Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรปวช 56 - ช่างยนต์

หลักสูตรปวช 56 - ช่างยนต์

Published by Rattikan Youtsook, 2019-06-28 03:36:00

Description: หลักสูตรปวช 56 - ช่างยนต์

Search

Read the Text Version

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ศ3110๒ วิชาโสตศลิ ป์ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศิลปะ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ ๒ เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต เหตุผลท่คี นต่างวฒั นธรรมสรา้ งสรรค์งานดนตรีท่ีแตกตา่ งกัน งานดนตรที ีม่ าจากวัฒนธรรมตา่ งกัน การ ประยุกตใ์ ช้ดนตรีในงานอื่น ๆ การสร้างเกณฑส์ าหรบั ประเมนิ คุณภาพการประพนั ธแ์ ละการเล่นดนตรขี องตนเอง และผอู้ ื่น สถานะทางสังคมของนกั ดนตรใี นวฒั นธรรมตา่ ง ๆ บทบาทของดนตรีในการสะทอ้ นแนวความคิดและ ค่านยิ มทเ่ี ปล่ยี นไปของคนในสังคม แนวทางในการสง่ เสริมและอนุรักษด์ นตรีในฐานะมรดกของชาติ ฝกึ ปฏิบัตทิ กั ษะกระบวนการทางดนตรี วเิ คราะห์ อธิบาย จาแนก สบื เสาะแสวงหาความรู้ สบื คน้ ขอ้ มลู และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารส่งิ ทีเ่ รยี นรู้ มีความสามารถใน การตดั สินใจ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารส่งิ ท่เี รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ รกั และภาคภมู ิใจในมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาไทยและสากล เห็นคุณค่าของการนาความรู้ดา้ นดนตรีไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มวี ินยั รับผดิ ชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความมงุ่ ม่ัน ขยัน ซื่อสัตย์ และมีคา่ นิยมท่ี เหมาะสม เพอื่ ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถส่อื สารส่ิงทีเ่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ รกั และภาคภูมใิ จในมรดกทางวัฒนธรรมภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล เหน็ คณุ ค่าของการนาความร้ดู ้านดนตรีไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีวินัย รับผิดชอบ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีความมงุ่ มัน่ ขยัน ซอ่ื สตั ย์ และมคี ่านยิ มท่ี เหมาะสม รหัสตัวช้ีวดั ศ 2.1 ม.6/3, ม.6/6, ม.6/7, ม.6/8 ศ 2.2 ม.6/2, ม.6/4, ม.6/5

คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ง31๑01 การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒0 ชัว่ โมง ............................................................................................... ............................................................... ............ ศึกษาและอธิบายวธิ ีการทางานเพ่อื การดารงชวี ติ สรา้ งผลงานอยา่ งมีความสรา้ งสรรค์ใน 4 ลกั ษณะ ได้แก่ ความคิดรเิ ร่ิม ความคล่องในการคิด ความยดื หยุ่นในการคิด และความคดิ ละเอียดลออ เกยี่ วกบั งานบา้ น งานประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย หน้าทแี่ ละบทบาทของตนเองท่มี ีต่อสมาชกิ ในครอบครัว โรงเรียน และ ชมุ ชน อธิบายและเชือ่ มโยงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเทคโนโลยกี บั ศาสตร์อ่ืน ๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ วเิ คราะห์ ระบบเทคโนโลยี สรา้ งและพัฒนาสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ หรอื วธิ กี ารตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั โดย ถ่ายทอดความคิดเป็นภาพฉายและแบบจาลองเปน็ ภาพรา่ ง 2 มติ เิ พื่อนาไปสกู่ ารสรา้ งชิน้ งานหรอื ถ่ายทอด ความคดิ ของวิธกี ารเปน็ แบบจาลองความคดิ และการรายงานผลโดยใชซ้ อฟต์แวร์ชว่ ยในการออกแบบหรือนาเสนอ ผลงานโดยคานึงถงึ หลักการวชิ าคณติ ศาสตร์เบื้องต้น มีความคิดแปลกใหม่ ไม่ละเมิดความคิดผอู้ ่ืน อภปิ ราย แนวทางเข้าสู่อาชีพท่สี นใจ เลือกและใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรคต์ ่อชีวติ สงั คม สิง่ แวดล้อม และเหมาะสมกบั อาชีพด้วยการลดการใช้ทรัพยากรหรอื เลือกใช้เทคโนโลยที ีไ่ มม่ ีผลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ มโดยใช้กระบวนการทกั ษะ การทางาน การจัดการ กระบวนการทางานกลุ่ม มคี ุณลกั ษณะทีด่ ีต่ออาชพี ซื่อสตั ย์ ไมล่ ะเมิดความคิดผู้อนื่ รับผดิ ชอบ มีมารยาทในการทางานร่วมกับ ผูอ้ ่ืนและมีจิตสานึกในการใช้ทรพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มค่า รหัสตวั ช้ีวดั ง 1.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, ม. 4/5, ม. 4/6, ม. 4/7 ง 2.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, ม. 4/5 ง 4.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, รวมตัวชีว้ ัด 16 ตวั ช้ีวัด

คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ง31๑0๒ การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ ๒ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒0 ชวั่ โมง ............................................................................................... ........................................................................... ศึกษาและอธิบายองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศและหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ไดแ้ ก่ ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ ขอ้ มูลบุคลากร และขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน การรบั สง่ ข้อมูลระหว่างหนว่ ยต่าง ๆ จะผ่านระบบทางขนส่งข้อมูลหรอื บัสระบบสอื่ สารข้อมลู สาหรับเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ บอกคุณลกั ษณะของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ตอ่ ร่วม การแกป้ ญั หาดว้ ยกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ โดยใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขนั้ ตอน การจดั การทางาน การแสวงหาความรู้ มเี จตคตทิ ี่ดีต่องานอาชีพ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มารยาท และขอ้ บังคับในการใช้อนิ เตอรเ์ น็ตและเทคโนโลยี รหัสตวั ชี้วดั ง 3.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, ม. 4/5, ม. 4/6, ม. 4/7 ม. 4/8, ม. 4/9, ม. 4/10, ม. 4/11, ม. 4/12, ม. 4/13 รวมตัวชีว้ ัด 13 ตวั ชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน อ31101 ภาษาอังกฤษ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เข้าใจ น้าเสยี ง ความรู้สึกของผูพ้ ดู คาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา ความแตกต่างด้านภาษา วฒั นธรรม ประเพณี อ่านออกเสยี งบทอ่านไดถ้ ูกต้องตามหลกั การอ่านออกเสียงและเหมาะสมกับเน้ือหาท่ีอ่านตีความ วิเคราะห์ ข้อความ ข้อมูล ขา่ วสาร บทความ สารคดี บันเทิงคดี ส่ือที่เปน็ ความเรียงและไม่ใชค่ วามเรียงในรูปแบบ ตา่ ง ๆ จากสอ่ื ส่งิ พมิ พ์ หรือส่ืออีเล็กทรอนิกส์ หวั ขอ้ ต่าง ๆ เก่ยี วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร สงิ่ แวดล้อม เคร่ืองดืม่ ใชภ้ าษาตามมารยาททางสังคมสรา้ งความความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแสดงความคดิ เหน็ ความต้องการ อธิบาย บรรยาย แลกเปล่ยี นความรู้ และให้เหตผุ ลเกีย่ วกับเร่ืองราวต่าง ๆ เหตกุ ารณใ์ นอดีต ปัจจบุ ัน และอนาคตโดยใชป้ ระโยชน์จากสอื่ เทคโนโลยี สอ่ื การเรยี นทางภาษา และผลจากการฝึกทักษะตา่ ง ๆ แสวงหาวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับตนเอง สามารถนาเสนอข้อมูล ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ เจรจา โนม้ น้าวตอ่ รองเก่ยี วกับประสบการณ์ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถนิ่ ดว้ ยวิธกี ารท่ีหลากหลายอยา่ งสร้างสรรค์และมี ประสทิ ธภิ าพนาเสนอบทกวีหรือบทละครส้นั โดยใชเ้ คา้ โครงตามแนวคิดของเจ้าของภาษาดว้ ยความเพลิดเพลนิ เขา้ ร่วมกิจกรรมเปรียบเทยี บและนาความรดู้ ้านภาษาวัฒนธรรมประเพณคี วามเช่ือ ไปใช้อย่างมีวจิ ารณญาณ เห็น ประโยชนข์ องการรภู้ าษาองั กฤษในการแสวงหาความรู้ เพือ่ ขยายโลกทัศนจ์ ากแหลง่ ข้อมูลที่หลากหลาย การเข้าสู่ สงั คมและอาชีพ สามารถใช้ภาษาสอ่ื สารในรปู แบบต่าง ๆ ตามสถานการณใ์ นสถานศึกษาและชมุ ชน รหัสตวั ชี้วัด ต. 1.1 ม .4/3 , ต. 1.1 ม .4/4 ต. 1.2 ม .4/1 ต. 1.3 ม .4/1 ,ต. 1.3 ม .4/2 ต. 2.1 ม .4/1 ต. 3.1 ม .4/1 ต. 4.2 ม .4/2 ต. 4.1 ม .4/1 รวมทั้งหมด 9 ตวั ชว้ี ดั

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน อ31102 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เขา้ ใจ น้าเสียง ความรูส้ กึ ของผ้พู ูด คาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนา ความแตกต่างด้านภาษา วัฒนธรรม ประเพณี อ่านออกเสียงบทอ่านไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การอ่านออกเสียงและเหมาะสมกบั เนื้อหาท่ีอ่าน ตีความ วเิ คราะห์ ข้อความ ข้อมลู ขา่ วสาร บทความ สารคดี บนั เทิงคดี สอื่ ที่เป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรยี งในรปู แบบ ตา่ ง ๆ จากส่ือสิ่งพมิ พ์ หรอื สื่ออเี ล็กทรอนิกส์ หวั ข้อตา่ งๆเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร สงิ่ แวดลอ้ ม เครื่องดืม่ ใช้ภาษาตามมารยาททางสงั คมสร้างความความสมั พนั ธร์ ะหว่างบุคคล แสดง ความคดิ เหน็ ความต้องการ อธิบาย บรรยาย แลกเปลย่ี นความรู้ และใหเ้ หตผุ ลเก่ยี วกบั เรื่องราวต่าง ๆ เหตุการณใ์ นอดีต ปจั จุบัน และอนาคตโดยใช้ประโยชนจ์ ากส่ือเทคโนโลยี ส่อื การเรยี นทางภาษา และผลจากการ ฝกึ ทกั ษะตา่ ง ๆ แสวงหาวธิ ีการเรยี นทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง สามารถนาเสนอขอ้ มลู ความคิดรวบยอด และความ คดิ เห็น เจรจาโนม้ น้าวตอ่ รองเกย่ี วกับประสบการณ์ เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในท้องถ่ินด้วยวิธีการที่หลากหลายอยา่ ง สรา้ งสรรคแ์ ละมปี ระสิทธิภาพนาเสนอบทกวีหรอื บทละครส้นั โดยใช้เคา้ โครงตามแนวคดิ ของเจา้ ของภาษาดว้ ย ความเพลดิ เพลิน เขา้ รว่ มกจิ กรรมเปรยี บเทยี บและนาความรดู้ า้ นภาษาวัฒนธรรมประเพณคี วามเชอื่ ไปใชอ้ ย่างมี วิจารณญาณ เหน็ ประโยชนข์ องการรู้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ เพ่อื ขยายโลกทัศนจ์ ากแหล่งข้อมลู ที่ หลากหลาย การเข้าสู่สังคมและอาชีพ สามารถใช้ภาษาส่ือสารในรปู แบบตา่ ง ๆ ตามสถานการณ์ในสถานศึกษา และชุมชน รหสั ตวั ชี้วดั ต. 1.1 ม .4/1,ม .4/3 ,ม .4/4 ต. 1.2 ม .4/1, ม .4/3 ต. 1.3 ม .4/1, ม .4/2 ต. 1.4 ม .4/1 ต. 2.1 ม .4/1, ม .4/3 ต. 3.1 ม .4/1 ต. 4.2 ม .4/1,ม .4/2 รวมทั้งหมด 13 ตวั ชี้วัด

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ท41201 การใชห้ อ้ งสมุด สาระการเรียนรวู้ ิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการใช้ห้องสมุด ระเบียบมารยาท การเปน็ สมาชิก รู้ความหมาย ความสาคัญและบทบาทการ ใช้ห้องสมดุ เข้าใจวตั ถุประสงค์ องคป์ ระกอบ ประเภทของห้องสมุด รู้บรกิ ารต่าง ๆ ของห้องสมุดและกจิ กรรม หอ้ งสมุด เข้าใจประวตั หิ ้องสมุดในประเทศไทยและห้องสมุดของสถาบันศึกษา สามารถจัดระบบจดั เกบ็ ทรพั ยากร ได้ถูกตอ้ ง ศึกษาแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ในเร่ืองเศรษฐกจิ พอเพียง เพศศึกษา และสวนพฤกษาศาสตรใ์ น โรงเรยี น รู้ความหมายของวสั ดุตีพมิ พ์ และไม่ตีพิมพ์ สว่ นประกอบของหนงั สือ วธิ ีการบารงุ ดแู ลรกั ษาหนังสือให้ คงสภาพดี รคู้ วามหมายของหนงั สอื อา้ งอิง เขา้ ใจลักษณะของหนงั สืออา้ งองิ เข้าใจประเภทของหนังสืออ้างอิง และวิธีคน้ คว้าจนถึงพฒั นาประสบการณ์เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. เขยี นและอธิบาย ความหมาย วัตถปุ ระสงค์ และความสาคญั ของห้องสมดุ ได้ 2. สามารถเลือกใช้วสั ดุหอ้ งสมดุ ค้นคว้าหาความรไู้ ด้ตามความต้องการ 3. สามารถเลือกหนังสือที่มีคุณภาพดี เอาไว้ศึกษาคน้ ควา้ ได้ 4. สามารถอธิบายจุดมงุ่ หมายสาคัญของระเบียบและมารยาทการใช้ห้องสมุด 5. จดบนั ทึกย่อหลงั จากอา่ นหนังสือเล่มหนึ่งหรอื ตอนหน่ึงได้ 6. นกั เรยี นหาหนงั สอื จากชน้ั ได้ถูกต้อง 7. นักเรียนสามารถเรียงหนงั สือขน้ึ ช้นั ตามหมวดหมู่ได้ถูกต้อง 8. บอกความหมายและลกั ษณะพิเศษของหนังสืออา้ งอิงได้ถูกต้อง 9. สามารถค้นคว้าหาคาตอบจากหนังสอื อ้างองิ ได้ 10. นักเรยี นสามารถเขยี นรายงานการค้นควา้ ได้ถูกต้องตามแบบแผน 11. สามารถเขยี นบันทกึ การอา่ นได้ 12. ค้นหาหนงั สอื สงิ่ พิมพ์ และโสตทศั นวัสดุอน่ื ๆ เพ่อื นามาใช้ประกอบการเขยี นรายงานได้ 13. เขยี นบรรณานกุ รมจากรายชอื่ ที่กาหนดได้ถูกต้อง รวมท้ังหมด 13 ผลการเรียนรู้

ท31202 การใช้ห้องสมุด 2 คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทยช้ัน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หน่วยกิต ห้องสมดุ 2 บรกิ ารและกจิ กรรม ประชาสัมพันธ์ ความหมาย ความสาคัญและประโยชนจ์ ากงานบรกิ าร ตา่ งๆ ของหอ้ งสมุด งานทหี่ อ้ งสมดุ จดั ทาขึน้ เพอ่ื อานวยความสะดวกให้กับผมู้ าใช้บรกิ าร เพราะเปน็ งานท่ี เกยี่ วกับผูใ้ ชบ้ ริการโดยตรงสาหรับงานบรกิ ารของห้องสมุดโรงเรยี น มสี ่วนสาคัญท่ีทาให้นักเรียน และครู- อาจารย์มาใชห้ ้องสมุดมากขนึ้ เป็นการประชาสันพนั ธใ์ หบ้ ุคลากรภายในและภายนอกเห็นความสาคญั ของงาน บริการหอ้ งสมุด ประเภทของงานบริการต่าง ๆ ของห้องสมุด บริการพนื้ ฐาน บริการตอบคาถาม บริการแนะแนว การอา่ น บริการข่าวสารทนั สมยั บริการบรรณานุกรม บรรณนิทศั ฯ บริการแนะนาการใชห้ อ้ งสมุด บริการอื่น ๆ เช่น บรกิ ารห้องสมุดเคลื่อนที่ศาลาเรอื นคา ตะกร้าหนงั สือสหู่ อนอน บริการห้องสมุดนอกเวลา ฯลฯ งานกิจกรรม หอ้ งสมดุ บอกความหมายของกจิ กรรมส่งเสริมความรู้เรอ่ื งการใช้หอ้ งสมุดได้ บอกวัตถุ ประสงคแ์ ละกิจกรรมส่งเสรมิ ความรู้ บอกประเภทและกจิ กรรมสง่ เสรมิ ความรู้ จัดกิจกรรมเกมส่งเสริมความรู้ เรื่องการใชห้ ้องสมดุ ได้ เพื่อสนบั สนนุ และสง่ เสริมให้นกั เรยี นอ่าน และมาใชบ้ รกิ ารห้องสมุดมากข้นึ จงึ จัดทา กิจกรรมดึงดดู ใจในรปู แบบต่าง ๆ เชน่ กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กจิ กรรมสง่ เสริมการใชห้ ้องสมดุ กิจกรรรม ส่งเสริมการเรยี นการสอน กจิ กรรมสง่ เสริมความรู้ทั่วไปและการใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ เปน็ การเปดิ โอกาสให้ นักเรยี นทางานร่วมกัน และช่วยหอ้ งสมุดจดั กจิ กรรมได้อย่างมีหลักเกณฑแ์ ละสนกุ สนาน การประชาสมั พนั ธ์งานห้องสมดุ เป็นวธิ ีการสร้างความสนั พันธ์อันดรี ะหวา่ งผู้ใช้บรกิ ารกับห้องสมุด ด้วย การแนะนา เชิญชวนใหผ้ ู้ใชห้ อ้ งสมดุ มีความรคู้ วามเข้าใจในการดาเนินงานบริการบรกิ ารของห้องสมดุ เห็นคุณคา่ และรู้คุณคา่ และประโยชนข์ องห้องสมุด ผลการเรยี นรู้ 1. ความหมายความสาคญั ของบริการ ประเภทงานบริการ 2. ความหมาย ประเภทของกิจกรรมหอ้ งสมุด 3. ความหมาย วตั ถปุ ระสงค์ ประเภทของงานประชาสัมพันธ์ภายในและภายนอก 4. วธิ ีการประชาสัมพันธห์ ้องสมุด 5. ส่ือประชาสัมพันธ์ รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ค31201 คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ จัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ใกลต้ ัวใหผ้ ้เู รยี นได้ศึกษาค้นควา้ ฝึกทักษะ ปฏิบัติจรงิ สรปุ รายงานผลโดยอาศยั สาระการเรยี นรเู้ ก่ียวกับตรรกศาสตร์เบ้อื งตน้ ประพจน์ การหาคา่ ความจริงของประพจน์ การสร้างตารางคา่ ความจรงิ รูปแบบของประพจนท์ สี่ มมลู กัน การอ้างเหตผุ ล ข้อความท่ีมีตัวบ่งปรมิ าณและค่า ความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณระบบจานวนจริง จานวนจริง การแก้สมการพหุนามตัวแปรเดียว สมบตั ิ การไม่เทา่ กัน ช่วงและการแก้สมการ ค่าสัมบรู ณ์ การแก้สมการและอสมการในรปู ค่าสมั บูรณ์ เพ่ือพฒั นาความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ ในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งมรี ะบบ มรี ะเบียบวนิ ยั มีความรบั ผิดชอบ รอบคอบ มี วจิ ารณญาณ ใชก้ ารวดั และประเมินผลด้วยวธิ ที ี่หลากหลายเนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง ท้งั ด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ผลการเรยี นรู้ 1. หาค่าความจรงิ ของประพจน์ รปู แบบของประพจน์ท่สี มมูลกัน และบอกไดว้ ่าการอา้ งเหตุผลที่กาหนดให้ สมเหตุสมผลหรือไม่ 2. มีความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั ระบบจานวนจริง 3. นาสมบัตติ ่าง ๆ เก่ียวกับจานวนจรงิ การดาเนนิ การไปใช้ได้ 4. แกส้ มการและอสมการพหุนามตัวแปรเดียวดีกรไี มเ่ กนิ สองได้ 5. แกส้ มการและอสมการในรปู ค่าสัมบรู ณ์ได้ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ค31202 คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ จัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ใกล้ตวั ใหผ้ เู้ รยี นได้ศึกษา ค้นควา้ ฝึกทักษะ ปฏิบัตจิ ริง สรุป รายงานผลโดยอาศัยสาระการเรยี นร้เู ก่ยี วกับเรขาคณติ วิเคราะห์ ระยะระหวา่ งจุดสองจุด จุดกงึ่ กลางระหวา่ งจุด สองจุด ความชันของเส้นตรง เสน้ ขนาน เสน้ ตง้ั ฉาก ความสมั พันธซ์ ึ่งมีกราฟเปน็ เสน้ ตรง ระยะหา่ งระหวา่ ง เสน้ ตรงกบั จดุ เมทริกซ์และดเี ทอร์มินันต์ สัญลักษณ์ของเมทริกซ์ สมบัติของเมทริกซ์ ดเี ทอร์มนิ นั ต์ และ การแกร้ ะบบสมการเชิงเส้นโดยวิธดี เี ทอรม์ ินนั ต์ หรือโดยวธิ กี ารดาเนินการตามแถวเบอื้ งตน้ เพอ่ื พฒั นาความรู้ ทักษะ/กระบวนการ ในการคดิ คานวณ การแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การสื่อ ความหมายทางคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ มรี ะเบียบวินยั มคี วามรับผดิ ชอบ รอบคอบ มี วจิ ารณญาณ ใชก้ ารวดั และประเมนิ ผลด้วยวิธที ี่หลากหลายเน้นการประเมนิ ตามสภาพจริง ทั้งด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและลักษณะที่พึงประสงค์ ผลการเรียนรู้ 1. หาระยะระหวา่ งจุดสอง จดุ ก่ึงกลาง ระยะห่างระหว่างเสน้ ตรงกับจุดได้ 2. หาความชนั ของเสน้ ตรง สมการเสน้ ตรง เส้นขนาน เส้นต้งั ฉาก และนาไปใช้ได้ 3. เขยี นความสัมพนั ธท์ ีม่ ีกราฟเปน็ ภาคตดั กรวย เมื่อกาหนดส่วนต่าง ๆ ของภาคตัดกรวยให้ และเขยี นกราฟ ของความสัมพันธน์ ้นั ได้ 4. นาความรู้เรอ่ื งการเลอ่ื นแกนทางขนานไปใช้ในการเขียนกราฟได้ 5. นาความร้เู รอ่ื งเรขาคณติ วิเคราะห์ไปใช้แกป้ ญั หาได้ 6. มคี วามคิดรวบยอดเกย่ี วกับเมทรกิ ซ์ และการดาเนินการของเมทริกซ์ 7. หาดีเทอรม์ ินันตข์ องเมทรกิ ซ์ n  n เมอื่ n เป็นจานวนเต็มไม่เกนิ สาม 8. วิเคราะหป์ ละหาคาตอบของระบบสมการเชิงเสน้ ได้ รวมทั้งหมด 8 ผลการเรยี นรู้

ว3024๗ พฤกษศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เวลา 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษา กาหนดขอบเขตพื้นที่ศึกษา สารวจพรรณไม้ ทาและติดป้ายรหัสประจาต้น บันทึกภาพพรรณไม้ หรือวาดภาพทางพฤกษศาสตร์ ต้ังช่ือหรือสอบถามข้อมูลพรรณไม้ ทาป้ายช่ือพรรณไม้ช่ัวคราว ทาผังแสดง ตาแหน่งพรรณไม้ ศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ทาตัวอย่างพรรณไม้ เปรียบเทียบข้อมูลกับเอกสาร เรยี นรู้ช่ือ ท่ีเป็นสากล ทาทะเบียนพรรณไม้ ตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนพรรณไม้ และจัดทาป้ายช่ือพรรณไม้ สมบรู ณ์ เพ่ือให้รูจ้ ัก รู้ประโยชนข์ องพรรณไม้ เรียนรู้พืชพรรณ และสภาพพ้นื ท่ี วิเคราะห์พ้ืนที่ พิจารณาคุณ และ สุนทรียภาพพรรณไม้ ทาผังภมู ทิ ศั น์ จัดหาพรรณไม้ ปลกู ดแู ลรักษา และออกแบบบนั ทกึ การเปลย่ี นแปลง เพือ่ ให้ เห็นคุณ รู้ค่า ของพืชพรรณ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรมและ ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. มกี ารจดั ทาป้ายช่ือพรรณไม้โดย กาหนดพน้ื ทศ่ี ึกษาสารวจพรรณไม้ในพืน้ ทศ่ี ึกษา ทาและตดิ ปา้ ยรหสั ประจา ตน้ ต้ังชือ่ หรอื สอบถามช่อื และศกึ ษาข้อมลู พนื้ บ้าน (ก7-003 หนา้ 1) ทาผังแสดงตาแหนง่ พรรณไมศ้ ึกษา และบนั ทึกลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (ก.7-003 หน้า 2-7)บนั ทกึ ภาพหรือวาดภาพทางพฤกษศาสตร์ทา ตัวอย่างพรรณไม้(แห้ง/ ดอง/ เฉพาะส่วน)เปรยี บเทยี บข้อมูลทีส่ รุป (ก.7-003 หน้า 8) กบั ข้อมูลที่สืบคน้ จากเอกสาร แลว้ บนั ทึกใน ก.7-003 หนา้ 9 – 10จัดระบบขอ้ มูลทะเบียนพรรณไม้ (ก.7-005) ทาร่าง ป้ายชอื่ พรรณไม้สมบูรณ์ ตรวจสอบความถูกต้องทางวชิ าการด้านพฤกษศาสตร์ ทาป้ายชื่อพรรณไม้สมบรู ณ์ ๒. มกี ารรวบรวมพรรณไมเ้ ขา้ มาปลกู ในโรงเรยี นโดยศึกษาข้อมูลจากผังพรรณไม้เดิมและศึกษาธรรมชาติของ พรรณไมส้ ารวจ ศกึ ษา วิเคราะห์สภาพพืน้ ท่ีพจิ ารณาคุณ และสนุ ทรยี ภาพของพรรณไมก้ าหนดการใช้ ประโยชน์ในพ้ืนท่ีกาหนดชนิดพรรณไม้ที่จะปลูกทาผงั ภูมิทัศน์จดั หาพรรณไม้ วสั ดปุ ลกู ปลูก และดแู ลรักษา ศึกษาคณุ ประโยชนข์ องพืชพรรณท่ปี ลูก ออกแบบบนั ทึกการเปล่ยี นแปลง รวมทั้งหมด ๒ ผลการเรยี นรู้

ว30248 พฤกษศาสตร์ คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษา วิเคราะห์เห็นความต่างรู้ความหลายหลากการนาทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นปัจจัยในการเรียนรู้ โดยการใช้ปัจจัยหลายปัจจัยในชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกันเพ่ือให้เห็นความต่างเม่ือเห็นความต่างก็จะเกิด จินตนาการอันจะนาไปสู่การใช้ประโยชน์ในงานแต่ละด้านรวบรวมผลการเรียนรู้วิเคราะ ห์เรียบเรียงสาระจัด ระเบียบข้อมูลสาระแต่ละด้านจัดลาดับสาระหรือกลุ่มสาระเรียนรู้รูปแบบการเขียนรายงานวิธีการรายงานผลใน รูปแบบต่างๆเพ่ือส่ือผลการเรียนรู้อย่างเป็นระบบการเผยแพร่องค์ความรู้ การสร้างการใช้การดูแลรักษาและ พฒั นาแหล่งเรียนรู้เพื่อการใชป้ ระโยชนอ์ งค์ความรู้ในวงกว้างโดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหา ความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจ สามารถ สอ่ื สารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ นาความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน(ก.7-003)ครบตามทะเบียนพรรณไม้ 2. ศึกษาพรรณไม้ทสี่ นใจ โดยศึกษาลกั ษณะภายนอกภายในของพชื แต่ละสว่ นโดยละเอยี ด กาหนดเรื่องที่ จะเรียนรูใ้ นแตล่ ะสว่ นของพชื เรียนรูแ้ ตล่ ะเร่ืองแต่ละส่วนขององคป์ ระกอบยอ่ ย โดยนาข้อมูลมา เปรียบเทยี บความต่างในแต่ละเรอ่ื งในชนิดเดยี วกัน 3. มีการเผยแพร่องค์ความรูจ้ ากการศึกษาพรรณไม้ทสี่ นใจ 4. มีการจดั แสดงนิทรรศการ ประกอบบรรยายสรุปจดั นทิ รรศการเฉพาะเรื่อง/ประเภท 5. มกี ารจัดสรา้ งแหล่งเรียนรู้การจัดแสดงพิพธิ ภณั ฑ์ การจัดแสดงพิพธิ ภัณฑเ์ ฉพาะเร่ือง การจัดแสดง พพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ส31201 พระพทุ ธศาสนา กลุม่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ ๑ เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต …………………………………………………….......................……………………………………………………………………………… ศกึ ษาในเร่อื งสงั คมชมพูทวีปและคติความเช่อื ทางศาสนาสมัยกอ่ นพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าในฐานะเปน็ มนษุ ยผ์ ้ฝู กึ ตนไดอ้ ย่างสงู สดุ ในการตรัสรู้ การก่อตงั้ วธิ กี ารสอน และการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา วิเคราะหเ์ ร่ือง พทุ ธประวัตดิ า้ นการบรหิ ารและการธารงรกั ษาศาสนา รวมทั้งข้อปฏิบัติทางสายกลางในพระพทุ ธศาสนา วิเคราะห์การพฒั นาศรัทธาและปญั ญาท่ถี ูกต้องในพระพุทธศาสนา รวมท้งั ความสาคัญของพระพทุ ธ ศาสนาเกยี่ วกบั การศึกษาทสี่ มบรู ณ์ การเมืองและสันติภาพ วเิ คราะห์หลักธรรมในกรอบอริยสจั 4 ขอ้ คดิ และ แบบอยา่ งการดาเนินชีวิตจากประวัติสาวก ชาดก เรือ่ งเลา่ และศาสนิกชนตัวอยา่ ง ตามที่กาหนด วิเคราะห์ คณุ คา่ และความสาคัญของการสงั คายนาพระไตรปฎิ ก เหน็ คณุ คา่ เช่ือมัน่ และมงุ่ มนั่ พฒั นาชวี ติ ด้วยการพัฒนาจติ และพัฒนาการเรียนรดู้ ้วยวธิ ีคิดแบบโยนโิ สมนสิการหรอื การพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาทีต่ นนบั ถือ ปฏิบัติตนเป็นศาสนกิ ชนทดี่ ตี ่อสาวก สมาชิกในครอบครวั และคนรอบขา้ ง ปฏบิ ตั ติ นถกู ตอ้ งตาม ศาสนพิธแี ละการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ วเิ คราะห์หลักธรรม คติธรรมท่ีเก่ียวเนื่องกับวันสาคัญทางศาสนาและ เทศกาลท่ีสาคญั และปฏิบัติตนไดถ้ ูกตอ้ ง รวมทั้งวิเคราะห์สัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษาศาสนา ทีต่ นนบั ถือ อันสง่ ผลถึงการพัฒนาตน พัฒนาชาตแิ ละโลก ผลการเรยี นรู้ ๑. วเิ คราะห์สังคมชมพทู วปี และคติความเชอ่ื ทางศาสนาสมยั ก่อนพระพุทธเจ้า หรอื สังคมสมัยของศาสดาที่ ตนนับถอื ๒. วิเคราะหพ์ ระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนุษย์ผ้ฝู กึ ตนไดอ้ ย่างสูงสุดในการตรสั รู้ การก่อตัง้ วิธีการสอนและการ เผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรือวิเคราะหป์ ระวตั ศิ าสดาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด ๓. วิเคราะหพ์ ุทธประวัตดิ ้านการบรหิ ารและการธารงรักษาศาสนา หรอื วิเคราะหป์ ระวัติศาสดาทีต่ นนับถือ ตามทกี่ าหนด ๔. วเิ คราะห์ข้อปฏิบตั ทิ างสายกลางในพระพุทธศาสนา หรอื แนวคิดของศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามทีก่ าหนด ๕. รแู้ ละเข้าใจหลักธรรมพระพุทธศาสนา ได้แก่ พระรตั นตรัย อริยสัจ ๔ ภาษาบาลี พุทธศาสนาสภุ าษิต พระไตรปฏิ กและคาศัพทท์ างพระพุทธศาสนา นาไปปฏบิ ตั ิใช้ในชวี ติ ประจาวัน ๖. รหู้ น้าที่ชาวพทุ ธ มรรยาทชาวพุทธ ชาวพทุ ธตัวอยา่ ง ปฏบิ ัติตนต่อพระสงฆ์ สามเณร ทางกาย วาจา ใจ ๗. รแู้ ละเขา้ ใจ การนาวิธบี รหิ ารจิตและเจริญปัญญาไปใช้ในการพฒั นาการเรยี นรู้ คุณภาพชวี ิตและสังคม ๘. รู้และเขา้ ใจการปฏบิ ตั ิตนในวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนาและเทศกาลสาคญั ๙. สัมมนาพระพุทธศาสนาเพ่ือการแกป้ ญั หาและพัฒนาสงั คมได้ รวมท้ังหมด 9 ผลการเรยี นรู้ คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

ส ๓๑๒๐๓ อาเซียนศึกษา 1 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา สืบค้น และวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับอาเซียนในเร่ืองกาเนิดอาเซียน สมาชิกอาเซียน สัญลักษณ์ อาเซียน ธงอาเซียน คาขวัญของอาเซียน เพลงประจาอาเซียน ภาษาอาเซยี น ปฏิญญาอาเซียน วิสัยทัศน์อาเซียน กฎบัตรอาเซียน ประเทศสมาชิกอาเซียนในเรื่องธงชาติและตราประจาแผ่นดินของประเทศสมาชิกอาเซียนแต่ละ ประเทศ สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมา การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทย ภูมหิ ลังประชาคมอาเซียน สาเหตุ ความจาเป็นท่ีต้องมีหรอื จัดตงั้ ประชาคม อาเซยี น และเปา้ หมายของการจัดตงั้ ประชาคมอาเซียน โดยใช้ทักษะการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการ สงั คม การนาเสนอขอ้ มลู และวิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ คิดวิเคราะห์ สร้างองค์ความรู้ใหม่ ตระหนัก เห็นคุณค่า มคี วามภาคภูมิใจ ในความเปน็ ไทยและความเป็นอาเซียน ร่วมกันรบั ผดิ ชอบต่อประชาคมอาเซียน มีวิถีชวี ิตประชาธปิ ไตย ยึดม่นั ใน หลกั ธรรมาภบิ าล สันตวิ ิธี/สันติธรรม ยอมรบั ความแตกต่างในการนบั ถอื ศาสนา และดาเนนิ ชีวิตตามหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ 1. รู้และเข้าใจเก่ียวกับสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ ลักษณะการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและ วฒั นธรรมของประเทศสมาชกิ อาเซียน 2. วเิ คราะห์ความแตกต่างและความคลา้ ยคลึงระหวา่ งประเทศสมาชิกอาเซยี นในดา้ นต่าง ๆ 3. ร้แู ละเข้าใจเกี่ยวกบั ความเปน็ มาของอาเซียน โครงสรา้ งและความรว่ มมือของอาเซยี นในด้านตา่ ง ๆรู้ 4. และเขา้ ใจเก่ียวกบั จุดมุ่งหมายของประชาคมอาเซียนและกฎบตั รอาเซียน รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรียนรู้ คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

ส31202 พระพุทธศาสนา กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชัว่ โมงจานวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝกึ ปฏิบตั ิ สรา้ งความคดิ รอบยอด นาภูมิปัญญาท้องถน่ิ สภาพปัญหาชวี ิต สภาพแวดล้อม เข้ามาเปน็ ส่วนหนง่ึ ของกระบวนการเรียนรู้ เพ่อื ให้มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ ตระหนักและเห็นคณุ ค่า ในเร่อื งพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ เพ่อื ใหเ้ กิดศรัทธาอยา่ งยงิ่ ต่อพระรตั นตรัย และรกั การเรียนร้พู ระพุทธศาสนา ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตนเป็นพุทธศาสนิกชนทดี่ มี ีคุณธรรม จริยธรรมในการอยูร่ ่วมกนั ในสังคม และสามารถนาหลกั ธรรมไปใชเ้ ป็น เครื่องมอื ในการเรยี นรู้ การทางานอย่างมคี ุณค่าต่อชีวิตตนเองและสังคมโดยส่วนรวม ปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนกิ ชนท่ีดีต่อสาวก สมาชิกในครอบครวั และคนรอบข้าง ปฏิบตั ิตนถกู ตอ้ งตาม ศาสนพิธีและการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ วิเคราะหห์ ลักธรรม คตธิ รรมทเ่ี กี่ยวเน่ืองกับวันสาคญั ทางศาสนาและ เทศกาลทีส่ าคัญและปฏบิ ัตติ นได้ถูกตอ้ ง รวมท้ังวเิ คราะหส์ มั มนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษาศาสนา ทตี่ นนับถือ อันสง่ ผลถึงการพัฒนาตน พัฒนาชาติและโลก ผลการเรียนรู้ 1. รู้และเข้าใจเกย่ี วกับประวัตคิ วามสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา 2. ร้แู ละเขา้ ใจพทุ ธประวตั ิ และคณุ ธรรมของพุทธสาวก พุทธสาวิกาและชาวพทุ ธตัวอย่าง 3. เหน็ คณุ คา่ และความสาคญั ของหลกั ธรรม สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ 4. รแู้ ละเขา้ ใจเกี่ยวกับตวั อกั ษรในภาษาบาลี สามารถอา่ นภาษาบาลีได้อย่างถูกตอ้ ง 5. รแู้ ละเข้าใจ เห็นคณุ ค่าและความสาคญั ของการบริหารจติ และการเจริญปัญญา 6. รู้และเขา้ ใจบทบาทหนา้ ท่ีของพระสงฆอ์ ยา่ งถกู ตอ้ ง เกิดความศรทั ธาเลอื่ มใสในพระสงฆ์ 7. วิเคราะหห์ น้าท่ชี าวพุทธและกาหนดแนวทางในการปฏิบัติตนต่อสังคมได้อยา่ งเหมาะสม 8. ปฏิบัตติ นในศาสนพิธแี ละวันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนาได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม รวมท้ังหมด 8 ผลการเรยี นรู้ คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

พ3๑20๑ วอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต การเคลอื่ นไหวอยา่ งสรา้ งสรรค์ เครือข่ายการออกกาลังกายและการเล่นกฬี านันทนาการ การเล่นกีฬา ไทยหรอื สากล การวางแผนการออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาเพื่อพฒั นาบคุ ลิกภาพและสมรรถภาพของตนเอง การ เลน่ กีฬาเป็นประจาสม่าเสมอ การสร้างวถิ ชี ีวติ ท่มี สี ขุ ภาพดีตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักการและวิธี ประยกุ ต์การรุกและการป้องกันในการเลน่ และแขง่ ขันกีฬาวอลเลยบ์ อลความรู้เกีย่ วกับสิทธิ กฎ กตกิ า ความ ปลอดภัย การใหค้ วามรว่ มมือ ในการเล่น การแข่งขนั และในระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรมทางกาย ความมนี ้าใจ นักกฬี า มจี ิตวิญญาณและมสี ุนทรยี ภาพในการเลน่ การแข่งขนั กีฬา และมีมารยาทในการดูกฬี าบาสเกตบอล โดยนากระบวนกล่มุ การปฏิบตั ิ และทักษะทางกลไกการเคลอ่ื นไหวมาใชใ้ นการออกกาลังกาย การเล่นกีฬา และกจิ กรรมนนั ทนาการ การสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มี มารยาทในการดูการเล่นและการแขง่ ขนั ด้วยความมนี ้าใจนักกีฬา สามารถเลน่ กฬี า และสร้างเสริมสขุ ภาพ สมรรถภาพ ได้อย่างถูกต้องสมา่ เสมอด้วยความชืน่ ชมและสนุกสนาน เห็นคณุ ค่าของการนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ในชวี ิตประจาวนั มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม ค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ทราบประวตั กิ ีฬาวอลเลย์บอล กฎ และกฏกิ าวอลเลยบ์ อล ๒. ฝึกทกั ษะการเคลื่อนไหวในกีฬาวอลเลย์บอล ๓. เรียนรทู้ ักษะการเลน่ ลูกสองมือล่าง ๔. เรยี นรทู้ กั ษะการเล่นลูกสองมือบน ๕. เรยี นรทู้ ักษะการโต้ลกู ๖. เรยี นรทู้ กั ษะการเสริ ์ฟลกู มือบน –มือลา่ ง ๗. เรียนร้ทู ักษะการเล่นทีม รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้ คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

พ3๑20๒ รักบี้ฟตุ บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หนว่ ยกติ การเคลือ่ นไหวอย่างสรา้ งสรรค์ เครอื ข่ายการออกกาลังกายและการเล่นกฬี านันทนาการ การเลน่ กฬี า ไทยหรอื สากล การวางแผนการออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาเพอื่ พัฒนาบุคลิกภาพและสมรรถภาพของตนเอง การ เล่นกีฬาเป็นประจาสมา่ เสมอ การสร้างวถิ ชี วี ติ ทมี่ สี ุขภาพดีตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั การและวิธี ประยุกต์การรุกและการป้องกันในการเลน่ และแข่งขนั กีฬารักบฟี้ ตุ บอล ความร้เู กี่ยวกับสิทธิ กฎ กตกิ า ความ ปลอดภยั การให้ความรว่ มมือ ในการเล่น การแขง่ ขนั และในระหวา่ งการเข้ารว่ มกิจกรรมทางกาย ความมีนา้ ใจ นักกฬี า มจี ติ วญิ ญาณและมีสุนทรยี ภาพในการเลน่ การแข่งขันกีฬา และมมี ารยาทในการดูกฬี ารักบฟี้ ตุ บอล โดยนากระบวนกลุ่ม การปฏิบตั ิ และทักษะทางกลไกการเคลือ่ นไหวมาใชใ้ นการออกกาลังกาย การเล่นกีฬา และกจิ กรรมนันทนาการ การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ มมี ารยาทในการดูการเล่นและการแขง่ ขันด้วยความมนี า้ ใจนักกฬี า สามารถเลน่ กฬี า และสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพ ได้อย่างถกู ต้องสม่าเสมอด้วยความชืน่ ชมและสนกุ สนาน เห็นคณุ คา่ ของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจาวนั มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ทราบประวัตกิ ีฬารักบ้ฟี ตุ บอล และกฎกติกา ๒. ฝึกทักษะการเคล่ือนไหวกีฬารักบฟ้ี ตุ บอล ๓. ทักษะการสง่ ลูกรกั บ้ีฟตุ บอล ๔. เรยี นรกู้ ารเขา้ สกรัมทถี่ ูกต้อง ๕. เรียนร้กู ารแท็กเกลิ ท่ีถกู ต้อง ๖. เรียนรู้การทารัคการทามอลท่ีถกู ต้อง ๗. เรยี นรู้การทารายเอาท์ทถี่ ูกต้อง ๘. เรยี นรูท้ กั ษะการเลน่ ทีมกีฬารักบฟ้ี ตุ บอล รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรยี นรู้ คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

พ3๑20๔ เพศศกึ ษา ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะหส์ ่ือและอทิ ธพิ ลของสื่อที่มีต่อภาพลักษณ์และการใช้ชีวติ ของวยั รุ่น อธิบาย ความแตกต่างของแต่ละแนวคดิ ในการจาแนก “เพศ” และผลกระทบของอคติทางเพศ ท่ีมตี ่อการตดั สินคุณค่า ของมนุษย์ การแสดงออกซึ่งการเคารพ ใหเ้ กยี รติซง่ึ กนั และกัน อารมณแ์ ละความต้องการทางเพศและวธิ จี ัดการ อารมณ์เพศที่ปลอดภัยสาหรับวัยรุ่น บอกโอกาสทีจ่ ะนาไปสกู่ ารมีเพศสัมพันธ์บนเง่อื นไขชีวิตวัยรุ่นในปัจจบุ ัน ข้อดีข้อเสียของแตล่ ะทางเลอื กในการตัดสินใจเรอ่ื งสัมพันธ์ภาพทางเพศของวัยรุ่นระบผุ ลทต่ี ามมาหากมี เพศสมั พันธโ์ ดยไม่พร้อม วธิ ปี อ้ งกนั การตงั้ ครรภ์ทไ่ี ม่พรอ้ ม ความเหมอื นและความแตกต่างของการติดเช้ือเอชไอวี และโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธอ์ ่นื ๆ และวิธีสงั เกตอาการ และวิธีการรักษาโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ ผลกระทบ ของความคิดเหน็ ที่หลากหลายของสงั คมต่อการจัดบริการอุปกรณ์คุมกาเนิดและ การปอ้ งกนั ใหว้ ยั ร่นุ แหล่งบรกิ ารที่วัยรนุ่ สามารถขอขอ้ มลู และอปุ กรณเ์ พ่อื การป้องกนั ค่านิยมและการอบรมส่ัง สอนของสังคมทเี่ กย่ี วกบั ความสมั พันธใ์ นชว่ งวัยรุ่น และผลของค่านยิ มและการอบรมดังกลา่ วต่อพฤตกิ รรมของ วยั รุ่น ความเหมอื นและความตา่ งทางความคิดของชายและหญงิ เกีย่ วกบั พฤติกรรมทางเพศ คา่ นยิ มในสงั คมท่ี ส่งผลต่อโอกาสเสี่ยงและเป็นอปุ สรรคในการปอ้ งกนั ตนเองของหญิงชาย และระบสุ าเหตุท่ีทาใหค้ นสองคนเข้าใจ ตา่ งกันในเรื่องเดยี วกัน บอกสถานการณห์ รือการแสดงออกท่อี าจนาไปสกู่ ารมีเพศสัมพนั ธ์ท่ีไมไ่ ดต้ ง้ั ใจ การแก้ไข ปัญหาเมอื่ ผดิ หวังในความรัก รปู แบบการใชค้ วามรนุ แรงท่ีอาจเกิดขึ้นในความสัมพนั ธใ์ กล้ชิดของคนสองคน วิธี จดั การหรือแก้ปัญหาหากเผชิญกับการใชค้ วามรนุ แรงทางเพศ บอกสาเหตขุ องอคติ การเลือกปฏิบตั ิ หรือการ รงั เกียจ ตอ่ คนบางกลุ่มในสงั คม เชน่ คนรักเพศเดยี วกนั คนติดเช้ือเอชไอวี คนใชย้ าเสพตดิ ฯลฯ และปัจจัยที่ จะช่วยให้เกิดการยอมรบั ความหลากหลายของคนในสังคมโดยไมด่ ว่ นตดั สนิ คุณค่า โดยนากระบวน การสืบค้นขอ้ มูล การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ แสดงบทบาทสมมตุ ิ กระบวนการ เรียนร้ผู ่านประสบการณ์ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ แสดงออกถึงความรักความเอ้ืออาทร ความเข้าใจใน อทิ ธิพลของครอบครวั เพ่อื น สงั คม และวฒั นธรรมทม่ี ีต่อพฤตกิ รรม ทางเพศ การดาเนนิ ชวี ติ และวถิ ีชวี ิตท่ีมีสุขภาพดี เหน็ คณุ ค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชวี ติ ประจาวนั มีคุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้

๑. สามารถอธิบายอทิ ธิพลของครอบครัว เพื่อน สงั คม และวัฒนธรรมที่มีตอ่ พฤติกรรมต่อการใชช้ วี ิต ของวยั รุ่น ๒. สามารถวเิ คราะห์ อธบิ ายสถานการณห์ รือการแสดงออกท่ีอาจนาไปสู่การมีเพศสัมพันธท์ ่ีไม่ได้ตง้ั ใจ พร้อมแนวทางในการแกไ้ ขปัญหา ๓. มีความรู้ และเข้าใจเก่ียวกบั ผลกระทบจากการมเี พศสัมพันธ์ ตอ่ ตนเองและครอบครัว ๔. มีความรู้ และเข้าใจโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์พร้อมแนวทางการแก้ไข ๕. สามารถระบุผลที่ตามมาหากมเี พศสัมพันธโ์ ดยไม่พร้อม วิธปี ้องกนั การตงั้ ครรภท์ ่ไี ม่พร้อม ๖. อธิบายความแตกต่างของแต่ละแนวคิดในการจาแนก “เพศ” และผลกระทบของอคติทางเพศ ที่มี ตอ่ การตัดสนิ คณุ ค่าของมนุษย์ ๗. วเิ คราะห์ส่อื และอิทธิพลของส่ือท่มี ีต่อภาพลักษณแ์ ละการใช้ชวี ิตของวัยรุ่น รวมทั้งหมด 7 ผลการเรียนรู้ คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

ศ31201 – ศ31202 ดนตรสี ากลตามความถนดั 1 -2 กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ช่ัวโมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาทฤษฎีการดนตรี หลักการฝึกหดั เบื้องตน้ หลักการฟังดนตรี ศพั ท์สังคีต และหลักการใชเ้ ครอื่ ง ดนตรี ฝึกปฏบิ ัติเคร่อื งดนตรีสากลท่ีถนัด และมีทักษะในการบรรเลงดนตรีสากลที่ถนัดไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ไพเราะ เพลดิ เพลิน หลากหลายรูปแบบ สามารถจดั แสดงดนตรีเป็นครั้งคราว ดแู ลเกบ็ รักษาเครือ่ งดนตรไี ด้อย่างถูกต้อง เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจ เห็นคณุ ค่า สามารถบรรเลงดนตรีตามความถนดั ตามโน้ตทงั้ เดีย่ วและเป้นก ลมุ่ มีวินยั ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น ม่งุ ม่นั ในการทางาน ปฏบิ ัตงิ านสรา้ งสรรคง์ านแสดงดนตรีอยา่ งช่นื ชมและเห็นคณุ ค่า ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถอธบิ ายถึงทฤษฎโี นต้ สากลในการปฏบิ ัติและบรรเลงดนตรีได้ 2. อธบิ ายถงึ ศัพท์สังคีตท่ใี ชใ้ นการบรรเลงดนตรสี ากลได้ 3. สามารถเลอื กปฏบิ ัตเิ ครื่องดนตรสี ากลตามความถนดั ได้ 1 ชิ้น 4. นักเรียนสามารถฝึกทักษะเบื้องต้น และบรรเลงเครื่องดนตรสี ากลท่ถี นัดได้ 5. สามารถบรรเลงดนตรตี ามเพลงทีก่ าหนด และเพลงเลือกได้ 6. นักเรยี นสามารถเขา้ ร่วมร่วมจัดการแสดงดนตรีทง้ั เด่ยี วและวงได้ 7. นักเรียนรูถ้ งึ วิธีการดูแล บารงุ รักษาเคร่อื งดนตรีได้อยา่ งถกู ต้อง รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้ คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม

ศ31203,ศ31204 ดนตรไี ทยปฏิบัติตามความถนดั 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชว่ั โมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาทฤษฎีการดนตรี หลักการฝกึ หัดเบื้องต้น หลกั การฟังดนตรี ศพั ทส์ งั คีตและหลักการใชเ้ ครอ่ื ง ดนตรี ฝึกปฏบิ ตั ทิ ฤษฎีการดนตรีไทยท่ีถนัด ประวัตเิ พลง การดูแลรักษาเครื่องดนตรี ฝกึ ปฏบิ ตั ิเคร่อื งดนตรี ไทยอย่างนอ้ ย 1 ช้นิ ฝึกบรรเลงเพลงอัตรา ชนั้ เดยี วสองชั้นและเพลงเถา ฝึกบรรเลงท้ังเด่ียวและกลุม่ จัดการ แสดงเปน็ คร้งั คราว เพื่อใหม้ ีความรู้ความเข้าใจ มวี ินัย ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน ม่งุ มั่นในการทางาน และมีทกั ษะเกี่ยวกบั การบรรเลง ดนตรีไทยท่ีถนดั ได้อย่างถูกต้อง ไพเราะ เพลดิ เพลนิ นาภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ มาผสมผสานได้อยา่ งกลมกลืนมี ความสุขในการเรียนและเกิดความชน่ื ชมเห็นคณุ ค่าในความเปน็ ไทย แหนหวงศิลปะประจาชาตแิ ละมงุ่ อนุรักษ์ ให้มสี ืบตอ่ ไป ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถอธิบายถึงโน้ตเพลงไทย โนต้ เพลงสากลได้ 2. บอกถงึ หลักการอ่านโนต้ เพลงไทย เพลงสากลได้ 3. นกั เรียนสามารถอธิบายถึงหลักการฟังดนตรไี ทยและการปฏิบตั ติ นได้ 4. อธิบายถงึ ประวตั ิของเพลงทบ่ี รรเลงและความสาคัญได้ 5. สามารถเลือกปฏบิ ัตเิ คร่ืองดนตรไี ทยได้อย่างน้อย 1 ชนิ้ 6. สามารถบรรเลงเครอ่ื งดนตรไี ทยในอตั ราจังหวะช้ันเดียวได้ 7. สามารถบรรเลงเคร่อื งดนตรีไทยในอัตราจังหวะสองชนั้ และเพลงเถาได้ 8. นักเรียนรว่ มจัดการแสดงดนตรีไทยเบ้ืองตน้ ได้ 9. นกั เรยี นร้ถู ึงวิธกี ารดูแล บารงุ รกั ษาเคร่ืองดนตรีไทยได้อย่างถกู ต้อง รวมท้ังหมด 9 ผลการเรยี นรู้ คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

ศ31205 – ศ31206 ช่างเขียนการต์ นู 1 -2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชวั่ โมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาหลกั และวิธีการเขียนภาพการต์ ูน การใช้เส้น สี รปู รา่ งและรปู ทรง การจดั ภาพและการเขยี น ภาพการต์ นู ประกอบเรือ่ ง ฝึกปฏบิ ตั กิ ารเขยี นภาพการ์ตนู ตามรปู แบบและจนิ ตนาการเขียนภาพการ์ตูนประกอบ เร่อื ง สรา้ งสรรค์งานดว้ ยเทคนิคท่ีนา่ สนใจ เปรยี บเทียบผลงานของตนเองและของผู้อื่นด้วยเกณฑง์ า่ ย ๆ เพ่ือ นามาปรับปรุงผลงานตนเอง เพ่อื ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ ช่ืนชม มีวินัย ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งม่นั ในการทางาน มีทักษะและเห็นคณุ ค่า ในการเขียนภาพการต์ นู ตามรูปแบบ ตามจนิ ตนาการและการเขียนภาพการต์ ูนประกอบเร่ือง สามารถนามา ประยุกต์ใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน เพ่ือให้มีความร้คู วามเขา้ ใจ มีวินัย ใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น มุ่งม่ันในการทางาน สามารถแสดงผลงานตาม ความคดิ และสร้างสรรค์งานเปน็ ข้ันตอน ทางานระบบกลมุ่ ระบบทมี อยา่ งเป็นขบวนการคิด สรา้ งปฏิบตั งิ าน รว่ มกนั ได้ อยา่ งมีความสุข ประหยดั ปลอดภัยและไดช้ นิ้ งานทสี่ มบูรณน์ าไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ความเข้าใจในการเขียนภาพการต์ ูน การใชเ้ สน้ สี รปู รา่ งและรูปทรง การจัดภาพและการเขียน ภาพการต์ ูนประกอบเรือ่ ง ๒. มีทกั ษะในการเขียนภาพการ์ตนู ตามรปู แบบและจนิ ตนาการเขยี นภาพการต์ ูนประกอบเรื่องสร้างสรรค์ งานด้วยเทคนิคทนี่ ่าสนใจ ๓. บอกหลักและวธิ กี ารเขยี นภาพการ์ตูน การใช้เส้น สี รปู ร่างและรูปทรง การจดั ภาพและการเขยี นภาพ การ์ตนู ประกอบเรื่องอย่างถูกตอ้ ง ๔. ฝกึ ปฏบิ ตั ิการเขียนภาพการต์ ูนโดยการใช้เสน้ สี รูปรา่ งและรปู ทรงตามจินตนาการและการเขยี นภาพ การต์ ูนประกอบเร่ืองสามารถนามาประยุกตใ์ ช้ใหเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวิตประจาวันได้ ๕. สามารถแสดงผลงานตามความคิดและสร้างสรรค์งานเป็นข้ันตอนทางานระบบกลุ่ม ระบบทมี อย่างเปน็ ขบวนการคิด สร้างปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ได้ อย่างมีความสขุ ๖. มีวนิ ัย ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน มงุ่ มนั่ ในการทางาน และเห็นคุณคา่ ในการเขียนภาพการต์ นู ตามรปู แบบประหยดั ปลอดภัยและได้ชนิ้ งานท่สี มบูรณ์นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ๗. เปรียบเทียบผลงานของตนเองและของผอู้ ่ืนดว้ ยเกณฑ์งา่ ย ๆ เพ่ือนามาปรับปรุงผลงานตนเองได้ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ศ31207- ศ31208 โครงงานศิลปะ1 -2 กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ช่ัวโมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาหลักการและวิธกี ารเกย่ี วกบั โครงงานศิลปะ วิเคราะห์วางแผนลงมือผลติ ชิ้นงานและ เพื่อให้ ทางานได้อย่างถกู ต้องตามขบวนการ ประหยดั ปลอดภัย มคี วามพอเพียงและนาชิ้นงานไปใชเ้ ปน็ ประโยชน์ได้ใน ชีวิตประจาวันและสังคมในท้องถนิ่ ประเมนิ และเปรียบเทียบผลผลิตช้ินงานของตนเองและผอู้ ืน่ เพ่ือนามา ปรับปรงุ ผลงานและการทางานเปน็ ทีมสมั พันธไ์ ดก้ บั สาระการเรยี นรู้หลายกลมุ่ สาระ เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ มีวินัย ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น มงุ่ มนั่ ในการทางาน สามารถแสดงผลงานตาม ความคิดและสร้างสรรค์งานเปน็ ข้นั ตอน ทางานระบบกลมุ่ ระบบทมี อยา่ งเปน็ ขบวนการคิด สรา้ งปฏิบตั ิงาน ร่วมกันได้ อย่างมีความสขุ ประหยดั ปลอดภัยและไดช้ ้ินงานท่ีสมบูรณน์ าไปใช้ประโยชน์ได้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั โครงงานศลิ ปะในเร่ือง หลักการและวธิ ีการเกย่ี วกับโครงงานศิลปะ ๒. การวิเคราะหว์ างแผนลงมอื ผลิตชนิ้ งานและปรบั ปรงุ การทางานตามความคดิ และสรา้ งสรรคง์ านอยา่ ง เปน็ ขั้นตอน ๓. นักเรยี นสามารถอธิบายและเขียนโครงงานไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การและวิธกี ารเก่ียวกบั โครงงาน ศลิ ปะ ๔. นกั เรียนสามารถวิเคราะห์วางแผนลงมอื ผลิตชน้ิ งานและปรับปรุงการทางานได้อย่างถกู ต้องตาม ขบวนการ ประหยัด อยูอ่ ยา่ งพอเพยี งและปลอดภัย ๕. นักเรยี นมีทักษะการผลิตชนิ้ งานได้อย่างถูกตอ้ งและสวยงาม สามารถนาชน้ิ งานไปใชเ้ ปน็ ประโยชน์ ได้ในชวี ติ ประจาวันและสังคมในท้องถน่ิ ๖. นกั เรียนสามารถประเมินและเปรยี บเทยี บผลผลติ ชน้ิ งานของตนเองและผู้อ่นื เพือ่ นามาปรบั ปรุง ผลงานได้ ๗. นักเรียนสามารถทางานเป็นทีมสมั พนั ธ์ได้กับสาระการเรียนรู้หลายกลุ่มสาระ ๘. นกั เรียนมวี นิ ัย ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน มุ่งมัน่ ในการทางานอย่างเปน็ ขน้ั ตอน ทั้งการทางานระบบกลุม่ ระบบทีม อยา่ งเปน็ ขบวนการคดิ สร้างปฏิบตั ิงานร่วมกันได้ อยา่ งมีความสขุ ๙. นักเรยี นมีความชน่ื ชมเห็นคุณคา่ และภาคภูมิใจ ในผลงานท้ังของตนและผู้อนื่ ๑๐.นกั เรียนมีความตระหนักทจ่ี ะถ่ายทอดและสร้างสรรค์งานได้อย่างชื่นชมนา่ สนใจ รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ศ31209 – ศ31210 จิตรกรรม 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชวั่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษาความรู้เบือ้ งต้นและฝึกปฏิบัติเก่ียวกับ การจัดองค์ประกอบศลิ ป์ วัสดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ในการเขยี น และกระบวนการเขียนภาพ การเขยี นภาพเหมือนด้วยวัสดตุ า่ ง ๆ ตามความเหมาะสม และพอเพียงเพื่อให้มี ความรู้ความเข้าใจ เหน็ ประโยชน์และคุณค่า ช่นื ชม มวี นิ ัย ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน มงุ่ มั่นในการทางานมที ักษะสามารถ ถ่ายทอดสิ่งทม่ี องเหน็ ออกมาเปน็ ภาพตามความเปน็ จริง สรา้ งสรรคง์ านเขียนภาพได้อยา่ งอสิ ระ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรคู้ วามเขา้ ใจความร้เู บื้องต้นเก่ยี วกับการจัดองคป์ ระกอบศลิ ป์ วสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการเขยี น และกระบวนการเขียนภาพ การเขยี นภาพเหมือนด้วยวสั ดุต่าง ๆ ๒. ฝึกปฏิบัติเกยี่ วกบั การเขียนภาพโดยใชอ้ งค์ประกอบศิลป์ วสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการเขยี นภาพพาณิชย์ศลิ ป์ เบ้ืองตน้ ตามความเหมาะสม และพอเพยี ง ๓. มที ักษะ สามารถถ่ายทอดส่งิ ท่ีมองเห็นออกมาเป็นภาพตามความเป็นจรงิ สรา้ งสรรค์งานเขียนภาพ ไดอ้ ยา่ งอสิ ระ ๔. มีวนิ ัย ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มงุ่ มนั่ ในการทางาน ๕. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่า เกดิ ความชนื่ ชมในผลงานศิลปะ การสรา้ งสรรค์งานเขยี นภาพอยา่ งอสิ ระ และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ศ31211 – ศ31212 ออกแบบ 1 -2 กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาหลกั การออกแบบ ประเภทของงานออกแบบ การร่างแบบ การอา่ นแบบ และการสรา้ งงาน 2 มิติ 3 มิติ และฝกึ ปฏบิ ัติเก่ียวกบั การออกแบบผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ การเลือกใช้วสั ดุอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมกับ ผลติ ภณั ฑ์ ยดึ หลักความพอเพยี ง ฝกึ ปฏบิ ัตอิ อกแบบวสั ดุ เครือ่ งใช้เพ่อื ให้มีความรูค้ วามเขา้ ใจ มวี นิ ัย ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มุ่งมั่นในการทางาน มที ักษะในการออกแบบและสามารถสร้างผลติ ภณั ฑ์ตามทอ่ี อกแบบ ใหป้ ระณีตสวยงามและมี ประโยชน์ ตรงตามความต้องการของผู้บรโิ ภค เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและประโยชน์ใชส้ อยโดยใช้ภมู ิปัญญา ทอ้ งถ่นิ มาประยกุ ต์ใช้ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจสามารถอธิบายความหมายการออกแบบประเภทของงานออกแบบ การร่างแบบ การอ่านแบบ และการสร้างงาน 2 มิติ 3 มติ ไิ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ๒. ฝกึ ปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั การออกแบบผลิตภณั ฑ์การเลือกใช้วสั ดุอุปกรณใ์ หเ้ หมาะสมกับผลติ ภณั ฑ์ ๓. ฝกึ ปฏิบตั อิ อกแบบวัสดุ เคร่ืองใช้ ยึดหลักความพอพยี ง ๔. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ มงุ่ มน่ั ในการทางาน ในการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ได้เหมาะสม 5. มี ๕. ทกั ษะเบื้องตน้ ในการออกแบบได้เหมาะสมกบั ประโยชนใ์ ช้สอย โดยใชภ้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ มาประยุกต์ใช้ ๖. มที กั ษะในการออกแบบและสามารถสร้างผลติ ภณั ฑ์ตามท่ีออกแบบ ใหป้ ระณีตสวยงามและมีประโยชน์ ตรงตามความตอ้ งการของผู้บริโภค รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม ศ31211 – ศ31212 ออกแบบ 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการออกแบบ ประเภทของงานออกแบบ การรา่ งแบบ การอา่ นแบบ และการสรา้ งงาน 2 มิติ 3 มิติ และฝกึ ปฏิบัติเกีย่ วกบั การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ต่าง ๆ การเลอื กใช้วัสดุอุปกรณใ์ หเ้ หมาะสมกบั ผลิตภณั ฑ์ ยึดหลักความพอเพยี ง ฝึกปฏบิ ตั อิ อกแบบวัสดุ เคร่อื งใช้ เพ่อื ใหม้ ีความรู้ความเข้าใจ มวี นิ ยั ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รียน มงุ่ มน่ั ในการทางาน มที ักษะในการออกแบบและ สามารถสรา้ งผลิตภัณฑต์ ามท่ีออกแบบ ให้ประณตี สวยงามและมีประโยชน์ ตรงตามความต้องการของ ผู้บรโิ ภค เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มและประโยชน์ใชส้ อยโดยใช้ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ มาประยกุ ต์ใช้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรคู้ วามเขา้ ใจสามารถอธิบายความหมายการออกแบบประเภทของงานออกแบบ การร่างแบบ การอ่านแบบ และการสร้างงาน 2 มติ ิ 3 มติ ิไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ๒. ฝกึ ปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั การออกแบบผลิตภณั ฑ์การเลือกใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ หเ้ หมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ๓. ฝกึ ปฏิบัติออกแบบวัสดุ เครื่องใช้ ยดึ หลักความพอพียง ๔. มีความรู้ความเขา้ ใจ ม่งุ มั่นในการทางาน ในการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ได้เหมาะสม ๕. มที กั ษะเบื้องต้นในการออกแบบไดเ้ หมาะสมกับประโยชนใ์ ชส้ อย โดยใช้ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นมาประยุกต์ใช้ ๖. มที กั ษะในการออกแบบและสามารถสรา้ งผลิตภัณฑ์ตามท่ีออกแบบ ใหป้ ระณตี สวยงามและมี ประโยชน์ ตรงตามความต้องการของผบู้ รโิ ภค รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ศ31213 – ศ31214 ศิลปะการละครเบอื้ งต้น 1 -2 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาศิลปะการละครเบอื้ งต้นในเร่อื ง ความหมาย จดุ มงุ่ หมาย ความเปน็ มา ความเป็นเอกลักษณ์ ประจาชาติ ความสมั พันธก์ ับชีวติ ประเภทและลกั ษณะ องคป์ ระกอบ หลกั การสรา้ งสรรค์และวจิ ารณ์ สามารถฝกึ ปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับการแสดงละคร จัดการแสดงละครง่าย ๆ เปน็ ครัง้ คราว ประยุกตก์ ารแสดงอย่าง เหมาะสม ยึดหลกั ความพอเพียง เพอื่ ให้มคี วามรคู้ วามเข้าใจ เห็นคุณค่า มวี นิ ัย ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มงุ่ ม่นั ในการทางาน และภาคภูมิใจ เกีย่ วกบั ศลิ ปะการละครและมีทักษะสามารถจดั การแสดงในโอกาสต่าง ๆ ได้ มีความตระหนัก ท่ีจะถ่ายทอด และอนุรักษ์ใหส้ บื ทอดต่อไป ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกับศิลปะการละครเบ้ืองตน้ ในเรื่อง ความหมาย จุดม่งุ หมาย ความเป็นมา ความเปน็ เอกลักษณ์ประจาชาติ ความสัมพนั ธก์ ับชีวิต ๒. นักเรียนสามารถบอกและอธิบาย ประเภทและลักษณะ องค์ประกอบ หลกั การสรา้ งสรรคแ์ ละ วจิ ารณไ์ ด้ ๓. นักเรียนสามารถนา องคป์ ระกอบ หลักการสร้างสรรค์และวจิ ารณ์ มาฝกึ ปฏิบตั ิเกยี่ วกับการแสดง ละครได้ ๔. นักเรยี นสามารถประยุกต์การแสดงอยา่ งเหมาะสม ยึดหลกั ความพอเพยี งและจัดการแสดงละคร งา่ ย ๆ เป็นครง้ั คราวได้ ๕. นกั เรียนมีทักษะสามารถจัดการแสดงในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ ๖. นกั เรียนมวี ินัย ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียน มงุ่ ม่ันในการทางาน ๗. นักเรียนเหน็ คณุ ค่าและภาคภมู ิใจ เกย่ี วกบั ศลิ ปะการละครมคี วามตระหนัก ท่จี ะถ่ายทอดและอนรุ ักษ์ให้ สบื ทอดต่อไป รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ศ31215 – ศ31216 นาฏศิลปพ์ น้ื เมือง 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษานาฏศิลปพ์ ้ืนเมืองในเรื่อง ประวตั คิ วามเปน็ มา การแตง่ กาย ลีลาทา่ รา เพลงประกอบการรา ฝกึ แสดงนาฏศิลปพ์ ืน้ เมือง การละเลน่ พน้ื เมือง รอ้ งและราเพลงพ้ืนเมืองตามความสนใจ การจดั ประเภทของการ แสดงพ้นื เมือง ประวตั บิ ุคคลในท้องถิ่นทป่ี ระสบผลสาเร็จในการสร้างศิลปะพ้ืนบา้ น สามารถจดั การแสดง พนื้ บ้านของจังหวดั อ่างทอง และศิลปะพืน้ บ้านของภาคอ่ืน ๆ ของประเทศไทยเป็นคร้งั คราวเพื่อให้มี ความรู้ความเข้าใจ เหน็ คณุ คา่ มวี นิ ัย ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รียน มงุ่ มน่ั ในการทางาน และมีทักษะเกีย่ วกับการแสดงพื้นบา้ น สารวจและทาความเข้าใจ ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน สามารถอนรุ ักษ์และนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวนั ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั นาฏศลิ ป์พื้นเมืองในเร่ือง ประวตั คิ วามเป็นมา การแตง่ กาย ลลี าท่ารา เพลงประกอบการรา ๒. นักเรยี นสามารถบอกและอธิบาย ประเภทของการแสดงพ้ืนเมอื ง ประวตั บิ คุ คลในทอ้ งถ่ินท่ปี ระสบ ผลสาเร็จในการสรา้ งศลิ ปะพ้ืนบ้านได้ ๓. นกั เรียนสามารถฝึกแสดงนาฏศลิ ป์พื้นเมือง การละเลน่ พืน้ เมือง รอ้ งและราเพลงพน้ื เมืองตามความ สนใจได้ ๔. นกั เรียนมที ักษะและสามารถจดั การแสดงพ้ืนบา้ นของจงั หวดั อ่างทอง และศลิ ปะพื้นบา้ นของภาค อนื่ ๆ ของประเทศไทยเปน็ ครั้งคราวได้ ๕. นกั เรียนสามารถสารวจและทาความเขา้ ใจ ภูมิปญั ญาท้องถ่ินได้ ๖. นักเรียนมวี ินยั ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มงุ่ มั่นในการทางาน ๗. นักเรียนมคี วามช่ืนชมเหน็ คุณค่าและภาคภูมิใจในศิลปะการแสดงพน้ื บา้ น ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ มคี วามตระหนกั ทีจ่ ะถา่ ยทอดและอนรุ ักษแ์ ละนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ต่อไป รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ศ31217 – ศ31218 ร้องเพลงไทยสากล – ไทยลูกทุง่ 1 -2 กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาเกี่ยวกบั อวยั วะและระบบที่เกี่ยวข้องในการออกเสียง เทคนิคการออกเสียงและการร้องเพลง ทฤษฎีโนต้ สากล การออกอักขระและสาเนยี ง การแสดงทา่ ทางประกอบ ลักษณะวิธสี รา้ งอารมณ์การพดู และการ ขบั ร้องเพลงไทยสากลและหรือไทยลูกทุง่ โดยการรอ้ งเดีย่ ว รอ้ งหมู่ หลกั การปฏบิ ัติตนฝกึ การบรหิ ารรา่ งกาย ใน การออกเสียหายใจเขา้ ออกและควบคมุ อวัยวะในการออกเสียง อา่ นโน้ตทานอง เนื้อร้อง ขับรอ้ งเพลงไทยสากล และหรอื เพลงลกู ทุ่ง โดยการร้องเดย่ี ว ร้องหมู่ ร้องประกอบดนตรี แสดงทา่ ทางและสรา้ งอารมณใ์ นเสยี งเพลงให้ตรงกับเน้ือหาของเพลงเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ มวี ินยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน มุ่งมน่ั ในการทางาน และมที ักษะเกี่ยวกบั ลักษณะและคณุ สมบัตขิ องเสยี ง สามารถ ขับรอ้ งเพลง ประกอบดนตรไี ดอ้ ย่างมคี วามสขุ ในการเรยี น นาภมู ิปัญญาท้องถนิ่ มาผสมผสานไดอ้ ยา่ งกลมกลืนและเหน็ คณุ ค่า เกิดความช่ืนชม ผลการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นบอกถงึ องค์ประกอบและอวัยวะและการกาเนิดเสียงเบ้อื งตน้ ได้ ๒. อธบิ ายถงึ เทคนคิ การออกเสียง และการเปลง่ เสียงตามหลักการได้ ๓. นักเรยี นอธิบายถึงการขบั ร้องเพลงเบื้องต้นได้ ๔. สามารถอธบิ ายถึงทฤษฎโี น้ตสากลได้ ๕. สามารถแสดงท่าทางประกอบ ลักษณะวธิ ีสรา้ งอารมณ์การพดู และการขบั ร้องเพลงไทยสากลและหรือ ไทยลูกทุ่งได้ ๖. สามารถขับร้องเพลงเด่ียว และประกอบดนตรีได้ ๗. สามารถขบั ร้องเพลงหมู่ และประกอบดนตรไี ด้ ๘. นกั เรียนร่วมจัดการแสดงขับร้องเพลงได้ รวมทั้งหมด 8 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ง3๑๒0๒ คอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ๑.๐ หน่วยกติ เวลา ๔0 ชั่วโมง ............................................................................................... ........................................................................... ศกึ ษา ข้อมลู สารสนเทศ หลักการและวิธีการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟต์แวรใ์ นการจดั การข้อมูล การประมวลผลข้อมูลใหเ้ ป็นสารสนเทศ สารสนเทศในการตัดสินใจ ระบบคอมพิวเตอร์ ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ การ สอ่ื สารขอ้ มูล เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ การเลอื กใชเ้ ครื่องมือในการสืบคน้ ข้อมลู ปฏบิ ตั ิการ เลอื กใชเ้ ครื่องมือทางเทคโนโลยสี ารสนเทศในการรวบรวมขอ้ มลู การประมวลผลข้อมูล นาเสนอ ประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวัน เขา้ ใจและเหน็ คุณค่าของเทคโนโลยสี ารสนเทศ มีความเข้าใจในเรือ่ งข้อมูล สารสนเทศ การประมวลผล ข้อมลู ให้เป็นสารสนเทศ รูจ้ กั ใชข้ อ้ มูลและสารสนเทศเข้ามาช่วยในการตดั สนิ ใจ สามารถเลอื กเคร่ืองมือทาง เทคโนโลยสี ารสนเทศในการทางานได้อย่างเหมาะสม เข้าใจระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ รวบรวม สบื ค้นข้อมลู จากระบบเครอื ข่ายและแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศใน ชวี ติ ประจาวันอย่างมจี ติ สานึกและรบั ผดิ ชอบ ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความรู้เก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศได้ 2. อธบิ ายความรู้เก่ียวกับระบบคอมพิวเตอรไ์ ด้ 3. อธิบายความร้เู ก่ียวกบั ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 4. ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจาวันได้ รวมทั้งหมด 4 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ง3๑๒0๔ คอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ จานวน ๑.๐ หน่วยกิต เวลา ๔0 ช่วั โมง ............................................................................................... ........................................................................... ศึกษา ความหมายและหลกั การของเทคโนโลยีส่ือประสม (Multimedia) การใช้เทคโนโลยสี อื่ ประสม นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ปฏิบตั ิการ ศึกษาการสรา้ งและการใชเ้ ทคโนโลยีสื่อประสมนาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ในระดับพน้ื ฐาน เพือ่ ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ และมที ักษะ ในการสรา้ งและการใชง้ านเทคโนโลยสี ือ่ ประสม นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ในระดบั พน้ื ฐาน ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายและหลกั การของเทคโนโลยีส่อื ประสม (Multimedia) ได้ 2. ใชเ้ ทคโนโลยีสอื่ ประสม (Multimedia) นาเสนอข้อมูลข่าวสารได้ 3. สรา้ งและใชเ้ ทคโนโลยีสื่อประสมนาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ในระดับพืน้ ฐานได้ รวมท้ังหมด 3 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม รหัสวิชา ง312๐1 ข้าวไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔0 ชว่ั โมง จานวน ๑.0 หนว่ ยกติ ............................................................................................................................. ............................................. ศึกษาความสาคัญทางเศรษฐกจิ ของขา้ ว ประเพณี ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ปจั จยั และสงิ่ แวดลอ้ มทม่ี ีอิทธิพล ตอ่ การเจริญเตบิ โตของขา้ ว พันธุ์ขา้ ววิธกี ารปลกู การดแู ลบารุงรกั ษา การเกบ็ เกีย่ ว การสขี า้ ว การแปรรูปผลผลิต การบรรจภุ ณั ฑ์ โดยใชก้ ระบวนการเทคโนโลยี การบริโภค การตลาด และการสหกรณ์ เศรษฐกจิ การคา้ ข้าวภายในและระหว่างประเทศ ปฏิบัติการเตรียมดนิ ปลูก ดแู ลบารุงรักษา เกบ็ เกีย่ ว การจัดการหลังการเกบ็ เกีย่ วผลผลติ คานวณ คา่ ใชจ้ ่าย กาหนดราคาขาย จัดจาหนา่ ย จดบนั ทึกการปฏบิ ัตงิ าน ทาบญั ชรี ายรับรายจ่าย ประเมินผล วเิ คราะห์ ตลาดขา้ วในท้องถ่ินในประเทศและต่างประเทศ รว่ มกันอภิปราย แกไ้ ขปัญหา และกาหนดแนวทางพัฒนาการทา นาขา้ ว การสหกรณ์และการตลาด เพือ่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจสภาพการปลูกขา้ วในปัจจุบัน และมีทักษะในการปลูก ดูแลบารุงรกั ษา เกบ็ เก่ยี วผลผลติ สามารถพัฒนาการผลติ การสหกรณ์ และการตลาดในท้องถนิ่ ได้ มคี วามซือ่ สัตย์ สจุ ริต รักชาตศิ าสนา พระมหากษัตริย์ มีวินยั ใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น ม่งุ มัน่ ในการทางาน รักความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความสาคญั และประโยชน์ของขา้ วทางการเกษตรได้ 2. บอกภมู ปิ ญั ญาและประเพณีทเ่ี กยี่ วกับข้าวในท้องถน่ิ ได้ 3. บอกลกั ษณะทางพฤกษาศาสตร์ของข้าวในทอ้ งถน่ิ ได้ 4. บอกชนิดของพันธ์ขุ า้ วและวธิ กี ารปลกู ข้าวได้ 5. บอกปจั จยั และอิทธพิ ลตอ่ การเจริญเตบิ โตของข้าวได้ 6. บอกการเตรียมดินและวสั ดุอุปกรณ์การปลูกขา้ วและการเกบ็ เกี่ยวข้าวได้ 7. บอกการใชเ้ ทคโนโลยีการเพม่ิ ผลผลิตขา้ วได้ 8. บอกวิธีการการบารงุ รกั ษาขา้ วได้อย่างถกู วธิ ี 9. บอกวิธกี ารเก็บเก่ียวขา้ วได้ 10.บอกการจัดการหลักการเก็บเกี่ยวโดยภูมิปัญญาไทย เทคโนโลยีการสีข้าวการแปรรูปแบบและ กระบวนการเทคโนโลยกี ารบรรจภุ ณั ฑข์ ้าวไทย 11.วเิ คราะห์การตลาดสหกรณ์การเกษตร โรงสีข้าวและสถานการณ์ขา้ วไทยได้ 12.ปฏิบตั กิ ารเตรียมดนิ ปลกู ขา้ วไดด้ ว้ ยการไถ คราด กาจดั วชั พชื ไดถ้ กู วธิ ี 13.ปฏิบัตกิ ารดแู ละบารุงรกั ษาและกาจัดศัตรพู ืชในแปลงขา้ วได้ 14.คานวณค่าใชจ้ า่ ยและกาหนดราคาขายได้ 15.บนั ทกึ การปฏบิ ตั งิ านได้ 16.ทาบัญชรี ายรบั รายจ่ายและประเมินผลได้

17.วิเคราะหต์ ลาดขา้ วไทยในทอ้ งถิน่ ในประเทศและต่างประเทศ 18.อภิปรายสรปุ ปญั หาอุปสรรคและแนวทางการพฒั นาข้าว การสหกรณแ์ ละการตลาดขา้ วไทยได้ 19.มีความซื่อสัตย์สุจริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู่ ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน รกั ความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ รวมทั้งหมด 19 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ง312๐๖ เศรษฐกิจพอเพยี ง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔0 ชั่วโมง จานวน ๑.0 หน่วยกติ .................................................................................................................................................................. ศึกษาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นามาประยุกต์ใช้ในการทาการเกษตร โดยยึดหลักการ พ่ึงตนเอง ลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม ด้วยการปลูกพืชเล้ียงสัตว์ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ย ชวี ภาพ นา้ ส้มควนั ไม้และสารสกดั สมนุ ไพรทาการเกษตร ปฏิบัติการปลูกพืชและเล้ียงสัตว์ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ น้าส้มควันไม้ และสารสกัดสมุนไพร นาไปใช้ในการเกษตร และประเมินผลงานได้ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะ การปลูกพืชไม่ใช้ดิน นาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ มีความ ซื่อสตั ย์ สุจริต รกั ชาตศิ าสนา พระมหากษัตรยิ ์ มวี ินยั ใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น มุ่งมั่นในการทางาน และมจี ติ สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. บอกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทาการเกษตร ได้ 2. วิเคราะห์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลักการพึ่งตนเอง ลดรายจ่ายเพ่ิมรายได้ ไม่ ทาลายสงิ่ แวดลอ้ ม ดว้ ยการปลกู พชื และเลี้ยงสัตว์ 3. ปฏิบตั กิ ารปลูกพืชและเลีย้ งสัตว์ ผลติ ปยุ๋ อินทรยี ์ ปุย๋ ชีวภาพ น้าสม้ ควนั ไม้ และสารสกัดสมนุ ไพร ได้ 4. ประเมินผลและพฒั นางานได้อยา่ งเหมาะสม 5. มีความซื่อสัตย์สุจริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู่ ใฝ่เรียน มุ่งม่ันในการทางาน และมีจิตสาธารณะ รวมทัง้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ อ31203 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ฟังและพูดเกี่ยวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถิ่น รวมทั้งการขอและให้ข้อมูล เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมทั้งการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ต่าง ๆ เพ่ือให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั และสังคม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่างๆ ที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน โดยใช้ภาษาเพื่อ การสื่อสารตามสถานการณ์ รวมทั้งการถ่ายโอน ข้อมูล และการนาเสนอขอ้ มูลในรูปแบบตา่ ง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับส่ือที่เป็นความเรียงและไม่เปน็ ความเรียง ในหัวข้อ เก่ียวกับชีวิตประจาวัน ส่ิงใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี รวมท้ังเน้ือหา สาระที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้สื่อเทคโนโลยี ส่ือการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพ่ิมเติม เพ่ือขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย สามารถใช้ภาษา ส่ือสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ตนเองและศึกษาตอ่ ผลการเรียนรู้ 1. ฟงั พดู สนทนาโต้ตอบ แสดงบทบาทสมมติ เล่าประสบการณ์เกยี่ วกับตนเอง ใชภ้ าษาเพอ่ื การส่ือสารใน สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตประจาวัน สังคมและสิ่งแวดล้อมซึ่งอยู่ใกล้ตน เหมาะกับบุคคลและโอกาส ตาม มารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา 2. อ่านข้อความ บทอ่าน บทสนทนาแล้วสรุปใจความสาคัญและ/หรอื ตอบคาถามได้ 3. ตอบคาถามหรือมเี หตผุ ลในการพดู โต้ตอบจากเร่ืองท่ี ฟัง พูด อ่าน เขียนโดยอสิ ระได้ 4. เขยี นคา ประโยค บทสนทนา ขอ้ ความตามเร่ืองหรือหัวขอ้ ท่ีกาหนดให้ได้ 5. ปฏบิ ตั ิตามคาขอร้อง คาแนะนาคาชแ้ี จง และคาอธิบายทีฟ่ งั และอ่าน 6. ระบุและเขยี นสอื่ ทีไ่ ม่ใช่ความเรียงรปู แบบต่างๆ ใหส้ มั พันธ์กบั ประโยคและขอ้ ความทีฟ่ ังหรืออ่าน 7. มคี วามมนั่ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษไดถ้ ูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล 8. ใชภ้ าษาองั กฤษเปน็ เครื่องมอื ในการเรียนรสู้ าระอื่นอย่างมีประสิทธภิ าพ 9. นักเรียนวิเคราะห์ จาแนก และเขยี นประโยคที่มีโครงสร้างทางไวยากรณ์เกีย่ วกับ เรอื่ ง Tenses ได้ 10. นกั เรียนวเิ คราะห์ จาแนก และเขยี นประโยคที่มโี ครงสร้างทางไวยากรณ์เกี่ยวกับ เรอ่ื ง Agreement of Subject and Verb ได้ รวมทั้งหมด 10 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม อ31204 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ฟังและพูดเก่ียวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถ่ิน รวมท้ังการขอและให้ข้อมูล เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมท้ังการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ตา่ ง ๆ เพ่ือให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั และสงั คม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่างๆ ที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น โดยใช้ภาษาเพื่อ การส่อื สารตามสถานการณ์ รวมทั้งการถ่ายโอน ข้อมูล และการนาเสนอข้อมลู ในรูปแบบตา่ ง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อท่ีเป็นความเรยี งและไม่เป็นความเรียง ในหัวข้อ เกี่ยวกับชีวิตประจาวัน ส่ิงใกล้ตัว ความรู้ทั่วไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถ่ิน วัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งเนื้อหา สาระที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้สื่อเทคโนโลยี ส่ือการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพ่ือขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษา สื่อสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ตนเองและศกึ ษาต่อ ผลการเรียนรู้ 1.นักเรยี นพดู และใชศ้ ัพท์ สานวน โครงสรา้ งประโยคเพื่อการทักทาย แนะนาตัวเอง แนะนา ผอู้ ืน่ ให้รจู้ กั กันและการอาลาได้ 2. นกั เรยี นพดู และใช้ศัพท์ สานวน โครงสรา้ งประโยคเพ่ือการเช้อื เชญิ การเสนอแนะ การขอร้อง 3. นกั เรยี นพูดและใช้ศัพท์ สานวน โครงสรา้ งประโยคเพ่ือการเสนอให้ความช่วยเหลอื การขออนญุ าต การกลา่ วขอโทษ 4. นกั เรียนอา่ นขา่ ว บทความ ขอ้ ความตา่ งๆจากหนงั สือพิมพ์ นิตยสาร Internet แล้วบอก รายละเอียดและจับใจความสาคัญได้ 5. นักเรียนอ่านบทประพันธ์ แลว้ บอกรายละเอียดและจบั ใจความสาคญั ได้ 6. นกั เรยี นเขียนประวตั ิส่วนตวั และประวตั ยิ ่อได้ 7. นกั เรยี นสามารถกรอกแบบฟอร์มตา่ งๆได้ 8. นกั เรียนสามารถเขียนจดหมายสว่ นตวั และจดหมายธุรกิจได้ 9. นกั เรียนวเิ คราะห์ จาแนก และเขยี นประโยคทม่ี ีโครงสร้างทางไวยากรณ์เกยี่ วกบั เรือ่ ง Tenses ได้ 10. มีความม่นั ใจในการใช้ภาษาอังกฤษได้ถูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล 11. ใชภ้ าษาอังกฤษเป็นเครื่องมอื ในการเรียนรูส้ าระอนื่ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมท้ังหมด 11 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม อ31201 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1 หน่วยกิต ฟังและพูดเกี่ยวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถ่ิน รวมท้ังการขอและให้ข้อมูล เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมท้ังการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั และสังคม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่าง ๆ ท่ีเป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน โดยใช้ภาษาเพ่ือ การสอื่ สารตามสถานการณ์ รวมทั้งการถา่ ยโอน ข้อมลู และการนาเสนอข้อมูลในรปู แบบต่าง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับส่ือที่เป็นความเรียงและไม่เปน็ ความเรียง ในหัวข้อ เกี่ยวกับชีวิตประจาวัน ส่ิงใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถ่ิน วัฒนธรรมประเพณี รวมท้ังเนื้อหา สาระที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้ส่ือเทคโนโลยี ส่ือการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษา ส่ือสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ตนเองและศกึ ษาตอ่ ผลการเรยี นรู้ 1. ฟงั พดู สนทนาโต้ตอบ แสดงบทบาทสมมติ เลา่ ประสบการณ์เกีย่ วกบั ตนเอง ใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร ในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีเกี่ยวกับชีวติ ประจาวัน สังคมและสิ่งแวดล้อมซ่ึงอยู่ใกล้ตน เหมาะกับบุคคลและโอกาส ตาม มารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา 2. อา่ นข้อความ บทอา่ น บทสนทนาแลว้ สรุปใจความสาคัญและ/หรือตอบคาถามได้ 3. ตอบคาถามหรือมีเหตุผลในการพดู โตต้ อบจากเรื่องที่ ฟงั พดู อา่ น เขียนโดยอิสระได้ 4. เขียนคา ประโยค บทสนทนา ขอ้ ความตามเร่ืองหรือหวั ข้อที่กาหนดให้ได้ 5. ปฏบิ ัติตามคาขอร้อง คาแนะนาคาชแี้ จง และคาอธิบายท่ฟี งั และอา่ น 6. ระบแุ ละเขยี นสอื่ ทไี่ ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ให้สมั พนั ธ์กับประโยคและข้อความท่ฟี ังหรืออ่าน 7. มีความมั่นใจในการใชภ้ าษาองั กฤษไดถ้ ูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล 8. ใช้ภาษาองั กฤษเปน็ เคร่ืองมอื ในการเรียนรูส้ าระอ่นื อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 9. นักเรียนวิเคราะห์ จาแนก และเขียนประโยคท่ีมีโครงสร้างทางไวยากรณ์เก่ียวกับเร่ือง Tenses ได้ 10. นักเรียนวิเคราะห์ จาแนก และเขียนประโยคท่ีมีโครงสร้างทางไวยากรณ์เกี่ยวกับเร่ือง Agreement of Subject and Verbได้ รวมทัง้ หมด 10 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ อ31202 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฟงั และพูดเก่ยี วกบั ข้อมูล ข่าวสารเหตุการณต์ ่าง ๆ ในท้องถ่นิ รวมท้งั การขอและให้ข้อมลู เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมทั้งการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ตา่ ง ๆ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พฒั นาตนเอง ครอบครวั และสังคม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่างๆ ที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น โดยใช้ภาษาเพื่อ การส่ือสารตามสถานการณ์ รวมทัง้ การถา่ ยโอน ขอ้ มูล และการนาเสนอขอ้ มูลในรูปแบบตา่ ง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับสื่อท่ีเป็นความเรียงและไม่เป็นความเรียง ในหัวข้อ เกี่ยวกับชีวิตประจาวัน สิ่งใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี รวมท้ังเนื้อหา สาระที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้สื่อเทคโนโลยี สื่อการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย สามารถใช้ภาษา สื่อสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ตนเองและศกึ ษาตอ่ ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรียนพดู และใช้ศัพท์ สานวน โครงสรา้ งประโยคเพื่อการทักทาย แนะนาตวั เอง แนะนา ผูอ้ ่นื ใหร้ ้จู ักกันและการอาลาได้ 2. นกั เรียนพดู และใช้ศัพท์ สานวน โครงสรา้ งประโยคเพ่ือการเชอื้ เชญิ การเสนอแนะ การขอรอ้ ง 3. นักเรียนพูดและใช้ศัพท์ สานวน โครงสร้างประโยคเพ่ือการเสนอให้ความชว่ ยเหลือ การขออนญุ าต การกลา่ วขอโทษ 4. นกั เรียนอ่านขา่ ว บทความ ข้อความตา่ งๆจากหนังสือพมิ พ์ นิตยสาร Internet แล้วบอก รายละเอียดและจบั ใจความสาคญั ได้ 5. นกั เรียนอ่านบทประพันธ์ แลว้ บอกรายละเอยี ดและจบั ใจความสาคัญได้ 6. นกั เรยี นเขยี นประวัตสิ ว่ นตวั และประวตั ยิ ่อได้ 7. นกั เรียนสามารถกรอกแบบฟอร์มต่างๆได้ 8. นกั เรียนสามารถเขียนจดหมายสว่ นตัวและจดหมายธรุ กิจได้ 9. นกั เรียนวเิ คราะห์ จาแนก และเขียนประโยคท่ีมโี ครงสร้างทางไวยากรณ์เก่ยี วกบั เร่อื ง Tenses ได้ 10. มคี วามมัน่ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษได้ถูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล 11. ใชภ้ าษาอังกฤษเป็นเครื่องมือในการเรยี นรูส้ าระอน่ื อยา่ งมีประสิทธิภาพ รวมทั้งหมด 11 ผลการเรยี นรู้

โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๖ ระดบั ช้นั เรียน ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ภาคเรยี น) รายวิชาพนื้ ฐาน ๓๐๐ ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๔๐ ค๓๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔๐ ว๓๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๖๐ ส๓๒๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐ ส๓๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๒๐ พ๓๒๑๐๑ สขุ ศึกษาและ พลศึกษา ๒๐ ศ๓๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๒๐ ง๓๒๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๒๐ อ๓๒๑๐๑ อังกฤษ ๔๐ รายวิชาเพ่มิ เติม ๒๘๐ ง๓๒๒๐๕ งานเกษตร ๔๐ ง๓๒๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๔๐ ค๓๒๒๐๑ คณิตศาสตร์ ๔๐ อ๓๒๒๐๓ ภาษาองั กฤษ ๒๐ พ๓๒๒๐.... สขุ ศึกษาและ พลศกึ ษา ๒๐ ส๓๒๒๐..... ศาสนาวัฒนธรรม และอาเซียนศึกษา ๔๐ ท๓๒๒๐๑ การเขียน ๑ ๒๐ ง๓๑๒๐.... งานอาชพี ๘๐ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๖๐ ๑. แนะแนว ๒๐ ๒. กจิ กรรมชุมนุม ๒๐ ๓. กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๒๐ กจิ กรรมเพิ่มเติม ๑,๓๑๐ ๑. กิจกรรมสง่ เสรมิ สุขนิสยั ๒๘๐ ๒. กจิ กรรมสง่ เสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๗๐ ๓. กจิ กรรมหลกั โภชนาการ ๓๗๐ ๔. กิจกรรมหลกั ไตรรงค์ ๑๕๐ ๕. กิจกรรมส่งเสริมภาวะผู้นา ๑๔๐ ๖. กจิ กรรมอนรุ กั ษพ์ ลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม ๒๒๐ ๗. กจิ กรรมส่งเสรมิ อาชีพท้องถิน่ ๔๐ ๘. กจิ กรรมพฒั นาสนุ ทรียภาพ ๔๐ รวมเวลาเรยี นท้งั หมด ๑,๙๕๐

โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๕๖ ระดบั ช้นั เรียน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ภาคเรยี น) รายวิชาพื้นฐาน ๓๐๐ ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔๐ ค๓๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔๐ ว๓๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ ๖๐ ส๓๒๑๐๓ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐ ส๓๒๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ ๒๐ พ๓๒๑๐๒ สขุ ศกึ ษาและ พลศึกษา ๒๐ ศ๓๒๑๐๒ ศิลปะ ๒๐ ง๓๒๑๐๒ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๒๐ อ๓๒๑๐๒ อังกฤษ ๔๐ รายวชิ าเพม่ิ เติม ๒๘๐ ง๓๒๒๐๖ งานเกษตร ๔๐ ง๓๒๒๐๓ คอมพวิ เตอร์ ๔๐ ค๓๒๒๐๒ คณิตศาสตร์ ๔๐ อ๓๒๒๐๔ ภาษาองั กฤษ ๒๐ พ๓๒๒๐..... สขุ ศึกษาและ พลศึกษา ๒๐ ส๓๒๒๐..... ศาสนาวฒั นธรรม และอาเซียนศึกษา ๔๐ ท๓๒๒๐๒ การเขยี น ๒ ๒๐ ง๓๑๒๐..... งานอาชพี ๘๐ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๖๐ ๑. แนะแนว ๒๐ ๒. กจิ กรรมชมุ นุม ๒๐ ๓. กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๒๐ กจิ กรรมเพ่ิมเติม ๑,๓๑๐ ๑. กจิ กรรมสง่ เสรมิ สขุ นสิ ยั ๒๘๐ ๒. กจิ กรรมสง่ เสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๗๐ ๓. กิจกรรมหลกั โภชนาการ ๓๗๐ ๔. กิจกรรมหลกั ไตรรงค์ ๑๕๐ ๕. กจิ กรรมส่งเสริมภาวะผู้นา ๑๔๐ ๖. กจิ กรรมอนรุ ักษ์พลงั งานและสิ่งแวดล้อม ๒๒๐ ๗. กิจกรรมสง่ เสรมิ อาชีพท้องถนิ่ ๔๐ ๘. กจิ กรรมพัฒนาสนุ ทรยี ภาพ ๔๐ รวมเวลาเรียนทั้งหมด ๑,๙๕๐

คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน ท32101 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง ศกึ ษาหลักการตีความ แปลความ และขยายความเรอื่ งที่อ่าน วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์เรื่องท่ีอ่านในทุกๆ ด้านอย่างมีเหตผุ ล วเิ คราะห์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้งกับเร่ืองท่อี ่าน เสนอความคดิ ใหม่อย่างมีเหตุผล เขยี นสอ่ื สารในรูปแบบต่างๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้ภาษาเรียบเรียงถูกตอ้ งมีข้อมูลและสาระสาคัญ ชดั เจน เขียนเรยี งความ เขยี นย่อความจากส่อื ที่มรี ูปแบบและเน้ือหาหลากหลาย พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดง ทรรศนะ โต้แยง้ โนม้ นา้ วใจ เสนอแนวคดิ ใหม่ อธบิ ายและวิเคราะห์หลกั การสร้างคาในภาษาไทย วเิ คราะห์และ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณเ์ บอื้ งต้น วเิ คราะห์ลกั ษณะเด่นของวรรณคดเี ชอื่ มโยงกับการ เรียนรูท้ างประวัติศาสตร์และวิถชี วี ติ ของสังคมในอดตี วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ปข์ องวรรณคดี และวรรณกรรมในฐานะที่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ สังเคราะหข์ ้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือ นาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการคิด ทักษะการใช้ภาษา ทักษะการส่ือสาร การ สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ วิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินคา่ ฝึกฝนทกั ษะการฟัง การพดู การเล่าเรื่อง และการแสดงความคดิ เห็นตามเจตนารมณ์ท่ีต้องการส่ือสาร สามารถนาความรู้ไปใช้ในการตัดสินใจและการดาเนินชีวิตประจาวัน มีจิตสาธารณะ ตระหนักถึงคุณค่าของ คณุ ธรรมจริยธรรม ใช้ความรภู้ าษาไทยเพอื่ การจรรโลงจติ ใจ ธารงและพฒั นาสังคมไดเ้ ต็มศกั ยภาพของผูเ้ รียน ตวั ชี้วดั ท 1.1 ม.5/2 ท 1.1 ม.5/3 ท 1.1 ม.5/5 ท 5.1 ม.5/4 ท 2.1 ม.5/1 ท 2.1 ม.5/2 ท 2.1 ม.5/3 ท 3.1 ม.5/5 ท 4.1 ม.5/6 ท 5.1 ม.5/2 ท 5.1 ม.5/3 ท 5.1 ม.5/1 รวม 12 ตวั ช้ีวัด

คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ท32102 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จานวน 1.0 หน่วยกิต ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง ศึกษาหลักการวเิ คราะห์และวจิ ารณ์เร่ืองที่อ่านในทกุ ๆ ดา้ นอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์วิจารณ์ แสดง ความคิดเหน็ โต้แย้งกบั เรอ่ื งท่ีอ่าน เสนอความคดิ ใหมอ่ ยา่ งมเี หตผุ ล เขียนส่อื สารในรปู แบบตา่ งๆ ไดต้ รงตาม วตั ถปุ ระสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกต้อง มีข้อมลู และสาระสาคัญชัดเจน ผลติ งานเขียนของตนเองในรูปแบบ ตา่ งๆ พูดในโอกาสตา่ งๆ พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ย้ง โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคดิ ใหม่ด้วยภาษาถกู ต้องเหมาะสม ใช้คาและกลุ่มคาสร้างประโยคตรงตามวตั ถุประสงค์ แต่งบทร้อยกรอง วเิ คราะห์อิทธิพลของภาษาต่างประเทศ และภาษาถิน่ วิเคราะห์และประเมนิ การใชภ้ าษาจากส่ือส่ิงพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์ วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณเ์ บื้องตน้ วิเคราะห์ลกั ษณะเด่นของวรรณคดเี ช่ือมโยงกับการเรียนรู้ ทางประวัตศิ าสตรแ์ ละวิถีชวี ิตของสงั คมในอดีต วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ของวรรณคดแี ละ วรรณกรรมในฐานะทีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ สังเคราะหข์ ้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนาไป ประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง รวบรวมวรรณกรรมพน้ื บา้ นและอธิบายภมู ิปญั ญาทางภาษา โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการคิด ทกั ษะการใชภ้ าษา ทักษะการส่ือสาร การ สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ วิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินค่า ฝึกฝนทักษะการฟัง การพูด การเล่าเรื่อง และการแสดงความคิดเห็นตามเจตนารมณ์ท่ีต้องการ สอ่ื สาร สามารถนาความร้ไู ปใช้ในการตดั สินใจและการดาเนินชีวิตประจาวัน มีจติ สาธารณะ ตระหนกั ถึงคุณค่า ของคุณธรรมจริยธรรม ใช้ความรู้ภาษาไทยเพ่ือการจรรโลงจิตใจ ธารงและพัฒนาสังคมได้เต็มศักยภาพของ ผูเ้ รียน ตวั ชี้วัด ท 1.1 ม.5/3 ม.5/5 ท 2.1 ม.5/1 ม.5/4 ท 3.1 ม.5/5 ท 4.1 ม.5/2 ม.5/4 ม.5/5 ม.5/7 ท 5.1 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.5/5 รวม 14 ตวั ช้ีวัด

คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ค32101 คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษาเรื่อง ความสมั พันธแ์ ละฟงั ก์ชัน ความสัมพันธ์และฟังกช์ ัน กราฟของความสัมพันธ์ และฟงั ก์ชัน โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวติ ประจาวันทีใ่ กลต้ วั ให้ผู้เรยี นได้ศึกษา ค้นควา้ โดยการปฏิบัตจิ รงิ สรปุ รายงาน และนาเสนอ เพอื่ พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหา การใหเ้ หตุผล การ สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนาประสบการณ์ดา้ นความรูค้ วามคิดทักษะกระบวนการทไี่ ด้ไปใชใ้ นการ เรยี นรู้ส่งิ ต่าง ๆ และในชีวติ ประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ การเหน็ คุณคา่ และมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และเชื่อม่นั ในตนเอง มีความรักชาติ ศาสตร์ กษตั ริย์ มีความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รจู้ ักใช้ชวี ิตอย่างพอเพียง มีความมุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ รหัสตวั ช้ีวัด ค 4.1 ม.5/3 , ค4.2 ม.5/4 , ค 4.2 ม.5/5 , ค 6.1 ม.5/1 , ค 6.1 ม.5/2 , ค 6.1 ม.5/3 , ค 6.1 ม.5/4 , ค 6.1 ม.5/5 , ค 6.1 ม.5/6 รวมท้ังหมด 9 ตัวชี้วดั

คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ค32101 คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาเรื่อง อตั ราส่วนตรีโกณมติ ิและการนาไปใช้ และ ลาดับและอนกุ รม ลาดบั ลาดบั เลขคณิต ลาดบั เรขาคณิต อนุกรมเลขคณิต อนุกรมเรขาคณิต การหาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิตและอนกุ รม เรขาคณิต โดยจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชีวติ ประจาวันทใี่ กล้ตวั ใหผ้ ู้เรียนได้ศกึ ษา ค้นคว้าโดยการ ปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตผุ ล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรยี นรู้สิง่ ต่างๆ และในชีวติ ประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทั้งเหน็ คุณค่าและมีเจต คตทิ ด่ี ตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ และ เชอื่ มัน่ ในตนเอง การเหน็ คณุ ค่าและมเี จตคติที่ดีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรับผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ และเช่ือมน่ั ในตนเอง มคี วามรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซอ่ื สัตย์สุจรติ มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ รูจ้ ักใช้ชีวติ อยา่ งพอเพยี ง มคี วามมุ่งม่นั ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ รหัสตัวช้ีวัด ค2.1 ม.5/1 , ค2.2 ม.5/1 , ค4.1 ม.5/4 , ค4.1 ม.5/5 , ค 4.2 ม.5/6 , ค6.1 ม.5/1 , ค6.1 ม.5/2 , ค6.1 ม.5/3 , ค6.1 ม.5/4 , ค6.1 ม.5/5 , ค6.1 ม.5/6 รวมทั้งหมด 11 ตวั ชีว้ ดั

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ว32101 วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกิต อธิบายการรักษาดุลยภาพของส่งิ มีชวี ิต การเคลื่อนท่ีของสารผ่านเข้าออกจากเซลล์ การลาเลยี งสารโดย วธิ ีการแพร่ การออสโมซสิ การลาเลียงแบบฟาซิลเิ ทต และการลาเลยี งแบบใช้พลงั งาน การลาเลียงสารขนาดใหญ่ เขา้ และออกจากเซลล์ การลาเลียงของสิง่ มชี วี ติ เซลล์เดยี วและหลายเซลล์ กลไกในการรักษาดลุ ยภาพของน้าใน พืช การคายน้าผา่ นปากใบ การดูดนา้ ทีร่ าก โครงสรา้ ง หน้าที่ การางานในการขบั ของเสียจากกระบวนการเม แทบอลิซึมของไต การกาจัดน้าและของเสียของสิ่งมีชวี ติ เซลลเ์ ดยี วและหลายเซลล์ การรกั ษาดุลยภาพของนา้ แร่ ธาตขุ องปลานา้ จืดและปลาน้าเค็ม กลไกการควบคุมอุณหภมู ใิ นรา่ งกายของสตั วแ์ ละมนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกันและ การรักษาดุลยภาพในร่างกายของมนุษย์ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม โครงสรา้ งและองค์ประกอบของ DNA การเกิดมิวเทชนั การแปรผันทางพันธกุ รรม ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยชี ีวภาพ ผลท่เี กิดจากการใช้ เทคโนโลยที างชีวภาพ ความหลากหลายของสงิ่ มีชวี ติ ประโยชนข์ องความหลากหลายทางชวี ภาพของสิง่ มีชีวิต ระบบนิเวศ สมดลุ ของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงแทนท่ี ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งสง่ิ มีชีวติ และส่ิงมีชีวิตกับสงิ่ แวดลอ้ ม ผลทเ่ี กดิ จากการเพิ่มของประชากรมนษุ ย์ การใช้ ทรัพยากรธรรมชาติทีม่ ีอยอู่ ย่างจากดั ให้คมุ้ คา่ แนวทางป้องกันแก้ไขฟนื้ ฟสู ภาพแวดล้อม การอนุรกั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งย่ังยืน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมลู บันทึก จัดกลุ่มขอ้ มูล และการอภิปรายเพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ สอื่ สารสงิ่ ท่ี เรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เหน็ คณุ คา่ ของการนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวันมีจติ วิทยาศาสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม รหัสตวั ชี้วดั ม.4-6/ 3 ม.4-6/4 ว1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3 ม.4-6/4 ว1.2 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ว2.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ว2.2 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ว8.1 ม.4-6/1 - 12 รวม 26 ตัวช้ีวดั

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน ว32102 วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษาวเิ คราะห์โครงสร้างทางธรณวี ทิ ยาของโลก แผน่ เปลือกโลก การเคล่ือนทขี่ องแผน่ เปลือกโลก การ เคลอ่ื นท่ีของแผ่นเปลือกโลก ปรากฏการณ์ทางธรณี การหาอายขุ องหิน ลกั ษณะและอายุของซากดึก ดาบรรพ์ เปรยี บเทียบลาดบั ชั้นหินและอายุของหนิ เพอ่ื ศึกษาความเป็นมาของโลก การเกดิ และววิ ัฒนาการ ของระบบ สุรยิ ะ กาแลกซีและเอกภพ พลงั งานของดาวฤกษ์ ปฏิกิริยาฟิชชนั ตาแหน่งของโลกในระบบสุรยิ ะ กาแลกซีและ เอกภพ การใช้เทคโนโลยอี วกาศในการศึกษาปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ บนโลกและในอวกาศ ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสังเกตสืบคน้ ขอ้ มูล การอภิปราย และการสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สอ่ื สารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ นา ความรู้ไป ใช้ในชีวติ ประจาวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยม รหสั ตวั ชี้วดั ว 6.1 ม5/1, ม5/2, ม5/4, ม5/5, ม5/6 ว 7.1 ม5/1, ม5/2 ว 7.2 ม5/1, ม5/2, ม5/3, ว8.1 ม.4-6 /1-12 รวม 22 ตัวชี้วดั

คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ส 32101 สงั คมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวนหนว่ ย 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาหาความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั หลกั ศรทั ธาและปญั ญาท่ถี ูกต้องเกีย่ วกพั ระพทุ ธศาสนา ศึกษา ลักษณะประชาธิปไตยในพระพทุ ธศาสนา พระรัตนตรัย อริยสจั 4 มงคล 38 ประการ ศึกษาพทุ ธศาสน สุภาษิต ประวตั พิ ุทธสาวก พทุ ธสาวกิ าและศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ชาดก นาข้อคิดท่ีได้มาเป็นแบบอยา่ งในการ ปฏิบัตติ น ศึกษาค่านยิ ม จรยิ ธรรมทเี่ ป็นตัวกาหนดความเช่อื และพฤติกรรมทีแ่ ตกต่างกันของศาสนกิ ชน ปฏบิ ตั ิ ตามหลักศาสนพธิ ีในทางพระพทุ ธศาสนา และมคี วามรเู้ ก่ียวกบั วันสาคัญและเทศกาลสาคัญในพทุ ธศาสนาและ ศาสนาอ่นื ท่ีตนนบั ถือมาปรับใช้ในชวี ติ ประจาวนั ศกึ ษาคุณลักษณะพลเมืองดีของประเทศชาติ และสงั คมโลก เข้ารว่ มกจิ กรรมทางการเมืองการปกครอง มสี ว่ นร่วมในการปอ้ งกนั แก้ไขปญั หาเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง การปกครอง สิ่งแวดล้อม มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมเป็นหลักในการดาเนนิ ชวี ติ ศกึ ษาความหมาย ความสาคัญ แนวคิด และหลกั การของสทิ ธิมนษุ ยชน ศึกษาบทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศในเวทโี ลก ที่มผี ลต่อประเทศไทยและ สาระสาคัญของปฏญิ ญาสากล ศึกษาระบบสหกรณ์ ความสาคญั ของระบบสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกจิ หลกั การสหกรณ์ ตัวอยา่ งและประเภทของสหกรณ์ ศึกษาปญั หาเศรษฐกิจในชมุ ชน แนวทางการพัฒนา เศรษฐกจิ ในชุมชน การรวมกลุม่ เพือ่ แก้ไขปญั หาของเศรษฐกิจในชมุ ชนและการเปล่ียนแปลงของพืน้ ท่ีซึ่งไดร้ ับ อทิ ธิพลจากปจั จัยทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี ต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ คิดหาเหตุและผล แลว้ ทาการสารวจตรวจสอบขอ้ มูล เพอ่ื ให้ เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอสอ่ื สารสงิ่ ทีเ่ รียนรู้ มาปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวัน พรอ้ มท้ังเหน็ คุณค่าของการปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนิกชนทีด่ ี ใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เกดิ ความรกั และหวงแหนชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ และเป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ทีม่ ีคุณภาพ รหัสตวั ช้ีวดั ส1.1ม.5/5, ส1.1ม.5/6, ส1.1ม.5/13, ส1.1ม.5/14, ส1.1ม.5/18,ส1.2ม.5/2, ส1.2ม.5/3, ส1.2ม.5/4,ส 2.1 ม 5/3,ส 2.1 ม.5/4, ส 3.1 ม5/3,ส 3.1 ม.5/4,ส 5.1 ม 5/3 รวมท้ังหมด 13 ตวั ชว้ี ดั

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ส3210๒ ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวนหน่วย 0.5 หนว่ ยกติ ศกึ ษาความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย และอาณาจกั รโบราณในดินแดนไทย สถานการณ์ของไทยตงั้ แตส่ มยั รชั กาลท่ี 5 ถึงสมยั การเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 บคุ คลสาคัญทงั้ ชาวไทยและชาวตา่ งประเทศท่ีมี ส่วนสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและประวตั ิศาสตรไ์ ทย วิเคราะห์บทบาทของสถาบนั พระมหากษัตริยใ์ นการพัฒนาชาตไิ ทย อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกทมี่ ี ต่อวัฒนธรรมไทย บุคคลสาคัญทง้ั ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทมี่ สี ว่ นสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและ ประวตั ศิ าสตร์ไทย จนเกดิ การตระหนกั และเหน็ คุณค่าความสาคญั ของการศึกษาประวัตศิ าสตร์ไทย รหัสตัวช้วี ัด ส 4.3 ม.5/1, ส 4.3 ม.5/2,ส 4.3 ม.5/4 รวมทงั้ หมด 3 ตวั ชวี้ ัด

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ส 3210๓ สงั คมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษาหลักการของพระพุทธศาสนากบั หลกั วิทยาศาสตรห์ รือศาสนาที่ตนนบั ถือ ศึกษาหลักในการฝึกและ พัฒนาตนเอง การพ่งึ ตนเองและการม่งุ อสิ รภาพทางพระพุทธศาสนา ศกึ ษาพระรัตนตรัย อรยิ สจั 4 มงคล 38 พทุ ธศาสนสภุ าษิต ประวตั พิ ทุ ธสาวก พุทธสาวิกาและศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ชาดก นามาเป็นแบบอยา่ งในการ ดาเนินชีวติ ศึกษาวิธีคิดแบบโยนโิ สมนสิการ ความหมาย ความสาคญั คติธรรมในพิธกี รรมของบทสวดมนต์ นักเรียน เหน็ ความสาคญั ของการปกป้องคุ้มครอง ธารงรักษาพระพุทธศาสนาของพทุ ธบรษิ ัทในสงั คมไทย ศึกษาบทบญั ญัติของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน เกี่ยวกับสิทธิมนษุ ยชน ปัญหาสิทธิ มนษุ ยชนในประเทศ และแนวทางแก้ไขและพฒั นา ความหมาย และความสาคญั ของวัฒนธรรม ลักษณะและ ความสาคัญของวัฒนธรรมไทยทีส่ าคัญ การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและอนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทย ศึกษานโยบาย การเงนิ การคลังของรัฐบาลรายรับและรายจา่ ยของรฐั ทม่ี ผี ลต่องบประมาณ หนี้สาธารณะ การพัฒนาเศรษฐกจิ และคุณภาพชีวิตของประชาชน มาตรการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดล้อม บทบาทของ องค์การและการประสานความร่วมมอื ท้ังในประเทศและนอกประเทศ เกยี่ วกบั กฎหมายสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มและเข้าใจแนวทางการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ในภมู ิภาคต่างๆ ของโลก โดยใช้กระบวนการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ คิดหาเหตุและผล แล้วทาการสารวจตรวจสอบข้อมูล เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอสื่อสารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มาปรบั ใชใ้ นชีวิตประจาวัน พร้อมท้งั เหน็ คุณคา่ ของการปฏิบัตติ นเป็นศาสนิกชนท่ีดี ให้มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เกิดความรักและหวงแหนชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ และเปน็ บคุ คลแห่งการเรยี นรู้ทีม่ ีคณุ ภาพ รหสั ตัวชี้วดั ส1.1ม.5/7, ส1.1ม.5/8, ส1.1ม.5/13, ส1.1ม.5/14, ส1.1ม.5/19, ส1.2ม.5/2, ส1.2ม.5/5, ส 2.1 ม.5/5,ส 3.2 ม.5/1, ส 5.2ม.5/2,ส 5.2ม.5/3 รวมท้ังหมด 11 ตัวชี้วดั

คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ส 32104 ประวัตศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาภมู ปิ ัญญาไทยวัฒนธรรมไทย วิถชี ีวติ คนไทย ในสมัยต่างๆ ปจั จัยที่สง่ เสรมิ การสร้างสรรค์ ภูมิปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย อิทธิพลของวฒั นธรรมตะวนั ตกและตะวันออกซึ่งมผี ลตอ่ สังคมไทยในยคุ ปัจจบุ ัน การสืบทอด การเปลี่ยนแปลง แนวทางการอนรุ กั ษ์ และการมสี ่วนรว่ ม ในภูมิปัญญาไทยและ วฒั นธรรมไทย โดยใช้กระบวนการและวิธกี ารทางประวัติศาสตร์ในการศกึ ษา ภมู ิปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย จนเกิดการตระหนักและเหน็ คุณคา่ ความสาคญั ของการศึกษาประวัตศิ าสตร์ไทยมีความรักความภาคภมู ใิ จและ ธารงความเปน็ ไทย รหสั ตัวชีว้ ัด ส 4.3 ม.5/3, ส 4.3 ม.5/5 รวมทง้ั หมด 2 ตัวชีว้ ัด

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน พ3๒101 สขุ ศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษาวเิ คราะห์อทิ ธิพลของครอบครวั เพ่ือน สังคม และวัฒนธรรม ที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศและการ ดาเนนิ ชวี ติ คา่ นยิ มในเร่อื งเพศ ตามวัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมอื่น ๆ เลอื กใช้แนวทางในการเลือกใชท้ กั ษะ การสือ่ สารและสร้างสมั พนั ธภาพ ทักษะการต่อรอง ทกั ษะการปฏิเสธ ทกั ษะการคิด วเิ คราะห์ ทกั ษะการตดั สินใจ และแก้ไขปัญหาในการปอ้ งกัน ลดความขดั แย้ง และแกป้ ัญหาเร่อื งเพศและครอบครวั วิเคราะห์สาเหตแุ ละผล ของความขัดแย้งท่ีอาจเกดิ ขน้ึ ระหวา่ งนักเรยี น หรอื เยาวชนในชุมชน และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา โดยนากระบวน การสืบค้นขอ้ มูล การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ แสดงบทบาทสมมุติ กระบวน การเรยี นรผู้ า่ นประสบการณ์ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ แสดงออกถงึ ความรักความเออ้ื อาทร ความเข้าใจใน อทิ ธพิ ลของครอบครัว เพอ่ื น สงั คม และวฒั นธรรมที่มีต่อพฤตกิ รรมทางเพศ การดาเนนิ ชีวติ และวิถชี วี ิตท่ีมี สขุ ภาพดี เห็นคุณคา่ ของการนาความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมท่ีเหมาะสม รหัสตวั ช้ีวัด พ 2.1 ม. 5/1 ,พ 2.2 ม. 5/2 , พ 2.2 ม. 5/3 , พ 2.2 ม. 5/4 , พ 2.2 ม. 5/5 รวมท้ังหมด 5 ตัวชี้วัด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook