ฑ์ ยางและพอลเิ มอร์ สารชวี โมเลกุลใน อาหาร คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า พลงั งานนวิ เคลียรต์ ่อการดารงชีวิต จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพ่ือให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ จุลินทรีย์ในอาหาร ปิโตรเลียมและผลติ ภัณฑ์ ยางและพอลิเมอร์ สารชวี โมเลกุลในอาหาร คลน่ื แม่เหล็ก ไฟฟา้ พลงั งานนวิ เคลยี ร์ 2. มีทักษะการคานวณหาโอกาสของลักษณะการถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม การจาแนกสิง่ มชี วี ิต การทดลองจุลินทรีย์ในอาหาร การเลือกใชเ้ ทคโนโลยีชีวภาพ การทดลองสมบัติของสารไฮโดรคาร์บอน การทดสอบสมบัติทางกายภาพของพอลิเมอร์ การทดสอบสารชีวโมเลกุลในอาหาร การวิเคราะห์ผล ของคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้าต่อมนุษย์ และพลังงานนวิ เคลยี ร์ 3. มีเจตคตทิ ่ีดตี ่อวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละกจิ นิสัยท่ดี ีในการทางาน รวมทั้งสน้ิ 3 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรแู้ ละปฏิบตั เิ กีย่ วกับหลกั การทางพันธุกรรม เทคโนโลยีชวี ภาพและจุลนิ ทรีย์ ในอาหาร 2. แสดงความรู้และปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับปิโตรเคมีและผลติ ภณั ฑ์ 3. แสดงความร้แู ละปฏิบัตเิ ก่ียวกับสารชีวโมเลกุลของอาหาร 4. แสดงความรู้และปฏิบตั ิเก่ียวกบั คลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า 5. แสดงความรแู้ ละปฏบิ ตั ิเก่ียวกับหลักการของพลงั งานนิวเคลยี ร์

29 2-0-2 2-0-2 กลมุ่ วิชำคณติ ศำสตร์ ( ไม่น้อยกว่ำ 4 หน่วยกิต) กลุ่มวชิ ำคณติ ศำสตร์ 2000-1401 คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน 2000-1406 คณติ ศาสตร์พาณชิ ยกรรม

30 คณิตศาสตร์พื้นฐาน คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หนว่ ยกติ รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1401 ศึกษาเก่ียวกับ ทักษะการคิดคานวณ การแก้ปัญหาเรื่องอัตราส่วน สัดส่วน ร้อยละ การแปรผัน สถิติเบ้ืองต้น การวดั แนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง การวัดการกระจายของข้อมูล และฝึกปฏิบัติในการเลือกใช้ คา่ สถิติท่เี หมาะสมกับข้อมูล จุดประสงค์รำยวชิ ำ เพื่อให้ 1. มคี วามร้คู วามเข้าใจ เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน รอ้ ยละ การแปรผัน สถติ เิ บอื้ งตน้ การวดั แนวโนม้ เขา้ สู่สว่ นกลาง และการวดั การกระจายของข้อมลู 2. มีทักษะกระบวนการคดิ และนาวธิ ีการแก้ปัญหาเรอ่ื ง อัตราส่วน สดั สว่ น ร้อยละ การแปรผัน สถิตเิ บอื้ งตน้ การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง การวัดการกระจายของข้อมูล ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั 3. มีเจตคตทิ ่ีดีในการเรียนรู้ อตั ราส่วน สัดส่วน ร้อยละ การแปรผนั สถติ เิ บอ้ื งต้น การวดั แนวโน้ม เขา้ สสู่ ่วนกลาง และการวดั การกระจายของข้อมูล รวมทั้งสน้ิ 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ดาเนนิ การและประยกุ ต์ใช้เกี่ยวกับอตั ราสว่ น สดั สว่ น และร้อยละในวชิ าชพี 2. ดาเนนิ การและประยุกต์ใช้เก่ยี วกับการแปรผันในวชิ าชีพ 3. สารวจและจัดหมวดหมขู่ ้อมลู อย่างง่าย 4. เลือกใช้ค่ากลางของข้อมลู ทีเ่ หมาะสมกบั ข้อมลู ท่กี าหนด 5. วิเคราะหต์ าแหน่งของขอ้ มูล และการวัดการกระจายของข้อมลู จากข้อมูลท่ีกาหนด 6. ใช้ขอ้ มูลข่าวสาร ค่าสถิติ และค่าสถติ ิที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์ข้อมูลในการตดั สนิ ใจ

31 ค30201 คณติ ศาสตรพ์ าณิชยกรรม คำอธิบำยรำยวชิ ำ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 2.0 หนว่ ยกติ รหสั รายวชิ า สอศ. 2000-1406 ศกึ ษาเก่ยี วกับ ทกั ษะการคิดคานวณ แก้ปญั หาเรื่องบาเหนจ็ หนุ้ ตว๋ั เงนิ ค่าจา้ ง ค่าเสอ่ื ม ราคา ดัชนีราคาต้งั ราคาขาย การซื้อขายในระบบผอ่ นชาระ ดอกเบ้ีย และความนา่ จะเปน็ เบอ้ื งต้น ผลกำรเรียนรู้ 1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจ เกดิ ความคดิ รวบยอดเกี่ยวกับ บาเหนจ็ หนุ้ ตว๋ั เงิน คา่ จา้ ง คา่ เสอ่ื ม ราคา ดชั นีราคาตัง้ ราคาขาย การซอ้ื ขายในระบบผอ่ นชาระ ดอกเบย้ี และความน่าจะเปน็ เบอื้ งตน้ 2. มีทักษะกระบวนการคิดและนาวิธีการแก้ปัญหาเรื่องบาเหน็จ หุ้น ตั๋วเงิน ค่าจ้าง ค่าเส่ือม ราคา ดัชนีราคา ต้ังราคาขาย การซ้ือขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบ้ีย และความน่าจะเป็นเบ้ืองต้น ประยกุ ตใ์ ช้ในวชิ าชพี 3. มีเจตคติที่ดีในการเรียนรู้ บาเหน็จ หุ้น ตั๋วเงิน ค่าจ้าง ค่าเส่ือมราคา ดัชนีราคา ต้ังราคาขาย การซ้ือขายในระบบผอ่ นชาระ ดอกเบ้ีย และความนา่ จะเป็นเบอื้ งตน้ รวมทั้งสิ้น 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ประยกุ ต์ใช้เก่ียวกบั อตั ราส่วน สัดสว่ น และร้อยละ ในการคานวณ บาเหนจ็ หุ้น ตวั๋ เงนิ คา่ จา้ ง คา่ เส่ือมราคา ดชั นรี าคา ต้ังราคาขาย การซื้อขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบยี้ 2. ดาเนนิ การความนา่ จะเป็นเบอื้ งต้น และนาผลไปใชใ้ นการคาดการณ์ 3. นาความรเู้ กีย่ วกบั ความน่าจะเปน็ ใช้ในการตัดสินใจและแกป้ ัญหา

32 2-0-2 1-0-1 กลุ่มวิชำสังคมศกึ ษำ ( ไมน่ ้อยกวำ่ 3 หนว่ ยกิต) กล่มุ วิชำสงั คมศกึ ษำ 2000-1501 หน้าทพี่ ลเมืองและศลี ธรรม 2000-1507 ประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย

33 หน้าทีพ่ ลเมืองและศลี ธรรม คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษาฯ ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 2.0 หน่วยกิต รหสั รายวชิ า สอศ. 2000-1501 ศึกษาเกี่ยวกับ ศาสนา หลักธรรม ศาสนพิธีของศาสนาท่ตี นนับถือ การเปน็ พลเมืองดตี าม หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หน้าท่ีพลเมืองตามหลักกฎหมาย และการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพ่ือให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับศาสนาและหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือเพื่อการ ดารงชีวติ 2. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ศาสนิกชนท่ีดีตามหลักศาสนาและหลกั ธรรมที่ตนนบั ถือ 3. ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามหลกั กฏหมายและการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 4. น้อมนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยกุ ต์ใชใ้ นการพัฒนาตนและงานอาชีพ 5. ตระหนกั ถึงการดารงชีวิตท่ีถกู ต้องดงี ามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมืองดี รวมท้ังสิ้น 5 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับศาสนาและหลักธรรมเพอื่ การดารงชีวติ ท่ถี ูกตอ้ งดงี าม 2. แสดงความรเู้ กีย่ วกับหลักกฎหมายและปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพือ่ การพัฒนาตน 3. นาหลักศาสนา หลักธรรม หลักกฎหมาย และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมา ประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื การเป็นพลเมืองดี

34 ประวัติศาสตร์ชาติไทย คำอธิบำยรำยวชิ ำ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาฯ ท-ป-น 2 - 0 - 1 เวลา 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หน่วยกิต รหสั รายวิชา สอศ. 2000-1507 ศึกษาเกี่ยวกับ ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจไทย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ วิธีการศึกษา ประวตั ิศาสตร์ ประวัติศาสตรช์ าติไทย และสถาบันสาคญั ของชาตเิ พ่ือธารงความเปน็ ไทยอย่างย่ังยนื จุดประสงค์รำยวชิ ำ เพอ่ื ให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ประเทศไทย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ วิธีการ ศึกษาประวตั ิศาสตรแ์ ละประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย 2. สามารถประยุกต์ใชค้ วามรเู้ รือ่ งภมู ิศาสตร์และประวัติศาสตร์ในงานอาชีพและการดารงชีวติ 3. ตระหนักในความสาคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อธารงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมท้ังส้ิน 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความร้เู ก่ียวกบั ภมู ิศาสตร์ประเทศไทย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ วิธกี ารศึกษา ประวัติศาสตรแ์ ละประวตั ิศาสตร์ชาติไทย 2. รวบรวมสารสนเทศทางภมู ิศาสตรแ์ ละประวตั ิศาสตร์ตามหลกั การและกระบวนการ 3. นาความรทู้ างภมู ศิ าสตร์และประวตั ศิ าสตร์ไปประยุกต์ใช้ เพ่ือการดารงตนในงานอาชพี และธารงความเป็นไทยอยา่ งยั่งยืน

35 กลุ่มวิชำสขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ 0-2-1 ( ไมน่ อ้ ยกวำ่ 2 หน่วยกิต) 1-0-1 กลุ่มวิชำสขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ กลุ่มพลศึกษำ 2000-1603 การออกกาลงั กายเพือ่ เสริมสร้างสมรรถภาพในการทางาน กลมุ่ สขุ ศึกษำ 2000-1606 การจัดระเบียบชีวติ เพ่ือความสขุ

36 คำอธิบำยรำยวิชำ การออกกาลังกายเพ่ือเสริมสรา้ งสมรรถภาพในการทางาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เวลา 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ท-ป-น 0 - 2 - 1 รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1603 ปฏิบัติเก่ียวกับ กิจกรรมการเรยี นร้เู ก่ียวกับหลกั การและรปู แบบการออกกาลงั กาย กลไกของ ร่างกายการเล่นกีฬาไทย กีฬาสากล หรือกิจกรรมนันทนาการ และการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ให้สามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติโครงงานการออกกาลังกายด้วยกิจกรรมที่เหมาะสม สาหรับตนเองเพือ่ พฒั นาสมรรถภาพทางกายให้เปน็ ไปตามเปา้ หมายพร้อมทจ่ี ะประกอบอาชพี ได้อย่าง มปี ระสทิ ธิภาพ จุดประสงค์รำยวิชำ เพอื่ ให้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับหลักการและรูปแบบในการออกกาลังกาย และการเสริมสร้าง สมรรถภาพทางกาย 2. สามารถพฒั นาสมรรถภาพทางกาย ใหพ้ ร้อมที่จะประกอบอาชีพได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 3. ใหต้ ระหนกั ถึงคุณค่าของการออกกาลังกายและการเล่นกีฬาเปน็ ประจา รวมทั้งส้นิ 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความร้เู กยี่ วกบั หลักการและรูปแบบของการออกกาลงั กาย 2. ประยกุ ต์การออกกาลงั กายเพื่อพฒั นาสมรรถภาพทางกาย 3. ออกกาลงั กายเพ่ือพฒั นาความสมบูรณข์ องรา่ งกายและจิตใจ 4. ปฏิบตั ิโครงงานเกย่ี วกบั การออกกาลังกาย

37 การจดั ระเบยี บชีวติ เพือ่ ความสุข คำอธิบำยรำยวิชำ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาพลศึกษา ท-ป-น 1 - 0 - 1 เวลา 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หน่วยกติ รหัสรายวชิ า สอศ. 2000-1606 ศึกษาเกี่ยวกับ สุขบัญญัติแห่งชาติเพ่ือการเสริมสร้างสุขภาพของตนเองและครอบครัวเพ่ือ ป้องกันผลกระทบจากการขาดการออกกาลังกายและการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม โรคติดต่อ และโรคไม่ติดต่อพฤติกรรมทางเพศที่ส่งผลต่อสุขภาวะทางเพศและโรคเอดส์โดยคานึงถึงบริบทของ สังคม การหลีกเลี่ยงและป้องกันอันตรายจากสิ่งเสพติดและอุบัติเหตุ ปฏิบัติการปฐมพยาบาลจาก อันตรายในชวี ติ ประจาวัน การเตรียมการเพื่อรบั มอื กับภัยธรรมชาติและภยั พิบตั ิ การใช้ยา สารเสพติด ส่ือและความรุนแรง การใช้ระบบบริการสุขภาพเพื่อนาไปสู่การสร้างเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพ ชีวติ ด้วยวิถชี วี ิตทพี่ อเพยี ง จดุ ประสงค์รำยวชิ ำ เพื่อให้ 1. เขา้ ใจในหลกั การ กระบวนการและวางแผนส่งเสริมสุขภาพตามพัฒนาการของตนเอง และครอบครวั 2. สามารถป้องกันและหลีกเล่ียงปจั จยั เสยี่ งตอ่ สขุ ภาพ อบุ ตั ิเหตุ ภยั ธรรมชาติ การใชย้ า สารเสพติด สื่อและความรนุ แรง 3. สามารถเลือกใชร้ ะบบบริการสุขภาพ 4. มีทักษะการปฐมพยาบาล 5. ตระหนักในแนวทางการดาเนินชวี ิตท่เี หมาะสมและปลอดภยั รวมทั้งส้ิน 5 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกบั หลักการ กระบวนการ และวางแผนสง่ เสริมสขุ ภาพ 2. วเิ คราะห์ปัจจยั เสย่ี งต่อสขุ ภาพ 3. วางแผนปอ้ งกนั อนั ตรายจาก อบุ ตั ิเหตุ ภัยธรรมชาติ การใชย้ า สารเสพติด สือ่ และความรนุ แรง 4. ปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นตามหลักการและกระบวนการ 5. ปฏบิ ัตโิ ครงงานเพ่ือสง่ เสริมสขุ ภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตและสง่ิ แวดล้อม

38 หมวดวิชำทักษะวชิ ำชีพ หลักสูตรประกำศนยี บัตรวิชำชพี พทุ ธศกั รำช 2556 กลมุ่ ทกั ษะวิชำชีพพ้ืนฐำน วิชำชพี พ้นื ฐำน (18 หน่วยกติ ) รหสั วิชา ชือ่ วิชา ท-ป-น ง30206 2001-1001 ความรเู้ กี่ยวกบั งานอาชีพ 2-0-2 ง30210 2001-2001 คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ 1 - 2 - 2 ง30296 2700-1001 อุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว 1-2-2 ส30213 2700-1002 ศลิ ปวัฒนธรรมไทย 1-2-2 ง30278 2700-1003 ศลิ ปะการใหบ้ ริการ 1-2-2 ง30275 2700-1004 พฤตกิ รรมนกั ท่องเท่ียว 2-0-2 ง30259 2700-1005 เครื่องใช้สานกั งานในงานอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว 1 - 2 - 2 ง30274 2700-1006 การตลาดเพ่ืออุตสาหกรรมท่องเท่ียว 2-0-2 ง30272 2700-1007 ธรุ กิจโรงแรม 2-0–2

39 ง30206 ควำมรู้เกย่ี วกับงำนอำชพี คำอธิบำยรำยวิชำ ชั้นมธั ยมศึกษำปีที่ 4-6 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ท-ป-น 2-0-2 จำนวน 2.0 หน่วยกิต รหัสรำยวิชำ สอศ. 2001-1001 ศึกษาเกย่ี วกบั มาตรฐานอาชพี องค์กรและการบริหารงานในองคก์ ร หลกั การปฏิบัติตนในงาน อาชีพ หลักการบริหารงานคณุ ภาพ สงิ่ แวดล้อมและความปลอดภัยในการทางาน สามารถประยุกตใ์ ช้ ความรู้เกี่ยวกับงานอาชีพเพ่ือการพัฒนาตนและงานอาชีพ มีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพและหลักการ บริหารงานใหม้ คี ุณภาพและประสทิ ธิภาพ ผลกำรเรียนรู้ 1. เข้าใจเกยี่ วกบั มาตรฐานอาชพี องคก์ รและการบริหารงานในองคก์ ร หลักการปฏิบตั ติ นในงาน อาชีพ หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพ สง่ิ แวดลอ้ มและความปลอดภยั ในการทางาน 2. สามารถประยุกต์ใชค้ วามรเู้ ก่ียวกับงานอาชีพเพอ่ื การพัฒนาตนและงานอาชีพ 3. มเี จตคตทิ ี่ดีต่องานอาชพี และหลักการบริหารงานใหม้ ีคณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับมาตรฐานอาชีพ องค์กรและการบริหารงานในองค์กร หลกั การปฏิบตั ิตน ในงานอาชีพ หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ส่งิ แวดล้อมและความปลอดภยั ในการทางาน 2. ประยุกต์ใชค้ วามรเู้ กย่ี วกับงานอาชีพเพ่ือการพฒั นาตน องคก์ รและงานอาชพี 3. ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การบริหารงานงานคณุ ภาพ สงิ่ แวดล้อมและความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ านอาชีพ

40 คำอธิบำยรำยวชิ ำ ง30210 คอมพิวเตอร์และสำรสนเทศเพอ่ื งำนอำชีพ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 4-6 จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ ท-ป-น 1-2-3 รหัสรำยวชิ ำ สอศ. 2001-2001 ศกึ ษาและปฏิบัติการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพเบ้ืองต้น การติดตั้ง เคร่ืองคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้างและระบบปฏิบัติการ การใช้โปรแกรมประมวลคาจัดทาเอกสาร เพ่ืองานอาชีพโดยเน้นการพิมพ์เอกสารด้วยระบบสัมผัสและตรวจแก้ไขความถูกต้อง การใช้โปรแกรม ตารางทาการเพื่องานอาชีพโดยเน้นการคานวณ เช่น ต้นทุน ราคาสินค้า บัญชีรายการวัสดุ ฯลฯ การ ใช้โปรแกรมการนาเสนองาน เน้นการสร้างกราฟและตารางและสร้างภาพเคลื่อนไหว การใช้ อินเทอร์เน็ตสืบค้นข้อมูลเพื่องานอาชีพและการรับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ จริยธรรมและความ รบั ผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ ผลกำรเรยี นรู้ 1. มีความเขา้ ใจหลกั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี การใชโ้ ปรแกรมสาหรับงาน สานกั งาน การใชอ้ ินเทอร์เน็ตและไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์ 2. มคี วามสามารถใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ติดต้ังอปุ กรณ์รอบข้าง และระบบปฏิบตั ิการของคอมพวิ เตอร์ จัดทาเอกสาร ตารางทาการ และนาเสนอ ผลงาน สืบคน้ ข้อมูล โดยใช้อินเทอร์เน็ต และรับส่งไปรษณยี อ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ 3. มีจริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ มีกิจนิสัยใน การทางานอยา่ งเปน็ ระบบ ด้วยความอดทน ประณีตรอบคอบและปลอดภยั รวมทั้งหมด 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ตดิ ต้ังเครื่องคอมพิวเตอรต์ ามคมู่ ือ 2. จดั ทาเอกสารเพื่องานอาชีพดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา 3. สร้างตารางทาการเพ่ืองานอาชีพด้วยโปรแกรมตารางทาการ 4. สรา้ งสไลด์นาเสนอผลงานด้วยโปรแกรมการนาเสนอ 5. สบื คน้ ข้อมลู ดว้ ยอนิ เทอร์เน็ตและรับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

41 ง30296 อตุ สำหกรรมท่องเท่ียว คำอธิบำยรำยวิชำ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 4-6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ท-ป-น 1-2-3 จำนวน 2.0 หน่วยกิต รหสั รำยวิชำ สอศ. 2700-1001 ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับอุตสาหกรรมท่องเท่ียว ความหมาย ความสาคัญ และผลกระทบ ของอตุ สาหกรรมท่องเทย่ี วต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง องค์ประกอบของอตุ สาหกรรมทอ่ งเท่ียว บริษัทนาเท่ียว ตัวแทนการท่องเท่ียว ธุรกิจโรงแรมและที่พักอื่นๆ ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจการจาหน่าย สินค้าท่ีระลึก ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร ธุรกิจสถานบันเทิงและธุรกิจบริการอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้อง ทรัพยากรการท่องเทีย่ ว ปัจจยั สนับสนนุ ของอตุ สาหกรรมท่องเท่ียว ฝกึ ปฏิบัติกิจกรรมท่ีส่งเสริมด้าน อุตสาหกรรมทอ่ งเทย่ี ว มีเจตคติทด่ี ตี อ่ งานบริการและวิชาชพี อตุ สาหกรรมท่องเทีย่ ว ผลกำรเรียนรู้ 1. มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการเบ้ืองต้นพื้นฐานงานอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว องค์ประกอบ 2. ปัจจัยสนบั สนุนและผลกระทบของอตุ สาหกรรมท่องเท่ียวต่อเศรษฐกิจ สงั คมและการเมอื ง 3. มีทกั ษะในการปฏิบัติงานกิจกรรมส่งเสรมิ การอาชพี อตุ สาหกรรมท่องเท่ยี ว 4. มีเจตคตทิ ีด่ ตี ่องานบริการและวิชาชีพอุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยว รวมทั้งสิน้ 4 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลักการและพน้ื ฐานงานอตุ สาหกรรมท่องเทีย่ ว และผลกระทบของ อุตสาหกรรมท่องเทย่ี วตอ่ เศรษฐกิจ สังคมและการเมอื ง 2. ประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับหลักการและพ้ืนฐานงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในการ ปฏบิ ัติงานการท่องเทยี่ ว 3. ประสานงานและปฏบิ ัติกจิ กรรมทีส่ ง่ เสริมด้านอุตสาหกรรมทอ่ งเทยี่ วตามลกั ษณะการอาชีพ

42 ส30213 ศลิ ปวัฒนธรรมไทย คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 4-6 กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ท-ป-น 1-2-3 จำนวน 2.0 หน่วยกติ รหสั รำยวิชำ สอศ. 2700-1002 ศึกษาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย ศิลปกรรมไทย วิถีชีวิตของคนไทยประยุกต์ใช้ ศิลปและวฒั นธรรมไทยในการส่งเสริมการท่องเทีย่ วและปฏิบัตเิ ก่ียวกบั วิวัฒนาการของวัฒนธรรมไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต ค่านิยมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ความรู้เก่ียวกับ ศิลปกรรมไทย การศกึ ษานอกสถานท่ี และมีจิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ผลกำรเรยี นรู้ 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับวฒั นธรรมไทย ศลิ ปกรรมไทย วิถีชีวติ ของคนไทย 2. ประยกุ ตใ์ ชศ้ ลิ ปและวฒั นธรรมไทยในการสง่ เสริมการท่องเท่ียว 3. มจี ติ สานกึ ในการอนุรักษศ์ ิลปวฒั นธรรมไทย สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั ศิลปวัฒนธรรมไทย ศลิ ปกรรมไทย วิถีชีวติ ของคนไทย 2. ประยุกตใ์ ช้ความร้เู กีย่ วกับศลิ ปวัฒนธรรมไทยในการปฏิบตั ิงานบรกิ ารท่องเทย่ี ว 3. ปฏิบตั งิ านบรกิ ารทอ่ งเที่ยวบนพืน้ ฐานการสง่ เสรมิ และการอนรุ กั ษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

43 ง30278 ศลิ ปะกำรให้บริกำร คำอธบิ ำยรำยวิชำ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 4-6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ท-ป-น 1-2-3 จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต รหสั รำยวิชำ สอศ. 2700-1003 ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับความสาคัญของการบริการ เทคนิคการให้บริการ คุณลักษณะ ท่ีเหมาะสม ของผ้ใู ห้บริการ พฤตกิ รรมของผใู้ ช้บรกิ าร ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารใหบ้ ริการและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ผลกำรเรยี นรู้ 1. มีความรูเ้ กยี่ วกับเทคนิคการใหบ้ รกิ าร 2. ปฏิบัติงานดา้ นบริการได้เป็นอย่างดี รวมท้ังหมด 2 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. อธิบายความสาคญั ของการบรกิ ารและคณุ ลักษณะที่เหมาะสมของผใู้ ห้บริการ 2. สามารถปฏบิ ตั ิงานบรกิ ารไดอ้ ย่างมีคณุ ภาพ

44 ง30275 พฤติกรรมนกั ท่องเท่ียว คำอธิบำยรำยวชิ ำ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี 4-6 กล่มุ สำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ท-ป-น 2 - 0 - 2 จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต รหสั รำยวชิ ำ สอศ. 2700-1004 ศกึ ษาเก่ยี วกบั พฤติกรรมนกั ท่องเทีย่ ว ประเภทของนกั ท่องเท่ียว ลกู ค้าทใี่ ชบ้ ริการโรงแรม พฤติกรรมนกั ท่องเท่ยี ว โดยศกึ ษาพฤติกรรมพ้ืนฐาน วฒั นธรรม ประเพณี อาชีพ เชอื้ ชาติ วยั และ อืน่ ๆ ผใู้ ชบ้ ริการกลุ่มผพู้ กิ ารและผ้สู งู อายุ ความแตกตา่ งของพฤติกรรมในรปู แบบตา่ ง ๆ การแก้ไข ปัญหา เฉพาะหนา้ ในการใหบ้ รกิ ารท่เี หมาะสมกบั เหตุการณ์ เกิดลกั ษณะนสิ ยั ทดี่ ีในการต้อนรับลกู คา้ และประยุกต์ใชก้ บั ลูกค้าแตล่ ะกลมุ่ ไดด้ ี ผลกำรเรยี นรู้ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับประเภทของลูกคา้ ท่เี ข้ามาใช้บรกิ าร และ พฤติกรรมการใช้ บรกิ ารของลูกค้าแตล่ ะประเภท 2. สามารถวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของนักท่องเท่ียวที่เปน็ ลกู คา้ แต่ละเชื้อชาติ ในการใชบ้ รกิ าร ด้านต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับการโรงแรม และการทอ่ งเท่ียว 1. เกดิ ลักษณะนสิ ัยทดี่ ีในการตอ้ นรบั ลูกคา้ และประยกุ ต์ใช้กับลูกคา้ แตล่ ะกลุ่มได้ดี รวมทั้งส้นิ 4 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั พฤติกรรมพื้นฐานของนกั ท่องเท่ยี วแตล่ ะเช้ือชาติ 2. วเิ คราะหล์ กั ษณะธรรมชาติ และความแตกต่างของพฤตกิ รรมของนักท่องเท่ยี ว แตล่ ะเชอ้ื ชาติ 3. วเิ คราะห์พฤตกิ รรมในการใช้บริการด้านต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้องกบั การโรงแรมและการ ท่องเทย่ี ว 4. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กีย่ วกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในงานบรกิ ารตามกลุ่มนักท่องเทย่ี ว

45 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ง30259 เคร่ืองใชส้ านักงานในงานอตุ สาหกรรมท่องเที่ยว กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษำปีท่ี 4-6 จำนวน 2.0 หน่วยกิต ท-ป-น 1-2-2 รหสั รำยวชิ ำ สอศ. 2700-1005 ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ การใช้เคร่ืองใช้สานักงานในงานอุตสาหกรรมท่องเท่ียว วิธีการ ข้ันตอนในการใช้ การบารุงรักษาอุปกรณ์เครือ่ งใช้สานักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ฝึกปฏิบัติการใช้ อุปกรณเ์ คร่อื งใช้สานักงานทที่ ันสมยั ในการปฏบิ ตั งิ าน จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพ่อื ให้ 1. เข้าใจหลกั การและวิธีการใชอ้ ุปกรณ์เครอ่ื งใช้สานกั งานในงานอตุ สาหกรรมท่องเที่ยว 2. มีทกั ษะในการใช้และบารุงรกั ษาอุปกรณเ์ ครือ่ งใชส้ านกั งาน 3. มกี จิ นิสยั ท่ีดีในการบารุงรักษาอุปกรณ์เคร่ืองใชส้ านักงานหลงั การใช้งานในการปฏบิ ตั ิงาน รวมท้ังส้ิน 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการ วิธีการ ขั้นตอนการใช้และการบารุงรักษาเครื่องใช้สานักงาน ในงานอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว 2. เลอื กใช้เคร่ืองใชส้ านกั งานทท่ี ันสมัยและเหมาะสมกบั ลักษณะงาน 3. ใชแ้ ละบารงุ รักษาอุปกรณเ์ ครอ่ื งใช้สานกั งานตามหลักการปฏบิ ตั ิงาน

46 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ง30274 กำรตลำดเพือ่ อุตสำหกรรมท่องเที่ยว กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ 4-6 จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต ท-ป-น 2-0-2 รหสั รำยวิชำ สอศ. 2700-1006 ศึกษาเก่ียวกับ ความรู้พื้นฐานของการขาย และการตลาดเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ความหมาย ความสาคัญ องค์ประกอบ กลุ่มตลาดเป้าหมาย หลักการขาย แนวความคิดการขายใน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเท่ียว เปรียบเทียบการตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมอ่ืนๆ ข้ันตอน การเสนอขายสินค้าในอุตสาหกรรมท่องเท่ียว สถานการณ์ทางการตลาดอุตสาหกรรมท่องเท่ียวใน ปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคตนโยบายของรัฐกับการส่งเสริมการตลาดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มี กจิ นิสัยในการปฏิบตั ิงานอยา่ งเป็นระบบ มหี ลกั เกณฑ์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ผลกำรเรียนรู้ 1. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเก่ยี วกับพื้นฐานการขายและการตลาดของอตุ สาหกรรมท่องเทย่ี ว 2. จาแนกกลุ่มตลาดเป้าหมายและพฤตกิ รรมผู้ใชบ้ ริการ 3. มกี ิจนิสัยในการปฏิบัติงานอย่างเปน็ ระบบ มหี ลกั เกณฑ์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ รวมทั้งสน้ิ 3 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกบั พ้ืนฐานการขายและการตลาดของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกับนโยบายของภาครฐั และแนวโนม้ การตลาดอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว ในอนาคต 3. ประยกุ ตใ์ ช้ความรดู้ ้านการขายการตลาดของอตุ สาหกรรมท่องเทย่ี วในการปฏบิ ัตกิ ารอาชพี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook