Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรปวช 56 - ช่างยนต์

หลักสูตรปวช 56 - ช่างยนต์

Published by Rattikan Youtsook, 2019-06-28 03:36:00

Description: หลักสูตรปวช 56 - ช่างยนต์

Search

Read the Text Version

คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน พ3๒10๒ สุขศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาวธิ กี ารออกกาลังกายดว้ ยวธิ ที ช่ี อบ เชน่ การเลน่ กฬี าประเภทบคุ คลและประเภททีม การใช้ ความสามารถของตนในการเพ่ิมศักยภาพของทีมในการเล่นกีฬาและการเล่นโดยคานงึ ถึงประโยชน์ตอ่ สังคม การ วางแผนกาหนดกิจกรรมการออกกาลงั กายและเลน่ กีฬา รูแ้ ละเข้าใจถึงสิทธิ กฎ กติกาการเล่นกฬี า กลวิธี หลกั การรกุ การปอ้ งกนั อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และแขง่ ขันกฬี า การนาประสบการณ์จากการเลน่ กีฬาไปใชใ้ น ชีวิตประจาวัน การปฏิบัติตนในเรื่องมารยาทในการดู การเล่น การแข่งขัน โดยนากระบวนการกล่มุ การปฏิบัติ การตดั สินและเขา้ ร่วมการแข่งขัน เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ สามารถปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ า สิทธิ หลักความปลอดภัย ในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางกายและการเลน่ กีฬาจน ประสบความสาเร็จตามเป้าหมายของตนเองและทีม มีมารยาทในการดู การเลน่ ในการแขง่ ขันดว้ ยความมีนา้ ใจ นักกฬี า เห็นคุณคา่ ของการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม คา่ นิยมท่เี หมาะสม และนาไปปฏิบัติในทุกโอกาส จนเปน็ บุคลกิ ภาพทด่ี ี รหัสตวั ชี้วัด พ 3.2 ม. 5/1 ,พ 3.2 ม. 5/2 , พ 3.2 ม. 5/3 , พ 3.2 ม. 5/4 , พ 3.2 ม. 5/5 รวมท้ังหมด 5 ตัวชวี้ ดั

ศ 32101 ชอ่ื วชิ า ทัศนศิลป์ 1 คาอธบิ ายรายวิชา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 20 ชว่ั โมง / ภาคเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 0.5 หน่วยกติ วิเคราะห์เปรยี บเทียบรปู แบบงานทัศนศิลป์แบบตะวันตกและตะวันออกและผลงานทัศนศลิ ป์ เลือกใช้ วัสดอุ ุปกรณ์ และเทคนิคของศิลปนิ ในการแสดงออกทางทัศนศิลป์ สร้างสรรคง์ านทัศนศิลปโ์ ดยคานงึ ถงึ หลกั การ ออกแบบและการจัดองคป์ ระกอบศิลปด์ ้วยเทคโนโลยี รวบรวมผลงานทางทัศนศิลป์ของศิลปินท่ีมชี อื่ เสยี งของไทย และสากล โดยใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่มในการศึกษาความรู้ คดิ วิเคราะหเ์ ปรยี บเทยี บขอ้ มูล ความร้ทู างทัศนศลิ ป์ เพ่ือให้มคี วามร้คู วามเข้าใจและมีทกั ษะในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์ โดยคานงึ ถึง ความมีระเบียบวินัยในการปฏิบัตงิ านด้วยความมุ่งมน่ั ด้วยความตง้ั ใจใฝร่ ู้ใฝ่เรยี นมีความซื่อสัตย์สุจริตตอ่ การ สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปอ์ ยา่ งเหน็ คณุ คา่ และรกั ความเปน็ ไทย รหัสตัวช้ีวดั ม. 4/3, ม.4/5, ม.4/6, ม.4/7, ม.4/10, ม.4/11 ศ 1.1 ม.4/1, ม.4/2 ศ 1.2

ศ32102 ชอ่ื วชิ า ทศั นศิลป์ 2 คาอธบิ ายรายวิชา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ เวลา 20 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกิต วเิ คราะห์การใช้ทัศนธาตุ หลกั การออกแบบ ศัพทท์ างทศั นศิลป์ การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ กระบวนการ สรา้ งงานทศั นศิลป์ ทฤษฎีการวิจารณ์งานศลิ ปะ และการจัดทาแฟ้มสะสมงานทัศนศิลป์ เปรียบเทียบอทิ ธิพลทาง วัฒนธรรมท่มี ีผลตอ่ การสรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ในสังคม มที กั ษะและเทคนคิ ในการใชว้ ัสดุอปุ กรณ์ กระบวนการในการสรา้ งสรรค์งานทศั นศิลป์ สามารถใช้ กระบวนกากลมุ่ และกระบวนการคดิ วเิ คราะหใ์ นการวจิ ารณง์ านทศั นศิลป์โดยใช้ทฤษฎีการวจิ ารณง์ านศิลปะ จดั กลมุ่ งานทัศนศิลป์ในการจดั ทาแฟม้ สะสมงานของตนเอง เพื่อให้มีความรู้และทักษะและเหน็ คณุ คา่ ของการนาทัศนธาตุ วัสดุ อปุ กรณม์ าใช้ในการสรา้ งสรรคง์ าน ทัศนศลิ ป์ การจดั ทา แฟม้ สะสมงาน และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน มคี วามมุ่งมน่ั และมวี ินยั ในการทางาน รหสั ตวั ช้ีวดั ศ 1.1 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/4, ม.5/8, ม.5/9 ศ 1.2 ม.5/3

คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน ง3๒๑0๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลา ๒0 ชว่ั โมง ............................................................................................... ........................................................................... ศึกษาและอธิบายวิธกี ารทางานเพอ่ื การดารงชีวิต สรา้ งผลงานอยา่ งมคี วามสร้างสรรค์ใน 4 ลักษณะ ได้แก่ ความคดิ รเิ ริ่ม ความคลอ่ งในการคดิ ความยดื หย่นุ ในการคดิ และความคดิ ละเอียดลออ มที ักษะการ จดั การในการทางานเกษตร การปลูกพืช การขยายพนั ธ์ การเลีย้ งสตั ว์และงานช่าง การบารงุ เก็บรักษา เครอื่ งใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อานวยความสะดวกในชีวติ ประจาวนั การดาเนนิ การทางธรุ กิจ วเิ คราะหร์ ะบบ เทคโนโลยี สร้างและพัฒนาส่ิงของเครอื่ งใช้ หรือวธิ ีการต้องอาศยั ความร้ทู เี่ กีย่ วข้องอื่น ๆ อกี ตามกระบวนการ เทคโนโลยีอย่างปลอดภยั โดยถา่ ยทอดความคดิ เป็นภาพฉายและแบบจาลองเพ่ือนาไปสู่การสรา้ งชิน้ งานหรอื ถ่ายทอดความคดิ ของวิธกี ารเปน็ แบบจาลองความคิดและการรายงานผลโดยใช้ซอฟต์แวรช์ ่วยในการออกแบบ หรอื นาเสนอผลงานทาภาพ 2 มติ แิ ละ 3 มิติ มีความคิดริเร่มิ แปลกใหม่ ไมล่ ะเมิดความคดิ ผูอ้ นื่ เปน็ การ สร้างนวัตกรรมทีเ่ ปน็ สว่ นหน่งึ ของทรพั ย์สนิ ทางปัญญา วิเคราะหผ์ ลดีผลเสีย และเลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ย่าง สร้างสรรคแ์ ละเหมาะสมเป็นมิตรกบั ชีวติ สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม อภิปรายแนวทางเขา้ สอู่ าชีพและมี ประสบการณ์ในอาชีพทถ่ี นัดและสนใจโดยใช้กระบวนการทักษะการทางาน การจดั การกระบวนการทางานกลมุ่ การทางานร่วมกบั ผู้อ่ืน มีความรับผิดชอบ ซือ่ สตั ย์และมีคุณลกั ษณะที่ดีต่ออาชพี มีจิตสานึกในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า เหมาะสมและเห็นคุณค่าของการนาความรู้มาใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน รหสั ตัวช้ีวดั ง 1.1 ม. 5/1, ม. 5/2, ม. 5/3, ม. 5/4, ม. 5/5, ม. 5/6, ม. 5/7 ง 2.1 ม. 5/1, ม. 5/2, ม. 5/3, ม. 5/4, ม. 5/5 ง 4.1 ม. 5/1, ม. 5/2, ม. 5/3, ม. 5/4, รวมตัวชว้ี ดั 16 ตัวช้ีวดั

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ง3๒๑0๒ การงานอาชพี และเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒0 ชัว่ โมง ............................................................................................... ........................................................................... ศกึ ษาและอธิบายองค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยหนว่ ยสาคญั 5 หนว่ ยไดแ้ ก่ หน่วยรับเข้า หน่วยประมวลผลกลาง หนว่ ยความจาหลกั หน่วยความจารอง หน่วยสง่ ออก ระบบสอ่ื สารข้อมลู สาหรบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ บอกคุณลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์ และอุปกรณต์ ่อพว่ ง เขียนโปรแกรมภาษาในงานต่าง ๆ ขั้นตอนการพฒั นาโปรแกรม ติดต่อส่อื สาร คน้ หาขอ้ มูลผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต ใช้คอมพวิ เตอร์ในการสรา้ งช้ินงาน การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ เพื่อการประกอบการตัดสนิ ใจใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ นาเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ของงานโดยใชก้ ระบวนการ เทคโนโลยีสนเทศ ทักษะการแก้ปัญหา การสร้าง การประยกุ ตค์ วามรู้และสามารถเลือกใช้ เทคโนโลยที ี่เหมาะสม ในชีวิตประจาวนั ได้อย่างสร้างสรรค์ รหสั ตัวชี้วดั ง 3.1 ม. 5/1, ม. 5/2, ม. 5/3, ม. 5/4, ม. 5/5, ม. 5/6, ม. 5/7 ม. 5/8, ม. 5/9, ม. 5/10, ม. 5/11, ม. 5/12, ม. 5/13 รวมตัวชีว้ ัด 13 ตัวชี้วดั

คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน อ32101 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ปฏบิ ัติตามคาข้อรอ้ ง คาแนะนา คาชีแ้ จง และคาอธบิ ายท่ีฟังและอา่ นออกเสยี ง ข้อความ ขา่ ว โฆษณา นทิ าน และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถูกต้อง ตามหลกั การอา่ น ใช้ภาษา น้าเสียง และกริ ยิ าทา่ ทางเหมาะสมกับระดับ บุคคล อธิบายและเขยี นประโยคทีซ่ บั ซอ้ นขึ้น จบั ใจความสาคัญ วเิ คราะหค์ วาม สรุปความ แสดงความคิดเห็น จากการฟังและอ่านได้ พร้อมทั้งให้เหตุผลท่ีเหมาะสม สนทนาและเขียนโต้ตอบเกี่ยวกับตนเอง สถานการณ์ท่ี กาหนด จับใจความสาคัญ วิเคราะห์ สรุปความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านได้อย่างเหมาะสม สนทนาและเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง สถานการณ์ท่ีกาหนด เลือกใช้คาขอร้อง คาชี้แจง คาอธิบาย และให้ คาแนะนา พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ในสถานการณ์จาลองหรือสถานการ จริงอย่างเหมาะสม พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น ของตนเองเก่ียวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์และเหตุการณ์ในท้องถ่ินและสังคม ชุมชน เพ่ือให้เกิด ความรู้ ความเข้าใจในการเรียนภาษา และขยายโลกทัศน์ จากแหล่งข้อมลู ที่หลากหลาย เข้าสู่สังคมและอาชีพ สามารถใชภ้ าษาส่ือสารในรปู แบบต่าง ๆ ตามสถานการณใ์ นสถานศกึ ษาและชมุ ชน รหสั ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.4-6/2, ต 1.1 ม. 4-6/3, ต 1.1 ม. 4-6/4 ต 1.1 ม. 4-6/1, ต 1.2 ม. 4-6/2, ต 1.2 ม. 4-6/3, ต 1.2 ม. 4-6/4, ต 1.2 ม. 4-6/1, ต 1.2 ม. 4-6/5 ต 1.3 ม.4-6/2, ต 1.3 ม. 4-6/3 ต 1.3 ม. 4-6/1, ต 2.1 ม. 4-6/2, ต 2.1 ม.4-6/3 ต 2.1 ม.4-6/1, ต 2.2 ม.4-6/2 ต 2.2 ม. 4-6/1, ต 3.1 ม. 4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/2 ต 4.1 ม. 4-6 /1 ต 4.2 ม. 4-6/1, รวมท้ังหมด 21 ตัวช้ีวัด

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ อ32102 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ปฏบิ ตั ิตามคาข้อร้อง คาแนะนา คาช้แี จง และคาอธบิ ายท่ีฟังและอ่านออกเสียง ข้อความ ขา่ ว โฆษณา นทิ าน และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถูกต้อง ตามหลักการอ่าน ใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะสมกับระดับ บคุ คล อธิบายและเขยี นประโยคท่ีซบั ซอ้ นขึ้น จับใจความสาคญั วิเคราะหค์ วาม สรปุ ความ แสดงความคดิ เห็น จากการฟังและอ่านได้ พร้อมท้ังให้เหตุผลที่เหมาะสม สนทนาและเขียนโต้ตอบเก่ียวกับตนเอง สถานการณ์ที่ กาหนด จับใจความสาคัญ วิเคราะห์ สรุปความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านได้อย่างเหมาะสม สนทนาและเขียนข้อมูลเก่ียวกับตนเอง สถานการณ์ท่ีกาหนด เลือกใช้คาขอร้อง คาชี้แจง คาอธิบาย และให้ คาแนะนา พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ในสถานการณ์จาลองหรือสถานการ จริงอย่างเหมาะสม พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์และเหตุการณ์ในท้องถ่ินและสังคม ชุมชน เพ่ือให้เกิด ความรู้ ความเข้าใจในการเรียนภาษา และขยายโลกทัศน์ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เข้าสู่สังคมและอาชีพ สามารถใช้ภาษาส่อื สารในรปู แบบตา่ ง ๆ ตามสถานการณใ์ นสถานศกึ ษาและชมุ ชน รหสั ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.4-6/2, ต 1.1 ม. 4-6/3, ต 1.1 ม. 4-6/4, ต 1.1 ม. 4-6/1, ต 1.2 ม. 4-6/2, ต 1.2 ม. 4-6/3, ต 1.2 ม. 4-6/4, ต 1.2 ม. 4-6/1, ต 1.3 ม. 4-6/1, ต 1.3 ม.4-6/2, ต 1.3 ม. 4-6/3, ต 1.2 ม. 4-6/5, ต 2.1 ม. 4-6/2, ต 2.1 ม.4-6/3 ต 2.1 ม.4-6/1, ต 2.2 ม.4-6/2 ต 2.2 ม. 4-6/1, ต 3.1 ม. 4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/2 ต 4.1 ม. 4-6 /1 ต 4.2 ม. 4-6/1, รวม 21 ตัวช้ีวัด

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ท32201 การเขยี น 1 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ การเขยี นในรปู แบบตา่ ง ๆ เช่น เรยี งความ ยอ่ ความ เขียนอธิบาย การเขยี นช้ีแจง การเขียนโนม้ น้าวใจ การเขยี นแสดงทรรศนะ การเขยี นบันเทงิ คดี สารคดี บทสนทนา โดยเนน้ การลาดับความ ให้ผู้อา่ นไดร้ ับสารอย่างเด่นชัด เลือกใชโ้ วหารให้เหมาะสมกับเนอื้ หาและโอกาส แตง่ คาประพันธ์ตามความ คดิ เห็นและหัวข้อท่ีกาหนดให้ โดยการเขียนอย่างมีเน้ือหาสาระ น่าอ่าน ใชถ้ ้อยคาสละสลวยก่อให้เกดิ ความเพลิดเพลินและช่วย พัฒนาความคิด สามารถตั้งประเด็นหัวข้อในการเขียน และใช้กระบวนการเขียนพัฒนางานเขียนได้อย่าง สร้างสรรค์และมปี ระสิทธภิ าพ ผลการเรียนรู้ 1.กาหนดโครงเร่ืองสาหรับเขียนเรยี งความได้ 2. อธิบายหลักการเขยี นย่อความ เขยี นอธบิ ายได้ 3. บอกองค์ประกอบของการเขยี นบันเทิงคดี สารคดที เี่ ปน็ ร้อยแก้วได้ 4. เขียนบนั เทิงคดีประเภทเรื่องเล่าได้ 5.อธิบายโวหารท่ีใช้ในการเขียนและ ใชโ้ วหารชนดิ ต่าง ๆ ประกอบการเขยี นได้ 6.เขยี นบทร้อยแกว้ และแต่งบทร้อยกรองตามท่ีกาหนดให้ได้ รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ท32202 การเขยี น 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ฝึกเขียนในรูปแบบต่างๆ โดยเนน้ การลาดบั ความให้ผู้อา่ นได้รับสารอยา่ งชดั เจน เลือกใชโ้ วหารให้ เหมาะสมกับเนอื้ เรื่องและโอกาส และอาจใหเ้ ขียนบทร้อยกรองง่าย ๆ แสดงความคดิ และความรู้สึกเพ่ือเพิ่มพูน ทกั ษะการเขยี นในรปู แบบต่าง ๆ สามารถเขียนแสดงความต้องการ ความคดิ การผกู ประโยค การเขียนย่อหนา้ การเขียนบันทกึ การเขยี นประกาศ เขยี นจดหมายราชการ การเขียนรายงาน สามารถเขยี น แสดงความต้องการ ความคดิ และความรสู้ ึกไดถ้ ูกต้องตามมารยาท และธรรมเนยี มนยิ ม ผลการเรียนรู้ 1. ระบชุ นิดของโวหารทใ่ี ชใ้ นการเขียนและ ใช้โวหารชนดิ ต่าง ๆ ประกอบการเขียนได้ 2. บอกหลักเกณฑ์การผกู ประโยคในภาษาเขียนได้ 3.บอกลักษณะบังคบั ทั่วไปของบทรอ้ ยกรองและแต่งบทร้อยกรองตามที่กาหนดให้ได้ 4. เขยี นประกาศตามแบบท่กี าหนดใหไ้ ด้ 5. บอกหลักเกณฑ์ทว่ั ไปในการเขียนจดหมายและเขียนจดหมายสมัครงานได้ รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม ค32201 คณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต จดั ประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณใ์ กล้ตัวให้ผเู้ รยี นได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ ปฏิบัตจิ ริง สรปุ รายงานผลโดยอาศยั สาระการเรียนรเู้ กย่ี วกบั ฟังก์ชัน ฟงั ก์ชันโพลโิ นเมียล ฟังก์ชันคอมโพสทิ ฟังกช์ นั อินเวิอรส์ พีชคณิตของฟงั กช์ ันฟงั กช์ นั เอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟงั ก์ชันลอการทิ มึ ฟังก์ชนั ตรโี กณมิติและ การประยุกต์ เพือ่ พฒั นาความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ ในการคดิ คานวณ การแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ มรี ะเบียบวินยั มคี วามรบั ผดิ ชอบ รอบคอบ มี วิจารณญาณ ใช้การวดั และประเมินผลด้วยวิธีที่หลากหลายเนน้ การประเมินตามสภาพจริง ท้งั ดา้ นความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง และลักษณะท่ีพึงประสงค์ ผลการเรยี นรู้ 1. มีความคดิ รวบยอดเก่ียวกับฟังก์ชัน เขยี นกราฟของฟังก์ชันและสรา้ งฟังกช์ ันจากโจทย์ปัญหาที่กาหนดให้ได้ 2. นาความรู้เรอื่ งฟังก์ชันไปใชแ้ ก้ปัญหาได้ 3. มีความคิดรวบยอดเก่ยี วกับฟังก์ชนั เอกซ์โพเนนเชยี ล ฟงั กช์ นั ลอการทิ ึม และเขยี นกราฟของฟังกช์ ันท่ี กาหนดให้ได้ 4. นาความรู้เรอ่ื งฟงั ก์ชนั เอกซโ์ พเนนเชียล ฟังก์ชันลอการทิ ึม ไปใช้แก้ปัญหาได้ 5. มีความคดิ รวบยอดเก่ียวกับฟังก์ชันตรโี กณมิติและเขียนกราฟของฟังก์ชันท่ีกาหนดให้ได้ 6. นาความรเู้ ร่อื งฟังกช์ ันตรีโกณมิติไปใช้แกป้ ัญหาได้ รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม ค32202 คณิตศาสตรเ์ พิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ จดั ประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณใ์ กลต้ วั ให้ผ้เู รยี นได้ศึกษา ค้นควา้ ฝึกทกั ษะ ปฏิบัติจริง สรปุ รายงานผลโดยอาศยั สาระการเรยี นรู้เกี่ยวกับกาหนดการเชิงเสน้ ความน่าจะเป็น กฎเกณฑเ์ บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั การ นับ วธิ เี รยี งสบั เปล่ียน วธิ จี ัดหมู่ ทฤษฎบี ททวินาม ความนา่ จะเป็น และกฎทีส่ าคัญบางประการของความนา่ จะ เป็น เพอื่ พฒั นาความรู้ ทักษะ/กระบวนการ ในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งมีระบบ มีระเบยี บวนิ ัย มคี วามรบั ผิดชอบ รอบคอบ มี วจิ ารณญาณ ใชก้ ารวัดและประเมินผลด้วยวธิ ที หี่ ลากหลายเนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง ทัง้ ด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ผลการเรียนรู้ 1. แก้ปัญหาโดยสร้างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์และใช้วธิ ีการของกาหนดการเชงิ เสน้ ที่ใช้กราฟของสมการและ อสมการทม่ี ีสองตวั แปร 2. แกโ้ จทย์ปัญหาโดยใช้กฎเกณฑ์เบื้องตน้ เกี่ยวกบั การนบั วิธเี รียงสับเปลีย่ น และวธิ จี ดั หมู่ 3. นาความร้เู รอื่ งทฤษฎีบททวินามไปใช้ได้ 4. หาความนา่ จะเป็นของเหตุการณท์ กี่ าหนดให้ได้ รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ส 32201 พระพุทธศาสนา กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ………………………………………………………………….......................................................…………………………………… ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ สรา้ งความคิดรอบยอด นาภมู ิปัญญาท้องถิน่ สภาพปญั หาชวี ิต สภาพแวดล้อม เข้ามาเปน็ ส่วนหนงึ่ ของกระบวนการเรยี นรู้ เพือ่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจ ตระหนักและเห็นคุณค่า ในเร่อื งต่อไปน้ี พระพุทธ - เกี่ยวกับประวตั แิ ละความสาคัญของพระพทุ ธศาสนา - พทุ ธประวัติ - ชาดก - วันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา พระธรรม - หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา - พุทธศาสนสุภาษติ - พระไตรปิฎก - ศพั ท์ทางพระพทุ ธศาสนา - การบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญา พระสงฆ์ - ประวตั พิ ุทธสาวก พุทธสาวิกา - ชาวพทุ ธตัวอยา่ ง - หนา้ ที่ชาวพุทธ - มารยาทชาวพทุ ธและการปฏิบตั ติ นตอ่ พระภิกษุ - ศาสนพิธี - สมั มนาพระพุทธศาสนากบั การแกป้ ัญหาและการพัฒนา เพือ่ ให้เกดิ ศรทั ธาอย่างยงิ่ ต่อพระรัตนตรยั และรักการเรยี นรู้พระพุทธศาสนา ประพฤติ ปฏิบัติตนเปน็ พุทธศาสนิกชนท่ีดมี ีคุณธรรม จริยธรรมในการอยูร่ ่วมกันในสังคม และสามารถนาหลักธรรมไปใช้เปน็ เครื่องมือใน การเรียนรู้ การทางานอย่างมีคุณคา่ ต่อชีวติ ตนเองและสังคมโดยส่วนรวม

ผลการเรียนรู้ ๑. ร้แู ละเขา้ ใจเกีย่ วกบั ประวัติความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา ๒. รแู้ ละเขา้ ใจพทุ ธประวัติ และคณุ ธรรมของพุทธสาวก พุทธสาวกิ าและชาวพทุ ธตัวอย่าง ๓. เห็นคุณค่าและความสาคัญของหลักธรรม สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันได้ ๔. รแู้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกับตวั อกั ษรในภาษาบาลี สามารถอ่านภาษาบาลีไดอ้ ย่างถูกต้อง ๕. รู้และเข้าใจ เหน็ คุณค่าและความสาคญั ของการบรหิ ารจติ และการเจรญิ ปัญญา ๖. รู้และเขา้ ใจบทบาทหน้าท่ขี องพระสงฆอ์ ย่างถูกตอ้ ง เกิดความศรัทธาเล่ือมใสในพระสงฆ์ ๗. วเิ คราะหห์ น้าทีช่ าวพุทธและกาหนดแนวทางในการปฏิบัติตนต่อสงั คมได้อย่างเหมาะสม ๘. ปฏิบตั ิตนในศาสนพิธีและวนั สาคัญทางพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม รวมท้ังหมด 8 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ส 32202 พระพุทธศาสนา กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ …………………………………………………………………………………………………………........................................ ศึกษา วเิ คราะห์ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ สรา้ งความคิดรอบยอด นาภูมิปัญญาท้องถ่นิ สภาพปัญหาชวี ิต สภาพแวดลอ้ ม เขา้ มาเปน็ ส่วนหน่งึ ของกระบวนการเรยี นรู้ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักและเห็นคุณค่า ในเรือ่ งต่อไปน้ี พระพุทธ - เกย่ี วกับประวตั แิ ละความสาคัญของพระพทุ ธศาสนา - พทุ ธประวตั ิ - ชาดก - วนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา พระธรรม - หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา - พุทธศาสนสภุ าษติ - พระไตรปฎิ ก - ศัพท์ทางพระพทุ ธศาสนา - การบรหิ ารจติ และเจริญปญั ญา พระสงฆ์ - ประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวิกา - ชาวพุทธตัวอย่าง - หนา้ ทช่ี าวพุทธ - มารยาทชาวพทุ ธและการปฏิบตั ติ นตอ่ พระภกิ ษุ - ศาสนพิธี - สัมมนาพระพุทธศาสนากบั การแกป้ ัญหาและการพัฒนา เพ่ือใหเ้ กดิ ศรัทธาอยา่ งยง่ิ ต่อพระรัตนตรัย และรกั การเรยี นรพู้ ระพุทธศาสนา ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตนเปน็ พุทธศาสนิกชนท่ดี มี ีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการอยรู่ ่วมกนั ในสังคม และสามารถนาหลกั ธรรมไปใช้เปน็ เคร่ืองมอื ในการเรียนรู้ การทางานอย่างมคี ุณค่าต่อชีวติ ตนเองและสังคมโดยส่วนรวม

ผลการเรยี นรู้ ๑. ร้แู ละเขา้ ใจเก่ียวกับประวตั คิ วามสาคัญของพระพุทธศาสนา ๒. รแู้ ละเข้าใจพุทธประวัติ และคุณธรรมของพุทธสาวก พทุ ธสาวิกาและชาวพุทธตวั อย่าง ๓. เห็นคณุ คา่ และความสาคัญของหลักธรรม สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวันได้ ๔. รู้และเขา้ ใจเก่ยี วกบั ตวั อกั ษรในภาษาบาลี สามารถอ่านภาษาบาลีได้อย่างถูกต้อง ๕. ร้แู ละเขา้ ใจ เห็นคณุ ค่าและความสาคัญของการบริหารจติ และการเจริญปัญญา ๖. รู้และเข้าใจบทบาทหน้าทีข่ องพระสงฆอ์ ยา่ งถูกตอ้ ง เกดิ ความศรัทธาเลื่อมใสในพระสงฆ์ ๗. วิเคราะหห์ นา้ ที่ชาวพุทธและกาหนดแนวทางในการปฏบิ ตั ิตนต่อสงั คมได้อย่างเหมาะสม ๘. ปฏบิ ตั ิตนในศาสนพิธแี ละวันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม รวมท้ังหมด 8 ผลการเรียนรู้

ส๓๒๒๐๓ อาเซยี นศกึ ษา คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษา วิเคราะห์ กาเนิดสมาคมอาสา พฒั นาการของอาเซียนตง้ั แตอ่ ดีตจนถงึ ปัจจบุ ัน ข้อมลู ของประเทศ สมาชกิ อาเซยี น โครงสรา้ งองค์กรและกลไกการดาเนนิ งานของอาเซยี น ๓ เสาหลกั ของประชาคมอาเซยี น การ เตรียมความพร้อมของอาเซียนในการเข้าสปู่ ระชาคมอาเซยี น อุปสรรคในการเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียน บทเรียน จากการรวมกลุ่มเศรษฐกจิ ของประเทศอน่ื บทบาททางการเมอื ง เศรษฐกจิ ของอาเซยี นในสังคมโลก ปญั หาของ อาเซียนและความพยายามแก้ปัญหาตา่ ง ๆ โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสบื คน้ ข้อมูล กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแก้ปัญหา เพ่ือให้เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจ ตระหนกั ในความสาคญั ของการรวมกลุ่มประเทศสมาชกิ อาเซยี น มีส่วน รว่ มในการเตรียมความพร้อมของสงั คมและประเทศชาตใิ นการเขา้ ส่ปู ระชาคมอาเซยี น และปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ท่ดี ีของประชาคมอาเซียนและอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอาเซยี นอย่างปกติสขุ ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายกาเนดิ สมาคมอาสาและพฒั นาการของอาเซยี นตง้ั แต่อดตี จนถึงปจั จุบนั ๒. อธิบายเกยี่ วกับประเทศสมาชิกอาเซยี นในด้านต่าง ๆ โครงสร้างองค์กรและกลไกการดาเนินงานของ อาเซียนภายใต้กฎบัตรอาเซยี น และประชาคมอาเซยี น ๓ เสาหลกั ๓. อธบิ ายการเตรยี มความพรอ้ มของอาเซยี นในการเขา้ สู่ประชาคมอาเซยี น ๔. วเิ คราะห์อปุ สรรคในการเขา้ สู้ประชาคมอาเซยี นและแนวทางแกไ้ ข ๕. วิเคราะหบ์ ทเรยี นจากการรวมกลุ่มเศรษฐกจิ ของประเทศอ่ืน เพือ่ เป็นแนวทางในการพฒั นาประชาคม อาเซยี น ๖. วเิ คราะหบ์ ทบาทของอาเซยี นในสงั คมโลกในด้านต่าง ๆ ปัญหาของอาเซยี นและแนวทางแกไ้ ข รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา ศ32201 – ศ32202 ดนตรสี ากลตามความถนัด 1 -2 กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาทฤษฎกี ารดนตรี โนต้ สากล ศพั ท์สงั คีต หลักการฟังดนตรี ประวัตนิ ักแตง่ เพลงของเพลงท่ีฝึกฝึก ปฏิบตั ติ ามแบบฝกึ หดั เฉพาะเครือ่ งมือ ฝึกบรรเลงเพลงท่ยี ากขึ้นตามความสามารถ สามารถจดั แสดงดนตรี เป็นครง้ั คราว ดแู ลเก็บรกั ษาเครอ่ื งดนตรีได้อย่างถูกต้อง สามารถบรรยายและอภปิ รายการสรา้ งสรรคแ์ ละ นาเสนอผลงานเพลงในรปู แบบที่หลากหลาย เพ่อื ให้มคี วามรู้ความเข้าใจ สามารถบรรเลงดนตรีตามความถนัดในระดับทีย่ ากขึ้นทง้ั เดยี่ วและเป็น กลมุ่ มวี ินยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี นม่งุ มนั่ ในการทางาน และมีทักษะในการบรรเลงดนตรีสากลท่ีถนัดได้อยา่ งถกู ต้อง ไพเราะ เพลิดเพลิน หลากหลายรปู แบบ สามารถปฏิบตั ิงานสร้างสรรคง์ านแสดงดนตรีอย่างชน่ื ชมและเห็น คณุ คา่ ผลการเรยี นรู้ ๑. สามารถอธบิ ายถึงทฤษฎโี น้ตสากลในการปฏบิ ตั ิและบรรเลงดนตรไี ด้ ๒. อธบิ ายถงึ ศัพทส์ ังคตี ที่ใช้ในการบรรเลงดนตรสี ากลได้ ๓. สามารถเลือกปฏิบตั เิ คร่ืองดนตรีสากลตามความถนดั ได้ 1 ชิน้ ๔. นกั เรยี นสามารถฝึกทักษะเบ้ืองต้น และบรรเลงเครื่องดนตรีสากลทถ่ี นัดได้ ๕. สามารถบรรเลงดนตรีตามเพลงท่ีกาหนด และเพลงเลือกได้ ๖. นกั เรียนสามารถเข้าร่วมรว่ มจัดการแสดงดนตรีท้ังเด่ยี วและวงได้ ๗. นกั เรยี นรถู้ ึงวธิ ีการดแู ล บารุงรกั ษาเครื่องดนตรีได้อย่างถูกตอ้ ง รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ศ32203,ศ32204 ดนตรีไทยปฏบิ ตั ติ ามความถนดั 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชว่ั โมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาทฤษฎีการดนตรี หลกั การปฏบิ ตั แิ ละใช้เครื่องดนตรี การอา่ นเขยี นและบันทึกโน้ต บทบาทของ เครื่องดนตรีแต่ละชนดิ อตั ราจงั หวะท่ีใชแ้ ละความสมั พนั ธ์ขององคป์ ระกอบในการบรรเลงดนตรี ฝกึ ปฏบิ ตั ิเครอ่ื ง ดนตรไี ทยที่ถนัดอยา่ งน้อย 1 ช้นิ บรรเลงอตั รา ชนั้ เดยี ว สองชน้ั และเพลงเถา เพลงตับ ดแู ลรกั ษาเครอ่ื งดนตรี ฝึกบรรเลงทั้งเดีย่ วและกลุ่ม จดั การแสดงเป็นคร้ังคราว เพอื่ ใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจ มวี ินยั ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น มุง่ ม่นั ในการทางาน และมีทกั ษะเกี่ยวกับการบรรเลง ดนตรีไทยที่ถนดั รว่ มกนั เป็นวงประกอบการขับร้อง ฟ้อนราและการแสดงตา่ ง ๆ ได้อย่างถกู ต้อง ไพเราะ เพลดิ เพลิน นาภูมิปญั ญาท้องถ่ินมาผสมผสานได้อย่างกลมกลืน มีความสุขในการเรยี นและเหน็ คณุ คา่ เกดิ ความ ช่ืนชมรักความเปน็ ไทย เผยแพรอ่ นุรักษ์ ใหด้ ารงอย่คู ู่ประเทศชาติสืบไป ผลการเรยี นรู้ ๑. สามารถอธิบายถึงโนต้ เพลงไทย โน้ตเพลงสากลได้ ๒. บอกถงึ หลักการอา่ นโน้ตเพลงไทย เพลงสากลได้ ๓. นักเรยี นสามารถอธบิ ายถงึ หลักการฟงั ดนตรีไทยและการปฏิบตั ติ นได้ ๔. อธบิ ายถงึ ประวัติของเพลงทบ่ี รรเลงและความสาคญั ได้ ๕. สามารถเลอื กปฏบิ ตั ิเคร่ืองดนตรไี ทยได้อย่างน้อย 1 ชิน้ ๖. สามารถบรรเลงเคร่ืองดนตรีไทยในอตั ราจังหวะชัน้ เดยี วได้ ๗. สามารถบรรเลงเคร่ืองดนตรีไทยในอตั ราจังหวะสองชนั้ และเพลงเถาได้ ๘. นกั เรยี นร่วมจดั การแสดงดนตรไี ทยเบ้ืองต้นได้ ๙. นกั เรยี นรถู้ งึ วธิ ีการดูแล บารุงรกั ษาเครื่องดนตรีไทยได้อยา่ งถูกต้อง รวมทั้งหมด 9 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ศ32205 – ศ32206 ชา่ งเขียนการต์ นู 1 -2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชว่ั โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาหลักและวิธกี ารเขยี นภาพการ์ตนู การใชเ้ สน้ สี รปู รา่ งและรปู ทรง การจัดภาพและการเขยี น ภาพการ์ตนู ประกอบเรือ่ ง ฝกึ ปฏบิ ตั ิการเขยี นภาพการต์ ูนตามรูปแบบและจินตนาการเขียนภาพการ์ตูนประกอบ เร่อื ง สรา้ งสรรคง์ านดว้ ยเทคนิคทีน่ า่ สนใจ เปรยี บเทียบผลงานของตนเองและของผู้อ่ืนด้วยเกณฑง์ ่าย ๆ เพื่อ นามาปรบั ปรุงผลงานตนเอง เพอ่ื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจ ช่ืนชม มีวินยั ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รยี น มุง่ มนั่ ในการทางาน มีทักษะและเห็นคณุ ค่า ในการเขยี นภาพการ์ตนู ตามรปู แบบ ตามจนิ ตนาการและการเขียนภาพการต์ ูนประกอบเรอื่ ง สามารถนามา ประยุกตใ์ ช้ให้เกดิ ประโยชน์ในชีวติ ประจาวัน ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ความเข้าใจในการเขียนภาพการต์ นู การใช้เสน้ สี รูปรา่ งและรูปทรง การจดั ภาพและการ เขยี นภาพการ์ตูนประกอบเรื่อง ๒. มีทักษะในการเขยี นภาพการ์ตนู ตามรปู แบบและจินตนาการเขียนภาพการต์ ูนประกอบเรื่อง สร้างสรรค์งานดว้ ยเทคนิคที่น่าสนใจ ๓. บอกหลกั และวิธกี ารเขยี นภาพการ์ตูน การใช้เสน้ สี รูปรา่ งและรปู ทรง การจัดภาพและการเขียน ภาพการ์ตนู ประกอบเรื่องอย่างถกู ต้อง ๔. ฝกึ ปฏิบตั ิการเขยี นภาพการ์ตูนโดยการใชเ้ ส้น สี รูปรา่ งและรปู ทรงตามจินตนาการและการเขยี นภาพ การ์ตูนประกอบเร่ือง สามารถนามาประยุกต์ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นชีวิตประวันได้ ๕. สามารถแสดงผลงานตามความคิดและสรา้ งสรรค์งานเป็นขั้นตอนทางานระบบกลุ่มระบบทีม อย่างเปน็ ขบวนการคิด สร้างปฏิบตั ิงานรว่ มกนั ได้ อยา่ งมีความสุข ๖. มีวินัย ใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน และเห็นคุณค่าในการเขียนภาพการต์ นู ตามรูปแบบ ประหยดั ปลอดภัยและไดช้ ้ินงานทส่ี มบูรณน์ าไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ๗. เปรยี บเทยี บผลงานของตนเองและของผู้อื่นดว้ ยเกณฑง์ ่าย ๆ เพอ่ื นามาปรบั ปรุงผลงานตนเองได้ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ศ32207 – ศ32208 โครงงานศลิ ปะ1 -2 กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกติ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการและวธิ กี ารเก่ยี วกับโครงงานศิลปะ วิเคราะห์วางแผนลงมือผลติ ชิ้นงานและ เพ่ือให้ ทางานได้อยา่ งถูกต้องตามขบวนการ ประหยดั ยดึ หลกั ความพอเพียงปลอดภัยและนาช้นิ งานไปใช้เปน็ ประโยชน์ ได้ในชวี ิตประจาวันและสังคมในทอ้ งถน่ิ ประเมนิ และเปรียบเทียบผลผลิตชนิ้ งานของตนเองและผ้อู ืน่ เพอื่ นามา ปรับปรงุ ผลงานและการทางานเป็นทมี สัมพนั ธไ์ ด้กับสาระการเรยี นร้หู ลายกลมุ่ สาระเพ่อื ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจ มี วนิ ัย ใฝร่ ูใ้ ฝ่เรียน มุ่งม่ันในการทางาน สามารถแสดงผลงานตามความคิดและสรา้ งสรรคง์ านเปน็ ขัน้ ตอน ทางาน ระบบกลุ่ม ระบบทีม อยา่ งเป็นขบวนการคิด สร้างปฏิบตั ิงานรว่ มกนั ได้ อยา่ งมีความสุข ประหยัดปลอดภยั และได้ ช้นิ งานทสี่ มบูรณน์ าไปใช้ประโยชน์ได้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกบั โครงงานศิลปะในเรื่อง หลกั การและวิธกี ารเกยี่ วกับโครงงานศลิ ปะ การวิเคราะหว์ างแผนลงมือผลติ ชิ้นงานและปรบั ปรุงการทางานตามความคิดและสรา้ งสรรค์งานอย่าง เป็นข้ันตอน ๒. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายและเขียนโครงงานได้ถูกตอ้ งตามหลกั การและวธิ กี ารเกี่ยวกับโครงงานศลิ ปะ ๓. นักเรียนสามารถวิเคราะหว์ างแผนลงมอื ผลิตชิ้นงานและปรบั ปรุงการทางานได้อยา่ งถกู ต้องตาม ขบวนการ ประหยัด อยู่อยา่ งพอเพียงและปลอดภัย ๔. นกั เรียนมที ักษะการผลิตช้นิ งานได้อย่างถูกตอ้ งและสวยงาม สามารถนาชนิ้ งานไปใชเ้ ป็นประโยชน์ ได้ในชีวิตประจาวันและสังคมในทอ้ งถ่ิน ๕. นกั เรียนสามารถประเมนิ และเปรยี บเทียบผลผลติ ชิ้นงานของตนเองและผู้อ่ืนเพอื่ นามาปรับปรุง ผลงานได้ ๖. นักเรยี นสามารถทางานเป็นทีมสมั พนั ธ์ได้กับสาระการเรยี นรู้หลายกลุ่มสาระ ๗. นักเรยี นมีวินยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน มงุ่ มั่นในการทางานอย่างเปน็ ข้นั ตอน ทั้งการทางานระบบกลุ่ม ระบบ ทีม อย่างเปน็ ขบวนการคดิ สรา้ งปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ได้ อย่างมคี วามสุข ๘. นักเรยี นมคี วามช่นื ชมเหน็ คุณคา่ และภาคภมู ิใจ ในผลงานทั้งของตนและผู้อ่นื ๙. นกั เรยี นมคี วามตระหนักท่ีจะถา่ ยทอดและสรา้ งสรรค์งานไดอ้ ย่างช่นื ชมน่าสนใจ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ศ32209 – ศ32210 จิตรกรรม 1 -2 กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 - 2 เวลา 40 ช่ัวโมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรเู้ บ้ืองต้นและฝึกปฏิบตั ิเกย่ี วกบั การจัดองคป์ ระกอบศิลป์ การเขียนภาพจากเน้ือหา และเรื่องราวดว้ ยวัสดุตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม มีความพอเพยี งเพ่ือให้มีความรคู้ วามเข้าใจ เห็นคุณค่า ชนื่ ชม มี วินัย ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น มุ่งมั่นในการทางาน มที ักษะสามารถเขยี นภาพจากจินตนาการได้ ถา่ ยทอดสงิ่ ทมี่ องเหน็ ออกมา เป็นภาพตามความเป็นจริง สรา้ งสรรคง์ านเขยี นไดอ้ ย่างอิสระ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรูค้ วามเข้าใจความร้เู บ้ืองตน้ เกย่ี วกับการจดั องค์ประกอบศิลป์ การเขียนภาพจากเนอื้ หาและ เรือ่ งราวด้วยวสั ดตุ า่ ง ๆ ๒. ฝกึ ปฏิบตั ิเกย่ี วกับการเขยี นภาพโดยใช้องค์ประกอบศิลป์ วสั ดอุ ุปกรณ์ตา่ ง ๆทีใ่ ช้ในการเขยี นภาพ ตามความเหมาะสม และพอเพยี ง ๓. มีทักษะ สามารถถา่ ยทอดส่งิ ท่มี องเหน็ ออกมาเป็นภาพตามความเป็นจริง สร้างสรรคง์ านเขยี นภาพ ได้อย่างอสิ ระ ๔. มีวินัย ใฝร่ ูใ้ ฝ่เรียน มงุ่ ม่ันในการทางาน ๕. เกดิ ความช่ืนชมในผลงานศลิ ปะ การสร้างสรรคง์ านเขียนภาพอย่างอิสระ และนาไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา ศ32211 – ศ32212 ออกแบบ 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลกั การออกแบบงานศลิ ปะประเภทต่าง ๆ ประเภทของงานออกแบบ การรา่ งแบบ การอา่ นแบบและการสร้างงาน 2 มติ ิ 3 มติ ิ และฝึกปฏบิ ัติเกยี่ วกับการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ตา่ ง ๆ การเลอื กใช้ วสั ดุอุปกรณใ์ ห้เหมาะสมกบั ผลิตภัณฑ์ ฝึกปฏิบัติออกแบบวสั ดุ เครื่องใช้ โดยใช้หลกั ความพอเพียงเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มวี นิ ัย ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน มงุ่ ม่ันในการทางาน มที ักษะในการออกแบบและสามารถสร้างผลติ ภัณฑต์ ามที่ ออกแบบ ให้ประณตี สวยงามและมปี ระโยชน์ ตรงตามความต้องการของผบู้ ริโภค เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ ม และประโยชนใ์ ช้สอยโดยใชภ้ มู ิปญั ญาท้องถิ่นมาประยกุ ต์ใช้ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจสามารถอธบิ ายความหมายการออกแบบประเภทของงานออกแบบ การรา่ งแบบ ๒. การอ่านแบบ และการสร้างงาน 2 มติ ิ 3 มติ ิไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ๓. ฝกึ ปฏิบัติเกย่ี วกบั การออกแบบผลิตภัณฑก์ ารเลอื กใช้วสั ดุอุปกรณใ์ หเ้ หมาะสมกบั ผลติ ภัณฑ์ ฝกึ ปฏิบตั อิ อกแบบวสั ดุ เคร่ืองใช้ ยึดหลักความพอพียง ๔. มีความร้คู วามเขา้ ใจ มีวนิ ยั มงุ่ มั่นในการทางาน ในการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ไดเ้ หมาะสม ๕. มีทกั ษะเบื้องต้นในการออกแบบไดเ้ หมาะสมกับประโยชน์ใชส้ อย โดยใช้ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นมา ประยุกตใ์ ช้ ๖. มที ักษะในการออกแบบและสามารถสร้างผลติ ภัณฑ์ตามท่ีออกแบบ ใหป้ ระณีตสวยงามและมี ประโยชน์ ตรงตามความต้องการของผู้บรโิ ภค รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ า ศ32213 – ศ32214 นาฏศิลป์สากล 1 -2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ช่วั โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษานาฏศิลป์สากลในเรื่อง ความรพู้ ้นื ฐาน ศัพทเ์ บ้อื งต้นทางการเตน้ จงั หวะ ท่วงทา่ ลลี า การแตง่ กายและเพลงประกอบการเคล่อื นไหว ฝกึ ทา่ เต้นพ้ืนฐาน ท่วงท่า ลีลา การเคลือ่ นไหวสัน้ ๆ การเคลอื่ นไหวตามจงั หวะและความรสู้ ึก สามารถสร้างสรรค์ทา่ เตน้ จนิ ตลีลาประกอบเพลงประยกุ ต์ การแสดงอยา่ งเหมาะสมและวิจารณก์ ารแสดงท้ังของตนเองและผู้อื่นนามาปรับปรงุ การแสดง จดั การแสดงท่าเตน้ งา่ ย ๆ เป็นครงั้ คราวเพอ่ื ให้มีความรคู้ วามเข้าใจ เหน็ คณุ ค่าและภาคภมู ใิ จ มวี นิ ยั ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน มงุ่ มน่ั ในการทางาน มที ักษะสามารถเตน้ เข้ากับจังหวะเคลอ่ื นไหวได้อยา่ งเป็นธรรมชาติ จัดการแสดงในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ มคี วาม ตระหนัก ทจี่ ะถ่ายทอดและสร้างสรรค์งานได้อย่างชื่นชมน่าสนใจ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับนาฏศิลปส์ ากลในเร่อื ง ความรพู้ ื้นฐาน ศัพทเ์ บ้ืองต้นทางการเต้น จังหวะ ทว่ งทา่ ลีลา การแตง่ กายและเพลงประกอบการเคล่อื นไหว 2. นกั เรียนสามารถบอกและอธิบายท่าเต้นพื้นฐาน ท่วงท่า ลลี า การเคล่ือนไหวสัน้ ๆ การเคล่ือนไหว ตามจงั หวะและความรสู้ กึ ได้ 3. นกั เรยี นสามารถฝกึ ท่าเต้นพ้ืนฐาน ท่วงท่า ลลี า การเคล่ือนไหวส้ัน ๆ การเคลื่อนไหวตามจังหวะ และความร้สู ึกได้ 4. นักเรียนมีทักษะและสามารถสรา้ งสรรค์ทา่ เตน้ จนิ ตลลี าประกอบเพลงประยุกตก์ ารแสดงอยา่ ง เหมาะสม 5. นักเรยี นสามารถเตน้ เข้ากับจังหวะเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ จัดการแสดงทา่ เต้นง่าย ๆ เป็น ครง้ั คราว ในโอกาสต่าง ๆ ได้ 6. นกั เรียนสามารถวิจารณ์การแสดงท้งั ของตนเองและผอู้ น่ื แลว้ นามาปรับปรุงการแสดงใหด้ ีขึน้ ได้ อย่างเหมาะสม 7. นกั เรยี นมีวนิ ยั ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น มุ่งมนั่ ในการทางาน 8. นักเรียนมีความชนื่ ชมเห็นคณุ ค่าและภาคภูมิใจในผลงานท้งั ของตนเองและผู้อน่ื มคี วามตระหนักทีจ่ ะ ถ่ายทอดและสรา้ งสรรค์งานไดอ้ ยา่ งชืน่ ชมน่าสนใจ รวมท้ังหมด 8 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชา ศ32215 – ศ32216 นาฏศิลปพ์ ื้นเมอื ง 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษานาฏศิลปพ์ ้ืนเมืองในเรื่อง ประวัติความเปน็ มา การแตง่ กาย ลลี าทา่ รา เพลงประกอบการรา ฝกึ แสดงนาฏศลิ ปพ์ นื้ เมือง การละเล่นพื้นเมือง รอ้ งและราเพลงพนื้ เมืองตามความสนใจ การจดั ประเภทของการ แสดงพ้ืนเมือง ประวตั บิ ุคคลในท้องถน่ิ ทป่ี ระสบผลสาเร็จในการสร้างศลิ ปะพน้ื บ้าน สามารถจัดการแสดง พื้นบา้ นของจงั หวัดอ่างทอง และศลิ ปะพืน้ บ้านของภาคอน่ื ๆ ของประเทศไทยเป็นคร้งั คราว เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจช่นื ชม เห็นคุณค่า มวี นิ ยั ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น มุ่งมนั่ ในการทางาน และมีทักษะ เกีย่ วกบั การแสดงพน้ื บ้านสารวจและทาความเขา้ ใจ ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ สามารถอนรุ ักษแ์ ละนามาประยกุ ต์ใช้ ในชีวิตประจาวัน ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั นาฏศิลป์พนื้ เมืองในเร่ือง ประวตั ิความเปน็ มา การแตง่ กาย ลลี าท่ารา เพลงประกอบการรา ๒. นกั เรียนสามารถบอกและอธบิ าย ประเภทของการแสดงพ้ืนเมือง ประวัติบุคคลในท้องถ่ินทป่ี ระสบ ผลสาเร็จในการสร้างศลิ ปะพ้ืนบ้านได้ ๓. นักเรยี นสามารถฝึกแสดงนาฏศลิ ป์พนื้ เมือง การละเล่นพนื้ เมือง ร้องและราเพลงพืน้ เมืองตามความ สนใจได้ ๔. นักเรยี นมที ักษะและสามารถจัดการแสดงพน้ื บ้านของจงั หวัดอา่ งทอง และศิลปะพ้นื บ้านของภาค อนื่ ๆ ของประเทศไทยเป็นครั้งคราวได้ ๕. นักเรยี นสามารถสารวจและทาความเขา้ ใจ ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นได้ ๖. นักเรยี นมีวินัย ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน มุ่งมน่ั ในการทางาน ๗. นกั เรียนมคี วามชืน่ ชมเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในศลิ ปะการแสดงพ้ืนบา้ น ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ มี ความตระหนักท่จี ะถา่ ยทอดและอนุรกั ษ์และนามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันต่อไป รวมทั้งหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชา ศ32217 – ศ32218 ร้องเพลงไทยสากล – ไทยลกู ทงุ่ 1 -2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชว่ั โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาเก่ียวกบั อวัยวะและระบบท่ีเกี่ยวข้องในการออกเสยี ง เทคนคิ การออกเสียงและการรอ้ งเพลง ทฤษฎีโนต้ สากล การออกอักขระและสาเนยี ง การแสดงท่าทางประกอบ ลกั ษณะวิธสี ร้างอารมณ์การพดู และการ ขบั ร้องเพลงไทยสากลและหรือไทยลูกทงุ่ โดยการร้องเดีย่ ว รอ้ งหมู่ หลักการปฏบิ ัติตนฝกึ การบริหารรา่ งกาย ใน การออกเสียง หายใจเขา้ ออกและควบคุมอวยั วะในการออกเสยี งอา่ นโนต้ ทานอง เนือ้ ร้อง ขับรอ้ งเพลงไทยสากล และหรือเพลงลกู ทุ่ง โดยการร้องเดยี่ ว ร้องหมรู่ ้องประกอบดนตรี แสดงท่าทางและสร้างอารมณ์ในเสยี งเพลงให้ตรงกับเน้อื หาของเพลงเพื่อใหม้ ีความร้คู วามเข้าใจ มี วนิ ยั ใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน มุ่งม่ันในการทางาน และมีทักษะเกีย่ วกบั ลักษณะและคณุ สมบัตขิ องเสียง สามารถขบั ร้องเพลง ประกอบดนตรไี ดอ้ ย่างมคี วามสุขในการเรยี น นาภมู ิปัญญาท้องถิน่ มาผสมผสานได้อยา่ งกลมกลืนและเห็นคุณคา่ เกิดความชนื่ ชม ผลการเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนบอกถงึ องค์ประกอบและอวยั วะและการกาเนิดเสียงเบื้องต้นได้ ๒. อธบิ ายถึงเทคนคิ การออกเสยี ง และการเปลง่ เสียงตามหลักการได้ ๓. นักเรียนอธบิ ายถึงการขับรอ้ งเพลงเบอ้ื งตน้ ได้ ๔. สามารถอธิบายถึงทฤษฎโี นต้ สากลได้ ๕. สามารถแสดงท่าทางประกอบ ลกั ษณะวธิ สี ร้างอารมณ์การพดู และการขบั ร้องเพลงไทยสากลและหรือ ไทยลูกทุ่งได้ ๖. สามารถขบั ร้องเพลงเด่ียว และประกอบดนตรไี ด้ ๗. สามารถขบั ร้องเพลงหมู่ และประกอบดนตรีได้ ๘. นกั เรียนร่วมจัดการแสดงขบั ร้องเพลงได้ รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ พ3๒20๑ เปตอง กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกติ การเคลือ่ นไหวอยา่ งสร้างสรรค์ เครอื ขา่ ยการออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬานนั ทนาการ การเล่นกีฬา ไทยหรอื สากล การวางแผนการออกกาลงั กายและเล่นกีฬาเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพและสมรรถภาพของตนเอง การ เล่นกฬี าเป็นประจาสมา่ เสมอ การสรา้ งวิถชี ีวติ ทม่ี สี ขุ ภาพดีตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั การและวิธี ประยุกต์การรกุ และการป้องกันในการเลน่ และแข่งขนั กีฬายืดหยนุ่ ความร้เู ก่ียวกบั สิทธิ กฎ กตกิ า ความปลอดภัย การใหค้ วามรว่ มมือ ในการเล่น การแข่งขนั และในระหวา่ งการเข้ารว่ มกจิ กรรมทางกาย ความมนี า้ ใจนักกีฬา มี จิตวิญญาณและมสี ุนทรยี ภาพในการเล่น การแข่งขนั กฬี า และมมี ารยาทในการดูกีฬาเปตอง โดยนากระบวนกลมุ่ การปฏบิ ตั ิ และทกั ษะทางกลไกการเคล่ือนไหวมาใชใ้ นการออกกาลังกาย การเล่นกฬี า และกิจกรรมนนั ทนาการ การสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ มีมารยาทในการดูการเล่นและการแข่งขันด้วยความมนี ้าใจนกั กฬี า สามารถเลน่ กฬี า และสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ ได้อยา่ งถกู ต้องสม่าเสมอด้วยความชื่นชมและสนุกสนาน เห็นคณุ ค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชวี ติ ประจาวนั มีคุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. เรยี นรปู้ ระวตั ิความเปน็ มา และกฎ กตกิ า ของกีฬาเปตอง ๒. เรยี นรู้ทกั ษะการเล่นเปตอง ๓. เรยี นรู้ทักษะการโยน – การโยนตีลกู ๔. เรียนรทู้ ักษะการแขง่ ขนั เปตองประเภททีม รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ พ3๒20๒ เซปคั ตระกร้อ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หนว่ ยกติ การเคลือ่ นไหวอยา่ งสรา้ งสรรค์ เครอื ข่ายการออกกาลังกายและการเลน่ กีฬานนั ทนาการ การเล่นกฬี า ไทยหรือสากล การวางแผนการออกกาลงั กายและเล่นกีฬาเพ่ือพัฒนาบุคลิกภาพและสมรรถภาพของตนเอง การ เล่นกีฬาเปน็ ประจาสมา่ เสมอ การสรา้ งวิถชี วี ิตท่ีมีสุขภาพดีตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลกั การและวธิ ี ประยุกต์การรกุ และการป้องกันในการเลน่ และแขง่ ขันกีฬาเซปัคตะกร้อ ความรู้เกีย่ วกบั สิทธิ กฎ กติกา ความ ปลอดภัย การให้ความร่วมมอื ในการเล่น การแขง่ ขัน และในระหวา่ งการเข้ารว่ มกิจกรรมทางกาย ความมนี ้าใจ นักกีฬา มีจิตวิญญาณและมีสุนทรยี ภาพในการเลน่ การแข่งขนั กีฬา และมมี ารยาทในการดกู ีฬาเซปัคตะกร้อ โดยนากระบวนกล่มุ การปฏบิ ตั ิ และทักษะทางกลไกการเคลือ่ นไหวมาใช้ในการออกกาลังกาย การเล่นกีฬา และกจิ กรรมนันทนาการ การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ มีมารยาทในการดูการเลน่ และการแขง่ ขนั ด้วยความมนี า้ ใจนกั กีฬา สามารถเล่นกฬี า และสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพ ได้อย่างถกู ต้องสมา่ เสมอดว้ ยความชืน่ ชมและสนุกสนาน เห็นคณุ ค่าของการนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจาวนั มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. เรยี นรู้ประวัติความเปน็ มา และกฎ กติกาการแขง่ ขนั ของกีฬาตะกร้อ ๒. เรยี นรู้ทักษะการเคลื่อนไหวของกีฬาตะกร้อ ๓. เรยี นรทู้ ักษะการเลน่ ลูกดว้ ยข้องเท้าด้านในหรือลูกแป ๔. เรียนรทู้ ักษะการเล่นลกู หลังเท้า ๕. เรยี นรู้ทกั ษะการเลน่ ลกู เขา่ ๖. เรยี นรู้ทักษะการเล่นลกู ศรีษะ ๗. เรียนรูท้ ักษะการเลน่ โต้ลูก ๘. เรยี นรทู้ ักษะการเลน่ ทีม รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรยี นรู้

พ3๐20๕ เพศศึกษา ๕ คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา เวลา 20 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษาวเิ คราะห์คุณค่า หรือส่ิงที่มคี วามหมายกบั ชีวติ เพื่อวางแผนจดั ลาดับความสาคัญ และมี เปา้ หมายในชวี ติ ทดี่ ี สารวจความรู้สกึ ค่านยิ มของตนเองท่ีมตี ่อเน้ือตวั รา่ งกาย ค่านยิ มทางสังคมในเร่ือง ภาพลักษณร์ ่างกาย ซ่ึงสง่ ผลต่อความรสู้ ึกมนั่ ใจในตนเองของวัยรนุ่ หญงิ ชาย และผลกระทบของการพยายาม ปรบั เปล่ียนหรือดัดแปลงร่างกาย คา่ นยิ มในเรอ่ื งเพศ และบทบาททางเพศ มสี ว่ นสาคญั ในการกาหนด ความสัมพันธข์ องหญิงชาย ปญั หาและผลกระทบจากการมเี พศสัมพันธ์ท่ีไม่พร้อม แนวทางการป้องกันและแก้ไข ปญั หาสขุ ภาพทางเพศท่ีอาจเกดิ ขึ้น วเิ คราะห์การตัดสินใจโดยคานงึ ถึงผลท่ีตามมาอยา่ งรอบด้าน ท้ังผลบวกและ ลบ รแู้ ละเข้าใจสิทธใิ นการดารงชวี ิตตามปกติของผูต้ ิดเช้ือ สาเหตขุ องอคติท่มี ีต่อการอยู่ร่วมกับผ้ตู ิดเช้อื ในสังคม การเรียนร้ทู ่ีจะเผชญิ กับการเปลี่ยนแปลง การยตุ คิ วามสัมพนั ธ์ หรอื การเผชิญความผิดหวงั โดยไมใ่ ช้ความรุนแรง ท้งั ต่อตัวเองและคนอนื่ ขอ้ มูลทีว่ ัยรุน่ ควรรู้เพื่อใช้ประกอบการตัดสนิ ใจเรอื่ งการมเี พศสัมพันธ์ ค่านิยมในสงั คมท่ี เกี่ยวข้องกับความเป็นชายท่สี ่งผลกระทบในทางลบ ทางเลือกใหม่ทีจ่ ะแสดงความเป็นชายโดยไมท่ ารา้ ยตวั เอง และผอู้ ่นื ผลกระทบของค่านิยมเรื่องบทบาทชายหญงิ ทมี่ ีต่อการมีเพศสมั พนั ธ์และการป้องกนั วธิ กี ารที่แสดง ความรบั ผดิ ชอบใหต้ นมีสุขภาพทางเพศท่ปี ลอดภัยหากมเี พศสัมพันธ์ คุณสมบัติสาคัญของการเปน็ ผ้ใู ห้บริการ ปรึกษา วธิ กี ารสอ่ื สารเพื่อลดความขดั แย้ง สาเหตุและผลกระทบของการมีอคติต่อเพศทางเลือก แนวทางการ ส่งเสริมการยอมรับความหลากหลายทางเพศ ข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือก หากพบว่ามีการต้งั ท้องขณะเรยี น ช้นั มัธยม แหล่งบรกิ ารทใี่ หค้ วามชว่ ยเหลือเม่ือเกิดต้งั ครรภ์ สาเหตุของรปู แบบครอบครวั ทห่ี ลากหลายในสงั คม ปัจจุบัน ความสาคัญของครอบครัวที่มีตอ่ วยั รุ่น และสิ่งสาคญั ท่จี ะทาใหเ้ ยาวชนเตบิ โตเปน็ เยาวชนทมี่ คี ณุ ภาพ และมคี วามสุข โดยนากระบวน การสืบคน้ ข้อมูล การอภปิ ราย กระบวนการกลุ่ม แสดงบทบาทสมมุติ กระบวนการ เรยี นรู้ผ่านประสบการณ์ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ แสดงออกถึงความรักความเอื้ออาทร ความเขา้ ใจใน อิทธิพลของครอบครัว เพอ่ื น สังคม และวฒั นธรรมทีม่ ีต่อพฤตกิ รรม ทางเพศ การดาเนนิ ชีวติ และวิถชี ีวติ ท่ีมสี ุขภาพดี เหน็ คณุ ค่าของการนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ในชีวิตประจาวัน มคี ณุ ธรรมจริยธรรม คา่ นยิ มที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. เพือ่ ใหม้ ีความรู้พอเพยี งในเร่ืองกระบวนการเปล่ยี นแปลงทางด้านรา่ งกายและสรรี ะของทั้งสองเพศอันมี ผลต่อความคดิ สติ ปญั หา อารมณ์ และจิตใจ 2. เพอ่ื ชว่ ยขจดั ความกังวลเกี่ยวกับเรอื่ งการพัฒนา การปรบั ตัว และการวางตัวให้เหมาะสมกบั เพศตรง ข้าม 3. เพอื่ เสริมสรา้ งใหเ้ กดิ ทัศนคติที่ถูกต้องเก่ยี วกบั เร่ืองเพศ ทั้งในเรอ่ื งท่ีเกีย่ วกับตนเองและผู้อื่น 4. เพอื่ ใหต้ ระหนักถึงคุณค่าของการใชม้ นุษย์สัมพนั ธท์ ถ่ี ูกต้องเพื่อการดารงชีวติ ทร่ี าบรืน่ ของแตล่ ะบุคคล ครอบครัว และสังคม

5. เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจในตนเองอย่างถ่องแทใ้ นเร่อื งความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนมนษุ ย์ทง้ั สองเพศ และชว่ ยใหม้ องเห็นและเขา้ ใจว่าคนนนั้ มหี น้าท่ี มีพนั ธะ มีความรับผดิ ชอบตอ่ เพอ่ื นมนษุ ย์ดว้ ยกนั มิใช่ แกต่ นรว่ มด้วยเสมอ 6. เกิดกระบวนทัศน์หรือวธิ คี ิดต่อการจดั การเรยี นรเู้ พศศึกษาเป็นเชิงบวกและเข้าใจแนวคิดเรือ่ งเพศศึกษา รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ง322๐๕ การผลิตพืชอนิ ทรยี ์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต .................................................................................................................................................................. ศกึ ษา ความหมาย ความสาคัญและประโยชน์ของการผลิตพืชอินทรีย์ ชนิดของปุ๋ยอินทรีย์ท่ีจะนามาใช้ ในการผลิต ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประเภทและชนิดของพืชท่ีจะนามาใช้ในการผลิตเป็นพืชอินทรีย์ การจัดการหรือ การดาเนินการในลกั ษณะของทาการเกษตรแบบอินทรยี ์ท่ถี ูกต้องตามหลักวิชาการ การผลิตตามข้ันตอนวิธีการ การวิเคราะห์ตลาด การจาหน่ายและการจัดทาบัญชีรายรับ - รายจ่ายได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รักความ เป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องการผลิตพืชอนิ ทรียไ์ ด้ 2. บอกชนิดของปุ๋ยอินทรยี ์ทจี่ ะนามาใชใ้ นการผลิตพืชอนิ ทรยี ์ได้ 3. มีทักษะเก่ยี วกบั การผลติ การวเิ คราะห์ตลาด จาหน่ายผลผลิตและการจัดทาบญั ชรี ายรับ -รายจ่าย ได้ถูกต้องเหมาะสม 4. มคี ุณธรรม จริยธรรม ดา้ นความรบั ผดิ ชอบ รักการทางาน ขยนั ซอ่ื สัตย์ อดทน ตรงตอ่ เวลา เสียสละและมีวินยั ในการทางาน เหน็ คุณค่าของการทางาน ตระหนักถงึ ความสาคญั ในการ ใช้ ทรัพยากรธรรมชาติได้อยา่ งคุ้มคา่ และถกู วธิ ี รวมท้ังหมด 4 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม ง322๐๖ การปลูกพืชผกั ทั่วไป กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ .................................................................................................................................................................. ศึกษาความหมายความสาคัญและประโยชน์ของพืชผักท่ัวไป ผักท่ีใช้กินผลและผักท่ีกินใบ เช่น ผักบุ้ง คะน้า มะเขือ แตงกวา ถ่ัวฝักยาว ขิงตะไคร้พริกโหระพาฯลฯสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การเตรียมดินปลูก แปลงเพาะ แปลงปลูก วธิ กี ารปลกู การปฏิบตั ดิ แู ลรักษา การเกบ็ เกีย่ ว ปฏิบัติเลือกปลูกพืชผักทั่วไปอย่างนอ้ ย 4 ชนิด สามารถเตรียมดินปลกู ทาแปลงเพาะเมล็ด เพาะ เมล็ดผักย้ายปลูกหรือปลูกด้วยการแยก แบ่งปักชา ดูแลรักษา เก็บเกี่ยวและจัดการผลผลิตจาหน่ายคานวณค่า ใช่จา่ ย กาหนดราคาขาย จัดจาหน่าย จดบันทกึ การปฏิบตั ิงานทาบัญชีรายรบั - รายจ่าย และประเมินผล เพื่อให้มีความรู้ในการปลูกผักตามขั้นตอนวิธีการ ทางานด้วยความมุ่งม่ัน อดทน มีวินัย มีเจตคติต่อ อาชีพสจุ รติ เข้าใจสภาพปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ระหวา่ งการทางาน และสามารถแกป้ ัญหาเบอ้ื งต้นได้ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการปลูกพืชผกั ท่วั ไป 2. จาแนกประเภทของพชื ผกั ท่ัวไป 3. บอกปจั จัยท่ีมอี ิทธิพลต่อการเจรญิ เตบิ โตของผักท่วั ไป 4. เลอื กพนื้ ทปี่ ลกู และการวางแผนปลูกได้ 5. ปฏิบัตกิ ารปลูกได้อย่างถกู ต้อง 6. ปฏิบัตดิ แู ลรกั ษาให้ น้า ปุ๋ย และการกาจดั วัชพชื 7. ปฏิบตั ิการปอ้ งกันกาจัดโรคและแมลง 8. ปฏิบัติการเก็บเกยี่ ว และการดแู ลรกั ษาหลังจากการเกบ็ เกี่ยว 9. วิเคราะห์ความต้องการของตลาดในทอ้ งถ่นิ ได้ 10.จดบันทกึ การปฏิบัติงานและจัดทาบัญชรี ายรับ – รายจา่ ยได้ 11.จดั จาหนา่ ยผลผลิตได้ 12.มคี วามซ่ือสตั ย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุง่ มนั่ ในการทางาน รักความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ รวมท้ังหมด 12 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ง3๒๒0๑ คอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ๑.๐ หน่วยกิต เวลา ๔0 ชวั่ โมง ............................................................................................... ........................................................................... ศกึ ษาคุณสมบัตขิ องเครื่องคอมพิวเตอร์ในงานกราฟิก การเขยี นรูป การวาดรปู ด้วยโปรแกรม วาดภาพ กราฟ และรปู กราฟิกพ้นื ฐาน การสร้างรปู ภาพสาหรับงานทาป้ายประกาศ การพมิ พ์รปู ภาพงานศิลปะ ดว้ ยคอมพิวเตอร์ ปฏบิ ัติการสร้าง โดยใชค้ าส่ังจากโปรแกรมกราฟิก สร้างภาพ วาดภาพ เกบ็ ภาพ เรียกภาพมาแกไ้ ข ระบายสี คัดลอกภาพ ขยายและลดขนาดภาพ รูปแบบตวั อักษร พิมพ์งาน เพอ่ื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจและทักษะ เก่ียวกับการสร้างภาพ และสร้างแนวคดิ เกี่ยวกบั การสรา้ งงาน กราฟิกดว้ ยคอมพิวเตอร์ได้ ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความรู้พื้นฐานของโปรแกรมสรา้ งงานกราฟิกได้ 2. ใช้คาส่งั โปรแกรมสร้างงานกราฟิกได้อย่างหลากหลาย 3. สร้างและแก้ไขงานกราฟิกได้ รวมทั้งหมด 3 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ง3๒๒0๓ คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ จานวน ๑.๐ หน่วยกิต เวลา ๔0 ช่ัวโมง ............................................................................................... ........................................................................... ศึกษาพื้นฐานและข้ันตอนการสร้าง Web Page ดว้ ยโปรแกรมท่ีต้องการ การแทรกวัตถุ ตา่ ง ๆ ลงใน เว็บ เช่น การแทรกตาราง การแบง่ พนื้ ทดี่ ว้ ยเฟรม การแทรกภาพนงิ่ ภาพเคลือ่ นไหว การสรา้ งฟอร์ม การสร้าง เทม็ เพลต การสรา้ งการเชื่อมโยงแบบตา่ ง ๆ รวมไปถงึ การขอพ้ืนทีแ่ ละการอัพโหลดขน้ึ เว็บไซต์ เป็นต้น ปฏบิ ตั ิการสรา้ ง Web Page ดว้ ยโปรแกรมทต่ี อ้ งการ การแทรกวัตถตุ ่าง ๆ ลงใน Web Page การสรา้ งการเชือ่ มโยงแบบต่าง ๆ การใช้เทคนิคตา่ ง ๆ ในการสร้างเว็บใหม้ คี วามน่าสนใจ เพอ่ื ให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะในการสร้าง Web Page สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใชง้ านใน ชวี ติ ประจาวันได้ ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความรู้พ้ืนฐานการสรา้ ง Web Page ได้ 2. ปฏิบตั ิการสร้าง Web Page ได้ 3. แทรกวัตถุตา่ ง ๆ ลงใน Web Page ได้ 4. ใช้เทคนคิ ต่าง ๆ ในการสร้างเวบ็ ใหม้ คี วามน่าสนใจ 5. การนาความรู้ไปประยุกตใ์ ชง้ านในชวี ติ ประจาวนั ได้ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ อ32201 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1 หนว่ ยกิต ฟังและพูดและบทสนทนาเกี่ยวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่างๆ ในท้องถ่ิน ตลอดจนการใช้ภาษาเพ่ือ การสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อ เทคโนโลยี วิธีการ และรูปแบบท่ีหลากหลายในการนาเสนอแลกเปลี่ยน ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความคิดรวบยอด ความคิดเห็น การแสดงความรูส้ ึก ความต้องการท่ีเก่ียวขอ้ งกับกิจกรรม เรื่องราว เหตุการณ์ ท้ังของส่วนตัว ชุมชน และสังคมในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตได้อย่างสร้างสรรค์ มี ประสิทธิภาพ และสนุ ทรียภาพ ถูกตอ้ งเหมาะสม ตามมารยาทสังคม อา่ น เขยี น บทอ่าน บทความ ข่าวสาร คาบรรยาย คาแนะนา การ์ตูน บทกลอน ป้ายประกาศ สัญลกั ษณ์ เอกสารนาเที่ยว บทโฆษณาต่างๆ ได้เข้าใจ สามารถตีความข้อมูล ขา่ วสาร บทความทีเ่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการ เรยี นรู้อน่ื และใช้ภาษาในการนาเสนอ การถา่ ยโอนขอ้ มลู ไดถ้ ูกต้องตามสถานการณ์ ศึกษาสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ศึกษาหาความรู้จากสื่อประเภทต่างๆ ที่ไม่ใช่ความเรียง ข้อความ ข้อมูล ข่าวสารจากสื่อ ฟัง พูด อ่าน เขียน ข้อมูลข่าวสาร บทความที่เป็นความเรียง บทเพลง บทกลอนได้เข้าใจ ฟัง อ่าน ตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และนาความรู้มาใช้อย่างมีวิจารณญาณ มีทักษะในการ สอื่ สารทางภาษา แลกเปล่ียนข้อมูล ข่าวสาร แสดงความคิดเห็น โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการท่ีเหมาะสมเพ่ือ การเรยี นรู้ตลอดชีวิต นาเสนอความคิดเหน็ ความคดิ รวบยอด เกีย่ วกับเหตุการณ์และประสบการณต์ ่างๆ อ่านตีความ ถอดความและแปลประโยคจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในหัวข้อเรื่องเก่ียวกับ ชีวิตประจาวัน สิ่งใกล้ตัว ความรู้ทั่วไป บันเทิงคดี และเน้ือหาสาระท่ีเกี่ยวข้อง กับสาระการเรียนรู้อ่ืน เพื่อ ถ่ายทอดความคดิ และความหมายจากภาษาหน่ึงไปอีกภาษาหนงึ่ ได้ตรงกบั วัฒนธรรมการใช้ภาษา รวมทั้งการเห็น คุณประโยชน์และคณุ คา่ ของงานแปลของตนเองและผู้อน่ื ใช้ภาษาอังกฤษได้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาเพ่ือสร้างเสริมความร่วมมือ และ ความสัมพันธอ์ นั ดีระหว่างบุคคล ชมุ ชน และสังคม ตลอดจนเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรอู้ นั เป็นพ้นื ฐานใน การพัฒนา และเปดิ โลกทัศน์เพ่ือการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี และการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต ผลการเรียนรู้ 1. สนทนาแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เหตกุ ารณ์ทเี่ กิดในสงั คมได้ 2. เขียนแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับเร่ืองประเด็นร้อนในสงั คมได้ 3. สนทนาโตต้ อบเก่ยี วกบั สถานการณต์ า่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั ได้ 4. มีทกั ษะในการใช้ภาษาต่างประเทศในการอ่านในหัวข้อเร่อื งบุคลกิ นิสยั ของบุคคล อาหาร เครื่องด่ืม ขั้นตอนปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา ปา้ ยประกาศ กีฬา สภุ าษติ ภาวะโลกร้อน 5. อ่านข้อความทีเ่ ปน็ ความเรยี งและไม่เป็นความเรยี งทเ่ี ป็นทางการและไม่เปน็ ทางการ 6. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั วัฒนธรรมทางภาษา ชวี ิตความเปน็ อยู่ของเจา้ ของภาษา 7. มีความเขา้ ใจในภาษาต่างประเทศ สบื ค้น ข้อมลู ความร้ใู นวิชาอ่ืนๆ ทเ่ี รียนตามความสนใจจากสื่อ หลากหลาย 8. ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษเพอ่ื การแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอย่างตอ่ เน่ือง 9. ฝกึ ฝนการใชภ้ าษาอังกฤษในโรงเรยี นเพือ่ การแสวงหาความร้เู พ่ิมเตมิ อย่างตอ่ เนื่อง หาความ เพลดิ เพลนิ เปน็ พนื้ ฐานในการทางานและประกอบอาชพี

10.เข้าใจกระบวนการอ่านและวเิ คราะหข์ ้อความ สรปุ ใจความสาคญั ของเรอ่ื งท่ีอา่ น บอกสาเหตุ และผลจุดมุง่ หมาย และบอกความเหมือนและความแตกต่างได้ถูกต้อง 11.เขา้ ใจภาษาต่างประเทศในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร บริการ กจิ กรรม สนิ ค้าตา่ งๆ งานอาชีพใน รูปแบบทีเ่ หมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ 12.ตคี วาม สรุปความและแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับข้อความ ขอ้ มูล ขา่ วสาร บทความ สารคดี บนั เทิง คดี บทเพลง บทกลอน ทีซ่ บั ซ้อนขน้ึ จากสื่อสงิ่ พมิ พ์และอนื่ ๆ 13.ใชภ้ าษาองั กฤษในการแสวงหาความร้ทู ่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื เพ่ือขยายโลกทศั นจ์ าก แหล่งข้อมูลทห่ี ลากหลาย เพ่ือการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต 14.เขา้ ใจ ตีความ ถอดความและแปลประโยคจากภาษาองั กฤษเปน็ ภาษาไทยในหวั ข้อเร่อื งต่างๆ เกย่ี วกับชีวิตประวัน สิ่งใกล้ตัว ความรู้ทวั่ ไป บันเทิงคดรี วมท้ังเน้อื หาสาระทีเ่ ก่ยี วกบั สาระการเรียนรู้ อนื่ 15.ถ่ายทอดความคดิ และความหมายจากภาษาหน่ึงไปสู่อกี ภาษาหน่งึ ได้ตรงกับวัฒนธรรมการใชภ้ าษา ของบทแปลนน้ั รวมทั้งหมด 15 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม อ32202 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1 หนว่ ยกติ อ่าน เขียน บทอา่ น บทความ ข่าวสาร คาบรรยาย ตาแนะนา การต์ นู บทกลอน ป้ายประกาศ สญั ลักษณ์ เอกสารนาเที่ยว บทโฆษณาต่าง ๆ ไดเ้ ขา้ ใจ สามารถตีความขอ้ มูล ขา่ วสาร บทความท่ีเกี่ยวข้องกบั กลุ่มสาระการ เรียนรอู้ น่ื และใช้ภาษาในการนาเสนอ การถา่ ยโอนขอ้ มลู ไดถ้ ูกตอ้ งตามสถานการณ์ ศึกษา หาความรู้สิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิคส์ สื่อประเภทต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ความเรียง ข้อความ ข้อมูล ขา่ วสารจากส่อื ฟัง พดู อ่าน เขียน ขอ้ มลู ขา่ วสาร บทความท่ีเป็นความเรียง บทเพลง บทกลอนไดเ้ ข้าใจ ฟงั อ่าน ตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และนาความรู้มาใช้อย่างมีวิจารณญาณ มีทักษะในการส่ือสาร ทางภาษาแลกเปล่ียนข้อมูล ข่าวสารแสดงความคิดเห็น โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการท่ีเหมาะสมเพื่อการ เรยี นรูต้ ลอดชีวติ นาเสนอความคิดเห็น ความคิดรวบยอด เกีย่ วกับเหตกุ ารณ์และประสบการณ์ตา่ ง ๆ อ่านตีความ ถอดความและเขียนบทแปลท่ีแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในหัวข้อเรื่องเก่ียวกับ ชีวิตประจาวัน สิ่งใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป บันเทิงคดี และเนื้อหาสาระท่ีเกี่ยวข้อง กับสาระการเรียนรู้อื่น เพ่ือ ถ่ายทอดความคิด และความหมายจากภาษาหน่ึงไปอีกภาษาหน่ึงได้ตรงกับวัฒนธรรมการใช้ภาษา สอดคล้องกับ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ความสัมพันธ์อันดีระหว่างบคุ คล ชุมชน และสังคม เพอื่ เปน็ เครื่องมือในการแสวงหา ความรู้ อันเป็นพน้ื ฐานในการพัฒนา และเปดิ โลกทัศนเ์ พ่อื การศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการเรียนรตู้ ลอด ชีวิต ผลการเรยี นรู้ 1. อา่ นประกาศ และโฆษณา การต์ ูน บทกลอน ได้ถกู ต้องตามการออกเสยี งแล้วสามารถตอบคาถามได้ 2. อ่านบทความสัน้ ๆ และพูดแสดงความคิดเหน็ ได้ 3. อ่านข้อความท่ีเปน็ ความเรียงและไม่เป็นความเรยี งทเ่ี ปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั วฒั นธรรม ทางภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา 5. มคี วามเข้าใจในภาษาต่างประเทศ สืบคน้ ขอ้ มลู ความรู้ในวิชาอื่น ๆ ที่เรียนตามความสนใจ 6. ใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสารในการทางาน จัดการด้านการเรียน การปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นอย่าง มีความสขุ 7. ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษในโรงเรียนเพื่อการแสวงหาความรู้เพ่ิมเติมอย่างต่อเนื่อง เป็นพ้ืนฐาน ในการทางานและประกอบอาชีพ 8. เขา้ ใจกระบวนการอ่านและวิเคราะหป์ ระเภทข้อความ สรปุ ใจความสาคัญของเร่ืองที่อา่ น บอกสาเหตุ และผลท่ีเกิดข้นึ และจุดมุ่งหมายของผ้เู ขียนได้ 9. เข้าใจภาษาตา่ งประเทศในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ขา่ วสาร บรกิ าร กจิ กรรมสนิ ค้าต่าง ๆ งานอาชีพใน รปู แบบท่ีเหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ 10. ตคี วาม สรุปความและแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั ข้อความ ข้อมูล ขา่ วสาร บทความ สารคดี บันเทิง คดี บทเพลง บทกลอน ที่ซบั ซ้อนขนึ้ จากสอื่ ส่ิงพิมพแ์ ละอื่น ๆ 11. ใช้ภาษาองั กฤษในการแสวงหาความรูท้ เี่ ก่ียวข้องกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อื่นเพ่ือขยายโลกทศั น์จาก แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เพ่อื การเรยี นรู้ตลอดชวี ิต

12. เข้าใจ ตีความ ถอดความและเขยี นบทแปลที่แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในหัวขอ้ เรื่อง ตา่ ง ๆ เกี่ยวกับชวี ิตประจาวัน สิ่งใกล้ตวั ความรทู้ วั่ ไป บนั เทิงคดรี วมท้ังเนื้อหาสาระท่ีเกย่ี วข้องกับสาระการเรียนรู้อ่ืน 13. วเิ คราะหค์ วามถูกต้องและเหมาะสมในบทแปลตา่ งๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ 14. ถ่ายทอดความคดิ และความหมายจากภาษาหนง่ึ ไปสอู่ ีกภาษาหน่งึ ได้ตรงกับวัฒนธรรมการใช้ภาษา ของบทแปลน้นั รวมท้ังหมด 14 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ อ32203 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ฟังและพูดและบทสนทนาเก่ียวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่างๆ ในท้องถ่ิน ตลอดจนการใช้ภาษาเพื่อ การส่ือสารได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อ เทคโนโลยี วิธีการ และรูปแบบท่ีหลากหลายในการนาเสนอแลกเปล่ียน ความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด ความคดิ เห็น การแสดงความรูส้ ึก ความต้องการท่ีเก่ียวขอ้ งกับกิจกรรม เรื่องราว เหตุการณ์ ทั้งของส่วนตัว ชุมชน และสังคมในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตได้อย่างสร้างสรรค์ มี ประสิทธิภาพ และสุนทรยี ภาพ ถูกตอ้ งเหมาะสม ตามมารยาทสงั คม อา่ น เขียน บทอา่ น บทความ ข่าวสาร คาบรรยาย คาแนะนา การ์ตูน บทกลอน ป้ายประกาศ สัญลักษณ์ เอกสารนาเที่ยว บทโฆษณาต่างๆ ได้เข้าใจ สามารถตีความข้อมูล ขา่ วสาร บทความทเี่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการ เรยี นรู้อ่นื และใช้ภาษาในการนาเสนอ การถา่ ยโอนขอ้ มลู ไดถ้ ูกต้องตามสถานการณ์ ศึกษาส่ิงพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ศึกษาหาความรู้จากส่ือประเภทต่างๆ ที่ไม่ใช่ความเรียง ข้อความ ข้อมูล ข่าวสารจากส่ือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ข้อมูลข่าวสาร บทความท่ีเป็นความเรียง บทเพลง บทกลอนได้เข้าใจ ฟัง อ่าน ตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และนาความรู้มาใช้อย่างมีวิจารณญาณ มีทักษะในการ สอื่ สารทางภาษา แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร แสดงความคิดเห็น โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการท่ีเหมาะสมเพื่อ การเรียนร้ตู ลอดชวี ติ นาเสนอความคดิ เห็น ความคดิ รวบยอด เกี่ยวกับเหตุการณ์และประสบการณ์ตา่ งๆ อ่านตีความ ถอดความและแปลประโยคจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในหัวข้อเร่ืองเกี่ยวกับ ชีวิตประจาวัน ส่ิงใกล้ตัว ความรู้ทั่วไป บันเทิงคดี และเน้ือหาสาระที่เก่ียวข้อง กับสาระการเรียนรู้อื่น เพ่ือ ถา่ ยทอดความคิด และความหมายจากภาษาหนึ่งไปอกี ภาษาหนึง่ ได้ตรงกบั วัฒนธรรมการใช้ภาษา รวมทั้งการเห็น คณุ ประโยชน์และคุณคา่ ของงานแปลของตนเองและผู้อน่ื ใช้ภาษาอังกฤษได้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาเพ่ือสร้างเสริมความร่วมมือ และ ความสมั พันธ์อันดีระหว่างบุคคล ชมุ ชน และสังคม ตลอดจนเปน็ เครื่องมอื ในการแสวงหาความรูอ้ นั เปน็ พืน้ ฐานใน การพฒั นา และเปดิ โลกทัศน์เพอ่ื การศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี และการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ ผลการเรียนรู้ 1. สนทนาแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เหตุการณ์ทเ่ี กิดในสงั คมได้ 2. เขยี นแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเร่ืองประเด็นร้อนในสงั คมได้ 3. สนทนาโตต้ อบเกยี่ วกับสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจาวันได้ 4. มีทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศในการอา่ นในหัวข้อเรื่องบุคลกิ นิสยั ของบคุ คล อาหาร เคร่ืองด่ืม ข้ันตอนปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา ป้ายประกาศ กีฬา สภุ าษิต ภาวะโลกรอ้ น 5. อา่ นข้อความทเี่ ป็นความเรียงและไมเ่ ปน็ ความเรียงท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ 6. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับวัฒนธรรมทางภาษา ชีวติ ความเปน็ อยขู่ องเจา้ ของภาษา 7. มคี วามเขา้ ใจในภาษาต่างประเทศ สบื คน้ ข้อมลู ความรู้ในวิชาอ่นื ๆ ทเ่ี รยี นตามความสนใจจากสอ่ื หลากหลาย 8. ฝึกฝนการใชภ้ าษาอังกฤษเพอ่ื การแสวงหาความรู้เพม่ิ เติมอย่างตอ่ เนื่อง 9. ฝกึ ฝนการใชภ้ าษาองั กฤษในโรงเรียนเพือ่ การแสวงหาความรู้เพมิ่ เตมิ อยา่ งตอ่ เน่ือง หาความ เพลดิ เพลินเป็นพนื้ ฐานในการทางานและประกอบอาชีพ

10.เขา้ ใจกระบวนการอ่านและวเิ คราะห์ข้อความ สรุปใจความสาคญั ของเรือ่ งที่อ่าน บอกสาเหตุและผล จดุ มุ่งหมาย และบอกความเหมือนและความแตกตา่ งได้ถูกตอ้ ง 11.เข้าใจภาษาตา่ งประเทศในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร บรกิ าร กิจกรรม สินค้าต่างๆ งานอาชีพใน รปู แบบทเี่ หมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ 12.ตีความ สรุปความและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ขอ้ ความ ข้อมลู ขา่ วสาร บทความ สารคดี บนั เทิง คดี บทเพลง บทกลอน ทีซ่ บั ซ้อนขึน้ จากส่ือส่งิ พมิ พ์และอื่นๆ 13.ใช้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ทเี่ กี่ยวข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนเพ่ือขยายโลกทัศน์จาก แหล่งข้อมลู ท่หี ลากหลาย เพื่อการเรยี นรูต้ ลอดชวี ิต 14.เข้าใจ ตคี วาม ถอดความและแปลประโยคจากภาษาอังกฤษเปน็ ภาษาไทยในหัวข้อเร่อื งตา่ งๆ เก่ยี วกับชีวิตประวัน สิ่งใกล้ตัว ความรู้ทั่วไป บนั เทงิ คดีรวมทง้ั เนอ้ื หาสาระที่เก่ียวกบั สาระการเรียนรู้ อน่ื 15.ถ่ายทอดความคดิ และความหมายจากภาษาหน่ึงไปสู่อีกภาษาหนงึ่ ได้ตรงกบั วฒั นธรรมการใช้ภาษา ของบทแปลน้นั รวมทั้งหมด 15 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ อ32204 ภาษาองั กฤษ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต อา่ น เขียน บทอ่าน บทความ ข่าวสาร คาบรรยาย ตาแนะนา การต์ ูน บทกลอน ป้ายประกาศ สัญลักษณ์ เอกสารนาเท่ียว บทโฆษณาต่าง ๆ ได้เข้าใจ สามารถตีความข้อมลู ข่าวสาร บทความท่เี กย่ี วข้องกบั กลุ่มสาระการ เรียนรอู้ น่ื และใช้ภาษาในการนาเสนอ การถา่ ยโอนขอ้ มูลได้ถกู ต้องตามสถานการณ์ ศึกษา หาความรู้สิ่งพิมพ์หรือส่ืออิเล็กทรอนิคส์ ส่ือประเภทต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ความเรียง ข้อความ ข้อมูล ข่าวสารจากสื่อ ฟงั พูด อ่าน เขียน ขอ้ มลู ขา่ วสาร บทความที่เป็นความเรียง บทเพลง บทกลอนไดเ้ ข้าใจ ฟัง อา่ น ตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และนาความรู้มาใช้อย่างมีวิจารณญาณ มีทักษะในการสื่อสาร ทางภาษาแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารแสดงความคิดเห็น โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการท่ีเหมาะสมเพื่อการ เรียนร้ตู ลอดชีวติ นาเสนอความคิดเห็น ความคิดรวบยอด เก่ียวกบั เหตกุ ารณ์และประสบการณต์ า่ ง ๆ อ่านตีความ ถอดความและเขียนบทแปลท่ีแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในหัวข้อเร่ืองเกี่ยวกับ ชีวิตประจาวัน ส่ิงใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป บันเทิงคดี และเนื้อหาสาระท่ีเกี่ยวข้อง กับสาระการเรียนรู้อ่ืน เพ่ือ ถ่ายทอดความคิด และความหมายจากภาษาหน่ึงไปอีกภาษาหนึ่งได้ตรงกับวัฒนธรรมการใช้ภาษา สอดคล้องกับ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล ชุมชน และสังคม เพื่อเปน็ เครอื่ งมือในการแสวงหา ความรู้ อนั เปน็ พื้นฐานในการพัฒนา และเปิดโลกทศั นเ์ พื่อการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการเรียนรู้ตลอด ชีวิต ผลการเรียนรู้ 1. อ่านประกาศ และโฆษณา การ์ตนู บทกลอน ได้ถูกต้องตามการออกเสียงแลว้ สามารถตอบคาถามได้ 2. อ่านบทความสน้ั ๆ และพูดแสดงความคิดเห็นได้ 3. อา่ นข้อความทเ่ี ปน็ ความเรียงและไมเ่ ปน็ ความเรียงท่เี ป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ 4. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั วฒั นธรรม ทางภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา 5. มคี วามเขา้ ใจในภาษาตา่ งประเทศ สืบคน้ ขอ้ มลู ความรใู้ นวิชาอืน่ ๆ ทเ่ี รียนตามความสนใจ 6. ใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารในการทางาน จัดการด้านการเรียน การปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นอย่าง มคี วามสขุ 7. ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษในโรงเรียนเพื่อการแสวงหาความรู้เพ่ิมเติมอย่างต่อเนื่อง เป็นพ้ืนฐานในการ ทางานและประกอบอาชีพ 8. เขา้ ใจกระบวนการอ่านและวเิ คราะห์ประเภทข้อความ สรปุ ใจความสาคัญของเรื่องท่ีอา่ น บอกสาเหตุ และผลท่เี กดิ ข้ึนและจดุ มงุ่ หมายของผเู้ ขยี นได้ 9. เขา้ ใจภาษาตา่ งประเทศในการแลกเปลีย่ นข้อมูล ขา่ วสาร บรกิ าร กจิ กรรมสนิ ค้าต่าง ๆ งานอาชีพใน รูปแบบทีเ่ หมาะสมกับบคุ คลและกาลเทศะ 10. ตคี วาม สรุปความและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ขอ้ มลู ข่าวสาร บทความ สารคดี บันเทงิ คดี บทเพลง บทกลอน ท่ีซบั ซ้อนขน้ึ จากสอ่ื ส่ิงพิมพแ์ ละอนื่ ๆ 11. ใชภ้ าษาองั กฤษในการแสวงหาความร้ทู ีเ่ กยี่ วข้องกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อื่นเพื่อขยายโลกทัศน์จาก แหล่งขอ้ มลู ทีห่ ลากหลาย เพื่อการเรียนรตู้ ลอดชีวิต

12. เข้าใจ ตีความ ถอดความและเขยี นบทแปลที่แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในหัวขอ้ เรื่อง ตา่ ง ๆ เกี่ยวกับชวี ิตประจาวัน สิ่งใกล้ตวั ความรทู้ วั่ ไป บนั เทิงคดรี วมท้ังเนื้อหาสาระท่ีเกย่ี วข้องกับสาระการเรียนรู้อ่ืน 13. วเิ คราะหค์ วามถูกต้องและเหมาะสมในบทแปลตา่ งๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ 14. ถ่ายทอดความคดิ และความหมายจากภาษาหนง่ึ ไปสอู่ ีกภาษาหน่งึ ได้ตรงกับวัฒนธรรมการใช้ภาษา ของบทแปลน้นั รวมท้ังหมด 14 ผลการเรยี นรู้

โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๖ ระดบั ชน้ั เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ภาคเรยี น) รายวชิ าพื้นฐาน ๒๒๐ ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ๔๐ ค๓๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔๐ ส๓๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐ พ๓๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและ พลศกึ ษา ๒๐ ศ๓๓๑๐๑ ศิลปะ ๒๐ ง๓๓๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๒๐ อ๓๓๑๐๑ อังกฤษ ๔๐ รายวิชาเพิม่ เติม ๓๐๐ ง๓๓๒๐๕ งานเกษตร ๔๐ ง๓๓๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๔๐ ว๓๓๒๐๑ ชวี ิตและสิ่งแวดลอ้ ม ๖๐ อ๓๓๒๐๓ ภาษาอังกฤษ ๒๐ ท๓๓๒๐๑ การพูด ๑ ๒๐ พ๓๓๒๐.... สขุ ศึกษาและ พลศึกษา ๒๐ ส๓๒๒๐..... ศาสนาวัฒนธรรม และอาเซยี นศึกษา ๒๐ ง๓๑๒๐..... งานอาชพี ๘๐ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๖๐ ๑. แนะแนว ๒๐ ๒. กิจกรรมชุมนุม ๒๐ ๓. กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๒๐ กจิ กรรมเพมิ่ เติม ๑,๓๑๐ ๑. กจิ กรรมส่งเสรมิ สขุ นิสัย ๒๘๐ ๒. กจิ กรรมสง่ เสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๗๐ ๓. กิจกรรมหลักโภชนาการ ๓๗๐ ๔. กจิ กรรมหลกั ไตรรงค์ ๑๕๐ ๕. กจิ กรรมสง่ เสรมิ ภาวะผนู้ า ๑๔๐ ๖. กิจกรรมอนุรักษ์พลงั งานและสิง่ แวดล้อม ๒๒๐ ๗. กจิ กรรมสง่ เสรมิ อาชีพท้องถ่นิ ๔๐ ๘. กจิ กรรมพัฒนาสนุ ทรียภาพ ๔๐ รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด ๑,๘๙๐

โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๕๖ ระดบั ชั้นเรียน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ภาคเรียน) รายวชิ าพนื้ ฐาน ๒๒๐ ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย ๔๐ ค๓๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔๐ ส๓๓๑๐๒ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐ พ๓๓๑๐๒ สุขศกึ ษาและ พลศกึ ษา ๒๐ ศ๓๓๑๐๒ ศิลปะ ๒๐ ง๓๓๑๐๒ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๒๐ อ๓๓๑๐๒ องั กฤษ ๔๐ รายวิชาเพม่ิ เติม ๓๐๐ ง๓๓๒๐๖ งานเกษตร ๔๐ ง๓๓๒๐๓ คอมพวิ เตอร์ ๔๐ ว๓๓๒๐๒ ยากับชวี ติ ๖๐ อ๓๓๒๐๔ ภาษาอังกฤษ ๒๐ ท๓๓๒๐๒ การพูด ๒ ๒๐ พ๓๓๒๐.... สุขศกึ ษาและ พลศึกษา ๒๐ ส๓๓๒๐.... ศาสนาวฒั นธรรม และอาเซยี นศกึ ษา ๒๐ ง๓๓๒๐.... งานอาชีพ ๘๐ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๖๐ ๑. แนะแนว ๒๐ ๒. กิจกรรมชมุ นมุ ๒๐ ๓. กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๒๐ กจิ กรรมเพิ่มเติม ๑,๓๑๐ ๑. กจิ กรรมส่งเสรมิ สุขนิสยั ๒๘๐ ๒. กิจกรรมส่งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๗๐ ๓. กิจกรรมหลักโภชนาการ ๓๗๐ ๔. กจิ กรรมหลักไตรรงค์ ๑๕๐ ๕. กจิ กรรมสง่ เสรมิ ภาวะผนู้ า ๑๔๐ ๖. กิจกรรมอนรุ กั ษ์พลังงานและส่ิงแวดลอ้ ม ๒๒๐ ๗. กจิ กรรมสง่ เสรมิ อาชีพท้องถ่นิ ๔๐ ๘. กิจกรรมพัฒนาสนุ ทรยี ภาพ ๔๐ รวมเวลาเรยี นทั้งหมด ๑,๙๙๐

คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ท33101 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง ศกึ ษาหลักการอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถกู ต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกับเรอ่ื ง ท่ีอา่ น ตคี วาม แปลความ และขยายความเรื่องทอี่ ่าน วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์เรือ่ งทีอ่ ่านในทุกๆ ดา้ นอย่างมีเหตผุ ล คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรื่องท่ีอ่านและประเมินค่าเพ่ือนาความรู้ ความคดิ ไปใช้ตดั สินใจแกป้ ัญหาใน การดาเนิน ชวี ิต ตอบคาถามจากการอา่ นประเภทตา่ งๆ ภายในเวลาที่กาหนด อา่ นเรื่องต่างๆ แล้วเขยี นกรอบแนวคดิ ผัง ความคิด บันทึก ย่อความ และรายงาน เขียนส่ือสารในรูปแบบตา่ งๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ภาษาเรยี บ เรยี งถกู ต้อง มขี ้อมลู และสาระสาคัญชัดเจน เขยี นเรียงความ เขยี นย่อความจากส่ือทมี่ ีรปู แบบและเน้ือหา หลากหลาย ผลิตงานเขยี นของตนเองในรปู แบบต่างๆ มีมารยาทในการเขียน พดู ในโอกาสต่างๆ พูดแสดง ทรรศนะ โตแ้ ย้ง โนม้ น้าวใจ และเสนอแนวคิดใหม่ดว้ ยภาษาถกู ตอ้ งเหมาะสม อธบิ ายธรรมชาติของภาษา พลงั ของภาษา และลกั ษณะของภาษา วเิ คราะห์อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศและภาษาถ่ิน อธิบายและวิเคราะห์ หลกั การสรา้ งคาในภาษาไทย วิเคราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลกั การวิจารณ์ วิเคราะหแ์ ละ ประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมในฐานะทเ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ สังเคราะห์ ขอ้ คิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจรงิ ทอ่ งจาและบอกคณุ ค่าบทอาขยานและบท ร้อยกรองทม่ี ีคุณคา่ ตามความสนใจและนาไปใช้อ้างอิง โดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการเขยี น กระบวนการคิด ทักษะการใช้ภาษา ทกั ษะการส่ือสาร การ สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ วิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินค่า ฝึกฝนทักษะการฟัง การพูด การเล่าเร่ือง และการแสดงความคิดเห็นตามเจตนารมณ์ท่ีต้องการ ส่อื สาร สามารถนาความรูไ้ ปใช้ในการตดั สินใจและการดาเนินชีวิตประจาวัน มีจิตสาธารณะ ตระหนกั ถงึ คุณค่า ของคุณธรรมจริยธรรม ใช้ความรู้ภาษาไทยเพื่อการจรรโลงจิตใจ ธารงและพัฒนาสังคมได้เต็มศักยภาพของ ผเู้ รียน ตวั ชว้ี ัด ท 1.1 ม.6/1 ม.6/2 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/6 ม.6/7 ท 2.1 ม.6/1 ม.6/2 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/8 ท 3.1 ม.6/5 ท 4.1 ม.6/1 ม.6/5 ม.6/6 ท 5.1 ม.6/1 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/6 รวม 19 ตัวชี้วัด

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ท33102 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง ศึกษาหลักการสังเคราะห์ความร้จู ากการอ่านสื่อสงิ่ พิมพ์ สอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์และแหลง่ เรียนรตู้ ่างๆ มาพฒั นาตน พฒั นาการเรยี น และพฒั นาความรทู้ างอาชพี มีมารยาทในการอา่ น เขยี นสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชภ้ าษาเรยี บเรียงถูกต้อง มีขอ้ มลู และสาระสาคญั ชัดเจน ประเมนิ งานเขยี นของ ผู้อ่นื แลว้ นามาพัฒนางานเขียนของตนเอง มีมารยาทในการเขียน พดู ในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดงทรรศนะ โต้แยง้ โน้มนา้ วใจ และเสนอแนวคดิ ใหม่ ใช้คาและกลุ่มคา สร้างประโยคตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ อธิบายและวิเคราะห์ หลกั การสร้างคาในภาษาไทย วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลักการวิจารณเ์ บ้ืองต้น วิเคราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดีเชอ่ื มโยงกับการเรียนรู้ทางประวัตศิ าสตรแ์ ละวถิ ชี วี ิตของสังคมในอดตี วิเคราะหแ์ ละประเมินคุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะทเ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของ ชาติ สงั เคราะหข์ ้อคดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ ท่องจาและบอกคุณคา่ บท อาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่าตามความสนใจและนาไปใชอ้ า้ งอิง โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการคิด ทกั ษะการใช้ภาษา ทักษะการสื่อสาร การ สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ วิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินค่า ฝึกฝนทักษะการฟัง การพูด การเล่าเร่ือง และการแสดงความคิดเห็นตามเจตนารมณ์ท่ีต้องการ สอื่ สาร สามารถนาความร้ไู ปใช้ในการตดั สินใจและการดาเนินชีวิตประจาวัน มจี ติ สาธารณะ ตระหนกั ถงึ คุณค่า ของคุณธรรมจริยธรรม ใช้ความรู้ภาษาไทยเพื่อการจรรโลงจิตใจ ธารงและพัฒนาสังคมได้เต็มศักยภาพของ ผเู้ รยี น ตัวชวี้ ัด ท 1.1 ม.6/8 ม.6/9 ท 2.1 ม.6/1 ม.6/5 ม.6/8 ท 3.1 ม.6/5 ท 4.1 ม.6/2 ม.6/6 ท 5.1 ม.6/1 ม.6/2 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/6 รวม 13 ตัวช้ีวดั

คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ค33101 คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษาเรื่องความน่าจะเปน็ กฎเกณฑเ์ บอื้ งต้นเกีย่ วกับการนับและแผนภาพตน้ ไม้ ทดลองส่มุ เหตกุ ารณ์ และหาความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณ์ นาความรเู้ กีย่ วกับความน่าจะเปน็ ไปใช้ในการคาดการณ์ และชว่ ยในการ ตัดสินใจ รวมถงึ การเสรมิ ทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ โดยการปฏบิ ตั ิ สรปุ และรายงานผลการเรยี นร้โู ดยการวดั และประเมินผล ดว้ ยวิธีการทหี่ ลากหลายตาม สภาพความเป็นจริง ให้สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หาและทักษะทต่ี ้องการวดั เพ่อื พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิด คานวณ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะกระบวนการทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการเรยี นรู้ สงิ่ ต่าง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์ การเหน็ คณุ คา่ และมเี จตคตทิ ่ีดีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบยี บ รอบคอบ มี ความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และเชื่อมน่ั ในตนเอง มีความรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซ่ือสตั ยส์ ุจรติ มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ รู้จกั ใช้ชวี ิตอยา่ งพอเพียง มคี วามมุ่งมน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ รหัสตวั ช้ีวดั ค5.2 ม.6/2 , ค5.3 ม.6/2 , ค6.1 ม.6/1 , ค6.1 ม.6/2 , ค6.1 ม.6/3 , ค6.1 ม.6/4 , ค6.1 ม.6/5 ,ค6.1 ม.6/6 รวมท้ังหมด 8 ตัวชี้วดั

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน ค33102 คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษาเร่ือง สถิตเิ บื้องต้น รวมถงึ การเสรมิ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ โดยการปฏิบตั สิ รปุ และ รายงานผลการเรยี นรู้โดยการวดั และประเมนิ ผลดว้ ยวิธกี ารทห่ี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ใหส้ อดคล้องกับ เนื้อหาและทักษะท่ีต้องการวัดเพือ่ พัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การ สือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณด์ า้ นความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ไี ดไ้ ปใช้ในการ เรยี นรู้ สิง่ ต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ การเหน็ คุณคา่ และมีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ และเช่ือมนั่ ในตนเอง มคี วามรกั ชาติ ศาสตร์ กษตั รยิ ์ มคี วามซอ่ื สัตยส์ จุ รติ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ รู้จกั ใชช้ ีวิตอย่างพอเพียง มคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมีจิตสาธารณะ รหสั ตัวช้ีวดั ค5.1 ม.6/1 , ค5.1 ม.6/2 , ค5.1 ม.6/3 , ค5.2 ม.6/1 , ค5.3 ม.6/1 , ค6.1 ม.6/1 , ค6.1 ม.6/2 ,ค6.1 ม.6/3 , ค6.1 ม.6/4 , ค6.1 ม.6/5 , ค6.1 ม.6/6 รวมทั้งหมด 11 ตวั ชว้ี ัด

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน ส 33101 สงั คมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาหาความรู้ความเข้าใจในพุทธประวัติดา้ นการบริหาร และการธารงรักษาพระพุทธศาสนาทเ่ี ปน็ ศาสตร์แห่งการศึกษา ศึกษาหลกั การฝึกตน ไมป่ ระมาท มงุ่ ประโยชน์และสันติภาพบคุ คล สังคมและโลก ศึกษาพระรตั นตรัย อริยสัจ 4 มงคล 38 พุทธศาสนสภุ าษิตประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวกิ าและศาสนิกชน ตัวอย่าง ชาดก นามาเป็นแบบอย่างในการดาเนินชีวิต ศึกษาหลักธรรมสาคัญในการอย่รู ว่ มกันอย่างสนั ติสุข และมีความรูค้ วามเขา้ ใจในพิธบี รรพชา อุปสมบท ศึกษาปัญหาการเมืองสาคัญที่เกิดข้ึนภายในประเทศ สถานการณ์การเมืองการปกครองของสังคมไทย อิทธพิ ลของระบอบการเมืองการปกครองทมี่ ผี ลต่อการดาเนิน ชีวติ การประสานประโยชน์รว่ มกันระหวา่ งประเทศ การแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยเหลือ และสง่ เสรมิ ด้านวัฒนธรรม การศกึ ษา เศรษฐกจิ สงั คม ศกึ ษาความสาคัญของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงท่มี ีผลตอ่ เศรษฐกิจ สังคมของ ประเทศ การประยุกต์ใช้เศรษฐกจิ พอเพยี งในการดาเนินชวี ติ ของตนเอง ครอบครัว และในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การคา้ และบริการ ศึกษาการเปลีย่ นแปลงธรรมชาติในโลกวา่ เป็นผลมาจากการกระทาของมนษุ ย์ และหรอื ธรรมชาติ การใชป้ ระโยชน์จากสิง่ แวดล้อม ในการสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมอันเปน็ เอกลกั ษณ์ของทอ้ งถิ่น ทงั้ ในประเทศไทยและโลก โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ คดิ หาเหตแุ ละผล แลว้ ทาการสารวจตรวจสอบขอ้ มลู เพือ่ ให้ เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอส่อื สารสิ่งที่เรียนรู้ มาปรับใชใ้ นชวี ิตประจาวนั พร้อมทั้งเห็นคุณคา่ ของการปฏิบตั ติ นเปน็ ศาสนกิ ชนทีด่ ี ให้มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกดิ ความรักและหวงแหนชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ เปน็ บคุ คลแห่งการเรียนรทู้ ่ีมีคุณภาพและมีจติ สานกึ ในการมสี ว่ น ร่วมทากิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ รหัสตัวช้ีวัด ส 1.1 ม.6/3,ส 1.1 ม.6/9,ส 1.1 ม.6/10,ส 1.1 ม.6/13,ส 1.1 ม.6/14,ส 1.1 ม.6/21 ส 1.2 ม.6/2,ส 1.2 ม.6/5, ส 2.2 ม.6/1,ส 2.2 ม.6/2,ส 3.1 ม.6/1,ส 5.1ม.6/4,ส 5.2 ม.6/4 รวมทั้งหมด 13 ตัวชีว้ ัด

คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ส 33102 สงั คมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษาหาความรเู้ ก่ียวกับทฤษฎีและวธิ ีการของพระพุทธศาสนาทเ่ี ปน็ สากล ศกึ ษาข้อปฏบิ ัติท่ียดึ ทางสาย กลาง พระรัตนตรยั ศกึ ษาพระรตั นตรัย อรยิ สัจ 4 มงคล 38 พทุ ธศาสนสุภาษติ ประวัติพุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า และศาสนกิ ชนตัวอย่าง ชาดก นามาเปน็ แบบอยา่ งในการดาเนนิ ชีวติ ศึกษาปญั หาในชมุ ชนและสงั คม พร้อมทงั้ เสนอแนวทางในการจดั กจิ กรรมความรว่ มมือของทุกศาสนาในการแกป้ ัญหาในชุมชนและสังคม ศึกษาและปฏิบตั ิ ตนใหถ้ ูกต้องในศาสนพธิ ี บุญพธิ ี ทานพิธี กุศลพธิ ี และบอกประโยชน์ของศาสนพิธไี ด้ ศกึ ษาระบบการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ รปู แบบของ รฐั ฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษตั ริย์ การตรวจสอบการใช้อานาจรฐั ตามรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบับปจั จุบนั ทมี่ ีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางสังคม ศึกษาความร่วมมือทางเศรษฐกจิ ระหวา่ ง ประเทศ บทบาทขององค์การ ความร่วมมอื ทางเศรษฐกิจทีส่ าคญั ในภูมภิ าคต่างๆ ของโลก ปจั จัยตา่ งๆ ท่ี นาไปสู่การพ่ึงพา การแข่งขัน การขดั แยง้ และการประสานประโยชน์ทางเศรษฐกิจไทยกับตา่ งประเทศ ตัวอย่างเหตกุ ารณ์ทนี่ าไปส่กู ารพึง่ พาทางเศรษฐกจิ ผลกระทบจากการดาเนนิ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจระหวา่ ง ประเทศปจั จยั ต่างๆ ที่นาไปสกู่ ารพ่งึ พาการแข่งขนั การขัดแย้ง และการประสานประโยชน์ทางเศรษฐกจิ และ กดี กันทางการคา้ ร้แู ละเขา้ ใจการแกป้ ัญหาและการดาเนินชีวิตตามแนวทางการอนรุ ักษท์ รพั ยากรและ ส่ิงแวดล้อม เพ่ือการพฒั นาที่ยัง่ ยนื โดยใชก้ ระบวนการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ คดิ หาเหตแุ ละผล แล้วทาการสารวจตรวจสอบข้อมูล เพอ่ื ให้ เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนาเสนอส่อื สารส่ิงท่ีเรียนรู้ มาปรบั ใช้ในชีวิตประจาวัน พรอ้ มท้งั เหน็ คุณคา่ ของการปฏบิ ตั ิตนเปน็ ศาสนิกชนท่ีดี ให้มีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เกดิ ความรักและหวงแหนชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ และเปน็ บุคคลแห่งการเรียนรู้ท่ีมีคณุ ภาพ รหสั ตวั ชี้วดั ส 1.1 ม.6/4, ส 1.1 ม.6/13,ส 1.1 ม.6/14ส 1.1 ม.6/22, ส 1.2 ม.6/2, ส 1.2 ม.6/3,ส 1.2 ม.6/4,ส 3.2 ม.6/3,ส 5.2 ม.6/5 รวมท้ังหมด 9 ตัวชี้วดั

คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน พ3๓101 สขุ ศกึ ษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษาวิเคราะหบ์ ทบาทและความรับผิดชอบของบุคคลทมี่ ีต่อการสรา้ งเสรมิ สุขภาพและการป้องกันโรค ในชมุ ชน อทิ ธิพลของส่ือโฆษณาเกี่ยวกับสุขภาพ เพ่ือการเลอื กบริโภค ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธิของผบู้ ริโภค วางแผน และปฏิบัติตามแผนการพัฒนาสุขภาพของตนเองและครอบครัว โดยใชก้ ระบวนการสบื ค้นข้อมูล การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ การแสดงบทบาทสมมุติ การทารายงาน วิเคราะหแ์ ละประเมินสุขภาพสว่ นบุคคล เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถกาหนดกลวธิ ีลดความเสีย่ ง สรา้ ง เสรมิ สขุ ภาพ ดารงสุขภาพ การปอ้ งกันโรค การจัดการกบั อารมณ์และความเครยี ดได้อยา่ งถกู ต้อง เห็นคุณค่าของการนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั มีคณุ ธรรมจริยธรรม คา่ นิยมท่ีเหมาะสม รหัสตวั ช้ีวดั พ 4.1 ม. 6/1 ,พ 4.1 ม. 6/2 , พ 4.1 ม. 6/3 , พ4.1 ม. 6/4 ,พ4.1 ม. 6/5 , พ 4.1 ม. 6/6 พ4.1 ม. 6/7 รวมทั้งหมด 7 ตัวชวี้ ดั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook